ขอบอก “Life is one big road with lots of signs. So when you’re riding through the ruts, don’t complicate your mind. Flee yourself from hate, mischief and jealously. Don’t bury your thoughts, put your vision to reality … Wake up and live. ” ชีวิตคือเส้นทางสายใหญ่ที่มีป้ายบอกทางนับไม่ถ้วน ดังนั้นเมื่อไหร่ที่คุณขับรถผ่านร่องแคบบนถนน อย่าสับสน หนีจากความเกลียดชัง การสร้างปัญหา และความอิจฉาไปเสีย อย่าฝังความคิดตัวเอง แล้วท�ามันให้เป็นความจริง ตื่นได้แล้วและมีชีวิตต่อ ไป ( bob marley-บ็อบ มารเลย )
สารจาก ANY WAY ANY WAY เป็นนิตสาร Magazine ทางเลือกหนึ่ง ซึ่ง เราจะพยายาม เจาะหา แนวงาน ความคิด สถานที่ และข้อมูลต่างๆ ที่ไม่ซ�้ำ และยัง เปิดโลก ไปในหลากหลาย แขนงงาน Art ต่าง หรือแม้กระทั้ง Music ก็ จะเปิดเอาทุกแนวทุกแขนงไม่ว่าจะเป็น ไทย และ เทศ แบบไม่มีปิดกั้นกันเลย และยังจะ เจาะกลุ่มนักศึกษา ตั่งแต่ มัธยม อาชีวะ จนถึง อุดมศึกษา ในการน�ำเอาผลงานต่างๆ ที่คิดว่า เจ่งๆและโดดเด่น โดยไม่จ�ำแนกว่า จะเป็นผลงานอะไร หรือแขนงไหนๆ และยัง
เปิดพื้นที่ไห้กับ ผลงาน และ แบรนด์ต่าง ของ คนไทย หรืออาจกว่าได้ว่าเป็นนิตสารที่รัก อิสระ และพยายามไม่จ�ำเจ ก็ว่าได้ แต่ทั้งนี้เรานั้นก็ยัง อยู่ ในขั้นตอนการท�ำเป็นโครงการ ซึ่งอยู่ในขั้น ตอนการตดลอง ในหลายๆอย่าง ทั้งทางด่าน เนื้อหา เเละข้อมูล ซึ่งอาจจะตกหล่น หรือไม่ สมบูรณ์ไปบ่างในหลายๆอย่าง ทั้งนี้เราตั่งใจท�ำ กันแบบสุดๆแล้ว.. และขอฝาก ANY WAY ไว้นะ ที้นี้ มีโอกาศคงได้ท�ำกันอีกและอาจเป็นรูปร่าง มากขึ้นไปกว่านี้นะค่ะ
หลังจากที่มีงาน นิทรรศการหนังสั้น ประจ�ำแผนก นิเทสศิลป์ รุ่นที่7 ของวิทยาลัย อาชีวศึกษา เสาวภา ในปีที่ผ่านมาก็จริง แต่เราจะมาจับเข่าคุยกันอีก ถึงเกียวกับ แนวความคิด และและกระบวนการท�ำงาน ของการท�ำหนังสั้นและการ คิด พล็อต เรื่อง ว่าเป็นมาอย่างไร กับหนัง 7เรื่อง ที่เราคัดมาไห้ตรงกับรุ่นที่7 (ฮ่าๆ) รุ่น7 กับ หนังสั้น7เรื่อง 2012
ชื่อเรื่อง = ปิดเทอม โดย เจ-ไกรวุฒ ชทน 3/2 เจเป็นคนก�ากับหนังเรื่องนี้เลยหรอครับ
มีอุปสักไรบ่าง
บ้านเพื่อนอยู่ไกล ไรงี้ ทีมงานอาจจะอยู่ไกล และก็มีปัญหาขัดคร่อง สวนตัวผมเองก็ ไม่มีกล้องที่จะถ่าย ผมก็เลยแบบว่าต้อง คนที่บ้านอยู่ไกล เพื่อนๆเข้ามาช่วยกันหน่อยช่วยๆกันท�า
ก็ ช่วยๆกันครับ
ระยะการท�างานนี้กี่วัน
สมาชิกมีไครมั่ง
แล้วน�ามาแก่ไข ช้วยกันหลายคน
ก็มี มุนีร วรพล ผม แลพก็ อังคณา
อยากให้ถึงแนวความคิดของหนัง
แนวความคิดอ่อ ก็สภาพสังคม แถวบ้านก็อาจเป็นอย่างงันไปได้ มันก็ เหมือนกับว่า เราได้เห็น สิ่งรอบค่าง สิ่งรอบตัวเรา ว่ามันจะถูกไช้กัzบ หนัง หนังอาจจะแบบว่า ไม่ค่อยดีเท่าไหร่แต่ว่า เรา ก็ตั่งใจท�าให้ทุกคน ได้ดู
หนังนี่สะทอนอะไรครับ
สะทอนสังคม ไม่ไช้ที่บ้านหลอก แต่ก็ รวมๆ ถ้าเจอะจงสะท้อนที่บ้าน เราก็คงตั่งว่า เคหะ ทนบุรี อะไรประมาณนี้ครับ
เนื้อเรื่องเป็นงัยครับ
เรื่องมันก็เกียวกับเด็กผู้ชายคนนึง หนังก็ชื่อเรื่องปิดเทอม เด็กผู้ชายคนนี้ แบบว่า ชั่วปิดเทอม เขาท�าตัวแบบ ทะเหลทะไหล ไปหน่อย ออกนอกลู่นอกกรอปไปบ่าง มีคบสังคมที่ไม่ดี กับไปสู่สังคมที่ แบบว่า เส้นทางที่ไม่ดี ติดยา แล้วประเด็นของหนังอะครับ อยากไห้คนดูแบบว่าอย่าเอาเป็นเยี่ยงย่าง อย่าท�าตาม อยากไห้ดูแบบ ว่าแค่ดู ดูแล้ววิจาร ดูแล้วมีความสุขก็พอ
แล้วการท�างานคั้นตอนละ
การท�างานก็ถ่ายกันแบบว่า ก็นัดวันกัน มาถ่าย แล้วก็คุยถึงเรื่อง หนัง แนวหนัง เล่าเรื่อง เอาแชๆความคิดกัน แล้วเราก็มาถ่ายกัน ร่วมๆมา ถ่ายกัน ไครมีความคิดอะไรก็ไส่เข้าไป ตรงไหมไม่ดีเราก็ตัดออก ตรง ไหนดีเราก็ไส่
คิดเรื่องนานไหม
ก็2-3วันได้ เพราะว่า ตามจริงก็หลายวันและแต่ว่า มาจริงๆก็2-3วัน แหละ
2-3อาทิตย์ได้ ตัดต่อ ไส่เสี่ยง แลพอไปนั่งดูท�า ทีเซอ ดูข้อผิดพลาด
นักแสดงนี่ได้มาอย่างไรครับ
ก็พี่น้องกันเองแหละ ก็คนในโรงเรียน ก็มาช่วยๆกัน ไครอยากเล่นก็ เล่น
มีไครแสดงมั่งนะครับ
ก็น้องอุปซ์ (แผนกอาหาร) และก็มี เพื่อนๆแถวบ้าน คนรู้จัก คบกัน มาตั่งแต่เด็ก ก็ไห้เขามาเล่น ตามจริงเขาก็ไม่ค่อย สมบทบาทเท่าไหร่ หน้าตาเขาไม่หน้าไห้มาทางนี้
สามารถติดตามงานได้ที่ไหนนะครับ 080-9822527 หริใน Youtube-ปิดเทอม วิทยาลัยอาชีวะเสาวภา ปิดเทอม วิทยาลัยอาชีวะเสาวภา
ชื่อเรื่อง Day today โดย ณกร-ตั่ง ชทน3/2
สามชิกในหนังละ!
สมาชิกหลักก็มี จุ้ย. หนุน
ระยะการท�างานกี่วัน ประมาณ4-5 อาทิตย์
แล้วคิดเนื้อเรื้องนานไหม..
แนวความคิดของหนัง
มันเป็นความบังเอิญ ครับ พอดีวันนั้น นั่งอยู่ในห้องเรียน เหมือนไม่มีอะไร เป็นประมาณ คนที่ท�างาน เหมือนกับเริ่มจะเบื่อกับสิ่งทีตัวเองท�า สิ่งที่ คืบหน้า เลย อยู่ดีดี ก็คิดขึ่นมา ก็เรียบเรียงมาในวันเดียว ตอนนั้นเรียนอยู๋ เขาก�าลังท�าอยู่ ในห้องคอมที่อาจารฟาสรุต สอน แล้วเขาก็บ่น จนผมต่อง คีเอด ขึ้นมาไห้ เร็วที่สุดเพื่อไปบอกอาจารญ์ เล่าถึงเนื้อเรื่องหน่อย พระเอกก็เป็นคนแบบ เพิ่งท�างานไหม่ๆก็ไม่ไหม่มาก และก็เบื่อๆกับ แล้วมีนักแสดงกี่คนครับ ชีวิตการท�างานเหมือนกับว่ามันไม่มีแรงบันดาลใจที่จะต่องท�าต่อไป สองคนก็หลักๆ พี่แว่น กับ นางเอก อยู่ไปวันๆ การกระท�าซ�้าไปซ�้ามา ท�าไห้เขาออกเดิน ไปดูอะไรมากขึ้น เดินออกไปดูโลกไหม่ๆ ที่เขาเอาแต่ท�างานจนไม่ได้ เห็นมัน
ชื่อเรื่อง Twin โดย แบม-ลีฟ ชทน3/2
สมาชิกในหนังมีกี่คน 3คน ลีฟ-แบม-เฟิน
ใด้แนวความคิดมาจากไหน
ก็ประมาณว่า คนที่ไม่ตั่งใจเรียน แล้วก็ เหมือนกับว่าถ้าเรามาเห็น ตัว เราที่เป็น อีกด่านนึง นั่นแหละแบบ สะท้อนเราเองในทั้งสองมุม
เล่าถึงเนื้อเรื่องหน่อย
ก็วัยรุ่นเป็นเด็กผู้ชายคนนึง ที่ไช้ชีวิตแบบเรื่อยเปอย วันวันก็ไม่ตั่งใจ
เรียน ไปเรียนบ่างไม่ไปเรียนบ่าง วันหยุดก็เที่ยว ไม่ค่อยท�างาน เหมือน กับว่าพอวันนึง แล้วเจอตัวเราที่เหมือนแล้วประมาณว่า “เนี่ย ท�าไม นายไม่ท�างาน ไรเงี้ย ท�าไมท�าตัวแบบนี้รู้ไม่ มันไม่ดี
ท�างานกันอย่างงัย
ก็ ไครว่างวันไหนก็ท�าวันนั้นเลย ถ่ายก็ผัดกันถ่าย ไครชอบมุมไหน ไคร คิดมุมนี้ ก็ไห้คนนั้นถ่าย ที่เหลือก็แบบไปช่วยดูช่วยกันจับขาตั่งกล่อง ช่วยคุยกับนักแสดง คนที่แสดงก็เพื่อนๆกันเองนี้แหละ
ชื่อเรื่อง นางลอย โดย เจ-อัครชัย 3/2
สัมภาษ
อืม เป็นหนังเกี่ยวกับไทยๆ ความเป็นมาของไทย วัฒะรรมไทย จารรีต ประเภนีไรอย่างเงี้ย
สมาชิกในการท�างานมีกี่คน ก็มีอยู่2คนนะ ท�ากันเองตลอด
นักแสดงละ
ตัวหลักๆก็จะมี นางลอย . อาจารย์ ผีนางลอยอีกคนนึง
แนวความคิด
อยากไห้คนอยู่จักเคารพครูบาอาจารญ์ สิ่งที่เราเรี่ยน ของๆไทยๆ มัก จะมีครูบาอาจารย์
อุปสรรคในการท�างาน
มักจะเป็นเรื่องของเวลา มากกว่า เวลาของนักแสดง เรื่องค่าไช้จ่าย ทุนในการท�า ส่วนมากก็จะมีแค่นี้มากกว่า ความกดดัน เวลา เพราะ ท�าจจิงๆก็4-5วัน
ตอนที่จัดนิทรรศการรู้สึกงัยบ่าง
ก็ตื่นเต่นนะ คนจะชอบหนังเรามั่ย กดดันนนะ ก็โอนะ น่ากลัว กระแสตอบรับก็โอเค
ชื่อเรื่อง เสียงที่ไม่ได้ยิน โดย เจนนี้ ชทน.3/2
สมาชิก
กระติด-เจนนี้ นักแสดง รุ่นน้องปี 2-3คน นางเอกมาจากอาชีวะถน เป็นนางเอง
ได้นักแสดงมาอย่างงัย
ตอนแรกเราจะเอาคนมาธรรมดาเนี่ยแหละมาเล่น แต่ว่ากลัวเขาจะไม่ เป็นภาษามือ ก็เลยเอาเด็กหูจริงๆมาเล่น แล้วเขาคุยรู้เรื่อง ซึ่งเป็น เพื่อนเรา
แนวความคิดของหนังได้มาอย่างงัย
ตอนแรกก็ปรึกษากับอาจารฟารุตที่เขาคุม เขาบอกว่า ไม่มีปีไหนท�า หนังเด็กหูเลยเราก็เลยรองท�าดู ก็คิดไปคิดมาก็ได้เรื่อง เสียงที่ไม่ได้ยิน
เนื้อเรื่อง
ก็เป็นเด็กผู้หญิงคนนึงที่มีปญหาทางหู ปรึกษาไครก็ไม่มีไครเขาฟังไม่มี ไครเขาเข้าใจ ท�าภาษามือก็ไม่มีไครรู้เรื่อง พอถึงวันนึงเขาก็ระเบิดออก
มา ไม่ไหวแล้ว เขาก็เลยพูดออกมาเป็น ภาษามือ ว่าเราไม่ไหวนะ เรา เป็นคนธรรมดา แต่ว่าก็มีคนนึงทีเขามาคุยกับเขา จากนั้นมา เขาก็เป็น เพื่อนกัน เขาก็เลยช่วยอธิบายว่าเป็นคนที่แบบ เหมือนคนธรรมดาเนี่ย แหละแต่แค่ เขาพูดไม่ได้
แล้วการท�างานละ
ตอนแรกก็มีปัญหาเหมือนคุยกันไม่ลงตัว สุดท้ายก็มาช่วยกันท�าได้ เพราะ ว่าต่องส่ง ระยะเวลาการท�างาน จ�าไม่ได้แล้วอะ 2-3 เดือน อืม เดือนนึงก็ได้ 55
ความรู้สึกต่อนที่จัดนิทรรศการ
เหนื่อยนะ แต่ว่าพอท�าเสร็จแล้วพอมานั่งดูก็รู้สึกดี ถึงมันจะไม่ดีมากก็ รู้สึกดี ภูมใจ
ชื่อเรื่อง รุ่นต่อรุ่น โดย แอร์ 3/1
การท�างาน
คิดเรื่องมาได้งัย
ตอนนั้นนั่งอู่บนรถเมย์ ก็อยากจะท�าหนังที่ มันตื่นเต่น แล้วก็คิดไป เรื่อยๆ เกียวกับเรื่องท้าทายๆตอนแรกก็จะท�าแบบเล่นส้อนแอบตอน กลางคืน แล้วก็หายกันไป ทีนี้คิดไปคิดมามันจะอยากนะ โรงเรียนก็มี อยู่แค้นี้ด่วย เปรี่ยนเป็นผีท่วยแก้ว แต่จะ ด�าเนินเนื้อเรื่องอย่างงัยไห้ มันมีเรื่องราว รุ่นพี่ ต�านาน ต่อๆกันมา ไรประมาณนี้
เล่าถึงเรื่องราวหน่อย
เด็กกลุ่ม ประมาณ6คน ก็ท้าทายและ ฟังรุ่นพี่เขาเล่ามาอีกที ฟังเขา เล่ามามีรุ่นพี่ตายอยู่ แล้วก็มีรุ่นพี่เล่นอยู่ด่วยกันแล้วก็เจอดี ไอพวกนี้ก็ เลยท้าอยากลอง ก็มาท้าๆๆตอนจบก็เป็นรุ่นไหม่ที่เข้ามา ก็เลยชื่อว่า รุ่นต่อรุ่น
ก็วุ่นวายมาก เพราะว่า เราถ่ายตอนกลางคือเราท่ายที่โรงเรียนก็จะมี ปัญหาเยอะตอนแรกหนังอะถ่ายเสร็จอีกวันนึง เป็นนิทรรศการ แล้ว ถ่ายเสร็จวันนั้น ตัดต่อตอนเช้า ตัดต่อเสร็จเอามาสายเลย ไม่ได้สึกษา อาจาร ลุยกันเอง ปัญหาเยอะ ถ่ายวันแรกๆเม็มหาย ฟายหาย
สมาชิกละ
กรรยากร มาย กุลศุกมากูล แอร วิสรุตา แอร์ อรวรรณ กี่ พณิชนัน พลอย นรรัต กุ้ง อัญทิสา แจม
แต่เขาไห้ท�ากันสองคนต่อ1เรื่อง แต่เรารวมกลุ่มกันท�า 3เรื่อง
เรื่อง โชคชะตาแห่งรัก destiny of love โดย แอร์ 3/1
แนวความคิดของเรื่องนี้
ตอนแรกท�าอีกเรื่องนึง ท�าเกียวกับวีดีโอ ถ่ายเสร็จแล้วเหลือ ตัดต่อ แล้วมันดูแบบ เราได้แนวความคิดมาจาก อีกเรื่องนึงอะมันก็จะแบบ ไป ซ�้า กับเขา เราก็เลยถ่ายไหม่ ถ่ายไหม่ก็ถ่ายไม่ทัน คือ วันสุดท้าย เหมือนกัน เราก็มาตัดต่อเสร็จวันที่สองของงานนิทรรศการ ก็แนว ความคิดก็ มันเป็นหนังรัก
โจทย์ของ ทศกรรณ
ก็มีสามเรื่อง ก็สยองขวัญ หนังรัก แล้วก็เกี่ยวกับชีวิตไรงี้
โชชตาแห่งรัก ตอนแรกก็ท�าแบบรุ่นพี่รักรุ่นน้องรักกันที่ดรงเรียนไรงี้ แล้วไปขอโรงเรียน ม.ต้น ม.ปลายถ่ายท�าเรื่องอยู่ 4 วัน ไปอยู่สอง โรงเรียน เขาบอกไม่ได้ เราก็เลยเปลี่ยนเนื้อเรื่อง เปรี่ยนเป็น destiny of love แล้วเราก็คิดแบบจะเอางัยไห้มันง่ายๆ ก็คิดถึงเส้นด่าย เราก็คิดถึงไอ นี้เข้าไว้ กุ๊กกิ๊ก แบบความเชื่อไรประมาณนี้
เนื้อเรื่องละ
เนื้อเรื่องก็เป็นประมาณว่า คนที่ไม่รู้จักกันสองคน บังเอิญ อ่าน หนังสือเล่มเดียวกัน เจอประโยคย์เดียวกัน
ว่า คนที่เป็นเนื้อคู่ จะมี ด่ายผูกอยู่ที่นิ้วก่อย ทีนี้พอเวลาไปเสร็จ ไปแต่ละ สถานที่ก็จะเดินสวนกันไปสวนกันมาๆอยู่อย่างเงี้ย วันนึงไปเดินๆเจอกัน เดินชนกัน แล้ว หนังสือมันก็หล่น หล่นเสร็จไปหยิบมาจะแยกทางรู้สึกว่า แบบมีอะไรมาลั้งๆที่นิ้วก่อย ของแต่ละคนไรงี้ พอหันมาก็บะกันไรงี้
อุปสรรคละ
ก็เยอะนะ แล้วก็เนื้อเรื่อง ก็ยากกว่าจะได้เนื้อเรื่องๆนี้ ก็คิดหนัก เพราะว่า เพื่อนรักเพื่อนมันก็ย่ากมันหาคนเล่นไรงี้ แต่ก็ได้รุ่นน้องมา ก็น่ารักช่วยๆ ไปถ่ายไห้เรื่องนึง แล้วต่องมาถ่ายไห้อีกเรื่องนึ่งอีก เรื่องนี้ถ่ายไม่ทันก็ได้ ประมาณเหมือนแบบเอ็มวี เป็นหนังแล้วก็มีดนตรี คอร์ เป็นหนังแบบ ประมาณไม่มีพูด
ความรู้สึกกับนิทรรศการที่ผ่านมา
ประทับใจมาก ก็ชอบ เดินออกไปแล้วเขาก็บอกหนุกดี แล้วเวลาเราอยู่ใน ห้อง คนดูหนังเราเขาก็หัวเราะ กลัวไรแบบนี้เราก็ ภูมิใจ เห็นทุกคนช่วย กัน ตั่งใจท�าหนักของตัวเอง
Guild Style Music
Alt-J (∆) guide style music วันนี้เรามาแนะนําวง ART ROCK อีกหนึ่งวงนั้นคือ alt j ∆ เปน วงอังกฤษ ร็อคอินดี้ี่เกิดขึ้นในป 2007 เปดตัวอัลบั้มของพวกเขา An Awesome Wave ปลอยตัวในเดือนพฤษภาคม 2012 ในยุโรป และกันยายน 2012 ใน สหรัฐอเมริกาและไดรับรางวัล 2012 บริติช รางวัลเมอรคิวรีAlt-J กําเนิดขึ้นเมื่อ Gwil Sainsbury (กีตาร / เบส), Joe Newman (กีตารรอง /), Gus Unger-Hamilton (คียบอรด) และ Thom Green (กลอง) พบกันที่ มหาวิทยาลัยลีดส ในป 2007 ก็ศึกษา วรรณคดีอังกฤษ และ ศิลปะ . ในปที่สองของพวกเขาจากการศึกษา Joe Newman แสดงใหเห็นความคิดกับ Gwil Sainsbury ดวยบทเพลงของเขาเองและ แรงบันดาลใจจากการเลนกีตารของพอ ทั้งคู ก็เริ่มการบันทึกในหองของพวกเขา Gwil Sainsbury ทําหนาที่เปนผูนําใน GarageBand เสียงที่เกิดจากกีตา เบส กลอง และ คียบอรด สวนผลงานชิ้นเดนๆๆมี หลายเพลงดวยกันสวนวันนี้ก็จะมายกบ
Album = An Awesome Wave
ทดนตรีของพวกดวยผลงาน ชื่อเพลง วา Breezeblocks , Tessellate และขาดไมไดกับเพลง Fitzpleasure แตละบทเพลงวกเคาไดคิดสรางสรร ผลงานอยางมีคุณภาพดวยการเปน ศิลปนความคิดบรรเจิดแนนอนตองมี ผลงานใหมออกมาใหเรา “เสพพพ พอยางแนนอน”
รางวัล 2012 บริติช รางวัลเมอรคิวรี
Guild Style Music
Local Natives
Localnative เป็นวงร็อคอินดี้จาก Silver Lake, Los Angeles, USA เปิดตัว อัลบั้มแรกของพวกเขาด้วยชื่อว่า gorlila Manor ได้ปล่อยตัวครั้งแรกในประเทศ อังกฤษใน เดือนพฤศจิกายน 2009 และหลังจากปล่อยในสหรัฐฯที่ กุมภาพันธ์ 16, 2010 อัลบั้มพวกเขาได้รับความนิยมส่วนใหญ่เป็นบวก และออกมาในบิลบอร์ด 200 และเลขที่ 3 ในชาร์ตศิลปินใหม่ วัยรุ่นในท้องถิ่นเป็นที่กล่าวถึงหลายครั้งถึงวงนี้ “วงดร ตรีที่มีสไตลในการบรรเลง” พวกเขาได้รับการอธิบายสไตล์การเล่นว่า “แอฟริกาป๊อปด้วยความโดดเด่นเรื่องเมโลดี้ กีต้าและท�านองร้อง” ของพวกเขาเอง วงดนตรีมาร่วมกันในออเรนจ์เคาน์ตี้ที่แคลิฟอเนียโดย Kelcey Ayer, Ryan Hahnและ Taylor Rice ได้เข้าเรียนที่โรงเรียน Tesoro High School.หนึ่งปีหลังจากที่จบการ ศึกษาที่วิทยาลัย UCLA พวกเขาได้เข้าร่วมโดยมือกลอง Matt Frazier ในเดือน ธันวาคม 2008 พวกเขาทั้งหมดย้ายกับไปอยืที่ Silver Lake และเริ่มงานเปิดตัวอัลบั้ม
ของพวกเขา และอัลบั้มแรกของพวกเขาได้คลอดออกมาโดยชื่ออัลบั้มว่า Gorilla Manor ถูก บันทึกไว้โดย Red Rockets Glare Studio ของ Raymond Richards ใน Los Angeles และถูกผลิตโดย Richards และวง local native ได้รับค�าตอบรับจากผู้คน ด้วยการวาง single ของอัลบั้มนี้ด้วยเพลง Local Natives - Airplanes และเสียง ตอบรับก็ยอดเยี่ยมมากส�าหรับเขา ทุกอย่างของวงสร้างมาจากความร่วมมือที่สมบูรณ์ระหว่างสมาชิกของพวกเขา กับ งานศิลป์ เปิดตัวอัลบั้มของพวกเขา Gorilla Manor เป็นชื่อความส�าเร็จครั้งแรกที่ พวกเขาทั้งหมดร่วมกันในออเรนจ์ขึ้นมาของอัลบั้มนี้ Ryan Hahnกล่าวว่า “มันเป็น ประสบการณ์ที่น่าทึ่งและฉันจะไม่ลืมช่วงเวลานั้น.” วงดนตรีของพวกเขาเริ่มที่จะดึงดูดความสนใจของสื่อมวลชนเพลงหลังจากที่เล่น 9 รายการในปี 2009 และพวกเขายังได้รับความชื่นชม “จากศิลปินรุ่นพี่อย่าง Grizzly Bear “ ในปี 2011 พวกเขาลงมือทัวร์ยุโรป และอีกหลายๆๆทีจนมาถึงปีนี้ 2013พวกเขาได้ คลอดอัลบั้มใหม่สดๆๆร้อนของพวกเขา Hummingbird ซึ่งได้รับการปล่อยตัว 29 มกราคม 2013 อีกด้วย และแน่นอนเรา จะมาแนะน�าsingle ใหม่ให้เพื่อนแน่นอน
Album - H or
A
a Man l i l r o g lbum
ummingb
ird
Music อัลบั้มใหม่ของFoals มีเจมส์ บราวน์ เป็นแรงบันดาลใจ Foals วงแดนซ์พังค์ จากเมืองผู้ดี แบไต๋ว่างานชุดนี้ที่สาม Holy Fire ค่อนข้างฉีก จากขนบนิยมอินดี้แล้วน�ำโซลและฮิพฮ็อพเข้าไปผสมโดยนักร้องน�ำยานนิส ฟิลลิป ปากิสให้สัมภาษณ์กับเดลี สตาร์ว่า “ตอนท�ำอัลบั้มเรากะให้งานออกมาฟังดูเนิบๆ เพราะช่วงนั้นก�ำลังอินกับเจมส์ บราวน์และพวกเซาเธิร์นฮิพฮ็อพกันอยู่ไม่ได้มี อารมณ์อยากท�ำอินดี้เลยคืองานชุดนี้ไม่ได้กะเกณฑ์แบบเอาเป็นตายตัวเหมือนที่ ผ่านมาอาศัยประสบการณ์เป็นหลักอย่างเดียว Holy Fire คือ การแตกยอดความ คิดออกไปให้กว้างขึ้น บางเพลงก็ได้ไอเดียจากเรื่องศาสนาหรือมนต์ด�ำไปเลยก็มี” อัมบั้มชุดใหม่ “Holy Fire เตรียมวางจ�ำหน่าย 11 กุมภาพันธ์นี้
สามสาวพี่น้องตระกูล Haim จากลาสเวกัส Danielle,Este และ Alana Haim พวกเธอมาพร้อมกับดนตรี R&B,Pop และ Classic Rock Don’t Save Me กับเพลงป๊อบเท่ห์ๆ ทีตอนนี้มีผู้ชมมิวสิควิดีโอเพลงนี้บน VEVO มากกว่า 1.3 ล้านวิวแล้ว Haim ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล NME ใน สาขา Best New Band, Best Track “Don’t Save Me”, Best Music Video “Don’t Save Me”, Best Twitter Alana @babyhaim และพวกเธอได้ร่วม ทัวร์ในอเมริกากับวงรุ่นพี่อย่างMumford & Sons ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ด้วย Mixmag ขนานนามว่า พวกเธอคือ ‘the hottest girl group in the world right now’ และ Mail On Sunday ได้ยกให้พวกเธอเป็นอันดับ 1 ใน ‘Listen Up 2013’ด้วย
วิดีโอ ‘Varúð’ ซึ่งมีความยาว 30 วินาที ที่ก�ำกับโดยช่วงภาพชื่อดังอย่าง ไรอัน แม็คกินลีย์ จะถูกน�ำไปฉายบนแท็กซี่ร่วม 3,000 คันที่วิ่งรับส่ง ผู้โดยสารใน นิวยอร์คระหว่างวันที่ 9 มกราคมถึง 5 กุมภาพันธ์ การเผยแพร่วิดี โอบนรถแท็กซี่ เป็นหนึ่งในหลายๆ โปรเจ็กต์ที่จัดท�ำขึ้นโดย องค์กรไม่แสวงผลก�ำไร Art Production Fund โดยผู้เกี่ยวข้องได้เปิดเผย ว่าจะมีประชาชนผู้ใช้บริการแท็กซี่ถึงกว่า 2 ล้านชีวิต ได้เห็นการ แพร่ภาพวิดีโอนี้ แม็คกินลีย์เจ้าของผลงาน ได้อธิบายสั้นๆ ถึง งานชิ้นนี้ว่า "จะเรียกว่าเป็นบทกวีที่ผมเขียนถึงเมืองนิวยอร์กก็ว่าได้ ผมอยาก เสนอมุมมองที่ผมคุ้นเคยเมื่อครั้งยังเด็กสู่ถนนที่คึกคักกลางกรุง ผ่านตัวละครที่มี ทั้งความคิดและความสงสัยเกี่ยวกับผู้คนรอบข้าง ผมอยากสื่อภาพที่ผสานโลก แห่งความฝันและความจริงมานานแล้ว
ในที่สุดข่าวที่คิดว่าเต้าก็กลายเป็นจริง เมื่อ The strokes ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า งาน ใหม่ชุดที่5 Comedown Machine ก�าลังจะมาวางขายไห้แฟนๆ ได้ไปแน เจ้าของกัน ในวันที่25มีนาคมนี้ โดยค่ายอาร์ซีเอเจ้าเก่า และซิงเกิ้ลเปิดอัลบั้ม ‘all the Time จะออกมาชิมลางก่อนอัลบั้มเต็มในวันที่19 กุมภาพันธ์ โดยเมื่อไม่กี่วันที่ ผ่านมาเด็กนิวยอร์กจ๋ากลุ่มนี้ได้ท�าไห้แฟนๆตื่ตระหนดตกใจอีกครั้งหลังจากปล่อย เพลงใหม่ ‘One way Trigger แบบไม่ไห้สุ้มไห้เสียงซึ่งสามารถโหลดกันฟรีๆ ผ่าน เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของวง งานนนี้ผลตอบรับเป็นไปสองด้าคือว่าร้ายและปราบ ปรื้มชื่นชมนอก จากนี้วง ยังใจดีท�าเนื้อเพลงแปะบนแผ่นคล้ายโปรสเตอร์หนังเกรดบี แจกควบไปด้วย ส�าหรับคนที่ไม่เคยได้ยินตามโหลดฟังได้ ที่ http://www.thestrokes.com/us/onewaytrigger
THE XX เริ่มเดินเครื่องเขียนเพลงส�าหรับอัลบั้มใหม่ นักร้องสาวร่างอวบ โรมีย์ แม ดลีย์ ครอฟท์ ของ The xx เผยว่าตอนนี้สมาชิก ในวงเตรียมตัวเดินเครื่องท�างาน ส�าหรับอัลบั้มชุดใหม่ โดยใช้ ประโยชน์ในช่วงเดินสายทัวร์เขียนเพลงร่วมกัน ซึ่งยัง ถือเป็นหนึ่ง ในปณิธานที่เธอตั้งเป้าไว้ในปีใหม่นี้อีกด้วย "เราตั้งใจจะท�าเพลงเก็บไว้ให้ ได้ มากที่สุดในช่วงเดินสายทัวร์ มันคือสิ่งที่ฉันตั้งเป้าและหวังไว้ว่าจะท�าส�าเร็จ จริงๆ มันก็เป็นเรื่องยากละที่จะท�าให้หัวแล่นในระหว่างการตระเวนเล่นคอนเสิร์ต แต่ก็จะ พยายามและจะท�าให้ได้" นอกจากนี้ สาวเสียงดียังบอกเป็นนัยว่า คันไม้คันมืออยาก ร่วมงานกับศิลปินอื่นบ้างเช่นกัน "อยากลองเขียนเพลงให้คนอื่นหรือท�างานกับคน อื่นบ้าง อยากเห็นคนเอาเพลงเรา ไปร้อง คือไปอยู่ในอัลบั้มอื่นที่ไม่ใช่ของเราแบบนั้น บ้างน่ะค่ะ"
Yellow Fang !!!! มาคราวนี้พวกเธอๆก็ได้พกพาความเปรี้ยวแสนเข็ดฟันตามสไตล์ลุคของพวก เธอและแนวเพลงการาจร็อคแสนดิบที่เป็นตัวตน ตอนซิงเกิ้ลนี้ออกใหม่ ผมยอมรับว่าตื่นเต้นมาก และคาดหมายเอาไว้สูง แล้วก็เป็นไปตามนั้น !! ซิงเกิ้ลนี้เปิดตัวได้เท่มากๆ ผมยกให้เป็นสุดยอดวง การาจหญิงแห่งสยามประเทศไปเลย สุดยอด
ปกอัลบั้มยอดแย่ประจ�ำปี 2013!? Yeah Yeah Yeahs ประกาศวันวาง จ�ำหน่ายอัลบั้มใหม่ Mosquito ซึ่งต่อจาก It's Blitz’ งานเมื่อปี 2009 ว่า 15 เมษายนนี้มีให้ซื้อแน่ แต่สิ่งที่ ถูกพูดถึงจนกลายเป็นประเด็นใหญ่กลับกลายเป็นปกอัลบั้มหน้าตาแปลก ที่ออกแบบโดยนักแอนิเมชั่นเชื้อชาติเกาหลี ชื่อบีออมซิก ชิมเบ ชิม ซึ่ง เป็นภาพของเด็กหัวชี้ถูกยุงยักษ์ใช้ขาเกี่ยว ในขณะที่อีกขาก็เทน�้ำยา เหนียวสีเขียวลงบนตัวอักษรที่เป็นชื่อวง ส่วนใบหน้าของเด็กและของ ยุงก็ ดูเป็นการ์ตูนชนิดที่บริษัทพิกซ่ายังคัดทิ้ง แฟนออกมาให้ความเห็น ถึงปก อัลบั้มนี้ว่าเห่ยสิ้นดีแถมยังชี้อีกว่าติดโผเป็นหนึ่งในปกยอดแย่ของ ประวัติศาสตร์อย่างไม่ต้องสงสัย เป็นหนึ่งในปกยอดแย่ที่สุดตลอดกาล แน่นอน" "ไม่มีข่าวอื่นอีกแล้วเหรอ ท�ำไมต้องเอาปกอัลบั้มห่วยๆ แบบนี้มา ลงให้ดูด้วย" "ขอบคุณพระเจ้าที่ตลาดซีดีซบเซา ไม่ต้องทนปวดตากับอะไร แบบนี้" Mosquito’ โปรดิวซ์โดยเดฟ ไซเทค จาก TV on the Radio และ นิค ลอนีย์ ส่วน 1 แทร็คในอัลบั้ม นักร้องน�ำและโปรดิวเซอร์ อย่างเจมส์ เม อร์ฟีย์ จาก LCD Soundsystem มาขอเอี่ยวแถมเกี่ยว ด็อกเตอร์อ็อค ตากอน หรือคูล คีธ มาช่วยอีกหนึ่งแรง YOKEE PLAYBOY/SECOND SUN เป็นศิลปินกลุ่มเริ่มต้นในสังกัดเบเกอรี่มิวสิค รวมตัวกันโดยมีแกนหลัก คือ โป้ ปิยะ ศาสตรวาหา ท�ำหน้าที่โปรดิวเซอร์ เขียนเรียบเรียงเพลงพร้อมกับร้องน�ำและกีต้าร์ เปิดตัว อัลบั้มแรก“โยคีเพลย์บอย” ในปี พ.ศ. 2539 ด้วยแนวดนตรีและเนื้อร้องที่โดดเด่น และค่อนข้างแรงมากผสมผสาน Hard Rock , Soul , Funk , Jazz ที่มีกลิ่นของDisco และGroove ตามมาด้วยอัลบั้ม YKPB ในปี 2543 แนว Pop ผสม Soul และ R&B ที่อัด แน่นไปด้วยเพลงที่กลายเป็นเพลงนิยมตลอดกาล อย่าง วันเกิด, พรหมลิขิต, ท�ำร้าย ที่ต่อ มาท�ำให้ชื่อของโป้ และโยคีเพลย์บอยเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางมากขึ้น ในปี 2545 โยคี เพลย์บอยอออกอัลบั้ม Love Trend น�ำเสนอแนวดนตรีPopที่ซ่อนไว้ซึ่งกลิ่นอายจางๆ ของอัลบั้มก่อนๆ ใฟ้ฟังสบายๆ มีเพลงนิยมคือ อยากมองเธอในแง่ร้าย, Love Trend เป็น อัลลั้มที่ทิ้งท้ายไว้กับค่ายเบเกอรี่มิวสิค และล่าสุดปี 2554 โยคีเพลย์บอย ย้ายบ้านมาร่วม สังกัด Spicy Disc พร้อมกับเตรียมออกอัลบั้มใหม่โดย โยคีเพลย์บอย เปิดตัวStudio Album ที่ชุดที่5 ‘Second Sun’ ด้วยการปล่อย2ซิงเกิ้ลแรกมาให้ฟังอย่างเพลง “คอลลาเจน” และ“อากาศ” ซึ่งก็เป็นแนวเพลงที่แตกต่างอีกเช่นเคย สมกับความเป็นโยคี เพลย์บอยที่มีทิศทางของตัวเองชัดเจน และล่าสุดกับวิงเกิ้ลที่3 ‘กังฟู ไฟท์ติง’เพลงจังหวะ สนุกๆแนว อคูสติก ร็อก (Acoustic Rock) ซึ่งสื่อให้ทุกคนสู้กับตัวเอง เพราะถ้าเอาชนะใจ ตัวเองได้ ปัญหาจะเล็กหรือใหญ่ ก็ไม่ยากที่จะผ่านไปได้ โดยเอาศิลปะการต่อสู่“กังฟู“มา ถ่ายทอดให้เป็นจังหวะ และพร้อมแล้วส�ำหรับการออกวางจ�ำหน่ายอัลบั้มนี้ในเดือน พฤศจิกายน 2555 ให้แฟนๆเพลงได้ฟังกันอย่างเต็มอารมณ์ หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.spicydisc.com,
Film Choice คู่ซี้ดีแต่ฝัน ผลงานการก�ำกับหนังครั้งแรกในชีวิตของ เวย์ ไทเทเนียม และ แบงค์ วงแคลช ว่าด้วย 2 พนักงานในร้านสะดวกซื้ออย่าง อ๋า (เวย์) กับ ต่าย (แบงค์) ที่ต่างคนต่างมีความฝัน แต่กลับไม่กล้า ลงมือท�ำ จนกระทั่งมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น ซึ่งท�ำให้ทั้งคู่ตัดสินใจ ลุกขึ้นมาล่าฝันของตัวเอง แฟนเพลงของทั้งคู่อย่าลืมไปตีตั๋วชมกัน ได้
Chronicle of My Mother อิงามิ มีปมกับแม่มาตั้งแต่เด็ก หลังจ�ำฝังใจว่าแม่ทิ้งให้เขาอยู่กับปู่ และเลือกน้องอีก 2 คนให้ไป อยู่ด้วยกันที่ไต้หวันแทน แต่เมื่อแม่แก่ตัวลงจนเป็นโรคความจ�ำเสื่อม อิงามิจึงต้องทนดูแลแม่อย่าง จ�ำยอม ก่อนค้นพบความจริงที่เขาไม่เคยรู้ แหม เนื้อเรื่องบิวท์ซะชนาดนี้ ใครที่แพ้ทางหนังดราม่าความ สัมพันธ์แม่ลูก เตรียมทิชชู่เช็ดน�้ำตาในโรงได้เลย The Last Exorcism Part II สงสัยจะเห็นว่าหนังผีประเภท ‘เทปลับ’ ออกมากันจน (โคตร) เกร่อแล้ว พอได้โอกาสกลับมาหลอกหลอนคนดูเป็นค�ำรบที่สอง เลย ขอเปลี่ยนมาเล่าเรื่องแบบธรรมดาดีกว่า ส�ำหรับหนังสยองขวัญไล่ผี อย่าง The Last Exorcism Part II ที่นอกจากจะได้เจ้าพ่อหนังโหด อย่าง อีไล รอธ (Hostel) มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้เหมือนเดิมแล้ว นัก แสดงสาว แอชลีย์ เบลล์ ก็ขอกลับมายืนโชว์ความตัวอ่อนแบบหลอน ๆ เช่นกัน
ยอดรายได้เปิดตัวอันต�่ำเตี้ยเรี่ยดินของThe Last Stand ในอเมริกาเหนือ ดูจะเป็นสัญญาณอันตราย ส�ำหรับอาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ อดีตดาวบู๊ที่ ‘คัมแบ็ค’ จากวงการการเมืองในต�ำแหน่งผู้ว่าการ รัฐแคลิฟอร์เนียหลังจากผ่านมาแล้วร่วมสิบปี เพราะหลังจากไปยืดเส้นยืดสายมาแล้วในหนังรวม ดาวบู๊สูงอายุอย่าง The Expendables ทั้ง 2 ภาค ผลตอบรับจากการกลับมาเต็มตัวเรื่องแรกเช่นนี้ก็ อาจเป็นลางบอกเหตุอยู่ว่า ผู้ชมไม่ได้คิดถึงเขาขนาดนั้น และ/หรือ ยังไม่แน่ใจว่าการกลับมาเคาะ สนิมครั้งนี้จะเข้าท่าหรือไม่ หรือที่ร้ายแรงที่สุด อาจเป็นได้ว่ากลุ่มคนดูหนังส่วนใหญ่ในปัจจุบันไม่ได้ รู้สึกผูกพันกับเขา รวมถึงหนังแอ็คชั่นท�ำนองนี้อีกแล้ว
Snitch ดเวยน์ ‘เดอะ ร็อค’ จอห์นสัน รับ บทเป็นคุณพ่อหุ่นหนา ที่ลูกชาย ดันถูกกล่าวหาว่าเข้าไปเกี่ยวข้อง กับธุรกิจผิดกฎหมาย แล้วกลาย เป็นแพะรับบาปต้องโทษจ�ำคุกถึง 10 ปี เพื่อต้องการพิสูจน์ความ บริสุทธิ์ของลูกชายตัวเอง เขาจึง อาสาเป็นสายให้กับต�ำรวจ พร้อม กับแฝงตัวเข้าไปในแก๊งค้ายา และ หวังจะสาวไปให้ถึงตัวการใหญ่
พวก แก๊ง น ็ ป เ ้ ด ไ ่ ม ไ า ร เ ะไร เป็น อ ์ ด น ร บ แ หรือ เพราะว่า า ่ ว ก ก า ม เหมือน ทีม คนละด่านและ ่งกัน แต่ละคนเก คนละด่าน ท�ำงานกัน
มาท�ำความรู้จักกับ merciless ถึงความเป็นมาและผลงานที่ผ่านมา รวมทั้ง ความคิดเกีย วกับแนวเพลง และการท�ำงานในแบบของ merciless
merciless
ใต้ฝุ่น เศรษฐพิษฐ์ สุวิสุทธิเกษม เฉิน เอ็ม หลีวิทยานนท์ แนวดรตรี และ การแต่งตัว ประมาณไหนกัน ฝุ่น- ผมฟังพวกดนตรีร็อค ส่วนมาก ก็ชอบไส่เสื้อยืดกางเกงขายาว ธรรมดาขาสั้น บ่าง ไส่รองเท้าผ้าใบ ก็จะออกไปทางพวกskate-x term ไรมากกว่า เฉิน- ก็คร้ายๆกันครับ steedแบรณ์ เสื้อยืด ง่ายๆไส่สบายดนตรีก็ฟังแล้วแต่อารมณ์ ความเป็นมาของmerciless จุดก�ำเนิด ฝุ่น- merciless มันไม่ได้เป็น แก็ง หรือ แบรณ์ merciless มันเป็นเหมือน ทีมมากกว่า ว่าแต่ละคนใน ทีมอะ มันเก่งกันคนละด่าน คือท�ำงานกันคนละด่าน ก็รู้จัก กันได้ เพราะ เสาวภา แล้วก็ความชอบค ร้ายๆกัน การฟังเพลง การเล่น การแต่งตัว ก็ ตอนนั้น เมเล่น skateboard กัน ตามมาด่วย fixed gear ก็ ไอคนที่เล่นบางคนก็เปลี่ยน บางคนก็ไม่ เปลี่ยน แต่ผมเล่น fixed gear เฉินก็เริ่มเล่น fixed gear เหมือนกัน ช่วงนั้นก้ได้ออกทัว ไปเล่นกันทุก วันเลย และก็ทุกอาทิตจะไป ปากค์ ที่เอกไมย์ ก็เล่ยตั่งชื่อ มีกลุ่ม ว่าmerciless ใครเป็นคนคิดชื่อ คนคิดไม่อยู่คนคิดชื่อแว่น... ประมาณกี่ปีมาแล้ว ฝุ่น- โห จ�ำได้ว่าตอนเล่นจักยานอะ 2009 แต่skate นี่ตั่งแต่ 2008ปี ปี1-2 ตอนเสาวภาเลย
ความหมายของmerciless ฝุ่น- เลือดเย็น เพราะว่าพวกเราบ้าโหด พวกเราไม่ค่อยคิดไรมาก ไช้ชีวิตแบบความสุขไรงี้ เลือดเย็น โหดเฮี่ยม แต่จริงๆไม่โหดหลอก (หัวเลอะ) ผลงานที่ผ่านมาของmerciless ฝุ่น ก็ตอนนั้น ไอแว่นออกแบ่บเสื้อ มาลองคุยกันว่าจะลองท�ำ เสื้อยืดดู ตอนแรกก็ท�ำตอน ปี2009ท�ำออกมาลายนึงและ ก็ท�ำไส่กันเองในกลุ่มไม่ได้ อะไร แล้วผมก็คุยกับมัน รวม หุ้นกันท�ำเสื้อกัน ออกมาตอนนั้น ปี2011 ก็ตอนนั้นท�ำออกมา 4 ก็วุ้นอยู่ตอนนั้น แต่เสียหมดเลยรอบนั้นก็หมดไป หมื่น-สองหมื่น เพราะว่าที่ร้านเขาสกรีนออก มาไม่ตรงตาม สเป็คเรา อืมก็ได้บทเรียนจากตรงนั้น แล้วตอนนี้มาท�ำกันเองเสื้อตอนนี้ก็ท�ำออกมา4ลายแล้ว ก็มีตอนนี้ 2012 แล้วก็ลาย Easy coreที่เป็นลายมือ สามเหลี่ยม แล้วก็ลาย นกฮูก ปีที่ผ่านมาเนี่ย ได้รับการโปรโมท มากเลย เพราะว่าได้ไปรู้จักกลับกลุ่ม VRT* เป็นรุ่นพี่ เขาไห้ไปช่วยเรื่องงานไรงี้ VRTนี่คือเป็นกลุ่ม ปาตี้ ที่มีดีเจ แล้วก็ วิดช่วน วิดช่วนนี้ก็เป็นภาพไรพวกนี้ เราก็ได้ไปร่วมงานท�ำกับเขา เหมือนเป็นการโฆษณา ที่RCA เหมือนเราได้เปิดตัวแบรนเราที่นั้น ที่VRT มากกว่า ท�ำไห้คนได้รู้จักเรามากขึ้น และก็มีเพจของ เฟตรบุคของ merciless แล้วในกลุ่มนี้ฟังเพลงแนวไหนกับบ่าง เฉิน- ช่วงนี้ก็ฟังแล้วแต่ ก็ โพสบ่าง อินดี้บ่าง ฝุ่น- บางทีก็อยากจะบ้า ฮาดคอ ฟัง หนักๆก็ฟัง แต่ท่า ชอบๆกันก็ เป็นแบบฟิว อีเลคทรอนิก ก็ฟังนะ ก็เคย เล่นดนตรีกันอยู่ เพราะว่าเราเป็นแบบกลุ่มที่ชอบดนตรีกันอยู่แล้ว เล่นด นครี ท่าเอาจริงๆก็ ได้หมด เราไม่มีก�ำแพงที่จะมากั่นที่ จะมาว่าเป็นแนวอะไร ทุกอย่างเป็นดนตรีหมด อืม แต่ ไม่ค่อยชอบเพลงไทยเท่าไหร่ เพลงไทยตอนนี้มันแบบแย่มาก เพราะว่ามันเหมือนแบบเอาตลาดอย่าง เดียว นักดนตรีไทยไม่ได้แต่งเพลงเลย คือมีคนแต่เพลงให้เขาเล่น
เคยเล่นดนตรีอะไรบ่างไหม ก็เล่นอยู่ครับ ตอนนี้ก็ฟอร์มมีวง ท�ำโพสต์ร็อค อยู่ เล่นกันสามคน มีเพื่อนผมบาส และก็ แว่น แว่นนี่ เป็นเหมือนตัวแทนหัวหน้าอะไรประมาณนี้เลย เป็นหัวเลี่ยวหัวต่อไรงี้เลย แล้วช่วงนี้ท�ำอะไรกันมั่ง ช่วงนี้อ่อก็ยังโปรโมทเสื้อ แต่ช่วงนี้พกครับ เฉิน- ต่างคนก็ต่างท�ำงาน บางคนก็ท�ำงานส่วนตัวอยู่ ไคร ชอบท�ำไรช่วงนี้ก็ท�ำกันอยู่ อย่าง ฝุ่น เงี้ย ก็ไปซ้อมไปเล่นดนตรี แล้วก็ท�ำงานส่วนตัวไปด่วย ฝุ่น- เวลา ว่างก็อาจจะคิดไอเดียไหม่ๆไส่เข้าไปใน merciless อะไรอย่างเงี้ย อย่างเฉินก็ท�ำ งานคาคาแรคเตอร์ ตัวการ์ตูน ก็มีสติ๊กเกอร์ ก็ยังออกแบบกันอยู่เรื่อยๆ ไช้ก็เพราะว่าพวกเราชอบงานARTกันทุกคน ชอบ ศิลปะ กันทุกคน ความชอบมันเหมือนคร้ายๆกันก็ เลยคุยด่วยกันได้ จะมีมาร่วมตัวกันอีกไหม หรือมีโปรเจคที่จะท�ำต่อ ไอกลุ่มเพื่อนอะมันไม่หายกันหลอก มันเจอกันบ่อยอยู่แล้ว อย่างไงมันก็ไม่หาย ส่วนโปรเจค ก็ คิดไว้ หลายอย่างเลย มีความฝัน ที่อยากไห้ merciless เติบโตแบบมีหน้าร้าน แต่ในปีนี้ ก็อาจจะออกเสื้อมาเพิ่ม หรือออก สินค้ามาเพิ่อ ว่าจะท�ำhood ท�ำหมวก ท�ำกระเป๋า จะเริ่มท�ำแบรน อืมแล้วก็เราไม่ได้มีแค่สตายเดียว คือ กะแบบจะไห้มีศิลปินหลายคน คือ งานของ แว่น คนนึง ของ เฉิน บ่าง ของเราบ่างไรงี้ เพราะว่า แต่ละสตายการวาดรูปของแต่ละคน มันไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ไอ แว่นมันก็โหดๆดิบๆหน่อย อย่าง เฉินเนี่ย จะเป็นแบบ คาแรคเตอร์ การ์ตูน น่ารักไรอย่างงี้ ก็กะแบบ จะไห้มันมีความหลากหลาย
Fashion
Atta traditional snap-back cap แบรนด์เสื้อผ้าสเก็ตของไทยอย่าง ATTA ได้ท�ำหมวก snap-back ออกมาขาย ในราคาเบาๆส�ำหรับสเก็ตบอร์ดไทย และยังเป็นโปรโมชั่นพิเศษ จากราคาปกติ 480 B. เหลือ 380 B. เท่านั้นรีบๆหน่อยนะครับช้าอาจจะหมด Link : http://www.facebook.com/pages/Atta-Clothing-THAILAND
NewBalance Numeric ใครจะคาดคิดว่ารองเท้า Sneaker อย่าง New balance จะหันมาผลิตรองเท้าสเก็ต บอร์ดกับเค้าบ้างแถมยังได้ล๊อคตัวโปรอย่าง PJ Ladd เข้ามาเป็นโปรคนแรกของทีม อีกต่างหาก ใครชื่นชอบแบรนด์นี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วไม่ควรพลาดครับ Link : http://www.newbalancenumeric.com/
Shwood เป็นยี่ห้อแว่นที่ท�ำมาจากไม้ทั้งชิ้น เป็นโปรเจคที่เอาแผ่นสเก็ตที่หักแล้ว มารีไซเคิลเป็นกรอบแว่นตาโดยแบ่งเลเยอร์ตามชั้นไม้ของสเก็ตออกมาเป็นลวดลาย ที่สวยงาม ซึ่งท�ำมาขายเป็น Limited Edition เราอยากให้ดูไอเดียและความปรานีตในการ ท�ำแต่ละขั้นตอนซึ่งมันสุดยอดจริงๆ Link : http://shwoodshop.com/
ความ เป็น มา ของ หอ ภาพ ยนต์
ประวัตและความเป็นมาของ หอภาพยนตร์แหม่งชาติ ประวัติหอภาพยนตร์ หอภาพยนตร์คืออะไร ภาพยนตร์ก�ำเนิดขึ้นในโลก เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๘ โดยนับเมื่อนักประดิษฐ์ชาวฝรั่งเศสน�ำ ภาพยนตร์ชนิดฉายขึ้นจอออกฉายเก็บค่าดูจากสาธารณชนเป็นครั้งแรกที่กรุงปารีส และหลังจากนั้นได้ แพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วและโดยที่ไม่มีใครคาดคิด ภาพยนตร์ได้เติบโตกลายเป็น "มหรสพ ยอดนิยมของชาวโลกประจ�ำคริสตศตวรรษที่๒๐" กิจการผลิตและจ�ำหน่ายภาพยนตร์กลายเป็นธุรกิจ อุตสาหกรรมที่ใหญ่โตที่สุดอย่างหนึ่งของโลก เมื่อเริ่มมีภาพยนตร์เกิดขึ้นนั้น ได้มีผู้มองเห็นความส�ำคัญ และคุณค่าของภาพยนตร์นอกเหนือไปจากเป็นสินค้าขายความบันเทิง คือ เห็นว่ามีค่าเสมือนเป็น เอกสารส�ำคัญ ท�ำนองเดียวกับเอกสารประวัติศาสตร์ หรือเอกสารจดหมายเหตุ ซึ่งควรจะมีหน่วยงาน ท�ำหน้าที่รวบรวมจัดเก็บเพื่อรักษาไว้ให้เป็นมรดกของมนุษยชาติเช่นเดียวกับการมีหอสมุดเก็บรักษา หนังสือหอจดหมายเหตุเก็บรักษาเอกสาร หรือพิพิธภัณฑ์สถานเก็บรักษาศิลปวัตถุและโบราณวัตถุ ผู้มีสายตายาวไกลผู้หนึ่งคือ "เบเลสลอว์ มาตุสซิวสกี" ช่างถ่ายภาพชาวโปแลนด์ซึ่งลงทุนตีพิมพ์ สมุดเล่มเล็ก ๆ เพื่อเสนอข้อเรียกร้องดังกล่าวนี้ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๑ แต่ปรากฏว่าเวลาผ่านเลยไปถึง ๓๕ ปี จึงมีการจัดตั้งหน่วยงานขึ้นท�ำหน้าที่เก็บรักษาภาพยนตร์ขึ้นเป็นแห่งแรกในโลก คือ การตั้ง หน่วยงานที่เรียกว่า "หอภาพยนตร์ (FILM ARCHIVE)" ขึ้นเป็นแห่งแรกที่กรุงสตอคโฮล์ม ประเทศ สวีเดน เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๖ ซึ่งเป็นเวลาที่เกิดความตระหนักกันขึ้นแล้วว่า ฟิล์มภาพยนตร์อันเป็นสื่อ วัสดุที่บอบบางที่สุดในบรรดาสื่อต่าง ๆ ที่มนุษย์คิดประดิษฐ์ขึ้นมา ได้สูญหายไปเป็นอันมากแล้ว เนื่องจากการเสื่อมสภาพของฟิล์มเอง เพราะไม่ได้รับการดูแลรักษาการท�ำลายหรือทอดทิ้งเพราะไม่ เห็นคุณค่าโดยเจ้าของเองโดยเฉพาะเมื่อเกิดภาพยนตร์เสียงขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๗๐ เป็นเหตุให้มีการ ท�ำลายทิ้งฟิล์มภาพยนตร์เงียบไปเป็นจ�ำนวนมากรวมทั้งการน�ำไปรีไซเคิลใช้เป็นวัตถุดิบผลิตสินค้าอื่นๆ หลังจากนั้นได้มีการจัดตั้งหอภาพยนตร์ทั้งที่เป็นหน่วยงานของรัฐและของเอกชนขึ้นมาทีละราย สองรายเป็นล�ำดับคือ พ.ศ. ๒๔๗๗ มีการจัดตั้ง "หอภาพยนตร์แห่งชาติ (REICHSFILMARCHIV)" กรุง เบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มีการจัดตั้ง"หอสมุดภาพยนตร์แห่งชาติ (NATIONAL FILM LIBRARY)" ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษและ "หอสมุดภาพยนตร์ แห่งพิพิธภัณฑ์ศิลปสมัยใหม่" นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกาและ เริ่มมีการเก็บสะสมฟิล์มภาพยนตร์ในมิลาน อิตาลี ซึ่งต่อมากลายเป็น"หอ ภาพยนตร์แห่งชาติ อิตาลี (CINETECA ITALIANA)" พ.ศ. ๒๔๗๙ มีการก่อตั้ง "หอภาพยนตร์หรือ ภาพยนตร์สถานแห่งฝรั่งเศส (CINEMATHEQUE FRANCAISE)" ที่กรุงปารีส ต่อมา ที่กรุงปารีส ในปี พ.ศ. ๒๔๘๑ บรรดาหอภาพยนตร์รุ่นบุกเบิกจาก ๔ เมืองคือ นิวยอร์ค เบอร์ลิน ลอนดอน และปารีส
ได้ร่วมมือกันจัดตั้ง "สมาพันธ์หอภาพยนตร์ระหว่างชาติ" ขึ้น สมาพันธ์หอภาพยนตร์ระหว่างชาติ (INTERNATIONAL FEDERATION OF FILM ARCHIVES) เป็นองค์การสากล มีวัตถุประสงค์ส�ำคัญในการร่วมมือกันเพื่อการอนุรักษ์ภาพยนตร์ในฐานะเป็น มรดกทางวัฒนธรรมส�ำคัญอย่างหนึ่งของมนุษยชาติซึ่ง ณ บัดนั้น ภาพยนตร์มิได้มีคุณค่าเฉพาะด้าน เป็นสื่อบันทึกเหตุการณ์หรือเป็นเอกสารจดหมายเหตุเท่านั้นแต่ยังมีค่าในฐานะงานสร้างสรรค์ทางศิลป อย่างสูงของโลกด้วยน่าสังเกตว่า ระเบียบข้อบังคับที่ส�ำคัญข้อหนึ่งของสมาพันธ์ ซึ่งยังคงบังคับใช้จน ปัจจุบัน ได้แก่ ข้อที่ระบุว่า "สถาบันหรือองค์กรใด ๆ ก็ตาม ที่ใช้ภาพยนตร์ของตนไปเพื่อวัตถุประสงค์ ทางการค้าจะไม่ได้รับการยอมรับให้เข้าเป็นสมาชิกของสมาพันธ์" ซึ่งนั้นหมายความว่า หอภาพยนตร์ จะต้องเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาก�ำไร นับจากนั้นมาจึงมีหอภาพยนตร์เกิดใหม่เพิ่มขึ้นทีละรายสองรายใน ประเทศต่าง ๆแต่โดยมากมักเกิดขึ้นในประเทศในทวีปยุโรป ส่วนในทวีปเอเชียกว่าจะมีการจัดตั้งหอภาพยนตร์แห่งแรกขึ้น เวลาได้ล่วงเลยไปจนเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๒ จึงมีการจัดตั้งหอภาพยนตร์แห่งแรกขึ้นใน"ประเทศอิหร่าน ปี พ.ศ. ๒๕๐๑" มีการจัดตั้งหอ ภาพยนตร์แห่งชาติ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน พ.ศ. ๒๕๐๗ มีการจัดตั้ง หอภาพยนตร์แห่งชาติ เมืองปูนา ประเทศอินเดีย แม้แต่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้ชื่อว่ามีการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมของชาติได้ดียิ่งก็เพิ่งมา จัดตั้งหอภาพยนตร์แห่งชาติ (NATIONAL FILM CENTER) ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๓ นี้เอง ก่อนหน้า ประเทศบังกลาเทศ ซึ่งตั้งหอภาพยนตร์แห่งชาติ ของตนเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๑ ในส่วนของภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน อินโดนีเซียเป็นประเทศแรกในภูมิภาคนี้ ที่ตั้งหอภาพยนตร์ของตน (SINEMATEK INDONESIA) ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๘ เวียดนามเป็นแห่งที่สอง เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๒ และฟิลิปปินส์ เป็นแห่งที่สาม เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๖ แต่ตั้งได้ไม่กี่ปี เมื่อเกิดการล้ม ล้างรัฐบาลมาร์กอส หอภาพยนตร์แห่งชาติได้ถูกยุบเลิกไปด้วยปัจจุบันมีเพียงหอภาพยนตร์เล็ก ๆ ใน มหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ การจัดตั้งหอภาพยนตร์แห่งชาติของไทย ส�ำหรับประเทศไทย ซึ่งมีประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ของตนเองไม่น้อยหน้าประเทศใดในโลกโดย เฉพาะมีการผลิตภาพยนตร์มาก เคยติดอยู่ในอันดับที่ ๑๒ ของประเทศผู้ผลิตภาพยนตร์รายใหญ่ของ โลก คือผลิตภาพยนตร์เรื่องมากว่า ๑๐๐ เรื่องต่อปี น่าสังเกตว่าความคิดในการจัดเก็บรักษาภาพยนตร์ ของชาติได้เคยเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการครั้งหนึ่งในปี พ.ศ. ๒๕๐๙ คือ เมื่อคณะอนุกรรมการสื่อสาร มวลชน ในคณะกรรมการชาติ ว่าด้วยองค์การยูเนสโกแห่งประเทศไทย ซึ่งมี พระวรวงศ์เธอ พระองค์
เจ้าเปรมบุรฉัตร ทรงเป็นประธานมีมติในการประชุมเมื่อวันที่ ๔ ตุลาคมของปีนั้น เรียกร้องให้ หอสมุดแห่งชาติเปิดแผนกเก็บภาพยนตร์ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมขึ้นอีกแผนกหนึ่ง โดยหวังจะให้เยาวชนรุ่นหลังได้ทราบความเป็นไปในอดีตได้อย่างชัดแจ้งและพร้อมกันนั้นก็ต้องการให้ เกิดความสะดวกสะบายในการค้นคว้าด้วยแต่น่าเสียดายว่า การเรียกร้องนั้นไม่สามารถท�ำให้เกิดการ ปฏิบัติจริงแต่อย่างใด โอกาสที่ประเทศไทยจะมีหอภาพยนตร์เกิดขึ้นในอันดับต้น ๆ ของเอเชียจึงไม่เกิด ขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงปี พ.ศ. ๒๕๒๔ มีเอกชนซึ่งสนใจศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ ไทยผู้หนึ่งได้ค้นพบฟิล์มภาพยนตร์เก่าสมัยรัชกาลที่ ๗ ของกองภาพยนตร์เผยแผ่ข่าว กรมรถไฟหลวง ในอดีต จึงเรียกร้องต่อสาธารณะผ่านทางสื่อมวลชน ให้ทางราชการด�ำเนินการอนุรักษ์ภาพยนตร์เหล่า นั้นและจัดตั้งหน่วยงานท�ำหน้าที่เก็บรวมรวมและอนุรักษ์ภาพยนตร์ขึ้นในประเทศไทยหลังจากด�ำเนิน การเรียกร้องอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๗ กรมศิลปากรจึงไม่อาจนิ่งดูดายต่อไปได้ต้อง ยอมรับข้อเรียกร้อง โดยจัดท�ำโครงการจัดตั้งหอภาพยนตร์แห่งชาติและขออนุมัติโครงการนี้จาก กระทรวงศึกษาธิการได้รับอนุมัติเมื่อวันที่ ๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๗ คณะกรรมการของโครงการซึ่ง ประกอบด้วยข้าราชการกรมศิลปากร นักวิชาการ เอกชน และบุคคลในวงการภาพยนตร์ ได้ศึกษาการ จัดตั้ง รูปแบบโครงสร้างและบทบาทหน้าที่ของหน่วยงาน หรือองค์กรด้านนี้ของประเทศต่าง ๆ ที่สุดได้ เห็นชอบให้เรียกชื่อหน่วยงานที่จะจัดตั้งขึ้นในประเทศไทยนี้ว่า "หอภาพยนตร์แห่งชาติ" และเรียกใน ภาษาอังกฤษว่า"THE NATIONAL FILM ARCHIVE" ตามแบบของประเทศอังกฤษ คณะกรรมการยัง มองเห็นว่าหน่วยงานนี้สามารถพัฒนาให้มีฐานะเป็นเอกเทศระดับกองของหน่วยราชการได้ในอนาคต แต่ในระยะเริ่มต้นซึ่งไม่มีอะไรอยู่ในมือเลยนอกจากแผ่นกระดาษ จึงให้มีฐานะเท่ากับงานหนึ่งฝากไว้กับ กองพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในขณะนั้น และได้รับอนุญาตจากกรมศิลปากรให้ใช้อาคารเก่าทิ้งร้างหลัง หนึ่ง ในบริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป์ ถนนเจ้าฟ้า กรุงเทพ ซึ่งเคยเป็นอาคารโรงกษาปณ์ ของกรมธนารักษ์มาก่อน ท�ำเป็นที่ท�ำการของหอภาพยนตร์แห่งชาติ โดยจ้างลูกจ้างชั่วคราว ๔ นาย และแต่งตั้งข้าราชการคนหนึ่งมาปฏิบัติหน้าที่เป็นหัวหน้างาน ภารกิจในระยะแรกของหอภาพยนตร์แห่งชาติ คือการแสวงหาภาพยนตร์และสิ่งเกี่ยวเนื่องใด ๆ ก็ตาม เกี่ยวกับภาพยนตร์ เช่นเอกสารเกี่ยวกับการสร้างภาพยนตร์ ภาพถ่ายเกี่ยวกับภาพยนตร์ สิ่งพิมพ์เกี่ยว กับการโฆษณาเผยแพร่ภาพยนตร์ วัตถุและอุปกรณ์ครุภัณฑ์เกี่ยวกับการสร้างภาพยนตร์ หนังสือและ วารสารเกี่ยวกับภาพยนตร์ ฯลฯ โดยเน้นที่ผลงานซึ่งเป็นของคนไทยหรือของชาติซึ่งคนไทยได้เริ่มรู้จัก ภาพยนตร์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๔๐ และเริ่มสร้างภาพยนตร์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๔๓ เป็นต้นมา ปัญหาส�ำคัญคือฟิล์มภาพยนตร์เป็นสื่อที่เปราะบางที่สุด อาจเสื่อมสภาพได้อย่างง่ายดายหากไม่
ได้รับการดูแลรักษาและอนุรักษ์จึงเชื่อว่าผลงานภาพยนตร์ของชาติได้เสื่อมสภาพและสาบสูญไปแล้ว เป็นจ�ำนวนมากอาจจะมากกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมดที่เคยสร้างขึ้นมาอย่างไรก็ดี หอภาพยนตร์แห่งชาติ สามารถติดตามค้นหาและแสวงหาฟิล์มภาพยนตร์และสิ่งเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์ที่ยังเหลืออยู่ได้เป็น จ�ำนวนมากพอ ที่จะเก็บรักษาและอนุรักษ์ไว้เป็นมรดกอย่างหนึ่งของชาติสืบไป ขณะเดียวกันก็ท�ำ หน้าที่คอยแสวงหาและจัดเก็บบรรดาภาพยนตร์ และสิ่งเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์ของชาติที่ได้รับการ ผลิตในปัจจุบัน เพื่อมิให้สูญหายไปดังในอดีต ปี พ.ศ. ๒๕๓๐ กรมศิลปากรให้โอนหอภาพยนตร์แห่ง ชาติ ไปสังกัดเป็นฝ่ายหนึ่งในกองหอจดหมายเหตุแห่งชาติ และในปีนี้เองหอภาพยนตร์แห่งชาติเริ่มเปิด ให้บริการแก่สาธารณชนซึ่งมี ๒ ลักษณะ คือ การให้บริการแก่ผู้เข้าไปขอค้นคว้าภาพยนตร์และสิ่งเกี่ยว เนื่องกับภาพยนตร์ อีกลักษณะคือ การจัดกิจกรรมฉายภาพยนตร์ การจัดนิทรรศการ การจัดบรรยาย เกี่ยวกับภาพยนตร์ นอกจากนี้หอภาพยนตร์แห่งชาติยังได้สมัครเป็นสมาชิกสังเกตการณ์ของสมาพันธ์ หอภาพยนตร์ระหว่างชาติ และในปีนี้หอภาพยนตร์แห่งชาติได้รับรางวัลเหรียญเงินขององค์การยูเนสโกนับเป็นเกียรติภูมิส�ำคัญ อย่างหนึ่งของหน่วยงานและของชาติ จากหอภาพยนตร์แห่งชาติ สู่ หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๔ ท่ามกลางกระแสการปฏิรูปการศึกษาและการปฏิรูประบบราชการหอ ภาพยนตร์แห่งชาติได้เรียนรู้เรื่องการปฏิรูปหน่วยราชการเป็นองค์การมหาชนตาม "พระราชบัญญัติ องค์การมหาชน พ.ศ. ๒๕๔๒" จึงเกิดความหวังว่าหากหอภาพยนตร์ได้รับการปฏิรูปเป็นองค์การ มหาชนคงจะได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาล และได้รับการพัฒนาหน่วยงานให้มีประสิทธิภาพ เข้มแข็ง สามารถด�ำเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้สมบูรณ์และเป็นจริงหอภาพยนตร์จึงเรียกร้องขอปฏิรูป หน่วยงานเป็น องค์การมหาชนตามพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. ๒๕๔๒ หลังจากใช้เวลาเรียก ร้องยืนหยัดต่อเนื่องนานถึง ๘ ปีเต็ม จึงประสบความส�ำเร็จได้รับการจัดตั้งเป็น "หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน)" โดยพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๕๒ ศักยภาพที่บริบูรณ์ของหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ถ้าหากว่าหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ได้รับการปฏิรูปและพัฒนาได้ส�ำเร็จจริง หอ ภาพยนตร์ที่พัฒนาแล้วจะท�ำอะไรได้บ้างในด้านอนุรักษ์เป็นแหล่งศูนย์กลางเก็บสะสมและดูแลรักษา ภาพยนตร์ทั้งหลายของชาติรวมถึงอาจคัดสรรภาพยนตร์ส�ำคัญของโลกเพื่อเป็นสมบัติของชาติ เป็น หลักประกันว่าภาพยนตร์ทั้งหลายนั้นจะเป็นมรดกตกทอดไปสู่ลูกหลานของชาติในอนาคตด้านการ
ศึกษา เป็นศูนย์กลางในการศึกษาค้นคว้าวิจัยภาพยนตร์ของชาติ ทั้งในสาขาภาพยนตร์เองและการวิจัย สหวิทยาโดยใช้ภาพยนตร์เป็นสื่อ เป็นการสร้างสมองค์ความรู้ด้านภาพยนตร์ของชาติเป็นแหล่งให้การ ศึกษาเรียนรู้นอกระบบ การเรียนรู้ตามอัธยาศัยและการเรียนรู้ตลอดชีวิตแก่ประชาชนในด้านเศรษฐกิจ เป็นคลังทรัพย์สินทางปัญญาด้านภาพยนตร์และวิดิทัศน์ของชาติเป็นต้นทุนที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม และงอกเงยต่อยอดตลอดเวลาในด้านการเผยแพร่ สามารถเผยแพร่เกียรติภูมิด้านภาพยนตร์ของชาติ และเกียรติภูมิด้านอื่น ๆ ของชาติผ่านทางภาพยนตร์อย่างกว้างขวาง โลกหอภาพยนตร์ระหว่างชาติ เป็นโลกที่ไร้พรมแดนและปราศจากก�ำแพงเศรษฐกิจโดยสนธิสัญญาระหว่างสมาพันธ์หอภาพยนตร์ ระหว่างชาติ กับ สมาพันธ์สมาคมผู้จัดจ�ำหน่ายภาพยนตร์ระหว่างชาติและองค์การยูเนสโก สนับสนุน การแลกเปลี่ยนเผยแพร่ภาพยนตร์ระหว่าหอภาพยนตร์ชาติต่าง ๆ อย่างเสรี ถ้าหากคิดว่าภาพยนตร์เป็นศาสนา หอภาพยนตร์ คือ วัดของศาสนานี้ ห้องเย็นเก็บฟิล์ม คือ หอไตร พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ คือ วิหาร ห้องให้บริการค้นคว้า คือ ศาลาการเปรียญ โรงหนัง คือ โบสถ์ ดังนั้นหากจะท�ำนุบ�ำรุงและสืบต่อศาสนานี้ จักต้องท�ำนุบ�ำรุงวัดของศาสนานี้ให้ได้ก่อน จึงจะได้ อานิสงค์มีค�ำกล่าวที่ท้าทายว่าประเทศใดหากยังไม่มีหอภาพยนตร์สักแห่งหนึ่งที่พัฒนาแล้วย่อมไม่อาจ นับถือได้ว่าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วทางวัฒนธรรม หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ที่ศาลายา จะได้ รับการพัฒนาให้เป็นศูนย์อนุรักษ์และบริการโสตทัศน์แห่งชาติ กล่าวคือเป็นศูนย์เก็บรวบรวมและ อนุรักษ์ภาพยนตร์และสิ่งเกี่ยวเนื่อง เป็นศูนย์ให้บริการค้นคว้าศึกษาภาพยนตร์และสิ่งเกี่ยวเนื่อง เป็น ศูนย์จัดกิจกรรมเผยแพร่ภาพยนตร์ในฐานะเป็นเอกสารประวัติศาสตร์ เป็นงานศิลปและเป็นมหรสพ โดยจัดสร้างห้องสมุด โรงภาพยนตร์และพิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ สมบัติและมรดกของหอภาพยนตร์ ปัจจุบันหอภาพยนตร์ เก็บรักษาภาพยนตร์ต่าง ๆ ซึ่งจ�ำแนกเป็น ภาพยนตร์ข่าวโทรทัศน์ ประมาณ ๕๐,๐๐๐ เรื่อง ภาพยนตร์สารคดี ประมาณ ๘,๐๐๐ เรื่องภาพยนตร์เรื่องหรือหนังไทย ประมาณ ๑,๕๐๐ เรื่อง และวีดิทัศน์ประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ เรื่องสิ่งเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์ ได้แก่ บท ภาพยนตร์ ๒๐๐ เรื่อง รูปนิ่ง ๒๓,๐๐๐ รูป ใบปิดหรือโปสเตอร์ ๒,๕๐๐ เรื่องหนังแผ่นหรือโชว์การ์ด ๑,๐๐๐ เรื่อง หนังสือ ๕,๐๐๐ เล่ม สูจิบัตรภาพยนตร์ ๓๕๐ เรื่อง แผ่นเสียง ๗๐๐ แผ่นวัตถุพิพิธภัณฑ์
ภาพยนตร์ ๖๐๐ ชิ้น การให้บริการ หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ให้บริการสาธารณะใน ๒ ลักษณะ อย่างหนึ่งคือการให้บริการ แก่ผู้สนใจเข้ามาขอศึกษาค้นคว้าจากภาพยนตร์และสิ่งเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์ของหอภาพยนตร์ซึ่งหอ ภาพยนตร์จัดให้บริการท�ำนองเดียวกับหอสมุดหรือหอจดหมายเหตุและให้บริการท�ำส�ำเนาภาพยนตร์ และสิ่งเกี่ยวเนื่อง โดยผู้ใช้บริการต้องปฎิบัติตามระเบียบและเสียค่าบริการ อีกลักษณะหนึ่งคือการให้ บริการแก่สาธารณชนเข้าชมและร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่หอภาพยนตร์ จัดขึ้น เช่นรายการจัดฉาย ภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ของหอภาพยนตร์ การแสดงนิทรรศการ การบรรยาย การอบรม รวมทั้ง การเข้าขมพิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ไทยของหอภาพยนตร์ *************************************************************************** แห่งเดียวในประเทศไทยที่เก็บรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆของวงการภาพยนตร์ไทยตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน "พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ไทย" แหล่งการเรียนรู้เกี่ยวกับภาพยนตร์ไทย เปิดให้เข้าชมทุกวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันละ 3 รอบ 10.00 น. 13.00 น. และ 15.00 น. (มีวิทยากรน�ำชมทุกรอบ) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และส�ำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 02 482 2013-14 ต่อ 111 หรือทางfacebook fanpageพิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ไทย