คูมือครู 㪌»ÃСͺ¡ÒÃÊ͹ËÇÁ¡Ñº
˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ©ºÑº »ÃСѹÏ
หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน
ดนตรี -นาฏศิลป ชั้นประถมศึกษาปที่ ๒
กลุมสาระการเรียนรูศิลปะ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ประทีป นักป
ศศิธร นักป
ภาพปกนี้มีขนาดเทากับหนังสือเรียนฉบับจริงของนักเรียน
กระบวนการสอนแบบ 5 Es ชวยสรางทักษะการเรียนรู กิจกรรมมุงพัฒนาทักษะการคิด คำถาม + แนวขอสอบเพื่อยกผลสัมฤทธิ์ O - NET กิจกรรมบูรณาการเตรียมพรอมสู ASEAN 2558
เอกสารประกอบคูมือครู
กลุมสาระการเรียนรู ศิลปะ
ดนตรี-นาฏศิลป ชั้นประถมศึกษาปที่
2
สําหรับครู
คูมือครู Version ใหม
ลักษณะเดน
ขยายพื้นที่รูปเลมใหญขึ้นกวาเดิม จัดแบงพื้นที่ออกเปนโซน เพื่อคนหาขอมูลไดงาย สะดวก รวดเร็ว และดูเปนระเบียบ กระตุน ความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
กระตุน ความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
เปาหมายการเรียนรู สมรรถนะของผูเรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค
หน า
โซน 1 กระตุน ความสนใจ
Engage
สํารวจคนหา
Explore
อธิบายความรู
Explain
ขยายความเขาใจ
Expand
ตรวจสอบผล
หน า
หนั ง สื อ เรี ย น
โซน 1
หนั ง สื อ เรี ย น
Evaluate
ขอสอบเนน การคิด ขอสอบเนน การคิด แนว NT แนว O-NET
O-NET บูรณาการเชื่อมสาระ
เกร็ดแนะครู
ขอสอบ
โซน 2
โซน 3
กิจกรรมสรางเสริม กิจกรรมทาทาย
นักเรียนควรรู
โซน 3
โซน 2 บูรณาการอาเซียน มุม IT
No.
คูมือครู
คูมือครู
No.
โซน 1 ขั้นตอนการสอนแบบ 5Es
โซน 2 ชวยครูเตรียมสอน
โซน 3 ชวยครูเตรียมนักเรียน
เพื่อใหครูเตรียมจัดกิจกรรมการเรียน การสอน โดยแนะนําขั้นตอนการสอนและ การจัดกิจกรรมแบบ 5Es อยางละเอียด เพื่อใหนักเรียนบรรลุตามตัวชี้วัด
เพื่อชวยลดภาระครูผูสอน โดยแนะนํา เกร็ดความรูสําหรับครู ความรูเสริมสําหรับ นักเรียน รวมทั้งบูรณาการความรูสูอาเซียน และมุม IT
เพือ่ ใหครูสะดวกตอการจัดกิจกรรม โดยแนะนํา กิจกรรมบูรณาการเชื่อมระหวางกลุมสาระ วิชา กิจกรรมสรางเสริม กิจกรรมทาทาย รวมถึงเนือ้ หา ที่เคยออกขอสอบ O-NET เก็งขอสอบ O-NET และแนวขอสอบเนนการคิด พรอมคําอธิบาย และเฉลยอยางละเอียด
ที่ใชในคูมือครู
แถบสีและสัญลักษณ
แถบสีแสดงขั้นตอนการสอนและการจัดกิจกรรม แบบ 5Es เพื่อใหครูทราบวาเปนขั้นการสอนขั้นใด
1. แถบสี 5Es สีแดง
สีเขียว
กระตุน ความสนใจ
เสร�ม
สํารวจคนหา
Engage
2
•
เปนขั้นที่ผูสอนเลือกใช เทคนิคกระตุน ความสนใจ เพื่อโยง เขาสูบทเรียน
สีสม
อธิบายความรู
Explore
•
เปนขั้นที่ผูสอน ใหผูเรียนสํารวจ ปญหา และศึกษา ขอมูล
สีฟา
Explain
•
เปนขั้นที่ผูสอน ใหผูเรียนคนหา คําตอบ จนเกิดความรู เชิงประจักษ
สีมวง
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
•
Evaluate
เปนขั้นที่ผูสอน ใหผูเรียนนําความรู ไปคิดคนตอๆ ไป
•
เปนขั้นที่ผูสอน ประเมินมโนทัศน ของผูเรียน
2. สัญลักษณ สัญลักษณ
วัตถุประสงค
• เปาหมายการเรียนรู
O-NET
(เฉพาะวิชา ชัน้ ทีส่ อบ O-NET O-NET)
• ชีแ้ นะเนือ้ หาทีเ่ คยออกขอสอบ
O-NET โดยยกตัวอยางขอสอบ พรอมวิเคราะหคาํ ตอบ อยางละเอียด
• เปนตัวอยางขอสอบทีม่ งุ เนน
การคิดใหครูนาํ ไปใชไดจริง รวมถึงเปนการเก็งขอสอบ O-NET ทีจ่ ะออก มีทงั้ ปรนัย - อัตนัย พรอมเฉลยอยางละเอียด
แสดงรองรอยหลักฐานตามภาระงาน ที่ครูมอบหมาย เพื่อแสดงผลการเรียนรู ตามตัวชี้วัด
ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET
•
แทรกความรูเสริมสําหรับครู ขอเสนอแนะ ขอควรระวัง ขอสังเกต แนวทางการจัด กิจกรรมและอืน่ ๆ เพื่อประโยชนในการ จัดการเรียนการสอน
ขอสอบเนน การคิด แนว NT
•
ขยายความรูเพิ่มเติมจากเนื้อหา เพื่อใหครู นําไปใชอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียน ไดมีความรูมากขึ้น
บูรณาการเชื่อมสาระ
• แนะนําแนวทางการจัดกิจกรรม
•
ความรูห รือกิจกรรมเสริม ใหครูนาํ ไปใช เตรียมความพรอมใหกบั นักเรียนกอนเขาสู ประชาคมอาเซียน 2558 โดยบูรณาการ กับวิชาทีก่ าํ ลังเรียน
กิจกรรมสรางเสริม
• แนะนําแนวทางการจัดกิจกรรม
เกร็ดแนะครู
นักเรียนควรรู
บูรณาการอาเซียน
•
คูม อื ครู
ขอสอบ
วัตถุประสงค
• หลักฐานแสดงผล การเรียนรู
มุม IT
แสดงเปาหมายการเรียนรูที่นักเรียน ตองบรรลุตามตัวชี้วัด ตลอดจนสมรรถนะ ที่จะตองมี และคุณลักษณะที่พึงเกิดขึ้น กับนักเรียน
สัญลักษณ
แนะนําแหลงคนควาจากเว็บไซต เพื่อใหครู และนักเรียนไดเขาถึงขอมูลความรู ที่หลากหลาย ทั้งไทยและตางประเทศ
• แนวขอสอบ NT ในระดับ
ประถมศึกษา มีทงั้ ปรนัย - อัตนัย พรอมเฉลยอยางละเอียด
(เฉพาะวิชา ชัน้ ทีส่ อบ NT)
กิจกรรมทาทาย
เชือ่ มกับกลุม สาระ ชัน้ หรือวิชาอืน่ ทีเ่ กีย่ วของ
ซอมเสริมสําหรับนักเรียน ทีย่ งั ไมเขาใจเนือ้ หา
• แนะนําแนวทางการจัดกิจกรรม ตอยอดสําหรับนักเรียนทีเ่ รียนรู เนือ้ หาไดอยางรวดเร็ว และ ตองการทาทายความสามารถ ในระดับทีส่ งู ขึน้
คําแนะนําการใชคูมือครู การออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอน คูมือครู รายวิชา ดนตรี-นาฏศิลป ป.2 จัดทําขึ้นเพื่อใหครูผูสอนนําไปใชเปนแนวทางวางแผนการสอนเพื่อพัฒนา ผลสัมฤทธิท์ างการเรียน และประกันคุณภาพผูเ รียน ตามนโยบายของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน (สพฐ.) โดยใชหนังสือเรียน ดนตรี-นาฏศิลป ป.2 ของบริษัท อักษรเจริญทัศน อจท. จํากัด เปนสื่อหลัก (Core Material) ประกอบ เสร�ม การสอนและการจัดกิจกรรมการเรียนรูใหสอดคลองกับมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดกลุมสาระการเรียนรู ศิลปะ 3 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พ.ศ. 2551 โดยออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนตามหลักการสําคัญ ดังนี้ 1 ออกแบบการสอนเปนหนวยการเรียนรูอิงมาตรฐาน คูม อื ครู รายวิชา ดนตรี-นาฏศิลป ป.2 วางแผนการสอนโดยแบงเปนหนวยการเรียนรูต ามลําดับสาระ (Standard) และ หมายเลขขอของมาตรฐานการเรียนรูแ ละตัวชีว้ ดั แตละหนวยจะกําหนดเปาหมายการสอนและจุดประสงคการเรียนรู (Objective Learning) กิจกรรมการเรียนรู (Learning Activities) และแนวทางการประเมินผลการเรียนรู (Learning Evaluation) ไวชัดเจน ครูผูสอนสามารถจัดทําแผนการสอนใหครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรู ตัวชี้วัด สมรรถนะ และคุณลักษณะ อันพึงประสงคที่เปนเปาหมายการเรียนรูตามที่กําหนดไวในสาระแ นสาระแกนกลาง (ตามแผนภูมิ) และสามารถบันทึกผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนของผูเรียนแตละคนลงในเอกสาร ปพ.5 ไดอยางมั่นใจ แผนภูมิแสดงองคประกอบของการออกแบบการเรียนรูอิงมาตรฐานและเนนผผูเรียนเปนสําคัญ
า
พผ
ูเ
จุดปร
ะสง
ค ก
ส ภา
รียน
ร
รู ีเรยน
มาตรฐานการเรียนรู ตัวชี้วัดชั้นป
ทักษะการคิด การวัดประเมินผล การเรียนรู
กิจกรรมการเรียนรู
เทคนิคการสอน
คูม อื ครู
2 การจัดการเรียนรูที่ยึดผูเรียนเปนสําคัญ แนวคิ ด ในการจั ด การเรี ย นการสอนที่ ยึ ด ผู เ รี ย นเป น สํ า คั ญ พั ฒ นามาจากปรั ช ญาและทฤษฎี ก ารเรี ย นรู Constructivism ที่เชื่อวาการเรียนรูเปนกระบวนการที่เกิดขึ้นภายในสมองของผูเรียนแตละคน ผูเรียนเปนผูสรางความรู โดยการเชื่อมโยงระหวางสิ่งที่ไดเรียนรูจากบทเรียนใหมกับความรูหรือประสบการณเดิมที่มีอยู ทฤษฎีนี้มีความเชื่อวา ผูเรียนทุกคนไดเรียนรูและมีการสั่งสมความรูความเขาใจเกี่ยวกับสิ่งตางๆ ติดตัวมากอน ทีจ่ ะเขาสูห อ งเรียน ซึง่ เปนการเรียนรูท เี่ กิดจากประสบการณและสิง่ แวดลอมรอบตัวผูเ รียนแตละคน ดังนัน้ การจัดกิจกรรม เสร�ม การเรียนการสอนในแตละหนวยการเรียนรู ผูสอนจะตองคํานึงถึง
4
1. ความรูเดิมของผูเรียน วิธีการสอนที่ดีจะตองเริ่มตนจากจุดที่วา ผูเ รียนมีความรูอ ะไรมาบาง แลวจึงใหความรู หรือประสบการณใหม เพื่อตอยอดจาก ความรูเดิม นําไปสูการสรางความรู ความเขาใจใหม
2. ความรูเดิมของผูเรียนถูกตองหรือไม ผูส อนตองปรับเปลีย่ นความรูค วามเขาใจเดิม ของผูเรียนใหถูกตอง และเปนพฤติกรรม การเรียนรูใ หมทมี่ คี ณุ คาตอผูเรียน เพื่อสราง เจตคติหรือทัศนคติที่ดีตอการเรียนรู สิ่งเหลานั้น
3. ผูเรียนสรางความหมายสําหรับตนเอง ผูสอนตองสงเสริมใหผูเรียนนําความรู ความเขาใจที่เกิดขึ้นไปลงมือปฏิบัติ เพื่อขยายความรูใหลึกซึ้งและมีคุณคา ตอตัวผูเรียนมากที่สุด
แนวคิด Constructivism เนนใหผูเรียนสรางความรูโดยผานกระบวนการคิดและความอยากรูของตนเอง โดยมีผูสอนเปนผูสรางบรรยากาศ
การเรียนรูและกระตุนความสนใจ คอยจัดสถานการณใหผูเรียนเกิดความขัดแยงทางความคิดระหวางประสบการณเดิมกับประสบการณ ความรูใ หม เพือ่ กระตนุ ใหผเู รียนเชือ่ มโยงความรู ความคิด กับประสบการณทมี่ อี ยูเ ดิม แลวสังเคราะหเปนความรูห รือแนวคิดใหมๆ ไดดว ยตนเอง
3 การบูรณาการกระบวนการคิด การเรียนรูของผูเรียนแตละคนจะเกิดขึ้นที่สมอง ซึ่งเปนอวัยวะที่ทําหนาที่รูคิดภายใตสภาพแวดลอมที่เอื้ออํานวย และไดรบั การกระตนุ จูงใจอยางเหมาะสม สอดคลองกับสภาพจิตใจและความตองการของผูเ รียนแตละคน การจัดกิจกรรม การเรียนรูและสาระการเรียนรูที่สอดคลองกับความสนใจและมีความหมายตอผูเรียน จะชวยกระตุนใหสมองของผูเรียน สามารถรับรูและเรียนรูไดอยางมีประสิทธิภาพตามขั้นตอนการทํางงานของสมอง ดังนี้ 1. สมองจะเรียนรูและสืบคน โดยการสังเกต คนหา ซักถาม และทดลอง ปฏิบัติ จนทําใหคนพบความรูความเขาใจ ไดอยางรวดเร็ว
2. สมองจะแยกแยะคุณคาของสิ่งตางๆ โดยการตัดสินใจวิพากษวิจารณ แสดง ความคิดเห็น ยอมรับหรือตอตานตาม อารมณความรูสึกที่เกิดขึ้นในขณะที่เรียนรู
3. สมองจะประมวลเนื้อหาสาระ โดยการสรุปเปนความคิดรวบยอดจาก เรื่องราวที่ไดเรียนรูใหมนําไปผสมผสานกับ ความรูห รือประสบการณเดิมทีถ่ กู จัดเก็บอยูใ น สมอง ผานการกลัน่ กรองเพือ่ สังเคราะหเปน ความรูค วามเขาใจใหมๆ หรือเปนทัศนคติใหม ที่จะเก็บบรรจุไวในสมองของผูเรียน
การเรียนรูที่มีประสิทธิภาพจึงตองเปนการเรียนรูที่เกิดจากกระบวนการคิดของผูเรียน เพราะการเรียนรูจะเกิดขึ้น เมื่อสมองรูคิด และตองเปนการคิดไดครบถวนตามขั้นตอนการทํางานของสมองผูเรียน โดยเริ่มตนจาก 1. ระดับการคิดพื้นฐาน ไดแก การสังเกต การจําแนก การคาดคะเน การสื่อความหมาย การรวบรวมขอมูล การสรุปผล เปนตน
คูม อื ครู
2. ระดับลักษณะการคิด ไดแก การคิดกวาง คิดลึกซึ้ง คิดไกล คิดหลากหลาย คิดคลอง คิดอยางมีเหตุผล เปนตน
3. ระดับกระบวนการคิด ไดแก กระบวนการคิดอยางมีวิจารณญาณ กระบวนการแกปญหา กระบวนการ คิดสรางสรรค กระบวนการคิดสังเคราะหวิจัย เปนตน
5Es การจัดกิจกรรมตามขั้นตอนวัฏจักรการเรียนรู 5Es ขั้นตอนการสอนที่สัมพันธกับขั้นตอนการคิดและการทํางานทางสมองของผูเรียนที่นิยมใชอยางแพรหลาย คือ วัฏจักรการเรียนรู 5Es ซึ่งผูจัดทําคูมือครูไดนํามาใชเปนแนวทางออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนในแตละหนวย ตามลําดับขั้นตอนการเรียนรู ดังนี้ ขั้นที่ 1
กระตุนความสนใจ
(Engage)
เสร�ม
5
เปนขัน้ ทีผ่ สู อนนําเขาสูบ ทเรียน เพือ่ กระตุน ความสนใจของผูเ รียนดวยเรือ่ งราวหรือเหตุการณทนี่ า สนใจโดยใชเทคนิควิธกี ารสอน และคําถามทบทวนความรูหรือประสบการณเดิมของผูเรียน เพื่อเชื่อมโยงผูเรียนเขาสูความรูของบทเรียนใหม ชวยใหผูเรียนสามารถ สรุปประเด็นสําคัญที่เปนหัวขอและสาระการเรียนรูของบทเรียนได จึงเปนขั้นตอนการสอนที่สําคัญ เพราะเปนการเตรียมความพรอม และสรางแรงจูงใจใฝเรียนรูแกผูเรียน
ขั้นที่ 2
สํารวจคนหา
(Explore)
เปนขัน้ ทีผ่ สู อนเปดโอกาสใหผเู รียนลงมือศึกษา สังเกต หรือรวมมือกันสํารวจ เพือ่ ใหเห็นขอบขายของปญหา รวมถึงวิธกี ารศึกษา คนควา การรวบรวมขอมูลความรูที่จะนําไปสูการสรางความเขาใจประเด็นปญหานั้นๆ เมื่อผูเรียนทําความเขาใจในประเด็นหัวขอที่จะ ศึกษาคนควาอยางถองแทแลว ก็ลงมือปฏิบัติเพื่อเก็บรวบรวมขอมูลความรู สํารวจตรวจสอบ โดยวิธีการตางๆ เชน สัมภาษณ ทดลอง อานคนควาขอมูลจากเอกสาร แหลงขอมูลตางๆ จนไดขอมูลความรูตามที่ตั้งประเด็นศึกษาไว
ขั้นที่ 3
อธิบายความรู
(Explain)
เปนขั้นที่ผูสอนมีปฏิสัมพันธกับผูเรียน เชน ใหการแนะนํา ตั้งคําถามกระตุนใหคิด เพื่อใหผูเรียนคนหาคําตอบ และนําขอมูล ความรูจากการศึกษาคนควาในขั้นที่ 2 มาวิเคราะห สรุปผล และนําเสนอผลที่ไดศึกษาคนความาในรูปแบบสารสนเทศตางๆ เชน เขียนแผนภูมิ แผนผังแสดงมโนทัศน เขียนความเรียง เขียนรายงาน เปนตน ในขั้นตอนนี้ฝกใหผูเรียนใชสมองคิดวิเคราะหและ สังเคราะหอยางเปนระบบ
ขั้นที่ 4
ขยายความเขาใจ
(Expand)
เปนขั้นที่ผูสอนเลือกใชเทคนิควิธีการสอนตางๆ ที่สงเสริมใหผูเรียนนําความรูที่เกิดขึ้นไปคิดคนสืบคนตอๆ ไป เพื่อพัฒนาทักษะ การเรียนรูและการทํางานรวมกันเปนกลุม ระดมสมองเพื่อคิดสรางสรรครวมกัน ผูเรียนสามารถนําความรูที่สรางขึ้นใหมไปเชื่อมโยง กับประสบการณเดิมโดยนําขอสรุปทีไ่ ดไปใชอธิบายเหตุการณตา งๆ หรือนําไปปฏิบตั ใิ นสถานการณใหมๆ ทีเ่ กีย่ วของกับชีวติ ประจําวัน ของตนเอง เพื่อขยายความรูความเขาใจใหกวางขวางยิ่งขึ้น ในขั้นตอนนี้ฝกสมองของผูเรียนใหสามารถคิดริเริ่มสรางสรรคอยางมี คุณภาพ เสริมสรางวิสัยทัศนใหกวางไกลออกไป
ขั้นที่ 5
ตรวจสอบผล
(Evaluate)
เปนขัน้ ทีผ่ สู อนประเมินมโนทัศนของผูเ รียน โดยตรวจสอบจากความคิดทีเ่ ปลีย่ นไปและความคิดรวบยอดทีเ่ กิดขึน้ ใหม ตรวจสอบ ทักษะ กระบวนการปฏิบัติ การแกปญหา การตอบคําถามรวบยอด และการเคารพความคิดหรือยอมรับเหตุผลของคนอื่น เพื่อการ สรางสรรคความรูร ว มกัน ผูเ รียนสามารถประเมินผลการเรียนรูข องตนเอง เพือ่ สรุปผลวามีความรูอ ะไรเพิม่ ขึน้ มาบาง เกิดความเขาใจ มากนอยเพียงใด และจะนําความรูเหลานั้นไปประยุกตใชในการเรียนรูเรื่องอื่นๆ ไดอยางไร ผูเรียนจะเกิดเจตคติและเห็นคุณคาของ ตนเองจากผลการเรียนรูที่เกิดขึ้น ซึ่งเปนการเรียนรูที่มีความสุขอยางแทจริง
การจัดกิจกรรมการเรียนรูตามขั้นตอนวัฏจักรการสรางความรูแบบ 5Es จึงเปนรูปแบบการเรียนการสอนที่เนน ผูเ รียนเปนสําคัญอยางแทจริง เพราะสงเสริมใหผเู รียนไดลงมือปฏิบตั ติ ามขัน้ ตอนของกระบวนการสรางความรูด ว ยตนเอง และฝกฝนใหใชกระบวนการคิดและกระบวนการกลุมอยางชํานาญ กอใหเกิดทักษะชีวิต ทักษะการทํางานและทักษะการ เรียนรูที่มีประสิทธิภาพ สงผลตอการยกระดับผลสัมฤทธิ์ของผูเรียน ตามเปาหมายของการปฏิรูปการศึกษาทศวรรษที่ 2 (พ.ศ. 2552-2561) ทุกประการ คูม อื ครู
O-NET การเพิ่มผลสัมฤทธิ์ O-NET
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามขั้นตอนวัฏจักรการเรียนรู 5Es ในแตละหนวยการเรียนรู ทางผูจัดทํา จะเสนอแนะวิธีสอนรูปแบบกิจกรรมการเรียนรู พรอมทั้งออกแบบเครื่องมือวัดผลประเมินผลที่สอดคลองกับตัวชี้วัด และสาระการเรียนรูแกนกลางไวทุกขั้นตอน โดยยึดหลักสําคัญ คือ เปาหมายของการวัดผลประเมินผล เสร�ม
6
1. การวัดผลทุกครั้งตองนําผล การวัดมาปรับปรุงพัฒนาผูเรียน เปนรายบุคคล
2. การประเมินผลมีเปาหมาย เพื่อพัฒนาการเรียนรูของผูเรียน จนเต็มศักยภาพ
3. การนําผลการวัดและประเมิน ทุกครั้งมาวางแผนปรับปรุงกิจกรรม การเรียนการสอน การเลือกเทคนิค วิธีการสอน และสื่อการเรียนรูให เหมาะสมกับสภาพจริงของผูเรียน
การทดสอบผูเรียน 1. การใชขอสอบอัตนัย เนนการอาน การคิดวิเคราะห และเขียนสรุปเพิ่มมากขึ้น 2. การใชคําถามกระตุนการคิด ควบคูกับการทําขอสอบที่เนนการคิดตลอดตอเนื่องตามลําดับกิจกรรมการเรียนรูและ ตัวชี้วัด 3. การทดสอบตองดําเนินการทั้งกอนเรียน ระหวางเรียน และเมื่อสิ้นสุดการเรียน การทดสอบระหวางเรียน ต อ งใช ข อ สอบทั้ ง ชนิ ด ปรนั ย และอั ต นั ย และเป น การทดสอบเพื่ อ วิ นิ จ ฉั ย ผลการเรี ย นของผู เ รี ย นแต ล ะคน เพื่อวัดการสอนซอมเสริมใหบรรลุตัวชี้วัดทุกตัว 4. การสอบกลางภาค (ถามี) ควรนําขอสอบหรือแบบฝกหัดที่นักเรียนสวนใหญทําผิดบอยๆ มาสรางเปนแบบทดสอบ อีกครัง้ เพือ่ ตรวจสอบความรูค วามเขาใจทีถ่ กู ตอง และประเมินความกาวหนาของผูเรียนแตละคน 5. การสอบปลายภาคเรียนเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามตัวชี้วัดที่สําคัญ ควรออกขอสอบใหมีลักษณะเดียวกับ ขอสอบ O-NET โดยเนนการคิดวิเคราะห สังเคราะห เชื่อมโยงประยุกตใช เพื่อสรางความคุนเคย และฝกฝน วิธีการทําขอสอบดวยความมั่นใจ 6. การนําผลการทดสอบของผูเรียนมาวิเคราะห โดยผลการสอบกอนการเรียนตองสามารถพยากรณผลการสอบ กลางภาค และผลการสอบกลางภาคตองทํานายผลการสอบปลายภาคของผูเ รียนแตละคน เพือ่ ประเมินพัฒนาการ ความกาวหนาของผูเรียนเปนรายบุคคล 7. ผลการทดสอบปลายป ปลายภาค ตองมีคาเฉลี่ยสอดคลองกับคาเฉลี่ยของการสอบ NT ที่เขตพื้นที่การศึกษา จัดสอบ รวมทั้งคาเฉลี่ยของการสอบ O-NET ชวงชั้นที่สอดคลองครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดสําคัญ เพือ่ สะทอนประสิทธิภาพของครูผสู อนในการออกแบบการเรียนรูแ ละประกันคุณภาพผูเ รียนทีต่ รวจสอบผลไดชดั เจน การจัดการเรียนการสอนในแตละหนวยการเรียนรู ตองใหผูเรียนไดสั่งสมความรู สะสมความเขาใจไปทีละเล็ก ละนอยตามลําดับขัน้ ตอนของกิจกรรมการเรียนรู 5Es เพือ่ ใหผเู รียนไดเติมเต็มองคความรูอ ยางตอเนือ่ ง จนสามารถปฏิบตั ิ ชิ้นงานหรือภาระงานรวบยอดของแตละหนวยผานเกณฑประกันคุณภาพในระดับที่นาพึงพอใจ เพื่อรองรับการประเมิน ภายนอกจาก สมศ. ตลอดเวลา คูม อื ครู
ASEAN การเรียนรูสูประชาคมอาเซียน เพื่ออํานวยความสะดวกแกครูผูสอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรูบูรณาการอาเซียนศึกษา ผูจัดทําไดวิเคราะห มาตรฐานการเรียนรู และตัวชี้วัดที่มีสาระการเรียนรูสอดคลองกับองคความรูเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนในแงมุมตางๆ ครอบคลุมทัง้ ประชาคมการเมืองและความมัน่ คงอาเซียน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และประชาคมสังคมและวัฒนธรรม อาเซียน เพื่อสงเสริมการเรียนรูใหผูเรียนเกิดความตระหนัก มีความรูความเขาใจเหมาะสมกับระดับชั้นและกลุมสาระ การเรียนรู โดยเสนอแนะวิธีการจัดกิจกรรมบูรณาการเนื้อหาสาระตางๆ ที่เปนประโยชนตอผูเรียนและเปนการชวย เตรียมความพรอมผูเ รียนทุกคนทีจ่ ะกาวเขาสูก ารเปนสมาชิกของประชาคมอาเซียนไดอยางมัน่ ใจตามขอตกลงปฏิญญา เสร�ม ชะอํา-หัวหิน วาดวยความรวมมือดานการศึกษาเพือ่ บรรลุเปาหมายประชาคมอาเซียนทีเ่ อือ้ อาทรและแบงปน จึงกําหนด 7 เปนนโยบายใหกระทรวงศึกษาธิการจัดการเรียนรูเตรียมความพรอมผูเรียนเขาสูประชาคมอาเซียนภายในป พ.ศ. 2558 ตามแนวปฏิบัติที่สําคัญ ดังนี้
การจัดการเรียนรูส ู ประชาคมการเมืองและความมัน่ คงอาเซียน 1. การสรางความรูความเขาใจ และตระหนักถึงความสําคัญของ กฎบัตรอาเซียน และความรวมมือ ของ 3 เสาหลัก ซึง่ กฎบัตรอาเซียน ในขณะนี้มีสถานะเปนกฎหมายที่ ประเทศสมาชิกจะตองปฏิบัติตาม หลักการที่กําหนดไวเพื่อใหบรรลุ เปาหมายของกฎบัตรมาตราตางๆ
2. การสงเสริมหลักการ ประชาธิปไตยและการสราง สิ่งแวดลอมประชาธิปไตย เพื่อการอยูรวมกันอยางกลมกลืน ภายใตวิถีชีวิตอาเซียนที่มีความ หลากหลายดานสังคมและ วัฒนธรรม
4. การตระหนักในคุณคาของ สายสัมพันธทางประวัติศาสตร และมรดกทางวัฒนธรรมที่มี พัฒนาการรวมกัน เพื่อเชื่อม อัตลักษณและสรางจิตสํานึก ในการเปนประชากรของประชาคม อาเซียนรวมกัน
3. การสงเสริมการศึกษาดาน สิทธิมนุษยชน เพื่อสรางประชาคม อาเซียนใหเปนประชาคมเพื่อ ประชาชนอยางแทจริง สามารถ อยูรวมกันไดบนพื้นฐานการเคารพ ในคุณคาของศักดิ์ศรีแหงความ เปนมนุษยเทาเทียมกัน
5. การสงเสริมสันติภาพ ความ มั่นคง และความปรองดองในสังคม ทั้งระดับประเทศและภูมิภาคของ อาเซียนบนพื้นฐานสันติวิธีและการ อยูรวมกันดวยขันติธรรม
คูม อื ครู
การจัดการเรียนรูส ู ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
เสร�ม
8
1. การพัฒนาทักษะการทํางาน เพื่อเสริมสรางผูเรียนใหมีทักษะ วิชาชีพที่จําเปนสอดคลองกับ ความตองการของตลาดแรงงาน และสถานประกอบการในอาเซียน สามารถเทียบโอนผลการเรียน และการทํางานตามมาตรฐานฝมือ แรงงานในภูมิภาคอาเซียน
2. การเสริมสรางวินัย ความรับผิดชอบ และเจตคติรักการทํางาน สามารถพึ่งพาตนเอง มีทักษะชีวิต ดํารงชีวิตอยางมีความสุข เห็นคุณคา และภูมิใจในตนเอง ในฐานะที่เปนพลเมืองไทยและ อาเซียน
3. การเรียนรูเพื่อพัฒนาตนเอง อยางตอเนื่องตลอดชีวิต ใหมี ทักษะการทํางานตามมาตรฐาน อาชีพ และคุณวุฒิของวิชาชีพสาขา ตางๆ เพื่อรองรับการเตรียมเคลื่อน ยายแรงงานมีฝมือและการเปน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่ เขมแข็ง เพื่อสรางขีดความสามารถ ในการแขงขันในเวทีโลก
การจัดการเรียนรูส ู ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน 1. การเสริมสรางความรวมมือ ในลักษณะสังคมที่เอื้ออาทร ของประชากรอาเซียน โดยยึด หลักการสําคัญ คือ ความงดงาม ของประชาคมอาเซียนมาจาก ความแตกตางและหลากหลายทาง วัฒนธรรมที่ลวนแตมีคุณคาตอ มรดกทางวัฒนธรรมของอาเซียน ซึ่งประชาชนทุกคนตองอนุรักษ สืบสานใหยั่งยืน
2. การเสริมสรางคุณลักษณะ ของผูเรียนใหเปนพลเมืองอาเซียน ที่มีศักยภาพในการกาวเขาสู ประชาคมอาเซียนอยางมั่นใจ เปนผูที่มีสุขภาพสมบูรณแข็งแรง มีทักษะการสื่อสาร ทักษะการ ทํางาน ทักษะทางสังคม สามารถ ทํางานรวมกับผูอื่นไดอยาง สรางสรรค และมีองคความรู เกี่ยวกับอาเซียนที่จําเปนตอการ ดํารงชีวิตอยางมีคุณภาพ
4. การสงเสริมการเรียนรูดาน ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถชี วี ติ ความเปนอยูข องเพือ่ นบาน ในอาเซียน เพื่อสรางจิตสํานึกของ ความเปนประชาคมอาเซียนและ ตระหนักถึงหนาที่ของการเปน พลเมืองอาเซียนรวมกัน
3. การสงเสริมการเรียนรูภาษา อังกฤษเพื่อการสื่อสารและการ ทํางานตามมาตรฐานอาชีพที่ กําหนดและสนับสนุนการเรียนรู ภาษาอาเซียนและภาษาเพื่อนบาน เพื่อชวยเสริมสรางสัมพันธภาพทาง สังคม และการอยูรวมกันอยางสันติ ทามกลางความหลากหลายทาง วัฒนธรรม
5. การสรางความรูและความ ตระหนักเกี่ยวกับดานสิ่งแวดลอม ปญหาและผลกระทบตอคุณภาพ ชีวิตของประชากรในภูมิภาค รวมทั้งแนวทางการพัฒนาอยาง ยั่งยืน ใหเปนมรดกสืบทอดแก พลเมืองอาเซียนในรุนหลังตอๆ ไป
กระทรวงศึกษาธิการจึงประกาศนโยบายการปฏิรูปการศึกษาทศวรรษที่ 2 (พ.ศ. 2552-2561) เพื่อเรงพัฒนาเด็ก และเยาวชนไทยใหเปนทรัพยากรมนุษยของชาติที่มีทักษะและความชํานาญ พรอมเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงและ การแขงขันทั้งในภูมิภาคอาเซียนและภูมิภาคอื่นๆ ของสังคมโลก ทั้งนี้ผูบริหารสถานศึกษา ครูผูสอน และผูปกครอง ควรรวมมือกันอยางใกลชิดในการดูแลชวยเหลือผูเรียนและจัดประสบการณการเรียนรูเพื่อพัฒนาผูเรียนจนเต็มศักยภาพ เพื่อกาวเขาสูการเปนพลเมืองอาเซียนอยางมีเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีความเปนมนุษยของตน คณะผูจัดทํา คูม อื ครู
ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรูแกนกลาง สาระที่ 2
ดนตรี-นาฏศิลป (เฉพาะชั้น ป.2)*
ดนตรี
มาตรฐาน ศ 2.1 เขาใจและแสดงออกทางดนตรีอยางสรางสรรค วิเคราะห วิพากษวิจารณคุณคาดนตรี ถายทอด ความรูสึก ความคิดตอดนตรีอยางอิสระ ชื่นชม และประยุกตใชในชีวิตประจําวัน ชั้น
ตัวชี้วัด
ป.2 1. จําแนกแหลงกําเนิด ของเสียงที่ไดยิน 2. จําแนกคุณสมบัติ ของเสียงสูง-ตํ่า ดัง-เบา ยาว-สั้น ของดนตรี 3. เคาะจังหวะหรือ เคลื่อนไหวรางกาย ใหสอดคลองกับ เนื้อหาของเพลง 4. รองเพลงงายๆ ที่ เหมาะสมกับวัย 5. บอกความหมายและ ความสําคัญของ เพลงที่ไดยิน
สาระการเรียนรูแกนกลาง
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน
• สีสันของเสียงเครื่องดนตรี • สีสันของเสียงมนุษย • การฝกโสตประสาท การจําแนกเสียงสูง-ตํ่า ดัง-เบา ยาว-สั้น
• หนวยการเรียนรูท ี่ 1 พืน้ ฐานการดนตรี บทที่ 1 เสียงและคุณสมบัติ ของเสียง
• การเคลื่อนไหวประกอบเนื้อหาในบทเพลง • การเลนเครื่องดนตรีประกอบเพลง
• หนวยการเรียนรูท ี่ 1 พืน้ ฐานการดนตรี บทที่ 2 สนุกกับดนตรี
• การขับรอง
• หนวยการเรียนรูท ี่ 1 พืน้ ฐานการดนตรี บทที่ 3 เพลงไพเราะ
• ความหมายและความสําคัญของเพลงที่ยิน - เพลงปลุกใจ - เพลงสอนใจ
เสร�ม
9
มาตรฐาน ศ 2.2 เขาใจความสัมพันธระหวางดนตรี ประวัติศาสตร และวัฒนธรรม เห็นคุณคาของดนตรีที่เปนมรดก ทางวัฒนธรรม ภูมิปญญาทองถิ่น ภูมิปญญาไทยและสากล ชั้น
ตัวชี้วัด
ป.2 1. บอกความสัมพันธ ของเสียงรอง เสียงเครื่องดนตรี ในเพลงทองถิ่น โดยใชคํางายๆ 2. แสดงและเขารวม กิจกรรมทางดนตรี ในทองถิ่น
สาระการเรียนรูแกนกลาง
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน
• บทเพลงในทองถิ่น • หนวยการเรียนรูท ี่ 2 - ลักษณะของเสียงรองในบทเพลง เพลงทองถิน่ ภูมปิ ญ ญาทองถิน่ - ลักษณะของเสียงเครื่องดนตรีที่ใชในบทเพลง บทที่ 1 ลักษณะเพลงทองถิ่น • กิจกรรมดนตรีในโอกาสพิเศษ - ดนตรีกับโอกาสสําคัญในโรงเรียน - ดนตรีกับวันสําคัญของชาติ
• หนวยการเรียนรูท ี่ 2 เพลงทองถิน่ ภูมปิ ญ ญาทองถิน่ บทที่ 2 ดนตรีกับกิจกรรม ในวันสําคัญ
_________________________________ * สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน, กระทรวงศึกษาธิการ. สาระการเรียนรูแ กนกลาง กลุม สาระการเรียนรู ศิลปะ. (กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพชุมนุมสหกรณการเกษตรแหงประเทศไทย, 2551), หนา 22-50
คูม อื ครู
สาระที่ 3
นาฏศิลป
มาตรฐาน ศ 3.1 เขาใจและแสดงออกทางนาฏศิลปอยางสรางสรรค วิเคราะห วิพากษวิจารณ คุณคานาฏศิลป ถายทอด ความรูสึก ความคิดอยางอิสระ ชื่นชม และประยุกตใชในชีวิตประจําวัน ชั้น
เสร�ม
10
ตัวชี้วัด
สาระการเรียนรูแกนกลาง
ป.2 1. เคลื่อนไหวขณะ • การเคลื่อนไหวอยางมีรูปแบบ อยูกับที่และเคลื่อนที่ - การนั่ง - การยืน - การเดิน 2. แสดงการเคลื่อนไหว • การประดิษฐทาจากการเคลื่อนไหวอยางมี ที่สะทอนอารมณ รูปแบบ ของตนเองอยาง • เพลงที่เกี่ยวกับสิ่งแวดลอม อิสระ 3. แสดงทาทาง • หลักและวิธีการปฏิบัตินาฏศิลป เพื่อสื่อความหมาย - การฝกภาษาทาสือ่ ความหมายแทนอากัปกิรยิ า แทนคําพูด - การฝกนาฏยศัพทในสวนลําตัว 4. แสดงทาทาง • การใชภาษาทาและนาฏยศัพทประกอบจังหวะ ประกอบจังหวะ อยางสรางสรรค 5. ระบุมารยาทในการ • มารยาทในการชมการแสดง การเขาชม ชมการแสดง หรือมีสวนรวม
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน
• หนวยการเรียนรูท ี่ 3 พืน้ ฐานนาฏศิลป บทที่ 1 การเคลื่อนไหว เบื้องตน
• หนวยการเรียนรูท ี่ 3 พืน้ ฐานนาฏศิลป บทที่ 2 ภาษาทาและ นาฏยศัพท
• หนวยการเรียนรูท ี่ 3 พืน้ ฐานนาฏศิลป บทที่ 3 การชมการแสดง
มาตรฐาน ศ 3.2 เขาใจความสัมพันธระหวางนาฏศิลป ประวัตศิ าสตร และวัฒนธรรม เห็นคุณคาของนาฏศิลปทเี่ ปนมรดก ทางวัฒนธรรม ภูมิปญญาทองถิ่น ภูมิปญญาไทยและสากล ชั้น
ตัวชี้วัด
ป.2 1. ระบุและเลน การละเลนพื้นบาน
สาระการเรียนรูแกนกลาง
• การละเลนพื้นบาน - วิธีการเลน - กติกา 2. เชือ่ มโยงสิง่ ทีพ่ บเห็น • ที่มาของการละเลนพื้นบาน ในการละเลนพืน้ บาน กับสิ่งที่พบเห็น ในการดํารงชีวิต ของคนไทย 3. ระบุสิ่งที่ชื่นชอบ • การละเลนพื้นบาน และภาคภูมิใจใน การละเลนพื้นบาน
คูม อื ครู
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน
• หนวยการเรียนรูท ี่ 4 นาฏศิลปพนื้ บาน บทที่ 1 การละเลนพื้นบาน
คําอธิบายรายวิชา รายวิชา ดนตรี-นาฏศิลป ชั้นประถมศึกษาปที่ 2 รหัสวิชา ศ…………………………………
กลุมสาระการเรียนรู ศิลปะ ภาคเรียนที่ 1-2 เวลา 50 ชั่วโมง/ป
ศึกษา วิเคราะห จําแนกแหลงกําเนิดของเสียงที่ไดยิน คุณสมบัติของเสียงสูง-ตํ่า ดัง-เบา ยาว-สั้น เสร�ม ของดนตรี สามารถเคาะจังหวะหรือเคลื่อนไหวรางกายใหสอดคลองกับเนื้อหาในบทเพลง รองเพลงงายๆ ที่ 11 เหมาะสมกับวัยได พรอมบอกความหมายและความสําคัญของเพลงปลุกใจและเพลงสอนใจ เขาใจลักษณะของเสียงรองและเสียงเครื่องดนตรีที่ใชในบทเพลง แสดงและเขารวมกิจกรรมทางดนตรี ในโอกาสพิเศษ อาทิ การเคลื่อนไหวอยางมีรูปแบบ การเคลื่อนไหวที่สะทอนอารมณของตนเองอยางอิสระ แสดงทาทางเพื่อสื่อความหมายแทนคําพูด ใชภาษาทาและนาฏยศัพทประกอบจังหวะ และระบุมารยาทใน การชมการแสดง ระบุที่มา วิธีการเลน กติกา และเลนการละเลนพื้นบาน และสามารถเชื่อมโยงสิ่งที่พบเห็น ในการละเลนพื้นบานกับสิ่งที่พบเห็นในการดํารงชีวิตของคนไทย โดยใชทกั ษะกระบวนการทางดนตรีและนาฏศิลปในการแสดงออกทางดนตรีและนาฏศิลปอยางสรางสรรค การวิเคราะห วิพากษวิจารณคุณคางานดนตรีและนาฏศิลป เพื่อใหเห็นคุณคางานดนตรีและนาฏศิลปที่เปนมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปญญาทองถิ่น และเขาใจ ความสัมพันธระหวางดนตรี-นาฏศิลป กับประวัติศาสตรและวัฒนธรรม และการนําความรูไปประยุกตใช ในชีวิตประจําวัน มีจริยธรรม คุณธรรม และคานิยมที่เหมาะสม ตัวชี้วัด ศ 2.1 ศ 2.2 ศ 3.1 ศ 3.2
ป.2/1 ป.2/1 ป.2/1 ป.2/1
ป.2/2 ป.2/2 ป.2/2 ป.2/2
ป.2/3
ป.2/4
ป.2/5
ป.2/3 ป.2/4 ป.2/3 รวม 15 ตัวชี้วัด
ป.2/5
คูม อื ครู
จุดเนนการพัฒนาคุณภาพผูเรียน* การขับเคลื่อนหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551 และการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษ ที่สอง (พ.ศ. 2552-2561) ใหประสบผลสําเร็จตามจุดเนนการพัฒนาคุณภาพผูเรียน โดยใหทุกภาคสวน รวมกันดําเนินการ กระทรวงศึกษาธิการไดกําหนดจุดเนนการพัฒนาคุณภาพผูเรียน ดังนี้ เสร�ม
12
ทักษะ ความสามารถ
คุณลักษณะ จุดเนนตามชวงวัย
ม. 4-6
แสวงหาความรู เพื่อแกปญหา ใชเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู ใชภาษาตางประเทศ (ภาษาอังกฤษ) มีทักษะการคิดขั้นสูง ทักษะชีวิต ทักษะการสื่อสารอยางสรางสรรคตามชวงวัย
ม. 1-3
แสวงหาความรูดวยตนเอง ใชเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู มีทักษะการคิดขั้นสูง ทักษะชีวิต ทักษะการสื่อสารอยางสรางสรรคตามชวงวัย
• อยูอยางพอเพียง
ป. 4-6
อานคลอง เขียนคลอง คิดเลขคลอง ทักษะการคิดขั้นพื้นฐาน ทักษะชีวิต ทักษะการสื่อสารอยางสรางสรรคตามชวงวัย
• ใฝเรียนรู
ป. 1-3
อานออก เขียนได คิดเลขเปน มีทักษะการคิดขั้นพื้นฐาน ทักษะชีวิต ทักษะการสื่อสารอยางสรางสรรคตามชวงวัย
• ใฝดี
• มุงมั่นในการศึกษา และการทํางาน
คุณลักษณะตามหลักสูตร
• รักชาติ ศาสน กษัตริย • ซื่อสัตยสุจริต • มีวินัย • ใฝเรียนรู • อยูอยางพอเพียง • มุงมั่นในการทํางาน • รักความเปนไทย • มีจิตสาธารณะ
* สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, กระทรวงศึกษาธิการ. แนวทางการนําจุดเนนการพัฒนาผูเรียน สูการปฏิบัติ. (กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพชุมนุมสหกรณการเกษตรแหงประเทศไทย, 2553), หนา 3-10.
คูม อื ครู
กระตุน ความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
กระตุEngage นความสนใจ
สํารวจค Exploreนหา
อธิบExplain ายความรู
Expand าใจ ขยายความเข
˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ÃÒÂÇÔªÒ¾×é¹°Ò¹
´¹µÃÕ-¹Ò¯ÈÔÅ»Š ».ò ªÑé¹»ÃжÁÈÖ¡ÉÒ»‚·Õè ò
¡ÅØ‹ÁÊÒÃСÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ ÈÔŻРµÒÁËÅÑ¡ÊÙµÃ᡹¡ÅÒ§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ¢Ñé¹¾×é¹°Ò¹ ¾Ø·¸ÈÑ¡ÃÒª òõõñ
¼ÙŒàÃÕºàÃÕ§ ÃÈ. »Ãзջ ¹Ñ¡»‚› ¹Ò§ÈÈԸà ¹Ñ¡»‚› ¼ÙŒµÃǨ
¹Ò»ÃФͧ àÍÕèÂÁÈÔÃÔ ¹ÒÂÊÔ·¸ÔªÑ µÑ¹à¨ÃÔÞ ¹Ò§ÇÔÀҾà ¾ÂѦÇÃó
ºÃóҸԡÒà ¹Ò¸¹¡Ã ÍÂًʧ¤
¾ÔÁ¾ ¤ÃÑ駷Õè ø
ʧǹÅÔ¢ÊÔ·¸ÔìµÒÁ¾ÃÐÃÒªºÑ- - ÑµÔ ISBN : 978-616-203-154-0 ÃËÑÊÊÔ¹¤ŒÒ ñòñõðòõ
¤Œ¹¤ÇÒÁÃÙŒ¢ÂÒ¤ÇÒÁ¤Ô´¨Ò¡ ¾ÔÁ¾ ¤ÃÑ駷Õè ñ ÃËÑÊÊÔ¹¤ŒÒ ñòôõðôð
EB GUIDE
ที่พิมพกํากับหัวขอสําคัญในหนังสือเรียนหลักสูตรใหม ชั้น ป.๔ ขึ้นไป ผาน www.aksorn.com ไปยังแหลงความรูทั่วไทย-ทั่วโลก
( ดูแผนผังความคิดฯ ไดทปี่ กหลังดานใน)
Evaluate ตรวจสอบผล
กระตุน ความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
กระตุEngage นความสนใจ
Exploreนหา สํารวจค
อธิบExplain ายความรู
Expand าใจ ขยายความเข
Evaluate ตรวจสอบผล
คําชี้แจงในการใชสื่อ ˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ´¹µÃÕ-¹Ò¯ÈÔÅ»Š ».ò àÅ‹Á¹Õé ÀÒÂã¹àÅ‹Á¹íÒàʹ͡ÒèѴ¡ÒÃàÃÕ¹¡ÒÃÊ͹໚¹ ˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ ¤Ãº¶ŒÇ¹µÒÁÁҵðҹµÑǪÕéÇÑ´ªÑé¹»‚ áÅÐÊÒÃСÒÃàÃÕ¹Ãٌ᡹¡ÅÒ§ â´Â์¹ ¡ÒÃÍ͡Ẻ¡Ô¨¡ÃÃÁãËŒÊÑÁ¾Ñ¹¸ ¡Ñº¸ÃÃÁªÒµÔ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ¢Í§áµ‹ÅСÅØ‹ÁÊÒÃÐ áÅФÇÒÁʹ㨠¢Í§¼ÙŒàÃÕ¹ᵋÅФ¹
เปาหมายการเรียนรู
สาระสําคัญ
กําหนดระดับความรูความสามารถ ของผูเรียนเมื่อเรียนจบหนวย
แกนความรูที่เปนความเขาใจคงทน ติดตัวผูเรียน
ñ พื้นฐานการดนตรี ˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè
º··Õè
เสียงและคุณสมบัติ ของเสียง
เปาหมายการเรียนรูประจําหนวยที่ ๑ เมื่อเรียนจบหนวยน�้ ผูเรียนจะมีความรูความสามารถตอไปน�้ ๑. จําแนกแหลงกําเนิดของเสียงที่ไดยิน (มฐ. ศ ๒.๑ ป. ๒/๑) ๒. จําแนกคุณสมบัตขิ องเสียงสูง -ตํา่ ดัง-เบา ยาว-สัน้ ของดนตรี (มฐ. ศ ๒.๑ ป. ๒/๒) ๓. เคาะจังหวะหรือเคลื่อนไหวรางกายใหสอดคลองกับเน�้อหา ของเพลง (มฐ. ศ ๒.๑ ป. ๒/๓) ๔. รองเพลงงายๆ ที่เหมาะสมกับวัย (มฐ.ศ ๒.๑ ป.๒/๔) ๕. บอกความหมายและความสําคัญของเพลงที่ไดยิน (มฐ. ศ ๒.๑ ป. ๒/๕)
¡Ô¨¡ÃÃÁ¹ÒÊÙ ¨¡ÃÃÁ¹ÒÊÙ‹¡ÒÃàÃÕ¹
ñ
สาระสําคัญ เสียงที่ไดยนิ มีความแตกตางกัน หรือคลายกันตามแหลง กําเนิดเสียง ทําใหเกิดสีสันของเสียง ตามคุณสมบัติ ของเสียง เชน เสียงสูง-ตํ่า เสียงดัง-เบา เสียงยาว-สั้น เปนตน
? àÊÕ§µÕâ·¹ ÃíÒÁÐ¹Ò àÊÕ§ໆҢÅØ‹Â áÅÐàÊÕ§µÕ©Ôè§ ÁÕÅѡɳÐᵡµ‹Ò§¡Ñ¹Í‹ҧäÃ
๒
ภาพหนาหนวยการเรียนรู เปนภาพประกอบขนาดใหญ ชวยกระตุนความสนใจของผูเรียน
¡Ô¨¡ÃÃÁ¹ÓÊÙ‹¡ÒÃàÃÕ¹ นําเขาสูบทเรียนใชกระตุนความสนใจ และวัดประเมินผลกอนเรียน
กระตุน ความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
กระตุEngage นความสนใจ
ÃÙËŒ Ã×ÍäÁ‹Ç‹Ò... เกร็ดความรูที่นาสนใจ ชวยตอยอดความรูเดิม โดยเพิ่มความรูใหม
สํารวจค Exploreนหา
อธิบExplain ายความรู
Expand าใจ ขยายความเข
เนือ้ หา
¡Ô¨¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ
ครบตามหลักสูตรแกนกลางฯ พ.ศ. ๒๕๕๑ นําเสนอ เหมาะสม กับการเรียนการสอนในแตละระดับชั้น
๒. สีสันของเสียงมนุษย เนื่องจากคนเรามีความแตกตางกันหลายอยางไมวาจะเปนรูปรางหนาตา และลักษณะตางๆ รวมถึงเสียงพูดของแตละคนไมเหมือนกัน จึงทําใหเสียงขับรอง แตกตางกันไปดวย การทีค่ นสามารถปรับเสียงใหมรี ะดับเสียงสูงและตํา่ ได ทําใหสามารถเลียน เสียงตางๆ รอบตัวไดใกลเคียง เสียงคนจึงมีลักษณะเปนเสียงดนตรีชนิดหนึ่ง
Evaluate ตรวจสอบผล
มอบหมายนักเรียนฝกปฏิบัติ เพื่อ พัฒนาความรูแ ละทักษะประจําหนวย
¡Ô¨¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ ฝกคิด ฉลาดทํา ๑. ฟงเสียงคนในวัยตางๆ มา ๕ ครั้ง แลวบันทึกลักษณะของเสียงที่ไดยิน ลักษณะของเสียงที่ไดยิน
ครั้งที่
ÃÙËŒ Ã×ÍäÁ‹Ç‹Ò...
คนชรา
๑
เสียงของคนเราเกิดขึ้นไดอยางไร เสียงของคนเกิดจากการสัน่ สะเทือนของเสนเสียงทีอ่ ยูในลําคอ และอาศัยอวัยวะสวนอืน่ ๆ ชวยปรับ เสียงใหมีระดับเสียงสูงและตํ่าตามตองการ
ผูชาย
ผูหญิง
เด็ก
ทึก
แบบบัน
ตัวอยาง
๒
๒. เลือกฟงเสียงเครื่องดนตรีที่กําหนดให แลวบันทึกเสียงที่ไดยิน àÊÕ§ÊÙ§¢Í§¼ÙŒªÒ ÈѾ· ·Ò§´¹µÃÕ àÃÕÂ¡Ç‹Ò à·à¹Íà (Tenor) àÊÕ§µíèҢͧ¼ÙŒªÒ ÈѾ· ·Ò§´¹µÃÕ àÃÕÂ¡Ç‹Ò àºÊ (Bass)
เสียงขับรองของคนแตละคน มีความแตกตางกันตามเพศและวัย ใน หลักการทางดนตรีจะแบงเสียงขับรอง เปน ๔ ประเภท คือ เสียงสูงของผูหญิง และผูชาย เสียงตํ่าของผูหญิงและผูชาย ซอสามสาย
àÊÕ§ÊÙ§¢Í§¼ÙŒËÞÔ§ ÈѾ· ·Ò§´¹µÃÕ àÃÕÂ¡Ç‹Ò â«»ÃÒâ¹ (Soprano) àÊÕ§µíèҢͧ¼ÙŒËÞÔ§ ÈѾ· ·Ò§´¹µÃÕ àÃÕÂ¡Ç‹Ò ÍÑÅâµ (Alto)
ครั้งที่
๑ ๒ ๓
ʹ·¹Ò¡ÑºÈÔÅ» ¹ ๖
นักเรียนคิดวา เสียงของเพื่อนๆในหอง มีลักษณะเหมือนกันหรือไม เพราะเหตุใด
๔
ระนาดเอก
กีตาร
แซ็กโซโฟน
ประเภท ของเครื่องดนตรี (ดีด สี ตี เปา)
ดัง
เบา
สั้น
ยาว
สูง
ตํ่า
……………………………………………
……………………………………………
…………..
…………..
…………..
…………..
…………..
…………..
……………………………………………
……………………………………………
แบ ตัวอยาง
…………..
…………..
…………..
…………..
…………..
…………..
……………………………………………
……………………………………………
…………..
…………..
…………..
…………..
…………..
…………..
……………………………………………
……………………………………………
…………..
…………..
…………..
…………..
…………..
…………..
ชื่อเครื่องดนตรี
คุณสมบัติของเสียง
บบันทึก
๘
สัญลักษณแทนการปฏิบัติ กิจกรรมเดี่ยว สัญลักษณแทนการปฏิบัติ กิจกรรมกลุม
ภาพประกอบเนือ้ หา
เปนภาพประกอบ ๔ สี แทรกอยูตลอดเลม ชวยเสริมสรางความเขาใจ
ʹ·¹Ò¡ÑºÈÔÅ» ¹ คํ า ถามกระตุ น ให ผู เ รี ย นได ต อ ยอด ความรูที่ไดในบทเรียน
กระตุน ความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
กระตุEngage นความสนใจ
Exploreนหา สํารวจค
อธิบExplain ายความรู
Expand าใจ ขยายความเข
Evaluate ตรวจสอบผล
สารบั ญ
ห น ว ย การเรียนรูที่
๑
พื้นฐานการดนตรี
๒
เพลงทองถิ่น ภูมิปญญาทองถิ่น
๒๒
๓
พื้นฐานนาฏศิลป
๓๑
๔
นาฏศิลปพื้นบาน
๕๓
บทที่ ๑ เสียงและคุณสมบัติของเสียง บทที่ ๒ สนุกกับดนตรี บทที่ ๓ เพลงไพเราะ
ห น ว ย การเรียนรูที่
บทที่ ๑ ลักษณะเพลงทองถิ�น บทที่ ๒ ดนตรีกับกิจกรรมในวันสําคัญ
ห น ว ย การเรียนรูที่
บทที่ ๑ การเคลื่อนไหวเบื้องตน บทที่ ๒ ภาษาทาและนาฏยศัพท บทที่ ๓ การชมการแสดง
ห น ว ย การเรียนรูที่
บทที่ ๑ การละเลนพื้นบาน
บรรณานุกรม
๑
๒ ๙ ๑๖ ๒๓ ๒๗
๓๒ ๓๙ ๕๐
๕๔
๖๐
กระตุน ความสนใจ กระตุEngage นความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
ñ พื้นฐานการดนตรี
กระตุน ความสนใจ
˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè
Engage
1. ครูนําเสียงการบรรเลงเครื่องดนตรีไทย แตละชนิดมาใหนักเรียนฟง แลวใหนักเรียน บอกวา เสียงที่ไดยินเปนเสียงของเครื่องดนตรี ชนิดใด 2. ใหนักเรียนดูภาพในหนังสือ หนา 1 แลวถามนักเรียน ดังนี้ • เครื่องดนตรีที่เห็นในภาพ เปนเครื่องดนตรี ชนิดใด (ตอบ ซออู โดยสังเกตจากกะโหลกซอ) • หากตองการเลนเครื่องดนตรีในภาพ ใหมีความไพเราะ นักเรียนควรทําอยางไร (ตอบ ตองเรียนรูวิธีการเลนอยางถูกตอง รวมทั้งยังตองรูเรื่องโนตดนตรีไทยอีกดวย)
เปาหมายการเรียนรู้ประจ�าหน่วยที่ ๑ เมื่อเรียนจบหน่วยน�้ ผู้เรียนจะมีความรู้ความสามารถต่อไปน�้ ๑. จ�าแนกแหล่งก�าเนิดของเสียงที่ได้ยิน (มฐ. ศ ๒.๑ ป. ๒/๑) ๒. จ�าแนกคุณสมบัตขิ องเสียงสูง -ต�า่ ดัง-เบา ยาว-สัน้ ของดนตรี (มฐ. ศ ๒.๑ ป. ๒/๒) ๓. เคาะจังหวะหรือเคลื่อนไหวร่างกายให้สอดคล้องกับเน�้อหา ของเพลง (มฐ. ศ ๒.๑ ป. ๒/๓) ๔. ร้องเพลงง่ายๆ ที่เหมาะสมกับวัย (มฐ.ศ ๒.๑ ป.๒/๔) ๕. บอกความหมายและความส�าคัญของเพลงที่ได้ยิน (มฐ. ศ ๒.๑ ป. ๒/๕)
เกร็ดแนะครู ในหนวยการเรียนรูที่ 1 มีเนื้อหา ดังนี้ 1. แหลงกําเนิดเสียงและคุณสมบัติของเสียง (ตรงกับ มฐ. ศ 2.1 ป.2/1, ป.2/2) 2. การฝกเลนดนตรีและการเคลื่อนไหวรางกายประกอบเพลง (ตรงกับ มฐ. ศ 2.1 ป.2/3) 3. การขับรองเพลงไทย เพลงไทยสากล เพลงปลุกใจ และเพลงสอนใจ (ตรงกับ มฐ. ศ 2.1 ป.2/4, ป.2/5)
มุม IT ครูศึกษาเสียงการบรรเลงเครื่องดนตรีไทย และเปดใหนักเรียนฟง ไดที่ http://www.culture.go.th/research/musical/html/th download.htm
คูมือครู
1
กระตุน ความสนใจ กระตุEngage นความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
เปาหมายการเรียนรู
1. จําแนกแหลงกําเนิดเสียงที่ไดยิน (ศ 2.1 ป.2/1) 2. บอกคุณสมบัติของเสียงของเสียงดนตรีที่ไดยิน (ศ 2.1 ป.2/2)
º··Õè
เสียงและคุณสมบัติ ของเสียง
สมรรถนะของผูเรียน ความสามารถในการสื่อสาร
¡Ô¨¡ÃÃÁ¹ÒÊÙ‹¡ÒÃàÃÕ¹
ñ
สาระส�าคัญ เสียงที่ได้ยนิ มีความแตกต่างกัน หรือคล้ายกันตามแหล่ง ก�าเนิดเสียง ท�าให้เกิดสีสันของเสียง ตามคุณสมบัติ ของเสียง เช่น เสียงสูง-ต�่า เสียงดัง-เบา เสียงยาว-สั้น เป็นต้น
คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. ใฝเรียนรู 2. รักความเปนไทย ขลุย
กระตุน ความสนใจ
Engage
1. ใหนักเรียนดูภาพในหนังสือ หนา 2 แลวครูถาม นักเรียน ดังนี้ • ในภาพมีเครื่องดนตรีชนิดใดบาง (ตอบ โทน รํามะนา ขลุย ฉิ่ง ฆองวง) • เสียงของเครื่องดนตรีแตละชิ้น เกิดจาก วิธีการใดบาง (แนวตอบ - โทน รํามะนา ฉิ่ง และฆองวง เกิดจากวิธีการตี - ขลุย เกิดจากวิธีการเปา) 2. ครูนําวีดิทัศนการแสดงการเลนดนตรีจาก สื่อตางๆ มาใหนักเรียนดู แลวรวมกันบอกวา เสียงดนตรีที่นักเรียนไดยิน เปนเสียงของ เครื่องดนตรีชนิดใดบาง
โทน
? àÊÕ§µÕâ·¹ ÃíÒÁÐ¹Ò àÊÕ§ໆҢÅØ‹Â áÅÐàÊÕ§µÕ©Ôè§ ÁÕÅѡɳÐᵡµ‹Ò§¡Ñ¹Í‹ҧäÃ
เกร็ดแนะครู ครูจัดกระบวนการเรียนรูโดยการใหนักเรียนปฏิบัติ ดังนี้ • อภิปรายถึงแหลงกําเนิดเสียง สีสันของเสียงเครื่องดนตรี สีสันของเสียงมนุษย • อธิบายคุณสมบัติของเสียงที่ไดยิน จนสามารถจําแนกแหลงกําเนิดเสียง และบอกคุณสมบัติของเสียงดนตรีที่ไดยิน
มุม IT ครูศึกษาการแสดงของวงดนตรีไทย และแนะนําใหนักเรียนชม ไดที่ http://www.youtube.com/watch?v=XSMOybfBxvE
คูมือครู
ฉิง่
รํามะนา
๒
2
ฆองวง
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ Expand าใจ ขยายความเข
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
Engage
สํารวจค Exploreนหา
อธิบExplain ายความรู
สํารวจคนหา
1. ครูทําเสียงใหนักเรียนฟงทีละเสียง ดังนี้ • จิ๊บ จิ๊บ • โฮง โฮง • เปรี้ยง เปรี้ยง • มอ มอ • ชึกชั่ก ชึกชั่ก • กาบ กาบ 2. ใหนักเรียนรวมกันบอกวา เสียงที่ฟงเปนเสียง ที่มาจากแหลงใด
1
๑
แหลงกําเนิดเสียง เสียงทีเ่ ราได้ยนิ มาจากแหล่งก�าเนิดต่างๆ ทีอ่ ยูร่ อบตัวเรา เสียงทีก่ า� เนิดจาก สิ่งที่ไม่เหมือนกัน จะมีลักษณะเสียงแตกต่างกัน ท�าให้เราสามารถแยกแยะหรือ จ�าแนกเสียงที่ได้ยินได้ว่า เป็นเสียงของอะไร หรือมาจากแหล่งก�าเนิดชนิดใด
¨Ôêº...
ªÖ¡...
Explore
อธิบายความรู
¨Ôêº
1. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเฉลยคําตอบ ที่มาของเสียงที่ครูถามในขางตน และให นักเรียนตรวจคําตอบของตนเองวาถูกตอง หรือไม โดยดูขอมูลในหนังสือ หนา 3 ประกอบ 2. ใหนักเรียนรวมกันอภิปรายถึงแหลงกําเนิดเสียง จนเขาใจวา เสียงตางๆ ทีไ่ ดยนิ นัน้ มักมีลกั ษณะ แตกตางกันไป เราจึงสามารถจําแนกเสียงที่ ไดยินวา เปนเสียงอะไร
à»ÃÕé§ ÇÙé...ÇÙé
ªÑè¡
Explain
ขยายความเขาใจ
Expand
ใหนักเรียนทําแบบบันทึกเสียงตางๆ ที่ไดยิน ในหองเรียน หรือรอบๆ หองเรียน โดยอาจใช ตารางบันทึกดังตัวอยาง
âÎè§... âÎè§ ¡éÒº... ¡éÒº
เสียงที่ไดยิน กริ๊ง กริ๊ง โครม
ÁÍ... ÁÍ
แหลงที่มาของเสียง เสียงโทรศัพท เสียงโตะลม
จากนั้นใหนักเรียนนําแบบบันทึกมานําเสนอ หนาชั้นเรียน ใหเพื่อนแสดงความคิดเห็นวา เสียง ที่เพื่อนบันทึกมานั้นถูกตองหรือไม และรวมกัน อภิปรายสรุปแหลงที่มาของเสียงอีกครั้ง
๓
ขอสอบเนนการคิด
จากภาพ นาจะเกิดเสียงดังอยางไร ก. หวอ หวอ ข. บรึ้น บรึ้น ค. เหงง หงาง ง. กอก กอก
วิเคราะหคําตอบ คําตอบที่ถูก คือ ขอ ข. เพราะเปนภาพคนขี่ รถจักรยานยนต เสียงที่ไดยินจึงตองเปนเสียงเรงเครื่องของรถจักรยานยนต คือ บรึ้น บรึ้น
เกร็ดแนะครู ครูอาจใหนักเรียนวาดภาพระบายสีสิ่งที่ใหกําเนิดเสียง และบอกเสียงที่คาดวา จะไดยิน แลวแลกกันดูกับเพื่อน เพื่อตรวจสอบวา เพื่อนบอกสิ่งที่ใหกําเนิดเสียง และเสียงไดถูกตองหรือไม
นักเรียนควรรู 1 เสียง คนเราไดยนิ เสียงตางๆ ได เกิดจากองคประกอบ 3 สวน คือ 1. แหลงกําเนิดเสียง หมายถึง สิง่ ทีใ่ หกาํ เนิดเสียงตางๆ เชน นกรอง วัวรอง เปนตน 2. ตัวกลางเสียง หมายถึง สิง่ ทีเ่ ปนสือ่ ใหเสียงเดินทางมาถึงเรา ไดแก ของแข็ง ของเหลว และแกส 3. อวัยวะรับเสียง หมายถึง หูของคนเรา คูมือครู
3
กระตุนความสนใจ Engage
สํารวจคนหา
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
Exploreนหา สํารวจค
สํารวจคนหา
Explore
1. ใหนักเรียนบอกชื่อเครื่องดนตรีไทยชนิดตางๆ ที่นักเรียนรูจัก และบอกวาเปนเครื่องดนตรี ประเภทใด 2. ใหนกั เรียนสืบคนขอมูลเกีย่ วกับเครือ่ งดนตรีไทย จากหองสมุดหรืออินเทอรเน็ต คนละ 1 ชนิด โดยครูใหคําแนะนําในการสืบคน
อธิบายความรู
๒
สีสันของเสียง เสียงต่างๆ ที่ได้ยินรอบๆ ตัว เกิดจากแหล่งก�าเนิดที่แตกต่างกัน เสียงจึง มีลักษณะไม่เหมือนกัน เสียงที่แตกต่างกันนี้ เรียกว่า สีสันของเสียง ๑. สีสันของเสียงเครื่องดนตรี เครื่องดนตรีชนิดต่างๆ ที่มีลักษณะแตกต่างกัน ท�าให้เกิดเสียงดนตรี ที่ไม่เหมือนกัน เมื่อได้ยินจึงบอกได้ว่า เป็นเสียงของเครื่องดนตรีชนิดใด ๑) สีสันของเครื่องดนตรีประเภทเครื่องดีด เสียงที่ก�าเนิดจากเครื่องดีด เกิดจากวิธีการใช้นิ้ว หรืออุปกรณ์อื่นเขี่ยหรือดีดสายที่ขึงตึง ท�าให้เกิดเสียงดัง กังวาน เครื่องดนตรีประเภทนี้มีหลายชนิด เช่น จะเข้ กระจับป ซึง เป็นต้น
Explain
1. ใหนักเรียนออกมานําเสนอขอมูลที่สืบคนมา หนาชั้นเรียน 2. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายใหเขาใจวา เสียงทีเ่ กิดจากการบรรเลงเครือ่ งดนตรีแตละชนิด มีลักษณะไมเหมือนกัน เพราะลักษณะของ เครื่องดนตรีแตละชนิดแตกตางกัน เสียงที่ แตกตางกันนี้ เรียกวา สีสันของเสียง 3. ใหนักเรียนชวยกันอธิบายลักษณะการเกิดเสียง ของเครื่องดนตรีประเภทเครื่องดีดและเครื่องสี แลวครูอธิบายเพิ่มเติมโดยใหนักเรียนดูเนื้อหา ในหนังสือ หนา 4 ประกอบ
ลูกบิด หย่อง นม
ไม้ดีด
1
จะเข้เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องดีด สันนิษฐานว่ามาจากมอญ มีลักษณนามเรียกว่า ตัว
๒) สีสันของเครื่องดนตรี ประเภทเครือ่ งสี เครือ่ งดนตรีประเภท เครื่องสี ท�าให้เกิดเสียงโดยการน�า วัตถุ ๒ ชนิดมาเสียดสีหรือถูกนั ท�าให้ เกิดเสียงลักษณะต่างๆ เครื่องดนตรี ประเภทนี้มีหลายชนิด เช่น ซอด้วง ซออู้ ซอสามสาย สะล้อ เป็นต้น
ลูกบิด
คันชัก
2
กระบอก
ซอด้วงเป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสี มีเสียงสูงแหลม มีลักษณนามเรียกว่า คัน
๔
นักเรียนควรรู 1 ไมดีด ไมดีดจะเขสวนมากทําดวยงาหรือเขาสัตว กลึงเปนทอนกลม ปลายเรียว แหลมมน เวลาใชงานตองพันติดนิ้วชี้มือขวาใหแนนและถูกหลักการพันดวย 2 คันชัก เปนอุปกรณที่ใชบรรเลงเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสี โดยใช สวนประกอบที่เปนหางมาหรือเอ็น ถูสายซอตามจังหวะและทํานองเพลง
บูรณาการอาเซียน กระปอ (Krapeu) เปนเครืื่องดนตรีชนิดหนึ่ง ของประเทศกัมพูชา ที่มีลักษณะคลายกับจะเข ของไทย
4
คูมือครู
กิจกรรมทาทาย ใหนักเรียนเลนเกมโดยการแบงนักเรียนออกเปน 2 กลุม กลุมที่ 1 ออกไปเขียนชื่อเครื่องดนตรีประเภทเครื่องดีด กลุมที่ 2 ออกไปเขียนชื่อเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสี โดยสามารถเขียนไดทั้งชื่อเครื่องดนตรีไทยและชื่อเครื่องดนตรีสากล รวมกัน กลุมใดสามารถเขียนไดมากกวาในเวลาที่กําหนด และถูกตอง เปนผูชนะ
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
อธิบายความรู
1. ใหนักเรียนชวยกันอธิบายลักษณะของการ เกิดเสียงของเครื่องดนตรีประเภทเครื่องตี และเครื่องเปา แลวครูอธิบายเพิ่มเติม โดยให นักเรียนดูเนื้อหาในหนังสือ หนา 5 ประกอบ 2. ใหนักเรียนชวยกันอธิบายลักษณะการเกิดเสียง ของเครื่องดนตรีไทยอีก 2-3 ชนิด เชน • เสียงของตะโพน เกิดจากการใชมือตีกระทบ หนังสัตวตรงหนากลอง • เสียงของปชวา เกิดจากการใชปากเปา ที่ปากเปาของเครื่องดนตรี แลวครูอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนเขาใจ มากยิ่งขึ้น
๓) สีสนั ของเครือ่ งดนตรีประเภทเครือ่ งตี เสียงของเครือ่ งดนตรีประเภท เครื่องตี เกิดจากวิธีการใช้วัตถุ ๒ ชิ้น มากระทบกันจนเกิดเป็นเสียงตามลักษณะ วัตถุชนิดนั้น เช่น เสียงของโลหะกระทบกัน เสียงของไม้กระทบกัน เสียงของ ไม้ตีกระทบหนังสัตว์ เป็นต้น เครื่องดนตรีประเภทนี้มีหลายชนิด เช่น ฉิ่ง ฉาบ ระนาดเอก ระนาดทุ้ม ตะโพน กลองทัด เป็นต้น โขน
รางระนาด ไม้ตีระนาด
Explain
เชือกร้อยลูกระนาด
ระนาดเอกเป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องตี และใช้เป็นเครื่องดนตรีน�าของวงปพาทย์ มีลักษณนามเรียกว่า ราง
๔) สีสันของเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเปา เสียงของเครื่องดนตรี ประเภทเครื่องเป่า เกิดจากการบังคับลมที่พอเหมาะ ผ่านเข้าไปในเครื่องเป่า ชนิดต่างๆ โดยอาจผ่านกลไกของเครือ่ งดนตรีทา� ให้เกิดแรงดันของลมทีท่ า� ให้เกิด ระดับเสียงที่แตกต่างกันและมีความไพเราะ เครื่องดนตรีประเภทนี้มีหลายชนิด 1 เช่น ขลุ่ยเพียงออ ขลุ่ยหลีบ ขลุ่ยอู้ ปใน ปชวา ปมอญ เป็นต้น รูให้ระดับเสียง ด้านบน ด้านล่าง
รูร้อยเชือก
รูปากนกแก้ว
ขลุ่ยเป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่า มีลักษณนามเรียกว่า เลา
5
ขอใดเปนลักษณะเสียงที่เกิดขึ้น จากการตีฉิ่ง ดังภาพ ก. เสียงสั้น ข. เสียงตํ่า ค. เสียงยาว ง. เสียงดังมาก
ขอสอบเนนการคิด
วิเคราะหคําตอบ คําตอบที่ถูก คือ ขอ ค. เพราะการตีฉิ่งในภาพทําให เกิดเสียงดัง “ฉิ่ง” ซึ่งเปนเสียงกระทบกันของโลหะ แลวสะบัดขอมือออกทันที ทําใหเกิดเสียงดังกังวานและมีความตอเนื่อง ซึ่งลักษณะเสียงเชนนี้ เปนลักษณะของเสียงยาว
นักเรียนควรรู 1 ขลุยเพียงออ เปนเครือ่ งดนตรีทใี่ ชในการเทียบเสียงเครือ่ งดนตรีในวงดนตรีไทย เพราะมีเสียงทีเ่ ปนมาตรฐาน เสียงโดของขลุย เพียงออ เทียบเทากับเสียงทีแฟล็ตของ ดนตรีสากล
มุม IT ครูศึกษาเสียงเครื่องดนตรีชนิดตางๆ ไดที่ http://www.culture.go.th/research/musical/html/th download.htm
คูมือครู
5
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ Expand าใจ ขยายความเข
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
อธิบExplain ายความรู
Explain
1. ใหนักเรียน 4-5 คน สงเสียงรอง แลวใหนักเรียน ที่เหลือฟงเสียง และวิเคราะหเปรียบเทียบ เสียงของเพือ่ นวาแตกตางหรือเหมือนกันอยางไร (ใหนักเรียนแสดงความคิดเห็นตามความคิด อยางอิสระ) 2. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายถึงลักษณะเสียง ของมนุษยใหเขาใจวา เสียงของมนุษยมีความ แตกตางกันตามเพศและวัย โดยครูอธิบาย เพิ่มเติมวา ในหลักการทางดนตรีจะแบงเสียง ขับรองออกเปน 4 ประเภท คือ • เสียงสูงของผูหญิง • เสียงสูงของผูชาย • เสียงตํ่าของผูหญิง • เสียงตํ่าของผูชาย
ขยายความเขาใจ
อธิบายความรู
๒. สีสันของเสียงมนุษย์ เนื่องจากคนเรามีความแตกต่างกันหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา และลักษณะต่างๆ รวมถึงเสียงพูดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จึงท�าให้เสียงขับร้อง แตกต่างกันไปด้วย การทีค่ นสามารถปรับเสียงให้มรี ะดับเสียงสูงและต�า่ ได้ ท�าให้สามารถเลียน เสียงต่างๆ รอบตัวได้ใกล้เคียง เสียงคนจึงมีลักษณะเป็นเสียงดนตรีชนิดหนึ่ง
ÃÙËŒ Ã×ÍäÁ‹Ç‹Ò... เสียงของคนเราเกิดขึ้นได้อย่างไร 1 เสียงของคนเกิดจากการสัน่ สะเทือนของเส้นเสียงทีอ่ ยู่ในล�าคอ และอาศัยอวัยวะส่วนอืน่ ๆ ช่วยปรับ เสียงให้มีระดับเสียงสูงและต�่าตามต้องการ àÊÕ§ÊÙ§¢Í§¼ÙŒªÒ ÈѾ· ·Ò§´¹µÃÕ àÃÕÂ¡Ç‹Ò à·à¹Íà (Tenor) àÊÕ§µíèҢͧ¼ÙŒªÒ ÈѾ· ·Ò§´¹µÃÕ àÃÕÂ¡Ç‹Ò àºÊ (Bass)
Expand
1. ใหนักเรียนทํากิจกรรมการเรียนรูในหนังสือ หนา 8 ขอ 1 2. ครูถามคําถามสนทนากับศิลปน แลวใหนักเรียน ชวยกันตอบ
เสียงขับร้องของคนแต่ละคน มีความแตกต่างกันตามเพศและวัย ใน หลักการทางดนตรีจะแบ่งเสียงขับร้อง เป็น ๔ ประเภท คือ เสียงสูงของผู้หญิง และผู้ชาย เสียงต�่าของผู้หญิงและผู้ชาย
àÊÕ§ÊÙ§¢Í§¼ÙŒËÞÔ§ ÈѾ· ·Ò§´¹µÃÕ àÃÕÂ¡Ç‹Ò â«»ÃÒâ¹ (Soprano) àÊÕ§µíèҢͧ¼ÙŒËÞÔ§ ÈѾ· ·Ò§´¹µÃÕ àÃÕÂ¡Ç‹Ò ÍÑÅâµ (Alto)
ʹ·¹Ò¡ÑºÈÔÅ» ¹ ๖
ขอสอบเนนการคิด
นักเรียนควรรู 1 เสนเสียง เปนแผนเนื้อเยื่อ 2 แผน ที่อยูในกลองเสียงขณะที่เราพูดหรือ ออกเสียง จะทําใหเนื้อเยื่อสั่นและเกิดเสียง เสนเสียง
เฉลย คําถามสนทนากับศิลปน แนวตอบ ไมเหมือนกัน เพราะเสียงของคนเรามีลักษณะแตกตางกัน ซึ่งขึ้นอยู กับเพศ อายุ ขนาดเสนเสียงตางกัน เปนตน
6
คูมือครู
นักเรียนคิดว่า เสียงของเพื่อนๆ ในห้อง มีลักษณะเหมือนกันหรือไม่ เพราะเหตุใด
ขอใดเปนลักษณะเสียงของผูชายวัยกลางคน ก. แผวเบา ข. ทุมใหญ ค. แหบแหง ง. เล็กแหลม
วิเคราะหคําตอบ คําตอบที่ถูก คือ ขอ ข. เพราะผูชายวัยกลางคน มีอายุชวง 30-40 ป โดยปกติมักจะมีเสียงทุมใหญตามธรรมชาติของคนวัยนี้
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explore
Explain
Expand
Evaluate
สํารวจค Exploreนหา
Engage
สํารวจคนหา
๓
คุณสมบัติของเสียงดนตรี เสียงดนตรีเกิดจากการบรรเลงเครือ่ งดนตรี การขับร้องของคนเรา หรือการ ดีด สี ตี เป่า สิ่งใดสิ่งหนึ่ง แล้วท�าให้เกิดเสียงสูง-ต�่า อย่างเป็นระบบ เป็นจังหวะ ท�านองต่อเนื่องกัน ๑. เสียงดังหรือเบา เสียงดนตรีจะมีลักษณะดังหรือ เบา ขึ้นอยู่กับการบรรเลงและลักษณะ 1 ของเครื่องดนตรีชนิดนั้น ฉาบใหญ่ตีดังกว่าฉาบเล็ก เพราะมีขนาดใหญ่กว่า
©Ôè§
©Ñº 2
เสียงตีฉิ่งจะดังฉิ่ง-ฉับ เป็นเสียงยาว-สั้น สลับกันไป
๓. เสียงสูงหรือต�่า เสียงสูง คือ เสียงที่มีความถี่ใน การสั่นมาก เสียงต�่า คือ เสียงที่มีความถี่ใน การสั่นน้อย เสียงดนตรีจะสูงหรือต�่าขึ้นอยู่ กับท�านองดนตรี วิธีการบรรเลง และ ลักษณะของเครื่องดนตรี
๒. เสียงสั้นหรือยาว เสียงสั้น คือ เสียงที่เกิดขึ้นใน ระยะเวลาไม่นาน เสียงยาว คือ เสียงที่เกิดขึ้นใน ระยะเวลานานๆ เสียงดนตรีจะมีความสัน้ หรือยาว ขึน้ อยูก่ บั วิธกี ารบรรเลงและลักษณะของ เสียงดนตรี รวมถึงองค์ประกอบของเพลง
Explore
ใหนักเรียนบอกการกระทําที่ทําใหเกิด เสียงดัง-เบา เสียงสั้น-ยาว เสียงสูง-ตํ่า เชน ตะโกนเสียงดัง กระซิบเสียงเบา เปนตน
อธิบายความรู
Explain
1. ครูนําเพลงมาเปดใหนักเรียนฟง แลวใหสังเกต และบอกลักษณะการเกิดเสียงดัง-เบา เสียงสั้น-ยาว และเสียงสูง-ตํ่า ที่ปรากฏในเพลง 2. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายใหเขาใจวา เสียงดนตรีหรือเสียงเพลงทีไ่ ดยนิ นัน้ จะปรากฏ คุณสมบัติของเสียง ไดแก เสียงดัง-เบา เสียงสั้น-ยาว และเสียงสูง-ตํ่า อยางสมํ่าเสมอ โดยครูอธิบายเพิ่มเติมวา คุณสมบัติของเสียง ที่เกิดขึ้นนั้น ถูกจัดใหเปนระบบ ทําให เสียงดนตรีที่ไดยินมีความไพเราะนาฟง
3
เสียงสีซอจะมีเสียงสูงหรือต�่าขึ้นอยู่กับการจับสายซอขณะเล่น
7
ขอสอบเนนการคิด
เสียงยาว เปนคุณสมบัติเสียงการบรรเลงของเครื่องดนตรีขอใด ก. กรับเสภา ข. กรับพวง ค. กลองชาตรี ง. ฆองโหมง
วิเคราะหคําตอบ คําตอบที่ถูก คือ ขอ ง. เพราะฆองเปนเครื่องดนตรี ที่ทําจากโลหะ เมื่อใชไมตีกระทบจึงมีเสียงดังกังวาน ดัง “โหมง” ซึ่งเปน เสียงยาว
กิจกรรมสรางเสริม ใหนักเรียนฝกฟงเพลงไทย เพลงไทยสากล จากสื่อทั่วไป แลวสังเกต ลักษณะของเสียงดัง-เบา เสียงสั้น-ยาว และเสียงสูง-ตํ่า ที่มีอยูในเพลง โดยครูคอยใหคําแนะนําในการสังเกต แลวนํามาเลาใหเพื่อนฟง จากนั้นครู และนักเรียนรวมกันอภิปรายสรุปถึงลักษณะของเสียง
นักเรียนควรรู 1 ฉาบ ที่ใชในดนตรีไทยมีทั้งฉาบเล็กและฉาบใหญ ซึ่งฉาบที่ใชในวงดนตรีไทย จะใชฉาบเล็ก ตีขัดจังหวะฉิ่งและกลองหรือตีประกอบเพลงใหมีความไพเราะนาฟง 2 ฉิ่ง ใชตีกํากับจังหวะเพลงไทย ทั้งเพลงขับรองและเพลงบรรเลง 3 สีซอ การสีซอควรมีความรูพื้นฐานเรื่อง ทานั่งและจับซอที่ถูกตอง ดังนี้ 1. การนั่ง นั่งขัดสมาธิบนพื้น หากเปนสตรีใหนั่งพับเพียบขาขวาทับขาซาย 2. การวางซอ วางกะโหลกซอไวบนขาพับดานซาย มือซายจับคันซอให ตรงกับที่มีเชือกรัดอก ใหตํ่ากวาเชือกรัดอกประมาณ 1 นิ้ว สวนมือขวาจับคันสี 3. การจับคันสี ใหแบงคันสีออกเปน 5 สวน แลวจับตรง 3 สวน ใหคันสีพาด ไปบนนิ้วชี้และนิ้วกลางในลักษณะหงายมือ สวนนิ้วหัวแมมือใชกํากับคันสี โดยกด ลงบนนิ้วชี้ นิ้วนาง และนิ้วกอย ใหงอติดกัน เพื่อทําหนาที่ดันคันชักออกเมื่อจะสี สายเอก และดึงเขาเมื่อจะสีสายทุม คูมือครู
7
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
Engage
Explore
Explain
ขยายความเขาใจ
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
Expand าใจ ขยายความเข
Evaluate ตรวจสอบผล
Expand
¡Ô¨¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ
ใหนักเรียนทํากิจกรรมการเรียนรูในหนังสือ หนา 8 ขอ 2
ตรวจสอบผล
Evaluate
1. ครูตรวจแบบบันทึกเสียง โดยพิจารณาวา จําแนกแหลงกําเนิดเสียงถูกตองหรือไม 2. ครูตรวจแบบบันทึกเสียงคน โดยพิจารณาวา จําแนกเสียงตามวัยและเพศถูกตองหรือไม และเขียนลักษณะเสียงที่ไดยินถูกตองหรือไม 3. ครูตรวจแบบบันทึกเสียงเครื่องดนตรี โดย พิจารณาวา บันทึกลักษณะเสียงเครื่องดนตรี ที่ไดยินถูกตองหรือไม
ฝกคิด ฉลาดท�า ๑. ฟงเสียงคนในวัยต่างๆ มา ๕ ครั้ง แล้วบันทึกลักษณะของเสียงที่ได้ยิน ลักษณะของเสียงที่ได้ยิน
ครั้งที่
คนชรา
ผู้ชาย
ผู้หญิง
เด็ก
ทึก
๑
บัน บ บ แ ง า ตัวอย
๒
๒. เลือกฟงเสียงเครื่องดนตรีที่ก�าหนดให้ แล้วบันทึกเสียงที่ได้ยิน
หลักฐานแสดงผลการเรียนรู 1. แบบบันทึกเสียงที่สังเกตได 2. กิจกรรมเรียนรูขอ 1-2
1
ซอสามสาย
๒ ๓ ๔
กีตาร
แซ็กโซโฟน
ประเภท ของเครื่องดนตรี (ดีด สี ตี เป่า)
ดัง
เบา
สั้น
ยาว
สูง
ต�่า
……………………………………………
……………………………………………
…………..
…………..
…………..
…………..
…………..
…………..
……………………………………………
……………………………………………
…………..
…………..
…………..
…………..
…………..
……………………………………………
……………………………………………
…………..
…………..
…………..
…………..
…………..
…………..
……………………………………………
……………………………………………
…………..
…………..
…………..
…………..
…………..
…………..
ครั้งที่
๑
ระนาดเอก
ชื่อเครื่องดนตรี
คุณสมบัติของเสียง
ึก
ันท บ บ บ แ ง ัวอยา
ต
…………..
8
ขอสอบเนนการคิด
นักเรียนควรรู 1 ระนาด ระนาดที่ใชบรรเลงในวงดนตรีไทยมีหลายชนิด ไดแก ระนาดเอก ระนาดทุม ระนาดทอง ระนาดเอกเหล็ก และระนาดทุมเหล็ก
8
ระนาดเอก
ระนาดทุม
ระนาดเอกเหล็ก
ระนาดทุมเหล็ก
คูมือครู
จากภาพ เกี่ยวของกับคุณสมบัติเสียงขอใด ก. เสียงสั้น ข. เสียงตํ่า ค. เสียงยาว ง. เสียงดัง
วิเคราะหคําตอบ คําตอบที่ถูก คือ ขอ ก. เพราะในภาพเปนการตีฉิ่ง ในจังหวะ “ฉับ” ซึ่งทําใหเสียงดังในชวงเวลาสั้นๆ ไมดังกังวานยาวนาน เหมือนการตีฉิ่งในจังหวะ “ฉิ่ง”