คูมือครู 㪌»ÃСͺ¡ÒÃÊ͹ËÇÁ¡Ñº
˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ©ºÑº »ÃСѹÏ
ภาพปกนี้มีขนาดเทากับหนังสือเรียนฉบับจริงของนักเรียน
กระบวนการสอนแบบ 5 Es ชวยสรางทักษะการเรียนรู กิจกรรมมุงพัฒนาทักษะการคิด คำถาม + แนวขอสอบเพื่อยกผลสัมฤทธิ์ O-NET กิจกรรมบูรณาการเตรียมพรอมสู ASEAN 2558
เอกสารประกอบคูมือครู
กลุมสาระการเรียนรู การงานอาชีพและเทคโนโลยี
การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปที่
5
สําหรับครู
คูมือครู Version ใหม
ลักษณะเดน
ขยายพื้นที่รูปเลมใหญขึ้นกวาเดิม จัดแบงพื้นที่ออกเปนโซน เพื่อคนหาขอมูลไดงาย สะดวก รวดเร็ว และดูเปนระเบียบ กระตุน ความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ Expand
ตรวจสอบผล
กระตุน ความสนใจ
Evaluate
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
เปาหมายการเรียนรู สมรรถนะของผูเรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค
หน า
โซน 1 กระตุน ความสนใจ
Engage
สํารวจคนหา
Explore
อธิบายความรู
Explain
ขยายความเขาใจ
Expand
ตรวจสอบผล
หน า
หนั ง สื อ เรี ย น
โซน 1
หนั ง สื อ เรี ย น
Evaluate
ขอสอบเนน การคิด
แนว NT O-NE T
ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET
O-NET บูรณาการเชื่อมสาระ
เกร็ดแนะครู
ขอสอบ
โซน 2
โซน 3
กิจกรรมสรางเสริม กิจกรรมทาทาย
นักเรียนควรรู
โซน 3
โซน 2 บูรณาการอาเซียน มุม IT
No.
คูมือครู
คูมือครู
No.
โซน 1 ขั้นตอนการสอนแบบ 5Es
โซน 2 ชวยครูเตรียมสอน
โซน 3 ชวยครูเตรียมนักเรียน
เพื่อใหครูเตรียมจัดกิจกรรมการเรียน การสอน โดยแนะนําขั้นตอนการสอนและ การจัดกิจกรรมแบบ 5Es อยางละเอียด เพื่อใหนักเรียนบรรลุตามตัวชี้วัด
เพื่อชวยลดภาระครูผูสอน โดยแนะนํา เกร็ดความรูสําหรับครู ความรูเสริมสําหรับ นักเรียน รวมทั้งบูรณาการความรูสูอาเซียน และมุม IT
เพื่อใหครูสะดวกตอการจัดกิจกรรม โดย แนะนํากิจกรรมบูรณาการเชือ่ มระหวางสาระหรือ กลุมสาระการเรียนรู วิชา กิจกรรมสรางเสริม กิจกรรมทาทาย รวมถึงเนื้อหาที่เคยออกขอสอบ O-NET แนวขอสอบ NT/O-NET ทีเ่ นนการคิด พรอมเฉลยและคําอธิบายอยางละเอียด
ที่ใชในคูมือครู
แถบสีและสัญลักษณ
แถบสีแสดงขั้นตอนการสอนและการจัดกิจกรรม แบบ 5Es เพื่อใหครูทราบวาเปนขั้นการสอนขั้นใด
1. แถบสี 5Es สีแดง
สีเขียว
กระตุน ความสนใจ
เสร�ม
สํารวจคนหา
Engage
2
•
เปนขั้นที่ผูสอนเลือกใช เทคนิคกระตุน ความสนใจ เพื่อโยง เขาสูบทเรียน
สีสม
อธิบายความรู
Explore
•
เปนขั้นที่ผูสอน ใหผูเรียนสํารวจ ปญหา และศึกษา ขอมูล
สีฟา
Explain
•
เปนขั้นที่ผูสอน ใหผูเรียนคนหา คําตอบ จนเกิดความรู เชิงประจักษ
สีมวง
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
•
Evaluate
เปนขั้นที่ผูสอน ใหผูเรียนนําความรู ไปคิดคนตอๆ ไป
•
เปนขั้นที่ผูสอน ประเมินมโนทัศน ของผูเรียน
2. สัญลักษณ สัญลักษณ
วัตถุประสงค
• เปาหมายการเรียนรู
• หลักฐานแสดง ผลการเรียนรู
• เกร็ดแนะครู
แทรกความรูเสริมสําหรับครู ขอเสนอแนะ ขอควรระวัง ขอสังเกต แนวทางการจัด กิจกรรมและอืน่ ๆ เพื่อประโยชนในการ จัดการเรียนการสอน ขยายความรูเพิ่มเติมจากเนื้อหา เพื่อให ครูนําไปใชอธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียน ไดมีความรูมากขึ้น
•
ความรูห รือกิจกรรมเสริม ใหครูนาํ ไปใช เตรียมความพรอมใหกบั นักเรียนกอนเขาสู ประชาคมอาเซียนใน พ.ศ. 2558 โดย บูรณาการกับวิชาทีก่ าํ ลังเรียน
บูรณาการอาเซียน
•
คูม อื ครู
แสดงรองรอยหลักฐานตามภาระงาน ที่ครูมอบหมาย เพื่อแสดงผลการเรียนรู ตามตัวชี้วัด
• นักเรียนควรรู
มุม IT
แสดงเปาหมายการเรียนรูที่นักเรียน ตองบรรลุตามตัวชี้วัด ตลอดจนสมรรถนะ ที่จะตองมี และคุณลักษณะที่พึงเกิดขึ้น กับนักเรียน
แนะนําแหลงคนควาจากเว็บไซต เพื่อให ครูและนักเรียนไดเขาถึงขอมูลความรู ที่หลากหลาย ทั้งไทยและตางประเทศ
สัญลักษณ
ขอสอบ
วัตถุประสงค
O-NET
(เฉพาะวิชา ชัน้ ทีส่ อบ O-NET O-NET)
• ชีแ้ นะเนือ้ หาทีเ่ คยออกขอสอบ
O-NET โดยยกตัวอยางขอสอบ พรอมวิเคราะหคาํ ตอบ อยางละเอียด
• เปนตัวอยางขอสอบทีม่ งุ เนน แนว NT O-NE T (เฉพาะระดับชัน้ มัธยมศึกษาตอนตน)
แนว
O-NET
(เฉพาะระดับชัน้ มัธยมศึกษาตอนปลาย)
บูรณาการเชื่อมสาระ
กิจกรรมสรางเสริม
กิจกรรมทาทาย
การคิดและเปนแนวขอสอบ NT/O-NET ในระดับมัธยมศึกษา ตอนตน มีทงั้ ปรนัย - อัตนัย พรอมเฉลยอยางละเอียด
• เปนตัวอยางขอสอบทีม่ งุ เนน
การคิดและเปนแนวขอสอบ O-NET ในระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย มีทงั้ ปรนัย - อัตนัย พรอมเฉลยอยางละเอียด
• แนะนําแนวทางการจัดกิจกรรม
เชือ่ มกับสาระหรือกลุม สาระ การเรียนรู ระดับชัน้ หรือวิชาอืน่ ทีเ่ กีย่ วของ
• แนะนําแนวทางการจัดกิจกรรม ซอมเสริมสําหรับนักเรียนทีค่ วร ไดรบั การพัฒนาการเรียนรู
• แนะนําแนวทางการจัดกิจกรรม ตอยอดสําหรับนักเรียนทีเ่ รียนรู ไดอยางรวดเร็ว และตองการ ทาทายความสามารถในระดับ ทีส่ งู ขึน้
คําแนะนําการใชคูมือครู การออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอน คูมือครู รายวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี ม.5 จัดทําขึ้นเพื่อใหครูผูสอนนําไปใชเปนแนวทางวางแผนการ สอนเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และประกันคุณภาพผูเรียน ตามนโยบายของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยใชหนังสือเรียน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ม.5 ของบริษัท อักษรเจริญทัศน อจท. จํากัด เสร�ม เปนสื่อหลัก (Core Material) ประกอบการสอนและการจัดกิจกรรมการเรียนรูใหสอดคลองกับมาตรฐานการเรียนรู 3 และตัวชี้วัดกลุมสาระการเรียนรู การงานอาชีพและเทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 โดยออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนตามหลักการสําคัญ ดังนี้ 1 ออกแบบการสอนเปนหนวยการเรียนรูอิงมาตรฐาน คูม อื ครู รายวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี ม.5 วางแผนการสอนโดยแบงเปนหนวยการเรียนรูต ามลําดับสาระ (Strand) และหมายเลขขอของมาตรฐานการเรียนรูแ ละตัวชีว้ ดั แตละหนวยจะกําหนดเปาหมายการเรียนรูแ ละจุดประสงค การเรียนรู (Objective Learning) กิจกรรมการเรียนรู (Learning Activities) และแนวทางการประเมินผลการเรียนรู (Learning Evaluation) ไวชดั เจน ครูผสู อนสามารถจัดทําแผนการสอนใหครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรู ตัวชีว้ ดั สมรรถนะ และคุณลักษณะอันพึงประสงคที่เปนเปาหมายการเรียนรูตามที่กําหนดไวในสาระแกนกลาง (ตามแผนภูมิ) และสามารถ บันทึกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผูเรียนแตละคนลงในเอกสาร ปพ.5 ไดอยางมั่นใจ แผนภูมิแสดงความสัมพันธขององคประกอบการออกแบบการเรียนรูอิงมาตรฐานและเนนผูเรียนเปนสําคัญ
พผ
ูเ
จุ ด ป ร
ะสง
คก า
ส ภา
รี ย น
ร
รู ีเรยน
มาตรฐานการเรียนรู ตัวชี้วัดชวงชั้น
ทักษะการคิด การวัดประเมินผล การเรียนรู
กิจกรรมการเรียนรู
เทคนิคการสอน คูม อื ครู
2 การจัดการเรียนรูที่ยึดผูเรียนเปนสําคัญ แนวคิ ด ในการจั ด การเรี ย นการสอนที่ ยึ ด ผู เ รี ย นเป น สํ า คั ญ พั ฒ นามาจากปรั ช ญาและทฤษฎี ก ารเรี ย นรู Constructivism ที่เชื่อวา การเรียนรูเปนกระบวนการที่เกิดขึ้นภายในสมองของผูเรียนแตละคน ผูเรียนเปนผูสรางความรู โดยการเชื่อมโยงระหวางสิ่งที่ไดเรียนรูจากบทเรียนใหมกับความรูหรือประสบการณเดิมที่มีอยู ทฤษฎีนี้มีความเชื่อวา ผูเรียนทุกคนไดเรียนรูและมีการสั่งสมความรูความเขาใจเกี่ยวกับสิ่งตางๆ ติดตัวมากอน ทีจ่ ะเขาสูห อ งเรียน ซึง่ เปนการเรียนรูท เี่ กิดจากประสบการณและสิง่ แวดลอมรอบตัวผูเ รียนแตละคน ดังนัน้ การจัดกิจกรรม เสร�ม การเรียนการสอนในแตละหนวยการเรียนรู ผูสอนจะตองคํานึงถึง
4
1. ความรูเดิมของผูเรียน วิธีการสอนที่ดีจะตองเริ่มตนจากจุดที่วา ผูเ รียนมีความรูอ ะไรมาบาง แลวจึงใหความรู หรือประสบการณใหม เพื่อตอยอดจาก ความรูเดิม นําไปสูการสรางความรู ความเขาใจใหม
2. ความรูเดิมของผูเรียนถูกตองหรือไม ผูส อนตองปรับเปลีย่ นความรูค วามเขาใจเดิม ของผูเรียนใหถูกตอง และเปนพฤติกรรม การเรียนรูใ หมทมี่ คี ณุ คาตอผูเรียน เพื่อสราง เจตคติหรือทัศนคติที่ดีตอการเรียนรู สิ่งเหลานั้น
3. ผูเรียนสรางความหมายสําหรับตนเอง ผูสอนตองสงเสริมใหผูเรียนนําความรู ความเขาใจที่เกิดขึ้นไปลงมือปฏิบัติ เพื่อขยายความรูใหลึกซึ้งและมีคุณคา ตอตัวผูเรียนมากที่สุด
แนวคิด Constructivism เนนใหผูเรียนสรางความรูโดยผานกระบวนการคิดและความอยากรูของตนเอง โดยมีผูสอนเปนผูสรางบรรยากาศ
การเรียนรูและกระตุนความสนใจ คอยจัดสถานการณใหผูเรียนเกิดความขัดแยงทางความคิดระหวางประสบการณเดิมกับประสบการณ ความรูใ หม เพือ่ กระตนุ ใหผเู รียนเชือ่ มโยงความรู ความคิด กับประสบการณทมี่ อี ยูเ ดิม แลวสังเคราะหเปนความรูห รือแนวคิดใหมๆ ไดดว ยตนเอง
3 การบูรณาการกระบวนการคิด การเรียนรูของผูเรียนแตละคนจะเกิดขึ้นที่สมอง ซึ่งเปนอวัยวะที่ทําหนาที่รูคิดภายใตสภาพแวดลอมที่เอื้ออํานวย และไดรบั การกระตนุ จูงใจอยางเหมาะสม สอดคลองกับสภาพจิตใจและความตองการของผูเ รียนแตละคน การจัดกิจกรรม การเรียนรูและสาระการเรียนรูที่สอดคลองกับความสนใจและมีความหมายตอผูเรียน จะชวยกระตุนใหสมองของผูเรียน สามารถรับรูและเรียนรูไดอยางมีประสิทธิภาพตามขั้นตอนการทํางานของสมอง ดังนี้ 1. สมองจะเรียนรูและสืบคน โดยการสังเกต คนหา ซักถาม และทดลอง ปฏิบัติ จนทําใหคนพบความรูความเขาใจ ไดอยางรวดเร็ว
2. สมองจะแยกแยะคุณคาของสิ่งตางๆ โดยการตัดสินใจวิพากษวิจารณ แสดง ความคิดเห็น ยอมรับหรือตอตานตาม อารมณความรูสึกที่เกิดขึ้นในขณะที่เรียนรู
3. สมองจะประมวลเนื้อหาสาระ โดยการสรุปเปนความคิดรวบยอดจาก เรื่องราวที่ไดเรียนรูใหมนําไปผสมผสานกับ ความรูห รือประสบการณเดิมทีถ่ กู จัดเก็บอยูใ น สมอง ผานการกลัน่ กรองเพือ่ สังเคราะหเปน ความรูค วามเขาใจใหมๆ หรือเปนทัศนคติใหม ที่จะเก็บบรรจุไวในสมองของผูเรียน
การเรียนรูที่มีประสิทธิภาพจึงตองเปนการเรียนรูที่เกิดจากกระบวนการคิดของผูเรียน เพราะการเรียนรูจะเกิดขึ้น เมื่อสมองรูคิด และตองเปนการคิดไดครบถวนตามขั้นตอนการทํางานของสมองผูเรียน โดยเริ่มตนจาก 1. ระดับการคิดพื้นฐาน ไดแก การสังเกต การจําแนก การคาดคะเน การสื่อความหมาย การรวบรวมขอมูล การสรุปผล เปนตน
คูม อื ครู
2. ระดับลักษณะการคิด ไดแก การคิดกวาง คิดลึกซึ้ง คิดไกล คิดหลากหลาย คิดคลอง คิดอยางมีเหตุผล เปนตน
3. ระดับกระบวนการคิด ไดแก กระบวนการคิดอยางมีวิจารณญาณ กระบวนการแกปญหา กระบวนการ คิดสรางสรรค กระบวนการคิดสังเคราะห เปนตน
5Es การจัดกิจกรรมตามขั้นตอนวัฏจักรการเรียนรู 5Es ขั้นตอนการสอนที่สัมพันธกับขั้นตอนการคิดและการทํางานทางสมองของผูเรียนที่นิยมใชอยางแพรหลาย คือ วัฏจักรการเรียนรู 5Es ซึ่งผูจัดทําคูมือครูไดนํามาใชเปนแนวทางออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนในแตละหนวย ตามลําดับขั้นตอนการเรียนรู ดังนี้ ขั้นที่ 1
กระตุนความสนใจ
(Engage)
เสร�ม
5
เปนขั้นที่ผูสอนนําเขาสูบทเรียน เพื่อกระตุนความสนใจของผูเรียนดวยเรื่องราวหรือเหตุการณที่นาสนใจโดยใชเทคนิควิธีการ และคําถามทบทวนความรูหรือประสบการณเดิมของผูเรียน เพื่อเชื่อมโยงผูเรียนเขาสูความรูของบทเรียนใหม ชวยใหผูเรียนสามารถ สรุปความสําคัญหัวขอและสาระการเรียนรูของบทเรียนได จึงเปนขั้นตอนการสอนที่สําคัญ เพราะเปนการเตรียมความพรอมและสราง แรงจูงใจใฝเรียนรูแกผูเรียน
ขั้นที่ 2
สํารวจคนหา
(Explore)
เปนขัน้ ทีผ่ สู อนเปดโอกาสใหผเู รียนลงมือศึกษา สังเกต หรือรวมมือกันสํารวจ เพือ่ ใหเห็นขอบขายของประเด็นหรือปญหา รวมถึง วิธีการศึกษาคนควา การรวบรวมขอมูลความรูที่จะนําไปสูการสรางความเขาใจประเด็นหรือปญหานั้นๆ เมื่อผูเรียนทําความเขาใจใน ประเด็นหรือปญหาที่จะศึกษาคนควาอยางถองแทแลว ก็ลงมือปฏิบัติเพื่อเก็บรวบรวมขอมูลความรู สํารวจตรวจสอบ โดยวิธีการตางๆ เชน สัมภาษณ ทดลอง อานคนควาขอมูลจากเอกสาร แหลงขอมูลตางๆ จนไดขอมูลความรูที่เกี่ยวของกับประเด็นหรือปญหาที่ศึกษา
ขั้นที่ 3
อธิบายความรู
(Explain)
เปนขั้นที่ผูสอนมีปฏิสัมพันธกับผูเรียน เชน ใหการแนะนํา ตั้งคําถามกระตุนใหคิด เพื่อใหผูเรียนคนหาคําตอบ และนําขอมูล ความรูจากการศึกษาคนควาในขั้นที่ 2 มาวิเคราะห สรุปผล และนําเสนอผลที่ไดศึกษาคนความาในรูปแบบสารสนเทศตางๆ เชน เขียนแผนภูมิ ผังมโนทัศน เขียนความเรียง เขียนรายงาน เปนตน ในขั้นตอนนี้ฝกใหผูเรียนใชสมองคิดวิเคราะหและสังเคราะห อยางเปนระบบ
ขั้นที่ 4
ขยายความเขาใจ
(Expand)
เปนขั้นที่ผูสอนเลือกใชเทคนิควิธีสอนตางๆ ที่สงเสริมใหผูเรียนนําความรูที่เกิดขึ้นไปคิดคนสืบคนตอๆ ไป เพื่อพัฒนาทักษะ การเรียนรูและการทํางานรวมกันเปนกลุม ระดมสมองเพื่อคิดสรางสรรครวมกัน ผูเรียนสามารถนําความรูที่สรางขึ้นใหมไปเชื่อมโยง กับประสบการณเดิมโดยนําขอสรุปทีไ่ ดไปใชอธิบายเหตุการณตา งๆ หรือนําไปปฏิบตั ใิ นสถานการณใหมๆ ทีเ่ กีย่ วของกับชีวติ ประจําวัน ของตนเอง เพื่อขยายความรูความเขาใจใหกวางขวางยิ่งขึ้น ในขั้นตอนนี้ฝกสมองของผูเรียนใหสามารถคิดริเริ่มสรางสรรคอยางมี คุณภาพ เสริมสรางวิสัยทัศนใหกวางไกลออกไป
ขั้นที่ 5
ตรวจสอบผล
(Evaluate)
เปนขัน้ ทีผ่ สู อนประเมินมโนทัศนของผูเ รียน โดยตรวจสอบจากความคิดทีเ่ ปลีย่ นไปและความคิดรวบยอดทีเ่ กิดขึน้ ใหม ตรวจสอบ ทักษะ กระบวนการปฏิบัติ การแกปญหา การตอบคําถามรวบยอด หรือการเคารพความคิดหรือยอมรับเหตุผลของคนอื่น เพื่อการ สรางสรรคความรูร ว มกัน ผูเ รียนสามารถประเมินผลการเรียนรูข องตนเอง เพือ่ สรุปผลวามีความรูอ ะไรเพิม่ ขึน้ มาบาง เกิดความเขาใจ มากนอยเพียงใด และจะนําความรูเหลานั้นไปประยุกตใชในการเรียนรูเรื่องอื่นๆ หรือในชีวิตประจําวันไดอยางไร ผูเรียนจะเกิดเจตคติ และเห็นคุณคาของตนเองจากผลการเรียนรูที่เกิดขึ้น ซึ่งเปนการเรียนรูที่มีความสุขอยางแทจริง
การจัดกิจกรรมการเรียนรูตามขั้นตอนวัฏจักรการเรียนรู 5Es จึงเปนรูปแบบการเรียนการสอนที่เนนผูเรียน เปนสําคัญอยางแทจริง เพราะสงเสริมใหผูเรียนไดเรียนรูตามขั้นตอนของกระบวนการสรางความรูดวยตนเอง และ ฝกฝนใหใชกระบวนการคิดและกระบวนการกลุมอยางชํานาญ กอใหเกิดทักษะชีวิต ทักษะการทํางาน และทักษะการ เรียนรูที่มีประสิทธิภาพ สงผลตอการยกระดับผลสัมฤทธิ์ของผูเรียน ตามเปาหมายของการปฏิรูปการศึกษาทศวรรษที่ 2 (พ.ศ. 2552-2561) ทุกประการ คูม อื ครู
O-NET การเพิ่มผลสัมฤทธิ์ O-NET
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามขั้นตอนวัฏจักรการเรียนรู 5Es ในแตละหนวยการเรียนรู ทางผูจัดทํา จะเสนอแนะวิธีสอน รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู พรอมทั้งออกแบบเครื่องมือวัดและประเมินผลที่สอดคลองกับตัวชี้วัด และสาระการเรียนรูแกนกลางไวทุกขั้นตอน โดยยึดหลักสําคัญ คือ หลักของการวัดและประเมินผล เสร�ม
6
1. การวัดและประเมินผลทุกครั้ง ควรนําผลมาปรับปรุงพัฒนาผูเรียน เปนรายบุคคล
2. การวัดและประเมินผลมี เปาหมาย เพื่อพัฒนาการเรียนรู ของผูเรียนจนเต็มศักยภาพ
3. การนําผลการวัดและประเมินผล ทุกครั้งมาวางแผนปรับปรุงกิจกรรม การเรียนการสอน การเลือกเทคนิค วิธีสอน และสื่อการเรียนรูให เหมาะสมกับสภาพจริงของผูเรียน
การทดสอบผูเรียน 1. การใชขอสอบอัตนัย เนนการอาน การคิดวิเคราะห และการเขียนเพิ่มมากขึ้น 2. การใชคําถามกระตุนการคิดควบคูกับการทําขอสอบที่เนนการคิดอยางตอเนื่องตามลําดับกิจกรรมการเรียนรู และตัวชี้วัด 3. การทดสอบตองดําเนินการทั้งกอนเรียน ระหวางเรียน และหลังเรียน การทดสอบควรใชขอสอบทั้งชนิดปรนัยและ อัตนัย และเปนการทดสอบเพื่อประเมินผลการเรียนของผูเรียนแตละคน เพื่อการสอนซอมเสริมใหบรรลุตัวชี้วัด ไดครบถวน 4. การสอบกลางภาค (ถามี) ควรนําแบบฝกหัดหรือขอสอบทีน่ กั เรียนสวนใหญไมสามารถตอบไดหรือไมครบถวนชัดเจน มา สรางเปนแบบทดสอบอีกครัง้ เพือ่ ตรวจสอบความรูค วามเขาใจทีถ่ กู ตอง และประเมินความกาวหนาของผูเ รียนแตละคน 5. การสอบปลายภาคเรียนเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามตัวชี้วัดที่สําคัญ ควรออกขอสอบใหมีลักษณะเดียวกับ ขอสอบ O-NET โดยเนนการคิดวิเคราะห สังเคราะห เชื่อมโยงประยุกตใช เพื่อสรางความคุนเคย และฝกฝน วิธีการทําขอสอบดวยความมั่นใจ 6. การนําผลการทดสอบของผูเรียนมาวิเคราะห โดยผลการสอบกอนการเรียนตองสามารถพยากรณผลการสอบ กลางภาค และผลการสอบกลางภาคตองทํานายผลการสอบปลายภาคของผูเ รียนแตละคน เพือ่ ประเมินพัฒนาการ ความกาวหนาของผูเรียนเปนรายบุคคล 7. ผลการทดสอบปลายป ปลายภาค ตองมีคาเฉลี่ยสอดคลองกับคาเฉลี่ยของการสอบ NT ที่เขตพื้นที่การศึกษา จัดสอบ รวมทั้งคาเฉลี่ยของการสอบ O-NET ชวงชั้นที่สอดคลองครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดสําคัญ เพือ่ สะทอนประสิทธิภาพของครูผสู อนในการออกแบบการเรียนรูแ ละประกันคุณภาพผูเ รียนทีต่ รวจสอบผลไดชดั เจน การจัดการเรียนการสอนในแตละหนวยการเรียนรู ตองใหผูเรียนไดสั่งสมความรู ความเขาใจตามลําดับขั้นตอน ของกิจกรรมในวัฏจักรการเรียนรู 5Es เพื่อใหผูเรียนไดเติมเต็มองคความรูอยางตอเนื่อง จนสามารถปฏิบัติชิ้นงานหรือ ภาระงานรวบยอดของแตละหนวย ผานเกณฑประกันคุณภาพในระดับที่นาพึงพอใจ เพื่อรองรับการประเมินภายนอกจาก สมศ. ตลอดเวลา คูม อื ครู
ASEAN การเรียนรูสูประชาคมอาเซียน เพื่ออํานวยความสะดวกแกครูผูสอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรูบูรณาการอาเซียนศึกษา ผูจัดทําไดวิเคราะห มาตรฐานการเรียนรู และตัวชี้วัดที่มีสาระการเรียนรูสอดคลองกับองคความรูเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนในแงมุมตางๆ ครอบคลุมทัง้ ประชาคมการเมืองและความมัน่ คงอาเซียน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และประชาคมสังคมและวัฒนธรรม อาเซียน เพื่อสงเสริมการเรียนรูใหผูเรียนเกิดความตระหนัก มีความรูความเขาใจเหมาะสมกับระดับชั้นและกลุมสาระ การเรียนรู โดยเสนอแนะวิธีการจัดกิจกรรมบูรณาการเนื้อหาสาระตางๆ ที่เปนประโยชนตอผูเรียนและเปนการชวย เตรียมความพรอมผูเ รียนทุกคนทีจ่ ะกาวเขาสูก ารเปนสมาชิกของประชาคมอาเซียนไดอยางมัน่ ใจตามขอตกลงปฏิญญา เสร�ม ชะอํา-หัวหิน วาดวยความรวมมือดานการศึกษาเพือ่ บรรลุเปาหมายประชาคมอาเซียนทีเ่ อือ้ อาทรและแบงปน จึงกําหนด 7 เปนนโยบายใหกระทรวงศึกษาธิการจัดการเรียนรูเตรียมความพรอมผูเรียนเขาสูประชาคมอาเซียนภายในป พ.ศ. 2558 ตามแนวปฏิบัติที่สําคัญ ดังนี้
การจัดการเรียนรูส ู ประชาคมการเมืองและความมัน่ คงอาเซียน 1. การสรางความรูความเขาใจ และตระหนักถึงความสําคัญของ กฎบัตรอาเซียน และความรวมมือ ของ 3 เสาหลัก ซึง่ กฎบัตรอาเซียน ในขณะนี้มีสถานะเปนกฎหมายที่ ประเทศสมาชิกจะตองปฏิบัติตาม หลักการที่กําหนดไวเพื่อใหบรรลุ เปาหมายของกฎบัตรมาตราตางๆ
2. การสงเสริมหลักการ ประชาธิปไตยและการสราง สิ่งแวดลอมประชาธิปไตย เพื่อการอยูรวมกันอยางกลมกลืน ภายใตวิถีชีวิตอาเซียนที่มีความ หลากหลายดานสังคมและ วัฒนธรรม
4. การตระหนักในคุณคาของ สายสัมพันธทางประวัติศาสตร และมรดกทางวัฒนธรรมที่มี พัฒนาการรวมกัน เพื่อเชื่อม อัตลักษณและสรางจิตสํานึก ในการเปนประชากรของประชาคม อาเซียนรวมกัน
3. การสงเสริมการศึกษาดาน สิทธิมนุษยชน เพื่อสรางประชาคม อาเซียนใหเปนประชาคมเพื่อ ประชาชนอยางแทจริง สามารถ อยูรวมกันไดบนพื้นฐานการเคารพ ในคุณคาของศักดิ์ศรีแหงความ เปนมนุษยเทาเทียมกัน
5. การสงเสริมสันติภาพ ความ มั่นคง และความปรองดองในสังคม ทั้งระดับประเทศและภูมิภาคของ อาเซียนบนพื้นฐานสันติวิธีและการ อยูรวมกันดวยขันติธรรม
คูม อื ครู
การจัดการเรียนรูส ู ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
เสร�ม
8
1. การพัฒนาทักษะการทํางาน เพื่อเสริมสรางผูเรียนใหมีทักษะ วิชาชีพที่จําเปนสอดคลองกับ ความตองการของตลาดแรงงาน และสถานประกอบการในอาเซียน สามารถเทียบโอนผลการเรียน และการทํางานตามมาตรฐานฝมือ แรงงานในภูมิภาคอาเซียน
2. การเสริมสรางวินัย ความรับผิดชอบ และเจตคติรักการทํางาน สามารถพึ่งพาตนเอง มีทักษะชีวิต ดํารงชีวิตอยางมีความสุข เห็นคุณคา และภูมิใจในตนเอง ในฐานะที่เปนพลเมืองไทยและ อาเซียน
3. การเรียนรูเพื่อพัฒนาตนเอง อยางตอเนื่องตลอดชีวิต ใหมี ทักษะการทํางานตามมาตรฐาน อาชีพ และคุณวุฒิของวิชาชีพสาขา ตางๆ เพื่อรองรับการเตรียมเคลื่อน ยายแรงงานมีฝมือและการเปน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่ เขมแข็ง เพื่อสรางขีดความสามารถ ในการแขงขันในเวทีโลก
การจัดการเรียนรูส ู ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน 1. การเสริมสรางความรวมมือ ในลักษณะสังคมที่เอื้ออาทร ของประชากรอาเซียน โดยยึด หลักการสําคัญ คือ ความงดงาม ของประชาคมอาเซียนมาจาก ความแตกตางและหลากหลายทาง วัฒนธรรมที่ลวนแตมีคุณคาตอ มรดกทางวัฒนธรรมของอาเซียน ซึ่งประชาชนทุกคนตองอนุรักษ สืบสานใหยั่งยืน
2. การเสริมสรางคุณลักษณะ ของผูเรียนใหเปนพลเมืองอาเซียน ที่มีศักยภาพในการกาวเขาสู ประชาคมอาเซียนอยางมั่นใจ เปนผูที่มีสุขภาพสมบูรณแข็งแรง มีทักษะการสื่อสาร ทักษะการ ทํางาน ทักษะทางสังคม สามารถ ทํางานรวมกับผูอื่นไดอยาง สรางสรรค และมีองคความรู เกี่ยวกับอาเซียนที่จําเปนตอการ ดํารงชีวิตอยางมีคุณภาพ
4. การสงเสริมการเรียนรูดาน ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถชี วี ติ ความเปนอยูข องเพือ่ นบาน ในอาเซียน เพื่อสรางจิตสํานึกของ ความเปนประชาคมอาเซียนและ ตระหนักถึงหนาที่ของการเปน พลเมืองอาเซียนรวมกัน
3. การสงเสริมการเรียนรูภาษา อังกฤษเพื่อการสื่อสารและการ ทํางานตามมาตรฐานอาชีพที่ กําหนดและสนับสนุนการเรียนรู ภาษาอาเซียนและภาษาเพื่อนบาน เพื่อชวยเสริมสรางสัมพันธภาพทาง สังคม และการอยูรวมกันอยางสันติ ทามกลางความหลากหลายทาง วัฒนธรรม
5. การสรางความรูและความ ตระหนักเกี่ยวกับดานสิ่งแวดลอม ปญหาและผลกระทบตอคุณภาพ ชีวิตของประชากรในภูมิภาค รวมทั้งแนวทางการพัฒนาอยาง ยั่งยืน ใหเปนมรดกสืบทอดแก พลเมืองอาเซียนในรุนหลังตอๆ ไป
กระทรวงศึกษาธิการจึงประกาศนโยบายการปฏิรูปการศึกษาทศวรรษที่ 2 (พ.ศ. 2552-2561) เพื่อเรงพัฒนาเด็ก และเยาวชนไทยใหเปนทรัพยากรมนุษยของชาติที่มีทักษะและความชํานาญ พรอมเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงและ การแขงขันทั้งในภูมิภาคอาเซียนและภูมิภาคอื่นๆ ของสังคมโลก ทั้งนี้ผูบริหารสถานศึกษา ครูผูสอน และผูปกครอง ควรรวมมือกันอยางใกลชิดในการดูแลชวยเหลือผูเรียนและจัดประสบการณการเรียนรูเพื่อพัฒนาผูเรียนจนเต็มศักยภาพ เพื่อกาวเขาสูการเปนพลเมืองอาเซียนอยางมีเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีความเปนมนุษยของตน คณะผูจัดทํา คูม อื ครู
ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรูแกนกลาง สาระที่ 1
การงานอาชีพและเทคโนโลยี (เฉพาะชั้น ม.5)*
การดํารงชีวิตและครอบครัว
มาตรฐาน ง 1.1 เขาใจการทํางาน มีความคิดสรางสรรค มีทกั ษะกระบวนการทํางาน ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการ แกปญหา ทักษะการทํางานรวมกัน และทักษะการแสวงหาความรู มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยในการ ทํางาน มีจิตสํานึกในการใชพลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดลอม เพื่อการดํารงชีวิตและครอบครัว ชั้น
ตัวชี้วัด
ม.4-6 1. อธิบายวิธีการทํางานเพื่อ การดํารงชีวิต 2. สรางผลงานอยางมีความ คิดสรางสรรค และมีทักษะ การทํางานรวมกัน 3. มีทักษะการจัดการในการ ทํางาน 4. มีทักษะกระบวนการแก ปญหาในการทํางาน 5. มีทักษะในการแสวงหา ความรูเพื่อการดํารงชีวิต 6. มีคุณธรรมและลักษณะ นิสัยในการทํางาน 7. ใชพลังงาน ทรัพยากร ในการทํางานอยางคุมคา และยั่งยืน เพื่อการ อนุรักษสิ่งแวดลอม
สาระการเรียนรูแกนกลาง
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน
• วิธีการทํางานเพื่อการดํารงชีวิต เปนการ ทํางานที่จําเปนเกี่ยวกับความเปนอยูใน ชีวติ ประจําวัน เชน การเลือกใช ดูแลรักษา เสื้อผาและเครื่องแตงกาย • ความคิดสรางสรรคมี 4 ลักษณะ ประกอบดวย ความคิดริเริ่ม ความคลอง ในการคิด ความยืดหยุนในการคิด และ ความคิดละเอียดลออ • ทักษะการทํางานรวมกัน เปนการทํางาน กลุม ทํางานรวมกับผูอื่นไดอยางมีความ สุข ทํางานอยางมีกระบวนการตาม ขั้นตอนและฝกหลักการทํางานกลุม เชน การประดิษฐของใชที่เปนเอกลักษณ ไทย หนาที่และบทบาทของตนเองที่มีตอ สมาชิกในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน • ทักษะการจัดการ เปนการจัดระบบงานและ ระบบคน เพื่อใหการทํางานสําเร็จตาม เปาหมายอยางมีประสิทธิภาพ เชน การ ดูแลรักษา ทําความสะอาด จัดตกแตงบาน และโรงเรียน การปลูกพืช ขยายพันธุพืช หรือเลี้ยงสัตว การบํารุง เก็บรักษาเครื่อง ใชไฟฟา และอุปกรณอํานวยความสะดวก ในชีวิตประจําวัน การดําเนินการทางธุรกิจ
• หนวยการเรียนรูที่ 1 การเรียนรูก ระยวนการ ทําานและกระบวนการแก ปญหา • หนวยการเรียนรูที่ 2 งานชางในบาน • หนวยการเรียนรูที่ 3 เสือ้ ผาและเครือ่ งแตงกาย • หนวยการเรียนรูที่ 4 งานประดิษฐเอกลักษณ ไทย • หนวยการเรียนรูที่ 5 งานเกษตร
เสร�ม
9
_________________________________ * สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, กระทรวงศึกษาธิการ. ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรูแกนกลาง กลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพและเทคโนโลยี. (กรุงเทพมหานคร : ชุมนุมสหกรณการเกษตรแหงประเทศไทย, 2551), หนา 6-27.
คูม อื ครู
ชั้น
ตัวชี้วัด
ม.4-6 (ตอ)
เสร�ม
10
สาระที่ 2
สาระการเรียนรูแกนกลาง
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน
• ทักษะกระบวนการแกปญ หาในการทํางาน มีขนั้ ตอน คือ การสังเกต วิเคราะห สราง ทางเลือก และประเมินทางเลือก เชน การตัดเย็บ และดัดแปลงเสือ้ ผา การเก็บ ถนอม และแปรรูปอาหาร การติดตัง้ ประกอบ ซอมแซมอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช สิ่งอํานวยความสะดวกในบาน และโรงเรียน • ทักษะการแสวงหาความรูเพื่อการดํารง ชีวิต ประกอบดวย การศึกษาคนควา รวบรวม สังเกต สํารวจ และบันทึก เชน การดูแลรักษาบาน การเลี้ยงสัตว • คุณธรรมและลักษณะนิสัยในการทํางาน เปนการสรางคุณงามความดี และควรฝก ใหผเู รียนมีคณุ ภาพ ที่สําคัญๆ เชน ขยัน อดทน รับผิดชอบ และซื่อสัตย • การใชพลังงาน ทรัพยากรอยางคุมคาและ ยั่งยืน เปนคุณธรรมในการทํางาน
• หนวยการเรียนรูที่ 1 การเรียนรูก ระบวนการ ทําานและกระบวนการ แกปญ หา • หนวยการเรียนรูที่ 2 งานชางในบาน • หนวยการเรียนรูที่ 3 เสือ้ ผาและเครือ่ งแตงกาย • หนวยการเรียนรูที่ 4 งานประดิษฐเอกลักษณ ไทย • หนวยการเรียนรูที่ 5 งานเกษตร
การออกแบบและเทคโนโลยี
มาตรฐาน ง 2.1 เขาใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสรางสิ่งของเครื่องใช หรือวิธีการตาม กระบวนการเทคโนโลยีอยางมีความคิดสรางสรรค เลือกใชเทคโนโลยีในทางสรางสรรคตอชีวิต สังคม สิ่งแวดลอม และมีสวนรวมในการจัดการเทคโนโลยีที่ยั่งยืน ชั้น
ตัวชี้วัด
สาระการเรียนรูแกนกลาง
ม.4-6 1. อธิบายและเชื่อมโยงความ • เทคโนโลยีมีความสัมพันธกับศาสตรอื่นๆ สัมพันธระหวางเทคโนโลยี โดยเฉพาะวิทยาศาสตร กับศาสตรอื่นๆ
คูม อื ครู
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน
• จะจัดการเรียนการสอนอยู ในหนังสือเรียนชัน้ ม.4 หนวยการเรียนรูที่ 5 ระบบเทคโนโลยี
ชั้น
ตัวชี้วัด
สาระการเรียนรูแกนกลาง
ม.4-6 2. วิเคราะหระบบเทคโนโลยี • ระบบเทคโนโลยี ประกอบดวย ตัวปอน (Input) กระบวนการ (Process) ผลลัพธ (ตอ) (Output) ทรัพยากรทางเทคโนโลยี (Resources) ปจจัยที่เอื้อหรือขัดขวางตอ เทคโนโลยี (Consideration) • การวิเคราะหระบบเทคโนโลยีทําใหทราบ เกี่ยวกับปจจัยในดานตางๆ ที่มีผลตอการ แกปญหาหรือสนองความตองการ 3. สรางและพัฒนาสิ่งของ • การสรางสิง่ ของเครือ่ งใชหรือวิธกี ารตาม เครื่องใชหรือวิธีการตาม กระบวนการ เทคโนโลยี ทําใหผูเรียน ทํางานอยางเปนระบบ สามารถยอนกลับ กระบวนการเทคโนโลยี มาแกไขไดงาย อยางปลอดภัย โดย ถายทอดความคิดเปน • การสรางและพัฒนาสิ่งของเครื่องใชหรือ ภาพฉายและแบบจําลอง วิธีการตองอาศัยความรูที่เกี่ยวของอื่นอีก เชน กลไกและการควบคุมไฟฟาเพื่อนําไปสูการสราง อิเล็กทรอนิกส ชิ้นงาน หรือถายทอด ความคิดของวิธีการเปน • การใชซอฟตแวรชวยในการออกแบบหรือ แบบจําลองความคิดและ นําเสนอผลงาน มีประโยชนในการชวยราง ภาพ ทําภาพ 2 มิติ และ 3 มิติ การรายงานผลโดยใช • การพัฒนาสิ่งของเครื่องใช ตองคํานึงถึง ซอฟตแวรชวยในการ หลักการวิเคราะหผลิตภัณฑเบื้องตน ออกแบบหรือนําเสนอ • หลักการวิเคราะหผลิตภัณฑเบื้องตน ผลงาน เปนการวิเคราะหจุดมุงหมายของการ ออกแบบ ประกอบดวย ชิ้นงานนี้ใชทํา อะไร ทําไมถึงตองมีชิ้นงานนี้ ใครเปน ผูใช ใชที่ไหน เมื่อไหรจึงใช วิธีการที่ทําให ชิ้นงานนี้ทํางานไดตามวัตถุประสงคที่ กําหนดไว • ภาพฉาย เปนภาพแสดงรายละเอียดของ ชิ้นงาน ประกอบดวย ภาพดานหนา ดานขาง ดานบน แสดงขนาดและ หนวยวัด เพื่อนําไปสรางชิ้นงาน
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน
• จะจัดการเรียนการสอนอยู ในหนังสือเรียนชัน้ ม.4 หนวยการเรียนรูที่ 5 ระบบเทคโนโลยี
เสร�ม
11
• หนวยการเรียนรูที่ 6 การออกแบบเทคโนโลยี
คูม อื ครู
ชั้น
เสร�ม
12
คูม อื ครู
ตัวชี้วัด
สาระการเรียนรูแกนกลาง
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน
ม.4-6 4. มีความคิดสรางสรรคใน • ความคิดสรางสรรค มี 4 ลักษณะ (ตอ) การแกปญหาหรือสนอง ประกอบดวย ความคิดริเริ่ม ความคลองใน การคิด ความยืดหยุนในการคิด และความ ความตองการในงานที่ ผลิตเอง หรือการพัฒนา คิดละเอียดลออ • ความคิดริเริ่ม จะเปนลักษณะความคิดที่ ผลิตภัณฑที่ผูอื่นผลิต แปลกใหม แตกตางจากความคิดเดิม • ความคิดแปลกใหมที่ได ตองไมละเมิด ความคิดผูอ นื่ • ความคิดแปลกใหมเปนการสรางนวัตกรรม • หนวยการเรียนรูที่ 6 ที่เปนสวนหนึ่งของทรัพยสินทางปญญา การออกแบบเทคโนโลยี • การวิเคราะหผลดี ผลเสีย การประเมิน 5. วิเคราะหและเลือกใช และการตัดสินใจเพื่อเลือกใชเทคโนโลยีที่ เทคโนโลยีที่เหมาะสม เหมาะสม กับชีวิตประจําวันอยาง สรางสรรคตอชีวิต สังคม • การเลือกใชสิ่งของเครื่องใชอยาง สรางสรรค โดยการเลือกสิ่งของเครื่องใชที่ และสิ่งแวดลอม และมี เปนมิตรกับชีวิต สังคม สิ่งแวดลอม การจัดการเทคโนโลยี ที่ยั่งยืนดวยวิธีการของ • เทคโนโลยีสะอาดเปนเครื่องมือที่ใชในการ จัดการใชเทคโนโลยีเพื่อมุงสูการพัฒนา เทคโนโลยีสะอาด อยางยั่งยืนชนิดหนึ่ง
สาระที่ 4
การอาชีพ
มาตรฐาน ง 4.1 เขาใจ มีทักษะที่จําเปน มีประสบการณ เห็นแนวทางในงานอาชีพ ใชเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาอาชีพ มีคุณธรรม และมีเจตคติที่ดีตออาชีพ ชั้น
ตัวชี้วัด
ม.4-6 1. อภิปรายแนวทางเขาสู อาชีพที่สนใจ 2. เลือกและใชเทคโนโลยี อยางเหมาะสมกับอาชีพ 3. มีประสบการณในอาชีพที่ ถนัดและสนใจ 4. มีคุณลักษณะที่ดีตออาชีพ
สาระการเรียนรูแกนกลาง
• แนวทางเขาสูอาชีพ - เตรียมตัวหางานและพัฒนาบุคลิกภาพ - ลักษณะความมั่นคงและความกาวหนา - การสมัครงาน - การสัมภาษณ - การทํางาน - การเปลี่ยนงาน • การเลือกและใชเทคโนโลยีอยางเหมาะสม กับอาชีพ - วิธีการ - หลักการ - เหตุผล • ประสบการณในอาชีพ - การจําลองอาชีพ - กิจกรรมอาชีพ • คุณลักษณะที่ดีตออาชีพ - คุณธรรม - จริยธรรม - คานิยม
หนวยการเรียนรูในหนังสือเรียน
เสร�ม
13
• หนวยการเรียนรูที่ 7 งานอาชีพ
คูม อื ครู
จุดเนนการพัฒนาคุณภาพผูเรียน* การขับเคลื่อนหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551 และการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษ ที่สอง (พ.ศ. 2552-2561) ใหประสบผลสําเร็จตามจุดเนนการพัฒนาคุณภาพผูเรียน โดยใหทุกภาคสวน รวมกันดําเนินการ กระทรวงศึกษาธิการไดกําหนดจุดเนนการพัฒนาคุณภาพผูเรียน ดังนี้ เสร�ม
14
ทักษะ ความสามารถ
คุณลักษณะ จุดเนนตามชวงวัย
ม. 4-6
แสวงหาความรู เพื่อแกปญหา ใชเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู ใชภาษาตางประเทศ (ภาษาอังกฤษ) มีทักษะการคิดขั้นสูง ทักษะชีวิต ทักษะการสื่อสารอยางสรางสรรคตามชวงวัย
ม. 1-3
แสวงหาความรูดวยตนเอง ใชเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู มีทักษะการคิดขั้นสูง ทักษะชีวิต ทักษะการสื่อสารอยางสรางสรรคตามชวงวัย
• อยูอยางพอเพียง
ป. 4-6
อานคลอง เขียนคลอง คิดเลขคลอง ทักษะการคิดขั้นพื้นฐาน ทักษะชีวิต ทักษะการสื่อสารอยางสรางสรรคตามชวงวัย
• ใฝเรียนรู
ป. 1-3
อานออก เขียนได คิดเลขเปน มีทักษะการคิดขั้นพื้นฐาน ทักษะชีวิต ทักษะการสื่อสารอยางสรางสรรคตามชวงวัย
• ใฝดี
• มุงมั่นในการศึกษา และการทํางาน
คุณลักษณะตามหลักสูตร
• รักชาติ ศาสน กษัตริย • ซื่อสัตยสุจริต • มีวินัย • ใฝเรียนรู • อยูอยางพอเพียง • มุงมั่นในการทํางาน • รักความเปนไทย • มีจิตสาธารณะ
* สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, กระทรวงศึกษาธิการ. แนวทางการนําจุดเนนการพัฒนาผูเรียน สูการปฏิบัติ. (กรุงเทพมหานคร : ชุมนุมสหกรณการเกษตรแหงประเทศไทย, 2553), หนา 3-10.
คูม อื ครู
คําอธิบายรายวิชา รายวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 5 รหัสวิชา ง…………………………………
กลุมสาระการเรียนรู การงานอาชีพและเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 1-2 เวลา 20 ชั่วโมง/ป
ศึกษา วิเคราะห อธิบาย วิธีการทํางานเพื่อการดํารงชีวิตที่เกี่ยวของกับความเปนอยูในชีวิต ประจําวัน สรางและพัฒนาผลงานอยางมีความคิดสรางสรรคหรือสนองความตองการในงานทีผ่ ลิตเองหรือการ เสร�ม พัฒนาผลิตภัณฑที่ผูอื่นผลิต ตามกระบวนการเทคโนโลยีอยางปลอดภัย ถายทอดความคิดของวิธีการสราง 15 ผลงานเปนแบบจําลองความคิดและใชซอฟตแวรชวยในการออกแบบหรือนําเสนอผลงาน อภิปรายแนวทาง เขาสูอาชีพที่สนใจ และเลือกนําเทคโนโลยีมาใชไดอยางเหมาะสมกับอาชีพ ชีวิต สังคม และสิ่งแวดลอม โดยใชทักษะกระบวนการทํางานรวมกัน ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน และทักษะในการแสวงหาความรูเพื่อการดํารงชีวิต ทักษะการคิดอยางสรางสรรค เพือ่ ใหเกิดความรู ความเขาใจในวิธกี ารทํางานและสรางสรรคผลงาน สามารถนําความรูไ ปประยุกตใช ในชีวิตประจําวัน มีประสบการณในอาชีพที่ถนัดและสนใจ มีคุณลักษณะที่ดีตออาชีพ มีคุณธรรมและลักษณะ นิสัยในการทํางาน และมีจิตสํานึกในการใชพลังงาน ทรัพยากร การจัดการเทคโนโลยีอยางคุมคาและยั่งยืน ดวยวิธีการเทคโนโลยีสะอาดเพื่อการอนุรักษสิ่งแวดลอม ตัวชี้วัด ง 1.1 ง 2.1 ง 4.1
ม.4-6/1
ม.4-6/2
ม.4-6/3
ม.4-6/3
ม.4-6/4
ม.4-6/5
ม.4-6/1
ม.4-6/2
ม.4-6/3
ม.4-6/4
ม.4-6/5
ม.4-6/6
ม.4-6/7
ม.4-6/4
รวม 14 ตัวชี้วัด * สําหรับสาระที่ 2 ง 2.1 ม.4-6/1-2 จะจัดการเรียนการสอนในชั้น ม.4
คูม อื ครู
ตาราง
วิเคราะหมาตรฐานการเรียนรูแ ละตัวชีว้ ดั รายวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี ม.5
คําชี้แจง : ใหผูสอนใชตารางนี้ตรวจสอบความสอดคลองของเนื้อหาสาระการเรียนรูในหนวยการเรียนรูกับมาตรฐาน การเรียนรูและตัวชี้วัดชวงชั้น เสร�ม
16
มาตรฐานการเรียนรู และตัวชี้วัด
สาระที่ 1 มาตรฐาน ง 1.1
สาระที่ 2 มาตรฐาน ง 2.1
สาระที่ 4 มาตรฐาน ง 4.1
ตัวชี้วัด
ตัวชี้วัด
ตัวชี้วัด
หนวยการเรียนรู
1
2
3
4
5
6
7
หนวยการเรียนรูที่ 1 : การเรียนรูกระบวนการทํางาน และกระบวนการแกปญหา
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
✓
หนวยการเรียนรูที่ 2 : งานชางในบาน หนวยการเรียนรูที่ 3 : เสื้อผาและเครื่องแตงกาย หนวยการเรียนรูที่ 4 : งานประดิษฐเอกลักษณไทย หนวยการเรียนรูที่ 5 : งานเกษตร
✓
✓
✓
✓
1
2
4
5
✓
✓
✓
1
2
3
4
✓
✓
✓
✓
✓
หนวยการเรียนรูที่ 6 : การออกแบบเทคโนโลยี หนวยการเรียนรูที่ 7 : งานอาชีพ หมายเหตุ ✓ เฉพาะที่สอดคลองกับตัวชี้วัด ม.5 เทานั้น ตัวชี้วัดที่เหลือจะจัดการเรียนการสอนในชั้น ม.4 และ ม.6
คูม อื ครู
3
กระตุน ความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ Expand
ตรวจสอบผล Evaluate
˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ÃÒÂÇÔªÒ¾×é¹°Ò¹
การงานอาชีพ และเทคโนโลยี ม.๕ ชั้นมัธยมศึกษาปที่ ๕
กลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพและเทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
ผูเรียบเรียง
นายมนตรี สมไรขิง ผศ. เพ็ญพร ประมวลสุข นายปญญา สังขภิรมย นางวรรณี วงศพานิชย นายสุวัฏ สอนจันทร นางศิริรัตน ฉัตรศิขรินทร
ผูตรวจ
รศ. สมทรง สีตลายัน ผศ. โสภาพรรณ อมตะเดชะ นายบุญชู เจนคุณาวัฒน
บรรณาธิการ
นายสมเกียรติ ภูระหงษ พิมพครั้งที่ ๕
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ ISBN : 978-616-203-146-5 รหัสสินคา ๓๕๑๗๐๐๑
¤Œ¹¤ÇÒÁÃÙŒ¢ÂÒ¤ÇÒÁ¤Ô´¨Ò¡
¾ÔÁ¾ ¤ÃÑ駷Õè 1 ÃËÑÊÊÔ¹¤ŒÒ 3547005
EB GUIDE
ที่พิมพกํากับหัวขอสําคัญในหนังสือเรียนหลักสูตรแกนกลางฯ ผาน www.aksorn.com ไปยังแหลงความรูทั่วไทย-ทั่วโลก
คณะผูจัดทําคูมือครู วรรณี วงศพานิชย สุวัฏ สอนจันทร
กระตุน ความสนใจ Engage
สํารวจคนหา Explore
อธิบายความรู Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
¤íÒá¹Ð¹íÒ㹡ÒÃ㪌¤íËÒ¹í¹ÑÒ§Ê×ÍàÃÕ¹ กลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพและเทคโนโลยี เปนกลุมสาระที่ชวย
หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยีเลมนี้ ใชประกอบการเรียนการสอน พัฒนาใหผูเรียนมีความรู ความเขาใจ มีทักษะพื้นฐานที่จําเปนตอการดํารงชีวิต รายวิชาพื้นฐาน กลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปที่ ๕ และรูเ ทาทันการเปลีย่ นแปลง สามารถนําความรูเ กีย่ วกับการดํารงชีวติ การอาชีพ เนื้อหาตรงตามสาระการเรียนรูแกนกลางขั้นพื้นฐาน อานทําความเขาใจงาย ใหทั้งความรูและ และเทคโนโลยี ใชในการทํงาออกเป งานอยนาหนงมีวคยการเรี วามคิยดนรู สรตาามโครงสร งสรรคและแข งขัชนา ชวยพัฒนาผูเรียนตามหลั กสูตรและตัมาประยุ วชี้วัด เนืกต้อหาสาระแบ างรายวิ ในสังยคมไทยและสากล นแนวทางในการประกอบอาชี พ รัก่การทํ งานวยทํและ สะดวกแกการจัดการเรี นการสอนและการวัดเห็ผลประเมิ นผล พรอมเสริมองคประกอบอื นๆ ที่จาะช าให ที่ดทีตธิอภการทํ ผูเรียนไดรับความรูมีอเยจตคติ างมีประสิ าพ างาน สามารถดํารงชีวิตอยูในสังคมไดอยางพอเพียงและ
ǪÕéÇÑ´áÅÐÊÒÃСÒÃàÃÕ¹Ãٌ᡹¡ÅÒ§Ï à¹×éÍËҵçµÒÁÊÒÃСÒÃàÃÕ¹Ãٌ᡹¡ÅÒ§ มีความสุข µÑµÒÁ·Õ ãËŒ¤ÇÒÁÃÙŒáÅÐàÍ×é͵‹Í¡ÒùíÒä»ãªŒÊ͹à¾×èÍ èËÅÑ¡ÊٵáíÒ˹´ à¾×èÍãËŒ·ÃÒº¶Ö§ ºÃÃÅصÑǪÕéÇÑ´ áÅÐÊÌҧ¤Ø³ÅѡɳР໇ÒËÁÒÂ㹡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ¹¾Ö§»ÃÐʧ¤ สําหรับหนังสือเรียนที่ใชประกอบการเรียãËŒÍÑนการสอนสํ าหรับผูเ รียนในระดับชัน้ ô §Ò¹»ÃдÔÉ° àÍ¡ÅÑ¡มัɳ ธä·Âยมศึกษาปที่ ๕ (ม.๕) กลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพและเทคโนโลยี จะจัด ทําแยกออกเปน ๒ เลมดวยกัน กลาวคือ แยกเปนการงานอาชีพและเทคโนโลยี เลมหนึ�ง (ซึ�งจะกลาวถึงสาระที่ ๑ การดํารงชีวิตและครอบครัว สาระที่ ๒ การออกแบบและเทคโนโลยี และสาระที่ ๔ การอาชีพ) และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารอีกเลมหนึ�ง (ซึ�งเลมหลังน�้จะเนนหนักสาระที่ ๓ เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่ อ สาร) ทั้ ง น�้ ค รู ผู ส อนและสถานศึ ก ษาพึ ง ใช ควบคู กั น เพื่อประสิทธิภาพในการเรียนการสอนและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ดีของผูเรียน โดยเล ม การงานอาชี พ และเทคโนโลยี จะเป น สาระเกี่ ย วกั บ กระบวน การทํางานในชีวิตประจําวัน เพื่อชวยเหลือตนเอง ครอบครัว และสังคมได Web Guide á¹Ð¹íÒáËÅ‹§¤Œ¹¤ÇŒÒ¢ŒÍÁÙÅ àʹÍà¹×Íé ËÒ์¹·Ñ¡ÉСÃкǹ¡Òà à¡ÃÔè¹¹íÒà¾×èÍãˌࢌÒ㨶֧ÊÒÃÐÊíÒ¤ÑÞ ในสภาพเศรษฐกิจที่พอเพี ไมทําOnline ลายสิ�งแวดลอม เน¹í·í㪌นÒÒã§Ò¹Í‹ การปฏิ ัติจริà¾×งÍè ¡Òùíจนเกิ ҧ໚¹¢Ñบ¹é µÍ¹ Òä» ด à¾ÔèÁย àµÔÁง¼‹Ò¹Ãкº ã¹Ë¹‹Ç·Õè¨ÐàÃÕ¹ ¹ªÕÇÔµ»ÃШíÒÇѹ ความมัน� ใจและภูมàÊÃÔิใÁจในผลสํ เร็จของงาน พบความสามารถ ความถนัด ÊÒÃШҡà¹×éÍาËҹ͡àË¹× Í¨Ò¡·ÕèÁÕã¹เพื่อใหคน ÊÒÃСÒÃàÃÕ Â ¹ÃÙŒ á ¡¹¡ÅÒ§Ï à¾×èÍà¾ÔèÁ¾Ù¹ ¡Ô¨¡ÃÃÁÊÌҧÊÃä ¾² ¹ÃÙŒ à¾×Íè ª‹Ç¾Ѳ¹Ò ความสนใจตนเองáÅТÂÒ¾ÃÁá´¹¤ÇÒÁÃÙ และการนําการออกแบบและเทคโนโลยี าใช¼ÅÊÑไÁดÑÄ·¸Ôอ¹Ò¡ÒÃàÃÕ ยìµÒÁµÑ างสร ㌠ˌ¡ÇŒÒ§¢ÇÒ§ÍÍ¡ä» ¼ÙŒàÃÕ¹ãËŒม ºÃÃÅØ ÇªÕéÇÑ´างสรรค ในการสรางสิ�งของเครื่องใช เพื่อเพิ�มประสิทธิภาพในการดํารงชีวิต ภายในเลมไดจเคัดรียแบ งเน�้อหาแยกเปนหนวยการเรียนรู มีเน�้อหาที่สอดคลอง ด ความ กับสาระการเรียนรูแกนกลาง รวมทั้งมีระดับความยากงายและจํานวนเน�้อหาที่ เหมาะสมกับเวลาเรียน ทั้งน�้ทางคณะผูเรียบเรียงหวังเปนอยางยิ�งวาหนังสือเรียน การงานอาชีพและเทคโนโลยีเลมน�้ จะเปนประโยชนอยางยิ�งตอการนําไปใช ประกอบการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษาทุกแหง ชวยใหผูเรียนไดรับ ความรู มีทักษะ มีคุณลักษณะอันพึงประสงค ตลอดจนบรรลุตัวชี้วัดตามที่ หลักสูตรแกนกลางฯ ไดกําหนดไวทุกประการ
¨Ñ´¡ÅØ‹Áà¹×éÍËÒ໚¹Ë¹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ Êдǡᡋ¡ÒèѴ¡ÒÃàÃÕ¹¡ÒÃÊ͹
วิธีทําสวนประกอบของมาลัย
๑) ตัวมาลัย ๑. ตัดกระดาษใชแลวเปนรูปกลีบตามแบบ ๒. รอยมาลัยเกลียวตามแบบ
หน่วย
การเรียนรู้ที่
ตัวชี้วัด
สร้างผลงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ และมี ทักษะการท�างานร่วมกัน (ง ๑.๑ ม. ๔-๖/๒) มีทักษะการจัดการในการท�างาน (ง ๑.๑ ม. ๔-๖/๓) มีทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการท�างาน (ง ๑.๑ ม. ๔-๖/๔) ■ มี ทั ก ษะในการแสวงห าความรู ้ เ พื่ อ การ ด�ารงชีวิต (ง ๑.๑ ม. ๔-๖/๕) ■ มีคุณธรรมและลักษณะนิ สัยในการท�างาน (ง ๑.๑ ม. ๔-๖/๖) ■ ใช้ พ ลั ง งาน ทรั พ ยากรในการท� างานอย่าง คุ้มค่าและยั่งยืนเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ง ๑.๑ ม. ๔-๖/๗) ■
■
■
่อผลิตงานสิ่งพิมพ์ชนิดต่างๆ โดย ๒.๕) การออกแบบสิ่งพิมพ์ เป็นการออกแบบเพื านท�าความเข้าใจ และสร้างความประทบั ใจให้ มีจดุ หมายเพือ่ ให้สงิ่ พิมพ์มคี วามน่าสนใจ ง่ายต่อการอ่ พิมพ์ โปสเตอร์ แผ่นพับ ใบปลิว นามบัตร อ สื ง หนั อ สื ง หนั ก่ แ ได้ ้ นี บบประเภท กับผู้ชม งานออกแ มพ์ภาพลงบนสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ การ์ดอวยพร บัตรต่างๆ งานพิมพ์ลวดลายผ้า และงานพิ นการออกแบบเพือ่ สือ่ ความหมาย ๒.๖) การออกแบบสัญลักษณ์และเครือ่ งหมาย เป็ เกิดความเข้าใจได้ทนั ที โดยไม่จา� เป็นต้องมีภาษา เป็นสัญลักษณ์หรือเครือ่ งหมายทีผ่ พู้ บเห็นเห็นแล้ว ร เครื่องหมายสถานที่ เครื่องหมายที่ใช้กับ ก�ากับ งานออกแบบประเภทนี้ เช่น เครื่องหมายจราจ ่องหมายตามลักษณะสิ่งของเครื่องใช้ เป็นต้น เครื่องกล เครื่องหมายที่ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื น เป็นการออกแบบเพือ่ เป็นแบบส�าหรับย่อ ขยายผลงา ๒.๗) การออกแบบหุน่ จ�าลอง เป็ บงานออกแบบประเภทน ี้ เช่น หุน่ จ�าลองบ้าน หรั า ๆ ส� ้ น นั ่ ง ดของสิ ตัวจริง หรือเพือ่ ศึกษารายละเอีย าลองทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น หุ่นจ�าลองผังเมือง หุ่นจ�าลองเครื่องจักรกล หุ่นจ�
เกร็ดน่ารู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง ■
■
๓. รอยมาลัยยาวประมาณ ๑๒ นิ้ว นําหัวทายมาผูกเปนวงกลม ๒) ดอกมะลิตูม ๑. เพนทสีชอลกตามรูปแบบเสนทึบ ๒. บิดฟองนํ้าตามแบบ ๓. มัดดายใหดอกใหญประมาณ ๑ ๑ เซนติเมตร ๔. พันฟลอราเทปและตัดกานดอกให๒ เหลือประมาณ ๐.๔ เซนติเมตร ๕. รูปแบบสําเร็จ
ทักษะการท�างานร่วมกัน เป็นการท�างานกลุม่ ท�างานร่วมกับผูอ้ นื่ ได้อย่างมีความสุข ท�างาน อย่ า งมี ก ระบวนการตามขั้น ตอนและฝ ก หลักการท�างานกลุม่ เช่น การประดิษฐ์ของใช้ ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย การใช้พลังงาน ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและ ยั่งยืน เป็นคุณธรรมในการท�างาน
แนวทางการออกแบบสัญลักษณ์ ความหมาย าความเข้าใจวัตถุประสงค์หลักที่ต้องการสื่อ ในการออกแบบสัญลักษณ์ ควรเริ่มต้นจากการท� การออกแบบสัญลักษณ์ ลักษณ์ที่ทุกคนดูแล้วเกิดความเข้าใจตรงกัน ให้เข้าใจร่วมกัน แล้วแปรออกมาเป็นแบบสัญ ลักษณ์ให้ระวังอันตราย ก็ใช้ เด่นชัด และสื่อความหมายได้ทันที เช่น สัญ น ห็ เ ่ ี ท ี ส ใช้ ย า บง่ ย รี เ ู ด ่ นิยมใช้รูปทรงที ้นฐานที่มักน�ามาใช้ใน ก็ใช้รูปร่มกางกันฝน เป็นต้น ส�าหรับรูปแบบพื า ้ กน� ย การเปี ง ะวั ร ห้ ใ ษณ์ ก ลั ญ สั กะโหลก ว หั ป รู การออกแบบสัญลักษณ์มี ๓ รูปแบบ ดังนี้
ง านประดิษฐเอกลักษณไทยเปนชิ้นงานที่จัดทําหรือสรางขึ้นตั ้งแตสมัยบรรพบุรุษ ของไทย ที่สะทอนใหเห็นถึงวิถีชีิวิต วัฒนธรรมประ เพณี ภูมิปญญา เพื่อตกแตงสถานที่ หรือของใชตกแตงกายใหเกิดความสวยงาม งานประดิษฐเอกลักษณไทยมีอยูมากมาย เชน เครื่องประดับจากเปลือกหอย เครื่องจักสาน มาลัยดอกไมสด กระทงดอกไม เครื่องแขวน บายศรี ของเลน เปนตน ดวยคุณคาของงานปร ะดิษฐดังกลาวจึงควรแกการอนุรักษและ สืบสานตอไป ซึง่ นอกจากจะเปนการเผยแพร ค วามรูซ งึ่ เปนขุมทรัพยทางภูมปิ ญ ญาอันสําคัญ ยิ่งแลว ยังเปนการเสริมสรางรายไดในการประกอ บอาชีพดวย
๑. รูปแบบจากธรรมชาติ เช่น คน สัตว์ พืช สิ่งของ เป็นต้น เป็นรูปแบบที่ดูง่าย
2. รูปแบบเรขาคณิต เช่น วงกลม สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม เป็นต้น เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อความ หมายตรงตามความต้องการของ ผู้ออกแบบ
๓) ดอกตุมอุบะ นํากระดาษสาสี่เหลี ่ยมที่ตัดไวมวนเปนแกนดอก พันให แ หมายเลข ๒ มาประกบทีละกลีบ มั ดใหแนนดวยดาย นํากลีบเลี้ยงจํานวน นนดวยดาย และนํากลีบ ๕ กลีบ ติดกับดอกโดยใชกาว ทาเล็กนอย ตัดกานดอกใหขั้วสัั้นที ่สุดและทากาวสวนที่ตัดเพ เพื่อกันลุย
๓. รูปแบบตัวอักษรและตัวเลข ท�าให้เกิดรูปทรงใหม่ที่สวยงาม และสื่ อ ความหมายไ ด้ ส มบู ร ณ์ เช่นเดียวกัน
EB GUIDE
http://www.aksorn.com/LC/Car/M5/13
ลักษณะมาลัย
๑๑๓
๖๘
๑.4 การเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับบุคลิก
เลือกสวมใส่มากกว่าผู้ชาย ดังนั้น แบบของเสื้อผ้าให้ความรู้สึกต่างกัน เสื้อผ้าผู้หญิงมีแบบให้ เสื้อผ้าที่ใช้บ่อยจึงไม่ควรเลือกแบบที่ทันสมัย และเด่นมากเกินไป เพราะจะท�าให้ล้าสมัยเร็ว ทัง้ นี ้ ในการเลือกแบบจะต้องค�านึงถึงบุคลิกของ ผู้สวมใส่และรูปร่างผู้สวมใส่ ดังนี้ ๑. คนลักษณะสุภาพเรียบร้อย ควร เลือกเสื้อผ้าที่ทิ้งตัว แบบเรียบ ติดโบว์ หรือปัก เล็กน้อยเพื่อให้เกิดจุดเด่น ๒. คนลักษณะแข็งแรงแบบนักกีฬา ควรเลือกเสื้อผ้าสีพื้นและมีลายเส้นตรง แบบ เรียบ เช่น เสื้อโปโล เป็นต้น ๓. คนลั ก ษณะมี ค วามเชื่ อ มั่ น ใน คนทีม่ ลี กั ษณะสุภาพเรียบร้อย ควรแต่งกายให้เหมาะสม ตนเองสูง ควรเลือกสีสด แบบเก๋สะดุดตา โดยสวมใส่เสื้อผ้าทิ้งตัว แบบเรียบ
ใบมอบหมายงานที่ ๕.๑
การรับมือกับ
ในการทํางาน อยครัง้ ทีต่ อ้ งประสบกบั ปญหา หรือมลภาติ วะใจ วันของเรานัน้ บ่ อ่ ร่างกายและจ ด�าเนินชีวติ ประจา� ดมักจะเปน็ โทษต กระเพาะ นใหญค่ วามเครีย ในการท�างานหรือ มดันโลหิตสูง โรค ดิ ความเครียด ส่ว ราเก เ ให้ า นท� งๆ ของร่างกาย ควา าท เป็นต้น ดังนัน้ เราจงึ เป็นพิษต่างๆ จ เมือ่ ยตามส่วนต่า ปวด ประส ว หั โรค า รปวด เศร้ ึ ม ต่อไปนี้ เช่น ท�าให้เกิดอากา หลับ จิตใจเกดิ ความวิตกกังวล ซ ความสุข ซึ่งมีดัง งมี า ย่ อ ด้ ไ ่ ไม่ อยู ต ิ ว ท้องผูก ท้องเสีย นอน ่อจะท�าให้เราด�ารงชี อกับความเครียดเพื ควรเรียนรู้วิธีรับมื เครียดนั้น ความ บ ั ก ่ อยู ไ้ ด้ ค่อยๆ เครียด เรามักจะจม เวลาที่เราเกิดความาอะไร ดังนัน้ เราตอ้ งตัง้ สติกบั ตัวเองให แก้ไขปัญหา ห้ได้ จนไมม่ สี มาธิทจี่ ะท� ปัญหา และพจิ ารณาหาแนวทางิดแก้ไขปัญหา ๑. ตั้งสติกับตัวเองใ ั หา ทีม่ าของ ยที่จะตามมา ต้องมีสติค เรียนรูป้ ญ ผล ดี-ข้อเสี โดยวิเคราะห์ถึงข้อ อย่าปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุ ก็ปล่อย ด้วยความรอบคอบ ด อดีตที่ผ่านมา าวันนี้ ิดก็ปล่อยให้มันเกิ ที จงท� โดยคิดว่าอะไรจะเก คตยังมาไม่ถึงก็ค่อยว่ากันอีก ให้มากที่สุด เราให้มากที่สุด ให้มันผ่านไป อนา 2. อยู่กับปัจจุบัน ่กับปัจจุบัน กับตัว เป็นผลดี ม่ ไ ก็ ให้ดีที่สุด หรืออยู สิ่งใดมากๆ าดหวังกับสิ่งหนึ่ง ทุกคนต้องประสบกับความ ีวิต การที่บางครั้งเราค ิต อย่ายึดติด ยดได้ เพราะในช วิตให้มากขึ้น อาจท�าให้เราเครี ง ดังนั้น เราควรปล่อยวางกับชีวง่ดี ก็จะท�าให้ ๓. ยืดหยุ่นกับชี หวั ด ิ กในแ และผ ง องโล วั สมห มากเกินไป และม หรือคาดหวังกับอะไร ถาม เรามีความสุข ว ทางทดี่ จี งหยุดค�า าจไมม่ คี า� ตอบตายตั จะต้องเป็นแบบที่เรา าถามบางค�าถามอ งๆ ตนเอง เพราะค�องถามตนเองว่า แล้วท�าไมสิ่งต่า องการของตวั เองไดม้ ากขึน้ บ กั น ต้ น ้ ึ ข ่ ที และล 4. ลดค�าถาม ให้น้อยลง ให้เราเข้าใจความต้ า าจท� อ ก็ ย อะไร ว า ด้ ท� า ไม” า ต้องการ ว่า “ท� จนไมค่ อ่ ยทีจ่ ะกล้ รู้สึก วในเรอื่ งเล็กๆ น้อยๆ ฝนความ มีบางคนค่อนข้างกลั ื่นจะไม่สบายใจ หรือท�าไปแล้วความมนั่ ใจใน งให้มากขึ้น ดังนัน้ จงมี กลัวว่าท�าไปแล้วคนอ ๕. มั่นใจในตนเอ ยูก่ บั ความเครียด ต่อคนอื่นให้น้อยลงแล้ว งจมอ ้ อ เลยต ของตนเอง ลดความรู้สึกอ่อนไหว ตนเองให้มากขึ้น ท�าในสิ่งที่ควรท�า
กับบุคลิก
เกร็ดน่ารู้
ชนิดของผ้า ส่วนใหญ่จะนิยมใช้กันอยู่ ๓ ชนิด ได้แก่
ผ้าที่น�ามาใช้ในการตัดเสื้อผ้ามีอยู่มากมายหลายชนิด แต่
๓. ผ้าฝายผสมผ้าใยสังเคราะห์ 2. ผ้าใยสังเคราะห์หรือผ้า TK หรือผ้า TC (cotton ผสม (polyester) เนื้อผ้ามีลักษณะด้าน ข้อดีของผ้าฝ้าย polyester) เนื้อผ้ามีลักษณะมัน ข้อดีของผ้า TK คือ
๑. ผ้าฝาย (cotton)
คือ ซับเหงือ่ ได้ดี ระบายอากาศได้ดี สวม ไม่ค่อยยับ อยู่ทรง ไม่หด ไม่ย้วย สีไม่ตก ใส่สบาย จึงเหมาะแก่ผู้อยู่กลางแจ้งและ แต่ข้อเสีย คือ ระบายอากาศได้ไม่ดี เมื่อ โดนแดดบ่อยๆ แต่กม็ ขี อ้ เสีย คือ ยับง่าย สวมใส่จะรู้สึกร้อน จึงเหมาะแก่ผู้ที่อยู่ใน และเมื่อซักบ่อยๆ จะย้วย ห้องแอร์
กิจกรรมสร้างสรรค์พัฒนาการเรียนรู้
เสริมสาระ
เนื้อผ้ามีลักษณะมันน้อยกว่าผ้า TK ระบายอากาศไม่ค่อยดี นิยมทอผ้า ให้เป็นรูเล็กๆ เพื่อช่วยระบายอากาศ และเพื่อความสบายขณะสวมใส่
๓๕
à¡Ãç´¹‹ÒÃÙŒà¾ÔèÁàµÔÁ¨Ò¡à¹×éÍËÒ ÁÕá·Ã¡à»š¹ÃÐÂÐæ
สุข
ิต กระทรวงสาธารณ
o.th กรมสุขภาพจ
ที่มา : www.dmh.g
เรื่อง การปลูกพืชในท้องถิ่น
ค�าชี้แจง ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมเป็นรายกลุ่มโดยปฏิบัติงานตามที่ก�าหนด ๑. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มตามความสนใจ กลุ่มละ ๔-๖ คน เพื่อศึกษาการปลูกพืชในท้องถิ่น ตามความสนใจของกลุ่ม (โดยแต่ละกลุ่มไม่ควรวางแผนการปลูกพืชชนิดเดียวกัน) ๒. ศึกษาข้อมูลการปลูกพืชจากแหล่งการเรียนรูต้ า่ งๆ เช่น หนังสือพิมพ์ เกษตรกรในท้องถิน่ หรือเกษตรอ�าเภอ หรือสืบค้นจากอินเทอร์เน็ต ตามความเหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น ๓. บันทึกผลการปลูกพืชลงในแบบฝึกปฏิบัติการวางแผนปลูกพืช ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ แบบฝึกปฏิบัติการวางแผนปลูกพืช ชื่อกลุ่ม ........................................... กลุ่มที่ ............................. รายชื่อสมาชิกกลุ่ม ๑) ................................................................................. ๔) .............................................................................. ๒) ................................................................................. ๕) .............................................................................. ๓) ................................................................................. ๖) .............................................................................. พืชที่จะผลิต .................................................... อายุการเก็บเกี่ยว ........................ วัน จ�านวนพื้นที่ใช้ผลิต .................. ตารางเมตร แนวทางการใช้ประโยชน์จากผลผลิตพืช ................. ....................................................................................................................................................................................
ขั้นตอนการปฏิบัติงาน วัน / เดือน / ปี
๕
รายการปฏิบัติ
ผู้รับผิดชอบ
หมายเหตุ
...........................
.......................................................................................... ........................ .....................
...........................
.......................................................................................... ........................ .....................
...........................
.......................................................................................... ........................ .....................
...........................
.......................................................................................... ........................ .....................
๔. น�าเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน จากนั้นอภิปรายและสรุปผลการวางแผนการปลูกพืช ๕. น�าผลงานการวางแผนการปลูกพืชไปฝึกปฏิบตั จิ ริงในแปลงปลูกพืชหรือปลูกพืชในภาชนะ ของโรงเรียน หรือปลูกที่บ้านตามความเหมาะสม
99
คณะผูเรียบเรียง
กระตุน ความสนใจ Engage
หน่วยการเรียนรู้ที่
สํารวจคนหา Explore
๑
●
●
ò
Expand
ทักษะกระบวนการทíางานและกระบวนการแก้ป˜Þหา หลักการทíางานเพื่อการดíารงชีวิต การแก้ป˜Þหาในการทíางานด้วยวง¨ร PDCA การแก้ป˜Þหาในการทíางานด้วยกิ¨กรรม ๕ ส
งานช‹างãนºŒาน ●
●
๓
บทบาทหน้าที่ของตนเองที่มีต่อสมาชิกในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน การ«่อมแ«มและติดตั้งอุปกรณ์ เครื่องใช้ภายในบ้าน
เÊ×éอ¼ŒาแลÐเคร×èองแต‹งกาย ● ● ● ●
หน่วยการเรียนรู้ที่
ขยายความเขาใจ
¡าÃàÃีÂนÃÙŒ¡ÃкÇน¡า÷íางานáÅÐ ¡ÃкÇน¡าÃá¡Œ»˜ÞËา ●
หน่วยการเรียนรู้ที่
Explain
ตรวจสอบผล Evaluate
ÊÒúÑÞ ●
หน่วยการเรียนรู้ที่
อธิบายความรู
๔
การเลือกใช้เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย การเลือก«ื้อเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย การ«่อมแ«ม ตกแต่ง และดัดแปลงเสื้อผ้า การตัดเยçบเสื้อผ้าและของใช้ภายในบ้าน
งาน»รдÔษ° เอกลÑกษ³ äทย ●
● ●
ความหมาย ความสíาคัÞ และประโยชน์ของงานประดิษ°์ ที่เปšนเอกลักษณ์äทย ประเภทของงานประดิษ°์ที่เปšนเอกลักษณ์äทย ตัวอย่างงานประดิษ°์ที่เปšนเอกลักษณ์äทย
๑-๑๐ ๒ ๓ ๖ ๙
๑๑-๓๐ ๑๒ ๑๕
๓๑-๕ø ๓๒ ๓๖ ๔๓ ๔๘
๕ù-๗๔ ๖๐ ๖๑ ๖๔
กระตุน ความสนใจ Engage
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
Explore
หน่วยการเรียนรู้ที่
Explain
๕
Evaluate
การปลูกพืช การเลี้ยงสัตว์
๗๖ ๘๙
การออกแบบเทคโนโลยี ● ● ● ●
หน่วยการเรียนรู้ที่
ตรวจสอบผล
๗๕-๑๐๐
●
๖
Expand
งานเกษตร ●
หน่วยการเรียนรู้ที่
ขยายความเขาใจ
๗
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยี การออกแบบเทคโนโลยี การเขียนแบบชิ้นงานหรือผลิตภัณฑ์ กระบวนการเทคโนโลยีกับการออกแบบชิ้นงาน
งานอาชีพ ● ● ● ●
แนวทางการเข้าสู่อาชีพ การเลือกใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมกับการประกอบอาชีพ ประสบการณ์ในอาชีพ คุณลักษณะที่ดีต่ออาชีพ
บรรณานุกรม
๑๐๑-๑๓๐ ๑๐๒ ๑๐๙ ๑๒๒ ๑๒๖
๑๓๑-๑๕๔ ๑๓๒ ๑๔๖ ๑๔๘ ๑๕๐
๑๕๕-๑๕๖
กระตุน ความสนใจ
ñ
กระตุEngage นความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
หน่วย
การเรียนรู้ที่
1. อธิบายวิธีการทํางานเพื่อการดํารงชีวิตได 2. ใชทกั ษะการจัดการในการทํางาน ทักษะการ ทํางานรวมกัน ทักษะกระบวนการแกปญหา ในการทํางาน ทักษะการแสวงหาความรู ในการสรางงานอยางมีความคิดสรางสรรค 3. มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยที่ดีในการทํางาน 4. ใชทรัพยากรในการทํางานอยางคุมคาและ ยั่งยืน
¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ¡Ãкǹ¡Ò÷íÒ§Ò¹ áÅСÃкǹ¡ÒÃá¡Œ»˜ÞËÒ ตัวชี้วัด
อธิบายวิธีการท�างานเพื่อการด�ารงชีวิต (ง ๑.๑ ม. ๔-๖/๑) ■ สร้างผลงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์และ มีทกั ษะการท�างานร่วมกัน (ง ๑.๑ ม. ๔-๖/๒) ■ มีทักษะการจัดการในการท�างาน (ง ๑.๑ ม. ๔-๖/๓) ■ มีทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการท�างาน (ง ๑.๑ ม. ๔-๖/๔) ■ มีทักษะในการแสวงหาความรู้เพื่อการด�ารง ชีวิต (ง ๑.๑ ม. ๔-๖/๕) ■ มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยในการท�างาน (ง ๑.๑ ม. ๔-๖/๖) ■ ใช้ พ ลั ง งาน ทรั พ ยากรในการท� า งานอย่ า ง คุ้มค่าและยั่งยืนเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ง ๑.๑ ม. ๔-๖/๗) ■
สมรรถนะของผูเรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแกปญหา 3. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต
คุณลักษณะอันพึงประสงค
สาระการเรียนรู้แกนกลาง ■
1. 2. 3. 4.
วิธีการท�างานเพื่อการด�ารงชีวิต เป็นการ ท�างานที่จ�าเป็นเกี่ยวกับความเป็นอยู่ในชีวิต ประจ�าวัน
กระบวนการทํางานและกระบวนการแกปญหาเปนกระบวนการที่สําคัญในการทํางาน เพือ่ การดํารงชีวติ โดยเปนการทํางานทีม่ รี ะบบ มีขนั้ ตอน กระบวนการทํางานและกระบวนการ แกปญ หามีลกั ษณะเดน คือ การทีเ่ ราเปนผูป ฏิบตั งิ านดวยตนเอง ไดรจู กั พัฒนาทักษะการคิด แกปญหาอยางมีขั้นตอน มีเหตุผล และฝกการทํางานกลุม การแกปญหาที่ดีควรหลีกเลี่ยง การยึดติดกับวิธีการตายตัวที่เชื่อวาจะนําไปสูการแกปญหา หากแตจะตองคิดอยูเสมอวาวิธี การแกปญหามีมากกวาหนึ่งทาง ซึ่งเราจําเปนตองเลือกทางที่ดีที่สุดเพื่อประหยัดคาใชจาย และเกิดความคุม คามากทีส่ ดุ การเรียนรูก ระบวนการทํางานและกระบวนการแกปญ หาจะชวย ใหเราฝกวิธีทํางานอยางสมํ่าเสมอ ทั้งการทํางานเปนรายบุคคลและทํางานเปนกลุม ชวยให เกิดความคิดวิธีการแกปญหาตางๆ ตลอดจนชวยใหเกิดความชํานาญในการทํางานดวย
เปาหมายการเรียนรู
ซื่อสัตยสุจริต มีวินัย ใฝเรียนรู มุงมั่นในการทํางาน
กระตุน ความสนใจ
Engage
ครูใหนักเรียนดูภาพหนาหนวย จากนั้นถาม คําถาม เพื่อกระตุนความสนใจของนักเรียน • นักเรียนคิดวาการทํางานมีความสําคัญตอ การดํารงชีวิตอยางไร • นักเรียนมีเทคนิคอะไรที่ทําใหสามารถ ทํางานไดประสบผลสําเร็จ
เกร็ดแนะครู ครูควรจัดการเรียนรูเพื่อใหนักเรียนมีความรูความเขาใจเกี่ยวกับการเรียนรู กระบวนการทํางานและกระบวนการแกปญหา ใหสามารถอธิบายวิธีการทํางานเพื่อ การดํารงชีวิตได มีทักษะการจัดการในการทํางาน ทักษะการทํางานรวมกัน ทักษะ กระบวนการแกปญหาในการทํางาน ทักษะการแสวงหาความรูเพื่อการสรางงาน อยางมีความคิดสรางสรรค มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยที่ดีในการทํางาน และใช ทรัพยากรในการทํางานอยางคุม คาและยัง่ ยืน โดยครูจดั กิจกรรมการเรียนรู ดังนี้ • ใหนักเรียนตอบคําถามและแสดงความคิดเห็น เพื่อใหเกิดความรูความเขาใจ เกี่ยวกับกระบวนการทํางานและกระบวนแกปญหา • ใหนักเรียนทํางานกลุมโดยการนําวงจร PDCA มาใชในกระบวนการทํางาน และแกปญหา เพื่อใหนักเรียนสามารถแกปญหาในการทํางานได • ใหนักเรียนทํากิจกรรม 5 ส ที่บาน เพื่อใหสามารถแกปญหาการทํางานได จากกิจกรรมดังกลาว คูมือครู
1
กระตุน ความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
กระตุEngage นความสนใจ
Exploreนหา สํารวจค
กระตุน ความสนใจ
Engage
ครูใหนักเรียนดูภาพชิ้นงานประเภทตางๆ แลว ตั้งคําถามกระตุนความสนใจนักเรียน • ในการทําชิ้นงานดังกลาวใหสําเร็จจะตองใช ทักษะกระบวนการทํางานใดบาง (แนวตอบ ในการทําชิ้นงานใหสําเร็จจะตอง อาศัยทักษะกระบวนการทํางานที่หลากหลาย เชน ใชทักษะกระบวนการแกปญหา ทักษะ การทํางานกลุม ทักษะการแสวงหาความรู ทักษะการจัดการงาน เปนตน)
สํารวจคนหา
๑. ทักษะกระบวนการท�างานและกระบวนการแก้ปัญหา การท�างานมีความส�าคัญต่อชีวติ มนุษย์เป็นอย่างยิง่ อาจกล่าวได้วา่ การท�างานเป็นส่วนหนึง่ ของชีวติ ทีป่ ฏิบตั มิ ากกว่ากิจกรรมใดๆ การท�างานเป็นสิง่ ทีใ่ ห้ประสบการณ์ทมี่ คี ณ ุ ค่าต่อชีวติ มนุษย์ เพราะเป็นโอกาสที่ท�าให้เกิดการวางแผน การปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ การปรับปรุงแก้ไขและ พัฒนาระบบให้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น การท�างานจึงเป็นการเปิดโอกาสให้คนแสดงออกถึงเชาว์ปัญญา ความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ อันจะน�ามาซึ่งเกียรติภูมิและความพึงพอใจในชีวิต ๑) ทักษะกระบวนการท�างาน หมายถึง การท�างานด้วยตนเอง โดยมุ ่งเน้นการปฏิบัติ 1 อย่างสม�่าเสมอ ทั้งการท�างานเป็นรายบุคคลและการท�างานเป็นกลุ่ม เพื่อให้สามารถท�างานได้ บรรลุตามเป้าหมาย ซึ่งกระบวนการท�างานมีขั้นตอน ดังนี้ ๑.๑) การวิเคราะห์งานหรือภาระงาน คือ การก�าหนดภาระงานหรือแจกแจงงานที่จะ ท�าว่าเป็นงานประเภทใด หรือลักษณะงานที่ท�าต้องใช้เครื่องมือและอุปกรณ์อะไรบ้าง และมีล�าดับ ขั้นตอนในการปฏิบัติงานอย่างไร กล่าวคือ ฝึกให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคนมองงานโดยภาพรวมออกมา ว่าจะต้องท�างานกับใคร ท�างานที่ไหน และท�างานอย่างไร 2 ๑.๒) การวางแผนในการปฏิบัติงาน คื าน อ การวางแผนในการท�างานว่าจะใช้ก�าลังคนใน การท�างานอย่างไร จะท�าคนเดียวหรือท�าเป็นกลุ่ม ถ้าท�าเป็นกลุ่มจะต้องแบ่งหน้าที่การท�างานกัน ง องใช้เงินลงทุนมากน้อยเท่าไร ตลอดจน อย่างไร ต้ต้องใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมืออะไรบ้าง ต้ การก�าหนดรูปแบบและวิธีการท�างานอย่างเป็นขั้นตอนจนงานส�าเร็จ าน คือ การท� การท�างานตามล�าดับขัน้ ตอนทีว่ างแผนไว้ เป็นการฝึกให้มนี สิ ยั ๑.๓) การปฏิบตั งิ าน คื รักการท�างาน มีความรับผิดชอบ ขยัน อดทน ซื่อสัตย์ และสามารถตรวจสอบกระบวนการ ระยะๆ เพื่อให้งานที่ท�า ท�างานของตนเองเป็นระยะๆ มีคุณภาพ ๑.๔) การประเมินผลการท�างาน คอื การ ตรวจสอบและประเมินผลการท�างานทุกขัน้ ตอน โดยจะต้องวิเคราะห์ถงึ สภาพปัญหาทีเ่ กิดขึน้ ใน การท�างาน ตลอดจนหาวิธกี ารและกระบวนการ หา อ่ งานส�าเร็จก็ให้ประเมินว่าผลงาน แก้ปญั หา เมื ในการท�างานเป็ างานเป็นกลุ่มจะต้องมีการวางแผนและปฏิบัติ งานตามแผนที่วางไว้ เพื่อให้การท�างานส�าเร็จตาม บรรลุตามจุดมุ่งหมายหรือไม่ มีข้อดี ข้อเสีย เป้าหมาย อย่างไร เพื่อจะได้น�าไปปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น
Explore
ใหนักเรียนศึกษาคนควาเกี่ยวกับทักษะ กระบวนการทํางานและการแกปญ หา จากหนังสือเรียน หนา 2-3 หรือศึกษาจากแหลงการเรียนรูอื่นๆ เพิ่มเติม หรือสอบถามจากผูมีประสบการณในการ ทํางาน เปนตน เพื่อนําขอมูลที่ศึกษามาอภิปราย รวมกันในชั้นเรียน
อธิบายความรู
Explain
ครูและนักเรียนอภิปรายรวมกันถึงทักษะ กระบวนการทํางานและกระบวนการแกปญ หา สามารถนํามาปฏิบัติงานไดอยางไร โดยครูสุมเลือก นักเรียนออกมาอธิบาย (แนวตอบ ทักษะกระบวนการทํางานประกอบดวย ขั้นตอน ดังนี้ 1. การวิเคราะหงาน หรือการกําหนด ภาระงานในภาพรวม 2. การวางแผนในการปฏิบัติ งาน แบงหนาที่การทํางาน วัสดุ อุปกรณ กําลังคน ในการทํางาน 3. การปฏิบัติงาน ทํางานตามลําดับ ขั้นตอนตามที่วางแผนไว 4. ประเมินผลการทํางาน เพื่อใหทราบปญหา สวนกระบวนการแกปญหาประกอบดวย ขั้นตอน ดังนี้ 1. การสังเกต 2. การวิเคราะห 3. การสรางทางเลือก 4. การประเมินทางเลือก)
2
นักเรียนควรรู 1 การทํางานเปนกลุม ปจจัยที่นําไปสูการทํางานเปนกลุมใหประสบความ สําเร็จ ไดแก ความไววางใจกัน มีความซื่อสัตยตอกัน มีการมอบหมายงานอยาง ชัดเจนและทุกคนในกลุมยอมรับภารกิจนั้น สมาชิกแตละคนตองเขาใจและ ปฏิบัติตามบทบาทหนาที่ของตนและเขาใจบทบาทของผูอื่นในกลุม และการสราง บรรยากาศของการทํางานอยางเปนกันเองเพื่อใหทุกคนชวยกันทํางานอยางจริงจัง และจริงใจ ไมแสดงความเบื่อหนายงาน 2 การวางแผนในการปฏิบัติงาน จะชวยในการกําหนดทิศทางในการทํางาน ทําใหทุกคนสามารถปฏิบัติงานใหเปนไปในทิศทางเดียวกัน หากไมมีการวางแผน ก็จะทําใหแตละคนทํางานไปคนละทิศละทาง จนอาจกอใหเกิดความสับสน ความ ขัดแยง และความลาชาในการทํางาน
2
คูมือครู
ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET
ขอใดตอไปนี้จัดเปนขั้นตอนการวางแผนในการปฏิบัติงาน 1. แจมทําอุปกรณสําหรับกองเชียร 2. จอยกําหนดงบประมาณในการจัดงานกีฬาสี 3. จิ๋วเรียกประชุมสมาชิกเพื่อใหสมาชิกเตรียมตัวจัดงานกีฬาสี 4. แจววิเคราะหปญหาในการจัดงานกีฬาสีเพื่อการจัดงานปหนา วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. ขั้นตอนการวางแผนในการปฏิบัติ งาน เปนขั้นตอนในการจัดวาจะใชคนเทาใด ใชอุปกรณใดบาง ใชเงินลงทุนเทาใด รูปแบบงานเปนอยางไร ซึ่งจอยกําหนด งบประมาณในการจัดงานกีฬาสี จัดอยูในขั้นตอนการวางแผนใน การปฏิบัติงานเนื่องจากเปนการกําหนดคาใชจายในงานกีฬาสีเพื่อ ใหสมาชิกสามารถจัดสรรงบประมาณในการจัดงานไดอยางลงตัว
กระตุน ความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
กระตุEngage นความสนใจ
สํารวจค Exploreนหา
กระตุน ความสนใจ ๒) ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา หมายถึง กระบวนการที่ต้องการให้ผู้ปฏิบัติงาน เกิดความคิดหาวิธีการแก้ปัญหาต่างๆ อย่างมีระบบ ซึ่งมีขั้นตอน ดังนี้ ๒.๑) การสังเกต เริ่มจากเราจะต้องศึกษาข้อมูลเบื้องต้น และท�าความเข้าใจใน ปัญหานัน้ ๆ ๒.๒) การวิเคราะห์ เป็นการจ�าแนกและจัดล�าดับความส�าคัญ สาเหตุของปัญหา แต่ละปัญหาที่เกิดในขณะท�างาน และเลือกแก้ปัญหาที่ส�าคัญก่อนตามล�าดับความเหมาะสม 1 ๒.๓) การสร้างทางเลือก เป็นการเปิดโอกาสให้เราได้แสวงหาทางเลือกในการ แก้ปัญหาอย่างหลากหลาย ซึ่งอาจใช้วิธีศึกษาค้นคว้า ทดลอง ตรวจสอบ เพื่อเป็นข้อมูลของการ ตัดสินใจหาทางเลือกในการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดและมีผลกระทบต่อการท�างานน้อยที่สุด ๒.๔) การประเมินทางเลือก เป็นการพิจารณาข้อมูลของทางเลือกต่างๆ แล้วน�า มาประเมินทางเลือก ต้องมีการวางแผนปฏิบัติงานอย่างเป็นขั้นตอน บันทึกผลการปฏิบัติงาน เพื่อรายงาน และตรวจสอบความถูกต้องของทางเลือกในการแก้ปัญหา
๒. หลักการท�างานเพื่อการด�ารงชีิวิต 2.๑ หลักการพัฒนาคุณภาพในการท�างาน ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเราเพื่อให้เป็นคนดี คนเก่ง และให้การท�างานมีคุณภาพดีเป็น เป้าหมายส�าคัญ การฝึกทักษะการท�างานอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ควรมีการฝึ 2 กทักษะทางด้านการ เข้าสังคม การท�างานเป็นกลุ่มหรือหมู่คณะ การปรับตัวให้มีมนุษยสัมพันธ์และเสริมสร้างลักษณะ ชีวิตบางประการด้วย ส�าหรับหลักการพัฒนาคุณภาพในการท�างาน มีดังนี้ มีสติปัญญา ความเฉลียวฉลาด มีจริยธรรม ซื่อสัตย์ และเสียสละ มีความรู้และประสบการณ์ในงานที่ท�า มีความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง สร้างแรงจูงใจ ความมานะพากเพียรไปสู่ความส�าเร็จ มีความคิดสร้างสรรค์ คิดเป็น ท�าเป็น และจัดการเป็น มีทัศนคติ ค่านิยมที่ดีต่อการท�างานและสถานการณ์แวดล้อมทั่วไป
๓
ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET
สิ่งใดตอไปนี้ที่ทําใหการทํางานกลุมประสบความสําเร็จ 1. หัวหนากลุมมีความรูมาก 2. สมาชิกในกลุมมีสุขภาพจิตที่ดี 3. หัวหนากลุมมีความเชื่อมั่นในตนเองสูง 4. สมาชิกในกลุมรอรับคําสั่งจากหัวหนากลุม
วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. ในการทํางานกลุมใหประสบ ความสําเร็จจะตองมีมนุษยสัมพันธที่ดีตอกัน เริ่มจากการมี สุขภาพจิตที่ดี จะทําใหยิ้มแยมแจมใส มีเหตุผลมากขึ้น ไมใช อารมณในการทํางาน ทําใหเรามองโลกในแงดี รูจักการเสียสละ และใหอภัย ดังนั้นการมีสุขภาพจิตที่ดีเปนสิ่งสําคัญในการ ทํางานกลุมที่จะขาดไปไมได
1. ครูนําภาพยนตรหรือรายการโทรทัศน หนังสั้น เกี่ยวกับชีวิตของวัยรุนที่มุงมั่นในการทํางาน จนประสบความสําเร็จ เรื่อง วัยรุนพันลาน มาใหนักเรียนดูหรือใหนักเรียนไดศึกษาชีวิต ของบุคคลที่ประสบความสําเร็จในการทํางาน เพื่อใหนักเรียนไดเห็นทักษะในการทํางาน ที่ประสบผลสําเร็จ และครูซักถามนักเรียนวา • นักเรียนไดหลักการทํางานอะไรจากการดู เรื่องดังกลาว (แนวตอบ เชน การมีความเชื่อมั่นในตนเอง ความมานะพากเพียร การมีความคิด สรางสรรค เปนตน)
สํารวจคนหา
Explore
ครูใหนักเรียนศึกษาคนควาเกี่ยวกับหลักการ ทํางานเพื่อการดํารงชีวิต จากหนังสือเรียน หนา 2-3 หรือศึกษาจากแหลงการเรียนรูอื่นๆ เพิ่มเติม หรือสอบถามจากผูมีประสบการณในการ ทํางาน เปนตน เพื่อนําขอมูลที่ไดมาอภิปราย รวมกันในชั้นเรียน
อธิบายความรู
มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี
หลักการพัฒนา คุณภาพ ในการท�างาน
Engage
Explain
ครูใหนักเรียนชวยกันแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับหลักการพัฒนาคุณภาพในการทํางาน วาสามารถนํามาใชในการทํางานไดอยางไร (แนวตอบ หลักการพัฒนาคุณภาพในการ ทํางาน เชน การมีสติปญญา ทําใหสามารถแก ปญหาในการทํางานไดอยางมีประสิทธิภาพ การมีความรูและประสบการณ การมีความมานะ พากเพียร เพราะหากขาดหลักการนี้จะทําใหงาน ไมประสบผลสําเร็จหรืองานไมมีประสิทธิภาพ)
นักเรียนควรรู 1 ทางเลือกในการแกปญหา หากประสบปญหาในการทํางานอยาใชทางเลือก ในการแกปญหาเพียงทางเดียว เพราะจะเปนการจํากัดทางเลือกทางอื่นและยัง ทําใหเสียโอกาสในทางเลือกอื่นๆ ในการแกปญหา นอกจากนี้จะตองรวบรวม วิเคราะหขอดี-ขอเสียของทางเลือกแตละแนวทาง เพื่อนํามาปรับใชใหเหมาะสม กับลักษณะของปญหากับงานนั้นๆ 2 การปรับตัวใหมีมนุษยสัมพันธ เชน การทักทายปราศรัยผูอื่นกอน การรับ ฟงความคิดเห็นของผูอื่น การไมดูถูกผูที่ออนดอยกวา การไมเห็นแกตัว ชวยเหลือ เกื้อกูลซึ่งกันและกัน การมีกิริยาสุภาพพูดจาไพเราะ การยิ้มแยมแจมใส เปนตน หากเรารูจักปรับตัวใหมีมนุษยสัมพันธที่ดี ยอมเปนที่นาเชื่อถือรักใครของผูอื่น เกิดความราบรื่นในการคบหาสมาคม และการทํางานประสบผลสําเร็จ ทํางาน รวมกันอยางมีความสุข
คูมือครู
3
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
Explain
1. ครูใหนกั เรียนชวยกันแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับ ประเด็นความสําคัญของคุณภาพในการทํางาน วามีความสําคัญอยางไรในยุคปจจุบัน โดยครู ใหอาสาสมัครตัวแทนนักเรียนมา 3-4 คน ออกมาแสดงความคิดเห็นที่หนาชั้นเรียน (แนวตอบ คุณภาพในการทํางานมีความสําคัญมาก ในปจจุบันมีการแขงขันกันสูง เชน ในภาคธุรกิจ ที่มุงเนนคุณภาพของงานเพื่อศักยภาพในการ แขงขัน หากคุณภาพของงานไมดีก็ไมสามารถ แขงขันกับธุรกิจอืน่ ได ทางดานแรงงานก็เชนกัน หากขาดทักษะในการทํางาน ผลงานไมมี ประสิทธิภาพ ก็จะเปนสาเหตุหลักที่ทําใหถูก เลิกจางในที่สุด) 2. ครูใหนักเรียนชวยกันบอกวิธีการพัฒนาการ ทํางานใหมีคุณภาพมากขึ้น ใหนักเรียนออกมา อธิบายแตละขั้นตอนใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน (แนวตอบ การพัฒนาการทํางานใหมีคุณภาพ มีวิธีการ เชน 1. ปรับปรุงและพัฒนาวิธีการทํางาน โดย ลดทอนขั้นตอนที่ยุงยากซับซอนลงไป เพื่อให ทํางานไดสะดวกสบายและคลองแคลววองไว มากขึ้น 2. คนหาวิธีการทํางานที่ชวยใหประหยัด ทรัพยากร เชน เวลา แรงงาน วัสดุ อุปกรณ ใหคุมคามากขึ้น 3. พัฒนาการทํางานใหถูกตอง เพื่อใหเกิด ความปลอดภัยตอการทํางาน 4. พยายามสรางหรือคนหาวิธีทํางานที่สราง ความพอใจใหแกตนเองและผูอื่น เพื่อใหมี ประสบการณการทํางานมากขึ้น)
1
2.2 คุ คุณภาพในการท�างาน
โลกในปัจจุบันมีการแข่งขันสูง มีคนว่างงานเป็นจ�านวนมาก บริษัทหรือสถานประกอบการ หลายแห่งปลดพนักงานออก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนเหล่านั้นขาดคุณภาพในการท�างาน ดังนั้น ถ้าหากเราไม่รู้จักปรับปรุงและพัฒนาการท�างานของตนเองให้มีคุณภาพมากขึ้นตามล�าดับ แม้ว่า จะมีประสบการณ์ในการท�างานก็ตาม เราก็จะ ไม่สามารถเพิม่ คุณภาพในการท�างานได้ ซึง่ การ พัฒนาการท�างานให้มีคุณภาพมีวิธีการ ดังนี้ ๑. ปรับปรุง พัฒนาวิธีการท�างานให้ สะดวกสบายและดีขึ้นกว่าเดิม เช่น ลดขั้นตอน หรือเพิม่ เทคนิคบางอย่างเข้าไป เพือ่ ให้สามารถ ท�างานได้คล่องแคล่วว่องไวขึ้น เป็นต้น ๒. ค้นหาวิธกี ารท�างานให้ประหยัด ลด การน�าอุปกรณ์และกระบวนการเทคโนโลยีมาช่วยใน การใช้ อุ ป กรณ์ แ ละก� า ลั ง คนได้ อ ย่ า งคุ ้ ม ค่ า การท�างาน จะท�าให้ท�างานได้สะดวกสบายและงานมี เพื่ อ เพิ่ ม ผลผลิ ต ในการท� า งาน หรื อ ให้ ง าน ประสิทธิภาพมากขึ้น มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพมากขึ้ น โดยน� า กระบวนการ เทคโนโลยีมาใช้ในการท�างาน ๓. พัฒนาการท�างานให้มีความถูกต้องเพื่อลดการสูญเสีย และเพิ่มความปลอดภัยใน การท�างาน ๔. พยายามสร้างหรือค้นหาวิธีการท�างานที่สร้างความพอใจให้แก่ตนเองและผู้อื่น มากกว่าที่เป็นอยู่เพื่อให้ประสบการณ์การท�างานเพิ่มขึ้น สามารถพัฒนาไปสู่คุณภาพได้
2.๓ วิ 2.๓ วิธีท�างานอย่างมีความสุข คนเราส่วนใหญ่ในปัจจุบนั มักจะไม่ได้ทา� งานในสิง่ ทีต่ นอยากจะท�าจริงๆ แต่กลับต้องท�างานที่ ใจไม่รกั ไม่ ไม่ชอบ อบ แต่ แต่ทตี่ อ้ งจ�าใจท�าก็เพราะไม่มที างเลือกก เพือ่ จะมีรายได้มาเลีย้ งชีวติ และครอบครัว ดังนั้น เพื่อให้เกิดความรู้สึกอยากท�างาน งาน จึงขอแนะน�าเคล็ดลับวิธีท�างานซึ่งเราสามารถน�าไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ�าาวัวันได้โดยมี ๓ วิธี ดังนี้ ๑) มองให้เห็นคุณค่าของงาน การท�างานทุกอย่างมีคณุ ค่าต่อการด�ารงชีวติ หากเรา รู้จักมองให้เห็นคุณค่าของงานที่ก�าลังท�าอยู่ว่าได้ช่วยเหลือเกื้อกูลใครหรือท�าประโยชน์แก่ใครบ้ 2 าง เราก็จะเกิดความรัก ความภาคภูมิใจจ และความมั่นใจในงานของตนเอง ใจในงานของตนเอง ซึ่งจะเป็นพลังใจให้เรา ท�างานอย่างมีความสุขมากขึ้น หรือสามารถต่อสู้กับงานที่ยากล�าบากหรือน่าเบื่อหน่ายต่อไปได้ 4
นักเรียนควรรู 1 คุณภาพในการทํางาน ประกอบดวย ชั่วโมงการทํางาน สภาพแวดลอม การทํางาน คาจาง ผลประโยชนและบริการ ความกาวหนาในการทํางาน และ การมีมนุษยสัมพันธ ซึ่งมีผลตอการปฏิบัติงานและยังเปนแรงจูงใจใหเกิดความ ตองการทํางานเพื่อนําไปสูประสิทธิภาพและเกิดการเพิ่มผลผลิตของบริษัท หรือองคกร ในที่สุด รวมทั้งสงผลตอเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอีกดวย 2 พลังใจ การที่จะมีพลังใจในการทํางานไดนั้น ตองเริ่มตนจากการรูจักตนเอง กอนวาอะไรเปนสิ่งที่มีคาและเปนที่ตองการมากที่สุดในชีวิต แลวนําสิ่งนั้นมาตั้งเปน จุดหมายเพื่อไปใหถึงความสําเร็จ การสรางพลังใจ ในการทํางานโดยการบริหาร ตนเอง เพื่อไมใหเกิดความเครียด เชน มีการแกปญหาอยางถูกวิธี บริหารเวลาได เหมาะสม ปรับเปลี่ยนความคิดใหยืดหยุน มีเหตุผล พักผอนใจเพื่อผอนคลายจาก งาน รูจักยืนยันสิทธิของตน สรางความเขมแข็งทางจิตใจ สรางสัมพันธภาพที่ดีกับ เพื่อนรวมงาน เปนตน
4
คูมือครู
ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET
ขอใดเปนวิธีการทํางานอยางมีความสุข 1. แอรตั้งความหวังวาจะทํางานใหดีกวาเพื่อน 2. อิ๋วไปพักผอนกับเพื่อนกอนแลวจึงกลับมาทํางาน 3. เอทํางานไปเรื่อยๆ สบายๆ ใกลกําหนดจึงคอยเรงมือ 4. โอทํางานที่ตนเองถนัดและชอบดวยความมั่นใจและมีความสุข วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. การทํางานที่ตนเองชอบจะมี ความสุขกับการทํางานและวิธีการทํางานอยางมีความสุขสามารถ ทําได ดังนี้ เห็นคุณคาของงานที่ทํา จะทําใหเกิดความภูมใิ จและ ตัง้ ใจทํางานอยางกระตือรือรน ไมควรเครงเครียดกับงาน เกินไปจน ไมมีเวลาพักผอน หรือควรมีความมั่นใจในตนเองใหมากขึ้น
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
อธิบายความรู
เสริมสาระ การรับมือกับ
ความเครียดในการทํางาน
ในการท�างานหรือด�าเนินชีวติ ประจ�าวันของเรานัน้ บ่อยครัง้ ทีต่ อ้ งประสบกับปญหา หรือมลภาวะ เป็นพิษต่างๆ จนท�าให้เราเกิดความเครียด ส่วนใหญ่ความเครียดมักจะเป็นโทษต่อร่างกายและจิตใจ เช่น ท�าให้เกิดอาการปวดหัว ปวดเมือ่ ยตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ความดันโลหิตสูง โรคกระเพาะ ท้องผูก ท้องเสีย นอนไม่หลับ จิตใจเกิดความวิตกกังวล ซึมเศร้า โรคประสาท เป็นต้น ดังนัน้ เราจึง ควรเรียนรู้วิธีรับมือกับความเครียดเพื่อจะท�าให้เราด�ารงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข ซึ่งมีดังต่อไปนี้ ๑. ตั้งสติกับตัวเองให้ได้
เวลาที่เราเกิดความเครียด เรามักจะจมอยู่กับความเครียดนั้น จนไม่มสี มาธิทจี่ ะท�าอะไร ดังนัน้ เราต้องตัง้ สติกบั ตัวเองให้ได้ ค่อยๆ เรียนรูป้ ญ ั หา ทีม่ าของปัญหา และพิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหา โดยวิเคราะห์ถึงข้อดี-ข้อเสียที่จะตามมา ต้องมีสติคิดแก้ไขปัญหา ด้วยความรอบคอบ อย่าปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล 2. อยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด โดยคิดว่าอะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิด อดีตที่ผ่านมาก็ปล่อย ให้มันผ่านไป อนาคตยังมาไม่ถึงก็ค่อยว่ากันอีกที จงท�าวันนี้ ให้ดีที่สุด หรืออยู่กับปัจจุบัน กับตัวเราให้มากที่สุด 1 การที่บางครั้งเราคาดหวังกับสิ่งหนึ่งสิ่งใดมากๆ ก็ไม่เป็นผลดี ๓. ยืดหยุ่นกับชีวิตให้มากขึ้น อาจท�าให้เราเครียดได้ เพราะในชีวิตทุกคนต้องประสบกับความ สมหวังและผิดหวัง ดังนั้น เราควรปล่อยวางกับชีวิต อย่ายึดติด หรือคาดหวังกับอะไรมากเกินไป และมองโลกในแง่ดี ก็จะท�าให้ เรามีความสุข 4. ลดค�าถามที่ขึ้นต้นกับตนเอง เพราะค�าถามบางค�าถามอาจไม่มคี า� ตอบตายตัว ทางทีด่ จี งหยุดค�าถาม และลองถามตนเองว่า แล้วท�าไมสิ่งต่างๆ จะต้องเป็นแบบที่เรา ว่า “ท�าไม” ให้น้อยลง ต้องการด้วย ก็อาจท�าให้เราเข้าใจความต้องการของตัวเองได้มากขึน้ ๕. มั่นใจในตนเองให้มากขึ้น มีบางคนค่อนข้างกลัวในเรือ่ งเล็กๆ น้อยๆ จนไม่คอ่ ยทีจ่ ะกล้าท�าอะไร กลัวว่าท�าไปแล้วคนอื่นจะไม่สบายใจ หรือท�าไปแล้วฝนความรู้สึก ของตนเอง เลยต้องจมอยูก่ บั ความเครียด ดังนัน้ จงมีความมัน่ ใจใน ตนเองให้มากขึ้น ลดความรู้สึกอ่อนไหวต่อคนอื่นให้น้อยลงแล้ว ท�าในสิ่งที่ควรท�า ที่มา : www.dmh.go.th กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข
๕
บูรณาการเชื่อมสาระ
ครูสามารถนําเนื้อหาเรื่องการการรับมือกับความเครียดในการ ทํางาน ไปบูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา วิชา สุขศึกษา ในหัวขอ หลัก 5 อ. เพื่อสุขภาพ และคุณภาพชีวิต ที่ดี ซึ่งหลักการดังกลาวที่ใชปฏิบัติเพื่อสรางสุขภาพรางกายและ จิตใจใหแข็งแรง ไดแก อาหาร ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน อากาศ อยูในสถานที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ อารมณ ตองมีอารมณแจมใส อุจจาระ มีระบบขับถายที่ดี ออกกําลังกาย เพื่อการมีสุขภาพรางกายแข็งแรง ในหลัก อ.3 ทีเ่ ปนหลักปฏิบตั เิ กีย่ วกับอารมณ ซึง่ เปนสาเหตุ สําคัญทีท่ าํ ใหเกิดความเครียด จนทําใหเกิดผลเสียตอรางกาย เพราะ อารมณ มีความสัมพันธกับสภาพรางกาย ถาอารมณดีไมเครียด สุขภาพรางกายและจิตใจจึงจะดี แตถาหากเกิดความเครียด จะทําใหระบบในรางกายทํางานผิดปกติทําใหปวยได
Explain
1. ครูใหนักเรียนบอกถึงความเครียดที่เกิดขึ้นกับ นักเรียนมาคนละ 1 อยาง พรอมบอกวิธีการ รับมือกับความเครียดที่นักเรียนปฏิบัติ 2. ครูใหนักเรียนหาขาวที่มีสาเหตุเกิดมาจาก ความเครียด โดยใหนักเรียนวิเคราะหถึง สาเหตุที่ทําใหเกิดเหตุการณนั้นๆ และวิธี รับมือทีถ่ กู ตอง โดยครูสมุ เลือกนักเรียนออกมา เลาขาวและอธิบายใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 3. ครูและนักเรียนสนทนารวมกันถึงโทษที่เกิด จากความเครียดที่มักเกิดขึ้นจากการทํางาน โดยใหนักเรียนแตละคนบอกมาคนละ 1 ขอ (แนวตอบ โทษที่เกิดจากความเครียดจาก การทํางานมีอยูหลากหลาย ซึ่งสงผลเสียตอ สุขภาพทางรางกายและจิตใจ ทําใหงานที่ทํา ไมมีประสิทธิภาพ เนื่องจากขาดสมาธิในการ ทํางาน เกิดความขัดแยงกับบุคคลรอบขาง เนื่องจากการใชอารมณ เปนตน) 4. ครูตั้งประเด็นคําถามเพื่อการเรียนรูของ นักเรียนวา • การสรางความมั่นใจในตนเองชวยลดภาวะ ความเครียดในการทํางานไดอยางไร (แนวตอบ การเพิ่มความมั่นใจใหตนเองทําได โดยการลดความกลัวลง กลาที่จะทําในสิ่งที่ ถูกตอง ไมควรฝนความรูสึกของตนเอง ทําในสิ่งที่ควรทํา ลดความรูสึกออนไหวกับ คนอื่นใหนอยลง) • วิธีการทํางานอยางมีความสุขสามารถนํามา ประยุกตใชในชีวิตประจําวันไดอยางไร (แนวตอบ วิธีการทํางานอยางมีความสุข สามารถนํามาประยุกตใชในการเรียนได กลาวคือ ในการทําการบาน การอาน หนังสือ เราควรที่จะมีความกระตือรือรน มีสมาธิกับการทํางาน และมองเห็นคุณคา ของการทําการบานและการอานหนังสือ ทําดวยความรูสึกมีความสุข ไมใชทําเพราะ ตองทําใหเสร็จ การเรียนจึงจะประสบความ สําเร็จ)
เกร็ดแนะครู เชน
ครูแนะนําวิธีการผอนคลายความเครียดในการเรียนและการทํางานรวมกับผูอื่น • จดบันทึก เรื่องราวตางๆ ของตนเองรวมถึงปญหาที่เกิดขึ้น เพื่อเปนการ ทบทวนตนเอง และสํารวจหาทางออกปญหา • การทําสมาธิ เปนการสรางความสงบในใจ ลดภาวะความเครียด • พูดคุยกับเพื่อน เพื่อระบายความเครียด และทําใหรูสึกวาไมไดอยูคนเดียว
นักเรียนควรรู 1 ยืดหยุนกับชีวิต มีวิธีการปฏิบัติดวยการเปนคนมีบุคลิกภาพที่ไมตึง เจาระเบียบ เขมงวดกับชีวิตจนเกินไป ซึ่งการเปนคนเจาระเบียบเขมงวดกับ กฎระเบียบมากเกินไป ทําใหดําเนินชีวิตแบบเครงเคียด ซึ่งจะบั่นทอนสุขภาพกาย และสุขภาพจิต คูมือครู
5
กระตุน ความสนใจ
สํารวจคนหา Exploreนหา สํารวจค
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
กระตุEngage นความสนใจ
กระตุน ความสนใจ
Engage
ครูใหนกั เรียนดูภาพวงจร PDCA ในหนังสือเรียน หนา 6 จากนั้นครูตั้งคําถามใหนักเรียนรวมกัน แสดงความคิดเห็นวา • วงจร PDCA ตามความเขาใจของนักเรียนมี ความหมายวาอยางไร (แนวตอบ วงจร PDCA หมายถึงกระบวนการ ในการทํางานเพื่อใหประสบความสําเร็จ หรือ กระบวนการแกไขปญหาในการทํางาน) • เปาหมายสูงสุดในการทํางานคือสิ่งใด (แนวตอบ เปาหมายสูงสุดในการทํางานก็คือ ผลการทํางานประสบความสําเร็จอยางมี ประสิทธิภาพ)
สํารวจคนหา
๒) มีความกระตือรือร้น เราควรสร้างอิริยาบถให้กระชุ่มกระชวย มีชีวิตชีวา รักการ
ท�างานให้ตดิ จนเป็นนิสยั ดังนัน้ หากเราฝึกท�างานให้วอ่ งไว มีความตืน่ ตัว กระฉับกระเฉงอยูเ่ สมอ ก็จะกลายเป็นบุคลิกใหม่ติดตัวเรา เราก็จะท�างานได้อย่างสนุกสนาน มีชีวิตชีวา ๓) มี ส มาธิ กั บ งาน การท� า งาน บางประเภทอาจท�าให้เราเกิดความเบื่อหน่าย โดยเฉพาะงานที่ต้องท�าซ�้าๆ หรืองานวิชาการ เราก็จะไม่มีความสุขในการท�างาน ต้องฝืนใจ ท�าไป หรือท�างานด้วยอาการใจลอย ไม่มสี มาธิ ดังนัน้ เราควรลองเปลีย่ นวิธกี ารท�างานด้วยการ ฝึกจิตให้มีสมาธิ โดยก่อนที่จะเริ่มท�างานใดๆ ก็ตาม เราต้องมีความตัง้ ใจอย่างแน่วแน่วา่ จะไม่ คิดฟุ้งซ่านในขณะท�างาน และในขณะท�างานก็ คิดหาวิธีแก้ไขและพัฒนางาน จะช่วยให้เราฝึก การท�าจิตใจให้มีสมาธิกับงาน นอกจากจะท�าให้งาน ประสบผลส�าเร็จแล้ว ยังท�าให้เกิดความปลอดภัยใน การคิดวิเคราะห์ และไม่เกิดความฟุ้งซ่าน การท�างานด้วย
Explore
1. ครูใหนกั เรียนศึกษาคนควาเกีย่ วกับการแกปญ หา การทํางานดวยวงจร PDCA จากหนังสือเรียน หนา 6-8 หรือศึกษาจากแหลงการเรียนรูอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อนําขอมูลที่ศึกษามาอภิปราย รวมกันในชั้นเรียน 2. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางการนําวงจร PDCA มาใชในกระบวนการทํางานและการแกปญหา ในหนังสือเรียน หนา 8
๓. การแก้ปญ ั หาในการท�างาน ด้วยวงจร PDCA PDCA เป็นวงจรของการพัฒนาทักษะ ในการแก้ไขปัญหา ซึง่ สามารถน�าไปประยุกต์ใช้ ในทุกวงการ ทุกองค์กร ทุกระดับ และทุกคน เพือ่ ให้เกิดการพัฒนาทางด้านคุณภาพของงานหรือ ผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพ กล่าวคือ PDCA จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานได้ติดตามและทบทวน ขัน้ ตอนการปฏิบตั งิ านอย่างต่อเนือ่ ง และท�าให้ ผูร้ ว่ มงานทุกคนมีสว่ นร่วมในการแก้ไข ปรับปรุง วิธกี ารท�างานเพือ่ พัฒนาการท�างานอย่างยัง่ ยืน ดังนั้นวงจร PDCA จึงเหมาะกับการ ปฏิบัติงานที่ต้องอาศัยความรอบคอบ ถูกต้อง เพราะมีการตรวจสอบการท�างานตลอดเวลา 6
ครูเพิ่มเติมขอมูลวงจร P D C A วา เปนวงจรพัฒนาคุณภาพงาน โดยเปน วงจรพัฒนาพื้นฐานหลักของการพัฒนาคุณภาพทั้งระบบ ผูที่คิดคนกระบวนการ หรือวงจรพัฒนาคุณภาพ PDCA คือ Shewhart นักวิทยาศาสตรชาวอเมริกันแต Deming ไดนําไปเผยแพรที่ประเทศญี่ปุนจนประสบผลสําเร็จ จนผลักดันใหญี่ปุน เปนประเทศมหาอํานาจของโลก คนทั่วไปจึงรูจักวงจร PDCA จากการเผยแพร ของ Deming จึงเรียกวา “วงจร Deming” หรือ วงจร PDCA ซึ่งประกอบดวย 4 ขั้นตอน คือ การวางแผน Plan = P การปฏิบัติ Do = D การตรวจสอบ Check = C การปรับปรุงแกไข Action = A
คูมือครู
การวางแผน (Plan)
การปรับปรุง แก้ไขงาน (Act)
กระบวนการ พัฒนาทักษะ ในการแก้ไขปัญหา
การปฏิบัติ (Do)
การตรวจสอบงาน (Check)
ตัวย่อ
P (Plan) D (Do) C (Check) A (Act)
ความหมาย
การวางแผน การปฏิบัติหรือลงมือท�างาน การตรวจสอบงาน การปรับปรุงแก้ไขงาน
EB GUIDE http://www.aksorn.com/LC/Car/M5/01
เกร็ดแนะครู
6
แผนผังวงจร PDCA
ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET
การแกปญหาในการทํางานดวยวงจร PDCA ใชปฏิบัติงานอยางไร แนวตอบ 1. ใชในเชิงปองกันปญหา วงจร PDCA สามารถนําไปใช วางแผนปองกันปญหาที่ไมควรเกิด ชวยลดความสับสนในการ ทํางาน ลดการใชทรัพยากรมากหรือนอยเกินความพอดี ลดความ สูญเสียในรูปแบบตางๆ ทําใหการปฏิบัติงานมีความรัดกุมขึ้น และ แกไขปญหาไดอยางรวดเร็ว 2. ใชในเชิงแกไขปญหา ความไมเหมาะสม ไมสะอาด ไมสะดวก ไมมีประสิทธิภาพ ไมประหยัด สามารถ แกปญหาโดยเริ่มจากตรวจสอบวามีอะไรบางที่เปนปญหา เมื่อพบ ปญหา จึงนํามาวางแผนเพื่อดําเนินการตามวงจร PDCA ตอไป 3. ใชในเชิงการปรับปรุง แสวงหาสิง่ ตางๆ หรือวิธกี าร ที่ดีกวาเดิมอยูเสมอ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสังคม โดยไม ตองรอใหเกิดปญหากอน
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
อธิบายความรู
Explain
1. ครูใหนักเรียนอภิปรายรวมกันถึงองคประกอบ ของวงจร PDCA วาประกอบไปดวยขั้นตอน ใดบาง โดยใหอาสาสมัครออกมาอธิบายให เพื่อนฟงที่หนาชั้นเรียน (แนวตอบ วงจร PDCA ประกอบไปดวย 4 ขั้นตอน ไดแก 1. P (Plan) เปนขั้นตอนการวางแผนงาน 2. D (Do) เปนการลงมือปฏิบัติงานตาม แผนงานที่วางไว 3. C (Check) เปนขั้นตอนการตรวจสอบ ผลที่ไดจากการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลง 4. A (Act) เปนขั้นตอนการปรับปรุงแกไข การทํางาน ซึ่งเกิดจากการประเมินวาการ ทํางานเปนไปตามแผนหรือไม เพื่อปรับปรุงการ ทํางานใหดียิ่งขึ้นไป) 2. ครูใหนักเรียนชวยกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยว กับวงจร PDCA วามีเทคนิคในแตละขั้นตอน อยางไร โดยใหตัวแทนนักเรียนออกมาแสดง ความคิดเห็นหนาชั้นเรียน
๓.๑ โครงสร้างของวงจร PDCA วงจร PDCA ถูกน�ามาใช้เป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหา พัฒนา และปรับปรุงงานอย่างเป็น ขัน้ ตอนเพือ่ ให้งานส�าเร็จลุลว่ งตามเป้าหมายทีต่ งั้ ไว้ ซึง่ เราสามารถน�าไปประยุกต์ใช้ได้กบั ทุกๆ เรือ่ ง นับตั้งแต่กิจกรรมส่วนตัวไปจนถึงการด�าเนินงานในชีวิตประจ�าวัน เช่น การปรุงอาหาร การเรียน การท�างาน การตั้งเป้าหมายชีวิต เป็นต้น วงจร PDCA ประกอบด้วย ๔ ขั้นตอน ดังนี้ วงจร PDCA ขั้นตอนที่ ๑ การวางแผน (Plan) การวางแผนอย่างรอบคอบ ครอบคลุมถึงการก�าหนดกรอบหัวข้อที่ต้องการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานต่างๆ โดยระบุวิธีการให้ชัดเจน นอกจากนี้ การวางแผนยังช่วย ให้เราสามารถคาดการณ์สิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคต และช่วยประหยัดงบประมาณ แรงงาน วัตถุดิบ และระยะ เวลาในการท�างานด้วย ขั้นตอนที่ ๒ การปฏิบัติ (Do) การลงมือปฏิบัติงาน หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตามทางเลือกที่ได้ก�าหนดไว้ในขั้นตอนการวางแผน ในขั้นตอนนี้ต้องท�าการตรวจสอบระหว่างการปฏิบัติด้วยว่าด�าเนินไปในทิศทางที่ตั้งไว้หรือไม่ พร้อมกับ สื่อสารให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบด้วย ทุกคนท่ี่มีส่วนร่วมในการท�างานย่อมต้องการทราบความคืบหน้า เพื่อจะได้มั่นใจว่าการปฏิบัติงานที่เกิดขึ้นมีข้อผิดพลาดน้อยท ยที่สุด อย่างแน่นอน เพื ขั้นตอนที่ ๓ การตรวจสอบงาน (Check) การประเมินผลที่ได้รับจากการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง นแปลง วิธีการปฏิบัติใดที่มีประสิทธิผลมากที่สุดและ ตรวจสอบผลที่เกิดขึ้น การตรวจสอบจะท�าให้เราทราบว่าการปฏิบัติในขั้นตอนที่ ๒ สามารถบรรลุ เป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่ก�าหนดไว้หรือไม่ สิ่งส�าคัญก็คือ เราต้องรู้ว่าจะตรวจสอบอะไรบ้างง และ บ่อยครั้งแค่ไหน ข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบจะเป็นประโยชน์ส�าหรับขั้นตอนถัดไป ขั้นตอนที่ ๔ การปรับปรุงแก้ไขงาน (Act) ขั้นตอนพิจารณาผลที่ได้จากการตรวจสอบ ซึ่งมีอยู่ ๒ กรณี คือ ผลที่เกิดขึ้นเป็นไปตามแผนที่ วางไว้ หรือ ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ หากเป็นกรณีแรก ให้น�าแนวทางหรือกระบวนการปฏิบัตินั้น มาจัดท�าให้เป็นมาตรฐาน พร้อมทั้งหาวิธีการที่จะปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งอาจท�าให้บรรลุเป้าหมาย เร็วกว่าเดิม หรือเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเดิม หรือท�าให้คุณภาพดียิ่งขึ้นก็ได้ แต่ถ้าเป็นกรณีที่สอง ซึ่งก็คือ ผลที่ได้ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนที่วางไว้ เราควรน�าข้อมูลที่รวบรวมไว้มาวิเคราะห์และพิจารณาว่า ควรจะด�าเนินการอย่างไรต่อไป โดยอาจเปลี่ยนเป้าหมายใหม่หรือใช้ความพยายามให้มากขึ้นกว่าเดิม 7
ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET
การวางแผนงานที่ดีมีลักษณะอยางไร 1. มีความชัดเจน 2. ปฏิบัติงานงาย 3. ตรวจสอบการทํางานได 4. มีความซับซอนในการปฏิบัติ
วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. แผนงานที่ดีจะตองชัดเจน รูวา ใครทําหนาที่ใด ทําอะไร ทําเมื่อไร ทําที่ไหน ทําอยางไร และทํา เพื่ออะไรอยางละเอียด เพื่อใหสามารถนําแผนไปใชในการปฏิบัติ งาน สามารถกระทําไดประสานสอดคลองอยางตอเนือ่ ง ซึง่ ขอมูล เหลานี้จะตองกําหนดไวอยางชัดเจน
เกร็ดแนะครู ครูเพิ่มเติมขอมูลเทคนิคในการปฏิบัติงานตามวงจร PDCA ดังนี้ 1. เทคนิคการวางแผน ใชการตอบคําถามวา - มีอะไรบางที่ตองทํา - ใครมีหนาที่อะไร - ตองใชอะไรบาง - ใชระยะเวลาในการทํางานเทาใด - ลําดับการทํางานอยางไร - เปาหมายในการทํางานคืออะไร 2. เทคนิคขั้นตอนการปฏิบัติ - ทําใหถูกตองตั้งแตแรก - ตรวจสอบทุกขั้นตอน - หากพบขอบกพรอง รีบแกไขกอนที่ความเสียหายจะมากขึ้น 3. เทคนิคขั้นตอนตรวจสอบ - ตรวจสอบวิธีการและระยะเวลาที่ใชในการปฏิบัติจริง วาทําไดตามแผน หรือไม - ตรวจสอบผล ที่ไดวาไดตามเปาหมายหรือไม 4. เทคนิคขั้นตอนการปรับปรุงแกไข - หากตรวจสอบแลวพบวามีขอผิดพลาด ใหหาสาเหตุและแกไขที่สาเหตุ - พัฒนาปรับปรุง เพื่อใหการปฏิบัติครั้งตอไปดีกวาเดิม คูมือครู 7
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู
Engage
Explore
Explain
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Expand
Evaluate
Expand าใจ ขยายความเข
Evaluate ตรวจสอบผล
Expand
ครูใหนักเรียนแบงกลุมออกเปน 4 กลุม เพื่อศึกษาตัวอยางการนําวงจร PDCA มาใชใน กระบวนการทํางานและแกปญหา ในหนังสือเรียน หนา 8 เพื่อทําการศึกษาคนควาขอมูลการนําวงจร PDCA มาใชในกระบวนการทํางานและแกปญหา ในการทํางานที่กําหนดใหโดยใหแตละกลุมจับฉลาก เลือกหัวขอดังตอไปนี้ กลุม 1 การเลี้ยงสัตว กลุม 2 การทํางานชางในบาน กลุม 3 การตัดเย็บเสื้อผา กลุม 4 งานประดิษฐ บันทึกขั้นตอนการทํางานโดยใชวงจร PDCA จากนั้นสงตัวแทนออกมานําเสนอขอมูลที่ศึกษา หนาชั้นเรียน
ตรวจสอบผล
ขยายความเขาใจ
๓.2 ตัวอย่างการน�าวงจร PDCA มาใช้ในกระบวนการท�างานและ แก้ปัญหา การซื้อของใช้ภายในบ้าน ขั้นตอนที่ ๑ การวางแผน (Plan) คิดว่ามีของอะไรทีต่ อ้ งใช้ ส�าหรับกีค่ น แล้วตรวจสอบว่าของในบ้านมีอะไร เหลืออยูเ่ ป็นจ�านวนเท่าไหร่ ขาดเหลืออะไร (check) จากนั้นจดรายการและจ�านวนสิ่งของที่ต้องซื้อ ก�าหนดสถานที่ และเตรียมเงิน ให้เพียงพอ ขั้นตอนที่ ๒ การปฏิบัติ (Do) ไปที่ร้านค้า โดยเรียงล�าดับในการซื้อ ถ้าต้องไปหลายร้าน ให้เลือกเส้นทางที่ไม่ต้องอ้อมไปอ้อมมา ถ้าต้องยกของเอง ให้เลือกซื้อของที่มีน�้าหนักเบาก่อนเพื่อจะได้ไม่ต้องยกของหนักเป็นเวลานาน (plan) แล้วเดินเลือกซื้อของตามที่จดมา (do) หากพบสิ่งที่ไม่เป็นไปตามแผน เช่น ไม่มีของ หรือของมีราคาสูง เกินกว่าทีต่ งั้ ใจไว้ (check) ให้พจิ ารณาปรับเปลีย่ นตามความเหมาะสม (act) ก่อนออกจากร้าน ให้ตรวจสอบ ว่าของทีซ่ อื้ ได้รบั ครบตามจ�านวนและถูกต้องตามทีต่ อ้ งการหรือไม่ สินค้าอยูใ่ นสภาพสมบูรณ์หรือมีตา� หนิ คนขายคิดราคาและทอนเงินถูกต้องหรือไม่ (check) ถ้าสินค้ามีตา� หนิกใ็ ห้เปลีย่ นของทันทีหรือถ้าทอนผิด ก็ทักท้วงจนเกิดความถูกต้องง (act)
Evaluate
1. ครูตรวจสอบจากบันทึกขั้นตอนการทํางานกลุม เรื่อง การนําวงจร PDCA มาใชในกระบวนการ ทํางานและแกปญหา 2. ครูสังเกตพฤติกรรมการตอบคําถามและการ รวมแสดงความคิดเห็นของนักเรียน
ขั้นตอนที่ ๓๓ การตรวจสอบ (Check) การตรวจสอบ (Check) เมื่อกลับมาที่บ้านก็ให้ท�าการตรวจสอบจ�านวนเงินที่ใช้ไป และตรวจสอบว่าของอะไรบ้างที่ซื้อไม่ได้ ตามแผน เช่น ของราคาสู ของราคาสูงกว่าที่คิดไว้ ของเปลี่ยนรุ่น หรื หรือของอะไรที่ซื้อมาแล้วใช้ไม่ได้ เช่น ซื้อเสื้อ ตามแผน เช่ ผิดขนาด ขนาด เป็นต้น เพื่อให้การซื้อของครั้งต่อไปจะได้วางแผนส�ารองเพื่อจะได้ของตรงตามเป้าหมาย และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขั้นตอนที่ ๔๔ การปรั การปรับปรุงแก้ไขข (Act) (Act) พิจารณาความผิดพลาดจากการซื้อของครั้งนี้คืออะไร อะไร เช่น ไม่ดูขนาดของเสื้อหรือไม่ลองสวมเสื้อ ก่อนจ่ายเงิน วิวิธีแก้ไขข คืคือ ต่ต่อไปต้องลองเสื้อก่อนซื้อแทนที่จะดูแต่ป้ายบอกขนาด ยบอกขนาด เช่น เบอร์ M เบอร์ L และเบอร์ XL XL รวมทั้งขยายผลไปยังของอื่นที่ต้องตรวจสอบคุณภาพด้วยย เช่น เบอร์ สี รุ่น และ เนื้อผ้า เป็นต้น ควรจดราคาสินค้าที่ซื้อมาเก็บไว้เป็นหลักฐานส�าหรับเปรียบเทียบในการซื้อครั้งต่อไป เพื่อจะได้เตรียมงบประมาณให้เหมาะสม
8
บูรณาการอาเซียน ครูเพิ่มเติมขอมูล การเตรียมพรอมของประเทศไทยกอนการเขาสูประชาคม อาเซียนวา ตองมีการเตรียมความพรอมทั้งทางดานเศรษฐกิจ ความมั่นคงทาง การเมือง และจะตองเตรียมรับมือกับการหลั่งไหลของแรงงานจากนานาประเทศ ซึ่งจะทําใหเกิดการแขงขันทางดานการทํางานสูงขึ้น จึงตองมีการพัฒนาทรัพยากร มนุษย เพื่อใหสามารถรองรับการแขงขันกับนานาชาติไดอยางมีประสิทธิภาพ โดยจะตองพัฒนาทักษะทางดานภาษา การศึกษา เทคโนโลยี และทักษะกระบวนการ ทํางานและการแกปญหา เพื่อใหบุคคลากรของไทยมีศักยภาพในการทํางานที่มี ประสิทธิภาพทัดเทียมกับนานาชาติได
8
คูมือครู
ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET
ขอใดตอไปนี้เปนประโยชนของวงจร PDCA 1. ทํางานเปนระบบ 2. ทํางานแบบมีขั้นตอน 3. มีการเสนอความคิดเห็น 4. แกไขปรับปรุงอยางตอเนื่อง วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. วงจร PDCA เปนวิธีการทํางาน และการแกปญหาในการทํางาน โดยเนนการพัฒนา ปองกัน และ ปรับปรุงการทํางานใหดีขึ้น เพื่อใหการทํางานพัฒนาไดอยางยั่งยืน และมีคุณภาพ วงจร PDCA จึงถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งวา วงจรบริหาร งานคุณภาพ
กระตุน ความสนใจ
สํารวจคนหา
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Engage
Explore
Explain
Expand
Evaluate
กระตุEngage นความสนใจ
สํารวจค Exploreนหา
กระตุน ความสนใจ
ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับการทํากิจกรรม 5 ส ในโรงเรียน โดยครูถามความคิดเห็นของ นักเรียนวา • นักเรียนคิดวาการทํากิจกรรม 5 ส ที่โรงเรียน สามารถนําไปประยุกตใชใน ชีวิตประจําวันของนักเรียนไดอยางไรบาง (แนวตอบ กิจกรรม 5 ส นําไปประยุกตใช ในชีวิตประจําไดอยางหลากหลาย เชน นําไปใชในการทําความสะอาดบานของ ตนเอง ชุมชนดูแลตนเอง และชวยฝก ลักษณะนิสัยใหเปนคนรักความสะอาด และเปนระเบียบ)
๔. การแก้ปัญหาในการท�างานด้วยกิจกรรม ๕ ส 4.๑ ความหมายและหลักการของกิจกรรม ๕ ส กิจกรรม ๕ ส คือ กิจกรรมที่เกี่ยวกับการจัดระเบียบและการท�าความสะอาดในสถานที่ต่างๆ เช่น บ้าน โรงเรียน ห้องเรียน และสถานที่ปฏิบัติงาน เป็นต้น เพื่อให้สถานที่เหล่านี้มีความเป็น ระเบียบ สะอาด ปลอดภัย และมีบรรยากาศที่ดี ท�าให้ทุกคนมีความสุขที่ได้อาศัยอยู่ในสถานที่นั้น ส�าหรับกิจกรรม ๕ ส มีความหมายและหลักการ ดังต่อไปนี้ กิจกรรม ๕ ส
ความหมาย
หลักการ
๑. สะสาง การแยกของที่ต้องการออกจากของ ส� ารวจสิ่ งของต่ างๆ ในหน่ วยงาน (SEIRI-เซริ) ทีไ่ ม่ต้องการ และก�าจัดของที่ไม่ต้องการ โดยเฉพาะบริเวณทีอ่ ยูใ่ นความรับผิดชอบ1 ทิ้งไป จากนั้นแยกแยะของที่ต้องการใช้งานกับ ของที่ไม่ต้องการใช้งานออกจากกัน แล้ว ก�าจัดของที่ไม่ต้องการออก ๒. สะดวก (SEITON เซตง)
การจัดวางสิง่ ของต่างๆ ในทีท่ า� งานให้ วางของที่ใช้งานให้เป็นที่ เป็นหมวด เป็นระเบียบ เพื่อความสะดวก ปลอดภัย หมู่ อาจมีป้ายบอก และเมื่อน�าของไป ใช้งานเสร็จแล้ว ควรน�ามาเก็บไว้ที่เดิม ให้เรียบร้อย โดยของที่ใช้อยู่เป็นประจ�า ควรวางไว้ใกล้ตัว จะได้ จะได้หยิบใช้ได้ง่าย
๓. สะอาด (SEISO เซโซ)
การท�าความสะอาดเครือ่ งจักร อุปกรณ์ ท�าการปัด กวาด กวาด เช็ด ถู บริเวณ และสถานที่ท�างาน ต่างๆ งๆ ของห้ ของห้องง เช่ เช่น พืพื้น ฝาผนั ฝาผนัง เพดาน เพดาน มุ ม เพดาน เพดาน ด้ านบนและใต้ โ ต๊ ะ ท� างาน งาน ชั้นวางของ วางของ ตูตู้เอกสาร อกสาร หลอดไฟ เป็ หลอดไฟ เป็นต้น ให้เกิดความสะอาด
Engage
สํารวจคนหา
Explore
ครูใหนักเรียนศึกษาคนควาเกี่ยวกับการแก ปญหาในการทํางานดวยกิจกรรม 5 ส จากหนังสือ เรียน หนา 9-10 หรือศึกษาจากแหลงการเรียนรู อื่นๆ เพิ่มเติม เชน ขอมูลทางอินเทอรเน็ต หรือ อาจสอบถามจากผูมีประสบการณในการทํางาน เปนตน เพื่อนําขอมูลที่ศึกษามาอภิปรายรวมกัน ในชั้นเรียน
อธิบายความรู
๔. สุขลักษณะ ความหมดจด สะอาดตา ถูถูกสุขลักษณะ ษณะ ควรหมั่นปัด กวาด กวาด เช็ด ถูบริเวณ (SEIKETSU- และรักษาให้ดีตลอดไป ต่างๆ งๆ ของห้ ของห้องอย่างสม�า่ เสมอ เซเคทซึ)
Explain
ครูและนักเรียนอภิปรายหลักการทํางานดวย กิจกรรม 5 ส ใหนักเรียนชวยกันยกตัวอยาง แนวทางการจัดกิจกรรม 5 ส ในหองเรียน
๕. สร้างนิสัย การอบรม สร้างนิสยั ในการปฏิบตั งิ าน หัวหน้าหน่วยงานหรือผู้บริหารควร (SHITSUKE- ตามระเบียบ วินยั ข้อบังคับอย่างเคร่งครัด ก� า ชั บ ให้ ลู ก น้ อ งหรื อ ผู ้ ใ ต้ บั ง คั บ บั ญ ชา ซิทซึเกะ) ปฏิบัติงานตามกฎระเบียบบ ไม่ย่อหย่อน ต่อระเบียบบ วิวินยั ข้ข้อบังคับ เพื เพือ่ สร้างนิสยั ให้เกิดขึ้นในที่ท�างาน 9
กิจกรรมสรางเสริม ครูใหนักเรียนแตละคนทํากิจกรรม 5 ส โดยใหนักเรียนเลือก มุมใดมุมหนึ่งภายในโรงเรียนเพื่อทํากิจกรรม ใหนักเรียนถายภาพ กอนการทํากิจกรรม 5 ส ในพื้นที่ที่นักเรียนเลือกไว จากนั้นเมื่อ ทํากิจกรรมเสร็จแลวใหถายภาพพื้นที่เดิม เพื่อนําภาพมานําเสนอ ในชั้นเรียนโดยนํามาเปรียบเทียบกับภาพของเพื่อน
เกร็ดแนะครู ครูยกตัวอยางสถานที่ตางๆ ที่มีการจัดกิจกรรม 5 ส โดยอาจเปรียบเทียบ สภาพกอนจัดกิจกรรม 5 ส กับหลังจากการจัดกิจกรรม 5 ส เปรียบเทียบในดาน ความเปนระเบียบเรียบรอย ความสะดวกสบายในการใชสถานที่หรือสิ่งของ ความปลอดภัย สุขอนามัย เปนตน
นักเรียนควรรู 1 แยกแยะของที่ตองการใชงานกับของที่ไมตองการใชงานออกจากกัน เปนการจัดแบงของใชเปนประเภท ของบางอยางที่เก็บไวใชไดจะถูกนําไปรวบรวม ไวเปนระบบ ของบางอยางนําไปรีไซเคิลได หรือของบางอยางนําไปจําหนาย จายแจกได ซึ่งจะทําใหเรามีพื้นที่วางที่จะนําไปใชประโยชนในการเก็บของอื่นๆ หรือใชประโยชนอยางอื่น คูมือครู
9
กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู
อธิบายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
อธิบExplain ายความรู
4.2 ประโยชน์ที่ได้รับจากการท�ากิจกรรม ๕ ส หากเราท�างานโดยยึดหลักกิจกรรม ๕ ส จะก่อประโยชน์ให้แก่องค์กร หน่วยงาน และบุคคล ดังต่อไปนี้ ๑. บ้าน โรงเรียน ห้องเรียน และสถานทีป่ ฏิบตั งิ านมีความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย ๒. ประสิทธิภาพในการท�างานสูงขึ้น ๓. มี โ อกาสท� า งานเป็ น กลุ ่ ม และแก้ ปัญหาร่วมกัน ๔. เกิดการฝึกฝนแนวความคิดอย่าง เป็นระบบ ๕. เป็นการใช้พื้นที่ในการจัดเก็บวัสดุ อุปกรณ์อย่างมีประสิทธิภาพ ๖. ช่วยลดอุบัติเหตุที่จะเกิดจากการ ท�างาน บ้านที่ผู้อาศัยน�ากิจกรรม ๕ ส มาปฏิบัติ ย่อมท�าให้เกิด ๗. ก่อให้เกิดความสะดวกและปลอดภัย ความเป็นระเบียบเรียบร้อยและสะอาดสะอ้าน น่าอยู่ ในการปฏิบัติงาน ๘. เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคลากรในองค์กร หน่วยงาน ตลอดจนประชาชน ในสังคมให้ดีขึ้น
Expand
ครูใหนักเรียนนําหลักกิจกรรม 5 ส ไปปฏิบัติ ที่บานของตนเอง เปนระยะเวลา 2 สัปดาห โดย ใหนักเรียนถายรูปบานกอนและหลังการนํากิจกรรม 5 ส มาใช เพื่อเปรียบเทียบความแตกตาง และ ใหเขียนบันทึกความแตกตางที่เกิดขึ้นกับบานของ นักเรียนลงในกระดาษ A4 สงครูผูสอน
ตรวจสอบผล
Evaluate ตรวจสอบผล
Explain
ครูตั้งประเด็นใหนักเรียนรวมกันแสดงความ คิดเห็นวา การทํางานโดยยึดหลักการ 5 ส มี ประโยชนตอการดํารงชีวิตอยางไร โดยครูสุมเลือก ตัวแทนนักเรียนใหออกมาแสดงความคิดเห็นที่หนา ชั้นเรียน (แนวตอบ การทํางานโดยยึดหลักการ 5 ส จะชวยใหเกิดประโยชนอยางหลากหลาย เชน สถานที่เรียน สถานที่ทํางาน สถานที่อยูอาศัย มีความสะอาดและเปนระเบียบเรียบรอย ชวยลด อุบัติเหตุที่อาจเกิดจากการทํางาน เพิ่มความสะดวก และรวดเร็วในการทํางาน ลดความสิ้นเปลืองในการ จัดซื้อวัสดุ อุปกรณที่ไมจําเปน และยังชวยสราง บรรยากาศในการทํางานใหดีมากขึ้น สงเสริมให การทํางานของบุคลากรมีประสิทธิภาพ เปนตน)
ขยายความเขาใจ
Expand าใจ ขยายความเข
สรุป
การทํางานเพื่อการดํารงชีวิตมีความสําคัญตอชีวิตมนุษยเปนอยางย งยิ่ง ซึ่งในสังคม ปจจุบนั มีการแขงขันกันสูง จึงไดมกี ารนําเทคโนโลยีมาชวยในการทํางานเพือ่ ลดตนทุนในดานตางๆ การทํางานเพือ่ ใหงานมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลจําเปนทีจ่ ะตองมีกระบวนการทํางานและ กระบวนการแกปญหาที่ดี โดยใชหลักการของวงจร PDCA และกิจกรรม ๕ ส มาใชประกอบกับ การทํางานอยางมีระบบ เพื่อมุงหวังใหการทํางานประสบความสําเเร็จและมีคุณภาพที่ดี
Evaluate
ครูตรวจแบบบันทึกการทํากิจกรรม 5 ส ที่บาน นักเรียนและสังเกตพฤติกรรมการตอบคําถามและ การรวมแสดงความคิดเห็นของนักเรียน
หลักฐานแสดงผลการเรียนรู 1. บันทึกการทํางานดวยการนําวงจร PDCA มาใช ในกระบวนการทํางานและแกปญหา 2. แบบบันทึกการทํากิจกรรม 5 ส
EB GUIDE http://www.aksorn.com/LC/Car/M5/02
๑0
เกร็ดแนะครู ครูเพิ่มเติมประโยชนจากการทํากิจกรรม 5 ส สงผลใหสถานที่ทํางาน บาน โรงเรียน เกิดความนาอยู นาทํางาน ผูทํางานหรือผูอาศัยจะมีจิตใจปลอดโปรง สดชื่น และกระตือรือรนที่จะปฏิบัติหนาที่อยางเต็มกําลัง นอกจากนี้ การทําความ สะอาดยังสงผลทางออม คือ เปนการตรวจสอบอุปกรณ เครื่องไมเครื่องมือตางๆ อยางใกลชิด ทําใหเราทราบถึงขอบกพรองที่มีอยู และแนะนําใหนักเรียนนําหลัก กิจกรรม 5 ส ไปใชในชีวิตประจําวัน เชน ใชที่บาน ที่โรงเรียน หรือสถานที่ สาธารณะทั่วๆไป เพื่อสรางความเปนระเบียบเรียบรอย ปลอดภัย ถูกสุขอนามัย นอกจากนี้ควรใหนักเรียนจัดกิจกรรมรณรงค 5 ส ในชุมชน
10
คูมือครู
ขอสอบเนน การคิด แนว O-NET
ขอใดตอไปนี้เปนวิธีการประเมินความกาวหนาของการทํา กิจกรรม 5 ส ไดดีที่สุด 1. ภาพถาย 2. แบบบันทึก 3. การนําเสนอ 4. แบบประเมิน วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. วิธีการประเมินความกาวหนาของ การทํากิจกรรม 5 ส ที่ไดผลดีที่สุด คือ การใชภาพถายกอนและ หลังการทํากิจกรรม เนื่องจากจะไดเห็นภาพความเปลี่ยนแปลง ของพื้นที่ไดอยางชัดเจน เพราะการประเมินในแบบประเมิน หรือแบบบันทึกอาจไมไดขอเท็จจริง ทําใหการทํากิจกรรมไมได ประสิทธิภาพอยางเต็มที่