คูมือครู 㪌»ÃСͺ¡ÒÃÊ͹ËÇÁ¡Ñº
˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ©ºÑº Í- .
ภาพปกนี้มีขนาดเทากับหนังสือเรียนฉบับจริงของนักเรียน
กระบวนการสอนแบบ 5 Es ชวยสรางทักษะการเรียนรู กิจกรรมมุงพัฒนาทักษะการคิด คำถาม + แนวขอสอบเพื่อยกผลสัมฤทธิ์ O-NET กิจกรรมบูรณาการเตรียมพรอมสู ASEAN 2558
เอกสารประกอบคูมือครู
กลุมสาระการเรียนรู คณิตศาสตร
คณิตศาสตร ชั้นประถมศึกษาปที่
2
สําหรับครู
คูมือครู Version ใหม
ลักษณะเดน
ขยายพื้นที่รูปเลมใหญขึ้นกวาเดิม จัดแบงพื้นที่ออกเปนโซน เพื่อคนหาขอมูลไดงาย สะดวก รวดเร็ว และดูเปนระเบียบ กระตุน ความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ Expand
ตรวจสอบผล
กระตุน ความสนใจ
Evaluate
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
เปาหมายการเรียนรู สมรรถนะของผูเรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค
หน า
โซน 1 กระตุน ความสนใจ
Engage
สํารวจคนหา
Explore
อธิบายความรู
Explain
ขยายความเขาใจ
Expand
ตรวจสอบผล
หน า
หนั ง สื อ เรี ย น
โซน 1
หนั ง สื อ เรี ย น
Evaluate
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
O-NET บูรณาการเชื่อมสาระ
เกร็ดแนะครู
ขอสอบ
โซน 2
โซน 3
กิจกรรมสรางเสริม กิจกรรมทาทาย
นักเรียนควรรู
โซน 3
โซน 2 บูรณาการอาเซียน มุม IT
No.
คูมือครู
คูมือครู
No.
โซน 1 ขั้นตอนการสอนแบบ 5Es
โซน 2 ชวยครูเตรียมสอน
โซน 3 ชวยครูเตรียมนักเรียน
เพื่อใหครูเตรียมจัดกิจกรรมการเรียน การสอน โดยแนะนําขั้นตอนการสอนและ การจัดกิจกรรมแบบ 5Es อยางละเอียด เพื่อใหนักเรียนบรรลุตามตัวชี้วัด
เพื่อชวยลดภาระครูผูสอน โดยแนะนํา เกร็ดความรูสําหรับครู ความรูเสริมสําหรับ นักเรียน รวมทั้งบูรณาการความรูสูอาเซียน และมุม IT
เพือ่ ใหครูสะดวกตอการจัดกิจกรรม โดยแนะนํา กิจกรรมบูรณาการเชื่อมระหวางกลุมสาระ วิชา กิจกรรมสรางเสริม กิจกรรมทาทาย รวมถึงเนือ้ หา ทีเ่ คยออกขอสอบ NT/O-NET เก็งขอสอบ NT/O-NET และแนวขอสอบเนนการคิด พรอมคําอธิบาย และเฉลยอยางละเอียด
ที่ใชในคูมือครู
แถบสีและสัญลักษณ
แถบสีแสดงขั้นตอนการสอนและการจัดกิจกรรม แบบ 5Es เพื่อใหครูทราบวาเปนขั้นการสอนขั้นใด
1. แถบสี 5Es สีแดง
สีเขียว
กระตุน ความสนใจ
เสร�ม
สํารวจคนหา
Engage
2
•
เปนขั้นที่ผูสอนเลือกใช เทคนิคกระตุน ความสนใจ เพื่อโยง เขาสูบทเรียน
สีสม
อธิบายความรู
Explore
•
เปนขั้นที่ผูสอน ใหผูเรียนสํารวจ ปญหา และศึกษา ขอมูล
สีฟา
Explain
•
เปนขั้นที่ผูสอน ใหผูเรียนคนหา คําตอบ จนเกิดความรู เชิงประจักษ
สีมวง
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
•
Evaluate
เปนขั้นที่ผูสอน ใหผูเรียนนําความรู ไปคิดคนตอๆ ไป
•
เปนขั้นที่ผูสอน ประเมินมโนทัศน ของผูเรียน
2. สัญลักษณ สัญลักษณ
วัตถุประสงค
• เปาหมายการเรียนรู
• หลักฐานแสดง ผลการเรียนรู
• เกร็ดแนะครู
• นักเรียนควรรู
• บูรณาการอาเซียน
• มุม IT
คูม อื ครู
แสดงเปาหมายการเรียนรูที่นักเรียน ตองบรรลุตามตัวชี้วัด ตลอดจนสมรรถนะ ที่จะตองมี และคุณลักษณะที่พึงเกิดขึ้น กับนักเรียน แสดงรองรอยหลักฐานตามภาระงาน ที่ครูมอบหมาย เพื่อแสดงผลการเรียนรู ตามตัวชี้วัด แทรกความรูเสริมสําหรับครู ขอเสนอแนะ ขอควรระวัง ขอสังเกต แนวทางการจัด กิจกรรมและอืน่ ๆ เพื่อประโยชนในการ จัดการเรียนการสอน ขยายความรูเพิ่มเติมจากเนื้อหา เพื่อให ครูนําไปใชอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียน ไดมีความรูมากขึ้น ความรูห รือกิจกรรมเสริม ใหครูนาํ ไปใช เตรียมความพรอมใหกบั นักเรียนกอนเขาสู ประชาคมอาเซียนใน พ.ศ. 2558 โดย บูรณาการกับวิชาทีก่ าํ ลังเรียน แนะนําแหลงคนควาจากเว็บไซต เพื่อให ครูและนักเรียนไดเขาถึงขอมูลความรู ที่หลากหลาย ทั้งไทยและตางประเทศ
สัญลักษณ
ขอสอบ
วัตถุประสงค
O-NET
(เฉพาะวิ เฉพาะวิชา ชัน้ ทีส่ อบ O-NET O-NET)
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T (เฉพาะวิ เฉพาะวิชา ชัน้ ทีส่ อบ NT เพือ่ เตรียมพรอมสอบ O-NET)
ขอสอบเนน การคิด แนว NT (เฉพาะวิชา ชัน้ ทีส่ อบ NT)
บูรณาการเชื่อมสาระ กิจกรรมสรางเสริม
• ชีแ้ นะเนือ้ หาทีเ่ คยออกขอสอบ
O-NET โดยยกตัวอยางขอสอบ พรอมวิเคราะหคาํ ตอบ อยางละเอียด
• เปนตัวอยางขอสอบทีม่ งุ เนน
การคิด และเปนแนวขอสอบ NT/O-NET ในระดับประถมศึกษา มีทงั้ ปรนัย - อัตนัย พรอมเฉลย อยางละเอียด
• แนวขอสอบ NT ในระดับ
ประถมศึกษา มีทงั้ ปรนัย - อัตนัย พรอมเฉลยอยางละเอียด โดยเนน - การอานออกเขียนได - การคิดเลข - ความสามารถดานการคิด และการใหเหตุผล
• แนะนําแนวทางการจัดกิจกรรม
เชือ่ มกับสาระหรือกลุม สาระ การเรียนรู ระดับชัน้ หรือวิชาอืน่ ทีเ่ กีย่ วของ
• แนะนําแนวทางการจัดกิจกรรม ซอมเสริมสําหรับนักเรียนทีค่ วร ไดรบั การพัฒนาการเรียนรู
• แนะนําแนวทางการจัดกิจกรรม กิจกรรมทาทาย
ตอยอดสําหรับนักเรียนทีเ่ รียนรู ไดอยางรวดเร็ว และตองการ ทาทายความสามารถในระดับ ทีส่ งู ขึน้
คําแนะนําการใชคูมือครู การออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอน คูมือครู รายวิชา คณิตศาสตร ป.2 จัดทําขึ้นเพื่อใหครูผูสอนนําไปใชเปนแนวทางวางแผนการสอนเพื่อพัฒนา ผลสัมฤทธิท์ างการเรียน และประกันคุณภาพผูเ รียน ตามนโยบายของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน (สพฐ.) โดยใชหนังสือเรียน คณิตศาสตร ป.2 ของบริษัท อักษรเจริญทัศน อจท. จํากัด เปนสื่อหลัก (Core Material) ประกอบ เสร�ม การสอนและการจัดกิจกรรมการเรียนรูใหสอดคลองกับมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดกลุมสาระการเรียนรู คณิตศาสตร 3 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พ.ศ. 2551 โดยออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนตามหลักการสําคัญ ดังนี้ 1 ออกแบบการสอนเปนหนวยการเรียนรูอิงมาตรฐาน คูม อื ครู รายวิชา คณิตศาสตร ป.2 วางแผนการสอนโดยแบงเปนหนวยการเรียนรูต ามลําดับสาระ (Standard) และ หมายเลขขอของมาตรฐานการเรียนรูแ ละตัวชีว้ ดั แตละหนวยจะกําหนดเปาหมายการสอนและจุดประสงคการเรียนรู (Objective Learning) กิจกรรมการเรียนรู (Learning Activities) และแนวทางการประเมินผลการเรียนรู (Learning Evaluation) ไวชัดเจน ครูผูสอนสามารถจัดทําแผนการสอนใหครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรู ตัวชี้วัด สมรรถนะ และคุณลักษณะ อันพึงประสงคที่เปนเปาหมายการเรียนรูตามที่กําหนดไวในสาระแ นสาระแกนกลาง (ตามแผนภูมิ) และสามารถบันทึกผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนของผูเรียนแตละคนลงในเอกสาร ปพ.5 ไดอยางมั่นใจ แผนภูมิแสดงองคประกอบของการออกแบบการเรียนรูอิงมาตรฐานและเนนผผูเรียนเปนสําคัญ
า
พผ
ูเ
จุดปร
ะสง
ค ก
ส ภา
รียน
ร
รู ีเรยน
มาตรฐานการเรียนรู ตัวชี้วัดชั้นป
ทักษะการคิด การวัดประเมินผล การเรียนรู
กิจกรรมการเรียนรู
เทคนิคการสอน
คูม อื ครู
2 การจัดการเรียนรูที่ยึดผูเรียนเปนสําคัญ แนวคิ ด ในการจั ด การเรี ย นการสอนที่ ยึ ด ผู เ รี ย นเป น สํ า คั ญ พั ฒ นามาจากปรั ช ญาและทฤษฎี ก ารเรี ย นรู Constructivism ที่เชื่อวาการเรียนรูเปนกระบวนการที่เกิดขึ้นภายในสมองของผูเรียนแตละคน ผูเรียนเปนผูสรางความรู โดยการเชื่อมโยงระหวางสิ่งที่ไดเรียนรูจากบทเรียนใหมกับความรูหรือประสบการณเดิมที่มีอยู ทฤษฎีนี้มีความเชื่อวา ผูเรียนทุกคนไดเรียนรูและมีการสั่งสมความรูความเขาใจเกี่ยวกับสิ่งตางๆ ติดตัวมากอน ทีจ่ ะเขาสูห อ งเรียน ซึง่ เปนการเรียนรูท เี่ กิดจากประสบการณและสิง่ แวดลอมรอบตัวผูเ รียนแตละคน ดังนัน้ การจัดกิจกรรม เสร�ม การเรียนการสอนในแตละหนวยการเรียนรู ผูสอนจะตองคํานึงถึง
4
1. ความรูเดิมของผูเรียน วิธีการสอนที่ดีจะตองเริ่มตนจากจุดที่วา ผูเ รียนมีความรูอ ะไรมาบาง แลวจึงใหความรู หรือประสบการณใหม เพื่อตอยอดจาก ความรูเดิม นําไปสูการสรางความรู ความเขาใจใหม
2. ความรูเดิมของผูเรียนถูกตองหรือไม ผูส อนตองปรับเปลีย่ นความรูค วามเขาใจเดิม ของผูเรียนใหถูกตอง และเปนพฤติกรรม การเรียนรูใ หมทมี่ คี ณุ คาตอผูเรียน เพื่อสราง เจตคติหรือทัศนคติที่ดีตอการเรียนรู สิ่งเหลานั้น
3. ผูเรียนสรางความหมายสําหรับตนเอง ผูสอนตองสงเสริมใหผูเรียนนําความรู ความเขาใจที่เกิดขึ้นไปลงมือปฏิบัติ เพื่อขยายความรูใหลึกซึ้งและมีคุณคา ตอตัวผูเรียนมากที่สุด
แนวคิด Constructivism เนนใหผูเรียนสรางความรูโดยผานกระบวนการคิดและความอยากรูของตนเอง โดยมีผูสอนเปนผูสรางบรรยากาศ
การเรียนรูและกระตุนความสนใจ คอยจัดสถานการณใหผูเรียนเกิดความขัดแยงทางความคิดระหวางประสบการณเดิมกับประสบการณ ความรูใ หม เพือ่ กระตนุ ใหผเู รียนเชือ่ มโยงความรู ความคิด กับประสบการณทมี่ อี ยูเ ดิม แลวสังเคราะหเปนความรูห รือแนวคิดใหมๆ ไดดว ยตนเอง
3 การบูรณาการกระบวนการคิด การเรียนรูของผูเรียนแตละคนจะเกิดขึ้นที่สมอง ซึ่งเปนอวัยวะที่ทําหนาที่รูคิดภายใตสภาพแวดลอมที่เอื้ออํานวย และไดรบั การกระตนุ จูงใจอยางเหมาะสม สอดคลองกับสภาพจิตใจและความตองการของผูเ รียนแตละคน การจัดกิจกรรม การเรียนรูและสาระการเรียนรูที่สอดคลองกับความสนใจและมีความหมายตอผูเรียน จะชวยกระตุนใหสมองของผูเรียน สามารถรับรูและเรียนรูไดอยางมีประสิทธิภาพตามขั้นตอนการทํางงานของสมอง ดังนี้ 1. สมองจะเรียนรูและสืบคน โดยการสังเกต คนหา ซักถาม และทดลอง ปฏิบัติ จนทําใหคนพบความรูความเขาใจ ไดอยางรวดเร็ว
2. สมองจะแยกแยะคุณคาของสิ่งตางๆ โดยการตัดสินใจวิพากษวิจารณ แสดง ความคิดเห็น ยอมรับหรือตอตานตาม อารมณความรูสึกที่เกิดขึ้นในขณะที่เรียนรู
3. สมองจะประมวลเนื้อหาสาระ โดยการสรุปเปนความคิดรวบยอดจาก เรื่องราวที่ไดเรียนรูใหมนําไปผสมผสานกับ ความรูห รือประสบการณเดิมทีถ่ กู จัดเก็บอยูใ น สมอง ผานการกลัน่ กรองเพือ่ สังเคราะหเปน ความรูค วามเขาใจใหมๆ หรือเปนทัศนคติใหม ที่จะเก็บบรรจุไวในสมองของผูเรียน
การเรียนรูที่มีประสิทธิภาพจึงตองเปนการเรียนรูที่เกิดจากกระบวนการคิดของผูเรียน เพราะการเรียนรูจะเกิดขึ้น เมื่อสมองรูคิด และตองเปนการคิดไดครบถวนตามขั้นตอนการทํางานของสมองผูเรียน โดยเริ่มตนจาก 1. ระดับการคิดพื้นฐาน ไดแก การสังเกต การจําแนก การคาดคะเน การสื่อความหมาย การรวบรวมขอมูล การสรุปผล เปนตน
คูม อื ครู
2. ระดับลักษณะการคิด ไดแก การคิดกวาง คิดลึกซึ้ง คิดไกล คิดหลากหลาย คิดคลอง คิดอยางมีเหตุผล เปนตน
3. ระดับกระบวนการคิด ไดแก กระบวนการคิดอยางมีวิจารณญาณ กระบวนการแกปญหา กระบวนการ คิดสรางสรรค กระบวนการคิดสังเคราะหวิจัย เปนตน
5Es การจัดกิจกรรมตามขั้นตอนวัฏจักรการเรียนรู 5Es ขั้นตอนการสอนที่สัมพันธกับขั้นตอนการคิดและการทํางานทางสมองของผูเรียนที่นิยมใชอยางแพรหลาย คือ วัฏจักรการเรียนรู 5Es ซึ่งผูจัดทําคูมือครูไดนํามาใชเปนแนวทางออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนในแตละหนวย ตามลําดับขั้นตอนการเรียนรู ดังนี้ ขั้นที่ 1
กระตุนความสนใจ
(Engage)
เสร�ม
5
เปนขัน้ ทีผ่ สู อนนําเขาสูบ ทเรียน เพือ่ กระตุน ความสนใจของผูเ รียนดวยเรือ่ งราวหรือเหตุการณทนี่ า สนใจโดยใชเทคนิควิธกี ารสอน และคําถามทบทวนความรูหรือประสบการณเดิมของผูเรียน เพื่อเชื่อมโยงผูเรียนเขาสูความรูของบทเรียนใหม ชวยใหผูเรียนสามารถ สรุปประเด็นสําคัญที่เปนหัวขอและสาระการเรียนรูของบทเรียนได จึงเปนขั้นตอนการสอนที่สําคัญ เพราะเปนการเตรียมความพรอม และสรางแรงจูงใจใฝเรียนรูแกผูเรียน
ขั้นที่ 2
สํารวจคนหา
(Explore)
เปนขัน้ ทีผ่ สู อนเปดโอกาสใหผเู รียนลงมือศึกษา สังเกต หรือรวมมือกันสํารวจ เพือ่ ใหเห็นขอบขายของปญหา รวมถึงวิธกี ารศึกษา คนควา การรวบรวมขอมูลความรูที่จะนําไปสูการสรางความเขาใจประเด็นปญหานั้นๆ เมื่อผูเรียนทําความเขาใจในประเด็นหัวขอที่จะ ศึกษาคนควาอยางถองแทแลว ก็ลงมือปฏิบัติเพื่อเก็บรวบรวมขอมูลความรู สํารวจตรวจสอบ โดยวิธีการตางๆ เชน สัมภาษณ ทดลอง อานคนควาขอมูลจากเอกสาร แหลงขอมูลตางๆ จนไดขอมูลความรูตามที่ตั้งประเด็นศึกษาไว
ขั้นที่ 3
อธิบายความรู
(Explain)
เปนขั้นที่ผูสอนมีปฏิสัมพันธกับผูเรียน เชน ใหการแนะนํา ตั้งคําถามกระตุนใหคิด เพื่อใหผูเรียนคนหาคําตอบ และนําขอมูล ความรูจากการศึกษาคนควาในขั้นที่ 2 มาวิเคราะห สรุปผล และนําเสนอผลที่ไดศึกษาคนความาในรูปแบบสารสนเทศตางๆ เชน เขียนแผนภูมิ แผนผังแสดงมโนทัศน เขียนความเรียง เขียนรายงาน เปนตน ในขั้นตอนนี้ฝกใหผูเรียนใชสมองคิดวิเคราะหและ สังเคราะหอยางเปนระบบ
ขั้นที่ 4
ขยายความเขาใจ
(Expand)
เปนขั้นที่ผูสอนเลือกใชเทคนิควิธีการสอนตางๆ ที่สงเสริมใหผูเรียนนําความรูที่เกิดขึ้นไปคิดคนสืบคนตอๆ ไป เพื่อพัฒนาทักษะ การเรียนรูและการทํางานรวมกันเปนกลุม ระดมสมองเพื่อคิดสรางสรรครวมกัน ผูเรียนสามารถนําความรูที่สรางขึ้นใหมไปเชื่อมโยง กับประสบการณเดิมโดยนําขอสรุปทีไ่ ดไปใชอธิบายเหตุการณตา งๆ หรือนําไปปฏิบตั ใิ นสถานการณใหมๆ ทีเ่ กีย่ วของกับชีวติ ประจําวัน ของตนเอง เพื่อขยายความรูความเขาใจใหกวางขวางยิ่งขึ้น ในขั้นตอนนี้ฝกสมองของผูเรียนใหสามารถคิดริเริ่มสรางสรรคอยางมี คุณภาพ เสริมสรางวิสัยทัศนใหกวางไกลออกไป
ขั้นที่ 5
ตรวจสอบผล
(Evaluate)
เปนขัน้ ทีผ่ สู อนประเมินมโนทัศนของผูเ รียน โดยตรวจสอบจากความคิดทีเ่ ปลีย่ นไปและความคิดรวบยอดทีเ่ กิดขึน้ ใหม ตรวจสอบ ทักษะ กระบวนการปฏิบัติ การแกปญหา การตอบคําถามรวบยอด และการเคารพความคิดหรือยอมรับเหตุผลของคนอื่น เพื่อการ สรางสรรคความรูร ว มกัน ผูเ รียนสามารถประเมินผลการเรียนรูข องตนเอง เพือ่ สรุปผลวามีความรูอ ะไรเพิม่ ขึน้ มาบาง เกิดความเขาใจ มากนอยเพียงใด และจะนําความรูเหลานั้นไปประยุกตใชในการเรียนรูเรื่องอื่นๆ ไดอยางไร ผูเรียนจะเกิดเจตคติและเห็นคุณคาของ ตนเองจากผลการเรียนรูที่เกิดขึ้น ซึ่งเปนการเรียนรูที่มีความสุขอยางแทจริง
การจัดกิจกรรมการเรียนรูตามขั้นตอนวัฏจักรการสรางความรูแบบ 5Es จึงเปนรูปแบบการเรียนการสอนที่เนน ผูเ รียนเปนสําคัญอยางแทจริง เพราะสงเสริมใหผเู รียนไดลงมือปฏิบตั ติ ามขัน้ ตอนของกระบวนการสรางความรูด ว ยตนเอง และฝกฝนใหใชกระบวนการคิดและกระบวนการกลุมอยางชํานาญ กอใหเกิดทักษะชีวิต ทักษะการทํางานและทักษะการ เรียนรูที่มีประสิทธิภาพ สงผลตอการยกระดับผลสัมฤทธิ์ของผูเรียน ตามเปาหมายของการปฏิรูปการศึกษาทศวรรษที่ 2 (พ.ศ. 2552-2561) ทุกประการ คูม อื ครู
O-NET การเพิ่มผลสัมฤทธิ์ O-NET
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามขั้นตอนวัฏจักรการเรียนรู 5Es ในแตละหนวยการเรียนรู ทางผูจัดทํา จะเสนอแนะวิธีสอนรูปแบบกิจกรรมการเรียนรู พรอมทั้งออกแบบเครื่องมือวัดผลประเมินผลที่สอดคลองกับตัวชี้วัด และสาระการเรียนรูแกนกลางไวทุกขั้นตอน โดยยึดหลักสําคัญ คือ เปาหมายของการวัดผลประเมินผล เสร�ม
6
1. การวัดผลทุกครั้งตองนําผล การวัดมาปรับปรุงพัฒนาผูเรียน เปนรายบุคคล
2. การประเมินผลมีเปาหมาย เพื่อพัฒนาการเรียนรูของผูเรียน จนเต็มศักยภาพ
3. การนําผลการวัดและประเมิน ทุกครั้งมาวางแผนปรับปรุงกิจกรรม การเรียนการสอน การเลือกเทคนิค วิธีการสอน และสื่อการเรียนรูให เหมาะสมกับสภาพจริงของผูเรียน
การทดสอบผูเรียน 1. การใชขอสอบอัตนัย เนนการอาน การคิดวิเคราะห และเขียนสรุปเพิ่มมากขึ้น 2. การใชคําถามกระตุนการคิด ควบคูกับการทําขอสอบที่เนนการคิดตลอดตอเนื่องตามลําดับกิจกรรมการเรียนรูและ ตัวชี้วัด 3. การทดสอบตองดําเนินการทั้งกอนเรียน ระหวางเรียน และเมื่อสิ้นสุดการเรียน การทดสอบระหวางเรียน ต อ งใช ข อ สอบทั้ ง ชนิ ด ปรนั ย และอั ต นั ย และเป น การทดสอบเพื่ อ วิ นิ จ ฉั ย ผลการเรี ย นของผู เ รี ย นแต ล ะคน เพื่อวัดการสอนซอมเสริมใหบรรลุตัวชี้วัดทุกตัว 4. การสอบกลางภาค (ถามี) ควรนําขอสอบหรือแบบฝกหัดที่นักเรียนสวนใหญทําผิดบอยๆ มาสรางเปนแบบทดสอบ อีกครัง้ เพือ่ ตรวจสอบความรูค วามเขาใจทีถ่ กู ตอง และประเมินความกาวหนาของผูเรียนแตละคน 5. การสอบปลายภาคเรียนเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามตัวชี้วัดที่สําคัญ ควรออกขอสอบใหมีลักษณะเดียวกับ ขอสอบ O-NET โดยเนนการคิดวิเคราะห สังเคราะห เชื่อมโยงประยุกตใช เพื่อสรางความคุนเคย และฝกฝน วิธีการทําขอสอบดวยความมั่นใจ 6. การนําผลการทดสอบของผูเรียนมาวิเคราะห โดยผลการสอบกอนการเรียนตองสามารถพยากรณผลการสอบ กลางภาค และผลการสอบกลางภาคตองทํานายผลการสอบปลายภาคของผูเ รียนแตละคน เพือ่ ประเมินพัฒนาการ ความกาวหนาของผูเรียนเปนรายบุคคล 7. ผลการทดสอบปลายป ปลายภาค ตองมีคาเฉลี่ยสอดคลองกับคาเฉลี่ยของการสอบ NT ที่เขตพื้นที่การศึกษา จัดสอบ รวมทั้งคาเฉลี่ยของการสอบ O-NET ชวงชั้นที่สอดคลองครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดสําคัญ เพือ่ สะทอนประสิทธิภาพของครูผสู อนในการออกแบบการเรียนรูแ ละประกันคุณภาพผูเ รียนทีต่ รวจสอบผลไดชดั เจน การจัดการเรียนการสอนในแตละหนวยการเรียนรู ตองใหผูเรียนไดสั่งสมความรู สะสมความเขาใจไปทีละเล็ก ละนอยตามลําดับขัน้ ตอนของกิจกรรมการเรียนรู 5Es เพือ่ ใหผเู รียนไดเติมเต็มองคความรูอ ยางตอเนือ่ ง จนสามารถปฏิบตั ิ ชิ้นงานหรือภาระงานรวบยอดของแตละหนวยผานเกณฑประกันคุณภาพในระดับที่นาพึงพอใจ เพื่อรองรับการประเมิน ภายนอกจาก สมศ. ตลอดเวลา คูม อื ครู
ASEAN การเรียนรูสูประชาคมอาเซียน เพื่ออํานวยความสะดวกแกครูผูสอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรูบูรณาการอาเซียนศึกษา ผูจัดทําไดวิเคราะห มาตรฐานการเรียนรู และตัวชี้วัดที่มีสาระการเรียนรูสอดคลองกับองคความรูเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนในแงมุมตางๆ ครอบคลุมทัง้ ประชาคมการเมืองและความมัน่ คงอาเซียน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และประชาคมสังคมและวัฒนธรรม อาเซียน เพื่อสงเสริมการเรียนรูใหผูเรียนเกิดความตระหนัก มีความรูความเขาใจเหมาะสมกับระดับชั้นและกลุมสาระ การเรียนรู โดยเสนอแนะวิธีการจัดกิจกรรมบูรณาการเนื้อหาสาระตางๆ ที่เปนประโยชนตอผูเรียนและเปนการชวย เตรียมความพรอมผูเ รียนทุกคนทีจ่ ะกาวเขาสูก ารเปนสมาชิกของประชาคมอาเซียนไดอยางมัน่ ใจตามขอตกลงปฏิญญา เสร�ม ชะอํา-หัวหิน วาดวยความรวมมือดานการศึกษาเพือ่ บรรลุเปาหมายประชาคมอาเซียนทีเ่ อือ้ อาทรและแบงปน จึงกําหนด 7 เปนนโยบายใหกระทรวงศึกษาธิการจัดการเรียนรูเตรียมความพรอมผูเรียนเขาสูประชาคมอาเซียนภายในป พ.ศ. 2558 ตามแนวปฏิบัติที่สําคัญ ดังนี้
การจัดการเรียนรูส ู ประชาคมการเมืองและความมัน่ คงอาเซียน 1. การสรางความรูความเขาใจ และตระหนักถึงความสําคัญของ กฎบัตรอาเซียน และความรวมมือ ของ 3 เสาหลัก ซึง่ กฎบัตรอาเซียน ในขณะนี้มีสถานะเปนกฎหมายที่ ประเทศสมาชิกจะตองปฏิบัติตาม หลักการที่กําหนดไวเพื่อใหบรรลุ เปาหมายของกฎบัตรมาตราตางๆ
2. การสงเสริมหลักการ ประชาธิปไตยและการสราง สิ่งแวดลอมประชาธิปไตย เพื่อการอยูรวมกันอยางกลมกลืน ภายใตวิถีชีวิตอาเซียนที่มีความ หลากหลายดานสังคมและ วัฒนธรรม
4. การตระหนักในคุณคาของ สายสัมพันธทางประวัติศาสตร และมรดกทางวัฒนธรรมที่มี พัฒนาการรวมกัน เพื่อเชื่อม อัตลักษณและสรางจิตสํานึก ในการเปนประชากรของประชาคม อาเซียนรวมกัน
3. การสงเสริมการศึกษาดาน สิทธิมนุษยชน เพื่อสรางประชาคม อาเซียนใหเปนประชาคมเพื่อ ประชาชนอยางแทจริง สามารถ อยูรวมกันไดบนพื้นฐานการเคารพ ในคุณคาของศักดิ์ศรีแหงความ เปนมนุษยเทาเทียมกัน
5. การสงเสริมสันติภาพ ความ มั่นคง และความปรองดองในสังคม ทั้งระดับประเทศและภูมิภาคของ อาเซียนบนพื้นฐานสันติวิธีและการ อยูรวมกันดวยขันติธรรม
คูม อื ครู
การจัดการเรียนรูส ู ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
เสร�ม
8
1. การพัฒนาทักษะการทํางาน เพื่อเสริมสรางผูเรียนใหมีทักษะ วิชาชีพที่จําเปนสอดคลองกับ ความตองการของตลาดแรงงาน และสถานประกอบการในอาเซียน สามารถเทียบโอนผลการเรียน และการทํางานตามมาตรฐานฝมือ แรงงานในภูมิภาคอาเซียน
2. การเสริมสรางวินัย ความรับผิดชอบ และเจตคติรักการทํางาน สามารถพึ่งพาตนเอง มีทักษะชีวิต ดํารงชีวิตอยางมีความสุข เห็นคุณคา และภูมิใจในตนเอง ในฐานะที่เปนพลเมืองไทยและ อาเซียน
3. การเรียนรูเพื่อพัฒนาตนเอง อยางตอเนื่องตลอดชีวิต ใหมี ทักษะการทํางานตามมาตรฐาน อาชีพ และคุณวุฒิของวิชาชีพสาขา ตางๆ เพื่อรองรับการเตรียมเคลื่อน ยายแรงงานมีฝมือและการเปน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่ เขมแข็ง เพื่อสรางขีดความสามารถ ในการแขงขันในเวทีโลก
การจัดการเรียนรูส ู ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน 1. การเสริมสรางความรวมมือ ในลักษณะสังคมที่เอื้ออาทร ของประชากรอาเซียน โดยยึด หลักการสําคัญ คือ ความงดงาม ของประชาคมอาเซียนมาจาก ความแตกตางและหลากหลายทาง วัฒนธรรมที่ลวนแตมีคุณคาตอ มรดกทางวัฒนธรรมของอาเซียน ซึ่งประชาชนทุกคนตองอนุรักษ สืบสานใหยั่งยืน
2. การเสริมสรางคุณลักษณะ ของผูเรียนใหเปนพลเมืองอาเซียน ที่มีศักยภาพในการกาวเขาสู ประชาคมอาเซียนอยางมั่นใจ เปนผูที่มีสุขภาพสมบูรณแข็งแรง มีทักษะการสื่อสาร ทักษะการ ทํางาน ทักษะทางสังคม สามารถ ทํางานรวมกับผูอื่นไดอยาง สรางสรรค และมีองคความรู เกี่ยวกับอาเซียนที่จําเปนตอการ ดํารงชีวิตอยางมีคุณภาพ
4. การสงเสริมการเรียนรูดาน ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถชี วี ติ ความเปนอยูข องเพือ่ นบาน ในอาเซียน เพื่อสรางจิตสํานึกของ ความเปนประชาคมอาเซียนและ ตระหนักถึงหนาที่ของการเปน พลเมืองอาเซียนรวมกัน
3. การสงเสริมการเรียนรูภาษา อังกฤษเพื่อการสื่อสารและการ ทํางานตามมาตรฐานอาชีพที่ กําหนดและสนับสนุนการเรียนรู ภาษาอาเซียนและภาษาเพื่อนบาน เพื่อชวยเสริมสรางสัมพันธภาพทาง สังคม และการอยูรวมกันอยางสันติ ทามกลางความหลากหลายทาง วัฒนธรรม
5. การสรางความรูและความ ตระหนักเกี่ยวกับดานสิ่งแวดลอม ปญหาและผลกระทบตอคุณภาพ ชีวิตของประชากรในภูมิภาค รวมทั้งแนวทางการพัฒนาอยาง ยั่งยืน ใหเปนมรดกสืบทอดแก พลเมืองอาเซียนในรุนหลังตอๆ ไป
กระทรวงศึกษาธิการจึงประกาศนโยบายการปฏิรูปการศึกษาทศวรรษที่ 2 (พ.ศ. 2552-2561) เพื่อเรงพัฒนาเด็ก และเยาวชนไทยใหเปนทรัพยากรมนุษยของชาติที่มีทักษะและความชํานาญ พรอมเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงและ การแขงขันทั้งในภูมิภาคอาเซียนและภูมิภาคอื่นๆ ของสังคมโลก ทั้งนี้ผูบริหารสถานศึกษา ครูผูสอน และผูปกครอง ควรรวมมือกันอยางใกลชิดในการดูแลชวยเหลือผูเรียนและจัดประสบการณการเรียนรูเพื่อพัฒนาผูเรียนจนเต็มศักยภาพ เพื่อกาวเขาสูการเปนพลเมืองอาเซียนอยางมีเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีความเปนมนุษยของตน คณะผูจัดทํา คูม อื ครู
ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรูแกนกลาง สาระที่ 1
คณิตศาสตร (เฉพาะชั้น ป.2)*
จํานวนและการดําเนินการ
มาตรฐาน ค 1.1 เขาใจถึงความหลากหลายของการแสดงจํานวนและการใชจํานวนในชีวิตจริง ชั้น
ตัวชี้วัด
สาระการเรียนรูแกนกลาง
ป.2 1. เขียนและอานตัวเลขฮินดูอารบิก • การเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทยและ ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงปริมาณ ตัวหนังสือแสดงจํานวน ของสิ่งของหรือจํานวนนับที่ไมเกิน • การอานตัวเลขฮินดูอารบิกและตัวเลขไทย หนึ่งพันและศูนย • การนับเพิม่ ทีละ 5 ทีละ 10 และทีละ 100 • การนับลดทีละ 2 ทีละ 10 และทีละ 100 • จํานวนคู จํานวนคี่ 2. เปรียบเทียบและเรียงลําดับจํานวนนับ ไมเกินหนึ่งพันและศูนย
• หลักและคาของเลขโดดในแตละหลัก และการใช 0 เพื่อยึดตําแหนงของหลัก • การเขียนตัวเลขแสดงจํานวนในรูปกระจาย • การเปรียบเทียบจํานวนและการใชเครือ่ งหมาย = ≠>< • การเรียงลําดับจํานวนไมเกินหาจํานวน
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน
เสร�ม
9
• หนวยการเรียนรูที่ 1 จํานวนนับไมเกิน 1,000
มาตรฐาน ค 1.2 เขาใจถึงผลที่เกิดขึ้นจากการดําเนินการของจํานวนและความสัมพันธระหวางการดําเนินการตางๆ และสามารถใชการดําเนินการในการแกปญหา ชั้น
ตัวชี้วัด
ป.2 1. บวก ลบ คูณ หาร และบวก ลบ คูณ หารระคนของจํานวนนับไมเกินหนึ่งพัน และศูนย พรอมทั้งตระหนักถึง ความสมเหตุสมผลของคําตอบ
สาระการเรียนรูแกนกลาง • การบวก การลบ • ความหมายของการคูณ และการใช เครื่องหมาย × • การคูณจํานวนหนึ่งหลักกับจํานวนไมเกิน สองหลัก • ความหมายของการหาร และการใช เครื่องหมาย ÷ • การหารที่ตัวหารและผลหารมีหนึ่งหลัก • การบวก ลบ คูณ หารระคน
2. วิเคราะหและหาคําตอบของโจทยปญหา • โจทยปญหาการบวก การลบ การคูณ และโจทยปญหาระคนของจํานวนนับ การหาร ไมเกินหนึ่งพันและศูนย พรอมทั้ง • โจทยปญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน ตระหนักถึงความสมเหตุสมผล • การสรางโจทยปญหาการบวก การลบ การคูณ ของคําตอบ การหาร
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน • หนวยการเรียนรูที่ 2 การบวกจํานวนที่มี ผลบวกไมเกิน 1,000 • หนวยการเรียนรูที่ 3 การลบจํานวนที่มีตัวตั้งไม เกิน 1,000 • หนวยการเรียนรูที่ 7 การคูณ • หนวยการเรียนรูที่ 10 การหาร • หนวยการเรียนรูที่ 13 การบวก ลบ คูณ หารระคน
_________________________________ * สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, สาระการเรียนรูแกนกลาง กลุมสาระการเรียนรูคณิตศาสตร. (กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพชุมนุมสหกรณการเกษตรแหงประเทศไทย, 2551), หนา 7-54.
คูม อื ครู
สาระที่ 2
การวัด
มาตรฐาน ค 2.1 เขาใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ตองการวัด ชั้น
เสร�ม
ตัวชี้วัด
ป.2 1. บอกความยาวเปนเมตรและเซนติเมตร และเปรียบเทียบความยาวในหนวย เดียวกัน
10
สาระการเรียนรูแกนกลาง
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน
• การวัดความยาว (เมตร เซนติเมตร) • การเปรียบเทียบความยาว (หนวยเดียวกัน)
• หนวยการเรียนรูที่ 5 การวัดความยาว
2. บอกนํ้าหนักเปนกิโลกรัมและขีด และ เปรียบเทียบนํ้าหนักในหนวยเดียวกัน
• การชั่งนํ้าหนัก (กิโลกรัม ขีด) • การเปรียบเทียบนํ้าหนัก (หนวยเดียวกัน)
• หนวยการเรียนรูที่ 6 การชั่ง
3. บอกปริมาตรและความจุเปนลิตร และ เปรียบเทียบปริมาตรและความจุ
• การตวง (ลิตร) • การเปรียบเทียบปริมาตรและความจุ (ลิตร)
• หนวยการเรียนรูที่ 11 การตวง
4. บอกจํานวนเงินทั้งหมดจากเงินเหรียญ และธนบัตร
• ชนิดและคาของเงินเหรียญและธนบัตร • การเปรียบเทียบคาของเงินเหรียญและธนบัตร • การบอกจํานวนเงินทั้งหมด (บาท สตางค)
• หนวยการเรียนรูที่ 9 เงิน
5. บอกเวลาบนหนาปดนาฬกา (ชวง 5 นาที) • การบอกเวลาเปนนาฬกากับนาที (ชวง 5 นาที)
• หนวยการเรียนรูที่ 8 เวลา
6. บอกวัน เดือน ป จากปฏิทิน
• การอานปฏิทิน เดือนและอันดับที่ของเดือน
มาตรฐาน ค 2.2 แกปญหาเกี่ยวกับการวัด ชั้น
ตัวชี้วัด
ป.2 1. แกปญหาเกี่ยวกับการวัดความยาว การชั่ง การตวง และเงิน
สาระที่ 3
สาระการเรียนรูแกนกลาง • โจทยปญ หาเกีย่ วกับการวัดความยาว (บวก ลบ) • โจทยปญหาเกี่ยวกับการชั่ง (บวก ลบ) • โจทยปญ หาเกี่ยวกับการตวง (บวก ลบ คูณ หาร) • โจทยปญหาเกี่ยวกับเงิน (บวก ลบ หนวยเปน บาท)
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน • หนวยการเรียนรูที่ 5 การวัดความยาว • หนวยการเรียนรูที่ 6 การชั่ง • หนวยการเรียนรูที่ 9 เงิน • หนวยการเรียนรูที่ 11 การตวง
เรขาคณิต
มาตรฐาน ค 3.1 อธิบายและวิเคราะหรูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ ชั้น
ตัวชี้วัด
สาระการเรียนรูแกนกลาง
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน
ป.2 1. บอกชนิดของรูปเรขาคณิตสองมิติวาเปน • รูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม รูปวงกลม รูปวงรี รูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม รูปวงกลม หรือรูปวงรี 2. บอกชนิดของรูปเรขาคณิตสามมิติวาเปน • ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ทรงกลม หรือทรงกระบอก 3. จําแนกระหวางรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก กับทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก และรูปวงกลม กับทรงกลม
คูม อื ครู
• เรขาคณิตสองมิติกับรูปเรขาคณิตสามมิติ
• หนวยการเรียนรูที่ 12 รูปเรขาคณิต
มาตรฐาน ค 3.2 ใชการนึกภาพ (visualization) ใชเหตุผลเกี่ยวกับปริภูมิ (spatial reasoning) และใชแบบจําลองทาง เรขาคณิต (geometric model) ในการแกปญหา ชั้น
ตัวชี้วัด
สาระการเรียนรูแกนกลาง
ป.2 1. เขียนรูปเรขาคณิตสองมิติโดยใชแบบของ • การเขียนรูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม รูปเรขาคณิต รูปวงกลม และรูปวงรีโดยใชแบบของรูป
สาระที่ 4
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน • หนวยการเรียนรูที่ 12 รูปเรขาคณิต
เสร�ม
พีชคณิต
11
มาตรฐาน ค 4.1 เขาใจและวิเคราะหแบบรูป (pattern) ความสัมพันธ และฟงกชัน ชั้น
ตัวชี้วัด
สาระการเรียนรูแกนกลาง
ป.2 1. บอกจํานวนและความสัมพันธในแบบรูป • แบบรูปของจํานวนที่เพิ่มขึ้นทีละ 5 ทีละ 10 ของจํานวนที่เพิ่มขึ้นทีละ 5 ทีละ 10 ทีละ 100 ทีละ 100 และลดลงทีละ 2 ทีละ 10 • แบบรูปของจํานวนที่ลดลงทีละ 2 ทีละ 10 ทีละ 100 ทีละ 100 2. บอกรูปและความสัมพันธในแบบรูปของ รูปที่มีรูปราง ขนาด หรือสีที่สัมพันธกัน อยางใดอยางหนึ่ง
สาระที่ 6
• แบบรูปของรูปที่มีรูปราง ขนาด หรือสีที่ สัมพันธกันอยางใดอยางหนึ่ง เชน △□△□△□—
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน
• หนวยการเรียนรูที่ 4 แบบรูปและความสัมพันธ
ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร
มาตรฐาน ค 6.1 มีความสามารถในการแกปญหา การใชเหตุผล การสื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร และการนําเสนอ การเชื่อมโยงความรูตางๆ ทางคณิตศาสตร และเชื่อมโยงคณิตศาสตรกับศาสตรอื่นๆ และมีความคิดริเริ่มสรางสรรค ชั้น
ตัวชี้วัด
ป.2 1. ใชวิธีการที่หลากหลายแกปญหา 2. ใชความรู ทักษะและกระบวนการ ทางคณิตศาสตรในการแกปญหา ในสถานการณตางๆ ไดอยางเหมาะสม 3. ใหเหตุผลประกอบการตัดสินใจ และสรุปผลไดอยางเหมาะสม 4. ใชภาษาและสัญลักษณทางคณิตศาสตร ในการสื่อสาร การสื่อความหมาย และการนําเสนอไดอยางถูกตอง 5. เชื่อมโยงความรูตางๆ ในคณิตศาสตร และเชื่อมโยงคณิตศาสตรกับศาสตรอื่นๆ 6. มีความคิดริเริ่มสรางสรรค
สาระการเรียนรูแกนกลาง
_
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน
บูรณาการสูก ารจัดการเรียน การสอนในทุกหนวยการเรียนรู
คูม อื ครู
คําอธิบายรายวิชา รายวิชา คณิตศาสตร ชั้นประถมศึกษาปที่ 2 รหัสวิชา ค…………………………………
เสร�ม
12
กลุมสาระการเรียนรู คณิตศาสตร ภาคเรียนที่ 1-2 เวลา 200 ชั่วโมง/ป
ศึกษา ฝกทักษะการคิดคํานวณ และฝกการแกปญหาเกี่ยวกับความรูและนําไปประยุกตใชในสาระตอไปนี้ จํานวนนับไมเกิน 1,000 การอานและการเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือ หลักและคาของเลขโดด การใช 0 เพื่อยึดตําแหนงของหลัก และการเขียนตัวเลขในรูปกระจาย การเปรียบเทียบจํานวนสองจํานวนที่มีจํานวนหลัก ไมเทากัน การเปรียบเทียบจํานวนสองจํานวนที่มีจํานวนหลักเทากัน การใชเครื่องหมาย = ≠ > < การเรียงลําดับจํานวน การนับเพิ่มทีละ 5 ทีละ 10 และทีละ 100 การนับลดทีละ 2 ทีละ 10 และทีละ 100 จํานวนคูและจํานวนคี่ การบวกจํานวนที่มี ผลบวกไมเกิน 1,000 การบวกตามแนวตั้ง(ไมมีทด) การบวกตามแนวตั้ง (มีทด) การบวกตามแนวนอน (ไมมีทด) การบวก ตามแนวนอน (มีทด) การสลับที่ของการบวก การบวกจํานวนสามจํานวนที่มีผลบวกไมเกิน 1,000 โจทยปญหาการบวกจํานวน ที่มีผลบวกไมเกิน 1,000 การสรางโจทยปญหาการบวกจากจํานวน ประโยคสัญลักษณ และขอความ การลบจํานวนที่มีตัวตั้ง ไมเกิน 1,000 การลบตามแนวตั้ง (ไมมีการกระจาย) การลบตามแนวตั้ง (มีการกระจาย) โจทยปญหาการลบจํานวนที่มีตัวตั้ง ไมเกิน 1,000 การสรางโจทยปญหาการลบจากจํานวน ประโยคสัญลักษณและขอความ การบวกและการคูณ การคูณจํานวน ที่มีหนึ่งหลักกับจํานวนที่มีสองหลัก การสลับที่การคูณ การนําสูตรคูณมาใช การหาผลคูณของ 0 กับจํานวนใดๆ การคูณจํานวน ที่มีหนึ่งหลักกับ 10 , 20 , 30 , … , 90 การคูณจํานวนที่มีหนึ่งหลักกับจํานวนที่มีสองหลัก โจทยปญหาการคูณ การลบและ การหาร การใชเครื่องหมายหาร (÷) ความสัมพันธของการคูณและการหาร การหารที่ตัวหารและผลหารมีหนึ่งหลัก การหารลงตัว การหารไมลงตัว โจทยปญหาการหารและการสรางโจทยปญหาการหารจากจํานวน ประโยคสัญลักษณ และขอความ การบวก ลบ คูณ หารระคน โจทยปญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน การวัดความยาว เครื่องมือวัดที่มีหนวยมาตรฐาน การวัดความยาวและความสูง หนวยวัดความยาวเปนเมตร การวัด ระยะทาง การเปรียบเทียบความยาว ความสูง และระยะทางในหนวยเดียวกัน ความสัมพันธระหวางเมตรกับเซนติเมตร โจทยปญหาเกี่ยวกับการวัดความยาว การชั่งโดยใชเครื่องชั่งที่มีหนวยมาตรฐานเปนกิโลกรัม การชั่งนํ้าหนักเปนกิโลกรัมและขีด การเปรียบเทียบนํา้ หนัก โจทยปญ หาเกีย่ วกับการชัง่ การบอกเวลาบนหนาปดนาฬกา (ชวง 5 นาที)การอานและการเขียนชวงเวลา กลางวันและกลางคืนเปนนาฬกา การบอกและการเขียนชวงเวลากลางวันและกลางคืนเปนนาฬกากับนาที การอานและการเขียน เพื่อบอกวัน เดือน ปจากปฏิทิน เงินเหรียญและธนบัตร การเปรียบเทียบคาของเงินเหรียญและธนบัตร การแลกเงิน
ตัวชี้วัด
ค 1.1 ค 1.2 ค 2.1 ค 2.2 ค 3.1 ค 3.2 ค 4.1 ค 6.1
ป.2/1 ป.2/1 ป.2/1 ป.2/1 ป.2/1 ป.2/1 ป.2/1 ป.2/1
ป.2/2 ป.2/2 ป.2/2
ป.2/3
ป.2/2
ป.2/3
ป.2/2 ป.2/2
ป.2/3
ป.2/4
ป.2/5
ป.2/6
ป.2/4
ป.2/5
ป.2/6
รวม 23 ตัวชี้วัด
คูม อื ครู
กระตุน ความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ÃÒÂÇÔªÒ¾×é¹°Ò¹
¤³ÔµÈÒʵà ».ò ªÑé¹»ÃжÁÈÖ¡ÉÒ»‚·Õè ò
¡ÅØ‹ÁÊÒÃСÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ ¤³ÔµÈÒʵà µÒÁËÅÑ¡ÊÙµÃ᡹¡ÅÒ§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ¢Ñé¹¾×é¹°Ò¹ ¾Ø·¸ÈÑ¡ÃÒª òõõñ ¼ÙŒàÃÕºàÃÕ§ ¹Ò¹Եԡà ÃдÁ ¹Ò§ÊÒǹíéÒྪà ªÒÞ¨Ö§¶ÒÇà ¹Ò§ÊÒÇ¡Ôè§á¡ŒÇ àÅÔÈ»ÃÐàÊÃÔ°Ãѵ¹ ÃÈ. ´Ã. ÊÔÃԾѪà à¨É®ÒÇÔâè¹ ¼ÙŒµÃǨ
¹Ò§ÃÐ¾Õ ÇѧàǪª ¹Ò§´Ç§¾Ã Ááµ ¹Ò§ÊÒÇÊÔÃÔÅѡɳ Ç§È à¾ªÃ
ºÃóҸԡÒà ÃÈ. ´Ã. ÃبÔà ÀÙ‹ÊÒÃÐ
¾ÔÁ¾ ¤ÃÑ駷Õè õ
ʧǹÅÔ¢ÊÔ·¸ÔìµÒÁ¾ÃÐÃÒªºÑ- - ÑµÔ ISBN : 978-616-203-150-2978-616ÃËÑÊÊÔ¹¤ŒÒ ñòñöðñò
¤Œ¹¤ÇÒÁÃÙŒ¢ÂÒ¤ÇÒÁ¤Ô´¨Ò¡
¾ÔÁ¾ ¤ÃÑ駷Õè ñ ÃËÑÊÊÔ¹¤ŒÒ ñòôöðóò
EB GUIDE
ที่พิมพกํากับหัวขอสําคัญในหนังสือเรียนหลักสูตรใหม ชั้น ป.๔ ขึ้นไป ผาน www.aksorn.com ไปยังแหลงความรูทั่วไทย-ทั่วโลก
กระตุน ความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
¤íÒ¹íÒ ´ŒÇ¡ÃзÃǧÈÖ¡ÉÒ¸Ô¡ÒÃä´ŒÁÕ¤íÒÊÑè§ãˌ㪌ËÅÑ¡ÊٵáÒÃÈÖ¡ÉÒ¢Ñé¹¾×é¹°Ò¹ ¾Ø·¸ÈÑ¡ÃÒª 2544 ã¹âçàÃÕ¹·ÑèÇä»·Õè¨Ñ´¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ¢Ñé¹¾×鹰ҹ㹻‚¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ 2546 áÅШҡ¡ÒÃÈÖ¡ÉÒÇÔ¨ÑÂáÅеԴµÒÁ ¼Å¡ÒÃ㪌ËÅÑ¡ÊٵáÒÃÈÖ¡ÉÒ¢Ñé¹¾×é¹°Ò¹ ¾Ø·¸ÈÑ¡ÃÒª 2544 ¨Ö§¹íÒä»Ê‹Ù¡ÒþѲ¹ÒËÅÑ¡ÊÙµÃ᡹¡ÅÒ§ ¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ¢Ñé¹¾×é¹°Ò¹ ¾Ø·¸ÈÑ¡ÃÒª 2551 «Öè§ÁÕ¤ÇÒÁàËÁÒÐÊÁáÅЪѴਹ à¾×èÍãˌʶҹÈÖ¡ÉÒä´Œ¹íÒä» ãªŒ à »š ¹ ¡Ãͺ·Ô È ·Ò§ã¹¡ÒÃ¨Ñ ´ ËÅÑ ¡ ÊÙ µ ÃʶҹÈÖ ¡ ÉÒ áÅÐ¨Ñ ´ ¡ÒÃàÃÕ Â ¹¡ÒÃÊ͹à¾×è Í ¾Ñ ² ¹Òà´ç ¡ áÅÐàÂÒǪ¹·Ø¡¤¹ã¹ÃдѺ¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ¢Ñ¹é ¾×¹é °Ò¹ãËŒÁ¤Õ ³ Ø ÀÒ¾´ŒÒ¹¤ÇÒÁÃÙŒ áÅзѡÉзըè Òí ໚¹ÊíÒËÃѺ¡Òà ´íÒçªÕÇÔµã¹Êѧ¤Á·ÕèÁÕ¡ÒÃà»ÅÕè¹á»Å§ áÅÐáÊǧËÒ¤ÇÒÁÃÙŒà¾×è;Ѳ¹Òµ¹àͧÍ‹ҧµ‹Íà¹×èͧµÅÍ´ªÕÇÔµ ˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ¤³ÔµÈÒʵà ».2 àÅ‹Á¹Õé¨Ñ´·íÒ¢Öé¹ÊíÒËÃѺ㪌»ÃСͺ¡ÒÃàÃÕ¹¡ÒÃÊ͹ªÑé¹ »ÃжÁÈÖ¡ÉÒ»‚·Õè 2 â´Â´íÒà¹Ô¹¡ÒèѴ·íÒãËŒÊÍ´¤ÅŒÍ§µÒÁ¡Ãͺ¢Í§ËÅÑ¡Êٵà ʋ§àÊÃÔÁ¡Ãкǹ¡ÒäԴ ¡ÒÃÊ׺àÊÒÐËÒ¤ÇÒÁÃÙŒ ¡ÒÃá¡Œ»˜ÞËÒ ¤ÇÒÁÊÒÁÒö㹡ÒÃÊ×èÍÊÒà ¡ÒõѴÊԹ㨠¡ÒùíÒä»ãªŒã¹ªÕÇÔµ ÃÇÁ·Ñé§Ê‹§àÊÃÔÁãËŒ¼ÙŒàÃÕ¹Áդس¸ÃÃÁ ¨ÃÔ¸ÃÃÁ áÅФ‹Ò¹ÔÂÁ·Õè¶Ù¡µŒÍ§àËÁÒÐÊÁ µÃÐ˹ѡ㹤س¤‹ÒáÅÐ ÁÕਵ¤µÔ·Õè´Õµ‹Í¤³ÔµÈÒʵà ˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ¤³ÔµÈÒʵà ».2 àÅ‹Á¹Õé ÁÕ 13 ˹‹Ç ã¹áµ‹ÅÐ˹‹Ç»ÃСͺ´ŒÇ 1. ¨Ø´»ÃÐʧ¤ ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ»ÃШíÒ˹‹Ç ¡íÒ˹´ÃдѺ¤ÇÒÁÃÙŒ ¤ÇÒÁÊÒÁÒö¢Í§¼ÙŒàÃÕÂ¹Ç‹Ò àÁ×Íè àÃÕ¹¨ºã¹áµ‹ÅÐ˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ µŒÍ§ºÃÃÅØÁҵðҹµÑǪÕÇé ´Ñ ·Õ¡è Òí ˹´äÇŒã¹ËÅÑ¡ÊٵâŒÍã´ºŒÒ§ 2. à¹×éÍËÒ ÊÍ´¤ÅŒÍ§µÒÁËÅÑ¡ÊÙµÃ᡹¡ÅÒ§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ¢Ñé¹¾×é¹°Ò¹ ¾.È. 2551 ¹íÒàÊ¹Í àËÁÒÐÊÁ¡Ñ¡Ñº¡ÒÃàÃÕ¹¡ÒÃÊ͹ã¹áµ‹ÅÐÃдѺªÑé¹ 3. ¡Ô¨¡ÃÃÁ½ƒ¡½¹·Ñ¡ÉÐ ãËŒ¼ÙŒàÃÕ¹½ƒ¡»¯ÔºÑµÔà¾×è;Ѳ¹Ò¤ÇÒÁÃÙŒ áÅзѡÉлÃШíÒ˹‹Ç ¤³Ð¼ÙŒ¨Ñ´·íÒ¨Ö§ËÇѧ໚¹Í‹ҧÂÔè§Ç‹Ò ˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ¤³ÔµÈÒʵà ».2 àÅ‹Á¹Õé ¨Ð໚¹Ê×èÍ ¡ÒÃàÃÕ¹¡ÒÃÊ͹·ÕÍè Òí ¹Ç»ÃÐ⪹ µÍ‹ ¡ÒÃàÃÕ¹¤³ÔµÈÒʵà à¾×Íè ãËŒÊÁÑ Ä·¸Ô¼ÅµÒÁÁҵðҹµÑǪÕÇé ´Ñ ·Õè¡íÒ˹´äÇŒã¹ËÅÑ¡ÊÙµÃ᡹¡ÅÒ§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ¢Ñé¹¾×é¹°Ò¹ ¾.È. 2551 ¤³Ð¼ÙŒ¨Ñ´·íÒ
คําชี้แ
กระตุน ความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
อธิบายความรู
Explore
ขยายความเขาใจ
Explain
Expand
คําชี้แจงในการใชสื่อ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่
จ�ำนวนนับ ไม่เกิน 1,000 850
ภาพหนาหนวยการเรียนรู เปนภาพประกอบขนาดใหญ ชวยกระตุนความสนใจของผูเรียน
934
จุดประสงคการเรียนรู กําหนดความรูความสามารถ ของผูเรียนเมื่อเรียนจบหนวย
1
16
0 หลัก รอย
0
หลัก สิบ
654
ี่ 1
ใส 0 เพื่อยึดต ของหลักหนว ําแหนง ย
หลัก หนวย
0
5
หลัก สิบ
หลัก สิบ
878
นงของหลัก
1
0
732
เพื่อยึดตําแห
2
หลัก พัน
960
สามารถต่อไปนี้ ดงปริมาณของ ว ผู้เรียนจะมีความรู้ความ เมื่อเรียนจบหน่วยนี้แล้ ฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแส เลข ว ั 1. เขียนและอ่านต บไม่เกินหนึ่งพัน และศูนย์ สิ่งของหรือจ�านวนนั าดับจ�านวนนับไม่เกินหนึ่งพัน และศูนย์ งล� 2. เปรียบเทียบและเรีย
หลัก รอย
หลัก รอย
1
ียนรู้ประจ�าหน่วยท
จุดประสงค์การเร
2. การใช 0
3
ตรวจสอบผล
ใส 0 เพื่อยึดต ของหลักสิบ ําแหนง
หลัก หนวย
0 หลัก หนวย
ใส 0 เพื่อยึดต ของหลกั รอย ําแหนง และหลักหนว หลกั สบิ ย
àÃÒµŒÍ§ãÊ‹ 0 à¾×èÍÂÖ´µíÒáË ¹‹§¢Í
§ËÅÑ¡
เน�้อหา ครบตามหลักสูตรแกนกลางฯ ’51 นําเสนอโดยใชแผนภาพ แผนภูมิ ตาราง เหมาะสมกับการเรียนการสอน
Evaluate
กระตุน ความสนใจ Engage
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
Explore
ขยายความเขาใจ
Explain
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
ี่นิยมใช้กัน งชั่งมีหลายชนิด แต่ท ้าหนักตัว อ ่ รื เค น ั บ จุ จ ปั ใน ั่งสปริง และเครื่องชั่งน� โดยทั่วไป ได้แก่ เครื่องช ช้บอกน้ำาหนัก กิโลกรัม เป็นหน่วยที่ใ กก. กิโลกรัม ใช้อักษรย่อ
ยใช้เครื่องชั่งสปริง 2. การชั่งน�้าหนักโดประกอบด้วย เครื่องชั่งสปริง
สาระสําคัญของเน�้อหา เนนใหผูเรียนจดจําสาระสําคัญ หรือขยายความเขาใจของผูเ รียน
จานส�าหรับ วางสิ่งของ
เข็มชี้น�้าหนัก
ภาพประกอบเน�้อหา เปนภาพประกอบ ๔ สี แทรกอยูตลอดเลม ชวยเสริมสรางความเขาใจ
ตัวเลข บอกน�้าหนัก
หน้าปัด ของเครื่องชั่งสปริงแล้ว เมื่อเรารู้จักส่วนประกอบ ื่องชั่งสปริงกันต่อเลยค่ะ เคร ใช้ โดย ก ั เราไปดูวิธีการชั่งน้ำาหน 132
กษะ
กิจกรรมฝึกฝนทั
หนังสือแสดง ตัวเลขไทย และตัว ก บิ าร อ ดู น ิ ขฮ เล ว ั นต 1. เเขขีีย ุด จ�านวนของรูปลงในสม 4) 1) 5) 2) 3) ลงในสมุด 2. เเขขียี นเป็นตัวเลขไทย 11) 79 6) 33 1) 12 15
7)
42
12)
83
2)
21
8)
55
13)
88
3)
28
9)
63
14)
91
4)
32
10)
67
15)
99
5) 6
กิจกรรมฝกฝนทักษะ ใหผูเรียนฝกปฏิบัติเพื่อพัฒนา ความรูและทักษะประจําหนวย
กระตุน ความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
Explain
Expand
กิจกรร
มฝึกฝน
1. บอกค 1) 2) 3) 4)
ทักษะ
่าประจ�าห
282 381
912
ลักของเล 5)
6) 7)
(ท�าลงใน
สมุด)
ขโดดที่ขีด 768 805
692
เส้นใต้ต่อ
ไปนี้
9) 10) 11)
199 443
850 488 2. บอกห 12) ลกั และคา่ ของเลขโด 672 1) ด ใ น แ ตล่ ะหลกั ข 612 องจ�านวน 4) ตอ่ ไปนี้ 723 7) 2) 485 468 5) 825 8) 3) 193 581 6) 362 9) 976 524
8)
15
บรรณานุกรม
บรรณานุกรม รวบรวมบัญชีรายชื่อหนังสือ ที่ใชประกอบการคนควา
ษัท เลข. กรุงเทพฯ : บริ สนุก ลูกบอลผจญตัว สน แ ตร์ ศาส ต ิ คณ . ปล ร ผู้แ กาญจนา ประสพเนต กัด, 2530. ฯ : บริษัท พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพ ซีเอ็ดยูเคชั่น จำา วนการ คณิตศาสตร์ 2. ระบ นาก ฒ พั ด ชุ า ้ วหน รุจิร์ ภู่สาระ, รศ.ดร. แน อจท. จำากัด, 2543. าร, สำานัก. ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ อักษรเจริญทัศน์ รมการการศกึ ษาขนั้ พืน้ ้คณิตศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 2. ะกร คณ ก นั า สำ ษา ึ ก ารศ วิชาการและมาตรฐานก ารเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู จำากัด, 2552. ตัวชี้วัดและสาระก ห่งประเทศไทย นุมสหกรณ์การเกษตรแ 1. กรุงเทพฯ : บริษัท กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุม ุกรมคณิตศาสตร์สำาหรับเด็ก. พิมพ์ครั้งที่ นาน พจ . ้แปล ศักดา บุญโต, รศ. ผู ั่น (ไทยแลนด์) จำากัด, 2549. การเรียนรู้ บัน. หนงั สือเรียนสาระ อีแอลที เอ็ดยูเคช ทรวงศึกษาธกิ าร, สถา งเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภา กระ ลยี โนโ ทค ละเ แ ร์ กรุ าสต 3. ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศ ตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. พิมพ์ครั้งที่ พื้นฐาน คณิตศาส พ้ นื้ ฐาน 8. บัน. คูม่ อื สาระการเรยี นรู ลาดพร้าว, 254 ทรวงศึกษาธกิ าร, สถา พิมพ์ครุ สุ ภาลาดพร้าว, 2548. กระ ลยี โนโ ทค ละเ แ ร์ าสต โรง ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศ ถมศึกษาปที ี่ 2. พิมพ์ครัง้ ที่ 4. กรุงเทพฯ : ิตศาสตร์ ป.2. พิมพ์ครั้งที่ 1 คณ คณติ ศาสตร์ ชัน้ ประ ฐาน หลักสูตรแกนกลาง าตร ทม บ ่ แม ะ. ะคณ แล เอกรินทร์ สี่มหาศาล ucational กัด, 2551. า จำ า ้ เกล ม ร่ ไทย ท ั ษ 1. Singapore : Ed นนทบุรี : บริ thematics Primary Ma ur Yo e rov Imp Andrew Er. How to , 1998. e, 2000. : Oxford University Pre Publishing House ebook 2A. Singapore : Federal Publications, 2003. urs Co ths Ma g pin Charlotte Collars. Sha ive Primary Mathematics 2A. Singapore , 2003. Act : Federal Publication Kho Tek Hong, Dr. Maths 2A. Singapore Fong Ho Kheong, Dr.
298
ตรวจสอบผล Evaluate
กระตุน ความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
สารบัญ หนวยการเรียนรูที่ หนวยการเรียนรูที่ หนวยการเรียนรูที่ หนวยการเรียนรูที่ หนวยการเรียนรูที่ หนวยการเรียนรูที่ หนวยการเรียนรูที่ หนวยการเรียนรูที่ หนวยการเรียนรูที่ หนวยการเรียนรูที่ หนวยการเรียนรูที่ หนวยการเรียนรูที่ หนวยการเรียนรูที่
•
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13
จํานวนนับไมเกิน 1,000 การบวกจํานวนที่มีผลบวกไมเกิน 1,000 การลบจํานวนที่มีตัวตั้งไมเกิน 1,000 แบบรูปและความสัมพันธ การวัดความยาว การชั่ง การคูณ เวลา เงิน การหาร การตวง รูปเรขาคณิต การบวก ลบ คูณ หารระคน
บรรณานุกรม
1 45 71 88 109 130 149 182 205 235 257 276 288 298
กระตุน ความสนใจ กระตุEngage นความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
1 ¨íҹǹ¹Ñº
เปาหมายการเรียนรู
1. เขียนและอานตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือ แสดงปริมาณของสิ่งของหรือ จํานวนนับไมเกินหนึ่งพัน และศูนย (มฐ. ค 1.1 ป.2/1) 2. เปรียบเทียบและเรียงลําดับจํานวนนับไมเกิน หนึ่งพัน และศูนย (มฐ. ค 1.1 ป.2/2)
หน่วยกำรเรียนรูท้ ี่
äÁ‹à¡Ô¹ 1,000
สมรรถนะของผูเรียน
850
960
1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแกปญหา 3. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต
732
คุณลักษณะอันพึงประสงค
934
878
1. มีวินัย รับผิดชอบ 2. ใฝเรียนรู 3. มุงมัน่ ในการทํางาน
654
กระตุน ความสนใจ
จุดประสงคการเรียนรูประจําหนวยที่ 1 เมื่อเรียนจบหน่วยนี้แล้ว ผู้เรียนจะมีควำมรู้ควำมสำมำรถต่อไปนี้ 1. เขียนและอ่ำนตัวเลขฮินดูอำรบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงปริมำณของ สิ่งของหรือจ�ำนวนนับไม่เกินหนึ่งพัน และศูนย์ 2. เปรียบเทียบและเรียงล�ำดับจ�ำนวนนับไม่เกินหนึ่งพัน และศูนย์
Engage
ครูสนทนาเกี่ยวกับสินคาตางๆ ที่นักเรียนพบ ในชีวติ ประจําวัน จากนัน้ แจกแผนโฆษณาสินคาให นักเรียนคนละ 1 ชนิดสินคา เชน นํ้าผลไม ขาวสาร นํ้ามันพืช สบู ครีมอาบนํ้า ยาสีฟน แปรงสีฟน นม เนย แปง โทรศัพท หวี ถัง หมอ เปนตน
เกร็ดแนะครู ครูจัดกระบวนการเรียนรูโดยการใหนักเรียนปฏิบัติ ดังนี้ • ฝกทักษะการคิดคํานวณ • อภิปรายเกี่ยวกับวิธีการหาคําตอบ • ยกตัวอยางประกอบการตัดสินใจ จนเกิดเปนความรูค วามเขาใจเกีย่ วกับตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือ หลัก คาประจําหลัก และคาของเลขโดดในแตละหลัก และการเขียนตัวเลขใน รูปกระจาย การเปรียบเทียบจํานวนและการใชเครื่องหมายในการเปรียบเทียบ การเรียงลําดับจํานวน การนับเพิ่มทีละ 5 ทีละ 10 ทีละ 100 การนับลดทีละ 2 ทีละ 10 และทีละ 100 ได
คูมือครู
1
กระตุน ความสนใจ
สํารวจคนหา Exploreนหา สํารวจค
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
กระตุEngage นความสนใจ
กระตุน ความสนใจ
Engage
จากแผนโฆษณาราคาสินคา ครูถามนักเรียนวา • สินคาชนิดใดบางในแผนโฆษณาที่ครูแจกให มีราคาไมถึง 100 • สินคาใดบางในแผนโฆษณาที่ครูแจกใหมี ราคาเกิน 100 แตไมเกิน 1,000
สํารวจคนหา
Explore
1. ครูติดแถบขอความ 2 ขอความ บนกระดาน ดังนี้
จํานวนไมเกิน 100 จํานวนมากกวา 100 แตไมเกิน 1,000 2. ครูสมุ เรียกนักเรียนใหนาํ แผนโฆษณาราคาสินคา ของตนเอง ออกมาติดใหตรงกับกลุมของ แถบขอความบนกระดาน
1 1.1 การอ่าน และการเขี และการเขี ย นตั ว เลขฮิ น ดู อ ารบิ ก 2 3 ตัวเลขไทย เลขไทย และตั และตั ว หนั ง สื อ 4
จ�ำนวนนับใช้บอกจ�ำนวนของสิ่งต่ำงๆ สำมำรถเขียน แทนด้วยตัวเลขฮินดูอำรบิก 0, 1, 2, ..., 1,000 ตัวเลขไทย ๐, ๑, ๒, ..., ๑,๐๐๐ และตัวหนังสือ ศูนย์ หนึ่ง สอง... หนึ่งพัน เป็นสัญลักษณ์แสดงจ�ำนวน 5 เลขโดดที่อยู่ จ�ำนวน 10-99 เป็นตัวเลขที่มีสองหลัก เลขโดดที ทำงขวำมืออยู่ในหลักหน่วย เลขโดดที่อยู่ทำงซ้ำยมืออยู่ใน หลักสิบ 1. ทบทวนจ�านวนนับไม่เกิน 100 กำรเขียนตัวเลขและตัวหนังสือแสดงจ�ำนวน จำกรูป 2 สิบ กับ 4 หน่วย 4 อยู่ในหลักหน่วย 2 อยู่ในหลักสิบ เขียนแสดงด้วย ตัวเลขฮินดูอำรบิก ตัวเลขไทย ตัวหนังสือ จำกรู กรูป 4 สิ 4 สิบ กับ 1 หน่วย 1 อยู่ในหลักหน่วย 4 อยู่ในหลักสิบ เขียนแสดงด้วย ตัวเลขฮินดูอำรบิก ตัวเลขไทย ตัวหนังสือ
คือ 24 มีค่ำ 4 มีค่ำ 20 คือ 24 คือ ๒๔ คือ ยี่สบิ สี่ คือ 41 มีค่ำ 1 มีค่ำ 40 คือ 41 คือ ๔๑ คือ สี่สบิ เอ็ด
2
นักเรียนควรรู 1 ตัวเลขฮินดูอารบิก เปนตัวเลขที่นิยมใชกันทั่วโลก ซึ่งชาวฮินดูเปนผูคิดและ ชาวอาหรับเปนผูนําไปเผยแพร 2 ตัวเลขไทย สันนิษฐานวา พอขุนรามคําแหงฯ เปนผูประดิษฐขึ้นมาในเวลา เดียวกับการประดิษฐตัวอักษรไทย เมื่อ พ.ศ. 1826 3 ตัวหนังสือ สัญลักษณแทนเสียงหรือคําพูด 4 จํานวน ใชบอกปริมาณ (เชน ยางลบ 3 กอน) และบอกลําดับที่ (เชน สอบได คะแนนเปนลําดับที่ 1 ของหอง) 5 เลขโดด ตัวเลข 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9
2
คูมือครู
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
5 สิบ กับ 4 หนวย เขียนแสดงดวยตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย ไดอยางไร ก. 54, ๔๕ ข. 45, ๕๔ ค. 54, ๕๔ ง. 45, ๔๕
วิเคราะหคําตอบ ขอ ค. เพราะ 5 สิบ กับ 4 หนวย เขียนแสดงดวย ตัวเลขฮินดูอารบิก คือ 54 ตัวเลขไทย คือ ๕๔
กระตุนความสนใจ Engage
สํารวจคนหา สํารวจค Exploreนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
สํารวจคนหา
จำกรูป 7 สิบ กับ 2 หน่วย 2 อยู่ในหลักหน่วย 7 อยู่ในหลักสิบ เขียนแสดงด้วย ตัวเลขฮินดูอำรบิก ตัวเลขไทย ตัวหนังสือ จำกรูป 9 สิบ กับ 5 หน่วย 5 อยู่ในหลักหน่วย 9 อยู่ในหลักสิบ เขียนแสดงด้วย ตัวเลขฮินดูอำรบิก ตัวเลขไทย ตัวหนังสือ
Explore
นักเรียนสังเกตจํานวนหลักในราคาสินคา ที่อยูในกลุมจํานวนไมเกิน 100 และจํานวน มากกวา 100 แตไมเกิน 1,000 แลวถามนักเรียนวา • จํานวนหลักของราคาสินคาที่มีจํานวน ไมเกิน 100 มีกี่หลัก (ตอบ ถาราคาของสินคาตั้งแต 1-99 บาท เปนจํานวนที่มีหลักไมเกินสองหลัก ถาราคาของสินคา 100 บาท เปนจํานวน ที่มีสามหลัก) • จํานวนหลักของราคาสินคาที่มีจํานวน มากกวา 100 แตไมเกิน 1,000 มีกี่หลัก (ตอบ ถาราคาของสินคาตั้งแต 101-999 บาท เปนจํานวนที่มีสามหลัก ถาราคาของสินคา 1,000 บาท เปนจํานวนที่มีสี่หลัก)
คือ 72 มีค่ำ 2 มีค่ำ 70 คือ 72 คือ ๗๒ คือ เจ็ดสิบสอง คือ 95 มีค่ำ 5 มีค่ำ 90 คือ 95 คือ ๙๕ คือ เก้าสิบห้า 1
จำกรู กรูป 1 ร้ 1 ร้อย กั ย กับ 0 สิ 0 สิบ กักับ 0 หน่ 0 หน่วยย คื คือ 100 100 0 อยู 0 อยู่ในหลักหน่วย ย มีค่ำ 0 0 อยู 0 อยู่ในหลั หลักสิบ มีค่ำ 0 1 อยู่ในหลั หลักร้อย ย มีค่ำ 100 100 เขียนแสดงด้วย ตัวเลขฮินดูอำรบิ รบิก คือ 100 ตัวเลขไทย คือ ๑๐๐ ตัวหนังสือ คือ หนึ่งร้อย 3
จํานวนใดบางที่อยูระหวาง 58 กับ 62 ก. 55, 56, 57 ข. 59, 60, 61 ค. 61, 62, 63 ง. 63, 64, 65
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
นักเรียนควรรู 1 หนวย เปนหลักเกณฑที่ใชในการวัดและคํานวณคาเชิงตัวเลข คือ หนวยการวัด และหนวยการนับจํานวน
วิเคราะหคําตอบ ขอ ข. เพราะจํานวนที่ตอจาก 58 คือ 59, 60, 61 ซึ่งเปนจํานวนที่นับเพิ่มทีละ 1
คูมือครู
3
กระตุนความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Exploreนหา สํารวจค
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
สํารวจคนหา
Explore
ใหนักเรียนจับคูกับเพื่อน เลือกอานราคาสินคา บนกระดาน 1 ชนิดสินคา ที่มีราคาไมเกิน 1,000 พรอมทั้งนําไปเขียนเปนตัวเลขฮินดูอารบิก และ ตัวเลขไทย แสดงจํานวนนั้นลงในกระดาษ และบอก จํานวนไมเกิน 1,000 ใหเพื่อนที่เปนคูกันเขียน เชน เพื่อนบอกจํานวน : เการอยสามสิบหก เพื่อนที่เปนคูกันเขียน : 936 ๙๓๖
1
การนับเพิ่มทีละ 10 รูป
ตัวเลข ตัวเลข ตัวหนังสือ ฮินดูอารบิก ไทย
10
๑๐
สิบ
20
๒๐
ยี่สิบ
30
๓๐
สำมสิบ
40
๔๐
สี่สิบ
50
๕๐
ห้ำสิบ
60
๖๐
หกสิบ
70
๗๐
เจ็ดสิบ
80
๘๐
แปดสิบ
90
๙๐
เก้ำสิบ
100
๑๐๐ หนึ่งร้อย
4
นักเรียนควรรู 1 การนับ คือ การกระทําทางคณิตศาสตรโดยใชการบวกหรือการลบดวยหนึ่ง ซํ้าๆ กัน ซึ่งมักใชในการหาคําตอบวามีสิ่งของอยูเทาใด หรือเพื่อกําหนดจํานวน สิ่งของที่ตองการ โดยเริ่มนับจากหนึ่งและนับตอไปเรื่อยๆ ตามจํานวนสิ่งของที่ ตองการรูจํานวน การนับมักถูกใชเปนการสอนความรูเกี่ยวกับชื่อจํานวน และระบบ จํานวนใหกับเด็ก
4
คูมือครู
ขอสอบเนน การคิด แนว NT สามสิบเอ็ด ตรงกับจํานวนใด ก. 21 ข. ๓๑ ค. ๔๗ ง. 57
วิเคราะหคําตอบ ขอ ข. เพราะสามสิบเอ็ด เขียนเปนตัวเลขฮินดูอารบิก คือ 31 เขียนเปนตัวเลขไทย คือ ๓๑
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
อธิบายความรู
1. ครูแนะนําการใชหลักลูกคิดและลูกคิด แสดงจํานวนนับไมเกิน 1,000 โดยครูติดบัตร รูปลูกคิดแสดงจํานวนไมเกิน 1,000 บนกระดาน แลวใหนักเรียนเขียนเปนตัวเลข ฮินดูอารบิก และตัวเลขไทยแสดงจํานวนจาก ลูกคิด จากนั้นครูเปลี่ยนจํานวนลูกคิดในแตละ หลัก และสุมนักเรียนออกมาเขียนบนกระดาน 2. ครูใสลูกคิดจํานวน 10 ลูก ลงในหลักรอย จากนั้นถามนักเรียนวา • จํานวนลูกคิดที่อยูในหลักรอยมีกี่ลูก (ตอบ 10 ลูก) 3. ครูแนะนําวาหลักที่อยูทางซายมือของหลักรอย เรียกวา หลักพัน ลูกคิดในหลักรอย 10 ลูก แทนไดดวยลูกคิดในหลักพัน 1 ลูก และลูกคิด 1 ลูก ในหลักพันแสดงจํานวน 1 พัน จากนั้น ครูเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และ ตัวหนังสือแสดงจํานวน 1 พัน บนกระดาน แลวใหนักเรียนอานพรอมกัน
ตัวอย่าง
รูป
ตัวเลข ตัวเลข ฮินดูอารบิก ไทย
ตัวหนังสือ
15
๑๕
สิบห้ำ
29
๒๙
ยี่สิบเก้ำ
37
๓๗
สำมสิบเจ็ด
52
๕๒
ห้ำสิบสอง
63
๖๓
หกสิบสำม
78
๗๘
เจ็ดสิบแปด
81
๘๑
แปดสิบเอ็ด
96
๙๖
เก้ำสิบหก
Explain
5
ขอใดไมถูกตอง ก. 18 ๑๘ สิบแปด ข. 45 ๔๕ สี่สิบหา ค. 61 ๖๑ หกสิบหนึ่ง ง. 79 ๗๙ เจ็บสิบเกา
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
วิเคราะหคําตอบ ขอ ค. เพราะ 61 ๖๑ หกสิบเอ็ด ไมใชอานวา หกสิบหนึ่ง
เกร็ดแนะครู ครูเนนยํ้าใหนักเรียนฟงเรื่องการอานจํานวนที่ลงทายดวยเลขโดด 1 เชน 11, 21, 31, 41, 111, 541 เลข 1 ตัวสุดทาย อานออกเสียง “เอ็ด” ดังนี้ 11 อานวา สิบเอ็ด 21 อานวา ยี่สิบเอ็ด 111 อานวา หนึ่งรอยสิบเอ็ด 541 อานวา หารอยสี่สิบเอ็ด
คูมือครู
5
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
Explain
1. ครูใสลูกคิดแสดงจํานวนไมเกิน 1,000 ในหลัก ลูกคิด จากนั้นถามนักเรียนวา • ลูกคิดแสดงจํานวนอะไร เขียนเปนตัวเลข ฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือ แสดงจํานวนไดอยางไร 2. ครูติดบัตรตัวเลขที่มีจํานวนไมเกิน 1,000 เปน ตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือ บนกระดาน ดังนี้
กิจกรรมฝึกฝนทักษะ
1. เขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดง จ�านวนของรูปลงในสมุด 1) 4) 2) 5) 3) 2. เขียนเป็นตัวเลขไทยลงในสมุด
887 ๑๐๕ หารอยเอ็ด 649 จากนั้นสุมเรียกนักเรียนออกมาเขียนจํานวน ดังกลาวเปนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และ ตัวหนังสือ แลวใหเพื่อนในหองอานจํานวนนั้น พรอมกัน
1)
12
6)
33
11)
79
2)
15
7)
42
12)
83
3)
21
8)
55
13)
88
4)
28
9)
63
14)
91
5)
32
10)
67
15)
99
1
6
นักเรียนควรรู 1 21 จํานวนที่มีเลขโดด 2 อยูในหลักสิบ นิยมอานวา “ยี่” เชน 20 อานวา ยี่สิบ 21 อานวา ยี่สิบเอ็ด 329 อานวา สามรอยยี่สิบเกา
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
จํานวนใดที่มากกวา 53 แตนอยกวา 74 ก. 43 ข. 65 ค. 77 ง. 86 วิเคราะหคําตอบ ขอ ข. เพราะ ขอ ก. 43 นอยกวา 53 และ 74 ขอ ข. 65 มากกวา 53 และ 65 นอยกวา 74 ขอ ค. 77 มากกวา 53 และ 74 ขอ ง. 86 มากกวา 53 และ 74
6
คูมือครู
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
อธิบายความรู
1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปวา จํานวนนับไมเกิน 100 จะมีตวั เลขไมเกินสามหลัก ความหมายของ รอย คือ 10 สิบ เทากับ 1 รอย ความหมายของ พัน คือ 10 รอย เทากับ 1 พัน โดยพิจารณาดังนี้ • จํานวนที่เขียนแทนดวยตัวเลขที่มีสามหลัก ตัวเลขที่อยูทางซายของหลักสิบเปนตัวเลข ในหลักรอย และตัวเลขในหลักรอยนี้แสดง จํานวนวามีกี่รอย • จํานวนที่เขียนแทนดวยตัวเลขที่มีสี่หลัก ตัวเลขที่อยูทางซายของหลักรอยเปนตัวเลข ในหลักพัน และตัวเลขในหลักพันนี้แสดง จํานวนวามีกี่พัน 2. ใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกฝนทักษะ จากหนังสือเรียน หนา 7 ขอ 1.-2. ลงในสมุด แลวรวมกันเฉลย 3. ใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกฝนทักษะ จากหนังสือเรียน หนา 7 ขอ 3.-4. ลงในสมุด เปนการบาน
3. เขียนเป็นตัวเลขฮินดูอารบิก และตัวเลขไทยลงในสมุด 1) ยี่สิบห้ำ 6) แปดสิบเจ็ด 2) สำมสิบ
7) สำมสิบสอง
3) สี่สิบแปด
8) เก้ำสิบ
4) หกสิบเอ็ด
9) สิบสำม
5) เจ็ดสิบสี่ 10) ห้ำสิบเก้ำ 4. เขียนตัวเลขฮินดูอารบิก และตัวเลขไทย แสดงจ�านวน ลงในสมุด 1) 4 สิบ กับ 6 หน่วย 6) 3 สิบ กับ 3 หน่วย 2) 1 สิบ กับ 9 หน่วย
7) 6 สิบ กับ 8 หน่วย
3) 7 สิบ กับ 5 หน่วย
8) 2 สิบ กับ 1 หน่วย
4) 5 สิบ กับ 7 หน่วย
9) 8 สิบ กับ 4 หน่วย
5) 9 สิบ กับ 4 หน่วย
10) 1 สิบ กับ 1 หน่วย
Explain
7
ขอใดถูกตอง ก. 3 สิบ กับ 6 หนวย คือ 39 ข. 5 สิบ กับ 2 หนวย คือ 25 ค. 6 สิบ กับ 4 หนวย คือ 64 ง. 8 สิบ กับ 0 หนวย คือ 8
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
เกร็ดแนะครู ครูจัดกิจกรรมเพิ่มเติมโดยแจกบัตรตัวเลขฮินดูอารบิก บัตรตัวเลขไทย และ บัตรตัวหนังสือของจํานวนไมเกิน 1,000 ใหนักเรียนคนละ 1 ใบ จากนั้นใหจับกลุม บัตรคําที่อยูกลุมเดียวกัน เชน 101 = ๑๐๑ = หนึ่งรอยเอด
วิเคราะหคําตอบ ขอ ค. เพราะ ขอ ก. 3 สิบ กับ 6 หนวย คือ 36 ขอ ข. 5 สิบ กับ 2 หนวย คือ 52 ขอ ค. 6 สิบ กับ 4 หนวย คือ 64 ขอ ง. 8 สิบ กับ 0 หนวย คือ 80
คูมือครู
7
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
Engage
Explore
Explain
ขยายความเขาใจ
ขยายความเขาใจ Expand าใจ ขยายความเข
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
Expand
ครูสุมนักเรียนออกมาเขียนจํานวนไมเกิน 100 ลงในแผนผังความคิดที่ครูเขียนไวบนกระดาน เชน
1
2. จ�านวนนับไม่เกิน 1,000
9
2
¨íҹǹ·Õè¹Ñºµ‹Í¨Ò¡ 100 ¤×Í 101, 102, 103, ...
47
26 จํานวนนับไมเกิน 100 81
3
50 39
จ�ำนวน 100 - 999 เป็นตัวเลขทีม่ สี ำมหลัก เลขโดด ทำงขวำสุดอยู่ในหลักหน่วย เลขโดดที่อยู่ตรงกลำงอยู่ใน หลักสิบ และเลขโดดทำงซ้ำยสุดอยู่ในหลักร้อย รูป
ตัวเลข ตัวเลข ตัวหนังสือ ฮินดูอารบิก ไทย
100
๑๐๐ หนึ่งร้อย
200
๒๐๐ สองร้อย
300
๓๐๐ สำมร้อย
400
๔๐๐
500
๕๐๐ ห้ำร้อย
600
๖๐๐ หกร้อย
700
๗๐๐ เจ็ดร้อย
สี่ร้อย
8
นักเรียนควรรู 1 จํานวนนับ หมายถึง จํานวนที่เกิดจากการนับ หรือจํานวนที่ใชแทนการนับ ไดแก 1, 2, 3, 4, 5, ... 2 101 จํานวนนับที่ลงทายดวยตัวเลข 1 ยกเวนจํานวน 1 เชน 101 111 เปนตน จะอานเลข 1 ตัวทายวา เอ็ด เชน 101 อานวา หนึ่งรอยเอ็ด เปนตน 3 จํานวน ใชบอกปริมาณสิ่งตางๆ โดยไมขึ้นอยูกับชนิด ขนาด และรูปรางของ สิ่งตางๆ เชน นักเรียน 10 คน ไก 20 ตัว เปนตน
8
คูมือครู
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
5 รอย กับ 4 สิบ กับ 9 หนวย เขียนเปนตัวเลขฮินดูอารบิกและตัวเลขไทย ไดอยางไร ก. 549, ๔๕๙ ข. 594, ๕๔๖ ค. 549, ๕๔๙ ง. 594, ๕๔๙ วิเคราะหคําตอบ ขอ ค. เพราะ 5 รอย กับ 4 สิบ กับ 9 หนวย เขียนแสดงดวย ตัวเลขฮินดูอารบิก คือ 549 ตัวเลขไทย คือ ๕๔๙
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
Engage
Explore
Explain
ขยายความเขาใจ Expand าใจ ขยายความเข
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
ขยายความเขาใจ
ครูสุมเรียกนักเรียนออกมาเขียนจํานวนไมเกิน 1,000 ลงในแผนผังความคิดที่ครูเขียนไว บนกระดาน เชน
ตัวเลข ตัวเลข ตัวหนังสือ ฮินดูอารบิก ไทย
รูป
800
๘๐๐ แปดร้อย
900
๙๐๐ เก้ำร้อย
Expand
423
508 111
362 จํานวนนับไมเกิน 1,000 713
1,000 ๑,๐๐๐ หนึ่งพัน
259 1,000
999
การเขียนตัวเลขและตัวหนังสือแสดงจ�านวน
จำกรูป 1 ร้อย กักับ 3 สิบ กับ 2 หน่ 2 หน่วยย คือ 132 2 อยู่ในหลั หลักหน่วย ย มีค่ำ 2 3 อยู่ในหลั หลักสิบ มีค่ำ 30 1 อยู่ในหลักร้อย มีค่ำ 100 เขียนแสดงด้วย ตัวเลขฮินดูอำรบิก คือ 132 ตัวเลขไทย คือ ๑๓๒ ตัวหนังสือ คือ หนึ่งร้อยสามสิบสอง 9
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
“หกรอยเอ็ด” เขียนเปนตัวเลขฮินดูอารบิกไดอยางไร ก. 601 ข. 607 ค. 611 ง. 621 วิเคราะหคําตอบ ขอ ก. เพราะ ขอ ก. 601 อานวา ขอ ข. 607 อานวา ขอ ค. 611 อานวา ขอ ง. 621 อานวา
เกร็ดแนะครู ในการสอนจํานวนนับไมเกิน 1,000 ครูทบทวนจํานวนนับไมเกิน 100 อีกครัง้ หนึง่ ซึ่งอาจจะใหนักเรียนบอกจํานวนที่นับเพิ่มทีละ 10 โดยเริ่มจาก 10 ถึง 100 พรอมๆ กัน ดังนี้ 10, 20, 30, 40, 50, 60, 70, 80, 90, 100
หกรอยเอ็ด หกรอยเจ็ด หกรอยสิบเอ็ด หกรอยยี่สิบเอ็ด
คูมือครู
9
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
Engage
Explore
Explain
ขยายความเขาใจ
ขยายความเขาใจ Expand าใจ ขยายความเข
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
Expand
1. ครูแนะนําเพิ่มเติมใหนักเรียนฟงวา • การเขียนตัวเลขแสดงจํานวนที่มีมากกวา 3 หลัก เพื่อใหสะดวกตอการอาน นิยมเขียน เครื่องหมายจุลภาค (,) คั่น เชน 1,000 • จํานวนที่ลงทายดวย “1” เชน 101 เรานิยม อานวา หนึ่งรอยเอ็ด 2. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายอีกครั้งหนึ่ง เรื่องจํานวนนับไมเกิน 100 และจํานวนนับ ไมเกิน 1,000 จนไดขอสรุปวา • จํานวน 1 - 9 เปนจํานวนที่มีหนึ่งหลัก ไดแก หลักหนวย • จํานวน 10 - 99 เปนจํานวนที่มีสองหลัก ไดแก หลักหนวย และหลักสิบ • จํานวน 100 - 999 เปนจํานวนที่มีสามหลัก ไดแก หลักหนวย หลักสิบ และหลักรอย • จํานวน 1,000 เปนจํานวนที่มีสี่หลัก ไดแก หลักหนวย หลักสิบ หลักรอย และหลักพัน 3. ครูเปดโอกาสใหนักเรียนไดซักถามในสิ่งที่ ไมเขาใจ พรอมทั้งอธิบายใหนักเรียนไดเขาใจ อีกครั้งหนึ่ง
จำกรูป 2 ร้อย กับ 4 สิบ กับ 3 หน่วย คือ 243 3 อยู่ในหลักหน่วย มีค่ำ 3 4 อยู่ในหลักสิบ มีค่ำ 40 2 อยู่ในหลักร้อย มีค่ำ 200 เขียนแสดงด้วย ตัวเลขฮินดูอำรบิก คือ 243 ตัวเลขไทย คือ ๒๔๓ ตัวหนังสือ คือ สองร้อยสี่สิบสาม ตัวอย่าง
รูป
ตัวเลข ตัวเลข ฮินดูอารบิก ไทย
ตัวหนังสือ
134
๑๓๔
หนึ่งร้อย สำมสิบสี่
215
๒๑๕
สองร้อย สิบห้ำ
326
๓๒๖
สำมร้อย ยี่สิบหก
10
มุม IT นักเรียนสามารถทําแบบฝกหัดเพิ่มเติมไดที่ http://www.myfirstbrain.com คลิกไปที่ แบบฝกหัดคณิตศาสตร คลิกเลือก ป.2 คลิกเลือก แบบฝกทักษะเรื่อง จํานวนนับไมเกิน 1,000 (ชุดที่ 1 และชุดที่ 2)
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
“สี่รอยหาสิบหก” เขียนเปนตัวเลขฮินดูอารบิก และตัวเลขไทยอยางไร ก. 453 ๔๕๓ ข. 453 ๕๔๓ ค. 456 ๔๕๖ ง. 456 ๕๔๖
วิเคราะหคําตอบ ขอ ค. เพราะ สี่รอยหาสิบหก เขียนเปนตัวเลข ฮินดูอารบิก 456 เขียนเปนตัวเลขไทย ๔๕๖
10
คูมือครู
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
Engage
Explore
Explain
ขยายความเขาใจ Expand าใจ ขยายความเข
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
ขยายความเขาใจ
Expand
ใหนักเรียนทําแบบฝกหัด คณิตศาสตร ป.2
รูป
ตัวเลข ตัวเลข ฮินดูอารบิก ไทย
✓ แบบฝกฯ ใบงาน แบบวัดฯ คณิตศาสตร ป.2 ประเมินตัวช�้วัด มฐ. ค 1.1 ป.2/1
ตัวหนังสือ
531
๕๓๑
ห้ำร้อย สำมสิบเอ็ด
951
๙๕๑
เก้ำร้อย ห้ำสิบเอ็ด
ตัวเลขฮินดูอารบิก
ฉบับ
เฉลย
กิจกรรมฝึกฝนทักษะ
1. เขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดง จ�านวนของรูปลงในสมุด 4) 1)
11) 12) 13) 14) 15) 16) 17) 18) 19) 20) 21) 22) 23) 24) 25)
497 265 103 382 740 571 999 614 811 593 459 778 932 653 410
ตัวหนังสือ
สี่รอยเกาสิบเจ็ด สองรอยหกสิบหา หนึ่งรอยสาม สามรอยแปดสิบสอง เจ็ดรอยสี่สิบ หารอยเจ็ดสิบเอ็ด เการอยเกาสิบเกา หกรอยสิบสี่ แปดรอยสิบเอ็ด หารอยเกาสิบสาม สี่รอยหาสิบเกา เจ็ดรอยเจ็ดสิบแปด เการอยสามสิบสอง หกรอยหาสิบสาม สี่รอยสิบ
ตัวเลขไทย
๔๙๗ ๒๖๕ ๑๐๓ ๓๘๒ ๗๔๐ ๕๗๑ ๙๙๙ ๖๑๔ ๘๑๑ ๕๙๓ ๔๕๙ ๗๗๘ ๙๓๒ ๖๕๓ ๔๑๐
2
2) 3)
5)
11
903 เขียนเปนตัวเลขไทยและอานวาอยางไร ก. ๙๐๓ อานวา เการอยสามสิบ ข. ๙๐๓ อานวา เการอยสาม ค. ๙๓๐ อานวา เการอยสามสิบ ง. ๙๓๐ อานวา เการอยสาม
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
วิเคราะหคําตอบ ขอ ข. เพราะ 903 เขียนเปนตัวเลขไทย ๙๐๓ อานวา เการอยสาม
เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเรื่องความแตกตางระหวางตัวเลขกับจํานวนใหนักเรียนฟงวา • ตัวเลข คือ สัญลักษณที่มนุษยคิดคนขึ้นมา แตละชาติแตละภาษาตางก็คิด ขึ้นมาใช ซึ่งตัวเลขของแตละชาติที่ใชแทนสัญลักษณนั้นแตกตางกัน เชน ตัวเลขฮินดูอารบิก 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ตัวเลขไทย ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ I II III IV V VI VII VIII IX X ตัวเลขโรมัน • จํานวน คือ การเขียนตัวเลขแทนจํานวน จํานวนเปนการเปรียบเทียบให ทราบวา มากกวา นอยกวา หรือเทากัน (เพราะการเปรียบเทียบของแตละ บุคคลไมเหมือนกัน ขึ้นอยูกับความรูสึก) มนุษยจึงคิดคนสัญลักษณขึ้นมา เพื่อใชกํากับจํานวนที่เรียกวา ตัวเลข
คูมือครู
11
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
Engage
Explore
Explain
Expand
ตรวจสอบผล
ตรวจสอบผล Evaluate ตรวจสอบผล Evaluate
Evaluate
1. ใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกฝนทักษะ จากหนังสือเรียน หนา 11-12 ขอ 1.-2. ลงในสมุด แลวรวมกันเฉลย 2. ใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกฝนทักษะ จากหนังสือเรียน หนา 12 ขอ 3.-4. ลงในสมุด เปนการบาน 3. ใหนักเรียนเลือกสินคาที่มีราคาไมเกิน 1,000 จากหนังสือพิมพ หรือแผนโฆษณา แลวนํามาติด ลงในสมุด จากนั้นเขียนราคาสินคาเปนตัวเลข ฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือ
2. เขียนเป็นตัวเลขไทยลงในสมุด 1) 109 4) 444
7) 539
2) 121
5) 600
8) 875
3) 238
6) 769
9) 973
3. เขียนเป็นตัวเลขฮินดูอารบิก และตัวเลขไทยลงในสมุด 1) หนึ่งร้อยสี่สิบห้ำ 6) เจ็ดร้อยสำมสิบห้ำ 2) สองร้อย
7) สองร้อยห้ำสิบเจ็ด
3) สำมร้อยหกสิบสำม
8) สี่ร้อยเก้ำสิบสอง
4) ห้ำำร้ร้อยเจ็ด
9) เก้ำร้อยสี่สิบหก
5) หกร้อยยี่สิบเจ็ด 10) แปดร้อยห้ำสิบสี่ 4. เขียนตัวเลขฮินดูอารบิก และตั และตัวเลขไทย แสดงจ� เลขไทย านวนลงในสมุด 1) 11 ร้ร้อย กั ย กับ 4 สิ 4 สิบ กักับ 6 หน่ 6 หน่วย 2) 22 ร้ร้อย กั ย กับ 6 สิ 6 สิบ กักับ 8 หน่วย 3) 77 ร้ร้อย กั ย กับ 8 สิ 8 บ กับ 4 หน่วย 4) 99 ร้อย กับ 2 สิบ กับ 5 หน่วย 5) 55 ร้ร้อย กั ย กับ 0 สิ 0 สิบ กักับ 9 หน่ 9 หน่วย 12
มุม IT นักเรียนสามารถทําแบบฝกหัดเพิ่มเติมไดที่ http://www.myfirstbrain.com คลิกไปที่ แบบฝกหัดคณิตศาสตร คลิกเลือก ป.2 คลิกเลือก แบบฝกทักษะเรื่อง จํานวนนับไมเกิน 1,000 (ชุดที่ 7 และชุดที่ 8)
ขอสอบเนน การคิด แนว NT ขอใดอานถูกตอง ก. 10,201 อานวา ข. 63,002 อานวา ค. 79,500 อานวา ง. 80,021 อานวา
หนึ่งหมื่นสองรอยหนึ่ง หกหมื่นสามรอยสอง เจ็ดหมื่นเกาพันหารอย แปดหมื่นสองสิบเอ็ด
วิเคราะหคําตอบ ขอ ค. เพราะ ขอ ก. 10,201 อานวา หนึ่งหมื่นสองรอยเอ็ด ขอ ข. 63,002 อานวา หกหมืน่ สามพันสอง ขอ ง. 80,021 อานวา แปดหมืน่ ยี่สิบเอ็ด
12
คูมือครู
กระตุน ความสนใจ
สํารวจคนหา สํารวจค Exploreนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
กระตุEngage นความสนใจ
กระตุน ความสนใจ 1
2
1.2 หลั หลัก ค่ค่าประจ�าหลัก และค่าของเลขโดด ในแต่ละหลัก และการเขียนตัวเลขในรูปกระจาย
1. หลัก ค่าประจ�าหลัก และค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก 1) หลัก และค่าประจ�าหลัก ตัวเลขแสดงจ�ำนวนเขียนโดยใช้สัญลักษณ์ที่ เรียกว่ำ เลขโดด ซึ่งมีทั้งหมดสิบตัว คือ 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 หรือ ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ กำรเขียนตัวเลขโดยใช้เลขโดด เลขโดดจะ ปรำกฏใน “หลัก” ซึง่ แต่ละหลักจะมี “ค่ำประจ�ำหลัก” เริม่ จำก หลักหน่วย มีคำ่ เป็น 1 หลักสิบ มีคำ่ เป็น 10 หลักร้อย มีคำ่ เป็น 100 และหลักพัน มีค่ำเป็น 1,000 หลัก ค่าประจ�าหลัก
... ...
พัน 1,000
ร้อย 100
สิบ 10
2) ค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก เลขโดดตัวเดียวกัน ถ้ำอยู่ในหลักที่ต่ำงกันจะ เลขโดดตัวนั้นจะมีค่ำตำมหลั มหลักร้อย หลั ย หลักสิบ มีค่ำไม่เท่ำกัน เลขโดดตั หลักหน่วย 13
เลขโดด 9 ในขอใดมีคาเทากับ 900 ก. 329 ข. 590 ค. 797 ง. 975
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
วิเคราะหคําตอบ ขอ ง. เพราะ ขอ ก. 329 อยูในหลักหนวย ขอ ข. 590 อยูในหลักสิบ ขอ ค. 797 อยูในหลักสิบ ขอ ง. 975 อยูในหลักรอย
ครูเขียนจํานวนนับไมเกิน 1,000 บนกระดาน เชน 5, 23, 55, 100, 536, 789, 1,000 จากนั้นครู ถามนักเรียนวา • จํานวนแตละจํานวนมีกี่หลัก
สํารวจคนหา
Explore
1. ครูติดบัตรรูปลูกคิดแสดงหลักของจํานวน ไมเกิน 100 บนกระดาน เชน
หน่วย 1
Engage
หลัก สิบ
หลัก หนวย
แลวใหนักเรียนตอบคําถามวา • ลูกคิดแสดงจํานวนเทาใด (ตอบ 35) 2. ครูจัดกิจกรรมในทํานองเดียวกับขอ 1. อีก 3-5 จํานวน 3. ใหนักเรียนออกมาเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจํานวนใน ขอ 1. และขอ 2. บนกระดาน จากนั้นครูนํา จํานวนเหลานั้นมาถามวา • เลขโดดแตละตัวอยูในหลักใด และแสดง คาประจําหลักเทาใด
นักเรียนควรรู 1 หลัก คือ ตําแหนงของตัวเลข เชน หลักหนวย หลักสิบ หลักรอย หลักพัน หลักหมื่น 2 คาประจําหลัก คือ คาที่กําหนดขึ้นตามตําแหนงของตัวเลขนั้นๆ
มีคา 9 มีคา 90 มีคา 90 มีคา 900
คูมือครู
13
สํารวจคนหา
กระตุนความสนใจ Engage
Exploreนหา สํารวจค
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
สํารวจคนหา
Explore
1. ครูติดบัตรรูปลูกคิดแสดงหลักของจํานวน ไมเกิน 1,000 บนกระดาน เชน
รูปนี้แสดงจ�ำนวน 624 เขียนตัวเลขแสดงในหลักต่ำงๆ ได้ดังนี้ หลัก จ� า นวน ร้อย สิบ หน่วย
624
หลัก รอย
หลัก สิบ
ร้อย
สิบ
หน่วย
6
2
4
จ�ำนวน 624 มีค่ำของเลขโดดในแต่ละหลัก ดังนี้ 4 อยู่ในหลักหน่วย มีค่ำ 4 2 อยู่ในหลักสิบ มีค่ำ 20 6 อยู่ในหลักร้อย มีค่ำ 600 นี้แสดงจ�ำนวน 867 รูปนี้แสดงจ�รูปำนวน 867 เขียนตัวเลขแสดงในหลั เขียนตัวเลขแสดงในหลั กต่ำงๆ ได้กดต่ังำนีงๆ ได้ ้ ดังนี้
หลัก หนวย
แลวใหนักเรียนตอบคําถามวา • ลูกคิดแสดงจํานวนเทาใด (ตอบ 126) 2. ครูจัดกิจกรรมในทํานองเดียวกับขอ 1. อีก 3 - 5 จํานวน 3. ใหนักเรียนออกมาเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจํานวนใน ขอ 1. และ ขอ 2. บนกระดาน • เลขโดดแตละตัวอยูในหลักใด และแสดงคา ประจําหลักเทาใด
หลัก จ� า นวน ร้อย สิบ หน่วย
867
ร้อย
สิบ
หน่วย
8
6
7
จ�ำนวน 867 มีค่ำของเลขโดดในแต่ละหลัก ดังนี้ 7 อยู่ในหลั นหลักหน่วย ย มีค่ำ 7 66 อยู่ในหลั นหลักสิบ มีค่ำ 60 8 อยู่ในหลั นหลักร้อยย มีค่ำ 800 ¤‹Ò¢Í§àŢⴴã¹áµ‹ÅÐËÅÑ¡¨ÐÁÕ¤‹Òà·‹Òã´ ¢Öé¹ÍÂÙ‹¡ÑºÇ‹ÒàŢⴴ¹Ñé¹ÍÂÙ‹ã¹ËÅÑ¡ã´
14
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
เกร็ดแนะครู หลังจากทีน่ กั เรียนเขาใจเรือ่ งคาของเลขโดดในแตละหลักแลว ครูควรใชชดุ ตัวเลข เดียวกัน และสลับตําแหนงเพื่อใหนักเรียนบอกคาประจําหลัก เชน
14
245
542
254
524
คูมือครู
452
425
หลักใดมีคาประจําหลักเปน 1 ก. หลักพัน ข. หลักรอย ค. หลักสิบ ง. หลักหนวย
วิเคราะหคําตอบ ขอ ง. เพราะ ขอ ก. หลักพัน ขอ ข. หลักรอย ขอ ค. หลักสิบ ขอ ง. หลักหนวย
มีคาประจําหลักเปน 1,000 มีคาประจําหลักเปน 100 มีคาประจําหลักเปน 10 มีคาประจําหลักเปน 1
สํารวจคนหา
กระตุนความสนใจ Engage
สํารวจค Exploreนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
สํารวจคนหา กิจกรรมฝึกฝนทักษะ
Explore
1. ครูติดบัตรรูปลูกคิดแสดงหลักของจํานวน ไมเกิน 1,000 บนกระดาน เชน
(ท�าลงในสมุด)
1. บอกค่าประจ�าหลักของเลขโดดที่ขีดเส้นใต้ต่อไปนี้ 1)
282
5)
768
9)
199
2)
381
6)
805
10)
443
3)
912
7)
692
11)
850
4)
524
8)
488
12)
หลัก พัน
2. บอกหลักและค่าของเลขโดดในแต่ละหลักของจ�านวนต่อไปนี้ 612
4)
723
7)
485
2)
468
5)
825
8)
193
3)
581
6)
362
9)
976
หลัก สิบ
หลัก หนวย
แลวใหนักเรียนตอบคําถามวา • ลูกคิดแสดงจํานวนเทาใด (ตอบ 1,000) 2. ใหนักเรียนออกมาเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจํานวนนั้น บนกระดาน จากนั้นครูถามวา • เลขโดดแตละตัวอยูในหลักใด และแสดงคา ประจําหลักเทาใด (ตอบ 0 อยูในหลักหนวย มีคา 0 0 อยูในหลักสิบ มีคา 0 0 อยูในหลักรอย มีคา 0 1 อยูในหลักพัน มีคา 1,000) 3. ใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกฝนทักษะ จากหนังสือเรียน หนา 15 ขอ 1.-2. ลงในสมุด
672
1)
หลัก รอย
15
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
248 เลขโดดที่ขีดเสนใต อยูในหลักใด และมีคาเทาใด ก. หลักหนวย มีคา 4 ข. หลักสิบ มีคา 40 ค. หลักรอย มีคา 40 ง. หลักพัน มีคา 400
มุม IT นักเรียนสามารถทําแบบฝกหัดเพิ่มเติมไดที่ http://www.myfirstbrain.com คลิกไปที่ แบบฝกหัดคณิตศาสตร คลิกเลือก ป.2 คลิกเลือก แบบฝกทักษะเรื่อง จํานวนนับไมเกิน 1,000 (ชุดที่ 5 และชุดที่ 6)
วิเคราะหคําตอบ ขอ ข. เพราะ 248 มีคาของเลขโดดในแตละหลัก ดังนี้ 8 อยูในหลักหนวย มีคา 8 4 อยูในหลักสิบ มีคา 40 2 อยูในหลักรอย มีคา 200
คูมือครู
15
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Exploreนหา สํารวจค
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
สํารวจคนหา
Explore
1. ครูแจกกระดาษตารางหลักขนาดยอใหนักเรียน คนละ 1 แผน จากนั้นใหนักเรียนเขียนจํานวน 80 และ 703 ตามลําดับ ลงในตารางหลัก ดังนี้ หลัก พัน รอย สิบ หนวย 8 0 7 0 3
1
2. การใช้ 0 เพื่อยึดต�าแหน่งของหลัก 2
1
0
หลัก ร้อย
หลัก สิบ
หลัก หน่วย
3
0
5
หลัก ร้อย
หลัก สิบ
หลัก หน่วย
1
0
0
0
หลัก พัน
หลัก ร้อย
หลัก สิบ
หลัก หน่วย
2. ใหนักเรียนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อน เรื่องเลขโดด 0 ในหลักหนวยและหลักสิบ ที่อยู ในจํานวน 80 และ 703 จากนั้นตอบคําถามวา • เลขโดด 0 ที่เขียนไวในจํานวนทั้งสองมีคา เทาใด (ตอบ มีคา 0) • ถาไมเขียนเลขโดด 0 ในหลักเลข จํานวน ทั้งสองนี้จะเปนอยางไร (ตอบ จํานวนทั้งสองจะมีคาลดลงจากเดิม คือ 80 เปน 8 และ 703 เปน 73)
ใส่ 0 เพื่อยึดต�ำแหน่ง ของหลักหน่วย
ใส่ 0 เพื่อยึดต�ำแหน่ง ของหลักสิบ
ใส่ 0 เพื่อยึดต�ำแหน่ง ของหลักร้อย หลักสิบ และหลักหน่วย
àÃÒµŒÍ§ãÊ‹ 0 à¾×èÍÂÖ´µíÒá˹‹§¢Í§ËÅÑ¡ 16
เกร็ดแนะครู ครูถามนักเรียนวา ใครใชคอมพิวเตอรเปนบาง รูไ หมวา เลขศูนยไทยในแผงแปนอักขระอยูต รงไหน ใหนกั เรียนชวยกันตอบ หรือกลับไปหา แลวเมือ่ นักเรียนหาคําตอบ มาแลว ครูคอยเฉลยวา อยูที่แปนตัว Q
นักเรียนควรรู 1 0 (ศูนย) คือ จํานวนเต็มที่อยูกอนหนา 1 และไมใชจํานวนนับ
16
คูมือครู
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
706 เขียนในรูปกระจายไดตามขอใด ก. 600 + 70 + 6 ข. 700 + 70 + 6 ค. 700 + 60 +6 ง. 700 + 6 วิเคราะหคําตอบ ขอ ง. เพราะ 706 เขียนในรูปกระจายไดเปน 700 + 0 + 6 หรือ 700 + 6
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
อธิบายความรู
1. ครูเขียนจํานวน 804 บนกระดาน และถาม นักเรียนวา • จํานวนที่ครูเขียนบนกระดานนี้ใช 0 เพื่อยึด ตําแหนงของหลักใด (ตอบ ใช 0 ยึดตําแหนงในหลักสิบ) 2. ครูจัดกิจกรรมเหมือนขอ 1. อีก 2-3 จํานวน 3. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเรื่องคาของ เลขโดดในแตละหลัก และการใชเลข 0 เพื่อยึดตําแหนงของหลักวา • การแสดงคาประจําหลักของเลขโดดเปน การบอกคาของเลขโดดที่อยูในแตละหลัก ซึ่งเลขโดดจะมีคาเทาใดนั้นขึ้นอยูกับคา ประจําหลัก • เลขโดดในหลักใดหลักหนึ่ง เมื่อไมมีคาตอง ใส 0 เพื่อแสดงตําแหนงของหลักนั้นวามีคา เทากับ 0 4. ใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกฝนทักษะ จากหนังสือเรียน หนา 17 ขอ 1.-2. ลงในสมุด
กิจกรรมฝึกฝนทักษะ
1. จ�านวนต่อไปนี้ ใช้ 0 เพื่อยึดต�าแหน่งของหลักใด โดยท�า ลงในสมุด 1) 105
6) 206
11) 509
2) 310
7) 400
12) 301
3) 650
8) 770
13) 200
4) 408
9) 302
14) 1,000
5) 990
10) 600
15) 550
Explain
2. เขียนจ�านวนที่ใช้ 0 เพื่อยึดต�าแหน่งของหลักหน่วย หลักสิบ มาอย่างละ 3 จ�านวน และหลักร้อย มา 1 จ�านวน โดยท�า ลงในสมุด 17
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
903 เลขโดดที่ขีดเสนใต อยูในหลักใด และมีคาเทาใด ก. 0 อยูในหลักหนวย มีคา 0 ข. 0 อยูในหลักสิบ มีคา 0 ค. 0 อยูในหลักสิบ มีคา 10 ง. 0 อยูในหลักรอย มีคา 100
วิเคราะหคําตอบ ขอ ข. เพราะ 9 อยูในหลักรอย มีคา 900 0 อยูใ นหลักสิบ มีคา 0 3 อยูใ นหลักหนวย มีคา 3
เกร็ดแนะครู ครูใหนักเรียนแขงกันหาวา จํานวนใดตอไปนี้ ถาไมใช 0 เพื่อยึดตําแหนงแลว จะมีคาลดลงจากเดิมมากที่สุด (ตอบ 810)
704
810
809
810 - 81 = 729 704 - 74 = 630
790 790 - 79 = 711
809 - 89 = 720
คูมือครู
17
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
Explain
1. ครูอธิบายยํ้าใหนักเรียนฟงอีกครั้งวา • เลขโดดที่อยูในแตละหลักมีคาแตกตางกัน ขึ้นอยูกับคาประจําหลัก ซึ่งหลักของตัวเลข จะเรียงลําดับจากขวาไปซายตามลําดับ คือ หลักหนวย หลักสิบ หลักรอย หลักพัน แตละหลักจะมีคาเปนสิบเทาของหลักที่อยู ถัดไปทางขวามือ และการใช 0 เพื่อแสดง ตําแหนงของหลักในกรณีที่หลักนั้นไมมี ตัวเลขอื่นอยู 2. ใหนักเรียนเปดหนังสือ หนา 18 จากนั้นครู อธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนฟงวา • 999 คือ 9 รอย กับ 9 สิบ กับ 9 หนวย 9 อยูในหลักหนวย มีคา 9 9 อยูในหลักสิบ มีคา 90 9 อยูในหลักรอย มีคา 900 สามารถเขียนใหอยูในรูปกระจายได ดังนี้ 900 + 90 + 9 3. ครูอธิบายจํานวนอื่นๆ ในทํานองเดียวกับขอ 1. 4. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปเรื่องการเขียน จํานวนนับไมเกิน 1,000 ใหอยูในรูปกระจาย เปนการเขียนแสดงจํานวนในรูปการบวกกันของ จํานวนในแตละหลัก
3. การเขียนตัวเลขในรูปกระจาย
3 ร้อย
1
2 สิบ
4 หน่วย
324 คือ 3 ร้อย กับ 2 สิบ กับ 4 หน่วย 324 เขียนในรูปกระจำยได้เป็น 300 + 20 + 4 324 = 300 + 20 + 4
5 ร้อย
3 สิบ
1 หน่วย
531 คือ 5 ร้ 5 ร้อย กั ย บ 3 สิบ กับ 1 หน่วย 531 เขียนในรูปกระจำยได้เป็น 500 + 30 + 1 531 = 500 + 30 + 1 ¡ÒÃà¢Õ¹ã¹ÃÙ»¡ÃШÒ ໚¹¡ÒùíÒ¤‹Ò¢Í§àŢⴴ ã¹áµ‹ÅÐËÅÑ¡ÁÒà¢Õ¹ãËŒÍÂÙ‹ã¹ÃÙ»¢Í§¡Òúǡ 18
เกร็ดแนะครู เชน
ครูอธิบายเพิ่มเติมวา การเขียนจํานวนในรูปกระจายไมสามารถสลับตําแหนงได 31 = 30 + 1 97 = 7 + 90
✓ ❍ ✗ ❍
นักเรียนควรรู 1 การเขียนตัวเลขในรูปกระจาย เปนการเขียนในรูปการบวกคาของตัวเลข ในหลักตางๆ ของจํานวนนับ
18
คูมือครู
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
จํานวนในขอใด มีคามากกวา 500 + 40 + 9 ก. 500 + 50 ข. 500 + 40 + 1 ค. 400 + 90 + 9 ง. 400 + 40 + 9 วิเคราะหคําตอบ ขอ ก. เพราะ 500 + 40 + 9 = 549 ซึ่ง ขอ ก. 500 + 50 = 550 ขอ ข. 500 + 40 + 1 = 541 ขอ ค. 400 + 90 + 9 = 499 ขอ ง. 400 + 40 + 9 = 449 ดังนั้น 500 + 50 มีคามากกวา 500 + 40 + 9
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
Engage
Explore
Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
Expand าใจ ขยายความเข
Evaluate ตรวจสอบผล
ขยายความเขาใจ
Expand
ใหนักเรียนพิจารณาเรื่องการเขียนตัวเลข ในรูปกระจาย จากหนังสือเรียน หนา 18 จากนั้นยกตัวอยางเพิ่มเติมโดยการเขียนจํานวนนับ ไมเกิน 1,000 และใหนักเรียนชวยกันเขียนจํานวน ในรูปกระจาย บนกระดาน เชน • เขียนรูปกระจายของ 505 (ตอบ 505 = 500 + 5) จากนั้นครูแนะนําวา เลข 0 ที่ยึดหลักสิบใน จํานวนนี้ หรือจํานวนอื่นๆ ไมนิยมเขียนคาประจํา หลักของเลข 0 ลงในการแสดงรูปกระจายของ จํานวน
กิจกรรมฝึกฝนทักษะ
1. เขียนรูปกระจายของจ�านวนต่อไปนี้ลงในสมุด 1) 136 4) 302 7) 678 10) 951 2) 299 5) 486 8) 850 11) 764 3) 376 6) 622 9) 812 12) 977
ตรวจสอบผล
2. บอกจ�านวนที่มีรูปกระจายต่อไปนี้ 1) 100 + 80 + 5 6) 500 + 4 2) 700 + 3 7) 300 + 60 + 2 3) 200 + 70 + 3 8) 600 + 7 4) 900 + 0 9) 800 + 30 + 9 5) 400 + 10 + 7 10) 600 + 90 + 8 3. เขียนเป็นตัวเลขฮินดูอารบิก และเขียนในรูปกระจาย จากจ�านวน ต่อไปนี้ โดยท�าลงในสมุด 1) 2 ร้อย กับ 1 สิบ กับ 9 หน่วย 2) 4 ร้อย กับ 8 สิบ กับ 2 หน่วย 3) 6 ร้อย กับ 7 สิบ กับ 0 หน่วย 4) 5 ร้อย กับ 0 สิบ กับ 4 หน่วย 5) 8 ร้อย กับ 9 สิบ กับ 1 หน่วย
Evaluate
1. ใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกฝนทักษะจาก หนังสือเรียน หนา 19 ขอ 1. ลงในสมุด แลวรวมกันเฉลย 2. ใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกฝนทักษะจาก หนังสือเรียน หนา 19 ขอ 2.-3. ลงในสมุด เปนการบาน
19
จํานวนในขอใด มีคามากกวา 951 ก. 900 + 60 ข. 900 + 50 ค. 800 + 50 ง. 800 + 90 + 9
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
วิเคราะหคําตอบ ขอ ก. เพราะ ขอ ก. 900 + 60 ขอ ข. 900 + 50 ขอ ค. 800 + 50 ขอ ง. 800 + 90 + 9 ดังนั้น 900 + 60 มีคามากกวา 951
มุม IT นักเรียนสามารถทําแบบฝกหัดเพิ่มเติมไดที่ http://www.myfirstbrain.com คลิกไปที่ แบบฝกหัดคณิตศาสตร คลิกเลือก ป.2 คลิกเลือก แบบฝกทักษะเรื่อง จํานวนนับไมเกิน 1,000 (ชุดที่ 3 และชุดที่ 4)
= = = =
960 950 850 899
คูมือครู
19
กระตุน ความสนใจ กระตุEngage นความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
กระตุน ความสนใจ
Engage
ครูถามนักเรียนวา • 59 เปนจํานวนที่มีกี่หลัก อะไรบาง (ตอบ 2 หลัก คือ หลักหนวย และหลักสิบ) • 603 เปนจํานวนที่มีกี่หลัก อะไรบาง (ตอบ 3 หลัก คือ หลักหนวย หลักสิบ และ หลักรอย) • 1,000 เปนจํานวนที่มีกี่หลัก อะไรบาง (ตอบ 4 หลัก คือ หลักหนวย หลับสิบ หลักรอย และหลักพัน)
1.3 การเปรียบเทียบจ�1 านวน และการใช้เครื่องหมาย 2 =, =, >, <
จ�ำนวนสองจ�ำนวน เมื่อน�ำมำเปรียบเทียบกัน อำจ เท่ำกัน หรือไม่เท่ำกัน และถ้ำไม่เท่ำกันอำจมำกกว่ำ หรือ น้อยกว่ำ เครื่องหมำย =, =, >, < เป็นเครื่องหมำยใช้แสดงกำร เปรียบเทียบ à¤Ã×Íè §ËÁÒ à¤Ã×Íè §ËÁÒ à¤Ã×Íè §ËÁÒ à¤Ã×Íè §ËÁÒÂ
= = > <
á·¹ á·¹ á·¹ á·¹
෋ҡѺ äÁ‹à·‹Ò¡Ñº ÁÒ¡¡Ç‹Ò ¹ŒÍ¡NjÒ
ตัวอย่าง
37 ไม่เท่ำกับ 45 37 = 45
158 ไม่เท่ำกับ 79 158 = 79
65 เท่ำกับ 65 65 = 65
140 เท่ำกับ 140 140 = 140
20
นักเรียนควรรู 1 เปรียบเทียบ เปนการพิจารณาเทียบเคียงใหเห็นลักษณะที่เหมือนหรือ แตกตางกัน ในทางคณิตศาสตร ใชในการเปรียบเทียบจํานวนนับ เพื่อใหทราบวา มากกวา เทากัน หรือนอยกวากัน 2 เครื่องหมาย เปนสิ่งที่ทําขึ้นแสดงความหมายเพื่อจดจําหรือกําหนดรู เชน เครื่องหมายมากกวา (>) เครื่องหมายนอยกวา (<) เปนตน
20
คูมือครู
ขอสอบเนน การคิด แนว NT ขอใดไมถูกตอง ก. 96 ≠ ≠ 69 ข. 240 < ≠ 440 ค. 83 = ≠ 38 ง. 655 > ≠ 374
วิเคราะหคําตอบ ขอ ค. เพราะ 83 > 38
กระตุนความสนใจ Engage
สํารวจคนหา สํารวจค Exploreนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
สํารวจคนหา
Explore
ครูเขียนจํานวนนับไมเกิน 1,000 สองจํานวนที่ มีจํานวนหลักเทากันบนกระดาน เชน 556 กับ 499 แลวใหนักเรียนตอบคําถามตอไปนี้ • จํานวน 556 กับ 499 มีจํานวนหลักเทากัน หรือไม (ตอบ เทากัน) • จํานวน 556 เลขโดดในหลักซายมือสุดมีคา เทาไร (ตอบ 5 รอย) • จํานวน 499 เลขโดดในหลักซายมือสุดมีคา เทาไร (ตอบ 4 รอย) • จํานวนใดมีคามากกวา เพราะเหตุใด (ตอบ 556 เพราะเลขโดดในหลักรอยมีคา มากกวา) • จํานวนใดมีคานอยกวา เพราะเหตุใด (ตอบ 499 เพราะเลขโดดในหลักรอยมีคา นอยกวา)
กิจกรรมฝึกฝนทักษะ 1
1. จ�านวนในข้อใด เท่ากัน ให้ ให้ตอบด้วยวาจา 1) 52 กับ 114 6) 198 กับ 189 2) 240 กับ 97 7) 207 กับ 702 3) 120 กับ 120 8) 521 กับ 521 4) 412 กับ 412 9) 649 กับ 664 5) 376 กับ 736 10) 735 กับ 735 2. จ�านวนในข้อใด ไม่เท่ากัน ให้ตอบด้วยวาจา 1) 89 กับ 189 6) 835 กับ 583 2) 131 กับ 131 7) 468 กับ 368 3) 342 กับ 432 8) 513 กับ 513 9) 961 กับ 960 4) 246 กับ 246 10) 696 กับ 669 5) 761 กับ 167 โดยท�าลงในสมุด หรือ = ลงใน = ลงใน โดยท� 3. เขียนเครื่องหมาย = หรื 6) 435 475 1) 94 49 2) 102 102 7) 507 507 863 3) 261 621 8) 836 672 768 4) 672 9) 768 5) 340 340 10) 865 658 21
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
จํานวนในขอใด มีคามากกวา 647 แตนอยกวา 735 ก. 548 ข. 646 ค. 701 ง. 843 วิเคราะหคําตอบ ขอ ค. เพราะ ขอ ก. 548 นอยกวา ขอ ข. 646 นอยกวา ขอ ค. 701 มากกวา ขอ ง. 843 มากกวา
647 647 647 647
และ 735 และ 735 และ 701 นอยกวา 735 และ 735
เกร็ดแนะครู ในการตอบดวยวาจา ครูควรใชวิธีการใหนักเรียนอาสาสมัครเปนผูตอบ โดยพยายามกระจายการตอบใหทั่วทั้งชั้น
นักเรียนควรรู 1 วาจา คือ ถอยคําที่พูดออกมาเปนภาษา เพื่อใหผูฟงฟงแลวเขาใจและรูเรื่อง
คูมือครู
21
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
สํารวจคนหา
Exploreนหา สํารวจค
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
Explore
1. ครูเขียนจํานวนนับไมเกิน 1,000 สองจํานวนที่มี จํานวนหลักไมเทากันบนกระดาน เชน 108 กับ 87 แลวใหนักเรียนตอบคําถามตอไปนี้ • จํานวน 108 กับ 87 มีจํานวนหลักเทากัน หรือไม (ตอบ ไมเทากัน) • จํานวน 108 มีจํานวนกี่หลัก (ตอบ 3 หลัก) • จํานวน 87 มีจํานวนกี่หลัก (ตอบ 2 หลัก) • จํานวนใดมีคามากกวา เพราะเหตุใด (ตอบ 108 เพราะมีจํานวนหลักมากกวา) • จํานวนใดมีคานอยกวา เพราะเหตุใด (ตอบ 87 เพราะมีจํานวนหลักนอยกวา) 2. ใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกฝนทักษะ จากหนังสือเรียน หนา 21 ขอ 1.-2. โดยใหนักเรียนชวยกันตอบ 3. ใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกฝนทักษะ จากหนังสือเรียน หนา 21 ขอ 3. ลงในสมุด
1. การเปรียบเทียบจ�านวนสองจ�านวนทีม่ จี า� นวนหลัก ไม่เท่ากัน ¡ÒÃà»ÃÕºà·Õº¨íҹǹÊͧ¨íҹǹ·ÕÁè ¨Õ Òí ¹Ç¹ËÅÑ¡äÁ‹à·‹Ò¡Ñ¹ ¨íҹǹ㴷ÕÁè ¨Õ Òí ¹Ç¹ËÅÑ¡ÁÒ¡¡Ç‹Ò ¨íҹǹ¹Ñ¹é ¨ÐÁÒ¡¡Ç‹Ò ¨íҹǹ㴷ÕÁè ¨Õ Òí ¹Ç¹ËÅÑ¡¹ŒÍÂ¡Ç‹Ò ¨íҹǹ¹Ñ¹é ¨Ð¹ŒÍÂ¡Ç‹Ò ตัวอย่างที่ 1
ร้อย สิบ หน่วย
กับ
ร้อย สิบ หน่วย
142 เป็นจ�ำนวนที่มีสำมหลัก 56 เป็นจ�ำนวนที่มีสองหลัก เนื่องจำก 142 มีจ�ำนวนหลักมำกกว่ำ 56 ดังนั้น 142 มำกกว่ำ 56 หรือ 142 > 56 ตัวอย่างที่ 2
ร้อย สิบ หน่วย
กับ
ร้อย สิบ หน่วย
57 เป็นจ�ำนวนที่มีสองหลัก 135 เป็นจ�ำนวนที่มีสำมหลัก เนื่องจำก 57 มีจ�ำนวนหลักน้อยกว่ำ 135 ดังนั้น 57 น้อยกว่ำ 135 หรือ 57 < 135 22
เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมวา จํานวน 10 - 99 เปนจํานวนที่มีสองหลัก ดังนั้น ถาเปรียบเทียบจํานวนที่มีสองหลักกับจํานวนที่มีสามหลัก จํานวนที่มีสามหลักยอมมีคามากกวาจํานวนที่มีสองหลักเสมอ
22
คูมือครู
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
จํานวนในขอใดมีคามากกวา 432 ก. 3 รอย กับ 4 สิบ กับ 5 หนวย ข. 4 รอย กับ 5 สิบ กับ 8 หนวย ค. 4 รอย กับ 2 สิบ กับ 3 หนวย ง. 3 รอย กับ 8 สิบ กับ 6 หนวย วิเคราะหคําตอบ ขอ ข. เพราะ ขอ ก. 3 รอย กับ 4 สิบ กับ 5 หนวย คือ 345 ซึ่ง 345 นอยกวา 432 ขอ ข. 4 รอย กับ 5 สิบ กับ 8 หนวย คือ 458 ซึ่ง 458 มากกวา 432 ขอ ค. 4 รอย กับ 2 สิบ กับ 3 หนวย คือ 423 ซึ่ง 423 นอยกวา 432 ขอ ง. 3 รอย กับ 8 สิบ กับ 6 หนวย คือ 386 ซึ่ง 386 นอยกวา 432
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
อธิบายความรู
Explain
1. ครูติดบัตรตัวเลขแสดงจํานวนนับไมเกิน 1,000 สองจํานวนที่มีจํานวนหลักไมเทากัน บนกระดาน ดังนี้
กิจกรรมฝึกฝนทักษะ
99
1. จ�านวนใดมากกว่า เพราะเหตุใด ให้ตอบด้วยวาจา 1) 42 กับ 124 6) 44 กับ 190 2) 112 กับ 86 7) 51 กับ 140 3) 34 กับ 375 8) 29 กับ 137 4) 148 กับ 95 9) 492 กับ 66 5) 73 กับ 246 10) 216 กับ 46 2. จ�านวนใดน้อยกว่า เพราะเหตุใด ให้ตอบด้วยวาจา 1) 154 กับ 55 6) 109 กับ 84 2) 575 กับ 61 7) 120 กับ 52 3) 217 กับ 25 8) 750 กับ 97 4) 43 กับ 254 9) 29 กับ 165 5) 69 กับ 218 10) 615 กับ 96 โดยท�าลงในสมุด หรือ < ลงใน < ลงใน โดยท� 3. เขียนเครื่องหมาย > หรื 1) 48 163 6) 570 89 2) 450 60 7) 300 57 3) 59 163 8) 78 100 4) 673 95 9) 890 96 5) 46 185 10) 32 932
2. 3. 4. 5.
401
จากนั้นถามนักเรียนวา • จํานวน 99 กับ 401 จํานวนใดมีคามากกวา เพราะเหตุใด (ตอบ 401 มีคามากกวา เพราะมีจํานวนหลัก มากกวา) แลวครูอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนเขาใจวา • การเปรียบเทียบจํานวนที่มีหลักไมเทากัน จํานวนที่มีจํานวนหลักมากกวา จะมีคา มากกวา ครูสุมเรียกนักเรียนเขียนประโยคสัญลักษณ แสดงการเปรียบเทียบบนกระดาน ดังนี้ 99 < 401 หรือ 401 > 99 ใหนักเรียนเปรียบเทียบจํานวนนับไมเกิน 1,000 ที่มีหลักไมเทากันอีก 1-2 คู โดยจัดกิจกรรม ในทํานองเดียวกับ ขอ 1. และขอ 2. ใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกฝนทักษะ จากหนังสือเรียน หนา 23 ขอ 1.-2. โดยใหนักเรียนชวยกันตอบ ใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกฝนทักษะ จากหนังสือเรียน หนา 23 ขอ 3. ลงในสมุด
23
ขอใดถูกตอง ก. 329 > 429 ข. 866 > 989 ค. 570 < 760 ง. 636 < 219 วิเคราะหคําตอบ ขอ ค. เพราะ ขอ ก. ขอ ข. ขอ ค. ขอ ง.
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
มุม IT นักเรียนสามารถทําแบบฝกหัดเพิ่มเติมไดที่ http://www.myfirstbrain.com คลิกไปที่ แบบฝกหัดคณิตศาสตร คลิกเลือก ป.2 คลิกเลือก แบบฝกทักษะเรื่อง จํานวนนับไมเกิน 1,000 (ชุดที่ 9)
329 866 570 636
< < < >
429 989 760 219
คูมือครู
23
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู
อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
Explain
1. ครูติดบัตรตัวเลขแสดงจํานวนนับไมเกิน 1,000 สองจํานวนที่มีจํานวนสามหลักเทากัน บนกระดาน ดังนี้
321
อธิบายความรู
123
จากนั้นถามนักเรียนวา • จํานวน 321 กับ 123 มีจํานวนหลักเทากัน หรือไม (ตอบ เทากัน) • จํานวน 321 เลขโดดในหลักซายมือสุด มีคาเทาไร (ตอบ 3 รอย) • จํานวน 123 เลขโดดในหลักซายมือสุด มีคาเทาไร (ตอบ 1 รอย) • จํานวน 321 กับ 123 จํานวนใดมีคามากกวา เพราะเหตุใด (ตอบ 321 มีคามากกวา เพราะ 3 รอย มีคา มากกวา 1 รอย) 2. ครูสุมเรียกนักเรียนเขียนประโยคแสดงการ เปรียบเทียบบนกระดาน ดังนี้ 321 > 123 หรือ 123 < 321 3. ใหนักเรียนเปรียบเทียบจํานวนนับไมเกิน 1,000 ที่มีหลักเทากันอีก 1 - 2 คู โดยจัดกิจกรรม ในทํานองเดียวกับ ขอ 1. และขอ 2.
2. การเปรียบเทียบจ�านวนสองจ�านวนทีม่ จี า� นวนหลัก เท่ากัน ¡ÒÃà»ÃÕºà·Õº¨íҹǹÊͧ¨íҹǹ·ÕÁè ¨Õ Òí ¹Ç¹ËÅѡ෋ҡѹ ãËŒà»ÃÕºà·ÕºàŢⴴã¹ËÅÑ¡·Ò§«ŒÒÂÁ×ÍÊØ´¡‹Í¹ ¶ŒÒàŢⴴã¹ËÅÑ¡´Ñ§¡Å‹ÒÇ ¢Í§¨íҹǹã´ÁÒ¡¡Ç‹Ò ¨íҹǹ¹Ñ¹é ÁÒ¡¡Ç‹Ò ¶ŒÒàŢⴴã¹ËÅÑ¡´Ñ§¡Å‹ÒÇ෋ҡѹ ãËŒà»ÃÕºà·ÕºàŢⴴã¹ËÅÑ¡¶Ñ´ä»·Ò§¢ÇÒÁ×Í·ÕÅÐËÅÑ¡
ตัวอย่างที่ 1
ร้อย สิบ หน่วย
ร้อย สิบ หน่วย
354 กับ 243 เนื่องจำก 300 มำกกว่ำ 200 ดังนั้น 354 > 243
ตัวอย่างที่ 2
ร้อย สิบ หน่วย
ร้อย สิบ หน่วย
312 กับ 423 เนื่องจำก 300 น้อยกว่ำ 400 ดังนั้น 312 < 423
24
เกร็ดแนะครู ในการเตรียมสื่อการสอน เชน บัตรตัวเลข ครูอาจกําหนดจํานวนอื่นที่นอกเหนือ จากจํานวนที่เสนอแนะไวในคูมือก็ได แตควรสอดคลองกับเนื้อหาที่สอน
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
จํานวนในขอใด มีคานอยกวา 6 รอย กับ 3 สิบ กับ 9 หนวย ก. 679 ข. 653 ค. 618 ง. 692 วิเคราะหคําตอบ ขอ ค. เพราะ 6 รอย กับ 3 สิบ กับ 9 หนวย คือ 639 ซึ่ง ขอ ก. 679 มากกวา 639 ขอ ข. 653 มากกวา 639 ขอ ค. 618 นอยกวา 639 ขอ ง. 692 มากกวา 639
24
คูมือครู
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
อธิบายความรู
ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายจนไดขอสรุป เรื่องการเปรียบเทียบจํานวนสองจํานวนที่มี สามหลักวา ใหเปรียบเทียบคาของเลขโดด ในหลักรอยกอน • ถาจํานวนใดมีคาของเลขโดดในหลักรอย มากกวา จํานวนนั้นจะมากกวา • ถาจํานวนใดมีคาของเลขโดดในหลักรอย เทากัน ใหเปรียบเทียบคาของเลขโดดใน หลักสิบ ถาคาของเลขโดดในหลักสิบของ จํานวนใดมากกวา จํานวนนั้นจะมากกวา • ถาคาของเลขโดดในหลับสิบเทากัน ให เปรียบเทียบคาของเลขโดดในหลักหนวย ถาคาของเลขโดดในหลักหนวยของจํานวน ใดมากกวา จํานวนนั้นจะมากกวา
ตัวอย่างที่ 3
ร้อย สิบ หน่วย
Explain
ร้อย สิบ หน่วย
241 กับ 234 เนื่องจำกเลขโดดในหลักร้อยเท่ำกัน ต้องพิจำรณำเลขโดดในหลักสิบ พบว่ำ 40 มำกกว่ำ 30 ดังนั้น 241 มำกกว่ำ 234 หรือ 241 > 234 ตัวอย่างที่ 4
ร้อย สิบ หน่วย
ร้อย สิบ หน่วย
123 กับ 142 กเลขโดดในหลักร้อยเท่ำำกักัน เนื่องจำกเลขโดดในหลั ต้องพิจำรณำเลขโดดในหลักสิบ พบว่ำ 20 น้อยกว่ำ 40 ดังนั้น 123 น้อยกว่ำำ 142 หรือ 123 < 142 25
ขอใดไมถูกตอง ก. 231 ≠ 232 ข. 455 > 435 ค. 600 + 90 + 9 < 700 + 90 + 4 ง. 700 + 40 + 8 > 700 + 80 + 4
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
วิเคราะหคําตอบ ขอ ง. เพราะ 700 + 40 + 8 < 700 + 80 + 4 หรือ 748 < 784
เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมวา จํานวนสองจํานวนที่ไมเทากัน จะมีจํานวนใดจํานวนหนึ่ง มากกวาหรือนอยกวาอีกจํานวนหนึ่งเสมอ เชน 304 ไมเทากับ 403 ซึ่ง 304 นอยกวา 403 หรือ 403 มากกวา 304
คูมือครู
25
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
Engage
Explore
Explain
ขยายความเขาใจ
ขยายความเขาใจ Expand าใจ ขยายความเข
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
Expand
1. ครูสรุปเรื่องการเปรียบเทียบจํานวนนับไมเกิน 1,000 สองจํานวน ใหนักเรียนฟงอีกครั้ง ดังนี้ • การเปรียบเทียบจํานวนที่มีหลักเทากัน ใหเปรียบเทียบเลขโดดในหลักทางซายมือกอน ถาเลขโดดในหลักดังกลาวของจํานวนใด มากกวา จํานวนนั้นจะมีคามากกวา แตถา เลขโดดในหลักดังกลาวเทากันใหเปรียบเทียบ เลขโดดในหลักถัดไปทางขวามือทีละหลัก ดวยวิธีเดียวกัน • การเปรียบเทียบจํานวนที่มีหลักไมเทากัน จํานวนทีี่มีหลักมากกวาจะมีคามากกวา 2. ครูเปดโอกาสใหนักเรียนไดซักถามในสิ่งที่สงสัย และใหบอกสิ่งที่ไดเรียนรูและเขาใจในเรื่อง การเปรียบเทียบจํานวนสองจํานวนทีม่ หี ลายหลัก มาคนละ 1 ขอ
ตัวอย่างที่ 5
ร้อย สิบ หน่วย
ร้อย สิบ หน่วย
635 กับ 632 เนื่องจำกเลขโดดในหลักร้อยและหลักสิบเท่ำกัน ต้องพิจำรณำเลขโดดในหลักหน่วย พบว่ำ 5 มำกกว่ำ 2 ดังนั้น 635 มำกกว่ำ 632 หรือ 635 > 632 ตัวอย่างที่ 6
ร้อย สิบ หน่วย
ร้อย สิบ หน่วย
423 กับ 426 เนื่องจ งจำกเลขโดดในหลั กเลขโดดในหลักร้อยและหลักสิบเท่ำกัน ต้องพิจำรณำเลขโดดในหลั ำรณำเลขโดดในหลั เลขโดดในหลักหน่วย พบว่ำ 3 น้อยกว่ำ 6 ดังนั้น 423 น้อยกว่ำ 426 หรือ 423 < 426 26
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
เกร็ดแนะครู ครูแนะนําเทคนิคการจําเครื่องหมายมากกวา (>) และนอยกวา (<) วา จํานวนที่ อยูท างดานกวางของเครือ่ งหมายเปนจํานวนทีม่ ากกวา และจํานวนทีอ่ ยูท างดานแคบ ของเครื่องหมายเปนจํานวนที่นอยกวาเสมอ
596 834
26
คูมือครู
> <
569 843
ขอใดถูกตอง ก. 79 - 53 > ข. 62 + 23 > ค. 65 - 19 = ง. 73 + 17 ≠≠
32 + 56 99 - 47 42 - 19 58 + 32
วิเคราะหคําตอบ ขอ ข. เพราะ ขอ ก. 79 - 53 > 32 + 56 เพราะ 26 < 88 ขอ ข. 62 + 23 > 99 - 47 เพราะ 85 > 52 ขอ ค. 65 - 19 = 42 - 19 เพราะ 46 ≠ 23 ขอ ง. 73 + 17 ≠ 58 + 32 เพราะ 90 = 90
✗ ✓ ✗ ✗
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
Engage
Explore
Explain
Expand
ตรวจสอบผล Evaluate ตรวจสอบผล Evaluate
ตรวจสอบผล
Evaluate
1. ใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกฝนทักษะ จากหนังสือเรียน หนา 27 ขอ 2. และขอ 3. โดยใหนักเรียนชวยกันตอบ 2. ใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกฝนทักษะ จากหนังสือเรียน หนา 27 ขอ 1. และขอ 4. ลงในสมุด เปนการบาน
กิจกรรมฝึกฝนทักษะ
1. เขียนเครื่องหมาย = หรือ = ลงใน โดยท�าลงในสมุด 1) 125 136 5) 531 531 2) 169 169 6) 310 301 245 7) 682 3) 245 682 486 8) 769 4) 465 796 2. จ�านวนใดมากกว่า ให้ตอบด้วยวาจา 1) 107 กับ 126 5) 213 กับ 247 2) 195 กับ 459 6) 795 กับ 728 3) 548 กับ 514 7) 326 กับ 428 4) 465 กับ 410 8) 589 กับ 319 3. จ�านวนใดน้อยกว่า ให้ตอบด้วยวาจา 1) 113 กับ 135 5) 763 กับ 752 2) 461 กับ 279 6) 985 กับ 996 3) 344 กับ 242 7) 468 กับ 139 4) 545 กับ 345 8) 652 กับ 640 4. เขียนเครื่องหมาย > หรื หรือ < ลงใน < ลงใน โดยท� โดยท�าลงในสมุด 698 5) 298 198 1) 688 571 6) 986 991 2) 593 214 7) 1000 985 3) 212 606 8) 532 325 4) 600 27
ขอใดถูกตอง ก. 84 - 48 > ข. 36 + 22 < ค. 93 - 28 > ง. 58 + 30 >
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
นักเรียนสามารถทําแบบฝกหัดเพิ่มเติมไดที่ http://www.myfirstbrain.com คลิกไปที่ แบบฝกหัดคณิตศาสตร คลิกเลือก ป.2 คลิกเลือก แบบฝกทักษะเรื่อง จํานวนนับไมเกิน 1,000 (ชุดที่ 10)
78 50 47 91
วิเคราะหคําตอบ ขอ ค. เพราะ ขอ ก. 84 - 48 > 78 เพราะ 36 < 78 ขอ ข. 36 + 22 < 50 เพราะ 58 > 50 ขอ ค. 93 - 28 > 47 เพราะ 65 > 47 ขอ ง. 58 + 30 > 91 เพราะ 88 < 91
มุม IT
✗ ✗ ✓ ✗
คูมือครู
27
กระตุน ความสนใจ กระตุEngage นความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
กระตุน ความสนใจ
Engage
1. ครูซอนบัตรตัวเลข (จํานวนนับไมเกิน 1,000 ที่มีหลักเทากัน และไมเทากัน) ไวใตโตะของ นักเรียน 6 คน จากนั้นใหนักเรียนชวยกัน คนหาใหพบ 2. ครูสุมนักเรียนที่คนพบบัตรตัวเลขออกมา หนาชั้นเรียนทีละคู เพื่อชูบัตรตัวเลขใหเพื่อนดู และชวยกันเปรียบเทียบวา จํานวนใดมีคา มากกวา หรือนอยกวากัน 3. ครูถามนักเรียนวา • ถานักเรียนตองการเปรียบเทียบจํานวนที่มี หลายหลักมากกวาสองจํานวน นักเรียนจะมี หลักการเปรียบเทียบจํานวนอยางไร
1
1.4 การเรียงล�าดับจ�านวน
กำรเรียงล�ำดับจ�ำนวนหลำยๆ จ�ำนวน ท�ำได้โดยกำร เปรียบเทียบจ�ำนวนทุกจ�ำนวน แล้วเรียงล�ำดับจำกน้อยไป มำก หรือจำกมำกไปน้อยก็ได้ 1. จ�านวนที่มีเลขโดดในหลักร้อยเท่ากัน กำรเรียงล�ำดับจ�ำนวนจำกน้อยไปมำก เริ่มต้นจำก จ�ำนวนที่น้อยที่สุดก่อน แล้วตำมด้วยจ�ำนวนที่มำกขึ้น ตำมล�ำดับ เช่น • 115 116 117 • 242 256 279 294 • 412 437 456 470 483 กกำรเรี รเรียงล�ำดับจ�ำนวนจ นวนจำกมำกไปน้ นวนจำกม กม อย เริ่มต้นจำก จ�ำนวนที่มำกที กที่สุดก่อนน แล้วตตำมด้ มด้วยจ�ำนวนที่น้อยลง ตำมล� ตำ มล�ำดับ เช่ เช่น • 120 119 118 • 290 280 270 260 • 584 563 545 531 525 28
เกร็ดแนะครู ในการเตรียมสื่อการเรียนการสอน เชน บัตรตัวเลข ครูอาจกําหนดจํานวนอื่น นอกเหนือจากจํานวนที่เสนอแนะไวในคูมือครูก็ได แตควรใหสอดคลองกับเนื้อหา ที่สอน ครูกําหนดบัตรตัวเลขให 3 จํานวน 1 5 2 • ใหเรียงตัวเลขที่มีคามากที่สุด จะได 5 2 1 • ใหเรียงตัวเลขที่มีคานอยที่สุด จะได 1 2 5 ยกตัวอยางในทํานองเดียวกันอีก 2-3 ชุด
นักเรียนควรรู 1 เรียงลําดับ หมายถึง เรียงกันไวใหเปนระเบียบตามตําแหนง
28
คูมือครู
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
278 482 144 288 123 ขอใดเรียงลําดับจากมากไปนอยไดถูกตอง ก. 482 288 248 123 144 ข. 482 278 288 144 123 ค. 482 278 288 123 144 ง. 482 288 278 144 123 วิเคราะหคําตอบ ขอ ง. เพราะ 278 482 มากที่สุด นอยที่สุด 144 มากที่สุด 288 นอยที่สุด 123 เรียงลําดับจํานวนจากมากไปนอย ไดดังนี้ 482
278 144 288 288 278 144 123
กระตุนความสนใจ Engage
สํารวจคนหา สํารวจค Exploreนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
สํารวจคนหา ครูติดบัตรตัวเลขบนกระดาน ดังนี้
ตัวอย่างที่ 1
85 1,000
เรียงล�ำดับจ�ำนวนจำกมากไปน้อย 168 195 184 แนวคิด เลขโดดในหลักร้อยเท่ำกันทุกจ�ำนวน ให้พิจำรณำที่หลักสิบ ซึ่งเลขโดดที่หลักสิบของจ�ำนวนที่ม ำกที่สุด คือ 195 แล้ว พิจำรณำจ�ำนวนที่เหลือจะน้อยลง ตำมล�ำดับ
น้อยที่สุด 168 195 มำกที่สุด 184 เรียงล�ำดับจ�ำนวนจำกมำกไปน้อย ได้ดังนี้ 195 184 168 ตัวอย่างที่ 2
เรียงล�ำดับจ�ำนวนจำกน้อยไปมาก 243 256 217 225 แนวคิด เลขโดดในหลักร้อยเท่ำกันทุกจ�ำนวน นวน ให้พิจำรณำที ำ ที่หลักสิบ ซึ่งเลขโดดที่หลักสิบของจ�ำนวนที่น้อยที่สุด คือ 217 217 แล้ว พิจำรณำจ�จ�ำนวนที่เหลือจะมำกขึ จะม กขึ้น ตำมล� ตำมล�ำดับ
Explore
243 256 มำกที่สุด 225 < 243 225 < 243 น้อยที่สุด 217 225 ได้ดังนี้ เรียงล�ำดับจ�ำนวนจำกน้อยไปมำก ได้ 243 256 217 225 243 256
9 701
จากนั้นใหนักเรียนสังเกตจํานวนทุกจํานวน แลวถามวา • 85 เปนจํานวนที่มีกี่หลัก (ตอบ 2 หลัก) • 9 เปนจํานวนที่มีกี่หลัก (ตอบ 1 หลัก) • 1,000 เปนจํานวนที่มีกี่หลัก (ตอบ 4 หลัก) • 701 เปนจํานวนที่มีกี่หลัก (ตอบ 3 หลัก) • จํานวนใดมีจํานวนหลักมากที่สุด (ตอบ 1,000) • จํานวนใดมีจํานวนหลักรองลงมา (ตอบ 701) • ถานักเรียนเปรียบเทียบจํานวนมากกวา และนอยกวา โดยใชจํานวนหลัก จํานวนใด มีคามากที่สุด (ตอบ 1,000)
29
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
417 456 472 488 ควรเติมจํานวนใดลงในชองวาง จึงจะเปนการ เรียงลําดับจํานวนจากนอยไปมาก ก. 406 ข. 425 ค. 468 ง. 494
เกร็ดแนะครู ครูจดั กิจกรรมเพิม่ เติม โดยใหนกั เรียนกําหนดจํานวนขึน้ มาดวยตนเอง 5 จํานวน แลวนํามาเรียงลําดับจํานวนจากนอยไปมาก หรือจากมากไปนอย แลวออกมา แสดงผลที่หนาชั้น โดยครูและเพื่อนชวยกันตรวจสอบความถูกตอง
วิเคราะหคําตอบ ขอ ค. เพราะจํานวนที่นํามาเติมในชองวางตองเปน จํานวนที่มากกวา 456 แตนอยกวา 472 ซึ่ง ขอ ก. 406 นอยกวา 456 และ 472 ขอ ข. 425 นอยกวา 456 และ 472 ขอ ค. 468 มากกวา 456 และ 468 นอยกวา 472 ขอ ง. 494 มากกวา 456 และ 472 คูมือครู
29
สํารวจคนหา
กระตุนความสนใจ Engage
สํารวจคนหา
85 1,000
Exploreนหา สํารวจค
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
Explore
9 701
ตัวอย่างที่ 3
เรียงล�ำดับจ�ำนวนจำกมากไปน้อย 736 715 790 754 777
จากจํานวนบนกระดาน ครูสุมนักเรียนออกมา 2 คน ชวยกันเรียงบัตรตัวเลข 4 จํานวนบนกระดาน ดังนี้ • เรียงลําดับจํานวนจากนอยไปหามาก (ตอบ 9 85 701 1,000) • เรียงลําดับจํานวนจากมากไปหานอย (ตอบ 1,000 701 85 9)
แนวคิด เ ลขโดดในหลักร้อยเท่ำกันทุกจ�ำนวน ให้พิจำรณำที่หลักสิบ ซึ่งเลขโดดที่หลักสิบของจ�ำนวนที่ม ำกที่สุด คือ 790 แล้ว พิจำรณำจ�ำนวนที่เหลือจะน้อยลง ตำมล�ำดับ
736 น้อยที่สุด 715 น้อยที่สุด มำกที่สุด 790 754 มำกที่สุด 777 เรียงล�ำดับจ�ำนวนจำกมำกไปน้อย ได้ดังนี้ 790 777 754 736 715
736 754 777
2. จ�าานวนที นวนที่มีเลขโดดในหลักร้อยและหลักสิบเท่ากัน ตัวอย่างที่ 1
เรียงล�ำดับจ�ำนวนจำกน้ นวนจ กน้น้อยยไป นวนจำก นวนจำ ยไปมาก 431 439 435 มาก มาก
แนวคิด เลขโดดในหลั เ ลขโดดในหลักร้อยและหลักสิบเท่ำกันทุกจ�ำนวน ให้พิจำรณำ ที่หลักหน่วยย ซึ่งเลขโดดที่หลักหน่วยของจ�ำนวนที่น้อยที่สุด คือ 431 แล้ 431 แล้วพิจำรณำจ� ำรณ จ�ำนวนที่เหลือจะมำกขึ จะม ้น ตำมล�ำดับ
น้อยที่สุด มมำกที กที่สุด
431 439 435 เรียงล�ำดับจ�ำนวนจำกน้ นวนจ กน้อยไปม ยไปมำก ได้ดังนี้ 431 435 439
30
เกร็ดแนะครู ในการเตรียมการสอน ครูอาจนําจํานวนทีเ่ กีย่ วของกับชีวติ ประจําวันของนักเรียน มาใชในการเรียงลําดับจํานวน เชน • วันเกิดของนักเรียนในกลุม เชน 29 6 12 เรียงจํานวนจากนอยไปมาก 6 12 29 เรียงจํานวนจากมากไปนอย 29 12 6 • ความสูงของสมาชิกในครอบครัว เชน 135 170 151 เรียงจํานวนจากนอยไปมาก 135 151 170 เรียงจํานวนจากมากไปนอย 170 151 135
30
คูมือครู
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
ขอใดเรียงลําดับจํานวนจากนอยไปมาก ก. 180 236 194 338 441 ข. 764 586 437 104 97 ค. 255 311 314 670 760 ง. 111 121 107 142 130 วิเคราะหคําตอบ ขอ ค. เพราะ 255 311 314 670 760 เรียงลําดับจํานวนจากนอยไปหามาก ดังนี้ นอยที่สุด 255 311 นอยทีส่ ุด 311 314 314 670 670 มากที่สดุ 760 มากที่สุด
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
อธิบายความรู ตัวอย่างที่ 2
เรียงล�ำดับจ�ำนวนจำกน้อยไปมาก 265 268 263 260
แนวคิด เลขโดดในหลักร้อยและหลักสิบเท่ำกันทุกจ�ำนวน ให้พิจำรณำ ที่หลักหน่วย ซึ่งเลขโดดที่หลักหน่วยของจ�ำนวนที่น้อยที่สุด คือ 260 แล้วพิจำรณำจ�ำนวนที่เหลือจะมำกขึ้น ตำมล�ำดับ
265 มำกที่สุด 268 263 < 265 263 น้อยที่สุด 260 เรียงล�ำดับจ�ำนวนจำกน้อยไปมำก ได้ดังนี้ 260 263 265 268
ตัวอย่างที่ 3
เรียงล�ำดับจ�ำนวนจำกมากไปน้อย 684 687 685 681 683 685 681 685
แนวคิด เ ลขโดดในหลักร้อยและหลักสิบเท่ำกันทุกจ�ำนวน นวน ให้พิจำรณำ ำรณ ที่หลักหน่วย ซึ่งเลขโดดที่หลักหน่วยของจ�ำนวนที่มำกที กที่สุด คือ 687 แล้วพิจำรณำจ�จ�ำนวนที่เหลือจะน้อยลง ตำมล� ยลง ตำมล�ำดับ
6844 มำกที่สุด 68 687 685 มำกที มำกที กที่สุด น้อยที่สุด 681 น้อยที่สุด 683 เรียงล�ำดับจ�ำนวนจำกมำกไปน้อย ได้ ได้ดังนี้ 687 685 684 683 681 684 683 681
Explain
1. ครูแนะนํานักเรียน เรือ่ งการเรียงลําดับจํานวนวา • การเรียงลําดับจํานวน เปนการนําความรู เรื่องการเปรียบเทียบจํานวนมาชวยในการ พิจารณาวา จํานวนใดมากกวา จํานวนใด นอยกวา จากนั้นจึงนําจํานวนมาเรียงลําดับ ตามตองการ 2. ครูติดบัตรตัวเลขหลายหลัก 5 จํานวน บนกระดาน เชน 556 655 565 665 656 605 3. ครูสุมนักเรียนออกมาเขียนเรียงลําดับจํานวน จากนอยไปหามาก และจากมากไปหานอย จากนั้นรวมกันเฉลย 4. ครูจัดกิจกรรมในทํานองเดียวกับขอ 2. อีก 3 - 4 ขอ จากนั้นอธิบายใหนักเรียนฟง เพิ่มเติมวา • การเรียงลําดับจํานวนสามารถเรียงได 2 ลักษณะ คือ 1) การเรียงลําดับจํานวนจากนอยไปหามาก 2) การเรียงลําดับจํานวนจากมากไปหานอย
684 68 685 68 6833
31
บูรณาการเชื่อมสาระ
ครูบรู ณาการความรูใ นสาระคณิตศาสตรกบั สาระศิลปะ วิชาทัศนศิลป เรือ่ ง รูปทรง โดยใหนักเรียนวาดรูปหลักลูกคิด และเติมจํานวนของลูกคิดในแตละ หลักตามจํานวนที่ครูกําหนดให พรอมทั้งระบายสีใหสวยงามเพื่อใหนักเรียน เพิ่มทักษะการคิด
เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนฟงวา ลูกคิดเปนเครื่องคํานวณเลขของจีน ทําดวยไมเปนลูกกลมๆ รอยใสไวในราง
ลูกคิด (abacus)
คูมือครู
31
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
Engage
Explore
Explain
ขยายความเขาใจ
ขยายความเขาใจ Expand าใจ ขยายความเข
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
Expand
ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายจนไดขอสรุปวา • การเรียงลําดับจํานวนใหพิจารณาจากคาของ เลขโดดในแตละหลัก โดยพิจารณาทีละหลัก เริ่มจากหลักที่อยูทางซายมือสุดกอน ถาเลขโดดที่อยูในหลักที่พิจารณาของจํานวน ใดมากกวา แสดงวาจํานวนนั้นมีคามากกวา
3. จ�านวนที่มีเลขโดดในหลักร้อยไม่เท่ากัน ตัวอย่างที่ 1
เรียงล�ำดับจ�ำนวนจำกมากไปน้อย 346 123 534
แนวคิด เ ลขโดดในหลักร้อยไม่เท่ำกัน ให้พจิ ำรณำทีห่ ลักร้อย ซึง่ เลขโดด ที่หลักร้อยของจ�ำนวนที่มำกที่สุด คือ 534 แล้วพิจำรณำจ�ำนวน ที่เหลือจะน้อยลง ตำมล�ำดับ
346 123 น้อยที่สุด 534 มำกที่สุด เรียงล�ำดับจ�ำนวนจำกมำกไปน้อย ได้ดังนี้ 534 346 123
ตัวอย่างที่ 2
เรียงล�ำดับจ�ำนวนจ นวนจำกน้อยไปมาก 649 876 540 128 นวนจำก
แนวคิด เลขโดดในหลั เ ลขโดดในหลักร้อยไม่เท่ำกัน ให้พจิ ำรณำทีห่ ลักร้อย ซึง่ เลขโดด ที่หลักร้อยของจ�ำนวนที่น้อยที่สุด คือ 128 แล้วพิจำรณำจ�ำนวน จะมำกขึ้น ตำมล� ตำมล� ำมล�ำดับ ที่เหลือจะมำกขึ
มำกที ม กที่สุด
649 49 876 540 < 649 540 540 128 น้อยที่สุด เรียงล�ำดับจ�ำนวนจ นวนจำกน้ กน้อยไปม ยไปมำก ได้ดังนี้ 128 128 540 649 876 540 649 876 32
เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนฟงวา การเรียงลําดับจํานวน 5 จํานวน ใชหลักการ เดียวกับการเรียงลําดับ 3 จํานวน และ 4 จํานวน โดยใหเปรียบเทียบจํานวนทีละคู โดยพิจารณาคาของเลขโดดที่อยูในตําแหนงทางซายมือกอนเสมอ
32
คูมือครู
กิจกรรมสรางเสริม จากกิจกรรมบูรณาการเชื่อมสาระในหนา 31 ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3-5 คน แลวใหทุกคนในแตละกลุมเขียนจํานวนของตนเอง ในหลักลูกคิด จากนั้นนําจํานวนทั้งหมดมาเรียงลําดับจํานวนจากมาก ไปนอย และจากนอยไปมาก โดยทําลงในกระดาษ
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
Engage
Explore
Explain
ขยายความเขาใจ Expand าใจ ขยายความเข
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
ขยายความเขาใจ ตัวอย่างที่ 3
เรียงล�ำดับจำกมากไปน้อย 272 843 610 349 951
แนวคิด เ ลขโดดในหลักร้อยไม่เท่ำกัน ให้พจิ ำรณำทีห่ ลักร้อย ซึง่ เลขโดด ที่หลักร้อยของจ�ำนวนที่มำกที่สุด คือ 951 แล้วพิจำรณำจ�ำนวน ที่เหลือจะน้อยลง ตำมล�ำดับ
น้อยที่สุด
272 843 มำกที่สุด 610 349 น้อยที่สุด มำกที่สุด 951 เรียงล�ำดับจ�ำนวนจำกมำกไปน้อย ได้ดังนี้ 951 843 610 349 272
843 610 349
Expand
ครูแบงนักเรียนออกเปน 4 กลุม จากนั้นแจก บัตรตัวเลขแสดงจํานวน กลุมละ 5 ใบ ใบละ 1 จํานวน โดยเปนจํานวนไมเกิน 1,000 แลวปฏิบัติ ตามคําสั่งครู ดังนี้ กลุมที่ 1 เรียงลําดับจํานวนจากมากไปหานอย กลุมที่ 2 เรียงลําดับจํานวนจากนอยไปหามาก กลุมที่ 3 เรียงลําดับจํานวนจากนอยไปหามาก กลุมที่ 4 เรียงลําดับจํานวนจากมากไปหานอย กลุมใดเรียงไดเสร็จกอนและถูกตองเปนผูชนะ
¡ÒÃàÃÕ§ÅíҴѺ¨íҹǹãËŒ¾¨Ô ÒóҨҡ¤‹Ò¢Í§àŢⴴ ã¹áµ‹ÅÐËÅÑ¡ â´Â¾Ô¨ÒóҷÕÅÐËÅÑ¡ àÃÔÁè ¨Ò¡ËÅÑ¡·ÕÍè ÂÙ‹ «ŒÒÂÁ×ÍÊØ´¡‹Í¹ ¶ŒÒàŢⴴ·ÕÍè ÂÙã‹ ¹ËÅÑ¡·Õ¾è ¨Ô ÒóҢͧ ¨íҹǹã´ÁÒ¡¡Ç‹Ò áÊ´§Ç‹Ò¨íҹǹ¹Ñ¹é ÁÕ¤Ò‹ ÁÒ¡¡Ç‹Ò
¶ŒÒà¾×Íè ¹æ ࢌÒã¨àÃ×Íè §¡ÒÃàÃÕ§ÅíҴѺáÅŒÇ àÃÒÅͧ份ƒ¡·íÒ¡Ô¨¡ÃÃÁ½ƒ¡½¹·Ñ¡ÉСѹàŤ‹Ð 33
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
ขอใดเรียงลําดับจากนอยไปหามากไดถูกตอง (1) 79 83 91 103 218 (2) 101 97 23 15 1 (3) 546 213 148 69 44 (4) 52 81 333 519 999 ก. ขอ (1) และ (2) ข. ขอ (3) และ (4) ค. ขอ (1) และ (4) ง. ขอ (2) และ (3)
เกร็ดแนะครู ครูสุมนักเรียนออกมาอธิบายการเรียงลําดับจํานวนทีละขอ เพื่อตรวจสอบวา นักเรียนมีความเขาใจที่ถูกตองเกี่ยวกับการเรียงลําดับจํานวนมากนอยเพียงใด
วิเคราะหคําตอบ ขอ ค. เพราะ ขอ (1) 79 83 91 103 218 นอยที่สุด
มากที่สุด
นอยที่สุด
มากที่สุด
ขอ (4) 52 81 333 519 999
ดังนั้น ขอ (1) และขอ (4) จึงเปนการเรียงลําดับจากนอยไปหามาก คูมือครู
33
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
Engage
Explore
Explain
Expand
ตรวจสอบผล
ตรวจสอบผล Evaluate ตรวจสอบผล Evaluate
Evaluate
1. ใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกฝนทักษะ จากหนังสือเรียน หนา 34 ขอ 1. ลงในสมุด แลวรวมกันเฉลย 2. ใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกฝนทักษะ จากหนังสือเรียน หนา 34 ขอ 2. ลงในสมุด เปนการบาน
กิจกรรมฝึกฝนทักษะ
1. เรียงล�าดับจ�านวนจากน้อยไปมาก โดยท�าลงในสมุด 1) 194 198 192 2) 357 358 356 3) 441 768 342 593 4) 219 201 274 235 5) 755 750 754 751 753 6) 512 675 428 747 361 7) 693 271 851 923 456 2. เรียงล�าดั าดับจ�านวนจาก นวนจากมากไปน้อย โดยท�าลงในสมุด 1) 232 275 280 2) 574 572 575 3) 152 645 940 246 4) 425 691 230 761 5) 623 620 627 624 629 6) 384 693 882 530 410 7) 731 895 211 463 370 34
มุม IT นักเรียนสามารถทําแบบฝกหัดเพิ่มเติมไดที่ http://www.myfirstbrain.com คลิกไปที่ แบบฝกหัดคณิตศาสตร คลิกเลือก ป.2 คลิกเลือก แบบฝกทักษะเรื่อง จํานวนนับไมเกิน 1,000 (ชุดที่ 11 และชุดที่ 12)
34
คูมือครู
กิจกรรมทาทาย ใหนักเรียนสรางโจทยจํานวนมาคนละ 5 จํานวน โดยจะตองไมเกิน 1,000 แลวเขียนบนกระดานใหเพื่อนๆ ชวยกันเรียงลําดับจํานวนจาก มากไปนอย และจากนอยไปมาก
กระตุน ความสนใจ กระตุEngage นความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
กระตุน ความสนใจ
1.5 การนับเพิ่ม1ทีละ 5 ทีละ 10 และทีละ 100
กำรนับเพิ่มทีละ 5 ทีละ 10 หรือทีละ 100 เป็นกำรน�ำ 2 จ�ำนวน 5 10 หรือ 100 บวกกับจ�ำนวนเริ่มต้นแล้วบวก ผลบวกด้วยจ�ำนวนเดิมต่อไปตำมล�ำดับ 1. การนับเพิ่มทีละ 5 ตัวอย่างที่ 1
132
137
132 + 5
142 137 + 5
147
Engage
ครูถามนักเรียนวา •1+5= (ตอบ 6) •6+5= (ตอบ 11) • 11 + 5 = (ตอบ 16) • 1 + 5, 6 + 5, 11 + 5 ตัวบวกของโจทย ทั้ง 3 โจทยคือตัวใด (ตอบ 5)
142 + 5
ตัวอย่างที่ 2
250
255
250 + 5
260 255 + 5
265 260 + 5
ตัวอย่างที่ 3
349
354
349 + 5
359 354 + 5
364 359 + 5
¡ÒùѺà¾ÔÁè ·ÕÅÐ 5 ໚¹¡Òúǡ´ŒÇ 5 ¡Ñº¨íҹǹàÃÔÁè µŒ¹ áŌǺǡ¼ÅºÇ¡ ´ŒÇ 5 µ‹Í仵ÒÁÅíҴѺ 35
ขอใดเปนการนับเพิ่มทีละ 5 ก. 110 112 114 116 ข. 220 230 240 250 ค. 414 419 424 429 ง. 560 561 562 563
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
นักเรียนควรรู 1 การนับเพิ่ม คือ การบวกเขาไปกับจํานวนที่กําหนดทีละเทาๆ กัน 2 บวก คือ การนําจํานวนหนึ่งรวมเขากับอีกจํานวนหนึ่ง หรือหลายจํานวน ใหเปนจํานวนเพิ่มขึ้นจํานวนเดียวกัน
วิเคราะหคําตอบ ขอ ค. เพราะ 414 419 424 429 เปนการบวกดวย 5 กับจํานวนเริ่มตน แลวบวกผลบวกดวย 5 ตอไปตามลําดับ ดังนี้ 414 + 5 = 419 419 + 5 = 424 424 + 5 = 429
คูมือครู
35
สํารวจคนหา
กระตุนความสนใจ Engage
Exploreนหา สํารวจค
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
สํารวจคนหา
Explore
1. ครูเขียนจํานวนทีเ่ พิม่ ขึน้ ทีละ 5 บนกระดาน เชน
5
10
15
20
...
จากนั้นถามนักเรียนวา • จาก 5 ไป 10 เพิ่มขึ้นครั้งละเทาใด (ตอบ ครั้งละ 5) • จาก 10 ไป 15 เพิ่มขึ้นครั้งละเทาใด (ตอบ ครั้งละ 5) • จาก 15 ไป 20 เพิ่มขึ้นครั้งละเทาใด (ตอบ ครั้งละ 5) • จํานวนตอจาก 20 คือจํานวนใด (ตอบ 25) 2. ครูจัดกิจกรรมเรื่องการนับเพิ่มทีละ 10 และ การนับเพิ่มทีละ 100 ในทํานองเดียวกับขอ 1.
2. การนับเพิ่มทีละ 10 ตัวอย่างที่ 1
225
ตัวอย่างที่ 2
ตัวอย่างที่ 3
ตัวอย่างที่ 4
235
225 + 10
412
658
668
432
793 + 10
803 + 10
442 432 + 10
678
668 + 10
803
255 245 + 10
422 + 10
658 + 10
793
235 + 10
422
412 +10
245
688 678 + 10
813
823 813 + 10
¡ÒùѺà¾ÔÁè ·ÕÅÐ 10 ໚¹¡Òúǡ´ŒÇ 10 ¡Ñº¨íҹǹàÃÔÁè µŒ¹ áŌǺǡ¼ÅºÇ¡ ´ŒÇ 10 µ‹Í仵ÒÁÅíҴѺ 36
เกร็ดแนะครู ครูจัดกิจกรรมเกมเพิ่มเติม โดยใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 5 คน แลวใหแตละ กลุมนับเพิ่มทีละ 10 จากจํานวนเริ่มตนที่ครูกําหนดให กลุมละ 5 จํานวน ถากลุมใด ทําไดถูกตองใหครูกลาวชมเชย ถากลุมใดปฏิบัติไดไมถูกตอง ตองเริ่มนับเพิ่มจาก จํานวนใหมอีกครั้ง เชน ครูกําหนด : 41 กลุมที่ 1 : 41 51 61 71 81
36
คูมือครู
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
ขอใดเปนการนับเพิ่มทีละ 10 โดยที่ทุกจํานวนเปนจํานวนคี่ ก. 41 51 61 71 81 ข. 63 68 73 78 83 ค. 82 92 102 112 122 ง. 80 90 100 110 120
วิเคราะหคําตอบ ขอ ก. เพราะ 41 51 61 71 81 เปนการบวกดวย 10 กับจํานวนเริ่มตน แลวบวกผลบวกดวย 10 ตอไปตามลําดับ ดังนี้ 41 + 10 = 51 51 + 10 = 61 61 + 10 = 71 71 + 10 = 81 ซึ่ง 41 51 61 71 81 ทุกจํานวนเปนจํานวนคี่
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
อธิบายความรู
1. ครูอธิบายเพิ่มเติมเรื่องการนับเพิ่มทีละ 5 ใหนักเรียนเขาใจ ดังนี้
3. การนับเพิ่มทีละ 100
5
345
ตัวอย่างที่ 2
ตัวอย่างที่ 3
ตัวอย่างที่ 4
445
345 + 100
514
269
480 + 100
714
814
714 + 100
469
369 + 100
580
645
545 + 100
614 + 100
369
269 + 100
480
445 + 100
614
514 + 100
545
569
469 + 100
680
580 + 100
10
15
20
...
จาก 5 เพิ่มขึ้น 5 เปน 10 จาก 10 เพิ่มขึ้น 5 เปน 10 + 5 = 15 จาก 15 เพิ่มขึ้น 5 เปน 15 + 5 = 20 จาก 20 เพิ่มขึ้น 5 เปน 20 + 5 = 25 ดังนั้น จํานวนที่ตอจาก 20 คือ 25 ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายจนไดขอสรุปวา • จํานวนนับทางขวามือสัมพันธกับจํานวนนับ ทางซายมือ โดยจํานวนนับทางขวามือที่อยู ถัดไปเพิ่มขึ้น 5 ดังนั้น 5 10 15 20 25 เปนแบบรูปของจํานวนที่มีความสัมพันธกัน โดยเพิ่มขึ้นทีละ 5 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมเรื่องการนับเพิ่มทีละ 10 และการนับเพิ่มทีละ 100 ใหนักเรียนเขาใจ ในทํานองเดียวกับขอ 1.
ตัวอย่างที่ 1
Explain
780
680 + 100
¡ÒùѺà¾ÔÁè ·ÕÅÐ 100 ໚¹¡Òúǡ´ŒÇ 100 ¡Ñº¨íҹǹàÃÔÁè µŒ¹ áŌǺǡ¼ÅºÇ¡ ´ŒÇ 100 µ‹Í仵ÒÁÅíҴѺ 37
(1) 544 549 554 559 564 (2) 301 299 297 295 293 (3) 109 119 129 136 149 จํานวนในขอใดเปนการนับเพิ่มทีละ 5 ก. ขอ (1) ค. ขอ (3)
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
ข. ขอ (2) ง. ขอ (1) และ (3)
วิเคราะหคําตอบ ขอ ก. เพราะ 544 549 554 559 564 เปนการบวกดวย 5 กับจํานวนเริ่มตน แลวบวกผลบวกดวย 5 ตอไป ตามลําดับ ดังนี้ 544 + 5 = 549 549 + 5 = 554 554 + 5 = 559 559 + 5 = 564 สวนขอ (2) เปนการนับลดทีละ 2 และขอ (3) เปนการนับเพิ่มทีละ 10
เกร็ดแนะครู ครูจัดกิจกรรมเกมเพิ่มเติม โดยใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 5 คน แลวให แตละกลุมนับเพิ่มทีละ 100 จากจํานวนเริ่มตนที่ครูกําหนดให กลุมละ 5 จํานวน ถากลุมใดทําไดถูกตองใหครูกลาวชมเชย ถากลุมใดปฏิบัติไดไมถูกตอง ตองเริ่มนับ เพิ่มจากจํานวนใหมอีกครั้ง เชน ครูกําหนด : 108 กลุมที่ 1 : 108 208 308 408 508
คูมือครู
37
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
Engage
Explore
Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
Expand าใจ ขยายความเข
Evaluate ตรวจสอบผล
Expand
1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปอีกครั้งวา • การนับเพิ่มทีละ 5 เปนการบวกดวย 5 กับ จํานวนเริ่มตน แลวบวกผลบวกดวย 5 ตอไปตามลําดับ • การนับเพิ่มทีละ 10 เปนการบวกดวย 10 กับ จํานวนเริ่มตน แลวบวกผลบวกดวย 10 ตอไปตามลําดับ • การนับเพิ่มทีละ 100 เปนการบวกดวย 100 กับจํานวนเริ่มตน แลวบวกผลบวกดวย 100 ตอไปตามลําดับ 2. ครูยกตัวอยางการนับเพิ่มทีละ 5 การนับเพิ่ม ทีละ 10 และการนับเพิ่มทีละ 100 โดยเริ่มตน จากจํานวนนับตางๆ เพื่อใหนักเรียนไดเห็นวา การนับเพิ่มจะเริ่มจากจํานวนใดก็ได ไมจําเปน ตองเริ่มดวย 1
ตรวจสอบผล
ขยายความเขาใจ
Evaluate
1. ใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกฝนทักษะ จากหนังสือเรียน หนา 38 ขอ 1. ลงในสมุด แลวรวมกันเฉลย 2. ใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกฝนทักษะ จากหนังสือเรียน หนา 38 ขอ 2.-3. ลงในสมุด เปนการบาน
กิจกรรมฝึกฝนทักษะ
1. บอกด้วยวาจาว่าจ�านวนในแต่ละข้อต่อไปนี ้ นับเพิม่ ทีละเท่าใด 1) 157 162 167 172 2) 313 323 333 343 3) 208 308 408 508 4) 614 624 634 644 5) 426 436 446 456 6) 350 450 550 650 7) 916 921 926 931 8) 505 515 525 535 9) 763 768 773 778 10) 581 681 781 881 2. พิจารณาจ�าานวนต่ นวนต่อไปนี้ แล้วบอกจ�านวนใน ให้ถูกต้อง 1) 115 120 125 2) 229 239 259 766 3) 466 625 4) 605 5) 389 404 402 6) 202 3. เขี เขียนแบบรูปของจ�านวนทีจ่ า� นวนในแบบรูปมีความสัมพันธ์กนั โดยนับเพิ่มทีละะ 55 นับเพิ่มทีละะ 10 10 และนับเพิ่มทีละ 100 มาอย่างละ งละ 3 แบบรู 3 แบบรูป โดยท� โดยท�าลงในสมุด 38
มุม IT นักเรียนสามารถทําแบบฝกหัดเพิ่มเติมไดที่ http://www.myfirstbrain.com คลิกไปที่ แบบฝกหัดคณิตศาสตร คลิกเลือก ป.2 คลิกเลือก แบบฝกทักษะเรื่อง การนับเพิ่มและการคูณ (ชุดที่ 1 และชุดที่ 2)
กิจกรรมทาทาย ใหนักเรียนเติมแบบรูปของจํานวนที่จํานวนในแบบรูปมีความสัมพันธกัน
1
6
13
113
11 513 84
209
409 78
38
คูมือครู
83
94
104 609 98
กระตุน ความสนใจ กระตุEngage นความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
กระตุน ความสนใจ
1.6 การนับลดที ละ 2 ทีละ 10 และทีละ 100 1
กำรนับลดทีละ 2 ทีละ 10 หรือทีละ 100 เป็นกำรน�ำ จ�ำนวน 2 10 หรือ 100 ลบออกจำกจ�ำนวนเริ่มต้นแล้วลบ 2 ผลลบด้วยจ�ำนวนเดิมต่อไปตำมล�ำดับ 1. การนับลดทีละ 2 ตัวอย่างที่ 1
156
ตัวอย่างที่ 2
156 - 2
460
ตัวอย่างที่ 3
154 154 - 2
458
460 - 2
834
152 456
832
454 456 - 2
830 832 - 2
ครูถามนักเรียนวา • 10 - 2 = (ตอบ 8) •8-2= (ตอบ 6) •6-2= (ตอบ 4) • 10 - 2, 8 - 2, 6 - 2 ตัวลบของโจทย ทั้ง 3 โจทยคือตัวใด (ตอบ 2)
152 - 2
458 - 2
834 - 2
150
Engage
828 830 - 2
¡ÒùѺŴ·ÕÅÐ 2 ໚¹¡ÒÃź¨íҹǹàÃÔÁè µŒ¹ ´ŒÇ 2 áÅŒÇź¼Åź´ŒÇ 2 µ‹Í仵ÒÁÅíҴѺ 39
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
ขอใดเปนการนับลดทีละเทาๆ กัน ก. 159 157 156 154 ข. 380 379 375 374 ค. 638 636 634 632 ง. 818 812 810 804 วิเคราะหคําตอบ ขอ ค. เพราะ 638 636 638 - 2
636 - 2
นักเรียนควรรู 1 การนับลด คือ การลบออกจากจํานวนที่กําหนดทีละเทาๆ กัน 2 ลบ คือ การหักออก หรือเอาออก
634
632 634 - 2
คูมือครู
39
สํารวจคนหา
กระตุนความสนใจ
Exploreนหา สํารวจค
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
Engage
สํารวจคนหา
Explore
1. ครูเขียนจํานวนที่ลดลงทีละ 2 บนกระดาน เชน
12
10
8
6
2. การนับลดทีละ 10
....
จากนั้นถามนักเรียนวา • จาก 12 ไป 10 ลดลงครั้งละเทาใด (ตอบ ครั้งละ 2) • จาก 10 ไป 8 ลดลงครั้งละเทาใด (ตอบ ครั้งละ 2) • จาก 8 ไป 6 ลดลงครั้งละเทาใด (ตอบ ครั้งละ 2) • จํานวนตอจาก 6 คือจํานวนใด (ตอบ 4) 2. ครูจัดกิจกรรมเรื่องการนับลดทีละ 10 และ การนับลดทีละ 100 ในทํานองเดียวกับขอ 1.
1
ตัวอย่างที่ 1
268
ตัวอย่างที่ 2
ตัวอย่างที่ 3
ตัวอย่างที่ 4
258
268 - 10
543
248 258 - 10
533
543 - 10
725
523
715
623
513 523 - 10
705 715 - 10
613
623 - 10
248 - 10
533 -10
725 - 10
238
695 705 - 10
603 613 - 10
593 603 - 10
¡ÒùѺŴ·ÕÅÐ 10 ໚¹¡ÒÃź¨íҹǹàÃÔÁè µŒ¹ ´ŒÇ 10 áÅŒÇź¼Åź´ŒÇ 10 µ‹Í仵ÒÁÅíҴѺ 40
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
นักเรียนควรรู 1 การนับลดทีละ 10 จํานวนที่นับลดทีละ 10 จะเปนจํานวนคูหรือจํานวนคี่ ตามจํานวนที่นับเริ่มตนเสมอ เชน • 81 เปนจํานวนคี่ การนับลดทีละ 10 ดังนี้ 81 71 61 51 41 -10
-10
-10
• 264 เปนจํานวนคู การนับลดทีละ 10 ดังนี้ 264 254 244 -10
40
คูมือครู
-10
-10
234 -10
224 -10
ขอใดเปนการนับลดทีละ 2 โดยที่ทุกจํานวนเปนจํานวนคู ก. 12 17 22 27 32 ข. 40 38 36 34 32 ค. 92 102 112 122 132 ง. 106 116 126 136 146
วิเคราะหคําตอบ ขอ ข. เพราะ 40 38 36 34 32 เปนการลบจํานวน เริ่มตนดวย 2 แลวลบผลลบดวย 2 ตอไปตามลําดับ ดังนี้ 40 - 2 = 38 38 - 2 = 36 36 - 2 = 34 34 - 2 = 32 ซึ่ง 40 38 36 34 32 ทุกจํานวนเปนจํานวนคู
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
อธิบายความรู
3. การนับลดทีละ 100
1. ครูอธิบายเพิ่มเติมเรื่องการนับลดลงทีละ 2 ใหนักเรียนเขาใจ ดังนี้
1
12
841
ตัวอย่างที่ 2
ตัวอย่างที่ 3
ตัวอย่างที่ 4
741
841 - 100
600
500
600 - 100
303
500 - 100
203
303 - 100
1,000
741 - 100
203 - 100
900
1,000 - 100 900 - 100
641
541
641 - 100
400
300
400 - 100
103
10
8
6
...
จาก 12 ลดลง 2 เปน 10 จาก 10 ลดลง 2 เปน 10 - 2 = 8 จาก 8 ลดลง 2 เปน 8 - 2 = 6 จาก 6 ลดลง 2 เปน 6 - 2 = 4 ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายจนไดขอสรุปวา • จํานวนนับทางขวามือสัมพันธกับจํานวนนับ ทางซายมือ โดยจํานวนนับทางขวามือที่อยู ถัดไปลดลง 2 ดังนั้น 12 10 8 6 4 เปนแบบรูปของจํานวนที่มีความสัมพันธกัน โดยลดลงทีละ 2 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมการนับลดทีละ 10 และ การนับลดทีละ 100 ใหนักเรียนเขาใจในทํานอง เดียวกับขอ 1.
ตัวอย่างที่ 1
Explain
3
103 - 100
800
700
800 - 100
¡ÒùѺŴ·ÕÅÐ 100 ໚¹¡ÒÃź¨íҹǹàÃÔÁè µŒ¹ ´ŒÇ 100 áÅŒÇź¼Åź´ŒÇ 100 µ‹Í仵ÒÁÅíҴѺ 41
ขอใดเปนการนับลดทีละ 100 ก. 82 92 102 112 ข. 116 114 112 110 ค. 145 245 345 445 ง. 486 386 286 186
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
วิเคราะหคําตอบ ขอ ง. เพราะ 486 386 286 186 เปนการลบ จํานวนเริ่มตนดวย 100 แลวลบผลลบดวย 100 ตอไปตามลําดับ ดังนี้ 486 - 100 = 386 386 - 100 = 286 286 - 100 = 186
นักเรียนควรรู 1 การนับลดทีละ 100 จํานวนที่นับลดทีละ 100 จะเปนจํานวนคู หรือจํานวนคี่ ตามจํานวนที่นับเริ่มตนเสมอ เชน • 973 เปนจํานวนคี่ การนับลดทีละ 100 ดังนี้ 973 873 773 673 573 -100
-100
-100
• 726 เปนจํานวนคู การนับลดทีละ 100 ดังนี้ 726 626 526 -100
-100
-100
426 -100
326 -100
คูมือครู
41
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
Engage
Explore
Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
Expand าใจ ขยายความเข
Evaluate ตรวจสอบผล
Expand
1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปอีกครั้งวา • การนับลดทีละ 2 เปนการลบจํานวนเริ่มตน ดวย 2 แลวลบผลลบดวย 2 ตอไปตามลําดับ • การนับลดทีละ 10 เปนการลบจํานวนเริ่มตน ดวย 10 แลวลบผลลบดวย 10 ตอไป ตามลําดับ • การนับลดทีละ 100 เปนการลบจํานวนเริ่มตน ดวย 100 แลวลบผลลบดวย 100 ตอไป ตามลําดับ 2. ครูยกตัวอยางการนับลดทีละ 2 การนับลด ทีละ 10 และการนับลดทีละ 100 โดยเริ่มตน จากจํานวนนับตางๆ เพื่อใหนักเรียนไดเห็นวา การนับลดจะเริ่มจากจํานวนใดก็ได
ตรวจสอบผล
ขยายความเขาใจ
Evaluate
1. ใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกฝนทักษะ จากหนังสือเรียน หนา 42 ขอ 1. ลงในสมุด แลวรวมกันเฉลย 2. ใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกฝนทักษะ จากหนังสือเรียน หนา 42 ขอ 2.-3. ลงในสมุด เปนการบาน
กิจกรรมฝึกฝนทักษะ
1. บอกด้วยวาจาว่าจ�านวนในแต่ละข้อต่อไปนี ้ นับลดทีละเท่าใด 1) 529 519 509 499 2) 344 342 340 338 3) 751 651 551 451 4) 964 864 764 664 5) 135 133 131 129 6) 887 877 867 857 7) 628 626 624 622 8) 273 271 269 267 9) 482 472 462 452 10) 713 613 513 413 2. พิจารณาจ�านวนต่อไปนี ้ แล้วเติมจ�านวนลงใน ให้ถกู ต้อง 1) 734 732 730 2) 291 281 261 3) 649 449 4) 391 389 385 5) 876 866 6) 711 611 3. เขี เขียนแบบรูปของจ�านวนทีจ่ า� นวนในแบบรูปมีความสัมพันธ์กนั โดยนับลดทีละะ 2 นับลดทีละ 10 และนับลดทีละ 100 มาอย่างละ งละ 3 แบบรู 3 แบบรูป โดยท� โดยท�าลงในสมุด 42
มุม IT นักเรียนสามารถทําแบบฝกหัดเพิ่มเติมไดที่ http://www.myfirstbrain.com คลิกไปที่ แบบฝกหัดคณิตศาสตร คลิกเลือก ป.2 คลิกเลือก แบบฝกทักษะเรื่อง การนับลดและการหาร (ชุดที่ 1 และชุดที่ 2)
ขอสอบเนน การคิด แนว NT ขอใดแตกตางจากพวก ก. 977 967 957 947 ข. 755 765 775 785 ค. 466 476 486 496 ง. 234 244 254 264
วิเคราะหคําตอบ ขอ ก. เพราะเปนแบบรูปของจํานวนที่นับลดทีละ 10 ซึ่ง ขอ ข. ขอ ค. และขอ ง. เปนแบบรูปของจํานวนที่นับเพิ่มขึ้นทีละ 10
42
คูมือครู
กระตุน ความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
กระตุEngage นความสนใจ
สํารวจค Exploreนหา
กระตุน ความสนใจ
ใหนักเรียนสังเกตรางกายของตนเอง แลวชวยกันบอกวา อวัยวะใดบางที่มีเปนคู เชน ตา 1 คู (2 ขาง) หู 1 คู (2 ขาง) แขน 1 คู (2 ขาง) ขา 1 คู (2 ขาง)
1.7 จ�านวนคู่และจ�านวนคี่ 1. จ�านวนคู่ ตัวอย่าง
สํารวจคนหา
จำกภำพ เมื่อนับลดทีละสอง แล้วหมดพอดี 8
6
4
2
อธิบายความรู
ตัวอย่าง
จำกภำพ เมื่อนับลดทีละสอง แล้วเหลือ 1 5
3
1 คูที่ 1
¨íҹǹ¤Õè ໚¹¨íҹǹ·ÕÅè §·ŒÒ´ŒÇ 9 7 5 3 1 43
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
(1) 55 61 77 93 103 (2) 32 66 88 108 222 (3) 22 44 46 68 144 (4) 25 73 99 231 445 ขอใดไมถูกตอง ก. ขอ (1) เปนจํานวนคี่ทั้งหมด ข. ขอ (2) เปนจํานวนคูทั้งหมด ค. ขอ (3) เปนจํานวนคูทั้งหมด ง. ขอ (4) มีจํานวนคู 2 จํานวน มีจํานวนคี่ 3 จํานวน
Explain
1. ครูและนักเรียนรวมกันเฉลยคําตอบ โดยครู อธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนฟงวา • กระตาย 2 ตัว เปน 1 คู ดังนั้น กระตาย 4 ตัว เปน 2 คู พรอมทั้งแสดงรูปใหนักเรียน ดูบนกระดาน ดังนี้
2. จ�านวนคี่ 7
Explore
ครูติดรูปกระตายหรือรูปอื่นๆ จํานวน 4 รูป บนกระดาน จากนั้นถามนักเรียนวา • มีกระตายทั้งหมดกี่ตัว (ตอบ 4 ตัว) • มีกระตายกี่คู สามารถคิดไดอยางไร (แนวตอบ ขึ้นอยูกับความคิดของนักเรียน แตละคน)
0
¨íҹǹ¤Ù‹ ໚¹¨íҹǹ·ÕÅè §·ŒÒ´ŒÇ 8 6 4 2 0
9
Engage
คูที่ 2
2. ครูจัดกิจกรรมในทํานองเดียวกับขอ 1. อีก 2-3 ขอ โดยรูปที่นํามาติดบนกระดาน ตองจับคูกันไดพอดี 3. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายวา จํานวนคู คือจํานวนที่นับลดทีละ 2 แลวหมดพอดี
เกร็ดแนะครู ครูจัดกิจกรรมเกมเพิ่มเติม โดยใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3 คน แลวให แตละกลมุ บอกสิง่ ของทีเ่ กีย่ วของกับชีวติ ประจําวันของนักเรียน โดยสิง่ ของนัน้ จะตอง ใชเปนคู กลุมใดบอกจํานวนสิ่งของไดมากที่สุดเปนผูชนะ โดยครูอาจจะมีขนมเล็กๆ นอยๆ มอบใหกับนักเรียน
วิเคราะหคําตอบ ขอ ง. เพราะ ขอ (4) 25 73 99 231 445 ทุกจํานวนเปนจํานวนคี่
คูมือครู
43
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู
Expand
1. ครูแนะนําใหนักเรียนฟงวา • เรียกจํานวน 2, 4, 6, 8, 10 วาเปนจํานวนคู • เรียกจํานวน 1, 3, 5, 7, 9 วาเปนจํานวนคี่ 2. ใหนักเรียนยกตัวอยางจํานวนคูและจํานวนคี่ ถัดไปอีก 2-3 จํานวน แลวถามวาทราบได อยางไร
ตรวจสอบผล
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
อธิบExplain ายความรู
Expand าใจ ขยายความเข
Evaluate ตรวจสอบผล
Explain
1. ครูติดรูปจานหรือรูปอื่นๆ จํานวน 3 รูป บนกระดาน จากนั้นถามนักเรียนวา • มีจานทั้งหมดกี่ใบ (ตอบ 3 ใบ) • จับเปนคูไดพอดีหรือไม (ตอบ ไมพอดี) • จับเปนคูไดทั้งหมดกี่คู และเหลือจานกี่ใบ (ตอบ 1 คู เหลือจาน 1 ใบ) 2. ครูจัดกิจกรรมในทํานองเดียวกับขอ 1. อีก 2-3 ขอ โดยรูปที่นํามาติดบนกระดานตอง จับคูกันไดไมพอดี 3. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายวา จํานวนคี่ เปนจํานวนที่นับลดทีละ 2 แลวเหลือเศษ 1
ขยายความเขาใจ
อธิบายความรู
Evaluate
ใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกฝนทักษะ จากหนังสือเรียน หนา 44 ลงในสมุด เปนการบาน
หลักฐานแสดงผลการเรียนรู
กิจกรรมฝึกฝนทักษะ
พิจารณาจ�านวนในแต่ละข้อต่อไปนี้ แล้วเขียนวง ล้อมรอบ จ�านวนคู่ และเขียน ✗ ทับจ�านวนคี่ โดยท�าลงในสมุด 1) 20 18 50 11 34 40 39 13 25 2) 99 14 62 59 23 70 85 16 57 3) 71 25 56 17 60 96 72 83 24 4) 27 44 32 51 93 88 46 35 89 5) 47 69 26 38 91 53 80 66 75 6) 52 43 111 84 31 95 87 74 100 7) 177 65 101 123 92 146 134 119 78 8) 196 222 187 144 183 175 198 201 152 9) 213 286 174 275 242 128 141 163 159 10) 267 331 375 243 302 326 354 199 208 11) 218 235 273 291 381 394 426 477 538 12) 368 425 469 521 577 600 705 718 825
1. ผลการทํากิจกรรมฝกฝนทักษะ 2. แบบฝกหัด คณิตศาสตร ป.2
44
เกร็ดแนะครู ใหนกั เรียนทํากิจกรรมเพิม่ เติมลงในกระดาษ โดยใหแตละคนเขียนจํานวนคีต่ งั้ แต 1-50 และเขียนจํานวนคูตั้งแต 51-100
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
243 267 572 598 725 714 838 มีจํานวนคี่และจํานวนคูอยางละ กี่จํานวน ก. จํานวนคี่ 4 จํานวนคู 3 ข. จํานวนคี่ 3 จํานวนคู 4 ค. จํานวนคี่ 2 จํานวนคู 5 ง. จํานวนคี่ 5 จํานวนคู 2
วิเคราะหคําตอบ ขอ ข. เพราะ จํานวนคี่ คือ 243 267 725 จํานวนคู คือ 572 598 714 838
44
คูมือครู