8858649122735

Page 1

คูมือครู 㪌»ÃСͺ¡ÒÃÊ͹ËÇÁ¡Ñº

˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ©ºÑº Í- .

ภาพปกนี้มีขนาดเทากับหนังสือเรียนฉบับจริงของนักเรียน

กระบวนการสอนแบบ 5 Es ชวยสรางทักษะการเรียนรู กิจกรรมมุงพัฒนาทักษะการคิด คำถาม + แนวขอสอบเพื่อยกผลสัมฤทธิ์ O-NET กิจกรรมบูรณาการเตรียมพรอมสู ASEAN 2558


เอกสารประกอบคูมือครู

กลุมสาระการเรียนรู สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

ภูมิศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่

1

สําหรับครู

คูมือครู Version ใหม

ลักษณะเดน

ขยายพื้นที่รูปเลมใหญขึ้นกวาเดิม จัดแบงพื้นที่ออกเปนโซน เพื่อคนหาขอมูลไดงาย สะดวก รวดเร็ว และดูเปนระเบียบ กระตุน ความสนใจ

สํารวจคนหา

Engage

Explore

อธิบายความรู Explain

ขยายความเขาใจ Expand

ตรวจสอบผล

กระตุน ความสนใจ

Evaluate

สํารวจคนหา

Engage

Explore

อธิบายความรู Explain

ขยายความเขาใจ Expand

ตรวจสอบผล Evaluate

เปาหมายการเรียนรู สมรรถนะของผูเรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค

หน า

โซน 1 กระตุน ความสนใจ

Engage

สํารวจคนหา

Explore

อธิบายความรู

Explain

ขยายความเขาใจ

Expand

ตรวจสอบผล

หน า

หนั ง สื อ เรี ย น

โซน 1

หนั ง สื อ เรี ย น

Evaluate

ขอสอบเนน การคิด

แนว  NT  O-NE T

ขอสอบ

โซน 2

ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET

เกร็ดแนะครู

O-NET

บูรณาการเชื่อมสาระ

โซน 3

กิจกรรมสรางเสริม กิจกรรมทาทาย

นักเรียนควรรู

โซน 3

โซน 2 บูรณาการอาเซียน มุม IT

No.

คูมือครู

คูมือครู

No.

โซน 1 ขั้นตอนการสอนแบบ 5Es

โซน 2 ชวยครูเตรียมสอน

โซน 3 ชวยครูเตรียมนักเรียน

เพื่อใหครูเตรียมจัดกิจกรรมการเรียน การสอน โดยแนะนําขั้นตอนการสอนและ การจัดกิจกรรมแบบ 5Es อยางละเอียด เพื่อใหนักเรียนบรรลุตามตัวชี้วัด

เพื่อชวยลดภาระครูผูสอน โดยแนะนํา เกร็ดความรูสําหรับครู ความรูเสริมสําหรับ นักเรียน รวมทั้งบูรณาการความรูสูอาเซียน และมุม IT

เพื่อใหครูสะดวกตอการจัดกิจกรรม โดย แนะนํากิจกรรมบูรณาการเชือ่ มระหวางสาระหรือ กลุมสาระการเรียนรู วิชา กิจกรรมสรางเสริม กิจกรรมทาทาย รวมถึงเนื้อหาที่เคยออกขอสอบ O-NET แนวขอสอบ NT/O-NET ทีเ่ นนการคิด พรอมเฉลยและคําอธิบายอยางละเอียด


ที่ใชในคูมือครู

แถบสีและสัญลักษณ

แถบสีแสดงขั้นตอนการสอนและการจัดกิจกรรม แบบ 5Es เพื่อใหครูทราบวาเปนขั้นการสอนขั้นใด

1. แถบสี 5Es สีแดง

สีเขียว

กระตุน ความสนใจ

เสร�ม

สํารวจคนหา

Engage

2

เปนขั้นที่ผูสอนเลือกใช เทคนิคกระตุน ความสนใจ เพื่อโยง เขาสูบทเรียน

สีสม

อธิบายความรู

Explore

เปนขั้นที่ผูสอน ใหผูเรียนสํารวจ ปญหา และศึกษา ขอมูล

สีฟา

Explain

เปนขั้นที่ผูสอน ใหผูเรียนคนหา คําตอบ จนเกิดความรู เชิงประจักษ

สีมวง

ขยายความเขาใจ

ตรวจสอบผล

Expand

Evaluate

เปนขั้นที่ผูสอน ใหผูเรียนนําความรู ไปคิดคนตอๆ ไป

เปนขั้นที่ผูสอน ประเมินมโนทัศน ของผูเรียน

2. สัญลักษณ สัญลักษณ

วัตถุประสงค

• เปาหมายการเรียนรู

• หลักฐานแสดง ผลการเรียนรู

• เกร็ดแนะครู

แทรกความรูเสริมสําหรับครู ขอเสนอแนะ ขอควรระวัง ขอสังเกต แนวทางการจัด กิจกรรมและอืน่ ๆ เพื่อประโยชนในการ จัดการเรียนการสอน ขยายความรูเพิ่มเติมจากเนื้อหา เพื่อให ครูนําไปใชอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียน ไดมีความรูมากขึ้น

ความรูห รือกิจกรรมเสริม ใหครูนาํ ไปใช เตรียมความพรอมใหกบั นักเรียนกอนเขาสู ประชาคมอาเซียนใน พ.ศ. 2558 โดย บูรณาการกับวิชาทีก่ าํ ลังเรียน

บูรณาการอาเซียน

คูม อื ครู

แสดงรองรอยหลักฐานตามภาระงาน ที่ครูมอบหมาย เพื่อแสดงผลการเรียนรู ตามตัวชี้วัด

• นักเรียนควรรู

มุม IT

แสดงเปาหมายการเรียนรูที่นักเรียน ตองบรรลุตามตัวชี้วัด ตลอดจนสมรรถนะ ที่จะตองมี และคุณลักษณะที่พึงเกิดขึ้น กับนักเรียน

แนะนําแหลงคนควาจากเว็บไซต เพื่อให ครูและนักเรียนไดเขาถึงขอมูลความรู ที่หลากหลาย ทั้งไทยและตางประเทศ

สัญลักษณ

ขอสอบ

วัตถุประสงค

O-NET

(เฉพาะวิชา ชัน้ ทีส่ อบ O-NET O-NET)

ขอสอบเนน การคิด

แนว  NT  O-NE T (เฉพาะระดับชัน้ มัธยมศึกษาตอนตน)

ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET (เฉพาะระดับชัน้ มัธยมศึกษาตอนปลาย)

บูรณาการเชื่อมสาระ

กิจกรรมสรางเสริม

กิจกรรมทาทาย

• ชีแ้ นะเนือ้ หาทีเ่ คยออกขอสอบ

O-NET โดยยกตัวอยางขอสอบ พรอมวิเคราะหคาํ ตอบ อยางละเอียด

• เปนตัวอยางขอสอบทีม่ งุ เนน

การคิดและเปนแนวขอสอบ NT/O-NET ในระดับมัธยมศึกษา ตอนตน มีทงั้ ปรนัย - อัตนัย พรอมเฉลยอยางละเอียด

• เปนตัวอยางขอสอบทีม่ งุ เนน

การคิดและเปนแนวขอสอบ O-NET ในระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย มีทงั้ ปรนัย - อัตนัย พรอมเฉลยอยางละเอียด

• แนะนําแนวทางการจัดกิจกรรม

เชือ่ มกับสาระหรือกลุม สาระ การเรียนรู ระดับชัน้ หรือวิชาอืน่ ทีเ่ กีย่ วของ

• แนะนําแนวทางการจัดกิจกรรม ซอมเสริมสําหรับนักเรียนทีค่ วร ไดรบั การพัฒนาการเรียนรู

• แนะนําแนวทางการจัดกิจกรรม ตอยอดสําหรับนักเรียนทีเ่ รียนรู ไดอยางรวดเร็ว และตองการ ทาทายความสามารถในระดับ ทีส่ งู ขึน้


คําแนะนําการใชคูมือครู การออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอน คูมือครู รายวิชา ภูมิศาสตร ม.1 จัดทําขึ้นเพื่อใหครูผูสอนนําไปใชเปนแนวทางวางแผนการสอนเพื่อพัฒนา ผลสัมฤทธิท์ างการเรียน และประกันคุณภาพผูเ รียน ตามนโยบายของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน (สพฐ.) โดยใชหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.1 ของบริษัท อักษรเจริญทัศน อจท. จํากัด เปนสื่อหลัก (Core Material) ประกอบ เสร�ม การสอนและการจัดกิจกรรมการเรียนรูใหสอดคลองกับมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดกลุมสาระการเรียนรู สังคมศึกษา 3 ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 โดยออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอน ตามหลักการสําคัญ ดังนี้ 1 ออกแบบการสอนเปนหนวยการเรียนรูอิงมาตรฐาน คูมือครู รายวิชา ภูมิศาสตร ม.1 วางแผนการสอนโดยแบงเปนหนวยการเรียนรูตามลําดับสาระ (strand) และ หมายเลขขอของมาตรฐานการเรียนรูแ ละตัวชีว้ ดั แตละหนวยจะกําหนดเปาหมายการเรียนรูแ ละจุดประสงคการเรียนรู (Objective Learning) กิจกรรมการเรียนรู (Learning Activities) และแนวทางการประเมินผลการเรียนรู (Learning Evaluation) ไวชัดเจน ครูผูสอนสามารถจัดทําแผนการสอนใหครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรู ตัวชี้วัด สมรรถนะ และคุณลักษณะ อันพึงประสงคที่เปนเปาหมายการเรียนรูตามที่กําหนดไวในสาระแกนกลาง (ตามแผนภูมิ) และสามารถบันทึกผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนของผูเรียนแตละคนลงในเอกสาร ปพ.5 ไดอยางมั่นใจ แผนภูมิแสดงความสัมพันธขององคประกอบการออกแบบการเรียนรูอิงมาตรฐานและเนนผูเรียนเปนสําคัญ

พผ

ูเ

จุดปร

ะสง

คก า

ส ภา

รียน

รู ีเรยน

มาตรฐานการเรียนรู ตัวชี้วัดชั้นป

ทักษะการคิด การวัดประเมินผล การเรียนรู

กิจกรรมการเรียนรู

เทคนิคการสอน คูม อื ครู


2 การจัดการเรียนรูที่ยึดผูเรียนเปนสําคัญ แนวคิ ด ในการจั ด การเรี ย นการสอนที่ ยึ ด ผู  เ รี ย นเป น สํ า คั ญ พั ฒ นามาจากปรั ช ญาและทฤษฎี ก ารเรี ย นรู  Constructivism ที่เชื่อวา การเรียนรูเปนกระบวนการที่เกิดขึ้นภายในสมองของผูเรียนแตละคน ผูเรียนเปนผูสรางความรู โดยการเชื่อมโยงระหวางสิ่งที่ไดเรียนรูจากบทเรียนใหมกับความรูหรือประสบการณเดิมที่มีอยู ทฤษฎีนี้มีความเชื่อวา ผูเรียนทุกคนไดเรียนรูและมีการสั่งสมความรูความเขาใจเกี่ยวกับสิ่งตางๆ ติดตัวมากอน ทีจ่ ะเขาสูห อ งเรียน ซึง่ เปนการเรียนรูท เี่ กิดจากประสบการณและสิง่ แวดลอมรอบตัวผูเ รียนแตละคน ดังนัน้ การจัดกิจกรรม เสร�ม การเรียนการสอนในแตละหนวยการเรียนรู ผูสอนจะตองคํานึงถึง

4

1. ความรูเดิมของผูเรียน วิธีการสอนที่ดีจะตองเริ่มตนจากจุดที่วา ผูเ รียนมีความรูอ ะไรมาบาง แลวจึงใหความรู หรือประสบการณใหม เพื่อตอยอดจาก ความรูเดิม นําไปสูการสรางความรู ความเขาใจใหม

2. ความรูเดิมของผูเรียนถูกตองหรือไม ผูส อนตองปรับเปลีย่ นความรูค วามเขาใจเดิม ของผูเรียนใหถูกตอง และเปนพฤติกรรม การเรียนรูใ หมทมี่ คี ณุ คาตอผูเรียน เพื่อสราง เจตคติหรือทัศนคติที่ดีตอการเรียนรู สิ่งเหลานั้น

3. ผูเรียนสรางความหมายสําหรับตนเอง ผูสอนตองสงเสริมใหผูเรียนนําความรู ความเขาใจที่เกิดขึ้นไปลงมือปฏิบัติ เพื่อขยายความรูใหลึกซึ้งและมีคุณคา ตอตัวผูเรียนมากที่สุด

แนวคิด Constructivism เนนใหผูเรียนสรางความรูโดยผานกระบวนการคิดและความอยากรูของตนเอง โดยมีผูสอนเปนผูสรางบรรยากาศ

การเรียนรูและกระตุนความสนใจ คอยจัดสถานการณใหผูเรียนเกิดความขัดแยงทางความคิดระหวางประสบการณเดิมกับประสบการณ ความรูใ หม เพือ่ กระตนุ ใหผเู รียนเชือ่ มโยงความรู ความคิด กับประสบการณทมี่ อี ยูเ ดิม แลวสังเคราะหเปนความรูห รือแนวคิดใหมๆ ไดดว ยตนเอง

3 การบูรณาการกระบวนการคิด การเรียนรูของผูเรียนแตละคนจะเกิดขึ้นที่สมอง ซึ่งเปนอวัยวะที่ทําหนาที่รูคิดภายใตสภาพแวดลอมที่เอื้ออํานวย และไดรบั การกระตนุ จูงใจอยางเหมาะสม สอดคลองกับสภาพจิตใจและความตองการของผูเ รียนแตละคน การจัดกิจกรรม การเรียนรูและสาระการเรียนรูที่สอดคลองกับความสนใจและมีความหมายตอผูเรียน จะชวยกระตุนใหสมองของผูเรียน สามารถรับรูและเรียนรูไดอยางมีประสิทธิภาพตามขั้นตอนการทํางานของสมอง ดังนี้ 1. สมองจะเรียนรูและสืบคน โดยการสังเกต คนหา ซักถาม และทดลอง ปฏิบัติ จนทําใหคนพบความรูความเขาใจ ไดอยางรวดเร็ว

2. สมองจะแยกแยะคุณคาของสิ่งตางๆ โดยการตัดสินใจวิพากษวิจารณ แสดง ความคิดเห็น ยอมรับหรือตอตานตาม อารมณความรูสึกที่เกิดขึ้นในขณะที่เรียนรู

3. สมองจะประมวลเนื้อหาสาระ โดยการสรุปเปนความคิดรวบยอดจาก เรื่องราวที่ไดเรียนรูใหมนําไปผสมผสานกับ ความรูห รือประสบการณเดิมทีถ่ กู จัดเก็บอยูใ น สมอง ผานการกลัน่ กรองเพือ่ สังเคราะหเปน ความรูค วามเขาใจใหมๆ หรือเปนทัศนคติใหม ที่จะเก็บบรรจุไวในสมองของผูเรียน

การเรียนรูที่มีประสิทธิภาพจึงตองเปนการเรียนรูที่เกิดจากกระบวนการคิดของผูเรียน เพราะการเรียนรูจะเกิดขึ้น เมื่อสมองรูคิด และตองเปนการคิดไดครบถวนตามขั้นตอนการทํางานของสมองผูเรียน โดยเริ่มตนจาก 1. ระดับการคิดพื้นฐาน ไดแก การสังเกต การจําแนก การคาดคะเน การสื่อความหมาย การรวบรวมขอมูล การสรุปผล เปนตน

คูม อื ครู

2. ระดับลักษณะการคิด ไดแก การคิดกวาง คิดลึกซึ้ง คิดไกล คิดหลากหลาย คิดคลอง คิดอยางมีเหตุผล เปนตน

3. ระดับกระบวนการคิด ไดแก กระบวนการคิดอยางมีวิจารณญาณ กระบวนการแกปญหา กระบวนการ คิดสรางสรรค กระบวนการคิดสังเคราะห เปนตน


5Es การจัดกิจกรรมตามขั้นตอนวัฏจักรการเรียนรู 5Es ขั้นตอนการสอนที่สัมพันธกับขั้นตอนการคิดและการทํางานทางสมองของผูเรียนที่นิยมใชอยางแพรหลาย คือ วัฏจักรการเรียนรู 5Es ซึ่งผูจัดทําคูมือครูไดนํามาใชเปนแนวทางออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนในแตละหนวย ตามลําดับขั้นตอนการเรียนรู ดังนี้ ขั้นที่ 1

กระตุนความสนใจ

(Engage)

เสร�ม

5

เปนขั้นที่ผูสอนนําเขาสูบทเรียน เพื่อกระตุนความสนใจของผูเรียนดวยเรื่องราวหรือเหตุการณที่นาสนใจโดยใชเทคนิควิธีการ และคําถามทบทวนความรูหรือประสบการณเดิมของผูเรียน เพื่อเชื่อมโยงผูเรียนเขาสูความรูของบทเรียนใหม ชวยใหผูเรียนสามารถ สรุปความสําคัญหัวขอและสาระการเรียนรูของบทเรียนได จึงเปนขั้นตอนการสอนที่สําคัญ เพราะเปนการเตรียมความพรอมและสราง แรงจูงใจใฝเรียนรูแกผูเรียน

ขั้นที่ 2

สํารวจคนหา

(Explore)

เปนขัน้ ทีผ่ สู อนเปดโอกาสใหผเู รียนลงมือศึกษา สังเกต หรือรวมมือกันสํารวจ เพือ่ ใหเห็นขอบขายของประเด็นหรือปญหา รวมถึง วิธีการศึกษาคนควา การรวบรวมขอมูลความรูที่จะนําไปสูการสรางความเขาใจประเด็นหรือปญหานั้นๆ เมื่อผูเรียนทําความเขาใจใน ประเด็นหรือปญหาที่จะศึกษาคนควาอยางถองแทแลว ก็ลงมือปฏิบัติเพื่อเก็บรวบรวมขอมูลความรู สํารวจตรวจสอบ โดยวิธีการตางๆ เชน สัมภาษณ ทดลอง อานคนควาขอมูลจากเอกสาร แหลงขอมูลตางๆ จนไดขอมูลความรูที่เกี่ยวของกับประเด็นหรือปญหาที่ศึกษา

ขั้นที่ 3

อธิบายความรู

(Explain)

เปนขั้นที่ผูสอนมีปฏิสัมพันธกับผูเรียน เชน ใหการแนะนํา ตั้งคําถามกระตุนใหคิด เพื่อใหผูเรียนคนหาคําตอบ และนําขอมูล ความรูจากการศึกษาคนควาในขั้นที่ 2 มาวิเคราะห สรุปผล และนําเสนอผลที่ไดศึกษาคนความาในรูปแบบสารสนเทศตางๆ เชน เขียนแผนภูมิ ผังมโนทัศน เขียนความเรียง เขียนรายงาน เปนตน ในขั้นตอนนี้ฝกใหผูเรียนใชสมองคิดวิเคราะหและสังเคราะห อยางเปนระบบ

ขั้นที่ 4

ขยายความเขาใจ

(Expand)

เปนขั้นที่ผูสอนเลือกใชเทคนิควิธีสอนตางๆ ที่สงเสริมใหผูเรียนนําความรูที่เกิดขึ้นไปคิดคนสืบคนตอๆ ไป เพื่อพัฒนาทักษะ การเรียนรูและการทํางานรวมกันเปนกลุม ระดมสมองเพื่อคิดสรางสรรครวมกัน ผูเรียนสามารถนําความรูที่สรางขึ้นใหมไปเชื่อมโยง กับประสบการณเดิมโดยนําขอสรุปทีไ่ ดไปใชอธิบายเหตุการณตา งๆ หรือนําไปปฏิบตั ใิ นสถานการณใหมๆ ทีเ่ กีย่ วของกับชีวติ ประจําวัน ของตนเอง เพื่อขยายความรูความเขาใจใหกวางขวางยิ่งขึ้น ในขั้นตอนนี้ฝกสมองของผูเรียนใหสามารถคิดริเริ่มสรางสรรคอยางมี คุณภาพ เสริมสรางวิสัยทัศนใหกวางไกลออกไป

ขั้นที่ 5

ตรวจสอบผล

(Evaluate)

เปนขัน้ ทีผ่ สู อนประเมินมโนทัศนของผูเ รียน โดยตรวจสอบจากความคิดทีเ่ ปลีย่ นไปและความคิดรวบยอดทีเ่ กิดขึน้ ใหม ตรวจสอบ ทักษะ กระบวนการปฏิบัติ การแกปญหา การตอบคําถามรวบยอด หรือการเคารพความคิดหรือยอมรับเหตุผลของคนอื่น เพื่อการ สรางสรรคความรูร ว มกัน ผูเ รียนสามารถประเมินผลการเรียนรูข องตนเอง เพือ่ สรุปผลวามีความรูอ ะไรเพิม่ ขึน้ มาบาง เกิดความเขาใจ มากนอยเพียงใด และจะนําความรูเหลานั้นไปประยุกตใชในการเรียนรูเรื่องอื่นๆ หรือในชีวิตประจําวันไดอยางไร ผูเรียนจะเกิดเจตคติ และเห็นคุณคาของตนเองจากผลการเรียนรูที่เกิดขึ้น ซึ่งเปนการเรียนรูที่มีความสุขอยางแทจริง

การจัดกิจกรรมการเรียนรูตามขั้นตอนวัฏจักรการเรียนรู 5Es จึงเปนรูปแบบการเรียนการสอนที่เนนผูเรียน เปนสําคัญอยางแทจริง เพราะสงเสริมใหผูเรียนไดเรียนรูตามขั้นตอนของกระบวนการสรางความรูดวยตนเอง และ ฝกฝนใหใชกระบวนการคิดและกระบวนการกลุมอยางชํานาญ กอใหเกิดทักษะชีวิต ทักษะการทํางาน และทักษะการ เรียนรูที่มีประสิทธิภาพ สงผลตอการยกระดับผลสัมฤทธิ์ของผูเรียน ตามเปาหมายของการปฏิรูปการศึกษาทศวรรษที่ 2 (พ.ศ. 2552-2561) ทุกประการ คูม อื ครู


O-NET การเพิ่มผลสัมฤทธิ์ O-NET

การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามขั้นตอนวัฏจักรการเรียนรู 5Es ในแตละหนวยการเรียนรู ทางผูจัดทํา จะเสนอแนะวิธีสอน รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู พรอมทั้งออกแบบเครื่องมือวัดและประเมินผลที่สอดคลองกับตัวชี้วัด และสาระการเรียนรูแกนกลางไวทุกขั้นตอน โดยยึดหลักสําคัญ คือ หลักของการวัดและประเมินผล เสร�ม

6

1. การวัดและประเมินผลทุกครั้ง ควรนําผลมาปรับปรุงพัฒนาผูเรียน เปนรายบุคคล

2. การวัดและประเมินผลมี เปาหมาย เพื่อพัฒนาการเรียนรู ของผูเรียนจนเต็มศักยภาพ

3. การนําผลการวัดและประเมินผล ทุกครั้งมาวางแผนปรับปรุงกิจกรรม การเรียนการสอน การเลือกเทคนิค วิธีสอน และสื่อการเรียนรูให เหมาะสมกับสภาพจริงของผูเรียน

การทดสอบผูเรียน 1. การใชขอสอบอัตนัย เนนการอาน การคิดวิเคราะห และการเขียนเพิ่มมากขึ้น 2. การใชคําถามกระตุนการคิดควบคูกับการทําขอสอบที่เนนการคิดอยางตอเนื่องตามลําดับกิจกรรมการเรียนรู และตัวชี้วัด 3. การทดสอบตองดําเนินการทั้งกอนเรียน ระหวางเรียน และหลังเรียน การทดสอบควรใชขอสอบทั้งชนิดปรนัยและ อัตนัย และเปนการทดสอบเพื่อประเมินผลการเรียนของผูเรียนแตละคน เพื่อการสอนซอมเสริมใหบรรลุตัวชี้วัด ไดครบถวน 4. การสอบกลางภาค (ถามี) ควรนําแบบฝกหัดหรือขอสอบทีน่ กั เรียนสวนใหญไมสามารถตอบไดหรือไมครบถวนชัดเจน มา สรางเปนแบบทดสอบอีกครัง้ เพือ่ ตรวจสอบความรูค วามเขาใจทีถ่ กู ตอง และประเมินความกาวหนาของผูเ รียนแตละคน 5. การสอบปลายภาคเรียนเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามตัวชี้วัดที่สําคัญ ควรออกขอสอบใหมีลักษณะเดียวกับ ขอสอบ O-NET โดยเนนการคิดวิเคราะห สังเคราะห เชื่อมโยงประยุกตใช เพื่อสรางความคุนเคย และฝกฝน วิธีการทําขอสอบดวยความมั่นใจ 6. การนําผลการทดสอบของผูเรียนมาวิเคราะห โดยผลการสอบกอนการเรียนตองสามารถพยากรณผลการสอบ กลางภาค และผลการสอบกลางภาคตองทํานายผลการสอบปลายภาคของผูเ รียนแตละคน เพือ่ ประเมินพัฒนาการ ความกาวหนาของผูเรียนเปนรายบุคคล 7. ผลการทดสอบปลายป ปลายภาค ตองมีคาเฉลี่ยสอดคลองกับคาเฉลี่ยของการสอบ NT ที่เขตพื้นที่การศึกษา จัดสอบ รวมทั้งคาเฉลี่ยของการสอบ O-NET ชวงชั้นที่สอดคลองครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดสําคัญ เพือ่ สะทอนประสิทธิภาพของครูผสู อนในการออกแบบการเรียนรูแ ละประกันคุณภาพผูเ รียนทีต่ รวจสอบผลไดชดั เจน การจัดการเรียนการสอนในแตละหนวยการเรียนรู ตองใหผูเรียนไดสั่งสมความรู ความเขาใจตามลําดับขั้นตอน ของกิจกรรมในวัฏจักรการเรียนรู 5Es เพื่อใหผูเรียนไดเติมเต็มองคความรูอยางตอเนื่อง จนสามารถปฏิบัติชิ้นงานหรือ ภาระงานรวบยอดของแตละหนวย ผานเกณฑประกันคุณภาพในระดับที่นาพึงพอใจ เพื่อรองรับการประเมินภายนอกจาก สมศ. ตลอดเวลา คูม อื ครู


ASEAN การเรียนรูสูประชาคมอาเซียน เพื่ออํานวยความสะดวกแกครูผูสอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรูบูรณาการอาเซียนศึกษา ผูจัดทําไดวิเคราะห มาตรฐานการเรียนรู และตัวชี้วัดที่มีสาระการเรียนรูสอดคลองกับองคความรูเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนในแงมุมตางๆ ครอบคลุมทัง้ ประชาคมการเมืองและความมัน่ คงอาเซียน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และประชาคมสังคมและวัฒนธรรม อาเซียน เพื่อสงเสริมการเรียนรูใหผูเรียนเกิดความตระหนัก มีความรูความเขาใจเหมาะสมกับระดับชั้นและกลุมสาระ การเรียนรู โดยเสนอแนะวิธีการจัดกิจกรรมบูรณาการเนื้อหาสาระตางๆ ที่เปนประโยชนตอผูเรียนและเปนการชวย เตรียมความพรอมผูเ รียนทุกคนทีจ่ ะกาวเขาสูก ารเปนสมาชิกของประชาคมอาเซียนไดอยางมัน่ ใจตามขอตกลงปฏิญญา เสร�ม ชะอํา-หัวหิน วาดวยความรวมมือดานการศึกษาเพือ่ บรรลุเปาหมายประชาคมอาเซียนทีเ่ อือ้ อาทรและแบงปน จึงกําหนด 7 เปนนโยบายใหกระทรวงศึกษาธิการจัดการเรียนรูเตรียมความพรอมผูเรียนเขาสูประชาคมอาเซียนภายในป พ.ศ. 2558 ตามแนวปฏิบัติที่สําคัญ ดังนี้

การจัดการเรียนรูส ู ประชาคมการเมืองและความมัน่ คงอาเซียน 1. การสรางความรูความเขาใจ และตระหนักถึงความสําคัญของ กฎบัตรอาเซียน และความรวมมือ ของ 3 เสาหลัก ซึง่ กฎบัตรอาเซียน ในขณะนี้มีสถานะเปนกฎหมายที่ ประเทศสมาชิกจะตองปฏิบัติตาม หลักการที่กําหนดไวเพื่อใหบรรลุ เปาหมายของกฎบัตรมาตราตางๆ

2. การสงเสริมหลักการ ประชาธิปไตยและการสราง สิ่งแวดลอมประชาธิปไตย เพื่อการอยูรวมกันอยางกลมกลืน ภายใตวิถีชีวิตอาเซียนที่มีความ หลากหลายดานสังคมและ วัฒนธรรม

4. การตระหนักในคุณคาของ สายสัมพันธทางประวัติศาสตร และมรดกทางวัฒนธรรมที่มี พัฒนาการรวมกัน เพื่อเชื่อม อัตลักษณและสรางจิตสํานึก ในการเปนประชากรของประชาคม อาเซียนรวมกัน

3. การสงเสริมการศึกษาดาน สิทธิมนุษยชน เพื่อสรางประชาคม อาเซียนใหเปนประชาคมเพื่อ ประชาชนอยางแทจริง สามารถ อยูรวมกันไดบนพื้นฐานการเคารพ ในคุณคาของศักดิ์ศรีแหงความ เปนมนุษยเทาเทียมกัน

5. การสงเสริมสันติภาพ ความ มั่นคง และความปรองดองในสังคม ทั้งระดับประเทศและภูมิภาคของ อาเซียนบนพื้นฐานสันติวิธีและการ อยูรวมกันดวยขันติธรรม

คูม อื ครู


การจัดการเรียนรูส ู ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

เสร�ม

8

1. การพัฒนาทักษะการทํางาน เพื่อเสริมสรางผูเรียนใหมีทักษะ วิชาชีพที่จําเปนสอดคลองกับ ความตองการของตลาดแรงงาน และสถานประกอบการในอาเซียน สามารถเทียบโอนผลการเรียน และการทํางานตามมาตรฐานฝมือ แรงงานในภูมิภาคอาเซียน

2. การเสริมสรางวินัย ความรับผิดชอบ และเจตคติรักการทํางาน สามารถพึ่งพาตนเอง มีทักษะชีวิต ดํารงชีวิตอยางมีความสุข เห็นคุณคา และภูมิใจในตนเอง ในฐานะที่เปนพลเมืองไทยและ อาเซียน

3. การเรียนรูเพื่อพัฒนาตนเอง อยางตอเนื่องตลอดชีวิต ใหมี ทักษะการทํางานตามมาตรฐาน อาชีพ และคุณวุฒิของวิชาชีพสาขา ตางๆ เพื่อรองรับการเตรียมเคลื่อน ยายแรงงานมีฝมือและการเปน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่ เขมแข็ง เพื่อสรางขีดความสามารถ ในการแขงขันในเวทีโลก

การจัดการเรียนรูส ู ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน 1. การเสริมสรางความรวมมือ ในลักษณะสังคมที่เอื้ออาทร ของประชากรอาเซียน โดยยึด หลักการสําคัญ คือ ความงดงาม ของประชาคมอาเซียนมาจาก ความแตกตางและหลากหลายทาง วัฒนธรรมที่ลวนแตมีคุณคาตอ มรดกทางวัฒนธรรมของอาเซียน ซึ่งประชาชนทุกคนตองอนุรักษ สืบสานใหยั่งยืน

2. การเสริมสรางคุณลักษณะ ของผูเรียนใหเปนพลเมืองอาเซียน ที่มีศักยภาพในการกาวเขาสู ประชาคมอาเซียนอยางมั่นใจ เปนผูที่มีสุขภาพสมบูรณแข็งแรง มีทักษะการสื่อสาร ทักษะการ ทํางาน ทักษะทางสังคม สามารถ ทํางานรวมกับผูอื่นไดอยาง สรางสรรค และมีองคความรู เกี่ยวกับอาเซียนที่จําเปนตอการ ดํารงชีวิตอยางมีคุณภาพ

4. การสงเสริมการเรียนรูดาน ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถชี วี ติ ความเปนอยูข องเพือ่ นบาน ในอาเซียน เพื่อสรางจิตสํานึกของ ความเปนประชาคมอาเซียนและ ตระหนักถึงหนาที่ของการเปน พลเมืองอาเซียนรวมกัน

3. การสงเสริมการเรียนรูภาษา อังกฤษเพื่อการสื่อสารและการ ทํางานตามมาตรฐานอาชีพที่ กําหนดและสนับสนุนการเรียนรู ภาษาอาเซียนและภาษาเพื่อนบาน เพื่อชวยเสริมสรางสัมพันธภาพทาง สังคม และการอยูรวมกันอยางสันติ ทามกลางความหลากหลายทาง วัฒนธรรม

5. การสรางความรูและความ ตระหนักเกี่ยวกับดานสิ่งแวดลอม ปญหาและผลกระทบตอคุณภาพ ชีวิตของประชากรในภูมิภาค รวมทั้งแนวทางการพัฒนาอยาง ยั่งยืน ใหเปนมรดกสืบทอดแก พลเมืองอาเซียนในรุนหลังตอๆ ไป

กระทรวงศึกษาธิการจึงประกาศนโยบายการปฏิรูปการศึกษาทศวรรษที่ 2 (พ.ศ. 2552-2561) เพื่อเรงพัฒนาเด็ก และเยาวชนไทยใหเปนทรัพยากรมนุษยของชาติที่มีทักษะและความชํานาญ พรอมเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงและ การแขงขันทั้งในภูมิภาคอาเซียนและภูมิภาคอื่นๆ ของสังคมโลก ทั้งนี้ผูบริหารสถานศึกษา ครูผูสอน และผูปกครอง ควรรวมมือกันอยางใกลชิดในการดูแลชวยเหลือผูเรียนและจัดประสบการณการเรียนรูเพื่อพัฒนาผูเรียนจนเต็มศักยภาพ เพื่อกาวเขาสูการเปนพลเมืองอาเซียนอยางมีเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีความเปนมนุษยของตน คณะผูจัดทํา คูม อื ครู


ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรูแกนกลาง สาระที่ 5

ภูมิศาสตร (เฉพาะชั้น ม.1)*

ภูมิศาสตร

มาตรฐาน ส 5.1 เขาใจลักษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพันธของสรรพสิ่งซึ่งมีผลตอกันและกันในระบบ ของธรรมชาติ ใชแผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตรในการคนหา วิเคราะห สรุป และใชขอมูล ภูมิสารสนเทศอยางมีประสิทธิภาพ ชั้น

ตัวชี้วัด

ม.1 1. เลือกใชเครื่องมือ ทางภูมิศาสตร (ลูกโลก แผนที่ กราฟ แผนภูมิ) ในการสืบคนขอมูล เพื่อวิเคราะห ลักษณะทางกายภาพ และสังคมของ ประเทศไทยและทวีป เอเชีย ออสเตรเลีย และโอเชียเนีย 2. อธิบายเสนแบงเวลา และเปรียบเทียบ วัน เวลา ของ ประเทศไทยกับทวีป ตางๆ 3. วิเคราะหเชื่อมโยง สาเหตุและแนวทาง ปองกันภัยธรรมชาติ และการระวังภัย ที่เกิดขึ้นใน ประเทศไทยและทวีป เอเชีย ออสเตรเลีย และโอเชียเนีย

สาระการเรียนรูแกนกลาง

หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน

• เครื่องมือทางภูมิศาสตร (ลูกโลก แผนที่ กราฟ • หนวยการเรียนรูท ี่ 1 แผนภูมิ ฯลฯ) ที่แสดงลักษณะทางกายภาพและ เครือ่ งมือทางภูมศิ าสตรและ การแบงเขตเวลาของโลก สังคมของประเทศไทยและทวีปเอเชีย ออสเตรเลียและโอเชียเนีย • หนวยการเรียนรูท ี่ 2 ภูมศิ าสตรประเทศไทย • หนวยการเรียนรูท ี่ 3 ภูมศิ าสตรทวีปเอเชีย • หนวยการเรียนรูท ี่ 4 ภูมศิ าสตรทวีปออสเตรเลีย และโอเชียเนีย • หนวยการเรียนรูท ี่ 1 • เสนแบงเวลาของประเทศไทยกับทวีปตางๆ เครือ่ งมือทางภูมศิ าสตรและ • ความแตกตางของเวลามาตรฐานกับเวลาทองถิน่ การแบงเขตเวลาของโลก • ภัยธรรมชาติและการระวังภัยทีเ่ กิดขึน้ ใน ประเทศไทยและทวีปเอเชีย ออสเตรเลียและ โอเชียเนีย

เสร�ม

9

• หนวยการเรียนรูท ี่ 5 ภัยธรรมชาติและการระวังภัย

มาตรฐาน ส 5.2 เขาใจปฏิสัมพันธระหวางมนุษยกับสภาพแวดลอมทางกายภาพที่กอใหเกิดการสรางสรรควัฒนธรรม มีจิตสํานึกและมีสวนรวมในการอนุรักษทรัพยากรและสิ่งแวดลอม เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ชั้น

ตัวชี้วัด

สาระการเรียนรูแกนกลาง

ม.1 1. วิเคราะหผลกระทบ • การเปลี่ยนแปลงประชากร เศรษฐกิจ สังคม จากการเปลีย่ นแปลง และวัฒนธรรมในทวีปเอเชีย ออสเตรเลียและ โอเชียเนีย ทางธรรมชาติ • การกอเกิดสิ่งแวดลอมใหมทางสังคม ของทวีปเอเชีย • แนวทางการใชทรัพยากรของคนในชุมชน ใหใชไดนานขึ้น โดยมีจิตสํานึกรูคุณคาของ ออสเตรเลียและ ทรัพยากร โอเชียเนีย • แผนอนุรักษทรัพยากรในทวีปเอเชีย

หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน

• หนวยการเรียนรูท ี่ 2 ภูมศิ าสตรประเทศไทย • หนวยการเรียนรูท ี่ 3 ภูมศิ าสตรทวีปเอเชีย • หนวยการเรียนรูท ี่ 4 ภูมศิ าสตรทวีปออสเตรเลีย และโอเชียเนีย

_________________________________ * สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, กระทรวงศึกษาธิการ. ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรูแกนกลาง กลุมสาระการเรียนรู สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม. (กรุงเทพมหานคร : ชุมนุมสหกรณการเกษตรแหงประเทศไทย, 2551), หนา 119-130.

คูม อื ครู


ชั้น

เสร�ม

10

คูม อื ครู

ตัวชี้วัด

สาระการเรียนรูแกนกลาง

หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน

• หนวยการเรียนรูท ี่ 2 ภูมศิ าสตรประเทศไทย • หนวยการเรียนรูท ี่ 3 ภูมศิ าสตรทวีปเอเชีย • หนวยการเรียนรูท ี่ 4 ภูมศิ าสตรทวีปออสเตรเลียและ โอเชียเนีย 3. สํารวจและอธิบาย • ทําเลที่ตั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมใน • หนวยการเรียนรูท ี่ 2 ทวีปเอเชีย ออสเตรเลียและโอเชียเนีย เชน ทําเลที่ตั้งกิจกรรม ภูมศิ าสตรประเทศไทย ศูนยกลางการคมนาคม ทางเศรษฐกิจและ • หนวยการเรียนรูท ี่ 3 สังคมในทวีปเอเชีย ภูมศิ าสตรทวีปเอเชีย ออสเตรเลีย และ โอเชียเนีย โดยใช • หนวยการเรียนรูท ี่ 4 แหลงขอมูลที่หลาก ภูมศิ าสตรทวีปออสเตรเลียและ หลาย โอเชียเนีย • หนวยการเรียนรูท ี่ 2 4. วิเคราะหปจจัยทาง • ปจจัยทางกายภาพและสังคมที่มีผลตอการ กายภาพและสังคม เลื่อนไหลของความคิด เทคโนโลยี สินคา และ ภูมศิ าสตรประเทศไทย ที่มีผลตอการเลื่อน ประชากรในทวีปเอเชีย ออสเตรเลียและ • หนวยการเรียนรูท ี่ 3 โอเชียเนีย ไหลของความคิด ภูมศิ าสตรทวีปเอเชีย เทคโนโลยี สินคา และประชากรในทวีป • หนวยการเรียนรูท ี่ 4 เอเชีย ออสเตรเลีย ภูมศิ าสตรทวีปออสเตรเลียและ และโอเชียเนีย โอเชียเนีย

ม.1 2. วิเคราะหความรวม • ความรวมมือระหวางประเทศในทวีปเอเชีย ออสเตรเลียและโอเชียเนีย ที่มีผลตอ มือของประเทศ สิ่งแวดลอมทางธรรมชาติ ตางๆ ที่มีผลตอ สิ่งแวดลอมทาง ธรรมชาติของทวีป เอเชีย ออสเตรเลีย และโอเชียเนีย


คําอธิบายรายวิชา รายวิชา ภูมิศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1 รหัสวิชา ส…………………………………

กลุมสาระการเรียนรู สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ภาคเรียนที่ 1-2 เวลา 40 ชั่วโมง/ป

ศึกษา วิเคราะห เครือ่ งมือทางภูมศิ าสตรทแี่ สดงลักษณะทางกายภาพและสังคมของประเทศไทย ทวีปเอเชีย เสร�ม ออสเตรเลียและโอเชียเนีย เสนแบงเวลาของประเทศไทยกับทวีปตางๆ ภัยธรรมชาติและการระวังภัยทีเ่ กิดขึน้ ใน 11 ประเทศไทย ทวีปเอเชีย ออสเตรเลียและโอเชียเนีย ทําเลทีต่ งั้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม ปจจัยทางกายภาพ และสังคมทีม่ ผี ลตอการเลือ่ นไหลของความคิด เทคโนโลยี สินคาและประชากร การเปลีย่ นแปลงทางธรรมชาติ และ ความรวมมือของประเทศตางๆ ที่มีผลตอสิ่งแวดลอมทางธรรมชาติของทวีปเอเชีย ออสเตรเลียและโอเชียเนีย โดยใชกระบวนการคิด กระบวนการสืบคนขอมูล กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชิญ สถานการณและแกปญหา กระบวนการกลุม เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจ ปฏิสัมพันธระหวางมนุษยกับสภาพแวดลอมทางกายภาพที่กอใหเกิด การสรางสรรควัฒนธรรม มีจิตสํานึก และมีสวนรวมในการอนุรักษทรัพยากรและสิ่งแวดลอม เพื่อการพัฒนา ที่ยั่งยืน ตัวชี้วัด ส 5.1 ส 5.2

ม.1/1 ม.1/1

ม.1/2 ม.1/2

ม.1/3 ม.1/3

ม.1/4 รวม 7 ตัวชี้วัด

คูม อื ครู


ตาราง

วิเคราะหมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัด รายวิชา ภูมิศาสตร ม.1

คําชี้แจง : ใหผูสอนใชตารางนี้ตรวจสอบความสอดคลองของเนื้อหาสาระการเรียนรูในหนวยการเรียนรูกับมาตรฐาน การเรียนรูและตัวชี้วัดชั้นป

มาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัด เสร�ม

12

หนวยการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 1: เครื่องมือทางภูมิศาสตรและการแบงเขต เวลาของโลก

หนวยการเรียนรูที่ 2: ภูมิศาสตรประเทศไทย

หนวยการเรียนรูที่ 3: ภูมิศาสตรทวีปเอเชีย

หนวยการเรียนรูที่ 4: ภูมศิ าสตรทวีปออสเตรเลียและโอเชียเน�ย

หนวยการเรียนรูที่ 5: ภัยธรรมชาติและการระวังภัย

คูม อื ครู

สาระที่ 5 มาตรฐาน ส 5.1 มาตรฐาน ส 5.2 ตัวชี้วัด ตัวชี้วัด 1 2 3 1 2 3 4 ✓


กระตุน ความสนใจ Engage

สํารวจคนหา Explore

อธิบายความรู Explain

ขยายความเขาใจ Expand

ตรวจสอบผล Evaluate

˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ÃÒÂÇÔªÒ¾×é¹°Ò¹

ÀÙÁÈÔ Òʵà Á.ñ

ªÑ¹é ÁѸÂÁÈÖ¡ÉÒ»‚·Õè ñ

¡ÅØ‹ÁÊÒÃСÒÃàÃÕ¹ÃÙŒÊѧ¤ÁÈÖ¡ÉÒ ÈÒÊ¹Ò áÅÐÇѲ¹¸ÃÃÁ µÒÁËÅÑ¡ÊÙµÃ᡹¡ÅÒ§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ¢Ñé¹¾×é¹°Ò¹ ¾Ø·¸ÈÑ¡ÃÒª òõõñ

¼ÙŒàÃÕºàÃÕ§

¼È. ÇÔâè¹ àÍÕèÂÁà¨ÃÔÞ ÃÈ. ´Ã. ÍÀÔÊÔ·¸Ôì àÍÕèÂÁ˹‹Í

¼ÙŒµÃǨ

ÃÈ. ´Ã. ÊҡŠʶԵÇÔ·Âҹѹ· ¼È. ÃÐÀվà ÊÒÁÒö ¹Ò§ÊÒÇÄ´ÕÇÃó ÁÒ´Õ¡ØÅ

ºÃóҸԡÒÃ

¹ÒÂÊÁà¡ÕÂÃµÔ ÀÙ‹ÃÐ˧É

¾ÔÁ¾ ¤ÃÑ駷Õè ñð

ʧǹÅÔ¢ÊÔ·¸ÔìµÒÁ¾ÃÐÃÒªºÑ- - ÑµÔ ISBN : 978-616-203-076-5 ÃËÑÊÊÔ¹¤ŒÒ òññóðøø

¤Œ¹¤ÇÒÁÃÙŒ¢ÂÒ¤ÇÒÁ¤Ô´¨Ò¡

¾ÔÁ¾ ¤ÃÑ駷Õè ñ ÃËÑÊÊÔ¹¤ŒÒ òñôóñóò

EB GUIDE

ที่พิมพกํากับหัวขอสําคัญในหนังสือเรียนหลักสูตรแกนกลางฯ ผาน www.aksorn.com ไปยังแหลงความรูทั่วไทย-ทั่วโลก

คณะผูจัดทําคูมือครู

ระวิวรรณ ตั้งตรงขันติ นราธิป แกวทอง


กระตุน ความสนใจ

สํารวจคนหา

Engage

อธิบายความรู

Explore

Explain

ขยายความเขาใจ

ตรวจสอบผล

Expand

Evaluate

¤íÒá¹Ð¹íÒ㹡ÒÃ㪌˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ หนังสือเรียน รายวิชาพืน้ ฐาน ภูมศิ าสตรเลมนี้ สรางขึน้ เพือ่ ใหเปนสือ่ สําหรับใชประกอบการเรียนการ สอนในรายวิชาพืน้ ฐาน กลุม สาระการเรียนรูส งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชัน้ มัธยมศึกษาปที่ ๑ โดยเนือ้ หาตรงตามสาระการเรียนรูแ กนกลางขัน้ พืน้ ฐาน อานทําความเขาใจงาย ใหทงั้ ความรูแ ละชวย พัฒนาผูเ รียนตามหลักสูตรและตัวชีว้ ดั เนือ้ หาสาระแบงออกเปนหนวยการเรียนรูต ามโครงสรางรายวิชา สะดวก แกการจัดการเรียนการสอนและการวัดผลประเมินผล พรอมเสริมองคประกอบอืน่ ๆ ทีจ่ ะชวยทําใหผเู รียนไดรบั ความรูอ ยางมีประสิทธิภาพ à¹×éÍËҵçµÒÁÊÒÃСÒÃàÃÕ¹Ãٌ᡹¡ÅÒ§ ¨Ñ´¡ÅØ‹Áà¹×éÍËÒ໚¹Ë¹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ Êдǡᡋ¡ÒèѴ¡ÒÃàÃÕ¹¡ÒÃÊ͹

ãËŒ¤ÇÒÁÃÙŒáÅÐàÍ×é͵‹Í¡ÒùíÒä»ãªŒÊ͹à¾×èÍ à¡ÃÔè¹¹íÒà¾×èÍãˌࢌÒ㨶֧ÊÒÃÐÊíÒ¤ÑÞ ãËŒºÃÃÅصÑǪÕéÇÑ´ áÅÐÊÌҧ¤Ø³ÅѡɳРÍѹ¾Ö§»ÃÐʧ¤ ã¹Ë¹‹Ç·Õè¨ÐàÃÕ¹ ดานสวาง

เสนสมมติที่ลากรอบโลก โดย ๒.๖) ศึกษาเสนขนานหรือเสนขนานละติจูด คือ น เสนขนานจะมีลกั ษณะเปนจุด และมีคา เทากับ ทุกเสนจะขนานกับเสนศูนยสตู ร ทีข่ วั้ โลกทัง้ สองดา ๙๐ องศาเมื่อวัดจากจุดใจกลางโลกไปจุดขั้วโลกนั้น ทรอปกออฟแคนเซอร เสนทรอเสนขนานที่สําคัญมี ๕ เสน คือ เสนศูนยสูตร เสน นแอนตารกติกเซอรเคิล ปกออฟแคปริคอรน เสนอารกติกเซอรเคิล และเส ะเอียดของขอมูลมากๆ จะตอง ลูกโลกมีขอจํากัดในการสราง เพราะถาตองการรายล ดังนั้น ถาตองการขอมูลรายละเอียดขนาดของ สรางลูกโลกขนาดใหญ ซึ่งตองลงทุนสูง ไมคุมคา งาย และใชงานไดสะดวกกวา ยได า นย อ ่ เคลื า กว ก ถู พื้นที่ใหไดมาก ควรทําลงในแผนที่เพราะราคา

๑ เครื่องมือทาง

หนวยการเรีย

นรูที่

ภูมิศาสต การแบงเขต รและ เวลา ของโลก

àÃ×Íè §¹‹ÒÃÙàŒ ¾ÔÁè àµÔÁ¨Ò¡à¹×Íé ËÒ ÁÕá·Ã¡à»š¹ÃÐÂÐæ

เสนอารกติกเซอรเคิล

แสงจาก ดวงอาทิตย เสนทรอปกออฟแคนเซอร เสนศูนยสูตร เสนทรอปกออฟแคปริคอรน

ตัวชี้วัด

แนวความสวางกับความมืด

เลือกใชเครื่อ งมื กราฟ แผนภ อทางภูมิศาสตร (ลูกโลก ูม ลักษณะทางก ิ) ในการสืบคนขอมูล เพื แผนที่ ่อ และทวีปเอเชี ายภาพและสังคมของประ วิเคราะห ย (ส ๕.๑ ม. ๑/๑)ออสเตรเลียและโอเชียเนี เทศไทย ย อธิบายเสนแบ ง เวลา และเ ของประเทศ ไทยกับทวีปต ปรียบเทียบวัน เวลา างๆ (ส ๕.๑ ม. ๑/๒)

ภาพแสดงแนวความสวางและควา

มมืด

วิธีการคํานวณ ใน ๑ วัน มี ๒๔ ชั่วโมง : โลกหมุน รอบตัวเองได = ๓๖๐ องศา ในชวงเวลา ๑ ชั่วโมง : โลกหมุน ไปได ×๑ = ๓๖๐ ดังนั้น ในชวงเวลา ๑ ชั่วโมง : โลกหมุ ๒๔ องศา นไปได = ๑๕ องศา หรือ ในทุกๆ ๑๕ องศา : เวลาจะ ตางกัน = ๑ ชั่วโมง

สาระการเรียนรู

แกนกลาง

เครื่องมือทางภ แผนภูมิ ฯลฯ) ูมิศาสตร (ลูกโลก แผนท สังคมของประ ที่แสดงลักษณะทางกายภาี่ กราฟ เทศไทย และท และโอเชียเนี วีปเอเชีย ออสเ พและ ย ตรเลยี เสนแบงเวลาข ความแตกตา องประเทศไทยกับทวีปต างๆ งของเวลามาตรฐ านกับเวลาท องถิ่น

● ●

น อาทิ สภาพภูมปิ ระเทศจริง นเครือ่ งมือทีม่ ปี ระโยชนมาก ใหขอ มูลหลายดา ภาพสวนหนึง่ ของโลกจาก google map ซึง่ เป จนเห็นแหลงชุมชนได ของทุกประเทศทัว่ โลก รวมทัง้ ดึงภาพเขามาดูระยะใกล

๑.๒ แผนที่ (map)

่ยวกับรูปลักษณะและที่ตั้งของสิ่งตางๆ แผนที่เปนสิ่งที่มนุษยสรางขึ้นเพื่อเสนอขอมูลเกี สัญลักษณแทนสิ่งตางๆ โดยทําลงในวัสดุพื้นที่ ที่ปรากฏอยูบนผิวโลกดวยการเขียนยอสวน และใช ประกอบดวย บนผิวโลก ประกอบด แบนราบหรือแผนกระดาษ ลักษณะของสิ่งที่แสดงปรากฏ ทะเล มหาสมุทร แมนํ้า เนินเขา ๑. สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เชน ทวีปตางๆ น ต น เป ไม ภูเขา ที่ราบสูง ที่ราบ เกาะ พื้นที่ปา น เสนทางคมนาคม เขื่อน พื้นที่ ๒. สิ่งที่มนุษยสรางขึ้น เชน เมือง หมูบาน สนามบิ เกษตรกรรม เขตอุตสาหกรรม เปนตน

¡ÒÃÈÖ¡ ¢Í§Á¹ØÉ ÉÒàÃ×èͧÃÒǵ‹Ò§æ º¹ âÅ¡ ·Ñé§ÅÑ¡ ÅÑ É³Ð·Ò§´ 㪌à¤Ã×èͧÁ× ¡É³Ð·Ò§´ŒÒ¹¡ÒÂÀ ŒÒ¹Ê Í·Ò Ò¾ ÁÕ¢ŒÍÁÙÅ·Õèà §ÀÙÁÔÈÒʵà ઋ¹ á¼ ¢Í§âÅ¡ ÁÕ¤ÇÒÁ¨íÒ໚ ѧ¤Á ¡Ô´ ¹· ¹ änj͋ҧÅÐ ¨Ò¡¡ÒÃÊíÒÃǨ ¡Ò Õè ÅÙ¡âÅ¡ ໚¹µŒ¹ à¹× µŒÍ§ àÍÕ´ â´Â ÃÈÖ¡ÉÒ¾×é¹ èͧ¨Ò¡ ¼Ù ·Õ ʶҹ·µÕè Ò‹ §æ ¡çÊÒÁÒöŒÊ¹ã¨àÃ×èͧÃÒÇäÁ‹¨íÒ໚ è¢Í§´Ô¹á´¹µ‹Ò§æ ¹ ´Ñ§¡ÅÒ‹ Çä´ Œ ʋǹ¡ÒÃÈ àÃÕ¹ÃÙ¢Œ ÍŒ ÁÙÅ·Ò§ÀÙÁÈÔ µŒÍ§à´Ô¹·Ò§ä»Âѧ ¡Ö ÉÒàÃ×Íè §¡Ò Òʵà ¨Ò¡à ࢌÒ㨤ÇÒÁ ¤ÃÍ×è §Á×Í ÃẠᵠᵋÅзŒÍ§¶Ô ¡µ‹Ò§¢Í§àÇÅÒ áÅ §‹ ࢵàÇÅҢͧâÅ¡ ¨Ð· ÐÊÒÁÒöà è¹ä´Œ »ÃÕºà·ÕºàÇ Òí ãËŒ ÅÒã¹

¹í Ò àʹÍà¹×é Í ËÒã¹ÃÙ » Ẻ¢Í§á¼¹·Õè á¼¹¼Ñ§ á¼¹ÀÙÁÔ à¾×èÍÊдǡ㹡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ áÅзíÒ¤ÇÒÁࢌÒ㨠แมนํ้าเพชรบุรี สถานีอนามัย

ถนน

๙๙ ํ๕๗

๙๙ ํ๕๖

๙๙ ํ๕๘

EB GUIDE

http://www.aksorn.com/LC/Geo/M1/01

๑๓ ํ๐๘

พิกัด ภูมิศาสตร เสนเมริเดียน

ทางรถไฟ สะพาน ๑๓ ํ๐๗

ที่วาการอําเภอ ศาลากลาง จังหวัด

โรงเรียน วัด

โรงพยาบาล

๑๓ ํ๐๖

มาตราสวน

มาตราสวน ๑ : ๕๐,๐๐๐

แผนที่จังหวัดเพชรบุรี ตัวอยางแผนที่ที่มีองคประกอบแผนที่ครบถวน

ตัวอยาง สัญลักษณในแผนที่ สัญลักษณ

ความหมาย

สัญลักษณ

ความหมาย โรงพยาบาล

ศาลากลางจังหวัด

วัด

ที่วาการอําเภอ

โรงเรียน

แมนํ้า

สถานีอนามัย

ถนน

สะพาน

ทางรถไฟ

่ง จาก ๓.๓) มาตราสวนแผนที่ อาจจะแสดงไวในรูปแบบใดรูปแบบหนึ ดังตอไปนี้

รูปแบบ

๑ : ๑๐๐,๐๐๐

มาตราสวนสัดสวน

๑ ซม. ตอ ๑ กม.

มาตราสวนคําพูด

กม.

มาตราสวนเสน

๑๗

àÊÃÔÁÊÒÃШҡà¹×Íé Ëҹ͡à˹×ͨҡ ·ÕÁè ãÕ ¹ÊÒÃСÒÃàÃÕ¹ÃÙጠ¡¹¡ÅÒ§ à¾×Íè à¾ÔÁè ¾Ù¹áÅТÂÒ¾ÃÁá´¹¤ÇÒÁÃÙ㌠ˌ ¡ÇŒÒ§¢ÇÒ§ÍÍ¡ä»

๓ แบบ

¤íÒ¶ÒÁ»ÃШíÒ˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒáÅСԨ¡ÃÃÁ ÊÌҧÊÃä ¾Ñ²¹Ò¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒà¾×èÍãËŒ¼ÙŒàÃÕ¹ ÁդسÀÒ¾ºÃÃÅØÁҵðҹáÅеÑǪÕéÇÑ´

à ·ÃѾÂÒ¡  ÁÊíÒÃǨ ´ÒÇà·Õ ͧ»ÃÐà·Èä· ) áᢠn Satellite

เสนขนาน ละติจูด

ทิศ

เรื่องนารู เสนวันที่ (Date Line) คือ เสนสมมติ เสนเมริเดียนที่ ๑๘๐ องศา ทัง้ นีเ้ ป นผลจากการประชุมของนานาชาติ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริ กา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๗ ที่จะหาวิ ธีการที่จะทําใหระบบวันเวลาของ ทั่วโลก ซึ่งมีกลางวัน กลางคืน และเวลา ประเทศตา งๆ ทองถิ่นแตกตางกัน เขามาอยูในระบบเด ียวกัน และสามารถเปรียบเทียบ วันเวลาเขาหากันได ที่ประชุมไดตกลงยึดเอาเสนเมริเดี ยนที่ ๑๘๐ องศา เปนเสนวันที่ และการแ ตะวันตก-ตะวันออกของเสนเมริเ บ ง เช น นี จ ้ ะทํ า ให เ วลาทางดาน ดียนที่ ๑๘๐ องศา มีเวลาตางกั นถึง ๒๔ ชั่วโมง ดังนั้น หากมีก เสนนี้จากซีกโลกตะวันตกไปซีก ารเดินทางขาม โลกตะวันออก เวลาจะเพิ่มขึ้น ๑ วัน แตถาเดินทางจากซีกโลกตะวั ซีกโลกตะวันตก เวลาจะลดลง ๑ นออกไป วัน

Web guide á¹Ð¹íÒáËÅ‹§¤Œ¹¤ÇŒÒ¢ŒÍÁÙÅ à¾ÔèÁàµÔÁ¼‹Ò¹Ãкº Online

µÑǪÕÇé ´Ñ áÅÐÊÒÃСÒÃàÃÕ¹ÃÙጠ¡¹¡ÅÒ§ µÒÁ·ÕËè ÅÑ¡Êٵà ¡íÒ˹´ à¾×èÍãËŒ·ÃÒº¶Ö§à»‡ÒËÁÒÂ㹡ÒÃÈÖ¡ÉÒ

ชื่อแผนที่

ดานมืด แกนโลก

´Ç§

ÃÐ

tio Observa ซึ่งเปน and Earth ติของประเทศไทย(สทอภ.) ชา OS: Thail เทศ อส (THE จทรัพยากรธรรม และภมู สิ ารสน าศ รว วเทยี มธีอ ) หรอื ดา nsing) เพื่อใชสํา เทคโนโลยอี วก ส ote ich ั นา นพฒ ต (Tha ote Se ศฝรั่งเศ มไทยโช ยะไกล (Rem โดยมสี าํ นักงา im) ประเท ดาวเทวเทยี ียมสํารวจขอมูลทยระและรฐั บาลฝรัง่ เศสเสตรียม (EADS Astru ทยโชต เปนดา ะหวางรฐั บาลไ เอ ดี เอส แอ าวเทียมไ อี งแสดงด โครงการร นรวมกับบริษัท านบาท ภาพจําลอ ล ดําเนินงา มาณ ๖,๐๐๐ ระ ดวยงบป ินการเมื่อวันที่ เริ่มดําเน าคม พ.ศ. ๒๕๔๗ ๑๙ กรกฎ เดิมชื่อ ทยโชต ดาวเทียมไ สูอวกาศเมื่อ ขึ้น ๕๑ ียมธีออส ต วาดาวเท ลาคม พ.ศ. ๒๕ มไทยโช น. ๑ ตุ ดาวเทีย มา อยู  ๑๓ : ๓๗ วันพุธที่ กลั บ าน ระเทศไทย จะ โค จร เวลาในป น. ตามเวลามาตรฐ เดิมและ ตําแหนง วด ใน ๓๗ จร : ง ส ๖ หรอื ๑๖ วัน กฐาน ในทุกๆ TC) จา ธรัฐ เดียวกัน รวจทรัพยากร สากล (U (Yasny) สหพัน จ าพบริเวณ รสาํ นี ทียมสํารว สัญญาณภ ลายดา น เชน กา ตน นอกจากนี้ เมืองยาส ง วเ ส ดา น  แล ะ นับเป ชนใ นห นน เปน รัสเซีย ขอ งไ ทย จึงมีประโย นที่ การสรางถ ื่อถือได ดว งแ รก ต ยํา และเช รทาํ แผ ทยโชต ทรั พ ยา กร ตะวันออกเฉียงใ ปาไม กา เร็ว ชัดเจน แมน ดาวเทียมไ ก็ต เชีย ภาพจากอนใตของเกาะภูเ รวง มรวด ภูมิภาคเอ ยังมีควา ๕๔ กระท น ษณต ก ั ล ิ ๒๕ ม ภู ศ. แสดง ราคม พ. สํานักงา ่ ๒๐ มก ดมีหนังสือไปยัง เมื่อวันที ีไ ื่อใหมให ลย นช นโ ทา คโ าช ญ ละเท ื่อขอพระร ๒๕๕๕ ศาสตรแ หาดกะตะให เกาะโหลน วิทยา ารคณะรัฐมนตรี เพ ๑๘ มกราคม พ.ศ. บกลับ เลขาธิก อส ตอมาวันที่ นังสือตอ อย ีอ ตรี ไดม หี กรุณา หาดกะตะน ดาวเทียมธ าธกิ ารคณะรฐั มน อยูหัว ทรงพระ  า า  ลข  า วว ะเจ นเ สํานักงา ะบาทสมเด็จพร ดา วเ ที ย มดั ง กล  พร แหลมกา hote ตัง้ แต ทา นชื่ อ aic าช ความวา Th ะร  า ล า ฯ พร อื่ ภาษาอังกฤษว คี วามหมายวา ช โป รด เก ช ยม และใหใ สืบไป โด  ต” วย โช ๕๔ าไ ๒๕ ทย “ไ หาดร พ.ศ. รุงเรือง” ธันวาคม วันที่ ๑๐ ี่ทําใหประเทศไทย มท เกาะบอน “ดาวเทีย หาดในหาน

àÊÃÔÁÊÒ

เกาะมัน

๑๐

¤íÒ¶ÒÁ»ÃШíÒ˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ ๑. จงยกตัวอยางเครื่องมือทางภูมิศาสตรพรอมอธิบายการใชประโยชนของเครื่องมือตางๆ ๒. แผนที่มคี วามจําเปนตอชีวิตประจําวันของนักเรียนอยางไรบาง ๓. ถานักเรียนไปเดินปาที่อุทยานแหงชาติเขาใหญ นักเรียนควรเตรียมเครื่องมือทาง ภูมิศาสตรอะไรบาง และเครื่องมือเหลานั้นมีประโยชนอยางไร ๔. เขตเวลามาตรฐานสากลมีความสําคัญและมีประโยชนอยางไร จงอธิบาย ๕. ประเทศไทยใชเขตเวลามาตรฐานทองถิ�นที่เทาใด และชาหรือเร็วกวาเวลาปานกลาง กรีนิชกี่ชั�วโมง

¡Ô¨¡ÃÃÁÊÌҧÊÃä ¾Ñ²¹Ò¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ

หมเทพ

แหลมพร

๒๒

กิจกรรมที่ ๑

นักเรียนสํารวจชุมชนหรือทองถิ�นของตนหรือชุมชนใกลเคียง เก็บขอมูล ดานภูมลิ กั ษณ จํานวนประชากร การประกอบอาชีพ สถานศึกษา แลวนําเสนอ ขอมูลดวยรูปแบบใดรูปแบบหนึ�งทางภูมิศาสตร อาจนําเสนอผลงานเปน กลุมหรือเฉพาะบุคคลก็ได

กิจกรรมที่ ๒

นักเรียนแบงกลุมจัดทําแผนผังแสดงที่ตั้งของโรงเรียน โดยใชเครื่องมือ เชน แผนที่ รูปถายทางอากาศ หรือภาพจากดาวเทียม และใชเข็มทิศ เพื่อแสดง ตําแหนงของโรงเรียนกับสถานทีส่ าํ คัญใกลโรงเรียน ใชเครือ่ งมือวัดระยะทาง ใชเครื่องมือ GPS (ถามี) เพื่อกําหนดตําแหนงที่ตั้งของโรงเรียน โดยกําหนดมาตราสวนทีเ่ หมาะสม ใชสญั ลักษณตา งๆ ใหถกู ตอง ระบาย สีใหสวยงาม เสร็จแลวสงครูผสู อนพิจารณาคัดเลือกผลงานกลุม ทีด่ ที สี่ ดุ ๒-๓ กลุม นําไปแสดงที่ปายนิเทศ

กิจกรรมที่ ๓

นักเรียนยกตัวอยางเหตุการณที่เกิดขึ้นในตางประเทศ ๑ เหตุการณ เชน การแข ง ขั น ฟุ ต บอลในต า งประเทศแล ว นํ า มาเปรี ย บเที ย บกั บ เวลาใน ประเทศไทย โดยนําเสนอลงในสมุด

ภูมิศาสตร ประเทศไทย


กระตุน ความสนใจ Engage

ÊÒúÑ-

สํารวจคนหา Explore

˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè

ñ

˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè

ò

˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè

ó

อธิบายความรู Explain

ขยายความเขาใจ Expand

ตรวจสอบผล Evaluate

à¤Ã×èͧÁ×Í·Ò§ÀÙÁÔÈÒʵà áÅСÒÃẋ§à¢µàÇÅҢͧâÅ¡ à¤Ã×èͧÁ×ÍÊíÒ¤ÑÞ·Ò§ÀÙÁÔÈÒʵà ෤â¹âÅÂÕáÅÐÃٻẺ¢Í§¢ŒÍÁÙÅÀÙÁÔÈÒʵà ¡ÒÃẋ§à¢µàÇÅҢͧâÅ¡

ñ ò ñó ñõ

ÀÙÁÔÈÒʵà »ÃÐà·Èä·Â ÊÀÒ¾áÇ´ÅŒÍÁ·Ò§¡ÒÂÀÒ¾¢Í§ä·Â ÅѡɳлÃЪҡâͧä·Â ÅѡɳÐÊѧ¤ÁáÅÐÇѲ¹¸ÃÃÁ¢Í§ä·Â ÅѡɳÐàÈÃÉ°¡Ô¨¢Í§ä·Â »¯ÔÊÑÁ¾Ñ¹¸ ÃÐËÇ‹Ò§Á¹ØÉ ¡ÑºÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁã¹ä·Â ¡ÒÃ͹ØÃÑ¡É ·ÃѾÂҡøÃÃÁªÒµÔáÅÐÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁ¢Í§ä·Â

òó òô ôñ ôó ôõ õò õó

ÀÙÁÔÈÒʵà ·ÇÕ»àÍàªÕ ÊÀÒ¾áÇ´ÅŒÍÁ·Ò§¡ÒÂÀÒ¾¢Í§·ÇÕ»àÍàªÕ ÅѡɳлÃЪҡâͧ·ÇÕ»àÍàªÕ ÅѡɳÐÊѧ¤ÁáÅÐÇѲ¹¸ÃÃÁ¢Í§·ÇÕ»àÍàªÕ ÅѡɳÐàÈÃÉ°¡Ô¨¢Í§·ÇÕ»àÍàªÕ »¯ÔÊÑÁ¾Ñ¹¸ ÃÐËÇ‹Ò§Á¹ØÉ ¡ÑºÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁã¹·ÇÕ»àÍàªÕ ¡ÒÃ͹ØÃÑ¡É ·ÃѾÂҡøÃÃÁªÒµÔáÅÐÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁ¢Í§·ÇÕ»àÍàªÕÂ

õõ õö ÷ó ÷ö ÷ù øö øù


กระตุน ความสนใจ Engage

สํารวจคนหา Explore

˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè

˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè

ô õ

อธิบายความรู Explain

ขยายความเขาใจ Expand

ตรวจสอบผล Evaluate

ÀÙÁÔÈÒʵà ·ÇÕ»ÍÍÊàµÃàÅÕÂáÅÐâÍàªÕÂà¹Õ ÊÀÒ¾áÇ´ÅŒÍÁ·Ò§¡ÒÂÀÒ¾¢Í§·ÇÕ»ÍÍÊàµÃàÅÕÂáÅÐâÍàªÕÂà¹Õ ÅѡɳлÃЪҡâͧ·ÇÕ»ÍÍÊàµÃàÅÕÂáÅÐâÍàªÕÂà¹Õ ÅѡɳÐÊѧ¤ÁáÅÐÇѲ¹¸ÃÃÁ¢Í§·ÇÕ»ÍÍÊàµÃàÅÕÂáÅÐâÍàªÕÂà¹Õ ÅѡɳÐàÈÃÉ°¡Ô¨¢Í§·ÇÕ»ÍÍÊàµÃàÅÕÂáÅÐâÍàªÕÂà¹Õ »¯ÔÊÑÁ¾Ñ¹¸ ÃÐËÇ‹Ò§Á¹ØÉ ¡ÑºÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁã¹·ÇÕ»ÍÍÊàµÃàÅÕ áÅÐâÍàªÕÂà¹Õ ¡ÒÃ͹ØÃÑ¡É ·ÃѾÂҡøÃÃÁªÒµÔáÅÐÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁ¢Í§ ·ÇÕ»ÍÍÊàµÃàÅÕÂáÅÐâÍàªÕÂà¹ÕÂ

ù÷ ùø ñð÷ ñðø ñðù

ÀѸÃÃÁªÒµÔáÅСÒÃÃÐÇѧÀÑ ÀѸÃÃÁªÒµÔ·ÕèÁÕÊÑÞÞÒ³àµ×͹ŋǧ˹ŒÒ ÀѸÃÃÁªÒµÔ·Õèà¡Ô´¢Ö鹩Ѻ¾Åѹ

ñòó ñòô ñóó

ºÃóҹءÃÁ

ñôð

ññô ññø


กระตุน ความสนใจ Engage

หน่วยการเรียนรู้ที่

สํารวจคนหา

อธิบายความรู

ขยายความเขาใจ

ตรวจสอบผล

Explore

Explain

Expand

Evaluate

1. ใชเครื่องมือทางภูมิศาสตรในการสืบคนและ วิเคราะหลักษณะทางกายภาพและสังคมของ ประเทศไทย ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลีย และโอเชียเนียได 2. อธิบายเสนแบงเวลา และเปรียบเทียบวัน เวลาของประเทศไทยกับทวีปตางๆ ได

เครื่องมือทาง ภูมิศาสตรและ การแบงเขตเวลา ของโลก

สมรรถนะของผูเรียน 1. 2. 3. 4.

ตัวชี้วัด ●

เลือกใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ (ลูกโลก แผนที่ กราฟ แผนภูมิ) ในการสืบค้นข้อมูล เพื่อวิเคราะห์ ลักษณะทางกายภาพและสังคมของประเทศไทย และทวีปเอเชีย ออสเตรเลียและโอเชียเนีย (ส ๕.๑ ม. ๑/๑) อธิบายเส้นแบ่งเวลา และเปรียบเทียบวัน เวลา ของประเทศไทยกับทวีปต่างๆ (ส ๕.๑ ม. ๑/๒)

● ●

ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการใชทักษะชีวิต ความสามารถในการใชเทคโนโลยี

คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. ใฝเรียนรู 2. มุงมั่นในการทํางาน

สาระการเรียนรู้แกนกลาง ●

เปาหมายการเรียนรู

เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ (ลูกโลก แผนที่ กราฟ แผนภูมิ ฯลฯ) ที่แสดงลักษณะทางกายภาพและ สังคมของประเทศไทย และทวีปเอเชีย ออสเตรเลีย และโอเชียเนีย เส้นแบ่งเวลาของประเทศไทยกับทวีปต่างๆ ความแตกต่างของเวลามาตรฐานกับเวลาท้องถิ่น

กระตุน ความสนใจ ¡ÒÃÈÖ¡ÉÒàÃ×èͧÃÒǵ‹Ò§æ º¹âÅ¡ ·Ñé§Åѡɳзҧ´ŒÒ¹Êѧ¤Á ¢Í§Á¹ØÉ Åѡɳзҧ´ŒÒ¹¡ÒÂÀÒ¾¢Í§âÅ¡ ÁÕ¤ÇÒÁ¨íÒ໚¹µŒÍ§ 㪌à¤Ã×èͧÁ×Í·Ò§ÀÙÁÔÈÒʵà ઋ¹ á¼¹·Õè ÅÙ¡âÅ¡ ໚¹µŒ¹ à¹×èͧ¨Ò¡ ÁÕ¢ŒÍÁÙÅ·Õèà¡Ô´¨Ò¡¡ÒÃÊíÒÃǨ ¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ¾×é¹·Õè¢Í§´Ô¹á´¹µ‹Ò§æ änj͋ҧÅÐàÍÕ´ â´Â¼ÙŒÊ¹ã¨àÃ×èͧÃÒÇäÁ‹¨íÒ໚¹µŒÍ§à´Ô¹·Ò§ä»Âѧ ʶҹ·Õµè Ò‹ §æ ¡çÊÒÁÒöàÃÕ¹ÃÙ¢Œ ÍŒ ÁÙÅ·Ò§ÀÙÁÈÔ Òʵà ¨Ò¡à¤Ã×Íè §Á×Í ´Ñ§¡Å‹ÒÇä´Œ ʋǹ¡ÒÃÈÖ¡ÉÒàÃ×Íè §¡ÒÃẋ§à¢µàÇÅҢͧâÅ¡ ¨Ð·íÒãËŒ ࢌÒ㨤ÇÒÁᵡµ‹Ò§¢Í§àÇÅÒ áÅÐÊÒÁÒöà»ÃÕºà·ÕºàÇÅÒ㹠ᵋÅзŒÍ§¶Ôè¹ä´Œ

Engage

ครูนําตัวอยางเครื่องมือทางภูมิศาสตรมา สนทนากับนักเรียน แลวใหนักเรียนชวยกันบอกวา เครื่องมือแตละชนิดเรียกวาอะไร มีประโยชน อยางไร (แนวตอบ เชน ลูกโลกใชในการศึกษาทิศทาง การหมุนของโลก ใชศึกษาตําแหนงที่ตั้งของ ประเทศตางๆ เข็มทิศใชในการหาทิศของตําแหนง ตางๆ เปนตน)

เกร็ดแนะครู ครูควรจัดกิจกรรมการเรียนรูแบบเนนทักษะกระบวนการ เชน ทักษะการใช เครื่องมือทางภูมิศาสตรในการอานและแปลความหมายขอมูลเชิงภูมิศาสตรได โดยการจัดกิจกรรม ดังนี้ • นําเครื่องมือทางภูมิศาสตร เชน เข็มทิศ ลูกโลก แผนที่ประเทศไทย แผนที่ทวีปเอเชีย มาใหนักเรียนไดฝกการอานและแปลความ • สืบคนตัวอยางการนําเสนอขอมูลในรูปแบบตางๆ จากเว็บไซต • ฝกการเทียบวัน เวลาของประเทศไทยกับทวีปตางๆ

คูมือครู

1


กระตุน ความสนใจ Engage

สํารวจคนหา Explore

กระตุน ความสนใจ

อธิบายความรู Explain

Expand

Evaluate

๑. เครื่องมือสำาคัญทางภูมิศาสตร์ ภูมิศาสตร์ เป็นวิชาที่เกี่ยวกับการจัดการพื้นที่และสิ่งแวดล้อมที่มนุษย์อาศัยอยู่ ตลอดจน องค์ประกอบด้านสังคมมนุษย์ โดยใช้วิธีการและเทคนิค ตลอดจนเครื่องมือต่างๆ ในการศึกษา เครือ่ งมือทางภูมศิ าสตร์พนื้ ฐานทีน่ กั เรียนควรศึกษาทีส่ า� คัญ ได้แก่ ลูกโลก แผนที ่ เข็มทิศแม่เหล็ก รูปถ่ายทางอากาศ และภาพจากดาวเทียม

Explore

ครูใหนักเรียนไปศึกษาเกี่ยวกับลักษณะ ประโยชน และการใชลูกโลก จากหนังสือเรียนหนา 2-4 หรือจากแหลงเรียนรูอื่นๆ เชน หนังสือใน หองสมุด เว็บไซตในอินเทอรเน็ต เปนตน เพื่อนํามา อภิปรายในชั้นเรียน

อธิบายความรู

ตรวจสอบผล

Engage

ครูนําลูกโลกมาใหนักเรียนศึกษาและเรียนรู โดยขออาสาสมัครนักเรียนใหมาอธิบายสิ่งที่ปรากฏ บนลูกโลก (แนวตอบ บนลูกโลกมีชื่อประเทศ ชื่อมหาสมุทร ทะเล เกาะ และชื่อสถานที่สําคัญตางๆ)

สํารวจคนหา

ขยายความเขาใจ

๑.๑ ลูกโลก (globe) 1 ๑) ลักษณะและประโยชน์ของลูกโลก ลูกโลกเป็นหุ่นจ�าลองของโลกที่มีรูปร่าง

ลักษณะสัณฐานเป็นทรงกลม แสดงต�าแหน่งและการกระจายของพื้นที่ประเทศ ทวีป ทะเล และ มหาสมุทรต่างๆ ได้ตรงตามทีป่ รากฏบนพืน้ ผิวโลก ลูกโลกสร้างขึน้ จากวัสดุตา่ งๆ เช่น กระดาษอัด พลาสติก ยาง หรือสิ่งอื่นๆ ก็ได้ ลูกโลกที่สร้างมีฐานรองรับ โดยจะวางลูกโลกให้แกนขั้วโลกเหนือเอียงตามลักษณะ ที่โลกหมุนรอบตัวเองและโคจรรอบดวงอาทิตย์ ลูกโลกนอกจากจะแสดงรายละเอียดของทวีป มหาสมุทร ทะเล เกาะ และรายชือ่ ของสิง่ ต่างๆ แล้ว ยังมีเส้นเมริเดียนและเส้นขนานหรือเส้นขนาน ละติจดู มาตราส่วน เพื่อแสดงค่าระยะทางและประเมินขนาดพื้นที่ตามที่ปรากฏบนลูกโลก ๒) การใช้ลูกโลก ลูกโลกที่สร้างโดยมีฐานรองรับจะวางลูกโลกให้แกนขั้วโลกเหนือ งๆ ได้ ดังนี้ เอียงเป็นมุม ๒๓ ๒๑ องศากับแนวตั้งฉาก ดังนั้น จึงสามารถใช้ลูกโลกศึกษาข้อมูลต่างๆ ๒.๑) ศึกษาทิศทางการหมุน ของโลก โลกหมุนจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก (กรณีมองไปทีเ่ ส้นศูนย์สตู ร) หรือหมุนทวน เข็มนาฬิกา (กรณีมองไปทางขัว้ โลกเหนือ) หรือ หมุนตามเข็มนาฬิกา (กรณีมองไปที่ขั้วโลกใต้) ดังนัน้ จึงกล่าวได้วา่ ลูกโลกหมุนจากทิศตะวันตก ไปทางทิศตะวันออก ส่งผลให้ปรากฏการณ์ การรับแสงอาทิตย์แรกจะอยูด่ า้ นตะวันออกของ ดินแดนต่างๆ ก่อน เช่น จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับแสงสว่างก่อนกรุงเทพฯ ส่วนกรุงเทพฯ ได้รับแสงสว่างก่อนจังหวัดกาญจนบุรี พื้นที่ที่ ั แสงเป็นเวลากลางวัน ส�าหรับพืน้ ทีท่ ไี่ ม่ได้ ลูกโลกเป็นเครื่องมือที่ใช้ศึกษาต�าแหน่งและลักษณะต่างๆ ได้รบ ที่ปรากฏบนพื้นผิวโลก รับแสงเป็นเวลากลางคืน

Explain

ครูสุมใหนักเรียนออกมาสาธิตการหมุนลูกโลก เพื่อจําลองการหมุนของโลก และใหนักเรียน อภิปรายแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการหมุนของ โลก แลวสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับการใชลูกโลก ในการศึกษาปรากฏการณกลางวันและกลางคืน และฤดูกาลตางๆ

2

เกร็ดแนะครู ครูควรอธิบายเกี่ยวกับการเอียงของโลกวา โลกมีแกนเอียง 23 21 องศากับ แนวตั้งฉาก สงผลใหเกิดฤดูกาลและเวลาระหวางกลางวันและกลางคืนที่แตกตางกัน ในแตละพื้นที่ จากการที่ไดรับแสงอาทิตยไมเทากันในการโคจรรอบดวงอาทิตย ในเวลาหนึ่งป

นักเรียนควรรู 1 โลก ดาวเคราะหดวงหนึ่งในระบบสุริยะ ซึ่งเปนที่อยูของมนุษย มีขนาดใหญ อันดับที่ 5 ในจํานวนดาวเคราะหทั้ง 8 ดวง หางจากดวงอาทิตยเปนอันดับที่ 3 (อยูถัดจากดาวพุธและดาวศุกร) มีเสนผานศูนยกลางที่เสนศูนยสูตรยาว 12,755 กม. มีเนื้อที่บนผิวโลก 510.1 ลาน ตร.กม.

2

คูมือครู

ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET

เครื่องมือทางภูมิศาสตรมีความสําคัญตอมนุษยอยางไร 1. เปนเครื่องอํานวยความสะดวกในชีวิตประจําวัน 2. เปนพื้นฐานในการพัฒนาเทคโนโลยีในดานตางๆ 3. เปนเครื่องมือในการนําทรัพยากรมาใชประโยชนไดอยางคุมคา 4. เปนแหลงขอมูลใชในการดําเนินกิจกรรมตางๆ ไดอยางเหมาะสม วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เครื่องมือทางภูมิศาสตรจะใหขอมูล ซึ่งเปนประโยชนในการดําเนินกิจกรรมตางๆ ของมนุษย เชน การเดินทาง การระวังภัยพิบัติ การสํารวจทรัพยากร เปนตน


กระตุนความสนใจ

สํารวจคนหา

Engage

Explore

อธิบายความรู Explain

ขยายความเขาใจ

ตรวจสอบผล

Expand

Evaluate

อธิบายความรู

1. ครูใหนักเรียนแบงกลุมเลนเกมนักสํารวจ โดยครูเขียนชื่อประเทศหรือสถานที่สําคัญ ลงในฉลาก ใหแตละกลุมผลัดกันจับฉลาก ดังกลาว เมื่อไดชื่อประเทศหรือสถานที่ใด ก็ใหสงตัวแทนกลุมออกมาชี้ตําแหนงที่ลูกโลก พรอมบอกตําแหนงที่ตั้งและอาณาเขตติดตอ กลุมใดสามารถบอกตําแหนงตามเวลา ที่กําหนดไดถูกตองมากกวาเปนฝายชนะ 2. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมที่ 1.1 จากแบบวัดฯ ภูมิศาสตร ม.1

ซีกโลกเหนือ ฤดูใบไม้ผลิ ซีกโลกใต้ ฤดูใบไม้ร่วง ๒๑ มีนาคม N

๐� ๐�

ซีกโลกเหนือ ฤดูร้อน ซีกโลกใต้ ฤดูหนาว ๒๑ มิถุนายน

S

ซีกโลกเหนือ ฤดูหนาว ฤดูร้อน ๐ � ซีกโลกใต้ ๒๒ ธันวาคม

ดวงอาทิตย์

๐ �

๐�

๐�

Explain

✓ แบบวัดฯ ใบงาน แบบฝกฯ ภูมิศาสตร ม.1 กิจกรรมที่ 1.1

๐�

หนวยที่ 1 เคร�อ่ งมือทางภูมศิ าสตรและการแบงเขตเวลาของโลก

ซีกโลกเหนือ ฤดูใบไม้ร่วง ซีกโลกใต้ ฤดูใบไม้ผลิ ๒๓ กันยายน

ต�าแหน่งการโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ และฤดูกาลของโลก

กิจกรรมตามตัวชี้วัด

กิจกรรมที่ ๑.๑ ใหนกั เรียนตอบคําถามเกีย่ วกับลูกโลกลงในพืน้ ทีท่ กี่ าํ หนดให

๒.๒) ศึกษาทวีปต่างๆ ทั้ง ๗ แห่ง ซึ่งประกอบด้วย ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลีย และโอเชียเนีย ทวีปยุโรป ทวีปแอฟริกา ทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปอเมริกาใต้ และทวีปแอนตาร์กติกา ว่าอยู่ตรงส่วนใดของโลก มีขนาด และรูปร่างอย่างไร มีอาณาเขตติดกับทวีปและมหาสมุทรใดบ้าง ๒.๓) ศึกษาต�าแหน่งที่ตั้งของประเทศต่างๆ ว่าอยู่ตรงส่วนใดของโลก มีขนาด รูปร่าง ลักษณะ อาณาเขต และพรมแดนติดต่อกับประเทศใดบ้าง ศึกษามหาสมุทรทั้ง ๔ แห่ง ซึ่งประกอบด้วย มหาสมุทรแปซิฟิก มหาสมุทรแอตแลนติก มหาสมุทรอินเดีย และมหาสมุทร อาร์กติก ว่ามีอาณาเขตติดต่อกับดินแดนใด และมีรูปร่างอย่างไร ๒.๔) ศึกษาการโคจรของโลก โดยการน� โดยการน�าลูกโลกวางตามแนวเส้นวงรีที่โลกโคจร รอบดวงอาทิตย์ การใช้ประโยชน์จากลูกโลกข้อนี้ เพื่อที่จะได้เห็นต�าแหน่งการรับแสงอาทิตย์ที่ แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลท�าให้ต�าแหน่งบนพื้นโลกได้รับแสงมากน้อยและยาวนานแตกต่างกันจนเกิด เป็น ฤดูกาล ของพื้นที่ต่างๆ ๒.๕) ศึกษาเส้นเมริเดียน คือ เส้นสมมติที่ลากจากขั้วโลกเหนือถึงขั้วโลกใต้ เมริเดียนแต่ละเส้นจะห่างกันมากทีส่ ดุ ตรงบริเวณเส้ วณเส้นศูนย์สตู ร และจะชิ ร และจะชิดกันเมือ่ ใกล้ขวั้ โลกทัง้ สอง ด้าน เส้นเมริเดียนกรีนิชมีค่าเท่ากับ ๐ องศา เรียกว่า เมริ เมริเดียนแรก นแรก (prime meridian) และเส้ (prime meridian) และเส้น เมริเดียน ๑๘๐ องศา เรียกว่า เส้นวันที่ (date line)

(ส ๕.๑ ม.๑/๑)

คะแนนเต็ม คะแนนที่ได

õ

ลูกโลก คืออะไร

หุนจําลองของโลกที่มีลักษณะสัณฐานทรงกลม แสดงตําแหนงและการกระจายของพื้นที่ประเทศ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ทวีป ทะเล และมหาสมุทรตางๆ ไดตรงตามที่ปรากฏบนพื้นโลก ลูกโลกสรางขึ้นจากวัสดุตางๆ เชน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. กระดาษอัด พลาสติก ยาง เปนตน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ฉบับ

เฉลย

ขอมูลที่แสดงบนลูกโลกมีอะไรบาง

ลูกโลกมีประโยชนอยางไร

๑.…………………………………………………………………………………………. แสดงตําแหนงและการกระจายของพืน้ ทีป่ ระเทศ ทวีป ทะเล และมหาสมุทรตางๆ …………………………………………………………………………………………. ๒. แสดงลักษณะภูมปิ ระเทศของประเทศตางๆ ทัว่ โลก …………………………………………………………………………………………. ๓. แสดงที่ ตั้ ง อาณาเขต และเมื อ งหลวงของ …………………………………………………………………………………………. ประเทศตางๆ …………………………………………………………………………………………. ๔.…………………………………………………………………………………………. แสดงกระแสนํา้ สําคัญในมหาสมุทร ๕. แสดงเสนเมริเดียนและเสนขนานหรือเสนละติจดู …………………………………………………………………………………………. มาตราสวน …………………………………………………………………………………………. ๖.…………………………………………………………………………………………. แสดงชือ่ ของสิง่ ตางๆ เชน แมนาํ้ ภูเขา เปนตน

๑.………………………………………………………………………………. หาคาพิกัดทางภูมิศาสตร การหาคา ละติจูดและลองจิจูด ………………………………………………………………………………. ๒. หาเวลาตามแนวเสนเมริเดียน ………………………………………………………………………………. ๓. ศึกษาทิศทางการหมุนของโลก ………………………………………………………………………………. ๔. ศึกษาทวีปตางๆ ของโลก ………………………………………………………………………………. ๕. ศึกษาการเกิดกลางวัน กลางคืน ………………………………………………………………………………. ๖.………………………………………………………………………………. ศึกษาการเกิดฤดูกาล ๗. ศึกษาตําแหนงที่ตั้งของประเทศตางๆ ………………………………………………………………………………. ๘. ศึกษาการโคจรของโลก ……………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………….

……………………………………………………………………………….

(พิจารณาคําตอบของนักเรียน โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน)

3

ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET

ในชวงเดือนกรกฎาคม ประเทศญี่ปุนตรงกับฤดูกาลในขอใด 1. ฤดูรอน 2. ฤดูหนาว 3. ฤดูใบไมรวง 4. ฤดูใบไมผลิ

วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. ในชวงเดือนกรกฎาคมเปนชวงที่โลกโคจร รอบดวงอาทิตย โดยเอียงไปทางซีกโลกเหนือ ดังนั้น ประเทศที่อยูในแถบ ซีกโลกเหนือจึงไดรับพลังงานความรอนจากดวงอาทิตย ทําใหประเทศญี่ปุน ซึ่งตั้งอยูแถบซีกโลกหนือเกิดฤดูรอนในชวงเดือนดังกลาว

เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเกี่ยวกับตําแหนงการโคจรของโลกรอบดวงอาทิตยและฤดูกาลโลก - วันที่ 21 มีนาคม เปนวันที่ดวงอาทิตยทํามุมตั้งฉากที่เสนศูนยสูตร จึงทําให ซีกโลกเหนือและซีกโลกใตมีเวลาชวงละ 12 ชั่วโมงเทากัน ฤดูกาลในซีกโลก เหนือ คือ ฤดูใบไมผลิ และซีกโลกใต คือ ฤดูใบไมรวง - วันที่ 21 มิถุนายน เปนวันที่ดวงอาทิตยทํามุมตั้งฉากที่เสนทรอปกออฟแคนเซอร ทําใหซีกโลกเหนือ คือ ฤดูรอน และเกิดปรากฏการณพระอาทิตย เที่ยงคืน สวนซีกโลกใต คือ ฤดูหนาว - วันที่ 23 กันยายน เปนวันที่ดวงอาทิตยทํามุมตั้งฉากที่เสนศูนยสูตร จึงทําให ซีกโลกเหนือและซีกโลกใตมีเวลาชวงละ 12 ชั่วโมงเทากัน สวนฤดูกาลใน ซีกโลกเหนือ คือ ฤดูใบไมรวง และซีกโลกใต คือ ฤดูใบไมผลิ - วันที่ 22 ธันวาคม เปนวันที่ดวงอาทิตยทํามุมตั้งฉากที่เสนทรอปกออฟแคปริคอรน ทําใหซีกโลกเหนือ คือ ฤดูหนาว สวนซีกโลกใต คือ ฤดูรอน และ เกิดปรากฏการณพระอาทิตยเที่ยงคืน คูมือครู

3


กระตุนความสนใจ

สํารวจคนหา

Engage

Explore

อธิบายความรู

อธิบายความรู Explain

ขยายความเขาใจ

ตรวจสอบผล

Expand

Evaluate

Explain

1. ครูนําเสนอถึงเสนที่ปรากฏบนลูกโลก เชน • เสนศูนยสูตร แบงโลกเปนซีกโลกเหนือและ ซีกโลกใต • เสนเมริเดียน เปนเสนที่ลากจากขั้วโลกเหนือ มาถึงขั้วโลกใต • เสนเมริเดียนแรก มีคาเทากับ 0 องศา ที่เมืองกรีนิช สหราชอาณาจักร • เสนเมริเดียน 180 องศา เรียกวา เสนวันที่ • เสนขนานละติจูด เปนเสนที่ขนานกับ เสนศูนยสูตร 2. ครูใหนักเรียนฝกการใชลูกโลก โดยครูบอกชื่อ ประเทศหรือทวีป แลวใหนักเรียนอานและแปล ความหมายจากลูกโลก 3. นักเรียนรวมกันสรุปสาระสําคัญเกี่ยวกับ ประโยชน ความสําคัญ และวิธีการใชลูกโลก เพื่อที่จะไดนําไปใชไดอยางถูกตองตอไป

1 ๒.๖) ศึกษาเส้นขนานหรือเส้นขนานละติจูด คือ เส้นสมมติที่ลากรอบโลก โดย ทุกเส้นจะขนานกับเส้นศูนย์สตู ร ทีข่ วั้ โลกทัง้ สองด้าน เส้นขนานจะมีลกั ษณะเป็นจุด และมีคา่ เท่ากับ ๙๐ องศาเมื่อวัดจากจุดใจกลางโลกไปจุดขั้วโลกนั้น เส้นขนานที่ส�าคัญมี ๕ เส้น คือ เส้นศูนย์สูตร เส้นทรอปกออฟแคนเซอร์ เส้นทรอปกออฟแคปริคอร์น เส้นอาร์กติกเซอร์เคิล และเส้นแอนตาร์กติกเซอร์เคิล ลูกโลกมีข้อจ�ากัดในการสร้าง เพราะถ้าต้องการรายละเอียดของข้อมูลมากๆ จะต้อง สร้างลูกโลกขนาดใหญ่ ซึ่งต้องลงทุนสูง ไม่คุ้มค่า ดังนั้น ถ้าต้องการข้อมูลรายละเอียดขนาดของ พื้นที่ให้ได้มาก ควรท�าลงในแผนที่เพราะราคาถูกกว่า เคลื่อนย้ายได้ง่าย และใช้งานได้สะดวกกว่า

ภาพส่วนหนึง่ ของโลกจาก google map ซึง่ เป็นเครือ่ งมือทีม่ ปี ระโยชน์มาก ให้ขอ้ มูลหลายด้าน อาทิ สภาพภูมปิ ระเทศจริง ของทุกประเทศทัว่ โลก รวมทัง้ ดึงภาพเข้ามาดูระยะใกล้จนเห็นแหล่งชุมชนได้

๑.๒ แผนที่ (map)

แผนที่เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อเสนอข้อมูลเกี่ยวกับรูปลักษณะและที่ตั้งของสิ่งต่างๆ ที่ปรากฏอยู่บนผิวโลกด้วยการเขียนย่อส่วน และใช้สัญลักษณ์แทนสิ่งต่างๆ โดยท�าลงในวัสดุพื้นที่ แบนราบหรือแผ่นกระดาษ ลักษณะของสิ่งที่แสดงปรากฏบนผิวโลก ประกอบด โลก ประกอบด้วย ๑. สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น ทวีปต่างๆ ทะเล มหาสมุทร แม่น�้า เนินเขา ภูเขา ที่ราบสูง ที่ราบ เกาะ พื้นที่ป่าไม้ เป็นต้น ๒. สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น เมือง หมู่บ้าน สนามบิน เส้นทางคมนาคม เขื่อน พื้นที่ เกษตรกรรม เขตอุตสาหกรรม เป็นต้น 4

EB GUIDE

เกร็ดแนะครู ครูควรใหนักเรียนแบงกลุม เพื่อศึกษาขอมูลทางภูมิศาสตรระดับจังหวัด และระดับตําบล ซึ่งเปนพื้นที่ที่นักเรียนอาศัยอยู โดยใชโปรแกรม Google Map

นักเรียนควรรู 1 เสนขนานละติจูด เสนสมมติบนผิวโลก ซึ่งจุดทุกจุดบนเสนสมมตินั้นมีคา เทากัน เสนขนานละติจูดทุกเสนบนผิวโลกเปนขอบวงกลมขนานกับเสนศูนยสูตร และมีชื่ิอเรียกตามคาของละติจูด เชน เสนขนานละติจูด 17 องศาเหนือ เปนตน

4

คูมือครู

http://www.aksorn.com/LC/Geo/M1/01

ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET

ลูกโลกมีประโยชนในการศึกษาภูมิศาสตรทางดานใด 1. โครงสรางของโลก 2. ชั้นบรรยากาศของโลก 3. ที่ตั้งของประเทศตางๆ 4. การเปลี่ยนแปลงลักษณะพื้นผิวโลก วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. ลูกโลกเปนหุนจําลองของโลกที่สามารถแสดง ตําแหนงของพื้นที่ประเทศ ทวีป ทะเลและมหาสมุทรตางๆ ไดตรงตาม ที่ปรากฎที่ผิวโลก จึงสามารถใชศึกษาที่ตั้งของประเทศตางๆ


กระตุน ความสนใจ Engage

สํารวจคนหา Explore

อธิบายความรู Explain

ขยายความเขาใจ

ตรวจสอบผล

Expand

Evaluate

กระตุน ความสนใจ

Engage

ครูนําตัวอยางแผนที่มาใหนักเรียนดูแลวให นักเรียนบอกวา เปนแผนที่ชนิดใด พรอมทั้งให นักเรียนบอกลักษณะสําคัญ และประโยชนของ แผนที่เหลานั้น เชน แผนที่ทางหลวงเปนแผนที่ เฉพาะเรื่องที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับถนน สายหลักของประเทศ สามารถใชประโยชน ในการเดินทางไปยังสถานที่ตางๆ

แผนที่นอกจากจะมีข้อมูลลักษณะของสิ่งที่ปรากฏบนผิวโลกแล้ว แผนที่ยังแสดงข้อมูล สิ่งต่างๆ ไว้เพื่อใช้เป็นข้อมูลและหลักฐาน ทั้งนี้เพราะในสภาพพื้นที่จริงจะไม่มีสิ่งต่อไปนี้ เช่น • เส้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศ เพื่อแสดงแนวพรมแดนและอาณาเขตติดต่อ • เส้นเมริเดียนและเส้นขนาน เพื่อแสดงเส้นโครงแผนที่แบบต่างๆ • มาตราส่วนแผนที่ เพื่อแสดงอัตราส่วนระหว่างระยะทางบนแผนที่กับระยะทางจริง ๑) ความส�าคัญและประโยชน์ของแผนที ่ ได้แก่ ๑. สามารถค้นคว้าศึกษาข้อมูลของสิง่ ต่างๆ ในพืน้ ทีไ่ ด้อย่างถูกต้องโดยไม่จา� เป็น ต้องเดินทางไป ท�าให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย ๒. การศึกษาข้อมูลจากแผนที่จะได้ทั้งข้อมูลเฉพาะจุด และเห็นข้อมูลที่ห่างไกล ออกไปได้อย่างกว้างขวาง ๓. ข้อมูลจากแผนที่จะช่วยท�าให้สามารถวางแผนการจัดการพื้นที่ และการเข้า ถึงพื้นที่ได้อย่างถูกต้อง ๒) ชนิดของแผนที ่ แผนที่ที่น�ามาใช้กันโดยทั่วไปแบ่งเป็น ๓ ชนิด ได้แก่ ๒.๑) แผนที่แบบแบน (planemetric map) เป็นแผนที่ที่ไม่แสดงรายละเอียด เกี่ยวกับความสูง โดยจะแสดงต�าแหน่งของสิ่งต่างๆ ในทางราบ มีประโยชน์อย่างมากในการใช้หา ระยะทางและเส้นทาง ระเทศ ๒.๒) แผนที 1 ่ภูมิประเทศ (topographic map) เป็ 2เป็นแผนที่แสดงรายละเอียดตาม โลก โดยใช้เส้นชั้นความสูงที่บอกค่าความสูงจากระดับทะเล แนวดิ่งเกี่ยวกับภูมิลักษณ์ของพื้นโลก ทะเล 3 ปานกลาง และแสดงรายละเอียดตามแนวราบโดยใช้สัญลักษณ์ต่างๆ ปานกลาง และแสดงรายละเอี (thematic map) เป็นแผนที่แสดงข้อมูลเฉพาะเรื่องใด ๒.๓) แผนที่เฉพาะเรื่อง (thematic map) เป็ แผนทีภ่ มู อิ ากาศ แผนที ากาศ แผนทีท่ างหลวง เป็ างหลวง เป็นต้น เรือ่ งหนึง่ เท่านัน้ เช่น แผนทีป่ ระชากร แผนที ยา แผนที 4 แผนทีธ่ รณีวทิ ยา (atlas) เป็นการน�าแผนที่ภูมิประเทศและแผนที่เฉพาะเรื่องที่รวบรวมไว้ ส�าหรับแผนที่เล่ม (atlas) เป็ น�ามาอยู่เป็นเล่มเดียวกัน ๓) การใช้แผนที ่ ในการใช้แผนทีช่ นิดใดชนิดหนึง่ ผูผูใ้ ช้แผนทีจ่ ะต้องมีความรู ้ ความ เข้าใจองค์ประกอบของแผนที่อย่างถูกต้อง โดยท�าการศึกษาทิศทางในแผนที่ สัญลักษณ์แผนที่ มาตราส่วนแผนที่ ระบบอ้างอิงต�าแหน่งในแผนที่ ดังนี้ ๓.๑) ทิศทางในแผนที่ ปกติก�าหนดให้ด้านบนขอบระวางแผนที่เป็นทิศเหนือ เสมอ และมีเครื่องหมายลูกศรก�ากับ ๓.๒) สัญลักษณ์แผนที่ จะแสดงแทนสถานที่จริงในรูปลักษณะเป็นจุด ลายเส้น รูปร่างหรือสี มีค�าอธิบายสัญลักษณ์ไว้ทุกๆ รูปสัญลักษณ์

สํารวจคนหา

Explore

ครูใหนักเรียนศึกษาเกี่ยวกับความสําคัญ ประโยชน ชนิดการใชแผนที่ และระบบอางอิงใน แผนที่ จากหนังสือเรียนหนา 5-8 หรือจากแหลง เรียนรูอื่นๆ เชน หนังสือในหองสมุด เว็บไซตใน อินเทอรเน็ต เปนตน

อธิบายความรู

Explain

1. ครูใหนักเรียนชวยกันบอกความสําคัญและ ประโยชนของแผนที่ 2. ครูสุมใหนักเรียนยกตัวอยางชนิดของแผนที่ และบอกถึงลักษณะสําคัญของแผนที่ชนิดนั้น

5

ขอสอบ

O-NET

ขอสอบป ’52 ออกเกีย่ วกับมาตราสวนแผนที่ แผนทีฉ่ บับหนึง่ ระบุมาตราสวน 1 : 200,000 ระยะจริงที่สั้นที่สุดระหวาง เมือง ก และเมือง ข ในแผนที่ฉบับนี้เปนกี่กิโลเมตร ถาระยะหางของเมือง ทั้งสองในแผนที่ 5 เซนติเมตร 1. 5 2. 10 3. 15 4. 20 (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. ระยะหางในแผนที่กําหนดเปนเซนติเมตร (ซม.) ดังนั้น มาตราสวน 1 : 200,000 จึงเทียบคาไดวา ระยะในแผนที่ 1 ซม.ตอระยะจริง 200,000 ซม. ซึ่งเทียบไดเปน 1 กิโลเมตร (กม.) ดังนั้น ระยะหางของเมืองทั้งสองในแผนที่ 5 ซม. จึงเทากับระยะจริง 5 × 2 = 10 กม.)

นักเรียนควรรู 1 ภูมิลักษณ ลักษณะของเปลือกโลกที่มีรูปพรรณสัณฐานตางๆ กัน เชน เปนภูเขา ที่ราบสูง ที่ราบ หุบเขา เปนตน 2 เสนชั้นความสูง เสนแสดงความสูงเทากันบนแผนที่ โดยแสดงความสูงจาก ระดับทะเลปานกลาง 3 ระดับทะเลปานกลาง คาเฉลี่ยของระดับนํ้าทะเล ซึ่งคํานวณไดจากผล การตรวจระดับนํ้าขึ้นและนํ้าลงในที่ใดที่หนึ่งที่ไดบันทึกติดตอกันไวเปนเวลานาน ประเทศไทยวัดที่เกาะหลัก จ.ประจวบคีรีขันธ 4 atlas มาจากชื่อเทพเจาของกรีกโบราณ ซึ่งเปนผูแบกโลกไวบนบาและ หลังของตน นอกจากนี้ คําวา atlas ยังเปนชื่อเทือกเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของทวีปแอฟริกาอีกดวย

คูมือครู

5


กระตุนความสนใจ

สํารวจคนหา

Engage

Explore

อธิบายความรู

อธิบายความรู Explain

ขยายความเขาใจ

ตรวจสอบผล

Expand

Evaluate

Explain ถนน

1. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเกี่ยวกับ องคประกอบของแผนที่ สัญลักษณในแผนที่ และมาตราสวนแผนที่ จากนัน้ ยกตัวอยางการอาน แผนที่จังหวัดเพชรบุรี ในหนังสือเรียนหนา 6 2. ครูแบงนักเรียนออกเปน 3 กลุม กลุมละเทาๆ กัน เพื่อศึกษาแผนที่ตางๆ โดยแตละกลุม ศึกษา ดังนี้ กลุมที่ 1 ศึกษาแผนที่ประเทศไทย กลุมที่ 2 ศึกษาแผนที่ทวีปเอเชีย กลุมที่ 3 ศึกษาแผนที่ทวีปออสเตรเลียและ โอเชียเนีย นักเรียนแตละกลุมทําการศึกษาในประเด็น ตอไปนี้ • การอานพิกัดภูมิศาสตรแสดงที่ตั้ง • สถานที่สําคัญ เมืองสําคัญตางๆ • ลักษณะภูมิประเทศเดนๆ นักเรียนแตละกลุมสรุปสาระสําคัญจากการ ศึกษาแผนที่ แลวใหแตละกลุมสงตัวแทนออกมา นําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน

๙๙ �๕๖

แม่น�้าเพชรบุรี สถานีอนามัย ๙๙ �๕๘

๙๙ �๕๗

เส้นขนาน ละติจูด

๑๓ �๐๘

พิกัด ภูมิศาสตร์ ทิศ เส้นเมริเดียน

ทางรถไฟ สะพาน

๑๓ �๐๗

ที่ว่าการอ�าเภอ ศาลากลาง จังหวัด

โรงเรียน วัด

โรงพยาบาล ๑๓ �๐๖

ชื่อแผนที่

แผนที่จังหวัดเพชรบุรี

มาตราส่วน 1 : 50,000

ตัวอย่างแผนที่ที่มีองค์ประกอบแผนที่ครบถ้วน

ตัวอย่าง สัญลักษณ์ในแผนที่ สัญลักษณ์

ความหมาย

สัญลักษณ์

โรงพยาบาล

ที่ว่าการอ�าเภอ

วัด

แม่น�้า

โรงเรียน สถานีอนามัย

ทางรถไฟ

ดังต่อไปนี้

เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเกี่ยวกับมาตราสวนในแผนที่วา แผนที่ภูมิประเทศที่ใชกันมาก มี 2 มาตราสวน ไดแก มาตราสวนเล็ก คือ มาตราสวน 1 : 250,000 และแผนที่ มาตราสวนใหญ คือ มาตราสวน 1 : 50,000 เนื่องจากแผนที่ภูมิประเทศทั้งสอง มาตราสวนจัดทําขึ้นจากขอมูลที่ไดมาจากรูปถายทางอากาศและภาพจากดาวเทียม จึงไดขอมูลที่ปรากฏอยูบนพื้นผิวโลกที่ถูกตองและทันสมัย จึงนิยมใชในงานสาขา ตางๆ เชน การสรางถนน การวางผังเมือง เปนตน

บูรณาการอาเซียน ครูนําแผนที่แสดงตําแหนงที่ตั้งสถานที่สําคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต มาใหนักเรียนศึกษา เชน นครวัด (กัมพูชา) บุโรพุทโธ (อินโดนีเซีย) เปนตน หลังจากนัน้ เปดโอกาสใหนกั เรียนรวมกันอภิปรายในประเด็นตางๆ เชน ทีต่ งั้ อาณาเขต ความสําคัญทางดานเศรษฐกิจและสังคม เปนตน คูมือครู

สะพาน

๓.๓) มาตราส่วนแผนที่ อาจจะแสดงไว้ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง จาก ๓ แบบ รูปแบบ

6

ความหมาย

ศาลากลางจังหวัด

ถนน

6

มาตราส่วน

๑ : ๑๐๐,๐๐๐

มาตราส่วนสัดส่วน

๑ ซม. ต่อ ๑ กม.

มาตราส่วนค�าพูด

กม.

มาตราส่วนเส้น

ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET

แผนที่แสดงภูมิประเทศของประเทศไทย มาตราสวน 1 : 50,000 หมายความวาอยางไร 1. ระยะทางในแผนที่ 1 นิ้ว เทากับระยะทางจริง 50,000 กิโลเมตร 2. ระยะทางในแผนที่ 1 เมตร เทากับระยะทางจริง 50,000 กิโลเมตร 3. ระยะทางในแผนที่ 1 เซนติเมตร เทากับระยะทางจริง 50,000 กิโลเมตร 4. ระยะทางในแผนที่ 1 เซนติเมตร เทากับระยะทางจริง 50,000 กิโลเมตร วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. มาตราสวน 1 : 50,000 หมายความวา 1 เซนติเมตรในแผนที่เทากับระยะจริงบนพื้นผิวภูมิประเทศ 50,000 เซนติเมตร หรือ 500 เมตร


กระตุนความสนใจ

สํารวจคนหา

Engage

Explore

อธิบายความรู Explain

ขยายความเขาใจ

ตรวจสอบผล

Expand

Evaluate

อธิบายความรู

1. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเกี่ยวกับระบบ การอางอิงในแผนที่ แลวสุมใหนักเรียนตอบ คําถาม ดังนี้ • ทําไมจึงตองมีระบบอางอิงในแผนที่ (แนวตอบ เนื่องจากโลกมีสัณฐานกลม จึงตอง สรางเสนสมมติขึ้นเพื่อกําหนดตําแหนงที่ตั้ง ที่ชัดเจนและใชเปนมาตรฐานเดียวกันได) • เสนโครงแผนที่มีความสําคัญอยางไร (แนวตอบ เปนระบบของเสนขนานกับ เสนเมริเดียน ใชในการถายทอดลักษณะ ทรงกลมของโลกลงบนพื้นราบ) 2. นักเรียนชวยกันสรุปความรูเรื่องประโยชน และความสําคัญของแผนที่ วิธีการใชแผนที่ ที่ถูกตอง

๔) ระบบอ้างอิงต�าแหน่งในแผนที ่ เนื่องจากโลกมีสัณฐานกลม จึงต้องสร้างเส้น

สมมติขึ้นเพื่อการก�าหนดต�าแหน่งที่ตั้งที่ถูกต้อง และใช้อ้างอิงเป็นมาตรฐานเดียวกันได้ โลก จากนัน้ นักภูมศิ าสตร์ได้ก�าหนดเส้นเมริเดียนกับเส้นขนานไว้บนทรงกลมของลูก1โลก เส้นโครงแผนที ่ ประกอบด้วย จึงถ่ายทอดเส้นเมริเดียนกับเส้นขนานลงในแผนที ่ เราเรียกเส้นทัง้ สองว่า เส้ ๔.๑) เส้นเมริเดียน (meridian) เป็นเส้นสมมติที่ลากจากขั้วโลกเหนือไปยัง ขัว้ โลกใต้ โดยเมริเดียนแรก เรียกว่า เมริเดียนของลองจิจูด ๐ องศา เส้นเมริเดียนที่ถัดจาก ๐ องศา ไปทางขวามือมีค่าเป็นองศาตะวันออกจนถึง ๑๘๐ องศา ส่วนที่ไปทางซ้ายมือมีค่าเป็น องศาตะวันตกจนถึง ๑๘๐ องศา เส้นอาร์กติกเซอร์เคิล

ขั้วโลกเหนือ

เส้นขนาน

Explain

ซีกโลกเหนือ

เส้นทรอปิกออฟ แคนเซอร์ เส้นศูนย์สูตร ซีกโลกใต้

เส้นทรอปิกออฟ แคปริคอร์น เส้นเมริเดียน เส้นแอนตาร์กติก เซอร์เคิล

ขั้วโลกใต้

ภาพวาดลูกโลกจ�าลองแสดงเส้นเมริเดียนและเส้นขนานบนลูกโลก

๔.๒) เส้นศูนย์สูตร (equator) (equator) เป็นเส้นโค้งวงกลมใหญ่ที่แบ่งโลกออกเป็น ๒ ซีก คือ ซีกโลกเหนือกับซีกโลกใต้ ความยาวของเส้นศูนย์สูตรประมาณ รประมาณ ๔๐,๐๗๕ ๔๐,๐๗๕ กิโลเมตร ลเมตร จุดทุกจุดบนเส้นศูนย์สูตรอยู่ห่างจากขั้วโลกทั้งสองเท่ากัน และระนาบของเส้ และระนาบของเส้นศูนย์สูตรตั้งฉากกับ แกนของโลก ๔.๓) เส้นขนานละติจดู (parallel of latitude) เป็ latitude) เป็นเส้นโค้งวงกลมเล็ก ซึซึง่ ตัง้ ฉาก กับแกนขัว้ โลก เป็ เป็นเส้นสมมติทลี่ ากจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก ออก โดยเส้ โดยเส้นขนานทุกเส้นจะขนาน กับเส้นศูนย์สูตร เส้นศูนย์สูตรมีค่ามุมเท่ากับ ๐ องศา องศา เส้นขนานที่ถัดจากเส้นศูนย์สูตรไปทาง ทิศเหนือและใต้ เมื่อนับจากเส้นศูนย์สูตรไป รไป จะมี จะมีค่ามุมตั้งแต่ ๐ ถึง ๙๐ องศาที องศาที่ขั้วโลกเหนือและ ขั้วโลกใต้ 7

ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET

ขอใดกลาวไดถูกตอง 1. โลกมี 360 องศา ดังนั้น เสนขนานละติจูดจึงมี 360 เสน 2. ตําแหนงเสนเมริเดียนบนผิวโลกแตละเสนกําหนดดวยคาละติจูดของ เสนเมริเดียนนั้น 3. เสนเมริเดียนที่ 180 องศาตะวันออกและตะวันตกจะทับกันเปนเสนเดียว และเปนเสนวันที่ 4. เสนศูนยสูตร เสนเมริเดียนแรก และเสนทรอปกออฟแคนเซอรเปน เสนขนานที่สําคัญ วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เสนวันที่เปนเสนสมมติซึ่งนานาชาติได ตกลงขึ้น โดยกําหนดใหลากทับกับเสนเมริเดียน 180 องศา เพื่อใชเปน เขตกําหนดการเปลี่ยนวันที่ เมื่อมีการเดินทางขามเสนนี้

เกร็ดแนะครู ครูอาจใหนักเรียนจัดทําแผนที่เฉพาะเรื่องอยางงาย แตถูกตองตามองคประกอบ ของแผนที่ เชน แผนที่แสดงความหนาแนนของประชากร แผนที่แสดงเสนทาง คมนาคมในบางบริเวณของประเทศไทย ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย โดยคนควาขอมูลจากแหลงการเรียนรูอื่นประกอบกับขอมูลในหนังสือเรียน

นักเรียนควรรู 1 เสนโครงแผนที่ ระบบของเสนขนานกับเสนเมริเดียน ใชในการถายทอด ลักษณะทรงกลมของโลกลงบนพื้นราบ เชน การยอสวน หรือการวิเคราะหทาง คณิตศาสตร เพื่อรักษาระยะทาง พื้นที่ ทิศทาง หรือรูปรางไวตามอัตราสวน ใหใกลเคียงกับสภาพจริงบนโลกมากที่สุด

คูมือครู

7


กระตุน ความสนใจ Engage

สํารวจคนหา Explore

กระตุน ความสนใจ

อธิบายความรู Explain

Explore

ภาพวาดลูกโลกจ�าลองแสดงพิกัดทางภูมิศาสตร์

8

๑.๓ เข็มทิศ(compass)

เข็มทิศเป็นเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ที่ให้ข้อมูลด้านทิศทาง มีหลักการท�างานโดย อาศัยแรงดึงดูดระหว่างสนามแม่เหล็กขัว้ โลกกับเข็มแม่เหล็กของเข็มทิศ เข็มแม่เหล็กจะชีอ้ ยูใ่ นแนวทิศเหนือ-ใต้ตลอดเวลา หน้าปัดของเข็ม ทิศคล้ายกับหน้าปัดนาฬิกา ซึ่งจะมีการแบ่งขนาดของมุมโดย เริม่ นับทิศเหนือเป็นหลัก มีคา่ เท่ากับ ๐ องศา เวียนตาม เข็มนาฬิกาไปทางทิศตะวันออกเท่ากับ ๙๐ องศา จาก ทิศเหนือไปทิศใต้เท่ากับ ๑๘๐ องศา จากทิศเหนือไป ทิศตะวันตกเท่ากับ ๒๗๐ องศา และเมื่อเวียนมา เข็มทิศเป็นเครือ่ งมือทางภูมศิ าสตร์ทใี่ ช้ในการหาทิศ บรรจบที่ทิศเหนือ จะมีค่าเท่ากับ ๓๖๐ องศา หรือ ของต�าแหน่งต่างๆ บนแผนที่และพื้นผิวโลก เทียบได้กับหนึ่งวงกลมนั่นเอง

เกร็ดแนะครู ครูอาจเพิ่มกิจกรรมเกี่ยวกับเข็มทิศ เชน การเลนเกมตามลาหาสมบัติ โดยครูนําสิ่งของไปไวตามสถานที่ตางๆ ภายในโรงเรียน แลวใหขอมูลทิศทาง พรอมแผนที่ เพื่อใหแตละกลุมตามหาสิ่งของเหลานั้นโดยใชเข็มทิศประกอบ

นักเรียนควรรู 1 ระยะทางเชิงมุม การบอกระยะหางจากเสนศูนยสูตรไปยังขั้วโลกเหนือหรือ ขั้วโลกใต โดยคาระยะทางของมุม 1 องศา มีคาประมาณ 111 กม. เชน กรุงเทพฯ อยูที่ละติจูด 13 องศา จะมีระยะทางเชิงมุมประมาณ 13 × 111 เทากับ 1,443 กม. จากเสนศูนยสูตร

คูมือครู

Evaluate

Explain

1. ครูใหนกั เรียนกลุม เดิมชวยกันสรุปลักษณะสําคัญ และการใชประโยชนของเข็มทิศ จากนั้นสงตัว แทนกลุมมานําเสนอหนาชั้นเรียน 2. ครูมอบเข็มทิศเพื่อใหแตละกลุมทดลองใช โดยครูบอกสถานที่สําคัญในโรงเรียนแลวให แตละกลุมบอกทิศทางใหถูกตอง 3. ครูใหแตละกลุมทําแผนที่ในโรงเรียน แสดง สถานที่สําคัญตางๆ ภายในโรงเรียน เชน หองเรียน สนามฟุตบอล เสาธง เปนตน โดยให ทําสัญลักษณและกําหนดทิศทางใหถูกตอง

8

Expand

๔.๔) พิกัดทางภูมิศาสตร์ เป็นค่าพิกัดของจุดที่เกิดจากการลากเส้นเมริเดียน กับเส้นขนานมาตัดกัน โดยต�าแหน่งบนเส้นเมริเดียนจะเรียกว่า ลองจิจูด ส่วนต�าแหน่งบน เส้นขนานจะเรียกว่า ละติจดู ดังนัน้ ต�าแหน่งของจุดบนพืน้ โลกจึงก�าหนดค่าเป็นละติจดู และลองจิจดู ๑. ละติจูด (latitude) เป็นค่าของระยะทางเชิงมุมที่นับ ๐ องศา จาก เส้นศูนย์สูตรไปทางทิศเหนือหรือใต้ จนถึง ๙๐ องศา ที่ขั้วโลกทั้งสอง ละติจูดจึงเป็นจุดหนึ่งบน เส้นขนาน 1 ๒. ลองจิจูด (longitude) เป็นค่าของระยะทางเชิงมุมที่นับ ๐ องศา จากเมริเดียนแรกหรือเมริเดียนกรีนชิ ไปจนถึง ๑๘๐ องศาทางตะวันออกหรือทางตะวันตก ลองจิจดู เป็นจุดหนึ่งบนเส้นเมริเดียน

ครูใหนักเรียนไปศึกษาเกี่ยวกับลักษณะสําคัญ และการใชประโยชนเครื่องมือทางภูมิศาสตร ไดแก เข็มทิศ รูปถายทางอากาศ และภาพจากดาวเทียม จากแหลงเรียนรูตางๆ เชน หนังสือเรียน หนังสือใน หองสมุด เว็บไซตในอินเทอรเน็ต เปนตน

อธิบายความรู

ตรวจสอบผล

Engage

ครูนําเข็มทิศมาใหนักเรียนดู แลวถามนักเรียน วา ทําไมเข็มทิศจึงชี้อยูในแนวทิศเหนือ-ใตตลอด เวลา (แนวตอบ เนื่องจากเข็มทิศมีหลักการทํางานโดย อาศัยแรงดึงดูดระหวางสนามแมเหล็กขั้วโลกกับ เข็มแมเหล็กของเข็มทิศ ดังนั้น เข็มแมเหล็กจึงชี้อยู ในแนวเหนือใตตลอดเวลา)

สํารวจคนหา

ขยายความเขาใจ

ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET

หากตองเดินปานักเรียนควรจะนําเครื่องมือทางภูมิศาสตรชนิดใดไปดวย 1. แผนที่ ลูกโลก 2. แผนที่ เข็มทิศ 3. เครื่องจีพีเอส ลูกโลก 4. ลูกโลก ภาพจากดาวเทียม วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. แผนที่เปนเครื่องมือในการแสดงสภาพ พื้นที่และเสนทาง สวนเข็มทิศจะชวยในการหาทิศทาง จึงมีประโยชนใน การเดินทางในปามากที่สุด


กระตุนความสนใจ

สํารวจคนหา

Engage

Explore

อธิบายความรู Explain

ขยายความเขาใจ

ตรวจสอบผล

Expand

Evaluate

อธิบายความรู

แจ้ง

ม วัฒน ราชหาวิทย ะ ภัฏพ าลัย ระน คร

วดั วรมพระศร หาว มี หา ิหาร ธาต ุ

ลโย ธิน

ถนน

คลองถนน

ใช้ ใ นการเดิ น ทาง ได้ แ ก่ การเดิ น เรื อ ทะเล เครื่ อ งบิ น การเดิ น เท้ า ไปยั ง ต� า แหน่ ง ต่ า งๆ การใช้ เ ข็ ม ทิ ศ จะต้ อ งมี แ ผนที่ ป ระกอบ และ ต้องหาทิศเหนือก่อน เพื่อจะได้รู้ทิศของค่า ของมุมที่เบี่ยงเบนไปจากทิศเหนือ ๒) การใช้ เ ข็ ม ทิ ศ เนื่ อ งจาก การหาทิศจริงในแผนที่ต้องใช้เข็มทิศเพื่อหา ทิศเหนือก่อน จึงต้องวางแผนที่ให้ตรงทิศเหนือ จากนั้นจึงใช้แผนที่ได้ตามวัตถุประสงค์

1. ครูนําภาพ 2 ภาพมาใหนักเรียนดู แลวให นักเรียนบอกวา เปนรูปถายทางอากาศหรือ ภาพจากดาวเทียม และใหนักเรียนชวยกัน บอกความแตกตางของทั้งสองภาพ พรอม บอกลักษณะสําคัญและการใชประโยชนทาง ภูมิศาสตร 2. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมที่ 1.4 จากแบบวัดฯ ภูมิศาสตร ม.1

ถนน พห

๑) ความส� า คั ญ ของเข็ ม ทิ ศ

อน รัฐธ ุสาวรีย รรม ์พิท นูญ ักษ์ ถนน ราม อินท รา

✓ แบบวัดฯ ใบงาน แบบฝกฯ ภูมิศาสตร ม.1 กิจกรรมที่ 1.4

รูปถ่ายทางอากาศบริเวณอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ เขตบางเขน กรุงเทพฯ มาตราส่วน 1 : 30,000

หนวยที่ 1 เคร�่องมือทางภูมิศาสตรและการแบงแขตเวลาของโลก

๑.๔ รูปถ่ายทางอากาศ (aerial photograph)

รูปถ่ายทางอากาศ คือ รูปถ่ายที่ได้จากการถ่ายรูปด้วยกล้องที่ใช้ฟิล์ม โดยน�ากล้องไป ติดตัง้ กับอากาศยาน เช่น เครือ่ งบิน บอลลูน แล้วถ่ายรูปในแนวดิง่ หรือเฉียงกับผิวโลก จะได้รปู ถ่าย ของพื้นผิวโลกตามความเป็นจริงทีป่ รากฏ ณ เวลานัน้ ซึง่ เป็นทีน่ ยิ มใช้กนั มากโดยการน�ารูปถ่าย ทางอากาศมาใช้ท�าแผนที่ ท�าโฉนดที่ดิน การก่อสร้างถนน และวางผังเมือง

Explain

กิจกรรมที่ ๑.๔ ใหนกั เรียนใสเครือ่ งหมาย ✓ ใหสมั พันธกบั ชนิดของเครือ่ งมือ ทางภูมิศาสตร (ส ๕.๑ ม.๑/๑) การทํางานของเครื่องมือทางภูมิศาสตร

ดาวเทียมมีอปุ กรณ์ทบี่ ันทึกเก็บรวบรวม ข้อมูลด้วยระบบกล้องหลายช่วงคลืน่ จึงแตกต่าง จากกล้องถ่ายรูปธรรมดา โดยบันทึกข้อมูลเชิง ตัวเลขของค่าการสะท้อนช่วงคลืน่ แสง เนือ่ งจาก วัตถุแต่ละอย่างจะให้ค่าการสะท้อนของแสง อาทิตย์เฉพาะตัวที่แตกต่างกัน เราจึงสามารถ จ�าแนกวัตถุต่างๆ ได้โดยพิจารณาจากลักษณะ ของสิ่งที่ปรากฏบนภาพ เช่น สี รูปร่าง รูปแบบ ซึ่งข้อมูลที่บันทึกสามารถส่งกลับมายังสถานี รับบนโลกได้ทันที จึงท�าให้ได้ข้อมูลที่ทันสมัย ที่สุด แต่การใช้ข้อมูลจากภาพดาวเทียมจ�าเป็น ต้องมีการแปลความของสิง่ ทีป่ รากฏบนภาพก่อน

แผนที่

เข็มทิศ

รูปถาย ภาพจาก ทางอากาศ ดาวเทียม

✓ ✓

๒. การถายรูปดวยกลองที่ใชฟล ม โดยนํากลองไปติดตัง้ กับอากาศยาน จะไดรปู ถายของพืน้ ผิวโลกตามความ เปนจริงที่ปรากฏ ณ เวลานั้นๆ ๓. หุนจําลองของโลกที่มีรูปรางลักษณะสัณฐานที่เปน ทรงกลม

ñð

เครื่องมือทางภูมิศาสตร ลูกโลก

๑. เครื่องมือทางภูมิศาสตรที่ใชในการหาทิศของ ตําแหนงตางๆ บนแผนที่และพื้นผิวโลก

๑.๕ ภาพจากดาวเทียม (satellite image) 1

คะแนนเต็ม คะแนนที่ได

✓ ✓

๔. นําเสนอขอมูลเกีย่ วกับลักษณะและทีต่ งั้ ของสิง่ ตางๆ ที่ปรากฏอยูบนผิวโลก โดยการเขียนยอสวนและใช สัญลักษณแทนสิ่งตางๆ โดยทําลงบนวัสดุพื้นที่ แบนราบหรือแผนกระดาษ

ฉบับ

เฉลย ✓

๕. การบันทึกรวบรวมขอมูลดวยระบบกล อ งหลาย ชวงคลื่น โดยบันทึกขอมูลเชิงตัวเลขของคาการ สะทอนชวงคลื่นแสง ๖. ใชศึกษาเกี่ยวกับการโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย และฤดูกาลของโลก

✓ ✓

๗. นิยมนํามาใชในการทําแผนที่ ทําโฉนดที่ดิน การกอสรางถนน และการวางผังเมือง ๘. มีองคประกอบที่สําคัญ คือ ทิศทาง สัญลักษณ มาตราสวน และระบบอางอิงตําแหนง

✓ ✓

๙. การใชขอมูลตองมีการแปลความสิ่งที่ปรากฏ บนภาพกอน ขอมูลที่ไดมีความทันสมัย ๑๐. มีหลักการทํางานโดยอาศัยแรงดึงดูดระหวางสนาม แมเหล็กกับเข็มแมเหล็ก

ภาพจากดาวเทียม แสดงภูมิลักษณ์ของประเทศไทย

http://www.aksorn.com/LC/Geo/M1/02

ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET

อุปสรรคที่สําคัญของการถายภาพทางอากาศ คือขอใด 1. ฝูงนก 2. อุทกภัย 3. หมอกควัน 4. แสงแดดจัด

วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. การถายภาพทางอากาศนั้นจะมีการติดตั้ง อุปกรณถายภาพกับอากาศยานแลวถายภาพมายังพื้นที่ตางๆ ซึ่งอุปสรรค สําคัญในการถายภาพทางอากาศ คือ หมอกควันที่บดบังพื้นที่ ทําใหได รูปถายทางอากาศที่ไมชัดเจน

EB GUIDE

9

เกร็ดแนะครู ครูอธิบายขอมูลเกี่ยวกับภาพจากดาวเทียมเพิ่มเติมวา ขอมูลจากดาวเทียม มีประโยชนหลากหลายดาน เชน การอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติ การเตือนภัย ธรรมชาติ การจัดการพื้นที่ เปนตน จากนั้นใหนักเรียนตอบคําถามที่กระตุนให นักเรียนเกิดทักษะการคิดวิเคราะห ประเมินคา หรืออื่นๆ เชน หากไมมีดาวเทียม ที่บันทึกภาพดังกลาวจะมีผลอยางไร

นักเรียนควรรู 1 ดาวเทียม วัตถุที่มนุษยสรางขึ้นเลียนแบบดาวบริวารของดาวเคราะห มีวงโคจรแนนอน และมีกําหนดผานบริเวณหนึ่งตามชวงเวลาที่กําหนด เชน ผานบริเวณหนึ่งทุกหนึ่งวัน ทุก 16 วัน ทุก 23 วัน เปนตน ดังนั้น บริเวณนั้น จึงมีขอมูลใหใชตอเนื่อง ทําใหวิเคราะหการเปลี่ยนแปลงตางๆ ได เชน การขยายพื้นที่เพาะปลูก การเกิดอุทกภัย เปนตน คูมือครู

9


กระตุนความสนใจ

สํารวจคนหา

Engage

Explore

อธิบายความรู

อธิบายความรู Explain

เสริมสาระ

Expand

´วงแá¢องปÃÐเทÈäทย

Evaluate

ภาพจ�าลองแสดงดาวเทียมไทยโชต

ภาพจากดาวเทียมไทยโชต แสดงภูมิลักษณ์ตอนใต้ของเกาะภูเก็ต

หาดกะตะใหญ่ หาดกะตะน้อย

เกาะโหลน แหลมกา หาดราไวย์

หาดในหาน เกาะมัน

เกาะบอน แหลมพรหมเทพ

10

นักเรียนควรรู 1 Remote Sensing คือ การรับรูจากระยะไกล เปนระบบสํารวจเก็บขอมูล เกี่ยวกับพื้นผิวโลกดวยเครื่องรับรู (Sensors) ซึ่งติดไปกับยานดาวเทียมหรือ เครื่องบิน เครื่องรับรูจะตรวจจับคลื่นพลังงานแมเหล็กไฟฟาที่สะทอนจากวัตถุบน ผิวโลก แลวมีการแปลงขอมูลเชิงตัวเลข ซึ่งนําไปใชแสดงเปนภาพและทําแผนที่ 2 สํานักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอก.) หนวยงาน ของรัฐในรูปแบบองคกรมหาชน เพื่อบริการขอมูลภูมิสารสนเทศ บริการวิชาการ ตางๆ วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศใหเปนประโยชนตอประชาชน

มุม IT ศึกษาคนควาขอมูลเพิม่ เติมเกีย่ วกับดาวเทียมไทยโชต ไดที่ http://www.gistda. or.th เว็บไซตสาํ นักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมสิ ารสนเทศ (องคการมหาชน) คูมือครู

Evaluate

ดÒÇàทีÂÁÊíÒÃว¨ทÃѾยÒ¡Ã

ดาวเทียมไทยโชต เดิมชื่อ ว่าดาวเทียมธีออสขึ้นสู่อวกาศเมื่อ วันพุธที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2551 เวลาในประเทศไทย 13 : 37 น. หรือ 6 : 37 น. ตามเวลามาตรฐาน สากล (UTC) จากฐานส่งจรวด เมืองยาสนี (Yasny) สหพันธรัฐ รัสเซีย นับเป็นดาวเทียมส�ารวจ ทรั พ ยากรดวงแรกของไทยและ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

1. ครูตรวจสอบความเขาใจของนักเรียนเกี่ยวกับ เครื่องมือทางภูมิศาสตร โดยการยกตัวอยาง เครื่องมือทางภูมิศาสตร แลวใหนักเรียนบอก คุณสมบัติและแนวทางการใชประโยชน ในการศึกษาภูมิศาสตรประเทศไทย ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย 2. ตรวจสอบความถูกตองจากการใชเครื่องมือทาง ภูมิศาสตรในการศึกษาภูมิศาสตรประเทศไทย ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย

10

ตรวจสอบผล

ดาวเทียมไทยโชต (Thaichote) หรือดาวเทียมธี1ออส (THEOS: Thailand Earth Observation Satellite) เป็นดาวเทียมส�ารวจข้อมูลระยะไกล (Remote Sensing) เพื่อใช้ส�ารวจทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทย ซึ่งเป็น2 โครงการระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลฝรัง่ เศส โดยมีสา� นักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมสิ ารสนเทศ (สทอภ.) ด�าเนินงานร่วมกับบริษัท อี เอ ดี เอส แอสเตรียม (EADS Astruim) ประเทศฝรั่งเศส ด้วยงบประมาณ 6,000 ล้านบาท เริ่มด�าเนินการเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2547

ครูนําเครื่องมือทางภูมิศาสตรทั้ง 5 ชนิด คือ ลูกโลก แผนที่ เข็มทิศ ภาพจากดาวเทียม รูปถายทาง อากาศ และแบงนักเรียนออกเปน 5 กลุม หมุนเวียน กันสาธิตการใชเครื่องมือทั้ง 5 ชนิด

ตรวจสอบผล

Expand

Explain

ครูใหนักเรียนชวยกันยกตัวอยางดาวเทียมที่ นักเรียนรูจัก และบอกวาเปนดาวเทียมประเภทใด ของประเทศอะไร และมีประโยชนทางดานใด

ขยายความเขาใจ

ขยายความเขาใจ

ดาวเทียมไทยโชต จะโคจรกลั บ มาอยู ่ ในต�าแหน่งเดิมและ ส่งสัญญาณภาพบริเวณเดียวกันในทุกๆ 16 วัน จึงมีประโยชน์ในหลายด้าน เช่น การส�ารวจทรัพยากร ป่าไม้ การท�าแผนที่ การสร้างถนน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีความรวดเร็ว ชัดเจน แม่นย�า และเชื่อถือได้ เมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554 กระทรวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้มีหนังสือไปยังส�านักงาน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อขอพระราชทานชื่อใหม่ให้ ดาวเทียมธีออส ต่อมาวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555 ส�านักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้มหี นังสือตอบกลับ ความว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณา โปรดเกล้ า ฯ พระราชทานชื่ อ ดาวเที ย มดั ง กล่ า วว่ า “ไทยโชต” “ไทยโชต” และให้ใช้ชอื่ ภาษาอังกฤษว่า Thaichote ตัง้ แต่ วันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2554 สืบไป โดยมีความหมายว่า “ดาวเทียมที่ท�าให้ประเทศไทยรุ่งเรือง”

กิจกรรมทาทาย ครูใหนักเรียนไปสืบคนขอมูลดาวเทียมสํารวจทรัพยากรเพิ่มเติม 1 ดวง พรอมบอกคุณสมบัติพิเศษของดาวเทียมดวงนั้น แลวนําขอมูลมาเลาให เพื่อนในชั้นเรียนฟง


กระตุน ความสนใจ Engage

สํารวจคนหา Explore

อธิบายความรู

ขยายความเขาใจ

ตรวจสอบผล

Explain

Expand

Evaluate

กระตุน ความสนใจ

ครูนําสถิติขอมูลที่เปนความเรียงมาใหนักเรียน อานและสรุปสาระสําคัญและถามคําถาม • ขอมูลนี้ควรนําเสนอรูปแบบใดเพื่อใหเขาใจ ไดงาย และนาสนใจ

๑.๖ เครื่องมืออื่นๆ

นอกจากเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีเครื่องมืออื่นๆ อีกหลาย ชนิดที่ให้ข้อมูลทางด้านกายภาพและสังคมของประเทศไทย ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลียและ โอเชียเนีย เช่น แผนภูม ิ แผนผัง เว็บไซต์ในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะเว็บไซต์จะมีประโยชน์ อย่างมาก เพราะมีจ�านวนมากให้เลือก มีความเป็นปัจจุบัน ทันสมัย หลายเว็บไซต์สร้างจาก หน่วยงานโดยตรงของแต่1 ละประเทศ ข้อมูลจึงมีความน่าเชื่อถือมาก การใช้งานอาจใช้โปรแกรม ค้นหา (search engine) ตัวอย่างเช่น เข้าไปที่ www.google.co.th แล้วพิมพ์ข้อความที่ต้องการ ค้นหา จะเป็นภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษก็ได้ในช่องค้นหา (search) หากเป็นภาษาอังกฤษจะมี ข้อมูลต่างๆ ให้เลือกน�ามาประกอบการศึกษาได้มาก

ที่มา : www.business-in-asia.com

: www.business-in-asia.com ที่มา : www.business-in-asia.com

ที่มา : www.lawyerclubindia.com

ที่มา : www.ft.com

Engage

สํารวจคนหา

Explore

1. ครูใหนักเรียนดูภาพการนําเสนอขอมูลจาก หนังสือหนา 10 - 11 และชวยกันบอกวา เปนการนําเสนอขอมูลอะไร วิธีการนําเสนอ ขอมูลแบบนี้มีขอดีและขอเสียอยางไร 2. ครูใหนักเรียนสืบคนการนําเสนอขอมูลใน รูปแบบกราฟกคนละ 1 เรื่อง จากเว็บไซต ตางๆ เพื่อนํามาอภิปรายในชั้นเรียน

ตัวอย่างข้อมูลสถิติทางสังคมในรูปของกราฟที่สามารถน�าข้อมูลไปใช้ประโยชน์​์ทางภูมิศาสตร์ได้

11

ขอสอบ

O-NET

ขอสอบป ’ 51 ออกเกี่ยวกับเครื่องมือทางภูมิศาสตร เครื่องมือและเทคโนโลยีทางภูมิศาสตรขอใดมีความจําเปนนอยที่สุดในการ พยากรณลมฟาอากาศประจําวัน 1. แผนที่รัฐกิจ, ซิสโมมิเตอร 2. บอลลูน, บารอมิเตอร 3. ภาพถายจากดาวเทียม, เรดาร 4. เครื่องบินตรวจอากาศ, แอนนิโมมิเตอร (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เนื่องจากแผนที่รัฐกิจ คือ แผนที่ที่แสดง อาณาเขตพื้นที่การปกครอง และซิสโมมิเตอร คือ เครื่องมือที่ใชวัด แผนดินไหว สวนบอลลูน เครื่องบิน ดาวเทียม เรดาร ใชในการสํารวจ การเคลื่อนที่ของลมและกลุมเมฆ บารอมิเตอรใชวัดอุณหภูมิและความกด อากาศ และแอนนิโมมิเตอรใชวัดความเร็วลม)

เกร็ดแนะครู ครูควรแนะนําเว็บไซตที่มีขอมูลทางภูมิศาสตรที่หนวยงานราชการจัดทํา เพิื่อเผยแพร จากนั้นใหนักเรียนชวยกันบอกหลักการเลือกใชขอมูลจากเว็บไซต ที่เหมาะสม และยกตัวอยางเว็บไซตที่นาเชื่อถือ เพื่อประโยชนในการศึกษาคนควา ไดอยางรวดเร็ว และไดขอมูลที่ถูกตอง ทันสมัย

นักเรียนควรรู 1 search engine โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อเปนเครื่องมือสําหรับใชคนหา ขอมูลบนเว็บไซตตางๆ ซึ่งขอมูลอาจอยูในรูปของเว็บไซต ไฟลเอกสาร ไฟล รูปภาพ สื่อมัลติมีเดีย ไฟลบีบอัด และรูปแบบอื่นๆ จะชวยใหผูใชเขาถึงขอมูล ไดสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

คูมือครู

11


กระตุนความสนใจ

สํารวจคนหา

Engage

Explore

อธิบายความรู

อธิบายความรู Explain

ขยายความเขาใจ Expand

ที่มา : www.gisthai.org ศูนย์วิจัยภูมิสารสนเทศ

Expand

ครูใหนักเรียนสืบคนการนําเสนอขอมูลจาก เว็บไซตตางๆ คนละ 1 เรื่อง พรอมทั้งอธิบายขอมูล ที่สืบคนมา

ตรวจสอบผล

Evaluate

Explain

1. ครูใหนักเรียนชวยกันยกตัวอยางเครื่องมือ ทางภูมิศาสตรอื่นๆ นอกเหนือจากที่ไดศึกษา พรอมบอกความสําคัญของเครื่องมือดังกลาว (แนวตอบ เชน เว็บไซตในเครือขายอินเทอรเน็ต มีขอมูลทางภูมิศาสตรอยูมากมาย และมีการ ปรับปรุงขอมูลใหทันสมัย จึงสามารถนํามาใช ประโยชนไดหลากหลายดาน) 2. ครูสุมใหนักเรียนบอกหลักในการเลือกใชขอมูล จากเว็บไซต (แนวตอบ การเลือกใชเว็บไซตที่เชื่อถือได มีการ ปรับปรุงขอมูลใหทันสมัยอยูเสมอ เชน เว็บไซต ของหนวยงานราชการ มหาวิทยาลัย เปนตน) 3. ครูใหนักเรียนชวยกันยกตัวอยางเว็บไซตที่มี ขอมูลเกี่ยวกับภูมิศาสตรที่นาเชื่อถือ และให นักเรียนไปรวบรวมเว็บไซตเพิ่มเติม

ขยายความเขาใจ

ตรวจสอบผล

ที่มา : www.mfa.go.th กระทรวงการต่างประเทศ

Evaluate

ครูสังเกตจากวิธีการเลือกเว็บไซตที่นาเชื่อถือ และความถูกตองของขอมูล

ที่มา : National Geographic (ฉบับที่ ๘๘) พฤศจิกายน, ๒๕๕๑, หน้า ๖๑.

1

นิ ต ยสาร National Geographic (ฉบั บ ภาษาไทย) มีข้อมูลน่าสนใจจ�านวนมากที่เหมาะกับการน�ามาใช้ใน การศึกษาด้านภูมิศาสตร์ดังตัวอย่าง

ที่มา : www.mfa.go.th/asean กรมอาเซียน

ข้อมูลทางด้านภูมิศาสตร์ สามารถสืบค้นได้จากเว็บไซต์ ที่หน่วยราชการต่างๆ ได้จัดท�าขึ้นมาเผยแพร่

12

นักเรียนควรรู 1 นิตยสาร National Geographic นิตยสารอยางเปนทางการของสมาคม เนชั่นแนล จีโอกราฟฟก ซึ่งเปนองคกรดานวิทยาศาสตรและการศึกษาที่ไมแสวงหา ผลกําไร มีสํานักงานใหญอยูที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา กอตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2431 เพื่อสืบเสาะคนหาเรื่องราวอันนาทึ่งทางภูมิศาสตรและธรรมชาติวิทยา สงเสริมการอนุรักษสิ่งแวดลอม การรักษาโบราณสถานและโบราณวัตถุตางๆ รวมทั้งศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตรโลก

บูรณาการอาเซียน ครูนาํ สถิตขิ อ มูลทีส่ าํ คัญของประเทศสมาชิกอาเซียนมาใหนกั เรียนศึกษา เชน จํานวนประชากร สถิตสิ นิ คานําเขา-สงออก ขอมูลรายไดประชาชาติ เปนตน แลวให นักเรียนรวมกันอภิปรายและแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับวิธกี ารนําเสนอขอมูลดังกลาว

12

คูมือครู

ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET

การนําเสนอขอมูลมีความสําคัญตอการศึกษาวิชาภูมิศาสตรอยางไร แนวตอบ วิชาภูมิศาสตรมีขอมูลมากมายและหลากหลายรูปแบบทั้งใน เชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ซึ่งทําใหยากแกการทําความเขาใจ ดังนั้น การนําเสนอขอมูลในรูปแบบที่เหมาะสม จะชวยใหผูศึกษาเขาใจขอมูล ไดงาย รวดเร็ว และถูกตอง เชน การนําเสนอขอมูลการเปลี่ยนแปลง จํานวนประชากรในรูปแบบกราฟ จะทําใหผูที่ศึกษาเห็นอัตราการ เปลี่ยนแปลงไดอยางชัดเจน เปนตน


กระตุน ความสนใจ Engage

สํารวจคนหา Explore

อธิบายความรู

ขยายความเขาใจ

ตรวจสอบผล

Explain

Expand

Evaluate

กระตุน ความสนใจ

1. ครูนําเครื่องจีพีเอสหรือโทรศัพทมือถือรุนที่ มีระบบนําทางจีพีเอสมาใหนักเรียนดู และให นักเรียนที่ใชเครื่องจีพีเอสเปนมาสาธิตวิธีการ ใชงานใหเพื่อนดู พรอมทั้งใหนักเรียนชวยกัน บอกวาในปจจุบันจีพีเอสใชทําอะไรไดบาง 2. ครูและนักเรียนรวมกันสนทนาเกี่ยวกับเครื่อง จีพีเอส โดยครูตั้งคําถาม • เครื่องจีพีเอสมีหลักการทํางานอยางไร (แนวตอบ เมื่อเครื่องจีพีเอสรับสัญญาณจาก ดาวเทียมแลว จะคํานวณและบอกคาพิกัด ภูมิศาสตร ณ จุดที่เครื่องจีพีเอสอยูขณะนั้น) • เครื่องจีพีเอสมีบทบาทอยางไรในปจจุบัน (แนวตอบ ปจจุบันมีการนํามาใชในระบบ นําทาง โดยติดตั้งในรถยนต เพื่อใชใน การนําทางแทนการใชแผนที่ และสามารถ ตรวจสอบไดวารถคันนั้นใชงานอยูที่ใด เพื่อประโยชนในการติดตามรถจากการถูก โจรกรรม นอกจากนี้ ยังใชในระบบการบิน รถไฟ เรือ การสํารวจรังวัด เปนตน)

ò. เทคโนโลยีและรูปแบบของข้อมูลภูมิศาสตร์ โลกยุคปัจจุบัน ข้อมูลและข่าวสารสามารถรับรู้ได้รวดเร็ว แม่นย�า ทันสมัย ด้วยเครื่องมือ และเทคโนโลยีทางภูมศิ าสตร์ ทีเ่ ข้ามามีความส�าคัญในการค้นหาข้อมูล และน�าไปใช้ประโยชน์อย่าง กว้างขวาง ที่ส�าคัญ ได้แก่

๒.๑ ระบบก�าหนดต�าแหน่ง บนพืน้ โลก (GPS : global positioning system)

แต่เดิมมาการหาจุดต�าแหน่งบนพื้นผิว โลกจะต้องใช้การค�านวณค่าจากแผนที่ ซึ่งอาจ มีข้อผิดพลาดจากการชี้ต�าแหน่งในแผนที่ไม่ ถูกต้องได้ แต่ปจั จุบนั มีเทคโนโลยีใหม่ทใี่ ช้เครือ่ ง รับสัญญาณจากดาวเทียม เพื่อหาหรือก�าหนด จุดต�าแหน่งบนพื้นโลกได้อย่างถูกต้อง แม่นย�า และรวดเร็ว ค่าต่างๆ ทีจ่ ะแสดงบนจอของเครือ่ ง ปัจจุบนั มีการใช้ GPS มากขึน้ ในการหาเส้นทางเพือ่ เดินทาง จีพีเอส ได้แก่ ค่าละติจูด ค่าลองจิจูด และค่า ไปยังจุดหมาย ระดับความสูง การท�างานของระบบก�าหนดต�าแหน่งบนพื้นโลกโดยเครื่องจีพีเอส จะรับสัญญาณจาก ดาวเทียมอย่างน้อย ๔ ดวง จากดาวเทียมทั้งหมด ๒๗ ดวงที่โคจรอยู่เหนือผิวโลก ๒๐,๒๐๐ กิโลเมตร ส�าหรับเครื่องมือรับสัญญาณมีขนาดและรูปร่างต่างกัน ขนาดซึ่งเป็นที่นิยมใช้ทั่วไปจะมี ขนาดเท่ากับโทรศัพท์มือถือ หรืออยู่ในเครื1่องโทรศัพท์มือถือ เมื่อเครื่องรับสัญญาณจากดาวเทียม แล้ว จะค�านวณและบอกค่าพิกัดภูมิศาสตร์ ณ จุดที่เครื่องจีพีเอสอย อสอยู​ู่ขณะนั้น ปัจจุบัน2มีการน�าจีพีเอสมาใช้ในการระบุต�าแหน่งของเครื่องบิน รถยนต์ รถไฟ เรือ คน การส�ารวจรังวัด ติดตามการเคลื่อนที่ของพาหนะ คนเดิน บอกต�าแหน่งผู้ป่วย เป็นต้น

Engage

สํารวจคนหา

Explore

ครูใหนักเรียนศึกษาคนควาเกี่ยวกับเทคโนโลยี และรูปแบบของขอมูลภูมิศาสตร จากหนังสือเรียน และจากแหลงเรียนรูอื่นๆ เชน หนังสือในหองสมุด เว็บไซตในอินเทอรเน็ต เพือ่ นําขอมูลมาอภิปรายใน ชั้นเรียน

๒.๒ รูปแบบการน�าเสนอข้อมูลภูมิศาสตร์

การศึกษาวิชาภูมิศาสตร์ ข้อมูลที่ใช้ได้จะมีทั้งในข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ดังนั้น การน�าเสนอข้อมูลให้ผอู้ า่ นสามารถเข้าใจได้งา่ ย รวดเร็ว และตรงตามสภาพความเป็นจริงมากทีส่ ดุ จึงเป็นเรื่องส�าคัญ โดยทั่วไปมีรูปแบบการน�าเสนอที่ส�าคัญ ดังนี้ 13

ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET

เครื่องจีพีเอสสามารถนํามาใชประโยชนในกิจกรรมใด 1. การสํารวจแหลงปาไม 2. การสงสัญญาณกันขโมย 3. การพัฒนาพื้นที่เกษตรกรรม 4. การระบุตําแหนงของเครื่องบิน

วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เครื่องจีพีเอสหรือระบบกําหนดตําแหนง บนพื้นโลก เปนเทคโนโลยีที่ใชเครื่องรับสัญญาณจากดาวเทียม เพื่อหา หรือกําหนดจุดตําแหนงบนพื้นโลกไดอยางถูกตอง จึงสามารถใชในการ ระบุตําแหนงของเครื่องบินได

นักเรียนควรรู 1 คาพิกัดภูมิศาสตร ตําแหนงหรือจุดที่เกิดจากเสนขนานและเสนเมริเดียน ตัดกันเปนคาละติจูดและลองจิจูด เชน กรุงเทพฯ มีคาพิกัดภูมิศาสตรอยูที่ละติจูด 13 องศา 45 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 100 องศา 31 ลิปดาตะวันออก 2 การสํารวจรังวัด การสํารวจพื้นที่ ที่ดิน และวัดเพื่อทําแนวเขต

มุม IT ศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบกําหนดตําแหนงบนพื้นโลก ไดที่ http://www.space.mict.go.th เว็บไซตสํานักกิจการอวกาศแหงชาติ

คูมือครู

13


กระตุนความสนใจ

สํารวจคนหา

Engage

Explore

อธิบายความรู

อธิบายความรู Explain

Expand

Evaluate

๑) แบบบรรยาย เป็นการน�าเสนอข้อมูลทีม่ เี นือ้ หาสาระการบรรยายความเรือ่ งราว

ต่างๆ ไม่มีความซับซ้อนมากนัก ตัวอย่างที่ ๑

ตัวอย่างที่ ๒

๒) แผนภูมิ เป็นการน�าเสนอข้อมูลเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยจัดระบบข้อมูลที่มีความ

ซับซ้อนให้ง่ายต่อการรับรู้ โดยแสดงเป็นตาราง หรือเส้นและรูปวงกลม

แผนภูมิรูปวงกลม แสดงพื้นที่ป่าไม้ของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๑

แผนผัง

คะแนนเต็ม คะแนนที่ได

ñõ

๑๐.๙๐%

๔.๖๘%

แผนภูมิ

2

ข้อมูลเชิงคุณภาพ “พื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นที่ราบลุ่มที่เกิดจากการทับถมของตะกอนน้�าพา และจากการทั บ ถมของคลื่ น ในยุ ค ควอเทอร์ น ารี การขุ ด พบซากหอยนางรมในพื้ น ที่ ต่ า งๆ ของ กรุงเทพมหานคร จึงเป็นหลักฐานว่าพื้นที่นั้นเคยเป็นชายทะเลมาก่อน”

หนวยที่ 1 เคร�่องมือทางภูมิศาสตรและการแบงเขตเวลาของโลก กิจกรรมที่ ๑.๕ ใหนักเรียนเลือกรูปแบบการนําเสนอขอมูลทางภูมิศาสตร เติมลงในชองวางที่มีความสัมพันธกัน (ส ๕.๑ ม.๑/๑)

1

ข้อมูลเชิงปริมาณ “กรุงเทพมหานคร แบ่งพื้นที่ปกครองออกเป็นเขต ๕๐ เขต และแบ่งพื้นที่เขต ออกเป็นแขวงต่างๆ รวม ๑๕๔ แขวง ใน พ.ศ. ๒๕๕๔ มีประชากรทั้งสิ้น ๕,๖๗๔,๘๔๓ คน แยกเป็นชาย ๒,๖๙๒,๙๕๔ คน หญิง ๒,๙๘๑,๘๘๙ คน”

✓ แบบวัดฯ ใบงาน แบบฝกฯ ภูมิศาสตร ม.1 กิจกรรมที่ 1.5

กราฟ

๑. นําเสนอขอมูลที่มีเนื้อหาสาระและเรื่องราวที่ไมมีความซับซอนมากนัก ๒. การนําเสนอขอมูลในรูปแบบของรูปภาพที่มองจากมุมสูง ๓. การนําเสนอขอมูลเชิงเปรียบเทียบขอมูลแตละสวนที่ซับซอน กําหนด เปน ๑๐๐% แลวคํานวณหาสวนยอยๆ เพื่อใหงายตอการเขาใจ ๔. การใชขอความสั้นๆ กระชับ ตรงประเด็น เพื่องายตอการเขาใจ ๕. การนําเสนอขอมูลในเชิงปริมาณในรูปแบบของเสน จุดหรือภาพ เพื่อเปรียบเทียบขอมูลตัวเลขหลายๆ ชุด ๖. การนําเสนอขอมูลพื้นที่จําหนายสินคาของตลาดนัดสวนจตุจักร ฉบับ ๗. การนําเสนอขอมูลอุณหภูมิเฉลี่ยของประเทศไทย ป ๒๕๔๒ ถึงปจจุบัน เฉลย ๘. “กรุงเทพมหานครแบงพื้นที่ปกครองออกเปน ๕๐ เขต และแบงพื้นที่ เขตออกเปนแขวงตางๆ รวม ๑๕๕ แขวง ในป ๒๕๕๑ มีประชากร ทั้งสิ้น ๕,๗๑๐,๘๘๓ คน แยกเปนชาย ๒,๗๒๒,๓๑๓ คน หญิง ๒,๙๘๘,๕๗๐ คน” ๙. การนําเสนอขอมูลพื้นที่ปาไมของประเทศไทย ในป ๒๕๔๓ - ๒๕๕๓ ๑๐. การนําเสนอขอมูลปริมาณนํ้าฝนในประเทศไทย ในป ๒๕๕๓ ๑๑. การนําเสนอขอมูลจํานวนประชากรของประเทศไทยในแตละภูมิภาค ๑๒. การนําเสนอขอมูลการสงสินคาออกของประเทศไทย ๑๐ อันดับแรก ๑๓. การจําลองพื้นที่เล็กๆ ที่มีรายละเอียดนอยกวาแผนที่ ๑๔. การนําเสนอขอมูลที่งายตอการทําความเขาใจในเชิงปริมาณวาสวนใด มากกวาสวนใด ๑๕. การนําเสนอขอมูลในเชิงเปรียบเทียบ เหมาะกับการแสดงขอมูลหลายๆ ชุด ใหเห็นเปนภาพ หรือเพื่อใหเห็นความแตกตางของขอมูลแตละชุด

บรรยาย ……………………………

๑๒.๙๕%

แผนผัง ……………………………

๕๕.๔๑%

แผนภูมิ …………………………… บรรยาย ……………………………

๑๖.๐๖%

กราฟ …………………………… แผนผัง …………………………… กราฟ ……………………………

บรรยาย ……………………………

ภาคใต ภาคกลาง ภาคเหน�อ ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉ�ยงเหน�อ

ที่มา : กรมป่ : กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๕๓

แผนภูมิ …………………………… กราฟ …………………………… กราฟ ……………………………

๓) แผนผัง เป็นการน�าเสนอข้อมูลในรูปแบบของรูปภาพที่มองจากมุมสูงเพื่อ

แผนภูมิ …………………………… แผนผัง ……………………………

ต้องการให้เห็นภาพรวมของบริเวณใดบริเวณหนึง่ อย่างชัดเจน แผนผังจึงเหมาะส�าหรับการจ�าลอง พื้นที่เล็กๆ ที่มีรายละเอียดน้อยกว่าแผนที่

แผนภูมิ …………………………… กราฟ ……………………………

14

เกร็ดแนะครู ครูควรอธิบายเพิ่มเติมวา รูปแบบการนําเสนอขอมูลแบบแผนภูมิและแบบกราฟ เปนการนําเสนอขอมูลทางดานปริมาณ เนื่องจากคาสถิติแสดงใหเห็นความแตกตาง ของขอมูลยาก แตแผนภูมิและกราฟชวยใหเกิดความเขาใจไดงายในการวิเคราะห และตีความขอมูล

นักเรียนควรรู 1 ขอมูลเชิงปริมาณ เปนขอมูลเชิงสถิติ มีการประมวลผลผานระบบคอมพิวเตอร แสดงใหเห็นการเปรียบเทียบ และสามารถนําขอมูลนั้นมาวิเคราะหปรากฏการณที่ เกิดขึ้นได 2 ขอมูลเชิงคุณภาพ เปนขอมูลที่ผานการวิเคราะหโดยใชหลักทฤษฎีประกอบ การอธิบายอยางมีเหตุผล

14

ตรวจสอบผล

Explain

1. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเกี่ยวกับรูปแบบ การนําเสนอขอมูลทางภูมิศาสตรในปจจุบัน ครูตั้งคําถาม • รูปแบบการนําเสนอขอมูลทางภูมิศาสตร ที่สําคัญมีอะไรบาง (แนวตอบ แบบบรรยาย แบบแผนภูมิ แบบแผนผัง แบบกราฟ) • การนําเสนอขอมูลแบบบรรยายเหมาะสมกับ ขอมูลแบบใด (แนวตอบ เหมาะสมกับขอมูลที่มีเนื้อหาสาระ การบรรยายความเรื่องราวตางๆ ไมมีความ ซับซอนมากนัก) 2. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมที่ 1.5 จากแบบวัด ภูมิศาสตร ม.1

บรรยาย

ขยายความเขาใจ

คูมือครู

บูรณาการเชื่อมสาระ

ครูสามารถนําเนื้อหาเรื่องรูปแบบการนําเสนอขอมูลภูมิศาสตรไป บูรณาการเชือ่ มกับสาระการเรียนรูค ณิตศาสตร วิชาคณิตศาสตร เรือ่ ง สัดสวนรอยละ โดยใหนักเรียนไปสืบคนขอมูลสถิติทางภูมิศาสตร เชน จํานวนประชากรไทยในแตละภาค จํานวนประชากรของประเทศในภูมภิ าค เอเชียตะวันออกเฉียงใต เปนตน จากนั้นใหนักเรียนนําขอมูลมาคิดสัดสวน รอยละ เพื่อนําเสนอขอมูลในรูปแบบแผนภูมิซึ่งเปนการจัดระบบขอมูลให เขาใจงาย เปนการฝกทักษะในการคํานวณและใหนกั เรียนรูจ กั นําเสนอขอมูล ในรูปแบบตางๆ


กระตุนความสนใจ

สํารวจคนหา

อธิบายความรู

Engage

Explore

Explain

ขยายความเขาใจ Expand

ขยายความเขาใจ

ตรวจสอบผล Evaluate

Expand

1. ครูนําตัวอยางขอมูลทางภูมิศาสตรที่เปนความ เรียงของประเทศไทย ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย เชน จํานวน ประชากร ทรัพยากรธรรมชาติ เปนตน มาให นักเรียนชวยกันอภิปรายวา ควรนําเสนอขอมูล แบบใด เพราะอะไร 2. ครูใหนักเรียนแตละกลุมเลือกขอมูลทาง ภูมิศาสตรมา 1 ตัวอยาง เพื่อใหนักเรียนฝก การนําเสนอเปนรูปแบบตางๆ เชน แผนผัง แผนภูมิ กราฟ เปนตน แลวนําเสนอ หนาชั้นเรียน 3. ครูและนักเรียนชวยกันสรุปรูปแบบการ นําเสนอขอมูลทางภูมิศาสตร ประโยชน และการนําไปใช

1

แผนผังตลาดนัดสวนจตุจักรที่น�าเสนอข้อมูลเป็นภาพกราฟิกที่ดูเสมือนจริง

ตรวจสอบผล

ที่มา : www.plazahub.com

Evaluate

ครูตรวจสอบความถูกตองและเหมาะสมจาก การนําเสนอขอมูลทางภูมิศาสตรของประเทศไทย ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย

๔) กราฟ เป็นการน�าเสนอข้อมูลเชิงปริมาณ ในรูปแบบของเส้น จุดหรือภาพ

เหมาะส�าหรับการเปรียบเทียบข้อมูลตัวเลขหลายๆ ชุด เพื่อให้เห็นถึงความแตกต่างและการ เปลีย่ นแปลงของข้อมูลทีเ่ กิดขึน้ เช่น กราฟแสดงปริมาณน�า้ ฝนตลอดปี จะท�าให้เห็นปริมาณน�า้ ฝน ในแต่ละเดือน และเปรียบเทียบได้ว่าเดือนใดฝนตกมากหรือน้อย

๓. การแบ่งเขตเวลาของโลก

๓.๑ ความส�าคัญของการแบ่งเวลา

เนื่องจากโลกมีสัณฐานเป็นทรงกลมจึงได้รับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ไม่พร้อมกันทั้งโลก ความสว่างและความมืดบนพื้นผิวโลกจะเวียนเปลี่ยนไปตามลักษณะการหมุนรอบตัวเองของโลก จากทิศตะวันตกไปทางทิศตะวันออก จึงส่งผลท�าให้ตา� แหน่งทีอ่ ยูท่ างทิศตะวันออกเห็นดวงอาทิตย์ หรือสว่างก่อนต�าแหน่งสถานที่ที่อยู่ด้านทิศตะวันตก ตัวอย่างเช่น ประเทศไทยเริ่มวันใหม่ก่อน ประเทศสหราชอาณาจักร ส่วนประเทศสหราชอาณาจักรเริ่มวันใหม่ก่อนประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น 15

กิจกรรมสรางเสริม ครูใหนักเรียนเขียนแผนที่อยางงายแสดงที่ตั้งของโรงเรียน และมีสถานที่ สําคัญของชุมชน โดยมีองคประกอบของแผนที่ถูกตอง เชน ทิศ สัญลักษณ มาตราสวน เปนตน พรอมระบายสีใหถูกตองตามหลักการทําแผนที่

กิจกรรมทาทาย ครูใหนักเรียนเขียนแผนผังการเดินทางจากบานมาโรงเรียน โดย มีองคประกอบของแผนผังถูกตอง เชน ทิศ สัญลักษณ มาตราสวน เปนตน พรอมระบายสีใหสวยงาม

เกร็ดแนะครู ครูอาจใหนักเรียนสํารวจอาคารเรียนหรือบริเวณโรงเรียนของนักเรียน แลวสราง แผนผัง พรอมระบายสีและตกแตงใหสวยงาม นําสงครูผูสอน

นักเรียนควรรู 1 ภาพกราฟก การสราง การตกแตงแกไข หรือการจัดการเกี่ยวกับรูปภาพ โดยใชเครื่องคอมพิวเตอรในการออกแบบ

มุม IT ศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวอยางการนําเสนอขอมูลเปนรูปกราฟก เพื่อสื่อสารใหเขาใจงาย ไดที่ http://www.whereisthailand.info เว็บไซตประเทศไทยอยูตรงไหน? คูมือครู 15


กระตุน ความสนใจ Engage

สํารวจคนหา Explore

กระตุน ความสนใจ

อธิบายความรู Explain

Expand

Evaluate

๗๕ �ตะวันตก

๐ �

๑๐๕ �ตะวันออก

สหรัฐอเมริกา

สหราชอาณาจักร

ไทย

๗.๐๐ น. อาหารเช้า

๑๒.๐๐ น. อาหารกลางวัน

๑๙.๐๐ น. อาหารค�่า

-๕

๑๒.๐๐

+๗

การเปรียบเทียบเวลาการรับประทานอาหารของคนแต่ละภูมิภาค ที่เกิดขึ้นในขณะเดียวกันแต่ต่างเวลากัน

เมื่อประเทศต่างๆ ทั่วโลก มีการติดต่อสัมพันธ์กันทั้งในด้านการค้า ตลาดหุ้น การเดินเรือ การบิน การรายงานข่ าวต่างๆ จึงต้องก�าหนดเวลามาตรฐานใช้ในประเทศของตนจากเวลา เวลา 1 ปานกลางกรีนิช (Greenwich Mean Time : GMT) หรือ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “เวลาสากล” (Universal Time)

Explore

ครูใหนกั เรียนศึกษาคนควาเกีย่ วกับการแบงเวลา ของโลก จากหนังสือเรียนหนา 15-21 และจากแหลง เรียนรูอื่นๆ เชน หนังสือในหองสมุด เว็บไซตใน อินเทอรเน็ต เปนตน เพือ่ นําขอมูลมาอภิปรายรวมกัน ในชั้นเรียน

อธิบายความรู

ตรวจสอบผล

Engage

1. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับเวลาของโลก โดยถามนักเรียนวา หากนักเรียนตองการชม การถายทอดสดการแขงขันฟุตบอลที่ประเทศ อังกฤษ นักเรียนจะรูไดอยางไรวาตองรอดู ในเวลาใด เนื่องจากประเทศไทยกับประเทศ อังกฤษมีเวลาที่แตกตางกัน (แนวตอบ สามารถเปรียบเทียบวันเวลาเขาหากัน ไดโดยใชเวลาสากลหรือเวลาปานกลางกรีนิช) 2. ครูใหนักเรียนดูภาพจากหนังสือเรียนหนา 16 แลวถามคําถาม • ทําไมเด็กทั้ง 3 คน จึงรับประทานอาหารเชา ไมพรอมกัน (แนวตอบ เนื่องจากโลกมีสัณฐานเปนทรงกลม สงผลใหประเทศตางๆ รับแสงสวางจาก ดวงอาทิตยไมพรอมกัน ทําใหเวลาของแตละ พื้นที่แตกตางกัน)

สํารวจคนหา

ขยายความเขาใจ

๓.๒ เส้นเมริเดียนกับการก�าหนดเขตเวลา

นั ก ภู มิ ศ าสตร์ ไ ด้ ก� า หนดเส้ น สมมติ ที่ ล ากจากขั้ ว โลกเหนื อ ไปยั ง ขั้ ว โลกใต้ เรี ย กว่ า “เส้นเมริเดียน” น” เมื่อทรงกลมของโลกมี ๓๖๐ องศา หากก�าหนดเส้นเมริเดียนทุกๆ เส้นห่างกัน ๑ องศา จะมีเส้นเมริเดียน ๓๖๐ เส้น โลกจะสว่าง (เป็นเวลากลางวัน) ได้ครึ่งหนึ่งเฉพาะด้านที่หันเข้าหาดวงอาทิตย์ และส่วนอีก ครึ่งหนึ่งที่อยู่ด้านตรงข้ามจะมืด (เป็นเวลากลางคืน) ในปรากฏการณ์ธรรมชาติจะมีแนว ความสว่างกับความมืดเกิดขึ้น เสมือนเส้นที่ลากจากขั้วโลกเหนือไปขั้วโลกใต้ ท�าให้ดินแดน ของประเทศต่างๆ มีกลางวั2 นและกลางคืนตามการหมุนรอบตัวเองของโลก โลกหมุนรอบตัวเองได้ครบ ๑ รอบ ในเวลา ๑ วัน จะใช้เวลา ๒๔ ชั่วโมง จึงท�าให้พื้นที่ บริเวณต่างๆ ของโลก มีเวลากลางวันและเวลากลางคืน ๑๒ ชัว่ โมงเท่ากัน ดังนัน้ ในเวลา ๑ ชัว่ โมง โลกจะหมุนท�าให้แนวความสว่างกับความมืดเคลื่อนผ่านไป ๑๕ องศาเมริเดียนนั่นเอง

Explain

ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเกี่ยวกับการ กําหนดเขตภาคเวลา เวลามาตรฐาน และความ แตกตางของเวลามาตรฐานสากลกับเวลาทองถิ่น

16

นักเรียนควรรู 1 เวลาปานกลางกรีนิช เวลาสมมติที่เมริเดียนกรีนิช ซึ่งประเทศตางๆ ที่อยูหาง จากเมริเดียนกรีนิชใชอางอิงเพื่อกําหนดเวลามาตรฐานใชในประเทศของตน หรือกําหนดเวลาเกี่ยวกับการเดินเรือ การบิน การรายงานขาวอากาศ โดยทั่วไป มักใชกํากับเวลาดวยอักษรยอวา GMT โดยเมืองกรีนิชตั้งอยูทางตะวันออกเฉียงใต ของอังกฤษ เปนที่ตั้งหอดูดาวกรีนิช เสนเมริเดียนที่ผานกรีนิชถือเปนฐานของ เวลามาตรฐานทั่วโลก และใชคํานวณลองจิจูดของสถานที่ตางๆ 2 โลกหมุนรอบตัวเอง 1 รอบใชเวลา 24 ชั่วโมง ในขณะที่โลกหมุนรอบตัวเอง โลกจะเคลื่อนที่รอบดวงอาทิตยไปดวย ทําใหโลกซีกหนึ่งที่ไดรับแสงอาทิตยเปน เวลากลางวันซึ่งใชเวลา 12 ชั่วโมง สวนโลกอีกซีกหนึ่งที่ไมไดรับแสงอาทิตยเปน เวลากลางคืน ซึ่งใชเวลา 12 ชั่วโมง เชนกัน

16

คูมือครู

ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET

เพราะเหตุใดประเทศไทยจึงเริ่มวันใหมกอนสหราชอาณาจักรและ สหรัฐอเมริกา แนวตอบ เนื่องจากโลกหมุนรอบตัวเองจากทิศตะวันตกไปทาง ทิศตะวันออก จึงสงผลใหตําแหนงที่อยูทางทิศตะวันออกไดรับแสงอาทิตย กอนทิศตะวันตก และการที่เสนวันที่อยูกลางมหาสมุทรแปซิฟก ดังนั้น ประเทศไทยจึงไดรับแสงอาทิตยและเริ่มวันใหมกอนสหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ที่อยูทางทิศตะวันตก


กระตุนความสนใจ

สํารวจคนหา

Engage

Explore

อธิบายความรู Explain

ขยายความเขาใจ

ตรวจสอบผล

Expand

Evaluate

อธิบายความรู ด้านสว่าง

1. ครูใหนักเรียนดูภาพแสดงแนวความสวางและ ความมืดจากหนังสือเรียนหนา 17 แลวให นักเรียนรวมกันอภิปรายเกี่ยวกับการเกิด กลางคืนและกลางวัน (แนวตอบ เนื่องจากโลกมีสัณฐานเปนทรงกลม จึงไดรับแสงสวางจากดวงอาทิตยไมพรอมกัน ความมืด ความสวางจะหมุนเวียนเปลี่ยนกันไป ตามการหมุนรอบตัวเองของโลกจากทิศ ตะวันตกไปทิศตะวันออก จึงทําใหตําแหนงที่ อยูทางทิศตะวันออกจะเห็นดวงอาทิตยกอน ทางทิศตะวันตก 2. ครูยกตัวอยางเวลาในประเทศไทยแลว ตั้งคําถามใหนักเรียนตอบ เชน • หากประเทศไทยเปนเวลา 18.00 น. ประเทศญี่ปุนจะตรงกับเวลาใด เพราะเหตุใด (แนวตอบ 20.00 น. เพราะประเทศญี่ปุนใช เวลามาตรฐานที่เสนเมริเดียนกลางที่ 135 องศาตะวันตก ซึ่งมีเวลาเร็วกวาประเทศไทย 2 ชั่วโมง)

ด้านมืด

1

แกนโลก

เส้นอาร์กติกเซอร์เคิล

แสงจาก ดวงอาทิตย์

Explain

เส้นทรอปิกออฟแคนเซอร์

2

เส้นศูนย์สูตร

เส้นทรอปิกออฟแคปริคอร์น แนวความสว่างกับความมืด ภาพแสดงแนวความสว่างและความมืด

วิธีการค�านวณ ใน ๑ วัน มี ๒๔ ชั่วโมง : โลกหมุนรอบตัวเองได้ = ๓๖๐ องศา ×๑ ในช่วงเวลา ๑ ชั่วโมง : โลกหมุนไปได้ = ๓๖๐ ๒๔ องศา ดังนั้น ในช่วงเวลา ๑ ชั่วโมง : โลกหมุนไปได้ = ๑๕ องศา หรือ ในทุกๆ ๑๕ องศา : เวลาจะต่างกัน = ๑ ชั่วโมง เรื่องน่ารู้ เสนวันที่ (Date Line) คือ เส้นสมมติเส้นเมริเดียนที่ 180 องศา ทัง้ นีเ้ ป็นผลจากการประชุมของนานาชาติ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา เมื่อ พ.ศ. 2427 ที่จะหาวิธีการที่จะท�าให้ระบบวันเวลาของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งมีกลางวัน กลางคืน และเวลาท้องถิ่นแตกต่างกัน เข้ามาอยู่ในระบบเดียวกัน และสามารถเปรียบเทียบ วันเวลาเข้าหากันได้ ที่ประชุมได้ตกลงยึดเอาเส้นเมริเดียนที่ 180 องศา เป็นเส้นวันที่ และการแบ่งเช่นนี้จะท�าให้เวลาทางด้าน ตะวันตก-ตะวันออกของเส้นเมริเดียนที่ 180 องศา มีเวลาต่างกันถึง 24 ชั่วโมง ดังนั้น หากมีการเดินทางข้าม เส้นนี้จากซีกโลกตะวันตกไปซีกโลกตะวันออก เวลาจะเพิ่มขึ้น 1 วัน แต่ถ้าเดินทางจากซีกโลกตะวันออกไป ซีกโลกตะวันตก เวลาจะลดลง 1 วัน

17

ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET

ขอใดกลาวถึงความสําคัญของเสนเมริเดียนแรกไดถูกตอง 1. เปนเสนเขตวันสากล 2. เปนเสนแบงเวลาสากล 3. เปนเสนกําหนดเขตอากาศสากล 4. เปนเสนกําหนดเวลามาตรฐานสากล

วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เสนเมริเดียนแรก คือ เสนลองจิจูดที่ 0 องศา ลากผานเมืองกรีนิช กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ กําหนดเปนเวลาปาน กลางกรีนิช ซึ่งประเทศตางๆ ที่อยูหางจากเสนเมริเดียนกรีนิชจะใชอางอิง เพื่อกําหนดเขตเวลามาตรฐานเพื่อใชในประเทศของตน)

นักเรียนควรรู 1 แกนโลก เสนสมมติที่ผานขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต ในขณะที่โลกเคลื่อนที่ 1 รอบดวงอาทิตยและหมุนรอบตัวเองนั้น แกนโลกจะเอียงทํามุม 23 2 องศา ทําให บริเวณตางๆ ของโลกไดรับแสงสวางและความรอนไมเทากัน และมีฤดูกาล แตกตางกัน 2 เสนศูนยสูตร เสนวงใหญที่แบงโลกออกเปน 2 ซีก คือ ซีกโลกเหนือกับ ซีกโลกใต จุดทุกจุดบนเสนศูนยสูตรอยูหางจากขั้วโลกทั้งสองเทากัน และระนาบ ของเสนศูนยสูตรตั้งฉากกับแกนของโลก เสนศูนยสูตรมีความยาว 40,075 กม.

คูมือครู

17


กระตุนความสนใจ

สํารวจคนหา

Engage

Explore

Explain

Expand

Evaluate

10

+ 10

10.30

11

+ 11 + 12

ํ 180

12.45 12

11.30

11

11.30

+9 +8

8

+6 +5

6.30 5

+4

4

3

+3

3 3 1

1

+1

2

เวลามาตรฐาน 0 1 เขตยุโรปตอนกลาง 2

0

ํ 0

1

0

0

0

1

1

1

2

2

3

+2

2

3

3 3

4

3

3

3.30

4

4

5

4.30 5

5.30

6

5

5.30

5.30

5.45

7

8 7

เนปดอว 7

6 6.30

8

8

7

+7

7

8

8

9

8

9

9.30

9

10

10

10

10

10

10 10

9

11

10

11

11

11

12

12

12

13

12

10

13

11

เที่ยงคืน กอน หลัง 8

-1

0

-3

4

4

-4

3

3.30 3

ขอสอบ

-6 - 11 - 12

180

เวลา เร็วกวา 1 วัน

12

12.45

13

11 12 12

O-NET

10

10

11 11

11

10

10

- 10

-9

-8

เขตที่ใชเวลาปานกลางกรีนิช จํานวนชั่วโมงที่เร็วกวาหรือชากวา เวลาปานกลางกรีนิช เขตเวลาครึ่งชั่วโมง แนวพรมแดนระหวางประเทศ เสนเขตเวลา ซึ่งบางครั้งอาจทับ กับแนวพรมแดนระหวางประเทศ

เขตที่เร็วกวาเวลาปานกลางกรีนิช

เขตที่ชากวาเวลาปานกลางกรีนิช

เขตเวลามาตรฐาน

-7

1

6

5

5

5

-5

4

3

4

4

เวลามาตรฐาน เขตแปซิฟก 8

เวลามาตรฐาน 9 เขตอะแลสกา

เวลามาตรฐาน เขตภูเขา

5

เวลามาตรฐาน เวลามาตรฐาน ก เขตตอนกลาง เวลามาตรฐาน เขตแอตแลนติ 4 3.30 เขตตะวันออก 6

2

1

2

-2

1

2

0

0 1 3 4

เที่ยงคืน เวลา ชากวา 1 วัน

1 เขตเวลามาตรฐาน เนื่องจากโลกหมุนรอบตัวเองและเคลื่อนที่รอบดวงอาทิตย ทําใหพื้นที่ตางๆ ไดรับแสงสวางจากดวงอาทิตยแตกตางกัน สหพันธดาราศาสตร นานาชาติจึงแบงเขตเวลาบนโลกออกเปน 24 โซน ตามเสนลองจิจูด แตละโซน มีคา 15 องศา โดยนับเสนแรกจากเสนเวลามาตรฐานกรีนิช ณ เมืองกรีนิช ประเทศอังกฤษ เรียกจุดนี้วา GMT+0 ซึ่งประเทศที่อยูทางซีกตะวันออกจะมีคา เวลาเปนบวก ตั้งแต +1 ถึง +12 สวนประเทศทางซีกโลกตะวันตกจะมีคาเปนลบ ตั้งแต -1 ถึง -12 เชนกัน ดังนั้น จึงสามารถเปรียบเทียบวัน เวลาในแตละพื้นที่ให เปนมาตรฐานเดียวกันได

7

15 ํ E 30 ํ E 45 ํ E 60 ํ E 75 ํ E 90 ํ E 105 ํ E 120 ํ E 135 ํ E 150 ํ E 165 ํ E 180 ํ E

หลัง

เที่ยงวัน กอน

แผนที่แสดงเขตภาคเวลาของโลก

180 ํ W 165 ํ W 150 ํ W 135 ํ W 120 ํ W 105 ํ W 90 ํ W 75 ํ W 60 ํ W 45 ํ W 30 ํ W 15 ํ W 0 ํ

นักเรียนควรรู

ว วันอ ันจันท าทิต ร ย

๑๘

คูมือครู

ตรวจสอบผล

Explain

1. ครูนําแผนที่แสดงเขตภาคเวลาของโลกมาให นักเรียนดู และใหศึกษาจากหนังสือเรียน ประกอบ แลวอธิบายถึงเวลาของประเทศตางๆ ในโลก พรอมทั้งชวยกันสรุปถึงความสําคัญของ การแบงเวลาของโลก 2. ครูนํานักเรียนฝกการเทียบวัน เวลาของประเทศ ตางๆ ในโลก โดยใชแผนที่แสดงเขตเวลาของ โลกประกอบการฝกเทียบวัน เวลาของประเทศ ตางๆ ในโลก โดยฝกเทียบเวลากับประเทศ เพื่อนบานของไทยกอน เชน ไทยกับมาเลเซีย ไทยกับสิงคโปร ไทยกับกัมพูชา ไทยกับลาว จากนั้นเทียบเวลากับประเทศในทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา และทวีปออสเตรเลียตอไป 3. ครูใหนักเรียนคํานวณเวลาของประเทศตางๆ เชน ถามนักเรียนวา วันที่ 15 เดือนธันวาคม ประเทศไทยตรงกับเวลา 19.00 น. สหราชอาณาจักร ประเทศอินเดีย ประเทศญี่ปุน จะตรงกับวันที่และเวลาใด (แนวตอบ สหราชอาณาจักรตรงกับวันที่ 15 ธันวาคม เวลา 12.00 น. ประเทศอินเดียตรงกับ วันที่ 15 ธันวาคม เวลา 17.00 น. ประเทศญี่ปุน ตรงกับวันที่ 15 ธันวาคม เวลา 21.00 น.)

18

ขยายความเขาใจ

เมริเดียนกรีนิช

อธิบายความรู

อธิบายความรู

ขอสอบป ’ 52 ออกเกี่ยวกับการเปรียบเทียบวันเวลาของประเทศไทย กับประเทศตางๆ ถานักเรียนตองการชมการถายทอดสดฟุตบอล ซึ่งแขงขันที่ประเทศอังกฤษ เวลา 15.00 น. วันเสาร นักเรียนตองเปดเครื่องรับโทรทัศนที่ประเทศไทยเวลา ใด จึงจะไดชมการถายทอดตั้งแตเริ่มตนการแขงขัน 1. 8.00 น. วันเสาร 2. 15.00 น. วันเสาร 3. 22.00 น. วันเสาร 4. 8.00 น. วันอาทิตย (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. นักเรียนตองเปดเครื่องรับโทรทัศนที่ ประเทศไทยเวลา 22.00 น. วันเสาร เนื่องจากเวลาประเทศไทยเร็วกวา ประเทศอังกฤษ 7 ชั่วโมง)


กระตุนความสนใจ

สํารวจคนหา

Engage

Explore

อธิบายความรู Explain

ขยายความเขาใจ

ตรวจสอบผล

Expand

Evaluate

อธิบายความรู

1. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเกี่ยวกับ การกําหนดเขตภาคเวลา โดยใชแผนที่แสดง เขตภาคเวลาของโลกประกอบ 2. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรม 1.6 จากแบบวัดฯ ภูมิศาสตร ม.1

๓.๓ การก�าหนดเขตภาคเวลา 1

การก�าหนดเขตภาคเวลา (time zone) จะก�าหนดตามระยะห่างของเส้นช่วงละ ๑๕ องศา โดยก�าหนดตามเส้นเมริเดียน ๐ � , ๑๕ � , ๔๕ � , ๖๐ � , ๗๕ � , ๙๐ � , ๑๐๕ � , ๑๒๐ � , ๑๓๕ � , ๑๕๐ � , ๑๗๕ � และเส้นเมริเดียน หรือลองจิจูด ๑๘๐ องศา ทั้งด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตก และทุกเขตภาคเวลาที่ก�าหนดช่วงละ ๑๕ 2องศานั้น จะมีเส้นเมริเดียนกลางเป็นหลัก แล้วให้นับ ระยะห่างออกไปข้างละ ๗ องศา ๓๐ ลิปดา ดังนั้น ทั่วโลกจึงมี ๒๔ เขตภาคเวลา จากแผนทีแ่ สดงเขตภาคเวลาของโลก ก�าหนดให้เมริเดียนแรก (๐ องศา) เป็นเวลาปานกลาง กรีนิช (Greenwich Mean Time : GMT) ซึ่งประเทศต่างๆ ที่อยู่ห่างจากเส้นเมริเดียนกรีนิช จะใช้อ้างอิงเพื่อก�าหนดเวลามาตรฐานเพื่อใช้ในประเทศของตน ตัวอย่างเช่น ดาวเทียมธีออส (THEOS) ดาวเทียมส�ารวจทรัพยากรดวงแรกของไทยได้ถูกส่งขึ้นวงโคจร เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ตรงกับเวลาในประเทศไทย ๑๓:๓๗ น. หรือ ๖:๓๗ ตามเวลา GMT นั่นหมายถึง เวลาของประเทศไทยเร็วกว่าเวลาปานกลางกรีนิช ๗ ชั่วโมง

Explain

✓ แบบวัดฯ ใบงาน แบบฝกฯ ภูมิศาสตร ม.1 กิจกรรมที่ 1.6 หนวยที่ 1 เคร�่องมือทางภูมิศาสตรและการแบงเขตเวลาของโลก

กิจกรรมที่ ๑.๖ ใหนักเรียนเติมคําเกี่ยวกับการแบงเขตเวลาของโลก ลงในชองวางตอไปนี้ (ส ๕.๑ ม.๑/๒)

คะแนนเต็ม คะแนนที่ได

ñð

ทรงกลม จึงไดรบั แสงสวางจากดวงอาทิตย ไมพรอมกัน โลกจะสวาง ๑. โลกมีสณ ั ฐานเปน……………………………… ตะวันตก และมืดเปลี่ยนเวียนไปตามลักษณะการหมุนรอบตัวเองของโลกจากทิศ………………………………….. ตะวันออก ไปทิศ………………………………….. ๒. ประเทศตางๆ ทั่วโลกติดตอสัมพันธกันดานการคา ตลาดหุน การเดินเรือ การบิน และการ ปานกลางกรีนชิ รายงานขาว จึงตองกําหนดเวลามาตรฐานเพื่อใชในประเทศของตนจากเวลา……………………………. เวลาสากล หรือเรียกอีกอยางหนึ่งวา………………………… เสนเมริเดียน ๓. นักภูมิศาสตรไดกําหนดเสนสมมติที่ลากจากขั้วโลกเหนือไปขั้วโลกใต เรียกวา………………………….. ๑๕ องศา โดยกําหนด ๔. การกําหนดเขตภาคเวลาจะกําหนดตามระยะหางของเสนชวงละ ....................... ตามเสนเมริเดียน ๐ ํ - ๑๘๐ ํ ทั้งทางดานทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ดังนั้น ทั่วโลกจึงมี ๒๔ เขตภาคเวลา ………………. ฉบับ ๓๖๐ องศา ในชวงเวลา ๑ ชั่วโมง เฉลย ๕. ใน ๑ วัน มี ๒๔ ชั่วโมง โลกหมุนรอบตัวเองได……………………….. ๑๕ องศา และในทุกๆ ๑๕ องศา เวลาจะตางกัน……………………….. ๑ ชั่วโมง โลกหมุนไปได…………………… ๖. จัสตินอยูที่สหรัฐอเมริกา รับประทานอาหารเชาเวลา ๐๗.๐๐ นาฬกา วิลเลียมอยูที่ ๑๒.๐๐ นาฬกา สวนแพรไหมอยูที่ สหราชอาณาจักร รับประทานอาหารกลางวันเวลา…………………….. ๑๙.๐๐ นาฬกา ประเทศไทยจะรับประทานอาหารคํ่าเวลา…………………….. ๗ ชัว่ โมง เนือ่ งจากประเทศไทย ๗. เวลาของประเทศไทยเร็วกวาเวลาปานกลางกรีนชิ ……………………….. ๑๐๕ ํ ตะวันออก เปนเสนเมริเดียนกลางเขตภาคเวลา ใชเวลาที่เสนเมริเดียน ……………………….. ๑๘๐ องศา ดังนัน้ เวลาทางดานตะวันตก - ตะวันออก ๘. เสนวันทีส่ ากล คือ เสนสมมติลองจิจดู ที…่ ……………. ๒๔ ชั่วโมง ของลองจิจูด ๑๘๐ องศา มีเวลาตางกันถึง……………………….. ๙. ประเทศไทย กัมพูชา และลาว ใชเวลามาตรฐานเดียวกัน เนื่องจากมีพื้นที่ดินแดนอยูในเขต ๑๐๕ องศาตะวันออก ภาคเวลาเดียวกัน คือ……………………….. ๑๐. ประเทศญี่ปุนใชเวลามาตรฐานที่เสนเมริเดียนกลางที่ ๑๓๕ องศาตะวันออก มีเวลาเร็วกวา ๒ ชั่วโมง ประเทศไทย………………………..

๓.๔ เวลามาตรฐาน

เวลามาตรฐาน (standard time) สามารถแบ่งออกได้ ดังนี้ ๑) เวลามาตรฐานสากล คือ เวลาที่ก�าหนดขึ้นใช้ในเขตภาคเวลาต่างๆ ทั่วโลก ใน ทางปฏิบัติจริงแนวเส้นของเขตภาคเวลาอาจคดโค้งไปตามขนาดของเนื้อที่ประเทศและดินแดน บางประเทศมีขนาดใหญ่ครอบคลุมพืน้ ทีห่ ลายเขตภาคเวลา ตัวอย่างเช่น รัสเซีย แบ่งเป็น ๑๑ เขต ภาคเวลา สหรัฐอเมริกาแบ่งเป็น ๕ เขตภาค ๑๐๕ �E ๑๑๐ �E ๑๑๒ �๓๐ ๑๒๐ �E ๙๐ �E ๙๗ �๓๐ ลาว เวลา ออสเตรเลีย แบ่งเป็น ๓ เขตภาคเวลา จีน ไทย และอินเดีย แบ่งเป็น ๑ เขตภาคเวลา เป็นต้น กัมพูชา ส� า หรั บ ประเทศไทย กั ม พู ช า ๑๐ �N เวียดนาม และลาว ใช้เวลามาตรฐานเดียวกัน เนือ่ งจากต่างก็มพี นื้ ทีด่ นิ แดนอยูใ่ นเขตภาคเวลา เดียวกัน คือ ๑๐๕ องศาตะวันออก ๐ � อิ น โ ด ๒) เวลามาตรฐานท้องถิ่น คือ นี เ ซ ี ย เวลาของแต่ละพื้นที่จะแตกต่างกันออกไปตาม เขตภาคเวลาของแต่ละดินแดนหรือประเทศ ๑๐ �S กัมพูชา ลาว และเวียดนาม ใช้เวลามาตรฐาน ต่างๆ ซึ่งมีเวลามาตรฐานของแต่ละเขตหรือ ประเทศไทย เดียวกัน โดยใช้เวลาที่เส้นเมริเดียน 105 � ตะวันออก แต่ละท้องถิ่นอยู่แล้ว ดังตัวอย่างต่อไปนี้ เป็นเส้นเมริเดียนกลางเขตภาคเวลา เซีย

มาเล

http://www.aksorn.com/LC/Geo/M1/03

ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET

วันที่ 25 มิถุนายน เวลา 18.00 น. ไดเกิดแผนดินไหวที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุน ดังนั้น ที่ประเทศพมาจะตรงกับวันและเวลาใด 1. วันที่ 25 มิถุนายน เวลา 14.00 น. 2. วันที่ 25 มิถุนายน เวลา 15.00 น. 3. วันที่ 24 มิถุนายน เวลา 10.00 น. 4. วันที่ 24 มิถุนายน เวลา 09.00 น.

วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. ประเทศพมาอยูหางจากประเทศญี่ปุน 3 เขต ภาคเวลา เมื่อประเทศญี่ปุนตรงกับวันที่ 25 มิถุนายน เวลา 18.00 น. จึงนับถอยหลังไป 3 ชั่วโมง ดังนั้น พมาจึงตรงกับวันที่ 25 มิถุนายน เวลา 15.00 น.

EB GUIDE

19

นักเรียนควรรู 1 เขตภาคเวลา การแบงพื้นที่สวนตางๆ ของโลกเปนเขต สําหรับการใชเวลา มาตรฐานเดียวกันที่ใชเกณฑตามเวลาเชิงพิกัด (UTC-Coordinated Universal Time) ซึ่งเปนหนวยเวลาที่ใชอางอิงการหมุนของโลก โดยใชเครื่องหมายบวก (+) หรือลบ (-) เทียบจากหนวยเวลาสากล ซึ่งเปนระบบอางอิงจากเวลามาตรฐานกรีนิช (GMT) 1 2 ลิปดา หนวยการวัดคาของมุม โดย 1 ลิปดา มีคาเทากับ 60 องศา และมี คาเทากับ 60 พิลิปดา ลิปดาเปนหนวยมุมขนาดเล็กที่ใชในการวัดคาที่มีความ ละเอียดมาก เชน ใชในวิชาดาราศาสตร ใชในการกําหนดพิกัดการยิงขีปนาวุธ เปนตน

คูมือครู

19


กระตุนความสนใจ

สํารวจคนหา

Engage

Explore

อธิบายความรู

อธิบายความรู Explain

ขยายความเขาใจ

ตรวจสอบผล

Expand

Evaluate

Explain

ครูขออาสาสมัครนักเรียนใหมาอธิบายความรู เกี่ยวกับเวลามาตรฐาน แลวครูอธิบายเพิ่มเติม จากนั้นตั้งคําถามใหนักเรียนชวยกันตอบ • เวลามาตรฐานสากลกับเวลามาตรฐาน ทองถิ่นตางกันอยางไร (แนวตอบ เวลามาตรฐานสากลเปนเวลาที่ กําหนดขึ้นใชในเขตภาคเวลาตางๆ ทั่วโลก สวนเวลามาตรฐานทองถิ่นเปนเวลาของแตละ ดินแดนหรือประเทศตางๆ) • ประเทศไทยอยูในเขตภาคเวลาใด (แนวตอบ เขตภาคเวลา 105 องศา ตะวันออก) • ประเทศไทยใชเวลามาตรฐานเดียวกับ ประเทศใด (แนวตอบ ประเทศกัมพูชา ลาว และเวียดนาม)

ตัวอย่างที่ ๑

โตเกียวสกายทรี กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุน

มี ร ายงานข่ า วจากกรุ ง โตเกี ย ว ประเทศ ญีป่ นุ ว่า “ได้เกิดแผ่นดินไหว เมือ่ เวลา ๒๑:๔๖ น. 1 ตามเวลาท้องถิน่ ” ค�าว่า “เวลาท้องถิน่ ” หมายถึง เวลาทีป่ ระเทศญีป่ นุ หากจะเทียบเวลาการเกิดว่า ตรงกับเวลาใดในประเทศไทย ก็ต้องทราบว่า ประเทศญี่ปนุ ใช้เวลามาตรฐานที่เส้นเมริเดียน กลางที ่ ๑๓๕ องศาตะวันออก ซึง่ มีเวลาเร็วกว่า ประเทศไทย ๒ ชัว่ โมง ดังนัน้ ขณะเกิดแผ่นดินไหวในประเทศญีป่ นุ ประเทศไทยเป็นเวลา ๑๙:๔๖ น.

ตัวอย่างที่ ๒

ประตูบรันเดนบูรก กรุงเบอรลิน ประเทศเยอรมนี

การแข่ ง ขั น ฟุ ต บอลโลกรอบชิ ง ชนะเลิ ศ ระหว่างบราซิลกับฝรั่งเศสที่สนามของประเทศ เยอรมนี สถานี วิ ท ยุ โ ทรทั ศ น์ ช่ อ ง ๓ จะท� า การถ่ า ยทอดสดให้ ค นไทยได้ ช มการแข่ ง ขั น ดังกล่าวในเช้าวันที ่ ๑๑ มกราคม เวลา ๐๑:๐๐ น. นั่นคือ การแข่งขันฟุตบอลในประเทศเยอรมนี จะด� า เนิ น การในวั น ที่ ๑๐ มกราคม เวลา ๑๙:๐๐ น. ตามเวลาท้องถิ่น แสดงว่าเยอรมนีใช้เส้นเมริเดียนกลางที่ ๑๕ องศาตะวันออก

ตัวอย่างที่ ๓ เมื่อเวลา ๐๘:๐๐ น. ดร.เหงียน เตืองลาย ได้โทรศัพท์มาจากกรุงฮานอยว่า “เครื่องบิน จะออกเดินทาง เวลา ๐๙:๐๐ น. และจะถึง ท่ า อากาศยานสุ ว รรณภู มิ เ วลา ๑๐:๕๐ น.” ขณะที่ รั บ โทรศั พ ท์ เ สี ย งเพลงชาติ ไ ทยยั ง ดั ง เข้าสายโทรศัพท์ไปถึงกรุงฮานอยด้วย แสดงว่าทั้งเวียดนามและไทย ใช้เวลา มาตรฐานท้องถิ่นเดียวกัน สุสานประธานาธิบดีโฮจิมนิ ห กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม

20

นักเรียนควรรู 1 เวลาทองถิ่น เวลาที่ใชเสนเมริเดียนของทองถิ่นเปนเกณฑในการกําหนดเวลา โดยกําหนดใหเปนเวลาเที่ยงตรง (12.00 น.) เมื่อดวงอาทิตยผานมาอยูในตําแหนง ตรงกับเสนเมริเดียนทองถิ่นนั้นๆ พอดี ดังนั้น ทองถิ​ิ่นที่อยูตางลองจิจูดกันก็จะมี เวลาตางกันไป เวลาทองถิ่นดังกลาวไมเปนที่นิยมเนื่องจากเวลาจะแตกตางออกไป ตามเสนเมริเดียน ดังนั้น จึงมีการกําหนดเวลามาตรฐานทองถิ่นขึ้นใชแทน

บูรณาการอาเซียน ครูอธิบายเพิ่มเติมวา ประเทศสมาชิกอาเซียนไดมีแนวคิดในการกําหนดเวลา มาตรฐานอาเซียน (ASEAN Common Time) ขึ้น โดยกําหนดใหใช UTC+ 8 ดังนั้น ในเอกสารตางๆ จะปรากฏตัวยอวา “ACT” ซึ่งจะเปนประโยชนในการติดตอสื่อสาร ตลอดจนการดําเนินธุรกิจตางๆ สามารถเทียบเวลามาตรฐานอาเซียนกับเวลาทั่วโลก ไดที่ http://www.sitesworld.com/time/asean-common-time.html

20

คูมือครู

ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET

หากนักเรียนตองการชมพิธีปดการแขงขันโอลิมปกที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในวันที่ 12 สิงหาคม เวลา 21.00-23.45 น. ตามเวลา ทองถิ่น นักเรียนควรจะเปดโทรทัศนเพื่อชมการถายทอดสดในวันเวลาใด 1. วันที่ 12 สิงหาคม เวลา 04.00 น. 2. วันที่ 12 สิงหาคม เวลา 14.00 น. 3. วันที่ 13 สิงหาคม เวลา 04.00 น. 4. วันที่ 13 สิงหาคม เวลา 14.00 น. วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เนื่องจากประเทศไทยอยูเขตภาคเวลา 105 องศาตะวันออก สวนกรุงลอนดอนอยูเขตภาคเวลา 0 องศา ประเทศไทย จึงเร็วกวากรุงลอนดอน 7 ชั่วโมง


กระตุนความสนใจ

สํารวจคนหา

อธิบายความรู

Engage

Explore

Explain

ขยายความเขาใจ Expand าใจ ขยายความเข

ตรวจสอบผล Evaluate

Expand

ขยายความเขาใจ

Expand

ครูนําขาวหรือเหตุการณสําคัญในตางประเทศ มาใหนักเรียนฝกฝนเปรียบเทียบวันและเวลาวา มีความสอดคลองกับวันและเวลาของประเทศไทย อยางไร (แนวตอบ เชน ประเทศญี่ปุนเกิดคลื่นสึนามิที่ เมืองเซนได เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 14.50 น. ประเทศไทยตรงกับวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 12.50 น. เปนตน)

เรื่องน่ารู้ เวลาท้องถิ่น

โดยปกติเวลาท้องถิ่น (local time) 1 จะยึดถือตามเส้นเมริเดียน แต่ก็มีข้อยกเว้น กล่าวคือ ถ้าเป็นประเทศ เดียวกัน มักจะใช้เวลามาตรฐานของท้องถิน่ เป็นเวลาเดียวกันทัง้ ประเทศ เพราะพืน้ ทีบ่ างแห่งจะอยูใ่ นแนวเส้นเมริเดียน ต่างกัน ถ้ายึดเอาเวลาตามเส้นเมริเดียนเป็นหลักทั้งหมด ประเทศหนึ่งๆ อาจจะมีเวลาท้องถิ่นหลายเวลา ตัวอย่างเช่น จังหวัดอุบลราชธานีหากใช้เวลาที่เส้นเมริเดียนกลาง 105 องศาตะวันออก จังหวัดแม่ฮ่องสอน ก็ใช้เวลาที่เส้นเมริเดียน 98 องศาตะวันออก • ทั้ง 2 จังหวัดใช้เวลาตามเส้นเมริเดียนที่ต่างกัน 7 องศา ดังนั้นเวลาทั้ง 2 จังหวัด จะแตกต่างกัน เท่ากับ 7 � × 4 = 28 นาที ( 1 องศา = 4 นาที) • จังหวัดอุบลราชธานีอยู่ทางทิศตะวันออกของจังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นก่อนและเริ่ม เวลาก่อน • ถ้าในขณะนั้นจังหวัดอุบลราชธานี เวลา 06:00 น. ดังนั้น เวลาตามเส้นเมริเดียนที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ช้ากว่า 28 นาที นั่นคือ จังหวัดแม่ฮ่องสอนจะเป็นเวลา 09:32 น. จากตัวอย่างจะพบว่า ถ้าใช้เวลาท้องถิน่ ตามต�าแหน่งทีต่ รงกับเส้นเมริเดียนท้องถิน่ แล้ว จะเกิดความสับสน ดังนัน้ การก�าหนดเวลาท้องถิน่ ดังกล่าวจึงไม่เป็นทีน่ ยิ ม ส�าหรับประเทศไทยจึงได้มกี ารก�าหนดเวลามาตรฐานท้องถิน่ ขึน้ เพื่อใช้แทนเวลาท้องถิ่น คือ ใช้เวลาเดียวกันทั้งประเทศ

ตรวจสอบผล

Evaluate

ครูตรวจสอบความถูกตองจากการเปรียบเทียบ วันและเวลาของประเทศตางๆ ทั่วโลก

ชื่อเส้นขนานละติจูดที่ส�าคัญ เส้นขนานละติจูด เป็นเส้นที่สามารถบอกลักษณะภูมิอากาศและบอกฤดูกาลได้ ซึ่งมีเส้นขนานละติจูด ที่ส�าคัญ ดังนี้ 1) เส้นทรอปิกออฟแคนเซอร์ คือ เส้นขนานละติจูดที่ 23 องศา 30 ลิปดาเหนือ 2) เส้นทรอปิกออฟแคปริคอร์น คือ เส้นขนานละติจูดที่ 23 องศา 30 ลิปดาใต้ 3) เส้นศูนย์สูตร คือ เส้นวงใหญ่ที่แบ่งโลกออกเป็น 2 ซีก คือ ซีกโลกเหนือกับซีกโลกใต้ พื้นระนาบของ เส้นศูนย์สูตร มีค่าเป็น 0 องศา 4) เส้นอาร์กติกเซอร์เคิล คือ เส้นขนานละติจูดที่ 66 องศา 30 ลิปดาเหนือ 5) เส้นแอนตาร์กติกาเซอร์เคิล คือ เส้นขนานละติจูดที่ 66 องศา 30 ลิปดาใต้

กล่าวโดยสรุปได้ว่า การรู้จักใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์จะช่วยท�าให้สามารถศึกษาและ เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ที่ปรากฏบนพื้นผิวโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันการทราบถึง หลักการแบ่งเขตเวลาของโลก ก็จะเป็นประโยชน์ท�าให้เราเข้าใจเวลาจริงของท้องถิ่นที่อยู่ ต่างเขตเวลากันได้

21

บูรณาการเชื่อมสาระ

ครูสามารถนําเนื้อหาเรื่องเวลาทองถิ่นไปบูรณาการเชื่อมกับสาระ การเรียนรูคณิตศาสตร วิชาคณิตศาสตร โดยอธิบายวา การกําหนดเวลา ทองถิ่นใหเปนเวลามาตรฐานเดียวกัน เพื่อจะไดไมเกิดความสับสนเรื่อง เวลาในทองถิ่นตางๆ จากนั้นครูตั้งสถานการณสมมติใหนักเรียนฝกการ คํานวณเพื่อหาเวลาทองถิ่น เชน ถามวา ตําบล ก. ตั้งอยูที่เสนเมริเดียน 140 องศาตะวันออก ตําบล ข. ตั้งอยูที่เสนเมริเดียน 80 องศาตะวันออก ตําบล ก. และตําบล ข. มีเวลาตางกันเทาไร เปนตน

นักเรียนควรรู 1 เวลามาตรฐานของทองถิ่น เวลาที่ถือตามขอตกลงที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งไดกําหนดเสนแบงเขตวันสากลขึ้น เนื่องจากโลกกลมและมีอาณาเขตกวางขวาง เวลาจึงแตกตางกันออกไป โดยเฉพาะประเทศที่มีพื้นที่กวางจําเปนตองกําหนด เวลามาตรฐานไวเปนเขตๆ เรียกวา เวลามาตรฐาน โดยถือเอาเมริเดียนมาตรฐาน ทุกๆ 15 องศา เปนเสนกําหนดเวลามาตรฐาน คือ คลุมบริเวณ 15 องศาลองจิจูด ทุกๆ จุดในโซนเดียวกันจะมีเวลาเหมือนกัน แตละโซนเวลาจะตางกัน 1 ชั่วโมง

คูมือครู

21


กระตุนความสนใจ

สํารวจคนหา

อธิบายความรู

ขยายความเขาใจ

Engage

Explore

Explain

Expand

ตรวจสอบผล

ตรวจสอบผล Evaluate

Evaluate

ครูประเมินความถูกตองจากการตอบคําถาม ประจําหนวยการเรียนรู

คำาถามประจำาหน่วยการเรียนรู้ ๑. จงยกตัวอย่างเครื่องมือทางภูมิศาสตร์พร้อมอธิบายการใช้ประโยชน์ของเครื่องมือต่างๆ ๒. แผนที่มีความจ�าเป็นต่อชีวิตประจ�าวันของนักเรียนอย่างไรบ้าง ๓. ถ้านักเรียนไปเดินป่าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นักเรียนควรเตรียมเครื่องมือทาง ภูมิศาสตร์อะไรบ้าง และเครื่องมือเหล่านั้นมีประโยชน์อย่างไร ๔. เขตเวลามาตรฐานสากลมีความส�าคัญและมีประโยชน์อย่างไร จงอธิบาย ๕. ประเทศไทยใช้เขตเวลามาตรฐานท้องถิ�นที่เท่าใด และช้าหรือเร็วกว่าเวลาปานกลาง กรีนิชกี่ชั�วโมง

หลักฐานแสดงผลการเรียนรู 1. สรุปสาระสําคัญจากการศึกษาแผนที่ 2. แผนทีแ่ สดงสถานที่สําคัญในโรงเรียน 3. การอานขอมูลรูปถายทางอากาศและ ภาพจากดาวเทียม 4. ขอมูลเกี่ยวกับดาวเทียม 5. ชิ้นงานการนําเสนอขอมูลทางภูมิศาสตรใน รูปแบบสารสนเทศ

กิจกรรมสร้างสรรค์พัฒนาการเรียนรู้ กิจกรรมที่ ๑ นักเรียนส�ารวจชุมชนหรือท้องถิ�นของตนหรือชุมชนใกล้เคียง เก็บข้อมูล ด้านภูมลิ กั ษณ์ จ�านวนประชากร การประกอบอาชีพ สถานศึกษา แล้วน�าเสนอ ข้อมูลด้วยรูปแบบใดรูปแบบหนึ�งทางภูมิศาสตร์ อาจน�าเสนอผลงานเป็น กลุ่มหรือเฉพาะบุคคลก็ได้ กิจกรรมที่ ๒ ๒ นักเรียนแบ่งกลุ่มจัดท�าแผนผังแสดงที่ตั้งของโรงเรียน โดยใช้เครื่องมือ เช่น แผนที่ รูปถ่ายทางอากาศ หรือภาพจากดาวเทียม และใช้เข็มทิศ เพื่อแสดง ต�าแหน่งของโรงเรียนกับสถานทีส่ า� คัญใกล้โรงเรียน ใช้เครือ่ งมือวัดระยะทาง ใช้เครื่องมือ GPS (ถ้ามี) เพื่อก�าหนดต�าแหน่งที่ตั้งของโรงเรียน โดยก�าหนดมาตราส่วนทีเ่ หมาะสม ใช้สญั ลักษณ์ตา่ งๆ ให้ถกู ต้อง ระบาย สีให้สวยงาม เสร็จแล้วส่งครูผสู้ อนพิจารณาคัดเลือกผลงานกลุม่ ทีด่ ที สี่ ดุ ๒-๓ กลุ่ม น�าไปแสดงที่ป้ายนิเทศ กิจกรรมที่ ๓๓ นักเรียนยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ๑ เหตุการณ์ เช่น การแข่ ง ขั น ฟุ ต บอลในต่ า งประเทศแล้ ว น� า มาเปรี ย บเที ย บกั บ เวลาใน ประเทศไทย โดยน�าเสนอลงในสมุด

22

แนวตอบ คําถามประจําหนวยการเรียนรู 1. - ลูกโลกใชแสดงตําแหนงและการกระจายของพื้นที่ประเทศ ทวีป ทะเล และมหาสมุทรตางๆ ตามที่ปรากฏบนผิวโลก - เข็มทิศใชในการหาทิศของตําแหนงตางๆ บนแผนที่และพื้นผิวโลก - รูปถายทางอากาศใชในการทําแผนที่ การทําโฉนดที่ดิน การกอสรางถนน และการวางผังเมือง - ภาพจากดาวเทียมใชในการพยากรณอากาศ การสํารวจทรัพยากรธรรมชาติ 2. แผนที่ชวยใหเขาใจเสนทางและสามารถวางแผนกอนการเดินทางไปยังสถานที่ตางๆ ไดถูกตอง 3. แผนที่ใชเพื่อวางแผนการเดินทางไปยังสถานที่ที่กําหนดไดถูกตอง และเข็มทิศใชเพื่อหาทิศทางใหสอดคลองตามแผนที่ที่กําหนด 4. เขตเวลามาตรฐานสากล ใชกําหนดเวลาของสถานที่ตามตําแหนงที่ตั้งตางๆ บนผิวโลก เพื่อใหมนุษยในพื้นที่นั้นๆ รูชวงเวลาที่ถูกตอง 5. ประเทศไทยใชเวลามาตรฐานทองถิ่นที่เสนเมริเดียน 105 องศาตะวันออก เร็วกวาเวลาปานกลางกรีนิช 7 ชั่วโมง

22

คูมือครู


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.