“มองท้องฟ้า”
“พ่อๆ...ดูนั่นซิ มันเหมือนจระเข้ตัวยาวเลย” เล็กๆชี้นิ้วขึ้นไปทํามุม 45 องศาขณะที่ผมขับรถไปส่งเธอที่โรงเรียนในเช้าวันหนึ่ง ผมถามกลับไปว่า “ไหน จระเข้ที่ว่า” “นั่นไง หางยาวๆ ไปทางนุ่น.........ไง” เล็กๆพูดพร้อมกับวาดมือน้อยๆของ เธอไปทางขาวจนสุดเบาะที่นั่งของเธอ ชอบนะ...เวลานั่งหรือนอนมองท้องฟ้ากับเล็กๆ เพราะจินตนาการของเธอ มีมากมายเหลือเกิน ถึงแม้จะมีประสบการณ์บนโลกใบนี้ไม่นานนัก...8 ปีกว่าเอง ทุกครั้งเธอจะเห็นเป็นเรื่องสนุก ยังไม่มน ี ะ ที่เล็กๆจะบอกว่า ดูทอ้ งฟ้าแล้ว รู้สึกเศร้า เหงา ว้าเหว่ หรือเดียวดาย ถึงแม้บนท้องฟ้าจะมีเมฆดําทะมึน เธอก็แค่บอกว่า “พ่อ...ดีนะถ้าเดีย๋ วฝนตก เล็กๆจะได้ไม่ต้องนอนเตะผ้าห่ม อีก...คืนนี”้ หรือบางครั้งเธอจะพูดว่า “วันนี้ดูท้องฟ้ามืดๆ เล็กจะได้ใช้ร่มสี ฟ้าของเล็กๆแล้ว” ผมว่าในความเป็นจริงแล้ว เราถูกสร้างมาให้มองท้องฟ้า (โลก) คล้ายกับที่ เล็กๆมองอยู่ใช่ไหม ...แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ผมรู้สกึ อิจฉาเล็กๆทีก่ ารมองท้องฟ้าของเธอยังไม่ถกู ครอบงําด้วย ประสบการณ์ ความรู้ และมารยาของตัวเอง และของโลกใบนี้
“อยากเป็นเหมือนเล็กๆจัง” (ต้องตระโกนในใจดังๆด้วย) ตอนเด็กๆ ผู้เฒ่าผู้แก่มกั จะบอกว่า “มีคนตายหมูอ่ ีกแล้ว” เมื่อเรามองเห็น ท้องฟ้าสีแดงยามพลบค่ํา ทุกวันนี้ ผมยังตีโจทก์นี้ไม่แตกเลย ที่ผมสงสัยว่าแล้วมันเกี่ยวกันอย่างไรล่ะ บางทีอาจจะเป็นเพราะว่า “สีแดง” สื่อถึงความรุนแรง หรือเลือด....ก็ใช่นะ แต่มันเชือ่ มโยงยังไงกับการที่คนตายหมูแ่ ล้วท้องฟ้าเป็นสีแดง... ประสบการณ์หรือเปล่า ผมเคยตั้งข้อสงสัยอีกเรื่องหนึ่งที่เกีย่ วกับการมองคือ ผู้รู้หลายต่อหลาย ท่านมักจะพูดว่า คนเราต้องมองให้กว้าง ต้องมองให้ไกล ต้องมองการใหญ่ ต้องมองให้ถงึ ที่แก่น ผมเคยถามตัวเองว่า ... ที่เขาพูดมานั้น เราเข้าใจลึกซึง้ หรือไม่ และเข้าใจว่าอย่างไร ลองหาเวลาแล้วแหงนมองท้องฟ้าในวันที่ฟ้าใสๆซิ...นั่นแหละความหมาย ของสามสี่วลีที่ว่ามา การมองท้องฟ้าเป็นคําตอบให้กับหลายสิ่งหลายอย่างได้... พูดแบบนี้...เชื่อหรือเปล่า การมองท้องฟ้าช่วยให้สถานการณ์ที่เลวร้ายกลับเข้าสู่สภาพปกติขึ้นมาได้ ...บอกแบบนี้...คล้อยตามผมไหม การมองท้องฟ้าสร้างโลกใบนี้ให้น่าอยู่ขน ึ้ มาได้อกี ครั้ง... ว่ากันอย่างนี้...เห็นด้วยกันบ้างละซิ
ว่าแต่ว่า...เราท่านทัง้ หลายยังมีโอกาส และเวลาที่จะมองท้องฟ้าหรือเปล่า ...อันนี้ซิน่าคิด ชีวิตของเราเราท่านท่านมักจะถูกกําหนดด้วยกระดาษแผ่นเดียวคือ ตาราง การทํางานประจําเดือน ไม่เชื่อก็ลองดูซิว่าทีผ่ มพูดมันจริงหรือเปล่า หันไปหาคนข้างๆ แล้วลองถามว่า วันอังคารหน้าว่างไหม...ร้อยทั้งร้อยสิบ สิ่งที่ได้ยินกลับมาคือ “เดี๋ยวๆ ขอเช็คตารางการทํางานก่อน” แล้วมักจะตามมาด้วยคําสองคํานี้ คําใดคําหนึ่งคือ “ได้ซิ” หรือ “ไม่ได้อ่ะ เพราะ...” เป็นแบบนี้แล้ว เมื่อไหร่จะได้นั่งมองท้องฟ้าสักที หรือ... ผมมีความคิดอย่างหนึ่งคือ...ลองระบุกจิ กรรมการมองท้องฟ้าลงในตาราง การทํางานซิ เอาแค่ปีละ 121 ครั้ง เดือนละครั้ง ครั้งละ 12 นาทีก็พอแล้ว แล้วจะรู้ว่า มันช่วยได้อย่างที่พูดมาหรือเปล่า “เชื่อหรือไม่...ต้องลองดู”
เล็กๆมอง พ่อบันทึก
1
ตัวเลข 12 ไม่มน ี ัยสําคัญกับกิจกรรมการมองท้องฟ้าหรอก เขียนเอามัน...ส์ แค่นน ั้ เอง