ล้อหมุน

Page 1

ล้อหมุน โดย ษฎาวุฒิ อุปลกะลิน ——————————————————————————————————————————————

! !

ล้อหมุน อาจเป็นคำที่เราใช้เพื่อบ่งบอกถึงเวลาเคลื่อนรถอย่างจริงๆ จังๆ หรืออีกนัยหนึ่งคือ ‘ห้ามสาย ไปกว่านี้แล้วนะ’

! !

รถทัวร์คันโต ล้อหมุน ออกจากสี่แยกกลางไชน่าทาวน์ในเกาะแมนแฮตตัน ทันทีที่ลูกทัวร์ คนสุดท้ายก้าวขึ้นรถ สายฝนยังคงเทลงมาปะทะกับกระจกด้านนอก ผมกับเพื่อนอีกสองคนนั่ง สั่นอยู่บนเบาะรถที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าระหว่างคนกับเบาะอะไรชื้นกว่ากัน

เมื่อประมาณ 18 ชั่วโมงที่แล้ว สโนว์ ดาม และผมกำลังจ้องหน้าจอแลปทอปในบ้านพักพนักงานที่รัฐ แมสซาชูเซตส์ เราเหลือเวลาอีกแค่ 6 วันก่อนบินจากประเทศนี้หลังเฝ้าบากบั่นทำงานแลกประสบการณ์ มากว่าสามเดือน ‘ไนแองการ่า’ ถูกเลือกเป็นจุดหมายสุดท้ายที่เราตั้งใจจะไปครับ ‘ทัวร์จีน’ จัดเป็นวิธีที่นิยมมากที่สุดสำหรับ ‘เด็กเวิร์ค’ รายได้ต่ำอย่างเราๆ แน่นอนมันง่าย และมันถูก ทัวร์เหล่านี้จะออกเดินทางทุกวันโดยมีทั้งแบบสองวัน สามวัน ไปจนถึงห้าวัน ราคาก็มากน้อยไปตามเส้นทาง และระยะเวลา ครั้งนี้เราเลือกเที่ยวทิ้งทวนแบบสามวัน ในเส้นทาง ไนแองการ่า-ฟิลาเดเฟีย-วอชิงตันดีซี ทัวร์ เที่ยวทั่วทั้งสามรัฐในเวลาอันสั้น เพียง 132 ดอลลาร์สหรัฐ/คน แถมโปรโมชั่นเที่ยวสามจ่ายสอง (โดยสรุปแล้ว ทริปนี้ตกเพียงคนละ 88 ดอลลาร์เท่านั้น) แพลนการเดินทางถูกวางไว้อย่างดิบดีตั้งแต่ก่อนจองตั๋วรถทัวร์ครับ ไม่รู้ว่าด้วยความชะล่าใจหรืออะไร พวกผมเพิ่งจะตัดสินใจคลิ๊กจองบัตรเมื่อตอนสองวันก่อนกำหนดเดินทาง

!

“ชิบหาย...” ไม่มีคำไหนบรรยายความรู้สึก ณ ตอนนั้นได้ดีเท่านี้อีกแล้ว หลังผมและเพื่อนๆ พบว่ารอบรถบัสที่เรา ตั้งใจจะไปเหลือที่ว่างเพียง 2 ที่ เพลงของ ปาน ธนพร ดังขึ้นมาในหัวช้าๆ ‘ก็มีแค่สามคนกับสองทาง...’ “หรือเราจะไปกันสองคนวะ” สโนว์เปรยเบาๆ “ไอ้บ้า ไปสามจ่ายสอง เรื่องอะไรจะต้องไปสองคน” ดามตอกกลับ พลางเลื่อนหารอบที่เป็นไปได้มาก ที่สุด “มีแค่รอบวันอาทิตย์ แปดโมงเช้าว่ะ” สายตาสามคู่หันควับไปที่ปฏิทินบนผนัง ก่อนจะรู้ตัวว่าพวกเราต้องออกเดินทางจากบ้านพักเดี๋ยวนี้...

! !

ล้อหมุน!

ถ้าคุณเคยเคลื่อนที่ด้วยวิธีการโผ คุณคงเข้าใจความรู้สึกของพวกผมตอนนี้ดี มีเวลาเพียงห้านาทีเพื่อไป ให้ทันรถเที่ยวสุดท้ายจากเคปค้อทไปบอสตัน หากไม่ทันเราจะตกรถรอบดึกจากบอสตันไปนิวยอร์ก และแผน ทุกอย่างจะต้องพับเก็บไม่เป็นท่า สัมภาระและกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ถูกลากไปอย่างไม่ใยดี ไม่มีเวลาแล้ว ไม่มีเวลาให้หยุดคิดถึงข้าวเหนียวหมูทอดที่เราทิ้งไว้บนโต๊ะอาหารด้วยซ้ำ


เรามาหยุดอีกทีที่สถานีขนส่งเคปค้อทเพื่อมองภาพรถบัสเที่ยวสุดท้ายเคลื่อนตัวออกไปต่อหน้าต่อตา... ไม่มีเวลาแล้วครับ ในใจคิดได้แค่นั้น พลันสายตาผมหันไปเห็นโบรชัวร์รถไฟไปบอสตันที่บอกเวลาออก ไว้ชัดเจน นั่นคืออีกสามนาทีก่อนรถไฟออกจากชานชาลา เฮ้ย! วิ่งดิวะ! รู้ตัวอีกทีเราก็นั่งอยู่บนรถไฟขบวนนี้แล้ว ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกับอีก 20 นาทีเท่านั้นเพื่อเดินทางมาถึงบอสตัน และทันคว้าตั๋วรถรอบตี สองเพื่อไปลงนิวยอร์กตอนเจ็ดโมงเช้าพอดี ผมเอนกายลงพิงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่สภาพไม่ต่างกับเป้ที่ผ่าน สมรภูมิมา อย่างน้อยตอนนี้ก็ได้นอนพักสักห้าชั่วโมงก่อนทัวร์ของเราจะล้อหมุน

!

8 โมงเช้า สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมาเบาๆ เรามาถึงจุดนัดพบหลังเราฝากกระเป๋าใหญ่ไว้ที่โรงแรมรู หนูแห่งหนึ่งใกล้ๆ อาคารเดอะนิวยอร์กไทมส์ ในราคาเหมาจ่าย 2 ดอลลาร์ไม่จำกัดเวลา (เราบังเอิญค้นพบ โรงแรมแห่งนี้โดยบังเอิญในโบรชัวร์ที่สถานีรถครับ) ณ บริเวณหน้าร้านหมี่ซั่วแห่งหนึ่งในไชน่าทาวน์ นิวยอร์ก เป็นครั้งแรกที่ผมและเพื่อนได้พบกับไกด์สาวชาวจีน นาม ‘คริสตอล’ พร้อมร่มสีรุ้งคันโตในมือของเธอที่จะทำ หน้าที่นำทางเราไปตลอดทริป เธอทยอยเชคจำนวนลูกทัวร์อย่างเร่งรีบ โดยไม่ลืมที่จะเผยใบหน้าเจือรอยยิ้ม น้อยๆ แล้วจู่ๆ ทุกคนก็วิ่ง วิ่งฝ่าฝนไปที่ไหนสักที่! ท่ามกวางความมึนงง ผมกับเพื่อนคว้ากระเป๋าแบ็คแพ็คก่อนจะวิ่งตามไปจนไปจบกับสี่แยกแห่งหนึ่ง ผมมองเป็นรสบัสคันโตจอดอยู่ที่ทางแยก เสียงแตรรถดังระงม

!

รถทัวร์คันโต ล้อหมุน ออกจากสี่แยกกลางไชน่าทาวน์ในเกาะแมนแฮตตัน ทันทีที่ลูกทัวร์คนสุดท้าย ก้าวขึ้นรถ สายฝนยังคงเทลงมาปะทะกับกระจกด้านนอก ผมกับเพื่อนอีกสองคนนั่งสั่นอยู่บนเบาะรถที่ตอนนี้ ไม่รู้ว่าระหว่างคนกับเบาะอะไรชื้นกว่ากัน รถหมายเลขสี่ เป็นรถทัวร์ยกสูงสีขาวที่แลดูไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่นัก แต่เมื่อเทียบกับความคาดหวัง ของพวกเราก็นับว่ามันดีกว่าเยอะ บนรถเต็มไปด้วยลูกทัวร์ที่มาเป็นกลุ่มๆ ทั้งไทย จีน และอินเดีย ผมได้นั่ง เบาะคู่กับหนุ่มชาวอินเดียคนหนึ่งที่ต่อมาเราก็กลายเป็นเพื่อนที่แลกเปลี่ยนเรื่องราวกันระหว่างทางที่แสนยาว ไกลซะอย่างนั้น คริสตอลเริ่มทำหน้าที่ไกด์ทัวร์ด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงจีนของเธอ รถทัวร์มุ่งหน้าออกจากเกาะแมน แฮตตันสู่นิวเจอร์ซี่ สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้คือปั้มน้ำมันจำนวนมากที่คริสตัลกระซิบบอกว่า ถูกกว่าในนิวยอร์กซิตี้ แน่ๆ และนั่นเป็นสัญญาณว่าเราได้บอกลาบิ๊กแอ็ปเปิ้ลเรียบร้อยแล้ว บรรยากาศรอบตัวค่อยๆ เปลี่ยนไป จากเมือง เป็นพื้นที่โล่งกว้าง และกลายเป็นป่าเขาในที่สุด ไม่ทัน จะได้หลับตาดี ก็มีเสียงเรียกจากไกด์สาวดังขึ้นเสียแล้ว

!

ร้านอาหารชื่อดังที่สุดในสหรัฐ — คริสตอลเรียกมันอย่างนั้น เราทุกคนต่างคาดหวังว่ามันจะเป็น ภัตตาคารสไตล์ยุโรป หรือเป็นร้านลอปเตอร์ริมบึง แต่ทันทีที่รถจอดสนิทเราก็ได้รู้ว่ามันคือ แมคโดนัลด์ ครับ ผมกับสโนว์ตัดสินใจใช้เวลา 15 นาทีที่มีอยู่วิ่งข้ามถนนใหญ่ขนาด 8 เลนไปซื้อแซนด์วิชที่ร้านซับเวย์ ในขณะที่ดามเลือกจะต่อแถวแมคโดนัลด์ที่ยาวจนทะลุออกมานอกร้านได้ จนกระทั้งผมกลับมาอีกครั้งดามก็ยัง ไม่ได้สั่ง คริสตัลเห็นท่าไม่ดีจึงจดรายการจากลูกทัวร์ชาวจีนด้านหลัง ก่อนขอแทรกคิวดามเพื่อสั่งก่อน เอาจริงดิคริสตอล?


เมื่อเธอสั่งเรียบร้อย ทันทีที่ได้ของเธอก็รีบตะโกนบอกให้ทุกคนรีบขึ้นรถอย่างไม่แยแสดามที่รออยู่ด้าน หลัง...

! !

และล้อก็หมุนต่อไปอีกครั้ง ท่ามกลางเสียงงึมงัมของทุกคนที่กำลังทานอาหารฟาสต์ฟู๊ดในมือ

บ่ายวันนั้นเราก็มาถึงจุดหมายแรกของการเดินทางครับ เนื่องจากมีการเปลี่ยนกำหนดการเพื่อให้ง่าย ต่อการจัดการ เราจึงไม่ได้ตรงไปที่น้ำตกไนแองการ่า แต่เป็นที่หมู่เกาะเทาซันด์ หมู่เกาะเทาซันด์ หรือ Thousand Island เป็นหมู่เกาะและโขดหินขนาดใหญ่ ที่เป็นที่รวมตัวเกาะรูป ร่างประหลาดไว้กว่า 1800 เกาะ เราทัศนาจรโดยการนั่งเรือนำเที่ยวลำใหญ่ไปตามแม่น้ำเซนท์ลอว์เรนซ์ที่ เชื่อมต่อพรมแดนสหรัฐอเมริกาและแคนาดา เสียงบรรยายของไกด์ท้องถิ่นชายวัยกลางคนคนหนึ่งพาเราไหล ไปกับบรรยากาศที่รื่นรมย์ เรือไหลเรื่อยไปอย่างเอื่อยเฉื่อย ในขณะที่ทุกคนต่างให้ความสนใจไปกับการถ่ายรูป วันนี้ท้องฟ้าโปร่ง สวย มีแสงแดดฉายแสงลงมาพอประมาณ แม้ไม่ได้อยู่ในแพลน แต่ก็นับว่าคุ้มค่าทีเดียว

!

เราออกจากหมู่เกาะเทาซันด์ตั้งแต่บ่ายครับ และเราใช้เวลาเดินทางถึงจุดหมายปลายทางต่อไปในเวลา 5 โมงเย็น ผมว่านั่นคงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราเรียกการท่องเที่ยวประเภทนี้ว่าทัวร์ เพราะเวลากว่า 80% ของทริ ปมักจะหมดไปกับการนั่งอยู่เฉยๆ บนรถทัวร์!

!

5 โมงเย็น คริสตอลพาเรามาที่ร้านอาหารเอเชี่ยนแห่งหนึ่งครับ ร้านนี้ก็เป็นเหมือนร้านเอเชี่ยนทั่วๆ ไปที่มักจะเป็นอาหารประเภท All-You-Can-Eat หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าบุฟเฟ่ต์ … อิ่มกันไปอีกมื้อ เราเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งไม่ไกลจากน้ำตกไนแองการ่าครับ ก่อนเข้านอนคริสตอลได้กำชับกับเรา ตามสไตล์ทัวร์ หก-เจ็ด-แปด ว่า ตื่นหกโมง ทานข้าวเจ็ดโมง และล้อหมุนตอนแปดโมงตรง คืนนั้นผมได้ ทำความรู้จักกับพี่คนไทยอีกคนหนึ่งที่มาร่วมรถทัวร์หมายเลขสี่กับพวกเรา นับเป็นมิตรภาพสั้นๆ ที่เกิดขึ้นโดย ไม่ได้ตั้งใจ รู้แค่ว่ามาในเวลานี้มันดี

!

เช้าวันที่สอง จากความเหนื่อยล้าบนรถทัวร์ทำเราหลับเป็นตายบนเตียงนุ่ม ทันทีที่เสียงเคาะประตูดัง พวกเราได้แต่คว้าเสื้อยืดมาเปลี่ยนก่อนวิ่งกระโจนไปยังห้องอาหาร ที่ตอนนี้เหลือแค่ขนมปังปิ้งไม่กี่แผ่น ปาด แยมแล้วยัดเข้าปากน่าจะเป็นคำกริยาที่เหมาะที่สุดในตอนนั้น พวกเราวิ่งขึ้นรถทัวร์เป็นกลุ่มสุดท้ายโดยยังมี คราบแยมติดอยู่ที่มุมปาก และแน่นอน... สายตาไม่พอใจจากคริสตอล

!

รถทัวร์พาเราเข้ามาถึงเขตไนแองการ่า จุดนี้ถึงเวลาที่พวกเราจะต้องลงเดินผ่านสะพานข้ามแม่น้ำไนแอ งการ่าเพื่อไปยังจุดชมวิว อากาศรอบๆ ตัวจัดว่าดีมาก กลิ่นไอน้ำที่ลอยมาปะทะกับจมูกชวนให้เราเคลิ้มไปกับสี เขียวชอุ่มของต้นไม้ใบหญ้าริมทางเดิน และวินาทีที่ผมมาถึงจุดชมวิว ผมอยากใช้คำว่าหยุดหายใจ... น้ำตกไนแองการ่าประกอบด้วยน้ำตกย่อยๆ 3 แห่ง ได้แก่น้ำตกเกือกม้า น้ำตกอเมริกา และน้ำตกไบ รดัล วีล ทั้งสามแม้ไม่ใช่น้ำตกที่มีความสูงมาก แต่เป็นน้ำตกที่มีความกว้าง แลดูยิ่งใหญ่และสวยงามในเวลา


เดียวกัน สายน้ำตกกระทบกับโขดหินดูรุนแรงแต่สุขุมในเวลาเดียวกัน ถ้ามันเป็นคน คงเป็นเหมือนพ่อที่คอย โอบอุ้มลูกๆ ด้วยความรักอยู่เป็นแน่ แทบหยุดหายใจ... มันสวยงามควรค่ากับคำๆ นี้จริงๆ

! !

“เรามาถึงทันเวลาว่ะ”

แม้ต้องผ่านช่วงเวลาวุ่นวายมากมาย แต่ก็เรียกได้ว่าคุ้มค่าแล้วกับการตัดสินใจหมุนล้อตัวเองจนมาถึงที่ นี่ได้ ล้อหมุน อาจเป็นคำที่เราใช้เพื่อบ่งบอกถึงเวลาเคลื่อนรถอย่างจริงๆ จังๆ หรืออีกนัยหนึ่งคือ ‘ห้ามสายไป กว่านี้แล้วนะ’ ตอนนี้ ผมรู้สึกโชคดีที่วันนี้ได้บอกตัวเองว่า ผมไม่ได้มาสายไปจริงๆ


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.