ขอบังคับเกี่ยวกับการทํางาน ของ ใครก็ไมรู สารบัญ หมวดที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
เรื่อง บททั่วไป การวาจาง วันทํางาน เวลาทํางานปกติ และเวลาพัก วันลา และหลักเกณฑการลา วันหยุดและหลักเกณฑการหยุด หลักเกณฑการทํางานลวงเวลา และทํางานในวันหยุด วันและสถานที่ที่จายคาจาง คาลวงเวลา คาทํางานในวันหยุด และคาลวงเวลาในวันหยุด วินัยและโทษทางวินัย การรองทุกข การเลิกจาง การพนสภาพการเปนพนักงานและการจายคาชดเชย สุขภาพอนามัยเพื่อความปลอดภัย สภาพการบังคับและการประกาศใช
หนา 1 2 7 9 13 15 17 18 26 28 32 34
-1หมวด 1 บททั่วไป 1.
วัตถุประสงค เพื่อใหการดําเนินการของบริษัทฯ เปนไปดวยความเรียบรอย เหมาะสม และ บรรลุตามวัตถุประสงค บริษัทจึงไดกําหนดขอบังคับนี้ขึ้นโดยมีความมุงหมายจะใหพนักงาน ของบริษัทฯ ไดนําไปยึดถือเปนแนวทางในการปฏิบัติ ตลอดจนมีความเขาใจอยางถองแทและ ตระหนักถึงหนา ที่ค วามรับผิดชอบของตนในฐานะที่เปนพนักงานของบริษัท ฯ รวมทั้งกา ร ปฏิบัติของบริษัทฯ ตอพนักงานและสิ่งที่ซึ่งบริษัทฯ คาดหวังจากพนักงานเปนการตอบแทนการ จาง ทั้งนี้เพื่อเปนการเสริมสรางและรักษาไวซึ่งความเขาใจอันดี ความสมัครสมานสามัคคีและ ความสัมพันธอันดีระหวางพนักงานดวยกันเองระหวางพนักงานกับผูบังคับบัญชา และระหวาง ผูบังคับบัญชา อันจะนํามาซึ่งความสงบเรียบรอยและประสิทธิภาพในการทํางานรวมกันอยางมี ความสุขประสบความสําเร็จ และบรรลุเปาหมายตามวัตถุประสงคของบริษัทฯ ทุกประการ
2.
คําจํากัดความ ตามขอบังคับนี้ 2.1 “ บริษัทฯ ” หมายถึง บริษัท .......................................................... จํากัด 2.2 “ พนักงาน ” หมายถึง บุคคลผูไดรับการจางใหทํางานกับบริษัทฯโดยไดรั บ การแตง ตั้ง ใหดํ า รงตํา แหน งและปฏิบัติ หน า ที่ต ามที่ ไดรับมอบหมาย 2.3 “ ผูบังคับบัญชา ” หมายถึง พนักงานที่ไดรับแตงตั้งจากบริษัทฯ ใหดํารงตําแหนง หัวหนางานสวนใดสวนหนึ่งทั้ง ในดานการปฏิบัติงาน และการควบคุมการดําเนินงานใหเปน ไปตามระเบียบ ขอบังคับของบริษัทฯ และระเบียบปฏิบัติ ซึ่งผูบังคับ บัญชาระดับสูงขึ้นไปกําหนด
-2หมวด 2 การวาจาง 1.
นโยบาย ขอความในหมวดนี้รวมถึงกระบวนการวาจาง อันไดแก การสรรหา คัดเลือก บรรจุ แตงตั้ง และโยกยายพนักงานเมื่อมีตําแหนงวาง บริษัทฯ จะพยายามสรรหา คัดเลือก และบรรจุ แตงตั้งบุคคลใหดํารงตําแหนงที่วางนั้น โดยพิจารณาบุคคลภายในที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกอน แตอยางไรก็ตามบริษัทฯ ทรงไวซึ่งสิทธิและอํานาจในการที่จะพิจารณา สรรหา คัดเลือก และ บรรจุแตงตั้งบุคคลในตําแหนงตาง ๆ จากบุคคลภายนอกไดตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม
2.
ขอกําหนดเกี่ยวกับการจางงาน 2.1 การจางบุคคลเขาทํางานตองเปนไปตามอัตรากําลังคนที่ไดกําหนดไวเทานั้น การเพิ่มหรือ การลดอัตรากําลังคนใหเปนไปตามที่ไดรับอนุมัติโดยกรรมการผูจัดการ หรือบุคคลใดที่ ไดรับมอบหมาย 2.2 กรรมการผู จัดการหรื อผูที่ไ ดรับ มอบอํา นาจโดยแตง ตั้งเปนผูมี อํา นาจในการสรรหา ทดสอบ สัมภาษณ คัดเลือก บรรจุ แตงตั้ง ใหเขาทํางาน โยกยาย เปลี่ยนแปลงหนาที่ การงาน หรือใหออกจากงาน 2.3 บริษัทฯ ทรงไวซึ่งสิทธิจะใหพนักงานไปทํางานนอกสถานที่ได โดยบริษัทฯ จะปฏิบัติ ใหเปนไปตามเงื่อนไขของจําเปน, ความเหมาะสม หรือการจางงานของแตละตําแหนง โดยไมขัดตอ กฎหมายแรงงาน 3.
ประเภทของพนักงาน เพื่อประโยชนในการบริหารงานบริษัทฯจําแนกประเภทของพนักงานไว ดังนี้ 3.1 พนักงานรายเดือน คือ พนักงานที่บริษัทฯ ตกลงจางโดยกําหนดคาจางเปนรายเดือน 3.2 พนักงานรายวัน คือ พนักงานที่บริษัทฯ ตกลงจางโดยกําหนดคาจางเปนรายวัน 3.3 พนักงานตามผลงาน คือ พนักงานที่บริษัทฯ ตกลงจา งโดยกํา หนดคาจางตามผลงาน โดยคํานวณเปนหนวย 3.4 พนักงานทดลองงาน คือ พนักงานที่บริษัทฯ มีหนังสือใหทดลองงาน 3.5 พนักงานตามสัญญาจางพิเศษ คือ พนักงานที่บริษัทฯ ทําสัญญาจางกับพนักงานใน กรณีตาง ๆ
4.
พนักงานใหมจะตองยื่นหลักฐานตอไปนี้ 4.1 รูปถายปจจุบันขนาด 2 นิ้ว 2 ใบ
-34.2 4.3 4.4 4.5 4.6 4.7
ใบรับรองแพทย สําเนาบัตรประจําตัวประชาชนพรอมฉบับจริง สําเนาทะเบียนบานพรอมฉบับจริง หนังสือค้ําประกันพรอมฉบับจริง หลักฐานการศึกษาพรอมฉบับจริง หลักฐานอื่น ๆ เชน ใบอนุญาตขับขี่รถยนตหรือรถจักรยานยนต ใบรับรองการอบรม ตาง ๆ เปนตน
5. ทะเบีย นประวัติพ นักงาน บริษัท ฯ เนนความสํา คัญในการเก็บ รักษาทะเบีย นประวัติข อง พนั ก งานให ทั นต อ เหตุก ารณ อยู เ สมอ บริ ษัท ฯ จึ งกํ า หนดให พ นั กงานทุ กท า นนํ า หลั ก ฐานต า งๆ ดังตอไปนี้มามอบใหเจาหนาที่แผนกทรัพยากรบุคคลเพื่อจัดแฟมประวัติพนักงาน 5.1.ใบสมัครงาน ตามแบบที่บริษัทฯ กําหนดพรอมรูปถายสีขนาด 1 นิ้ว (3 รูป) 5.2.สําเนาบัตรประจําตัวประชาชน (ฉบับที่ใชเปนปจจุบันตลอดระยะเวลาที่ ยังเปนพนักงาน ของบริษัทฯ) 5.3.สําเนาทะเบียนบาน 5.4.สําเนาทะเบียนสมรส (หากมี) 5.5.สําเนาเอกสารการศึกษาและการอบรมที่เกี่ยวของ 5.6.สําเนาทะเบียนทหาร (กรณีที่เปนพนักงานชาย) 5.7.สําเนาบัตรประจําตัวผูเสียภาษี และเอกสารใบรับรองการหักภาษี ณ ที่จายจากบริษัทฯ เดิม (หากมี) 5.8.สําเนาบัตรประกันสังคม (หากมี) 5.9.สําเนาหนังสือรับรองการทํางาน (หากมี) 5.10.แผนที่แสดงที่ตั้งของที่อยูตามภูมิลําเนาและที่อยูปจจุบัน พรอมหมายเลขโทรศัพทที่ สามารถติดตอไดในกรณีฉุกเฉิน 5.11.เอกสารการตรวจสุขภาพ หรือใบรับรองแพทยแผนป จจุบันชั้นหนึ่ง ตามรายละเอียดการ ตรวจสุขภาพที่บริษัทฯ กําหนด 5.12.หากมีการเปลี่ยนแปลงสถานภาพสวนบุคคล (ไดแก ทางครอบครัว, การศึกษา, ที่อยู, ทะเบียนราษฎร และหมายเลขโทรศัพท ) จะตองแจงพรอมทั้งมอบหลักฐานที่มีการเปลี่ยนแปลงให บริษัทฯ ทราบภายใน 15 วันนับแตวันที่มีการเปลี่ยนแปลง) อนึ่ง หากพนักงานไมรายงานการ เปลี่ยนแปลงดังกลาวขางตนนี้ใหบริษัทฯ ทราบ บริษัทฯ อาจพิจารณาลงโทษทางวินัยแกพนักงานนั้น ไดตามที่บริษัทฯ เห็นสมควร
-46. ผลงานหรือสิ่งประดิษฐใด ๆ อันสืบเนื่องจากการทํางาน หรือที่คนพบในระหวางเปนพนักงาน ของบริ ษั ท ฯ ทุ ก กรณี จ ะตกเป น สมบั ติ ข องบริ ษั ท ฯ ทั้ ง หมด โดยพนั ก งานไม มี สิ ท ธิ ไ ด รั บ ผลตอบแทนใดๆ เปนพิเศษ อีกทั้งไมมีสิทธิจําหนายจายโอนใหแกบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นใด เวนแต จะไดรับความยินยอมเปนลายลักษณอักษรจากบริษัทฯ กอน 7.
การโยกยาย การแตงตั้ง หรือการถอดถอนพนักงาน เพื่อใหการดําเนินงานของบริษัทฯ เปนไปอยางราบรื่น มีประสิทธิภาพ บริษัทฯ มีอํานาจ ใชดุลพินิจโดยเด็ดขาด ในการโยกยายพนักงานใดๆ จากหนวยงานหรือสวนใดสวนหนึ่งไปยังอีก หนวยงานหรือสวนอื่นๆ ภายในบริษัทฯ (ทุกสาขาและทุกสถานประกอบการ) นอกจากนี้บริษัทฯ มี อํานาจเปลี่ยนแปลงความรับผิดชอบของพนักงาน และอาจแตงตั้งพนักงาน หรือถอดถอนพนักงานจาก ตําแหนงใดๆ ตามที่บริษัทฯ เห็นสมควร พนักงานซึ่งทางบริษัทฯ ไดโยกยาย แตงตั้ง หรือถอดถอนนี้ มี สิทธิไดรับคาจางผลประโยชนและสวัสดิการตามตําแหนงใหมของพนักงานนั้น โดยบริษัทฯ จะปฏิบัติ ตามกฎหมายแรงงาน 8.
การลาออก พนักงานที่มีความประสงคจะลาออกจากการเปนพนักงานจะตองแสดงความจํานงคดวยการ เขียนแบบแจงการลาออกลวงหนาอยางนอย 30 วัน โดยยื่นตอผูบังคับบัญชาโดยตรง และการลาออก จะมีผลบังคับใชเมื่อไดรับการอนุมัติจากประธานของบริษัทฯ 9.
ความลับ พนักงานจะรักษาไวเปนความลับซึ่งขาวสาร และขอมูลใดๆ ของบริษัทฯ รวมตลอดถึงขอมูล ที่เกี่ยวกับเทคนิค อุตสาหกรรม ธุรกิจการคา การเงินหรือเรื่องอื่นใดที่พนักงานไดทราบมาเนื่องจาก การเปนพนักงานของบริษัทฯ โดยพนักงานจะไมนําขาวสาร และขอมูลดังกลาวไปใช หรือเปดเผยให ผูอื่นใด หรือแสวงหาประโยชนไมวาจะดวยวิธีใด ในประการที่นาจะทําใหบริษัทฯ เสื่อมเสียชื่อเสียง ไดรับความเสียหาย หรือเสียประโยชนไมวาจะโดยทางตรงหรือทางออม ทั้งนี้ ใหการดังกลาวมีผล ผูกพันพนักงานทั้งในระหวางการเปนพนักงานของบริษัทฯ และรวมถึงระยะเวลาหลังจากที่สัญญาจาง ไดสิ้นสุดลงแลวไมวาจะดวยกรณีใดก็ตาม โดยใหมีกําหนดระยะเวลา 5 ป อนึ่ง หากพนักงานฝาฝนขอบังคับเกี่ยวกับการทํางานในสวนนี้ไมวาจะเปนกรณีใดก็ตาม อันเปนเหตุใหบริษัทฯ ไดรับความเสียหาย ตองเสื่อมเสียชื่อเสียง พนักงานจะถูกลงโทษทางวินัยใน สถานหนักหรืออาจถูกบริษัทฯ เลิกจางไดโดยไมจายคาชดเชย นอกจากนี้ พนักงานจะตองรับผิด ชดใชคาเสียหายที่เกิดจากการฝาฝนขอบังคับเกี่ยวกับการทํางานในสวนนี้ ตามความเสียหายที่เกิดขึ้น
-5จริงกับทางบริษัทฯ ใหแกบริษัทฯ ภายในระยะเวลา 30 วัน บริษัทฯ
นับแตวันที่ไดรับแจงเปนหนังสือจาก
10.
การคิดคนใหม พนักงานตกลงวาทรัพยสินทางปญญา ผลงาน สิ่งประดิษฐ หรือสิ่งตางๆ ที่ถูกประดิษฐหรือ คิดคนขึ้นโดยพนักงาน ไมวาจะเปนเพียงคนเดียวหรือเปนกลุมคณะ ในระหวางที่ยังเปนลูกจางของ บริษัทฯ ทุกกรณี พนักงานจะตองแจงตอบริษัทฯ โดยทันทีที่ผลงาน สิ่งประดิษฐใดๆ หรือสิ่งตางๆ ที่ถูกประดิษฐหรือคิดคนขึ้น อนึ่ง ทรัพยสินทางปญญา ผลงาน สิ่งประดิษฐ หรือสิ่ง ตางๆ ที่ถูก ประดิษฐหรือคิดคนขึ้นโดยพนักงานดังกลาว จะตกเปนสมบัติของบริษัทฯ ทั้งสิ้น โดยพนักงานไมมี สิทธิกลาวอางหรือดําเนินการตามกฎหมายใดๆ เพื่อใหไดมาซึ่งความเปนเจาของ ทั้งไมมีสิทธิไดรับ ผลตอบแทนใดๆ เปนพิเศษ และไมมีสิทธิจําหนายจายโอนทํา สําเนาคัดลอกไมวากรณีใดๆ เพื่อใหแก บุคคลหรือนิติบุคคลอื่นใด อนึ่ง หากพนักงานฝาฝนขอบังคับเกี่ยวกับการทํางานในสวนนี้ไมวาจะเปนกรณีใดก็ตาม อันเปนเหตุใหบริษัทฯ ไดรับความเสียหาย ตองเสื่อมเสียชื่อเสียง พนักงานจะถูกลงโทษทางวินัยใน สถานหนักหรืออาจถูกบริษัทฯ เลิกจางไดโดยไมจายคาชดเชย นอกจากนี้ พนักงานจะตองรับผิด ชดใชคาเสียหายที่เกิดจากการฝาฝนขอบังคับเกี่ยวกับการทํางานในสวนนี้ ตามความเสียหายที่เกิดขึ้น จริงกับทางบริษัทฯ ใหแกบริษัทฯ ภายในระยะเวลา 30 วัน นับแตวันที่ไดรับแจงเปนหนังสือจาก บริษัทฯ 11.
การบังคับใชตามบทบัญญัติในพระราชบัญญัติคุมครองแรง พ.ศ. 2541 ขอมูลใดซึ่งมิไดรวมอยูในขอบังคับนี้ ใหนําบทบัญญัติในพระราชบัญญัติคุมครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาใชบังคับ 12.
การไมเขาไปมีสวนรวมในกิจการที่ไมใชธุรกิจของบริษัทฯ ขณะที่พนักงานปฏิบัติงานใหกับบริษัทฯ หามพนักงานมีสวนรวมไมวาในลักษณะใดก็ตาม ในกิจการของธุรกิจอื่นๆ ในทํานองแขงขันกับบริษัทฯ ไมวาจะโดยไดรับคาตอบแทนหรือไมก็ตาม นอกจากนี้ พนักงานจะไมไดรับอนุญาตใหมีสวนเกี่ยวของหรือมีธุรกิจร วมทั้งทางตรงและทางออมกับ บริษัทอื่นๆ ที่อยูในลักษณะงานหรือประกอบธุรกิจประเภทเดียวกัน หรือที่มีลักษณะเปนการแขงขัน กับบริษัทฯ ไมวาจะเปนเจาของ ผูถือหุน ที่ปรึกษา หรือกรรมการ ภายในขอบเขตของประเทศ ไทยและญี่ปุน ภายในระยะเวลา 2 ป นับแตสัญญาจางสิ้นสุดลงไมวาจะสิ้นสุดลงดวยกรณีใดก็ตาม อนึ่ง หากพนักงานฝาฝนขอบังคับเกี่ยวกับการทํางานในสวนนี้ไมวาจะเปนกรณีใดก็ตาม อันเปนเหตุใหบริษัทฯ ไดรับความเสียหาย ตองเสื่อมเสียชื่อเสียง พนักงานจะถูกลงโทษทางวินัยใน
-6สถานหนักหรืออาจถูกบริษัทฯ เลิกจางไดโดยไมจายคาชดเชย นอกจากนี้ พนักงานจะตองรับผิด ชดใชคาเสียหายที่เกิดจากการฝาฝนขอบังคับเกี่ยวกับการทํางานในสวนนี้ ตามความเสียหายที่เกิดขึ้น จริงกับทางบริษัทฯ ใหแกบริษัทฯ ภายในระยะเวลา 30 วัน นับแตวันที่ไดรับแจงเปนหนังสือจาก บริษัทฯ 13.
การทดลองงาน บริษัทฯ กําหนดใหมีการทดลองงานโดยจะมีเงื่อนไขและหลักเกณฑ เปนไปตามสัญญาจาง ทดลองงาน 14. วันทํางานของพนักงานโรงงาน บริษัทฯ อาจปรับไดตามความเหมาะสม เชน ในกรณีที่ไมมี วัตถุดิบ โรงงานมีงานทํานอยอาจลดวันทํางานลงเหลือ 5 หรือ 4 วันทํางานในรอบสัปดาห โดยจะมี การแจงใหพนักงานทราบเปนคราวๆ ไป ทั้งนี้ บริษัทฯ จะปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน
-7หมวด 3 วันทํางาน เวลาทํางานปกติ และเวลาพัก 1.
บริษัทฯ กําหนดวันทํางาน เวลาทํางานปกติ และเวลาพักไวดังนี้ 1.1. สํานักงาน/โรงงาน (สําหรับพนักงานที่ทํางานประจํา) วันทํางานปกติ คือ วันจันทร ถึง วันเสาร เวลาทํางานปกติ คือ 08.00 – 17.00 น. เวลาพัก คือ 12.00 – 13.00 น. วันหยุดประจําสัปดาห คือ วันอาทิตย 1.2. สําหรับพนักงานที่ทํางานเปนกะ พนักงานกะจะมีชั่วโมงสลับกันไปโดยมีชั่วโมงการทํางานวันละไมเกิ น 8 ชั่วโมง การ ทํางานในรอบสัปดาหจะมีเวลาทํางานปกติรวมแลวไมเกินสัปดาหละ 48 ชั่วโมง และจะ มีวันหยุดประจําสัปดาหสลับกันไป 1.2.1. กะที่ 1. เวลาทํางานปกติ คือ 07.00 – 15.00 น. เวลาพัก คือ 11.00 – 12.00 น. 1.2.2. กะที่ 2. เวลาทํางานปกติ คือ 15.00 – 23.00 น. เวลาพัก คือ 19.00 – 20.00 น. 1.2.3. กะที่ 3. เวลาทํางานปกติ คือ 23.00 – 07.00 น. เวลาพัก คือ 03.00 – 04.00 น. หมายเหตุ : 1).บริษัท ฯ สามารถจะจัดทํา กํา หนดเวลาการทํา งาน ชนิดใหมที่แตกตางกับ ที่ กล า วมานี้ ไ ด ห ากมี ค วามจํ า เป น ที่จ ะตอ งกระทํ า เช น นั้น และในกรณีดั ง กลา วบริษั ท ฯ จะแจ ง ให พนักงานทราบลวงหนาถึงชั่วโมงการทํางานซึ่งจะตองไมเกินกวาชั่วโมงทํางานตามปกติ เชนนั้น โดย ไดรับความยินยอมจากลูกจาง 2. 3.
พนักงานทุกคนตองปฏิบัติตามกําหนดเวลาทํางานที่ บริษัทฯ แจงใหทราบอยางเครงครัด บริษัทฯ สงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงแกไขวันทํางาน เวลาทํางาน วันหยุดและเวลาพักไดตาม ความเหมาะสมกับการบริหาร บางสวน บางแผนก หรือทั้งหมดได ถาบริษัทฯ เห็นวาการ เปลี่ยนแปลงเชนนั้นเปนการสมควรเพื่อเสริมสมรรถภาพในการทํางานเพื่อเหตุอื่นใด โดยแจง ใหพนักงานทราบลวงหนา โดยบริษัทฯ จะปฏิบัติใหถูกตองตามกฎหมายแรงงาน
-84. การมาทํางานสาย และการออกจากสถานที่ทํางานไปกอนเวลาเลิกงาน 4.1. การมาสาย พนักงานผูใดที่เกรงวาจะมาสายหรือมาทํางานชากวาเวลาเขางานที่กําหนด ไว จะตองติดตอทางโทรศัพทมายังผูบังคับบัญชาโดยดวน และหลังจากที่มาถึงบริษัทฯ แลวจะตอง ตองยื่นจดหมายแสดงถึงสาเหตุของการมาสายนั้นตอผูบังคับบัญชาทันที 4.2. การเลิกงานกอนเวลาที่กําหนด พนักงานที่ประสงคจะเลิกงานกอนเวลาเลิกงานนั้น จะตองไดรับอนุญาตจากผูบังคับบัญชาลวงหนา โดยกรอกแบบฟอรมขออนุญาตตามที่กําหนดไวทุก ครั้งไป 4.3. ชั่งโมงการทํางาน ในกรณีที่มาทํางานสาย หรือเลิกงานกอนเวลาเลิกงานนั้นใหปฏิบัติ โดยถือเอาเวลา 30 นาทีเปนเกณฑ (ในกรณีที่ไมครบ 30 นาทีนั้นใหถือวาเทากับ 30 นาที) และเมื่อ อนุญาตครบ 8 ชั่วโมงแลวใหถือวาไดขาดงาน 1 วัน
-9หมวด 4 วันลาและหลักเกณฑการลา 1.
ประเภทการลา บริษัทฯ กําหนดประเภทการลาไวดังนี้ 1.1 ลาปวย 1.2 ลาเพื่อคลอดบุตร 1.3 ลาเพื่อทําหมัน 1.4 ลาเพื่อรับราชการทหาร 1.5 ลาเพื่อการฝกอบรม หรือพัฒนาความรูความสามารถ 1.6 ลาเพื่ออุปสมบท 1.7 ลาหยุดในกรณีอื่นๆ
2.
หลักเกณฑการลา 2.1 การลาปวย 2.1.1 พนักงานมีสิทธิลาปวยไดเทาที่ปวยจริงโดยไดรับคาจางเทากับคาจางในวัน ทํางานปหนึ่งไมเกิน 30 วันทํางาน 2.1.2. วันลาปวยของพนักงาน ซึ่งจะเกิดขึ้นไดตอเมื่อพนักงานเจ็บปวย บาดเจ็บ หรือ ปวยดวยเหตุอื่น ๆ จนทําใหไมสามารถทํางานไดโดยไมทราบลวงหนา 2.1.3. การลาปวยตองแจงโดยเร็วที่สุดเทาที่จะทําไดซึ่งโดยปกติแลว จะตองกระทํา ภายใน 2 ชั่วโมงแรกของเวลาทํางานปกติในวันแรกที่ตองหยุดงาน โดยให พนักงานหรือบุคคลอื่นติดตอแจงใหบริษัทฯ หรือผูบังคับบัญชาของตนทราบ ดวยวิธีหนึ่งวิธีใด ถาไมอาจทําไดจะตองแจงโดยเร็วที่สุดและตองยื่นใบลาตาม แบบฟอรมของบริษัท ฯ ตอผูบังคับบัญชาโดยตรงของตนภายใน 2 ชั่วโมง หลังจากเริ่มงานในวันแรกที่กลับเขาทํางาน 2.1.4 กรณีการลาปวยเกิดขึ้นภายหลังจากที่มาทํางานแลว ใหขออนุมัติการลาตอ ผูบังคับบัญชาโดยตรงของตน 2.1.5. การลาปวยตั้งแต 3วันทํางานขึ้นไปจะมีวันหยุดคั่นหรือไมก็ตามจะตองมีหนังสือ รับรองจากแพทยแผนปจจุบันชั้นหนึ่งมาแสดง (ตนฉบับ) ถาพนักงานไมอาจ สามารถแสดงใบรับรองแพทยไดใหพนักงานชี้แจงใหบริษัทฯ ทราบ และ บริษัทฯ สงวนสิทธิจะใหแพทยประจําบริษัทฯ ตรวจรักษาอีกครั้งในกรณีที่เห็น สมควรเพื่อประกอบการพิจารณา 2.1.6. พนักงานที่ลาปวยโดยไมมีเหตุผลอันสมควรบอยครั้งและบริษัทฯพิสูจนไดวาไม
- 10 ปวยจริงบริษัทฯ จะพิจารณาโทษทางวินัยตามความเหมาะสมซึ่งจะพิจารณาเป น กรณีไป 2.1.7. การลาปวยที่เปนเท็จ นอกจากจะเปนการแจงรายงานขอมูลไมจริงตอผูบังคับบัญชาแลว ยังถือวาเปนความผิดที่รายแรงตอบริษัทฯ ฐานกระทําทุจริตซึ่งบริษัท ฯ จะพิจารณาลงโทษตามระเบียบ 2.1.8 การลาปวยหรือจํา นวนวันลาป วย จะนําไปประกอบการพิจารณาเงินเดือน/ คาจางประจําป 2.1.9. ในกรณีลาปวยและไมไดนอนพักที่หองพยาบาลของบริษัทฯ พนักงานสามารถ ลาไดครั้งละอยางนอย 4 ชั่วโมง 2.2 การลาเพื่อคลอดบุตร 2.2.1. พนักงานหญิงที่มีครรภ มีสิทธิลาเพื่อคลอดบุตรกอนและหลังคลอดครรภหนึ่ง ไมเกินเกาสิบวัน (รวมวันหยุด) บริษัทฯ จายคาจางในวันทํางานใหแกพนักงาน ซึ่งลาคลอดตลอดระยะเวลาที่ลาแตไมเกินสี่สิบหาวัน โดยลาลวงหนาอยางนอย 30 วัน 2.2.2. เนื่องจากการคลอดแมวาจะไดหยุดตามเวลาที่ไดรับอนุญาตให ลาคลอดตามขอ 1 แลวก็ตาม แตยังไมสามารถจะมาปฏิบัติงานได บริษัทฯ จะ อนุญาตใหลาหยุดเพิ่มเติมไดอีกไมเกิน 30 วัน โดยไมไดรับคาจาง 2.2.3. กรณีฉุกเฉิน พนักงานไมสามารถยื่นใบลาลวงหนาไดตามระเบียบ ใหพนักงาน แจงใหผูบังคับบัญชาทราบถึงเหตุผลโดยวิธีใดวิธีหนึ่งทันที เชน ทางโทรศัพท หรือ จะใหญาติหรือคูสมรสมาแจงการลาแทน 2.2.4. ถาพนักงานหญิงมีครรภมีใบรับรองของแพทยแผนปจจุบันชั้นหนึ่ง แสดงวาไม อาจทํางานในหนาที่เดิมไดใหมีสิทธิขอใหบริษัทฯ เปลี่ยนงานในหนาที่เปนการ ชั่ ว คราวกอ นหรือ หลัง คลอดไดโ ดยบริ ษัท ฯ จะพิจารณาเปลี่ย นงานใหแ ก พนักงานนั้นตามที่เห็นสมควร 2.3 การลาเพื่อทําหมัน 2.3.1. บริษัทฯ อนุญาตใหพนักงานลาเพื่อทําหมันได และมีสิทธิลาเนื่องจากการ ทําหมันโดยไดรับคาจาง ทั้งนี้จํานวนวันลาใหเปนไปตามระยะเวลาที่แพทยแผน ปจจุบันชั้นหนึ่งเปนผูกําหนด 2.3.2 พนักงานที่จะลาเพื่อทําหมัน จะตองแจงใหผูบังคับบัญชาทราบลวงหนาไมนอย กวา 15 วัน เมื่อไดรับอนุมัติจึงจะลาได
- 11 2.3.3 เมื่อกลับเขา ทํางานในวันแรก พนักงานจะตองยื่ นหนังสือรับ รองแพทยตอ ผูบังคับบัญชาเพื่อเปนหลักฐานประกอบการลา 2.4 การลาเพื่อรับราชการทหาร 2.4.1. ในกรณีที่ทางราชการไดออกหมายเรียกตัวพนักงาน เพื่อเขารับราชการทหารใน การเรียกพล เพื่อตรวจสอบ เพื่อการฝกวิชาทหาร หรือเพื่อทดสอบความพรั่ง พรอมโดยพนักงานจะไดรับคาจางในวันทํางานตลอดระยะเวลาที่ลา แตปหนึ่ง ไมเกิน 60 วัน (โดยนับตอเนื่องและรวมทั้งวันหยุด) 2.4.2. การลาเพื่อรับราชการทหาร พนักงานจะตองแจงใหบริษัทฯ ทราบภายใน 3 วัน นับจากวันที่ไดรับหมายเรีย ก การลาเพื่อรับราชการทหาร พนักงานตองลา ลวงหนา 30 วัน กรณีพนักงานที่ถูกเกณฑทหาร จะตองลาออกจากการเปน พนักงานของบริษัทฯ 2.4.3. และตองกลับเขาทํางานภายใน 3 วัน นับจากวันที่พนักงานพนหนาที่ทางราชการ ทหาร หากพนกําหนดระยะเวลาดังกลาวแลวพนักงานไมมีการติดตอกับบริษัทฯ โดยไมมีเหตุอันสมควร หรือปฏิเสธที่จะเขาทํางานในตําแหนงที่บริษัทฯ เสนอ ให (โดยตําแหนงและ คาจางไมต่ํากวาเดิม) ใหถือวาพนักงานผูนั้นไดสละสิทธิ ในการที่จะทํางานกับ บริษัทฯ และถือวา พนักงานผูนั้นลาออกจากการเปน พนักงานของบริษัทฯ โดยสมัครใจ 2.5 การลาเพื่อการฝกอบรมและพัฒนาความรูความสามารถ 2.5.1 พนักงานมีสิทธิลาโดยไมไดรับคาจาง เพื่อการฝกอบรม หรือพัฒนาความรู ความสามารถในกรณี ดังตอไปนี้ - เพื่อประโยชนตอการแรงงาน และสวัสดิการสังคม รวมทั้งการฝกอบรมหรือ พัฒนาเกี่ยวกับทักษะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทํางาน - การสอบวัดผลทางการศึกษาที่ทางราชการจัดหรืออนุญาตใหจัดขึ้น 2.5.2. ลูกจางซึ่งเปนเด็กอายุต่ํากวา 18 ป มีสิทธิ์ลาเพื่อเขาประชุมสัมมนา รับการอบ รม รับการฝกหรือลาเพื่อการอื่น ซึ่งจัดโดยสถานศึกษา หรือหนวยงานของรัฐ หรือเอกชน ที่ไดรับการเห็นชอบจากอธิบดีกรมสวัสดิการและคุมครองแรงงาน โดยใหลูกจางเปนผูแจงขออนุญาตเพื่อเขารับการอบรมนั้นๆ พรอมทั้งแสดง หลักฐานที่เกี่ยวของ (หากมี) และบริษัทฯ จะพิจารณาอนุมัติ โดยจายคาจางให ปละ 30 วัน 2.5.3. พนักงานที่มีสิทธิลา จะตองเปนพนักงานที่ผานการทดลองงานแลว
- 12 2.5.4. พนักงานตองยื่นใบลาลวงหนาเพื่อใหผูบังคับบัญชาพิจารณาอนุมัติ เปนเวลาไม นอยกวา 7 วัน โดยจะตองระบุถึงเหตุที่ลาโดยชัดแจง รวมทั้งมีเอกสาร ประกอบการขออนุ มั ติ เช น หนั ง สื อ ตอบรั บ การเข า ฝ ก อบรม รายละเอี ย ด หลักสูตร ฯลฯ ทั้งนี้รวมตลอดปพนักงานมีสิทธิลาไดไมเกิน 30 วันหรือ 3 ครั้ง อยางใด อยางหนึ่ง 2.5.5 บริษัทฯ มีสิทธิไมอนุมัติใหลา หากการลานั้นจะกอใหเกิดความเสียหายแกการ ดําเนินงานของบริษัทฯ 2.6. การอุปสมบท 2.6.1. พนักงานที่ผานการทดลองงานแลว สามารถขอลาอุปสมบทไดไมเกิน 15 วัน โดยไดรับคาจาง โดยสามารถลาไดเพียงครั้งเดียวเทานั้น อยางไรก็ตาม การลา อุปสมบทดังกลาวนี้ พนักงานตองใชสิทธิลาหยุดพักผอนประจําปที่มีสิทธิกอน ที่เหลือเปนลากิจที่บริษัทฯ จะพิจารณาอนุมัติให 2.6.2. การลาอุปสมบท บริษัทฯ จะอนุมัติหรือไมขึ้นอยูกับการพิจารณาของผูบังคับ บัญชา ซึ่งจะตองไมเปนผลเสียหายตองานของบริษัทฯ 2.6.3. ในปหนึ่งๆ บริษัทฯ มีสิทธิจํากัดจํานวนผูลาอุปสมบทไดตามความจําเปน 2.6.4. ในวันที่พนักงานกลับมาปฏิบัติงานตามปกติแลว พนักงานตอ งนําหลักฐานหรือ หนังสือรับรองการอุปสมบท (ใบสุทธิ) มาแสดงตอเจาหนาที่ฝายบุคคลเพื่อ บันทึกไวเปนหลักฐาน 2.7. การลาหยุดในกรณีอื่นๆ บริษัทฯ จะอนุญาตใหพนักงานลาหยุดไดในกรณีตางๆ ดังตอไปนี้ โดยไดรับคาจาง 2.7.1 การลาเพื่อจัดพิธีฌาปนกิจศพ เมื่อบิดา มารดา คูสมรส พี่นองรวมบิดามารดา และบุตรโดยชอบดวยกฎหมายของตนถึงแกกรรม โดยยื่นใบลาลวงหนาไมนอยกวา 1 วัน เมื่อไดรับอนุมัติจากบริษัทฯ แลวจึงหยุดได ทั้งนี้ ลาไดไมเกินครั้งละ 5 วัน 2.7.2. ลาเพื่อประกอบพิธีสมรสของพนักงาน โดยยื่นใบลาลวงหนาไมนอยกวา 15 วัน เมื่อไดรับอนุมัติจากบริษัทฯ แลวจึงหยุดได ทั้งนี้ ลาไดไมเกิน 3 วัน โดยมีสิทธิลาได เพียง 1 ครั้งตอคน 2.7.3. ในกรณีเกิดอัคคีภัย อุทกภัยตางๆ ซึ่งเปนภัยพิบัติทางธรรมชาติทําใหบานเรือน ที่พักอาศัยเกิดเสียหายเกินวาครึ่งหนึ่งขึ้นไป โดยยื่นใบลา และเมื่อไดรับอนุมัติจากบริษัท ฯ แลวจึงหยุดได ทั้งนี้ ลาไดไมเกิน 3 วัน
- 13 หมวด 5 วันหยุดและหลักเกณฑการหยุด 1.
วันหยุดประจําสัปดาห 1 .1 วันอาทิตย 1.2 บริษัทฯ สามารถจะจัดทํากําหนดเวลาการทํางาน ชนิดใหมที่แตกตางกับที่กลาวมานี้ได หากมีความจํา เปนที่จะตองกระทํา เชนนั้น และในกรณีดังกลา วบริษัทฯ จะแจงใหพนักงานทราบ ลวงหนาถึงชั่วโมงการทํางานซึ่งจะตองไมเกินกวาชั่วโมงทํางานตามปกติ เชนนั้น โดยไดรับความ ยินยอมจากลูกจาง 2.
วันหยุดตามประเพณี บริษัทฯ กําหนดใหมีวันหยุดตามประเพณีปหนึ่งไมนอยกวา 16 วัน ทั้งนี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงวันหยุดไดตามความเหมาะสมในแตละป โดยรวมวันแรงงานแหงชาติ ดวยและพนักงานจะไดรับคาจางเทากับคาจางในวันทํางาน ซึ่งบริษัทฯ จะประกาศใหทราบ ลวงหนาภายในเดือนธันวาคมของทุกป ถาวันหยุดตามประเพณีตรงกับวันหยุดประจําสัปดาห ใหหยุดชดเชยวันหยุดตามประเพณีวันนั้นไปหยุดในวันทํางานถัดไป
3.
วันหยุดพักผอนประจําป พนักงานมีสิทธิหยุดพักผอนประจําปโดยไดรับคาจางเทากับวันมาทํางาน ไดดังตอไปนี้ 3.1. ในปแรกของการทํางาน 3.1.1.พนั กงานที่เ ขา ทํา งานในเดือ นเมษายน ถึง เดื อนพฤษภาคม มีสิ ท ธิ หยุ ดพั กผ อ น ประจําปได 6 วันทํางาน 3.1.2.พนัก งานที่เข า ทํา งานในเดือนมิถุน ายน ถึง เดือ นกรกฎาคม มีสิท ธิหยุ ดพัก ผอ น ประจําปได 5 วันทํางาน 3.1.3.พนั ก งานที่ เ ข า ทํ า งานในเดื อ นสิ ง หาคม ถึ ง เดื อ นกั น ยายน มี สิ ท ธิ ห ยุ ด พั ก ผ อ น ประจําปได 4 วันทํางาน 3.1.4.พนักงานที่เขา ทํา งานในเดือนตุลาคม ถึงเดือนพฤศจิกายน มีสิท ธิหยุดพักผอน ประจําปได 3 วันทํางาน 3.1.5.พนั ก งานที่ เ ข า ทํ า งานในเดื อ นธั น วาคม ถึ ง เดื อ นมกราคม มี สิ ท ธิ ห ยุ ด พั ก ผ อ น ประจําปได 2 วันทํางาน 3.1.6.พนักงานที่เขาทํางานในเดือนกุมภาพัน ธ มีสิทธิหยุดพักผอนประจําปได 1 วัน ทํางาน 3.2. ในปที่สองเปนตนไป
- 14 3.2.1.ในปที่สองของการทํางาน พนักงานมีสิทธิหยุดพักผอนประจําปได ….. วันทํางาน 3.2.2.ในปที่สามของการทํางาน พนักงานมีสิทธิหยุดพักผอนประจําปได ……วันทํางาน 3.2.3.ในปที่สี่ของการทํางาน พนักงานมีสิทธิหยุดพักผอนประจําปได ……... วันทํางาน 3.2.4.ในปที่หาของการทํางาน พนักงานมีสิทธิหยุดพักผอนประจําปได …… วันทํางาน 3.2.5.ในปที่หกของการทํางาน พนักงานมีสิทธิหยุดพักผอนประจําปได …… วันทํางาน 3.2.6.พนักงานที่มีอายุงานตั้งแต 7 ปขึ้นไป มีสิทธิหยุดพักผอนประจําปได ….. วัน ทํางาน 3.3. การสะสม ในกรณีที่พนักงานไมสามารถใชวันหยุดพักผอนประจําปใดๆ ไดหมดสิ้นในปนั้นๆ ให ยกยอดนําไปใชในปถัดไปได อยางไรก็ตามเมื่อยกยอดมาแลว วันหยุดพักผอน ประจําปในปที่ยกยอดมารวมแลวตองไมเกิน 12 วันทํางาน สวนที่เหลือหากพนักงานไม 3.4. บริษัทฯ จะเปนผูกําหนดวันหยุดพักผอนประจําปใหแกพนักงานแตละคน โดยพนักงาน ที่ประสงคจะใชสิทธิจะตองยื่นใบลาลวงหนาไมนอยกวา 7 วันทํางาน และจะหยุดไดก็ ตอเมื่อไดรับการอนุมัติจากผูบังคับบัญชาเปนลายลักษณอักษรแลวเทานั้น มิฉะนั้น จะถือ วาขาดงานละทิ้งหนาที่ 3.5. การหยุดพักผอนประจําปแตละครั้งจะตองหยุดไมนอยกวา 1 วัน
- 15 หมวด 6 หลักเกณฑการทํางานลวงเวลา และทํางานในวันหยุด 1.
หลักทั่วไป 1.1 ในกรณีที่ลักษณะหรือสภาพของงานจําเปนตองทําติดตอกันไป ถาหยุดจะเสียหายแกงาน หรือเปนงานฉุกเฉินโดยจะหยุดเสียมิได บริษัทฯ โดยกรรมการผูจัดการหรือผูที่ไดรับ มอบหมาย อาจจะสั่งพนักงานคนใดคนหนึ่งหรือหลายคนหรือทั้งหมดใหทํางานเกินเวลา ทํางานปกติตามความในหมวด 3 หรือมาทํางานในวันหยุดตามหมวด 5 ได 1.2 เพื่อประโยชนแกการผลิต การจําหนาย และการบริการ พนักงานจะทํางานลวงเวลา หรือ ทํางานในวันหยุด หรือทํางานลวงเวลาในวันหยุดไดตามที่บริษัทฯ สั่งเทานั้น บริษัทฯ อาจใหพนักงานทํางานนอกหรือเกินเวลาทํางานปกติ หรือในวันหยุดเทาที่จําเปน
2.
อัตราคาลวงเวลา 2.1 คาลวงเวลา บริษัทฯ ใหพนักงานทํางานลวงเวลาในวันทํางาน พนักงานจะไดรับคาลวงเวลาใน อัตราไมนอยกวาหนึ่งเทาครึ่งของอัตราคาจางตอชั่วโมงในวันทํางานตามจํานวนชั่วโมง ที่ทํา หรือไมนอยกว า หนึ่งเท า ครึ่งของอัตราคา จา งตอหนวยในวั น ทํา งานตามจํา นวน ผลงานที่ทําไดสําหรับพนักงานซึ่งไดรับคาจางตามผลงานโดยคํานวณเปนหนวย
3.
คาทํางานในวันหยุด 3.1 พนักงานที่มีสิทธิไดรับคาจางในวันหยุด (เชน วันหยุดประจําสัปดาห วันหยุดตามประเพณี และวันหยุดพักผอนประจําป ) ถามาทํางานในวันหยุด จะไดรับคาทํางานในวันหยุดเพิ่มขึ้นอีกหนึ่ งเทาของคาจาง ในวันทํางานตามจํานวนชั่วโมงที่ทํางานในวันหยุ ด หรือตามผลงานที่ทําไดในวันหยุด สําหรับพนักงานตามผลงาน โดยคํานวณเปนหนวยตามที่ไดรับคําสั่งใหมาทํางานใน วันหยุด 3.2 พนักงานที่ไมมีสิทธิไดรับคาจางในวันหยุด (เชน วันหยุดประจําสัปดาหสําหรับพนักงาน รายชั่วโมง รายวัน และตามผลงาน) ถา มาทํา งานในวั นหยุด จะไดรั บ คา ทํ า งานในวั นหยุด สองเทา ของคา จ า งใน วันทํางานตามจํานวนชั่วโมงที่ทํางานในวันหยุด หรือตามผลงานที่ทําไดในวันหยุด
- 16 4.
คาทํางานลวงเวลาในวันหยุด พนักงานมีสิทธิไดรับคาทํางานลวงเวลาในวันหยุด เมื่อไดทํางานในวันหยุดเกินเวลา ทํางานปกติของวันทํางานในอัตราสามเทาของคาจางในวันทํางาน สําหรับจํานวนชั่วโมงที่ทํา เกินเวลาทํางานปกติ หรือตามผลงานที่ทําไดเกินสําหรับพนักงานที่ไดรับคาจางตามผลงานโดย คํานวณเปนหนวย ตามที่ไดรับคําสั่งใหมาทํางานลวงเวลาในวันหยุด
5.
พนักงานที่ไมมีสิทธิไดรับคาทํางานลวงเวลา คาทํางานในวันหยุด และคาลวงเวลาในวันหยุด พนักงานซึ่งมีอํานาจหนาที่ทําการแทนบริษัทฯ สําหรับกรณีการจาง การใหบําเหน็จ การลดคาจาง หรือการเลิกจาง ไมมีสิทธิไดรับคาทํางานลวงเวลา คาทํางานในวันหยุด และ คาลวงเวลาในวันหยุด
6.
พนักงานที่ทํางานลวงเวลาและทํางานลวงเวลาในวันหยุดในกรณีดังตอไปนี้ มีสิทธิไดรับคาตอบแทนเปนเงินเทากั บอัตราคาจางตอชั่วโมงในวันทํางานตามจํานวน ชั่วโมงที่ทํา 6.1 งานที่มีลักษณะหรือสภาพที่ตองออกไปทํางานนอกสถานที่ และโดยลักษณะหรือสภาพ ของงานไมอาจกําหนดเวลาทํางานที่แนนอนได 6.2 งานอยูเวรเฝาดูแลสถานที่หรือทรัพยสินอันมิใชหนาที่การทํางานตามปกติของพนักงาน 6.3 งานเฝาดูแลสถานที่หรือทรัพยสิน ทั้งนี้ เวนแตบริษัทฯ ตกลงจายคาลวงเวลาหรือคาลวงเวลาในวันหยุดใหแกพนักงาน
7.
เพื่อประโยชนแกการคํานวณคาลวงเวลา คาทํางานในวันหยุด และคาลวงเวลาในวันหยุด ในกรณีที่พนักงานไดรับคาจางเปนรายเดือน อัตราคาจางตอชั่วโมงในวันทํางาน หมายถึง คาจางรายเดือนหารดวยผลคูณของสามสิบและจํานวนชั่วโมงทํางานในวันทํางานตอวันโดยเฉลี่ย
- 17 หมวด 7 วันและสถานที่ที่จายคาจาง คาลวงเวลา คาทํางานในวันหยุด และคาลวงเวลาในวันหยุด บริษัทฯ กําหนดจายคาจางในวันทํางาน คาลวงเวลา คาทํางานในวันหยุด และคาลวงเวลา ในวันหยุด (ของวันที่ 21 ของเดือนนี้ถึงวันที่ 20 ของเดือนถัดไป) ใหแกพนักงานในวันทํางานปกติ เดือนละ 1 ครั้งในวันสิ้นเดือน โดยจายให ณ ที่ทําการของบริษัทฯ หรือจายผานธนาคาร ซึ่ งให พนักงานเปดบัญชีออมทรัพยกับธนาคารที่บริษัทฯ ไดแจงใหพนักงานทราบ โดยไดรับความ ยินยอม จากพนักงาน กรณีวันที่จายคาจางในวันทํางาน คาลวงเวลา คาทํางานในวันหยุด และคาลวงเวลาใน วันหยุดตรงกับวันหยุดธนาคาร หรือ วันหยุดของบริษัทฯ บริษัทฯ จะจายกอนวันหยุด 1 วันทํางาน ในกรณีเลิกจา งกอนถึงกํา หนดเวลาจา ยคา จา ง คา ลวงเวลา คา ทํา งานในวันหยุด และ คาลวงเวลาในวันหยุด บริษัทฯ จะจายเงินดังกลาวใหแกพนักงานภายใน 3 วันนับตั้งแตวันที่เลิกจาง
- 18 หมวด 8 วินัยและโทษทางวินัย 1.
วัตถุประสงค บริษัทฯ ไดกําหนดหลักเกณฑตาง ๆ ในหมวดนี้ขึ้นโดยมีวัตถุประสงคดังตอไปนี้ 1.1 เพื่อเปนแนวทางของผูบังคับบัญชาในการพิจารณา สงเสริม แกไข หรือปรับปรุงความ ประพฤติของผูใตบังคับบัญชา 1.2 เพื่อใหเกิดความเปนธรรมตอพนักงานในเรื่องวินัยในการปฏิบัติของบริษัทฯ 1.3 เพื่อเปนแนวทางในการปฏิบัติเกี่ย วกับ วินัย อันจะนํา ไปสูค วามเจริญกา วหนา ของ พนักงานและบริษัทฯ 1.4 เปนสวนชวยสงเสริมใหการดําเนินกิจการของบริษัทฯ บรรลุถึงวัตถุประสงคดวยความมี ระเบียบ เปนธรรม ถูกตองตามกฎหมายและกอใหเกิดความสงบสุขในการทํางานรวมกัน
2.
นโยบาย บริษัทฯ ไดวางนโยบายในเรื่องวินัยของพนักงานไวดังนี้ 2.1 ผูบังคับบัญชาจะตองพยายามปองกันมิใหเกิดปญหาในการลงโทษทางวินัย ดวยการใช หลักเกณฑการบริหารบุคคล หรือการปกครองที่ดี 2.2 ตามปกติแลวการดําเนินการลงโทษทางวินัยจะทําเปนขั้นตอน เพื่อใหพนักงานไดมี โอกาสปรับปรุงตนเอง นอกเสียจากความผิดนั้นมีลักษณะรายแรง
3.
วินัยพนักงาน เพื่อความเปนระเบียบเรียบรอย และมีประสิทธิภาพในการทํางานรวมกัน พนักงานจะตองปฏิบัติตามระเบียบดังตอไปนี้ 3.1 วินัยทั่วไป 3.1.1 ประพฤติตนเปนพลเมืองดีอยูในระเบียบและกฎเกณฑของสังคมไมประพฤติชั่ว กระทําหรือรวมกันกระทําการใด ๆ อันเปนการผิดกฎหมายของบานเมืองทั้งใน และนอกบริเวณบริษัทฯ 3.1.2 เชื่อฟงและปฏิบัติตามคําสั่งของผูบังคับบัญชา 3.1.3 ปฏิบัติตามระเบียบขอบังคับและกฎเกณฑตาง ๆ ของบริษัทฯ ที่กําหนดไวโดย เครงครัด 3.1.4 แจงการเปลี่ยนแปลงสถานภาพของตนเองใหบริษัทฯ ทราบในกรณีเปลี่ยนชื่อ / นามสกุ ล ที่ อ ยู อ าศั ย สมรส/หย า ร า ง มี บุ ต ร บุ ค คลในครอบครั ว เสี ย ชี วิ ต เปลี่ยนบัตรประจําตัวประชาชน ทั้งนี้ภายในเจ็ดวันนับจากวันที่เปลี่ยนแปลงใน แตละกรณี
- 19 -
3.1.5 รักษาความสะอาด ไมทิ้งสิ่งของหรือสิ่งปฏิกูลใด ๆ นอกภาชนะที่บริษัทฯ จัดไว 3.1.6 ชวยกันดูแลประหยัดการใชวัสดุอุปกรณเครื่องมือเครื่องใชพลังงานและสิ่งอื่นๆ ใหสิ้นเปลืองนอยที่สุด 3.1.7 ไมมาทํางานสาย ไมกลับกอนเวลา หรือไมลาหยุดงานโดยไมมีเหตุอันสมควร หรือเปนการพร่ําเพรื่อ 3.1.8 ไมชวยเหลือ สนับสนุน ชักจูง รูเห็นเปนใจ หรือเพิกเฉยตอการกระทําความผิด ของพนักงานอื่น 3.1.9 หามรับจางทํางานใหผูอื่นหรือดําเนินธุรกิจใด ๆ อันอาจเปนผลกระทบกระเทือน เวลาทํางานหรือกิจการของบริษัทฯ 3.1.10 หามนําสิ่งของ เครื่องมือเครื่องใช หรือผลิตภัณฑของบริษัทฯ ไปใชประโยชน สวนตัวหรือใชเพื่อการอื่น ซึ่งไมเกี่ยวของกับกิจการของบริษัท ฯ โดยไมไดรับ อนุญาต 3.1.11 ไมประพฤติตนหรือกระทําการใด ๆ ใหบริษัทฯ เสื่อมเสียชื่อเสียงหรืออาจไดรับ ความเสียหาย 3.1.12 ระมัดระวังดูแลรักษาสิ่งของหรือทรัพยสินของบริษัทฯ และตองแจงใหผูบังคับ บัญชาทราบเมื่อทําสิ่งของหรือทรัพยสินของบริษัทฯ เสียหายหรือสูญหาย 3.1.13 หามปดประกาศ โฆษณา ขีดเขียนขอความ แจกใบปลิว เผยแพรเอกสาร หรือ สิ่งตีพิมพใด ๆ ในบริเวณของบริษัทฯ โดยมิไดรับอนุญาต รวมทั้งการปลด ทําลาย ขีดเขียน เพิ่มเติมเอกสาร ประกาศ หรือคําสั่งใด ๆ ของบริษัทฯ ดวย 3.1.14 ไมเปดเผยขอมูล หรือปกปดขอเท็จจริงอันอาจเปนเหตุใหบริษัทฯ ไดรับความ เสียหาย 3.1.15 ไมดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาทบุคคลอื่น หรือเหยียดหยามผูบังคับบัญชา หรือลูกคา หรือผูมาติดตอ หรือกระทําอื่น ๆ ที่เปนการอันไมสมควร 3.1.16 หากพนักงานหญิงตั้งครรภใหแจงตอผูบังคับบัญชาเปนลายลักษณอักษร 3.1.17 พนักงานปฏิเสธไมยอมรับการตรวจโรคและตรวจสุขภาพโดยไมมีเหตุผลอัน สมควร 3.2 ระเบียบการเขาหรือออกบริเวณบริษัทฯ
3.2.1
3.2.2 3.2.3
3.2.4 3.2.5 3.2.6
3.2.8
3.2.9 3.2.10 3.2.11
- 20 พนักงานที่บ ริษัท ฯ กํา หนดใหบันทึกเวลาทํางาน ตองบันทึกเวลาดวยตนเอง ทุกครั้งเมื่อเขาทํางาน เลิกงาน และ/หรือ ตามระเบียบที่บริษัทฯ กําหนดหาม บันทึกเวลาแทนผูอื่น หรือรูเห็นเปนใจใหผูอื่นบันทึกเวลาให พนักงานที่เขามาในบริเวณของบริษัทฯ จะตองแตงกายใหสุภาพเรียบรอย พนักงานที่จะออกจากสถานที่ ทํางานในระหวางเวลาทํางาน และเวลาพักของ ตนเอง ไมวากรณีใดตองปฏิบัติตามระเบียบที่บริษัทฯ กําหนดทุกครั้ง และใน กรณีที่เปนการออกจากบริษัทฯ โดยไมกลับมาอีกใหบันทึกเวลาดวย ตองแสดงบัตรประจําตัวพนักงานตอยามรักษาการณเมื่อผานเขาบริษัทฯ หรือ เมื่อยามรักษาการณขอใหแสดง นอกจากการทํางานตามหนาที่ หามเขามาหรืออยูภายในสถานที่ทํางานโดย ไมไดรับอนุญาต การนําสิ่งของหรือทรัพยสินของบริษัทฯ ออกจากบริษัทฯ ไมวากรณีใดก็ตาม จะต อ งแสดงใบอนุ ญ าตนํ า สิ่ ง ของหรื อ ทรั พ ย สิ น ที่ จ ะนํ า ออกนั้ น ต อ ยาม รักษาการณ ตองใหยามรักษาการณตรวจสิ่งของที่นําติดตัวเขามา หรือเมื่อออกจากบริษัทฯ ไมใชเวลาทํางานตอนรับ หรือพบปะผูมาเยือนในธุรกิจสวนตัว หากจําเปนตอง ไดรับอนุญาตจากผูบังคับบัญชากอน และใหใชสถานที่ตามที่บริษัทฯ จัดไว โดยใชเวลาเทาที่จําเปน หามนําสัตวเลี้ยงใด ๆ เขามาในบริเวณบริษัทฯ หามนําเขาหรือใชเสพ หรือมีไวครอบครองซึ่งอาวุธ ยาเสพติด สิ่งมึนเมา หรือสิ่ง ที่ผิดกฎหมายภายในบริเวณบริษัทฯ หามพนักงานที่อยูในลักษณะมึนเมาเขามาภายในบริษัทฯ
3.3 การมาทํางาน 3.3.1 พนักงานตอ งมาทํ า งานอยา งปกติ และสม่ํา เสมอตามวัน เวลาทํา งานที่บ ริษัท ฯ กําหนด 3.3.2 พนักงานตองปฏิบัติตามระเบียบในเรื่องการลงเวลาเขาและออกงานโดยเครงครัด 3.3.3 พนักงานตองปฏิบัติตามระเบียบวาดวยการลา หรือการหยุดงานโดยเครงครัด 3.3.4 พนักงานตองปฏิบัติตามกําหนดการและเวลาในเรื่องการเขาทํางาน การออกไป และการกลับเขามาในการปฏิบัติงานนอกบริษัทฯ และการเลิกงาน 3.3.5 พนักงานหามทําบัตรบันทึกเวลาชํารุด สูญหาย หรือแกไขขอความใด ๆ
- 21 3.4 การปฏิบัติหนาที่ 3.4.1 พนักงานตองปฏิบัติตามคําสั่ง เมื่อบริษัทฯ มีคําสั่งใหโยกยายพนักงานไปประจํา หนวยงานใดไมวาจะเปนการชั่วคราวหรือเปนการถาวร 3.4.2 พนักงานตองปฏิบัติหนาที่อยางเต็มความสามารถ ดวยความซื่อสัตยสุจริตและ ขยันหมั่นเพียร 3.4.3 พนักงานตองปฏิบัติหนาที่ดวยความตั้งใจ สุขุมรอบคอบ และดวยความพรอมทั้ง รางกายและจิตใจ 3.4.4 พนักงานตองใชเวลาในการทํางานทั้งหมดของตนใหเปนประโยชนตองานตาม หนาที่ 3.4.5 พนักงานตองไมทํางานใหกับ บุค คลหรือองคกรอื่นใด อันอาจกระทบตอการ ทํา งานให แ กบ ริ ษัท ฯ ทั้ งนี้ ไ มว า จะไดรั บ ค า จา งหรื อ ผลประโยชนต อบแทน หรือไม 3.4.6 พนักงานตองไมเสพสุรา หรือยาเสพติด หรืออยูในอาการมึนเมาภายในบริเวณ บริษัทฯ หรือขณะปฏิบัติหนาที่ 3.4.7 หามพนักงานปดประกาศ นัดพบ ประชุม อภิปรายภายในบริษัทฯ รวมทั้ง จํา หน า ยจ า ยแจกเอกสารภายในบริ ษัท ฯ โดยไมไ ดรับ อนุญาตจากกรรมการ ผูจัดการ 3.4.8 หามนําบุคคลภายนอกเขามาภายในบริเวณบริษัทฯ โดยไมไดรับอนุญาต 3.4.9 หามสูบบุหรี่ภายในบริเวณบริษัทฯ เวนแตสถานที่ที่บริษัทฯ ไดกําหนดไว 3.4.10 หามฝาฝนระเบียบการแตงชุดทํางาน 3.4.11 หามใชเครื่องมือ เครื่องจักร โดยไมมีหนาที่เกี่ยวของ 3.4.12 หามรับประทานอาหาร หรือของขบเคี้ยวในเวลาทํางาน 3.4.13 หามละทิ้งหนาที่ หรือขาดงาน 3.4.14 หามทําประการอื่นอันไมสมควรแกการปฏิบัติหนาที่ของตนใหลุลวงไปโดย ถูกตองและสุจริต 3.4.15 พนักงานจะตองปฏิบัติหนาที่ หรือความรับผิดชอบตามที่ผูบังคับบัญชากําหนด 3.4.16 พนักงานจะตองปฏิบัติตามคํา สั่งของผูบังคับบัญชา ในกรณีเลื่อนตําแหนง โยกยาย หรือการมอบหมายงาน 3.4.17 พนักงานจะตองพึงรักษาสุขภาพของตนใหพรอมที่จะทํางานใหกับบริษัทฯ 3.4.18 พนักงานจะตองปฏิบัติตามระเบียบของพนักงานรักษาความปลอดภัย 3.4.19 พนักงานจะตองปฏิบัติตามที่ผูบังคับบัญชากําหนด วิธีการใชวัสดุอุปกรณในการ ทํางาน
- 22 3.4.20 พนักงานจะตองสวมใสหรือใชอุปกรณความปลอดภัยและสุขอนามัย 3.4.21 กรณีที่พนักงานแสดงเจตนาที่จะทํางานลวงเวลา หรือทํางานในวันหยุดแลวแต กรณีแตไมมาปฏิบัติงานนั้นโดยไมมีเหตุผลอันสมควร และสงผลใหบริษัท ฯ ไดรับความเสียหาย บริษัทฯ อาจจะพิจารณาโทษทางวินัยตามขอบังคับเกี่ยวกับ การทํางาน 3.5 การรักษาความลับของบริษัทฯ 3.5.1 พนักงานตองรักษาความลับของลูกคาของบริษัทฯ และพนักงานอื่น หรือบุคคล ที่เกี่ยวของกับบริษัทฯ 3.5.2 พนักงานตองรักษาความลับและชื่อเสียงของบริษัทฯ 3.5.3 พนักงานตองไมเปดเผยคาจางหรือเงินเดือน อัตราการขึ้นเงินเดือนของตนเอง หรือ ของผูอื่น จะโดยเจตนาหรือไมเจตนาก็ตาม ทํา ใหพ นั กงานผูไ มมีห นา ที่ เกี่ยวของไดทราบ 3.6 การรักษาผลประโยชนของบริษัทฯ 3.6.1 พนักงานตองไมเขาไปเกี่ยวของในการประกอบธุรกิจอื่นใด อันอาจมีผลกระทบ กระเทือนถึงประโยชนของบริษัทฯ หรือเปนการแขงขันกับบริษัทฯ 3.6.2 พนักงานตองไมปฏิบัติสิ่งใดอันเปนการขัดตอผลประโยชนของบริษัทฯ ไมวา ทางตรงและทางออม 3.6.3 พนักงานตองรักษาและเสริมสรางชื่อเสียงอัน ดีงามของบริษัทฯ 3.6.4 พนักงานตองรักษาผลประโยชนของบริษัทฯ โดยถือเสมือนวาเปนผลประโยชน ของตนเอง 3.7 การใชและการระวังรักษาทรัพยสินของบริษัทฯ 3.7.1 พนักงานตองไมสูบบุหรี่ หรือกอใหเกิดประกายไฟในสถานที่ซึ่งเก็บวัตถุไวไฟ หรือวัตถุซึ่งเปนเชื้อเพลิงภายในบริเวณบริษัทฯ หรือขณะปฏิบัติหนาที่ ยกเวน สถานที่ซึ่งจัดไวให 3.7.2 พนักงานตองไมนํา อุป กรณทรัพยสินของบริษัทฯ ไปใชนอกเหนือจากการ ทํางานใหแกบริษัทฯ 3.7.3 พนักงานตองระวังทรัพยสินของบริษัทฯ มิใหสูญหายหรือถู กทําลายไป แมจะ ไมใชหนาที่โดยตรงของตน
- 23 3.7.4 พนักงานตองศึกษา และทําความเขาใจถึงวิธีการใช และคําแนะนําในดานความ ปลอดภัยของทรัพยสินของบริษัทฯ กอนที่จะใชเสมอ 3.7.5 พนักงานตองใช และบํารุงรักษาทรัพยสินของบริษัทฯ เสมือนบุคคลทั่วไปพึงใช และบํารุงรักษาทรัพยสินของตนเอง 3.7.6 พนักงานตองปฏิบัติตามคําสั่ง หรือระเบียบเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทํางาน 3.8 ความซื่อสัตยสุจริต 3.8.1 พนักงานตองไมเปลี่ยนแปลง ปลอม แกไข ตัดทอน หรือทําลายเอกสารตาง ๆ ของบริษัทฯ หรือเอกสารที่มีการเกี่ยวของระหวางบริษัทฯ กับพนักงานโดยไมมี อํานาจหนาที่ที่จะกระทําการดังกลาว 3.8.2 พนักงานตองแจงขอมูลสวนตัวของตนตามที่บริษัทฯ ตองการแกบริษัทฯ ตาม ความเปนจริงและถาขอมูลที่ไดแจงไวแลวไมถูกตองตามความเปนจริงไมวาดวย เหตุผลใด พนักงานตองรายงานขอมูลที่ถูกตองใหบริษัทฯ ทราบโดยเร็วที่สุด 3.8.3 พนักงานตองใหความรวมมือกับบริษัทฯ ในการสอบสวนเรื่องราวตาง ๆ ที่ บริษัทฯ ตองการ และในการรวมมือดังกลาวพนักงานจะตองกระทําการตาง ๆ ดวยความสุจริต 3.8.4 พนักงานตองไมอาศัยอํานาจหนาที่ หรือโอกาสในการทํางานกับบริษัทฯ เพื่อ แสวงหาประโยชนใด ๆ อันขัดตอจรรยาบรรณวิชาชีพของตน ระเบียบประเพณี ในการทํางาน กฎหมาย หรือขัดตอผลประโยชนของบริษัทฯ 3.8.5 พนักงานตองไมแจงขอความเท็จหรือลาปวยเท็จตอผูบังคับบัญชาหรือบริษัทฯ 3.8.6 พนักงานตองยินยอมใหยามรักษาการณของบริษัทฯ ตรวจในกรณีที่เกิดความ สงสัยวาจะมีสิ่งของที่ผิดกฎหมาย หรือไดมาจากการกระทําผิดกฎหมาย หรือ อาวุธอยูในตัวพนักงาน 3.8.7 พนักงานตองไมปกปด หรือบิดเบือนความจริงเพื่อไดมาซึ่งประโยชนของตน และผูอื่น 3.8.8 พนักงานตองไมแจงหรือใหขอความอันเปนเท็จตอผูบังคับบัญชา 3.8.9 พนักงานตองรักษาไวซึ่งงานในหนาที่ในลักษณะสรางเสริม หรือรักษาไวซึ่ง ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และไมจงใจหรือเจตนาปฏิบัติงานใหลาชา 3.8.10 พนักงานจะตองบริการลูกคาเต็มความสามารถ หรือจะตองรักษาผลประโยชน ของบริษัทฯ อยางสูงสุด 3.9 ความประพฤติ
3.9.1
3.9.2 3.9.3 3.9.4 3.9.5 3.9.6 3.9.7
3.9.8
3.9.9 3.9.10
3.9.11
4.
- 24 พนักงานตองไมทําการทะเลาะวิวาท หรือใชกําลังประทุษรายซึ่งกันและกันใน บริเวณบริษัทฯ ความในขอนี้หมายความรวมถึงสถานที่อื่น เมื่อบริษัทฯ จัดงาน หรือมีงานนอกสถานที่บริษัทฯ หรือในขณะทํางานนอกสถานที่และรถรับ -สง พนักงานตองเปนผูตรงตอเวลาในการนัดหมายอันเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน พนักงานตองใชจายเงินทองที่เหมาะสมกับสถานภาพทางการเงินของตน โดยไม ปลอยใหตนเองมีหนี้สินลนพนตัว พนักงานตองไมพกอาวุธ หรือครอบครองสิ่งผิดกฎหมายเขา มาในบริษัท ฯ หรือในขณะปฏิบัติหนาที่ พนักงานตองประพฤติ ตนใหอยูในศีลธรรมอันดี หรือไมประพฤติชั่วรายอยาง รายแรงทั้งในและนอกบริเวณบริษัทฯ พนักงานตองเชื่อฟง และปฏิบัติตามคําสั่งอันชอบธรรมของผูบังคับบัญชา หรือ บริษัทฯ ทั้งคําสั่งดวยวาจาลายลักษณอักษร และการสื่อขอความอื่น ๆ พนักงานตองเปนผูมีสัมมาคารวะ ไมพูดจาไมสุภาพ ก าวราว หรือแสดงขอความ หรือแสดงกิริยาอาการเปนการสอเสียด เหยียดหยาม ประณาม หรือดูหมิ่น พนักงานอื่น หรือผูบังคับบัญชา พนักงานตองไมยุยง สงเสริม หรือสนับสนุนใหเกิดการแตกแยกความสามัคคี การทะเลาะวิวาท หรือ การทํา รา ยร า งกายในหมู พ นั กงานของบริ ษัท ฯ หรื อ ระหวางพนักงานของบริษัทฯ กับบุคคลภายนอก พนักงานตองไมกระทําการใด ๆ อันเปนการผิดกฎหมายที่มีโทษทางอาญาโดย เจตนาถึงแมวาจะไมถูกดําเนินคดีก็ตาม เชน เลนการพนัน พนักงานตองไมเลนการพนันในบริเวณบริษัทฯ หรือในบริเวณบานพัก ของ บริษัทฯ ไมวาจะเปนเวลาทํางานหรือนอกเวลาทํางานก็ตาม หรือหามเลนการ พนันในขณะปฏิบัติหนาที่ไมวาในหรือนอกสถานที่ทํางาน หรือสงเสริมใหมีการ เลนการพนัน หรือมีหนี้สินจากการเลนการพนัน หรือถูกจับกุมเนื่องจากเลนการ พนันในสถานที่ทํางาน พนักงานตองไมกระทําการลวงเกินทางเพศซึ่งกันและกันในเวลาทํางาน หรือใน สถานที่ทํางาน หรือในบริเวณบานพักของบริษัทฯ หรือบนรถรับ - สงพนักงาน
บทลงโทษ วินัยของพนักงานตามที่ระบุมานี้พนัก งานมีหนาที่ตองปฏิบัติตามอยางเครงครัด และ อนุโลมบังคับใชถึงบานพักหรือรถรับ - สงพนักงานดวย ถาพนักงานผูใดปฏิบัติ หรือละเวนการ ปฏิบัติใด ๆ อันถือวาเปนการฝาฝนวินัยดังกลาวจะตองถูกพิจารณาลงโทษทางวินัยตามลักษณะ
- 25 แหงความผิด หรือความหนักเบาของการกระทําผิ ด หรือรายแรงเกิดขึ้น การลงโทษจะเปนไป ตามขอหนึ่งขอใด หรือหลายขอรวมกันก็ไดตามบทลงโทษทางวินัย บ ริ ษั ท ฯ กํ า ห น ด บทลงโทษทางวินัยไว 5 ประการดังนี้ 4.1 การตักเตือนดวยวาจา โดยบันทึกเปนหนังสือไวเปนหลักฐาน 4.2 การตักเตือนเปนหนังสือ 4.3 ลดตําแหนง 4.4 พักงานโดยไมจายคาจาง และไมจายสวัสดิการ 4.5 การเลิกจางโดยไมจายคาชดเชย 5.
การเลิ ก จ า งโดยไม จ า ยค า ชดเชย ผู มี อํ า นาจลงโทษมี ห ลั ก เกณฑ ใ นการพิ จ ารณาพนั ก งาน ผูกระทําผิด ดังนี้ 5.1 ทุจริตตอหนาที่หรือกระทําความผิดอาญาโดยเจตนาแกบริษัทฯ 5.2 จงใจทําใหบริษัทฯ ไดรับความเสียหาย 5.3 ประมาทเลินเลอเปนเหตุใหบริษัทฯ ไดรับความเสียหายอยางรายแรง 5.4 ฝา ฝนขอบังคับเกี่ยวกับการทํา งาน หรือระเบีย บ หรือคําสั่งของบริษัทฯ อันชอบดวย กฎหมายและเปนธรรมและบริษัทฯ ไดตักเตือนเปนหนังสือแลว เวนแตกรณีที่รายแรง นายจางไมจําเปนตองตักเตือน หนังสือเตือนใหมีผลบังคับไดไมเ กินหนึ่งปนับแตวันที่ ลูกจางไดกระทําผิด 5.5 ละทิ้งหนาที่เปนเวลาสามวันทํางานติดตอกัน ไมวาจะมีวันหยุดคั่นหรือไมก็ตามโดยไมมี เหตุอันสมควร 5.6 ไดรับโทษจําคุกตามคําพิพากษาถึงที่สุดใหจําคุก เวนแตเปนโทษสําหรับความผิดที่ ได กระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
6.
ในกรณีที่พนักงานทําผิดวินัย บริษัทฯ จะมีคําสั่งพักงานระหวางสอบสวนเปนหนังสือโดยระบุ สาเหตุความผิด และกําหนดระยะเวลาพักงานเพื่อสอบสวนไดไมเกินเจ็ดวัน โดยจะแจงให พนักงานทราบกอนพักงานในระหวางการพักงาน บริษัทฯ จะจายเงินใหแกพนักงานตามอัตราที่ กําหนดไวไมนอยกวารอยละหาสิบของคาจางในวันทํางานเมื่อการสอบสวนเสร็จสิ้น แลว ปรากฏวาพนักงานไมมีความผิด บริษัทฯ จะจายคาจางใหแกพนักงานเทากับรอยละหาสิบของ คาจางในวันทํางานนับแตวันที่พนักงานถูกสั่งพักงานพรอมดวยดอกเบี้ยรอยละสิ บหาตอป
7.
8.
- 26 ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมกฎระเบียบขอบังคับในการทํางานของ บริษัทฯ เพื่อความเหมาะสม ตามสภาพของสถานการณภายหนา โดยบริษัทฯ จะปฏิบัติให ถูกตองตามกฎหมายแรงงาน ผูมีอํานาจพิจารณาและดําเนินการลงโทษทางวินัย คือ กรรมการผูจัดการ หรือผูบังคับบัญชา แตละแผนกเปนผูลงโทษ หรือ บุคคลที่ไดรับการมอบหมาย หมวด 9 การรองทุกข
1.
วัตถุประสงค บริษัทฯ กําหนดหลักเกณฑการรองทุกขโดยมีวัตถุประสงคดังนี้ 1.1 เพื่อเสริมสรางความสัมพันธอันดีระหวางบริษัทฯ กับพนักงาน 1.2 เพื่อลดหรือขจัดปญหาขอของใจอันจะสงผลกระทบตอขวัญและกําลังใจของพนักงาน 1.3 เพื่อใหมีการวินิจฉัยการลงโทษทางวินัยอยางเที่ยงธรรมและถูกตอง
2.
ระเบียบปฏิบัติวาดวยการรองทุกข 2.1 ขอบเขตและความหมายของขอรองทุกข บริษัทฯ มีความปรารถนาที่จะใหการทํางานของพนักงานเปนไปดวยความเขาใจ ที่ดีระหวางบริษัทฯ กับพนักงานอันจะยังประโยชนสุขดวยกันทั้งสองฝาย ดังนั้นในกรณี ที่พนักงานมีปญหาอยางใดอยางหนึ่ง ซึ่งเปนผลมาจากการทํางานหรือสภาพการทํางาน หรือไมไดรับความเปน ธรรมในเรื่องใด ๆ พนักงานมีสิทธิที่จะยื่นคํารองทุกขเปนการ สวนตัวได 2.2 วิธีการและขั้นตอนการรองทุกข พนักงานที่ตองการยื่นคํารองทุกข ใหดําเนินการดังตอไปนี้ 2.2.1 ใหพนักงานยื่นคํารองทุกขเปนหนังสือ ระบุถึงสาเหตุ ระบุถึงวิธีการแกไขคํารอง ทุกขและลงลายมือชื่อดวยตนเอง ยื่นตอผูบังคับบัญชาภายใน 7 วัน นับแตวันที่มี ขอรองทุกขเกิดขึ้น 2.2.2 พนักงานผูมีขอรองทุกขจะตองเปนผูยื่นขอรองทุกขดวยตนเอง ทั้งนี้บริษัทฯ จะ ไมรับพิจารณาในกรณีที่พนักงานผูอื่นเปนผูยื่นรองทุกขแทน 2.3 การสอบสวนและการพิจารณาขอรองทุกข 2.3.1 เมื่อผูบังคับบัญชาระดับสูงที่ไดรับคํารองทุกขจากพนักงานแลว จะดําเนินการ หาทางยุติและชี้แจงดวยวาจา หรืออาจตอบเปนหนังสือแกพนักงานผูยื่นคํา รอง ทุกขภายใน 14 วันทํางาน นับแตวันที่ไดรับคํารองทุกขนั้น
- 27 2.3.2 กรณีพ นักงานผูยื่นคํา รองทุกข ไมไดรับ คํา ตอบจากผูบังคับ บัญชาระดับ สูง ตามขอ 2.3.1 ภายในกําหนดเวลาดังกลาว หรือไดรับคําตอบแลวแตยังไมเปนที่ นาพอใจใหพนักงานยื่นอุทธรณรองทุกขตอผูบังคับบัญชาระดั บบริหารอีกครั้ง ภายใน 7 วัน นับตั้งแตวันที่ไดรับทราบผลตามขอ 2.3.1 โดยผูบังคับบัญชาระดับ บริหารที่ไดรับคําอุทธรณรองทุกขดังกลาวจะวินิจฉัยและแจงผลใหพ นักงาน ทราบภายใน 14 วันทํางาน นับแตวันที่ไดยื่นอุทธรณรองทุกขและผลการวินิจฉัย ของผูบังคับบัญชาระดับบริหารถือวาเปนอันสิ้นสุด 2.4 กระบวนการยุติขอรองทุกข 2.4.1 กรณีที่พนักงานไมดําเนินการภายในระยะเวลาที่กําหนดไวในระเบียบ ใหถือวา ไมมีขอรองทุกขหรืออุทธรณรองทุกขเกิดขึ้น หรือขอรองทุกข หรืออุทธรณนั้น เปนอันสิ้นสุดแลวแตกรณี แตอยางไรก็ดีระยะเวลาที่กําหนดไวในระเบียบนี้ อาจจะขยายออกไปไดเมื่อมีการตกลงยินยอมกันระหวางพนักงานผูรองทุกขกับ ผูบังคับบัญชาระดับบริหาร 2.4.2 ผูมีอํานาจในการวินิจฉัยขอรองทุกข ตามขอ 2.3.1, 2.3.2 จะตองพิจารณาแกไข ปญหาดวยความยุติธรรมเพื่อกอใหเกิดประโยชนรวมกัน ระหวางพนักงานกับ บริษัทฯ ทั้งนี้พนักงานอาจขอคําปรึกษาจากผูจัดการแผนกเกี่ยวกับปญหา และ คํารองทุกขของพนักงาน และแนวปฏิบัติในการรองทุกขที่ถูกตองไดตลอดเวลา 2.5 ความคุมครองผูยื่นรองทุกขและผูเกี่ยวของ บริ ษั ท ฯ ยึ ด หลั ก ความเสมอภาค และความยุ ติ ธ รรมตลอดจนมุ ง เน น ความสัมพันธอันดีภายในองคกรเปนสําคัญ ดังนั้นพนักงานผูยื่นรองทุกขและผูเกี่ยวของ กับ ขอรองทุกข บริษัทฯ จะใหการเอาใจใสและพิจารณาดวยความเปนธรรมเพื่อดํารง ไวซึ่งบรรยากาศการแรงงานสัมพันธที่ดี
- 28 หมวด 10 การเลิกจาง การพนสภาพการเปนพนักงาน คาชดเชย และคาชดเชยพิเศษ 1.
นโยบาย 1.1 ถึงแมวาบริษัทฯ มีความปรารถนาอยางยิ่งที่จะใหพนักงานทุกคนไดทํางานกับบริษัทฯ อยางผาสุกและประสบความสําเร็จในหนาที่การงาน แตอาจจะมีบางครั้งคราวที่พนักงาน ที่ประสงคจะออกจากบริษัทฯ หรือทางบริษัทฯ อาจมีความจําเปนที่จะตองเลิกจางดวย เหตุผลตาง ๆ ตามแตกรณี 1.2 เมื่อพนักงานผูใดพนสภาพการเปนพนักงานไมวากรณีใด ๆ ก็ตาม พนักงานจะตองสงคืน ทรัพยสินของบริษัทฯ ที่พนักงานไดเบิกไปใชในการปฏิบัติหนาที่ และพนักงานผูใดมี หนี้สินของบริษัทฯ จะตองใชหนี้สินตาง ๆ ตอบริษัทฯ 1.3 พนักงานที่ป ระสงคจะลาออกตองแจงเปนลายลักษณอักษรตอผูบังคับบัญชาโดยตรง ของตนลวงหนาไมนอยกวา 30 วัน
2.
การเลิกจางและการพนสภาพการเปนพนักงาน การเลิกจางและการพนสภาพการเปนพนักงานจะมี ขึ้นในกรณีตอไปนี้ 2.1 ตาย 2.2 ลาออก ในกรณีที่สัญญาจางไมมีกําหนดระยะเวลา บริษัทฯ หรือพนักงานอาจบอกเลิกสัญญาจาง โดยบอกกลาวลวงหนาเปนหนังสือใหอีกฝายหนึ่งทราบ ในเมื่อถึงหรือกอนจะถึงกําหนดจาย คา จ า งคราวหนึ่งคราวใด เพื่อ ใหเ ปน ผลเลิก สัญ ญากั นเมื่อถึ งกํ า หนดจ า ยคา จ า งคราวถั ดไป ขางหนาก็ไดแตไมจําเปนตองบอกกลาวลวงหนาเกินสามเดือน 2.3 เลิกจางในระหวางทดลองงาน 2.4 เลิกจางเพราะเหตุผิดวินัย 2.5 เลิกจางในกรณีใด กรณีหนึ่ง ดังตอไปนี้จะไดคาชดเชย 2.5.1 เลิกจางเนื่องจากคนลนงาน โดยปรากฏวามีคนมากกวางานและทําใหบริษัทฯ เกิด ความสูญเปลาหรือกรณีที่บริษัทฯ เห็นวามีความจําเปนที่จะตองยุบหนวยงานนั้น 2.5.2 เลิกจางเนื่องจากสุขภาพของพนักงานไมเหมาะสม 2.5.2.1 เมื่อพนักงานลาปวยเกิน 30 วันทํางานในรอบป ยกเวนการเจ็บปวยที่ เกิดขึ้นเนื่องจากการทํางาน 2.5.3 เลิกจางเนื่องจากผลงานไมเปนที่พอใจหรือไมอยูในมาตรฐานของบริษัทฯ 2.5.4 เลิกจางเนื่องจากมีพฤติกรรมไมนาไววางใจหรือขาดคุณสมบัติของพนักงาน 2.5.5 เลิกจางเนื่องจากพนักงานที่มีสุขภาพไมสมบูรณ หรือหยอนความสามารถ
- 29 2.5.6 เกษียณอายุ 60 ป (นับตามบัตรประชาชน) 2.5.7 พนักงานที่เปนโรคจิตหรือมีพฤติกรรมที่มีจิตบกพรอง 3.
คาชดเชย 3.1 พนักงานที่ถูกเลิกจางในกรณีดังตอไปนี้จะไมไดคาชดเชย 3.1.1 พนักงานที่ถูกเลิกจางเพราะการลงโทษทางวินัยตามความในขอ 5 ของหมวด 8 ในขอบังคับนี้ 3.1.2 พนักงานที่ถูกเลิกจางในระหวางทดลองงาน 3.1.3 การจางที่มีกําหนดระยะเวลาจะกระทําไดสําหรับการจางงานในโครงการ เฉพาะที่ มิใชงานปกติข องธุรกิจหรือการคา ของบริษัท ฯ ซึ่งตองมีร ะยะเวลาเริ่มตนและ สิ้นสุดของงานที่แนนอน หรือในงานอันมีลักษณะเปนครั้งคราวที่มีกําหนดการ สิ้นสุด หรือความสําเร็จของงาน หรือในงานที่เปนไปตามฤดูกาล และไดจางใน ชวงเวลาของฤดูกาลนั้น ซึ่งงานนั้นจะตองแลวเสร็จภายในเวลาไมเกินสองป โดย บริษัทฯ และพนักงาน ไดทําสัญญาเปนหนังสือไวตั้งแตเมื่อเริ่มจาง 3.2 พนักงานที่ถูกเลิกจางจะไดคาชดเชยตามอายุงานดังตอไปนี้ (1) พนักงานซึ่งทํางานติดตอกันครบหนึ่งรอยยี่สิบวันแตไมครบหนึ่งปใหจายไมนอย กวาคาจางอัตราสุดทายสามสิบวัน หรือไมนอยกวาคาจางของการทํางานสามสิบ วันสุดทายสําหรับพนักงานซึ่งไดรับคาจางตามผลงานโดยคํานวณเปนหนวย (2) พนักงานซึ่งทํางานติดตอกันครบหนึ่งปแต ไมครบสามป ใหจายไมนอยกวาคาจาง อัตราสุดทายเกาสิบวัน หรือไมนอยกวาคาจางของการทํางานเกาสิบวันสุดทาย สําหรับพนักงานซึ่งไดรับคาจางตามผลงานโดยคํานวณเปนหนวย (3) พนักงานซึ่งทํางานติดตอกันครบสามปแตไมครบหกป ใหจายไมนอยกว าคาจาง อัตราสุดทายหนึ่งรอยแปดสิบวัน หรือไมนอยกวาคาจางของการทํางานหนึ่งรอย แปดสิบวันสุดทาย สําหรับพนักงานซึ่งไดรับคาจางตามผลงานโดยคํานวณเปน หนวย (4) พนักงานซึ่งทํางานติดตอกันครบหกปแตไมครบสิบป ใหจายไมนอยกวาคาจาง อัตราสุดทายสองรอยสี่สิบวัน หรือไมนอยกวาคาจางของการทํางานสองรอยสี่สิบ วันสุดทายสําหรับพนักงานซึ่งไดรับคาจางตามผลงานโดยคํานวณเปนหนวย (5) พนักงานซึ่งทํางานติดตอกันครบสิบปขึ้นไป ใหจายไมนอยกวาคาจางอัตราสุดทาย สามรอยวัน หรื อไมนอยกวา คา จา งของการทํ า งานสามรอยวั นสุดทา ยสํา หรั บ พนักงานซึ่งไดรับคาจางตามผลงานโดยคํานวณเปนหนวย
- 30 การเลิกจางตามขอ 3.2 หมายความวา การกระทําใดที่บริษัทฯ ไมใหพนักงานทํางาน ตอไป และไมจายคาจางใหไมวาจะเปนเพราะเหตุสิ้นสุดสัญญาจางหรือเหตุอื่นใด และหมายความ รวมถึงกรณีที่พนักงานไมไดทํางาน และไมไดรับคาจางเพราะเหตุที่บริษัทฯไมสามารถดําเนินกิจการ ตอไป 3.3 ในกรณี ที่ บ ริ ษั ท ฯ จะเลิ ก จ า งพนั ก งานเพราะเหตุ ที่ บ ริ ษั ท ฯ ปรั บ ปรุ ง หน ว ยงาน กระบวนการผลิ ต การจํ า หน า ย หรื อ การบริ ก าร อั น เนื่ อ งมาจากการนํ า เครื่ อ งจั ก รมาใช หรื อ เปลี่ยนแปลง เครื่องจักรหรือเทคโนโลยี ซึ่งเปนเหตุใหตองลดจํานวนพนักงาน ใหบริษัทฯ แจงวันที่ จะเลิกจาง เหตุผลของการเลิกจาง และรายชื่อพนักงานตอพนักงานตรวจแรงงาน และพนักงานที่จะ เลิกจางทราบลวงหนาไมนอยกวาหกสิบวันกอนวันที่จะเลิกจาง ในกรณีที่บริษัทฯ ไมแจงแกพนักงานที่จะเลิกจางทราบลวงหนา หรือแจงลวงหนานอย กวาระยะเวลาที่กําหนดตามขอ 3.3 ใหบริษัทฯ จายคาชดเชยพิเศษแทนการบอกกลาวลวงหนาแก พนักงานเทา กับ คา จา งอัตราสุด ทา ยหกสิบ วัน หรือเทา กับ คา จา งของการทํา งานหกสิบ วันสุดทา ย สําหรับพนักงานซึ่งไดรับคาจางตามผลงานโดยคํานวณเปนหนวย ในกรณีที่มีการจายคาชดเชยพิเศษแทนการบอกกลาวลวงหนาตามขอ 3.3 แลว ใหถือวา บริษัทฯ ไดจายสินจางแทนการบอกกลาวลวงหนาตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยดวย ในกรณีที่บริษัทฯ เลิกจางพนักงานตามขอ 3.3 หากพนักงานนั้นทํางานติดตอกันครบ หกปขึ้นไปโดยรวมวันหยุด วันลา และวันที่บริษัทฯ สั่งใหหยุดงานเพื่อประโยชนของบริษัทฯให บริษัทฯ จายคาชดเชยพิเศษเพิ่มขึ้นจากคาชดเชยตามขอ 3.2 สําหรับการทํางานที่เกินหกปแกพนักงาน ซึ่งเลิกจางนั้นไมนอยกวาคาจางอัตราสุดทายสิบหาวันตอการทํางานครบหนึ่งป หรือไมนอยกวาคาจาง ของการทํางานสิบหาวันสุดทายตอการทํางานครบหนึ่งป สําหรับพนักงานซึ่งไดรับคาจางตามผลงาน โดยคํานวณเปนหนวยแตคาชดเชยตามขอนี้ รวมแลวตองไมเกินคาจางอัตราสุดทายสามรอยหกสิบวัน หรือไมเกินคาจางของการทํางานสามรอยหกสิบวันสุดทาย สําหรับพนักงานซึ่งไดรับคาจางตามผลงาน โดยคํานวณเปนหนวย เพื่อประโยชนในการคํานวณคาชดเชยพิเศษ เศษของระยะเวลาทํางานที่มากกวาหนึ่งรอย แปดสิบวันใหนับเปนการทํางานครบหนึ่งป 3.4. ในกรณีที่บริษัทฯ ยายสถานประกอบกิจการไปตั้ง ณ สถานที่อื่น อันมีผลกระทบสําคัญ ตอการดํารงชีวิตตามปกติของพนักงานหรือครอบครัว บริษัทฯ จะแจงใหพนักงานทราบลวงหนาไม นอยกวาสามสิบวันกอนวันยายสถานประกอบกิจการ ในการนี้ ถาพนักงานไมประสงคจะไปทํางาน ดวยใหพนักงานบอกเลิกสัญญาได โดยพนักงานมีสิทธิไดรับคาชดเชยพิเศษไมนอยกวารอยละหาสิบ ของอัตราคาชดเชยที่พนักงานมีสิทธิไดรับตามขอ 3.2
- 31 ในกรณีที่บริษัทฯ ไมแจงใหพนักงานทราบการยายสถานประกอบกิจการลวงหนาตามขอ 3.4 วรรคหนึ่ง ใหบริษัทฯ จายคาชดเชยพิเศษแทนการบอกกลาวลวงหนาเทากับคาจางอั ตราสุดทาย สามสิบวัน หรือเทากับคาจางของการทํางานสามสิบวันสุดทายสําหรับพนักงานซึ่งไดรับคาจางตาม ผลงานโดยคํานวณเปนหนวยดวย พนักงานมีสิทธิยื่นคําขอใหคณะกรรมการสวัสดิการแรงงานพิจารณาภายในสามสิบวัน นับแตวันที่บริษัทฯ ยายสถานประกอบกิจการวา เปนกรณีที่บ ริษัทฯ ตองบอกกลาวลวงหนาหรือ พนักงานมีสิทธิบอกเลิกสัญญาโดยมีสิทธิไดรับคาชดเชยพิเศษตามขอ 3.4 วรรคหนึ่งหรือไม การบอกเลิกสัญญาตามขอ 3.4 วรรคหนึ่งดังกลาวนี้ พนักงานตองใชสิทธิภายในสามสิบ วันนับแตวันที่บริษัทฯ ยายสถานประกอบกิจการ หรือนับแตวันที่คําวินิจฉัยของคณะกรรมการ สวัสดิการแรงงานหรือคําพิพากษาของศาลเปนที่สุด
- 32 หมวด 11 สุขภาพอนามัยเพื่อความปลอดภัย 1.
บททั่วไป พนักงานจะตองใหความรวมมือกับบริษัทเกี่ยวกับการปฏิบัติตามขอเสนอและคําแนะนําตางๆ ที่ เกี่ยวกับสุขภาพอนามัยเพื่อความปลอดภัย เพื่อจะสามารถปองกันอันตรายและดํารงรักษาสุขภาพใหดี อยูเสมอ 2.
การตรวจเช็คสุขภาพอนามัย บริษัทฯ จะทําการตรวจเช็คสุขภาพอนามัยปละหนึ่งครั้งโดยจะมีแพทยแผนปจจุบันชั้นหนึ่งมา ทําการตรวจโรค และหากตรวจพบวาปวยเปนโรคจะสั่งหามมิใหปฏิบัติงาน หรือจํากั ดใหอยูภายใน ขอบเขตที่กําหนดไวตอไป หากพนักงานปฏิเสธไมยอมรับการตรวจโรคและตรวจสุขภาพโดยไมมี เหตุผลอันสมควร บริษัทฯ จะถือวาพนักงานฝาฝนขอบังคับฯ 3.
เกี่ยวกับอุปทวเหตุทางรถยนตตางๆ 3.1. พนักงานของบริษัทฯ สามารถใชรถของบริษัทฯ ไดในกรณีที่ผูบังคับบัญชาโดยตรงไดมี คําสั่งใหไปปฏิบัติงานใหสําเร็จลุลวงโดยเร็วเทานั้น และจะตองเปนกรณีที่ผู บังคับบัญชาชั้นสูง และ ฝายบริการธุรกิจทั่วไปเห็นชอบแลว 3.2.การเริ่มตน ปฏิบัติหนาที่นั้นใหนับเวลาที่ไดเริ่มออกจากสถานที่จอดรถที่กําหนดไว จนถึง เวลาที่ไดปฏิบัติธุรกิจเสร็จเรียบรอย และไดนําเอารถมาจอดไว ณ สถานที่ที่บริษัทกําหนดใหจอด เทานั้น 3.3.ในกรณีที่พนักงานนํารถไปใชโดยไมไดรับอนุญาตหรือนํารถไปตามที่ตางๆ นอกเสนทาง และนํากลับไปบานตนหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น การซอมแซมใหคืนอยูในสภาพดีทั้งหมด ผู ขับขี่รถคันนั้น จะตองรับผิดชอบทั้งหมด บริษัทฯ จะไมรับผิดชอบซอมแซมใหเปนอันขาด 4.การรักษาความปลอดภัย เพื่อที่จะดํารงไวซึ่งความปลอดภัยของตนเองและของผูอื่น พนักงานตองเคารพและปฏิบัติตาม ขอกําหนดตางๆ ที่กลาวไวขางลาง และผูบริหารจะตองไมยอมใหพนักงานฝา ฝน ไมปฏิบัติตาม ขอกําหนดดังกลาวนี้เปนอันขาด กลาวคือ 4.1.พนักงานของบริษัทฯ ทุกคน จะตองใชเครื่องแบบ และหมวกที่บริษัทฯ กําหนดใหเสมอ 4.2.เพื่อความปลอดภัย หามพนักงานไวผมยาวเกินไป หรือในกรณีที่ไวผมยาว จะตองรวบมัด ไวใหเปนระเบียบ
- 33 4.3.สําหรับพนักงานที่ทํางานเกี่ยวกับเครื่องจักร ตามปกติโดยทั่วไปแลว สถานการณและ ลักษณะการปฏิบัติงานจําเปนจะตองใชหมวด เฮลเมท (Helmet) , แวนตาที่โปรงใส, ถุงมือ, ที่อุดหู และรองเทาที่มีความปลอดภัยที่บริษัทฯ กําหนดไว 4.4.สําหรับพนักงานที่ทํางานเกี่ยวกับการเชื่อมโลหะนั้น จะตองใชแวนตาที่ปองกันมิใหแสง จากการเชื่อม ARC เขาตา จะตองสวมถุงมือหนัง, เครื่องปองกันรางกาย, รองเทาที่มีความปลอดภัย และผากันเปอนที่ปดหนาอก เพื่อปองกันประกายไฟตางๆ อันอาจจะเกิดขึ้นอีกดวย 4.5.ในขณะที่พนักงานปฏิบัติงานโดยใชรถยก Fork Lift และปนจั่นตางๆ นั้น จําเปนที่จะตอง นํารถ Fork Lift และรถปนจั่นเหลานั้นออกไปใหหางจากพนักงานคนอื่นๆ คือ ใหอยูในความ ปลอดภัยนอกเขต 4.6.เกี่ยวกับเครื่องจักรและเครื่องมือในการขนสงจะใหทํางานไปไดดวยดี จะตองใชบุคคลที่มี คุณวุฒิ มาปฏิบัติงานนั้น หามมิใหใชพนักงานผูอื่นที่ไมมีคุณวุฒินั้นมาทํางานและใชเครื่องมือนั้นเปน อันขาด 4.7.รายละเอียดของการปฏิบัติงาน จําเปนจะตองใชเครื่องอุปกรณตางๆ ที่ผู บังคับบัญชาได กําหนดไว เปนมาตรการรักษาความปลอดภัยอีกดวย
- 34 หมวด 12 สภาพการบังคับและการประกาศใช 1. 2.
ระเบียบขอบังคับนี้ใชตอพนักงานทุกคน บรรดาระเบียบ ขอบังคับ ประกาศ หรือคําสั่งที่ซึ่งมีผลบังคับใชในบริษัทฯ กอนหนาวันที่ ประกาศใชบังคับ และมีขอความแตกตางไปจากขอบังคับนี้ใหยกเลิกขอความเฉพาะในสวนที่ ขัดแยงกับขอบังคับนี้ และใหใชระเบียบขอบังคับนี้แทน ประกาศ ณ วันที่
เปนตนไป
ลงชื่อ (
) กรรมการผูจัดการ