คูมือครู 㪌»ÃСͺ¡ÒÃÊ͹ËÇÁ¡Ñº
˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ©ºÑº Í- .
ภาพปกนี้มีขนาดเทากับหนังสือเรียนฉบับจริงของนักเรียน
กระบวนการสอนแบบ 5 Es ชวยสรางทักษะการเรียนรู กิจกรรมมุงพัฒนาทักษะการคิด คำถาม + แนวขอสอบเพื่อยกผลสัมฤทธิ์ O-NET กิจกรรมบูรณาการเตรียมพรอมสู ASEAN 2558
เอกสารประกอบคูมือครู
กลุมสาระการเรียนรู คณิตศาสตร
คณิตศาสตร เลม 1 ชั้นมัธยมศึกษาปที่
2
สําหรับครู
คูมือครู Version ใหม
ลักษณะเดน
ขยายพื้นที่รูปเลมใหญขึ้นกวาเดิม จัดแบงพื้นที่ออกเปนโซน เพื่อคนหาขอมูลไดงาย สะดวก รวดเร็ว และดูเปนระเบียบ กระตุน ความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ Expand
ตรวจสอบผล
กระตุน ความสนใจ
Evaluate
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
เปาหมายการเรียนรู สมรรถนะของผูเรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค
หน า
โซน 1 กระตุน ความสนใจ
Engage
สํารวจคนหา
Explore
อธิบายความรู
Explain
ขยายความเขาใจ
Expand
ตรวจสอบผล
หน า
หนั ง สื อ เรี ย น
โซน 1
หนั ง สื อ เรี ย น
Evaluate
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET
O-NET บูรณาการเชื่อมสาระ
เกร็ดแนะครู
ขอสอบ
โซน 2
โซน 3
กิจกรรมสรางเสริม กิจกรรมทาทาย
นักเรียนควรรู
โซน 3
โซน 2 บูรณาการอาเซียน มุม IT
No.
คูมือครู
คูมือครู
No.
โซน 1 ขั้นตอนการสอนแบบ 5Es
โซน 2 ชวยครูเตรียมสอน
โซน 3 ชวยครูเตรียมนักเรียน
เพื่อใหครูเตรียมจัดกิจกรรมการเรียน การสอน โดยแนะนําขั้นตอนการสอนและ การจัดกิจกรรมแบบ 5Es อยางละเอียด เพื่อใหนักเรียนบรรลุตามตัวชี้วัด
เพื่อชวยลดภาระครูผูสอน โดยแนะนํา เกร็ดความรูสําหรับครู ความรูเสริมสําหรับ นักเรียน รวมทั้งบูรณาการความรูสูอาเซียน และมุม IT
เพื่อใหครูสะดวกตอการจัดกิจกรรม โดย แนะนํากิจกรรมบูรณาการเชือ่ มระหวางสาระหรือ กลุมสาระการเรียนรู วิชา กิจกรรมสรางเสริม กิจกรรมทาทาย รวมถึงเนื้อหาที่เคยออกขอสอบ O-NET แนวขอสอบ NT/O-NET ทีเ่ นนการคิด พรอมเฉลยและคําอธิบายอยางละเอียด
ที่ใชในคูมือครู
แถบสีและสัญลักษณ
แถบสีแสดงขั้นตอนการสอนและการจัดกิจกรรม แบบ 5Es เพื่อใหครูทราบวาเปนขั้นการสอนขั้นใด
1. แถบสี 5Es สีแดง
สีเขียว
กระตุน ความสนใจ
เสร�ม
สํารวจคนหา
Engage
2
•
เปนขั้นที่ผูสอนเลือกใช เทคนิคกระตุน ความสนใจ เพื่อโยง เขาสูบทเรียน
สีสม
อธิบายความรู
Explore
•
เปนขั้นที่ผูสอน ใหผูเรียนสํารวจ ปญหา และศึกษา ขอมูล
สีฟา
Explain
•
เปนขั้นที่ผูสอน ใหผูเรียนคนหา คําตอบ จนเกิดความรู เชิงประจักษ
สีมวง
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
•
Evaluate
เปนขั้นที่ผูสอน ใหผูเรียนนําความรู ไปคิดคนตอๆ ไป
•
เปนขั้นที่ผูสอน ประเมินมโนทัศน ของผูเรียน
2. สัญลักษณ สัญลักษณ
วัตถุประสงค
• เปาหมายการเรียนรู
• หลักฐานแสดง ผลการเรียนรู
• เกร็ดแนะครู
แทรกความรูเสริมสําหรับครู ขอเสนอแนะ ขอควรระวัง ขอสังเกต แนวทางการจัด กิจกรรมและอืน่ ๆ เพื่อประโยชนในการ จัดการเรียนการสอน ขยายความรูเพิ่มเติมจากเนื้อหา เพื่อให ครูนําไปใชอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียน ไดมีความรูมากขึ้น
•
ความรูห รือกิจกรรมเสริม ใหครูนาํ ไปใช เตรียมความพรอมใหกบั นักเรียนกอนเขาสู ประชาคมอาเซียนใน พ.ศ. 2558 โดย บูรณาการกับวิชาทีก่ าํ ลังเรียน
บูรณาการอาเซียน
•
คูม อื ครู
แสดงรองรอยหลักฐานตามภาระงาน ที่ครูมอบหมาย เพื่อแสดงผลการเรียนรู ตามตัวชี้วัด
• นักเรียนควรรู
มุม IT
แสดงเปาหมายการเรียนรูที่นักเรียน ตองบรรลุตามตัวชี้วัด ตลอดจนสมรรถนะ ที่จะตองมี และคุณลักษณะที่พึงเกิดขึ้น กับนักเรียน
แนะนําแหลงคนควาจากเว็บไซต เพื่อให ครูและนักเรียนไดเขาถึงขอมูลความรู ที่หลากหลาย ทั้งไทยและตางประเทศ
สัญลักษณ
ขอสอบ
วัตถุประสงค
O-NET
(เฉพาะวิชา ชัน้ ทีส่ อบ O-NET O-NET)
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T (เฉพาะระดับชัน้ มัธยมศึกษาตอนตอนตน)
ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET (เฉพาะระดับชัน้ มัธยมศึกษาตอนปลาย)
บูรณาการเชื่อมสาระ
กิจกรรมสรางเสริม
กิจกรรมทาทาย
• ชีแ้ นะเนือ้ หาทีเ่ คยออกขอสอบ
O-NET โดยยกตัวอยางขอสอบ พรอมวิเคราะหคาํ ตอบ อยางละเอียด
• เปนตัวอยางขอสอบทีม่ งุ เนน
การคิดและเปนแนวขอสอบ NT/O-NET ในระดับมัธยมศึกษา ตอนตน มีทงั้ ปรนัย - อัตนัย พรอมเฉลยอยางละเอียด
• เปนตัวอยางขอสอบทีม่ งุ เนน
การคิดและเปนแนวขอสอบ O-NET ในระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย มีทงั้ ปรนัย - อัตนัย พรอมเฉลยอยางละเอียด
• แนะนําแนวทางการจัดกิจกรรม
เชือ่ มกับสาระหรือกลุม สาระ การเรียนรู ระดับชัน้ หรือวิชาอืน่ ทีเ่ กีย่ วของ
• แนะนําแนวทางการจัดกิจกรรม ซอมเสริมสําหรับนักเรียนทีค่ วร ไดรบั การพัฒนาการเรียนรู
• แนะนําแนวทางการจัดกิจกรรม ตอยอดสําหรับนักเรียนทีเ่ รียนรู ไดอยางรวดเร็ว และตองการ ทาทายความสามารถในระดับ ทีส่ งู ขึน้
คําแนะนําการใชคูมือครู การออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอน คูม อื ครู รายวิชา คณิตศาสตร ม.2 เลม 1 จัดทําขึน้ เพือ่ ใหครูผสู อนนําไปใชเปนแนวทางวางแผนการสอนเพือ่ พัฒนา ผลสัมฤทธิท์ างการเรียน และประกันคุณภาพผูเ รียน ตามนโยบายของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน (สพฐ.) โดยใชหนังสือเรียน คณิตศาสตร ม.2 เลม 1 ของบริษัท อักษรเจริญทัศน อจท. จํากัด เปนสื่อหลัก (Core Material) เสร�ม ประกอบการสอนและการจัดกิจกรรมการเรียนรูใหสอดคลองกับมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดกลุมสาระการเรียนรู 3 คณิตศาสตร ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 โดยออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนตาม หลักการสําคัญ ดังนี้ 1 ออกแบบการสอนเปนหนวยการเรียนรูอิงมาตรฐาน คูม อื ครู รายวิชา คณิตศาสตร ม.2 เลม 1 วางแผนการสอนโดยแบงเปนหนวยการเรียนรูต ามลําดับสาระ (Strand) และหมายเลขขอของมาตรฐานการเรียนรูแ ละตัวชีว้ ดั แตละหนวยจะกําหนดเปาหมายการเรียนรูแ ละจุดประสงคการเรียนรู (Objective Learning) กิจกรรมการเรียนรู (Learning Activities) และแนวทางการประเมินผลการเรียนรู (Learning Evaluation) ไวชัดเจน ครูผูสอนสามารถจัดทําแผนการสอนใหครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรู ตัวชี้วัด สมรรถนะ และ คุณลักษณะอันพึงประสงคทเี่ ปนเปาหมายการเรียนรูต ามทีก่ าํ หนดไวในสาระแกนกลาง (ตามแผนภูม)ิ และสามารถบันทึก ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผูเรียนแตละคนลงในเอกสาร ปพ.5 ไดอยางมั ง ่นใจ แผนภูมิแสดงความสัมพันธขององคประกอบการออกแบบการเรียนรูอิงมาตรฐานและเน มาต นผูเรียนเปนสําคัญ
พผ
ูเ
จุ ด ป ร
ะสง
คก า
ส ภา
รี ย น
ร
รู ีเรยน
มาตรฐานการเรียนรู ตัวชี้วัดชั้นป
ทักษะการคิด การวัดประเมินผล การเรียนรู
กิจกรรมการเรียนรู
เทคนิคการสอน คูม อื ครู
2 การจัดการเรียนรูที่ยึดผูเรียนเปนสําคัญ แนวคิ ด ในการจั ด การเรี ย นการสอนที่ ยึ ด ผู เ รี ย นเป น สํ า คั ญ พั ฒ นามาจากปรั ช ญาและทฤษฎี ก ารเรี ย นรู Constructivism ที่เชื่อวา การเรียนรูเปนกระบวนการที่เกิดขึ้นภายในสมองของผูเรียนแตละคน ผูเรียนเปนผูสรางความรู โดยการเชื่อมโยงระหวางสิ่งที่ไดเรียนรูจากบทเรียนใหมกับความรูหรือประสบการณเดิมที่มีอยู ทฤษฎีนี้มีความเชื่อวา ผูเรียนทุกคนไดเรียนรูและมีการสั่งสมความรูความเขาใจเกี่ยวกับสิ่งตางๆ ติดตัวมากอน ทีจ่ ะเขาสูห อ งเรียน ซึง่ เปนการเรียนรูท เี่ กิดจากประสบการณและสิง่ แวดลอมรอบตัวผูเ รียนแตละคน ดังนัน้ การจัดกิจกรรม เสร�ม การเรียนการสอนในแตละหนวยการเรียนรู ผูสอนจะตองคํานึงถึง
4
1. ความรูเดิมของผูเรียน วิธีการสอนที่ดีจะตองเริ่มตนจากจุดที่วา ผูเ รียนมีความรูอ ะไรมาบาง แลวจึงใหความรู หรือประสบการณใหม เพื่อตอยอดจาก ความรูเดิม นําไปสูการสรางความรู ความเขาใจใหม
2. ความรูเดิมของผูเรียนถูกตองหรือไม ผูส อนตองปรับเปลีย่ นความรูค วามเขาใจเดิม ของผูเรียนใหถูกตอง และเปนพฤติกรรม การเรียนรูใ หมทมี่ คี ณุ คาตอผูเรียน เพื่อสราง เจตคติหรือทัศนคติที่ดีตอการเรียนรู สิ่งเหลานั้น
3. ผูเรียนสรางความหมายสําหรับตนเอง ผูสอนตองสงเสริมใหผูเรียนนําความรู ความเขาใจที่เกิดขึ้นไปลงมือปฏิบัติ เพื่อขยายความรูใหลึกซึ้งและมีคุณคา ตอตัวผูเรียนมากที่สุด
แนวคิด Constructivism เนนใหผูเรียนสรางความรูโดยผานกระบวนการคิดและความอยากรูของตนเอง โดยมีผูสอนเปนผูสรางบรรยากาศ
การเรียนรูและกระตุนความสนใจ คอยจัดสถานการณใหผูเรียนเกิดความขัดแยงทางความคิดระหวางประสบการณเดิมกับประสบการณ ความรูใ หม เพือ่ กระตนุ ใหผเู รียนเชือ่ มโยงความรู ความคิด กับประสบการณทมี่ อี ยูเ ดิม แลวสังเคราะหเปนความรูห รือแนวคิดใหมๆ ไดดว ยตนเอง
3 การบูรณาการกระบวนการคิด การเรียนรูของผูเรียนแตละคนจะเกิดขึ้นที่สมอง ซึ่งเปนอวัยวะที่ทําหนาที่รูคิดภายใตสภาพแวดลอมที่เอื้ออํานวย และไดรบั การกระตนุ จูงใจอยางเหมาะสม สอดคลองกับสภาพจิตใจและความตองการของผูเ รียนแตละคน การจัดกิจกรรม การเรียนรูและสาระการเรียนรูที่สอดคลองกับความสนใจและมีความหมายตอผูเรียน จะชวยกระตุนใหสมองของผูเรียน สามารถรับรูและเรียนรูไดอยางมีประสิทธิภาพตามขั้นตอนการทํางงานของสมอง ดังนี้ 1. สมองจะเรียนรูและสืบคน โดยการสังเกต คนหา ซักถาม และทดลอง ปฏิบัติ จนทําใหคนพบความรูความเขาใจ ไดอยางรวดเร็ว
2. สมองจะแยกแยะคุณคาของสิ่งตางๆ โดยการตัดสินใจวิพากษวิจารณ แสดง ความคิดเห็น ยอมรับหรือตอตานตาม อารมณความรูสึกที่เกิดขึ้นในขณะที่เรียนรู
3. สมองจะประมวลเนื้อหาสาระ โดยการสรุปเปนความคิดรวบยอดจาก เรื่องราวที่ไดเรียนรูใหมนําไปผสมผสานกับ ความรูห รือประสบการณเดิมทีถ่ กู จัดเก็บอยูใ น สมอง ผานการกลัน่ กรองเพือ่ สังเคราะหเปน ความรูค วามเขาใจใหมๆ หรือเปนทัศนคติใหม ที่จะเก็บบรรจุไวในสมองของผูเรียน
การเรียนรูที่มีประสิทธิภาพจึงตองเปนการเรียนรูที่เกิดจากกระบวนการคิดของผูเรียน เพราะการเรียนรูจะเกิดขึ้น เมื่อสมองรูคิด และตองเปนการคิดไดครบถวนตามขั้นตอนการทํางานของสมองผูเรียน โดยเริ่มตนจาก 1. ระดับการคิดพื้นฐาน ไดแก การสังเกต การจําแนก การคาดคะเน การสื่อความหมาย การรวบรวมขอมูล การสรุปผล เปนตน
คูม อื ครู
2. ระดับลักษณะการคิด ไดแก การคิดกวาง คิดลึกซึ้ง คิดไกล คิดหลากหลาย คิดคลอง คิดอยางมีเหตุผล เปนตน
3. ระดับกระบวนการคิด ไดแก กระบวนการคิดอยางมีวิจารณญาณ กระบวนการแกปญหา กระบวนการ คิดสรางสรรค กระบวนการคิดสังเคราะห เปนตน
5Es การจัดกิจกรรมตามขั้นตอนวัฏจักรการเรียนรู 5Es ขั้นตอนการสอนที่สัมพันธกับขั้นตอนการคิดและการทํางานทางสมองของผูเรียนที่นิยมใชอยางแพรหลาย คือ วัฏจักรการเรียนรู 5Es ซึ่งผูจัดทําคูมือครูไดนํามาใชเปนแนวทางออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนในแตละหนวย ตามลําดับขั้นตอนการเรียนรู ดังนี้ ขั้นที่ 1
กระตุนความสนใจ
(Engage)
เสร�ม
5
เปนขั้นที่ผูสอนนําเขาสูบทเรียน เพื่อกระตุนความสนใจของผูเรียนดวยเรื่องราวหรือเหตุการณที่นาสนใจโดยใชเทคนิควิธีการ และคําถามทบทวนความรูหรือประสบการณเดิมของผูเรียน เพื่อเชื่อมโยงผูเรียนเขาสูความรูของบทเรียนใหม ชวยใหผูเรียนสามารถ สรุปความสําคัญหัวขอและสาระการเรียนรูของบทเรียนได จึงเปนขั้นตอนการสอนที่สําคัญ เพราะเปนการเตรียมความพรอมและสราง แรงจูงใจใฝเรียนรูแกผูเรียน
ขั้นที่ 2
สํารวจคนหา
(Explore)
เปนขัน้ ทีผ่ สู อนเปดโอกาสใหผเู รียนลงมือศึกษา สังเกต หรือรวมมือกันสํารวจ เพือ่ ใหเห็นขอบขายของประเด็นหรือปญหา รวมถึง วิธีการศึกษาคนควา การรวบรวมขอมูลความรูที่จะนําไปสูการสรางความเขาใจประเด็นหรือปญหานั้นๆ เมื่อผูเรียนทําความเขาใจใน ประเด็นหรือปญหาที่จะศึกษาคนควาอยางถองแทแลว ก็ลงมือปฏิบัติเพื่อเก็บรวบรวมขอมูลความรู สํารวจตรวจสอบ โดยวิธีการตางๆ เชน สัมภาษณ ทดลอง อานคนควาขอมูลจากเอกสาร แหลงขอมูลตางๆ จนไดขอมูลความรูที่เกี่ยวของกับประเด็นหรือปญหาที่ศึกษา
ขั้นที่ 3
อธิบายความรู
(Explain)
เปนขั้นที่ผูสอนมีปฏิสัมพันธกับผูเรียน เชน ใหการแนะนํา ตั้งคําถามกระตุนใหคิด เพื่อใหผูเรียนคนหาคําตอบ และนําขอมูล ความรูจากการศึกษาคนควาในขั้นที่ 2 มาวิเคราะห สรุปผล และนําเสนอผลที่ไดศึกษาคนความาในรูปแบบสารสนเทศตางๆ เชน เขียนแผนภูมิ ผังมโนทัศน เขียนความเรียง เขียนรายงาน เปนตน ในขั้นตอนนี้ฝกใหผูเรียนใชสมองคิดวิเคราะหและสังเคราะห อยางเปนระบบ
ขั้นที่ 4
ขยายความเขาใจ
(Expand)
เปนขั้นที่ผูสอนเลือกใชเทคนิควิธีสอนตางๆ ที่สงเสริมใหผูเรียนนําความรูที่เกิดขึ้นไปคิดคนสืบคนตอๆ ไป เพื่อพัฒนาทักษะ การเรียนรูและการทํางานรวมกันเปนกลุม ระดมสมองเพื่อคิดสรางสรรครวมกัน ผูเรียนสามารถนําความรูที่สรางขึ้นใหมไปเชื่อมโยง กับประสบการณเดิมโดยนําขอสรุปทีไ่ ดไปใชอธิบายเหตุการณตา งๆ หรือนําไปปฏิบตั ใิ นสถานการณใหมๆ ทีเ่ กีย่ วของกับชีวติ ประจําวัน ของตนเอง เพื่อขยายความรูความเขาใจใหกวางขวางยิ่งขึ้น ในขั้นตอนนี้ฝกสมองของผูเรียนใหสามารถคิดริเริ่มสรางสรรคอยางมี คุณภาพ เสริมสรางวิสัยทัศนใหกวางไกลออกไป
ขั้นที่ 5
ตรวจสอบผล
(Evaluate)
เปนขัน้ ทีผ่ สู อนประเมินมโนทัศนของผูเ รียน โดยตรวจสอบจากความคิดทีเ่ ปลีย่ นไปและความคิดรวบยอดทีเ่ กิดขึน้ ใหม ตรวจสอบ ทักษะ กระบวนการปฏิบัติ การแกปญหา การตอบคําถามรวบยอด หรือการเคารพความคิดหรือยอมรับเหตุผลของคนอื่น เพื่อการ สรางสรรคความรูร ว มกัน ผูเ รียนสามารถประเมินผลการเรียนรูข องตนเอง เพือ่ สรุปผลวามีความรูอ ะไรเพิม่ ขึน้ มาบาง เกิดความเขาใจ มากนอยเพียงใด และจะนําความรูเหลานั้นไปประยุกตใชในการเรียนรูเรื่องอื่นๆ หรือในชีวิตประจําวันไดอยางไร ผูเรียนจะเกิดเจตคติ และเห็นคุณคาของตนเองจากผลการเรียนรูที่เกิดขึ้น ซึ่งเปนการเรียนรูที่มีความสุขอยางแทจริง
การจัดกิจกรรมการเรียนรูตามขั้นตอนวัฏจักรการเรียนรู 5Es จึงเปนรูปแบบการเรียนการสอนที่เนนผูเรียน เปนสําคัญอยางแทจริง เพราะสงเสริมใหผูเรียนไดเรียนรูตามขั้นตอนของกระบวนการสรางความรูดวยตนเอง และ ฝกฝนใหใชกระบวนการคิดและกระบวนการกลุมอยางชํานาญ กอใหเกิดทักษะชีวิต ทักษะการทํางาน และทักษะการ เรียนรูที่มีประสิทธิภาพ สงผลตอการยกระดับผลสัมฤทธิ์ของผูเรียน ตามเปาหมายของการปฏิรูปการศึกษาทศวรรษที่ 2 (พ.ศ. 2552-2561) ทุกประการ คูม อื ครู
O-NET การเพิ่มผลสัมฤทธิ์ O-NET
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามขั้นตอนวัฏจักรการเรียนรู 5Es ในแตละหนวยการเรียนรู ทางผูจัดทํา จะเสนอแนะวิธีสอน รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู พรอมทั้งออกแบบเครื่องมือวัดและประเมินผลที่สอดคลองกับตัวชี้วัด และสาระการเรียนรูแกนกลางไวทุกขั้นตอน โดยยึดหลักสําคัญ คือ หลักของการวัดและประเมินผล เสร�ม
6
1. การวัดและประเมินผลทุกครั้ง ควรนําผลมาปรับปรุงพัฒนาผูเรียน เปนรายบุคคล
2. การวัดและประเมินผลมี เปาหมาย เพื่อพัฒนาการเรียนรู ของผูเรียนจนเต็มศักยภาพ
3. การนําผลการวัดและประเมินผล ทุกครั้งมาวางแผนปรับปรุงกิจกรรม การเรียนการสอน การเลือกเทคนิค วิธีสอน และสื่อการเรียนรูให เหมาะสมกับสภาพจริงของผูเรียน
การทดสอบผูเรียน 1. การใชขอสอบอัตนัย เนนการอาน การคิดวิเคราะห และการเขียนเพิ่มมากขึ้น 2. การใชคําถามกระตุนการคิดควบคูกับการทําขอสอบที่เนนการคิดอยางตอเนื่องตามลําดับกิจกรรมการเรียนรู และตัวชี้วัด 3. การทดสอบตองดําเนินการทั้งกอนเรียน ระหวางเรียน และหลังเรียน การทดสอบควรใชขอสอบทั้งชนิดปรนัยและ อัตนัย และเปนการทดสอบเพื่อประเมินผลการเรียนของผูเรียนแตละคน เพื่อการสอนซอมเสริมใหบรรลุตัวชี้วัด ไดครบถวน 4. การสอบกลางภาค (ถามี) ควรนําแบบฝกหัดหรือขอสอบทีน่ กั เรียนสวนใหญไมสามารถตอบไดหรือไมครบถวนชัดเจน มา สรางเปนแบบทดสอบอีกครัง้ เพือ่ ตรวจสอบความรูค วามเขาใจทีถ่ กู ตอง และประเมินความกาวหนาของผูเ รียนแตละคน 5. การสอบปลายภาคเรียนเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามตัวชี้วัดที่สําคัญ ควรออกขอสอบใหมีลักษณะเดียวกับ ขอสอบ O-NET โดยเนนการคิดวิเคราะห สังเคราะห เชื่อมโยงประยุกตใช เพื่อสรางความคุนเคย และฝกฝน วิธีการทําขอสอบดวยความมั่นใจ 6. การนําผลการทดสอบของผูเรียนมาวิเคราะห โดยผลการสอบกอนการเรียนตองสามารถพยากรณผลการสอบ กลางภาค และผลการสอบกลางภาคตองทํานายผลการสอบปลายภาคของผูเ รียนแตละคน เพือ่ ประเมินพัฒนาการ ความกาวหนาของผูเรียนเปนรายบุคคล 7. ผลการทดสอบปลายป ปลายภาค ตองมีคาเฉลี่ยสอดคลองกับคาเฉลี่ยของการสอบ NT ที่เขตพื้นที่การศึกษา จัดสอบ รวมทั้งคาเฉลี่ยของการสอบ O-NET ชวงชั้นที่สอดคลองครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดสําคัญ เพือ่ สะทอนประสิทธิภาพของครูผสู อนในการออกแบบการเรียนรูแ ละประกันคุณภาพผูเ รียนทีต่ รวจสอบผลไดชดั เจน การจัดการเรียนการสอนในแตละหนวยการเรียนรู ตองใหผูเรียนไดสั่งสมความรู ความเขาใจตามลําดับขั้นตอน ของกิจกรรมในวัฏจักรการเรียนรู 5Es เพื่อใหผูเรียนไดเติมเต็มองคความรูอยางตอเนื่อง จนสามารถปฏิบัติชิ้นงานหรือ ภาระงานรวบยอดของแตละหนวย ผานเกณฑประกันคุณภาพในระดับที่นาพึงพอใจ เพื่อรองรับการประเมินภายนอกจาก สมศ. ตลอดเวลา คูม อื ครู
ASEAN การเรียนรูสูประชาคมอาเซียน เพื่ออํานวยความสะดวกแกครูผูสอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรูบูรณาการอาเซียนศึกษา ผูจัดทําไดวิเคราะห มาตรฐานการเรียนรู และตัวชี้วัดที่มีสาระการเรียนรูสอดคลองกับองคความรูเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนในแงมุมตางๆ ครอบคลุมทัง้ ประชาคมการเมืองและความมัน่ คงอาเซียน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และประชาคมสังคมและวัฒนธรรม อาเซียน เพื่อสงเสริมการเรียนรูใหผูเรียนเกิดความตระหนัก มีความรูความเขาใจเหมาะสมกับระดับชั้นและกลุมสาระ การเรียนรู โดยเสนอแนะวิธีการจัดกิจกรรมบูรณาการเนื้อหาสาระตางๆ ที่เปนประโยชนตอผูเรียนและเปนการชวย เตรียมความพรอมผูเ รียนทุกคนทีจ่ ะกาวเขาสูก ารเปนสมาชิกของประชาคมอาเซียนไดอยางมัน่ ใจตามขอตกลงปฏิญญา เสร�ม ชะอํา-หัวหิน วาดวยความรวมมือดานการศึกษาเพือ่ บรรลุเปาหมายประชาคมอาเซียนทีเ่ อือ้ อาทรและแบงปน จึงกําหนด 7 เปนนโยบายใหกระทรวงศึกษาธิการจัดการเรียนรูเตรียมความพรอมผูเรียนเขาสูประชาคมอาเซียนภายในป พ.ศ. 2558 ตามแนวปฏิบัติที่สําคัญ ดังนี้
การจัดการเรียนรูส ู ประชาคมการเมืองและความมัน่ คงอาเซียน 1. การสรางความรูความเขาใจ และตระหนักถึงความสําคัญของ กฎบัตรอาเซียน และความรวมมือ ของ 3 เสาหลัก ซึง่ กฎบัตรอาเซียน ในขณะนี้มีสถานะเปนกฎหมายที่ ประเทศสมาชิกจะตองปฏิบัติตาม หลักการที่กําหนดไวเพื่อใหบรรลุ เปาหมายของกฎบัตรมาตราตางๆ
2. การสงเสริมหลักการ ประชาธิปไตยและการสราง สิ่งแวดลอมประชาธิปไตย เพื่อการอยูรวมกันอยางกลมกลืน ภายใตวิถีชีวิตอาเซียนที่มีความ หลากหลายดานสังคมและ วัฒนธรรม
4. การตระหนักในคุณคาของ สายสัมพันธทางประวัติศาสตร และมรดกทางวัฒนธรรมที่มี พัฒนาการรวมกัน เพื่อเชื่อม อัตลักษณและสรางจิตสํานึก ในการเปนประชากรของประชาคม อาเซียนรวมกัน
3. การสงเสริมการศึกษาดาน สิทธิมนุษยชน เพื่อสรางประชาคม อาเซียนใหเปนประชาคมเพื่อ ประชาชนอยางแทจริง สามารถ อยูรวมกันไดบนพื้นฐานการเคารพ ในคุณคาของศักดิ์ศรีแหงความ เปนมนุษยเทาเทียมกัน
5. การสงเสริมสันติภาพ ความ มั่นคง และความปรองดองในสังคม ทั้งระดับประเทศและภูมิภาคของ อาเซียนบนพื้นฐานสันติวิธีและการ อยูรวมกันดวยขันติธรรม
คูม อื ครู
การจัดการเรียนรูส ู ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
เสร�ม
8
1. การพัฒนาทักษะการทํางาน เพื่อเสริมสรางผูเรียนใหมีทักษะ วิชาชีพที่จําเปนสอดคลองกับ ความตองการของตลาดแรงงาน และสถานประกอบการในอาเซียน สามารถเทียบโอนผลการเรียน และการทํางานตามมาตรฐานฝมือ แรงงานในภูมิภาคอาเซียน
2. การเสริมสรางวินัย ความรับผิดชอบ และเจตคติรักการทํางาน สามารถพึ่งพาตนเอง มีทักษะชีวิต ดํารงชีวิตอยางมีความสุข เห็นคุณคา และภูมิใจในตนเอง ในฐานะที่เปนพลเมืองไทยและ อาเซียน
3. การเรียนรูเพื่อพัฒนาตนเอง อยางตอเนื่องตลอดชีวิต ใหมี ทักษะการทํางานตามมาตรฐาน อาชีพ และคุณวุฒิของวิชาชีพสาขา ตางๆ เพื่อรองรับการเตรียมเคลื่อน ยายแรงงานมีฝมือและการเปน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่ เขมแข็ง เพื่อสรางขีดความสามารถ ในการแขงขันในเวทีโลก
การจัดการเรียนรูส ู ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน 1. การเสริมสรางความรวมมือ ในลักษณะสังคมที่เอื้ออาทร ของประชากรอาเซียน โดยยึด หลักการสําคัญ คือ ความงดงาม ของประชาคมอาเซียนมาจาก ความแตกตางและหลากหลายทาง วัฒนธรรมที่ลวนแตมีคุณคาตอ มรดกทางวัฒนธรรมของอาเซียน ซึ่งประชาชนทุกคนตองอนุรักษ สืบสานใหยั่งยืน
2. การเสริมสรางคุณลักษณะ ของผูเรียนใหเปนพลเมืองอาเซียน ที่มีศักยภาพในการกาวเขาสู ประชาคมอาเซียนอยางมั่นใจ เปนผูที่มีสุขภาพสมบูรณแข็งแรง มีทักษะการสื่อสาร ทักษะการ ทํางาน ทักษะทางสังคม สามารถ ทํางานรวมกับผูอื่นไดอยาง สรางสรรค และมีองคความรู เกี่ยวกับอาเซียนที่จําเปนตอการ ดํารงชีวิตอยางมีคุณภาพ
4. การสงเสริมการเรียนรูดาน ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถชี วี ติ ความเปนอยูข องเพือ่ นบาน ในอาเซียน เพื่อสรางจิตสํานึกของ ความเปนประชาคมอาเซียนและ ตระหนักถึงหนาที่ของการเปน พลเมืองอาเซียนรวมกัน
3. การสงเสริมการเรียนรูภาษา อังกฤษเพื่อการสื่อสารและการ ทํางานตามมาตรฐานอาชีพที่ กําหนดและสนับสนุนการเรียนรู ภาษาอาเซียนและภาษาเพื่อนบาน เพื่อชวยเสริมสรางสัมพันธภาพทาง สังคม และการอยูรวมกันอยางสันติ ทามกลางความหลากหลายทาง วัฒนธรรม
5. การสรางความรูและความ ตระหนักเกี่ยวกับดานสิ่งแวดลอม ปญหาและผลกระทบตอคุณภาพ ชีวิตของประชากรในภูมิภาค รวมทั้งแนวทางการพัฒนาอยาง ยั่งยืน ใหเปนมรดกสืบทอดแก พลเมืองอาเซียนในรุนหลังตอๆ ไป
กระทรวงศึกษาธิการจึงประกาศนโยบายการปฏิรูปการศึกษาทศวรรษที่ 2 (พ.ศ. 2552-2561) เพื่อเรงพัฒนาเด็ก และเยาวชนไทยใหเปนทรัพยากรมนุษยของชาติที่มีทักษะและความชํานาญ พรอมเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงและ การแขงขันทั้งในภูมิภาคอาเซียนและภูมิภาคอื่นๆ ของสังคมโลก ทั้งนี้ผูบริหารสถานศึกษา ครูผูสอน และผูปกครอง ควรรวมมือกันอยางใกลชิดในการดูแลชวยเหลือผูเรียนและจัดประสบการณการเรียนรูเพื่อพัฒนาผูเรียนจนเต็มศักยภาพ เพื่อกาวเขาสูการเปนพลเมืองอาเซียนอยางมีเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีความเปนมนุษยของตน คณะผูจัดทํา คูม อื ครู
ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรูแกนกลาง สาระที่ 1
คณิตศาสตร (เฉพาะชั้น ม.2 เลม 1)*
จํานวนและการดําเนินการ
มาตรฐาน ค 1.1 เขาใจถึงความหลากหลายของการแสดงจํานวนและการใชจํานวนในชีวิตจริง ชั้น
ตัวชี้วัด
ม.2 1. ใชความรูเกี่ยวกับอัตราสวน สัดสวน และรอยละในการแกโจทยปญหา
สาระที่ 2
สาระการเรียนรูแกนกลาง • อัตราสวน สัดสวน รอยละ และการนําไปใช
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน • หนวยการเรียนรูที่ 1 อัตราสวน สัดสวน และรอยละ
เสร�ม
9
การวัด
มาตรฐาน ค 2.1 เขาใจพื้นฐานเกี่ยกวับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ตองการวัด ชั้น
ตัวชี้วัด
ม.2 1. เปรียบเทียบหนวยความยาว หนวยพื้นที่ ในระบบเดียวกัน และ ตางระบบและเลือกใชหนวยการวัด ไดอยางเหมาะสม
สาระการเรียนรูแกนกลาง • การวัดความยาว พื้นที่ และการนําไปใช • การเลือกใชหนวยการวัดเกี่ยวกับความยาว และพื้นที่
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน • หนวยการเรียนรูที่ 2 การวัดความยาวและพื้นที่
2. คาดคะเนเวลา ระยะทาง พืน้ ที่ ปริมาตร • การคาดคะเนเวลา ระยะทาง พื้นที่ ปริมาตร • หนวยการเรียนรูที่ 3 และนํ้าหนักไดอยางใกลเคียง และ และนํ้าหนัก และการนําไปใช การคาดคะเนเกี่ยวกับการวัด อธิบายวิธีการที่ใชในการคาดคะเน 3. ใชการคาดคะเนเกี่ยวกับการวัด ในสถานการณตางๆ ไดอยางเหมาะสม
มาตรฐาน ค 2.2 แกปญหาเกี่ยวกับการวัด ชั้น
ตัวชี้วัด
ม.2 1. ใชความรูเกี่ยวกับความยาวและพื้นที่ แกปญหาในสถานการณตางๆ
สาระที่ 3
สาระการเรียนรูแกนกลาง • การใชความรูเกี่ยวกับความยาว และพื้นที่ ในการแกปญหา
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน • หนวยการเรียนรูที่ 2 การวัดความยาวและพื้นที่
เรขาคณิต
มาตรฐาน ค 3.2 ใชการนึกภาพ (visualization) ใชเหตุผลเกี่ยวกับปริภูมิ (spatial reasoning) และใชแบบจําลอง ทางเรขาคณิต (geometric model) ในการแกปญหา ชั้น
ตัวชี้วัด
ม.2 1. ใชสมบัติเกี่ยวกับความเทากัน ทุกประการของรูปสามเหลี่ยมและ สมบัติของเสนขนานในการใหเหตุผล และแกปญหา
สาระการเรียนรูแกนกลาง
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน
• ดานและมุมคูที่มีขนาดเทากันของรูป • หนวยการเรียนรูที่ 6 สามเหลี่ยมสองรูปที่เทากันทุกประการ ความเทากันทุกประการ • รูปสามเหลีย่ มสองรูปทีม่ คี วามสัมพันธกนั แบบ ดาน-มุม-ดาน มุม-ดาน-มุม ดาน-ดาน-ดาน และมุม-มุม-ดาน • สมบัติของเสนขนาน • การใชสมบัติเกี่ยวกับความเทากันทุกประการ ของรูปสามเหลี่ยมและสมบัติของเสนขนาน ในการใหเหตุผลและการแกปญหา
3. เขาใจเกี่ยวกับการแปลงทางเรขาคณิต • การเลื่อนขนาน การสะทอน การหมุน ในเรื่อง การเลื่อนขนาน การสะทอน และการนําไปใช และการหมุน และนําไปใช
• หนวยการเรียนรูที่ 5 การแปลงทางเรขาคณิต
_________________________________ * สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, กระทรวงศึกษาธิการ. ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรูแกนกลาง กลุมสาระการเรียนรูคณิตศาสตร. (กรุงเทพมหานคร : ชุมนุมสหกรณการเกษตรแหงประเทศไทย, 2551), หนา 7-56
คูม อื ครู
ชั้น
ตัวชี้วัด
สาระการเรียนรูแกนกลาง
ม.2 4. บอกภาพที่เกิดขึ้นจากการเลื่อนขนาน การสะทอน และการหมุนรูปตนแบบ และอธิบายวิธีการที่จะไดภาพที่ปรากฏ เมื่อกําหนดรูปตนแบบและภาพนั้นให
เสร�ม
10
สาระที่ 4
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน • หนวยการเรียนรูที่ 5 การแปลงทางเรขาคณิต
พีชคณิต
มาตรฐาน ค 4.2 ใชนิพจน สมการ อสมการ กราฟ และตัวแบบเชิงคณิตศาสตร (mathemarical model) อื่นๆ แทนสถานการณตางๆ ตลอดจนแปลความหมายและนําไปใชแกปญหา ชั้น
ตัวชี้วัด
สาระการเรียนรูแกนกลาง
ม.2 2. หาพิกัดของจุด และอธิบายลักษณะ • การเลื่อนขนาน การสะทอน และการหมุน ของรูปเรขาคณิตที่เกิดขึ้นจากการ รูปเรขาคณิตบนระนาบในระบบพิกัดฉาก เลื่อนขนาน การสะทอน และการหมุน บนระนาบในระบบพิกัดฉาก
สาระที่ 5
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน • หนวยการเรียนรูที่ 5 การแปลงทางเรขาคณิต
การวิเคราะหขอมูลและความนาจะเปน
มาตรฐาน ค 5.1 เขาใจและใชวิธีการทางสถิติในการวิเคราะหขอมูล ชั้น
ตัวชี้วัด
สาระการเรียนรูแกนกลาง
ม.2 1. อานและนําเสนอขอมูลโดยใชแผนภูมิ • แผนภูมิรูปวงกลม รูปวงกลม
สาระที่ 6
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน • หนวยการเรียนรูที่ 4 การนําเสนอขอมูล
ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร
มาตรฐาน ค 6.1 มีความสามารถในการแกปญหา การใหเหุตผล การสื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร และ การนําเสนอ การเชื่อมโยงความรูตางๆ ทางคณิตศาสตรและเชื่อมโยงคณิตศาสตรกับศาสตรอื่นๆ และ มีความคิดริเริ่มสรางสรรค ชั้น
ตัวชี้วัด
ม.1 1. ใชวิธีการที่หลากหลายแกปญหา - 2. ใชความรู ทักษะและกระบวนการ ม.3 ทางคณิตศาสตร และเทคโนโลยีในการ แกปญหาในสถานการณตางๆ ไดอยาง เหมาะสม 3. ใหเหตุผลประกอบการตัดสินใจและ สรุปผลไดอยางเหมาะสม 4. ใชภาษาและสัญลักษณทางคณิตศาสตร ในการสื่อสาร การสื่อความหมาย และ การนําเสนอไดอยางถูกตองและชัดเจน 5. เชื่อมโยงความรูตางๆ ในคณิตศาสตร และนําความรูหลักการ กระบวนการ ทางคณิตศาสตรไปเชื่อมโยงกับศาสตร อื่นๆ 6. มีความคิดริเริ่มสรางสรรค
คูม อื ครู
สาระการเรียนรูแกนกลาง
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน • หนวยการเรียนรูท ี่ 1 อัตราสวน สัดสวน และรอยละ • หนวยการเรียนรูท ี่ 2 การวัดความยาวและพืน้ ที่ • หนวยการเรียนรูท ี่ 3 การคาดคะเนเกีย่ วกับการวัด • หนวยการเรียนรูท ี่ 4 การนําเสนอขอมูล • หนวยการเรียนรูท ี่ 5 การแปลงทางเรขาคณิต • หนวยการเรียนรูท ี่ 6 ความเทากันทุกประการ
คําอธิบายรายวิชา รายวิชา คณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2 รหัสวิชา ค…………………………………
กลุมสาระการเรียนรู คณิตศาสตร ภาคเรียนที่ 1 เวลา 60 ชั่วโมง/ป
ศึกษาความรูพื้นฐาน ฝกทักษะการคิดคํานวณ ฝกการแกปญหาและสามารถนําความรูไปประยุกต เสร�ม ใชในเรื่อง อัตราสวน สัดสวน และรอยละ การวัด การคาดคะเนเกี่ยวกับการวัด การแปลงทางเรขาคณิต 11 ความเทากันทุกประการของรูปสามเหลี่ยม โดยมุงเนนจัดประสบการณการเรียนรูที่เชื่อมโยงความรูตางๆ ทางคณิตศาสตรกับสถานการณจริง และศาสตรอื่นๆ ใหผูเรียนมีการพัฒนาดานทักษะ / กระบวนการทางคณิตศาสตร เพื่อใหมีความรูความสามารถในการแกปญหา การใหเหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร การนําเสนอ และพัฒนาความคิดริเริ่มงานทางคณิตศาสตร ทั้งในและนอกชั้นเรียนและเนนใหเห็นคุณคาและ มีเจตคติที่ดีตอคณิตศาสตร สามารถนําไปประยุกตใชในการทํางานไดอยางเปนระบบ ตัวชี้วัด ค 1.1 ค 2.1 ค 2.2 ค 3.2 ค 4.2 ค 5.1 ค 6.1
ม.2/4 ม.2/1 ม.2/1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/1 ม.1-3/1
ม.2/2
ม.2/3
ม.2/3
ม.2/4
ม.1-3/2
ม.1-3/3 ม.1-3/4 รวม 16 ตัวชี้วัด
ม.1-3/5
ม.1-3/6
คูม อื ครู
คูม อื ครู
1
2
3 ✓
4
1
2
1
1
มฐ. มฐ. มฐ. ค 1.2 ค ค 1.3 1.4
✓
1
3
✓ ✓
2
มฐ. ค 2.1
สาระที่ 2
หมายเหตุ ✓ เฉพาะที่สอดคลองกับตัวชี้วัด ม.2 เทานั้น ตัวชี้วัดที่เหลือจะจัดการเรียนการสอนในชั้น ม.1 และ ม.3
หนวยการเรียนรูที่ 6 : ความเทากันทุกประการ
หนวยการเรียนรูที่ 5 : การแปลงทางเรขาคณิต
หนวยการเรียนรูที่ 4 : การนําเสนอขอมูล
หนวยการเรียนรูที่ 3 : การคาดคะเนเกีย่ วกับ การวัด
หนวยการเรียนรูที่ 2 : การวัดความยาวและพืน้ ที่
หนวยการเรียนรูที่ 1 : อัตราสวน สัดสวน และรอยละ
หนวยการเรียนรู
มฐ. ค 1.1
สาระที่ 1
✓
1
มฐ. ค 2.2
✓
1
2
ตัวชี้วัด 4
✓ ✓
3
มฐ. ค 3.2
สาระที่ 3
1
✓
2
✓
1
1
สาระที่ 4 สาระที่ 5 มฐ. มฐ. ค มฐ. ค ค 4.2 5.1 5.2 2
3
4
มฐ. ค 6.1
สาระที่ 6
5
6
✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
1
เสร�ม
12
มาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัด
ตารางวิเคราะหความสัมพันธระหวางเนื้อหาในหนังสือเรียน คณิตศาสตร ม.2 เลม 1 กับตัวชี้วัดในกลุมสาระการเรียนรูคณิตศาสตร ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
ตาราง วิเคราะหมาตรฐานการเรียนรูแ ละตัวชีว้ ดั รายวิชา คณิตศาสตร ม.2 เลม 1
คําชี้แจง : ใหผูสอนใชตารางนี้ตรวจสอบความสอดคลองของเนื้อหาสาระการเรียนรูในหนวยการเรียนรูกับมาตรฐาน การเรียนรูและตัวชี้วัดชั้นป
กระตุน้ ความสนใจ Engage
ส�ารวจค้นหา Explore
อธิบายความรู้ Explain
ขยายความเข้าใจ Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ÃÒÂÇÔªÒ¾×é¹°Ò¹
¤³ÔµÈÒʵà Á.ò àÅ‹Á ñ ชั้นมัธยมศึกษาปที่ ๒
กลุมสาระการเรียนรูคณิตศาสตร ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
ผูเรียบเรียง
นางกนกวลี อุษณกรกุล นางสาวนวลนอย เจริญผล นางสาวปาจรีย วัชชวัลคุ ดร. สุเทพ บุญซอน
ผูตรวจ
นางสาวอัศนีย สวางศิลป นางจินดา อยูเปนสุข นายรณชัย มาเจริญทรัพย
บรรณาธิการ
ศ. ดร. ณรงค ปนนิ่ม
พิมพครั้งที่ ๕
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ ISBN : 978-616-203-185-4 รหัสสินคา ๒๒๑๖๐๐๕
¤Œ¹¤ÇÒÁÃÙŒ¢ÂÒ¤ÇÒÁ¤Ô´¨Ò¡
¾ÔÁ¾ ¤ÃÑ駷Õè 1 ÃËÑÊÊÔ¹¤ŒÒ 2246020
EB GUIDE
ที่พิมพกํากับหัวขอสําคัญในหนังสือเรียนหลักสูตรแกนกลางฯ ผาน www.aksorn.com ไปยังแหลงความรูทั่วไทย-ทั่วโลก
( ดูผงั มโนทัศน ไดทปี่ กหลังดานใน)
คณะผูจัดทําคูมือครู
จันทรเพ็ญ ชุมคช ทองดี กุลแกวสวางวงศ สมใจ ธนเกียรติมงคล สายสุณี สุทธิจักษ
กระตุน้ ความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
Engage
Explore
อธิบายความรู้
ขยายความเข้าใจ
Explain
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
¤íÒá¹Ð¹íÒ㹡ÒÃ㪌˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ หนังสือเรียน รายวิชาพืน้ ฐาน คณิตศาสตร ม.2 เลม 1 นี้ สรางขึน้ เพือ่ ใหเปนสือ่ สําหรับใชประกอบ การเรียนการสอนในรายวิชาพืน้ ฐาน กลุม สาระการเรียนรูค ณิตศาสตร ชัน้ มัธยมศึกษาปที่ 2 โดยเนือ้ หาตรงตามสาระการเรียนรูแ กนกลางขัน้ พืน้ ฐาน อานทําความเขาใจงาย ใหทงั้ ความรูแ ละชวย พัฒนาผูเ รียนตามหลักสูตรและตัวชีว้ ดั เนือ้ หาสาระแบงออกเปนหนวยการเรียนรูต ามโครงสรางรายวิชา สะดวก แกการจัดการเรียนการสอนและการวัดผลประเมินผล พรอมเสริมองคประกอบอืน่ ๆ ทีจ่ ะชวยทําใหผเู รียนไดรบั ความรูอ ยางมีประสิทธิภาพ ẺµÃǨÊͺ¤ÇÒÁࢌÒ㨠µÑǪÕéÇÑ´áÅÐÊÒÃСÒÃàÃÕ¹Ãٌ᡹¡ÅÒ§Ï µÒÁËÅÑ¡ÊٵáíÒ˹´ à¾×èÍãËŒ·ÃÒº¶Ö§ ໇ÒËÁÒÂ㹡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ¨Ñ´¡ÅØ‹Áà¹×éÍËÒ໚¹Ë¹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ Êдǡᡋ¡ÒèѴ¡ÒÃàÃÕ¹¡ÒÃÊ͹ หนวยการเรีย
นรูที่
ตัวชี้วัด
ใชความรูเกี่ย วกั ในการแกโจทย บอัตราสวน สัดสวน และร อยละ ป ใชวิธีการที่ห ญหา (ค 1.1 ม.2/4) ลากหลายแก ปญหา (ค 6.1 ใชความรู ทั กษะ ม.1-3/1) และเทคโนโลยี และกระบวนการทางค ณิตศาสตร ในการแกปญ ไดอยางเหม หาในสถาน าะสม การณตางๆ ■ ใหเหตุผลประ (ค 6.1 ม.1-3/2) กอบการตัด สินใจ และส เหมาะสม (ค รุปผลไดอยา 6.1 ■ ง ใชภาษาและสั ม.1-3/3) ญ การสื่อความ ลักษณทางคณิตศาสตร ในการสื่อสาร หมายและการนํ และชัดเจน าเสนอไดอย (ค 6.1 างถูกตอง ■ เชื่อมโยงความ ม.1-3/4) รูตางๆ ในคณ หลักการ กระบ ิตศาสตร และน วนการทางคณิ ําความรู กับศาสตรอ ต ศาสต รไปเชื่อมโยง ื่นๆ ■ มีความคิดริเ (ค 6.1 ม.1-3/5) ริ่มสรางสรร ค (ค 6.1 ม.13/6) ■
■
■
สาระการเร ■
อัตราสวน สั
ียนรูแกนกลา
ดสวน รอยละ
1
à¾×èͽƒ¡·Ñ¡ÉСÒäԴáÅÐ á¡Œ»˜ÞËҢͧ¼ÙŒàÃÕ¹
à¡ÃÔè¹¹íÒà¾×èÍãˌࢌÒ㨠¶Ö§ÊÒÃÐÊíÒ¤ÑÞ㹠˹‹Ç·Õè¨ÐàÃÕ¹
191
แบบตรวจสอบความเขาใจที่
อัตราสวน สัด สวน และรอยละ
¤³Ôµ¤Ô´Ê¹Ø¡ ໚¹à¡Á ·Ò§¤³ÔµÈÒʵà ·Õèʹء áÅзŒÒ·Ò à¾×èͪ‹Ç ½ƒ¡·Ñ¡ÉТͧ¼ÙŒàÃÕ¹
à¹×Íé ËҵçµÒÁÊÒÃСÒÃàÃÕ¹ÃÙጠ¡¹¡ÅÒ§Ï ãËŒ¤ÇÒÁÃÙŒáÅÐàÍ×é͵‹Í¡ÒùíÒä»ãªŒÊ͹à¾×èÍ ãËŒºÃÃÅصÑǪÕéÇÑ´ áÅÐÊÌҧ¤Ø³ÅѡɳРÍѹ¾Ö§»ÃÐʧ¤ 150
6.1
เราสามารถวาดรูปตึกอาคาร และรู
ปสะทอนของตึกอาคาร ไดดังนี้
แ้ ลวนําไปซอนกัน เพือ่ หาวารูปใดบางเทากัน 1. จงใชกระดาษลอกลายลอกรูปในแตละขอตอไปนี ทุกประการ และใชสัญลักษณ ≅ ในการเขียนคําตอบ B
1)
ในชีวิตจริ อัตราสวน สัด งเราไดนําความรูเกี่ยวกับ ส เรื ตางๆ เชน งาน วน และรอยละมาชวยแกป ่อง สถ ญ และเขยี นแผน าปตยกรรม ตองมีการออก หา ผั แบ สิ่งกอสรางนั้น ง เพือ่ จําลองลักษณะรูปรา บ งขอ สวนลดจากกา นอกจากนี้การคิดดอกเบี้ย ง ภาษี บรโิ ภคตางๆ รซื้อและการขายสินคาอุ จํา ปโภค อัตราสวน สัด เปนตองอาศัยความรใู นเรอื่ งของ สวน และรอยล ะทั้งสิ้น
2)
D
C
B
A
3)
D
B C
A
ง
D
C
B
A
คณิตคิดสนุก
พิจารณารูปสามเหลี่ยม ตอไปนี้
4)
และการนําไปใช
àÁ×è͹ѡàÃÕ¹Áͧ˹ŒÒµ¹àͧ¼‹Ò¹¡ÃШ¡ Ç‹ÒÁÕ˹ŒÒ¢Í§µ¹àͧ»ÃÒ¡¯ÍÂÙ‹º¹¡ÃШ¡ ¨Ð¾º ÁÕÅѡɳÐÃٻËҧ áÅТ¹Ò´àËÁ×͹¨ÃÔ§ «Ö觨РàÅÂ
D
C
A
พิจารณารูปสามเหลี่ยมของ เหรียญ ดังแสดงไวตามรูป (a) ถาให เปลีย่ นรูป (a) เปนรูป (b) ดวยการยา ย เหรียญไดเพียงสามเหรียญเทานั้น อยากทราบวาตองยายเหรียญใดบา ง รูป (a) 1
C
่ยม 2. ความเทากันทุกประการของรูปสามเหลี
A
ในชีวิตประจําวันของเรา จะพบเห็น ตัวอยางสถาปตยกรรมตางๆ สิ่งกอสราง หรือ ของเล น ที่ อ อกแบบโดย ใช โ ครงสร า งของ รู ป สามเหลี่ ย ม ดั ง นั้ น รู ป สามเหลี่ ย มจึ ง เป น รูปเรขาคณิตสองมิติที่มีความสําคัญ ที่เราควร จะศึกษาใหมีความเขาใจมากขึ้น การศึ ก ษาเกี่ ย วกั บ ความเท า กั น ทุกประการ นักเรียนไดทราบมาแลววารูปสองรูป เทากันทุกประการ เมื่อรูปหนึ่งทับอีกรูปหนึ่ง
B
เสนของการสะทอน
2
A1
C1
3
4
7
5
8
6
9
10
รูป (b)
B1
7
2 4
3 5
8
10 6
9 1
EB GUIDE
http://www.aksorn.com/LC/Math
B1/M2/09
Web Guide á¹Ð¹íÒáËÅ‹§¤Œ¹¤ÇŒÒ¢ŒÍÁÙÅ à¾ÔèÁàµÔÁ¼‹Ò¹Ãкº Online ÁØÁ¤ÇÒÁ¤Ô´ ໚¹¡ÒùíÒàʹÍÊѨ¾¨¹ ÊÁºÑµÔ ËÃ×Í¢ŒÍ¤ÇÒÁ·Õè¼ÙŒàÃÕ¹¤ÇèРÃÙŒ·Õèà¡ÕèÂÇ¢ŒÍ§¡Ñºà¹×éÍËÒ
Ẻ½ƒ¡ËÑ´»ÃШíÒ˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ ª‹Ç¾Ѳ¹Ò·Ñ¡ÉÐáÅзº·Ç¹¤ÇÒÁÃÙŒ¢Í§¼ÙŒàÃÕ¹
àÊÃÔÁ·Ñ¡ÉÐàªÔ§à·¤â¹âÅÂÕ à»š¹¡Ô¨¡ÃÃÁ½ƒ¡ ·Ñ¡ÉСÒäԴ ¡Òäíҹdz áÅЪ‹Ç¾Ѳ¹Ò ¼ÙŒàÃÕ¹ãËŒÁդسÀÒ¾µÒÁµÑǪÕéÇÑ´
87
140
บั แนวดิง่ จุด B1 ห่างกับจุด B2 เป็นระยะทาง 6 หนว่ ย ไปทางด้านบนและขนานก บั แนวดิง่ จุด C1 ห่างกับจุด C2 เป็นระยะทาง 6 หนว่ ย ไปทางด้านบนและขนานก ม A2B2C2 ห่าง ย ่ สามเหลี ป รู ด ะจุ ล แต่ ด จุ า ่ ว วได้ า เราอาจกล่ น วกั ย นองเดี ในท�า หน่วย ไปด้านบนและขนาน จากจุดทุกจุดที่สมนัยกันบนรูปสามเหลี่ยม A1B1C1 เป็นระยะทาง 6 กับแนวดิ่ง
แบบฝกหัด
128
มุมความคิด สมบัติเบื้องต้นของการเลื่อนขนาน มเหมือนกับรูปต้นแบบ 1) รูปที่ได้จากการเลื่อนขนานมีขนาดและรูปร่างคงเดิ างจากจุดที่สมนัยกับรูปต้นแบบเป็น 2) จุดแต่ละจุดบนรูปที่ได้จากการเลื่อนขนานจะห่ ่ก�าหนดให้เลื่อนขนานรูปต้นแบบ ระยะทางเท่ากัน และระยะห่างนั้นเท่ากับระยะทางที การเลื่อนขนานของรูปเรขาคณิตใน ระนาบต้องก�าหนดทิศทางและระยะทาง ที่ต้องการเลื่อนรูปต้นแบบนั้น
ประจําหนวยการเรียนรูที่ นโลยี
เสริมทักษะเชิงเทคโ
าค�าตอบ หาหรือข้อสงสัยและห กเรียน เพอื่ แก้ปญั ภทส�ารวจและ จิ ยั เล็กๆ ส�าหรับนั คือ โครงงานประเ โครงงานเป็นงานว โครงงานมี 4 ประเภท ประดษิ ฐ์ และโครงงานประเภท รทางวิทยาศาสตร์ ง่ สิ นกา ะเภท ระบว ก นปร ช้ รงงา โดยใ ง โค งงานประเภททดลอ อมูล รวบรวมขอ้ มูล โคร ้อมูล วิเคราะห์ข้ นใจ เก็บรวบรวมข อมูล ทฤษฎี าโครงงานตามความส Microsoft Excel ในการน�าเสนอข้ ให้นักเรียนเลือกท� โดยใช้โปรแกรม ต้น ะสม ด้วยวิธที เี่ หมา ภูมิรูปวงกลม เป็น แผน ง ท่ แ ิ ม ู แล้วน�าเสนอข้อมูล ผนภ ช้ตาราง กราฟ แ โดยใ ล มู อ ข้ เสนอ า น� เช่น
ปที่ได้จากการเลื่อ การเลื่อนขนานเป็นการแปลงที่จับคู่จุดแต่ละจุดของรู ไปในทิศทางหนึ่งด้วยระยะทางที่กำาหนดให้ ตัวอย่างที่
1
นขนานกับรูปต้นแบบ
อ่ นขนานรูปสีเ่ หลีย่ ม ก�าหนดรูปสีเ่ หลีย่ ม ABCD เป็นรูปต้นแบบ จงสร้างรูปทีเ่ กิดจากการเลื ่วนของเส้นตรง MN ABCD ขนานกับรังสี MN และระยะห่างเท่ากับความยาวของส N D
C
A
B
ร์
วนการทางคณิตศาสต
ิตศาสตร์)
ะกระบ ความรู้ต่างๆ ทางคณ าเสนอ การเชื่อมโยง ารแก้ปัญหา การน� (มีความสามารถในก ลเรื่องที่สนใจ เช่น
กิจกรรมเสริมทักษะแล
บทนิยาม
ศาสตร์อื่นๆ)
างคณิตศาสตร์กับ
มโยงความรู้ต่างๆ ท
ารสื่อสาร การเชื่อ (มีความสามารถในก
และรวบรวมข้อมู ให้นักเรียนส�ารวจ พื่อนๆ 1) เพลงโปรดของเ อบ นๆ ช อ ่ พื เ ่ าที ฬ ี 2) ก ิยมในโรงเรียน 3) ร้านอาหารยอดน มเล่น นๆ นิย 4) เว็บไซต์ที่เพื่อ งเพื่อนๆ 5) งานอดิเรกขอ ับข้อมูลที่รวบรวมได้ ข้อมูล ให้เหมาะสมก พร้อมทั้งน�าเสนอ
2
1. ใหนกั เรียนพิจารณวาในแตละขอตอไปนี้ ควรใชหนวยการวัดเปนกิโลเมตร เมตร เซนติเมตร หรือมิลลิเมตรในการวัด 1) ความสูงของกําแพง 2) ความกวางของซองจดหมาย 3) ระยะทางระหวางอําเภอ 4) ความหนาของกระจก 5) ความยาวของเทา 6) ความสูงของเสาธง 7) ความกวางของโรงอาหาร 8) ความยาวของไมตีกอลฟ 9) ความหนาของหนังสือเรียน 10) ความกวางของจอโทรทัศน 2. จงเปลีย่ นความยาวในแตละขอตอไปนี้ เปนหนวยทีก่ าํ หนดใหในวงเล็บ พรอมทัง้ บอกจํานวน ที่นําไปคูณหรือหารเพื่อเปลี่ยนหนวย 1) 4.9 กิโลเมตร (เมตร) 2) 5.13 เมตร (มิลลิเมตร) 3) 5.54 เซนติเมตร (มิลลิเมตร) 4) 6 21 เซนติเมตร (เมตร) 5) 15.69 ฟุต (เมตร) 6) 30 12 นิ้ว (เซนติเมตร) 7) 1.5 หลา (เซนติเมตร) 8) 1,200 เซนติเมตร (หลา) 9) 320 เซนติเมตร (นิ้ว) 10) 35 ไมล (กิโลเมตร) 3. จากรูปสนามแหงนี้มีเสนรอบรูปยาวกี่ฟุต 32 หลา 18 ฟุต
20 ฟุต
µÑÇÍ‹ҧáÊ´§ÇÔ¸Õ¡ÒäԴ à¾×èͪ‹ÇÂ㹡Ò÷íÒ¤ÇÒÁࢌÒã¨
10 หลา 1 ฟุต 54 หลา 2 ฟุต
4. แกวซื้อเชือกมา 3 เมตร 25 เซนติเมตร ในราคาเมตรละ 3.50 บาท นกซื้อเชือกมา 2 เมตร 50 เซนติเมตร ราคาเมตรละ 4 บาท จงหาวาแกวหรือนกตองเสียเงินมากกวากัน และมากกวา กีบ่ าท
M
º·¹ÔÂÒÁ ໚¹ËÅÑ¡¡ÒÃáÅйÔÂÒÁ ·ÕèÍÒÈÑÂËÅÑ¡¤ÇÒÁ¨ÃÔ§áÅÐà˵ؼŠª‹Ç¤Դ¤íҹdzáÅÐá¡Œ»˜ÞËÒ
12 หลา
12 หลา 12 ฟุต
¡Ô ¨ ¡ÃÃÁàÊÃÔ Á ·Ñ ¡ ÉÐáÅСÃкǹ¡Ò÷ҧ ¤³ÔµÈÒʵà ª‹ÇÂÊÌҧ·Ñ¡ÉСÃкǹ¡ÒäԴ ·Ò§¤³ÔµÈÒʵà ãËŒ¹Ñ¡àÃÕ¹
กระตุน้ ความสนใจ Engage
ส�ารวจค้นหา Explore
อธิบายความรู้ Explain
ขยายความเข้าใจ Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
ÊÒúÑÞ ¤³ÔµÈÒʵà Á.2 àÅ‹Á 1 ˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè
1
ÍѵÃÒʋǹ ÊѴʋǹ áÅÐÃŒÍÂÅÐ ● ● ● ●
˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè
˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè
2
¡ÒÃÇÑ´¤ÇÒÁÂÒÇáÅо×é¹·Õè
3
¡ÒäҴ¤Ðà¹à¡ÕèÂǡѺ¡ÒÃÇÑ´
● ●
● ● ● ●
˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè
¤ÇÒÁËÁÒ¢ͧÍѵÃÒʋǹ ÍѵÃÒʋǹ·Õè෋ҡѹáÅÐÊѴʋǹ ÍѵÃÒʋǹáÅÐÃŒÍÂÅÐ ¡ÒÃᡌ⨷ »˜ÞËÒÃŒÍÂÅÐ
4
¡ÒÃÇÑ´¤ÇÒÁÂÒÇ ¾×é¹·Õè
¡ÒäҴ¤Ðà¹à¡ÕèÂǡѺàÇÅÒ ¡ÒäҴ¤Ðà¹ÃÐÂзҧáÅТ¹Ò´ ¡ÒäҴ¤Ð๹éíÒ˹ѡ ¡ÒäҴ¤Ðà¹à¡ÕèÂǡѺ¡ÒÃÇÑ´ã¹Ê¶Ò¹¡Òó µ‹Ò§æ
¡ÒùíÒàʹ͢ŒÍÁÙÅ ● ●
¤ÇÒÁËÁÒ¢ͧ¢ŒÍÁÙÅáÅСÒùíÒàʹ͢ŒÍÁÙÅ ¡ÒùíÒàʹ͢ŒÍÁÙÅ´ŒÇÂá¼¹ÀÙÁÔÃٻǧ¡ÅÁ
1 - 46 2 7 25 28
47 - 90 48 60
91 - 104 92 94 100 102
105 - 132 106 115
กระตุน้ ความสนใจ Engage
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้
Explore
˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè
5
Explain
● ●
●
6
Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
¡ÒÃá»Å§·Ò§àâҤ³Ôµ
●
˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè
ขยายความเข้าใจ
133 - 184
¡ÒÃá»Å§ ¡ÒÃàÅ×è͹¢¹Ò¹ ¡ÒÃÊзŒÍ¹ áÅСÒÃËÁع ¤ÇÒÁÊÑÁ¾Ñ¹¸ ¢Í§¡ÒÃàÅ×è͹¢¹Ò¹ ¡ÒÃÊзŒÍ¹ áÅСÒÃËÁع ¡ÒùíÒÊÁºÑµÔ¢Í§¡ÒÃàÅ×è͹¢¹Ò¹ ¡ÒÃÊзŒÍ¹ áÅСÒÃËÁعä»ãªŒ
134 138 170 174
¤ÇÒÁ෋ҡѹ·Ø¡»ÃСÒà ●
● ●
185 - 219
¤ÇÒÁ෋ҡѹ·Ø¡»ÃСÒâͧÃÙ»àâҤ³Ôµã´æ àÊŒ¹µÃ§ áÅÐÁØÁ ¤ÇÒÁ෋ҡѹ·Ø¡»ÃСÒâͧÃÙ»ÊÒÁàËÅÕèÂÁ ¤ÇÒÁ෋ҡѹ·Ø¡»ÃСÒâͧÃÙ»ÊÒÁàËÅÕèÂÁÊͧÃÙ» ·ÕèÁÕ¤ÇÒÁÊÑÁ¾Ñ¹¸ Ẻµ‹Ò§æ
186 191 197
ºÃóҹءÃÁ
220
¤³ÔµÈÒʵà Á.2 àÅ‹Á 2 ˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè
1
˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè
˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè
˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè
¤ÇÒÁÃÙŒàº×éͧµŒ¹ à¡ÕèÂǡѺ¨íҹǹ¨ÃÔ§
4
3
¡ÒûÃÐÂØ¡µ ¢Í§ÊÁ¡Òà àªÔ§àÊŒ¹µÑÇá»Ãà´ÕÂÇ
2
·Äɮպ· ¾Õ·Òâ¡ÃÑÊ
5
âÍ¡Òʢͧ à˵ءÒó
àÊŒ¹¢¹Ò¹
˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè
กระตุน้ ความสนใจ กระตุEngage ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
เปาหมายการเรียนรู
หน่วยการเรียนรู้ที่
1
ตัวชี้วัด ■
■ ■
■
■
■
■
ใชความรูเกี่ยวกับอัตราสวน สัดสวน และรอยละ ในการแกโจทยปญหา (ค 1.1 ม.2/4) ใชวิธีการที่หลากหลายแกปญหา (ค 6.1 ม.1-3/1) ใชความรู ทักษะ และกระบวนการทางคณิตศาสตร และเทคโนโลยีในการแกปญหาในสถานการณตางๆ ไดอยางเหมาะสม (ค 6.1 ม.1-3/2) ใหเหตุผลประกอบการตัดสินใจ และสรุปผลไดอยาง เหมาะสม (ค 6.1 ม.1-3/3) ใชภาษาและสัญลักษณทางคณิตศาสตรในการสื่อสาร การสื่อความหมายและการนําเสนอไดอยางถูกตอง และชัดเจน (ค 6.1 ม.1-3/4) เชื่อมโยงความรูตางๆ ในคณิตศาสตร และนําความรู หลักการ กระบวนการทางคณิตศาสตรไปเชื่อมโยง กับศาสตรอื่นๆ (ค 6.1 ม.1-3/5) มีความคิดริเริ่มสรางสรรค (ค 6.1 ม.1-3/6)
อัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละ
1. ใชความรูเกี่ยวกับอัตราสวน สัดสวนและ รอยละในการแกโจทยปญหา 2. ใชทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร ในการแกปญหาในสถานการณตางๆ ไดอยางเหมาะสม
ในชีวิตจริงเราไดนําความรูเกี่ยวกับเรื่อง อัตราสวน สัดสวน และรอยละมาชวยแกปญหา ตางๆ เชน งานสถาปตยกรรม ตองมีการออกแบบ และเขียนแผนผัง เพือ่ จําลองลักษณะรูปรางของ สิ่งกอสรางนั้น นอกจากนี้การคิดดอกเบี้ย ภาษี สวนลดจากการซื้อและการขายสินคาอุปโภค บริโภคตางๆ จําเปนตองอาศัยความรูใ นเรือ่ งของ อัตราสวน สัดสวน และรอยละทั้งสิ้น
สมรรถนะของผูเรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกปญ หา
คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. มีวินัย 2. ใฝเรียนรู 3. มุงมัน่ ในการทํางาน
สาระการเรียนรู้แกนกลาง ■
อัตราสวน สัดสวน รอยละ และการนําไปใช
กระตุน้ ความสนใจ
Engage
ครูนําพิมพเขียว แบบแปลน แผนผังและ โฉนดที่ดิน ใหนักเรียนดู แลวถามนักเรียนวา • นักเรียนทราบไหมวา สิ่งตางๆ เหลานี้ เรียกวาอะไร (แนวตอบ เชน แผนผัง แบบแปลน เปนตน) • นักเรียนทราบไหมวา การเขียนแผนผัง แบบแปลนและโฉนดที่ดิน ตองใชความรู ทางคณิตศาสตรเรื่องใดบาง (แนวตอบ นักเรียนตอบไดหลากหลาย เชน มาตราสวน) • นักเรียนเคยไดยินคําวา “พิมพเขียว” หรือไม ถาเคยไดยิน คํานี้เกี่ยวของกับอาชีพอะไร (แนวตอบ นักเรียนตอบไดอยางอิสระ เชน อาชีพสถาปนิก วิศวกร ชางกอสราง เปนตน)
เกร็ดแนะครู การเรียนการสอนของหนวยการเรียนรูนี้ ครูผูสอนควรใชการถาม-ตอบและ ยกตัวอยางที่ใกลตัวนักเรียนและมีสถานการณจริงในชีวิตประจําวันเปนกรณีศึกษา เพื่อใหนักเรียนไดเรียนรูนําไปใชและรูจักวิธีการแกโจทยปญหาไดอยางเหมาะสม
คู่มือครู
1
กระตุน้ ความสนใจ
ส�ารวจค้นหา ส�ารวจค้ Exploreนหา
อธิบายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
กระตุEngage ้นความสนใจ
กระตุน้ ความสนใจ
Engage
ครูเขียนคําวา “อัตราสวน” บนกระดานกระตุน ถามวา • นักเรียนคิดวา อัตราสวนเปนอยางไร และเปน ความรูพื้นฐานทางคณิตศาสตรในเรื่องใดบาง (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบไดหลากหลาย ตามพื้นฐานความรู) • อาชีพใดบางทีต่ อ งใชความรูเ กีย่ วกับอัตราสวน (แนวตอบ อาชีพที่ใชความรูเกี่ยวกับอัตราสวน เชน สถาปนิก วิศวกร ชางกอสราง เปนตน)
ส�ารวจค้นหา
Explore
1. ครูเขียนขอความที่เกี่ยวของกับอัตราสวน บนกระดาน เชน 1) การวัดผลรายวิชาภาษาไทย มีคะแนนเก็บ ระหวางภาคเรียน 60 คะแนน และคะแนน ปลายภาคเรียน 40 คะแนน 2) อัตราสวนเตนของหัวใจของคนเราเปน 72 ครั้งตอนาที 3) รถยนตยี่หอหนึ่ง โฆษณาวา รถยนตของเรา ใชนํ้ามัน 1 ลิตร แลนไดระยะ 23 กิโลเมตร 4) การผสมคอนกรีตใชทราย 2 สวน หิน 1 สวน และปูน 3 สวนโดยปริมาตร 2. ใหนักเรียนอานขอความขางตนในขอ 1. แลวตอบคําถามตอไปนี้ • ขอความทั้งหมดเกี่ยวของกับจํานวนหรือไม (แนวตอบ ขอความทัง้ หมดเกีย่ วของกับจํานวน) • จํานวนที่มีในแตละขอความมีกี่จํานวน และ เปนจํานวนชนิดใดบาง และมีหนวยเดียวกัน หรือไม (แนวตอบ มี 2 จํานวน, 3 จํานวน และมากกวา 3 จํานวน และเปนจํานวนเต็มบวก มีหนวย เดียวกันและตางหนวยกัน) 3. ใหนักเรียนจับคูศึกษาเนื้อหาในหนังสือเรียน หนา 2-6
2
1. ความหมายของอัตราส่วน
พิจารณา ข้อความต่อไปนี้ 1) การวัดผลรายวิชาคณิตศาสตร์ จะมีคะแนนเก็บระหว่างภาคเรียน 70 คะแนน และ ปลายภาคเรียน 30 คะแนน 2) จากรายงานทางการแพทย์ พบว่า การวิ่งอย่างสม�่าเสมอในเวลา 1 ชั่วโมง ร่างกาย จะใช้พลังงาน 900 แคลอรี่ จะเห็นว่า ข้อความที่ 1) เป็นข้อความแสดงการเปรียบเทียบจ�านวนของคะแนนระหว่าง ภาคเรียนและคะแนนปลายภาคเรียน และข้อความที่ 2) เป็นข้อความแสดงการเปรียบเทียบเวลา กับปริมาณพลังงานที่ใช้ไป จากข้อความทั้งสองข้างต้น เป็นตัวอย่างของ “อัตราส่วน” มุมความคิด เรียกความสัมพันธ์ทแี่ สดงการเปรียบเทียบปริมาณสองปริมาณ ซึง่ อาจมีหน่วยเดียวกัน หรือต่างกันก็ได้ ว่า “อัตราส่วน”
พิจารณารูปภาพต่อไปนี้
รูปที่ 1
จากรูปที่ 1 จะเห็นว่า มีผู้หญิง 2 คน และมีผู้ชาย 3 คน กล่าวได้ว่า อัตราส่วนของจ�านวนผู้หญิงต่อจ�านวนผู้ชายเป็น 2 ต่อ 3 หรือ อัตราส่วนของจ�านวนผู้ชายต่อจ�านวนผู้หญิงเป็น 3 ต่อ 2 เขียนแทน อัตราส่วน 2 ต่อ 3 ด้วย 2 : 3 หรือ 23 อัตราส่วน 3 ต่อ 2 ด้วย 3 : 2 หรือ 32
เกร็ดแนะครู ครูเชื่อมโยงความรูการเปรียบเทียบปริมาณสองปริมาณวา มีจํานวนมากกวา หรือจํานวนนอยกวากัน เพื่อสรางความเขาใจการเปรียบเทียบระหวางจํานวน จากนั้นจึงแนะนําการเปรียบเทียบโดยใชอัตราสวน
มุม IT ศึกษาขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราสวน ไดที่ http://edltv.thai.net/index.php?mod=Courses&file=showcontent&cid=206& sid=208&lid=100007&lid_parent=100007 เว็บไซตโครงการจัดทําเนื้อหาระบบ e-Learning ของการศึกษาทางไกลผาน ดาวเทียม
2
คู่มือครู
รูปที่ 2
บูรณาการเชื่อมสาระ
อัตราสวนเปนการแสดงการเปรียบเทียบปริมาณสองปริมาณ ซึง่ อาจมีหนวย เดียวกันหรือตางกันก็ได ในชีวติ ประจําวันมีกลุม คนบางกลุม ทีม่ คี วามเกีย่ วของ กับการเงินระหวางประเทศ เชน เจาหนาทีข่ องธนาคาร มัคคุเทศก พอคาสงออก เปนตน กลุมคนเหลานี้ตองนําและใชความรูเกี่ยวของกับอัตราสวน เชน การ แลกเปลี่ยนเงินตราสกุลตางๆ การเปรียบเทียบราคาสินคาตอชิ้น เปนตน ซึ่ง ความสัมพันธดังกลาวสามารถนําไปเชื่อมบูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรู สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมได ครูควรใหนักเรียนสืบคนอัตราสวนที่ เกี่ยวของกับเหตุการณอื่นๆ ในชีวิตประจําวัน มา 3 ตัวอยาง
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
Engage
Explore
อธิบายความรู้ อธิบExplain ายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
3
จากรูปที่ 2 กล่าวได้วา่ หรือ เขียนแทน
อธิบายความรู้
จะเห็นว่า มีจ�านวนปากกา 4 ด้าม และจ�านวนสมุด 5 เล่ม อัตราส่วนของจ�านวนปากกาเป็นด้ามต่อจ�านวนสมุดเป็นเล่มเป็น 4 ต่อ 5 อัตราส่วนของจ�านวนสมุดเป็นเล่มต่อจ�านวนปากกาเป็นด้ามเป็น 5 ต่อ 4 อัตราส่วน 4 ต่อ 5 ด้วย 4 : 5 หรือ 45 อัตราส่วน 5 ต่อ 4 ด้วย 5 : 4 หรือ 54
มุมความคิด อัตราส่วน a ต่อ b เขียนแทนด้วย a : b หรือ ba อ่านว่า a ต่อ b เรียกจ�านวน a ในอัตราส่วน a : b ว่า จ�านวนแรกหรือจ�านวนที่หนึ่ง เรียกจ�านวน b ในอัตราส่วน a : b ว่า จ�านวนหลังหรือจ�านวนที่สอง
อัตราส่วน a ต่อ b จะพิจารณาในกรณีที่ a และ b เป็นจ�านวนบวกเท่านั้น ต�าแหน่งของจ�านวนในแต่ละอัตราส่วนนั้นถือว่ามีความส�าคัญ จากรูปที่ 1 ซึ่งแสดง จ�านวนผู้หญิงและจ�านวนผู้ชาย จะเห็นว่า อัตราส่วน 2 : 3 ไม่ใช่อัตราส่วนเดียวกับอัตราส่วนน 3 : 2 เนือ่ งจากอัตราส่วน 2 : 3 หมายถึง อัตราส่วนของจ�านวนผูห้ ญิงต่อจ�านวนผูช้ าย าย แต่ แต่อตั ราส่วนน 3 : 2 หมายถึง อัตราส่วนของจ�านวนผู้ชายต่อจ�านวนผู้หญิง นั่นคือ อัตราส่วน a : b ไม่ ไม่ใช่อัตราส่วนเดียวกับ b : a b:a
เปิดโลกคณิตศาสตร์
1
เครื่องหมายคูณ (×) น�ามาใช้เป็นครั้งแรกโดย วิลเลี่ยมม ออทเทรด ออทเทรด (William (William Oughtred) Oughtred) ซึ่ง ปรากฏหลักฐานในหนังสือ Clavi’s Mathematical ซึ่งเขียนไว้ในปี ค.ศ. 1628 และตี 1628 และตีพิมพ์เผยแพร่ใน กรุงลอนดอนเมื่อปี ค.ศ. 1631 เครื่องหมายหาร (÷) น�ามาใช้เป็นครั้งแรกโดย แรกโดย โจฮานน์ โจฮานน์ ราห์น (Johann Rahn หรื (Johann Rahn หรือ Rhonius) Rhonius) ในปี ค.ศ. 1659 ซึ่งพบหลักฐานในหนังสือ Teutsche Algebra Teutsche Algebra
Explain
ใหนักเรียนตอบคําถามตอไปนี้ • คําที่ใชเพื่อเปรียบเทียบจํานวนสองจํานวน มีอะไรบาง (แนวตอบ เชน เทากัน มากกวา นอยกวา อัตราสวน เปนตน) • ความหมายของอัตราสวนเปนอยางไร (แนวตอบ การแสดงการเปรียบเทียบปริมาณ สองปริมาณ ซึ่งอาจมีหนวยเดียวกันหรือ ตางกันก็ได) • ปริมาณที่นํามาเปรียบเทียบจําเปนตองมี หนวยเดียวกันหรือไม (แนวตอบ ไมจําเปนตองเปนหนวยเดียวกัน) • อัตราสวน เทากัน มากกวาและนอยกวา ใชเปรียบเทียบจํานวนมีความเหมือนหรือ แตกตางกันหรือไม และเปนอยางไร (แนวตอบ แตกตางกัน คือ ถาใชเทากัน มากกวาและนอยกวา จะนําจํานวนทั้งสอง ลบกัน โดยจํานวนทั้งสองจะตองใชหนวย การวัดมาตราเดียวกัน ซึ่งผลลบอาจเทากับ 0 หรือมากกวา 0 ได ถาใชอัตราสวน เปนการเปรียบเทียบจํานวนเขียนแสดงใน รูปของเศษสวน ซึ่งจํานวนทั้งสองอาจใช หนวยการวัดมาตราเดียวกัน หรือมาตรา ตางกัน และการเขียนจะตองคํานึงถึง ตําแหนงของจํานวนแรกและจํานวน หลังดวย)
ที่มา : http://members.aol.com
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
รูปสามเหลี่ยมรูปหนึ่งมีขนาดของมุมภายในเปนอัตราสวนเปน 2 : 3 : 4 ขนาดของมุมแตละมุมเทากับกี่องศา 1. 20 ํ , 60 ํ , 100 ํ 2. 40 ํ , 60 ํ , 80 ํ 3. 20 ํ , 40 ํ , 120 ํ 4. 30 ํ , 70 ํ , 80 ํ วิเคราะหคําตอบ อัตราสวนของมุมทั้งสามของรูปสามเหลี่ยมเปน 2 : 3 : 4 มุมทั้งสามรวมกัน เทากับ 9 สวน มุมภายในรูปสามเหลี่ยมรวมกันได 180 ํ มุมที่หนึ่ง = 180 9 × 2 = 40 ํ มุมที่สอง = 180 9 × 3 = 60 ํ มุมที่สาม = 180 9 × 4 = 80 ํ
เกร็ดแนะครู ครูทบทวนความรูเดิมของนักเรียนเกี่ยวกับเรื่องอัตราสวน และรวมกันอภิปราย ในประเด็นความรูเกี่ยวกับอัตราสวนที่มีตอชีวิตประจําวัน
นักเรียนควรรู 1 วิลเลียม ออทเทรด (William Oughtred) นักคณิตศาสตรชาวอังกฤษไดคิด ประดิษฐไมบรรทัดคํานวณ (slide rule) ซึ่งในเวลาตอมาไดนํามาใชเปนพื้นฐาน ของการสรางคอมพิวเตอร
ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 2.
คู่มือครู
3
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
Engage
Explore
อธิบายความรู้
อธิบายความรู้ อธิบExplain ายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
Explain
ใหนักเรียนตอบคําถามตอไปนี้ • การเปรียบเทียบจํานวนโดยใชตัวอัตราสวน จะตองทําอยางไรบาง พรอมยกตัวอยาง ประกอบ (แนวตอบ ถาจํานวนทั้งสองใชหนวยเดียวกัน นําจํานวนทั้งสองเขียนเปนอัตราสวนได โดยใหสอดคลองกับตําแหนงของจํานวน ในอัตราสวน ถาจํานวนทัง้ สองใชหนวยตางกัน แตมีความสัมพันธในการเปลี่ยนหนวย ใหเปลี่ยนจํานวนทั้งสองเปนหนวยเดียวกัน แลวเขียนเปนอัตราสวน ถาจํานวนทั้งสองใช ตางหนวยกันและไมมีความสัมพันธในการ เปลี่ยนหนวย การเขียนอัตราสวนจะตองระบุ หนวยของจํานวนทั้งสองในขอความตาม ตําแหนงในอัตราสวน แลวเขียนตัวเลข แสดงอัตราสวนโดยไมตองระบุหนวย เชน - นรีมีเงิน 350 บาท วัลภามีเงิน 280 บาท อัตราสวนของจํานวนเงินของนรีตอจํานวน เงินของวัลภาเปน 350 : 280 - มงคลสูง 1.85 เมตร ลัดดาสูง 170 เซนติเมตร อัตราสวนของความสูงของมงคลตอความสูง ของลัดดาเปน 185 : 170 - ดุลยามีช็อกโกแลต 5 แทง และมีลูกอม รสมินต 12 เม็ด อัตราสวนของจํานวน ช็อกโกแลตเปนแทงตอจํานวนลูกอมเปน เม็ดเปน 5 : 12)
4
พิจารณาข้อความต่อไปนี้ 1) กระดาษรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าแผ่นหนึ่งมีความกว้าง 20 เซนติเมตร ความยาว 27
เซนติเมตร 2) การไปทัศนศึกษาต่างจังหวัดของโรงเรียนแห่งหนึ่ง จัดให้ครู 1 คน ดูแลนักเรียน 20 คน 3) การท�าน�้าหมักชีวภาพใช้กากน�้าตาล 250 ลูกบาศก์เซนติเมตร ใช้น�้า 8 ลิตร 4) ไส้กรอก 1 ถุง ราคา 55 บาท 5) ตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคณ ุ ภาพของรัฐบาลในแต่ละภาคเรียน ได้กา� หนด เงินค่าอุปกรณ์การเรียนแก่นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น คนละ 210 บาท 6) วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2553 ประเทศไทยมีอัตราแลกเปลี่ยนเงิน 31.20 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ จากข้อความข้างต้นสามารถเขียนอัตราส่วนแสดงความสัมพันธ์ ได้ดังนี้ 1) อัตราส่วนของความกว้างต่อความยาวเป็น 20 : 27 2) อัตราส่วนของจ�านวนครูต่อจ�านวนนักเรียนเป็น 1 : 20 1 3) อัตราส่วนของปริมาณกากน�้าตาลเป็นลูกบาศก์เซนติเมตรต่อน�้าเป็นลิตรร เป็น 250 : 88 4) อัตราส่วนของจ�านวนไส้กรอกเป็นถุงต่อราคาเป็นบาทเป็น 1 : 55 5) อัตราส่วนของจ�านวนนักเรียนเป็นคนต่อเงินค่าอุปกรณ์การเรียนเป็นบาทเป็น 1 : 210 6) อัตราส่วนของจ�านวนเงินเป็นบาทต่อจ�านวนเงินเป็นดอลลาร์สหรัฐเป็น 31.20 : 1 2) จะเห็นว่า เป็นอัตราส่วนที่แสดงการเปรียบ จากการเขียนอัตราส่วนน ข้อ 1) และ 2) เทียบปริมาณสองปริมาณที่มีหน่วยเดียวกัน จะไม่ จะไม่เขียนหน่วยก�ากับไว้ 6) จะเห็ จากการเขียนอัตราส่วนข้อ 3) 3) - 6) จะเห็นว่า เป็นอัตราส่วนที่แสดงการเปรียบเทียบ ปริมาณสองปริมาณที่มีหน่วยต่างกัน จะเขี จะเขียนหน่วยก�ากับไว้ มุมความคิด การเขียนอัตราส่วนที่แสดงการเปรียบเทียบปริมาณสองปริมาณที่มีหน่วยเดียวกัน เราไม่นิยมเขียนหน่วยก�ากับไว้ แต่การเขียนอัตราส่วนที่แสดงการเปรียบเทียบปริมาณสอง ปริมาณที่มีหน่วยต่างกัน ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนให้เป็นหน่วยเดียวกันได้ จะต้องเขียนหน่วย ก�ากับไว้เสมอ
เกร็ดแนะครู ครูควรชี้แนะใหนักเรียนอานขอความการเขียนอัตราสวนแสดงความสัมพันธ ในแตละขออยางรอบคอบ และใหพิจารณาความแตกตางของการเขียนอัตราสวน การเปรียบเทียบปริมาณที่มีหนวยเดียวกัน และหนวยตางกันของแตละขอความ เพื่อสรางความเขาใจและเขียนอัตราสวนไดถูกตอง
กิจกรรมสรางเสริม ใหนักเรียนสํารวจราคาสินคาในหางสรรพสินคาหรือรานคาตางๆ แลว นําราคาสินคาเขียนในรูปอัตราสวน จํานวน 5 ตัวอยาง
กิจกรรมทาทาย
นักเรียนควรรู 1 ลิตร (litre) เปนหนวยวัดปริมาตรในระบบมาตราเมตริก 1 ลิตร มีคาเทากับ 1,000 ลูกบาศกเซนติเมตร 1 ลิตร มีคาเทากับ 1,000 มิลลิลิตร
4
คู่มือครู
ใหนักเรียนสํารวจการใชบริการของลูกคาในรานคาแหงหนึ่ง โดยให จดบันทึกจํานวนลูกคาที่มาใชบริการในชวงเวลา ตอไปนี้ - เวลา 7.00 น. - 8.00 น. - เวลา 8.00 น. - 9.00 น. - เวลา 9.00 น. - 10.00 น. - ใหเขียนอัตราสวนของจํานวนลูกคาทุกๆ 2 ชวงเวลา
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
Engage
Explore
อธิบายความรู้ อธิบExplain ายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
5
อธิบายความรู้
พิจารณารูปแปลนบ้านซึ่งใช้มาตราส่วน 1 : 400 หมายถึง ความยาวในแผนผัง 1 เซนติเมตร แทนความยาวจริง 400 เซนติเมตร
นอกจากนี้มาตราส่วนอาจแสดงการเปรียบเทียบในหน่วยต่างกันได้เช่นเดียวกับ อัตราส่วน เช่น 1 มาตราส่วนที่ใช้เขียนแผนที่ประเทศไทยเป็น 1 เซนติเมตร : 5 กิโลเมตร หมายความว่า ระยะทางในแผนที่ 1 เซนติเมตร แทนระยะทางจริง 5 กิโลเมตร
Explain
ใหนักเรียนตอบคําถามตอไปนี้ • แบบแปลนแตละหลังจะตองมีมาตราสวน กําหนดไว มาตราสวนเปนอัตราสวนหรือไม จํานวนแรกและจํานวนหลังในมาตราสวน แทนความยาวของสิ่งใด (แนวตอบ เปนอัตราสวน แตมีขอตกลงเฉพาะ โดยจํานวนแรกแทนความยาวในแผนผัง จํานวนหลังแทนความยาวจริง) • การเขียนมาตราสวนกับอัตราสวนเหมือนกัน หรือแตกตางกันหรือไม อยางไร (แนวตอบ เหมือนกัน คือแสดงการเปรียบเทียบ ปริมาณสองปริมาณ แตกตางกัน คือ มาตราสวนจํานวนที่หนึ่งตองเทากับ 1 แตอัตราสวนจํานวนที่ 1 ไมจําเปนตอง เทากับ 1)
ตัวอย่1างที่ จงเขียนอัตราส่วนแทนปริมาณสองปริมาณที่ก�าหนดให้ในแต่ละข้อต่อไปนี้ 1) แต้มีปากกาน�้าเงิน 5 ด้าม และมีปากกาแดง 5 ด้าม 2) รัตนาจะเก็บสะสมเงิน 5 บาท จากจ�านวนเงินค่าขนม 30 บาท 3) ชีพจรของวินัยเต้น 78 ครั้ง ในเวลา 1 นาที 4) รถยนต์ใช้น�้ามัน 1 ลิตร แล่นได้ระยะทาง 11 กิโลเมตร วิธีทำ�
1) อัตราส่วนของจ�านวนปากกาน�้าเงินต่อจ�านวนปากกาแดงเป็น 5 :5 2) อัตราส่วนของจ�านวนเงินสะสมต่อจ�านวนเงินค่าขนมเป็น 5 : 30 3) อัตราส่วนของการเต้นของชีพจรเป็นครั้งต่อเวลาเป็นนาทีเป็น 78 78 : 1 4) อัตราส่วนของปริมาณน�้ามันเป็นลิตรต่อระยะทางที่แล่นได้เป็นกิโลเมตร ตอบ เป็น 1 : 11
ขอสอบ
O-NET
ขอสอบป ’ 53 ออกเกี่ยวกับอัตราสวนของพื้นที่ วงกลมรัศมียาว 7 หนวย แนบในรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีดานยาว 14 หนวย จงหาอัตราสวนพื้นที่บริเวณที่แรเงาตอพื้นที่รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส
1. 3 : 5 2. 3 : 7 3. 3 : 10 4. 3 : 14 วิเคราะหคําตอบ วงกลมรัศมียาว 7 หนวย พื้นที่วงกลม = πr2 = 227 × 7 × 7 = 154 ตารางหนวย สี่เหลี่ยมจัตุรัสมีความยาว = 14 หนวย พื้นที่รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส = 14 × 14 = 196 ตารางหนวย พื้นที่สวนที่แรเงา = 196 - 154 = 42 ตารางหนวย อัตราสวนพื้นที่แรเงาตอพื้นที่รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส = 42 : 196 = 3 : 14 ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 4.
นักเรียนควรรู 1 มาตราสวน (scale) หมายถึง อัตราสวนของระยะหางในแปลนหรือแผนที่ กับระยะหางในพื้นที่จริงซึ่งเปนขอมูลที่บอกใหผูใชทราบวา แปลนหรือแผนที่นั้นๆ ยอสวนมาจากของจริงในอัตราสวนเทาใด ซึ่งในการเขียนรูปที่มีขนาดใหญ เชน แบบสิ่งกอสราง แผนผัง แผนที่ เปนตน เราไมสามารถเขียนใหมีขนาดใหญเทา ของจริงได ดังนั้น จึงตองมีการเขียนรูปใหเหมือนกับของจริงแตมีขนาดเล็กกวา ของจริงโดยใชมาตราสวน เรียกวา “การยอสวน” และในการยอสวนตองเขียน มาตราสวนกํากับไว เพื่อบอกขนาดที่แทจริงไดอยางถูกตอง
คู่มือครู
5
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้
Engage
Explore
Explain
ขยายความเข้าใจ
Evaluate
Evaluate
ตัวอย่2างที่ สมพรซือ้ เนือ้ หมูจา� นวน 6 ขีด ซือ้ ก้งุ 8 ขีด จงเขียนอัตราส่วนแสดงการเปรียบเทียบจ�านวน เนื้อหมูและจ�านวนกุ้งที่สมพรซื้อมา
วิธีทำ�
ศึกษาขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราสวน(แบบฝกเสริมทักษะ) ไดที่ http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=86558
ตอบ
1.1
1. จากภาพทีก่ า� หนดให้ มีสบั ปะรด และส้มโออย่างละ 2 ผล ขนุนและทุเรียนอย่างละ 1 ผล ฝรัง่ 5 ผล มะม่วง 4 ผล ชมพู่ 7 ผล กล้วย 1 หวี และผลไม้อื่นๆ จงเขียนอัตราส่วนแสดงการ เปรียบเทียบในแต่ละข้อต่อไปนี้ 1) จ�านวนสับปะรดต่อจ�านวนทุเรียน 2) จ�านวนขนุนต่อจ�านวนส้มโอ 3) จ�านวนกล้วยเป็นหวีต่อจ�านวนฝรั่งเป็นผล 4) จ�านวนชมพู่ต่อจ�านวนมะม่วง 2. จงเขียนอัตราส่วนแทนข้อความต่อไปนี้ 1) ในเวลา 2 ชั่วโมง สุภาสิณีขับรถยนต์ได้ระยะทาง 180 กิโลเมตร 2) ค่าจ้างแรงงานขั้นต�่าวันละ 150 บาท 3) คนงาน 8 คน ท�างานเสร็จในเวลา 3 วัน 4) รถไฟฟา BTS แล่นด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 5) ระยะทางในแผนผั ง 1 เซนติเมตร แทนระยะทางจริง 10 เมตร 1 3. ธงชาติไทยผืนหนึง่ มีความกว้าง 80 เซนติเมตร ความยาว 1.4 เมตร จงเขียนอัตราส่วนแสดง การเปรียบเทียบความกว้างต่อความยาวของธงชาติไทยผืนนี้ 4. สุนิตาได้รับค่าขนมวันละ 35 บาท เธอจะเก็บสะสมไว้ 5 บาท จงเขียนอัตราส่วนแสดง การเปรียบเทียบจ�านวนเงินสะสมต่อจ�านวนเงินที่ได้รับของสุนิตา 5. นนทภัทรรับจ้างท�างานนอกเวลาเรียนวันละ 4 ชัว่ โมง จงเขียนอัตราส่วนแสดงการเปรียบเทียบ เวลาท�างานนอกเวลาเรียนต่อหนึ่งวันของนนทภัทร
1 ธงชาติไทย หรือเรียกวา “ธงไตรรงค” (คําวา ไตร แปลวา สาม และรงค แปลวาสี) มีลักษณะเปนธงสี่เหลี่ยมผืนผาที่มีสามสีหาแถบสี คือพื้นแดง-ขาว-นํ้าเงินขาว-แดง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลาเจาอยูหัวทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ ใหนํา มาใชเปนธงชาติไทยแทนธงชางเผือก ประกาศใชเมื่อ 28 กันยายน พ.ศ. 2460
มุม IT
สมพรซื้อเนื้อหมู จ�านวน 6 ขีด สมพรซื้อกุ้ง จ�านวน 8 ขีด เขียนอัตราส่วนแสดงจ�านวนเนือ้ หมูและจ�านวนก้งุ ทีส่ มพรซือ้ ได้เป็น 6 : 8
แบบตรวจสอบความเข้าใจที่
นักเรียนควรรู
คู่มือครู
Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
6
1. ใหนักเรียนประเมินผลระดับความเขาใจ ในเนื้อหานี้ดวยการเขียนบอกระดับเปนดีมาก ดี ปานกลางหรือตองเพิ่มความเขาใจอีก 2. ครูประเมินผลการเรียนรูจากการตรวจสอบ ความถูกตองการทําแบบตรวจสอบความเขาใจ ที่ 1.1 (ดูเฉลยแบบตรวจสอบความเขาใจที่ 1.1 ที่สวนเสริมดานหนาของหนังสือเลมนี้)
6
ตรวจสอบผล
ขยายความเข้ Expand าใจ
Expand
1. ใหนักเรียนแตละคูรวมกันแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นวา โจทยขอใดในแบบตรวจสอบ ความเขาใจที่ 1.1 หนา 6 เหมือนกับตัวอยางใด ที่เรียนมา 2. ใหนกั เรียนแตละคูน าํ แนวคิดและวิธกี ารทีไ่ ดจาก การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นไปใชเพื่อแกโจทย ปญหาในการทําแบบตรวจสอบความเขาใจที่ 1.1 3. ใหนกั เรียนแตละคูร ว มกันตรวจสอบความถูกตอง ในแบบตรวจสอบความเขาใจที่ 1.1
ตรวจสอบผล
ขยายความเข้าใจ
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
ถา a : b = 2 : 3 แลว 2a - b : 3b - 2a เทากับเทาไร 1. 1 : 2 2. 1 : 5 3. 2 : 5 4. 5 : 2 วิเคราะหคําตอบ
a:b=2 : 3 2a - b : 3b - 2a (2 × 2) - 3 : (3 × 3) - (2 × 2) 1 :5 ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 2.
กระตุน้ ความสนใจ
ส�ารวจค้นหา ส�ารวจค้ Exploreนหา
อธิบายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
กระตุEngage ้นความสนใจ
7
กระตุน้ ความสนใจ
ครูสนทนาและซักถามนักเรียนวา • เศษสวนและอัตราสวนเหมือนกันหรือ แตกตางกันอยางไร (แนวตอบ - เหมือนกัน คือแสดงการ เปรียบเทียบระหวางปริมาณสองปริมาณ - แตกตางกัน คืออัตราสวนปริมาณทั้งสอง อาจจะมีหนวยเดียวกัน หรือหนวยตาง ระบบกัน แตเศษสวนนั้น ตัวเศษและ ตัวสวนจะมาจากปริมาณเดียวกัน โดยแบง ปริมาณนีอ้ อกเปนสวนยอยๆ ซึง่ แตละสวน เทากัน แลวนําจํานวนสวนยอยทั้งหมด ที่แบงไดเขียนเปนตัวสวน และนําจํานวน สวนยอยเพียงบางสวนที่สนใจมาแสดง การเปรียบเทียบ เขียนเปนตัวเศษ) • ในเรื่องเศษสวนมีการเปรียบเทียบเศษสวน หรือไม อยางไร และมีหลักการอยางไร (แนวตอบ มีการเปรียบเทียบเศษสวน ซึ่งมี หลักการเปรียบเทียบเทากัน มากกวา หรือ นอยกวา) • นักเรียนบอกวิธีการหาเศษสวนที่เทากัน ไดหรือไม มีกี่วิธี (แนวตอบ สามารถบอกได มี 2 วิธี โดยการนํา จํานวนบวกคูณทัง้ ตัวเศษและตัวสวน และนํา จํานวนบวกใดๆ หารทั้งตัวเศษและตัวสวน) • นักเรียนคิดวา การเปรียบเทียบอัตราสวน จะใชหลักการเดียวกันกับเศษสวนไดหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบไดหลากหลาย ตามพืน้ ฐานความรู เชน ได เพราะมีขอ ตกลง วาอัตราสวนเขียนในรูปเศษสวนได)
2. อัตราส่วนที่เท่ากันและสัดส่วน
ร้านสหกรณ์ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ขายน�้าราคาขวดละ 5 บาท จะได้ว่า น�้า 1 ขวด ราคา 1 × 5 = 5 บาท น�้า 2 ขวด ราคา 2 × 5 = 10 บาท น�้า 3 ขวด ราคา 3 × 5 = 15 บาท ดังนั้น จ�านวนน�้าเป็นขวดและราคาเป็นบาทจะมีความสัมพันธ์กันดังตารางต่อไปนี้ จ�านวนน�้า (ขวด) ราคา (บาท)
1 5
2 10
3 15
4 20
5 25
จากตาราง สามารถเขียนอัตราส่วนได้หลายอัตราส่วน ดังนี้ 1 : 5, 2 : 10, 3 : 15, 4 : 20, 5 : 25 หรือ 15 , 102 , 153 , 204 , 255
อัตราส่วนข้างต้น ได้มาจากการซื้อน�้าในราคาเดียวกัน คือ น�้า 1 ขวด ราคา 5 บาท และกล่าวได้ว่าอัตราส่วนเหล่านั้นเป็นอัตราส่วนที่เท่ากัน
2.1 การหาอัตราส่วนที่เท่ากับอัตราส่วนที่ก�าหนดให้
จากการเขียนอัตราส่วนของจ�านวนน�้าเป็นขวดต่อราคาเป็นบาทข้างต้น จะพบว่ จะพบว่า 1 : 5 , 1:5, 2 : 10, 3 : 15, 4 : 20, 5 : 25 เป็ เป็นอัตราส่วนที่เท่ากันซึ่งเขียน ได้ น ได้ดังนี้ 1 : 5 = 2 : 10 = 3 : 15 = 4 : 20 = 5 : 25 20 = 5 : 25 1 2 3 หรือ 5 = 10 = 15 = 204 = 255 จะเห็นว่า อัอัตราส่วนที่เท่ากันข้างต้น มีมีความเกี่ยวข้องกันกับอัตราส่วนน 15 ดัดังนี้ คูณด้วยจ�านวนเดียวกัน
1 5 1 5 1 5 1 5
= 51 ×× 2 2 = 51 ×× 3 3 = 51 ×× 4 4 = 51 ×× 5 5
= 102 = 153 = 204 = 255
หารด้วยจ�านวนเดียวกัน
2 10 3 15 4 20 5 25
2 = 1 = 102 ÷÷ 2 2 5 3 ÷ 3 = 15 ÷ 3 = 15 4 = 1 = 204 ÷÷ 4 4 5 1 = 255 ÷÷ 5 5 = 5
ขอสอบเนน การคิด
ขอใดถูกตอง ก. 17 : 51 = 16 : 48 ค. 20 : 35 = 16 : 49 1. ขอ ก. และขอ ข. ถูก 2. ขอ ข. และขอ ค. ถูก 3. ขอ ค. และขอ ง. ถูก 4. ถูกทุกขอ
แนว NT O-NE T ข. 45 : 65 = 117 : 169 ง. 9 : 30 = 27 : 100
Engage
ส�ารวจค้นหา
Explore
ใหนักเรียนศึกษาเนื้อหาในหนังสือเรียน หนา 7 -11
เกร็ดแนะครู กอนเขาสูบทเรียนเรื่องอัตราสวนที่เทากัน ครูควรกลาวเชื่อมโยงจากการ เปรียบเทียบจํานวนสองจํานวน ซึ่งจํานวนทั้งสองอาจจะเทากัน หรือจํานวนใด จํานวนหนึ่งอาจมากกวาอีกจํานวนหนึ่ง จากนั้นครูทบทวนการตรวจสอบการเทากัน ของเศษสวนโดยการถาม-ตอบ แลวใหนักเรียนยกตัวอยาง
วิเคราะหคําตอบ ก. ถูก 17 : 51 = 16 : 48 = 1 : 3 ข. ถูก 45 : 65 = 117 : 169 = 9 : 13 ค. ผิด 20 : 35 = 4 : 7 = 16 : 28 ง. ผิด 9 : 30 = 3 : 10 = 27 : 90 ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 1. คู่มือครู
7
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
Engage
Explore
อธิบายความรู้
อธิบายความรู้ อธิบExplain ายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
Explain
ใหนักเรียนตอบคําถามตอไปนี้ • การจายเงินซื้อสินคาชนิดตางๆ จํานวน หลายชิ้นเกี่ยวของกับอัตราสวนที่เทากัน หรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ เกี่ยวของกัน เพราะวาจํานวนเงิน ที่จายตองนําจํานวนชิ้นของสินคาคูณราคา สินคาตอหนึ่งหนวยซึ่งเปนอัตราสวน) • การหาอัตราสวนที่เทากับอัตราสวนที่กําหนด ให ใชวิธีเดียวกันกับการหาเศษสวนที่เทากัน หรือไม และใชอยางไร (แนวตอบ ใชวิธีเดียวกัน โดยใชหลักการคูณ และหลักการหาร) • ในกรอบมุมความคิด เพราะเหตุใดจึงกําหนด คา c เปนจํานวนใดๆ ที่ไมเทากับศูนย (แนวตอบ ถา c = 0 จะได 00 ซึ่งไมมีนิยาม การหารดวย 0 จึงไมเกิดอัตราสวนที่ตองการ จะหาได)
8
นัน่ คือ เมือ่ ก�าหนดอัตราส่วนมาให้ เราสามารถหาอัตราส่วนทีเ่ ท่ากับอัตราส่วนทีก่ า� หนด ให้ได้ โดยใช้หลักการต่อไปนี้ 1) หลักการคูณ เมือ่ คูณแต่ละจ�านวนในอัตราส่วนใดด้วยจ�านวนเดียวกัน โดยทีจ่ า� นวนนัน้ ไม่เท่ากับศูนย์ จะได้อัตราส่วนใหม่ที่เท่ากับอัตราส่วนเดิม 2) หลักการหาร เมือ่ หารแต่ละจ�านวนในอัตราส่วนใดด้วยจ�านวนเดียวกัน โดยทีจ่ า� นวนนัน้ ไม่เท่ากับศูนย์ จะได้อัตราส่วนใหม่ที่เท่ากับอัตราส่วนเดิม เราสามารถเขียนอัตราส่วนต่างๆ ให้อยู่ในรูปเศษส่วนได้ นะครับ
มุมความคิด ถ้าก�าหนดอัตราส่วน a : b และ c เป็นจ�านวนใดๆ ที่ไม่เท่ากับศูนย์ แล้วจะได้ว่า a a×c a a÷c b = b × c และ b = b ÷ c
ตัวอย่1างที่ จงหาอัตราส่วนที่เท่ากับอัตราส่วน 3 : 7 มาอีก 3 อัตราส่วน วิธีทำ� อัตราส่วน 3 : 7 เขียนแทนด้วย 37 6 จะได้ว่า 37 = 73 ×× 2 2 = 14 นั่นคือ 3 : 7 = 6 : 14 3 = 3 × 3 = 9 นั่นคือ 3 : 7 = 9 : 21 7 ×3 7 21 4 3 = 33 × 4 12 7 × 4 = 28 นั่นคือ 3 : 7 = 12 : 28 7
น 6 : 14, 9 : 21 และ 12 : 28 เป็นอัตราส่วนที่เท่ากับ ดังนั้น อัตราส่วน 6 ตอบ น3:7 อัตราส่วน 3 : 7
น ตัวอย่2างที่ จงหาอัตราส่วนที่เท่ากับอัตราส่วน 18 : 24 มาอี ก 3 อัตราส่วน
วิธีทำ�
เกร็ดแนะครู ครูควรยํา้ กับนักเรียนวา อัตราสวนทีเ่ ทากับอัตราสวนทีก่ าํ หนดใหมหี ลายอัตราสวน ขึ้นอยูกับจํานวนที่นักเรียนนํามาคูณหรือหารแตละจํานวนในอัตราสวนนั้น
8
18 24 = 18 18 : 24 18 ÷ 2 : 24 ÷ 2 = 9 : 12 18 : 24 18 = 18 ÷ 3 : 24 ÷ 3 = 6 : 8 18 : 24 18 : 24 == 18 18 × 2 : 24 2 : 24 × 2 2 = 36 36 : 48 ดังนั้น อัตราส่วน 9 : 12, 6 : 8 และ 36 : 48 เป็นอัตราส่วนที่เท่ากับ ตอบ อัตราส่วน 18 : 24
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
วงกลมสองวงมีจุดศูนยกลางรวมกัน วงกลมใหญมีพื้นที่ 441 ตารางหนวย วงกลมเล็กมีพื้นที่ 225 ตารางหนวย อัตราสวนของรัศมีวงกลมใหญตอรัศมี วงกลมเล็กเปนเทาไร 1. 2 : 1 2. 3 : 2 3. 5 : 3 4. 7 : 5 วิเคราะหคําตอบ พื้นที่วงกลมใหญ = πR2 = 441 ตารางหนวย พื้นที่วงกลมเล็ก = πr2 = 225 ตารางหนวย πR2 = 441 225 πr2 R2 = 49 r2 25 R = 7 r 5 R:r = 7:5 ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 4.
คู่มือครู
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
Engage
Explore
อธิบายความรู้ อธิบExplain ายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
9
แบบตรวจสอบความเข้าใจที่
อธิบายความรู้
1.2 ก
1. จงหาอัตราส่วนที่เท่ากับอัตราส่วนที่ก�าหนดให้อีกข้อละ 3 อัตราส่วน โดยใช้หลักการคูณ 1) 3 : 7 2) 5 : 12 3) 9 : 7 4) 2 : 3 5) 4 : 9 6) 3 : 5 2. จงหาอัตราส่วนที่เท่ากับอัตราส่วนที่ก�าหนดให้อีกข้อละ 3 อัตราส่วน โดยใช้หลักการหาร 1) 24 : 48 2) 30 : 45 3) 72 : 24 4) 64 : 32 5) 24 : 56 6) 54 : 90 3. จงเขียนอัตราส่วนอีก 3 อัตราส่วน ซึ่งเท่ากับอัตราส่วนของข้อความแต่ละข้อต่อไปนี้ 1) สบู่ราคาก้อนละ 12 บาท อัตราส่วนของจ�านวนสบู่เป็นก้อนต่อจ�านวนเงินเป็นบาท 2) การเข้าค่ายพักแรม ลูกเสือ 210 คน ใช้เต็นท์ทงั้ หมด 30 หลัง อัตราส่วนของจ�านวนเต็นท์ เป็นหลังต่อจ�านวนลูกเสือเป็นคน 3) นักเรียน 2 คน จ่ายค่ารถเมล์ 14 บาท อัตราส่วนของจ�านวนนักเรียนเป็นคนต่อจ�านวน เงินเป็นบาท 4) มะม่วง 3 กอง กองละ 5 ผล ขายในราคากองละ 10 บาท อัตราส่วนของจ�านวนมะม่วง เป็นกองต่อจ�านวนเงินเป็นบาท
Explain
ใหนักเรียนตอบคําถามตอไปนี้ • การตรวจสอบการเทากันของอัตราสวน ทําไดกี่วิธี อยางไรบาง (แนวตอบ การตรวจสอบการเทากันของ อัตราสวนทําได 3 วิธี ไดแก ใชหลักการคูณ หลักการหารและใชการคูณไขว) • นักเรียนคิดวา การตรวจสอบการเทากัน ของอัตราสวนโดยใชการคูณไขว หลักการ คูณและหลักการหาร วิธีใดเหมาะสมที่สุด เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบไดหลากหลาย ตามพื้นฐานความรู เชน ใชการคูณไขว เพราะวาไมตองหาวาจะนําจํานวนใดคูณ หรือหารจํานวนทั้งสอง)
2.2 การตรวจสอบการเท่ากันของอัตราส่วน ถ้าต้องการท�าให้จ�านวนที่สองของอัตราส่วน 59 และ 15 27 เท่ากัน สามารถท�าได้ 1 หลายแบบโดยใช้สมบัติการคูณ หรือสมบัติการหาร ดังต่อไปนี้ 5 × 3 = 15 แบบที่ 1 59 = 9 × 3 27 15 ÷ 3 5 แบบที่ 2 15 27 = 27 ÷ 3 = 9 แสดงว่า 59 = 15 27 5 × 27 และ 15 × 9 พิจารณา 9 27 × 9 × 27
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
แกวตองการสรางบานหลังหนึ่งใหมีขนาดหองแตละหองกวาง 4.5 เมตร ชางจึงเขียนแปลนหองกวาง 4.5 เซนติเมตร ชางใชมาตราสวนในการเขียน แปลนเปนเทาไร 1. 1 : 1 2. 1 : 10 3. 1 : 100 4. 1 : 1,000 วิเคราะหคําตอบ มาตราสวนของแปลนบาน : ความยาวจริง = 4.5 ซม. : 4.5 ม. = 4.5 : 450 = 1 : 100 ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 3.
นักเรียนควรรู 1 สมบัติการคูณ มีดังนี้ • สมบัติการสลับที่ของการคูณ กําหนดให a และ b แทนจํานวนเต็มใดๆ a×b=b×a เปนการหาผลคูณของจํานวนเต็มสองจํานวนที่สามารถสลับที่ระหวางตัวตั้ง และตัวคูณได • สมบัติการเปลี่ยนหมูของการคูณ กําหนดให a, b และ c แทนจํานวนเต็มใดๆ (a × b) × c = a × (b × c)
คู่มือครู
9
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
Engage
Explore
อธิบายความรู้
อธิบายความรู้ อธิบExplain ายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
Explain
จากทีน่ กั เรียนไดศกึ ษาตัวอยางที่ 1 และตัวอยาง ที่ 2 หนา 9 และหนา 10 ใหตอบคําถามตอไปนี้ • จากตัวอยางที่ 1 ถานักเรียนไมใชการคูณไขว นักเรียนจะเลือกใชหลักการคูณหรือหลักการ หารและใชอยางไร เพราะเหตุใด (แนวตอบ คําตอบอาจเปนทั้งหลักการคูณหรือ หลักการหาร - ใชหลักการคูณ โดยนํา 5 คูณจํานวนที่ 1 และจํานวนที่ 2 ของ 59 ซึ่งไดผลคูณ เทากับ 95 ×× 55 = 25 45 - ใชหลักการหาร โดยนํา 5 หารจํานวนที่ 1 และจํานวนที่ 2 ของ 25 44 ซึ่งไดผลหาร 25 ÷5 5 เทากับ 44 ÷ 5 = 8.8 ) • จากตัวอยางที่ 2 หนา 11 การหาคา a ถาไม ใชการคูณไขว นักเรียนคิดวา ควรจะใชวิธีใด เหมาะสมกวากัน และใชอยางไร (แนวตอบ ใชหลักการคูณโดยนํา 20 คูณจํานวน ที่ 1 และจํานวนที่ 2 ของ 5 : 0.3)
10
จะเห็นว่า 5 × 27 และ 15 × 9 ซึ่งเป็นจ�านวนแรกของทั้งสองอัตราส่วน เป็นผลการ คูณไขว้ของ 5 กับ 27 และ 15 กับ 9 จากอัตราส่วน 59 และ 15 27 c ก�าหนดให้ a, b, c และ d เป็นจ�านวนบวกใดๆ และ a b , d แทนเศษส่วน เราทราบว่า = dc ถ้า a × d = b × c แล้ว a b ใช้หลักการคูณไขว้แบบเดียวกัน c และถ้า a กับการเปรียบเทียบเศษส่วน b = d แล้ว a × d = b × c
สมบั ติ นี้ ยั ง คงเป็ น จริ ง ในการเปรี ย บเที ย บการเท่ า กั น ของ อัตราส่วน กล่าวคือ ถ้า a × d = b × c แล้ว a : b = c : d และถ้า a : b = c : d แล้ว a × d = b × c
ตัวอย่1างที่ จงตรวจสอบว่าอัตราส่วนแต่ละข้อต่อไปนี้เท่ากันหรือไม่ 1) 5 : 9 และ 25 : 44 2) 1.5 : 4 และ 3 : 8 1.5 : 4 และ 3 : 8 วิธีทำ�
เกร็ดแนะครู ครูใหนักเรียนสังเกตตัวอยางที่ 1 วา การตรวจสอบการเทากันของอัตราสวน ในแบบที่ 2 (ดูหนา 9) อาจจะไมเหมาะสมหากจํานวนในอัตราสวนมีคามาก เพราะ อาจมีความผิดพลาดในการคํานวณ
10
คู่มือครู
25 1) พิจารณาผลคูณไขว้ของอัตราส่วน น 5 9 และ 44
44 = 220 และ 99 × 25 = 225 ใช้หลั5กการคู25ณไขว้ จะได้ 55 × 44 9 44 นั่นคือ 55 × 44 44 ≠ 99 × 25 25 ดังนั้น 55 : 9 และ 25 : 44 : 9 และ และ 25 25 : 44 เป็นอัตราส่วนที่ไม่เท่ากัน 3 2) พิจารณาผลคูณไขว้ของอัตราส่วน น 1.5 4 และ 8 ลักการคูณไขว้ จะได้ 1.5 1.5 × 8 = 12 และ 4 × 3 = 12 ใช้ห1.5 3 4 8 นั่นคือ 1.5 1.5 × 8 = 4 × 3 ตอบ ดังนั้น 1.5 1.5 : 4 4 และ 3 และ 3 : 8 และ 8 เป็นอัตราส่วนที่เท่ากัน
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T อัตราสวนในขอใดเทากัน 1. 16 : 12 = 32 : 28 2. 28 : 24 = 18 : 21 3. 112 : 196 = 150 : 175 4. 72 : 136 = 221 : 117
วิเคราะหคําตอบ โดยใชหลักการคูณไขว 32 1. ไมเทากัน 16 12 = 28 จะได 448 ≠ 384 18 2. ไมเทากัน 28 24 = 21 จะได 588 ≠ 432 100 3. เทากัน 112 196 = 175 จะได 19600 = 19600 72 = 221 จะได 8424 ≠ 30056 4. ไมเทากัน 136 117 ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 3.
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้
Engage
Explore
Explain 11
ตัวอย่างที่
ถ้า 5 : 0.3 และ a : 6 เป็นอัตราส่วนที่เท่ากันแล้ว จงหาค่า a
วิธีทำ�
2
เนื่องจาก อัตราส่วน 5 : 0.3 = a : 6 5 1= a เขียนแทนด้วย 0.3 6 จะได้ว่า 5 × 6 = 0.3 × a × 6 a = 5 0.3 a = 100 นั่นคือ 5 : 0.3 = 100 : 6 ดังนั้น a มีค่าเท่ากับ 100
แบบตรวจสอบความเข้าใจที่
ตอบ
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
ขยายความเข้ Expand าใจ
ตรวจสอบผล Evaluate
ขยายความเข้าใจ
Expand
1. ใหนักเรียนจับคูรวมกันแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นวา โจทยขอใดในแบบตรวจสอบ ความเขาใจที่ 1.2 ก หนา 9 และแบบตรวจ สอบความเขาใจที่ 1.2 ข หนา 11 เหมือนกับ ตัวอยางใดที่เรียนมา 2. ใหนักเรียนแตละคูนําแนวคิดและวิธีการที่ได จากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นไปใชเพื่อ แกโจทยปญหาในการทําแบบตรวจสอบ ความเขาใจที่ 1.2 ก และที่ 1.2 ข 3. ใหนักเรียนแตละคูรวมกันตรวจสอบความ ถูกตองในแบบตรวจสอบความเขาใจที่ 1.2 ก และ 1.2 ข
ตรวจสอบผล
1.2 ข
Evaluate
1. ใหนักเรียนประเมินผลระดับความเขาใจ ในเนื้อหานี้ดวยการเขียนบอกระดับเปนดีมาก ดี ปานกลางหรือตองเพิ่มความเขาใจอีก 2. ครูประเมินผลการเรียนรูจากการตรวจสอบ ความถูกตองการทําแบบตรวจสอบความเขาใจ ที่ 1.2 ก และ 1.2 ข (ดูเฉลยแบบตรวจสอบความเขาใจที่ 1.2 ก และ 1.2 ข ที่สวนเสริมดานหนาของหนังสือ เลมนี้)
1. จงตรวจสอบว่าอัตราส่วนแต่ละข้อต่อไปนี้เท่ากันหรือไม่ 1) 7 : 8 และ 35 : 40 2) 12 : 4 และ 6 : 2 3) 3.5 : 1.5 และ 5 : 2 4) 8 : 9 และ 96 : 108 2. จงเติมเครื่องหมาย = หรือ ≠ ลงใน ที่ก�าหนดให้ในแต่ละข้อ เพื่อให้ประโยคเป็นจริง 12 : 6 2) 6 : 7 9 : 11 1) 8 : 4 3 : 4 4) 0.2 : 20 0.3 : 30 3) 1.5 : 2 3. จงหาค่า c ในอัตราส่วนต่อไปนี้ที่ท�าให้อัตราส่วนทั้งสองเป็นอัตราส่วนที่เท่ากัน 1) c : 5 และ 18 : 30 2) 4 : c และ 36 : 80 3) 12 : 6 และ 8 : c 4) 7 : 12 และ c : 30 5) 25 : c และ 1 : 4 6) 7 : c และ 63 : 108 7) 0.7 : c และ 1 : 100 8) 0.4 : 600 และ 2 : c http://www.aksorn.com/LC/Math B1/M2/01
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
ฟารมแหงหนึ่งเลี้ยงวัวและมาเปนอัตราสวน 5 : 3 มีสัตวที่เลี้ยงรวมกัน ทั้งหมด 192 ตัว จะมีวัวและมาอยางละกี่ตัว 1. วัว 64 ตัว มา 128 ตัว 2. วัว 72 ตัว มา 120 ตัว 3. วัว 120 ตัว มา 72 ตัว 4. วัว 128 ตัว มา 64 ตัว วิเคราะหคําตอบ อัตราสวนจํานวนวัวตอจํานวนมา = 5 : 3 รวมเปน 8 สวน = 192 ตัว เลี้ยงวัว = 58 × 192 = 120 ตัว เลี้ยงมา = 38 × 192 = 72 ตัว ฟารมแหงนี้เลี้ยงวัว 120 ตัว และเลี้ยงมา 72 ตัว ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 3.
EB GUIDE
เกร็ดแนะครู กอนทําแบบตรวจสอบความเขาใจที่ 1.2 ข ครูควรใหนักเรียนไดทบทวนความรู อัตราสวนที่เทากัน โดยการเลนเกมบัตรคํา ใหนักเรียนแตละคูรวมกันจับคูบัตรคํา ที่มีอัตราสวนเทากัน และชวยกันตรวจสอบความถูกตอง
นักเรียนควรรู 5 ใชหลักการคูณไขว 1 0.3 5 a 0.3 = b 5 = a นํา 20 คูณทั้งเศษและสวน หรือใชการคูณ จาก 0.3 6 5 × 20 = a 0.3 × 20 6 100 = a 6 6 ดังนั้น a = 100
คู่มือครู
11
กระตุน้ ความสนใจ กระตุEngage ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
กระตุน้ ความสนใจ
Engage
ครูสนทนาและซักถามนักเรียนเกี่ยวกับสูตรการ ปรุงอาหาร ดังนี้ • นักเรียนเคยเห็นสูตรการปรุงอาหาร หรือมีตาํ รา ปรุงอาหารหรือเคยไดยินสูตรการปรุงอาหาร หรือไม (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบไดทั้งมี ไมมี หรือเคยไดยินไดอยางอิสระ) • สูตรการปรุงอาหารแตละชนิด ปริมาณเครื่อง ปรุงตางๆ มีหนวยในระบบเดียวกัน หรือตาง ระบบกัน (แนวตอบ ปริมาณเครือ่ งปรุงจะมีหนวยเดียวกัน และหนวยตางระบบกันก็ได) • สูตรการปรุงอาหารเกี่ยวของกับอัตราสวน หรือไม (แนวตอบ มีความเกี่ยวของกับอัตราสวน แตไมมีสัญลักษณ “ : ”) • ถาตองการนําสวนผสมและเครื่องปรุงตางๆ ที่ใชหนวยในระบบเดียวกันตั้งแต 3 ปริมาณ นั้นไปเขียนเปนอัตราสวน นักเรียนทราบไหม วา จะเขียนไดหรือไม และเขียนอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบไดอยาง หลากหลายตามพื้นฐานความรูและ ประสบการณของนักเรียน เชน เขียนไดโดย เขียนสัญลักษณ “ : ” ระหวาง 2 จํานวนใดๆ) • นักเรียนทราบไหมวา อัตราสวนที่แสดงการ เปรียบเทียบปริมาณตั้งแต 3 ปริมาณขึ้นไป เรียกวาอะไร และมีความสัมพันธกบั อัตราสวน ของปริมาณสองปริมาณอยางไร และมีความ แตกตางกันหรือไม และอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบไดหลากหลาย ตามพื้นฐานความรู เชน ไมทราบ)
12
2.3 อัตราส่วนต่อเนือ่ งของจ�านวนหลายๆ จ�านวน พิจารณาอัตราส่วนต่อไปนี้ จ�านวนยางลบเป็นก้อนต่อจ�านวนปากกาเป็นด้ามเป็น 3 : 5 จ�านวนปากกาเป็นด้ามต่อจ�านวนดินสอเป็นแท่งเป็น 4 : 7 จากอัตราส่วนข้างต้นจะเห็นว่า จ�านวนปากกาเกี่ยวข้องกับอัตราส่วนทั้งสอง ถ้าต้องการเขียนอัตราส่วนเปรียบเทียบจ�านวนยางลบต่อจ�านวนปากกาต่อจ�านวนดินสอ จะต้องท�าปริมาณของปากกาซึง่ เป็นตัวร่วมของสองอัตราส่วนให้เป็นปริมาณทีเ่ ท่ากัน โดยทัว่ ไปจะ 1 ค.ร.น. ท�าให้เท่ากับ ค.ร.น. ของจ� านวนที่เป็นปริมาณของตัวร่วมของทั้งสองอัตราส่วน ในที่นี้ คือ ค.ร.น. ของ 4 กับ 5 โดยใช้หลักการหาอัตราส่วนที่เท่ากัน ดังนี้ จาก จ�านวนยางลบเป็นก้อนต่อจ�านวนปากกาเป็นด้ามเป็น 3 : 5 จ�านวนปากกาเป็นด้ามต่อจ�านวนดินสอเป็นแท่งเป็น 4 : 7 ท�าอัตราส่วนของปากกาให้มอี ตั ราส่วนทีเ่ ท่ากัน โดยหา ค.ร.น. ของ 4 และ 5 เท่ากับ 20 จะได้ จ�านวนยางลบเป็นก้อนต่อจ�านวนปากกาเป็นด้ามเป็น 3 × 4 : 5 × 4 = 12 : 20 จ�านวนปากกาเป็นด้ามต่อจ�านวนดินสอเป็นแท่งเป็น 4 × 5 : 7 × 5 = 20 : 35 จ�านวนยางลบเป็นก้อนต่อจ�านวนปากกาเป็นด้ามต่อจ�านวนดินสอเป็นแท่ง 12 12 : 20 : 35 : 20 : 35 มุมความคิด เมือ่ มีอตั ราส่วนของอัตราส่วนใดๆ แสดงการเปรียบเทียบปริมาณของทีม่ ากกว่าสอง ชนิดขึ้นไป เราสามารถเขียนอัตราส่วนต่อเนื่องของจ�านวนหลายๆ จ�านวนจากอัตราส่วน ทั้งสอง ดังนี้ 1) พิจารณาจ�านวนที่ปรากฏในอัตราส่วนทีละคู่ เฉพาะในส่วนที่เป็นตัวร่วม 2) ถ้าจ�านวนที่เป็นตัวร่วมในข้อ 1) เท่ากัน ให้เขียนอัตราส่วนต่อเนื่องได้เลย 3) ถ้าจ�านวนที่เป็นตัวร่วมในข้อ 1) ไม่เท่ากัน ต้องท�าให้ตัวร่วมนั้นมีจ�านวนเท่ากัน ก่อนโดยการใช้ ค.ร.น. ของจ�านวนที่เป็นปริมาณของตัวร่วมทั้งสอง
เกร็ดแนะครู กอนเขาสูบทเรียนเรื่องอัตราสวนตอเนื่องของจํานวนหลายๆ จํานวน ครูควร ยกตัวอยางอัตราสวนที่แสดงการเปรียบเทียบปริมาณที่มากกวาสองชนิดขึ้นไป และถามตอบใหนักเรียนรวมแสดงความคิดเห็นวาจะเลือกใชความรูพื้นฐานทาง คณิตศาสตรเรื่องใดในการแกโจทยปญหานี้ จากนั้นทบทวนการหา ค.ร.น. เพิ่มเติม
นักเรียนควรรู 1 ค.ร.น หรือตัวคูณรวมนอย มีวิธีการหา ค.ร.น. ของจํานวนนับโดยวิธีการ ตางๆ ดังนี้ • การหา ค.ร.น. โดยการพิจารณาพหุคูณ • การหา ค.ร.น. โดยการแยกตัวประกอบ • การหา ค.ร.น. โดยการตั้งหาร
12
คู่มือครู
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
อัตราสวนของความยาวฐานตอความสูงของรูปสามเหลี่ยมรูปหนึ่งเปน 4 : 5 ถารูปสามเหลี่ยมนี้มีฐานยาว 12 เซนติเมตร รูปสามเหลี่ยมนี้มีพื้นที่ เทาไร 1. 10 ตารางเซนติเมตร 2. 30 ตารางเซนติเมตร 3. 60 ตารางเซนติเมตร 4. 90 ตารางเซนติเมตร วิเคราะหคําตอบ อัตราสวนของความยาวฐาน : ความสูงของรูปสามเหลี่ยม = 4:5 ฐานยาว 12 เซนติเมตร ความสูงยาว 15 เซนติมเตร พื้นที่รูปสามเหลี่ยม = 12 × ฐาน × สูง = 12 × 12 × 15 = 90 ตารางเซนติเมตร ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 4.
ส�ารวจค้นหา
กระตุ้นความสนใจ Engage
ส�ารวจค้ Exploreนหา
อธิบายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
13
ตัวอย่1างที่ ก�าหนดรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ABCD โดยที่ AB ยาว 4 เซนติเมตร BC ยาว 3 เซนติเมตร และ BD ยาว 5 เซนติเมตร C 5ซ
ม.
A
4 ซม.
3 ซม.
D
B
จงเขียนอัตราส่วนของความยาวของด้านต่อไปนี้ 1) ความกว้างต่อความยาว ตอบ อัตราส่วนของความกว้างต่อความยาว เท่ากับ 3 : 4 2) ความยาวต่อความกว้างต่อความยาวเส้นทแยงมุม ตอบ อัตราส่วนของความยาวต่อความกว้างต่อความยาวเส้นทแยงมุม เท่ากับ 4 : 3 : 5 3) ความกว้างต่อความยาวต่อความยาวเส้นรอบรูป ตอบ ความยาวเส้นรอบรูป เท่ากับ 22 × (ความกว้ (ความกว้างง + ความยาว) + ความยาว) = 22 × (3 + 4) (3 + 4) เซนติเมตร = 14 เซนติเมตร ดังนั้น อัตราส่วนของความกว้างต่อความยาวต่อความยาวเส้นรอบรูป ตอบ เท่ากับ 33 : 4 : 14
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
อัตราสวนความกวางตอความยาวเปน 3 : 5 และอัตราสวนของความสูง ตอความยาวเปน 7 : 15 ถาโรงละครแหงนี้มีความกวาง 18 เมตร ความยาว และความสูงเปนเทาไร 1. ความยาว 7 เมตร ความสูง 15 เมตร 2. ความยาว 15 เมตร ความสูง 7 เมตร 3. ความยาว 21 เมตร ความสูง 30 เมตร 4. ความยาว 30 เมตร ความสูง 14 เมตร วิเคราะหคําตอบ อัตราสวนความกวาง : ความยาว = 3 : 5 อัตราสวนความสูง : ความยาว = 7 : 15 ดังนั้น อัตราสวนความกวาง : ความยาว : ความสูง 9 : 15 : 7 ความกวาง เปน 18 เมตร ความยาว เปน 30 เมตร ความสูง เปน 14 เมตร ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 4.
ส�ารวจค้นหา
Explore
1. ครูทบทวนการหาอัตราสวนที่เทากัน โดยให นักเรียนยกตัวอยางอัตราสวนที่ปริมาณมี หนวยเดียวกันและตางหนวยกัน 2. ครูกําหนดอัตราสวนที่ปริมาณทั้งสองมีหนวย เดียวกันและตางหนวยกัน ประมาณ 2-3 ชุด เชน ชุดที่ 1 • อัตราสวนของแปงขาวเจาตอแปงขาวเหนียว โดยนํ้าหนักเปน 4 : 3 • อัตราสวนของแปงขาวเหนียวตอ แปงทาวยายมอมโดยนํ้าหนักเปน 2 : 1 ชุดที่ 2 • อัตราสวนของไขไกเปนฟองตอหัวกะทิเปน ถวยเปน 2 : 1 • อัตราสวนของหัวกะทิตอ แปงสาลีอเนกประสงค เปน 2: 5 3. ครูใชคําถามนําทางใหนักเรียนสังเกต ความสัมพันธระหวางปริมาณในแตละชุด ดังนี้ • จากชุดที่ 1 มีปริมาณอะไรบาง มีทั้งหมด กี่อยาง ปริมาณใดบางที่นํามาเปรียบเทียบ ซํ้าและมีหนวยเดียวกันหรือไม (แนวตอบ มีปริมาณของแปงขาวเจา แปงขาวเหนียวและแปงทาวยายมอม มีทงั้ หมด 3 อยาง ปริมาณของแปงขาวเหนียว ไดนาํ มาเปรียบเทียบซํา้ และมีหนวยเดียวกัน) • จากชุดที่ 2 มีปริมาณอะไรบาง มีทั้งหมด กี่อยาง ปริมาณใดบางที่นํามาเปรียบเทียบ ซํ้าและมีหนวยเดียวกันหรือไม (แนวตอบ มีปริมาณของไขไก หัวกะทิ แปงสาลีอเนกประสงค มีทั้งหมด 3 อยาง ปริมาณของหัวกะทิไดนํามาเปรียบเทียบซํ้า สิ่งของทั้งหมดมีทั้งหนวยตางระบบกันและ หนวยเดียวกัน) 4. ใหนักเรียนจับคูศึกษาเนื้อหาในหนังสือเรียน หนา 12-14
เกร็ดแนะครู จากตัวอยางที่ 1 ครูใหนักเรียนยกตัวอยางรูปสี่เหลี่ยมรูปอื่นๆ ที่ไมใชรูป สี่เหลี่ยมผืนผา แลวใหนักเรียนชวยกันหาวิธีการแกปญหาอัตราสวนตามตัวอยางนั้น จากนั้นครูชี้แนะเพิ่มเติมความเหมือนและความแตกตางของแนวทางการหาคําตอบ
คู่มือครู
13
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
Engage
Explore
อธิบายความรู้
อธิบายความรู้ อธิบExplain ายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
Explain
1. ครูสมุ นักเรียน 3 คู นําเสนอแนวคิดการแกปญ หา โจทยของตัวอยางที่ 1 ตัวอยางที่ 2 และตัวอยาง ที่ 3 จากนั้นใหนักเรียนคนอื่นๆ แสดงความ คิดเห็นรวมกัน 2. ใหนักเรียนตอบคําถามตอไปนี้ • อัตราสวนที่เปรียบเทียบปริมาณ 2 ปริมาณ ตั้งแต 2 ชุดขึ้นไป และมีปริมาณหนึ่งนําไป เปรียบเทียบซํ้า จะเขียนเปนอัตราสวนเพียง 1 ชุด ซึ่งเปรียบเทียบปริมาณตั้งแต 3 ปริมาณ ขึ้นไปไดหรือไม และทําไดอยางไร (แนวตอบ ทําได โดยนําจํานวนเต็มบวกคูณ อัตราสวนทั้งสองชุด เพื่อใหปริมาณที่นําไป เปรียบเทียบซํา้ เปนจํานวนทีเ่ ทากัน หรือทําให อัตราสวนของปริมาณที่เปรียบเทียบซํ้าเทากับ ค.ร.น. ของจํานวนในทั้งสองอัตราสวน) • อัตราสวนตอเนื่องเปนอัตราสวนที่แสดง การเปรียบเทียบปริมาณตั้งแตกี่อยางขึ้นไป (แนวตอบ การเปรียบเทียบปริมาณมากกวา สองอยางขึ้นไป) • อัตราสวนที่เปรียบเทียบปริมาณ 2 ปริมาณ ตั้งแต 2 ชุดขึ้นไปจะเขียนเปนอัตราสวน ตอเนื่องไดเสมอไปหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ ไมเสมอไป เพราะวาถาในอัตราสวน สองชุดใดไมมีปริมาณของสิ่งของที่เปรียบ เทียบซํ้า)
14
ตัวอย่2างที่ ร้านขายไข่แห่งหนึง่ ขายไข่ไก่ ไข่เป็ด และไข่นกกระทา โดยทีอ่ ตั ราส่วนของจ�านวนไข่เป็ด ต่อจ�านวนไข่ไก่เป็น 3 : 5 อัตราส่วนของจ�านวนไข่นกกระทาต่อจ�านวนไข่ไก่เป็น 2 : 3 จงเขียนอัตราส่วนของจ�านวนไข่เป็ดต่อจ�านวนไข่ไก่ต่อจ�านวนไข่นกกระทาของร้านนี้
วิธีทำ�
1 รูปสามเหลี่ยมดานไมเทา (scalene triangle) คือรูปสามเหลี่ยมที่ดาน ทั้งสามมีความยาวไมเทากัน มีสูตรการหาพื้นที่รูปสามเหลี่ยมเทากับ s(s - a)(s - b)(s - c) เมื่อกําหนดให a, b, c เปนความยาวของดานทั้งสาม และ s = 12 (a + b + c)
คู่มือครู
เนื่องจาก อัตราส่วนของจ�านวนไข่เป็ดต่อจ�านวนไข่ไก่เป็น 3 : 5 อัตราส่วนของจ�านวนไข่นกกระทาต่อจ�านวนไข่ไก่เป็น 2 : 3 ค.ร.น. ของ 5 และ 3 เท่ากับ 15 จะได้ว่า จ�านวนไข่เป็ดต่อจ�านวนไข่ไก่เป็น 3 × 3 : 5 × 3 = 9 : 15 จ�านวนไข่นกกระทาต่อจ�านวนไข่ไก่เป็น 2 × 5 : 3 × 5 = 10 : 15 ดังนั้น อัตราส่วนของจ�านวนไข่เป็ดต่อจ�านวนไข่ไก่ตอ่ จ�านวนไข่นกกระทา ตอบ เท่ากับ 9 : 15 : 10
1 ตัวอย่3างที่ ก�าหนดให้ ATM เป็ เป็นรูปสามเหลี่ยมด้านไม่เท่า โดยมีอัตราส่วนของความยาวด้านดังนี้ AT : TM = 3 : 4 และ TM : AM = 10 : 8 จงเขียนอัตราส่วนของความยาวของด้านต่อไปนี้ 1) ความยาวของด้าน AT : TM : AM น 2) ความยาวของด้าน TM ต่ น TM ต่อความยาวของเส้นรอบรูป
นักเรียนควรรู
14
วิธีทำ�
1) เนื่องจาก AT : TM = 3 : 4 AT : TM 3 TM : AM = 10 : 8 TM : AM 10 ค.ร.น. ของ 4 และ 10 เท่ ค.ร.น. ของ 4 และ 10 เท่ากับ 20 จะได้ว่า AT : TM = 3 AT : TM 3 × 5 : 4 × 5 = 15 : 20 TM : AM TM = 10 × 2 : 8 × 2 = 20 : 16 ดังนั้น อัตราส่วนของด้าน AT : TM : AM เท่ น ากับ 15 : 20 : 16 2) ความยาวของเส้นรอบรูปเท่ากับ 15 + 20 + 16 = 51 หน่วย ดังนั้น อัตราส่วนของความยาวของด้าน TM น ต่อความยาวของเส้น ตอบ รอบรูปเท่ากับ 20 : 51
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
กําหนด a : b = 2 : 5 และ b : c = 4 : 7 คาของ a : c เทากับเทาไร 1. 2 : 7 2. 7 : 2 3. 8 : 20 4. 8 : 35 วิเคราะหคําตอบ เนื่องจาก a : b = 2 : 5 b:c = 4:7 หา ค.ร.น. ของ 5 และ 4 ได 20 จะได a : b = 2 × 4 : 5 × 4 = 8 : 20 b : c = 4 × 5 : 7 × 5 = 20 : 35 a : b : c = 8 : 20 : 35 a : c = 8 : 35 ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 4.
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้
Engage
Explore
Explain 15
แบบตรวจสอบความเข้าใจที่
1.2 ค
1. ถ้าจ�านวนเงินรายได้เพื่อใช้ในการแข่งขันกีฬาสีที่นักเรียนสีต่างๆ หาได้ มีดังนี้ จ�านวนเงินรายได้ของสีฟาต่อจ�านวนเงินรายได้ของสีเขียวเป็น 7 : 8 จ�านวนเงินรายได้ของสีเขียวต่อจ�านวนเงินรายได้ของสีเหลืองเป็น 7 : 8 จ�านวนเงินรายได้ของสีชมพูต่อจ�านวนเงินรายได้ของสีเหลืองเป็น 3 : 4 จงเขียนอัตราส่วนเปรียบเทียบจ�านวนเงินรายได้ของสีฟาต่อจ�านวนเงินรายได้ของสีชมพู 2. แดง ด�า เขียว และขาว บ�าเพ็ญประโยชน์โดยการช่วยกันเก็บขวดน�า้ ในสวนสาธารณะแห่งหนึง่ ได้จ�านวนขวดน�้า ดังนี้ จ�านวนขวดน�้าที่แดงเก็บได้ต่อจ�านวนขวดน�้าที่ด�าเก็บได้เป็น 2 : 3 จ�านวนขวดน�้าที่ด�าเก็บได้ต่อจ�านวนขวดน�้าที่เขียวเก็บได้เป็น 4 : 5 จ�านวนขวดน�้าที่เขียวเก็บได้ต่อจ�านวนขวดน�้าที่ขาวเก็บได้เป็น 6 : 7 จงเขียนอัตราส่วนเปรียบเทียบจ�านวนขวดน�้าที่แดง ด�า เขียว และขาวเก็บได้ 3. สวนสัตว์แห่งหนึ่งมีอัตราส่วนของจ�านวนนกต่อจ�านวนยีราฟเป็น 11 : 2 อัตราส่วนของ จ�านวนลิงต่อจ�านวนยีราฟเป็น 31 : 3 และอัตราส่วนของจ�านวนยีราฟต่อจ�านวนเสือเป็น 4 : 11 จงเขียนอัตราส่วนเปรียบเทียบจ�านวนนกต่อจ�านวนสัตว์ทั้งสี่ชนิด 4. ก�าหนดอัตราส่วน a : b = 3 : 2, b : c = 4 : 7 และ c : d = 3 : 8 จงเขียนอัตราส่วนของ a : b : c : d 5. อัตราส่วนของอายุของน้อยต่ออายุของนิดเท่ากับ 3 : 7 อัตราส่วนของอายุของนิดต่ออายุ ของหน่อยเท่ากับ 7 : 8 จงเขียนอัตราส่วนของอายุของน้อยต่ออายุของนิดต่ออายุของหน่อย
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
ขยายความเข้ Expand าใจ
ตรวจสอบผล Evaluate
ขยายความเข้าใจ
Expand
1. ใหนักเรียนแตละคูรวมกันแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นวา โจทยขอใดในแบบตรวจสอบ ความเขาใจที่ 1.2 ค เหมือนกับตัวอยางใด ที่เรียนมา 2. ใหนักเรียนแตละคูนําแนวคิดและวิธีการที่ได จากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นไปใชเพื่อ แกโจทยปญหาในการทําแบบตรวจสอบ ความเขาใจที่ 1.2 ค 3. ใหนักเรียนแตละคูรวมกันตรวจสอบความ ถูกตองในแบบตรวจสอบความเขาใจที่ 1.2 ค
ตรวจสอบผล
Evaluate
1. ใหนักเรียนประเมินผลระดับความเขาใจ ในเนื้อหานี้ดวยการเขียนบอกระดับเปนดีมาก ดี ปานกลางหรือตองเพิ่มความเขาใจอีก 2. ครูประเมินผลการเรียนรูจากการตรวจสอบ ความถูกตองการทําแบบตรวจสอบความเขาใจ ที่ 1.2 ค (ดูเฉลยแบบตรวจสอบความเขาใจที่ 1.2 ค ที่สวนเสริมดานหนาของหนังสือเลมนี้)
2.4 สัดส่วน
พิจารณาอัตราส่วน 2 : 5 และ 6 : 15 6 จะเห็นว่า ผลการคูณไขว้ของจ�านวนแรกกับจ�านวนหลังของ 2 5 และ 15 คือ 2 × 15 = 30 และ 5 × 6 = 30 6 จะได้ว่า 2 5 = 15 นั่นคือ 2 : 5 = 6 : 15 1 เรียกประโยคที่แสดงการเท่ากันของอัตราส่วนสองอัตราส่วนว่า สัสัดส่วน
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
กําหนด x : y : z = 5 : 3 : 2 และ x - 2y + 3z = 15 คาของ x + y + z เทากับเทาไร 1. 10 2. 20 3. 30 4. 40 วิเคราะหคําตอบ จาก x : y : z = 5 : 3 : 2 แสดงวาคาของ x, y และ z จะมีตัวประกอบรวมใหแทนดวย k จะได x = 5k, y = 3k และ z = 2k แทนใน x - 2y + 3z = 15 จะได 5k - 6k + 6k = 15 ดังนั้น k = 3 นั่นคือคาของ x = 15, y = 9 และ z = 6 คาของ x + y + z = 15 + 9 + 6 = 30 ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 3.
เกร็ดแนะครู การเรียนการสอนเรื่องสัดสวน ครูควรยกตัวอยางเกี่ยวกับสัดสวนที่มีในชีวิต ประจําวัน เชน วัลภาตองการทําขนมเคกถวย 60 ถวย จากสูตรที่ทําขนมถวยได 40 ถวย แลวใหนักเรียนชวยกันคิดวิเคราะหแนวทางแกโจทยปญหา
นักเรียนควรรู 1 สัดสวน (propotion) คือการเทากันของอัตราสวนสองอัตราสวน
คู่มือครู
15
กระตุน้ ความสนใจ
ส�ารวจค้นหา ส�ารวจค้ Exploreนหา
อธิบายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
กระตุEngage ้นความสนใจ
กระตุน้ ความสนใจ
Engage
1. ครูทบทวนการเทากันของอัตราสวน โดยขออาสา สมัครนักเรียน 4 คน ยกตัวอยางอัตราสวนที่ เทากันคนละ 2 อัตราสวน แลวใหนักเรียน ชวยกันตรวจสอบความถูกตอง 2. ครูสนทนาและซักถามนักเรียน • นักเรียนเคยไดยินคําวา “สัดสวน” มาบาง หรือไม (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบไดทงั้ ไดยนิ หรือ ไมไดยิน โดยคาดวาจะตอบวา เคยไดยิน) • ถาเคยไดยินคําวา “สัดสวน” ใหยกตัวอยาง (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบไดหลากหลาย ตามพื้นฐานความรู เชน สัดสวนนางงาม สัดสวนรูปราง เปนตน) • นักเรียนคิดวา สัดสวนทีย่ กตัวอยางมาเกีย่ วของ กับคณิตศาสตรหรือไม (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) • อัตราสวนและสัดสวนมีความเกี่ยวของกัน หรือไม และเกี่ยวของอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบไดหลากหลาย ตามพื้นฐานความรู)
ส�ารวจค้นหา
Explore
1. ครูทบทวนสมบัติการเทากัน เพื่อแกสมการ เชิงเสนตัวแปรเดียว โดยกําหนดสมการแลวใช การถาม-ตอบ เชน -2x - 3 = 5 นักเรียนตอง นําสมบัติใดมาใชบาง (แนวตอบ สมบัติการบวกดวย 3 และสมบัติการ คูณดวย - 12 ) 2. ครูแนะนําสัดสวนและใหนักเรียนบอก ความหมายของสัดสวน 3. ใหนักเรียนจับคูศึกษาเนื้อหาในหนังสือเรียน หนา 16 และหนา 17
16
ในกรณีที่มีตัวแปรซึ่งแทนจ�านวนที่ไม่ทราบค่าในสัดส่วน เราสามารถหาจ�านวนที่แทน ตัวแปรดังกล่าวในสัดส่วนได้ ดังตัวอย่างต่อไปนี้ 30 ตัวอย่1างที่ จงหาค่าของ m ในสัดส่วน 6 7 = m วิธีทำ�
วิธีที่ 1 หาอัตราส่วนที่เท่ากันโดยใช้หลักการคูณ 6 = 6 × 5 = 30 จาก 7 35 7 × 5 30 30 และ m = 35 จะได้ว่า m = 35 ดังนั้น ค่าของ m คือ 35 วิธีที่ 2 อาศัยผลการคูณไขว้และการแก้สมการ 6 = จาก 30 7 m จะได้ 6 × m = 7 × 30 m = 7 ×6 30 m = 35 ดังนั้น ค่าของ ของ m คื m คือ 35 35
22 ตัวอย่2างที่ จงหาค่าของ ของ y ในสั y ในสัดส่วนน 33 y = 22 44 5 3 3 2 2 วิธีทำ� จาก y = 2 4 5 จะได้ 2 2 × y = 3 × 2 4 5 14 2 2 × y = 3 × 5 14 = 4.2 y = 33 ×× 14 2 5 ดังนั้น ค่าของ y คือ 4.2
เกร็ดแนะครู ในตัวอยางที่ 1 ครูใหนักเรียนรวมกันอภิปรายวา ทั้งสองวิธีนี้ควรใชวิธีใด เพราะ เหตุใดแลวนําเสนอตัวอยางที่ 2 เพื่อใหนักเรียนไดเห็นวาวิธีที่ 1 อาจจะไมเหมาะสม กับโจทยสัดสวนในบางขอ
ตอบ
ตอบ
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
สามเหลี่ยมรูปหนึ่งมีอัตราสวนความยาวของดานทั้งสามเปน 7 : 6 : 4 ถาความยาวรอบรูปของรูปสามเหลี่ยมเปน 119 เซนติเมตร สามเหลี่ยมรูปนี้ มีความยาวดานแตละดานเปนเทาไร 1. 16, 49, 54 เซนติเมตร 2. 28, 42, 49 เซนติเมตร 3. 31, 42, 44 เซนติเมตร 4. 36, 39, 42 เซนติเมตร วิเคราะหคําตอบ อัตราสวนความยาวดานทั้งสาม = 7 : 6 : 4 รวม 17 สวน คิดเปนความยาว 119 เซนติเมตร ดานที่หนึ่ง = 177 × 119 = 49 เซนติเมตร ดานที่สอง = 176 × 119 = 42 เซนติเมตร ดานที่สาม = 174 × 119 = 28 เซนติเมตร
16
คู่มือครู
ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 2.
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
Engage
Explore
อธิบายความรู้
ขยายความเข้าใจ ขยายความเข้ Expand าใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
อธิบExplain ายความรู้
17
ตัวอย่3างที่ จงหาค่าของ m ในสัดส่วน 3 : 5 = m : 2.5
วิธีทำ�
จาก จะได้
3 : 5 = m : 2.5 3 = m 5 2.5 ดังนั้น 3 × 2.5 = 5 × m m = 3 ×5 2.5 = 1.5 ดังนั้น ค่าของ m คือ 1.5
ตอบ
การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสัดส่วน พิจารณาโจทย์ปัญหาต่อไปนี้ ปาชายเลนแห่งหนึง่ มีอตั ราส่วนของจ�านวนต้นโกงกางต่อจ�านวนต้นล�าพูเป็น 5 : 7 ถ้ามี ต้นล�าพู 63 ต้น จะมีต้นโกงกางกี่ต้น จากอัตราส่วนของจ�านวนต้นโกงกางต่อจ�านวนต้นล�าพูที่โจทย์กา� หนด คือ 5 : 7 เป็นการ เปรียบเทียบจ�านวนต้นไม้ทั้งสองชนิด แต่มีจ�านวนต้นล�าพู 63 ต้น ดังนั้น หากเราต้องการทราบว่าในความเป็นจริงนั้น มีต้นโกงกางอยู่ทั้งหมดกี่ต้น โดย อาศัยสัดส่วนได้ดังนี้ สมมติให้มีต้นโกงกาง x ต้น จะได้อัตราส่วนจ�านวนต้นโกงกางต่อจ�านวนต้นล�าพูเป็น x : 63 x : 63 จากอัตราส่วนที่ก�าหนดให้ สามารถน�ามาเขียนเป็นสัดส่วนได้ดังนี้ x 5 : 7 = x : 63 หรื : 63 หรือ 5 7 = 63 x เมื่อหาค่าของ x ในสัดส่วน 5 7 = 63 ก็จะทราบว่าปาชายเลนแห่งนี้มีต้นโกงกางกี่ต้น
อธิบายความรู้
Explain
1. ใหนกั เรียนบอกความเหมือนและความแตกตาง ระหวางสมการเชิงเสนตัวแปรเดียวกับ สมการ จากสัดสวน 2. ใหนักเรียนชวยกันสรุปการหาคาของตัวแปร จากสัดสวน 3. ใหนักเรียนแสดงความคิดเห็นในประเด็น ตอไปนี้ • นักเรียนคิดวา การหาคาของตัวแปร ในสัดสวนตองใชสมบัติการบวกหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ ไมใช ถาอัตราสวนทั้งสองไมมีการ บวกลบของจํานวน ตองใช ถามีการบวก ลบของจํานวนในอัตราสวนใดอัตราสวนหนึง่ ) • ถาตองใชสมบัตกิ ารบวกเพือ่ หาคาของตัวแปร ในสัดสวน นักเรียนคิดวาตองใชสมบัตนิ กี้ อ น หรือหลังจากการใชการคูณไขว เพราะเหตุใด (แนวตอบ ตองใชหลังจากการคูณไขว เพราะวาการเปรียบเทียบอัตราสวนแตละ ปริมาณอาจจะอยูในรูปการบวก การลบของ ตัวแปรกับจํานวนคงที่)
ขยายความเข้าใจ
Expand
ใหนักเรียนจัดกลุม กลุมละ 4 คน คละความ สามารถทางคณิตศาสตร ศึกษาเนื้อหาใน หนังสือเรียน หนา 17-23
การเขียนสัดส่วนนัน้ พึงระวังไว้วา่ ถ้าจ�านวนแรกของด้านซ้ายบอกถึงปริมาณของสิง� ใด จ�านวน แรกของด้านขวาก็ต้องบอกถึงปริมาณของสิ�งของชนิดเดียวกัน x เช่น 5 5 เป็นจ�านวนแรกของด้านซ้ายแสดงถึงจ�านวนของต้นโกงกาง และ 7 = 63 x เป็นจ�านวนแรกของด้านขวาแสดงถึงจ�านวนของต้นโกงกาง เช่นเดียวกัน
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
กําหนด x : 12 = 5 : 4 คาของ x + 5 เทากับเทาไร 1. 10 2. 15 3. 17 4. 20 x 5 วิเคราะหคําตอบ 12 = 4 x = 45 × 12 x = 15 x + 5 = 15 + 5 = 20 ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 4.
เกร็ดแนะครู ในหัวขอการแกโจทยปญ หาเกีย่ วกับสัดสวน ครูควรใชแนวการสอนการถาม-ตอบ ประกอบการอธิบาย เพือ่ ใหนกั เรียนเกิดความคิดรวบยอดในการเขียนอัตราสวนทีส่ อง วา ตองเขียนใหสัมพันธกับอัตราสวนที่หนึ่ง สิ่งที่โจทยกําหนดและสิ่งที่โจทยถาม ครูควรอธิบายเพิ่มเติมคําวา “หนวยในระบบเดียวกัน” “หนวยเดียวกัน” และ “หนวยตางระบบ” ใหนักเรียนเขาใจวา หนวยในระบบเดียวกันจะมีความสัมพันธ ในการเปลี่ยนเพื่อใหมีหนวยเดียวกัน หนวยตางระบบบางหนวยอาจจะไมมีความสัมพันธในการเปลี่ยนหนวย
คู่มือครู
17
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้
Engage
Explore
Explain
ขยายความเข้าใจ
ขยายความเข้าใจ ขยายความเข้ Expand าใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
Expand
ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันระดมความคิดและ ตอบคําถามตอไปนี้ • การแกโจทยปญ หาเกีย่ วกับสัดสวนมีกขี่ นั้ ตอน (แนวตอบ การแกโจทยปญหาเกี่ยวกับสัดสวน มี 4 ขั้นตอน) • ในแตละขั้นตอนการแกโจทยปญหาเกี่ยวกับ สัดสวนเปนอยางไร (แนวตอบ ขั้นตอนที่ 1 ทําความเขาใจโจทยปญหา โดยพิจารณาสิ่งที่โจทยถาม และสิ่งที่โจทยกําหนด ขั้นตอนที่ 2 วางแผนแกปญหา ขั้นตอนที่ 3 ดําเนินการตามแผนที่วางไว เพื่อหาคาตัวแปร ขั้นตอนที่ 4 ตรวจสอบคําตอบ)
18
การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสัดส่วน ในที่นี้เสนอแนวการแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดของ โพลยา ซึ่งมี 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 ท�าความเข้าใจโจทย์ปัญหา โดยพิจารณา 1) สิ่งที่โจทย์ถาม 2) สิ่งที่โจทย์ก�าหนด ขั้นที่ 2 วางแผนแก้ปัญหา ในกรณีของการแก้โจทย์ปญั หาเกีย่ วกับสัดส่วน อาจวางแผนโดยเขียนสัดส่วน แสดงอัตราส่วนโดยให้ล�าดับของสิ่งที่เปรียบเทียบในแต่ละอัตราส่วนเป็นล�าดับเดียวกัน ดังนี้ จ�านวนที่หนึ่ง (สิ่งเดียวกันที่มีหน่วยเหมือนกัน)
จ�านวนที่สอง (สิ่งเดียวกันที่มีหน่วยเหมือนกัน)
ขั้นที่ 3 ด�าเนินการตามแผนที่วางไว้เพื่อหาค่าตัวแปร โดยใช้ความรู้เรื่องสัดส่วนและการแก้สมการ
1
ขั้นที่ 4 ตรวจสอบค�าตอบ เปิดโลกคณิตศาสตร์ โพลยา เป็ โพลยา เป็นชาวฮังการี เกิดในปี ค.ศ. ค.ศ. 1888 เป็นผู้ที่พัฒนาวิธีการแก้ปัญหาโดยเขียนไว้ในหนังสือ “How “How to solve it” ว่ to solve it” ว่า การแก้ การแก้โจทย์ปัญหามี 4 ขั้นตอน คือ ท�าความเข้าใจปัญหา วางแผนการแก้ปัญหา ด�าเนินการตามแผน การตามแผน และการตรวจสอบค�าตอบ ซึ่งสามารถน�ามาประยุกต์ใช้ในการแก้โจทย์ปัญหาทาง คณิตศาสตร์ได้
นักเรียนควรรู 1 ตัวแปร ในการเขียนตัวแปรในโจทยปญหาที่เกี่ยวกับสัดสวน ควรเขียนตัวแปร เปนจํานวนแรกของอัตราสวนที่หนึ่งเสมอ เพื่อความสะดวกในการคํานวณ และ ตองระมัดระวังการเขียนอัตราสวนที่สองใหมีตําแหนงสอดคลองกับการเขียนใน อัตราสวนที่หนึ่งดวย
18
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
รถยนตคันหนึ่งแลนไดระยะทาง 52 กิโลเมตรใชเวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที ถารถคันนี้แลนในระยะทาง 234 กิโลเมตรใชเวลาเทาไร 1. 3 ชั่วโมง 15 นาที 2. 4 ชั่วโมง 30 นาที 3. 5 ชั่วโมง 15 นาที 4. 5 ชั่วโมง 35 นาที วิเคราะหคําตอบ รถยนตแลนไดทาง 52 กิโลเมตรในเวลา 70 นาที รถยนตแลนระยะทาง 234 กิโลเมตรใชเวลา x นาที x = 70 เขียนสัดสวน 234 52 x = 70 52 × 234 x = 315 ∴ ใชเวลา 315 นาที หรือ 5 ชั่วโมง 15 นาที ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 3.
คู่มือครู
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้
Engage
Explore
Explain 19
ตัวอย่4างที่ ลุงค�าวางแผนเพื่อปลูกต้นมะรุมกับต้นมะขามเป็นแนวรั้ว โดยปลูกต้นมะรุมสลับกับ ต้นมะขามเป็นอัตราส่วน 5 : 2 เมื่อลุงค�าปลูกเสร็จแล้วปรากฏว่ามีต้นมะรุม 95 ต้น จงหาว่าลุงค�าปลูกต้นมะขามทั้งหมดกี่ต้น วิธีทำ�
ขั้นที่ 1 ขั้นที่ 2
ท�าความเข้าใจโจทย์ปัญหา โดยพิจารณา 1) สิ่งที่โจทย์ถาม คือ ลุงค�าปลูกต้นมะขามกี่ต้น 2) สิ่งที่ โจทย์ก�าหนด คือ ลุงค�าวางแผนเพื่อปลูกต้นมะรุมกับ ต้นมะขามเป็นแนวรั้วโดยปลูกต้นมะรุมสลับกับต้นมะขามเป็น อัตราส่วน 5 : 2 เมื่อลุงค�าปลูกเสร็จแล้วปรากฏว่ามีต้นมะรุม 95 ต้น 1 โดยเขียนสัดส่วนแสดงอัตราส่วนโดยให้ลา� ดับของ วางแผนแก้ปญั หา โดยเขี สิ่งที่เปรียบเทียบในแต่ละอัตราส่วนเป็นล�าดับเดียวกัน เมื่อลุงค�าปลูกต้นมะรุม 95 ต้น ให้ลุงค�าปลูกต้นมะขามทั้งหมด a ต้น เขียนสัดส่วนได้ดังนี้ จ�านวนต้นมะขาม a 95
=
2 5
จ�านวนต้นมะรุม
ขั้นที่ 3 ด�าเนินการตามแผนที่วางไว้ ให้ลุงค�าปลูกต้นมะขามทั้งหมด a ต้ หมด a ต้น จะได้ 95a = 2 5 a = 22 95 = 5 × 95 = 38
ขยายความเข้าใจ ขยายความเข้ Expand าใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
ขยายความเข้าใจ
Expand
1. ครูสุมนักเรียน 2 กลุม สงตัวแทนแสดงแนวคิด การแกโจทยปญหาตัวอยางที่ 4 จากนั้นให นักเรียนกลุมอื่นๆ รวมแสดงความคิดเห็น เพิ่มเติมและรวมกันสรุปขั้นตอนการแกโจทย ปญหา 2. ใหนักเรียนตอบคําถามตอไปนี้ จากตัวอยาง ที่ 4 • นักเรียนบอกไดไหมวา โจทยปญหาที่ตองใช สัดสวนในตัวอยางนี้มีลักษณะอยางไร (แนวตอบ กําหนดอัตราสวนให 1 อัตราสวน ซึ่งเปนการเปรียบเทียบ 2 จํานวน และ กําหนดจํานวนอีก 1 จํานวนซึ่งเกี่ยวของ กับจํานวนที่ 2 ในอัตราสวนที่กําหนด) • การเขียนสัดสวนจากโจทยปญหานี้ตอง ระมัดระวังสิ่งใดบาง (แนวตอบ จํานวนที่ 1 และจํานวนที่ 2 ในอัตราสวนทั้งสองที่ตองการเปรียบเทียบ ตองเปนจํานวนของสิ่งเดียวกัน คือ จํานวน ตนมะรุมและจํานวนตนมะขาม) • โจทยปญหานี้มีหนวยระบบเดียวกันหรือไม อยางไร (แนวตอบ มีจํานวนที่เปนหนวยเดียวกันคือ “ตน”) • การเขียนอัตราสวนทั้งสอง ชวยอํานวย ความสะดวกในการหาคาของตัวแปรหรือไม และเขียนอยางไร (แนวตอบ ควรมีเทคนิคเพื่อชวยอํานวยความ สะดวกในการหาคาตัวแปรแลว โดยการเขียน ใหตัวแปรที่ตองการหาคาเปนจํานวนที่ 1)
นั่นคือ ลุงค�าปลูกต้นมะขามทั้งหมด 38 ต้น
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
บิดาแบงเงินใหบุตร 3 คน ในอัตราสวน 1 : 2 : 4 บุตรคนที่ไดรับเงิน มากที่สุดกับบุตรคนที่ไดรับเงินนอยที่สุดไดเงินตางกัน 2,400 บาท บิดามีเงิน อยูเทาไร 1. 1,400 บาท 2. 2,800 บาท 3. 4,200 บาท 4. 5,600 บาท
วิเคราะหคําตอบ อัตราสวนของเงินทั้งหมดที่บุตรทั้งสามคนไดรับ = 1 : 2 : 4 ผลตางของบุตรคนที่ไดรับเงินมากที่สุดกับคนที่ไดรับเงินนอยที่สุดเทากับ 2,400 บาท ดังนั้น เงิน 3 สวน เทากับ 2,400 บาท เงิน 1 สวน เทากับ 2,400 3 = 800 บาท เงิน 2 สวน เทากับ 800 × 2 = 1,600 บาท เงิน 4 สวน เทากับ 800 × 4 = 3,200 บาท บิดามีเงินอยูทั้งหมด 800 + 1600 + 3200 = 5,600 บาท ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 4.
เกร็ดแนะครู ครูควรอธิบายเพิ่มเติมวา โจทยสัดสวนบางขออาจไมตองใชการคูณไขวก็ได ถา ตัวแปรที่ตองการทราบคาเปนจํานวนแรก และครูควรแนะนําใหนักเรียนเขียนตัวแปร ที่โจทยตองการทราบคาเปนจํานวนแรกของอัตราสวนเสมอ แตตองระมัดระวังการ เขียนลําดับของอัตราสวนอีกหนึ่งอัตราสวนที่โจทยกําหนดดวย
นักเรียนควรรู 1 เขียนสัดสวน การเขียนสัดสวนโดยใชอัตราสวน 5 : 2 กอน เพื่อใหนักเรียน ไดเปรียบเทียบวา ควรเขียนสัดสวนอยางไร จึงจะสะดวกในการหาคําตอบ เชน 52 = 95 a 5a = 95 × 2 a = 95 × 25 a = 38 คู่มือครู
19
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้
Engage
Explore
Explain
ขยายความเข้าใจ
ขยายความเข้าใจ ขยายความเข้ Expand าใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
Expand
1. ครูสุมนักเรียน 2 กลุม สงตัวแทนแสดงแนวคิด การแกโจทยปญหาตัวอยางที่ 5 จากนั้นให นักเรียนกลุม อืน่ ๆ รวมแสดงความคิดเห็นเพิม่ เติม และรวมกันสรุปขั้นตอนการแกโจทยปญหา 2. ใหนักเรียนตอบคําถามตอไปนี้ จากตัวอยางที่ 5 • นักเรียนบอกไดไหมวา โจทยปญหาที่ตองใช สัดสวนแกปญหามีลักษณะอยางไร (แนวตอบ ตองกําหนดอัตราสวนให 1 อัตราสวน และกําหนดจํานวนอีก 1 จํานวน) • การเขียนสัดสวนจากโจทยปญหาจะตอง ระมัดระวังสิ่งใดบาง (แนวตอบ จํานวนที่ 1 และจํานวนที่ 2 ในอัตราสวนทั้งสองที่ตองการเปรียบเทียบ ตองเปนจํานวนของสิ่งเดียวกัน) • โจทยปญหาที่มีหนวยในระบบเดียวกัน หรือ ตางระบบกัน การแทนคาจํานวนในแตละ อัตราสวน ควรระมัดระวังสิ่งใด (แนวตอบ จํานวนที่ 1 ของทั้งสองอัตราสวน และจํานวนที่ 2 ของทั้งสองอัตราสวน ตองมีหนวยเดียวกัน) • การเขียนอัตราสวนทั้งสอง ควรมีเทคนิคเพื่อ ชวยอํานวยความสะดวกในการหาคาของ ตัวแปรหรือไม ถามี ควรทําอยางไร (แนวตอบ ควรมีเทคนิคเพื่อชวยอํานวยความ สะดวกในการหาคาตัวแปร โดยการเขียนให ตัวแปรที่ตองการหาคาเปนจํานวนที่ 1) • ตัวอยางที่ 4 และตัวอยางที่ 5 เปนโจทย ที่มีความเหมือนกันและแตกตางกันหรือไม อยางไร (แนวตอบ แตกตางกัน ตัวอยางที่ 4 เปน อัตราสวนที่เปรียบเทียบปริมาณ 2 ปริมาณ ตัวอยางที่ 5 เปนอัตราสวนที่มีการเปรียบ เทียบหลายปริมาณและตองหาผลบวกจาก อัตราสวนของทั้งหมดมาเขียนสัดสวน)
20
ขั้นที่ 4 ดังนั้น
ตรวจสอบค�าตอบ ถ้าลุงค�าปลูกต้นมะรุม 95 ต้น และปลูกต้นมะขาม 38 ต้น อัตราส่วนเปรียบเทียบจ�านวนต้นมะรุมต่อจ�านวนต้นมะขาม เป็น 95 : 38 หรือ 5 : 2 ซึ่งเป็นไปตามที่โจทย์ก�าหนด ตอบ ลุงค�าปลูกต้นมะขามทั้งหมด 38 ต้น
ตัวอย่5างที่ โครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชด�าริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะจัดสรรทีท่ า� กินให้เหมาะสม โดยแบ่งพืน้ ทีใ่ นการท�านาต่อพืน้ ทีป่ ลูกพืชสวนและพืชไร่ ต่อพื้นที่สร้างบ่อกักเก็บน�้าต่อพื้นที่สร้างบ้านเรือนและถนนเป็น 3 : 3 : 3 : 1 ถ้าลุงค�า ใช้พื้นที่ในการท�านา 540 ตารางวา จงหาว่าลุงค�ามีที่ดินทั้งหมดกี่ตารางวา 1 วิธีทำ� ขั้นที่ 1 ท�าความเข้าใจโจทย์ปัญหา หา โดยพิจารณา 1) สิ่งที่โจทย์ถาม คือ ลุงค�ามีที่ดินทั้งหมดกี่ตารางวา 2) สิง่ ทีโ่ จทย์กา� หนด คือ อัตราส่วนของพืน้ ทีใ่ นการท�านาต่อพืน้ ทีป่ ลูก พืชสวนและพืชไร่ตอ่ พืน้ ทีส่ ร้างบ่อกักเก็บน�า้ ต่อพืน้ ทีส่ ร้างบ้านเรือน และถนนเป็น 3 : 3 : 3 : 1
นักเรียนควรรู 1 โจทยปญหา เปนขั้นตอนที่ 1 ของการแกโจทยปญหาสัดสวน ซึ่งในตัวอยาง ที่ 5 นี้ ใหพิจารณาวา มีอัตราสวนที่เปรียบเทียบปริมาณสองปริมาณแลวหรือไม ถาไมมี จะเขียนอัตราสวนนั้นอยางไร จึงนําไปเขียนสัดสวนได
หา โดยเขียนสัดส่วนแสดงอัตราส่วนโดยให้ลา� ดับของ ขั้นที่ 2 วางแผนแก้ปญั หา สิ่งที่เปรียบเทียบในแต่ละอัตราส่วนเป็นล�าดับเดียวกัน ถ้าพื้นที่ในการท�านาของลุงค�าเป็น 540 ตารางวา ให้ลุงค�ามีที่ดินทั้งหมดเท่ากับ a ตารางวา เขียนสัดส่วนได้ดังนี้ พื้นที่ทั้งหมด a 540
=
3 + 3 + 3 + 1 3
พื้นที่ที่ใช้ในการท�านา
กิจกรรมสรางเสริม ใหนักเรียนปฏิบัติตามขั้นตอนตอไปนี้ • สืบคนขอมูลแปลนการจัดสวนไมดอกและชนิดของพันธุไมดอก ที่นํามาจัดสวน • เลือกจํานวนไมดอกชนิดที่สนใจ 3 ชนิด และนํามาเขียนอัตราสวน
กิจกรรมทาทาย
20
ใหนักเรียนปฏิบัติตามขั้นตอนตอไปนี้ • สืบคนขอมูลชนิดของพันธุไมที่นํามาใชเพื่อการจัดสวน • สรางแปลนการจัดสวนและนําพันธุไมที่สนใจจากการสืบคนวางจัด ใหเหมาะสมและสวยงาม • เขียนอัตราสวนของพันธุไมแตละชนิดที่ใชในพื้นที่สวนตางๆ คู่มือครู
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้
Engage
Explore
Explain 21
ขั้นที่ 3
ด�าเนินการตามแผนที่วางไว้ พื้นที่ทั้งหมดเท่ากับ 3 + 3 + 3 + 1 = 10 ส่วน อัตราส่วนของพื้นที่ทั้งหมดต่อพื้นที่ในการท�านาเป็น 10 : 3 1 aa = 10 จะได้ 540 3
a = 10 ×3 540 = 1,800 นั่นคือ ลุงค�ามีที่ดินทั้งหมด 1,800 ตารางวา
ขั้นที่ 4 ตรวจสอบค�าตอบ ถ้าลุงค�ามีพื้นที่ทั้งหมด 1,800 ตารางวา แบ่งพื้นที่เพื่อใช้ในการ ท�านาเป็นจ�านวน 540 ตารางวา อัตราส่วนของพื้นที่ทั้งหมดต่อพื้นที่ในการท�านาเป็น 1,800 : 540 หรือ 10 : 3 ซึ่งเป็นไปตามที่โจทย์ก�าหนด ตอบ ดังนั้น ลุงค�าที่มีดินทั้งหมด 1,800 ตารางวา จากล�าดับขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสัดส่วน ซึ่งแสดงในตัวอย่างที่ 4 และ 5 เมื่อนักเรียนฝึกจนช�านาญแล้ว อาจแสดงวิธีท�าโดยไม่ต้องแสดงรายละเอียดแต่ละขั้นตอนได้ ดังตัวอย่างต่อไปนี้ ตัวอย่6างที่ ก�าหนดให้ FBI เป็ เป็นรูปสามเหลี่ยมม มีมีอัตราส่วนความยาวของด้านน FB : BI : IF เท่ FB : BI : IF เท่ากับ 7 : 5 : 3 ถ้ถ้ารูปสามเหลี่ยมนี้มีความยาวเส้นรอบรูป 60 เซนติ มตร แล้ 60 เซนติเมตร แล้วจงหาว่าด้านน BI ยาวกี่เซนติเมตร I
3 F
วิธีทำ�
5 7
B
2 จากโจทย์รูปสามเหลี่ยม FBI มีมีความยาวรอบรูป 60 เซนติ 60 เมตร ให้ด้าน BI ยาว a เซนติ เซนติเมตร มตร อัตราส่วนของความยาวด้าน BI ต่อความยาวรอบรูปเป็น a : 60 จากอัตราส่วนความยาวของด้าน FB : BI : IF เป็น 7 : 5 : 3
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
ในการเลือกตั้งประธานนักเรียนของโรงเรียนแหงหนึ่ง มีผูสมัครสองคน 7 ของนักเรียนทั้งหมด ถามีคนเลือก คือ ปรีชากับสามารถ มีผูเลือกปรีชา 12 สามารถ 295 คน จะเลือกปรีชากี่คน 1. 123 คน 2. 172 คน 3. 315 คน 4. 413 คน
วิเคราะหคําตอบ ผูสมัครประธานนักเรียนมีปรีชากับสามารถ มีผูเลือกปรีชา 127 ของนักเรียนทั้งหมด ดังนั้น มีผูเลือกสามารถเปนประธาน 125 ของนักเรียนทั้งหมดเทากับ 295 คน ใหผูเลือกปรีชามีจํานวน a คน a 7 295 = 5 a = 75 × 295 = 413 คน มีคนเลือกปรีชา 413 คน ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 4.
ขยายความเข้าใจ ขยายความเข้ Expand าใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
ขยายความเข้าใจ
Expand
1. ครูสุมนักเรียน 2 กลุม สงตัวแทนแสดงแนวคิด การแกโจทยปญหาตัวอยางที่ 6 จากนั้นให นักเรียนกลุมอื่นๆ รวมแสดงความคิดเห็น เพิ่มเติมและรวมกันสรุปขั้นตอนการแกโจทย ปญหา 2. ใหนักเรียนตอบคําถามตอไปนี้ จากตัวอยาง ที่ 6 • นักเรียนบอกไดไหมวา โจทยปญหาตองใช สัดสวนแกปญหามีลักษณะอยางไร (แนวตอบ ตองกําหนดอัตราสวนให 1 อัตรา สวน และกําหนดจํานวนอีก 1 จํานวน) • การเขียนสัดสวนจากโจทยปญหาจะตอง ระมัดระวังสิ่งใดบาง (แนวตอบ จํานวนที่ 1 และจํานวนที่ 2 ในอัตราสวนทั้งสองที่ตองการเปรียบเทียบ ตองเปนจํานวนของสิ่งดียวกัน) • โจทยปญหาที่มีหนวยในระบบเดียวกัน หรือ ตางระบบกัน การแทนคาจํานวนในแตละ อัตราสวน ควรระมัดระวังสิ่งใด (แนวตอบ จํานวนที่ 1 ของทั้งสองอัตราสวน และจํานวนที่ 2 ของทั้งสองอัตราสวน ตองมีหนวยเดียวกัน) • การเขียนอัตราสวนทั้งสอง ควรมีเทคนิคเพื่อ ชวยอํานวยความสะดวกในการหาคาของ ตัวแปรหรือไม ถามี ควรทําอยางไร (แนวตอบ ควรมีเทคนิคเพื่อชวยอํานวยความ สะดวกในการหาคาตัวแปร โดยการเขียน ใหตัวแปรที่ตองการหาคาเปนจํานวนที่ 1)
นักเรียนควรรู 1 a เปนตัวอักษรภาษาอังกฤษ ใชกําหนดเปนตัวแปรและอาจใชตัวอักษรอื่นได เชน x, y, z เปนตน 2 ความยาวรอบรูป เปนความยาวรอบรูปสามเหลี่ยม คือผลบวกของความยาว ของดานทุกดานของรูปสามเหลี่ยม
คู่มือครู
21
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้
Engage
Explore
Explain
ขยายความเข้าใจ
ขยายความเข้าใจ Expand
Evaluate
22
จะได้ผลบวกของสามส่วนเท่ากับ 7 + 5 + 3 = 15 ส่วน อัตราส่วนของความยาวด้าน BI ต่อความยาวรอบรูปเป็น 5 : 15 เขียนสัดส่วนได้ดังนี้ a 5 60 = 15 × 60 a = 5 15 = 20 ดังนั้น ด้าน BI ยาว 20 เซนติเมตร
ตอบ
ตัวอย่7างที่ น�้าแตงโมมีส่วนผสมของเนื้อแตงโม น�้าเชื่อม และน�้าเปล่าต้มสุก โดยมีน�้าหนักดังนี้ อัตราส่วนของเนื้อแตงโมต่อน�้าเชื่อมเป็น 10 : 3 อัตราส่วนของน�้าเชื่อมต่อน�้าเปล่าต้มสุกเป็น 1 : 10 อยากทราบว่าถ้าใช้น�้าเชื่อม 45 กรัม จะได้น�้าแตงโมกี่กรัม
วิธีทำ�
บูรณาการอาเซียน การเรียนรูเรื่องอัตราสวนทําใหมีความรูที่สามารถไปประยุกตใชในชีวิตประจําวัน ได ในปจจุบันจะพบวามีนักทองเที่ยวจากประเทศในกลุมอาเซียนที่เดินทางมายัง ประเทศไทยและคนไทยเดินทางไปเที่ยวประเทศตางๆ ในแตละประเทศจะมีสกุลเงินที่แตกตางกัน ซึ่งประเทศในกลุมอาเซียนไดกําหนด อัตราแลกเปลีย่ นสกุลเงินระหวางประเทศ เพือ่ ความสะดวกกับการคาระหวางประเทศ ครูควรใหนักเรียนสืบคนขอมูลตอไปนี้และ จัดทําเปนรายงานสงครู • อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินประเทศในกลุมอาเซียนเมื่อเปรียบเปนเงินบาท • อัตราสวนสูตรอาหารและเครื่องดื่มของประเทศในกลุมอาเซียนประเทศละ 1 อยาง
คู่มือครู
ตรวจสอบผล
Expand
1. ครูสุมนักเรียน 2 กลุม สงตัวแทนแสดงแนวคิด การแกโจทยปญหาตัวอยางที่ 7 จากนั้นให นักเรียนกลุม อืน่ ๆ รวมแสดงความคิดเห็นเพิม่ เติม และรวมกันสรุปขั้นตอนการแกโจทยปญหา 2. ใหนักเรียนตอบคําถามตอไปนี้ • นักเรียนบอกไดไหมวา โจทยปญหาที่ตองใช สัดสวนแกปญหามีลักษณะอยางไร (แนวตอบ ตองกําหนดอัตราสวน และกําหนด จํานวนอีก 1 จํานวน) • การเขียนสัดสวนจากโจทยปญหาตอง ระมัดระวังสิ่งใดบาง (แนวตอบ จํานวนที่ 1 และจํานวนที่ 2 ในอัตราสวนทั้งสองที่ตองการเปรียบเทียบ ตองเปนจํานวนของสิ่งเดียวกัน) • โจทยปญหาที่มีหนวยในระบบเดียวกัน หรือ ตางระบบกัน การแทนคาจํานวนในแตละ อัตราสวน ควรระมัดระวังสิ่งใด (แนวตอบ จํานวนที่ 1 ของทั้งสองอัตราสวน และจํานวนที่ 2 ของทั้งสองอัตราสวน ตองมีหนวยเดียวกัน) • การเขียนอัตราสวนทั้งสอง ควรมีเทคนิคเพื่อ ชวยอํานวยความสะดวกในการหาคาของ ตัวแปรหรือไม ถามี ควรทําอยางไร (แนวตอบ ควรมีเทคนิคเพื่อชวยอํานวยความ สะดวกในการหาคาตัวแปร โดยการเขียน ใหตัวแปรที่ตองการหาคาเปนจํานวนที่ 1) • จากตัวอยางที่ 5 ตัวอยางที่ 6 และตัวอยางที่ 7 มีความเหมือนกัน หรือแตกตางกันอยางไร (แนวตอบ ตัวอยางที่ 5 และตัวอยางที่ 6 เขียนอัตราสวนเปนอัตราสวนตอเนื่องและ ตองนําอัตราสวนทั้งหมดบวกกันกอนเขียน เปนสัดสวน แตตัวอยางที่ 7 ตองเขียนเปน อัตราสวนตอเนื่องกอน เพื่อหาผลบวกของ อัตราสวนทั้งหมด แลวเขียนเปนสัดสวน)
22
ขยายความเข้ Expand าใจ
อัตราส่วนของเนื้อแตงโมต่อน�้าเชื่อมเป็น 10 : 3 อัตราส่วนของน�้าเชื่อมต่อน�้าเปล่าต้มสุกเป็น 1 : 10 ค.ร.น. ของ 1 และ 3 เท่ ค.ร.น. ของ 1 และ ากับ 3 จะได้ อัตราส่วนของน�า้ เชื่อมต่อน�้าเปล่าต้มสุกเป็น 1 × 3 : 10 × 3 = 3 : 30 อัตราส่วนของเนื้อแตงโมต่อน�า้ เชื่อมต่อน�้าเปล่าต้มสุกเป็น 10 : 3 : 30 หมด 10 + 3 + 30 = 43 ส่วน จากอัตราส่วนจะได้นา�้ แตงโมทั้งหมด หมด a กรัม ถ้าใช้นา�้ เชื่อมม 45 กรั 45 กรัม จะได้ จะได้นาาแตงโมทั �้ แตงโมทั้งหมด เขียนสัดส่วนได้ดังนี้ aa 43 45 = 3 a = 43 × 45 3 645 645 = ตอบ นั่นคือ จะได้น�้าแตงโม 645 กรัม
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
โรงเรียนประถมศึกษาแหงหนึ่งมีนักเรียนชายตอนักเรียนหญิงเปน อัตราสวน 3 : 5 ถาโรงเรียนแหงนี้มีนักเรียนทั้งหมด 792 คน จะมีนักเรียน หญิงมากกวานักเรียนชายกี่คน 1. 68 คน 2. 99 คน 3. 198 คน 4. 264 คน วิเคราะหคําตอบ นักเรียนชาย : นักเรียนหญิง = 3 : 5 ใหนักเรียนชายมี x คน x = 3 เขียนสัดสวน 792 8 x = 38 × 792 = 297 ใหนักเรียนหญิงมี y คน y = 5 เขียนสัดสวน 792 8 y = 58 × 792 = 495 มีนักเรียนหญิงมากกวานักเรียนชายอยู 495 - 297 = 198 คน ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 3.
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้
Engage
Explore
Explain 23
1 ตัวอย่8างที่ พิจารณาแผนผังที่ก�าหนดให้ สถาน�ตำรวจ
โรงพยาบาล
โรงเรียน
วัด บาน
ถ้าแผนผังนี้เขียนโดยใช้มาตราส่วน 1 : 12,000 จงหาว่าเมื่อเดินทางจากบ้าน ไปสถานีต�ารวจตามแนวเส้นประเป็นระยะทางประมาณกี่กิโลเมตร (ตอบเป็นทศนิยม 1 ต�ำแหน่ง)
วิธีทำ�
มาตราส่วน 1 : 12,000 เป็นอัตราส่วนของระยะทางในแผนผังต่อระยะทางจริง หมายความว่า ถ้าระยะทางในแผนผังยาว 1 เซนติเมตร ระยะทางจริงยาว 12,000 เซนติเมตร วัดระยะทางในแผนผังจากบ้านถึงสถานีต�ารวจตามแนวเส้นประยาวประมาณ ประยาวประมาณ 11 เซนติเมตร ให้ระยะทางจริงจากบ้านถึงสถานีตา� รวจเท่ากับ x เซนติ เซนติเมตร 11 : x อัตราส่วนของระยะทางในแผนผังต่อระยะทางจริงเป็น 11 : เขียนสัดส่วนได้ดังนี้ 11 = 11 12,000 x x = 11 × 12,000 = 132,000 เซนติ 12,000 = = 132,000 132,000 เซนติเมตร 132,000 เซนติ เนื่องจาก 100 เซนติเมตร เท่ากับ 1 เมตร 132,000 = 1,320 เมตร จะได้ 132,000 เซนติเมตร เท่ากับ 132,000 1,320 100 เนื่องจาก 1,000 เมตร เมตร เท่ากับ 1 กิกิโลเมตร 1,320 = 1.32 กิกิโลเมตร จะได้ 1,320 เมตร เมตร เท่ากับ 1,320 1,000 ดังนั้น บ้านอยู่ห่างจากสถานีต�ารวจประมาณ 1.3 กิโลเมตร
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
สามเหลี่ยมรูปหนึ่งมีอัตราสวนของดานเปน 1.5 : 2 : 25 ถามีฐานยาว 9 หนวย มีพื้นที่ 54 ตารางหนวย รูปสามเหลี่ยมนี้มีเสนรอบรูปยาวเทาไร 1. 12 หนวย 2. 24 หนวย 3. 36 หนวย 4. 48 หนวย
ตอบ
ขยายความเข้าใจ ขยายความเข้ Expand าใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
ขยายความเข้าใจ
Expand
1. ครูสุมนักเรียน 2 กลุม สงตัวแทนแสดงแนวคิด การแกโจทยปญหาตัวอยางที่ 8 จากนั้นให นักเรียนกลุมอื่นๆ รวมแสดงความคิดเห็น เพิ่มเติมและรวมกันสรุปขั้นตอนการแกโจทย ปญหา 2. ใหนักเรียนตอบคําถามตอไปนี้ จากตัวอยาง ที่ 8 • นักเรียนบอกไดไหมวา โจทยปญหาที่ตองใช สัดสวนในตัวอยางนี้ มีลักษณะอยางไร (แนวตอบ ตองกําหนดอัตราสวนให 1 อัตรา สวน และกําหนดจํานวนอีก 1 จํานวน) • การเขียนสัดสวนจากโจทยปญหาจะตอง ระมัดระวังสิ่งใดบาง (แนวตอบ จํานวนที่ 1 และจํานวนที่ 2 ในอัตราสวนทั้งสองที่ตองการเปรียบเทียบ ตองเปนจํานวนของสิ่งเดียวกัน) • โจทยปญหาที่มีหนวยในระบบเดียวกัน หรือ ตางระบบกัน การแทนคาจํานวนในแตละ อัตราสวน ควรระมัดระวังสิ่งใด (แนวตอบ จํานวนที่ 1 ของทั้งสองอัตราสวน และจํานวนที่ 2 ของทั้งสองอัตราสวน ตองมีหนวยเดียวกัน) • การเขียนอัตราสวนทั้งสอง ควรมีเทคนิคเพื่อ ชวยอํานวยความสะดวกในการหาคาของ ตัวแปรหรือไม ถามี ควรทําอยางไร (แนวตอบ ควรมีเทคนิคเพื่อชวยอํานวยความ สะดวกในการหาคาตัวแปร โดยการเขียนให ตัวแปรที่ตองการหาคาเปนจํานวนที่ 1) • นักเรียนคิดวา ตัวอยางที่ 8 แตกตางจาก ตัวอยางที่ 4 ถึงตัวอยางที่ 7 หรือไม อยางไร (แนวตอบ เขียนเปนโจทยสัดสวนเหมือนกัน แตแตกตางกันที่มีมาตราสวนเปนอัตราสวน ที่มีลักษณะพิเศษ คือจํานวนที่ 1 แทนระยะ ทางที่วัดในแผนผัง 1 หนวย และจํานวนที่ 2 แทนระยะทางจริง 12,000 หนวย)
นักเรียนควรรู 1 แผนผัง การเขียนแผนผังใชเพื่อบอกตําแหนง ทิศทางและระยะทางของ อาคารสถานที่ ซึ่งในแผนผังมีรายละเอียดสําคัญดังนี้ • กําหนดมาตราสวน • ชื่ออาคารสถานที่ • สัญลักษณแสดงอาคารสถานที่
วิเคราะหคําตอบ อัตราสวนของดานทั้งสามเปน 1.5 : 2 : 2.5 =3:4:5 รูปสามเหลี่ยมมีฐานยาว 9 หนวย มีพื้นที่ 54 ตารางหนวย รูปสามเหลี่ยมมีสวนสูง เทากับ 54 9× 2 = 12 หนวย อัตราสวนของความยาวของดาน เทากับ 9 : 12 : 15 เสนรอบรูปของรูปสามเหลี่ยม = 9 + 12 + 15 = 36 หนวย ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 3. คู่มือครู
23
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้
Engage
Explore
Explain
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
ขยายความเข้ Expand าใจ
ตรวจสอบผล Evaluate
Expand
1. ใหนกั เรียนแตละกลุม รวมกันแลกเปลีย่ นความคิด เห็นวาโจทยขอใดในแบบตรวจสอบความเขาใจ ที่ 1.2 ง หนา 24 เหมือนกับตัวอยางใดที่เรียนมา 2. ใหนักเรียนแตละกลุมนําแนวคิดและวิธีการที่ได จากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นไปใชเพื่อแก โจทยปญ หาในการทําแบบตรวจสอบความเขาใจ ที่ 1.2 ง 3. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันตรวจสอบความ ถูกตองในแบบตรวจสอบความเขาใจที่ 1.2 ง
ตรวจสอบผล
ขยายความเข้าใจ
Evaluate
1. ใหนักเรียนประเมินผลระดับความเขาใจใน เนื้อหานี้ดวยการเขียนบอกระดับเปนดีมาก ดี ปานกลางหรือตองเพิ่มความเขาใจอีก 2. ครูประเมินผลการเรียนรูจากการตรวจสอบ ความถูกตองการทําแบบตรวจสอบความเขาใจ ที่ 1.2 ง (ดูเฉลยแบบตรวจสอบความเขาใจที่ 1.2 ง ที่สวนเสริมดานหนาของหนังสือเลมนี้)
24
แบบตรวจสอบความเข้าใจที่
1.2 ง
1. จงหาค่าตัวแปรในสัดส่วนของแต่ละข้อต่อไปนี้ 30 27 2) 6 3) 12 1) x7 = 21 33 7 = m y = 8 a = 4 6 n 5) 4.8 6) 4.5 4) 2.5 15 7 = 28 y = 8 2. เครือ่ งจักรเครือ่ งหนึง่ ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้ 190 ชิน้ ในเวลา 2 ชัว่ โมง ถ้าเครือ่ งจักรนี้ ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้ 2,500 ชิ้น ต้องใช้เวลากี่ชั่วโมง 3. โรงเรียนแห่งหนึ่งเสียค่าน�้าประปาต่อค่าไฟฟาในเดือนมกราคม 2553 เป็นอัตราส่วน 2 : 7 ถ้าในเดือนนี้โรงเรียนเสียค่าไฟฟาเป็นเงิน 350,000 บาท จงหาว่าโรงเรียนแห่งนี้เสียค่า น�้าประปาเป็นเงินกี่บาท 4. กล่องใบหนึง่ มีอตั ราส่วนของความสูงต่อความยาวต่อความกว้างเป็น 1 : 3 : 2 ถ้ากล่องใบนี้ กว้าง 10 เซนติเมตร กล่องใบนี้มีปริมาตรกี่ลูกบาศก์เซนติเมตร 5. ก�าหนดมาตราส่วน 1 : 2,000 จงหาระยะทางจริงเป็นเมตร ถ้าระยะทางทีว่ ดั ในแผนผังเท่ากับ 9 เซนติเมตร 6. อัตราส่วนอายุของชิตต่ออายุของโชคเป็น 3 : 4 และอัตราส่วนอายุของโชคต่ออายุของชัย เป็น 4 : 5 ถ้าชัยอายุ 35 ปี แล้วชิตอายุกี่ปี น 4 : 5 และ FI : IM เป็ น 9 : 12 ถ้าเส้น ม MF มีอัตราส่วนของ IM : MF เป็ นของ 4 : 5 และ F 7. รูปสามเหลี่ยม IMF มี รอบรูปของรูปสามเหลี่ยมนี้ยาว 60 เซนติเมตร จงหาพื้นที่ของรูปสามเหลี่ยมนี้ 8. อัตราส่วนจ�านวนเงินของ ก : ข เป็น 3 : 5 และ อัตราส่วนจ�านวนเงินของ ข : ค เป็น 2 : 3 ถ้า ก มีเงิน 150 บาท จงหาว่า ก มีเงินต่างจาก ค กี่บาท 9. ก�าหนด ABCD เป็นรูปสี่เหลี่ยมที่มีอัตราส่วนความยาวของด้าน ดังนี้ AB : BC = 4 : 3, BC : CD = 2 : 3 และ CD : DA = 3 : 1 ถ้าด้าน CD ยาว 4.5 เซนติเมตร แล้วความยาวเส้นรอบรูปของรูปสี่เหลี่ยมรูปนี้เท่ากับ กี่เซนติเมตร 10. กล่องทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากใบหนึ่งมีอัตราส่วนของความกว้างต่อความยาวเป็น 2 : 3 อัตราส่วนของความยาวต่อความสูงเป็น 4 : 5 ถ้ากล่องใบนี้ยาว 24 เซนติเมตร แล้วจะมี ความจุกี่ลูกบาศก์เซนติเมตร
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
เมื่อ 18 ปที่แลวอายุของบุตรและบิดาเปนอัตราสวน 2 : 5 ปจจุบันอายุของบิดาตออายุของบุตรเปน 7 : 4 ปจจุบันบิดาอายุเทาไร 1. 36 ป 2. 45 ป 3. 54 ป 4. 63 ป วิเคราะหคําตอบ ปจจุบันอายุของบิดา : อายุของบุตร = 7x : 4x เมื่อ 18 ปที่แลว อายุบุตร : อายุบิดา = 2 : 5 ดังนั้น อายุบิดา : อายุบุตร = 5 : 2 จะได 7x - 18 : 4x - 18 = 5 : 2 - 18 5 เขียนสัดสวน 7x 4x - 18 = 2 14x - 36 = 20x - 90 6x = 54 x = 9 ∴ บิดาอายุ (7 × 9) = 63 ป ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 4.
24
คู่มือครู
กระตุน้ ความสนใจ กระตุEngage ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
25
3. อัตราส่วนและรอยละ 3.1 อัตราส่วนและร้อยละ
พิจารณาข้อความต่อไปนี้ ประเภทเงินฝาก ออมทรัพย์ ฝากประจ�า 3 เดือน ฝากประจ�า 6 เดือน ฝากประจ�า 12 เดือน ฝากประจ�า 24 เดือน
ดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 1 1 1 1.15
จากตาราง เงินฝากประเภทฝาก ประจ�า 12 เดือน ได้รับดอกเบี้ยร้อยละ 1 หมายความว่า เมือ่ ฝากเงินจ�านวน 100 บาท ครบ 1 ปี จะได้รับดอกเบี้ย 1 บาท เขียน เป็นอัตราส่วนได้ดังนี้
อัตราส่วนของดอกเบี้ยเงินฝากต่อจ�านวนเงินฝากเป็น 1 : 100
BOOK
SALE 15%
ÊÓËÃѺÊÁÒªÔ¡ÃѺÊèǹŴ 15%
a เปšนสัÞลักษณ a : 100 Ëร×อ 100 ทีèใช้เขียนแทนร้อยละ a
จากแผ่นปายส่วนลดราคาสินค้าระบุว่า ส�าหรับสมาชิกรับส่วนลด 15% หมายความว่า เดิมราคา 100 บาท แต่ลดราคาให้ 15 บาท เขียนเป็นอัตราส่วนได้ดังนี้ อัตราส่วนของจ�านวนเงินที่ลดต่อราคาเดิมเป็น 15 : 100 เรียกการเปรียบเทียบจ�านวนใดจ�านวนหนึ่งกับ 100 ว่า ร้ร้อยละหรือเปอร์เซ็นต์ 1 แทนด้วย ร้อยละ 1 หรือ 1% เช่น 1 : 100 หรือ 100 15 แทนด้วย ร้อยละ 15 หรือ 15% 15 : 100 หรือ 100 การเขียนอัตราส่วนใดๆ ให้อยู่ในรูปร้อยละ จะต้องเขียนอัตราส่วนนั้นให้อยู่ในรูปที่มี จ�านวนหลังของอัตราส่วนเป็น 100 โดยอาศัยหลักการคูณหรือหลักการหาร เพือ่ หาอัตราส่วนทีเ่ ท่ากัน ตามที่นักเรียนได้ศึกษามาแล้ว เช่น 7 : 20 = 35 : 100 กล่าวได้ว่า 7 เป็นร้อยละ 35 ของ 20 4 : 25 = 16 : 100 กล่าวได้ว่า 4 เป็นร้อยละ 16 ของ 25 8 : 200 = 4 : 100 กล่าวได้ว่า 8 เป็นร้อยละ 4 ของ 200 10 : 500 = 2 : 100 กล่าวได้ว่า 10 เป็นร้อยละ 2 ของ 500
กิจกรรมสรางเสริม ใหนักเรียนปฏิบัติตามขั้นตอนตอไปนี้ • สืบคนสูตรการทําอาหารที่นักเรียนสนใจ 1 อยาง • คํานวณปริมาณสวนผสมแตละชนิด สําหรับเลี้ยงคน 3 คน
กระตุน้ ความสนใจ
Engage
ครูเชื่อมโยงความรูโดยการสนทนาและซักถาม นักเรียน ดังนี้ 1. ในชั้นประถมศึกษาปที 6 และชั้นมัธยมศึกษา ปที่ 1 นักเรียนเคยไดศึกษาเกี่ยวกับเศษสวน รอยละ และการประยุกตของรอยละในชีวิต ประจําวัน ใหนักเรียนตอบคําถามตอไปนี้ • เศษสวนและรอยละเกี่ยวของกันหรือไม และเกี่ยวของกันอยางไร จงอธิบาย พรอมยกตัวอยาง (แนวตอบ เกีย่ วของกัน โดยเศษสวนทีม่ ตี วั สวน เปน 10, 100, 1000, ... เขียนเปนทศนิยมได) • การหาคาของรอยละ มีวิธีการอยางไรบาง (แนวตอบ เปลี่ยนรอยละเปนเศษสวน) • ในชีวิตประจําวันของคนเรา ตองเกี่ยวของ กับรอยละในเรื่องใดบาง (แนวตอบ เชน สวนลด ดอกเบี้ย เปนตน) 2. ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2 นักเรียนได ศึกษาเกี่ยวกับอัตราสวนและสัดสวนมาแลว นักเรียนคิดวา • นักเรียนคิดวาอัตราสวนและรอยละ มีความ เกี่ยวของกันหรือไม และอยางไร (แนวตอบ เกี่ยวของกับอัตราสวนซึ่งเขียนเปน รูปเศษสวนได) 3. ครูนําโบรชัวรเกี่ยวกับประเภทของเงินฝาก และดอกเบี้ยของธนาคารตางๆ 3 ธนาคาร ขออาสาสมัคร 2 คน คนที่ 1 ออกมาอาน ขอความ คนที่ 2 เขียนขอความที่อาน แลวให นักเรียนชวยกันตอบคําถาม • เงินฝากในแตละประเภทเกี่ยวของกับ สิ่งใดบาง • เงินฝากในแตละประเภทเกี่ยวของกับ อัตราสวนหรือไม • ดอกเบี้ยรอยละในเงินฝากแตละประเภท มีความหมายอยางไรบาง
เกร็ดแนะครู ครูทบทวนความรูเ รือ่ งรอยละ โดยกําหนดรอยละ แลวใหนกั เรียนบอกความหมาย เชน ลดราคารอยละ 15 หมายถึง ราคาประกาศ 100 บาท ผูซื้อจายเงิน 85 บาท เปนตน ครูเนนยํ้าใหนักเรียนระวังการเขียนรอยละและเปอรเซ็นตวาตองใชเพียง อยางหนึ่งอยางเทานั้น เชน รอยละ 15 หรือ 15% เปนตน
กิจกรรมทาทาย ใหนักเรียนปฏิบัติตามขั้นตอนตอไปนี้ • สืบคนสูตรการทําอาหารและเครื่องดื่มที่นักเรียนสนใจมาคนละ 1 อยาง • คํานวณปริมาณสวนผสมแตละชนิด สําหรับเลี้ยงคน 5 คน คู่มือครู
25
กระตุ้นความสนใจ Engage
ส�ารวจค้นหา
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้ อธิบExplain ายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
ส�ารวจค้ Exploreนหา
Explore 26
ใหนักเรียนจับคูศึกษาเนื้อหาในหนังสือเรียน หนา 25-27
อธิบายความรู้
Explain
ใหนักเรียนตอบคําถามตอไปนี้ • การเขียนอัตราสวนใหอยูในรูปรอยละ ตองใช ความรูใดบาง (แนวตอบ การหาคาอัตราสวนที่เทากัน โดยใช หลักการคูณหรือการหาร เพื่อทําใหจํานวนที่ 2 เปน 100) • ตัวอยางที่ 1 และตัวอยางที่ 2 เหมือนกันหรือ แตกตางกันหรือไม อยางไร (แนวตอบ เปนอัตราสวนเหมือนกัน แตแตกตาง กัน ดังนี้ ตัวอยางที่ 1 จํานวนที่สองของอัตราสวน ทั้งสองเปนจํานวนคูซึ่งทําใหเปน 100 โดยใช จํานวนเต็มคูณจํานวนที่ 1 และจํานวนที่ 2 ได ตัวอยางที่ 2 จํานวนที่สองของอัตราสวน ทั้งสองเปนจํานวนเฉพาะ จึงไมสามารถทําให เปน 100 โดยใชจํานวนเต็มคูณได) • จากตัวอยางที่ 2 การนําเสนอตองใชทั้งหลัก การคูณและหลักการหาร เพื่อทําใหจํานวน ที่สองเปน 100 ถาตองการลดขั้นตอนโดยใช หลักการคูณ หรือหลักการหารเพียงอยางเดียว นักเรียนคิดวา ทําไดหรือไม และตองทํา อยางไร (แนวตอบ สามารถทําได โดยนํา 100 3 คูณ ทั้งสองจํานวน)
ตัวอย่1างที่ จงเขียนอัตราส่วนต่อไปนี้ให้อยู่ในรูปร้อยละ 1) 9 : 20
1) 9 : 20 = 9 × 5 : 20 × 5 = 45 : 100 = 45% หรือ ร้อยละ 45 ดังนั้น 9 : 20 เขียนให้อยู่ในรูปร้อยละได้เป็น ร้อยละ 45
2) 3 4
วิธีทำ�
3 × 25 = 4 × 25 = 100 75
= 75% หรือ ร้อยละ 75 ดังนั้น 3 4 เขียนให้อยู่ในรูปร้อยละได้เป็น ร้อยละ 75
ตอบ
ตัวอย่2างที่ จงเขียนอัตราส่วนต่อไปนี้ให้อยู่ในรูปร้อยละ (ประมาณเป็ ยละ นทศนิยมสองต�าแหน่ง) 2) 8 : 7 1) 22 3 100 วิธีทำ� 1) 22 = 22 × 100 3 33 × 100 100
200 = 200 300 200 33 = 100
66.67 100 ≈ 66.67% 66.67% หรื หรือ ร้ร้อยละ 66.67 ยละ ดังนั้น 22 3 เขียนในรูปร้อยละได้ประมาณ ร้อยละ 66.67 ≈
ขอสอบ
2) 3 4
O-NET
ขอสอบป ’ 52 ออกเกี่ยวกับอัตราสวนและรอยละ ภาสกรสอบวิชาตางๆ ไดคะแนนเปนอัตราสวน วิชาคณิตศาสตร : วิชาภาษาอังกฤษ ไดคะแนน 5 : 3 วิชาภาษาอังกฤษ : วิชาวิทยาศาสตร ไดคะแนน 4 : 7 ถาแตละวิชาคะแนนเต็ม 50 คะแนน และเขาสอบวิชาคณิตศาสตรได 40 คะแนน ถามวาเขาสอบวิชาวิทยาศาสตร ไดรอยละเทาไร 1. 84 2. 80 3. 60 4. 48 วิเคราะหคําตอบ วิชาคณิตศาสตร : วิชาภาษาอังกฤษ = 5 : 3 วิชาภาษาอังกฤษ : วิชาวิทยาศาสตร = 4 : 7 คณิตศาสตร : ภาษาอังกฤษ : วิทยาศาสตร = 20 : 12 : 21 = 40 : 24 : 42 แตละวิชาคะแนนเต็ม 50 คะแนน คะแนนวิทยาศาสตร 42 คะแนน คิดเปนรอยละ 42 50 × 100 = 84 ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 1.
26
คู่มือครู
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
Engage
Explore
อธิบายความรู้ อธิบExplain ายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
27
8 × 100 2) 8 : 7 = 7 × 100 = 800 700
800 7 = 100 114.29 100 ≈ 114.29% หรือ ร้อยละ 114.29
≈
ดังนั้น 8 : 7 เขียนในรูปร้อยละได้ประมาณ ร้อยละ 114.29
ตอบ
ตัวอย่3างที่ จงเขียนร้อยละในแต่ละข้อต่อไปนี้ให้อยู่ในรูปอัตราส่วน 1) 5% 2) 12% 4) 5.75% 3) 5 1 2 % วิธีทำ�
อธิบายความรู้
Explain
ใหนักเรียนตอบคําถามตอไปนี้ • ตัวอยางที่ 3 แตกตางจากตัวอยางที่ 1 และ ตัวอยางที่ 2 หรือไม อยางไร (แนวตอบ แตกตาง คือตัวอยางที่ 3 เปนการ เขียนรอยละในรูปอัตราสวน ตัวอยางที่ 1 และ ตัวอยางที่ 2 เขียนอัตราสวนในรูปรอยละ) • ถาใหนักเรียนเลือกทําโจทยระหวางการ เขียนอัตราสวนในรูปรอยละกับการเขียน รอยละในรูปอัตราสวน นักเรียนจะเลือก เขียนหัวขอใด เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบไดหลากหลาย ตามพื้นฐานความรู เชน เขียนรอยละในรูป อัตราสวน เพราะจะนําจํานวนมาหารตัวเศษ และตัวสวน เปนตน)
5 = 1 1) 5% = 100 20 ดังนั้น 5% เขี เขียนในรูปอัตราส่วนได้เป็น 201 12 หรือ 33 2) 12% = 100 25 ดังนั้น 12% เขี เขียนในรูปอัตราส่วนได้เป็น 253 11 1 11 11 2 หรือ 11 3) 5 2 % = 2 % = 100 200 11 ดังนั้น 5 1 2 % เขียนในรูปอัตราส่วนได้เป็น 200
5.75 = 575 575 23 23 4) 5.75% = 5.75 100 10000 หรือ 400 23 ดังนั้น 5.75% เขียนในรูปอัตราส่วนได้เป็น 400
ตอบ
ขอสอบเนน การคิด
ขอใดถูกตอง 1. 6.25% เขียนเปนอัตราสวนได 1 : 15 3. 8 : 25 เทากับ 30% วิเคราะหคําตอบ 1. ผิด 6.25 % เขียนเปนอัตราสวนได 6.25 625 100 = 10,000 = 1 : 16 16 × 2.5 = 40 2. ถูก 40 100 × 2.5 32 = 32% 3. ผิด 258 ×× 44 = 100
ดังนั้น 15% ของ 60 คิดเปนรอยละ 7.5 ของ 120 ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 2.
แนว NT O-NE T 2. 16 เปนรอยละ 40 ของ 40 4. 15% ของ 60 คิดเปนรอยละ 7 ของ 120 4. ผิด 15% ของ 60 เขียนสัดสวนได
x 15 60 = 100 × 60 = 9 x = 15100 y 9 100 = 120 9 × 100 = 120 y = 7.5
คู่มือครู
27
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้
Engage
Explore
Explain
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
ขยายความเข้ Expand าใจ
ตรวจสอบผล Evaluate
Expand
1. ใหนักเรียนแตละคูรวมกันแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นวาโจทยขอใดในแบบตรวจสอบ ความเขาใจที่ 1.3 หนา 28 เหมือนกับตัวอยาง ใดที่เรียนมา 2. ใหนกั เรียนแตละคูน าํ แนวคิดและวิธกี ารทีไ่ ดจาก การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นไปใชเพื่อแกโจทย ปญหาในการทําแบบตรวจสอบความเขาใจที่ 1.3 3. ใหนกั เรียนแตละคูร ว มกันตรวจสอบความถูกตอง ในแบบตรวจสอบความเขาใจที่ 1.3
ตรวจสอบผล
ขยายความเข้าใจ
Evaluate
1. ใหนักเรียนประเมินผลระดับความเขาใจใน เนื้อหานี้ดวยการเขียนบอกระดับเปนดีมาก ดี ปานกลางหรือตองเพิ่มความเขาใจอีก 2. ครูประเมินผลการเรียนรูจากการตรวจสอบ ความถูกตองการทําแบบตรวจสอบความเขาใจ ที่ 1.3 (ดูเฉลยแบบตรวจสอบความเขาใจที่ 1.3 ที่สวนเสริมดานหนาของหนังสือเลมนี้)
28
แบบตรวจสอบความเข้าใจที่
1.3
1. จงเขียนอัตราส่วนในแต่ละข้อต่อไปนี้ให้อยู่ในรูปร้อยละ 1) 3 : 4 2) 15 : 10 5) 258 4) 209
3) 1 : 500 5 6) 500
2. จงเขียนอัตราส่วนในแต่ละข้อต่อไปนี้ให้อยู่ในรูปร้อยละ 1) 5 : 3 2) 7 : 12 4) 5 5) 5 8 9
3) 3 : 11 6) 15 7
3. จงเขียนร้อยละในแต่ละข้อต่อไปนี้ให้อยู่ในรูปอัตราส่วน 1) 300% 2) 2 3 8 % 5) 17% 4) 2 3 4 % 7) 23% 8) 0.25%
3) 250%
6) 12.8% 9) 32.5%
4. การแกโจทยปญหารอยละ ให้นักเรียนพิจารณาโจทย์ปัญหาต่อไปนี้ บริษัทขายเครื่องส�าอางแห่งหนึ่งด�าเนินการขายโดยวิธีขายตรง ถ้าบริษัทขายสินค้า ชนิดหนึ่งให้กับพนักงานขาย ราคาชิ้นละ 80 บาท และพนักงานขาย ขายต่อให้ลูกค้าราคาชิ้นละ 100 บาท ถ้าพนักงานขายคนนี้บอกว่า ขายได้ก�าไรร้อยละ 20 นักเรียนคิดว่าค�าพูดนี้เป็นค�าตอบ ที่ถูกหรือไม่อย่างไร พนักงานขายซื้อเครื่องส�าอางชิ้นนี้ราคา 80 บาท และขายต่อราคา 100 บาท จะได้ก�าไร 100 - 80 = 20 บาท แสดงว่าขายได้ก�าไร 20 บาท จากราคาทุน 80 บาท จึงไม่ใช่ก�าไรร้อยละ 20 ค�าพูด ดังกล่าวจึงไม่ถูกต้อง การค�านวณว่าได้ก�าไรหรือขาดทุนร้อยละเท่าไร ต้องคิดจากทุน 100 บาทเสมอ ขอให้ นักเรียนศึกษาจากบทเรียนต่อไปนี้
เกร็ดแนะครู การแกโจทยปญหาในแบบตรวจสอบความเขาใจที่ 1.3 ครูทบทวนการคํานวณ ที่มีจํานวนคละ โดยถามนักเรียนวา • นักเรียนตองเปลี่ยนจํานวนคละเปนเศษเกินทุกครั้งหรือไม เพราะเหตุใด และ การเปลี่ยนจํานวนคละเปนเศษเกินตองทําอยางไร
28
คู่มือครู
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
รานหนังสือแหงหนึ่งขายหนังสือสารคดี ราคาเลมละ 84 บาท ไดกําไร 20% ถารานคาตองการกําไร 350 บาท รานคาตองขายหนังสือกี่เลม 1. 21 เลม 2. 25 เลม 3. 30 เลม 4. 34 เลม วิเคราะหคําตอบ ขายหนังสือไดกําไร 20% ขายหนังสือ 120 บาท ทุน 100 บาท × 84 = 70 บาท ขายหนังสือ 84 บาท ทุน 100120 ราคาทุนของหนังสือ 1 เลม = 70 บาท ขายหนังสือ 1 เลม ไดกําไร 14 บาท กําไร 14 บาท ตองขายหนังสือ 1 เลม กําไร 350 บาท ตองขายหนังสือ 350 14 เลม ตองขายหนังสือ 25 เลม จึงไดกําไร 350 บาท ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 2.
กระตุน้ ความสนใจ กระตุEngage ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
29
โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับก�าไรและขาดทุน ตัวอย่1างที่ จุ๊กซื้อสินค้าชนิดหนึ่งราคา 80 บาท แล้วขายต่อในราคา 100 บาท จงหาว่าจุ๊กขาย สินค้านี้ได้ก�าไรร้อยละเท่าไร วิธีทำ�
ขั้นที่ 1 ท�าความเข้าใจโจทย์ปัญหา โดยพิจารณา 1) สิ่งที่โจทย์ถาม คือ ขายสินค้านี้ได้ก�าไรร้อยละเท่าไร 2) สิง่ ที่โจทย์ก�าหนด คือ ราคาทุนของสินค้าเป็นเงิน 80 บาท ขาย ไปราคา 100 บาท ขั้นที่ 2 วางแผนแก้ปญั หา โดยเขียนสัดส่วนแสดงอัตราส่วนโดยให้ลา� ดับของ สิ่งที่เปรียบเทียบในแต่ละอัตราส่วนเป็นล�าดับเดียวกัน ให้การขายสินค้าได้ก�าไรเป็นร้อยละ a ก�าไร a 100
=
100 - 80 80
ราคาทุน
ขั้นที่ 3
ด�าเนินการตามแผนที่วางไว้ ให้ขายสินค้านี้ได้กาไรร้ า� ไรร้อยละ ยละ aa อัตราส่วนก�าไรต่อราคาทุนเป็น a : 100 a : 100 ขายสินค้านี้ได้กา� ไรเป็นเงิน 100 - 80 = 20 บาท 100 - 80 = 20 บาท อัตราส่วนของก�าไรต่อราคาทุนเป็น 20 : 80 20 : 80 a = 20 จะได้ 100 80 a = 20 × 100 80 a = 25 นั่นคือ ขายสินค้าได้ก�าไรร้อยละ 25
ขอสอบ
กระตุน้ ความสนใจ
Engage
1. ครูนําใบปลิวหรือแผนโฆษณาที่มีขอความ ลดราคาเปนรอยละและเปอรเซ็นต เชน เสื้อผาลดราคา 20% อาหารลดราคา 10% เปนตน ใหนักเรียนดู กระตุนถามนักเรียนวา • นักเรียนเคยเห็นแผนโฆษณาสินคาที่มีการ ประกาศลดราคาแตกตางไปจากนี้บาง หรือไม และเปนอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบไดหลากหลาย ตามประสบการณใหอยูในดุลยพินิจของครู) • นักเรียนเคยเห็นสินคาชนิดใดบาง และ มีตัวเลขใดปรากฏบาง (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบไดหลากหลาย ตามประสบการณ เชน เสือ้ ผาราคา 350 บาท ลดราคาเหลือ 290 บาท รองเทาลดราคา 20-30% อาหารและเครื่องดื่มลด 15% ทุกวันพุธ เครื่องประดับลดราคาจากปาย 50% เปนตน) 2. ครูเชื่อมโยงความรูการแกโจทยปญหาเกี่ยวกับ สัดสวนกับการแกโจทยปญหารอยละ โดยการ สนทนาและซักถามนักเรียน • นักเรียนจําขั้นตอนการแกโจทยปญหา เกี่ยวกับสัดสวนไดหรือไม วามีกี่ขั้นตอน อะไรบาง และสิ่งที่ตองระมัดระวังคืออะไร (แนวตอบ จําไดวามี 3 ขั้นตอน ขั้นที่ 1 ทําความเขาใจโจทยปญหา ขั้นที่ 2 วางแผนแกปญหา ขั้นที่ 3 ดําเนินการตามแผนที่วางไว) • นักเรียนคิดวา โจทยปญหารอยละและการ แกโจทยปญหาเกี่ยวกับสัดสวน จะมีขั้นตอน ตางๆ เหมือนกันหรือไม อยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบไดหลากหลาย เชน เหมือนกัน เขียนรอยละในรูปเศษสวน)
O-NET
ขอสอบป ’ 51 ออกเกี่ยวกับโจทยปญหารอยละเรื่องกําไร พอคาคนหนึ่งซื้อสมมา 10 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 40 บาท ถาตองการขายใหไดกําไร 5% จะตองขายสมกิโลกรัม ละกี่บาท และไดกําไรทั้งหมดกี่บาท 1. กิโลกรัมละ 50 บาท, กําไร 100 บาท 2. กิโลกรัมละ 45 บาท, กําไร 50 บาท 3. กิโลกรัมละ 48 บาท, กําไร 80 บาท 4. กิโลกรัมละ 42 บาท, กําไร 20 บาท วิเคราะหคําตอบ ตองการขายสมใหไดกําไร 5% ใหขายสมกิโลกรัมละ a บาท a = 105 จะได 40 100 105 a = 100 × 40 = 42 ขายสมกิโลกรัมละ 42 บาท ซื้อสมมา 10 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 40 บาท เปนเงิน 400 บาท นําไปขายทั้งหมดกิโลกรัมละ 42 บาท เปนเงิน 420 บาท ∴ จะไดเงิน 420 บาท ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 4.
คู่มือครู
29
กระตุ้นความสนใจ Engage
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้ อธิบExplain ายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
ส�ารวจค้ Exploreนหา
ส�ารวจค้นหา
Explore
1. ใหนักเรียนจัดกลุม กลุม 4 คน คละความ สามารถทางคณิตศาสตร ศึกษาตัวอยางที่ 1 ถึงตัวอยางที่ 9 ในหนังสือเรียน หนา 29-40 2. กอนใหนักเรียนแตละกลุมศึกษาตัวอยางที่ 1 หนา 29 ครูใชการถาม-ตอบประกอบคําอธิบาย เพื่อใหนักเรียนเกิดความคิดรวบยอด การแปล ความโจทยปญหา แลวนํามาเขียนเปนสัดสวน ตามขั้นตอน ดังนี้ • อานโจทยปญหาแตละตัวอยาง พรอมบอก สิ่งที่โจทยถามและสิ่งที่โจทยกําหนด • สําหรับขั้นที่ 2 การวางแผนแกปญหาเปน ขั้นตอนที่สําคัญที่สุด ครูใชคําถามใหนักเรียน คิดวิเคราะห เชื่อมโยงความสัมพันธจาก จํานวนในขั้นที่ 1 ทั้งสองขอยอย • ขั้นที่ 3 ครูใหนักเรียนเขียนสัดสวนตาม ขั้นที่ 2 ขายสินคา 100 บาท เขียนเปน อัตราสวนไดอยางไรบาง (แนวตอบ ราคาทุน 80 บาท : ราคาขาย 100 บาท และราคาทุน 80 บาท : กําไร 10 บาท)
อธิบายความรู้
Explain
จากตัวอยางที่ 1 ใหนักเรียนแตละกลุม รวมกันตอบคําถามตอไปนี้ • โจทยปญหานี้ นักเรียนจะเขียนเปนอัตราสวน ที่เทากัน โดยใชความหมายใด เพราะเหตุใด (แนวตอบ กําไร : ทุน และราคาทุน : ราคาขาย เพราะวาจํานวนที่โจทยกําหนดมีทั้งราคาทุน และราคาขาย) • โจทยปญหานี้ นักเรียนเขียนเปนสัดสวนได กี่แบบ อยางไรบาง a = 20 หรือ (แนวตอบ มี 4 แบบ ดังนี้ 100 80 100 = 80 เมื่อให a เปนกําไรรอยละ และ a 20 80 = 100 หรือ 100 = x 100 a 80 100 เมื่อ x เปนราคาขาย)
30
ขั้นที่ 4 ตรวจสอบค�าตอบ ถ้าการขายครัง้ นี้ได้ก�าไร 25% 25 × 80 = 20 บาท จะได้ก�าไรคิดเป็นเงิน 100 เงินจ�านวนนี้เท่ากับเงินก�าไร ซึ่งค�านวณจาก 100 - 80 = 20 บาท ตามที่โจทย์ก�าหนด ตอบ ดังนั้น จุ๊กขายสินค้าได้ก�าไรร้อยละ 25
ตัวอย่2างที่ อัมพรขายเครื่องคิดเลข 80 เครื่อง เป็นเงิน 28,600 บาท ได้ก�าไร 10% จงหาว่าเครื่อง 1 คิดเลขนี้ต้นทุนราคาเครื่องละกี่บาท
ขั้นที่ 1
ท�าความเข้าใจโจทย์ปัญหา โดยพิจารณา 1) สิ่งที่โจทย์ถาม คือ ราคาต้นทุนของเครื่องคิดเลขแต่ละเครื่อง 2) สิ่งที่โจทย์ก�าหนด คือ ขายเครื่องคิดเลข 80 เครื่อง เป็นเงิน 28,600 บาท ได้ก�าไร 10%
ขั้นที่ 2
หา โดยเขียนสัดส่วนแสดงอัตราส่วนโดยให้ลา� ดับของ วางแผนแก้ปญั หา สิ่งที่เปรียบเทียบในแต่ละอัตราส่วนเป็นล�าดับเดียวกัน ไร 10% การขายครั้งนี้ได้กา� ไร 10% งละ a บาท ให้เครื่องคิดเลขมีราคาต้นทุนเครื่องละ
วิธีทำ�
วิธีที่ 1
วิธีที่ 2 ราคาต้นทุน (ต่ (ต่อเครื่อง)
a 28,600 80
นักเรียนควรรู 1 ตนทุน ครูควรเนนยํ้ากับนักเรียนวา โจทยปญหาที่เกี่ยวกับราคาขาย กําไร รอยละและตนทุน จะตองนําตนทุนราคา 100 บาท เปนหลักสําคัญในการเขียน สัดสวน หรือหาคําตอบ
ราคาต้นทุนทั้งหมด 100 110
=
80a 28,600
ราคาขาย ราคาขาย (ต่ (ต่อเครื่อง)
=
100 110
ราคาขายทั้งหมด
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
พอคาซื้อเงาะมา 45 กิโลกรัม เปนเงิน 600 บาท ขายในราคากิโลกรัมละ 18 บาท ได 27 กิโลกรัม ที่เหลือขายในราคากิโลกรัมละ 13 บาท พอคาจะได กําไรหรือขาดทุนกี่เปอรเซ็นต 1. ขาดทุน 20% 2. เทาทุน 3. กําไร 15% 4. กําไร 20% วิเคราะหคําตอบ พอคาซื้อเงาะมา 45 กิโลกรัม ราคา 600 บาท ขาย 27 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 18 บาท ไดเงิน 486 บาท เหลือเงาะ 18 กิโลกรัม ขายราคากิโลกรัมละ 13 บาท ไดเงิน 234 บาท รวมขายไดเงิน 486 + 234 = 720 บาท พอคาไดกําไร (720 - 600) = 120 บาท ทุน 600 บาท ไดกําไร 120 บาท 120 ทุน 100 บาท ไดกําไร 600 × 100 = 20 บาท ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 4.
30
คู่มือครู
กระตุ้นความสนใจ Engage
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้ อธิบExplain ายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
ส�ารวจค้ Exploreนหา
31
ขั้นที่ 3 ด�าเนินการตามแผนที่วางไว้
วิธีที่ 1 ให้เครื่องคิดเลขมีราคาต้นทุนเครื่องละ a บาท ขายเครื่องคิดเลข 80 เครื่อง ได้เงิน 28,600 บาท จะได้ว่าขายเครื่องคิดเลขเครื่องละ 28,600 80 = 357.50 บาท อัตราส่วนราคาต้นทุนต่อราคาขายเครื่องคิดเลขเป็น a : 357.50 เมื่อขายได้ก�าไร 10% หมายความว่า ราคาต้นทุนเป็น 100 บาท ได้ก�าไร 10 บาท อัตราส่วนราคาต้นทุนต่อราคาขายเครื่องคิดเลขเป็น 100 : 110 a = 100 จะได้ 357.50 110 357.50 a = 100 ×110 a = 325 นั่นคือ เครื งละ 325 บาท เครื่องคิดเลขนี้ต้นทุนราคาเครื่องละ 325 บาท วิธีที่ 2 ให้เครื่องคิดเลขมีราคาต้นทุนเครื่องละ งละ a บาท a บาท ราคาต้นทุนทั้งหมดของเครื่องคิดเลข เลข 80 เครื 80 เครื่อง เท่ ง เท่ากับ 80a บาท 80a บาท อัตราส่วนราคาต้นทุนทัง้ หมดต่อราคาขายทัง้ หมดเป็น 80a : 28,600 80a : 28,600 เมือ่ ขายได้กา� ไร 10% ราคาต้ ไร 10 บาท 10% ราคาต้นทุน 100 บาท ได้ 100 บาท ได้กา� ไร 10 บาท อัตราส่วนราคาต้นทุนต่อราคาขายเป็น 100 : 110 100 : 110 80a = 100 จะได้ 28,600 110 × 28,600 28,600 a = 100 110 × 80 110 80
a = 325 นั่นคือ เครื่องคิดเลขนี้ต้นทุนราคาเครื่องละ 325 บาท
ส�ารวจค้นหา
Explore
กอนใหนักเรียนแตละกลุมศึกษาตัวอยางที่ 2 หนา 30-32 ครูใชการถาม-ตอบประกอบคําอธิบาย เพื่อใหนักเรียนเกิดความคิดรวบยอด การแปล ความโจทยปญหา แลวนํามาเขียนเปนสัดสวน ตามขั้นตอน ดังนี้ • ใหนักเรียนอานโจทยปญหา พรอมบอกสิ่งที่ โจทยถามและสิ่งที่โจทยกําหนด • สําหรับขั้นที่ 2 การวางแผนแกปญหาเปน ขัน้ ตอนทีส่ าํ คัญทีส่ ดุ ครูใชคาํ ถามใหนกั เรียน คิดวิเคราะห เชื่อมโยงความสัมพันธจาก จํานวนในขั้นที่ 1 ทั้งสองขอยอยดังนี้ - ไดกําไร 10% แปลความไดอยางไรบาง (แนวตอบ ราคาทุน 100 บาท ไดกําไร 10 บาท ราคาขาย 110 บาท) - นักเรียนจะนําจํานวนเงิน 28,600 บาท ไปเขียนอัตราสวนหรือไม เพราะเหตุใด ถาไมใช เพราะเหตุใด (แนวตอบ ใชในการเขียนอัตราสวน เพราะ เปนราคาขาย ไมใชเขียนอัตราสวนเพราะ วาโจทยถามราคาตนทุนตอ 1 เครื่อง จึงใช 28,600 ÷ 80 = 375.50 บาท)
อธิบายความรู้
Explain
จากตัวอยางที่ 2 ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกัน ตอบคําถามตอไปนี้ • โจทยปญหานี้ นักเรียนจะเขียนสัดสวนโดย ใชอัตราสวน กําไร : ราคาขาย ไดหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ ไมได เพราะวาโจทยไมไดกําหนด กําไรทั้งหมด) • โจทยขอนี้ถาไมสามารถใชอัตราสวนนี้ได จะตองทําอยางไร เพราะเหตุใด (แนวตอบ ราคาขาย : ราคาตนทุน เพราะวา โจทยกําหนดราคาขายเครื่องคิดเลขทั้ง 80 เครื่อง)
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
แมคาซื้อโทรศัพทเคลื่อนที่มาเครื่องหนึ่งราคา 16,000 บาท จะตั้งราคาขายเทาไร โดยจะลดราคาใหผูซื้อ 20% แลวยังคงไดกําไร 10% 1. 18,000 บาท 2. 22,000 บาท 3. 26,000 บาท 4. 33,000 บาท วิเคราะหคําตอบ ใหตั้งราคา x บาท ลดราคาใหผูซื้อ 20 % แสดงวาตั้งราคา 100 บาท ขายในราคา 80 บาท 80x บาท ตั้งราคา x บาท ขายในราคา 100 แลวยังไดกําไร 10% แสดงวาทุน 100 ขายจริง 110 บาท ขาย 110 บาท ทุน 100 บาท 80x บาท ทุน 100 × 80x = 80x บาท ขาย 100 110 100 110
แมคาซื้อสินคามาในราคา 16,000 บาท 80x นั่นคือ 110 = 16,000 x = 16,00080× 110
แมคาจะตั้งราคาขาย เทากับ 22,000 บาท ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 2.
คู่มือครู
31
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้ อธิบExplain ายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
Engage
ส�ารวจค้นหา
ส�ารวจค้ Exploreนหา
Explore
กอนใหนักเรียนแตละกลุมศึกษาตัวอยางที่ 3 ครูใชการถาม-ตอบประกอบคําอธิบาย เพือ่ ใหนกั เรียน เกิดความคิดรวบยอด การแปลความโจทยปญหา แลวนํามาเขียนเปนสัดสวนตามขั้นตอน ดังนี้ • ใหนักเรียนอานโจทยปญหา พรอมบอกสิ่งที่ โจทยถามและสิ่งที่โจทยกําหนด • สําหรับขั้นที่ 2 การวางแผนแกปญหาเปนขั้น ตอนที่สําคัญที่สุด ครูใชคําถามใหนักเรียนคิด วิเคราะห เชื่อมโยงความสัมพันธจากจํานวน ในขั้นที่ 1 ทั้งสองขอยอยดังนี้ • โจทยปญหานี้มีความเหมือนหรือแตกตาง จากตัวอยางที่ 2 หรือไม อยางไร (แนวตอบ เหมือนกัน คือมีราคาขายตอ 1 เครื่อง แตกตางกัน คือโจทยมีทั้งขาดทุน และกําไรเปนรอยละ)
อธิบายความรู้
Explain
จากตัวอยางที่ 3 ใหตอบคําถามตอไปนี้ • นักเรียนคิดวา ขอความ “ขาดทุน 10% แลว กําไร 10%” แปลความไดอยางไรบาง (แนวตอบ ราคาทุน 100 บาท กําไร 10 บาท ราคาขาย 110 บาท ขาดทุน 10 บาท ราคาขาย 90 บาท) • จากขาดทุน 10% และกําไร 10% นักเรียนนํา ราคาขายที่ขาดทุนและราคาขายที่ไดกําไรไป เขียนเปนอัตราสวนไดหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ นําราคาขายที่ขาดทุนและราคาขาย ที่ไดกําไรไปเขียนเปนอัตราสวนได เพราะวา ทัง้ ขายขาดทุนและไดกาํ ไรนีม้ รี าคาทุนเทากัน) • นักเรียนจะเขียนอัตราสวนที่เทากันโดยใช ความหมายใดไดบาง (แนวตอบ ราคาขายที่ขาดทุน : ราคาทุน และ ราคาขายไดกําไร : ราคาทุน และราคาขาย ที่ขาดทุน : ราคาที่ไดกําไร)
32
ตัวอย่3างที่ ขายวิทยุเครื่องหนึ่งราคา 4,500 บาท ขาดทุน 10% ถ้าต้องการขายให้ได้ก�าไร 10% จะต้องขายวิทยุเครื่องนี้ราคาเครื่องละกี่บาท
วิธีทำ�
ให้วิทยุเครื่องนี้มีราคาต้นทุนเครื่องละ a บาท ขายราคาเครื่องละ 4,500 บาท อัตราส่วนราคาต้นทุนต่อราคาขายวิทยุเป็น a : 4,500 แต่ขายขาดทุน 10% 10% หมายความว่า ราคาต้นทุนเป็น 100 บาท ขาดทุน 10 บาท อัตราส่วนของราคาต้นทุนต่อราคาขายวิทยุเป็น 100 : 90 aa = 100 100 จะได้ 4,500 90 100 × 4,500 4,500 a = 100 90
a
นั่นคือ วิทยุเครื่องนี้มีราคาต้นทุนเครื่องละ งละ 5,000 บาท ต้องการให้ได้กา� ไร 10% 10% หมายความว่า ราคาต้นทุนเป็น 100 บาท ได้ 100 ก�าไร 10 บาท อัตราส่วนของราคาต้นทุนต่อราคาขายวิทยุเป็น 100 : 110
ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเพิม่ เติมเกีย่ วกับประโยชนจากการแกโจทยปญ หา รอยละ วานักเรียนสามารถจะนําความรูไปประยุกตตอชีวิตประจําวันไดอยางไร เชน การเปรียบเทียบราคาสินคา การคํานวณราคาสินคา เปนตน
มุม IT ศึกษาขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวอยางโจทยปญหารอยละ ไดที่ http://ripn-math.com/app/mq/01-percent-in-daily-life/12-percen.html
คู่มือครู
ตรวจสอบค�าตอบ ถ้าราคาต้นทุนเครือ่ งละ 325 บาท และขายในราคาเครือ่ งละ 357.50 บาท จะได้ก�าไรเป็นเงิน 357.50 - 325 = 32.5 บาท คิดเป็นก�าไรร้อยละ 32.5 × 100 = 10 ตามที่โจทย์ก�าหนด 325
ตอบ ดังนั้น เครื่องคิดเลขนี้ต้นทุนราคาเครื่องละ 325 บาท จากล�าดับขัน้ ตอนการแก้โจทย์ปญั หาร้อยละ ซึง่ แสดงในตัวอย่างที่ 1 และ 2 เมือ่ นักเรียน ฝึกจนช�านาญแล้ว อาจแสดงวิธีท�าโดยไม่ต้องแสดงรายละเอียดของแต่ละขั้นตอนได้ ดังตัวอย่าง ต่อไปนี้
เกร็ดแนะครู
32
ขั้นที่ 4
= 5,000
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
รานคาแหงหนึ่งตั้งราคาขายใหไดกําไร 30% แตลดราคาใหผูซื้อ 20% ถามีผูซื้อสินคานี้ รานคาจะไดกําไรหรือขาดทุนกี่เปอรเซ็นต 1. กําไร 10% 2. กําไร 4% 3. ขาดทุน 10% 4. ขาดทุน 4% วิเคราะหคําตอบ ใหตนทุนสินคาราคา 100 บาท ตั้งราคาขายใหไดกําไร 30% แสดงวาติดราคาขาย 130 บาท แตลดราคาใหผูซื้อ 20% แสดงวาติดราคา 100 บาท ลดลง 20 บาท 20 × 130 บาท ดังนั้น ถาติดราคา 130 บาท ลดลง 100 = 26 บาท แสดงวา ขายในราคา 130 - 26 = 104 บาท นั่นคือ ตนทุน 100 บาท ขาย 104 บาท ไดกําไร 4% ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 2.
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
Engage
Explore
อธิบายความรู้ อธิบExplain ายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
33
ให้ขายวิทยุราคาเครื่องละ y บาท อัตราส่วนของราคาต้นทุนต่อราคาขายวิทยุเป็น 5,000 : y 100 จะได้ 5,000 y = 110 y = 5,000 100× 110
y = 5,500 ดังนั้น จะต้องขายวิทยุราคาเครื่องละ 5,500 บาท จึงจะได้ก�าไร 10% ตอบ
โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับการลดราคา ตัวอย่4างที่ สุภกั ษรซือ้ วิทยุเครือ่ งหนึง่ ได้สว่ นลด 15% ของราคาทีต่ ดิ ไว้ ซึง่ คิดเป็นเงินส่วนลดทัง้ หมด 600 บาท จงหาราคาที่ติดไว้
วิธีทำ�
ให้ติดราคาวิทยุเป็นเงิน a บาท ได้รับส่วนลดทั้งหมด 600 บาท อัตราส่วนของราคาที่ติดไว้ต่อเงินส่วนลดเป็น a : 600 a : 600 ได้รับส่วนลด 15% ของราคาที่ติดไว้ หมายความว่า ติดราคาวิทยุใช้ 100 บาท จะได้ 100 บาท จะได้รับส่วนลด 15 บาท นลด 15 บาท อัตราส่วนของราคาที่ติดไว้ ต่อเงินส่วนลดเป็น 100 : 15 100 : 15 a 100 100 จะได้ 600 = 15 100 × 600 600 a = 100 15 a = 4,000
นั่นคือ ติดราคาวิทยุไว้ 4,000 บาท
อธิบายความรู้
Explain
1. ครูสุมนักเรียน 2 กลุม สงตัวแทนแสดงขั้นตอน การแกโจทยปญหาตัวอยางที่ 4 จากนั้นให นักเรียนกลุมอื่นๆ รวมแสดงความคิดและ สรุปขั้นตอน 2. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันตอบคําถาม ตอไปนี้ • นักเรียนคิดวา ขอความ “ไดสวนลด 15% ของราคาที่ติดไว” แปลความไดอยางไรบาง (แนวตอบ ราคาที่ติดไว 100 บาท ไดสวนลด 15 บาท ผูซื้อจายเงิน 85 บาท) • การเขียนในรูปสัดสวนของตัวอยางนี้ นักเรียนคิดวามีความเหมาะสมหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ เหมาะสม เพราะวารอยละ และ จํานวนที่โจทยกําหนดมีความสัมพันธกัน โดยตรงที่จะใหไดคําตอบ)
ตอบ
ขอสอบ
O-NET
ขอสอบป ’ 51 ออกเกี่ยวกับโจทยปญหารอยละ ตองการทําเคกรูปทรงกระบอกชิ้นหนึ่งที่มีเสนผานศูนยกลาง 28 เซนติเมตร เปนชั้นๆ ดังนี้ ชั้นที่ 1 เปนเนื้อเคกหนา 3 เซนติเมตร ชั้นที่ 2 เปนแยมหนา 1 เซนติเมตร ชั้นที่ 3 เปนเนื้อเคกหนา 2 เซนติเมตร ชั้นที่ 4 เปนครีมหนา 1.5 เซนติเมตร ถาเนื้อเคก 100 ลูกบาศกเซนติเมตร ราคา 10 บาท แยม 100 ลูกบาศกเซนติเมตร ราคา 25 บาท และครีม 100 ลูกบาศกเซนติเมตร ราคา 25 บาท ถาตองการกําไรจากการขายเคกกอนนี้ 20% จะตองตั้งราคาขายเคกกอนนี้ไวที่ กี่บาท 1. 138.60 บาท 2. 693.00 บาท 3. 831.60 บาท 4. 925.40 บาท วิเคราะหคําตอบ หาปริมาตรของเนื้อเคก แยมและครีม พรอมหาตนทุนของแตละชนิด จะไดทุนของเคกกอนนี้ (308 + 154 + 231) = 693 บาท ขายเคกกอนนี้ใหไดกําไร 20% ตั้งราคาขาย = 120 100 × 693 = 831.60 บาท ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 3.
คู่มือครู
33
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
Engage
Explore
อธิบายความรู้
อธิบายความรู้ อธิบExplain ายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
Explain
1. ครูสุมนักเรียน 2 กลุม สงตัวแทนแสดงขั้นตอน การแกโจทยปญหาตัวอยางที่ 5 จากนั้นให นักเรียนกลุมอื่นๆ รวมแสดงความคิดและ สรุปขั้นตอน 2. ใหนกั เรียนแตละกลุม รวมกันตอบคําถามตอไปนี้ • นักเรียนคิดวา ขอความ “ลดราคา 5% จะทําใหไดกําไร 10%” แปลความไดอยางไร (แนวตอบ ราคาประกาศ 100 บาท ราคาขาย 95 บาท และราคาทุน 100 บาท ราคาขาย 110 บาท) • โจทยขอนี้มีตัวแปรใดบาง แตละตัวแปร แทนสิ่งใด (แนวตอบ a แทนราคาขายของสินคา y แทน ราคาตนทุนของสินคา) • ตัวอยางที่ 5 มีความเหมือนกันหรือแตกตาง จากตัวอยางที่ 4 หรือไม อยางไร (แนวตอบ เหมือนกัน คือเปนโจทยปญหา เกี่ยวกับรอยละที่มีสถานการณเกี่ยวของกับ การลดราคาสินคา) • ตัวอยางที่ 5 มีรอยละ 2 จํานวนเหมือนกับ ตัวอยางที่ 3 นักเรียนคิดวา โจทยปญหานี้ เขียนเปนสัดสวนเพียง 1 ครั้ง เพื่อหาราคา ทุนไดหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ ไมได เพราะวาจํานวนเงิน 100 บาท ที่ใชเปนฐานของรอยละไมไดแทน สิ่งเดียวกัน) • การเขียนในรูปสัดสวนของตัวอยางที่ 5 นักเรียนมีความเห็นแตกตางหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบไดหลากหลาย 100 เชน ใช 200 a = 95 เปนตน)
34
1 ตัวอย่5างที่ ร้านค้าแห่งหนึง่ ติดราคาขายสินค้าชนิดหนึง่ ในราคา 2,000 บาท ถ้าลดราคา 5% จะท�าให้ ได้ก�าไร 10% จงหาราคาทุนของสินค้านี้
วิธีทำ�
EB GUIDE
นักเรียนควรรู 1 ลดราคา 5% ขอความนี้ หมายความวา สินคาที่ประกาศขาย 100 บาท ลดใหผูซื้อ 5 บาท แสดงวาผูซื้อจะจายเงินเพียง 95 บาท 2 ราคาที่ติดไว เพื่อความเปนธรรมแกผูบริโภค ทางราชการไดมีระเบียบให ผูจําหนายสินคา ติดปายราคาสินคาที่จําหนายใหผูบริโภคเห็นไดอยางชัดเจนและ เปนไปตามหลักเกณฑที่กําหนด ผูฝาฝนจะมีความผิดตามกฎหมายวาดวยราคา สินคาและบริการ มีโทษปรับไมเกิน 10,000 บาท ทั้งนี้ผูบริโภคสามารถรองเรียน ไดที่สายดวนกรมการคาภายใน โทร 1569
34
คู่มือครู
ให้ขายสินค้านี้ราคา a บาท 2 อัตราส่วนของราคาขายต่อราคาที่ติดไว้ของสินค้านี้เป็น a : 2,000 ขายสินค้านี้โดยลดราคา 5% อัตราส่วนของราคาขายต่อราคาที่ติดไว้ของสินค้านี้เป็น 95 : 100 a = 95 จะได้ 2,000 100 2,000 a = 95 ×100 a = 1,900 นั่นคือ ขายสินค้านี้ราคา 1,900 บาท
ให้ราคาต้นทุนของสินค้านี้เท่ากับ y บาท อัตราส่วนของราคาต้นทุนต่อราคาขายเป็น y : 1,900 การขายครั้งนี้ได้ก�าไร 10% หมายความว่า ราคาต้นทุนเป็น 100 บาท ก�าไร 10 บาท อัตราส่วนของราคาต้นทุนต่อราคาขายเป็น 100 : 110 y = 100 จะได้ 1,900 110 × 1,900 y = 100 110 y ≈ 1,727.27 ดังนั้น ราคาต้นทุนของสินค้านี้ประมาณ 1,727.27 บาท ระมาณ
ตอบ
http://www.aksorn.com/LC/Math B1/M2/02
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
ขายพัดลมราคา 376 บาท ขาดทุน 6% ถาขายราคา 424 บาท จะได กําไรหรือขาดทุนรอยละเทาไร 1. ขาดทุนรอยละ 3 2. กําไรรอยละ 3 3. กําไรรอยละ 6 4. เทาทุน วิเคราะหคําตอบ ขาดทุน 6% ทุน 100 บาท ขาดทุน 6 บาท ขาย 94 บาท ทุน 100 บาท 100 × 376 = 400 บาท ขาย 376 บาท ทุน 94 ทุน 400 บาท ขาย 424 บาท จะไดกําไร (424 - 400) = 24 บาท ทุน 400 บาท กําไร 24 บาท × 100 = 6 บาท ทุน 100 บาท กําไร 24 400 จะไดกําไรรอยละ 6 ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 3.
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
Engage
Explore
อธิบายความรู้ อธิบExplain ายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
35
โจทย์เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ตัวอย่6างที่ ร้านค้าแห่งหนึ่งก�าหนดราคาขายสินค้า โดยคิดจากราคาที่ตั้งไว้บวกกับภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ของราคาที่ตั้งไว้ ถ้าราคาที่ตั้งไว้ของสินค้าชนิดหนึ่งเป็นเงิน 2,400 บาท จะต้อง ก�าหนดราคาขายสินค้านี้กี่บาท
วิธีทำ�
ก�าหนดให้ราคาขายสินค้านี้เท่ากับ a บาท ตั้งราคาไว้ 2,400 บาท อัตราส่วนของราคาขายต่อราคาที่ตั้งไว้เป็น a : 2,400 เนื่องจาก คิดภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ของราคาที่ตั้งไว้ หมายความว่า อัตราส่วนของภาษีมูลค่าเพิ่มต่อราคาที่ตั้งไว้เป็น 7 : 100 จะได้ อัตราส่วนของราคาขายต่อราคาที่ตั้งไว้เป็น 107 : 100 a = 107 จะได้ 2,400 100 a = 107 × 2,400 100 a = 2,568 ดังนั้น ร้านค้าแห่งนี้จะต้องก�าหนดราคาขายสินค้านี้ 2,568 2,568 บาท บาท ตอบ
อธิบายความรู้
Explain
จากตัวอยางที่ 6 ใหนักเรียนตอบคําถาม ตอไปนี้ • นักเรียนคิดวา ขอความ “คิดจากราคาที่ตั้ง ไวบวกกับภาษีมูลคาเพิ่ม 7 % ของราคาที่ ตั้งไว” แปลความไดอยางไร (แนวตอบ ราคาที่ตั้งไว 100 บาท คิดราคาขาย 107 บาท) • โจทยขอนี้มีตัวแปรใดบาง แตละตัวแปร แทนสิ่งใด (แนวตอบ a แทนราคาขายของสินคา) • การเขียนในรูปสัดสวนของตัวอยางที่ 6 นักเรียนมีความเห็นแตกตางหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ ไมแตกตาง เพราะวานําเสนอไว เหมาะสมแลว)
คณิตคิดสนุก ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งซื้อโทรศัพท์มือถือในราคาเครื่องละ งละ 3,000 บาท และติ 3,000 บาท และติดราคาขายเครื่องละ งละ 6,000 บาท แต่ 6,000 บาท แต่ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจไม่ดี จึงลดราคาเหลือ 4,800 บาท และลดราคาอี บาท และลดราคาอีกครั้งเหลือ 3,840 บาท แต่ 3,840 บาท แต่ยังขายไม่ได้ จึงลด ราคาอีกครั้ง จงหาว่าการลดราคาครั้งนี้จะยังคงได้ก�าไร หรือขาดทุน หรื หรือเท่าทุน ถ้ถ้าการลดราคาครัง้ นี้มีจา� นวนเปอร์เซ็นต์ ที่ลดราคาเท่ากับ จ�านวนเปอร์เซ็นต์ของการลดราคาของสองครั้งที่ผ่านมา
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
เจาของที่ดินแหงหนึ่งตองการขายที่ดินแปลงหนึ่งในราคา 13,500,000 บาท โดยใหคานายหนารอยละ 5 แตผูซื้อขอลดราคาอีก 4% จากราคาขาย เจาของ จะไดรับเงินจากการขายที่ดินราคาเทาไร 1. 12,150,000 บาท 2. 12,285,000 บาท 3. 12,420,000 บาท 4. 12,825,000 บาท
เฉลย คณิตคิดสนุก
แนวตอบ หางสรรพสินคาลดราคาครั้งที่ 1 คิดเปนรอยละ 1,200 6,000 × 100 = 20 ในการขายครั้งที่ 3 ลดราคาคิดเปนรอยละ 20 เทากับครั้งที่ 1 และ ครั้งที่ 2 ดังนั้น ราคาขายในครั้งที่ 3 คิดเปนรอยละ 80 ของ 3,840 บาท 80 จะไดราคาขาย เทากับ 100 × 3,840 = 3,072 บาท นั่นคือ จะยังคงไดกําไร เทากับ 3,072 - 3,000 = 72 บาท
วิเคราะหคําตอบ เจาของที่ดินเสียคานายหนา 5% และตองลดราคาให ผูซื้ออีก 4% เจาของที่ดินจะตองเสียคานายหนาและลดราคารวม 9% ที่ดินราคา 100 บาท เจาของที่ดินจะไดรับเงิน 91 บาท ที่ดินราคา 13,500,000 บาท = 12,285,000 เจาของที่ดินจะไดรับเงิน = 91 × 13,500,000 100 ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 2. คู่มือครู
35
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
Engage
Explore
อธิบายความรู้
อธิบายความรู้ อธิบExplain ายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
Explain
จากตัวอยางที่ 7 ใหนักเรียนตอบคําถาม ตอไปนี้ • นักเรียนคิดวา ขอความที่วา “คิดจากราคา ทุนรวมกับภาษีมูลคาเพิ่มอีก 7% ของราคา ทุน” แปลความไดอยางไร (แนวตอบ ราคาทุน 100 บาท ราคาขายสินคา เทากับ 107 บาท) • โจทยขอนี้มีตัวแปรใดบาง แตละตัวแปรแทน สิ่งใด (แนวตอบ x แทนราคาที่ตั้งไว y แทนราคาขายสินคา) • ตัวอยางที่ 7 มีความเหมือนหรือแตกตางจาก ตัวอยางที่ 6 หรือไม อยางไร (แนวตอบ มีภาษีมูลคาเพิ่ม 7% เหมือนกัน แตแตกตางกัน ดังนี้ ตัวอยางที่ 6 เปนรอยละจากราคาที่ตั้งไว ตัวอยางที่ 7 เปนรอยละจากราคาทุน) • ตัวอยางที่ 7 มีรอยละ 2 จํานวนเหมือนกับ ตัวอยางที่ 3 และตัวอยางที่ 5 นักเรียนคิดวา โจทยปญหานี้เขียนเปนสัดสวนเพียง 1 ครั้ง เพื่อหาราคาขายไดหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ ไมได เพราะวาเปนรอยละที่ใชฐาน 100 ตางกัน) • การเขียนในรูปสัดสวนของตัวอยางที่ 7 นักเรียนมีความเห็นแตกตางหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ ไมเห็นแตกตาง เพราะวาวิธที นี่ าํ เสนอ เหมาะสมแลว)
36
ตัวอย่7างที่ ร้านค้าแห่งหนึ่งมีวิธีการก�าหนดราคาขายสินค้าโดยคิดจากราคาทุนรวมกับภาษีมูลค่า เพิม่ อีก 7% ของราคาทุน และบวกกับก�าไรทีต่ อ้ งการ ถ้าร้านค้าแห่งนีซ้ อื้ สินค้ามาในราคา 2,000 บาท ต้องการขายให้ได้ก�าไร 10% จะต้องก�าหนดราคาขายสินค้านี้กี่บาทจึงจะ ได้ก�าไรตามที่ต้องการ
วิธีทำ�
ให้ราคาที่ตั้งไว้เป็น x บาท และสินค้ามีราคาทุน 2,000 บาท คิดภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% ของราคาทุน x 107 จะได้ 2,000 = 100 × 2,000 x = 107 100 x = 2,140 นั่นคือ ราคาที่ตั้งไว้เท่ากับ 2,140 บาท
ให้ราคาขายเป็น y บาท และต้องการขายให้ได้ก�าไร 10% ของราคาที่ตั้งไว้ y = 110 จะได้ 2,140 100 × 2,140 y = 110 100 y = 2,354 ดังนั้น ถ้าต้องการก�าไร ไร 10% จากราคาที 10% จากราคาทีต่ งั้ ไว้ ต้องก�าหนดราคาขายสินค้านี้ ตอบ เท่ากับ 2,354 บาท 2,354 บาท
เปิดโลกคณิตศาสตร์ เมื่อฝากเงินไว้กับธนาคาร ธนาคาร ธนาคารจะให้ ธนาคารจะให้ดอกเบี้ย โดยก�าหนดอัตราดอกเบี้ย เป็นร้อยละต่อปี แต่อาจ ก�าหนดวาระที่ครบก�าหนด เป็ หนด เป็น 3, 6, 12 เดื 3, 6, 12 เดือนหรือมากกว่า การคิดดอกเบี้ยที่ถูกต้องจะต้องคิดปีละ 365 วัน (ทั้งนี้ไม่ว่าปีปฏิทินที่ฝากนั้นจะมี 365 หรื 365 อ 366 วัน ก็ตาม) ในกรณีฝากเงินเป็นเวลา 3 หรือ 6 เดือน ให้ใช้ จ�านวนวันใน 3 เดื เดือนน หรื หรือ 6 เดือน มาค�านวณ เช่น การคิดดอกเบีย้ ของเงินฝาก 4,000 บาท ในระยะเวลา 3 เดือน (91 (91 วัวัน)) อัอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 ต่ ยละ 0.75 ต่อปี ค�านวณดอกเบี้ยได้ดังนี้ 4,000 บาท 91 วัน × 0.75 0.75 = 7.48 บาท ดอกเบี้ยที่ได้รับเป็นเงิน 4,000 บาท × 91 วั 365 วัน × 100 ทีม่ า : การค�านวณดอกเบีย้ ฝากประจ�า 3 เดือน โดยไม่หกั ภาษีดอกเบีย้ ของธนาคารไทยพาณิชย์ ณ วันที ่ 23 สิงหาคม 2553
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
อัตราสวนของจํานวนสามจํานวนเปน 2 : 3 : 5 ถาผลบวกของกําลังสองของจํานวนทั้งสามเปน 1862 แลวผลคูณของ จํานวนทั้งสามจํานวนเปนเทาไร 1. 490 2. 1,470 3. 1,862 4. 10,290
36
วิเคราะหคําตอบ อัตราสวนของจํานวนทั้งสามจํานวนเปน 2x : 3x : 5x กําลังสองของจํานวนทั้งสามจํานวนคือ (2x)2 : (3x)2 : (5x)2 ผลบวกของกําลังสองของทั้งสามจํานวนเปน 1862 4x2 + 9x2 + 25x2 = 1862 38x2 = 1862 x2 = 1862 38 = 49 x = 7 ดังนั้น 2x = 14 3x = 21 5x = 35 ผลคูณของทั้งสามจํานวนเทากับ 10290 ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 4. คู่มือครู
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
Engage
Explore
อธิบายความรู้ อธิบExplain ายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
37
ตัวอย่8างที่ เจฝากเงินที่ธนาคารแห่งหนึ่งเป็นเงิน 50,000 บาท ธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ยให้ร้อยละ 1.75 ต่อปี และต้องเสียภาษีดอกเบี้ย 15% ถ้าเจฝากครบ 2 ปี แล้วต้องการถอนเงิน ทั้งหมด เขาจะได้รับเงินเท่าไร
วิธีทำ�
วางแผนแก้ปัญหา โดยเขียนแผนผังแสดงแนวคิดได้ดังนี้ ให้ เมื่อครบ 1 ปี เจได้รับดอกเบี้ย a บาท และ เสียภาษีดอกเบี้ย b บาท เมื่อครบ 2 ปี เจได้รับดอกเบี้ย c บาท และ เสียภาษีดอกเบี้ย d บาท
เงินต้นปีที่ 1
50,000 บาท
ดอกเบี้ยปีที่ 1
a = 1.75 50,000 100
ภาษีดอกเบี้ยปีที่ 1
b 875
= 15 100
ดอกเบี้ยปีที่ 1 หลังหักภาษี
875 - 131.25 = 743.75
เงินต้นปีที่ 2
50,000 + 743.75 = 50,743.75 50,000 + 743.75 = 50,743.75
a = 875 b = 131.25
ดอกเบี้ยปีที่ 2
c = 1.75 50,743.75 100
888.02 c = 888.02
ภาษีดอกเบี้ยปีที่ 2
d = 15 888.02 100
133.20 d = 133.20
ดอกเบี้ยปีที่ 2 หลังหักภาษี
888.02 - 133.20 = 754.82
เงินฝากทั้งหมด เมื่อครบ 2 ปี
50,743.75 + 754.82 = 51,498.57
อธิบายความรู้
Explain
จากตัวอยางที่ 8 ใหนักเรียนตอบคําถาม ตอไปนี้ • โจทยปญหาขอนี้ มีขอความใดบางที่แสดง ใหเห็นวาเกี่ยวของกับเรื่องรอยละ (แนวตอบ คิดอัตราดอกเบี้ยใหรอยละ 1.75 และตองเสียภาษีดอกเบี้ย 15%) • จากขอความที่วา “ธนาคารคิดอัตรา ดอกเบี้ยใหรอยละ 1.75 ตอป” แปลความ ไดอยางไร (แนวตอบ ฝากเงินธนาคาร 100 บาท ครบ 1 ป จะไดรับดอกเบี้ย 1.75 บาท) • โจทยปญหาขอนี้ใชตัวแปรใดบางและ ตัวแปรแทนสิ่งใด (แนวตอบ ใชตัวแปร a แทนไดรับดอกเบี้ย ครบ 1 ป b แทนเสียภาษีดอกเบี้ยครบ 1 ป c แทนไดรับดอกเบี้ยครบ 2 ป d แทนเสียภาษีดอกเบี้ยครบ 2 ป) • เมื่อฝากเงินครบ 1 ป เจไดรับดอกเบี้ยเทาไร (แนวตอบ เจไดรับดอกเบี้ย 743.75 บาท) • การเขียนแผนผังแสดงความคิดนี้ นักเรียน คิดวามีประโยชนอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดหลากหลาย เชน สามารถจัดลําดับขัน้ ตอน และความคิด งายตอการเขาใจกระบวนการ แกปญหา เปนตน)
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
ปาลมซื้อตูเย็นราคา 6,420 บาท ซึ่งรวมภาษีมูลคาเพิ่ม 7% ของราคาสินคานั้น ปาลมอยากทราบวาจายคา ภาษีมูลคาเพิ่มไปเทาไร 1. 240 บาท 2. 380 บาท 3. 420 บาท 4. 448 บาท วิเคราะหคําตอบ ราคาตูเย็นที่ซื้อ = ราคาที่ตั้งไว + ภาษีมูลคาเพิ่ม 7% ใหราคาที่ตั้งไวเปน x บาท 7x 6420 = x + 100 6420 = 107x 100 6,420 × 100 = 6,000 x = 107 7 × 6,000 = 420 บาท ภาษีมูลคาเพิ่ม = 100 ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 3.
คู่มือครู
37
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
Engage
Explore
อธิบายความรู้
อธิบายความรู้ อธิบExplain ายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
Explain
จากตัวอยางที่ 8 ใหนักเรียนตอบคําถาม ตอไปนี้ • โจทยปญหาขอนี้ เจจะตองเสียภาษีดอกเบี้ย กี่ครั้ง (แนวตอบ เสียภาษีดอกเบี้ย 2 ครั้ง) • เงินตนปที่ 2 เปนจํานวนที่ไดมาอยางไร และ จํานวนเทาไร (แนวตอบ เปนจํานวนที่ไดจากเงินตนป 1 รวม กับดอกเบี้ยของเงินฝากครบปที่ 1 ที่ผานการ เสียภาษีแลว เปนจํานวนเงิน 50,743.75 บาท) • การเขียนในรูปสัดสวนของตัวอยางที่ 8 นักเรียนมีความเห็นแตกตางหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบไดหลากหลาย ไมแตกตาง เพราะวาวิธที นี่ าํ เสนอเหมาะสมแลว เห็นแตกตาง เพราะวาการเขียนสัดสวนเมื่อ จํานวนเงินที่เสียดอกเบี้ยควรเขียนสัดสวนที่ หาเงินตนในปที่ 2 จะสะดวกไมตองนําเงินที่ คํานวณไดมาลบอีกครั้ง)
38
เมื่อครบ 1 ปี เจได้รับดอกเบี้ยเป็นเงิน a บาท a = 1.75 จะได้ 50,000 100 a = 1.75 × 50,000 100 a = 875 จะได้ว่า เมื่อครบ 1 ปี เจได้รับดอกเบี้ยทั้งหมดเป็นเงิน 875 บาท ให้ปีที่ 1 เจต้องเสียภาษีดอกเบี้ยด้วยอัตรา 15% เป็นเงิน b บาท b = 15 จะได้ 875 100 b = 15 × 875 100 b = 131.25 จะได้ว่า ปีที่ 1 เจต้องเสียภาษีดอกเบี้ยเป็นเงิน 131.25 บาท นั่นคือ เมื่อครบ 1 ปี เจได้รับดอกเบี้ยหลังหักภาษีเป็นเงิน 875 - 131.25 = 743.75 บาท เมื่อครบ 2 ปี ครบ 2 ปี เจได้รับดอกเบี้ยเป็นเงิน c บาท เงินต้นปีที่ 2 เท่ 2 เท่ากับ 50,000 + 743.75 = 50,743.75 บาท cc = 1.75 1.75 จะได้ 50,743.75 100 1.75 × 50,743.75 50,743.75 c = 1.75 100 c ≈ 888.02 จะได้ว่า เมื่อครบ ครบ 2 ปี 2 ปี เจได้รับดอกเบี้ยทั้งหมดเป็นเงิน 888.02 บาท ให้ปีที่ 22 เจต้ เจต้องเสียภาษีดอกเบี้ยด้วยอัตรา 15% เป็ รา นเงิน d บาท d = 15 จะได้ 888.02 100 15 × 888.02 888.02 d = 15 100 d ≈ 133.20
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
สมชายฝากเงินไวกับธนาคารแหงหนึ่ง 36,000 บาท เปนเวลา 1 ป อัตราดอกเบี้ยรอยละ 0.75 ตอป และเสียภาษี ดอกเบี้ยเงินฝากรอยละ 15 เมื่อฝากครบ 1 ป สมชายจะมีเงินฝากในบัญชีเทาไร 1. 36,075.50 บาท 2. 36,229.50 บาท 3. 36,270.00 บาท 4. 38,700.00 บาท
38
คู่มือครู
วิเคราะหคําตอบ เมื่อครบ 1 ป สมชายไดรับดอกเบี้ย x บาท x 0.75 35,000 = 100 0.75 × 36,000 = 270 บาท x = 100 สมชายตองเสียภาษีดอกเบี้ย 15% ใหสมชายเสียภาษีดอกเบี้ย y บาท y 15 270 = 100 15 × 270 = 40.5 บาท y = 100 สมชายไดรับดอกเบี้ยจริง (270 - 40.5) = 229.5 บาท สิ้นปสมชายจะมีเงินฝากในบัญชี (36,000 + 229.5) = 36,229.5 บาท ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 2.
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
Engage
Explore
อธิบายความรู้ อธิบExplain ายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
39
จะได้ว่า ปีที่ 2 เจต้องเสียภาษีดอกเบี้ยเป็นเงิน 133.20 บาท นั่นคือ เมื่อครบ 2 ปี เจได้รับดอกเบี้ยหลังหักภาษีเป็นเงิน 888.02 - 133.20 = 754.82 บาท ดังนั้น เมื่อเจฝากเงินครบ 2 ปี เจจะได้รับเงินทั้งหมด 50,743.75 + 754.82 = 51,498.57 บาท
ตอบ
การค�านวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเป็นรายได้ส�าคัญอย่างหนึ่งของรัฐที่น�ามาใช้ในการพัฒนาประเทศและให้บริการ ต่างๆ แก่ประชาชน ภาษีทรี่ ฐั เก็บจากประชาชนมีหลายประเภท เช่น ภาษีมลู ค่าเพิม่ ภาษีสรรพสามิต ภาษีศุลกากร ภาษีเงินได้ เป็นต้น ซึ่งผู้มีรายได้ตามที่กฎหมายก�าหนดจะต้องเสียภาษีเงินได้ตาม หน้าที่ของพลเมืองที่ดี หลักการค�านวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีหนึ่งๆ (มกราคม - ธันวาคม ของปีเดียวกัน) เป็นดังนี้ 1) ค�านวณเงินได้ส่วนที่ต้องน�ามาประเมิน เพื่อเสียภาษีตามที่กฎหมายก�าหนด ทั้งนี้ เรียกเงินจ�านวนนี้ว่า “เงินได้พึงประเมิน” 2) หักค่าใช้จ่ายจากเงินได้พึงประเมินตามที่กฎหมายก�าหนด 3) หักค่าลดหย่อนจากเงินได้พึงประเมินที่หักค่าใช้จ่ายแล้วเรียกเงินจ�านวนนี้ว่า “เงินได้สุทธิ” ซึ่งต้องน�ามาค�านวณภาษีที่ต้องเสียให้แก่รัฐตามอัตราที่ก�าหนดไว้ในกฎหมาย พ.ศ. 2552 ดังต่อไปนี้ ตารางอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เงินได้สุทธิ อัตราภาษี ภาษีในแต่ละ ภาษีสะสมสูงสุด (จ�านวนสูงสุดของขัน้ ) ร้อยละ ของขั้น ขั้นเงินได้ 0 - 100,000 100,000 5 ยกเว้น 0 เกิน 100,000 - 150,000 50,000 10 ยกเว้น 0 เกิน 150,000 - 500,000 350,000 10 35,000 35,000 เกิน 500,000 - 1,000,000 500,000 20 100,000 135,000 เกิน 1,000,000 - 4,000,000 3,000,000 30 900,000 1,035,000 เกิน 4,000,000 ขึ้นไป 37 เงินได้สุทธิ (บาท)
อธิบายความรู้
Explain
ใหนักเรียนแสดงความคิดเห็นตอไปนี้ • ตัวอยางที่ 8 มีความเหมือนหรือแตกตาง จากตัวอยางที่ 6 และตัวอยางที่ 7 หรือไม อยางไร (แนวตอบ เหมือนกัน คือเปนโจทยปญหาที่ เกี่ยวกับภาษี แตกตางกัน คือตัวอยางที่ 6 และตัวอยางที่ 7 เปนโจทยปญหาเกี่ยวกับ ภาษีมูลคาเพิ่มของการซื้อขายสินคา แต ตัวอยางที่ 8 เปนภาษีเกี่ยวกับการเงินซึ่ง เจาหนาที่ธนาคารเปนผูคิดคํานวณ) • นักเรียนคิดวาลักษณะโจทยปญหาของ ตัวอยางที่ 1 ถึงตัวอยางที่ 8 มีลักษณะ เหมือนหรือแตกตางกันอยางไร (แนวตอบ เหมือนกัน คือทุกตัวอยางเปน โจทยปญหาเกี่ยวกับเรื่องรอยละ แตกตางกัน คือสถานการณที่ยกตัวอยาง โดยแบงกลุมโจทยปญหาได ดังนี้ ตัวอยางที่ 1-3 โจทยปญหาเกี่ยวกับกําไร และขาดทุน ตัวอยางที่ 4-5 โจทยปญหาเกี่ยวกับการ ลดราคา ตัวอยางที่ 6-8 โจทยปญหาเกี่ยวกับภาษี) • นักเรียนคิดวา ตัวอยางที่ 8 มีประโยชน หรือไม ถาใหนักเรียนทําโจทยแบบนี้ นักเรียนชอบหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบไดหลากหลาย ตามพืน้ ฐานความรู เชน ไมชอบเพราะมีความ ยุงยากซับซอน ชอบเพราะความรูนี้สามารถ นําไปตรวจสอบความถูกตองได)
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
ซื้อที่ดินแปลงหนึ่งราคา 170,000 บาท ใหเงินผูขายไป 95,000 บาท ที่เหลือผอนเดือนละ 8,000 บาท เปนเวลา 10 เดือน อยากทราบวาเสียดอกเบี้ยในอัตรารอยละเทาไร 1. รอยละ 3 2. รอยละ 5 3. รอยละ 8 4. รอยละ 10 วิเคราะหคําตอบ ที่ดินราคา 170,000 บาท จายเงินไป 95,000 บาท เหลือตองจายอีก (170,000 - 95,000) = 75,000 บาท จายสวนที่เหลือเปนเงินผอนเดือนละ 8,000 บาท เปนเวลา 10 เดือน คิดเปนเงิน (8,000 × 10) = 80,000 ดังนั้นเสียดอกเบี้ย (80,000 - 75,000) = 5,000 บาท อัตราดอกเบี้ย = ดอกเบี้ย × 100 เงินตน × เวลา = 5,000 × 100 = 8% 75,000 × 10 12 ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 3.
คู่มือครู
39
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
Engage
Explore
อธิบายความรู้
อธิบายความรู้ อธิบExplain ายความรู้
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
Explain
ใหนักเรียนแสดงความคิดเห็นตอไปนี้ • ตัวอยางที่ 9 มีความเหมือนกันหรือแตกตาง จากตัวอยางที่ 8 อยางไร (แนวตอบ เหมือนกัน คือเปนโจทยปญหา รอยละที่เกี่ยวของกับเรื่องภาษี และเปนเรื่อง เกี่ยวกับการเงิน แตกตางกัน คือ ตัวอยางที่ 8 เปนโจทยปญหา เกี่ยวกับการเงินซึ่งเจาหนาที่ธนาคารคํานวณ ภาษีที่มีทั้งการเสียภาษีและไดรับดอกเบี้ย แต ตัวอยางที่ 9 เปนเรื่องการชําระภาษีเงินไดซึ่ง ผูมีรายไดสุทธิตามกฎหมายกําหนดตองจาย เงินภาษี) • นักเรียนคิดวา ตัวอยางที่ 9 มีประโยชนหรือไม ถาใหนกั เรียนทําโจทยแบบนีน้ กั เรียนชอบหรือ ไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบไดหลากหลาย ตามพื้นฐานความรู เชน ไมชอบเพราะมีความ ยุง ยากซับซอน ยังไมเกีย่ วของกับตัวเองเพราะ ยังไมมีรายไดจึงไมจําเปนตองรู ชอบเพราะ เปนความรูที่ตองใชในชีวิตประจําวัน)
40
ตัวอย่9างที่ ดนัยมีเงินได้สุทธิ 524,500 บาท ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 40,000 บาท จงหาว่าเมื่อครบปี ทีต่ อ้ งยืน่ แบบแสดงรายการภาษีเงินได้ ดนัยจะต้องช�าระภาษีเพิม่ หรือรับเงินภาษีทชี่ า� ระ ไว้เกินคืนเป็นจ�านวนกี่บาท
วิธีทำ�
เงินได้สุทธิ 150,000 บาทแรก ได้รับการยกเว้นภาษี เงินได้สุทธิ 150,000 บาท ถึง 500,000 บาท เสียภาษี 10% แสดงว่า เงินได้สุทธิที่ต้องเสียภาษี 10% เป็นเงิน 500,000 - 150,000 = 350,000 บาท 10 × 350,000 = 35,000 บาท คิดเป็นเงินภาษี 100 เงินได้สุทธิ 500,000 บาท ถึง 524,500 บาท เสียภาษี 20% แสดงว่า เงินได้สุทธิที่ต้องเสียภาษี 20% เป็นเงิน 524,500 - 500,000 = 24,500 บาท 20 × 24,500 = 4,900 บาท คิดเป็นเงินภาษี 100 จะได้ว่า เงินภาษีที่ต้องช�าระมีค่าเท่ากับ 35,000 + 4,900 = 39,900 บาท เนื่องจากดนัยถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายเป็นเงิน 40,000 บาท ดนัยจะต้องรับเงินภาษีที่ช�าระภาษีไว้เกิน 40,000 - 39,900 = 100 บาท 40,000 - 39,900 = 100 ตอบ ดังนั้น ดนัยจะได้รับเงินภาษีที่ช�าระเกินคืน 100 บาท
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
นํ้าผลไมรวมขวดที่หนึ่งมีนํ้าสมผสมอยู 70% นํ้าผลไมรวมขวดที่สองมีนํ้าสมผสมอยู 90% ถาตองการผสมนํ้าผลไมรวม ทั้งสองขวดใหมีนํ้าสม 85% จะใชนํ้าสมจากขวดที่หนึ่งตอขวดที่สองเปนอัตราสวนเทาไร 1. 1 : 1 2. 1 : 2 3. 1 : 3 4. 2 : 3 70x สวน วิเคราะหคําตอบ ใหนํ้าผลไมรวมขวดที่ 1 มี x สวน มีนํ้าสม 70% = 100 90y สวน นํ้าผลไมรวมขวดที่ 2 มี y สวน มีนํ้าสม 90% = 100 85 (x + y) นํานํ้าสม 2 ชนิดมาผสมกันได x + y สวน และมีนํ้าสม 85% = 100 70x + 90y = 85 (x + y) จะได 100 100 100 70x + 90y = 85x + 85y 15x = 5y x 5 1 y = 15 = 3 อัตราสวนนํ้าสมจากขวดที่ 1 : ขวดที่ 2 = 1 : 3 ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 3.
40
คู่มือครู
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้
Engage
Explore
Explain 41
แบบตรวจสอบความเข้าใจที่
1.4
1. ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งประกาศลดราคาสินค้าทุกชนิด 15% ถ้าวินัยได้รับส่วนลดเมื่อซื้อ พัดลมคิดเป็นเงิน 450 บาท จงหาว่าห้างสรรพสินค้านี้ติดราคาขายพัดลมเครื่องนี้กี่บาท 2. ในปี 2550 บริษัทแห่งหนึ่ง ได้รับผลก�าไรน้อยกว่าปี 2551 อยู่ 12% ถ้าในปี 2551 ได้รับผลก�าไร 23,000,000 บาท จงหาว่า ปี 2550 บริษัทแห่งนี้ได้รับผลก�าไรกี่บาท
ขยายความเข้าใจ ขยายความเข้ Expand าใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
ขยายความเข้าใจ
Expand
1. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นวาโจทยขอใดในแบบตรวจสอบ ความเขาใจที่ 1.4 หนา 41 และหนา 42 เหมือนกับตัวอยางใดที่เรียนมา 2. ใหนักเรียนแตละกลุมนําแนวคิดและวิธีการ ที่ไดจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นไปใช เพื่อแกโจทยปญหาในการทําแบบตรวจสอบ ความเขาใจที่ 1.4 หนา 41
3. ซื้อไข่มาร้อยละ 210 บาท ขายไปฟองละ 3 บาท จะได้ก�าไรกี่เปอร์เซ็นต์ 4. แม่คา้ ซือ้ สับปะรดมาจากไร่ 280 ผล ราคาผลละ 5 บาท เสียค่ารถบรรทุก 400 บาท ปรากฏว่า ก่อนจะขายหมด มีสับปะรดเสียคิดเป็น 15% ของทั้งหมด ส่วนที่ขายได้ขายผลละ 10 บาท จงหาว่าขายสับปะรดที่ดีไปทั้งหมดได้ก�าไรหรือขาดทุนร้อยละเท่าไร 5. พ่อค้าขายสินค้าชนิดหนึ่งราคา 3,800 บาท ปรากฏว่าขาดทุน 5% ถ้าพ่อค้าต้องการก�าไร 10% เขาต้องขายสินค้านี้ราคากี่บาท 6. พ่อค้าติดราคาขายตูเ้ ย็นหลังหนึง่ เป็นเงิน 7,800 บาท โดยคิดก�าไร 30% ถ้าพ่อค้าลดราคาให้ 10% ของราคาที่ติดไว้ เขาจะยังคงได้ก�าไรกี่เปอร์เซ็นต์ 7. มีน�้าเกลือ 10% โดยน�้าหนัก จ�านวน 3,000 กรัม จะต้องเติมน�้าอีกกี่กรัม จึงจะท�าให้ได้ น�้าเกลือ 6% 8. พ่อค้าติดราคาสินค้าชนิดหนึ่งไว้สูงกว่าต้นทุน 20% แต่ถ้าลดราคาขายลง 35 บาท พ่อค้าจะ ได้ก�าไรเพียง 10% ราคาต้นทุนของสินค้านี้กี่บาท 9. แม่ค้าติดราคาสินค้าชนิดหนึ่งสูงกว่าต้นทุน 25% แต่ต่อมาลดให้ผู้ซื้อ 120 บาท ซึ่งขาดทุน 5% ถ้าต้องการก�าไร 10% จะต้องขายสินค้านี้กี่บาท 10. ต้นทุนโทรศัพท์มอื ถือราคาเครือ่ งละ 6,000 บาท จะต้องติดราคาขายโทรศัพท์มอื ถือเครือ่ งนี้ ในราคาเครื่องละกี่บาท เมื่อลดให้ผู้ซื้อ 20% แล้วยังคงได้ก�าไร 30% 11. ในการติดราคาขายสินค้าของร้านค้าแห่งหนึ่ง ราคาที่ติดไว้จะเป็นราคาที่ได้จากราคาสินค้า ที่ตั้งไว้รวมกับภาษีมูลค่าเพิ่มที่คิดจาก 7% ของราคาสินค้าที่ตั้งไว้ ถ้าตั้งราคาไว้ 450 บาท จะต้องติดราคาขายสินค้านั้นกี่บาท
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
ทรงกระบอกตันแทงหนึ่งมีสวนสูงเปน 13 ของสวนสูงของทรงกระบอกตัน อีกแทงหนึ่งรัศมีของแทงสั้นยาวเปน 2 เทา ของรัศมีของแทงยาว อัตราสวนของปริมาตรของทรงกระบอกแทงยาวตอปริมาตรของทรงกระบอกแทงสั้นเปนเทาไร 1. 2 : 3 2. 3 : 2 2. 4 : 3 4. 3 : 4 วิเคราะหคําตอบ ใหทรงกระบอกแทงยาวมีความสูงเปน h และมีรัศมีเปน r ปริมาตรทรงกระบอกแทงยาว = πr2h ทรงกระบอกแทงสั้นมีความสูง 31 h และมีรัศมีเปน 2r ปริมาตรทรงกระบอกแทงสั้น = π(2r)2 h3 อัตราสวนปริมาตรของทรงกระบอกแทงยาวตอทรงกระบอกแทงสั้นเปน πr2h : 34 πr2h 3 πr2h : 4 πr2h 3: 4 ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 4.
คู่มือครู
41
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้
Engage
Explore
Explain
ขยายความเข้าใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
ขยายความเข้ Expand าใจ
ตรวจสอบผล Evaluate
Expand
1. นักเรียนแตละกลุมนําแนวคิดและวิธีการที่ได จากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นไปใชเพื่อ แกโจทยปญหาในการทําแบบตรวจสอบ ความเขาใจที่ 1.4 หนา 42 2. ใหนักเรียนในกลุมรวมกันวิเคราะหหาแนวคิด และวิธีการแกโจทยปญหาใหถูกตองและ เหมาะสม 3. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันตรวจสอบความ ถูกตองในแบบตรวจสอบความเขาใจที่ 1.4
ตรวจสอบผล
ขยายความเข้าใจ
Evaluate
1. ใหนกั เรียนประเมินผลระดับความเขาใจในเนือ้ หา นีด้ ว ยการเขียนบอกระดับเปนดีมาก ดี ปานกลาง หรือตองเพิ่มความเขาใจอีก 2. ครูประเมินผลการเรียนรูจ ากการตรวจสอบความ ถูกตองการทําแบบตรวจสอบความเขาใจที่ 1.4
42
12. ถ้าต้นทุนของสินค้าชิ้นหนึ่งเป็นเงิน 250 บาท ต้องการขายสินค้านี้ให้ได้ก�าไร 20% จะต้อง ตั้งราคาสินค้าไว้1กี่บาท และเมื่อจะติดราคาขายสินค้า ซึ่งได้จากราคาสินค้าที่ตั้งไว้รวมกับ ภาษีมูลค่าเพิ่มที่คิดจาก 7% ของราคาสินค้าที่ตั้งไว้ จะต้องติดราคาขายไว้กี่บาท 13.
ผู้ผลิตสินค้าติดราคาขายสินค้าชิ้นหนึ่งเป็นเงิน 1,926 บาท ซึ่งราคาที่ติดนี้เป็นราคาที่รวม กับภาษีมูลค่าเพิ่มที่คิดจาก 7% ของราคาสินค้านั้น เมื่อกุ้งซื้อสินค้านี้ในราคาที่ติดไว้ เงิน จ�านวนนีค้ ดิ เป็นราคาสินค้านัน้ กีบ่ าท และเป็นภาษีมลู ค่าเพิม่ กีบ่ าท ถ้าต้นทุนการผลิตสินค้า ชิ้นนี้ เป็นเงิน 1,406.25 บาท ผู้ผลิตได้ก�าไรกี่เปอร์เซ็นต์
14. 15. 16.
อาร์มฝากเงินไว้กับธนาคารแห่งหนึ่ง 96,000 บาท เป็นเวลา 1 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.75 ต่อปี และต้องเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝากร้อยละ 15 เมื่อฝากครบ 1 ปี อาร์มจะได้รับดอกเบี้ย กี่บาท กานดาฝากเงินไว้กับธนาคารแห่งหนึ่ง 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.75 ต่อปี เมื่อ ฝากครบ 1 ปี อัตราดอกเบี้ยลดลงเหลือร้อยละ 1.25 ต่อปี ถูกหักภาษีดอกเบี้ยร้อยละ 15 เมื่อฝากครบ 2 ปี กานดาจะมีเงินในบัญชีกี่บาท นายทองดีท�างานในบริษัทแห่งหนึ่ง มีเงินได้สุทธิ 344,250 บาท เมื่อครบปีที่จะต้องยื่น แบบแสดงรายการภาษีเงินได้ เขาจะต้องช�าระภาษีเงินได้กี่บาท
17. นายทองก้อนเป็นผู้จัดการบริษัทแห่งหนึ่ง มีเงินได้สุทธิ 825,520 บาท เมื่อครบปีที่จะต้อง ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ เขาจะต้องช�าระภาษีเงินได้กี่บาท 18. นางทองม้วนท�างานที่ธนาคารแห่งหนึ่ง มิีเงินได้สุทธิ 580,000 บาท ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 3,000 บาท จงหาว่าเมื่อครบปีที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ เขาจะต้องช�าระ ภาษีเพิ่มหรือได้รับเงินภาษีที่ช�าระไว้เกินคืนกี่บาท 19. นายทองใบเป็นข้าราชการ มีเงินได้สุทธิ 588,280 บาท ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 5,000 บาท จงหาว่าเมื่อครบปีที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ เขาจะต้องช�าระภาษีเพิ่มเติม หรือรับเงินภาษีที่ช�าระไว้เกินคืนกี่บาท 20. นางทองค�า มีเงินได้สุทธิ 1,000,000 บาท ทุกสิ้นเดือนเขาจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย เดือนละ 2,000 บาท เมื่อครบปีเขาต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ จงหาว่าเขาจะต้อง ช�าระภาษี เพิ่มเติมหรือรับเงินภาษีที่ช�าระไว้เกินคืนกี่บาท
เกร็ดแนะครู ครูยํ้ากับนักเรียนวา การคํานวณโจทยปญหาเกี่ยวกับภาษี ตองคํานวณจาก ขอกําหนดตามแบบรายการภาษีเงินไดของกรมสรรพากรในปนั้นๆ
นักเรียนควรรู 1 ภาษีมูลคาเพิ่ม หรือ Vat (Value Added Tax) เปนภาษีที่เรียกเก็บจากมูลคา ของสินคาหรือบริการในสวนที่เพิ่มขึ้นของแตละขั้นตอน การผลิตและการจําหนาย สินคาหรือบริการชนิดตางๆ
42
คู่มือครู
กิจกรรมทาทาย ใหนักเรียนปฏิบัติตามขั้นตอนตอไปนี้ • สํารวจราคาสินคาที่จัดรายการลดราคาคิดเปนรอยละ ในหางสรรพสินคาหรือรานคาตางๆ • ถาใหนักเรียนเลือกซื้อสินคาที่สํารวจ 3 อยาง อยางละ 1 ชิ้น และคํานวณคาใชจายของราคาสินคาทั้งหมด • หาผลตางระหวางราคาสินคาเดิมกับราคาสินคาที่ลด
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้
Engage
Explore
Explain 43
เสริมทักษะเชิงเทคโนโลยี (มีควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร กำรเชื่อมโยงควำมรู้ต่ำงๆ ทำงคณิตศำสตรกับศำสตรอื่นๆ)
สุขภาพครอบครัวของฉัน จากรายงานทางการแพทย์พบว่า ความอ้วนเป็นสาเหตุของโรคหลายชนิด เช่น ข้อกระดูกเสื่อม ปวดเข่า ระบบหายใจขัดข้อง ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง มะเร็ง เป็นต้น ดังนั้น ถ้าเราทราบว่าสมาชิกของครอบครัวเรามีร่างกายที่อ้วนหรือน�้าหนักมากเกิน ไป จะท�าให้มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคต่างๆ จะได้หาทางปองกัน ซึ่งนักเรียนสามารถ ตรวจสอบสุขภาพเบื้องต้นของตัวเองและสมาชิกในครอบครัวด้วยวิธีง่ายๆ โดยปฏิบัติตาม ขั้นตอนต่อไปนี้ 1) หาดัชนีบ่งชี้เพื่อประเมินความอ้วนโดยใช้อัตราส่วน ดังนี้ 1 ดัชนีมวลกาย = น�้าหนักเป็นกิโลกรั2ม ส่วนสูงเป็นเมตร 2) น�าค่าดัชนีมวลกายที่ค�านวณได้ ในข้อ 1) เทียบกับตารางด้านล่าง ดัชน�มวลกาย ต�่ากว่า 18.5 18.5 - 24.9 25.0 - 29.9 30.0 - 34.9 มากกว่า 35.0
สภาวะความอ้วน น�้าหนักน้อยหรือผอม น�้าหนักพอเหมาะ น�้าหนักมากเกินไป อ้วน อ้วนมาก
ขยายความเข้าใจ ขยายความเข้ Expand าใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
ขยายความเข้าใจ
Expand
1. ใหนักเรียนกลุมเดิมศึกษาเนื้อหาใน หนังสือเรียน หนา 43-45 2. ใหนักเรียนแตละกลุมทํากิจกรรมสุขภาพ ครอบครัวของฉัน โดยสํารวจนํ้าหนักสมาชิก ของกลุม จดขอมูลและทําตามลําดับขั้นตอน หนา 43-44 3. ครูชี้แนะการทําตารางดวยโปรแกรมสําเร็จรูป Microsoft Excel เพิ่มเติมพรอมใหนักเรียน แตละกลุมรวมกันศึกษาการใชโปรแกรม 4. ใหนักเรียนแตละกลุมแลกเปลี่ยนกันตรวจสอบ ความถูกตองของการทํากิจกรรมนี้ จากนั้น ใหสมาชิกภายในกลุมตรวจสอบผลและสรุป ประเมินคาดัชนีมวลกายวาอยูในเกณฑใด 5. ครูสุมเลือกนักเรียน 2-3 กลุมออกมานําเสนอ ขอมูลที่ไดหนาชั้นเรียน จากนั้นครูชี้แนะ เพิ่มเติมเกี่ยวกับสุขภาพ
ความเสี่ยงต่อการเปนโรค ปานกลาง - สูง ปกติ - ต�่า เพิ่มขึ้นจากปกติ ปานกลาง รุนแรง - รุนแรงมาก
ตัวอย่างเช่น ครูวันดีหนัก 52 กิโลกรัม สูง 159 เซนติเมตร หรือ 1.59 เมตร ดัชนีมวลกาย = 52 2 = 52 ≈ 20.5688 (1.59) 2.5281 จะได้ว่า ดัชนีมวลกายของครูวันดีประมาณ 20.57 เมื่อเทียบดัชนีมวลกายในตาราง ครูวันดีมีน�้าหนักพอเหมาะ ความเสี่ยงต่อการ เป็นโรคอยู่ในเกณฑ์ปกติถึงต�่า
บูรณาการเชื่อมสาระ
ในชีวิตประจําวันมีการใชอัตราสวนในเรื่องตางๆ เชน คาดัชนีมวลกาย คาดัชนีของนํ้าตาลในเม็ดเลือด ผลการแขงขันตะกรอหรือเทนนิส เปนตน ความรูเกี่ยวกับอัตราสนวนสามารถบูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรู สุขศึกษาและพลศึกษา ครูควรใหนักเรียนไดสืบคนขอมูลที่ไดนําอัตราสวน ไปใชในหัวขอตอไปนี้ • การบริโภคอาหารใน 1วัน ไดพลังงานกี่แคลอรี่ • การแขงขันกีฬาประเภทตางๆ มีอัตราสวนการแพและชนะเทาไร
นักเรียนควรรู 1 ดัชนีมวลกาย (Body Mass Index ( BMI) เปนสิ่งที่บงชี้ถึงการมีพัฒนาการ ทางดานการเจริญเติบโตที่ตํ่ากวาเกณฑหรือสูงกวาเกณฑ)
บูรณาการอาเซียน องคการอนามัยโลกไดปรับเกณฑการประเมินคาดัชนีมวลกายทีเ่ หมาะสมสําหรับ เอเชียโดยเฉพาะ BMI ที่สามารถนํามาปรับใชเพื่อเปน BMI มาตรฐานอาเซียนได BMI มาตรฐานอาเซียน(เชีย) การแปรผล นอยกวา 18.5 นํ้าหนักนอยกวามาตรฐาน 18.5- 22.9 ปกติ 23.0-24.9 นํ้าหนักเกิน 25.0-29.9 อวน มากกวาหรือเทากับ 30 อวนมาก ที่มา : กองออกกําลังกายเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
คู่มือครู
43
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้
Engage
Explore
Explain
ขยายความเข้าใจ
ขยายความเข้าใจ ขยายความเข้ Expand าใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
Expand
1. ใหนักเรียนแตละกลุมคนควาสถาปตยกรรม ที่สนใจ 1 แหง จากแหลงเรียนรูตางๆ เชน หนังสือเรียน อินเทอรเน็ต เปนตน 2. ใหแตละกลุม รวมกันหาแนวทางการเปรียบเทียบ อัตราสวนของสถาปตยกรรมที่เลือกมา จัดทําสงครูผูสอน 3. ครูคัดเลือกสถาปตยกรรม 2-3 ชิ้นงาน และใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น การเปรียบเทียบอัตราสวน จากนั้นครูสรุป และเพิ่มเติมความรู
44
ใหนักเรียนนํานํ้าหนักและสวนสูงของสมาชิกทุกคนในครอบครัวมาหาดัชนีมวลกาย พรอมทั้งนํามาเปรียบเทียบกับตาราง เพื่อตรวจสอบดูความเสี่ยงตอการเปนโรค โดยปฏิบัติ ตามขั้นตอนตอไปนี้ 1) เปดโปรแกรม Microsolf Excel 2) ที่เซล A1, B1, C1, D1, E1 และ F1 พิมพขอความ ชื่อ - สกุล นํ้าหนัก สวนสูง ดัชนีมวลกาย และความเสี่ยงตอการเปนโรค ตามลําดับ 3) พิมพ ชื่อ - สกุล พรอมนํ้าหนักและสวนสูงของสมาชิกทุกคนในครอบครัว 4) ที่ เซล D2 พิมพสูตรการหาดัชนีมวลกาย โดยพิมพ =B1/C1^2 5) ใหคดั ลอกสูตรในขอ 4) ไปยังเซล D3, D4,… (ตามจํานวนสมาชิกของครอบครัว) 6) นําคาดัชนีมวลกายของสมาชิกแตละคนเทียบกับตาราง แลวพิมพความเสีย่ งตอ การเปนโรคของสมาชิกแตละคน ในเซล E2, E3, … (ตามจํานวนสมาชิกของครอบครัว) 7) นําขอมูลทั้งหมดใหสมาชิกทุกคนของครอบครัวพิจารณา สําหรับสมาชิกที่อยู ในเกณฑเสี่ยง ใหหาแนวทางการปฏิบัติ เพื่อลดความเสี่ยง และพิมพแนวทางการปฏิบัตินั้น ที่เซล F2, F3, … (ตามจํานวนสมาชิกของครอบครัว) 8) พิมพ (PRINT) ขอมูลทั้งหมด สงครูผูสอน
EB GUIDE
http://www.aksorn.com/LC/Math B1/M2/03
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
ในการสอบวิชาคณิตศาสตรมีคะแนนเต็ม 80 คะแนน เกงไดคะแนนมากกวาขม 10% ขมไดคะแนนมากกวาเคน 25% ถาเกงสอบได 72 คะแนน เกงจะไดคะแนนมากกวาเคนอยูเทาไร 1. 48.6 คะแนน 2. 31.4 คะแนน 3. 23.4 คะแนน 4. 18.0 คะแนน วิเคราะหคําตอบ วิชาคณิตศาสตรมีคะแนนเต็ม 80 คะแนน เกงไดคะแนนมากกวาขม 10% เกงไดคะแนน 100 คะแนน ขมไดคะแนน 90 คะแนน 90 × 80 = 72 คะแนน เกงไดคะแนน 80 คะแนน ขมไดคะแนน 100 ขมไดคะแนน 100 คะแนน เคนไดคะแนน 75 คะแนน 75 × 72 = 54 คะแนน ขมไดคะแนน 72 คะแนน เคนไดคะแนน 100 เกงได 80 คะแนน ขมได 72 คะแนน เคนได 54 คะแนน ถาเกงได 80 คะแนน เคนได 54 คะแนน เกงได 72 คะแนน เคนได 54 80 × 72 = 48.6 คะแนน เกงจะไดคะแนนมากกวาเคน (72 - 48.6) = 23.4 คะแนน ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 3.
44
คู่มือครู
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้
Engage
Explore
Explain 45
กิจกรรมเสริมทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
(มีควำมสำมำรถในกำรให้เหตุผล กำรสือ่ ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร กำรเชือ่ มโยงควำมรูต้ ำ่ งๆ ทำงคณิตศำสตร)
อัตราส่วนทอง
ขยายความเข้าใจ ขยายความเข้ Expand าใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
ขยายความเข้าใจ
1. กอนใหนักเรียนทําแบบฝกหัดประจําหนวยการ เรียนรูที่ 1 ครูควรเสริมทักษะโดยการใชความรู อัตราสวนในการทําแบบวัดฯ คณิตศาสตร ม.2 หนวยที่ 1 กิจกรรมที่ 1.4
1
✓ แบบวัดฯ ใบงาน แบบฝกฯ คณิตศาสตร ม.2 กิจกรรมที่ 1.4 หนวยที่ 1 อัตราสวน สัดสวน และร้อยละ
ประมาณ 2,000 ปี ที่ผ่านมา สถาปนิกและศิลปนได้ค้นพบรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าทอง ซึ่งเมื่อค�านวณอัตราส่วนระหว่างความยาวกับความกว้าง จะเท่ากับ 1.618033 : 1 เช่น บัตรประจ�าตัวประชาชน มีความยาว 8.6 เซนติเมตร ความกว้าง 5.4 เซนติเมตร มีอัตราส่วน ความยาวต่อความกว้าง เท่ากับ 1.592 : 1 ซึ่งเป็นจ�านวนที่ใกล้เคียงกับอัตราส่วนทอง ถ้าใช้ ค่าประมาณโดยการปัดเศษเป็นทศนิยม 1 ต�าแหน่ง จะได้ 1.6 : 1
กิจกรรมที่ 1.4
ให้นักเรียนส�ารวจหรือสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงในท้องถิ่น ของนักเรียน เช่น พระที่นั่งอนันตสมาคม ศาลากลาง โบสถ์ ศาลหลักเมือง เป็นต้น แล้ว ค�านวณอัตราส่วนความยาวของฐานต่อความสูงว่าใกล้เคียงกับอัตราส่วนทองหรือไม่
ประจ�าหน่วยการเรียนรู้ที่
5
2. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นวาโจทยขอใดในแบบฝกหัด ประจําหนวยการเรียนรู หนา 45-46 เหมือนกับตัวอยางใดที่เรียนมา 3. ใหนักเรียนแตละกลุมนําแนวคิดและวิธีการ ที่ไดจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นไปใช เพื่อแกโจทยปญหาในการทําแบบฝกหัด ประจําหนวยการเรียนรูที่ 1 4. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันตรวจสอบความ ถูกตองในแบบฝกหัดประจําหนวยการเรียนรู ที่ 1
3. จงแสดงให้เห็นว่า อัตราส่วนที่ก�าหนดให้ในแต่ละข้อต่อไปนี้เป็นอัตราส่วนที่เท่ากันหรือไม่ 1) 12 : 13 และ 6 : 7 2) 15 : 17 และ 45 : 51 3) 16 : 17 และ 8 : 3 4) 19 : 20 และ 58 : 60
วิเคราะหคําตอบ ปจจุบันอายุของบิดา : อายุของบุตร = 7x : 4x เมื่อ 18 ปที่แลว อายุบุตร : อายุบิดา = 2 : 5 ดังนั้น อายุบิดา : อายุบุตร = 5 : 2 จะได 7x - 18 : 4x - 18 = 5 : 2 - 18 5 เขียนสัดสวน 7x 4x - 18 = 2 14x - 36 = 20x - 90 6x = 54 x = 9 บิดาอายุ (7 × 9) = 63 ป ดังนั้น คําตอบคือ ขอ 4.
ฉบับ
เฉลย
เนื่องจากอัตราสวนของความกวางตอความยาว 30 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. เท ากับ 2 : 3 และความยาวรอบผืนธงชาติ 180 เซนติเมตร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 52.5 ดั……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. งนั้น ธงชาติที่ผูจางตองการมีความกวาง 20 เซนติเมตร 20 ความยาว 30 เซนติเมตร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. เปลี่ยนความยาวจากนิ้วเปนเซนติเมตร 2.5 ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ใช 1 นิ้ว เทากับ 2.5 เซนติเมตร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ดังนั้น กระดาษโปสเตอรขนาด 31 นิ้ว × 21 นิ้ว ประมาณ 77.5 ซม. × 52.5 ซม. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ตัดกระดาษโปสเตอรขนาด ดังรูป จึงจะไดริ้วธงมากที่สุด ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. กระดาษโปสเตอรแตละแผน จะตัดริ้วธงตามขนาดได 5 ริ้ว ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ดังนั้น กระดาษโปสเตอรแตละสีจะตัดริ้วธงได 60 ริ้ว ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. นั่นคือ จํานวนธงชาติที่ตัดไดมากที่สุด 60 ผืน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2. พีม่ เี งิน x บาท น้ บาท น้องมีเงินน้อยกว่าสองเท่าของพีอ่ ยู ่ 8 บาท จงเขียนอัตราส่วนจ�านวนเงินของ พี่ตอ่ จ�านวนเงินของน้อง
เมื่อ 18 ปที่แลว อัตราสวนของอายุบุตรตออายุบิดาเปน 2 : 5 ปจจุบันอายุ ของบิดาตออายุของบุตรเปน 7 : 4 ปจจุบันบิดาอายุเทาไร 1. 30 ป 2. 45 ป 3. 54 ป 4. 63 ป
15
รานรับจางทํากระดาษโดยการตัดกระดาษแตละสีตามขนาดแลวติดกาว ถารานมีกระดาษ โปสเตอรสีแดง สีนํ้าเงิน และสีขาว ขนาด 31 นิ้ว × 21 นิ้ว สีละ 12 แผน ซึ่งผูจางตองการให ทําธงชาติฝรั่งเศสโดยใหความยาวรอบผืนธง 180 เซนติเมตร ใหหาวารานรับจางจะทําธงชาติได 20 20 20 17.5 มากที่สุดกี่ผืน
1. ส้มหนัก 5 ขีด เงาะหนัก 2 กิโลกรัม จงเขียนอัตราส่วนของน�า้ หนักของส้มต่อน�า้ หนักของเงาะ
ขอสอบเนน การคิด
คะแนนเต็ม คะแนนที่ได
ที่มาของขอมูล http://th.wikipedia.org/wiki/ธงชาติฝรั่งเศส
1
แนว NT O-NE T
ใหนักเรียนอานบทความ”ธงชาติฝรั่งเศส”และแสดงวิธีการ แกปญหาโจทยที่กําหนด (ค 6.1 ม.1-3/1-6)
ธงชาติฝรั่งเศส มีชื่อเรียกในภาษาฝรั่งเศสวา “le tricolore” (เลอ ตรีกอลอร แปลวา ธงไตรรงค หรือ ธงสามสี) และ “le drapeau bleu-blanc-rouge” (เลอ ดราโป เบลอ บลองก รูฌ แปลวา ธงนํา้ เงิน-ขาว-แดง) ธงนีเ้ ปนธงตนแบบทีห่ ลายๆ ประเทศ นํามาดัดแปลงใชเปนธงชาติ ของตนเอง รวมทั้งธงชาติไทยดวย ลักษณะของธงเปนรูปสี่เหลี่ยมผืนผากวาง 2 สวน ยาว 3 สวน ประกอบดวยริ้วธง 3 สี คือ สีนํ้าเงิน สีขาว และสีแดง เรียงกันตามแนวตั้ง แตละริ้วมีความกวางเทากัน สําหรับธง คาขายและธงรัฐนาวีฝรั่งเศสนั้นคลายกับธงชาติ แตสัดสวนความกวางของริ้วธงแตละสีจะเปน 30 : 33 : 37
กิจกรรม
แบบฝกหัด
Expand
นักเรียนควรรู 1 อัตราสวนทอง (golden ratio, golden section, golden mean) เปนคาคงที่ ทางคณิตศาสตร มีคาประมาณ 1.61803398874989…ถาใชสัญลักษณแทนจะแทน ดวยอักษร phi (φ)ในภาษากรีก
มุม IT ศึกษาขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราสวนและรอยละ (แบบฝกเสริมทักษะ) ไดที่ http://wbi.herobo.com/test01.htm
คู่มือครู
45
กระตุ้นความสนใจ
ส�ารวจค้นหา
อธิบายความรู้
ขยายความเข้าใจ
Engage
Explore
Explain
Expand
ตรวจสอบผล
ตรวจสอบผล ตรวจสอบผล Evaluate Evaluate
Evaluate
1. ใหนักเรียนประเมินผลระดับความเขาใจใน เนื้อหานี้ดวยการเขียนบอกระดับเปนดีมาก ดี ปานกลางหรือตองเพิ่มความเขาใจอีก 2. ครูประเมินผลการเรียนรูจากการตรวจสอบ ความถูกตองการทําแบบฝกหัดประจําหนวย การเรียนรูที่ 1 (ดูเฉลยแบบฝกหัดประจําหนวยการเรียนรูที่ 1 ที่สวนเสริมดานหนาของหนังสือเลมนี้)
หลักฐานแสดงผลการเรียนรู 1. แบบตรวจสอบความเขาใจที่ 1.1 ถึง 1.4 2. แบบฝกหัดประจําหนวยการเรียนรูที่ 1
46
4. จงเขียนอัตราส่วนซึ่งเท่ากับอัตราส่วน 36 : 64 มาอีก 5 อัตราส่วน 5. ก�าหนด x : y = 7 : 3 และ y : z = 18 : 36 จงเขียนอัตราส่วนของ x : y : z 6. กิตติตัดเหล็กเส้นหนึ่งออกเป็น 3 เส้น โดยที่ความยาวของเหล็กเส้นที่หนึ่งต่อความยาวของ 3 เหล็กเส้นที่สองต่อความยาวของเหล็กเส้นที่สามเป็น 1 2 : 1 : 2 ถ้าเหล็กเส้นที่สองยาว 4 ฟุต แล้วเหล็กเส้นนี้ก่อนตัดยาวกี่ฟุต 7 7. ถ้า p - 5 8 = 4 แล้ว จงหาค่าของ p + 2 8. เจเลี้ยงสัตว์ไว้ 3 ชนิด คือ เป็ด ไก่ และหมู เป็นอัตราส่วนดังนี้ จ�านวนเป็ดต่อจ�านวนไก่เป็น 7 : 8 และจ�านวนหมูตอ่ จ�านวนไก่เป็น 5 : 6 ถ้าเขาเลีย้ งสัตว์ทงั้ สามชนิด 4,745 ตัว จงหาว่า เจเลี้ยงเป็ดมากกว่าหมูกี่ตัว 9. รูปสีเ่ หลีย่ มคางหมูรปู หนึง่ มีอตั ราส่วนของความสูงต่อความยาวของด้านคูข่ นานสองด้านเป็น 2 : 3 : 5 ถ้ารูปนีม้ คี วามสูง 10 เซนติเมตร พืน้ ทีข่ องรูปสีเ่ หลีย่ มนีเ้ ท่ากับกีต่ ารางเซนติเมตร 10. แท่งไม้ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากอันหนึ่ง มีอัตราส่วนของความยาวต่อความกว้างเป็น 3 : 2 และอัตราส่วนของความกว้างต่อความสูง เป็น 3 : 5 ถ้าปริมาตรของแท่งไม้นี้เท่ากับ 4,320 ลูกบาศก์เซนติเมตร จงหาความกว้าง ความยาวและความสูงของแท่งไม้นี้ 11. วิทยุเครื่องหนึ่งติดราคา 8,500 บาท ถ้าร้านลดให้ผู้ซื้อเงินสด 10% แล้วยังได้ก�าไร 20% ร้านนี้ซื้อวิทยุมาราคากี่บาท 12. เจฝากเงินไว้กบั ธนาคารเป็นจ�านวน 250,000 บาท ธนาคารคิดดอกเบีย้ ในอัตราร้อยละ 1.75 ต่อปี และหักภาษีดอกเบี้ยร้อยละ 15 เมื่อครบ 2 ปี เขาจะมีเงินในบัญชีทั้งหมดกี่บาท 13. ร้านค้าคิดราคาขายสินค้าชนิดหนึง่ เป็นเงิน 5,564 บาท ซึง่ ราคานีร้ วมกับภาษีมลู ค่าเพิม่ 7% ของราคาสินค้านั้น จงหาว่า 1) ผู้ซื้อจะต้องจ่ายเป็นค่าภาษีมูลค่าเพิ่มกี่บาท 2) ถ้าต้นทุนของสินค้านี้เป็นเงิน 4,000 บาท ร้านค้าจะได้ก�าไรกี่เปอร์เซ็นต์ 14. วันดีมเี งินได้สทุ ธิ 900,000 บาท จงหาว่าเมือ่ ครบปีทจี่ ะต้องยืน่ แบบแสดงรายการภาษีเงินได้ วันดีจะต้องช�าระภาษีเป็นเงินกี่บาท
เกร็ดแนะครู ครูควรเนนกับนักเรียนใหระมัดระวังการเขียนอัตราสวนและสัดสวนดังนี้ 1. อัตราสวนสองอัตราสวนที่จะเขียนเปนสัดสวน จํานวนที่ 1 และจํานวนที่ 2 ของทั้งสองอัตราสวนตองแทนสิ่งเดียวกัน และตองมีหนวยเดียวกัน 2. การเขียนอัตราสวนจํานวนหลายๆ จํานวน (อัตราสวนตอเนื่อง) ที่กําหนด อัตราสวนสองจํานวนตั้งแตสองชุดขึ้นไป จะตองจัดจํานวนที่นํามาเปรียบเทียบซํ้า ใหสอดคลองกัน เชน ขอ 8. เปนตน
46
คู่มือครู