นสพ.ชัยสมรภูมิ ฉบับที่ 57

Page 1


ทรงพระเจรญ ิ

หกสิบสี่พระชันษามหาชัย ปวงชนไทยร�นรมยสมมุงหมาย วันพระราชสมภพเจาฟาชาย รัชทายาทสืบทอดสายวงศจักรี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช พระมิ่งขวัญประชาชาติสูงศักดิ์ศรี กราบพระบาทดวยจงรักและภักดี นอมวจีพระองคทรงพระเจริญ ดวยเกลาดวยกระหมอม ขาพระพุทธเจา กองบรรณาธิการหนังสือพิมพชัยสมรภูมิ


EDITOR’S TALK พฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่ควรปรับทัศนคติ...ด่วน!? ประธานที่ปรึกษากิตติศักดิ์ พลเอก ธีรเดช มีเพียร ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ พลเอกสัมพันธ์ บุญญานันต์ พลเอกพัฑฒนะ พุธานานนท์ พลเอกพูลสวัสดิ์ ปัญจมานนท์ พลเอกปรีชา เปรมาสวัสดิ์ พลเอกขวัญชาติ กล้าหาญ พล.ต.ต.ภานุรัตน์ มีเพียร คุณวิชัย ศรีขวัญ คณะที่ปรึษา พลเอกวิโรจน์ บัวจรูญ พลเอกประดิษฐ์ บุญเกิด พลเอกสามารถ สมเศรษฐ์ พลเอกปรีชา ตุลย์สุวรรณ พลเอกชูศิลป์ คุณาไทย พลเอกกะสิณ ทองโกมล พล.ท.หญิง สุขุมาล เวศวงศ์ษาทิพย์ พล.ท.สมบูรณ์ ศรีมนฑา พลตรีสรชัย แก้วนพ พล.ต.อ.ณรงค์วิช ไทยทอง พล.ต.ท.ณัฐพงษ์ วัฒนสุคนธ์ พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ แสงเพชร คุณชลิต เรืองวิเศษ คุณนิธิชัย สุภาวงษ์ แสน เจริญจิตร ที่ปรึกษากองบรรณาธิการ พลเอกบัญชร ชวาลศิลป์ ปรีชา สามัคคีธรรม พลโทสุวัฒน์ อักษรกิตติ์ พล.ต.สัมพันธ์ แจ้งเจนเวทย์ อารักษ์ คคะนาท ดร.ปรภฏ ศศิประภา ดร.สุเมต สุวรรณพรหม ชัชวรินทร์ ธนธนินท์ศักดิ์ โกสินธ์ จินาอ่อน สุนทร ช่วยตระกูล พิพัฒน์ นวสวัสดิ์ ภูวนารถ ณ สงขลา ชะวัชชัย พาติณธุ กิจจา เจริญเกียรติก้อง พลศักดิ์ สุพร

เมือ่ พูดกันถึงการท่องเทีย่ ว ถึงอย่างไร การท่องเทีย่ วก็ยงั เป็นรายได้หลัก เป็นรายได้ทรี่ ฐั ต้องให้ความ ส�ำคัญ หากพิจารณาจากตัวเลขในปี ๒๕๕๘ ตัง้ แต่ตน้ ปีจนถึงต้นปี ๒๕๕๙ มีจำ� นวนนักท่องเทีย่ วทีเ่ ข้ามาใน ประเทศไทย ๑๒,๔๔๘,๖๔๑ คน เพิม่ จากปีกอ่ นร้อยละ ๒๔.๗๒ ก่อให้เกิดรายได้มากกว่า ๕๙๒,๙๒๓.๓๗ ล้านบาท รายได้เพิม่ ขึน้ จากปีทผี่ า่ นมาร้อยละ ๒๕.๑๓ และน่าจะขยายตัวอย่างต่อเนือ่ ง โดยคาดว่าเมือ่ ตลอดทัง้ ปีแล้ว รายได้จากการท่องเทีย่ วจะทะลุเป้า ๒.๒ ล้านล้านบาท หรืออาจจะมากกว่าที่กล่าวมาค่อนข้างแน่นอน ประเด็นที่ “ชัยสมรภูม”ิ หยิบยกขึน้ มาเป็นบทน�ำคือ เมือ่ เราพอใจหรือภูมใิ จกับตัวเลขของการท่องเทีย่ ว เป็นการแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเหมาะแก่การท่องเทีย่ วไม่แพ้ชาติอนื่ ๆ ในอาเซียนที่สำ� คัญเป็นศูนย์ด้าน การท่องเที่ยวมากกว่าหลายประเทศในอาเซียน ในประเทศมาเลเซีย มีการจัดท�ำเมกะโปรเจค ด้วยการจัดโปรแกรมการท่องเทีย่ วอย่างเป็นรูปธรรมใน แต่ละรัฐ ด้วยการเชิญสื่อมวลชนทั่วโลกไปเยี่ยม ลงทุนเลี้ยงดูกันเป็นอย่างดี พักโรงแรมห้าดาว ในฐานะ แขกวีไอพี มีการจัดเลี้ยงประชุมสื่อมวลชนทั่วโลก เพื่อให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนเมื่อกลับไปแล้วให้สามารถ เขียนเชียร์ประเทศของเขาได้ รัฐมนตรีการท่องเทีย่ วมาเลเซียกล่าวว่า การจัดการลักษณะนี้ ท�ำให้รายได้ ของประเทศเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี ซึ่งปัจจุบันก็ยังด�ำเนินนโยบายนี้อยู่ อย่างต่อเนื่องของทุกปีและตลอดทั้งปี อยู่ที่ว่าจะยกรัฐไหนเป็นพระเอกในแต่ละครั้ง ซึ่งนั่นหมายความว่า ต้องมีจุดขายที่ดีด้วย ส่วนบ้านเราผมยังไม่ได้ขา่ วในลักษณะนี้ แต่ได้ขา่ วว่า การท่องเทีย่ วได้ไปท�ำโรดโชว์ตา่ งประเทศเกีย่ วกับ การท่องเทีย่ ว แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีการจัดการอย่างไรก็ตาม แต่ละประเทศก็จะมีเทคนิคการน�ำเสนอต่างกันไป อย่างของประเทศไทย เรายังเน้นความเป็นธรรมชาติ ความน่าสนใจของสถานที่ ความสะอาดและการบริการ ทีพ่ กั และการบริการด้วยอัธยาศัยไมตรี ในประเทศสิงคโปร์จะมีการท�ำแลนมาร์ค ออกแบบสถานทีใ่ ห้นา่ สนใจ ส่วนในมาเลเซียเรามองว่า ธรรมชาติไม่นา่ สนใจเท่าประเทศไทย ทางเขาจึงเสริมด้วยวิธกี ารจัดการทีเ่ พิม่ เนือ้ หา ให้นา่ สนใจยิ่งขึ้น เช่น อย่างป่าชายเลนของเขา ว่าไปสู้บ้านเราไม่ได้ แต่เขาเพิ่มการจัดการให้มีนกและฝูง ปลามาเป็นตัวล่อ และจัดให้มรี า้ นอาหารเพือ่ บริการนักท่องเทีย่ วทีค่ ดิ จะนัง่ เรือไปเทีย่ ว จุดเด่นของมาเลเซียก็คอื การสร้างที่พักโดยไม่มีการท�ำลายหรือตัดต้นไม้ ทุกที่จึงสร้างความร่มรื่น ส่วนบ้านเรา เน้นความสวยแบบ โล่งเตียน สไตล์ไม้เตี้ยแบบจัดสวน ทั้งๆ ที่กฎหมายเมืองไทยเน้นให้มกี ารปลูกต้นไม้ ๓๐% ของสิง่ ปลูกสร้าง แต่ทำ� ไมไม่รม่ รืน่ เหมือนมาเลเซีย จะเห็นว่าในกรุงเทพฯ กับกัวลาลัมเปอร์ ความร่มรืน่ ต่างกันมาก ของเขามีตน้ ไม้ ใหญ่ๆ สูงๆ ไม่มกี ารตัดยอด บ้านเราเป็นต้นไม้ยอดกุดเสียเป็นส่วนใหญ่ ทีว่ า่ มา เรามองถึงการจัดการการท่องเทีย่ วทีม่ เี ทคนิคและวิธกี ารทีต่ า่ งกันตามทีเ่ ห็นมา อีกมุมหนึง่ เคยถาม นักท่องเที่ยวว่า เขาชอบอะไรเกี่ยวกับเมืองไทย ค�ำตอบที่ตรงกันก็คือ อาหาร เมืองไทยมีอาหารที่หากิน ได้ทั้งวัน ราคาถูก อีกอย่างคือ คนไทยเป็นผู้มีน�้ำใจโดยภาพรวมยังเป็นเช่นนั้น ที่ส�ำคัญ ประเทศไทย ง่ายๆ ไม่มรี ะเบียบหรือข้อบังคับให้นกั ท่องเทีย่ วต้องระมัดระวังอะไรมากเหมือนหลายๆประเทศในอาเซียน ค่อน ข้างให้อสิ ระ จะไปไหนมาไหนไม่วา่ กัน ไม่กำ� หนดเวลา อันนีเ้ ขาชอบมาก ทีส่ ำ� คัญการเมืองยังไม่มผี ลควบคุมนัก ท่องเทียวให้รสู้ กึ อึดอัด ด้วยความง่ายๆ ใจดีของวัฒนธรรมแบบไทยๆ ท�ำให้นกั ท่องเทีย่ วบางกลุม่ ถือโอกาสสร้างวีรกรรมอัน น่ารังเกียจ เช่น มีพฤติกรรมลบหลูส่ ถานทีท่ อ่ งเทีย่ ว แสดงความลามก อนาจาร การถ่ายคลิปวิตถารต่างๆ เหล่านี้เป็นมุมมองที่น่าคิดว่า ประเด็นนี้ถือเป็นการส่งเสริมการท่อเที่ยวได้หรือไม่ หรือถือเป็นสิ่งซึ่งเมื่อ ปล่อยไปอาจส่งผลให้คุณค่าของสังคมไทยถูกมองไม่ดีในสายตาของชาวต่างชาติมากขึ้นทุกวันจนเป็นผล เสียในอนาคตได้หรือไม่ เป็นความละเอียดอ่อนที่รัฐควรให้ความส�ำคัญ อีกประการหนึง่ พฤติกรรมดังกล่าวถึงแม้จะไม่ดไี ม่ใช่เรือ่ งทีน่ า่ ชืน่ ชม แต่หากมันอยูใ่ นทีท่ เี่ ขายอมรับ กันได้ ก็ควรมองข้ามได้หรือไม่ แต่การทีส่ อ่ื มวลชนโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ น�ำมาขยายผล จุดประเด็น จนกลายเป็นดาบสองคม คมหนึง่ ก็เป็นการบอกถึงความไม่สมควร แต่อกี คมหนึง่ ก็เป็นการท�ำให้ประเทศเสีย หาย เรือ่ งนีร้ ฐั สมควรมีนโยบายอย่างไร เช่น การเปลือยกายอาบแดด หรือการเดินเปลือยอก หรือการถ่ายรูป อุจจาดตากับสถานที่เคารพ เป็นต้น นอกจากทีก่ ล่าวมาแล้วว่า เสน่หข์ องเมืองไทยทีส่ ำ� คัญอีกอย่างก็คอื คืออาหารไทย แต่กเ็ ป็นทีน่ า่ ห่วง ว่า อาหารบ้านเราก็ไม่ถูกสุขลักษณะมากนัก อาทิ น�้ำปลาปลอม น�้ำส้มปลอม อาหารประเภทเนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้ทั้งหลายแช่สารพิษ เรื่องนี้ มองว่ารัฐควรให้ความส�ำคัญเช่นกัน สุดท้ายเรือ่ งทีพ่ กั โดยเฉพาะทีพ่ กั ทีอ่ ยูต่ ดิ กับชายทะเล ทีม่ กั ปล่อยน�ำ้ เสียลงทะเล ท�ำให้นำ�้ ทะเลสีไม่ สะอาดตา เรือ่ งนี้ วันนีไ้ ม่ดแู ล วันหน้าย่อมแสดงผลแน่นอน เมือ่ วันนัน้ มาถึง จะแก้ไขยากมากทีเดียว!?!

ด้วยคารวะ บรรณาธิการอ�ำนวยการบริหาร

ชัยสมรภูมิ 3


ปีที่ 5 ฉบับที่ 57

คณะผูจ้ ดั ท�ำ

ผูอ้ ำ� นวยการ ไมค์ ณ ชุมพร บรรณาธิการบริหาร พลาดิศยั สิทธิธญั กิจ บรรณาธิการข่าว ท�ำนอง ประชารักษ์ ผูช้ ่วยบรรณาธิการข่าว เฉลิมวุฒิ วรสิทธิ์พพิ ฒั น์ หัวหน้ากองบรรณาธิการ ณรงค์ฤทธิ์ ทิมทอง กองบรรณาธิการ ทรงวุฒิ ช่วยตระกูล, วรกร ทรัพย์ไทยกุล อนิรุทธิ์ ชวางกูร, กิตติพงศ์ รังสรรค์ปรีชา, หางกระดิง่ สินชัย ฉิมเกิด, ภานุวตั ิ บุญพันธ์ คอมพิวเตอร์กราฟิ ก ธนัญธร เจริญลาภ หัวหน้าช่างภาพ ว่าทีร่ อ้ ยตรี อรุณ สิทธิโชค บรรณาธิการข่าวภูมิภาค ธรรมรัตน์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผูส้ อ่ื ข่าวภูมิภาค ณัฐวุฒิ ละออสุวรรณ รุ่งโรจน์ เกษนอก, นัยน์กมล ทันนิเทศ บรรณาธิการโฆษณา ชรินทร จุลไสย ผูช้ ่วยบรรณาธิการโฆษณา ลัญฉกร บุตรวงษ์ (แอ็กซี)่ ฝ่ ายโฆษณา ศุภโชติ พาณิชรัตนพร, กมลวิสษิ ฐ์ สัมฤทธิ์โรจนกุล ที่ปรึกษาฝ่ ายกฎหมาย นิพธั ปิ่ นแสง, อรรถ แสงจิตต์, ธนพงษ์ ธนะโสภณ, จตุรงค์ พลนิล บรรณาธิการผูพ้ มิ พ์โฆษณา กฤตพัฒน์ จุลไสย ส�ำนักงาน 135/262 อาคาร 3 โสสุนทรคอนโด ต�ำบลตลาดขวัญ อ�ำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000 โทร : 0-2951-6529 แฟกซ์ : 02-881-6499 บริษทั ไอเดียพริ้นติ้ง (2013) จ�ำกัด 449 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 75 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 10700 โทร : 096-750-5052, 083-702-1730

4 ชัยสมรภูมิ

CONTENTS ไทยเปิดประตูการค้า สู่เมืองมรดกโลกอาเซียน 5 ธีระฉัตร ปษ.รมว.กห. สานต่องานบูรณาการ ล้อมรั้วป้องยาเสพติด 8 ชาติกษัตรา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร 11 ทหาร - คือ...“หัวใจ” แห่งความมั่นคงของชาติ 15 ข้าคือ “กาติบะห์ นูซันตารา” (Katibah Nusantara).. 18 ไขก๊อกทุกเกลียวความสงสัย กับ เสธ. “กล” คนพลังงาน 22 นักบริหารยอดนักสู ้ ถวิล เปลี่ยนศรี ประธานกรรมการผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย 26 ปฏิรูปหลักเกณฑ์การ ยื้อชีวิต ช่วยผู้ป่วยฉุกเฉินก่อนถึง รพ. 30 ปราบอิทธิพล เป็นหน้าที่แต่ระวัง !?!” 33 ปลดล็อค IUU งานโบว์แดง ทร. ประสานสิบทิศดันประมงไทยสู่สากล 35 เปิดตำ�นาน นักรบ ผู้ปิดทองหลัง องค์พระปฏิมา กับ อังคาร ไชโย 39 “ไฟใต้” สมรภูมิไม่รู้จบ บน...ความมั่นคงที่เปราะบาง?!? 41 มังกรบิน ผงาดฟ้า กาแฟโบราณของไทย 46 “พระองค์ดำ�” มหาราชนักรบ 50 “ความสุข” ปชช.คืนกลับมา บก.น.8 เดินหน้ารวบหลายคดี 52 การค้ามนุษย์ “ดัชนีชี้วัด” ความวิปริตของสังคมไทย!! 54 บมสัมภาษณ์พิเศษ ผอ.หมวย- ดร. สุภัตทา จันทรรังษี หญิงเหล็กแห่ง ฮัจยี กรุ๊ป 59 ปัญหา “เซ็กส์” กับ “สื่อ” 61 ขบวนการยาเสพติด ยังคงผงาดท้าทายอ�ำนาจรัฐ 62 คนเด่นในสมรภูมิ 66 สานสัมพันธ์ไทย - บรูไนชื่นมื่น 70 ดวงดาวพยากรณ์ 12 ราศี 72 เปิดประเด็น 2 สภา 74 รอบรั้วปทุมวัน 76 สังคมชัยสมรภูมิ 80


ไทยเปิดประตูการค้า สู่เมืองมรดกโลกอาเซียน ไทยเปิดประตูสู่จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ลาว เมียนมาร์ อินโดจีน และรัฐมอญ เจรจาการค้า การลงทุน เป็นการต่อยอดธุรกิจ ในกลุ่มประเทศเพื่อน บ้านประเทศไทยเดินหน้าส่งเสริมเศรษฐกิจอาเซียน เปิดประตูการค้าขยายปีกสูเ่ พือ่ นบ้าน โดยภาคเอกชน 5 จังหวัด ภาคเหนือตอนล่างเป็นหัวหอก ในการจัดแนวร่วมที่ท�ำการระหว่างกลุ่มอาเซียน มีหน่วยงาน พาณิชย์ของแต่ละประเทศร่วมประสานการค้า ในการก�ำหนดแนวทางเศรษฐกิจดังกล่าว ได้พงุ่ เป้าไปยัง ประเทศเพื่อนบ้านเป็นหลัก ก่อนขยายไปภาคพื้นอื่นๆ หากมีความเป็นไปได้ ซึ่งแต่ละประเทศมีศักยภาพ พอที่จะร่วมกันวางโครงสร้างและด�ำเนินการตามที่มีการเจรจากันแล้วในเบื้องต้น ปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจการค้าได้ มีการพัฒนาและวิวฒ ั นาการอยูต่ ลอดเวลา ก่อให้เกิดการรวมกลุ่มความร่วมมือทาง เศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ท�ำให้ ประเทศไทยต้องให้ความส�ำคัญกับการ เสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน เพื่อรองรับการเป็น ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งจะเป็น โอกาสทางการค้า การลงทุน และเพิ่ม ช่องทางการตลาดไปยังประเทศเพื่อน บ้าน รวมทั้งขยายฐานการผลิต ภายใน กลุม่ AEC กับกลุม่ ความร่วมมืออืน่ ภายใต้ ความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและ เอกชน ที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนการ พัฒนา ให้เกิดผลส�ำเร็จอย่างบูรณาการ ส� ำ นั ก งานพาณิ ช ย์ ใ นกลุ ่ ม จั ง หวั ด ภาค เหนือตอนล่าง ซึง่ ประกอบด้วย 5 จังหวัด คือ พิษณุโลก ตาก อุตรดิตถ์ สุโขทัย และ เพชรบูรณ์ โดยมีจงั หวัดพิษณุโลก เป็นศูนย์ กลางในการพัฒนา ซึ่งคุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการ ท่องเทีย่ วและกีฬา เดินทางไปเป็นประธาน เปิดงาน ประตูสเ่ ู มืองมรดกโลก INDOCHINA WORLD HERITAGE FAIR 2016 (LIMEC) ปี 2559 ณ จังหวัดสุโขทัย

ชัยสมรภูมิ 5


โดยกล่าวว่า “ระเบียงเศรษฐกิจที่ พาดผ่านภายในพืน้ ทีภ่ าคเหนือล่าง 1 เชือ่ ม โยงกับประเทศลาว และประเทศเมียนมาร์ นั่นคือ ระเบียงเศรษฐกิจหลวงพระบางอินโดจีน-เมาะล�ำไย (LuangprabangIndochina-Mawlamyine Economic Corridor: LIMEC) โดยเป็นแนวทางเชือ่ ม โยงระหว่าง แขวงหลวงพระบาง แขวง ไชยะบุลี ประเทศลาว ออกจากประเทศลาว ณ ด่านพรมแดนพูดู่ บ้านผาแก้ว เมือง ปากลาย แขวงไชยะบุลี (ประเทศลาว) เข้า สู่ประเทศไทยที่ด่านพรมแดนภูดู่ ต.ม่วง เจ็ดต้น อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ (ประเทศไทย) มายังพื้นที่อินโดจีน (พื้นที่ภาคเหนือตอน ล่าง 1) ออกจากประเทศไทย ณ ด่านพรม แดนแม่สอด จ.ตาก (ประเทศไทย) เข้าสู่ ประเทศเมียนมาร์ทดี่ า่ นเมียวดี รัฐกะเหรีย่ ง (ประเทศเมียนมาร์) ไปยังเมืองผาอัน รัฐ กะเหรี่ยง และเมืองเมาะล�ำไย รัฐมอญ เมืองเมาะล�ำไย เป็นเมืองที่มีพื้นที่ติดกับ ทะเลฝั่งอันดามัน โครงการ LIMEC มีภาคเอกชน รวมด้วย ทัง้ 5 จังหวัด มารวมตัวกัน ได้แก่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย เพชรบูรณ์ และตาก ในการจัดหาแนวทางที่ทำ� การ ค้ากัน”

6 ชัยสมรภูมิ


ด้านนาย ฐิติ วิศวชัยวัฒน์ ประธาน คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน กลุม่ จังหวัด ภาคเหนือตอนล่าง กล่าวเสริมว่า “หลัง จากได้ร่วมกันวางแนวระเบียบเศรษฐกิจ ที่ผ่านมา ปีที่แล้ว ได้มีการส่งผู้แทน ไป เจรจาเรือ่ งการค้า การลงทุน แลกเปลีย่ นกัน สปป.ลาวและเมียนมาร์ จึงเห็นโอกาสที่ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ มีความคิดตรงกันว่าจะได้ต่อยอดธุรกิจในกลุ่มจังหวัดและใน สามารถท�ำการค้าระหว่างกันได้ ทางพาณิชย์ เขตประเทศเพื่อนบ้านด้วย” อย่างไรก็ตาม การเปิดประตูการค้าสูเ่ มืองมรดกโลก อาเซียนนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อ ประเทศไทยอย่างมาก ที่จะก้าวไปอีกขั้นหนึ่งในการเป็นประชาคมอาเซียน ของไทย ในอนาคต

ชัยสมรภูมิ 7


ธีระฉัตร ปษ.รมว.กห.

สานต่องานบูรณาการ ล้อมรั้วป้องยาเสพติด ดีพอ่ ย่อมรูพ้ อเห็นลูกคนไหนออกอาการไม่ดี ก็ต้องรายงานท�ำการลงทัณฑ์จากสถานเบา ไปหาหนัก เริม่ จากท�ำโทษกักตัวทีก่ องร้อย ย้าย ออกไปหน่วยอื่น เตือนแล้วยังไม่ดีขึ้นต้อง ท�ำโทษงดบ�ำเหน็จ ซอยเท้าอยูก่ ับที่ ถ้ายังไม่ ดี ขึ้ น อี ก ก็ ป ระสานต� ำ รวจเข้ า ด� ำ เนิ น การ ตามกฎหมาย สิทธิข์ าดจะอยูก่ บั พ่อบ้านทีต่ อ้ ง รายงานความประพฤติ ข องลู ก บ้ า นให้ ผู้บังคับบัญชาพิจารณาทั้งหมด

พล.อ.ธีระฉัตร ค�ำรพวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามและประเมินผล การแก้ไขปัญหา ยาเสพติดของกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะได้เดินทางไปตรวจติดตามการ แก้ไขปัญหายาเสพติดในพืน ้ ทีจ่ งั หวัดหนองคาย เมือ่ วันที่ 28 มิ.ย.ทีผ่ า่ นมา ณ ห้องประชุมตรวจคนเข้าเมือง ด่านพรมแดนหนองคาย อ.เมืองหนองคาย ในที่ ประชุมนั้น ปษ.รมว.กห.ได้เน้นข้อสั่งการเรื่องการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ของผิด กฎหมาย และความมัน่ คงต่างๆ โดยมี พ.อ.ประสิทธิ์ ทิศาวงษ์ รองผูอ้ ำ� นวยการศูนย์ปอ้ งกัน และปราบปรามยาเสพติดชายแดน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน พร้อมส่วนราชการที่ เกี่ยวข้องเข้ารับนโยบายและแลกเปลี่ยนข้อมูล ซึง่ ต่อจากนัน้ ในวันที่ 29 มิ.ย.ทีผ่ า่ นมา พล.อ.ธีระฉัตร พร้อมคณะยังเดินทางไปตรวจ เยี่ยมและติดตามการด�ำเนินงานด้านป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของ หน่วยเรือรักษา ความสงบเรียบร้อยตามล�ำแม่น�้ำโขง เขตหนองคาย อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย พร้อมลง เรือตรวจภูมิประเทศตามล�ำแม่น�้ำโขง ภายหลังเดินทางกลับจากการปฏิบัติภารกิจ ปษ.รมว.กห.ได้ให้เกียรติเปิดห้องท�ำงาน ตอบข้อซักถามของทีมงานชัยสมรภูมิถึงความคืบหน้าด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติดใน ภาพรวมทั่วประเทศดังนี้ ล้อมรั้วกันภัยต้องเริ่มในหน่วยทหาร การเริม่ มาตรการแก้ไขปัญหายาเสพติดของกระทรวงกลาโหม จะเริม่ ท�ำในหน่วยทหารที่ เราดูแลรับผิดชอบก่อน เนือ่ งจากมีขอ้ ดีตรงที่ทหารมีวินัย มีความรักใคร่ ปรองดองกัน เริ่ม จากบ้านพักในแต่ละหน่วยให้แบ่งโซนรับผิดชอบ สมมุติเป็นตึกแถว 4 ชั้น ชั้นละ 20 ห้อง แต่ละชัน้ จะมีหวั หน้าแถว ก็มอบหมายให้หวั หน้าแถวดูแลแต่ละโซน ให้พอ่ ปกครองลูก ถ้าลูกไม่

8 ชัยสมรภูมิ

รั้วชุมชนก็ใช้กรรมวิธีแบบเดียวกัน ที่ นี้ พอออกไปล้ อมรั้ วที่ ชุ ม ชนนอก หน่วยทหาร ก็ใช้วธิ กี ารแบบเดียวกัน โดยให้ ในชุมชนดูแลกันเองให้เข้มแข็ง มีพเี่ ลีย้ งเป็น ทหาร ฝ่ายปกครอง ต�ำรวจ และหน่วยงาน ภาครัฐเข้าไปเป็นพีเ่ ลีย้ ง เสมือนการฝึกอบรม ลูกเสือชาวบ้านเช่นในอดีต ท�ำชาวบ้านให้ เข้มแข็ง เป็นพลังเงียบ ที่คอยจัดการดูแล กันเอง การสร้างชุมชนให้เข้มแข็งต้องช่วย กันชีใ้ ห้เห็นโทษของยาเสพติด ผูน้ ำ� ชุมชนต้อง เป็นผู้สอดส่องดูแลลูกบ้าน ต้องบูรณาการ ตั้งแต่ อบต.และอบจ.หาตัวผู้ต้องการเลิก ยาเสพติดส่งบ�ำบัด ส่งเข้าศูนย์ฟื้นฟู เพื่อ ให้ผู้ที่ก้าวพลาดได้มีโอกาสกลับไปใช้ชีวิต โดยมีอาชีพ และความรู้ทางวิชาชีพที่ศูนย์ ฟื้นฟูฝึกให้ส่งกลับไปให้คนในชุมชนโอบอุ้ม และท� ำ หน้ า ที่ ร ายงานข่ า วให้ ห น่ ว ยงานที่ เกี่ยวข้องทราบถึงพฤติกรรมผู้ที่เกี่ยวข้อง กับยาเสพติดหน้าใหม่ต่อไป ทุ ก หน่ ว ยงานเริ่ ม เดิ น หน้ า ตาม นโยบาย ณ เวลานี้ทุกฟันเฟืองเริ่มหมุนเดิน หน้าไปตามระบบตามนโยบายป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติ ด ของกระทรวง กลาโหม ซึ่งได้บูรณาการกับทุกภาคส่วนทั้ง ฝ่ า ยปกครองของกระทรวงมหาดไทย ส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติ ป.ป.ส. กอ.รมน. จังหวัด และหน่วยงานที่เกีย่ วข้องอืน่ ๆ โดย


เน้นการท�ำให้ชมุ ชนเข้มแข็ง เน้นท�ำให้เยาวชนเข้มแข็ง ท�ำงานอบรมชุมชนแต่ละจังหวัดกว่า 2,000 หมูบ่ า้ น ทีส่ ำ� คัญทุกหน่วยต้องปฏิบตั กิ ารตามนโยบายหลักที่ พล.อ. ประวิตร วงษ์สวุ รรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ไป นั่นคือ เพ่งเล็งข้าราชการทีม่ ี พฤติกรรมเกีย่ วข้องกับยาเสพติดเพือ่ ด�ำเนินการตามกฎหมาย และด�ำเนินการทางวินยั ให้สนิ้ ซาก ใช้บุคลากรที่มีอยู่เดินหน้าท�ำการอบรม ในการด�ำเนินการอบรมเยาวชนและชาวบ้านแต่ละหมู่บ้านเราจะใช้วิทยากรที่มี ความรู้ ความสามารถ และเชีย่ วชาญ ในการถ่ายทอดประสบการณ์อยูแ่ ล้ว ทีผ่ า่ นมาวิทยากร เหล่านีม้ อี ยูท่ กุ หน่วยงานแต่เป็นการท�ำงานแบบต่างคนต่างท�ำ เมือ่ เข้ามาในรูปแบบบูรณาการ แล้วทั้งวิทยากรทหาร กอ.รมน. ฝ่ายปกครองกระทรวงหมาดไทย ป.ป.ส. ภาคเอกชนต้อง เข้ามาแชร์กันหางบประมาณลงมาช่วยชุมชน โดยแต่ละหน่วยก็ต้องท�ำงานกันอยู่แล้วและ แต่ละหน่วยก็มีงบประมาณอยู่แล้ว เพียงแต่หลังจากนี้จะต้องยอมเหนื่อย ใช้ทั้งก�ำลังกาย ก�ำลังใจ ก�ำลังความคิดเข้ามาท�ำงานร่วมกันเพือ่ ขับเคลือ่ นนโยบายให้สมั ฤทธิผ์ ลอย่างรวดเร็ว ที่สุด เหมือนการด�ำเนินการจัดอบรมลูกเสือชาวบ้านเมื่อในอดีต ปลุกผีให้ตนื่ ฟืน้ คืนมาช่วยป้องกันภัย ตอนนี้ทุกภาคส่วนต้องตื่นตัว สร้างจิตส�ำนึกด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพ ติดร่วมกัน แกะด�ำในชุมชนต้องมีความละอาย คาดว่าไม่เกินปี 2560 จะเห็นผล โดยใช้การ อบรมเยาวชนและชาวบ้านในหมูบ่ า้ นให้ทราบถึงพิษภัยของยาเสพติด ซึง่ เจ้าหน้าทีต่ อ้ งใช้ความ สามารถในการดึงมวลชนเข้ามาร่วมท�ำงานด้านการข่าวด้วย สร้างความเป็นปึกแผ่นของคนใน ชุมชน เมือ่ ชุมชนเข้มแข็ง การข่าวของเจ้าหน้าทีด่ มี มี วลชนมาช่วยเหลือ ทุกอย่างจะเริม่ เห็นผล ดีขนึ้ ในเวลาอันใกล้ สังเกตได้จากการทีช่ ว่ งนีเ้ ริม่ มีผลการปฏิบตั งิ านด้านการจับกุมยาเสพติดคดี ใหญ่ๆ ยึดของกลางได้คราวละเยอะๆ ถีข่ นึ้ นัน่ ก็เพราะมวลชนและการข่าวของเราเข้มแข็งขึน้

ต้องเปิดโอกาสให้ประชาชน เป็นใหญ่ การด� ำ เนิ น การบู ร ณาการกั น ด้ า น ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ของเจ้า หน้าที่นั้น เจ้าหน้าที่จะเป็นเพียงพี่เลี้ยงคอย เข้าไปชักน�ำดูแล ถ่ายทอดความรูส้ ชู่ มุ ชน แต่ อบต. และ อบจ.จะต้องเป็นพ่อบ้าน โดยเฉพาะ การหามาตรการโอบอุ้มผู้เสพยาเสพติดที่ กลับตัวกลับใจ เข้ารับการบ�ำบัด และถูกส่ง กลับไปสู่ชุมชนแล้ว คนเหล่านี้จะเป็นก�ำลัง หลักด้านป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้ดีที่สุด เนื่องจากผ่านประสบการณ์การ หลงผิด เข้าใจพิษภัยยาเสพติด และทราบถึง พฤติกรรมของผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้ดี ทีส่ ดุ การข่าวของรั้วในหมู่บ้านจะต้องพึ่งพา คนเหล่านี้ ในขณะเดียวกันแต่ละ อบต.และ อบจ.ข้างเคียงก็ต้องเชื่อมโยงข่าวสารกัน เป็นเครือข่ายระหว่างกัน โยงกันเป็นใยแมงมุม ท�ำรั้วให้เข้มแข็งรอวันประกาศชัย การด�ำเนินการนั้นจะให้เห็นผลใน ระยะเวลาอันสั้นคงเป็นไปไม่ได้ ในขณะที่ เราก�ำลังด�ำเนินงานตามนโยบาย ฝ่ายปราบ ปรามก็ตอ้ งปราบปรามกันต่อไป และปฏิเสธ ไม่ได้วา่ ยาเสพติดจะมีการเล็ดลอดเข้ามา แต่ การใช้เวลาท�ำให้ชมุ ชนแข็งแรง โดยล้อมรัว้ ให้เข้มแข็งนั้น ก็เพื่อรอวันประกาศชัยชนะ เมื่อยาเสพติดทะลักเข้าแล้วเกิดการต่อต้าน จากมวลชน เกิดการคัดกรองพฤติกรรมกันเอง โดยการว่ากล่าวตักเตือนตามวิธีการเบาไป หาหนัก ก็จะท�ำให้ยาเสพติดขายไม่ได้ โดย เฉพาะตามหัวเมืองใหญ่ๆ ทีป่ ระชากรแข่งขัน กันสูงมีปัญหาการแพร่ระบาดมากต้องช่วย กันท�ำ เมือ่ ไม่มผี เู้ สพ ผูค้ า้ ก็อยูไ่ ม่ได้ ยาเสพติด ก็จะหมดลงไปจนสูญพันธุ์ ซึง่ จะส่งผลให้คดี ลัก วิ่ง ชิง ปล้น ที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติด ลดลงไปด้วย

ชัยสมรภูมิ 9


ขอความร่วมมือทางการของเพื่อนบ้าน ส�ำหรับปัญหาของผู้ค้ารายใหญ่ที่เป็นบุคลากรของประเทศเพื่อนบ้านรอบข้ า งเรา ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหน ให้ลองสืบสวนดูเอาจะพบข้อมูลว่า ผู้ค้าเหล่านี้เขาก�ำเนิดมาจาก ปู่ ย่า ตา ยาย เชื้อสายเกี่ยว ข้องกัน ท�ำกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ธุรกิจตกทอดถึงลูกหลาน หน�ำซ�ำ้ ยังมีเจ้าหน้าทีร่ ฐั ของประเทศเพือ่ นบ้านอยูใ่ นเครือข่ายพัวพันด้วย เนื่องจากค่าตอบแทน คุม้ ค่ากว่าเงินเดือน เรือ่ งนีเ้ มือ่ เรามีขา่ วในมือแล้ว ก็จะใช้โอกาสในการประชุมหารือมาตรการ ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ เพื่อขอความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทางการ เพื่อนบ้านให้ช่วยสอดส่องดูแลพฤติกรรมของผู้ที่เกี่ยวข้องให้ด้วยอีกทางหนึ่ง เนื่องจาก เราไม่สามารถก้าวล่วงเข้าไปจัดการได้ แต่ยนื ยันว่าการข่าวเราดีขนึ้ มาก โดยเฉพาะเราทราบ ถึงจุดพักรอตามตะเข็บชายแดน เราจึงสามารถจับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่ๆได้ถี่ขึ้นในช่วงเวลานี้

เมื่อท�ำให้ยาเสพติดขายไม่ได้ มันก็จะไม่ ทะลักเข้ามา ขณะนีต้ อ้ งยอมรับว่ารุน่ ลูกเรานี่ ท�ำกันไม่ทนั แล้ว แต่รน่ ุ หลานตัง้ แต่ 10-12 ขวบ ลงมายังพอมีความหวังอยู่ ต้องชีแ้ จงให้หลานๆ เหล่านี้รู้ถึงพิษภัย ดึง เข้ามาเป็นมวลชนให้ มากทีส่ ดุ ทัง้ การท�ำให้เยาวชนเข้มแข็ง ชุมชน เข้มแข็ง และหมู่บ้านเข้มแข็ง ยืนยันว่าทุก ฟันเฟืองก�ำลังหมุนขับเคลือ่ นท�ำหน้าทีอ่ ย่าง ต่อเนือ่ งเพือ่ การป้องกันปัญหายาเสพติดให้ ได้ผลอย่างยั่งยืน

อย่าตระหนกที่สถิติจับยาเสพติดพุ่งสูงขึ้น ในห้วง 3 เดือนทีผ่ า่ นมา จะเห็นว่ามีการจับกุมคดียาเสพติดได้เยอะและยึดของกลาง ได้มากขึน้ ขอจงอย่าตระหนกตกใจว่ามันทะลักเข้ามามากขึน้ แต่เพราะการข่าวเราเข้มแข็งขึน้ จึงสกัดจับกุมไว้ได้จำ� นวนมาก การชีว้ ดั อยากให้สำ� รวจดูทรี่ าคาขายแก่กลุม่ เป้าหมาย ยกตัวอย่าง เช่น ยาบ้าเคยขายได้ 300 บาท ต่อ เม็ด ตอนนี้ข ายกัน 150-200 บาทต่อเม็ด นั่นแสดง ว่าผูเ้ สพมีจำ� นวนน้อยลง จากการประเมินผลของอนุกรรมการ พบว่า ราคาขายในตลาดมีราคาถูก ลงเนื่องจากผู้เสพลดน้อยถอยลง

อุ ป สรรคแก้ ไ ขด้ ว ยการสร้ า งจิ ต ส�ำนึก อุปสรรคหนึ่งก็คือว่าขณะนี้แม้ทุก ภาคส่วนจะเข้าใจบทบาทหน้าทีข่ องตัวเองแล้ว แต่ ยั ง มี เ รื่ อ งงบประมาณติ ด ขั ด เล็ ก น้ อ ย อยากให้ ทุ ก จั ง หวั ด รวมกั น สร้ า งจิ ต ส� ำ นึ ก ร่วมกันว่าที่ท�ำกันอยู่ก็เพื่อสร้างรั้วป้องกัน ยาเสพติดให้ลกู หลานรุน่ ต่อๆ ไปจังหวัดไหน มีศักยภาพบริหารจัดการให้เงินงบประมาณ กระจายไปสู่ชุมชนทุกๆ อ�ำเภอ ทุกๆ ต�ำบล ได้กค็ วรท�ำ เพราะแต่ละต�ำบล แต่ละอ�ำเภอ ก็มีศักยภาพไม่เท่ากัน เข้าใจว่าอาจต้องแก้ กฎหมายกันค่อนข้างวุน่ วายยุง่ ยาก ต้องอาศัย การปลูกจิตส�ำนึกความรับผิดชอบต่อสังคม ร่วมกันให้มากขึน้ ซึง่ อนุกรรมการฯแต่ละจังหวัด จะลงไปตรวจสอบผลการท�ำงานอย่างเนื่อง พล.อ.ธีระฉัตร ค�ำรพวงศ์ ได้เปิดใจ กับทีมงาน “ชัยสมรภูมิ” ถึงความคืบหน้า ของโครงการทีไ่ ด้รบั มอบนโยบายจาก พล.อ. ประวิตร วงศ์สวุ รรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงกลาโหม การล้อมรัว้ ยาเสพติดแบบบูรณาการ ให้หมดไปจาก ประเทศ...ในเร็ววัน !?!

ยืนยันการป้องกันส�ำคัญกว่าปราบปราม การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นัน้ ถูกแบ่งออกจากกันอย่างชัดเจน การปราบยา เสพติดอย่างเข้มข้นถือเป็นเรือ่ งดี แต่ในระยะยาวเราจะไม่ไปเพ่งเล็งให้ความส�ำคัญในจุดนัน้ การ ป้องกันต่างหากที่ส�ำคัญต้องท�ำอย่างจริงจัง ด้วยการสร้างรั้วนามธรรม ให้เป็นรูปธรรมขึ้น

10 ชัยสมรภูมิ


เป็นทีท่ ราบกันดีอยูแ่ ล้วว่า ในวันที่ 28 กรกฎาคม ของในทุกๆ รอบปี นั้น ถือเป็นวันคล้ายวันเสด็จพระ ราชสมภพของ สมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร โดยในทุกๆ ปีทผี่ า่ นมา ทัง้ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ต่ า งก็ ไ ด้ มี ก ารจั ด พิ ธี เ ฉลิ ม พระ ชนมพรรษากันอย่างพร้อมเพรียง โดยมีทงั้ การประดับธงสัญลักษณ์ ถวายพระพรชั ย มงคลต่ อ หน้ า พระฉายาลั ก ษณ์ พ ร้ อ มด้ ว ย กิ จ กรรมและพิ ธี ก ารอั น เป็ น มหามงคลยิ่ง เพื่อถวายเป็นพระ ราชกุศลแด่ สมเด็จพระบรมโอรสา ธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร อัน เป็นที่เคารพรักยิ่งของพสกนิกร ปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า

ชาติกษัตรา

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เจ้าฟ้านักการทหารผู้ทรงเป็น พระมิ่งขวัญ แห่งปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า และส�ำหรับในปี 2559 นี้ ซึ่งถือเป็น ปี มหามงคล 64 พรรษา สมเด็จ พระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร หนังสือพิมพ์ ชัยสมรภูมิ จึงขอกราบอันเชิญน�ำพระราช กรณียกิจในอดี ต เพี ย งบางประการมาจั ด พิมพ์เผยแพร่ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ แด่พระองค์ด้วยทรงเป็นชายชาติกษัตราผู้ ประกอบคุ ณู ป ระการเพื่ อ ความร่ ม เย็ น เป็นสุขให้แก่ประเทศชาติมาอย่างยาวนาน

โดยเมื่อราวเดือน มีนาคม 2511 ใน พื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัด ซึ่งครอบคลุม จ.เลย จ.เพชรบูรณ์ และจ.พิษณุโลก พรรคคอมมิว นิสต์แห่งประเทศไทย ได้สง่ ก�ำลังเข้ามาปฏิบตั ิ งานในพื้นที่ดังกล่าวเป็นจ�ำนวนมาก และใน วันที่ 20 พ.ย. 2511 ได้ระเบิดวันเสียงปืนแตก ในพื้นที่บ้านทรายใต้ อ.นครไท จ.พิษณุโลก ซึ่งตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาผู้การร้ายคอมมิว นิสต์ได้ท�ำการเคลื่อนไหวปฏิบัติการรุนแรง

ยิง่ ขึน้ มีการซุม่ ยิง ซุม่ โจมตี เข้าตีฐานปฏิบตั ิ การของเจ้ า หน้ า ที่ แ ละมี ก ารรอบท� ำ ร้ า ย ราษฎรจนมีการบาดเจ็บล้มตายอยูต่ ลอดเวลา โดย บ้านหมากแข้ง ต.กกสะท้อน อ.ด้านซ้าย จ.เลยนัน้ ถือเป็นหมูบ่ า้ นทีม่ ผี กู้ อ่ การร้ายฯ เคลือ่ นไหวอยูต่ ลอดเวลา และเมือ่ วันที่ 29 ต.ค. 2519 ผูก้ อ่ การร้ายคอมมิวนิสต์ ได้เข้าโจมตีฐานปฏิบัติการของต�ำรวจหน่วย ปฏิบตั กิ ารพิเศษท�ำให้มตี ำ� รวจเสียชีวติ 1 นาย

ชัยสมรภูมิ 11


และบาดเจ็บสาหัส 1 นาย กองบัญชาการ ผสมพลเรื อ น ต�ำ รวจ ทหาร 1617 ได้ส่ง เฮลิคอปเตอร์ เข้าช่วยเหลือ แต่ขณะทีน่ กั บิน ก�ำลังน�ำเครื่องขึ้นบินได้ถูกผู้ก่อการร้ายฯ ยิงตกลงมาถูกบ้านเรือนของราษฎรจนได้รับ ความเสียหาย และในวันต่อมาแม้ทางทาง หน่วยเหนือจะส่งก�ำลังเข้าสนับสนุนแต่ก็ถูก ระดมยิงอย่างหนัก จนนักบินไม่สามารถน�ำ เครือ่ งลงจอดได้ ต้องน�ำก�ำลังพลทั้งหมดไป ส่งยังฐานบ้านอ้วนมุ่นและต้องเดินเท้าไป ยังฐานบ้านหมากแข้ง แต่ระหว่างทางได้ถกู ผู้ ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ซุ ่ ม ยิ ง ท� ำ ให้ ฝ ่ า ยเรา เสี ย ชี วิ ต 2 นายและบาดเจ็บอีก 3 นาย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เมื่อพระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทราบและ ด้ ว ยพระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ พระองค์ จึ ง ทรง โปรดเกล้าฯ ให้รอ้ ยเอก สมเด็จพระบรมโอรสา ธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร (ทรงด�ำรงพระยศ ในขณะนั้น) เสด็จฯ เยี่ยมทหาร ต�ำรวจและ

12 ชัยสมรภูมิ

ราษฎรในพื้นที่ โดยในวั น ที่ 5 พ.ย. 2519 สมเด็ จ พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร ได้ เสด็ จ พระราชด� ำ เนิ น โดยเฮลิ ค อปเตอร์ พระที่นั่งไปยังฐานปฏิบัติการบ้านห้วยมุ่น และหลังจากประทับรับฟังการบรรยายสรุปแล้ว ทรงมีรับสั่งกับพล.ท.สมศักดิ์ ปัญจมานนท์ แม่ทัพภาคที่ 3 (มทภ.3/ยศขณะนั้น) ด้วย พระสุรเสียงอันหนักแน่นว่า “จะต้องไปแก้ไข สถานการณ์ให้ดีขึ้นให้ได้” ถึงแม้ว่า แม่ทัพ ภาคที่ 3 จะกราบบังคมทูลทัดทาน เนือ่ งจาก สถานการณ์ขณะนัน้ ไม่นา่ ไว้วางใจ แต่พระองค์ ก็ทรงยืนยันอย่างหนักแน่นว่า “ชักช้าไม่ได้ ต้องรีบไปแก้ไขให้ได้ในวันนี้และเดี๋ยวนี้”

จากนัน้ เวลาประมาณ 15.30 น. สมเด็จ พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร ทรง ประทับเฮลิคอปเตอร์พระทีน่ งั่ และทรงรับสัง่ ให้ นั ก บิ น น� ำ เครื่ อ งมุ ่ ง ตรงไปยั ง ฐานบ้ า น หมากแข้งในทันที ซึ่งขณะที่เครื่องก�ำลังจะ ร่อนลงยังไม่ทันที่สกีจะแตะพื้น พระองค์ได้ ทรงกระโดดลง และวิง่ โผเข้าหาทีก่ ำ� บังอย่าง ห้าวหาญ ในขณะเดียวกันนัน้ ทางด้านผูก้ อ่ การร้ า ยคอมมิ วนิ สต์ จ ากเนิ น เขาด้ า นทิ ศ ตะวันตกก็ได้ใช้อาวุธปืนเล็กยาวระดมยิง เข้ า มายั ง ฐานบ้ า นหมากแข้ ง อย่ า งหนั ก พระองค์ ท รงรั บ สั่ ง ให้ ท หารที่ ต ามเสด็ จ ฯ มาด้วยทุกนาย ประกอบด้วย พล.ท.สมศักดิ์ ปัญจมานนท์ มทภ.3 พ.อ.อุดมศักดิ์ ชัยโกมินทร์


ร้ายฯ ต้องล่าถอยไป ท่ามกลางสถานการณ์อันตึงเครียด ทีผ่ กู้ อ่ การ้ายฯ ยังระดมยิงเข้ามาอย่างไม่ขาด สาย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎ ราชกุมาร ได้รบั สัง่ ให้ชดุ ปฏิบตั กิ ารน�ำพระองค์ ไปยังบ้านหมากแข้ง ซึง่ พระองค์ทรงรับหน้าที่ เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการ โดยหมู่บ้านแห่งนี้ ตั้งอยู่ในระดับต�่ำและอยู่ห่างจากฐานปฏิบัติ การมาก ซึง่ เส้นทางทีใ่ ช้กม็ อี นั ตรายรอบด้าน การเสด็จฯ ไปยังหมู่บ้านหมากแข้งแห่งนี้ก็ สืบเนื่องมาจากทรงมีพระประสงค์เพื่อฟื้นฟู ขวัญและก�ำลังใจแก่ราษฎร ท่ า มกลางความปลื้ ม ปี ติ แ ละยิ น ดี ของชาวบ้าน พระองค์ทรงได้ไต่ถามทุกข์สุข และขอให้ทุกคนขยันท�ำมาหากิน อย่าได้มี ความวิตกกังวลและขอให้ทุกคนมีความเชื่อ มัน่ ว่า ทหารจะท�ำการคุม้ ครองความปลอดภัย ให้อย่างเต็มที่ หลังจากนั้น จึงทรงเสด็จฯ ไป ยังจุดทีเ่ ฮลิคอปเตอร์ถกู ยิงตก และทรงตรวจ พ.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ พ.อ.เทียนชัย จั่น มุกดา พ.ต.สายันต์ คัมภีรพันธ์ ร.อ.อณุ สุมติ ร น.ต.ปรีชา ศักดิ์ณรงค์ ทอ. แยกย้ายกันน�ำ ทหารยิงโต้ตอบกับผูก้ อ่ การร้ายคอมมิวนิสต์ โดยพระองค์ได้มีค�ำสั่งให้ปืนใหญ่จากฐาน ห้วยมุน่ ยิงตอบโต้ผกู้ อ่ การร้ายฯ ทันที พร้อม กันนั้นพระองค์ได้เสด็จฯ ไปยังหลุมบุคคล รอบฐานปฏิบตั กิ าร เพือ่ ทรงให้คำ� แนะน�ำถึง วิธกี ารวางก�ำลัง การจัดฐานและการวางระบบ ป้องกันตนเอง รวมถึงเรือ่ งของการก�ำหนดมุม ยิงของปืนใหญ่และเครือ่ งยิงลูกระเบิดด้วย จนกระทั่งเวลา 16.00 น.ผู้ก่อการ ร้ายฯ ก็ยงั ไม่ละความพยายามทีจ่ ะเข้าโจมตี ฐานปฏิ บั ติ ก ารของฝ่ า ยรั ฐ ยั ง คงระดม ยิงก่อกวนอยู่ตลอดเวลา สมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร จึงทรง บัญชาการให้ทหารยิงโต้ตอบพร้อมกันนั้น ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการออกลาดตระเวน พิสจู น์ทราบโดยทรงท�ำหน้าทีเ่ ป็นหัวหน้าชุด ด้วยพระองค์เอง ทัง้ ๆ ทีแ่ ม่ทพั ภาคที่ 3 ได้ ทรงกราบบั ง คมทู ล ด้ ว ยเกรงว่ า จะทรงมี อันตราย แต่พระองค์ทรงรับสัง่ ว่า “ฉันต้องไป เพราะว่าเป็นหน้าทีข่ องทหาร” ขณะทีท่ รงน�ำ

ชุดปฏิบัติการออกลาดตระเวนพิสูจน์ท ราบ พระองค์ได้แสดงความกล้าหาญมีน�้ำพระทัย อันเด็ดเดี่ยวอย่างน่าสรรเสริญยิ่ง ด้วยการ ทรงน�ำหน้า ทหารเสด็จฯ พระราชด�ำเนินบุก ตะลุยไปยังเส้นทางสูงๆ ต�่ำๆ ที่มีหญ้าสูงรก ทึบ ยากล�ำบากต่อการเคลือ่ นที่ เสีย่ งอันตราย ต่อการถูกซุม่ ยิง และเสีย่ งต่อการถูกกับระเบิด เป็นอย่างมาก แต่พระองค์กท็ รงมิได้หวาดหวั่ น และในระหว่างนัน้ ผูก้ อ่ การร้ายฯ ได้ระดมยิง มายังชุดปฏิบัติการของพระองค์เสียงดังสนัน่ หวัน่ ไหว แต่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยาม กุฎราชกุม าร ทรงมี พระสติ มั่ น คง สั่ ง การ ให้ทหารด�ำเนินกลยุทธ์ยิงโต้ตอบจนผู้ก่อการ

สอบอยู่เป็นเวลานาน ก่อนจะเสด็จฯ ไปที่ โรงเรียนบ้านหมากแข้งที่เคยถูกผู้ก่อการ ร้ายฯ ปิดล้อมและยึดไว้ ก่อนทีฝ่ า่ ยเจ้าหน้าที่ รัฐจะท�ำการยึดคืนกลับมาได้ โดยพระองค์ ได้ให้กำ� ลังใจแก่ครูนกั เรียน โดยให้ทกุ คนหาย จากความหวาดกลัวอย่างทั่วถึง การเสด็จเยี่ยมทหารชุดปฏิบัติการ ของกองทัพภาคที่ 3 เมือ่ วันที่ 5 พ.ย. 2519 ตลอดวันนั้น พระองค์ทรงปฏิบัติพระราช ภารกิจอย่างมีทรงเห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย โดยทรงพระราชทานค�ำแนะน�ำ ยุทธวิธีด้าน ต่างๆ ทั้งการลาดตระเวน การพิสูจน์ ทราบ การวางกับระเบิด พลุสะดุด สัญญาณเตือน

ชัยสมรภูมิ 13


ภัยต่างๆ ทรงอธิบายวิธีการแก้ปัญหาเกี่ยว กับพื้นที่ปฏิบัติการ ยุทธวิธีการปฏิบัติการใน พื้นที่ป่าเขา ซึ่งพระองค์ได้ทรงกระท�ำเป็น ตัวตัวอย่างโดยทรงเป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติ การออกลาดตระเวนด้วยพระองค์เองอย่าง มิได้ทรงหวั่นเกรงว่าจะเกิดภยันตรายจาก กับระเบิดหรือการซุ่มยิงจากผู้ก่อการร้าย คอมมิวนิสต์แต่อย่างใด และในคืนนัน้ สมเด็จพระบรมโอรสา ธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร ได้ประทับแรมที่ ฐานปฏิบตั กิ าร โดยทรงเข้าทีบ่ รรทมเมือ่ เวลา 24.00 น. โดยพระองค์ทรงพระบรรทมในหลุม บุคคลด้านเหนือ มีความลึกประมาณ 2 ฟุต หลั ง คามุ ง ด้ วยหญ้ า คา ในหลุมมีผ้าปันโจ ส�ำหรับปูรองพื้น และทรงใช้เป้สนามหนุน

14 ชัยสมรภูมิ

พระเศียรและบรรทมในเครื่องแบบทหารที่ ทรงน�ำไปชุดเดียว โดยไม่มแี ม้แต่แจ็คเก็ตฟิลด์ หรือผ้าห่มกันหนาวแม้แต่ผนื เดียว ทัง้ ๆ ทีใ่ น บริเวณนั้น มีสภาพอากาศหนาวเย็นและมี หมอกลงจัดตลอดเวลา รุ่งเช้าวันที่ 6 พ.ย. 2519 สมเด็จ พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร ทรง ตื่นบรรทมเมื่อเวลา 05.00 น. โดยประมาณ และมิ ไ ด้ ท รงสรงพระพั ก ตร์ พ ระองค์ ไ ด้ เสด็จฯ น�ำแม่ทพั ภาคที่ 3 และคณะไปตรวจ การณ์การวางก�ำลังของฝ่ายเจ้าหน้าที่ และ ทรงท�ำการควบคุมการกู้กับระเบิดรอบฐาน และต่ อ มาได้ ท รงรั บ สั่ ง ให้ มี ก ารจั ด ก� ำ ลั ง ออกท�ำการพิสูจน์ทราบเส้นทางและพื้นที่ เนินเขาด้านทิศตะวันตกของบริเวณหมูบ่ า้ น

อีกครั้งหนึ่ง จากนั้นได้ทรงรับสั่งเรียกนาย ทหารประจ�ำฐานปฏิบัติการทุกนายมารับฟัง ค�ำสัง่ - ค�ำชีแ้ จงวิธปี ฏิบตั ใิ นการป้องกันรักษา ฐานปฏิ บั ติ ก ารและการคุ ้ ม ครองความ ปลอดภัยให้กับราษฎรในหมู่บ้าน จนได้เวลา อั น สมควรจึ ง ได้ ป ระทั บ เฮลิ ค อปเตอร์ พระที่นั่งเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมทหาร ต�ำรวจที่ ได้รับบาดเจ็บ ที่รพ. เพชรบูรณ์เป็นพระราช กรณียกิจต่อเนื่องไป ส�ำหรับการเสด็จฯ เยี่ยมหน่วยทหาร ต�ำรวจ และประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยของ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราช กุมาร ในครัง้ นัน้ ถือได้วา่ เป็นพระมหากรุณาธิคณ ุ อันล้นพ้นแก่ประเทศชาติและพสกนิกรปวง ชนชาวไทยอย่างหาที่เปรียบมิได้ ดั ง นั้ น ในวาระอั น เป็ น มหามงคล สมัยนี้ หนังสือพิมพ์ชยั สมรภูมจิ งึ ขอสลักจารึก เอาไว้ในดวงจิตแห่งความเทิดทูนศรัทธา เพื่อจะขอจดจ�ำพระวีรกรรมอันน่าสรรเสริญ ยิ่งเอาไว้อย่างไม่มีวันลบเลือนไปตราบดวง วิญาณจะหาไม่ ขอเดชะฝ่าละอองพระบาท ปกเกล้า ปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า หนังสือพิมพ์ ชัยสมรภูมิ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิง่ ยืนนาน เป็นพระมิ่งขวัญของปวงข้าพระพุทธเจ้า ชาวไทยทุกหมู่เหล่าตลอดกาลนาน ควรมิควรแล้วแต่จะทรงพระกรุณา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พลอยพันแสง เรียบเรียง


โดย...หางกระดิ่ง

ทหาร - คือ...“หัวใจ” แห่งความมั่นคงของชาติ

เมือ่ ต้นปี พ.ศ.๒๕๕๙ นิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ทจี่ วั่ หัวทีห่ น้าปกว่า “นิตยสารการเมืองรายสัปดาห์ทยี่ อดจ�ำหน่าย สูงสุด” ได้ลงข้อเขียนหรือบทความชิ้นหนึ่ง ซึ่งจะไม่ขอเอ่ยนามผู้ลิขิต (พจนานุกรมฉบับมติชน ลิขิต คือ เขียน หากจะใช้คำ� ว่า “จาร” ก็ไม่แน่ใจว่าได้ทำ� อย่างนัน ้ หรือไม่) ใช้ชอื่ ว่า “ทหารมีไว้ทำ� ไม” เนือ้ หาของบทความ ลงไว้ ๒ หน้า (เว้นเนื้อที่โฆษณา) อ่านแล้วจับต้นชนปลายไม่ใคร่ถูก อาจเป็นเพราะว่ามีความรู้น้อยก็ได้ อย่างไรก็ตาม ขอเขียนถึงค�ำว่า “ท�ำไม” ก่อน ซึ่งเคยมีคนกล่าวว่า หากใช้คำ� ว่า ท�ำไม ถามใครก็ได้ เกิน ๓ ครั้งมักเกิดเรื่อง ไม่ อย่างใดก็อย่างหนึง่ และอาจถึงขัน้ ท�ำร้ายร่างกาย (ชกปาก) ก็ได้ จะขอยกตัวอย่างค�ำถาม (อาจไม่ใคร่ถกู ต้องนัก) ดังนี้ ถาม (๑) ท�ำไมต้องมีทหาร ตอบ เพือ่ ป้องกันและรักษาชาติ ถาม (๒) ท�ำไมต้องรักษาชาติ ตอบ เพือ่ ให้ ประเทศชาติมน ั่ คง ถาม (๓) ท�ำไมต้องประเทศมัน ่ คง ตอบ เพือ่ ให้ประชา ชนอยูอ่ ย่างมีความสุข ถาม (๔) ท�ำไม ต้องให้ประชาชนอยูอ่ ย่างมีความสุข ตอบ (๔) แบบถามกลับแล้วจะให้อยูอ่ ย่างมีความทุกข์หรือ จะเห็นว่าค�ำถาม ประเภทนี้ (ท�ำไม) จึงมักไม่มีใครถามมากในวงสนทนาดังกล่าวแล้ว ก่อนที่จะตอบค�ำถามของบทความ ก็ตอ้ งขออภัยทีจ่ ะขอ “ตัง้ ข้อสังเกต” บางส่วน (บางตอน) ของข้อเขียนนี้ก่อน เพราะคงจะ ไม่บงั อาจไป “วิพากษ์ วิจารณ์” บทความนัน้ ค�ำว่า “นายทหาร” จะมี ๒ ประเภท (ขอพูดถึงเฉพาะทหารบก) คือ นายทหารชัน้ สัญญาบัตร ซึ่งจะมียศตั้งแต่ร้อยตรี จนถึง พลเอก และนายทหารชัน้ ประทวน ยศตัง้ แต่ สิบตรีถงึ จ่าสิบเอก แต่สว่ นใหญ่จะเรียกแบบ ภาษาชาวบ้านทั่วไป ว่านายร้อย (นายพัน นายพล) กับนายสิบ หรืออีกค�ำหนึ่ง คือนาย

ทหารกับนายสิบ โดยให้เหมาไปว่า นายทหาร จะเป็นชัน้ สัญญาบัตรอย่างเดียว “...เสียหาย แน่ แต่เสียด้านหนึง่ ก็จะมีผลดีอกี ด้านหนึง่ ...” ก็แสดงว่า ไม่เสียหายแน่ เพราะเสียด้านหนึง่ กับดีดา้ นหนึง่ ก็เจ๊ากันไป “... ความคิดแบบนี้ เกิดแก่ชาวฝรัง่ เศสขึน้ ก่อนหลังปฏิวตั ฝิ รัง่ เศส...” ข้อความนี้หากมติชนน�ำมาพิมพ์ติดกันเป็น พืดโดยไม่เว้นวรรค ก็จะไม่ทราบว่า เกิดขึ้น ก่อนหรือหลังกันแน่“...เพื่อป้องกันและป้อง ปรามการสงครามที่ ส ลั บ ซั บ ซ้ อ นเช่ น นี้ . .. “การ “ป้องปราม” นัน้ คือการรวมเอาค�ำสอง

ค�ำมาไว้ดว้ ยกันเพือ่ ประหยัดค�ำ ซึง่ จะหมายถึง การป้อง กันและการปราบปราม จึงไม่จำ� เป็น ต้องมีคำ� ว่าป้องกันซ้อนเข้ามาอีก ในหัวเรือ่ ง เขียนถึงและใช้ค�ำว่าทหาร (ผู้รับราชการที่ ฝึกการต่อสู้และการรบเพื่อป้องกันประเทศ, นักรบ, ผูม้ หี น้าทีใ่ นการรบ : พจ.มติชน) ซึง่ เป็น ปัจเจก (มีชีวิต) แต่ก่อนจบข้อเขียนกลับพูด ถึง “กองทัพ” (หน่วยทหารที่ประกอบ ด้วย ๓ กองพล และมีหน่วยทหารอืน่ ๆ เช่นหน่วย ทหารช่าง, หน่วยทหารสื่อสาร, หน่วยทหาร ปืนใหญ่ เป็นต้น เป็นส่วนประกอบ มีแม่ทัพ เป็นผูบ้ งั คับบัญชา : พจ.มติชน) ซึง่ เป็นทีต่ งั้ และสถานที่ทหารอยู่ท�ำงาน (ไม่มีชีวิต) เลย ไม่รู้ว่าจะหมายถึงอะไรแน่ นี่คือข้อสังเกต ของข้อเขียนในมติชน ชายไทยทุกคนมีหน้าที่ต้องเป็นทหาร ซึ่ ง ทหารนั้ น จะมี ห ลายประเภท (ชนิด) เช่น ทหารประจ�ำการ คือ นายทหาร (นายร้อย นายสิบ) ที่รับราชการและมีอายุ ไม่เกิน ๖๐ ปี ทหารกองประจ�ำการ คือผู้ที่ ผ่านการตรวจเลือกตามกฎหมาย หรือเรียก ว่าทหารเกณฑ์ ทหารกองหนุน คือผูท้ อี่ อกจาก ประจ�ำการและกองประจ�ำการ ในห้วงระยะ เวลาหนึง่ ซึง่ จะยังไม่พน้ หน้าที่ (ทหาร) และ พร้อมทีจ่ ะถูกเรียกตัวเข้าประจ�ำการ หรือกอง

ชัยสมรภูมิ 15


ประจ�ำการ ทหารกองเกิน คือผูท้ ไี่ ม่ผา่ นการ ตรวจเลือก ซึง่ สาเหตุมหี ลายอย่าง เช่น จับได้ ใบด�ำ (หากจับได้ใบแดงก็ตอ้ งเป็นทหาร) เป็น โรคที่ไม่สามารถเป็นทหารได้ เป็นต้น ทหาร ประเภทนีเ้ มือ่ ไม่ได้รบั การฝึก (ทหาร) ก็มหี น้าที่ ท�ำงานประกอบอาชีพของตนไปจนกว่าจะ เสียชีวิต แต่หากประเทศเกิดสงคราม และ ต้องสูญเสียก�ำลังพลมาก อาจถูกเรียกระดม พลทหารกองเกินให้ไปเป็นทหารกองประจ�ำ การได้ และในระเบียบหรือกฎหมายยังมีทหาร อีกหลายประเภท ที่จะไม่ขอกล่าวไว้ ณ ที่นี้ และใน พจ.มติชน ก็ได้กล่าวถึงประเภททหาร ไว้มากมาย โดยการเขียนรวม ๆ กันไป และ มีคำ� อธิบายเพือ่ ความเข้าใจ บางประเภทก็ไม่ เกี่ยวข้องกับประเภทที่ก�ำหนดใน กระทรวง กลาโหม เช่น ทหารป่า ทหารเลว ทหารเอก เป็นต้น ส�ำหรับผู้ที่ได้รับการผ่อนผัน ไม่ว่า สาเหตุใดก็ตาม เมือ่ ครบก�ำหนดการผ่อนผัน ก็ ต ้ อ งเข้ า มาสู ่ ก ระบวนการตรวจเลื อ กใน โอกาสต่อไป ก็ไม่ทราบว่าผูจ้ ารข้อเขียนนี้ เป็น ทหารประเภทใด แต่รบั รองว่าต้องเป็นทหาร แน่ และผูเ้ ขียนเองก็ไม่อาจจะคาดเดาว่าผูจ้ าร ข้อเขียนอาจจะมีสิ่งใด “ฝังใจ” กับทหารมา จากอดีตทีต่ รึงตรากระตุน้ ท�ำให้ความคิดอคติ กับทหารมาตลอดก็เป็นได้ ดังนั้น ผู้จาร ซึ่งเป็นชายไทยที่เป็น ทหาร (ประเภทใดประเภทหนึ่ง) แต่กลับมา เขียนเกี่ยวกับทหาร (ในทางที่ไม่สู้ดี) นับว่า เป็นเรือ่ งชอบกลอยู่ มาถึงตรงนีแ้ ล้ว ก็อยาก จะเขียนถึงทหารบ้าง ทั้งนี้เพื่อเป็นการตอบ ค�ำถาม (ทหารมีไว้ทำ� ไม) และหัวเรือ่ งนี้ (ท�ำไม

16 ชัยสมรภูมิ

(ต้อง)มีทารไว้) สัก ๓ ค�ำเฉลยในรัฐธรรมนูญ (รธน.) แห่งราชอาณาจักรไทย ค�ำว่า “ราช อาณาจักร” หมายถึง รัฐที่มีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขสูงสุด (พจ.มติชน) เช่น ไทย สหราชอาณาจักร และราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นต้น โดยจะขอน�ำข้อความ ของ รธน. บาง ฉบับ ทีเ่ กีย่ วข้องกับทหาร และกองทัพ มาลง ให้อ่าน ซึ่ง รธน.ถือเป็นกฎหมายสูงสุดของ ประเทศ และทุกคนจะต้องอยู่ภายใต้ รธน. รัฐธรรมนูญ ปี พ.ศ.๒๕๑๗ ซึง่ ถือว่า เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด เพราะเกิดขึ้น หลังการรวมตัวประท้วงของ นิสิต นักศึกษา ต่อระบบเผด็จการทหาร และจบลงเมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๖ มี ๒๓๘ มาตรา มาตรา ๑๓ พระมหากษัตริยท์ รงด�ำรงต�ำแหน่ง จอมทัพไทย (จอมทัพ น.ต�ำแหน่งสูงสุดของ กองทัพ : พจ.มติชน) มาตรา ๕๕ บุคคลมี หน้าที่ป้องกันประเทศ มาตรา ๕๖ บุคคล

มีหน้าทีร่ บั ราชการทหารตามทีก่ ฎหมายบัญญัติ มาตรา ๖๘ ก�ำ ลั ง ทหารพึ ง มี โ ดยเหมาะสม แก่ความจ�ำเป็นส�ำหรับ รักษาเอกราช ความมัน่ คง และผลประโยชน์ของชาติ มาตรา ๖๙ ก�ำลัง ทหารพึ ง ใช้ เ พื่ อ การรบหรื อ การ สงคราม เพือ่ ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่ อ ปราบปรามการกบฏและการจลาจล เพื่อการรักษาความมั่นคงของรัฐ และเพื่อ การพัฒนาประเทศ รัฐธรรมนูญ ปี พ.ศ.๒๕๔๐ ซึ่งถือว่า เป็นประชาธิปไตยอีกฉบับหนึง่ มี ๓๓๖ มาตรา มาตรา ๑๐ พระมหากษัตริยท์ รงด�ำรงต�ำแหน่ง จอมทัพไทย มาตรา ๖๙ บุคคลมีหน้าทีป่ อ้ งกัน ประเทศ รับราชการทหาร เสียภาษีอากร ช่วย เหลือราชการ รับการศึกษาอบรม พิทักษ์ ปกป้อง และสืบสานศิลปวัฒนธรรมของชาติ และภูมปิ ญ ั ญาท้องถิน่ และอนุรกั ษ์ทรัพยากร ธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม ทัง้ นีต้ ามทีก่ ฎหมาย


บัญญัติ มาตรา ๗๒ รัฐต้องจัดให้มีก�ำลัง ทหารไว้ เพือ่ พิทกั ษ์รกั ษาเอกราช ความมัน่ คง ชองรัฐ สถาบันพระมหากษัตริย์ ผลประโยชน์ แห่งชาติ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ เพื่อการพัฒนาประเทศ นายพลดักลาส แมคอาเธอร์ (Fivestar General Douglas MacArthur) ซึ่ง เป็นนายพลห้าดาวกองทัพบกสหรัฐอเมริกา (ในเมืองไทยนายพลห้าดาว จะมียศจอมพล เช่น จอมพล ป., จอมพลสฤษดิ์ เป็นต้น แต่ ปัจจุบันไม่มีแล้ว คงมียศห้าดาวอยู่คนเดียว คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ผูท้ รงด�ำรง ต�ำแหน่งจอมทัพไทย) และเป็นผู้บัญชาการ ทหารสูงสุดของกองทัพพันธมิตรในสมรภูมิ เอเซีย-แปซิฟิค สมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ และเป็นแบบอย่างของนายทหารนักรบมือ อาชีพ ก่อนพ้นจากประจ�ำการ ได้กล่าวสุทรพจน์ หรือปาฐกถาให้นักเรียนนายร้อยเวสปอยต์ ที่ แมคอาเธอร์เคยศึกษาอยูฟ่ งั โดยจะขอน�ำ บางส่วนของสุนทรพจน์ ที่เป็นภาษาอังกฤษ และได้มีผู้แปลเป็นภาษาไทยแล้ว ความว่า “…. ; yours is the profession of

arms – the will to win, the sure knowledge that in war there is no substitube for victory; that if your lose, the nationwill be destroyed; that the very obsession of your public service must be Duty - Honor – Country. Others will debate the controversial issues, national and international, which devide men’s minds; but serene, calm, aloof, you stand as the nations war – guardian, as its lifeguard from the raging tides of inter national conflict, as its gladiator in the arena of battle. “...อาชีพของท่านคือทหาร มี ปณิธานคือชัยชนะ ความจริงทีแ่ น่ ยิ่งกว่าแน่ก็คือ ในการศึกสงคราม ไม่มีอะไร อืน่ นอกจากชนะ ทันทีทที่ า่ นพ่ายแพ้ ชาติจะ ถูก ท�ำลาย และที่ แ น่ น อนที่ สุ ด สิ่ ง ที่ ท ่ า น หลงใหลใฝ่ฝนั นักหนา ในการรับใช้มวลชน ก็ คือ หน้าที่ เกียรติ ชาติ ปล่อยให้คนอื่นเขา ถกเถียงกัน ถึงประเด็นข้อโต้แย้งต่างๆ ไม่วา่ จะเป็นปัญหาระดับชาติ หรือระหว่างประเทศ ซึ่งแบ่งแยกจิตใจของคน แต่ท่านจะยืนอยู่ เพือ่ ปกป้องสงครามของประเทศ อย่างสงบ

นายพลดักลาส แมคอาเธอร์

เยือกเย็น และโดดเด่น ในฐานะของผูพ้ ทิ กั ษ์ ในยามที่เกิดกระแสความขั ด แย้ ง รุ น แรง ระหว่างประเทศ ...” และค�ำตอบก่อนจบข้อเขียน (ซึง่ ไม่ใช่ เป็นค�ำตอบสุดท้าย เพราะสามารถตอบค�ำถาม นีไ้ ด้อกี เยอะมาก) ขอน�ำส่วนหนึง่ ของบทกลอน ซึ่งไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนแต่ง (บางคนบอก ว่าพระมหาธีราชเจ้าเป็นผู้ทรงประพันธ์) ชื่อ ว่า “เมืองกังวล” หรือ “เมืองน่ากังวล” ข้อความ มีอยู่ว่า “เมื อ งใดไม่ มี ท หารเมื อ งนั้ น ไม่ นานเป็นข้า เมืองใดไร้จอมพาราเมืองนั้น ไม่ช้าอับจน...ฯลฯ....เมืองใดไร้ธรรมอ�ำไพ เมืองนั้นบรรลัยแน่เอย” หวังว่าทั้ง ๓ เรื่องราวท้ายข้อเขียน นีค้ งจะเป็นค�ำตอบได้บา้ ง ว่าทหารมีไว้ทำ� ไม... ท�ำไมต้องมีทหาร...ค�ำตอบ “ทหารคือ (หัวใจ) แห่งความมั่นคงของชาติ” ท่องให้ขึ้นนะ ครับจะได้ไม่ต้องตอกย�ำ้ อีกครั้ง...///

ชัยสมรภูมิ 17


ข้าคือ “กาติบะห์ นูซันตารา” (Katibah Nusantara).. ไอเอสแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอนที่ 1 โดย...พันเอกศนิโรจน์ ธรรมยศ การแผ่ ข ยายอิ ท ธิ พ ลและแนว ความคิ ดในการจั ด ตั้ ง รัฐ อิส ลามบริสุท ธิ์ ของกลุม่ “รัฐอิสลาม” หรือ “ไอเอส” (IS : Islamic State) จากตะวันออกกลางสูภ่ มู ภิ าค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ท�ำให้ชื่อของ “กา ติบะห์ นูซันตารา” (Katibah Nusantara) ซึง่ เป็นกลุม่ ก่อการร้าย “ไอเอส” สาขา “เอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้” กลายเป็นที่รู้จักอย่าง รวดเร็ว ดังนัน้ บทความฉบับนีจ้ งึ ขอน�ำเสนอ เรื่องราวของกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าว ซึ่ง ก�ำลังถูกจับตามองจากประเทศต่างๆ ในเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ว่า เป็นภัยก่อการร้ายที่มี ความน่ากลัวที่สุดในทศวรรษนี้ “กาติ บ ะห์ นู ซั นตารา” มีชื่อ เรียก ย่อๆ ว่า “เคเอ็น” หรือ “การ์เอ็น” (KN) ใน ภาษามลายู และมีชอื่ เต็มว่า “กาติบะห์ นูซนั ตารา ลิด ดาอูลาห์ อิสลามิย์ยา” (Katibah Nusantara Lid Daulah Islamiyya) หรือ ชื่อในภาษาอาหรับว่า “มัจมู’อะห์ อัล อัร์คา บิลีย์” (Majmu’ah al Arkhabiliy) แปลเป็น ภาษาไทยว่า “กองก�ำลังไอเอสภูมภิ าคมาเลย์” มีตน้ ก�ำเนิดมาจากแนวความคิดทีจ่ ะรวบรวม

18 ชัยสมรภูมิ

นักรบไอเอสในตะวันออกกลางที่ใช้ภาษา มลายูในการสือ่ สารเป็นหลัก โดยเฉพาะนักรบ ที่เดินทางมาจากประเทศอินโดนีเซียและ มาเลเซีย เข้าเป็นกองก�ำลังเดียวกัน เนื่อง จากบุคคลเหล่านี้ประสบปัญ หาในการใช้ ภาษาติ ด ต่ อ สื่ อ สารกั บ นั ก รบไอเอสที่ ม า จากชาติอาหรับและจากภูมิภาคอื่นๆ อีกทั้ง

มาเลเซียและอินโดนีเซียยังมีความสัมพันธ์ ที่เกี่ยวเนื่องกับแนวคิดทางศาสนาสุดโต่ง (extremist) โดยเฉพาะในช่วงทีอ่ ดีตประธานา ธิบดีซฮู าร์โต (Suharto) แห่งอินโดนีเซียก�ำลัง เรืองอ�ำนาจ กลุ่มผู้น�ำศาสนาหัวรุนแรงใน อินโดนีเซียจ�ำนวนมากต้องลี้ภัยมาอาศัยอยู่ ในมาเลเซีย ความสัมพันธ์เหล่านี้จึงท�ำให้ เกิดความเชื่อมโยงทางแนวคิดและความ เชื่อมั่นระหว่างกันของชาวมาเลเซียและ อินโดนีเซีย การจัดสายการบังคับบัญชาของ กลุม่ “เคเอ็น” หรือ “กาติบะห์ นูซนั ตารา” ซึ่งมักจะเรียกหน่วยของตนเองว่า “คอมพี นู ซั น ตารา” (Kompi Nusantara) หรื อ “คอมพานี นูซนั ตารา” (Company Nusantara) ซึง่ แปลว่า “กองร้อย” มีหน่วยย่อยแบ่งออก ได้ประมาณ 10 หน่วย โดยการบังคับบัญชา ทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับนักรบชาวอินโดนีเซีย แม้จะมีนักรบจากมาเลเซีย สิงคโปร์ และ ฟิลิปปินส์รวมอยู่ด้วยก็ตาม ในช่วงแรกของ


การก่อตัง้ กลุม่ “เคเอ็น” ในปี พ.ศ. 2557 นัน้ มีก�ำลังพลประกอบด้วยชาวอินโดนีเซียราว 60 คน ชาวมาเลเซีย 10 คน ชาวสิงคโปร์ 2 คนและชาวฟิลิปปินส์อีก 2 คน เข้าร่วม ท�ำการรบเคียงบ่าเคียงไหล่กบั กลุม่ “ไอเอส” ในซีเรีย ปัจจุบันคาดกันว่ากลุ่ม “เคเอ็น” มี ก�ำลังพลเป็นชาวอินโดนีเซียประมาณ 200 ถึง 300 คน นักรบจากมาเลเซียจ�ำนวน 80 ถึง 100 คนและมีบางส่วนมาจากฟิลิปปินส์ กลุ่ม “เคเอ็น” หรือ “กาติบะห์ นู ซันตารา” คาดว่ามีผู้นำ� อยู่ 3 คน คือ นา ยอาบู อิบราฮิม อัล อินดูนซิ ี (Abu Ibrahim al Indunisy) ซึง่ ปรากฏตัวในคลิปวีดโิ อเมือ่ วันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2559 โดยท�ำหน้าที่ กล่าวปลุกใจสมาชิกกองก�ำลัง “เคเอ็น” ใน ซีเรีย แต่ก็ยังคงมีความเคลือบแคลงว่า ใน ปัจจุบนั เขายังคงเป็นผูน้ ำ� อยูห่ รือไม่ หรือเป็น เพี ย งผู ้ น� ำ หน่ ว ยในระดั บ หนึ่ ง เท่ า นั้ น นอกจากนี้ ยั ง มี ข ้ อ สั ง เกตว่ า ชื่ อ ของเขามี แนวโน้มที่จะเป็นชื่อจัดตั้งขึ้นใหม่ในซีเรีย เพื่ อ บ่ ง บอกถึ ง ความเป็ น ชาวอิ น โดนี เ ซี ย โดยการใช้คำ� ว่า “อินดูนิซี” นั่นเอง ส�ำหรับผู้นำ� คนที่สองนั้น เป็นที่รู้จัก กันมากที่สุดในขณะนี้เพราะมีความเชื่อม โยงกับการก่อเหตุกลางกรุงจาการ์ต้าเมื่อ เดือนมกราคม พ.ศ.2559 ที่ผ่านมา นั่นคือ นายโมฮัมหมัด บาห์รุน นาอีม (Mohammad

Bahrun Naim) ครูสอนศาสนาจากเมือง “โปโซ” (Poso) ซึง่ ตัง้ อยูท่ างตอนกลางของ จังหวัดสุลาเวสี (Sulawesi) แหล่งข่าวเชื่อ กันว่านายบาห์รุน นาอีม ยังคงอาศัยอยู่ที่ เมือง “รัคก้า” (Raqqa) ซึ่งถือกันว่าเป็น เมืองหลวงของกลุ่ม “ไอเอส” ในซีเรีย และ คอยบงการการขยายตัวของกลุ่ม “เคเอ็น” ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะใน อินโดนีเซียและมาเลเซีย นอกจากนี้ ยั ง มี ช าวอิ น โดนี เ ซี ย อี ก คนหนึ่ง คือ นายบาห์รุม ซยาห์ (Bahrum Syah) ที่นับเป็นอีกบุคคลหนึ่งซึ่งมีบทบาท ตั้งแต่ช่วงแรกของการก่อตั้งกลุ่ม “เคเอ็น” โดยเขาได้ปรากฏตัวอยู่ในคลิปวิดีโอที่โพสต์ เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2557 ในการเป็น ผู้น�ำการเดินขบวนสนับสนุนกลุ่ม “ไอเอส” ในโรงแรมแห่งหนึ่งกลางกรุงจาการ์ต้าเมื่อ เดือนมีนาคมของปีเดียวกัน และหลังจากนัน้ เพียง 2 เดือน นายบาห์รุม ซยาห์ก็เดินทาง เข้าไปในซีเรีย พร้อมๆ กับส่งสารมายังชาว อินโดนีเซียให้สละสิทธิความเป็นพลเมือง อินโดนีเซีย และเข้าร่วมรบกับกลุม่ “ไอเอส” ในซีเรีย เอกสารบางฉบับกล่าวว่านายบาห์ รุม ซยาห์ นี่เองที่เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่ม “เคเอ็น” หรือ “กาติบะห์ นูซันตารา” ที่แท้จริง โดย เป็นความร่วมมือระหว่างกลุ่ม

“เจ-อัต” (JAT) หรือ “ญะมาอะห์ อันซา รุต เตาฮิด” (Jamaah Ansharut Tauhid) ซึง่ เป็นกลุม่ ทีแ่ ยกตัวออกมาจากกลุม่ “เจไอ” (JI) หรือ “เจ๊ะมาอะห์ อิสลามิยาห์” (Jemaah Islamiyah) โดยกลุ่ม “เจ-อัต” ท�ำการประสานงานกั บ กลุ ่ ม ก่ อ การร้ า ย “เอ็ ม ไอที ” หรื อ “มูจาฮิดีนแห่งอินโดนีเซีย ตะวันออก” (MIT : Mujahideen Indonesia Timur หรื อ Mujahideen of Eastern Indonesia) ซึ่งมีความเชื่อมโยงอย่างแนบ แน่น โดยท�ำการปฏิญานตนว่าเป็นสาขาหนึง่ ของกลุ่มไอเอสในตะวันออกกลางมาแล้ว รวมทัง้ กลุม่ “เอ็ม ไอที” ยังท�ำหน้าทีใ่ นการ จัดหาเงินทุนเพือ่ ซือ้ ตัว๋ เครือ่ งบิน และอ�ำนวย ความสะดวกให้ สมาชิกในการเดินทางไป ร่วมกับกลุ่ม “ไอเอส” ในซีเรีย โดย “เอ็ม ไอที” มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับกลุ่ม ก่อการร้าย “เอ็มไอบี” หรือ “มูจาฮิดีนแห่ง อินโดนีเซียตะวันตก” (MIB : Mujahideen of Western Indonesia) ภายหลังกลุ่มนี้ ได้สลายตัวไป ท�ำให้สมาชิกส่วนใหญ่หันมา เข้าร่วมกับกลุ่ม “เอ็มไอที” การหลอมรวม กันระหว่างกลุม่ “เอ็มไอที”, กลุม่ “เจ-อัต” และกลุ่ม “เอ็มไอบี” ท�ำให้การด�ำเนินงาน ของกลุ่ม “เอ็มไอที” ในการจัดหาก�ำลังพล จากอินโดนีเซียให้กบั กลุม่ “ไอเอส” ในซีเรีย ประสบความส�ำเร็จอย่างมาก เช่น การจัด

ชัยสมรภูมิ 19


ส่งนักรบชาวอินโดนีเซียจากกลุ่ม “บิมา” (Bima group) จากเกาะสุ ลาเวสีจ�ำนวน 6 คนไปยังซีเรีย เป็นต้น จน นายบาห์รุม ซยาห์ สามารถจัดตั้งกลุ่ม “เค เอ็น” ในปี พ.ศ.2557 ได้ในที่สุด อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนมีนาคม ถึงพฤษภาคม พ.ศ. 2558 เพียงแค่สอง เดือนนี้ กลุ่ม “เคเอ็น” หรือ “กาติบะห์ นู ซันตารา” ต้องประสบกับความสูญเสียอย่าง หนักในซีเรีย เมื่อพวกเขาทั้งหมดถูกส่งไป ท�ำการรบกับพวกเคิรด์ (kurds) แม้จะสามารถ ยึดพื้นที่ได้ถึงห้าเมือง แต่ก็ต้องเสียชีวิตไป กว่า 40 คน ทั้งจากการรบภาคพื้นดินและ จากการโจมตีทางอากาศของชาติพันธมิตร โดยเฉพาะการโจมตีทางอากาศรอบเมือง “อเลปโป” (Aleppo) ในกลุ่มผู้เสียชีวิตนั้น มีชุดก่อตั้งกลุ่มชาวอินโดนีเซียสี่คนที่เดิน ทางมาจากกรุงอิสลามมาบัดด้วย ยอดความ สูญเสียนี้ถือได้ว่ามากถึง 1 ใน 4 ของหน่วย ที่มีก�ำลังพลเพียงสองร้อยกว่าคน ส่งผลให้ กลุม่ “เคเอ็น” ต้องรีบเกณฑ์ผคู้ นจากเอเชีย ตะวั น ออกเฉี ย งใต้ เ ข้ า เสริ ม ก� ำ ลั ง อย่ า ง เร่งด่วนผ่านสื่อออนไลน์ทุกชนิดที่มีอยู่ โดย เฉพาะจากอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่มี ผู ้ นั บ ถื อ ศาสนาอิ ส ลามกว่า 200 ล้านคน และเป็ น ประเทศที่ มี ป ระชากรมุ ส ลิ ม มาก ที่สุดในโลก ส�ำหรับอาวุธประจ�ำกายของก�ำลัง พลในกลุ่ม “เคเอ็น” นั้น ส่วนใหญ่จะใช้ ปืนเล็กยาวอัตโนมัตแิ บบ เอเค-47 (AK-47) และจรวดต่อสูร้ ถถังแบบ อาร์พจี -ี 7 (RPG-7) ซึ่ ง ถื อ เป็ น อาวุ ธ มาตรฐานที่ ทุ ก ฝ่ า ยใช้ ใ น พื้นที่ทางตอนเหนือของซีเรีย ทั้งทหารฝ่าย รัฐบาลซีเรีย, นักรบกลุ่มไอเอส, นักรบของ “กองก�ำลังซีเรียประชาธิปไตย” (SDF : Syrian Democratic Forces) ทีม่ พี วกเคิรด์ เป็นกอง ก�ำลังหลัก และนักรบของกองทัพปลดปล่อย ซีเรียหรือ “เอฟเอสเอ” (FSA : Free Syria Army) ท�ำให้สามารถหากระสุนได้ง่าย ปรน นิบตั ซิ อ่ มบ�ำรุงได้สะดวก แตกต่างจากนักรบ ไอเอสบางกลุ่มจากโลกตะวันตกที่ใช้อาวุธ ประจ�ำกายแบบ เอ็ม-4 (M-4) ซึ่งแทบจะ ไม่มีนักรบของกองก�ำลังใดเลยที่ใช้อาวุธ ขนิดนี้ในพื้นที่ซีเรียทางตอนเหนือ จึงอาจ

20 ชัยสมรภูมิ

เกิดปัญหาเกี่ยวกับกระสุนและการส่งก�ำลัง บ�ำรุงอื่นๆ ในภายหลัง ส่วนการแต่งกายนัน้ นักรบ “เคเอ็น” จะแต่ ง กายด้ ว ยชุ ด พรางที่ แ ตกต่ า งกั น เหมือนนักรบกองโจร ไม่มเี ครือ่ งแบบหรือชุด ยูนิฟอร์มที่เฉพาะเจาะจงเหมือนหน่วยไอ เอส อื่น ๆ โดยช่ วงแรกของปี พ.ศ.2557 นักรบ “เคเอ็น” จากมาเลเซียบางคนยังคง ใช้ชดุ พรางของกองทัพมาเลเซีย แต่จากคลิป วีดิโอล่าสุดในปี พ.ศ.2559 นักรบ “เคเอ็น” ส่ ว นใหญ่ เ ปลี่ ย นมาใช้ ชุ ด พรางดิ จิ ต อลที่ หลากหลาย ทั้งจากสหรัฐฯ เยอรมัน และ จอร์แดน รวมทัง้ มีอปุ กรณ์ประกอบเครือ่ งแบบ เช่น สายโยงบ่า เสือ้ ใส่ซองกระสุน เป้สนาม เข็มขัดกระสุน ถุงมือ แว่นตา รองเท้าบู้ต และวิทยุสื่อสารครบถ้วน อันเป็นการแสดง ออกถึงการเตรียมการและความพร้อมของ หน่วยในการเข้าสู่สนามรบได้เป็นอย่างดี เอกลักษณ์สำ� คัญของกลุม่ “เคเอ็น” ก็คล้าย กับกลุ่ม “ไอเอส” ทั่ วไปคื อ การไม่ ส วม หมวกเหล็กทุกชนิด นอกจากสวมผ้าคลุมศรีษะ เท่านั้น ที่น่าสังเกตอีกประการหนึ่งคือ กลุ่ม “เคเอ็น” จะเลือกภารกิจที่มีความท้าทายใน สนามรบมากกว่ า งานธุ ร การและงานส่ ง ก�ำลังบ�ำรุงทั่วไป เช่น พวกเขาเลือกที่จะ ท�ำการรบในแนวหน้า เป็นพลซุ่มยิง หรือ แม้กระทัง่ เป็นมือระเบิดพลีชพี ก็ตาม สิง่ เหล่านี้ ท�ำให้ “เคเอ็น” ได้รับการยอมรับจากกลุ่ม ไอเอสในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ดังจะเห็นได้ จากการโพสต์ ข ้ อ ความทางสื่ อ ออนไลน์ แสดงความชื่นชมเหล่านักรบ “เคเอ็น” ใน

นาม “มูจาฮิดีน มาเลเซีย” และ “มูจาฮิดีน อินโดนีเซีย” อย่างต่อเนื่อง ในเรื่องของจ�ำนวนตัวเลขของก�ำลัง พลกลุ่ม “เคเอ็น” นั้นมีจ�ำนวนที่ไม่แน่นอน โดยส�ำนักงานต่อต้านการก่อการร้ายแห่ง ชาติของอินโดนีเซีย (National Counter terrorism Agency) คาดว่า มีชาวอินโดนีเซีย มากกว่า 500 คนหรืออาจจะถึง 700 คน เข้าร่วมกลุม่ แต่ตวั เลขดังกล่าวของทางการ อินโดนีเซียนัน้ เป็นการคาดการณ์ทรี่ วมชาว อินโดนีเซียซึ่งเดินทางไปโดยจุดประสงค์ อื่น เช่น การเดินทางเพื่อไปเป็นอาสาสมัคร ในการปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรมเพื่อช่วย เหลือชาวซีเรียที่ได้รับบาดเจ็บจากการทิ้ง ระเบิด และการโจมตีของรัฐบาลซีเรีย รัสเซีย และฝ่ายพันธมิตรตะวันตก ซึ่งไม่ถือว่าเป็น นักรบของกลุ่มไอเอส จึงไม่สามารถนับรวม บุคคลเหล่านี้เข้าในจ�ำนวนนักรบได้ อีกทั้ง ตัวเลขก็ยังคงสับสน เพราะนักรบ “เคเอ็น” บางคนได้ลกั ลอบเดินทางกลับมายังประเทศ ของตนแล้ว ดังนั้นคาดว่าตัวเลขของนักรบ จากอินโดนีเซียทีแ่ ท้จริง น่าจะมีอยูป่ ระมาณ 200 ถึง 300 คนเท่านั้น โดยตัวเลขที่ระบุ จ�ำนวนชัดเจนอยู่ที่ 202 คน ในจ�ำนวนนี้มี สตรีซงึ่ เดินทางร่วมกับสามีเข้าสูพ่ นื้ ทีอ่ กี ด้วย กลุ่มสตรีเหล่านี้ได้รับหน้าที่พิเศษในกลุ่ม “เคเอ็น” เช่น เป็นครู หรือมีหน้าทีร่ บั ผิดชอบ ในการโฆษณาชวนเชื่อผ่านเครือข่ายสังคม ออนไลน์เพื่อโน้มน้าวให้บุคคลอื่นๆ เข้าร่วม กับพวกตน ปัจจุบันผู้ที่ด�ำเนินการโฆษณา ชวนเชื่ อ ทางเครื อ ข่ า ยออนไลน์ ข องกลุ ่ ม


“เคเอ็น” เป็นสตรีชาวอินโดนีเซีย ซึ่งสามี ของเธอได้เสียชีวิตจากการสู้รบเมื่อเดือน เมษายน พ.ศ.2558 กล่าวกันว่าจุดเริม่ ต้นของ “กาติบะห์ นูซนั ตารา” เกิดในกลางปี พ.ศ.2556 ทีเ่ มือง “อัล ชาดาดี” (al Shadadi) จังหวัด “ฮา ซาก้า” (Hasaka) ประเทศซีเรีย (ปัจจุบนั ถูก ยึดครองโดยกลุ่ม “เคิร์ด” (Kurds) โดย นายรูไซดัน อับดุล ฮาดี (Rusydan Abdul Hadi) นักศึกษาชาวอินโดนีเซียกับเพือ่ นรวม 4 คน ซึ่งศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยอิสลาม นานาชาติ (the International Islamic University) ในกรุงอิสลามาบัด ประเทศ ปากีสถาน ได้เข้าร่วมกลุ่มต่อต้านติดอาวุธ ในซีเรียที่มีชื่อว่า “อัจนัด อัล-ฌาม” (Ajnad al-Sham) ซึง่ กลุม่ ดังกล่าวนีต้ อ่ มาได้เข้าร่วม กับกลุ่ม “ไอเอส” เขาเป็นบุคคลแรกๆ ที่น�ำ แนวคิดการสร้างรัฐอิสลามบริสุทธิ์มาเผย แพร่ในอินโดนีเซีย โดยผ่านมาทางนายอาบู บัคการ์ บาร์เซียร์ (Abu Bakar Ba’asyir) ผู้น�ำตลอดกาลของกลุ่ม “เจไอ” เชื่อว่านาย รูไซดัน อับดุล ฮาดี เป็นผู้หนึ่งที่ร่วมก่อตั้ง กลุม่ “กาติบะห์ นูซนั ตารา” ขึน้ อย่างไรก็ตาม เขาและเพือ่ นๆ ได้เสียชีวติ ในการสูร้ บทีภ่ เู ขา กาหลิบ (Caliphate Mountain) ในซีเรีย เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2558 นอกจากนี้ กลุ ่ ม “ไอเอส” ยั ง ประกาศให้ ช ายแดน อัฟกานิสถาน – ปากีสถานส่วนหนึ่งให้เป็น ดินแดนในครอบครองของไอเอส และขนาน

นามว่า “โคราซาน” (Khorasan) หรือบาง ครัง้ เรียกว่า “อินโดนีเซียตะวันออก” เพราะ ใช้เป็นพืน้ ทีฝ่ กึ ของกลุม่ ไอเอสจากอินโดนีเซีย และผูค้ นจากชาติอนื่ ๆ รวมทั้งชาวอุยกูร์จาก มณฑลซินเจียงของจีนอีกด้วย ก�ำลังพลหลักของกลุม่ “เคเอ็น” หรือ “กาติบะห์ นูซันตารา” มาจากผู้คนสองส่วน ส่วนแรกคือประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ต้องการ ปกป้ อ งศาสนาอิ ส ลามตามแนวคิ ด แบบ “อุดมคตินิยม” (Idealism) ที่มุ่งสร้างสังคม อั น บริ สุ ท ธิ์ แ ละสวยงามตามจิ น ตนาการ พวกเขาเหล่านี้บางคนไม่มีแนวความคิดใน การท�ำสงครามศักดิ์สิทธิ์ (ญิฮาด : Jihad) หรือท�ำสงครามต่อต้านนิกายชีอะห์ แต่ก็ไม่ อาจปฏิ เสธได้ ว่ า แนวความคิ ดในการท� ำ สงครามศักดิ์สิทธิ์ยังคงมีอยู่ในสังคมมุสลิม อย่างไม่เสื่อมคลาย แม้ว่ากาลเวลาจะผ่าน มานับพั น ปี ก็ ต าม โดยเฉพาะแนวความคิด ของ “การสู้รบครั้งสุดท้ายของโลกอิสลาม” (Islam Armageddon) ทีเ่ กิดขึน้ ในอาณาจักร ซีเ รียอัน ยิ่ ง ใหญ่ หรื อ “ฌาม” (Sham : Great Syria) เป็นสงครามที่รู้จักกันในชื่อ “อัล-มัลฮามาห์ อัล-คูบรา” (al-Malhamah al-Kubra) ซึ่งแนวคิดนี้เป็นแนวคิดที่ได้รับ ความนิยมในอินโดนีเซียมาเป็นเวลานาน จนกระทั่งมีการตีพิมพ์เรื่องราวเหล่านี้เป็น หนังสือวางขายอย่างถูกกฏหมายตามร้าน ขายหนั ง สื อ ทั่ ว ไปก่ อ นที่ จ ะมี ก ารสู ้ ร บใน ซีเรียเสียอีก หนังสือบางเล่มถูกตีพิมพ์ขึ้น

โดยกลุ่ม “เจไอ” ที่มีข้อแนะน�ำในการ ท�ำสงครามศักดิ์สิทธิ์อย่างเปิดเผย ประชาชนผู้มีแนวความคิดที่บริสุทธิ์ และปราศจากกระแสนิ ย มความรุ น แรง เหล่านี้ ก็คล้ายกับผูค้ นจากยุโรปและภูมภิ าค อื่นๆ ทั่วโลกที่มุ่งหน้าเข้าสู่ซีเรียในปี พ.ศ. 2555 ถึง พ.ศ.2556 โดยมีจุดประสงค์เพื่อ ช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชน ที่บาดเจ็บและเสียชีวิต จากการทิ้งระเบิด และการโจมตีของรัฐบาลประธานาธิบดีอัส ซาดแห่งซีเรีย พร้อมๆ ไปกับการช่วยเหลือ เหล่านั้น ได้เกิดแนวความคิดที่เชื่อมโยงไป ถึงการต่อสู้เพื่อป้องกันการกดขี่ชาวมุสลิม โดยเฉพาะอย่ า งยิ่ ง การกดขี่ ช าวมุ ส ลิ ม นิกายสุหนี่ รวมไปถึงมีแนวความคิดในการ ต่ อ ต้ า นชาวมุ ส ลิ ม นิ ก ายชี อ ะห์ จ ากกลุ ่ ม ที่ เดินทางเข้าไปช่วยเหลือบางกลุ่ม ชาวอินโดนีเซียกลุ่มแรกๆ ที่ถูกระบุ ชื่อในการเดินทางเข้าไปในซีเรียช่วงนี้ เช่น นาย อีสฟานดี ซามซาม (Isfandi Zamzam) ซึ่งเดินทางไปพร้อมกับลูกสาว 2 คนและ ลูกชายอีก 1 คน, นายอากุส พรีกนั โต้ (Agus Priganto) เดินทางไปพร้อมกับภรรยาและ ลูกชาย 3 คน เป็นต้น รวมทั้งมีบุคคลอีก ส่วนหนึ่งที่ถูกทางการอินโดนีเซียจับกุมตัว เมื่อเดินทางกลับจากซีเรีย เช่น นายมูฮัม เหม็ด อารีส ราฮาร์โจ (Muhammed Aries Rahardjo) ซึง่ เคยเข้าร่วมกับกลุม่ “ไอเอส” ในซีเรีย ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2556 ถึง 15 มกราคม พ.ศ.2557 เป็นเวลากว่า 1 ปี โดยมีฉายาในสนามรบว่า “อับดุล มาจีด” (Abdul Majid) ถูกจับกุมเมือ่ วันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ.2557 ในข้อหาก่อการร้าย และนายตา วี กูนาวัน (Dwi Gunawan) ชือ่ จัดตัง้ ในกลุม่ “ไอเอส” คือ “ดานัง” (Danang) เดินทางเข้าไปในซีเรียระหว่าง เดือนมีนาคมถึงเมษายน พ.ศ.2556 เป็นเวลา กว่า 1 เดือน โดยท�ำการรบในพื้นที่เมือง “อเลปโป” (Aleppo) ในซีเรีย เขาถูกจับกุมตัว เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ.2557 ที่เมือง “เซอมารัง” ตอนกลางของชวา เป็นต้น (โปรดติดตามตอนที่ 2)

ชัยสมรภูมิ 21


ไขก๊อกทุกเกลียวความสงสัย

กับ เสธ. “กล” คนพลังงาน ลั่น ประเทศไทยไม่มีวันมืด ระบุ พลังงานทางเลือกต้องเปิดใจ ยก หญ้า เนเปียร์ฟื้นวิถีชาวบ้าน ชี้ พลังงานไฮโดรเจนยังมีหวัง แนะ ตระหนักถึง คุณค่า นับตั้งแต่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความ สงบแห่งชาติ ได้เข้ามาบริหารจัดการประเทศไทยให้อยู่บนท่วงท�ำนองของความสงบสุข ไป พร้อมๆ กับการพัฒนาชาติในมิตติ า่ งๆ นัน้ ถือเป็นสิง่ ทีท่ ำ� ให้ความบอดใบ้ในข้อครหาทางสังคม ที่คาราคาซังในเรื่องของกิจการด้านพลังงาน ค่อยๆ ได้รับการคลี่ปมออกไปอย่างน่าพอใจ เป็นอย่างยิง่ เลยทีเดียว ซึง่ ในฉบับนี้ ถือเป็นโอกาสอันดียงิ่ ทีไ่ ด้นำ� ค�ำตอบอันเสมือนดัง่ กุญแจ ไขก้อนเมฆให้เห็นตะวันว่า แท้จริงแล้วสถานภาพและทิศทางของกิจการด้านพลังงานไทย จะเป็นเป็นอย่างไรต่อไป พล.อ.สกล สัจจานิตย์ ประธานคณะกรรมาธิการ การพลังงาน สนช.จะเป็นผู้มาช่วย คลี่ทุกบ่วงปมแห่งความสงสัยให้กระจ่างใจแก่ผู้อ่าน ณ บัดนี้ “ส�ำหรับคณะกรรมาธิการ การพลังงาน สนช. นั้น ก็มีภารกิจหลักๆ ที่จะต้องด�ำเนิน การเกี่ยวกับพลังงานดังนี้คือ มีทั้งในเรื่องของกฎหมาย และการศึกษาติดตาม เนื่องจาก เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เพราะฉะนั้นจึงต้องศึกษาและติดตาม ตามที่รัฐบาลได้ให้นโยบายเอาไว้ ว่าจะท�ำอะไรเอาไว้ให้กับประเทศไทยในเรื่องของพลังงานบ้าง และงานอีกประการหนึ่งของ สนช. ก็คอื การรับเรือ่ งร้องเรียนร้องทุกข์ทเี่ กีย่ วกับเรือ่ งพลังงานจากภาคประชาชนด้วย โดย ในส่วนนี้มีการแบ่งงานออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ 1.น�ำ้ มันและก๊าซ 2. พลังงานทดแทน และ3. พลังงานไฟฟ้า โดยเรื่องที่เกี่ยวกับพลังงานในภาพรวมนั้นต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่มีราคาสูง เนื่องจากมีสาเหตุหลักที่ว่า เราซึ่งหมายถึงประเทศไทย ไม่สามารถผลิตพลังงานปิโตรเลียม มาใช้ได้เพียงพอภายในประเทศ และโดยส่วนใหญ่ก็ยังต้องน�ำเข้า ดังนั้นราคาพลังงานของ เราจึงไปขึน้ อยูก่ บั ต่างประเทศเป็นตัวหลัก อีกทัง้ ยังถือได้วา่ พลังงานนัน้ มีคา่ ใช้จา่ ยอยูใ่ นชีวติ ของเราประมาณ 30% อาทิ ค่าน�้ำมัน ก๊าซหุงต้ม ไฟฟ้า เป็นต้น ดังนั้นเรื่องของพลังงานจึง

22 ชัยสมรภูมิ

พล.อ.สกล สัจจานิตย์ ประธานคณะกรรมาธิการ การพลังงาน สนช. มีองคาพยพที่เกี่ยวข้องอย่างหลากหลาย ประการแรกคือต่างประเทศ ประการทีส่ องคือ ภายในประเทศ เช่น กลุม่ การลงทุนทีแ่ ตกต่าง กันออกไป นอกจากนั้น ในเรื่องของกฎหมายก็ ไม่ได้มีผลบังคับที่ชัดเจนเกี่ยวกับข้อก�ำหนด ของราคา เพราะเรือ่ งของราคานัน้ เกีย่ วข้อง กับกลไกของของตลาด เช่น เรือ่ งของน�ำ้ มัน ที่ส่วนใหญ่ต้องน�ำเข้า เพราะยังผลิตเองได้ เพียงเล็กน้อย ทัง้ ยังมีคา่ ใช้จา่ ยในการด�ำเนิน


การ ค่าการตลาดรวมทัง้ ภาษีตา่ งๆ ด้วย เช่นเดียวกับในปัจจุบันนี้ที่ราคาน�ำ้ มันดิบถูกลงมาก ซึง่ เห็นได้ชดั ว่า จะมีการเปลีย่ นแปลงอยูต่ ลอดเวลาและไม่อาจจะก�ำหนดเป็นตัวหนังสือได้ แต่ ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่จะไม่มกี ารติดตาม เพราะยังมีกรมธุรกิจพลังงานซึง่ เป็นหน่วยงานของรัฐ คอยเฝ้าจับตาอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงว่า ณ ขณะนี้ควรจะขึ้นหรือลง ส�ำหรับพลังงานทดแทนนั้น หากยกเว้นเรื่องน�้ำ ก็นับได้ว่าเป็นพลังงานที่แพงที่สุด เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าพลังงานประเภทอื่น ซึ่งปัจจุบันก็มีการรวมกลุ่มกันใน เรื่องนี้เพื่อจะใช้พลังงานทดแทนกันมากขึ้น ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงาน ชีวภาพ ไม้ฟนื และไบโอแก๊ส ต่างๆ เป็นต้น แต่ในความเป็นจริงแล้วราคาต้นทุนของพลังงาน ประเภทต่างๆ เหล่านี้จะสูงกว่าพลังงานไฟฟ้า เพราะราคาไฟฟ้านั้น ขึ้นอยู่กับราคาแก๊ส แม้ ราคาแก๊สจะลงมาต�ำ่ แต่ตน้ ทุนการผลิตพลังงานทดแทนก็ยงั คงทีเ่ หมือนเดิม โดยส่วนตัวแล้ว ผมใฝ่ฝันอยากให้ประเทศของเรามีโรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้าทดแทนเป็นอย่างมาก เพราะ เคยไปดูงานมาแล้วหลายประเทศ ก็พยายามให้รัฐบาลน�ำส่วนประกอบเหล่านั้นมาผลิตใน บ้านเรา เช่น แผงโซลาเซล ซึง่ จะช่วยให้อปุ กรณ์เหล่านีม้ รี าคาต�ำ่ ลงมาได้ แต่กเ็ ข้าใจว่าตลาด ในบ้านเรามันอาจจะเล็กเกินไปกับการลงทุน แต่ประเทศจีนนัน้ เขาไม่ได้งอ้ ในเรือ่ งการส่งออก แค่ผลิตขึน้ มาใช้กนั เองก็ยงั ไม่พอ และแม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการน�ำชิ้นส่วนมาประกอบกันเอง

ในบ้านเราบ้าง แต่โดยรวมก็ยังถือว่ามี ราคาแพงอยู่ดี ส่วนเรือ่ งการใช้พลังนิวเคลียร์นนั้ ก็มี อยูใ่ นแผนงานมาตัง้ แต่ปี 2015 แล้ว ซึง่ อันดับ แรกก็จ�ำเป็นที่จะต้องให้เกิดการยอมรับใน สังคมก่อน โดยพลังงานนิวเคลียร์นั้นเป็น พลังงานที่ถกู ทีส่ ดุ ในโลก ณ ขณะนี้ แต่ขณะ เดียวกันก็เชื่อว่า จะต้องมีผู้ที่กังวลเกี่ยวกับ เรือ่ งของความปลอดภัย เพราะก็เคยเกิดเหตุ โศกนาฏกรรมมาแล้วในต่างประเทศ ซึง่ เข้าใจ ว่า จะต้องให้เวลากับในทุกๆ ภาคส่วนท�ำความ เข้าใจกันต่อไป ส�ำหรับในเรือ่ งก๊าซนัน้ ในปัจจุบนั ต้อง น�ำเข้า เมือ่ ก่อนเราเคยผลิตและส่งไปขายให้ ประเทศเพือ่ นบ้าน แต่เดีย๋ วนีไ้ ม่ใช่แล้ว เพราะ ใช้ในภาคการขนส่งมากขึน้ อีกทัง้ ยังสามารถ แยกเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้อีกมากมายจึง ท�ำให้ต้องน�ำเข้ามาจากต่างประเทศ ดังนั้น ราคาจึงสูงตามไปด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ใน เรื่องนี้เราได้ทำ� การเสนอรัฐบาลแล้ว ซึ่งก็มี การขานรับทีด่ ี โดยให้มกี ารปรับเปลีย่ นราคา ให้มีความสอดคล้องกับการผลิตและการน�ำ เข้าให้เป็นราคามาตรฐาน โดยเฉพาะในล่าสุด นี้ทางรัฐบาลได้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชน สามารถน�ำเข้ากันเองได้แล้วแทนที่จะให้ ปตท.น�ำเข้าเพียงฝ่ายเดียว โดยในเรื่องนี้ก็ คงต้องให้เวลากันสักระยะซึ่งก็น่าจะมีแนว โน้มที่ดีขึ้น

ชัยสมรภูมิ 23


ขณะเดียวกัน ในเรื่องของน�้ำมันนั้น ก็ได้มกี ารพิจารณาโครงสร้างราคาว่า ควรท�ำ อย่างไรให้ราคาน�้ำมันถูกที่สุดตามราคาของ ตลาดโลก อีกทั้งก็ยังให้ความสนใจในเรื่อง ของการอนุรักษ์พลังงานควบคู่กันไปด้วย โดยในส่วนนีก้ ม็ หี น่วยงานการติดตามเรือ่ งนี้ อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีการพิจารณากันใน เรื่ อ งของท่ อ ทางที่ ใ ช้ ใ นการขนส่ ง น�้ ำ มั น ภายในประเทศอีกด้วย เพราะหากจะใช้ทาง ถนนก็คงไม่คอ่ ยปลอดภัยเท่าทีค่ วร แต่สำ� หรับ การขนส่งทางท่อนัน้ ถือได้วา่ ถูกและปลอดภัย ที่สุด ซึ่งขณะนี้ได้มีการเสนอและพิจารณา แนวทางการวางท่อส่งน�้ำมันในสองเส้นทาง คือภาคเหนือ และอีสานแล้วว่า จะสามารถ ด�ำเนินการให้ถูกต้องได้หรือไม่อย่างไร ส่วนเรื่องพลังงานทดแทนที่ก�ำลัง ให้ความสนใจกัน ทั้งพลังงานแสงแดด ลม และพลังงานชีวภาพ ก็พบว่ามีผสู้ นใจพลังงาน แสงแดดมากที่สุด ส่วนพลังงานลมนั้นค่อน ข้างจะน้อยเพราะมีความไม่เสถียร แต่พลังงาน ชีวะก็มีความนิยมไม่แพ้กันเลย ซึ่งในขณะนี้ ก็มีการส่งเสริมในเรือ่ งการปลูกหญ้าเนเปียร์ มากเป็นพิเศษ เพราะมีผลผลิตออกมาเป็น สองทาง คือ 1. เอาไปใช้เป็นอาหารสัตว์ 2. น�ำมาใช้หมักให้เกิดแก๊สมีเทนเพื่อน�ำไปท�ำ เป็นพลังงานไฟฟ้าต่อไป โดยมีตัวอย่างเช่น โรงพลังงานไฟฟ้าหญ้าเนเปียร์ที่มีขึ้นเป็น รูปธรรมแล้วใน จ.อุบลราชธานี นอกจากนี้ ยั ง มี ก ารด� ำ เนิ น งานของภาคประชาชน

24 ชัยสมรภูมิ

ธกส. และภาคธุรกิจ ที่ได้จับมือกันได้อย่าง ลงตัวโดยที่ภาครัฐไม่ต้องเข้ามาช่วยเหลือ คือ ประชาชนปลูกหญ้า ธกส.หาเงิน เอกชน ส่งเสริม และเมื่อเรามาน�ำมาใช้กันอย่าง เพียงพอแล้วก็ยังสามารถต่อยอดด้วยการ ส่งออกไปยังประเทศจีนได้อย่างไม่อั้นอีก ด้วย ซึ่งโครงการดังกล่าวนั้น เมื่อท�ำแล้ว ประชาชนมีรายได้ดีกว่าปลูกข้าว ทั้งยังเป็น พืชที่กินน�้ำน้อยอีกต่างหาก ประชาชนเองก็ ไม่ตอ้ งจากบ้านมาหางาน ส่วนหนึง่ ท�ำอาหาร สัตว์ ส่วนหนึ่งท�ำฟาร์ม ซึ่งจะท�ำให้มีรายได้ ร่วมกันจากค่าแรงงานที่เป็นปันผลร่วมกัน และหากว่าประสบความส�ำเร็จก็จะขยาย ขอบเขตไปในทั่ ว ทุ ก ภู มิ ภ าคของประเทศ ไทยเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่อง

การน�ำไปท�ำพลังงานไฟฟ้านัน้ ทางรองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว จึงให้กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานต่างๆ ศึกษาความเป็นไปได้ว่าคุ้มค่าหรือไม่ และ หากว่าประสบผลส�ำเร็จก็จะมีการส่งเสริม กันให้เป็นรูปธรรมต่อไป ส่วนเรือ่ งพลังงานไฟฟ้านัน้ ก็จะเน้น ในเรื่องของราคาเป็นหลัก และเมื่อศึกษา ก็ได้พบว่าไฟฟ้ามี 3 กลุ่มคือ การไฟฟ้าฝ่าย ผลิต การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วน ภูมิภาค โดยเมื่อมองในภาพรวมของต่าง ประเทศก็จะมีแค่หนึง่ เดียว จึงก�ำลังศึกษาว่า หากจะน�ำทั้ง 3 ภาคส่วนนี้มารวมกันได้หรือ ไม่ เพราะน่าจะท�ำงานได้ดีที่สุดเนื่องจากจะ มีการประสานงานกันได้คล่องตัวกว่าเดิม ส� ำ หรั บ ค่ า มาตรฐานของพลั ง งานไฟฟ้ า ล่าสุดนั้น พบว่าในความเป็นจริงแล้วก็ไม่ได้ มีอะไรมาก แค่เพียงภาครัฐให้ขอ้ มูลทีก่ ระจ่าง แก่ภาคเอกชนและภาคประชาชนปัญหา ต่างๆ ก็จะจบ เพราะพลังงานไฟฟ้าทีม่ าจาก พลังงานทดแทนก็ราคาสูง อาศัยจากพลังงาน น�้ำ ก็ทราบกันอยู่แล้วว่าเขื่อนก็สร้างกันไม่ ค่อยได้ในบ้านเรา จึงต้องไปซือ้ จากเพือ่ นบ้าน แก๊สเองก็ใกล้จะหมดไปแล้ว โดยเฉพาะใน ขณะนี้แม้แต่น�้ำมันเตาที่เราต้องน�ำเข้ามาก็ มีให้เห็นแล้ว อีกทั้งขณะเดียวกันคนไทยบางส่วน เอง ก็ยังไม่ค่อยตระหนักถึงในเรื่องของการ


อนุรกั ษ์พลังงานด้วย ผมส่งเสริมในเรื่องนี้เป็นพิเศษ คือไม่ได้หา้ มใช้แต่ตอ้ งใช้อย่างรูค้ ณ ุ ค่า ดังนัน้ จึงมองได้วา่ พลังงานไฟฟ้าจะมีปญ ั หาอย่างแน่นอนหากไม่มกี ารวางแผนเอาไว้ลว่ งหน้า เพราะในด้านการคมนาคมต่างๆ พลังงานไฟฟ้าก็เริ่มจะเข้ามาแทนที่บทบาทของน�้ำมันแล้ว ในปัจจุบนั ซึง่ บ้านเราเองก็มตี วั อย่างให้เห็นแล้วเช่นกัน แต่ในส่วนนีก้ ต็ อ้ งมองให้รอบด้านว่า หากไฟฟ้าเข้ามาแทนที่แล้ว จากนั้นก็ต้องถามว่า น�้ำมันจะไปอยู่ตรงไหน อย่างที่ท่านนายก รัฐมนตรีเคยกล่าวเอาไว้ว่า จะตัดเสื้อต้องมองคนใส่ อย่างสภาวะของบ้านเราคืออะไร จะเอาแบบเสือ้ ของฝรัง่ หรือจีนมาใส่กค็ งไม่ได้ เพราะเรามีโครงสร้างของเราแบบนี้ ดังนัน้ การกระจาย ก�ำลังทุกอย่างต้องเป็นตามความเหมาะสมในแบบของเราเอง ณ ปัจจุบันและ อนาคต โดยขอยืนยันว่ารัฐบาลมีการส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในอุตสาหกรรม ด้านพลังงานอย่างแน่นอน ส�ำหรับในเรื่องของราคานั้น ยอมรับว่า พลังงานทุกอย่างเรามีการน�ำเข้า แม้กระทั่ง ในส่วนของพลังงานไฟฟ้าเองก็มีการน�ำเข้ามา ซึ่งในส่วนนี้ก็จะผ่านขั้นตอนต่างๆ จึงท�ำให้ พลังงานไฟฟ้าอาจจะถูกหรือแพงกว่าพลังงานปิโตรเลียมก็ได้

นอกจากนี้ ส�ำหรับเรื่องพลัง งานไฮโดรเจนนัน้ ก็ยงั มีการพิจารณา ในเรื่องนี้อยู่ แต่ก็ยังศึกษากันไม่จบเพราะ จะต้องค�ำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่ง หากภาชนะที่ บ รรจุ ไ ฮโดรเจนไม่ มี ค วาม ปลอดภั ย ที่ เ พี ย งพอแล้ ว ติ ด ตั้ ง ไปกั บ ยาน พาหนะก็ไม่ต่างอะไรไปจากระเบิดที่มีความ รุนแรงยิ่งกว่า แก๊ส LPG หรือ NGV แต่ถ้า หากท� ำ ให้ ไ ฮโดรเจนอยู ่ กั บ ที่ แ ล้ ว น� ำ มา ผลิ ต เป็นพลังงานไฟฟ้าแทนก็น่าจะดีกว่า ซึ่งเรื่องนี้จ�ำเป็นต้องมองให้รอบด้านในทุกๆ ทุ ก องคาพยพ แต่ ยืน ยั น ว่ า ไฮโดรเจนคือ พลังงานที่สำ� คัญมากในอนาคต อย่ า งไรก็ ตาม ในฐานะที่เ ป็นฝ่า ย นิติบัญญัติ ดังนั้น ผมเองก็ต้องรู้อยู่แล้วว่า รัฐบาลสามารถที่จะยืนยันเรื่องความมั่นคง ทางด้านพลังงานของประเทศไทยได้อย่างไร บ้าง คือ ประชาชนจะมีพลังงานใช้เมื่อ ต้องการใช้ ไม่มีไฟดับ ไม่มีค�ำว่ามืด ทุก อย่างสามารถเคลือ่ นทีไ่ ด้ แต่วา่ จะถูกหรือ แพงก็เป็นเรือ่ งของการตลาด ทัง้ นี้ ยืนยัน ได้ว่า รัฐบาลทุกยุคทุกสมัยไม่เคยทอดทิ้ง เรือ่ งพลังงาน เพราะพลังงานคือปัจจัยส�ำคัญ ของการด�ำรงอยู่ของมนุษยโลก ท้ายสุดนี้ “ขอฝากไปยังทุกๆ ภาค ส่วนว่า ผมให้ความส�ำคัญและให้น�้ำหนักใน เรือ่ งของการอนุรกั ษ์พลังงานมากทีส่ ดุ ไม่วา่ จะเป็นพลังงานในรูปใดก็ตาม โดยเฉพาะใน เรื่องของการปลูกฝังไปยังเด็กๆ เป็นส�ำคัญ เพราะเมือ่ เติบโตเป็นผูใ้ หญ่แล้ว ก็จะสามารถ ส่งต่อไปยังคนรุ่นหลังต่อไปได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งก็อยากจะให้เห็นความส�ำคัญร่วมกันเพื่อ ความมั่นคงทางด้านพลังอย่างยั่งยืนต่อไป”

ชัยสมรภูมิ 25


ถือได้วา่ เป็นหนึง่ ใน นักบริหาร ทีร่ กั ษาระดับความดีเอาไว้ได้อย่างยอดเยีย่ ม เลยทีเดียว ถึงแม้ครัง้ หนึง่ จะเคยถูกความอยุตธิ รรมมุง่ ท�ำร้ายให้แปดเปือ้ น มลทินไปด้วยอ�ำนาจอันมิชอบก็ตาม แต่เมื่อความจริงทุกอย่างได้ปรากฏ ชัดจึงกลายเป็นทีป ่ ระจักษ์ใจแก่ชาวไทยทัง้ ประเทศว่า ความยุตธิ รรมไม่เคย สูญหายไปจากแผ่นดินนี้ กับบทสัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมาของ ภายใต้ หมวกใบใหม่กับหัวใจที่ยังคงเดิมของ...

นักบริหารยอดนักสู้

ถวิล เปลี่ยนศรี

ประธานกรรมการผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

เผย 4 โครงการส�ำคัญเพือ่ คนไทย ยกความโปร่งใสเป็นทีต่ งั้ ยัน คน กฟภ. มีดมี ากกว่า เสือ่ ม ระบุ อยูม่ าได้เพราะใจให้ใจ แนะ อย่ายึดติดกับลาภยศ ชี้ เอาความสุจริตเป็นทีต่ งั้ ไม่ต้องกลัวร้อน “ส�ำหรับปีนี้เป็นปีที่มีความส�ำคัญเป็นพิเศษส�ำหรับพี่น้องปวงชนชาวไทย เพราะเป็น ปีทสี่ มเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินนี าถ ทรงมีพระชนมายุครบ 7 รอบ 84 พรรษาในวันที่ 12 ส.ค.นี้ โดยทางผม ผู้บริหาร บอร์ดทุกท่าน และพนักงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จึง มาคิดกันในโอกาสมหามงคลนี้ว่า กฟภ. หรือ พีอีเอ เราจะมาท�ำอะไร ซึ่งเห็นว่าจะต้อง เฉลิมพระเกียรติของพระองค์ เพาะว่าพระองค์ก็ได้ทรงงานเคียงคู่กับ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยูห่ วั เพือ่ พสกนิกรชาวไทยมาอย่างยาวนาน และในฐานะทีเ่ ป็นการไฟฟ้าส่วนภูมภิ าค ซึ่งมีผู้ใช้บริการอยู่ทั่วประเทศก็คิดว่าน่าจะท�ำอะไรให้กับประชาชนที่เป็นลูกค้าของเราไป พร้อมๆ กับการเฉลิมพระเกียรติพระองค์ท่านโดยเป็นการคืนก�ำไรให้กับประชาชน ส�ำหรับโครงการดังกล่าวนั้น มี 4 โครงการส�ำคัญๆ ที่จะด�ำเนินการในปีนี้ ได้แก่ 1. โครงการ 84 ชุมชนปลอดภัยใช้ไฟพีอีเอ ซึ่งจะถือว่า เป็นโครงการพิเศษก็ถูก หรือ ถือว่า เป็นโครงการทีท่ ำ� มาชัว่ นาตาปีแล้วก็ใช่ โดยมีคยี เ์ วิรด์ 2 ค�ำก็คอื ปลอดภัยและประหยัด คือ ในความเป็นจริงแล้วเราไม่ได้มคี วามประสงค์ให้พนี่ อ้ งประชาชนใช้ไฟกันเยอะๆ เราต้องการ ให้ใช้ไฟกันอย่างประหยัด ถึงแม้วา่ การประหยัดนัน้ จะท�ำให้รายได้เราลดลงไปด้วยก็ตาม เพราะ

26 ชัยสมรภูมิ

เราถือว่าจะต้องรับผิดชอบกับสังคมส่วน รวมในด้านพลังงาน โดยพีอีเอจะเลือก 84 ชุ ม ชนขึ้ น มาเพื่ อ ที่ จ ะเข้ า ไปด� ำ เนิ น การ ตั้งแต่ในเรื่องของการให้ค�ำแนะน�ำการใช้ อุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดต่างๆ ที่อยู่ในบ้านเรือน แล้วก็จะมีบริการจากที่เราได้อบรมนักศึกษา อาชี ว ะให้ เ ข้ า ไปด� ำ เนิ น การปรั บ เปลี่ ย น ซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างๆ ใน 84 ชุมชน เพื่อ ให้เกิดผลในการปฏิบตั อิ ย่างแท้จริง ด้วย แต่ ที่ส�ำคัญก็คือเราต้องการเข้าไปรณรงค์ให้ เกิ ด จิ ต ส� ำ นึ ก และวั ฒ นธรรมในเรื่ อ งของ การประหยัดและความปลอดภัยของการใช้ ไฟฟ้า โครงการที่ 2 คือโครงการทีจ่ ะเข้าไป ด�ำเนินการในเรื่องของฝายต้นน�้ำ จึงมีโครง การ “พีอเี อรักษ์นำ�้ สร้างฝายถวายแม่หลวง แผ่นดิน” เนื่องจากพระองค์ท่านทรงงาน เกี่ยวข้องกับเรื่องการอนุรักษ์นำ�้ อนุรักษ์ดิน ซึง่ ก็จะตรงกับโครงการในแง่ทวี่ า่ เราไปช่วย เรื่องภัยแล้งและการอนุรักษ์ต่างๆ ที่ส�ำคัญ เมื่อโยงเข้ามาที่ กฟภ.เองเราก็มีสิ่งเหลือใช้ ทั้งเสาตอม่อที่เป็นซีเมนต์ที่หักโค่นลงมา จากพายุและหากกองไว้อย่างนั้นก็จะเป็น สิ่งที่ไม่มีราคา แต่เราจะเอาวัสดุเหล่านี้ไป สร้างฝายทดน�้ำเพื่อให้เกิดประโยชน์ขึ้นมา ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาภัยแล้งให้กับพี่น้อง ประชาชน โดยจะเน้นไปในพื้นที่ที่มีภัยแล้ง แต่ เ มื่ อ เป็ น พื้ น ที่ ภั ย แล้ ง บางจุ ด จึ ง ไม่ มี ศักยภาพทีจ่ ะไปท�ำฝาย ดังนัน้ จึงต้องขอความ ร่วมมือกับส่วนราชการต่างๆ เช่น การน�ำน�้ำ


ไปช่วยเหลือ เป็นต้น แต่สำ� หรับพืน้ ทีท่ สี่ ามารถ ท�ำฝายได้นั้นทาง กฟภ.ก็จะประสานกับกรม หรือหน่วยงานที่มีความรู้ความสามารถใน ด้านดังกล่าวมาร่วมกันต่อไป โครงการที่ 3 ก็เกี่ยวกับการอนุรักษ์ คือโครงการ “คืนช้างสูป่ า่ เฉลิมพระเกียรติ” โดยเรื่องของช้างนั้นก็พบว่ามีปัญหากันมา นานเนื่องจากพื้นที่ป่าซึ่งเป็นแหล่งอาศัย และหากินของช้างนัน้ ลดน้อยลงไปมาก ช้าง จึงบุกเข้ามากินพืชไร่ของพี่น้องประชาชน ซึ่งก็มีการท�ำร้ายช้างบ้าง แต่ก็น่าคิดว่า คน บุกรุกที่อยู่ของช้างหรือช้างบุกรุกที่อยู่ของ คน แต่ส่วนตัวมองว่าคนน่าจะเป็นฝ่ายไป บุกรุกมากกว่า สุดท้ายช้างจึงต้องออกมาน อกพื้นที่ ซึ่งการคืนช้างสู่ป่า ก็เป็นโครงการ

ของมูลนิธิคืนช้างสู่ป่าของ ดร.สุเมธ ตันติ เวชกุล โดยเมื่อปีที่แล้ว คืนไป 6 เชือกที่

จ.ลพบุรี ซึ่งพบว่าช้างที่ปล่อยออกไป นั้นก็มีลูกหลานออกมาแล้วด้วย และถือเป็นครั้งแรกที่น�ำช้างบ้านไปปล่อย คืนสู่ป่าอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งช้างตอนนี้มี ราคาแพงเพราะสามารถดึ ง ดู ด นั ก ท่ อ ง เที่ยวได้ เนื่องจากช้างบ้านเรานั้นต้องถือว่า แสนรูม้ ากจึงแพงขึน้ ส�ำหรับการคืนช้างสูป่ า่ หรือ ธรรมชาตินั้น ก็จะท�ำให้ช้างธรรมชาติ ที่ เ หลื อ น้ อ ยได้ เ พิ่ ม ประชากรขึ้ น มาตาม ล�ำดับ ทั้งนี้ได้คุยกับทางผู้ว่าการไฟฟ้า และ ผู้บริหารแล้วก็คิดว่า ในปีต่อๆ ไปหากไม่ได้ ปล่ อ ยช้ า งก็ น ่ า จะท� ำ อะไรที่ เ กี่ ย วกั บ ช้ า ง เพราะถ้าปล่อยไปแล้วช้างไม่มีถิ่นที่อยู่ไม่มี แหล่งอาหารก็คงจะไม่ตลอดรอดฝัง่ ซึง่ ขณะนี้ มูลนิธชิ า้ ง ก็มกี ารไปท�ำแหล่งโป่งเทียม แหล่ง อาหารของช้างเอาไว้แล้ว ซึง่ คิดว่าเราคงจะ ไม่ปล่อยปีเดียวปีหน้าก็ยังท�ำได้อีกถ้าไม่ ปล่อยช้างก็ต้องท�ำอะไรที่เกี่ยวกับช้าง ส่วนโครงการที่ 4 เกีย่ วข้องกับสุขภาพ ของพี่น้องประชาชนเกี่ยวข้องกับเรื่องการ รักษาชีวติ ของผูเ้ จ็บ คือการบริจาคโลหิต ซึง่ ทุกคนก็ทราบกันดีว่าในแต่ละปีนั้น โลหิตมี ปริมาณไม่เพียงพอ ซึ่งสภากาชาดก็มีการ รณรงค์ว่าให้มีการบริจาคเลือดหรือโลหิต กันให้มากขึน้ ทัง้ ในด้านความถีแ่ ละพืน้ ทีก่ าร รับบริจาค ซึ่งกฟภ.มีความมุ่งมั่นเป็นอย่าง ยิ่งจึงใช้ตัวเลขมงคลเป็นชื่อโครงการ“84 พรรษา 8.4 ล้านซีซ”ี โดยจะระดมพนักงาน ลูกจ้างและตรอบครัวของการไฟฟ้า รวมทั้ง

ชัยสมรภูมิ 27


จะเชิญชวนประชาชนมาร่วมกันบริจาค ซึ่ง ในปีทแี่ ล้วก็ทำ� มาได้ถงึ 7 ล้านซีซี แม้ตงั้ เป้า ไว้เพียง 6.9 ล้านซีซี แต่ได้มาถึง 7 ล้านซีซี ซึ่งในจ�ำนวน 8.4 ล้านซีซีที่ตั้งไว้ในปีนี้เรา มั่นใจว่าสามารถท�ำได้ ซึ่งจะท�ำให้สามารถ ลดอั ต ราความขาดแคลนของโลหิ ต ซึ่ ง มี ความจ�ำเป็นมากในการที่รักษาชีวิตผู้ป่วยได้ ส� ำ หรั บ เรื่ อ งการไฟฟ้ า โปร่ ง ใสนั้ น มีจดุ เริม่ ต้นมาจากว่า เป็นปัญหาของของเรา มานานแล้ ว และขณะนี้ ก็ เ ป็ น วาระของ ประเทศ ซึง่ กฟภ.ในฐานะทีเ่ ป็นส่วนหนึง่ ของ ประเทศไทยเป็ น องค์ ก รหนึ่ ง ที่ อ ยู ่ ภ ายใต้ การก�ำกับของกระทรวงมหาดไทยที่อยู่ภาย ใต้รฐั บาลนี้ เราจึงมองเห็นในเรือ่ งของความ โปร่ ง ใสละปราศจากความทุ จ ริ ต ในด้ า น ต่างๆ ก็น่าจะท�ำให้องค์กรมีความเข้มแข็ง ยิง่ ขึน้ และเมือ่ องค์กรมีความเข้มแข็งขึน้ แล้ว การตอบสนองของพี่น้องประชาชนก็น่าจะ ดีขนึ้ การทีจ่ ะท�ำให้รายได้ตา่ งๆ เข้ามาสูก่ ฟภ. เพื่อน�ำกลับไปสู่การพัฒนาประเทศได้มาก ยิ่งขึ้น ซึ่งมองแล้วก็ถือเป็นเรื่องที่ดีสำ� หรับ ทุกฝ่าย แต่กข็ อพูดตรงๆ ว่าในเรือ่ งค�ำครหา

28 ชัยสมรภูมิ

เล่ า ลื อ เกี่ ย วกั บ พี่ น ้ อ งชาวกฟภ.ในเรื่ อ ง ทุจริตก็มใี ห้ได้ยนิ มาโดยตลอดเช่น ลือกันว่า ต้องมีเงินใต้โต๊ะ งานถึงจะเดินรวมไปถึงใน เรื่องของความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อจัด จ้าง ก็ยอมรับว่ายังได้ยินอยู่ ผมจึงปรึกษา หารือกับทางผูบ้ ริหารละบอร์ดว่า เราจะยอมรับ ความจริง หรือ มันเป็นเพียงข้อครหา แต่ ต้องมองด้วยว่า มันอาจจะมีอยู่บ้างส�ำหรับ ในส่วนที่ไม่ดีแต่ก็เป็นเพียงส่วนน้อย ซึ่งผม มั่ น ใจว่ า พี่ น ้ อ งกฟภ.ต้ อ งมี ส ่ ว นที่ ดี ม าก กว่าส่วนไม่ดี มิฉะนั้น เราก็คงไม่สามารถ ยืนหยัดมาได้ถึงวันนี้ ดังนั้นคนที่ไม่ดีก็ต้อง ก�ำจัดไป ส่วนคนที่ไม่ถูกต้องก็ต้องให้อยู่ใน กรอบที่ไม่สามารถจะมาท� ำร้ายองค์กรได้ จึ ง เป็ น ที่ ม าของโครงการไฟฟ้ า โปร่ ง ใส โปร่ ง ใสในที่ นี้ หมายความว่าจะต้องตรวจ สอบได้ทกุ ขัน้ ตอน ต้องไม่มกี ารทุจริตคอรัปชัน่ ต้องไม่มีเงินใต้โต๊ะ ดังนั้นจึงร่วมกันสร้างต้นแบบขึ้นมา โดยมีการหาอาสาสมัคร ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ ไม่งา่ ยเพราะขัดกับหลักความเคยชินทีท่ ำ� มา เนื่องจากจะต้องโปร่งใสและพร้อมส�ำหรับ

การตรวจสอบทุกเรื่อง โดยมีสาขาที่สมัคร เข้ามาเยอะพอสมควร อาทิ ทีร่ งั สิต ทัง้ นี้ ใน ส� ำ นั ก งานการไฟฟ้ า แต่ ล ะแห่ ง จะมี เ บื้ อ ง หลั ง ในการประสานงานเช่ น การประมู ล ระดับ 100 – 1,000 ล้านบาท ซึ่งในตรงนั้น เป็นเงินจ�ำนวนมากและที่ผ่านมาก็ถูกกล่าว หานินทาไปต่างๆ นานา ผมจึงไม่อยากให้ เกิดเรื่องเหล่านี้เข้ามาอีก โดยได้รว่ มเน้นย�ำ้ กับทางผูว้ า่ ฯ และผูบ้ ริหารว่า เราต้องโปร่งใส การโปร่ ง ใสก็ จ ะท� ำ ให้ เ ราได้ ข องที่ ดี แ ละ เหมาะสมกับราคาในการจัดซื้อจัดจ้าง นอก จากนั้นก็ท�ำให้คนของเราเองไม่เห็นแก่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีส�ำหรับทุกฝ่ายและก็ยืนยัน ว่าตลอดระยะเวลาประมาณ 1 ปี ที่ผมมา นั่งเป็นประธานที่นี้ก็ได้รับความร่วมมือจาก ทางผู้บริหารและพนักงาน ก็ทำ� ให้เราดีขึ้น อย่ า งเช่ น ในเรื่ อ งการจั ด ซื้ อ จั ด จ้ า งก็ ต ้ อ ง มีการจัดท�ำให้รอบครอบและรัดกุมยิ่งขึ้น มีการประหยัดลงไปเยอะ ได้ของที่ดีและคุ้ม ค่ามากยิ่งขึ้น จากเดิมนั้น ผมเองก็ไม่รู้ว่าท�ำ กันอะไรยังไง แต่นบั จากนีไ้ ปข้างหน้าราต้องมี ความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น


หลักที่ใช้ในการบริหารงานของผม นั้น ถือเป็นสิ่งที่พูดกันมานานแล้วอย่างเป็น ความจริง คือ หัวไม่สายหางก็ไม่กระดิก ผม จะประกาศอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบ การหรือนักธุรกิจที่ทำ� ธุรกรรมกับทาง กฟภ. สามารถมาพบผมได้ทันทีหากมีเจ้าหน้าที่ ของผมไปสร้างความเดือดร้อนให้กับท่าน ขอให้บอกมาตรงๆ แล้วจะตรวจสอบให้ และ จะสั่งการลงไปตามล�ำดับพร้อมติดตาม อีกอย่างคือที่คิดว่าเป็นสิ่งที่ส�ำคัญ ทีส่ ดุ ก็คอื การได้รบั ความร่วมมือจากผูบ้ ริหาร และพนักงานของ กฟภ. ซึง่ ไม่วา่ จะเป็นอะไร มาจากทีไ่ หนก็แล้วแต่ แต่ผมยืนยันได้วา่ ส่วน

ใหญ่จะต้องอยู่ในกรอบในเขตที่จะต้องเป็น คนดีที่ท�ำงานและก็เสียสละในการท�ำงาน เพื่อองค์กร แต่คนที่ไม่ดีก็อาจจะมีอยู่บ้าง ดังนั้นหน้าที่ของเราก็คือการท�ำให้คนที่ไม่ดี ไม่สามารถมาสร้างความเสียหายแก่องค์กร ของเราได้ ผมมาทีน่ ไี่ ม่ได้เอาอะไรมา เอาแต่ ใจมาด้วยอย่างเดียว เอาความจริงใจ เอา ความสุจริตเป็นทีต่ งั้ และอย่างทีเ่ รียนให้ทราบ ก็คอื ผมไม่รอู้ ะไรเกีย่ วกับไฟฟ้า หากใครหลอก ให้เอามือแหย่ไปในรูปลั๊กไฟไฟก็ชอร์ตผม แต่ทนี่ เี้ ขาให้ในสิง่ ทีผ่ มก็ให้เขา ผมจริงใจเป็น กันเองกับพนักงาน แม้จะไม่ใช่ผู้ใต้บังคับ บัญชาของก็ตาม ผมมีลูกน้องผมคนเดียวก็

คือท่านผู้ว่าฯ แต่คนอื่นๆ เขาไม่ใช่ เพราะเป็นลูกน้องของผู้ว่าฯ ไม่ใช่ผม เพราะฉะนั้นเมื่อเราจริงใจ เราเอาใจมาเป็น ที่ตั้งแล้วทุกคนก็ท�ำเพื่อกฟภ.ท�ำเพื่อพี่น้อง ประชาชน ซึง่ ตรงนีเ้ ป็นเงินลงทุนจากพีน่ อ้ ง ประชาชนเราไม่ ไ ด้ พกเงิ น ลงทุนมาจากที่ บ้านจะลงทุนได้ยงั ไง เงินลงทุนมากกว่าแสน แสนล้าน นอกจากนั้นก็คือ ผมจะใช้แนวคิด ในการตัดสินใจอย่างตรงไปตรงมาแล้วคิด ให้ได้ว่าเป็นอนิจจัง เพราะการเปลี่ยนแปลง มันเกิดขึน้ ได้เสมอ ผมคิดมาตัง้ แต่รบั ราชการ มาแล้วว่าถ้าอะไรจะเกิดมันก็ตอ้ งเกิด ต�ำแหน่ง หน้าทีเ่ ป็นเพียงสิง่ ทีอ่ ยูช่ วั่ ประเดีย๋ วประด๋าว เท่านั้น มันไม่ไปจากเรา สักวันหนึ่งเราก็ ต้องไปจากมัน อย่าไปติดยึด ผมเคยพูดเรือ่ ง นีท้ หี่ ลักสูตรนักบริหารระดับสูงที่ ก.พ.ก็บอก บรรดาผูท้ เี่ ข้ามาอบรมซึง่ เป็นระดับรองอธิบดี ระดับรองปลัดกระทรวงที่กำ� ลังจะขึ้นไปเป็น ปลัดหรืออธิบดี โดยบอกเขาว่า ท่านท�ำให้ เต็มที่ ให้มีความคาดหวัง มีความต้องการ มีความทะเยอทะยานที่จะขึ้นเป็นหัวหน้า หน่วยงานให้ได้ เพราะเท่ากับท่านได้ทำ� ความดี ของท่านแล้วจงท�ำให้เต็มที่ แต่ถ้าวันหนึ่ง มันไม่มีคำ� ตอบในเรื่องนี้ ท่านก็อย่าไปผิด หวังเพราะว่าท่านได้ท�ำเต็มที่แล้ว ดังนั้น มันจึงไม่ได้อยู่จีรังยั่งยืน ซึ่งอาจจะมีบางคน ทีส่ งสัยและคิดว่า ก็ผมเคยเป็นมาแล้วผมถึง พูดได้ ซึ่งผมก็ขอบอกเลยว่า เพราะผมเคย เป็ น มาแล้ ว และได้ เ ห็ น ในตรงนี้ แ ล้ ว ว่ า อย่าไปยึดติดกับมัน วันหนึ่งมันต้องจากเรา ไปและเราก็ต้องกลับไปสู่บ้านเรือนของเรา เพราะฉะนัน้ หากเราไม่ยดึ ติดตรงนีเ้ ราก็พร้อม ที่จะเผชิญหน้ากับทุกอย่าง อย่างไรก็ตาม ส�ำหรับสิ่งที่จะขาด ไปไม่ได้เลยในฐานะประชาชนคนธรรมดา และในฐานะของนักบริหารก็คือ มือที่ไม่มี บาดแผล แม้จุ่มในน�ำ้ กรดมันก็ไม่แสบไม่ ร้อน เพราะเราเอาความสุจริตมาเป็นทีต่ งั้ จึงไม่มีอะไรที่น่ากลัว”

ชัยสมรภูมิ 29


ปฏิรูปหลักเกณฑ์การ

ยื้อชีวิต

ช่วยผู้ป่วยฉุกเฉินก่อนถึง รพ. การเจ็บป่วยฉุกเฉินเป็นความทุกข์ ความเดือดร้อนของประชาชน ที่จะมี โอกาสเกิ ด ขึ้ นกั บ ทุ กคน เป็นความสูญ เสีย ที่มีมูลค่ ามหาศาล ในขณะ เดียวกันก็สามารถป้องกันและหาแนวทางด้านการช่วยเหลือเพื่อลดการ สูญเสียได้ ส�ำหรับประเทศไทยนั้นประสบปัญหาด้านการแพทย์ฉุกเฉินอย่างมาก ดูได้จากการที่ มีอตั ราการเสียชีวติ จากอุบตั เิ หตุจราจรสูงเป็นอันดับสองของโลก และเป็นอันดับหนึง่ ในภูมภิ าค เฉลีย่ มีอตั ราการเสียชีวติ 60 คนต่อวัน และบาดเจ็บหนักต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ถึง 300 คนต่อวัน น่าตกใจยิง่ ทีใ่ นจ�ำนวนผูไ้ ด้รบั บาดเจ็บหนักนีต้ อ้ งกลายเป็นผูท้ พุ ลภาพถึง 15 คน ต่อวัน! หากย้อนไปดูภาพรวมของผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินจากทุกกรณีทั้งเสียชีวิตที่บ้านและเสีย ชีวิตระหว่างน�ำส่งโรงพยาบาล ประเทศไทยเรามีผู้เสียชีวิตนอกโรงพยาบาลประมาณปีละ 60,000 คน ในจ�ำนวนนี้เป็นผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุการจราจรไปแล้วเฉลี่ยปีละประมาณ 20,000 คน อีกประมาณ 20,000 คน เป็นผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจขาดเลือด ถ้าหากระบบการแพทย์ฉุกเฉินก่อนถึงโรงพยาบาลของประเทศไทยถูกพัฒนาให้มีมี ประสิทธิภาพมากขึน้ จะสามารถช่วยชีวติ ผูป้ ว่ ยฉุกเฉินได้อกี ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็น จ�ำนวนปีละประมาณ 12,000 คน ในขณะทีญ ่ ปี่ นุ่ ซึง่ ได้รบั การขนานนามว่ามีระบบการแพทย์ ฉุกเฉินอันทรงประสิทธิภาพมากที่สุด สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ด้วยเหตุนี้ พลเอก นายแพทย์ ชูศิลป์ คุณาไทย สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูป ประเทศ ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิรปู ระบบการแพทย์ฉกุ เฉินช่วงก่อนถึงโรงพยาบาล จึงมีความ มุ่งมั่นเป็นอย่างสูงว่า ประเทศไทยจะสามารถพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินช่วงก่อนถึงโรง พยาบาล

30 ชัยสมรภูมิ

เพื่ อ พิ ทั ก ษ์ รั ก ษาชี วิ ต ผู ้ เ จ็ บ ป่ ว ย ฉุกเฉินจากทุกกรณีให้กลับมามีลมหายใจ มีโอกาสใช้กำ� ลังกาย ก�ำลังใจ สติปญ ั ญา อยู่ ต่อร่วมกับคนอื่นๆ ในสั ง คมท� ำ การพั ฒนา ประเทศชาติได้ต่อไปก่อนถึงเวลาอันสมควร พลเอก นายแพทย์ ชูศิลป์ กล่าวว่า ปัญหาเรื่องความทุกข์ความเดือดร้อนของ ประชาชนเป็นนโยบายที่ต้องร่วมกันแก้ไข อย่างเร่งด่วนของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ท่านได้กล่าวถึงอยู่เสมอใน รายการคืนความสุขให้ประชาชน ส�ำหรับผูป้ ว่ ยวิกฤตฉุกเฉิน เป็นผูป้ ว่ ย ที่มีอาการคุกคามต่อชีวิต และความพิการ ของร่างกาย ต้องการความช่วยเหลือและ การบ�ำบัดรักษาทีม่ ปี ระสิทธิภาพ ได้มาตรฐาน และทันเวลาเพื่อลดการสูญเสียชีวิต และ ความพิการ สิ่ ง นี้ เ ป็ น ความจ� ำ เป็ น พื้ น ฐานที่ รั ฐ ต้องด�ำเนินการให้ประชาชนโดยไม่มเี งือ่ นไข ใดๆ มาปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ ประชาชน จะต้ อ งสามารถเข้ า ถึ ง ระบบการแพทย์ ฉุกเฉิน เข้าใจวิธีการช่วยเหลือผู้ป่วย และ ต้องน�ำความรู้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้


การเจ็บป่วยฉุกเฉินมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้กับทุกคน ประเทศไทยมีผู้เจ็บป่วยฉุกเฉิน ทุกวัน สร้างความเสียหายในมิติเศรษฐกิจของประเทศจ�ำนวนมหาศาล ที่สำ� คัญเราจะต้อง เข้าใจว่าผูป้ ว่ ยฉุกเฉินนัน้ คือผูป้ ว่ ยวิกฤตทีม่ อี าการเกิดขึน้ กะทันหัน ซึง่ อาการเหล่านัน้ คุกคาม ต่อชีวิตและความพิการของร่างกาย ผูป้ ว่ ยฉุกเฉินต้องการความช่วยเหลือด้วยความรวดเร็วทันต่อเวลา อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาชีวิตและลดความพิการของร่างกาย ก่อนอื่นขออธิบายว่า ระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ช่วงก่อนถึงโรงพยาบาล ก็คือการแพทย์ฉุกเฉินนอกโรงพยาบาล อันดับแรกประชาชนต้อง ทราบถึงภาวะการเจ็บป่วยฉุกเฉินของผู้ป่วย ทราบถึงช่องทางการขอความช่วยเหลือโดย การแจ้งเหตุ เมื่อประชาชนท�ำการแจ้งเหตุแล้ว ทางศูนย์รับแจ้งเหตุก็จะท�ำการจ่ายงานให้หน่วย กู้ชีพที่เหมาะสมออกไปช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินในที่เกิดเหตุ และน�ำส่งโรงพยาบาลเพื่อ รับการรักษาต่อ โดยขัน้ ตอนการปฏิบตั เิ หล่านีจ้ ะต้องมีการบริการด้วยความทัว่ ถึง มีประสิทธิภาพ ที่ส�ำคัญคือต้องทันต่อเวลา เนื่องจากทุกวินาทีของผู้ป่วยฉุกเฉินมีค่าต่อชีวิตและความพิการ เป็นอย่างยิ่ง เราจะแก้ไขปัญหาประเด็นแรกคือการแจ้งเหตุต้องท�ำให้ประชาชนเข้าถึงสามารถ แจ้งได้สะดวกรวดเร็วที่สุด โดยใช้เบอร์ฉุกเฉินเพียงเบอร์เดียวทั่วประเทศ ทั้งเรื่องการขอ ความช่วยเหลือทางการแพทย์ อัคคีภัย การกู้ภัย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เบอร์ฉุกเฉินเบอร์เดียวควรท�ำให้ครอบ

คลุมการช่วยเหลือทุกเรื่องข้อเท็จ จริงควรเป็นเช่นนั้น ควรท�ำให้เกิด มาตรฐานสากลเมื่ อชาวต่ า งชาติเดินทาง เข้ า มาประเทศไทยก็ จ ะเข้ า ถึ ง ระบบการ แพทย์ฉุกเฉินก่อนถึงโรงพยาบาลได้ด้วย เบอร์เพียงเบอร์เดียว ปัจจุบันเรามีเทคโนโลยีที่จะมาแก้ ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรพัฒนา ให้สามารถบอกต�ำแหน่งของที่เกิดเหตุได้ และสามารถท�ำให้เกิดการเชื่อมโยงบูรณา การของหน่ ว ยงานที่ จ ะเข้ า ช่ ว ยเหลื อ ได้ พร้อมกันทันทีโดยไม่ท�ำให้เสียเวลา การให้ความรู้แก่ประชาชนนอกจาก ช่ อ งทางการแจ้ ง เหตุ ข อความช่ ว ยเหลื อ ก็ ต ้ อ งมี ก ารถ่ า ยทอดความรู ้ ใ ห้ ท ราบถึ ง อาการของผู้บาดเจ็บฉุกเฉิน อาทิเช่น พบผู้ ป่วยแน่นหน้าอกอย่างรุนแรง ให้สันนิษฐาน ก่ อ นว่ า เป็ น ปั ญ หาจากหลอดเลื อ ดหั ว ใจ เมื่อพบแล้วต้องรีบแจ้งเหตุขอความช่วย เหลือทันทียิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี การให้ความรู้เรื่องวิธีการปฏิบัติการ ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิ ภาพก็มีความส�ำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าใครก็มี โอกาสเป็นผูป้ ระสบเหตุได้ทงั้ นัน้ เมือ่ มีความ รู้ก็ จ ะสามารถท�ำ การบ�ำบั ดได้เ บื้องต้นใน ระหว่างที่รอการเดินทางมาถึงของรถกู้ชีพ การจ่ า ยงานให้ ห น่ วยกู้ชีพ ออกไป ช่ ว ยเหลื อ ผู ้ บ าดเจ็ บ ฉุ ก เฉิ น ในที่ เ กิ ด เหตุ ต้องพัฒนาให้ทันเวลาภายใน 8 นาที ปัญหา ที่ พ บขณะนี้ คื อ เรายั ง ขาดแคลนบุ ค ลากร และรถพยาบาลระดั บ สู ง ที่ มี อุ ป กรณ์ ก าร ช่วยชีวิตอย่างเต็มประสิทธิภาพ เรายังมี จ�ำนวนไม่พอที่จะสามารถกระจายจุดจอดให้ ทั่วถึงได้ทั่วประเทศ รถพยาบาลระดับสูงที่เรามีอยู่ส่วน ใหญ่ต้องจอดสแตนบายอยู่ในพื้นที่ของโรง พยาบาล ไม่สามารถออกไปช่วยเหลือผู้บาด เจ็บฉุกเฉินได้ทันท่วงที การจัดซื้อจัดหารถ พยาบาลตามปกติเป็นเรือ่ งของโรงพยาบาล แต่ส�ำหรับระบบการแพทย์ฉุกเฉินนอกโรง พยาบาลควรเป็ น ความรั บ ผิ ด ชอบของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับจังหวัด

ชัยสมรภูมิ 31


เป็นผู้บริหารจัดการเนื่องจากมีความใกล้ชิดกับประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ สามารถบูรณาการหน่วยงานระดับต่างๆ ได้ทงั้ ภาครัฐและ เอกชนในจังหวัด ด้วยศักยภาพก็สามารถใช้งบประมาณจัดหาทัง้ ทรัพยากรรถพยาบาลระดับ สูง และทรัพยากรด้านบุคลากรทีจ่ ะมาท�ำหน้าทีบ่ นรถได้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันเพือ่ ใช้ทรัพยากร ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รถพยาบาลระดับสูงควรมีอุปกรณ์ในการช่วยชีวิตครบครัน มีทั้งเครื่องช่วยหายใจ เครื่องช่วยปั๊มหัวใจ และอุปกรณ์สื่อสารที่จะสามารถเชื่อมโยงกับหน่วยอื่นๆ ได้ โดยเฉพาะ แพทย์ที่อยู่ในโรงพยาบาล ยิ่งมีการถ่ายทอดให้เห็นสภาพผู้ป่วยได้ก็จะเป็นการดี ทั้งนี้เพื่อ การเตรียมความพร้อมของแพทย์ตั้งแต่ในที่เกิดเหตุต่อเนื่องจนถึงโรงพยาบาลที่รอรับการ รักษา แต่ละจังหวัดต้องมีศูนย์จ่ายงาน มีบุคลากรที่เข้ามาท�ำหน้าที่บริหารจัดการในเรื่องนี้ ปัจจุบันมีอยู่สองจังหวัดที่ท�ำได้แล้ว สามารถเป็นแบบอย่างของทั่วประเทศได้ คือ จังหวัด อุบลราชธานี และจังหวัดสงขลา ส่วนปัญหาด้านบุคลากรเองขณะนี้แม้จะยังมีไม่เพียงพอ แต่ก็มีแนวทางเพื่อการ ปฏิรูปเอาไว้แล้ว เริ่มจากการกระตุ้นเด็ก เยาวชนที่โรงเรียน แม้ปัจจุบันจะมีหลักสูตรการ ปฐมพยาบาล หรือช่วยเหลือ ผู้ป่ว ยเบื้อ งต้นอยู่ แต่หลังจากนี้จะประสานกับกระทรวง ศึกษาธิการ ให้เน้นความส�ำคัญของหลักสูตรนี้ให้มากขึ้น

32 ชัยสมรภูมิ

โดยเฉพาะการช่ ว ยฟื ้ น คื น ชี พ จะ ต้องให้นักเรียนในระดับต่างๆ รู้จริง มีความ ช�ำนาญจนสามารถปฏิบัติได้จริง น�ำไปใช้ เป็นประโยชน์ทั้งต่อตัวเองและผู้บาดเจ็บได้ ตลอดชีวิต จะต้องไม่เรียนรู้เพื่อผ่านไปแล้ว ลืมเหมือนอย่างในอดีต ส่วนปัญหาเรื่องบุคลากรหัวหน้าทีม ปฏิบัติการที่มีขีดความสามารถเพียงพอนั้น จะต้องใช้แพทย์ พยาบาล และนักปฏิบัติ การฉุกเฉินการแพทย์ รถพยาบาลระดับสูง 1 คัน ต้องมีนักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ อย่างน้อย 1 คนต่อเวร ซึ่ ง ปั จุ บั น มี ม หาวิ ท ยาลั ย ที่ ผ ลิ ต นั ก ปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ เพียง 4 แห่ง เท่านั้นก�ำลังหาทางก�ำหนดให้มหาวิทยาลัย อื่นๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการผลิตเพื่อให้ทัน และเพียงพอต่อความต้องการในอนาคต “ประเทศไทยมีผู้ป่วยฉุกเฉินทุกวัน อยากให้ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้น�ำข้อเสนอของ ชุดปฏิรูประบบการแพทย์ฉุกเฉินช่วงก่อน ถึงโรงพยาบาลไปปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความ ส�ำเร็จเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในการที่ จะลดความสูญเสียชีวิตและความพิการจาก อาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน ซึง่ จะลดความสูญเสีย ทางเศรษฐกิจและช่วยให้ผู้เจ็บป่วยฉุกเฉิน ได้กลับมาพัฒนาประเทศชาติได้” พลเอก นายแพทย์ ชูศิลป์ กล่าวทิ้งท้าย.


โดย...ธรรมชาติ ๔๕๕

เมือ่ เดือนมีนาคม ๒๕๕๙ ทีผ่ า่ นมา คณะรั ก ษาความสงบแห่ ง ชาติ (คสช.) ได้มนี โยบายทีจ่ ะปราบปราม ผูม้ อี ทิ ธิพล โดยให้บงั คับใช้กฎหมาย อย่ า งเข้ ม ข้ น เพื่ อ ขจั ด ปั ญ หา “มาเฟีย” รวมทั้งปัญหาอื่นๆ ที่เกิด ขึน ้ ด้วย ซึ่งในเรื่องนี้ทีมงานโฆษก ของ คสช.ได้เผยว่า พลเอกธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ คสช. ได้เน้นย�ำ้ ให้ ส ่ ว นที่ เ กี่ ย วข้ อ ง ได้ แ ก่ ทหาร ต�ำรวจ และฝ่ายปกครอง ให้รว่ มมือ กันปฏิบัติตามนโยบายของ คสช.ที่ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งหมายถึง การ ดูแลความสงบเรียบร้อย และการ บังคับใช้กฎหมาย เพื่อจัดระเบียบ สังคม และดูแลให้สจุ ริตชนสามารถ ประกอบอาชีพได้อย่างปกติ ไม่ถกู เอาเปรี ย บหรื อ ถู ก บั ง คั บ จากผู ้ ที่ กระท� ำ ตนเป็ น “ผู้มีอิท ธิพล” ซึ่ง ค�ำนี้ ในแนวทางการด�ำเนินการ ปราบปรามผูม้ อี ทิ ธิพลได้เขียนไว้วา่ “ผู ้ มี อิ ท ธิ พ ล คื อ บุ ค คลหรื อ กลุ ่ ม บุคคล ทีด่ ำ� รงตนด้วยการกระท�ำด้วยตนเอง หรือใช้จ้างวาน สนับสนุนการกระท�ำใด ๆ ที่ ผิดกฎหมาย หรืออยู่เหนือกฎหมาย ซึ่งผล ของการกระท� ำ นั้ น เป็น การบ่อ นท� ำ ลาย เศรษฐกิจ สังคม การเมือง ขัดต่อความสงบ เรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน โดยส่วนรวม ซึง่ มีความจ�ำเป็นอย่างยิง่ ทีร่ ฐั จะต้องด�ำเนินการดูแลให้มีการปฏิบัติตาม กฎหมาย คุม้ ครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน รวมทั้งจัดระบบงานการบังคับใช้กฎหมาย ให้มีประสิทธิภาพรวดเร็วและเท่าเทียมกัน” ส�ำหรับค�ำว่า มาเฟียนัน้ เป็นชือ่ เรียก ของกลุม่ สังคมทีผ่ ดิ กฎหมาย เกิดขึน้ ครัง้ แรก ในช่วงกลางของศตวรรษที่ ๑๘ ในเกาะซิซลิ ี

ปราบอิทธิพล เป็นหน้าที่แต่ระวัง !?! ประเทศอิตาลี จากนั้นได้กระจายไปตาม ประเทศต่าง ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา และออสเตรเลีย เป็นต้น ในประเทศไทยไม่มี กลุ่มมาเฟีย แต่จะใช้ในความหมายถึงผู้มี อิทธิพล ทีม่ สี มุน บริวาร และจะท�ำธุรกิจหรือ ประกอบการอันไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทันทีที่มีข่าวนี้ ทางสวนดุสิตโพลได้ ท�ำการส�ำรวจพบว่า ประชาชนร้อยละ ๗๔.๖๒ หรือ ๗๔.๖๒ เปอร์เซ็นต์ เห็นด้วยกับนโยบาย

นี้และขอให้เร่งท�ำตามนโยบายอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง ขณะที่ร้อยละ ๗๓.๙๐ บอกว่า หากท�ำได้จริงบ้านเมืองคงสงบเรียบร้อย และประชาชนปลอดภัย และร้อยละ ๗๑.๗๔ บอกว่ า เป็ น เรื่ อ งยากที่ จ ะปราบปรามได้ ทั้งหมด ความจริ ง ค� ำ ว่ า ผู ้ มี อิ ท ธิ พ ลใน พจนานุกรมจะหมายถึง ผู้กว้างขวางหรือ นักเลงใหญ่ ส�ำหรับค�ำว่า “อิทธิพล” ใน

ชัยสมรภูมิ 33


ความหมายของพจนานุกรมในหลาย เล่มหรือหลายฉบับ จะให้ความหมาย ว่า ก�ำลังทีย่ งั ผลให้สำ� เร็จ, อ�ำนาจซึง่ แฝงอยู่ ในบุคคลหรือรัฐซึ่งสามารถบันดาลให้เป็น ไปตามความประสงค์, อ�ำนาจทีส่ ามารถบันดาล ให้ผู้อื่นต้องคล้อยตามหรือท�ำตาม, อ�ำนาจที่ สามารถบันดาลให้เป็นไปได้ต่างๆ, อ�ำนาจ นอกเหนือหน้าที่, อ�ำนาจที่เกิดจากต�ำแหน่ง หน้าทีห่ รือการมีพวกมาก, อ�ำนาจแฝงทีท่ ำ� ให้ เกิดผลต่างๆ ซึง่ ความหมายเหล่านี้ แสดงว่า ผู้มีอิทธิพลจะมีทั้งในทางดีและทางไม่ดี แต่ ในความหมายของ คสช.ก็คือบุคคลที่กล่าว ไว้ข้างต้นของแนวทางการด�ำเนินการปราบ ปรามผูม้ อี ทิ ธิพล ซึง่ จะใช้ในทางไม่ดี เปรียบ เทียบได้กบั มาเฟียในต่างประเทศ ซึง่ เป็นกลุม่ อิทธิพล ทีแ่ อบแฝงในรูปของการท�ำธุรกิจใน รูปแบบต่างๆ ทัง้ ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย โดยจะอาศัยช่องว่างของกฎหมาย และมี ข้าราชการ (หรือเจ้าหน้าทีร่ ฐั ) บางคนเข้ามา เกี่ยวข้อง เช่น รับจ้างทวงหนี้ อุ้มฆ่า ข่มขู่ เรียกค่าคุ้มครอง ฯลฯ ในการปราบปรามกลุ่มผู้มีอิทธิพล หรือมาเฟียนัน้ เป็นอ�ำนาจหน้าทีโ่ ดยตรงของ เจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งต้องกระท�ำตลอดเวลา เพื่อ ขจัดให้หมดสิน้ ไป ไม่ใช่ปล่อยให้กลุม่ เหล่านี้ มีอิทธิพล(ในทางไม่ดี)เหนืออ�ำนาจอธิปไตย ของรัฐ และไม่เห็นความจ�ำเป็นทีร่ ฐั บาลหรือ คสช.จะต้องก�ำหนดเป็นนโยบาย เว้นเสีย แต่ว่าประกาศมาเพื่อหวังผลทางการเมืองก็ เป็นอีกเรือ่ งหนึง่ เหมือนเช่นการปราบปราม อาชญากรรมก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครอง

34 ชัยสมรภูมิ

และต�ำรวจ ที่ต้องกระท�ำ เพราะไม่เช่นนั้น จะมีผลกระทบทีไ่ ม่ดี ต่อสังคมและเศรษฐกิจ โดยรวม มักจะพบอยู่เสมอว่า มีกลุ่มอิทธิพล หรือมาเฟียบางกลุม่ ได้รบั การสนับสนุนหรือ รูเ้ ห็นเป็นใจ จากนักการเมืองในทุกระดับและ เจ้าหน้าทีข่ องรัฐเอง และก็มใี นอีกหลายพืน้ ที่ เช่นกัน โดยเฉพาะในต่าง จังหวัดที่นักการ เมืองและเจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้กระท�ำเสียเอง จะขอยกตัวอย่างการกระท�ำของกลุม่ มาเฟีย ทีม่ หี ลายรูปแบบ เช่น การขายสลากกินแบ่ง เกินราคา, การค้าประเวณี, การจัดการจอดรถ ในที่ ที่ ห ้ า มจอด,การใช้ พื้ น ที่ ป ่ า สงวนท� ำ ประโยชน์ ฯลฯ เรื่องเหล่านี้หากเจ้าหน้าที่ ด�ำเนินการอย่างจริงจัง (เพราะเป็นเรื่องผิด กฎหมาย) ก็ย่อมไม่เหลือบ่ากว่าแรง และ จะยิ่งเลวร้ายและเป็นอันตรายต่อประเทศ ชาติมากขึน้ หากเจ้าหน้าทีก่ ระท�ำการเสียเอง ตามที่กล่าวแล้ว

ได้ทราบข่าวมาว่า ในวงการทหารก็มี บางคนและบางกลุ่มและทหารนอกราชการ ที่ตั้งตนเป็นผู้มีอิทธิพลเสียเอง ตามข่าวที่ พบตามหน้าสื่อต่างๆ ซึ่งเป็นการสร้างรอย ด่างให้เกิดขึ้นพอสมควร จึงเป็นหน้าที่ของ ผู้บังคับบัญชาทหารในทุกระดับ ที่ต้องดูแล และกวดขันไม่ให้มขี นึ้ อย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะ ในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ คสช. ซึ่งส่วนใหญ่ จะเป็นทหารที่มีอ�ำนาจมาก ดังนัน้ หากจะท�ำการปราบปรามมาเฟีย จะต้องปราบปรามคนของตนเองให้ได้ก่อน เป็นอันดับแรก ส�ำหรับต�ำรวจที่เป็นหน่วย ส�ำคัญในการปราบปราม ก็มบี างคนมีพฤติกรรม เช่นนี้เช่นเดียวกัน และอาจมีมากกว่าทหาร ด้วยซ�้ำ ทั้งนี้เพราะต�ำรวจจะมีความใกล้ชิด กับประชาชนมากกว่าทหาร สามารถใช้กฎหมาย ที่ตนเองเป็นผู้ถือและผู้ใช้ ให้คุณให้โทษกับ ประชาชนตามที่ตนต้องการ ผู้มีอิทธิพลหรือมาเฟีย จะมีตั้งแต่ ระดับชาติจนถึงระดับท้องถิน่ ซึง่ แต่ละระดับ อาจจะมีการติดต่อเชื่อมโยงถึงกันจนเป็น เครือข่าย แต่กไ็ ม่สามารถอยูเ่ หนือกว่าอ�ำนาจ รัฐได้ หากผูน้ ำ� ประเทศมีความจริงจัง จริงใจ และต่ อเนื่ องในการแก้ ป ั ญ หา ก็ สามารถ ด�ำเนินการได้ไม่ยาก และเมื่อด�ำเนินการไป แล้วสามารถขจัดปัญหานีอ้ อกไปได้ แม้จะยัง ไม่หมด ก็สามารถส่งต่อเรื่องนี้ให้รัฐบาลชุด ใหม่ ที่ จ ะเกิ ด ขึ้ น ให้ เ กิ ด การสานต่ อ ไปได้ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว นโยบายดังกล่าวก็จะ เป็นเหมือน “ไฟไหม้ฟาง”


ปลดล็อค IUU งานโบว์แดง ทร. ประสานสิบทิศดันประมงไทยสู่สากล ค�ำว่า “ทหาร มีไว้ทำ� ไม” ที่ นักวิชาการตัง้ ค�ำถาม จนเป็นเรือ่ งทีถ่ กเถียงกันใหญ่โต ในห้วงทีผ่ า่ นมา ถ้าเราตามไปดูการท�ำงานของ “ทหารเรือ” ในเรือ่ งการแก้ไขปัญหาประมง ผิดกฎหมาย แล้วเราจะรูส้ กึ อึง้ เพราะว่า ทร. ได้รบั มอบหมายจากรัฐบาลให้ทำ� เรือ่ งประมงไทย ให้ถกู ต้องตามกฎหมาย และได้มาตรฐานสากล ภายใต้แรงกดดันจากการได้รบั ใบเหลืองของ “สหภาพยุโรป” หรือ “อีย”ู ทีก่ ดดันไทยให้เร่งรัดการแก้ไขปัญหาการท�ำการประมงผิดกฎหมาย รวมไปถึงเรือ่ งแรงงานทีเ่ กีย่ วข้องกับธุรกิจประมง จนต้องร่างกฎหมายให้เสร็จ และเร่งบังคับใช้ให้ ถูกต้อง เวลาผ่านไปแค่ 1 ปี ระบบประมงไทยสามารถวางระบบปรับเข้าสูส่ ากล ตามมาตรฐาน ของ FAO แต่ยังเหลือการจัดระเบียบ และวิธีปฏิบัติ ที่ต้องท�ำงานร่วมกับหน่วยงานของไทย ทีเ่ กีย่ วข้องอย่างกรมเจ้าท่า กรมการจัดหางาน และกรมประมง ตามค�ำแนะน�ำของผูเ้ ชีย่ วชาญ ด้าน IUU ของอียูในการร่วมกันแก้ไขปัญหาให้สำ� เร็จลุล่วงไปด้วยดี และอีกไม่มาก ถ้าท�ำได้ ส�ำเร็จ ก็จะถือว่าเป็นผลงาน “ชิน้ โบว์แดง” ของ ทหารเรือ ทีส่ ามารถท�ำให้การท�ำประมงไทย จากเดิม ที่ยังไม่ได้มาตรฐานสากล เร่งพัฒนาให้สากลยอมรับ อันจะเกิดประโยชน์ต่อธุรกิจ ประมงไทยในระยะยาวต่อไป พล.ร.ท.จุมพล ลุมพิกานนท์ รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะโฆษกศูนย์บัญชาการ

แก้ไขปัญหาการท�ำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) เปิดเผยว่า เรื่องการแก้ไขปัญหา แรงงานผิดกฎหมาย อยากให้ดกู ารจัดการกับ ปัญหาแรงงานของ ประเทศไต้หวัน เป็นหลัก จากการทีต่ นเดินทางไปเมือ่ ช่วงวันสงกรานต์ พบว่าแรงงานไทยทีน่ นั่ มีความสุข เพราะการ

ชัยสมรภูมิ 35


จัดส่งแรงงานออกไปทั้งต้นทางและปลาย ทาง เป็นไปตามกฎหมายอย่างเป็นระบบ มีความจริงใจต่อกัน ไม่มีปัญหาซ่อนเร้นใน เรือ่ งค้ามนุษย์ คนงานก็ได้คา่ แรงสูง และได้ รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างถูกต้อง แน่นอนว่าของเรายังคงมีปัญหาอยู่ เพราะว่าประเทศต้นทางเองยังไม่สามารถ สร้างระบบทีถ่ กู ต้องได้ทงั้ หมด อย่างเมียนมา หนักสุด เพราะมีคนหลายเชื้อชาติ ซึ่งบาง เชือ้ ชาติไม่ชดั เจน ยังต้องมีการพิสจู น์สญ ั ชาติ ประเทศอื่นๆ ก็มีปัญหาบ้างเช่นกัน ทั้ง ลาว กัมพูชา หรือเวียดนาม ซึง่ ทางไทยได้บรรเทา ปัญหานี้ ด้วยการท�ำบัตรสีชมพู เพื่อให้เรา

36 ชัยสมรภูมิ

สามารถติดตามตรวจสอบแรงงานต่างด้าว ได้วา่ ไปท�ำอะไรทีไ่ หน เช่น ขึน้ ท่าเรือสมุทรสาคร ไปลงที่ สงขลา ก็สามารถติดตามได้ ไม่ใช่ หายไปเฉยๆ แล้วตรวจสอบอะไรไม่ได้ ส� ำ หรั บ ในส่ ว นของความร่ ว มมื อ ในการแก้ ไ ขปั ญ หาของหน่ ว ยงานต่ า งๆ อาทิ กรมเจ้าท่า ได้ให้ความร่วมมืออย่างดี โดยได้ ด� ำ เนิ น การแก้ ไ ขปั ญ หาและจั ด ระเบียบเรือประมงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะ เป็นการเร่งรัด การติ ด ตั้ ง ระบบติ ด ตามต� ำ แหน่ ง เรือ (Vessel Monitoring System-VMS) ซึง่ เรือทุกล�ำต้องมี และการจัดท�ำเรือ่ งประกาศ

นียบัตรให้แก่คนประจ�ำเรือ การออกใบอนุญาต ให้แก่แรงงานบนเรือ ซึง่ ทุกเรือ่ งได้ดำ� เนินการ มาโดยตลอด เช่นเดียวกับ กรมประมง เรือ่ งความ ร่ วมมื อ ในการแก้ ไ ขปั ญ หาก็ ยั ง คงด� ำ เนิ น การต่อไป เช่น การออกใบอนุญาตท�ำการ ประมง (อาชญาบัตร) ของเรือประมงพาณิชย์ ได้ทำ� เสร็จไปเรียบร้อยแล้ว เมือ่ เดือนมีนาคม ทีผ่ า่ นมา และการออกพระราชก�ำหนด (พ.ร.ก.) การประมง พ.ศ. 2558 เป็นต้น ส่วนคนก็ถามว่า แล้ว ทหารเรือ มา มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องเรือประมง ซึ่ง เรือ่ งนีอ้ ยากจะท�ำความเข้าใจกับคนทีถ่ ามว่า ปัญหาเรือ่ งเรือประมงเวลานีไ้ ม่ใช่เป็นปัญหา ของคนใด คนหนึ่ง แต่เป็นปัญหาที่ทุกภาค ส่วนต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา และสร้าง ความเชือ่ มัน่ ให้กลับคืนมา เพราะผลประโยชน์ ทัง้ หมดก็คอื ผลประโยชน์ของคนทัง้ ประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาทหารเรือได้ออกไปช่วย เหลือในการแก้ปัญหาในทะเล อาทิ ออกไป ก�ำจั ดน�้ ำ มั น ที่ รั่ว เรื อล่ ม เรื อจม หรือภัย คุกคามทางทะเลต่างๆ ดังนัน้ การที่ คุณวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ นักธุรกิจประมง ออกมาพูด เรือ่ งนีว้ า่ ใครเป็นตัวหลักในการดูแลทะเลไทย คือยอมรับว่าท่านมีความรู้ แต่ทา่ นยังอาจพูด


ไม่หมด อยากเรียนว่าตอนนี้ไม่ใช่เรากลัด กระดุมผิดเม็ด แต่เป็นการกลัดกระดุมไม่ ครบเม็ดมากกว่า ต้องพยายามต่อไป แนวคิด หรือ Concept ที่ผ่านมา ของเรา ประเทศไทยไม่ได้ให้ความส�ำคัญเรือ่ ง IUU หรื อ เรื่ อ งปั ญ หาการท� ำ ประมงผิ ด กฎหมายเลยแม้แต่น้อย ไม่มีการรายงาน และไร้การควบคุม สภาอียู โดย คณะผูแ้ ทน ของกระทรวงกิ จ การทางทะเลและการ ประมงของอียู ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญเรื่อง IUU (DG MARE) เข้ามาแนะน�ำให้ความรู้ ใน ฐานะที่ อี ยู เ ป็ น คนซื้ อ สิ น ค้ า ประมงเขาก็ อยากได้ของดีมีคุณภาพ เขามีสิทธิ์ที่จะท�ำ เรือ่ งนี้ เพราะเป็นเรือ่ งทีม่ ปี ระโยชน์ เมือ่ ส่ง ผู้เชี่ยวชาญ IUU มาดูอะไรที่เป็นปัญหายัง ไม่ถูกต้อง เขาก็รายงานตรงไปยังสภายุโรป แล้วก็มีมาตรการต่างๆ ออกมา เพื่อให้การ

ประมงของเราเป็นไปอย่างถูกต้อง และได้ มาตรฐานสากล ทีจ่ ะเป็นประโยชน์ตอ่ ประเทศ ชาติในระยะยาว สิ่งที่ไทยได้ท�ำไปแล้วตามมาตรฐาน ของ FAO (องค์การอาหารและเกษตรแห่ง สหประชาชาติ) ซึง่ ถือว่าเราได้วางระบบแล้ว แต่การปฏิบัติตามกฎหมายของ IUU เรายัง ท�ำได้ไม่เต็มระบบ ยังมีขั้นตอนการบริหาร จัดการ การตรวจสอบต่างๆ การวางระบบ จัดระเบียบ การบังคับใช้กฎหมาย การตรวจ สอบเรือ การออกใบอนุญาตท�ำการประมง การควบคุมลูกเรือ ซึง่ ยังต้องท�ำในรายละเอียด แต่ 1 ปีที่ผ่านมา เราท�ำมาตลอด ซึ่งทางผู้ เชี่ ย วชาญก็ ช ่ ว ยแนะน� ำ ให้ เ ราปรั บ ปรุ ง แก้ไขให้ถูกต้อง และให้เราเปรียบเทียบกับ 3 ประเทศ คือ เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ และศรี ลังกา ซึ่งเป็นประเทศที่เคยได้ใบเหลืองจาก

อียเู ช่นกัน ว่าเขาท�ำกันอย่างไรในเรือ่ งระเบียบ และกฎหมายต่างๆ ก็ต้องมีการศึกษาเพราะ ยั ง มี ข ้ อ แตกต่ า งกั น ของปั ญ หาในแต่ ล ะ ประเทศ แน่นอนว่า รัฐมีมาตรการอะไรออกไป ก็ต้องมีคนได้รับผลกระทบ แต่ปัญหาต่างๆ ที่หมักหมมมานาน ก็ต้องแก้ไข อย่างเช่น เมื่ อ ก่ อ นเรื อ ที่ อ อกไปท� ำ ประมงในต่ า ง ประเทศ ท�ำอาชญาบัตร 1 ใบ แต่อาชญา บัตรใบเดียวใช้กับเรือ 10 ล�ำ ปฏิบัติกันมา อย่างนี้ก็มี ซึ่งมันผิดกฎหมาย ระเบียบบาง เรือ่ งพอเราออกไป ก็กระทบกับการท�ำประมง ทุกประเภท ซึ่งบางเรื่องมีข้อปฏิบัติที่แตก ต่างกัน อย่างเรือ่ ง อวนรุน ท�ำกันมาแต่ปู่ ย่า ตา ยาย ก็ต้องเลิก รัฐก็ไปรับซื้อเรืออวนรุน มา 54 ล�ำ เพือ่ ให้เลิก หรืออย่างเรือ่ งโพงพาง ที่ ไ ด้ รั บ ร้ อ งเรี ย นจากชาวประมงว่ า กรม ประมงไปเอางานวิ ช าการผลการศึ ก ษาที่ จ.สงขลา ซึง่ เป็นโพงพางปากใหญ่ 20 เมตร เป็นตัวพิจารณาออกกฎระเบียบ แต่ทอี่ นื่ ปาก แค่ 6 เมตร ก็เอาตัวใหญ่เป็นมาตรฐาน แล้ว ก็บังคับให้เลิกทั้งหมด ซึ่งในความเป็นจริง ยังไม่ได้มีผลงานการศึกษาในรายละเอียด พอบอกยกเลิ ก ก็ มี ค นได้ รั บ ผลกระทบมา ร้องเรียน เราต้องมองปัญหาให้รอบด้าน ดูเรือ่ ง ทรัพยากรตัง้ แต่ชายหาดลงไปเลย กรณีหอย 2 ฝา ไล่ลงไปตามล�ำดับ หอยแครง หอย คราง ถัดไปก็หอยตลับ หอยลาย หอยเชล แต่เวลาเรือประมงไปคราดหอย มีการออก กฎหมายบั ง คั บ ให้ ท� ำ การประมงหอย ประเภทเดียวก็เดือดร้อน อย่างอวนรุนพื้น บ้าน ไปบอกว่าเขาผิด แล้วที่มีทั้งหมด 100 กว่าเจ้า จะไปท�ำอะไรกิน ซึง่ งานวิชาการประมง วิชาการเกษตรยังไปไม่ครอบคลุมถึงตรงนี้ อย่างที่คุณบรรจง นะแส จากสมาคมรักษ์ ทะเลไทย ได้สะท้อนปัญหาออกมาว่า การ ท�ำประมงด้วยเครือ่ งมืออวนลาก อวนรุน และ เรื อปั ่ น ไฟ ท� ำลายทรั พยากรทางทะเล ก็ อยากให้ คุณบรรจง และคุณวิชาญ มานั่ง มองในจุดที่เรานั่งท�ำงานกันอยู่ แล้วมาช่วย กันแก้ปญ ั หาทัง้ ระบบ ไม่ใช่ทำ� จากมุมทีต่ นเอง มองเพียงอย่างเดียว

ชัยสมรภูมิ 37


เรื่องประมง ท่านนายกรัฐมนตรี ก็ ติดตามตลอด กม.ประมง ที่ออกมา ก็ต้อง รีบออก เพราะถูกกดดันให้เร่งรัดกฎหมาย เป็นกฎหมายที่รีบท�ำ เมื่อบังคับใช้แล้วยังมี ปัญหา ท่านนายกก็กรุณาสั่งการให้มีการตั้ง คณะกรรมการขึ้นมา 3 คณะ มาดูแลภาพ รวมของกฎหมายทั้งด้าน ประมงพาณิชย์ ประมงพื้นบ้าน และโดยภาพรวม เพราะ ต้องท�ำให้ทกุ คนอยูไ่ ด้ทงั้ ระบบ ยังมีเรือ่ งอืน่ ๆ ทีต่ อ้ งท�ำอีก อย่างเรือ่ งการแบ่งเขตทางทะเล ตามจังหวัดที่รอบอ่าวตัว ก. มี 7 จังหวัด แบ่งเขตตัง้ แต่ปี 2502 ตัง้ แต่สมัยยังมี จังหวัด ธนบุ รี และยั ง มี อี ก 16 จัง หวัด ที่ยัง ไม่ ประกาศเขต การแบ่งก็เพื่อจะได้ใช้อ�ำนาจ รัฐให้ถูกต้อง คือจะได้ก�ำหนดได้ว่า 12 ไมล์ ทะเล มันอยูต่ รงไหน ก็ยงั ไม่มี ซึง่ เท่าทีท่ ราบ กระทรวงมหาดไทย เป็นเจ้าของเรื่อง ก็ยัง อยู่ในระหว่างด�ำเนินการ กระบวนการทั้งหมดเป็นเรื่องที่ต้อง ท�ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อวางระบบในการแก้ไข ปัญหา ซึ่งต้องใช้เวลา หลายเรื่องเรียบร้อย แล้ว หลายเรื่องต้องก�ำกับดูแลให้เป็นไป

38 ชัยสมรภูมิ

ตามกฎหมาย และเป็นไปตามข้อแนะน�ำของ ผู้เชี่ยวชาญด้าน IUU ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้มา ติดตามงานครั้งสุดท้าย เมื่อเดือน ม.ค. ที่ ผ่านมา ก็ได้ให้คำ� แนะน�ำเราให้ดำ� เนินการรวม 65 งาน แบ่งเป็นกลุ่มงานที่ต้องท�ำทันที 25 งาน, กลุ่มงานที่ต้องท�ำใน 1 เดือน 4 งาน, กลุ่มงานที่ต้องท�ำใน 3 เดือน 25 งาน และ ต้องท�ำใน 6 เดือน 5 งาน และถึงสิ้นปีอีก 6 งาน ตามล�ำดับความส�ำคัญเร่งด่วน และ ปัญหาที่แตกต่างกัน อย่าลืมว่า แม้แต่อียูเอง ท�ำเรื่องนี้ก็ ใช้เวลานานไม่ต�่ำกว่า 10 ปี ของเราท�ำมา แค่ 1 ปี เราท�ำได้แค่นี้ก็น่าพอใจแล้ว ซึ่ง เป็นเรื่องที่ดีที่เราต้องท�ำ เพื่อเป็นมาตรฐาน ต่อไปในอนาคต คือ คุณจะค้าขายทั่วโลก มาตรฐานของเราก็ ต ้ อ งมาตรฐานโลก ประเภทเรือไม่มสี ว้ ม แรงงานนอนแผ่เกะกะ เหล่านี้ต้องปรับตัวเอง ต้องหมดไป เราเป็น ประเทศที่ เ รื อ ติ ด เครื่ อ งมื อ ติ ด ตามเรื อ ประมง VMS เร็วทีส่ ดุ ในโลก คือถ้าเราท�ำได้ ตามมาตรฐานแล้ว ก็ไม่ต้องกลัวอะไร แต่ สุดท้ายเชื่อว่าเราจะผ่านปัญหาต่างๆ ไปได้

ถ้าเราท�ำได้ถกู ต้องทัง้ หมด คือทุกฝ่ายทีม่ หี น้าที่ ต้องจริงใจต่อกัน มีปัญหาก็ต้องสร้างความ เข้าใจที่ถูกต้อง ซึ่งแม้แต่ทางผู้บัญชาการ ทหารเรือ เอง ก็กำ� ชับมาเลยว่า เมื่อมีคนส่ง เรือ่ งความเดือดร้อนมา ต้องรับเรือ่ งทัง้ หมด เอาปัญหามาถกกันเพื่อหาทางแก้ไข และต้องท�ำอะไรบ้าง อีกเรือ่ งทีก่ ำ� ลัง จะท�ำคือ การพลิกฟื้นทะเลไทยให้กลับคืน มาอย่างยั่งยืน ท�ำไมเราต้องไปท�ำปะการัง เทียม ที่ต้องทิ้งลงไป ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เรือ อวนลากเข้ า มาหาปลาแย่ ง พื้ น ที่ ข องชาว ประมงพื้นบ้าน เพื่อดึงดูดสัตว์นำ�้ ให้เข้ามา อยู่อาศัย เป็นการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น�้ำได้อีก ทางหนึ่ง พล.ร.ท.จุมพล ลุมพิกานนท์ พูดให้ ข�ำคลายเครียดในตอนท้ายว่า ตอนนีเ้ รือประมง ไทย ทีอ่ อกทะเล ถูกกฎหมายทัง้ หมด ติดระบบ ติดตามเรือได้ 100% เพราะว่า เรือที่ไม่ติด ไม่มีล�ำไหนออกทะเลไปหาปลา...ถ้าออกไป ก็ถูกจับครับ


เมื่อราวปี พ.ศ. 2524 กองทัพบก ได้จัดตั้งหน่วยจู่โจมเฉพาะกิจขึ้น เป็นครัง้ แรก โดยหน่วยจูโ่ จมเฉพาะ กิ จ นี้ ได้ ฝ ากผลงานสร้ า งความ ภาคภูมิเอาไว้อย่างมากมายภาย ใต้ความส�ำเร็จของกองทัพบกรวม 35 ยุทธการ ซึ่งแต่ละยุทธการนั้น ก็ มี ทั้ ง ความยากและง่ า ยตาม เหตุ ผ ลอั น สื บ เนื่ อ งมาจากชะตา กรรมของชายชาติทหารผู้ที่เลือก แล้วว่า “ข้ามาเป็นนักรบของแผ่น ดิน” คือทหารหาญผูป ้ กปักษ์รกั ษา อธิปไตยและขับไล่อริราชศรัทตรู ของประเทศชาติ

เปิดต�ำนาน

นักรบ ผู้ปิดทองหลัง

องค์พระปฏิมา กับ อังคาร ไชโย

กาลเวลาล่วงเลยมากว่า 30 ปีแล้ว พล.อ.ส�ำเร็จ ศรีหร่าย ชายชาตินกั รบผูท้ เี่ ป็น ดังครูของนักรบในยุคใหม่ได้นำ� ประสบการณ์อนั ล�ำ้ ค่าในสมรภูมหิ รือยุทธการต่างๆ ทีเ่ กิดขึน้ ระหว่างได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในหน่วยดังกล่าวมาเผยแพร่ เพื่อที่จะให้เป็นบทเรียน และแง่คิด ส�ำหรับน�ำมาประยุกต์ปรับใช้กบั สถานการณ์ในยุคปัจจุบนั ให้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิง่ ขึน้ ทั้ ง ในเรื่ อ งของยุทธวิธกี ารต่อตีและตัง้ รับ ปฏิบตั กิ ารจิตวิทยา (จิตวิทยามวลชน) การจัดก�ำลังรบ – ก�ำลังสนับสนุน รวมถึงในเรื่องของการปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาด้วย เป็นต้น ร.อ.ส�ำเร็จ (ยศในขณะนั้น) หรือ อังคาร ไชโย ได้บันทึกเรื่องราวที่น่าสนใจเอาไว้ ในตอนหนึง่ ว่า “ใครเข้ามาในหน่วยนีแ้ ล้ว อาจจะต้องตายจ�ำนวนหนึง่ จะต้องแขนขาด ขา ขาด ตาบอดจ�ำนวนหนึง่ ถ้าใครกลัวก็ให้ลาออกไปเลยเสียตัง้ แต่บดั นี้ โดยหน่วยเริม่ สลาย พฤติกรรมด้วยการทรมานร่างกายและจิตใจ ซึง่ ภาวะทหารเรียกว่า การซ่อม แต่ไม่ถงึ กับซ้อม หรือทารุณจนปางตาย และความมุง่ หมายประการหนึง่ ในการสลายพฤติกรรมของก�ำลังพลเหล่านี้ ก็เพือ่ ขจัดพวกเด็กฝาก ซึ่งก็มีจ�ำนวนหนึ่งที่ใจไม่สู้ให้ลาออกไปนั่นเอง... จากนโยบายของ พ.อ.อรพันธ์ วัฒน วิบูลย์ ผบ.หน่วยในขณะนั้น ซึ่งทุกคนเรียกว่า หัวหน้าใหญ่ (ปัจจุบนั เกษียณอายุตำ� แหน่งเสนาธิการทหาร อัตราจอมพล) ทีท่ า่ นให้ไว้คือ ต้อง ฝึกคนเอาไปรบ ท�ำให้การด�ำเนินการฝึกของก�ำลังพลอาสาสมัครเหล่านี้ มุ่งเน้นทีจ่ ะท�ำให้

เขาเหล่านัน้ รบเป็น และรบแล้วต้องชนะ โดยเน้นการเข้าโจมตีเท่านัน้ อย่างไรก็ตาม ก�ำลังพลอาสาสมัคร เหล่ า นี้ มี พื้ น ฐานการศึ ก ษาค่ อ นข้ า งต�่ ำ ฐานะทางครอบครัวค่อนข้างยากจน พื้นเพ มาจากเกษตรกรที่ไม่มีที่ท�ำกินและยิ่งกว่า นั้น บางส่วนยังเคยประกอบอาชญากรรม มี คดีความผิดติดตัวมาอีกด้วย และทีส่ ำ� คัญ พวกเขามีอาวุธสงครามติดตัวอยู่ตลอดเวลา นับว่าผู้บังคับหน่วยรบหน่วยนี้ไม่ว่าจะเป็น ผบ.พัน.,ผบ.ร้อย.,ผบ.หมวด จะต้องใช้ภาวะ ผู้น�ำอย่างที่สุดในการปกครองบังคับบัญชา มากกว่ า จะใช้ ค วามเป็ น ผู ้ บั ง คั บ บั ญ ชา นอกจากนั้นจะต้องมีความเฉียบขาดในการ ตัดสินใจ ผูเ้ ขียนซึง่ ในขณะนัน้ เป็น ผบ.พัน จูโ่ จมปฏิบตั กิ ารพิเศษที่ 2 และ หัวหน้า พล

ชัยสมรภูมิ 39


ปฐมชัย (พล.ท.พอพล มณีรินทร์) เป็น ผบ. พันจู่โจมปฏิบัติการ พิเศษที่ 1 ต้องทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างในการ ท�ำงานถึงกับประกาศกับก�ำลังพลว่า “ถ้าจะยิงผู้พันก็ยิงให้ตาย อย่าให้ พิการโดยเด็ดขาดมิฉะนั้นจะถูกตามฆ่า ล้างโคตร” และจะนอนติ ด หน้ า ต่ า งซึ่ ง เปิ ด ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ไม่ใช่เป็นจิต วิทยาแต่อย่างไร เพราะผูเ้ ขียนได้ลงโทษก�ำลัง พลผู้ซึ่งกระท�ำความผิดอย่างรุนแรง ตั้งแต่ ใช้มอื , หมัด, เท้า, ไม้, โกนหัว, ขังคุกดิน และ ไล่ออก แต่ทงั้ นี้ ความผิดและการลงโทษจะ ได้ประกาศต่อหน้าแถวเอาไว้ก่อนล่วงหน้า แล้วและอะไรที่เป็นสิทธิที่พวกเขาจะได้รับ พวกเขาจะต้องได้รบั เต็มทีไ่ ม่มกี ารถูกเบียดบัง ซึง่ ผูเ้ ขียนจะไม่ยอมให้ผหู้ นึง่ ผูใ้ ด ในทุกระดับ มาเบียดบังเอารัดเอาเปรียบ เอาสิทธิของ พวกเขาเหล่านี้ไปโดยเด็ดขาด ในการเข้าโจมตีโรงงานผลิตยาเสพติด ให้โทษร้ายแรง (เฮโรอีน) นัน้ มิใช่ทจี่ ะกระท�ำ ได้ง่ายเพราะมูลค่าในการผลิตของ แต่ละโรงงานมีมูลค่าเป็นร้อยๆ ล้าน ดังนัน้ เป็น การปกปิดการรักษาความลับ การระวังป้อง กันจึงมีความเข้มงวดมาก จึงเป็นการยากที่ ฝ่ายเราจะเข้าไปถึงได้โดยง่าย ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามก�ำลังระดมยิง มายังจุดที่ ฮ. ตกอย่างหนักนั้น ฝ่ายเราโดย เฉพาะส่วนทีส่ ง่ ลง ณ Landing Zone แห่ง ใหม่ ได้เข้าไปเพิ่มเติมก�ำลังมากขึ้นฝ่ายเรา ได้ตรึงข้าศึกเอาไว้แต่ก็ไม่สามารถรุกคืบ หน้าไปได้ เพราะฝ่ายตรงข้ามได้ยึดสันเนิน ทางด้านทิศตะวันออกเอาไว้ ฝ่ายเราได้ใช้ PRG – 2 และ M 79 ระดมยิงไปยังสันเนิน เพือ่ กดข้าศึก แต่เนินนัน้ มีตน้ ไม้ใหญ่อยูเ่ ป็น จ�ำนวนมาก ท�ำให้ข้าศึกหลบเป็นที่ก�ำบังได้ ซึ่งอาวุธทั้ง 2 นั้น จ�ำกัดด้วยระยะยิง คือไม่ เกิน 300 – 400 เมตร ก็จะขาดความแม่นย�ำ และความต่อเนือ่ งในการยิง ผูเ้ ขียนจังให้นำ� ปืนกลจาน RPD มาตั้งรวมกันจ�ำนวน 4 กระบอก เป็นป้อมปืนแล้วให้ระดมยิงติดต่อ กั น อย่ า งต่ อ เนื่ อ งกั น ตามล� ำ ดั บ แต่ ล ะ

40 ชัยสมรภูมิ

กระบอก ปรากฏว่าท�ำให้ฝ่ายเราสามารถ เคลื่อนที่เข้าหาข้าศึกได้จนถึงระยะประชิด โอกาสตอบโต้ ข องข้ า ศึ ก จึ ง มี อ ย่ า งจ� ำ กั ด ท�ำให้ฝ่ายเราสามารถยึดเนินนั้นได้โดย เด็ดขาด ฝ่ายตรงข้ามเริ่มถอนตัวโดยทิ้ง ศพไว้ 12 ศพ และจับเป็นเฉลยศึกได้ 1 นาย ส่วนฝ่ายเรานั้น เฮลิคอปเตอร์ตกเสียหาย 1 ล�ำ สกีหกั คันบังคับการบินช�ำรุด นักบิน 2 นาย และช่างเครือ่ ง 2 นาย ต้องนอนเฝ้า เครือ่ งของกรมต�ำรวจ จะเห็นได้ว่าในการ ด�ำเนินกลยุทธด้วยการเคลือ่ นทีเ่ ข้าหาข้าศึก ปืนกลจานถือเป็นอาวุธที่เหมาะสมกับการ ด�ำเนินกลยุทธเป็นอย่างยิ่ง ส�ำหรับหน่วย ขนาดเล็ก เพราะจะยิงได้แม่นย�ำในระยะ 800 เมตร คล่องตัวในการเคลื่อนที่สมบุก สมบั น ไม่ จ� ำ เป็ น ต้ อ งบรรจุ ส ายกระสุ น ใส่ จานก็ยิงได้สามารถพกพากระสุนร่วงไปได้ เพียงแต่เก็บรักษาสายกระสุนเอาไว้เท่านั้น นอกจากนั้นยังถอดประกอบเพื่อดูแลรักษา ค่อนข้างง่าย ผู้เขียนจ�ำได้ว่า ปืนกลจานที่ หน่ ว ยใช้ อ ยู ่ ใ นระยะหลั ง หาน๊ อ ตสลั ก พานท้ ายไม่ไ ด้ ยั ง สามารถใช้ตะปู 3 นิ้ว แทนได้และไม่ได้เป็นเรื่องแปลกส�ำหรับ พวกเราแต่อย่างใด ขณะที่ ฝ ่ า ยตรงข้ า มระดมยิ ง มา อย่างหนัก ตอนนั้นเป็นเวลาเกือบ 4 โมง เย็นแล้ว อากาศเริม่ ปิด ดังนัน้ ผูเ้ ขียนจึงขอ ให้ ฮ.ติดอาวุธบินลงมายิงสนับสนุนให้ใกล้ ทีห่ มายทีส่ ดุ เพือ่ จะให้หน่วยทางภาคพืน้ ดิน เข้ า ตะลุ ม บอนต่ อ เนื่ อ งจากการยิ ง ทาง อากาศของ ฮ.ได้เร็วที่สุด และขอให้นักบิน รายงานลักษณะของฐานมีคูรบโดยรอบแต่ มี ต ้ น ไม้ ข นาดใหญ่ ต ้ น หนึ่ ง ในฐานรอบๆ ต้นไม้จะมีคูรบขุดไว้โดยรอบคาดว่าข้าศึก คงจะอาศัยต้นไม้ต้นนี้ก�ำบังจากการยิงทาง อากาศของ ฮ. ติดอาวุธ เมื่อนักบินรายงาน ลักษณะภายในฐานให้ทราบและ ฮ.ติดอาวุธ ก็เริ่มบินเข้ามายิงสนับสนุนอย่างใกล้ชิด โดยบินผ่านหัวของพวกเราระยะสูงไม่เกิน 150 ฟุต นับว่าเสีย่ งและกล้าหาญจริงๆ โดย ไม่เกรงกลัวของฝ่ายตรงข้ามจะระดมยิง เครื่องแต่อย่างใด

ทัง้ นีเ้ พราะนักบินมีความช�ำนิชำ� นาญ และสามารถล่อหลอกข้าศึก โดย ฮ.ติดอาวุธ อีกล�ำหนึง่ ท�ำการบินลวงคล้ายกับจะเปิดฉาก การยิงแต่ปรากฏว่า ฮ.ติดอาวุธ อีกล�ำหนึง่ บิน ผ่านเข้ามาจูโ่ จมและระดมยิงทันที ท�ำให้ฝ่าย เราสามารถบุกตะลุยเข้ายึดที่ หมายได้หลัง จากสิน้ สุดการยิงของ ฮ.ติดอาวุธเพียง 2–3 นาที ซึ่งเป็นครั้งเดียวที่ผู้เขียนได้เห็นการ สนับสนุนทางอากาศของ ฮ.ติดอาวุธของ นักบินผู้เป็นนักรบไทยที่ใจถึงจริงๆ” ทัง้ หมดนี้ ถือเป็นเพียงแค่เศษเสีย้ ว เล็กๆ จากประสบการณ์การปฏิบตั ภิ ารกิจของ ชุ ด ปฏิ บั ติ ก ารรบพิ เ ศษที่ เ คยเป็ น โจทย์ ค�ำถามว่าพวกเขาเป็นใคร มาจากไหน จะ ไปที่ไหน ไปท�ำอะไร เพื่ออะไร และผลเป็น อย่างไร ไม่มีใครล่วงรู้ ตั้งแต่วันนั้น จวบจนวันนี้ล่วงผ่าน มากว่า 30 ปีแล้ว ที่ค�ำถามคาใจข้อนั้นยัง คงตัง้ อยู่ แต่บดั นีถ้ งึ เวลาแล้วทีจ่ ะต้องท�ำการ เปิดเผยถึงวีรกรรมและคุณงามความดีจาก การปิดทองหลังพระของนักรบผูก้ ล้าเหล่านี้ ทุกนาย ทั้งที่วายชน และยังมีลมหายใจอยู่ ไม่วา่ จะอยูแ่ ห่งหนใดในตรัยโลก พวกท่านคือ นักรบของคนไทยทุกคน เตรียมพบกับหนังสือชุดพิเศษเรือ่ ง “ประสบการณ์ของชุดปฏิบัติการรบพิเศษ ในการปฏิบตั ภิ ารกิจโดยตรง กรณีปราบปราม ขบวนการผลิตยาเสพติดเฮโรอีน” ในเร็วๆ นี้ จากประการณ์จริงของนักรบคนกล้า พลเอก ส�ำเร็จ ศรีหร่าย อดีตทีป่ รึกษาพิเศษส�ำนัก งานปลัดกระทรวงกลาโหม กับเจตนารมณ์ อันแรงกล้าน�ำรายได้รว่ มสมทบทุน มูลนิธิ เพือ่ น พึง่ (ภาฯ) ยามยาก ชัยสมรภูมิ ขอสดุดี


“ไฟใต้” สมรภูมิไม่รู้จบ บน...ความมัน่ คงทีเ่ ปราะบาง?!? ในรอบหลายปีทผี่ า่ นมาพืน ้ ทีจ่ งั หวัดภาคใต้ตอนล่าง ตกอยูภ ่ ายใต้มรสุมของไฟใต้อย่างต่อเนือ่ ง ก่อให้เกิดหายนะ แก่ชีวิตและทรัพย์สินเกินที่จะประเมินค่าออกมาเป็นตัวเงินได้ งบประมาณจ�ำนวนมหาศาลที่รัฐพยายามจ่าย เพื่อจะซื้อความสงบสันติกลับคืนมาก็เป็นได้แค่โยนเม็ดเกลือไปถมความลึกของทะเล ถ้ามองจากเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นจากไฟใต้ย่อมสรุปได้ว่า นี่ไม่ใช่การก่อการร้ายเพื่อสร้างความปั่นป่วนเยี่ยงโจรกระจอกธรรมดาที่เกิดขึ้น เป็นสงครามกลางเมืองอย่างเห็นได้ชัด

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

พลเอกประวิตร วงษ์สวุ รรณ

หลังจากที่รัฐพยายามทุกวิถีทาง ไม่ ว่าจะเป็นการเจรจาหรือการส่งก�ำลังทหาร ลงไปควบคุมพื้นที่ แต่สิ่งที่ได้รับคือความ ล้มเหลวในการแก้ปัญหา แม้จะประสบกับ ความล้มเหลว แต่รัฐก็ยังไม่ลดละความ พยายามทีจ่ ะแก้ปญ ั หา และได้ทมุ่ งบประมาณ อย่างมหาศาลครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อจะแก้ ปัญหาไฟใต้ให้ดับสนิท แต่ไม่มีใครสามารถ รู้ได้วา่ จ�ำนวนเงินมหาศาลที่รัฐพยายามใช้

ชัยสมรภูมิ 41


ไปในแต่ละครั้งจะส�ำเร็จหรือล้ม เหลวมากน้อยเพียงไร และไม่มี หลักประกันใดๆ กล้ารับรองได้วา่ เงินสามารถ แก้ปัญหาของไฟใต้ได้ แต่ความพยายามที่ จะคืนความสุขสงบให้กลับมาในพืน้ ทีจ่ งั หวัด ภาคใต้ตอนล่าง ย่อมเป็นสิ่งที่สมควรต้อง ท� ำ อย่ างยิ่งยวด ถ้ า ย้ อ นมองกลั บ ไปดู ก ารใช้ ง บ ประมาณในรอบหลายปีที่ผ่านมา นับว่าน่า ตกใจมาก รัฐใช้งบประมาณแผ่นดินจ�ำนวน มากหมดไปกับการแก้ปัญหาไฟใต้ แม้จะไม่ เป็ น ที่ แ น่ ชั ด ว่ารั ฐใช้ ง บประมาณแผ่น ดิน หมดไปเป็นจ�ำนวนเงินเท่าไร แต่กพ็ อประเมิณ ความสูญเสียทางการเงินได้อย่างต�่ำก็ไม่ น้อยกว่า 200,000 ล้านบาท เสียงระเบิด ไม่ตำ�่ จาก 3,000 ครัง้ จุดไฟเผาอาคารสถานที่ ไม่ตำ�่ จาก 300 ครัง้ เกิดการปะทะกันระหว่าง เจ้าหน้าทีร่ ฐั กับผูก้ อ่ การไม่สงบ กว่า 100 ครัง้ ก่อ ให้เกิด ความสูญ เสีย ต่อ ชีวิต ไม่ต�่ำจาก 5,000 ชีวิต ก่อให้เกิดการสูญเสียแม้ไม่ถึง ชีวิตก็บาดเจ็บร่วม 10,000 คน ก่อให้เกิด ความสูญเสียต่ออาคารสถานที่และทรัพย์ จ�ำนวนมหาศาล และทีส่ ำ� คัญ ก่อให้เกิดความ สูญเสียทางความมัน่ คงในจิตใจต่อประชาชน ในพืน้ ทีจ่ งั หวัดภาคใต้ตอนล่าง ยากทีจ่ ะประ เมินค่าความเสียหายออกมาเป็นจ�ำนวนได้ ถ้ามองถึงความสูญเสียทีเ่ กิดขึน้ คงไม่ผดิ นัก ที่จะสรุปว่า นี่คือสงครามชัดๆ เหตุการณ์หนึ่งที่สร้างความเปราะ บางทางความรูส้ กึ ให้กบั ผูค้ นในจังหวัดภาคใต้ ตอนล่างอย่างรุนแรง และหลังจากเหตุการณ์ นั้นเกิดขึ้น ความรุนแรงของสถานการณ์ไฟ ใต้ก็ลุกท่วมชีวิตและแผ่นดินไทย นั่นก็คือ เหตุ ก ารณ์ ที่ ผู ้ ก ่ อ การความไม่ ส งบได้ บุ ก เข้าไปในกองพลพัฒนาที่ 4 ค่ายปิเหล็ง อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2547 ไม่มีใครรู้ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับ ความมั่นคงอันแข็งแกร่งของกองทัพไทย ไม่ มี ใ ครอยากจะเชื่ อ ว่าผู้ก ่อ การความไม่ สงบจะสามารถบุ ก รุ ก ฝ่ า ความแข็ ง แกร่ ง ของกองทัพไทยเข้าไปปล้นเอาอาวุธมาก่อ ความไม่สงบได้ จ�ำนวนปืนเกือบ 500 กระบอก จะต้ อ งใช้ ก� ำ ลั ง คนและรถในการขนย้ า ย

42 ชัยสมรภูมิ

ทีส่ ำ� คัญต้องใช้เวลามากในการขนย้าย ในช่วง เวลาที่ผู้ก่อความไม่สงบก�ำลังขนย้ายอาวุธ ปืนออกจากค่ายทหาร ไม่มีเวรยามหรือเจ้า หน้าทีร่ ฐั เห็น เพือ่ ยับยัง้ ผูก้ อ่ ความไม่สงบจึง ได้ขนอาวุธออกมาจากค่ายทหารอย่างง่ายดาย นี่เป็นค�ำถามที่คาใจคนไทยทั่วทั้งประเทศ ทีต่ อ้ งพูดถึงเรือ่ งนีก้ นั เพราะปฏิเสธ ไม่ได้ว่า ในส่วนรายละเอียดของวิธีการแก้ ปัญหา รัฐพยายามส่งก�ำลังลงไปเพื่อจะยุติ ปัญหาไฟใต้ และในขณะเดียวกัน รัฐก็เปิด รับสมัครทหารพรานเพื่อใช้เสริมก�ำลังใน การลงปฏิบัติงานในพื้นที่จ�ำนวนมาก รัฐจะ ตัดสินใจอย่างไรก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่รัฐต้อง อธิบายกับสังคมว่า ผูก้ อ่ ความไม่สงบบุกเข้าไป ปล้นปืนออกมาจากค่ายทหารได้อย่างไรกัน มันง่ายเกินไปที่จะสรุปว่า ผู้ก่อความไม่สงบ อุกอาจเหิมเกริม ไม่ยำ� เกรงกฎหมายบ้านเมือง เพราะจากเหตุการณ์ปล้นปืนในค่ายทหาร ในครั้งนั้น ท�ำให้ความเชื่อมั่นที่มีต่อกองทัพ ในความรู้สึกของผู้คนลดลงแทบเป็นศูนย์ ในขณะที่ ท หารถู ก กลุ ่ ม ผู ้ ก ่ อ ความไม่ ส งบ เดินเข้าไปล้วงคอถึงในค่ายทหาร นับประสา อะไรกับชาวบ้านจะไม่ถูกกระท�ำจากผู้ก่อ ความไม่สงบ แม้ไฟใต้จะท�ำให้ความมั่นคง ของรัฐสัน่ คลอน แต่ความมัน่ คงทางจิตใจของ ผู้คนในพื้นที่ก็เป็นสิ่งที่รัฐไม่ควรจะมองข้าม อย่างยิ่ง

ถ้ามองในแง่จิตวิทยาสงคราม เหตุ การปล้นปืนของผู้ก่อความไม่สงบถือได้ว่า ได้รับชัยชนะเหนือกองทัพอย่างใหญ่หลวง หลั ง จากนั้ น ผู ้ ก ่ อ ความไม่ ส งบก็ ห ยิ่ ง ใน ชัยชนะของตน ออกอาละวาดก่อความไม่ สงบครัง้ แล้วครัง้ เล่า จนสร้างความหวาดผวา ในความรู้สึกของผู้คนในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ตอนล่าง แม้รัฐจะปราบปรามอย่างเด็ดขาด และรุนแรงเพียงใด แต่ก็ไม่สามารถหยุด การกระท�ำอันโหดเหี้ยมของผู้ก่อความไม่ สงบได้ และต้องยอมรับว่า ผู้ก่อความความ ไม่ ส งบยั ง เคลื่ อ นไหวสร้ า งความรุ น แรง ไม่ได้ถ้าไม่มีทุนคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง มันมีความจริงอยู่ การฆ่าแบบยิงให้ตายยัง ไม่พอส�ำหรับความต้องการของผู้ก่อความ ไม่สงบ ฆ่าแล้วต้องตัดคอถ่ายภาพแสดงออก ในสื่อต่างๆ ด้วยถ้าภาพที่แสดงออกมาให้ สังคมเห็นความโหดร้ายมากเท่าใด เงินที่ผู้ ก่ อ ความไม่ ส งบจะได้ จ ากนายทุ น ที่ ค อย สนับสนุนก็จะมากตามไปด้วย จะเป็นสื่อโทรทัศน์ วิทยุ หรือสื่อใน โลกออนไลน์ก็กลายไปเป็นเครื่องมือของผู้ ก่อความไม่สงบ ไม่โดยทางตรงก็ทางอ้อม เป็น เรื่องยากที่จะปิดกั้นสื่อไม่ให้ภาพเหตุการณ์ ความรุนแรงของสถานการณ์ไฟใต้ออกมา แต่รัฐสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องขอความร่วม มือกับสื่อให้ลดการน�ำเสนอภาพรุนแรงออก


มาให้สังคมได้รู้ได้เห็น อย่าให้สังคมคอยพูด ได้วา่ “ไม่ใช่แค่โจรหรอกทีไ่ ด้เงิน ตราบใด ทีภ่ าพไฟใต้ยงั ลุกท่วมปักษ์ใต้ทหารเองนัน้ แหละจะเป็นที่จับจ้องของสังคมว่ามีผล ประโยชน์ใดหรือไม่ทแี่ อบแฝงอยู”่ ผู้เขียนมิได้มีเจตนาต�ำหนิการใช้งบ ประมาณของทหาร แต่ในรอบ 10 กว่าปี่ที่ ผ่านมา งบประมาณแผ่นดินถูกใช้ไปกับการ แก้ปัญหาไฟใต้ไปนับได้เป็นหมื่นเป็นแสน ล้านบาท ซึ่งเป็นจ�ำนวนเงินที่มากมหาศาล คนในพืน้ ทีต่ า่ งพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า ไม่วา่ แผ่ น ดิ น ปั ก ษ์ ใ ต้ จ ะเดื อ ดเป็ น ไฟไม่ รู ้ จ บ อย่างไร ไม่วา่ รัฐจะพยายามแก้ปญ ั หาอย่างไร ยากที่ไฟใต้จะดับลงได้ เพราะมีคนของรัฐ

กลุม่ หนึง่ ,นักการเมืองท้องถิน่ และนักค้าของ เถื่อน ได้ผลประโยชน์มหาศาลจากหายนะ จากไฟใต้ คงถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลภายใต้ การน�ำของ พล.อ ประยุทธิ์ จันทร์โอชา ซึ่ง มีอ�ำนาจเด็ดขาดในการตัดสินใจแก้ปัญหา ไฟใต้ต้องท�ำอะไรสักอย่างเพื่อยับยั้งปราบ ปรามคนของรัฐที่คอยท�ำตัวเป็นปลวกกัด กร่อนแผ่นดินขององค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างน่าละอายนัก ต้องยอมรับว่า ผู้ก่อความไม่สงบที่ ถือปืนมาปะทะกับเจ้าหน้าที่นั้นเป็นแค่ปลาย เหตุของปัญหา ถ้าจะดับไฟใต้ให้ได้อย่าง ราบคาบ ต้องไปดับที่ต้นตอของปัญหา ทุน ทีผ่ กู้ อ่ ความไม่สงบนัน้ รับมาจากใคร ใครเป็น คนออกค�ำสั่งอยู่เบื้องหลังผู้ก่อความไม่สงบ

รัฐบาลต้องลากกลุ่มบุคคลเหล่านี้มาลงโทษ ให้ได้ ก่อนที่ประชาชนในพื้นที่จะสิ้นศรัทธา และไร้ความหวังกับการแก้ปญ ั หาของรัฐบาล ไปมากกว่านี้ ส่วนใครคือนักค้าของเถื่อน ใครคือผู้อยู่เบื้องหลังทุนสนับสนุน ใครคือผู้ บงการใหญ่ที่คอยผลักดันให้ผู้ก่อความไม่ สงบได้เคลื่อนไหวก่อความรุนแรง มาถึง เวลานีแ้ ล้ว ถ้ารัฐบาลยังไม่รโู้ ฉมหน้าทีแ่ ท้จริง ของกลุ่มคนเหล่านี้ นับได้ว่า การแก้ปัญหา ไฟใต้ที่ผ่านมา ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เป็นเรื่องชวนให้เศร้าใจยิ่งนัก เมื่อ ประชาชนส่วนหนึ่งในพื้นที่ไร้ความหวังและ หมดศรั ท ธากั บ การแก้ ป ั ญ หาของรั ฐ บาล ต่างอพยพย้ายตัวเองออกจากพื้นที่ ย้ายมา อยู่จังหวัดใกล้เคียงที่ไม่มีปัญหาไฟใต้ตาม มาหลอกหลอน การทีป่ ระชาชนส่วนหนึง่ อพยพ ย้ายออกจากพืน้ ที่ 3 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ย่อมหมายถึงทุนจ�ำนวนมหาศาลถูกขนย้าย ออกจากพื้นที่ นั่นหมายถึง ความมั่นคงต่อ ชี วิ ต และทรั พ ย์ สิ น ของประชาชนที่ ไ ม่ มี ในขณะทีร่ ฐั บาลก�ำลังภูมใิ จว่า การเจรจาเพือ่ ยุตไิ ฟใต้ประสบความส�ำเร็จ เหตุการณ์ไฟใต้ เกิ ด ขึ้ น ไม่ กี่ ค รั้ ง อย่ า งปี ก ่ อ นๆที่ เ คยเกิ ด ความรุนแรงรายวัน แต่จำ� นวนของประชากร ที่อพยพออกจากพื้นที่ก็นับจ�ำนวนได้เพิ่มขึ้น ทุกวันถ้าผู้ก่อความไม่สงบหวังเพื่อแบ่ง

ชัยสมรภูมิ 43


แยกดินแดนมีตัวตนอยู่จริง การ อ พ ย พ ข อ ง ป ร ะ ช า ช น ใ น พื้ น ที่ 3 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ย่อมยืนยันได้ไม่ มากก็น้อยว่า ผู้ก่อความไม่สงบท�ำงานได้ บรรลุเป้าหมาย และมีชัยเหนือรัฐไทยอย่าง ปฏิเสธไม่ได้ ไม่ มี ส งครามใดในโลกที่ จ ะไม่ ทิ้ ง รอยบาดแผลและซากปรั ก หั ก พั ง เอาไว้ สงครามไฟใต้ก็เฉกเช่นกัน เป็นเรื่องที่ชวน ให้เศร้าใจเป็นอย่างมาก ผู้เขียนเดินทางลง ไปในจังหวัดปัตตานี เพือ่ นๆ ของผูเ้ ขียนบอก ให้เก็บสร้อยพระที่ผู้เขียนสวมห้อยคอไว้ ผู ้ เ ขี ย นเคยเรี ย นที่ ม หาวิ ท ยาลั ย สงขลา นครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ในอดีต เคยพบ เห็ น ความงามของหมู ่ บ ้ า นชุ ม ชนในพื้ น ที่ จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง เคยขับรถไปเยี่ยม เพื่อนในหมู่บ้านชนบทที่ห่างไกล ไม่เคยเลย สักครั้งที่จะรู้สึกไม่ปลอดภัย สองข้างทาง มีแต่รอยยิ้มและมิตรภาพที่มีให้กัน แต่เมื่อ วั น หนึ่ ง เหตุ ก ารณ์ ก ลั บ เปลี่ ย นแปลงไป แค่สวมใส่สร้อยพระก็จะเกิดภัยได้ รอยยิ้ม มิตรภาพที่เคยมีอยู่รอบตัวกลับกลายเป็น ความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน ได้แต่ตั้ง ค�ำถามกับตัวเองว่า ก�ำลังเกิดอะไรขึ้นกับ แผ่นดินไทย ท�ำไมปักษ์ใต้ที่เคยสงบร่มเย็น จึงได้กลายเป็นสมรภูมิของสงครามที่ไม่รู้ จบไปได้ ไม่ว่าจะเกิดค�ำถามนี้สักกี่ครั้งกับ ตัวเอง คล้ายๆ ค�ำตอบยังล่องลอยไร้ตัวตน อยู่ในสายลมอันว่างเปล่า บ้าน อาคาร สถานที่ ทีเ่ กิดจากบาดแผล สงครามไฟใต้เราอาจจะสร้างขึ้นมาใหม่ได้ แต่ความไว้วางใจ ความเป็นพีน่ อ้ งสายเลือด ไทยถ้ามันล่มสลายเราจะสร้างมันขึ้นมาใหม่ ได้ด้วยวิธีใด อาวุธ รถถัง ก�ำลังพล เงิน คง สร้างรอยยิ้มให้เบ่งบานขึ้นมาในหัวใจของ ผู้คนไม่ได้ ความรักและความเข้าใจซึ่งกัน และกันเท่ านั้นที่จะสามารถคืนความสงบ ร่มเย็นกลับคืนมาสู่แผ่นดินปักษ์ใต้ เราจะ สร้างความรักความเข้าใจให้เกิดขึน้ ได้อย่างไร นั่นเป็นเรื่องของคนไทยทุกคนที่ต้องช่วย กันคิด ผูเ้ ขียนไม่เชือ่ ว่าถ้าปล่อยให้เป็นหน้าที่ ของรัฐบาลแก้ปัญหาเพียงล�ำพังเห็นทีจะ

44 ชัยสมรภูมิ

ยาก คนไทยทุกคนต้องตระหนักในหน้าที่อัน ยิ่งใหญ่นี้ร่วมกัน เลิกแบ่งแยกภาคแผ่นดิน เลิกแบ่งแยกชาติพันธุ์ เลิกแบ่งแยกศาสนา เพราะสิ่งเหล่านี้มีอยู่ก็เพียงจะเอามาเป็น ข้ออ้างในความขัดแย้งได้เท่านั้นเอง ในขณะที่ผู้เขียนก�ำลังเขียนต้นฉบับ ท่ามกลางเสียงประกาศของรัฐบาลที่จะลด ปัญหาไฟใต้ให้ดับแทบสนิทในช่วงถือศีลอด ของพี่น้องไทยมุสลิม เสียงระเบิดก็ดังขึ้น ท่ามกลางเสียงประกาศ รถบัสของทหารที่ ใช้รับส่งนักเรียนถูกซุ่มวางระเบิด ก่อให้เกิด ความเสียหายต่อความรู้สึกของสังคมยิ่งนัก แม้จะไม่มีใครได้รับอันตรายถึงชีวิต แต่ก็ส่ง ผลให้เจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนบาดเจ็บ มากกว่าหลายสิบ หลายแหล่งข่าววิเคราะห์ กันไปต่างๆ นาๆ บางกลุม่ ว่าผูก้ อ่ ความวุน่ วาย ท้าทายค�ำประกาศที่จะลดวิกฤติไฟใต้ของ รัฐบาล บางแหล่งข่าววิเคราะห์ไว้น่าสนใจ

ว่า หลังจากกลุ่ม RKK จ�ำนวนกว่า 50 คน พร้ อ มอาวุ ธ หนั ก ครบมื อ บุ ก โรงพยาบาล เจาะไอร้อง และได้มีการปะทะยิงต่อสู้กับ เจ้าหน้าทีก่ นั อย่างรุนแรง และระเบิดทีด่ งั ขึน้ ท่ามกลางเดือนถือศีลอด เป็นการตอบโต้ ของกลุ่ม RKK นั่นเอง หลังจากเหตุการณ์ที่กลุ่ม RKK บุก ยึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง ทางแม่ทพั ภาค 4 ประกาศให้ปิดล้อมเทือกเขาที่คาดว่าเป็น แหล่งซุ่มอาศัยของกลุ่ม RKK แต่สุดท้ายก็ ต้องพบกับความว่างเปล่า ผูก้ อ่ ความไม่สงบ หายเข้าไปในความเงียบราวกับไม่มีตัวตน อยูจ่ ริง จนท�ำให้เป็นทีว่ เิ คราะห์สงสัยกันไปว่า ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ไม่สงบ ผู้ก่อความ ไม่สงบหนีหายเข้าไปในก้อนเมฆ เป็นเพราะ ผูก้ อ่ ความไม่สงบเก่ง สามารถก่อความไม่สงบ ได้ดีเยี่ยม หรือเป็นเพราะเจ้าหน้าที่รัฐไร้ ประสิ ท ธิ ภาพกั น แน่ ไม่ มี ใ ครตอบค�ำ ถาม


เหล่านีไ้ ด้ดเี ท่ากับวันเวลาทีก่ ำ� ลังด�ำเนินต่อไป “ท�ำไมกลุ่ม RKK จึงกล้าบุกยึดโรง พยาบาลเจาะไอร้อง” ผูเ้ ขียนโทรศัพท์ไปถาม แหล่งข่าวที่อยู่ในพื้นที่ “กลุ่ม RKK ไม่ได้ตั้งใจจะยึดโรง พยาบาล แค่ต้องการโรงพยาบาลซุ่มโจมตี ค่ า ยทหารพรานที่ ม าตั้ ง ฐานอยู ่ ใ กล้ ๆ โรงพยาบาล” แหล่งข่าวในพื้นที่ตอบ “ผมเคยลงไปตากใบ หลังจากที่ชาว บ้านตายหมูเ่ พราะขาดอากาศหายใจ ตอนนัน้ เพื่อนผมบอกว่า จะนั่งกินน�้ำชาร้านไหนให้ ระวัง ถ้ามีต�ำรวจนั่งอยู่หลีกให้ไกล” ผู้เขียน พูด และย้อนนึกไปถึงเหตุการณ์ทพี่ นี่ อ้ งมุสลิม โดนมัดมือไพล่หลังและถูกเจ้าหน้าที่รัฐจับ โยนขึ้นรถบรรทุกใหญ่จนเป็นเหตุให้พี่น้อง มุสลิมตายหมู่ นั่นเป็นภาพที่ไม่น่าเชื่อว่าจะ เกิดขึ้นบนแผ่นดินไทย รัฐบาลยิง่ รุก และท้าทายมากเท่าไหร่ ย่อมไม่เกิดผลดีต่อฝ่ายรัฐบาลเอง” แหล่ง ข่าวในพื้นที่พูด

“แสดงว่ารัฐบาลยุคนั้นก�ำลังแก้ ปัญหาผิดทาง” ผู้เขียนรุกถาม “รัฐบาลไม่ได้แก้ปัญหาผิดทาง แต่ รัฐบาลแก้ไขอะไรไม่ได้ “เหตุการณ์ระเบิด ล่าสุด คาดว่าเป็นฝีมือการกระท�ำของกลุ่ม RKK หรือไม่? ” ผู้เขียนรุกถาม “ไม่ว่าเสียงปืนหรือระเบิดที่เกิดขึ้น จะเรียกว่ากลุ่มไหนชื่ออะไรส�ำคัญตรงไหน สิง่ ทีส่ ำ� คัญมันอยูต่ รงทีว่ า่ ท�ำไมเสียงปืนเสียง

ระเบิดจึงไม่จบสิน้ มันจะจบได้อย่างไร ใครๆ ในพื้นที่ตา่ งรู้กันว่า ในขณะที่ รัฐบาลส่งเจ้าหน้าที่มาปราบปรามผู้กอ่ ความ ไม่สงบ ในทางกลับกัน เจ้าหน้าทีร่ ฐั นักการเมือง และนักการเมืองท้องถิน่ ก็แอบชุบเลี้ยงผู้ก่อ ความไม่สงบอย่างอ้วนพี” แหล่งข่าวในพืน้ ทีพ่ ดู “สรุปได้หรือไม่ว่าเหตุการณ์ที่เกิด ขึ้นไม่เกี่ยวกับความขัดแย้งทางศาสนา” ผู้เขียนถามต่อ “เคยมีบ้างบางหรือไม่ที่ผู้ก่อความ ไม่สงบพูดว่าท�ำไปเพราะขัดแย้งเรือ่ งศาสนา มี แ ต่ ไ อ้ พวกหนั ง สื อพิ ม พ์ งี่ เง่า ส�ำนักข่าว โคมลอย และเจ้าหน้าที่รัฐนั่นแหละ ที่ลาก เอาศาสนามาเปื้อนท่ามกลางความขัดแย้ง” แหล่งข่าวในพื้นที่พูด มนุ ษ ย์ เ กิ ด มาไม่ ว ่ า จะชาติ พั น ธุ ์ ใ ด ศาสนาใดก็ตาม เจตจ�ำนงค์เดิมแท้โดยธรรมชาติ มนุษย์ย่อมเกิดมาเพื่อเป็นพี่น้องกัน อาศัย อยูบ่ นโลกใบเดียวกัน ท่ามกลางแสงแดดและ ลมหายใจเดียวกัน ตราบใดทีร่ ฐั ไทยยังมัน่ ใจ ในอาวุธ ก�ำลังพล เงิน ว่าส�ำคัญมากพอจะ แก้ปัญหาไฟใต้ได้ ตราบนั้นนานเท่านาน ไฟ ใต้ย่อมยังลุกโชนให้ต้องดับกันไม่รู้จบ ผู้เขียนเป็นเพียงประชาชนคนหนึ่ง ที่เกิดมาท่ามกลางปัญหาความขัดแย้ง และ ไม่ได้ปักใจโทษว่าใครถูกหรือผิดในสมรภูมิ ปัญหาไฟใต้ แต่ขอเป็นแค่หนึ่งเสียงเล็กๆ วิ ง วอนขอให้ ผู ้ ที่ มี ส ่ วนท� ำ ให้ ไ ฟใต้ ลุ กโชน สร้างหายนะให้กับสังคมไทยได้ส�ำเหนียกว่า “สันติภาพไม่สามารถสร้างขึ้นมา ได้ด้วยสงคราม”

ชัยสมรภูมิ 45


ประธานใหญ่ บริษทั มอเตอร์ไซค์มชี อื่ ของญีป่ นุ่ ทีม่ สี าขาการจ�ำหน่ายทัว่ โลก อันเป็น ผลส�ำเร็จอย่างงดงาม ในด้านธุรกิจ กล่าวเป็นปรัชญาให้น่าคิด... “ท่านไม่ควร มองถึงความส�ำเร็จ ของข้าพเจ้าในวันนี้เท่านั้น แต่ควรมองว่า กว่าจะ ประสบความส�ำเร็จในวันนี้ ได้เคยประสบความล้มเหลวในการแก้ไขปรับปรุง คุณภาพสินค้ามาแล้วมากต่อมาก?”

มังกรบิน ผงาดฟ้า

กาแฟโบราณของไทย นัน่ ย่อมแสดงว่า กว่ากว่ากิจการของ บริษัทมอเตอร์ไซค์จะแพร่ขยายตลาด และ ได้รบั ความนิยมอย่างสูง ต่างก็ประสบความ ล้มลุกคลุกคลาน ผ่านการปรับปรุงแก้ไขมา แล้วมากต่อมาก ก่อนทีจ่ ะทรงคุณภาพ และ รูปลักษณ์ทอี่ ยูต่ วั และอยูใ่ นความนิยม ของ คนทั่วโลก เปรียบเทียบกับสินค้าชนิดหนึง่ ทีค่ น ทั่วโลกนิยมบริโภคอย่างกว้างขวาง ไม่แพ้ การแสวงหาปัจจัยอันเป็นการบริโภคเช่น น�้ำมัน นัน่ คือกาแฟทีผ่ ค้ ู นทัว่ โลก นิยมบริโภค อย่างกว้างขวาง โดยมีแบรนด์ต่างๆ หลาย ชนิด ให้บริการแก่ลูกค้า ในรูปแบบเป็นร้าน มุมกาแฟ จนถึงกาแฟรถเข็น ทีเ่ คลือ่ นตัวง่าย และไม่กนิ พืน้ ทีม่ าก ในการทีจ่ ะบริการ ให้การ ต้อนรับลูกค้าในราคาแก้วละไม่แพง ประมาณ แก้วละ 30-40 บาท หรือหากเป็นมุมกาแฟ ในร้านค้า อาจจะแก้วละ 45-60 บาท ส�ำหรับ กาแฟจากต่างประเทศ ซึง่ หากเป็นกาแฟไทย อาจจะถูกลงกว่านัน้ โดยเฉพาะอย่างยิง่ กาแฟ โบราณตรามังกรบิน ทีส่ ยายปีกถลาลมอย่าง กว้างขวาง ครอบคลุมไปทั่วประเทศ กว่าจะบินถลาลม สูโ่ ลกกว้างในวันนี้ กาแฟโบราณตรามังกรบิน มีตำ� นานการต่อสู้ บุกเบิก และฟันฝ่ามาอย่างฉกาจฉกรรจ์ ด้วย ความมุมานะ ขยันหมั่นเพียร ไม่ย่อท้อต่อ อุปสรรค ปัจจุบนั จึงยืนหยัดอยูอ่ ย่างภูมฐิ าน และอยู่ในความนิยมของมหาชน ผู้บริโภค กิจการธุรกิจหลายอย่าง มีการบุกเบิกและ

46 ชัยสมรภูมิ

คุณปู่ ขี่ลิ้ม แซ่จิว สานต่อเพื่อการพัฒนา ตามความเปลี่ยน แปลง และสภาพแวดล้อม กาแฟโบราณตรา มังกรบิน ก็อยูใ่ นกรอบดังกล่าว คือมีการพัฒนา อย่างต่อเนื่อง ทันกับกระแสทางเศรษฐกิจ การค้าอยู่ตลอดเวลา

อเนก จิตตขจรเกียรติ (ทายาทรุน่ ที่ 3) กิจการทุกอย่างมีก�ำเนิด มีการเริ่ม ต้านและสานต่ออยูต่ ลอดเวลา กาแฟโบราณ ตรามังกรบิน ก็อยูใ่ นสภาพทีต่ อ้ งขยายตลาด และปรับคุณภาพ ให้ถกู กับรสนิยมของผูบ้ ริโภค ขี่ลิ้ม แซ่จิว ก็เหมือนกับคนจีนทั่วไป ที่ต่อสู้ชีวิตดิ้นรนมาหลายรูปแบบ ประกอบ อาชี พหลายอย่า ง เพื่ อการด� ำ รงชีพ จน กระทั่งปี 2490 ก็เริ่มจับอาชีพใหม่ หันมา ขายกาแฟ โดยเข้าหุน้ กับเพือ่ นบ้านคนหนึง่ ผลิตและจ�ำหน่ายกาแฟแถวซอยจินดาถวิล ถนนสาพระยา กทม. ใช้ชื่อกาแฟชนิดนั้นว่า “กาแฟตรามังกร” ซึง่ ในช่วงแรกๆ ก็ขายแค่ ตลาดใน กทม. เท่านั้น โดยปั่นจักรยานหรือ ขึ้นรถเมล์ไปส่ง

คุณพ่อ วรเทพ จิตตขจรเกียรติ (เฮียเม้ง)


ความมานะบากบั่นความขยันหมั่น เพียร น�ำความรุง่ เรืองก้าวหน้ามาสูช่ วี ติ และ ครอบครัว กิจการค้าก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นโดย ล�ำดับ เมื่อระยะเวลาประมาน 10 ปีผ่านไป ธุรกิจเกี่ยวกับกาแฟ ก็เติบโตขยายออกไป อย่างกวางขวาง จึงซือ้ เรือเพือ่ ส่งสินค้า ตาม จังหวัดที่ใช้เส้นทางคมนาคมทางน�้ำ อาทิ ปากน�ำ้ โพ กับบางปะกง เพือ่ เจาะตลาด และ ก็ มั ก เจอแรงต้ า นกั บ กิ จ การกาแฟเจ้ า ถิ่ น ที่ครองตลาดและครองใจผู้บริโภคมานาน แต่เขาก็ไม่ทอ้ มุมานะ เพือ่ เอาชนะอุปสรรค ประคับประคองกิจการไปเรื่อย ครัน้ ปี พ.ศ.2505 เมือ่ กิจการมัน่ คงขึน้ จึงได้มีการแบ่งกิจการกับหุ้นส่วน พร้อมกับ แบ่งลูกค้า เพือ่ ความเป็นธรรมกัน โดยเลือก เส้นทางคมนาคม เป็นเกณฑ์ เช่นการติดต่อ กับกลุม่ ลูกค้า ทีต่ อ้ งขนส่งสินค้าทางถนน ให้ เป็นของหุน้ ส่วนไป และใช้สนิ ค้าเดิมคือกาแฟ ตรามังกร ส่วนขี่ลิ้ม ได้ลูกค้าจากย่านทางน�้ำ ที่ใช้เรือขนส่งสินค้า ต่อมาก็ได้ย้ายโรงงาน ไปอยู่ ทีซ่ อยวัดดงมูลเหล็ก ถนนอิสรภาพ กทม. พร้อมกับเปลีย่ นแปลงตราสินค้าใหม่ เป็นรูป มังกร เหมือนเดิมแต่เพิม่ พลังเสริมเข้าไป เป็น มังกรติดปีก เพือ่ บินถลาลมและผงาดในยุทธ จักรกาแฟ ในนามกาแฟตรามังกรบิน เมือ่ มังกรบินติดปีกแล้ว ก็เริม่ ถลาลม โดยเมื่อปี 2507 คุณวรเทพ จิตตขจรเกียรติ (เฮียเม้ง) ซึง่ ขณะนัน้ เป็นเซลล์ขายยาในต่าง

จังหวัด ได้กลับมารับช่วงกิจการของครอบครัว เพื่อขยายกิจการ ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ด้วย การบุกเบิกหาลูกค้าเพิ่มเติม วิธีการปฏิบัติ ก็คือการเช่ารถจาก เพือ่ นบ้าน ไปติดต่อหาลูกค้าทางภาคอีสาน กับภาคตะวันออก ซึง่ ในสมัยนัน้ การคมนาคม ไม่สะดวก ถนนหนทางไม่มกี ารพัฒนาต่อเชือ่ ม เช่นปัจจุบนั จึงต้องใช้เวลาเป็นเดือน ในการ เดือนทางไปและกลับในแต่ละครั้ง พอถึงหน้าฝน บางครั้งทางขาด จึง ต้องยกกาแฟขึ้นรถไฟ ซึ่งเป็นอุปสรรคใหญ่ หลวง ทุลักทุเลที่คุณวรเทพ ได้ผจญมา เท่านั้นยังไม่พอ ปัญหาอุปสรรคซ�้ำ ซ้อนอีกด้าน หนึง่ ก็คอื ในแต่ละจังหวัด มักจะ มีกาแฟเจ้าถิ่นส่งอยู่แล้ว ปัญหาติดตามมา ก็คอื ถูกกีดกันว่าเข้ามาแย่งลูกค้า แต่คณ ุ วรเทพ ก็หาทางเจรจาตกลง แก้ไขปัญหาน�ำกาแฟ มังกรบิน เดินหน้าไปอย่างสง่างาม จนกระทั่งปี 2513 จึงได้ย้ายโรงงาน ไปอยูท่ ซี่ อยจรัญสนิทวงศ์ 31 แต่พบอุปสรรค ใหญ่หลวงตามมา จนเข้าขั้ น วิ ก ฤตภาวะ วิกฤตคือ การปิดกิจการลงของร้านกาแฟแบบ ชงขาย เพราะมีการเก็บภาษี แทรกด้วยธุรกิจ เครื่องดื่มประเภทชูก�ำลังกับกาแฟส�ำเร็จรูป เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในธุรกิจกาแฟ รวมทัง้ ความเข้มงวด ของ อย.จากกระทรวง สาธารณสุขในสมัยนั้น เนือ่ งจากคิดว่ากาแฟ โบราณมีการใส่สดี ำ� โดยในช่วงนัน้ คุณวรเทพ

กับเพือ่ นในวงการกาแฟ ได้รวมตัวกัน ก่อตัง้ สมาคมผู้คั่วกาแฟขึ้นมา โดยคุณวรเทพรับ หน้าที่ เป็นเลขาธิการสมาคมฯ และเข้าชีแ้ จง ท�ำความเข้าใจกับกระทรวงสาธารณสุขว่า กาแฟโบราณที่ ใ ช้ ท� ำ โอเลี้ ย งนั้ น มี สี ด� ำ เป็นสีจากธรรมชาติคือน�้ำตาลเคี่ยว มิได้ใช้ สารเคมีหรือสีผสมอาหารแต่อย่างใด จึงไม่ เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ในขณะนัน้ กิจการด้านกาแฟ มีโรงงาน คั่วกาแฟ ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดร่วม 100 โรงงาน บางแห่งก็คั่วเอง เป็นอุตสาห กรรมในครอบครัว ช่วงเวลานั้น ลูกค้าเริ่มหายไป คุณ สมศรี ภรรยาของคุณสุเทพ จึงเข้ามามีบทบาท ดูแลกิจการมี เดชา ตัง้ รัตนาพิบลู หรือเฮียฮวด ท�ำหน้าทีเ่ ป็นหลงจู๊ ส่งสินค้าสูภ่ าคอีสาน ซึง่ เหลือเพียงสายเดียวได้รับความนิยมจาก ลูกค้าและผูบ้ ริโภคอย่างดี จึงผ่านวิกฤตมาได้ และเติบโตมาเรื่อย จนถึงปัจจุบันนับได้ว่า เดชา ตัง้ รัตนาพิบลู หรือ “เฮียฮวด” เป็น คนหนึ่งที่มีบทบาทในการเสริมสร้างกาแฟ โบราณมังกรบิน ปั จ จุ บั น นอกจากกาแฟมั ง กรบิ น จะแพร่ ห ลายในตลาดแทบทุ ก ภาคของ ประเทศ เรามักจะได้พบเห็นป้ายกาแฟโบราณ ตรามังกรบินอย่างแพร่หลาย แสดงว่าได้เจาะ ตลาดอย่างกว้างขวาง จากการสืบสานธุรกิจของ ครอบครัว ของอเนก จิตติขจรเกียรติ จากคุณ

ชัยสมรภูมิ 47


อ�ำนาจ จิตตขจรเกียรติ (เน่ห) พ่อวรเทพ ผูเ้ ป็นบิดา โดยเมือ่ ก่อนนัน้ เขาอยู่ ในวัย 21 ปี ท�ำงานรับหลอดกาแฟมาขาย ตามร้าน พร้อมกับหาลูกค้ากาแฟไปในตัว โดย มีคุณพ่อวรเทพ เป็นผู้ถ่ายทอดวิชาความรู้ และประสบการณ์ให้ จากประสบการณ์ทผี่ า่ นมา คุณอเนก ได้ทบทวนย้อนอดีตว่า ยังจ�ำความรูส้ กึ ในวัน แรกได้ดีวา่ เขาหาลูกค้าได้เพียงรายเดียว เพราะไม่กล้าติดต่อพูดคุยกับลูกค้ามากนัก แต่คุณพ่อวรเทพ ก็พยายามให้ก�ำลังใจ ใช้ ค�ำพูดทีป่ ลุกปลอบใจ ขณะนัง่ รถไปส่งกาแฟ ด้วยกัน เพือ่ ดูตลาดตามซอกซอยต่างๆ และ ตลาดสด ซึ่งขณะนั้นมีร้านกาแฟ เกิดขึ้น อย่างแพร่หลาย แต่สว่ นมากร้านเหล่านัน้ จะ

48 ชัยสมรภูมิ

ซือ้ ต่อจากร้านค้าอีกที่ เพราะยังไม่มีคนส่งให้ จึงเป็นโอกาสดี ที่เปิดช่องทางให้คุณอเนก ติดต่อขายกาแฟแบบสายตรงได้ แต่เมื่อลูกค้ามากรายขึ้น คุณอเนก ก็จัดรวมเป็นสาย ในการส่งสินค้าให้ เพื่อ ความสะดวกรวดเร็วและมีผลดี ต่อร้านค้า ที่จะทราบได้แน่นอนว่า จะไปส่งให้ในวันใด ซึง่ จะลงกาแฟได้พอดี จึงขยายตลาดลูกค้าได้ 4 สาย คือ สายนนทบุรี ปทุมธานี สุพรรณบุรี และสายตะวันออก เมือ่ น้องชาย อ�ำนาจ จิตติขจรเกียรติ เรียนจบ อเนกจึงมอบหมายให้นอ้ งชาย สานต่อ กิจการด้านตลาดในกรุงเทพฯ ส่วนทางด้าน ปริมณฑล 5-6 จังหวัด ก็มอบหมายให้ อรุณศรี

จิตตขจรเกียรติ เข้ามาช่วยเสริมกิจการ จากนัน้ ไม่นานนัก ก็ได้เปลีย่ นชือ่ จาก โรงงานกาแฟจิตตเกษม จดทะเบียนในรูป แบบบริษัท ในนามบริษัท ขจรเกียรติกาแฟ จ�ำกัด ใช้กรรมวิธีผลิตแบบดั้งเดิม การด�ำเนินกิจการของบริษทั เริม่ แรก นั้นไม่ค่อยราบรื่นนัก เนื่องจากต้องนับหนึ่ง ใหม่ทงั้ หมด จากการสร้างฐานลูกค้าขึน้ มาใหม่ แนวทางการสร้ า งฐานลู ก ค้ า คื อ เน้นลูกค้าตามร้านกาแฟทัว่ ไป และรถเข็น ใน ขณะทีเ่ ดินตามแนวทางดังกล่าว คนส่งกาแฟ โบราณมีนอ้ ย เพราะลูกค้ามักจะซือ้ กาแฟจาก ยี่ปั๊วที่มีขายอยู่ตามท้องตลาด กรรมวิธีเน้น ลูกค้าตามร้านกาแฟทัว่ ไป และรถเข็น จึงช่วย


กว่าจะมีวันนี้ พลิ ก พื้ นธุ ร กิ จกาแฟโบราณ ให้คึกคักขึ้น ท�ำให้ธรุ กิจกาแฟโบราณ เดินหน้าไปได้ด้วยดี มีอตั ราการเติบโตขึน้ ทุกปี จนกระทัง่ ปี 2543 จึงได้เพิม่ ช่องทางการตลาด ด้วยการจ�ำหน่าย ผ่านเอเย่นต์เกือบทั่วประเทศ ร้านกาแฟที่ เห็นโดยทั่วไป ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าของ มังกรบิน แต่กย็ งั มีรา้ นเล็กๆ ตามตรอกซอก ซอยต่างๆ ทีเ่ ข้าถึงได้ยาก โดยลูกค้ากลุม่ นี้ จะนิยมซือ้ กาแฟ ตามร้านในตลาด ท�ำให้ตอ้ ง วางสินค้าผ่านเอเย่นต์ เพื่อรองรับลูกค้า กลุม่ นี้ และเพือ่ ให้สนิ ค้า ครอบคลุมความต้อง การของทุกกลุ่ม ทางการปฏิบตั กิ ค็ อื เข้าไปคุยกับเขา ตรงๆ และถามว่าร้านเล็กๆ ที่ขายกาแฟนั้น เขาใช้กาแฟยีห่ อ้ อะไร ถ้าใช้ยหี่ อ้ อืน่ ก็จะเสนอ กาแฟตรามังกรบิน แต่ถ้าเขาใช้ตรามังกร บินอยูแ่ ล้ว ก็จะแจกป้ายให้ฟรี เพือ่ เผยแพร่ และเป็นสัญลักษณ์ หากแต่จะหลีกเลีย่ งการ ส่งสินค้าให้เอง เพราะจะทับซ้อนกับร้านค้าที่ เขาไปซื้อสินค้า ก็ให้เขาไปซื้อยี่ห้อมังกรบิน กับร้านค้าตามเดิมดีกว่า อันเป็นแนวทาง ที่ ไม่เอาเปรียบทั้งผู้บริโภคและลูกค้าของตน กว่าทีม่ งั กรบิน จะบินผงาดฟ้าได้ในขณะนี้ จน กลายมาเป็นกาแฟ เครือ่ งดืม่ ของผูค้ น ระดับ กลางและระดับล่าง ต้องบุกเบิกฟันฝ่า และ ใช้กลยุทธ์ ด้านการเผยแพร่ การตลาดมา หลายรูปแบบ จนขยายกิจการโรงงานคัว่ และ บดกาแฟ ให้กว้างใหญ่ เพื่อทันกับความ ต้องการ ของตลาดและผู้บริโภค

“ความส�ำเร็จอันยิง่ ใหญ่ และน่าภาคภูมใิ จนี้ มิได้เกิดขึน้ จากโชคอ�ำนวยให้ แต่มาจากการ คิดค้น วางแผนพัฒนาหลายๆ ด้าน และมิได้มองในส่วนของความส�ำเร็จทางด้านเดียว แต่ ส่วนหนึง่ นัน้ ในความล้มเหลว และล้มลุกคลุกคลาน ก็ปลุกพลังแห่งการต่อสูใ้ ห้กา้ วไปสูค่ วาม ส�ำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ” จึงได้มีบทกลอน ที่สะท้อนถึงบทบาท ตัวตนของกาแฟโบราณตรามังกรบิน ดัง ต่อไปนี้... จะก้าวย่างสร้างชื่อให้ลือลั่น แม้ฝา่ ฟันปัญหามาทุกอย่าง ให้นักดื่มปลื้มใจไม่จืดจาง ให้เป็นทางเลือกเบื้องต้นของคนกิน จะก้าวโลดโดดเด่นเป็นที่หนึ่ง ให้ฝังตรึงซึ้งใจไม่สูญสิ้น ให้คนไทยใฝ่หาเป็นอาจิณ มังกรบินกลิ่นแท้กาแฟไทย บทบาทที่น่าสนใจของนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ อเนก จิตตขจรเกียรติ หรือที่รู้จักกัน ในนาม หนุ่ย-มังกรบิน กับการต่อสู้ชีวิต ท่ามกลางจิตใต้สำ� นึกในค�ำสอนของคุณพ่อ จน ประสพความส�ำเร็จได้ทุกวันนี้ …///ชัยสมรภูมิ///

ชัยสมรภูมิ 49


ในทุกๆ ปีของวันที่ ๒๕ เมษายน จะตรงกับวันคล้ายวันสวรรคต ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือทีค่ นไทยและคน ต่างชาติรจู้ กั ในพระสมัญญาว่า “พระองค์ดำ� ” ทีใ่ ช้คำ� ในภาษาอังกฤษว่า THE BLACK PRINCE อีกพระนามที่ คนทัว่ ไปไม่ใคร่คน ุ้ (ซึง่ น่าจะเป็นชือ่ ทีเ่ ป็นภาษาราชการในการเสด็จขึน ้ ครองราชย์) ในพระนามว่า “สมเด็จพระ สรรเพชญ์ที่ ๒” พระองค์ด�ำ เป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระมหาธรรมราชา กษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา และ พระวิสุทธิกษัตรีย์ พระธิดาในสมเด็จพระมหาจักรพรรดิกับสมเด็จพระศรีสุริโยทัย โดยประสูติเมื่อ พ.ศ.๒๐๙๘ ทีเ่ มืองพิษณุโลกหรือเมืองสองแคว มีพนี่ อ้ ง ๓ พระองค์ คือ พระสุพรรณกัลยา (พีส่ าว) และสมเด็จพระเอกาทศรถ หรือพระองค์ขาว (น้องชาย) ซึ่งได้ครองราชย์ต่อจากพระองค์ด�ำ และพระองค์ด�ำก็ได้ขึ้นครองราชย์ต่อจาก พระราชบิดาอยู่ ๑๕ ปี เสด็จสวรรคตเมื่อ พ.ศ.๒๑๔๘ รวมพระชนมพรรษา ๕๐ พรรษา

“พระองค์ดำ� ” มหาราชนักรบ โดย พลโท สุวัฒน์ อักษรกิตติ์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเป็น พระมหากษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติ ศาสตร์ชาติไทย จนกระทัง่ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล หรือท่านมุย้ ได้นำ� เรือ่ งราวของพระองค์ ท่านสร้างเป็นภาพยนตร์ (หนัง) โดยใช้ชื่อ เรือ่ งว่า “ต�ำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ซึ่งได้ฉายในตอนแรก เมื่อ พ.ศ.๒๕๕๐ ใช้ ชื่อว่า “องค์ประกันหงสา” จากนั้น ได้สร้าง เพิ่มขึ้นมาอีก ๕ ตอน เรียงตามล�ำดับคือ “ประกาศอิสรภาพ”, “ยุทธนาวี”, “ศึกนันท บุเรง”, ยุทธหัตถี” และ ตอนที่ ๖ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นตอนจบของภาพยนตร์ ใช้ชื่อ ว่า “อวสานหงสา” ทั้ง ๖ ตอนนี้ ท่านมุ้ย สร้างได้อย่างยิง่ ใหญ่ตระการตา ใช้การลงทุน สร้างมหาศาล หากใครได้ดู สามารถเรียนรู้ ประวัติศาสตร์ชาติไทย ในช่วงนี้ได้ค่อนข้าง ละเอียด ถึงวีรกรรมในการรบของพระองค์ดำ� แต่หากยังไม่ได้ดู สามารถซื้อแผ่น วีซีดี หรือดีวีดี ไว้ดู และเก็บไว้เพื่อศึกษา ประวัตขิ องพระองค์ทา่ น จึงสมควรทีค่ นไทย (ชาวสยาม) ทุกคนควรได้ดู อย่างน้อยการ ชมภาพยนตร์ ห รื อดู จ ากแผ่ น ก็ ค งเหมาะ ส�ำหรับคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือ แม้ว่าบาง ตอนของเรื่ อ งราวในประวั ติ ศ าสตร์ ไ ม่ ไ ด้ กล่าวไว้ แต่เจตนารมณ์ของผู้สร้างต้องการ ให้ทุกคนได้ดู เพื่อเพิ่มอรรถรสให้มากขึ้น โดย เฉพาะในฉากหนึ่งตอนที่พระองค์ด�ำได้ เข้าเฝ้าสมเด็จพระมหินทราธิราช ทีถ่ กู น�ำไป เป็นตัวประกัน ทีก่ รุงหงสาวดี คราวเสียกรุง

50 ชัยสมรภูมิ


ครั้งแรก (พ.ศ.๒๑๑๒) และได้ล้มป่วยลง ซึ่งสมเด็จพระมหินทราธิราชได้กล่าวว่า ต่อไป พระองค์ด�ำจะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์กรุงศรีอยุธยา และทรงให้โอวาทว่า “ขอให้ปกครองแผ่นดินโดย ธรรม” หรือเมือ่ ตอนทีพ่ ระองค์ดำ� ชนไก่กบั ไก่ชนของพม่าทีเ่ ป็นไก่ของพระมหาอุปราชา ระหว่างพัก ยกพระองค์ดำ� ได้อมุ้ ไก่และตรัสว่า “หากเลือดสยามประเทศในกายเจ้ายังเข้มข้นอยูแ่ ล้วไซร้ เจ้าจะยอมปราชัยหาได้ไม่ เจ้าต้องส�ำแดงให้เหล่าพม่ารามัญได้ตระหนักว่า สยามเราหาเคย เกรงกลัวผู้ใด เจ้าจงเร่งน�ำชัยมาสู่ข้าบัดนี้เถิด” ในการดูภาพยนตร์ ก็เพือ่ ความบันเทิง และผลทีต่ ามมาคือได้ทราบประวัตแิ ละวีรกรรม ของพระองค์ท่าน และหากจะให้สมบูรณ์มากขึ้น ขอให้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง เพื่อน�ำมา ประกอบและขยายความในภาพยนตร์ ทีเ่ ขียนโดย ทันตแพทย์สม สุจรี า ชือ่ ว่า “เจาะต�ำนาน สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ซึ่งท่านได้ เขียนหนังสือที่ชวนให้คิดและติดตามมาแล้วหลายเรื่อง เช่น “เดอะท็อปซีเคร็ต”, “ไอน์สไตน์ พบพระพุทธ เจ้าเห็น” เป็นต้น ในหนังสือเจาะต�ำนานฯ ได้เขียนไว้ในค�ำน�ำ สรุปได้ ว่า “ด้วยพระบารมีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทีอ่ ยูเ่ หนือกาลเวลา อาณาจักรกรุงศรีอยุธยา จึงยิ่งใหญ่สืบเนื่องต่อมาจากรัชสมัยของพระองค์อีกนับร้อยปี โดยไม่มีชาติใดกล้าเข้ามาท�ำ สงครามกับไทยอีกเลย ท�ำให้อาณาเขตของประเทศ ขณะตัง้ กรุงรัตนโกสินทร์ กว้างใหญ่ไพศาล กว่าปัจจุบันถึงสองเท่า . . . “ การเสด็จสวรรคตของพระองค์ด�ำ อยู่ในระหว่างที่เสด็จกรีฑาทัพไปตีเมืองในพม่า ซึง่ ไม่เคยมีพระมหากษัตริยไ์ ทยพระองค์ใดเคยกระท�ำ เป็นการข่มขวัญและสร้างความหวาดกลัว ให้ขา้ ศึกเป็นอันมาก และหลังจากนัน้ สยาม (ไทย) ได้วา่ งเว้นการท�ำศึกเกือบ ๒๐๐ ปี แม้แต่ เสด็จสวรรคตยังคงอยู่ในชุดนักรบ จึงนับเป็นพระมหากษัตริย์หรือมหาราชนักรบผู้ยิ่งใหญ่ ยากที่จะหาผู้ใดทัดเทียมได้ และพระมหากษัตริย์พระองค์ต่อๆ มา ที่ขึ้นครองกรุงศรีอยุธยา ก็มีทั้งผู้มีความสามารถ หลายพระองค์ จนถึงในปี พ.ศ.๒๓๑๐ ซึ่งห่างจากคราวเสียกรุงครั้ง แรกเกือบ ๒๐๐ ปี ก็ได้เสียกรุงครั้งที่สองแก่พม่า แต่ในครั้งนี้ยึดไว้ได้ไม่นาน ซึ่งสมเด็จ พระเจ้าตากสินมหาราชสามารถกอบกู้เอกราชได้ และได้ยา้ ยเมืองหลวงจากกรุงศรีอยุธยา มายังกรุงธนบุรี และทรงครองราชย์อยู่ ๑๒ ปี (ไม่นบั ๓ ปีหลังเสียกรุง) เมือ่ พระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชได้เสด็จขึน้ ครองราชย์ จึงได้ยา้ ยไปอีกฝัง่ ของแม่นำ�้ เจ้าพระยาที่ อยู่ตรงข้ามกับกรุงธนบุรี ตั้งชื่อว่ากรุงเทพพระมหานคร หรือกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นเมือง หลวงของไทยในปัจจุบนั นับเป็นพระองค์แรกหรือรัชกาลที่ ๑ แห่งราชวงศ์จกั รี จนถึงพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือรัชกาลที่ ๙ องค์ปัจจุบัน นับจากรัชกาลที่ ๑ เป็นต้นมา ไทยได้ทำ� สงครามกับพม่าอีกระยะหนึง่ และโลกมีความ

เจริญ ก้าวหน้าขึ้นทางด้านวัตถุ และอาวุธ ยุทโธปกรณ์ในการรบ มีการล่าอาณานิคม ของประเทศในทวีปยุโรป ที่มียุทโธปกรณ์ ที่ทันสมัยกว่าประเทศในทวีปเอเซีย ท�ำให้ หลายประเทศโดยรอบประเทศไทยต้องตก เป็นเมืองขึ้น ซึ่งตรงกับสมัยของพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ ๕ ซึ่งพระองค์สามารถรักษาความเป็นเอกราช ของชาติไว้ได้ โดยต้องยอมสูญเสียดินแดน บางส่วนไป จึงท�ำให้ไทยยังคงมีเอกราช และ รั ก ษาความเป็ น ไทยมาได้ จ นถึ ง ทุ ก วั น นี้ ซึ่ ง ในเรื่ อ งความเป็ น เอกราชของชาติ นั้ น ในบทน�ำหรือค�ำน�ำ ของหนังสือ เจาะต�ำนาน ฯ ก็ได้เขียนเรื่องนี้ไว้ ดังนี้ “...ประเทศไทยเป็ น หนึ่ ง ในไม่ กี่ ประเทศบนโลกนี้ที่ไม่เคยสูญเสียเอกราช ให้ชาติใดๆ อาจจะเป็นผลดีที่เราไม่ต้องผ่าน ประสบการณ์ความเจ็บปวด ในการเสียเอกราช เหมือนชาติอื่นๆ แต่ผลเสียที่มองข้ามไปไม่ ได้กค็ อื ปัจจุบนั ความรูส้ กึ รักชาติของคนไทย ลดน้ อยถอยลง ไม่ เหมื อนกั บ จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย พม่า เกาหลี เวียดนาม ฯลฯ ทีผ่ า่ น ความกดดันอย่างแสนสาหัสต่อการตกเป็น เมืองขึ้น ท�ำให้ปัจจุบัน ประชาชนในประเทศ เหล่านั้นมีความรักชาติสูงมาก . . . “ ส่วนหนึ่งของบทความในค�ำน�ำที่น�ำ มาลงไว้นี้ สามารถน�ำมาใช้ได้กับบ้านเมือง ไทยปัจจุบัน

ชัยสมรภูมิ 51


“ความสุข”

ปชช.คืนกลับมา

บก.น.8 เดินหน้ารวบหลายคดี

ผลงานการจับกุมผูต้ อ้ งหา การออกหมายจับวายร้ายคดีสำ� คัญของข้าราชการ ต� ำ รวจกองบั งคั บ การต�ำ รวจนครบาล 8 ที่มี พล.ต.ต.มนตรี ยิ้ มแย้ ม ผบก.น.8 คุมบังเหียน ยังคงมีความน่าสนใจอยู่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดที่ลานพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินวงเวียนใหญ่ “ผู้การยิ้ม” เป็นประธาน ในพิธีปล่อยแถวระดมป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาและการ รักษาความสงบเรียบร้อยก่อนถึงวันออกเสียงประชามติ มีการสนธิก�ำลังต�ำรวจสายตรวจในสังกัด บก.น.8 ทหารสังกัด พล.ร.9 เจ้าหน้าที่เทศ กิจเขตธนบุรี อาสาสมัครต�ำรวจบ้าน และอาสาสมัครกู้ภัย รวม 300 นาย ร่วมกันออกปฏิบัติ การในพืน้ ทีอ่ ย่างพร้อมเพรียง เป็นภาพประทับใจทีท่ ำ� ให้ชาวบ้านเกิดความอบอุน่ ขึน้ ได้ทนั ตา ผลงานทีผ่ า่ น “ผูก้ ารยิม้ ” คอยอ�ำนวยการควบคุมการปฏิบัติหน้าที่จนสามารถพิชติ คดี ส�ำคัญๆ ได้จ�ำนวนมาก ทั้งในช่วงก่อนฤดูแต่งตั้งโยกย้าย ระหว่างการแต่งตั้งโยกย้าย และ หลังการแต่งตั้งโยกย้าย เจ้าตัวคอยกระตุ้นไม่ให้ทีมงานใส่เกียร์ว่าง เนื่องจากมีสื่อน�ำเสนอ ข่าวสารออกมาการันตีฝีมือสม�่ำเสมอ อาทิ เมือ่ วันที่ 24 พ.ค.ศาลอาญาธนบุรี อนุมัติหมายจับ เลขที่ จ.357/2559 กรณีมี หลักฐานตามสมควรว่า นายเจษฎา แสวงหา อายุ 30 ปี ชาว จ.เชียงราย พัวพันกับการ

52 ชัยสมรภูมิ

กระท�ำความผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติด ประเภท 1 (ยาไอซ์และยาบ้า) หรือเมทแอม เฟตามีนไว้ในความครอบครองเพื่อจ�ำหน่าย โดยผิดกฎหมาย หลังจากเมือ่ ช่วงเช้ามืดวันที่ 22 พ.ค. พ.ต.อ.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ. จิณวัตร ก้อนทองดี ผกก.สน.บุคคโล พ.ต.อ. ประสงค์ อานมณี ผกก.สส.บก.น.8 พ.ต.ท. ปิโยรส กัณหะสิริ รอง ผกก.สส.สน.บุคคโล และ พ.ต.ท.มหพล มีเสน สว.สส.สน.บุคคโล น� ำ ก� ำ ลั ง ไปตรวจยึ ดยาบ้ า จ�ำ นวน 20 มัด รวมทัง้ สิน้ 40,000 เม็ด และ ยาไอซ์ ชนิดเกล็ด บรรจุในถุงชา 2 ถุง น�้ำหนักรวม 2 กิโลกรัม รวมมูลค่าทัง้ หมด กว่า 12 ล้านบาท ทีม่ ผี นู้ ำ� มาทิง้ ไว้ในกระถางต้นไม้วดั สุทธาวาส ซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 24 แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม. นอกจากนั้ น ยั ง พบรถกระบะยี่ ห ้ อ ฟอร์ด รุ่นเรนเจอร์ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน บพ 3056 แพร่ จอดทิ้งอยู่ใกล้ๆ จุดพบยาน รกทั้งหมดอีก 1 คัน ภายในรถพบโทรศัพท์ มือถือ หนังสือเดินทาง และบัญชีเงินฝาก ธนาคารยอดเงินหมุนเวียนกว่า 2.5 ล้านบาท ของ นายเจษฎา ตกอยู่ ตามแนวทางการสืบสวนยังทราบว่า นายเจษฎา เคยมีประวัตพิ วั พันกับยาเสพติด ในพื้นที่ จ.เชียงราย ส่วนสาเหตุที่ต้องทิ้งรถ หลบหนีเชื่อว่าน่าจะตกใจกับเหตุการณ์ใด บางอย่าง เนื่องจากมีชาวบ้านในละแวกนั้น ได้ยินเสียงปืนจ�ำนวนหลายนัดในช่วงกลาง ดึกก่อนจะพบยาเสพติดถูกน�ำมาทิ้งไว้ตอน เช้ามืดวันเดียวกัน อย่างไรก็ตามชุดคลี่คลายคดีต้อง รีบขออนุมตั หิ มายจับเพือ่ ป้องกัน นายเจษฎา หลบหนี ข ้ า มไปฝั ่ ง เพื่ อ นบ้ า นเอาไว้ ก ่ อ น ขณะเดียวกันก็ได้ประสานไปยังหน่วยงาน อืน่ ๆ จนเจ้าหน้าทีก่ องปราบปรามสามารถตาม ลากคอ นายเจษฎา มาด�ำเนินคดีได้ในที่สุด


คดีตอ่ มาเมือ่ ช่วงค�ำ่ วันที่ 23 มิ.ย. “ผู้ การยิ้ม” พร้อมด้วย พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ. ประสงค์ อานมณี ผกก.สส. บก.น.8 พ.ต.ท.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ รอง ผกก.สส.บก.น. 8 และ พ.ต.ท. วิชัย สนสกุล รอง ผกก.สส.บก.น.8 และ ฝ่ายสืบสวน สนทุง่ ครุ ร่วมกันจับกุมตัว นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี นายบี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี และ นายซี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ทั้งหมดเป็นนักเรียนชั้น ม.3 อิสลาม วิทยาลัยแห่งประเทศไทย โดยเยาวชนทัง้ 3 รายตกเป็นผูต้ อ้ งหา ร่วมกันฆ่า นางรัชนี เชนเชาว์นิส อายุ 36 ปี เอเย่นต์ยาบ้า ด้วยการใช้มดี ฟันใบหน้าทิง้ ศพ ไว้ในป่าหญ้ารกร้างตรงข้าม ดีไลท์เอช คอนโด ภายในซอยประชาอุทิศ 75 ซึ่งผู้ตายเช่า อาศัยอยู่ สอบถาม นายเอ ผูต้ อ้ งหาในเบือ้ งต้น ยอมรับว่า รู้จักกับ นางรัชนี ผู้ตายในฐานะ เอเย่นต์คา้ ยาบ้ารายย่อยในพืน้ ที่ และตัวเอง ก็ เ ป็ น ลู ก ค้า นางรั ช นี เนื่อ งจากเคยเสพ ยาบ้ามาก่อน ก่อนเกิดเหตุถกู นางรัชนี หลอก เงินค่ายาบ้าไฟฟรีๆ งวดละ 1,000-2,000 บาท ไปจ�ำนวนหลายงวดทวงถามหลายครั้งแล้ว ยังนิ่งเฉย ล่าสุดฝากบัตรเอทีเอ็มเอาไว้ นางรัชนี ก็ยังแอบน�ำบัตรไปกดเงินค่าเทอม จ�ำนวน

13,000 บาท ไปใช้แล้วอ้างว่าท�ำบัตรหาย สร้างความโกรธแค้นให้เป็นอย่างมาก จึงชวน นายบี และนายซี เพือ่ นรุน่ พีใ่ นกลุม่ อีก 2 คน ไปทวงถามโดยเรียกลงมาคุยกันฝั่งตรงข้าม คอนโด เมือ่ คุยไม่รเู้ รือ่ งจึงบันดาลโทสะใช้มดี ปังตอฟันใบหน้า นางรัชนี แบบไม่ยั้งจน เสียชีวติ ก่อนโยนมีดทิ้งเข้าไปในพงหญ้าพา กันหลบหนี ตัวอย่างคดีสดุ ท้ายหลังจากที่ พล.ต.ท. ศานิต ย์ มหถาวร รรท.ผบช.น.ได้ มี ค� ำ สั่ ง ก�ำชับให้เจ้าหน้าทีต่ ำ� รวจนครบาล ทุกโรงพัก ท� ำ การตรวจตราพฤติ ก รรมเด็ ก นั ก เรี ย น อาชีวศึกษา ทีโ่ ดยสารรถประจ�ำทางเป็นกลุม่ ๆ เพื่ อ เดิ น ทางไปกลั บ ระหว่ า งบ้ า นพั ก และ สถาบันอย่างเข้มงวด เนือ่ งจากมีเหตุทะเลาะ วิวาทรุนแรงอยู่บ่อยครั้ง เมื่อช่วงเย็นวันที่ วันที่ 28 มิ.ย. “ผู้ การยิม้ ” พร้อม พ.ต.ท.ชยันต์ เบ็ญจาธิกลุ รอง ผกก.จร.สน.บุคคโล ได้รว่ มกันจับกุมตัว นาย กฤษฎา ลาธิ อายุ 19 ปี และ น.ส.น�ำ้ (นาม สมมุต)ิ อายุ 17 ปี ทัง้ 2 รายเป็นนักศึกษา ปวช.ปี 3 วิทยาลัยอาชีวศึกษากรุงเทพธุรกิจ พร้อมของกลางกระเป๋าสะพาย 1 ใบ ภายในบรรจุอาวุธปืนปากกา ขนาด .22 จ�ำนวน 1 กระบอก เครือ่ งกระสุนปืนขนาด .22 จ�ำนวน 6 นัด ปลอกกระสุนปืนขนาด .22 จ�ำนวน 11 นัด โดยจับกุมตัวได้ขณะที่ทั้งคู่กับพวก

เพือ่ นๆ ชายหญิง อีก 15 คนนัง่ รถประจ�ำทาง ขสมก.สาย 101 ผ่านด่านกวดขันวินยั จราจร บริเวณปากซอยรัชดา (ท่าพระ-ตากสิน) 12 แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กทม. สอบสวน นายกฤษฎา ให้การว่า วันนี้ เดินทางไปเรียนที่สถาบันย่านท่าพระตาม ปกติ โดยขากลับก็ได้ฝากกระเป๋าสะพาย ภายในบรรจุอาวุธปืนไว้ กับ น.ส.โอ๋ ก่อนขึ้น รถประจ� ำ ทางเนื่ อ งจากมี บ ้ า นพั ก อยู ่ ย ่ า น พระประแดง และต้องลงจากรถป้ายเดียว กัน สาเหตุที่ต้องหาปืนมาติดตัวก็เพราะเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา เคยถูกนักเรียนอาชีวะไม่ ทราบสั ง กั ด ไล่ ท� ำ ร้ า ยบริ เ วณถนนสมเด็ จ พระเจ้าตากสินมุ่งหน้าแยกพระราม 2 ถูกตี จนศี รษะแตก ขณะนี้ บาดแผลก็ยังไม่ตก สะเก็ด เบื้องต้นทั้ง นายกฤษฎา และ น.ส. น�ำ้ ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครือ่ ง กระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้ รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู ่ บ ้ าน และทางสาธารณะโดยไม่ได้รับ อนุญาต ก่อนส่งอาวุธปืน กระสุนปืน และ ปลอกกระสุ น ทั้ ง หมดไปตรวจสอบที่ ก อง พิสูจน์หลักฐาน ส่วนเพือ่ นๆ ชายหญิงทีน่ งั่ รถมาด้วย กันนั้นตรวจสอบแล้วเป็นเพื่อนร่วมสถาบัน มีทั้งระดับ ปวช.1 ปวช.2 และ ปวช.3 นั่ง รถรวมกันมา แต่ตรวจค้นไม่พบอาวุธหรือ ของผิ ด กฎหมายจึ ง สั่ ง การให้ พ นั ก งาน สอบสวนท� ำ ประวั ติเอาไว้ เพื่ อประสานผู้ ปกครองมารั บ ตั วกลั บ ไปเป็ น ตัวอย่ างคดี พิชติ สารพัดวายร้ายที่ “ผูก้ ารยิม้ ” ลุยสัง่ การ ด้วยตัวเอง...

ชัยสมรภูมิ 53


การค้ามนุษย์ “ดัชนีชี้วัด”

ความวิปริตของสังคมไทย!!

มนุษย์ได้รับการยกย่องจากมนุษย์ด้วยกันว่าเป็นสัตว์ประเสริฐ มีศาสนา, ประเพณี วัฒนธรรม และวิถีอารยะที่ สัตว์มชี วี ติ อืน่ ๆ ไม่มี และดูเหมือนว่ามนุษย์จะพอใจกับค�ำนิยามยกย่องและเชือ่ มัน่ สนิทใจว่าตัวเองมีความประเสริฐ สูงสุดโดยลืมที่จะตรวจสอบพฤติกรรมบางอย่างที่แสดงออกท่ามกลางการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ ด้วยกันไปจนถึงการที่มนุษย์อยู่ร่วมกันกับสัตว์มีชีวิตอื่นๆ ที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้

สัตว์ปา่ ทีม่ นี สิ ยั ดุรา้ ย ท�ำลายชีวติ อืน่ ก็แค่เพือ่ ความอยูร่ อด ล่าเหยือ่ เพือ่ เป็นอาหาร ฆ่ า ชี วิ ต อื่ น ที่ เ ป็ น ศั ต รู ที่ เ ข้ า มารุ ก รานชี วิ ต แม้ สั ต ว์ ป ่ า จะดุ ร ้ า ยเพี ย งไดก็ ไ ม่ ส ามารถ ท�ำลายชีวติ สัตว์อนื่ จนแทบจะสิน้ เผ่าพันธุไ์ ด้ แตกต่างกับมนุษย์ทปี่ ระเสริฐ ทีม่ วี วิ ฒ ั นาการ การฆ่า การล่าอันแหลมคมด้วยปัญญาอัน เป็นเลิศ มนุษย์สามารถคิดค้นหาอาวุธมา ใช้ฆ่ากันได้มากมาย หอก ดาบ ปืน ระเบิด เชื้อโรค มนุษย์ก็คิดหาค้นคว้ามาท�ำการฆ่า กันได้ เป็นความจริงทีไ่ ม่เคยได้รบั การพิสจู น์ ว่า ถ้าอาวุธนิวเคลียร์ที่มนุษย์สร้างขึ้นมาบน โลกนีท้ แี่ อบซุกซ่อนไว้ในก�ำแพงความมัน่ คง ของประเทศแห่งตน ระเบิดขึน้ มาพร้อมๆ กัน ผลที่เกิดขึ้นจะก่อให้เกิดหายนะรุนแรง โลก ใบสีน�้ำเงินนี้อาจจะถูกอาวุธนิวเคลียร์ย่อย สลายให้เป็นฝุ่นผงได้เพียงแค่ชั่วพริบตา มนุษย์หลงชืน่ ชมกับค�ำนิยามยกย่อง จนหลงลืมไปว่า มนุษย์เองนัน่ แหละทีม่ คี วาม

54 ชัยสมรภูมิ

ดุร้ายป่าเถื่อนมากกว่าสัตว์ป่าที่มีเขี้ยวเป็น ล้านเท่า แม้จะไม่มคี ำ� ท�ำนายใดๆ ของศาสดา พยากรณ์ แต่ปจั จัยทีจ่ ะท�ำให้โลกใบนีล้ กุ ท่วม เป็นไฟได้ ไม่ใช่สัตว์ป่ามีเขี้ยวร้ายเป็นแน่ที่ สามารถท�ำเรือ่ งร้ายรุนแรงเยีย่ งนีไ้ ด้ มนุษย์ ไม่เคยรูต้ วั ว่า มนุษย์นนั่ เองทีเ่ ป็นสัตว์มชี วี ติ ที่ อันตรายต่อโลกและสัตว์บนโลกใบนีม้ ากทีส่ ดุ การที่มนุษย์กระท�ำต่อสัตว์อื่นเยี่ยง สัตว์อื่นไม่มีชีวิตย่อมเป็นปกติที่มนุษย์ด้วย กันเองจะยอมรับและเพิกเฉยที่จะตั้งค�ำถาม สงสัยในความเป็นมนุษย์ด้วยกันได้ จึงไม่ แปลกที่ ม นุ ษ ย์ มี ค อกเลี้ ย งสั ต ว์ ที่ ส ามารถ เปลี่ยนมาเป็นรูปเงินสร้างความมั่งคั่งได้กัน ทั่วโลก ไม่แปลกหรอกที่มนุษย์จับสัตว์มีชีวิต อื่นมาขังคอกเพื่อไว้ดูสนุกเล่นเพลิดเพลิน และสร้างสวนสนุกโดยใช้ชีวิตสัตว์อื่นมาล่อ เพื่อเรียกเงินเข้ากระเป๋าของตัวเอง มนุษย์ คุ้นชินกับการน�ำสิ่งมีชีวิตอื่นมาสนองเพื่อ สร้างความมัง่ คัง่ ให้ตวั เอง แม้กระทัง่ ชีวติ ของ

มนุษย์ดว้ ยกันเอง มนุษย์กส็ ามารถคิดเอามา เป็ น สิ น ค้า ค้ าขายสร้ า งเงิ น ค้า ก� ำ ไรกันได้ อะไรที่ท�ำให้มนุษย์พาตัวเองมาสู่จุดที่รู้จัก น�ำมนุษย์มาเป็นสินค้า ขายกันได้ ความ ประเสริฐของมนุษย์หรือความบอดใบ้ทาง จริยธรรมของมนุษย์ ไม่ ป รากฏชั ด ในประวั ติ ศ าสตร์ ว ่ า มนุษย์รู้จักน�ำมนุษย์ด้วยกันมาเป็นสินค้าซื้อ ขายกันได้ในยุคใดสมัยใด แต่เป็นทีเ่ ชือ่ กันได้วา่ ตัง้ แต่มปี ระวัตศิ าสตร์ของมนุษย์ มนุษย์ยอ่ ม รู ้ จั ก การเอาเปรี ย บเบี ย ดเบี ย นมนุ ษ ย์ ที่ อ่อนแอและด้อยโอกาสกว่ามาทุกยุคทุกสมัย มนุษย์สมัยโบราณอาจจะใช้ก�ำลังเข้าบังคับ มนุษย์ทอี่ อ่ นแอกว่าเพือ่ ให้ทำ� ในสิง่ ทีต่ อ้ งการ ผ่านยุคโบราณมาจนถึงยุคร่วมสมัย มนุษย์ ที่มีความแข็งแรงทางสังคมและแข็งแรง ทางการเงินมากกว่าก็ยังใช้ทุนก�ำลังไม่ว่าจะ เป็นก�ำลังเงินหรือก�ำลังทางสังคมที่มีอยู่เข้า บั ง คั บ กดดั น เพื่ อ ให้ ม นุ ษ ย์ อื่ น สร้ า งผล ประโยชน์ให้กบั ตัวเอง ในยุคทาสเราเคยได้ยนิ ว่ามีบริษัทค้ามนุษย์ ในยุ ค ปั จ จุ บั น เราก็ยัง ได้ยินกันว่ามีขบวนการค้ามนุษย์ และดูราว กับว่า ขบวนการค้ามนุษย์ในปัจจุบันจะมี ความซั บ ซ้ อ นในการสร้ า งหายนะให้ กั บ จริ ย ธรรมของความเป็ น มนุ ษ ย์ ไ ด้ รุ น แรง สาหัสกว่ายิ่งนัก


แม้จะผ่านยุคทาสมานานนัก แต่การ ซื้อขายมนุษย์ก็ยังคงมีให้พบเห็นอยู่ทุก มุมโลก นับวันการค้ามนุษย์ยิ่งเพิ่มวิกฤต รุ น แรงบั่ น ทอนความมั่ น คงของสั ง คม มนุษย์จนกลายเป็นปัญหาที่เรื้อรังยากที่ จะมีทางแก้ไขเยียวยา ปัจจัยส�ำคัญที่ท�ำให้ การค้ามนุษย์ยงั รุง่ เรืองอยูไ่ ด้ คือการเพิม่ ขึน้ ของประชากรโลก ก่อให้เกิดภาวะความ ยากจนด้อยโอกาสในหมู่ประชากรส่วนใหญ่ การอพยพย้ายถิ่นเพื่อหางานสร้างเงินในหมู่

ประชากรโลกที่ยากจนเพิ่มขึ้น ตรงนี้เองที่ เป็ น จุ ด อ่ อ นให้ กั บ มนุ ษ ย์ ที่ แ สวงผล ประโยชน์บนชีวิตของมนุษย์อื่นได้มีช่องทาง หาก�ำไรจากการค้ามนุษย์ได้อย่างมั่งคั่ง ส�ำหรับประเทศไทย ซึง่ เป็นประเทศ ทีไ่ ด้รบั การยกย่องจากชาวโลกว่าเป็นประเทศ แห่งรอยยิม้ รอบๆ รอยยิม้ เต็มไปด้วยวัดของ ชาวพุทธ มัสยิดของชาวมุสลิม โบสถ์ของ ชาวคริสต์ แต่เบื้องหลังรอยยิ้มและความ อลังการของศาสนสถานของแต่ละศาสนา

ใครจะเชื่อว่า ประเทศไทยแห่งนี้คือแหล่ง บ่ ม เพาะของกระบวนการการค้ า มนุ ษ ย์ แหล่งใหญ่ระดับต้นๆ ของโลก ในเรือประมง เต็มไปด้วยแรงงานทีถ่ กู กดขี่ ในโรงงานเต็ม ไปด้วยแรงงานเถื่อน บนสะพานลอยและ ริมทางเดินเต็มไปด้วยขอทานที่ถูกบังคับให้ มานัง่ ขอเงิน และในซ่องเต็มไปด้วยโสเภณีที่ ถูกหลอกล่อให้มาขายบริการ ความชุกชุม ของโสเภณีในประเทศไทยโด่งดังเป็นที่ รับรูแ้ ละสนใจของชาวโลก จนชาวต่างชาติ น�ำเอาชื่อเมืองหลวงของประเทศไทยไป นิยามกันว่า “กรุงเทพคือเมืองที่มีโสเภณี ชุกชุม” เชือ่ ว่าหลายคนยังคงจ�ำกันได้ดี เป็น เรื่องเป็นราวใหญ่โตเมื่อไม่นานปีมานี้เอง เมื่ อ พู ด ถึ ง กรุ ง เทพเป็ น เมื อ งที่ มี โสเภณีชุกชุม ก็ท�ำให้นึกถึงเหตุการณ์ที่เจ้า หน้าทีบ่ กุ เข้าไปตรวจค้น นาตารี อาบ อบ นวด แถวย่า นรั ช ดา และพบว่ า มี หญิงสาวทั้ง ชาวไทยและต่างด้าวกว่า 100 ชีวติ ท�ำหน้าที่ ขายบริการทางเพศ และในหญิงสาวจ�ำนวน มากนั้นยังมีเด็กสาวที่อายุต�่ำกว่า 18 ปีรวม อยู่ด้วย แต่ไม่ว่าหญิงสาวที่ขายบริการทาง เพศจะอายุกี่ปีก็ไม่ส�ำคัญ เพราะขึ้นชื่อว่า ขายบริการทางเพศย่อมผิดกฎหมายทั้งนั้น และที่ส�ำคัญและน�ำความอัปยศมาสู่วงการ เจ้าหน้าทีร่ ฐั เป็นอย่างสูงนัน่ ก็คอื ในการตรวจ ค้นได้เจอสมุดบัญชีที่บันทึกการจ่ายส่วยให้ กับเจ้าหน้าทีร่ ฐั มากกว่าหนึง่ คน ย่อมหลีกเลีย่ ง ที่จะพูดไม่ได้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐที่มีชื่อในสมุด บันทึกการจ่ายส่วย คือต�ำรวจและเจ้าหน้าที่ ของกรุงเทพมหานครบางคน ถ้าติดตามข่าวกันอย่างใกล้ชดิ มีประเด็น ทีช่ วนให้ตอ้ งคิดว่า นาตารี อาบ อบ นวด เป็น สถานขายบริการทางเพศขนาดใหญ่ รอดหู พ้นตาเจ้าหน้าที่รัฐมาได้อย่างไร ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้รับ การร้ อ งเรี ย นจากองค์ ก รพั ฒ นาเอกชน ระหว่างประเทศด้านต่อต้านการค้ามนุษย์

ชัยสมรภูมิ 55


“NVADER”ว่า ในนาตารี อาบ อบ นวด มีการค้าบริการ ทางเพศ จะมีการเข้าตรวจค้นจับกุมกันหรือไม่ และเป็นที่ รูก้ นั ในหมูน่ กั ท่องราตรีวา่ แถวย่านรัชดาไม่ได้มแี ค่นาตารี อาบ อบ นวด เพียงแห่งเดียวที่เปิดอยู่ ท�ำให้คิดไปได้ว่า การเข้าตรวจค้นจับกุม นาตารี อาบ อบ นวด ในครั้งนี้ เป็นแค่การเลือกปฏิบัติหรือทนต่อ กระแสกดดันของค�ำร้องเรียนของ “NVADER” ไม่ได้ เจ้าหน้าทีร่ ฐั จึงมี ความจ�ำเป็นทีจ่ ะต้องไม่นงิ่ เฉย และจากทีส่ ายตาชาวโลกมองว่ากรุงเทพ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยโสเภณี สถานขายบริการทางเพศแห่งอื่นที่มี อยู่ในกรุงเทพเล่าจะต้องรอให้ “NVADER” ร้องเรียนอีกใช่หรือไม่ เจ้าหน้าที่รัฐจึงจะเคลื่อนไหวไปท�ำหน้าที่กันอย่างจริงจัง ถ้าพูดและ คิดกันด้วยความเคยชิน ก็พอจะรับกันได้วา่ ต�ำรวจก็หากินกับส่วยจาก สถานบริการทางเพศมานานแล้ว มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติ การเข้าตรวจค้น นาตารี อาบ อบ นวด ของเจ้าหน้าทีร่ ฐั ครัง้ นี้ ไม่ได้พบแต่เพียงหญิงขายบริการ สมุดบัญชีบนั ทึกการจ่ายส่วย ยังพบว่า เจ้าหน้าทีร่ ฐั ทีร่ บั ส่วยยังมีการออกสติก๊ เกอร์ให้กบั หญิงทีข่ ายบริการทาง เพศ นัน่ หมายความว่า หญิงสาวคนใดมีสติก๊ เกอร์ไว้ในครอบครองก็สามารถ ขายบริการทางเพศได้อย่างเสรี ไม่มีอ�ำนาจกฎหมายใดมารบกวน ท�ำให้เดือดร้อนใดๆ ได้ หรือว่าสถานบริการทางเพศแห่งอืน่ ทีไ่ ม่มกี ารเข้า ตรวจค้นจับกุม มีสติก๊ เกอร์ทศี่ กั ดิส์ ทิ ธิม์ ากกว่าสติก๊ เกอร์อย่างที่ นาตารี อาบอบนวด ครอบครองอยู่ การพูดถึงประเด็นที่เจ้าหน้าที่รัฐบางกลุ่มคนออกสติ๊กเกอร์ ให้กับหญิงที่ขายบริการทางเพศ ไม่มีเจตนาที่จะลบหลู่หรือดูหมิ่น เจ้าหน้าทีร่ ฐั อืน่ ๆ ทีไ่ ม่เกีย่ วข้องแม้นอ้ ยนิดแต่เมือ่ มาถึงตรงนีแ้ ล้ว จ�ำเป็น มากทีจ่ ะต้องพูดกันให้ถงึ รากเหง้าของแผ่นดินไทย เพราะประเทศไทย ของเรามีการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็น ประมุขสูงสุดของแผ่นดิน และถ้าในแผ่นดินของพระองค์มขี า้ ราชการ ของพระองค์ บั ง อาจออกสติ๊ ก เกอร์ ที่ จ ะให้ ใ ครก็ ไ ด้ ส ามารถขาย

56 ชัยสมรภูมิ

บริการทางเพศบนแผ่นดินที่พระองค์เป็นประมุขอยู่ได้อย่างเสรี ขอให้ปวงชนชาวไทยคิดเถิดว่า ณ บัดนี้ ได้มีข้าราชการของ พระมหากษัตริย์ได้ท�ำเรื่องเลวร้ายรุนแรงอย่างไม่มีเหตุผลใดที่ จะต้องให้อภัยกันได้ การค้ามนุษย์ในรูปแบบของการขายบริการทางเพศไม่ได้ ชุกชุมอยู่แต่ในกรุงเทพ ตามจังหวัดเล็กอ�ำเภอน้อยที่มีเงินเข้าไปถึง ก็มใี ห้พบกันได้งา่ ยดายไม่ตา่ งจาก เซเว่น อีเลฟเว่น และในทุกสถานที่ ที่มีการขายบริการทางเพศก็มีการจ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่รัฐไม่ต่าง จากส่วยจากสถานบริการทางเพศในกรุงเทพ ทัง้ ๆ ทีส่ ถานบริการทาง เพศเป็นสถานทีต่ อ้ งห้ามทางกฎหมาย แต่นบั วันสถานบริการทางเพศ ลอยหน้ากันเปิดตัวให้บริการเพิม่ มากขึน้ ๆ ทุกที ถ้าไม่มกี ารแก้ปญ ั หา เจ้าหน้าที่รัฐไม่ปราบปรามกันอย่างจริงจัง ถ้ามือกฎหมายยังขาด ความศักดิส์ ทิ ธิ์ เชือ่ เถอะว่า วันหนึง่ ข้างหน้าชาวต่างชาติจะรู้จักและ นิยามเมืองไทยว่า “เมืองไทยคือเมืองที่ถูกหล่อเลี้ยงด้วยน�้ำกาม!!”


การขายบริการทางเพศเป็นการค้า มนุษย์แค่เพียงรูปแบบหนึ่งที่พบเห็นได้ไม่ ยากในประเทศไทย ยังมีรปู แบบการค้ามนุษย์ อีกรูปแบบหนึ่งที่ไม่ต่างจากการน�ำมนุษย์ ด้วยกันไปเป็นทาส แสวงหาผลประโยชน์จาก แรงงานหยาดเหงื่อของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เราจะพบเห็นสินค้ามนุษย์จะถูกขายไปใช้ แรงงานในเรือประมง โรงงานทอผ้า ถูกไป ใช้แรงงานให้ท�ำสวน เป็นคนใช้ในบ้านของ มนุษย์ทมี่ อี นั จะกิน บ่อยครัง้ ทีเ่ รามักจะพบศพ ลูกเรือชาวต่างด้าวโดยไม่รู้ที่มาสาเหตุของ การตาย บ่อยครัง้ เราจะได้รบั รูข้ า่ วว่าเจ้าของ โรงงานกดขี่คา่ แรง ใช้แรงงานเพื่อนมนุษย์ ด้ ว ยกั น ราวกั บ เป็ น เครื่ อ งจั ก รที่ ไ ม่ มี ชี วิ ต

สิ น ค้ า มนุ ษ ย์ บ างมนุ ษ ย์ ถู ก กระท� ำ รุ น แรง จนถึงกับร่างกายพิการ หลังจากนัน้ นายแห่ง ชี วิ ต ก็ บั ง คั บ ขู ่ เ ข็ ญ ด้ ว ยวิ ธี ก ารโหดเหี้ ย ม ต่างๆ นานาให้ไปนัง่ ขอทานเพือ่ ให้ได้มาซึง่ เงิน และมี บ ่ อ ยครั้ ง ที่ เ ราจะได้ รั บ ข่ า วเศร้ า ว่ า ลูกจ้างที่ถูกกดขี่ข่มเหงทนต่อความกดดัน ของนายจ้างไม่ไหวลุกขึ้นทวงความยุติธรรม ด้วยตัวเองด้วยการลงมือสังหารนายจ้าง เสียให้ตาย มีปัญหามากมายที่เกิดขึ้นจาก การค้ามนุษย์เยี่ยงทาส และไม่มีทีท่าว่าจะ ได้รับการแก้ไขให้ปัญหาหมดไปจากแผ่นดิน ไทยถ้าจะพูดถึงสินค้ามนุษย์ที่ถูกน�ำไปใช้ใน ตลาดแรงงาน และถูกเอารัดเอาเปรียบจาก นายจ้าง ณ ชั่วโมงนี้ คงไม่มีประเด็นร้อนใด

จะร้อนเท่าประเด็นของ หญิงไก่ ซึง่ เป็นข่าว ฉาวโฉ่อยู่ในวงสังคมวันนี้ หญิงไก่เป็นใคร มีทมี่ าทีไ่ ปตัวตนเป็น เช่นไร กลายเป็นประเด็นหลักในการถกเถียง ของคนในวงการสังคมสนุกปากกันไปทั่วทิศ เธอเป็นใคร เป็นภรรยาของเจ้าใหญ่นายโต คนไหน เป็นคุณหญิงจริงหรือ สนิทกับเชื้อ ราชนิกุลท่านใด สิ่งที่เธอท�ำเข้าข่ายนิยาม การค้ามนุษย์หรือไม่ ยิง่ ถกเถียงกันไปต่างๆ นานาก็ยิ่งนับได้ว่าที่มาที่ไปความเป็นตัวตน ของหญิ ง ไก่ ยั ง ลึ ก ลั บ อยู ่ ใ นต่ อ มรั บ รู ้ ข อง สังคม แต่สงิ่ ทีห่ ญิงไก่ซงึ่ เป็นผูห้ ญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งได้ก่อกรรมกระท�ำไว้ไม่ใช่เรื่องเล็ก น้อยและไม่ธรรมดาเอาเสียเลย และการกระท�ำ ของเธอย่ อ มเข้ า ข่ า ยการค้ า มนุ ษ ย์ อย่าง แน่นอน เพราะการค้ามนุษย์มนี ยิ ามไว้วา่ “การ จัดหา ขนส่ง ส่งต่อ พามาซ่อนเร้น หรือรับ บุคคลโดยวิธกี ารบังคับ ข่มขู่ หรือการหลอกลวง หลอกล่อให้เชือ่ ฉ้อฉล หรือการใช้อำ� นาจเหนือ กว่าโดยมิชอบ หรือเพราะบุคคลนั้นอยู่ใน สถานการณ์เปราะบาง หรือได้รบั ค่าจ้างหรือ จ่ า ยค่ า ตอบแทนให้ บุ ค คลนั้ น เพื่ อ ให้ เ กิ ด ความยินยอมพร้อมใจและเพื่อให้มีอ�ำนาจ ควบคุมเหนือบุคคลคนนั้น เพื่อน�ำไปสู่การ ขู ด รี ด เอารั ด เอาเปรี ย บและแสวงหาผล ประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งการเอา เปรี ย บทางเพศหรื อ จากการค้ า ประเวณี การบังคับใช้แรงงานเยี่ยงทาสหรือการค้า ชิ้นส่วนของร่างกายของบุคคลคนนั้น” จากนิยามของการค้ามนุษย์ เมื่อดู การกระท�ำของหญิงไก่ที่กระท�ำต่อลูกจ้าง แต่ละคน ซึง่ ความฉ้อฉลหลอกลวง ใช้อำ� นาจ ความเป็นนายจ้างสร้างเรื่องเท็จขึ้นมาจน ท�ำให้ลกู จ้างบางคนถึงกับต้องติดคุก ลูกจ้าง บางคนต้องหลบๆ ซ่อนๆ เพราะยอมรับไม่ ได้กับคดีความผิดที่ตนไม่ได้เป็นผู้กระท�ำ การฉ้ อ ฉลหลอกลวงใช้ อ� ำ นาจของความ เป็นนายจ้างโดยไม่ชอบของหญิงไก่ย่อม

ชัยสมรภูมิ 57


เข้าข่ายความเป็นนักค้ามนุษย์อย่างหลีก เลี่ยงไม่ได้ ลูกจ้างมากกว่า 10 คน ได้รับ เคราะห์กรรมจากความเป็นนักฉ้อฉลลวง โลกของหญิงไก่ แต่ละคนได้รบั เคราะห์กรรม ที่คล้ายๆ กัน เริ่มจากการที่หญิงไก่ชักชวน มาให้ท�ำงานในบ้าน และจบลงด้วยลูกจ้าง แต่ละคนถูกหญิงไก่กล่าวหาว่าขโมยเงิน ทองทรัพย์สนิ ถ้าแค่คำ� กล่าวหาลอยๆ คงจะ ไม่ มี อ ะไรให้ ต ้ อ งเดื อ ดร้ อ นและมานั่ ง พู ด ถึงกันมากมาย แต่นี่ไม่เพียงแค่ค�ำกล่าวหา ลอยๆ หลังจากทีห่ ญิงไก่สร้างเรือ่ งกล่าวหาว่า ลู ก จ้ า งของตนขโมยเงิ น ทองทรั พ ย์ สิ น หญิงไก่ก็ไปแจ้งความให้เจ้าหน้าที่รัฐด�ำเนิน คดีลกู จ้างของตน ลูกจ้างบางคนถึงกับถูกศาล ตั ด สิ น จ� ำ คุ ก ลู ก จ้ างบ้างคนก็หลบหนีค�ำ กล่าวหาในคดี เมื่อความฉ้อฉลลวงโลกของ หญิงไก่ถึงเวลากัดกินชีวิตของหญิงไก่เอง ความฉ้อฉลลวงโลกของหญิงไก่ก็ถูกตีแผ่ ให้สังคมได้เห็นความจริงอีกด้านหนึ่ง และ เมื่อมาถึงวันนี้สรุปได้ชัดว่า ทุกคดีทหี่ ญิงไก่ ไปแจ้งความให้เจ้าหน้าที่รัฐด�ำเนินคดีกับ ลูกจ้างเป็นคดีลวงโลกทั้งสิ้น เกิ ด อะไรขึ้ น กั บ ระบบการสื บ สวน สอบสวนของเจ้าหน้าทีต่ ำ� รวจ หลังจากหญิง ไก่ไปแจ้งความด�ำเนินคดีก็สรุปได้ทันทีเลย หรื อ ว่ า ลู ก จ้ า งของหญิ ง ไก่ มี ค วามผิ ด จริ ง เจ้าหน้าที่ต�ำรวจบางนายถึงกับพูดออกมา ตรงๆ ว่า ที่ท�ำไปที่เชื่อไปเพราะเกรงใจและ กลัวในอ�ำนาจบารมีความเป็นคุณหญิงของ หญิงไก่ ถ้าประเทศนี้คุณหญิงทุกคุณหญิง ตบเท้ า พร้ อ มกั น เดิ น ไปแจ้ ง ความเท็ จ เยีย่ งการกระท�ำของหญิงไก่ อะไรจะเกิดขึน้ กับสถาบันผู้รักษากฎหมายของประเทศ ไทย?? ความสะเพร่าของระบบการสืบสวน สอบสวนของเจ้ า หน้ า ที่ ต� ำ รวจท� ำ ให้ ก ่ อ ความผิ ด และเสี ย หายไปถึ ง ระดั บ ชั้ น ศาล เป็นที่รู้กันว่า อ�ำนาจศาลนั้นเป็นอ�ำนาจที่ได้ รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในตัวแทนอ�ำนาจ ของพระมหากษัตริย์ ซึง่ เป็นอ�ำนาจทีส่ ามารถ ชี้ชะตาความถูกผิดต่อชีวิตใดชีวิตหนึ่งได้ ความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ต�ำรวจในขั้น ตอนการสืบสวนในทุกคดีของลูกจ้างของ หญิงไก่ ท�ำให้บางคดีที่ต้องไปตัดสินกันใน ชัน้ ศาล และอ�ำนาจศาลก็ได้ตดั สินให้ลกู จ้าง ของหญิงไก่ต้องติดคุก ถ้าศาลตัดสินคนที่

58 ชัยสมรภูมิ

ไม่มีความผิดให้ต้องติดคุกจะโยนความผิด พลาดอันใหญ่หลวงนี้ไปให้ใครรับผิดชอบได้ ถ้าแค่ความเป็นคุณหญิงลวงโลกของหญิง ไก่ต้องท�ำให้เจ้าหน้าที่ต�ำรวจเชื่อในทุกค�ำ พูดของหญิงไก่ ถ้าความเป็นคุณหญิงลวงโลก ของหญิงไก่ต้องท�ำให้ผู้พิพากษาเชื่อในทุก ค�ำพูดของหญิงไก่ สังคมไทยจะคาดหวังหา ความดีงามใดได้จากเจ้าหน้าที่รัฐอีกเล่า แม้ ก ารค้ า มนุ ษ ย์ จ ะมี โ ฉมหน้ า รู ป แบบหลากหลายและหลายกลุ่มคนที่แสวง ผลประโยชน์จากการค้าเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ในทีน่ ี้ การเอาประเด็นของหญิงไก่และนาตารี อาบ อบ นวด มาพูดถึง เพราะต้องการชี้ให้ เห็นว่า อาชญากรที่สร้างอาชญากรรมใน การค้ า มนุ ษ ย์ อ ยู ่ ไ ด้ ไ ม่ ว ่ า จะเป็ น การค้ า มนุษย์ในรูปแบบใดมักจะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐ เกี่ยวข้องอยู่เสมอ การออกสติ๊กเกอร์ให้มี การขายบริการได้เสรีของเจ้าหน้าที่ต�ำรวจ จะแตกต่างอะไรกับการที่เจ้าหน้าที่ต�ำรวจ ให้ความสะดวกในการสร้างคดีเท็จได้เสรี ของหญิงไก่ อาจจะมีความต่างอยูส่ กั เล็กน้อย ตรงที่เจ้าหน้าที่ต�ำรวจตั้งใจจะรับส่วยจาก เจ้าของสถานบริการ นาตารี อาบ อบ นวด แต่ในกรณีของหญิงไก่ เจ้าหน้าทีต่ ำ� รวจกลาย เป็ น เหยื่ อ ให้ นั ก ค้ า มนุ ษ ย์ อ ย่ า งหญิ ง ไก่ หลอกลวงต้มตุ๋นจนเปื่อยเละ การค้ามนุษย์เป็นปัญหาระดับชาติ มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ แม้ จะมีการเฝ้าระวังปราบปราม แต่แทบจะจัดการ อะไรกับปัญหาไม่ได้เลยสักเพียงนิด ปัญหา ใหญ่ อ ยู ่ ต รงที่ เ จ้ า หน้ า ที่ รั ฐ เป็ น ผู ้ ค อยให้ ความสะดวกในการด�ำเนินกิจการของนักค้า

มนุ ษ ย์ เ สี ย เองจนท� ำ ให้ ป ระเทศไทยมี ภาพลักษณ์ไม่ค่อยดีนักในสายตาชาวโลก โดยมองว่าประเทศไทยเพิกเฉยที่จะร่วมกัน แก้ ป ั ญ หาการค้ า มนุ ษ ย์ แ ค่ นั้ น ยั ง ไม่ พ อ ประเทศไทยยั ง เป็ น ที่ เ พาะบ่ ม ให้ ก ารค้ า มนุ ษ ย์ ใ นเอเชี ย ตะวั น ออกเฉี ย งใต้ เ พิ่ ม วิกฤติความรุนแรงมากขึ้น ไม่ ว ่ า เหยื่ อ การค้ า มนุ ษ ย์ จ ะเป็ น ประเภทใดชนชาติใด เหยือ่ เหล่านัน้ ย่อมเป็น มนุษย์ มีเลือดเนือ้ มีชวี ติ ต้องการสิง่ ทีด่ ที สี่ ดุ ในชีวิต แต่เมื่อเหยื่อเหล่านั้นถูกกระท�ำจาก มนุษย์ด้วยกัน ราวกับว่าเหยื่อการค้ามนุษย์ ไม่ใช่มนุษย์ ต้องกลับมาตรวจสอบกันอย่าง จริงจังว่า มนุษย์มีความประเสริฐสูงส่งกว่า สัตว์อื่นจริงหรือ ถ้ามนุษย์มีความประเสริฐ สูงส่งจริง ท�ำไมถึงกระท�ำกับมนุษย์ด้วยกัน อย่างไร้เมตตาเยีย่ งนี้ พอจะสรุปได้วา่ ไม่วา่ สั ง คมมนุ ษ ย์ จ ะพั ฒ นาเจริ ญ ก้ า วหน้ า ทาง วัตถุมากมายเพียงใด จิตใจของมนุษย์ก็ยัง ตกต�ำ่ ทีส่ ดุ ซึง่ ความตกต�ำ่ ทางจิตใจของมนุษย์ มั น ร้ า ยแรงยิ่ ง กว่ า ที่ พ บเจอใน...อสรพิ ษ ร้าย!! นับว่าเป็นเรือ่ งทีช่ วนให้นา่ ติดตาม เมือ่ นากยกรัฐมนตรี พล.อ ประยุทธ์ จันทร์ โอชา ประกาศจะท�ำลายล้างกระบวนค้า มนุ ษ ย์ ใ นประเทศไทยให้ ห มดหายไป อ� ำ นาจรั ฐ อ� ำ นาจแห่ ง ความดี ง ามในหั ว ใจ ของมนุษย์ จะเอาชนะอ�ำนาจเถื่อน อ�ำนาจ เงินของนักค้ามนุษย์ได้หรือไม่ โปรดติดตาม ไปพร้อม ๆ กันอย่างใกล้ชิด


เปิดประตูสู่รัฐมอญกับอภิมหาโปรเจคระดับเวิลด์คลาส ที่โลกต้องจับตามอง ผ่านบทสัมภาษณ์พิเศษของ ผอ.หมวย- ดร. สุภัตทา จันทรรังษี หญิงเหล็กแห่ง ฮัจยี กรุ๊ป เผย ทุกๆ ผลงานคือความรับผิดชอบ ชี้ ความโปร่งใสต้องคูค่ ณ ุ ธรรม ระบุ พร้อมตอบแทนสูส่ งั คม ประกาศชัด “ความสามัคคีคอื พลังอันยิง่ ใหญ่” นั บ ตั้ ง แต่ ส าธารณรั ฐ แห่ ง สหภาพ เมียนมา ได้ท�ำการเปิดประเทศออกสู่สากล ท่ า มกลางการจั บ ตามองของประชาคม โลกเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น บรรดานักคิด นักวิเคราะห์จากทั่วทุกมุมโลกต่างก็ได้ออก มาแสดงความคิดเห็นและให้ทรรศนะเอาไว้ อย่ า งน่ า สนใจในหลากหลายประเด็ น ว่ า สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ก�ำลังจะขับ เคลื่อนประเทศออกไปสู่น่านน�้ำและแผ่น ดิ น อั น เป็ น สากลอยู ่ บ นแนวทางเข็ ม ทิ ศ ที่ สามารถเรียกได้วา่ มีความท้าทายเป็นอย่าง ยิ่งเลยทีเดียว โดยปฏิเสธไม่ได้ว่าการเปิดประตูสู่ ฟ้าใหม่ของสหภาพเมียนมา ในครัง้ นี้ ถือเป็น โอกาสครั้งส�ำคัญของประเทศไทย ในฐานะ ประเทศเพื่อนบ้านที่มีศักยภาพมากเพียง พอในการเข้ า ไปสานต่ อ ด้ า นการพั ฒ นา ระบบโครงสร้ า งพื้ น ฐานให้ มี ค วามเจริ ญ

ก้าวหน้าไปได้อย่างก้าวกระโดด จึงท�ำให้พม่า หรือ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ใน ปัจจุบนั นี้ ไม่ได้เป็นดินแดนทีล่ บั ตาประชาคม โลกอย่างเช่นในอดีตอีกต่อไป หากทว่าจะ กลายเป็นสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ที่หอมหวนไปด้วยเสรีภาพและความเจริญ ก้าวหน้าในทุกๆ มิติทางสังคม ขณะเดียวกัน ก็สามารถเรียกได้ว่า ทั้งภาครัฐและเอกชนของประเทศไทยเองก็ ไม่ได้ปล่อยผ่านในเรื่องดังกล่าวไปแต่อย่าง ใด โดยล่าสุดนี้ นอกจากการขยายความร่วมมือ ระหว่างประเทศที่ผ่านมานั้น ทางด้านภาค เอกชนหรือ ผู้ประกอบการไทยก็ได้เข้าไป ด�ำเนินการในพันธกิจส�ำคัญๆ ในหลายโครง การแล้วเช่นกัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ไฮไลท์ส�ำคัญที่ก�ำลังได้รับความสนใจเป็น อย่างมากจนถึงมากทีส่ ดุ นัน่ ก็คอื ความส�ำเร็จ ของ บริษัท ฮัจยี กรุ๊ป จ�ำกัด ที่ก�ำลังมุ่งมั่น

ด�ำเนินงานเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้าง พืน้ ฐานในทุกๆ ด้าน ซึง่ มีโครงการทีน่ า่ สนใจ ก็คือการที่ ฮัจยี สามารถบรรลุข้อตกลงจน กระทั่งน�ำไปสู่การลงนามในสัญญากิจการ การลงทุนร่วม ไทย-มอญ 78 โครงการ ตาม แผนพัฒนาเศรษฐกิจ เขตเยทาวน์ รัฐมอญ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา นอกจากนัน้ ยั ง มี สั ญ ญาร่ ว มลงทุ น สั ม ปทานเหมื อ ง แร่ดีบุกและทังสเตนอีกด้วย ทั้งนี้ ถือได้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยที เดียว ทีท่ ำ� ให้บริษทั ฮัจยี กรุป๊ จ�ำกัด สามารถ ก้ าวเข้า มาสานต่ อโครงการอันเป็นความ หวังของชาวมอญได้อย่างภาคภูมิใจ แต่ ณ วันนี้ ฮัจยี กรุ๊ป ได้ประกาศชื่อเอาไว้ให้โลก ได้จดจ�ำด้วยผลงานทีพ่ สิ จู น์แล้วจากศักยภาพ ที่น�ำไปสู่ผลงานอันเป็นรูปธรรมที่จะระเด่น เป็นประจักษ์ ยูบ่ นแผ่นดินรัฐมอญไปอีกตราบ นานเท่านาน โดย ผอ.ดร. สุภัตทา จันทรรังษี ใน ฐานะประธานกรรมการ บริษทั ฮัจยี กรุป๊ จ�ำกัด ได้เปิดเผยกับทีมข่าวชัยสมรภูมิเอาไว้อย่าง น่าสนใจว่า “ส�ำหรับ ฮัจยี กรุ๊ป เราเติบโต ขึ้นมาด้วยผลงานที่สืบเนื่องมาจากความ สุจริตต่อหน้าที่ในงานหรือภารกิจที่รับผิด ชอบ ซึ่งในตอนต้นนั้น ฮัจยี เปิดบริษัทในปี 2549 ด้วยทุนจดทะเบียนเพียง 1 ล้านบาท โดยเริ่มมาจากธุรกิจอสังหาริม ทรัพย์ ที่ดิน และโครงการบ้านจัดสรร ซึง่ กลายเป็นที่ยอม รับต่อๆ กันมาและขยายวงกว้างออกไปอย่าง ต่อเนื่องจนกระทั่งได้รับความไว้ว างใจให้

ชัยสมรภูมิ 59


ด�ำเนินการในโครงการใหญ่ๆ มาแล้วอย่าง มากมายทั้งในเรื่องโครงการบ้านจัดสรร งาน ด้านสาธารณูปโภค หรือแม้แต่การพัฒนาโครง สร้างพื้นฐานที่ส�ำคัญๆ เป็นต้น และผลจากความสุจริตต่อหน้าที่ใน งานหรือภารกิจทีร่ บั ผิดชอบนัน้ จึงน�ำมาสูค่ วาม ภาคภูมิใจอันเป็นรูปธรรมของ บริษัท ฮัจยี กรุป๊ ทีไ่ ด้รบั โอกาสและความไว้วางใจให้เป็น ผู้น�ำของกลุ่มบริษัทในเครือ บริษัท ฮัจยีกรุ๊ป จ�ำกัด ให้เข้าร่วมรับงานในโครงการต่างๆ ของ ภาครัฐและเอกชน และนอกจากนี้ ฮัจยี ก็ยงั คงเดินหน้าต่อไปสูก่ ารด�ำเนินงานในโครงการ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเพื่อน บ้านอีกหลายโครงการ โดยเฉพาะในประชาคม

60 ชัยสมรภูมิ

เศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งขณะนี้มีกลุ่มบริษัทใน เครือ ฮัจยี กรุป๊ จ�ำกัด รวมแล้วถึง 153 บริษทั ด้วยกัน ซึ่งก็ถือเป็นนิมิตรหมายอันดียิ่งที่มี โอกาสได้ร่วมงานกับทุกๆ บริษัทเพื่อที่จะได้ เดินทางไปสูค่ วามส�ำเร็จพร้อมๆ กันด้วยความ สมัครสมานสามัคคีใจ ส�ำหรับในปัจจุบนั บริษทั ฮัจยี กรุป๊ จ�ำกัด มีทนุ จดทะเบียนถึง 500,000,000,000 ล้านบาท พร้อมทัง้ ต้องยอมรับว่า โชคดีทไี่ ด้ ผู้ร ่ว มงานที่มี ศั ก ยภาพและเปี ่ ย มล้ น ด้ วย ความสามารถและทีส่ ำ� คัญก็คอื มีจติ สาธารณะ เช่นเดียวกัน ซึ่งที่ผ่านมา ฮัจยี ได้ร่วมกับ มูลนิธิอาสาบรรเทาสาธารณภัย ส�ำนักงาน ต�ำรวจแห่งชาติ และร่วมมือกับองค์กรการ

กุศล โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อท�ำงานด้านจิต อาสา ช่วยเหลือสังคมและด้านการศึกษา โดย ได้ ม อบทุ น ให้ แ ก่ เ ด็ ก และเยาวชนที่ ข าด แคลนทุ น การศึ ก ษา พร้ อ มทั้ ง ช่ ว ยเหลื อ ประชาชนที่ ไ ด้ รั บ ความเดื อ ดร้ อ นจากภั ย พิบัติตา่ งๆ เพื่อแบ่งเบาภาระของหน่วยงาน ราชการ โดยมุง่ ปฏิบตั หิ น้าทีด่ ว้ ยความเต็มใจ อย่างมิได้คาดหวังในสิ่งตอบแทนใดๆ ตาม อุดมการณ์ ทีท่ ำ� ให้ ฮัจยี มีความเจริญก้าวหน้า อย่างยั่งยืนมาได้ในตลอดระยะเวลาที่ผ่าน มาคือ มีความสุจริตต่อหน้าทีแ่ ละงานหรือ ภารกิจที่รับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม ในฐานะหัวเรือใหญ่ที่ จะต้องขับเคลือ่ นพันธมิตรในเครือ ฮัจยี กรุป๊ ให้ประสบความส�ำเร็จให้ได้ทกุ ๆ บริษทั ควบคู่ กันไปกับการตอบแทนสังคมนั้น เมื่อถามว่า การช่วยเหลือสังคมเยอะๆ แล้วเคยเหนื่อย บ้างหรือไม่ก็สามารถตอบได้ทันทีว่าไม่เคย เหนือ่ ยเลย แต่สำ� หรับงานธุรกิจนัน้ ก็ยอมรับ ว่ามีบ้างเป็นครั้งคราวเพราะว่าเราจะต้อง แบกความรับผิดชอบเอาไว้ทั้งหมด คือนอก จากจะรับผิดชอบโครงการต่างๆ แล้ว เรายัง ต้องบริหารจัดการทุกอย่างให้ขับเคลื่อนไป ข้างหน้าได้อย่างเป็นธรรมด้วย โดยในเรื่อง คุณธรรมนั้นถือเป็นสิ่งที่ ฮัจยี มุ่งเน้นและ ยึดถือมาโดยตลอดเพื่อความโปร่งใสในการ ด�ำเนินงานร่วมกัน ทั้งนี้ ในฐานะผู้น�ำของ ฮัจยี กรุ๊ป ที่ บริหารงานตัง้ แต่เริม่ ต้นก่อตัง้ พัฒนา เจริญ เติบโต สัง่ สมประสบการณ์ และขยายความ ส�ำเร็จจนก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทชั้นแนวหน้า ของวงการธุรกิจพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระดับสากลนัน้ เราไม่เคยบอกตัวเองว่า ทุกๆ ภารกิจที่ผ่านมาสามารถลุล่วงไปได้เพราะ เราเพียงแค่ฝา่ ยเดียว แต่สงิ่ ทีท่ ำ� ให้ ฮัจยี กรุป๊ ก้าวขึน้ มายืนอยู่ ณ จุดๆ นีไ้ ด้ กลับเป็นเพราะ ความสมั ค รสมานสามั ค คี ที่ ไ ด้ รั บ มาจาก บรรดาพี่น้องพันธมิตรในเครือ ฮัจยี กรุ๊ป เป็นส�ำคัญ และเมือ่ มาถึงในปัจจุบนั นี้ ทุกๆ สิง่ ทุกๆ อย่างในความเป็นบริษัท ฮัจยี กรุ๊ป จ�ำกัด ได้พสิ จู น์ออกมาอย่างชัดเจนแล้วว่า ความสามัคคีคือพลังอันยิ่งใหญ่ที่สามารถ ท�ำให้ทกุ ๆ บริษทั ในเครือประสบความส�ำเร็จ และเจริญเติบโตไปได้พร้อมๆ กันอย่างยัง่ ยืน”


ปัญหา “เซ็กส์” กับ “สื่อ” เซ็ ก ส์ ค รั้ ง แรกมี ค วามรู ้ สึ ก อย่ า งไร? นี้คือค�ำถาม ที่เพิ่มความอยากรู้ให้แก่เด็กที่ เป็นเยาวชนวัย 14-15 ปี การมีเซ็กส์ชว่ ยการ หลั่ ง สารมี ห น้ า ที่ ห ลั ก อย่ า งไร? รวมทั้ ง ค� ำ ถามที่ เลยเถิดเกี่ยวกับการเสียตัวครั้ง แรกซึ่ ง ไม่ เ หมาะสมการเป็ น ผู ้ ถู ก กระท� ำ ตามธรรมชาติ ก ารมี เซ็ ก ส์ มี เ พศสัม พันธ์ ในอดีต ศาสตร์ตราจารย์ซิกมัน ฟรอยด์ นักจิตวิทยาชื่อดังระดับโลก กล่าว ถึงอานุภาพของเรื่องเซ็กส์หรือกามารมณ์ เพียงสั้นๆความว่า “เซ็กส์ครองโลก” แนวค�ำกล่าวค�ำจ�ำกัดความ ทีไ่ ม่เกิน ความเป็นจริงเมือ่ อารมณ์ มีทงั้ ทางบวกและ ทางลบควบคูก่ นั ไป มีทงั้ การสร้างสรรค์และ การท�ำลายในขณะเดียวกัน ปั ญ หาเรื่ อ งเซ็ ก ส์ ค รอบคลุ ม และ เกี่ยวพันธ์กับการด�ำรงชีวิตของคนทั่วไป จึง มีพลังอ�ำนาจอย่างกว้างขวาง กระตุน้ ร้าวให้ เกิดพลังในการสร้างสรรค์ แต่กค็ วรมีขอบเขต ของการเปิดเผยเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือการเปิดเผย และกล่าวถึงผ่านสือ่ ฯ ทีวี และสังคมออนไลน์ ที่เยาวชนชายหญิงก็อาจจะมีความสนใจใน เรื่องดังกล่าวด้วย โดยมีเกมส์โชว์ทาง ทีวี. ออนไลน์ ช่อง8 ซึง่ ส�ำนักงานสร้างเสริมคุณภาพ สสส.

เป็ น สปอนเซอร์ ข องรายการในรู ป แบบ “เซ็กส์เปิดแฟมมิลี่” โดยมีพิธีกรดาราทั้ง ชายหญิงมาดึงดูดความสนใจ คอยป้อนค�ำถาม ให้ เ ด็ ก ตอบพร้ อ มกั บ เชิ ญ แพทย์ ห ญิ ง ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์วัยรุ่น เป็นผู้ให้ ค�ำแนะน�ำ พร้อมร่วมวิเคราะห์ปัญหา โดยรายการเชิญผู้ปกครองทั้งของ เด็กชาย และเด็กหญิงในวัย 14-15 ปี!!... มาร่วมออกรายการสัมภาษณ์เรื่องการมี เพศสัมพันธ์ค�ำถามที่น่าสนใจคือ...การมี

มันเป็นเรื่องของธรรมชาติอยู่แล้ว อารมณ์ทดี่ งึ ดูดความสนใจ เรือ่ งเพศ สัมพันธ์ซงึ่ เป็นเรือ่ งธรรมชาติ ไม่จำ� เป็นต้อง เสี้ยมสอนหรือเสนอแนะให้มาก เช่น กรณี ลุง ป้า น้า อา เขามีลกู เป็นโหล ไม่เห็นจะต้อง สอนอะไรเข้าให้มากเรือ่ ง ด้วยการน�ำเอาเรือ่ ง เซ็กส์มาประกอบในเชิงธุรกิจ ทางทีด่ ี่ สสส.น่าจะชีแ้ นะแล้วให้การ สนับสนุนน�ำเสนอรายการ เกีย่ วกับการศึกษา วัฒนธรรม ขนมธรรมเนียมประเพณี เพื่อ ปลูกฝังจิตส�ำนึกในทางทีด่ งี ามแห่งวัฒนธรรม อันแสดงถึงภาพลักษณ์ของความเป็นไทย ที่เป็นมรดกตกทอดทางประเพณีวัฒนธรรม อันดีงามมาอย่างยาวนาน ซึ่งสิ่งที่ดีงามเหล่านั้นจะเป็นสิ่งที่ ควรเชิดชูยกย่อง และรักษาไว้เป็นมรดก ประจ�ำชาติของเรา

ชัยสมรภูมิ 61


นับตัง้ แต่ขบวนการใหญ่ ยาเสพติด ของ “บังรอน” หรือ นายสุรชัย เงิน ทองฟู ถูกเจ้าหน้าทีก่ วาดล้างปราบ ปรามจนแตกระส�ำ่ ระสาย เมือ่ ร่วม 20 ปี ก่อน ขบวนการยาเสพติดประ เภทยาบ้า ยาอี ทีม่ หี วั หน้าขบวนการ อยูห่ ลายก๊กหลายเหล่า หลายขบวน การ ทีม่ สี ายสัมพันธ์ตดิ ต่อโยงใยกัน ก็ยงั คงด�ำเนินการอยู่ แม้เจ้าหน้าที่ จะด�ำเนินการกวาดล้างปราบปราม อย่างเข้มงวดกวดขันจริงจังอย่างไร ถึงขั้นแลกชีวิตกัน การปราบปราม ยาเสพติดประเภทยาบ้า ยาอี ก็ยาก จะสิน ้ ซาก หากมีให้กวาดล้างจับกุม อย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นศึกยืด เยื้อไม่จบสิ้น ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ กับกลุม ่ ค้ายาเสพติด ซึง่ หัวโจกของ กลุ่มที่ท�ำการค้า มักจะเป็นกลุ่มที่ มีเงินทองทรัพย์สินจากการค้ายา เสพติดและเป็นผู้มีอิทธิพล มีเงิน มาก มีลกู น้องและมีสายทีเ่ กีย่ วข้อง มากในการท�ำชัว่ ลักลอบค้ายาในประ เทศและส่งออกนอก การปราบปรามยาเสพติด โดยเฉพาะ อย่างยิ่งยาบ้าที่แพร่ระบาดอย่างกว้างขวาง รุนแรง จึงยากที่จะจบสิ้นลงแบบสงคราม เบ็ดเสร็จ แต่มกี ารลักลอบค้าอย่างกว้างขวาง ในแทบทุกภาคของประเทศไทย ในการปราบปรามจับกุมกวาดล้าง ขบวนการค้ า ยาเสพติ ด ก็ มี เ จ้ า หน้ า ที่ เ สี ย ชีวติ จ�ำนวนไม่นอ้ ย และนับเป็นอันตรายอย่าง ใหญ่หลวง ในการกวาดล้างจับกุม มีอยูห่ ลาย รายปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปราม ท�ำการค้าเสียเอง ครั้นถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ที่ตกเป็น

62 ชัยสมรภูมิ

ขบวนการยาเสพติด

ยังคงผงาดท้าทายอ�ำนาจรัฐ ผู้ต้องหามักจะให้การในชั้นสอบสวนว่า มี รายได้นอ้ ย ไม่เพียงพอจะเลีย้ งครอบครัว จึง ต้องหันมาท�ำชัว่ เพือ่ ให้มรี ายได้เพิม่ ขึน้ โดย แทนที่ จ ะเป็ น เจ้ า หน้ า ที่ ป ราบปรามผู ้ ค ้ า กลับหันมาค้าเสียเอง อนาคตจึงดับวูบลง อย่างน่าเศร้า กรณีเช่นว่านี้ นับวันยิง่ จะแพร่ระบาด กว้างขวางขึน้ ซึง่ คงเนือ่ งมาจากความละโมบ ไม่รู้จักพอ ครั้นท�ำได้ในครั้งแรกก็เกิดความ ฮึกเหิมท�ำต่อไปจนกระทั่งถูกจับ ตกเป็นผู้ ต้องหา อนาคตทางราชการดับวูบลง การลั ก ลอบค้ า ยาเสพติ ด ประเภท

ยาบ้า ขยายเครือข่ายอย่างกว้างขวางแทบ จะทุกภาคของประเทศ การกวาดล้างจับกุม ของเจ้าหน้าทีก่ ม็ ไิ ด้ลดละหากแต่ทำ� สงคราม ปราบปราม ยืดเยือ้ ไม่มวี นั จบสิน้ เป็นสงคราม ชนะเบ็ดเสร็จไม่ได้ ศึกนี้คงต้องยืดเยื้อต่อ ไปอีกเป็นเวลายาวนาน เมือ่ เครือข่ายส�ำคัญ ขยายไปถึงต่างประเทศและประเทศเพื่อน บ้านของไทย บางส่วนของยาเสพติดก็ทะลัก มาจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งทางภาคเหนือ และจากทางใต้ ดังนั้นการปราบปรามจับกุมของเจ้า หน้าที่ จึงเป็นไปอย่างต่อเนือ่ ง ไม่ลดละแต่


อย่างใด มีทั้งการปราบปรามโดยเปิดเผย และการติดตามล่อซือ้ เมือ่ สบโอกาสก็จบั กุม และยึดของกลางเป็นหลักฐาน ตั ว อย่ า งของการล่ อ ซื้ อ เจ้ า หน้ า ที่ ฝ่ายปราบปรามได้นัดหมายซื้อยาบ้า เมือ่ ถึง เวลาทีน่ ดั หมาย คนร้ายก็นำ� ยาบ้า 5 มัด หรือ ประมาณ 10,000 เม็ดมาส่งมอบให้ แล้ว เจ้าหน้าที่ก็แสดงตัวเพื่อจับกุมด�ำเนินคดี จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหา คือนายซวยยิส เป็นชาวโรฮีนจา ทีเ่ คยเข้าออก ประเทศสหรั ฐ อเมริ ก ามาแล้ ว หลายครั้ ง เพื่อส่ง ยาเสพติด เมื่อค้นในตัวก็พบบัตร สื่อมวลชน ประจ�ำนิตยสารฉบับหนึ่ง โดย ผู้ต้องหารับว่า เสียเงินท�ำบัตร 1,500 บาท เพือ่ พกบัตรไว้แสดงให้เจ้าหน้าที่ เมือ่ ถูกตรวจ ค้น ส่วนการส่งยาเสพติด ได้ค่าจ้างครั้งละ 5,000 บาท ส่วนอีกคดี พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ ผบก.ปส.4 พร้อมด้วย พ.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล รองฯ และเจ้าหน้าที่ร่วมกันตรวจยึดยาบ้า จ�ำนวน 20 มัด ประมาณ 40,000 เม็ด ยาไอซ์ 2 กก. โดยตรวจยึดได้ทถี่ นนพหลโยธิน กม.3 คลองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรี อยุธยา นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งได้ จับกุมผูต้ อ้ งหา รวม 3 คน คือ 1.นายศักดิ์ ณรงค์ สิมพิบรู ณ์ อายุ 30 ปี พักอยูบ่ า้ นเลขที่ 47 ม.8 ต.เดือ่ ศรีคนั ไชย อ.วานรนิวาส จ.สกล นคร 2.น.ส.ราตรี บุญกันหา อายุ 35 ปี อยูบ่ า้ น

เลขที่ 200/404 ม.4 ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี นายนาคิน เฟือ่ งศิริ อายุ 23 ปี พัก อยูบ่ า้ นเลขที่ 78 ม.7 ต.หนองเสม็ด อ.เมือง ตราด 3.นายณวพล มาดาญา อายุ 20 ปี พัก อยู่บา้ นเลขที่ 39 ม.11 ต.นาไหม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี พร้อมของกลางยาบ้า จ�ำนวน 18,000 เม็ด รถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีน�้ำตาล หมายเลขทะเบียน ศร 7853 กรุงเทพมหานคร รถจักรยานยนต์ 2 คัน โทรศัพท์มอื ถือ 7 เครือ่ ง โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถ ห้างสรรพสินค้าแมกาโฮม ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ส่วนที่กองบัญชาการปราบปรามยา เสพติด เจ้าหน้าที่ได้แถลงการจับกุมคนไทย กับชาวเมียนมา โดยจับกุมได้ทบี่ ริเวณท่าเรือ ข้ามแดนท่าพุทรา ริมน�้ำเมย ม.2 ต.ท่าสาย ลวด อ. แม่สอด จ.ตาก และทีบ่ ริเวณลานจอด รถเทสโกโลตัส ถนนประสาทวิถี ได้ของกลาง ยาไอซ์ 30 ถุง น�ำ้ หนัก 30 กก. โทรศัพท์มอื ถือ 4 เครือ่ ง ก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้ง จากสายลับว่า นายภิรต ซึ่งเป็นเครือข่าย ยาเสพติ ดข้ ามชาติ มี พฤติ ก ารณ์ ลัก ลอบ จ�ำหน่ายยาเสพติด จึงให้เจ้าหน้าทีแ่ ละสายลับ อ�ำพรางตั ว เข้ า ไปติ ด ต่ อ เจรจาขอซื้ อ ขาย ก็ตกลงซือ้ ขายยาไอซ์ จ�ำนวน 30 กก. นัดส่ง วันที่ 9 พ.ค. 59 ที่ผ่านมา เมือ่ ถึงเวลานัดหมายพบ นางนันทีมา เดิน เข้ ามาหาเจ้าหน้ า ที่ เพื่ อขอดู เงิ น ก่ อน

เสร็จแล้วจึงพาเจ้าหน้าที่ไปพบนาย อภิรต ทีท่ า่ เรือข้ามแดน ท่าพุทรา ริมแม่นำ�้ เมย เพือ่ รับยาไอซ์ เจ้าหน้าทีจ่ งึ แสดง ตัวเข้าจับกุมด�ำเนินคดี ทางด้านต�ำรวจปราบปรามยาเสพติด แถลงผลการจับกุมการค้ายาเสพติด ได้ผู้ ต้องหารวม 5 คน พร้อมของกลางยาบ้าร่วม 736,000 เม็ด ยาไอซ์ อีก 4 กก. พร้อมสัง่ เจ้าหน้าที่ออกป้องกัน ใช้ทุกวิถีทางสกัดไม่ ให้ผค้ ู า้ ยาเสพติดกระท�ำผิด โดย พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผบช.ปส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง คดีแรก พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ ผบก.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.กมั ปนาท โสภโณดร ผบก.ภจว.นครสวรรค์ ผล.ต.นพพร เรือนจันทร์ ผบ.พล.ร.4 และพล.ต.บญ ุ ยืน อินสว่าง ผบ.มทบ. 31 ร่วมกันจับกุมตัว นายวีรพงษ์ ตาหนู อายุ 27 ปี อยูบ่ า้ นเลขที่ 2/47 ถ.เชือ้ เพลิง แขวง ช่องนนทรี เขตยานาวา กรุงเทพฯ พร้อมของ กลางยาบ้า จ�ำนวน 339 มัด รวมจ�ำนวน ประมาณ 678,000 เม็ด ยาไอซ์ 2 กิโลกรัม รถยนต์ ตู ้ ยี่ ห ้ อ โฟล์ ก สวาเกนคาราวาลล์ สีนำ�้ ตาล หมายเลขทะเบียน นข-5483 เชียง ราย โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง โดยสามารถ จับกุมได้ที่บริเวณ ด่านตรวจยานพาหนะ พยุหคีรี ถนนสายเอเชียขาล่อง ต.ย่านมัทรี อ.พยุหคีรี จ.นครสวรรค์ คดีที่ 2 พล.ต.ต.ชารี ไพศาลศิลป์ ผบก.ปส.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.วัชระ ทิพย์มงคล รอง ผบก.ปส.4 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.3 บก.ปส.4 และ กก.1 บก.ปส.4 ร่วมกันตรวจยึด ยาบ้าจ�ำนวน 20 มัด รวมประมาณ 40,000 เม็ด ไอซ์ น�ำ้ หนักประมาณ 2 กิโลกรัม โดย สามารถตรวจยึ ด ได้ ที่ ริ ม ถนนพหลโยธิ น กม.3 (หลังร้านโรตี) ต.คลองลึก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ท.เรวัช กล่าวว่า ในช่วงเทศกาล สงกรานต์ ที่มีประชาชนเดินทางออกท่อง เทีย่ วเป็นจ�ำนวนมาก ทางรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง จึงได้ก�ำชับเป็นพิเศษใน 2 เรื่ อง เรื่ องแรกให้ เจ้ าหน้าที่ให้บ ริการ ประชาชนและอ�ำนวยความสะดวกในการ เดินทาง และป้องกันอุบตั เิ หตุทจี่ ะเกิดขึน้ กับ

ชัยสมรภูมิ 63


ประชาชน เรื่องที่สอง ในเรื่องยา เสพติด ได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ ทุกหน่วยงาน สกัดกัน้ การล�ำเลียงยาเสพติด ของกลุ ่ มผู ้ ค้ า เป็ น พิ เศษ เพราะช่ว งก่อ น สงกรานต์ ทางเจ้าหน้าทีม่ กั จะสามารถจับกุม ยาเสพติดได้เป็นจ�ำนวนมาก ซึ่งในครั้งนี้ก็ สามารถจับกุมยาเสพติดได้เป็นจ�ำนวนมาก ซึ่งในครั้งนี้ก็สามารถจับกุมยาเสพติดได้กว่า 736,000 เม็ด ไอซ์อีก 4 กิโลกรัม มูลค่า ประมาณ 200 ล้านบาท ทัง้ นีท้ างเจ้าหน้าที่ ได้ออกป้องกันและใช้ทุกวิถีทางเพื่อสกัดไม่ ให้ผู้ค้ายาเสพติดกระท�ำผิด ซึ่งก็จะท�ำงาน กันอย่างเต็มที่ต่อไป พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผูบ้ ญ ั ชาการต�ำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. เฉลิม เกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการต�ำรวจ แห่งชาติรว่ มกับ พล.ต.ท.เรวัช กลิน่ เกษร ผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด และ ป.ป.ส. เปิดเผยผลการจับกุมเครือข่ายยา เสพติ ด รายใหญ่ ใ นพื้ น ที่ ภ าคเหนื อ และ อีสาน โดยแบ่งเป็น 2 คดี คดีแรกจับกุม นายวิษณุพงษ์ ควนลี ชาวนครพนม พร้อม พวก 4 คน ได้บริเวณสถานีบริการน�ำ้ มันบน ถนนมิตรภาพ อ�ำเภอสูงเนิน จังหวัดนคร ราชสีมา พร้อมของกลางยาบ้า 324 มัด จ�ำนวน 648,000 เม็ด เฮโรอีน 2 ก้อน น�ำ้ หนัก 720 กรัม รถยนต์กระบะ 3 คัน โทรศัพท์มอื ถือ 8 เครือ่ ง สอบสวนผูต้ อ้ งหาทราบว่าขนยาบ้า ผ่านเส้นทางจังหวัดนครพนม และน�ำมาพัก ไว้ที่จังหวัดชุมพร ก่อนส่งไปพื้นที่ภาคใต้ ส่วนอีกคดีจบั กุมนายชาญชัย แซ่วา่ ง และนายวัฒนา โชติพัฒน์กุล ได้ที่ริมถนน สายเอเชีย อ�ำเภอพระนครศรีอยุธยา ต่อเนือ่ ง

สนามบินดอนเมือง ขณะมารับเงิน พร้อม ยึดยาบ้า 200 มัด จ�ำนวน 400,000 เม็ด ไอซ์ 9 กิโลกรัม โดยผูต้ อ้ งหาให้การสารภาพ ว่ า รั บ จ้ า งขนยาเสพติ ด มาจากภาคเหนื อ เพือ่ น�ำมาทิง้ ไว้ทถี่ นนสายเอเชีย ก่อนเดินทาง มารับเงิน ซึ่งยาล๊อตนี้คาดว่าเตรียมน�ำไป กระจายในพืน้ ทีภ่ าคกลาง เบือ้ งต้นเจ้าหน้าที่ แจ้งขอหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1 ไว้ในความครอบครอง เพื่อจ�ำหน่ายโดยไม่ ได้รับอนุญาต ที่กองบัญชาการต�ำรวจปราบปราม ยาเสพติด (บช.ปส.) ตามค�ำสัง่ คณะรักษาความ สงบแห่งชาติ เรือ่ งการปราบปรามและหยุดยัง้ การแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยให้ทกุ หน่วย เร่งปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาด ของยาเสพติดเพื่อลดผลกระทบที่ก่อให้เกิด ความเดือดร้อนแก่ประชาชนและสังคมโดย รวม พล.ต.ท.เรวัช กลิน่ เกษร ผบช.ปส. พล.ต.ต. พรชัย ผบก.ปส.3 พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ ผบก.สกส. นายสิทธิศักดิ์ กัลยาณประดิษฐ์ ผอ.สปป.ส�ำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกันแถลงข่าว จับกุมคดียาเสพติด 2 คดี ผู้ต้องหารวม 4 ราย ของกลางยาไอซ์ 30 กิโลกรัม ยาบ้า 10,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือรวม 6 เครื่อง รวมมูลค่า 60 ล้านบาท พล.ต.ท.เรวัช เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ ต�ำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายอภิรต ซึง่ เป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดข้าม ชาติ มีพฤติการณ์ลกั ลอบจ�ำหน่ายยาเสพติด จึงให้สายลับพร้อมกับเจ้าหน้าที่อ�ำพรางตัว เข้าไปติดต่อเจรจาขายยาเสพติดกับผูต้ อ้ งหา ดังกล่าว ตกลงซื้อขายไอซ์กันจ�ำนวน 30 กิโลกรัม นัดส่งมอบกันวันที่ 9 พ.ค. 2559

เมือ่ ถึงเวลานัดหมายพบนางนัน ทีมา เดินเข้า มาหาเจ้าหน้าทีแ่ ละขอตรวจดูเงินค่ายาเสพติด ทีห่ า้ งสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาแม่สอด จากนั้นได้พาเจ้าหน้าที่มาพบนายอภิรตที่ ท่าเรือข้ามแดนท่าพุทรา ริมแม่นำ�้ เมย ชายแดน ไทย-พม่า เพื่อรับยาไอซ์ เมื่อเจ้าหน้าที่เห็น ของกลาง จึงแสดงตัวเข้าจับกุมก่อนจะน�ำ ตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม พล.ต.ท.เรวัช เปิดเผยต่อว่า จากการ สอบสวนทราบว่ าทั้ ง คู ่ เป็ น สามี ภ รรยากัน โดยจะให้ภรรยาเดินทางมาที่นัดหมายใน ชุดแรกก่อนเพื่อตรวจนับเงิน ก่อนจะให้พา มารับของอีก ทีห นึ่ง โดยทั้งคู่จะได้เงินค่า จ้างครั้งละ 25,000 บาท หากส่งของส�ำเร็จ จะได้รบั เพิม่ อีก 75,000 บาท โดยยาดังกล่าว รับมาจากอีกทีห่ นึง่ ซึง่ ขณะนีก้ ำ� ลังอยูใ่ นช่วง สืบสวน เบือ้ งต้นเจ้าหน้าทีแ่ จ้งข้อหา “ร่วมกัน น�ำเข้ามาในราชอาณาจักรและมียาเสพติด ให้โทษ ประเภท 1 (ไอซ์ หรือ เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจ�ำหน่ายและจ�ำหน่าย โดยผิดกฎหมาย” น�ำตัวผูต้ อ้ งหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส. บช.ปส. ด�ำเนิน คดีตามกฎหมาย คดีที่ 2 สืบเนื่องจากเมื่อ เจ้าหน้าที่ สามารถจับกุม นายมูฮัมหมัด ยามิน อายุ 39 ปี สัญชาติเมียนมา และนายซวยยิส สิงห์ สองเมือง อายุ 30 ปี สัญชาติไทย ผูต้ อ้ งหา ยาเสพติด โดยสามารถจับกุมได้ที่ร้านกาแฟ บริเวณปั๊มน�้ำมัน วงเวียนแม่สอด ถนนสาย เอเชีย อ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมของกลาง ยาบ้า 10,000 เม็ด โทรศัพท์มอื ถือ 2 เครือ่ ง พล.ต.ท.เรวัช เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ

พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน

พล.ต.ท.เรวัช กลิน่ เกษร

64 ชัยสมรภูมิ


ต�ำรวจชุดจับกุม ได้รบั แจ้งจากสายลับว่า นาย มูฮมั หมัด ชาวเมียนมา มีพฤติการณ์จำ� หน่าย ยาเสพติด เป็นเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดข้าม ชาติ จึงติดต่อล่อซือ้ ขายยาบ้ากัน 5 มัด นัด ส่งมอบกันที่สถานีบริการน�้ำมันราชบุรี พบ กัญชาซุกซ่อนในกระสอบปุย๋ อีก 60 แท่ง โดย ของกลางทัง้ หมด หากขายออกสูต่ ลาด จะมี มูลค่าไม่ต�่ำกว่า 5 แสนบาท ซึ่งผู้ต้องหา รับว่า ของกลางทั้งหมด ได้รับการประสาน จากนายบุญช่วย ชาญณรงค์ ผู้ต้องขังอยู่ ในเรือนจ�ำจังหวัดนครราชสีมา ให้ไปรับกัญชา จากพ่อค้ายาเสพติด พื้นที่จังหวัดนครปฐม และราชบุรี ซึง่ ผูต้ อ้ งหา ขายกัญชาออกไปได้ แล้ว 3 กระสอบ ก่อนจะมาถูกจับกุม ทัง้ เรือ่ งของพระเสพยาบ้า ซึง่ เรือ่ งนี้ ถูกเปิดเผยขึ้น เมื่อชาวบ้านร้องเรียนไปยัง ศูนย์ดำ� รงธรรม ให้ผว้ ู า่ ราชการจังหวัดกาญจนบุรี เข้าไปตรวจสอบพฤติกรรมพระภิกษุบางรูป ในวัดถ�ำ้ อ่างหิน ต.จรเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตีย้

ที่สงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เจ้าหน้าที่ป้องกันจังหวัด ประสาน ก�ำลังทหารและผูใ้ หญ่บา้ น ลงพืน้ ทีต่ รวจสอบ พบพระกิตติพงษ์ ทองนุม่ เดินหลบเจ้าหน้าที่ จึงขอตรวจค้นพบยาบ้า 1 เม็ดครึง่ ซ่อนอยูใ่ น สบง จึงน�ำตัวไปสึก และสอบสวนขยายผล ทราบว่าซือ้ ยาบ้ามาจากนายอนันต์ แย้มมาก หรือฉายาบอย บ้านเก่า เจ้าหน้าทีท่ หาร ได้นำ� ก�ำลังเข้าควบคุมตัวนายอนันต์ ทีบ่ า้ นหลังหนึง่ ในต�ำบลบ้านเก่า อ�ำเภอเมืองกาญจนบุรี ได้ของ กลางยาบ้า 120 เม็ด เงินสด 3,400 บาท คดีที่ประชาชนเฝ้าติดตามอย่างใกล้ ชิด เมื่อต�ำรวจกองปราบฯ ค้ายาบ้าเสียเอง พล.ต.ท.เรวัช กลิน่ เกษร ผูบ้ ญ ั ชาการต�ำรวจ กองปราบปรามยาเสพติด พร้อมนายณรงค์ รัตนานุกุล เลขาธิการ ปปส. แถลงผลการ จับกุมจ่าสิบต�ำรวจสุชาติ ไกรแก้ว สังกัดกอง บังคับการปราบปรามกับพวก รวม 4 คน พร้อม ของกลางยาบ้า 6 แสนเม็ด โดยการติดตาม

พฤติกรรม หลังจากผู้บังคับบัญชา ของจ่าสิบต�ำรวจสุชาติ ท�ำหนังสือ ขอให้ตำ� รวจปราบปรามยาเสพติด ช่วยตรวจ สอบพฤติกรรมที่เชื่อว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง กับขบวนการค้ายาเสพติด ชุดสืบสวนเฝ้าติดตามจนกระทั่งพบ ว่า จ่าสิบต�ำรวจสุชาติและพวกเตรียมลักลอบ ล�ำเลียงยาเสพติด จากจุดรับ-ส่ง ห้างสรรพ สินค้าแห่งหนึ่งย่านรังสิต เพื่อส่งต่อไปยัง จังหวัดนราธิวาส จึงน�ำก�ำลังเข้าจับกุม ซึ่ง จ่าสิบต�ำรวจสุชาติ รับสารภาพว่าก่อเหตุมาแล้ว 2 ครัง้ แลกกับค่าจ้างครัง้ ละ 1 แสนบาท โดย จะน�ำยาบ้าไปส่งจังหวัดนราธิวาส ก่อนจะมี การล�ำเลียงส่งไปขายต่อที่ประเทศมาเลเซีย ความเคลือ่ นไหวเกีย่ วกับขบวนการ ค้ายาเสพติด ทีน่ ำ� เสนอ เป็นเพียงบางส่วน เท่านัน้ แต่กส็ ะท้อนให้เห็นว่า ขบวนการค้ายา เสพติดยังคงผงาดท้าทายอ�ำนาจเจ้าหน้าที่ ของรัฐ จนแทบจะเอาไม่อยู่ การแก้ไขปัญหายาเสพติด ประเภท ยาบ้า ทางเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต่างก็คิดค้นหา วิธีการแนวทางในการแก้ไข แต่ไม่บรรลุผล เท่าที่ควรยังคงมีการระบาดแพร่หลายโดย ไม่ลดละความรุนแรงลง แนวทางแก้ ป ั ญ หาด้ า นหนึ่ ง ของ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีกระทรวง ยุติธรรม คือ มีการเห็นด้วยกับแนวคิด ถอด ยาบ้าออกจากบัญชียาเสพติด โดยอ้างว่า หลายประเทศประสบปัญหาเดียวกัน คือแก้ ปัญหายาเสพติดไม่สำ� เร็จ ต้องหาทางอยูร่ ว่ ม กันให้ได้ แนวความคิดดังกล่าว ถูกวิพากษ์วจิ ารณ์ อย่างกว้างขวาง จากหลายวงการว่าไม่เหมาะสม เป็นดาบสองคม แม้ไม่ถอดยาบ้าออกจากบัญชี ก็ยงั มีการซือ้ ขายกันอย่างโจ่งแจ้ง ถูกด�ำเนิน คดีทั้งผู้เสพและผู้ค้ากับมีนักเสพและนักค้า หน้าใหม่เกิดขึ้นทุกปี แนวคิดนี้จึงไม่น่าจะมี ผลดีต่อการแก้ไขปัญหา ทางแก้ ไ ขปั ญ หาคื อ มุ ่ ง เดิ น หน้ า บ�ำบัดผูเ้ สพให้สำ� ฤทธิผ์ ล ส่วนงานปราบปราม ก็ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง ลองหาวิธีที่ท�ำให้ ราคายาบ้าลดลงเหลือเม็ดละ 8 บาท จ�ำนวน ยาบ้าทีท่ ะลักเข้าประเทศทีจ่ บั ได้ลอ็ ตละร่วม ล้านเม็ด!!...อาจจะลดน้อยถอยลงก็เป็นได้

ชัยสมรภูมิ 65


โดย...แคช ดาวเงิน

ในบ่ายวันทีฟ ่ า้ สาดแดดทันทีทไี่ ด้รบ ั แจ้งจากทีมข่าวชัยสมรภูมิ ว่าจะ ไปเยือนบ้านผู้การติ่ง ข้าพเจ้ารู้สึกตื่นเต้นประหม่าออกมาเล็กน้อย ด้วย ความที่ไม่คุ้นเคยกับวิถีชีวิตของนายต�ำรวจชั้นผู้ใหญ่ท่านนี้เลย แต่เมื่อได้ เข้าไปนั่งร่วมวงสนทนากับท่านในร่มบ้านของท่าน ความเป็นกันเองของ ท่านท�ำให้ขา้ พเจ้าไม่เห็นช่องว่างใดระหว่างกันเลย ท่านสร้างบรรยากาศ ความคุ้นเคยให้เกิดขึ้นได้รวดเร็วจนท�ำให้ข้าพเจ้ารู้สึกราวกับว่า ข้าพเจ้า คุ้นเคยกับท่านมาเป็นเวลานานนัก

พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ มีเพียร ลูกผู้ชายสิงห์นครบาล ตลอดระยะเวลาสนทนาอั น ยาว นาน เรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตและการงาน ของท่านถูกเล่าออกมาให้รับรู้ ท่านเป็นนัก เล่าเรื่องที่ชวนให้น่าสนใจติดตามยิ่งนัก แม้ จะเป็นบ่ายวันที่ฟ้าสาดแดด แต่ข้าพเจ้าไม่ เบื่อที่จะรอฟังเรื่องเล่าที่ออกมาจากปากค�ำ ของท่าน คนทีผ่ า่ นชีวติ มาอย่างโชกโชนจริงจัง เท่านั้น ที่จะสามารถเล่าเรื่องราวในความ ทรงจ�ำได้อย่างทรงพลังเยี่ยงนี้ และในบ่าย วันทีฟ่ า้ สาดแดดนีเ้ อง ภาพชีวติ ของผูก้ ารติง่ ก็ลอยเข้ามาให้ประทับใจอยู่ในความรู้สึก แห่งชีวิตของข้าพเจ้า “ตอนพี่เป็นเด็ก คุณพ่อพาพี่ชายพี่ สาวและพี่ ไปกราบพระบรมรูปทรงม้า พ่อ บอกพี่ว่า ถ้าไม่มีรัชกาลที่ 5 พี่อาจจะเกิดมา เป็นลูกทาสก็ได้ใครจะรู้ เพราะฉะนัน้ เราต้อง ส�ำนึกในบุญคุณของพระองค์ พ่อบอกให้พี่ และลูกทัง้ สามตัง้ ใจเรียน โตขึน้ จะได้ทำ� งาน

66 ชัยสมรภูมิ

รับใช้แผ่นดินและองค์สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ” ผู้การติ่งพูดจบ ก่อนจะรินน�ำ้ จากเหยือกเติม ใส่แก้วของข้าพเจ้าและเติมน�้ำใส่แก้วของ ทีมข่าวทุกคนให้ค่อนเต็ม นี่ก็เป็นอีกภาพ ประทับใจทีข่ า้ พเจ้ามีตอ่ ผูก้ ารติง่ นอกจากจะ คอยรินน�้ำเติมแก้ว ท่านยังคอยส่งจานผล ไม้ให้กับคนนั้นคนนี้ในวงสนทนาได้กินกัน คนที่มีเกียรติที่แท้จริงเท่านั้น ที่จะให้เกียรติ ผู้อื่นได้มากมายเช่นนี้ ผู้การติ่งเติบโตมาท่ามกลางครอบ ครัวที่มีพ่อเป็นข้าราชการนักปกครอง ภาพ ความประทับใจทีม่ ใี นตัวผูเ้ ป็นพ่อ ท�ำให้ผกู้ าร ติ่งใฝ่ฝันที่จะโตขึ้นมาเป็นนักปกครองเพื่อ รับใช้แผ่นดินเกิด ในวัยเรียนของท่าน แม้จะ มีบางเวลาทีเ่ ผลอเกเรไปบ้างตามวัย แต่ทา่ น ไม่เคยห่างไกลจากต�ำราเรียน ท่านเป็นคน ขยัน มีความจ�ำเป็นเลิศชอบเสียงเพลงเป็น ชีวติ จิตใจ แม้จะเกเรตามวัย แต่ทา่ นก็เป็นที่

ยอมรับในหมูเ่ พือ่ นฝูงว่า การเป็นลูกข้าราชการ วัยเด็ก การเรียนระยะแรกๆต้องติดตามไป เรียนจังหวัดทีค่ ณ ุ พ่อย้ายไปท�ำงาน พีเ่ ริม่ ชัน้ อนุบาลและประถม โรงเรียนโยนออฟอาร์ค และโรงเรียนโชติระวีนครสวรรค์ ชั้นมัธยม โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย หลังจาก เรียนจบชั้น ม.ศ.5 ท่านก็ตัดสินใจเดินตาม ความฝันที่จะเป็นนักปกครองให้จงได้ จึงได้ เข้าเรียนภาควิชารัฐศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัย เชียงใหม่ เมื่อเรียนปีที่ 5 ได้ รับเลือกตั้งเป็นประธานนักศึกษารัฐศาสตร์ ท่านใช้เวลาสามปีครึง่ ก็สามารถเรียนจบสาขา วิชารัฐศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ ความฝันที่จะเป็นนักปกครองจึงอยู่ไม่ไกล จากความจริงนัก ท่านจึงตัดสินใจที่จะสอบ เป็นปลัดอ�ำเภอ และในช่วงนีเ้ องทีท่ ำ� ให้เข็มทิศ ชีวิตของท่านเริ่มเปลี่ยนไป ท่านคิดขึ้นมา ของท่านเองว่า ถ้าท่านสอบเข้าปลัดก็จะถูก กล่าวหาได้ว่าสอบได้เพราะใช้เส้น พ่อของ ท่านเป็นข้าราชการนักปกครองชั้น ผู้ใหญ่ ท่านไม่ต้องการให้ใครคิดว่า เพราะ ท่านมีพ่อเส้นใหญ่คอยช่วยเหลือจึงสอบ


ชนะคนอืน่ ๆ มาได้ เมือ่ ท่านคิดได้ ถี่ถ้วนเกี่ ย วกั บ ทางเดิ น ชี วิ ต การ งานที่ต้องก้าวไปข้างหน้าได้แจ่มชัด โดยไม่ ปรึกษาใครมากนัก ท่านจึงตัดสินใจสมัครเข้า รับราชการต�ำรวจ “พีต่ งิ่ เสียดายมัย้ ทีไ่ ม่ได้ทำ� งานตรง กับสาขาวิชาที่เรียนจบมา” ข้าพเจ้าถาม “ไม่ ไม่เสียดายเลย แม้จะเป็นต�ำรวจ พี่ก็สามารถเอาหลักรัฐศาสตร์การปกครอง มาประยุ ก ต์ ใ ช้ ใ นการท� ำ งานได้ โ ดยใช้ ทั้ ง นิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ควบคู่กันไปจึงช่วย ยืดหยุ่นบนความแข็งที่อาจจะลดลงได้ อีก อย่างหนึง่ นะ พีร่ สู้ กึ มาตลอดว่าพีไ่ ม่ได้จบสาย งานต�ำรวจมาโดยตรง มันจึงท�ำให้พถี่ บี ตัวเอง เพือ่ ทีจ่ ะหาความรูม้ าพัฒนาใช้กบั งานต�ำรวจ อยูต่ ลอด” ผูก้ ารติง่ ตอบ ในดวงตามีประกาย รอยยิ้มอบอุ่น หลังจากเข้ารับราชการต�ำรวจ ผูก้ าร ติง่ ก็ไม่หยุดนิ่งที่จะแสวงหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อน�ำมาพัฒนางานต�ำรวจและพัฒนาตัว ท่ า นเองให้ เ ป็ น ต� ำ รวจมื อ อาชี พ ที่ แ ท้ จ ริ ง ท่านจึงตัดสินใจไปเรียนต่อปริญญาโทอเมริกา มันไม่เกินความสามารถของท่านที่จะท�ำได้ หลั ง จากเรี ย นจบปริ ญ ญาโทจากอเมริ ก า และได้ มี โ อกาสอบรมและฝึ ก งานต� ำ รวจ นครบาลเมือง lexington รัฐ kentucky ท่าน ก็กลับมาเมืองไทย ท่านได้นำ� เอารูปแบบงาน และการใช้เทคโนโลยีมาใช้ในงานสืบสวน สอบสวนของต�ำรวจอเมริกา มาประยุกต์ใช้ กับงานต�ำรวจทีท่ า่ นรัก ด้วยความมุง่ มัน่ จริงจัง ในการปฏิบัติงาน ท่านจึงเป็นที่รักและได้รับ

การยอมรั บ จากผู ้ บั ง คั บ บั ญ ชาและผู ้ ใ ต้ บั ง คั บ บั ญ ชาตลอดไปจนถึ ง เพื่ อ นต� ำ รวจ ของท่าน รัฐศาสตร์สอนให้ทา่ นอยูก่ บั คนด้วย หัวใจ นิติศาสตร์สอนให้ท่านยึดมั่นในกฎวิถี ทีถ่ กู ต้องชอบธรรม แม้ทา่ นจะจริงจังกับการ งาน ยอมหักไม่ยอมงอให้กบั ความไม่ถกู ต้อง จนใครต่อใครรู้จักท่านดีในความเป็นคนตรง เมืองสุพรรณของท่าน แต่ยามว่างเว้นจาก การงาน ท่านใช้วถิ ชี วี ติ อยูร่ ว่ มกับผูอ้ ยูใ่ ต้บงั คับ บั ญ ชาเสมื อ นทุ ก คนเป็ น หนึ่ ง ในสมาชิ ก ครอบครัวของท่านท่านจึงกลายเป็นพ่อพระ ที่คอยช่วยเหลือใครต่อใครที่อยู่ใต้บังคับ บั ญ ชาของท่ า นไปทุ ก เรื่ อ งที่ ท ่ า นสามารถ ช่วยเหลือได้ “ตอนพี่แรกเริ่มรับราชการอยู่ที่กอง ปราบปรามท�ำงานด้านการสืบสวนสอบสวน อยู่วาระ 5 ปี และได้รับการแต่งตั้งเป็น สารวัตรทะเบียนประวัติและจัดก�ำลังกอง บัญชาการต�ำรวจสอบสวนกลางโดยท�ำงาน ด้านการวิจัยและวางแผนงานประวัติและ จัดก�ำลัง 1 ปี หลังจากนั้นพี่ก็ได้ย้ายมากอง บัญชาการต� ำ รวจนครบาลท� ำ งานป้ องกั น ปราบปรามเต็มตัว พี่เป็นสารวัตรปกครอง ป้ อ งกั น คนแรกของโรงพั ก มี น บุ รี เ ลยนะ การทีพ่ จี่ ะท�ำงานสะสางคดีได้สำ� เร็จ พีส่ ำ� นึก อยู่เสมอว่าพี่จะเก่งคนเดียวไม่ได้ ทีมงาน เป็นสิง่ ส�ำคัญมาก พีบ่ อกทุกคนเสมอว่า ทีพ่ ี่ มีวันนี้ได้ เพราะพี่มีผู้บังคับบัญชาที่ดีและมี

ลูกน้องที่มีฝีมือ” ผู้การติ่งพูดถ่อมตัวมาก เท่าไร ข้าพเจ้าก็สามารถเห็นความยิ่งใหญ่ ของท่านมากยิ่งๆ ขึ้น หลังจากท�ำงานปราบปรามป้องกัน อาชญากรรมจนเป็นที่ยอมรับของผู้บังคับ บัญชา ผู้การติ่งก็ได้รับความไว้วางใจจาก ผู้บังคับบัญชาให้มาช่วยงานจราจร ยุคนั้น การจราจรในกรุงเทพมีปญ ั หามาก ฝนไม่ตก รถก็ตดิ ฝนตกรถก็ตดิ มากยิง่ กว่า ช่วงนีเ้ อง ที่ท่านได้น�ำเอาความรู้ทางเทคโนโลยีและ รูปแบบงานต�ำรวจของอเมริกามาประยุกต์ใช้ จนงานจราจรทีท่ า่ นรับผิดชอบมีประสิทธิภาพ ท่ า นปรั บ ปรุ ง ระบบสั ญ ญาณไฟจราจร รณรงค์ส่งเสริมให้นักเรียนและประชาชน ทั่วไปในเขตที่ท่านรับผิดชอบได้เรียนรู้ถึง กฎระเบียบจราจร เมือ่ มารับหน้าทีง่ านจราจร ท่านก็ท�ำได้ดีไม่น้อยไปกว่างานปราบปราม จนผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชารู้กัน ว่า “สารวัตรติง่ แน่ทงั้ เชิง บูแ๋ ละเชิงบุน๋ ” ผูก้ ารติง่ เป็นสารวัตรจราจรได้ 5-6 ปี ด้วยความที่ท่านมีความเป็นเลิศทั้งทางบู๋ และทางบุ๋น ท่านจึงได้รับค�ำสั่งจากผู้บังคับ บัญชาให้ไปประจ�ำอยู่ที่โรงพักหนองจอก และที่หนองจอกนี่เองที่ท่านได้รับต�ำแหน่ง สาวัตรใหญ่เป็นครัง้ แรก ในยุคนัน้ ผูร้ า้ ยชุกชุม มากพอกับมดที่เกาะจานน�้ำตาล อาชญากร ก่ออาชญากรรมถี่ยิบ มีคดีที่คั่งค้างสะสาง ไม่ได้มาก เมื่อท่านต้องมารับผิดชอบ ท่าน

ชัยสมรภูมิ 67


เดินหน้าสะสางคดีเก่า และไล่ล่าผู้ร้ายที่ก่อ คดีใหม่ๆ แม้จะไล่ล่าปิดคดีได้มากมาย ท่าน ก็ยงั ไม่พอใจการท�ำงานของตัวเอง หน้าทีข่ อง ต�ำรวจที่ดีในความรู้สึกของท่านแค่วิ่งไล่จับ คนร้ายได้ย่อมยังไม่เพียงพอ ต�ำรวจที่ดีใน ความรู้สึกของท่านต้องรู้จักป้องกันไม่ให้ ผู้ร้ายก่ออาชญากรรมได้ด้วย ท่านจึงสร้าง มิติใหม่ในงานป้องกันปราบปรามให้กับโรง พักหนองจอก ในสมัยนั้นกรมต�ำรวจยังไม่มี งบประมาณสนับสนุนให้โรงพักแต่ละโรง พักมีเรือไว้เพื่อท�ำการตรวจการดูแลความ สงบเรียบร้อย การตรวจตราความสงบจึงท�ำได้ แค่ใช้รถยนต์บนทางบกเท่านัน้ แต่งบประมาณ จากกรมต�ำรวจไม่ใช่อุปสรรคที่จะท�ำให้ผู้ การติ่ ง หยุ ด คิ ด สรรสร้ า งงานต� ำ รวจให้ มี ประสิทธิภาพตามที่ท่านคิดได้ ท่านจึงใช้งบ ประมาณส่วนตัวหาเรือมาใช้ส�ำหรับตรวจ การเฝ้าระวังทางน�้ำ ข้าพเจ้าเชื่อยิ่งนักว่า ค�ำสอนของผูเ้ ป็นพ่อของผูก้ ารติง่ เริม่ เป็นผล พ่อของท่านสอนให้ท่านเติบโตมาท�ำงานรับ ใช้แผ่นดินและรับใช้องค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านไม่ได้ท�ำงานแค่หน้าที่ที่ท่านรับผิดชอบ อะไรที่ท่านคิดว่าท�ำแล้วดีต่อประชาชน ท�ำ แล้วดีตอ่ แผ่นดินเกิด ท่านลงมือท�ำทันที การ ที่ท่านใช้งบประมาณส่วนตัวมาพัฒนางาน ต�ำรวจ ข้าพเจ้าเชื่อว่า คนที่คิดท�ำอะไรเพื่อ ผลประโยชน์ของตัวเองไม่มีวันคิดได้ นี่คือ อีกความประทับใจที่ข้าพเจ้ามีต่อผู้การติ่ง ในบ่ายวันที่ฟ้าสาดแดดนี้ “พี่ โ ชคดี ที่ มี พ ่ อ เป็ น นั ก ปกครอง สมัยพี่เด็กๆ พ่อพี่พูดเรื่องโจรให้พี่ฟังตลอด พี่เพิ่งมารู้ตอนท�ำงานปราบปรามนี่แหละว่า เรื่องที่พ่อพี่พูดให้ฟังมีประโยชน์มาก น้องก็ รู้เมืองสุพรรณบ้านพี่โจรชุกชุมแค่ไหน พี่ว่า พี่เท่าทันพฤติกรรมของโจรได้ดีเพราะจากที่ พ่อพี่เล่าให้ฟังนี่แหละ” ผู้การติ่งเลือกที่จะ ไม่ใช้ความเป็นนักปกครองของพ่อเข้าท�ำงาน ปกครอง แต่เมื่อท่านมาเป็นต�ำรวจ ค�ำพูด ของพ่อที่พูดให้ท่านฟัง ท่านกลับเอามาใช้ ในการท�ำงานต�ำรวจได้ดยี งิ่ นัก ลูกไม้แม้จะหล่น กลิ้งไปทางทิศไหนก็ย่อมไม่ไกลต้นนักหรอก ข้าพเจ้าคิด แอบอมยิ้มเล็กๆ เงียบๆ เพียง ล�ำพัง การรุกลาดตระเวรเฝ้าระวังการก่อ อาชญากรรมทั้งทางบกและทางน�้ำ สามารถ

68 ชัยสมรภูมิ

ลดความถีข่ องการก่อคดีให้ลดลงได้ ชือ่ ของ ผู้การติ่งในตอนนั้นเริ่มเป็นที่หวาดระแวง ต่อโจรผูร้ า้ ย นอกจากจะท�ำงานเฝ้าระวังป้องกัน ปราบปราม ท่านยังพาตัวเองลงไปสัมพันธ์ กับชาวบ้าน จนชาวบ้านที่ท่านลงไปสัมพันธ์ ด้วยกลายเป็นเพื่อนเป็นคนกันเองกับท่าน ท่านยืนยันชัดว่า ถ้าต�ำรวจสามารถท�ำให้ ชาวบ้านไว้วางใจ อุ่นใจ และสามารถท�ำให้ ชาวบ้านกลายมาเป็นเพือ่ นกับต�ำรวจได้อย่าง แท้จริง ชาวบ้านนั่นแหละจะเป็นแหล่งข่าว และช่วยเฝ้าระวังไม่ให้เกิดอาชญากรรมได้ ดีที่สุดเมื่อมาถึงตรงนี้ ข้าพเจ้าเริ่มชัดขึ้นใน ใจว่า ท�ำไมผูก้ ารติง่ ไม่เคยเสียใจทีไ่ ม่ได้ทำ� งาน ปกครองตามทีท่ า่ นได้เรียนมา ข้าพเจ้าเชือ่ มัน่ เหลือเกินว่า ความเป็นนักปกครองที่ดีก็อยู่ ในความเป็นนายต�ำรวจที่ดีของท่านนั่นเอง “ตอนนั้นเส้นทางน�้ำสามารถพาพี่ไป

ถึงพืน้ ทีก่ บดานของผูร้ า้ ยได้สะดวก ระหว่าง หนองจอก ฉะเชิงเทรา กรุงเทพ ปทุมธานี เส้นทางทางน�ำ้ เชื่อโยงถึงกันหมด พี่มีความ สุขกับงานป้องกันปราบปรามมาก ในช่วง นัน้ เอง ท่าน พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ซึง่ เป็น ผบช.น.ได้เรียกตัวพี่ให้ไปช่วยงานที่โรงพัก บางเขนก่อน ซึ่งที่บางเขนมีคดีคั่งค้างอยู่ เยอะมาก ท่าน พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ให้พจี่ ดั ตัง้ หาทีมท�ำงานเองได้ ทีบ่ างเขนสอน ให้พี่รู้ชัดขึ้นว่า การมีทีมงานที่ดีส่งผลต่อ ประสิ ท ธิ ภ าพในการท� ำ งานป้ อ งกั น ปราบ ปรามแค่ไหน พี่โชคดีที่นายให้โอกาสเลือก ทีมงานเอง งานป้องกันปราบปรามของพี่ที่ บางเขนจึงมีประสิทธิภาพมาก” ผูก้ ารติง่ จ้อง มองมาในดวงตาของข้าพเจ้า ในความเป็น คนสุภาพ พูดจาถ้อยทีถ้อยอาศัย ถ่อมตน อยูเ่ สมอในชัว่ โมงสนทนา แต่เมือ่ มองลึกลงไป


ในแววตาของท่าน ข้าพเจ้ายอมรับ ข้าพเจ้า ทั้งกลัวและเกรงเจ้าของสายตาแบบนี้นัก หลั ง จากสร้ า งชื่ อ ความเป็ น นาย ต� ำ รวจมื อ ปราบในเมื อ งหลวงจนเป็ น ที่ ประจักษ์ต่อสาธารณะสังคม ผู้การติ่งก็ได้ รับค�ำสัง่ ให้ไปเป็นผูก้ ำ� กับในแถบถิน่ ภาคเหนือ ที่โรงพักแม่สาย ท่านได้เจอกับทีมงานที่ดี ท่านกับทีมงานจึงร่วมมือกันท�ำงานปราบปราม แต่งานปราบปรามที่แม่สายมีความยากกว่า งานในเมือหลวงอยู่มากนัก ท่านต้องเจอกับ กลุ่มอิทธิพลมืด เจ้าพ่อยาเสพติด แต่ไม่ได้ ท�ำให้ท่านหวั่นเกรงแต่ประการใด ขึ้นชื่อว่า ผู้ร้ายแล้ว ไม่ว่าตัวเล็กหรือตัวใหญ่ อิทธิพล จะมากล้นแค่ไหน แต่ส�ำหรับในสายตาของ ท่านย่อมเป็นผูร้ า้ ยเหมือนๆ กัน ความไม่หวัน่ เกรงในอ�ำนาจอิทธิพลมืดของเจ้าพ่อใดๆ ของท่าน ท�ำให้ท่านและทีมงานสามารถบุก เข้าไปจับกุมและท�ำลายแหล่งพักยาเสพติด ได้มากมาย การเป็นคนตรงคนจริงที่จะหยุด อาชญากรแผ่นดินแบบถอนรากถอนโคน ของท่านจึงเป็นเหตุปัจจัยที่สร้างภัยเงียบมา สู่ตัวของท่านเอง ท่านกลายเป็นนายต�ำรวจ ที่มีค่าหัวแพงลิบลิ่ว แต่คนที่เติบโตมาเพื่อ จะท�ำงานรับใช้แผ่นดินและรับใช้องค์สมเด็จ พระเจ้าอยูห่ วั อย่างท่าน มีหรือจะกลัวพาชีวติ หนีเพือ่ เอาชีวติ รอดกับแค่คำ� ขูข่ องอาชญากร แผ่นดิน “มีครัง้ หนึง่ พีก่ บั ทีมงานจับพ่อค้ายาได้ พร้อมกับของกลางยาบ้าหนึ่งล้านหกแสน แปดหมื่นเม็ด มันเสนอเงินให้พี่เลยนะสาม ล้าน พี่จึงย้อนศรและพี่ยึดเงินของกลางให้ สินบนอีกสามล้านบาทไว้นะ พร้อมกับรถและ ของกลางทัง้ หมด และติดตามไปเสนอให้ยดึ บ้ า นที่ จั ง หวั ด ล� ำ ปางอี ก พี่ เ ชื่ อ ว่ า ไอ้ พ วก

พ่อค้ายาที่มันสามารถกร่างอยู่ได้ในสังคมก็ เพราะไอ้เงินที่มันได้มาอย่างสกปรกนี่แหละ พี่รู้ว่าน้องรู้ว่าพี่กำ� ลังพูดถึงอะไร” ผู้การติ่ง พูดจบ เป็นครั้งแรกที่ท่านเหม่อตามองออก ไปไกลจากวงสนทนา “พีต่ งิ่ ครับ ตลอดระยะเวลาการท�ำงาน ของพี่ มีคดีไหนทีท่ ำ� ให้พรี่ สู้ กึ ภูมใิ จมากทีส่ ดุ ” บก.ชัยสมรภูมิยิงค�ำถาม “ทุกๆ คดีทที่ ำ� พีภ่ มู ใิ จกับมันหมด แต่ มีค ดีหนึ่ ง ที่ พี่รู้ สึ ก ภู มิ ใ จมาก ตอนนั้นพี่อยู่ สวป.สน.ดุสิต มีคนขโมยกระบี่ของเสด็จพ่อ ร.5 ทีพ่ ระบรมรูปทรงม้าไป อย่างทีเ่ ล่าให้ฟงั นัน่ แหละ พีร่ สู้ กึ ผูกพันกับพระบรมรูปทรงม้า มาก พ่อพาพี่กับพี่ชายมากราบตั้งแต่เด็กๆ ความคิดฝันที่จะท�ำงานรับใช้แผ่นดินเกิด ขึ้นที่นี่ แม้จะดูผิวเผินว่ามันไม่ใด้เป็นคดีที่ ร้ายแรงนัก แต่มันส่งผลต่อความรู้สึกของพี่ มาก” ผูก้ ารติง่ พูดจบ มีรอยยิม้ เล็กๆ ก่อนที่ ท่านจะพูดต่อ “ไอ้คนที่ขโมยมันไม่ได้ตั้งใจ ขโมยหรอก เป็นคนขับรถตุ๊กตุ๊ก มันเมามา แล้วก็ขบั รถไปจอดใกล้ๆ กับพระบรมรูปทรงม้า พอดีช่วงนั้นเขาเตรียมงานพระราชพิธีวันที่ 23 ตุลาคมจึงวางนั่งร้านจะขึ้นไปปัดกวาด ทาสี ไอ้คนขับรถตุ๊กตุ๊ก มันเมาก็เลยปีนนั่ง ร้านขึน้ ไป บังเอิญว่าหัวมันไปชนกับกระบีข่ อง เสด็จพ่อ ร.5 เข้า เมือ่ มันเห็นว่ากระบีข่ ยับได้ มันก็เลยดึงกระบีล่ งมา เจ้าหน้าทีต่ ำ� รวจ สน. ดุสิตร่วมกันติดตามไม่นานนักก็ได้กระบี่คืน กลับมา” ข้าพเจ้าเป็นคนบ้านนอก แต่ขา่ วทีก่ ระบี่ ของเสด็จพ่อ ร.5 ถูกขโมย เป็นเรือ่ งใหญ่อยู่ ในหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับ สภากาแฟของ คนบ้านนอกวิเคราะห์กันไปต่างๆ นานา คน เล่นของเก่าจ้างให้ใครสักคนมาขโมยเป็นแน่

ไอ้คนที่ขโมยจะต้องถูกหักคอในเจ็ดวันสิบ วัน บ้างก็สาปแช่งคนขโมยตายไปแล้วอย่า ได้มีโอกาสไปผุดไปเกิด ไม่ใช่แค่ผู้การติ่ง หรอกที่สะเทือนใจกับในวันที่กระบี่เสด็จพ่อ ร.5 หายไป ข้าพเจ้าเชื่อยิ่งนัก ว่าในชั่วโมง แห่งอดีตนัน้ คนไทยทุกคนคงรูส้ กึ ไม่แตกต่าง ไปจากผู้การติ่ง ส่วนตัวข้าพเจ้า เมื่อฟังผู้การติ่งเล่า ความจริงเกีย่ วกับคดีกระบีข่ องเสด็จพ่อ ร.5 หายให้ฟัง ข้าพเจ้าพยายามมโนนึกถึงภาพ ชายเมาคนหนึ่งซุกซนเก้ๆ กัง ๆ ปีนนั่งร้าน ขึน้ ไป ตอนทีห่ วั ชายคนเมาไปชนกระบี่ คงจะ เจ็บน่าดู หันซ้ายหันขวาไม่รจู้ ะโกรธใครดี จึง ลากกระบี่โลหะ ครั้งแรกนึกว่าเป็นทองค�ำ แต่หลังจากหักพู่ออกดูเป็นทองเหลืองจึงน�ำ ไปขาย ข้าพเจ้าเชือ่ ว่าเขาไม่ตงั้ ใจจะลักขโมย หรอก แต่เมื่อกระบี่ติดมือมาแล้ว การที่จะ เอากระบี่ไปคืนกลับไว้ทีเดิมกับเอากระบี่ไป ขาย มันมีความยากง่ายที่แตกต่างกันอยู่ ข้าพเจ้าเชือ่ ว่า พอฟืน้ จากเมา ชาย ขั บ รถตุ ๊ ก ตุ ๊ ก คงตกใจกั บ สิ่ ง ที่ ตั ว เองท� ำ การพากระบี่ไปขายจึงง่ายสุดที่จะพาตัว เองให้หลุดพ้นออกมาจากกระบีไ่ ด้ ข้าพเจ้า มัน่ ใจเหลือเกินว่า ถ้าชายคนขับรถตุก๊ ตุก๊ ได้ อ่านข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์เหมือนกับที่ ข้าพเจ้าได้อ่าน เขาคงตกใจอย่างรุนแรงกับ สิ่งที่ตัวเองได้กระท�ำลงไป ในบ่ายวันที่ฟ้าสาดแดดนี้ ข้าพเจ้า อยากหัวเราะออกมาเหลือเกิน แต่ข้าพเจ้า ท�ำได้ดีที่สุดแค่เพียงเก็บเสียงหัวเราะเอาไว้ เงียบๆและ เก็บเสียงหัวเราะเอาไว้ให้เงียบ ที่สุด... อ่านต่อฉบับหน้า

ชัยสมรภูมิ 69


สานสัมพันธ์ไทย - บรูไนชื่นมื่น บิ๊กป้อม พร้อมคณะ ร่วมพระราช พิธเี ฉลิมพระชนพรรษา สุลต่าน บรูไนราบรืน่ สานความสัมพันธ์สองประเทศกระชับมั่น เผย ทรงฝากความระลึกถึง บิก๊ ตู่ ในฐานะ ที่คุ้นเคยกันมายาวนาน พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กระทรวงกลาโหม เปิดเผย ผลการเดินทาง ไปราชการ ณ เนการาบรูไนดารุสซาลาม หรือ ประเทศ บรูไน ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สวุ รรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีวา่ การกระทรวง กลาโหมพร้อมคณะ ในระหว่าง 14 - 16 ก.ค.59 ว่า การเดินทางไปราชการของ พล.อ.ประวิตร พร้อมคณะดังกล่าวนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อ เข้าร่วมพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ๗๐ พรรษา สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน ใน 15 ก.ค.59 ณ กรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน ตาม พระราชประสงค์เชิญของสมเด็จพระราชาธิบดี แห่งบรูไน โดยรองนายกรั ฐ มนตรี แ ละรมว. กระทรวงกลาโหมพร้อมคณะ ได้เข้าร่วมพระ ราชพิธสี วนสนามเฉลิมพระเกียรติฯ ทีจ่ ดั ขึน้ อย่างยิ่งใหญ่ ณ ลานพระราชพิธี ใจกลาง กรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน ต่อจากนัน้ ได้รว่ มเข้า

70 ชัยสมรภูมิ

เฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน พร้อม พระราชอาคันตุกะท่านอื่นๆ ในพระราชพิธี พระราชทานเครื่องราชอิสริยภรณ์ ณ พระ ราชวัง Istana Nurul Iman หลังจากนัน้ พล.อ.ประวิตร ได้เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระราชาธิบดี

แห่งบรูไน และทูลเกล้าฯถวายของขวัญ ใน นามประชาชนชาวไทย รวมทั้งรัฐบาลและ นายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งใช้โอกาสนี้ กราบ บังคมทูลถึงความพร้อมของประเทศไทย ในการสนับสนุนบรูไนในทุกๆ ด้านด้วย


โดยสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน ทรงมี พ ระราชปฏิ สั น ถารกั บ รองนายก รั ฐ มนตรี แ ละรมว.กระทรวงกลาโหม ใจความตอนหนึ่งว่า “ทรงขอบพระทัยส�ำหรับการถวาย พระพรและฝากความระลึ ก ถึ ง มายั ง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่ ง มี ค วามรู ้ จั ก คุ ้ น เคยกั น มายาวนาน พร้อมทั้งยังทรงชื่นชมความสวยงามของ ประเทศไทย และหวังว่าจะมีโอกาสเสด็จฯ เยือนไทยในอนาคต ตามค�ำกราบบังคมทูล เชิญของนายกรัฐมนตรี” จากนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรั ฐ มนตรี แ ละรั ฐ มนตรี ว ่ า การ กระทรวงกลาโหมได้ร่วมงานพระราชทาน เลีย้ งอาหารค�ำ่ ทีจ่ ดั ขึน้ ณ พระราชวัง ต่อไป ทัง้ นี้ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน ทรงด�ำรงต�ำแหน่งต่างๆ ทัง้ นายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการคลัง, รัฐมนตรีวา่ การกระ ทรวงการต่างประเทศและการค้า

ชัยสมรภูมิ 71


ดวงดาวพยากรณ์ 12 ราศี โดย...ส.ศุภฤกษ์

ทุกคนเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะทำ�ความดีได้

ราศีเมษ เกิดระหว่างวันที่ 16 เมษายน ถึง 15 พฤษภาคม ระยะนี้ ต ้ อ งพบปะผู ้ ค นมาจากเดิ ม โดยเฉพาะญาติ ผู ้ ใ หญ่ ที่ นั บ ถื อ หรื อ พบเพื่ อ นเก่ า ที่ ไ ม่ ไ ด้ พ บกั น มานาน ชวนไปท�ำบุญเข้าวัด มีกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ จะท�ำสิ่งใดก็ตาม มีผู้ใหญ่ให้การสนับสนุนหรือเป็น ที่ปรึกษา การเงิน ได้มาแต่รายจ่ายมากพอควร ข้อควรระวังจะลงทุนหรือท�ำธุรกิจใหม่ควรไตร่ตรอง และปรึกษาคนรอบข้างก่อนที่จะลงมือท�ำ ไม่ควรใจร้อน มีการเดินทางทั้งในประเทศและต่างประเทศ ความรัก ราบรื่น แต่ควรระวังด้านอารมณ์และค�ำพูด สุขภาพ ภูมิแพ้ หวัด ปวดหลัง ราศีพฤษภ เกิดระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม ถึง 15 มิถุนายน ระยะนี้ท่านอาจได้พบกับสิ่งแปลกใหม่หรือการท้าทายจากงานที่ท่านไม่เคยท�ำมาก่อน แต่ท่านจะได้เรียนรู้ โดย มิได้ตั้งใจตกกระไดพลอยโจร แต่เป็นเรื่องที่ดี จะได้เพื่อนเข้ามาเพื่อสานต่อเรื่องที่ท่านเคยคิดไว้ก่อน แต่ยัง ไม่สำ� เร็จ หรือสิง่ ทีท่ ำ� อยูแ่ ล้วมาตลอด การเงิน มีรายรับบางครัง้ สะดุดบ้าง เดินทางไปไหน ควรพกยา สุขภาพ ควรระวังเรื่องโรคประจ�ำตัว ความรัก ยังชื่นมื่น แต่ควรสนใจถามไถ่บ้างจะดี และไม่ควรหงุดหงิด ราศีเมถุน เกิดระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน ถึง 15 กรกฎาคม ระยะนี้ควรระวังเรื่องการเซ็นเอกสารสัญญาในทุกๆ ด้านควรตรวจให้ดีก่อน หรือห้ามค�ำประกันกับทุกด้าน ในช่วงเวลานีอ้ าจมีผลผูกพันกับท่านได้ เกีย่ วกับกฎหมายในภายภาคหน้า จะท�ำการใดควรตรึงตรองให้รอบครอบ ช่วงนีค้ วรหลีกเลีย่ งการเดินทางไกลๆแต่ถา้ จ�ำเป็นควรตรวจความพร้อมของยานพาหนะ เครือ่ งยนต์ เบรก ล้อลมให้ เรียบร้อย การเงิน ระยะนี้ไม่ควรลงทุนหรือเสี่ยงโชค เล่นหุ้นอาจเสียหายได้ สุขภาพ ปวดกล้ามเนื้อปวดหัว ปวดตา เลือดตก ยางออก ความรัก ควรระวังเรื่องด้านอารมณ์ ควรมีสติเป็นที่ตั้ง ระวังเรื่องวาจา ราศีกรกฎ ระหว่างวันที่ 16 กรกฎาคม ถึง 15 สิงหาคม ระยะนี้ท่านจะมีบุคคลหลากหลายเข้ามาได้พบเพื่อนใหม่มีผู้ใหญ่ เข้ามาสนับสนุนให้กำ� ลังใจ มีการติดต่อธุรกิจ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีคนชวนไปร่วมงาน มีการเริ่มงานใหม่ มีการลงทุน ด้านที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ เป็นการลงทุนเพื่อวันข้างหน้า ช่วงนี้ภารกิจมากมาย ทั้งงานส่วนตัว ส่วนรวม สังคม ควบคู่กันไป การเงิน มีรายรับแต่รายจ่ายก็ มากพอควร ควรจัดระเบียบ การเงินการบัญชีให้ดีจะมีการตัดสินใจกับบางสิ่งมีการเดินทางใกล้ไกล สุขภาพ กรดแก๊ส กรดไหล ย้อน กระเพาะอาหาร เข่า ข้อ ต่างๆ ราศีสิงห์ ระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม ถึง 15 กันยายน ระยะนี้จะต้องตัดสินใจกับบางสิ่งควรคิดตรึกตรองให้รอบคอบควรระวังผู้ใหญ่ที่ไม่หวังดีเข้ามาตีสนิทชวนท�ำ ธุรกิจที่เราไม่เคยเรียนรู้ ควรหลีกเลี่ยง อาจท�ำให้เสียหายได้ ช่วงนี้เข้าวัดท�ำบุญ กราบพระขอพรบารมีกับ พระองค์ใหญ่ๆที่ใดก็ได้ ห่มผ้าพระด้วยจะดียิ่งขึ้น ปล่อยสัตว์ ปลา นกได้ทั้งหมด ช่วงนี้อารมณ์แปรปรวน ระวังเรื่องค�ำพูด พูด ถูกอาจผิดได้ การเงิน ใช้จ่ายสูง จะมีคนเข้ามาขอความช่วยเหลือ เดินทางไปไหนมาไหนควรระวังเรื่องการพักผ่อนให้เพียง พอ สุขภาพ ปวดหัว คอ หลัง ความรัก เอาหูไปนาเอาตาไปไร่เถิด ราศีกันย์ ระหว่างวันที่ 16 กันยายน ถึง 15 ตุลาคม ระยะนีม้ สี งิ่ ดีเข้ามาโดยไม่คาดฝัน โชคลาภ เสีย่ งโชค ลงทุนในตลาดหุน้ ลูกหนีเ้ ก่าน�ำเงินมาคืน หรือมีการเปลีย่ น ซึ่งกันและกัน มีคนเข้ามาแนะน�ำกับธุรกิจใหม่ ถ้าเป็นธุรกิจที่ท�ำอยู่แล้ว ต้องมีการเพิ่มทุนหรือต่อยอดไปอีก การเงิน อยูใ่ นเกณฑ์ทใี่ ช้ได้ เข้าหลายทางก็ออกหลาย ทางเช่นกัน ควรระวังเกีย่ วกับคูแ่ ข่ง ว่าลับหลัง ในเชิงไม่ดถี า้ ไม่ใช่กใ็ ห้ผา่ นไป อย่าใช้อารมณ์มีการเดินทางพอสมควร สุขภาพ เป็นไข้ ปวดหัว ตัวร้อน ปวดกล้ามเนือ้ ความรัก ระยะนีม้ กี ารห่างเหินกันมาก

72 ชัยสมรภูมิ


ราศีตุลย์ เกิดระหว่างวันที่ 16 ตุลาคม ถึง 15 พฤศจิกายน ระยะนี้ต้องมีการตัดสินใจทั้งที่ยังไม่พร้อมแต่ควรเจรจาต่อรองขอเพิ่มเวลาอีกสักระยะ และจะมีคนน�ำปัญหามาให้ ท่านรับรู้ หรือมาปรึกษาท่าน เกี่ยวกับเรื่องการเงินจะท�ำการสิ่งใดควรตัดสินใจให้ดีก่อน อาจพลาดได้ ไม่ควรค�้ำ ประกันหรือค�ำนายหน้าใหญ่ ผลรับไม่ดี การลงทุนเสีย่ งโชคพอได้บา้ ง การเงิน รายจ่ายมากพอควร ควรระวังเรือ่ งอารมณ์ ค�ำพูด พยายามยิ้มเข้าไว้ จะมีผู้ใหญ่เข้ามาให้ค�ำปรึกษา สุขภาพ โรคเดิมมายเกรน ปวดหัว ปวดหลัง ความรัก ค่อนข้างจะสุกๆดิบๆ เอาใจใส่กันบ้าง ราศีพิจิก เกิดระหว่างวันที่ 16 พฤศจิกายน ถึง 15 ธันวาคม ระยะนี้พยายามมองข้ามปัญหาเล็กๆ น้อย ๆ อย่าไปนั่งคิด เพราะปัญหาอื่นๆถ้ากลัวจะเข้ามาตั้งสติค่อยๆคิดและ หาทางออก ทั้งๆ ที่ปัญหาที่ท่านไม่ได้เป็นคนก่อควรระวังเรื่องความขัดแย้งกับผู้ร่วมงานหรือคนในครอบครัว คน ใกล้ชิด ควรเปิดใจให้กว้างและรับฟังผู้อื่นก่อนตัดสินใจ ช่วงนี้ไม่ควรเดินทางไกล การเงิน มีที่มาจากหลายทาง แต่ต้องผ่านมือไป โดยเฉพาะที่ค้างจ่ายมานานจะลงทุนสิ่งใดให้คิดวิเคราะห์ให้ดีเสียก่อน สุขภาพ เกิดจากความเครียด อารมณ์สับสน ท�ำให้ปวดหัว ปวดท้อง กระเพาะล�ำไส้ได้ ความรัก สดชื่นสดใสดี ราศีธนู เกิดระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม ถึง 15 มกราคม ระยะนี้ควรระวังด้านเอกสารสัญญาหรือตัดสินใจในบางสิ่งบางอย่างมีการกดดันทั้งภายนอกภายในควรตรึกตรอง ให้ดี เพราะถ้าตัดสินใจผิด อาจมีผลด้านกฎหมายในภายภาคหน้า ถ้าจะลงทุนท�ำได้แต่ตอ้ งวิเคราะห์ทงั้ ผลบวกและ ผลลบในการลงทุนช่วงนี้จะมีคนเข้ามาร่วมงานหรือร่วมลงทุน สารหนี้ มีการเดินทางเป็นบ้างครั้ง การเงิน โชคลาภมีฟลุ๊คๆบ้าง แค่ ร ะยะสั้ น ๆ หรื อ ลงทุนในตลาดหุ้นหรือ ตรา สุขภาพ ควรระวัง เรื่องของกระเพราะอาหารไม่ตรงต่อเวลา ปวดคอ หลั ง ความรัก ควรมีเวลาควรแบ่งเวลาให้กับคนรักบ้าง ดูแลถามไถ่ หวานแหวนเล็กๆ น้อยๆ บ้างจะดี ราศีมังกร เกิดระหว่างวันที่ 16 มกราคม ถึง 15 กุมภาพันธ์ ระยะนี้หน้าที่การงานจะได้รับมอบหมายจากผู้ใหญ่หรือผู้บังคับบัญชาให้ท�ำงานที่ท้าทาย อาจเป็นงานที่ไม่เคยท�ำ มาก่อน แต่จะมีคนเข้ามาเป็นที่ปรึกษาและคอยสนับสนุนช่วยเหลือท่านจนส�ำเร็จ จะได้รับค�ำชมเชยในภายภาค หน้าต้องอดทนสักนิด จะท�ำให้ท่านสู่ความส�ำเร็จและกว้างไกล การเงิน ยังไม่คล่องตัวเท่าที่ควร มีการลงทุนใช้จ่ายซ่อมแซมที่อยู่ อาศัย ยานพาหนะ ของใช้ภายในบ้านหรือส�ำนักงาน ไฟฟ้า ประปา หลังคารัว่ สุขภาพ โรคประจ�ำตัว อย่าลืมทานยา เป็นไข้ ไม่สบาย ความรัก มีการพัฒนาความสัมพันธ์แต่ควรระวังคนแอบนินทาได้ ราศีกุมภ์ เกิดระหว่างวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ถึง 15 มีนาคม ระยะนี้บางสิ่งที่ผ่านมาทั้งดี-ไม่ดี ช่วงนี้ท่านนะคิดย�้ำไปย�้ำมาทั้งๆที่ไม่ควรจะน�ำมาคิด จะมีคนน�ำข่าวไม่ดีมาบอก ท่าน อย่าหูเบา ชั่งน�้ำหนักให้ดีเสียก่อน ก่อนจะเชื่อเขาช่วงนี้จะมีคนหลายรูปแบบเข้ามาทั้งทางตรงและทางอ้อม อาจท�ำให้ผู้ใหญ่ ผู้ร่วมงานเข้าใจผิด ถ้ารู้รีบแก้ไข เสียก่อน การเงิน อยู่ในเกณฑ์ที่พอใช้ได้ รับมาใช้จ่ายเก่งพอควร ถ้าเก็บเงินไม่ อยูค่ วรซือ้ ของทีม่ คี า่ ไว้ สุขภาพ ควรระวังเรือ่ ง ลืน่ ล้ม ความร้อน ของมีคม ความรัก ควรระวัง เรือ่ ง ค�ำพูด ค�ำจา ท่าทาง อารมณ์ ราศีมีน เกิดระหว่างวันที่ 16 มีนาคม ถึง 15 เมษายน ระยะนี้ ควรระวังเกี่ยวกับภาระหน้าที่การงานจะมีคนน�ำปัญหามาให้ท่านรับรู้ เพื่อให้ท่านแก้ไข และจะมีปัญหา เฉพาะหน้าอยู่ตลอด ท่านต้องหาทางออกที่ดี มิฉะนั้นปัญหาเล็กจะท�ำให้เป็นปัญหาใหญ่ได้ ท่านควรใช้สติ ไม่ ควรใช้อารมณ์ ระวังเรือ่ งค�ำพูด กิรยิ าท่าทาง รับฟังคนรอบข้างมากขึน้ และมองภาพในหน้าทีใ่ ห้หลากมิติ การเงิน เข้ามาหลายทาง และมีโอกาสได้คนื จากลูกหนีเ้ ก่าอีกด้วย แต่ระวังของหายหรือลืมไว้ สุขภาพ รับประทาอาหารให้ตรงต่อเวลา อาหารเป็นพิษ กรดไหล ย้อน นอนไม่ค่อยหลับ ความรัก แบ่งเวลาให้กันบ้างชวนกันท�ำบุญแต่คนโสด จะมีคนเข้ามาคลายเหงา

ชัยสมรภูมิ 73


ส�ำหรับความคืบหน้าก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ย่านถนนเกียก กาย ตอนนี้คืบหน้าแล้ว 20% แน่ะ!!! เริ่มมีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ส่วนพืน้ ทีโ่ รงเรียนโยธินบูรณะแล้ว ขณะที่ปัญหากองดิน บริษทั ผูร้ บั เหมาอย่าง “ซิโน-ไทย” ก็ออกหน้ารับซือ้ ดินทัง้ หมดเอง ไม่รวู้ า่ อยาก ช่วยแก้ปญ ั หาให้งานเร่งเดินหน้า หรือแสดงศักยภาพความรับผิดชอบ อะไรกันแน่? …บ.ยักษ์ใหญ่ แต่ที่รู้เวลานี้...นอกจากต้องขยายระยะเวลาการก่อสร้าง ออกไปอีก ยังต้องเซ่นสังเวยข้าราชการ 2 คน ฐานผิดวินัยร้ายแรง ด้วยค�ำสั่งของประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ไล่ออกและปลด ออก กรณีร้ายแรงคือไล่ออกจากราชการ เงินเกษียณบ�ำนาญจะไม่ ได้รบั ท�ำให้ “สมชาติ ธรรมศิร”ิ ต�ำแหน่งระดับทีป่ รึกษากฎหมาย คงต้องเร่งอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการข้าราชการฝ่ายรัฐสภา ภายใน 30 วัน หลังจากทีร่ บั ทราบค�ำสัง่ (8 ก.ค.)...งานเลียแข้งต้องงัดมาใช้ อีกรอบ ก็แหม ยุค “สุวิจักขณ์ นาควัชระชัย” เป็นเลขาธิการสภา ผูแ้ ทนราษฎร เรียกกันสัน้ ๆ ว่า เลขาธิการ สผ. ตัวเองก็เลียแข้งนาย ทุกโครงการดีไปหม๊ดดด...พอนายถูกเด้งไปนั่งตบยุงเก้าอี้ที่ปรึกษา ประจ�ำส�ำนักนายกรัฐมนตรี ก็แว้งกัดมาไล่บดี้ ว้ ยการตรวจสอบโครงการ ต่างๆ นานา ท�ำเอา “จเร พันธุเ์ ปรือ่ ง” ได้มาเป็นเลขาธิการ สผ. แบบ เก้าอีด้ นตรี ก็เลียแข้งนายใหม่ เลยได้ควบต�ำแหน่งประธานกรรมการ สโมสรรัฐสภาและผูจ้ ดั การสโมสรรัฐสภา ซึ่งเฮียเค้า เล็งไว้นานแล้ว เพือ่ ความสะใจ อีกนัยเป็นเกมการวางคนของพีเ่ ร เพือ่ เอือ้ ประโยชน์ พวกพ้องเก่าโดยเฉพาะครัว?? ทีอ่ ดีตแทบจะผูกขาดออเดอร์จดั เลีย้ ง อาหารตามคณะกรรมาธิการ ให้กลับมาได้งานอีกครั้ง... เพื่อนอิ่ม เราก็อิ่ม ต�ำแหน่งควบทีไ่ ด้ กลับเป็นหอกทิม่ ตัวเองให้โดนข้อหาผิดวินยั ร้ายแรง เพราะขาข้างหนึง่ เป็นทีป่ รึกษาไปร่วมเห็นชอบในนามส�ำนักงาน เลขาธิการสภาผูแ้ ทนราษฎร ให้ยืมเงินจากสโมสรรัฐสภามาจัดสร้าง วัตถุมงคลโดยไม่มอี ำ� นาจตามกฎหมาย และขาอีกข้างหนึง่ เซ็นอนุมตั ิ ในนามประธานกรรมการสโมสรรัฐสภา และผู้จัดการสโมสรรัฐสภา ตามค�ำขอยืมเงินของส�ำนักงานฯ เท่ากับขัดกันแห่งผลประโยชน์อย่าง ชัดเจนหรือไม่ แต่กย็ งั ไปออกรายการทางสถานีโทรทัศน์ชอ่ งหนึง่ เพือ่ พูดถึงกรณีที่เกิดขึ้น ... เอาเวลาไปยืน่ อุทธรณ์ให้ทนั 30 วันดีกว่านะ กว่าจะก่อร่างสร้างตัวเป็น สัปปายะสภาสถาน ปัญหายังไม่ จบเท่านี้ แซ่บมาว่า มีหนังสือจากประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ “พรเพชร วิชติ ชลชัย” ด�ำเนินการขอไม้สกั ในโครงการพระราชด�ำริ มาประดับตกแต่งอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ จ�ำนวน 5,000 ท่อน โดย

74 ชัยสมรภูมิ

สุวิจักขณ์ นาควัชระชัย

สมชาติ ธรรมศิริ

อ้างว่าให้เป็นไปตามแบบที่สถาปนิกวางไว้ แต่เมื่อเรื่องต้องผ่านมือ นายกฯ ทัน่ ถึงกับสัง่ เบรกเอีย๊ ด!!ผ่านไปยังกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติ และสิง่ แวดล้อม ให้พนื้ ทีส่ วนป่าแม่หอพระ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ กลับคืนเป็นพืน้ ทีป่ า่ สงวนทันที (ป่าสงวนแห่งชาติปา่ ขุนแม่กวง) ขณะที่ ฉากเจ้าหน้าทีอ่ งค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ หรือ อ.อ.ป. ก�ำลังถือขวาน ในอุ้งมือเพื่อเตรียมจะตัดไม้สักในพื้นที!! เมื่อข่าวรั่วถึงหูกระจิบกระจอกข่าว ก็รีบยื่นไมค์ดักสัมภาษณ์ ประธาน สนช. เนือ้ หาก็สรุปได้วา่ “เรือ่ งนีท้ างรัฐสภาไม่ได้มสี ว่ นเกีย่ ว ข้องแต่อย่างใด พวกตนเป็นแค่คนที่ไปจัดซื้ออิฐ ซื้อวัสดุก่อสร้าง เท่านัน้ แต่ยอมรับว่าการใช้ไม้สกั จ�ำนวนดังกล่าวเพือ่ มาสร้างรัฐสภาใหม่ นัน้ อาจจะเป็นปัญหาอยูบ่ า้ ง จึงขอหารือกับหน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้องก่อน โดยเฉพาะคณะกรรมการตรวจการจ้างฯ เพราะไม่ใช่อ�ำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบของตนเพียงคนเดียว” …แกะเทปมาเลยทีเดียว งานนี้ไม่รู้ไม่ได้ แบบงานสถาปัตย์ ถึงขั้นก�ำหนดขนาดไม้สัก ไว้วา่ ต้องใช้จำ� นวน 4,534 ต้น คุณภาพของไม้ตอ้ งตรง ไม่คดไม่งอ ไม่มกี ระพื้ ไม่มตี าท�ำให้เสียความแข็งแรงหรือความสวยงาม อายุไม้ตอ้ ง ไม่ต�่ำกว่า 25 ปี ไม้เสาไม้สักทั้งหมดเป็นไม้จากป่าปลูก ส่วนไม้พื้น ผนัง ฝ้า เพดาน ต้องเป็นไม้จาก อ.อ.ป. (ซึ่งเป็นองค์กรขายไม้อย่าง ถูกต้อง) ขณะทีเ่ สาประดับ ต้องมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 20 เซนติเมตร สูง 4.6 เมตร และต้องผ่านการอบและผึง่ แห้งดีแล้ว ไม่มคี วามชืน้ เกิน 16% …ไม่รู้จะแก้แบบแปลนหรือต้องคุยกับชาวบ้านในการตัดไม้สัก แต่เรือ่ งนีม้ าไกลแน่นอน เพราะหลังเหตุการณ์นายกฯสัง่ เบรก ท�ำเอา “สมชาย แสวงการ” สมาชิกสนช. โบกมือหนุน พร้อมโพสต์ เฟซบุ๊กสั้นๆ อ้างข้อมูลการทุจริต พร้อมเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ การท�ำสัญญาและการก่อสร้างแบบละเอียด เนื่องจากท�ำให้รัฐเสีย เปรียบอย่างมาก และให้ตงั้ ทีมพิเศษด�ำเนินการเอาผิดการด�ำเนินการ

จเร พันธุเ์ ปรือ่ ง

พรเพชร วิชติ ชลชัย


สมบัติ บุญงามอนงค์ ในการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่อย่างละเอียด แต่งานงอกยาว เพราะบริษทั ซิโน-ไทยฯ ผูร้ บั เหมาก่อสร้าง กลับตัง้ ทีมทนายฟ้องร้อง นายสมชายฯ ข้อหาหมิ่นประมาท กล่าวหาใส่ร้าย และยังฟ้องคดี แพ่งเรียกค่าเสียหายอีก 5 ล้านบาท ... นอกจากเป็นวิป สนช. ก็รบั บทเป็นจ�ำเลยในคดี ขณะทีม่ มุ มองของ “สมบัติ บุญงามอนงค์” หรือ บก.ลายจุด กลับเชียร์ให้ตดั ต้นสักสร้างรัฐสภาใหม่ เพราะต้นสักทีป่ ลูกโดย อ.อ.ป. เป็นป่าของเอกชน จึงไม่ใช่การท�ำลายป่า ในทางกลับกัน สวนสัก เป็นพืชทิ้งใบในหน้าแล้ง หากปลูกบนเขาเมื่อฝนตก จะท�ำให้หน้า ดินพังทลายแทน ...ต้องถามผู้รู้จริง ปัญหาในรั้วฝ่ายนิติบัญญัติยังไม่จบ ข่าวเมาท์ต�ำแหน่งรอง ประธานสภาขับเคลือ่ นการปฏิรปู ประเทศ คนทีห่ นึง่ เริม่ หนาหูวา่ เน้น หาเสียงการเมือง มากกว่าขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ จนระเบิดเวลา ลงตัวที่การประชุม สปท. ซึ่ง “อลงกรณ์ พลบุตร” ไม่อยู่ท�ำหน้าที่ ประชุม กลายเป็นเวทีของสมาชิกจากที่เคยซุบซิบลับหลัง ก็ออกมา รุมจวกยับอย่าง “เสรี สุวรรณภานนท์” ระดับอดีตนายกสภาทนาย ความ ทีเ่ ห็นความไม่จำ� เป็นในการตัง้ คณะกรรมการเครือข่ายการขับ เคลือ่ นการปฏิรปู ประเทศ ซึง่ ใช้งบประมาณถึง 1,342,800 บาท โดย แต่ละครั้งจะเอาไปใช้จ่าย เช่น แจกกระเป๋าเอกสาร ซึ่งไม่แตกต่าง จากพรรคการเมืองที่เตรียมซื้อเสียงล่วงหน้า …ฉากพิธีกรรม ไม่เว้นแม่แต่ “วันชัย สอนศิริ” สมาชิก สปท. ดาหน้ามา ร่ ว มแฉการท� ำ งานถึ ง การสร้ า งเครื อ ข่ า ยการขั บ เคลื่ อ นกั บ มหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับ “หมอหยอง” ทางการเมือง สร้างภาพไปวันๆ ว่าเป็นเทพ และท�ำให้คนทั้งหมดเห็นว่า เป็นเทพ ทางการเมือง “ทั้งที่ครูบาอาจารย์มาบอกตนว่า การสร้างเครือข่าย เป็นการมาเปิดงานพอเป็นพิธี แล้วคุยว่าประเสริฐศรีเพือ่ ขยายเครือข่าย

วันชัย สอนศิริ

สมชาย แสวงการ

อลงกรณ์ พลบุตร

บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประเทศ ซึง่ เป็นเพียงพิธกี รรมเท่านัน้ ” …ครูองั คณามาฟ้องรึปา่ วเนีย่ ? แต่น่าแปลกที่งานนี้ เสือนิ่ง ไม่ออกมาตอบโต้ และยังงด แถลงข่าว จากปกติแถลงเป็นรายวัน เพราะลึกๆแล้วคงไม่อยากให้ มองว่าเป็นการแก้ตวั แต่กแ็ อบย่องเชิญสือ่ มวลชนประจ�ำรัฐสภาเพือ่ พบปะสังสรรค์เบาๆ และหวังกรอกความคิดตัวเองใส่คนอื่น ...แบบ นี้เรียกว่าไงดี สถานการณ์ตอนนี้ ถ้าไม่เอ่ยถึง พูดกับเขาไม่รู้เรื่องคือการ ลงประชามติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ความส�ำคัญคือที่ผ่านมา แม้จะมีการรัฐประหาร แต่ไทยก็ใช้รปู แบบการตัง้ สภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. ขึน้ มาท�ำหน้าทีย่ กร่างรัฐธรรมนูญ แต่รฐั ประหารยุคใหม่ ให้ตงั้ คนของรัฐบาลหรือ คสช.คัดเลือกเข้ามา โชว์กนึ๋ เน้นผูม้ ปี ระสบ การณ์ มีความรูจ้ ริงเข้ามาท�ำหน้าที่ แต่ดเู หมือนจะยังไม่เป็นทีย่ อมรับ เพราะชวดการประชามติฉบับ “บวรศักดิ์ อุวรรณโณ” ไปแล้ว ฉบับที่ สองเป็นระดับปรมาจารย์ของ “บวรศักดิ์ อุวรรณโณ” คือ “มีชัย ฤชุพันธุ์” ไม่รู้ว่าอาถรรพ์จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ถ้าผ่านประชามติได้ ไทยก็จะมีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 21 ถ้าไม่ผ่านประชามติ หรือจัดท�ำ ประชามติไม่ได้ เราก็ยังจะคงมีรัฐธรรมนูญปี 50 ฉบับที่20 เป็นฉบับ สุดท้ายอยู่ …กระดึ๊บ กระดึ๊บ

เสรี สุวรรณภานนท์

ชัยสมรภูมิ 75


พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน

โดย...พิทักษ์ 001 สวัสดีเพื่อนๆ คอลัมน์รอบรั้วปทุมวัน “พิทักษ์ 001” มา ทักทายกันอีกครั้งในแวดวงสีกากีเริ่มจาก พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรี วรขาน รอง ผบ.ตร. ผอ.ศปทส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ปิยะ สอน ตระกูล ผู้ช่วย ผบ.ตร. รอง ผอ.ศปทส.ตร. เรียกประชุมผู้บังคับการ และเจ้าหน้าทีใ่ น 16 จังหวัด ทีม่ ไี ม้พะยูงเหลืออยูใ่ นป่าอนุรกั ษ์ ได้แก่ จังหวัดสระแก้ว ปราจีนบุรี นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ มุกดาหาร เลย ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ ขอนแก่น อุดรธานี หนองบัวล�ำภู และมหาสารคาม จัดท�ำแผนระดมกวาดล้าง ตามมาตรการ “ประชารัฐ ร่วมใจ พิทักษ์ไม้พะยูง” ของส�ำนักงาน ต�ำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีการก�ำหนดพื้นที่ด�ำเนินการอย่างชัดเจน แบ่ง โซนพื้นที่ตามความส�ำคัญ ใช้ก�ำลังอย่างเหมาะสม เน้นให้ทุกภาค ส่วนมามีสว่ นร่วม ดึงภาคประชาชน ก�ำนัน ผูใ้ หญ่บา้ น และผูน้ ำ� ชุมชน มาร่วมกันแก้ไขปัญหาเป็นประชารัฐ เพือ่ ความยัง่ ยืนในการแก้ไขปัญหา ของจังหวัดและในภาพรวม และเมื่อมีการจับกุมให้จัดชุดพนักงาน สอบสวนขึน้ มาโดยเฉพาะ มีผบู้ งั คับการหรือรองผูบ้ งั คับการเป็นหัวหน้า ควบคุม ขยายผลด�ำเนินคดีกบั ผูร้ ว่ มขบวนการทุกราย และให้ใช้มาตรการ ยึดทรัพย์กับนายทุนให้ถึงที่สุด พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา(ปป11) จะเดินทางไปยัง -ภ.จว.สระบุรี -เป็นจุดแรก เพื่อติดตามคดี กรณีด.ต.อรรณพ เครือ อนันต์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.แก่งคอย จว.สระบุรี ถูกคนร้ายยิง เสียชีวิตจากการปฏิบัติภารกิจสืบสวนขยายผลล่อซื้อยาเสพติดใน พื้นที่ สภ.วังน้อย จว.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นจะเดินทางโดย ฮ. ไปยัง สภ.วังน้อย เพือ่ ติดตามการปฏิบตั กิ ารปิดล้อมตรวจค้นยา จับกุม

พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น

76 ชัยสมรภูมิ

พล.ต.ท.ปิยะ สอนตระกูล

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา

ด้านยาเสพติด ที่โรงแรม เจ ดับบลิว มาริออท กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศ มาเลเซีย มีรายงานว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา ที่ปรึกษา (สบ 10) น�ำคณะต�ำรวจไทยซึ่ง รับผิดชอบอาชญากรรมข้ามชาติสาขาต่างๆ โดยมี พล.ต.ต.อภิชาติ สุรบิ ญ ุ ญา ผบก.ตท.และหัวหน้าต�ำรวจสากลไทย ท�ำหน้าทีเ่ ป็นเลขานุการ คณะ เดินทางเข้าร่วมประชุมหัวหน้าต�ำรวจอาเซียนครั้งที่ 36 เพื่อ หารือกับหัวหน้าต�ำรวจสิบประเทศของอาเซียนพร้อมด้วยหัวหน้า ต�ำรวจประเทศคูเ่ จรจาของอาเซียนอย่าง จีน ญีป่ น่ ุ เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ รัสเซีย ตุรกี สหราชอาณาจักร และองค์การระหว่าง ประเทศอย่าง องค์การต�ำรวจสากล ส�ำนักงานต�ำรวจภาคพื้นยุโรป และส�ำนักงานเลขาธิการอาเซียน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 มอบภาพวาดของ อาจารย์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ เป็นรางวัลชมเชยให้กับ ต�ำรวจภูธรจังหวัดแพร่, น่าน และพะเยา ในการปฎิบัติการบริหาร การจราจรช่วงเทศกาลดีเยีย่ ม ท�ำให้สถิตอิ บุ ตั เิ หตุจราจรช่วงเทศกาล สงกรานต์ ลดลงเกินกว่าร้อยละ 20 ณ ต�ำรวจภูธรภาค 5 พ.ต.อ.ปรีชา วิมลไชยจิต รอง ผบก.จว.เชียงใหม่ ทุ่มเทกับ งานแบบไม่รจู้ กั เหนือ่ ยเพือ่ “คืนความสุขให้ประชาชน” จากการไล่ลา่ “กัดไม่ปล่อยคอยไม่เลิก”กับกลุ่มอาชญากรรมหลายคดี ทั้งคดี ค้า มนุษย์ ยาเสพติด ปล้นทรัพย์-ลักทรัพย์-ชิงทรัพย์ฯ ล่าสุดรวบแก๊ง ลักรถรายใหญ่ “อมก๋อย” ทีมีสมาชิกกว่า 80 คน จาก 8 ตระกูล ส่ง ขายชายแดนท่าสองยาง จว.ตาก เข้าคุก...ชาวบ้านเป็นสุข เคียงคู่ผู้ บังคับบัญชานายต�ำรวจ “น�้ำดี” แห่งรั้วปทุมวัน พล.ต.ต.มนตรี สัม

พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา

พล.ต.ต.มนตรี สัมบุญณานนท์


พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา

บุญณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ซึ่ง “บิ๊กทอม-พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5…เบาใจไปเยอะ กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการต�ำรวจ พ.ศ…ที่คณะ กรรมการข้าราชการต�ำรวจ (ก.ตร.) เห็นชอบ มี 4 หมวด 30 ข้อ มี สาระส�ำคัญ ดังนี้ ก�ำหนดให้ กฎนี้มีผลถัดจากวันที่ประกาศในราช กิจจานุเบกษา โดยในบททั่วไป เขียนไว้ว่า “การคัดเลือก หรือแต่ง ตั้งข้าราชการต�ำรวจให้ด�ำรงต�ำแหน่งต่างๆ ให้ค�ำนึงถึงหน้าที่รับผิด ชอบในการดูแลทุกข์สขุ ของราษฎรเป็นส�ำคัญ โดยยึดในหลักการทีว่ า่ ทุกพื้นที่ในราชอาณาจักรไทยจ�ำเป็นที่ข้าราชการต�ำรวจมีภารกิจที่จะ ต้องปฏิบตั ริ าชการทัง้ สิน้ จึงให้ผมู้ อี ำ� นาจสามารถด�ำเนินการคัดเลือก หรือแต่งตั้งข้าราชการต�ำรวจไปด�ำรงต�ำแหน่งในลักษณะงานหรือ พืน้ ทีอ่ นื่ ทีต่ า่ งจากเดิมได้ เพือ่ ให้ขา้ ราชการต�ำรวจเกิดการเรียนรู้ การ ท�ำงานรอบด้าน หรือพื้นที่หลากหลาย อันจะเกิดประโยชน์ต่อทาง ราชการ” “ศาลาพระพรหมมีเหตุระทึก!!...อีกแล้ว เมื่อวันที่ 22 ก.ค. เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋ง โตโยต้า โคโลน่า สีฟ้า ทะเบียน พร-915 กรุงเทพมหานคร เสียหลักพุ่งชนศาลพระพรหมเอราวัณ บริเวณ สี่แยกราชประสงค์ ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวที่กำ� ลังสักการะท้าวเทพ มหาพรหมได้รบั บาดเจ็บขาหัก ศีรษะแตก และบาดเจ็บเล็กน้อยรวม 5 ราย น�ำส่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 4 ราย เป็นชาวอินโดนีเซีย 2 ราย คือ Mr.Janto Kurniawan อายุ 73 ปี และ Miss Rosita Kurniawan อายุ 56 ปี / ชาวสิงคโปร์ 2 ราย คือ Mrs.Ong Cney Teo อายุ 70 ปี และ Miss Ng Ican Leng อายุ 35 ปี / ส่วนอีก 1 ราย คือ Miss Leena Bong อายุ 81 ปี ชาวจีน ส่งโรงพยาบาล ต�ำรวจ วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ.2559 เวลา 15.00 น. พล.ต.อ.เดช ณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ที่ปรึกษา (กศ) ผู้แทน ผบ.ตร. พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร โรงพยาบาลต�ำรวจ ซึ่งประกอบด้วย พล.ต.ต.วิฑูรย์ นิตวิ รางกูร รอง พตร.รรท.พตร.,พล.ต.ต.โชติกร สีมนั ตร รอง พตร. (1), พล.ต.ต.ชนินทร์ ชะโยชัยชนะ รอง พตร.(2), พล.ต.ต.ธนา ธุระเจน รอง พตร.(3) พล.ต.ต.ชนินทร์ สุดโนรีกลู ผบก.อก.รพ.ตร., พล.ต.ต.สุรพล เกษประยูร นายแพทย์ (สบ6) รพ.ตร. และ พ.ต.อ.ไพบูลย์ มะระพฤกษ์วรรณ หัวหน้ากลุม่ งานศูนย์สง่ กลับและรถพยาบาล รพ.ตร. จะรับมอบรถพยาบาลกู้ชีพฉุกเฉินพร้อมเครื่องมือทางการแพทย์ จ�ำนวน 1 คัน มูลค่า 2,200,000.00 บาท (สองล้านสองแสนบาทถ้วน)

พล.ต.ต.โชติกร สีมันตร

พล.ต.ต.ชนินทร์ ชะโยชัยชนะ

ณ บริเวณห้องโถงชัน้ 1 อาคาร 1 (ด้านหน้า) ส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติ จากบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จ�ำกัด (มหาชน) โดยคณะผู้ บริหารระดับสูงของบริษัทฯ สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร... ข่าวฮ็อต...ทีส่ อื่ หนังสือพิมพ์-โทรทัศน์ ทุกส�ำนักเกาะติด กรณี “หญิงไก่-สุชาดาฯ” เรามารูจ้ กั หญิงไก่ กันซักหน่อย ชือ่ จริง : สุชาดา หยกวิริยะ กุลชื่อเดิม : วันทนีย์ หยกวิริยะกุล ชื่อเล่น : ไก่,หญิงไก่ ชือ่ ทีเ่ ป็นทีร่ จู้ กั :ไก่,หญิงไก่,คุณหญิงไก่,คุณนายไก่,ไก่ วันทนีย,์ ไก่ วันทนีย,์ หมอหยอง หญิงไก่ มิใช่คุณหญิง แต่เนื่องจากชื่อว่า หญิงไก่ ท�ำให้ คนส่วนใหญ่เวลาเรียกจะเรียกว่า คุณหญิงไก่ มีชื่อใน “คดีทุจริต เครื่องราชปี 2515”, “กิมเอ็ง-คุณนายไก่” มีบางส่วนเชื่อว่า หมอ หยอง คุณนายไก่ แลนางคงไม่ได้รวยจริง แต่...เป็นนักสร้างภาพให้ ดูหรูหราในสังคม คือจากข่าวที่ว่าแจกวันละล้าน ตอนนั้นเพราะ ต้องการอัพเกรดตัวเองให้สังคมรู้จัก ถามว่าเอาเงินมาจากไหน (ถ้า แจกจริงตามทีก่ ล่าวอ้าง) อันนีย้ ากทีจ่ ะตอบ แต่เป็นการลงทุนทีค่ มุ้ ค่า มากๆ เลือกหาคนใช้แต่เฉพาะสาวๆ หน้าตาดี และเจาะจงแต่เฉพาะ คนในครอบครัวที่มีฐานะล�ำบาก จากปากของนางบอกว่าจ้างมาเป็น ร้อยๆ คน จึงสงสัยว่าคนอื่น ๆ อีก 90 กว่าคนที่ไม่ปรากฏตอนนี้เขา ไปอยู่ไหนกัน จริงๆ คงไม่ถึงร้อยหรอก เพราะถ้าจ้างถึงร้อยคนแปล ว่าตอนนี้อายุนางต้องปาเข้าไป 150 ปีแล้วล่ะ การไปแจ้งความที่โรงพักเพื่อต้องการข่มขู่ให้กลัว และให้ผู้ เสียหายยอมมากกว่าซึง่ ทีผ่ า่ นมาได้ผล แต่รายล่าสุดนางท�ำไม่สำ� เร็จ เรื่องจึงเป็นเรื่องขึ้นมาให้พวกเราได้ติดตามกันในวันนี้ และ ที่แจ้ง ทรัพย์สนิ ทีห่ ายไปจ�ำนวนมหาศาล เพราะมันมีผลกับเงินประกันตัว ครับ ตอนแรกบอกว่าผูต้ อ้ งหาลักไป 10 ล้านกว่าๆ ตอนออกทีวบี อก ต�ำรวจพิมพ์ผิด เหลือแค่ 8 แสน!! พิมพ์ผิดตรงไหนไม่ทราบ?? เวลาเขาลงจ�ำนวนตัวเลข เขาจะต้องมีก�ำกับด้วยตัวอักษรเสมอ เหตุผลคือเพือ่ ป้องกันการผิดพลาดในตัวเลข และไม่ให้มกี ารเติมลง ไปได้อีกนั้น ถ้าคนมีเป็นร้อยๆ ล้านจริง ๆ คงไม่ต้องถึงกับเป็น ลมหรอกนะ และทีบ่ อกกับพิธกี รในรายการทีวบี อกว่า ยังมีทองค�ำอีก ร้อยกว่าแท่ง อยากรูว้ า่ มีตเู้ ซฟกีต่ กู้ นั แน่ เพราะน้องก้อยบอกว่า ตูเ้ ซฟ สูงประมาณ 40 ซม. เอง ถ้าตูเ้ ล็กขนาดนัน้ อยากรูว้ า่ มันจะเก็บทองค�ำ แท่งและเครื่องเพชรอื่นๆ ได้อีกกี่มากน้อย หารูปตัวอย่างจากเน็ต ก็ได้ประมาณนี้ ตอนนี้ซวยต้องเข้าไปนอนในคุกในข้อหา ม.112 ซะอีก!!!...

ชัยสมรภูมิ 77


อผศ.ผนึกศรัทธา สศม. สร้างเหรียญหลักเมืองมงคล ๘ ทิศ ๙ นาฬิกา ๙ นาที ถือฤกษ์มหามงคล นิมนต์เจ้าคุณธงชัย ประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมพิธีพุทธาภิเษก ๑๖ ส.ค.นี้ ที่ศาลหลักเมือง สำ�นักงานกิจการศาลหลักเมือง หรือ สศม. มีโครงการจัดสร้างเหรียญหลักเมืองมงคล ๘ ทิศ เพื่อให้ประชาชนได้เช่าไปสักการ บูชาโดยด้านหน้าเป็นรูปองค์หลักเมือง ขนาบข้างด้วยยันต์สุริยันและจันทรา ล้อมรอบด้วยภาพมงคล ๘ ทิศ ด้านหลังเป็นรูปดวงเมือง พร้อมระบุข้อความ“มงคลแปดทิศ”และ“ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๕๙” ความสูงขนาด ๒.๕ ซม.จำ�นวน ๑๓,๐๙๖ เหรียญ โดยการจัดสร้างจำ�นวน ๔ รูปแบบ ดังนี้ ๑. เนื้อทองคำ� จำ�นวน ๙๙ เหรียญ ราคาจำ�หน่าย ๓๔,๙๙๙.- บาท/เหรียญ ๒. เนื้อเงิน จำ�นวน ๙๙๙ เหรียญ ราคาจำ�หน่าย ๑,๙๙๙.- บาท/เหรียญ ๓. เนื้อนวโลหะ จำ�นวน ๑,๙๙๙ เหรียญ ราคาจำ�หน่าย ๕๙๙.- บาท/เหรียญ ๔. เนื้อทองแดง จำ�นวน ๙,๙๙๙ เหรียญ ราคาจำ�หน่าย ๑๙๙.- บาท/เหรียญ ในการนี ้ สศม.ขอเชิญผู้มีกุศลจิต เข้าร่ว มพิธีพ ุ ท ธาภิ เษกวั ตถุ ม งคล เหรี ย ญหลั ก เมื องมงคล ๘ ทิ ศ ณ ศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร ในวันอังคารที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๙ เวลา ๐๙.๐๙ น. โดยพระพรหมมังคลาจารย์(เจ้าคุณธงชัย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัด ไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ พลเอก รณชัย มัญชุสุนทรกุล ผู้อำ�นวยการองค์การ-สงเคราะห์ทหารผ่านศึก พร้อม ด้วย คุณสุตนิ า มัญชุสนุ ทรกุล นายกสมาคมแม่บา้ นองค์การ-สงเคราะห์ทหารผ่านศึก เป็นประธานฝ่าย ฆราวาส นายอดิศร สรเทศน์ ผูอ้ ำ�นวย การสำ�นักงานกิจการศาลหลักเมือง เป็นผู้รับนโยบายประสานการปฏิบัติ

78 ชัยสมรภูมิ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

“ก้าวเข้าสู่ห้วงเดือนการลงประชามติร่าง รัฐธรรมนูญ” ในวันที่ 7 ส.ค.ที่จะถึงนี้ ถือเป็น ช่วงเวลาที่ส�ำคัญของการเมืองไทยอีกครั้งหนึ่ง ที่จะก�ำหนดทิศทางการเมืองไทยว่าจะออกไป ทางไหน เป็นไปตามโรดแมปที่ คณะรักษาความ สงบแห่งชาติ (คสช.) รัฐบาล และกองทัพ ตั้ง เป้าหรือไม่คงจะได้รู้กัน คงต้องฝาก “บิ๊กหมู” พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ เลขาธิการ คสช. รับผิดชอบ การดูแลรักษาความเรียบร้อย “ประชามติ”ใน ครั้งนี้... ใกล้เข้าสูฤ่ ดูโยกย้ายปลายปี ส�ำหรับ ครั้งนี้ มีต�ำแหน่งผู้น�ำเหล่าทัพที่จะเกษียณอายุ ราชการ ประกอบด้วย “บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม, “บิก๊ เต้” พล.อ. สม หมาย เกาฏีระ ผูบ้ ญ ั ชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) “บิ๊กหมู” พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการ ทหารบก (ผบ.ทบ.),“บิก๊ ตู”่ พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง” ผูบ้ ญ ั ชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ท�ำให้การแต่งตัง้ โยกย้ายในครัง้ นี้ ได้รบั ความสนใจจากคอการเมือง และนายทหารในกองทัพว่า...ใครจะมาเป็นเบอร์ 1 ของแต่ละเหล่าทัพ ส�ำหรับส�ำนักปลัดกระทรวง กลาโหม “แคนดิเดต” ณ เวลานี้ “บิก๊ ช้าง” พล.อ. ชัยชาญ ช้างมงคล “ตท.16” รองปลัดกระทรวง กลาโหม ลูกหม้อทีเ่ ติบโตทางสายงานในส�ำนักงาน ปลัดกระทรวงกลาโหม โดยเวลานีถ้ อื เป็นมือท�ำงาน ของ “บิก๊ ป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สวุ รรณ รอง นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เลยก็วา่ ได้ ท�ำให้ มีโอกาสก้าวขึ้นเป็น “ปลัดกลาโหม” ได้ไม่ยาก กองบัญชาการกองทัพไทย หากไม่มอี ะไรพลิก “บิ๊กปุย” พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ “ตท.15” เสนาธิการทหาร ลูกหม้อของกองทัพไทยน่าจะเข้า วินได้ไม่ยาก เพราะเป็นเต็ง 1 ทีจ่ ะขึน้ นัง่ ผบ.สส. และได้รับการสนับสนุนจาก “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ. ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯ ทีไ่ ด้วางตัว “บิก๊ ปุย” มานาน โดยเฉพาะการเจริญเติบโตใน กองทัพไทยมาอย่าง...โชกโชน ขณะทีก่ องบัญชา การกองทัพบก “บิก๊ แกละ” พล.อ.พิสทิ ธิ์ สิทธิสาร “ตท.17” เสนาธิการทหารบก แคนดิเดต อันดับ 1 ทีจ่ ะได้ขนึ้ นัง่ เก้าอี้ “ผบ.ทบ.” โดยเฉพาะการเป็น “น้องเลิฟ-“บิก๊ ป้อม” พล.อ.ประวิตร โดยเส้นทาง การรับราชการนัน้ ถือได้วา่ เป็นนายทหาร “บูรพา พยัคฆ์” ทีเ่ ติบโต พล.ร.2 รอ.และย้ายมาโต “วงศ์ เทวัญ” ใน พล.1 รอ. ผ่านการเป็นผูก้ าร ร.11 รอ. ขณะที่ แ คนดิ เ ดท คนที่ 2 “บิ๊ ก เจี๊ ย บ”

พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ พล.อ.พิสทิ ธิ์ สิทธิสาร พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท

พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท “ตท.16” ผูช้ ว่ ยผูบ้ ญ ั ชา การทหารบก นายทหารหมวกแดงสายรบพิเศษ ทีม่ โี อกาสชิงเก้าอีกเบอร์ 1 ใน ทบ. แม้วา่ โอกาส จะเริม่ น้อยลงเข้าไปทุกที แต่ตราบใดทีย่ งั ไม่มกี าร โปรดเกล้าฯก็ยงั ได้ลนุ้ จนวินาทีสดุ ท้าย อย่างไรเสีย หากพลาดหวั ง อาจต้ อ งย้ า ยข้ า มห้ ว ยไปโตใน ต�ำแหน่ง “รองปลัดกลาโหม” เลยก็วา่ ได้ แต่อกี “ไฮไลต์” คือการทีใ่ ครจะมาเป็น 5 เสือ ทบ. โดย จะมีการขยับ “บิก๊ เข้” พล.ท.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ “ตท.18” แม่ทพั ภาคที1่ จะขยับขึน้ มาเป็น ผูช้ ว่ ย ผบ.ทบ. เพื่อจ่อขึ้นเป็น “ผบ.ทบ.” ในครั้งหน้า ขณะที่ การแย้งชิง ผูช้ ว่ ย ผบ.ทบ. อีก 1 ต�ำแหน่ง นั้น ได้แก่ “บิ๊กอ้อม” พล.ท.วีรชัย อินทุโศภณ “ตท.18” ผบ.หน่วยบัญ ชาการรักษาดินแดน (นรด.) น้องรัก พล.อ.ประวิตร ทีท่ ำ� งานมาด้วยกัน ยาวนาน มีสิทธิ์ก้าวขึ้นมายัง 5 เสือ ทบ.เช่น เดียวกัน ขณะที่ “บิก๊ แช” พล.ท.วิชยั แชจอหอ “ตท.17” แม่ทพั ภาคที่ 2 ก็มลี นุ้ ขึน้ มาเป็น ผูช้ ว่ ย ผบ.ทบ.เช่นเดียวกัน ดังนั้นต้องจับตาอย่าได้กระ พริบเลยทีเดียว ในส่วน “เสธ.ทบ.” นั้น จับตา “บิ๊กต้อ” พล.ท.สสิน ทองภักดี “ตท.17” รอง เสธ.ทบ. มีลนุ้ ขึน้ เป็น “เสธ.ทบ.” เพราะดูงานใน ด้านยุทธการมาโดยตลอด และมีแรกสนับสนุน จากคนรอบข้าง “บิก๊ ตู”่ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ฝา่ ย ยุทธการมีตำ� แหน่งเติบโตใน ทบ.ด้วย ส�ำหรับ ต�ำแหน่ง “แม่ทพั ภาคที่ 1” ทีจ่ ะว่างลงแน่ๆ นัน้ เป็นการชิงกันระหว่าง เพื่อน “ตท.20” “บิ๊กตู่” พล.ต.กูเ้ กียรติ ศรีนาคา รองแม่ทพั ภาคที่ 1 นาย ทหารบูรพาพยัคฆ์ ทีว่ นั นีห้ ลายคนมองว่ามีภาษีดี ที่ สุ ด “บิ๊ ก แดง” พล.ท.อภิ รั ช ต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพน้อยที่ 1 นายทหารสายเหยี่ยว ลูกชาย “บิก๊ จ๊อด” พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีต ผบ.สส. และแคนดิเดตคนสุดท้าย “บิ๊กณัฐ” พล.ท.ณัฐ อินทรเจริญ รองเสนาธิการทหารบก น้องเลิฟ “บิ๊กป้อม” อีกคน.. เรียกได้ว่าศึกเพื่อน ตท.20 เลยก็วา่ ได้ กองบัญชาการกองทัพอากาศ เก้าอี้ “ผบ.ทอ.” มีแคนดิเดตหลายคน แต่เต็ง 1 “บิ๊ก จอม” พล.อ.อ.จอม รุง่ สว่าง เสนาธิการทหารอากาศ ที่ ห ลายคนเชื่ อ ว่ า น่ า จะขยั บ สมหวั ง ในเก้ า อี้ “แม่ทพั ฟ้า” แต่หากมองผูท้ มี่ สี ทิ ธิย์ งั มี “บิก๊ เจีย๊ บ” พล.อ.อ.สุทธิพนั ธุ์ กฤษณะคุปต์ ประธานคณะที่ ปรึกษากองทัพอากาศ ทีอ่ าวุโสสูงสุด นอกจากนี้ ยังมีคนนอกอย่าง “บิ๊กโป่ง” พล.อ.อ.ศิวเกียรติ ชเยมะ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ทีถ่ กู เด้งออก

จาก ผู้ช่วย ผบ.ทอ.” เมื่อปีที่แล้ว ยังไม่เกษียณ สามารถย้ายกลับเข้ามาชิงเก้าอี้ตัวนี้ได้เช่นกัน... ล่าสุด มีขา่ วว่า ทบ. ได้เซ็นสัญญาจัดซือ้ รถถัง VT4 ของสาธารณรัฐประชาชนจีน จ�ำนวน 28 คัน วงเงิน 4.9 พันล้านบาท ระยะเวลาปี 25592561 เพือ่ น�ำไปประจ�ำการทีก่ องพลทหารม้าที่ 3 (พล.ม.3) จ.ขอนแก่น เนือ่ งจากรถถังทีม่ อี ยูป่ ระจ�ำ การนัน้ เก่าและล้าสมัยโดยก่อนหน้านัน้ ทบ. ได้ พิจารณารถถัง T90 รัสเซีย และ VT4 จีน โดย มีคณะกรรมการนายทหารชัน้ ผูใ้ หญ่ ทบ. ได้เดิน ทางไปดูโรงงานผลิตและความพร้อมในที่สุดได้ ตัดสินใจเลือกรถถัง VT4 จากจีน เพราะมีความ พร้อมมากที่สุดและลงตัวกับงบประมาณที่ ทบ. โดยมี “บิก๊ ต้อ” พล.ท.สสิน ทองภักดี รอง เสธ. ทบ. “บิก๊ ต้อม” พล.ท.วราห์ บุญญะสิทธิ์ รอง เสธ.ทบ. และนายทหารที่เกี่ยวข้องเดินทางไปดู โรงงานและสนามทดสอบทีเ่ มืองบาวตู เขตปกครอง ตนเองมองโกเลียในประเทศจีน จนในทีส่ ดุ เมือ่ เร็วๆ นี้ “บิก๊ เจีย๊ บ” พอ.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้ ช่วย ผบ.ทบ. เป็นตัวแทน “บิก๊ หมู” พล.อ.ธีรชัย เดินทางไปจีนและลงนามในสัญญาจัดหารถถัง VT4 จากประเทศจีน จ�ำนวน 28 คัน ..น่าตืน่ เต้น กับรถถังโฉมใหม่ของ ทบ. วันที่ 11 สิงหาคม วันคล้ายวันเกิด “บิก๊ ป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์ สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ครบรอบ วันเกิด 71 ปี ดังนั้น ต้องจับตาว่าปีนี้จะเปิด มูลนิธปิ า่ รอยต่อ 5 จังหวัด ภายใน ร.1 รอ. “บิก๊ ตู”่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.จะน�ำ ผบ.เหล่าทัพอวยพร พร้อมนายทหาร และภาคเอกชนทีม่ าร่วมงานตามประสา “ซุปเปอร์ คอนเน็กชัน่ ” ยิง่ ใหญ่...เพียงใด ขอชืน่ ชมการ ยกระดับ “ความอุน่ ใจ” ให้คนเมืองกาญจน์ฯกับ “เสธ.เต้น - พ.อ.สุทธิพงษ์ พืชมงคล” รอง เสธ. บก.ควบคุม พล.ร 9 โชว์ผลงานหรู เมือ่ สนธิกำ� ลัง เจ้าหน้าที่ ตม. และฝ่ายปกครองกาญจนบุรี สกัด กัน้ พร้อมจับกุม 25 แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาร์ ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายโดยมีผู้น�ำพา คนไทย 1 ราย เจ้าตัวสารภาพท�ำมาแล้วกว่า 10 ครัง้ ได้คา่ จ้างเทีย่ วละ 5,000 เผยเสพยาบ้าทุก วัน ค้นแรงงานต่างด้าวพบเพิม่ อีก ทัง้ นี้ ถือได้วา่ เป็ น อี ก หนึ่ ง ผลงานที่ ยื น ยั น ถึ ง มาตรฐานการ ด�ำเนินงานตามนโยบาย คสช.ได้เป็นอย่างดียิ่ง เลยทีเดียว

ชัยสมรภูมิ 79


สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชด�ำเนิน แทนพระองค์ไปในการประกอบพระราชพิธี เนือ่ งในวันฉัตรมงคล ณ พระทีน่ งั่ อมรินทรวินจิ ฉัย พระบรมมหาราชวัง ในโอกาสนี้ พระเจ้าหลานเธอพระ องค์เจ้าพัชรกิตยิ าภา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิรวิ ณ ั ณวรีนารีรตั น์ และ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปงั กรรัศมีโชติ โดยเสด็จด้วย เมือ่ วันที่ 5 พฤษภาคม 2559

ถวายพระพร – พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ นายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ใน พระบรมราชูปถัมภ์ น�ำคณะกรรมการที่ปรึกษาสมาคม ร่วมอัดเทปถวาย พระพรเนือ่ งในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ณ สถานีโทรทัศน์ กองทัพบก ช่อง 5 เมื่อเร็วๆ นี้

จับมือทักทาย – พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช. พร้อมด้วย พลเอกประวิตร วงษ์สวุ รรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จับมือพูดคุยทักทายกับผู้น�ำศาสนาอย่างเป็นกันเอง โดยลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ประชุมหน่วยงานมั่นคงและติดตามสถาน การณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และอีก 4 อ�ำเภอ จังหวัดสงขลา เมื่อ เมื่อเร็วๆ นี้

80 ชัยสมรภูมิ

ลงนาม - พลเอกพิสิทธิ์ สิทธิสาร เสธ.ทบ.เป็นผู้แทนลงนามบันทึก ข้อตกลง (MOU) การใช้ข้อมูลแผนที่รหัสมาตราส่วน 1:4000 ระหว่าง กรุงเทพมหานคร กับกองทัพบก ณ ห้องประชุมสุทัศน์ ในศาลาว่าการ กรุงเทพมหานคร เมื่อ เร็วๆ นี้

มอบกระบือเผือก - กฤตพัฒน์ จุลไสย (ไมค์ ณ ชุมพร) ชัชวรินทร์ ธน ธนินท์ศักดิ์ เดินทางไปมอบกระบือเผือก 3 ตัว ซึ่งถ่ายชีวิตจากโรงฆ่า จว.ปทุมฯ ไปมอบให้เกษตรกรผู้ยากไร้ พื้นที่ อ.สันป่าตอง จว.เชียงใหม่ “เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ” เนื่องใน โอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี โดยมี คมกฤช ตรีธัญญพงษ์ นอภ.สันป่าตอง, ธีรพงษ์ บุรีรักษ์ ผอ.ไฟฟ้าภูมิภาค เขต 1 เชียงใหม่ สมพงษ์ ปฤชานนท์ ผจก.PEA สันป่าตอง และ สุพจน์ แสง เขื่อนแก้ว จนท.ประชาชนร่วมเป็นสักขีพยานอย่างอบอุ่น เมื่อเร็วๆ นี้

ตรวจเยี่ยมฝึกกลยุทธ์ – พลเอกสมหมาย เกาฏีระ ผู้บัญชาการทหาร สูงสุด เป็นประธานตรวจเยี่ยมการฝึกการด�ำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง เพือ่ เตรียมความพร้อมกองทัพไทยในการป้องกันประเทศ ณ เนินคนดู สนาม ฝึกทางยุทธวิธกี องทัพภาคที่ 2 (ภูลำ� ใย) อ.วังน�ำ้ เขียว จังหวัดนครราชสีมา เมื่อเมื่อเร็วๆ นี้


ให้การต้อนรับ - พลเอกอุดมเดช สีตบุตร รมช.กห. เป็นผู้แทนให้การ ต้อนรับ พล.ร.ท.Caesar C Taccad AFP (ซีซาร์ ซี แทคแคด) ผบ.ทร. สาธารณรัฐฟิลปิ ปินส์และคณะ โดยได้รบั การมอบหมายจาก พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม.และ รมว.กห. โอกาสเข้าเยี่ยมค�ำนับที่เดินทาง เยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของกองทัพเรือ ณ ศาลาว่าการ กลาโหม เมื่อเร็วๆ นี้

สถาปนา – พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ผช.ผบ.ทบ. (1) เป็นประธานในพิธวี นั สถาปนาส�ำนักงานตรวจสอบภายใน ทหารบก (สตน.ทบ.) โอกาสครบรอบ 38 ปี ณ ส�ำนักงานตรวจสอบ ภายใน ถนนราชวิถี แขวงวชิระ เขตดุสิต กรุงเทพฯ เมื่อเมื่อเร็วๆ นี้

ร่วมยินดี- ธนะพงษ์พฒ ั น์ ธนะโสภณ ผอ.ส่วนควบคุมทางศุลกากร เลีย้ ง ยินดีและให้กำ� ลังใจในการปฏิบตั หิ น้าที่ พล.ต.ต.ภาณุรตั น์ มีเพียร ทีป่ รึกษา ผู ้ ว ่ า ฯ กทม. ณ โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ โดยมี MR.XIANG ZHANG Assistant To Chairman Executive Chairman Office บริษัททรูฯ แถวยืนซ้ายสุดร่วมด้วย เมื่อเร็วๆ นี้

อาเศียรวาท- พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. น�ำคณะ รอง ผบช.น., ผบก.น. 1 - 9, อก., จร. , สปพ., อคฝ., สส. พร้อมคณะแม่บา้ นฯ น�ำโดย คุณ ฉวีวรรณ มหถาวร ประธานชมรมแม่บา้ นต�ำรวจนครบาล ร่วมบันทึกเทป โทรทัศน์พธิ อี าเศียรวาท เนือ่ งในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระ นางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 เมื่อเร็วๆ นี้

มีคณ ุ ค่า-พลเอกธารไชยยันต์ ศรีสวุ รรณ รอง เสธ.ทหาร (1) รับมอบหนังสือ เรือ่ งสัน้ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั “ชุดแสงธรรมแห่ง ศรัทธา” จาก กฤตพัฒน์ จุลไสย (ไมค์ ณ ชุมพร) บรรณาธิการอ�ำนวยการ บริหาร นสพ.ชัยสมรภูมิ โดยมี กิตติภพ จารุสิงห์ ร่วมด้วย ณ ห้อง รับรองกองบัญชาการทหารสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ เมือ่ เร็วๆนี้

ศึกษาดูงาน - พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒจิ รัสธำ�รง รอง ผบช.ภ.7 พร้อมคณะ นักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุน่ 58 ศึกษาดูงานที่กองพล ทหารราบที่ 9 รักษาพระองค์ (กองกำ�ลังสุรสีห์) โดยมี พล.ต.ธรรมนูญ วิถี ผบ.พล.ร.9 นักศึกษาร่วมรุ่น ให้การต้อนรับ ณ กองพลทหารราบที่ 9 จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อเร็วๆ นี้

ชัยสมรภูมิ 81


ร่วมประชุม- พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คณะรักษาความมัน่ คงแห่งชาติ (คสช.) เดินทางไปร่วมประชุมผูน้ ำ� เอเชีย – ยุโรป (อาเซ็ม) ครัง้ ที่ 11 ระหว่างวันที่ 14-16 กรกฎาคม 2559 ทีก่ รุง อูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย

กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ – พลเอกธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ.เป็น ประธานในพิธีกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี โดย ภายในมีกิจกรรมสักการะและถวายพระพรชัยมงคล,บริการทางแพทย์ และบริจาคโลหิต ถวายเป็นพระราชกุศล ณ ห้องรับรอง 212-213 กอง บัญชาการกองทัพบก เมื่อเร็วๆ นี้

มอบหนังสือมีคณ ุ ค่า - นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี รับมอบหนังสือ“เรือ่ งสัน้ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ชุด แสงธรรมแห่งศรัทธา” จาก กฤตพัฒน์ จุลไสย (ไมค์ ณ ชุมพร) ผูอ้ ำ� นวย การบรรณาธิการบริหาร โดยมี ณรงค์ฤทธิ์ ทิมทอง ร่วมด้วย ณ โรงแรม แปซิฟกิ ถนนสุขมุ วิท กรุงเทพฯ เมือ่ เร็วๆ นี้

82 ชัยสมรภูมิ

วางศิลาฤกษ์ - พลเอกประวิตร วงษ์สวุ รรณ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ในพิธวี างศิลาฤกษ์และเททองการก่อสร้างอนุสาวรีย์ ร.5 ณ ส�ำนักงานปลัด กระทรวงกลาโหมในพืน้ ทีศ่ รีสมาน จังหวัดนนทบุรี โดยมี ผูน้ ำ� ทัง้ 4 เหล่าทัพ ร่วมพิธี ซึง่ พลเอก ปรีชา จันทร์โอชา ปล.กห.ให้การต้อนรับ เมือ่ เร็วๆ นี้

มอบช่อดอกไม้– พล.ต.ต.อิทธิพล พิรยิ ะภิญโญ รอง ผบช.น. น�ำคณะ รอง ผบช.น และ ผบก.น.1-9 อก.,จร.,สปพ.,อคฝ.,และ สส. ร่วมมอบช่อ ดอกไม้เพือ่ ยินดี พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น.โอกาสทีไ่ ด้รบั มติ ก.ตร. แต่งตั้งให้ด�ำรงต�ำแหน่ง ผบช.น. พร้อมทั้งให้โอวาทในการท�ำงาน ณ ลานเอนกประสงค์ บช.น.เมือ่ เร็วๆ นี้

ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ-พลตรี ธรรมนูญ วิถี ผบ.พล.ร.9 เป็นประธาน ปลูกต้นคูนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภูมพิ ลอดุลยเดช ทรงครองศิริราชสมบัติ ครบ 70 ปี และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินนี าถ มีพระชนมายุครบ 84 พรรษา น�ำโดย นายพีรศิษย์ สุขสวัสดิ,์ พ.ต.อ.ไกรเลิศ บัวแก้ว,ร่วมกับนายเดโช ประกาศแก่นทราย นายอ�ำเภอ ไทรโยค, องค์การบริหารส่วนต�ำบล วังกระแจะ ประชาชนชาวใต้และประชาชน ในจังหวัดร่วมปลูกต้นคูน 3,000 ต้น 15 กิโลเมตร เมือ่ เร็วๆ นี้




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.