8858649120779

Page 1

คูมือครู 㪌»ÃСͺ¡ÒÃÊ͹ËÇÁ¡Ñº

˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ©ºÑº Í- .

·Õè ȸ. ¨Ð»ÃСÒÈÃÒ¡Òú¹àÇçºä«µ µÑé§áµ‹ Á. ¤. ’55 ໚¹µŒ¹ä»

ภาพปกนี้มีขนาดเทากับหนังสือเรียนฉบับจริงของนักเรียน


เอกสารประกอบคูมือครู

กลุมสาระการเรียนรู สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

รายวิชา

พระพุทธศาสนา

ู ร ค หรับ

สํา

ชั้นประถมศึกษาปที่

คูมือครูฉบับนี้ ประกอบดวย ● ● ● ●

คําแนะนําการใชคูมือครู แถบสี/สัญลักษณที่ใชสื่อความหมายในคูมือครู ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรูแกนกลาง พระพุทธศาสนา ชั้น ป.2 คําอธิบายรายวิชา พระพุทธศาสนา ชั้น ป.2

ตารางแสดงความแตกตางระหวาง “ คูมือครู ” กับ “ หนังสือเรียน * ” ความแตกตาง

ขนาดตัวอักษร ปกดานหลัง ระบบการจัดพิมพ สวนเสริมดานหนา

คูมือครู ยอลงจากปกติ 20%

พิมพ 4 สี มี เอกสารหลักสูตร คําอธิบายรายวิชา มี กิจกรรมแบบ 5E ความรูเสริมสําหรับครู พิมพสอดแทรกไวตลอดทั้งเลม ●

หนังสือเรียน ขนาดปกติ 100% : ตัวอักษรใหญกวา ที่พิมพในคูมือครูนี้ มีใบอนุญาต/ใบประกันคุณภาพ พิมพ 4 สี

-

เนื้อหาในเลม

● ●

* ที่ ศธ. อนุญาตใหโรงเรียนใชได

มีเฉพาะเนื้อหาสาระตามที่ ศธ. อนุญาตฯ/สนพ.ประกันคุณภาพ

2


คําแนะนําการใชคูมือครู

: การจัดการเรียนรูสูหองเรียนคุณภาพ

คูม อื ครู รายวิชา พระพุทธศาสนา ป.2 จัดทําขึน้ เพือ่ อํานวยความสะดวกแกครูผสู อนในการวางแผนและเตรียมการสอนโดยใช เสร�ม หนังสือเรียน พระพุทธศาสนา ป.2 ของบริษัทอักษรเจริญทัศน อจท. จํากัด เปนสื่อหลัก (Core Material) ประกอบการออกแบบ 2 กิจกรรมการเรียนรูใหสอดคลองกับมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดกลุมสาระการเรียนรู สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 โดยจัดทําตามหลักการสําคัญ ดังนี้

1. ออกแบบการสอนเปนหนวยการเรียนรูอิงมาตรฐาน คูมือครู รายวิชา พระพุทธศาสนา ป.2 จัดทําเปนหนวยการเรียนรูตามลําดับสาระการเรียนรูที่ระบุไวในมาตรฐานการ เรียนรูและตัวชี้วัด แตละหนวยจะกําหนดเปาหมายการสอนและจุดประสงคการเรียนรู (Objective Learning) กิจกรรมการเรียนรู (Learning Activities) และแนวทางการประเมินผลการเรียนรู (Learning Evaluation) ไวชดั เจน ครูผสู อนสามารถจัดทําแผนการสอนใหครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรูแ ละตัวชีว้ ดั ทีเ่ ปนเปาหมายการเรียนรูข องแตละหนวยการเรียนรู (ตามแผนภูม)ิ และสามารถ บันทึกผลการจัดการเรียนการสอนไดอยางมั่นใจ

นรู

สภ

าพ

ผู

จุดป

ระส

เรีย

งค

รีย า รเ

มาตรฐานการเรียนรู ตัวชี้วัดชั้นป

ทักษะการคิด การวัดประเมินผล การเรียนรู

กิจกรรมการเรียนรู

เทคนิคการสอน

แผนภูมิแสดงองคประกอบของการออกแบบการเรียนรูอิงมาตรฐานและเนนผูเรียนเปนสําคัญ

2. การจัดการเรียนรูที่ยึดผูเรียนเปนสําคัญ แนวคิดในการจัดการเรียนการสอนทีย่ ดึ ผูเ รียนเปนสําคัญ พัฒนามาจากปรัชญาและทฤษฎีการเรียนรู Constructivism ที่เชื่อวาการเรียนรูเปนกระบวนการที่เกิดขึ้นภายในสมองของผูเรียนแตละคน ผูเรียนเปนผูสรางความรูโดยการเชื่อมโยงระหวาง สิ่งที่ไดพบเห็นกับความรูหรือประสบการณเดิมที่มีอยู ทฤษฎีนี้มีความเชื่อวา นักเรียนทุกคนไดเรียนรูและมีความรูความเขาใจสิ่งตางๆ ติดตัวมากอนที่จะเขาสูหองเรียน ซึ่งเปนการเรียนรูที่เกิดจากบริบทและสิ่งแวดลอมรอบตัวนักเรียนแตละคน ดังนั้นการจัดกระบวนการเรียนรูในแตละบทเรียน ผูสอนจะตองคํานึงถึง คูม อื ครู


1) ความรูเดิมของนักเรียน การสอน 2) ความรูเ ดิมของนักเรียนถูกตองหรือ ที่ ดี จึ ง ต อ งเริ่ ม ต น จากจุ ด ที่ ว  า นั ก เรี ย นมี ไม ผูสอนตองปรับเปลี่ยนความรูความเขาใจ ความรูอะไรมาบาง แลวจึงใหความรูหรือ เดิมของนักเรียนใหถกู ตอง และเปนพฤติกรรม ประสบการณใหมเพื่อตอยอดจากความรูเดิม การเรียนรูใ หมทมี่ คี ณ ุ คาตอนักเรียน เพือ่ สราง เจตคติหรือทัศนคติที่ดีตอการเรียน

3) นักเรียนสรางความหมายสําหรับ ตนเอง ผูส อนตองสงเสริมใหนกั เรียนนําขอมูล ความรูที่ไดไปลงมือปฏิบัติ และประยุกตใช ความรูอยางถูกตอง ในบริบทที่เปนจริงของ ชีวิตนักเรียน เพื่อขยายความรูใหลึกซึ้งและมี คุณคาตอตัวนักเรียนมากที่สุด

เสร�ม

3

แนวคิด Constructivism เนนใหผเู รียนสรางความรูโ ดยผานกระบวนการคิดและความอยากรูข องตนเอง โดยมีผสู อน เปนผูส รางบรรยากาศการเรียนรูแ ละกระตุน ความสนใจ คอยจัดสถานการณใหผเู รียนเกิดความขัดแยงทางความคิดระหวาง ประสบการณเดิมกับประสบการณความรูใหม ผูเรียนจะพยายามปรับขอมูลใหมกับประสบการณที่มีอยูเดิม แลวสรางเปน ความรูใหมหรือแนวคิดใหมๆ ไดดวยตนเอง

3. การบูรณาการกระบวนการคิด การเรียนรูของนักเรียนแตละคนจะเกิดขึ้นที่สมอง ซึ่งทําหนาที่รูคิด ภายใตสภาพแวดลอมที่เอื้ออํานวยและไดรับการ กระตนุ จูงใจอยางเหมาะสม สอดคลองกับสภาพจิตใจและความตองการของนักเรียน การจัดกระบวนการเรียนรูแ ละสาระการเรียนรู ทีม่ คี วามหมายตอผูเ รียน จะชวยกระตนุ ใหสมองรับรูแ ละสามารถเรียนรูไ ดอยางมีประสิทธิภาพตามขัน้ ตอนการทํางานของสมอง ดังนี้ 1) สมองจะเรียนรูและสืบคนโดยการ 2) สมองจะแยกแยะคุ ณ ค า ของสิ่ ง 3) สมองจะประมวลเนื้อหาสาระ โดย สังเกต คนหา ซักถาม และทดลองปฏิบัติ จน ตางๆ โดยการลงมติ ตัดสินใจ วิพากษวจิ ารณ การสรุปเปนความคิดรวบยอดจากเรื่องราวที่ คนพบความรูความเขาใจไดอยางรวดเร็ว แสดงความคิดเห็น ยอมรับหรือตอตานตาม ไดเรียนรูใหมนําไปผสมผสานกับความรูหรือ อารมณความรูสึกที่เกิดขึ้นในขณะที่เรียนรู ประสบการณเดิมทีถ่ กู จัดเก็บอยูใ นสมอง ผาน การกลั่นกรองเพื่อสังเคราะหเปนความรูความ เขาใจใหมๆ หรือเปนเหตุผลทัศนคติใหมที่จะ ฝงแนนในสมองของผูเรียน

การเรียนรูที่มีประสิทธิภาพจึงตองเปนการเรียนรูที่เกิดจากกระบวนการคิดของผูเรียน เพราะการเรียนรูจะเกิดขึ้นเมื่อ สมองรูคิด และตองเปนการคิดไดครบถวนตามขั้นตอนการทํางานของสมองผูเรียน โดยเริ่มตนจาก 1) ระดั บ การคิ ด ขั้ น พื้ น ฐาน ได แ ก 2) ระดับลักษณะการคิด ไดแก การ 3) ระดับกระบวนการคิด ไดแก การสังเกต การจําแนก การสื่อความหมาย คิดกวาง คิดลึกซึ้ง คิดหลากหลาย คิดไกล กระบวนการคิดอยางมีวิจารณญาณ การคาดคะเน การรวบรวมขอมูล การสรุปผล คิดคลอง คิดอยางมีเหตุผล เปนตน กระบวนการแกปญหา กระบวนการ เปนตน คิดสรางสรรค กระบวนการคิดสังเคราะหวิจัย เปนตน

4. การใชวัฏจักรการเรียนรู 5E รูปแบบการสอนทีส่ มั พันธกบั กระบวนการคิดและการทํางานของสมองของผูเ รียนทีน่ ยิ มใชอยางแพรหลาย คือ วัฏจักร การเรียนรู 5E ซึ่งผูจัดทําคูมือครูไดนํามาใชเปนแนวทางออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนในคูมือครูฉบับนี้ตามลําดับขั้นตอน การเรียนรู ดังนี้ คูม อื ครู


ขั้นที่ 1 กระตุนความสนใจ (Engage) เปนขั้นที่ผูสอนนําเขาสูบทเรียน เพื่อกระตุนความสนใจของนักเรียนดวยเรื่องราว หรือเหตุการณที่นาสนใจ โดยใช เทคนิควิธีการสอนและคําถามทบทวนความรูหรือประสบการณเดิมของผูเรียน เพื่อเชื่อมโยงผูเรียนเขาสูบทเรียนใหม ชวย ใหนักเรียนสามารถสรุปประเด็นสําคัญที่เปนหัวขอการเรียนรูของบทเรียนได จึงเปนขั้นตอนการสอนที่สําคัญ เพราะเปนการ เตรียมความพรอมและสรางแรงจูงใจใฝเรียนรูแกผูเรียน

เสร�ม

4

ขั้นที่ 2 สํารวจคนหา (Explore) เปนขั้นที่ผูสอนเปดโอกาสใหผูเรียนสังเกต และรวมมือกันสํารวจ เพื่อใหเห็นปญหา รวมถึงวิธีการศึกษาคนควาขอมูล ความรูที่จะนําไปสูความเขาใจประเด็นปญหานั้นๆ เมื่อนักเรียนทําความเขาใจในประเด็นหัวขอที่จะศึกษาคนควาอยางถองแทแลว ก็ลงมือปฏิบัติเพื่อเก็บรวบรวมขอมูล ความรู สํารวจตรวจสอบ โดยวิธีการตางๆ เชน สัมภาษณ ทดลอง อานคนควาขอมูลจากเอกสาร แหลงขอมูลตางๆ จนได ขอมูลความรูตามที่ตั้งประเด็นศึกษาไว

ขั้นที่ 3 อธิบายความรู (Explain) เปนขั้นที่ผูสอนมีปฏิสัมพันธกับผูเรียน เชน ใหการแนะนํา ตั้งคําถามกระตุนใหคิด เพื่อใหผูเรียนไดคนหาคําตอบ และ นําขอมูลความรูจากการศึกษาคนควาในขั้นที่ 2 มาวิเคราะห แปลผล สรุปผล และนําเสนอผลที่ไดศึกษาคนความาในรูปแบบ สารสนเทศตางๆ เชน เขียนแผนภูมิ แผนผังแสดงมโนทัศน เขียนความเรียง เขียนรายงาน เปนตน สมองของผูเรียนจะทํา หนาที่คิดวิเคราะห สังเคราะหอยางเปนระบบ

ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ (Expand) เปนขั้นที่ผูสอนไดใชเทคนิควิธีการสอนที่ชวยพัฒนาผูเรียนใหนําความรูที่เกิดขึ้นไปคิดคนตอๆ ไป เพื่อพัฒนาทักษะ การเรียนรูและการทํางานรวมกันเปนกลุม ระดมสมองเพื่อคิดสรางสรรครวมกัน นักเรียนสามารถนําความรูที่สรางขึ้นใหมไปเชื่อมโยงกับประสบการณเดิมโดยนําขอสรุปที่ไดไปอธิบายในเหตุการณ ตางๆ หรือนําไปปฏิบตั ใิ นสถานการณใหมๆ ทีเ่ กีย่ วของกับชีวติ ประจําวันของตนเอง เพือ่ ขยายความรูค วามเขาใจใหกวางขวาง ยิ่งขึ้น สมองของผูเรียนทําหนาที่คิดริเริ่มสรางสรรคอยางมีคุณภาพ เสริมสรางวิสัยทัศนใหกวางไกลออกไป

ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) เปนขัน้ ทีผ่ สู อนประเมินมโนทัศนของผูเ รียน โดยตรวจสอบจากความคิดทีเ่ ปลีย่ นไปและความคิดรวบยอดทีเ่ กิดขึน้ ใหม ตรวจสอบทักษะ กระบวนการปฏิบัติ การแกปญหา การตอบคําถามรวบยอด และการเคารพความคิดหรือยอมรับเหตุผลของ คนอื่นเพื่อการสรางสรรคความรูรวมกัน นักเรียนสามารถประเมินผลการเรียนรูข องตนเองเพือ่ สรุปผลวานักเรียนมีความรูอ ะไรเพิม่ ขึน้ มาบาง มากนอยเพียงใด และจะนําความรูเ หลานัน้ ไปประยุกตใชในการเรียนรูเ รือ่ งอืน่ ๆ ไดอยางไร นักเรียนจะเกิดเจตคติและเห็นคุณคาของตนเองจาก ผลการเรียนรูที่เกิดขึ้น ซึ่งเปนการเรียนรูที่มีความสุขอยางแทจริง การจัดกิจกรรมการเรียนรูตามวัฏจักรการสรางความรูแบบ 5E จึงเปนรูปแบบการเรียนการสอนที่เนนผูเรียนเปนสําคัญ โดยสงเสริมใหผูเรียนใชกระบวนการสรางความรูดวยตนเอง และฝกฝนใหใชกระบวนการคิดและกระบวนการกลุมอยางชํานาญ กอใหเกิดทักษะการเรียนรูและทักษะชีวิตที่มีคุณภาพ ตามเปาหมายของการปฏิรูปการศึกษาทศวรรษที่ 2 (พ.ศ. 2552-2561) ทุกประการ คณะผูจัดทํา คูม อื ครู


แถบสี และสัญลักษณ ที่ใชสื่อความหมายในคูมือครู 1. แถบสี สีแดง

สีเขียว

สีสม

แถบสีแสดงขั้นตอนการสอนและการจัดกิจกรรม เสร�ม แบบ 5E เพื่อใหครูทราบวาเปนขั้นการสอนขั้นใด 5

กระตุน ความสนใจ

สํารวจคนหา

อธิบายความรู

Engage

Explore

เปนขั้นที่ผูสอนเลือกใช เทคนิคกระตุนความ สนใจ เพื่อโยงเขาสู บทเรียน

Explain

เปนขั้นที่ผูสอนให ผูเรียนสํารวจปญหา และศึกษาขอมูล

เปนขั้นที่ผูสอนให ผูเรียนคนหาคําตอบ จนเกิดความรูเชิง ประจักษ

สีฟา

สีมวง

ขยายความเขาใจ

ตรวจสอบผล

Expand

Evaluate

เปนขั้นที่ผูสอนให ผูเรียนนําความรูไป คิดคนตอๆ ไป

เปนขั้นที่ผูสอน ประเมินมโนทัศน ของผูเรียน

2. สัญลักษณ สัญลักษณ เปาหมาย การเรียนรู หลักฐาน แสดงผล การเรียนรู เกร็ดแนะครู นักเรียนควรรู @

NET

มุม IT ขอสอบ บูรณาการ สูอาเซียน

วัตถุประสงค • แสดงเปาหมายการเรียนรูที่นักเรียนตองบรรลุตามตัวชี้วัด •

แสดงรองรอยหลักฐานที่แสดงผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด

แทรกความรูเสริมสําหรับครู ขอเสนอแนะ ขอควรระวัง ขอสังเกต แนวทางการจัด กิจกรรมและอืน่ ๆ เพื่อประโยชนในการจัดการเรียนการสอน

ขยายความรูเพิ่มเติมจากเนื้อหา เพื่อใหนักเรียนไดมีความรูมากขึ้น

แนะนําแหลงคนควาจากเว็บไซต เพื่อใหครูและนักเรียนไดเขาถึงขอมูลความรู ที่หลากหลาย

วิเคราะหแนวขอสอบ O-NET เพื่อใหครูเนนยํ้าเนื้อหา ที่มักออกขอสอบ O-NET

ขยายความรู แนะนํากิจกรรมเพื่อพัฒนานักเรียนใหมีความพรอม สําหรับเขาสูประชาคมอาเซียน

• ขอสอบ O-NET พิจารณาออก ขอสอบจากเนื้อหา ป.4, 5 และ 6

คูม อื ครู


ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรูแกนกลาง พระพุทธศาสนา (เฉพาะชั้น ป.2)* สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม

เสร�ม มาตรฐาน ส 1.1 รูและเขาใจประวัติ ความสําคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือ และศาสนาอื่น มีศรัทธาที่ถูกตอง ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลักธรรมเพื่ออยูรวมกันอยางสันติสุข 6 ชั้น

ตัวชี้วัด

ป.2 1. บอกความสําคัญของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือ

สาระการเรียนรูแกนกลาง

• พระพุทธศาสนาเปนเอกลักษณของชาติไทย

2. สรุปพุทธประวัติตั้งแตประสูติจนถึง การออกผนวช หรือประวัติศาสดา ที่ตนนับถือตามที่กําหนด

• สรุปพุทธประวัติ • ประสูติ - เหตุการณหลังประสูติ - การศึกษา - เทวทูต 4

3. ชื่นชมและบอกแบบอยางการดําเนินชีวิต และขอคิดจากประวัติสาวก ชาดก เรื่องเลา และศาสนิกชนตัวอยาง ตามที่กําหนด

• พุทธสาวก พุทธสาวิกา - สามเณรราหุล • ชาดก - วรุณชาดก - วานรินทชาดก • ศาสนิกชนตัวอยาง - สมเด็จพระญาณสังวร (สุก ไกเถื่อน) - สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน)

4. บอกความหมาย ความสําคัญ และเคารพพระรัตนตรัย ปฏิบัติตามหลักธรรมโอวาท 3 ในพระพุทธศาสนา หรือหลักธรรมของ ศาสนาที่ตนนับถือตามที่กําหนด

• พระรัตนตรัย - ศรัทธา • โอวาท 3 - ไมทําชั่ว : เบญจศีล - ทําความดี : เบญจธรรม : หิริ-โอตตัปปะ : สังคหวัตถุ 4 : ฆราวาสธรรม 4 : กตัญูกตเวทีตอครู อาจารย และโรงเรียน

- แรกนาขวัญ - การอภิเษกสมรส - การออกผนวช

* สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ, สาระการเรียนรูแ กนกลาง กลุม สาระการเรียนรู สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม. (กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพชุมนุมสหกรณการเกษตรแหงประเทศไทย, ๒๕๕๑), หนา ๖-๒๒ และ ๔๑-๔๔. คูม อื ครู


ชั้น

ตัวชี้วัด

สาระการเรียนรูแกนกลาง

: มงคล 38 ➤ กตัญู ➤ สงเคราะหญาติพี่นอง - ทําจิตใหบริสุทธิ์ (บริหารจิตและเจริญปญญา) • พุทธศาสนสุภาษิต - นิมิตฺตํ สาธุรูปานํ กตฺู กตเวทิตา ความกตัญูกตเวที เปนเครื่องหมายของคนดี - พฺรหฺมาติ มาตาปตโร มารดาบิดาเปนพรหมของบุตร

ป.2 (ตอ)

5. ชื่นชมการทําความดีของตนเอง บุคคลในครอบครัว และในโรงเรียน ตามหลักศาสนา

• ตัวอยางการกระทําความดีของตนเองและบุคคล ในครอบครัว และในโรงเรียน (ตามสาระในขอ 4)

6. เห็นคุณคาและสวดมนต แผเมตตา มีสติที่เปนพื้นฐานของสมาธิใน พระพุทธศาสนา หรือการพัฒนาจิต ตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถือ ตามที่กําหนด

• ฝกสวดมนตไหวพระ และแผเมตตา - รูความหมายและประโยชนของสติและสมาธิ - ฝกสมาธิเบื้องตน - ฝกสติเบื้องตนดวยกิจกรรมการเคลื่อนไหว อยางมีสติ - ฝกใหมีสมาธิในการฟง การอาน การคิด การถาม และการเขียน

7. บอกชื่อศาสนา ศาสดา และความสําคัญ ของคัมภีรของศาสนาที่ตนนับถือและ ศาสนาอื่นๆ

• ชื่อศาสนา ศาสดา และคัมภีรของศาสนาตางๆ - พระพุทธศาสนา (ศาสดา : พระพุทธเจา) (คัมภีร : พระไตรปฎก) - ศาสนาอิสลาม (ศาสดา : มุฮัมมัด) (คัมภีร : อัลกุรอาน) - คริสตศาสนา (ศาสดา : พระเยซู) (คัมภีร : ไบเบิล) - ศาสนาฮินดู (ศาสดา : ไมมีศาสดา) (คัมภีร : พระเวท พราหมณะ อุปนิษัท อารัณยกะ)

เสร�ม

7

คูม อื ครู


มาตรฐาน ส 1.2 เขาใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเปนศาสนิกชนที่ดี และธํารงรักษาพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือ ชั้น

เสร�ม

8

ตัวชี้วัด

สาระการเรียนรูแกนกลาง

ป.2 1. ปฏิบัติตนอยางเหมาะสมตอสาวกของ • การฝกปฏิบัติมรรยาทชาวพุทธ ศาสนาที่ตนนับถือตามที่กําหนดไดถูกตอง - การพนมมือ - การไหว - การกราบ - การนั่ง - การยืน การเดิน 2. ปฏิบัติตนในศาสนพิธี พิธีกรรม และวันสําคัญทางศาสนาตามที่กําหนด ไดถูกตอง

• การเขารวมกิจกรรมและพิธีกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับ วันสําคัญทางพระพุทธศาสนา - ระเบียบพิธีการบูชาพระรัตนตรัย - การทําบุญตักบาตร

คําอธิบายรายวิชา รายวิชา พระพุทธศาสนา ชั้นประถมศึกษาปที่ 2 รหัสวิชา …………………………………

กลุมสาระการเรียนรู สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ภาคเรียนที่ 1-2 เวลา 30 ชั่วโมง/ป

ศึกษา วิเคราะห ความสําคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะเปนเอกลักษณของชาติไทย พุทธประวัตติ งั้ แตประสูติ จนถึงการออกผนวช ความหมาย ความสําคัญ และเคารพพระรัตนตรัย ปฏิบัติตามหลักโอวาท 3 ในพระพุทธศาสนา การทําความดีของตนเอง บุคคลในครอบครัว และในโรงเรียนตามหลักศาสนา ความสําคัญของคัมภีรพระไตรปฎก แบบอยางการดําเนินชีวติ และขอคิดจากประวัตสิ าวก ชาดก และศาสนิกชนตัวอยาง ประพฤติปฏิบตั ติ นอยางเหมาะสม ตอสาวกในพระพุทธศาสนา ปฏิบตั ติ นในศาสนพิธี พิธกี รรมตางๆ ทางศาสนา เห็นคุณคาของการสวดมนต แผเมตตา การฝกสมาธิเบื้องตน โดยใชกระบวนการคิด กระบวนการสืบคนขอมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางสังคม กระบวนการกลุม กระบวนการเผชิญสถานการณและแกปญหา เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจ สามารถนําไปปฏิบัติในการดําเนินชีวิต มีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะ อันพึงประสงคในดานรักชาติ ศาสน กษัตริย ซื่อสัตยสุจริต มีวินัย ใฝเรียนรู รักความเปนไทย มีจิตสาธารณะ สามารถดําเนินชีวิตอยางสันติสุขในสังคมไทยและสังคมโลก ตัวชี้วัด ส 1.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5, ป.2/6, ป.2/7 ส 1.2 ป.2/1, ป.2/2 รวม 9 ตัวชี้วัด คูม อื ครู


˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ÃÒÂÇÔªÒ¾×é¹°Ò¹

¾Ãоط¸ÈÒÊ¹Ò ».ò ªÑé¹»ÃжÁÈÖ¡ÉÒ»‚·Õè ò

¡ÅØ‹ÁÊÒÃСÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ Êѧ¤ÁÈÖ¡ÉÒ ÈÒÊ¹Ò áÅÐÇѲ¹¸ÃÃÁ µÒÁËÅÑ¡ÊÙµÃ᡹¡ÅÒ§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ¢Ñé¹¾×é¹°Ò¹ ¾Ø·¸ÈÑ¡ÃÒª òõõñ

¼ÙŒàÃÕºàÃÕ§ ¹Ò§ÊÒǨ§¨ÃÑÊ á¨‹Á¨Ñ¹·Ã ¼ÙŒµÃǨ

¹Ò¾ÔÈÔÉ° ¾ÂÍÁ ¹ÒªÒ޳ç¤ äªÂ»˜ÞËÒ ¹Ò¸ÕÃહ·Ã ¾ÃóÒ

ºÃóҸԡÒà ¹Ò§Êѹ·¹Ò ¾Ñ¸¹ÒÇÔ¹

¾ÔÁ¾ ¤ÃÑ駷Õè ñ

ʧǹÅÔ¢ÊÔ·¸ÔìµÒÁ¾ÃÐÃÒªºÑ- - ѵÔ

ÃËÑÊÊÔ¹¤ŒÒ ñòñóðõò ÃËÑÊÊÔ¹¤ŒÒ ñòôóðòø

¤Œ¹¤ÇÒÁÃÙŒ¢ÂÒ¤ÇÒÁ¤Ô´¨Ò¡

EB GUIDE

ที่พิมพกํากับหัวขอสําคัญในหนังสือเรียนหลักสูตรใหม ชั้น ป.๔ ขึ้นไป ผาน www.aksorn.com ไปยังแหลงความรูทั่วไทย-ทั่วโลก


¤íÒ¹íÒ ´ŒÇ¡ÃзÃǧÈÖ¡ÉÒ¸Ô¡ÒÃä´ŒÁÕ¤íÒÊÑè§ãˌ㪌ËÅÑ¡ÊٵáÒÃÈÖ¡ÉÒ¢Ñé¹¾×é¹°Ò¹ ¾Ø·¸ÈÑ¡ÃÒª òõôô ã¹âçàÃÕ¹·ÑÇè ä»·Õ¨è ´Ñ ¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ¢Ñ¹é ¾×¹é °Ò¹ã¹»‚¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ òõôö áÅШҡ¡ÒÃÈÖ¡ÉÒÇÔ¨ÂÑ áÅеԴµÒÁ ¼Å¡ÒÃ㪌ËÅÑ¡ÊٵáÒÃÈÖ¡ÉÒ¢Ñ¹é ¾×¹é °Ò¹ ¾Ø·¸ÈÑ¡ÃÒª òõôô ¨Ö§¹íÒä»Ê‹¡Ù ÒþѲ¹ÒËÅÑ¡ÊÙµÃ᡹¡ÅÒ§ ¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ¢Ñ¹é ¾×¹é °Ò¹ ¾Ø·¸ÈÑ¡ÃÒª òõõñ «Ö§è ÁÕ¤ÇÒÁàËÁÒÐÊÁáÅЪѴਹ à¾×Íè ãˌʶҹÈÖ¡ÉÒä´Œ¹Òí ä» ãªŒà»š¹¡Ãͺ·Ôȷҧ㹡ÒèѴËÅÑ¡ÊÙµÃʶҹÈÖ¡ÉÒáÅШѴ¡ÒÃàÃÕ¹¡ÒÃÊ͹à¾×Íè ¾Ñ²¹Òà´ç¡áÅÐàÂÒǪ¹ ·Ø¡¤¹ã¹ÃдѺ¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ¢Ñ¹é ¾×¹é °Ò¹ãËŒÁ¤Õ ³ Ø ÀÒ¾´ŒÒ¹¤ÇÒÁÃÙŒ áÅзѡÉзըè Òí ໚¹ÊíÒËÃѺ¡ÒôíÒçªÕÇµÔ ã¹Êѧ¤Á·ÕèÁÕ¡ÒÃà»ÅÕè¹á»Å§ áÅÐáÊǧËÒ¤ÇÒÁÃÙŒà¾×è;Ѳ¹Òµ¹àͧÍ‹ҧµ‹Íà¹×èͧµÅÍ´ªÕÇÔµ ˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ¾Ãоط¸ÈÒÊ¹Ò ».ò àÅ‹Á¹Õ¨é ´Ñ ·íÒ¢Ö¹é ÊíÒËÃѺ㪌»ÃСͺ¡ÒÃàÃÕ¹¡ÒÃÊ͹ ªÑ¹é »ÃжÁÈÖ¡ÉÒ»‚·Õè ò â´Â´íÒà¹Ô¹¡ÒèѴ·íÒãËŒÊÍ´¤ÅŒÍ§µÒÁ¡Ãͺ¢Í§ËÅÑ¡Êٵ÷ء»ÃСÒà ʋ§àÊÃÔÁ ¡Ãкǹ¡ÒäԴ ¡ÒÃÊ׺àÊÒÐËÒ¤ÇÒÁÃÙŒ ¡ÒÃá¡Œ»˜ÞËÒ ¤ÇÒÁÊÒÁÒö㹡ÒÃÊ×èÍÊÒà ¡ÒõѴÊԹ㨠¡ÒùíÒä»ãªŒã¹ªÕÇµÔ ÃÇÁ·Ñ§é Ê‹§àÊÃÔÁãËŒ¼àŒÙ ÃÕ¹ÁÕ¤Ò‹ ¹ÔÂÁ·Õ´è §Õ ÒÁ ¾Ñ²¹Òµ¹àͧÍÂÙà‹ ÊÁÍ ºíÒà¾çÞ»ÃÐ⪹ µ‹ÍÊѧ¤ÁáÅÐʋǹÃÇÁ ˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ¾Ãоط¸ÈÒÊ¹Ò ».ò àÅ‹Á¹Õé ÁÕ õ ˹‹Ç ã¹áµ‹ÅÐ˹‹ÇÂẋ§à»š¹º· ‹ÍÂæ «Ö觻ÃСͺ´ŒÇ ñ. ໇ÒËÁÒ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ»ÃШíÒ˹‹Ç ¡íÒ˹´ÃдѺ¤ÇÒÁÃÙŒ ¤ÇÒÁÊÒÁÒö¢Í§¼ÙŒàÃÕ¹ Ç‹ÒàÁ×èÍàÃÕ¹¨ºã¹áµ‹ÅÐ˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ µŒÍ§ºÃÃÅØÁҵðҹµÑǪÕéÇÑ´·Õè¡Òí ˹´äÇŒã¹ËÅÑ¡ÊٵâŒÍã´ºŒÒ§ ò. á¹Ç¤Ô´ÊíÒ¤ÑÞ á¡‹¹¤ÇÒÁÃÙŒ·Õè໚¹¤ÇÒÁÃÙŒ¤ÇÒÁࢌÒ㨤§·¹µÔ´µÑǼٌàÃÕ¹ ó. à¹×Íé ËÒ ¤ÃºµÒÁËÅÑ¡ÊÙµÃ᡹¡ÅÒ§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ¢Ñ¹é ¾×¹é °Ò¹ ¾.È. òõõñ ¹íÒàʹÍàËÁÒÐÊÁ ¡Ñº¡ÒÃàÃÕ¹¡ÒÃÊ͹ã¹áµ‹ÅÐÃдѺªÑé¹ ô. ¡Ô¨¡ÃÃÁ ÁÕËÅÒ¡ËÅÒÂÃٻẺãËŒ¹Ñ¡àÃÕ¹»¯ÔºÑµÔ ẋ§à»š¹ (ñ) ¡Ô¨¡ÃÃÁ¹íÒÊ‹Ù¡ÒÃàÃÕ¹ ¹íÒࢌÒÊ‹Ùº·àÃÕ¹à¾×èÍ¡Ãе،¹¤ÇÒÁʹã¨á¡‹¼ÙŒàÃÕ¹ (ò) ¡Ô¨¡ÃÃÁÃǺÂÍ´ ãËŒ¼ÙŒàÃÕ¹»¯ÔºÑµÔà¾×èÍáÊ´§¾ÄµÔ¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒÃǺÂÍ´ áÅлÃÐàÁÔ¹¼Å¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒµÒÁÁҵðҹµÑǪÕéÇÑ´»ÃШíÒ˹‹Ç ¤³Ð¼ÙŒ¨Ñ´·íÒ¨Ö§ËÇѧ໚¹Í‹ҧÂÔè§Ç‹Ò ˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ¾Ãоط¸ÈÒÊ¹Ò ».ò àÅ‹Á¹Õé ¨Ð໚¹ Ê×Íè ¡ÒÃàÃÕ¹¡ÒÃÊ͹·ÕÍè Òí ¹Ç»ÃÐ⪹ µÍ‹ ¡ÒÃàÃÕ¹¾Ãоط¸ÈÒÊ¹Ò à¾×Íè ãËŒÊÁÑ Ä·¸Ô¼ÅµÒÁÁҵðҹ µÑǪÕéÇÑ´·Õè¡íÒ˹´äÇŒã¹ËÅÑ¡ÊÙµÃ᡹¡ÅÒ§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ¢Ñé¹¾×é¹°Ò¹ ¾.È. òõõñ ·Ø¡»ÃСÒà ¤³Ð¼ÙŒ¨Ñ´·íÒ

ค�ำช


ค�ำชี้แจงในกำรใช้สื่อ

?

ภาพจิตรกรรม ฝาผนัง เป็นเอกลักษณ์ ไทยหรื อไม่

หน่วยการเรียนรู้ที่

เป้ำหมำยกำรเรียนรู้ กำ�หนดระดับคว�มรู้ คว�มส�ม�รถของผู้เรียน เมื่อเรียนจบหน่วย

กิจกรรมน�ำสู่กำรเรียน นำ�เข้�สู่บทเรียนโดยใช้กระตุ้น คว�มสนใจและวัดประเมินผล ก่อนเรียน

º··Õè

ñ

พระพุทธศาสนาเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย เป้าหมายการเรียนรู้ประจ�าหน่วยที่ ๑

เมื่อเรียนจบหน่วยนี้ ผู้เรียนจะมีความรู้ความสามารถต่อไปนี้ ๑. บอกความส�าคัญของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ [มฐ. ส ๑.๑ ป.๒/๑] ๒. สรุปพุทธประวัติตั้งแต่ประสูติจนถึงการออกผนวชหรือประวัติศาสดาที่ตนนับถือตามที่ก�าหนด [มฐ. ส ๑.๑ ป.๒/๒]

เนื้อหำ ครบต�มหลักสูตรแกนกล�ง พ.ศ. ๒๕๕๑ นำ�เสนอโดยใช้แผนภ�พ แผนภูมิ ต�ร�งเหม�ะสมกับ ก�รเรียนก�รสอน เอกลักษณ์ของชาติไทย

เอกลักษณ์ หมายถึง ลักษณะที่เหมือนกัน หรือมีร่วมกัน เอกลักษณ์ของชาติไทย หมายถึง ลักษณะที่เหมือนกัน หรือ มีร่วมกันของคนไทยในด้านต่างๆ ที่เห็นได้ชัด ได้แก่ อุปนิสัย สังคม การศึกษา ประเพณี และการก�าหนดวันหยุดราชการของไทย เหล่านี้ ล้วนมีพระพุทธศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ดังนี้

àÍ¡Åѡɳ ¢Í§ªÒµÔä·Â กิจกรรมนําสูก ารเรียน

มำตรฐำนตัวชี้วัด ระบุตัวชี้วัดที่กำ�หนดไว้ ในแต่ละหน่วย

ประเพณีในภาพเปนเอกลักษณ ของชาติไทยหรือไม เพราะอะไร

แนวคิดสส�ำคัญ แก่นคว�มรู มรู้ที่เป็นคว คว�มเข้�ใจ คงทนติดตัวผู้เรียน

แนวคิดสําคัญ ¤¹ä·ÂʋǹãËÞ‹¹Ñº¶×;Ãоط¸ÈÒÊ¹Ò ¨Ö§·íÒãËŒ ¾Ãоط¸ÈÒÊ¹Ò ÁÕÍ·Ô ¸Ô¾Åµ‹ÍÇÔ¶ªÕ ÇÕ µÔ ¢Í§¤¹ä·Âã¹´ŒÒ¹µ‹Ò§æ ¨¹¡ÅÒÂ໚¹àÍ¡Åѡɳ ¢Í§ªÒµÔä·Â

๑. อุปนิสัย

หลักธรรมค�าสอนในพระพุทธศาสนา มีอิทธิพลต่อการอบรม สัง่ สอนให้เรามีอปุ นิสยั ทีแ่ ตกต่างจากชาติอนื่ เช่น การเคารพเชือ่ ฟัง ผูใ้ หญ่ การอ่อนน้อมถ่อมตน ความกตัญญูกตเวที ความเมตตากรุณา การให้อภัยซึง่ กันและกัน เป็นต้น สิง่ เหล่านี้ได้รบั การหล่อหลอมจาก หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น ท�าให้คนไทยมีอุปนิสัยที่ดีงาม มีความโดดเด่นกว่าชาติอื่น

กิจกรรมรวบยอด

พระพุทธศาสนาช่วยกล่อมเกลาให้เรามีอุปนิสัยที่ดี รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน และเคารพเชื่อฟังผู้ใหญ่

กิจกรรมรวบยอด ให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติเพื่อแสดง พฤติกรรมก�รเรียนรู้รวบยอด และประเมินผลก�รเรียนรู้ต�ม ม�ตรฐ�นตัวชี้วัดประจำ�หน่วย

ตอนที่ ๑ อภิปรายชวนคิด ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มแล้วร่วมกันอภิปรายว่า “เพราะเหตุใด พระพุทธศาสนาจึงเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย” ทย” จากนั้นสรุป และ ส่งตัวแทนออกมารายงานที่หน้าชั้นเรียน ตอนที่ ๒ ผลงานสร้างสรรค์ ๑. แบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๔-๕ คน ๒. ให้นกั เรียนแต่ละกลุม่ หาภาพทีแ่ สดงเอกลักษณ์ของคนไทย จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เช่น ห้องสมุด และติดลงในกระดาษวาดเขียน ๓. ให้นกั เรียนแต่ละกลุม่ วิเคราะห์วา่ ภาพทีห่ าได้เกีย่ วข้องกับ พระพุทธศาสนาหรือไม่ จากนั้นบันทึกข้อมูลลงในใต้ภาพ พร้อมทั้ง ตกแต่งให้สวยงาม ๔. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มน�าเสนอผลงานที่หน้าชั้นเรียน ตอนที่ ๓ ค�าถามวัดความรู้ เขียนตอบค�าถามต่อไปนี้ลงในสมุด ๑. วันส�าคัญทางพระพุทธศาสนา ที่ก�าหนดให้เป็นวันหยุด ราชการในปฏิทินปีปัจจุบัน มีวันอะไรบ้าง และตรงกับวัน และเดือน อะไร ๒. เอกลักษณ์ของคนไทยที่นับถือพระพุทธศาสนา มีลักษณะ อย่างไร 8


สารบัญ หนวยการเรียนรูที่

๑ พระพุทธศาสนาเปนเอกลักษณของชาติไทย

๒ หลักธรรมนําความสุข

๒๑

๓ ประวัติพุทธสาวกและชาดก

๕๘

๔ ชาวพุทธที่ดี

๗๘

๕ บริหารจิต เจริญปญญา

๙๐

บทที่ ๑ เอกลักษณของช�ติไทย บทที่ ๒ พุทธประวัติ หนวยการเรียนรูที่

บทที่ ๑ หลักธรรมนำ�ช�วพุทธ บทที่ ๒ ศ�สน�น่�รู้ หนวยการเรียนรูที่

บทที่ ๑ พุทธส�วก บทที่ ๒ ช�ดก หนวยการเรียนรูที่

บทที่ ๑ หน้�ที่ช�วพุทธ บทที่ ๒ มรรย�ทช�วพุทธ หนวยการเรียนรูที่

บทที่ ๑ ก�รสวดมนตไหว้พระและแผ่เมตต� บทที่ ๒ ก�รฝึกสม�ธิ ● ● ●

คําสําคัญ บรรณานุกรม ภาคผนวก

๒ ๙

๒๒ ๕๐ ๕๙ ๖๙

๗๙ ๘๓ ๙๑ ๙๕

๑๐๖ ๑๐๖ พิเศษ ๑


กระตุน ความสนใจ Engage

สํารวจคนหา

อธิบายความรู

Explore

Explain

ขยายความเขาใจ

ตรวจสอบผล Evaluate

Expand

กระตุนความสนใจ

?

ÀÒ¾¨ÔµÃ¡ÃÃÁ ½Ò¼¹Ñ§ ໚¹àÍ¡Åѡɳ ä·ÂËÃ× ÍäÁ‹

หนวยการเรียนรูที่

ñ

ครูใหนักเรียนรวมกันแสดง ความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพ ในหนานี้วา • ภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดง พุทธประวัติ เปนเอกลักษณของ ไทยหรือไม เพราะอะไร (แนวตอบ เปน เพราะภาพวาด จิตรกรรมฝาผนังแสดงเรื่องราว เกี่ยวกับพุทธประวัติ ซึ่งวาดดวย ลายเสนและลวดลายไทยที่มี ความออนชอยและสวยงาม) • เพราะอะไรภาพจิตรกรรม ฝาผนังสวนมาก จึงวาดแสดง เรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ (แนวตอบ เพราะในอดีตการ วาดภาพจิตรกรรมฝาผนัง นิยมวาดตามผนังโบสถ จึงวาดภาพที่เกี่ยวของกับ พุทธประวัติ เพื่อเปนพุทธบูชา และเปนการเผยแพรพทุ ธประวัติ ใหชาวพุทธทั่วไปไดรับรู)

¾Ãоط¸ÈÒʹÒ໚¹àÍ¡Åѡɳ ¢Í§ªÒµÔä·Â เปาหมายการเรียนรูประจําหนวยที่ ๑

เมื่อเรียนจบหนวยนี้ ผูเรียนจะมีความรูความสามารถตอไปนี้ ๑. บอกความสําคัญของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ [มฐ. ส ๑.๑ ป.๒/๑] ๒. สรุปพุทธประวัติตั้งแตประสูติจนถึงการออกผนวชหรือประวัติศาสดาที่ตนนับถือตามที่กําหนด [มฐ. ส ๑.๑ ป.๒/๒]

คูมือครู

1


กระตุน ความสนใจ Engage

สํารวจคนหา

อธิบายความรู

ขยายความเขาใจ

ตรวจสอบผล

Explore

Explain

Expand

Evaluate

(หนาพิมพและตัวอักษรในกรอบนี้มีขนาดเล็กกวาฉบับนักเรียน 20%)

เปาหมายการเรียนรู เมื่อเรียนจบ นักเรียนจะสามารถ ปฏิบัติสิ่งเหลานี้ได • บอกความสําคัญของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ (ส 1.1 ป.2/1)

º··Õè

ñ

àÍ¡Åѡɳ ¢Í§ªÒµÔä·Â กิจกรรมนาํ สูก ารเรียน

เกร็ดแนะครู ครูจัดกระบวนการเรียนรูโดยการ ใหนักเรียน • สืบคนขอมูล • อธิบาย • สรุปขอมูล • วิเคราะหขอมูลจากภาพ และประเด็นคําถาม จนเกิดเปนความรูความเขาใจวา คนไทยสวนใหญจะนับถือพระพุทธศาสนา ทําใหพระพุทธศาสนา มีอิทธิพลตอการดําเนินชีวิตของ คนไทย จนกลายเปนเอกลักษณและ วัฒนธรรมของชาติไทย

ประเพณีแหเทียนพรรษาในภาพ เปนเอกลักษณของชาติไทยหรือไม เพราะอะไร

กระตุนความสนใจ ครูใหนักเรียนดูภาพในหนา 2 และรวมกันแสดงความคิดเห็นวา • ประเพณีในภาพเปนเอกลักษณ ของชาติไทยหรือไม เพราะอะไร (แนวตอบ เปน เพราะจากภาพ เปนประเพณีแหเทียนพรรษา ซึ่งประเพณีนี้ไดจัดขึ้นจนเปน เอกลักษณของวันเขาพรรษา ที่ถือวาเปนวันสําคัญทาง พระพุทธศาสนาของชาติไทย)

แนวคิดสําคัญ ¤¹ä·ÂʋǹãËÞ‹¹Ñº¶×;Ãоط¸ÈÒÊ¹Ò ¨Ö§·íÒãËŒ ¾Ãоط¸ÈÒÊ¹Ò ÁÕÍ·Ô ¸Ô¾Åµ‹ÍÇÔ¶ªÕ ÇÕ µÔ ¢Í§¤¹ä·Âã¹´ŒÒ¹µ‹Ò§æ ¨¹¡ÅÒÂ໚¹àÍ¡Åѡɳ ¢Í§ªÒµÔä·Â

บูรณาการสูอาเซียน ครูสืบคนขอมูลหรือภาพเกี่ยวกับเอกลักษณที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาของประเทศในกลุมอาเซียน เชน พมา ลาว กัมพูชา เปนตน แลวนํามาใหนักเรียน ดูที่หนาชั้น จากนั้นรวมกันสนทนาเกี่ยวกับเอกลักษณที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาของแตละประเทศที่ทุกคนควรภาคภูมิใจ

2

คูมือครู


กระตุนความสนใจ

สํารวจคนหา Explore

อธิบายความรู Explain

Engage

ขยายความเขาใจ

ตรวจสอบผล

Expand

Evaluate

สํารวจคนหา

เอกลักษณของชาติไทย

เอกลักษณ หมายถึง ลักษณะที่เหมือนกัน หรือมีรวมกัน เอกลักษณของชาติไทย หมายถึง ลักษณะที่เหมือนกัน หรือ มีรวมกันของคนไทยในดานตางๆ ที่เห็นไดชัด ไดแก อุปนิสัย สังคม การศึกษา ประเพณี และการกําหนดวันหยุดราชการของไทย เหลานี้ ลวนมีพระพุทธศาสนาเขามาเกี่ยวของดวย ดังนี้

๑. อุปนิสัย

หลักธรรมคําสอนในพระพุทธศาสนา มีอิทธิพลตอการอบรม สัง่ สอนใหเรามีอปุ นิสยั ทีแ่ ตกตางจากชาติอนื่ เชน การเคารพเชือ่ ฟง ผูใ หญ การออนนอมถอมตน ความกตัญูกตเวที ความเมตตากรุณา การใหอภัยซึง่ กันและกัน เปนตน สิง่ เหลานี้ไดรบั การหลอหลอมจาก หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น ทําใหคนไทยมีอุปนิสัยที่ดีงาม มีความโดดเดนกวาชาติอื่น พระพุทธศาสนาชวยกลอมเกลาใหเรามีอุปนิสัยที่ดี รูจักออนนอมถอมตน และเคารพเชื่อฟงผูใหญ

1. ใหนักเรียนรวมกันสํารวจขอมูลวา นักเรียนในชั้นสวนใหญปฏิบัติตน ตามหลักธรรมคําสอนของ พระพุทธศาสนาอยางไร (แนวตอบ เชน ตักบาตรตอนเชา สวดมนตกอนนอน ไปทําบุญ ที่วัดในวันสําคัญทางศาสนา) 2. ครูใหนักเรียนสืบคนขอมูล และหาภาพที่แสดงถึงเอกลักษณ ของชาติไทย มาคนละ 1 ภาพ เชน ภาพการไหว ภาพการกราบ ภาพประเพณีลอยกระทง เปนตน โดยติดลงในสมุด และเขียน อธิบายวาภาพที่นักเรียนหามานั้น แสดงถึงเอกลักษณของชาติไทย อยางไร

อธิบายความรู 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม 5 กลุม แลวรวมกันอภิปรายเอกลักษณ ของชาติไทยในแตละดานวามี ความเกี่ยวของกับพระพุทธศาสนา อยางไร ดังนี้ กลุมที่ 1 ดานอุปนิสัย กลุมที่ 2 ดานสังคม กลุมที่ 3 ดานการศึกษา กลุมที่ 4 ดานประเพณี กลุมที่ 5 ดานการกําหนดวันหยุด ราชการ 2. ครูใหนักเรียนกลุมที่ 1 ออกมา สรุปผลการอภิปรายใหเพื่อนฟง

@

มุม IT

ครูสามารถสืบคนขอมูลเกี่ยวกับ เอกลักษณของชาติไทยเพิ่มเติม ไดจากเว็บไซต www.identity.omp. go.th/identity/content/index.asp

คูมือครู

3


กระตุนความสนใจ

สํารวจคนหา

Engage

Explore

อธิบายความรู Explain

ขยายความเขาใจ

ตรวจสอบผล

Expand

Evaluate

(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)

อธิบายความรู 1. ครูใหนักเรียนกลุมที่ 2 และ 3 ออกมาสรุปผลการอภิปราย ใหเพื่อนฟงที่หนาชั้นเรียน 2. ครูใหนักเรียนดูภาพในหนา 4 แลวอธิบายสรุปใหนักเรียนฟงวา วัดเปนศูนยรวมจิตใจของ พุทธศาสนิกชน เพราะเปนสถานที่ ทีใ่ ชในการศึกษา ประกอบศาสนพิธี และกิจกรรมตางๆ ในชุมชน 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมขอมูลที่นักเรียน ควรรู

๒. สังคม

เกร็ดแนะครู ครูอธิบายใหนักเรียนเขาใจวา ในอดีตยังไมมีการจัดตั้งโรงเรียน พอแมจึงไดสงลูกชายมาบวชที่วัด เพื่อเลาเรียนวิชาความรูตางๆ และ ศึกษาหลักธรรมเพื่อกลอมเกลา จิตใจใหเปนคนดี ตอมา ไดมีการจัดตั้งโรงเรียนขึ้น เพื่อเปนสถานที่เลาเรียนของคน ทั่วไป แตวัดก็ยังมีความสําคัญ เพราะโรงเรียนสวนใหญจะตั้งอยู ในเขตพื้นที่ของวัดหรือใกลวัด และพระสงฆบางรูปก็เปนอาจารย สอนความรูทางพระพุทธศาสนา อีกดวย

นักเรียนควรรู สมบัติสวนรวม หรือสาธารณสมบัติ เปนสิ่งของหรือสถานที่ที่เปน ของสวนรวม เชน วัด สวนสาธารณะ เปนตน ซึ่งเปนหนาที่ของเราทุกคน ที่จะตองรวมมือกันดูแลรักษา ในฐานะที่เปนสมาชิกในชุมชน

วัดและสถานที่สําคัญทางศาสนา เปนศูนยรวมการจัดประเพณีของคนไทย

สังคมของไทยมี วัด เป น ศูนยกลางในการดําเนินชีวติ งาน เทศกาลหรื อ งานบุ ญ จะจั ด ขึ้ น ที่วัด ทําใหประชาชนในทองถิ่น ไดมาทํากิจกรรมตางๆ รวมกัน นอกจากนีว้ ดั ยังเปนศูนยรวม ของความสามั ค คี ความเป น นํ้าหนึ่งใจเดียวกัน รวมทั้งเปน สมบั ติ ส  ว นรวมที่ ป ระชาชนใน ชุมชนตองชวยกันดูแลรักษา

๓. การศึกษา

การศึกษาของคนไทยใน อดี ต จะมีวัดเปนสถานศึก ษา ซึ่ ง เปรี ย บเหมื อ นโรงเรี ย นใน ปจจุบัน โดยมีพระสงฆเปนครู ถายทอดความรูและเปนผูอบรม สั่งสอน และปจจุบันวัดจํานวน มากก็เปนที่ตั้งของโรงเรียน ทั้ง พระสงฆจํานวนมากก็ทําหนาที่ เปนครูถายทอดความรูอีกดวย

วัดเปนสถานศึกษาธรรมของเด็กชาย ที่บรรพชาเปนสามเณร

นักเรียนควรรู วัด ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว (รัชกาลที่ 5) ไดโปรดเกลาฯ ใหตั้งโรงเรียนหลวงแหงแรกของไทย เพื่อใหประชาชนไดศึกษาเลาเรียน คือ โรงเรียนมหรรณพาราม ตอมาเรียกวา โรงเรียนวัดมหรรณพ ปจจุบันตั้งอยูที่เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

4

คูมือครู


กระตุนความสนใจ

สํารวจคนหา

Engage

Explore

อธิบายความรู Explain

ขยายความเขาใจ

ตรวจสอบผล

Expand

Evaluate

อธิบายความรู

๔. ประเพณี

ประเพณีไทยบางอยางมีความเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนา เชน งานแตงงาน งานทอดกฐิน งานอุปสมบท งานวันลอยกระทง งานศพ เปนตน ประเพณีเหลานี้คงอยูในวิถีชีวิตของคนไทย จนเปน เอกลักษณอยางหนึ่งของชาติ งานอุปสมบท เปนประเพณีที่เกี่ยวของกับพระพุทธศาสนา

»ÃÐླÕä·Â·Õèà¡ÕèÂÇà¹×èͧ¡Ñº ¾Ãоط¸ÈÒÊ¹Ò ÅŒÇ¹á½§á§‹¤Ô´ ãËŒàÃÒ´íÒà¹Ô¹ªÕÇԵ͋ҧ¶Ù¡µŒÍ§ äÁ‹µ¡ÍÂً㹤ÇÒÁ»ÃÐÁÒ·

1. ครูใหนักเรียนกลุมที่ 4 ออกมาสรุป ผลการอภิปรายใหเพื่อนฟง 2. ครูถามนักเรียนวา • ประเพณีของไทยที่นักเรียนรูจัก มีอะไรบาง (แนวตอบ ขึน้ อยูก บั คําตอบของ นักเรียนแตละคน) • ประเพณีในภาพ หนา 5 เปน ประเพณีอะไร และเกีย่ วของ กับพระพุทธศาสนาอยางไร (แนวตอบ ประเพณีอุปสมบทหมู ซึ่งเปนการแสดงความกตัญู กตเวทีตอบิดามารดา ประเพณีนี้เกี่ยวของกับ พระพุทธศาสนา เพราะเปน ประเพณีทางพระพุทธศาสนา และยังเปนการสืบทอด พระพุทธศาสนาใหดํารงอยู) 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมขอมูลที่นักเรียน ควรรู

นักเรียนควรรู ทอดกฐิน เปนประเพณีทชี่ าวพุทธได ปฏิบตั สิ บื ทอดกันมา ซึง่ มีวตั ถุประสงค เพือ่ สรางความสามัคคีใหแกคนใน ชุมชน การทอดกฐินจะมีกาํ หนดระยะเวลา 1 เดือน ภายหลังจากออกพรรษา คือ ตัง้ แตวนั แรม 1 คํา่ เดือน 11 ไปจนถึง วันขึน้ 15 เดือน 12 กฐิน แบงออกเปน 2 ประเภท ไดแก 1) กฐินหลวง คือ กฐินที่พระเจาแผนดินเสด็จไปทรงทอดเอง หรือ พระราชทานใหหนวยงานตางๆ ไปทอดถวาย 2) กฐินราษฎร คือ กฐินที่ชาวบาน นําไปทอดหรือถวายพระสงฆ ที่จําพรรษายังวัดตางๆ

คูมือครู

5


กระตุนความสนใจ

สํารวจคนหา

Engage

Explore

อธิบายความรู Explain

ขยายความเขาใจ

ตรวจสอบผล

Expand

Evaluate

(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)

อธิบายความรู 1. ครูใหนักเรียนกลุมที่ 5 ออกมาพูด สรุปผลการอภิปรายใหเพื่อนฟง 2. ครูถามนักเรียนวา • ในวันสําคัญทางพระพุทธศาสนา ชาวพุทธควรปฏิบัติตน อยางไร (แนวตอบ เชน ทําบุญตักบาตร รักษาศีล ฟงธรรม เปนตน) • นักเรียนเคยปฏิบัติกิจกรรม ในวันสําคัญทางพระพุทธศาสนาใดบาง (แนวตอบ เชน ฟงธรรม ไปเวียนเทียน เปนตน) 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมขอมูลที่นักเรียน ควรรู

๕. การกําหนดวันหยุดราชการ

ทางราชการไดกําหนดวันสําคัญทางพระพุทธศาสนาใหเปน วันหยุดราชการ คือ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา และวันเขาพรรษา เพื่อใหชาวพุทธไดปฏิบัติศาสนพิธีตางๆ รวมกัน ซึ่งถือไดวาเปนเอกลักษณของชาติ การปฏิบัติศาสนพิธีรวมกันในวันสําคัญทางพระพุทธศาสนา ทําใหชาวพุทธเกิดความรักและสามัคคีกัน

นักเรียนควรรู วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 คํ่า เดือน 8 เปนวันที่มีเหตุการณ สําคัญทางพระพุทธศาสนาเกิดขึ้น พรอมกัน 4 เหตุการณ ไดแก 1. เปนวันที่พระพุทธเจาทรงประกาศ ศาสนา 2. เปนวันที่พระพุทธเจาทรง แสดงธรรมที่เรียกวา ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร 3. เปนวันที่มีพระสงฆเกิดขึ้นเปน ครั้งแรกในโลก คือ พระอัญญาโกณฑัญญะ ซึ่งไดรับการบวชจาก พระพุทธเจา 4. เปนวันที่มีพระรัตนตรัยครบองค 3 คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ

นักเรียนควรรู วันเขาพรรษา ตรงกับวันแรม 1 คํา่ เดือน 8 ถึงวันขึน้ 15 คํา่ เดือน 11 ซึง่ ถือเปนวันสําคัญวันหนึง่ ทางพระพุทธศาสนา โดยในชวงเขาพรรษาพระภิกษุตอ งอยู จําพรรษาทีว่ ดั ใดวัดหนึ่งเปนเวลา 3 เดือน ซึ่งพระพุทธเจาทรงกําหนดวันเขาพรรษาไวเพื่อปองกันไมใหพระภิกษุในสมัยนั้นเดินเหยียบตนขาวของชาวบาน ใหไดรับความเสียหาย

6

คูมือครู


กระตุนความสนใจ

สํารวจคนหา

Engage

Explore

อธิบายความรู Explain

ขยายความเขาใจ Expand

ตรวจสอบผล Evaluate

อธิบายความรู

จะเห็นไดวาเอกลักษณตางๆ ของชาติไทยที่กลาวไปแลวนั้น มีสวนเกี่ยวของกับพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น ซึ่งพระพุทธศาสนาไดมี ความเจริญรุงเรืองในประเทศไทยมาตั้งแตสมัยอาณาจักรสุโขทัย จนถึงปจจุบัน ซึ่งคนไทยโดยสวนใหญจะนับถือพระพุทธศาสนา พระมหากษัตริยไทยทรงเปนพุทธมามกะ วัฒนธรรมประเพณีของไทย ลวนเกี่ยวของกับพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาจึงมีอิทธิพลตอ จิตใจและวิถกี ารดําเนินชีวติ ของคนไทยอยางมากมาย จนกลาวไดวา “พระพุทธศาสนาเปนเอกลักษณของชาติไทย” การทําบุญตักบาตรชวยกลอมเกลาจิตใจใหใสสะอาด รูจักเอื้อเฟอเผื่อแผ จนกลายเปนเอกลักษณ อยางหนึ่งของชาติไทย

1. นักเรียนรวมกันสรุปเรื่อง เอกลักษณของชาติไทยใหไดวา เอกลักษณของชาติไทยลวนเกิด ขึ้นมาจากพระพุทธศาสนา ซึ่งมีอิทธิพลตอวิถีการดําเนินชีวิต ของคนไทยเปนอยางมาก 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมขอมูลที่นักเรียน ควรรู

ขยายความเขาใจ 1. นักเรียนแบงกลุมแลวรวมกัน อภิปรายวา “เพราะเหตุใด พระพุทธศาสนาจึงชวยสราง เอกลักษณของชาติไทย” จากนั้นสรุปผลการอภิปราย และสงตัวแทนออกมารายงานที่ หนาชั้นเรียน 2. นักเรียนแบงกลุม แลวหาภาพที่ แสดงเอกลักษณของไทย แลวนํา มาติดลงบนกระดาษวาดเขียน จากนั้นใหแตละกลุมวิเคราะหวา ภาพนัน้ เกีย่ วของกับพระพุทธศาสนา อยางไร พรอมทัง้ ตกแตงใหสวยงาม แลวออกมารายงานหนาชั้นเรียน 3. ใหนักเรียนตอบคําถามวัดความรู ในหนา 8 โดยทําลงในสมุด

@

มุม IT

ครูสามารถสืบคนขอมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับประเพณีและวัฒนธรรม ของไทย ไดจากเว็บไซต http://www.prapayneethai.com

นักเรียนควรรู วัฒนธรรม เปนสิ่งที่ทําใหเจริญงอกงาม และทําใหเกิดความเปนระเบียบเรียบรอย วัฒนธรรมแบงออกเปน 2 ประเภท ไดแก 1. วัฒนธรรมทางวัตถุ คือ เครื่องอํานวยความสะดวกในชีวิตประจําวันของคน เชน รถยนต โทรศัพท เปนตน 2. วัฒนธรรมทางจิตใจ คือ เครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของคน เพื่อใหเกิดปญญาและมีจิตใจที่งดงาม เชน ศาสนา ศิลปะ วรรณคดี ขนบธรรมเนียมประเพณี เปนตน คูมือครู

7


กระตุนความสนใจ

สํารวจคนหา

อธิบายความรู

ขยายความเขาใจ

Engage

Explore

Explain

Expand

ตรวจสอบผล Evaluate

(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)

ตรวจสอบผล 1. ครูประเมินผลการอภิปรายกลุม วานักเรียนแตละกลุมบอกความ สําคัญของพระพุทธศาสนา ที่มีอิทธิพลตอเอกลักษณของไทย ไดถูกตองและชัดเจนหรือไม 2. ครูพิจารณาผลงานภาพวา ภาพที่ นักเรียนหามาเปนภาพเอกลักษณ ของคนไทยหรือไม และสามารถ บอกความเกี่ยวของของภาพกับ พระพุทธศาสนาไดถูกตองหรือไม 3. ครูตรวจสอบผลการทํากิจกรรม รวบยอด ตอนที่ 3 คําถามวัดความรู โดยพิจารณาจากความถูกตอง สมบูรณของคําตอบ

หลักฐาน แสดงผลการเรียนรู 1. การอภิปรายกลุม เกีย่ วกับพระพุทธศาสนากับเอกลักษณของชาติไทย 2. ผลงานภาพที่แสดงถึงเอกลักษณ ของชาติไทย

เฉลย

กิจกรรมรวบยอด

ตอนที่ ๑ อภิปรายชวนคิด ครูใหนักเรียนแบงกลุมแลวรวมกันอภิปรายวา “เพราะเหตุใด พระพุทธศาสนาจึงเปนเอกลักษณของชาติไทย” จากนั้นสรุป และ สงตัวแทนออกมารายงานที่หนาชั้นเรียน ตอนที่ ๒ ผลงานสรางสรรค ๑. แบงกลุม กลุมละ ๔-๕ คน ๒. ใหนกั เรียนแตละกลุม หาภาพทีแ่ สดงเอกลักษณของคนไทย จากแหลงเรียนรูตางๆ เชน หองสมุด และติดลงในกระดาษวาดเขียน ๓. ใหนกั เรียนแตละกลุม วิเคราะหวา ภาพทีห่ าไดเกีย่ วของกับ พระพุทธศาสนาหรือไม จากนั้นบันทึกขอมูลลงในใตภาพ พรอมทั้ง ตกแตงใหสวยงาม ๔. ใหนักเรียนแตละกลุมนําเสนอผลงานที่หนาชั้นเรียน ตอนที่ ๓ คําถามวัดความรู เขียนตอบคําถามตอไปนี้ลงในสมุด ๑. วันสําคัญทางพระพุทธศาสนา ที่กําหนดใหเปนวันหยุด ราชการในปฏิทินปปจจุบัน มีวันอะไรบาง และตรงกับวัน และเดือน อะไร ๒. เอกลักษณของคนไทยที่นับถือพระพุทธศาสนา มีลักษณะ อยางไร (ผลการปฏิบัติกิจกรรมขึ้นอยูกับดุลยพินิจของครูผูสอน)

(ผลการปฏิบัติกิจกรรมขึ้นอยูกับดุลยพินิจของครูผูสอน)

กิจกรรมรวบยอด ตอนที่ 3 (คําถามวัดความรู) 1. แนวตอบ เชน • วันมาฆบูชา ตรงกับ วันขึ้น 15 คํ่า เดือน 3 • วันวิสาขบูชา ตรงกับ วันขึ้น 15 คํ่า เดือน 6 • วันอาสาฬหบูชา ตรงกับ วันขึ้น 15 คํ่า เดือน 8 • วันเขาพรรษา ตรงกับ ๘ วันแรม 1 คํ่า เดือน 8 2. แนวตอบ เชน • ดานอุปนิสัย มีความเมตตากรุณา มี​ีความกตัญูกตเวที • ดานสังคม มีวัดเปนศูนยรวมและเปนที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ • ดานการศึกษา มีวัดเปนสถานศึกษา โดยมีพระสงฆเปนผูอบรมสั่งสอน • ดานประเพณี ประเพณีสวนใหญลวนเปนประเพณีที่เกี่ยวของกับพระพุทธศาสนา เชน ประเพณีเขาพรรษา ประเพณีอุปสมบท เปนตน • ดานวันสําคัญทางพระพุทธศาสนา ซึ่งพุทธศาสนิกชนจะปฏิบัติศาสนพิธีรวมกัน เชน ทําบุญตักบาตร ฟงเทศน เปนตน

8

คูมือครู


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.