Dzine Part 2

Page 1
















¡ Ò Ã Ê ÃŒ Ò § ¨Ø ´ -l-


-l- Ê ¹ -l- ã ¨

ในงานออกเเบบ

จุดสน สนใจ (Point of Interest)

หรือเรียกอีกอย่�งว่� จุดเด่น (dominant) เป็นสิ่งที่ พบเห็ น ได้ จ �กชี วิ ต ประจำ � วั นทั่ ว ๆไปของเร�เช่ ๆไปของเร� นก�ร พูดเมื ่ อ ถึ ง ตอนสำ � คั ญที ่ ต้ อ งก�รเน้น ก็ พ ู ด เน้ น ให้ ด ั ง ขึ้นหรือลดระดับเสียงลงหรือหยุดเว้นระยะเพื่อให้เป็น ที่น่�สนใจ ในกรณีของก�รเขียนเมื่อถึงข้อคว�มสำ�คัญ ที่ ต้ อ งก�รเน้ น ก็ ทำ � ตั ว อั ก ษรให้ ห น�หรื อ ใหญ่ ห รื อ ขี ด เส้นใต้ ให้แตกต่�งกว่�ข้อคว�มอื่นๆ ตัวอย่�งเหล่�นี้ เป็นก�รสร้�งจุดเด่นโดยทั่วไป


จุดสนใจใน คว�มหม�ยของ ทัศนศิลป์ คือ

บริเวณหรือส่วนสำ�คัญของง�นทัศนศิลป์ ที่ปร�กฎขึ้น จ�กก�รเน้น (Emphasis) ของส่วนประกอบ มูลฐ�น และองค์ประกอบทัศนศิลป์ อย่�งใดอย่�งหนึ่ง หรือ หล�ยอย่�งผสมกัน ซึ่งเมื่อสัมผัสด้วยส�ยต�แล้ว มีคว�ม ชัดเจน เด่นสะดุดต�เป็นแห่งแรก เป็นจุดทีมีพลัง มีอำ�น�จ ดึงดูดส�ยต�ม�กกว่�ส่วนอื่น ๆ

ก�รเน้น

ให้เกิดจุดสน สนใจในง�นทั สนใจ ในง�นทัศนศิลป์เป็นสิ่ง สำ�คัญม�ก เพร�ะจะเป็นเครื่องเรียกร้อง เชิญชวน เพื่อชักจูงให้ เข้�ไปสัมผัสในส่วนร�ยละเอียดต่อไป และเป็นก�รเพิ่มคว�ม สมบูรณ์ ลงตัวขึ้นให้กับง�นออกแบบนั้น

แต่...ก�รสร้�งจุดสนสนใจ สนใจไม่ ไม่ว่�โดยวิธีใดก็ต�ม ต้องไม่สร้�ง

หล�ยจุดเพร�ะถ้�มีหล�ยจุด ก็จะแย่งคว�มเด่นกัน ไม่รู้ว่�จุด เด่นที่แท้จริงอยู่ที่ใหน นอกจ�กนี้ ก็จะเป็นก�ร ทำ�ให้เอกภ�พ ในง�นนั้นหมดไป


หลัก

เบื้อง

ต้น

ของ

ก�ร

สร้�ง

จุด

สนใจ

ใน

ง�น

ศิลปะ

ศิลปินหรือนักออกแบบ จะต้องกำ�หนดแนวท�งของก�รสร้�ง จุดสนใจไว้ล่วงหน้� ซึ่งก็คือก�รกำ�หนด ตำ�แหน่ง และ ปริม�ณ

ก�รสร้�งจุดสนใจสร้�งได้จ�ก ส่วนประกอบมูลฐ�น (Elements) หลักก�รทัศนศิลป์ (Principles)

จุดสนใจที่เกิดขึ้นควรมีจุดเดียว ในบ�งครั้ง อ�จมีม�กกว่�หนึ่งก็ได้ แต่ต้องไม่แข่งกับจุดสนใจหลัก

เพร�ะก�รที่จุดสนใจแข่งขันกัน จะเป็นก�รทำ�ล�ยเอกภ�พของ ง�นออกแบบนั้น


แนวท�งในก�รสร้�งจุดสนใจ

(Size)

ก�รสร้ � งจุ ด สนใจ ด้ ว ยขน�ด รูปร่�ง รูปทรง ที่มีขน�ดใหญ่ที่สุด จะเป็นสิ่งสะดุดต�ในเบื้องแรก ก่อให้เกิดจุดสนใจได้ ทันทีที่มองผ่�น


(Color) การสร้างจุดสนใจด้วย สี สีที่มีความเข้ม สดใส (Color Intensity) ที่แตกต่าง กว่าสีส่วนรวม ในภาพ ก็จะสร้างจุดสนใจได้ดี หรือสี และน้ำ�หนักที่แตกต่าง ก็สร้างจุดเด่น ได้เช่นกัน


( Locatio n ) การสร้างจุดสนใจด้วยตำ�แหน่ง โดยธรรมชาติการมองของมนุษย์ เราจะเริ่มมองจากบริเวณกลาง ภาพถัดขึ้นบนเล็กน้อย จึงได้มีการกำ�หนดกฎของการจัดองค์ ประกอบภาพให้เกิดความน่าสนใจขึ้นมา เรียกว่า กฎ 3 ส่วน

กฎ 3 ส่ ว น (Rule of Third) วิธีใช้ : แบ่งพื้นที่ตามแนวนอนและแนวตั้ง ออกเป็น 3 ส่วน เท่าๆกัน จุด 4 จุดซึ่งเป็นจุดตัดของเส้นที่แบ่งนี้ จะเป็นจุดแห่ง ความสนใจ ในการวางตำ�แหน่งองค์ประกอบที่ต้องการสร้างจุด สนใจให้นำ�มาวางไว้ ณ ตำ�แหน่งหนึ่งของจุดตัดทั้ง 4 นี้

อีกวิธีหนึ่งก็คือ การนำ�องค์ประกอบที่ต้องการสร้างจุดเด่นนั้น แยกออกจากองค์ ประกอบโดยรวมที่เกาะกลุ่มกันอยู่ จะทำ�ให้สายตาผู้ชมพุ่งไปยัง ตำ�แหน่งที่แปลกแยกนั้นได้เช่นกัน


(Space) การสร้างจุดสนใจด้วย

งานออกแบบที่มีจังหวะของการซ้ำ� (Repetition) มากเกินไปจะทำ�ให้น่า เบื่อหน่ายขาดจุดสนใจและเหมือนไม่มี จุดจบ

“บริ เ วณว่ า ง”

ถ้าปรับจังหวะนั้นให้มีช่องว่างที่แตก ต่างกันบ้าง ที่เรียกว่า การแยกตัวให้เกิด พื้นที่ว่าง (Progressive) ก็สามารถสร้าง จุดสนใจในบริเวณที่ต้องการได้


(Exception) ก�รสร้�งจุดสนใจด้วยคว�มแตกต่�ง รูปร่�ง รูปทรง หรือองค์ประกอบใดมี คว�มแตกต่�งจ�กองค์ประกอบส่วนรวม ย่อมเเป็นจุดเด่นที่สุดในภ�พนั้น

(Gradation) ก�รสร้�งจุดสนใจด้วยก�รแปรเปลี่ยน ก�รแปรเปลี่ ย นหริ อ ก�รลดหลั่ นด้ ว ย ขน�ด รูปร่�ง สี น้ำ�หนัก โดยองค์ ประกอบอื่น ยังคงเดิมนั้น เป็นก�รสร้�ง จุดสนใจได้ง่�ยที่สุดวิธีหนึ่ง


(Eye Direction) ก�รสร้�งจุดสนใจด้วยทิศท�งของส�ยต� ทิศท�งขององค์ประกอบที่ไปในทิศท�งเดียวกันจะนำ�ส�ยต�ให้มองติดต�มไปในทิศท�งนั้น และเมื่อองค์ประกอบนั้นมีก�รกลับทิศท�ง ในทันที จะทำ�ให้ส�ยต�หยุดก�รเคลื่อนไหวทันที จุดที่ส�ยต�ที่หยุดนิ่งนั้น เป็นจุดที่สร้�งจุดสนใจให้เกิดขึ้นได้


(Converence of Line) การสร้างจุดสนใจด้วยทิศทางของเส้น เส้นนำ�สายตาไม่ว่าจะเกิดจากเส้นลักษณะใดก็ตาม เช่น เส้นแท้จริง (Actual Line) หรือ เส้นโดยนัย (ImpliedLine) จะนำ�ไปสู่จุดสนใจตามที่ต้องการได้ เส้นนำ�สายตาที่ เกิดจากขนาดที่แปรเปลี่ยน (Gradation) แม้ปลายของเส้นนำ� สายตานั้นจะมีรูปร่างขนาดเล็ก แต่สามารถเป็นจุดดึงดูดสายตา ได้มากกว่ารูปร่างขนาดใหญ่


(Composition) ก�รสร้�งจุดสนใจด้วยก�รเพิ่มองค์ประกอบ

“อื่น”

คือก�รเพิ่มส่วนประกอบมูลฐ�น (Elements) ซึ่งได้แก่ จุด เส้น รูปร่�ง พื้นผิว น้ำ�หนัก เข้�ไปเป็น องค์ประกอบเสริม ให้จุดที่ต้องก�รเน้นให้เป็น จุดเด่น ซึ่งบ�งครั้ง วิธีนี้มีคว�มจำ�เป็นอย่�งม�ก เพร�ะเป็นก�รแก้ปญห� ในกรณีที่ไม่ส�ม�รถใช้วิธีอื่นได้

หลังจ�กวันนี้ ลองกลับไปมองดูสิ่ง ต่�งๆรอบตัวเร�อีกครั้งสิ ป�ยโฆษณ� ข้�งท�ง ตั๋วรถเมล์ ฉล�กบนขวดน้ำ�ดื่ม บรรจุภัณฑ์ขนมชิ้นเล็กๆที่ได้ม�จ�กร้�น สะดวกซื้อ กล่องซีดีเพลง ปกนิตยส�ร แฟชั่นที่เรียงร�ยบนแผงหนังสือ เร�จะพบว่� ง�นออกแบบทุกชิ้นนั้น แม้จะมีจุดเด่นที่เกิดจ�กส่วนประกอบ มูลฐ�น (element) หล�ยส่วน แต่จะมี จุดเด่น หรือจุดสนใจ ที่เห็นได้ชัดเพียง จุดเดียวเท่�นั้น

ท้�ยที่สุด ทุกแนวท�งย่อมผ่�น ก�รเลือกสรรนำ�ม�ใช้วนไปวนม� ซำ�้แล้วซ้ำ�เล่�อย่�งไม่รู้จบ เข้�ทำ�นอง ”เก่�ไปใหม่ม�”อย่�งหลีกเลี่ยงไม่ได้ บนพื้นฐ�นของก�ลเวล� ที่ง�นออกแบบ ผ่�นหูผ่�นต�ไปอย่�งรวดเร็ว สิ่งที่จะ สร้�งจุดสนใจ ให้ง�นๆหนึ่งได้รับก�ร จดจำ�ในใจของผู้คนอย่�งแจ่มชัดยิ่งกว่� แนวท�งไหนๆ น่ � จะหม�ยถึ ง ก�ร เลือก”เนื้อห�”ดีๆม�พูดถึงต่�งห�กล่ะ คุณว่�ไหม?



“เคล็ดลับแต่งบ้านง่ายๆ สวยได้ไม่ยาก“ กับหลาก หลาย ไอเดียแต่งบ้านที่ให้ คุณสนุกไปกับการแต่งบ้านที่ ไม่น่าเบื่อ


ไอเดียแต่งห้อง ราคาประหยัด

ในยุคเศรษฐกิจ ตกสะเก็ด อย่างทุกวันนี้ ค่าน้ำ�มันก็แพงขึ้น ทุกวัน ทำ�ให้ข้าวของอย่างอื่นแพง ตามไปด้วย อยากจะหนี ความวุ่นวายภายนอก มาพักผ่อน อยู่กับบ้าน แต่ตามประสา คนรักบ้าน อยู่บ้านก็ต้องอยากแต่งบ้านเป็นธรรมดา เรามีไอ เดีย ในการแต่งบ้าน แบบประหยัด ทีจ่ ะช่วยทำ�ให้บา้ นยังคงเป็น สถานทีพ่ เิ ศษทีพ่ ร้อมจะรองรับคุณ ในทุกสภาวะเศรษฐกิจ

5. หนึ่งชิ้นหลายหน้าที่ 1.เปลี่ยนสีบนผนัง การทาสีผนังบ้านใหม่ นับเป็นวิธีแต่งบ้านที่ง่าย ประหยัด และได้ผล ดีที่สุด ทางหนึ่ง ลงทุนแค่ สีน�้ำ พลาสติก สีสวยๆ กับแปรงทาสี อีกสักอัน ราคารวมกันไม่เท่าไหร่ มาจัดการเปลี่ยน ผนังเก่าสีหมอง ในบ้าน ให้ดสู วยสดใสขึน้ เท่านีก้ ส็ ามารถสร้าง บรรยากาศแปลกใหม่ ในบ้านได้ ด้วยราคา แบบสบายกระเป๋า

เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เปลี่ยนหน้าที่การใช้งานได้อย่างเช่น โซฟาเบด ที่สามารถใช้นั่งหรือปรับเป็นเตียงนอนได้ ราคาต่อชิ้นอาจจะแพง กว่าสักหน่อย แต่ด้วยประโยชน์ที่หลากหลายก็ช่วยให้คุณประหยัด ได้กว่าการซื้อเฟอร์นิเจอร์ หลายชิ้น

2.เก็บสายไฟในท่อ การเดินสายไฟแบบฝังในผนังดูเรียบร้อยก็จริง แต่จะซ่อมแซมหรือเดินเพิ่มทั้งทีก็ต้องทุบผนัง เสียสตางค์และเสียเวลา ลองเปลี่ยนมาเดินลอย บนผนัง โดยร้อยใส่ท่อเหล็กแล้วอาจทาสีทับให้ดู เรียบร้อย ช่วยประหยัดงบประมาณในการดูแล รักษาและซ่อมแซม

3.ปรับแสงปรับอารมณ์ เปลี่ยนสีของหลอดฟลูออเรสเซนต์ทั่วๆไป โดยนำ�มาหุ้มด้วยปลอก พลาสติกหลากสีราคาเพียงปลอกละ 10 บาทซึ่งหาซื้อได้ตาม ร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไป เพียงเท่านี้ก็จะได้หลอดไฟสีสวยไว้ ใช้ตกแต่งและสร้างบรรยากาศของบ้านได้ใน ราคาถูกและช่วย ประหยัดพลังงานมากกว่าหลอดนีออน

Sofa-Bed

ราคา 25,000 บาท จาก chic Replubic

6.ยืดได้หดได้ เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบที่สามารถ ปรับเปลี่ยนขนาด ย่อขยาย ยืด หด วางต่อ หรือซ้อนชั้นกันได้ เพื่อรองรับการใช้งานในหลากหลาย รูปแบบตามความต้องการ ช่วยให้คุณประหยัดได้ทั้งงบประมาณ และพื้นที่ใช้สอย

4. เปลี่ยนโครงสร้างบ้านเป็นเฟอร์นิเจอร์ ใช้ประโยชน์จากส่วนโครงสร้างของบ้าน เช่น ช่องว่างระหว่างเสา โดยติดแผ่นไม้ท�ำ เป็นชั้นวางของ ติดประตูบานเลื่อนเพื่อกันฝุ่น หรือติดม่านกั้นแทนบานตู้ เท่ากับว่าเราประหยัดงบประมาณเงินค่า ทำ�เฟอร์นิเจอร์ทั้งด้านหลังและด้านข้าง นอกจากนี้อาจก่อปูนสูงสัก 40 เซนติเมตร หรือติดแผ่นไม้วางเบาะเพื่อทำ�เป็นม้านั่งก็ได้ ช่วย ประหยัดงบประมาณในการทำ�เฟอร์นิเจอร์ไปได้เยอะ

โคมไฟปรับระดับ

ราคา 5,000 บาท จาก chic Replubic


โคมไฟปรับระดับ

ราคา 5,000 บาท จาก chic Replubic

7.เคลื่อนที่ได้ สำ�หรับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นที่ไม่ได้ใช้งานตลอดเวลา การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถ เคลื่อนย้ายได้สะดวก อย่างโต๊ะที่มีล้อเลื่อน จะช่วยให้เราสลับตำ�แหน่งและการใช้งาน ได้ง่ายขึ้น เช่น โต๊ะรับประทานอาหารขนาดเล็ก เลื่อนไปใช้งานในครัวเมื่อต้องทำ� อาหารมื้อใหญ่ วิธีนี้ช่วยประหยัดไปได้ตั้งครึ่ง

8.วางแผนก่อนเพื่อเห็นภาพรวม 9.แต่งบ้านทีละระยะ การแต่งบ้านให้เสร็จลุล่วงในคราวเดียวเป็นเรื่องที่ดี แต่อาจทำ�ให้ กระเป๋าฉีกได้ ลองแบ่งงานตกแต่งบ้านทั้งหมด(ตามแผนที่คุณวาง ไว้) ออกเป็นช่วงๆโดยให้ระยะแรกเป็นส่วนที่จ�ำ เป็นที่สุดก่อน แล้ว ดำ�เนินการทีละขั้นตอน เมื่อระยะแรกจบอาจทิ้งช่วงเก็บสตางค์สัก พัก จากนั้นจึงเริ่มช่วงต่อไป กว่าจะเสร็จอาจใช้เวลาสักหน่อย แต่ เพื่อไม่ให้คุณต้องรับภาระหนักเกินไป และยังเป็นการให้เวลาตัวคุณ สรรหาของที่ถูกใจจริงๆอีกด้วย

เหมือนมืออาชีพที่ต้องเขียนแบบแปลน ก่อนจะเริ่มตกแต่งคุณ เองควรเขียนแบบแปลนหรือแผนการตกแต่งทั้งหมด เพื่อช่วยให้ เห็นภาพรวมและรู้ว่าควรทำ�อะไรก่อนหลัง เช่น ควรทาสีผนังให้ เรียบร้อยก่อนเก็บงานที่พื้น เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดจนต้อง ทำ�งานซ้ำ�ซ้อน ซึ่งส่งผลต่อสตางค์ในกระเป๋าของคุณอย่างแน่นอน

โต๊ะรับแขกไม้

ราคา 10,000 บาท จาก chic Replubic

10.ซื้อช่วงลดราคาถูกกว่าเยอะ ร้านขายของแต่งบ้านเกือบทุกร้านจะมีช่วงลดกระหน่�ำ ประจำ�ปี โดย เฉพาะร้านใหญ่ๆอย่าง Modernform Index Habitat ซึ่งหากเรา อดใจรอซื้อในช่วงลดราคา ก็จะได้ของดีที่ราคาถูกกว่ามาก โดย เฉพาะของชิ้นใหญ่ใช้งบเยอะอย่าง ที่นอน โซฟา เตียง หรือตู้ เสื้อผ้า รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆด้วย แต่คุณอาจต้องจดบันทึก สักหน่อยว่าร้านที่คุณไปเล็งๆของไว้นั้น เขาลดราคากันช่วงไหน เดือนไหนของปี บางที่ลดปีละ 2 หน เพื่อปีถัดไปคุณจะได้วางแผน การช็อป(และเตรียมเก็บเงิน)ได้พอดี และต้องตาดีพอจะเลือกของ คนละเวลา คนละสถานที่ แล้วนำ�มาเข้าชุดกันได้

โคมไฟสีดำ�

ราคา 5,000 บาท จาก chic Replubic


วอลล์เปเปอร์ท�ำ มือ วอลล์เปเปอร์ ที่ก�ำ ลังอินเทรนด์ ช่วยให้ผนังบ้านคุณดู น่าสนใจที เดียว แต่ราคาก็สูงเช่นกัน แล้วถ้าลองทำ�เองล่ะ โดยใช้แผ่นแฟ้ม พลาสติกฉลุลาย (ลอกจากในหนังสือแต่งบ้านก็ได้) ใช้เป็นแบบ แล้วนำ�ไป พ่นสีสเปย์ หรือทาสีที่ต่างจากผนัง ให้สีลอดส่วนที่ฉลุ ลงไปบนผนัง จนเกิดเป็น ลวดลายบนผนัง เพียงเท่านี้ คุณจะได้ วอลล์เปเปอร์ลายสวย ไม่ซ้ำ�ใคร ในราคาสุดประหยัด

สวยด้วยผ้า ไปเดินเลือกผ้าลายสวย ราคาไม่แพงสักผืนจากพาหุรัด นำ�มาบวกับไอเดีย และฝีมอื เย็บปักถักร้อยของคุณก็สามารถใช้ทำ�ของตกแต่งบ้าน อย่างง่ายๆใน ราคาแสนถูก โดยนำ�มาใช้เย็บเป็น ปลอกหมอน หรือทำ�เป็นเบาะ รองนั่ง ช่วยให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้น เก่าของคุณ ให้ดูสวย น่าใช้ยิ่งขึ้น

ใช้ผ้าซ่อนความเก่า เก้าอี้นั่งที่ดูเก่า และเชย หรือโซฟาสมัยคุณยาย ที่ขาดแล้ว หากยัง ไม่มีสตางค์เอาไปซ่อม หรือซื้อของใหม่ ลองเย็บผ้าคลุม ดูไหม โดยเลือก ผ้าลายสวยที่ชอบ เย็บให้ได้รูป ทรง แล้วสวมทับลงไปปิดบัง ความเก่า และใช้งบน้อยมาก ใครที่นึกวิธีทำ� ไม่ออก เราแนะให้ไปดูหนังสือ Sott Furnishings ของสำ�นักพิมพ์บ้านและสวน มีไอเดีย เกี่ยวกับผ้า และแพตเทิร์น ให้ทำ�ตามมากมาย

แต่งแบบไม่ยึดติด การเลือกแต่งบ้าน โดยไม่ยึดติด กับสไตล์ใดสไตล์หนึ่ง เช่น การ เลือกใช้เก้าอี้คละแบบ สำ�หรับชุดประทานอาหาร บางตัวอาจราคาถูก บางตัวอาจมีราคาสักหน่อย แต่เลือกให้เข้ากัน ได้ ก็ช่วยประหยัด ได้มากกว่า การซื้อเฟอร์นิเจอร์ แบบยกชุด


สมมุติว่าเป็นไม้ ม่านปรับแสง ไม้ขนาดแผ่นกว้าง 2 นิ้ว กำ�ลังเป็นที่นิยม ช่วยให้ บ้าน มีอารมณ์สบาย แบบรีสอร์ท แต่ราคา ค่อนข้างสูง คุณอาจ เลือกใช้ ม่านปรับแสง ที่ท�ำ จากอะลูมิเนียมแทน โดยเลือกขนาด ของแผ่นม่าน ให้เท่ากัน ขึงด้วยแถบผ้าสีเข้มๆ เช่น สีดำ�หรือสี น้ำ�ตาล ก็จะได้ ม่านปรับแสง ที่ดูดี แต่ราคาถูกกว่าเยอะ

เรียบไว้ก่อน เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ที่เราต้องใช้ไป อีกนาน อย่างโซฟา หรือโต๊ะ รับประทานอาหารควรเลือกซื้อแบบ และสีเรียบๆ ไว้ก่อน เพราะ เฟอร์นิเจอร์ ที่ดูเรียบนั้น เข้ากับอะไรก็ได้ แถมดูไม่น่าเบื่อง่ายหรือ ล้าสมัย ช่วยให้การซื้อของอื่นๆที่อยู่รายรอบ ง่ายดายขึ้น และ ประหยัดงบ ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ

สมมุติว่าเป็นโต๊ะ กล่อง ลัง หรือกระเป๋าเดินทาง แทนที่จะใช้เก็บของ แล้ววางซ่อน อยู่มุมห้อง เพียงอย่างเดียว เมื่อนำ�มาวางซ้อนกัน ยังสามารถใช้ทำ� เป็นโต๊ะกลาง หรือโต๊ะวางของอย่างง่ายๆ ช่วยประหยัดเ หมือนได้ เฟอร์นิเจอร์อีกชิ้น โดยไม่ต้อง ซื้อเพิ่ม

แต่งแบบไม่ยึดติด

การเลือกแต่งบ้าน โดยไม่ยึดติด กับสไตล์ใดสไตล์หนึ่ง เช่น การ เลือกใช้เก้าอีค้ ละแบบ สำ�หรับชุดประทานอาหาร บางตัวอาจราคาถูก บางตัวอาจมีราคาสักหน่อย แต่เลือกให้เข้ากันได้ ก็ช่วยประหยัด ได้มากกว่า การซื้อเฟอร์นิเจอร์ แบบยกชุด

เสียตรงไหนเปลี่ยนตรงนั้น ข้อดีของการแต่งบ้าน Mix&Match อีกข้อหนึ่งก็คือ เมื่อของบางชิ้น ชำ�รุดเสียหาย เราก็สามารถเปลี่ยน หรือซ่อมใหม่ได้ เฉพาะตัวที่เสีย ไม่ต้องเปลี่ยน หรือซ่อมทั้งชุด ประหยัดไปได้เยอะ

วงกบสีดำ� ดูเหมือนแพง แทนที่ต้องใช้ วงกบ UPVC หรือวงกบไม้ ที่ราคาสูง วงกบอะลูมิเนียมสีดำ�ก็ดูเท่ ดูดีได้ราคาก็ถูกกว่ากันเยอะ แถมเข้า กับบ้านได้ ทุกสไตล์ เป็นทางเลือก ที่สถาปนิก นิยมเลือกใช้ เพราะประตูหน้าต่าง แบบเรียบๆ กับกรอบสีเข้ม จะช่วยให้บ้านคุณ ดูดีขึ้นได้ เกินราคา

สมมุติว่าเป็นผนัง ถ้าคุณจำ�เป็นต้อง แบ่งสัดส่วนของห้องเพิ่ม แต่ยังไม่มีสตางค์พอ ที่ จะทำ� ผนังเบาะกั้น ลองทำ�ราว เพื่อแขวนผ้าม่านขนาดยาวแทน โดยเลือกให้ ขนาดของแผ่นผ้าม่านเท่ากัน นอกจาก จะราคาถูก กว่าแล้ว ยังสามารถรูดม่านเก็บได้ เมื่อต้องการ เปิดพื้นที่โล่ง หรือ ปรับเปลี่ยนลายผ้าได้ ไม่ยากด้วย


ของตกแต่งชิ้นนี้ให้อารมณ์ที่สนุกสนาน สดใส ด้วยเพราะรูปทรงคล้ายกับกิ่งก้าน สาขาของต้นไม้เลยค่ะ เลือกไม้วีเนียร์ที่ บางและแข็งแรงพอจะดัดได้ มาตัดให้เป็น แถบที่มีความกว้าง 4 นิ้ว และนำ�มายึดเข้า กับผนังด้วยตัวยึดพลาสติกทำ�ออกมาได้ หลายๆชิ้นและติดผนังหลายๆทิศทาง

ไม้อัดที่เลือกใช้นี้เราเรียกว่า วีเนียร์ (Veneer) ซึ่งเป็นศัพท์เทคนิคทางการของ วัสดุลักษณะนี้ค่ะ วีเนียร์ไม้อัดนี้ก็มีหลายแบบให้เลือกต่างๆกัน ทั้งเนื้อไม้ สีไม้ ลวดลายไม้ และความหนาของไม้ค่ะ วีเนียร์นี้คุณอาจหาซื้อได้ตามร้านขายวัสดุตกแต่งบ้านทั่วไป หรือ ร้านขายไม้บางร้านค่ะ หากใครงบมากสักหน่อยก็สามารถเลือกใช้ไม้นำ�เข้าที่มีเนื้อดีๆ เพื่อให้ สามารถสร้างบรรยากาศอบอุ่นและสวยงามภายในห้องได้อย่างมากทีเดียวค่ะ หากใครไม่มี งบประมาณสำ�หรับงาน DIY ในส่วนนี้ก็อยากให้มาลองร่วมสนุกกัน โดยประยุกต์ใช้กระดาษ ลายไม้แทนได้ค่ะ ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านเครื่องเขียนทั่วไป ตู้ ไม้เก่าผุ หรือลิ้นชักที่เสียแล้ว นำ�มาชุบชีวิตใหม่สำ�หรับตกแต่งห้องของเรา ได้ค่ะ ซื้อสีขาวกระป๋องเล็กมาทาเสียทุกด้าน และนำ�วีเนียร์ไม้อัดตัดขนาดพอดีกับผนัง ด้านในของตู้ แล้วยึดติดกับตู้ด้านในค่ะ อาจเพิ่มลูกเล่นเก๋ๆให้กับไม้อัด โดยการนำ�ตัว ปั๊ม(Stamper) น่ารักๆจุ่มสีที่เหลือแล้วนำ�มาประทับลวดลายลงบนไม้อัดค่ะ เท่านี้ก็ได้ตู้ลอย สำ�หรับดิสเพลย์ที่เก๋ไก๋ไม่เหมือนใครแล้ว ของตกแต่งชิ้นนี้ให้อารมณ์ที่ สนุกสนานสดใส ด้วยเพราะรูปทรงคล้าย กับกิ่วก้านสาขาของต้นไม้เลยค่ะ เลือกไม้วี เนียร์ที่บางและแข็งแรงพอจะดัดได้ มาตัด ให้เป็นแถบที่มีความกว้าง 4 นิ้ว และนำ� มายึดเข้ากับผนังด้วยตัวยึดพลาสติก คุณ สามารถทำ�ออกมาได้หลายๆชิ้นและติด ผนังหลายๆทิศทางตามต้องการ อีกไอเดียในการจัดระเบียบใบ เสร็จ ใบปลิว ตั๋วหรือบัตรต่างๆ แทนที่เรา จะเอามากองไว้เฉยๆก็นำ�มาเสียบไว้กับ แท่งไม้นี้ได้ โดยวิธีการก็แสนจะง่าย ตัดไม้ ออกเป็นแผ่นๆ จำ�นวน 6 แผ่นคล้ายกับ ทำ�กล่อง แล้วนำ�มาประกอบเข้าด้วยกัน เลือกใช้ยางรัดหรือริบบิ้นยืดสีที่คุณชอบ มาเป็นตัวรัดรอบแท่งไม้ส�ำ หรับเสียบบัตร เหล่านี้ละค่ะ หากใครมีกล่องสินค้าที่ไม่ ใช้แล้ว จะนำ�มาห่อด้วยกระดาษลายไม้ก็ ไม่ว่ากันค่ะ ก่อนจะห่ออย่าลืมถ่วงก้อนหิน หรือของหนักๆ ไว้ภายในด้วย แท่งไม้จะ ได้ตั้งตรงไม่ล้มหรือร่วงหล่นได้ง่าย


ลูกเล่นหนึ่งที่นิชมใช้ในงานไม้ คือการต่อไม้เป็นแพทเทิร์นที่สลับทิศทาง ของแนวไม้อย่างมีศิลป์ วิธีทำ�ก็แสนง่าย โดยการสร้างกรอบสี่เหลี่ยมขนาดต่างๆ กันเรียงเป็นลวดลายกราฟฟิกโดยใช้แท่ง ไม้ขนาดเล็ก (ขนาดหน้าตัดไม่เกิน 2 นิ้ว) และตัดวีเนียร์สำ�หรับแต่ละช่องให้มีขนาด พอดีกับกรอบช่อง อย่าลืมเลือกใช้วีเนียร์ ที่มีลวดลายไม้ชัดเจน และจัดแนวของ ลายไม้สลับทิศทางต่างๆด้วยนะคะ เท่า นี้ผนังเก่าๆ เรียบๆ ก็จะดูมีคุณค่าขึ้นมา ทันที ไม้แผ่นก็สามารถสร้างลูกเล่น สวยๆให้กับขาโต๊ะได้นะคะ โต๊ะที่จะเลือก ใช้เทคนิคนี้ควรจะเป็นโต๊ะที่ไม่ต้องรับน้ำ� หนักมาก เช่น โต๊ะกาแฟ หรือโต๊ะข้าง โซฟาหรือเตียง ตัดไม้อัดให้โค้งเว้าตาม ลวดลายที่ต้องการ 2 ชิ้นต่อขาโต๊ะ 1 ข้าง ประกอบเข้ากับไม้ทาสีขาวหรือบอร์ดสีขาว ขนาดเบาเพื่อใช้เป็นพื้นหน้าโต๊ะ เท่านี้ก็คุณ ก็จะมีโต๊ะสวยๆไว้ใช้เองแล้ว

เสน่ห์ของวีเนียร์ไม้คือความ หลากหลายของสีสันและลวดลายค่ะ ถ้า คุณสามารถหาไม้วีเนียร์ที่มีสีและลวดลาย ต่างๆกัน ลองนำ�มาตัดเป็นรูปร่างใบไม้ จัดให้เข้าช่อโดยแตะติดกันด้วยกาว

นำ�เส้นวีเนียร์ทั้งสองขนาดมาสานขัดกัน โดยเว้นระยะห่างระหว่างแต่ละเส้นสัก เล็ก น้อยเพื่อให้เกิดช่องว่าง ดูโปร่งอย่างมีศิลป์ สุดท้ายจึงนำ�วีเนียร์ที่สานสำ�เร็จแล้วติด เข้าไปกับกรอบไม้ ส่งท้าย TIPS ของการ DIY วันนี้ด้วยการ ตกแต่งโต๊ะข้างหัวเตียง หากคุณมีโต๊ะที่ ต้องการตกแต่งเพิ่มเติมก็ลองทำ�ดูกันดีกว่า ค่ะ วิธีท�ำ ก็แสนง่ายดาย เริ่มจากตัดวีเนียร์ สีอ่อนให้ขนาดเท่ากันกับช่องว่างที่ต้องการ จากนั้นนำ�วีเนียร์รูปไบไม้มาติด จัดจังหวะ ของใบไม้ให้สวยงาม •••

วิธีตัด ค่อยๆ ตัดตามเส้นร่างอย่าง ระมัดระวัง เพื่อให้ได้รูปใบไม้ที่สวยงาม ไร้ต�ำ หนิ เทคนิคคือตัดออกมาอย่างหยาบๆ เสียก่อน จากนั้นจึงค่อยใช้กรรไกรขริบเล็ม ให้เรียบร้อยอีกครั้งไม่เพียงแต่สามารถทำ� ของประดับเล็กๆน้อยๆเพราะวีเนียร์นั้น สามารถทำ�ของตกต่งที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ได้ด้วย ดังในภาพเป็นการใช้วีเนียร์ไม้ทำ� เป็นหัวเตียง ช่วยให้อารมณ์และบรรยากาศ ภายในห้องดูอบอุ่นและสบายตา วิธีทำ� ก่อนอื่นคุณต้องวัดขนาดความกว้าง ของตัวเตียง และความสูงที่ต้องการเพื่อนำ� ไปทำ�กรอบไม้เสียก่อน เลือกไม้ที่มีความ สวยงามเป็นที่นิยมกันมากคือไม้เมเปิ้ล หรือคุณอาจเลือกใช้ไม้ชนิดอื่นที่มีสีซีด แทนได้ค่ะ จากนั้น นำ�แผ่นวีเนียร์มาตัด เป็นเส้นยาว โดยมีความกว้างขนาด 1 นิ้ว และ 2 นิ้ว ส่วนความยาวก็วัดตามขนาด ของกรอบไม้ที่เราทำ�ไว้เลย


a


แก้วและจานรองชา

ราคา 125 บาท จาก chic Replubic

แก้วและจานรองชา

ราคา 12,000 บาท จาก chic Replubic

โซฟาหุ้มผ้าตัวยาว

ราคา 7,000 บาท จาก chic Replubic

แก้วและจานรองชา

ราคา 125 บาท จาก chic Replubic

แก้วและจานรองชา

ราคา 125 บาท จาก chic Replubic

เชิงเทียน

ราคา 1,000 บาท จาก chic Replubic

โต๊ะไล่ระดับ

ราคา 5,000 บาท จาก chic Replubic

เชิงเทียน

ราคา 1,000 บาท จาก chic Replubic

เชิงเทียน

ราคา 1,000 บาท จาก chic Replubic


เฟอร์นิเจอร์ไม้ ที่เราใช้ประดับตกแต่ง หรือใช้งานอยู่ ทุกวันนี้ ตอนซื้อมาราคาก็แพงอยู่แล้ว เนื่องจาก ไม้ที่ใช้เป็น วัตถุดิบนั้น ไม่ว่าจะเป็นไม้ประเภทไหนก็มีราคาแพง อีกทั้งทุก วันนี้ไม้ยังหายากอีกด้วย แต่ก็ยังคงมีคนอีกจำ�นวน ไม่น้อยที่ยัง คงชื่นชอบวัสดุตกแต่งบ้านที่ทำ�มาจากไม้ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะไม้เป็นวัสดุที่ให้ความรู้สึกที่เป็น ธรรมชาติหรือใกล้ชิดธรรมชาติมากกว่าวัสดุทดแทนประเภท อื่นๆ นอกจากนั้นไม้ยังมีความแข็งแรงคงทนและมีอายุการใช้ งานที่ยาวนานแต่การที่จะให้ไม้มี อายุการใช้งานที่ยาวนานได้ นั้นจำ�เป็นต้องมีการดูแลรักษาที่ดีและถูกวิธี เครื่องเรือนที่ทำ�ด้วยไม้ต้องไม่วางใกล้แหล่งความร้อน หรือในที่ที่มี อุณหภูมิสูง ไม่วางบนพื้นที่เปียกชื้นและไม่ควรให้ ถูกแสงแดด และศัตรูที่สำ�คัญของไม้คือปลวกและแมลงต่างๆ ที่กัดกินเนื้อไม้จึงต้องหมั่นตรวจตราดูแลเสมอเพื่อที่จะช่วยให้ สามารถรักษา ความสวยงามตามธรรมชาติและให้ไม้มีอายุการ ใช้งานที่ยาวนาน

จุดเด่นของเฟอร์นิเจอร์ชนิดนี้คือ มีความสวยงาม ตามธรรมชาติของเนื้อไม้ วิธีท�ำ ความสะอาดก็แสนจะง่ายมาก เพียงใช้ผ้าชุบน้�ำ บิดให้หมาดๆ เช็ดถูให้ทั่วบริเวณที่ใช้งานเป็น ประจำ� อาทิ ที่นั่งและพนักพิง หรือใช้ผ้าชุบน้�ำ มันชักเงาถูรอย ขีดข่วนซึ่งรอยเหล่านั้นก็จะค่อยๆจางไป จากนั้นใช้น�้ำ ยาหรือ สเปรย์บ�ำ รุงรักษาเฟอร์นิเจอร์มาเคลือบเพื่อป้องกันฝุ่นละออง และน้ำ�ซึมลงในเนื้อไม้ โดยฉีดไปยังพื้นผิวที่ต้องการ แล้วใช้ผ้า สะอาดเช็ดตามอีกครั้ง เพื่อให้เฟอร์นิเจอร์สวยงามอยู่เสมอ

ชั้นวางของ 3 ลิ้นชัก ราคา 2,000 บาท จาก chic Replubic

เก้าอี้ผ้าสักหลาด

ราคา 3,000 บาท จาก chic Replubic

ชุดทำ�ครัว

ราคา 7,000 บาท จาก chic Replubic


ตู้โชว์ พร้อมลิ้นชัก

ราคา 4,500 บาท จาก chic Replubic

ชุดโต๊ะปิคนิก

ราคา 3,000 บาท จาก chic Replubic

แก้วนำ�้

ราคา 100 บาท จาก chic Replubic

เก้าอี้ผ้าสักหลาด

ราคา 2,500 บาท จาก chic Replubic

เครื่องเรือนที่ทำ�ด้วยไม้ต้องไม่วางใกล้แหล่งความ ร้อนหรือในที่ที่มี อุณหภูมิสูง ไม่วางบนพื้นที่เปียกชื้นและไม่ ควรให้ถูกแสงแดด แสงจากดวงโคมหรือแสงสปอตไลท์โดยตรง ควรระวังรักษาไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนบนเนื้อไม้และระวังไม่ให้มี น้�ำ หยดลงบน เนื้อไม้เพราะสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะทำ�ลายความ สวยงามของเนื้อไม้และลายไม้ ทำ�ให้ผิวของไม้ซีดจางลง ศัตรู ที่สำ�คัญของไม้คือปลวกและแมลงต่างๆ ที่กัดกินเนื้อไม้จึงต้อง หมั่นตรวจตราดูแลเสมอเพื่อที่จะช่วยให้สามารถรักษา ความ สวยงามตามธรรมชาติและให้ไม้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

ชุดตู้ไม้

ราคา 5,000 บาท จาก chic Replubic

ตู้ไม้ยางพารา

ราคา 4,000 บาท จาก chic Replubic


ÁÑ¡§‹Ò ËÃ×Í ÊÌҧÊÃä

ẺäÁ‹·Ñ¹¤Ô´? มั ก ง่ า  รÖ ส ร้ า ง ส ร ร ค์ ( แ บ บ ไ ม่ ทั น คิ ด ) ? ในชีวิตประจำวันคนเรามีวิธีดัดแปลงวัตถุ สิ่งของและโลกรอบตัวหลายร้อยรูปแบบ และ ส่วนมากเป็นไปได้โดยไม่รู้ตัว เช่น แขวนเสื้อบนเก้าอี้ วางถ้วยบนราวบันได สร้างออฟฟิศชั่วคราวขึ้นมาในสนามบิน หรือใช้ดินสอมาทำปินปักผม ฯลฯ

Thoughtless Acts? âดÂ เ¨น ¿ูลตัน ซูรี

(Jane Fulton Suri )

จัดพิมพ์โดย Chronicle Book (2005) เป็ น หนั งสื อ ภาพที่รวมกิจกรรมดังกล่าว พฤติกรรมธรรมดาสามัญแบบนี้มีให้พบ เห็นทุกมุมโลกรวมทั้ง ประเทศไทย เช่น ใช้ฟุตบาทเป็นร้านค้าใช้ลังเครื่องดื่มเป็น ทีน่ อนส่วนหนึง่ ถูกรวมไว้ในนิตยสาร Bankok 101ฉบับเดือนมิถุนายน พ.ศ.2552ซึ่งเป็น ผลงานภาพถ่ายของ Christian Phongphit และมีชื่อว่า Unintended Design


หากเอาศีลธรรมและความไม่เรียบร้อย เป็ น ตั ว ตั้ ง การกระทำดั ง กล่ า วคงถู ก เรียกว่า มักง่าย และมีความสะดวกสบาย เห็นแก่ตัวเป็นเนื้อแท้แต่ใน Thoughtless Acts? และ Unintended Design ความมั ก ง่ า ยถู ก เรี ย กออกเป็ น กลางๆ ว่ า ”พฤติ ก รรม”ไม่ ทั น คิ ด ที่ ส ำคั ญ หาก ตีความว่ามันเป็นส่วหนึ่งของสัญชาติญาณ ในการเปลี่ ย นแปลงโลกสิ่ ง แวดล้ อ ม สำหรั บ มนุ ษ ย์ เ นื้ อ แท้ ข องมั น คื อ การ ดีไซน์นั่นเอง

สำหรับ Thoughtless Acts? ผู้เขียนซึ่งเป็น หัวหน้าแผนก Human Factors Design and Research ของ IDEO บริษัทออกแบบ ผลิตภัณฑ์ชื่อดังของสหรัฐฯ ใช้หนังสือ เล่ ม นี้ เ พื่ อ สาธิ ต ว่ า พฤติ ก รรมนี้ มี ค วาม สำคั ญเพราะเกิ ด จากสั ญชาตญาณและ ก ลั่ น ก ร อ ง ม า จ า ก ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ จำนวนมากมั ก จะถู ก ซ่ อ นเร้ น แม้ น แต่ เจ้ า ของก็ ม องไม่ เ ห็ น นอกจากนั้ น มั น อาจจะเป็ น ที่ ม าของดี ไ ซน์ แบบใหม่ หรื อ อย่ า งน้ อ ยก็ ใ ห้ แ รงบั น ดาลใจแก่ นักออกแบบ

¾Äติกรรม ไม่ทันคิดเปšนส่วนหนÖ่งของสัÞชาติÞา³ ในการเปลี่Âนแปลงâลกสิ่งแวดล้อม สÓหรับมนØÉÂ์เนื้อแท้ของมันคือการ ดีไซน์นั่นเอง

IDEO เป็นบริษัทออกแบบที่เคยประกาศ ว่าสัญชาตญาณหรือการสนองตอบอย่าง ฉั บ พลั น ทั น ที ข องมนุ ษ ย์ ( intuition) มี ค วามสำคั ญ อย่ า งสู ง สำหรั บ ดี ไ ซน์ แนวคิดนี้ถูกนำไปใช้พัฒนาสิ่งท่ีเรียกกัน ว่า user experience สำหรับบริษัทยักษ์ อย่างเช่น Kodak, Microsoft และ Nokia มาแล้ว ส่วนฟูลตัน ซูรี ก็เป็นผู้มีส่วน อย่ า งมากในการพั ฒ นาให้ มั น เป็ น ระเบียบวิธี (method) ในการวิจัยและ ออกแบบสร้ า งสรรค์ แ บบใหม่ จ นกลาย เป็นที่กล่าวขวัญและทำตามกันไปทั่วโลก คล้ า ยกั บ พฤติ ก รรมไม่ ทั น คิ ด เส้ น ทาง อาชีพของฟูลตัน ซูรี พัฒนามาโดยไม่มี การวางแผนล่ ว งหน้ า เธอหั น มาดี ไ ซน์ เพราะต้ อ งการหลี ก ห่ า งออกมาจาก พ่ อ แม่ ซ่ึงเป็นศิลปินความสนใจเกี่ยวกับ พฤติ ก รรมของผู้ ค นนำเธอไปสู่ ก าร เรียนวิชาจิตวิทยายาและทำงานในสถาบัน วิจัยในอังกฤษ


เมื่อ 20 ปที่แล้ว หลังจากได้พบกับดีไซน์เนอร์ชื่อ บิล มอร์กริดจ์ (Bill Morgridge) ซึ่งมองเห็นศักยภาพของเธอและกำลังของเธอ กำลังแสวงหาการวิจัยที่มีความเป็นองค์รวมมากกว่าเดิม ฟูลตัน ซูรี เข้าร่วมงานกับบริษัทออกแบบของมอร์กริดจ์ ต่อมาบริษัทนั้น กลายเป็น IDEO และเธอก็ได้เป็นหัวหน้าแผนก Human Factors Design and Research IDEO มีชื่อเสียงในเชิงนวัฒกรรมทั้งด้านผลงานการออกแบบและ ระเบียบวิธีวิจัย ทำงานกับ Nokia บริษัทที่ไม่ออกแบบโทรศัพท์ มือถือสวยๆ แต่ช่วยค้นหาช่องทางใหม่ๆในการสื่อสาร สำหรับ โครงการปรับปรุงภาพลักษณ์ของเครือโรงแรม Marriott ดีไซน์ หมายถึงการทบทวนแนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับพื้นที่การต้อนรับและ ประสบการณ์ของผู้เข้าพัก และเมื่อ Bank of America ต้องการ ปรับปรุง IDEO เอากล้องถ่ายรูปไปแจกให้ลูกค้าธนาคารและขอ ให้ถ่ายรูปอะไรก็ได้ที่ทำให้เขานึกถึง “เงิน” ไม่เพียงศึกษา กิจกรรมการมาธนาคาร IDEO ขุดลงไปถึงขั้นว่าเงินมีความหมาย ต่อลูกค้าอย่างไร ฟูลตัน ซูรี อธิบายว่า คำว่าดีไซน์นั้นใช้กับ มวลชนหรือผู้ใช้นั้นกว้างมากๆส่วนการพูดถึงความเป็นคนใน กระบวนการออกแบบไม่ใช่เรื่องใหม่สิ่งที่ IDEO ทำคือยกมนุย์ ให้เป็นศูนย์กลางของงานออกแบบอย่างจริงจังและคิดถึงคนก่อน คิดถึงสิ่งอื่นใด สาระสำคัญของ Thoughtless Act? คือการ (สังเกต) ซึ่งเป็นระเบียบวิธีพื้นฐานในการทำงานของผู้เขียน นอกจากนั้นยังนำเสนอระเบียบวิธีการสังเกตที่น่าจะมีประโยชน์ ต่อดีไซน์เนอร์ด้วย

พฤติ ก รรมไม่ ทั น คิ ด หมายถึ ง การกระทำที่ ค นทำไม่ รู้ ตั ว หรื อ ไม่ได้คิดถึงมันอย่างจริงจัง เช่น ยืนเข้าแถว หย่อนจดหมาย หรือส่องกระจก เราจะคิดถึงมันก็ต่อเมื่อครรลองปกตินั้นสะดุด หยุดลง เช่น เมื่อเดินทางไปต่างประเทศ มีคนจากภายนอก หันมาตั้งคำถาม เมื่อนั้นเราจึงเริ่มรู้ตัว และหันมามองมันอย่าง พินิจพิจารณาเมื่ออุปกรณ์เครื่องใช้ไม่ทำงานอย่างที่คาดหวัง เช่น หน้าเคาน์เตอร์ขายอาหารไม่มีที่วางถาด ปายรถเมล์ไม่มี ทีว่ างถ้วย หรือหน้าหมูบ่ า้ นไม่มตี ลาด โดยไม่ทนั คิด คนจะดัดแปลง ดีไซน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุสิ่งของหรือร่างกายที่ใกล้มือให้เข้า กับความต้องการเฉพาะหน้าของตนเอง เช่น วางถาดลงบน หัวเข่าแล้ววางถ้วยลงบนเก้าอี้และวางแผงลอยไว้บนฟุตบาท แต่ เ ดิ ม นั้ น การศึ ก ษาพฤติ ก รรมแบบเก่ า มี ส มมติ ฐ านว่ า คน ส่ ว นมากมี ส ำนึ ก และรู้ ว่ า ตนเองทำอะไรหรื อ ตนเองต้ อ งทำ อะไรหรือต้องการอะไร พุดอีกอย่างหนึ่ง มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิต ที่มีเหตุผล และการกระทำของนุษย์เป็นผลมาการการปอนข้อมูล และการหล่อหลอมทางสังคมอย่างถูกต้อง พฤติกรรมไม่ทันคิด จึงเป็นเพียงกรณียกเว้นหรือปัญหาอย่างหนึ่งในการออกแบบ เ ท่ า นั้ น ห า ก นั ก อ อ ก แ บ บ ป อ น ข้ อ มู ล เ กี่ ย ว กั บ วิ ธี ใ ช้ ที่ถูกต้องให้กับผู้ใช้ไม่ว่าจะผ่านหนังสือคู่มือการใช้สื่อมวลชน หรือกระบวนการทางสังคม ปัญหานั้นๆก็จะหมดไป



ตัวอย่างคลาสสิคของวงการคือเมื่อต้องการให้คนเปิดประตูด้วย การดันต้องใช้มือจับรูปทรงแบนๆ เพราะความแบนกระตุ้นให้เรา แบมือและดัน ออกจากตัวมากกว่าดึงเข้าหาตัว ร่างกายของเรา จึงมีปฏิกิริยาอย่างถูกต้อง ประตูสามารถทำให้เราเปิดมันได้ สมปรารถนา ซึ่งหมายความว่าเป็นการกระทำอย่างไม่ทันคิดและ โดยฉับพลันทันทีในทางกลับกันหากต้องการให้คนเปิดด้วยการ ดึ ง ประตุ ที่ มี ที่ จั บ รู ป ทรงกระบอกจะกระตุ้ น ให้ เ ราเอื้ อ มมื อ ไปกำแล้ ว ดึ ง เข้ า หาตั ว เองปั ญ หาที่ เ ราพบเห็ น บ่ อ ยๆคื อ พวกประตู ที่ ใ ช้ ที่ จั บ รู ป ทรงกระบอกทั้ ง ๆที่ ต้ อ งเปิ ด ด้ ว ยการ ดั น การออกแบบที่ ต อบสนองกั บ สั ญ ชาติ ญ าณมี ค วาม สำคัญยิ่ง มือจับแบนๆ เป็นการส่งสัญญาณไปกระตุ้นปฏิกิริยาที่ ถูกต้อง การดีไซน์ทำให้ผู้ใช้บอกได้เองว่าประตูบานนี้เอื้อต่อการ ดันเพราะมัน “เปิดช่อง” (afford) ให้คนเรานึกถึงการดันมากกว่า วิธีอื่นๆ และด้วยเหตุนี้เองการที่ประตูหนีไฟมีมือจับเป็นแผ่นแบน ขนาดยาวพลาดกลางประตูนั้น ก็เพื่อบอกอย่างชัดเจนว่าควรดัน ดีไซน์ที่กระตุ้นการตอบสนองแบบนี้มีประโยชน์ในยามฉุกเฉิน

ในสายตาของผู้ใช้ วัตถุสิ่งของและโลกรอบตัวมี“ช่องทางการใช้” (affordances)และ“กรอบการใช้ ” (constaints)แฝงอยู่ และถึ ง แม้ น จะไม่ มี ห รื อ ถู ก ปิ ด บั ง ซ่ อ นเร้ น เขาก็ ยั ง คงมองหา มันตลอดเวลา ผู้ง่ายๆก็คือ ผู้ใช้คาดหวังว่า รูปทรง พื้นที่ สี วั ต ถุ ดิ บ รวมทั้ ง องค์ ป ระกอบอื่ น ๆของดี ไ ซน์ ก ำลั ง ชี้ แ นะ ถึ ง วิ ธี ใ ช้ ท างใดทางหนึ่ ง แนวคิ ด เรื่ อ งช่ อ งทางการใช้ แ ล ะ ก ร อ บ ก า ร ใ ช้ อ า จ ส า ธิ ต ใ ห้ เ ห็ น โ ด ย ย ก น า ฬิ ก า เป็นตัวอย่าง ใครๆก็รู้ว่าการประกอบนาฬิกาเป็นเรื่องซับซ้อน เพราะมีชิ้นส่วนมากมายอีกทั้งรูปทรงและการประกอบแต่ละชิ้น


ก็ ไ ม่ เ หมือนกันความยากลำบากในการ ประกอบนาฬิกาเกิดขึ้นเพราะ มันเปิด ช่องให้แก่วิธีมากมายหลายวิธีจนเกินไป ในขณะที่ของเล่นแบบ lego ประกอบง่าย เพราะมี รุ ป ทรงและวิ ธี ก ารประกอบชิ้ น ส่วนไม่กี่แบบ ข้อดีของรูปทรงแบบ Logo คือเปิดช่องให้แก่วิธีการประกอบบางวิธี หรือเรียกได้ว่ามีกรอบการใช้ที่แคบมาก

หน้ า ที่ ข องดี ไ ซน์ น อกจากใช้ ง านได้ ห รื อ มีฟังก์ชั่นแล้วยังต้องสามรถ เปิดช่อง และ “ปิดกรอบ” สำหรับวีการใช้วัถตุสิ่ง ของนั้นๆ ซึ่งในที่นี้ก็คือ ส่งสัญญาณบอก ผู้ ใ ช้ ว่ า วิ ธี ใ ช้ อ ย่ า งถู ก ต้ อ งคื อ อะไรและ เมื่ อ ดี ไ ซเนอร์ ท ำให้ ช่ อ งทางนี้ ป รากฏ ต่ อ สายตาและร่ า งกายของผู้ ค นทั่ ว ไป เราจึ ง จะเรี ย กมั น ว่ า เป็ น งานดี ไ ซน์ ที่ ดี



ประเด็นที่น่าเพ่งเล็งคือ การสังเกตของ ฟูลตัน ซูรี มีหลักการหรือระเบียบวิธี อย่างไร เพราะหากยกขึ้นมาอย่างลอยๆ การสั ง เกตอาจช่ ว ยได้ ก็ เ พี ย งให้ แ ค่ แรงบันดาลใจ เช่น ชื่นชมยกย่องงานออก แบบของชาวบ้าน อีกทั้งนำไปสู่การยอมรับ ว่ า ใครๆก็ เ ป็ น ผู้ เ ชี่ ย วชาญด้ า นดี ไ ซน์ ไ ด้ ที่ ส ำคั ญ การสั ง เกตยั ง คงสภาพเป็ น “งานวิจัย” ที่ไม่ได้นำไปสู่แนวทางดีไซน์ ที่เป็นรูปธรรมหนังสือ Thoughtless Act? เสนอว่ า การสั ง เกตมี ป ระโยชน์ ต่ อ งาน ดีไซน์หลายประการ เช่น เตือนใจ นักออกแบบให้สนใจพฤติกรรมมากกว่า วัตถุสิ่งของ หรือที่บิลล์ มอร์กริดจ์ หนึ่งในผุ้ก่อตั้ง IDEO สรุปเป็นสโลแกน ไว้ว่า “ดีไซน์ไม่ใช่คำนาม แต่เป็นคำกริยา” ซึ่ ง หมายถึ ง การโฟกั ส ที่ ก ารกระทำ หรือช่องทางการใช้ มากกว่าหผลหรือ รู ป ร่ า งหน้ า ตาของดี ไ ซน์ ก ารสั ง เกต พฤติ ก รรมผู้ ใ ช้ ใ นขณะใช้ ง านจริ ง ในสภาพแวดล้ อ มจริ ง จะช่ ว ยทำนาย ว่าผู้ใช้เข้าใจดีไซน์หรือไม่ ตีความดีไซน์ อย่างไร ทั้งนี้เพื่อที่จะได้กำหนดปฏิกิริยา ของผู้ ใ ช้ แ บบที่ เ ราต้ อ งการนอกจากนั้ น การสังเกตยังสอนว่าการสนองตอบของ มนุษย์นั้น บางอย่างเป็นแบบอัตโนมัติ แต่ บางอย่ า งขึ้ น ต่ อ สั ง คมและวั ฒ นธรรม อย่างเช่น สำหรับชาวฝรั่งเศสชามแบบ cafe-au-lait มีไว้ใส่กาแฟหรือช็อกโกแลต ไม่ใช่ซุปหรือสตูว์สัตว์


ฟูลตัน ซูรี ยกตัวอยางหนังสือและเวิรกช็อปชื่อ Without Thought ของนาโอโตะ ฟูกาซาวา (Naoto Fukasawa) ดีไซเนอรของ Muji ซึ่งผูเขียนเนนความเขาใจชนิดที่เรียกมันวา active memory ที่สำคัญที่สุดหัวใจของการสังเกตหรืออีก ในหนึ่งการสึกษาวิจัยแบบ IDEO คือเนนการตีความ เพราะ สำหรับพฤติกรรมหลายอยาง การสังเกตจะบอกไดเพียงวาเกิด อะไรขึ้นหากจะหาคำตอบวาทำไม จะตองอาศัยการวิเคราะห คำถามที่วาเหตุใดคนถึงมีพฤติกรรมนั้นๆ บางครั้งเราอาจจะ ใชวิธีการตั้งคำถามอยางตรงไปตรงมา แตสวนมากตองเกิด จากการตีความ ซึ่งการตีความนี้ตองอาศัยระเบียบวิธีบางอยาง


เป็นที่รู้กันว่า IDEO หยิบเอาหลักวิชาของมานุษยวิทยา (Anthropology) ซึ้งเน้นการ ศึกษาวัฒนธรรม “คนอื่น” มาเป็นแบบอย่างของการทำงานและยกให้เป็นเสมือน “ระเบียบวิธี” ของการสังเกต กล่าวคือ นักออกแบบต้องขุดลงไปให้ลึกกว่าพฤติกรรม ค้นหาแพทเทิร์นที่เผยให้เห็นความต้องการอย่างแท้จริงและเมื่อลงไปลึกพอ พฤติกรรม ที่แลดูไม่มีกฏเกณฑ์หรือพิลึกพิลั่นจึงจะมีคำอธิบาย ส่วนในแง่กระบวนการออกแบบ IDEO จะสนใจประสบการณ์ของผู้ใช้มากกว่าหน้าตาของอุปกรณ์เครื่องใช้เคล็ดลับของ IDEO คือยอมรับเรื่องประสบการณณ์เป็นเรื่องอัตวิสัย (subjective) การมีอารมณ์ร่วม ในประสบการณ์ของผู้ใช้มีความสำคัญ บริษัทนี้เชื่อว่าความเข้าใจในประสบการณ์ ของคนอื่น ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บน การประเมิน สื่อสาร และสร้างใหม่ เป็นเรื่องซับซ้อน มากเสียจนการวิจัยภววิสัย (objfctive) หรือเป็นกลางๆนั้นช่วยอะไรไม่ได้ แต่เป็น มุมมองที่เป็นมนุษย์และการสังเกตแบบอัตวิสัยต่างหากที่เป็นคำตอบ

ยิ่งไปกว่านั้น บรรดาพนักงาน 500 คน จะมี 40 คน เป็นดีไซเนอร์ที่มีภูมิหลัง เป็นนักสังคมศาสตร์ นักมนุษยศาสตร์ ทีมออกแบบแต่ละทีมจะมีครบ วิศวกร นักออกแบบอินเติร์แอคทีฟ นักเขียน นักออกแบบผลิตภัณฑ์ นักจิตวิทยา นักทำหนัง นักมานุษยวิทยา นักการตลาด และอีกมาก การทำงานเป็นแบบสหวิทยา (inter-disciplinary) หรือที่ฟูลตัน ซูรี เรียกว่า post disciplinary ซึ่งเธอออกตัว ว่าเรียกเช่นนนี้ไม่ใช่เพราะไม่เชื่อในเรื่อง ผู้ เ ชี่ ย วชาญเฉพาะด้ า นหรื อ ไม่ เ ชื่ อ เรื่ อ งระเบี ย บวิ ธี แ ต่ เ พื่ อ บอกว่ า ต้ อ งก้ า ว ออกไปให้พ้นจากมัน ไม่ถูกตีกรอบด้วย ความเชี่ ย วซาญหรื อ ระเบี ย บวิ ธี ใ ดๆ ใน Thoughtless Act? หลักวิชานี้ ถูกประยุกต์เ ข้ า กั บ พฤติ ก รรมไม่ ทั น คิ ด ฟูลตัน ซูรีเตือนไว้แต่ต้นในการวิเคราะห์ สิ่งนี้ ต้องไม่ตีความตามตัวอักษร



ในâลกที่การออกแบบ มีบทบาทเป็นÈูนÂ์กลาง “ดีไซน์ในชีวิตปรШÓวัน” กำลังถูกพูดถึงในหลายมิติ มีทั้งในเชิง ภูมิปัญญา ปัญหาสังคม หรือทางรอด ของเศรษฐกิจจึงได้เขียนไว้ใน หนังสือ Thoughtless Act? ของเจน ฟูลตัน ซูรี ชี้ ไ ปที พ ฤคิ ก รรมไม่ ทั น คิ ด ยกระดั บ ให้พ้นจากความ “มักง่าย” และกลายเป็น งาน “สร้ า งสรรค์ ” ประเภทหนึ ่ ง ที่สำคัญกว่านั้นคือได้เสนอระเบียบวิธีใน การศึกษาพฤติกรรมดังกล่าวขึ้นด้วยคำว่า observation, intuition, empathy และ imagination ซึ่งล้วนเป็นถ้อยคำธรรมดา ที่ใช้กันทั่วไป แต่ผู้เขียนพยายามจะให้ ความหมายใหม่ๆ ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น นอกเหนือจากแรงบันดาลใจและกระตุ้น ไอเดี ย รวม ทั ้ ง สรรเสริ ญ ด้ า นที ่ เ ป็ น ภู มิ ปั ญ ญาของพฤติ ก รรมเหลานั้ น แล้ ว หนั ง สื อ เล่ ม นี้ จึ ง เตื อ นให้ เ ราสำนึ ก การ ศึกษาสิ่งใหม่ ก็ต้องมีวิธีใหม่ในการศึกษา ห รื อ ย ก ร ะ ดั บ ก า ร ศึ ก ษ า วิ จั ย ใ ห้ แปลกใหม่เท่าเทียมกันด้วย



สิ่งสำ�คัญในการดำ�รงชีวิตของ มนุษย์ ที่อยู่บนโลกใบนี้ คือ ปัจจัยสี่

“เอมี เวอร์ฮาเลน” ดีไซเนอร์จากเมดิสัน สหรัฐอเมริกา เคยพูดอย่างน่าฟังว่า“ในอดีต การออกแบบเคยเป็นบริการที่เพิ่มมูลค่า แต่วันนี้ ทุกผลิตภัณฑ์ต่างต้องการฟังก์ชันใช้งานจำ�เพาะ พิเศษและมีความหมาย ไม่ใช่แค่ออกแบบให้เป็น ของสิ่งหนึ่งเท่านั้น” ปัจจุบัน ดีไซน์คือ ความ แตกต่าง เป็นเหตุผลในการเลือก นอกเหนือไป จากความเหมาะสมในการใช้งานและคุ้มค่าเงิน วันนี้หากเราลองหันมองไปรอบตัว เราจะพบ ว่า ทุกสิ่งในโลกที่มนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้น ทั้งหมด ล้วนเกิดจากการดีไซน์ ไม่ว่าจะด้วยวัตถุประสงค์ ใด หรือเพราะความบังเอิญ นี่ทำ�ให้งานดีไซน์มี ความหมายว่าเป็น “การสื่อสาร” หนทางหนึ่ง

อย่างน้อยที่สุดก็สามารถบอกว่า ผู้ใช้เป็นอย่างไร (ดูจากของดี ไซน์หรือการออกแบบนั้นครอบคลุมเกี่ยวข้องกับชีวิตเกือบทุก ด้าน ถือเป็นปัจจัยที่สำ�คัญต่อชีวิตมนุษย์ ลองสังเกตุดู ไม่ว่าจะ เป็นบ้าน ที่อยู่อาศัย อาหาร เครื่องนุ่งห่ม เสื้อผ้า ยานพาหนะ เครื่องใช้ในบ้าน ฯลฯ ทุกอย่างล้วนผ่านการออกแบบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะรู้หรือไม่รู้ แต่ดีไซน์หรือการออกแบบมีความสำ�คัญกับ ชีวิต และดีไซน์ก็ยังคงติดตามชีวิตของเราไปทุกหนแห่งตั้งแต่ หัวจรดเท้าและตามความเข้าใจของทุกคน ต่างทราบดีว่า สิ่ง สำ�คัญในการดำ�รงชีวิตของมนุษย์ ที่อยู่บนโลกใบนี้ คือ ปัจจัย สี่ ประกอบไปด้วย ที่อยู่อาศัย อาหาร เครื่องนุ่งห่ม และยา รักษาโรค ต้องการที่อยู่อาศัยเพื่อป้องกันอันตรายจากภายนอก ต้องการอาหารเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง เจริญเติบโต ต้องการ เสื้อผ้าหรือเครื่องนุ่งห่มไว้ปกปิดร่างกายป้องกันความร้อน ความหนาวเย็น ต้องการยารักษาโรคเพื่อรักษาโรคภัยต่างๆ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มีความสำ�คัญและจำ�เป็นสำ�หรับชีวิตมนุษย์ ซึ่งจะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งมิได้ และจะต้องให้ความสนใจ เอาใจใส่ ในการดูแลเรื่องดังกล่าวเหล่านี้ เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ปัจจัยสี่คือ สิ่งสำ�คัญในการดำ�รงชีวิต ของมนุษย์ มนุษย์ต้องการที่อยู่อาศัยเพื่อป้องกันภัยอันตราย จากภายนอก มนุษย์ต้องการอาหารเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง มนุษย์ยังต้องการเสื้อผ้าหรือเครื่องนุ่งห่มไว้ปกปิด ร่างกายจาก สิ่งแวดล้อมรอบตัว และมนุษย์ยังต้องการยา เพื่อรักษาโรคภัย ไข้เจ็บ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนแล้ว แต่เป็นสิ่งสำ�คัญและจำ�เป็น สำ�หรับชีวิตมนุษย์อย่างยิ่งเมื่อมนุษย์ตระหนักถึงความสำ�คัญ มนุษย์ จึงต้องให้ความสนใจและเอาใจใส่ดูแลในเรื่อง ดังกล่าว การให้ความสำ�คัญในรายละเอียดต่าง ๆ จึงถูกนำ�มาพิจารณา และปรุงแต่งปัจจัยให้สนองความต้องการ และแสดงถึงคุณค่า


มนุษย์เหมือนสัตว์ทั่วไปที่ต้องการ สถานที่ปกป้อง คุ้มครองจาก สิ่งแวดล้อมรอบกาย

ของความงามสิ่งนั้นศิลปะหากมนุษย์ยอมรับว่า ศิลปะคือ การแสดงออกของอารมณ์ตามความพอใจ ศิลปะก็จะมีประโยชน์และเกี่ยวข้องกับปัจจัยที่สนอง ความต้องการทางอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง หากมนุษย์มี ความเครียด ศิลปะสามารถสร้างความเบิกบานให้ แสดงว่าเขาผู้นั้นเข้าถึงศิลปะ นอกจากนี้การเข้าถึงศิลปะจะทำ�ให้มนุษย์มีรสนิยม ที่ดี การมีรสนิยมจะมีความเกี่ยวข้องกับศิลปะและ การออกแบบ รสนิยมเป็นความพอใจของมนุษย์ที่นำ� หลักการทางศิลปะมาผสมผสานให้เกิดความพอดี เพราะความพอดีและความพอใจ หากมนุษย์เข้าถึง ศิลปะได้มากเขาผู้นั้นก็จะมีรสนิยมที่ดีดังนั้นศิลปะจึง มีประโยชน์ต่อมนุษย์และต่อการดำ�รงชีวิตในปัจจุบัน การนำ�ศิลปะมาใช้ในชีวิตประจำ�วันเป็นการนำ�หลัก การทางศิลปะมาผสมผสานกับการดำ�รงชีวิตอันได้แก่ ศิลปะกับที่อยู่อาศัย ศิลปะกับอาหาร ศิลปะกับเครื่องนุ่งห่ม

มนุษย์เหมือนสัตว์ทั่วไปที่ต้องการสถานที่ปกป้อง คุ้มครองจากสิ่ง แวดล้อมรอบกาย ไม่ว่ามนุษย์จะอยู่แห่งใด สถานที่อย่างไร ที่อยู่ อาศัยจะสร้างขึ้น เพื่อป้องกันภัยอันตรายจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ที่อยู่อาศัยเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีความสำ�คัญและจำ�เป็นการดำ�รงชีวิต ของมนุษย์ มนุษย์จึงมีการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสนองความต้องการ และความพอใจของแต่ละบุคคลมนุษย์ทุกคนมีการพัฒนาการในชีวิต ของตนเองมนุษย์จึงนำ�พัฒนาการเหล่านี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ ต่อ การพัฒนาที่อยู่อาศัยจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำ�คัญสำ�หรับมนุษย์ที่อยู่ อาศัยในปัจจุบันถูกพัฒนาให้ทันสมัยกว่าในอดีตเนื่องจากต้องปรับปรุง ให้เหมาะสมกับสภาพการณ์และสิ่งแวดล้อมของโลกที่เปลี่ยนแปลง แต่ในการปรับปรุงนั้น ควรคำ�นึงถึงสภาพทางภูมิศาสตร์และ วัฒนธรรมท้องถิ่นควบคู่กันไปการพัฒนาที่อยู่อาศัยนั้นจึงจะเหมาะสม และสนองความต้องการอย่างแท้จริง ที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะบ้านในปัจจุบัน จะมีรูปแบบที่เรียบง่ายใกล้ชิด


ธรรมชาติและคำ�นึงถึงประโยชน์ใช้สอย เป็นหลัก และเน้นในเรื่องเทคโนโลยี ต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น เพราะเกิดการ เปลี่ยนแปลงตามรสนิยมการบริโภค นอกจากนี้แล้วในการจัดตกแต่งภายใน จะมีการผสมผสานการตกแต่งแบบตะวัน ตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน ทำ�ให้เกิด ผลงานในแบบของการตกแต่งในรูปแบบ Contemporary และ Oriental ที่ใช้งาน ได้สะดวกตามรูปแบบตะวันตก


อีกประการหนึ่งในการจัดตกแต่งภายในบ้านคือการนำ�หลักการทางศิลปะมาผสมผสานเข้ ากับการ ปัจจัยอีกประการหนึ ่งในการจัดตกแต่งภายในบ้านคือการนำ�หลักการ ตกแต่ง เพื่อให้การดำ�รงชีวิตภายในบ้านสะดวกทั้งกายและใจ และแสดงออกถึ และมีากับการตกแต่ง เพื่อให้การดำ�รงชีวิตภายใน ทางศิลงความงดงาม ปะมาผสมผสานเข้ รสนิยมของผู้เป็นเจ้าของบ้าน องค์ประกอบทางศิลปะจึงถูกนำ�มาเกี่ยวข้อบ้งานสะดวกทั้งกายและใจ และแสดงออกถึงความงดงาม และมีรสนิยม ของผู้เป็นเจ้าของบ้าน องค์ประกอบทางศิลปะจึงถูกนำ�มาเกี่ยวข้องกับ องค์ประกอบทางศิลปะที่นำ�มาใช้ในการจัดแต่งแต่งที่อยู่อาศัย ได้แก่


ปัจจัย องค์ประกอบทางศิลปะที่นำ�มาใช้ในการจัดแต่งแต่งที่อยู่อาศัย ได้แก่ 1. ขนาดและสัดส่วน (Size and Proportion) ขนาดและสัดส่วนนำ�มาใช้ใน การจัดที่อยู่อาศัย ได้แก่ 1.1 ขนาดของห้อง ในการกำ�หนดขนาดของห้องต่าง ๆ จะขึ้นอยู่กับกิจกรรม ที่ทำ� หากเป็นห้องที่ใช้กิจกรรมมาก เช่น ห้องอาหาร ห้องครัว หรือห้องรับแขก ควรกำ�หนดขนาดของห้องให้มีพื้นที่รองรับกิจกรรมนั้น ๆ ให้เหมาะสม ไม่เล็ก จนเกินไป เพราะจะทำ�ให้คับแคบและไม่สะดวกต่อการทำ�กิจกรรม 1.2 จำ�นวนของสมาชิกในครอบครัว ในการกำ�หนดขนาดของห้องต่าง ๆ ควร คำ�นึงถึงจำ�นวนของสมาชิกว่ามีมากน้อยเพียงใด เพื่อจะได้กำ�หนดขนาดของ ห้องให้เหมาะสมกับสมาชิก 1.3 เครื่องเรือน ในการกำ�หนดขนาดของเครื่องเรือน ควรกำ�หนดให้มีขนาด พอดีกับห้องและสมาชิก หรือขนาดพอเหมาะกับสมาชิกไม่สูงหรือเตี้ยจนใช้งาน ไม่สะดวก 2. ความกลมกลืน (Harmony) ความกลมกลืนของศิลปะที่นำ�มาใช้ในการจัด ตกแต่งที่อยู่ได้แก่ความกลมกลืนของการตกแต่งที่อยู่อาศัย การนำ�ธรรมชาติมา ผสมผสานในการตกแต่ง จะทำ�ให้เกิดความสัมพันธ์ที่งดงามการใช้ต้นไม้ตกแต่ง ภายในอาคารจะทำ�ให้เกิดบรรยากาศที่ร่มรื่น เบิกบานและเป็นธรรมชาติการใช้สี กลมกลืนควรใช้วิจารณญาณ เลือกสีให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของการใช้ 3. การตัดกัน (Contrast) ในการตัดกันโดยทั่วไปของการจัดตกแต่งที่อยู่อาศัย นิยมทำ�ในรูปแบบของการขัดกันในการใช้เครื่องเรือนในการตกแต่ง เพื่อสร้างจุด เด่นหรือจุดสนใจในการตกแต่งไม่ให้เกิดความกลมกลืนมากเกินไป การออกแบบ เครื่องเรือนแบบร่วมสมัย จึงได้รับความนิยมเนื่องจากสร้างความโดดเด่นของ การตกแต่งได้เป็นอย่างดี 4. เอกภาพ (Unity) ในการตกแต่งสิ่งต่าง ๆ หากขาดเอกภาพงานที่สำ�เร็จจะ ขาดความสมบูรณ์ในการตกแต่งภายใน การรวมกลุ่มกิจกรรมเข้าด้วยกัน และ การรวมพื้นที่ในห้องต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับกิจกรรม จึงเป็นการใช้เอกภาพใน การจัดพื้นที่ที่ชัดเจน การจัดเอกภาพของเครื่องเรือนเครื่องใช้ก็เป็นสิ่งสำ�คัญ หากเครื่องเรือนจัดไม่เป็นระเบียบย่อมทำ�ให้ผู้อาศัยขาดการใช้สอยที่ดีและขาด ประสิทธิภาพในการทำ�งาน 5. การซ้ำ� (Repetition) การซ้ำ�และจังหวะเป็นสิ่งที่สัมพันธ์กันการซ้ำ�สามารถ

นำ�มาใช้ในงานตกแต่งได้หลายประเภท เพราะการซ้ำ�ทำ�ให้เกิดความสอดคล้อง ของการออกแบบการออกแบบตกแต่ง ภายในการซ้ำ�อาจนำ�มาใช้ในการเชื่อ สายตา เช่น การปูกระเบื้องปูพื้นที่ เป็นลวดลายต่อเนื่องหรือการติดภาพ ประดับผนัง แม้การซ้ำ�จะทำ�ให้งาน สอดคล้อง หรือต่อเนื่อง แต่ไม่ควรใช้ ในปริมาณที่มากเพราะทำ�ให้ดูสับสน 6. จังหวะ (Rhythm) การจัดจังหวะ ที่อยู่อาศัยทำ�ได้หลายลักษณะ เช่น การวางผังบริเวณการจัดแปลนบ้าน ให้มีลักษณะที่เชื่อมพื้นที่ต่อเนื่องกัน เป็นระยะ หรือจังหวะ นอกจากนี้การ จัดพื้นที่ใช้สอยภายในอาคารนับเป็น สิ่งสำ�คัญ เพราะจะทำ�ให้เกิดระเบียบ และสะดวกต่อการทำ�งาน และทำ�ให้


การทำ�งานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การจัดพื้นที่ใช้สอย ภายในอาคารที่นิยมได้แก่ การจัดพื้นที่การทำ�งาน ของห้องครัว โดยแบ่งพื้นที่การทำ�งานให้เป็นจังหวะ ต่อเนื่องกัน ได้แก่ พื้นที่ของการเก็บ การปรุงอาหาร การล้าง การทำ�อาหาร และการเสิร์ฟอาหาร เป็นต้น 7. การเน้น (Emphasis) ศิลปะของการเน้นที่นำ�มาใช้ ในที่อยู่อาศัย การตกแต่งภายในหรือภายนอกอาคาร ด้วยการใช้สีตกแต่งที่กลมกลืน หรือโดดเด่น เพื่อให้ สะดุดตาหรือสดชื่นสบายตา ซึ่งขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ ของการจัดนั้น การเน้นด้วยแสงการเน้นด้วยแสงได้แก่ การใช้แสงสว่างที่เน้นความงามของการตกแต่ง และ เครื่องเรือนภายในบ้านให้ดูโดดเด่น การใช้โคมไฟ หรือแสงสว่างต่าง ๆ สามารถสร้างความงามและให้ บรรยากาศที่สดชื่น หรือสุนทรีย์ได้อย่างดี สำ�หรับ ในการใช้แสงไฟควรคำ�นึงถึงรูปแบบของโคมไฟที่ถูก ต้องและเหมาะสมกับขนาดและสถานที่ ตลอดจน ความกลมกลืนของโคมไฟและขนาดของห้อง 8. ความสมดุล (Balance) การใช้ความสมดุลในการ จัดอาศัยได้แก่ จัดตกแต่งเครื่องเรือน หรือวัสดุต่าง ๆ ให้มีความสมดุลต่อการใช้งาน หรือเหมาะสมกับ สถานที่ เช่น การกำ�หนดพื้นที่ใช้สอยที่สะดวกต่อการ ทำ�งาน หรือการจัดทิศทางของเครื่องเรือนให้เหมาะ สมกับสภาพแวดล้อม 9. สี (Color) สีมีความสัมพันธ์กับงานศิลปะ และ การตกแต่งสถานที่ เพราะสีมีผลต่อสภาพจิตใจและ อารมณ์ของมนุษย์ สีให้ผู้อยู่อาศัยอยู่อย่างมีความสุข เบิกบานและรื่นรมย์ ดังนั้นสีจึงเป็นปัจจัยสำ�คัญของ การจัดตกแต่งที่อยู่อาศัยในการใช้สีตกแต่งภายใน

ห้องรับแขกเป็นห้องที่ใช้ในการสนทนา หรือต้อนรับผู้มาเยือน ดังนั้นห้องรับแขก ควรใช้สีอบอุ่น

วัตถุประสงค์ของห้องหรือสถานที่ ในการใช้สีตกแต่งภายใน ควรคำ�นึงถึงวัตถุประสงค์ของห้องหรือ สถานที่ตกแต่ง เพื่อจะได้ใช้สีได้อย่างเหมาะสม การใช้สีตกแต่งสถาน ที่ต่าง ๆ ภายในบ้าน แบ่งออกเป็นห้องต่างๆ ดังนี้ ห้องรับแขก ห้อง รับแขกเป็นห้องที่ใช้ในการสนทนา หรือต้อนรับผู้มาเยือน ดังนั้นห้อง รับแขก ควรใช้สีอบอุ่น เช่น สีครีม สีส้มอ่อน หรือสีเหลืองอ่อน เพื่อ กระตุ้นให้เบิกบานห้องอาหาร ห้องอาหารควรมีสีที่ดูสบายตา เพื่อ เพิ่มรสชาติอาหาร อาจใช้สีที่กลมกลืน นุ่มนวลเพราะสีนุ่มนวลจะ ทำ�ให้เกิดความสบายใจ ห้องครัว ควรใช้สีที่ดูสะอาดตา และรักษาความสะอาดง่าย ห้องควร เป็นห้องที่ใช้ทำ�กิจกรรมจึงควรใช้สีกระตุ้นให้เกิดความสนใจในการ ทำ�กิจกรรม ห้องนอน ห้องนอนเป็นห้องที่พักผ่อน ควรใช้สีที่สบายตา อบอุ่น หรือนุ่มนวล แต่การใช้ในห้องนอนควรคำ�นึงถึงผู้ใช้ด้วย ห้องน้ำ� ห้องน้ำ�เป็นห้องที่ใช้ทำ�กิจกรรมส่วนตัว และต้องการความ สบาย จึงควรใช้สีที่สบายตาเป็นธรรมชาติ และสดชื่น เช่น สีฟ้า สี เขียว หรือสีขาว และควรเป็นห้องที่ควรทำ�ความสะอาดได้ง่าย ทิศทาง การใช้สีตกแต่งภายในควรคำ�นึงถึงทิศทางของห้อง ห้องที่ถูก แสงแดดส่องควรใช้สีอ่อนเพื่อสะท้อนแสง ส่วนห้องที่อยู่ในที่มืด หรือ อับ ควรใช้สีอ่อนเพื่อความสว่างเช่นกันเพศและวัย เพศชายหรือหญิง จะใช้สีในการตกแต่งไม่เหมือนกัน เพศชายจะใช้สีเข้มกว่าเพศหญิง เช่นสีเขียวเข้ม สีฟ้า หรือเทา ส่วนเพศหญิงจะใช้สีที่อ่อน และนุ่ม นวลกว่า เช่น สีครีม สีเหลือง เป็นต้น วัย ในแต่ละวัยจะใช้สีไม่เหมือนกัน เช่น ห้องเด็กจะใช้สีอ่อนหวานนุ่ม นวล ห้องผู้ใหญ่จะมีสีที่อบอุ่น ห้องผู้สูงอายุจะใช้สีที่นุ่มนวล ศิลปะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจัดตกแต่งที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว แต่ ศิลปะยังช่วยจรรโลงใจให้สมาชิกในครอบครัวอยู่อย่างมีความสุข หาก ต้องการความสุขในครอบครัว ปัจจัยหนึ่งที่ควรคำ�นึง คือ “ศิลปะ”


กระแสการออกแบบตกแต่งเพื่อความสวยงามและสุนทรียศาสตร์ได้แพร่ ขยายครอบคลุมไปสู่หลากหลายวงการอุตสาหกรรม ไม่เว้นแม้แต่แวดวง อาหารการกินที่เปิดรับกระแสการออกแบบเข้ามาทำ�หน้าที่ช่วยเพิ่มเติม รสชาติและดีกรีความอร่อยล้ำ�เมื่อยามรับประทานให้เป็นเอกลักษณ์และ น่าประทับใจมากยิ่งขึ้น จากฝีมือการตกแต่งและออกแบบประสบการณ์ การรับประทานอาหารอันน่าจดจำ�ของเหล่า “ฟู้ดดีไซเนอร์” อาชีพสุดเก๋ที่ หลายคนให้ความสนใจในเวลานี้ ด้วยพฤติกรรมการบริโภคและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่เปลี่ยนแปลงไป ก่อให้ เกิดวิถีการบริโภคที่ เปลี่ยนไปจากเดิม ปัจจุบันอาหารไม่ได้เป็นเพียงส่วน หนึ่งของปัจจัยสี่ แต่กลับมีพัฒนาการมากกว่าที่เคยเป็น เนื่องจากผู้คน สามารถหาอาหารรับประทานได้ง่ายขึ้น จึงทำ�ให้ความต้องการจากการ

รับประทานอาหารแต่ละมื้อเพิ่มมากขึ้น กว่าเพียงแค่การได้รับสารอาหารหรือ คุณค่าทางโภชนาการ หลายคนต้องการ ความรู้สึกอารมณ์ร่วมขณะรับประทานที่ สามารถตอบสนองความต้องการซึ่งเพิ่ม มากขึ้นอย่างไม่จำ�กัดได้ การออกแบบ หน้าตาของอาหารจานต่างๆ รวมไปถึง การออกแบบประสบการณ์ในการรับ ประทานอาหารให้มีความพิเศษยิ่งขึ้น

จึงเกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ใหม่ที่ว่า อาหาร ไม่ได้มีความหมายแค่การอิ่มท้อง แต่ยัง หมายถึงการอิ่มใจอีกด้วย


การออกแบบอาหาร (Food design) คือการทำ�ความเข้าใจ แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภค สภาพสังคม ตลอดจนวิถีชีวิตที่ เปลี่ยนแปลงไปเพื่อช่วยให้สามารถออกแบบอาหารได้เข้ากับ ลักษณะของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น หรือแม้แต่การนำ�พาไปสู่ไอเดีย ใหม่ๆ ในการรับประทานอาหารที่อาจพัฒนากลายเป็นกระแส ใหม่ได้ในที่สุด อาหารบางชนิดที่ถูกออกแบบขึ้นในปัจจุบันจึง ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การมีรสชาติและหน้าตาที่สวยงามน่ารับ ประทานเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความสอดคล้องกับลักษณะ ของการรับประทาน รสชาติ และองค์ประกอบอื่นๆ ของ อาหารด้วย อาจกล่าวได้ว่า ความโดดเด่นของศาสตร์และศิลป์ด้านการ ออกแบบอาหารนั้นส่งผลให้ศิลปะการออกแบบอาหารกลาย เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม ทั้งยังเป็นเสมือนภาพสะท้อนของ ความเชื่อและวัฒนธรรมในการรับประทานของผู้คนที่อาศัยอยู่ ในแต่ละประเทศได้อย่างประณีตบรรจง อาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่สำ�คัญของมนุษย์ อาหารนอกจาก สนองความต้องการทางกายของมนุษย์แล้ว อาหารยังสนอง ความต้องการทางด้านจิตใจ สังคมและวัฒนธรรม ดังนั้นใน การบริโภคอาหารผู้จัดอาหารจึงต้องใช้ศิลปะในการสร้างสรรค์ ตกแต่งอาหาร เพื่อให้อาหารเป็นเครื่องจรรโลงใจในขณะ เดียวกันศิลปะเกี่ยวกับการอาหาร มีองค์ประกอบศิลปะที่นำ� มาเกี่ยวข้องในการจัดอาหาร ในปัจจุบันการออกแบบได้เข้ามามีส่วนร่วมในสิ่งต่างๆ ของ ชีวิตประจำ�วันมากขึ้น มีนักออกแบบหลายท่านที่เลือกใช้ อาหารเป็นวัสดุใหม่ในการสร้างสรรค์งานออกแบบ ทฤษฎี Form Follow Function ของการออกแบบนั้น จึงขยับขยาย ไปสู่อุตสาหกรรมอาหารอีกด้วย ตัวอย่างในปี 1987 นักออกแบบชื่อดังชาวฝรั่งเศส Philippe Starck ก็ได้รับการทาบทามให้ออกแบบเส้นพาสต้าเช่น เดียวกันให้กับแบรนด์ Panzani ของประเทศฝรั่งเศส Starck คิดว่า พาสต้านั้นเป็นอาหารที่ทุกคนชื่นชอบไม่ว่าจะเด็กหรือ

ผู้ใหญ่ แต่บางครั้งการรับประทานพาสต้าก็ทำ�ให้ อ้วนได้ง่ายดายเช่นเดียวกัน Starck จึงมีแนวความ คิดเกี่ยวกับการออกแบบรูปทรงของเส้นพาสต้าให้ มีปริมาณเส้นพาสต้าเพียงแค่ 10% ในขณะที่ส่วน ที่เหลือของปริมาตรคืออากาศ ในขณะเดียวกันคน ฝรั่งเศสและคนอเมริกันมักจะต้มเส้นพาสต้านานเกิน ไป เขาจึงออกแบบให้เส้นพาสต้ามีปีกหนาสองชั้นที่ สองข้างของเส้น เพื่อช่วยให้ 80% ของเส้นพาสต้า ทั้งหมดยังคงถูกต้มในปริมาณที่พอดี “Al Dante” ถึง แม้จะต้มนานไปก็ตาม และอีกหลายๆ ตัวอย่างของงานออกแบบ อย่างเช่น การออกแบบช็อกโกแลตเป็นเปลือกถั่ว เป็นต้น

เสื้อผ้าเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องนุ่งห่ม หรือเครื่อง แต่งกาย เสื้อผ้ามีไว้ปกปิดร่างกาย และป้องกัน ภัยจากสิ่งแวดล้อมภายนอก และเสื้อผ้ายังช่วย เสริมสร้างบุคลิกภาพให้มีภาพลักษณ์ที่ดี หาก


ต้องการมีภาพลักษณ์ที่ดี ผู้นั้นจะต้องเลือกแต่ง กายดี มีรสนิยม รสนิยมของการแต่งกายขึ้นอยู่กับ ศิลปะ ศิลปะในการแต่งกายจึงเป็นสิ่งสำ�คัญ ใน การแต่งกายโดยทั่วไปจะคำ�นึงถึงขนาด รูปร่าง เพศ วัย และบุคลิกของการสวมใส่ และศิลปะ

รสนิยมของการแต่ง กายขึ้นอยู่กับศิลปะ ศิลปะในการแต่งกาย จึงเป็นสิ่งสำ�คัญ

จะเป็นส่วนเสริมเพิ่มเติมหรือประดับตกแต่งให้เกิดรสนิยม ศิลปะจึงมีความสัมพันธ์กับเสื้อผ้าและการแต่งกาย องค์ประกอบศิลปะที่นำ�มาเกี่ยวข้องกับเสื้อผ้าและ การแต่งกาย ได้แก่ 1. ขนาดและสัดส่วน (Size and Proportion) ขนาดและ สัดส่วนมีความสัมพันธ์กัน ขนาดเกี่ยวพันกับสัดส่วน หาก ร่างกายมีขนาดใหญ่ สัดส่วนจะขยายใหญ่ ดังนั้นแล้วใน การแต่งกาย หรือการออกแบบเสื้อผ้าที่แก้ไขข้อบกพร่อง ของสัดส่วนของร่างกาย เช่น คนหน้าอกใหญ่ ควรสวมเสื้อ ที่มีปกหรือเสื้อคอวี เพื่อช่วยให้ทรวงอกเล็กลง หรือผู้ที่อ้วน ควรเลือกเสื้อผ้าชุดหลวมที่ไม่เน้นบริเวณเอว หรือคับตึง เพราะจะเน้นให้เห็นขนาดที่ชัดเจน


2. ความกลมกลืน (Harmony) ความ กลมกลืนในการแต่ง กาย ได้แก่ ความ กลมกลืนของสีเสื้อผ้า และการตกแต่ง การ ใช้สีตกแต่ง ควรมี ความกลมกลืนกับ บุคลิก อายุ เพศ

ผู้สูงอายุควรใช้เสื้อผ้าสีเข้ม ไม่ฉูดฉาด 3. การตัดกัน (Contrast) การตัดกัน ในการแต่งกาย ทำ�ได้หลายวิธี ทั้งใน ด้านการตัดกันด้วยขนาดลวดลาย แบบ หรือสี การตัดกันเพื่อสร้างจุดเด่น และ การตัดกันจึงควรคำ�นึงถึงผู้สวมใส่ว่า มีบุคลิกภาพอย่างไร ในการตัดกัน


ควรพิจารณาถึงปริมาณ ซึ่งไม่เกิน 80 เปอร์เซ็นต์ของผลงาน 4. เอกภาพ (Unity) เอกภาพของการแต่งกายมีส่วนที่คล้ายกับ ความกลมกลืน ซึ่งเน้นในด้านความสัมพันธ์และความสอดคล้อง ใน การแต่งกายควรให้มีความสอดคล้องในด้านแบบ สี หรือการตกแต่ง ให้ผสมกลมกลืนเป็นกลุ่มเดียวกัน หรือในลักษณะเดียวกันเพื่อดู เรียบร้อยสวยงาม เอกภาพในการแต่งกายได้แก่การแต่งกายในชุด ทำ�งานที่มีสีเดียวกัน ตกแต่งในแบบเรียบง่าย แต่ดูคล่องแคล่วใน การปฏิบัติงาน 5. การซ้ำ� (Repetition) หากในการจัดอาหาร การวางแตงกวารอบ ขอบจานคือการซ้ำ� ในการแต่งกายการเรียงกระดุมของเสื้อผ้าก็คือ การซ้ำ�เช่นกัน การซ้ำ�ทำ�ในลักษณะของการตกแต่ง เช่น การติด ลูกไม้รอบคอเสื้อ หรือชายกระโปรง หรือการตกแต่งด้วยลวดลาย ของผ้า และสีของการตกแต่ง การซ้ำ�คือการดึงดูดความสนใจ หรือ เบี่ยงเบนความสนใจของส่วนบกพร่องต่าง ๆ ของร่างกายนั่นเอง 6. จังหวะ (Rhythm) ในการแต่งกาย จังหวะเปรียบเสมือนช่วงระยะ ของการนำ�สายตาที่เชื่อมโยงหรือต่อเนื่องกัน หรือการประสานต่อ เนื่องกันของสายตาอย่างมีจังหวะของส่วนประกอบเครื่องแต่งกาย เช่น ปกเสื้อ เข็มขัด กระโปรงหรือรองเท้า การออกแบบเสื้อผ้าอย่าง มีจังหวะก็เพื่อสานองค์ประกอบย่อยเข้าเป็น องค์ประกอบใหญ่ เพื่อ สร้างจุดเด่นที่ชัดเจน การเชื่อมโยงสายตาอย่างมีจังหวะสามารถ ทำ�ได้โดยการซ้ำ�ของวัสดุที่คล้ายกัน หรือต่างกัน โดยทำ�เป็นจังหวะ ที่เหมือนกันหรือต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการสร้างจุด สนใจนั้น ๆ 7. การเน้น (Emphasis) เมื่อจังหวะสร้างจุดเด่น จุดเด่นนั้นจะทำ�ให้ เกิดการเน้น ในการเน้นของการแต่งกายเป็นการอำ�พรางข้อบกพร่อง โดยเบี่ยงเบนความสนใจไปยังส่วนอื่น หรือในขณะเดียวกันการเน้น อาจเรียกร้องหรือสร้างจุดสนใจให้กับการออกแบบนั้น ในการเน้น

อาจเน้นด้วยเครื่องประดับ ลวดลาย หรือสีสันของ ลวดลายผ้า 8. ความสมดุล (Balance) ความสมดุลในการแต่งกาย ทำ�ได้หลายวิธี ในการสร้างความสมดุลของการแต่ง กายจะจัดแบ่งเป็นด้านบน และด้านล่าง เช่น เสื้อและ กระโปรง หรือเสื้อกับกางเกง การทำ�ให้สมดุล อาจ ใช้ลวดลายหรือน้ำ�หนักของสีเสื้อผ้าช่วยในการแบ่งน้ำ� หนักได้ เช่น ใส่กระโปรงสีดำ� และใส่เสื้อสีขาวสลับดำ� เป็นต้น 9. สี (Color) สีเป็นองค์ประกอบสำ�คัญสำ�หรับงาน ศิลปะ เพราะสีต่าง ๆ จะทำ�ให้เกิดความสวยงาม น่าสนใจ และแสดงถึงอารมณ์ ความรู้สึก ในการแต่ง กายสีจะช่วยเสริมบุคลิกของผู้สวมใส และยังเป็นแรง บันดาลใจในการแสดงออกถึงความรู้สึก ดังนั้นใน บริษัทใหญ่ ๆ หลายบริษัทจึงได้จ้างนักออกแบบเสื้อผ้า ออกแบบเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย โดยเลือกแบบและ สีเพื่อสร้างความสนใจต่อลูกค้าเช่น พนักงานธนาคาร พนักงานต้อนรับ หรือพนักงานขายสินค้า จะมีสีสันที่ แตกต่างกันตามวัตถุประสงค์ของงาน ในการใช้สีของ เสื้อผ้าควรใช้ในลักษณะของค่าน้ำ�หนัก (Value) คือ มีการใช้สีอ่อน-แก่ เพื่อเกิดความแตกต่างของค่าน้ำ� หนักสี เช่น สีเขียวอ่อนหรือสีเขียวเข้ม หรือการใช้สี ประสานกลมกลืน (Harmony) ที่ดูนุ่มนวล เช่น สีโทน เดียวกัน และหากต้องการความสดชื่นการใช้สีสดหรือ สีตัดกันในปริมาณที่ต่างกันก็อาจทำ�ให้สดชื่นได้ ในการแต่งกายที่เกี่ยวข้องกับการใช้สีทางจิตวิทยา จะมีปฏิกริยาต่ออารมณ์ของการแต่งกาย



iNTERVIEW JACKKRIT ANANTAKUL การจะค้นพบสิ่งใหม่ ต้องมีกระบวนการ การทดลองโดยนักวิทยาศาสตร์ฉันใด การออกแบบตัวอักษร ก็ต้องถูกทดลอง โดยนักทดลองอย่างเช่น จักรกฤษณ์ อนันตกุล ฉันนั้น และเราจะมารู้จักการทดลองไปพร้อมกัน


มาทำ�ความรู้จักกับ จักรกฤษณ์ อนันตกุล เจ้าของเก้าอี้ Senior Art Director ของ บริษัท YouWorkForThem อันโด่งดัง ช่วงเวลานี้ งานประเภท typography กำ�ลังเป็นที่นิยมมากใน หมู่นักออกแบบทั้งในไทยและต่างชาติ ในฉบับนี้เราได้มีโอกาส ทำ�ความรู้จักกับ จักรกฤษณ์ อนันตกุล หรือ พี่เหนือ Senior Art Director ของ YouWorkForThem บริษัทที่มีเอกลักษณ์ที่ โดดเด่นในเรื่องของ type และงานประเภท experimental D/zine: ตอนนี้พี่เหนือทำ�งานอะไรอยู่ที่ไหน พี่เหนือ: เป็น senior art director อยู่ที่ YWFT ทำ�เกี่ยวกับพวก งานที่เกี่ยวกับ type แล้วก็เป็นอาจารย์พิเศษที่ ม.กรุงเทพ D/zine: อยากทราบว่าพี่เหนือจบการศึกษามาจากที่ไหน และมี ประวัติการทำ�งานที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง พี่เหนือ: จบ ม.กรุงเทพ คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบ นิเทศศิลป์ พอจบมาก็ไปทำ�งานที่ ductstore ทำ�อยู่หนึ่งปี เกี่ยวกับพวกออกแบบปกเทป อะไรประมาณนี้ หลังจากนั้นก็ ลาออก แล้วก็มาทำ�ของตัวเอง ชื่อ design reform council ก็ ทำ�อยู่น่าจะประมาณ 5 ปี ก็ทำ� concert ออกแบบสิ่งพิมพ์ แล้วก็ทำ�งานศิลปะเป็นเหมือน project พิเศษ บางทีเป็นงาน ดนตรี เราก็ตั้งคำ�ถามกับสิ่งที่เราเจอ เราก็ลองทำ�มัน หลังจาก นั้นก็มาทำ�ที่ YWFT ตอนปี 2009 ก็ได้ทำ�งานที่เกี่ยวข้องกับ type งานทดลอง อะไรพวกนี้เป็นหลัก

D/zine: พี่เคยทำ� type มาก่อนรึเปล่า ก่อนมาที่ YWFT พี่เหนือ: มีบ้าง แต่มันก็ไม่เสร็จ พอมาทำ�ที่ YWFT เหมือนเรา คิดอะไร เราอยากทำ�อะไรก็ได้ท�ำ แล้วมันก็ขายได้ ต่างจากแต่ ก่อนที่ทำ�ของตัวเองคือ มันต้องทำ�งานอย่างอื่นด้วย รับงานมา เราก็ต้องปลีกเวลา มันเลยไม่เสร็จ แต่ก็ชอบ typeface อยู่ แล้ว สนใจมานานแล้ว แต่คิดว่ายาก ชอบดู มีลองทำ�บ้าง แต่ ยังไม่ได้ทดลองมาก ยังเป็นงานแนว conservative เนี้ยบๆ D/zine: ตอนทำ� design reform council งานที่ทำ�มีรูปแบบ ชัดเจนหรือไม่ พี่เหนือ: จริงๆคนมองงานของเราเป็น Art มากๆ คือดูแล้ว เป็น Art งานที่เข้ามา เลยไม่เป็นงาน commercial เท่าไหร่ อย่างทำ�ให้คุณเพชร โอสถานุเคราะห์ เขาเป็น Artist เราก็ต้อง ไปตีความว่าแต่ละเพลงเป็นอย่างไร theme ของ concert จะ เป็นอย่างไร คือเขาจะมองเป็นงานศิลปะ เราจะวาง direction ของ design reform ไว้ว่า งานเราเป็นอย่างไร รูปแบบเป็น อย่างไรอะไรอย่างนี้ งานก็จะเป็นงานทดลอง ดูเป็น Art แต่เรา ไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็น Art มันก็แปลก อย่างเราเอางาน CD เสีย เป็นเรื่องใกล้ตัว แต่เราตั้งคำ�ถามว่า มันสามารถเอามาทำ�เป็น งาน ทำ�เป็นเพลงได้ไหม แล้วพอทำ�มันกลายเป็นสิ่งที่แปลก แต่ จริงๆแล้วมันใกล้ตัว เราแค่ท�ำ อะไรที่มันใกล้ตัว คนมองข้ามไป แต่คนจะมองว่ามันแปลก


โปรเจ็คต์ Typography in Water นำ�เอาแบบอักษรห้าแบบที่โด่งดัง คือ Agostina, Black Slabbath, Gavin, Strike และ P22 Constructivist มานำ�เสนอใหม่ โดยนำ�นํ้าเข้ามาเป็นองค์ประกอบ


Typography in Ice โปรเจ็คต์ต่อจาก Typography in water เนื่องจากการทดลองที่น่าสนใจ ทำ�ให้รู้สึกว่าควรจะ ลองค้นหาต่อไปจากเดิม ซึ่งงานนี้จะได้งานที่ออกมา เยือกเย็น มินิมอล และสะอาดตามากกว่าโปรเจ็คต์ที่แล้ว


“จริงๆ แล้วมันใกล้ตัว เราแค่ท�ำ อะไรที่มันใกล้ตัว คนมองข้ามไป แต่คนจะมองว่ามันแปลก”

D/zine: พี่บอกว่าพี่ทำ�งานอยู่ที่ ductstore 1 ปี แล้วพอจบมาก็ ทำ�ของตัวเองเลย คือคิดยังไงทำ�ไมถึงทำ�ของตัวเองเลย พี่เหนือ: คือจบออกมา ความจริงเราอยากเป็นนักวาดภาพ ประกอบ แล้วก็อยากทำ�ปกเทป ก็ได้ทำ� ได้ท�ำ ทั้งสอง อย่าง พอมันได้ท�ำ สิ่งที่อยากทำ�แล้ว เราก็อยากทำ�อย่างอื่น บ้าง เพราะเราเรียนเราไม่ได้ท�ำ งาน graphic เราทำ�พวกงาน video ทดลอง เสียง คือไม่สนใจ graphic แต่พอได้ท�ำ งานที่ ductstore เราได้เรียนรู้เรื่องการวางตัวอักษร format ของการ ออกแบบ เราเลยได้ผนวกกันเป็นลูกผสมของงาน experiment และก็งาน commercial พอมันอิ่มตัวแล้วอยากทำ�งานอย่างอื่น ที่หลากหลายมากขึ้น พอออกมาก็ลำ�บาก แต่มันดีตรงที่ เรา ทำ�ของตัวเอง เป็น freelance เพราะว่าเวลาเราทำ�งานประจำ� หัวหน้าเขาก็จะคุยกับลูกค้าว่า งานส่งวันไหน เขาจะวางแผนให้ แต่พอเราทำ�เอง เราต้องรับผิดชอบทุกอย่างเอง มันก็เหมือนกับ เราทำ�งาน 7 วัน แต่มันก็ดี มันสนุก เราได้ไปประชุมกับลูกค้า เจอลูกค้าโดยตรงไม่ต้องผ่านใคร D/zine: แล้วเรามีวิธีที่จะทำ�ให้ลูกค้ารู้จักเราได้ยังไง หรือว่า ลูกค้ามารู้จักเราได้ยังไง พี่เหนือ: จริงๆมันก็ต้องวางว่า ความน่าสนใจของตัวเองคือ อะไร จุดเด่นของเราคืออะไรก่อน focus ไปที่ว่าเราอยาก ทำ�งานด้านนี้ ก็ทำ�ให้ชัดเจนไปเลย เพราะเดี๋ยวนี้มันก็มีสื่อพวก website หรือว่า blog อะไรอย่างนี้ พอมันมี social ตรงนี้ มัน ทำ�ให้คนเข้ามาคุย แล้วหาเจอได้ง่าย ทีนี้เราก็จะต้องทำ�ให้มัน ชัดเจน ให้คนเข้ามารู้ว่า คนนี้ถนัดด้านนี้นะ หรือว่าถ้าเกิดถนัด หลายด้าน มันก็ต้องมีบางอย่างที่ท�ำ ให้คนเข้าใจว่าสิ่งนี้คือเรา ไม่ว่าจะเป็น Art Direction, concept หรือ ความถนัด


“ คนเรามีโอกาสไม่เท่ากัน อยู่ที่เราจะพร้อมที่จะรับมัน รึเปล่า บางทีโอกาสมันมาไม่รู้ตัว ถ้าเราไม่พร้อมที่จะรับมัน บางทีเราก็เสียโอกาสนั้นไป หรือว่าเราจะสร้างโอกาส ด้วยการเข้าไปหามัน ” D/zine: พี่เหนือคิดว่าเข้าวงการดีไซน์ตั้งแต่เมื่อไหร่ พี่เหนือ: คงตั้งแต่ตอนที่เราเริ่มเรียน เราก็ทำ�กลุ่มกับเพื่อน ทำ� เล็กๆทำ�กันสองคน ทำ�งานออกแบบแล้วก็ส่งไปให้ Art4D แล้ว เค้าก็เรียกไปสัมภาษณ์ แล้วก็เริ่มทำ� design ไปเรื่อยๆ แล้วก็ เริ่มจริงจังตอนที่ทำ�งานประจำ� ก็ทำ�งานพวกภาพประกอบ เรา เป็นคนชอบหรือทำ�อะไร จะต้องทำ�ให้ได้ อยู่เฉยไม่ได้ แล้วก็ได้ โอกาสจากอาจารย์หลายๆคน เขาชวนไปพูดเช่น งาน เพะชะคุชะ คนก็เริ่มรู้จักเรามากขึ้น แล้วก็เริ่มมีโอกาสมาก ขึ้น เรามองว่า คนเรามีโอกาสไม่เท่ากัน อยู่ที่เราจะพร้อมที่จะ รับมันรึเปล่า บางทีโอกาสมันมาไม่รู้ตัว ถ้าเราไม่พร้อมที่จะรับ มัน บางทีเราก็เสียโอกาสนั้นไป หรือว่าเราจะสร้างโอกาสด้วย การเข้าไปหามัน การทำ�งานหรือการเข้าวงการจริงๆจังๆมัน อาจจะหมายถึงตอนที่เรารู้ว่าเราจะเป็นอะไร คนที่จะประสบ ความสำ�เร็จไม่จำ�เป็นต้องจบจากมหาวิทยาลัย มันอยู่ที่วุฒิ ภาวะ ประสบการณ์ ยิ่งเราหาประสบการณ์นอกห้องเรียนมาก เท่าไหร่ ก็จะยิ่งสร้างให้รู้ว่าเราทำ�งานอย่างไร เพราะวิธีการใน การทำ�งานของคนเราไม่เหมือนกัน วิธีการคิดโจทย์ วิธีการคุย กับลูกค้า มันไม่มีสูตรสำ�เร็จเสมอไป D/zine: ตั้งแต่ช่วงเวลาที่ทำ�งานมา เคยมีปัญหาใหญ่ๆไหม พี่เหนือ: จริงไม่ค่อยเจอปัญหาในตัวงาน จะเจอที่ตัวคน มากกว่า เช่นลูกค้า ซึ่งจริงๆแล้วงานมันมีคำ�ตอบของมันอยู่

แล้วหลายๆ ทาง อยู่ที่ว่าเราจะไปตอบทางไหน ทีนี้อยู่ที่เราจะ ไปแก้ปัญหาในการโน้มน้าวลูกค้า หรือว่าทำ�ให้งานมันเข้าใจ กับคนที่มาเสพย์อย่างไร ปัญหาใหญ่จริงๆก็อยู่ที่ลูกค้ามากกว่า บางทีก็เจอลูกค้าที่ไม่เข้าใจ ส่วนมากเขาจะกลัวเพราะว่าแบบ นี้ยังไม่มีคนทำ� แต่ถ้าอันไหนที่มีคนทำ�แล้วมัน work เขาก็จะ อยากให้ทำ�แบบนั้น ทำ�ไมเราไม่คิดที่จะเป็นผู้นำ� designer ก็ ควรจะรู้เรื่องการตลาดด้วย อย่างน้อย แค่การเดินใน supermarket หรือห้าง เราก็ต้องดูว่าอย่างนี้ work หรือไม่ ถ้าเรา เป็นผู้บริโภค เราจะรู้สึกอย่างไรกับมัน เริ่มจากการเป็นลูกค้าที่ ดีก่อนก็ได้ แล้วก็วิเคราะห์ว่า มันน่าจะเป็นอย่างนี้ได้ไหม อย่าง นี้ไม่ work นะ ควรจะเป็นอย่างไหน D/zine: พี่เหนือบอกว่าสอนออกแบบอยู่ ม.กรุงเทพ รู้สึก อย่างไรบ้างกับการเป็นอาจารย์ครั้งแรก พี่เหนือ: ก็สนุกดี เหมือนแบบ เจอคนอีก generation หนึ่ง ไม่ เหมือนสมัยที่เราเรียน เดี๋ยวนี้สื่อมันเยอะมาก ก็เหมือนได้เรียน รู้กับเขา แล้วเวลาเราสอนมันก็เหมือนกับได้ทบทนตัวเองด้วย เหมือนเราต้องแก้ปัญหาทุกอาทิตย์ เช่น เด็กคนนี้เป็นอย่างนี้ นะ หรือว่า วันนี้เราสอน work รึเปล่า


YWFT Array Icon Font ที่ถูกออกแบบมาอย่างงดงาม ในอารมณ์ Art Deco บวกกับความหลากหลาย แค่เพียง ปลายนิ้วประสานแป้นพิมพ์ YWFT Array ก็จะจัดการให้ ตัวเองออกมาเป็น pattern ที่ใช้ได้ในงานหลากประเภท


“ ไม่ใช่หยุดแค่ตรงนั้น ไม่เหมือนคนไทยที่พอ ทำ�งานเหมือนฝรั่งแล้วก็หยุด โอเค ทำ�งานเหมือน ฝรั่งแล้ว พอ เท่ห์ แล้ว เราว่ามันไม่พัฒนา ”


YWFT Soaka Font ที่เสนอความ แปลก ความดิบ เป็นลูกพี่ลูกน้อง กับ font ประเภท Slab Serifs ชื่อ Motown และ Lollop

D/zine: พี่เหนือคิดว่าอนาคตกับปัจจุบันในวงการออกแบบจะมี อะไรต่างไปจากนี้ไหม พี่เหนือ: เราไม่ค่อยรู้สึกกับวงการในเมืองไทย มันมีการเปลี่ยน แปลงที่ดีขึ้น แต่ยังไม่ดีมากเท่าไหร่ เพราะว่าวิธีคิดไม่ค่อยมี การต่อยอดเท่าไหร่ พูดตรงๆ อย่างเช่น นัก snowboard ก็มี แรงบันดาลใจเป็น อย่างเช่น Tony Hawk คนนี้เก่ง อยากเก่ง เหมือนคนนี้ แต่พอถึงจุดหนึ่ง เขาก็จะหาสไตล์การสร้างสรรค์ ในการเล่นของเขา คราวนี้มันก็จะเป็น step ว่า พอเก่งเหมือน Tony Hawk ปุ๊บ เขาก็จะกระโดดข้ามไปอีกก้าวหนึ่ง ไม่ใช่หยุด แค่ตรงนั้น ไม่เหมือนคนไทยที่พอทำ�งานเหมือนฝรั่งแล้วก็หยุด โอเค ทำ�งานเหมือนฝรั่งแล้ว พอ เท่ห์ แล้ว เราว่ามันไม่มีการ พัฒนาตรงนี้ อีกอย่าง เราว่ามันก็คงมีทุกที่ คือมันไม่ค่อยส่ง เสริมกัน เราคิดว่าถ้ามันช่วยๆกันส่งเสริมกัน มันก็จะดี

Isaac Newton เห็นแอ๊ปเปิ้ลตกลงมา นั่นก็เกิดจากการสังเกต แล้วก็การตั้งคำ�ถาม แล้วก็มีการตั้งสมมติฐาน มีตัวแปร โดยที่ เราไม่ได้ใช้อารมณ์ของเราเป็นตัวตัดสินใจ เราจะไม่เห็นปลาย ทางของเราว่าเราอยากจะทำ�อะไร สมมติเราอยากทำ� font ออกแบบตัวอักษร เราจะเห็นปลายทางแล้ว เราจะติดอยู่กับแต่ ปลายทาง มันไม่ใช่งานทดลอง

D/zine: มีวิธีการตั้งปัญหาแล้วก็แก้ปัญหาให้กับตัวเอง และการทำ�งานอย่างไร พี่เหนือ: การตั้งปัญหาก็คือการสร้างงานสักชิ้นหนึ่งโดยที่เป็น งานทดลอง เราต้องมีจุดที่เราสนใจก่อน อย่างงานของเราที่เรา เช่า CD มาแล้วเจอ CD มันติด แล้วมันมีภาพและก็มีเสียง เรา ก็รู้สึกว่า มันจะสร้างเป็นเพลงได้ไหม เป็นวิดีโอได้ไหม ทีนี้การ ตั้งปัญหาก็อยู่ที่ว่า เราสังเกตสิ่งรอบตัวรึเปล่า ถ้าเราไม่สังเกต มันก็จะไม่เกิดการตั้งคำ�ถาม เราอาจจะสังเกตจากปัญหาที่ เราใช้ชีวิตอยู่ เพราะงานออกแบบก็คือทำ�เพื่อแก้ปัญหา ตอบ สนองชีวิตของเรา หรือว่าเราสังเกตจากอะไรรอบตัว เหมือน

D/zine: รู้สึกประทับใจอะไรเวลาทำ�งาน พี่เหนือ: ประทับใจที่ได้เรียนรู้มัน บางทีข้อเสียของนักออกแบบ อย่างหนึ่ง ถ้าเราข้ามจุดนั้นไปได้ เราก็จะได้เรียนรู้ คือบางที งานนั้นเราไม่อยากทำ� เราจะบ่นอย่างเดียวว่าไม่ชอบ ลูกค้า งี่เง่า แต่ด้วยความเป็นนักออกแบบ เราจะใส่ความชอบของ เราเข้าไปด้วย แล้ว balance สิ่งที่เราไม่อยากทำ�จนเกิดความ พอดี ทั้งสิ่งที่ลูกค้าพอใจแะเราพอใจ จะเกิดการเรียนรู้ใหม่ขึ้น มา เรามองว่าทุกๆงานมีการเรียนรู้ นอกจากงานที่แย่จริงๆก็มี แต่ว่าที่เราชอบคือการได้เรียนรู้กับงานแต่ละชิ้น งานทุกชิ้นเรา จะมีประสบการณ์กับมันคนละแบบ

D/zine: มีวิธีการที่จะทำ�ให้ความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองขับ เคลื่อนอยู่ตลอดเวลาได้อย่างไร พี่เหนือ: ต้องหมั่นตั้งคำ�ถาม หมั่นสังเกต นั่นคือสิ่งที่เราใช้ ยิ่ง ถ้าเราไม่มีเวลา แล้วเราไม่ได้สังเกตอะไร เราจะไม่มีค�ำ ถาม อะไรเกิดขึ้นในการสร้างงานใหม่ๆ มันต้องออกไปนู่นไปนี่ หรือ เริ่มสังเกตจากชีวิตประจำ�วันเช่น นั่งรอรถเมล์หรืออะไรอย่างนี้


ผลงานแบบที่ถนัดของพี่เหนือ คือ งานที่เริ่มจากวาดมือ แล้วค่อยปรับ YWFT Wonderland ชุดนี้มี glyph อยู่ถึง 1,500 ตัว!!! D/zine: มีความใฝ่ฝันที่สุดคืออะไร พี่เหนือ: อยากใช้ชีวิตออกแบบและอยู่อย่างเรียบง่าย นั่นคือ ความฝันสูงสุดแล้ว อาจจะเปิด studio หรือเปิดโรงเรียนสอน จริงๆ ช่วงนี้ก็อยากเปิดโรงเรียนสอนที่ เด็กไม่ต้องมาเรียน เพราะอยากได้เกรด อยากมาเรียนเพระาอยากเรียนรู้ มานั่ง ทำ�งานมือกัน นั่งถาม นั่งคุยกัน ไม่ต้องมีเกรด มาเรียนรู้ อาจ จะเปิดเป็นบ้าน แล้วรับเด็กซักประมาณ 10 คนที่อยากเรียน จริงๆ นั่งคุยกัน นั่งเรียน เหมือนเราได้สัมผัสแต่ละคนว่าคิดยัง ไง แลกเปลี่ยนกัน เพราะเราเชื่อว่าการลงมือด้วยการทำ�อะไร ที่ไม่ได้มาจาก computer โดยตรง มันจะได้เรียนรู้ได้สังเกต มากขึ้น หรือการพูดคุยกัน บางคนอาจจะเห็นจุดนี้ของเพื่อนว่า น่าสนใจ มันจะทำ�ให้ เราเรียนรู้ได้ดีกว่า ระบบวิธีการคิดอะไร แบบนี้ บางทีอยู่ในห้องเรียนพอมีโจทย์ที่จะต้องทำ�ให้ตรงกับ วิชามันเหมือนปิดกั้นเรา หัวใจจริงๆน่าจะอยู่ที่วิธีคิดมากกว่า D/zine: สไตล์งานและเทคนิคของพี่เหนือเป็นแบบไหน พี่เหนือ: จะชอบทำ�อะไรที่ไม่เป็น computer มาก่อน ถ้า เป็นพวกtypeมักจะเป็นงานแบบว่าวาดเอา เขียนเอา ถ้าเป็น งานvideoเราก็จะทำ�เป็น analog ก่อนแล้วค่อยเอามา ทดลอง สไตล์เราคือจะมีความไม่เรียบร้อยอยู่ในตัว จะมีความ เป็นธรรมชาติของมัน D/zine: มีใครเป็น idol ไหม พี่เหนือ: ตอนนี้ก็มีคนทั่วไป คนที่เยอะแยะมาก คนที่ตั้งใจ ที่ท�ำ งานของเขา คนปิ้งไข่ก็เป็น idol ได้ เราเชื่อว่าศาสตร์ ทุกศาสตร์มันก็มีวิธีคิดของมัน มีประสบการณ์ของมัน ว่าจะ ทำ�อย่างไรให้มันกลมกล่อม แต่สมัยเด็กคงชอบเป็น artist มากกว่า ชอบเป็นผลงาน แต่ไม่ได้ชอบเป็นวิธีคิดอะไรแบบนั้น

D/zine: มีผลงานชิ้นไหนที่ภูมิใจมากที่สุดไหม พี่เหนือ: ภูมิใจทุกชิ้นเลย เพราะเราคิดว่าแต่ละงานได้เรียนรู้กับ มัน ไม่เหมือนกันด้วย ได้มีประสบการณ์ไม่เหมือนกัน แต่ก็คง มีคนที่มีชิ้นที่ชอบที่สุด อาจจะเป็นชิ้นที่ท�ำ ให้เขามีชื่อเสียง D/zine: อยากฝากอะไรกับคนที่อ่าน D/zine ของเราบ้าง พี่เหนือ: เดี๋ยวนี้เด็กสมัยนี้ที่เราคุยมา เขาก็จะชอบอะไรเยอะ แยะไปหมด แต่ว่าไม่ได้ลงลึกกับมัน เราว่าถ้าเราลงลึกกับมัน รู้ว่าสิ่งที่เราชอบคืออะไรแล้วมุ่งมั่นไปกับมัน เราก็จะได้ ประโยชน์กับตรงนั้น อย่างเช่นถ้าชอบดนตรีเกาหลีก็ชอบไปเลย ชอบจนแบบว่าหาวิธีการของตัวเองได้ แต่ไม่ใช่แบบว่าตามแค่ รูปแบบ ต้องหมกมุ่นกับมัน พอเราหมกมุ่นกับอะไรเราจะศึกษา ลงรากลึก พอเราศึกษาเราจะรู้ว่าคนนี้เป็นมาอย่างไร ได้รับ อิทธิพลมาจากคนนู้นคนนี้ เราจะได้เรียนรู้วิธีคิด ให้เราจริงจัง กับสิ่งที่ชอบ มันก็จะดี

“ ต้องหมกมุ่นกับมัน พอเราหมกมุ่นกับอะไรเราจะ ศึกษา ลงรากลึก ” จักรกฤษณ์ อนันตกุล



POP COOL WEIRD

JAPAN CONTEMPORARY ARTS


ิ คุซะมะ และ อ ย โ า ย ง า ่ ย อ ที่มีชื่อเสียง ็นจุดเปลี่ยนสำาคัญในการ น ิ ป ล ิ ศ ง อ ข ก ร แ อาร์ตในช่วง อง มอริมุระ ยาสุมะสะ เป วข้องกับวัฒนธรรมสมัย ป อ ๊ ป น า ง ล ผ ก า จ ลากหลายข ดยเฉพาะในบทบาทที่เกี่ย ี่ผลงานสำาคัญของ ห น ั อ ์ ณ ษ ก ั ล พ ผลงานสื่อภา ักษณ์ใหม่ของศิลปินญี่ปุ่น โ ของนิทรรศการเจาะลึกไปท รรษเดียวกัน โดย สร้างสรรค์อัตล ของศตวรรษที่ 20 แก่นสำาคัญ วมถึงรุ่นหลังที่ตามมาในศตว วความคิดร่วมสมัย นิยมในช่วงหลัง ิโตโมะ นาระ ศิลปินร่วมรุ่น ร รูปแบบที่หลากหลาย เน้นแน าะนี้เป็นผลสีบเนื่อง ศิลปินเช่น โยช ดงให้เห็นถึงการถ่ายทอดด้วย ษณ์ที่ไม่คงที่ ซึ่งลักษณะเฉพ ะสุกงอมในระบบ แต่ละผลงานแส ็นของความสัมพันธ์และอัตลักโต และความผันผวนจากภาว ที่สะท้อนประเดูลข่าวสาร เสรีภาพที่ขยายเติบ มอย่างไม่มีข้อจำากัด ์ นิยาย ต น ย น ่ ุ ห น ู ต ์ ย ิ ม ร น อ ้ า า ่ มาจากยุคข ึงการเปิดกว้างในการรับค ผลงานที่มีรากฐานจาก ก ในภาคนี้คือ โยชิ ทุนนิยม รวมถ เป็น 3 ภาค โดยภาคแรกเป็น ยุคสมัยล่าสุดในญี่ปุ่น ศิลปิน อย่าง มิกะ คาโต นิทรรศการแบ่ง ื่องราว และปรากฏการณ์แห่งู้สร้างงานจิตรกรรมด้วยตุ๊กตา การทำางานในการ วิทยาศาสตร์ เร าคาชิ มูราคามิ และศิลปินผ ่ในบริบทของโลกาภิวัตน์ ผ่านภาคนี้ประกอบด้วย โตโมะ นาระ ท นอศิลปินผู้มองหาตัวตนใหมเสนอสถานะสังคมที่ดำารงอยู่ ินผู้ซึ่งนำาเสนอเครื่อง ภาคที่สอง นำาเสิด การแทรกแซง และการนำา ะ และคาซึฮิโกะ ฮาชิยะ ศิลปั่งรากผลงานลงบน รวบรวมความควิดีโออาร์ตอย่าง โคกิ ทานาก คสุดท้ายกล่าวถึง ศิลปินผู้หย าร์ตสำาหรับพวกเขามี ศิลปินทางด้าน รดำารงชีวิตในอนาคต และภา ำาวัน แนวความคิดแบบป๊อปอ ักษณ์ ความสามารถ มือสำาคัญในกา ผสมกับเรื่องราวในชีวิตประจ โดยทำาหน้าที่ในการรักษาอัตล อน อิโต ผู้ขยาย ฐานความรู้สึก ล้ายเครื่องมือเพื่อการอยู่รอด แวดล้อม เช่น ผลงานของ ซ วศิลปะเอ็กเพรสชั่นนิ คุณประโยชน์ค ะความสัมพันธ์ที่มีต่อสภาวะ- ูราเสะ ผู้นำาเสนอผลงานในแนกจินตนาการจากกลีบ ในการรับรู้ แล ผลงานผ้าปัก หรือเคียวโกะ มของ ฮารุกะ โคจิน ผู้สร้างฉา ่างของ คีจิโร่ อาดาจิ ความฝันลงบน ความรู้สึกภายใน หรือผลงาน สรรค์ผ่านสื่อหลากรูปแบบอยาคากิ ผู้เบี่ยงเบนจาก สม์แบบมุ่งเน้น ไม้ประดิษฐ์ และผลงานสร้างี่ยวดิสโก้ รวมถึงมาซะคัทสึ ท ้าไปในงานวิดีโอและ ดอกไม้และดอกตู้โทรศัพท์ที่ไม่ใช้แล้วเป็นตู้เด ่างมีชีวิต โดยการผสมผสานเข ศิลปินผู้เปลี่ยน ี้ สู่งานจิตรกรรมที่รังสรรค์อย ี่ยังคงไว้ซึ่ง ท ๆ ่ ม ห ใ น ่ ุ ร ์ ก ค ก ร นักสร้างสร มายของวัฒนธรรม งานวีดีโอจ๊อ น ใ ้ ด ไ ส ั ผ ม ั ส ่ ี ท ิ ต ห็นถึงทัศนค ามารถรับรู้และแปลความห ียว เสริมให้เกิด เ ้ ห ดนตรี ใ ย ผ เ ้ ี น ร า ก ศ ตเก รร ังส โดยรวมแล้วนิท คลงสงสัย และในขณะเดียวย ิทรรศการนี้จะส่งสารข้ามผ่านโทั้งทวีปเอเชีย ความ เคลือบแ ่งยุคสมัย ศิลปะร่วมสมัยในน เปลี่ยนอันดีที่จะเกิดขึ้นได้ทั่ว นิยมผ่านสื่อแห ื่อสร้างบรรยากาศของการแลก ภาพลักษณ์ เพ


ในปีที่ผ่า เอาวัฒน นๆ มา โลกา ระหว่างท ธรรมวัยรุ่นในเอ ภิวัตน์เป็นตัวเร ่ง การรับ เชีย ทำาใ ัศนศิลป์ใ นประเทศ ห้ความแต ไทย และ กต่าง ก่อนที่ญี่ป ประเทศญ ของญี่ปุ่น ุ่นจะมีการ ี่ปุ่น ป แ ฏ ล หลังจาก ะจีนนั้นอแท ิวัติทางศิลปะ ญี่ปุ่นมีก ญี่ปุ่นพบเจอกับเ บไม่แตกต่างกัน ศิลปะ การกำาเน ารปรับตัวเพื่อให หตุการณ์มากม เลย แต่ สมัยของ ิดของศิลปะร่วม ้ทันสมัยมากขึ้น าย ทำาให้ วัฒนธรร ญี่ปุ่นนั้นมีเอกล สมัยขึ้นมา ซึ่งศ จึงได้มี ตัวละคร มป๊อปญี่ปุ่น มีก ักษณ์ไม่เหมือนใ ิลปะร่วม รู้จักกันท อนิเมชั่น ซึ่งกลา ารเสนองานการ คร โดย โดราเอม ั่วโลก อาทิ โปเก ยมาเป็นตัวสัญ ์ตูน และ ลักษณ์ที่ ละครทีว อน นอกจากกร มอน, เฮ無いアート ล โล คิตตี้ และ กับการเป ี นวนิยาย และอ ะแสที่กล่าJapanese Contemporary Arts ว ม า น ้ ี ล น ย ย ่ ี เ ิ ง ั เอาชีวิตร นแปลงของโ มชั่น ที่มีเนื้อ มี หาเกี่ยว ให้เฝ้าติด อด ที่สามารถด ลก และกา0000000000000000000000000000000 0ร000000000000000000000000000000 ตัดสินใจ เพื่อ จินตนาก ตามเรื่องราวอย ึงดูดแฟนๆ 00ชา00000000000000000000000000000 ว า ต่างชาติ 0000000000000000000000000000 สังคมคน รอันใหม่เอี่ยม ่างเหนียวแน่น000 0000 000000000000000000000000000 ท โ ล ล ง ้ ั ะ ก ส ข แ00000000000000000000000000 อ ว ้ ั ห่ง เนื้อเก็บต ข้างหนึ่งเ ง เข้ามาเ00000 ก ว ั ป ย ่ ี วข้อง0000000000000000000000000 ชอบมีปฏ อีกพวกจะใส ็นพวกอัตตาน000000 ก000000000000000000000000 ับ 0000000 ใ ่ ย ิ ส ิ จ ม ม ั ก เก็บ 00000000000000000000000 ได้ว่า เป พันธ์ ซึ่งทั้งส ับโลกภายน 00000000 ก และ 0000000000000000000000 สหัสวรรษ็นตัวแทนรูปแบบ องแบบนี้ก็สาม อ000000000 000000000000000000000 การใช้ชีว าร0000000000 ใหม่นี้ ถ พ ด ู ิตของคน00000000000 00000000000000000000 0000000000000000000 ใ000000000000 นยุค 0000000000000 000000000000000000 00000000000000 00000000000000000 000000000000000 0000000000000000 0000000000000000 000000000000000



การแสดงผลงานศิลปวัฒนธรรม ของศิลปิน นักออกแบบชาวไทยที่มี ประสบการณ์การศึกษาจากประเทศญี่ปุ่น และผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจาก เนื้อหา กระบวนการคิด รูปแบบทาง ศิลปวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงระหว่างสองประเทศ กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร จัดโครงการ ‘นิทรรศการวัฒนธรรมสรรค์สร้าง เศรษฐกิจสร้างสรรค์ : ไทยโย ศิลปะร่วมสมัย ไทย - ญี่ปุ่น’ รวบรวมผลงานของเหล่าศิลปินไทยใน หลากหลายสาขา อาทิ วิจิตรศิลป์ ประยุกต์ศิลป์ งานออกแบบและผล งานสร้างสรรค์ สถาปัตยกรรม แฟชั่น การ์ตูน แอนนิเมชั่น ภาพยนตร์ ดนตรี และศิลปะพับกระดาษของญี่ปุ่นจำานวนกว่า 30 คน


ศิลปินที่เข้าร่วมแสดง โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ในนิทรรศการ ‘ไทยโย’ สาขาเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ กระทรวงวัฒนธรรม เป็นการแสดงผลงานศิลป ประกอบด้วย นาวิน ลา วัฒนธรรมของศิลปิน นักออกแบบชาวไทยที่มีประสบการณ์การศึกษาจาก วัลย์ชัยกุล นำาเสนอผล ประเทศญี่ปุ่น และผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากเนื้อหา งาน ‘ผ้าขาวม้า’ หนึ่งในผล กระบวนการคิด รูปแบบทางศิลปวัฒนธรรมทีเ่ ชือ่ มโยงระหว่างสองประเทศ งานประยุกต์ศิลป์ที่เชื่อมโยงงาน ออกแบบแฟชั่นกับงานศิลปะด้วยรูป “นิทรรศการในครั้งนี้เป็นการถ่ายทอดประสบการณ์ผ่านการใช้ แบบการทำ างานด้วยการตั้งคำาถามและ ชีวิต การทำางานและการได้รับการยอมรับในดินแดนอาทิตย์ การนำ า เสนอนิ ยามทางศิลปะในมุมมอง อุทัย อันปรากฏถึงการถ่ายเททางวัฒนธรรมระหว่างสอง ต่ า งๆ ตั ง ้ แต่ อ ต ั ลั กษณ์ของศิลปิน บทบาท ประเทศ จากวิถีชีวิต ศิลปะ วัฒนธรรม ในหลากหลาย และพื น ้ ที ท ่ างศิ ล ปะ โดยให้ความสำาคัญกับศิลป ปรากฏการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศิลปะร่วมสมัยที่ วั ฒ นธรรมเชิ ง ประวั ต ศ ิ าสตร์ และประเพณี มีการนำาเรื่องราว แนวความคิด ความเชื่อรูปแบบ ทางศิลปะมาปรับเปลี่ยนและพัฒนาสร้างสรรค์ สุเทพ วงศ์กำาแหง นักร้องเสียงขยี้แพรในฟองเบียร์ นำา จนเกิดเป็นผลงานใหม่ที่มีคุณค่าทางความ เพลง ‘รักคุณเข้าแล้ว’ และ ‘ฉันยังเผ้าคอย’ บทเพลงรัก งามและยังนำามาสู่การสร้างมูลค่าเพิ่ม อมตะมาเอื ้อนลูกคอในภาษาญี่ปุ่น ร่วมกับ ‘Moderndog’ ทางเศรษฐกิจอีกด้วย” ศ.ดร.อภินันท์ กลุ ม ่ นั ก ดนตรี อ ินดี้ที่ได้รับความนิยมจนกลายเป็นแม่แบบในหมู่ โปษยานนท์ รองปลัดกระทรวง วั ย รุ น ่ และได้ เ คยนำ าบทเพลงรักอมตะอย่าง ‘รักคุณเข้าแล้ว’ และ วัฒนธรรม เปิดเผย ‘เสน่หา’ ของสุเทพ วงศ์กำาแหง มาบรรเลงใหม่ให้กลับมาเป็นทีน่ ยิ มในหมูว่ ยั รุน่ อีกครัง้ วิศทุ ธิ์ พรนิมติ นำาเสนองานวาดการ์ตนู Interactive installation ทีใ่ ห้ผช้ ู มได้เล่นเกมกับ เรือ่ งราวของการ์ตนู อย่างสนุกสนาน และการรวบรวมผลงานสเก็ตช์ของวิศทุ ธิท์ เ่ ี ราอาจไม่เคย ได้เห็นมาก่อน ศิลปินร่วมสมัยดีเด่นรางวัลศิลปาธร ประจำาปี พ.ศ.2552 กุลภัทร ยันตรศาสตร์ ใน นามของ wHY ARCHITECTURE กับผลงานการออกแบบบ้าน Wakasa หรือ Casa Wakasa ของ ครอบครัวเดีย่ ว ซึง่ หัวหน้าครอบครัวเป็นทันตแพทย์ชาวญีป่ น่ ุ ตัง้ อยูท่ เ่ ี มืองโอซาก้า โดยตัง้ ใจให้สอ่ื ถึง ลักษณะครอบครัวร่วมสมัยชาวญีป่ น่ ุ ทีแ่ สดงถึงการอยูร่ ว่ ม กันแบบครอบครัว และให้ความสำาคัญกับ พืน้ ทีส่ ว่ น ตัวทีเ่ น้นความอิสระในการทำากิจกรรมต่างๆ


¹ † Ø » è Õ Þ Â

Ã

· ä Â Ñ Á Ê Á Ç‹

ภาพพิมพ์สีธรรมชาติที่ผ่านการทดลองและ คิดค้นวิธีการสกัดสีจากต้นไม้ใบหญ้า และวัตถุดิบ ทางธรรมชาติที่เก็บได้จากสถานที่นั้นๆ ด้วย ความสงบและเรียบง่ายที่สร้างจุดร่วมระหว่าง ความสุนทรีทางศิลปะ เป็นผลงานของ ญาณวิทย์ กุญแจทอง ที่ยังคงสนุกสนานกับกระบวนการ ทดลองทางวิทยาศาสตร์ให้สามารถหวนรำาลึกถึง ความ ทรงจำาที่ดีต่อสถานที่ต่างๆ นิพันธ์ โอฬารนิเวศน์ กับผลงานเนื้อร้องเพลง ชาติบนกระดาษซึ่งตัวอักษรถูกเจาะด้วยเข็มแทน การเขียน ชิ้นงานบางชิ้นกลับด้านเพื่อเผยให้เห็น รอยดุนของฝีเข็ม ที่ใช้เรื่องราวของการใช้ภาษา และการสื่อสารด้วยคำา ความหมาย และน้ำาหนัก ของคำา ที่ใช้ความรู้สึกต่อการรับรู้ในเพลงที่แสดง ให้เห็นถึงคุณค่าของความเป็นชาติ และชาตินยิ ม เพือ่ เป็นสิง่ ยึดเหนีย่ วความทรงจำาให้สามารถรับรูด้ ว้ ยกัน


ผลงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นประโยชน์ การใช้สอยที่ไม่เคยละทิ้งสไตล์การ ออกแบบแบบเรียบง่ายของของนักออกแบบ ผลิตภัณฑ์ นพปฎล พหลโยธิน ผู้คว้า รางวัลการออกแบบมากมาย สันติ ลอรัชวี นักออกแบบกราฟิก นิทรรศการ ‘มิตรจิตร มิตรใจ มิตรภาพ ไทย-ญี่ปุ่น’ หรือ ‘Show Me Thai’ กลับ มาอีกครั้งพร้อมการเปลี่ยนบริบทของก ราฟฟิคโปสเตอร์สู่งานจัดวางบนผนัง ที่ แสดงความสัมพันธ์ของการแลกเปลี่ยนเชิง วัฒนธรรมระหว่างประเทศไทยและ ญี่ปุ่น ส่วน เอกสิทธิ์ เข้มงวด นักพับกระดาษ ผู้เชี่ยวชาญในการพับ Origami ได้พลิก แพลงความสามารถและผสมผสานของทั้ง สองวัฒนธรรมไทย-ญี่ปุ่น ลงบนการพับหุ่น หนุมานได้อย่างอลังการ นอกจากผลงานศิลปะที่จัดแสดง ระหว่าง นิทรรศการยังกิจกรรม มากมาย อาทิ วัน เสาร์ที่ 13 มีนาคม จะมีการ Workshop สอนทำาสมุดทำามือญี่ปุ่น โดย Piece of Paper, วันอาทิตย์ที่ 28มีนาคม การวาด ภาพประกอบเพลงโดย พีรพัฒน์ กิตติสุ วัฒน์ และวันเสาร์ที่ 3 เมษายน อบรม การพับกระดาษแบบญี่ปุ่น (Origami) โดย เอกสิทธิ์ เข้มงวด


CHAOS ÍØàÁЫÒÇ‹Ò ¤Ò«Ö¡Ô

Director

X


X

LOUNGE

¤ØâÃà«Ð âÂÇàÎ

ARTIST

ÍÙâ«Ð ¿Ù¨ÔªÔâË

ARTIST

·ÒÊÖ´Ð à·ÊÖâÍÁÔ

JORNALIST


POP ARTS ไร้ขีดจำากัด

ศิลปะร่วมสมัยใน ประเทศญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลจากธรรมชาติโดยศิลปะร่วมสมัยของโลก แต่อำานาจของขนบธรรมเนียมประเพณีของญี่ปุ่นที่มีการกดขี่ของสิ่งแวดล้อมใน เมืองหนา แน่นและ traumatism ระดับต่างๆโดยญี่ปุ่นเป็นเวลา 60 ปี (ปี 1945 ความพ่ายแพ้ของฮิโร ชิมา, แผ่นดินไหว, วิกฤตเศรษฐกิจและอื่น ๆ ) ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตที่อุดมสมบูรณ์มาก เป็นต้นฉบับและเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่รู้จักกัน


Chaos*Lounge คือกลุ่มนักศิลปะที่รวมตัวกันสามคน และผู้ช่วยอีก จำานวนหนึ่ง ซึ่งกลุ่มนี้จะนำาเสนอศิลปะรูปแบบคล้ายการกระจายของน้ำา ซึ่งกลุ่มนี้ยังมีชื่อเล่นอีกชื่อหนึ่งว่า Popper Post “ภาพการ์ตูนแฟนอาร์ทเมื่อทุกอย่างถูกหลอมรวมกัน“ นอกจากนี้กลุ่ม chaos*lounge ยังเคยมีการจัดแสดงศิลปะใน ประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องการนำาภาพหลากหลายภาพมา เรียงกันเป็นงานศิลปะ แม้จะมีการถกเถียงเรื่องลิขสิทธิ์ไปบ้าง แต่พวกเขาเองก็ยังคงยืนกรานอยู่คำาเดิมว่า “Arts is Arts“ ภาพหลังกลุ่ม Chaos*Lounge ได้มีการพัฒนางานมากขึ้นด้วย การนำาเสื้อผ้า สื่อสิ่งพิมพ์ มาทำาเป็นงานในรูปแบบลยตา ซึ่งสร้างความ ชื่นชอบแก่คนอเมริการในงานแสดงศิลปะร่วมสมัยที่นิวยอร์อีกด้วย





fh สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนและนักวิจัยไทยพัฒนาตัวแสดงผล อักษรเบรลล์ด้วยแสงซินโครตรอน โดยจุดสัมผัสแสดงผลเคลื่อน ที่ขึ้นลงตามแรงลมที่ควบคุมด้วยสัญญาณซึ่งแปลงผลจากคอมพิวเตอร์ ช่วยเพิ่มโอกาสผู้พิการทางสายตาเข้าถึงข้อมูลอินเทอร์เน็ตมากขึ้น ดร.รุ่งเรือง พัฒนากุล นักวิทยาศาสตร์ระบบลำเลียง แสงของห้องปฏิบัติการแสงสยาม สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน องค์การมหาชนและคณะ ได้ร่วมกันวิจัยพัฒนาตัวอักษรเบรลล์ ด้วยเทคโนโลยีซนิ โครตรอน โดยได้ทำการออกแบบและสรรสร้าง กลไกการเคลื่อนที่ของตัวจุดแสดง ผลอักษรเบรลล์ 1 เซลหรือ จำนวน 6 จุดสัมผัสให้สามารถ เคลื่อนที่ขึ้น-ลงตามแรงดันลม ที่ควบคุมด้วยสัญญาณที่ถูกแปล มาจากอักษรปกติในโปรแกรม ในกระบวนการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์

“เป็นการช่วยสนับสนุนเทคโนโลยีสำหรับ

ผู้พิการของประเทศไทย ให้สามารถเข้าถึงได้ในอนาคต”

ดร.รุ่งเรือง

ทีมวิจัยได้ใช้ประโยชน์จากสถานีลำเลียงแสงที่ 6a (BL6a-Deep X-ray Lithography:DXL) ซึง่ เป็นหนึง่ ในสถานีทดลอง ณ สถาบัน วิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) จ.นครราชสีมา และเป็น สถานีที่ให้แสงซินโครตรอนย่านรังสีเอกซ์พลังงานต่ำในการสร้าง ชิ้นส่วนจิ๋วที่มีความเที่ยงตรงและละเอียดสูงถึงระดับไมโครเมตร สำหรับจุดสัมผัสและหน้าจออักษรเบรลล์ถกู สร้างด้วยกระบวนการ เอกซ์เรย์ลโิ ธกราฟี โดยใช้แสงซินโครตรอนที่ฉายลงบนพอลิเมอร์ ไวแสงผ่านหน้ากากดูดซับรังสีเอกซ์ จากผลการทดลองโครงสร้าง ที่ได้จะมีผนังตั้งตรงสูงถึง 800 ไมโครเมตรและมีระยะเคลื่อนที่ ขึ้น 500 ไมโครเมตร มีช่องว่างเพียง 30 ไมโครเมตรระหว่างผนัง จุดสัมผัสเข้ากับหน้าจอแสดงผล ช่วยรักษาระดับแรงดันลมข้างใน และเพิ่มความมัน่ คงในขณะที่จุดสัมผัสกับปลายนิ้วได้เป็นอย่างดี

จุดสัมผัสทั้ง 6 จะถูกยึดด้วยกลไกสปริงที่ด้านล่างเพื่อดึงให้จุด เคลื่อนที่ลงมาพร้อมรับการแสดงผลของอักษรเบรลล์ในตัวถัดไป โครงสร้างทั้งหมดจะถูกประกอบรวมกันเป็นเซลอักษรเบรลล์ ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเหรียญ 1 บาทและนำไปติดตั้งร่วมกับระบบ “จุดเด่นอีกประการของการออกแบบใช้ระบบแรงดันลมก็คือ มีความปลอดภัยสูงระหว่างการใช้งาน จากเดิมที่ใช้ระบบไฟฟ้า สถิตซึ่งเสี่ยงต่อการถูกไฟดูด และระบบแกนเหล็กซึ่งมีต้นทุนสูง ในอนาคตตัวแสดงผลอักษรเบรลล์จะถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี ซินโครตรอนให้ได้จำนวนเซลเพือ่ แสดงผลมาเชื่อมต่อกันมากขึ้น พร้อมกับระบบแสดงผลที่มีขนาดเล็กลงสามารถพกพาได้สะดวก ยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการช่วยสนับสนุนเทคโนโลยีสำหรับผู้พิการของ ประเทศไทยให้สามารถเข้าถึงมันได้ในอนาคต” ดร.รุ่งเรืองกล่าว




ri


ri


ti ส่วนที่เป็นรูปภาพเดิมเป็น 2 มิติ ก็สามารถเปลี่ยนเป็น 3 มิติได้เลย จะอ่าน หรือ จะดูรูป ก็เพียงสัมผัส เท่านั้น โอ้!!….พระเจ้า สุดยอดจริงๆ ออกมาเป็นรูปคนให้สัมผัสแบบนี้ … ผมว่าคนตาดีก็คงอุดหนุนไม่น้อยล่ะครับคราวนี้ (xxx) ฮา…… อ่อ…บอกไว้ก่อนนะครับว่า นี่ยังเป็นเพียงไอเดียอยู่เท่า นั้น ยังไม่ได้ผลิตออกมาจำหน่ายนะครับ

จะดีไหมถ้ามี คอมพิวเตอร์สำหรับ คนตาบอด !!.......…อะไรกัน คอมพิวเตอร์สำหรับคนตาบอด เนี่ยนะ? Siafu เป็นชื่อของมดชนิดหนึ่ง แต่ได้ถูกนำมาตั้งชื่อเป็นคอมพิวเตอร์ออกแบบมาให้สำหรับคนพิการทางสายตาโดยเฉพาะ ดูรปู ร่างหน้าตาแล้วแปลกๆ พิกลนะครับ แต่ถ้ารู้ถึงคุณสมบัติ ของมันแล้วจะอึ้ง! มันเป็นผลงานการออกแบบโดย Jonathan Lucas เขาบอกมาว่า Siafu ได้รับการคัดเลือกเข้ารอบสุดท้าย ของการแข่งขัน Next Generation PC ของ Microsoft ซะด้วย เรามาดูคุณลักษณะคร่าวๆ กัน Siafu ตัวนี้จะทำงาน โดยระบบสัมผัสเป็นหลัก ผิวด้านหน้าจะทำด้วยโมเลกุลพิเศษ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้ตามต้องการโดยไม่เสียรูปทรง สามารถสร้างพื้นผิวให้เป็นอักษรเบลล์สำหรับคนตาบอดทำให้ ผู้ใช้ได้อ่านไฟล์เอกสาร ประเภท Digital Content ได้สบาย มีปุ่มทั้งหมด 9 ปุ่มสำหรับแปลงสัญญาณที่พิมพ์อออกมาเป็น ภาษาเบลล์ ทำให้เข้าใจได้ว่าผู้สื่อสารพิมพ์อะไรออกมา Siafu ยังมีระบบไมค์ในตัวมันเอง ที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมประเภท แปลงสัญญาณเสียง ทำให้ง่ายอีกหากว่าผูใ้ ช้ไม่ต้องการจะพิมพ์ ก็ใช้พูดเอาได้เลย ที่เด็ดสุดๆ คือเวลาเปิดเวบไซต์ส่วนตรงไหน ที่เป็นตัวอักษรใดๆ มันจะแปลงเป็นอักษรเบลล์ให้โดยอัตโนมัติ


เป็นที่เคยเชื่อกันว่า หากปราศจากการมองเห็นแล้ว การตีความสีหน้านั้นก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ตอนนี้ไม่เป็น เช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว เมื่อ Shafiq ur Rehman จาก Umea University ได้นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ใน วิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของเขา ซึ่งเป็นอักษรเบลล์ของอารมณ์ ความรู้สึก ซึ่งเขากล่าวว่า “มันจะมอบโอกาสสำหรับการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมสำหรับผู้มีปัญหาด้านการมองเห็น” การขาดสัมผัสทางการมองเห็นนั้นทำให้ชีวิตประจำวันของคนๆ หนึ่งถูกจำกัดลงอย่างมาก หนึ่งในสิ่งเหล่านั้นก็คือการมองเห็น คู่สนทนานั้นเอง ซึ่งการแสดงออกทางสีหน้านั้นมอบข้อมูลทาง อารมณ์และมีความสำคัญในการสื่อสารเป็นอย่างมาก เช่น การยิ้มบ่งบอกถึงความพึงพอใจ ความบันเทิงใจ ความโล่งใจ และอื่นๆอีก การขาดข้อมูลดังกล่าวนั้นทำให้เกิดกำแพงกั้น ระหว่างการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม “คนตาบอดนั้นชดเชยการขาดข้อมูลด้วยประสาทสัมผัสอื​ื่นๆ เช่นเสียง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะทำความเข้าใจ อารมณ์ที่ความซับซ้อนด้วยเสียงเพียงอย่างเดียว”

Shafiq ur Rehman ได้ใช้กล้องเว็บแคม หน้าจอที่สัมผัสได้ และอุปกรณ์อื่นๆเพื่อแก้ปัญหาที่ว่าเราจะสามารถทำให้คนที่มี ปัญหาทางการมองเห็นนั้นรับรู้อารมณ์ของคนอื่นได้อย่างไร “ข้อมูลทางการมองเห็นนั้นถูกส่งผ่านจากกล้องมายังรูปแบบ การสั่นสะเทือนที่แสดงบนพื้นผิว ซึ่งตัวสั่นสะเทือนเหล่านั้นจะ ทำงานเป็นลำดับที่ให้ข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงอันเกี่ยวข้องกับ ชนิดของความรู้สึกที่คนๆหนึ่งนั้นกำลังแสดงออกรวมถึงความ เข้มข้นของอารมณ์นั้นด้วย” เขาอธิบาย จุดสนใจหลักของการวิจัยนี้ก็คือการอธิบายคุณลักษณะพิเศษ ของอารมณ์ต่างๆและการหาวิธีที่จะแสดงมันออกมาด้วยวิธีการ ทางวิศวกรรมชีวภาพที่มีความก้าวหน้าและเทคโนโลยีด้านการ มองเห็นด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งโครงการนี้นั้นก่อตั้งโดยคณะกรรม การการวิจัยของชาวสวีเดนด้วย เขายังกล่าวถึงความสำเร็จในการนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้บน มือถือในรูปแบบของการถ่ายถอดฟุตบอลและข้อมูลอารมณ์ มนุษย์ผ่านการสั่นสะเทือนอีกด้วย ซึ่งเป็นวิธีที่น่าสนใจในการ เพิ่มประสบการณ์ของผู้ใช้งานมือถือ

ti



ng ไม่เพียงแต่ Apple จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ใช้ ผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่สำหรับนักออกแบบทั่วโลก ต่างก็พยายามต่อยอดด้วยอุปกรณ์เสริมให้ผลิตภัณฑ์ มีคุณสมบัติการใช้งานที่น่าสนใจ หรือแม้แต่น่าทึ่งมากขึ้นด้วย ซึ่งในกรณีนี้ นักออกแบบสาว Kikki Tham Sterner ได้ดีไซน์ ไอเดียอุปกรณ์เสริมที่จะทำให้ผู้พิการตาบอดสามารถ ใช้ iPad ได้ด้วยผลงงานที่ชื่อว่า iSense

iSense ดูผิวเผินจะคล้ายกับ Smart Cover ของ iPad 2 แต่ถ้าไม่บอกว่ามันทำอะไรได้? ก็คงจะเข้าใจว่า ไว้ป้องกันรอยขูดขีดบนหน้าจอ iPad เท่านั้น ดีไซเนอร์สาวอธิบายผลงานของเธอ ว่า iSense ทำจากวัสดุพิเศษที่ตอบสนองต่อแสง โดยจะ"นูน"ขึ้นมา เพื่อให้ผู้พิการทางสายตาสามาร ถสัมผัสรับรู้ได้ โดยเฉพาะการแสดงเป็นชุดตัวอักษร หรือรูปร่างตามไอคอน หรือภาพที่ปรากฎบนจอ iPad หากไอเดียนี้กลายเป็นผลิตภัณฑ์จริงๆ ขึ้นมา ผู้พิการจะสามารถใช้มันในการเรียนรู้ ศึกษาและติดตามความเป็นไปของโลกกว้าง บนเน็ตได้ด้วยตัวเอง น่าสนับสนุนให้มีการพัฒนาขึ้นมานะครับ


Stained glass – กระจกโอปอล หรือกระจกสีที่เราคุ้นตากันตาม โบสถ์หรือสถาปัตกรรมโกธิค ดูเป็นของที่ท�ำ ยากเวลานำ�มาเพ้นใน คอมพิวเตอร์ แต่ถ้าเรารู้วิธรทำ�แล้วจะพบว่าหน้าต่างหน้าตาสวยงาม พวกนี้มีวิธทำ�ที่ไม่ยากเลย ขอแค่มีความอดทนเสียหน่อยก็จะได้ของ ประกอบฉากเสริมความโดดเด่นให้กับตัวละครของเราได้อย่างง่ายๆ

Howto CG Stained glass Howto CG Stained glass

Stained glass – กระจกโอปอล หรือกระจกสีที่ เราคุ้นตากันตามโบสถ์หรือสถาปัตกรรมโกธิค ดูเป็นของที่ท ำ�ยากเวลานำ�มาเพ้นในคอมพิวเตอร์ แต่ถ้าเรารู้วิธรทำ�แล้วจ ะพบว่าหน้าต่างหน้าตาสสวยงามพวกนี้ มีวิธทำ�ที่ไม่ยากเลย ขอแค่มีความอดทนเสียหน่อย ก็จะได้ของประกอบฉากเสริมความโด ดเด่นให้กับตัวละคร ของเราได้อย่างง่ายๆ แล้ว


การออกแบบภาพที่ ใ ช้ ก ระจกสี เ ป็ น องค์ ป ระกอบ บนฉากควรเลือกให้แสงส่องออกมาจากด้านหลังของหน้าต่าง จะสวยที่สุดว่ากันง่ายๆ คือออกแบบภาพให้ใช้มุมย้อนแสงค่ะ เพราะจะทำ�ให้ หน้าต่างที่เราทำ�โดดเด่นมากที่สุดฉากจึงควร มืดและมีแสงส่องมาจากกระจกจะอลังกาลได้ง่าย ลักษณะเด่นของกระจกสีคือ จะมีการแบ่งล๊อกของกระ จกด้วยเหล็กสีดำ� เพราะในสมัยที่เริ่มทำ�กระจกสีช่างจะไม่ สามารถทำ�กระจกแผ่นใหญ่ๆ ได้ ดังนัน้ นถ้ายิง่ ช่องทีแ่ บ่งบนกระ จกสีถี่มากเท่าไรจะแสดงถึงความเก่าแก่ของรูปแบบมากเท่านั้น ถ้าฉากเป็นฉากสมัยเก่าหน่อยกระจกสีของเราก็ควรจะแบ่งช่อง ถี่ แต่ถ้าเป็นฉากสมัยใหม่ เช่นประตูกระจกสีตามบ้านหรือหน้า ต่างกระจกสีตามร้านอาหารก็สามารถแบ่งช่องใหญ่ๆ ได้เพราะ สมัยใหม่ท�ำ กระจกแผ่นใหญ่ได้แล้ว

กระจกสีสมัยใใหม่แบ่งช่องใหญ่ได้ และมีการกัดกระจก ให้เกิดน้ำ�หนักได้อีกด้วย

ก่อนอื่นคือเริ่มมองหาริเฟอเร้น หรือต้นแบบสำ�หรับกระจกขอ งเรานั่นเองค่ะ กระจกสีนั้นใช้ค�ำ ว่า Stained glass จะได้ภาพที่เ ป็นบานหน้าต่างส่วนถ้าใช้ค�ำ ว่า Rose Windown จะได้ภาพของ บานหน้าต่างสีที่มีลักษณะเป็นทรงกลม หน้าต่างกุหลาบเป็น ความเชื่อของชาวคริส ดังนั้นถ้าเราไม่อยากยุ่งยากกับประวัติ ของหน้าต่างกุหลาบแนะนำ�ให้ทำ�หน้าต่างธรรมดากันดีกว่า กระจกสีสมัยเก่าแบ่งช่องถี่มากๆ


1. เริ่ ม จากการทำ � ลายกระจกอย่ า ง ง่าย ให้เราเปิด Geid ในโปรแกรม PSขึ้นมา ใช้บรัชหัวกลมๆ จิ้มตรง จุดที่ท่านต้องการ กด Shift ค้างแล้วจุดไป อีกที่หนึ่ง เส้นตรงก็จะพุ่งไปจากจุดหนึ่ง ยังอีกจุดอย่างง่ายดาย ส่วนกริดนั้นเป็น สิ่ ง ที่ ทำ � ให้ เ รากำ � หนดลายได้ ง่ า ยขึ้ น ไม่เบี้ยว ไม่เอียง ให้เราลองทำ�เส้นขึ้น มาซักชุดหนึ่งก่อน จากนั้นลองก๊อบแล้ว เอามาซ้อนกันดู

โดยผลของการซ้อนเส้นด้วยเลเยอร์ ขยับนิดขยับหน่อย จะทำ�ให้เราได้ลาย ใหม่ๆ ขึ้นเร็วมากวิธีนี้ใช้ได้ผลมากกับ เส้นแนวทะแยงมุม ยิ่งซ้อนกันเยอะ เท่ า ไรลายที่ ไ้ ด จะยิ่ ง ละเอี ย ดมากเท่ า นั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราควรจะต้องระวังเ ลอยร์ที่ก�ำ ลังใช้งานอยู่ เพราะนานเราก็ จะเกิดอาการงงเส้นได้ถ้าเป็นไปได้เมื่อ ซ้อนกันได้ลายหนึ่งแล้ว ให้รวมเลเยอร์ แ ล้ ว ค่ อ ย ก๊ อ บ ขึ้ น ม า ซ้ อ น กั น อี ก จะทำ�ให้งานง่ายขึ้นมาก

เราสามารถเพิ่ ม เส้ น ต่ า งๆเข้ า ไป ได้ในระหว่างสร้างลาย โดยวิธีนี้อาจ จะทำ�ให้เราได้ลายใหม่ๆ เพิ่มขึ้นหลาย ลายพร้อมๆกัน ทำ�ให้เรามีตัวเลือกมาก ทั้งนี้ทั้งนั้นเราไม่ควรทำ�ลายที่ละเอียด มากเกินไป เพราะจะลำ�บากในขั้นตอน การทำ�บานกระจกที่จะใส่ลงไป นอกจากวิธีใช้เส้นตรงแล้ว ยังมีการ วาดขึ้นมาใหม่ด้วย ลายเส้นตรงเหมาะ กับคนที่ต้องการความเร็ว ไว โกง ส่วนวิธีเขียนลายด้วยมือนั้น จำ�เป็นต้อง ใช้ความถึกกว่ามาก


2. ขั้นแรกให้เราจัดการเขียนเส้นของ เหล็กดัดกระจก แต่ควรเป็นเส้นที่ทึบ ตั น ไม่ แ นะนำ � เส้ น ดิ น สออาจจะตั ด ด้ ว ยเส้ น หมึ ก ด้ ว ยมื อ ถ้ า หากเขี ย น สดในคอมพิ ว เตอแนะนำ � ให้ เ ขี ย น ขึ้นด้วยโปรแกรมSai เพราะจะได้เส้นที่ คมสวยกว่าทำ�สดใน Photoshop นะคะ เส้นที่ได้ควรเป้นเส้นเปล่าไม่มีพื้นหลัง

3. จากนั้นให้เราใช้ Selection เลือก เส้ น สี ดำ � แล้ ว ไปที Select > Inverse เ ส้ น ป ร ะ จ ะ เ ลื อ ก พื้ น ที่ น อ ก เ ส้ น สีดำ�ให้เราให้เรา เลือกเลเยอร์ขึ้นมาใหม่ หนึ่ ง เลเยอร์ แ ล้ ว จั ด การเทสี ล งไปใ นเลเยอร์ นั้ น (ในที่ นี้ คื อ สี น้ำ � เงิ น เข้ ม ) ถ้าปิดเลเยอร์เส้นสีดำ�ออก ก็จะได้พื้นที่ สำ�หรับใส่แผ่นกระจกนั่นเองค่ะ

เมื่อเปิดพร้อมกันสองเลเยอร์ก็จะได้ ดังนี้ คือมีเส้นสีด�ำ เป็นโครงเหล็กและ พื้นที่สีน�้ำ เงินเป็นพื้นที่กระจก

เลเยอร์ท่ีควรมี


6. ต่อไปให้เราใช้ Selection ขาประจำ� ของเรา เลือกพื้นที่ภายในแผ่นกระจก ไว้ทีละแผ่น จากนั้นให้เราเลือกหัวบรัชที่ ใช้ร้างเทคเจอร์ขึ้นมาในที่นี้ แนะนำ�ให้ใช้ บรัชหัวกลมไล่น้ำ�หนัก แล้วเลือกสีสว่าง กว่ า จากตรงที่ เ ราเทกาเดี้ ย นไว้ แ ล้ ว ค่อยๆ แต้มให้เกิดเทคเจอร์บนผิวกระจก ขั้นนี้ต้องใช้ความอดทนนิดนึงนะคะยิ่ง แต้มละเอียดเท่าไรจะยิ่งสวยค่ะ

5. ให้เราใช้ Select เลือกเลเยอร์พื้น กระจกของเราเอาไว้จากนั้นขึ้นเลเย อร์ ใ หม่ แ ล้ ว เทกาเดี้ ย นไล่ ร ะดั บ แสง ตามต้ อ งการในที่ นี้ แ สงมาจากด้ า น หลังของกระจกเยื้องมาทางด้านบน ก็จะไล่สีฟ้าอ่อนมาจากด้านบน

เลเยอร์ชั้นสี

จะได้เลเยอร์ดังน้นะคะ

เราสามารถค่อยๆเพิ่มลายของกระ จกได้การใช้ Selection และขึ้นเลเยอร์ ใหม่ ทุ ก ครั้ ง ที่ ทำ � งานจะยิ่ ง ทำ � ให้ เ รา มีโอกาสแก้ไข งานได้มากขึ้นเช่นถ้า แยกชั้นของแผ่นกระจก กุหลาบออกจาก ชั้นแผ่นกระจกของใบไม้ ตอนที่แก้สีก็ จะแก้ได้ง่ายขึ้นด้วย


มาถึงขัน้ ตอนการใส่ตวั ละคร ตัวละครทีเ่ ราลงสีมา ถ้าไม่ได้ลงสีบนฉากกระจกแต่แรก มักจะมีปัญหาคือรีเฟคแสงของกระจกจะไม่ตรงกับที่เราลงไว้กับตัวละครและตัวละครก็ จะหลุด จากฉาก ข้อควรปฏิบัติในการปรับฉากและตัวละครมีดงัต่อไปนี้...

7. ให้เรารวมเลเยอร์ของกระจกเป็นเล เยอร์เดียว จากนั้น ก๊อปปี้ขึ้นมาอีกเลเยอร์ แล้วไปที่ Filter > Blur > Gaussian Blur ปรั บ ให้ เ บลอตามต้ อ งการยิ่ ง เบลอ มากจะยิ่งดูสว่างมากจากนั้นกด OK

8. หลังจากเราจัดการสีของกระจกเสร็จ เราจะพบว่าสีของกระจกยังไม่สว่าง ให้ เราขึ้นเลเยอร์ใหม่ไว้บนสุดเลือกโหมด ของเลเยอร์เป็น Overlay แล้วทำ�การ เคลือบสีทับอีกครั้งโดยโหมดของเลเยอ ร์มีให้เล่นหลาย โหมดลองเลือกใช้ดูนะ คะหลังจากเราเคลือบสีแล้วสีของกระ จกจะสว่างเรืองรองราวกับเปล่งแสงได้ (เวอร์มาก)

เลเยอร์ที่เบลอและปรับเป็นOverlay เลเยอร์ต้นฉบับ


9. ให้เราขึ้นเลเยอร์ใหม่อยู่เหนือเลเยอร์ตัวละคร ใช้บรัช หัวฟุ้ง ฉาบสีขาวบางๆ ลงไปตามขอบของตัวละคร เพื่อให้ดูเหมือนมี แสงฟุ้งมาจากก้านหลัง ถ้าใช้บรัชปาดแล้วรู้สึกแรงเกินไปให้ ลองปรับค่า Opcity ลงดูค่ะ

10. จากนั้น ให้เราขึ้นอีกเลเยอร์หนึ่งไว้เหนือเลเยอร์ที่เราปาดแส งสีขาวลงไป เปลี่ยนโหมดเป็น Overlay แล้วดูดสีของกระจกที่ เป็นฉากหลังขึ้นมาปาดทับอีกครั้งค่ะเลเยอร์สองตัวนี้จะเปลี่ยน แสงที่ตกกระทบตัวละครจากแสงสีขาวให้เป็นสีเดียวกับแสงที่ ส่องออกมาจากกระจกด้านหลังซึ่งสีของกระจกมีกี่สีตรงไหนสี ไหนให้ดูดสีนั้นขึ้นมาปาดค่ะ

11. การปรับสีครั้งสุดท้ายถ้าฉากที่เราทำ�รวมเลเยอร์เอาไว้ง่าย ในการปรับสีตอนท้าย แต่จะจำ�เป็นต้องปรับแสงที่ฉาบตัวละ ครเอาไว้พร้อมกันด้วย จึงต้องทำ�ให้แน่ใจว่าสีที่ใช้ฉาบตัวละคร กับสีที่อยู่บนกระจกเป็นสีเดียวกัน เพื่อที่ว่าตอนประับสีครั้งสุด ท้ายจะไม่มีอาการสีผิดคีย์เกิดขึ้น



ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการนำ�กระจกที่ทำ�เสร็จแล้วไปใช้ประกอบภาพในมุมอื่นค่ะ ซึ่งขั้นตอนต่อไปนี้ค่อนข้างซับซ้อน และ สำ�หรับคนที่ไม่เคยใช้เครื่องมือ Perspective อาจจะหงุดหงิดที่ดึงมุมไม่ได้อย่างใจ แต่ถ้าทำ�จนคล่องแล้วจะทุ่นเวลาการทำ�งานลงได้ 12. เริ่มจากเปิดไฟล์ของหน้าต่างที่เราจะใช้ขึ้นมาและเปิดหน้า 15. จากนั้นให้เราเปิดหน้ากระดาษทำ�งานจริงขึ้นมา แล้วโยนชุด กระดาษใหม่ เอาให้ยาวๆ เข้าไว้ เช่นเราจะทำ�ระเบียงทีม่ หี น้าต่าง หน้าต่างที่เราเรียงไว้เรียบร้อยแล้วลงไป 20 บานเราก็ต้องเปิดหน้ากระดาษที่เรียงหน้าต่างได้ 20 บานขึ้นมาค่ะ จากนั้นให้เรานำ�เลเยอร์ของหน้าต่างโยนใส่ลงไป ในกระดาษแผ่นยาวของเรา

16. จากนั้นให้ไปที่ Edit > Thanfrome > Perspective แล้วดึงมุม ของชุดหน้าต่างให้ได้มุมแบบที่เราต้องการค่ะ โดยเราจะต้องใช้ Perspective สลับกับ Scale เพื่อแก้ขนาดที่เพี้ยนในตอนที่ดึง พอได้มุมที่ต้องการแล้ว เราจะได้มุมคร่าวๆ ขึ้นมา

13. ก๊อบหน้าต่างออกมาวางเรียงบนกริดให้ได้ตามจำ�นวนที่ต้อง การ ต้องระวังให้ระยะห่างของหน้าต่างแต่ละบานเท่ากัน แล้ว รวมเลเยอร์ทั้งหมดให้เป็นเลเยอร์เดียว


17. ให้เรานำ�ชุดหน้าต่างชุดเดิมเข้ามาอีก 18. เสร็จแล้วให้เราเลือกครึ่งมือ Selec ที่ 19. ใช้บรัชค่อยๆ ไล่แสงลงในพื้นที่ที่เรา ชุดแล้วปรับด้วยPerspective อีกครั้งโดย ใช้สำ�หรับกำ�หนดพื้นที่ด้วยเส้นตรงขึ้นมา เลือกไว้ แสงที่ได้จะมีขอบที่ฟุ้งนุ่มโดย ดึงให้หน้าต่างวางบนพื้นเพื่อเป็นแสงที่ ปรับ Feater ประมาณ 20 แล้วกำ�หนด ความฟุ้งของขอบจะขึ้นอยู่กับ Feater ตกกระทบบนพื้นค่ะ โดยเราต้องระวังให้ พื้นที่ให้เป็นลำ�แสงส่องออกมาจากหน้า ที่เราตั้งไว้แล้วได้ผลที่ไม่น่าพอใจก็ต้อง แสงตรงกับหน้าต่าง ซึ่งขั้นตอนนี้อาจต้อง ต่างค่ะ ขั้นตอนนีต้ ้องระวังให้องศาของ ตั้งค่าใหม่แล้วลองทำ�ซ้ำ�จะให้ดีคือลอง ลำ�แสงเรียงสวยที่สุด เพราะถ้าองศาเพี้ยน ดูก่อนว่าได้ความฟุ้งที่ต้องการแล้วรึยัง ทำ�แก้หลายครั้งต้องอาศัยความอดทน แสงที่ไ้ดจะดูหลอก ก่อนจะลงมือทำ�จริงค่ะ

20. ค่อยๆ ทำ�ลำ�แสงเพิ่มขึ้นทีละชั้นๆ 21. สุดท้าย เราอาจเคลือบเลเยอร์ของแสง โดยลำ � แสงที่ ทำ � ให้ มี ค วามแตกต่ า ง ด้วยสีต่างๆ ยิ่งเป็นกระจกที่มีหลากสีสี แต่ ล ะชั้ น จะทำ � ให้ ดู เ ป็ น ธรรมชาติ ของลำ � แสงก็ จ ะมี ห ลากหลายยิ่ ง ขึ้ น ซึ่ ง ยิ่งขึ้นค่ะ ลำ�แสงแต่ละชั้นเราอาจจะ เราอาจกำ�หนดสีของลำ�แสงตั้งแต่ตอน ปรั บ ความใสความจางเอาไว้ ต่ า งกั น เริ่มทำ�ลำ�แสงโดยทำ�ไปทีละสีก่อนหรือ ทำ�ทั้งหมดแล้วค่อยเคลือบทีหลังก็ได้เช่ นกันแต่หลักการโดยรวมของการทำ�แสง กระทบบนพื้นและการทำ�ลำ�แสงก็จะยัง คล้ายกัน ตามธรรมชาติ แ ล้ ว ลำ � แสงมั ก จะสะ ท้อนฝุ่นในอากาศ ซึ่งเป็นเสน่ห์อย่าง หนึ่งของภาพประเภทที่มีล�ำ แสงจัด ซึ่ง เราก็สามารถเพิ่มลงไปในงานได้เช่นกัน โดยการใช้บรัชเล็กๆบรรจงจุดลงไปบาง ๆฉาก ของเราก็จะดูเคลื่อนไหวยิ่งขึ้น




BRAND DESIGN GREYHOUND STYLE IS MATTER เราไม่ได้สร้าง แฟชั่น แต่เราสร้าง “สไตล์”


“เราทำ�ตัวให้โดดเด่น สร้างสิ่งที่แตกต่าง เป็นออริจินัล เหมือนกับคนเรา การจะเป็นดาราหน้าตาดีอย่างเดียว ไม่ได้ แต่ต้องแต่งตัวให้ดูเท่ ดูดี จากนั้นก็ไปเดินที่สยาม เพื่อให้เตะตาแมวมอง ก็เปรียบเหมือนสินค้า ที่ต้องทำ�ให้ มีคุณภาพ จับใส่แพ็คเกจจิ้งที่เท่ แล้วไปวางในพารากอน เอ็มโพเรี่ยม ถูกที่ถูกทางของมัน เท่านี้ก็เกิดได้” คุณภาพ ดีไซน์ และความแตกต่าง มันเป็นคีย์ซัคเซสของทุกธุรกิจ แต่เท่านั้นยัง ไม่พอผู้ประกอบการต้องเล่นกับมันไม่เลิก ต้องไม่ถอย ถอยไม่ได้ ความสำ�เร็จจะชดเชย ความมุง่ มัน่ ของเราเอง นอกจากนี้ ต้องมีเซนส์ในการทำ�ธุรกิจ ถ้าเดินทางตรงไม่สะดวก ก็ ต้องย้ายมาขวาบ้าง ซ้ายบ้าง สุดท้ายคือตัวเราต้องอยู่รอดให้ได้” เช่นเดียวกับ “ภาณุ อิงคะวัต” นายกสมาคมแฟชั่นดีไซเนอร์กรุงเทพฯ ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้ถือหุ้น บริษทั เกรย์ฮาวด์จ�ำ กัด เจ้าของแบรนด์ “greyhound” ทีม่ แี บรนด์แตกแขนง พวก ไปเป็น greyhound original, playhound by greyhound, hound เขาให้ and friends และธุรกิจร้านอาหาร greyhound cafe “เราต้อง ความสำ�คัญกับ ค้นให้พบว่าตัวตน greyhound คืออะไร พวกเราถนัดนำ� “วัฒนธรรมองค์กร” เสนอสไตล์ของการใช้ชีวิต พวกเราอาจตัดเสื้อผ้าไม่ ซึ่งเป็นตัวตนของแบรนด์ เป็นแต่พรีเซนต์ได้ พรีเซนต์ ไลฟ์สไตล์ในแบบ โดยยึดหลัก “stay small” คือ greyhound สไตล์แบบนี้ รูปแบบการใช้ ทำ�ให้ตัวเองเล็ก ต่อให้องค์กรจะ ชีวิตแบบนี้ เป็นสิ่งที่คน greyhound ใหญ่แต่ก็ต้องอยู่ให้เล็ก คือมีการทำ�งาน ชอบ พอจับตรงนี้ได้ ทำ�ให้เรามี ทีใ่ กล้ชิดกัน พนักงานกล้าพูด กล้าแสดง ความชัดเจนในแบรนด์มาก ความเห็น กล้าตัดสินใจ มีความเป็นเจ้าของร่วม ขึน้ ” แนวคิดการสร้าง กันรวมถึง “stay young” ประสาการทำ�ธุรกิจแฟชั่น แบรนด์ฉบับ เพราะถ้า “แก่” ก็ถึงเวลา “ตกยุค” ต้องทำ�ตัวเองให้ทัน Greyhound สมัย ทันเทรนด์ตลอดเวลาไไม่มีอะไรยาก ถ้ากล้าเริ่มต้น และ


เกรย์ฮาวน์ สำ�หรับซีซั่น สปริง/ซัมเมอร์ 2011 นี้ ได้แรง บันดาลใจจากชีวิตคนเมืองที่ไม่มีเวลาออกไปพักผ่อน และใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ทั้งที่ใจอยากจะไปข้างนอก คอลเลคชั่น“Wish you were here, Wish we were there”

จึงเกิ ด ขึ้ น เพื่ อ พาชี วิ ต คนเมื อ งกลั บ สู่ ธ รรมชาติ ใ น การเดิ น ทางท่ อ งเที่ ย วผจญภั ย ไปตามป่ า เขาและ ทะเลสาบที่สำ�คัญอย่าง ทวีปแอนตาร์กติกา ประเทศ อียิปต์ หรือหมู่เกาะกาลาปาโกส

รีบลงมือทำ� เพราะสนามนี้ยังมีช่องทาง ให้เรียนรู้ เหมือนที่ “บิก๊ แบรนด์” ก้าวผ่าน มันมาแล้ว

เทรนด์ใหม่ๆ ไม่วา่ จะเป็น ดูหนัง ฟังเพลง เรื่องสนุกกับแฟชั่น แต่ไม่ต้องบ้าแฟชั่น ขับรถมินิโฟล์ค

Greyhound ถือกำ�เนิดขึ้นในปี 2523 เริ่มจากเสื้อผ้าชายก่อน ถัดจากนั้นอีก 5-6 ปี จึงเพิ่มเสื้อผ้าผู้หญิง เกรย์ฮาว วาง Positioning ชัดเจนว่าเป็นเสื้อผ้า เรียบง่าย มีกลิ่นอายของแฟชั่นบ้าง เน้น กลุ่มคนทำ�งานศิลปะ มีทง้ั เสือ้ ใส่ท�ำ งาน วันหยุด และแฟชั่นหลุดโลก Playhound เป็นแบรนด์น้องใหม่ ที่แตกออกมาจาก Playhound เน้นกลุม่ เป้าหมาย ที่เด็ก ลงมาช่วงอายุ 20-28 ปี มหาวิทยาลัยปี สุดท้าย หรือเริ่มทำ�งาน เป็นคนโสดหรือ ถ้ า มี แ ฟนก็ เ ป็ น ประเภทที่ มี ห ลายคน ไม่ได้เป็นหนอนหนังสือ สนุกกับการที่ ได้ช้อปปิ้ง อยู่ในแวดวงศิลปะ ติดตาม

Grey เป็นแบรนด์ น้องใหม่ภายใต้ Greyhound Grpoupn สร้างขึ้นในปี 2547 เน้นตลาดส่งออกโดยเฉพาะ ยังคงมุ่งไป ยังลูกค้าที่อยู่ในแวดวงศิลปะ และแฟชั่น ร้าน Greyhound Cafe เป็นร้านกาแฟ และอาหาร เน้นการตกแต่งตามสไตล์ ยุโรป เรียบง่าย ไม่หรูหรา สาขาแรกเปิด ตัวขึ้นในปี 2540 อยู่ที่ห้างสรรพสินค้า เอ็มโพเรียม จากนั้นแตกขยายสาขาไป ตามห้างสรรพสินค้าไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ “แบรนด์เกรย์ฮาว เป็นสไตล์ มากกว่าเป็น แฟชั่นแบรนด์ หรือฟู้ดแบรนด์ เพราะ คำ�ว่า สไตล์ มันกว้าง พรุ่งนี้ผมอาจมี เครื่องสำ�อาง มีเฟอร์นิเจอร์ก็ได้”


“ต้องหาเอกลักษณ์ที่แตกต่าง ชัดเจน ดีไซน์ของเกรย์ฮาวจะเป็น แคทช่วล ไม่ว่าไปงานหรูขนาดไหน ผมไม่ต้องให้ลูกค้ากริ๊บเหมือนเดิน ออกมาจาก แฟชั่นแค็ตตาล็อก” ไม่เพียงสร้างชื่อในแวดวงโฆษณาให้รุ่นหลังๆ ได้จดจำ�มาแล้ว “ภาณุ อิงควัติ” ยัง

ได้สร้างตำ�นาน “เกรย์ฮาว” ให้ยืนหยัดอยู่ในธุรกิจแฟชั่นมายาวนานถึง 20 ปี และยัง แตกแบรนด์ ตอบสนองลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ภาณุ บอกว่า ผลงานเหล่านี้ เริ่มต้นมาตั้งแต่ สมัยเรียนกราฟิกดีไซน์ อยู่ที่ประเทศอังกฤษ เขาพบว่า สิ่งที่เขาชื่นชอบมี 3 อย่าง คือ ดู ภาพยนตร์โฆษณา เพราะสนุก ตลก มีอะไรให้ติดตามตลอดเวลา สอง-ติดตาม แฟชั่น เพราะชอบช้อปปิ้ง และสาม-นั่งตามร้านกาแฟ เพื่อดูผู้คน มีสีสัน มีเรื่องราว สนุกสนาน ที่เวียนมาให้ดู ความชอบเหล่านี้ ถูกแปรมาเป็น “อาชีพ” แทนที่จะทำ�งาน ด้าน “กราฟิกดีไซน์” ตามที่เรียนมา ภาณุ เลือกเส้นทางโฆษณาที่สามารถ แรง ตอบสนองทั้งความมั่นคง และให้ความรู้ใหม่ๆ กับเขา โดยเฉพาะเรื่อง กระตุ้น การตลาด การสร้างแบรนด์ ซึง่ นำ�มาใช้กบั ธุรกิจแฟชัน่ ทีภ่ าณุได้ลงขัน ในการคิด กับเพื่อนเปิดร้านเกรย์ฮาว หลังจากทำ�งานในธุรกิจโฆษณามาได้ การพัฒนา และ เพียงปีเดียว 20 ปี แห่งความสำ�เร็จความเกรย์ฮาว ทำ�ให้ ปรับปรุงสิ่งใหม่ตลอด ภาณุได้ข้อสรุปว่า ไม่ใช่เรื่องของงานออกแบบ หรือ เวลา เมื่อลงมือศึกษธุรกิจ ความคิดสร้างสรรค์ แต่เป็นเรื่องราวของ “ธุรกิจ แฟชั่นอย่างถ่องแท้ ใที่สุดภาณุ แฟชัน่ ” ทีต่ อ้ งมีเงือ่ นไขทางการตลาด การสร้าง ก็ได้ค�ำ ตอบว่า การทำ�ธุรกิจแฟชัน่ ไม่ แบรนด์เข้ามาเกีย่ วข้องไม่ใช่แฟชัน่ แต่เป็น จำ�เป็นต้องเป็นดีไซเนอร์ หรือนักออกแบบ การสร้าง “สไตล์” ความสำ�เร็จของ หรือต้องลงมือสร้างแพตเทิรน์ เอง เพราะธุรกิจ เขาทุกวันนี้ มาจากทัศนคติใน นี้สิ่งสำ�คัญอยู่ที่การสร้าง“สไตล์”แบรนด์เกรย์ฮาว การทำ�งานต้องทำ�ด้วย เป็นเรื่องของสไตล์ เราไม่ได้เป็นห้องเสื้อ ไม่ได้เป็น ความรัก ควาหลงใหล ร้านอาหาร เราเป็นไม่ได้เป็นแฟชั่นแบรนด์ แบรนด์เราขาย เสน่หา เพราะจะ สไตล์ นี้คือ สิ่งที่ผมนำ�เสนอได้ดีที่สุด” ส่งผลให้เกิด


“เกรย์ฮาวน์ ดูเหมือนเป็นงานพื้นๆ แต่ซ่อนลูกเล่น ไอเดีย ความสนุกอยู่ในแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ที่ร้าน อาหารที่เราออกแบบ”

ความรัก และทุ่มเท มีสไตล์ที่เป็นแบบฉบับของตัวเองแล้ว ไม่เพียงแต่ท�ำ ให้เขา สามารถสร้างแบรนด์ “เกรย์ฮาว์” ให้เป็นที่รู้จักในตลาดไทยเท่านั้น แต่ยังสร้างแบรนด์ เกรย์ฮาวสูต่ ลาดโลกได้ ซึง่ การไปถึงจุดนัน้ ได้จะต้องรูจ้ กั ตัวเอง และรูจ้ กั กลุม่ เป้าหมาย รู้จักตัวเอง คือ การรู้ว่าสไตล์ที่ถนัดและชอบคืออะไร ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจของตัวเอง หรือการทำ�งานใดก็ตาม ต้องศึกษา สไตล์ของบริษัทนั้นให้ดี และที่ส�ำ คัญ ทำ�แล้ว ต้องสนุก เพือ่ ทุม่ เทได้เต็มที่ ซึง่ ข้อสรุปนี้ เขาได้มาจากความล้มเหลวของ “เกรย์ฮาว” ในอดีต 10 ปีที่แล้ว จากการผันตัวเองไปทำ�แบบเสื้อสไตล์ญี่ปุ่น เพื่อต้องการตาม กระแสของแฟชั่นช่วงนั้น ผลปรากฏว่าล้มเหลวไม่เป็นท่า“ต้องหาเอกลักษณ์ที่แตก ต่างชัดเจน ดีไซน์ของเกรย์ฮาวจะเป็น แคทช่วล ไม่ว่าไปงานหรูขนาดไหน ผมไม่ ต้องให้ลูกค้ากริ๊บเหมือนเดินออกมาจาก แฟชั่น แค็ตตาล็อก” การสร้างสไตล์ที่เป็น แบบฉบับเฉพาะตัว ยังเป็นกุญแจสำ�คัญที่สร้างให้แบรนด์เกรย์ฮาวยืนหยัดมาได้ 25 ปี และยังแตกแบรนด์น้องใหม่อีก 3 แบรนด์ แม้ว่าจะมีคู่แข่งเกิดขึ้นมากมายเพียงใด ก็ตาม เมื่อรู้จักตัวเองแล้ว ก็ต้องรู้จัก “กลุ่มเป้าหมาย” ไม่ใช่รู้แค่ว่าเป็นผู้ชาย ผู้หญิง แต่ต้องรู้อายุ อาชีพไปจากการทำ�ตลาดสินค้าทั่วไป ซึ่งต้องมีการศึกษาลูกค้าอย่าง ถ่องแท้ ศึกษาจุดอ่อน และจุดแข็งของคู่แข่ง เพื่อนำ�มาใช้วาง Product Positioning ลูกค้าที่ทำ�งานธนาคาร หรือรับราชการ ใช้ชีวิตไม่เหมือนกับคนทำ�งานในวงการ ใน ศิลปะ ซึ่งหมายถึงเป็นลูกค้าเป้าหมายของเกรย์ฮาว ต้องรู้ว่ามีรายได้ ตลาดมา เท่าไหร่ และไลฟ์สไตล์เป็นอย่างไร ทำ�งานแล้วไปไหน ออกกำ�ลังกาย ได้ยาวนาน หรือเทีย่ วทีไ่ หน เพราะข้อมูลเหล่านีม้ ผี ลต่อการออกแบบ คอลเลก25 ปี แต่เมื่อทำ� ชั่นเสื้อผ้า รวมถึงทำ�เลในการเปิดช็อปถ้าเปรียบกับทฤษฎี ไปได้จุดหนึ่งลูกค้าก็ การตลาดแล้ว ไม่ต่างไปจากการสร้างจิตวิญญาณ เริ่มรู้สึกสับสน จนเป็นที่มา “แบรนด์” “ต้องชัดเจนว่าสไตล์เป็นอะไร จะเป็น ของการแตกแบรนด์ใหม่ Playแคชชวล หรือสปอร์ต โดยเฉพาะ ถ้าเปิดร้าน hound“เราเริ่มแบรนด์ Greyhound มา ใหม่ๆ อย่าหลายใจเพราะว่าลูกค้า จากการทำ�เสื้อผ้าตามตัวเราเอง คือ เป็น อยากได้ความชัดเจน ไม่เช่นนั้น กางเกงยีนส์ เสื้อยืด ง่ายๆ แต่พอเราอายุมากขึ้น เขาจะสับสน” ภาณุยกตัวเราต้องการเสื้อขาวไปประชุม ต้องมีแจ็กเกต พอทำ� อย่างของกรณีแบรนด์ ไปแล้ว เรารูส้ กึ ว่าลูกค้าเริม่ สับสน คนมีอายุ บอกว่าไม่ใช่ Greyhound ที่ แบรนด์ฉนั เด็กๆ ก็มาบอกนีไ่ ม่ใช่แบรนด์ฉนั เพราะมันไม่ชัดเจน” แม้จะอยู่


แบรนด์ Playhound ถูกสร้างขึ้นโดย ที่วาง Positioing ไว้ ชัดเจน จับกลุ่มเป้าหมาย ที่อายุระหว่าง 20-28 ปี “ถามว่า กลุ่มเป้าหมาย แคบมั้ย...แคบ แต่ก็เป็น ช่องว่างในตลาด เป็นคนที่มองมองหา สไตล์ก่อนราคา และคุณภาพ เป็นคน สนุกกับการใช้ชวี ติ ยังไม่บา้ งานมากชอบ เที่ยวต่างจังหวัด คอลเลกชั่นของเรา ต้องมีขาสั้นเยอะ เป็นคนเที่ยวกลางคืน แน่ๆ ต้องมีชุดออกไปโชว์ ออกงานได้” ข้อมูลผู้บริโภคเหล่านี้ ถูกนำ�มาใช้ใน การออกคอลเลกชั่นใหม่ๆ ของแบรนด์ Playhond ซึ่งทุกคอลเลกชั่นจะมีเรื่อง ราวของการทดลองศิลปะ มีความสนุก สนาน เขายกตัวอย่าง คอลเลกชัน่ ปัจจุบนั ที่นำ�กระดาษมาเป็นวัตถุดิบร่วม ยิ่งซัก ไปเรือ่ ยๆ กระดาษจะยิง่ เปลีย่ นรูปไปเรือ่ ยๆ เหมือนกับได้สวมใส่เสื้อผ้าใหม่ใส่ทุกวัน สร้างคอลเลกชั่นกว่าจะได้แต่ละ “คอลเลกชัน่ ” ทีมงานต้องทำ�การบ้านเสาะแสวง หาหาข้อมูล ดูนิทรรศการ อ่านหนังสือ เที่ยวผับ จากนั้นจึงนำ�กลับมาแชร์ข้อมูล เพื่อนำ�สร้างเป็นคอนเซ็ปต์สไตล์ เขา ยกตัวอย่าง คอลเลกชั่น “โอเรียลตัล เอ็กซเพรสของ เกรย์ฮาว ที่วางขายอยู่ ในช่วงที่ผ่านมา ได้มาจากแรงบันดาล ใจในการท่องเที่ยวอินเดียตอนเหนือ ซึง่ ใช่วา่ จะนำ�มาใช้ได้ทง้ั หมด ต้องประยุกต์ ให้เหมาะกับสไตล์ของเกรย์ฮาว อย่างเช่น “ถ้าเราจะทำ�เสื้อผ้าสไตล์แขก เราจะทำ� แขกเต็ม100% ไม่ได้ เพราะเรามีสไตล์ ของเราอยู่ในนั้น โจทย์ คือ ทำ�อย่างไร

ให้มีความเป็นโมเดิร์นให้ได้”ไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิตของฝรั่งในเมืองอินเดียเหนือ คือคำ�ตอบ ที่ถูกนำ�มาใช้เป็นส่วนผสม ของการสร้างคอลเลกชั่น “ชีวิตในบ้าน ฝรั่งในอินเดียเหนือ เขามีบัทเลอร์ประจำ� บ้านแต่งตัวยังไง มีคนขับรถ มีอุปกรณ์ ของตกแต่ง เครื่องใช้ไม้สอย กระดุม ถ้าไปเที่ยวจะแต่งตัวอย่างไร ไปเอาเสื้อ เก่าของอินเดียมาดูว่าเขาย้อมสียังไง มี ความด่างยังไง ผ้าพื้นเมืองของเขามี เทคนิคอย่างไร”

“สำ�หรับผม เกรย์ฮาวน์ นำ�เสนอ Certain Style มากกว่าการออกแบบ เสื้อผ้า เกรย์ฮาวน์ เป็นสไตล์ๆ หนึ่ง ร่มของผมคือสไตล์”

ข้อมูลเหล่านี้ถูกแปรเป็นเทคนิคที่ใช้ใน การทำ�คอนเซ็ปต์บุ๊ก ซึ่งเปรียบเสมือน เป็นแผนที่ ใช้ในการสร้างคอลเลกชั่นใน การทำ�งานตลอด 6 เดือน เปรียบเสมือน เป็น “ไบเบิล”เพือ่ ไม่ให้หลุดไปจากคอนเซ็ปต์ แม้จะต้องสร้าง “คอลเลกชั่น” ใหม่ๆ ตลอดเวลา แต่ตอ้ งไม่ทง้ิ “ลุค”เก่า ทีเ่ ป็น เอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น “กอมเดกักซอง” จะมีกางเกงทรงเดิมปนอยูท่ กุ คอลเลกชัน่ หรือ Prada ทีต่ อ้ งมีกระเป๋าพลาสติกอยูด่ ว้ ย ตลอดเวลาไม่วา่ จะเปลีย่ นไปกีค่ อลเลกชัน่ แล้วก็ตาม ภาณุ เชื่อเสมอว่า การเป็นดีไซเนอร์ หรือครีเอทีฟที่ดี ต้องเป็นคนช่างสังเกต มองเห็นการเปลี่ยนแปลง การใช้ชีวิต ของลูกค้า รู้ทันว่าโลกเขาทำ�อะไรกันอยู่


Project 1.1 by Greyhound

A perfect collaboration between The Mall Group and Jitsing Somboon of Playhound results in affordable, cool and functional menswear.


ศิลปินคนไหนกำ�ลังดัง “ลูกค้าซื้ออะไร น้อยลงหรือมากขึน้ ต้องสังเกตใส่ใจใน รายละเอียด ทัง้ ของเราเองและของคูแ่ ข่ง ดูวา่ ดีกว่าเรายังไง ต้องรู้จัก Buyer คือ คนที่มาซื้อเสื้อผ้าของคุณไปขายในร้าน ของเขา จะเห็นเลยว่า Buyer ที่เป็น ญี่ปุ่น เขาไม่ได้ดูเสื้อผ้าสวยหรือเปล่า แต่เขาจะดูละเอียด ตะเข็บเป็นยังไง กุ๊นหรือไม่กุ๊น รายละเอียดเหล่านี้ คือสิ่งที่ทำ�ให้เกิด แตกต่าง ซึ่งเป็นคุณสมบัติส�ำ คัญ ของดีไซเนอร์ แน่นอนว่า คน เหล่ า นี้ ต้ อ งมี จิ น ตนาการ “ผม แต่ท่ีจะขาดไม่ได้ต้อง พู ด กั บ นักปฏิบัติด้วยเพื่อ ดี ไ ซเนอร์ ใ น ทำ � ให้ ฝั น ให้ ออฟฟิศเลยว่าไม่มี เป็นจริง ประโยชน์อะไรที่จะออกแบบชุดเจ้าสาวทีส่ วยทีส่ ดุ ในโลก แต่เสร็จหลังวันวิวาห์” ความเป็น นักแก้ปัญหา ที่สามารถพลิกวิกฤตให้ เป็นโอกาส เป็นอีกคุณสมบัติที่ดีไซเนอร์ ต้องมี และต้องมาควบคู่กับการเป็น นักวางแผน ทีต่ อ้ งทำ�งานอย่างเป็นระบบ มีวินัย “ใครคิดว่า ศิลปินต้องเละเทะ เป็นคนไม่มีระเบียบ คิดใหม่เลยนะครับ อาร์ ต ทิ ส รุ่ น ใหม่ ต้ อ งเป็ น คนมี ร ะบบ เพราะเราทำ � ตลาดกั บ ต่ า งประเทศ” ความมีวนิ ยั และทำ�งานเป็นระบบ ส่งผล ไปถึ ง การก้ า วไปสู่ ก ารทำ � ธุ ร กิ จ แบบ “โกอินเตอร์” ซึ่งการเข้าสู่แฟชั่นโลกนั้น จำ�เป็นต้องมีช่วงเวลาที่กำ�หนดไว้อย่าง ชัดเจน “เวลานี้เราเตรียมตัวสำ �หรับฤดูใบไม้ ร่วงแล้ว ซึ่งหมายถึงว่า เราต้องทำ�งาน ล่วงหน้า 12 เดือน เพราะในตลาดแฟชั่น โลกเขาจะมีระบบขายผ้า 8 เดือนล่วงหน้า

จากนั้น ต้องนำ�สินค้า ไปขายในงาน เทรดแฟร์ เขาจะให้เวลา 3 เดือน ผลิตสินค้าตัวอย่าง รับ ออเดอร์ ถึงจะวางขายได้ทกุ อย่าง มันเป็นระบบ” สรุปสุดท้ายของการอยู่ ในธุรกิจแฟชั่น การมีความรักในการแต่งตัวเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเรียนรู้ รูปแบบของธุรกิจ ติดตาม Trend ใหม่ “ When you reach for the star, you may not quite get one, but you will not come with a hand full of mud either.” เจาะลึกปรัชญา 4 ข้อ ที่เปรียบเสมือน แนวทางที่ผู้บริหารเกรย์ฮาวน์สร้างและ พัฒนาสืบเรื่อยมาจน เป็นขุมทรัพย์แห่ง องค์กรที่มีแนวทางเฉพาะตัว ไม่ซ้ำ�ใคร ซึ่งเป็นคุณค่าจากความแตกต่างที่พวก เขาสร้างขึ้นเรื่อยมา เริ่มแรกเกรย์ฮาวน์ มีหุ้นส่วน 4 คน เงินทุนคนละประมาณ 250,000 บาท ภาณุเล่าว่า ทั้งหมดไม่มี ใครจบแฟชั่นดีไซน์ ตัวเขาเองจบกราฟฟิคดีไซน์ คนหนึ่งจบครู คนนึงจบโฮมอี โคโนมี อีกคนจบด้านเลขาฯ แต่ทุกคน ล้วนมีสิ่งที่เหมือนกัน คือ ชอบแฟชั่น ชอบการแต่งตัว และที่สำ�คัญอยากทำ� อะไรร่วมกัน ซึ่งผลลัพธ์ก็คือธุรกิจร้าน เสื้อผ้าแบรนด์เกรย์ฮาวน์ เริ่มด้วยขาย เสื้อผ้าผู้ชายเพียงอย่างเดียว แนวแรกที่

สำ � หรั บ หน้ า ร้ อ นนี้ แ ล้ ว อดที่ จะคิดถึง Playhound ss09 ไม่ได้


“ วัตถุดิบสร้างแรงบันดาลใจ มีอยู่รอบตัว จากนวนิยายวิทยาศาสตร์ สู่คอนเซปต์ Metropolis “

“Metropolis”เป็นคอนเซปต์ท่ี project1.1 autumn/winterr2011 ได้แรงบันดาลใจ มาจากหนังสือเรื่อง “Metropolis”

ทำ�คือ street casual chic เรียบ เท่ ง่าย ภายใน ปีเดียว ก็ได้เงินทุนคืน ภาณุทำ�ธุรกิจร้านเสื้อผ้าคล้าย งานอดิเรก ทีเ่ ป็นโอกาสได้เป็นเถ้าแก่ ไปพร้อมๆ กับการเป็นลูกจ้าง เจาะลึก ปรัชญา 4 ข้อ ที่เปรียบเสมือนแนวทาง ที่ผู้บริหารเกรย์ฮาวน์สร้างและพัฒนา สืบเรื่อยมาจน เป็นขุมทรัพย์แห่งองค์กร ที่มีแนวทางเฉพาะตัว ไม่ซ�้ำ ใคร เหมือน กับสินค้าต่างๆ ของพวกเขา Stay small ฟังดูเหมือนแบรนด์เราใหญ่ แต่ความจริงก็ยังค่อนข้างเล็กอยู่ ยังมี สิ่งที่ต้องพัฒนา อันนี้ก็อาจเป็นปรัชญา ของเรา เราอยากเป็นบริษัทเล็กเสมอ สิง่ ทีเ่ ราชอบก็เพราะ ทำ�งานกันง่าย ขัน้ ตอนน้อย พูดกันใกล้ๆ ไม่ตอ้ งข้ามไปมา หรือวันทีเ่ ราตัดสินใจว่าจะเป็นร้านอาหาร เราเลือกที่จะแยกออกมา เพื่อจะเกิด ความคล่องตัว ชัดเจน แล้วก็ท�ำ ให้แต่ละ บริษัทกลายเป็นบริษัทเล็กเสื้อผ้าต่อให้ มาอยู่รวม ก็พยายามแบ่งให้มันชัดเจน มี 3 ทีม แต่ละทีมเรียกว่า แบรนด์ทีม ประกอบด้วย ดีไซเนอร์ โปรดักชั่นทีม เมอร์แชนไดเซอร์ ช็อปออปเปอรเรชั่น แต่ละทีมก็จะรูร้ ายละเอียดลึกซึง่ ทัง้ หมด ทั้งปัญหา คอมเมนต์ต่างๆ Basic with a Twist เราชอบอะไรง่ายๆ ธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา แอบมีแตกต่าง ลูกเล่นซ่อนอยู่ในรายละเอียด นั่นคือ สิ่งที่เราชอบ ผมตัดแพทเทินเสื้อไม่เป็น แต่โชคดีที่ผมผ่านเอเจนซี่ ที่ซึ่งสอนให้ มองแบรนด์ใหม่ เราไม่ใช่พี่ไข่ ต้องมา ถามตัวเอง สิ่งที่เราเป็นดีที่สุดคือเรา

นำ�เสนอสไตล์ นำ�เสนอดีไซน์ ซึ่งเรียกว่า สไตล์แบบเกรย์ฮาวน์ เรารวมสไตล์ทช่ี อบ ร้านอาหารก็ใช้สไตล์ เป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ นำ�เสนอการใช้ชีวิตแบบเกรย์ฮาวน์ ซึง่ ก็ เปิดกว้างความเป็นตัวเรามากขึ้น และ สามารถขยายตัวต่อไป Forever young เราอยู่ในเทรนด์ เราแก่ ไม่ได้ เคยมีคนมาบ่นว่า “เมื่อก่อนเคย เป็นลูกค้ามาตั้งแต่ เกรย์ฮาวน์ เปิดร้าน มาบ่นว่าทำ�ไมเสื้อผ้าวัยรุ่นมาก ใส่ไม่ได้ แล้ว” ก็แอบคิดในใจ คุณสิเปลีย่ นไป แก่ลง อ้วนขึน้ เป็นเรือ่ งทีช่ ว่ ยไม่ได้ ความสำ�เร็จ มาพร้อมเงินในธนาคารและเส้นรอบวงเอว ที่มากขึ้น ลูกค้าเหล่านั้นก็ผลัดไป สิ่งที่ ต้องคำ�นึงคือ จะทำ�อย่างไรให้ลูกค้าใหม่ เข้ามา นับว่าเราผ่านพ้นการเป็นแบรนด์ ตกยุค ความพยายารักษาดูแลตัวเองทำ�ให้ ผ่านจุดนัน้ มาได้ วิธีการทำ�ได้สองอย่าง 1. ตัวเราเอง ต้องขวนขวายให้ทันต่อยุค ต่อสมัย ผลักดันตัวเองเสมอ 2. เอาเลือดใหม่เข้ามา บริษัทจำ�เป็นต้อง เปิดโอกาสรับคนรุ่นใหม่ที่จะมาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และคนรุ่นเก่าเองก็จะ เกาะกุมจิตวิญญาณแบรนด์ The right team ไม่มใี ครทำ�งานคนเดียว ต้องมีทมี ทีพ่ ดู จาภาษาเดียวกันรูเ้ รือ่ ง ชอบ คล้ายๆกัน เชือ่ ว่าทุกองค์กรมีผเู้ ชีย่ วชาญ เฉพาะทาง แต่รหู้ รือไหมว่า ภายใต้ความเชีย่ วชาญของแต่ละคน ยังมีความสามารถ บางอย่างซุกซ่อนอยู่ ทั้ง Social Role, Self-image, Trait, Motive ซึ่งบอกได้ ทุกอย่าง ทั้งนิสัยใจคอ ชอบทำ�งาน คนเดียว หรือทีม เพราะรวมหน้าที่ความรับผิดชอบด้านสังคมขององค์กรทีๆ่ รวม กัน ฉะนัน้ ต้องมีสงั คมทีน่ า่ อยู่ แต่บางครัง้ คนสัมภาษณ์มักลืมว่ากำ�ลังมองหาอะไร เราต้องรู้ทุกอย่าง


A perfect collaboration between The Mall Group and Jitsing Somboon of Playhound results in affordable, cool and functional menswear.

Project 1.1 by Greyhound


บทสัมภาษณ์ สุด EXCUSIVE กับ คุณ ภาณุ เจ้าของ แบรนด์ GREYHOUND

“ความสนุกของผม คือ การได้ สร้างสรรค์ไอเดีย เกรย์ฮาวน์ เองก็ให้โอกาสผมสร้าง ไอเดียใหม่ๆ ตลอด ภาณุ เวลา เท่ากับที่ อิงควัติ ผมทำ � อยู ่ ใ น จบการศึกษา ลี โ อเบอร์ ด้ า นกราฟิ ก ดี ไ ซน์ เนทท์”

จากประเทศอังกฤษ ใช้ ชีวิตในวงการโฆษณามา 25 ปี ตำ�แหน่งสุดท้าย ประธานบริษัท ลีโอ เบอร์เนท นอกจากได้การยอมรับใน ธุรกิจโฆษณาแล้ว ภาณุยังสร้างชื่อใน ธุรกิจแฟชั่น ที่เขาให้เวลากับธุรกิจ นี้อย่างเต็มตัวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา กับ การสร้างแบรนด์เกรย์ฮาว ที่เขาร่วมกับ เพื่อนก่อตั้งขึ้นในปี 2523 ทุกวันนี้ภาณุ ยังรับหน้าที่เป็นครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ ทั้ง 4 แบรนด์ เกรย์ฮาว, เพลย์ฮาว, เกรย์ และร้านเกรย์ฮาวคาเฟ่ Dzine: Creativity คืออะไร ภาณุ: คำ�ถามแรกก็รุนแรงเลยนะครับ Creativity ก็คือความคิดสร้างสรรค์ ซึ่ง มันอยู่ในตัวเราและเราก็จำ�เป็นต้องหยิบ มันมาใช้เมื่อเวลามาถึง มันจะส่งผลให้

สิ่งที่เราทำ�มันมีความตื่นเต้น แปลกตา หรือแปลกใหม่ออกไป Dzine: ก่อนทีจ่ ะมาทำ�งานและเริม่ เรียน ค้นพบตัวเองแบบไหนว่าเป็นคนอย่างไร และชอบอะไรในชีวิต ภาณุ: ตอนนั้นตอนเรียนโฆษณาอยู่ที่ อังกฤษ ผมเป็นคนที่ชอบอยู่ 3 อย่าง โฆษณาเป็นสื่อที่ตลกมาก มีการสื่อสาร ที่มีแง่มุมที่แปลก สามารถพูดกับคนดู ได้ อ ย่ า งสนุ ก สนานหรื อ มี มุ ม มองที่ น่าสนใจ ผมก็ชอบโฆษณา ช้ อ ป ตั้งแต่ต อนนั ้ น และ เสื้ อ ผ้ า ผมก็ เ ป็ น คน แฟชั่น แต่ผมไม่ ชอบ ได้เรียนทางแฟชั่นโดยตรง Dzine: ตอนนั้น ตอนที่ชอบ 3 อย่างนี้ ได้เห็นหรือยังครับว่าอาชีพของ เราจะทำ�อะไรดี ภาณุ: ไม่ได้มองเลยครับ ก็บังเอิญมาถึง ก็ได้งานที่บริษัทโฆษณา หลังจากทำ�อยู่ ดิฉันแป๊บหนึ่ง ดิฉันก็ถือว่าเป็น Communication อย่างหนึ่ง เพราะเราไม่ ได้ท�ำ Fine Art หรืออะไร มันเป็นการ สื่อสารทั้งนั้น ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี ได้รจู้ กั กลุม่ ตลาดทีเ่ ขามองอยู่ เราจะเห็น ว่าปกสำ�คัญอย่างไรในการขายหนังสือ มันจำ�เป็นต้องสื่อสารหรือดึงดูดให้คน อยากมาหยิบเราจากแผงหนังสืออย่างไร และพอมาเข้าถึงบริษทั โฆษณายิง่ ได้เรียนรู้ เยอะมาก เรือ่ งของการสร้างแบรนด์ หรือ การสื่อสารแบบมี Objective หรือมี จุดมุ่งหมายที่ชัดเจน ก็ท�ำ ไปไม่ได้คิด อะไร Greyhound ก็เกิดขึ้นมาหลังผม อยู่ในบริษัทโฆษณาได้ปีกว่าๆ เปิดร้าน Greyhound เหมือนงานอดิเรก Dzine: ทำ�ไมชื่อ Greyhound ครับ ชอบสุนัขพันธุ์นี้หรือ ภาณุ: มันจำ�เป็นที่จะต้องเปิดร้านแล้ว แต่ยังไม่มีชื่อ แล้วก็เลยช่วยกันเขียนชื่อ


คนละ ชื่อ 2 ชื่อ แล้วหยิบออก มา พอดีมชี อ่ื นีข้ น้ึ มาแล้ ว ทุ ก คนรู้ สึ ก ว่ า มันดีจังเลย เพราะมันเป็น สุ นั ข พั น ธ์ุ ที่ ป ร า ด เ ป รี ย ว ดู Elegant มาก ดูมีรสนิยมมากเป็น สุนัขที่ดูเก๋ไก๋มาก เป็สุนัขที่เร็วที่สุดด้วย Dzine: Guru ในเชิง Creative หรือ Guru ที่คุณภาณุยกย่องคือใคร ภาณุ: ก็หลายคน คนหนึ่งที่สำ�คัญมาก สำ�หรับผมคือ Mr. Leo Burnett จริงๆ ผมจบ Graphic Design มาไม่ได้รู้เรื่อง เกี่ยวกับโฆษณามามากมาย ตอนนั้นก็ ถามตัวเองเสมอว่าโฆษณาคืออะไร มัน เป็นการจัดรูปแบบให้สวยงามเฉยๆหรือ คำ�ว่าสื่อสารมันแปลว่าอะไรก็ยังไม่เข้าใจ ก็เลยอ่านหนังสือของคุณ Kiwi และของ Leo Burnett มุมมองของความเป็นคน เขาเยอะมาก ความเป็นทฤษฎีเขาก็มี แต่ ว่ า เขาเอาทฤษฎี เ ข้ า มารองรั บ คน มากกว่า ตัวเขามีความเป็นคนเยอะ มี ความเป็น Human สูงมาก ผมได้เรียนรู้ ได้รู้ปรัชญาการทำ�งาน ความเชื่อของ เขาเยอะซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ผมได้ดี Dzine: ถ้าเป็นประโยคๆหนึ่งที่เป็นของ Mr. Leo Burnett ประโยคไหนที่จำ�ไว้ เลยที่จะยึดไว้เป็นคำ�คมเลย ภาณุ: ถ้าทำ�งานที่มีคุณภาพแล้ว ธุรกิจ จะมาเอง อย่าไปห่วงแต่เรื่องของธุรกิจ Dzine: คุณสมบัติของ Creative ที่ดี ต้องเป็นอย่างไรครับ ภาณุ: ต้องทันต่อสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะเราอยู่ในกลุ่มที่ต้องตามกระแส นิดนึง เราต้องรู้ว่าคนกำ�ลังสนใจเรื่อง อะไรกัน สองความสามารถในการจัด ระบบในสมอง วิธีการที่จะแยกแยะทำ�

ความเข้าใจกับโจทย์อย่างไร หยิบตรง ไหนของโจทย์มา แล้วมาตอบคำ�ถามมัน Dzine: คำ�ถามสำ�คัญกว่าคำ�ตอบ มีหลัก ในการตั้ ง คำ � ถามอย่ า งไรครั บ สำ � หรั บ Creative Person ภาณุ: ผมว่าถามไปได้เรื่อยๆ ถามไป ทุกมุม เพราะคำ�ถามมันจะนำ�มาซึ่งทาง ออกใหม่ๆ บางทีเราอาจจะไปเจออะไร ทีเ่ ราไม่ได้คดิ ว่ามันจะอยูใ่ นเรือ่ งนั้น การถาม จะไปเปิดประตูความคิดเราไปเรื่อยๆ หลักการตั้งคำ�ถามของ Creative ผม ว่าถามได้เรื่อยๆ ถามไปทุกมุม เพราะ คำ�ถามมันจะนำ�มาซึ่งทางออกใหม่ๆ Dzine: คอนเซ็ปต์ของ Greyhound คือ อะไร? ภาณุ: เราไม่ได้เป็น Fashion Designer อย่างที่คนอื่นเขาเป็นกัน เราเป็นอะไร เราก็มาได้ข้อสรุปว่าเราเป็น “ผู้น�ำ เสนอ สไตล์” เพราะเราชอบหยิบโน่นมาผสม นี่ออกมาเป็นคอลเลคชั่นขึ้นมาตามที่เรา ชอบ มันไม่ได้จ�ำ กัดตัวเองให้เป็นแฟชั่น หรือเสือ้ ผ้าอย่างเดียว เราก็คอ่ ยๆ พัฒนา ตัวเองไปในรูปแบบต่างๆ ที่มันเกี่ยวกับ เรื่องของสไตล์ซึ่งสอดคล้องไปกับสไตล์ ของ Greyhound Idea Basic with a Twist = การหยิบเอา ของง่ายๆ รอบตัวเรามาเติมรายละเอียด ลูกเล่นให้เกิดไอเดียใหม่ๆ ขึ้นมา Dzine: อย่างความคิดของ Paul Smith เขาก็มีความคิดคล้ายๆ แบบนี้ ภาณุ: ใช่ครับ Paul Smith เขาก็เป็นคน ที่จบมาทางด้านกราฟฟิคเหมือนกัน เขา ก็มีความรู้เรื่องนี้ดี เขาเก่งมาก สามารถ ดึงเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆ ตัวเขา มาทำ�เป็นผลงานได้ดีมาก Dzine: ต่อยอดจาก Greyhound ร้าน เสือ้ ผ้า มาสูร่ า้ น Greyhound ร้านอาหาร

เรื่องความสวยงามนั้นใครก็แต่งร้านให้ สวยได้ เพราะมี Food Stylist แต่ทำ� อาหารได้อร่อย สามารถ deliver ออก ไปได้หรือเปล่า พ่อครัวทำ�ได้อย่างนั้น ไหม และกินสาขาไหนๆ ก็อร่อยเหมือน กันหรือเปล่า ภาณุ: ใช่ นี่คือความแตกต่างของ 2 ธุรกิจ คือเสื้อผ้า กับร้านอาหาร อย่าง ร้านเสื้อผ้านั้นลูกค้าเดินเข้ามาในร้าน เพื่อดูว่าเมื่อไหร่จะมีของใหม่ออก แต่ ร้านอาหารลูกค้าเดินข้ามาเพื่อคาดหวัง สิ่งที่เหมือนเดิมทุกอย่าง กาแฟของฉันต้องร้อนเท่าเดิม สปาเก็ตตี้ ของฉันต้องรสชาติเดิม มันเป็น 2 ธุรกิจ ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เรื่องอาหาร เป็นเรื่องของความคงที่ของมาตรฐาน เป็นสิ่งที่สำ�คัญมาก Different ร้านเสื้อผ้านั้นลูกค้าเดินเข้ามาในร้าน เพื่อดูว่าเมื่อไหร่จะมีของใหม่ออก แต่ ร้านอาหารลูกค้าเดินข้ามาเพื่อคาดหวัง สิ่งที่เหมือนเดิมทุกอย่าง Dzine: มีไปยังต่างประเทศหรือยังครับ ภาณุ: เสื้อผ้ามีไปขายต่างประเทศแล้ว ครับ แต่อาหารนั้นยากกว่าเยอะ เพราะ เป็นเรื่องของรสชาติที่ต้องคงที่จริงๆ มี คนติดต่อมาเยอะ ทั้งสิงคโปร์ ทัง้ ฮ่องกง แต่อยูท่ เ่ี ราว่าเราพร้อมเมือ่ ไร เราค่อยไป เรายังไม่เร่งรีบ


ARTc of

MUSICa Design


David Bailey kiosk


Big Active นับเป็นเวลาร่วม 100 ปีตั้งแต่อัลบั้ม Nutcracker Suite ของ Tchaikovsky ถูกบรรจุอยู่ ในแพ็กเกจที่สั่งทำาเป็นพิเศษในปี ค.ศ.1909 มีการถกเถียงกันว่านี่อาจจะกล่าวได้ว่าเป็น ปกอัลบั้มแรกที่ถูกดีไซน์ออกมา ซึ่งหลังจากนั้นกระบวนการสร้างสรรค์นี้ก็ได้การพัฒนา ขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลากหลายงานทำาให้ดีไซเนอร์ที่ออกแบบกลายเป็นที่รู้จักอย่างเช่น Peter Savil e และ Nevil e Brody เมื่อวงการเพลงขับเคลื่อนตัวเองเข้าสู่ยุคดิจิทัล ที่ใครๆก็สามารถสั่งซื้อเพลง ออนไลน์ เหล่าหน้าปกซีดีที่เต็มไปด้วยไอเดีย จะถูกย่อลงมาเหลือแค่ thumbnail จิ๋วๆ บน itune แค่นั้นหรือ Suzie Webb ฟรีแลนซ์จากออสโลมองว่าความเปลี่ยนแปลงนี้เป็นสิ่งที่ทุกคน ไม่ควรมองข้าม“ตอนนี้ดูเหมือนว่าชิ้นงานที่จับต้องได้ในแวดวงดนตรีอย่างซีดีกำ าลัง ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง แต่ถ้าเราลองคิดอีกแบบมันก็เป็นการเพิ่มช่องทางให้กับ ดีไซเนอร์อย่างเราเหมือนกันนะ เพราะทั้ง MySpace เว็บไซต์ของวงดนตรี วิดีโอบน โลกออนไลน์ที่ต้องการดีไซน์”

01

04

02


01 02 03

04

ปกอัลบั้มของ Keane ออกแบบโดย Big Active และ นักวาดภาพประกอบ Sanna Annukka ในทุกอัลบั้ม

งานของ Sanna Annuka หนึ่งในนัก ออกแบบของ Big Active ที่มีสไตล์ งานที่โด่ดเด่นด้วยภาพประกอบ

Suzie Webb

Freelance

03

แต่ Webb ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่พร้อมที่จะโยนบรรดาอัลบั้มที่เก็บสะสมไว้ทิ้งไป “ฉันยังคงรักที่จะเก็บแผ่นเสียงหรืออัลบั้มที่เราสามารถ หยิบจับได้อยู่ดี ฉันชอบความเป็นแพ็กเกจ และชอบมองปกอัลบั้มไปด้วยระหว่างฟังเพลง ฉันมีคอลเล็กชั่นของแผ่นเสียง และไฟล์เพลง ในแบบดิจิทัล ฉันว่าทั้งสองอย่างมีข้อดี และข้อเสียในตัวมันเอง แต่ถ้าถามกันจริงๆ ฉันรู้สึกว่าท่ามกลางยุคดิจิทัลแบบนี้ ภาพของปก ซีดีมันค่อยๆเลือนหายไปมาสักระยะหนึ่งแล้ว” David Bailey อดีตทีมงานของ Design Republic ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ Kiosk เอเจนซี่ในเมืองเชฟฟิลด์ ก็เป็น อีกคนที่ออกตัวว่า สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาได้มากที่สุดคือการออกแบบปกอัลบั้ม Bailey ย้อนเล่าถึงโปรเจคล่าสุดที่เขาได้ทำาให้ The Automatic “แฟนเพลงส่วนใหญ่ของวงนี้จะอายุประมาณ 15-25 ปี พวกเขาจะซื้อของทุกอย่างเพื่อที่จะแสดงให้รู้ว่าเขาเป็นแฟน ตัวจริง ผมว่าแฟนเพลงที่เหนียวแน่นกับวงดนตรีจริงๆ เขาจะซื้ออัลบั้มอยู่แล้วมันเหมือนกับการที่แฟนฟุตบอลใส่ผ้าพันคอไปนั่งอยู่บน อัฒจันทร์ ทั้งๆ ที่มีการถ่ายทอดสดทางทีวีที่สะดวกกว่าตั้งเยอะ ซึ่งเรื่องแบบนี้มันขัดแย้งกับวงการดนตรีที่ลงความเห็นเกี่ยวกับนิสัย การซื้อซีดีของกลุ่มวัยรุ่นนะ” Bailey ยืนยันด้วยว่าการออกแบบปกอัลบั้มให้ออกมา ‘ดี’ ไม่มีสูตรตายตัว “ถ้าคุณสามารถเชื่อมโยงตัวตนของอัลบั้ม และ ยังมีความหมายแอบแฝงไปด้วยคุณก็เดินมาถูกทางแล้วล่ะ” เขาเริ่มแนะก่อนบอก “ ปกอัลบั้มนั้นควรจะช่วยส่งจินตนาการของคนฟัง อย่างผมก็ได้แรงบันดาลใจกองโตจากความเรียบง่ายของเจ้าวัวที่อยู่บนปกอัลบั้มของ Atom Heart Mother พอๆกับที่รู้สึกดีมากๆ กับ มือสองข้างที่ถูกบรรจงออกแบบลงบนปก We Are The Night ของ Chemical Brothers”


Garard Saint

“ความไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร คือสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดสำาหรับผม ส่วนเรื่องการทำางานคนอื่นอาจคิดว่า ‘กรอบ’ หรือ ‘หลักเกณฑ์’ ในการทำางานนั้น สำาคัญที่สุด แต่สำาหรับผมแล้ว ‘สัญชาตญาณ’ เป็นสิ่งสำาคัญ ปกอัลบั้มที่ผมชื่นชอบมัก จะเป็นอัลบั้มของนักดนตรีที่ผมนับถือผลงานของเขา ถ้างานของพวกเขาสามารถกินใจ ผมได้ ผมก็อยากให้เขารู้สึกเช่นเดียวกันกับงานของผม” Garard Saint ผู้ก่อตั้งและครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ Big Active เอเจนซี่ที่กวาด รางวัลมานับไม่ถ้วน พ่วงด้วยพอร์ตโฟลิโอที่โด่ดเด่นอย่างปกอัลบั้มของ Beck, White Lies, Architecture in Helsinki, Museและ Snow Patrol สำาหรับ Saint แล้วชิ้นงานที่ จะออกมานั้นต้องถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ร่วมของผู้ฟัง Big Active ชนะรางวัล D&AD Yellow Pencil เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาด้วยปก DIY ของอัลบั้ม The Information ของ Beck แต่ Saint กลับรู้สึกว่าการแบ่งประเภท ของงานนั้นควรจะต้องมีการปรับเปลี่ยนเสียใหม่ “การออกแบบกับธุรกิจดนตรีเดี๋ยวนี้มันไม่ใช่แค่การออกแบบปกอัลบั้มปกเดียว แล้วก็เสร็จเรื่อง เพราะดิจิทัลมีเดียทำาให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ถ้าจะแบ่งประเภทงานให้ ดูสมเหตุสมผลซะใหม่ D&AD ก็ควรทบทวนว่าการออกแบบสำาหรับธุรกิจดนตรีใน ปัจจุบันมันกว้างขึ้น เพราะมันมีการเกี่ยวเนื่องกันของแคมเปญที่ตามมากับการออกแบบ ผลงานด้วย”

01 Big ACtive ให้ Simon Mills เป็นคนทำาโปรเจ็กต์ซิงเกิ้ลของ White Lies ที่ต้องการสร้าง ความจดจำาระยะยาวให้แก่วง ด้วยกราฟฟิกแบบเรียบง่าย


หนึ่งในโปรเจ็กต์ล่าสุดของ Saint คือการ ออกแบบอัลบั้มเปิดตัวของ White Lies ซึ่งประสบความสำาเร็จเป็นอย่างสูงโดยที่ Big Active กับทางวงเริ่มต้นร่วมงาน กันตั้งแต่ต้นปี 2008 หลังจากที่พวกเขา เซ็นสัญญากับค่าย Fiction Records “พวกเขาออกแสดงสด 2-3 ครั้งหลังจาก นั้นค่ายเพลงใหญ่ๆ ก็เริ่มสงครามการ ประมูลตัวพวกเขาและ Fiction ก็ได้พวก เขามาผมไม่เคยไปฟังเขาเล่นสดหรอก แค่ผมได้เห็นเทปการแสดงมันก็ทำาให้ผม ตื่นเต้นมากแล้ว” “โจทย์ของพวกเราคือ งานที่มีความคลุมเครือพอสมควรขั้นแรก คือการปล่อยภาพกราฟฟิกออกมา

ซึ่งจะพัฒนาเป็นเรื่องราวที่ค่อยๆ เพิ่ม ขึ้นในรูปบนปกของอัลบั้มตั้งแต่เริ่มแรก White Lies ก็ได้รับความสนใจจากสื่อ อย่างล้นหลาม และ ความคิดของพวก เราก็คือเราต้องการที่จะลดกระแสนั้น ลงมาหน่อยเพื่อที่จะสร้างความนิยมใน ระยะยาวมากกว่านั้นพวกวงดนตรีที่ได้ รับความนใจเยอะๆ ตั้งแต่แรกมักจะยื้อ กระแสไว้ไม่ได้นานเพราะฉะนั้นโคงสร้าง ของแคมเปญก็คือการใช้การออกแบบมา เพิ่มความน่าสนใจไปทีละนิด” กราฟฟิก ที่ประกอบด้วยรูปทรงง่ายๆ สะอาดตา ในสองซิงเกิ้ลแรกเป็นการเกริ่นนำาไปยัง รูปทรงคล้ายแผ่นเสียงและโรงงานผลิต เสียงบนปกซิงเกิ้ลถัดมา

02

03

ปก White Lies ที่มีการการใช้ รูปทรงที่ง่ายๆ แต่แฝง ไปด้วยลูกเล่น

02

ความไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะออกมา เป็นอย่างไรคือสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่ สุดสำาหรับผม Garard Saint

“ซิงเกิ้ล To Lose My Life นั้นเราใช้ รูปทรงพีระมิดหรือสามเหลี่ยม 3 อันซึ่ง เป็นการอ้างอิงศิลปะแบบ post-punk ใน ต้นยุค80s” Saintเล่าอย่างอาการออกรส “ซิ ง เกิ้ ล พวกนี้ มั น เรี ย บง่ า ยมากและ เลข 3 ก็ ป รากฎขึ้ น มาบ่ อ ยซึ่ ง ไอเดี ย ก็ คื อ เราต้ อ งการที่ จ ะใช้ เป็ นตั ว แทนซึ่ ง สามารถลิงก์ไปถึงจำานวนของสมาชิกใน

วงซึ่งมี 3 คนแม้ว่าจะไม่ได้มีคนไหนมา ปรากฎตัวจริงๆ ในงานดีไซน์เลย” Saint ได้ นำ า ธี ม นี้ ม าพั ฒ นาไปสู่ ป กอั ล บั้ ม ที่ มี ความคล้ายคลึงกับรูปถ่าย


ผมว่าไม่มีใครหรอกที่จะเดิน เข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อที่จะไป หยิบคอร์นเฟล็กโดยไม่ต้องจ่าย เงินคุณว่ามั้ย Gerard Saint Factory Records เช่นเดียวกับนักดนตรี และค่ า ยเพลง“สั ญ ลั ก ษณ์ ข องหอคอย สามอั น นี้ ก ลายมาเป็ น กราฟฟิ ก หลั ก ดนตรีของพวกเขาให้ความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ และกล้าหาญเป็นวงที่เหมาะกับการเล่น ในสเตเดียม อันที่จริงพวกเขาได้เล่นตาม เทศกาลดนตรีต่างๆ ในหน้าร้อนนี้มาก เป็นอันดับสองเลยล่ะ” หลั ก การสร้ า งแบรนด์ เพื่ อ การตลาด ของ Big Active นั้นแตกต่างสิ้นเชิงกับ Ghariokwu Lemi ดีไซน์เนอร์ผู้มักออก แบบกับแนวเพลง Afro Beat Nigerian และถูกขนานนามว่า “king of covers” โดยนิตยสารของ Observer Music ใน ปี 2004

David Bailey

“พวกเราไม่ ได้ ต้ อ งการให้ ภ าพลั ก ษณ์ ของพวกเขาดู ด าร์ ก หรื อ เกี่ ย วข้ อ งกั บ โรงงานหรือเครื่องกลเกินไป ดังนั้น เมื่อ เราดำ า เนิ นการไปสู่ อี ก ขั้ นของเคมเปญ มันจะมีการเล่าเรื่องราวที่ลึกซึ้งขึ้นเรา พยายามเสาะหารูปวิวทิวทัศน์ที่มีความ ตื่นเต้นเร้าใจพวกรูปภาพดินแดนน้ำาแข็ง ของแอนตาร์ ก ติ ก าและแถวมิดเวสต์ที่ แห้งแล้งไร้ซึ่งพืชผลใดๆ พวกเราทุกคน ประทับใจงานของ Simon Mil s มากซึ่ง มันก็เหมาะเจาะกับการใช้พอดี” Saint รั บ หน้ า ที่ เ ล่ า โดยไอเดี ย บางส่ ว นยั ง ได้ มาจาก Nathan McGough หนึ่งใน ผู้จัดการของ White Lies ซึ่งเคยเป็นผู้ จัดการให้กับ Happy Mondays เขาได้ มีส่วนร่วมเป็นอย่างมากในการสร้าง


ตลอดช่วงระยะเวลาในการทำางาน Lemi ออกแบบหน้าปกมากกว่า 2,000 ชิ้น งานของเขานั้นมีตั้งแต่นักดนตรีระดับ โลกอย่าง Bob Marley ไปจนถึงศิลปิน ที่เขาชื่นชอบเป็นการส่วนตัวนั้น นั่นก็คือ Fela Anikulapo Kuti ซึ่งเขาได้ดีไซน์ปก ออกมาให้ถึง 26 ชุด วิธีการสร้างสรรค์ งานของ Lemi เริ่มที่ “การตั้งใจฟังเพลง หลายๆรอบ”และศิลปินที่เขาออกแบบ ให้ ส่ ว นมากเป็ นชาวแอฟริ กั นที่ มี แ นว เพลงแบบ Afro Beat “สิ่งที่ยอดที่สุด ในการร่างปกอัลบั้มก็คือการที่ผมได้มี ส่วนช่วยในการส่งข้อความที่อยู่ในดนตรี ออกมาในรูปแบบที่มองเห็นได้ มันช่วย กระตุ้นให้คุณอยากมองเห็นภาพเมื่อคุณ ได้ยินเสียง” เขาออกตัว

02

Ghariokwu Lemi Afro beat Nigerian

01

ปกของ Fela Anikulapo Kuti ศิ ล ปิ น ที่ Lemi ชื่ น ชอบและ ออกแบบปกให้มากที่สุด

Lemi ได้ออกแบบปกให้กับวง Fela Anikulapo Kuti ถึง 26 ชุดด้วยกัน

เส้นทางอาชีพของเขาเริ่มจากการทำางาน กองบรรณาธิ ก ารของหนั ง สื อ พิ ม พ์ Young African Pioneers เขามีหน้าที่ เขียนการ์ตูนสัปดาห์ละ 2 ครั้งเพื่อบอก เล่ า เหตุ ก ารณ์ ต ลอดสั ป ดาห์ นั้ น และ ออกแบบโปสเตอร์ให้กับองค์กรหนึ่งซึ่ง ปิ ด ตั ว ลงในปี 1977 ภายหลั ง คนรู้ จั ก ของเขาที่ชื่อ Babatunde Harrison ซึ่ง มี อ าชี พ เป็ นนั ก หนั ง สื อ พิ ม พ์ ได้ เห็ น รู ป วาดของเขา จึงได้แนะนำา Lemi เข้าสู่ วงการดนตรี “สำ า หรั บ ผมดิ จิ ทั ล มิ ว สิ ก ไม่ ส่ ง ผลอะไรกั บ ศิ ล ปะบนปกซี ดี ผ ม ว่ามันเป็นความหมายที่สื่อออกมาจาก เพลง”กว่ า 30 ปี ที่ ทำ า งานอยู่ ในวงการ และ ได้มีโอกาสร่วมงานกับศิลปินมาก หน้าหลายตา Lemi ยึดถือหลักความ จริงในฐานะที่เป็นฟรีแลนซ์ ค่าตอบแทน ที่ได้รับนั้นส่วนมากจะไม่ค่อยสมกับเวลา และการลงแรงที่ทุ่มเทให้กับงาน


David Bailey

Kiosk

“แผ่ น เสี ย งเหมื อ นเป็ น สนามชั้ น ยอด สำ า หรั บ ใครก็ ต ามที่ อ ยากจะสร้ า งบาง อย่ า งที่ ห ลุ ด โลก” Webb กล่ า ว“ด้ ว ย ความที่วงกลมบนแผ่นเสียงมีขนาดเล็ก ทำ า ให้ เราต้ อ งทดลองอะไรใหม่ ๆ มาก ขึ้ น มั น ไม่ มี อ ะไรให้ เ สี ย มากนั ก หรอก อย่างมากก็แค่คนไม่กี่พันคนที่จะไม่ชอบ อย่ า งวงดนตรี ว งหนึ่ ง ที่ ฉั น เคยทำ า งาน ด้วยพวกเขาไม่สนใจเรื่องการขาย ไม่ แคร์ด้วยซ้ำาว่าฉันจะใส่ชื่อพวกเขาลงบน ปกหรือเปล่า ซึ่งนั่นเป็นการมอบผ้าใบ ผืนใหญ่ให้กับคุณทำางานเลยนะ


“หน้าปกอัลบั้มชิ้นแรกที่ผมออกแบบนั้น เป็นของลุงผมที่ผมทำาให้วงดนตรีของลุง ของผมเอง (Peter Okoh) ที่มีชื่อขอวงว่า Patience Rhythm Dance Band ในปี 1973 มันไม่ได้ถูกนำาไปผลิตหรอกเพราะ ค่ายที่วงอยู่คือ Decca West Africa ไม่ มี ทุ น พอที่ จ ะผลิ ต ผมได้ ทำ า ทั้ ง งานที่ ไม่ ได้ ค่ า จ้ า งและทั้ ง ที่ ได้ ค่ า จ้ า งสู ง ทุ ก วันนี้ก็ยังเป็นแบบนี้อยู่น่ะ เพราะมันคง เป็นเรื่องที่ยากที่จะได้ค่าจ้างที่สูงในการ ทำางานวงการนี้” เขาสารภาพก่อนที่จะ บอกว่า“คุณต้องทำามันเพราะใจรักหรือ ไม่ก็ไม่ทำามันเลย ส่วนผมในฐานะที่เป็น คนรักในเสียงดนตรี การจะได้เงินน้อย สักหน่อยมันก็คงเป็นเรื่องช่วยไม่ได้” แต่มีเรื่องที่ทำาให้เขาไม่สบายใจอยู่เรื่อย คือการที่กลุ่มคนที่ทำางานแบบเดียวกัน กั บ เขาขาดพื้ น ที่ ใ นการแสดงฝี มื อ “นอกจากปัญหาเรื่องค่าตอบแทนที่ไม่ ค่อยจะดีนัก ผมรู้สึกเศร้าใจที่ตามถนน ไม่ค่อยมีร้านขายซีดีสักเท่าไหร่ ที่ที่คุณ จะเข้ า ไปดู ผ ลงานของคุ ณ หรื อ ผลงาน ของคนอื่นๆ ด้วยความที่ผมออกแบบ ปกอัลบั้มมานานกว่า 12 ปีร้านขายแผ่น เสียงก็เหมือนกับแกลอรี่สาธารณะที่เก็บ รักษาผลงานของเราไว้” ด้าน Suzie Webb ก็ออกปากว่ามันแทบ ที่จะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้ค่าจ้างงามๆ ถ้ า คุ ณ ทำ า งานให้ กั บ กลุ่ ม ศิ ล ปิ น อิ ส ระ กลุ่ ม ย่ อ ยๆ ยิ่ ง ถ้ า คุ ณ เป็ น ฟรี แ ลนซ์ ยิ่ ง แล้วใหญ่ “ถ้านักดนตรีที่ไม่มีค่ายตัดสิน ใจที่ จ ะผั น ตั ว สู่ ก ระแสหลั ก หรื อ เซ็ น สัญญากับค่ายเพลง ส่วนมากก็จะจ้าง พวกเอเจนซี่ ม าทำ า งานให้ เ สี ย มากกว่ า ดี ไ ซเนอร์ อิ ส ระแทบจะไม่ ไ ด้ รั บ ความ สนใจเลย บางทีฉันก็รู้สึกว่างานออกแบบ

ผมรู้สึกเศร้าใจที่ ตามท้องถนนไม่ ค่อยมีร้านซีดีสัก เท่าไหร่

Ghariokwu Lemi

ในธุรกิจดนตรีส่วนใหญ่จะถูกออกแบบ โดยเหล่าครีเอทีฟใต้ดินที่โดนกดค่าแรง แบบสุดๆ แล้วพวกกระแสหลักก็จะฉก ไอเดี ย และสไตล์ เจ๋ ง ๆ มาปรั บ เปลี่ ย น นิ ด หน่ อ ยแล้ ว ก็ เ อาออกมาขายแต่ ก็ นั่ น แหละมั น เป็ น วิ ธีก ารของสมั ย นี้ ” ส่วน Saint ก็ไม่เห็นด้วยอย่างแรงกับการ ทำางานฟรี“การออกแบบปกอัลบั้มเป็น งานที่ต้องการใช้ฝีมือและงานของคุณ ก็ มี คุ ณค่ า แต่ เมื่ อ มี ก ารซื้ อ ขายเข้ า มา เกี่ ย วข้ อ ง ความน่ า เชื่ อ ถื อ ในฐานะมื อ อาชีพของคุณจะลดลงทันทีเมื่อคุณโดน เอาไอเดียของคุณให้คนอื่นฟรีๆ”

“คุณมักจะได้ยินคนพูดเกี่ยวกับความตก ตำ่ าของเศรษฐกิจและเรื่องที่ว่ามันจะดีขึ้น ใน 2-3 ปี แต่ถ้าคุณทำางานฟรีๆ ตอนนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นเขาก็หวังว่าจะได้ งานที่มีคุณภาพโดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินมัน ทำาร้ายวงการออกแบบ ไม่มีใครหรอกที่ จะเดินเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อจะไปหยิบ คอร์นเฟล็กโดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินว่ามั้ย” พอ Saint พูดถึงคอร์นเฟล็กเราก็เลยลอง ถามความคิดเห็นของดีไซเนอร์ที่เคยร่วม งานกับคอร์นเฟล็กยี่ห้อ Kellogg’s อย่าง Webb ที่เธอทำางานกับลูกค้าแบรนด์ดัง อย่าง Diesel, BBC และ Coca-Cola และด้วยความที่รายได้ของเธอมาจาก งานอินเตอร์แอ็กทีฟ เมื่อเทียบกับ Saint แล้วเธอดูจะยอมประนีประนอมมากกว่า เมื่ อ ถามถึ ง การออกแบบสำ า หรั บ ธุ ร กิ จ ดนตรีโดยที่เธอมองมันเป็นรายได้เสริม มากกว่าที่จะยึดเป็นรายได้หลัก วิธีได้ งานของเธอก็ไม่ยาก “ก็เป็นเพื่อนกับนัก ดนตรีซะ” Suzie Webb เผยถึงเคล็ดลับ “มันเป็นสถานการณ์แบบที่ว่าพวกขี้อาย จะไม่มีวันได้งานมาหรอก แต่ถ้าคุณเพิ่ง เริ่มก้าวเข้าสู่วงการเพลงมันก็อาจจะยาก สักหน่อย การทำางานร่วมกับคนอื่นก็เป็น อีกวิธีที่จะทำาให้ชื่อคุณเป็นที่รู้จัก ด้าน David Bailey ดีไซเนอร์ที่เดินทาง มาไกลจากปกอัลบั้มแรกที่เขาออกแบบ ให้พ่อของเขา Roy Bailey นักร้องแนว โฟล์กที่ร้องเพลงเกี่ยวกับการเมืองในปี ค.ศ.1997 คำาแนะนำาของเขาสำาหรับคน รุ่นใหม่ที่ต้องการจะก้าวเข้าสู่วงการมีเพี ยงสั้นๆ คือ “คุณจะต้องมีแผนสอง” .....


The Chosen One Thai Music Art

Drucstore the design guru Slowmotion อุ ต สาหกรรมเพลงในบ้ า นเราได้ มี ก าร พั ฒ นาไปมาก ไม่ ใ ช่ แ ค่ ก ารทำ � ดนตรี อั น ประกอบด้ ว ยเนื้ อ ร้ อ ง ทำ � นองหรื อ Sound effect เท่านั้นแต่ยังรวมถึงงาน ดี ไซน์ ต่ า งๆ เช่ น แพ็ ก เกจจิ้ ง สวยๆ ที่ โดดเด่นทั้งในแง่ของงานภาพประกอบ อาร์ตไดเร็กชั่น กราฟฟิก หีบห่อบรรจุ ไปจนถึงงานที่ใส่กิมมิกต่างๆ ลงในปก อัลบั้มซีดีที่แตกต่างจากเมื่อก่อนที่มีการ เอารูปถ่ายของนักร้องในวงดนตรีมาถ่าย ขึ้นปกอยู่หลายช่วงตัว

สำ � หรั บ ในพื้ นที่ 2 หน้ า คู่ นี้ เราขอคั ด หน้ า ปกอั ล บั้ ม เพลงของศิ ล ปิ น ไทยที่ ถูกใจเราในแง่ของงานดีไซน์ไม่ว่าจะเป็น ปก หรื อ หี บ ห่ อ บรรจุ ข องซี ดี ที่ มี ค วาม โดดเด่น และ แตกต่างจากปกซีดีอื่นๆ ตามท้องตลาดมาฝากกัน เผื่อว่าจะเป็น แรงบั นดาลใจในงานดี ไซน์ ข องวงการ ออกแบบปกซีดีในบ้านเรา ลองดูซิว่าปก ซีดีที่เราเลือกถูกใจบ้างหรือปล่าว?


1.

Brandnew Sunset: Brandnew Sunset โดย ‘Slowmotion’ แวบแรกที่เห็นก็ดึงดูดสำ�หรับการไดคัต ตัวอัลบั้มให้มีมิติบวกกับสีขาวดำ� ของหน้าปกที่ตัดกับเนื้อสี ชมพูได้อย่างลงตัว

2.

CD

The Chosen One Thai Best CD design

3.

Scrubb : sssss..! โดย ‘Drucstore the design guru’ สิ่งที่เรานึกออถึงเมื่อเห็นปกคือ ความทะเล้นที่มีเสน่ห์มี อารมณ์ขันและซ่า แนวบริทป๊อป Sleeper one : Difference โดย ‘Drucstore the design guru’ conceptในอัลบั้มนี้พูดถึงมุมมองความรัก ที่แตกต่างกันของผู้ชายและผู้หญิง จึงแบ่งขาย เป็น Part 1 กับ Part 2 ในเวลาไล่เลี่ยกัน ความน่า สนใจที่อยากยกนิ้วให้คือการออกแบบแพ็กเก็จจิ้งที่สมบูรณ์

Moderndog : Cafe Art direction By วรวุฒม์ ปันยารชุน,เศรษฐพงศ์ โพวาทอง (Typotype) และ ธนชัย อุชชิน ดีไซนเนอร์ดึงเสน่ห์ของความ อนาล็ อ กมาใส่ ใ นอั ล บั้ ม นี้ ซ ะ ถึงใจ ทั้งภาพแบบ snap shot คิ ล ปอาร์ ต ฟ้ อ นต์ ที่ โ บราณๆ และกราฟฟิกพิกเซลที่ปัจจุบัน หาคนมาใช้ในงานดีไซน์สมัยนี้ ได้น้อยจริงๆ

4.



นิวมีเดีย (อังกฤษ: New Media) หรือมี การใช้คำาว่า สื่อใหม่ หรือ สื่อนฤมิต เป็นสื่อที่เกิดจากการสร้างสรรค์ หรือการ ใช้งานกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ซึ่งบางส่วน สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้ และมักจะอยู่ ในรูปแบบของดิจิทัล

NEWGENERATION

MEDIA FOR

“New Media” กลายเป็นทางออกของผู้เสพข้อมูลในยุคที่สื่อดั้งเดิมถูกปิดกั้น


Ambient Marketing” เป็นคำาที่ใช้ สำาหรับกลยุทธ์การตลาดหรือกิจกรรมการ ตลาดต่างๆ ที่ใช้ทุกสิ่งรอบๆ ตัวผู้บริโภค เพื่อสร้างผลทางการตลาดให้ผลิตภัณฑ์ คำาเดิมของ Ambient Marketing ที่รู้จักกัน ดีก็คือ “Gueril a Marketing

AMBIENT


Ambi e nt Medi a What?

“Ambient Advertising” เป็นคำาใหม่ที่น่าจะยังไม่ถูกบรรจุลงในตำารา โดยถือกันว่า เริ่มมีการใช้ครั้งแรกในปี 1996 โดยบริษัท Concord Advertising ในประเทศอังกฤษ ซึ่งทำาโฆษณาติดบนมือจับสำาหรับเติมน้ำามันเชื้อเพลิง ในสถานี บริการน้ำามัน และติดโปสเตอร์ด้านในของประตูห้องน้ำา และในปีดังกล่าวมูลค่าของ Ambient Advertising ประเมินได้ 17.4 ล้านปอนด์ และมีอัตราการเติบโตสูงมาก ตั้งแต่นั้นมา จนมีมูลค่ากว่า 120 ล้านปอนด์ในปี 2002 ที่ผ่านมา ส่วนใน US จัดได้ว่า Ambient Advertising ยังอยู่ในขั้น Introduction เช่นเดียวกับประเทศไท

Esmaltec Appliances: Mirror

Advertising เป็นการสื่อสารโดยผ่าน Media ต่างๆ ที่เราคุ้นเคยดี ไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์ วิทยุหนังสือพิมพ์ ป้ายโฆษณา นิตยสาร ฯลฯ ซึ่งสื่อเหล่านี้เราจัดว่าเป็น Traditional Media แต่ในระยะหลังมานี้ Marketer และ Advertiser เริ่มหันไปใช้ Non-traditional Media คือ มองหาสิ่งต่างๆ หรือพื้นที่ใดๆ ก็ตาม รอบๆ ตัวลูกค้าที่สามารถจะเป็นสื่อโฆษณาได้โดยก่อนหน้านี้ยัง เคยนึกถึง คำาว่า “รอบๆ ตัวลูกค้า” หมายถึงสอดคล้องกับ Behavior/Lifestyle ของลูกค้า เราจึงเรียก Non-traditional Media ที่สร้างสรรค์กันขึ้นมาใหม่ว่า “Ambient Media” หรือ “Out-of-Home Media” (“Out-of-Home Media” มีความหมายกว้างกว่า “Outdoor Media”) และเรียกการโฆษณาผ่าน “Ambient Media” ว่า “Ambient Advertising” หรือ “Out-of-Home Advertising”

Advertising Agency: Acesso Comunicação. Fortaleza, Brazil Art Director: Rodne Torres Copywriter: André Freitas Production house: Tainá Diniz / Biruta Mídia Alternativas Senior Account Director: Gustavo Rocha Published: August 2011


Heineken: Heineken Style Nuggets

Advertising Agency: 358, Helsinki, Finland Creative Director / AD / Copywriter: Errki Izarra Art Directors: Leo Karhunen, Maria Fridman Copywriter: Valtteri V채kev채 Graphic Designer: Vil e Kovanen, Iiris Ojanen Agency Producer: Petra Yli-Hemminki

MTV: Serbia got pranked

Advertising Agency: McCann Erickson Belgrade, Serbia Creative Directors: Jana Savic Rastovac, Vladimir Cosic Art Directors: Marko Savic, Marko Prokic Copywriter: Marko Savic Photographers: Marko Prokic, Slobodan Markovic Published: July 2011


Tamiya: Put it together

Mini: Pole position

Advertising Agency: Draftfcb/Lowe Group, Zürich, Switzerland Creative Director: Daniel Comte Art Director: Frédéric Nogier Copywriter: Tizian Walti Consulting: Rolf Jeger, Martin Gonzenbach, Nina Marti Images and Retouching: Ansichtsache

Advertising Agency: Ogilvy & Mather, Vietnam Executive Creative Director: Todd McCracken Art Directors / Copywriters: Todd McCracken, BJ Galinato, Joe Harris, Jeremy Lim, Dang Thuong Do Account Director: Thorsten Orth Account manager: Thu Trang Phan Animation / Set Design: Andrew Stewart, Christian Greet, Matt Tan, Chevy McGoram


ViMedi ral a What?

Viral Marketing หรือที่เรามักจะรู้จักกันเป็นภาษาไทย ในชื่อ การตลาด แบบไวรัส คือเทคนิคทางการตลาดอย่างหนึ่ง ที่ใช้ Social Network ที่มีอยู่ก่อน แล้ว มาเสริมสร้าง ให้เกิดการพบเห็นตราสินค้า (ฺBrand Awareness) หรือทำ�เพื่อ วัตถุประสงค์อื่น ๆ ทางการตลาด โดยลักษณะการกระจายข่าวสาร ในแบบ Viral Marketing จะเป็นลักษณะเหมือนการบอกแบบปากต่อปาก เพียงแต่ว่าในยุคนี้ สื่ออินเตอร์เน็ต เอื้อให้การตลาดแบบไวรัส กระจายตัวได้เร็วกว่าแต่ก่อนมาก

Viral Marketing นั้นมีพลัง มีน้ำ�หนั กในการสร้างความเชื่อถือ มากกว่าโฆษณาแบบอื่น ๆ เพราะว่ามีการยืนยันโดยเพื่อน ๆ ของผู้รับเอง เพราะมักจะเป็นการส่งต่อ หรือบอกต่อ โดยใ้ช้อีเมล์ การไป post ไว้ใน blog หรือ Social Network ของตนเอง พอเพื่อนมาเห็น ก็ค่อนข้างจะยินยอมที่จะดู อ่าน หรือฟัง ข้อความหรือข่าวสารนั้นนั่นเอง Viral Marketing ไม่จำ�เป็นที่จะต้องใช้ช่องทาง ทางอินเตอร์เน็ตเท่านั้น ยังสามารถเผยแพร่กระจายไปตามสื่อ Traditional Media เช่นทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ ได้เ่ช่นกัน ตัวอย่างเช่น กรณีเพลง ผีกาก้า ที่มีผู้เผยแพร่ให้ฟังและดาวน์โหลดกันจากเว็บไซต์ แต่ สุดท้ายดังไปทั่วประเทศ เพราะผู้สื่อข่าว ทำ�ไปพูดถึง และนำ�เสนอผ่าน โทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์เป็นต้น ผลสุดท้าย เพลงผี กาก้า ได้รู้จักกันไปทั่วประเทศ และคนแต่งเพลงผีกาก้า ก็ได้ทำ� CD มาออกขายผ่านทาง เซเว่น-อีเลเว่น Planking, horsemaning, cone-ing, ignore-ing, and now razorbombing? We’ve all seen the memes pop up, but none of them really utilized this viral nature in an advertising campaign until now. The brand executed a buy on BuzzFeed Thursday to jump start the effort. Branding for the would-be meme is subtle, but users can click through to Schick’s “Shave the World” contest, where they can win up to $10,000 for their witty use of razorbombing.


Schick Razorbombing The brand has already seen some success by positioning the Schick Xtreme 3′s Twitter feed, which has gotten a respectable 13,500 followers in about three months.

We can all agree it’s a great way to advertise the power of the product! Go Schick! What do you think of this viral campaign?


การตลาดแบบกองโจร ไม่เพียงแต่ บุกทะลวงถึงตัวผู้บริโภค บางครั้ง บางคราวเป็นการช่วงชิง ผู้บริโภค จากคู่แข่ง แบบใครดีใครได้

GUERILLA


Gueri l a Medi a What?

Gueril a Marketing (กอลิล่า มาร์เกตติ้ง) ชื่อนี้ฟังดูแปลกจังแล้วมันคืออะไรกันแน่?? หลายคนคงมีความคิดแบบนี้เมื่อได้ยินคำาว่า Guerril a Marketing เป็นครั้งแรก ที่จริงแล้ว Guerril a Marketing เป็น Marketing แนวใหม่ที่พึ่งเกิดขึ้นมาได้ไม่นาน อย่างไรก็ตามแนวความ คิดนี้มาดังเอามากๆในปัจจุบันเนื่องจากการแพร่หลายของ Digital Media ที่ทำาให้ Marketing Campaign เข้าถึงผู้ชมได้ในจำานวนมากและรวดเร็ว

หลักการง่ายๆของ Gueril a Marketing ก็คือการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการสร้าง Marketing Campaign เพื่อที่จะดึงดูดสายตาผู้ชมให้ มากที่สุดโดยใช้งบประมาณน้อยที่สุด จุดประสงค์หลักของ Gueril a Marketing นั้นคือเพื่อสร้าง Buzz ให้กับ Brand หรือสิ้นค้านั้นๆ โดยวิธีส่วนใหญ่ที่ นักการตลาดแนวนี้ทำากันก็คือ การโชว์สิ่งแปลกๆบนถนหรือในที่ Public ซึ่งเนื้อหาที่โชว์นั้นต้องมีความสอดคล้องกับ Brand หรือตัวสินค้าด้วย จากความแปลกนี่เองที่จะดึงดูดกลุ่ม Buzz ให้เข้ามาสนใจในตัว Campaign และทำาความรู้จักกับตัวสินค้า ซึ่งกลุ่ม Buzz จะเป็นกลุ่มที่จะทำาการแพร่ กระจาย Marketing Campaign เหล่านี้บน Internet ดั่งที่เราเห็นได้บ่อยๆบน YouTube

KLM Economy Comfort

Ad อันนี้เกิดขึ้นที่สนามบิน Manchester ประเทศอังกฤษ โดยการให้ผู้แสดงนั่งในท่าทีที่สบายเพื่อ ใช้เป็นการบอกกับผู้ชมว่า Economy Class ของ KLM นั้นมีที่กว้างไม่เบียดและนั่งสบาย อย่างไร ก็ตามตัว Ad ได้ดึงดูดสายตาผู้ชมจากการนั่งที่เรามองไม่เห็นที่นั่งเลย


Street painting has been recorded throughout Europe since the 16th century. Street Painters, (also called chalk artists) a name these performance artists are most commonly called in the USA are historically called I Madonnari in Italy because they recreated images of the Madonna. In England they are called Screevers and in Germany Strassenmaler.

Today there are stil only a handful of artists across the world capable of creating 3d street art including Kurt Wenner, Julian Beever, Manfred Stader and Edgar Muller. Below are some great examples of 3D street art (some marketing and some are not) that wil help inspire your next campaign!

Amazing 3D Street Art Guerril a Marketing Examples

3D Street art is often used in marketing campaigns because it has the potential to draw a crowd and stare at your advertisement for some time. It is also important to note that it is more-or-less an eco-friendly form of communication.


(New York, NY) Newcastle Brown Ale announces today an out of home advertising campaign so innovative that it truly lives up to the beer’s nickname: “The One and Only.” Building on Newcastle’s highly successful appeal to “Taste the Lighter Side of Dark,” three branded public art projects wil debut this summer in San Diego – all designed to get people talking, texting, posting and “checking in,” as they check out what Newcastle has to offer. The curtain lifts on the first project “Trapped in a Schooner” at the historic Del Mar Racetrack in time for opening day, July 20th. “Trapped in a Schooner” wil entertain race fans through an optical il usion. One person stands in a special location, while another climbs inside a larger than life replica of Newcastle’s traditional glass, the Geordie Schooner. The effect: it looks like they are trapped in a giant pint of Newcastle Brown Ale (what a pity).

Newcastle: Trapped in a Schooner

Executive Creative Director: John Vitro Creative Director: KT Thayer Copywriters: Schuyler Vanden Bergh, Amanda Abrams, Pam Frasier Art Directors: Paul Lambert, Kevin Lukens, John Leon Agency Producer: Mickey Strider Account Director: Ben Feeney Account Supervisor: Whitney Milne



แนวศิ ล ปะอาร์ ต แอนด์ ค ราฟ Arts and Crafts movement (A.D. 1850-1914) “ กลุ่มศิลปะนี้ให้ความสำคัญกับความเป็นจริงของวัตถุและความเป็นช่างฝีมือแบบ ดั้งเดิม ด้วยการให้รูปร่างรูปทรงง่ายๆ และงานออกแบบประดับมักจะอยู่ในรูปแบบ ของยุคกลาง และโรแมนติคหรือรูปแบบพื้นบ้าน นอกจากนี้ยังแสดงถึงการปฏิรูปทาง เศรษฐกิจและสังคมที่ถูกมองว่าเป็นส่วนสำคัญของแนวคิดต่อต้านอุตสาหกรรม


แนวศิลปะอาร์ตแอนด์คราฟ เป็นแนวความงามด้านศิลปะสำคัญในอังกฤษและอเมริกา ที่เกิดขึ้นในช่วง ปลายสุดท้ายของศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 โดยได้รับอิทธิพลมา จากงานประพันธ์ของ John Ruskin และแนวคิดศิลปะนี้ก็ดำเนินมาถึงจุด สูงสุดในช่วงราวๆปี 1880-1910 นับได้ว่าเป็นการปฏิรูปแนวคิดศิลปะที่ส่ง อิทธิพลต่อวงการต่างๆ ทั้งในอังกฤษและอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นทางด้านงาน สถาปัตยกรรม งานออกแบบตกแต่ง งานทำตู้ไม้ (cabinet) งานช่าง แม้ กระทั่ง งานออกแบบสวนกระท่อมสไตล์ชนบทของ William Robinson หรือ Gertrude Jeky นักรังสรรค์อันโด่งดังเป็นที่รู้จักในสมัยนี้ได้แก่ William Morris, Charles Rennie Mackintosh, Frank Lloyd Wright, และเหล่าศิลปินในช่วงกลุ่มศิลปะพรีราฟาเอลไลท์ (Pre-Raphaelite) กลุ่มศิลปะอาร์ตแอนด์คราฟเริ่มขึ้น โดยเน้นเพื่อค้นหาสไตล์อันแท้จริงและเปี่ยม ความหมายสำหรับศตวรรษที่ 19 และเพื่อตอบสนองต่อทางเลือกประวัติศาสตร์ นิยมของยุควิคตอเรียนไปจนถึงงานเครื่องจักรประดิษฐ์อัน “ไร้จิตวิญญาณ”จาก ยุคปฎิวัติอุตสาหกรรม ด้วยแนวคิดว่าเครื่องจักรเป็นต้นตอของงานประเภทการ ซ้ำและความชั่วร้ายในทางโลก (ซึ่งอาจกล่าวถึงงานประเภทเพื่อการพาณิชย์หนัก ไม่เน้นความงาม) เหล่ากลุ่มศิลปินบางคนในกลุ่มศิลปะนี้จึงหันหลังให้กับการใช้ เครื่องจักรมาสู่งานฝีมือ ซึ่งจะเน้นลักษณะการทำงานเพื่อกลุ่มเป้าหมายที่เปี่ยม ไปด้วยความละเอียดอ่อนและมีเงิน ถึงกระนั้นกลุ่มศิลปะอาร์ตแอนด์คราฟก็อยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลง ครั้งใหญ่ที่งานอุตสาหกรรมมีผลต่ออิทธิพล ซึ่งหากดูภาพรวมแล้ว กลุ่มศิลปะนี้ก็ไม่ใช่มีแบบต้านระบบอุตสาหกรรมหรือต้านความเป็น สมัยใหม่ทีเดียวนัก กลุ่มชาวยุโรปบางกลุ่มเชื่อว่าจริงๆแล้วเครื่องจักรนั้น เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อผ่อนผันความน่าเบื่อหน่ายของการทำงานประเภททำซ้ำ และงานที่หนักไปทางพาณิชย์


William Morris (1834-1896)

!"#$%&'()*+,*#"-*.&' Kelmscott Press

!"#$%&'()*+,*#"-*.&' Kelmscott Press

หน้าแรกของ The Nature of Gothic โดย John Ruskin, พิมพ์โดย William Morris ที่ the Kelmscott Press in 1892 ด้วยรูปแบบ Golden type, ที่ได้แรงบันดาลใจจากช่างพิมพ์ใน ศตวรรษที่ 15 Nicolas Jenson

ชาวอังกฤษผู้เป็นทั้งหนึ่งในผู้ก่อ ตั้งคนสำคัญของกลุ่มศิลปะแนวอาร์ต แอนด์คราฟในอังกฤษ เป็นที่รู้จักกันดี ในนามของนักออกแบบวอลเปเปอร์ และลายผ้า เป็นทั้งผู้ประพันธ์บท กวีและนวนิยาย และเป็นผู้บุกเบิก กลุ่มสังคมนิยมในอังกฤษ นอกจาก นี้ยังเป็นผู้บุกเบิกกลุ่มนักนิเวศน์แบบ สังคมนิยมในช่วงหลังทศวรรษที่ 20 เขาได้รับอิทธิพลมาจาก John Ruskin ในช่วงที่เขากำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัย Oxford ที่นี่เขาได้พบเพื่อนและผู้ร่วม งานอย่าง Dante Gabriel Rossetti, Edward Burne-Jones, Ford Ma dox Brown and Philip Webb ที่ ภายหลังเหล่าเพื่อนๆ ก็ได้ก่อตั้งกลุ่ม ศิลปินพรีราฟาเอลไลท์ (Pre-Raphaelite Brotherhood) พวกเขาได้หลีก เลี่ยงงานฉูดฉาดแต่ไร้ราคาของศิลปะ ประดับตกแต่งและงานสถาปัตยกรรม ที่ทำด้วยเครื่องจักรอุตสาหกรรม และ เลือกที่จะหวนเข้าสู่ความเป็นช่างฝีมือ ยกระดับสถานะของช่างฝีมือเหล่านี้ ให้อยู่ในระดับของศิลปิน เขานำหลัก การที่ว่าศิลปะควรจับต้องได้ ทำด้วย มือ และไม่แบ่งแยกลำดับคุณค่าของ สื่อทางศิลปะ


Kelmscott Press ในเดือนมกราคม 1891 Morris ก็ได้สร้าง Kelmscott Press ที่ Hammersmith กรุง London เพื่อที่จะผลิตผลงานตัวอย่างของการปรับปรุงงานพิมพ์และ งานออกแบบหนังสือ เขาได้ออกแบบรูปแบบตัวพิมพ์ที่สะอาดตา เช่น ตัวอักษร โรมัน ‘golden’ type ของเขา ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากช่างพิมพ์ชาวเวนิส Nicolaus Jenson และรูปแบบประดับกรอบปกสไตล์ยุคกลาง ที่ได้แรงบันดาลใจมา จาก incunabula (หนังสือที่ผลิตในช่วงก่อนศตวรรษที่ 15) และเหล่าผลงานภาพ ประกอบพิมพ์แกะไม้ ด้วยการเลือกสรรแผ่นกระดาษและน้ำหมึก ทั้งด้วยการให้ ความสนใจกับการผสมผสานระหว่างแบบอักษรและลายประดับของผืนหน้าหนัง สือ ทำให้ Kelmscott Press เป็น Private press* ที่มีชื่อเสียงมากสุดในช่วงแนว ศิลปะอาร์ตแอนด์คราฟ และยังได้เปิดทำการจนถึงปี 1898 ผลิตหนังสือได้เป็น จำนวน 53 เล่ม และเป็นแรงบันดาลใจให้กับ Private press ที่มีชื่อเสียงอย่าง Doves press ในหมู่เหล่าผู้รักหนังสือ หนังสือรุ่น Klemscott Press จากงานของ Geoffrey Chaucer ภาพประกอบโดย Burne-Jones นั้นถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในห นังสือที่งดงามที่สุดเท่าที่เคยมีการผลิตมา

หนังสือรุ่น Klemscott Press จากงานของ Geoffrey Chaucer ภาพประกอบโดย Burne-Jones

“ หนึ่งในหนังสือที่สวยงามที่สุด เท่าที่เคยมีการผลิตมา”

(HI,63") Title Page JE2 (HI,6E*,$) Prioress'

(.:,) Pro

# !"#$%&' Press +, Chauce Burne-J 89-+#5:*,; %:6$,B@ BA-,(DEFG JE2 (.:,) Prologue of

(HI,63") Title Page JE2 (HI,6E*,$)


อิทธิพลของแนวศิลปะ อาร์ต นู โว (A.D. 1890-1920)

“อาร์ตนูโว หรือ อาร์นูโว” เป็นลักษณะศิลปะทางสถาปัตยกรรม และศิลปะประยุกต์ ซึ่งได้รับความนิ ยมสูงสุดในช่วงค.ศ. 1890 ถึง 1905 โดยมีจุดเด่นคือใช้รูปแบบธรรมชาติ โดยเฉพาะดอกไม้และพืชอื่นๆ มาทำ เป็นลวดลายเส้นโค้งที่อ่อนช้อย ลักษ ณะรูปแบบจะเป็นการลดทอนรูปแบบ จากรุขชาติ แมลง เปลือกหอย ใบไม้ เถาวัลตามธรรมชาติ นำมาประดิษฐ์ ให้เป็นลวดลายประดับทั้งภายใน และ Art nouveau package design ภายนอกอาคาร ตลอดจนเครื่องใช้ ของประดับบ้าน และเครื่องแต่งกาย ทำให้อาร์ตนูโว เป็นรูปแบบที่นำกลับ มาใช้ตกแต่งเสมอๆ โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งภายในอาคารพาณิชย์ เช่น ร้าน อาหารฝรั่งเศส ร้านขายเสื้อผ้าสตรี และกิจการเกี่ยวกับความงามอื่นๆ Art nouveau package design ===================== แรงบันดาลใจจากรูปทรงและสี สีจากธรรมชาติ ของฤดูใบไม้ร่วง เช่น สีโทนส้มและน้ำตาล สีจากพืชพันธุ์ต่างๆ Art nouveau package design เช่น สีเขียวเข้ม สีเขียวตอง สีของดอกไม้ package design Art nouveau เช่น สีขาวนวลดอกมะลิ สีม่วงดอกไอริส สีแดงดอกป๊อบบี้ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการหาวัสดุและแร่ธาตุ จากธรรมชาติ ได้แก่ งาช้าง เงิน ทองแดง นำมาใช้ด้วยเช่นกัน =====================


โปสเตอร์โฆษณาให้กับ Sarah Bernhardt

Poster โปสเตอร์นั้นได้รับความนิยมใน ช่วงงานประดิษฐ์ภาพพิมพ์หิน กลาง ศตวรรษที่ 19 ซึ่งทำให้โปสเตอร์นั้น สามารถผลิตได้ในราคาที่ถูกและง่าย Henri de Toulouse-Lautrec คือบุคคลผู้มีชื่อเสียงในด้านงานศิลป์ โปสเตอร์ซึ่งมักจะทำงานโฆษณาให้ เหล่าคณะแสดง Parisian งานภาพ โปสเตอร์ที่ประดับไปด้วยความงาม อย่างอาร์ตนูโวที่สามารถพบเห็นได้ !"#$%&'( จากผลงานของ Alphonse Mucha!)*+,-./012 Sarah Bernhardt

Postcard 345&&0622


Alfons Mucha (1860 - 1939)

หลังจากที่ได้ศึกษาที่กรุงปราก มิวนิค และปารีสแล้ว เขาก็กลายมาเป็นนักออกแบบคนสำคัญที่ออกแบบโปสเตอร์โฆษณา ให้กับนักแสดง Sarah Bernhardt และเขาก็ยังออกแบบทั้งฉากและชุดให้เธอเองด้วย ผลงานโปสเตอร์ภาพประกอบนิตยสาร อันยอดเยี่ยมและมากมายของเขาทำให้เขาเป็นนักออกแบบคนสำคัญในศิลปะ -๐ แบบอย่าง Art Nouveau หลังจากปี 1922 เขาก็ได้ตั้งรกรากในปรากและได้ออกแบบสแตมป์และธนบัตรรัฐใหม่ ๐งานของ Mucha เป็นศิลปะแนว Art Nouveau แต่ก็โดดเด่นไม่เหมือนใคร เขามักเขียนภาพบนโปสเตอร์ที่ทำจากกระดาษ หรือผ้าไหมคุณภาพดี สีสันที่เขาใช้จะไม่ค่อยฉูดฉาด ลายเส้นไม่คมชัด แต่ดูกลมกลืนอ่อนช้อยชวนหลงใหล เขาชอบวาดรูป ผู้หญิงด้วยลายเส้นที่อ่อนโยนพลิ้วไหวบนอาภรณ์สไตล์นีโอคลาสิกที่มีดอกไม้ล้อมรอบ ผู้หญิงหลายคนเห็นภาพของเขาแล้ว อาจรู้สึกอยากเป็นผู้หญิงบนภาพของเขาก็เป็นได้


Gustav Klimt เขาคือศิลปินชาวออสเตรีย เป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งที่สนับสนุนให้ศิลปะ อาร์ตนูโว เขามีส่วนร่วมก่อตั้งกลุ่มศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานตามแบบฉบับของ อาร์ต นูโว ในปี ค.ศ. 1897 โดยใช้ชื่อกลุ่มของตนว่า VIENNA SEZESSION คลิ้มท์ มีความสนใจในศิลปะของยุคคลาสสิค เขาจึงได้ศึกษาลวดลายต่างๆ ที่ปรากฎอยู่ ในงานศิลปะของยุคนั้นอย่างจริงจัง และนำมาดัดแปลงเป็นลวดลายซึ่งใช้ประดับ อยู่บนกรอบของภาพที่เขาเขียนขึ้น นอกจากนี้เขายังสนใจในลวดลายที่ใช้ตกแต่ง ประดับประดาตามภาพแกะสลักในงานประติมากรรม ลวดลายของผ้าลวดลายที่ ได้จากดอกไม้และงานโมเสก (Mosaic) สิ่งดังกล่าวมักจะปรากฎอยู่ในงานของ คลิ้มท์เสมอ คลิ้มท์มักเขียนภาพแนวเหมือนจริง เขาสามารถเขียนภาพคนจาก ภาพถ่ายได้เหมือนจริงและดูเป็นธรรมชาติราวกับเขียนมาจากคนต้นแบบ นอก จากนี้สีทองยังเป็นสีที่เขาชอบใช้ และดูจะมีความสำคัญในผลงานของเขาไม่ใช่ น้อย สีทองที่เขาใช้นั้นได้รับอิทธิพลและแรงบันดาลใจมาจาก ศิลปะยุคไบเซไทม์ Byzantine ส่วนผลงานในรุ่นหลังๆ ของเขาเริ่มจะมีรูปทรงที่มีลักษณะแบนและ เรียบง่ายขึ้น มีการใช้สีที่สดใสกว่าเดิม และสิ่งที่น่าสนใจในผลงานของกุสตาฟ คลิมท์ ซึ่งกลายเป็นเสน่ห์ดึงดูดผู้คนให้ชื่นชมผลงานของเขามากที่สุดก็คือ การ เขียนรูปทรงของคนและลวดลายให้มีความผสานกลมกลืนกันจนดูราวกับว่า ทั้ง สองสิ่งนั้นหลอมละลายเป็นหนึ่งเดียว


Henri de ToulouseLautrec

(1864 - 1901) ผู้ประสบปัญหาจากโรคภัยที่ ทำให้เขาไม่สามารถเดินได้อย่างคน ปกติดี ด้วยความที่เขาไม่สามารถทำ อะไรได้ เขาจึงให้ความสนใจกับงาน ศิลปะ เขาตั้งสตูดิโออยู่ที่มงมาตร์ใน ปารีส และที่นั่นเขาก็ได้ใช้ชีวิตอยู่กับ คาเฟ่ คาบาเร่ต์ นักร้องนักแสดงและ ศิลปิน อองรีจับเอฟเฟกต์การเคลื่อน ไหวของเหล่านักเต้น นักแสดงละคร สัตว์ และนักแสดงอื่นๆ ผ่านเส้นสาย ที่เรียบง่ายกลั่นกรอง แล้วนำมาจัด กับสีสันฉูดฉาดทำให้เกิดความรู้สึก ราวกับงานศิลปะเต้นตึกตักไปด้วย ชีวิตและพลังงาน งานภาพพิมพ์หิน ของเขาก็เป็นหนึ่งในงานที่ทรงพลัง ผลงานของเขาเต็มไปด้วยการเสียดสี ที่เฉียบคม แต่ก็เปี่ยมความรู้สึกเห็น ใจด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นภาพสะเทือน อารมณ์ในการที่เขาได้ศึกษาเรียนรู้ จากเหล่าโสเภณี และด้วยรูปแบบอัน พิเศษของเขา ทำเป็นรากฐานให้กับ งานศิลปะชั้นแนวหน้าในอีกหลายๆ ทศวรรษ



Arts and crafts movement http://en.wikipedia.org/wiki/Arts_and_Crafts_Movement http://www.citrinitas.com/history_of_viscom/grid.html Art Nouveau http://th.wikipedia.org/wiki/อาร์ตนูโว http://dj-indy.exteen.com/20081017/gustav-klimt-art-nouveau http://www.bookishclub.com/2010/03/21/alfons-muchaเจ้าตำรับ-art-neuvo-แห่งกรุงปร





Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.