คูมือครู 㪌»ÃСͺ¡ÒÃÊ͹ËÇÁ¡Ñº
˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ©ºÑº »ÃСѹÏ
·Õè ȸ. ¨Ð»ÃСÒÈÃÒ¡Òú¹àÇçºä«µ µÑé§áµ‹ Á. ¤. ’55 ໚¹µŒ¹ä»
ภาพปกนี้มีขนาดเทากับหนังสือเรียนฉบับจริงของนักเรียน
เอกสารประกอบคูมือครู
กลุมสาระการเรียนรู การงานอาชีพและเทคโนโลยี
รายวิชา
ู ร ค หรับ
การงานอาชีพและเทคโนโลยี
สํา
ชั้นมัธยมศึกษาปที่
เอกสารหลักสูตรแกนกลางฯ ’51 ประกอบดวย ● ● ● ● ●
คําแนะนําการใชคูมือครู แถบสี/สัญลักษณที่ใชสื่อความหมายในคูมือครู ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรูแกนกลาง คําอธิบายรายวิชา ตารางวิเคราะหเนื้อหากับมาตรฐานการเรียนรู และตัวชี้วัด
ตารางแสดงความแตกตางระหวาง “ คูมือครู ” กับ “ หนังสือเรียน * ” ความแตกตาง
ขนาดตัวอักษร ปกดานหลัง ระบบการจัดพิมพ สวนเสริมดานหนา
คูมือครู ยอลงจากปกติ 20%
พิมพ 4 สี มี เอกสารหลักสูตร คําอธิบายรายวิชา มี กิจกรรมแบบ 5E ความรูเสริมสําหรับครู พิมพสอดแทรกไวตลอดทั้งเลม ●
หนังสือเรียน ขนาดปกติ 100% : ตัวอักษรใหญกวา ที่พิมพในคูมือครูนี้ มีใบอนุญาต/ใบประกันคุณภาพ พิมพ 4 สี
-
●
เนื้อหาในเลม
● ●
* ที่ ศธ. อนุญาตใหโรงเรียนใชได
มีเฉพาะเนื้อหาสาระตามที่ ศธ. อนุญาตฯ/สนพ.ประกันคุณภาพ
6
คําแนะนําการใชคูมือครู
: การจัดการเรียนรูสูหองเรียนคุณภาพ
คูมือครู การงานอาชีพและเทคโนโลยี ม.6 จัดทําขึ้นเพื่ออํานวยความสะดวกแกครูผูสอนในการวางแผน และเตรียมการสอนโดยใชหนังสือเรียน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ม.6 ของบริษัท อักษรเจริญทัศน อจท. จํากัด เสร�ม เปนสื่อหลัก (Core Material) ประกอบการออกแบบกิจกรรมการเรียนรูใหสอดคลองกับมาตรฐานการเรียนรูและ 2 ตัวชีว้ ดั กลุม สาระการเรียนรู การงานอาชีพและเทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พ.ศ. 2551 โดยจัดทําตามหลักการสําคัญ ดังนี้
1. ออกแบบการสอนเปนหนวยการเรียนรูอิงมาตรฐาน
คูมือครู รายวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี ม.6 จัดทําเปนหนวยการเรียนรูตามลําดับสาระการเรียนรู ที่ระบุไวในมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัด แตละหนวยจะกําหนดเปาหมายการสอนและจุดประสงคการเรียนรู (Objective- Learning) กิจกรรมการเรียนรู (Learning Activities) และแนวทางการประเมินผลการเรียนรู (Learning Evaluation) ไวชัดเจน ครูผูสอนสามารถจัดทําแผนการสอนใหครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรูและ ตัวชีว้ ดั ทีเ่ ปนเปาหมายการเรียนรูข องแตละหนวยการเรียนรู (ตามแผนภูม)ิ และสามารถบันทึกผลการจัดการเรียน การสอนไดอยางมั่นใจ
นรู
สภ
าพ
ผู
จุดป
น
ระส
เรีย
งค
ก
รีย า รเ
มาตรฐานการเรียนรู ตัวชี้วัดชั้นป
ทักษะการคิด การวัดประเมินผล การเรียนรู
กิจกรรมการเรียนรู
เทคนิคการสอน
แผนภูมิแสดงองคประกอบของการออกแบบการเรียนรูอิงมาตรฐานและเนนผูเรียนเปนสําคัญ
2. การจัดการเรียนรูที่ยึดผูเรียนเปนสําคัญ
แนวคิดในการจัดการเรียนการสอนที่ยึดผูเรียนเปนสําคัญ พัฒนามาจากปรัชญาและทฤษฎีการเรียนรู Constructivism ที่เชื่อวาการเรียนรูเปนกระบวนการที่เกิดขึ้นภายในสมองของผูเรียนแตละคน ผูเรียนเปนผูสราง ความรูโดยการเชื่อมโยงระหวางสิ่งที่ไดพบเห็นกับความรูหรือประสบการณเดิมที่มีอยู ทฤษฎีนี้มีความเชื่อวา นักเรียนทุกคนไดเรียนรูและมีความรูความเขาใจสิ่งตางๆ ติดตัวมากอนที่จะเขาสู หองเรียน ซึง่ เปนการเรียนรูท เี่ กิดจากบริบทและสิง่ แวดลอมรอบตัวนักเรียนแตละคน ดังนัน้ การจัดกระบวนการเรียนรู ในแตละบทเรียน ผูสอนจะตองคํานึงถึง คูม อื ครู
1) ความรูเดิมของนักเรียนการสอน ที่ดีจึงตองเริ่มตนจากจุดที่วา นักเรียน มีความรูอะไรมาบาง แลวจึงใหความรู หรือประสบการณใหมเพื่อตอยอดจาก ความรูเดิม
2) ความรูเดิมของนักเรียนถูกตอง หรือไม ผูสอนตองปรับเปลี่ยนความรู ความเขาใจเดิมของนักเรียนใหถูกตอง และเปนพฤติกรรมการเรียนรูใหมที่มี คุณคาตอนักเรียน เพื่อสรางเจตคติหรือ ทัศนคติที่ดีตอการเรียน
3) นักเรียนสรางความหมายสําหรับ ตนเอง ผูสอนตองสงเสริมใหนักเรียน นําขอมูลความรูท ไี่ ดไปลงมือปฏิบตั ิ และ ประยุกตใชความรูอ ยางถูกตอง ในบริบท ที่เปนจริงของชีวิตนักเรียน เพื่อขยาย ความรูใ หลกึ ซึง้ และมีคณุ คาตอตัวนักเรียน มากที่สุด
เสร�ม
3
แนวคิด Constructivism เนนใหผูเรียนสรางความรูโดยผานกระบวนการคิดและความอยากรูของตนเอง โดยมีผูสอนเปนผูสรางบรรยากาศการเรียนรูและกระตุนความสนใจ คอยจัดสถานการณใหผูเรียนเกิดความ ขัดแยงทางความคิดระหวางประสบการณเดิมกับประสบการณความรูใหม ผูเรียนจะพยายามปรับขอมูลใหม กับประสบการณที่มีอยูเดิม แลวสรางเปนความรูใหมหรือแนวคิดใหมๆ ไดดวยตนเอง
3. การบูรณาการกระบวนการคิด
การเรียนรูของนักเรียนแตละคนจะเกิดขึ้นที่สมองซึ่งทําหนาที่รูคิด ภายใตสภาพแวดลอมที่เอื้ออํานวยและ ไดรับการกระตุนจูงใจอยางเหมาะสมสอดคลองกับสภาพจิตใจและความตองการของนักเรียน การจัดกระบวนการ เรียนรูและสาระการเรียนรูที่มีความหมายตอผูเรียนนั้น จะชวยกระตุนใหสมองรับรูและสามารถเรียนรูไดอยางมี ประสิทธิภาพตามขั้นตอนการทํางานของสมอง ดังนี้ 1) สมองจะเรี ย นรู แ ละสื บ ค น โดย 2) สมองจะแยกแยะคุณคาของสิ่ง การสังเกต คนหา ซักถาม และทดลอง ตางๆ โดยการลงมติ ตัดสินใจ วิพากษ ปฏิบัติ จนคนพบความรูความเขาใจได วิจารณ แสดงความคิดเห็น ยอมรับหรือ อยางรวดเร็ว ตอตานตามอารมณความรูสึกที่เกิดขึ้น ในขณะที่เรียนรู
3) สมองจะประมวลเนื้ อ หาสาระ โดยการสรุปเปนความคิดรวบยอดจาก เรื่องราวที่ไดเรียนรูใหมนําไปผสมผสาน กับความรู หรือประสบการณเดิมที่ถูก จัดเก็บอยูในสมอง ผานการกลั่นกรอง เพื่อสังเคราะหเปนความรูความเขาใจ ใหมๆ หรือเปนเหตุผลทัศนคติใหมที่จะ ฝงแนนในสมองของผูเรียน
การเรียนรูที่มีประสิทธิภาพจึงตองเปนการเรียนรูที่เกิดจากกระบวนการคิดของผูเรียน เพราะการเรียนรูจะ เกิดขึ้นเมื่อสมองรูคิดและตองเปนการคิดไดครบถวนตามขั้นตอนการทํางานของสมอง โดยเริ่มตนจาก 1) ระดับการคิดขั้นพื้นฐาน ไดแก 2) ระดั บ ลั ก ษณะการคิ ด ได แ ก 3) ระดั บ กระบวนการคิ ด ได แ ก การสังเกต การจําแนก การคาดคะเน การคิดกวาง คิดลึกซึ้ง คิดหลากหลาย กระบวนการคิ ด อย า งมี วิ จ ารณญาณ การสื่อความหมาย การรวบรวมขอมูล คิดไกล คิดคลอง คิดอยางมีเหตุผล กระบวนการแกปญหา กระบวนการคิด การสรุปผล เปนตน เปนตน สรางสรรค กระบวนการคิดสังเคราะห วิจัย เปนตน คูม อื ครู
4. การบูรณาการกระบวนการเรียนรูพื้นฐานอาชีพ
กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายสงเสริมการเรียนพื้นฐานอาชีพในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อเสริมสราง ทักษะที่จําเปนสําหรับการประกอบอาชีพ และดํารงชีวิตในสังคมทองถิ่นของผูเรียนอยางมีความสุข และเปนการ เสร�ม เตรียมความพรอมดานกําลังคนใหมีทักษะพื้นฐานและศักยภาพในการทํางาน เพื่อการแขงขันและกาวสูประชาคม 4 อาเซียนหรือประชาคมโลกตอไป 4.1 ทักษะพืน้ ฐานเพือ่ การประกอบอาชีพ การจัดการเรียนการสอนเพือ่ พัฒนาผูเ รียนในรายวิชาพืน้ ฐานทุกกลมุ สาระการเรียนรูและทุกระดับชั้นเรียน ผูสอนควรบูรณาการประสบการณการเรียนรูพื้นฐานอาชีพควบคูไปกับการ เรียนการสอนดานวิชาการ โดยฝกทักษะสําคัญตามที่สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา (สวก.) สํานักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เสนอแนะไว ดังนี้ 1. ฝกทักษะกระบวนการคิด มีการวางแผนตลอดแนว เพื่อศึกษาขอมูลอาชีพ 2. ฝกการตัดสินใจอยางเปนระบบ โดยใชขอมูลจากการศึกษา คนควาแหลงเรียนรูในชุมชน เพื่อลด ความเสี่ยงในการลงทุนและเพิ่มความมั่นใจเรื่องการตลาด 3. ฝกกระบวนการวางแผน การผลิต และการจัดจําหนาย โดยนักเรียนคิดตนทุน กําไร ดวยตนเอง 4. ฝกการเรียนรูเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ดานการประกอบอาชีพ และการทํางานกลุม โดยมีจิตอาสา เพื่อสวนรวม 5. ฝกการทํางานอยางมีประสิทธิภาพ มีการประเมินผล ปรับปรุง พัฒนา และสรางสรรคตอ ยอดผลผลิต 6. ฝกการเสริมสรางความเชือ่ มัน่ ความเพียรพยายาม เห็นคุณคาและภาคภูมใิ จในตนเอง (Self Esteem) ในการประกอบอาชีพ และเจตคติในพื้นฐานทางอาชีพ การจัดการเรียนการสอนทีใ่ หผเู รียนไดลงมือปฏิบตั ทิ กั ษะดังกลาว จะชวยใหผเู รียนไดรบั ประสบการณจริง มีทักษะ ความสามารถ และความชํานาญในการทํางานที่จะใชในการประกอบอาชีพและเปนแรงงานที่มีคุณภาพ เขาสูตลาดแรงงานในอนาคต 4.2 การจัดกระบวนการเรียนรูพื้นฐานอาชีพ การจัดกระบวนการเรียนรูมีความสําคัญอยางยิ่งที่จะชวยให นักเรียนมีการพัฒนาทั้งดานความรู ทักษะ และคุณลักษณะตามเปาหมายของหลักสูตร การพัฒนาผูเรียน ดานทักษะพื้นฐานอาชีพตองอาศัยกระบวนการเรียนรูที่หลากหลายเปนเครื่องมือที่จะนําไปสูคุณภาพที่ตองการ เทคนิควิธีการตางๆ ที่ผูสอนจะตองพิจารณาใหเหมาะสมกับเนื้อหาวิชาและวัยของผูเรียน โดยใหความสําคัญกับ การฝกปฏิบัติและเนนการวัดประเมินผลจากการปฏิบัติตามสภาพจริง ดวยวิธีการที่จัดกิจกรรมการบูรณาการ ใหเหมาะสมกับวัยและระดับชั้นของผูเรียน สอดคลองกับมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดของกลุมสาระตางๆ ที่กําหนดไวในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 การวิเคราะหมาตรฐานและตัวชี้วัดที่จะนําไป จัดเนื้อหาความรูและทักษะ เพื่อพัฒนาผูเรียนดานพื้นฐานอาชีพ ดังตัวอยางตอไปนี้ 1. กลุมสาระการเรียนรูภาษาไทย กลมุ สาระการเรียนรูภ าษาไทยมุง เนนการพัฒนาใหผเู รียนมีความรูค วามสามารถในการใชภาษาไทย เพื่อการสื่อสาร เปนเครื่องมือในการเรียนรู การแสวงหาความรู และประสบการณตางๆ เพื่อพัฒนาความรู กระบวนการคิดวิเคราะห วิจารณ และสรางสรรค ใหทันตอการเปลี่ยนแปลงของสังคมและความกาวหนาทาง วิทยาศาสตร เทคโนโลยี จึงเปนกลุมสาระการเรียนรูที่เปนทักษะพื้นฐานการประกอบอาชีพทุกอาชีพ ตัวชี้วัดที่ สามารถนํามาพัฒนาทักษะอาชีพ เชน คูม อื ครู
ท 2.1 ม.1/8 เขียนรายงานการศึกษาคนควาและโครงงาน ท 1.1 ม.4-6/8 สังเคราะหความรูจากการอานสื่อสิ่งพิมพ สื่ออิเล็กทรอนิกส และแหลงเรียนรู ตางๆ มาพัฒนาตน พัฒนาการเรียน และพัฒนาความรูทางอาชีพ ท 2.1 ม.4-6/4 ผลิตงานเขียนของตนเองในรูปแบบตางๆ เสร�ม ท 2.1 ม.4-6/5 ประเมินงานเขียนของผูอื่น แลวนํามาพัฒนางานเขียนของตนเอง 5 การจัดการเรียนการสอนตามตัวชี้วัดดังกลาวขางตน จะเปนทักษะพื้นฐานของการนําไปสูอาชีพ ทุกอาชีพ และเปนการปูทางไปสูอาชีพเฉพาะเกี่ยวกับการเขียน เชน นักเขียน นักประพันธ นักหนังสือพิมพ นักวิจารณ เปนตน 2. กลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม กลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมมุงเนนการพัฒนาใหผูเรียนมีความรู ความเขาใจเกีย่ วกับการดํารงชีวติ ของมนุษย การอยูร ว มกันในสังคมทีม่ คี วามเชือ่ มโยงสัมพันธกนั มีความแตกตางกัน อยางหลากหลาย สามารถจัดการทรัพยากรที่มีอยูอยางจํากัด และเขาใจการเปลี่ยนแปลง เพื่อชวยใหสามารถปรับ ตนเองกับบริบทและสภาพแวดลอม เปนพลเมืองดี มีความรับผิดชอบ มีความรู ทักษะ คุณธรรม และคานิยมที่ เหมาะสม มีมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดที่เปนพื้นฐานของการประกอบอาชีพตางๆ เชน ส 4.3 ม.1/3 วิเคราะหอิทธิพลของวัฒนธรรมและภูมิปญญาไทยสมัยสุโขทัยและสังคมไทย ในปจจุบัน ส 4.3 ม.2/3 ระบุภูมิปญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยอยุธยาและธนบุรี และอิทธิพลของ ภูมิปญญาดังกลาวตอการพัฒนาชาติไทยในยุคตอมา ส 4.3 ม.3/3 วิเคราะหภูมิปญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยรัตนโกสินทร และอิทธิพลตอการ พัฒนาชาติไทย ส 4.3 ม.4-6/3 วางแผนกําหนดแนวทางและการมีสวนรวมในการอนุรักษภูมิปญญาไทยและ วัฒนธรรมไทย การจัดการเรียนการสอนตามตัวชี้วัดดังกลาวขางตนจะเปนทักษะพื้นฐานและสรางเจตคติตออาชีพ เกีย่ วกับภูมปิ ญ ญาไทยในทองถิน่ เชน นักโบราณคดี นักประวัตศิ าสตร แพทยแผนโบราณ นวดแผนไทย ชางทอผา จักสาน นักดนตรีไทย การทําขนมหรืออาหารไทย เปนตน และเปนรากฐานของการศึกษาเพือ่ พัฒนาตอยอดอาชีพ ที่มีฐานของภูมิปญญาไทย 3. กลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพและเทคโนโลยี กลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพและเทคโนโลยีมุงพัฒนาใหผูเรียนมีฐานความรูความสามารถ และทักษะทีจ่ าํ เปนสําหรับนําไปปรับใชในการประกอบอาชีพและการศึกษาตอในสาขาอาชีพตางๆ ไดอยางหลากหลาย รวมทั้งใหเห็นแนวทางในการประกอบอาชีพและการศึกษาตอตามความรู ความถนัดและ ความสนใจ มาตรฐาน และตัวชี้วัดของกลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพและเทคโนโลยีสวนใหญมีลักษณะเปนทักษะกระบวนการทํางาน ซึง่ ผูส อนสามารถจัดเนือ้ หาและกิจกรรมการสอนใหสอดคลองกับความตองการของผูเ รียนและทองถิน่ ได เพือ่ พัฒนา ไปสูการประกอบอาชีพตางๆ เชน ง 1.1 ม.4-6/2 สรางผลงานอยางมีความคิดสรางสรรคและมีทักษะการทํางานรวมกัน ง 1.1 ม.4-6/7 ใชพลังงาน ทรัพยากรในการทํางานอยางคุมคาและยั่งยืน เพื่อการอนุรักษ สิ่งแวดลอม คูม อื ครู
ง 4.1 ม.2/3 ง 4.1 ม.3/3
มีทักษะพื้นฐานที่จําเปนสําหรับการประกอบอาชีพที่สนใจ ประเมินทางเลือกในการประกอบอาชีพที่สอดคลองกับความรู ความถนัด และ ความสนใจของตนเอง ง 4.1 ม.4-6/2 เลือกและใชเทคโนโลยีอยางเหมาะสมกับอาชีพ เสร�ม ง 4.1 ม.4-6/3 มีประสบการณในอาชีพที่ถนัดและสนใจ 6 การจัดรายวิชาพื้นฐานในกลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพและเทคโนโลยีจึงสามารถดําเนินการ ไดอยางหลากหลาย ทัง้ อาชีพในกลมุ เกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม ความคิดสรางสรรค การบริหารจัดการ และการบริการ ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และสอดคลองกับบริบทของทองถิ่น ความพรอมของ สถานศึกษาและความตองการของผูเรียนเปนสําคัญ เพื่อเปนแนวทางการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนใหสนองนโยบายการจัดการเรียนการสอน พื้นฐานอาชีพในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ผูจัดทําจึงวิเคราะหมาตรฐาน การเรียนรูและตัวชี้วัดในรายวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี ที่สอดคลองกับทักษะปฏิบัติเพื่อเตรียมความพรอม ดานพื้นฐานอาชีพ โดยเสนอแนะกิจกรรมการเรียนรูไวเพื่อเปนแนวทางในการจัดการเรียนการสอนบูรณาการ ประสบการณการทํางานแกผูเรียน ใหบรรลุเจตนารมณของ พระราชบัญญัติการศึกษาแหงชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 7 ที่ระบุใหการจัดการศึกษาตองปลูกฝงใหเยาวชนมีความรูอันเปนสากล มีจิตสํานึกในการอนุรักษ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ตลอดจนมีความสามารถในการประกอบอาชีพ รูจักพึ่งตนเอง และมีความคิด สรางสรรค เพื่อการดํารงชีวิต การศึกษาตอ และการประกอบอาชีพอยางมีคุณภาพของผูเรียนตอไปในอนาคต
5. การใชวัฏจักรการเรียนรู 5E รูปแบบการสอนที่สัมพันธกับกระบวนการคิดและการทํางานของสมองของผู งานของสมอง เรียนที่นิยมใชอยางแพรหลาย คือ วัฏจักรการเรียนรู 5E ซึ่งผูจัดทําคูมือครูไดนํามาใชเปนแนวทางออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนใน คูมือครูฉบับนี้ตามลําดับขั้นตอนการเรียนรู ดังนี้ ขั้นที่ 1 กระตุนความสนใจ (Engage) เปนขั้นที่ผูสอนนําเขาสูบทเรียน เพื่อกระตุนความสนใจของนักเรียนดวยเรื่องราวหรือเหตุการณที่ นาสนใจ โดยใชเทคนิควิธีการสอนและคําถามทบทวนความรูหรือประสบการณเดิมของผูเรียน เพื่อเชื่อมโยง ผูเรียนเขาสูบทเรียนใหม ชวยใหนักเรียนสามารถสรุปประเด็นสําคัญที่เปนหัวขอการเรียนรูของบทเรียนได จึงเปนขั้นตอนการสอนที่สําคัญ เพราะเปนการเตรียมความพรอมและสรางแรงจูงใจใฝเรียนรูแกผูเรียน ขั้นที่ 2 สํารวจคนหา (Explore) เปนขัน้ ทีผ่ สู อนเปดโอกาสใหผเู รียนไดสงั เกตและรวมมือกันสํารวจ เพือ่ ใหเห็นปญหา รวมถึงวิธกี ารศึกษา คนควาขอมูลความรูที่จะนําไปสูความเขาใจประเด็นปญหานั้นๆ เมื่อนักเรียนทําความเขาใจในประเด็นหัวขอที่จะศึกษาคนควาอยางถองแทแลวก็ลงมือปฏิบัติ เพื่อเก็บ รวบรวมขอมูลความรู สํารวจตรวจสอบ โดยวิธกี ารตางๆ เชน สัมภาษณ ทดลอง อานคนควาขอมูลจากเอกสาร แหลงขอมูลตางๆ จนไดขอมูลความรูตามที่ตั้งประเด็นศึกษาไว คูม อื ครู
ขั้นที่ 3 อธิบายความรู (Explain) เปนขั้นที่ผูสอนมีปฏิสัมพันธกับผูเรียน เชน ใหการแนะนํา หรือตั้งคําถามกระตุนใหคิด เพื่อใหผูเรียนได คนหาคําตอบ และนําขอมูลความรูจ ากการศึกษาคนควาในขัน้ ที่ 2 มาวิเคราะห แปลผล สรุปผล และนําเสนอผล ที่ไดศึกษาคนความาในรูปแบบสารสนเทศตางๆ เชน เขียนแผนภูมิ แผนผังแสดงมโนทัศน เขียนความเรียง เขียนรายงาน เปนตน สมองของผูเรียนจะทําหนาที่คิดวิเคราะห สังเคราะหอยางเปนระบบ
เสร�ม
7
ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ (Expand) เปนขั้นที่ผูสอนไดใชเทคนิควิธีการสอนที่จะชวยพัฒนาผูเรียนใหนําความรูที่เกิดขึ้นไปคิดคนตอๆ ไป เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรูและการทํางานรวมกันเปนกลุม ระดมสมองเพื่อคิดสรางสรรครวมกัน นักเรียนสามารถนําความรูที่สรางขึ้นใหมไปเชื่อมโยงกับประสบการณเดิม โดยนําขอสรุปที่ไดไปอธิบาย ในเหตุการณตางๆ หรือนําไปปฏิบัติในสถานการณใหมๆ ที่เกี่ยวของกับชีวิตประจําวันของตนเอง เพื่อขยาย ความรูค วามเขาใจใหกวางขวางยิง่ ขึน้ สมองของผูเ รียนทําหนาทีค่ ดิ ริเริม่ สรางสรรคอยางมีคณ ุ ภาพ เสริมสราง วิสัยทัศนใหกวางไกลออกไป ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) เปนขัน้ ทีผ่ สู อนใชประเมินมโนทัศนของผูเ รียน โดยตรวจสอบจากความคิดทีเ่ ปลีย่ นไปและความคิดรวบยอด ที่เกิดขึ้นใหม ตรวจสอบทักษะ กระบวนการปฏิบัติ การแกปญหา การตอบคําถามรวบยอด และการเคารพ ความคิดหรือยอมรับเหตุผลของคนอื่น เพื่อการสรางสรรคความรูรวมกัน นักเรียนสามารถประเมินผลการเรียนรูของตนเอง เพื่อสรุปผลวานักเรียนมีความรูอะไรเพิ่มขึ้นมาบาง มากนอยเพียงใด และจะนําความรูเหลานั้นไปประยุกตใชในการเรียนรูเรื่องอื่นๆ ไดอยางไร นักเรียนจะเกิด เจตคติและเห็นคุณคาของตนเองจากผลการเรียนรูที่เกิดขึ้น ซึ่งเปนการเรียนรูที่มีความสุขอยางแทจริง การจัดกิจกรรมการเรียนรูตามวัฏจักรการสรางความรูแบบ 5E จึงเปนรูปแบบการเรียนการสอนที่เนน ผูเรียนเปนสําคัญ โดยสงเสริมใหผูเรียนใชกระบวนการสรางความรูดวยตนเอง ฝกฝนใหใชกระบวนการคิด และ กระบวนการกลุมอยางชํานาญ กอใหเกิดทักษะการเรียนรูและทักษะชีวิตที่มีคุณภาพ ตามเปาหมายของการปฏิรูป การศึกษาทศวรรษที่ 2 (พ.ศ. 2552-2561) ทุกประการ คณะผูจัดทํา
คูม อื ครู
แถบสีและสัญลักษณ ที่ใชสื่อความหมายในคูมือครู 1. แถบสี
แถบสีแสดงขั้นตอนการสอนและการจัดกิจกรรม แบบ 5E เพื่อใหครูทราบวาเปนขั้นการสอนขั้นใด
เสร�ม
8
สีแดง
สีเขียว
สีสม
กระตุน ความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
•
•
•
Engage
เปนขั้นที่ผูสอนเลือกใช เทคนิคกระตุนความ สนใจ เพื่อโยงเขาสู บทเรียน
Explore
เปนขั้นที่ผูสอนให ผูเรียนสํารวจปญหา และศึกษาขอมูล
Explain
เปนขั้นที่ผูสอนให ผูเรียนคนหาคําตอบ จนเกิดความรูเชิง ประจักษ
สีฟา
สีมวง
ขยายความเขาใจ Expand
•
เปนขั้นที่ผูสอนให ผูเรียนนําความรูไป คิดคนตอๆ ไป
ตรวจสอบผล Evaluate
•
เปนขั้นที่ผูสอน ประเมินมโนทัศน ของผูเรียน
สัญลักษณ
2. สัญลักษณ
วัตถุประสงค
เปาหมาย การเรียนรู
คูม อื ครู
• แสดงเปาหมาย การเรียนรูที่ นักเรียนตอง บรรลุตาม ตัวชี้วัด
หลักฐาน เกร็ดแนะครู แสดงผล การเรียนรู • แสดงรองรอย หลักฐานที่ แสดงผล การเรียนรู ตามตัวชี้วัด
นักเรียน ควรรู
B
@
NET
B
มุม IT
ขอสอบ
พื้นฐาน อาชีพ
• แทรกความรู • ขยายความรู • แนะนําแหลง • วิเคราะหแนว • กิจกรรม เสริมสําหรับครู เพิ่มเติมจาก คนควาจาก ขอสอบ O-NET สําหรับครู ขอเสนอแนะ เนื้อหา เพื่อให เว็บไซต เพื่อให เพือ่ ใหครู เพือ่ ใชเปน ขอควรระวัง นักเรียนไดมี ครูและนักเรียน เนนยํ้าเนื้อหา แนวทางใน ขอสังเกต ความรูม ากขึ้น ไดเขาถึงขอมูล ที่มักออก การชวยพัฒนา แนวทางการ ความรูที่ ขอสอบ O-NET อาชีพใหกับ จัดกิจกรรม หลากหลาย • ขอสอบ O-NET นักเรียน และอื่นๆ พิจารณาออก เพื่อประโยชน ขอสอบจาก ในการจัดการ เนื้อหา ม.4, 5 เรียนการสอน และ 6
ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรูแกนกลาง (เฉพาะชั้น ม.6)* สาระที่ 1 การดํารงชีวิตและครอบครัว
มาตรฐาน ส 1.1 เขาใจการทํางาน มีความคิดสรางสรรค มีทักษะกระบวนการทํางาน ทักษะการจัดการ ทักษะ เสร�ม กระบวนการแกปญหา ทักษะการทํางานรวมกัน และทักษะการแสวงหาความรู มีคุณธรรม และ 9 ลักษณะนิสัยในการทํางาน มีจิตสํานึกในการใชพลังงาน ทรัพยากร และสิ่งแวดลอม เพื่อการ ดํารงชีวิตและครอบครัว ชั้น
ตัวชี้วัด
ม.4-6 1. อธิบายวิธีการทํางานเพื่อการ ดํารงชีวิต 2. สรางผลงานอยางมีความคิด สรางสรรค และมีทักษะการทํางาน รวมกัน 3. มีทักษะการจัดการในการทํางาน 4. มีทกั ษะกระบวนการแกปญ หา ในการทํางาน 5. มีทักษะในการแสวงหาความรู เพื่อการดํารงชีวิต 6. มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยใน การทํางาน 7. ใชพลังงาน ทรัพยากร ในการ ทํางานอยางคุมคาและยั่งยืน เพื่อการอนุรักษ
สาระการเรียนรูแกนกลาง • วิธกี ารทํางานเพือ่ การดํารงชีวติ เปนการทํางานทีจ่ าํ เปนเกีย่ วกับ ความเปนอยูในชีวิตประจําวัน เชน - การเลือกใช ดูแลรักษาเสื้อผา และเครื่องแตงกาย ความคิดสรางสรรค มี 4 ลักษณะ ประกอบดวย ความคิดริเริ่ม ความคลองในการคิด ความยืดหยุนในการคิด และความคิดละเอียดลออ ทั ก • ษะการทํางานรวมกัน เปนการทํางานกลุมทํางานรวมกับผูอ นื่ ไดอยางมี ความสุข ทํางานอยางมีกระบวนการ ตามขัน้ ตอน และฝกหลักการทํางานกลุม เชน - การประดิษฐของใชที่เปนเอกลักษณไทย - หนาที่และบทบาทของตนเองที่มีตอสมาชิกในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน • ทักษะการจัดการ เปนการจัดระบบงานและระบบคน เพื่อใหการทํางาน สําเร็จตามเปาหมายอยางมีประสิทธิภาพ เชน - การดูแลรักษา ทําความสะอาด จัดตกแตงบานและโรงเรียน - การปลูกพืช ขยายพันธุพืช หรือเลี้ยงสัตว - การบํารุง เก็บรักษา เครื่องใชไฟฟา และอุปกรณอํานวยความสะดวก ในชีวิตประจําวัน - การดําเนินการทางธุรกิจ • ทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน มีขั้นตอน คือ การสังเกต วิเคราะห สรางทางเลือก และประเมินทางเลือก เชน - การตัดเย็บและดัดแปลงเสื้อผา - การเก็บ ถนอม และแปรรูปอาหาร - การติดตั้ง ประกอบ ซอมแซมอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช สิ่งอํานวย ความสะดวกในบานและโรงเรียน • ทักษะการแสวงหาความรูเพื่อการดํารงชีวิต ประกอบดวย การศึกษา คนควา รวบรวม สังเกต สํารวจ และบันทึก เชน - การดูแลรักษาบาน - การเลี้ยงสัตว • คุณธรรมและลักษณะนิสัยในการทํางานเปนการสรางคุณงามความดี และควรฝกใหผูเรียนมีคุณภาพที่สําคัญๆ เชน ขยัน อดทน รับผิดชอบ และซื่อสัตย • การใชพลังงาน ทรัพยากรอยางคุม คาและยัง่ ยืน เปนคุณธรรม ในการทํางาน
*สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, กระทรวงศึกษาธิการ. ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรูแกนกลาง กลุมสาระการเรียนรู การงานอาชีพและเทคโนโลยี. (กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพชุมนุมสหกรณการเกษตรแหงประเทศไทย, 2551), หนา 6 - 27. คูม อื ครู
สาระที่ 2 การออกแบบและเทคโนโลยี เสร�ม
10
มาตรฐาน ส 2.1 เขาใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสรางสิ่งของเครื่องใช หรือวิธีการตาม กระบวนการเทคโนโลยีอยางมีความคิดสรางสรรค เลือกใชเทคโนโลยีในทางสรางสรรคตอชีวิต สังคม สิ่งแวดลอม และมีสวนรวมในการจัดการเทคโนโลยีที่ยั่งยืน ชั้น
ตัวชี้วัด
ม.4-6 1. อธิบายและเชื่อมโยงความสัมพันธ ระหวางเทคโนโลยีกับศาสตรอื่นๆ 2. วิเคราะหระบบเทคโนโลยี 3. สรางและพัฒนาสิ่งของเครื่องใชหรือ วิธีการตามกระบวนการเทคโนโลยี อยางปลอดภัย โดยถายทอดความคิด เปนภาพฉายและแบบจําลองเพื่อนํา ไปสูการสรางชิ้นงาน หรือถายทอด ความคิดของวิธีการเปนแบบจําลอง ความคิดและการรายงานผลโดยใช ซอฟตแวรชวยในการออกแบบหรือ นําเสนอผลงาน 4. มีความคิดสรางสรรคในการแกปญหา หรือสนองความตองการในงานที่ ผลิตเอง หรือการพัฒนาผลิตภัณฑ ที่ผูอื่นผลิต 5. วิเคราะหและเลือกใชเทคโนโลยี ที่เหมาะสมกับชีวิตประจําวันอยาง สรางสรรคตอชีวิต สังคม และ สิ่งแวดลอม และมีการจัดการ เทคโนโลยีที่ยั่งยืนดวยวิธีการของ เทคโนโลยีสะอาด
คูม อื ครู
สาระการเรียนรูแกนกลาง • เทคโนโลยีมีความสัมพันธกับศาสตรอื่นๆโดยเฉพาะวิทยาศาสตร • ระบบเทคโนโลยี ประกอบดวย ตัวปอน (Input) กระบวนการ (Process) ผลลัพธ (Output) ทรัพยากรทางเทคโนโลยี (Resources) ปจจัยที่เอื้อ หรือขัดขวางตอเทคโนโลยี (Consideration) • การวิเคราะหระบบเทคโนโลยีทําใหทราบเกี่ยวกับปจจัยในดานตางๆ ที่มี ผลตอการแกปญหาหรือสนองความตองการ • การสรางสิ่งของเครื่องใชหรือวิธีการตามกระบวนการเทคโนโลยี ทําให ผูเรียนทํางานอยางเปนระบบ สามารถยอนกลับมาแกไขไดงาย • การสรางและพัฒนาสิ่งของเครื่องใชหรือวิธีการที่ตองอาศัยความรูที่ เกี่ยวของอื่นอีก เชน กลไกและการควบคุมไฟฟา - อิเล็กทรอนิกส • การใชซอฟตแวรชวยในการออกแบบหรือนําเสนอผลงาน มีประโยชน ในการชวยรางภาพ ทําภาพ 2 มิติ และ 2 มิติ • การพัฒนาสิ่งของเครื่องใช ตองคํานึงถึงหลักการวิเคราะหผลิตภัณฑ เบื้องตน • หลักการวิเคราะหผลิตภัณฑเบื้องตน เปนการวิเคราะหจุดมุงหมายของ การออกแบบประกอบดวย ชิ้นงานนี้ใชทําอะไร ทําไมถึงตองมีชิ้นงานนี้ ใครเปนผูใช ใชที่ไหน เมื่อไรจึงใช วิธีการที่ทําใหชิ้นงานนี้ทํางานไดตาม วัตถุประสงคที่กําหนดไว • ภาพฉาย เปนภาพแสดงรายละเอียดของชิ้นงาน ประกอบดวย ภาพดานหนา ดานขาง ดานบน แสดงขนาด และหนวยวัด เพื่อนําไป สรางชิ้นงาน • ความคิดสรางสรรคมี 4 ลักษณะ ประกอบดวย ความคิดริเริ่ม ความคลอง ในการคิด ความยืดหยุนในการคิด และความคิดละเอียดลออ • ความคิดริเริม่ จะเปนลักษณะความคิดทีแ่ ปลกใหม แตกตางจากความคิดเดิม • ความคิดแปลกใหมที่ได ตองไมละเมิดความคิดผูอื่น • ความคิดแปลกใหมเปนการสรางนวัตกรรมที่เปนสวนหนึ่งของทรัพยสิน ทางปญญา • การวิเคราะหผลดี ผลเสีย การประเมิน และการตัดสินใจเพื่อเลือกใช เทคโนโลยีที่เหมาะสม • การเลือกใชสิ่งของเครื่องใชอยางสรางสรรค โดยการเลือกสิ่งของ เครื่องใชที่เปนมิตรกับชีวิต สังคม สิ่งแวดลอม • เทคโนโลยีสะอาดเปนเครื่องมือที่ใชในการจัดการใชเทคโนโลยีเพื่อมุงสูการ พัฒนาอยางยั่งยืนชนิดหนึ่ง
คําอธิบายรายวิชา รายวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 รหัสวิชา ง…………………………………
กลุมสาระการเรียนรู การงานอาชีพและเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 1-2 เวลา 20 ชั่วโมง/ป เสร�ม
ศึกษา วิเคราะห วิธีการทํางานเพื่อการดํารงชีวิต หลักการทํางานใหประสบความสําเร็จ ทักษะในการทํางาน คุณธรรม จริยธรรม เจตคติ และลักษณะนิสัยที่ดีในการทํางาน การใชพลังงานและทรัพยากรอยางคุมคาและยั่งยืน การใชทักษะในการทํางานรวมกันอยางมีความคิดสรางสรรคเกี่ยวกับ งานประดิษฐเอกลักษณไทย งานชาง การใชทกั ษะการจัดการผลผลิตทางการเกษตร การเลีย้ งสัตว การใชทกั ษะกระบวนการแกปญ หาเกีย่ วกับการออกแบบ ผลิตภัณฑ โดยใชกระบวนการเทคโนโลยี งานธุรกิจ โดยใชทักษะกระบวนการทํางานรวมกัน ทักษะการจัดการในการทํางาน ทักษะกระบวนการแกปญหาในการ ทํางาน ทักษะในการแสวงหาความรูเพื่อการดํารงชีวิต ทักษะการคิดอยางสรางสรรค เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจในวิธีการทํางานและสรางสรรคผลงาน สามารถนําความรูไปประยุกตใช ในชีวิตประจําวัน มีประสบการณในอาชีพที่ถนัดและสนใจ มีคุณธรรม จริยธรรม และลักษณะนิสัยที่ดีในการทํางาน และมีจิตสํานึกในการใชพลังงาน ใชทรัพยากรในการทํางานอยางคุมคาและยั่งยืนดวยวิธีการเทคโนโลยีสะอาด เพื่อการอนุรักษสิ่งแวดลอม ตัวชี้วัด ง 1.1 ม.4-6/1 ม.4-6/2 ง 2.1 ม.4-6/4 ม.4-6/5
ม.4-6/3
ม.4-6/4
ม.4-6/5
ม.4-6/6
11
ม.4-6/7
รวม 9 ตัวชี้วัด
คูม อื ครู
ตาราง
ÇÔà¤ÃÒÐË Áҵðҹ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙጠÅеÑǪÕÇé ´Ñ ÃÒÂÇÔªÒ ¡ÒçҹÍÒªÕ¾áÅÐà·¤â¹âÅÂÕ Á.6
คําชี้แจง : ใหผูสอนใชตารางน�้ตรวจสอบความสอดคลองของเน�้อหาสาระการเรียนรูในหนวยการเรียนรูกับมาตรฐานการเรียนรู และตัวชี้วัดชั้นป
เสร�ม
12
สาระที่ 1
สาระที่ 2
มาตรฐาน ง 1.1
มาตรฐาน ง 2.1
ตัวชี้วัด
ตัวชี้วัด
มาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัด
หนวยการเรียนรู
หนวยการเรียนรูที่ 1 : การทํางานเพื่อ การดํารงชีวิต หนวยการเรียนรูที่ 2 : งานประดิษฐ เอกลักษณไทย
1
2
3
4
5
6
7
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
หนวยการเรียนรูที่ 3 : งานชาง
✓
หนวยการเรียนรูที่ 4 : การจัดการผลผลิต ทางการเกษตร
✓
หนวยการเรียนรูที่ 5 : การเลี้ยงสัตว
✓
✓
1
2
✓
✓
✓
✓
✓
หมายเหตุ ✓ เฉพาะที่สอดคลองกับตัวชี้วัดชั้น ม.6 เทานั้น ตัวชี้วัดที่เหลือจัดการเรียนการสอนในชั้น ม.4 และ ม.5
คูม อื ครู
4
5
✓
✓
✓
หนวยการเรียนรูที่ 6 : การออกแบบ เทคโนโลยี หนวยการเรียนรูที่ 7 : งานธุรกิจ
3
กระตุน ความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Expand
˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ÃÒÂÇÔªÒ¾×é¹°Ò¹
การงานอาชีพ และเทคโนโลยี ม.๖ ชั้นมัธยมศึกษาปที่ ๖
กลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพและเทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
ผูเรียบเรียง
นายมนตรี สมไรขิง ผศ. เพ็ญพร ประมวลสุข นายปญญา สังขภิรมย นางวรรณี วงศพานิชย นายสุวัฏ สอนจันทร นางศิริรัตน ฉัตรศิขรินทร
ผูตรวจ
รศ. สมทรง สีตลายัน ผศ. โสภาพรรณ อมตะเดชะ นายบุญชู เจนคุณาวัฒน
บรรณาธิการ
นายสมเกียรติ ภูระหงษ
ผูจัดทําคูมือครู
ปญญา สังขภิรมย วรรณี วงศพานิชย สุวัฏ สอนจันทร ระวิวรรณ ตั้งตรงขันติ พิมพครั้งที่ ๑
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ ISBN : 978-616-203-295-0 รหัสสินคา ๓๖๑๗๐๐๑ รหัสสินคา ๓๖๔๗๐๐๑
¤Œ¹¤ÇÒÁÃÙŒ¢ÂÒ¤ÇÒÁ¤Ô´¨Ò¡
EB GUIDE
ที่พิมพกํากับหัวขอสําคัญในหนังสือเรียนหลักสูตรแกนกลางฯ ผาน www.aksorn.com ไปยังแหลงความรูทั่วไทย-ทั่วโลก
Evaluate
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา Engage
Explore
Expand
Explain
Evaluate
¤íÒá¹Ð¹íÒ㹡ÒÃ㪌˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี เลมนี้ ใชประกอบการเรียนการสอน รายวิ ช าพื้ น ฐาน กลุมสาระการเรียนรูก ารงานอาชี พ และเทคโนโลยี ชั้ นมั ธยมศึ ก ษาป ที่ ๖ เนื้ อ หาตรงตาม สาระการเรียนรูแกนกลางขั้นพื้นฐาน อานทําความเขาใจงาย ใหทั้งความรูและชวยพัฒนาผูเรียนตามหลักสูตร และตัวชี้วัด เนื้อหาสาระแบงออกเปนหนวยการเรียนรู สะดวกแกการจัดการเรียนการสอน และการวัดผล ประเมินผล พรอมเสริมองคประกอบอื่นๆ ที่ชวยทําใหผูเรียนไดรับความรูอยางมีประสิทธิภาพ ¨Ñ´¡ÅØ‹Áà¹×éÍËÒ໚¹Ë¹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ Êдǡᡋ¡ÒèѴ¡ÒÃàÃÕ¹¡ÒÃÊ͹
à¡ÃÔè¹¹íÒà¾×èÍãˌࢌÒ㨶֧ÊÒÃÐÊíÒ¤ÑÞ ã¹Ë¹‹Ç·Õè¨ÐàÃÕ¹
àÊÃÔÁÊÒÃШҡà¹×éÍËҹ͡à˹×ͨҡ·ÕèÁÕã¹ ÊÒÃСÒÃàÃÕ¹ÃÙጠ¡¹¡ÅÒ§Ï à¾×Íè à¾ÔÁè ¾Ù¹áÅÐ ¢ÂÒ¤ÇÒÁÃÙ㌠ˌ¡ÇŒÒ§¢ÇÒ§ÍÍ¡ä» ๓.๓ การฝกแกะสลักผัก
เสริมสาระ
การแกะสลักผัก ดอกกุหลาบจากมะเขื อเทศ
วิธีการเลือกซื้อพัดลม ประหยยัดั พลังงาน ให้ประห
๑) วัสดุ อุปกรณ ๑. มะเขือเทศหาม ๑ ผลตอ ๑ ดอก ๒. มีดแกะสลัก ๓. อางใสนํ้า ใชสําหรับใสนํ้าเพื่อแชมะเขื อเทศ ๔. ถาดหรือกระจาด ใชสําหรับรองเศษม ะเขือเทศ ๕. ผาขาวบางชุบนํ้าบิดพอหมาด ใชส ําหรับคลุ ๖. กลองพลาสติกมีฝาปดหรือถุงพลาสติ มมะเขือเทศที่แกะสลักแลว ก สําหรับใสผักที่แกะสลักแลวเขาตูเย็น ๒) ขั้นตอนการทํา
เป็น พัดลมเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทหนึ่งที่ถูกใช้ เครือ่ งอ�านวยความสะดวกในการระบายอากาศภายใน บ้าน แบ่งเป็น ๔ ประเภท ได้แก่ พัดลมตั้งโตะ ่งพัดลมแต่ละ พัดลมตั้งพื้น พัดลมติดผนัง และพัดลมเพดาน ซึ ประเภทจะมีหลักการท�างานคล้ายคลึงกัน ซ้ อื้ หรือผูบ้ ริโภค ส�าหรับวิธกี ารเลือกซือ้ พัดลมให้ประหยัดพลังงาน ผู ควรปฏิบัติตาม ดังนี้
ขัน้ ตอนที่ ๑ เลือกมะเขือเทศทีห่ า มๆ และลางใหสะอาด ผึ่งใหสะเด็ดนํ้า
ะรุ่น โดยพัดลมที่เป็น ระบบธรรมดาจะประหยัดไฟกว่าพัดลมระบบที ขนาดมอเตอร์และก�าลังไฟต�า่ กว่า พัดลมตัง้ พืน้ และใช้พลังงานไฟฟ้าต�า่ กว่า ทัง้ นี ้ เพราะมี
องพัดลมในแต่ล ๑. ศึกษาหลักการท�างานเพื่อเปรียบเทียบสมรรถนะข ่มีรีโมทคอนโทรล หรือพัดลมตั้งโตะจะมีราคาต�่ากว่า
งานประ มรดกทางว ดิษฐที่เปนเอกลักษณ ขั้นตอนและฝัฒนธรรมของไทยที่ต ไทย เปน เพื่อใหไดผลงากปฏิบัติใหเกิดความเชองเรียนรู และถือเปน นที่มีความประณีต ี่ยวชาญ คุณคายิ่ง การอนุรักษความเปนไทยสวยงาม ที่ทรง
ò งานประดิษฐเอก หนวยการเรีย
นรู
ตัวชี้วัด
สรางผลงานอย (ง ๑.๑ ม.๔-๖ างมีความคิดสรางสรรค และมีทักษะการ /๒) มีทักษะการจั ทํางานรวมกั ดการในการทํา น มีทักษะกระบวนก งาน (ง ๑.๑ มีทักษะในการแส ารแกปญหาในการทํา ม.๔-๖/๓) งาน (ง ๑.๑ วงหาความรูเ ม.๔-๖/๔) มีคุณธรรมแ พื่อการดํา ละลักษณะน ิสัยในการทํา รงชีวิต (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๕) ใชพลังงาน งาน ทรั สิ่งแวดลอม พยากรในการทํางานอย (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๖) (ง ๑.๑ ม.๔-๖ างคุมคาและยั่ง /๗) ยืน เพื่อการอน ุรักษ ■
■
ยนรูแกนกลาง
ทักษะการทํา งานรวมกัน อยางมีความส เปนการท หลักการทํางานกุข ทํางานอยางมีก ํางานกลุม ทํางานรวมกั บผูอื่นได คุณธรรมและล ลุม เชน การประดิ ระบวนการตามขั้นตอนแ และควรฝกให ักษณะนิสัยในการทํา ษฐของใชที่เปนเอกลักษณ ละฝก และซื่อสัตย ผูเรียนมีคุณภาพที่สําคังานเปนการสรางคุณงามคไทย ญๆ เชน ขยัน การใชพลังงาน อดทน รับผิดวามดี ทรัพยากรอย ชอบ ทํางาน างคุมคาและย ั่งยืน เปนคุณ ธรรมในการ ■
■
■
ลักษณ ไทย
สาระการเรี
■
■
อุตสาหกรรม มีความคงทนแข็งแรง ได้รบั เครือ่ งหมายรับรองคุณภาพมาตรฐาน
ขั้นตอนที่ ๒ ใชมีดแกะสลักเฉือ มะเขือเทศที่ขั้ว แลวเฉือนวนไปตามลู น มะเขือเทศ ใหมะเขือเทศดานปลายมี ก มีความบาง และดานดามมีดมีความหนาด จนหมดทั้งผล
หมาะสมกับขนาดพื้นที่ใช้สอย ๖. เลือกพัดลมที่มีขนาดใบพัดและก�าลังไฟฟ้าให้ยเงคนเดี ยวหรือไม่เกิน ๒ คน และจ�านวนคนในครอบครัว เช่น ถ้าต้องการใช้เพี ดไฟกว่าพัดลมประเภทอืน่ ๆ งประหยั ควรใช้พดั ลมตัง้ โตะ เพราะความแรงของลมเพียงพอและยั เป็นต้น
ขั้นตอนที่ ๓ จับมะเขือเทศดานปลาย มวนใหแนน โดยใหดานที่มีความบางเป ดานบน ดานทีห่ นากวาอยูด า นลางตรงขั น รองรับกลีบดอกกุหลาบพอดี และจัดกลี ว้ ผล บให เขาที่สวยงาม
■
■
Design ˹ŒÒẺãËÁ‹ ÊǧÒÁ ¾ÔÁ¾ ô ÊÕ µÅÍ´àÅ‹Á áÅйíÒàʹÍà¹×éÍËÒ์¹·Ñ¡ÉÐ ¡Ãкǹ¡Ò÷íҧҹ͋ҧ໚¹¢Ñ鹵͹ à¾×èÍ¡ÒùíÒä»ãªŒã¹ªÕÇÔµ»ÃШíÒÇѹ
EB G
http://www.aksorn.com/LC/Car/M6/06
๓๐ 4๙
µÑǪÕÇé ´Ñ áÅÐÊÒÃСÒÃàÃÕ¹ÃÙጠ¡¹¡ÅÒ§Ï µÒÁ·ÕËè ÅÑ¡Êٵà ¡íÒ˹´ à¾×èÍãËŒ·ÃÒº¶Ö§à»‡ÒËÁÒÂ㹡ÒÃÈÖ¡ÉÒ à¡Ãç´¹‹ÒÃÙàŒ ¾ÔÁè àµÔÁ¨Ò¡à¹×Íé ËÒ ÁÕá·Ã¡à»š¹ÃÐÂÐæ
๒. การซอมแซมอุปกรณ์ เครื่องใช้ภายในบ้าน ในการตรวจซ่อมแซมอุปกรณ์ เครื่องใช้ ภายในบ้านนั้นจ�าเป็นต้องอาศัยความรู้ ความ เข้ า ใจ และความละ เอี ย ดในการหาส าเหตุ ข้อขัดข้องต่างๆ ของเครื่องใช้ เพราะถ้าท�าการ ตรวจซ่ อ มด้ ว ยความไม่ ร อบคอบ อาจเป็ น ผลเสียและเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อทรัพย์สิน และชีวิตได้ การซ่อมแซมอุปกรณ์ เครื่องใช้ ภายในบ้าน นอกจากจะท�าให้สามารถน�ากลับ มาใช้ได้อีกครั้งแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ของครอบครัวด้วย
๑. ซ่อมแซมทันทีที่พบร่องรอยการช� ไม่ปล่อยทิ้งไว้จนซ่อมแซมไม่ได้ ๒. ส�ารวจชนิดของวัสดุที่ใช้ท�าอุปกรณ์ เครือ่ งใช้ และลักษณะการช�ารุดของอุปกรณ์และ เครื่องใช้ภายในบ้าน ๓. ศึ ก ษาวิ ธี ก ารซ่ อ มแซมอุ ป กรณ์ แ ละ เครื่องใช้ภายในบ้าน ๔. ตรวจสอบวงจรให้แน่ใจว่าได้ตัดไฟฟ้า ออกจากวงจรก่อนท�าการซ่อมแล้ว ้ละเอียดก่อนการใช้งานจริง ๕. หลังการซ่อมแซมควรตรวจสอบความถูกต้องของวงจรให ทุกครั้ง เกิดความปลอดภัยสูงสุด ๖. ในการปฏิบัติงานทุกครั้งจะต้องมีความรอบคอบเพื่อให้
ãºÁͺËÁÒ§ҹ ª‹ÇÂãËŒ¼ÙŒàÃÕ¹䴌½ƒ¡·Ñ¡ÉСÒäԴ áÅл¯ÔºÑµÔ à¾×èÍãËŒÁդسÀÒ¾µÒÁµÑǪÕéÇÑ´
à¹×éÍËҵçµÒÁÊÒÃСÒÃàÃÕ¹Ãٌ᡹¡ÅÒ§Ï ãËŒ¤ÇÒÁÃÙŒáÅÐàÍ×é͵‹Í¡ÒùíÒä»ãªŒÊ͹à¾×èÍ ãËŒºÃÃÅصÑǪÕéÇÑ´ áÅÐÊÌҧ¤Ø³ÅѡɳРÍѹ¾Ö§»ÃÐʧ¤ ัดกร กัน การจ
à¡Ãç´¹‹ÒÃÙŒ
การใช้และดูแลอุปกรณ์ เครือ่ งใช้ไฟฟาภายในบ้าน ในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกประเภท หากผู้ใช้รู้จัก ใช้อย่างถูกต้อง จะเป็นการช่วยรักษาประสิทธิภาพของ เครือ่ งใช้ไฟฟ้าไว้ ทัง้ ยังช่วยประหยัดพลังงานและท�าให้ การใช้งานทุกครัง้ มีความปลอดภัยมากขึน้ ดังตัวอย่าง ต่อไปนี้ ๑. การใช้หม้อหุงข้าว ควรเลือกขนาดให้เหมาะสม กับสมาชิกในครอบครัว แล้วดึงปลั๊กออกเมื่อข้าวสุก หมั่นคอยตรวจดูแท่นความร้อนของหม้อ อย่าให้มี สิ่งแปลกปลอมหรือผงติดอยู่ เพราะอาจท�าให้เกิด ไฟฟ้าลัดวงจรและหมัน่ ตรวจดูกน้ หม้อ อย่าให้มรี อยยุบ ๒.๑ หลักการซอมแซมอุปกรณ์ เพราะจะท�าให้เปลืองไฟ ๒. การใช้เตารีด ควรตรวจสอบสภาพสายไฟและ เครื่องใช้ภายในบ้าน ตัวเครื่องเตารีดทุกครั้งก่อนใช้งาน หลังจากนั้นควรตั้ง ในการซ่อมแซมอุปกรณ์ เครื่องใช้ภายใน ปุมปรับความร้อนให้เหมาะกับชนิดของผ้า เริ่มรีดผ้า บ้านให้ถูกต้องและปลอดภัย จะต้องปฏิบัติตาม บางๆ ก่อนแล้วจึงรีดผ้าทีใ่ ช้ความร้อนสูง และควรเหลือ ผ้าที่ต้องการความร้อนน้อยไว้ส่วนหนึ่งส�าหรับรีดหลัง หลักการ ดังนี้ ารุด จากถอดปลัก๊ ก่อนเสร็จสิน้ การรีด ประมาณ ๓-๔ นาที
5๐
Web Guide á¹Ð¹íÒáËÅ‹§¤Œ¹¤ÇŒÒ¢ŒÍÁÙÅ à¾ÔèÁàµÔÁ¼‹Ò¹Ãкº Online
ะเชา ม
ใบมอบหมายงานที่
ัดแจ มดอกไ อ การจ ไม้สด จัดเปนซุ จัดดอก ไปมีทั้งการจัดแบบชบยุคสมัย จึงมีการ พณตี า งๆ เปน ตน ั่ว ะเ แบบการ ากั 4.๓ รูป การจัดดอกไม โดยทเปลี่ยนรูปแบบใหเขรถบุปผชาตใิ นงานปร ับ ดั
อง ดังนี้ รูปแบบข ปจจุบันไดมีการปร นรบั ปรญิ ญา การจ พื้นฐาน น งา นี้ ใน จัดที่เปน นอกจาก เชน งานแตงงา แบบการ งๆ กัน มีรูป ในงานตา มแบบแจ กไ ดอ ด ั รจ ่ว สําหรับกา มเทา ลี่ยมหนาจั ลี่ยมดานไ ทรงสามเห ทรงสามเห ๑ ดอกไมรูป ๑ ดอกไมรูป ๑ การจัด ๒ การจัด ๑
ตอนที่ ๑ ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมเป็นรายบุคคล เพื่อตอบค�าถามต่อไปนี้ ๑. ในการประกอบและติดตั้งอุปกรณ์ เครื่องใช้ภายในบ้านให้ถูกต้องและปลอดภัยจะต้องมีหลัก ปฏิบัติอย่างไรบ้าง ๒. ในการติดตั้งอุปกรณ์ เครื่องใช้ภายในบ้านต้องค�านึงถึงสิ่งใดบ้าง ๓. การประกอบและติดตั้งเฟอร์นิเจอร์แต่ละประเภทต้องค�านึงถึงอะไรบ้าง ๔. การติดตั้งอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัยควรปฏิบัติอย่างไร ๕. การศึกษาคูม่ อื ทีม่ าพร้อมกับอุปกรณ์เครือ่ งใช้มคี วามจ�าเป็นอย่างไรในการประกอบและติดตัง้
๑
๕ ๓
๓.๑
เรื่อง การประกอบและติดตั้งอุปกรณ์ เครื่องใช้ภายในบ้าน
๕
๒
๔
๓
๔
๔
๒
๔
๕
๓
๒
๒
๕
๓
ตอนที่ ๒ ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมเป็นกลุ่มเพื่อท�าการติดตั้งอุปกรณ์ เครื่องใช้ภายในบ้าน
๓
งกลม
กไมรูปทร
การจัดดอ ๕
๑ ๔
๑
๒
๓
๔ การจ
๔
๑
๓
๕
● ● ●
๕ ๒
๑. ใช้ทักษะกระบวนการท�างานอย่างเป็นขั้นตอนในการประกอบและติดตั้งอุปกรณ์ เครื่องใช้ ภายในบ้าน อันได้แก่ สังเกต วิเคราะห์ สร้างทางเลือก ประเมินทางเลือก ๒. เลือกปฏิบัติงานประกอบและติดตั้งอุปกรณ์ เครื่องใช้ภายในบ้าน เช่น ตู้ โต๊ะ ชั้นวางของ ทั้งแบบติดผนังและแบบลอยตัว พัดลมประเภทต่างๆ เป็นต้น ๓. บันทึกการท�างานทุกขั้นตอน ๔. บอกประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติงาน ๕. น�าเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน ●
นวนอน
ูปทรงแ ดั ดอกไมร ๗
๔
๖
๓
๒
๑ ๕
๗
๖
๔
๒
๓
57
๓๖
กระตุน ความสนใจ Engage
˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè
ñ
● ●
●
ò
Explain
ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Expand
Evaluate
ñ-ñô
ËÅÑ¡¡Ò÷íÒ§Ò¹à¾×èÍ¡ÒôíÒçªÕÇÔµ ËÅÑ¡¡Ò÷íÒ§Ò¹ãËŒ»ÃÐʺ¤ÇÒÁÊíÒàÃç¨ ·Ñ¡ÉÐ㹡Ò÷íÒ§Ò¹ ¤Ø³¸ÃÃÁ ¨ÃÔ¸ÃÃÁ ਵ¤µÔ áÅÐÅѡɳйÔÊÑ·Õè´Õ㹡Ò÷íÒ§Ò¹ ¡ÒÃ㪌¾Åѧ§Ò¹áÅзÃѾÂÒ¡ÃÍ‹ҧ¤ØŒÁ¤‹ÒáÅÐÂÑè§Â×¹
§Ò¹»ÃдÔÉ° àÍ¡Åѡɳ ä·Â ● ● ● ●
ó
●
ô
● ●
ñõ-ôò ñö ñø òø óô
ôó-õø
¡ÒûÃСͺáÅеԴµÑé§ÍØ»¡Ã³ à¤Ã×èͧ㪌ÀÒÂ㹺ŒÒ¹ ¡Òë‹ÍÁá«ÁÍØ»¡Ã³ à¤Ã×èͧ㪌ÀÒÂ㹺ŒÒ¹
¡ÒèѴ¡ÒüżÅÔµ·Ò§¡ÒÃà¡ÉµÃ ●
ò ó õ ññ ñó
¤ÇÒÁËÁÒÂáÅФس¤‹Ò¢Í§§Ò¹»ÃдÔÉ° ·Õè໚¹àÍ¡Åѡɳ ä·Â §Ò¹ãºµÍ§ §Ò¹á¡ÐÊÅÑ¡¼Ñ¡áÅмÅäÁŒ §Ò¹´Í¡äÁŒÊ´
§Ò¹ª‹Ò§ ●
˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè
อธิบายความรู
¡Ò÷íÒ§Ò¹à¾×èÍ¡ÒôíÒçªÕÔÇÔµ
●
˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè
Explore
ÊÒúÑÞ ●
˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè
สํารวจคนหา
ôô õð
õù-÷ø
ÇÔ·ÂÒ¡ÒÃËÅѧ¡ÒÃà¡çºà¡ÕèÂǼżÅÔµ¾×ª ¡ÒÃ㪌෤â¹âÅÂÕáÅÐÀÙÁÔ»˜ÞÞÒ·ŒÍ§¶Ôè¹à¾×èÍ¡ÒÃ͹ØÃÑ¡É ÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁ ¡ÒÃá»ÃÃÙ»¼Å¼ÅÔµ¾×ª
öð öó ÷ñ
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา Engage
Explore
˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè
Explain
õ ö
÷ù-ùð
¤ÇÒÁÊíÒ¤Ñޢͧ¡ÒÃàÅÕé§ÊÑµÇ µÑÇÍ‹ҧ¡ÒÃàÅÕé§ÊѵÇ
øð øñ
¡ÒÃÍ͡Ẻ෤â¹âÅÂÕ
ùñ-ññø
●
● ● ●
˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè
Evaluate
¡ÒÃàÅÕé§ÊÑµÇ ●
˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè
Expand
÷
¤ÇÒÁÃÙŒàº×éͧµŒ¹à¡ÕèÂǡѺ¡ÒÃÍ͡Ẻ¼ÅÔµÀѳ± ËÅÑ¡¡ÒÃ㹡ÒÃÍ͡Ẻ¼ÅÔµÀѳ± µÑÇÍ‹ҧ¡ÒÃÍ͡Ẻ¼ÅÔµÀѳ±
§Ò¹¸ØáԨ ● ● ● ● ●
¤ÇÒÁÃÙŒàº×éͧµŒ¹à¡ÕèÂǡѺ¡ÒôíÒà¹Ô¹¡Ò÷ҧ¸ØáԨ ¡Ãкǹ¡Òâͧ§Ò¹¸ØáԨ ¡ÒúÃÔËÒÃà§Ô¹§º»ÃÐÁÒ³ ¡ÒúÑÞªÕ ¡ÒèѴ¡ÒøØáԨ¢¹Ò´¡ÅÒ§áÅТ¹Ò´Â‹ÍÁ (SMEs)
ºÃóҹءÃÁ
ùò ùô ù÷
ññù-ñóø ñòð ñò÷ ñòø ñóð ñóó
ñóù-ñôð
กระตุน ความสนใจ Engage
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
เปาหมายการเรียนรู 1. เขาใจหลักการทํางานเพื่อ การดํารงชีวิต 2. มีทักษะกระบวนการแกปญหา ในการทํางาน 3. มีทักษะในการแสวงหาความรู เพื่อการดํารงชีวิต 4. ตระหนักถึงการใชพลังงาน และทรัพยากรในการทํางาน อยางคุมคา
กระตุนความสนใจ ใหนักเรียนดูภาพหนาหนวย จากนั้นสนทนาถึงความสําคัญ ของการทํางาน
เกร็ดแนะครู การทํ า งานเพื่ อ การดํ า รงชี วิ ต จํ า เป น ตองมีทักษะกระบวนการทํางานที่ดี และมี จริยธรรม คุณธรรมในการทํางาน เพือ่ นําไปสู ความสําเร็จในการทํางานที่มีประสิทธิภาพ
ñ การทํางานเพื่อการดํารงชีวิต
หน่วยการเรียนรู้
ตัวชี้วัด ■ ■
■ ■ ■ ■ ■
อธิบายวิธีการทํางานเพื่อการดํารงชีวิต (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๑) สรางผลงานอยางมีความคิดสรางสรรค และมีทักษะการทํางานรวมกัน (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๒) มีทักษะการจัดการในการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๓) มีทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๔) มีทักษะในการแสวงหาความรูเพื่อการดํารงชีวิต (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๕) มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยในการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๖) ใชพลังงาน ทรัพยากรในการทํางานอยางคุมคา และยั่งยืน เพื่อการอนุรักษ สิ่งแวดลอม (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๗)
สาระการเรียนรู้แกนกลาง ■ ■ ■ ■ ■
วิธีการทํางานเพื่อการดํารงชีวิต ทักษะการทํางานรวมกัน ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน ทักษะการแสวงหาความรูเพื่อการดํารงชีวิต ฯลฯ
ครูควรจัดการเรียนรูโดยอธิบาย ใหนักเรียนเขาใจเกี่ยวกับหลักการ ทํางานเพื่อการดํารงชีวิต และจัด กิจกรรมใหนักเรียนไดเรียนรู ถึงทักษะกระบวนการตางๆ ที่จําเปน ในการทํางานใหมีประสิทธิภาพ ดังนี้ • ทักษะการจัดการในการทํางาน • ทักษะกระบวนการแกปญหาใน การทํางาน • ทักษะในการแสวงหาความรู เพื่อการดํารงชีวิต • ทักษะการทํางานอยางมี คุณธรรมและใชพลังงาน ทรัพยากรในการทํางาน อยางคุมคา เพื่อการอนุรักษ สิ่งแวดลอม
คูมือครู
1
กระตุน ความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ Explain
Evaluate
(หนาพิมพและตัวอักษรในกรอบนี้มีขนาดเล็กกวาฉบับนักเรียน 20%)
กระตุนความสนใจ ครูนําเทปรายการโทรทัศน เชน รายการ The Idol คนบันดาลใจ มา ใหนักเรียนดูชีวิตของบุคคลที่ประสบ ความสําเร็จในการทํางาน เพื่อสราง แรงบันดาลใจใหกับการทํางานใน อนาคต
๑. หลักการทํางานเพื่อการดํารงชีวิต การท�างานในชีวติ ประจ�าวันล้วนประกอบไปด้วยบุคคลทีม่ คี วามสามารถหลากหลาย จึงจ�าเป็น ต้องอาศัยหลักการท�างาน 6P เข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อให้งานบรรลุผลส�าเร็จ หลักการท�างาน 6P มีดังต่อไปนี้
6P
อธิบายความรู
2
คูมือครู
ีทัศนคติิเปน ก าร ม v e T h บว ก
o s i ti
การมีจิตใจที่สงบ
i n ki n
eaceful Mind
กำรมองโลกในแง่ดอี ยูเ่ สมอ ต้องคิดไว้ว่ำ “ทุกๆ ปัญหำ มีวิธีแก้ไขได้” เพื่อให้งำนที่ท�ำ ประสบควำมส�ำเร็จหรือ บรรลุเป้ำหมำย
เมื่อพบปัญหำ ในกำรท�ำงำน ต้องมีจิตใจ ที่สงบ คิดหำวิธีแก้ปัญหำ ให้ดีที่สุด
การตรงต่อเวลา
u n ctu al การมีความอดทน
a ti e n t
กำรเป็นคนตรงต่อเวลำ และมีวินัย ก็จะได้รับควำม ไว้วำงใจให้ท�ำงำน
กำรมีควำมอดทน อดกลั้น ระงับอำรมณ์ และควำมรู้สึก ที่ไม่ดีต่ำงๆ ค วา ม
เปนมืออาชีพในก
ro fe s
sio n al
า รท
การเปนคนสุภาพ
o lit e
กำรเป็นคนสุภำพ อ่อนน้อมถ่อมตน ย่อมเป็น ที่รักใคร่ของผู้อื่นและ น่ำคบค้ำสมำคมด้วย
�า
งา น
ครูใหนักเรียนรวมกันอภิปรายวา นักเรียนสามารถนําหลักการ 6P มา ประยุกตใชกับการเรียนไดอยางไร (แนวตอบ เชน การเปนคนตรงตอ เวลา มีวนิ ยั ในการสงการบานตรงตาม เวลาที่ครูกําหนด ซึ่งจะทําให นักเรียนไดคะแนนดี อีกทั้งไดรับ ความไววางใจในการทํากิจกรรม ตางๆ ที่สําคัญในโรงเรียน)
หลักกำรท�ำงำนเพื่อกำรด�ำรงชีวิต
g
ครูตงั้ คําถามใหนกั เรียนแสดง ความคิดเห็นวา นักเรียนสามารถนํา หลักการ 6P มาใชในการทํางานได อยางไร (แนวตอบ 1. การมีทัศนคติเปนบวก ทําใหเรามองวิกฤตปญหาตางๆ เปน โอกาสในการฝกฝนความสามารถ 2. การมีจิตใจที่สงบ ไมวาจะใน สถานการณยํ่าแยมากแคไหน การมีสติ สมาธิจะทําใหเกิดปญญา 3. การมีความอดทน ระงับอารมณ ความรูสึกที่ไมดี ทําใหไมเกิด ความเดือดรอนกับผูอื่น 4. การเปนคนตรงตอเวลา ทําให ไดรับความไววางใจในการทํางาน สําคัญตางๆ 5. การเปนคนสุภาพ ทําใหเปนที่ รักใครของผูอื่น และไดรับ ความชวยเหลือจากผูอื่นเสมอ 6. ความเปนมืออาชีพในการทํางาน โดยใชความรูความสามารถในการ ทํางานอยางเต็มที่ เพื่อใหได ผลงานที่มีคุณภาพ)
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
กำรเป็นผูน้ ำ� และผูต้ ำม ทีด่ ี หมัน่ แสวงหำควำมรูใ้ หม่ๆ และหมัน่ ฝึกทักษะในกำร ท�ำงำนอยูเ่ สมอ เพือ่ ให้งำน ออกมำดีทสี่ ดุ
หลักกำรท�ำงำนข้ำงต้นนั้น หำกเรำ สำมำรถน� ำ ไปปฏิ บั ติ ไ ด้ จ นเป็ น นิ สั ย นับเป็นวิธีกำรหนึ่งที่จะท�ำให้เรำประสบ ควำมส� ำ เร็ จ ในกำรท� ำ งำนได้ อ ย่ ำ งมี ประสิทธิภำพและประสิทธิผล
๒
นักเรียนควรรู ทัศนคติ (Attitude) หมายถึง ความรูสึกนึกคิด ความรู ความเขาใจที่เกิดจากการเรียนรูผาน ประสบการณ ซึ่งสามารถแยกองคประกอบ ได 3 ประการ ไดแก องคประกอบดานความรู องคประกอบดานความรูสึก และองคประกอบดานพฤติกรรม
กระตุน ความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ Expand
Explain
ตรวจสอบผล Evaluate
กระตุนความสนใจ
๒. หลักการทํางานใหประสบความสําเร็จ ในการท�างานให้ประสบความส�าเร็จนั้น เราจ�าเป็นต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาวิธีการ ท�างานอยู่เสมอ โดยอาศัยกระบวนการ PDCA ๔ ขั้นตอน ได้แก P (Plan) D (Do) C (Check) A (Act) (ดังได้กล่าวมาแล้วในชั้นมัธยมศึกษาปที่ ๕) และหลักการ “D-E-V-E-L-O-P” ซึ่งมีดังนี้
D E V E L O P
D E V E L
evelopment
ไม่หยุดยั้งกำรพัฒนำ
ndurance
หลักกำรท�ำงำนให้ประสบควำมส�ำเร็จ
โดยจะต้องตรวจสอบว่ำเรำมีจุดแข็งและจุดบกพร่องในด้ำนใดบ้ำงและพยำยำมที่จะหำทำงพัฒนำ จุดแข็งและปรับปรุงจุดบกพร่องในกำรท�ำงำนแต่ละขั้นตอนให้ดีขึ้น
มุ่งเน้นควำมอดทน
โดยอดทนต่อควำมเครียด แรงกดดัน จำกสภำวะกำรท�ำงำน ตลอดจนไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคต่ำงๆ เพื่อให้กำรท�ำงำนบรรลุเป้ำหมำย
ersatile
โดยในกำรท�ำงำนร่วมกันเป็นกลุ่มนั้น จ�ำเป็นที่จะต้องอำศัยคนที่มีควำมรู้ควำมสำมำรถที่หลำกหลำย มำกกว่ำคนอื่น
nergetic
ove
รักงำนที่ท�ำ
O
โดยจะต้องมีควำมกระตือรือร้นและตื่นตัวที่จะแสวงหำควำมรู้ใหม่ๆ จำกแหล่งกำรเรียนรู้ต่ำงๆ เช่น หนังสือ วำรสำร เว็บไซต์ พร้อมทั้งมีควำมมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหำแ หำและอุ ละอุปสรรคให้ประสบผลส�ำเร็จ โดยในกำรท�ำงำนนั้น กำรมีควำมรู้สึกรักงำน ที่ท�ำ จะท�ำให้เรำมีควำมสุขกับกำรท�ำงำน และ พยำยำมหำวิธีกำรต่ำงๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภำพ ของงำนที่ท�ำ ซึ่งจะส่งผลให้เรำรู้จักวำงแผนชีวิต และเป้ำหมำยควำมส�ำเร็จในกำรท�ำงำนในอนำคต
rganizing
โดยรู้ว่ำควรจัดกำรอะไรก่อนและหลัง มีกำร วำงแผนกำรท�ำงำนอย่ำงเป็นระบบ เป็นขั้นตอน สำมำรถจัดสรรเวลำและทรัพยำกรต่ำงๆ ให้ เหมำะสมกับลักษณะงำนที่ท�ำ
ositive thinking
โดยเริม่ ต้นจำกกำรมองโลกในแง่ดี จะท�ำให้เรำมี ก�ำลังใจที่จะท�ำงำนต่ำงๆ ที่ได้รับมอบหมำยให้ ประสบผลส�ำเร็จ
จัดกำรเป็นเลิศ
P
คิิดแต่ทำงบวก
สํารวจคนหา ใหนักเรียนสัมภาษณบุคคลใน ครอบครัวที่อยูในวัยทํางานถึงวิธีการ ทํางานที่นําไปสูความสําเร็จ
อธิบายความรู
หลำกหลำยควำมสำมำรถ เพื่อช่วยกันท�ำงำน ปรับปรุงและพัฒนำกำรท�ำงำนให้ดีขึ้น ไม่ควรหลีกเลี่ยงงำน หรือกลัวจะต้องท�ำงำน
กระตือรือร้นอยู่เสมอ
ครูตั้งคําถามวา เปาหมายสูงสุด ในการทํางานคืออะไร และให นักเรียนแสดงความคิดเห็นรวมกัน
ดังนั้น หำกเรำต้องกำรที่จะประสบ ควำมส�ำเร็จในกำรท�ำงำน ควรประยุกต์ ใช้หลักกำร D-E-V-E-L-O-P (ไม่หยุดยัง้ กำรพัฒนำ มุง่ เน้นควำมอดทน หลำกหลำย ควำมสำมำรถ กระตือรือร้นอยู่เสมอ รักงำนที่ท�ำ จัดกำรเป็นเลิศ และคิดแต่ ทำงบวก) กล่ำวโดยรวมก็คือ ต้องหมั่น พัฒนำตนเองอยูเ่ สมอทัง้ ในด้ำนควำมคิด ควำมรู้ จิตใจ และกำรกระท�ำ ซึ่งจะ ส่งผลให้หน้ำที่กำรงำนมีควำมก้ำวหน้ำ และประสบผลส�ำเร็จอย่ำงที่ตั้งใจและ มุ่งหวังไว้
๓
ครูใหนักเรียนนําขอมูลที่ไดจาก การสัมภาษณมาอภิปรายรวมกัน ในชั้นเรียน และวิเคราะหวา วิธีการ ทํางานของบุคคลดังกลาวสัมพันธ กับหลักการ D-E-V-E-L-O-P หรือไม อยางไร (แนวตอบ อาชีพคาขาย มีวิธีการ ทํางานที่สัมพันธกับหลักการ D-E-V-E-L-O-P คือ Development พัฒนาสินคา ของตนเองอยูเสมอ พยายามหา ขอบกพรองที่ลูกคาไมพอใจแลวนํา มาปรับปรุง Endurance อดทนตอคําตําหนิ ของลูกคา Versatile ยอมรับความคิดเห็น ที่หลากหลายของผูอื่น เพื่อนํามา พัฒนาสินคาใหดีขึ้น Energetic กระตือรือรนที่จะหา สินคาตัวใหมมาตอบสนองความ ตองการของลูกคาอยางรวดเร็ว Love รักในงานบริการและมี ความสุขกับการคาขายสินคา Organizing มีการวางแผนและ ประเมินผลหลังการขาย Positive thinking ใหกําลังใจ ตนเองเสมอ และมองหาชองทาง การจําหนายแหงใหมเพื่อเพิ่ม ยอดขายของสินคา)
คูมือครู
3
กระตุนความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ Explain
Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
อธิบายความรู ครูตั้งประเด็นอภิปรายวา การบริหารเวลาในชีวิตประจําวัน ไดอยางมีประสิทธิภาพ กอใหเกิด ประโยชนอยางไรบาง (แนวตอบ การบริหารเวลาไดอยาง มีประสิทธิภาพ กอใหเกิดประโยชน ทั้งตอตนเองและคนรอบขาง เพราะ เปนการจัดกิจกรรมตางๆ ของ แตละวันใหเปนระบบมากขึ้น สราง ระเบียบวินัย ความรับผิดชอบใหกับ การใชชีวิต จึงทําใหมีเวลาทุมเทให กับงาน มีเวลาพักผอน และมีเวลา ใหครอบครัวมากขึ้น อีกทั้งชวยลด ความเครียด ความวิตกกังวลในชีวิต อันเปนสาเหตุใหเกิดโรคภัยไขเจ็บ อีกดวย)
เสริมสาระ
เทคนิคการบริหารเวลา อย่ำงมีประสิทธิภาพ เวลำเป็นสิ่งอันมีค่ำที่ใช้แล้วหมดไป ไม่สำมำรถหำซื้อมำได้ มีหลำยคนที่มักบ่นว่ำ เวลำมีน้อย หรือมีเวลำไม่พอในกำรท�ำงำน ไม่ว่ำจะเกิดจำกสำเหตุใดก็ตำม เช่น เกิดจำกกำรขำดกำรวำงแผน จัดกำรที่ดี เกิดจำกกำรผัดวันประกันพรุ่ง เกิดจำกกำรใช้เวลำไปท�ำ สิ่งที่ไม่มีประโยชน์ เป็นต้น ดังนั้น กำรบริหำรเวลำจึงเป็นสิ่งส�ำคัญ และจ�ำเป็นทีเ่ รำต้องเรียนรู้ เพือ่ ทีจ่ ะได้จดั กำรสิง่ ต่ำงๆ ในเวลำทีม่ อี ยูใ่ ห้ ส�ำเร็จลุล่วง โดยใช้เวลำน้อยที่สุดแต่มีประสิทธิภำพมำกที่สุด รวมทั้งยัง มีเวลำส่วนตัวเพื่อพักผ่อนได้ตำมต้องกำร ส�ำหรับเทคนิคกำรบริหำรเวลำ อย่ำงมีประสิทธิภำพสำมำรถสรุปได้ ดังนี้
๑. ตั้งเปาหมายให้ชัดเจน
ขยายความเขาใจ
๒. วางแผนงานประจ�าวัน
ใหนักเรียนเขียนบันทึกประจําวัน เพื่อแสดงใหเห็นวา นักเรียนสามารถ แบงเวลาใหกับกิจกรรมตางๆ ได เหมาะสมเพียงใด โดยเขียนในระยะ เวลา 15 วัน เพื่อฝกฝนการบริหาร เวลาที่ดีใหกับการดํารงชีวิต
๓. จัดโตะท�างานให้เปน ระเบียบ
๔. ส�ารวจสิ่งที่ต้องท�าใน แต่ละวัน
๕. มีความรับผิดชอบ ๖. เพิ่มเวลา
๔
4
คูมือครู
ทัง้ เรือ่ งส่วนตัว เรือ่ งงำน ซึง่ จะช่วยก�ำหนดทิศทำงกำรใช้เวลำในแต่ละวัน แต่ละสัปดำห์ แต่ละเดือน รวมถึงแต่ละป โดยจัดล�ำดับควำมส�ำคัญของงำนหรือกิจกรรมที่จะท�ำให้ชัดเจน ควร เลือกท�ำงำนที่ส�ำคัญและเร่งด่วนก่อน และควรแบ่งงำนชิ้นใหญ่ออกเป็น ชิ้นย่อยๆ เมื่อวำงแผนเสร็จแล้วก็ต้องรีบตัดสินใจลงมือท�ำงำนทันที อย่ำมัวรีรอหรือผัดผ่อน โดยรักษำควำมสะอำด จัดเตรียมอุปกรณ์ทจี่ ำ� เป็นไว้ใกล้มอื เช่น สมุดโน้ต ปำกกำ ดินสอ ยำงลบ กรรไกร เป็นต้น เพื่อจะได้สะดวกในกำรหยิบใช้ ไม่เสียเวลำในกำรค้นหำ ด้วยกำรค�ำนวณดูว่ำใช้เวลำไปกับเรื่องต่ำงๆ เช่น กำรกิน กำรท�ำงำน กำรนอน กำรออกก�ำลังกำย กำรสังสรรค์ กำรอยู่กับครอบครัวได้สมดุล หรือไม่ และเสียเวลำไปกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องมำกน้อยเพียงใด เพื่อที่จะ ได้ปรับปรุงเวลำในเรื่องหนึ่งเรื่องใดให้มำกขึ้นหรือน้อยลง ต้องมีวินัยในตัวเอง มีควำมมุ่งมั่นต่องำนที่ปฏิบัติ โดยใช้เวลำตำมที่ ก�ำหนดไว้ หำกเรำบริหำรเวลำอย่ำงเต็มที่แล้วก็ยังรู้สึกว่ำงำนเยอะ ท�ำงำนไม่ทัน ก็ต้องหำเวลำมำเพิ่ม เช่น ตื่นให้เช้ำขึ้น หรือย้ำยมำพักใกล้ๆ ที่ท�ำงำน เพื่อประหยัดเวลำในกำรเดินทำง เป็นต้น รวมทั้งปรึกษำผู้ที่บริหำรเวลำ ได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ แล้วน�ำมำปรับใช้ในกำรท�ำงำน ก็อำจช่วยให้เรำ ท�ำงำนได้อย่ำงมีประสิทธิภำพมำกขึ้น
กระตุน ความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
Explain
Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
กระตุนความสนใจ
๓.ทักษะในการทํางาน การท�างานเพื่อการด�ารงชีวิตเป็นการท�างานแบบบูรณาการงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการ ด�ารงชีิวิตเข้าด้วยกัน เช่น งานติดตั้งและซ่อมแซมอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน ซึ่งเราจ�าเป็น จะต้องใช้ทักษะกระบวนการต่างๆ มาประกอบในการท�างาน เพื่อให้การท�างานประสบความส�าเร็จ การท�างานให้มีประสิทธิภาพจ�าเป็นต้องมีทักษะที่ส�าคัญ ดังนี้
๓.1 ทักษะความคิดสร้างสรรค ความคิดสร้างสรรค์เป็นความคิดที่เกิดจากพื้นฐานความรู้เดิมที่ได้มีการสั่งสมประสบการณ์ จนสามารถน�ามาต่อยอดจนเกิดเป็นความคิดใหม่ ซึง่ เราสามารถพัฒนาความคิดสร้างสรรค์จนเกิด เป็นทักษะได้ด้วยการหมั่นสังเกต เรียนรู้และฝึกฝนอยู่เสมอ ทั้งนี้ เพื่อที่จะสามารถน�ามาประยุกต์ ใช้ในการท�างานให้งานออกมามีคุณภาพที่ดี ส�าหรับความคิดสร้างสรรค์จะประกอบด้วยลักษณะ ๔ ประการ ดังนี้
ครูนําภาพคนทํางานมาใหนักเรียน ดู แลวตั้งคําถามวา ในการทํางานนั้น จําเปนตองใชทกั ษะอะไรบาง จากนัน้ เปดโอกาสใหนักเรียนแสดงความ คิดเห็นรวมกัน
สํารวจคนหา ใหนักเรียนสํารวจวา มีอาชีพใด บางที่จําเปนตองอาศัยความคิด สรางสรรคเปนพื้นฐานสําคัญใน การทํางาน
อธิบายความรู ครูตั้งคําถามใหนักเรียน รวมกันตอบ • ทักษะความคิดสรางสรรค ประกอบดวยกีล่ กั ษณะ อะไรบาง (แนวตอบ 4 ลักษณะ ไดแก ความคิดริเริ่ม ความคลองใน การคิด ความยืดหยุน ในการคิด และความคิดละเอียดลออ)
๑ ความคิดริเริ่ม คือ ควำมคิดที่แปลกใหม่ ซึ่งแตกต่ำงจำกควำมคิดเดิม สำมำรถ
น�ำมำประยุกต์ใช้ให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่ซ�้ำกับของเดิม
๒ ความคล่องในการคิด คือ ควำมสำมำรถในกำรคิดหำค�ำตอบได้อย่ำงคล่องแคล่ว
รวดเร็ว และมีปริมำณมำกภำยในเวลำจ�ำกัด เช่น กำรออกแบบผลิตภัณฑ์หรือชิ้นงำน ได้หลำกหลำยอย่ำงมีคุณภำพภำยในเวลำที่ก�ำหนด เป็นต้น
๓ ความยืดหยุ่นในการคิด คือ ควำมสำมำรถในกำรคิดหำค�ำตอบได้หลำยประเภท
และหลำยทิศทำง ดัดแปลงสิ่งหนึ่งไปเป็นหลำยสิ่งได้ เช่น กำรน�ำขวดน�้ำพลำสติก ที่เหลือใช้ไปประดิษฐ์เป็นแจกันใส่ดอกไม้ เป็นต้น
ขยายความเขาใจ นักเรียนอภิปรายในประเด็น จริงหรือไมที่ความคิดสรางสรรคเกิด จากพรสวรรคมิไดเกิดจากการเรียนรู แลวสรุปสาระสําคัญรวมกัน โดยครูชวยแนะนําเพิ่มเติม
๔ ความคิดละเอียดลออ คือ ควำมคิดในรำยละเอียดเพื่อตกแต่ง หรือขยำยควำมคิด
หลักให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งควำมละเอียดลออในกำรคิดขึ้นอยู่กับเพศ อำยุ ประสบกำรณ์ และควำมสำมำรถด้วย
๕
นักเรียนควรรู
ความคิดสรางสรรค มีปจจัยที่ เสริมสรางใหเกิดขึ้น ดังตอไปนี้ 1. สภาพแวดลอมและบรรยากาศในการเรียนรู ควรเปนบรรยากาศที่ใหความรูสึกปลอดภัยและมีอิสระ ทางความคิด มีความรูสึกวา ตนเองมีคุณคาและไดรับการยอมรับ รวมทั้งมีเสรีภาพในการคิดและ การแสดงออก 2. ลักษณะนิสัยของแตละบุคคล ผูที่จะมีความคิดสรางสรรคควรมีจนิ ตนาการ มีความสามารถในการ เชื่อมโยงความสัมพันธ ชางสังเกต มีความใฝรู และมีทัศนคติในการมองโลกในแงดี คูมือครู
5
กระตุนความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
สํารวจคนหา ใหนักเรียนสืบคนวา การจัดการ งานที่ดี กอใหเกิดประโยชนแก นักเรียนอยางไร จากนั้นใหนักเรียน แสดงความคิดเห็นรวมกันในชั้นเรียน
อธิบายความรู ครูสุมถามนักเรียนใหอธิบายถึง ทักษะการจัดการงานมีอะไรบาง และหากมีการฝกฝนทักษะดังกลาว จะกอใหเกิดประโยชนอยางไร (แนวตอบ ทักษะการจัดการงานมี 8 ประการ ไดแก 1. การมอบหมายงานใหตรงกับ ความสามารถของแตละบุคคล ทําใหไดงานที่มีคุณภาพ 2. ใหคําแนะนํางานที่มอบหมาย เปนการปองกันมิใหเกิดปญหา ในการทํางาน 3. ติดตามผลงาน ทําใหสามารถ แกไข ปรับปรุง พัฒนางานใหดีขึ้น 4. ใหการชมเชย เปนการสราง กําลังใจในการทํางาน 5. การแกไขปญหาที่ดี ทําให กระบวนการทํางานเปนไป อยางรวดเร็ว 6. การชี้แนะตักเตือน ทําใหผูถูก ตักเตือนมีการเปลี่ยนแปลงไป สูสิ่งที่ดีขึ้น 7. การใหความชวยเหลือซึ่งกันและ กัน ชวยเสริมสรางความสามัคคี ใหกับองคกร 8. การรายงานผล เปนการติดตาม งานเพื่อปรับปรุงไปสูสิ่งที่ดีขึ้น)
6
คูมือครู
๓.๒ ทักษะการจัดการงาน ในองค์กรท�างานจะประกอบด้วยปัจจัยต่างๆ ได้แก่ คน เงิน วัตถุดิบ อุปกรณ์ เครื่องจักร ซึ่งจ�าเป็นต้องมีการวางแผนจัดการงาน โดยการบริหารปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ให้ดี อย่างเป็นระบบ ซึ่งจะช่วยให้การด�าเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพและประหยัด ทักษะการจัดการงานที่ดีนั้นมีทั้งหมด ๘ ประการ ดังนี้
๑ การมอบหมายงาน ควรค�ำนึงถึงลักษณะของงำนให้เหมำะสมกับควำมสำมำรถ
ของบุคคลผู้รับผิดชอบ โดยอธิบำยถึงรำยละเอียดของงำน คุณภำพของงำนที่ต้องกำร ปริมำณของงำนที่ต้องกำร และก�ำหนดระยะเวลำในกำรส่งงำนอย่ำงสมเหตุสมผล เพื่อ ให้ได้งำนที่มีคุณภำพ ตรงตำมวัตถุประสงค์ที่ต้องกำรและตรงต่อเวลำที่ก�ำหนด
๒ การให้คา� แนะน�าต่องานทีม่ อบหมาย ควรอธิบำยถึงวิธกี ำรใช้อปุ กรณ์และเครือ่ งมือ
ทีใ่ ช้ในกำรท�ำงำน วัตถุดบิ และแหล่งทีม่ ำของวัตถุดบิ ต่ำงๆ ตลอดจนแนะน�ำให้รจู้ กั บุคคล ทีเ่ กีย่ วข้องในระบบงำน เพือ่ ให้กำรท�ำงำนเป็นไปอย่ำงสะดวก และรำบรืน่
๓ การติดตามผลงาน ควรมีกำรติดตำมงำนทีม่ อบหมำยเป็นระยะๆ โดยเปรียบเทียบ
ผลงำนที่ท�ำได้จริงกับผลงำนที่ก�ำหนดไว้ในแผนงำน เพื่อที่จะสำมำรถแก้ไขปัญหำและ ปรับปรุงพัฒนำงำนให้บรรลุเป้ำหมำยได้ดยี งิ่ ขึน้ ทัง้ นี้ กำรติดตำมงำนยังเป็นกำรกระตุน้ หนดไว้ในทำงอ้อมด้วย ให้ผู้ปฏิบัติมีควำมกระตือรือร้นในกำรท�ำงำนให้ส�ำเร็จตำมที่ก�ำหน
๔ การให้ค�าชมเชย ควรให้ค�ำชมเชยกับบุคคลที่ท�ำงำนดี เช่น กำรกล่ำวชมเชย
กำรตบไหล่ กำรพยักหน้ำ เป็นต้น อันเป็นสัญลักษณ์ของกำรยอมรับในควำมสำมำรถ หรือควำมคิดเห็นของบุคคล ซึ่งจะเป็นกำรสร้ำงก�ำลังใจให้กับบุคคลในกำรท�ำงำนที่จะ ได้มอบหมำยในครั้งต่อไป
๕ การแก้ปญั หาทีด่ ี ควรเริม่ ต้นจำกวิเครำะห์สำเหตุของปัญหำทีเ่ กิดขึน้ ในกำรท�ำงำน
รวบรวมข้อมูลต่ำงๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อน�ำไปด�ำเนินกำรแก้ไขให้ส�ำเร็จลุล่วง พร้อมกับ ประเมินผลหลังจำกแก้ไขปัญหำเสมอ เพื่อน�ำไปแก้ไขปรับปรุงวิธีกำรแก้ปัญหำให้ดี ยิ่งขึ้น http://www.aksorn.com/LC/Car/M6/01 ๖ EB GUIDE
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
Explain
Expand
Engage
ตรวจสอบผล Evaluate
สํารวจคนหา ครูตั้งประเด็นคําถามวา หาก ตองการสืบคนขอมูลเรื่องใดเรื่องหนึ่ง นักเรียนจะมีวิธีการแสวงหาความรู นั้นอยางไร แลวใหนักเรียน ไปสืบคนขอมูล จากนั้นออกมา นําเสนอหนาชั้นเรียน
๖ การชี้แนะตักเตือน ควรเลือกค�ำพูดที่ใช้ในกำรชี้แนะตักเตือนให้เหมำะสม เพื่อ
แสดงให้เห็นถึงควำมปรำรถนำดีทจี่ ริงใจ อันจะน�ำไปสูก่ ำรพัฒนำ เปลีย่ นแปลงสิง่ ต่ำงๆ ไปสู่สิ่งที่ถูกต้องและดีงำม ไม่ใช้ค�ำพูดหยำบคำย หรือรุนแรงจนท�ำให้ผู้ถูกตักเตือน เกิดควำมโกรธเคือง และเสียก�ำลังใจ
อธิบายความรู
๗ การให้ความช่วยเหลือ ควรให้ควำมร่วมมือในกำรท�ำงำนกับทุกฝำย ทัง้ ให้คำ� แนะน�ำ
ให้กำรสนับสนุน และช่วยประนีประนอมระหว่ำง ๒ ฝำยที่มีปัญหำขัดแย้งกัน เพื่อให้ เกิดควำมสำมัคคีในทีมงำน ๘ การรายงานผล ควรมีกำรส่งผ่ำนข้อมูล รำยงำนผลของงำนไปยังฝำยต่ำงๆ ทีเ่ กีย่ วข้อง ในองค์กร โดยรำยงำนผลข้อมูลอย่ำงตรงไปตรงมำ เพื่อให้มีกำรประสำนงำนร่วมกัน และท�ำงำนไปในทิศทำงเดียวกัน
๓.๓ ทักษะการแสวงหาความรู้ การแสวงหาความรู้เกิดจากการพยายามศึกษาค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งการเรียนรู้ ประเภทต่างๆ เพื่อน�ามาใช้พัฒนาตนเอง ทั้งในด้านวิธีการคิดให้มีเหตุผล และด้านความสามารถ ในการท�างานและการด�ารงชีวิตให้มีประสิทธิภาพ ทักษะการแสวงหาความรู้ประกอบด้วยขั้นตอน ดังนี้
ทักษะการแสวงหาความรู้
๑
ขั้นตอนกำรแสวงหำควำมรู้
การวางแผน โดยวิเครำะห์สถำนกำรณ์ 5W1H ไว้ล่วงหน้ำ ได้แก่
ขั้นตอนที่
W W W W W H
Who ใครเป็นผูส้ บื ค้นหำควำมรู้ What จะสืบค้นเรื่องอะไร Where จะสืบค้นที่ไหน When จะสืบค้นเมื่อไร
ขยายความเขาใจ
Why จะสืบค้นเพรำะเหตุใด How มีวิธีกำรอย่ำงไร
1. นักเรียนรวมกันบอกวิธีการ แสวงหาความรูของตนเอง (แนวตอบ เชน อานจากตํารา ดู และฟงจากโทรทัศน คนหาจาก อินเทอรเน็ต สอบถามจากผูรู เปนตน) 2. ครูตั้งคําถามวา จากการศึกษา ทักษะการแสวงหาความรู นักเรียน สามารถนํามาปรับใชในการเรียน ไดอยางไร (แนวตอบ เชน หากตองการคนควา เรื่อง การอบแหงลําไย ควรเริ่มตน ดวยการวางแผนการคนควาขอมูล การอบแหงลําไยจากอินเทอรเน็ต เพราะเปนแหลงการเรียนรูที่มี ขอมูลจํานวนมาก สามารถสืบคน ไดรวดเร็วและทันสมัย หลังจากนัน้ รวบรวมขอมูล แลวคัดเลือกขอมูล ทีน่ า เชือ่ ถือและตรงตามจุดประสงค ที่เราตองการสืบคนมากที่สุดมา เรียบเรียงใหเปนระบบ)
๗
ใหนักเรียนแบงกลุม เพื่อโตวาทีใน หัวขอ แหลงการเรียนรูประเภทใด เปนแหลงการเรียนรูที่ดีที่สุดใน ยุคโลกาภิวัตน ระหวางอินเทอรเน็ต กับหนังสือ หลังจากนั้นรวบรวม ขอมูลทั้งหมดเรียบเรียงสงครูผูสอน กลุมละ 1 ชิ้น
คูมือครู
7
กระตุนความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
สํารวจคนหา ใหนกั เรียนศึกษาทักษะกระบวนการ ทํางานจากหนังสือเรียนหนา 8 เพื่อ สรุปสาระสําคัญรวมกัน
๒ ขั้นตอนที่ ๓ ขั้นตอนที่ ๔ ขั้นตอนที่ ๕ ขั้นตอนที่
การด�าเนินการสืบค้น ด�ำเนินกำรสืบค้นตำมแผนงำนทีก่ ำ� หนดไว้ โดยเลือกสืบค้นจำกแหล่งกำรเรียนรูต้ ำ่ งๆ ทีม่ ขี อ้ มูลถูกต้องและน่ำเชือ่ ถือ เช่น หนังสือที่เขียนโดยผู้เชี่ยวชำญ เว็บไซต์ขององค์กรที่น่ำเชื่อถือ เป็นต้น การรวบรวมข้อมูล รวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่ได้จำกแหล่งกำรเรียนรู้หลำยๆ แห่ง น�ำมำจัดเก็บให้เป็นระบบ เพื่อสะดวกในกำรสืบค้น และสำมำรถเลือกใช้ข้อมูลให้เหมำะสมกับงำนได้สะดวก รวดเร็ว การตรวจสอบข้อมูล ตรวจสอบข้อมูลกับแหล่งข้อมูลที่สำมำรถอ้ำงอิงได้ พร้อมทั้งตรวจสอบควำมทันสมัยของข้อมูลต่ำงๆ ให้น่ำเชื่อถือ มำกที่สุด การบันทึกจัดเก็บข้อมูล บันทึกจัดเก็บข้อมูลที่ถูกต้องให้เป็นระบบ โดยอำจจัดเก็บในรูปแบบของสมุดบันทึก แฟ้มเอกสำร แผ่นซีดี แผ่นดีวีดี เป็นต้น เพื่อป้องกันกำรสูญหำยของข้อมูล อีกทั้งจะสำมำรถปรับปรุงข้อมูลและน�ำไปใช้งำนได้อย่ำงสะดวก
อธิบายความรู 1. ครูและนักเรียนสนทนาเกี่ยวกับ ทักษะกระบวนการทํางาน 4 ขัน้ ตอน โดยครูยกตัวอยางการทํางาน 1 อยาง เชน การนําวัสดุใน ทองถิ่นมาประดิษฐเปนของใช ในบาน แลวใหนักเรียนรวมกัน นําทักษะกระบวนการทํางาน 4 ขั้นตอนมาใช 2. ครูตั้งประเด็นใหนักเรียนแสดง ความคิดเห็น นักเรียนคิดวา ประสบการณกับความรูมีความ สัมพันธกันอยางไร ในการนํามา ใชในการทํางาน (แนวตอบ ในการทํางาน ความรู ถือเปนพื้นฐานที่ทําใหบุคคลมี วิธีการคิดที่มีเหตุผล สวน ประสบการณนั้นเกิดจากการฝก ปฏิบัติจนเกิดความเชี่ยวชาญ ดังนั้น การนําประสบการณและ ความรูมาประยุกตใชรว มกันใน การทํางาน จึงชวยสงเสริมให คุณภาพงานดีขึ้น ลดความ ผิดพลาดตางๆ ใหนอยลงได)
๓.๔ ทักษะกระบวนการท�างาน ทักษะกระบวนการท�างานทีด่ เี กิดจากการฝึกปฏิบตั งิ านอย่างเป็นขัน้ ตอน ตอน โดยมุง่ เน้นให้ลงมือ ปฏิบตั ดิ ว้ ยตนเอง เพือ่ ให้เกิดประสบการณ์การเรียนรูจ้ นเกิดเป็นความช�านาญและความเชีย่ วชาญ ยตนเอง เพื ในการท�างานนั้นๆ งาน มีมีขั้นตอนการด�าเนินการ การ ดัดังนี้ ทักษะกระบวนการท�างาน
ทักษะกระบวนการท�างาน
๑ ขั้นตอนที่ ๒ ขั้นตอนที่ ๓ ขั้นตอนที่ ๔
ขั้นตอนกระบวนก ตอนกระบวนกำรท�ำงำน
ขั้นตอนที่
การวิเคราะห์งาน สำมำรถแจกแจงงำนที รถแจกแจงงำนที รถแจกแจงง นทีจ่ ะท�ำว่ำเป็นงงำนประเภทใด นประเภทใด ต้องใช้เครือ่ งมือและอุปกรณ์อะไรบ้ำง มีขนั้ ตอนกำรปฏิบตั อิ ย่ำงไร รฝึกมองภ ำพรวมของง พรวมของงำนให้ออก กล่ำวคือ เป็นกำรฝึ มองภำพรวมของงำนให้ การวางแผนในการท�างาน สำ ำรถวำงแผนว่ งแผนว่ำจะใช้ก�ำลังคนในกำรท� คนในก รท�ำงำนเท่ ง ำใด จะแบ่งหน้ำที่กันอย่ำงไร ต้องใช้วัสดุอุปกรณ์อะไรบ้ำงหรือ สำมำรถวำงแผนว่ ต้องใช้เงินในกำรลงทุนมำกน้อยอย่ำงไร ตลอดจนสำมำรถก�ำหนดวิธีกำรท�ำงำนให้เป็นขั้นตอนจนงำนส�ำเร็จ การปฏิบัติงาน สำมำรถท�ำงำนตำมล�ำดับขั้นตอนที่วำงแผนไว้ ฝึกให้มีลักษณะนิสัยที่ดีในกำรท�ำงำน เช่น พูดจำสุภำพเหมำะสม มีน�้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ขยัน อดทน ซื่อสัตย์ เป็นต้น การประเมินผลการท�างาน สำมำรถประเมินผลกำรท�ำงำน ทัง้ ก่อนและหลังปฏิบตั งิ ำน โดยประเมินผลจำกผลทีอ่ อกมำว่ำเป็นไปตำมจุดมุง่ หมำย หรือไม่ รวมทั้งพิจำรณำถึงข้อดี ข้อเสีย เพื่อจะได้แก้ไขและปรับปรุงผลงำนให้ดียิ่งขึ้น 8
8
คูมือครู
กระตุนความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
Explain
Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
สํารวจคนหา ใหนักเรียนแบงกลุมศึกษาเรื่อง ทักษะการทํางานรวมกันเพิ่มเติม จากหนังสือเรียน เพื่อแสดงบทบาท สมมติหนาชั้นเรียน โดยกําหนด สถานการณในการทํางานใหมีทั้ง บทบาทการเปนผูนําและผูตามที่ดี
๓.๕ ทักษะการท�างานร่วมกัน การท� า งานร่ ว มกั น ต้ อ งอาศั ย บุ ค คลที่ มี ค วามสามารถหลากหลายระดมก� า ลั ง ความคิ ด และก�าลังกายร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงาน ดังนั้น การท�างานเป็นทีม จึงมีความส�าคัญอย่างยิ่งที่จะน�าไปสู่ความส�าเร็จของงานได้ง่ายขึ้น การท�างานร่วมกันให้ประสบความส�าเร็จจะต้องประกอบด้วยปัจจัย ดังต่อไปนี้
อธิบายความรู
๑ บรรยากาศของการท�างาน ควรมีควำมเป็นกันเอง อบอุน่ มีควำมกระตือรือร้น และ
ใหนักเรียนแตละกลุมออกมา แสดงบทบาทสมมติหนาชั้นเรียน เปดโอกาสใหเพื่อนกลุมอื่นเสนอแนะ เพิ่มเติม แลวสรุปสาระสําคัญและ แงคิดที่ไดจากการแสดงนี้
สร้ำงสรรค์ ทุกคนช่วยกันท�ำงำนอย่ำงจริงจังและจริงใจ ไม่มีร่องรอยที่แสดงให้เห็นถึง ควำมเบื่อหน่ำย
๒ ความไว้วางใจ เป็นหัวใจส�ำคัญของกำรท�ำงำนร่วมกัน สมำชิกทุกคนในทีมควร
ไว้วำงใจซึ่งกันและกัน ซื่อสัตย์ต่อกัน สื่อสำรกันอย่ำงเปิดเผย ไม่มีลับลมคมใน
ขยายความเขาใจ
๓ การมอบหมายงานอย่างชัดเจน สมำชิกภำยในกลุ ยในกลุ่มต้องเข้ำใจวัตถุประสงค์
ครูใหนกั เรียนวิเคราะหเปรียบเทียบ วิธีการทํางานรายกลุมกับรายบุคคล (แนวตอบ การทํางานรายกลุมเกิด จากการรวมกลุมของบุคคลตั้งแต 2 คนขึ้นไป โดยอาศัยทักษะความ สามารถที่แตกตางกันรวมกันทํางาน เพื่อบรรลุวัตถุประสงคเดียวกัน ซึ่ง ผูรวมงานทุกคนจะตองปฏิบัติงาน ตามขอตกลงของกลุม เพื่อใหได ผลงานที่มีประสิทธิภาพสูง สวนการ ทํางานรายบุคคลเกิดจากการใช ความรู ความสามารถของบุคคล เพียงคนเดียว และสรางสรรคงาน ที่มีระดับความยากนอยกวา)
รกิจหลักของกลุ่ม เป้ำหมำย และยอมรับภำรกิ
๔ บทบาทของสมาชิกในกลุ่ม สมำชิ สม ชิกแต่ละคนต้องเข้ำใจและปฏิบัติตำมบทบำท ำมบทบ มบทบำท
ใจในบทบำทของผู ทของผู้อื่น รวมทั้งบทบ บทบำทในกำรช่ ทในก รช่วยรักษษำควำมเป็ ษำคว ควำมเป็น ของตน และเรียนรู้เข้ำใจในบทบ รประนีประนอม กำรอ� รอ�ำนวยควำมสะดวก นวยคว มสะดวก กกำรให้ รให้ก�ำลังใจ กลุ่มงำนให้มั่นคง เช่น กำรประนี ซึ่งกันและกัน เป็นต้น
๕ วิธีการท�างาน เป็นสิ่งส�ำคัญที่ทุกคนในกลุ่มควรพิจำำรณำำ ได้แก่
นร่วมกันต้องอำศั งอ ศัยบรรยำกำศ บรรย ำศศ กำรสื บรรยำ ก รสือ่ ควำมที คว มทีช่ ดั เจนและ ๑. กำรสือ่ ควำม กำรท�ำงำนร่ เหมำะสม ซึ่งจะท�ำให้ทุกคนกล้ำที่จะเปิดใจ แลกเปลี่ยนควำมคิดเห็น และเรียนรู้ซึ่งกัน และกัน จนเกิดควำมเข้ำใจและน�ำไปสู่กำรท�ำงำนที่มีประสิทธิภำพยิ่งขึ้น รมีภำวะผู้น�ำ กกำรท�ำงำนร่วมกันเป็นกลุ่ม ควรส่งเสริมให้สมำชิกทุกคนได้มี ๒. กำรมี โอกำสแสดงควำมเป็นผูน้ ำ� เพือ่ ให้ทกุ คนเกิดควำมรูส้ กึ ว่ำได้รบั กำรยอมรับ และปรำรถนำ ที่จะท�ำงำนร่วมกันอีก 9
นักเรียนควรรู ภาวะผูนํา เปนคุณสมบัติสําคัญของบุคคลที่ทําหนาที่เปนหัวหนาในการบริหารงานใหประสบ ความสําเร็จ โดยจะตองมีความรู ความสามารถในการบริหารและจัดการงานไดดี มีความเชื่อมั่น ในตนเอง เด็ดเดี่ยวในการตัดสินใจ ขณะเดียวกันตองยอมรับฟงความคิดเห็นของผูอื่นดวย คูมือครู
9
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
กระตุนความสนใจ ครูตั้งคําถามวา ในการเรียนหรือ การทํางาน นักเรียนมีปญ หาอะไรบาง และมีวิธีแกปญหาเหลานั้นอยางไร
๓. กำรตัดสินใจ กำรท�ำงำนร่วมกันจะต้องใช้กำรตัดสินใจร่วมกัน เมื่อเปิดโอกำส ให้สมำชิกในกลุม่ แสดงควำมคิดเห็นและร่วมตัดสินใจแล้ว สมำชิกย่อมเกิดควำมผูกพัน ที่จะท�ำในสิ่งที่ตนเองได้มีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น ๔. กำรก�ำหนดกติกำหรือกฎเกณฑ์ต่ำงๆ กำรท�ำงำนร่วมกันให้บรรลุเป้ำหมำยนั้น ควรเปิดโอกำสให้สมำชิกได้มีส่วนร่วมในกำรก�ำหนดกติกำ หรือกฎเกณฑ์ที่จะน�ำมำใช้ ร่วมกัน ๕. กำรมีส่วนร่วมในกำรประเมินผลกำรท�ำงำนของกลุ่ม กำรท�ำงำนร่วมกันควรมี กำรประเมินผลกำรท�ำงำนเป็นระยะ โดยสมำชิกทุกคนจะต้องมีสว่ นร่วมในกำรประเมิน ผลงำน เพื่อให้สมำชิกได้ทรำบควำมก้ำวหน้ำของงำน ปัญหำหรืออุปสรรคที่เกิดขึ้น รวมทั้งพัฒนำกระบวนกำรท�ำงำน หรือกำรปรับปรุงแก้ไขร่วมกัน
สํารวจคนหา ใหนักเรียนศึกษาคนควาเกี่ยวกับ ทักษะกระบวนการแกปญหาจาก หนังสือเรียน หนา 10
อธิบายความรู ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3-5 คน รวบรวมปญหาในการเรียน หรือการทํางาน แลวนํามาวิเคราะห หาทางแกไขโดยใชทกั ษะกระบวนการ แกปญ หา ในหนา 10 -11 มาปรับใช แลวนําเสนอหนาชั้นเรียน โดยใช โปรแกรม PowerPoint
๓.๖ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ในการท�างานทุ างานทุกอย่างง ย่ย่อมประสบกับปัญหาไม่มากก็นอ้ ยแตกต่างกันไปตามลักษณะงานทีท่ า� ดังนัน้ ทัทักษะกระบวนการแก้ปญั หาจึงมีความส�าคัญ ซึง่ เราจะต้องน�าหลักการแก้ปญั หามาประยุกต์ ใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะงาน ษณะงาน เพื่อปรับปรุงหรือพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล มากขึ้นกว่าเดิม ตอน ดัดังนี้ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหาประกอบด้วยย ๗ ขั ๗ ขั้นตอน
ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา
เกร็ดแนะครู
ขั้นตอนที่
๒
ขั้นตอนที่
๓
ก�าหนดปัญหาให้ถูกต้องและชัดเจน โดยใช้วิธีกำรเล่ำเรื่องหรือกำรเขียนบรรยำยสภำพปัญหำด้วยถ้อยค�ำสั้นๆ ที่สื่อสำรอย่ำงตรงประเด็น ได้ใจควำม จำกนั้นจึงระบุเป้ำหมำยของสภำพกำรณ์ที่เรำอยำกให้เกิดขึ้นภำยหลังจำกที่ได้แก้ไขปัญหำนั้นไปแล้ว วิเคราะห์สาเหตุส�าคัญ โดยใช้วธิ กี ำรต่ำงๆ ประกอบไปด้วย กำรตรวจหำสำเหตุ กำรวิเครำะห์ปญั หำ กำรเลือกสำเหตุสำ� คัญทีน่ ำ� ไปสูป่ ญั หำนัน้ และกำรระบุสำเหตุที่แท้จริงของปัญหำ 10
คูมือครู
๑
ท�าความเข้าใจสถานการณ์ โดยอำศัศัยข้อมูลต่ำงๆ เกีย่ วกับเหตุกำรณ์ รณ์ทเี่ กิดขึน้ มีกำรรวบรวม จัดระเบียบ หำควำมสัมพันธ์ เพือ่ ให้เกิดควำมเข้ำใจ ที่ถูกต้อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่ำงยิ่งในก ในกำรด�ำเนินงำนแก้ปัญหำขั้นตอนต่อไป
ครูสามารถจัดการเรียนรูโดยใช เทคนิคกลุมสืบคน (GI : Group Investigation) เพื่อใหนักเรียน เรียนรูแบบรวมมือกัน ดวยวิธีการ สืบคนความรู หรือการวางแผน สืบสวน หาคําตอบในการแกปญหา ในประเด็นดังกลาว โดยกอนการ ดําเนินกิจกรรม ครูควรฝกทักษะ การสื่อสาร ทักษะการคิด ตลอดจน ทักษะทางสังคมใหแกนักเรียนกอน
10
ขั้นตอนที่
ขั้นตอนกระบวนก ตอนกระบวนกำรแก้ปัญหำ
กระตุน ความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ Expand
Explain
ตรวจสอบผล Evaluate
กระตุนความสนใจ ขั้นตอนที่
ครูสนทนากับนักเรียนวา คุณธรรม จริยธรรมมีความจําเปนในการทํางาน อยางไร
๔
หาวิธีการแก้ไขปัญหาที่เปนไปได้ โดยใช้ควำมคิดสร้ำงสรรค์ในกำรแก้ไขปัญหำให้ได้มำกทีส่ ดุ จำกนัน้ จึงวิเครำะห์ควำมเป็นไปได้และลดจ�ำนวนวิธกี ำร แก้ไขปัญหำจนคำดว่ำจะเหลือวิธที เี่ กิดประสิทธิผลมำกทีส่ ดุ เทคนิควิธที ใี่ ช้ในกำรแก้ไขปัญหำทีไ่ ด้ผลดีนนั้ มีหลำยวิธี เช่น กำรท�ำแผนผังควำมคิด (Mind Mapping) กำรระดมสมอง (Brain Storming)
สํารวจคนหา
๕ ขั้นตอนที่ ๖ ขั้นตอนที่
เลือกวิธีการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด โดยท�ำกำรเปรียบเทียบทำงเลือกของกำรแก้ไขปัญหำทัง้ หมด หำข้อดีและข้อเสียของแนวทำงหรือวิธกี ำรแต่ละรูปแบบ เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อกระบวนกำรท�ำงำนน้อยที่สุด
ใหนักเรียนศึกษาคุณธรรม จริยธรรม เจตคติ และลักษณะที่ดีใน การทํางานเพิ่มเติมจากหนังสือเรียน
วางแผนการปฏิบัติ โดยก�ำหนดไว้ก่อนว่ำจะต้องท�ำอะไรบ้ำงเป็นขั้นตอน ใครจะเป็นผู้ที่รับผิดชอบงำนใดหรือกระบวนกำรท�ำงำนใด แต่ละขั้นตอนมีกระบวนกำรในกำรท�ำงำน มีค่ำใช้จ่ำยอย่ำงไรบ้ำง เป็นจ�ำนวนเท่ำใด รวมทั้งผลที่คำดว่ำจะได้รับ หลังจำกใช้กระบวนกำรแก้ปัญหำ
อธิบายความรู
๔. คุณธรรม จริยธรรม เจตคติ และลักษณะนิสยั ทีด่ ใี นการทํางาน
1. ครูนําสนทนาดวยการยกกรณี ตัวอยางผูท ขี่ าดคุณธรรมในการ ทํางาน จนสงผลกระทบตอ หนวยงานและสังคม เชน การทุจริต ในหนาที่ แลวนักเรียนรวมกันแสดง ความคิดเห็น วิเคราะหผลกระทบ เสนอแนะแนวทางการแกปญหา 2. ครูใหนกั เรียนชวยกันยกตัวอยาง คุณธรรมพื้นฐานในการทํางาน (แนวตอบ เชน ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย มีวินัย สุภาพ สะอาด สามัคคี มีนํ้าใจ เปนตน)
ในการท�างานเพื่อการด�ารงชีวิตทุกสาขาวิชาชีพ นอกจากการมีทักษะกระบวนการในการ ท�างานแล้ว สิง่ ส�าคัญทีท่ กุ คนจะต้องมีควบคูก่ บั ทักษะการท�างาน คือ คุณธรรม จริยธรรม มีเจตคติ และมีคุณลักษณะที่ดีเป็นองค์ประกอบ เพื่อที่จะให้การท�างงานนั านนั้นๆ ประสบความส�าเร็จด้วยดี
นักเรียนควรรู
ขั้นตอนที่
๗
ติดตามประเมินผล โดยตรวจสอบควำมคืบหน้ำของกำรท�ำงำนที่ได้วำงแผนและ ปฏิบัติงำนไปตำมนั้นอยู่อย่ำงสม�่ำเสมอ เพื่อที่จะได้ทรำบว่ำมี ปัญหำและอุปสรรคใดทีเ่ กิดขึน้ จำกกำรท�ำงำนหรือไม่ งำนส�ำเร็จ ลงได้ตำมเป้ำหมำยที่วำงแผนไว้หรือไม่ รวมทั้งกำรทบทวนว่ำ ปัญหำนัน้ แก้ไขไปได้โดยสิน้ เชิงแล้วหรือยัง อำจจะย้อนกลับมำอีก หรือไม่
๔.1 คุณธรรม จริยธรรม คุณธรรม จริยธรรม คือ การกระท�าของกายและใจทีถ่ กู ต้อง ดีงาม อยูภ่ ายใต้กรอบของศีลธรรม ทั้งยังก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม อันจะเป็นพื้นฐานของกระบวนการเรียนรู้ การ ท�างานและการด�าเนินชีวิตที่ดี มีความสุข ซึ่งบุคคลควรยึดหลักคุณธรรมพื้นฐาน ๘ ประการ ดังนี้ 11
@
การระดมสมอง หมายถึง กระบวนการที่กระทําเปนกลุม อันเปนเครื่องมือเพื่อแสวงหา ทางเลือกในการตัดสินใจและใชใน การวางแผนตางๆ โดยสรางความ คิดจากการเชื่อมโยงความคิดของ ผูอื่นในกลุม แลวนํามาขยายความ เพิม่ เติม
มุม IT
ศึกษาขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทํางานอยางไรใหมีความสุขไดที่ http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/article/13294 สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสรางเสริมสุขภาพ คูมือครู
11
กระตุนความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ Expand
Explain
ตรวจสอบผล Evaluate (ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
อธิบายความรู ครูใหนักเรียนวิเคราะหวา การมี คุณธรรม จริยธรรมในการทํางาน กอใหเกิดประโยชนอยางไร (แนวตอบ การมีคุณธรรม จริยธรรม ในการทํางานมีประโยชนทั้งตอ ตนเองและสวนรวม คือ ทําให ผูปฏิบัติมีความสุขในการทํางาน เปนที่รักของเพื่อนรวมงาน สามารถ ทํางานไดอยางราบรื่นและ ประสบความสําเร็จ)
คุณธรรม จริยธรรม
ขยัน ประหยัด ซือ่ สัตย มีวินัย สุภาพ สะอาด สามัคคี มีนํ้าใจ
ขยายความเขาใจ ครูใหนักเรียนรวมกันแสดง ความคิดเห็นวา สังคมไทยในปจจุบัน คุณธรรม จริยธรรมขอใดถูกละเลย ในการนํามาปฏิบัติ และนักเรียนมี แนวทางในการเสริมสรางคุณธรรม จริยธรรมดังกลาว อยางไรบาง (แนวตอบ ตัวอยางเรื่อง ความไม ซือ่ สัตย ซึง่ เห็นไดจากปญหา คอรรปั ชันของนักการเมืองบางคน การทุจริตในการสอบของนักเรียน เปนตน แนวทางในการเสริมสราง ความซื่อสัตย เริ่มตนจากการปลูกฝง จิตสํานึกเรื่องความซื่อสัตยวาเปน สิ่งที่ดีและควรกระทํา พรอมทั้ง ยกยองและใหกําลังใจผูที่มี ความซื่อสัตย)
นักเรียนควรรู คุณธรรม (Virtue) หมายถึง ความรูสึกถูกผิดทางศีลธรรมที่อยูใน จิตสํานึกหรืออุปนิสัยของบุคคล
คุณธรรม จริยธรรมพื้นฐำน ๘ ประกำร
ควำมตั้งใจเพียรพยำยำมท�ำหน้ำที่กำรงำนอย่ำงจริงจังและต่อเนื่องในเรื่องที่ถูกที่ควร ไม่ท้อถอย และกล้ำเผชิญกับอุปสรรค กำรด�ำเนินชีวิตควำมเป็นอยู่อย่ำงเรียบง่ำย รู้จักเก็บออม ถนอมใช้ทรัพย์สินสิ่งของอย่ำงคุ้มค่ำ ไม่ฟุมเฟือย ฟุ้งเฟ้อ รู้จักท�ำบัญชีรำยรับ-รำยจ่ำยของตนเองอยู่เสมอ ควำมประพฤติที่ตรงทั้งต่อเวลำ ต่อหน้ำที่ และต่อวิชำชีพ มีควำมจริงใจ ปรำศจำกควำมรู้สึก ล�ำเอียงหรืออคติ ไม่ใช้เล่ห์คดโกงทั้งทำงตรงและทำงอ้อม กำรปฏิบัติตนในขอบเขต กฎ ระเบียบของสถำนศึกษำ สถำบัน องค์กร และประเทศด้วย ควำมเต็มใจและตั้งใจยึดมั่น รวมถึงกำรมีวินัยทั้งต่อตนเองและสังคม ควำมอ่อนน้อมถ่อมตนตำมสถำนภำพและกำลเทศะ ไม่ก้ำวร้ำว หรือวำงอ�ำนำจข่มเหงผู้อื่น ทั้งโดยวำจำและท่ำทำง กำรรักษำร่ำงกำย ที่อยู่อำศัย และสิ่งแวดล้อมได้อย่ำงถูกต้องตำมสุขลักษณะ ฝึกฝนจิตใจให้ ผ่องใสและร่ำงกำยให้กระฉับกระเฉงอยู่เสมอ กำรเปิดใจกว้ำงรับฟังควำมคิดเห็นของผู้อื่น รู้บทบำท ของตนทั้งในฐำนะผู้น�ำและผู้ตำมที่ดี มีควำมมุ่งมั่นต่อกำร รวมพลัง ช่วยเหลือเกื้อกูลกันเพื่อให้กำรงำนส�ำเร็จลุล่วง กำรช่วยเหลือสังคม รู้จักแบ่งปัน เสียสละควำมสุข ส่วนตนเพื่อท�ำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น เห็นคุณค่ำของ เพื่อนมนุษย์ มีควำมเอื้ออำทรช่วยเหลือสังคมด้วย แรงกำยและสติปัญญำ
1๒
นักเรียนควรรู จริยธรรม (Ethic) หมายถึง ขอปฏิบัติที่กําหนดความถูกผิดทางศีลธรรม จากขอตกลงที่บุคคลในสังคมสวนใหญยอมรับรวมกัน แลวนํามาสรางเปนกฎเกณฑขึ้นในรูปกฎหมาย หรือตีความมาจากศาสนาหรือหลักความเชื่อ
12
คูมือครู
กระตุนความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
อธิบายความรู
๔.๒ เจตคติ เจตคติ คือ การแสดงความคิดเห็นและความรูสึกของบุคคลที่มีตอสิ่งใดสิ่งหนึ่ง โดยอาจ เปลี่ยนแปลงไปในทางบวกหรือทางลบ และเจตคตินี้สามารถสรางและเปลี่ยนแปลงได ถาเรามี เจตคติเชิงบวกก็จะแสดงออกในลักษณะความชอบ ความพึงพอใจ ความสนใจ เห็นดวย อยากทํา อยากปฏิบัติ อยากได และอยากใกลชิดสิ่งนั้น แตหากเรามีเจตคติเชิงลบก็จะแสดงออกในลักษณะ ความเกลียด ไมพึงพอใจ ไมสนใจ ไมเห็นดวย ซึ่งอาจทําใหเราเกิดความเบื่อหนายหรือตองการ หนีหางจากสิ่งเหลานั้น ดังนั้น ในการทํางานทุกประเภทใหมีคุณภาพ บุคคลจึงควรปรับเจตคติของตนใหสอดคลอง กับงาน เริ่มดวยการมีใจรักในงานของตน มองโลกในแงดี มีความสุขในการทํางาน หากพบกับ ปญหาหรืออุปสรรคก็จะสามารถฝาฟนใหบรรลุเปาหมายไดโดยงาย อันจะกอใหเกิดความภาคภูมใิ จ ในตนเองและผลงานตอไป
๔.๓ ลักษณะนิสัยที่ดีในการทํางาน การมีลกั ษณะนิสยั ทีด่ ใี นการทํางานเปนแนวทางปฏิบตั เิ พือ่ นําไปสูค วามสําเร็จ โดยเริม่ จากการ วางแผนการทํางานอยางเปนระบบ ซึง่ อาจยึดหลักการ 5ส ไดแก สะสาง สะดวก สะอาด สุขลักษณะ และสรางนิสัย มาจัดระเบียบสถานที่ทํางาน เพื่อกอใหเกิดความเปนระเบียบเรียบรอย สะอาด ปลอดภัย สะดวกตอการใชสอยเครือ่ งมือ อุปกรณตางๆ และเหมาะสมกับลักษณะงาน เชน การจัด หมวดหมูสิ่งของใหเปนระบบ การใชสัญลักษณสี การทําปายชี้บงให ใหงายตอการใชงาน เปนตน ปจจุบนั ในสังคมทีม่ กี ารแขงขันกันสูงและมุง เอาเปรียบกัน จะพบไดวา แตละภาคสวนมักขาดคน ที่มีคุณธรรม จริยธรรม เจตคติ และลักษณะนิสัยที่ดีตอการทํางานในสาขาวิชาชีพและตนเอง จึงทําใหเกิดปญหาความแตกแยกของคนในสังคม เพราะสาเหตุที่มีแตคนเกง แตขาดคนดี สําหรับสังคมไทยก็มีความตองการคนดีและคนเกงมาทํางานเพื่อพัฒนาประเทศชาติตอไปเชนกัน
๕. การใชพลังงานและทรัพยากรอยางคุมคาและยั่งยืน
ในปจจุบันทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมมีความเสื่อมโทรมมากขึ้น จึงสงผลใหมี การรณรงคใหใชทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมอยางฉลาด โดยคํานึงถึงประโยชนของ การใชงาน ระยะเวลาในการใชงาน และผลกระทบที่มีตอสิ่งแวดลอม ดังนั้น ในการทํางานเพื่อ การดํารงชีวิตนั้น บุคคลจึงตองมีจิตสํานึกตอการอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดลอม และใช พลังงานอยางคุมคา โดยอาศัยหลักการ 5R ดังนี้ http://www.aksorn.com/LC/Car/M6/02
1. ครูใหนักเรียนชวยกันบอกวิธีการ สรางเจตคติที่ดีตอเพื่อนรวมชั้น ตอวิชาที่เรียน และตองานที่ไดรับ มอบหมาย และวิเคราะหถึงความ สําคัญของการสรางเจตคติที่ดี (แนวตอบ ควรสรางเจตคติเชิงบวก ตอสิ่งตางๆ เพราะเจตคติที่ดีมี ความสําคัญในการทํางาน คือ หากบุคคลมีความชอบและมี ความพึงพอใจตองานที่ทํา ก็ยอม มีความตั้งใจและมีความสุขกับ งานนั้นๆ อันจะสงผลใหผลิต ผลงานที่ดี มีคุณภาพ) 2. ครูใหนักเรียนสํารวจตนเองและ หองเรียนวาไดนําหลัก 5ส มาใช งานไดอยางไรบาง และตั้งคําถาม วา การทํางานโดยยึดหลักการ 5ส มีประโยชนอยางไรบาง (แนวตอบ 1. สถานที่ทํางานสะอาด เปนระเบียบเรียบรอย 2. ลดอุบัติเหตุในการทํางาน 3. ลดความสิ้นเปลืองในการจัดซื้อ วัสดุ อุปกรณที่เกินความจําเปน 4. เพิ่มความสะดวก และความ รวดเร็วในการทํางานมากขึ้น 5. สรางบรรยากาศที่ดีในการ ทํางาน เสริมสรางใหบุคลากร เกิดความคิดสรางสรรคในการ ทํางาน)
ขยายความเขาใจ
ครูตั้งประเด็นคําถามใหนักเรียน เขี ย นแสดงความคิดเห็นลงใน ๑๓ กระดาษ A4 วา ระหวางคนดีกับ คนเกง นักเรียนจะเลือกเปนบุคคลใน แบบใด เพราะเหตุใด แลวใหตัวแทน 2-3 คน ออกมานําเสนอผลงานและ อภิปรายรวมกัน (แนวตอบ ครูเปดโอกาสใหนกั เรียนมีอิสระทางความคิดในการอภิปราย โดยอยู บนพื้นฐานของความมีเหตุผล ครูเนนใหนักเรียนเห็นคุณคาของความดีที่จะสราง และพัฒนาสังคมไดอยางยั่งยืน) EB GUIDE
คูมือครู
13
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain
Expand
Evaluate
Engage
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
สํารวจคนหา ใหนักเรียนคนควา หลักการ 5R คืออะไร เพิม่ เติมจากแหลงการเรียนรู ตางๆ เชน หองสมุดในโรงเรียน อินเทอรเน็ต เปนตน
5R
หลักกำรใช้พลังงำนและทรัพยำกรอย่ำงคุ้มค่ำและยั่งยืน การลดปริมาณขย
educe
อธิบายความรู
14
คูมือครู
รู้จักหมุนเวียน น�ำของที่ ใช้แล้วกลับมำใช้ซ�้ำ เช่น ขวดแก้ว กล่องกระดำษ พลำสติก เป็นต้น
e je ct
e p air
ปรับปรุงแก้ไข สิ่งของต่ำงๆ ให้ สำมำรถใช้งำนต่อได้
่ าง
ๆ
1. การแสดงความคิดเห็นในกิจกรรมโตวาที 2. การแสดงเหตุผลในการเขียนแสดง ความคิดเห็นในประเด็นคนดีกับคนเกง 3. ตรวจความถูกตองของผังมโนทัศน
euse
การซ่อมแซม
การหลีกเลี่ยงสารเคมีต
ไม่ควรน�ำภำชนะที่เคย บรรจุสำรเคมีกลับมำใช้อีก เพรำะจะก่อให้เกิดมลพิษ
การแปรสภาพกลับมาใ
e c y cle
แปรสภำพ และหมุนเวียนเปลี่ยน กลับมำใช้ได้ใหม่โดย น�ำไปผ่ำนกระบวนกำร ผลิตใหม่อีกครั้ง
ช้
ดังนั้น กำรมีจิตส�ำนึกที่ดีต่อกำรใช้ พลังงำนและทรัพยำกรอย่ำงคุ้มค่ำและ ยั่งยืนนั้น จึงเป็นกำรส่งเสริมกำรท�ำงำน และกำรผลิตทีส่ ะอำด โดยลดกำรใช้วสั ดุ ลดกำรใช้พลังงำน และลดมลพิษ เพื่อ เพิม่ ศักยภำพกำรใช้ทรัพยำกรหมุนเวียน กำรน�ำของเสียกลับมำใช้ประโยชน์ และ กำรออกแบบผลิ ต ภั ณ ฑ์ ใ ห้ มี อ ำยุ ก ำร ใช้งำนยำวนำนมำกขึ้น
สรุป
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
การน�ามาใช้ซ้�า
ลดกำรใช้ผลิตภัณฑ์ ที่มีบรรจุภัณฑ์ สิ้นเปลือง
ครูใหนักเรียนอภิปรายถึงหลักการ 5R และตั้งคําถามวา กิจกรรมภายใน บานที่เปนการใชพลังงาน ทรัพยากร อยางคุมคาและยั่งยืนในแบบ 5R มี อะไรบาง จงยกตัวอยาง (แนวตอบ Reduce เชน ลดการซือ้ ผลิตภัณฑที่มีบรรจุภัณฑหลายชิ้น Reuse เชน นําขวดพลาสติกมาทํา เปนกระถางปลูกตนไม Repair เชน ซอมแซมเครื่องใช ไฟฟาที่ชํารุด เพื่อนํากลับมาใชใหม Reject เชน หลีกเลี่ยงการซื้อ ผลิตภัณฑที่มีบรรจุภัณฑทําจาก พลาสติก Recycle เชน นําขยะที่เปนเศษ อาหารหรือเศษใบไมไปทําปุยชีวภาพ เปนตน)
1. ครูใหนักเรียนอภิปรายวา ถาใน อนาคต นักเรียนไดประกอบ อาชีพอยูในองคกรหนึ่ง นักเรียน จะสามารถนําหลักการ 5R ไป ประยุกตใชไดอยางไร 2. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปราย สรุปหลักการทํางานเพื่อการ ดํารงชีวิต และใหนักเรียนจับคู สรุปสาระสําคัญเปนผังมโนทัศน
ะ
1๔
การทํางานเพื่อการดํารงชีวิตเปนภารกิจของทุกคนจะตอง ปฏิบัติเพื่อการดําเนินชีวิตที่ดีขึ้น การทํางานใหประสบความสําเร็จ เราจะตองฝกสังเกต ฝกบันทึก ฝกการนําเสนอ ฝกการซักถาม ฝกการวางแผนกระบวนการทํางาน และสรางองคความรูใหมที่ได มาจากการทํางาน ซึ่งเราสามารถนําไปใชประโยชนตอการทํางาน ในอนาคต และการดําเนินชีวิตประจําวันไดอยางมีความสุขตอไป นอกจากการพัฒนาทักษะในการทํางานแลว เรายังตองมี คุณธรรม จริยธรรม มีเจตคติ และมีลักษณะนิสัยที่ดีในการทํางาน เพื่ อ ให เ ราและผู อื่ น ทํ า งานและอาศั ย อยู ร ว มกั น อย า งมี ค วามสุ ข รวมถึ ง จะต อ งใช ท รั พ ยากรในการทํ า งานอย า งคุ ม ค า เพื่ อ รั ก ษา สิ่งแวดลอมใหยั่งยืน
หลักฐานแสดงผลการเรียนรู ผังมโนทัศนสรุปองคความรูเรื่องหลักการและทักษะตางๆ ในการทํางานเพื่อการดํารงชีวิต