คูมือครู 㪌»ÃСͺ¡ÒÃÊ͹ËÇÁ¡Ñº
˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ©ºÑº »ÃСѹÏ
».
ภาพปกนี้มีขนาดเทากับหนังสือเรียนฉบับจริงของนักเรียน
กระบวนการสอนแบบ 5 Es ชวยสรางทักษะการเรียนรู กิจกรรมมุงพัฒนาทักษะการคิด คำถาม + แนวขอสอบเพื่อยกผลสัมฤทธิ์ O-NET กิจกรรมบูรณาการเตรียมพรอมสู ASEAN 2558
เอกสารประกอบคูมือครู
กลุมสาระการเรียนรู การงานอาชีพและเทคโนโลยี
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปที่ 1
สําหรับครู
คูมือครู Version ใหม
ลักษณะเดน
ขยายพื้นที่รูปเลมใหญขึ้นกวาเดิม จัดแบงพื้นที่ออกเปนโซน เพื่อคนหาขอมูลไดงาย สะดวก รวดเร็ว และดูเปนระเบียบ กระตุน ความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
กระตุน ความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
เปาหมายการเรียนรู สมรรถนะของผูเรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค
หน า
โซน 1 กระตุน ความสนใจ
Engage
สํารวจคนหา
Explore
อธิบายความรู
Explain
ขยายความเขาใจ
Expand
ตรวจสอบผล
หน า
หนั ง สื อ เรี ย น
โซน 1
หนั ง สื อ เรี ย น
Evaluate
ขอสอบเนน การคิด ขอสอบเนน การคิด แนว NT แนว O-NET
O-NET บูรณาการเชื่อมสาระ
เกร็ดแนะครู
ขอสอบ
โซน 2
โซน 3
กิจกรรมสรางเสริม กิจกรรมทาทาย
นักเรียนควรรู
โซน 3
โซน 2 บูรณาการอาเซียน มุม IT
No.
คูมือครู
คูมือครู
No.
โซน 1 ขั้นตอนการสอนแบบ 5Es
โซน 2 ชวยครูเตรียมสอน
โซน 3 ชวยครูเตรียมนักเรียน
เพื่อใหครูเตรียมจัดกิจกรรมการเรียน การสอน โดยแนะนําขั้นตอนการสอนและ การจัดกิจกรรมแบบ 5Es อยางละเอียด เพื่อใหนักเรียนบรรลุตามตัวชี้วัด
เพื่อชวยลดภาระครูผูสอน โดยแนะนํา เกร็ดความรูสําหรับครู ความรูเสริมสําหรับ นักเรียน รวมทั้งบูรณาการความรูสูอาเซียน และมุม IT
เพือ่ ใหครูสะดวกตอการจัดกิจกรรม โดยแนะนํา กิจกรรมบูรณาการเชื่อมระหวางกลุมสาระ วิชา กิจกรรมสรางเสริม กิจกรรมทาทาย รวมถึงเนือ้ หา ทีเ่ คยออกขอสอบ NT/O-NET เก็งขอสอบ NT/O-NET และแนวขอสอบเนนการคิด พรอมคําอธิบาย และเฉลยอยางละเอียด
ที่ใชในคูมือครู
แถบสีและสัญลักษณ
แถบสีแสดงขั้นตอนการสอนและการจัดกิจกรรม แบบ 5Es เพื่อใหครูทราบวาเปนขั้นการสอนขั้นใด
1. แถบสี 5Es สีแดง
สีเขียว
กระตุน ความสนใจ
เสร�ม
สํารวจคนหา
Engage
2
•
เปนขั้นที่ผูสอนเลือกใช เทคนิคกระตุน ความสนใจ เพื่อโยง เขาสูบทเรียน
สีสม
อธิบายความรู
Explore
•
เปนขั้นที่ผูสอน ใหผูเรียนสํารวจ ปญหา และศึกษา ขอมูล
สีฟา
Explain
•
เปนขั้นที่ผูสอน ใหผูเรียนคนหา คําตอบ จนเกิดความรู เชิงประจักษ
สีมวง
ขยายความเขาใจ Expand
•
เปนขั้นที่ผูสอน ใหผูเรียนนําความรู ไปคิดคนตอๆ ไป
ตรวจสอบผล Evaluate
•
เปนขั้นที่ผูสอน ประเมินมโนทัศน ของผูเรียน
2. สัญลักษณ สัญลักษณ
วัตถุประสงค
• เปาหมายการเรียนรู
• หลักฐานแสดงผล การเรียนรู
• เกร็ดแนะครู
แทรกความรูเสริมสําหรับครู ขอเสนอแนะ ขอควรระวัง ขอสังเกต แนวทางการจัด กิจกรรมและอืน่ ๆ เพื่อประโยชนในการ จัดการเรียนการสอน ขยายความรูเพิ่มเติมจากเนื้อหา เพื่อให ครูนําไปใชอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียน ไดมีความรูมากขึ้น
•
ความรูหรือกิจกรรมเสริม ใหครูนําไปใช เตรียมความพรอมใหกบั นักเรียนกอนเขาสู ประชาคมอาเซียนใน พ.ศ. 2558 โดย บูรณาการกับวิชาที่กําลังเรียน
บูรณาการอาเซียน
•
คูม อื ครู
แสดงรองรอยหลักฐานตามภาระงาน ที่ครูมอบหมาย เพื่อแสดงผลการเรียนรู ตามตัวชี้วัด
• นักเรียนควรรู
มุม IT
แสดงเปาหมายการเรียนรูที่นักเรียน ตองบรรลุตามตัวชี้วัด ตลอดจนสมรรถนะ ที่จะตองมี และคุณลักษณะที่พึงเกิดขึ้น กับนักเรียน
แนะนําแหลงคนควาจากเว็บไซต เพื่อให ครูและนักเรียนไดเขาถึงขอมูลความรู ที่หลากหลาย ทั้งไทยและตางประเทศ
สัญลักษณ
ขอสอบ
วัตถุประสงค
O-NET
•
ชีแ้ นะเนือ้ หาทีเ่ คยออกขอสอบ O-NET โดยยกตัวอยางขอสอบ พรอมวิเคราะหคําตอบ อยางละเอียด
•
เปนตัวอยางขอสอบที่มุงเนน การคิดใหครูนําไปใชไดจริง รวมถึงเปนการเก็งขอสอบ O-NET ที่จะออก มีทั้งปรนัย - อัตนัย พรอมเฉลยอยางละเอียด
•
แนวขอสอบ NT ในระดับ ประถมศึกษา มีทงั้ ปรนัย - อัตนัย พรอมเฉลยอยางละเอียด
•
แนะนําแนวทางการจัดกิจกรรม เชื่อมกับสาระหรือกลุมสาระ การเรียนรู ระดับชัน้ หรือวิชาอืน่ ที่เกี่ยวของ
•
แนะนําแนวทางการจัดกิจกรรม ซอมเสริมสําหรับนักเรียนที่ควร ไดรับการพัฒนาการเรียนรู
•
แนะนําแนวทางการจัดกิจกรรม ตอยอดสําหรับนักเรียนที่เรียนรู ไดอยางรวดเร็ว และตองการ ทาทายความสามารถในระดับ ที่สูงขึ้น
(เฉพาะวิชา ชัน้ ทีส่ อบ O-NET O-NET)
แนว
แนว
O-NET
NT
(เฉพาะวิชา ชัน้ ทีส่ อบ NT)
บูรณาการเชื่อมสาระ
กิจกรรมสรางเสริม
กิจกรรมทาทาย
คําแนะนําการใชคูมือครู การออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอน คูมือครู รายวิชา เทคโนโลยีฯ ป.1 จัดทําขึ้นเพื่อใหครูผูสอนนําไปใชเปนแนวทางวางแผนการสอนเพื่อพัฒนา ผลสัมฤทธิท์ างการเรียน และประกันคุณภาพผูเ รียน ตามนโยบายของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน (สพฐ.) โดยใชหนังสือเรียน เทคโนโลยีฯ ป.1 ของบริษัท อักษรเจริญทัศน อจท. จํากัด เปนสื่อหลัก (Core Material) ประกอบ เสร�ม 3 การสอนและการจัดกิจกรรมการเรียนรูใ หสอดคลองกับมาตรฐานการเรียนรูแ ละตัวชีว้ ดั กลุม สาระการเรียนรู การงานอาชีพฯ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พ.ศ. 2551 โดยออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนตามหลักการสําคัญ ดังนี้ 1 ออกแบบการสอนเปนหนวยการเรียนรูอิงมาตรฐาน คูมือครู รายวิชา เทคโนโลยีฯ ป.1 วางแผนการสอนโดยแบงเปนหนวยการเรียนรูตามลําดับสาระ (Standard) และหมายเลขขอของมาตรฐานการเรียนรูแ ละตัวชีว้ ดั แตละหนวยจะกําหนดเปาหมายการสอนและจุดประสงคการเรียนรู (Objective Learning) กิจกรรมการเรียนรู (Learning Activities) และแนวทางการประเมินผลการเรียนรู (Learning Evaluation) ไวชัดเจน ครูผูสอนสามารถจัดทําแผนการสอนใหครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรู ตัวชี้วัด สมรรถนะ และคุณลักษณะ อันพึงประสงคที่เปนเปาหมายการเรียนรูตามที่กําหนดไวในสาระแกนกลาง (ตามแผนภูมิ) และสามารถบันทึกผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนของผูเรียนแตละคนลงในเอกสาร ปพ.5 ไดอยางมั่นใจ แผนภูมิแสดงองคประกอบของการออกแบบการเรียนรูอิงมาตรฐานและเนนผูเรียนเปนสําคัญ
า
พผ
ูเ
จุดปร
ะสง
คก
ส ภา
รียน
ร
รู ีเรยน
มาตรฐานการเรียนรู ตัวชี้วัดชั้นป
ทักษะการคิด การวัดประเมินผล การเรียนรู
กิจกรรมการเรียนรู
เทคนิคการสอน คูม อื ครู
2 การจัดการเรียนรูที่ยึดผูเรียนเปนสําคัญ แนวคิ ด ในการจั ด การเรี ย นการสอนที่ ยึ ด ผู เ รี ย นเป น สํ า คั ญ พั ฒ นามาจากปรั ช ญาและทฤษฎี ก ารเรี ย นรู Constructivism ที่เชื่อวาการเรียนรูเปนกระบวนการที่เกิดขึ้นภายในสมองของผูเรียนแตละคน ผูเรียนเปนผูสรางความรู โดยการเชื่อมโยงระหวางสิ่งที่ไดเรียนรูจากบทเรียนใหมกับความรูหรือประสบการณเดิมที่มีอยู ทฤษฎีนี้มีความเชื่อวา ผูเรียนทุกคนไดเรียนรูและมีการสั่งสมความรูความเขาใจเกี่ยวกับสิ่งตางๆ ติดตัวมากอน ทีจ่ ะเขาสูห อ งเรียน ซึง่ เปนการเรียนรูท เี่ กิดจากประสบการณและสิง่ แวดลอมรอบตัวผูเ รียนแตละคน ดังนัน้ การจัดกิจกรรม เสร�ม การเรียนการสอนในแตละหนวยการเรียนรู ผูสอนจะตองคํานึงถึง
4
1. ความรูเดิมของผูเรียน วิธีการสอนที่ดีจะตองเริ่มตนจากจุดที่วา ผูเ รียนมีความรูอ ะไรมาบาง แลวจึงใหความรู หรือประสบการณใหม เพื่อตอยอดจาก ความรูเดิม นําไปสูการสรางความรู ความเขาใจใหม
2. ความรูเดิมของผูเรียนถูกตองหรือไม ผูส อนตองปรับเปลีย่ นความรูค วามเขาใจเดิม ของผูเรียนใหถูกตอง และเปนพฤติกรรม การเรียนรูใ หมทมี่ คี ณุ คาตอผูเรียน เพื่อสราง เจตคติหรือทัศนคติที่ดีตอการเรียนรู สิ่งเหลานั้น
3. ผูเรียนสรางความหมายสําหรับตนเอง ผูสอนตองสงเสริมใหผูเรียนนําความรู ความเขาใจที่เกิดขึ้นไปลงมือปฏิบัติ เพื่อขยายความรูใหลึกซึ้งและมีคุณคา ตอตัวผูเรียนมากที่สุด
แนวคิด Constructivism เนนใหผูเรียนสรางความรูโดยผานกระบวนการคิดและความอยากรูของตนเอง โดยมีผูสอนเปนผูสรางบรรยากาศ
การเรียนรูและกระตุนความสนใจ คอยจัดสถานการณใหผูเรียนเกิดความขัดแยงทางความคิดระหวางประสบการณเดิมกับประสบการณ ความรูใ หม เพือ่ กระตนุ ใหผเู รียนเชือ่ มโยงความรู ความคิด กับประสบการณทมี่ อี ยูเ ดิม แลวสังเคราะหเปนความรูห รือแนวคิดใหมๆ ไดดว ยตนเอง
3 การบูรณาการกระบวนการคิด การเรียนรูข องผูเ รียนแตละคนจะเกิดขึน้ ทีส่ มอง ซึง่ เปนอวัยวะทีท่ าํ หนาทีร่ คู ดิ ภายใตสภาพแวดลอมทีเ่ อือ้ อํานวย และไดรบั การกระตนุ จูงใจอยางเหมาะสม สอดคลองกับสภาพจิตใจและความตองการของผูเ รียนแตละคน การจัดกิจกรรม การเรียนรูและสาระการเรียนรูที่สอดคลองกับความสนใจและมีความหมายตอผูเรียน จะชวยกระตุนใหสมองของผูเรียน สามารถรับรูและเรียนรูไดอยางมีประสิทธิภาพตามขั้นตอนการทํางานของสมอง ดังนี้ 1. สมองจะเรียนรูและสืบคน โดยการสังเกต คนหา ซักถาม และทดลอง ปฏิบัติ จนทําใหคนพบความรูความเขาใจ ไดอยางรวดเร็ว
2. สมองจะแยกแยะคุณคาของสิ่งตางๆ โดยการตัดสินใจวิพากษวิจารณ แสดง ความคิดเห็น ยอมรับหรือตอตานตาม อารมณความรูสึกที่เกิดขึ้นในขณะที่เรียนรู
3. สมองจะประมวลเนื้อหาสาระ โดยการสรุปเปนความคิดรวบยอดจาก เรื่องราวที่ไดเรียนรูใหมนําไปผสมผสานกับ ความรูห รือประสบการณเดิมทีถ่ กู จัดเก็บอยูใ น สมอง ผานการกลัน่ กรองเพือ่ สังเคราะหเปน ความรูค วามเขาใจใหมๆ หรือเปนทัศนคติใหม ที่จะเก็บบรรจุไวในสมองของผูเรียน
การเรียนรูที่มีประสิทธิภาพจึงตองเปนการเรียนรูที่เกิดจากกระบวนการคิดของผูเรียน เพราะการเรียนรูจะเกิดขึ้น เมื่อสมองรูคิด และตองเปนการคิดไดครบถวนตามขั้นตอนการทํางานของสมองผูเรียน โดยเริ่มตนจาก 1. ระดับการคิดพื้นฐาน ไดแก การสังเกต การจําแนก การคาดคะเน การสื่อความหมาย การรวบรวมขอมูล การสรุปผล เปนตน
คูม อื ครู
2. ระดับลักษณะการคิด ไดแก การคิดกวาง คิดลึกซึ้ง คิดไกล คิดหลากหลาย คิดคลอง คิดอยางมีเหตุผล เปนตน
3. ระดับกระบวนการคิด ไดแก กระบวนการคิดอยางมีวิจารณญาณ กระบวนการแกปญหา กระบวนการ คิดสรางสรรค กระบวนการคิดสังเคราะหวจิ ยั เปนตน
5Es การจัดกิจกรรมตามขั้นตอนวัฏจักรการเรียนรู 5Es ขั้นตอนการสอนที่สัมพันธกับขั้นตอนการคิดและการทํางานทางสมองของผูเรียนที่นิยมใชอยางแพรหลาย คือ วัฏจักรการเรียนรู 5Es ซึ่งผูจัดทําคูมือครูไดนํามาใชเปนแนวทางออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนในแตละหนวย ตามลําดับขั้นตอนการเรียนรู ดังนี้ ขั้นที่ 1
กระตุนความสนใจ
(Engage)
เปนขัน้ ทีผ่ สู อนนําเขาสูบ ทเรียน เพือ่ กระตุน ความสนใจของผูเ รียนดวยเรือ่ งราวหรือเหตุการณทนี่ า สนใจโดยใชเทคนิควิธกี ารสอน และคําถามทบทวนความรูหรือประสบการณเดิมของผูเรียน เพื่อเชื่อมโยงผูเรียนเขาสูความรูของบทเรียนใหม ชวยใหผูเรียนสามารถ สรุปประเด็นสําคัญที่เปนหัวขอและสาระการเรียนรูของบทเรียนได จึงเปนขั้นตอนการสอนที่สําคัญ เพราะเปนการเตรียมความพรอม และสรางแรงจูงใจใฝเรียนรูแกผูเรียน
ขั้นที่ 2
สํารวจคนหา
เสร�ม
5
(Explore)
เปนขัน้ ทีผ่ สู อนเปดโอกาสใหผเู รียนลงมือศึกษา สังเกต หรือรวมมือกันสํารวจ เพือ่ ใหเห็นขอบขายของปญหา รวมถึงวิธกี ารศึกษา คนควา การรวบรวมขอมูลความรูที่จะนําไปสูการสรางความเขาใจประเด็นปญหานั้นๆ เมื่อผูเรียนทําความเขาใจในประเด็นหัวขอที่จะ ศึกษาคนควาอยางถองแทแลว ก็ลงมือปฏิบัติเพื่อเก็บรวบรวมขอมูลความรู สํารวจตรวจสอบ โดยวิธีการตางๆ เชน สัมภาษณ ทดลอง อานคนควาขอมูลจากเอกสาร แหลงขอมูลตางๆ จนไดขอมูลความรูตามที่ตั้งประเด็นศึกษาไว
ขั้นที่ 3
อธิบายความรู
(Explain)
เปนขั้นที่ผูสอนมีปฏิสัมพันธกับผูเรียน เชน ใหการแนะนํา ตั้งคําถามกระตุนใหคิด เพื่อใหผูเรียนคนหาคําตอบ และนําขอมูล ความรูจากการศึกษาคนควาในขั้นที่ 2 มาวิเคราะห สรุปผล และนําเสนอผลที่ไดศึกษาคนความาในรูปแบบสารสนเทศตางๆ เชน เขียนแผนภูมิ แผนผังแสดงมโนทัศน เขียนความเรียง เขียนรายงาน เปนตน ในขั้นตอนนี้ฝกใหผูเรียนใชสมองคิดวิเคราะหและ สังเคราะหอยางเปนระบบ
ขั้นที่ 4
ขยายความเขาใจ
(Expand)
เปนขั้นที่ผูสอนเลือกใชเทคนิควิธีการสอนตางๆ ที่สงเสริมใหผูเรียนนําความรูที่เกิดขึ้นไปคิดคนสืบคนตอๆ ไป เพื่อพัฒนาทักษะ การเรียนรูและการทํางานรวมกันเปนกลุม ระดมสมองเพื่อคิดสรางสรรครวมกัน ผูเรียนสามารถนําความรูที่สรางขึ้นใหมไปเชื่อมโยง กับประสบการณเดิมโดยนําขอสรุปทีไ่ ดไปใชอธิบายเหตุการณตา งๆ หรือนําไปปฏิบตั ใิ นสถานการณใหมๆ ทีเ่ กีย่ วของกับชีวติ ประจําวัน ของตนเอง เพื่อขยายความรูความเขาใจใหกวางขวางยิ่งขึ้น ในขั้นตอนนี้ฝกสมองของผูเรียนใหสามารถคิดริเริ่มสรางสรรคอยางมี คุณภาพ เสริมสรางวิสัยทัศนใหกวางไกลออกไป
ขั้นที่ 5
ตรวจสอบผล
(Evaluate)
เปนขัน้ ทีผ่ สู อนประเมินมโนทัศนของผูเ รียน โดยตรวจสอบจากความคิดทีเ่ ปลีย่ นไปและความคิดรวบยอดทีเ่ กิดขึน้ ใหม ตรวจสอบ ทักษะ กระบวนการปฏิบัติ การแกปญหา การตอบคําถามรวบยอด และการเคารพความคิดหรือยอมรับเหตุผลของคนอื่น เพื่อการ สรางสรรคความรูร ว มกัน ผูเ รียนสามารถประเมินผลการเรียนรูข องตนเอง เพือ่ สรุปผลวามีความรูอ ะไรเพิม่ ขึน้ มาบาง เกิดความเขาใจ มากนอยเพียงใด และจะนําความรูเหลานั้นไปประยุกตใชในการเรียนรูเรื่องอื่นๆ ไดอยางไร ผูเรียนจะเกิดเจตคติและเห็นคุณคาของ ตนเองจากผลการเรียนรูที่เกิดขึ้น ซึ่งเปนการเรียนรูที่มีความสุขอยางแทจริง
การจัดกิจกรรมการเรียนรูตามขั้นตอนวัฏจักรการสรางความรูแบบ 5Es จึงเปนรูปแบบการเรียนการสอนที่เนน ผูเ รียนเปนสําคัญอยางแทจริง เพราะสงเสริมใหผเู รียนไดลงมือปฏิบตั ติ ามขัน้ ตอนของกระบวนการสรางความรูด ว ยตนเอง และฝกฝนใหใชกระบวนการคิดและกระบวนการกลุมอยางชํานาญ กอใหเกิดทักษะชีวิต ทักษะการทํางานและทักษะการ เรียนรูท มี่ ปี ระสิทธิภาพ สงผลตอการยกระดับผลสัมฤทธิข์ องผูเ รียน ตามเปาหมายของการปฏิรปู การศึกษาทศวรรษที่ 2 (พ.ศ. 2552-2561) ทุกประการ คูม อื ครู
O-NET การเพิ่มผลสัมฤทธิ์ O-NET
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามขั้นตอนวัฏจักรการเรียนรู 5Es ในแตละหนวยการเรียนรู ทางผูจัดทํา จะเสนอแนะวิธีสอนรูปแบบกิจกรรมการเรียนรู พรอมทั้งออกแบบเครื่องมือวัดผลประเมินผลที่สอดคลองกับตัวชี้วัด และสาระการเรียนรูแกนกลางไวทุกขั้นตอน โดยยึดหลักสําคัญ คือ เปาหมายของการวัดผลประเมินผล เสร�ม
6
1. การวัดผลทุกครั้งตองนําผล การวัดมาปรับปรุงพัฒนาผูเรียน เปนรายบุคคล
2. การประเมินผลมีเปาหมาย เพื่อพัฒนาการเรียนรูของผูเรียน จนเต็มศักยภาพ
3. การนําผลการวัดและประเมิน ทุกครั้งมาวางแผนปรับปรุงกิจกรรม การเรียนการสอน การเลือกเทคนิค วิธีการสอน และสื่อการเรียนรูให เหมาะสมกับสภาพจริงของผูเรียน
การทดสอบผูเรียน 1. การใชขอสอบอัตนัย เนนการอาน การคิดวิเคราะห และเขียนสรุปเพิ่มมากขึ้น 2. การใชคําถามกระตุนการคิด ควบคูกับการทําขอสอบที่เนนการคิดตลอดตอเนื่องตามลําดับกิจกรรมการเรียนรูและ ตัวชี้วัด 3. การทดสอบตองดําเนินการทั้งกอนเรียน ระหวางเรียน และเมื่อสิ้นสุดการเรียน การทดสอบระหวางเรียน ต อ งใช ข อ สอบทั้ ง ชนิ ด ปรนั ย และอั ต นั ย และเป น การทดสอบเพื่ อ วิ นิ จ ฉั ย ผลการเรี ย นของผู เ รี ย นแต ล ะคน เพื่อวัดการสอนซอมเสริมใหบรรลุตัวชี้วัดทุกตัว 4. การสอบกลางภาค (ถามี) ควรนําขอสอบหรือแบบฝกหัดที่นักเรียนสวนใหญทําผิดบอยๆ มาสรางเปนแบบทดสอบ อีกครัง้ เพือ่ ตรวจสอบความรูค วามเขาใจทีถ่ กู ตอง และประเมินความกาวหนาของผูเรียนแตละคน 5. การสอบปลายภาคเรียนเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามตัวชี้วัดที่สําคัญ ควรออกขอสอบใหมีลักษณะเดียวกับ ขอสอบ O-NET โดยเนนการคิดวิเคราะห สังเคราะห เชื่อมโยงประยุกตใช เพื่อสรางความคุนเคย และฝกฝน วิธีการทําขอสอบดวยความมั่นใจ 6. การนําผลการทดสอบของผูเรียนมาวิเคราะห โดยผลการสอบกอนการเรียนตองสามารถพยากรณผลการสอบ กลางภาค และผลการสอบกลางภาคตองทํานายผลการสอบปลายภาคของผูเ รียนแตละคน เพือ่ ประเมินพัฒนาการ ความกาวหนาของผูเรียนเปนรายบุคคล 7. ผลการทดสอบปลายป ปลายภาค ตองมีคาเฉลี่ยสอดคลองกับคาเฉลี่ยของการสอบ NT ที่เขตพื้นที่การศึกษา จัดสอบ รวมทั้งคาเฉลี่ยของการสอบ O-NET ชวงชั้นที่สอดคลองครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดสําคัญ เพือ่ สะทอนประสิทธิภาพของครูผสู อนในการออกแบบการเรียนรูแ ละประกันคุณภาพผูเ รียนทีต่ รวจสอบผลไดชดั เจน การจัดการเรียนการสอนในแตละหนวยการเรียนรู ตองใหผูเรียนไดสั่งสมความรู สะสมความเขาใจไปทีละเล็ก ละนอยตามลําดับขัน้ ตอนของกิจกรรมการเรียนรู 5Es เพือ่ ใหผเู รียนไดเติมเต็มองคความรูอ ยางตอเนือ่ ง จนสามารถปฏิบตั ิ ชิ้นงานหรือภาระงานรวบยอดของแตละหนวยผานเกณฑประกันคุณภาพในระดับที่นาพึงพอใจ เพื่อรองรับการประเมิน ภายนอกจาก สมศ. ตลอดเวลา คูม อื ครู
ASEAN การเรียนรูสูประชาคมอาเซียน เพื่ออํานวยความสะดวกแกครูผูสอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรูบูรณาการอาเซียนศึกษา ผูจัดทําไดวิเคราะห มาตรฐานการเรียนรู และตัวชี้วัดที่มีสาระการเรียนรูสอดคลองกับองคความรูเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนในแงมุมตางๆ ครอบคลุมทัง้ ประชาคมการเมืองและความมัน่ คงอาเซียน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และประชาคมสังคมและวัฒนธรรม อาเซียน เพื่อสงเสริมการเรียนรูใหผูเรียนเกิดความตระหนัก มีความรูความเขาใจเหมาะสมกับระดับชั้นและกลุมสาระ การเรียนรู โดยเสนอแนะวิธีการจัดกิจกรรมบูรณาการเนื้อหาสาระตางๆ ที่เปนประโยชนตอผูเรียนและเปนการชวย เตรียมความพรอมผูเ รียนทุกคนทีจ่ ะกาวเขาสูก ารเปนสมาชิกของประชาคมอาเซียนไดอยางมัน่ ใจตามขอตกลงปฏิญญา เสร�ม ชะอํา-หัวหิน วาดวยความรวมมือดานการศึกษาเพือ่ บรรลุเปาหมายประชาคมอาเซียนทีเ่ อือ้ อาทรและแบงปน จึงกําหนด 7 เปนนโยบายใหกระทรวงศึกษาธิการจัดการเรียนรูเตรียมความพรอมผูเรียนเขาสูป ระชาคมอาเซียนภายในป พ.ศ. 2558 ตามแนวปฏิบัติที่สําคัญ ดังนี้
การจัดการเรียนรูส ู ประชาคมการเมืองและความมัน่ คงอาเซียน 1. การสรางความรูความเขาใจ และตระหนักถึงความสําคัญของ กฎบัตรอาเซียน และความรวมมือ ของ 3 เสาหลัก ซึง่ กฎบัตรอาเซียน ในขณะนี้มีสถานะเปนกฎหมายที่ ประเทศสมาชิกจะตองปฏิบัติตาม หลักการที่กําหนดไวเพื่อใหบรรลุ เปาหมายของกฎบัตรมาตราตางๆ
2. การสงเสริมหลักการ ประชาธิปไตยและการสราง สิ่งแวดลอมประชาธิปไตย เพื่อการอยูรวมกันอยางกลมกลืน ภายใตวิถีชีวิตอาเซียนที่มีความ หลากหลายดานสังคมและ วัฒนธรรม
4. การตระหนักในคุณคาของ สายสัมพันธทางประวัติศาสตร และมรดกทางวัฒนธรรมที่มี พัฒนาการรวมกัน เพื่อเชื่อม อัตลักษณและสรางจิตสํานึก ในการเปนประชากรของประชาคม อาเซียนรวมกัน
3. การสงเสริมการศึกษาดาน สิทธิมนุษยชน เพื่อสรางประชาคม อาเซียนใหเปนประชาคมเพื่อ ประชาชนอยางแทจริง สามารถ อยูรวมกันไดบนพื้นฐานการเคารพ ในคุณคาของศักดิ์ศรีแหงความ เปนมนุษยเทาเทียมกัน
5. การสงเสริมสันติภาพ ความ มั่นคง และความปรองดองในสังคม ทั้งระดับประเทศและภูมิภาคของ อาเซียนบนพื้นฐานสันติวิธีและการ อยูรวมกันดวยขันติธรรม
คูม อื ครู
การจัดการเรียนรูส ู ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
เสร�ม
8
1. การพัฒนาทักษะการทํางาน เพื่อเสริมสรางผูเรียนใหมีทักษะ วิชาชีพที่จําเปนสอดคลองกับ ความตองการของตลาดแรงงาน และสถานประกอบการในอาเซียน สามารถเทียบโอนผลการเรียน และการทํางานตามมาตรฐานฝมือ แรงงานในภูมิภาคอาเซียน
2. การเสริมสรางวินัย ความรับผิดชอบ และเจตคติรักการทํางาน สามารถพึ่งพาตนเอง มีทักษะชีวิต ดํารงชีวิตอยางมีความสุข เห็นคุณคา และภูมิใจในตนเอง ในฐานะที่เปนพลเมืองไทยและ อาเซียน
3. การเรียนรูเพื่อพัฒนาตนเอง อยางตอเนื่องตลอดชีวิต ใหมี ทักษะการทํางานตามมาตรฐาน อาชีพ และคุณวุฒิของวิชาชีพสาขา ตางๆ เพื่อรองรับการเตรียมเคลื่อน ยายแรงงานมีฝมือและการเปน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่ เขมแข็ง เพื่อสรางขีดความสามารถ ในการแขงขันในเวทีโลก
การจัดการเรียนรูส ู ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน 1. การเสริมสรางความรวมมือ ในลักษณะสังคมที่เอื้ออาทร ของประชากรอาเซียน โดยยึด หลักการสําคัญ คือ ความงดงาม ของประชาคมอาเซียนมาจาก ความแตกตางและหลากหลายทาง วัฒนธรรมที่ลวนแตมีคุณคาตอ มรดกทางวัฒนธรรมของอาเซียน ซึ่งประชาชนทุกคนตองอนุรักษ สืบสานใหยั่งยืน
2. การเสริมสรางคุณลักษณะ ของผูเรียนใหเปนพลเมืองอาเซียน ที่มีศักยภาพในการกาวเขาสู ประชาคมอาเซียนอยางมั่นใจ เปนผูที่มีสุขภาพสมบูรณแข็งแรง มีทักษะการสื่อสาร ทักษะการ ทํางาน ทักษะทางสังคม สามารถ ทํางานรวมกับผูอื่นไดอยาง สรางสรรค และมีองคความรู เกี่ยวกับอาเซียนที่จําเปนตอการ ดํารงชีวิตอยางมีคุณภาพ
4. การสงเสริมการเรียนรูดาน ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถชี วี ติ ความเปนอยูข องเพือ่ นบาน ในอาเซียน เพื่อสรางจิตสํานึกของ ความเปนประชาคมอาเซียนและ ตระหนักถึงหนาที่ของการเปน พลเมืองอาเซียนรวมกัน
3. การสงเสริมการเรียนรูภาษา อังกฤษเพื่อการสื่อสารและการ ทํางานตามมาตรฐานอาชีพที่ กําหนดและสนับสนุนการเรียนรู ภาษาอาเซียนและภาษาเพื่อนบาน เพื่อชวยเสริมสรางสัมพันธภาพทาง สังคม และการอยูรวมกันอยางสันติ ทามกลางความหลากหลายทาง วัฒนธรรม
5. การสรางความรูและความ ตระหนักเกี่ยวกับดานสิ่งแวดลอม ปญหาและผลกระทบตอคุณภาพ ชีวิตของประชากรในภูมิภาค รวมทั้งแนวทางการพัฒนาอยาง ยั่งยืน ใหเปนมรดกสืบทอดแก พลเมืองอาเซียนในรุนหลังตอๆ ไป
กระทรวงศึกษาธิการจึงประกาศนโยบายการปฏิรูปการศึกษาทศวรรษที่ 2 (พ.ศ. 2552-2561) เพื่อเรงพัฒนาเด็ก และเยาวชนไทยใหเปนทรัพยากรมนุษยของชาติที่มีทักษะและความชํานาญ พรอมเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงและ การแขงขันทั้งในภูมิภาคอาเซียนและภูมิภาคอื่นๆ ของสังคมโลก ทั้งนี้ผูบริหารสถานศึกษา ครูผูสอน และผูปกครอง ควรรวมมือกันอยางใกลชิดในการดูแลชวยเหลือผูเรียนและจัดประสบการณการเรียนรูเพื่อพัฒนาผูเรียนจนเต็มศักยภาพ เพื่อกาวเขาสูการเปนพลเมืองอาเซียนอยางมีเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีความเปนมนุษยของตน คณะผูจัดทํา คูม อื ครู
ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรูแกนกลาง สาระที่ 1
การงานอาชีพฯ (เฉพาะชั้น ป.1)*
การดํารงชีวิตและครอบครัว
มาตรฐาน ง 1.1 เขาใจการทํางาน มีความคิดสรางสรรค มีทกั ษะกระบวนการทํางาน ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการ แกปญหา ทักษะการทํางานรวมกัน และทักษะการแสวงหาความรู มีคุณธรรม และลักษณะนิสัยในการ ทํางาน มีจิตสํานึกในการใชพลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดลอม เพื่อการดํารงชีวิตและครอบครัว ชั้น
ตัวชี้วัด
ป.1 1. บอกวิธีการทํางาน เพื่อชวยเหลือตนเอง
สาระการเรียนรูแกนกลาง
• วิธีการทํางานเพื่อชวยเหลือตนเอง เปนการลงมือทํางานที่มุงเมน • การฝกทํางานอยางสมํ่าเสมอ เชน - การแตงกาย - การเก็บของใช - การหยิบจับใชของใชสวนตัว - การจัดโตะ ตู ชั้น
• การใชวัสดุ อุปกรณ และเครื่องมืองายๆ 2. ใชวัสดุ อุปกรณ ในการทํางานอยางปลอดภัย เชน และเครื่องมืองายๆ ในการทํางานอยางปลอดภัย - การทําความคุนเคยกับการใช เครื่องมือ - การรดนํ้าตนไม - การถอนและเก็บวัชพืช - การพับกระดาษเปนของเลน 3. ทํางานเพื่อชวยเหลือตนเอง อยางกระตือรือรน และตรงเวลา
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน
เสร�ม
9
สาระที่ 1 ตัวชี้วัดที่ 1-3 นี้ จะปรากฎ ในหนังสือเรียน การงาน อาชีพและเทคโนโลยี ป.1
• ความกระตือรือรนและตรงเวลา เปนลักษณะนิสัยในการทํางาน
หมายเหตุ : หนังสือเรียน เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ป.1 เรียนเฉพาะสาระที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารเทานั้น
* สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, กระทรวงศึกษาธิการ. ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรูแกนกลาง กลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพและเทคโนโลยี. (กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพชุมนุมสหกรณการเกษตรแหงประเทศไทย, 2551), หนา 6 - 50. คูม อื ครู
สาระที่ 3
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
มาตรฐาน ง 3.1 เขาใจ เห็นคุณคา และใชกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบคนขอมูล การเรียนรู การสื่อสาร การแกปญหา การทํางาน และอาชีพอยางมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และมีคุณธรรม ชั้น
เสร�ม
10
ตัวชี้วัด
ป.1 1. บอกขอมูลที่สนใจและ แหลงขอมูลที่อยูใกลตัว
2. บอกประโยชนของอุปกรณ เทคโนโลยีสารสนเทศ
คูม อื ครู
สาระการเรียนรูแกนกลาง
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน
• หนวยการเรียนรูที่ 1 • ขอมูลของสิ่งตางๆ ที่สนใจอาจเปน ขอมูลนารู ขอมูลเกี่ยวกับบุคคล สัตว สิ่งของ บทที่ 1 รับรูขอมูล เรื่องราว และเหตุการณตางๆ บทที่ 2 แหลงขอมูลนารู • แหลงขอมูลที่อยูใกลตัว เชน บาน หองสมุด ผูปกครอง ครู หนังสือพิมพ รายการโทรทัศน • หนวยการเรียนรูที่ 2 • อุปกรณเทคโนโลยีสารสนเทศ เชน อุปกรณเทคโนโลยี คอมพิวเตอร กลองดิจิทัล โทรทัศน สารสนเทศ วิทยุ โทรศัพทมือถือ บทที่ 1 รูจ ักอุปกรณ • ประโยชนของอุปกรณเทคโนโลยีเทคโนโลยี สารสนเทศ เชน ใชในการเรียน สารสนเทศ ใชวาดภาพ ใชติดตอสื่อสาร บทที่ 2 คอมพิวเตอรนารู
คําอธิบายรายวิชา รายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปที่ 1 รหัสวิชา ง…………………………………
กลุมสาระการเรียนรู การงานอาชีพและเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 1-2 เวลา 20 ชั่วโมง/ป
ศึกษาขอมูลที่นาสนใจและแหลงขอมูลที่อยูใกลตัว เชน ผูปกครอง ครู อุปกรณเทคโนโลยีสารสนเทศ เสร�ม 11 ตางๆ บอกหนาที่และประโยชนของอุปกรณเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยใชกระบวนการการทํางาน กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการคิดวิเคราะหและกระบวนการทํางานกลมุ เพื่อใหเกิดความรู ความคิด ความเขาใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรูและเห็นคุณคาของการทํางาน และนํา ความรูที่เรียนไปประยุกตใชในชีวิตประจําวัน มีความสามารถในการตัดสินใจ มีจริยธรรม คุณธรรม คานิยม ที่เหมาะสม และมีจิตสํานึกในการอนุรักษสิ่งแวดลอม ตัวชี้วัด ง 3.1
ป.1/1
ป.1/2 รวม 2 ตัวชี้วัด
คูม อื ครู
จุดเนนการพัฒนาคุณภาพผูเรียน* การขับเคลื่อนหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551 และการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษ ที่สอง (พ.ศ. 2552-2561) ใหประสบผลสําเร็จตามจุดเนนการพัฒนาคุณภาพผูเรียน โดยใหทุกภาคสวน รวมกันดําเนินการ กระทรวงศึกษาธิการไดกําหนดจุดเนนการพัฒนาคุณภาพผูเรียน ดังนี้ เสร�ม
12
ทักษะ ความสามารถ
คุณลักษณะ จุดเนนตามชวงวัย
ม. 4-6
แสวงหาความรู เพื่อแกปญหา ใชเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู ใชภาษาตางประเทศ (ภาษาอังกฤษ) มีทักษะการคิดขั้นสูง ทักษะชีวิต ทักษะการสื่อสารอยางสรางสรรคตามชวงวัย
ม. 1-3
แสวงหาความรูดวยตนเอง ใชเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู มีทักษะการคิดขั้นสูง ทักษะชีวิต ทักษะการสื่อสารอยางสรางสรรคตามชวงวัย
• อยูอยางพอเพียง
ป. 4-6
อานคลอง เขียนคลอง คิดเลขคลอง ทักษะการคิดขั้นพื้นฐาน ทักษะชีวิต ทักษะการสื่อสารอยางสรางสรรคตามชวงวัย
• ใฝเรียนรู
ป. 1-3
อานออก เขียนได คิดเลขเปน มีทักษะการคิดขั้นพื้นฐาน ทักษะชีวิต ทักษะการสื่อสารอยางสรางสรรคตามชวงวัย
• ใฝดี
• มุงมั่นในการศึกษา และการทํางาน
คุณลักษณะตามหลักสูตร
• รักชาติ ศาสน กษัตริย • ซื่อสัตยสุจริต • มีวินัย • ใฝเรียนรู • อยูอยางพอเพียง • มุงมั่นในการทํางาน • รักความเปนไทย • มีจิตสาธารณะ
* สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, กระทรวงศึกษาธิการ. แนวทางการนําจุดเนนการพัฒนาผูเรียน สูการปฏิบัติ. (กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพชุมนุมสหกรณการเกษตรแหงประเทศไทย, 2553), หนา 3-10.
คูม อื ครู
กระตุน ความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ÃÒÂÇÔªÒ¾×é¹°Ò¹
à·¤â¹âÅÂÕÊÒÃʹà·ÈáÅСÒÃÊ×èÍÊÒà ».ñ ªÑé¹»ÃжÁÈÖ¡ÉÒ»‚·Õè ñ ¡ÅØ‹ÁÊÒÃСÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ ¡ÒçҹÍÒªÕ¾áÅÐà·¤â¹âÅÂÕ µÒÁËÅÑ¡ÊÙµÃ᡹¡ÅÒ§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ¢Ñé¹¾×é¹°Ò¹ ¾Ø·¸ÈÑ¡ÃÒª òõõñ
¼ÙŒàÃÕºàÃÕ§ ¹Ò§¼¡ÒÁÒÈ ºØÞà¼×Í¡ ¼ÙŒµÃǨ
¹Ò§¾ÃóÇÅÕ ©ÔÁ´Í¹·Í§ ¹Ò§ÍÒ·ÔµÂÒ ªíÒ¹Òި، ¹Ò§ÊÒÇÇÕÃÐÇÃó ÇÕÃо§É
ºÃóҸԡÒà ¹Ò¹ѵµÔÇѲ¹ ÈÃÕºØÉÂ
¾ÔÁ¾ ¤ÃÑ駷Õè ÷
ʧǹÅÔ¢ÊÔ·¸ÔìµÒÁ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞÑµÔ ISBN : 978-616-203-064-2 ÃËÑÊÊÔ¹¤ŒÒ ñññ÷ðñõ
¤Œ¹¤ÇÒÁÃÙŒ¢ÂÒ¤ÇÒÁ¤Ô´¨Ò¡
¾ÔÁ¾ ¤ÃÑ駷Õè ñ ÃËÑÊÊÔ¹¤ŒÒ ññô÷ðóô
EB GUIDE
ที่พิมพกํากับหัวขอสําคัญในหนังสือเรียนหลักสูตรใหม ชั้น ป.๔ ขึ้นไป ผาน www.aksorn.com ไปยังแหลงความรูทั่วไทย-ทั่วโลก
(
ดูแผนผังความคิดฯ ไดทปี่ กหลังดานใน)
กระตุน ความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
คํานํา ˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ à·¤â¹âÅÂÕÊÒÃʹà·ÈáÅСÒÃÊ×èÍÊÒà ».ñ àÅ‹Á¹Õé¨Ñ´·íÒ¢Öé¹ ÊíÒËÃѺ㪌»ÃСͺ¡ÒÃàÃÕ¹¡ÒÃÊ͹ªÑé¹»ÃжÁÈÖ¡ÉÒ»‚·Õè ñ â´Â´íÒà¹Ô¹¡ÒèѴ·íÒãËŒ ÊÍ´¤ÅŒÍ§µÒÁ¡Ãͺ¢Í§ËÅÑ¡ÊÙµÃ᡹¡ÅÒ§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ¢Ñ¹é ¾×¹é °Ò¹ ¾.È. òõõñ ·Ø¡»ÃСÒà ʋ§àÊÃÔÁ¡Ãкǹ¡ÒäԴ ¡ÒÃÊ׺àÊÒÐËÒ¤ÇÒÁÃÙŒ ¡ÒÃá¡Œ»Þ ˜ ËÒ ¤ÇÒÁÊÒÁÒö 㹡ÒÃÊ×Íè ÊÒà ¡ÒõѴÊԹ㨠¡ÒùíÒä»ãªŒã¹ªÕÇµÔ Ê‹§àÊÃÔÁãËŒ¼àÙŒ ÃÕ¹ࢌÒã¨áÅÐÁÕ·¡Ñ ÉÐ㹡Ò䌹ËÒ¢ŒÍÁÙÅ Í‹ҧÁÕ¢¹Ñé µÍ¹ ÃÙ¨Œ ¡Ñ ¹íÒ»ÃÐ⪹ ¢Í§ÍØ»¡Ã³ à·¤â¹âÅÂÕÊÒÃʹà·ÈÁÒ»ÃÐÂØ¡µ 㪌㹡Òà ·íҧҹ͋ҧÁդس¸ÃÃÁ ˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ à·¤â¹âÅÂÕÊÒÃʹà·ÈáÅСÒÃÊ×Íè ÊÒà ».ñ àÅ‹Á¹Õé ÁÕ·§Ñé ËÁ´ ò ˹‹Ç ã¹áµ‹ÅÐ˹‹ÇÂẋ§à»š¹º·Â‹ÍÂæ «Ö觻ÃСͺ´ŒÇ ñ. ໇ÒËÁÒ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙ»Œ ÃШíÒ˹‹Ç ¡íÒ˹´ÃдѺ¤ÇÒÁÃÙŒ ¤ÇÒÁÊÒÁÒö ¢Í§¼ÙàŒ ÃÕ¹NjÒàÁ×Íè àÃÕ¹¨ºã¹áµ‹ÅÐ˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ µŒÍ§ºÃÃÅØÁҵðҹµÑǪÕÇé ´Ñ ·Õ¡è Òí ˹´ äÇŒã¹ËÅÑ¡ÊٵâŒÍã´ºŒÒ§ ò. ÊÒÃÐÊíÒ¤ÑÞ á¡‹¹¤ÇÒÁÃÙŒ·Õè໚¹¤ÇÒÁÃÙŒ¤ÇÒÁࢌÒ㨤§·¹µÔ´µÑǼٌàÃÕ¹ ó. à¹×éÍËÒ ¤ÃºµÒÁËÅÑ¡ÊÙµÃ᡹¡ÅÒ§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ¢Ñé¹¾×é¹°Ò¹ ¾.È. òõõñ ¹íÒàʹÍàËÁÒÐÊÁ¡Ñº¡ÒÃàÃÕ¹¡ÒÃÊ͹ã¹áµ‹ÅÐÃдѺªÑé¹ ô. ¡Ô¨¡ÃÃÁ ÁÕËÅÒ¡ËÅÒÂÃٻẺãËŒ¹Ñ¡àÃÕ¹»¯ÔºÑµÔ ẋ§à»š¹ (ñ) ¡Ô¨¡ÃÃÁ¹íÒÊ‹Ù¡ÒÃàÃÕ¹ ¹íÒࢌÒÊ‹Ùº·àÃÕ¹à¾×èÍ¡Ãе،¹¤ÇÒÁʹ㨠ᡋ¼ÙŒàÃÕ¹ (ò) ¡Ô¨¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ ÁͺËÁÒÂãËŒ¹Ñ¡àÃÕ¹½ƒ¡»¯ÔºÑµÔà¾×è;Ѳ¹Ò ¤ÇÒÁÃÙŒ áÅзѡÉлÃШíÒ˹‹Ç ¤³Ð¼ÙŒ¨Ñ´·íÒËÇѧ໚¹Í‹ҧÂÔè§Ç‹Ò ˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ à·¤â¹âÅÂÕÊÒÃʹà·È áÅСÒÃÊ×èÍÊÒà ».ñ àÅ‹Á¹Õé ¨Ð໚¹Ê×èÍ¡ÒÃàÃÕ¹¡ÒÃÊ͹·ÕèÍíҹǻÃÐ⪹ µ‹Í¡Òà àÃÕ¹෤â¹âÅÂÕáÅÐÊÒÃʹà·È à¾×èÍãËŒÊÑÁÄ·¸Ô¼ÅµÒÁÁҵðҹµÑǪÕéÇÑ´·Õè¡íÒ˹´änj㹠ËÅÑ¡ÊÙµÃ᡹¡ÅÒ§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ¢Ñé¹¾×é¹°Ò¹ ¾.È. òõõñ ·Ø¡»ÃСÒà ¤³Ð¼ÙŒ¨Ñ´·íÒ
กระตุน ความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
เปาหมายการเรียนรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
คําชี้แจงในการใชสื่อ
กําหนดระดับความรูความสามารถ ของผูเรียนเมื่อเรียนจบหนวย
¡Ô¨¡ÃÃÁ¹�ÊÙ‹¡ÒÃàÃÕ¹ นําเขาสูบทเรียนใชกระตุนความสนใจ และวัดประเมินผลกอนเรียน
ÊÔè§ã´ ໚¹áËÅ‹§¢ŒÍÁÙÅ ºŒÒ§¹Ð
º··Õè
๑๑
รับรูขอมูล ¡Ô¨¡ÃÃÁ¹ÓÊÙ‹¡ÒÃàÃÕ¹
หนวยการเรียนรูที่
๑
ขอมูลนารู เปาหมายการเรียนรูประจําหนวยที่ ๑
เมื่อเรียนจบหนวยน�้ ผูเรียนจะมีความรูความสามารถตอไปน�้ บอกขอมูลที่สนใจและแหลงขอมูลที่อยูใกลตัว (มฐ. ง ๓.๑ ป.๑/๑) ●
à¾×èÍ¹æ ¤Ô´Ç‹Ò à´ç¡ã¹ÀÒ¾ ¨Ðä´ŒÃѺ¢ŒÍÁÙÅÍÐäúŒÒ§¨ Ð
í
เน�้อหา
ครบตามหลักสูตรแกนกลางฯ พ.ศ. ๒๕๕๑ นําเสนอเหมาะสม กับการเรียนการสอนในแตละระดับชั้น
ขอมูลเปนเรื่องราวหรือสิ่งตางๆ ที่เรา สามารถรับรูไดจากแหลงขอมูลตางๆ
í
แกนความรูที่เปนความเขาใจ คงทนติดตัวผูเรียน
๒
¡Ô ¨¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ มอบหมายผูเรียนฝกปฏิบัติ เพื่อพัฒนา ความรูและทักษะประจําหนวย
๓ ประโยชนของขอมูล
ขอมูลในชีวิตประจําวันมีมากมาย ซึ่งคนเรานําขอมูลเหลานี้ มาใชประโยชน เชน การนําขอมูลสภาพอากาศมาประมวลผล แลวใชในการพยากรณอากาศ การนําขอมูลประชากรมาวางแผน การพัฒนาประเทศ เปนตน ¢ŒÍÁÙÅÁÕ»ÃÐ⪹ ã¹´ŒÒ¹µ‹Ò§æ ´Ñ§¹Õé ñ
ÇѤ«Õ¹»‡Í§¡Ñ¹ 䢌ËÇÑ´ãËÞ‹
2009
ò
¤íÒ¶ÒÁ¨Ø´»ÃСÒ ¡ÒÃÃѺÃÙŒ¢ŒÍÁÙÅ´ŒÒ¹µ‹Ò§æ ઋ¹ ¢ŒÍÁÙÅ à¡ÕèÂǡѺºØ¤¤Å ¢ŒÍÁÙÅà¡ÕèÂǡѺʶҹ·Õè ໚¹µŒ¹ ÁÕ»ÃÐ⪹ µ‹Í¡ÒôíÒà¹Ô¹ªÕÇÔµ »ÃШíÒÇѹÍ‹ҧäÃ
ó
ª‹ÇÂ㹡ÒõѴÊÔ¹ã¨ËÃ×Íᡌ䢻˜ÞËÒ
เพือ่ ใหตดั สินใจหรือแกไขปญหาไดถกู ตอง เชน • เมื่อเรารูขอมูลวาคะแนนสอบวิชา ภาษาไทยของตนเองไมคอยดี เราจึง ควรขยันและตั้งใจเรียนใหมากขึ้น • เมือ่ เรารูข อ มูลเกีย่ วกับโรคไขหวัดใหญ ๒๐๐๙ เราจึงควรหาวิธีปองกันตัวเอง เพื่อไมใหเปนโรคนี้ได เปนตน ª‹Ç¾Ѳ¹Òµ¹àͧ
ทําใหเราเปนคนฉลาด รอบรู สามารถ วางแผนการทํางาน การเรียนและการ ปฏิบตั งิ านตามหนาทีท่ ี่ไดรบั มอบหมาย ไดเปนอยางดี ª‹Ç¾Ѳ¹ÒªØÁª¹áÅÐÊѧ¤Á
เชน ผูด แู ลชุมชนมีขอ มูลวามีเด็กๆ ในชุมชน เพิ่มขึ้นจํานวนมาก จึงสรางสนามเด็กเลน เพือ่ ใหเด็กๆ ใชเปนทีอ่ อกกําลังกาย เปนตน
๑๖
¡Ô ¨¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙ·Œ Õè ó ๑ เขียนแผนผังความคิดสรุปประโยชนของขอมูลลงในสมุด ๒ อานเรื่องที่กําหนด แลวตอบคําถาม หางของแมว…บอกอารมณของแมว ภาษาที่ใชในการสือ่ สารทัง้ มนุษยและสัตวแบงออกเปน ๒ อยาง คือ ภาษาพูด (ใชเสียง) และภาษาทาทาง (ใชอวัยวะในการสือ่ สาร) ซึง่ แมวจะใชหางในการสือ่ สารเพือ่ บงบอกถึงอารมณของมัน ดังนี้ ลักษณะของหางแมว
อารมณของแมว
หางและปลายหาง ตั้งตรงในแนวดิ่ง
อารมณดี รูสึกเปนมิตร เมื่อไดพบกับแมวตัวอื่น
หางอยูนิ่งๆ แตมีการ กระตุกเปนครั้งคราว
รูสึกวาถูกรบกวน หรือมีความกังวล
หางเหยียดตรงชี้ขึ้น และขนที่หางลุกชัน
ดุราย กาวราว
๑) นักเรียนอานเรื่อง “หางของแมว…บอกอารมณของแมว” แลวรูสึกอยางไร ๒) การอานเรื่องนี้ใหประโยชนตอนักเรียนอยางไร
¡Ô¨¡ÃÃÁºÙóҡÒÃÊÙ‹ªÕÇÔµ ¶ŒÒ¤Ø³¤ÃپҹѡàÃÕ Â¹ä»·ÑȹÈÖ¡ÉÒ·ÕÊè ǹÊÑµÇ ¹Ñ¡àÃÕ Â¹¤Ô´Ç‹Ò¨Ðä´Œ¢ÍŒ ÁÙÅÍÐäúŒÒ§ áŌǢŒÍÁÙÅ àËÅ‹Ò¹ÑÑ鹨ѴÍÂÙ‹ ã¹»ÃÐàÀ·ã´ áÅÐä´Œ»ÃÐ⪹ Í‹ҧäèҡ¢ŒÍÁÙŹÑé¹
๑๗
¤íÒ¶ÒÁ¨Ø´»ÃСÒ คําถามที่กระตุนความสนใจ และฝกฝน การคิดวิเคราะห
¤íÒ¶ÒÁºÙóҡÒÃÊÙ‹ªÕÇÔµ คําถามที่ใหผูเรียนคิดวิเคราะห และนํา ความรูไปประยุกตใชในชีวิตประจําวัน
กระตุน ความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
สารบั ญ
ห น ว ย การเรียนรูที่
๑ ขอมูลนารู บทที่ ๑ รับรูขอมูล
บทที่ ๒ แหลงขอมูลนารู
ห น ว ย การเรียนรูที่
๒ อุปกรณเทคโนโลยีสารสนเทศ บทที่ ๑ รูจักอุปกรณเทคโนโลยีสารสนเทศ บทที่ ๒ คอมพิวเตอรนารู
บรรณานุกรม ภาคผนวก
๑ ๒ ๑๘
๓๓ ๓๔ ๔๗
๖๘ พิเศษ ๑
กระตุน ความสนใจ กระตุEngage นความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
กระตุน ความสนใจ ÊÔè§ã´ ໚¹áËÅ‹§¢ŒÍÁÙÅ ºŒÒ§¹Ð
หนวยการเรียนรูที่
Engage
ใหนักเรียนดูภาพ หนา 1 แลวตอบคําถาม อยางอิสระ • จากภาพ มีแหลงขอมูลใดบาง (ตอบ หนังสือพิมพ ดอกไม แม) • นักเรียนคิดวา แหลงขอมูลนีจ้ ะใหขอ มูล อะไรบาง และขอมูลนี้จัดเปนขอมูล ประเภทใด (แนวตอบ • หนังสือพิมพ ใหขอมูลขาวสารเหตุการณ ในปจจุบัน ความรู ความบันเทิง จัดเปน ขอมูลตัวอักษร ตัวเลข และภาพ • ดอกไม ใหขอมูลเกี่ยวกับลักษณะ รูปราง สีสนั ของดอกไมชนิดนัน้ จัดเปนขอมูลภาพ • แมใหขอมูลความรูตางๆ คําสั่งสอน จัดเปนขอมูลเสียง)
๑
ขอมูลนารู เปาหมายการเรียนรู้ประจําหนวยที่ ๑
เมื่อเรียนจบหน่วยน�้ ผู้เรียนจะมีความรู้ความสามารถต่อไปน�้ บอกข้อมูลที่สนใจและแหล่งข้อมูลที่อยู่ใกล้ตัว (มฐ. ง ๓.๑ ป.๑/๑) ●
เกร็ดแนะครู ในหนวยการเรียนที่ 1 มีเนื้อหา ดังนี้ • ความหมายของขอมูล • ประเภทของขอมูล • ประโยชนของขอมูล • แหลงขอมูล • การรวบรวมขอมูล
คูมือครู
1
กระตุน ความสนใจ กระตุEngage นความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
เปาหมายการเรียนรู
บอกขอมูลที่สนใจและแหลงขอมูลที่อยูใกลตัว (ง 3.1 ป.1/1)
º··Õè
สมรรถนะของผูเรียน 1. 2. 3. 4.
๑๑
รับรูขอมูล
ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการใชเทคโนโลยี ความสามารถในการคิด ความสามารถในการใชทักษะชีวิต
¡Ô¨¡ÃÃÁ¹ÓÊÙ‹¡ÒÃàÃÕ¹
คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. ใฝเรียนรู 2. มุงมั่นในการทํางาน
กระตุน ความสนใจ
Engage
1. ใหนักเรียนดูภาพ หนา 2 แลวครูถามคําถาม นักเรียน ดังนี้ • เด็กในภาพกําลังทําอะไร และจะไดรับขอมูล อะไร (ตอบ เด็กหญิงอานหนังสือพิมพ จะไดรับ ขอมูลขาวสารเหตุการณที่เกิดขึ้นในปจจุบัน ไดรับสาระ ความรูตางๆ เด็กชายดูโทรทัศน จะไดรับขอมูลความรู ความบันเทิง) 2. ครูชวนนักเรียนสนทนาวา • ใครเคยอานหนังสือพิมพบาง และอาน เรื่องอะไร เพราะอะไร • ใครเคยดูโทรทัศนบาง และดูอะไร เพราะอะไร (แนวตอบ ตอบไดหลากหลาย ขึ้นอยูกับ นักเรียนแตละคน)
à¾×èÍ¹æ ¤Ô´Ç‹Ò à´ç¡ã¹ÀÒ¾ ¨Ðä´ŒÃѺ¢ŒÍÁÙÅÍÐäúŒÒ§¨ Ð
í ข้อมูลเป็นเรื่องราวหรือสิ่งต่างๆ ที่เรา สามารถรับรู้ได้จากแหล่งข้อมูลต่างๆ
๒
เกร็ดแนะครู ครูจัดกระบวนการเรียนรูโดยการใหนักเรียนปฏิบัติ ดังนี้ • สํารวจ สังเกตเกี่ยวกับขอมูลตางๆ • สืบคนขอมูลตางๆ • วิเคราะหขอมูลตางๆ • จําแนกขอมูลตามประเภทของขอมูล • วิเคราะหจากประเด็นคําถามและภาพเกี่ยวกับขอมูล จนเกิดเปนความรูความเขาใจวาขอมูลเปนเรื่องราว เหตุการณ หรือสิ่งตางๆ ทั้งที่เกี่ยวของกับตัวเรา และไมเกี่ยวของกับตัวเรา ซึ่งเราสามารถรับรูไดจาก แหลงขอมูลตางๆ
2
คูมือครู
สํารวจคนหา
กระตุนความสนใจ Engage
สํารวจค Exploreนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
สํารวจคนหา
1. ใหนักเรียนสังเกตสิ่งตางๆ ที่อยูรอบตัวเรา วามีอะไรบาง โดยครูเขียนตามคําบอกของ นักเรียนลงบนกระดาน 2. ใหนกั เรียนผลัดกันบรรยายลักษณะของสิง่ ตางๆ ที่เขียนไวบนกระดาน 3. ครูแบงกระดานอีกฝง แลวเขียนหัวขอ ดังนี้ • ขอมูลเกี่ยวกับบุคคล • ขอมูลเกี่ยวกับสถานที่ • ขอมูลเกี่ยวกับสิ่งของ • ขอมูลเกี่ยวกับสัตว • ขอมูลเกี่ยวกับพืช • ขอมูลเกี่ยวกับธรรมชาติ • ขอมูลเกี่ยวกับเหตุการณตางๆ 4. ใหนักเรียนชวยกันจําแนกวา สิ่งที่เขียน บนกระดานจัดเปนขอมูลเกี่ยวกับอะไร โดยดูจากหัวขอที่ครูเขียนไวบนกระดาน
๑ ความหมายของขอมูล
ข้อมูล หมายถึง ข้อเท็จจริงหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ได้แก่ คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ รวมถึงสิ่งต่างๆ ที่เรารับรู้ได้โดยการ ดู ฟง ดมกลิ่น สัมผัส และชิมรสชาติ ๑. ข้อมูลรอบตัว ในแต่ละวันเราจะพบเห็นสิ่งต่างๆ มากมาย สิ่งที่เราพบเห็นนี้คือข้อมูลนั่นเอง ได้แก่ ๑) ข้อมูลเกีย่ วกับบุคคล เช่น ข้อมูลของนักเรียน ข้อมูลของ คุณพ่อคุณแม่ เป็นต้น ตัวอย่าง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล ●
●
●
●
●
●
●
●
ข้อมูลของคุณแม นางดารา รักวงษา เกิดเมื่อวันที่ ๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๗ ประกอบอาชีพช่างตัดเย็บ เสื้อผ้าอยู่ที่บ้าน มีภูมิล�าเนาเดิมอยู่ที่จังหวัด ชลบุรี ข้อมูลของลูกสาว เด็กหญิงมีนา รักวงษา เกิดเมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ เรียนอยู่ชั้น ป. ๑/๒ 1 โรงเรียนวัดมหรรณพ์ ชอบเรียนวิชาศิลปะ
●
●
●
●
Explore
ข้อมูลของคุณพอ นายพิธา รักวงษา เกิดเมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ ประกอบอาชีพครู สอนอยูท่ ี่โรงเรียนวัดมหรรณพ์ ทีอ่ ยู่ ๒๖๑/๑ ถ. ตะนาว เขตพระนคร กรุงเทพฯ
๓
ขอสอบเนนการคิด
ขอมูลเกี่ยวกับโทรศัพทเคลื่อนที่ จัดเปนขอมูลประเภทใด ก. ขอมูลเกี่ยวกับสิ่งของ ข. ขอมูลเกี่ยวกับสถานที่ ค. ขอมูลเกี่ยวกับเหตุการณ
วิเคราะหคําตอบ โทรศัพทเคลื่อนที่เปนอุปกรณเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ใชพูดคุยติดตอสื่อสารกับผูอื่น ซึ่งในปจจุบันโทรศัพทเคลื่อนที่บางชนิด ยังสามารถใชถายภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ใชดูโทรทัศน ฟงเพลง ใชเชื่อมตอ เครือขายอินเทอรเน็ตไดอีกดวย ขอมูลเกี่ยวกับโทรศัพทเคลื่อนที่จึงเปนขอมูล เกี่ยวกับสิ่งของ ดังนั้น ขอ ก. จึงเปนคําตอบที่ถูก
เกร็ดแนะครู ครูอาจนําขอมูลเกี่ยวกับบุคคลที่มีความสามารถ หรือทําคุณประโยชนในดาน ตางๆ มาใหนักเรียนศึกษาขอมูล เพื่อใหนักเรียนเกิดแรงบันดาลใจในการปฏิบัติตน ในสิ่งที่ดีงามตามแบบอยางของบุคคลสําคัญ
นักเรียนควรรู 1 โรงเรียนวัดมหรรณพ เดิมชื่อ โรงเรียนวัดมหรรณพาราม เปนโรงเรียนสําหรับ ราษฎรแหงแรกของไทย ตั้งอยูที่วัดมหรรณพาราม ถ.ตะนาว แขวงเสาชิงชา เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร โดยในป พ.ศ. 2427 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว ทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ ใหสมเด็จพระเจาบรมวงศเธอ กรมพระยาดํารงราชานุภาพ ตั้งโรงเรียนหลวงเพิ่มขึ้นตามวัดหลายแหงทั้งในกรุงเทพมหานคร และหัวเมืองตางๆ คูมือครู
3
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
Explain
1. ใหนักเรียนรวมกันอภิปรายวาขอมูลหมายถึง อะไร และมีขอมูลเกี่ยวกับอะไรบาง 2. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความหมายของขอมูล จากนัน้ ใหนกั เรียนดูภาพ หนา 3 และรวมกันอาน เรื่องขอมูลรอบตัวเรา และขอมูลเกีย่ วกับบุคคล แลวรวมกันแสดงความคิดเห็นวา ขอมูลนี้ เปนขอมูลเกี่ยวกับอะไร 3. ครูชวนนักเรียนสนทนาวา ขอมูลเกี่ยวกับบุคคล ยังมีขอมูลอะไรอีกบางนอกจากในหนังสือ 4. ใหนักเรียนแตละคนบอกขอมูลเกี่ยวกับตนเอง ใหเพื่อนๆ ฟง 5. ใหนักเรียนดูภาพ หนา 4 แลวใหชวยกันบอกวา สถานที่ในภาพคือที่ใด 6. ครูนําภาพพระปฐมเจดียที่เปนภาพจริงมาให นักเรียนดู แลวครูเลาประวัติพระปฐมเจดีย อยางสั้นๆ ใหนักเรียนฟง 7. ใหนักเรียนชวยกันบอกวา สถานที่รอบๆ ตัวเรา มีอะไรบาง เชน วัด โรงเรียน สถานีอนามัย เปนตน 8. ใหนักเรียนรวมกันอภิปรายวา ถาตองการรู ขอมูลเกี่ยวกับสถานที่ตางๆ ควรทําอยางไร 9. ใหนักเรียนแบงกลุม แลวใหแตละกลุมหาขอมูล เกี่ยวกับสถานที่ที่อยูรอบตัวเรา แลวออกมาเลา ใหเพื่อนฟงที่หนาชั้น
๒) ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ เช่น ข้อมูลของโรงเรียน ข้อมูล ของร้านค้า ข้อมูลของวัด ข้อมูลของห้องสมุด เป็นต้น ตัวอย่าง ข้อมูลเกีย่ วกับสถานที่
พระปฐมเจดีย ตั้งอยู่ที่ต�าบลพระปฐมเจดี1ย์ อ�าเภอเมือง จังหวัดนครปฐม พระปฐมเจดีย์เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริก2ธาตุของพระพุทธเจ้า สันนิษฐานว่า พระปฐมเจดีย์สร้างขึ้นเมื่อ3คราวที่พระสมณทูตในพระเจ้าอโศกมหาราชเดินทางมา เผยแผ่ศาสนายังสุวรรณภูมิ เพราะองค์พระเจดีย์เดิมมีลักษณะทรงระฆังคว�่า หรือทรง มะนาวผ่าซีก ซึ่งมีลักษณะแบบเดียวกับสถูปในประเทศอินเดีย
๔
นักเรียนควรรู 1 พระบรมสารีริกธาตุ คือ กระดูกของพระพุทธเจาซึ่งเปนศาสดาของพระพุทธศาสนา ซึ่งชาวพุทธเชื่อวาพระบรมสารีริกธาตุเปนวัตถุแทนองคพระบรมศาสดา จึงนิยมทําการบูชาองคพระบรมสารีริกธาตุ เชน การสรางองคพระสถูปเจดีย เพื่อประดิษฐานไวสักการะ โดยเชื่อวามีอานิสงสเหมือนการไดบูชาพระพุทธเจา เมื่อยังทรงมีพระชนมอยู เปนตน 2 พระสมณทูต (พระ-สะ-มะ-นะ-ทูด) คือ พระภิกษุที่เดินทางไปเผยแผ พระพุทธศาสนาในที่ตางๆ 3 สุวรรณภูมิ (สุ-วัน-นะ-พูม) หมายถึง ดินแดนแหลมทองซึ่งเชื่อกันวามีอาณา บริเวณครอบคลุมประเทศพมา ไทย ลาว เขมร เวียดนาม มาเลเซีย และสิงคโปร
4
คูมือครู
ขอสอบเนนการคิด การรดนํ้ากะหลํ่าปลี ใหใชบัวรดนํ้ารดทุกเชาและเย็น โดยรดที่โคนตน เพื่อไมใหนํ้าเขาปลี จากขอความ จัดเปนขอมูลเกี่ยวกับอะไร ก. ขอมูลเกี่ยวกับธรรมชาติ ข. ขอมูลเกี่ยวกับสิ่งของ ค. ขอมูลเกี่ยวกับพืช วิเคราะหคําตอบ กะหลํ่าปลีเปนพืชผักสวนครัวชนิดหนึ่ง ที่มีใบหอแนน เปนปลี รับประทานไดทั้งดิบและสุก จากขอความจึงเปนขอมูลเกี่ยวกับพืช ดังนั้น ขอ ค. จึงเปนคําตอบที่ถูก
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
อธิบายความรู
Explain
1. ใหนักเรียนดูภาพ หนา 5 แลวรวมกันบอกวา คืออะไร จากนั้นครูชวนนักเรียนสนทนา เกี่ยวกับสิ่งของนั้น เชน ลักษณะ ประโยชน เปนตน 2. ใหนักเรียนอานเรื่องขอมูลเกี่ยวกับสิ่งของ หนา 5 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนเขาใจวา สิ่งของ แตละชนิด จะมีลกั ษณะทีแ่ ตกตางกัน ซึง่ แตละ ชนิดจะมีรูปราง ลักษณะ และคุณสมบัติที่เปน เอกลักษณบงบอกใหรูวาเปนสิ่งของชนิดนั้นๆ 4. ครูสุมเรียกนักเรียน 4-5 คน ใหแตละคน เลือกสิ่งของที่อยูรอบตัวมา 1 อยาง โดยที่ไมตองบอกวาสิ่งของนั้นคืออะไร แลวใหนักเรียนบอกขอมูลเกี่ยวกับสิ่งของนั้นๆ ใหเพื่อนๆ ฟง จากนั้นใหเพื่อนๆ ชวยกัน ทายวา สิ่งของนั้นคืออะไร
๓) ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งของ ของ เช่ น ข้อมูลเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 1 ข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟา ข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือเรียน ข้อมูล เกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องใช้ ข้อมูลเกี่ยวกับอาหาร เป็นต้น ตัวอย่าง ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งของ
คอมพิวเตอร เป็นอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างหนึ่ง ท�างานตามโปรแกรมค�าสั่ง ใช้จัดเก็บข้อมูลต่างๆ ใช้ดูหนังและฟงเพลงได้ เชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ ● ● ● ●
หนังสือเรียน วิชาภาษาไทย ป.๑ มีจ�านวนหน้า ๑๒๘ หน้า พิมพ์ที่บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท.จ�ากัด ผู้แต่งหนังสือนี้ คือ เอกรินทร์ สี่มหาศาล และคณะ ● ● ●
๕
ขอใดไมใช ขอมูลเกี่ยวกับธรรมชาติทั้งหมด ก. แรธาตุ ดิน ภูเขา ข. ปาดงดิบ ฤดูหนาว ดินเหนียว ค. สวนสม ไรชา ทุงทานตะวัน
ขอสอบเนนการคิด
วิเคราะหคําตอบ ก. และ ข. เปนขอมูลเกี่ยวกับธรรมชาติทั้งหมด ค. เปนขอมูลเกี่ยวกับพืชทั้งหมด ดังนั้น ขอ ค. จึงเปนคําตอบที่ถูก
นักเรียนควรรู 1 เครื่องใชไฟฟา มีมากมายหลายชนิด เชน เตารีด ตูเย็น โทรทัศน เครื่องซักผา เปนตน เราควรใชงานใหถูกวิธี เพื่อใหเครื่องใชไฟฟาใชงานไดยาวนานและเปนการ ประหยัดพลังงาน เชน • โทรทัศน เมือ่ ไมไดใชงานโทรทัศนแลว ใหกดปดทีร่ โี มต แลวจึงกดปุม เปด-ปด ที่ตัวเครื่องและอยาเสียบปลั๊กทิ้งไว เพราะโทรทัศนจะมีไฟฟาหลอเลี้ยงระบบภายใน อยูตลอดเวลา ทําใหสิ้นเปลืองไฟ นอกจากนั้นอาจกอใหเกิดอันตรายในขณะที่เกิด ฟาผาได • พัดลม หมั่นทําความสะอาดอยูเสมอ โดยเฉพาะใบพัดและตะแกรงครอบ ใบพัด และหมั่นทําความสะอาดชองลมตรงฝาครอบมอเตอร ซึ่งเปนชองระบาย ความรอน อยาใหมีคราบนํ้ามันหรือฝุนละอองเกาะจับ เพราะจะทําใหประสิทธิภาพ ของมอเตอรลดลง ซึ่งจะทําใหเปลืองไฟมากขึ้น
คูมือครู
5
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
Explain
1. ครูสนทนาซักถามนักเรียนวา ใครมีสตั วเลีย้ งบาง 2. ใหนกั เรียนที่มีประสบการณออกมาเลาเกี่ยวกับ สัตวเลี้ยงของตนเองที่หนาชั้น โดยครูเขียนตาม ที่นักเรียนบอกบนกระดาน 3. ใหนักเรียนอานขอความที่ครูเขียนบนกระดาน แลวรวมกันอภิปรายวา ขอความบนกระดานนี้ เปนขอมูลหรือไม เพราะอะไร 4. ครูและนักเรียนรวมกันอานตัวอยางขอมูล เกี่ยวกับสัตว หนา 6 5. ใหนักเรียนวาดภาพหรือนําภาพสัตวมาติด ลงในสมุด แลวเขียนขอมูลเกี่ยวกับสัตวชนิดนั้น จากนั้นออกมานําเสนอที่หนาชั้น
๔) ข้ อมูลเกีย่ วกับสัตว เช่น ข้อมูลของแมวพันธุต์ า่ งๆ ข้อมูล 1 ของนกแก้ว ข้อมูลของปลาหางนกยูง เป็นต้น ตัวอย่าง ข้อมูลเกี่ยวกับสัตว แมว เป็นสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วย น�้านม มี ๔ เท้า เป็นสัตว์กินเนื้อ สายตา สามารถมองเห็นได้อย่างดีในที่มืด แมว บางชนิดมีขนยาว บางชนิดมีขนสัน้ หรือ บางชนิดไม่มีขนเลย ปลาทอง เป็นปลาน�้าจืดที่มี ถิ่นก�าเนิดอยู่ในประเทศจีน และญี่ปุ่น ปลาทองมีรูปร่างอ้วน ปอม มีเกล็ดบาง และเรียบ ครีบอกกลมแบน ครีบหาง เป็นรูปพัด มักนิยมเลีย้ งเป็นปลาสวยงาม เตา จัดเป็นสัตว์เลื้อยคลาน มี ๔ เท้า เคลือ่ นไหวและเคลือ่ นทีเ่ ชือ่ งช้า เป็นสัตว์ทมี่ อี ายุยนื นานมากทีส่ ดุ ชนิดหนึง่ มีกระดองหุม้ ล�าตัว เต่าบางชนิดสามารถ หดหัว ขา และหางเข้าข้างในกระดองได้ เพื่อปองกันอันตราย เช่น เต่าด�า เต่านา เป็นต้น แต่กม็ เี ต่าบางชนิดที่ไม่สามารถ ท�าเช่นนั้นได้ เช่น เต่าทะเล เป็นต้น
๖
นักเรียนควรรู 1 นกแกว นกแกวมีหัวกลมโต ลําตัวมีขนอุยปกคลุมหนาแนน มีจะงอยปากที่ สั้นหนา และงอเปนตะขอหุมปากลาง มีความคมและแข็งแรง ซึ่งจะงอยปากนี้ เปนลักษณะเดนของนกแกวทีแ่ ตกตางจากนกอืน่ ๆ เทามีนวิ้ ขางหลังสองนิว้ และขางหนาสองนิ้ว ทุกนิ้วมีเล็บที่แหลมคม สามารถใชเทาจับกิ่งไมไดเหนียวแนน ปนปายตนไมไดเกงเปนพิเศษ และในบางครั้งยังสามารถจับฉีกอาหารไดอีกดวย นกแกวมักอยูอาศัยและหากินบนตนไม โดยกิน ผลไมและเมล็ดพืช ชอบทํารังตามโพรงตนไม ซึ่งใน ปจจุบันคนนิยมนํานกแกวมาเลี้ยงเปนสัตวเลี้ยงกันมาก
6
คูมือครู
ขอสอบเนนการคิด
ขอใดเปนขอมูลเกี่ยวกับสัตว ก. ฝายมีนิสัยออนโยน รักสัตว จึงเลี้ยงแมวสีขาว 2 ตัว ข. กระตายของจอยขนปุกปุยสีขาว มีหางสัน้ มีใบหูยาว ชอบกินพืชผักตางๆ ค. หญิงไปเที่ยวสวนสัตว หญิงเดินดูสัตวตางๆ เชน ยีราฟ มาลาย เสือ เปนตน วิเคราะหคําตอบ ก. เปนขอมูลเกี่ยวกับบุคคล ค. เปนขอมูลเกี่ยวกับ เหตุการณ ดังนั้น ขอ ข. จึงเปนคําตอบที่ถูก
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
อธิบายความรู
Explain
1. ใหนักเรียนอานเรื่องขอมูลเกี่ยวกับพืช หนา 7 2. ใหนักเรียนแบงกลุม จากนั้นครูนําบัตรภาพพืช มาใหนักเรียนดู แลวใหแตละกลุมแขงกัน บอกขอมูลที่นักเรียนรูเกี่ยวกับพืชชนิดนั้น ใหมากที่สุด โดยกลุมที่บอกขอมูลไดถูกตอง และมากที่สุดเปนผูชนะ 3. ครูบอกขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตรภาพพืชที่ นํามาใหนักเรียนดู เพื่อใหนักเรียนมีความรู เกี่ยวกับพืชนั้นๆ มากขึ้น 4. ใหนักเรียนเลือกพืชที่ปลูกในโรงเรียนหรือ ในบานมา 1 ชนิด แลวบันทึกขอมูลเกี่ยวกับ พืชชนิดนั้นลงในสมุด จากนั้นออกมานําเสนอ ที่หนาชั้น
๕) ข้อมูลเกี่ยวกับพืช เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับป่าไม้ ข้อมูล เกี่ยวกับการท�านาท�าไร่ ข้อมูลเกี่ยวกับพันธุ์ข้าว ข้อมูลเกี่ยวกับ พันธุ์ข้าวโพด เป็นต้น ตัวอย่าง ข้อมูลเกี่ยวกับพืช 1 ข้าว เป็นพืชล้มลุกในตระกูลหญ้าที่เราสามารถน�าเมล็ดมากินได้ ต้นข้าว มีลักษณะภายนอกบางอย่าง เช่น ใบ กาบใบ ล�าต้น ราก เป็นต้น คล้ายกับต้นหญ้า ข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทย และการปลูกข้าวก็เป็นอาชีพหลักอย่างหนึง่ ของคนไทย
7
ขอสอบเนนการคิด
ทินไปเที่ยวที่จังหวัดหนองคายในชวงวันออกพรรษา ทินจึงไดชม ปรากฏการณบั้งไฟพญานาค ซึ่งเปนลูกไฟสีแดงอมชมพูที่พุงขึ้นจาก แมนํ้าโขง จากขอความ จัดเปนขอมูลเกี่ยวกับอะไร ก. ขอมูลเกี่ยวกับบุคคล ข. ขอมูลเกี่ยวกับสถานที่ ค. ขอมูลเกี่ยวกับเหตุการณ
วิเคราะหคําตอบ จากขอความเปนการบอกขอมูลเกี่ยวกับการเดินทาง ทองเที่ยวของทิน ซึ่งเปนขอมูลเกี่ยวกับเหตุการณ ดังนั้น ขอ ค. จึงเปน
คําตอบที่ถูก
เกร็ดแนะครู ในขั้นอธิบายครูอาจนําภาพเคลื่อนไหวเกี่ยวกับวิธีการปลูกขาวมาใหนักเรียนดู และอธิบายขั้นตอนการทํานา ปลูกขาว ใหนักเรียนเกิดความเขาใจ นอกจากนี้ครูชวนนักเรียนสนทนาเกี่ยวกับผูที่มีอาชีพปลูกขาว คือ ชาวนา เพื่อใหนักเรียนเห็นคุณคา และใหความสําคัญกับอาชีพนี้
นักเรียนควรรู 1 พืชลมลุก เปนพืชที่ปลูกแลวเจริญเติบโต และใหผลผลิตภายใน หนึ่งฤดูกาลปลูก หลังจากเก็บเกี่ยวแลวก็จะตาย พืชลมลุกมักมีอายุประมาณ 3-4 เดือน ถึง 1 ป เชน ขาว ขาวโพด มันเทศ ออย เปนตน
คูมือครู
7
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
Explain
1. ใหนักเรียนอานเรื่องขอมูลเกี่ยวกับธรรมชาติ และขอมูลเกี่ยวกับเหตุการณตางๆ หนา 8 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนเขาใจวา ธรรมชาติเปนสิ่งที่เกิดขึ้นเอง เชน ดิน นํ้า อากาศ เปนตน 3. ครูพานักเรียนเดินรอบๆ โรงเรียน หรือพาไป สวนสาธารณะใกลๆ โรงเรียน เพื่อใหนักเรียน สังเกต และจดบันทึกขอมูลเกี่ยวธรรมชาติที่อยู รอบตัว 4. ใหนักเรียนชวยกันบอกวา ธรรมชาติรอบตัวเรา มีอะไรบาง และมีลักษณะอยางไร 5. ครูสุมเรียกนักเรียน 4-5 คน ใหออกมาเลา เหตุการณขณะเดินทางมาโรงเรียน 6. ครูชวนนักเรียนสนทนาวา เหตุการณที่เพื่อน ออกมาเลาใหฟง เปนขอมูลไดหรือไม เพราะอะไร และขอมูลนั้นมีประโยชนอยางไร 7. ครูอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนเขาใจวา เหตุการณตางๆ ที่เกิดขึ้นกับตนเองหรือผูอื่น จะทําใหทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น และนํามา ใชประโยชนได ซึ่งสิ่งเหลานี้เปนขอมูลเกี่ยวกับ เหตุการณ 8. ใหนกั เรียนออกมาเลาเหตุการณทตี่ นเองประทับใจ พรอมบอกวา เหตุการณนั้นนํามาใชประโยชน กับตนเองไดอยางไร
๖) ข้อมูลเกี่ยวกับธรรมชาติ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับดิน น�้า อากาศ แร่ธาตุ1 ป่าไม้ ภัยธรรมชาติ เป็นต้น ตัวอย่าง ข้อมูลเกี่ยวกับปาไม้
ปาไม้ เป็นทีท่ มี่ ตี น้ ไม้ตา่ งๆ ขึน้ มาก ป่าไม้ในประเทศไทยมีอยู่ ๒ ประเภท คือ ป่าไม้ผลัดใบ และป่าไม้ไม่ผลัดใบ
๗) ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณตางๆ งๆ เช่น ข้อมูลการเดินทาง ท่องเที่ยว ข้อมูลการคมนาคม เป็นต้น ตัวอย่าง ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางทองเที่ยว
๘
ป พ.ศ. ๒๕๕๕ คุณพ่อพาชาลีและมีนาไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติเ ขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ซึง่ เป็นประสบการณ์ไปเทีย่ วต่างจังหวัดครัง้ แรกของชาลีและมีนา
นักเรียนควรรู 1 แรธาตุ คือ ธาตุและสารประกอบที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งแรที่มนุษย นํามาใชประโยชน แบงเปน 3 ประเภท ไดแก 1) แรโลหะ เปนแรที่มีความเหนียว ทนความรอน และนําไฟฟาไดดี หลอมตัวได และมีความทึบแสง เชน เหล็ก ทองแดง ตะกั่ว เงิน วุลแฟรม เปนตน 2) แรอโลหะ เปนแรที่ไมเปนตัวนําความรอน มีลักษณะโปรงแสง เปราะ แตกหักงาย เชน แรเกลือหิน แรกํามะถัน เปนตน 3) แรพลังงาน หรือแรเชื้อเพลิง เปนแรที่สําคัญถูกนํามาใชมาก เกิดจาก ซากสิ่งมีชีวิตในอดีต แรเชื้อเพลิง เชน ถานหิน นํ้ามันดิบ กาซธรรมชาติ เปนตน มนุษยนําแรธาตุมาใชประโยชนในดานตางๆ มากมาย เชน แรวุลแฟรม นํามาทําไสหลอดไฟฟา รัตนชาตินํามาทําเครื่องประดับ เปนตน ในปจจุบันมีการ รณรงคใหชวยกันอนุรักษแรธาตุตางๆ เชน การนําแรธาตุที่ใชแลวกลับมาใชอีก เปนการใชประโยชนอยางเต็มที่ อาทิ ภาชนะเครื่องใชที่เปนอะลูมิเนียมบางอยาง ที่หมดสภาพการใชงานแลว สามารถนํากลับมาหลอมใชใหมไดอีก เปนตน
8
คูมือครู
ขอสอบเนนการคิด
ขอมูลเกี่ยวกับวัดพระศรีรัตนศาสนาราม (วัดพระแกว) จัดเปนขอมูลใด ก. ขอมูลเกี่ยวกับสิ่งของ ข. ขอมูลเกี่ยวกับสถานที่ ค. ขอมูลเกี่ยวกับธรรมชาติ วิเคราะหคําตอบ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแกว) สรางขึ้นตั้งแต สมัยรัชกาลที่ 1 เปนวัดที่สรางขึ้นในเขตพระบรมมหาราชวัง ตามแบบ วัดพระศรีสรรเพชญ สมัยอยุธยา วัดพระแกวนี้เปนที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแกวมรกต พระพุทธรูปคูบานคูเมืองของไทย ดังนั้น ขอ ข. จึงเปนคําตอบที่ถูก
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
อธิบายความรู
1. ครูนําสิ่งของตางๆ เชน ลูกบอลยาง หนังสือ นํ้าแข็ง เปนตน มาใหนักเรียนสํารวจโดยใช อวัยวะรับสัมผัสทั้ง 5 2. ใหนักเรียนรวมกันบอกรายละเอียดของสิ่งของ ตางๆ ที่ครูนํามาใหดู โดยครูเขียนตามที่ นักเรียนบอกบนกระดาน 3. ครูชวนนักเรียนสนทนาวา นักเรียนสามารถ รับรูขอมูลตางๆ ไดอยางไร 4. ใหนักเรียนอานเรื่องการรับรูขอมูล หนา 9 5. ครูนําสิ่งของตางๆ มาใหนักเรียนสํารวจ โดยใชอวัยวะรับสัมผัสทั้ง 5 อีกครั้ง จากนั้น ใหรวมกันบอกวา สิ่งของแตละชนิดใชอวัยวะ รับสัมผัสใดรับรูขอมูลบาง 6. ครูอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนเขาใจวา สิ่งของ บางสิ่งอาจทําใหรับรูขอมูลไดหลายทาง เชน • โทรทัศน นอกจากใชตามองดูภาพ ตัวหนังสือ และตัวเลขแลว ยังสามารถ ใชหูฟงเสียงไดอีกดวย • อาหาร นอกจากใชลิ้นรับรูรสชาติแลว ยังใช ตามองสีสันของอาหาร และใชจมูกรับกลิ่น ของอาหารไดอีกดวย 7. ใหนักเรียนอานตัวอยางการรับรูขอมูล หนา 10 8. ใหนักเรียนรวมกันอภิปรายวา ชาลีและมีนา ไดรับขอมูลเกี่ยวกับอะไรบาง เชน ขอมูลเรื่อง ปูเปนขอมูลเกี่ยวกับสัตว และรับรูขอมูลวา ปูมี 8 ขา จากการมองดวยตา เปนตน
๒. การรับรูขอมูล 1เราสามารถรั บรูขอมูลต5างๆ ผานอวัยวะ 2 3 4 รับสัมผัสทั้ง ๕ ไดแก ตา หู จมูก ลิ้น และผิวหนัง เรามองดูสิ่งตางๆ โดยใชตา
เราฟงเสียงตางๆ โดยใชหู
เราดมกลิน่ ตางๆ โดยใชจมูก
เรารับรูรสชาติอาหารโดยใชลิ้น
Explain
เรารูลักษณะพื้นผิวของสิ่งตางๆ โดยใชมือสัมผัส
๙
ขอสอบเนนการคิด
จูนถูกหนามกุหลาบตํามือจนเลือดไหล นักเรียนคิดวาจูนรับรูขอมูลผาน อวัยวะใด ก. ตา ข. จมูก ค. ผิวหนัง วิเคราะหคําตอบ จากขอมูลที่กําหนด แสดงวาจูนรับรูผานผิวสัมผัส ดังนั้น ขอ ค. จึงเปนคําตอบที่ถูก
นักเรียนควรรู 1 ตา เปนอวัยวะรับความรูสึกเกี่ยวกับการมองเห็น ประกอบดวยลูกตา แกวตา หรือเลนสตา เปลือกตา และตอมนํ้าตา 2 หู เปนอวัยวะรับความรูส กึ เกีย่ วกับการไดยนิ แบงออกเปน 3 สวน คือ หูชนั้ นอก หูชั้นกลาง และหูชั้นใน 3 จมูก เปนอวัยวะรับความรูสึกเกี่ยวกับกลิ่น ซึ่งมีเซลลรับกลิ่นอยูที่ผนังดานบน ของชองจมูก และสงสัญญาณตอไปยังสมอง 4 ลิ้น เปนอวัยวะรับรส มีตัวรับรสอยูที่ปุมรับรส ซึ่งฝงอยูบนเยื่อบุของลิ้น เชน ปลายลิ้นรับรสหวาน โคนลิ้นรับรสขม เปนตน และตัวรับรสจะสงสัญญาณ ตอไปยังสมอง 5 ผิวหนัง เปนอวัยะรับสัมผัสโดยตรง เชน ความรอน ความแข็ง เปนตน ซึ่งความรูสึกตางๆ จะถูกสงตอไปตามเสนประสาทสูสมอง คูมือครู
9
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
Engage
Explore
Explain
ขยายความเขาใจ
ขยายความเขาใจ Expand าใจ ขยายความเข
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
Expand
1. ครูตั้งประเด็นคําถามวา • ขอมูลมีประโยชนอยางไร (แนวตอบ ทําใหทราบเรื่องราวและลักษณะของ สิ่งตางๆ และสามารถนําขอมูลมาใชใหเกิด ประโยชนในดานตางๆ) • การรับรูขอมูลรอบตัวมีประโยชนตอการเรียน หรือไม อยางไร (แนวตอบ มี คือ ทําใหมีความรูรอบตัว และ นําความรูที่เรียนมาประยุกตใชได) 2. ใหนักเรียนแบงกลุม แลวใหแตละกลุมสืบคน ขอมูล ดังนี้ กลุมที่ 1 ขอมูลเกี่ยวกับบุคคล กลุมที่ 2 ขอมูลเกี่ยวกับสถานที่ กลุมที่ 3 ขอมูลเกี่ยวกับสิ่งของ กลุมที่ 4 ขอมูลเกี่ยวกับสัตว กลุมที่ 5 ขอมูลเกี่ยวกับพืช กลุมที่ 6 ขอมูลเกี่ยวกับธรรมชาติ กลุมที่ 7 ขอมูลเกี่ยวกับเหตุการณตางๆ 3. ใหแตละกลุมออกมานําเสนอขอมูลของกลุม ตนเองที่หนาชั้น พรอมบอกวา ขอมูลนี้ มีประโยชนอยางไร 4. ครูถามคําถามจุดประกาย หนา 11 แลวให นักเรียนรวมกันตอบคําถาม 5. ใหนักเรียนเขียนขอมูลของตนเองลงในสมุด พรอมติดรูปประกอบ แลวนํามาแลกกันดู กับเพื่อน 6. ใหนักเรียนอานขอมูลที่กําหนดในกิจกรรม การเรียนรูที่ 1 ขอ 2 หนา 11 แลวจับคู ใหตรงกับภาพ จากนั้นเขียนชื่อและขอมูล ของเด็กในภาพลงในสมุด
ตัวอย่าง การรับรู้ข้อมูล ชาลีและมีนาไปเที่ยวทะเล ชาลีและมีนาได้รับรู้ข้อมูล ดังนี้
เวลาเพื่อนๆ ไปเที่ยว ที่ไหน อยาลืมสังเกต ขอมูลตางๆ ที่อยูรอบตัว ดวยนะคะ...
●
●
●
●
ชาลีและมีนาเห็นปูสดี า� ตัวโต ๑ ตัว ท�าให้รวู้ า่ ปูมี ๘ ขา และมีก้าม ๒ ก้าม ชาลีและมีนายืนอยูบ่ ริเวณชายหาด ท�าให้รวู้ า่ ทรายเป็นเม็ดเล็กๆ มีสีน�้าตาล ชาลีและมีนาทดลองชิ 1 มน�้าทะเล ท�าให้รู้ว่า น�้าทะเลมีรสเค็ม ชาลีและมีนายืนที่กลางแจ้ง มีแสงแดดส่อง 2 ซึ่งน่าจะร้อนมาก แต่ก็มีลมทะเลพัดตลอด เวลา ท�าให้ไม่รสู้ กึ ร้อน
๑๐
นักเรียนควรรู 1 นํ้าทะเลมีรสเค็ม ในนํ้าทะเลมีสวนประกอบของเกลืออยูอยางเขมขน คนจึงนํา นํ้าทะเลมาไวในพื้นที่ราบใหแสงอาทิตยสอง เพื่อใหนํ้าทะเลระเหยกลายเปนไอ จนหมดเหลือแตเกลือ ซึ่งการทําเชนนี้ เรียกวา การทํานาเกลือ 2 ลมทะเล เกิดจากความรอนซึ่งแตกตางกันระหวางบริเวณทะเลและพื้นดิน ตามชายฝง ในเวลากลางวันพื้นดินไดรับความรอนจากดวงอาทิตย จึงทําใหมี อุณหภูมิสูงกวาบริเวณทะเล ดังนั้น เปนผลใหอากาศเหนือนํ้ามีความกดอากาศ สูงกวาเคลื่อนที่เขาหาพื้นดิน หรือเกิดลมพัดจากทะเลเขาหาฝงในเวลากลางวัน ลมทะเลมีประโยชนกับชาวประมง คือ ชาวประมงมักจะออกไปหาปลา ในตอนกลางคืน และมักจะกลับเขาฝงในตอนเชา โดยจะอาศัยลมทะเลชวยพัดเรือ ใหเขาฝง
10
คูมือครู
ขอสอบเนนการคิด
ขอใดรับขอมูลผานทางตา และลิ้น ก. หนังสือพิมพฉบับนี้มีแตขาวการศึกษา ข. ดอกกุหลาบชอนี้มีสีสวย และมีกลิ่นหอม ค. ขนมหวานถวยนี้สีสันนารับประทาน และมีรสชาติกลมกลอม วิเคราะหคําตอบ ก. การรูวาหนังสือพิมพมีขาวการศึกษาโดยการอาน ซึ่งเปนการรับรูขอมูลผานทางตาเพียงอยางเดียว ข. การรูวากุหลาบมีสีสวย โดยการมอง ซึ่งเปนการรับรูขอมูลผานทางตา และรูวามีกลิ่นหอมโดยการ ดมกลิ่น ซึ่งเปนการรัับขอมูลผานทางจมูก ค. การรูวาขนมหวานมีสีสัน นารับประทานโดยการมอง ซึ่งเปนการรับขอมูลผานทางตา และรูวารสชาติ กลมกลอมโดยการชิมรส ซึ่งเปนการรับขอมูลผานทางลิ้น ดังนั้น ขอ ค.
จึงเปนคําตอบที่ถูก
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
Engage
Explore
Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
Expand าใจ ขยายความเข
Evaluate ตรวจสอบผล
ขยายความเขาใจ
ใหนักเรียนทํากิจกรรมรวบยอดที่ 1.1 ขอ 2 จากแบบวัดฯ เทคโนโลยีฯ ป.1
¤íÒ¶ÒÁ¨Ø´»ÃСÒ ñ. ¹Ñ¡àÃÕ Â¹¤Ô´Ç‹Ò ÍÇÑÂÇÐã´ÁÕ¤ÇÒÁÊíÒ¤ÑÞ·ÕèÊش㹡ÒÃÃѺÃÙŒ¢ŒÍÁÙÅ à¾ÃÒÐÍÐäà ò. ÊÔ觷ÕèÍÂÙ‹ÃͺµÑǹѡàÃÕ Â¹ÁÕÊÔè§ã´ºŒÒ§·Õè¨Ñ´à»š¹¢ŒÍÁÙÅà¡ÕèÂǡѺʶҹ·Õè áÅÐÊÔ觹Ñé¹ãËŒ¢ŒÍÁÙÅÍÐäÃ
✓ แบบวัดฯ ใบงาน แบบฝกฯ เทคโนโลยีฯ ป.1 กิจกรรมรวบยอดที่ 1.1 แบบประเมินตัวช�้วัด ง 3.1 ป.1/1
¡Ô ¨¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙ·Œ Õè ñ
๒ สืบคนขอมูลตามหัวขอที่กําหนด แลวเขียนบันทึกขอมูล พรอมติดรูปลงในกรอบ (ตัวอยางคําตอบ)
๑) ขอมูลเกี่ยวกับบุคคลที่ชื่นชอบ เบิรด บุคคลที่ชื่นชอบนี้ คือ............................ • ธงไชย แมคอินไตย
๑ เขียนข้อมูลของตนเองลงในสมุด พร้อมทั้งติดรูปประกอบ จากนั้น แลกกันดูกับเพื่อน ๒ อ่านข้อมูลแล้วจับคู่ให้ตรงกับภาพ จากนัน้ บอกชือ่ และข้อมูลของเด็ก ในภาพลงในสมุด ก. มีนาเป็นเด็กผู้หญิง ค. ก้องเป็นเด็กผู้ชาย จ. ชาลีสวมเสือ้ สีเขียว ๑)
Expand
...........................................................................................
เกิดวันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๑
...........................................................................................
• ประกอบอาชีพ นักรอง นักแสดง • เปนศิลปนนักรองที่ประสบความ ........................................................................................... ...........................................................................................
สําเร็จสูงสุดในประเทศไทย
...........................................................................................
• เปนผูบ าํ เพ็ญประโยชนตอ สวนรวม จนเปนทีย่ อมรับของสังคม และไดรบั
............................................................................................................................................................................................
รางวัลตางๆ มากมาย
............................................................................................................................................................................................
๒) ขอมูลเกี่ยวกับสถานที่ชอบ สวนสัตวดุสิต สถานที่ที่ชอบ คือ ......................................
แขวงจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพฯ
ข. ก้องมีรูปร่างอ้วน ง. มีนาสวมชุดกระโปรงสีฟา ฉ. ชาลีเป็นเด็กผู้ชาย
๒)
ฉบับ
เฉลย
• ตั้งอยูเลขที่ ๗๑ ถนนพระรามที่ ๕ ........................................................................................... ...........................................................................................
• พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา-
...........................................................................................
เจาอยูหัวทรงโปรดใหจัดสราง สวนสัตวนี้ขึ้น • เปนสวนสัตวและสวนสาธารณะแหงแรกของประเทศไทย ............................................................................................................................................................................................ สวนสัตวดุสิต เรียกอีกชื่อหนึ่งวา “เขาดิน” ............................................................................................................................................................................................ • สวนสัตวดุสิตเปนสวนสัตวเปดตั้งอยูใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งภายใน ............................................................................................................................................................................................ สวนสัตวประกอบไปดวยสัตวปานานาชนิด เชน สัตวประเภทที่ใกลจะ ............................................................................................................................................................................................ สูญพันธุ ............................................................................................................................................................................................ ........................................................................................... ...........................................................................................
๓)
ตัวชี้วัด ง ๓.๑ ขอ ๑ ไดคะแนน คะแนนเต็ม
ñð
ตรวจสอบผล
๑๑
Evaluate
1. ครูตรวจสอบวานักเรียนบอกขอมูลของ สิ่งตางๆ ไดอยางถูกตอง 2. ครูตรวจผลการทํากิจกรรมรวบยอดที่ 1.1 ขอ 2 จากแบบวัดฯ เทคโนโลยีฯ ป.1 3. ครูตรวจสอบวานักเรียนเขียนขอมูลเกี่ยวกับ ตนเองไดอยางถูกตอง
๑๑
ขอสอบเนนการคิด
ใครใชอวัยวะรับสัมผัสในการรับขอมูลแตกตาง จากคนอื่น ก. ผิงดูภาพถายงานกิจกรรมของโรงเรียน ข. ดิษฐอานหนังสือเรื่องวิธีขยายพันธุพืช ค. ปอฟงขาวนํ้าทวมจากวิทยุ
วิเคราะหคําตอบ ก. และ ข. รับขอมูลผานอวัยวะรับสัมผัส คือ ตา ค. รับขอมูลผานอวัยวะรับสัมผัส คือ หู ดังนั้น ขอ ค. จึงเปนคําตอบ
ที่ถูก
เฉลย คําถามจุดประกาย 1. แนวตอบ ทุกอวัยวะมีความสําคัญเทากันหมด เพราะอวัยวะแตละอวัยวะจะรับรู ขอมูลที่แตกตางกันไป หากขาดอวัยวะใดอวัยวะหนึ่ง อาจทําใหการรับรูขอมูล ตางๆ บกพรองได 2. แนวตอบ ขึ้นอยูกับคําตอบของนักเรียนแตละคน เชน สถานีอนามัย ใหขอมูล เกี่ยวกับการดูแลรักษาโรคตางๆ เปนตน เฉลย กิจกรรมการเรียนรูที่ 1 2. ตอบ 1) จ., ฉ. ชาลีเปนเด็กผูชาย สวมเสื้อสีเขียว 2) ค., ข. กองเปนเด็กผูชาย มีรูปรางอวน 3) ก., ง. มีนาเปนเด็กผูหญิง สวมชุดกระโปรงสีฟา
คูมือครู
11
กระตุนความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Exploreนหา สํารวจค
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
สํารวจคนหา
Explore
1. ครูเปดขาวจากโทรทัศนหรือคอมพิวเตอรที่ เชื่อมตอเครือขายอินเทอรเน็ตใหนักเรียนดู 2. ครูเขียนประเภทขอมูลบนกระดาน ดังนี้ • ขอมูลภาพ • ขอมูลตัวอักษร • ขอมูลตัวเลข • ขอมูลอื่นๆ เชน ขอมูลเสียง ขอมูลสี ขอมูลกลิ่น เปนตน 3. ครูชวนนักเรียนสนทนาวา จากขาวที่ครูเปดใหดู นักเรียนไดรับขอมูลประเภทใดบาง โดยให นักเรียนดูประเภทของขอมูลจากที่ครูเขียน บนกระดาน 4. ใหนักเรียนชวยกันยกตัวอยางขอมูลในชีวิตประจําวัน แลวบอกวาขอมูลนัน้ มีลกั ษณะอยางไร และขอมูลนั้นจัดเปนขอมูลประเภทใด
๒ ประเภทของขอมูล
ข้อมูลแบ่งออกเป็นหลายประเภท ดังนี้ ๑. ข้อมูลภาพ หมายถึง ข้อมูลที่เป็นรูปภาพในลักษณะต่างๆ ที่เรามองเห็น อาจเป็นภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว เช่น
1
▲
ภาพจากภาพถ่าย จัดเป็นข้อมูลภาพนิ่ง
▲
ภาพจากโทรทัศน์ จัดเป็นข้อมูลภาพเคลื่อนไหว
▲
ภาพจากภาพวาด จัดเป็นข้อมูลภาพนิ่ง
นอกจากนี้ ข้อมูลภาพยังรวมไปถึงภาพของสิ่งต่างๆ ทั้งสิ่งที่ มีชีวิตและสิ่งที่ไม่มีชีวิตที่เรามองเห็นได้ด้วย ๑๒
นักเรียนควรรู 1 ภาพถาย การถายภาพครั้งแรกของประเทศไทยเริ่มในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกลาเจาอยูหัว (รัชกาลที่ 3) โดยมีสังฆราชชาวฝรั่งเศส ชื่อ บาทหลวง ปาเลอกัวซ ซึ่งเปนชางถายภาพที่เขามาเผยแพรการถายภาพ สวนคนไทยที่เปน ชางถายภาพคนแรก คือ พระยากระสาปนกิจโกศล หรือนายโหมด อมาตยกุล ซึ่งเปนศิษยของบาทหลวงปาเลอกัวซนั่นเอง ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว (รัชกาลที่ 5) การถายภาพ เจริญกาวหนาขึ้นมาก เพราะพระองคทรงโปรดการถายภาพ โดยพระองคทรงมี กลองถายภาพประจําพระองค และทรงบันทึกภาพเหตุการณตางๆ ในพระราชกรณียกิจเปนประจํา ตอมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลาเจาอยูหัว (รัชกาลที่ 6) การ ถายภาพไดเปลี่ยนไปจากการใชฉากหลังเรียบๆ มาใชฉากรูปวิวทิวทัศน และมี การนําไฟแฟลชมาใช ทําใหการถายภาพไมจํากัดเวลาเฉพาะเวลากลางวันเทานั้น นับแตนั้นมาการถายภาพจึงเปนที่นิยมแพรหลาย และเจริญกาวหนาไปอยางรวดเร็ว
12
คูมือครู
ขอสอบเนนการคิด รุจถายภาพนํ้าตกที่ไหลแรง และมีเสียงดัง จากขอความ รุจจะไดขอมูลประเภทใดจากการถายภาพ ก. ขอมูลเสียง ข. ขอมูลภาพ ค. ขอมูลตัวอักษร วิเคราะหคําตอบ ภาพที่ไดจากการถายภาพจัดเปนภาพนิ่ง จึงเปนขอมูล ภาพ ดังนั้น ขอ ข. จึงเปนคําตอบที่ถูก
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
อธิบายความรู
1. ใหนักเรียนรวมกันสรุปวาขอมูลมีกี่ประเภท อะไรบาง พรอมยกตัวอยางประกอบ ตามความเขาใจของนักเรียน 2. ครูนําภาพถาย และภาพวาดมาใหนักเรียนดู เชน ภาพถายกิจกรรมของโรงเรียน ภาพถาย เหตุการณสาํ คัญตางๆ ภาพวาดการตนู เปนตน แลวใหนักเรียนชวยกันบอกวา นักเรียนไดรับ ขอมูลอะไรบาง 3. ใหนักเรียนดูภาพจากโทรทัศนที่ครูเตรียมไวให เชน ภาพสารคดีสัตว ภาพขาวเหตุการณ เปนตน แลวใหนักเรียนรวมกันบอกวา นักเรียนไดรับขอมูลอะไรบาง 4. ใหนกั เรียนเปรียบเทียบขอมูลภาพจากภาพถาย ภาพวาด และภาพจากโทรทัศนวาแตกตางกัน อยางไร 5. ใหนักเรียนอานเรื่องขอมูลภาพ หนา 12 6. ครูนํานิทานมาใหนักเรียนอาน แลวสนทนา ซักถามนักเรียนวา นักเรียนไดรับขอมูล อะไรบาง และขอมูลนี้จัดเปนขอมูลประเภทใด 7. ใหนักเรียนอานเรื่องขอมูลตัวอักษร หนา 13 8. ใหนักเรียนสํารวจภายในหองเรียน แลวบอกวา สิ่งใดเปนขอมูลภาพ และสิ่งใดเปนขอมูล ตัวอักษรบาง
๒. ขอมูลตัวอักษร หมายถึง ขอมูลที่ประกอบดวยตัวอักษร1 ทั้งภาษาไทย ภาษาตางประเทศ และตัวเลขที่ไมใชในการคํานวณ เชน ÀÕÃÐ äµÃÄ¡É ▲
▲
ชื่อ - นามสกุล
▲
▲
Explain
2
ทะเบียนรถยนต
สื่อสิ่งพิมพตางๆ เชน หนังสือพิมพ หนังสือเรียน
ปายประกาศตางๆ
๑๓
ขอสอบเนนการคิด
สิ่งใดที่สามารถใหขอมูลไดทั้งขอมูลภาพและเสียง ก. นิตยสาร ข. โทรทัศน ค. วิทยุ
วิเคราะหคําตอบ ก. ใหขอมูลภาพ ตัวอักษร และตัวเลข ข. ใหขอมูลภาพ และเสียง ค. ใหขอมูลเสียงอยางเดียว ดังนั้น ขอ ข. จึงเปนคําตอบที่ถูก
นักเรียนควรรู 1 ตัวเลขที่ไมใชในการคํานวณ เปนตัวเลข 0-9 แตไมมีจุดประสงคที่ใชในการ คิดคํานวณ (บวก ลบ คูณ หาร) หาผลลัพธตางๆ เชน บานเลขที่ หมายเลขโทรศัพท เปนตน 2 ทะเบียนรถยนต เปรียบเสมือนบัตรประจําตัวรถยนตแตละคัน โดยทะเบียน รถยนตแตละประเภทจะมีสี และหมวดอักษรที่แตกตางกัน ซึ่งขึ้นอยูกับการใชงาน เชน • รถยนตสวนบุคคล ปายทะเบียนเปนปายขาว ตัวอักษรดํา • รถโดยสารรับจาง ปายทะเบียนเปนปายเหลือง ตัวอักษรดํา
รถยนตสวนบุคคล
รถโดยสารรับจาง
คูมือครู
13
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
Explain
1. ครูนําใบปลิวราคาสินคามาใหนักเรียนดู แลวให นักเรียนเปรียบเทียบราคาสินคาตางๆ เชน สินคาเหมือนกัน แตคนละยี่หอ มีราคาตางกัน เทาไหร เปนตน จากนั้นครูสนทนาซักถาม นักเรียนวาไดขอมูลอะไรบาง และขอมูลนั้น เปนขอมูลประเภทใด 2. ใหนักเรียนอานเรื่องขอมูลตัวเลข หนา 14 3. ใหนักเรียนรวมกันอภิปรายวา ขอมูลตัวอักษร กับขอมูลตัวเลขแตกตางกันอยางไร 4. ใหนักเรียนรวมกันบอกวา มีอะไรอีกบางที่เปน ขอมูลตัวเลข 5. ใหนักเรียนรวมกันอภิปรายวา ในชีวิตประจําวัน ของนักเรียนไดรับขอมูลอะไรอีกบาง นอกจาก ขอมูลภาพ ขอมูลตัวอักษร ขอมูลตัวเลข โดยครูเขียนตามที่นักเรียนบอกบนกระดาน 6. ใหนักเรียนอานเรื่องขอมูลอื่นๆ หนา 14 7. ใหนักเรียนดูขอความบนกระดาน แลวชวยกัน จัดประเภทของขอมูล 8. ใหนักเรียนพิจารณาขอมูลของตนเองจาก กิจกรรมการเรียนรูที่ 1 ขอ 1 แลวบอกวา มีขอมูลประเภทใดบาง 9. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปประเภทของขอมูล
๓. ข้อมูลตัวเลข หมายถึง ข้อมูลที่ประกอบด้วยตัวเลข ๐ ถึง ๙ ซึ่งใช้ในการคิดค�านวณได้ เช่น MT14-3 ๑,๕๗๕ บาท ▲
๐.๓ กิโลกรัม 1 ▲ น�้าหนัก
จ�านวนเงิน
๒,๔๒๐ กิโลกรัม ▲
ราคาสินค้า
๔. ข้อมูลอื่นๆ เป็นข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลภาพ ข้อมูลตัวอักษร หรือข้อมูลตัวเลข เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับเสียง สี ความร้อนหรือเย็น ความมืดหรือสว่าง กลิ่น เป็นต้น
▲
การฟงเพลงจากวิทยุ ท�าให้รู้ ข้อมูลเสียง
▲
การกินอาหาร ท�าให้รู้รสชาติ ของอาหาร
▲
การสัมผัสสิ่งต่างๆ ท�าให้รู้ ลักษณะพื้นผิว
! โฮง ง! โฮ
▲
การสัมผัสลมที่พัดในฤดูหนาว ท�าให้รู้ถึงอากาศ ที่เย็นลง
▲
การฟงเสียงของสัตว์ต่างๆ ท�าให้รู้ว่าเป็นเสียงของ สัตว์ชนิดใด
๑๔
ขอสอบเนนการคิด
นักเรียนควรรู 1 นํ้าหนัก เปนสิ่งที่บอกถึงความอวนและความผอมของตัวเรา การตรวจสอบ นํ้าหนัก เพื่อใหรูคานํ้าหนักวาอยูในเกณฑที่เหมาะสมหรือไม สามารถทําได โดยการชั่งนํ้าหนัก แลวนํามาเปรียบเทียบกับเกณฑมาตรฐานการเจริญเติบโต ดังนี้ อายุ (ป) 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11
14
คูมือครู
เพศชาย
นํ้าหนัก (กก.)
10.5 -14.4 12.1-17.2 13.6 -19.9 15.0 -22.6 16.6 -25.4 18.3 -28.8 20.0 -32.2 21.5 -36.6 23.6 - 40.8 25.6 - 45.2
เพศหญิง
นํ้าหนัก (กก.)
9.7 -13.7 11.5 -16.5 13.0 -19.2 14.4 - 21.7 16.1 - 24.7 17.7 - 28.7 19.3 - 32.5 21.2 - 37.4 23.4 - 42.1 26.1- 46.5
(อางอิงจาก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข 2543)
ขอใดไมใช ขอมูลตัวเลข ก. หมายเลขโทรศัพท ข. จํานวนเงินฝาก ค. สวนสูง
วิเคราะหคําตอบ ขอมูลตัวเลข เปนขอมูลที่เปนตัวเลข ซึ่งใชในการ คํานวณได ซึ่งหมายเลขโทรศัพทไมสามารถนํามาคํานวณได เปนขอมูล ตัวอักษร ดังนั้น ขอ ก. จึงเปนคําตอบที่ถูก
บูรณาการเชื่อมสาระ
ครูบูรณาการความรูในสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี วิชาเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร กับสาระคณิตศาสตร เรื่อง การบวกและการลบ จํานวนที่มีผลลัพธและตัวตั้งไมเกิน 20 เพื่อใหเกิดทักษะดานการคิดคํานวณ และเขาใจเกี่ยวกับขอมูลตัวเลขมากยิ่งขึ้น
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ Expand าใจ ขยายความเข
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
อธิบExplain ายความรู
อธิบายความรู
Explain
1. ครูชวนนักเรียนสนทนาวา ขอมูลที่นักเรียน ไดรับในชีวิตประจําวัน มีประโยชนตอนักเรียน อยางไรบาง 2. ใหนักเรียนอานเรื่องประโยชนของขอมูล หนา 16 3. ใหนักเรียนแบงกลุม แลวใหแตละกลุมอาน ขอมูลที่ครูแจกให จากนั้นชวยกันวิเคราะหวา ขอมูลนี้ใหประโยชนอยางไร 4. ใหแตละกลุมออกมาอานขอมูลของกลุมตนเอง ใหเพื่อนฟง พรอมกับบอกประโยชน ของขอมูลนั้นๆ ที่หนาชั้น 5. ใหนักเรียนเขียนแผนผังความคิดสรุปเรื่อง ประโยชนของขอมูลลงในสมุด
¤íÒ¶ÒÁ¨Ø´»ÃСÒ ñ. ã¹áµ‹ÅÐÇѹ ¹Ñ¡àÃÕ Â¹ä´ŒÃѺ¢ŒÍÁÙÅÍÐäúŒÒ§ ¨Ò¡áËÅ‹§¢ŒÍÁÙÅã´ áÅТŒÍÁÙŹÑ鹨Ѵ໚¹¢ŒÍÁÙÅ
»ÃÐàÀ·ã´ ò. ¶ŒÒ¹Ñ¡àÃÕ Â¹Í‹Ò¹Ë¹Ñ§Ê×;ÔÁ¾ ¹Ñ¡àÃÕ Â¹¤Ô´Ç‹Ò ¨Ðä´Œ¢ŒÍÁÙÅ»ÃÐàÀ·ã´ºŒÒ§
¡Ô ¨¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙ·Œ Õè ò ๑ ดูภาพต่อไปนี้ แล้วบอกว่าการปฏิบัติตนของเด็กในภาพท�าให้ได้รับ ข้อมูลประเภทใด จากนั้นเขียนบันทึกลงในสมุดตามหัวข้อที่ก�าหนด ๑) ๒) ๓)
ขยายความเขาใจ
●
●
●
Expand
1. ครูถามคําถามจุดประกาย หนา 15 และ หนา 16 จากนั้นใหนักเรียนชวยกันตอบ คําถาม 2. ใหนักเรียนดูภาพในกิจกรรมการเรียนรูที่ 2 ขอ 1 หนา 15 แลวบันทึกขอมูลตามหัวขอ ที่กําหนด 3. ใหนักเรียนอานเรื่องที่กําหนดในกิจกรรม การเรียนรูที่ 3 ขอ 2 หนา 17 แลวตอบคําถาม
ภาพ ข้อมูลที่คาดว่าจะได้รับ เป็นข้อมูลประเภท
๒ พิจารณาข้อมูลของตนเองจากการท�ากิจกรรมการเรียนรู้ที่ ๑ ข้อ ๑ แล้วบอกว่า มีข้อมูลประเภทใดบ้าง ÃÙ»ÀÒ¾ ໚¹¢ŒÍÁÙÅ...... ª×èÍ - ¹ÒÁÊ¡ØŠ໚¹¢ŒÍÁÙÅ..........
๑๕ เฉลย คําถามจุดประกาย 1. แนวตอบ ขึ้นอยูกับคําตอบของนักเรียนแตละคน เชน • สาระความรูตางๆ จากหนังสือเรียน จัดเปนขอมูลตัวอักษร ขอมูลตัวเลข ขอมูลภาพ • รสชาติของอาหาร จากอาหารที่รับประทาน จัดเปนขอมูลรสชาติ 2. แนวตอบ ขอมูลเกี่ยวกับขาวสารเหตุการณในปจจุบัน ความรู ความบันเทิง ซึ่งเปนขอมูลภาพ ขอมูลตัวอักษร และขอมูลตัวเลข เฉลย กิจกรรมการเรียนรูที่ 2 1. แนวตอบ 1) • ภาพ เด็กดมดอกไม • ขอมูลที่คาดวาจะไดรับ กลิ่นของดอกไม • เปนขอมูลประเภท ขอมูลกลิ่น 2) • ภาพ เด็กรับประทานอาหาร • ขอมูลที่คาดวาจะไดรับ รสชาติของอาหาร • เปนขอมูลประเภท ขอมูลรสชาติ
3) • ภาพ เด็กกําลังอุมและเลนกับแมว • ขอมูลที่คาดวาจะไดรับ ลักษณะของแมว ขนของแมวมีลักษณะนุม • เปนขอมูลประเภท ขอมูลอื่นๆ เชน ขอมูลลักษณะของแมว เปนตน 2. แนวตอบ ขึ้นอยูกับคําตอบของนักเรียนแตละคน เชน • รูปภาพ เปนขอมูลภาพ • ชื่อ-นามสกุล บานเลขที่ หมายเลขโทรศัพท อาหารที่ชอบ วิชาที่ชอบ เปนขอมูลตัวอักษร • วันเกิด นํ้าหนัก สวนสูง เปนขอมูลตัวเลข
คูมือครู
15
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
Engage
Explore
Explain
ขยายความเขาใจ
ขยายความเขาใจ Expand าใจ ขยายความเข
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
Expand
1. ใหนักเรียนสืบคนขอมูลสั้นๆ 1 เรื่อง จากนั้น ออกมานําเสนอขอมูล พรอมกับบอกวาขอมูลนัน้ เปนขอมูลเกี่ยวกับอะไร มีขอมูลประเภทใดบาง และมีประโยชนกับตนเองอยางไร 2. ครูถามคําถามบูรณาการสูชีวิต หนา 17 แลวให นักเรียนชวยกันตอบคําถาม 3. ใหนักเรียนดูภาพที่กําหนดในกิจกรรมรวบยอดที่ 1.1 ขอ 4 จากแบบวัดฯ เทคโนโลยีฯ ป.1 แลว เขียนบันทึกขอมูล
๓ ประโยชนของขอมูล
ข้อมูลในชีวิตประจ�าวันมีมากมาย ซึ่งคนเราน�าข้อมูลเหล่านี้ มาใช้ประโยชน์ เช่น การน�า1ข้อมูลสภาพอากาศมาประมวลผล แล้วใช้ในการพยากรณ์อากาศ การน�าข้อมูลประชากรมาวางแผน การพัฒนาประเทศ เป็นต้น ¢ŒÍÁÙÅÁÕ»ÃÐ⪹ ã¹´ŒÒ¹µ‹Ò§æ ´Ñ§¹Õé
✓ แบบวัดฯ ใบงาน แบบฝกฯ เทคโนโลยีฯ ป.1 กิจกรรมรวบยอดที่ 1.1 แบบประเมินตัวช�้วัด ง 3.1 ป.1/1
ñ
๔ ดูภาพที่กําหนดให แลวเขียนบอกวาใหขอมูลเรื่องใด และเปนขอมูลประเภทใด
• ขอมูลที่คาดวาจะไดรับ ขาวสารตางๆ เสียงเพลง • เปนขอมูลประเภท ขอมูลเสียง
๑)
...................................
..................................................................................................... ...............................................
ÇѤ«Õ¹»‡Í§¡Ñ¹
.....................................................................................................
• ขอมูลที่คาดวาจะไดรับ เรื่องราว ความรูตางๆ ขาวสาร • เปนขอมูลประเภท ขอมูลภาพ
๒)
䢌ËÇÑ´ãËÞ‹
...................................
2009
..................................................................................................... ...............................................
ขอมูลตัวอักษร
.....................................................................................................
• ขอมูลที่คาดวาจะไดรับ เลขทะเบียน ของรถ และจังหวัดที่จดทะเบียนรถ • เปนขอมูลประเภท ขอมูลตัวอักษร • ขอมูลที่คาดวาจะไดรับ ขาวสาร ความรูตางๆ และความบันเทิง • เปนขอมูลประเภท ขอมูลภาพ
๓)
...................................
ò
..................................................................................................... ฉบับ
เฉลย
...............................................
.....................................................................................................
๔)
...................................
..................................................................................................... ...............................................
ขอมูลเสียง
.....................................................................................................
• ขอมูลที่คาดวาจะไดรับ ราคาสินคา • เปนขอมูลประเภท ขอมูลตัวเลข
๕)
...................................
..................................................................................................... ...............................................
¤íÒ¶ÒÁ¨Ø´»ÃСÒÂ
..................................................................................................... ตัวชี้วัด ง ๓.๑ ขอ ๑ ไดคะแนน คะแนนเต็ม
ñð
¡ÒÃÃѺÃÙŒ¢ŒÍÁÙÅ´ŒÒ¹µ‹Ò§æ ઋ¹ ¢ŒÍÁÙÅ à¡ÕèÂǡѺºØ¤¤Å ¢ŒÍÁÙÅà¡ÕèÂǡѺʶҹ·Õè ໚¹µŒ¹ ÁÕ»ÃÐ⪹ µ‹Í¡ÒôíÒà¹Ô¹ªÕÇÔµ »ÃШíÒÇѹÍ‹ҧäÃ
๑๓
๑๖
ó
ª‹ÇÂ㹡ÒõѴÊÔ¹ã¨ËÃ×Íᡌ䢻˜ÞËÒ
เพือ่ ใหตดั สินใจหรือแกไขปญหาไดถกู ตอง เชน • เมื่อเรารูขอมูลวาคะแนนสอบวิชา ภาษาไทยของตนเองไมคอยดี เราจึง ควรขยันและตั้งใจเรียนใหมากขึ้น • เมือ่ เรารูข อ มูลเกีย่ วกับโรคไขหวัดใหญ 2 ๒๐๐๙ เราจึงควรหาวิธีปองกันตัวเอง เพื่อไมใหเปนโรคนี้ได เปนตน ª‹Ç¾Ѳ¹Òµ¹àͧ
ทําใหเราเปนคนฉลาด รอบรู สามารถ วางแผนการทํางาน การเรียนและการ ปฏิบตั งิ านตามหนาทีท่ ี่ไดรบั มอบหมาย ไดเปนอยางดี ª‹Ç¾Ѳ¹ÒªØÁª¹áÅÐÊѧ¤Á
เชน ผูด แู ลชุมชนมีขอ มูลวามีเด็กๆ ในชุมชน เพิ่มขึ้นจํานวนมาก จึงสรางสนามเด็กเลน เพือ่ ใหเด็กๆ ใชเปนทีอ่ อกกําลังกาย เปนตน
๓. ลางมือใหสะอาดกอนกินอาหารและหลังการขับถาย มือ เปนอวัยวะทีใ่ ชทาํ กิจกรรมตางๆ จึงทําใหมโี อกาสสัมผัส กับสิง่ สกปรกไดงา ย มือทีส่ กปรกจึงเปนแหลงแพรเชือ้ โรค ดังนัน้ เรา จึงตองรักษาความสะอาดของมือ โดยลางมือใหสะอาดดวยสบูอยาง ถูกวิธที กุ ครัง้ กอนกินอาหาร หลังหยิบจับสิง่ สกปรก หรือหลังขับถาย ¢Ñ鹵͹¡ÒÃŌҧÁ×ÍÍ‹ҧ¶Ù¡ÇÔ¸Õ ควรปฏิบัติ ดังนี้
นักเรียนควรรู 1 พยากรณอากาศ เปนการใชขอมูลทํานายสภาพทองฟาอากาศลวงหนา หรือในระยะเวลา อันใกล 2 ไขหวัดใหญ 2009 เปนไขหวัดสายพันธุใหมที่มีชื่อเรียกตางๆ หลายชื่อ เชน ไขหวัดใหญ 2009 ไขหวัดใหญสายพันธุเอชวันเอ็นวัน (H1N1) เปนตน ซึ่งโรคนี้จะติดตอกันระหวางมนุษยกับ มนุษย โดยเชื้อโรคจะอยูในเสมหะ นํ้ามูก นํ้าลาย ที่เกิดจากการไอ การจาม การหายใจรดกัน ในระยะใกลชิด ทั้งนี้เชื้อโรคจะเขาสูรางกายทางตาและจมูก หากเรานํามือไปสัมผัสสิ่งที่มีเชื้อโรค ปนอยู แลวใชมือหยิบจับอาหารเขาปาก เชื้อโรคก็จะเขาสูรางกายได การปองกันไขหวัดใหญ 2009 สามารถทําไดอยางงายๆ คือ การรักษาสุขภาพใหแข็งแรง อยูเสมอ หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่แออัด ควรลางมืออยางถูกวิธีอยูเสมอๆ ควรสวมหนากาก อนามัย เพื่อชวยปองกันละอองเชื้อโรคที่ฟุงกระจายในอากาศ นอกจากนี้อาจฉีดวัคซีนเพื่อชวย ปองกันได
16
ฝามือถูหลังมือ และนิ้วถูซอกนิ้ว
ฝามือถูกนั เทนํ้ายาลางมือ ลงบนมือ
õ5
ô4
ถูนิ้วหัวแมมือ โดยรอบดวยฝามือ หลังนิว้ มือถูฝา มือ
ö6 ปลายนิ้ว ถูขวางฝามือ
๔๐
คูมือครู
ò2
ñ1
÷7 ถูรอบขอมือ
ขั้นตอนการลางมืออยางถูกวิธี
ó3 ฝามือถูฝามือ และนิ้วถูซอกนิ้ว
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
Engage
Explore
Explain
Expand
ตรวจสอบผล Evaluate ตรวจสอบผล Evaluate
ตรวจสอบผล
1. ครูตรวจสอบวานักเรียนบอกขอมูล และ จําแนกประเภทขอมูลไดถูกตองและเหมาะสม 2. ครูตรวจสอบวานักเรียนสามารถบอกขอมูล จําแนกประเภทของขอมูล บอกประโยชนของ ขอมูลไดอยางถูกตองและเหมาะสม 3. ครูตรวจผลการทํากิจกรรมรวบยอดที่ 1.1 ขอ 4 จากแบบวัดฯ เทคโนโลยีฯ ป.1
¡Ô ¨¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙ·Œ Õè ó ๑ เขียนแผนผังความคิดสรุปประโยชน์ของข้อมูลลงในสมุด ๒ อ่านเรื่องที่ก�าหนด แล้วตอบค�าถาม หางของแมว…บอกอารมณของแมว ภาษาที่ใช้ในการสือ่ สารทัง้ มนุษย์และสัตว์แบ่งออกเป็น ๒ อย่าง คือ ภาษาพูด (ใชเสียง) และภาษาทาทาง (ใชอวัยวะในการสือ่ สาร) ซึง่ แมวจะใช้หางในการสือ่ สารเพือ่ บ่งบอกถึงอารมณ์ของมัน ดังนี้ ลักษณะของหางแมว
หลักฐานแสดงผลการเรียนรู 1. 2. 3. 4. 5.
ผลการบอกขอมูลของสิ่งตางๆ ผลการทํากิจกรรมรวบยอดที่ 1.1 ขอ 2 ผลการบันทึกขอมูลเกี่ยวกับตนเอง ผลการบอกขอมูล และจําแนกขอมูล ผลการบอกขอมูล จําแนกขอมูล และบอก ประโยชนของขอมูล 6. ผลการทํากิจกรรมรวบยอดที่ 1.1 ขอ 4
อารมณของแมว
หางและปลายหาง ตั้งตรงในแนวดิ่ง
อารมณ์ดี รู้สึกเป็นมิตร เมื่อได้พบกับแมวตัวอื่น
หางอยู่นิ่งๆ แต่มีการ กระตุกเป็นครั้งคราว
รู้สึกว่าถูกรบกวน หรือมีความกังวล
หางเหยียดตรงชี้ขึ้น และขนที่หางลุกชัน
ดุร้าย ก้าวร้าว
Evaluate
๑) นักเรียนอ่านเรื่อง “หางของแมว…บอกอารมณของแมว” แล้วรู้สึกอย่างไร ๒) การอ่านเรื่องนี้ให้ประโยชน์ต่อนักเรียนอย่างไร
¡Ô¨¡ÃÃÁºÙóҡÒÃÊÙ‹ªÕÇÔµ ¶ŒÒ¤Ø³¤ÃپҹѡàÃÕ Â¹ä»·ÑȹÈÖ¡ÉÒ·ÕÊè ǹÊÑµÇ ¹Ñ¡àÃÕ Â¹¤Ô´Ç‹Ò¨Ðä´Œ¢ÍŒ ÁÙÅÍÐäúŒÒ§ áŌǢŒÍÁÙÅ àËÅ‹Ò¹ÑÑ鹨ѴÍÂÙ‹ ã¹»ÃÐàÀ·ã´ áÅÐä´Œ»ÃÐ⪹ Í‹ҧäèҡ¢ŒÍÁÙŹÑé¹
๑7 เฉลย คําถามจุดประกาย
(หนา 16) แนวตอบ ทําใหเกิดความรูความเขาใจเกี่ยวกับขอมูลที่ไดรับรู แลวนําความรู ที่ไดไปใชใหเกิดประโยชนทั้งในดานการเรียน การดําเนินชีวิต เชน ถาเรารูขอมูลเรื่องไขหวัดใหญ 2009 เราสามารถดูแลตนเอง และหาวิธีปองกันไมใหเปนไขหวัดใหญ 2009 ได เปนตน เฉลย กิจกรรมการเรียนรูที่ 3
เฉลย กิจกรรมบูรณาการสูชีวิต แนวตอบ • ไดขอมูลเกี่ยวกับลักษณะของสัตว และชีวิตความเปนอยูของสัตวตางๆ ที่อยูในสวนสัตว • จัดเปนขอมูลภาพ ขอมูลตัวอักษร ขอมูลตัวเลข ขอมูลเสียง • สามารถนําขอมูลไปใชประโยชนในการเรียนได
2. แนวตอบ 1) แมวมีการแสดงอารมณและความรูสึกเชนเดียวกับคน 2) ทําใหเราสามารถบอกอารมณของแมว โดยดูจากหางของแมวได ซึ่งสามารถนําความรูไปใชได เชน ในการเลี้ยงแมว การเลนกับแมว อาจดูไดจากลักษณะของหางแมว หากแมวอยูในอารมณดุราย ก็ไมควร ไปเลนกับมัน ทําใหเกิดความปลอดภัยกับตนเอง เปนตน
คูมือครู
17
กระตุน ความสนใจ กระตุEngage นความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
เปาหมายการเรียนรู
บอกขอมูลที่สนใจและแหลงขอมูลที่อยูใกลตัว (ง 3.1 ป.1/1)
º··Õè
สมรรถนะของผูเรียน 1. 2. 3. 4.
๒
แหลงขอมูลนารู
ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการใชเทคโนโลยี ความสามารถในการคิด ความสามารถในการใชทักษะชีวิต
¡Ô¨¡ÃÃÁ¹ÓÊÙ‹¡ÒÃàÃÕ¹
คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. ใฝเรียนรู 2. มุงมั่นในการทํางาน
กระตุน ความสนใจ
Engage
1. ใหนักเรียนดูภาพ หนา 18 แลวครูถามคําถาม ดังนี้ • จากภาพ สิ่งใดเปนแหลงขอมูลบาง และแหลงขอมูลนั้นใหขอมูลอะไร (แนวตอบ • คอมพิวเตอร ใหขอมูล สาระความรู ความบันเทิง ขาวสารตางๆ • หนังสือ ใหขอมูลความรูตางๆ) 2. ครูชี้ไปยังแหลงขอมูลตางๆ ในหองเรียน เชน ครู นักเรียน ปายนิเทศ ตนไม เปนตน ใหนักเรียนชวยกันบอกวา เปนแหลงขอมูลได หรือไม และถาเปนแหลงขอมูลได จะให ขอมูลอะไร
í แหล่งข้อมูล เป็นที่มาของข้อมูลต่างๆ ซึ่งมี ทั้งแหล่งข้อมูลที่เป็นบุคคล และแหล่งข้อมูลที่ ไม่ใช่บุคคล
๑๘
เกร็ดแนะครู ครูจัดกระบวนการเรียนรูโดยใหนักเรียนปฏิบัติ ดังนี้ • อภิปรายเกี่ยวกับแหลงขอมูล • สืบคนขอมูลที่สนใจ • จําแนกประเภทของแหลงขอมูล จนเกิดเปนความรูความเขาใจวา แหลงขอมูลเปนที่มาของขอมูลตางๆ ซึ่งมีทั้ง แหลงขอมูลที่เปนบุคคล และแหลงขอมูลที่ไมใชบุคคล
18
คูมือครู
ª‹Ç¡ѹºÍ¡Ç‹Ò ÁÕáËÅ‹§¢ŒÍÁÙÅÍÐäúŒÒ§
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
สํารวจค Exploreนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
สํารวจคนหา
1. ครูสนทนาซักถามนักเรียน ดังนี้ • ถาตองการขอมูลเกี่ยวกับประวัติของ ครอบครัวตนเอง จะคนหาขอมูลจาก แหลงขอมูลใด และดวยวิธีการใด (แนวตอบ ตอบไดหลากหลาย เชน ถามจากพอ แม ปู ยาย เปนตน) • ถาตองการขอมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว จะตองคนหาขอมูลจากแหลงขอมูลใด และดวยวิธีการใด (แนวตอบ ตอบไดหลากหลาย เชน ถามจากสัตวแพทย คนหาจากเว็บไซต ในอินเทอรเน็ต เปนตน) • ถาตองการขอมูลเกี่ยวกับการทํางานบาน จะตองคนหาขอมูลจากแหลงขอมูลใด และดวยวิธีการใด (แนวตอบ ตอบไดหลากหลาย เชน ถามจากแม เปนตน) • ถาตองการขอมูลเกี่ยวกับการปลูกคะนา จะตองคนหาขอมูลจากแหลงขอมูลใด และดวยวิธีการใด (แนวตอบ ตอบไดหลากหลาย เชน ถามจากเกษตรกร อานจากหนังสือ ที่เกี่ยวกับการปลูกผักสวนครัว เปนตน) 2. ครูชวนนักเรียนสนทนาวา รอบตัวเรายังมี แหลงขอมูลอะไรอีกบาง โดยครูเขียนตามที่ นักเรียนบอกบนกระดาน 3. ใหนักเรียนจําแนกแหลงขอมูลบนกระดานวา แหลงขอมูลใดเปนแหลงขอมูลที่เปนบุคคล และแหลงขอมูลที่ไมใชบุคคล
๑ แหล่งขอมูล
แหลงข้อมูล หมายถึง ที่มาของข้อมูล ซึ่งมีความแตกต่างกัน ตามประเภทของข้อมูลที่เราได้รับ ๑. ประเภทของแหลงข้อมูล แหล่งข้อมูลแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท ได้แก่ ๑) แหลงข้อมูลชั้นต้น เป็นแหล่งข้อมูลที่เราสอบถาม หรือ สัมภาษณ์จากแหล่งข้อมูลโดยตรง หรือที่เราพบเห็นด้วยตนเอง แล้วจดบันทึกไว้ เช่น การสอบถามข้อมูลจากเพื่อน การสังเกตการ เจริญเติบโตของพืช เป็นต้น ʶҹ·Õ 1 è¹Õé¤×Í Ê¹ÒÁËÅǧ¹Ð¤Ð¹Ñ¡àÃÕ¹
▲
Explore
การไปทัศนศึกษาตามสถานที่ส�าคัญต่างๆ จะได้ข้อมูลที่เป็นข้อมูลชั้นต้น
๑๙
ขอสอบเนนการคิด
ถาตองการทราบราคาสินคา ควรหาขอมูลจากแหลงขอมูลใด จึงจะเหมาะสมที่สุด ก. แมคาในตลาด ข. ครูประจําชั้น ค. ตํารวจ
วิเคราะหคําตอบ แมคาในตลาดเปนผูขายสินคา จึงรูขอมูลเกี่ยวกับราคา สินคาตางๆ ไดดีกวาบุคคลในขออื่นๆ ดังนั้น ก. จึงเปนคําตอบที่ถูก
นักเรียนควรรู 1 สนามหลวง เดิมเรียกวา ทุงพระเมรุ (ทุง-พระ-เมน) เพราะใชเปนที่ถวาย พระเพลิงพระบรมศพของพระมหากษัตริยและพระบรมวงศานุวงศ ในปจจุบัน มีการใชสนามหลวงเปนที่ประกอบพระราชพิธีสําคัญๆ เชน พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ สมโภชกรุงรัตนโกสินทร รวมทั้ง งานพระเมรุมาศเจานายระดับสูง เปนตน นอกจากนี้ สนามหลวงยังใชจัดกิจกรรม ตางๆ อาทิ การปราศรัยใหญในการหาเสียงเลือกตั้งในแตละครั้ง หรือการชุมนุม ทางการเมืองตางๆ รวมถึงใชเปนสถานที่จัดกิจกรรมทางกีฬา การละเลนตางๆ เชน ฟุตบอล การเลนวาว เปนตน หากไมมีพระราชพิธี หรือกิจกรรมตางๆ สนามหลวงยังเปนที่พักผอนหยอนใจของประชาชนทั่วไปอีกดวย สนามหลวงเปนโบราณสถานสําคัญของชาติ ซึ่งกรมศิลปากรไดประกาศ ขึ้นทะเบียนเปนโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษา เลมที่ 94 ตอนที่ 126 ลงวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2520 คูมือครู
19
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
Explain
1. ใหนักเรียนรวมกันอภิปรายวา แหลงขอมูล คืออะไร ควรเลือกแหลงขอมูลอยางไร 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนเขาใจวา • แหลงขอมูล คือ ที่มาของขอมูล ที่ให รายละเอียดตางๆ ของขอมูล อาจเปนบุคคล เชน พอแม ครู เพื่อน เจาหนาที่พิพิธภัณฑ เกษตรกร เปนตน อาจไมใชบุคคล เชน หนังสือ โทรทัศน พิพิธภัณฑ หองสมุด เปนตน ในการเลือกแหลงขอมูลที่ใชคนหาขอมูลนั้น ควรเลือกแหลงมูลที่นาเชื่อถือ มีการรวบรวม ขอมูลอยางมีหลักเกณฑ และมีการอางอิง เชน การสอบถามจากผูรู และผูชํานาญ เกี่ยวกับขอมูลนั้น การอานจากหนังสือที่มี การรวบรวมและตรวจสอบขอมูลแลว เปนตน 3. ใหนักเรียนชวยกันบอกแหลงขอมูลที่นาเชื่อถือ ตามความคิดของนักเรียน 4. ครูอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนเขาใจวา แหลงขอมูลแบงเปน 2 ประเภท ไดแก 1) แหลงขอมูลชั้นตน คือ แหลงขอมูลที่เรา รวบรวมขอมูลดวยตนเอง เชน การสอบถาม การสัมภาษณ การสังเกตจากแหลงขอมูล โดยตรง แลวจดบันทึกขอมูล เปนตน 2) แหลงขอมูลชั้นรอง คือ แหลงขอมูลที่มีผูอื่น รวบรวมหรือบันทึกไวแลว เชน การอาน หนังสือ การฟงจากวิทยุ การดูจากโทรทัศน การอานขอมูลจากอินเทอรเน็ต แลวจดบันทึก เปนตน 5. ใหนักเรียนอานขอมูลเรื่องประเภทแหลงขอมูล หนา 19-20
๒) แหลงข้อมูลชั้นรอง เป็นแหล่งข้อมูลที่ได้จากการอ่าน การฟง หรือการดูขอ้ มูลทีม่ ผี อู้ นื่ รวบรวมหรือบันทึกไว้แล้ว เช่น การ ค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต การอ่านจากหนังสือ แล้วจดบันทึก เป็นต้น
▲
1
การดูรายการสารคดีต่างๆ ในโทรทัศน์
▲
2
การชมนิทรรศการ
▲
การอ่านหนังสือในห้องสมุด
๒๐
นักเรียนควรรู 1 สารคดี (สา-ระ-คะ-ดี) เปนเรื่องที่เขียนขึ้นจากเคาความจริงที่เกี่ยวของกับ เรื่องราวชีวิตจริงของคนหรือสัตว เหตุการณที่เกิดจริง โดยมีจุดมุงหมายเพื่อให ความรูและขอเท็จจริง นอกจากนี้ทําใหผูอาน ฟง หรือดู ไดรับความรู และไดรับ ความเพลิดเพลินไปในขณะเดียวกัน 2 นิทรรศการ (นิ-ทัด-สะ-กาน) เปนการแสดงผลงานสินคาผลิตภัณฑ หรือ กิจกรรมใหคนทั่วไปชม
20
คูมือครู
ขอสอบเนนการคิด ขอใดเปนแหลงขอมูลชั้นตน ก. เจาหนาที่พิพิธภัณฑ ข. รายการสารคดี ค. แผนพับโฆษณา
วิเคราะหคําตอบ ข. และ ค. เปนแหลงขอมูลชั้นรองที่มีผูอื่นรวบรวม หรือบันทึกไวแลว ก. เปนแหลงขอมูลชั้นตน ซึ่งผูตองการขอมูลจะตอง สอบถาม สัมภาษณ หรือสังเกตดวยตนเอง ดังนั้น ขอ ก. จึงเปน
คําตอบที่ถูก
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
อธิบายความรู
1. ใหนักเรียนอานเรื่องแหลงขอมูลที่อยูใกลตัว หนา 21-22 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนเขาใจวา แหลงขอมูลที่เปนบุคคล มักจะรวบรวม ขอมูลได โดยการสอบถาม การสัมภาษณ แลวจดบันทึกขอมูล สวนแหลงขอมูลที่ไมใช บุคคล มักจะรวบรวมขอมูลได โดยการฟง การสังเกต แลวจดบันทึกขอมูล 3. ใหนักเรียนชวยกันยกตัวอยางแหลงขอมูล ที่เปนบุคคล และแหลงขอมูลที่ไมใชบุคคล เพิ่มเติมจากในหนังสือ 4. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปเรื่องแหลงขอมูล
๒. แหลงข้อมูลที่อยูใกล้ตัว ในชีวิตประจ�าวันของนักเรียน สามารถหาข้อมูลต่างๆ ได้จากแหล่งข้อมูลที่อยู่ใกล้ตัว ได้แก่ ๑) แหลงข้อมูลที่เปนบุคคล เช่น พ่อแม่ ผู้ปกครอง คุณครู ผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรี แพทย์ เป็นต้น
▲
พ่อแม่
▲
ญาติผู้ใหญ่
▲
คุณครู
▲
เพื่อน
Explain
¡ÒÃÃѺÃÙŒ¢ŒÍÁÙŨҡáËÅ‹§¢ŒÍÁÙÅ·Õè໚¹ºØ¤¤Å ¨Ð㪌ÇÔ¸Õ¡ÒÃÊͺ¶ÒÁáÅСÒÿ˜§¹Ð¤ÃѺ
๒๑
ขอใดจัดเปนแหลงขอมูลชั้นรอง ก. ผูประกาศขาวในรายการโทรทัศน ข. นักดนตรีพื้นบาน ค. ครูสอนวิชาศิลปะ
ขอสอบเนนการคิด
วิเคราะหคําตอบ แหลงขอมูลชั้นรอง เปนแหลงขอมูลที่มีผูรวบรวมขอมูล และประมวลผลไวแลว ก. จัดเปนแหลงขอมูลชั้นรอง ข. และ ค. จัดเปน แหลงขอมูลชั้นตน ดังนั้น ขอ ก. จึงเปนคําตอบที่ถูก
บูรณาการอาเซียน ครูใหนักเรียนดูการตูนเกี่ยวกับอาเซียน ซึ่งเปนแหลงขอมูลชั้นรอง เพื่อให นักเรียนเกิดความรูและความเขาใจเกี่ยวกับอาเซียนมากยิ่งขึ้น โดยเขาเว็บไซต www.youtube.com แลวพิมพคําวา การตูนทองอาเซียน ที่ชองคนหา จากนั้น จึงเลือกการตูนทองอาเซียน 1-5 ตามลําดับ
คูมือครู
21
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
Engage
Explore
Explain
ขยายความเขาใจ
ขยายความเขาใจ Expand าใจ ขยายความเข
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
Expand
1. ครูถามคําถามจุดประกาย หนา 23 แลวให นักเรียนชวยกันตอบคําถาม 2. ใหนักเรียนคิด เขียน และวาดภาพแหลงขอมูล ที่อยูใกลตัว 1 แหลงขอมูล ลงในสมุด แลวเขียน อธิบายสั้นๆ วา จะไดรับขอมูลอะไรบาง จากแหลงขอมูลนั้น 3. ครูสมุ เรียกนักเรียนใหออกมานําเสนอแหลงขอมูล ของตนเองที่หนาชั้นเรียน 4. ใหนกั เรียนอานสถานการณในกิจกรรมการเรียนรู ที่ 1 ขอ 2 หนา 23 แลวตอบคําถาม
๒) แหล 1 งข้อมูลที่ไมใชบุคคล เช่น ห้องสมุด คอมพิวเตอร์ วัด พิพิธภัณฑ์ เป็นต้น
▲
ห้องสมุด ▲
▲
ห้องสมุด
แท็บเล็ต
▲
▲
คอมพิวเตอร์
โทรทัศน์
๒๒
เกร็ดแนะครู ครูอาจแนะนําขอมูลเกี่ยวกับหองสมุด เชน การคนหาหนังสือในหองสมุด มารยาทการใชหองสมุด เปนตน เพื่อใหนักเรียนใชหองสมุดที่เปนแหลงขอมูล ไดอยางถูกตองและเหมาะสม
นักเรียนควรรู 1 พิพิธภัณฑ เปนแหลงขอมูลที่สําคัญ ซึ่งการเขาชม นักเรียนควรปฏิบัติตาม กฎระเบียบ เชน • ไมสงเสียงดังขณะเขาชม • ไมนําอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดเขาไปในพิพิธภัณฑ • ไมหยิบ จับ หรือเคลื่อนยายสิ่งของในพิพิธภัณฑ
22
คูมือครู
ขอสอบเนนการคิด
ใครเลือกใชแหลงขอมูลไมเหมาะสม ก. ชะเอมถามวิธีทําอาหารจากแมครัว ข. บัวถามประวัติโรงเรียนจากแมคาที่เพิ่งมาขายอาหารในโรงเรียน ค. กุยอานหนังสือเรื่องการปลูกผักสวนครัว เพื่อเตรียมปลูกคะนา วิเคราะหคําตอบ การเลือกแหลงขอมูลเพื่อคนหาขอมูล จะตองเลือก แหลงขอมูลที่นาเชื่อถือ เหมาะสม และตรงกับขอมูลที่ตองการ เพื่อใหได ขอมูลที่ถูกตอง และนํามาใชประโยชนได หากตองการขอมูลเกี่ยวกับประวัติของโรงเรียน ควรสอบถามจากครู ในโรงเรียน หรืออานจากหนังสือประวัติโรงเรียน ซึ่งการถามจากแมคา ที่เพิ่งมาขายอาหารในโรงเรียน อาจไดขอมูลที่ไมถูกตอง เพราะแมคา เพิ่งจะมาขายอาหารในโรงเรียน อาจไมรูขอมูลเกี่ยวกับประวัติโรงเรียน ดังนั้น ขอ ข. จึงเปนคําตอบที่ถูก
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
Engage
Explore
Explain
Expand
ตรวจสอบผล Evaluate ตรวจสอบผล Evaluate
ตรวจสอบผล
Evaluate
1. ครูตรวจสอบวานักเรียนเขียนขอมูลจาก แหลงขอมูลทีอ่ ยูใ กลตวั ไดอยางถูกตอง และเหมาะสม 2. ครูตรวจสอบวานักเรียนบอกแหลงขอมูล ที่ใชคนหาขอมูลที่กําหนดใหไดอยางถูกตอง และเหมาะสม
¤íÒ¶ÒÁ¨Ø´»ÃСÒ ñ. ¹Ñ¡àÃÕ Â¹¤Ô´Ç‹Ò áËÅ‹§¢ŒÍÁÙÅÁÕ¤ÇÒÁÊíÒ¤ÑÞ㹡ÒÃËÒ¢ŒÍÁÙÅÍ‹ҧäà ò. à¾ÃÒÐàËµØ ã´ àÃÒ¤ÇÃàÅ×Í¡áËÅ‹§¢ŒÍÁÙÅãËŒµÃ§¡Ñº¢ŒÍÁÙÅ·ÕèàÃÒµŒÍ§¡ÒÃ
¡Ô ¨¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙ·Œ Õè ñ ๑ คิด เขียน และวาดภาพแหล่งข้อมูลที่อยู่ใกล้ตัว ๑ แหล่งข้อมูล ลงในสมุด แล้วเขียนอธิบายสั้นๆ ว่า จะได้รับข้อมูลอะไรบ้าง จากแหล่งข้อมูลนั้น ๒ อ่านสถานการณ์ที่ก�าหนด แล้วตอบค�าถาม ๑) มดกับแกมตองการทราบขอมูลเกีย่ วกับการ ปลูกผักสวนครัว มดกับแกมควรหาขอมูล จากแหลงขอมูลใด
๒)
จอยกับตน นตตองการทราบ งการทราบขขอมูลเกี่ยวกับ การเลนฟุตบอล จอยกับตนควรหาขอมูล จากแหลงขอมูลใด
๓)
ตู กั บ อ อ ดต อ งการทราบขข อ มู ล เกี่ ย วกั บ การอานออกเสียงคําควบกลํ้า ตูกับออด ควรหาขอมูลจากแหลงขอมูลใด
๒๓
กิจกรรมทาทาย ใหนักเรียนสํารวจแหลงขอมูลที่อยูใกลตัวนักเรียน แลวจดบันทึก ลงในสมุด จากนั้นเขียนบอกวาแหลงขอมูลนั้นใหขอมูลอะไรกับนักเรียน แหลงขอมูล • หนังสือพิมพ
แหลงขอมูล ที่เปนบุคคล
แหลงขอมูล ที่ไมใชบุคคล
ขอมูลที่ไดรับ
✓
• ใหขอมูลขาวสาร เหตุการณตางๆ ใน ปจจุบัน สาระความรู และความบันเทิง
เฉลย คําถามจุดประกาย 1. แนวตอบ แหลงขอมูลเปนแหลงที่ใหรายละเอียดตางๆ ของขอมูล ถาหาก แหลงขอมูลนั้นไมมีความนาเชื่อถือ จะทําใหขอมูลที่ไดมานั้นใชประโยชนไมได 2. แนวตอบ เพราะจะไดรับขอมูลที่ตรงตามความตองการ ทําใหใชเวลาในการ คนหาขอมูลไมนานเกินไป และขอมูลที่ไดสามารถนําไปใชประโยชนได เฉลย กิจกรรมการเรียนรูที่ 1 2. แนวตอบ 1) เชน ครูสอนวิชาเกษตร หนังสือเกี่ยวกับการปลูกพืชสวนครัว เปนตน 2) เชน ครูวิชาพลศึกษา อินเทอรเน็ต เปนตน 3) เชน ครูวิชาภาษาไทย หองสมุด เปนตน
คูมือครู
23
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Exploreนหา สํารวจค
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
สํารวจคนหา
Explore
1. ครูสนทนาซักถามนักเรียนวา ถาตองการคนหา ขอมูลเรื่องมะลิ นักเรียนมีวิธีรวบรวมขอมูล อยางไรบาง โดยครูเขียนตามที่นักเรียนบอกไว บนกระดาน 2. ใหนักเรียนดูวิธีรวบรวมขอมูลที่ครูเขียน บนกระดานตามที่นักเรียนบอก แลวใหนักเรียน ชวยกันพิจารณาวาการรวบรวมขอมูลแบบใด ถูกตองและเหมาะสม 3. ครูชวนนักเรียนสนทนาวา เมื่อรวบรวมขอมูล จนไดขอมูลพอประมาณแลว นักเรียนมีวิธีการ จัดการขอมูลอยางไรบาง 4. ครูสุมเรียกนักเรียนที่จัดการขอมูลอยางเปน ขั้นตอน กับนักเรียนที่จัดการขอมูลไมเปน ขั้นตอนออกมา แลวใหนักเรียนคนอื่นๆ ชวยกันเปรียบเทียบวา ควรปฏิบัติตามคนใด เพราะอะไร
๒ การรวบรวมขอมูล
การรวบรวมข้อมูล หมายถึง การค้นหาข้อมูลที่ต้องการจาก แหล่งข้อมูลต่างๆ มาเก็บรวมกันไว้ ๑. วิธีการรวบรวมข้อมูล มีดังนี้ ๑) การสังเกต เป็นวิธกี าร รวบรวมข้อมูลโดยการดูข้อมูล ที่สนใจอย่างละเอียด และจดจ�า รายละเอียดข้อมูลที่สังเกต เช่น สังเกตว่า ดอกไม้ชนิดนี้มีสีอะไร มีกลีบกี่กลีบ เป็นต้น ÊÇÑÊ´Õ¤‹Ð ¢ÍÊÑÁÀÒɳ àÃ×èͧ¡Òà àµÃÕÂÁµÑÇÊͺ˹‹Í¹ФР▲
ä´Œ¤ÃѺ
การดูและสังเกตสิ่งต่างๆ เป็นการรวบรวมข้อมูล วิธีหนึ่ง
๒) การสัมภาษณ เป็นการ สอบถามหรือพูดคุยระหว่างบุคคล ๒ ฝ่าย โดยที่ฝ่ายหนึ่งต้องการ ทราบเรื่ อ งราวจากอี ก ฝ่ า ยหนึ่ ง แล้ ว จดบั น ทึ ก ข้ อ มู ล ที่ ไ1ด้ หรื อ อาจจะใช้ วิ ธี บั น ทึ ก เสี ย งในขณะ สัมภาษณ์ก็ได้ ▲
การสอบถามข้อมูล ควรใช้ถ้อยค�าที่สุภาพเสมอ
๒๔
เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนเขาใจวา การสังเกต เปนขั้นตอนหนึ่งในระเบียบ วิธีทางวิทยาศาสตร ดังนี้ 1. การสังเกตปรากฏการณที่เกิดขึ้น 2. การตั้งสมมติฐานในปรากฏการณที่เกิดขึ้น 3. การทดสอบสมมติฐาน 4. การทบทวนเพื่อหาขอบกพรอง
นักเรียนควรรู 1 วิธีบันทึกเสียง ตองบันทึกผานเครื่องบันทึกเสียง แลวจัดเก็บขอมูลไวใน แถบบันทึกเสียง ซึ่งในการบันทึกเสียงนั้น ผูบันทึกจะตองขออนุญาต หรือ บอกกลาวผูที่ถูกสัมภาษณกอนเสมอ เพื่อเปนการไมละเมิดสิทธิสวนบุคคล และเปนมารยาททางสังคม
24
คูมือครู
ขอสอบเนนการคิด
แหลงขอมูลใดที่ใชคนหาขอมูลไดสะดวกรวดเร็ว และไดขอมูลที่หลากหลาย ก. อินเทอรเน็ต ข. หนังสือพิมพ ค. วิทยุ วิเคราะหคําตอบ คอมพิวเตอรที่เชื่อมตอเครือขายอินเทอรเน็ต เปนแหลงขอมูลที่มีขอมูลหลากหลาย มีการปรับปรุงขอมูลอยูตลอดเวลา ซึ่งสามารถคนหาขอมูลไดทันทีที่เริ่มเชื่อมตอเครือขายอินเทอรเน็ต จึงทําใหสะดวกรวดเร็วในการคนหาขอมูล ดังนั้น ขอ ก. จึงเปน
คําตอบที่ถูก
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
อธิบายความรู
1. ใหนักเรียนรวมกันสรุปวา การรวบรวมขอมูล มีวิธีการอยางไร และการจัดการขอมูลที่ รวบรวมไดควรปฏิบัติอยางไร 2. ใหนักเรียนอานขอมูลเรื่องการรวบรวมขอมูล หนา 24-25 3. ครูตั้งคําถามใหนักเรียนชวยกันตอบ • ตั้มดูสารคดีชีวิตชางจากโทรทัศน แลวจดบันทึกขอมูลลงในสมุด นักเรียน คิดวา ตั้มรวบรวมขอมูลดวยวิธีใด (แนวตอบ รวบรวมขอมูลโดยการดูและฟง จากโทรทัศน) • ฝายขอใหครูที่สอนวิชาศิลปะแนะนําวิธีการ วาดภาพดวยสีนํ้า จากนั้นฝายจึงจดบันทึก คําแนะนําของครูลงในสมุด นักเรียนคิดวา ฝายรวบรวมขอมูลดวยวิธีใด (ตอบ รวบรวมขอมูลโดยการสอบถาม)
๓) การสืบค้นข้อมูลจากแหลงข้อมูลตางๆ เป็นการค้นคว้า ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลชั้นรอง เช่น การอ่านหนังสือ การฟงจาก ผู้รู้ การอ่านข้อมูลในอินเทอร์เน็ต เป็นต้น แล้วจดบันทึกข้อมูลที่ ต้องการ
▲
Explain
อินเทอร์เน็ตและห้องสมุด เป็นแหล่งข้อมูล ทีม่ ขี อ้ มูลมากมายหลายประเภท เราต้องรูจ้ กั เลือกใช้ข้อมูลที่มีประโยชน์ ให้เหมาะสมกับ ความต้องการ
๒๕
ขอสอบเนนการคิด
ถาเราอยากทราบประวัติของพอแมเรา เราควรรวบรวมขอมูลดวยวิธีใด ก. สังเกตจากพฤติกรรมของพอแม ข. สอบถามจากพอแม ค. คนหาจากหองสมุด
วิเคราะหคําตอบ พอแมเปนบุคคลที่อยูใกลตัวเรา หากตองการทราบ ประวัติของพอแม ควรสอบถามจากทาน ซึ่งจะทําใหไดขอมูลที่ถูกตอง ดังนั้น ขอ ข. จึงเปนคําตอบที่ถูก
เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนเขาใจวา ปจจุบันคนนิยมสืบคนขอมูลจาก อินเทอรเน็ต เพราะสามารถคนหาขอมูลไดรวดเร็ว และสะดวก แตขอมูลที่ได จากการสืบคนทางอินเทอรเน็ต ก็มีทั้งเชื่อถือได และเชื่อถือไมได ดังนั้น หากจะ นําขอมูลที่ตองการไปใชงาน ตองเลือกใชขอมูลจากแหลงขอมูลที่สามารถอางอิงได เชน ขอมูลจากหนวยงานราชการ องคกรตางๆ เปนตน
มุม IT ศึกษาและบริการหองสมุดออนไลน ไดที่ http://www.nlt.go.th/th_index.htm ซึ่งเปนเว็บไซตของหอสมุดแหงชาติ
คูมือครู
25
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
Explain
1. ครูยกตัวอยางขอมูล ดังนี้ • พยัญชนะไทย มี 44 ตัว • คนไทยสวนใหญนับถือพระพุทธศาสนา • ดินเนื้อหยาบมักนํามาใชในการทํางานปน • ผูใหกําเนิดลูกเสือคือ ลอรด เบเดน โพเอลล • ปาไมจัดเปนสิ่งแวดลอมทางธรรมชาติ 2. ครูใหนักเรียนอภิปรายรวมกันวาขอมูลใด เปนขอมูลที่ถูกตอง และนักเรียนทราบได อยางไร 3. ใหนักเรียนตรวจสอบความนาเชื่อถือของขอมูล โดยการสืบคนขอมูลจากแหลงขอมูลตางๆ แลวใหนักเรียนชวยกันบอกวาขอมูลใดถูกตอง และขอมูลใดไมถูกตอง 4. ใหนักเรียนอานเรื่องตรวจสอบความนาเชื่อถือ ของขอมูล หนา 26 5. ครูถามคําถามนักเรียนวา • นักเรียนจะตรวจสอบความนาเชื่อถือของ ขอมูลไดโดยวิธีการใด (แนวตอบ สอบถามจากบุคคลที่เกี่ยวของกับ เหตุการณ หรือสืบคนขอมูลจากแหลงขอมูล หลายๆ แหลง วาใหขอมูลตรงกันหรือไม) • เพราะเหตุใดในการรวบรวมขอมูล เราจึงตอง ตรวจสอบขอมูล (แนวตอบ เพื่อใหขอมูลที่เรารวบรวมมีความ นาเชื่อถือ และนําไปใชประโยชนได)
๒. วิธีการจัดการข้อมูล เมื่อรวบรวมข้อมูลได้พอสมควรแล้ว ควรปฏิบัติ ดังนี้ ๑) ตรวจสอบความนาเชื่อถือของข้อมูล โดยการน�าข้อมูล ที่ได้มาเปรียบเทียบกัน แล้วเลือกข้อมูลที่เหมือนกัน หรือตรวจสอบ ข้อมูลจากหลักฐานทีเ่ ป็นตัวหนังสือ นอกจากนี้ การเลือกข้อมูลจะต้อง ดูจากแหล่งข้อมูลที่ได้มาด้วย ว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด เช่น หากเราสอบถามข้อมูลเรื่องการสร้างอาคารเรียนหลังใหม่จาก คุณครูใหญ่แล้ว เราควรขออนุญาตคุณครูใหญ่ดูหนังสือหรือเอกสาร ที่กล่าวถึงเรื่องนี้ จากนั้นจึงตรวจสอบข้อมูลที่ได้ว่าตรงกันหรือไม่ หากข้อมูลตรงกัน แสดงว่าข้อมูลนั้นมีความน่าเชื่อถือ ¤Ø³¤ÃÙãËÞ‹¤ÃѺ ä´ŒÊÔ¨ Ð ¾Ç¡¼ÁÍÂÒ¡·ÃÒº¢ŒÍÁÙÅ ¡ÒÃÊÌҧÍÒ¤ÒÃàÃÕ¹¤ÃѺ
▲
๒๖
ครูอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนเขาใจวา นอกจากการสอบถามขอมูลโดยวิธี พูดคุยแลว การสอบถามขอมูลโดยใชแบบสอบถามที่ฝายหนึ่งเขียนคําถาม เพื่อให อีกฝายเขียนคําตอบ ก็เปนการรวบรวมขอมูลโดยการสอบถามอีกวิธหี นึง่ ซึง่ การ ตัง้ คําถามในแบบสอบถามนั้น ควรมีลักษณะ ดังนี้ • ตั้งคําถามใหนาสนใจ ตรงประเด็น • ใชถอยคําที่สุภาพ ไมทําลายชื่อเสียงของผูอื่น • เขียนสะกดคําใหถูกตอง เพราะการเขียนสะกดคําผิด อาจทําใหความหมาย ของคําถามนั้นเปลี่ยนไปได ดังนั้น กอนที่จะนําแบบสอบถามไปใหผูอื่นทํา ควรตรวจสอบความถูกตอง กอนเสมอ
คูมือครู
ในการรวบรวมข้อมูล ควรตรวจสอบข้อมูลทุกครั้ง
ในการสอบถามข้อมูลนี้ เราควรเลือกถามจากคุณครูใหญ่ ซึ่งคุณครู ใหญ่ย่อมให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือกว่าแม่ค้าที่ขายของ ายของอยู่ใน โรงเรียน เพราะคุณครูใหญ่มีหน้าที่ดูแลเรื่องต่างๆ ภายในโรงเรียน จึงมีเอกสารเป็นหลักฐาน เพื่อใช้ยืนยันความถูกต้องของข้อมูล แต่ แม่ค้าอาจเล่าเรื่องราวต่างๆ จากความทรงจ�า จึงอาจท�าให้จ�าข้อมูล คลาดเคลื่อน หรือบอกข้อมูลที่ผิดพลาดได้
เกร็ดแนะครู
26
¹Õèä§ ¢ŒÍÁÙÅã¹Ë¹Ñ§Ê×͵ç¡Ñº·Õè ¤Ø³¤ÃÙãËÞ‹ºÍ¡àÅÂ
ขอสอบเนนการคิด
ขอใดเปนการสัมภาษณที่ทําใหไดขอมูลที่ครบถวนที่สุด ก. จดบันทึกเฉพาะที่จําได ข. บันทึกเสียงในการสัมภาษณ ค. ถามคําถามทุกคําถามที่อยากรู วิเคราะหคําตอบ การสัมภาษณเปนการสอบถาม พูดคุยระหวางบุคคล 2 ฝาย โดยผูสัมภาษณจะตองถามคําถามที่ตรงประเด็น แลวบันทึกขอมูล ที่ได หรืออาจบันทึกเสียงในขณะสัมภาษณ ดังนั้น ขอ ข. จึงเปน
คําตอบที่ถูก
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
อธิบายความรู
1. ครูเขียนตัวอยางขอมูลบนกระดาน ดังนี้ 1) มนุษย พืช และสัตวจัดเปนสิ่งมีชีวิต 2) พระพุทธศาสนาเปนศาสนาประจําชาติไทย 3) กรุงศรีอยุธยาเปนเมืองหลวงของ ประเทศไทยเปนเวลา 417 ป 4) จอภาพเปนอุปกรณคอมพิวเตอรที่ใช แสดงผลขอมูล 2. ครูและนักเรียนรวมกันอานขอมูลที่ครูเขียน บนกระดาน แลวครูถามคําถามนักเรียนวา • ขอมูลใดเปนขอมูลเกี่ยวกับศาสนา (ตอบ ขอมูลที่ 2) • ขอมูลใดเปนขอมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร (ตอบ ขอมูลที่ 3) • ขอมูลใดเปนขอมูลเกี่ยวกับวิทยาศาสตร (ตอบ ขอมูลที่ 1) • ขอมูลใดเปนขอมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ (ตอบ ขอมูลที่ 4) 3. ใหนักเรียนอานเรื่องจําแนกขอมูลเปนหมวดหมู อยางเหมาะสม หนา 27
๒) จําแนกข้อมูลเปนหมวดหมูอยางเหมาะสม ซึ่งอาจดู จากหัวข้อ หรือเนื้อหาของข้อมูล เช่น ข้อมูลเรื่องงานบ้าน ข้อมูล เรื่องงานเกษตร ข้อมูลเรื่องงานประดิษฐ์ เป็นต้น งานประดิษฐ การพับกระดาษ การประดิษฐ์สิ่งต่างๆ ● ●
งานเกษตร การปลูลูกต้นไม้ การเลียงสั การเ ย้ งสัตว์ 1 การท�าประมง ● ● ●
งานบ้าน การปดฝุ่น การกวาดบ้าน การถูบ้าน
Explain
● ● ●
๒7
ขอสอบเนนการคิด
เพราะเหตุใดเราตองตรวจสอบความนาเชื่อถือของขอมูล ก. เพื่อใหไดขอมูลที่ไมซํ้ากับคนอื่น ข. เพื่อใหไดขอมูลที่แปลกที่สุด ค. เพื่อใหไดขอมูลที่ถูกตอง
วิเคราะหคําตอบ เมื่อไดขอมูลมาทั้งหมดตามที่ตองการแลว เราควร เปรียบเทียบขอมูลที่ตรงกัน เพื่อใหไดขอมูลที่ถูกตองและนาเชื่อถือ ดังนั้น
นักเรียนควรรู 1 ประมง เปนการเพาะเลี้ยงสัตวนํ้าทุกชนิด แบงได 2 ประเภท ดังนี้ • ประมงนํ้าจืด เปนการเพาะเลี้ยงหรือจับสัตวนํ้าในแมนํ้า ลําคลอง บึง • ประมงนํ้าเค็ม เปนการเพาะเลี้ยงหรือจับสัตวนํ้าในทะเล
ขอ ค. จึงเปนคําตอบที่ถูก
คูมือครู
27
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
Explain
1. ครูกําหนดหมวดหมูของขอมูล เพื่อใหนักเรียน สืบคนขอมูลตามความสนใจของตนเอง และให สอดคลองกับหมวดหมูของขอมูลที่กําหนดให • วิทยาศาสตร • สุขศึกษาและพลศึกษา • ศิลปะ ดนตรี นาฏศิลป • ประวัติศาสตร • เทคโนโลยีสารสนเทศ 2. ครูจัดกลุมนักเรียนตามหมวดหมูของขอมูลที่ นักเรียนสืบคน ครูสุมเรียกตัวแทนของแตละ กลุมออกมานําเสนอขอมูล โดยเรียงตาม หมวดหมูของขอมูล กลุมละ 2-3 คน 3. ใหนักเรียนอานขอมูล หนา 28 แลวรวมกัน สรุปวา การจดบันทึกขอมูลและจัดขอมูลเปน หมวดหมูจะทําใหสะดวกในการนําขอมูลมา ใชงาน โดยยกตัวอยางจากการทํากิจกรรม ประกอบ เชน ถาครูอยากรวบรวมขอมูลเกี่ยวกับ เทคโนโลยีสารสนเทศ ก็จะเรียกสมาชิกในกลุม เทคโนโลยีสารสนเทศมานําเสนอขอมูล เปนตน
๓) จดบั น ทึ ก ข้ อ มู ล ที่ ไ ด้ และเก็ บ ไว้ ตามประเภทหรื อ หมวดหมู่ของข้อ1 มูลนั้นๆ เพื่อให้น�ามาใช้ได้สะดวก จากนั้นจัดเก็บ ข้อมูลไว้ในแฟมและเก็บไว้ในที่ที่เหมาะสม เช่น เก็บบนชั้นวางของ หรือเก็บในตู้ให้เรียบร้อย เป็นต้น
▲
▲
รวบรวมข้อมูลที่ได้มา แล้วจดบันทึกลงในสมุด
จัดเก็บข้อมูลให้เป็นหมวดหมู่และเป็นระเบียบ เพื่อให้สะดวกในการหยิบใช้งาน
๒๘
เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนเขาใจวา การจัดเก็บขอมูลตางๆ โดยแบงหมวดหมู ใสในแฟมอยางเรียบรอยแลว ควรเขียนระบุหมวดหมูของขอมูลที่หนาแฟม หรือที่ สันแฟม เชน ขอมูลเกี่ยวกับสัตว ขอมูลเกี่ยวกับสถานที่ เปนตน เพื่อชวยใหสะดวก ในการหยิบขอมูลมาใชงาน
นักเรียนควรรู 1 แฟม เปนที่สําหรับเก็บแผนกระดาษ มีปกหนา ปกหลังทําดวยกระดาษแข็ง แฟมมีหลายชนิด เชน ชนิดเจาะขาง ชนิดมีซองสําหรับใสเอกสาร ชนิดมีสปริง สําหรับหนีบกระดาษ เปนตน ขึ้นอยูกับความตองการในการเลือกใชงาน
28
คูมือครู
ขอสอบเนนการคิด
การจําแนกขอมูลเปนหมวดหมู มีประโยชนอยางไร ก. ทําใหเกิดความสวยงาม ข. ทําใหขอมูลนาเชื่อถือมากขึ้น ค. ทําใหนําขอมูลไปใชงานไดสะดวก วิเคราะหคําตอบ เมื่อตรวจสอบขอมูลที่รวบรวมจนไดขอมูลที่ถูกตอง และนาเชื่อถือแลว จากนั้นควรจําแนกขอมูลเปนหมวดหมู และจดบันทึก ตามหมวดหมู เพื่อใหสะดวกในการนําขอมูลมาใชงาน ดังนั้น ขอ ค.
จึงเปนคําตอบที่ถูก
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
Engage
Explore
Explain
ขยายความเขาใจ Expand าใจ ขยายความเข
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
ขยายความเขาใจ
ใหนักเรียนอานขอมูล หนา 29 แลวถาม คําถามนักเรียนวา • ชาลีและมีนาสืบคนขอมูลเกี่ยวกับอะไร (ตอบ แมวไทย) • แหลงขอมูลของชาลีและมีนาคืออะไร (ตอบ แหลงขอมูลที่เปนบุคคล คือ ผูปกครองและคุณครู) • เพราะเหตุใด ชาลีและมีนาจึงตองตรวจสอบ ความถูกตองของขอมูล (ตอบ เพื่อยืนยันวา ขอมูลที่ตนเองไดรับ จากแหลงขอมูลถูกตอง และนํามาใช ประโยชนได)
ตัวอย่าง การรวบรวมข้อมูล คุณครูมอบหมายให้ชาลีและมีนาจับคู่กันเพื่อสืบค้นข้อมูลที่น่าสนใจ ทั้งคู่สนใจ ข้อมูลเรื่อง “แมวไทย” เด็กทั้งสองจึงรวบรวมข้อมูลและด�าเนินการ ดังนี้ (๑) สอบถามข้อมูลจากคุณครู และผู้ปกครอง แล้วจดบันทึกข้อมูลที่ได้
▲
▲
Expand
ข้อมูลที่ได้จากการสอบถาม จัดเป็นข้อมูลชั้นต้น
ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลก่อนน�า ข้อมูลไปใช้
(๒) ตรวจสอบความนาเชื่อถือของ ข้อมูล โดยน�าข้อมูลที่ได้มาเปรียบเทียบกัน ถ้าข้อมูลที่ได้จากคุณครูและผู้ปกครองนั้น ตรงกัน แสดงว่าข้อมูลนัน้ มีความน่าเชือ่ ถือ นอกจากนี้ชาลีและมีนายังตรวจสอบข้อมูล จากหนังสือเรื่อง “แมวไทย” ในห้องสมุด อีกด้วย พบว่าข้อมูลตรงกัน จึงสรุปได้ว่า ข้ อ มู ล ที่ ช าลี แ ละมี นาได้ ม านั้ น มี ความ ถูกต้อง และเชื่อถือได้
๒๙
ขอสอบเนนการคิด
จอยอานหนังสือเรื่องการปลูกผัก จัดเปนการรวบรวมขอมูลดวยวิธีการใด ก. การสังเกต ข. การสัมภาษณ ค. การสืบคนจากแหลงขอมูล วิเคราะหคําตอบ การอานหนังสือ เปนการคนควาขอมูลจากแหลงขอมูล ชั้นรอง ดังนั้น ค. จึงเปนคําตอบที่ถูก
เกร็ดแนะครู ครูอาจนําขอมูลที่ผานวิธีการจัดการขอมูลมาใหนักเรียนดู กับขอมูลในเรื่อง เดียวกัน แตไมผานวิธีการจัดการขอมูลมาใหนักเรียนดู แลวใหนักเรียนรวมกัน อภิปรายวา ขอมูลใดนาเชื่อถือ และสามารถนําขอมูลไปใชประโยชนไดมากกวากัน เพราะอะไร
กิจกรรมทาทาย ครูใหนักเรียนสืบคนขอมูลเรื่องสัตวเลี้ยง จากแหลงขอมูลตางๆ แลวให นักเรียนแตละคนออกมานําเสนอผลงานที่หนาชั้นเรียน จากนั้นนําขอมูล ของนักเรียนทั้งหองมารวมกันจัดทําปายนิเทศเรื่องสัตวเลี้ยง
คูมือครู
29
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
Engage
Explore
Explain
ขยายความเขาใจ
ขยายความเขาใจ Expand าใจ ขยายความเข
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
Expand
1. ใหนักเรียนอานขอมูล หนา 30 2. ครูถามคําถามนักเรียนวา • ชาลีและมีนาจําแนกขอมูลไดอยางไรบาง (ตอบ แมวไทยมีหลายชนิด ไดแก แมวขาวมณี แมววิเชียรมาศ และแมวสีสวาท) • นักเรียนจะมีวิธีการจดบันทึกขอมูลอยางไร (แนวตอบ เรียงลําดับความสําคัญของหัวขอ ใหถูกตอง และใชภาษาที่เขาใจงาย)
(๓) จําแนกข้อมูล โดยน�าข้อมูลมาจ�าแนกเป็นหัวข้อต่างๆ (๔) เขียนบันทึกข้อมูลที่ได้ โดยเรียงตามล�าดับความส�าคัญของหัวข้อ ใช้ภาษา ที่สั้น กระชับ และเข้าใจง่าย ตัวอย่าง ข้อมูลเรื่อง “แมวไทย” ที่ชาลีและมีนาค้นคว้ามา
áÁÇä·Â ¤¹ä·ÂàÅÕé§áÁÇÁÒµÑé§áµ‹ÊÁÑÂâºÃÒ³ 2 1 áÅÐÁÕ¡ÒÃᵋ§µíÒÃÒáÁÇä·ÂäÇŒã¹ÊÁØ´¢‹Í´ŒÇ áÁÇä·Â·Õ辺àËç¹ã¹»˜¨¨ØºÑ¹ 䴌ᡋ
3
ñ. áÁÇ¢ÒÇÁ³Õ ÁÕ¢¹ÊÕ¢ÒÇ·Ñ駵ÑÇ ¢¹Í‹Í¹¹Ø‹Á ËÒ§ÂÒÇ áÅлÅÒÂáËÅÁ ¢ÒÂÒÇàÃÕÂÇ
๓๐
บูรณาการเชื่อมสาระ
นักเรียนควรรู 1 ตําราแมวไทย เปนตําราที่อธิบายลักษณะของแมวที่ดี และแมวที่ไมดี แตงขึ้น ในสมัยอยุธยา 2 สมุดขอย หนังสือโบราณที่นําเอาเปลือกของตนขอย มาทําเปนแผนกระดาษ แลวกลับดานมาตอกัน จากนั้นทากาว ใหติดกันเปนพืด นํามาใชบันทึกขอมูล แลวพับทบไปมาเปน เลมสมุด เรียกอีกอยางวา สมุดไทย 3 แมวขาวมณี เรียกอีกชื่อวา แมวขาวปลอด เพราะมีขน สีขาวตลอดทั้งตัว สมุดขอย
30
คูมือครู
ครูบูรณาการสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร กับสาระคณิตศาสตร เรื่องขอมูลและการจําแนกขอมูล โดยการนําวิธีการจําแนกขอมูล การจัดการขอมูลใหเปนหมวดหมู หรือ เรียงลําดับในลักษณะตางๆ ของวิชาคณิตศาสตรมาประยุกตใช เพื่อให นักเรียนเกิดความรูความเขาใจมากยิ่งขึ้น
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
Engage
Explore
Explain
ขยายความเขาใจ Expand าใจ ขยายความเข
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
ขยายความเขาใจ
Expand
1. ครูถามคําถามจุดประกาย หนา 31 แลวให นักเรียนตอบคําถาม 2. ใหนักเรียนดูภาพในกิจกรรมการเรียนรูที่ 2 ขอ 1 หนา 32 แลวอานขอมูลในภาพ จากนั้นรวมกันแสดงความคิดเห็นตามประเด็น ที่กําหนด 3. ใหนักเรียนทํากิจกรรมการเรียนรูที่ 2 ขอ 2 หนา 32 4. ครูสุมเรียกนักเรียนใหออกมานําเสนอ ผลการสืบคนขอมูลของตนเองที่หนาชั้นเรียน
1
ò. áÁÇÇÔàªÕÂÃÁÒÈ ÁÕ¢¹ÊÕ¹íéÒµÒÅ áÅÐÁÕᵌÁ ÊÕ¹íéÒµÒÅäËÁŒÍÂÙ‹ ù áË‹§ ¤×Í ·Õè»ÅÒÂËÙ·Ñé§Êͧ¢ŒÒ§ ·Õè»ÅÒ¨ÁÙ¡ ·Õè»ÅÒÂ෌ҷÑé§ÊÕè ·ÕèÍÇÑÂÇÐà¾È áÅзÕèËÒ§
ó. áÁÇÊÕÊÇÒ´ ÁÕ¢¹ÊÕà·Ò ËÙµÑé§à´‹¹ ´Ç§µÒãËÞ‹ ËÃ×ÍàÃÕÂ¡Ç‹Ò 2 áÁÇâ¤ÃÒª áËÅ‹§¢ŒÍÁÙÅ : ¤Ø³áÁ‹´ÒÃÒ ÃѡǧÉÒ ¤Ø³¤ÃÙ¹Õùت à¨ÃÔÞâµ
(๕) นําเสนอผลงาน โดยพู โดยพูดอธิบายข้อมูลพร้อมภาพประกอบที่ได้สืบค้นมา ¤íÒ¶ÒÁ¨Ø´»ÃСÒ ñ. àÁ×èÍä´Œ¢ŒÍÁÙÅÁÒáÅŒÇ àÃÒµŒÍ§µÃǨÊͺ¢ŒÍÁÙÅ¡‹Í¹¹íÒä»ãªŒ§Ò¹ à¾ÃÒÐÍÐäà ò. ¹Ñ¡àÃÕ Â¹¤Ô´Ç‹Ò ¨íÒ໚¹ËÃ× ÍäÁ‹·Õ赌ͧ»¯ÔºÑµÔµÒÁ¢Ñ鹵͹¡ÒÃÃǺÃÇÁ¢ŒÍÁÙÅ à¾ÃÒÐÍÐäÃ
๓๑
เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนําเสนอผลงาน เพื่อใหนักเรียนเกิดความเขาใจมากยิ่งขึ้น การนําเสนอผลงาน แบงเปน 2 ลักษณะใหญๆ ดังนี้ • การนําเสนอผลงานอยางเปนแบบแผน เปนการนําเสนอผลงานที่มีเกณฑ ซึ่งจะตองปฏิบัติตามมาตรฐานที่กําหนดไว เปนแบบอยาง ที่นิยมใช คือ การนําเสนอในรูปแบบตาราง กราฟ และแผนภูมิ • การนําเสนอผลงานอยางไมเปนแบบแผน เปนการนําเสนอผลงานที่ไมมีการกําหนดเกณฑไวตายตัว เชน บทความ หรือเรียงความ การนําเสนอแบบบทความกึ่งตาราง เปนตน
นักเรียนควรรู 1 แมววิเชียรมาศ เปนแมวไทยพันธุแรกที่คนตางชาติรูจัก เรียกอีกชื่อวา แมวแกว ตามชื่อวิเชียรมาศ ซึ่งหมายถึง เพชร แกวแหวนเงินทอง เพราะเชื่อวาเมื่อเลี้ยงแมวพันธุนี้แลวจะมีโชคลาภ ไดทรัพยสมบัติเปนแกวแหวนเงินทองมากมาย 2 แมวโคราช เรียกตามถิ่นกําเนิด คือ ที่อําเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา (โคราช) สวนชื่อสีสวาด เนื่องจากมีสีขน เหมือนสีเมล็ดของตนสวาด (สีเทาอมเขียว) ซึ่งเปนไมเถาชนิดหนึ่ง คูมือครู
31
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
Engage
Explore
Explain
Expand
ตรวจสอบผล
ตรวจสอบผล Evaluate ตรวจสอบผล Evaluate
Evaluate
1. ครูตรวจสอบวานักเรียนบอกแหลงขอมูลที่ นาเชื่อถือไดอยางถูกตองและเหมาะสม 2. ครูตรวจสอบวานักเรียนสืบคนขอมูลไดนาสนใจ รูจักเลือกแหลงขอมูลไดอยางเหมาะสม และ ปฏิบัติตามวิธีการรวบรวมขอมูล จัดการขอมูล ไดอยางถูกตองและเหมาะสมตามขั้นตอน
¡Ô ¨¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙ·Œ Õè ò ๑ ดูภาพแลวอานขอมูลในภาพ จากนั้นรวมกันแสดงความคิดเห็น ตามประเด็นที่กําหนด ¡ÃÁÍصعÔÂÁÇÔ·ÂÒᨌ§Ç‹Ò Çѹ¾ÃØ‹§¹Õé¨ÐÁÕ½¹µ¡Ë¹Ñ¡ ºÒ§¾×é¹·Õ褋Ð
Çѹ¹Õé½¹¹‹Ò¨Ðµ¡ à¾ÃÒзŒÍ§¿‡ÒÁ×´ÁÒ¡
หลักฐานแสดงผลการเรียนรู
คุณตาว
Çѹ¹Õé½¹µ¡á¹‹àÅ à¾ÃÒÐàÁ×èͤ׹½˜¹Ç‹Ò½¹µ¡
1. ผลบันทึกการอธิบายเกี่ยวกับแหลงขอมูล และขอมูลที่ไดจากแหลงขอมูลนั้น 2. ผลการบอกแหลงขอมูลที่ใชคนหาขอมูล 3. ผลการเลือกใชแหลงขอมูลที่มีความนาเชื่อถือ 4. ผลบันทึกการสืบคนขอมูลที่นาสนใจ จากแหลงขอมูลที่ถูกตองและเหมาะสม
พี่ตู
พอตั้ม
Çѹ¾ÃØ‹§¹Õé½¹¨Ðµ¡Ë¹Ñ¡ à¾ÃÒТ‹ÒÇã¹Ë¹Ñ§Ê×;ÔÁ¾ ºÍ¡àÍÒäÇŒ
นองเตย
นักเรียนคิดวา ขอมูลของใครนาเชื่อถือมากที่สุด เพราะอะไร ๒ สืบคนขอมูลที่ตนสนใจ แลวบันทึกขอมูลสั้นๆ ลงในสมุด และวาดรูป ประกอบ จากนั้นนําเสนอผลงานที่หนาชั้นเรียน ●
¡Ô¨¨¡ÃÃÁºÙ ¡ÃÃÁºÙóҡÒÃÊÙ‹ªÕÇÔµ ñ. 㹪ÕÇÔ µÔ »ÃШíÒÇѹ¢ŒÍÁÙŵ‹Ò§æ ·Õ¹è ¡Ñ àÃÕ Â¹ä´ŒÃºÑ ÁÒ¨Ò¡áËÅ‹§¢ŒÍÁÙÅã´ºŒÒ§ áÅÐ໚¹áËÅ‹§¢ŒÍÁÙÅ »ÃÐàÀ·ã´ ò. ¹Ñ¡àÃÕ Â¹ÁÕÇ¸Ô ¡Õ ÒÃà¡çºÃÑ¡ÉÒ¢ŒÍÁÙÅ·ÕÁè ÍÕ ÂÙá‹ ÅŒÇ áÅÐÇÔ¸¡Õ ÒÃÃÑ¡ÉÒáËÅ‹§¢ŒÍÁÙŵ‹Ò§æ Í‹ҧäúŒÒ§
๓๒ เฉลย คําถามจุดประกาย
(หนา 31) 1. แนวตอบ เพราะเปนการตรวจสอบความถูกตองของขอมูล ขอมูลที่ไดมานั้น บางขอมูลอาจจะไมใชขอมูลที่ถูกตอง ดังนั้น จะตองมีการตรวจสอบขอมูล กอนนําไปใชทุกครั้ง 2. แนวตอบ จําเปน เพราะการปฏิบัติตามขั้นตอนการรวบรวมขอมูล จะทําให ทํางานไดอยางสะดวก รวดเร็ว ไดขอมูลตามที่ตองการ และเปนขอมูลที่ถูกตอง นาเชื่อถือ
เฉลย กิจกรรมบูรณาการสูชีวิต
เฉลย กิจกรรมการเรียนรูที่ 2
2. แนวตอบ • การเก็บรักษาขอมูล เชน จดบันทึกขอมูลลงในสมุด หรือเก็บขอมูลที่บันทึก ลงในกระดาษใสในแฟมเอกสาร • วิธีการรักษาแหลงขอมูล เชน เปดอานหนังสือ สมุดตางๆ อยางเบามือ เมื่อใชแหลงขอมูลเสร็จแลว ใหจัดเก็บเขาที่ใหเรียบรอย เปนตน
1. แนวตอบ คุณตาว เพราะคุณตาวนําขอมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยามารายงาน ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาเปนหนวยงานที่มีหนาที่ใหขอมูลเกี่ยวกับอากาศและปรากฏการณ ธรรมชาติ ซึ่งมีการวิเคราะหจนไดขอมูลที่มีความนาเชื่อถือ
32
คูมือครู
1. แนวตอบ แหลงขอมูล
ประเภทของแหลงขอมูล
• หนังสือเรียน
• แหลงขอมูลชั้นรอง
• ครู
• แหลงขอมูลชั้นตน
• โทรทัศน
• แหลงขอมูลชั้นรอง