คูมือครู 㪌»ÃСͺ¡ÒÃÊ͹ËÇÁ¡Ñº
˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ©ºÑº »ÃСѹÏ
·Õè ȸ. ¨Ð»ÃСÒÈÃÒ¡Òú¹àÇçºä«µ µÑé§áµ‹ Á. ¤. ’55 ໚¹µŒ¹ä»
ภาพปกนี้มีขนาดเทากับหนังสือเรียนฉบับจริงของนักเรียน
เอกสารประกอบคูมือครู
กลุมสาระการเรียนรู การงานอาชีพและเทคโนโลยี
รายวิชา
เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร
ู ร ค หรับ
สํา
ชั้นมัธยมศึกษาปที่ เอกสารหลักสูตรแกนกลางฯ ’51 ประกอบดวย ● ● ● ● ●
คําแนะนําการใชคูมือครู แถบสี/สัญลักษณที่ใชสื่อความหมายในคูมือครู ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรูแกนกลาง คําอธิบายรายวิชา ตารางวิเคราะหเนื้อหากับมาตรฐานการเรียนรู และตัวชี้วัด
ตารางแสดงความแตกตางระหวาง “ คูมือครู ” กับ “ หนังสือเรียน * ” ความแตกตาง
ขนาดตัวอักษร ปกดานหลัง ระบบการจัดพิมพ สวนเสริมดานหนา
คูมือครู ยอลงจากปกติ 20%
พิมพ 4 สี มี เอกสารหลักสูตร คําอธิบายรายวิชา มี กิจกรรมแบบ 5E ความรูเสริมสําหรับครู พิมพสอดแทรกไวตลอดทั้งเลม ●
หนังสือเรียน ขนาดปกติ 100% : ตัวอักษรใหญกวา ที่พิมพในคูมือครูนี้ มีใบอนุญาต/ใบประกันคุณภาพ พิมพ 4 สี
-
●
เนื้อหาในเลม
● ●
* ที่ ศธ. อนุญาตใหโรงเรียนใชได
มีเฉพาะเนื้อหาสาระตามที่ ศธ. อนุญาตฯ/สนพ.ประกันคุณภาพ
6
คําแนะนําการใชคูมือครู : การจัดการเรียนรูสูหองเรียนคุณภาพ คูม อื ครู เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร ม.6 จัดทําขึน้ เพือ่ อํานวยความสะดวกแกครูผสู อนในการวางแผน และเตรียมการสอนโดยใชหนังสือเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร ม.6 ของบริษทั อักษรเจริญทัศน อจท. เสร�ม จํากัด เปนสื่อหลัก (Core Material) ประกอบการออกแบบกิจกรรมการเรียนรูใหสอดคลองกับมาตรฐานการเรียนรู 2 และตัวชี้วัดกลุมสาระการเรียนรู การงานอาชีพและเทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 โดยจัดทําตามหลักการสําคัญ ดังนี้
1. ออกแบบการสอนเปนหนวยการเรียนรูอิงมาตรฐาน
คูมือครู รายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.6 จัดทําเปนหนวยการเรียนรูตามลําดับสาระ การเรียนรูท รี่ ะบุไวในมาตรฐานการเรียนรูแ ละตัวชีว้ ดั แตละหนวยจะกําหนดเปาหมายการสอนและจุดประสงคการเรียนรู (Objective Learning) กิจกรรมการเรียนรู (Learning Activities) และแนวทางการประเมินผลการเรียนรู (Learning Evaluation) ไวชัดเจน ครูผูสอนสามารถจัดทําแผนการสอนใหครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดที่เปน เปาหมายการเรียนรูของแตละหนวยการเรียนรู (ตามแผนภูมิ) และสามารถบันทึกผลการจัดการเรียนการสอนได อยางมั่นใจ
นรู
สภ
าพ
ผู
จุดป
น
ระส
เรีย
งค
ก
รีย า รเ
มาตรฐานการเรียนรู ตัวชี้วัดชั้นป
ทักษะการคิด การวัดประเมินผล การเรียนรู
กิจกรรมการเรียนรู
เทคนิคการสอน
แผนภูมิแสดงองคประกอบของการออกแบบการเรียนรูอิงมาตรฐานและเนนผูเรียนเปนสําคัญ
2. การจัดการเรียนรูที่ยึดผูเรียนเปนสําคัญ
แนวคิดในการจัดการเรียนการสอนที่ยึดผูเรียนเปนสําคัญ พัฒนามาจากปรัชญาและทฤษฎีการเรียนรู Constructivism ที่เชื่อวาการเรียนรูเปนกระบวนการที่เกิดขึ้นภายในสมองของผูเรียนแตละคน ผูเรียนเปนผูสราง ความรูโดยการเชื่อมโยงระหวางสิ่งที่ไดพบเห็นกับความรูหรือประสบการณเดิมที่มีอยู ทฤษฎีนี้มีความเชื่อวา นักเรียนทุกคนไดเรียนรูและมีความรูความเขาใจสิ่งตางๆ ติดตัวมากอนที่จะเขาสู หองเรียน ซึง่ เปนการเรียนรูท เี่ กิดจากบริบทและสิง่ แวดลอมรอบตัวนักเรียนแตละคน ดังนัน้ การจัดกระบวนการเรียนรู ในแตละบทเรียน ผูสอนจะตองคํานึงถึง คูม อื ครู
1) ความรูเดิมของนักเรียน การสอนที่ดีจึงตองเริ่มตนจากจุดที่วา นักเรียนมีความรูอ ะไรมาบาง แลวจึงให ความรูห รือประสบการณใหมเพือ่ ตอยอด จากความรูเ ดิม
2) ความรูเดิมของนักเรียนถูกตอง หรือไม ผูสอนตองปรับเปลี่ยนความรู ความเขาใจเดิมของนักเรียนใหถูกตอง และเปนพฤติกรรมการเรียนรูใหมที่มี คุณคาตอนักเรียน เพื่อสรางเจตคติหรือ ทัศนคติที่ดีตอการเรียน
3) นักเรียนสรางความหมายสําหรับ ตนเอง ผูสอนตองสงเสริมใหนักเรียน นํ า ข อ มู ล ความรู ที่ ไ ด ไ ปลงมื อ ปฏิ บั ติ และประยุ ก ต ใ ช ค วามรู อ ย า งถู ก ต อ ง ในบริ บ ทที่ เ ป น จริ ง ของชี วิ ต นั ก เรี ย น เพื่อขยายความรูใหลึกซึ้งและมีคุณคา ตอตัวนักเรียนมากที่สุด
เสร�ม
3
แนวคิด Constructivism เนนใหผูเรียนสรางความรูโดยผานกระบวนการคิดและความอยากรูของตนเอง โดยมีผูสอนเปนผูสรางบรรยากาศการเรียนรูและกระตุนความสนใจ คอยจัดสถานการณใหผูเรียนเกิดความ ขัดแยงทางความคิดระหวางประสบการณเดิมกับประสบการณความรูใหม ผูเรียนจะพยายามปรับขอมูลใหม กับประสบการณที่มีอยูเดิม แลวสรางเปนความรูใหมหรือแนวคิดใหมๆ ไดดวยตนเอง
3. การบูรณาการกระบวนการคิด
การเรียนรูของนักเรียนแตละคนจะเกิดขึ้นที่สมองซึ่งทําหนาที่รูคิด ภายใตสภาพแวดลอมที่เอื้ออํานวย และ ไดรับการกระตุนจูงใจอยางเหมาะสมสอดคลองกับสภาพจิตใจและความตองการของนักเรียน การจัดกระบวนการ เรียนรูและสาระการเรียนรูที่มีความหมายตอผูเรียนนั้น จะชวยกระตุนใหสมองรับรูและสามารถเรียนรูไดอยางมี ประสิทธิภาพตามขั้นตอนการทํางานของสมอง ดังนี้ 1) สมองจะเรี ย นรู แ ละสื บ ค น โดย 2) สมองจะแยกแยะคุ ณ ค า ของ การสังเกต คนหา ซักถาม และทดลอง สิง่ ตางๆ โดยการลงมติ ตัดสินใจ วิพากษ ปฏิบัติ จนคนพบความรูความเขาใจได วิจารณ แสดงความคิดเห็น ยอมรับหรือ อยางรวดเร็ว ตอตานตามอารมณความรูสึกที่เกิดขึ้น ในขณะที่เรียนรู
3) สมองจะประมวลเนื้ อ หาสาระ โดยการสรุปเปนความคิดรวบยอดจาก เรือ่ งราวทีไ่ ดเรียนรูใ หมนาํ ไปผสมผสาน กับความรู หรือประสบการณเดิมที่ถูก จัดเก็บอยูในสมอง ผานการกลั่นกรอง เพื่อสังเคราะหเปนความรูความเขาใจ ใหมๆ หรือเปนเหตุผลทัศนคติใหมที่จะ ฝงแนนในสมองของผูเรียน
การเรียนรูที่มีประสิทธิภาพจึงตองเปนการเรียนรูที่เกิดจากกระบวนการคิดของผูเรียน เพราะการเรียนรูจะ เกิดขึ้นเมื่อสมองรูคิดและตองเปนการคิดไดครบถวนตามขั้นตอนการทํางานของสมอง โดยเริ่มตนจาก 1) ระดับการคิดขั้นพื้นฐาน ไดแก 2) ระดั บ ลั ก ษณะการคิ ด ได แ ก 3) ระดั บ กระบวนการคิ ด ได แ ก การสังเกต การจําแนก การคาดคะเน การคิดกวาง คิดลึกซึ้ง คิดหลากหลาย กระบวนการคิ ด อย า งมี วิ จ ารณญาณ การสื่อความหมาย การรวบรวมขอมูล คิดไกล คิดคลอง คิดอยางมีเหตุผล กระบวนการแกปญหา กระบวนการคิด การสรุปผล เปนตน เปนตน สรางสรรค กระบวนการคิดสังเคราะห วิจัย เปนตน
คูม อื ครู
4. การบูรณาการกระบวนการเรียนรูพื้นฐานอาชีพ
กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายสงเสริมการเรียนพื้นฐานอาชีพในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อเสริมสราง ทักษะที่จําเปนสําหรับการประกอบอาชีพ และดํารงชีวิตในสังคมทองถิ่นของผูเรียนอยางมีความสุข และเปนการ เสร�ม เตรียมความพรอมดานกําลังคนใหมีทักษะพื้นฐานและศักยภาพในการทํางาน เพื่อการแขงขันและกาวสูประชาคม 4 อาเซียนหรือประชาคมโลกตอไป 4.1 ทักษะพื้นฐานเพื่อการประกอบอาชีพ การจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาผูเรียนในรายวิชาพื้นฐาน ทุกกลุมสาระการเรียนรูและทุกระดับชั้นเรียน ผูสอนควรบูรณาการประสบการณการเรียนรูพื้นฐานอาชีพควบคู ไปกับการเรียนการสอนดานวิชาการ โดยฝกทักษะสําคัญตามที่สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา (สวก.) สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เสนอแนะไว ดังนี้ 1. ฝกทักษะกระบวนการคิด มีการวางแผนตลอดแนว เพื่อศึกษาขอมูลอาชีพ 2. ฝกการตัดสินใจอยางเปนระบบ โดยใชขอมูลจากการศึกษา คนควาแหลงเรียนรูในชุมชน เพื่อลด ความเสี่ยงในการลงทุนและเพิ่มความมั่นใจเรื่องการตลาด 3. ฝกกระบวนการวางแผน การผลิต และการจัดจําหนาย โดยนักเรียนคิดตนทุน กําไรดวยตนเอง 4. ฝกการเรียนรูเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ดานการประกอบอาชีพ และการทํางานกลุม โดยมีจิตอาสา เพื่อสวนรวม 5. ฝกการทํางานอยางมีประสิทธิภาพ มีการประเมินผล ปรับปรุง พัฒนา และสรางสรรคตอ ยอดผลผลิต 6. ฝกการเสริมสรางความเชื่อมั่น ความเพียรพยายาม เห็นคุณคาและภาคภูมิใจในตนเอง (Self Esteem) ในการประกอบอาชีพ และเจตคติในพื้นฐานทางอาชีพ การจัดการเรียนการสอนที่ใหผูเรียนไดลงมือปฏิบัติทักษะดังกลาว จะชวยใหผูเรียนไดรับประสบการณจริง มีทักษะ ความสามารถ และความชํานาญในการทํางานที่จะใชในการประกอบอาชีพและเปนแรงงานที่มีคุณภาพ เขาสูตลาดแรงงานในอนาคต 4.2 การจัดกระบวนการเรียนรูพื้นฐานอาชีพ การจัดกระบวนการเรียนรูมีความสําคัญอยางยิ่งที่จะชวยให นักเรียนมีการพัฒนาทั้งดานความรู ทักษะ และคุณลักษณะตามเปาหมายของหลักสูตร การพัฒนาผูเรียน ดานทักษะพื้นฐานอาชีพตองอาศัยกระบวนการเรียนรูที่หลากหลายเปนเครื่องมือที่จะนําไปสูคุณภาพที่ตองการ เทคนิควิธีการตางๆ ที่ผูสอนจะตองพิจารณาใหเหมาะสมกับเนื้อหาวิชาและวัยของผูเรียน โดยใหความสําคัญกับ การฝกปฏิบัติและเนนการวัดประเมินผลจากการปฏิบัติตามสภาพจริง ดวยวิธีการที่จัดกิจกรรมการบูรณาการ ใหเหมาะสมกับวัยและระดับชั้นของผูเรียน สอดคลองกับมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดของกลุมสาระตางๆ ที่กําหนดไวในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 การวิเคราะหมาตรฐานและตัวชี้วัดที่จะนําไป จัดเนื้อหาความรูและทักษะ เพื่อพัฒนาผูเรียนดานพื้นฐานอาชีพ ดังตัวอยางตอไปนี้ 1. กลุมสาระการเรียนรูภาษาไทย กลมุ สาระการเรียนรูภ าษาไทยมุง เนนการพัฒนาใหผเู รียนมีความรูค วามสามารถในการใชภาษาไทย เพื่อการสื่อสาร เปนเครื่องมือในการเรียนรู การแสวงหาความรู และประสบการณตางๆ เพื่อพัฒนาความรู กระบวนการคิดวิเคราะห วิจารณ และสรางสรรค ใหทันตอการเปลี่ยนแปลงของสังคมและความกาวหนาทาง วิทยาศาสตร เทคโนโลยี จึงเปนกลุมสาระการเรียนรูที่เปนทักษะพื้นฐานการประกอบอาชีพทุกอาชีพ ตัวชี้วัดที่ สามารถนํามาพัฒนาทักษะอาชีพ เชน คูม อื ครู
ท 2.1 ม.1/8 เขียนรายงานการศึกษาคนควาและโครงงาน ท 1.1 ม.4 - 6/8 สังเคราะหความรูจากการอานสื่อสิ่งพิมพ สื่ออิเล็กทรอนิกส และแหลงเรียนรู ตางๆ มาพัฒนาตน พัฒนาการเรียน และพัฒนาความรูทางอาชีพ ท 2.1 ม.4 - 6/4 ผลิตงานเขียนของตนเองในรูปแบบตางๆ ท 2.1 ม.4 - 6/5 ประเมินงานเขียนของผูอื่น แลวนํามาพัฒนางานเขียนของตนเอง การจัดการเรียนการสอนตามตัวชี้วัดดังกลาวขางตน จะเปนทักษะพื้นฐานของการนําไปสูอาชีพ ทุกอาชีพ และเปนการปูทางไปสูอาชีพเฉพาะเกี่ยวกับการเขียน เชน นักเขียน นักประพันธ นักหนังสือพิมพ นักวิจารณ เปนตน 2. กลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม กลมุ สาระการเรียนรูส งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมมุง เนนการพัฒนาใหผเู รียนมีความรูค วาม เขาใจเกีย่ วกับการดํารงชีวติ ของมนุษย การอยูร ว มกันในสังคมทีม่ คี วามเชือ่ มโยงสัมพันธกนั มีความแตกตางกัน อยางหลากหลาย สามารถจัดการทรัพยากรที่มีอยูอยางจํากัด และเขาใจการเปลี่ยนแปลง เพื่อชวยใหสามารถ ปรับตนเองกับบริบทและสภาพแวดลอม เปนพลเมืองดี มีความรับผิดชอบ มีความรู ทักษะ คุณธรรม และ คานิยมที่เหมาะสม มีมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดที่เปนพื้นฐานของการประกอบอาชีพตางๆ เชน ส 4.3 ม.1/3 วิเคราะหอิทธิพลของวัฒนธรรมและภูมิปญญาไทยสมัยสุโขทัยและสังคมไทย ในปจจุบัน ส 4.3 ม.2/3 ระบุภูมิปญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยอยุธยาและธนบุรี และอิทธิพลของ ภูมิปญญาดังกลาวตอการพัฒนาชาติไทยในยุคตอมา ส 4.3 ม.3/3 วิเคราะหภูมิปญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยรัตนโกสินทร และอิทธิพลตอการ พัฒนาชาติไทย ส 4.3 ม.4 - 6/3 วางแผนกําหนดแนวทางและการมีสวนรวมในการอนุรักษภูมิปญญาไทยและ วัฒนธรรมไทย การจัดการเรียนการสอนตามตัวชีว้ ดั ดังกลาวขางตนจะเปนทักษะพืน้ ฐานและสรางเจตคติตอ อาชีพ เกีย่ วกับภูมปิ ญ ญาไทยในทองถิน่ เชน นักโบราณคดี นักประวัตศิ าสตร แพทยแผนโบราณ นวดแผนไทย ชางทอผา จักสาน นักดนตรีไทย การทําขนมหรืออาหารไทย เปนตน และเปนรากฐานของการศึกษาเพื่อพัฒนาตอยอด อาชีพที่มีฐานของภูมิปญญาไทย 3. กลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพและเทคโนโลยี กลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพและเทคโนโลยีมุงพัฒนาใหผูเรียนมีฐานความรูความสามารถ และทักษะที่จําเปนสําหรับนําไปปรับใชในการประกอบอาชีพและการศึกษาตอในสาขาอาชีพตางๆ ไดอยาง หลากหลาย รวมทัง้ ใหเห็นแนวทางในการประกอบอาชีพและการศึกษาตอตามความรู ความถนัด และความสนใจ มาตรฐานและตัวชี้วัดของกลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพและเทคโนโลยีสวนใหญมีลักษณะเปนทักษะ กระบวนการทํางาน ซึ่งผูสอนสามารถจัดเนื้อหาและกิจกรรมการสอนใหสอดคลองกับความตองการของผูเรียน และทองถิ่นได เพื่อพัฒนาไปสูการประกอบอาชีพตางๆ เชน ง 1.1 ม.4 - 6/2 สรางผลงานอยางมีความคิดสรางสรรคและมีทักษะการทํางานรวมกัน ง 1.1 ม.4 - 6/7 ใชพลังงาน ทรัพยากรในการทํางานอยางคุมคาและยั่งยืน เพื่อการอนุรักษ สิ่งแวดลอม
เสร�ม
5
คูม อื ครู
ง 4.1 ม.2/3 ง 4.1 ม.3/3
มีทักษะพื้นฐานที่จําเปนสําหรับการประกอบอาชีพที่สนใจ ประเมินทางเลือกในการประกอบอาชีพที่สอดคลองกับความรู ความถนัด และ ความสนใจของตนเอง ง 4.1 ม.4 - 6/2 เลือกและใชเทคโนโลยีอยางเหมาะสมกับอาชีพ เสร�ม ง 4.1 ม.4 - 6/3 มีประสบการณในอาชีพที่ถนัดและสนใจ 6 การจัดรายวิชาพื้นฐานในกลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพและเทคโนโลยีจึงสามารถดําเนินการ ไดอยางหลากหลาย ทั้งอาชีพในกลุมเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม ความคิดสรางสรรค การบริหาร จัดการ และการบริการ ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และสอดคลองกับบริบทของทองถิ่น ความพรอม ของสถานศึกษา และความตองการของผูเรียนเปนสําคัญ เพื่อเปนแนวทางการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนใหสนองนโยบายการจัดการเรียนการสอน พื้นฐานอาชีพในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ผูจัดทําจึงวิเคราะหมาตรฐาน การเรียนรูและตัวชี้วัดในรายวิชา ประวัติศาสตร ที่สอดคลองกับทักษะปฏิบัติเพื่อเตรียมความพรอมดานพื้นฐาน อาชีพ โดยเสนอแนะกิจกรรมการเรียนรูไวเพื่อเปนแนวทางในการจัดการเรียนการสอนบูรณาการประสบการณ การทํางานแกผูเรียน ใหบรรลุเจตนารมณของพระราชบัญญัติการศึกษาแหงชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 7 ที่ระบุให การจัดการศึกษาตองปลูกฝงใหเยาวชนมีความรูอันเปนสากล มีจิตสํานึกในการอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอม ตลอดจนมีความสามารถในการประกอบอาชีพ รูจักพึ่งตนเอง และมีความคิดสรางสรรค เพื่อ การดํารงชีวิต การศึกษาตอและการประกอบอาชีพอยางมีคุณภาพของผูเรียนตอไปในอนาคต
5. การใชวัฏจักรการเรียนรู 5E
รูปแบบการสอนที่สัมพันธกับกระบวนการคิดและการทํางานของสมองของผู งานของสมองของผูเรียนที่นิยมใชอยางแพรหลาย คือ วัฏจักรการเรียนรู 5E ซึ่งผูจัดทําคูมือครูไดนํามาใชเปนแนวทางออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนในคูมือครู ฉบับนี้ตามลําดับขั้นตอนการเรียนรู ดังนี้ ขั้นที่ 1 กระตุนความสนใจ (Engage) เปนขัน้ ทีผ่ สู อนนําเขาสูบ ทเรียน เพือ่ กระตุน ความสนใจของนักเรียนดวยเรือ่ งราวหรือเหตุการณทนี่ า สนใจ โดยใชเทคนิควิธกี ารสอนและคําถามทบทวนความรูห รือประสบการณเดิมของผูเ รียน เพือ่ เชือ่ มโยงผูเ รียนเขาสู บทเรียนใหม ชวยใหนักเรียนสามารถสรุปประเด็นสําคัญที่เปนหัวขอการเรียนรูของบทเรียนได จึงเปนขั้นตอน การสอนที่สําคัญ เพราะเปนการเตรียมความพรอมและสรางแรงจูงใจใฝเรียนรูแกผูเรียน ขั้นที่ 2 สํารวจคนหา (Explore) เปนขัน้ ทีผ่ สู อนเปดโอกาสใหผเู รียนไดสงั เกตและรวมมือกันสํารวจ เพือ่ ใหเห็นปญหา รวมถึงวิธกี ารศึกษา คนควาขอมูลความรูที่จะนําไปสูความเขาใจประเด็นปญหานั้นๆ เมื่อนักเรียนทําความเขาใจในประเด็นหัวขอที่จะศึกษาคนควาอยางถองแทแลวก็ลงมือปฏิบัติ เพื่อเก็บ รวบรวมขอมูลความรู สํารวจตรวจสอบ โดยวิธกี ารตางๆ เชน สัมภาษณ ทดลอง อานคนควาขอมูลจากเอกสาร แหลงขอมูลตางๆ จนไดขอมูลความรูตามที่ตั้งประเด็นศึกษาไว คูม อื ครู
ขั้นที่ 3 อธิบายความรู (Explain) เปนขั้นที่ผูสอนมีปฏิสัมพันธกับผูเรียน เชน ใหการแนะนํา หรือตั้งคําถามกระตุนใหคิด เพื่อใหผูเรียนได คนหาคําตอบ และนําขอมูลความรูจากการศึกษาคนควาในขั้นที่ 2 มาวิเคราะห แปลผล สรุปผล และนําเสนอ ผลที่ไดศึกษาคนความาในรูปแบบสารสนเทศตางๆ เชน เขียนแผนภูมิ แผนผังแสดงมโนทัศน เขียนความเรียง เขียนรายงาน เปนตน สมองของผูเรียนจะทําหนาที่คิดวิเคราะห สังเคราะหอยางเปนระบบ
เสร�ม
7
ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ (Expand) เปนขั้นที่ผูสอนไดใชเทคนิควิธีการสอนที่จะชวยพัฒนาผูเรียนใหนําความรูที่เกิดขึ้นไปคิดคนตอๆ ไป เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรูและการทํางานรวมกันเปนกลุม ระดมสมองเพื่อคิดสรางสรรครวมกัน นักเรียนสามารถนําความรูที่สรางขึ้นใหมไปเชื่อมโยงกับประสบการณเดิม โดยนําขอสรุปที่ไดไปอธิบาย ในเหตุการณตางๆ หรือนําไปปฏิบัติในสถานการณใหมๆ ที่เกี่ยวของกับชีวิตประจําวันของตนเอง เพื่อขยาย ความรูค วามเขาใจใหกวางขวางยิง่ ขึน้ สมองของผูเ รียนทําหนาทีค่ ดิ ริเริม่ สรางสรรคอยางมีคณ ุ ภาพ เสริมสราง วิสัยทัศนใหกวางไกลออกไป ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) เปนขั้นที่ผูสอนใชประเมินมโนทัศนของผูเรียน โดยตรวจสอบจากความคิดที่เปลี่ยนไปและความคิด รวบยอดที่เกิดขึ้นใหม ตรวจสอบทักษะ กระบวนการปฏิบัติ การแกปญหา การตอบคําถามรวบยอด และ การเคารพความคิดหรือยอมรับเหตุผลของคนอื่น เพื่อการสรางสรรคความรูรวมกัน นักเรียนสามารถประเมินผลการเรียนรูของตนเอง เพื่อสรุปผลวานักเรียนมีความรูอะไรเพิ่มขึ้นมาบาง มากนอยเพียงใด และจะนําความรูเ หลานัน้ ไปประยุกตใชในการเรียนรูเ รือ่ งอืน่ ๆ ไดอยางไร นักเรียนจะเกิดเจตคติ และเห็นคุณคาของตนเองจากผลการเรียนรูที่เกิดขึ้น ซึ่งเปนการเรียนรูที่มีความสุขอยางแทจริง การจัดกิจกรรมการเรียนรูตามวัฏจักรการสรางความรูแบบ 5E จึงเปนรูปแบบการเรียนการสอนที่เนน ผูเรียนเปนสําคัญ โดยสงเสริมใหผูเรียนใชกระบวนการสรางความรูดวยตนเอง ฝกฝนใหใชกระบวนการคิด และ กระบวนการกลุมอยางชํานาญ กอใหเกิดทักษะการเรียนรูและทักษะชีวิตที่มีคุณภาพ ตามเปาหมายของการปฏิรูป การศึกษาทศวรรษที่ 2 (พ.ศ. 2552 - 2561) ทุกประการ คณะผูจัดทํา
คูม อื ครู
แถบสีและสัญลักษณ ที่ใชสื่อความหมายในคูมือครู 1. แถบสี
แถบสีแสดงขั้นตอนการสอนและการจัดกิจกรรม แบบ 5E เพื่อใหครูทราบวาเปนขั้นการสอนขั้นใด
เสร�ม
8
สีแดง
สีเขียว
สีสม
กระตุน ความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
•
•
•
Engage
เปนขั้นที่ผูสอนเลือกใช เทคนิคกระตุนความ สนใจ เพื่อโยงเขาสู บทเรียน
Explore
เปนขั้นที่ผูสอนให ผูเรียนสํารวจปญหา และศึกษาขอมูล
Explain
เปนขั้นที่ผูสอนให ผูเรียนคนหาคําตอบ จนเกิดความรูเชิง ประจักษ
สีฟา
สีมวง
ขยายความเขาใจ Expand
•
เปนขั้นที่ผูสอนให ผูเรียนนําความรูไป คิดคนตอๆ ไป
ตรวจสอบผล Evaluate
•
เปนขั้นที่ผูสอน ประเมินมโนทัศน ของผูเรียน
สัญลักษณ
2. สัญลักษณ
วัตถุประสงค
เปาหมาย การเรียนรู
คูม อื ครู
• แสดงเปาหมาย การเรียนรูที่ นักเรียนตอง บรรลุตาม ตัวชี้วัด
หลักฐาน เกร็ดแนะครู แสดงผล การเรียนรู • แสดงรองรอย หลักฐานที่ แสดงผล การเรียนรู ตามตัวชี้วัด
นักเรียน ควรรู
B
@
NET
B
มุม IT
ขอสอบ
พื้นฐาน อาชีพ
• แทรกความรู • ขยายความรู • แนะนําแหลง • วิเคราะหแนว • กิจกรรม เสริมสําหรับครู เพิ่มเติมจาก คนควาจาก ขอสอบ O-NET สําหรับครู ขอเสนอแนะ เนื้อหา เพื่อให เว็บไซต เพื่อให เพือ่ ใหครู เพือ่ ใชเปน ขอควรระวัง นักเรียนไดมี ครูและนักเรียน เนนยํ้าเนื้อหา แนวทางใน ขอสังเกต ความรูม ากขึ้น ไดเขาถึงขอมูล ที่มักออก การชวยพัฒนา แนวทางการ ความรูที่ ขอสอบ O-NET อาชีพใหกับ จัดกิจกรรม หลากหลาย • ขอสอบ O-NET นักเรียน และอื่นๆ พิจารณาออก เพื่อประโยชน ขอสอบจาก ในการจัดการ เนื้อหา ม.4,5 เรียนการสอน และ 6
ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรูแกนกลาง (คัดมาเฉพาะที่ใชกับชั้น ม.4 - 6)* สาระที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
มาตรฐาน ง 3.1 เขาใจ เห็นคุณคา และใชกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบคนขอมูล การเรียนรู เสร�ม การสือ่ สาร การแกปญ หา การทํางาน และอาชีพอยางมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และมีคณ ุ ธรรม 9 ชั้น ม.4-6
ตัวชี้วัด 1. อธิบายองคประกอบของระบบ สารสนเทศ 2. อธิบายองคประกอบและหลักการ ทํางานของคอมพิวเตอร
3. อธิบายระบบสื่อสารขอมูลสําหรับ เครือขายคอมพิวเตอร
4. บอกคุณลักษณะของคอมพิวเตอร และอุปกรณตอพวง 5. แกปญหาดวยกระบวนการ เทคโนโลยีสารสนเทศอยางมี ประสิทธิภาพ
6. เขียนโปรแกรมภาษา
สาระการเรียนรูแกนกลาง • องคประกอบของระบบสารสนเทศ ไดแก ฮารดแวร ซอฟตแวร ขอมูล บุคลากร และขั้นตอนการปฏิบัติงาน • การทํางานของคอมพิวเตอร ประกอบดวยหนวยสําคัญ 5 หนวย ไดแก หนวยรับเขา หนวยประมวลผลกลาง หนวยความจําหลัก หนวยความจํารอง และหนวยสงออก - หนวยประมวลผลกลาง ประกอบดวย หนวยควบคุม และหนวย คํานวณและตรรกะ - การรับสงขอมูลระหวางหนวยตางๆ จะผานระบบทางขนสง ขอมูลหรือบัส • ระบบสื่อสารขอมูล ประกอบดวย ขาวสาร ผูสง ผูรับ สื่อกลาง โพรโทคอล • เครือขายคอมพิวเตอรจะสื่อสารและรับ - สงขอมูลกันไดตองใช โพรโทคอลชนิดเดียวกัน • วิธีการถายโอนขอมูลแบบขนานและแบบอนุกรม • คุณลักษณะ (Specification) ของอุปกรณคอมพิวเตอรและอุปกรณ ตอพวง เชน ความเร็วและความจุของฮารดดิสก • แกปญหาโดยใชขั้นตอนดังนี้ - การวิเคราะหและกําหนดรายละเอียดของปญหา - การเลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธี - การดําเนินการแกปญหา - การตรวจสอบและการปรับปรุง • การถายทอดความคิดในการแกปญหาอยางมีขั้นตอน • ขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรม มี ๕ ขั้นตอน ไดแก การวิเคราะห ปญหา การออกแบบโปรแกรม การเขียนโปรแกรม การทดสอบ โปรแกรม และการจัดทําเอกสารประกอบ • การเขียนโปรแกรม เชน ซี จาวา ปาสคาล วิชวลเบสิก ซีชารป • การเขียนโปรแกรมในงานดานตางๆ เชน การจัดการขอมูล การวิเคราะหขอมูล การแกปญหาในวิชาคณิตศาสตรและ วิทยาศาสตร การสรางชิ้นงาน
* สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน, กระทรวงศึกษาธิการ. ตัวชีว้ ดั และสาระการเรียนรูแ กนกลาง กลุม สาระ การเรียนรู การงานอาชีพและเทคโนโลยี. (กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพชุมนุมสหกรณการเกษตรแหงประเทศไทย, 2551), หนา 28 - 46 คูม อื ครู
ชั้น
เสร�ม
10
ม.4-6 (ตอ)
ตัวชี้วัด 7. พัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร
สาระการเรียนรูแกนกลาง • โครงงานคอมพิวเตอร แบงตามวัตถุประสงคของการใชงาน ดังนี้ - การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา - การพัฒนาเครื่องมือ - การทดลองทฤษฎี - การประยุกตใชงาน - การพัฒนาโปรแกรมประยุกต • พัฒนาโครงงานคอมพิวเตอรตามขั้นตอนตอไปนี้ - คัดเลือกหัวขอที่สนใจ - ศึกษาคนควาเอกสาร - จัดทําขอเสนอโครงงาน - พัฒนาโครงงาน - จัดทํารายงาน - นําเสนอและเผยแพร
8. ใชฮารดแวรและซอฟตแวรให เหมาะสมกับงาน
• การเลือกคุณลักษณะของฮารดแวรและซอฟตแวรใหเหมาะสม กับงาน เชน คอมพิวเตอรที่ใชในงานสื่อประสม ควรเปนเครื่องที่มี สมรรถนะสูงและใชซอฟตแวรที่เหมาะสม
9. ติดตอสื่อสาร คนหาขอมูลผาน อินเทอรเน็ต
• ปฏิบัติการติดตอสื่อสาร คนหาขอมูลผานอินเทอรเน็ต • คุณธรรมและจริยธรรมในการใชอินเทอรเน็ต
10. ใชคอมพิวเตอรในการประมวลผล • ใชเทคโนโลยีสารสนเทศชวยในการตัดสินใจของบุคคล ขอมูลใหเปนสารสนเทศเพื่อประกอบ กลุมองคกรในงานตางๆ การตัดสินใจ 11. ใชเทคโนโลยีสารสนเทศนําเสนองาน • ใชเทคโนโลยีสารสนเทศนําเสนองานในรูปแบบโดยพิจารณา วัตถุประสงคของงาน ในรูปแบบที่เหมาะสม ตรงตาม วัตถุประสงคของงาน 12. ใชคอมพิวเตอรชวยสรางชิ้นงานหรือ • ใชคอมพิวเตอรชวยสรางชิ้นงานหรือโครงงาน ตามหลักการทํา โครงงาน โครงงานอยางมีจิตสํานึกและความ รับผิดชอบ • ศึกษาผลกระทบดานสังคมและสิ่งแวดลอมที่เกิดจากงานที่สรางขึ้น เพื่อหาแนวทางปรับปรุงและพัฒนา 13. บอกขอควรปฏิบัติสําหรับผูใช เทคโนโลยีสารสนเทศ
คูม อื ครู
• ขอปฏิบัติสําหรับผูใชเทคโนโลยีสารสนเทศ เชน สื่อสารและปฏิบัติ ตอผูอื่นอยางสุภาพ ปฏิบัติตามระเบียบขอบังคับของระบบที่ใชงาน ไมทําผิดกฎหมายและศีลธรรม แบงปนความสุขใหกับผูอื่น
คําอธิบายรายวิชา รายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 รหัสวิชา ง…………………………………
กลุมสาระการเรียนรู การงานอาชีพและเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 1- 2 เวลา 40 ชั่วโมง/ป
เสร�ม
อธิบายหลักการออกแบบฐานขอมูล การเขียนโปรแกรมเพื่อดึงขอมูลจากฐานขอมูล การพัฒนาโครงงาน คอมพิวเตอร การพัฒนาชิ้นงานระบบสารสนเทศทางธุรกิจ การเลือกใชฮารดแวรและซอฟตแวรใหเหมาะสมกับ โครงงานคอมพิวเตอรดานธุรกิจ การใชทรัพยากรสารสนเทศบนอินเทอรเน็ต การสืบคนไดอยางเหมาะสมตอการ พัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร ผลกระทบดานสังคมและสิ่งแวดลอมของโครงงาน รวมถึงแนวทางการปรับปรุงพัฒนา โครงงาน รูปแบบของอาชญากรรมคอมพิวเตอรและกฎหมายทีเ่ กีย่ วของ คุณธรรมและจริยธรรมในการใชอนิ เทอรเน็ต โดยใชกระบวนการทํางาน กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการคิดวิเคราะห และกระบวนการแกปญหา เพื่อใหเกิดความรู ความคิด ความเขาใจ สามารถนําเทคโนโลยีสารสนเทศไปประยุกตใชในชีวิตประจําวัน มีคุณธรรมและจริยธรรมในการใชเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยคํานึงถึงผลกระทบตอสังคม มารยาท และขอบังคับใน การใช ตลอดจนมีเจตคติที่ดีตอคุณคาของเทคโนโลยีสารสนเทศ
11
รหัสตัวชี้วัด ง 3.1 ม.4-6/6 6/6 ม.4-6/7 ม.4-6/8 ม.4-6/9 ม.4-6/9 ม.4-6/12 ม.4-6/13 รวม 6 ตัวชี้วัด
คูม อื ครู
ตาราง
ÇÔà¤ÃÒÐË Áҵðҹ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒáÅеÑǪÕéÇÑ´ ÃÒÂÇÔªÒ à·¤â¹âÅÂÕÊÒÃʹà·ÈáÅСÒÃÊ×èÍÊÒà Á.6
คําชี้แจง : ใหผูสอนใชตารางน�้ตรวจสอบความสอดคลองของเน�้อหาสาระการเรียนรูในหนวยการเรียนรูกับมาตรฐานการเรียนรู และตัวชี้วัดชั้นป
เสร�ม
12
สาระที่ 3
มาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัด
มาตรฐาน ส 3.1 หนวยการเรียนรู
ตัวชี้วัด 1
2
3
4
5
6
7
8
หนวยการเรียนรูที่ 1 : การคนหาขอมูล สารสนเทศ
10 11 12 13
✓
หนวยการเรียนรูที่ 2 : การพัฒนาโครงงาน คอมพิวเตอรประยุกต
หนวยการเรียนรูที่ 3 : การเขียนโปรแกรม ภาษาซีชารป
9
✓ ✓
✓
หนวยการเรียนรูที่ 4 : อาชญากรรม คอมพิวเตอรและ กฎหมายที่เกี่ยวของ หมายเหตุ ✓ เฉพาะที่สอดคลองกับตัวชี้วัดชั้น ม.6 เทานั้น ตัวชี้วัดที่เหลือจัดการเรียนการสอนในชั้น ม.4 และ ม.5
คูม อื ครู
✓
✓
กระตุน ความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Expand
Evaluate
˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ÃÒÂÇÔªÒ¾×é¹°Ò¹
เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร ม.6 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6
กลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพและเทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
ผูเรียบเรียง
รศ. ดร. พิมลพรรณ ประเสริฐวงษ เรพเพอร นางสาวอารียา ศรีประเสริฐ นางสาวสายสุนีย เจริญสุข นางสาวสุปราณี วงษแสงจันทร
ผูตรวจ
ผศ. ดร. พรฤดี เนติโสภากุล นายเอนก สุวรรณวงศ ดร. จารุวัส หนูทอง
บรรณาธิการ
นายมนตรี สมไรขิง นายสมเกียรติ ภูระหงษ
ผูจัดทําคูมือครู
พิไลพร ฉิมพัด บุญนิตา จิตรีเชาว พิมพครั้งที่ 1
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ รหัสสินคา 3617002 รหัสสินคา 3647002
¤Œ¹¤ÇÒÁÃÙŒ¢ÂÒ¤ÇÒÁ¤Ô´¨Ò¡
EB GUIDE
ที่พิมพกํากับหัวขอสําคัญในหนังสือเรียนหลักสูตรแกนกลางฯ ผาน www.aksorn.com ไปยังแหลงความรูทั่วไทย-ทั่วโลก
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา Explore Engage
Expand
Explain
Evaluate
¤íÒá¹Ð¹íÒ㹡ÒÃ㪌˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ หนังสือเรียน รายวิชาพืน้ ฐาน เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารเลมนี้ ใชประกอบการเรียนการสอนรายวิชาพืน้ ฐาน กลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เนื้อหาตรงตามสาระการเรียนรูแกนกลางขั้นพื้นฐาน อานทําความเขาใจงาย ใหทั้งความรูและชวยพัฒนาผูเรียนตามหลักสูตรและตัวชี้วัด เนื้อหาสาระแบงออกเปนหนวยการเรียนรู สะดวกแกการจัดการเรียนการสอน และการวัดผลประเมินผล พรอมเสริมองคประกอบอืน่ ๆ ทีจ่ ะชวยทําใหผเู รียนไดรบั ความรูอ ยาง มีประสิทธิภาพ ¨Ñ´¡ÅØ‹Áà¹×éÍËÒ໚¹Ë¹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ Êдǡᡋ¡ÒèѴ¡ÒÃàÃÕ¹¡ÒÃÊ͹
à¡ÃÔè¹¹íÒà¾×èÍãˌࢌÒ㨶֧ÊÒÃÐÊíÒ¤ÑÞ ã¹Ë¹‹Ç·Õè¨ÐàÃÕ¹
à¹×Íé ËҵçµÒÁÊÒÃСÒÃàÃÕ¹ÃÙጠ¡¹¡ÅÒ§Ï ãËŒ¤ÇÒÁÃÙŒáÅÐàÍ×é͵‹Í¡ÒùíÒä»ãªŒÊ͹à¾×èÍ ãËŒºÃÃÅصÑǪÕéÇÑ´ áÅÐÊÌҧ¤Ø³ÅѡɳРÍѹ¾Ö§»ÃÐʧ¤
บคน บนอินเทอรเน็ตและการสื นประโยชนตอ 1. ทรัพยากรสารสนเทศ กที่เป ทรัพยากรสารสนเทศจํานวนมา
2
โครง งาน คอม ชวยเพิ่มพูนประ พิ ว เตอ ร เป น สิ่ ง ที่ จ ะ พัฒนางานทางด สบการณและความรูในการ ไดอยางมีประสิทานธุรกิจใหสามารถดําเนินงาน ประหยัดคาใชจา ธิภาพ สะดวก รวดเร็ว และ ย
หนวยการเรียนรูท
ตัวชี้วัด
ี่
การพัฒนาโครง
งานคอมพิวเตอ
ตัวชี้วัด ง 3.1 ม.4-6/7 พัฒนาโครงงานคอมพ ใชฮารดแวรและซอฟต ิวเตอร (ง 3.1 ม. 4-6/8) แวรใหเหมาะสมกั ใชคอมพิวเตอรช บงาน (ง 3.1 ม. วยสร และความรับผิดชอบ างชิ้นงานหรือโครงงานอยางมีจ 4-6/12) ิตสํานึก
รประยุกตทางด
●
านธุรกิจ
สาระการเรียนรู
●
●
งรวบรวม ระบบอินเทอรเน็ต ถือเปนแหล ะเดนที่สําคัญ ดังนี้ ใจในประเด็ เราจําเปนจะตองทําความเขา น เทอร เ น็ ต การนําไปใชในแตละดาน ซึ่ง ทรั พ ยากรส ารสนเ ทศบน อิ ่ถูกจัดเก็บอยูใน คือ สารสนเทศจํานวนมากที วยระบบเครือขาย คอมพิวเตอรซงึ่ เชือ่ มโยงกันด เสมือนจริง งสมุด อินเทอรเน็ต ทําใหเกิดหอ นเปนหองสมุดของ (Virtual Library) เปรียบเสมือ เก็บสรรพวิชาการ โลกขนาดใหญมหาศาลที่จัด าวสารตางๆ ไว และข งานวิจัย เทคโนโลยีใหมๆ การแสวงหา การสืบคนสารสนเทศ คือ มี ก ารบั น ทึ ก และ ทรั พ ยากรส ารสนเ ทศที่ ไ ด สื่อสิ่งพิมพ สื่อ เผยแพรไวในสื่อตางๆ ไดแก กส เพื่ อให ได โสตทัศน และสื่อ อิเล็ กทรอนิ งการ งทรัพยากรสารสนเทศทมี่ ี งที่ตอ ระบบอินเทอรเน็ตถือเปนแหล สารสนเทศที่เกี่ยวของกับเรื่อ วน และตรงตอ ขอมูลความรูมหาศาล างรวดเร็ว ครบถ วิธีการเพื่อใหไดสารสนเทศอย อ คื น ค บ ื นการส ใ ี ธ วิ ค เทคนิ และตองทราบวาสารสนเทศ วัตถุประสงคหรือความตองการ ่งตองใชการสืบคนที่เหมาะสม การใชสารสนเทศเรื่องใดเรื่องหนึ เทอรเน็ต การสืบคนขอมูลในระบบเครือขายอินเทอรเน็ต อขายอิน ธีใด ทีต่ อ งการนัน้ อยูท ใี่ ดในระบบเครื ิการ ทั้งนี้ขึ้นอยูกับขอมูลที่ตองการนั้นมีการเผยแพรโดยวิ ลายบร สามารถใชบริการตางๆ ไดห ต น็ เ เทอร น นอิ า ผ น ค บ ีที่ดี 2. เทคนิควิธีการสื ธี ซึ่งถาหากเรามีเทคนิควิธ เน็ตนั้นสามารถทําไดหลายวิ ว ซึ่งปฏิบัติได ดังนี้ การสืบคนขอมูลผานอินเทอร รวดเร็ รวดเร็ งๆ ในอินเทอรเน็ตไดอยางสะดวก จะชวยใหสามารถสืบคนสิ่งตา งการ อ ต ่ ที อ ข ว ั 2.1 การกําหนดห องการ ซึ่งขอมูลที่ไดก็จะมี ือระบุหัวเรื่องของขอมูลที่เราต เปนเทคนิคที่ใชในการกําหนดหร าหนด เชน วขอที่เรากํ ยไทย ก็ทําการกําหนดหัวขอ เนื้อหาที่อยูในขอบเขตของหั ่เกี่ยวกับระบบฐานขอมูลกฎหมา ตองการคนหาขอมูลโครงงานที อมูลกฎหมายไทย ผานอินเทอรเน็ต นข ระบบฐา ร านข โดยใชคําวา : โครงงานเรื่อง
แกนกลาง
โครงงานคอมพิว เตอร การพัฒนาสื่อการศึ แบงตามวัตถุประสงค ของการใ ชงาน ดังนี้ กษา การพัฒนาเครื่อ ใชงาน การพัฒนาโปรแ งมือ การทดลองทฤษฎ ี การประยุกต พัฒนาโครงงานคอมพ กรมประยุกต คัดเลือกหัวขอที่ส ิวเตอรตามขั้นตอนตอไปนี้ นใจ โครงงาน จัดทํารายงานศึกษาคนควาเอกสาร จัดทําข อเสนอโครงการ พัฒนา การเลือกคุณลักษณะของ นําเสนอและเผยแพร ฮารดแวรแ คอมพิว เตอร ที่ ใ ช ใ นงานสื่ อประสมละซอฟแวรใหเหมาะสมกับงาน เช ใช ซอฟตแวรที่เหมาะสม น ควรเปน เครื่ อ งที ่ มี ส มรรถน ะสู ง และ ใชคอมพิวเตอรช วยสร ศึกษาผลกระทบด างชิ้นงานหรือโครงงานตามหลัก การทําโครงงาน แนวทางปรับปรุง านสังคมและสิ่งแวดลอมที่เกิดจากงาน และพัฒนา ที่สรางขึ้นเพื่อหา ●
●
●
● ●
à¡Ãç´ IT ໚¹àÃ×èͧ¹‹ÒÃÙŒà¾ÔèÁàµÔÁ ¨Ò¡à¹×éÍËÒ ÁÕá·Ã¡à»š¹ÃÐÂÐæ
ประเทศ (Region) คนหาปลอดภัย (SafeSearch) เครื่องมือเจาะจง หนาเว็บ
การคนหาขั้นสูง
วิธีการคนหา
คนหาหนาเว็บที่อยูในประเทศ การค นหาเว็บเพจที่อยูในประเทศตางๆ เช น เกาหลีใต คิวบา จีน เปนตน คนหาหนาเว็บที่กําหนดความ การค นหาขอมูลทีม่ กี ารกรอง หรือไมมกี ารกรองข ปลอดภัย อมูลดาน ความปลอดภัย คนหาหนาเว็บที่คลายคลึงกับ การค น หาเว็ บเพจที่คลายกับเว็บเพจที่ระบุ URL หนาเว็บนี้ คนหาหนาเว็บที่ลิงคไปสูหนา การค นหาเว็บเพจที่เชื่อมโยงมายังเว็บเพจที เว็บนี้ ่ระบุ URL
ผลลัพธการคนหาทีไ่ ดจากการค เพียงแตผูใชจะไดผลลัพธที่เจาะจงมา นหาขัน้ สูงจะคลายกับการคนหาดวย Google ตามปกติ กขึ้น
à¡Ãç´ IT
การคนหาโดยกําหนดประเภทของไฟล Google มีความสามารถในการค ประเภทอื่นๆ บนอินเทอรเน็ต ดวยการค นหาไฟล (Advanced Search) หรือการกําหนดคํ นหาขั้นสูง าคนได เชน ตองการหาไฟลเรื่องเบส ในรูปแบบไฟล ไมโครซอฟตเวิรด (.doc) กําหนดได ดังนี้
โดยประเภทของไฟลที่ Google รับรองก็ คือ .pdf ไฟลเอกสาร Adobe Acrobat Reader .ps ไฟลเอกสาร Adobe PostScript .dwf ไฟลขอมูลรูปจาก Autodesk DWF .kml ไฟลขอมูลจาก Google Earth KML .kmz ไฟลขอ มูลจาก Googl .xls ไฟลสเปรดชีท Microsoft Excel e Earth KMZ .ppt ไฟลนาํ เสนอ Microsoft .doc ไฟลเอกสาร Microsoft word PowerPoint .rtf ไฟลเอกสาร Rich Text Format .swf ไฟลมัลติมีเดียจาก Shockwave flash
2
19
µÑǪÕÇé ´Ñ áÅÐÊÒÃСÒÃàÃÕ¹ÃÙጠ¡¹¡ÅÒ§ µÒÁ·ÕËè ÅÑ¡Êٵà ¡íÒ˹´ à¾×èÍãËŒ·ÃÒº¶Ö§à»‡ÒËÁÒÂ㹡ÒÃÈÖ¡ÉÒ Design ˹ŒÒẺãËÁ‹ ÊǧÒÁ ¾ÔÁ¾ ô ÊÕ µÅÍ´àÅ‹Á ª‹ÇÂãˌ͋ҹ·íÒ¤ÇÒÁࢌÒã¨ä´Œ§‹ÒÂ
ÁØÁà·¤â¹âÅÂÕ àÊÃÔÁà¹×éÍËҹ͡à˹×ͨҡ·ÕèÁÕã¹ ÊÒÃСÒÃàÃÕ¹Ãٌ᡹¡ÅÒ§à¾×èÍà¾ÔèÁ¾Ù¹áÅТÂÒ ¤ÇÒÁÃÙŒãËŒ¡ÇŒÒ§¢ÇÒ§ÍÍ¡ä»
มุมเทคโนโลยี
จินที่เหมาะสม มูลผานเสิรชเอน น search engine 3. การคนหาขอ ตางๆ ทางอินเทอรเน็ตมักนิยมใชการคนหาผอมูาลผานเสิรชเอนจินมี ั่วไปการสืบคนขอมูล อยางงาย การคนหาข
Application) ประเภทตางๆ ที่ทํางานรวมกัน ะยุกต กตบนเว็บ (Web base
engine ที่ไดรับความ Keyword search นการ คือ Google ที่เน ง นิยมสูงในปจจุบัน ่รวดเร็ว วิธีการคนหาขอ แสดงผลการสืบคนที ็บเพจที่เกี่ยวของดวย Google คือ คนหาเว นหา ซึ่งสามารถปอน องค คําคนที่ผูใชปอนในช ทั้งนี้ และภาษาอังกฤษ คําคนไดทั้งภาษาไทย ถหลักในการคนหา ามาร Google ยังมีความส และ Scholar ไดดงั นี้ าษา แปลภ ่ ี รูปภาพ แผนท
2.6 % 8.3 % 6.3 % 9.6 %
49.2 %
23.8 %
เอมเอสเอ็น 9.6 % อื่นๆ 8.3 %
ยาฮู 23.8 % อารก 2.6 %
กูเกิล 49.2 % เอโอเอล 6.3 %
ป พ.ศ. 2549
ชเอนจินทั่วโลกใน
สัดสวนของผูใชเสิร
gle นการคนหาของ Goo
ความสามารถใ
รถ
ความสามา งกับ งไดตามความเกี่ยวขอ น โดยสามารถจัดเรีย ปอารต และภาพลายเส ภาพไดทั้งรูปถาย คลิ ที่ตองการได รูปภาพ คนหารูนปหาหร ใช ผูใชสามารถ ัวขอตางๆ ของผู ง ตามห แหน อ ื า ตํ บ ั ก อยู ค ่ น ้ ที า คํ ่จะขึ ิดตอ บเบราวเซอร โดยแผนที งของธุรกิจขอมูล ที่ต ที่ซึ่งผูใชสามารถดูในเว็ ง ขอมูลธุรกิจทองถิ่น รวมถึงตําแหนกันไดทันที และดูภาพจาก แผนที่ บริการแผน ี่ที่กําหนดเอ สวนที่ติด กและลากแผนที่เพื่อดู ดูแผนที่พื้นฐานหรือแผนท ่ดวย โดยสามารถคลิ และเสนทางการขับขี งที่ตองการได ในภาษาใดๆ ก็ไดที่ บ เว็ แหน า า น ตํ และห มของ ย ี ค ดาวเท ประโย มารถแปลไดทั้ง คํา าถึงขอมูลไดงาย และกอใหเกิดประโยชน ภาษา 57 ภาษา โดยสา ั้นสามารถเข แปลภาษา บริการแปล ่งจะชวยใหผูคนในภาษาน Google สนับสนุน ซึ าใดก็ตาม นธ หนังสือ ก บทความ วิทยานิพ ไมวาจะเขียนขึ้นในภาษ หลงขอมูลตางๆ ไดแ ที่เก็บรางบทความ มหาวิทยาลัย าและแ ช าวิ ากสาข าการจ เขียนทางวิช ชาการ แวดวงวิชาชีพ Scholar คนหางาน มจากสํานักพิมพทางวิ บทคัดยอ และบทควาึกษาอื่นๆ นการศ และองคกรดา m/LC/Tech/M6/01
EB GUIDE
กิจกรรม สร้างสรรค์พัฒนาการเรียนรู้
โปรแกรมประยุ ือขายอินเทอรเน็ตนั้น จะมีโปรแกรมปร ายเปนสื่อกลางในการติดตอสื่อสาร ข ในการทํางานบนเคร ชื่อมตออยูในเครือขาย โดยอาศัยเครือ โครงสรางการทํางานที่คลายกัน วเตอรที่เ ้มีลักษณะ ระหวางเครื่องคอมพิ ํางานของโปรแกรมประยุกตเหลานี ระยุกตบนเว็บโปรแกรมหนึง่ ทีเ่ รารูจ กั การท ระหวางกันและกัน บตั กิ ารบนเครือขายอินเทอรเ น็ต โปรแกรมป ปฏิ ) ซึง่ จะทําใหเกิดระบบ ส (Electronic Mail านเครือขายคอมพิวเตอร ซึ่งใหบริการ ปรษณียอิเล็กทรอนิก กันดี คือ โปรแกรมไ อิเล็กทรอนิกสเปนบริการรับสงจดหมายผ และเสียง ทําใหการติดตอสื่อสาร กษร ภาพ โปรแกรมไปรษณีย วสารไดทั้งแบบตัวอั ็ว สามารถรับสงขา มในการใชบริการสูงในเครือขาย วดเร และร ะดวก ส ได สวน คือ สวนการ นิย ประกอบที่สําคัญ 2 ปนระบบที่ไดรับความ ไมมีขีดจํากัด และเ ณียอิเล็กทรอนิกสประกอบขึ้นดวยองค กันดี โดยมากมักจะอยูในรูปแบบของ ละรูจัก บบ ปจจุบันระบบไปรษ ่งเปนสวนที่ผูใชคุนเคยแ UNIX และโปรแกรม Thunderbird ในระ ับ ซึ t Agen User า ติดตอกับผูใชเรียกว ิเล็กทรอนิกสที่ไดร ในระบบปฏิบัติการ น โปรแกรม Pine านวยความสะดวกในการอานจดหมายอ (Email Address) โปรแกรมใชงาน เช ยู ยอํ อ ่ ว ช ้ ที นี บ า เก็ ด หล รจั กรมเ โปรแ ะดวกในกา ปฏิบัติการ Windows มายและจัดสง รวมถึงอํานวยความส ิกสระหวางเครื่อง ชวยในการจัดเตรียมจดหอยครั้ง งไปรษณียอิเล็กทรอน อบ ของผูใชที่มีการติดต คัญอีกสวนหนึ่ง ไดแก สวนการรับส ประกอบสวน User Agent เปนเพียง องคประกอบที่สํา กวา Message Transfer Agent องค งนั้น จึงอาจมีรูปแบบแตกตางกัน ย ดั เรี ส ย ก ิ า ข อ ื ทรอน ก ล็ นเคร เ ิ ใ อ ย ี คอมพิวเตอร บบไปรษณ อระหวางผูใชและระ ตัวกลางในการเชื่อมต ประกอบสวน Message บองค ออกไปไดมาก สําหรั าหนาที่สรางการติดตอกับ ่งทํ Transfer Agent ซึ ไปรษณีย ง ส บ รั อ ่ ื อื่นในระบบเพ นการ เครื่องคอมพิวเตอร สวนที่ตองมีโพรโทคอลใ อิเล็กทรอนิกส เปน ําหนาที่เปนทั้งผูใหบริการ และท เจน ด ั ช ่ ี่ ที อ ต ติด ดียวกัน โปรแกรมท กรมเ โปรแ ารใน ก ริ บ และผูขอใช Sendmail ัติการ UNIX ไดแก รฐาน นิยมใชในระบบปฏิบ ลมาต โทคอ มโพร ไปตา น ป ซึ่งเปนโปรแกรมที่เ Transfer Protocol) SMTP (Simple Mail
โดยท อมูลได รวดเร็ว และเขาถึงข เนื่องจากเปนวิธีที่สะดวก าคนที่ ้ คนหาขอมูลดวยคํ หลากหลายวิธี ดังนี search engine
word 3.1 การใช Key เจาะจง
¡Ô¨¡ÃÃÁÊÌҧÊÃä ¾² Ñ ¹Ò¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ ÁͺËÁÒ ãËŒ¼ÙŒàÃÕ¹䴌ŧÁ×ÍÊÌҧªÔ鹧ҹà¾×èÍãËŒÁդسÀÒ¾ ºÃÃÅØÁҵðҹáÅеÑǪÕéÇÑ´
7
http://www.aksorn.co
Web guide á¹Ð¹íÒáËÅ‹§¤Œ¹¤ÇŒÒ¢ŒÍÁÙÅ à¾ÔèÁàµÔÁ¼‹Ò¹Ãкº Online
ใบมอบหมายงาน เรื่อง อาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตอนที่ 1 ให้นักเรียนตอบค�าถามประจ�าหน่วยการเรียนรู้ต่อไปนี้ 1 2 3 4
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์มีกี่ประเภท อะไรบ้าง ปัญหาเกี่ยวกับการป้องกันอาชญากรรมคอมพิวเตอร์มีอะไรบ้าง จงเลือกอธิบายมา 3 ปัญหา จงบอกประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการมีมารยาทที่ดีในการใช้อินเทอร์เน็ต พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระท�าความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 หมวด 1 ความผิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มีกี่มาตรา มีมาตราส�าคัญอะไรบ้าง
ตอนที่ 2 ให้นักเรียนปฏิบัติตามค�าสั่งต่อไปนี้
1 2
3 51 106
นักเรียนหาตัวอย่างข่าว ภาพ บทความเกีย่ วกับอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ทเี่ กิดขึน้ ในสังคมไทย แล้วน�าไปจัดป้ายนิเทศเพื่อเผยแพร่ความรู้ นักเรียนเลือกดูภาพยนตร์ 1 เรื่อง แล้วน�าสาระที่ได้มาอภิปรายร่วมกันในชั้นเรียน เรื่องที่ 1 141 Hacker เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่ถูกจับในปี ค.ศ. 1983 ฐานลักลอบใช้ เครื่องคอมพิวเตอร์และโมเด็มโทรศัพท์เจาะเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานราชการ ต่างๆ ทัง้ หน่วยราชการลับ โรงพยาบาล สถาบันการศึกษา รวมทัง้ ท�าลายแฟ้มข้อมูลขององค์การ สหประชาชาติ หรือของศูนย์มะเร็ง ซึ่งต่อมาศาลตัดสินว่าเป็นความผิด เรื่องที่ 2 War Game เป็นเรื่องของเด็กหนุ่มผู้เป็นอัจฉริยะทางคอมพิวเตอร์ สามารถเจาะ เข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ของกองก�าลังป้องกันทางอากาศในพืน้ ทีภ่ าคเหนือของสหรัฐอเมริกา ที่ตั้งอยู่ในมลรัฐไวโอมิง และเกือบเกิดสงครามปรมาณู นักเรียนร่วมกันศึกษาว่าอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ที่เกิดขึ้นมีอะไรบ้าง พร้อมทั้งเขียนแสดง ความคิดเห็นว่า ควรมีแนวทางอย่างไรในการแก้ปญั หาอาชญากรรมคอมพิวเตอร์เหล่านัน้ แล้ว น�าส่งครูผู้สอน
กระตุน ความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Expand
¤íÒ¹íÒ กลุมสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี เปนกลุมสาระที่ชวยพัฒนาใหผูเรียนมีความรู ความ เขาใจ มีทักษะพื้นฐานที่จําเปนตอการดํารงชีวิต และรูเทาทันการเปลี่ยนแปลง สามารถนําความ รูเกี่ยวกับการดํารงชีวิต การอาชีพและเทคโนโลยี มาประยุกต ใชในการทํางานอยางมีความคิด สรางสรรคและแขงขันในสังคมไทยและสากล เห็นแนวทางในการประกอบอาชีพ รักการทํางาน และมีเจตคติที่ดีตอการทํางาน สามารถดํารงชีวิตอยูในสังคมไดอยางพอเพียงและมีความสุข สําหรับหนังสือเรียนที่ใชประกอบการเรียนการสอนสําหรับผูเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษา ปที่ 6 (ม.6) กลุมสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี จะจัดทําแยกออกเปน 2 เลมดวยกัน กลาวคือ แยกเปนการงานอาชีพและเทคโนโลยี เลมหนึง่ (ซึง่ จะกลาวถึงสาระที่ 1 การดํารงชีวติ และครอบครัว สาระที่ 2 การออกแบบและเทคโนโลยี สาระที่ 4 การอาชีพ) และเทคโนโลยีสารสนเทศและ การสื่อสารอีกเลมหนึ่ง (ซึ่งเลมหลังนี้จะเนนหนักสาระที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร) ทัง้ นีค้ รูผสู อนและสถานศึกษาพึงใชควบคูก นั เพือ่ ประสิทธิภาพในการเรียนการสอนและผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนที่ดีของผูเรียน โดยเลมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จะเปนสาระเกี่ยวกับกระบวนการเทคโนโลยี สารสนเทศ การติดตอสื่อสาร การคนหาขอมูล การใชขอมูลและสารสนเทศ การแกปญหาหรือ การสรางงาน คุณคาและผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ ภายในเลมไดจดั แบงเนือ้ หาแยกเปนหนวยการเรียนรู มีเนือ้ หาทีส่ อดคลองกับสาระการเรียน รูแกนกลาง รวมทั้งมีระดับความยากงายและจํานวนเนื้อหาที่เหมาะสมกับเวลาเรียน ทั้งนี้ทาง คณะผูเ รียบเรียงหวังเปนอยางยิง่ วา หนังสือเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารเลมนี้ จะเปน ประโยชนอยางยิง่ ตอการนําไปใชประกอบการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษาทุกแหง ชวยให ผูเรียนไดรับความรู มีทักษะ มีคุณลักษณะอันพึงประสงค ตลอดจนบรรลุตัวชี้วัดตามที่หลักสูตร แกนกลาง ฯ ไดกําหนดไวทุกประการ ผูเรียบเรียง
Evaluate
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา Engage
˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè
Explore
1
●
●
●
●
●
●
3
●
33 - 56
ÃкºÊÒÃʹà·È·Ò§¸ØáԨ »ÃÐàÀ·¢Í§ÃкºÊÒÃʹà·È·Ò§¸ØáԨ ¡ÒþѲ¹Òâ¤Ã§§Ò¹ÃкºÊÒÃʹà·È·Ò§¸ØáԨ ¡ÒÃàÅ×͡㪌ÎÒà ´áÇà áÅЫͿµ áÇà ãËŒàËÁÒÐÊÁ¡Ñºâ¤Ã§§Ò¹ÃкºÊÒÃʹà·È·Ò§¸ØáԨ ¡ÒÃÈÖ¡ÉҼšÃзº´ŒÒ¹Êѧ¤ÁáÅÐÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁ¢Í§â¤Ã§§Ò¹
34 35 41 48 52
57 - 92
¡ÒÃÍ͡Ẻ°Ò¹¢ŒÍÁÙÅ ¡ÒÃà¢Õ¹â»Ãá¡ÃÁà¾×èÍ´Ö§¢ŒÍÁÙŨҡ°Ò¹¢ŒÍÁÙÅ ¡ÒþѲ¹ÒªÔ鹧ҹÃкºÊÒÃʹà·È¡ÒâÒÂÊÔ¹¤ŒÒ
58 64 70
●
4
2 2 7 27 30
¡ÒÃà¢Õ¹â»Ãá¡ÃÁÀÒÉÒ «ÕªÒà » (C#) ●
˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè
1 - 32
·ÃѾÂÒ¡ÃÊÒÃʹà·Èº¹ÍÔ¹à·Íà à¹çµáÅСÒÃÊ׺¤Œ¹ à·¤¹Ô¤ÇÔ¸Õ¡ÒÃÊ׺¤Œ¹¼‹Ò¹ÍÔ¹à·Íà à¹çµ ¡Ò䌹ËÒ¢ŒÍÁÙż‹Ò¹àÊÔà ªà͹¨Ô¹·ÕèàËÁÒÐÊÁ àÇçºä«µ ·ÕèÁÕ»ÃÐ⪹ µ‹Í¡Ò÷íÒ§Ò¹â¤Ã§§Ò¹ËÃ×ͪÔ鹧ҹ ÃٻẺ¡ÒÃ͌ҧÍÔ§áËÅ‹§¢ŒÍÁÙÅã¹ÍÔ¹à·Íà à¹çµ
¡ÒþѲ¹Òâ¤Ã§§Ò¹¤ÍÁ¾ÔÇàµÍà »ÃÐÂØ¡µ ·Ò§´ŒÒ¹¸ØáԨ ●
˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè
Evaluate
¡Ò䌹ËÒ¢ŒÍÁÙÅÊÒÃʹà·È ●
2
Expand
Explain
ÊÒúÑÞ ●
˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
●
ÍÒªÞÒ¡ÃÃÁ¤ÍÁ¾ÔÇàµÍà áÅС®ËÁÒ·Õèà¡ÕèÂÇ¢ŒÍ§ ●
●
●
ÍÒªÞÒ¡ÃÃÁ¤ÍÁ¾ÔÇàµÍà ÁÒÃÂÒ··ÑèÇä»ã¹¡ÒÃ㪌ÍÔ¹à·Íà à¹çµ ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞѵÔÇ‹Ò´ŒÇ¡ÒáÃзíÒ¼Ô´à¡ÕèÂǡѺ¤ÍÁ¾ÔÇàµÍà ¾.È. 2550
ºÃóҹءÃÁ
93 - 106 94 98 99
107
กระตุน ความสนใจ Engage
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
Explore
Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล Evaluate
Expand
เปาหมายการเรียนรู 1. บอกทรัพยากรสารสนเทศ บนอินเทอรเน็ตและวิธีการสืบคน 2. บอกกลยุทยการสืบคนผาน อินเทอรเน็ต 3. คนหาขอมูลผาน search engine ที่เหมาะสม 4. คนหาเว็บไซตที่มีประโยชนตอการ ทํางาน โครงงาน หรือชิ้นงาน
กระตุนความสนใจ
ในป จ จุ บั น ข อ มู ล สารสนเทศมี ค วาม จําเปนตอการดําเนินชีวิตของเราอยางมาก การที่เราจะเขาถึงแหลงขอมูลสารสนเทศ ไดอยางสะดวกรวดเร็วนั้น เราควรทราบถึง วิ ธี ก ารและเทคนิ ค ต า งๆ ที่ จ ะช ว ยให ก าร คนหาขอมูลสารสนเทศมีประสิทธิภาพ
1 การคนหาขอมูลสารสนเทศ
หน่วยการเรียนรู้ที่
ตัวชี้วัด
ตัวชี้วัด ง 3.1 ม. 4-6/9 ติดต่อสื่อสารค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ●
สาระการเรียนรู้แกนกลาง ●
ปฏิบัติการติดต่อสื่อสารค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต
1. ครูนําภาพตัวอยางหนาเว็บไซตให นักเรียนดู แลวถามวา • นักเรียนรูจักเว็บไซตที่เห็นหรือ ไม และเว็บไซตนี้มีประโยชน อยางไร นักเรียนรวมกันแสดง ความคิดเห็น 2. ครูใหนักเรียนยกตัวอยางเว็บไซต ที่นักเรียนรูจัก แลวอธิบายวา เว็บไซตดังกลาวมีประโยชน อยางไร
เกร็ดแนะครู ครูควรจัดการเรียนรู โดยให นักเรียนทํากิจกรรมตอไปนี้ • ลงมือปฏิบัติคนหาขอมูล สารสนเทศรูปแบบตางๆ • ประชุมกลุมยอยเพื่อแลกเปลี่ยน ความรูและแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับการคนหาขอมูล
คูมือครู
1
กระตุน ความสนใจ Engage
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
(หนาพิมพและตัวอักษรในกรอบนี้มีขนาดเล็กกวาฉบับนักเรียน 20%)
กระตุนความสนใจ 1. ครูอธิบายถึงเทคโนโลยีในปจจุบัน ที่มีการพัฒนาอยางตอเนื่องและ สามารถนํามาใชใหเกิดประโยชน ในดานตางๆ จากนั้นกระตุนความ คิดดวยคําถาม • ในปจจุบัน เทคโนโลยีที่ชวย ใหการสืบคนสารสนเทศมี ความสะดวกรวดเร็วที่สุดคือ อะไร (แนวตอบ ในปจุบันระบบ อินเทอรเน็ตชวยตอบสนองการ สืบคนขอมูลตางๆ ไดอยาง สะดวกรวดเร็วที่สุด เนื่องจาก เปนสิ่งที่เชื่อมโยงไปทั่วโลก) 2. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายถึง ความหมายของการสืบคนขอมูล สารสนเทศ (แนวตอบ การสืบคนขอมูล สารสนเทศ เปนการใชระบบ สารสนเทศเพื่อการคนหา หรือดึง ขอมูลสารสนเทศเฉพาะเรื่องที่ผูใช ระบุจากแหลงรวบรวมสารสนเทศ เพื่อประโยชนดานตางๆ เชน การ ศึกษา สุขภาพ การประกอบอาชีพ เปนตน) 3. ครูและนักเรียนอภิปรายถึงความ สําคัญของการสืบคนขอมูล สารสนเทศบนอินเทอรเน็ต ไดอยางมีประสิทธิภาพสูง (แนวตอบ เทคนิควิธีการสืบคน จะชวยเพิ่มประสิทธิภาพในการ สืบคน เนื่องจากเปนวิธีที่จะทําให เราเขาถึงขอมูลไดอยางครบถวน รวดเร็ว และตรงตามความ ตองการ)
1. ทรัพยากรสารสนเทศบนอินเทอร์เน็ตและการสืบค้น ระบบอินเทอร์เน็ต ถือเป็นแหล่งรวบรวมทรัพยากรสารสนเทศจ�านวนมากที่เป็นประโยชน์ต่อ การน�าไปใช้ในแต่ละด้าน ซึ่งเราจ�าเป็นจะต้องท�าความเข้าใจในประเด็นที่ส�าคัญ ดังนี้ ทรั พ ยากรสารสนเทศบนอิ น เทอร์ เ น็ ต คือ สารสนเทศจ�านวนมากที่ถูกจัดเก็บอยู่ใน คอมพิวเตอร์ซงึ่ เชือ่ มโยงกันด้วยระบบเครือข่าย อินเทอร์เน็ต ท�าให้เกิดห้องสมุดเสมือนจริง (Virtual Library) เปรียบเสมือนเป็นห้องสมุดของ โลกขนาดใหญ่มหาศาลที่จัดเก็บสรรพวิชาการ งานวิจัย เทคโนโลยีใหม่ๆ และข่าวสารต่างๆ ไว้ การสืบค้นสารสนเทศ คือ การแสวงหา ทรั พ ยากรสารสนเทศที่ ไ ด้ มี ก ารบั น ทึ ก และ เผยแพร่ไว้ในสื่อต่างๆ ได้แก่ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อ ระบบอินเทอร์เน็ตถือเปนแหล่งทรัพยากรสารสนเทศทีม่ ี โสตทัศน์ และสื่อ อิเ ล็ กทรอนิกส์ เพื่ อให้ ได้ ข้อมูลความรู้มหาศาล สารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ต้องการ เทคนิควิธีในการสืบค้น คือ วิธีการเพื่อให้ได้สารสนเทศอย่างรวดเร็ว ครบถ้วน และตรงต่อ วัตถุประสงค์หรือความต้องการ การใช้สารสนเทศเรื่องใดเรื่องหนึ่งต้องใช้การสืบค้นที่เหมาะสม และต้องทราบว่าสารสนเทศ ทีต่ อ้ งการนัน้ อยูท่ ใี่ ดในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต การสืบค้นข้อมูลในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถใช้บริการต่างๆ ได้หลายบริการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ต้องการนั้นมีการเผยแพร่โดยวิธีใด
2. เทคนิควิธีการสืบค้นผ่านอินเทอร์เน็ต การสืบค้นข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตนั้นสามารถท�าได้หลายวิธี ซึ่งถ้าหากเรามีเทคนิควิธีที่ดี จะช่วยให้สามารถสืบค้นสิ่งต่างๆ ในอินเทอร์เน็ตได้อย่างสะดวก รวดเ งสะดวก รวดเร็ว ซึ่งปฏิบัติได้ ดังนี้
2.1 การก�าหนดหัวข้อที่ต้องการ เป็นเทคนิคที่ใช้ในการก�าหนดหรือระบุหัวเรื่องของข้อมูลที่เราต้องการ ซึ่งข้อมูลที่ได้ก็จะมี เนื้อหาที่อยู่ในขอบเขตของหัวข้อที่เราก�าหนด เช่น ต้องการค้นหาข้อมูลโครงงานที่เกี่ยวกับระบบฐานข้อมูลกฎหมายไทย ก็ท�าการก�าหนดหัวข้อ โดยใช้ค�าว่า : โครงงานเรื่อง ระบบฐานข้อมูลกฎหมายไทย ผ่านอินเทอร์เน็ต 2
@
มุม IT
ศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทรัพยากรสารสนเทศบนอินเทอรเน็ต ไดที่ http://www.ranong2.dusit.ac.th
2
คูมือครู
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู Explain
Engage
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
สํารวจคนหา
2.2 การก�าหนดค�าค้นและค�าที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ การก�าหนดค�าค้น คือ การก�าหนดค�าขึ้นแทนเนื้อหาหรือสาระที่ต้องการ เพื่อใช้ในการค้นหา สารสนเทศ เช่น ต้องการค้นหาข้อมูลเกีย่ วกับกฎหมายไทยก็ทา� การก�าหนดค�าค้น โดยใช้คา� ว่า : กฎหมายไทย ต้องการค้นหาข้อมูลอื่นๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกฎหมายไทย ก็ท�าการก�าหนดค�าที่เกี่ยวข้อง โดยใช้ค�าว่า : พระราชบัญญัติ พระราชก�าหนด พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ค�าสั่ง ระเบียบ
2.3 การใช้เทคนิคการค้น 1) การใช้ตรรกบูลนี (Boolean logic) เป็นการใช้ตวั ด�าเนินตรรกะ (Logic operators)
มาเชื่อมค�าเหล่านั้น เพื่อช่วยก�าหนดขอบเขตค�าค้นที่ต้องการให้แคบลง ได้แก่ AND, OR, NOT มาเชื หรือกว้างขึ้น ตัวด�าเนินการตรรกะอาจเป็นได้ทั้งค�าและสัญลักษณ์
ตัวด�ำเนินกำรตรรกะ AND (และ)
ผลลัพธ์ สัตสัว์เตลี้ยว์ง AND
OR (หรือ)
แมว
ผลลัพธ์ สุนัข OR แมว
ผลลัพธ์ NOT (ไม่) สัตสัว์เตลี้ยว์ง NOT
เลี้ยง
@
แมว
วัตถุประสงค์ ส�ำหรับ ลดขอบเขต และค�ำที่สอง ตัวอย่ำงกำรใช้ รูปแบบกำรใช้งำน : งก : ผลลัพธ์ที่ต้องกำร อธิบำย :
กำรสื รสืบค้น ระบบจะสืบค้นเฉพำะเอกสำรที เฉพำะเอกส ่มีค�ำแรก เฉพ
สัตว์เลี้ยง AND แมว ข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่เป็นแมว ผลลัพธ์จำกกำรค้ ำ ำรค้นหำจะแสดงเว็ ห จะแสดงเว็บเพจที่ต้องมีค�ำทั้ง ยในเว็บเพจ สองค�ำ คือ สัตว์เลี้ยง และ แมว อยู่ภำยในเว็ เดียวกัน ำรสื รสืบค้น ระบบจะสืบค้นเอกส เอกสำรทั ำรทั รทั้งหมดที่มีค�ำแรก ส�ำหรับ ขยายขอบเขต กกำรสื ปร กฏอยู่ และค�ำที่สอง หรือมีค�ำใดค�ำหนึ่งปรำกฏอยู ตัวอย่ำงกำรใช้ รูปแบบกำรใช้งำน : สุนัข OR แมว งก : ข้อมูลเกี่ยวกับสุนัขหรือแมว ผลลัพธ์ที่ต้องกำร ำกกำรค้นหำจะแสดงเว็ ห จะแสดงเว็บเพจทีม่ คี ำ� ทัง้ สองค�ำ อธิบำย : ผลลัพธ์จำกกำรค้ หรือค�ำใดค�ำหนึ่งปรำกฏอยู่ก็ได้ ส�ำหรับ จ�ากัด กำรสืบค้น ระบบจะสืบค้นเอกสำรที่มีเพียงค�ำแรกเท่ำนั้น ตัวอย่ำงกำรใช้ รูปแบบกำรใช้งำน : สัตว์เลี้ยง NOT แมว ผลลัพธ์ที่ต้องกำร : ข้อมูลเกีย่ วกับสัตว์เลีย้ งอืน่ ๆ ไม่เอำข้อมูลเกีย่ วกับแมว อธิบำย : ผลลัพธ์จำกกำรค้นหำจะแสดงเว็บเพจทีแ่ สดงผลลัพธ์ สัตว์เลี้ยงต่ำงๆ ยกเว้นแมว
มุม IT
ศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตรรกบูลีน ไดที่ http://www.nukul.ac.th
1. ครูใหนักเรียนคนควาขอมูล เกี่ยวกับกลยุทธในการสืบคน ขอมูลผานอินเทอรเน็ตจากแหลง ตางๆ วามีวิธีใดบางที่จะชวย ใหการสืบคนเกิดความสะดวก รวดเร็ว จากนั้นนําขอมูลที่ไดมา ศึกษาทําความเขาใจ 2 นักเรียนสืบคนขอมูลเกี่ยวกับ การใชเทคนิคการคนโดยวิธีตางๆ ไดแก การใชตรรกบูลีน การตัด ปลายคําและการแทนคํา และ การใชเครื่องหมายวงเล็บ
อธิบายความรู 1. ครูใหนักเรียนชวยกันบอกกลยุทธ ในการสืบคนขอมูลที่นักเรียน คนความาได โดยอธิบายขั้นตอน ในการสืบคนพอสังเขป 2. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปราย เกี่ยวกับการใชตรรกบูลีนในการ สืบคนขอมูล วามีขั้นตอนอยางไร และมีขอดีอยางไร จากนั้นรวมกัน สรุปประโยชนของการใชตรรกบูลนี 3. นักเรียนทดลองการสืบคนขอมูล ดวยวิธีการใชตรรกบูลีน โดยลงมือ ปฏิบัติจริงกับคอมพิวเตอร แลว บันทึกผลการปฏิบัติ
นักเรียนควรรู เชื่อมคํา เปนลําดับการคนที่มีการ ใชวิธีเชื่อมคํา (Boolean Operators) ซึ่งมีกระบวนการ ดังนี้ 3 1. ระบบจะดําเนินการคนหาคําที่ อยูในวงเล็บกอน 2. ทําการคนหาคําทุกคําที่อยูหลัง NOT 3. ทําการคนหาคําทุกคําที่อยูระหวาง AND ทั้งหมด และรวมถึงคําที่อยูใกลกันที่ไมมี AND เชื่อมดวย 4. ทําการคนหาคําที่อยูระหวาง OR ทั้งหมด คูมือครู
3
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
อธิบายความรู 1. ครูสุมนักเรียน 2-3 คน เพื่ออธิบาย วิธีการสืบคนขอมูลโดยการตัด ปลายคําและการแทนคํา 2. นักเรียนรวมกันอธิบายขอดีของ การใชเทคนิคการตัดปลายคําและ การแทนคํา พรอมยกตัวอยาง 3. นักเรียนทดลองการสืบคนขอมูล ดวยวิธีการตัดปลายคําและการ แทนคําโดยลงมือปฏิบัติจริงกับ คอมพิวเตอร แลวบันทึกผลการ ปฏิบัติ
นักเรียนควรรู
2) การตัดปลายค�าและการแทนค�า (Truncation) เป็นการค้นค�าเดียวแทน
ค�าอืน่ ทุกค�าทีม่ รี ากศัพท์เดียวกัน เพือ่ รวบรวมค�าทีม่ กี ารสะกดค�าทีใ่ กล้เคียงกันหรือเหมือนกัน หรือ กรณีที่เป็นเอกพจน์และพหูพจน์ โดยใช้อักขระตัวแทน (Wildcard) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ เช่น * # ? ! $ เป็นต้น มักใช้ในการค้นค�าในภาษาอังกฤษ ตัวอย่าง ● ห ำกต้องกำรค้นเรือ ่ งเกีย่ วกับเด็ก ค�ำค้นทีใ่ ช้คอื child* จะได้คำ� เกีย่ วกับเด็กทัง้ หมด เช่น child children childhood childish ● ห ำกต้องกำรค้นเรือ ่ งเกีย่ วกับสตรี ค�ำค้นทีใ่ ช้คอื wom#n จะได้ทงั้ ค�ำว่ำ woman และ women เป็นต้น ● ก ำรตัดปลำยค�ำควรระวังไม่ใช้ค�ำสั้นเกินไปเพรำะอำจได้เรื่องที่ไม่ต้องกำรออกมำด้วย เช่น ใช้ค�ำค้นว่ำ ban* จะได้ค�ำว่ำ ban banana bandit bank banner เป็นต้น ซึ่งค�ำต่ำงๆ เหล่ำนี้ไม่สัมพันธ์กันเลย
Spider คือ โปรแกรมที่จะชวยให การทองโลกอินเทอรเน็ตเปนไป อยางสะดวกสบาย เปรียบเหมือน ผูชวยในการทํางาน หรือปฏิบัติ ภารกิจตางๆ ไมวาจะเปนการคนหา ขอมูล หารูปภาพ หรือแมแตการ จัดเก็บขอมูลตางๆ
3) การใช้เครื่องหมายวงเล็บ (Nesting) เพื่อครอบคลุมในแต่ละส่วนค�าสั่งข้อมูล
เพื่อแบ่งค�าสั่งบูลีนเป็นส่วนๆ ที่ต้องการค้น มัมักใช้ร่วมกับตรรกบูลีน เพื นๆ
ตัวอย่าง ● (tel ● ( television or mass media and children) หม หมำยถึ ยถึง ต้องกำรข้ งก อมูลเกี่ยวกับเด็ก โทรทัศน์ และเด็กกับสื่อมวลชน เป็นต้น
2.4 การเลือกใช้เสิร์ชเอนจิน (Search engines) @
ปัจจุบันเสิร์ชเอนจินมี 33 ประเภท ซึ ประเภท ่งมีความแตกต่างกัน ดังนี้
มุม IT
1 Keyword search engine
ศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับโปรแกรม Spider ไดที่ http://www.web-thai.com
เป็นเครื่องมือสืบค้นที่มีระบบกำรท�ำงำนโดยใช้โปรแกรมที่เรียกว่ำ Spider หรือ Robot ท่องไปในเว็บเพจต่ำงๆ เพื่ออ่ำนข้อมูลและจัดเก็บเว็บเพจที่พบเข้ำสู่ฐำนข้อมูล ท�ำให้ฐำนข้อมูลมีขนำดใหญ่ เสิร์ชเอนจินส่วนใหญ่จะค้นหำข้อมูลจำกค�ำส�ำคัญ (Keyword) ที่ผู้ใช้ป้อนเข้ำไป จำกนั้นก็จะแสดงรำยกำรผลลัพธ์ที่คิดว่ำผู้ใช้น่ำจะต้องกำร
4
4
คูมือครู
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
อธิบายความรู 1. นักเรียนแบงกลุม 4 กลุม แลว รวมกันสนทนาในประเด็นเกี่ยวกับ สิ่งที่ควรคํานึงถึงเพื่อใหการสืบคน มีประสิทธิภาพ จากนั้นออกมา สรุปสาระสําคัญที่ไดจากการ สนทนากลุมหนาชั้นเรียน 2. นักเรียนทดลองสืบคนขอมูลอะไร ก็ได 1 หัวขอ โดยใหปฏิบัติการ สืบคนควบคูกับวิธีตางๆ ที่จะชวย ใหการสืบคนมีประสิทธิภาพ จากนั้นนําผลการทดลองสืบคน มาเลาใหเพื่อนฟง
2 Meta Search Engine เป็นเครื่องมือสืบค้นที่ไม่มีฐำนข้อมูลของตนเอง แต่เป็นกำรค้นหำจำกฐำนข้อมูล ของ Search Engine หลำยๆ แห่ง แล้วแสดงผลลัพธ์ออกมำในมำตรฐำนเดียวกัน กำร แสดงผลมักจะอ้ำงอิงถึงที่มำของ Search Engine นั้นๆ
3 Subject directory เป็นเครื่องมือสืบค้นที่ใช้คนท�ำหน้ำที่คัดเลือกและจัดเก็บข้อมูล มีกำรแบ่งกลุ่ม เป็นหมวดหมู่ตำมล�ำดับชั้น โดยจ�ำแนกตำมหัวเรื่อง ต่ำงจำก Search Engine ที่เก็บ ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมอัตโนมัติ ดังนั้น ฐำนข้อมูลของ subject directory จึงมีขนำด เล็กกว่ำ แต่แสดงผลกำรสืบค้นทีต่ รงตำมควำมต้องกำรมำกกว่ำ กำรสืบค้นจำก subject directory สำมำรถท�ำได้โดยวิธีกำรเรียกอ่ำนจำกหัวเรื่องที่จัดกลุ่มไว้แล้ว
นักเรียนควรรู ขอมูลทางบรรณานุกรม เปนสิ่งที่ ผูสืบคนขอมูลควรใหความสําคัญ เพราะจะชวยใหประเมินไดวา ขอมูลที่เว็บเพจนํามาบรรจุไว มีความนาเชื่อถือมากนอยเพียงใด
2.5 การสืบค้นและประเมินผลข้อมูลที่ได้รับ ในการสืบค้นข้อมูล ผู้ใช้ต้องค�านึงถึงสิ่งต่างๆ งๆ เหล่ เหล่านี้เพื่อการสืบค้นที่มีประสิทธิภาพ าพ ได้ ได้แก่
1
กำรเลื รเลือกช่วงเวลำในกำรสื งเวล ในก รสืบค้น ผูใ้ ช้ควรสืบค้นข้อมูลในช่วงเช้ำหรือกลำงคื กล งคืน เพื่อหลีกเลี่ยงช่วงเวลำที งเวล ที่มีคนใช้เป็นจ�ำนวนม นวนมำก
2
กำรบั เวลำในกำรค้น รบันทึกแหล่งข้อมูลที่ใช้บ่อยๆ (Bookmark) เพื่อประหยัดเวล ครั้งต่อไป
3
กำรตรวจสอบเจ้ำของผลงำนน หรือข้อมูลทำงบรรณ ทำงบรรณำนุ งบรรณำนุนุกรมของบทคว งบรรณ รมของบทควำมหรือ เอกสำรที่แสดงผล
4
กำรตรวจสอบควำมถูกต้องของข้อมูลที่ได้รับ
@
มุม IT
ศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับ Meta Search Engine ไดที่ http://apichetch
5
คูมือครู
5
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain
Expand
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
อธิบายความรู 1. นักเรียนอภิปรายถึงประโยชนที่ ไดรับจากการประเมินสารสนเทศ โดยยกตัวอยางประกอบใหชัดเจน 2. นักเรียนนําตัวอยางเว็บไซตที่ผาน หลักเกณฑการประเมินสารสนเทศ มาแนะนําแลกเปลี่ยนเรียนรูกันใน ชั้นเรียน 3. นักเรียนชวยกันอธิบายถึงการนํา หลักการประเมินสารสนเทศ มา ประยุกตในการทํางานดานตางๆ ใหเกิดประโยชน
การประเมินผลข้อมูลทีไ่ ด้รบั เป็นการประเมินความน่าเชือ่ ถือของข้อมูลและแหล่งสารสนเทศ ที่ค้นหามาได้ โดยมีเกณฑ์การประเมินสารสนเทศ ดังนี้
1 ความทันสมัย ข้อมูลที่ได้รับไม่ควรเกิน 3 ปี แต่ข้อมูลบำงเรื่องอำจเป็นข้อมูลที่เกิน 5 ปี ก็ได้ เช่น ข้อมูลทำงประวัติศำสตร์ ในกรณีที่เป็นเว็บไซต์ให้พิจำรณำจำกวันที่ปรับปรุงล่ำสุด
2 ความน่าเชื่อถือของผู้เขียน ผู ้ เ ขี ย นข้ อ มู ล ควรเป็ น ที่ ย อมรั บ ในสำขำวิ ช ำนั้ น ๆ โดยพิ จ ำรณำจำกคุ ณ วุ ฒิ ประสบกำรณ์ ต�ำแหน่ง หน้ำที่ และผลงำน โดยเฉพำะในด้ำนกำรเขียน ผูแ้ ต่งทีม่ ผี ลงำน เผยแพร่มำก ย่อมแสดงว่ำเป็นผูม้ คี วำมเชีย่ วชำญและน่ำเชือ่ ถือในเรือ่ งนัน้ ๆ แต่หำกเป็น ผู้เขียนที่มีประสบกำรณ์น้อย ควำมน่ำเชื่อถือในตัวข้อมูลก็จะลดลง กรณีที่เป็นเว็บไซต์ ให้ดทู ี่ domain name ของผูเ้ ผยแพร่เว็บไซต์นนั้ ส่วน web master ไม่ถอื ว่ำเป็นผูเ้ ขียน ข้อมูลนั้นๆ
ขยายความเขาใจ นักเรียนแบงกลุมชวยกันจัด ปายนิเทศเพื่อแนะนําเว็บไซต ที่ มีคุณสมบัติผานหลักเกณฑการ ประเมินสารสนเทศ
3 ความถูกต้องแม่นย�า ข้อมูลจะต้องมีคววำมน่ มน่ำเชื่อถือ และทันต่อกำรเปลี ก รเปลี่ยนแปลงต นแปลงตำมเหตุกำรณ์ หรือน�ำ เสนอคว มรู้ใหม่ๆ มีกำรปรั เสนอควำมรู รปรับปรุงแก้ไขอย่ำงต่อเนื่อง ทั้งนี้ ควรพิจำรณำว่ำมีกำรอ้ำงอิง แหล่งที่มำของข้ ของข้อมูลด้วยหรือไม่
ตรวจสอบผล ครูตรวจสอบความรูความเขาใจ ของนักเรียนจากปายนิเทศ ทีน่ กั เรียน ชวยกันจัด จากนั้นคัดเลือกผลงาน ที่ดีและกลาวชมเชย พรอมทั้งให ขอเสนอแนะที่เปนประโยชน
4 ความเป็นกลาง พิจำำรณำจำกเนื รณำจำำกเนื กเนื้อหำที ห ที่น�ำเสนอนั้นว่ำเป็นกำรแสดงควำมคิดเห็นหรือไม่ ตัวผู้เขียน นกำรน�ำเสนอเพื่ออะไร มีควำมเอนเอี มเอนเอียงในก งในกำรน�ำเสนอข้อมูลหรือมีวัตถุประสงค์ในก
5 ความเหมาะสมของสารสนเทศกับผู้ใช้ พิจำรณำจำกวัตถุประสงค์ของผู้เขียนในกำรเขียนว่ำ เขียนขึ้นส�ำหรับผู้ใช้กลุ่มใด เช่น เขียนให้นักวิชำกำรหรือคนทั่วไปอ่ำน
นักเรียนควรรู
6 ผู้จัดพิมพ์
web master คือ บุคคลที่มีหนาที่ รับผิดชอบ ออกแบบ พัฒนา ดูแล รักษาเว็บไซต
ส�ำนักพิมพ์ทมี่ ปี ระสบกำรณ์ในงำนเฉพำะด้ำน ย่อมมีควำมน่ำเชือ่ ถือมำกในผลงำน ด้ำนนั้นๆ 6
@
มุม IT
ศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับ Domain Name ไดที่ http://www.oie.go.th
6
คูมือครู
Evaluate
กระตุน ความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
กระตุนความสนใจ
3. การค้นหาข้อมูลผ่านเสิร์ชเอนจินที่เหมาะสม โดยทั่วไปการสืบค้นข้อมูลต่างๆ ทางอินเทอร์เน็ตมักนิยมใช้การค้นหาผ่าน search engine เนื่องจากเป็นวิธีที่สะดวกรวดเร็ว และเข้าถึงข้อมูลได้อย่างง่าย การค้นหาข้อมูลผ่านเสิร์ชเอนจินมี หลากหลายวิธี ดังนี้
3.1 การใช้ Keyword search engine ค้นหาข้อมูลด้วยค�าค้นที่ เจาะจง Keyword search engine ที่ได้รับความ นิยมสูงในปัจจุบัน คือ Google ที่เน้นการ แสดงผลการสืบค้นที่รวดเร็ว วิธีการค้นหาของ Google คือ ค้นหาเว็บเพจที่เกี่ยวข้องด้วย ค�าค้นที่ผู้ใช้ป้อนในช่องค้นหา ซึ่งสามารถป้อน ค�าค้นได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ Google ยังมีความสามารถหลักในการค้นหา รูปภาพ แผนที ่ แปลภาษา และ Scholar ได้ดงั นี้
2.6 % 8.3 % 6.3 % 9.6 %
49.2 %
23.8 %
กูเกิล 49.2 % เอโอเอล 6.3 %
ยาฮู 23.8 % อาร์ก 2.6 %
ครูกระตุนการเรียนรูดวยคําถาม • นักเรียนมีความคิดเห็นอยางไร เกี่ยวกับคําวา “เสิรชเอนจิน” (แนวตอบ เสิรชเอนจิน เปน เครื่องมือการคนหาขอมูลผาน อินเทอรเน็ตที่สามารถหาขอมูล ผานอินเทอรเน็ตได โดยกรอก ขอมูลที่ตองการคนหา หรือ Keyword เขาไปที่ชอง Search Box แลวกด Enter ขอมูลที่ คนหาก็จะแสดงออกมา อยางงายดาย)
สํารวจคนหา
เอมเอสเอ็น 9.6 % อื่นๆ 8.3 %
นักเรียนสืบคนขอมูลเกี่ยวกับ ประวัติความเปนมาของเว็บไซต Google วามีการริเริ่มอยางไร
สัดส่วนของผู้ใช้เสิร์ชเอนจินทั่วโลกในป พ.ศ. 2549
ควำมสำมำรถในกำรค้นหำของ Google ควำมสำมำรถ
นักเรียนควรรู
รูปภำพ ค้นหำรูปภำพได้ทั้งรูปถ่ำย คลิปอำร์ต และภำพลำยเส้น โดยสำมำรถจัดเรียงได้ตำมควำมเกี่ยวข้องกับ
ค�ำที่ค้นหำหรือตำมหัวข้อต่ำงๆ ที่ต้องกำรได้ แผนที่ บริกำรแผนที่ซึ่งผู้ใช้สำมำรถดูในเว็บเบรำว์เซอร์ โดยแผนที่จะขึ้นอยู่กับต�ำแหน่งของผู้ใช้ ผู้ใช้สำมำรถ ดูแผนที่พื้นฐำนหรือแผนที่ที่ก�ำหนดเอง ข้อมูลธุรกิจท้องถิ่น รวมถึงต�ำแหน่งของธุรกิจข้อมูล ที่ติดต่อ และเส้นทำงกำรขับขี่ด้วย โดยสำมำรถคลิกและลำกแผนที่เพื่อดูส่วนที่ติดกันได้ทันที และดูภำพจำก ดำวเทียมของต�ำแหน่งที่ต้องกำรได้ แปลภำษำ บริกำรแปลภำษำ 57 ภำษำ โดยสำมำรถแปลได้ทั้ง ค�ำ ประโยค และหน้ำเว็บในภำษำใดๆ ก็ได้ที่ Google สนับสนุน ซึ่งจะช่วยให้ผู้คนในภำษำนั้นสำมำรถเข้ำถึงข้อมูลได้ง่ำย และก่อให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่ำจะเขียนขึ้นในภำษำใดก็ตำม Scholar ค้นหำงำนเขียนทำงวิชำกำรจำกสำขำวิชำและแหล่งข้อมูลต่ำงๆ ได้แก่ บทควำม วิทยำนิพนธ์ หนังสือ บทคัดย่อ และบทควำมจำกส�ำนักพิมพ์ทำงวิชำกำร แวดวงวิชำชีพ ที่เก็บร่ำงบทควำม มหำวิทยำลัย และองค์กรด้ำนกำรศึกษำอื่นๆ http://www.aksorn.com/LC/Tech/M6/01
EB GUIDE
7
Google เปนเว็บไซตฐานขอมูล ขนาดใหญแหงหนึ่งของโลก ในอดีต เปนบริษทั ทีด่ าํ เนินการดานฐานขอมูล เพื่อใหบริการแกเว็บไซตคนหาอื่นๆ ปจจุบันไดเปดเว็บไซตคนหาดวย ฐานขอมูลมากกวาสามพันเว็บไซต และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่เหนือกวา ผูใหบริการรายอื่นๆ คือ เปนเว็บไซต คนหาที่สนับสนุนภาษาตางๆ มากกวา 80 ภาษาทั่วโลก (รวมทั้ง ภาษาไทย) และมีเครื่องเซิรฟเวอร ใหบริการในสวนตางๆ ของโลกมาก ถึง 36 ประเทศ
คูมือครู
7
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู Explain
Engage
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
สํารวจคนหา 1. นักเรียนสํารวจคนควาวา Google มีบริการอื่นๆ ใดบางที่ใหบริการ และบริการเหลานั้น สามารถนํามา ใชประโยชนไดอยางไร 2. นักเรียนศึกษาการตั้งคาการคนหา ใน Google โดยการปฏิบัติจริง จากนั้นใหนักเรียนบันทึกผลการ ตั้งคาของนักเรียนวาพบอุปสรรค ใดบาง
นอกจากการค้นหาที่หลากหลายรูปแบบ ใน Google ยังมีบริการอื่นๆ เช่น การรับ - ส่งอีเมล ด้วย Gmail การสนทนาออนไลน์ผ่าน Google talk และเครื่องมือต่างๆ ส�าหรับผู้ที่สนใจสามารถ ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ “เกี่ยวกับ Google ทั้งหมด” หรือ http://www.google.co.th/intl/th/about.html 1) การตั้งค่าในการค้นหา การเริ่มต้นใช้ Google ในการหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต ขอแนะน�าให้ตั้งค่าเกี่ยวกับการใช้งาน Google ซึ่ง ได้แก่ การก�าหนดภาษาหลักที่ใช้ การค้นหา ภาษาของข้อมูลที่ต้องการ ต�าแหน่งที่ตั้ง กรองด้วยการค้นหาที่ปลอดภัย เติมข้อความอัตโนมัติ จ�านวนผลลัพธ์ที่ให้แสดงภายใน 1 หน้า และหน้าต่างของผลลัพธ์ ดังนี้
อธิบายความรู นักเรียนเลาประสบการณในการใช Google วามีสงิ่ ใดทีน่ า สนใจและเปน ประโยชนตอการสืบคนขอมูลบาง
1 คลิก “การตั้งค่าการค้นหา”
นักเรียนควรรู Google talk เปนโปรแกรมที่มี ลักษณะที่คลายกับ MSN Messenger และ Yahoo Messenger ซึ่ง Google talk นั้น มีคุณสมบัติที่ หลากหลาย ไมวาจะเปนการ รับ - สง อีเมล การสนทนาดวย ขอความ (Chat) การสนทนาดวย เสียงพูด (Voice Chat) ซึ่งขอดีของ โปรแกรมนี้ คือ ใชงานงาย ไมเปลือง เนื้อที่หนวยความจําในการติดตั้ง โปรแกรม @
2 หน้าจอจะปรากฏภาษาต่างๆ ให้เราเลือกตามต้องการ
มุม IT
ศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับ Gmail ไดที่ http:// www.pharm.chula.ac.th
8
คูมือครู
8
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
อธิบายความรู 1. นักเรียนศึกษาทําความเขาใจใน การกําหนดรายละเอียดสําหรับ การตั้งคาการคนหาภายในหนา เว็บไซต จากนั้นจัดกลุมอภิปราย เพื่อแลกเปลี่ยนความรูที่ไดจาก การศึกษา 2. นักเรียนเขาเว็บไซต Google แลว ทดลองกําหนดรายละเอียดสําหรับ การตั้งคาการคนหาภายในหนา เว็บตามขั้นตอนที่ไดศึกษามา จากนั้นใหสังเกตและบันทึกผล การตั้งคาวาพบปญหาในการ ตั้งคาหรือไม อยางไร แลวออกมา อธิบายหนาชั้นเรียน
กำรก�ำหนดรำยละเอียดส�ำหรับกำรตั้งค่ำกำรค้นหำภำยในหน้ำเว็บ รำยละเอียด ภำษำของ กำรก�ำหนดค่ำภำษำที่แสดงในหน้ำแรกของ Google ตัวอย่ำงเช่น หำกเลือกภำษำจีนในเมนูแบบ อินเทอร์เฟซ เลือ่ นลง ข้อควำมและปุม่ บน Google.com จะแสดงเป็นภำษำจีน นอกจำกนี้ Google จะเลือกแสดง ค้นหำภำษำ ต�ำแหน่ง ที่ตั้ง
กรองด้วย กำรค้นหำ ปลอดภัย
เติมข้อควำม อัตโนมัติ จ�ำนวนผล กำรค้นหำ หน้ำต่ำง ของผลลัพธ์
หน้ำเว็บภำษำจีนในผลกำรค้นหำโดยอัตโนมัติ กำรระบุให้ Google แสดงหน้ำเว็บภำษำอื่นๆ ตำมที่ต้องกำรได้ เนื่องจำก Google จะถูกก�ำหนด ค่ำให้คน้ หำผลลัพธ์ตำมภำษำทีเ่ ลือกไว้ในภำษำของอินเทอร์เฟซโดยอัตโนมัติ แต่ผใู้ ช้สำมำรถระบุเป็น ภำษำอื่นได้โดยท�ำเครื่องหมำยเลือกภำษำที่ต้องกำร กำรระบุตำ� แหน่งของผูใ้ ช้ เพือ่ ให้ Google ใช้หำผลลัพธ์โดยค้นหำเว็บและผลิตภัณฑ์อนื่ ๆ ในต�ำแหน่ง ทีใ่ กล้เคียงกับต�ำแหน่งของผูใ้ ช้ ตัวอย่ำงเช่น หำกต้องกำรค้นหำ [โรงพยำบำล] Google สำมำรถค้นหำ โรงพยำบำลที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงแม้ว่ำผู้ใช้ยังไม่ได้ระบุต�ำแหน่งในกำรค้นหำ ทั้งนี้สำมำรถเรียนรู้ เพิ่มเติมได้จำก http://www.google.co.th/support/websearch/bin/answer.py?answer= 35892&hl=th กำรตั้งค่ำเบรำว์เซอร์ของผู้ใช้ เพื่อป้องกันเนื้อหำส�ำหรับผู้ใหญ่ เช่น เนื้อหำทำงเพศที่เด่นชัด หรือ เนื้อหำที่ไม่เหมำะสมปรำกฏขึ้นในผลกำรค้นหำ ซึ่งผู้ใช้สำมำรถเลือกตั้งค่ำกำรค้นหำปลอดภัยได้ สำมระดับ ดังนี้ • กำรกรองระดับสูง จะกรองวิดีโอและภำพที่มีเนื้อหำทำงเพศที่ชัดเจนออกจำกหน้ำผลกำรค้นหำ โดย Google รวมถึงผลกำรค้นหำทีอ่ ำจลิงค์ไปยังเนือ้ หำนัน้ ด้วย • กำรกรองระดับกลำง จะแยกวิดโี อและภำพทีม่ เี นือ้ หำทำงเพศทีช่ ดั เจนออกจำกหน้ำผลกำรค้นหำ โดย Google แต่จะไม่กรองผลกำรค้นหำทีอ่ ำจลิงค์ไปยังเนือ้ หำนัน้ กำรตัง้ ค่ำนีเ้ ป็นค่ำเริม่ ต้นของ กำรค้นหำปลอดภัย • ไม่มีกำรกรอง คือกำรปิดกำรกรองทั้งหมดของ SafeSearch กำรแนะน�ำค�ำที่เกี่ยวข้องกับค�ำค้นหำในช่องกำรค้นหำ หรือไม่แนะน�ำค�ำที่เกี่ยวข้องกับค�ำค้นหำใน ช่องกำรค้นหำ กำรก�ำหนดจ�ำนวนผลกำรค้นหำต่อหนึ่งหน้ำเพจ ซึ่งถ้ำผู้ใช้ไม่ได้แก้ไขกำรตั้งค่ำนี้ Google จะแสดง ผลกำรค้นหำ 10 รำยกำรต่อหนึ่งหน้ำ เนื่องจำกเป็นค่ำที่ให้ผลลัพธ์ได้รวดเร็วที่สุด แต่ถ้ำผู้ใช้ต้องกำร เห็นผลกำรค้นหำมำกขึ้นในหนึ่งหน้ำ ผู้ใช้สำมำรถก�ำหนดเพิ่มจ�ำนวนเป็น 20, 30, 50 หรือ 100 ได้ กำรคลิกทีผ่ ลกำรค้นหำใดๆ Google จะโหลดหน้ำเว็บนัน้ ในหน้ำต่ำงหรือแท็บเดิมทีใ่ ช้อยู่ หำกต้องกำร เปิดผลกำรค้นหำในหน้ำต่ำงใหม่ (หรือแท็บใหม่ส�ำหรับบำงเบรำว์เซอร์) ให้เปิดใช้งำนตัวเลือกนี้
http://www.aksorn.com/LC/Tech/M6/02
EB GUIDE
นักเรียนควรรู กรองดวยการคนหาปลอดภัย เปนการกําหนดรายละเอียด ที่เหมาะสมอยางยิ่งสําหรับเครื่อง คอมพิวเตอรที่มีเด็กและเยาวชน ใช เนื่องจากในปจจุบันมีขอมูลที่ ไมเหมาะสมมากมายอยูในระบบ อินเทอรเน็ต การตั้งคาในลักษณะนี้ จึงเปนการควบคุมและปองกันขอมูล ที่ไมเหมาะสมไดในระดับหนึ่ง
9
คูมือครู
9
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
อธิบายความรู 1. ครูใหนักเรียนจับกลุม แลวสนทนา แลกเปลีย่ นความรูแ ละประสบการณ ของแตละคนเกี่ยวกับการใช เว็บไซต Google จากนั้นสรุป สาระสําคัญที่ได 2. ครูใหนักเรียนทดลองเขาเว็บไซต Google โดยใหทดลองในขั้นของ การเริ่มตนในการคนหา จากนั้น ใหนักเรียนสังเกตขอมูลหรือ รูปแบบตางๆ ที่อยูในหนาแรก ของ Google แลวรวมกันสนทนา แลกเปลี่ยนความรูภายในชั้นเรียน
การตั้งค่าส่วนใหญ่ของ Google จะถูกบันทึกไว้ในไฟล์เบราว์เซอร์ขนาดเล็กใน คอมพิวเตอร์ ซึ่งเรียกว่า คุกกี้ และมีผลเฉพาะกับคอมพิวเตอร์และเบราว์เซอร์ที่ใช้ในการตั้งค่า เหล่านั้นเท่านั้น โดยสามารถศึกษาเรียนรู้การเปิดใช้งานการจัดเก็บคุกกี้ในเบราว์เซอร์และบันทึก การตั้งค่าได้จาก http://www.google.com/support/accounts/bin/answer.py?&answer=61416 2) การเริม่ ต้นค้นหาข้อมูล เริม่ จากคลิกปุม่ ค้นหา Google จะแสดงรายการเว็บเพจ ผลลัพธ์ที่ตรงกับค�าค้นเพื่อให้ผู้ใช้เลือกเข้าไปชมหน้าเว็บเพจได้ทันที 1
พิมพ์ www.google.co.th
2
นักเรียนควรรู คุกกี้ เปนแฟมขอมูลขนาดเล็ก ซึ่ง Web page server จะบันทึกลงใน ฮารดดิสกคอมพิวเตอร ขอดีของคุกกี้ คือ ชวยใหประหยัดเวลาในกรณีที่ บันทึกขอมูลลงบนเว็บเพจ คุกกี้ก็จะ ชวยให server จดจําขอมูล ซึ่งใน ครั้งตอไปหากเรากลับไปเขาเว็บเพจ นั้นอีก ก็จะมีการแสดงขอมูลที่เรา เคยเขาไปสืบคน
นักเรียนควรรู URL ยอมาจาก The Uniform Resource Locators คือ ที่อยูของ เอกสารบนเว็บไซต ทุกๆ เอกสาร จะตองมี URL เปนของตัวเอง แตละ สวนของ URL เปนสิ่งที่ใชระบบขอมูล เกี่ยวกับที่ตั้งของเอกสาร ซึ่งแตละ URL ประกอบไปดวยสวนพื้นฐาน 3 สวน คือ Protocol, Server Machine, File Protocol
10
คูมือครู
พิมพ์ค�าค้นที่ต้องการ
3 คลิกปุมค้นหาด้วย Google
1 2 3 4 5
10
Google แจ้งจ�านวน เวลาทีใ่ ช้ในการหา หัวเรื่อง ของหน้าเว็บ URL หัวเรื่อง ของหน้าเว็บ คลิกเพือ่ ดูตวั อย่าง
4
3
1
2 5
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
อธิบายความรู 1. ครูสุมตัวอยางใหนักเรียน 2 - 3 คน ออกมาอธิบายเทคนิคการคนหา เว็บเพจจาก Google โดยครูและ นักเรียนในชั้นคนอื่นๆ รวมเสริม 2. นักเรียนทดลองการคนหาเว็บเพจ จาก Google โดยการใชคํา 1 คํา หรือคําหลายๆ คํา จากนั้นอธิบาย ขั้นตอนหนาชั้นเรียนใหถูกตอง
3) เทคนิคการค้นหาเว็บเพจจาก Google Google เป็นเสิรช์ เอนจินทีใ่ ห้ผใู้ ช้เลือก
ใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อค้นหาสิ่งที่ต้องการบนอินเทอร์เน็ตได้อย่างเจาะจงยิ่งขึ้น เช่น ค้นหาเจาะจง ประเภทของไฟล์ การใช้ค�าเชื่อมเข้ามาก�าหนดการค้นหาให้แคบลง หรือการค้นหาแบบพิเศษ ซึ่ง ในที่นี้จะใช้ Google ค้าหาค�าในภาษาอังกฤษ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ดังนี้ การใช้หลายๆ ค�า การค้นหาข้อมูลอาจใช้ค�าเพียงค�าเดียวในการค้นหา ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้อาจยังไม่ตรงกับ ความต้องการมากนัก Google จึงให้ผู้ใช้ค้นหาโดยใช้ค�ามากกว่าหนึ่งค�า เช่น เราต้องดูข้อมูล ของโปรแกรม Windows รุ่นใหม่ล่าสุด หากใช้ค�าว่า Windows เพื่อค้นหา ปรากฏว่ามีผลลัพธ์ อื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องปะปนมา ดังนั้นจึงต้องเพิ่มค�าค้นหาเป็น Microsoft Windows เป็นต้น
เกร็ดแนะครู ครูแนะนําความรูเพิ่มเติมหลังจาก ทดลองการคนหาขอมูลโดยใช เทคนิคการใชคําหลายๆ คําวา การคนหาวิธีนี้มีขอดีอยางไรและ เหมาะที่จะใชคนหาขอมูลลักษณะใด
การ ใช้ค�า 1 ค�า เพื่อค้นหา ท�าให้ได้ผลลัพธ์จ�านวนมาก และมีบางผลลัพธ์ไม่ตรงกับที่ต้องการ
การ ใช้ค�า 2 ค�า เพื่อค้นหา ท�าให้ได้ผลลัพธ์จ�านวนน้อยลง และผลลัพธ์จะตรงกับที่ต้องการมากขึ้น
11
คูมือครู
11
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
อธิบายความรู 1. นักเรียนทดลองการสืบคนขอมูล ดวยวิธีการใชเครื่องหมาย “ ” โดยลงมือปฏิบัติจริงกับ คอมพิวเตอร แลวบันทึกผล การปฏิบัติ 2. นักเรียนออกมาเลาขั้นตอน การสืบคนขอมูลดวยวิธีการใช เครื่องหมาย “ ” รวมถึงบอก ขอดีจากการใชวิธีนี้ในการสืบคน
การใช้เครื่องหมาย “___” เพื่อค้นหาแบบรวมค�า การค้นหาแบบหลายค�านั้น Google จะไม่ได้ค้นหาค�าแบบเรียงติดกัน แต่จะเป็นการ แยกการค้นหาแต่ละค�า โดยที่ค�าอาจไม่ได้เรียงติดกัน ดังนั้น หากเราต้องการผลลัพธ์แบบเรียง ค�าทั้งสองอยู่ติดกัน กล่าวคือ ต้องการให้ Google มองค�าที่ค้นหาทั้งหมดเป็นวลี (Phrase) ให้ใช้ เครื่องหมาย “___” (Quotation) โดยให้ค�าที่ต้องการให้ค้นหาแบบทั้งวลีอยู่ภายใต้เครื่องหมาย ตัวอย่าง ● ผ ู้ใช้ต้องกำรค้นหำข้อมูลของโปรแกรม Microsoft Windows XP ด้วยกำรใช้ทั้ง 3 ค�ำ อำจให้ ผลลัพธ์จำกค�ำ 3 ค�ำทีไ่ ม่ตรงนัก เพรำะเป็นกำรค้นหำแบบแยกค�ำ ดังนัน้ เรำก็ควรใช้เครือ่ งหมำย “__” โดยพิมพ์เป็น “Microsoft Windows XP” แทน
เกร็ดแนะครู ครูแนะนําแหลงขอมูลตางๆ ที่ เกี่ยวกับขั้นตอนในการสืบคนขอมูล โดยการใชเครื่องหมาย “ ” รวมถึง มีการยกตัวอยางเทคนิคการสืบคนใน รูปแบบอื่นๆ ที่มีความนาสนใจ
Googlgle จะแสดงเว็บเพจผลลัพธ์ที่มีค�าทั้ง 3 ค�า ปรากฏอยู่ แต่ค�าเหล่านั้น Goo อาจไม่ได้เรียงล�าดับตามที่ผู้ใช้ต้องการ
นักเรียนควรรู การใชเครื่องหมาย การใช เครื่องหมายตางๆ ใน Google จะ ชวยใหเราสามารถคนหาขอมูลที่ ตองการไดอยางมีประสิทธิภาพและ เกิดความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ถือเปนวิธีลัดอยางหนึ่งในการคนหา ขอมูล
Google ค้นหาผลลัพธ์ที่ให้ค�าทั้งหมดในแบบวลี ที่มีการเรียงล�าดับและติดกัน
12
12
คูมือครู
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
อธิบายความรู การใช้ OR คือ การให้ Google ค้นหาข้อมูลมากขึ้นจากค�าแรกและค�าที่สอง กล่าวคือเป็นการ น�าผลที่ได้จากค�าที่หนึ่งและค�าที่สองมารวมกัน วิธีใช้โดยการพิมพ์ OR ด้วยตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ คั่นระหว่างค�าที่ต้องการ เช่น China OR Korea คือ หาทั้งผลลัพธ์เมื่อเจอค�าว่า China หรือ Korea ค�าใดค�าหนึ่ง หรือทั้งสองค�าในเว็บไซต์มาแสดง
1. นักเรียนทดลองการสืบคนขอมูล ดวยวิธีการใช OR โดยลงมือ ปฏิบัติจริงกับคอมพิวเตอร แลวบันทึกผลการปฏิบัติ 2. นักเรียนทําการสนทนากลุมยอย เพื่อแลกเปลี่ยนความรูเรื่อง การสืบคนขอมูลดวยวิธีการใช OR แลวบันทึกสรุปผลการสนทนากลุม 3. นักเรียนออกมาเลาขั้นตอนการ สืบคนขอมูลดวยวิธีการใช OR รวมถึงบอกขอดีจากการใชวิธีนี้ ในการสืบคน
Google จะแสดงเว็บเพจผลลัพธ์ที่มีค�าว่า China หรือ Korea ค�าใดค�าหนึ่ง หรือเว็บเพจที่มีค�าว่า China และ Korea
เกร็ดแนะครู ครูยกตัวอยางประเด็นหรือหัวขอ เรื่องที่ควรสืบคนดวยวิธีการใช OR พรอมทัง้ ใหนกั เรียนชวยกันยกตัวอยาง ประเด็นหรือหัวเรื่อง โดยการออกมา เขียนบนกระดาน
กำรค้นหำ Google จะละเว้นค�ำทัว่ ๆ ไปบำง ค�ำ เพื่อช่วยให้กำรค้นหำท�ำได้เร็วขึ้น เช่น ค�ำว่ำ An to, to the หรือ of และตัวอักษรเดี่ยว แต่ A, An, ถ้ำผู้ใช้ต้องกำรให้กำรค้นหำตรงกับสิ่งที่ต้องกำร มำกขึ้น ก็ต้องใช้เครื่องหมำย + ช่วยโดยน�ำไปอยู่ น�ำหน้ำค�ำที่ต้องกำรให้ Google ช่วยค้นหำ เช่น ถ้ำต้องกำรค้นหำ สงครำมโลกครั้งที่ 1 ให้ใช้ ค�ำค้น World War + I
@
มุม IT
ศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการใชเครื่องหมาย + ใน Google ไดที่ http://www. slideshare.net
Google จะแสดงเว็บเพจผลลัพธ์ที่มีค�า I ร่วมกับค�าว่า World War
13
คูมือครู
13
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
อธิบายความรู 1. นักเรียนทดลองการสืบคนขอมูล ดวยวิธีการตัดคําที่ไมตองการ คนหาออก โดยลงมือปฏิบัติจริงกับ คอมพิวเตอร แลวบันทึกผล การปฏิบัติ 2. นักเรียนทําการสนทนากลุมยอย เพื่อแลกเปลี่ยนความรูเรื่องการ สืบคนขอมูล ดวยวิธีการตัดคําที่ ไมตองการคนหาออก แลวทําการ บันทึกสรุปผลการสนทนา 3. นักเรียนออกมาเลาขั้นตอนการ สืบคนขอมูลดวยวิธีการตัดคําที่ ไมตองการคนหาออก รวมถึงบอก ขอดีจากการใชวิธีนี้ในการสืบคน
B
B
การตัดค�าที่ไม่ต้องการค้นหาออก การตัดค�าที่ไม่ต้องการค้นหาออก เป็นการตัดค�าพ้องรูปหรือค�าที่ไม่ต้องการโดยใช้ เครื่องหมาย - น�าไปไว้ข้างหน้าค�าที่ต้องการตัด
Google จะแสดงเว็บเพจผลลัพธ์เบสที่หมายถึง ความเข้มข้นของสารทางเคมีเท่านั้น
พื้นฐานอาชีพ
การศึกษาการใช Google ใน การชวยแปลภาษาบนเว็บไซต จะ ชวยใหการแปลภาษาเปนไปอยาง งายดาย อีกทั้งมีความถูกตองใน ระดับหนึ่ง ซึ่งเปนเครื่องมือที่มี ประโยชนตอผูที่สืบคนขอมูลใน ภาษาตางๆ เพื่อนําไปใชประโยชน ในธุรกิจการงาน รวมถึงผูที่ทํางาน ดานการแปล
4) การให้ Google ช่วยแปลภาษาบนเว็บ Google สามารถใช้แปลภาษาต่างๆ
กว่า 64 ภาษา เช่น English Italian French Spanish German Portuguese โดยคลิกที่ค�าว่า “Translate this page” บริเวณด้านข้างของชื่อเว็บที่ค้นหา โดยความสามารถนี้จะมีเฉพาะ www.google.com โดยเราสามารถเปลีย่ นจาก www.google.co.th เป็น www.google.com ได้ดงั นี้
คลิก เปลี่ยนเปน Google.com in English
14
14
ตัวอย่ำงเช่น กำรตัดค�ำพ้องรูป ได้แก่ ค�ำว่ำ เบส มีสองควำมหมำยคือ กีตำร์เบส หรือ ควำม เข้มข้นของสำรทำงเคมี ซึ่งในที่นี้เรำไม่ต้องกำร ค�ำที่มีควำมหมำยเกี่ยวกับกีตำร์ ดังนั้น ผู้ใช้ต้อง เติมค�ำว่ำ เบส -กีตำร์ (เครื่องหมำย - และค�ำว่ำ กีตำร์ ต้องติดกัน) หมำยควำมว่ำ ค้นหำเว็บเพจ ที่มีค�ำว่ำ เบส โดยไม่มีค�ำว่ำ กีตำร์ เป็นต้น
คูมือครู
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
อธิบายความรู 1. นักเรียนแตละคนทําการศึกษา การใช Google ในการชวยแปล ภาษาบนเว็บไซต โดยการปฏิบัติ จริง ตามขั้นตอนที่ถูกตอง จากนั้นบันทึกผลการปฏิบัติ ลงในสมุดบันทึก 2. นักเรียนนําบันทึกผลการศึกษาที่ ไดมาอธิบายใหครูฟง จากนั้น ครูสนทนาซักถามเกี่ยวกับ กระบวนการในแตละขั้น พรอมทั้ง ใหคําแนะนําที่เปนประโยชน
คลิก ที่ Translate this page
ขยายความเขาใจ นักเรียนทําแผนผังนําเสนอขัน้ ตอน ในการใช Google ในการชวยแปล ภาษาบนเว็บไซต โดยใหผังอธิบาย แตละขั้นตอนอยางครบถวน สมบูรณ และเขาใจงาย
คลิก เพื่อให้แสดงภาษาต่างๆ
เกร็ดแนะครู ครูนําตัวอยางการใช Google ใน การชวยแปลภาษาบนเว็บไซตรูปแบบ ตางๆ มาแสดงใหนักเรียนดูเพื่อให เกิดประสบการณที่หลากหลาย แลวใหนักเรียนทดลองปฏิบัติจริง เพื่อเปนการฝกทักษะ
คลิก เลือกภาษาที่ต้องการให้แปล
15
คูมือครู
15
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
1. นักเรียนแตละคนทําการศึกษาการ ใช Google เพื่อการคนหาขั้นสูง โดยการปฏิบัติจริงตามขั้นตอน ที่ถูกตอง จากนั้นบันทึกผลการ ปฏิบัติลงในสมุดบันทึก 2. นักเรียนรวมกันสนทนาแลกเปลีย่ น และรวมกันวิเคราะหการปฏิบัติ การใช Google เพื่อการคนหา ขั้นสูง 3. นักเรียนนําบันทึกผลการศึกษา ที่ไดมาอธิบายใหครูฟง จากนั้น ครูสนทนาซักถามเกี่ยวกับ กระบวนการในแตละขั้น พรอมทั้ง ใหคําแนะนําที่เปนประโยชน
Evaluate
5) การค้นหาขั้นสูง Google สามารถก�าหนดขอบเขตการค้นหาให้แคบลง เพื่อให้
สามารถเข้าถึงหน้าเว็บเพจที่เราต้องการได้ตรงยิ่งขึ้น โดยเลือกใช้ “การค้นหาขั้นสูง” (Advanced Search) เช่น ก�าหนดค�าเจาะจง เลือกภาษาเจาะจงส�าหรับหน้าเว็บที่จะค้นหา ก�าหนดชนิดของ ไซต์หนึ่งเท่านั้นก็ได้ ดังนี้ ไฟล์ที่จะค้นหา หรือค้นหาหน้าเว็บเพจเฉพาะภายในเว็บไซต์ใดเว็บไซต
ครูแนะนําเทคนิคตางๆ เกี่ยวกับ การใช Google เพื่อการคนหาขั้นสูง
1 คลิกเลือก “การค้นหาขั้นสูง”
มุม IT
ศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการใช Google เพื่อการ คนหาขั้นสูง ไดที่ http://www. mindphp.com
16
คูมือครู
Expand
ผลลัพธ์เว็บเพจที่ได้เปนเว็บเพจในภาษาที่ต้องการ
เกร็ดแนะครู
16
ตรวจสอบผล (ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
อธิบายความรู
@
ขยายความเขาใจ
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
อธิบายความรู
2
1. นักเรียนจัดสัมมนาเพื่อรวมกัน อธิบายและแสดงความคิดเห็น ถึงจุดเดนและจุดดอยของการใช Google เพื่อการคนหาขั้นสูง 2. นักเรียนจับกลุมรวมกันนําความรู ที่ไดจากการศึกษาการใช Google เพื่อการคนหาขั้นสูงมาอภิปราย เกี่ยวกับประโยชนที่ไดจากการ ใชงาน และการนําไปประยุกตใช กับการคนหาขอมูลประเภทอื่นๆ จากนั้นสรุปผลการอภิปราย แลวสงตััวแทนออกมารายงาน หนาชั้นเรียน
คลิกเครื่องหมาย + ขยายการค้นหาขั้นสูงเพิ่มเติม
เกร็ดแนะครู ครูสนทนาแลกเปลี่ยน ความรูก บั นักเรียน แลวอธิบายความรู เพิ่มเติมที่เปนประโยชนตอการใช Google เพื่อการคนหาขั้นสูง
กำรค้นหำขั้นสูงที่เพิ่มเติมขึ้นมำนั้น ผู้ใช้ สำมำรถทีจ่ ะก�ำหนดรำยละเอียดในด้ำนต่ำงๆ ได้ ท�ำให้กำรค้นหำข้อมูลที่ต้องกำรท�ำได้สะดวกและ ตรงกับควำมต้องกำรมำกขึ้น โดยกรองผลลัพธ์ ที่ไม่ต้องกำรออก 17
คูมือครู
17
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ Explain
Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
อธิบายความรู 1. นักเรียนจับกลุมกัน กลุมละ 3 - 4 คน แลวเลือกทดลองการคนหา ขอมูล โดยการกําหนดรายละเอียด สําหรับการคนหาขั้นสูง เมื่อคนหา ขอมูลไดตามที่ตองการแลว ให ทําการแลกเปลี่ยนความรูกับ กลุมอื่นๆ 2. นักเรียนแตละกลุมออกมาอธิบาย ผลการทดลองคนหาขอมูลโดย การกําหนดรายละเอียดสําหรับ การคนหาขั้นสูง
กำรก�ำหนดรำยละเอียดส�ำหรับกำรค้นหำขั้นสูงภำยในหน้ำเว็บนี้ กำรค้นหำขั้นสูง ค้นหำหน้ำเว็บที่มี (Find results) :
ค�ำหรือข้อควำมที่ตรงตำมนี้ ค�ำเหล่ำนี้อย่ำงน้อยหนึ่งค�ำ ค�ำที่ไม่ต้องกำรเหล่ำนี้ ผลกำรค้นหำต่อหน้ำ กำรแสดงผลแต่ละหน้ำ
(Results perpage) ภำษำ (Language) กลับสู่หน้ำที่เขียนในภำษำ
ขยายความเขาใจ 1. นักเรียนจับกลุมอภิปรายถึงจุดเดน และจุดดอยของการใชวิธีกําหนด รายละเอียดสําหรับการคนหา ขั้นสูง จากนั้นเขียนสรุปเปน แผนผังอยางงาย 2. นักเรียนกลุมเดิมรวมกันจัดปาย นิเทศเพื่อแสดงรายละเอียด สําหรับการคนหาขั้นสูง เพื่อ อธิบายคุณสมบัติและวิธีการเพื่อ ใหเขาใจไดโดยงาย
รูปแบบไฟล์ (File Format)
ครูนํากรณีศึกษาและตัวอยาง การกําหนดรายละเอียดเพื่อการ คนหาขั้นสูงมาใหนักเรียนดู พรอมทั้ง อธิบายความรูเพิ่มเติมและเปดโอกาส ใหนักเรียนไดซักถาม
แสดงผลกำรค้นหำใน รูปแบบไฟล์
ที่ที่ค�ำหลักของคุณ แสดงผลกำรค้นหำที่มีค�ำของ ให้แสดงเว็บผลลัพธ์ที่มีค�ำค้นหำปรำกฏอยู่ในต�ำแหน่งที่ ปรำกฎอยู่ ฉัน เรำก�ำหนดของหน้ำเว็บเท่ำนั้น เช่น เฉพำะบนแถบหัวเรื่อง (Occurrances) (Title) เฉพำะบนชือ่ URL หรือทีม่ ปี รำกฏในเนือ้ หำของหน้ำ เว็บ (Content) เป็นต้น
18
คูมือครู
ป้อนค�ำเดียวหรือหลำยค�ำ ซึง่ Google จะค้นหำเหมือนใช้ AND คั่นระหว่ำงค�ำที่เรำป้อนในช่องนี้ ค้นหำโดยมองค�ำทั้งหมดเป็นวลี ค้นหำโดยใช้ OR คั่นระหว่ำงค�ำที่ป้อน ไม่ให้มคี ำ� นีด้ ว้ ยในหน้ำเว็บผลลัพธ์ (เหมือนใช้เครือ่ งหมำย) กำรก�ำหนดจ�ำนวนกำรแสดงผลลัพธ์ เช่น 10 ผลกำรค้นหำ ต่อหน้ำเว็บเพจ ก�ำหนดภำษำของหน้ำเว็บผลลัพธ์ทตี่ อ้ งกำร เช่น เฉพำะเว็บ ภำษำไทย โดยค่ำเริ่มต้น คือ ภำษำอะไรก็ได้
นอกจำกผลลัพธ์ทเี่ ป็นลิงค์ของหน้ำเว็บเพจแล้ว เรำสำมำรถ ก�ำหนดให้ Google ค้นหำผลลัพธ์เป็นไฟล์ประเภทอื่นๆ ได้ เช่น ไฟล์ .pdf ไฟล์เอกสำร .doc ไฟล์ .ppt เป็นต้น (ดูรำยละเอียดเพิ่มเติมในหัวข้อถัดไป) ค่ำเริ่มต้นคือทุก รูปแบบ ค้นหำภำยใน แสดงผลกำรค้นหำจำกเว็บไซต์ ก� ำ หนดให้ ค ้ น หำหน้ ำ เว็ บ เพจที่ อ ยู ่ ภ ำยในโดเมนหรื อ เว็บไซต์หรือโดเมน หรือโดเมน ภำยในเว็บไซต์นี้เท่ำนั้น เช่น เฉพำะเว็บเพจที่อยู่ใน www. (Domain) microsoft.com เป็นต้น วันที่ (Date) แสดงหน้ ำ เว็ บ ที่ ป รำกฏเป็ น ก�ำหนดเว็บผลลัพธ์ที่มีกำรอัพเดตในช่วงเวลำที่ก�ำหนด เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ทันสมัย เช่น ในช่วง 3 เดือน หรือ ครั้งแรก ค่ำเริ่มต้นคือเมื่อไหร่ก็ได้ สิทธิ์ในกำรใช้งำน แสดงผลกำรค้นหำที่ สิทธิ์ในกำรเข้ำใช้เว็บไซต์ไม่ถูกกรองด้วยใบอนุญำตใน (The right to use) กำรน�ำไปใช้หรือแบ่งปันได้ฟรี
เกร็ดแนะครู
18
ทุกค�ำต่อไปนี้
วิธีกำรค้นหำ
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
อธิบายความรู
กำรค้นหำขั้นสูง ประเทศ (Region) ค้นหำปลอดภัย (SafeSearch) เครื่องมือเจำะจง หน้ำเว็บ
1. ครูใหนักเรียนทดลองการคนหา ขอมูลโดยการกําหนดประเภทของ ไฟล จากนั้นใหนักเรียนบันทึก ผลการทดลองลงในกระดาษ A4 2. นักเรียนนําบันทึกผลการทดลอง ออกมาอภิปรายหนาชั้นเรียน จากนั้นครูสนทนาซักถามความ เขาใจ พรอมทั้งอธิบายความรู เพิ่มเติม
วิธีกำรค้นหำ
ค้นหำหน้ำเว็บที่อยู่ในประเทศ กำรค้นหำเว็บเพจที่อยู่ในประเทศต่ำงๆ เช่น เกำหลีใต้ คิวบำ จีน เป็นต้น ค้นหำหน้ำเว็บที่ก�ำหนดควำม กำรค้นหำข้อมูลทีม่ กี ำรกรอง หรือไม่มกี ำรกรองข้อมูลด้ำน ปลอดภัย ควำมปลอดภัย ค้นหำหน้ำเว็บที่คล้ำยคลึงกับ กำรค้นหำเว็บเพจที่คล้ำยกับเว็บเพจที่ระบุ URL หน้ำเว็บนี้ ค้นหำหน้ำเว็บที่ลิงค์ไปสู่หน้ำ กำรค้นหำเว็บเพจที่เชื่อมโยงมำยังเว็บเพจที่ระบุ URL เว็บนี้
ผลลัพธ์การค้นหาทีไ่ ด้จากการค้นหาขัน้ สูงจะคล้ายกับการค้นหาด้วย Google ตามปกติ เพียงแต่ผู้ใช้จะได้ผลลัพธ์ที่เจาะจงมากขึ้น
à¡Ãç´ IT
กำรค้นหำโดยก�ำหนดประเภทของไฟล์ Google มีควำมสำมำรถในกำรค้นหำไฟล์ ประเภทอื่นๆ บนอินเทอร์เน็ต ด้วยกำรค้นหำขั้นสูง (Advanced Search) หรือกำรก�ำหนดค�ำค้นได้ เช่น ต้องกำรหำไฟล์เรื่องเบส ในรูปแบบไฟล์ ไมโครซอฟต์เวิร์ด (.doc) ก�ำหนดได้ ดังนี้
@
มุม IT
ศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการใช Google Earth ไดที่ http://earth.google.com
@
มุม IT
ศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการใช Shockwave flash ไดที่ http://support.microsoft.com
โดยประเภทของไฟล์ที่ Google รับรองก็คือ .pdf ไฟล์เอกสำร Adobe Acrobat Reader .ps ไฟล์เอกสำร Adobe PostScript .dwf ไฟล์ข้อมูลรูปจำก Autodesk DWF .kml ไฟล์ข้อมูลจำก Google Earth KML .kmz ไฟล์ขอ้ มูลจำก Google Earth KMZ .xls ไฟล์สเปรดชีท Microsoft Excel .ppt ไฟล์นำ� เสนอ Microsoft PowerPoint .doc ไฟล์เอกสำร Microsoft word .rtf ไฟล์เอกสำร Rich Text Format .swf ไฟล์มัลติมีเดียจำก Shockwave flash 19
คูมือครู
19
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
อธิบายความรู 1. ครูตั้งคําถามเพื่อใหนักเรียนชวย กันอธิบายเกี่ยวกับการคนหาไฟล ภาพบนอินเทอรเน็ต • นักเรียนรูจักเว็บไซตใดบางที่ สามารถใชหาไฟลภาพได (แนวตอบ มีหลายเว็บไซตที่ให บริการในการคนหารูปภาพ โดยจะมี search engine ชวย ทําหนาที่ดังกลาว เชน Google, Yahoo หรือ Getty images เปนตน) 2. ครูกําหนดหัวขอภาพเพื่อให นักเรียนไปสืบคนโดยใชวิธีคนหา จาก Google จากนั้นนําภาพที่ คนหาไดมาแสดงในชั้นเรียนเพื่อ แลกเปลี่ยนเรียนรู
6) ค้นหาไฟล์ภาพบนอินเทอร์เน็ต นอกจาก Google จะสามารถค้นหาเว็บไซต์ที่
มีค�าที่ต้องการแล้ว Google ยังสามารถค้นหาไฟล์ภาพในเว็บเพจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับค�าค้นที่ผู้ใช้ ป้อนลงในช่องค้นหา โดยผลลัพธ์ที่ได้จากการค้นหานั้น Google จะแสดงไฟล์ภาพขนาดย่อให้เรา เห็น พร้อมรายละเอียดของไฟล์ภาพนั้นๆ เช่น ชื่อภาพ ขนาดไฟล์ภาพ เพื่อให้ผู้ใช้เลือกเปิดดูได้ ทันที ซึ่งผู้ใช้สามารถค้นหาไฟล์ภาพได้ ดังนี้
1 คลิกลิงค์ “รูปภาพ”
นักเรียนควรรู คนหาไฟลภาพ ในการใช Google เพือ่ หาไฟลภาพ เปนทีน่ ยิ มแพรหลาย มาก เนื่องจากสามารถทําไดโดยงาย และสามารถกําหนดคุณสมบัติของ ภาพที่ตองการคนหาไดหลากหลาย ไมวาจะเปน ขนาดภาพ เชน เล็ก กลาง ใหญ ลักษณะของภาพ เชน ภาพวาดลายเสน ภาพถาย สีของภาพ เชน ภาพสี ภาพขาวดํา ซึ่งจะชวย ใหเราสามารถคนหาไฟลภาพไดตรง ความตองการมากยิ่งขึ้น
โลโก Google ในส่วนของการหาไฟล์รูปภาพ
2
20
20
คูมือครู
พิมพ์ค�าในช่องค้นหา
3
คลิกปุมค้นหาด้วย Google
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
อธิบายความรู
4
5
1. นักเรียนทําการสํารวจคนหา ไฟลภาพจาก Google โดยปฏิบัติ ตามขั้นตอนในหนังสือเรียน หนา 21 จากนั้น ใหนักเรียนบันทึก ผลการสํารวจคนหาลงในสมุด บันทึก 2. นักเรียนนําบันทึกผลการสํารวจ คนหาไฟลภาพจาก Google มา อภิปรายหนาชั้นเรียน จากนั้นครู ตั้งประเด็นคําถามเพื่อใหนักเรียน เขาใจเทคนิคในการคนหาไฟลงาน ไดอยางรวดเร็วมากขึ้น
Google แสดงผลลัพธ์เปนตัวอย่างภาพ
ชื่อเว็บไซต์ที่แสดงภาพ
เกร็ดแนะครู 4 5 6
เมื่อน�าเม้าส์ชี้ Google จะแสดง ภาพ รายละเอียด ภาพ คลิกภาพ เพื่อดู ภาพขนาดใหญ่ และไปยังเว็บไซต์ ที่แสดงภาพ คลิกปด หรือคลิก ที่ภาพ
ครูใหนักเรียนชวยกันคนควา หาเทคนิคอื่นๆ ที่จะชวยใหการ คนหาไฟลภาพจาก Google มี ประสิทธิภาพมากขึ้น หรือไดรับ ความสะดวกในการหามากขึ้น
6
รายละเอียดของภาพ รายละเอี
B
ผลลัลัพธ์ภาพขนาดจริง ซึ่งผู้ใช้สามารถบันทึกภาพไว้ได้
B
พื้นฐานอาชีพ
ทักษะและความรูในการสํารวจ คนหาไฟลภาพจาก Google มี ประโยชนอยางยิ่งสําหรับผูที่ประกอบ อาชีพเกี่ยวกับการออกแบบสื่อตางๆ เชน หนังสือ โฆษณา และอื่นๆ รวมทั้งเปนความรูที่สามารถจะนําไป ประยุกตใชในการใหแนวคิดในการ สรางสรรคงานตางๆ ไดดวย
ภำพจะแสดงขึ้นมำโดยจะบอกรำยละเอียด ของภำพ ขนำดจริง ซึง่ ผูใ้ ช้สำมำรถจะพิจำรณำถึง ควำมละเอียดของภำพและควำมคมชัดได้ ท�ำให้ สำมำรถเลือกภำพเหล่ำนัน้ มำใช้ได้อย่ำงเหมำะสม
21
คูมือครู
21
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ Explain
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
อธิบายความรู 1. นักเรียนฝกปฏิบัติในการบันทึก ภาพที่คนหาไดจาก Google ตามขั้นตอนที่ถูกตอง จากนั้นให นักเรียนบันทึกผลการฝกปฏิบัติ ลงในสมุดบันทึก 2. นักเรียนออกมาอธิบายถึงวิธี การบันทึกภาพที่คนหาไดจาก Google หนาชั้นเรียน โดยให อธิบายตั้งแตขั้นเริ่มตนจนถึง ขั้นสุดทายใหถูกตอง
หากผู้ใช้ต้องการบันทึกภาพ ให้ท�าตามขั้นตอนต่อไปนี้
7 8
ขยายความเขาใจ นักเรียนจัดทําผังความคิดแสดง ขั้นตอนการบันทึกภาพที่คนหาได จาก Google ใหสวยงาม แลวนํา สงครู จากนั้นครูคัดเลือกผลงานที่ สวยงามและมีความถูกตองมาแสดง หนาชั้นเรียน
เกร็ดแนะครู ครูอาจใหนักเรียนแสดงความ คิดเห็นเกี่ยวกับขั้นตอนตางๆ ในการ สํารวจคนหาไฟลภาพจาก Google วามีการใชงาน ยาก งาย อยางไร และมีสิ่งใดที่เปนขอเสนอแนะ
7 8
คลิกขวาที่ภาพ เลือก Save As Picture 9 เลือกโฟล์เดอร์ ที่ต้องการเก็บภาพ 10 ตั้งชื่อภาพ 11 เลือกประเภทไฟล์ 12 กดปุมบันทึก “Save”
22
22
คูมือครู
9
10
12
11 Google อำจค้นหำผลลัพธ์ภำพที่ต้องกำร หลำยภำพ อำจมีภำพบำงส่วนที่ไม่ตรงกับควำม ต้องกำรแสดงขึ้นมำด้วย ดังนั้น ผู้ใช้สำมำรถ ก�ำหนดรำยละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีก เช่น ชนิดของภำพ หรือให้ค้นหำจำกเว็บใดเว็บหนึ่ง เท่ำนั้น ด้วยกำรค้นหำภำพระดับสูง (Advanced Image Search) ซึ่งมีรำยละเอียดในกำรค้นหำ เพิ่มเติม ดังนี้
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
อธิบายความรู นักเรียนแบงกลุม 3-5 กลุม เพื่อ ทําการอภิปรายเกี่ยวกับการคนหา ไฟลภาพ โดยการกําหนดรายละเอียด ในการคนหา แลวใหแตละกลุม สงตัวแทนออกมารายงานหนาชั้น จากนัน้ เปดโอกาสใหเพือ่ นในชัน้ เรียน สอบถามรายละเอียด โดยครูชวย เสริมความรูเพิ่มเติม
กำรก�ำหนดรำยละเอียดส�ำหรับกำรค้นหำไฟล์ภำพเพิ่มเติม กำรค้นหำขั้นสูง ค้นหำผลลัพธ์ (Find results)
ประเภทเนื้อหำ (Content type) ขนำด (Size) ขนำดที่ต้องกำร (The desired size) อัตรำส่วน (Ratio) ประเภทไฟล์ (The file type)
ที่มีทุกค�ำต่อไปนี้ ที่มีประโยคหรือวลีนี้ ที่มีค�ำเหล่ำนี้อย่ำงน้อย หนึ่งค�ำ ที่ไม่มีค�ำเหล่ำนี้ แสดงภำพที่ประกอบด้วย แสดงรูปภำพ
วิธีกำรค้นหำ ป้อนค�ำหรือหลำยค�ำ ซึ่ง Google จะค้นหำเหมือนใช้ AND คั่นระหว่ำงค�ำที่เรำป้อนในช่องนี้ ค้นหำโดยมองค�ำทั้งหมดเป็นวลี ค้นหำโดยใช้ OR คั่นระหว่ำงค�ำที่ป้อน
ขยายความเขาใจ
ไม่ให้มคี ำ� นีด้ ว้ ยในหน้ำเว็บผลลัพธ์ (เหมือนใช้เครือ่ งหมำย -) กำรแสดงภำพทีเ่ ป็นคลิปอำร์ต ภำพลำยเส้น หรือภำพเนือ้ หำ ใดก็ได้ ก�ำหนดขนำดของภำพที่ต้องกำรค้นหำโดยสำมำรถก�ำหนด ได้หลำกหลำยขนำด เช่น ใหญ่ กลำง ไอคอน ขนำดที่ใหญ่ กว่ำ 400 x 300 เป็นต้น ก�ำหนดขนำดโดยให้ผู้ใช้ระบุควำมกว้ำงและควำมสูง
ใหนักเรียนแตะกลุมจัดทําผัง ความคิดที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับ การกําหนดรายละเอียดในการคนหา ตามหัวขอของกลุมตนเอง
แสดงภำพตำมขนำดที่ ต้องกำร แสดงภำพที่มีอัตรำส่วนแบบ ก�ำหนดอัตรำส่วนภำพ เช่น แนวตัง้ สีเ่ หลีย่ มจัตรุ สั แนวนอน เป็นต้น แสดงเฉพำะไฟล์ภำพที่อยู่ใน นอกจำกผลลัพธ์ที่เป็นภำพที่ลิงค์ไปยังหน้ำเว็บเพจแล้ว เรำ รูปแบบ สำมำรถก�ำหนดให้ Google ค้นหำผลลัพธ์เป็นไฟล์ประเภท อื่นๆ ได้ เช่น .gif, .jpg, .png เป็นต้น กำรใช้สี แสดงเฉพำะรูปภำพสี ก�ำหนดสีของรูปภำพที่ต้องกำร ได้แก่ สีใดก็ได้ สีขำวด�ำ (The use of color) และทุกสี โดเมน แสดงผลกำรค้นหำจำก ก�ำหนดให้ค้นหำหน้ำเว็บเพจที่อยู่ภำยในโดเมนหรือภำยใน (Domain) เว็บไซต์หรือโดเมน เว็บไซต์นเี้ ท่ำนัน้ เช่น เฉพำะเว็บเพจทีอ่ ยูใ่ น www.microsoft. com เป็นต้น สิทธิ์ในกำรใช้งำน แสดงผลกำรค้นหำที่ สิทธิ์ในกำรเข้ำใช้เว็บไซต์ไม่ถูกกรองด้วยใบอนุญำต น�ำไป (The right to use) ใช้หรือแบ่งปันได้ฟรี ค้นหำปลอดภัย ค้นหำไฟล์ภำพที่ก�ำหนด เป็นกำรค้นหำไฟล์ภำพทีม่ กี ำรกรอง หรือไม่มกี ำรกรองข้อมูล (Safe Search) ควำมปลอดภัย ด้ำนควำมปลอดภัย
นักเรียนควรรู jpg ยอมาจากคําวา Joint Photographer’s Experts Group เปนไฟลภาพชนิดหนึ่งที่นิยมใชกัน อยางแพรหลาย เนื่องจากมีความ ละเอียดสูง ประกอบดวยสีจํานวน มาก ภาพชนิดนี้เหมาะสําหรับการ นํามาสแกน เพื่อใชในการออกแบบ สื่อสิ่งพิมพ
23
คูมือครู
23
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
อธิบายความรู 1. นักเรียนคนหาเว็บไซตที่เปน Meta search engine วามีเว็บไซต ชื่ออะไรบาง แลวนํามารวมกัน สนทนาแลกเปลี่ยนภายในชั้นเรียน 2. นักเรียนวิเคราะหการทํางานของ Meta search engine จากนั้น สรุปการวิเคราะหแลวนํามาอธิบาย หนาชั้นเรียน
3.2 การใช้ Meta search engine ค้นหาข้อมูล Meta search engine เป็นเว็บไซต์ที่ไม่มีฐำนข้อมูลของตนเอง แต่จะไปค้นหำรำยชื่อเว็บเพจที่เรำ ต้องกำร โดยกำรเข้ำไปดึงจำกฐำนข้อมูลของ search engine อื่นๆ หลำยแห่ง และจะแสดงผลให้เลือก ตำมที่เรำต้องกำร ตัวอย่ำง Meta search engine ที่ได้รับควำมนิยม เช่น Metacrawler, Dogpile, OneSeek, Mamma เป็นต้น นอกจากเว็บไซต์ขา้ งต้นแล้ว ในปัจจุบนั ยังมี Meta search engine มากมาย ทัง้ ทีเ่ ป็นเว็บไซต์ Meta search engine ค้นหาหลัก ไปจนถึงเว็บไซต์ Meta search engine ค้นหาที่เจาะจง เช่น Meta search engine ข้อมูลธุรกิจ โดยแต่ละเว็บไซต์ Meta search engine จะให้ผู้ใช้ลงทะเบียน เว็บไซต์ของผู้ใช้ไว้ (ถ้าผู้ใช้มีเว็บไซต์) เพื่อเป็นฐานข้อมูลเมื่อมีผู้เข้ามาค้นหาข้อมูล
นักเรียนควรรู
ข้อมูล
Meta search engine มีขอดี คือ สามารถคนหาขอมูลที่เราตองการ ไดจากแหลงเดียว ไมตองเสียเวลา คนหาจากแหลงอื่นๆ โดยระบบจะ ทําการตัดขอมูลที่ซํ้าซอนกันออกไป จึงเหมาะสําหรับการรวบรวมขอมูล ที่ตองการใหครอบคลุมมากที่สุด
Search engine
ข้อมูล
ทรัพยากร สารสนเทศ
ข้อมูล
Search engine
ข้อมูล ข้อมูล
Search engine
ข้อมูล
โครงสร้างการทํางานของ Meta search engine
@
การค้นหา Meta search engine 1 พิมพ์ www.metacrawler.com
มุม IT
ศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการใช Dogpile ไดที่ http://www.dogpile.com
2
3
24
คูมือครู
24
พิมพ์ค�าค้น
3
คลิกปุมค้นหา
คําค้น
Meta search engine ผลลัพธ์
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
อธิบายความรู 1. นักเรียนทดลองสืบคนการใช Subject directory ในการคนหา ขอมูลตามหมวดหมู แลวบันทึก ผลจากการทดลองใช จากนัน้ นํามา อธิบายหนาชั้นเรียน 2. นักเรียนรวมกันอภิปรายกลุม เกี่ยวกับการใช Subject directory เพื่อการคนหาขอมูลตางๆ รวมถึง วิเคราะหหลักการใชงานตามลําดับ ขั้นตอน จากนั้นสงตัวแทนมาสรุป ผลการอภิปรายหนาชั้นเรียน
4 รายชื่อ Search engine ที่ร่วมใช้ในการค้นหา 5
ผลลัพธ์เว็บเพจที่ได้จากการค้นหา ซึ่งแสดงต่อจากหัวข้อนี้เปนต้นไป
เกร็ดแนะครู
3.3 การใช้ Subject directory ค้นหาข้อมูลตามหมวดหมู่ Subject directory เป็นเว็บไซต์ที่มีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ต โดย แต่ละเว็บไซต์จะถูกจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ที่เหมาะสม ดังนั้นปริมาณเว็บไซต์ใน Subject directory อาจไม่ครอบคลุมทุกเว็บไซต์ที่มีในอินเทอร์เน็ต แต่ผลลัพธ์ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากกว่า ผลลัพธ์ที่ได้จาก Search engine เนื่องจากมีหมวดหมู่ที่ชัดเจน ซึ่งผู้ใช้อาจท�าได้ทั้งเรียกอ่าน จากหัวเรื่องที่จัดกลุ่มไว้จึงต้องใช้เวลาในการค้นหาข้อมูลทีละหมวดหมู่ย่อยจนกว่าจะเจอข้อมูลที่ ต้องการ เว็บไซต์ที่พัฒนาการสืบค้นจากค�าส�าคัญร่วมด้วย Subject directory มี 2 ลักษณะ ดังนี้ เป็นเว็บไซต์ที่มีการรวบรวมข้อมูลและให้บริการข้อมูลทั่วๆ ไป ตัวอย่างเช่น Web directory เป็ www.sanook.com www.yahoo.com www.dmoz.org เป็นต้น Subject gateway หรื หรือ Subject specific เป็นเว็บไซต์ที่มีการรวบรวมข้อมูลและให้บริการ ข้อมูลเฉพาะด้าน มักเน้นเนื้อหาทางวิชาการ มีการแบ่งหมวดและแยกหัวเรื่องโดยบรรณารักษ์ ดังนั้น Subject gateway จึงมีฐานข้อมูลขนาดเล็กกว่า Search engine ทั่วๆ ไป ตัวอย่างเช่น http://nature.ac.uk/ www.academicinfo.net ตัวอย่าง การค้นหาข้อมูลเกี่ยวข้องกับการศึกษาในเว็บไซต์ www.sanook.com ดังนี้
http://www.aksorn.com/LC/Tech/M6/03
EB GUIDE
ครูนําแผนผังหรือตารางที่แสดง รายละเอียดเกี่ยวกับการใช Subject directory ในการคนหาขอมูลตางๆ เพื่อชวยใหนักเรียนสามารถเขาใจได โดยงาย
25
คูมือครู
25
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain
Expand
Evaluate
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
อธิบายความรู 1. นักเรียนศึกษาการใช Subject directory โดยการทดลองเขา เว็บไซต www.sanook.com แลว ทําตามขั้นตอนในหนังสือเรียน หนา 26 จากนั้นทําการบันทึกผล 2. นักเรียนนําผลการศึกษาการใช Subject directory โดยการ ทดลองเขาเว็บไซต www.sanook. com ออกมาอภิปรายหนาชั้นเรียน จากนั้นครูสนทนาซักถามแลวให ความรูเพิ่มเติม
1
พิมพ์ www.sanook.com
2 คลิกลิงค์ “สารบัญเว็บไทย”
ขยายความเขาใจ นักเรียนเขียนแสดงความคิดเห็น ถึงการนํา Subject directory ไป ประยุกตใชในการทํางานดานตางๆ โดยระบุถึงขอดีและประโยชนที่ได จากการนําไปใชใหครบถวน
3
คลิกลิงค์ ““การศึกษา ษา”
Web Directory
สารบัญเว็บไซต์
ตรวจสอบผล 1. ครูตรวจสอบความถูกตองของ แผนผังขั้นตอนการใช Google ในการชวยแปลภาษาบนเว็บไซต 2. ครูตรวจสอบความเขาใจของ นักเรียนจากแผนผังและการจัด ปายนิเทศเกี่ยวกับการคนหาขั้นสูง 3. ครูตรวจสอบความเขาใจของ นักเรียนจากผังความคิดเรื่อง การบันทึกภาพที่คนหาไดจาก Google และผังความคิดการ กําหนดรายละเอียดในการคนหา ขอมูล
หมวดย่ ดย่อยของการศึกษา ซึ่งผู้ใช้สามารถคลิกเพื่อหาข้อมูลที่ต้องการได้
การใช้ Subject directory จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งส�าหรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นข้อมูลที่ ต้องการจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน 26
@
มุม IT
ศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการใช Search engine ไดที่ http://www.bks.ac.th
26
คูมือครู
กระตุน ความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
กระตุนความสนใจ ครูเกริ่นนําถึงประโยชนของ เว็บไซตที่มีตอการทําโครงงานหรือ ชิ้นงาน แลวใหนักเรียนยกตัวอยาง เว็บไซตที่สามารถนํามาใชทํา โครงงานได
4. เว็บไซต์ที่มีประโยชน์ต่อการทําโครงงานหรือชิ้นงาน การใช้เว็บไซต์เพื่อการสืบค้นข้อมูลในการท�างานนั้น เราจะต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับงาน แต่ละประเภท ซึ่งเว็บไซต์ที่มีประโยชน์ต่อการท�างานสามารถแบ่งออกได้ ดังนี้
4.1 เว็บไซต์ห้องสมุด สํารวจคนหา
เป็นเว็บไซต์ทใี่ ห้บริการเพือ่ ให้ผใู้ ช้สบื ค้นหนังสือและชือ่ ผูแ้ ต่งผ่านเว็บไซต์และข้อมูลสารสนเทศ ต่างๆ รวมทั้งบริการสื่อมัลติมีเดีย และ E-Book
นักเรียนสืบคนเว็บไซตที่เปน ประโยชนตอการทําโครงงานหรือ ชิ้นงาน แลวนําขอมูลที่ไดมาศึกษา โดยละเอียด
เว็บไซต์ห้องสมุดที่น่ำสนใจ เว็บไซต์แนะน�ำ เว็บไซต์ห้องสมุด
รำยละเอียด
www.nlt.go.th
เว็บไซต์สำ� นักหอสมุดแห่งชำติ ให้บริกำรสืบค้น หนังสือ บทควำม วำรสำร วิทยำนิพนธ์ ตัวเขียน และจำรึก หนังสือภำษำจีน และกำรขอหมำยเลข ISBN www.riclib.nrct.go.th/link/library.html เว็ บ ไซต์ ห ้ อ งสมุ ด งำนวิ จั ย ส� ำ นั ก งำนคณะ กรรมกำรวิจัยแห่งชำติ (วช.) ให้บริกำรสืบค้น หนังสือทัว่ ไป และวิทยำนิพนธ์ บทควำมวำรสำร e-book ของ วช.
เกร็ดแนะครู ครูสรุปเพื่อเสริมความเขาใจให กับนักเรียนโดยการแนะนําเว็บไซต ที่เกี่ยวของ เชน http://elearning. narinukul.ac.th
4.2 ฐานข้อมูลออนไลน์ เป็นแหล่งฐานข้อมูลผลงานวิจัย สถิติ และวิทยานิพนธ์ ที่ถูกเก็บในองค์กรต่างๆ ซึ่งปัจจุบัน มีการให้บริการออนไลน์ โดยผู้ใช้สามารถเข้าไปสืบค้นได้ผ่านอินเทอร์ เทอร์เน็ต
เว็บไซต์ฐำนข้อมูลออนไลน์ที่น่ำสนใจ เว็บไซต์แนะน�ำ เว็บไซต์ฐำนข้อมูล http://thesis.stks.or.th ออนไลน์ www.ttc.most.go.th www.journallink.or.th
รำยละเอียด ฐำนข้อมูลวิทยำนิพนธ์ไทยออนไลน์ให้บริกำร ค้นหำวิทยำนิพนธ์ เว็บไซต์ส�ำนักงำนส่งเสริมและถ่ำยทอด เทคโนโลยีให้บริกำรสืบค้นข้อมูลเทคโนโลยี ฐำนข้อมูลส�ำหรับบ่งชีแ้ หล่งวำรสำรในประเทศไทย โดยสำมำรถเชือ่ มโยงไปยังวำรสำรทีใ่ ห้บริกำรบน อินเทอร์เน็ตได้ 27
คูมือครู
27
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
อธิบายความรู 1. นักเรียนสํารวจคนหาเว็บไซต ประเภท E-Learning มาคนละ 5 เว็บไซต พรอมทั้งเขียนอธิบาย วาแตละเว็บไซตเปน E-Learning ประเภทใด 2. ครูกําหนดเว็บไซตประเภท วิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ใหนักเรียนเขาไปสืบคนขอมูล จากนั้นนํารายละเอียดของ เว็บไซตเหลานั้นมาอธิบายให ครูฟง 3. นักเรียนรวมกันอภิปรายถึง เว็บไซตประเภท E-Learning และ เว็บไซตประเภท วิทยาศาสตร และเทคโนโลยี แลวสรุปผล การอภิปรายสงครูผูสอน
4.3 การเรียนรู้ผ่านเว็บไซต์ (E-Learning) เป็นเว็บไซต์ส�าหรับการเรียนรู้ผ่านอินเทอร์เน็ต หรือ E-Learning ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่มีความ สนใจ นักเรียน นักศึกษา สามารถศึกษาเรียนรู้ได้ทุกสถานที่ ทุกเวลา
เว็บไซต์กำรเรียนรู้ที่น่ำสนใจ เว็บไซต์แนะน�ำ เว็บไซต์กำรเรียนรู้ www.learn.in.th (E-Learning)
www.ipst.ac.th www.thaicyberu.go.th
รำยละเอียด เว็บไซต์สถำบันพัฒนำวิชำชีพให้บริกำรฝกอบรม ระยะสั้น ผ่ำนเครือข่ำยอินเทอร์เน็ต (E-learning) ส�ำหรับผู้ประกอบกำรภำคอุตสำหกรรม นักวิจัย อำจำรย์ นักเรียน นักศึกษำ และผู้ที่ สนใจ สถำบั น ส่ ง เสริ ม กำรสอนวิ ท ยำศำสตร์ แ ละ เทคโนโลยี (สสวท.) ให้บริกำรกำรเรียนบทเรียน ออนไลน์เฉพำะวิชำวิทยำศำสตร์และคณิตศำสตร์ เว็ บ ไซต์ โ ครงกำรมหำวิ ท ยำลั ย ไซเบอร์ ไ ทย ส� ำ นั ก งำนคณะกรรมกำรกำรอุ ด มศึ ก ษำ ให้บริกำรบทเรียนออนไลน์
4.4 เว็บไซต์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นเว็บไซต์ที่น�าเสนอข้อมูลทางด้านวิทยาศาสตร์ ตั้งแต่การศึกษา งานวิจัย ผลงาน ความรู้ ทางด้าน ฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา รวมทั้งสิ่งประดิษฐ์ทางด้านเทคโ นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ล�้าสมัย
เว็บไซต์วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยีที่น่ำสนใจ เว็บไซต์แนะน�ำ เว็บไซต์วิทยำศำสตร์ www.nectec.or.th และเทคโนโลยี www.most.go.th
28
28
คูมือครู
รำยละเอียด เว็ บ ไซต์ ศู น ย์ เ ทคโนโลยี อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ แ ละ คอมพิวเตอร์แห่งชำติ (NECTEC) ให้บริกำร ควำมรู้ งำนวิจัย และเอกสำรด้ำนเทคโนโลยี สำรสนเทศ เว็บไซต์กระทรวงวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี ให้บริกำรสืบค้นข้อมูลจำกฐำนข้อมูลทำงด้ำน วิทยำศำสตร์ บริกำรบทเรียนออนไลน์
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Expand
Evaluate
อธิบายความรู
4.5 เว็บไซต์พัฒนาเว็บเพจ เป็นเว็บไซต์เกีย่ วกับการพัฒนาเว็บเพจด้วยภาษาต่างๆ เครือ่ งมือต่างๆ และการประชาสัมพันธ์ เว็บไซต์
เว็บไซต์พัฒนำเว็บเพจที่น่ำสนใจ เว็บไซต์แนะน�ำ เว็บไซต์พัฒนำ เว็บเพจ
www.dwthai.com www.webthaidd.com www.cmsthailand.com www.developer.com www.thaiall.com
รำยละเอียด
ขยายความเขาใจ
เว็บไซต์สอนภำษำที่ใช้พัฒนำเว็บไซต์ ได้แก่ ASP และ PHP รวมทั้งเทคนิคต่ำงๆ ส�ำหรับ กำรพัฒนำเว็บไซต์ เว็บไซต์สอนกำรใช้โปรแกรมต่ำงๆ ที่เกี่ยวข้อง ในกำรสร้ำงเว็บไซต์และภำษำส�ำหรับพัฒนำ เว็บไซต์ เว็ บ ไซต์ ที่ ใ ห้ บ ริ ก ำรข้ อ มู ล เกี่ ย วกั บ เว็ บ ไซต์ ส�ำเร็จรูป (Content Management System : CMS) เว็บไซต์ให้ผู้ใช้ดำวน์โหลด Source Code ส�ำหรับพัฒนำเว็บไซต์ เว็บไซต์สอนกำรใช้ภำษำ PHP ในกำรสร้ำง เว็บเพจ โดยเป็นบทเรียนต่อเนื่องพร้อมทั้ง Source Code
นักเรียนจัดประชุมกลุมยอย เพื่อ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเว็บไซต อื่นๆ ที่เปนประโยชนตอการพัฒนา โครงงานคอมพิวเตอร จากนั้นบันทึก ขอสรุปลงในกระดาษ A4 นําสงครู และสงตัวแทนออกมารายงานหนา ชั้นเรียน
ตรวจสอบผล ครูตรวจสอบความเขาใจของ นักเรียนจากการเขียนบันทึกขอสรุป จากการประชุมกลุมยอยเกีี่ยวกับ เว็บไซตอื่นๆ ที่เปนประโยชนตอ การคนหาโครงงานคอมพิวเตอร
4.6 เว็บไซต์สอนภาษา Visual Basic
เป็นเว็บไซต์สอนภาษา Visual Basic ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานจนถึงระดับสูง
เว็บไซต์สอนภำษำที่น่ำสนใจ เว็บไซต์แนะน�ำ เว็บไซต์สอนภำษำ www.thaiio.com/vbprogram.htm Visual Basic www.thaiall.com/vb/indexo.html
นักเรียนนําผลการสํารวจคนหา เว็บไซตพัฒนาเว็บเพจ เเละเว็บไซต สอนภาษา มาแสดงหนาชั้นเรียน พรอมทั้งอธิบายประกอบวาแตละ เว็บไซตมีคุณสมบัติและมีประโยชน ตอการทํางานอยางไร
@
รำยละเอียด
มุม IT
ศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับโปรแกรม Visual Basic ไดที่ http://www.lks.ac.th
เว็บไซต์สอนเขียนภำษำ Visual Basic ตั้งแต่ พื้นฐำนจนถึงกำรเชื่อมต่อกับฮำร์ดแวร์ และ เทคนิคกำรเขียนโปรแกรม เว็บไซต์สอนเขียนภำษำ Visual Basic พร้อมทัง้ ตัวอย่ำงโปรแกรมเพื่อเป็นกรณีศึกษำ 29
คูมือครู
29
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
อธิบายความรู 1. ครูกําหนดใหนักเรียนสืบคนขอมูล ตางๆ จากอินเทอรเน็ต แลวให นักเรียนเขียนบรรณานุกรมตาม หลักการใหถูกตอง 2. ครูใหนักเรียนอธิบายถึงประโยชน และความสําคัญของการอางอิง ขอมูลทางอิเล็กทรอนิกส @
5. รูปแบบการอ้างอิงแหล่งข้อมูลในอินเทอร์เน็ต การอ้างอิงถึงแหล่งข้อมูลในอินเทอร์เน็ตมีข้อควรพิจารณาหลายประการ เช่น ความ น่าเชื่อถือของผู้เขียนบทความ หน่วยงานหรือสถาบันที่รับผิดชอบและแหล่งข้อมูลนั้น ปัญหา ของแหล่งข้อมูลในอินเทอร์เน็ตที่เป็นที่วิตก คือความไม่มั่นใจว่าเนื้อหาของบทความที่น�าเสนอ ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานใดหรือไม่ มีหน่วยงานใดรับผิดชอบความถูกต้องของเนื้อหา เช่นเดียวกับการพิจารณาบทความจากวารสารหรือสิ่งพิมพ์ทั่วไป จ�าเป็นจะต้องวิเคราะห์ความ น่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูลที่น�ามาอ้างถึง ซึ่งการอ้างอิงถึงแหล่งที่มาของข้อมูลเป็นการบอกให้ ทราบถึงแหล่งที่มาของข้อมูลเป็นส�าคัญ รูปแบบการอ้างอิงแหล่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์มีหลายรูปแบบ ได้แก่ MLA Style APA Style Anthropologh Style WEAPAS Style และ Melvin Page Style ซึ่งในที่นี้จะขอน�าเสนอ รูปแบบการอ้างอิงของ Melvin Page Style เป็นรูปแบบการอ้างอิงข้อมูลออนไลน์ที่เป็นที่นิยม แพร่หลายวิธีหนึ่ง ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
มุม IT
ศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับรูปแบบการอางอิงขอมูล ทางอิเล็กทรอนิกส ไดที่ http:// www.panyathai.or.th.
องค์ประกอบหลักของรายการบรรณานุกรมแหล่งข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ได้แก่
30
30
คูมือครู
1
ชื่อผู้เขียน [Author]
2
ที่อยู่ของผู้เขียนในอินเทอร์เน็ต (ถ้ำมี) [E-mail Address]
3
ชื่อบทควำม บทคว [Title]
4
ชื่อเรื่องหลัก [Title of Complete Work]
5
ที่อยู่ที่ใช้สืบค้นในอินเทอร์เน็ต [Internet Address]
6
วัน เดือน ปี ที่เผยแพร่หรือวัน เดือน ปี ที่ท�ำกำรสืบค้น (ถ้ำมี) [Date]
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
Engage
Explore
Explain
ขยายความเขาใจ Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
ขยายความเขาใจ นักเรียนเขียนรายการบรรณานุกรม จากขอมูลที่หาไดจากเว็บไซต โดย เขียนลงในกระดาษ A4 สงครูผูสอน
ตัวอย่าง รูปแบบการอ้างอิง ● ( ภำษำไทย) ชื่อผู้เขียน. [ที่อยู่ของผู้เขียนในอินเทอร์เน็ต (ถ้ำมี)]. “ชื่อบทควำม” ใน “ชื่อเรื่อง หลัก” [ที่อยู่ของอินเทอร์เน็ต]. ปีที่พิมพ์ (ถ้ำมี) ● (ภำษำอังกฤษ) Author’s Last Name, First Name. [author’s internet address, if available]. “Title of word of title line of message.” In “Title of Complete Work” or Title of list/site as appropriate. [internet address]. Date, if available.
NET ขอสอบ ป 52 ขอสอบออกเกี่ยวกับการทํา รายงาน โดยถามวา ขอใดคือวิธีทํา รายงานโดยคนควาขอมูลจาก อินเทอรเน็ตที่ถูกตอง 1. คนหาบทความในอินเทอรเน็ต โดยใช search engine แลว คัดลอกมาเปนรายงาน 2. คนขอมูลที่เกี่ยวของโดยใช search engine แลวคัดลอก มาเปนรายงานพรอมอางอิง เอกสารตนฉบับ 3. คนขอมูลเพื่อทํารายงานโดยใช search engine แลวคัดลอก มาเปนรายงานพรอมอางอิง search engine 4. คนหาบทความในอินเทอรเน็ต โดยใช search engine แลว อานสรุปใจความรายงาน พรอมอางอิงเอกสารตนฉบับ (วิเคราะหหาคําตอบ เมื่อพิจารณา จากคําตอบจะพบวาการคนควา ขอมูลจากอินเทอรเน็ต เพื่อทํา รายงานจะตองมีการอานสรุป ใจความ พรอมทั้งมีการอางอิง แหลงที่มาอยางชัดเจน คําตอบ ที่ถูกตองคือ ขอ 4)
ตัวอย่าง การอ้างอิงแหล่งข้อมูลใน World Wide Web ● L imb, Peter. “Relationships between labour & African Nationalilst/Liberation Movements in Southern Africa.” [http://Meal.ctstateu.edu/history/world - history/worldhistory/archives/limb - l.html]. May 1992. ● Hughes,Helen. “Perspectives Perspectives for An Integrating World Economy : Implications for [http://www.iseas.ac.sg/econ.html]. 1996. Perform and Development.” [http://www.iseas.ac.sg/econ.html
สรุป
าคัญอย่างยิ่ง อินเทอร์เน็ตถือว่าเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีความส�าคั ในปัจจุบัน แต่การที่อินเทอร์เน็ตมีข้อมูลอยู่เป็นจ�านวนมาก และ การรู้จักใช้ search engine รวมทั search engine รวมทั้งมีเทคนิควิธีการ มีหลายภาษา การรู ที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยท�าให้สามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการ ได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย ตรงกับวัตถุประสงค์ นอกจากนี้ยังมี เว็บไซต์ที่เราควรท�าความรู้จักเพื่อประโยชน์ในการท�าโครงงาน ชิ้นงาน หรือศึกษาวิชาต่างๆ ส�าหรับข้อมูลจากเว็บไซต์เมื่อเรามา ใช้ประโยชน์ ควรอ้างอิงแหล่งที่มาไว้ด้วย
31
คูมือครู
31
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
Engage
Explore
Explain
ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Expand
Evaluate
(ยอจากฉบับนักเรียน 20%)
ขยายความเขาใจ 1.ครูใหนักเรียนตอบคําถามใน กิจกรรมสรางสรรคพัฒนาการ เรียนรูในใบมอบหมายงาน (แนวตอบ 1. โดยทั่วไป เสิรชเอนจิน แบงออก เปน 3 ประเภท ไดแก • Crawler Based Search Engines เปนเครื่องมือในการ คนหา ที่อาศัยการบันทึกและ จัดเก็บขอมูลเปนหลัก • Web Directory มีลักษณะที่ เปนสารบัญเว็บไซต ที่มีดัชนี และการแยกหมวดหมูของ เนื้อหาในเว็บไซตอยางชัดเจน • Meta Search Engine ซึ่ง เปนการคนหาเว็บไซตใน ขั้นสูง 2. คําสําคัญที่ใชเขามาเชื่อม คือ AND OR NOT 3. สิ่งที่เราควรพิจารณาถึงความ นาเชื่อถือของสารสนเทศ ไดแก ชื่อผูแตง องคกร หนวยงานหรือ สถาบันที่เปนเจาของขอมูล และ อายุปของขอมูล 4. เว็บไซต Google มีความ สามารถในการคนหาที่ หลากหลาย ไมวาจะเปน เว็บไซต รูปภาพ แผนที่ เปนตน) 2. ใหนักเรียนรวมกลุมทํากิจกรรมใน ตอนที่ 2
กิจกรรม สร้างสรรค์พัฒนาการเรียนรู้ ใบมอบหมายงาน เรื่อง การค้นหาข้อมูลสารสนเทศ ตอนที่ 1 ให้นักเรียนตอบค�าถามประจ�าหน่วยการเรียนรู้ต่อไปนี้ 1 2 3 4 5
ตอนที่ 2 ให้นักเรียนปฏิบัติตามค ามค�าสั่งต่อไปนี้
ตรวจสอบผล 1. ครูตรวจสอบความรูความเขาใจ ของนักเรียนจากการเขียน บรรณานุกรม ขอมูลเว็บไซต ของนักเรียน 2. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมการคิด โดยการตั้งคําถาม แลวสุมถาม นักเรียน เรื่องการคนหาขอมูล สารสนเทศที่นักเรียนไดศึกษา มาแลว
32
คูมือครู
search engine มีกี่ประเภท อะไรบ้าง จงอธิบายแต่ละประเภทพร้อมยกตัวอย่างมาพอสังเขป ในการใช้ตรรกบูลีน (Boolean logic) มีการใช้ค�าใดเข้ามาเชื่อมเพื่อการสืบค้นข้อมูลต่างๆ เกณฑ์การประเมินสารสนเทศว่ามีความน่าเชื่อถือได้หรือไม่ มีอะไรบ้าง จงเลือกอธิบายมา 3 เกณฑ์ Google มีความสามารถหลักในการค้นหาข้อมูลประเภทใดบ้าง จงอธิบาย จงยกตัวอย่างการอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลจากเว็บไซต์มาา 1 แบบ
1
ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ กลุ่มละ ละ 3 คน เลื 3 คน เลือกก Keyword search engine เพี Keyword search ยง 1 search engine พร้อมทั้งสาธิตการใช้งาน าน ทัทั้งนี้ให้ทุกกลุ่มทดลองค้นค�าว่า “พลังงาน” และเปรียบเทียบจ�านวน รายการผลลัพธ์ และความถูกต้องของข้อมูลที่ได้รับ โดยจัดท�าเป็นโปสเตอร์เผยแพร่ความรู้ อน และจั เรื่องเสิร์ชเอนจินส่งครูผู้สอน และจัดท�าเป็นป้ายนิเทศเผยแพร่ความรู้แก่นักเรียนในโรงเรียน
2
ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ กลุ่มละ 5 คน เลื ละ อก Meta search engine เพียง 1 เสิร์ชเอนจิน ทดลอง พลังงาน และเปรียบเทียบจ�านวนรายการผลลัพธ์ และความถูกต้องของข้อมูลที่ได้รับ ค้นค�าว่า พลั งาน และเปรี แล้วสรุปเป็นรายงานส่งครูผู้สอน จากกิจกรรมที่ 11 แล้
3
ให้นักเรียนร่วมกันจัดท�าแบบส�ารวจของโรงเรียนว่านักเรียนส่วนใหญ่นิยมใช้ search engine ประเภทใดใน 3 ประเภท ได้แก่ Keyword search engine Meta search engine และ Subject directory ในการค้นหาข้อมูล จากนั้นน�าเสนอผลส�ารวจเป็นรูปแผนผัง แผนภูมิ แล้วน�าไป แสดงที่ป้ายนิเทศ
32
หลักฐาน แสดงผลการเรียนรู งานเขียนรายการบรรณานุกรม ขอมูล การสืบคนจากเว็บไซต