ชัยสมรภูมิ ฉบับที่63

ภาพพระราชทาน

วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2559 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร โปรดเกล้าฯ ให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี น�ำคณะรัฐมนตรี จ�ำนวน 12 คน เข้าเฝ้าฯ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

EDITOR’S TALK

สวัสดีปีใหม่ไทยยุคเปลี่ยนผ่าน ประธานที่ปรึกษากิตติศักดิ์ พลเอก ธีรเดช มีเพียร ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ พลเอกสัมพันธ์ บุญญานันต์ พลเอกพัฑฒนะ พุธานานนท์ พลเอกพูลสวัสดิ์ ปัญจมานนท์ พลเอกปรีชา เปรมาสวัสดิ์ พลเอกขวัญชาติ กล้าหาญ พล.ต.ต.ภานุรัตน์ มีเพียร คุณวิชัย ศรีขวัญ คณะที่ปรึษา พลเอกวิโรจน์ บัวจรูญ พลเอกไพโรจน์ นาคฉัตรีย์ พลเอกประดิษฐ์ บุญเกิด พลเอกสามารถ สมเศรษฐ์ พลเอกปรีชา ตุลย์สุวรรณ พลเอกชูศิลป์ คุณาไทย พลเอกกะสิณ ทองโกมล พล.ท.หญิง สุขุมาล เวศวงศ์ษาทิพย์ พล.ท.สมบูรณ์ ศรีมนฑา พล.ต.อ.ณรงค์วิช ไทยทอง พล.ต.ท.ณัฐพงษ์ วัฒนสุคนธ์ พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ แสงเพชร คุณชลิต เรืองวิเศษ คุณนิธิชัย สุภาวงษ์ คุณชาคริต กฤติยาโชติปกรณ์ คุณแสน เจริญจิตร ที่ปรึกษากองบรรณาธิการ พลเอกบัญชร ชวาลศิลป์ ปรีชา สามัคคีธรรม พลโทสุวัฒน์ อักษรกิตติ์ พล.ต.สัมพันธ์ แจ้งเจนเวทย์ พันเอกหญิงนันทนา ปัญญะบูรณ์ อารักษ์ คคะนาท ดร.ปรภฏ ศศิประภา ดร.สุเมต สุวรรณพรหม โกสินธ์ จินาอ่อน สุนทร ช่วยตระกูล พิพัฒน์ นวสวัสดิ์ ภูวนารถ ณ สงขลา ชะวัชชัย พาติณธุ กิจจา เจริญเกียรติก้อง

สวัสดีปีใหม่ไทยตามประเพณีท่านผู้อ่านที่เคารพรักทุกๆ ท่าน ส�ำหรับปีไก่ทองค�ำ ก่อนอืน่ ผมขออัญเชิญพรจาก “อัครไตรภาคี” พุทธ, คริสต์, อิสลาม, ดวงพระวิญญาณแห่ง องค์บรู พกษัตริยไ์ ทยทุกๆ พระองค์ พระมหาบารมีแห่ง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 โปรดดลบันดาลให้ทา่ นผูอ้ า่ นทุกๆ คนได้เริม่ ต้นปีใหม่ๆ กันด้วยความสุขส�ำเร็จดังใจปรารถนาใน ทุกๆ ประการตลอดปีและ...ตลอดไป ส�ำหรับการเดินทางของตัวเลขหลังปี พ.ศ.2560 นี้ สามารถบ่งบอกทิศทางและความ เป็นไปของเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือ อัตราจรของวงการ สื่อสารมวลชนในทุกๆ ศาสตร์สาขา ซึ่งเรียกได้ว่าจะต้องปรับตัวกันขนานใหญ่ เพื่อให้สอด คล้องกับสถานการณ์ที่ก�ำลังเปลี่ยนผ่านไปอย่างรวดเร็วจากผลพวงของโลกออนไลน์ที่มี เหตุผลส�ำคัญอันเนือ่ งมาจากสมาร์ทโฟนเป็นหลัก เพราะเมือ่ การติดต่อสือ่ สารเกือบทัง้ หมด บนโลกใบนี้ถูกน�ำมาบรรจุไว้ในโทรศัพท์แค่เพียงเครื่องเดียวก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้อีกต่อว่า สิ่งนี้คือเหตุผลส�ำคัญที่สื่อยักษ์ใหญ่ทั่วทั้งโลกจะต้องปรับตัวให้เท่าทันกับความเปลี่ยน แปลง ปัจจุบัน ภาพการใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนเพื่อเข้าไปสู่การติดต่อสื่อสารในโลกออนไลน์ นั้น ได้กลายเป็นเรื่องราวปกติในชีวิตประจ�ำวันไปแล้ว ประชาชน หรือ ผู้รับสาร สามารถ เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ทนั ทีตงั้ แต่ทลี่ มื ตาตืน่ ซึง่ บางคนยอมรับว่าไม่ได้เสพย์สอื่ จากโทรทัศน์เลย ถึงแม้จะมี ทีวีดิจิตอลมาให้เลือกรับชมกันอย่างหลากหลายมากขึ้นก็ตามที และในกรณีนี้ จึงท�ำให้ทีวีดิจิตอลแทบจะทุกช่องได้รับผลกระทบจนมีผู้ประกอบการบางรายถึงกับต้อง ยอมปิดตัวลงไปและบางรายก็เริ่มส่งสัญญาณออกมาให้เห็นแล้วว่าจะต้องยกเครื่องปรับ เปลี่ยนกลยุทธ์การด�ำเนินงานกันเป็นอย่างมากเลยทีเดียว แต่เมื่อมาดูในด้านของสื่อสิ่งพิมพ์ที่ถือได้ว่าเป็นสื่อที่ได้รับผลกระทบจากโลกโซเชียล หรือ สือ่ ออนไลน์ มากทีส่ ดุ นัน้ แน่นอนว่ามีผลท�ำให้สอื่ ดังหลายๆ หัวถึงขัน้ ต้องประกาศปิดตัว และบางหัวประกาศยอมรับว่าก�ำลังอยูใ่ นช่วงขาลง แต่ขณะเดียวกันสือ่ สิง่ พิมพ์กย็ งั มีความ หมายอยู่ในรูปลักษณ์ที่สามารถเป็นเจ้าของ สัมผัส จับต้องได้ จึงท�ำให้ยังมีกลุ่มผู้อ่านที่ยัง ให้ความส�ำคัญอยู่พอสมควร ดังนั้น การจะอยู่หรือไปของสื่อสิ่งพิมพ์ จึงมีนัยส�ำคัญอยู่ที่ กลยุทธ์และการบริหารจัดการเป็นส�ำคัญ ซึ่งจากสภาพการณ์ดังกล่าวนั้น ท�ำให้ต้องมีการ ปรับปรุงตัวเอง เพื่อปรับเปลี่ยนภาชนะจากที่เคยใส่ข้อมูลข่าวสารลงไปในกระดาษให้มาอยู่ บนสมาร์ทโฟน เพื่อน�ำตัวเองเข้าไปอยู่ในพื้นที่ของ “โลกออนไลน์” ให้มากที่สุดเท่านั้นเอง ทั้งนี้ทั้งนั้น หากเมื่อย้อนกลับไปในสมัยเมื่อราว 20 กว่าปีที่แล้ว ก็คงจะไม่มีใครเชื่อว่า สื่อ ออนไลน์จะมีผลกระทบกับวงการสือ่ เก่า หรือ สือ่ ดัง้ เดิม ได้มากมายมหาศาลถึงเพียงนี้ ดังนัน้ การยอมรับสภาพการณ์ในปัจจุบัน เพื่อน�ำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าจึงไม่อาจที่จะหลีก เลีย่ งได้อกี ต่อไป ดังเช่นค�ำทีว่ า่ เกิดก่อนเจริญเติบโตให้ผลทีง่ ดงามก่อน และจะไม่ใช่เกิด ก่อนตายก่อนอย่างที่ผ่านมาอีกต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้ผู้อ่านทุกๆ ท่านได้ลองย้อนถามตัวเองดูสักนิดว่า ในปีที่ผ่านมามีอะไร ที่จะต้องปรับปรุงหรือพัฒนาให้ดีขึ้นบ้างและเมื่อพบค�ำตอบแล้วก็ขอให้อย่ารีรอที่จะลงมือ ท�ำให้ประสบความส�ำเร็จโดยเร็วพลัน อย่างเช่นค�ำว่า เกิดก่อนย่อมเติบโตและประสบผล ส�ำเร็จก่อน

ด้วยคารวะ

บรรณาธิการอ�ำนวยการบริหาร

ปีที่ 9 ฉบับที่ 63

คณะผูจ้ ดั ท�ำ

ผูอ้ ำ� นวยการ ไมค์ ณ ชุมพร บรรณาธิการบริหาร พลาดิศยั สิทธิธญั กิจ ผูช้ ่วยบรรณาธิการบริหาร ภูพชั ร ภู่ทอง บรรณาธิการข่าว ท�ำนอง ประชารักษ์ ผูช้ ่วยบรรณาธิการข่าว เฉลิมวุฒิ วรสิทธิ์พพิ ฒั น์ หัวหน้ากองบรรณาธิการ ณรงค์ฤทธิ์ ทิมทอง กองบรรณาธิการ ทรงวุฒิ ช่วยตระกูล, วรกร ทรัพย์ไทยกุล อนิรุทธิ์ ชวางกูร, กิตติพงศ์ รังสรรค์ปรีชา, หางกระดิง่ สินชัย ฉิมเกิด คอมพิวเตอร์กราฟิ ก ธนัญธร เจริญลาภ หัวหน้าช่างภาพ ว่าทีร่ อ้ ยตรี อรุณ สิทธิโชค บรรณาธิการข่าวภูมิภาค ธรรมรัตน์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผูส้ อ่ื ข่าวภูมิภาค ณัฐวุฒิ ละออสุวรรณ, นัยน์กมล ทันนิเทศ บรรณาธิการโฆษณา ชรินทร จุลไสย ผูช้ ่วยบรรณาธิการโฆษณา ลัญฉกร บุตรวงษ์ (แอ็กซี)่ ฝ่ ายโฆษณา ศุภโชติ พาณิชรัตนพร, กมลวิสษิ ฐ์ สัมฤทธิ์โรจนกุล ที่ปรึกษาฝ่ ายกฎหมาย นิพธั ปิ่ นแสง, อรรถ แสงจิตต์, ธนพงษ์ ธนะโสภณ, จตุรงค์ พลนิล บรรณาธิการผูพ้ มิ พ์โฆษณา กฤตพัฒน์ จุลไสย ส�ำนักงาน 135/262 อาคาร 3 โสสุนทรคอนโด ต�ำบลตลาดขวัญ อ�ำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000 โทร : 0-2951-6529 แฟกซ์ : 02-881-6499 บริษทั ไอเดียพริ้นติ้ง (2013) จ�ำกัด 449 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 75 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 10700 โทร : 096-750-5052, 083-702-1730

4 ชัยสมรภูมิ

CONTENTS ธ ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม โฟกัสวิสัยทัศน์อันเฉียบคมของ ผู้บัญชาการทหารเรือ ถึง โฆษก ทร./ศปมผ. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณฯ รัชกาลที่ 10 “ชัชจริง”... คนจริง ชัชวาล คงอุดม เที่ยวเมืองชุมพร ครบวงจรแห่งความสุข “บิ๊กอู๊ด” พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ เผยผู้ตรวจฯ ทั่วโลกร่วมถวายอาลัยในหลวง ร.9

คนเด่นในสมรภูมิ พล.อ.อุทิศ สุนทร สนช. สายแข็ง ตื่นทั่วประเทศ ปฏิบัติการ ชัยยะสยบไพรี 60/1-2 ล้างบางขบวนการนักค้าค้ายาไม่จ�ำกัดไซส์ สมรภูมินักสู้ นักรบเหรียญรามา ขุนพล 4 สมรภูมิ พล.อ.ปราการ ชลยุทธ ลงพื้นที่ภูธร 1 เกาะติดการท�ำงานของ บิ๊กโอ๋ พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธ�ำรงค์

‘ม.44’ บวก ‘ป.ย.ป.’ แน่ใจหรือว่าปรองดองได้ แผนแห่งชาติว่าด้วย การบริหารทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

เปิดต�ำนาน นักรบ ผู้ปิดทองหลัง “ชีวิตคนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นคนดีได้” ละเดช แวดไทยสงค์

เปิดหัวใจ พล.ต.ณรงค์พันธ์ จิตติ์แก้วแท้ ผบ.พล.1 รอ. ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิพระ วิธีหามวลชนของ ตร.นนทบุรี เสียงวิงวอนจากอดีตรั้วเหล็กของชาติ พลฯ เพี้ยน ทองมา เซ็กส์ กับ วันวาเลนไทน์ ความสัมพันธ์ไทย-พม่า ทหารมีไว้ท�ำไม?... “ท�ำไมต้องมีทหาร” กนกพงศ์ สงสมพั น ธุ ์ นักเขียนหนุ่มแห่งยุคสมัย นักการเมือง “พึงตระหนัก”...เรียนรู้ “ไม่ให้ทหารปฏิวัติ!?!” ง่ายนิดเดียว จับเข่าคุย เสธ.จอย เปิด พรบ.ก�ำลังพลส�ำรอง ไขก๊อก เรียกระดมพล กลางปีนี้ แบไต๋ เตรียมแยกฝึก 2 รูปแบบ ดวงดาวพยากรณ์ 12 ราศี เปิดประเด็น 2 สภา รอบรั้วปทุมวัน สังคมชัยสมรภูมิ

6 9 11 15 19 23 26 29 34 37 39 42 44 47 50 52 54 56 59 62 66 69 72 74 76 80

ชัยสมรภูมิ 5

ธ ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม จากพระราชปณิธานของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ 9 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพ ิ ล อดุลยเดช ที่ทรงพระราชทานเอาไว้ในปฐมพระบรมราชโองการในระหว่างพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ความว่าดัง

“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”

ตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้รวมเวลา 67 ปี ซึง่ พระองค์กท็ รงอุทศิ พระหทัยและ พระวรกาย เพือ่ ประโยชน์สขุ แห่งมหาชน ชาวสยาม ให้ เป็ นที่ ป ระจักษ์อ ย่า งเป็น รูปธรรม ในฐานะ “พ่อของแผ่นดิน” ด้วย พระราชจริยวัตรทีง่ ดงามยิง่ แม้ตา่ งประเทศ ก็ยอมรับในสายพระเนตรอันกว้างไกล และในพระมหาอัจฉริยะภาพด้านต่างๆ ของพระองค์ ทีท่ รงปฏิบตั เิ อาไว้เพือ่ ความ สุขร่มเย็นของเหล่าพสกนิกรชาวไทย

พระราชจริยวัตร ของพระบาท สมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว ภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช แห่งบรมราชจักรีวงศ์ ประกอบด้วยทศพิธ ราชธรรม คือ ธรรม 10 ประการ อันพึง ปฏิบตั ใิ นพระราชจริยวัตร โดยจัดเป็นพระ คุณสมบัติที่ส�ำคัญยิ่งคือ...

ธรรมะข้อ 1. ทาน หมายถึงพระ ราชทานพัสดุสงิ่ ของหรือปัจจัย 4 ทีจ่ ำ� เป็น แก่ผู้สมควรจะได้รับ อาทิ พระภิกษุสงฆ์ และราษฎรผู้ยากไร้ เป็นต้น นอกจากนี้ ยั ง รวมถึ ง พระราชทานพระบรมราชู ป ถัมภ์แก่พระราชวงศานุวงศ์ และข้าทูล ละอองธุลีพระบาท ตามสมควรแก่ฐานะ

ธรรมะข้อ 2. ศีล หมายถึง ทรงศีล หรือการที่ทรงตั้งสังวร รักษาพระวรกาย วาจาให้ ส ะอาดปราศจากโทษอันครหา พระองค์ทรงมีพระราชศรัทธาในพระพุทธ ศาสนาเป็นอย่างยิง่ โดยได้เสด็จออกทรง ผนวชเพือ่ ศึกษาและทรงปฏิบตั พิ ระธรรม วินัยอุทิศพระราชทานกุศล เพื่อพระราช ทานแก่ปวงชนชาวไทย

6 ชัยสมรภูมิ

ภาพพระราชทาน

ธรรมะข้อ 3. บริจาค หมายถึง การ ทีพ่ ระองค์ทรงมีพระราชบริจาคไทยธรรม หรือสิง่ ของทีพ่ ระราชทานให้เป็นประโยชน์ ทั้ ง แก่ พ ระราชวงศานุ ว งศ์ แ ละทู ล ข้ า ละอองธุลีพระบาทตามฐานะที่ราชการ ฉลองพระเดชพระคุณ รวมทัง้ พระราชทาน แก่ประชาชนผูย้ ากไร้ให้ได้อาศัยเลีย้ งชีวติ

ธรรมะข้อ 4. อาชวะ หมายถึง

การซื่ อ ตรงทรงมี พ ระราชอั ช ฌาสั ย อันประกอบด้วยความซือ่ ตรง ด�ำรงในสัตย์ สุจริต ซื่อตรงต่อพระราชสัมพัน ธมิ ต ร พระราชวงศ์ ข้าทูลละอองธุลีพระบาท ทัง้ ปวง ไม่ทรงคิดลวง ประทุษร้าย โดยอุบาย ผิดยุติธรรม

ธรรมะข้อ 5. มัททวะ คือ ทรง อ่อนโยน ไม่ดอื้ ดึง ถือพระองค์ แม้มผี ตู้ กั

เตือนในบางอย่าง ด้วยความมีเหตุผล ก็ จะทรงพิจารณาโดยถีถ่ ว้ น ถ้าถูกต้องดีชอบ ก็ทรงอนุโมทนาและปฏิบัติตาม

ธรรมะข้อ 6. ตบะ หมายถึง ความ เพียร ทรงสมาทานกุศลวัตรด้วยการเอา พระราชหฤทั ย ใส่ ใ นการปกครองพระ ราชอาณาจักรและประชาชนให้มีความ สุขปราศจากอันตราย ตลอดถึงการที่ทรง มีพระอุตสาหะอันแรงกล้า ในกุศลสมาทาน ระวังบาปทีย่ งั ไม่เกิดขึน้ และเพือ่ จะก�ำจัด บาปกุศลที่เกิดขึ้นแล้วให้เสื่อมสูญไป

ธรรมะข้อ 7. อักโกธะ ความไม่โกรธ ทรงมีพระกิรยิ าทีไ่ ม่โกรธโดยวิสยั มิใช่เหตุ ที่ควรโกรธ แม้มีเหตุที่ให้ทรงพระพิโรธ แต่ทรงข่มเสียให้อันตรธานสงบระงับไป ด้วยทรงมีพระเมตตาอยู่เสมอ ไม่ทรง ปรารถนาการก่อภัยก่อเวรแก่ผู้ใด

ธรรมะข้อ 8. อวิหิงสา หมายถึง การไม่ เ บี ย ดเบี ย นด้ ว ยทรงมี พ ระราช

ชัยสมรภูมิ 7

อัชฌาสัยกอปรด้วยพระราชกรุณา ไม่ทรง ปรารถนาจะให้ทกุ ข์แก่ผใู้ ดแม้กระทัง่ สัตว์ ไม่ ท รงเบี ย ดเบี ย นพระราชวงศ์ ข้า ทูล ละอองธุลพี ระบาท และอาณาประชาราษฎร์ ให้ล�ำบากด้วยเหตุอันไม่ควรกระท�ำ

ธรรมะข้อ 9. ขันติ หมายถึงความ อดทน ทรงมีพระราชหฤทัยด�ำรงมั่นใน ขันติ มีการอดทนต่อส่งทีค่ วรอดทน เช่น

8 ชัยสมรภูมิ

อดทนต่อทุกข์ อดทนต่อเวทนาอันเกิดขึน้ ในพระกาย และทรงมีขนั ติ เมตตากรุณา คุณ ทรงงดโทษผู้มีความประมาทกระท�ำ ผิดล่วงพระอาญาที่ควรจะลงราชทัณฑ์ ซึ่งพระองค์ทรงระงับด้วยความอดทน ไว้ได้

ธรรมะข้อ 10. อวิโรธนะ หมายถึง ความเทีย่ งธรรม ทรงรักษาความยุตธิ รรม

ไม่ให้แปรผันจากสิ่งที่ทรง และด�ำรงพระ อาการไม่ยินดียินร้ายต่ออ�ำนาจอคติทั้ง ปวง หรืออีกนัยหนึง่ คือ ความไม่ประพฤติ ผิดในขัตติยราชประเพณี ทรงด�ำรงอยูใ่ น พระราชจริยาวัตร ของพระมหากษัตริย์ อย่างแท้จริง

พระองค์ทรงยึดมั่นในทศพิธราช ธรรมอย่างเคร่งครัด จึงน�ำความสุขร่มเย็น แก่ปวงชนชาวไทย ทั้งในด้านความรัก สามั ค คี อั น มี พ ระมหากษั ต ริ ย ์ เ ป็ น ศู น ย์ รวมใจของคนในชาติ เป็นก�ำลังใจให้เกิด พลังสร้างสรรค์ สามัคคีปรองดอง คิดถึง ประโยชน์ของส่วนรวม ถือเอาประเทศ ไทยเป็นส�ำคัญ

ส่วนประโยชน์สุขของมหาชนชาว สยาม ตามพระราชปณิธานพระองค์นั้น มาจากการกระจายแนวพระราชด� ำ ริ เศรษฐกิ จ พอเพี ย งอั น มี ลั ก ษณะ พอมี พอกิน พอเพียง ในการด�ำรงชีพ เพื่อก่อ ให้เกิดความสุขแก่ชีวิตของพสกนิกรปวง ชนชาวไทยทุกๆ คน

พร้อมกันนั้น พระองค์ก็ทรงวาง โครงสร้าง โครงการ ในแนวพระราชด�ำริ โดยมีโครงการหลักใหญ่ๆ 149 โครงการ เริ่มตั้งแต่ 2498 และพัฒนาขยายออก ไปเป็น 4,447 โครงการ

พระองค์ ท รงล� ำ บากตรากตร� ำ พระวรกาย เพือ่ พสกนิกรของพระองค์ ได้ อยูด่ กี นิ ดี โดยไม่ยอ่ ท้อต่อความยากล�ำบาก ประหนึง่ “พ่อ” ของแผ่นดิน ทีเ่ สียสละ อย่างยิ่งใหญ่เพื่อลูก จนถึงวาระสุดท้าย แห่งพระชนม์ชพี ของพระองค์ ซึง่ ควรจารึก ไว้ในประวัติศาสตร์ของแผ่นดินไทย... ตลอดกาลนาน

สถิตในดวงใจตราบนิจนิรันดร์ น้อมศิระกราน กราบแทบพระยุคลบาท

ด้ ว ยส� ำ นึ ก ในพระมหากรุ ณ าธิ คุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ ข้าพระพุทธเจ้า กองบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ ชัยสมรภูมิ

เพราะผู้น�ำดี การทัพเรือจึงก้าวไกล

โฟกัสวิสัยทัศน์อันเฉียบคมของ ผู้บัญชาการทหารเรือ ถึง โฆษก ทร./ศปมผ.

นับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2558 กองทัพเรือในฐานะผู้รับ ผิ ด ชอบดู แ ลศู น ย์ บั ญ ชาการแก้ ไ ขปั ญ หาการท� ำ การประมงผิ ด กฎหมาย (ศปมผ.) ซึ่งเป็นศูนย์กลางร่วมกับศูนย์ประสานการปฏิบัติ ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) กรมประมง กรมเจ้าท่า กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีวัตถุ ประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น อย่างไม่ใช่แค่เพียงการแก้ปัญหา เฉพาะหน้า หรือ ปัญหาใดปัญหาหนึ่งเท่านั้น แต่ทว่าหมายถึงความ ส�ำคัญในการรักษาผลประโยชน์และทรัพยากรทางทะเลให้มีความ ยั่งยืนเป็นสมบัติของชาติแด่คนรุ่นหลังสืบไป

ทหารเรือ กับค�ำว่า “รักษาผลประ โยชน์และทรัพยากรทางทะเลของชาติ” นั้น ถือเป็นสิ่งที่คู่กันมาอย่างช้านานใน ทุกยุคทุกสมัย บ่อยครั้งที่เราได้พบเห็น กับภาพคุ้นชินตาที่บรรดาลูกราชนาวีไทย จะต้องจากผืนแผ่นดิน จากลูกน้อยและ เมียรักแล่นเรือฝ่ากระแสคลื่นลมออกไป ลอยล�ำอยู่กลางทะเล เพื่อปกป้องและ รั ก ษาความสงบเรี ย บร้ อ ยทางทะเลให้ คนในชาติได้อบอุ่นใจ

พล.ร.อ.ณะ อารีนจิ

แม้จะมองไม่เห็นผืนแผ่นดินรัก แม้ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้กลับ แม้ไม่รู้ว่าโชคชะตาจะพานพบกับสิ่งใด ขอเพียงคนในชาติ ได้อยู่ดี ทุกภารกิจนี้ ทุกชีวาล้วนยอมพลี เพื่อนาวีไทย

ส�ำหรับผลงานของ ศูนย์บญ ั ชาการ แก้ไขปัญหาการท�ำการประมงผิดกฎหมาย หรือ ศปมผ. ภายใต้การน�ำของ “บิก๊ ณะ” พล.ร.อ.ณะ อารีนจิ ผูบ้ ญ ั ชาการทหารเรือ ในฐานะ ผบ.ศปมผ. ทีไ่ ด้มกี ารท�ำงานร่วม

กันกับหน่วยงานต่างๆ นั้น ถือได้ว่าอยู่ใน ระดับที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะมี ก ารจั ด ระเบี ย บใน การออกใบอนุญาตท�ำการประมงพาณิชย์ แล้ว ก็ยังมีการออกตรวจตราจับกุมการ ท�ำประมงผิดกฎหมาย รวมถึงท�ำการการ สกัดกั้นปราบปรามเรือประมงต่างชาติที่ รุกล�้ำเข้ามาลักลอบท�ำประมงในเขตน่าน น�้ำไทยอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน

ทัง้ นี้ จากผลการด�ำเนินงานในตลอด ระยะเวลาทีผ่ า่ นมาพบว่า มีการจับกุมเรือ ประมงที่ รุ ก ล�้ ำ น่ า นน�้ ำ ไทยได้ ห ลายต่ อ หลายครั้งด้วยกัน อีกทั้งยังพบด้วยว่า สามารถครอบคลุ ม พื้ น ที่ ป ฏิ บั ติ ก ารได้ อย่างทั่วถึง โดยมีทั้งในพื้นที่ของกองทัพ เรือภาคที่ 1 ฝั่งอ่าวไทยตอนบน กองทัพ

ชัยสมรภูมิ 9

เรือภาคที่ 2 ฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง

และกองทัพเรือภาคที่ 3 ซึ่งรับ ผิ ด ชอบพื้ นที่ ฝ ั ่ งทะเลอันดามัน ดังนั้น ภารกิจในเรื่องดังกล่าวจึงไม่ได้หมายถึง การท�ำงานเฉพาะกิจเท่านัน้ หากทว่าครอบ คลุมถึงการจัดระเบียบทางทะเลทั้งฝั่ง อ่าวไทยและอันดามันให้เกิดประสิทธิผล อันสูงสุดด้วยศักยภาพที่เต็มก�ำลังความ สามารถของกองทัพเรือไทยและผู้ร่วม งานทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง

ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับด้วย ว่า แม้ ศปมผ. จะมีผลงานทีถ่ อื ได้วา่ เข้าตา โดดเด่นเป็นอย่างมากถึงเพียงใดก็ตาม ความส�ำเร็จดังกล่าวนั้น จะเป็นเพียงแค่ เรื่ อ งราวที่ เ กิ ด ขึ้ น และดั บ สู ญ ไปในวั น หนึ่งหากไม่มีทีมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ที่ มี ศั ก ยภาพอย่ า งเช่ น ในปั จ จุ บั น ที่ ไ ด้ บิก๊ จุม๋ พล.ร.อ.จุมพล ลุมพิกานนท์ น้องรัก ของ ครูณะ ผบ.ทร. มาเป็นผู้น�ำในการ ปฏิบัติงานด้านการประชาสัมพันธ์และ สื่อสารมวลชนครบทุกมิติ

โดยพบว่า นอกจาก บิ๊กจุ๋ม จะรั้ง ต� ำ แหน่ ง โฆษกศู น ย์ บั ญ ชาการแก้ ไ ข

10 ชัยสมรภูมิ

ปั ญ หาการท� ำ การประมงผิ ด กฎหมาย แล้วก็ยังควบต�ำแหน่งโฆษกกองทัพเรือ เข้าไปด้วยอีกต�ำแหน่ง ซึง่ ในโอกาสก็เชือ่ ว่ า คงจะมาจากวิ สั ย ทั ศ น์ อั น กว้ า งไกล ของ บิก๊ ณะ อย่างแน่นอน เพราะนอกจาก จะมองเห็นความรู้ความสามารถอันเป็น เอกลักษณ์เฉพาะตัวของบิ๊กจุ๋มแล้วก็ยัง ถื อ ได้ ว ่ า เป็ น การวางวางแผนงานได้ อย่างสุขุมลุ่มลึกเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว เนื่ อ งจากในด้ า นการเผยแพร่ ป ระชา สัมพันธ์ในการปฏิบัติงานระหว่างกองทัพ เรือกับ ศปมผ.นั้น มีความจ�ำเป็นอย่าง มากที่จะต้องใช้การติดต่อประสานงาน ให้มคี วามราบเรียบและเกิดประสิทธิภาพ มากที่สุด

ดังนั้น จึง ไม่ใช่เ รื่องแปลกที่ใน ปัจจุบนั นี้ ประชาชนทัว่ ไปจะมีโอกาสได้ยนิ ค� ำ ว่ า โฆษกกองทั พ เรื อ ในฐานะโฆษก ศปมผ.กันอย่างคุ้นหูคุ้นใจ ซึ่งในกรณีนี้ ก็เชื่อเหลือเกินว่า หากไม่ใช่ด้วยเพราะ ประสบการณ์ มัน สมอง และสายตาที่ เฉียบแหลมของ ครูณะ ฉลามใหญ่แห่ง กองทัพเรือ ประชาชนส่วนใหญ่ก็คงยังมี

พล.ร.อ.จุมพล ลุมพิกานนท์ ภาคการรับรู้ในการท�ำงานของทหารเรือ อยู่ในระดับปานกลางถึงต�่ำอย่างเช่นใน อดีตที่ผ่านมา แต่ส�ำหรับในยุคสื่อดิจิทัล ครองเมืองนีค้ งจะใช้คำ� ว่า ล้าหลัง ส�ำหรับ กองทัพเรือไม่ได้อีกแล้ว

กองทัพก็เหมือนเรือล�ำใหญ่ เหล็กอ่อนตรงไหน อุดปะค�้ำจุน ไว้ตรงนั้น ขอแสดงความนับถือ ทีมข่าวชัยสมรภูมิ

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณฯ รัชกาลที่ ๑๐

จากภาพประวัติศาสตร์ของเหตุการณ์วัน “ปั่นเพื่อพ่อ” และ “ปั่นเพื่อแม่” ที่ผ่านมานั้น ได้สร้างความ ปิติยินดีแก่พสกนิกรชาวไทยเป็นที่ยิ่ง ทัง้ ชาวไทยและชาวต่างประเทศทีไ่ ด้รว่ มกิจกรรมส�ำคัญในวันดังกล่าวต่าง พากันชืน่ ชมพระบารมีใน สมเด็จ พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้า พัชรกิตยิ าภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้า สิรวิ ณ ั ณวรีนารีรตั น์ ทีท ่ รงน�ำพสกนิกรนับแสนคนร่วมกิจกรรม จักรยานเฉลิมพระเกียรติจนเป็นกล่าวขวัญไปทั้งแผ่นดิน และนานาประเทศ

ภาพพระราชทาน

ด้ ว ยพระกรุ ณ าธิ คุ ณ แห่ ง สมเด็ จ พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทีท่ รงได้สนองพระราชกิจแห่งพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวมาโดยตลอดนั้น จึงเป็นวันที่ ปวงชนชาวไทยต่างมีความปิติยินดียิ่ง

เช่นเดียวกันเมือ่ ๔๔ ปีกอ่ นเมือ่ วันที่ ๒๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๑๕ ปวง ประชาชนชาวไทยทั้งแผ่นดินต่างมีความ ยินดีเป็นอย่างยิง่ เมือ่ พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการประกาศ สถาปนา สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิรา ลงกรณ ขึน้ ด�ำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระบรม โอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร มีพระนามา ภิไธย จารึกในพระสุพรรณบัฎว่า

“สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้า มหาวชิ ราลงกรณ บดิ น ทรเทพยวรางกูร สิริกิตยสมบูรณสวางควัฒฯ วรขัตติยราช สันตติวงศ์ มหิตลพงศอดุลยเดช จักรีนเรศ ยุพราชวิสุทธิ สยามมกุฎราชกุมาร”

ในวาระแห่ ง มหามงคลในวั น นั้ น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราช กุมาร ได้ถวายสัตย์ปฎิญาณในการพิธีถือน�้ำ พิพัฒน์สัตยา ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตน ศาสดาราม ซึ่งแสดงถึงน�้ำพระราชหฤทัยที่ พระองค์ ท รงมุ ่ ง มั่ น จะบ� ำ เพ็ ญ พระราช กรณียกิจ เพื่อชาติบ้านเมือง และประชาชน ชาวไทย อันเป็นทีซ่ าบซึง้ ประทับอยูใ่ นใจพสก นิกรทุกหมู่เหล่า ว่า

“ข้ า พระพุ ท ธเจ้ า ขอพระราชทาน กระท�ำสัตย์ปฎิญาณสาบานต่อประเทศชาติ และประชาชนชาวไทย เฉพาะพระพุทธ พระ ธรรม พระสงค์ เฉพาะพระพุทธมหามณีรตั น ปฎิมากรท่ามกลางสันนิบาตรนี้ว่า ข้าพเจ้าผู้ เป็น สยามมกุฎราชกุมาร จะรักษาเกียรติยศ และอริยศักดิ์ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ

ชัยสมรภูมิ 11

พระราชทานไว้ดว้ ยชีวติ จะภักดีต่อชาติบ้าน เมือง จะซือ่ สัตย์ตอ่ ประชาชน จะปฏิบตั ภิ าระ หน้าทีท่ กุ อย่าง โดยเต็มก�ำลังสติปญ ั ญาความ สามารถ และโดยความเสียสละ เพื่อความ เจริญสงบสุขและความมั่นคงไพบูลย์ของ ประเทศไทย จนตราบเท่าชีวิตร่างกายจะ หาไม่”

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยาม มกุฎราชกุมาร ทรงส�ำเร็จการศึกษาขัน้ ต้นใน ระดับอนุบาล รุ่นที่ ๒ จากโรงเรียนจิตรลดา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราช กุมาร ทรงแสดงพระองค์เป็นพุทธมามกะ ณ วัดพระศรีรตั นศาสดาราม เมือ่ วันที่ ๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๐๙ แล้วพระองค์ได้เสด็จ พระราชด�ำเนินไปทรงศึกษาต่อที่ประเทศ อังกฤษ ทรงศึกษาต่อในระดับประถมศึกษาที่ โรงเรียนคิงส์มีด แคว้นซัสเซกส์ และระดับ มัธยมศึกษาที่โรงเรียนมิลฟิลด์ แคว้นซอม เมอร์เซท ประเทศอังกฤษ และทรงศึกษาต่อ วิชาทหารทีโ่ รงเรียนคิงส์สกูล ซิดนีย์ ประเทศ ออสเตรเลีย แล้วทรงศึกษาต่อในระดับปริญญา ตรีสาขาอักษรศาสตร์ (ด้านการทหาร) จาก มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย

เมื่อพระองค์เสด็จนิวัติกลับประเทศ ไทยแล้ว ทรงเข้ารับราชการทหารและศึกษา ต่อที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบก รุ่นที่ ๔๖ เมื่อพุทธศักราช ๒๕๒๐ แล้วทรงลาผนวช ในปีพ.ศ. ๒๕๒๑ พระองค์ทรงศึกษาที่คณะ นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช รุ่นที่ ๒ เมื่อพุทธศักราช ๒๕๒๕ และส�ำเร็จ หลั ก สู ต รวิ ท ยาลั ย ป้ อ งกั น ราชอาณาจั ก ร จากประเทศอังกฤษ เมือ่ ปีพทุ ธศักราช ๒๕๓๕ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราช กุมาร ได้ทรงด�ำรงต�ำแหน่งพลเอกสามเหล่า ทัพ คือ พระยศพลเอกของกองทัพบกไทย

12 ชัยสมรภูมิ

พระยศพลเรือเอกของกองทัพเรือไทย พระ ยศพลอากาศเอกของกองทัพอากาศไทย

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยาม มกุฎราชกุมาร ทรงมีพระราชศรัทธาออกบวช ในพระพุทธศาสนา โดยพระบาทสมเด็จเจ้า อยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯให้จัดการพระราชพิธี ทรงผนวช ณ พัทธสีมาวัดพระศรีรตั นศาสดา ราม ในวันที่ ๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๒๑ โดยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสนมหาเถร) เป็นพระราชอุปธั ยาจารย์ โดย ทรงได้รับถวายพระสมณนามว่า “วชิราลงฺ กรโณ” และได้ประทับอยู่ ณ วัดบวรนิเวศ วิหาร ตลอดจนทรงได้ลาสิกขาในวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๒๑

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยาม มกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชด�ำเนินแทนพระ องค์ไปปฏิบตั พิ ระราชกิจทางพระพุทธศาสนา อย่างสม�ำ่ เสมอ เช่น ทรงเสด็จพระราชด�ำเนิน แทนพระองค์ ไ ปทรงเปลี่ ย นเครื่ อ งทรง พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ณ วัดพระ ศรีรตั นศาสดาราม ตามฤดูกาล เสด็จพระราช ด�ำเนินแทนพระองค์ไปทรงบ�ำเพ็ญพระราช กุศลในวันส�ำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และการถวายผ้าพระกฐินหลวงตามวัดต่างๆ เป็นต้น

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ โปรด ที่จะเสด็จพระราชด�ำเนินไปเยี่ยมที่ตั้งกอง ทหารหน่วยต่างๆ อยูเ่ สมอ จากการทีไ่ ด้ทรง ศึกษาด้านวิชาทหารมานาน ทรงมีความรู้ เชี่ยวชาญอย่างมาก ทรงได้พระราชทาน ความรู้เหล่านั้นให้แก่ทหารทั้งสามเหล่าทัพ และทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่างแก่ นายทหาร เอาพระทัยใส่ในความเป็นอยูท่ กุ ข์ สุ ข ของทหารผู ้ อ ยู ่ ใ ต้ บั ง คั บ บั ญ ชาอย่ า ง

ทัว่ ถึง รวมทัง้ พระราชทานพระราชทรัพย์สว่ น พระองค์ เป็นทุนการศึกษาแก่บตุ รของทหาร จากการที่พระองค์ทรงมีพระราชปณิธานให้ เอาใจใส่ รั ก ษาพยาบาลพสกนิ ก รของ พระองค์ให้ปลอดภัยจากความเจ็บไข้โดย ทัว่ หน้าเสมอกันนัน้ พระองค์ ทรงโปรดให้สร้าง โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ขึ้นเพื่อให้ การรักษาพยาบาลผูเ้ จ็บป่วยในถิน่ ทุรกันดาร พระองค์ ท รงเป็ น องค์ น ายกกิ ต ติ ม ศั ก ดิ์ ของมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช นั้นด้วย

ในด้านการส่งเสริมการเกษตรนั้น นอกจากพระองค์ได้เสด็จพระราชด�ำเนินไป ทรงหว่านข้าวในนาแล้ว พระองค์ได้ท�ำปุ๋ย หมั ก จากผั ก ตบชวาและวั ช พื ช อื่ น ๆ เป็ น ปฐมฤกษ์ เพือ่ พระราชทานแก่เกษตรกร ส�ำหรับ น�ำไปใช้ในการเพาะปลูกเป็นการเพิม่ ผลผลิต ที่บ้านแหลมสะแก ต.เดิมบาง อ.เดิมบาง นางบวช จ.สุพรรณบุรี เมือ่ วันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๘

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยาม มกุฎราชกุมาร ทรงมีพระทัยใส่ในด้านการ ศึกษาทุกระดับ เมื่อครั้งทรงด�ำรงต�ำแหน่ง ผู้บังคับการกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภ รักษาพระองค์นนั้ พระองค์ทรงพระราชทาน พระราชานุ ญ าตให้ ใ ช้ อ าคารสถานที่ ข อง กรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เป็นที่ตั้งของโรงเรียนอนุบาลและพระราช ทานชื่อว่าโรงเรียนอนุบาลทหารมหาดเล็ก ราชวั ลลภนอกจากนี้ พระองค์ ยัง ได้มีพระ มหากรุณาธิคุณให้ขยายการศึกษาไปสู ่ ท้อง ถิน่ ทุรกันดาร เพือ่ ให้เยาวชนในท้องถิน่ ๆ นัน้ ได้มีโอกาสรับการศึกษาอย่างทัว่ ถึง ทรงได้ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ สมทบเป็นค่าก่อสร้างโรงเรียนมัธยมศึกษา

ที่ตั้งอยู่ในชนบทห่างไกล การคมนาคมไม่ สะดวก ครัง้ นัน้ กระทรวงศึกษาธิการได้สนอง พระราชประสงค์ ด้วยการน้อมเกล้าฯ ถวาย โรงเรียนในระดับมัธยม ศึกษาจ�ำนวน ๖ โรงเรียน เป็นโรงเรียนในพระราชูปถัมภ์ ซึง่ ได้แก่ โรงเรียนพัชรกิติยาภา อ�ำเภอปากปลา จังหวัดนครพนม โรงเรียนมัธยมจุฑาวัชร อ� ำ เภอลานกระบื อ จั ง หวั ด ก� ำ แพงเพชร โรงเรียนมัธยมวัชเรศ อ�ำเภอเมือง จังหวัด สุ ร าษฎร์ ธ านี โรงเรี ย นมั ธ ยมจั ก รี วั ช ร อ�ำเภอรัตนภูมิ จังหวัดสงขลา โรงเรียนมัธยม วัชรวีร์ อ�ำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา และโรงเรียนมัธยมบุษย์นำ�้ เพชร อ�ำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง พระกรุ ณ าโปรดเกล้าโปรดกระหม่อ มให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎ ราชกุ ม ารเสด็ จ พระราชด� ำ เนิ น แทน พระองค์พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผสู้ ำ� เร็จ การศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ใน หลายวโรกาส ในวาระนั้นพระองค์ได้ทรง มีพระราโชวาท เพือ่ เป็นแนวทางปฏิบตั ติ นแก่ บัณฑิตผู้ส�ำเร็จการศึกษาให้เป็นคนดีของ สังคมอยูเ่ สมอ ดังนี้

“…บั ณ ฑิ ต เป็ น ผู ้ มี ก ารศึ ก ษาดี จึ ง ชอบที่จะท�ำตัวท�ำงานให้เจริญก้าวหน้า ให้ สมกับวิทยฐานะ ความเจริญก้าวหน้านัน้ จะ เกิดขึ้นได้ต้องอาศัยเหตุปัจจัยประกอบกัน หลายอย่าง อย่างที่หนึ่ง คือ ศรัทธา ความ เชื่อมั่นในความดี อันเป็นปัจจัยหนุนน�ำให้ เกิ ด ความมุ ่ ง มั่ น ที่ จ ะท� ำ ตั ว ให้ ดี ขึ้ น สู ง ขึ้ น ไม่ยอมให้ตกต�ำ่ เสี ย หาย อย่างที่สอง คือ

ปัญญา ความเฉลียวฉลาด อันเป็นปัจจัยเกือ้ กูล การคิดอ่านและการใช้ความรู้ ความสามารถ ของตน ให้เป็นไปในทางสร้างสรรค์และให้เกิด ประโยชน์สงู สุด อย่างทีส่ าม คือ สติ ความรูต้ วั อันเป็นปัจจัยใช้ควบคุมการคิด การพูด และ การกระท�ำ ให้เที่ยงตรงเป็นกลาง ไม่ให้ถูก ครอบง�ำด้วยอคติ อย่างทีส่ ี่ คือ มนุษยสัมพันธ์ การรู้จักผูกมิตรไมตรีกับผู้อื่น อันเป็นปัจจัย ส่งเสริมให้ได้รับความร่วมมือจากทุกคนทุก ฝ่ายให้ปฏิบตั งิ านได้สำ� เร็จราบรืน่ คุณสมบัตดิ งั กล่าวมีพร้อมในบุคคลใด ความเจริญก้าวหน้า ย่ อ มเกิ ด ขึ้ น แก่ บุ ค คลนั้ น บั ณ ฑิ ต เมื่ อ เห็ น ประโยชน์ดังนี้ จึงควรจะได้ฝึกฝนอบรมตน ให้มีคุณสมบัติครบถ้วน เพื่อจักได้สามารถ ท�ำตัวท�ำงานให้เจริญก้าวหน้าได้แท้จริง…”

(พระราโชวาทในสมเด็ จ พระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารในพิธพี ระ ราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้ส�ำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ประจ�ำปี การศึกษา ๒๕๕๑-๒๕๕๒)

“…พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง พระกรุ ณ าโปรดเกล้ า โปรดกระหม่ อ มให้ ข้ า พเจ้ า มาปฏิ บั ติ พ ระราชกรณี ย กิ จ แทน พระองค์ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ สถาบันราชภัฏ ประจ�ำปีนี้ ขอแสดงความชื่นชม กั บ ผู ้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ แ ละบั ณ ฑิ ต ทุ ก คนที่ ไ ด้ รั บ เกียรติและความส�ำเร็จบัณฑิตแม้จะส�ำเร็จ การศึกษาถึงชั้นปริญญาแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ ควรหยุดนิ่งพอใจอยู่เพียงนั้น ทุกคนชอบที่ จะท�ำตนให้เป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียนอยู่เสมอตลอด ชีวติ เพราะยิง่ เรียนรูไ้ ด้ลกึ ซึง้ กว้างขวางเท่าใด ก็ จ ะช่ ว ยให้ แ ต่ ล ะคนสามารถด� ำ เนิ น ชี วิ ต

และประกอบกิจการให้ประสบความส�ำเร็จ และเจริญยิง่ ขึน้ เท่านัน้ ในพระปรมาภิ ไธย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ขออวยพรให้ บัณฑิตทุกคน และทุกท่านที่มาร่วมในพิธีมี ความสุขสวัสดีจงทั่วกัน…”

(พระราโชวาทสมเด็จพระบรมโอร สาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมารในพิธพี ระราช ทานปริญญาบัตรแก่ผู้ส�ำเร็จการศึกษาจาก สถาบันราชภัฏ ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร เมือ่ วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช๒๕๔๗ )

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยาม มกุฎราชกุมารได้ทรงยึดมั่นในพระปฎิญญา ทีไ่ ด้พระราชทานไว้ในพิธถี อื น�ำ้ พิพฒ ั น์สตั ยา ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรตั นศาสดาราม ทรง มีพระวิริยะอุตสาหะ มุ่งมั่นปฎิบัติพระราช กรณี ย กิ จ นานั ป การ โดยมิ ไ ด้ทรงเห็นแก่ เหน็ดเหนื่อย และมิได้ทรงย่อท้อ ด้วยทรงมี พระราชปณิธานมุง่ มัน่ เสียสละ และบ�ำเพ็ญ พระราชกรณียกิจเพื่อเพื่อประเทศชาติและ พสกนิกรชาวไทยอย่างแท้จริง “ระยะนี้ประเทศของเราก็ได้ประสบกับ สถานการณ์ทวี่ นุ่ วายและยุง่ ยาก เป็นหน้าที่ ของทุ ก คนที่ จ ะต้ อ งพยายามให้ เ กิ ด ความ สงบและเป็นปึกแผ่นให้มากที่สุด โดยเสีย สละความสุขและผลประโยชน์ส่วนตัว เพื่อ ความก้าวหน้าของประเทศชาติ ที่ส�ำคัญจะ ต้องรูจ้ กั อดกลัน้ เพือ่ ผ่อนคลายความยุง่ ยาก ให้ลดน้อยลง ส�ำหรับทีจ่ ะได้มเี วลาพิจารณา แก้ไขสิ่งต่างๆให้ลุล่วงไปโดยเรียบร้อย…”

(พระราชด�ำรัสในสมเด็จพระบรมโอ รสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมารพระราชทาน แก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสขึน้ ปีใหม่ ๒๕๑๘ เมื่อวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช๒๕๑๗)

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยาม มกุฎราชกุมาร ทรงประกอบพระราชกรณียกิจ เป็ น อเนกอนั น ต์ อั น เป็ น คุ ณูป การยิ่งแก่ พสกนิกรชาวไทย ทรงเปี่ยมด้วยพระปรีชา สามารถ และพระอัจฉริยภาพหลากหลายด้าน ทรงทุ่มเทพระวรกายอย่างจริงจังมาตลอด ระยะเวลาหลายสิ บ ปี นั บ ได้ ว่า ทรงเป็น “สยามมกุฏราชกุมาร” ผูท้ รงตัง้ พระทัยอย่าง แน่วแน่ในการถ่ายทอดประสบการณ์ ทีท่ รงมีอยู่ ให้เกิดประโยชน์ตอ่ กองทัพและประเทศชาติ โดยไม่ค�ำนึงถึงความเหน็ดเหนื่อยแต่อย่าง ใดจนจบสมัยรัชกาลที่๙

ชัยสมรภูมิ 13

ภาพพระราชทาน

เมือ่ สมเด็จพระบรมชนกนาถสวรรคต ในวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เป็นที่คาด หมายว่ า พระองค์ จะสื บ ราชสมบัติต ่อ ทั้ง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ยืนยันว่า จะทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระ องค์ใหม่ แต่ทรงขอผ่อนผัน พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี จึงเป็นผู้ ส�ำเร็จราชการแทนพระองค์โดยต�ำแหน่งไป พลางก่อน

วันที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๙ สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้จัดประชุมวาระ พิเศษ โดยนายพรเพชร วิชติ ชลชัย ประธาน สภานิตบิ ญ ั ญัตแิ ห่งชาติ ได้แจ้งหนังสือหนังสือ ด่วนทีส่ ดุ ที่ นร.๐๕๐๓/๔๔๕๔๙ ลงวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๙ ทีไ่ ด้รบั จากพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แจ้งให้ ที่ประชุม เพื่อรับทราบ

วันที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๙.เวลา ๑๙.๑๖ น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยาม มกุฎราชกุมาร พระราชทานพระราชวโรกาสให้ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ผูส้ ำ� เร็จราชการ

14 ชัยสมรภูมิ

แทนพระองค์ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สภานิตบิ ญ ั ญัตแิ ห่งชาติ ปฏิบตั หิ น้าทีป่ ระธาน รัฐสภา ตัวแทนฝ่ายนิตบิ ญ ั ญัติ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตัวแทนฝ่ายบริหาร และวีรพล ตัง้ สุวรรณ ประธานศาลฎีกา ตัวแทน ฝ่ายตุลาการ เข้าเฝ้าฯ ณ พระทีน่ งั่ อัมพรสถาน พระราชวัง ดุ สิต เพื่ อกราบบั ง คมทู ลเชิ ญ ขึ้นสืบราชสมบัติ จากนั้นพระองค์มีพระราช ด�ำรัสตอบรับ ความว่า

”ตามที่ประธานสภานิติบัญญัติแห่ง ชาติ ปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภาได้กล่าว ในนามของปวงชนชาวไทย เชิญข้าพเจ้าขึ้น ครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ ว่าเป็นไป ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช บรมนาถ บพิตร และเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎ มณเฑียรบาล ว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ กั บ รั ฐ ธรรมนู ญ แห่งราชอาณาจักรไทยนั้น ข้าพเจ้าขอตอบรับเพือ่ สนองพระราชปณิธาน และเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทย ทั้งปวง

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลง กรณ บดินทรเทพยวรางกูร,วันที่ ๑ ธันวาคม พ.ส.๒๕๕๙

สมเด็ จ พระบรมโอรสาธิ ร าชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จฯ ไปประทับราบ ณ พระสุจหนี่ หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ล อดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระ บรมราชินีนาถ ทรงกราบถวายบังคม ทรง เปิดกรวยกระทงดอกไม้ ธูปเทียนแพ และ ทรงกราบราบพระบรมฉายาลักษณ์นั้น

ส�ำหรับการสืบต่อราชสันตติวงศ์นั้น ในทางนิตินัยถือว่า พระองค์ได้ขึ้นทรงราชย์ เป็นพระมหากษัตริยแ์ ล้วตัง้ แต่วนั ที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นไปตามธรรมเนียมราช ประเพณีของทุกประเทศที่จะให้ราชบัลลังก์ ว่างลงไม่ได้ และพระองค์โปรดเกล้าฯ ให้เฉลิม พระปรมาภิไธยว่า “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร”

ขอพระองค์ ท รงพระเจริ ญ และ เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดไป

ค�ำพูดกับการกระท�ำของคนเรานั้น ถือได้ว่า เป็นสิ่งที่ส�ำคัญเป็นอย่างยิ่งส�ำหรับในชีวิตของคนเรา บางครั้งอาจจะมีล้ม บางเวลาอาจจะมีลุก แต่ไม่ว่าจะร้ายหรือดี ขอเพียงแค่เราไม่ยอมแพ้ต่อ อุปสรรค์ ที่ขวางกั้นและยึดมั่นถือมั่นในความสัตย์จริงก็ย่อมเป็นที่กล่าวถึงกันในหมู่ชนถึงคุณงามความ ดีที่ได้ประกอบเอาไว้ และถือเป็นโอกาสดีอย่างยิง่ ทีใ่ นฉบับนีท้ มี ข่าวชัยสมรภูมไิ ด้มโี อกาสพูดคุยกับลูกผูช้ าย ตัวจริงคนหนึ่งที่หากเอ่ยชื่อของเขาเมื่อไหร่ก็รับรู้ได้ในทันทีว่า เขาคือผู้ถอดนิยามศัพท์ของค�ำว่าคนจริง ได้อย่างเหมาะสมลงตัวมากที่สุดคนหนึ่งในสังคมไทย

ต้นฉบับคนจริงในอุดมคติของใครหลายๆ คนกับบทสัมภาษณ์พเิ ศษที่ ขอจารึกเอาไว้ใน... “ชัยสมรภูมิ”

การสู้คน ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไปเกเรใคร ผมเกิดมาใน ครอบครัวที่อบอุ่น จ�ำได้ว่า ตั้งแต่เด็กๆ คุณพ่อจะปลุกให้ไปโงเรียนและไป ออกก�ำลังกายอยูเ่ สมอ โดยทีค่ ณ ุ พ่อจะคอยสอนอยูเ่ สมอว่า อย่าเกเร แต่ให้ สูค้ น ถ้าไม่สคู้ นคุณพ่อก็จะตี จึงกลายเป็นคนทีส่ คู้ น โดยช่วงอายุราว 12 ขวบ เมือ่ ก่อนทีย่ า่ นบางซือ่ นัน้ มีตลาดโต้รงุ่ ในตอนเย็นๆ ก็จะมามาเดินหาอะไร ทานกันกับคุณพ่อ แต่วนั หนึง่ ไปเจอกับเด็กที่โตกว่าก็ถูกเขาเขกหัว คุณพ่อที่ มองอยู่ก็บอกว่าสู้ แต่ก็สู้เขาไม่ได้เพราะเขาเป็นเด็กโตกว่า แต่เราก็สู้ คนอืน่

“ชัชจริง”... คนจริง

ชัชวาล คงอุดม

ที่มองอยู่รอบๆ บอกว่า ไอ้หนูพอเถอะ แต่ ทางคุณพ่อก็สา่ ยไม้ไม่ให้เลิก เราก็ตอ้ งแข็งใจ ชกกับเขา จนกระทัง่ ชกไปโดนเบ้าตาเขา เด็กโต คนนั้นจึงได้ยอมแพ้ไปในที่สุด จากนั้นมาจึง ติดนิสัยสู้คนมาตั้งแต่เด็ก คืออะไรที่ไม่ถูก ต้องเราก็ไม่ยอม

มนุ ษ ย์ เ ราต้ อ งหาทางเอาตั ว รอด คือ มันเป็นวิถีชีวิตของแต่ละคน อย่างตอน ทีผ่ มเด็กๆ เราก็ตวั เล็ก คุณพ่อก็สอนมวยเรา ไว้ให้ป้องกันตัว แต่ไม่ใช่ไว้ใช้เกเรคน ครั้ง หนึ่ง ช่วงนั้นอายุ 17 ปีแล้ว มีเพื่อนมาชวน ไปทานข้าวข้างนอก แต่ไม่ได้บอกว่าเขามีเรือ่ ง หรื อ มี ป ั ญ หากั บ คนอื่ น มาก่ อ นหน้ า แล้ ว พอดีวันนั้นซ้อมมวยเตะกระสอบทรายเสร็จ แล้ว ก็ขออนุญาตคุณพ่อไปทานข้าวกับเพือ่ น ทีร่ า้ นข้าวต้มปรากฏว่า ฝ่ายคนทีม่ ปี ญ ั หาเอา มีดมาจ่อคอเพือ่ น เพือ่ นเรา เห็นอย่างนัน้ ผม ก็เลยพูดว่า ท�ำอย่างนี้มันเล่นทีเผลอ มาสู้ กันแบบตัวต่อตัวดีกว่า ซึ่งฝ่ายตรงข้ามก็ เป็นคนดี เป็นลูกผู้ชายพอเขาก็รับค�ำท้า จึง ได้ไปแทงกัน ซึ่งต่างคนต่างก็เจ็บหนัก จึง

ชัยสมรภูมิ 15

ได้แยกย้ายกันไปรักษาตัว จากนั้น ตอนหลั ง เราก็ ม าเป็ น เพื่ อ นกั น เพราะว่ า เราสู ้ กั น ตั ว ต่ อ ตั ว แล้ ว ก็ ไ ม่ ไ ด้ อาฆาตแค้นกัน จนกระทัง่ เมือ่ อาจารย์หม่อม (ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช) ให้ผมไปดูแลสยามรัฐ ปรากฏว่าชายคนดังกล่าวก็มาหาผมเราก็ให้ เขาท�ำงานด้วย จนกระทัง่ เมือ่ ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาจึงขอลากลับไปท�ำกสิกรรมอยู่ที่บ้าน

จากความรักและความผูกพันส่ง ต่อมาถึง หนังสือพิมพ์สยามรัฐ สมัยก่อน ตั้งแต่ที่ บ างซื่ อ ยั ง ไม่ แยกตัวออกจากเขต ดุสติ ในปี พ.ศ. 2518 อาจารย์หม่อมท่าน ลงเลือกตั้ง ท่านก็ให้ผมช่วย จนกระทัง่ ท่าน ได้เป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นมา ส่วน ใหญ่เมื่อมีใครจะขออะไรให้ทา่ นช่วยก็มกั ขอ ผ่านผม จึงเป็นความผู ก พัน กัน มา ซึ่ง ท่าน ก็ ถ ามว่ า ผมไปเอาหรือรับสตางค์ของใคร หรือไม่ ผมก็ตอบไปตามจริงว่าไม่ได้รับ ซึ่ง ในสมัยทีท่ า่ นเป็นนายกฯ ท่านเคยให้เงินผม แต่ผมก็ไม่เอา ท่านจึงมีความรู้สึกว่าไว้ใจ เราได้ จนปีพ.ศ. 2519 ปรากฏว่า หนังสือพิมพ์ ขายไม่ดีและก็ไม่สามารถเก็บเงินได้ ผมจึงไป ด�ำเนินการให้ ซึ่งปรากฏว่าสามารถเก็บเงิน ได้และก็เพิ่มยอดเข้ามาอีกหลายหมื่น ท่าน ก็เลยมองว่าผมท�ำได้ พอตอนหลังท่านบอก ว่าเอ็งต้องท�ำนะ (หมายถึง ดูแลกิจการ นสพ.สยามรัฐ) ผมก็ตอบว่าท�ำไม่เป็น แต่ ท่านก็ยังบอกอีกว่าเอ็งท�ำได้ลูก จนกระทั่ง ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตก็ได้ก�ำชับอีก ผมจึง ได้เข้าไปดูแลอย่างเต็มที่

ยิง่ ได้ให้ ยิง่ สุขใจ เรือ่ งทุนการศึกษา ก็ท�ำมาตั้งแต่เรายังเด็ก แต่จะขอเล่าถึงที่ มาก่อนว่า คุณพ่อของผมเป็นพนักงานจ่าย เงินให้กบั กรมช่างอากาศ ซึง่ ผมเองก็เรียนที่ โรงเรียนช่างอากาศบ�ำรุงด้วย คุณพ่อก็มี เพื่อนๆ มาฝากเงินให้ไปปล่อยกู้โดยคิด ดอกเบีย้ ร้อยละ 3 แต่พอเจ้ากรมช่างอากาศ ในสมัยนั้นรู้เรื่องเข้าก็จะไล่ออก คุณพ่อจึง เอาเงินเดือนของตัวเองไปจ่ายดอกเบีย้ แทน ตอนนั้นผมอายุ 14 แล้ว จึงบอกคุณพ่อว่า ในเมื่อเราจ่ายดอกเบี้ยเขามาตั้งนานแล้ว ท�ำไมถึงไม่จ่ายเงินต้นบ้าง เพราะนอก จาก

16 ชัยสมรภูมิ

จะต้ อ งน� ำ เงิ น ไปชดให้ ทุ ก เดื อ นแล้ ว ก็ ยั ง ต้องไปกูค้ นอืน่ มาใช้อกี ด้วย บ้านซึง่ สมัยก่อน เป็นหลังคาจาก เวลาทีฝ่ นรัว่ เราก็ยงั ไม่มเี งิน มาซ่อมแซม ผมจึงมองว่าคนที่ปล่อยเงินกู้ ร้อยละ 10 ร้อยละ 20 มันเป็นการทารุณ เพราะว่าเขาจนอยู่แล้วจึงได้ไปกู้มาใช้ ผม จึงเกลียดและต่อต้านคนพวกนี้มาก เพราะ ว่า บางคนเขาไม่มีจะกินอยู่แล้วยังไปขูดรีด เขาอีก ผมเองก็ได้ให้การช่วยเหลือในกรณี แบบนี้ไปหลายราย ซึ่งก็ยึดในค�ำที่พ่อสอน มาตลอดว่า อะไรที่ไม่ถูกต้องเราก็ไม่ยอม

คือว่าเราจน พอเราโตขึ้นมาแล้วมี โอกาสได้ท�ำอะไรให้สังคมบ้าง และมีก�ำลัง ทรัพย์มากพอเราเห็นคนจนเราก็อดไม่ได้ เพราะเราก็เคยจน ตอนเด็กๆ ไม่ได้นงั่ รถเมล์ ไปเรียน เพราะพ่อให้เงินไปเรียนวันละ 2 บาท ถ้านั่งรถเมล์ก็จะมีเงินซื้อข้าวกลางวัน เพราะฉะนั้นผมจึงต้องเดินจากบ้านไปเรียน ทีโ่ รงเรียนช่างก่อสร้างดุสติ ทุกวัน ดังนัน้ เมือ่

เราเป็นผู้ใหญ่แล้ว เด็กไม่มีเงินมาขอเรียน หนังสือ เราพอจะช่วยเขาได้เราก็ช่วยไป 3,000 - 5,000 บ้าง ตามความเหมาะสม เพราะเราก็ รู ้ ว ่ า สมั ย นี้ ไ ม่ เ หมื อ นเมื่ อ ก่ อ น แล้วต้องให้เหมาะกับสภาพการณ์ปัจจุบัน ส่วนการให้ทนุ ในวันเด็กนัน้ ก็ยงั คงช่วยเหลือ เงิ น สนั บ สนุ น การจั ด งานอยู ่ เ ป็ น ประจ� ำ ทุกๆ ปี

ไม่ ข อรั บ ต� ำ แหน่ ง ทางการเมื อ ง หากยังไม่ดีพอ ในอดีตอาจารย์หม่อมท่าน บอกว่าเอ็งเป็นนะ เพราะในสมัยนั้น ท่านได้ 101 เสียงก็สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ แต่ เพื่ อ ความสงบเรี ย บร้ อ ยและความเจริ ญ รุ่งเรืองของบ้านเมือง ท่านก็ให้ พล.อ.เปรม เป็นนายกฯ และท่านก็มีสิทธิ์ที่จะตั้งคนใน พรรคให้ไปด�ำรงต�ำแหน่งอืน่ ๆ อีกก็ได้ เพราะ เป็นสิทธิของพรรคกิจสังคมในสมัยนั้น ท่าน ก็ จ ะให้ ผ มเป็ น ผมก็ ไ ม่ เ ป็ น รั ฐ มนตรี ห รื อ ต�ำแหน่งใดต�ำแหน่งหนึ่งในครม. แต่เพราะ

เรารู้ตัวว่าเราเป็นนักการพนัน เราเปิดบ่อน ถ้าไปเป็นรัฐมนตรีท่านก็โดนต�ำหนิ ผมก็พูด ตรงๆ ว่า พ่อ* ผมไม่เป็นหรอก ถ้าผมเป็น ชาวบ้านเขาด่าพ่อ ไม่ใช่ด่าผม *(ม.ร.ว. คึก ฤทธิ์ ปราโมช กับคุณชัช มีความสัมพันธ์ลึก ซึ้งเสมือนดั่งพ่อลูก)

รักสยามรัฐดุจดวงใจ แต่ทุกอย่าง คือความเป็นจริง คือสัจธรรมของชีวิต ตอน ทีร่ บั ช่วงนสพ.สยามรัฐมาจาก อาจารย์หม่อม ผมก็พยายามท�ำสยามรัฐให้ดที สี่ ดุ ให้เป็นสือ่ ที่ตรงไปตรงมาและเป็นกระบอกเสียงให้กับ คนที่ล�ำบาก ในสมัยที่ผมเป็นสว. ประธาน สภาในช่วงนัน้ ท่านก็โดนคดี ซึงจะต้องส่งตัว ไปให้ต�ำรวจ แต่ผมก็เห็นว่าอีกประมาณแค่ 2 เดือนกว่าๆ ก็จะปิดสมัยประชุมแล้ว ถ้า เอาตั ว ไประหว่ า งประชุ ม ก็ เ ห็ น ว่ า คงไม่ มี ความจ�ำเป็นอะไร เพราะยังไงคดีก็ไม่เสร็จ ผมจึงยกมือไม่ให้ส่งตามสิทธิในฐานะที่เป็น สว. ปรากฏว่าต่อมาก็มไี ปรษณียบัตรคนเขียน มาต่อว่าผมอย่างรุนแรง จึงน�ำไปให้ลงที่ หน้าหนึ่งของ สยามรัฐ จึงเป็นที่มาของการ ตอบจดหมาย ซึง่ ก็สามารถช่วยเหลือประชาชน ได้เยอะ เช่นเรือ่ งผลกระทบจากโรงงานถ่านหิน

น�้ำเสีย เป็นต้น ซึ่งต่อมาก็มีการติดต่อกัน อยูเ่ สมอ ซึง่ บางรายไปยิงกุฏพิ ระ หรือ แม้แต่ เรื่องการใช้ความรุนแรงต่างๆ ผมก็เข้าไป ช่วยเหลือ

แต่ส�ำหรับสถานการณ์ในปัจจุบันนั้น สยามรัฐเรายิ่งพิมพ์มากยิ่งเจ๊งมาก ต้นทุน เรา 12 บาท จ�ำหน่าย 10 บาท ให้ตัวแทน แบ่งไป 30% เท่ากับ 3 บาท เราเหลือ 7

บาท หนึ่งฉบับเราขาดทุนชัดเจน เพราะ ฉะนั้นจึงต้องมีการลดหน้าลงเพื่อความอยู่ รอด แล้วก็ต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีการรับงาน มาพิมพ์เพิ่มเติม เพราะเรามีความพร้อมใน ด้านอุปการณ์และเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ จึงได้อาศัยในส่วนนี้เข้ามาช่วยเสริมด้วยอีก ทาง ส่วนสยามรัฐรายสัปดาห์นั้น เป็นเรื่อง ของการวิเคราะห์ จึงยังคงอยู่ได้ แต่ถ้าหาก

ชัยสมรภูมิ 17

เป็นรายวันก็คงไม่ต้องพูดแล้ว ซึ่ง

มันต้องยอมรับความจริงว่าโลกมัน ไปเร็ ว มาก เช่ น เด็ ก ๆ สมัยนี้ไ ม่ไ ด้อ ่าน หนังสือพิมพ์กันแล้ว แต่จะดูข่าวสารต่างๆ ทางโทรศัพท์แทนเพราะมีโทรศัพท์มือถือ กันทุกคน

ผมรั บ ปากกั บ อาจารย์ ห ม่ อ มว่ า ตราบใดที่ชีวิตผมยังอยู่ผมจะไม่ให้สยามรัฐ ล้มหายตายตามท่านไปและก็จะไม่ให้ใคร เข้ามาหุ้น แต่ตอนนี้ หรือ ต่อไปในวันข้าง หน้ า ก็ อ าจจะต้ อ งไปกราบอั ฐิ ข องท่ า นว่ า คุณพ่อครับ เราคงจะต้องเหลือเฉพาะแค่ รายสัปดาห์ ส่วนรายวันก็คงเป็นไปได้ยาก เพราะปั จ จุ บั น คนหั น ไปอ่ า นหนั ง สื อ ทาง อินเตอร์เน็ตกันหมดแล้ว แต่รายสัปดาห์ นัน้ ยังพอไปได้ เพราะเรายังพอมีก�ำไรยังพอ เลี้ยงตัวเองได้ โดยเชื่อว่าคนยังชอบอ่าน บทวิเคราะห์อยู่ แต่รายวันนั้นต้องถอยหมด

เลือกเดินในเส้นทางใหม่ เพือ่ ประเทศ ไทยทีด่ กี ว่าเดิม ทีม่ าของการตัง้ พรรคการเมือง คือ ทางสมาคม อบต.เห็นว่า ไม่มีตัวแทน ของพวกเขาในสภาเลย จึงตั้งพรรคขึ้นมา เพื่อที่จะมีตัวแทนเข้าไปเป็นปากเป็นเสียง ในสภา ผมจึงบอกว่าผมไม่เก่งหรอกให้อาจารย์ สมคิดท่านดีกว่า แต่อาจารย์สมคิดท่านก็บอก ว่ายังไม่คดิ จะเล่นการเมือง ดังนัน้ ทางสมาคม อบต.จึงได้เดินทางมาหาผม เพื่อหารือเรื่อง ดังกล่าว เพราะผมมีพรรคพวกเพื่อนฝูงอยู่ มาก จึงมาขอให้เป็นตัวแทนของพรรคเข้าไป ท�ำหน้าที่ และเมื่อเข้าไปแล้ว เราก็จะมีงบ ลงไปให้ทอ้ งถิน่ แบบเต็มๆ เพือ่ ให้ทอ้ งถิน่ พัฒนา ตนเองได้ ซึ่งผมมองว่าไม่มีใครจะรู้ดีเท่ากับ คนในท้องถิน่ อย่าไปหาว่าท้องถิน่ โกง ถ้าหาก โกงแล้วถามว่าจะโกงได้สักเท่าไหร่ แค่ข้าง บนไม่กนิ อย่างเดียวรับรองว่าประเทศนีเ้ จริญ เจริญแน่ เพราะว่าประเทศไทยนั้น ขอแค่ ตรงไปตรงมาอย่างเดียวก็พอแล้ว ไม่ต้อง เก่งกาจมากมาย เพราะเราไม่มีทางที่จะเก่ง ทุกเรื่องไปได้ และความตั้งใจของผมก็คือ แบบนี้ แต่ถ้าเข้ามาแล้วหวังผลประโยชน์ก็ อย่าเข้ามาเลยผมไม่เอา ถ้าตรงไหนจุดไหน ที่เป็นไปอย่างไม่เหมาะไม่ควรเราก็สามารถ โต้แย้งได้

18 ชัยสมรภูมิ

ผมเองมองเรื่ อ งของประเทศเป็ น หลัก ถ้าประเทศเราได้ประโยชน์เราก็อย่าไป มองเรื่องส่วนตัว เรามองถึงสถาบัน เพราะ สยามรัฐเอง อาจารย์หม่อมก่อตัง้ มาเพือ่ ปกป้อง สถาบัน เพราะฉะนั้นอะไรที่เราจะสามารถ รักษาเอาไว้ได้เราก็ตอ้ งท�ำ ถ้าคิดว่าผมท�ำได้ และมั่ น ใจว่ า ผมไม่ โ กงก็ ข อให้ เ ลื อ กผม เข้าไปพิสูจน์ความจริงให้เกิดข้อประจักษ์ แต่ถ้าเราเอางบประมาณให้ท้องถิ่นไปเต็มๆ ไม่ต้องมีใต้โต๊ะ ยังก็ไปได้ แล้วพอท้องถิ่น ได้เงินไปเต็มๆ เขาก็รักทักษิณ แล้วดูให้ผม เป็นผมจะให้เต็มๆ เลย เด็กนักเรียนก็จะได้ เรียนฟรีแบบมีคุณภาพมีครูเจ้าของภาษา มาสอน อย่างสมมติวา่ ท้องถิน่ จะของบประมาณ ไปท�ำอะไรจะต้องไปจ่าย 30% จาก 10 ล้าน ก็เหลือแค่ 7 ล้าน แต่3 ล้านที่ว่านั้นสามารถ ไปจ้ า งครู เ จ้ า ของภามาสอนได้ เ ป็ น ปี เ ลย ทีเดียว

ขอเดินตามรอยพระเจ้าอยูห่ วั ผมเคย ประกาศเอาไว้วา่ แม้ผมจะเป็นเสมือนเจ้าของ นสพ.สยามรัฐ แต่ถ้าผมไม่ดี สยามรัฐ หรือ ใครๆ สามารถเขียนตีผมได้เลย เพราะเรา จะเข้าไปเล่นการเมือง เราตั้งค�ำถามว่าเรา คาดหวังอะไร ซึ่งก็ได้ค�ำตอบว่า ก่อนตาย เราได้ท�ำประโยชน์อะไรให้ประเทศชาติบ้าน เมือง แต่ถา้ เราท�ำได้จริงๆ คนเราก็จะไม่ตาย เพราะเขาก็จะพูดถึงและจดจ�ำเราตลอดไป

ดังนัน้ ผมจึงขอตามรอยรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 9 ต่อไป เกิดเป็นคนไทย อย่าลืมว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาล ที่ 9 พระองค์ทรงปฏิบัติพระราช กรณียกิจเพื่อคนไทยมาอย่างมากมาย… ทีมข่าว ชัยสมรภูมิ ขอคารวะ

เที่ยวเมืองชุมพร ครบวงจรแห่งความสุข ชุมพร… จังหวัดหน้าด่านดินแดนปักษ์ใต้ ที่มากไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวอันหลากหลาย ทั้งป่าเขียวเกลียวคลื่น มหัศจรรย์และวัฒนธรรมอันน่าประทับใจ โดยเมื่อจะนับจาก สถานสภาพทางด้านสิ่งแวดล้อมโดยรวมของ จังหวัดชายทะเลแห่งนีแ้ ล้ว ก็จะพบว่ายังคงความอุดมสมบูรณ์ทางด้านทรัพยากรธรรมชาติเอาไว้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ป่าเขา ล�ำเนาไพร สายน�้ำไหลเย็นฉ�่ำ ส�่ำสัตว์ตัวน้อยใหญ่ น�้ำตก เกาะแก่ง และท้องทะเลสีคราม ใสรวมทั้งวิถีชุมชนที่ยังคงอัตลักษณ์เด่นเป็นมนต์เสน่หาเคียงคู่ประตูสู่ดินแดนใต้แห่งนี้เสมอมา

เมือ่ เอ่ยถึง จ.ชุมพร ก็คงเป็นไปไม่ได้ทจี่ ะไม่มใี ครไม่ระลึกถึงคุณงามความดี ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ องค์พระบิดาของทหารเรือไทย โดยภายหลังจากการสิน้ พระชนม์ของพระองค์ ชาวชุมพร ได้มกี ารจัดสร้างศาลและอนุสาวรียข์ องพระองค์เอาไว้ ณ หาดทรายรี ซึ่งต่อมาจึง ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวส�ำคัญของคนเมืองพรไปโดยปริยาย ขอพรเสด็จเตี่ย รับกลิ่นไอทะเลที่หาดทรายรี

ศาลเสด็จในกรมฯ หรือ เสด็จเตีย่ ตัง้ เด่นอยูบ่ นเนินเขา ทางทิศเหนือของหาด ทรายรี สามารถขับรถยนต์ขนึ้ ไปถึง ตัวศาล ด้านล่างมีเรือหลวงพระร่วงหันหน้าออก สูท่ ะเล จึงเป็นจุดทีม่ องเห็นทิวทัศน์ของหาดทรายรีได้ชัดเจนตลอดเวิ้งอ่าว จึงถือ เป็ น สถานที่ท่องเที่ยวอันศักดิ์สิทธิ์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมากราบไหว้ขอพรและพัก ผ่อนหย่อนใจไปในคราวเดียวกัน ตระการตาหลากสีสันใต้เกลียวคลืน ่ งานเปิดโลกทะเลชุมพร

เมือ่ ดืม่ ด�ำ่ สัมผัสบรรยากาศและกลิน่ ไอชายทะเลกันไปแล้ว จากนัน้ จึงลงมา พบกับความสวยงามทางธรรมชาติใต้ทอ้ งทะเลกันบ้างในงาน เปิดโลกทะเลชุมพร ที่จดั

ชัยสมรภูมิ 19

ขึน้ เป็นประจ�ำทุกปี โดยจังหวัด

ชุมพร ร่วมกับเทศบาลต�ำบลปากน�ำ้ ชุมพร สมาคมธุรกิจการท่องเทีย่ วจังหวัดชุมพร และการท่องเทีย่ วแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ส� ำ นั ก งาน จ.ชุมพร

ส�ำหรับโลกใต้ท้องทะเลเมืองชุมพร นัน้ เรียงรายไปด้วยหมูเ่ กาะน้อยใหญ่ตลอด แนวชายฝัง่ ถึง 222 กิโลเมตร กว่า 44 เกาะ ซึ่งจะตระการตาไปกับปะการังนานาชนิด หลากสีสัน ที่เกาะง่ามน้อย เกาะง่ามใหญ่ เกาะหลักง่าม เกาะลังกาจิว เกาะมัตตรา เกาะละวะ เกาะแรด เกาะหลักแรด และ เกาะกุลา เป็นต้น

โดยกิจกรรมภายในงานจะเน้นสีสัน ของโลกทะเล พร้อมกับการส่งเสริมการท่อง เที่ยวและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติหลาก หลายรูปแบบ เช่น การจัดนิทรรศการโลก ทะเล กิจกรรมถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยวใน จังหวัดชุมพร การจัดนิทรรศการแสดงภาพ

ถ่าย เทศกาลอาหารทะเลสด กิจกรรมด�ำน�้ำ เก็บขยะ การปล่อยพันธุส์ ตั ว์นำ�้ หายาก ตลาด ย้อนยุคจ�ำหน่ายผลิตภัณฑ์โอทอป แพ็คเกจ ทัวร์ราคาพิเศษเทศกาลว่าวนานาชาติ กิจกรรม หุบเขารังนก การแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้าน และกิจกรรมการแข่งขันกีฬาตกปลาวิ่งขึ้น

เขามัทรี จักรยานแรลลี่ขึ้นเขามัทรี ฟุตบอล ชายหาด เป็นต้น

และไฮไลต์ ส� ำ คั ญ ของการจั ด งาน โลกทะเลนั้น ก็จะคัดสรรความโดดเด่นมา น�ำเสนอกันเป็นประจ�ำในทุกๆ ปี อย่างเช่น ในปี ที่ แ ล้ วคื อ หุ บ เขารั ง นกจ� ำ ลองขนาด 20×35×10.012 เมตร ภายในจัดจ�ำลองบรรยา กาศถ�ำ้ รังนก และบ้านนก พร้อมตกแต่งด้วย ไฟแสงสี นิทรรศการรังนก นิทรรศการสัตว์ ทะเลมีชีวิต สัตว์ทะเลหายากและสิ่งมีชีวิต ใต้ทะเล นิทรรศการแหล่งท่องเทีย่ ว นอกจากนี้ ยังมีปลาหมึกยักษ์จ�ำลองขนาดความสูง 5 เมตร ยาว 5 เมตร กว้าง 5 เมตร ที่จะลอย อยูเ่ หนือท้องทะเลชุมพร เพือ่ ดึงดูดและเพิม่ สีสนั ให้กบั นักท่องเทีย่ วทีม่ าเทีย่ วงานอีกด้วย สัมผัสหาดทรายเนียนเล่นทะเลใส ที่หาดทุ่งวัวแล่น

เมื่อกลับขึ้นมาจากท้องทะเลกันแล้ว ก็ยงั มีหาดทุง่ วัวแล่น ซึง่ ตัง้ อยูห่ า่ งจาก อ.เมือง

20 ชัยสมรภูมิ

ชมเกาะพิทักษ์ การล่องเรือ ชมปะการังน�้ำ ตืน้ เกาะพิทกั ษ์ นับเป็นชุมชนหนึง่ ทีไ่ ด้รบั การ ยอมรับ ว่าเป็นชุมชนทีม่ คี วามน่าสนใจ และ เป็นเกาะทีย่ งั คงอนุรกั ษ์สงิ่ แวดล้อมทีส่ วยงาม รอบเกาะไว้ได้อย่างดีเยีย่ ม และถือเป็นเกาะ ที่ติดอกติดใจของนักท่องเที่ยวหลายๆ คนในขณะนี้

ไปเพียงแค่ 16 กม.เท่านั้น โดยลักษณะ ของหาดจะเป็นหาดทรายสีขาวนวล เม็ดทราย ละเอียดทอดยาวสุดตา อีกทั้งพื้นที่ชายหาด ยังมีความลาดเอียงเพียงเล็กน้อย ภายใต้ ผืนน�ำ้ ประกอบด้วยสาหร่ายและทรายละเอียด จึงเหมาะแก่การเล่นน�ำ้ โดยหาดทุง่ วัวแล่นนี้ ก�ำลังเป็นที่นิยมในหมู่ของนักท่องเที่ยวเป็น อย่างมาก ยลวิ ถี ชุ ม ชนชิ ม อาหารทะเลสดที่ ปากน�้ำหลังสวน

จากนัน้ เมือ่ ออกจากอ.เมืองกันมาแล้ว ก็จะพาไปเยี่ยมชมกันที่ ปากน�ำ้ หลังสวน ซึ่ง ตั้งอยู่ห่างจากตัว อ.หลังสวนไปประมาณ 7 กิโลเมตร เมื่อถึงตลาดปากน�ำ้ หลังสวน จะ มีถนนตัดเลียบชายหาดไปตลอด จนถึงต�ำบล บางน�ำ้ จืด ริมชายหาดมีรสี อร์ทและร้านอาหาร ทะเลตั้งอยู่เป็นระยะ ปากน�้ำหลังสวนเป็น แหล่ ง ร้ า นอาหารทะเลที่ อ ร่ อ ยและราคา

ย่อมเยา นักเที่ยวสามารถพักค้างแรมและ ท�ำกิจกรรมท่องเที่ยวได้อย่างหลากหลาย เช่น เล่นน�้ำ ขี่จักรยานเที่ยวตลาดปากน�้ำ หลังสวน และเช่าเรือไปเที่ยวเกาะพิทักษ์ รายรอบสายลมกั บ ฟองคลื่ น งาม ชิมอาหารทะเลสด พบกับความผ่อน คลายสบายๆ ที่เกาะพิทักษ์

ส�ำหรับเกาะพิทกั ษ์ ตัง้ อยูบ่ ริเวณอ่าว ท้องครก ต.บางน�้ำจืด อ.หลังหลังสวน อยู่ ในชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ห่างจากชายฝั่ง 1 กิโลเมตร ด้วยบรรยากาศที่สงบเงียบและ ความเป็นธรรมชาติของเกาะ ต่อมาชาวบ้าน จึงได้รวมตัวกันตั้งเป็นชุมชนโฮมสเตย์ ซึ่ง ให้บริการ นักท่องเที่ยวมีประมาณ 15 หลัง เพือ่ ให้นกั ท่องเทีย่ วได้ สัมผัสชีวติ ของชาวบ้าน โดยมีกิจกรรมส�ำหรับนักท่องเที่ยว คือ การ ศึกษาวิถชี วี ติ ชุมชนประมง รับประทานอาหาร ทะเลสดๆ มีคณ ุ ภาพ รสชาติอร่อย ปัน่ จักรยาน

ร่วมเชียร์เรือประเพณี ขึน ้ โขงชิงธง ยืนยงคู่เมืองชุมพร

และเมื่อถึง อ.หลังสวนแล้ว ซึ่งหาก โชคดี ม าตรงกั บ ช่ ว งเทศกาลแข่ ง ขั น เรื อ พายขึน้ โขนชิงธงก็จะได้สมั ผัสกับวัฒนธรรม ของชาวชุมพรในอีกรูปแบบหนึง่ ซึง่ ประเพณี ดังกล่าวมีความผูกพันกับชาวบ้านมาอย่าง ช้ า นานกว่ า 100 ปี เลยที เดี ยว โดยงาน ประเพณีแห่พระแข่งเรือ อ.หลังสวน จ.ชุมพร จัดเป็นมรดกทางวัฒนธรรม เพือ่ สร้างความ สามัคคีให้เกิดขึน้ ในชุมชน และเป็นเอกลักษณ์ เฉพาะท้องถิ่น โดยเฉพาะการขึ้นโขนชิงธง ที่นายท้ายเรือต้องถือท้ายเรือให้ตรงเพื่อให้ นายหัวเรือคว้าธงทีท่ นุ่ เส้นชัย โดยการขึน้ โขน เรือเท่านั้น ดังนั้นจึงถือเป็นประเพณีอันเป็น เอกลักษณ์คัญที่ควรให้การสนับสนุนและ อนุลักษณ์เอาไว้เป็นอย่างยิ่ง ศึ กษาประวั ติ ศาสตร์ ค นเมืองพร ชมแหล่งโบราณคดีถำ�้ เขาจุฬา

โครงกระดูกมนุษย์ พร้อมลูกปัดโบราณ จ�ำนวนมากที่ถูกค้นพบใน ต.เขาทะลุ อ.สวี จ.ชุมพร หรือแหล่งโบราณคดีถำ�้ เขาจุฬา นัน้ ถือเป็นแหล่งศึกษาประวัติศาสตร์ของชาว ปักษ์ใต้ทสี่ ำ� คัญอีกแห่งหนึง่ โดยนักโบราณคดี

ชัยสมรภูมิ 21

ได้ให้ความเห็นว่าโครงกระดูกดังกล่าวน่า จะมีอายุมากกว่า 5 พันปี ยุคก่อนประวัติ ศาสตร์ และมีลกั ษณะคล้ายถูกฝังผ่านพิธกี รรม ซึ่งจากการส�ำรวจยังพบว่ามี ลูกปัด ก�ำไล เครือ่ งประดับต่างๆ รวมถึงข้าวของเครือ่ งใช้ อีกจ�ำนวนมาก โดยยังมีสภาพทีส่ วยงาม และ เกือบจะสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ดังนั้น จึง นับว่า เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวส�ำคัญที่ก�ำลัง ได้รบั ความสนใจจากทัง้ ในส่วนของนักโบราณคดี นักประวัตศิ าสตร์ และนักท่องเทีย่ วเป็นอย่าง ยิ่งเลยทีเดียว

รสชาติเข้มข้น หอมกลิน่ กาแฟคัว่ ซึง่ รสชาติ ของกาแฟ มีความโดดเด่นในเรือ่ งของความ ขมเข้ม หนักแน่น และมีกลิ่นหอมออกสาป ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกาแฟโรบัสต้า โดยเกิ ด จากกระบวนการผลิ ต กาแฟแบบ แห้ง ซึ่งในปัจจุบันนี้ได้รับความนิยมเป็นที่ ติดอกติดใจของบรรดาคอกาแฟ ทัง้ ชาวไทย และต่างชาติมาเป็นเวลาอย่างช้านาน

ลิ้มรสชาติหอมเข้มข้นโรบัสต้าแท้ 100 % ชิมกาแฟเขาทะลุ ทะลักใจ คนกาแฟ

“กาแฟเขาทะลุ” มีจุดเด่นก็คือ เป็น กาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าแท้ 100 % โดยมี

อิม่ อก อิม่ บุญ ชืน่ ชมศิลปะงามล�ำ้ ค่า ที่วัดพระธาตุสวี (พระธาตุกาวี)

พระบรมธาตุสวี มีลักษณะรูปแบบ สถาปัตยกรรมเลียนแบบพระบรมธาตุเจดีย์ นครศรีธรรมราช สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึน้

22 ชัยสมรภูมิ

ท่านมุนีสารโสภณ (พระอาจารย์ตดุ ) สมัยกรุงศรีอยุธยา และได้มีการบูรณะซ่อม แซมหลายครั้ ง หลั ง สุ ดเมื่ อปี พ.ศ.2539 โดยกรมศิลปากร ถือเป็นโบราณสถานที่มี ความส� ำ คั ญ ต่ อ ประวั ติ ศ าสตร์ ไ ทยและ จังหวัดชุมพรเป็นอย่างมาก โดยถือเป็นสถานที่ ส�ำคัญอีกแห่งที่รวมความศรัทธาของชาว ชุมพรไว้ด้วยกันมาอย่างยาวนาน จึงนับว่า เป็นโบราณสถานทางศาสนาที่มีควรค่าแก่ การบ�ำรุงรักษาเอาไว้ให้คงอยู่สืบไป

*วัดพระธาตุสวี ได้รบั การประกาศขึน้ ทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ ในราช กิจจานุเบกษา เล่ม 118 ตอนที่ 127 วันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2544

นอกจากทั้ ง หมดที่ ก ล่ า วมาแล้ ว นี้ ชุมพร ยังมีแหล่งท่องเที่ยวส�ำคัญๆ ที่ยังยก ตัวอย่างได้ไม่หมดอีกมากมายหลายแห่ง หลายสถานด้วยกัน เช่น จุดชมวิว เขาเจ้าเมือง ชุมพร เขามัทรี เขาดินสอ น�้ำตกกะเปาะ น�ำ้ ตกคลองเพรา ล่องแพต้นน�ำ้ พะโต๊ะ สวน ผลไม้นายด�ำ บ่อน�ำ้ พุรอ้ นถ�ำ้ เขาพลู วัดประเดิม วัดเทพเจริญ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย พระธาตุ ถ�ำ้ ขวัญเมือง และวัดธรรมถาวร อ�ำเภอทุง่ ตะโก ซึ่งมีพระเกจิชื่อดังสายปฏิบัติ ท่านมุนีสาร โสภณ (พระอาจารย์ตดุ ) อดีตเจ้าคณะจังหวัด ทีช่ าว จว.ชุมพร นับถือ-ศรัทธาเดินทางไป ขอพร ตลอดไม่ขาดระยะ... เป็นต้น

“บิ๊กอู๊ด” เผย ผู้ตรวจฯ ทั่วโลกร่วมถวายอาลัย ในหลวง ร.9

พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์

ผู้ตรวจการแผ่นดิน (ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน)

แจงต่างชาติเข้าใจความรูส้ กึ คนไทยทั้งประเทศ ระบุพระองค์ทรงสถิตในดวงใจตลอดกาล ยืนยันผูต้ รวจฯ ไทยเป็นที่ ยอมรับในเวทีโลก

ในโอกาสทีป่ ระเทศไทยได้รบั เกียรติให้เป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมระดับโลกของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดิน ระหว่างประเทศ ครัง้ ที่ 11 ทีโ่ รงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ระหว่างวันที่ 13-19 พ.ย. 59 นัน้ การประชุมดังกล่าว ถือ เป็นการประชุมผูต้ รวจฯ ระดับโลก ทีจ่ ดั ขึน้ เป็นครัง้ แรกใน เอเชีย โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 114 องค์กรจาก 6 ภูมิภาคทั่วโลก นับเป็นความภาคภูมิใจครั้งประวัติศาสตร์ ของทัง้ ประเทศไทย และทวีปเอเชีย

ส�ำหรับการประชุมดังกล่าว นับเป็นเวทีส�ำคัญที่ผู้ตรวจการแผ่นดินทั่ว โลกจะได้มีโอกาส ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ซึ่งกันและกันเพื่อให้เกิดการ พัฒนาความรูด้ า้ นผูต้ รวจการแผ่นดินและมีการเสริมสร้างธรรมาภิบาล รวมทั้ง การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนร่วมกันอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งใน ส่วนนี้ผมต้องขอขอบคุณรัฐบาล องค์กรต่างๆ และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกๆ ท่าน ที่ ช่วยกันท�ำให้การจัดงานดังกล่าวลุลว่ งไปได้ด้วยดีและเป็นที่ประทับใจต่อผู้แทน จากชาติตา่ งๆ ทีเ่ ข้าร่วมประชุมเป็นอย่างยิง่ โดยในช่วงเวลาดังกล่าว ทาง ส�ำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของประเทศไทย ได้มีการ น�ำผู้แทนจากทั่วโลก ไปเยี่ยมชมสถานที่ประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรมต่างๆ ของคนไทย ซึ่งก็ถือ เป็นการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของประเทศไทยไปด้ ว ยในโอกาสเดี ย วกั น ซึ่งขณะนี้ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ในอีก 4 ปีจากนี้ไปจนถึงปี 2020 ประเทศไทย ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกในเอเชียให้เป็นกรรมการ 1 ใน 3 ของภูมิภาค เอเชีย โดยมี ประเทศไทย ปากีสถาน และเกาหลีใต้ เป็นผู้ปฏิบัติงานร่วมกัน

การประชุมในครั้งนี้นอกเหนือจากในด้านของวิชาการแล้ว เรายังได้ แสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถในการจัดการประชุมระดับนานาชาติ ซึง่ เรือ่ งนี้ ก็เป็นที่ประจักษ์ทั้งในด้านของสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ อีกทั้งบรรดา เพือ่ นสมาชิกผูต้ รวจการแผ่นดินต่างก็รสู้ กึ พอใจ ทัง้ ในด้านการต้อนรับ การรักษา ความปลอดภัย โรงแรมทีพ่ กั สิง่ อ�ำนวยความสะดวกทัง้ หลาย การบริหารจัดการ ต่างๆ รวมถึงในเรือ่ งของเนือ้ หาการประชุมก็อยู่ในเกณฑ์ที่เป็นมาตรฐานดีมาก

ชัยสมรภูมิ 23

โดยในส่วนของผู้แทนจากสถาบันผู้ ตรวจการแผ่นดินทั้งหมดที่เข้าร่วมประชุม นัน้ ต่างก็ได้รบั ค�ำแนะน�ำจากประเทศไทยไป ก่อนทีจ่ ะเดินทางมาประชุม ซึง่ ท�ำให้รบั ทราบ ถึ ง สถานการณ์ ข องประเทศไทยอย่ า ง ลึกซึ้งว่า ก�ำลังอยู่ในช่วงเวลาแห่งความ โศกเศร้าจากการสูญเสียพระมหากษัตริย์ ที่ดีที่สุดของประเทศไทยเรา ซึ่งในส่วนนี้ สามารถสังเกตได้จากการที่ผู้ร่วมประชุมทุก คนต่างก็ร่วมกันแต่งกายในชุดไว้ทุกข์หรือ ชุดสีสุภาพเดินทางมาร่วมการประชุมอย่าง พร้อมเพรียง อีกทั้งในทุกๆ ครั้งก่อนที่จะมี การประชุ ม ไม่ ว ่ า จะเป็ น ในส่ ว นของคณะ กรรมการของสถาบันผูต้ รวจการแผ่นดิน หรือ ในที่ประชุมใหญ่สามัญ รวมทั้งการเปิดการ ประชุมอย่างเป็นทางการ จะมีการยืนสงบนิง่ 89 วินาทีถวายความอาลัยต่อพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 9 ทุกครั้ง

พระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว ใน พระบรมโกศ ทรงมีพระบรมราโชวาทไว้ 3 บรรทัดที่เป็นเนื้อหาสาระส�ำคัญที่เกี่ยวข้อง กั บ งานที่ ผ มได้ ป ฏิ บั ติ อ ยู ่ ใ นปั จ จุ บั น โดยมี ใจความที่สามารถเข้าใจได้โดยง่ายว่า “การ มีกฎหมาย ไม่ได้มีความหมายเพียงเพื่อให้ มีกฎหมาย แต่การมีกฎหมายนัน้ เพียงท�ำให้ เกิดความยุตธิ รรมแก่ประชาชน” หมายถึงว่า เจ้าหน้าทีร่ ฐั ไม่ใช่จะไปท�ำหน้าทีต่ ามกฎหมาย

24 ชัยสมรภูมิ

เพียงเท่านั้น แต่ให้ค�ำนึงถึงความยุติธรรม ความไม่เดือดร้อนของประชาชน ผมคิดว่า อันนี้ เป็นหัวใจส�ำคัญอีกประการทีผ่ ตู้ รวจการ แผ่ น ดิ น ได้ ป ฏิ บั ติ อ ย่ า งเต็ ม ก� ำ ลั ง ความ สามารถ คือ เราจะตรวจสอบการละเลย หรือ ไม่ปฏิบัติหน้าที่ หรือ การปฏิบัติหน้าที่เกิน อ�ำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้เกิดความ เป็นธรรมแก่ประชาชน ซึ่งในทุกๆ ครั้งที่ได้

อ่ า นก็ จ ะท� ำ ให้ ผ มมี ก� ำ ลั ง ใจในการท� ำ งาน เป็นอย่างยิ่ง เป็ น พระบรมราโชวาทที่ผม ประทับใจมากเลยทีเดียว

การมีสถาบันพระมหากษัตริย์ของ ประเทศไทยถือเป็นมรดกของชาติ ค�ำว่า มรดกมีความหมายว่า เราในฐานะคนรุน่ หลัง จะต้องช่วยกันรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ เอาไว้ให้คงอยู่ในแผ่นดินไทยต่อไป การสูญ

เสียพระมหากษัตริย์ที่มีพระคุณ ที่ทรงเสีย สละประโยชน์ส่วนตน ที่ทรงไปท�ำงาน นอน กลางดิ น กิ น กลางทราย และทรงมี ค วาม ห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนทุกๆ นาทีโดยไม่ เคยทรงแยกแยะว่ า จะเป็ น ภู มิ ภ าคไหน หรื อ ที่ ใด นั้ น ท� ำ ให้เ ราได้ประจักษ์ว ่าใน ทุกๆ ที่ทุกๆ แห่งหนที่พระองค์เสด็จฯ ไป เป็นเวลานานๆ หรือนานจนกว่าปัญหาของ ประชาชนและผู ้ ด ้ อ ยโอกาสจะได้ รั บ การ แก้ ไ ข โครงการพระราชด�ำริ กว่า 4 พัน โครงการ จึงเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่เรา สามารถประจักษ์ได้อย่างชัดเจน

ผมเชื่ อ ว่ า การมี ส ถาบั น พระมหา

กษัตริย์ให้คงอยู่ หรือจะต้องช่วยกันรักษา ให้คงอยูก่ บั แผ่นดินไทย และชีวติ ของคนไทย ต่อไป ซึ่งขอเน้นย�้ำว่าเราจะต้องตระหนัก ด้วยตัวของเราเอง ไม่ใช่ให้ใครผู้ใดผู้หนึ่ง มาบอกแล้วจึงเชื่อ แต่หัวใจของเราเองต่าง หากที่จะต้องส�ำนึกให้ได้ว่าบ้านเมืองอยู่รอด

มาได้เพราะอะไร อย่างไร ผูกพันกับสถาบัน พระมหากษัตริย์อย่างไร พระราชกรณียกิจ นานัปการที่พระองค์ทรงประกอบเอาไว้ให้ คนไทยนั้น เป็นไปตามพระปฐมบรมราชโอง การของพระองค์ ห รื อไม่ เราทุกคนย่อม ประจักษ์ในหัวใจกันดีอยู่แล้ว

ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า ภายหลังจากที่ได้ ร่วมสัมผัสมือและกล่าวต้อนรับผู้ร่วมการ ประชุมแล้ว ถ้อยค�ำต่อมาที่ผมได้ยินเป็นค�ำ แรกจากผู ้ แ ทนที่ เ ข้ า ร่ ว มการประชุ ม ทุ ก ๆ คนก็คือ การแสดงความเสียใจและการร่วม ถวายความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคต ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ในพระบรมโกศ

ความรู ้ สึ ก ที่ ผ มได้ รับ มาจากผู้ร่วม ประชุมทุกๆ คน ท�ำให้สามารถเป็นทีป่ ระจักษ์ ได้อย่างชัดเจนประการหนึ่งว่า แม้พระองค์ จะเสด็จสู่สวรรคาลัยไปแล้ว แต่ด้วยพระ มหากรุณาธิคุณและคุณงามความดีที่ทรง ประกอบเอาไว้ ม าตลอดระยะเวลาการ ครองราชย์อันยาวนานนั้น ถือเป็นสิ่งที่จะ ท�ำให้คนไทย และชาวโลกทุกคนต่างก็รู้สึก ได้เหมือนกันว่า พระองค์ไม่ได้จากเราไปไหน แต่ พ ระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช จะสถิตอยู่ในดวงใจของ พวกเราทุกคนไปตลอดกาล

ชัยสมรภูมิ 25

ส� ำ หรั บ ความผู ก พั น ที่ มี ต ่ อ สถาบั น พระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะความเคารพรัก ทีม่ ตี อ่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพ ิ ล อดุลยเดช นัน ้ ก็มหี ลายๆ มิตดิ ว้ ยกัน เช่น ผม เป็นครอบครัวทหาร เกิดมาอยู่ในครอบครัว ทหาร คือ คุณพ่อเป็นทหารรักษาพระองค์ ผมเองก็เป็นทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ น้องก็เป็นทหาร เราตื่นขึ้นมาดูโทรทัศน์ก็จะ เห็นข่าวที่เกี่ยวกับพระองค์ท่านเห็นในเรื่อง พระราชกรณียกิจที่ทรงปฏิบัติในทุกๆ วัน ใน เวลาทีเ่ สด็จฯ ไปประทับ ณ พระต�ำหนักต่างๆ ทุ ก ภู มิ ภ าค ท่ า นไปทรงงานด้ว ยพระวิริยะ อุตสาหะ ซึง่ ในทุกๆ สิง่ ทีพ ่ ระองค์ทรงท�ำหรือ ทรงงาน ก็ลว้ นแต่เพือ่ ความสุขและความเป็น อยู่ที่ดีขึ้นของราษฎรทั้งนั้น

เปิดหัวใจ

บิ๊กตึ๋ง

ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณตลอดกาล ด้วยเคารพรักและศรัทธาขอ ธ สถิตในดวงใจนิรันดร

พล.อ.อุทิศ สุนทร สนช. สายแข็ง

พระองค์ทรงตระหนักว่าประเทศไทย เป็นประเทศเกษตรกรรม ซึง่ มีชาวไร่ชาวนา อยู่มากดังนั้น บ้านเมืองของเราจึงต้องมีน�้ำ เพราะถ้าขาดน�้ำการประกอบกสิกรรมต่างๆ ก็จะไม่สามารถด�ำเนินไปได้เพาะปลูกไม่ได้ ดังนัน้ พระองค์จงึ ทรงศึกษาเรือ่ งน�ำ้ โดยทรง หาน�ำ้ ให้กบั พืน้ ทีท่ ขี่ าดแคลนน�ำ้ ซึง่ ทีผ่ า่ นมา ก็มีโครงการที่ประชาชนรับรู้และเข้าใจได้ อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรมก็คือโครงการฝน หลวง หรือ ฝนเทียม เมื่อมีฝนป่าก็ชุ่มชื้น ป่าต้นน�้ำก็สามารถผลิตน�้ำให้โครงการเขื่อน หรือฝายต่างๆ สามารถเก็บกักน�ำ้ ให้กบั ชาวไร่ ชาวนาได้ ในเรื่องนี้ถือเป็นสิ่งที่เราสามารถ เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าพระองค์ทรงท�ำ

26 ชัยสมรภูมิ

เพื่อประชาชน

พระองค์ทา่ นไม่เคยมองประชาชน เป็นอื่นเลย พระองค์ทรงมองราษฎรเป็น เหมือนกับลูกหลานของพระองค์ทา่ นทุกคน โดยท่านจะทรงงานหนักเพื่อคนไทยทุกวัน อันนีจ้ งึ ถือเป็นสิง่ ทีส่ ามารถพูดได้วา่ ไม่เฉพาะ แค่ผมคนเดียว และผมก็เชื่อมั่นว่าคนไทย ทั้ง 67 - 68 ล้านคนมีความผูกพันซาบซึ้งดี เกี่ยวกับสิ่งที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงท�ำไว้ให้กับพวก เราในตลอดระยะเวลา 70 ปี ที่ผ่านมา

เรามีความรัก พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช และเราก็เชือ่ มัน่ ว่าพระองค์ทา่ นรักพวกเรา ในหลายๆ ครัง้

ที่เกิดวิกฤตขึ้นกับประเทศชาติบ้านเมืองใน หลายๆ ก็จะเห็นพระองค์ทา่ นเสด็จฯ ออกมา หลายครั้ง พระองค์ก็ทรงออกมาเตือน หรือ พระราชทานค�ำแนะน�ำให้เราควรจะท�ำอย่างไร ในตัวผมเองลึกๆ มีความภาคภูมใิ จว่าผมเกิด ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ผมเองได้ เป็น ผบ.กองพลทหารราบที่ 9 ซึ่งกองพลนี้ เป็นกองพลที่เกิดในรัชสมัยของพระองค์ ท�ำให้มีความรู้สึกว่า ผูกพันกับรัชกาลที่ 9 เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในระหว่างที่เป็นผบ.พล.9 ผมได้ท�ำพิพิธภัณฑ์ที่เกี่ยวกับพระองค์ท่าน เอาไว้ที่ จ.กาญจนบุรี ด้วย

ความดีที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงท�ำไว้นั้น มากมายมหาศาล มากกว่ า แค่คนในชาติ เท่านั้น ที่รู้ว่าพระองค์มีความดี และหลายๆ อย่างที่พระองค์ทรงท�ำไว้นั้น ถ้าคนทั้งโลก ยึดถือน้อมน�ำไปปฏิบัติตามพระองค์ท่านก็มี ผลกับชีวิต อาชีพ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทุกคน

พระองค์ไม่เคยท�ำอะไรเพื่อตัวท่าน แต่ทรงท�ำให้กับประชาชน ในการแปรพระ ราชฐานของพระองค์ท่านทุกครั้ง พระองค์ จะไปทรง ไม่วา่ จะเป็นทีภ่ าคเหนือ ภูพงิ ค์ราช นิเวศน์ ภาคอีสานอยู่ที่ภูพาน ภาคกลางอยู่ ที่ไกลกังวล ภาคใต้อยู่ที่ทักษิณราชนิเวศน์ พระองค์เสด็จฯ ไปก็เพื่อไปทรงงานเพื่อ ประชาชนด้ ว ยความห่ ว งใยประชาชนใน ทุกๆ ครั้ง เราเห็นสิ่งที่ท่านท�ำให้กับพวกเรา ก็ควรยึดมัน่ และถือเป็นความทรงจ�ำทีด่ ที ชี่ ว่ ย ให้ชาวไทยทุกคนคลายความเศร้าโศกลงไป ได้บ้าง

พวกเราทุกคนส่วนใหญ่ เป็นคนสอง แผ่นดิน ซึง่ คนทีม่ อี ายุไม่ถงึ 70 ก็จะมีโอกาส ได้อยู่ในแผ่นดิน รัชกาลที่ 9 ซึ่งจะมีโอกาส ได้เห็นว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา

ส�ำหรับการสูญเสียที่เกิดขึ้นนั้น ผม คิดว่าประชาชนคนไทยอธิบายได้เหมือนกัน ทุกคน และความรูส้ กึ ของทุกคนก็คงไม่แตก ต่างกัน จากที่เราเห็นมาคือ ประชาชนทั้งใน และนอกประเทศได้ร่วมกันไว้ทุกข์มีความ เศร้าโศกอาลัยอาดูร ทุกคนแต่งชุดด�ำและ ต้ อ งการที่ จ ะมี ส ่ ว นร่ ว มในการมาถวาย บังคม มากราบพระบรมศพ ผมเองก็โชคดี ที่มีโอกาสขึ้นไปถวายพระราชกุศลที่พระนั่ง ดุสิตในวันที่ 28 ต.ค. ผมมั่นใจว่าความรู้สึก ของผมไม่ต่างจากประชาชนที่มีอยู่ ทุกคน รู้สึกอย่างไรผมก็รู้สึกอย่างนั้น

แม้การสูญเสียในครั้งนี้จะมากมาย สักเพียงใด แต่เมือ่ เป็นสิง่ ทีม่ อิ าจจะเลีย่ งได้ เราทุกคนก็คงต้องท�ำความเข้าใจและยอมรับ ในสิ่งที่เกิดขึ้นว่า เป็นธรรมดาของชีวิต เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นธรรมดา ในศาสนาของเรา พระศาสดาก็เกิดแก่เจ็บตาย เช่นกัน แต่

ชัยสมรภูมิ 27

ที่มาที่ไป หรือ ต้นก�ำเนิดของชาติไทย ซึ่งใน จุดนี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อคนรุ่น หลังเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม การเปลีย่ นรัชสมัย จาก ร.9 มายัง ร.10 นั้น คงไม่ได้มีอะไรเปลี่ยน แปลงไปมากมายนัก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิ ร าลงกรณบดิ น ทรเทพยวรางกู ร ทรงมีพระทัยที่ยึดมั่นในการสืบสานพระราช ปณิธานของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีพระราชประ สงค์ ใ ห้ ป ระชาชนมี คุ ณ ภาพชี วิ ต ที่ ดี แ ละ มีความรักความสามัคคีกัน อีกทั้งพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ก็ทรงวาง รากฐานไว้ให้กับ พระเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 10 เอาไว้เป็นอย่างดีแล้ว

ดังนั้น จึงมั่นใจและขอยืนยันว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ยังเป็นศูนย์รวม จิตใจที่ส�ำคัญที่สุดของผองเราประชาชน ชาวไทยตลอดไป ภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงท�ำสิ่งดีๆ เอาไว้ให้ พสกนิกรปวงชนชาวไทยอย่างมากมาย เช่น โครงการเศรษฐกิจพอเพียงทีค่ ดิ ว่า น่าจะอยู่ ในหัวใจของคนไทยตลอดไป โดยเป็นโครงการ เป็นหลักปรัชญาที่สามารถน�ำมาใช้ในชีวิต ในการครองเรือนได้จริงๆ ค�ำว่าพอเพียงของ วันนีก้ บั พรุง่ นี้ หรือของแต่ละคนนัน้ ไม่เท่ากัน และถึงแม้ว่าจะมีความแตกต่างกันในจุดนี้ แต่ผมยืนยันว่า เศรษฐกิจพอเพียงหรือค�ำว่า พอเพียงไม่ใช่ความตระหนีถ่ เี่ หนียว แต่เป็น ไปตามความเหมาะสมความพอดี

และเมือ่ ถามว่า คิดเห็นอย่างไรเกีย่ ว กับการมีราชประเพณีตา่ งๆ ของชาติไทย ใน ทั ศ นะของผมคิ ด ว่ า การมี ร าชประเพณี ต่างๆ นั้น ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ควรจะต้องช่วย กันรักษาไว้ ต้องช่วยกันสืบสาน เพื่อจะได้รู้

28 ชัยสมรภูมิ

ตื่นทั่วประเทศ

ปฏิบัติการ ชัยยะสยบไพรี 60/1-2 ล้างบางขบวนการนักค้าค้ายาไม่จ�ำกัดไซส์

โดย...แคช ดาวเงิน เริม่ จาก ป.ป.ส.ร่วม มทบ.37 – ต�ำรวจ เชียงราย –ฝ่ายปกครอง – ราชทัณฑ์ รวบ 65 ล้าน ล็อค 5 ผูต้ อ้ งหาเครือ ข่ายค้ายา โยง 2 นช. เรือนจ�ำกลาง ระยอง

เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 60 นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ส�ำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายวิชัย ไชย มงคล ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5 นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย พล.ต.ต.ธนยินทร์ เทพรักษา ผบก.ภ.เชียงราย พล.ต. บัญชา ดุรยิ พันธ์ ผูบ้ ญ ั ชาการมณฑลทหารบกที่ 37 พล.ต.จิรเดช กมลเพ็ชร ผู้บัญชาการกองก�ำลังผาเมือง พ.อ.นภดล ระวีวรรณ ผบ. กองพัน ทหารสารวัตร กองบัญชาการกองทัพไทย และเจ้าหน้าทีก่ รมราชทัณฑ์ ได้สนธิก�ำลังกันเปิดยุทธการ “ป.ป.ส.บูรณาการตัดวงจรทางการเงิน เครือข่ายยาเสพติด ครัง้ ที่ 1 เครือข่ายนายวรายุทธ แสงอรุณ”

ผลการตรวจค้นเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดทรัพย์มาท�ำการ ตรวจสอบได้มูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดราว 65 ล้านบาท การตรวจยึด ทรัพย์สินพร้อมจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวมีขึ้นเนื่องจากใน เดือน ก.พ. 59 โดยเรือนจ�ำกลาง จ.ระยอง ได้สืบ ทราบว่ า มีผู้ต้องขังในเรือนจ�ำมีพฤติการณ์ ลักลอบค้ายาเสพติด จึงได้ทำ� การประสาน กับทาง ป.ป.ส.ในการ

ขยายผลไปยังเครือข่ายยาเสพติดรายดังกล่าวซึ่งพบว่ามีความเชื่อมโยง กับนัดโทษในเรือนจ�ำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี โดยมีนกั โทษชายจ�ำนวน 2 คนอยู่ เบือ้ งหลังสัง่ การไปยังผูต้ อ้ งขังทีเ่ รือนจ�ำกลาง จ.ระยองจนสามารถจับกุมตัวได้ใน ที่สุด

โชว์ผลงานที่ยิ่งใหญ่ต้นปี 2560 ของ กองบัญชาการต�ำรวจปราบปราม ยาเสพติด (บช.ปส.) ด้วยการล็อคตัว นายไซซะนะ แก้วพิมพา นักค้ายาตัวเป้งคา สุวรรณภูมิ แฉใหญ่กว่า “เล่าต๋า” ใช้ชีวิตส�ำราญจาก เงินบาป ของพ่อค้ายาเสพติด รายใหญ่ชาวลาวรายนี้ เมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมาขณะเดินทางมาพักผ่อนตากอากาศ ในประเทศไทย แต่ตำ� รวจปราบปรามยาเสพติด น�ำโดย พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสยั สุข (ผบช.ปส.) พร้อมก�ำลังเข้าจับกุม และขยายผลตรวจค้นอีกหลายจุด จับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติม ไปจนถึงแหล่ง

ชัยสมรภูมิ 29

ฟองเงินที่อาจจะเชื่อโยงกับ นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์เรซซิ่ง สามี ของ แพทณปภา ตันตระกูล นักแสดงชือ่ ดัง แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ ต�ำรวจหลายหน่วยงาน ทัง้ ต�ำรวจทางหลวง ต�ำรวจภูธร และต�ำรวจ ปราบปรามยาเสพติด ต้องท�ำงานกันอย่าง หนั ก ในระยะเวลา 5 ปีที่ผา่ นมา ซึง่ จุดเริม่ ต้นทีเ่ ป็นรูปธรรมทีเ่ ชือ่ โยงกับ นายไซซะนะ มี 4 คดี

30 ชัยสมรภูมิ

เริม่ จากคดีแรก ในวันที่ 16 กันยายน 2558 ต�ำรวจทางหลวงจับยาบ้า 2.3 ล้าน เม็ดที่บริเวณสี่แยกปฐมพร จ.ชุมพร โดย ต�ำรวจทางหลวงสังเกตเห็นว่า รถโตโยต้าวีโก้ สีขาว หมายเลขทะเบียน ฒช 864 กทม.ขับ ตามรถเชฟโรเลตแคปติวา ทะเบียน ฎม 7676 กทม. อย่างมีพริ ดุ รถทีข่ บั ตามก็มกี ารดัดแปลง ซุ้มล้อให้กว้างขึ้น และรถมีลักษณะหนักทั้ง ทีไ่ ม่ได้บรรทุกสิง่ ของ ต�ำรวจจึงได้เรียกให้หยุด

เพื่อเข้าตรวจค้น แต่รถทั้งสองคัน ไม่ยอม หยุดกลับเร่งเครื่องยนต์พยายามหลบหนี และก็หลบหนีไปได้ 1 คัน คือ รถเชฟโรเลต ดังกล่าว จับได้แต่รถโตโยต้า ซึ่งต�ำรวจทาง หลวงตัดสินใจเร่งเครื่องยนต์แซงหน้าแล้ว จอดขวาง ท�ำให้คนขับรถทราบชื่อ คือ นาย วิทยา โสภา อายุ 47 ปี อยูบ่ า้ นเลขที่ 34 หมู่ 1 ต.พนอม อ.ท้าอุเทน จ.นครพนม ยอมจ�ำนน และเมื่อตรวจค้นพบว่า มีการซุกซอนยาบ้า ไว้ใต้แผงกระบะกันลอย และมีการตัดพืน้ รถ กระบะออกเป็นช่องๆ ด้านในพบยาบ้าซุกซ่อน อยู่ ผู้ต้องหารับว่า ยาบ้ามาจากฝั่งลาว คดีต่อมาวันที่ 1 เมษายน 2559 พล ต�ำรวจเอก พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผูบ้ ญ ั ชา การต�ำรวจแห่งชาติ ในขณะนัน้ ได้แถลงผล การจับกุม นายกิตติศักดิ์ แก้วนา อายุ 41 ปี ผู้ต้องหายาเสพติด ชาวจ.สกลนคร กับพวก คือนายปิยะ เครือหมื่น, นายพุทธรักษ์ เพ็ง อินทร์, นายวิษณุพงษ์ดวนลี และนายชัยวัฒน์ ศรีปัญญา พร้อมของกลาง

ยาบ้ากว่า 640,000 เม็ดและ เฮโรอีน 720 กรัม โดยสามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่ ปัม๊ น�ำ้ มันถนนมิตรภาพ อ�ำเภอสูงเนิน จังหวัด นครราชสีมา ซึ่งก่อนหน้านี้ต�ำรวจสืบทราบ ว่าจะมีกลุม่ ผูค้ า้ ยาเสพติดล�ำเลียงยา มาจาก จังหวัดนครพนม โดยใช้รถกระบะ 3 คันจึง เร่งสืบสวนติดตามพฤติกรรมจนพบความ เคลือ่ นไหวของรถทัง้ สามคัน แล้วติดตามมา

จากพื้นที่จังหวัดนครพนม สกลนคร และ อุดรธานี มุ่งหน้าจังหวัดนครราชสีมา ก่อน ไปจอดในปัม๊ น�ำ้ มันทีเ่ กิดเหตุตำ� รวจจึงแสดง ตัวเพื่อขอตรวจค้น พบยาบ้า และเฮโรอีน ของกลางซุกซ่อนไว้ใต้พนื้ รถกระบะผูต้ อ้ งหา รับสารภาพยาบ้ามาจากลาว

คดีที่สาม วันที่ 24 สิงหาคม 2559 ที่ ก องบั ง คั บ การต� ำ รวจภู ธ รจั ง หวั ด ชุ ม พร พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.เทศาศิริวาโท ผบช.ภ.8, นายสมดี คชายัง่ ยืน ผวจ.ชุมพร, พล.ต.ต.นรินทร์ บุษย วิทย์ผบก.ภ.จว.ชุมพร พร้อมชุดจับกุม ได้ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายศักดา อัครศักดิ์ ศรี อายุ 47 ปี ชาว อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร และนายชนระวิทย์ กลิ่นจันทร์ อายุ 34 ปี คนบ้านเดียวกัน พร้อมยาบ้า 1 ล้านเม็ด

เป็นฝีมือของ พ.ต.ท.ฉลาก พลนาการ รรท. ผกก.บ้านมาบอ�ำมฤต ท�ำหน้าที่หัวหน้าด่าน ตรวจ พร้อมกับ พ.ต.อ.เสริมศักดิ์ พ่วงพิศ ผกก.สส.ภ.จว.ชุมพร และก�ำลัง ที่ตั้งด่าน ตรวจค้นตามปกติบนถนนเพชรเกษมฝั่งขา ล่องใต้มงุ่ หน้าไปจังหวัดชุมพร และได้พบรถ กระบะมาสด้า ทะเบียน 1ฒง 9434 กรุงเทพ มหานคร ขับผ่านมาจากจังหวัดประจวบคีรี ขันธ์ เพือ่ เข้าจังหวัดชุมพร จึงเรียกตรวจค้น พบนายศักดา อัครศักดิ์ศรี เป็นผู้ขับ โดยมี นายชนระวิทย์ กลิ่นจันทร์ นั่งมาด้วย การ ตรวจค้นเบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่ขณะ ต�ำรวจจะปล่อยตัว พ.ต.ท.ฉลาก มองเห็น นายชนระวิทย์ มีอาการลุกลี้ลุกลนผิดปกติ จึงสั่งการให้ลูกน้องตรวจค้นอย่างละเอียด ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ พอต�ำรวจจะปล่อยตัว มี ต� ำ รวจเดิ น ไปเคาะแมกซ์ ไ ลเนอร์ ที่ ใ ส่ ม า

และบริเวณตัวถังรถพบว่า มีเสียงผิดปกติ จึงให้หยุดรถไว้ก่อน แล้วไปตามช่างซ่อมรถ ทีอ่ ยูใ่ กล้เคียง มาช่วยค้น แล้วพบว่า มียาบ้า ซุกซ่อนในฝาข้างกระบะและพื้นกระบะที่ ดัดแปลงเป็นพิเศษ จ�ำนวนกว่า 1 ล้านเม็ด จึงแจ้งข้อหาก่อนจับกุม และน�ำไปสอบสวน ผูต้ อ้ งหาทัง้ สอง สารภาพว่า รับยาบ้ามาจาก ชายแดนฝัง่ หนองคาย หลังจากมีการล�ำเลียง มาจากฝั่งลาว เพื่อน�ำไปส่งเอเย่นต์ใหญ่ ที่ อ�ำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

และคดีสดุ ท้ายทีเ่ ชือ่ โยงกัน คือ เมือ่ เช้ามืดของวันที่ 1 ตุลาคม 2559 ต�ำรวจ ปราบปรามยาเสพติด จับกุม นายทรรศพล พลธี อายุ 38 พร้อมของกลางยาบ้า 1,200,000 เม็ด ซุกซ่อนอยูใ่ นรถตูโ้ ตโยต้า สีเทา หมายเลข ทะเบียน ฮค 1913 กทม. โดยต�ำรวจชุดจับกุม ได้ ขั บ รถตามมาตั้ ง แต่ ด ่ า นตรวจคนเข้ า เมืองหนองคาย จนมาจับกุมได้ที่ด่านตรวจ ยาเสพติดสีคิ้ว ถนนมิตรภาพ ต.ลาดบัวขาว อ.สีควิ้ จ.นครราชสีมาจากนัน้ ได้ขยายผลการ จับกุมไปยัง นายไพฑูรย์ ทองเสม อายุ 39 ปี และ น.ส.เกศญาณัฐฐ์ ธงวาด อายุ 32 ปี ที่ด่านตรวจยาเสพติด ปะทิว – พละ ต.เขา ไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร และขยายผลการ จับกุมต่อไปยัง นายนิอุสมีน ปะจู อายุ 41 ปี ผู้ร่วมขบวนการอีก 1 คน ได้ที่ลานจอดรถ โรงแรมคริสตัน หาดใหญ่ เลขที่ 4 ซอย 23 ถนนกาญจนวนิช ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า ยาบ้า ดั ง กล่ า วเป็ น ของเครื่ อ ข่ า ยผู ้ มี อิ ท ธิ พ ลใน ประเทศลาว จากทัง้ 4 คดี ต�ำรวจปราบปราม ยาเสพติด ให้รวบรวมฐานข้อมูล ทั้งจาก ต�ำรวจทางหลวง และต�ำรวจภูธร ก็พบว่า เป็นเครือข่ายยาเสพติด ที่ผลิตในประเทศ เมียร์ม่า ก่อนส่งไปยังลาว และลักลอบข้าม ฝั่งแม่น�้ำโขงมายังชายแดนไทยฝั่งตะวัน ออก ก่อนล�ำเลียง ผ่านภาคกลางไปยังภาคใต้ บางกลุ่ม แวะพักยาจังหวัดปทุมธานี ก่อน ส่งไปพักต่อที่อำ� เภอหาดใหญ่ จ.สงขลา แต่ บางกลุ่มมีการลดต้นทุน วิ่งม้วนเดียวจบถึง หาดใหญ่ ก่อนต่อให้อีกกลุ่มขนออกไปยัง ประเทศมาเลเซีย และมีผู้รับช่วงส่งต่อไป

ชัยสมรภูมิ 31

ยั ง ประเทศออสเตรเลียจุด ส�ำคัญ

คือคดีที่ 4 ทีจ่ บั กุม นายนิอสุ มีน ได้ ต�ำรวจตรวจสอบพบว่า มีความสัมพันธ์กับ น.ส.ไรดา จาโก อายุ 27 ปี ผูต้ อ้ งหาตามหมาย จับศาลอาญาที่ 3/2555 ซึ่งเป็นบุตรของ นายมะรอนิง จาโก เอเย่นต์รายใหญ่ใน อ.สุไหง โกลก จ.นราธิวาส เป็นครอบครัวยาเสพติด รายใหญ่ ที่ก่อร่างสร้างตัวมาจากการจัดหา กัญชาส่งขายมาเลเซีย ต่อมาก็พฒ ั นาเป็นน�ำ ยาบ้าจากลาวและล�ำเลียงผ่านภาคใต้ไปยัง มาเลเซีย และถูกจับกุมและยึดทรัพย์ไปแล้ว เมื่อปี 2555 ลูกน้องของกลุ่มนี้ที่ยังไม่ถูก จับยังมีอีกหลายราย และเชื่อว่ายังด�ำเนิน การค้ายาบ้าอยูโ่ ดยเปลีย่ นจากเดิมบัญชาการ ในบ้าน กลายเป็นบัญชาการอยู่ในเรือนจ�ำ ก็อาจเป็นได้ โดยเฉพาะ นายนิอสุ มีน เป็นตัว หลักนอกเรือนจ�ำท�ำให้ต�ำรวจได้ข้อมูลครบ จนสามารถจับกุมคนระดับพ่อค้ายาเสพติด นายไซซะนะ เป็ น ผลส� ำเร็จ เมื่อ วัน ที่ 19 มกราคา ทีผ่ า่ นมา ทีส่ นามบินสุวรรณภูมิ ก่อน เร่งขยายผลปิดล้อมอีก 36 จุด ทั่วประเทศ และจับกุม นายชุมพร พนมไพร อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี, นายปุ่นชรินทร์ อายุ 53 ปี ชาวจังหวัดสกลนคร และ นางสาว อ้ อ ยทิ พ ย์ ปั ญ ญารั ก ษ์ อายุ 28 ปี ชาว จังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นผู้ต้องหาร่วมค้ายา เสพติดในคดีแรกทีก่ ล่าวไป ก่อนจะโยงมาถึง แก๊งไซซะนะ ส�ำหรับนายชุมพร พนมไพร นั้นเป็นตัวกลางคอยประสานงาน ระหว่าง ระดับล่าง กับระดับเอเย่นต์ ของเครือข่าย นายไซซะนะทั้งหมด

32 ชัยสมรภูมิ

ต�ำรวจปราบปรามยาเสพติด ภายใต้ การน�ำของ พล.ต.ท.สมหมาย ยังกัดไม่ปล่อย โดยในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้ปิด ล้อมตรวจค้นอีก 40 เป้าหมายทั่วประเทศ และสามารถจับกุม นายณัฐพล นาคค�ำ, นางสาวอรันญา สิงห์ผงาด และนายชัยวัฒน์ ชูสาย ซึง่ ต�ำรวจพบว่า บุคคลดังกล่าว เชือ่ ม โยงกับคนดัง โดยเฉพาะคนในวงการไฮโซ และคนในวงการบันเทิง จนพบข้อมูลเพิม่ เติม ว่า เชื่อมโยงกับร้าน Area 51 ของ นาย อัครกิตติว์ รโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์เรซซิง่ สามีของ แพทณปภา ตันตระกูล ดารานัก แสดงชื่อดัง ซึ่งเป็นที่สงสัยว่า เบนซ์เรซซิ่ง เป็นผู้ฟอกเงินให้กับกลุ่มค้ายาเสพติดหรือ ไม่ ซึ่งต�ำรวจก็ต้องสืบสวนเส้นทางการเงิน ออกมาให้กระจ่างซึ่งอาจมีส่วนเกี่ยวพันกับ อีกหลายคน ใครมีสว่ นเกีย่ วข้องก็ตอ้ งเตรียม ใจไว้ เพราะพล.ต.ท. สมหมาย ก็ได้ประกาศ ไปแล้วว่า “คนพวกนีท้ ำ� ลายลูกหลาน ท�ำลาย ครอบครัว เอาเงินของคนจนไปซือ้ รถหรู แล้ว เอามาอวดคนจนไปอีก มันเหยียบย�่ำหัวใจ

เราเกินไปแล้วนะ ผมจะกวาดล้างอวตาร จะ ยึดทรัพย์ให้มนั จน กว่าขอทานให้ได้”

และล่าสุดเมือ่ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ นาย ศิรนิ ทร์ยา สิทธิชยั เลขาธิการส�ำนักงานป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ชัยยะ ศิรอิ ำ� พันธ์กลุ เลขาธิการส�ำนัก งานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) และ พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสยั สุข ผบช.ปส. ร่ ว มกั น แถลงผลการกวาดล้ า งเครื อ ข่ า ย นักค้ายาเสพติดรายส�ำคัญของนายอุสมาน สะแลแมง และนายไซซะนะ แก้วพิมพา พร้อมด�ำเนินการอายัดทรัพย์สนิ ทีเ่ กีย่ วข้อง กว่า 68 ล้านบาท จากการสืบสวนและประสาน งานระหว่างเจ้าหน้าที่ต�ำรวจไทยและต�ำรวจ ปราบปรามยาเสพติ ด ประเทศมาเลเซี ย (NCID) ได้จบั กุมผู้ต้องหาจ�ำนวน 2 ราย คือ นายมามะรุสลัน ดรอแม สัญชาติไทย และ นายซัลคิฟลี บิน อิบราฮิม (Zulkifli Bin Ibrahim) สัญชาติมาเลเซีย พร้อมของกลาง ยาบ้าจ�ำนวน 70,000 เม็ด ทีป่ ระเทศมาเลเซีย ซึง่ จากการสืบสวนพบว่า น.ส.บุหลัน ธารีสบื ภรรยาของนายมามะรุสลัน ดรอแม และ บุ ค คลในเครื อ ข่ า ยยั ง มี ก ารด� ำ เนิ น การ ลั ก ลอบจ� ำ หน่ า ยยาเสพติ ด มาโดยตลอด และได้น�ำเงินพร้อ มทรัพย์สินที่ได้ม าจาก การค้ า ยาเสพติ ด ซุ ก ซ่ อ นไว้ ใ นพื้ น ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยรายละเอียดการตรวจยึดเมื่อ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ทผี่ า่ นมา สามารถยึดเงินสด จ�ำนวน 1,000,000 บาท สร้อยคอและสร้อย ข้อมือทองค�ำ รวมประมาณ 145 กรัม และ กุญแจห้องพร้อมคีย์การ์ดของห้องชุดเลขที่

516 พลัสคอนโดมิเนียม จาก น.ส.บุหลัน ธารีสบื และนายจิตรภานุ แซ่เฮง ขณะขับ รถยนต์ยหี่ อ้ โตโยต้า รุน่ ฟอร์จนู เนอร์ หมายเลข ทะเบียน ขง 1443 สงขลา บริเวณสี่แยก ไฟแดง ก่อนถึงด่านตรวจควนมีด อ.นาหม่อม จ.สงขลา จากนั้นขยายผลตรวจค้นห้องชุด เลขที่ 516 พลัสคอนโดมิเนียม ถ.ราษฎร์อทุ ศิ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ของ น.ส.บุหลัน สามารถตรวจยึ ด เงิ น สดเป็ น ธนบั ต รไทย จ�ำนวน 40,000,000 บาท และธนบัตรมาเลเซีย จ�ำนวน 1,500,000 ริงกิต (ประมาณ 11,700,000 บาท) ซึง่ ซุกซ่อนไว้ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ จ�ำนวน 2 ใบ จากนั้นได้ขยายผลตรวจค้นบ้านของ น.ส.บุหลัน ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส สามารถตรวจยึดเงินสดธนบัตรมาเลเซีย จ�ำนวน 89,700 ริงกิต ทองรูปพรรณน�ำ้ หนัก รวมประมาณ 10 บาท และรถยนต์ยหี่ อ้ ฮอนด้า ทะเบียน 2 กจ 6614 กทม. รวมทรัพย์สินที่ ยึดได้จำ� นวน 65 รายการ ประกอบด้วยเงินสด เป็นธนบัตรไทย จ�ำนวน 41,000,000 บาท และธนบัตรมาเลเซีย 1,600,000 ริงกิต ทองรูปพรรณและเครื่องประดับ มูลค่ารวม

2,700,000 บาท เงินฝากในบัญชีธนาคาร จ�ำนวน 14 บัญชี มูลค่ารวม 6,000,000 บาท รถยนต์จ�ำนวน 2 คัน และห้องชุดจ�ำนวน 1 ห้อ ง รวมมู ลค่ า ทรั พย์ สิน ประมาณ 68 ล้านบาท ผลของการทลายเครือข่ายยาเสพ ติด ท�ำให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องกับขบวนการ ยาเสพติด ออกแรงเร่งกวาดล้างครั้งใหญ่ โดยเมือ่ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ ทีผ่ า่ นมา ปปส. ร่วมกับ มทบ.37 ได้ทลายเครือข่าย วรายุทธ แสงอรุณ และเข้าตรวจค้นเรือนจ�ำกลาง ระยอง หลังจากข้อมูลการติดต่อกันระหว่าง เรือนจ�ำกลางระยอง กับเรือนจ�ำกลางเขา

บิน จ.ราชบบุรแี ละจัมกุมนักค้ายาได้อกี 2 ราย ทัง้ นี้ แก๊งค์ของ ไซซะนะ เป็นเพียงกลุม่ หนึง่ ที่มีอิทธิพลและค้ายาเสพติดที่ใหญ่ระดับ ชาติ ซึ่งเชื่อว่า ยังมีอีกหลายกลุ่มที่ต�ำรวจ หรือเจ้าหน้าที่บ้านเมืองยังจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน แต่ถา้ หากมีการรวบรวมข้อมูล และประสาน งานกันเป็นอย่างดี แต่ละหน่วยช่วยเหลือกัน ส่งข้อมูลให้กัน และไล่บี้กันอย่างจริงจัง ก็ เชือ่ ว่า น่าจะสามารถจับกุมรายใหญ่ระดับชาติ!! อย่างไซซะนะ ได้อกี หลายแก๊งค์ อย่าท�ำอย่าง ที่ผ่านมาจับคนส่งยาได้ก็ส่งฟ้องศาลแล้ว จบแค่นั้น?!?

ไซซะนะ แก้วพิมพา

ข้อมูลจาก ยูทปู ajchariyarattapwong ทีเ่ ผยแพร่เมือ่ 1 ก.พ. ระบุวา่ “ไซซะนะ” หรือ ที่ชาวลาวเรียกขานกันติดปากว่า “เฮียลบ” เกิดที่บ้านดอนลับ เมืองหินบูน แขวงค�ำม่วน (ตรงข้าม อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม) ไม่มใี ครยืนยันถึงฐานะดัง้ เดิมของเฮียลบ นอกจากค�ำบอก เล่าผ่านสื่อโซเชียลว่า เขาได้หย่ากับภรรยาคนแรก และมีภรรยาคนใหม่อยู่ในเวียงจันทน์ 5 - 6 กว่าปีมานี้ เฮียลบร�่ำรวยขึ้นผิดหูผิดตา คนส่วนใหญ่จะทราบว่าเขาประกอบธุรกิจโรง เลื่อย และมีชื่อเสียงโดดเด่นในสังคมคนชั้นสูง เฮียลบ ชอบสะสม ‘รถซูเปอร์คาร์’ สุดหรู มากกว่า 20 คัน ทั้ง ลัมโบกินี , ปอร์เช่, ออดี้ ฯลฯ ลาว ประเทศเล็กๆ มีประชากร 6 ล้าน กว่าคน และคาดว่ามีคนร�ำ่ รวยทีส่ ดุ ไม่กตี่ ระกูล ฉะนัน้ ‘เศรษฐีใหม่’ อย่างเฮียลบ ใครต่อใคร ย่อมรูจ้ กั มักคุน้ จึงไม่แปลกใจทีช่ าวโซเชียลลาว ได้แชร์ภาพเฮียลบ ถ่ายภาพคูก่ บั คนดัง หรือ ‘ลูกหลานนักการเมืองฝั่งซ้าย’ เพราะสังคมคนชั้นสูงในลาวมันแคบ กลางปีที่แล้ว เป็นที่ โจษขานกันทั้งเวียงจันทน์ เมื่อไก่ชนเฮียลบชนะไก่ชนราชาเพลงเพื่อชีวิต คว้าเงินเดิมพัน ก้อนโต แหล่งข่าวฝัง่ ซ้ายเปิดเผยว่า ขบวนการค้ายาเสพติดของ ‘เฮียลบ’ นัน้ เป็นไปไม่ได้ที่ จะรอดพ้นสายตาของเจ้าหน้าที่ต�ำรวจลาว เพียงแต่เขามีเกราะป้องกันเป็น ‘ผู้มีอ�ำนาจ’ ใน การเมืองลาว จึงยืนยงอยู่ได้หลายปี ไม่มีต�ำรวจลาวคนไหนเข้าไปจับกุม

วิถเี ซเลบ “เฮียลบ” เป็นกรณีศกึ ษา ส�ำหรับเมืองลาวยุคเปิดประเทศ ความมัง่ คัง่ กลายเป็นเครือ่ งห่อหุม้ ตัวตน “คนบ่ด”ี ท�ำให้ กลุม่ อาชญากรรม แฝงตัวเชิดหน้าชูตาอยู่ ในสังคม

ชัยสมรภูมิ 33

อาชีพทหารไม่ได้ล�ำบากแต่ไม่สบายอย่างที่ใครคิดแน่นอน บางครั้งการ เป็นทหารว่าเหนือ่ ยแล้ว การเป็นทหารนักรบเหนือ่ ยยิง่ กว่า แม้วา่ การเป็น นักรบจะเหน็ดเหนือ่ ยก็จริงอยู่ แต่การเป็นนักรบเหรียญรามา นัน ้ ยากยิง่ กว่าการเป็นนักรบใน 4 สมรภูมิใหญ่นั้น ย่อมไม่ใช่เรื่องที่ใครๆ จะท�ำกัน ได้งา่ ยๆ แต่การมีชวี ต ิ รอดกลับมาแล้วน�ำลมหายใจเข้าเสีย่ งภัยกับอริราช ศรัตรูเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย สถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่ง และเพื่อน�ำความผาสุกมาสู่ประชาชน ชาวไทยทุกๆ คน ครั้งแล้วครั้งเล่านั้น ย่อมเป็นสิ่งดีงามที่ควรค่าแก่การเชิดชูเกียรติยศ จารึกจดจ�ำและน�ำเอา เรือ่ งราวอันทรงเกียรติเหล่านีม ้ าเล่าขานสืบต่อไปจนตราบชัว่ ลูกชัว่ หลานคน อย่างเช่นดัง่ เกียรติประวัตแิ ห่งความ กล้าหาญที่ทีมข่าวชัยสมรภูมิมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่จะได้น�ำเสนอในบทความต่อไปนี้

นักรบเหรียญรามา ขุนพล 4 สมรภูมิ พล.อ.ปราการ ชลยุทธ

เรื่องราวความเป็นทหารนักรบของ พล.อ.ปราการ ชลยุทธ หรือ เสธ.การ นั้น มีจุดเริ่มต้นมาจากเบ้าหลอมส�ำคัญที่ผลิตนายทหารกล้ามาแล้วนับร้อยนับพันนาย ซึ่ง ก็คือ โรงเรียนเตรียมทหาร และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า แต่เกือบจะทันทีที่ จบการศึกษาจากรั้ว จปร. ความเป็นนายทหารนักรบของ เสธ.การ ก็เริ่มท�ำปฏิกิริยา เคมีระหว่างดีเอ็นเอในสายเลือดกับห้วงความส�ำนึกรักษ์สถาบัน ชาติ ศาสนา พระ มหากษัตริย์ จนในที่สุดเมื่อมีงานลงแขกแบกกระสุนไปสู้รบก็จะมีรายชื่อของผู้หมวด ใหม่คนนี้ติดไปด้วยเกือบจะทุกยุทธการ ทุกสมรภูมิเลยทีเดียว

ชีวิตนักรบของเสธ.การ ผ่านมาแล้วจนอาจเรียกได้ว่าค่อนข้างจะเต็มรูปแบบ ของนักรบในยุคนีอ้ กี หนึง่ ท่าน ซึง่ การเข้าสูส่ มรภูมใิ นแต่ละครัง้ นัน้ ก็มที งั้ บูแ๊ ละบุน๋ เลย ทีเดียว เช่น

34 ชัยสมรภูมิ

สมรภูมิที่ 1.

ตั้งแต่ปี พ.ศ.2523 – 2526 การ ปราบปรามคอมมิวนิสต์ในพืน้ ทีท่ างตอนเหนือ ของประเทศไทย โดย เสธ.การ ได้รว่ มปฏิบตั ิ การอย่างหาญกล้าในการเข้าปราบปราม คอมมิวนิสต์ รวม 18 ครัง้ ด้วยกัน โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในสมรภูมินี้ทางหน่วยได้ท�ำเรื่อง เสนอขอพระราชทาน เครือ่ งราชอิสริยาภรณ์ อั น มี ศั ก ดิ์ ร ามาธิ บ ดี ให้ ร.อ.ปราการด้ว ย (ยศขณะนั้น) สมรภูมิที่ 2.

ภั ย คุ ก คามด้านตะวัน ออก โดยใน ยุทธการนี้ เสธ.การ ก็ยงั คงท�ำงานในเชิงเสีย่ ง อย่างเช่นเคย หากทว่า เป็นไปในลักษณะ ของการแฝงตั ว เข้ า ไปหาข่ า วเชิ ง ลึ ก ใน หมู่บ้านผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยของผกค.เก่าที่ ไม่ยอมมอบตัว จากนั้น ในปี 2530 จึงขยับ ไปรับต�ำแหน่งผบ.ร้อย.ป้องกันชายแดน ซึ่ง

ในส่วนนี้ เสธ.การได้มกี ารอบรมและท�ำความ เข้ า ใจกั บ ประชาชนในพื้ น ที่ เ พื่ อ น� ำ มาซึ่ ง ความร่วมมือในการรักษาความมั่นคงของ ชาติอย่างต่อเนื่อง สมรภูมิที่ 3.

ภัยคุกคามรูปแบบใหม่ด้านตะวันตก ในสมรภูมินี้ นอกจากจะมีการปะทะกันกับ กองกลังของชนกลุม่ น้อย กองก�ำลังติดอาวุธ คุ้มกันยาเสพติดแล้ว เสธ.การ ยังจะต้อง ท� ำ การรั บ มื อ กั บ จิ ต วิ ท ยาของกองก� ำ ลั ง ทหารพม่า (เก่า) ที่มักจะลุกล�้ำเข้ามาในเขต แดนไทยอยูเ่ ป็นประจ�ำด้วย ขณะเดียวกันนัน้ ก็ยังต้องท�ำหน้าที่คอยให้ความรู้สร้างความ เข้าใจให้แก่ประชาชน เพื่อความร่วมมือกับ เจ้าหน้าที่รัฐด้วยอีกต่างหาก สมรภูมิที่ 4.

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 - 2557 การก่อ ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ แน่นอน

ว่าในสมรภูมินี้ ไม่ได้มีเฉพาะปัญหาการก่อ ความไม่สงบเท่านั้น แต่ยังมีทั้งปัญหายา เสพติ ด การมอมเมาแย่ ง ชิ ง มวลชน ภัย ธรรมชาติ รวมถึงปัญหาเรื่องปากท้องของ พี่ น ้ องประชาชนด้ วยเช่ น กั น โดย พล.อ. ปราการ ในขณะนัน้ ด�ำรงต�ำแหน่งรองจนถึง ต�ำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 ก็ไม่ได้ตั้งหน้ารอง จะท� ำ การสู ้ ร บกั บ ผู ้ ก ่ อ ความไม่ ส งบเพี ย ง อย่างเดียว จึงท�ำให้เกิดโครงการต่างๆ ขึน้ มา อย่างมากมาย เช่น โครงการ 1 หมื่น 1 หมู่บ้าน โครงการจัดระเบียบหมู่บ้าน โครง การทุ่งยางแดงโมเดล ฯลฯ ขณะเดียวก็พบ ว่ายังได้มีการอบรมสร้างความรู้ความเข้าใจ ให้กับประชาชนในพื้นที่อีกด้วย โดยจะเห็น ได้ว่าการท�ำงานในพื้นที่ภาค 4 นั้น เสธ.การ จะใช้ ยุ ท ธศาสตร์ ม วลชนเป็ น ส� ำ คั ญ และ จากผลการปฏิบัติที่ผ่านก็ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ น่าประทับใจอีกครั้งหนึ่งอย่างเช่นกัน

ชัยสมรภูมิ 35

เครื่ อ งราชอิ ส ริ ย าภรณ์ อั น มี ศั ก ดิ์ รามาธิบดี (The Honourable Order of Rama) เป็นเครือ่ งราชอิสริยาภรณ์ทสี่ ร้างขึน้ โดยพระบาทสมเด็ จ พระมงกุ ฎ เกล้ า เจ้ า อยู่หัว เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2461 ส� ำ หรั บ บ� ำ เหน็ จ ความดี ค วามชอบแก่ ผู ้ ท� ำ ความชอบพิ เ ศษเป็ น ประโยชน์ ยิ่ ง แก่ ราชการทหาร ไม่วา่ ยามสงบหรือยามสงคราม

36 ชัยสมรภูมิ

ตามที่ทรงพระราชด�ำริเห็นสมควร

ส�ำหรับ เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมี ศักดิ์รามาธิบดี ชั้นที่ 6 มีชื่อว่า เหรียญราม มาลา และมีอักษรย่อว่า ร.ม. เป็นเหรียญ ราชอิ ส ริ ย าภรณ์ ที่ มี ล� ำ ดั บ เกี ย รติ ร องจาก เหรียญรามมาลาเข็มกล้ากลางสมรภูมิใน หมู่เหรียญบ�ำเหน็จกล้าหาญ

อย่างไรก็ตาม ไม่วา่ กาลเวลาจะผ่าน

ไปนานสักเพียงใด หรือจะยังคงสวมใส่ใน เครื่องแบบทหารอยู่หรือไม่ เชื่อว่าความ เป็นนักรบของ เสธ.การ นั้นจะไม่มีวัน เจือจางหายไปทีไ่ หน เพราะความเป็นชาติ นักรบนี้ ไม่ใช่จะมีเงินแสนล้านแล้วเดิน ไปซือ้ มาได้ แต่ทกุ อย่างมันอยูท่ หี่ วั ใจเท่านัน้ ชาติ ศาสน์ กษัตริยน์ กั รบตลอดกาล พล.อ. ปราการ ชลยุทธ “ชัยสมรภูม”ิ ... ขอสดุดี

ส่อง

าวเงิน คลุกวงใน

สีกากี

ถือเป็นข่าวร้ายของเหล่ามิจฉาชีพเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว ส�ำหรับ การเข้ามาด�ำรงต�ำแหน่ง รอง ผบช.ภ.1 ของผู้มีวลีเด็ดขั้วหัวใจ “คนร้ายต้องอยู่ ร้อนนอนทุกข์” พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธ�ำรงค์ มือปราบมาดสุขุมที่ขานรับ นโยบายตรงจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 มาอย่างเต็มก�ำลัง

ลงพื้นที่ภูธร 1 เกาะติดการท�ำงานของ

บิ๊กโอ๋ พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธ�ำรงค์ รอง ผบช.ภ.1

โดย พล.ต.ต.ธนายุตม์ หรือ บิ๊กโอ๋ ในฐานะ รอง ผอ.ศปลป.ภ.1 ได้วางมาตรการ ในการป้องกันเหตุ เพือ่ ความผาสุกของพีน่ อ้ ง ประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบเอาไว้ในเชิงรุก คือ เกาะติดพืน้ ทีใ่ ห้ได้ขอ้ มูลต่างๆ โดยมีการ ดึงเอา ก�ำนัน ผูใ้ หญ่บา้ น ครู นักเรียน อาสา สมั ค รมู ล นิ ธิ แ ละประชาชนเข้ า มามี ส ่ ว น

ร่ ว มในการป้ อ งกั น เหตุ อ ย่ า งเท่ า ทั น ต่ อ สถานการณ์ ซึ่งในส่วนนี้บิ๊กโอ๋ได้นำ� แอปพลิ เคชั่ น ไลน์ เ ข้ า มาใช้ เ ป็ น เครื่ อ งมื อ ในการ ท�ำงานด้วยการจัดตั้งกลุ่มไลน์รับแจ้งเหตุ โดยได้มีการเชิญ เจ้าของกิจการ ร้านทอง อพาร์ตเมนท์ บริษัทรถขนเงินในพื้นที่ร่วม ประชุมเพื่อวางมาตรการป้องกันเหตุ ทั้งนี้

มีการวิเคราะห์ข้อมูลอาชญากรรมย้อนหลัง ถึง 3 ปี จึงถือเป็นการสกัดจุดเสี่ยงในการ ก่อเหตุของเหล่าอาชญากรได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ทาง บช.ภ.1 ยังได้มีการ จั ดตั้ ง ชุ ดไล่ ล่ า ขึ้ น ทุ ก สภ. เพื่อเสริม การ ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำ� รวจ มีการอบรม อาสาสมัครในการแจ้งข่าวและเหตุต่างๆ ในพื้นที่ ขณะเดียวกันก็ยังมีการเปิด ศูนย์ รับแจ้งเหตุ เนื่องจากว่า หากมีการแจ้งเหตุ รวดเร็ว เจ้าหน้าที่ต�ำรวจก็จะสามารถตาม จับกุมตัวคนร้ายได้รวดเร็วขึ้นอีกด้วย

โดยจากแนวทางการท� ำ งานของ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 กับ รองโอ๋และทีมงานทีผ่ า่ นมานัน้ ก็ถอื ได้วา่ เป็น การผสมผสานกันได้อย่างเข้มข้นลงตัว จึงท�ำ ให้สามารถคลีค่ ลายคดีสะเทือนขวัญ สังหาร

ชัยสมรภูมิ 37

โหดสาว อบต. ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในคดีนี้ นอกจากจะรวบตัวผู้จ้างวาน ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิ พลได้อย่างทันควันแล้วก็ยังสามารถขยาย ผลจั บ กุ ม ตั ว ผู ้ มี ส ่ ว นเกี่ ย วข้ อ งในคดี ไ ด้ ทั้งหมดอีกด้วย

ทั้งนี้ จากการเอาใจใส่ดูแลทุกข์สุข ของประชาชนอย่างตรงไปตรงมา ไล่ลา่ คนร้าย แบบกั ด ไม่ ป ล่ อ ยโดยไม่ เ กรงกลั ว ต่ อ ผู ้ มี อิทธิพลนั้น ก็ถือว่ามากพอที่จะท�ำให้ตำ� รวจ ภูธรภาค 1 ได้รบั ความไว้วางใจและมัน่ ใจได้วา่ “ต�ำรวจจะเป็นทีพ่ งึ่ ของประชาชนได้อย่าง แน่นอน”...คนดีตอ้ งอยูเ่ ย็นเป็นสุข คนร้าย ต้องอยูร่ อ้ นนอนทุกข์!! คือ “วลีเด็ดขัว้ หัวใจ” ของ บิก๊ โอ๋-พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒจิ รัสธ�ำรงค์ รอง ผบช.ภ.1

38 ชัยสมรภูมิ

‘ม.44’ บวก ‘ป.ย.ป.’

แน่ใจหรือว่าปรองดองได้

โดย....กระทิงไฟ

การเกิดขึน ้ มาของ “คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดิน ตามกรอบการปฏิรป ู ประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และ การสร้างความปรองดอง” หรือ ป.ย.ป. ถือเป็นประเด็นที่สามารถสร้างกระแสแรงทางการเมืองได้เป็นอย่าง มากในทุกมิติ

มิติแรก แน่นอนว่าเป็นเรื่องของ ความหวังในการที่การปรองดองที่แท้จริง จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่

เพราะหลังจากที่ประเทศชาติโดน ความขัดแย้งทางการเมืองถล่มจนยับเยิน มานานกว่า 10 ปี และยังคงไม่มีท่าทีว่าจะ ลดราวาศอกลงได้อย่างไร เนื่องจากว่าแม้ จนกระทั่งทุกวันนี้ การแบ่งแยกแตกขั้วยัง คงด�ำรงอยู่อย่างเหนียวแน่น

หากใครพู ด จาสนั บ สนุ น หรื อ เห็ น ด้วยกับแนวทางของ กลุ่มพันธมิตรฯ กลุ่ม กปปส. และพรรคประชาธิปตั ย์ ก็มกั จะถูก มองไว้ ก ่ อ นเลยว่ า เป็ น พวกเสื้ อ เหลื อ ง และในมุมกลับกันหากเห็นด้วยกับสิง่ ทีก่ ลุม่ นปช.ท� ำ ว่ า เป็ น การต่ อ สู ้ เ พื่ อ เรี ย กร้ อ ง

ประชาธิปไตย หรือเห็นว่านโยบายทางการ เมืองของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร และ พรรคเพื่อไทย เป็นนโยบายที่ดี ก็ย่อมถูก เหมาทันทีว่าเป็นพวกเสื้อแดง

หลั ง จากนั้ น ก็ จ ะเกิ ด การตอบโต้ ด่าทอ ขัดแย้งกันได้อย่างง่ายดายโดยไม่ จ�ำเป็นที่จะต้องรู้จักกันมาก่อน หรือไม่สนใจ ว่าเหตุผลหรือข้อเท็จจริงของใครหรือฝ่าย ใดน่ารับฟังกว่ากัน

ฝ่ายหนึ่งก็จะยืนยันว่าอดีตนายกฯ ทักษิณดี อีกฝ่ายก็จะเชื่อมั่นว่า นายสนธิ ลิม้ ทองกุล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ทีต่ อ้ ง การโค่นล้มทักษิณก็เพราะท�ำเพือ่ ผลประโยชน์ ของประเทศชาติเป็นหลัก

2 ขัว้ ความคิดทีถ่ กู ปลูกฝังข้อมูลของ

แต่ละฟากฝัง่ มาอย่างยาวนานนับเป็น 10 ปี จะให้เปลี่ยนความคิดมายอมรับกันและกัน ไม่ใช่เรื่องง่าย

รวมไปถึ ง ความพยายามในการ สร้างความปรองดองนัน้ เกิดขึน้ มาโดยตลอด แต่สุดท้ายก็ยังไม่เคยมีสักครั้งที่ท�ำให้คน ไทยในยุ ค นี้ ก ลั บ มาปรองดองกั น ได้ จ ริ ง ๆ เสียที ดังนัน้ เมือ่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ออกมาชู ธงปรองดอง โดยผลักดัน ป.ย.ป. ขึ้นมารับ หน้าเสือ่ จึงท�ำให้ได้รบั ความสนใจกลายเป็น ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ไปในชั่วข้ามคืน

มิตทิ ที่ ำ� ให้ผคู้ นในสังคมสนใจ ป.ย.ป. ก็เป็นเพราะเชื่อว่าล�ำพังการเจรจาพูดคุย กันเองระหว่างคู่ขัดแย้งทางการเมือง คู่ขัด

ชัยสมรภูมิ 39

แย้งระหว่างกลุ่มคนที่เกลียด

ทักษิณกับกลุ่มคนที่รักทักษิณ คู่ ขัดแย้งระหว่างผูท้ ตี่ อ้ งการระบอบประชาธิป ไตยที่ตัดสินกันด้วยการเลือกตั้งกับผู้ที่คิด ว่ า การเลื อ กตั้ ง ยั ง ไม่ ใ ช่ ท างออกที่ ดี ที่ สุ ด ส�ำหรับทางตันทางการเมืองในรอบนี้ แค่ เท่ า ที่ ย กมานี้ เ ป้ น เพี ย งแค่ ส ่ ว นหนึ่ ง ใน บรรยากาศของความขัดแย้งเท่านั้น

แต่ แ ค่ นี้ ก็ ท� ำ ให้ ก ารสร้ า งความ ปรองดองไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะผลักดันเสีย แล้ว

การที่ พล.อ.ประยุ ท ธ์ ใช้ อ� ำ นาจ รัฏฐาธิปัตย์ จัดตั้ง ป.ย.ป. ขึ้นมา และรับ หน้าที่ผลักดันให้มีการสร้างความปรองดอง จึงท�ำให้หลายภาคส่วนเชื่อว่าน่าจะท�ำได้ดี กว่าที่ผ่านมา เพราะสุดท้ายหากว่าเจอทาง ตันก็ยังมีอ�ำนาจตามมาตรา 44 อยู่ในมือ ที่สามารถใช้เพื่อก�ำหนดกรอบแนวทางที่ ต้องการได้ โดยคูข่ ดั แย้งทัง้ หลายก็ตอ้ งยอม ตามให้ เพราะไม่สามารถที่จะโต้แย้งกับ อ�ำนาจตามมาตรา 44 ได้

แต่มิติที่น่าสนใจอีกมิติหนึ่งก็คือ แม้จะมีอ�ำนาจตามมาตรา 44 อยู่ในมือ แต่การทีจ่ ะหยุดความคิดเห็น มุมมอง หรือ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในสังคม ชนิดที่ไม่ให้ มีความรู้สึกนึกคิดเลยนั้น ถือว่าเป็นเรื่อง ที่เป็นไปไม่ได้เลย

ดั ง นั้ น สิ่ ง ที่ เ กิ ด ขึ้ น ตามมาจึ ง เป็ น ความคิดเห็นที่ตั้งค�ำถามเข้าใส่ ป.ย.ป. ใน ทันทีที่มีการเปิดประเด็น ป.ย.ป. ขึ้นมา

ประการแรกก็คอื สถานะของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ นับตัง้ แต่ทเี่ ป็น คสช. กระทัง่

40 ชัยสมรภูมิ

มาเป็นรัฐบาลนั้น สามารถเป็นคนกลาง ทีแ่ ท้จริงได้หรือไม่ เพราะมุมหนึ่งก็มองว่า พฤติกรรมต่างๆตั้งแต่เป็น คสช. ไม่ว่าจะ เป็นการเรียกตัวรายงาน การกักตัว การปล่อย ตัว การด�ำเนินคดีตา่ งๆ และการแต่งตัง้ คน เป็น สปท. เป็น สนช. จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ รู้หรือไม่รู้ตัว หรือไม่ทันฉุกคิดให้รอบคอบ เพียงพอก็ตาม คนกลุม่ หนึง่ ยังมองว่า คสช. และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ มีท่าทีเหมือน กับเลือกข้างอยู่ลึกๆ

ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นในมิติของการ สร้างความปรองดอง ภายใต้ ป.ย.ป. แล้ว จะสามารถท�ำหน้าที่คนกลางได้อย่างเต็มที่ ปราศจากแรงกดดันหรือไม่ หากยังคงถูก มองว่าจริงๆแล้วก็เป็นส่วนหนึ่งในความขัด แย้งด้วยเช่นกัน

และเป็ น ส่ ว นในความขั ด แย้ ง ที่ มี ภาพออกมาให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเลือก ข้างมาโดยตลอด

ประการต่อมา ทีก่ ลายเป็นประเด็น เช่นกันก็คือ เรื่องของการคัดสรรบุคคล เข้ามาท�ำหน้าที่ใน ป.ย.ป.

เนือ่ งจากว่าการตัง้ ป.ย.ป. ขึน้ มานัน้ คสช.ใช้อำ� นาจตามมาตรา 44 จึงท�ำให้โดย โครงสร้าง จึงมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน มีที่ปรึกษาประกอบด้วย กรอ. ภาคประชารัฐ และผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งเน้น อดีตข้าราชการทีเ่ กษียณอายุ ส่วนคณะกรรม การจะประกอบด้วยรองนายกฯ รัฐมนตรี ประจ�ำส�ำนักนายกฯ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวง การคลัง รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย รวมถึ ง รั ฐ มนตรี ที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ ประเด็ น ปัญหาแต่ละด้าน มีนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจ�ำส�ำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ เลขานุการฯ

และ ป.ย.ป.มีคณะกรรมการย่อม 4 คณะได้แก่ 1.คณะกรรมการบริหารราชการ แผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ รับผิดชอบโดยนาย วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ 2.คณะกรรม การเตรียมการปฏิรปู ประเทศ เน้นการปฏิรปู ประเทศ 137 ประเด็น ดูแลโดยนายสมคิด จาตุศรีพทิ กั ษ์ รองนายกฯ และ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ โดยเชิญประธานสภา นิตบิ ญ ั ญัตแิ ห่งชาติ (สนช.) และรองประธาน 1 คน ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูป ประเทศ (สปท.) และรองประธาน 1 คน เข้ามาร่วม 3.คณะกรรมการเตรียมการยุทธ ศาสตร์ชาติ จัดท�ำยุทธศาสตร์ชาติและเตรียม การเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี รับผิดชอบ โดย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯ และ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพฒ ั นาศัย รองนายกฯ เชิญประธานสภานิตบิ ญ ั ญัตแิ ห่งชาติ(สนช.) และรองประธาน 1 คน ประธานสภาขับ เคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และรอง ประธาน 1 คน เข้ามาร่วม 3.คณะกรรมการ

เตรี ย มการสร้ า งความสามั ค คี ป รองดอง พล.อ.ประวิตร วงษ์สวุ รรณ รองนายกฯและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และเชิญ ประธานสภานิ ติ บั ญ ญั ติ แ ห่ ง ชาติ ( สนช.) และรองประธาน 1 คน ประธานสภาขับ เคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) และรอง ประธาน 1 คน เข้ามาร่วม

ยิ่ ง เมื่ อ รายชื่ อ ที่ อ อกมาเป็ น ไปใน หลักยุทธวิธที างการทหาร บวกกับสไตล์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ทีม่ กั จะเลือกใช้คนทีไ่ ว้วางใจ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ซำ�้ กี่งานกี่ต�ำแหน่งก็ตาม ภาพจึงออกมาเหมือนกับว่า

ป.ย.ป. พรึ่บไปด้วยคนกองทัพ พรึ่บ ไปด้วยคนมีสี พรึ่บไปด้วยคนของ คสช. ไม่ ว่าจะเป็น ข้าราชการ สปท. หรือ สนช. ก็จะ เน้นคนที่เชื่อใจและไว้วางใจเป็นหลัก

ซึง่ แม้ในหลักการ ต้องถือว่าเป็นเรือ่ ง ที่ถูกต้องในการใช้คน คือเลือกคนที่ตนเอง ไว้วางใจ แต่ในแง่ของการทีถ่ กู มองจากภาย นอกเข้ า มาก็ เ ป็ น เรื่ อ งที่ ขั ด สายตาคนดู จ�ำนวนหนึ่งด้วยเช่นกัน จึงท�ำให้เกิดเสียง สะท้อนตามมาว่า ท�ำไม ป.ย.ป. จึงดูเหมือน จะมีทหารเป็นแกนหลัก

เป็ น การจั ด ทั พ เพื่ อ ขี ด กรอบตาม ยุทธศาสตร์เป้าหมาย หรือว่าจะเดินหน้าสร้าง ความปรองดองจากทุกกลุ่มทุกขั้วสีจริงๆ

ขณะเดียวกันก็มมี ติ แิ ทรกซ้อนขึน้ มา ในประเด็นเกี่ยวกับการท�ำปฏิวัติรัฐประหาร ว่าเพื่อให้เกิดความปรองดองที่แท้จริง เพื่อ

ให้ประชาธิปไตยกลับมาเต็มใบ บรรดาประ เทศต่างๆ จะได้ยอมรับโดยสนิทใจจริงๆ ถ้า เช่นนั้นให้ทางกองทัพสัญญิงสัญญาได้หรือ ไม่วา่ อนาคตข้างหน้าจะไม่มกี ารท�ำรัฐประหาร อีกแล้ว

ไม่นา่ เชือ่ ว่าส�ำหรับประเด็นนี้ แม้แต่ 2 ขั้วสี 2 ขั้วจุดยืนที่แตกต่างกัน ยังกลับมา มองตรงกันได้

นั่นคือ นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส. สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กับ นายกษิต ภิรมย์ อดีตแกนน�ำกลุ่มพันธมิตร และแนว ร่วม กปปส. ทีป่ จั จุบนั คสช. ได้คดั เลือกให้มา เป็น สมาชิกสภาขับเคลือ่ นการปฎิรปู ประเทศ หรือ สปท.

ทั้งคู่ล้วนอยากที่จะให้นายทหาร และกองทัพ ท�ำการเซ็นเอ็มโอยู ว่าจะไม่ ท�ำรัฐประหารอีก

“และได้โปรดอย่าลืมว่าเอ็มโอยูที่ คนไทยต้องการนั้น รวมถึงการที่ทหารจะไม่ ออกมาท�ำการรัฐประหาร และฉีกรัฐธรรมนูญ อีกด้วยในอนาคต”นายกษิตกล่าว

“สิ่งส�ำคัญของการปรองดองไม่ใช่ แค่เพียงเรื่องของการนิรโทษกรรมเพียง อย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของการสร้างจิต ส�ำนึก โดยเฉพาะนายทหารนักการเมืองบาง คนให้รจู้ กั เคารพกติกาของประเทศ หากอยาก มีอ�ำนาจ อยากเข้ามาบริหารประเทศ ขอให้ มาลงเลือกตั้ง เลิกคิดท�ำรัฐประหารได้แล้ว ซึ่ ง ตนอยากเสนอให้ ท างนายทหารและ

กองทัพมาเซ็นเอ็มโอยูด้วย ว่าจะไม่ท�ำรัฐ ประหารอีก”นายวรชัยกล่าว

แต่ ก็ แ น่ น อนว่ า ไม่ เ พี ย งแค่ เ สี ย ง สะท้อนจากนายทหารและกองทัพเท่านั้นที่ ไม่เห็นด้วยกับเรื่องการเซ็นเอ็มโอยูว่าจะไม่ ท�ำรัฐประหารอีก แม้แต่บรรดาคนที่ใกล้ชิด กับ คสช. ใกล้ชดิ กับ รัฐบาล ก็ออกมาปฏิเสธ แทนกันไม่น้อยว่า เป็นไปไม่ได้

ซึ่งในความเป็นจริง ก็คงต้องบอก ให้ฝ่ายที่อยากเห็นทหารเซ็นเอ็มโอยูว่าจะ ไม่รัฐประหารอีกนั้น ว่าเป็นไปไม่ได้จริงๆ

ดู อ ย่ า งการรั ฐ ประหารครั้ ง ล่ า สุ ด จะเป็นเพราะมีใครออกแบบ มีใครโยงใย อยู่เบื้องหลัง อย่างที่สงสัยกันหรือไม่ก็ตาม แต่ ใ นความเป็ น จริ ง เหตุ ก ารณ์ ที่ ลุ ก ลาม บานปลายจนน�ำไปสู่ความรุนแรงระหว่าง กลุ่มขั้วสีในขณะนั้น การมีกลุ่มชายชุดด�ำ มีมอื ปืนป๊อบคอร์น มีการชัทดาวน์กรุงเทพฯ มีความรุนแรงเกิดขึ้น

สถานการณ์ ข ณะนั้ น หลี ก เลี่ ย ง การรัฐประหารไม่พ้นจริงๆ

ดังนัน้ หากวันข้างหน้า มีการไม่เคารพ กติกาประชาธิปไตยเกิดขึน้ อีก และคน 2 ขัว้ ออกมาเผชิญหน้ากันอีก ถามว่าเอ็มโอยูทวี่ า่ จะไม่ท�ำรัฐประหารอีกจะมีประโยชน์อะไร

ดังนั้นไม่ว่าในวันนี้ ป.ย.ป.จะออก มามีหน้าตารับได้หรือรับไม่ได้ มีความกังวล หลากหลายประเด็น มีมุมมองสารพัดมิติ ที่ อึงอลอยู่กับค�ำว่า จะท�ำได้ดีเพียงใด จะยุติ ความขัดแย้งได้อย่างไร

คงต้องรอดูวา่ พล.อ.ประวิตร วงษ์ สุวรรณ จะสามารถสร้างความสามัคคี ปรองดองตามโรดแม็ ป ได้ จ ริ ง หรื อ ไม่ เพราะเห็นว่าขอเวลาเอาไว้ว่า 3 เดือน ก็ น่าจะมีความชัดเจนก็เอาใจช่วย เพราะ ไม่ต้องไปถึงขั้นนิรโทษกรรมหรอก แค่มี การเปิดออกมาว่าให้ใช้แนวนโยบาย 66/23 เท่านั้นก็งัดข้อ ฟัดกันอุตลุดแล้ว

บอกแล้วว่า ปรองดอง ไม่งา่ ยหรอก หากทุกฝ่ายยังเชื่อข้อมูลที่ถูกปลูกฝังกัน มาเป็น 10 ปี ให้รักแรงเกลียดแรงอย่าง ที่เห็นกันอยู่

ชัยสมรภูมิ 41

ชะวัชชัย ภาติณธุ

อ.ชาญศักดิ์ ชนันชนะ เจ้าของภาพ อาจมีลิขสิทธิ์

แผนแห่งชาติว่าด้วย การบริหารทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยุทธศาสตร์วา่ ด้วยการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม ทีร่ ฐั เขียนวิสยั ทัศน์วา่ “บริหารจัดการทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยการมีส่วนร่วมสู่การพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน” วิสัยทัศน์ดีครับไม่ว่ากัน

ทีนี้ค�ำว่าการมี “ส่วนร่วม” ของรัฐ คืออะไร ก่อนทีจ่ ะกล่าวถึงเรือ่ งอืน่ ๆ ขอแสดง ความเห็นเบื้องต้นสักเล็กน้อยว่า เท่าที่ผ่าน มาและปรากฏคือ รัฐขอความร่วมมือ รัฐใช้ มาตรการทางกฎหมาย หรืออาจจะรวมถึง การจับกุมบ้างในบางกรณีย์ แต่สงิ่ ทีร่ ฐั ยังไม่ จริงจังก็คือ “แผนงาน มาตรการและการ ขับเคลือ่ นอย่างเป็นรูปธรรม” ซึง่ มีหลายเรือ่ งที่ เป็นปัญหามายาวนานและสร้างปัญหายิ่ง ขึ้นเรื่อยๆ แต่รัฐก็ยังไม่ด�ำเนินการ ที่เห็น ชัดๆ ก็คือ การปล่อยประละเลยให้เอกชน ขยายพื้นที่ชุมชนหมู่บ้านจัดสรร ไปยังพื้นที่ สีเขียวก็ดี ไปยังพื้นที่ที่เป็นเส้นทางเดินของ น�ำ้ ก็ดี เป็นพืน้ ทีท่ หี่ มูบ่ า้ นจัดสรรทัง้ หลายไป สร้างปิดกัน้ เส้นทางเดินของน�ำ้ ประเด็นนีเ้ รา มองว่า เป็นปัญหาทุกจังหวัด หรือไปจับจอง สร้ า งหมู ่ บ ้ า นที่ มี คู ค ลองและบึ ง แหล่ ง น�้ ำ ธรรมชาติ ที่เชื่อมโยงกับพื้นที่ที่เป็นคูคลอง ส่งน�้ำทางการเกษตร ชุมชนหมู่บ้านจัดสรร ทีว่ า่ นี้ มักปล่อยน�ำ้ เสียลงยังแหล่งน�ำ้ ธรรมชาติ รุกลามเป็นพื้นที่ที่มีน�้ำเน่าเสียเพิ่มขึ้นทุกวัน หากยั ง ไม่ เ ห็ น ภาพขอให้ พิ จ ารณาพื้ น ที่

42 ชัยสมรภูมิ

ตั้งแต่เมืองประทุมไปจนถึงนครนายก ที่มี คลองหนึง่ ถึงคลองสิบหก คลองเหล่านีก้ ลาย เป็นแหล่งรองรับน�้ำเสียจากชุมชนมากขึ้น ทุกวันๆ รองหลับตานึกภาพดูวา่ ถ้าคลองทัง้ สิบหกคลองเน่า แม่นำ�้ เจ้าพระยาจะเป็นเช่นไร รวมทั้งน�้ำทะเลที่อ่าวไทยด้วย

การสร้างอาคารห้องแถวสองข้าง เส้นทางทั่วประเทศ ก็ไม่มีพื้นที่บำ� บัดน�้ำเสีย เพียงติดตั้งถังบ�ำบัด นั่นไม่ใช่ค�ำตอบแน่

นอกจากนี้ รัฐไม่มีแผนงานรักษาคู คลองหรือ พื้นที่ที่เป็นเส้นทางเดินของน�้ำ พื้นที่ที่ว่านี้

ครัน้ ตกมาถึงยุคเทศบาลเข้ามาบริหาร จัดการด้วยการคิดที่จะฟื้นฟู จึงเป็นเรื่องที่ ยากมาก

นอกจากนี้ อ�ำนาจหน้าทีใ่ นการจัดการ ทรัพยากรและสิง่ แวดล้อม ไม่มเี อกภาพ เช่น ถนนเป็นของกรมทางหลวง แต่อยู่ในเขต พืน้ ทีท่ เี่ ทศบาลจะต้องดูแล แต่เข้าไปท�ำอะไร ไม่ได้ คลองและแหล่งน�ำ้ บางพืน้ ทีอ่ ยูใ่ นความ ดูแลของกรมชลประทาน บางพื้นที่เป็นของ เขตและเทศบาล พอประเชิญปัญหา ขาดการ

ประสานปัญหาจึงไม่อาจแก้ไขได้ ดังนีเ้ ป็นต้น

ทีนี้ ลองมาดูยทุ ธศาสตร์ชาติทวี่ า่ ด้วย การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อมดูว่า รัฐมีมองมองในประเด็นปัญหาต่อ ไปนี้อย่างไร และหากเราจะเสริมจะเป็นไป ได้มากน้อยแค่ไหน ประเด็นปัญหาทีส่ ำ� คัญๆ ที่รัฐมองมีดังนี้

๑. ทรัพยากรดินและการใช้ ประโยชน์ที่ดิน

รั ฐ มองเป็ น เรื่ อ งปั ญ หาดิ น เปรี้ ย ว ดินเค็มแถบภาคกลาง เช่นทีป่ ทุมธานี ท�ำให้ ใช้พนื้ ทีไ่ ม่เหมาะสมกับศักยภาพ รัฐมองแบบ นี้ ซึ่งปัญหาท�ำนองนี้ เรามองว่า ชาวบ้านมี ความรู้พอ สามารถแก้ได้ด้วยภูมิปัญญาที่มี มาแต่ดงั่ เดิมได้ แต่สงิ่ ทีร่ ฐั ควรมองก็คอื เรา ยอมรับกันไม่ใช่หรือว่า การทีใ่ นหลวงรัชกาล ทีเ่ ก้า ได้ทรงพระราชทานวางรากฐานทฤษฎี ใหม่เกี่ยวกับการเกษตร และหลักของการ ด�ำเนินชีวติ แบบพอเพียง มีความรูค้ คู่ ณ ุ ธรรม ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องดี แต่ทฤษฎีใหม่นี้ส�ำคัญ ว่าต้องมีที่ดินท�ำกิน เรื่องนี้หากรัฐสามารถ ปฏิรูปที่ดินด้วยการส�ำรวจและเวนคืนที่ดิน

บางส่วน ที่ไม่ได้สร้างผลผลิต มากระจาย เป็นเบือ้ งต้นก็จะเป็นการดี ค่อยๆ ปลดปล่อย ที่ดิน เหมือนล้นเกล้ารัชกาลที่ห้าทรงค่อยๆ ปลดปล่อยทาสจนหมดในที่สุด โดยรัฐออก หลักการว่า ให้ถือครองได้คนละไม่เกินห้าไร่ เป็นต้น

ที่ผ่านมา การจัดโซนนิ่งยังไม่ได้ผล โดยทั่ ว พื้ นที่ สี เขี ยวเป็น จ� ำ นวนมากยัง มี ปรากฏให้เห็นว่า สามารถตัง้ โรงงานอุตสาหกรรม ได้ เรื่องนี้รัฐควรมีแผนงานขับเคลื่อนอย่าง จริงจัง

๒. ทรัพยากรป่าไม้

รัฐมองการลักลอมตัดไม้ในเขตรอย ต่อเพือ่ นบ้าน เขตอุทยานและมองว่า ความ หลากหลายทางชีวภาพลดลง เรือ่ งนีเ้ ห็นด้วย กับรัฐ และที่อยากเห็นมากกว่าก็คือ รัฐควร ฟื้นฟูป่าต้นน�้ำ เพราะประเทศนี้น�้ำทุกหยด มาจากป่า ถ้าไร้ปา่ ต้นน�ำ้ วันหนึง่ เราจะมีปญ ั หา เรื่องน�ำ้ ดื่ม น�ำ้ ใช้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ การฟืน้ สภาพป่า เป็นเรือ่ ง ทีร่ ฐั ต้องผลักดันอย่างทีส่ ดุ การท�ำลายป่าจะ ต้ อ งไม่ มี ปั จจุ บั น มีเ ทคโนโลยีที่ใ ช้ใ นการ ปกป้องรักษามากมาย ไม่มเี หตุผลทีร่ ฐั จะดูแล ไม่ได้

๓. ทรัพยากรน�ำ้

รัฐมองเรื่องปัญหาอุทกภัย ภัยแล้ง การขาดแหล่งน�ำ้ ต้นทุน ซึ่งเห็นด้วย กับรัฐ ดังนั้นสิ่งที่รัฐต้องด�ำเนินการคือ การ ฟืน้ ฟูแม่นำ�้ สายหลัก เพราะขณะนีแ้ ม่นำ�้ สาย หลักทุกสาย มีสภาพน�้ำเน่าเหมือนกันหมด เป็นการท�ำลายวิถีชีวิตและทรัพยากรน�้ำที่

มีการปนเปื้อน เรื่องนี้เห็นด้วยกับรัฐ ที่แน่ๆ ไม่มที ะเลทีไ่ หนเสือ่ มเท่าทะเลบ้านเรา กุง้ หอย ปู ปลา อดีตที่เคยมั่งคั่ง

ปัจจุบันเทียบไม่ได้แล้ว หอยแมลงภู่ ตัวโตๆ หาไม่ได้เลย ทีผ่ า่ นมาแสดงว่ารัฐดูแล ไม่ได้ อาจต้องให้ชมุ ชนดูแล ดังมีผลทีป่ รากฏ หลายแห่งว่า ชุมชนดูแลดีกว่า แต่รฐั ต้องออก กฎหมายให้ สิ ท ธิ์ แ ละอธิ ป ไตยชุ ม ชนให้ มากกว่าที่ผ่านมา เรามองว่าปัญหาดังที่ กล่าวมาน่าจะถูกคลี่คลายโดยชุมชน

๘. คุณภาพอากาศและเสียง

รัฐมองเรื่องฝุ่นละออง สารระเหย เกินมาตรฐาน เรื่องนี้ว่าไปบ้านเราดีกว่าแต่ ก่อน ปัจจุบนั พืน้ ทีใ่ นเมือง อย่างกรุงเทพฯ และ เลวร้ายมาก แม่นำ�้ ทุกสายน�ำ้ เต็มแต่ใช้ไม่ได้ เมืองใหญ่ๆ เรามีสดั ส่วนพืน้ ทีส่ เี ขียวน้อย ซึ่ง แต่จ�ำต้องหันไปใช้น�้ำบาดาล ซึ่งไม่น่าเกิด อยูใ่ นประเด็นเดียวกับข้อทีห่ ก อย่างมาเลเซีย ขึ้นเลย เขากล่าวได้เลยว่า เมืองหลวงของเขาเป็น

นอกจากนี้ เราจ�ำเป็นต้องขุดลอกทัง้ เสมือน “The City of Nature” เนื่องจาก แม่นำ�้ ล�ำคลอง ให้ลกึ เพียงพอทีจ่ ะเก็บกักน�ำ้ ต้นไม้ในเมืองมีมาก เราควรต้องมีแผนเวนคืน ได้ตลอดยามแล้ง เพราะบัดนีไ้ ด้ประจักษ์แล้ว ที่ ดิ น เพื่ อ พั ฒ นาสิ่ ง แวดล้ อ มอย่ า งจริ ง จั ง ว่า เราก�ำลังขาดแคลนแหล่งต้นน�ำ้ ได้แล้ว

๔. ทรัพยากรแร่

๙. ขยะมูลฝอยและของเสีย

รัฐมองเรื่องการท�ำลายหน้าดิน การ อันตรายชุมชน ทิ้งร้างเหมืองแร่ ไม่คืนสภาพพื้นที่ดินเดิม รั ฐ มองเรื่ อ งปริ ม าณขยะมู ล ฝอย เรือ่ งนีเ้ ห็นด้วยกับรัฐว่า รัฐต้องด�ำเนินการ รวม สะสมตกค้าง และกากของเสียจากโรงงาน ทั้งทรัพยากรน�้ำมัน รัฐต้องให้ความกระจ่าง เรื่องนี้รัฐมองปัญหาถูก และควรด�ำเนินงาน ว่า ประเทศของเรามีน�้ำมันหรือไม่มี ตามพันธกิจที่ว่า “การมีส่วนร่วมกับเอกชน”

๕. ทรัพยากรทางทะเลและ นั่ น คื อ การสนั บ สนุ น ให้ เ ปิ ด บริ ษั ท เอกชน ชายฝั่ง เข้ามามีส่วนร่วมในการกจัดขยะและมลพิษ

การลดลงของพื้นที่ป่าชายเลนการ ด้วยเทคโนโลยีที่มีมาตรฐานสูง ไม่รบกวน กัดเซาะชายฝั่งเรื่องนี้มีสภาพเสื่อมโทรม สิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันมีบ้างแล้ว แต่รัฐยัง โดยทั่วไป เรื่องนี้คงไม่ใช่เพียงความร่วมมือ ไม่ ไ ด้ น� ำ เข้ า แผนงานอย่ า งที่ ค วรจะเป็ น รั ฐ ต้ อ งใช้ ม าตรการที่ เ ข้ ม งวดด� ำ เนิ น การ มองไปว่าเป็นการท�ำธุรกิจปกติ รวมทั้งสัตว์นำ�้ และการฟื้นฟูสภาพน�้ำด้วย

คิดว่า ถึงเวลาทีร่ ฐั ต้องเอาจริงเอาจัง

๖. สิง่ แวดล้อมเมืองและชุมชน กับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง

รัฐมองเรื่องปัญหามลพิษและการ แวดล้อม อย่างที่กำ� หนดไว้ในวิสัยทัศน์ แต่ ขาดแคลนพื้นที่สีเขียว เรื่องนี้ย้อนหาอดีต ต้องไม่คิดแบบแผนงานราชการ แต่คิดให้ คงไม่ได้แล้ว นอกจากการขยายเมืองใหม่รฐั เกิดการขับเคลื่อน เปลี่ยนแปลงอย่างมีเป้า ต้องมีมาตรการที่จริงจัง เช่น พื้นที่ก�ำจัด หมาย และต้องมีค�ำตอบให้กับการคัดค้าน มลพิษ (ขยะ) พื้นที่สีเขียวและบ่อบ�ำบัดน�้ำ มีข้อมูลที่จะบอกถึงผลที่เกิดหากไม่ด�ำเนิน เสีย การเริม่ น�ำสายไฟลงดิน ขนาดท่อระบาย การเรื่องนั้นๆ น�ำ้ แบบปัจจุบนั คงไม่ได้แล้ว เรือ่ งเหล่านี้ เรา เช่น การวิจัยเส้นทางเดินของน�ำ้ นับหนึ่งที่เมืองใหม่หรือหมู่บ้านใหม่ได้ หากจ� ำ เป็ น ต้ อ งย้ า ยเมื อ งก็ ส มควรที่ จ ะ

๗. คุณภาพน�้ำทะเลชายฝั่ง ต้องท�ำ

รัฐมองว่า คุณภาพน�ำ้ ชายทะเลเสือ่ ม

ชัยสมรภูมิ 43

“ชีวิตคนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นคนดีได้”

ละเดช แวดไทยสงค์

ส�ำหรับ หนังสือพิมพ์ชัยสมรภูมิ ในฉบับที่ 63 ประจ�ำปี 2560 นี้ เริ่มศักราชใหม่ขอน�ำบทสัมภาษณ์ดีๆ ที่ท่านผู้ อ่านสามารถน�ำไปศึกษา สร้างก�ำลังใจในการด�ำเนินชีวติ ได้เป็นอย่างดี ซึง่ ในโอกาสนีก้ ข็ อน�ำเสนอเรือ่ งราวแห่ง ความส�ำเร็จของ ส.อ.ละเดช แวดไทยสงค์ (ปัจจุบนั ร.อ.ละเดช แวดไทสงค์) หรืออาจารย์เดช อดีตนายทหารผ่านศึก ซึ่งปัจจุบันผันตัวมาเป็นหมอยาแผนโบราณที่คอยให้การรักษาผู้ป่วยด้วยยาสมุนไพรในราคาย่อมเยาหลังจากที่ ต้องต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมจากรัฐมานานพอสมควร บัดนี้ เขาได้รับความเป็นธรรมกลับคืนมาแล้ว ราย ละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้น ติดตามได้จากคอลัมน์นี้

ผมได้รับแรงบันดาลใจในการเข้ารับราชการทหารจากคุณ พ่อ ส.ท. จินดา แวดไทยสงค์ ทีเ่ ป็นทหารผ่านศึกสงครามโลกครัง้ ที่ 2 ซึง่ ตอนเด็กๆ ก็จะเอาเครือ่ งแบบของพ่อมาสวมใส่ เอารองเท้ามาใส่ เอาเป้มาแบก มันเป็นความรักชอบอย่างหนึง่ ในรูปแบบชีวติ ของทหาร ทีป่ ลูกฝังมา พอเติบโตเป็นผูใ้ หญ่ จึงได้สมัครเข้าเป็นนักเรียนนายสิบ ทบ.รุ่น 5 ซึ่งก็ได้เป็นเหล่าทหารช่าง พอจบแล้ว จากนั้นก็ได้อยู่ที่ ราชบุรีประมาณ 8-9 ปี แล้วต่อมาจึงย้ายกลับนครสวรรค์ประมาณ 2 ปี แต่เมื่อมีการเปิดรับสมัครไปที่สมรภูมิเขาค้อ ผมก็คิดว่าการ เป็นทหารก็น่าจะไปรบเพื่อชาติให้ได้สักครั้งจึงได้สมัครไปด้วย

ขณะนั้ น ทหารช่ า งที่ เ ป็ น เพื่ อ นร่ ว มรบในเหล่ า ช่ า งก็ มี ประมาณ 1 กองร้อย โดยบรรดาทหารช่างทัง้ หลายก็จะเป็นผูน้ ำ� หน้า ทหารราบทีจ่ ะเข้าไปปฏิบตั กิ ารทีฐ่ านต่างๆ คือจะต้องเก็บกูว้ ตั ถุระเบิด หรือกับระเบิดทีข่ า้ ศึกวางเอาไว้ ซึง่ ก็จะมีการปะทะกันอย่างต่อเนือ่ ง เมื่อยึดได้ฐานใดฐานฐานหนึ่งก็จะต้องรุกคืบเรื่อยๆ โดยเหตุการณ์ ในตอนนั้นก็จะมีอยู่จุดหนึ่ง ซึ่งเป็นที่สูงจึงต้องแบ่งเป็นสองปีก พอ เดินลาดตระเวนขึ้นเนินไปเรื่อยๆ ทางลูกน้องที่นำ� ทางไปก่อนก็ร้อง ตะโกนลงมาแล้วในทันใดนัน้ เสียงปืนก็ดงั สนัน่ หวัน่ ไหวออกมาอย่าง ต่อเนื่อง ในระหว่างที่ก�ำลังเข้าที่ก�ำบัง เพื่อหลบวิถีกระสุน ผมได้ กลิ่นควันปืนซึ่งคะเนได้ว่าอยู่ห่างกันไม่น่าจะเกิน 25 เมตร และเมื่อ เงยหน้าขึ้นมาได้จึงท�ำการยิงตอบโต้ พอข้าศึกรู้ว่าฝ่ายผมยังไม่ตาย จึงใช้ปืนอาร์พีจีกระหน�่ำยิง ใช้ระเบิดมือขว้างลงมาอย่างต่อเนื่อง ทางพวกผมก็พยายามต่อสู้ แต่ปรากฏว่า อาวุธปืนเสียหาย คือ ปืน แตกไปหลายกระบอก ตอนนั้นรู้สึกชาไปทั้งตัว พอหันไปมองที่ด้าน หลังก็เห็นทหารราบบาดเจ็บล้มตายลงไปเป็นจ�ำนวนมากเลยทีเดียว จนกระทัง่ ได้ขอสนับสนุนปืน ค.ทางฝ่ายผูก้ อ่ การร้ายคอมมิวนิสต์ หรือ ผกค. จึงได้ลา่ ถอยออกไปฝ่ายเราจึงไม่ได้รบั ความเสียหายมากไปกว่านี้

ส�ำหรับเหตุการณ์ดงั กล่าวนัน้ ท�ำให้ผมต้องลงมาพักรักษาตัว แม้ว่าภายนอกจะไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากมาย แต่ที่ภายในนั้น รู้สึก ที่ลงมารักษาตัวนั้น เพื่อนที่ถูกเปลี่ยนไปแทนผมก็ถูกยิงเสียชีวิตอยู่ ไม่คอ่ ยจะดีนกั ก็เลยจะไปขอตรวจอีกรอบ แต่กไ็ ม่ได้ไป ซึง่ ในระหว่าง ในสมรภูมิ ผมจึงถูกเรียกกลับไปอีกรอบ ซึ่งพอขึ้นไปได้ไม่กี่วันทาง ลูกน้องก็ถูกยิงเสียชีวิตไปอีกคน ดังนั้นจึงเป็นจุดน่าสังเกตว่าพวก

44 ชัยสมรภูมิ

ผกค.จะมุ่งเน้นการโจมตีมาที่พวกทหารช่าง ที่วัด บางครั้งปวดหัวจัดก็คิดว่าตัวเองต้อง เป็นล�ำดับแรกๆ เพราะทหารช่างจะเป็นผู้ ตายแล้ว แต่ก็ยังไม่ตายง่ายๆ เก็บกู้วัตถุระเบิดที่พวก ผกค.วางเอาไว้

คุณพ่อ ใช้เวลาด�ำเนินการอยู่ร่วมปี

ขณะนัน้ ผมอยูใ่ นสมรภูมนิ างัว่ ได้ 1 ปี พอกลับมาหน่วยปกติกต็ อ้ เข้ารับการรักษาอีก ครัง้ ทางแพทย์ผร้ ู กั ษาก็ลงความเห็นว่าประสาท ใช้การไม่ได้ ดังนัน้ จึงไปท�ำบัตรผ่านศึกชัน้ 1 จากนัน้ ก็ไปเอาหลักฐานจาก กอ.รมน. ซึง่ ทาง โรงพยาบาลพระมงกุฎก็ตรวจอีกครั้งก่อน จะระบุว่า ไม่สามารถรับราชการได้ จึงไป โรงพยาบาลทหารผ่านศึกอีกครัง้ ขณะเดียวกัน ทาง กอ.รมน.ก็ให้ความเห็นมาว่ามีสทิ ธิได้เลือ่ น ยศนายทหาร แต่เนื่องจากผมมีปัญหาส่วน ตัวกับทางผู้บังคับบัญชา จึงไม่ได้มีการส่ง เรื่องให้ ซึ่งตอนนั้นในใจก็คิดว่าคงจะไม่ได้ แล้ว ตอนหลังจึงไปขอความเป็นธรรม ซึ่ง คุณพ่อก็ไปช่วยด�ำเนินการให้ เพราะผมยัง ป่วยอยู่หนักมาก อาการป่วยตอนนั้นจะเป็น แบบเบลอๆ ซึ่งระหว่างนั้นก็ไปรักษาตัวอยู่

แต่กไ็ ม่สำ� เร็จ จากนัน้ อีก 7 ปี จึงมีคำ� สัง่ ปลด เป็นค�ำสั่งปลดธรรมดา แต่ไม่ได้ปูนบ�ำเหน็จ พิเศษ ซึง่ ในความเป็นจริงนัน้ ก็ควรจะได้ แล้ว จากนั้นเมื่อได้เข้ามากรุเทพฯ อีกครั้ง จึงได้ พยายามท�ำเรื่องขอความเป็นธรรมใหม่ แต่ ก็เนื่องจากว่าเรื่องมันผ่านมาเนิ่นนานแล้วก็ เกรงว่าจะไม่ได้ และเมื่อได้ปรึกษากับผู้ที่มี ความรู้จึงได้มีก�ำลังใจว่า การขอความเป็น ธรรมนัน้ มันไม่มหี มดอายุ ไม่ใช่คดีอาญา จึง ให้ดำ� เนินเรือ่ งต่อไป ซึง่ ก็มคี วามหวังลึกๆ ว่า ต้องการแค่ความเป็นธรรมเท่านั้นเนื่องจาก กรณีมีปัญหากับผู้บังคับบัญชานั้น เป็นเรื่อง ส่วนตัว แต่เรือ่ งสิทธิจากทางราชการนัน้ เป็น เป็นสิ่งที่ควรจะได้รับ

จนกระทัง่ ผมโชคดีมากกว่า ได้มผี ใู้ หญ่ ทีผ่ มให้ยารักษาโรคไปทาน มีโอกาสเล่าเรือ่ ง ที่ผ่านมาให้ฟังเขาก็ยื่นมือเข้าช่วยด�ำเนิน การเรียกร้องสิทธิให้ตอ่ เริม่ ตัง้ แต่โรงพยาบาล ซึ่งหลักฐานของโรงพยาบาลบอก ได้ทำ� ลาย

ชัยสมรภูมิ 45

หมดแล้วเพราะนานมาก แต่ผมยังมีหลักฐาน ที่เก็บเอาไว้ตั่งแต่ต้นมา จึงสามารถด�ำเนิน การต่อไปได้ ซึง่ ต่อมาก็ได้รบั ข่าวดีกลับมาว่า ผมจะได้ รั บ ในสิ่ ง ที่ เรี ย กร้อ ง อย่างน้อ ยๆ ก็ได้รับในสิ่งที่ควรจะได้รับ คือได้คืนบ�ำนาญ พิเศษ กับปูนบ�ำเหน็จพิเศษ ทิดเขาใช้เวลา ท�ำเรื่องนี้ให้ผมร่วม 2 ปีจนเสร็จเรียบร้อย ทุกอย่าง ซึง่ ก็ทำ� ให้ได้รวู้ า่ ความเป็นธรรมและ ความถูกต้องยังมีอยู่จริง

ส� ำ หรั บ ผู ้ ที่ ช ่ ว ยผมให้ ไ ด้ รั บ สิ ท ธิ์ และความเป็นธรรมคืนมา คือ “ทิดไมค์” คุณกฤตพัฒน์ จุลไสย หรือ ไมค์ ณ ชุมพร ผมจะไม่ลืมเพราะเขาช่วยผม

ทัง้ นี้ ในระหว่างทีผ่ มเป็นนายสิบ ตอน นั้นก็ไปเรียนพวกช่างแกะสลัก หัดวาดภาพ แล้วก็ยงั ได้ไปเข้าอบรมโครงการปฐมพยาบาล ตามโครงการพระราชด�ำริ ซึง่ สิง่ เหล่านีน้ เี่ องที่ ช่วยเลี้ยงตัวเองในช่วงที่ออกจากราชการ โดยได้ท�ำงานในลักษณะนี้มานานพอสมควร แล้ว ซึง่ ตลอดระยะเวลาก็มโี อกาสได้เดินทาง น�ำยาต�ำรับโบราณเหล่านี้ไปช่วยเหลือผู้คน มาแล้วในทุกๆ ภูมภิ าค โดยจะน�ำไปแจกตาม วัดตามหมู่บ้านเรื่อยไป ซึ่งยาสมุนไพรทุกตัว ทีท่ ำ� เอาไว้จะต้องให้ได้ตามเกณฑ์อายุเท่านัน้ จึงจะได้สรรพคุณยาตามทีต่ อ้ งการ ซึง่ มีโอกาส ได้ช่วยเหลือให้รักษาคนยาก โดยโครงการ

พล.อ. บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ เลขาธิการกิตมิ ศักดิร์ าชตฤณมัยฯ ประดับยศ ร.อ. ให้ ส.อ.ละเดช แวดไทยสงค์ โอกาสที่มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศทหาร (เป็นกรณีพิเศษ) สังกัดกระทรวงกลาโหมซึ่ง พิการทุพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการในสมรภูมิบ้านนางั่ว

46 ชัยสมรภูมิ

ดังกล่าวนั้น พระเจ้าอยู่หัว ร.9 ทรงมีความ ห่วงใยประชาชน ซึ่งการเข้าไปอบรมก็ท�ำให้ เราได้ชว่ ยเหลือคน บางคนไม่มเี งินก็ไปรักษา ไปช่วยเขา บางครัง้ คนไข้ไม่มเี งินก็ไม่ได้เรียก ร้องค่ารักษาแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ผมยืนยันว่า ยังมีความ สุขทีไ่ ด้เป็นทหาร ถึงแม้ปจั จุบนั จะไม่ได้สวม เครือ่ งแบบทหารแล้วก็ตามที เพราะทุกอย่าง มันเป็นแค่หัวโขน เมื่อถอดเครื่องแบบก็ไม่ ได้หมายความว่าจะหมดหน้าที่ ทหารทีด่ ขี อง ประเทศชาติทุกๆ อย่างมันยังคงมีอยู่ในหัว ใจลึกๆ อย่างทีผ่ มได้เก็บหัวควายเอาไว้กเ็ พือ่ สอนให้ลูกศิษย์ได้เห็นถึงความอดทนให้เห็น ถึงความแข็งแรงของควาย แต่ถ้าควายถูก สวนจมูกไปแล้วก็อย่าให้ใครดึงไปในทางที่ ไม่ดีต้องให้เข้าใจถึงสัจธรรม

ผมดีใจที่เกิดมาเป็นคนไทยแล้วได้ ท�ำหน้าที่ของเราครบถ้วนบริบูรณ์แล้วที่ได้ เป็นทหาร และ “ความภาคภูมใิ จทีส่ ดุ ในชีวติ ของ ผม คือ การได้ถอื ธงชัยเฉลิมพลถึงสองครัง้ ”

นี่คือความส�ำเร็จกับความสุขที่ได้ ใช้อาชีพหมอช่วยเหลือชีวิตมนุษย์ของ ส.อ.ละเดช แวดไทสงค์ ปัจจุบนั ร.อ. ละเดช แวดไทยสงค์ หมอชาวบ้านผูใ้ ช้ภมู ปิ ญ ั ญา และสมุนไพรรักษาโรค

ในโมงยามนี้ เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ก็คงจะเป็นคน 2 แผ่นดินกันเป็นจ�ำนวนมากแล้ว แต่สำ� หรับผู้เป็น ทหารนั้น จะไม่มีวันก้าวล่วงไปสู่แผ่นดินอื่นใดอีกต่อไปเพราะ เราคือ ทหาร เราเป็นทหารของพระราชา และแผ่นดินผืนนี้ก็จะมีเพียงแผ่นดินเดียวตลอดไป นั่นก็คือ แผ่นดินของพระราชา พบกับบทสัมภาษณ์แบบ เจาะใจนายทหารผู้มีโอกาสถวายงานสถาบันพระมหากษัตริย์มาอย่างยาวนาน

เปิดหัวใจ

พล.ต.ณรงค์พันธ์ จิตติ์แก้วแท้ ผบ.พล.1 รอ. ในวันที่ชีวิตก้าวข้ามมาถึงแผ่นดินรัชการที่ 10

พล.ต.ณรงค์พนั ธ์ จิตติแ์ ก้วแท้ ผบ. พล.1 รอ.

ผบ.พล.1 รอ. ประกาศ ขอปกป้อง เทิดทูนสถาบันตลอดไป ยืนยัน แม้โศกเศร้า แต่ตอ้ งดูแลประชาชนให้ดที สี่ ดุ เผยงานจาก รัฐบาล-คสช.น่าพอใจ ระบุ ทหารพร้อมร่วมมือ ปราบยาเสพติดอย่างเต็มที่

ส�ำหรับกองพลที1่ รักษาพระองค์ (พล.

1 รอ.) มีงานต้องรับผิดชอบหลักๆ คือ 1. งาน ตามภารกิจหน้าที่ - ที่กองทัพบกก�ำหนดมา โดยมีภารกิจหลักก็คอื การถวายความปลอดภัย การเทิดพระเกียรติแด่ พระมหากษัตริย์ และ พระบรมวงศานุวงศ์ทกุ พระองค์ ส่วนงานอืน่ ๆ ก็เป็นภารกิจของทหารตามปกติ นอกจากนัน้ พล.1 รอ.ก็ยงั มีงานทีไ่ ด้รบั มอบหมายมาจาก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่ง ก�ำหนดให้ พล.1 รอ. มีหน้าทีค่ วามรับผิดชอบ ในการดู แ ลความสงบเรี ย บร้ อ ยของบ้ า น เมือง โดยเป็นผูร้ บั ผิดชอบพืน้ ทีใ่ น กทม.รวม 14 เขต ซึง่ เป็นศูนย์กลางของเมืองหลวง เช่น พระนคร ดุสิต เป็นต้น รวมถึง ที่ จ.อ่างทอง เราก็มกี รมทหารราบที่ 31 ของกองพลที่ 1 รอ. ไปตั้งอยู่ที่ จ.ลพบุรีก็ได้มีการไปดูแลในพื้นที่ ดังกล่าวด้วย ซึ่งในบทบาทของของก�ำลัง รั ก ษาความสงบเรี ย บร้ อ ยก็ ไ ด้ ป ฏิ บั ติ ต าม นโยบายของ คสช.เป็นอย่างดีมาโดยตลอด ขณะเดียวกันก็มีโครงการจากรัฐบาลที่มอบ หมายผ่านกองทัพบกมาให้ พล. 1 รอ. รับผิด ชอบโดยเฉพาะ ก็คอื การจัดระเบียบสังคม เช่น

1. การจัดระเบียบวินจักรยานยนต์ รับจ้าง โดยได้ดำ� เนินงานมาตัง้ แต่ พ.ศ. 2557 ซึ่งในส่วนนี้ก็ได้ลงไปช่วยด�ำเนินการให้วิน จยย.รับจ้างในพื้นที่กทม.และปริมณฑลได้

เป็นวินที่ถูกกฎหมาย โดยผลการปฏิบัติมา จนถึงในปัจจุบนั นีพ้ บว่า เป็นไปในแนวทางทีด่ ี ทางด้านผู้ขับขี่เองก็ให้ความร่วมมือกับเจ้า หน้าทีร่ ฐั เป็นอย่างดี เช่น มีผขู้ บั ขี่ จยย. รับจ้าง ช่วยตามจับ หรือ ให้เบาะแสคนร้ายแก่เจ้า หน้าทีต่ ำ� รวจ อักทัง้ ยังช่วยเหลือสังคม สอด ส่องดูแลความสงบเรียบร้อยในชุมชนมา โดยตลอด โดยเชือ่ ว่าส่วนหนึง่ เป็นผลพวงมา จากการที่ ไ ด้ ผ ลั ก ดั น ให้ วิ น จยย.รั บ จ้ า งใน พื้นที่ กทม. ประมาณกว่า 1 แสนรายได้เข้า สู่ระบบตามกฎหมาย จึงท�ำให้ไม่จ�ำเป็นต้อง ท�ำอะไรที่คดโกงเพื่อหาเงินจ�ำนวนมากไป ส่งให้กับผู้มีอิทธิพลอีกต่อไป

โครงการที่ 2 คือ การพัฒนาคลอง ลาดพร้าว โดยได้รบั มอบหมายมาจากรัฐบาล

และคสช.ผ่านกองทัพบกให้ พล.1 รอ. ด�ำเนิน การจัดระเบียบชุมชนและผู้ที่รุกล�้ำคลอง ลาดพร้าวในพืน้ ที่ 8 เขต ซึง่ แต่เดิมโครงการนี้ เป็นของ กทม. ทีต่ อ้ งการจัดระเบียบให้คลอง ลาดพร้าวใช้เป็นคลองที่สามารถระบายน�้ำ ได้ยามเกิดอุทกภัย แต่ในปัจจุบันนี้ได้มีการ ร่วมมือกันระหว่างทหาร กทม. และกระทรวง พัฒนาความมัน่ คงของมนุษย์ หรือ พม. ทัง้ นี้ ขอเรียนว่าไม่ได้เป็นการไปไล่ แต่เป็นการไป พัฒนาที่อยู่อาศัยให้ดีขึ้น โดยที่ผู้ได้รับประ โยชน์ ส่ วนใหญ่ ก็ คื อ ประชาชนที่อ ยู ่อ าศั ย ในกทม.ทุกคน

ขณะที่ในส่วนของผู้ได้รับผลกระทบ นัน้ ก็จะนับตัง้ แต่ตน้ สายลงมาคือ สายไหม จน ถึงบริเวณบึงพระราม 9 โดยผู้ใดที่รื้อถอน

ชัยสมรภูมิ 47

สิ่งปลูกสร้างรุกล�้ำก็จะให้เข้าร่วมโครงการ คือ จะได้อยูอ่ าศัยในทีด่ นิ เดิมโดยถูกกฎหมาย ขณะเดี ย วกั น ก็ จ ะให้ มี ก ารรวมตั ว กั น เป็ น กลุ่มสหกรณ์เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งใน การขอกู ้ เ งิ น เพื่ อ สร้ า งที่ อ ยู ่ อ าศั ย ใหม่ ใ น อัตราดอกเบี้ยต�ำ่ ผ่อนน้อยและสามารถเช่า ที่ดินของกรมธนารักษ์ในการปลูกสร้างได้ ต่อไป โดยในกรณีนี้ขอยืนยันว่าอยากให้พี่ น้องประชาชนเข้ามาสู่ระบบให้ถูกต้องตาม กฎหมายจะดีที่สุด เพราะหากปล่อยให้เป็น อย่างนี้ต่อไปก็คงต้องได้รับความเดือดร้อน จากผู้มีอิทธิพลอย่างแน่นอน โดยที่ผ่านมา ประชาชนส่วนใหญ่กว่า ร้อยละ 80 ที่เข้า

48 ชัยสมรภูมิ

ร่วมโครงการก็คอ่ นข้างพอใจในความร่วมมือ ส่ ว นที่ เ หลื อ นั้ น ก็ อ ยู ่ ใ นขั้ น ตอนของการ เจรจาท�ำความเข้าใจต่อไป

ส�ำหรับเรื่องปัญหายาเสพติดนั้น ทหารได้ให้ความส�ำคัญและเฝ้าระวังมา โดยตลอด อย่างเช่นในพล. 1 รอ. ผมก็จะ มอบให้มีการตรวจสอบทหารใหม่ก่อนที่จะ เข้ า มาทุ ก ครั้ ง และก็ มี เ ปอร์ เ ซ็ น ต์ พ บ ปัสสาวะเป็นสีม่วงที่ค่อนข้างสูง แต่เราก็จะ ท�ำการบ�ำบัดรักษาให้ความรู้ซึ่งท�ำให้ลดลง ไปได้เรื่อยๆ อีกทั้งยังมีการตรวจก�ำลังพลใน ส่วนอื่นๆ ตามกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน ซึ่ง หากพบก็จะน�ำไปบ�ำบัด แต่ถ้าบ�ำบัดแล้ว

ไม่ได้ผลก็คงต้องเข้าสูข่ นั้ ตอนการปลดออก จากราชการต่อไป ในส่วนของพื้นที่อื่นๆ ที่ รับผิดชอบนัน้ พล.ร.1 รอ.ขอยืนยันว่า พร้อม ทีจ่ ะให้ความร่วมมือกับต�ำรวจและ ปปส.อย่าง แน่นอน

ส่วนเรื่องการช่วยเหลือผู้ประสบภัย พิบตั ทิ ภี่ าคใต้นนั้ ถึงแม้จะไม่ใช่พนื้ ทีโ่ ดยตรง แต่เนือ่ งจาก พล.1 รอ.เคยประสบกับเรือ่ งนี้ มาอย่างหนัก ในปี 2554 จึงท�ำให้เข้าใจ สถานการณ์ ดังนั้นอะไรที่ช่วยได้ เราก็ต้อง ช่วยกัน เช่นการส่งเจ้าหน้าที่ทหารไปบรรจุ หีบห่อสิ่งของบริจาคตามจุดต่างๆ การจัดรถ ขนส่ ง สิ่ ง ของบรรเทาทุ ก ข์ ล งไปให้ พี่ น ้ อ ง ชาวใต้ เป็นต้น

ศาสตร์พระราชาที่ว่านั้น แท้จริงมี หลายอย่าง แต่ปรัชญาทีย่ ดึ ถือในการท�ำงาน ก็คือไม่ว่าผมจะไปท�ำงานในพื้นที่ไหน สิ่งที่ ผมยึดถือโดยส่วนตัวก็คอื เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา เพราะว่าตอนผมไปท�ำงานที่ภาคใต้เมื่อปี 2547 ก็ได้นำ� ศาสตร์นไี้ ปใช้ โดยได้นำ� เข้าไป สูห่ มูบ่ า้ นและประชาชน ซึง่ ตลอดระยะเวลา ในการปฏิบัติงานไม่มีผู้ใต้บังคับบัญชาบาด เจ็บเลย อาจมีการซุ่มโจมตีบ้างแต่ก็ไม่ได้ เสียหายมากนัก ซึง่ ในส่วนนีผ้ มได้ชนี้ ำ� สัง่ สอน ผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่เสมอว่า เราจะท�ำอะไร ต้องเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ขณะเดียวกันใน ด้านของการใช้ชีวิตก็คือ เศรษฐกิจพอเพียง โดยเฉพาะการเป็นข้าราชการนั้น ต้องรู้จัก

พอเพียงรู้จักความพอดีเป็นที่ตั้งก่อน ผมมี ค วามภาคภู มิ ใ จในการที่ ไ ด้ เ ป็ น นาย ทหารของพระเจ้ า แผ่ น ดิ น เป็ น อย่ า งยิ่ ง เพราะเป็ น ทหารรั ก ษาพระองค์ ม าตลอด ชีวิต ตั้งแต่จบการศึกษาใหม่ๆ ก็เลือกที่จะ เป็นทหารรักษาพระองค์ สวนสนามถวาย สัตย์ปฏิญาณตนตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนนาย ร้อย แล้วพอจบมาเป็นทหารรักษาพระองค์ ก็มาสวนสนามถวายสัตย์ฯ ต่อเนื่องกันมา อีกทัง้ กระบีก่ ไ็ ด้รบั พระราชทานจาก พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ 9 ซึง่ พระองค์ คือความภาคภูมิใจอย่างหาที่สุดมิได้ในทุกๆ ครั้งที่มีโอกาสได้ถวายงาน แม้อาจจะไม่ได้ ถวายงานอย่างใกล้ชดิ แต่แค่ได้เป็นส่วนหนึง่ ผมก็ มี ค วามภาคภู มิ ใ จแล้ วที่ ไ ด้ ถ วายงาน พระองค์ท่าน รวมถึงการเป็นราชองครักษ์ก็ เป็นมาถึง 20 ปี จนกระทัง่ มาถึงวันที่ 14 ต.ค.

2559 วันนั้นก็เป็นคนหนึ่งที่ไปยืนอยู่ในพิธี รับพระบรมศพลงจากรถ พอหลังจากนั้นมา พล. 1 รอ. ซึง่ มีประสบการณ์มากทีส่ ดุ ในงาน พระราชพิธีที่เกี่ยวกับราชประเพณีพระบรม ศพ และแม้วา่ เราเองจะมีความโศกเศร้าเสียใจ ไม่ตา่ งจากประชาชนชาวไทยทุกๆ คน แต่ เราก็คดิ ว่าจะต้องรักษาความปลอดภัยและ ดูแลประชาชนที่มาถวายบังคมพระบรม ศพให้ดีที่สุด จึงเกิดการจัดตั้งโครงการจิต อาสาโรงทานร่วมกับศิษย์เก่าอ�ำนวยศิลป์ ณ สนามหลวงมาตัง้ แต่วนั ที่ 14 ต.ค. 2559

โดยโครงการดังกล่าว แม้ไม่ได้ใช้งบประมาณ ของทางราชการ แต่ก็สามารถให้บริการแก่ พี่น้องประชาชนได้จนครบ 100 วัน

ส�ำหรับ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหา วชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาล ที่ 10 นั้น พระองค์ทรงมีพระเมตตาต่อกอง พลที่ 1 รักษาพระองค์มาโดยตลอดคือ ทรง พระกรุณาฯ ให้พล.1 รอ.เป็นหน่วยถวายงาน โดยใกล้ชดิ เรียกว่า หน่วยเฉพาะกิจ กองพล ที่ 1 รักษาพระองค์ มีก�ำลังพลส่วนหนึ่งเป็น ทั้งระดับผู้บัญชาการ ผู้บังคับกองพันและ นายทหาร จ่ า นายสิ บ เข้ า ไปถวายความ ปลอดภัยรวม 2 กรม 5 กองพัน เพราะ ฉะนั้น พระองค์จึงทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ต่อกองพลที่ 1 รอ. เป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งพระ องค์ทรงเป็นทหาร เป็นนักเรียนนายร้อยดัน ทรู น แล้ ว ก็ ท รงรั บ ราชการทหารมาตลอด เพราะฉะนั้ น พระองค์ ก็ จ ะทรงมี พ ระมหา กรุ ณ าธิ คุ ณ ต่ อ ทหารรั ก ษาพระองค์ เ ป็ น อย่างยิง่ ดังนัน้ ในส่วนของเราเองก็ขอยืนยัน ว่า พล.1 รอ.พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่าง เต็ ม ขี ด ความสามารถในการถวายความ ปลอดภัยถวายพระเกียรติเทิดทูนพระองค์ ท่านอย่างเต็มที่ ตราบจนดินกลบกาย ชีวาวาย มลายสิน้ ก็จะขอจงรักภักดีตลอดไป ขอพระ องค์ทรงพระเจริญยิง่ ยืนนาน พล.ต. ณรงค์ พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.พล.1 รอ.

ชัยสมรภูมิ 49

ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิพระ วิธีหามวลชนของ ตร.นนทบุรี ตั้งแต่เดินทางมารับต�ำแหน่งผู้บัญชาการต�ำรวจภูธร ภาค 1 พล.ต.ท.ชาญเวช เสสะเวช ผบช.ภ.1.ได้มอบ นโยบายให้กบ ั ข้าราชการต�ำรวจในสังกัดต�ำรวจภูธรภาค 1 ปฏิบตั ติ ามนโยบายของรัฐบาล และส�ำนักงานต�ำรวจ แห่งชาติอย่างเคร่งครัด

โดยมีสาระส�ำคัญก�ำชับให้ยดึ แนวคิด ส� ำ นึ ก ในหน้ า ที่ ข องผู ้ พิ ทั ก ษ์ สั น ติ ร าษฎร์ และมี จิ ต พร้ อ มช่ ว ยเหลื อ และให้ บ ริ ก าร หรือ police mind ซึง่ จะเป็นแนวทางในการ ปฏิ รู ป วั ฒ นธรรมการท� ำ งานและเป็ น เครื่องมือที่จะร่วมกันท�ำให้ประชาชนเกิด ความยอมรับ

มุ ่ ง เน้ น การป้ อ งกั น อาชญากรรม และลดอั ต ราการเกิ ด เหตุ อ าชญากรรม รวมทั้งให้บริการกับประชาชนได้อย่างเข้า ถึ ง มากยิ่ ง ขึ้ น และหากเกิ ด เหตุ ร ้ า ยต่ า งๆ ขึ้นต้องสามารถเข้าไประงับเหตุร้ายนั้นนั้น ได้ ทั น ที โ ดยไม่ เ ป็ น อั น ตรายต่ อ ชี วิ ต และ ทรัพย์สินของประชาชน

ในฐานะที่ “ผูก้ ำ� กับดี”้ พ.ต.อ.ปัณณ พัฒน์ เดชโชติพิสิฐ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ด�ำรงต�ำแหน่งอยู่ในพื้นที่มาตั้งแต่เป็นรอง ผกก.สส.สภ.เมืองนนทบุรี ตัง้ แต่ปี พ.ศ.2550 จวบจนตอนนี้รวมแล้วเป็นระยะเวลานาน ถึง 10 ปี ย่อมเข้าใจสภาพปัญหาและแนว ทางการป้องกันแก้ไขเป็นอย่างดี

50 ชัยสมรภูมิ

จนเป็นที่มาของโครงการน�ำเอาเจ้า หน้ า ที่ ต� ำ รวจไปเป็ น ลู ก ศิ ษ ย์ ก ้ น กุ ฏิ พ ระ ท� ำ หน้ า ที่ ช ่ ว ยเหลื อ ภิ ก ษุ ส งฆ์ ถื อ ข้ า วของ สั ม ภาระในช่ ว งเช้ า ตอนพระคุ ณ เจ้ า ออก บิณฑบาตโปรดญาติโยม เพื่อให้ต�ำรวจเป็น ตัวอย่างในการสืบทอดทะนุบ�ำรุงพระพุทธ ศาสนา ที่ส�ำคัญยังเป็นการแสวงหาความ ร่วมมือจากมวลชนในพื้นที่ไปด้วยในเวลา เดียวกัน...

พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ ให้ความเห็นว่า การแสวงหาความร่วมมือจากประชาชน ของเจ้าหน้าทีต่ ำ� รวจนัน้ มีวธิ กี ารทีส่ ามารถ ท�ำได้หลายรูปแบบ ซึ่งที่ผ่านมา สภ. เมือง นนทบุรี ก็มโี ครงการเชิงรุกเข้าหาประชาชน อยู่แล้วทั้งโครงการเยี่ยมเยียนผู้เสียหาย และโครงการหอพักสีขาว

ส่วนการน�ำเจ้าหน้าที่ต�ำรวจไปเดิน ตามพระสงฆ์บณ ิ ฑบาต ท�ำหน้าทีเ่ ป็นลูกศิษย์ วั ด ถื อ เป็ น การเข้ า ถึ ง มวลชนได้ ดี อี ก ทาง

หนึ่ง เพราะที่ผ่านมาเมื่อเจ้าหน้าที่ต�ำรวจ ปรากฏกายประชาชนส่วนใหญ่จะไม่กล้า เข้าหา การน�ำเจ้าหน้าที่ต�ำรวจไปเป็นผู้ช่วย เหลื อ พระจะท� ำ ให้ ภ าพลั ก ษณ์ ที่ ช าวบ้ า น มั ก มองต� ำ รวจแข็ ง กร้ า วดู อ ่ อ นโยนลง มากกว่าเดิม

ที่ส�ำคัญวัดก็ถือเป็นสถานที่ส�ำคัญ อี ก แห่ ง หนึ่ ง ซึ่ ง นอกจากจะเป็ น ศู น ย์ ร วม จิตใจของภาคประชาชนแล้ว ยังเป็นศูนย์ รวมข่ า วสารชั้ น เลิ ศ ของเจ้ า หน้ า ที่ ต� ำ รวจ ในการที่จะแสวงหาความร่วมมือจากภาค ประชาชนโดยน� ำ ข้ อ คิ ด เห็ น มาปรั บ ใช้ ใ น การท�ำงาน

ที่ ผ ่ า นมาข่ า วสารที่ ไ ด้ จ ากมวลชน ประชาชน และข่าวสารที่ได้จากภายในวัด สามารถน� ำ มาเป็ น แนวทางการป้ อ งกั น ปัญหาอาชญากรรม ป้องกันปัญหายาเสพติด และเป็นเบาะแสในการเข้าจับกุมคนร้าย รายส�ำคัญๆ ได้มากมายแล้ว และผมขอยืนยัน

ว่าการน�ำเจ้าหน้าที่ต�ำรวจไปเป็นลูกศิษย์ วัดนั้นไม่ใช่การไปสร้างภาพหรือมุ่งหวังจะ ไปขอข้าวก้นบาตรพระกิน แต่การแสวงหา ความร่วมมือจากมวลชนด้วยวิธีนี้เป็นวิธีที่ ได้ผลจริงๆ

อีกการท�ำงานเชิงรุกของเจ้าหน้าที่ ต�ำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี คือการใช้เสียง ตามสาย จากสถานีกระจายเสียงในพื้นที่ ที่ ผ่ า นมาตามช่ วงส�ำ คัญต่างๆ จะมีการขอ ชั่ ว โมงให้ ต� ำ รวจไปด� ำ เนิ น การประกาศ ข่าวสารส�ำคัญให้ชาวบ้านได้รับทราบ อาทิ ขอความร่วมมือให้ชาวบ้านช่วยสอดส่อง ดูแลกัน เตือนภัยให้ชาวบ้านทราบว่าช่วงไหน มี ค ดี อ ะไรที่ ต ้ อ งใช้ ค วามระมั ด ระวั ง เป็ น พิเศษ ล่าสุดมีการใช้สถานีกระจายเสียงการ ประกาศเตื อ นภั ย เหตุ เ พลิ ง ไหม้ ใ นช่ ว ง เทศกาลไหว้ เ จ้ า ตรุ ษ จี น ซึ่ ง ก็ ไ ด้ ผ ลดี ม าก เลยทีเดียว

ส่วนการสนองนโยบาย police mind ของท่าน ผบช.ภ.1 โรงพักเราก็มีแนวทาง การปลู ก ฝั ง ให้ ข ้ า ราชการต� ำ รวจบริ ก าร ประชาชนทุ ก ระดั บ ด้ ว ยรอยยิ้ ม และ จิตส�ำนึกมานานแล้ว เมื่อเห็นชาวบ้านขึ้น มาบนโรงพั ก ต้ อ งพร้ อ มเข้ า ให้ ค วามช่ ว ย เหลือด้วยความเต็มใจ รูจ้ กั สังเกตสังกา อาทิ

ถ้ า พบคนพิ ก ารเดิ น ทางมาแจ้ ง ความก็ ไ ม่ ควรต้องรอให้ผู้เสียหายขึ้นมาหา แต่จะให้ เจ้าหน้าที่ต�ำรวจเดินลงไปแจ้งความถึงที่ รถเลยทันที

อี ก เรื่ อ งที่ เ น้ น ย�้ ำ ให้ ก� ำ ลั ง พลทั้ ง 200 นาย ในสังกัด สภ.เมืองนนทบุรี ได้น�ำ ไปปฏิบัติคือ ขอให้ทุกนายเป็นต�ำรวจให้ได้ ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่จ�ำเป็นต้องรอให้เข้า เวรหรือสวมเครื่องแบบก่อนจึงจะเข้าช่วย เหลือประชาชนได้ ดังนั้นไม่ว่าจะผ่านไป ทางไหนหากประสบเหตุร้าย หรือพบเห็น ประชาชนต้องการความช่วยเหลือก็ขอให้ ด�ำเนินการได้ทันที

นอกจากนี้ด้วยความที่อยู่ในพื้นที่ มานาน ก็ทำ� ให้ทราบว่า ปัญหาทีจ่ ะละเลย ไม่ได้เลยคือเรือ่ งความสัมพันธ์ของข้าราชการ ต�ำรวจเก่าๆ กับคนในพืน้ ที่ ซึง่ มักจะมีความ สนิทสนมกันจนแทบจะกลายเป็นญาติพี่ น้อง และมักจะมองเรือ่ งความผิดเล็กๆ น้อยๆ เป็นปัญหาไม่สำ� คัญ ต�ำรวจรุน่ เก่าๆ ก็มกั จะ ไม่บังคับใช้กฎหมายกับคนคุ้นหน้าคุ้นตา

ทว่าหลังจากนี้จะท�ำอย่างนั้นไม่ได้ อีกต่อไป เพราะจะกลายเป็นการยุยงส่งเสริม ให้ ช าวบ้ า นกระท� ำ ความผิ ด ซ�้ ำ ซากจนถื อ เป็นเรื่องธรรมดา จึงเรียกต�ำรวจรุ่นเก่าๆ

ที่ฝังตัวอยู่ในพื้นที่นานๆ เข้ามาปรับทัศนคติ ว่ า หลั ง จากนี้ อ ย่ า ลื ม หน้ า ที่ ค วามเป็ น ผู ้ พิทักษ์สันติราษฎร์หากเจอผู้กระท� ำความ ผิดไม่ว่าคดีเล็กหรือใหญ่จะรู้จักมักคุ้นหรือ ไม่ก็ให้ด�ำเนินคดีเอาไว้ก่อน

ให้ตำ� รวจรุน่ เก่าๆ พึงระลึกเอาไว้เสมอ ว่าพวกพ้องใครๆ ก็มี และสามารถมีได้ แต่ ห้ามลืมว่าเราเป็นผู้พิทักษ์รักษากฎหมาย เรามี บ ทบาทที่ จ ะต้ องจั บ กุ ม ด� ำเนินคดีกับ โจรผู้ร้าย และให้ความยุติธรรมกับสุจริตชน คนดี

“การเป็นผู้บังคับบัญชาโดยเฉพาะ ผู้กำ� กับการสถานีตำ� รวจ ที่ถือเป็นหัวใจหลัก ของการปฏิ รู ป วั ฒ นธรรมการท� ำ งานของ เจ้าหน้าที่ต�ำรวจนั้น เรื่องส�ำคัญอีกอย่างคือ การมอบขวั ญ และก� ำ ลั ง ใจให้ เ จ้ า หน้ า ที่ ผู ้ ปฏิบัติงาน

ที่ผ่านมามีการคัดเลือกข้าราชการ ต�ำรวจ ที่ปฏิบัติงานด้วยความขยันขันแข็ง ซื่อสัตย์ สุจริต และเป็นมิตรกับประชาชน จ�ำนวน 30 นาย เข้ารับรางวัลต�ำรวจสีขาว ดาวคุณธรรม ตามนโยบายของส�ำนักงาน ต�ำรวจแห่งชาติไป 1 ชุด

นอกจากนี้ทางบริษัทไทยประกัน ชี วิ ต ยั ง มอบกรมธรรม์ ป ระกั น ชี วิ ต กลุ ่ ม ตามโครงการสวัสดิการข้าราชการต�ำรวจ ทุนประกันรวม 20,200,200 บาท ให้ตำ� รวจ สภ.เมืองนนทบุรี อีกด้วย ซึ่งกรมธรรม์ ดังกล่าวนี้จะมอบเงินสวัสดิการให้ครอบ ครัวเจ้าหน้าที่ตำ� รวจซึ่งเสียชีวิต เพิ่มเติม จากสวั ส ดิ ก ารที่ ส มควรได้ รั บ อี ก รายละ 100,000 บาท” ผูก้ ำ� กับ “ดี”้ กล่าวตบท้าย

ชัยสมรภูมิ 51

เสียงวิงวอนจากอดีตรั้วเหล็กของชาติ

พลฯ เพี้ยน ทองมา

ขอไฟฟ้าเข้าที่อยู่อาศัย หลังรอคอยมายาวนานกว่า 50 ปี

ในปี พ.ศ. 2484 ในขณะนั้น ได้เกิดสงครามโลกครั่งที่ 2 ขึ้น ชายไทยจ�ำนวนมากถูก เกณฑ์เข้าร่วมรบในกองทัพเป็นจ�ำนวนมาก บางคนไปรบกลับมาแขนขาด ขาขาด พิกลพิการ ทุพลภาพ บางรายเสียสติ และบางรายไม่อาจน�ำชีวิตกลับคืนสู่มาตุภูมิได้

เกลียวคลื่นแห่งกาลเวลา พัดพาผู้คนและวีรชนไปล้มตาย ดั่งแสงสว่างวาบแล้วจางหาย อนิจจาวีรกรรมไร้ความหมาย สรรพชีวิตช่างเปลี่ยวเปล่าดาย วาระสุดท้ายดอกไม้สีแดงสด ขอเพียงแสงไฟฟ้าบรรจงจิต

เมื่ออายุครบ 21 ปี ตาเพี้ยน หรือ นายเพี้ยน ทองมา ได้เข้ารับการคัดเลือกเกณฑ์ ทหาร ที่ อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งในอดีต จ.ตรังเคยมี อ. อยู่ 5 อ�ำเภอ ได้แก่ อ.กันตัง อ.เมือง อ.ห้วยยอด อ.สิเกา อ.ปะเหลียน ทุก อ�ำเภอ จะต้องมาคัดเลือกที่ อ.กันตัง โดยคุณตาได้รับ การคัดเลือกเป็นทหารบก อยู่ ร.พัน 40 กองร้อย 4 และประจ�ำการที่แรก ที่สนามบินตรัง โดยมี พล.ท.เชิด เอกสิง เป็นผูบ้ งั คับบัญชา ต่อมาพลทหารเพีย้ นได้ยา้ ยไปประจ�ำการที่ บ้าน บางมั่ว จ.ภูเก็ต และย้ายไปประจ�ำการที่สนามบินไม้ขาว กระทั่งย้ายกลับมาประจ�ำการที่เขา โต๊ะแซ่ จ.ภูเก็ตอีกครั้ง

52 ชัยสมรภูมิ

จากนั้ น ได้ ย ้ า ยไปที่ บ้ า นเหล่ า ยู ง จ.พังงา อยูต่ ดิ กับบ้านท่านุน่ ซึง่ ใกล้กบั สะพาน สารสิน และย้ายไปประจ�ำการครั้งสุดท้ายที่ บ้านโดหอม จ.พัทลุง กระทั่งได้ปลดประจ�ำ การในการเป็นทหารที่ จ.พัทลุง ในปี พ.ศ.

2488 รวมแล้วได้รับราชการทหารเป็นเวลา 5 ปี

ในระหว่างที่เป็นรั้วของชาติ พลฯ เพีย้ น ทองมา ได้รบั หน้าทีเ่ ป็น พล ตรวจการ หรือ พลฯ ลาดตระเวน โดยจะต้องคอย ตรวจการและรายงานตอนข้ า ศึ ก มาจะ ต้องรายงานและบอกระยะทางของข้าศึก ในขณะนั้ น ทหารญี่ ปุ ่ น ได้ เ ดิ น ทางผ่ า น ประเทศไทยเพื่อที่จะเดินทางไปตีอังกฤษ โดยที่ทหารของไทยไม่ทราบว่ารัฐบาลไทย ได้ เ ปิ ด ทางอนุ ญ าตให้ ท หารญี่ ปุ ่ น ผ่ า นได้ ทหารไทยจึงได้ไปสู้รบกับทหารญี่ปุ่นท�ำให้ ได้เกิดสงครามขึน้ มาในสมัย ป.พิบลู สงคราม

ปัจจุบนั พลฯ เพีย้ น หรือ คุณตาเพีย้ น มีบัตรทหารผ่านศึก ชั้นที่ 4 ซึ่งในทุกๆ ปี คุณตาจะเข้าร่วมกิจกรรมวันระลึกทหารผ่าน ศึกทุกวันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปี ทีโ่ รงเรียน

ประชาวิทยา อ.กันตัง จ.ตรังแต่ตอนนี้ได้ขาดการเข้าร่วมมาเป็นเวลา 2 ปีแล้วเพราะมีความ ชรามากแล้วจึงไม่สามารถไปร่วมประชุมได้

ปัจจุบันคุณตาได้อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 88/1 ม.7 ต.บ่อน�ำ้ ร้อน อ.กันตัง จ.ตรัง มาเป็น เวลา 50 ปีแล้ว โดยอยู่อาศัยมาตั้งแต่เมื่อตอนที่ถนนหนทางยังเป็นทางโคลนเล็กๆ ลึก ประมาณหัวเข่าและได้ปักหลักสร้างบ้านที่อยู่อาศัยอยู่เรื่อยมาจนกระทั่งถึงในปัจจุบันที่ ณ ตอนนี้ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ และเมื่อท�ำเรื่องขอไฟฟ้าไปหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ก็ได้รับ ค�ำตอบมาว่าที่ดินของคุณตาติดกับอุทยานจึงไม่มีการเซ็นรับรองให้

แต่ทว่าในตอนที่คุณตาเข้ามาอยู่นั้นอุทยานยังไม่มาตั้ง ณ ที่นี่และได้มาประกาศ ในภายหลังว่าพืน้ ที่ ทีค่ ณ ุ ตาอาศัยอยูเ่ ป็นพืน้ ทีอ่ ทุ ยาน แม้จะเป็นผูม้ าอยูอ่ าศัยก่อนก็ตาม

อย่างไรก็ตาม พลฯ เพี้ยน อดีตรั้วเหล็กของชาติระบุกับทีมข่าวว่า ในตอนนี้ยังไม่มี ไฟฟ้าใช้ เดือดร้อนเป็นอย่างมากตอนกลางคืนมืดมากและมองไม่เห็นเวลาเข้าห้องน�้ำก็มืด และลูกหลานทีเ่ รียนหนังสือเวลาจะท�ำการบ้านอ่านหนังสือก็มดื เวลารีดผ้าจะต้องก่อไฟถ่าน และน�ำใส่ในเตาเพือ่ รีดผ้า ลูกหลานบางคนก็เรียนจบรับปริญญาไปแล้วจะต้องล�ำบากเพราะ ไม่มีไฟฟ้าใช้และยังมีลูกหลานที่ยังเรียนอยู่เป็นจ�ำนวนมากที่ต้องการใช้ไฟฟ้า

“จึงขอวิงวอนให้หน่วยงานรัฐและทุกภาคส่วนทีเ่ กีย่ วข้อง ช่วยกรุณาโปรดเห็นใจและ ด�ำเนินเรื่องให้ได้มีไฟฟ้าใช้เหมือนคนอื่นเขา เพราะรอมานานมากแล้วที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ฝากขอวิงวอนผูใ้ หญ่ทเี่ กีย่ วข้องโปรดเห็นใจ โดยเฉพาะเด็กๆ ในหมูบ่ า้ นยังต้องใช้ตะเกียง ท�ำการบ้านและอ่านหนังสือ ส่วนเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าทันสมัยที่เด็กในเมืองใช้กันคงไม่ ต้องพูดถึง ตาเพี้ยนกล่าวฝากทีมงานชัยสมรภูมิ...ด้วยเสียงที่สั่นเครือ”

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ นายเพี้ยน ทองมา

อายุ 96 ปี เกิดเมื่อ วันจันทร์ เดือนมีนาคม พ.ศ. 2463 ปีวอก

บิดาชื่อ นายแคว็ด ทองมา มารดาชื่อ นางกลับ ทองมา

มีพี่น้องรวมกัน 5 คน

ในอดีตคุณตาได้อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 72 ม.4 ต. เกาะเปียะ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เมื่ออดีต คุณตาได้ศึกษาหนังสืออยู่ที่วัดโคกม่วง (วัดอัมพวัน) โดยมีพระอาจารย์ (พ่อท่านดิษฐ์) เป็นผู้สอน

คุณตาเพี้ยน ทองมาได้สมรถกับนางลิมะ ทองมา สกุลเดิม รักณรงค์

มีบุตรรวมกัน 5 คน และปัจจุบันคุณตาเพี้ยนได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านเลขที่ 88/1 ม.7 บ้านไสหนุน ต. บ่อน�้ำร้อน อ.กันตัง จ. ตรัง มาเป็นเวลา 50 ปีแล้ว

ชัยสมรภูมิ 53

เซ็กส์

กับ

วันวาเลนไทน์

โดย...ช.ภาติณธุ

มีขอ้ มูลจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมัน ่ คงมนุษย์วา่ วัยรุน ่ จ�ำนวน ๕.๙หมืน ่ ราย พบแม่วยั รุน ่ จ�ำนวน ๓.๘ พันราย เข้ารับการจดทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ค่าเลี้ยงดูบุตร ทางกระทรวงยังได้แสดงความห่วงใยถึงคุณภาพเด็ก ที่จะเกิดและยังมีนโยบายที่จะเข้ามาดูแล ในกรณีที่แม่วัยรุ่นไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรได้ ด้วยการหาแม่บุญธรรม และครอบครัวที่อบอุ่นให้ ซึ่งหากจริงตามนี้ ก็นับว่าเป็นเรื่องดีที่รัฐเข้ามาสอดส่องดูแล

เรามองว่าปัญหาเด็กวัยรุน่ การมีเซ็กส์ ก่อนวัยอันควร การตัง้ ครรภ์โดยไม่ตงั้ ใจ การ ถูกดุด่าว่ากล่าวจากพ่อแม่และผู้ปกครอง ตลอดจนผู้ใหญ่ที่มองปัญหาเหล่านี้ด้วยค่า นิยมทางวัฒนธรรมเก่าๆ การกีดกันการคบหา แบบเข้มงวดส่งผลให้เด็กแสดงพฤติกรรม ทีห่ า่ งสายตาและไม่กล้าขอค�ำปรึกษา ปัญหา เกี่ยวกับการสอนเพศศึกษาแบบไม่จริงจัง จากโรงเรียน ยังมองว่าเป็นการฝืนวัฒนธรรม อันดีงาม หลายคนมองว่า การสอนเพศศึกษา เท่ากับเป็นการยัว่ ยุในทางอ้อม ปัญหาคลอด แล้วทิง้ ปัญหาเหล่านีเ้ รามองว่าเป็นโรคเรือ้ รัง ทางวัฒนธรรมที่จ�ำเป็นต้องปรับแก้

เรื่องค่านิยมทางวัฒนธรรมและ กระแสของสังคมทีเ่ หยียดหยามซ�ำ้ เติม ที่ มักมองว่าขัดกับจารีตอันดีงาม ดังนัน้ การ ทีเ่ ด็กจะเริ่มคบหา ระหว่างการคบหาและ

54 ชัยสมรภูมิ

หากมีปัญหาตั้งท้องขึ้นมา ทัศนะของผู้ใหญ่ ส่วนมากแล้วจะมองลบ มองแบบรับไม่ได้ ทัศนะ เหล่านีเ้ ป็นภาพรวมทางสังคม ทีท่ ำ� ร้ายเด็กๆ มามากต่อมากแล้ว โดยที่เรามองเป็นความ ผิดของเด็กอยู่ฝ่ายเดียว

เรือ่ งเพศ โดยธรรมชาติแล้ว เมือ่ ถึงวัยอันควรจะมีพฤติกรรมทีเ่ ป็นทัง้ สิง่ เร้า และแรงขับ เด็กผูห้ ญิงก็จะต้องมีการแสดง ออกด้วยการแต่งกาย มีการสร้างเสน่ห์เชิง เร้า เด็กผูช้ ายก็จะมีแรงขับโดยธรรมชาติทำ� ให้วิ่งเข้า เป็นเสมือนขั้วลบขั้วบวกที่จ�ำต้อง วิง่ เข้าหากัน ก็จะท�ำอย่างไร ในเมือ่ ธรรมชาติ สร้างมาให้เป็นอย่างนี้ นี่คือหลักธรรมชาติที่ สังคมผู้ปกครองต้องยอมรับ เราจะมองแต่ จารีตและวัฒนธรรมที่อ่อนพลัง ไม่สามารถ ทีจ่ ะเป็นภูมคิ มุ้ กันได้มากนัก เมื่อเรายอมรับ สิง่ อันเป็นเหตุปจั จัยเหล่านี้ มันแสดงให้เห็นว่า

เราต้องแก้ปัญหาและมุมมองอีกหลายเรื่อง ในเวลาเดียวกัน อาทิ

๑. ระบบการศึกษา ควรต้องมองเรือ่ ง เพศให้เป็นทั้งศาสตร์และครรลองที่ดีงาม ด้วยการสอนความรู้อย่างไม่ปิดบัง ให้ความ รูอ้ ย่างตรงไปตรงมา สอนให้รแู้ ละมีสำ� นึกซึง่ ความเข้าใจในธรรมชาติทั้งของผู้ชายและ ของผู้หญิง ปลูกฝังด้วยการสร้างค่านิยม ความดีงามและให้รู้มารยาทระหว่างเพศ สร้างส�ำนึกเคารพในสิทธิแห่งตนระหว่าง ชายหญิงที่จะคบหากันด้วยการรู้จักเคารพ ในสิทธิ นับถือในระบบครอบครัว รูจ้ กั เคารพ ในสถาบันครอบครัว เป็นต้น

๒. ระบบครอบครัว ควรต้องรู้ถึง ธรรมชาติของเด็กวัยเจริญพันธุ์ เข้าใจแรงขับ ของเด็ก เปิดใจรับฟังด้วยเหตุผล สอนลูกชาย ให้รจู้ กั การให้เกียรติลกู ผูห้ ญิง ให้รจู้ กั การเป็น

สุภาพบุรษุ เคารพให้ความส�ำคัญกับสถาบันครอบครัวผูอ้ นื่ ส่วนลูกผู้ หญิงสอนให้รจู้ กั รักเกียรติของตน สอนการวางตัว มารยาทอันดีงาม เป็นต้น

๓. ระบบสือ่ สือ่ ต่างๆ รัฐควรมีมาตรการให้ความรูอ้ ย่างตรง ไปตรงมา งดพฤติกรรมทีเ่ ป็นการดูถกู ผูห้ ญิง หรืองดแสดงพฤติกรรม หญิงแบบเพศยา ยัว่ ยวนแสดงถึงความไร้คณ ุ ค่าของความเป็นสาว

๔. การปรับค่านิยมการผลิตซ�้ำทางสังคม ปัจจุบันไม่มีใคร ไม่ผา่ นระบบการศึกษา ดังนัน้ การสร้างความเข้าใจหรือการเรียนรูท้ าง วัฒนธรรมที่ไหลผ่านมาในรูปแบบต่างๆ ที่ไม่สอดคล้องกับคุณค่าที่ สอดรับกับระบบครอบครัว สังคมหรือจารีตบางประการ ระบบการ ศึกษาควรเปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับวัฒนธรรม เปรียบเทียบ สร้างวิสยั ทัศน์ ลดความตระหนี่ทางความคิดซึ่งกันและ กันอย่างเปิดใจ

๕. ศาสนา โดยเฉพาะศาสนาพุทธมีการสอนให้รจู้ กั การต่อสูก้ บั กิเลส การฟอกจิตอย่างเป็นระบบ สอนการละวางเรือ่ งรูป รส กลิน่ เสียง และผัสสะ เกีย่ วกับรูป เวทนา สัญญา สังขาร ดังความตอนหนึง่ ใน พระสูตรที่ว่า “วิญญาณ (จิตหรือ มโน) ซึ่งเข้าถือเอารูป (เวทนา สัญญา สังขาร) ตั้งอยู่ ก็ตั้งอยู่ได้ เป็นวิญญาณที่มีรูปเป็นอารมณ์ มี รูปเป็นที่ตั้งอาศัย มีนันทิเป็นที่เข้าไปซ่องเสพ ก็ถึงความเจริญงอก งามไพบูรณ์ได้”

ในศาสนาสอนในเรือ่ งเหตุและผลอย่างเป็นระบบ เช่น “เพราะ มีสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงมี” สิ่งนี้ๆๆ คือ

เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขารทั้งหลาย

(กายสังขาร วจีสังขาร จิตสังขาร)

เพราะมีสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ

เพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนาม-รูป

เพราะมีนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ

เพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ

เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา

เพราะมีเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา

เพราะมีตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน

เพราะมีอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ

เพราะมีภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ

เพราะมีชาติเป็นปัจจัย ชรา มรณะ ความแห้งใจ คร�่ำครวญ ไม่สบายกาย

ไม่สบายใจ ความคับแค้นใจ ทัง้ หลายจึงเกิดขึน้ ครบถ้วน : ความ เกิดขึน้ พร้อม

แห่งกองทุกข์ทงั้ สิน้ นี้ ย่อมมีดว้ ยอาการอย่างนี้....

เรามีหลักศาสนาที่จะให้เด็กได้เจริญปัญญา ความหมายซึ้ง เป็นชั้น

โลกุตระ เอามาสอนกันในระบบการศึกษาบ้างซิครับ

ชัยสมรภูมิ 55

ความสัมพันธ์ไทย-พม่า

การเดินทางเยือนราชอาณาจักรไทย (ไทย) อย่างเป็นทางการ ของนางออง ซาน ซู จี ทีป ่ รึกษาแห่งรัฐแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า(พม่า) ในฐานะ แขกของรัฐบาลไทย ตามค�ำเชิญของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก รัฐมนตรี ระหว่างวันที่ ๒๓ – ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๙ ที่ผ่านมานั้น ทั้งสอง ฝ่ายได้หยิบยกประเด็นส�ำคัญขึ้นหารือ ได้แก่ ความร่วมมือด้านแรงงาน ความร่วมมือด้านการพัฒนาและความเชื่อมโยง เป็นต้น

56 ชัยสมรภูมิ

โดย...ธรรมชาติ 455

จากนั้นได้มีการลงนามบันทึกความ เข้าใจ ว่าด้วยความร่วม มือด้านแรงงาน ความ ตกลงว่าด้วยการจ้างแรงงาน และความตกลง ว่าด้วยการข้ามแดน เพื่อประโยชน์ร่วมกัน ของภาคเอกชนไทยและแรงงานพม่ า ที่ ท�ำงานในไทยด้วย

ในทางการเมืองนั้น นางออง ซาน ฯ เป็ น ประธานพรรคสั น นิ บ าตแห่ ง ชาติ เพือ่ ประชา ธิปไตย (National League for Democracy หรือ NLD) และหลังการเลือก ตัง้ ในพม่าทีผ่ า่ นมา พรรค NLD ได้ครองเสียง ข้างมาก และจัดตัง้ รัฐบาล โดยมีประธานาธิบดี จากพรรคนีเ้ ป็นผูบ้ ริหารประเทศ แต่นางออง ซานฯ ไม่สามารถเป็นประมุขสูงสุดของพม่า ได้ เพราะมีกฎหมายห้ามไว้กรณีการสมรสกับ ชาวต่างชาติ นางจึงเป็นได้เพียงรัฐมนตรีอกี ๒ ต�ำแหน่งคือ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการ ต่างประเทศ และรัฐมนตรีประจ�ำท�ำเนียบ ประธานาธิบดี

นายกรัฐมนตรี ได้ให้การต้อนรับนาง ออง ซาน ฯ ทีท่ ำ� เนียบรัฐบาล เมือ่ วันที่ ๒๔ มิถนุ ายน พร้อมยืนยันความสัมพันธ์ในฐานะ ประเทศเพือ่ นบ้านทีม่ คี วามใกล้ชดิ และย�ำ้ ว่า ไทยพร้อมที่จะร่วมมือกับพม่าในทุกๆ ด้าน เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของประชาชนทั้ง สองประเทศ และให้คำ� มัน่ ว่าจะดูแลแรงงาน พม่าที่เข้ามาท�ำงาน ซึ่งนางออง ซาน ฯ ได้ แสดงความขอบคุ ณ รั ฐ บาลไทยที่ ใ ห้ ก าร คุ้มครองและดูแลแรงงานพม่าเป็นอย่างดี ในด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองเห็นพ้องที่จะเพิ่ม มูลค่าการค้าการลงทุน จะส่งเสริมให้ภาค เอกชนไทยเข้ า ไปท� ำธุ รกิ จ ในพม่ า อย่า งมี ความรับผิดชอบ โปร่งใส และเน้นความยัง่ ยืน ซึ่งนางออง ซานฯ กล่าวว่า พม่าพร้อมที่จะ ดูแลนักธุรกิจไทยที่เข้าไปลงทุนในพม่าด้วย และเห็ น ด้ ว ยกั บ ไทยในการพั ฒ นาพื้ น ที่ เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ด้านความร่วมมือ ภายใต้กรอบอาเซียน เชื่อว่าบทบาทของ ประชาคมอาเซียนมีความส�ำคัญอย่างยิ่ง

จะต้องมีความแข็งแกร่งร่วมกันในฐานะมิตรแท้ที่มีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน

ก่อนหน้าทีจ่ ะมีการพบปะกันระหว่างนายกรัฐมนตรีกบั นางออง ซาน ฯ ๑ วัน คือวันที่ ๒๓ มิถนุ ายน นางออง ซาน ฯ ได้เดินทางไปจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพทิ กั ษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผูใ้ ห้การต้อนรับ เพือ่ พบปะกับแรงงานชาวพม่า และได้กล่าวว่า เมือ่ มา อยู่ในประเทศไทยต้องเคารพกฎหมายไทย ส�ำหรับในวันที่ ๒๕ มิถุนายน นางออง ซานฯ ได้เดินทางไปพื้นที่พักพิงชั่วคราวส�ำหรับผู้หนีภัยจากการสู้รบชาวพม่า ที่บ้านถ�ำ้ หิน จังหวัด ราชบุรี ในช่วงเช้าและเดินทางกลับประเทศ พม่า เวลา ๑๗.๓๐ น. วันเดียวกัน สรุปผลการ เดินทางมาไทยครั้งนี้ประสบความส�ำเร็จเรียบร้อยด้วยดี

ทราบมาว่า มีประชากรของประเทศเพื่อนบ้านของไทย ได้เข้ามาท�ำงานในรูปแบบ ต่างๆ ไม่ตำ�่ กว่า ๓ ประเทศ ส่วนใหญ่จะเข้ามาท�ำงานเป็นลูกมือ ในการใช้แรงงานให้นายจ้าง คนไทย นอกเหนือจากพม่าแล้ว ยังมีราชอาณาจักรกัมพูชา (กัมพูชาหรือเขมร) และสาธารณรัฐ

ประชาธิปไตยประชาชนลาว (ลาว) ด้วย แรงงาน ที่ท�ำ เช่น งานก่อสร้าง ประมง เป็นต้น ซึ่ง นับวันที่คนไทยจะท�ำงานประเภทนี้น้อยลง จึงจ�ำเป็นต้องมีแรงงานจากต่างชาติจ�ำนวน หนึง่ เหมือนกับทีส่ มัยหนึง่ ทีม่ คี นไทยออกไป ท�ำงานแม่บ้านที่ฮ่องกง ซึ่งในสมัยนั้นจะมี รายได้ดกี ว่าท�ำงานในไทย จึงมีเงินส่ง กลับ มาให้ครอบครัว แต่ปจั จุบนั คงจะน้อยลงหรือ ไม่มีเลยก็ได้ ในท�ำนองเดียวกัน

อนาคตของชาวต่างชาติที่มาท�ำงาน ในเมืองไทยอาจลดลง และคงจะหมดไปใน ที่สุด ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นคนไทยจะต้องช่วย ตัวเองและท�ำทุกอย่างให้ได้ เช่น การท�ำงาน ในบ้าน ซึง่ ส่วนใหญ่จะจ้างคนต่างชาติทำ� งาน และคนไทยที่เคยท�ำงานประเภทนี้(เรียกว่า คนใช้) คงจะหมดไป เหมือนในต่างประเทศ ที่เจริญแล้ว ทั้งนี้ เพราะค่าจ้างจะสูงมาก จึงต้องเริ่มปรับทัศนคติและวิธีการท�ำงาน เสียใหม่ ระบบ “เจ้าขุนมูลนาย” จะต้องลด น้อยลงหรือหมดไป และอาจจะถือว่าเป็นการ ปฏิรูปประเทศอีกด้านหนึ่งก็ได้

คนต่ า งชาติ ที่ เ ข้ า มาท� ำ งานนั้ น หน่วยราชการที่รับผิดชอบ เช่น กระทรวง แรงงาน เป็นต้น จะต้องก�ำกับดูแลในทุกด้าน

ชัยสมรภูมิ 57

เช่น การก�ำหนดจ�ำนวนคน ประเภทแรงงาน ฯลฯ ด้วย ทีส่ ำ� คัญคือต้องไม่กระทบกับความ มั่นคงปลอดภัยของประเทศ และหน่วยงาน เช่น สภาความมัน่ คงแห่งชาติ ส�ำนักข่าวกรอง แห่งชาติ หน่วยงานข่าวของกระทรวงกลาโหม ฯลฯ จะต้องเข้ามาดูแลอย่างจริงจัง ท�ำประวัติ ของแต่ละคน และให้เพ่งเล็งบุคคลทีน่ า่ สงสัย เพราะอาจเป็นไปได้ว่า คนต่างชาติที่เข้ามา ท�ำงานในไทยนั้น มีบางกลุ่มหรือบางคนที่ รัฐบาลประเทศนัน้ ๆ มีสว่ นรูเ้ ห็นในการส่งมา ให้ท�ำหน้าที่อื่น เช่น การหาข่าวในลักษณะ ของ “สายลับ” เหมือนสมัยหนึ่ง ก่อนเกิด สงคราม โลกครัง้ ที่ ๒ มีชาวญีป่ นุ่ เข้ามาท�ำงาน ในไทยจนผิดสังเกต เมือ่ ญีป่ นุ่ ประกาศสงคราม คนญี่ปุ่นเหล่านั้น ก็ได้แสดงตนเป็นทหารก็ มีให้เห็นมาแล้ว และในอดีตทีผ่ า่ นมาไม่นานนัก สมัยมีการชุมนุมประท้วงรัฐบาล จะพบว่าใน กลุ ่ ม ผู ้ ชุ ม นุ มนั้ น จะมี ช าวต่างชาติเ ข้ามา

58 ชัยสมรภูมิ

ร่วมด้วย ซึง่ อาจจะมีการจ้างวานกันเพือ่ เป็นการ เพิม่ จ�ำนวนคนประท้วงให้ดมู ากขึน้ นีก่ เ็ ป็นอีก เรือ่ งหนึง่ จึงถือว่าเป็นการบ่อนท�ำลายความ มัน่ คงปลอดภัยของประเทศอีกทางหนึง่

ประเทศพม่าในประวัตศิ าสตร์ แม้จะ เคยเป็นศัตรูกบั ไทย และมีการสงครามเกิดขึน้ หลายครัง้ เป็นระยะเวลาไม่ตำ�่ กว่า ๒๐๐ ปี แต่

ปัจจุบันได้เป็นมิตรที่ดีต่อกัน ส�ำหรับในพม่า เองยังมีปัญหาเกี่ยวกับชนกลุ่มน้อย (มอญ กะเหรี่ยง ไทยใหญ่ ฯลฯ) ที่ยังคงต่อต้าน รัฐบาลพม่า เมือ่ มีการปราบปราม ก็จะหนีเข้า มาในเขตไทย นอกจากจะเป็ น ภาระของ ประเทศแล้ว อาจเป็นทีร่ ะแวงสงสัยของพม่า ด้วย พม่าจึงต้องพยายามหาข่าวเกี่ยวกับ เรือ่ งนี้ รวมถึงเรือ่ งอืน่ ๆ เช่น เรือ่ งเขตแดนที่ มีบางพืน้ ทีย่ งั ตกลงกันไม่ได้เป็นต้น ดังนัน้ หาก จะสมมุติตัวเลขง่ายๆ ว่าหากมีชาวต่างชาติ ๑,๐๐๐ คนเข้ามาท�ำงาน แล้วมี ๑ คนเข้า มาท�ำงานด้านความมั่นคง(สายลับ)หรือคิด เป็นร้อยละ ๐.๑ (๐.๑ เปอร์เซ็นต์) หากเข้า มาท�ำงานประมาณ ๑,๐๐๐,๐๐๐ คน ย่อมมีผู้ แฝงตัวเข้ามาท�ำงาน ในลักษณะสายลับถึง ๑,๐๐๐ คน นับว่าไม่น้อยเลย

การที่มีคนต่างชาติเข้ามาท�ำงานใน ประเทศใดก็ตามถือเป็นเรือ่ งปกติ และปัจจุบนั โลกได้พัฒนาไปไกล โดยเฉพาะเทคโนโลยี ด้านการสื่อสาร ซึ่งข้อมูลพื้นที่ของประเทศ ต่างๆ รวมทั้งไทย บางบริษัทสามารถเข้าถึง ได้อย่างละเอียดในทุกพื้นที่ และหากข้อมูล นั้ น น� ำ มาใช้ ร ่ ว มกั บ งานด้ า นความมั่ น คง ปลอดภัย ก็นับว่าเป็นอันตรายต่อประเทศ

ครั บ นั่ น ก็ อ ยู ่ ที่ ว ่ า คนไทยจะตระ หนักและให้ความส�ำคัญในเรือ่ งนีม้ ากน้อย แค่ไหนอย่าถือว่า “ธุระไม่ใช่” การท�ำตัวเป็น พลเมืองดี การท�ำงานด้วยความถูกต้อง ซือ่ สัตย์สจุ ริตอยูใ่ นกรอบของกฎหมาย คอย เป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าทีใ่ นบางโอกาส ก็นบั ว่าเพียงพอทีจ่ ะช่วยเหลือประเทศชาติแล้ว

ทหารมีไว้ท�ำไม?... โดย...หยก อาร์ม่ี

“ท�ำไมต้องมีทหาร”

หนึง่ ในภารกิจของทหารทีต ่ อ้ งมีไว้... อุทกภัยเกิดขึน ้ ทางภาคใต้ซงึ่ รุนแรงกว่าทุกครัง้ ทีผ่ า่ นมา ในความรับ ผิดชอบของกองทัพภาคที่ ๔ และผูว้ า่ ราชการจังหวัด ใน ๑๔ จังหวัด ได้สร้างความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงต่อชีวติ ทรัพย์สน ิ อาคารบ้านเรือน เส้นทางคมนาคม พืน ้ ทีเ่ กษตรกรรม ฯลฯ ขณะทีเ่ ขียนข่าวอยูน ่ ี้ (๙ มกราคม ๒๕๖๐) ยังคงส่งผลกระทบในเกือบทุกจังหวัดของภาคใต้ และได้เริ่มคลี่ลายลงบ้าง มีประชาชนเสียชีวิตนับสิบรายและ สูญหายจ�ำนวนหนึง่ ซึง่ ทางรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทีน่ ำ� โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ระดมสรรพก�ำลังเพื่อเร่งช่วยเหลือประชาชน และซ่อมแซมสิ่ง สาธารณูปโภคอย่างเร่งด่วน เพื่อให้สถานการณ์กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

ภาคใต้คือด้ามขวานทองของไทย ที่ยังคงเกิดเหตุการณ์ไม่สงบใน ๓ จังหวัด ทางภาคใต้ (ยะลา นราธิวาส ปัตตานี) อยู่ จนถึงปัจจุบนั อุทกภัยที่เกิดขึ้นจึงเหมือนการ เพิ่มความทุกข์ยากให้เกิดขึ้นกับประชาชน มากขึ้น เป็นเรื่องที่น่าคิดว่า สภาพลมฟ้า อากาศที่เกิดขึ้นในภาคใต้ จะแตกต่างจาก ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ ภาคกลาง ซึ่งทั้ง ๓ ภาคนี้ สภาพภูมิอากาศ ตามระยะเวลาของแต่ละฤดูจะใกล้เคียงกัน แต่ภาคใต้ในห้วงเวลานี้ นอกจากจะหนาวไม่ มากแล้ว ยังมีฝนตกเกือบตลอดเวลา หาก ฝนไม่ตกอากาศจะร้อนคือมีแสงแดดให้เห็น จึงมีคนพูดเกี่ยวกับภูมิอากาศในภาคใต้คือ “ฝนแปดแดดสี่” ซึ่งหมายถึงใน ๑ ปี (๑๒

เดือน) จะเป็นฤดูฝน ๘ เดือน และฤดูร้อน ๔ เดือน

ในส่วนของการช่วยเหลือจากกอง ทัพหรือทหาร ซึ่งทุกเหล่าทัพได้ด�ำเนินการ เช่น กองทัพบกโดยกองทัพภาคที่ ๔ ได้นำ� อาหารขึ้ น เฮลิ ค อปเตอร์ ( ฮ.)แจกจ่ า ยให้ ประชาชนที่ถูกตัดขาด กองทัพเรือ ได้ส่ง ก�ำลังพลและเรือหลวงอ่างทอง ซึ่งเป็นเรือ ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ พร้อม ฮ. และเรือ ผลักดันน�ำ้ จ�ำนวน ๕๐ ล�ำพร้อมอุปกรณ์ เพือ่ ช่วยผูป้ ระสบภัย โดยจะปักหลักเร่งระบายน�ำ้ ในจัง หวั ดที่ เกิ ดวิ ก ฤตสุ ด ได้ แ ก่ จั ง หวั ด นครศรีธรรมราช โดยเรือผลักดันน�ำ้ นีจ้ ะดัน น�้ำลงสู่ทะเลได้รวดเร็วขึ้น และจะด�ำเนิน การจนกว่ า สถานการณ์ น�้ ำ จะคลี่ ค ลาย

ส�ำหรับหน่วยงานราชการอื่นๆ ที่ให้การช่วย เหลือได้แก่ กระทรวงมหาดไทย โดยพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง มหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้ออกประกาศ

ชัยสมรภูมิ 59

ยกระดับการจัดการสาธารณภัย เป็นขนาด ใหญ่ระดับ ๓ และระดมทุกฝ่ายเข้าช่วยเหลือ ประชาชน โดยการตัง้ ศูนย์ฯ ทีจ่ งั หวัดสุราษฎร์ ธานี และจังหวัดสงขลา จนกว่าสถานการณ์ จะกลับคืนสู่สภาวะปกติ ส่วนทางส�ำนักงาน ต�ำรวจแห่งชาติ ได้ระดมเพือ่ จัดหาและจัดซือ้ เรือท้องแบน ๑๕๐ ล�ำลงพื้นที่

แจกจ่ายไปตามจังหวัดที่เกิดวิกฤต และให้ต�ำรวจเป็นตัวกลาง เปิดช่องทางรับ บริจาค เรือท้องแบนและสิง่ ของ เช่น เครือ่ ง อุปโภค อาหารแห้ง ฯลฯ เพื่อช่วยเหลือ ประชาชน ในห้วงเวลานี้ด้วย

กองทัพบกนัน้ จะเป็นหน่วยงานหลัก เพราะมี ก� ำลั ง ทหารกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ ได้เข้าไปช่วยเหลือประชาชนโดยตลอด เช่ น กรณี น�้ ำ ท่ ว มในอ� ำ เภอสิ ช ล จั ง หวั ด นครศรีธรรมราช หน่วยทหารจากค่ายฝึกรบ พิเศษที่ ๔ ได้นำ� ก�ำลังเข้าไปช่วยเหลือประชาชน ทีน่ ำ�้ ป่าไหลหลาก ท�ำให้ดนิ ถล่ม ทับยานพาหนะ และประชาชนได้รบั บาดเจ็บ เป็นต้น ซึง่ ถือว่า เป็นภารกิจหนึ่งของทหาร ซึ่งมีความพร้อม ทั้งก�ำลังพลและอุปกรณ์ และก็เป็นไปตาม รัฐธรรมนูญเกือบทุกฉบับ ที่นอกเหนือจาก ภารกิจในการรักษาเอกราช อธิปไตย ความ มั่นคงของรัฐ สถาบันพระมหากษัตริย์ ผล ประโยชน์ของชาติ การพัฒนาประเทศ ฯลฯ แล้ว การช่วยเหลือประชาชน ก็เป็นส่วนหนึง่ ใน การเสริมสร้างความมั่นคง ให้เกิดขึ้นด้วย

60 ชัยสมรภูมิ

และทุกประเทศในโลกจึงต้องมีกำ� ลังทหารไว้ ซึง่ จะมีภารกิจทีเ่ ป็นหลักคล้ายกัน แต่ภารกิจ หรือหน้าทีอ่ นื่ อาจแต่งต่างกัน ชือ่ เรียกก็อาจ ไม่เหมือนกันก็ได้

ดังนั้น การที่มีนักเขียนบางคน ได้ เขียนถึงทหารในลักษณะที่เหมือนไม่ต้อง การให้มที หาร หรือมีอคติกบั ทหาร ทางหนังสือ พิมพ์บางฉบับ ซึง่ อาจเป็นการเขียนในขณะ ที่มีทหารเข้ามาท�ำรัฐประหารยึดอ�ำนาจจาก รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก็พอรับฟังได้ แต่ไม่ควรเขียนเหมารวมไปถึงทหารทุกคน เพราะอาจไปกระทบกับทหารที่ดีทั้งประจ�ำ การและนอกประจ�ำการได้ จึงควรกล่าวถึง เฉพาะบางคนและบางกลุ ่ ม น่ า จะดี ก ว่ า ซึ่งแน่นอน ถ้าไปเหมารวม คนที่ไม่ได้เป็น ไปอย่างที่พูดก็ย่อมออกมาตอบโต้ และหาก

เขียนด้วยความบริสทุ ธิใ์ จก็ควรรับฟัง แต่บาง ครัง้ ทีอ่ อกมาตอบโต้มกี ารจัดตัง้ และท�ำเป็น ขบวนการ และข้อมูลที่ถูกต้องอาจถูกแปร เปลีย่ นในทางไม่ดไี ด้ ดังนัน้ คนทีไ่ ด้อา่ นหรือ ได้ฟงั จะต้องมีวจิ ารณญาณ ทีจ่ ะคิดวิเคราะห์ เรื่องราวเหล่านั้นได้ด้วยตนเอง

มีเรื่องราวในข้อเขียนของนักเขียน อาวุโสท่านหนึง่ (ไม่ขอเอ่ยนาม) ลงในหนังสือ พิมพ์มติชนรายสัปดาห์ เมือ่ ต้นปี พ.ศ.๒๕๕๙ และได้เขียนตอบโต้ในลักษณะวิจารณ์และ แก้ตา่ งไปแล้วนัน้ ในหนังสือ “ข่าวทหารบก” เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๕๙ ได้มีผู้เขียน(ไม่ขอ เอ่ยนาม) เพื่ออธิบายและชี้แจงเช่นกัน อยู่ ในคอลัมน์ “คัดไทย....คัดธรรม” ใช้หัวข้อ “ทหาร....มีไว้ทำ� ไม” โดยจะขออนุญาตน�ำข้อ เขียนซึ่งมีความยาวไม่มากมาลงให้อ่าน

นิ ย ามแห่ งค�ำว่า “ทหาร” ตาม พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ระบุ ไว้วา่ เป็นค�ำนาม หมายถึง “ผูม้ หี น้าทีส่ รู้ บ ป้องกันประเทศ” หรือ “นักรบ” เป็นหนึ่ง ในอักษรไทย (พยัญชนะ) ตัวที่ ๒๓ คือ ท.ทหาร เด็กๆ ทีห่ ดั ท่องพยัญชนะไทย ก.เอ๋ย ก.ไก่ ต้องจ�ำได้ว่า พอถึง ท.ทหาร จะมีค�ำว่า อดทน ต่อท้าย ความอดทน (ขันติ) จึงเป็น ธรรมะประจ�ำใจของทหาร จะเรียกว่าอัตลักษณ์ ก็ยังได้ ลองถ้าไม่อดทน หรือความอดทนมี ไม่พอ คงไม่แคล้วถูกต�ำหนิว่า “ไม่สมที่เป็น ทหาร”

เรื่องราวการสู้รบป้องกันประเทศ มี ทัง้ ภายนอกและภายใน กล่าวคือ ข้าศึกศัตรู ที่มารุกราน อาจมีทั้งภายนอกประเทศ และ มีทั้งข้าศึกภายในที่ต้องดูแลแก้ไขภายใน ประเทศ เพือ่ ความมัน่ คงภายในราชอาณาจักร

ข้ า ศึ ก ภายนอกยั ง ไม่ น ่ า กลั ว เท่ า

ข้าศึกภายใน กล่าวเป็นส�ำนวนกลอนว่า “ทุก วันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ ไล่ขม่ เหงฯ” ข้าศึกทีร่ า้ ยกาจทีส่ ดุ ทีม่ นุษย์ตา่ ง พบเจอ คือกิเลสตัณหา ความอยากได้ใคร่มี

ความอาฆาตพยาบาท เป็นต้น เป็น สงครามในชีวิตปุถุชนมิรู้จบรู้สิ้น

ทหารที่เปล่งค�ำขวัญว่า “เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน” จึงต้องน้อม ขันติธรรม มาก�ำกับหัวใจเสมอ เพราะในยาม ใดที่ขาดความอดทน การจะท�ำสิ่งใดออกไป ย่อมส่งผลกระทบต่อ ชาติ ศาสนา พระมหา กษัตริย์ และประชาชนไปโดยปริยาย

ข้าศึกที่ชนะได้ยาก คือข้าศึกภายใน ใจ แต่เมือ่ ชนะได้ดว้ ยความอดทนจนถึงทีส่ ดุ แล้ว จะไม่พบกับความพ่ายแพ้ใดๆ อีกต่อไป

สรุปได้งา่ ยๆ กับค�ำถามทีว่ า่ “ทหาร มีไว้ท�ำไม” คือ “มีไว้เพื่อเป็นต้นแบบของ บุคคลผูม้ คี วามอดทน และเป็นแรงบันดาล ใจให้คนผู้อ่อนแอ”

ก่อนจบ วันที่ ๑๘ มกราคม ของทุกปี ทางกระทรวงกลาโหม ได้กำ� หนดให้เป็น “วัน กองทัพไทย” และ “วันกองทัพบก” ซึ่งวันนี้ เมือ่ ปี พ.ศ.๒๑๓๕ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช องค์ “วีรกษัตริย์นักรบ” ของสยามประเทศ ได้กระท�ำยุทธหัตถีมีชัยเหนือพระมหาอุป ราชาราชบุตรของพระเจ้าหงสาวดีนนั ทบุเรง ท� ำ ให้ พ ระเกี ย รติ ย ศเลื่ อ งลื อ แพร่ ไ ปทุ ก ประเทศในชมพูทวีป และได้รบั การยกย่องว่า มีพระเกียรติยศสูงสุดด้วย ก็ขอน�ำมาบอก กล่าวให้ทราบทัว่ กัน รายละเอียดของเรือ่ งนี้ ผู้สนใจหาอ่านได้จากหนังสือ ที่เป็นพระ นิพนธ์ ในสมเด็จกรมพระยาด�ำรงราชา นุภาพ เรื่อง “ไทยรบพม่า”

ชัยสมรภูมิ 61

หากสวรรค์ของศิลปินมีจริง พี่หนกต้องอยู่ ณ ที่นั่น นั่งเขียนนิยายสวรรค์อยู่ที่ไหนซักแห่ง ร้องเพลงให้

บ๊อบมาเลย์ฟงั จิบกาแฟเพลินเสวนากับเฮมมิง่ เวย์ แลกเปลีย่ นเรือ่ งราวระหว่างหุบเขาฝนโปรยไพรและ ขุนเขายะเยือกกับท่านฮั่นซาน เสพดอกไม้เถื่อนกับเฮสเส ช่วยหาหูข้างที่หายไปให้แวนโก๊ะ แล้วเทพนักเขียนก็ ชวนกันไปโรงเหล้าของโกเล้ง ที่นั่นพี่หนกได้เจอกับเทพนักเขียนมากเทพ ประเสริฐ จันด�ำ จิตรภูมิศักดิ์ นายผี ศรีบูรพา จ่างแซ่ตั้ง และเทพอื่นอีกมากมาย

กนกพงศ์ สงสมพันธุ์ นักเขียนหนุ่มแห่งยุคสมัย โดย...ยอดรั ก บุ ญ รอดรักษ์

เทพนักเขียนต่างทักทายเทพบุตรหนุ่มของเราด้วยรอยยิ้ม รักอันอบอุน่ บีโธเฟนเดีย่ วซอต้อนรับการมาเยือน สุรพล สมบัตเิ จริญ ร้องเพลงลูกทุ่งสวรรค์ที่เพิ่งแต่งเสร็จหมาดๆ ให้ฟัง เทพบุตรนัก เขียนหนุม่ ของเราท�ำท่าแปลกใจนิดๆ เมือ่ เห็น เคิรท์ โคเบน เล่นกีตาร์ ด้วยมือขวา จิมมี่ เฮนดริกซ์ตกี ลอง จ่าง แซ่ตงั้ โซโลกีตา้ ร์เบส ธอโร ให้เกียรติขึ้นไปร้องเพลงนักเขียนหนุ่มไม่มีวันตาย ปอล โกแกง ยื่น ซิการ์และขอเพลงร้องจากเทพบุตรหนุม่ ของเรา ธอโร ตะโกนเรียกให้ เทพบุตรหนุ่มขึ้นเวที เทพบุตรหนุ่มสิ้นทางปฏิเสธ เพลงช้างถูกร้อง ขึน้ เป็นเพลงแรก และตามมาด้วยเพลง เถลิงประเทศชาติไทย ทวีมี ชัยแบ็คโฮ เป็นเพลงทีส่ อง ดอสโตเยฟกีก้ ระโดดขึน้ ไปอุม้ เทพบุตรหนุม่ ของเราลงจากเวที เมือ่ เห็นว่าเพลงร้องจากปากเทพบุตรหนุ่มของเรา ยาวยากที่จะจบ เทพนักเขียนทุกเทพต่างรักเทพบุตรหนุ่มของเรา เขาเป็นที่รักในหมู่เทพ เหมือนกับที่เขาเป็นที่รักในหมู่พวกเรา

ทั้งๆ ที่รู้ว่า ชีวิตที่ผ่านไปของพี่หนก องค์ธรรมต้องน�ำพาพี่ ไปในสถานทีท่ ดี่ กี ว่าทีเ่ ราเห็นและเป็นอยู่ แต่ผมยังท�ำใจให้รบั มันไม่ได้ เฉกเช่นเดียวกับทุกผูค้ นทีร่ กั พีห่ นก ย่อมท�ำใจให้รบั กับการจากพรากอัน น่าเศร้านี้ไม่ได้ มันช่างรวดเร็ว ฉับพลัน เกินตั้งตัวสติรับ เรื่องสั้น สมชายชาญ ทีพ่ หี่ นกเมตตาให้ผมมาลงตีพมิ พ์ยงั ไม่ทนั จบ พีก่ ม็ าพราก ไกลไปสู่ดินแดนอันลี้ลับ ดินแดนที่จินตนาการก็ก้าวล�ำ้ ไปไม่ถึง

ผมจะฝากค�ำขอบคุณไปถึงพี่ได้โดยวิธใี ด ทุกคนรัก สมชาย ชาญ ของพี่ และรักในทุกๆ ถ้อยเขียนของพี่ เรายังคงอยู่เพื่อที่ จะคิดถึงพี่ พี่หนกยังไม่ตาย

“นักเขียนหนุ่มย่อมไม่มีวันตาย”

ชีวติ พีเ่ พียงผ่านไปเช่นนัน้ เอง มันแค่ผา่ นไปเช่นนัน้ เอง ถ้าแรง ปรารถนามีจริง เราคงได้พบกันอีก ผมปรารถนาเช่นนั้น

เมื่ออยู่เบื้องหน้าหีบศพของพี่หนก ท่ามกลางกลิ่นธูปที่กลั่น กลิน่ เศร้าอบอวล ผมย้อนคิดไปถึงโมงยามแห่งชีวติ ทีไ่ ด้พบเจอกับพี่ ทัง้ ๆ ทีด่ ทู ที า่ ว่าพีห่ นกจะเป็นคนทีม่ คี ำ� พูดน้อย แต่ทกุ ครัง้ ทีเ่ จอกันผม จะกลายเป็นผู้ฟังซะมากกว่า พีห่ นกมีเรือ่ งเล่าจากหมูบ่ า้ นมากเรือ่ ง ทุกเรื่องล้วนน่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่องอ�ำชาวบ้านชาวช่องพี่หนก

62 ชัยสมรภูมิ

ช�ำ่ ชองนัก คมปากของพีไ่ ม่เป็นสองรองใคร บ่อยครัง้ ทีผ่ มหัวเราะจน น�ำ้ ตาเล็ดเมือ่ อยูเ่ บือ้ งหน้าเรือ่ งเล่าของพี่ แต่สำ� หรับช่วงเวลาทีพ่ เี่ ขียน หนังสือ พีจ่ ะนิง่ สงบราวกับว่าก�ำลังท�ำพิธีกรรมทางศาสนา หรือว่า พีก่ ำ� ลังท�ำพิธกี รรมทางศาสนาของนักเขียนหนุม่ ผมเอง ไม่กล้ามัน่ ใจนัก เพียงพี่คนเดียวที่รู้ เพียงพี่หนกเท่านั้นที่สามารถรู้

เรามักจะพุดคุยกันเรื่องชีวิต ปฐมเหตุแห่งการก่อเกิดของ สรรพสิ่ง ชื่นชมการลอยตัวอย่างน่าอัศจรรย์ของดวงดาว นินทานัก ผูน้ ำ� ขีโ้ กง แลกเปลีย่ นทัศนะเกีย่ วกับกลิน่ ไอหนังสือทีต่ า่ งเราต่างชอบ

พี่หนกเคยพูดถึงเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งซึ่งผมชอบมาก มันเป็น โศกนาฏกรรมระหว่างปลาเล็ก กับปลาใหญ่ ปกติปลาใหญ่ไล่ลา่ ปลา เล็กย่อมเป็นเรือ่ งธรรมดา แต่ปลาใหญ่ในเรือ่ งนีฉ้ ลาดเกินปลา เมือ่ มัน พบปัญหาความยุ่งยากในการไล่ล่าปลาเล็ก มันก็ใช้มนต์กลลวง

เรี ย กปลาเล็ ก ทั้ ง หมดในทะเลมาประชุม และเกลี้ยกล่อมให้ปลาเล็กว่ายน�้ำเป็นฝูง โดยอ้างว่าเพือ่ ความเป็นระเบียบ เรียบร้อย ของทะเล ปลาเล็กเกิดความเห็นชอบด้วย หลังจากนัน้ ปลาใหญ่กไ็ ม่ตอ้ งออก แรงไล่ล่า เหยือ่ ให้หมดแรงเหนือ่ ยอีกเลย เพียงมันอ้า ปากอันเกียจคร้านของมันออกมากว้างกว่า กว้าง ดักทางทีปลาเล็กว่ายน�้ำผ่าน เพียง เท่านั้น..เพียงเท่านั้น มันก็ได้เหยื่อ

หลายปีตอ่ มา เมือ่ ประเทศอยูภ่ ายใต้ การปกครองของผูน้ ำ� คนขีโ้ กง แรงขับเคลือ่ น ภายในทีเ่ กิดจากเรือ่ งสัน้ ทีพ่ หี่ นกเล่า ผมอยาก ฆ่าปลาใหญ่ทิ้งเสียเหลือเกิน แต่ปลาใหญ่ ที่ผมอยากฆ่านั้นย่อมไม่ง่ายนัก ผมท�ำได้ดี ที่สุดก็แค่สาปแช่งอย่าให้มันได้ตายดี ถ้าพี่ หนกยังอยู่ ผมจะชวนพี่ไปไล่ล่าฆ่าปลาใหญ่ ด้วยกัน เอาเนื้อของมันมาท�ำแกงส้มให้คน จนได้กนิ อิม่ กัน ให้คนจนได้รับรู้รสระย�ำจาก เนื้อแท้ของมัน หลายคนคงอิ่มจนอ๊วกแตก บางคนถึงกับทนกลิน่ นรกของมันไม่ได้ ไข้ขนึ้ กันทั่วหน้า พี่หนกคงตีลังกาข�ำกลิ้ง หัวเราะ หึ หึ หึ อยู่ในล�ำคอ

เสียงของพีเ่ จน สงสมพันธุ์ จากเครือ่ ง ขยายเสียงปลุกให้ผมตื่นขึ้นมาจากภวังค์ ทรงจ�ำ พี่เจนเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับ ชี วิ ต และกระบวนการคิ ด สร้ า งงานของพี่ หนกให้คนทีม่ าคารวะศพฟัง พีเ่ จนพูดถึงภาพ ความโหดร้ายของสงครามระหว่างรัฐกับ ทหารปลดแอกของประชาชน ซึ่งเป็นภาพ ความโหดร้ายที่เกิดขึ้นจริงในช่วงชีวิตวัย เยาว์ของพี่หนก พี่เจนยืนยันว่าพี่หนกเห็น

ภาพทหารนั่งรถยานเกราะจนชินตา พี่หนก เติ บ โตมาท่ า มกลางกลิ่ น ไอของสงคราม เรื่องเล่าเกี่ยวกับความตายจึงเป็นเรื่องปกติ ด้วยความเป็นเด็กช่างคิดช่างสังเกต พีห่ นก จึงเก็บตัวอ่านหนังสือ และหมกมุน่ อยูก่ บั งาน ศิลปะมาตัง้ แต่วยั เยาว์ อาจจะได้รบั อิทธิพล มาจากพ่อผูร้ กั การอ่านเป็นชีวติ และแม่ผทู้ มี่ ี สีเลือดศิลปินเข้ม นับได้วา่ ทุกภาพชีวติ ในวัย เด็กมีอิทธิพลต่ออัตลักษณ์ในทางงานเขียน ของพี่หนกอย่างน่าอัศจรรย์

พี่ เจนยื น ยั น ว่ า พี่ ห นกไม่ ไ ด้ เขี ยน หนังสือดีอย่างเดียว ความคิดเชิงชั้นทาง ธุรกิจก็แหลมคมเป็นเยี่ยม ประจักษ์ชัดใน คราที่ศิลปินใหญ่ผู้ผันตัวเองไปเป็นนักธุรกิจ น�้ำดื่มชูก�ำลังกึ่งบ่นกึ่งถามพี่หนกว่า ท�ำไม คาราบาวแดงจึงเจาะตลาดในภาคใต้ได้ยาก พีห่ นกให้ความเห็นอย่างแหลมคมว่า ไม่แน่ใจ นักว่าจังหวัดอืน่ ในภาคใต้จะเป็นเหมือนจังหวัด นครศรีธรรมราชหรือเปล่า แต่สาเหตุหลักที่ คาราบาวแดงขายไม่ออกที่นครศรีธรรมราช เพราะคนนครศรีธรรมราชนิยมกินใบกระท่อม หากจะกินใบกระท่อมให้สุนทรีย์กลมกล่อม ต้องหวนกับฉลาม ฉลามจึงกลายเป็นที่นิยม ในหมูค่ นกินใบกระท่อม ส�ำหรับลิโพกับกระทิง แดงนั้น นักดื่มชอบใช้เป็นน�้ำมันข้างผากับ เหล้าจนกลายเป็นประเพณีคู่การดื่มไปแล้ว

พี่เจนบอกว่า หลังจากศิลปินผู้แปร ธาตุไปเป็นนักธุรกิจได้ฟังค�ำหยั่งเห็นของพี่ หนก นักธุรกิจผูห้ วังผลก�ำไรเป็นเลิศก็รบี กลับ ไปพั ฒ นาน�้ ำ ชู ก� ำ ลั ง ของตั ว เองเพื่ อ ให้ มี ประสิทธิภาพทางการขายสูงสุด โดยแต่งกลิน่ เพิ่มเติมให้หอมคล้ายใกล้เคียงวิสกี้ ผมคิด ตามพี่เจนเล่า สมองซีกธุรกิจเบ่งโตยั่วต่อม โลภ ถ้าพี่หนกยังอยู่ ผมจะชวนพี่หนกท�ำ น�ำ้ ดืม่ ชูปญ ั ญาขาย จะตัง้ ชือ่ น�ำดืม่ มหัศจรรย์ ของตัวเองว่า “ชาคนธรรพ์” คงขายดีน่าดู ผมมั่นใจนักว่า ถ้ามีชาคนธรรพ์ออกมาอา ละวาดในตลาดโลก ไม่มีใครคิดที่จะเสียเงิน กับคาราบาวแดงเป็นแน่

ในตอนท้ายพี่เจนพูดถึงสมชายชาญ พี่เจนอธิบายว่า พี่หนกต้องการสื่อสารกับ คนไทยทัง้ ประเทศ ผ่านความทะเยอทะยาน โดยผิดธรรมชาติของลิงตัวหนึ่งที่มีวิถีชีวิต ใกล้ชิดกับคน โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นเมื่อลิง

ไม่พอใจความเป็นลิง ถอนขนตัวเอง เพื่อกลายร่างเป็นคน ราวกับว่าขน เป็นก�ำแพง บางๆ ที่กั้นขวางระหว่างความ เป็นคนและลิงไว้ แต่สมชายชาญหารู่ไม่ว่า แม้ จ ะถอนขนจนเกลี้ ย งตั ว ก็ ใ ช่ ว ่ า จะเป็ น คนขึ้นมาได้ คนกับลิงย่อมต่างกัน เพียงแค่ สมชายชาญมิอาจรู้ได้

โศกนาฏกรรมของสมชายชาญน่า เศร้ายิ่งนัก เป็นอุทาหรณ์สอนคนได้อย่างดี ในขณะที่ ป ระเทศของเรามี ค นจนเป็ น รากฐานหลัก แต่นโยบายของทุกท่านผู้น�ำ พยายามผลักพาให้ประเทศพัฒนาไปสู่การ เป็ น อภิ ม หาความมั่ ง คั่ ง ทางเศรษฐกิ จ จะสร้างประเทศให้เป็นตลาดนัดเสรีที่ยิ่ง ใหญ่คับร่มตะวัน ทั้งที่ประชาชนยากจนเป็น ทุกข์ แถมยังเป็นหนี้จมท่วมหัว

การพัฒนาของท่านผู้น�ำที่ผ่านมามี ผลดีอยูเ่ พียงประการเดียวนัน่ ก็คอื ยิง่ พัฒนา ประชาจนก็ยิ่งจนลง..จนลงอย่างน่าใจหาย วัวหายจากคอก ที่น่าบินหายไปจากใบโฉนด พ่อแม่ถีบลูกสาวออกจากบ้านเพื่อไปขายตัว เพิม่ ขึน้ ส่วนนักศึกษาต่างแย่งกันตกงาน ยิง่ ผูน้ ำ� เร่งพัฒนาไปตามแรงรุกปาก ประชาชน ยิ่งกลับปวดร้าวจนลึกในต่อมวิถี ดูเหมือน ประชาชนถูกหลอกหรือโดนสะกดจิตให้รู้สึก

ชัยสมรภูมิ 63

คิดว่าสามารถรวยได้ สมชายชาญไม่

สามารถเป็นคนได้ฉันใด ประชาชน ไทยก็ ไ ม่ ส ามารถรวยได้ ฉั น นั้ น เพี ย งแต่ ประชาชนไม่อาจรูไ้ ด้

ธูปกลั่นเพิ่มแรงเศร้า เมฆฟ้าคล้าย จะหลั่งน�้ำตา สายลมราตรีร�่ำให้คร�่ำครวญ ภวั ง ค์ ท รงจ� ำ พาผมย้ อ นไกลไปในอดี ต อี ก คราครั้ง ผมจ�ำครั้งแรกที่พบกับพี่หนกได้ดี ผมนึกถึงเหตุการณ์ครานั้นทีไรม้วนอารมณ์ ข�ำกลิ้งทุกที ในวันนั้น พี่หนกถูกเชิญให้ไป เป็นวิทยากรทางวรรณกรรมในมหาวิยาลัย แดนปลาตีน ผมปลอมตัวเป็นแฟนพันธุ์แท้ เข้าไปนั่งฟังด้วย ผมไม่รู้หรอกว่าพี่หนกพูด อะไรออกมาบ้าง เพราะมัวแต่สนใจบุคลิก อันโดดเด่นของพี่ท่าน ผมอยากไว้ผมยาว แต่งตัวให้เท่หแ์ บบพี่ โดยเฉพาะหมวกทีพ่ สี่ วม ท�ำให้ผมคิดไปไกลว่า เช เกวารา ยังไม่ตาย

หลั ง จากเสร็ จ สิ้ น จากเวที เ สวนา พีห่ นก เลือกที่จะเมาอยู่กับพวกเราแทนที่จะ กลับไปเรือนพักรับรอง พวกเราใช้ลานใต้รม่ หูกวางหน้าตึกกิจกรรมรับรองนักเขียนหนุ่ม พี่หนกรู้สึกอบอุ่นได้ตามอัตภาพ เหล้าถูกริน หมดขวดแล้วขวดเล่า พี่หนกเล่าบรรยากาศ หุบเขาฝนโปรยไพรให้วงเมาฟัง พูดถึงงาน เขียนของเฮสเส ร่วมร้องเพลงคนเลว แล้ว ความเมาก็มาเยือนพวกเราอย่างสุขใจ

โศกนาฏข� ำ เกิ ด ขึ้ น เมื่ อ วงเมาขั บ เคลื่อนมาจนย�่ำรุ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างน่าจะผ่าน ไปโดยสงบ แต่ในช่วงเวลาที่ใครไม่คิดคาด มักจะเกิดเรื่องเหนือคาดคิดขึ้นเสมอ ไม่รู้ ผีฟา้ ใดดลใจ จูๆ่ ก็ผลักท่านผดุงยศ ดวงมาลา ให้โผล่พรวดเข้ามาทักทายวงเมาโดยไม่ได้ รับค�ำเชิญ การปรากฏตัวของท่านผดุงยศ คล้ายการมาเยือนของกองทัพผีอนั เกรียงไกร แมงเมาต่างตาขาวกลบตาด�ำ เหลือกลนลาน เส้นขนหัวลุกชัน รวบรวมพลังสติไว้ทเี่ ท้า ต่าง คนต่างวิ่งกันไปพร้อมเพรียงกันคนละทิศละ ทางโดยไม่ตอ้ งมีคำ� นัดหมาย คงเหลือเพียงผม.. กับพี่หนกที่ล้มตัวลงนอนหลับอย่างกะทัน หันและก็ไอ้เพื่อนเมาเจ้าปัญหา

“ท�ำอะไรกันเหรอลูก” ท่านผดุงยศถาม ด้วยน�้ำเสียงกริ่งเกรงใจ

“คือ..พี่นักเขียนมาเยี่ยมเยียน เลย ต้อนรับกันหนักไปหน่อย” ผมตอบโดยไม่ตอ้ ง อาศัยต่อมคิด

64 ชัยสมรภูมิ

“ต้อนรับกันไม่วา่ แต่อย่ายาวนานนัก พรุง่ นีจ้ ะเรียนกันไม่ไหว” ท่านผดุงยศพูดจบ ส่งสายตาไปมองศิลปินหนุ่มที่หลับนิ่งสงบ อยู่อย่างเอ็นดู

ผมแสร้งเงียบสู้เสือ ท่านผดุงยศบ่น พึมพ�ำตามประสาพ่อบ้านใหญ่ ผมได้ยนิ บ้าง แสร้งว่าไม่ได้ยนิ บ้าง ทันใดนัน้ ไอ้เพือ่ นเมา เจ้าปัญหาก็ท�ำท่าท�ำทางโวยวายจะเอาเรื่อง ท่านผดุงยศให้ได้ ราวกับว่ามันโกรธแค้นท่าน มาตั้งแต่สามสิบชาติก่อน ไอ้เพือ่ นเจ้าปัญหา ไม่ได้เพียงแต่ทำ� ท่าอย่างเดียว มันลุกขึ้นครึ่ง นั่งครึ่งยืนคว้าคอท่านผดุงยศมาไว้ในการ ครอบครอง ลากหูของท่านมาแนบปากของมัน แล้วตะคอกวาจาห้าล้านหาวใส่ท่านผดุงยศ อย่างจัง ผมจ�ำวาทะเปรตๆ ของมันได้เต็ม สมองหู

“ยัดแข้ง ไอ้เพื่อน!! เราเมาของเรา ก็ไม่หนักกะลาหัวแม่ใคร มึงอยากมีปญ ั หานัก ใช่มั้ย กูคนจริงเมืองลุงเหว้..ย อยากอยู่ก้..อ ไป อยากตายก็เต้นนกเอีย้ งเข้ามา” มันพูดจบ ผลักท่านผดุงยศออกจากอ้อมแขนของมัน ดีที่มันใช้แรงไปกับการเมาเสียเยอะ ไม่งั้น.. ท่านผดุงยศต้องถึงกับกระเด็นไกลไปเยี่ยม เมืองยมแน่

ในขณะนั้น รอบๆ กายของท่านผดุง ยศย่อมขาดทีพ่ งึ่ ไม่มใี ครสักคนทีพ่ อช่วยเหลือ ได้ ท่านผดุงยศคว้าเครื่องมือสื่อสารจากที่ เหน็บพก ไอ้เพื่อนเจ้าปัญหากระโดดเข้าไป ประชิดตัวพ่อบ้านใหญ่ มันซี้ซั้ววาดมือซ้าย

ขวาราวกั บ มั น ก� ำ ลั ง ว่ า ยน�้ ำ หนี ฝู ง ผี พ ราย มือซี้ซั้วของมันวาดไปโดนเครื่องมือสื่อสาร ปลิวลิ่วล่องออกจากมือพ่อบ้านใหญ่ไปไต่ ความว่างอย่างไร้จุดหมาย ก่อนที่จะหล่นจูบ ถนนคอนกรีตเยี่ยงนกปีกหัก ท่านผดุงยศ ต้องใช้ความพยายามมากโขกว่าจะตามเก็บ เครื่องมือสื่อสารมาครอบครองไว้ได้อีกครั้ง เพราะไอ้เพือ่ นเมาของผม ทัง้ ลากทัง้ ผลัก ผม คล้ายเห็นมันจับพ่อบ้านใหญ่ตเี ข่าอย่างไม่นบั พ่อบ้านใหญ่กลับเป็นฝ่ายตกอยู่ในวงล้อม ของกองทัพผีเข้าให้แล้ว เมื่อท่านได้สติฉาก ออกมาจากวงล้อมของกองทัพผีได้ ท่านก็โกย ตีนวิ่งหน้าตื่นไปตามยาวถนน

สัญชาตญาณบอกผมว่า มหันตภัย ร้ายแรงก�ำลังมาเยือน นักเขียนหนุม่ ของเรา ยังหลับสงบดีอยู่โดยที่มุมปากปรากฏรอย ยิ้มเล็กๆ สิ่งแรกที่ผมคิดได้เมื่อต่อมสติคืน กลับมา นัน่ คือ ผมต้องลากไอ้เพือ่ นเมาไปไว้ ทีไ่ หนสักแห่ง และทีน่ นั้ ต้องเป็นทีท่ ไี่ กลทีส่ ดุ ปัญหาอยู่ที่ว่า ผมเองก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่า เพื่อนของผมเมาเส้นสติขาดกระจุยไปตั้ง นานนมแล้ว ผมเข้าไปอธิบายถึงมหันตภัย ทีก่ ำ� ลังมาเยือน มันก็ทำ� ท่าจะเอาเรือ่ งกับผม ก�ำหมัด กัดกราม หายใจฟืดฟาดราวัวต้อง การคูท่ อ มันคงคิดว่าผมเป็นท่านผดุงยศ แต่ ไม่ใช่หรอก มันไม่สามารถรับรู้ได้แล้วว่าใคร เป็นใครบนโลกใบนี้ มันไม่รู้หรอกว่าคนที่มัน กระชากคอตอแยด้วยคือท่านผดุงยศ ราวกับ ว่ามันก�ำลังหลับอยู่ในแดนละเมอและเพ้อ

ทะเลาะอยูก่ บั ใครสักคนทีม่ นั ทัง้ เกลียดทัง้ ชัง ใช่!!การเคลื่อนไหวของมัน จากแรงจิตเหนือ ส�ำนึกล้วนๆ

ผมจึงคิดค�ำโกหกล่อมัน ปากตะโกน บอกมันว่าคนที่อยากจะมีเรื่องกับมึงอยู่ใน ห้องน�้ำโน่น แน่จริงตามไปสิ คุณเชื่อมั้ย ค�ำ พูดของผมเพิ่มแรงตีนของมันได้น่าอัศจรรย์ ผมพูดจบมันก้าวขาวิ่งอย่างไม่สนใจว่าทิศ ห้องน�้ำจะอยู่ส่วนไหนของโลก บาปกรรมมี จริงทันให้ตาเห็น ด้วยความรีบจะไปถล่มอริ ให้ลม้ กลิง้ ขาเมาของมันสะดุดกันเอง ราวกับ ผีผลัก หน้าของมันร่วงไปจูบรากหูกวางเข้า อย่างจัง มาถึงตรงนีอ้ วัยวะทีย่ งั พอมีแรงฤทธิ์ เดินได้ก็มีเพียงแค่ปากหมาๆ ของมัน ผมจึง ได้โอกาสลากมันไปหมกไว้ในห้องน�้ำ

ในขณะที่ ผ มก� ำ ลั ง วุ ่ น วายอยู ่ กั บ หลายๆ เรื่อง ผมรู้ว่าต่อมข�ำของพี่หนกคง ตืน่ สนุกร่าเริง เมือ่ ผมจัดการกับซากเพือ่ นเมา เสร็จ ผมก็พาร่างตัวเองกลับมาวงเมา พีห่ นก ยังหลับสนิท แต่ท่าหลับได้เปลี่ยนไปแล้ว คล้ายผมเห็นรอยยิ้มของพี่ใหญ่ยิ่งกว่าเดิม

วงเมาคงเหลื อ เพี ย งผมกั บ พี่ ห นก ผมจะพาตั ว เองหนี ไ ปก็ ก ลั ว จะถู ก ครหา นินทาได้ในภายภาคหน้าว่าหนีวงเมาเอาตัว รอด ผมจึงนั่งลงดวดเหล้าที่เหลือฉ�่ำอารมณ์ เงียบๆ เพียงล�ำพัง และรอการมาเยือนของ มหันตภัย ไม่นานนัก เจ้าหน้าที่รักษาความ ปลอดภัยที่อยู่ภายใต้อ�ำนาจสูงสุดของท่าน ผดุ ง ยศก็ แ ตกหน้ า ตื่ น มาเต็ ม ลานหน้ า ตึ ก

กิจกรรม

“ใครเมาแล้ ว ด่ า แม่ ท ่ า นผดุ ง ยศ” เจ้าหน้าที่ร่างสูงใหญ่หนวดดกตะคอกถาม “ตีเข่าใส่ท่านด้วย” เจ้าหน้าที่ร่างใหญ่ไม่มี หนวดแจงข้ อ หาก่ อ นที่ จ ะเอามื อ ส� ำ รวจ ความพร้อมของกระบอง

“ก็เห็นกันอยู่ว่ามีแค่ผมคนเดียวนั่ง กินเหล้า” ผมรวมทุกปัญหามาแบกไว้บนบ่า เพียงคนเดียว

อาจจะเป็นเพราะก�ำลังพลมากันมาก เจอนักโทษแค่ผมคนเดียวคงไม่คุ้มเกียรติ หนึ่ ง ในเจ้ า หน้ า ที่ รั ก ษาความปลอดภั ย พยายามจะหานักโทษเพิ่ม

“ไอ้ผมยาว..ตื่น ไม่ต้องแกล้งหลับ”

เจ้ า หน้ า ที่ ค นหนวดดกตะคอกพู ด พร้อมกับลั่นกระบองกระแทกพื้นตรงข้างหู นักเขียนหนุ่ม พี่หนกแกล้งงัวเงียตื่นขึ้นมา อย่างว่าง่าย นัง่ ขยีต้ าราวกับมาจากแดนหลับ อันไกลโพ้น

“แกทั้ ง สองเอาบั ต รนั ก ศึ ก ษามา” หนึ่งในเจ้าหน้าที่ขู่สั่ง

“ผมไม่มบี ตั รนักศึกษา” พีห่ นกพูดไป ตามความเป็นจริง

“ผมมี เอาของผมไปก็ได้” ผมบอก

“ท�ำไมแกไม่มีบัตรนักศึกษาหา..ไอ้ ผมยาว” เจ้าหน้าที่รุกถาม

“ผมท�ำหายครับจ่า” พีห่ นกหยอดลูก ตอแหล

“มีบัตรอะไรบ้าง” เจ้าหน้าที่รุกถาม

“บัตรประชาชน” พี่หนกตอบ

“เอาบัตรประชาชนมา” เจ้า หน้าทีส่ งั่

“ไม่ได้หรอกครับจ่า พรุ่งนี้ผมจ�ำเป็น ต้องใช้บตั รในตอนเช้า ผมมีความจ�ำเป็นจริงๆ ครับจ่า เอาแค่ชอื่ กับนามสกุลไปก็พอแล้ว ผม ไม่หนีไปไหนหรอก ผมยังเรียนอยูท่ นี่ อี่ กี นาน จ่าเองก็จำ� ผมได้ เราพบกันออกบ่อยไป ผมยาวๆ หน้าตาแบบนีม้ ไี ม่กคี่ นหรอก” พีห่ นกตอแหล ได้ลื่นไหลเยี่ยมยอด

“ก็ ไ ด้ ชื่ อ อะไรว่ า มา” เจ้ า หน้ า ที่ ตกหลุมพราง

“กนกพงศ์ สงสมพันธุ์ คนเมืองลุง ครับ” พี่หนกยิ้มหวานให้ทุกจ่า

เมื่อพ้นเหตุการณ์โศกนาฏข�ำมาได้ ดวงตะวันก็ยิ้มแฉ่งที่โพ้นขอบฟ้าตะวันออก

ผมพาพี่ ห นกไปกิ น กาแฟที่ ล านอิ ฐ เราไม่พูดถึงเรื่องอื่นใดเลย นอกจากวีรกรรม ระย�ำเมาของไอ้เพือ่ นตัวแสบ ต่างเราต่างกิน กาแฟและก็ต่างมองหน้าค้นหาเสียงหัวเราะ จนถึงเวลาแห่งการจ�ำพราก ผมจ�ำได้วา่ ในเช้า วันนั้น เป็นเช้าอันแสนงามอีกเช้าที่ควรค่า แห่งการจดจ�ำ

โศกนาฏข�ำในครั้งนั้น ผมโดนข้อหา หนักมาก ก้าวร้าวใส่ผู้บริหาร พี่หนกก็โดน ข้อหาเดียวกับผม ชื่อของเราสองคนลอย เด่นโชว์อยู่ที่หน้าห้องกองกิจการนักศึกษา ผมถูกภาคทัณฑ์ทำ� ผิดร้ายแรงไม่ได้อกี ต่อไป เหตุการณ์ในครั้งนั้นท�ำให้ผมเย้ยหยันปีศาจ แห่งความยุติธรรมมาจนถึงทุกวันนี้..วันที่ผม อาบควันธูปอยู่เบื้องหน้าหีบศพของพี่หนก

ธูปยังคงกลั่นกลิ่นเศร้า เบื้องหน้า หีบศพ ผมสังเกตเห็นมากเม็ดน�ำ้ ตาของหญิง นางหนึ่ ง ที่ มิ อาจหลั่ ง หลั บ เถอะเทพบุ ต ร นักเขียนแห่งหุบเขาฝนโปรยไพร ชีวิตเธอ เพียงแค่ผา่ นไป เธอจะไม่มวี นั ตาย เธอยังคง อยู่ในการงานอันงามค่าของเธอ หลับเถอะ เทพบุตรนักเขียนแห่งหุบเขาฝนโปรยไพร เธอจะไม่มีวันพรากไปจากความทรงจ�ำใน หมู่ของพวกเรา เขาหลวงจะขับขานต�ำนาน ของเธอไม่รู้จบ...หลับเถอะ..พี่ชายทีแสนดี

ชัยสมรภูมิ 65

นักการเมือง “พึงตระหนัก”...เรียนรู้ “ไม่ให้ทหารปฏิวัติ!?!” ง่ายนิดเดียว

คณะกรรมการการเลือกตัง้ (กกต.) ได้สรุปผลการลงประชามติอย่างเป็นทาง การ เมือ่ วันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๙ เกีย่ วกับ รัฐธรรมนูญฉบับถาวรทีจ่ ะประกาศใช้ในเร็วๆ นี้ว่า ผู้มีสิทธิ์ออกเสียง ๕๐,๐๗๑,๕๘๙ คน มาใช้สทิ ธิ์ ๒๙,๗๔๐,๖๗๗ คน คิดเป็นร้อยละ ๕๙.๔๐โดยค�ำถามแรก (ค�ำถามหลัก) จะถาม ว่า “ท่านเห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่” ซึ่งร้อยละ ๖๑.๓๕ เห็นด้วย(รับร่าง) ร้อยละ ๓๘.๖๕ ไม่เห็นด้วย(ไม่รบั ร่าง) ส�ำหรับค�ำถาม ในประเด็นต่อมา (ค�ำถามพ่วง) ที่ถามว่า “ท่านเห็นชอบหรือไม่ว่า เพื่อให้การปฏิรูป ประเทศเกิดความต่อเนื่อง ตามแผนยุทธ ศาสตร์ชาติ สมควรก�ำหนดไว้ในบทเฉพาะ การว่า ในระหว่าง ๕ ปีแรก นับแต่วันที่มี รัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญนี้ ให้ทปี่ ระชุม ร่วมกันของรัฐสภา เป็นผู้พิจารณาให้ความ เห็นชอบบุคคล ซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็น

66 ชัยสมรภูมิ

นายกรัฐมนตรี” ปรากฏว่ารับร้อยละ ๕๘.๐๗ และไม่รับร้อยละ ๔๑.๙๓ ดังนั้น จึงสรุปได้ ว่าเสียงส่ว นใหญ่ ยอมรั บ ร่ า งรั ฐ ธรรมนู ญ และค�ำถามพ่วง จากนั้น กกต.ได้ส่งเรื่องนี้ ต่อไปยังรัฐบาล และในขั้นตอนต่อไป คณะ กรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้จดั ท�ำ รัฐธรรมนูญฉบับนี้เสร็จเรียบร้อย และส่งต่อ ไปยั ง ศาลรั ฐ ธรรมนู ญ เพื่ อ ตรวจสอบและ รับรองความถูกต้อง จากนั้นได้ส่งกลับไป ที่ กรธ. เพื่อจัดท�ำให้สมบูรณ์ และได้นำ� ขึ้น ทูลเกล้าฯ ซึ่งได้มีพระบรมราชวินิจฉัยลงมา จากนั้นได้มีการแก้ไขและน�ำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อประกาศใช้ต่อไป

ในระหว่ า งที่ ด� ำ เนิ น การตามขั้ น ตอนข้างต้น สิง่ ทีจ่ ะท�ำควบคูก่ นั ไป คือการ พิจารณาจัดท�ำพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบ รัฐธรรมนูญ (กฎหมายลูก) เพื่อก�ำหนดราย ละเอียดในบางมาตรา และสามารถน�ำมาใช้

โดย...หางกะดิ่ง ได้อย่างถูกต้องต่อไป ซึ่งรายละเอียดของ รัฐธรรมนูญคงจะหาอ่านได้หลังจากที่มีการ ประกาศใช้แล้ว ตามขั้นตอนที่คณะรักษา ความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลที่มี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี คาดว่าจะมีการประกาศ ใช้รัฐธรรมนูญ และจัดการเลือกตั้งสมาชิก สภาผูแ้ ทนราษฎร (ส.ส.) ภายในปี พ.ศ.๒๕๖๐ ส�ำหรับสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)ในขัน้ ตอนนีจ้ ะ ใช้การสรรหา และหลังจากนัน้ จะด�ำเนินการ ต่อไปอย่างไร ก็อยูท่ รี่ ฐั ธรรมนูญทีไ่ ด้กำ� หนดไว้ อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จสวรรคต ท�ำให้เรา ได้สูญเสียพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่ง ของปวงชนชาวไทยไป ซึ่งจะต้องมีการจัด การเกี่ยวกับพระบรมศพ และพิธีบรมราชา ภิเษกกษัตริย์พระองค์ใหม่ ขั้นตอนเกี่ยวกับ

รธน.ที่ได้ก�ำหนดไว้ อาจต้องมีการเปลี่ยน แปลงเกิดขึ้นไม่มากก็น้อย

เมื่อมีการเลือกตั้ง และมีประกาศ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ คสช. และรัฐบาลชุดนี้จะหมดหน้าที่ คง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ นรม.และคณะรัฐ มนตรี (ครม.) ชุดใหม่ เข้าบริหารประเทศตาม รั ฐ ธรรมนู ญ ที่ ถื อ ว่ า เป็ น ระบอบประชาธิ ป ไตยต่อไป ข้าราชการทุกกระทรวง

เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่อื่นที่ คล้ายคลึงกัน ก็จะปฏิบัติงานตามนโยบาย ของรัฐบาลใหม่ แต่วิธีการปฏิบัติของแต่ละ คนอาจแตกต่างกัน เช่น บางกระทรวงหรือ บางหน่วยงาน ผูป้ ฏิบตั งิ านอาจ จะวิง่ เข้าหา รัฐมนตรีทกี่ ำ� กับดูแลหน่วยงานนัน้ (กระทรวง เจ้าสังกัด) โดยอ้างว่าเพือ่ ความชัดเจนในการ ท� ำงาน และถื อ โอกาสเข้าไปพิน อบพิเ ทา นักการเมืองเหล่านัน้ โดยไม่ใช้ ปัญญา อุดมคติ และความสามารถของตนเองในการท�ำงาน จึงมักจะพบบ่อยว่า มีขา้ ราชการและเจ้าหน้าที่ บางคนมักจะยอมสยบต่อนักการเมืองที่เป็น

รัฐบาล เพือ่ หวังทีจ่ ะได้รบั การแต่งตัง้ ให้เป็น หัวหน้าหน่วยงาน

โดยนักการเมืองก็แต่งตั้งโดยไม่ ได้มองถึง ความอาวุโส(ส�ำคัญล�ำดับ ๑), ความรู(้ ๒), ความสามารถ(๓) ฯลฯ เพราะ นักการเมือง(บางคน)จะไม่รู้ถึงเรื่องเหล่านี้ พรรคการเมืองบางพรรคจะมีการจัดอาวุโส

(พรรษา) ของนักการเมืองไว้เมื่อถึงเวลาที่ จะให้ไปเป็นรัฐมนตรี บางพรรคไม่ใส่ใจใน เรื่องนี้ จะท�ำอย่างไรต่อนักการเมืองของตน ก็ได้ เพือ่ พรรคจะได้ประโยชน์เป็นอันดับแรก ผลประโยชน์ของชาติเป็นอันดับรอง จึงท�ำให้ การบริหารประเทศไม่ราบรื่นตามที่ควรจะ เป็น ส�ำหรับในต่างจังหวัด บางจังหวัด จะมี

ชัยสมรภูมิ 67

นักการเมืองที่มีอิทธิพล (ในทางไม่ดี) ครอบ คลุมทั้งจังหวัด และสามารถแผ่อิทธิพลไป ยังจังหวัดใกล้เคียงได้ และเมือ่ มีการเลือกตัง้ จึงต้องพยายามทุกวิถีทางที่จะให้ได้รับการ เลือกตั้ง เป็น ส.ส. คือยอมแพ้ไม่ได้ หรือแพ้ ไม่เป็น อย่างทีน่ กั การเมืองบางคนเคยพูดและ ท�ำมาแล้ว สิง่ เหล่านีค้ อื จุดเปราะบางในระบอบ ประชาธิไตย (ทีแ่ ท้จริง) ซึง่ นักการเมืองเหล่า นั้นต้อง(พยายาม)ปรับปรุงและแก้ไขตนเอง ให้ได้ จะพบเห็นในต่างประเทศที่เจริญแล้ว และถือว่ามีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย (ค่อนข้างสมบูรณ์)

เช่นในประเทศอังกฤษ เมื่อเร็วๆ นี้ มีการลงประชามติ ว่าจะอยู่ในสหภาพยุโรป (อียู) ต่อไปหรือถอนตัวออกมา โดยที่นายก รัฐมนตรีอยากจะให้อยู่ต่อ แต่เมื่อเสียงส่วน ใหญ่ให้ถอนตัว นายกรัฐมนตรีก็ประกาศลา ออกจากต�ำแหน่งทันที โดยไม่มกี ารรีรอ ว่าจะ ลาออกวันนัน้ วันนี้ เหมือนต้องการท�ำอะไรบาง

68 ชัยสมรภูมิ

อย่างก่อน และภาพต่อมาทีส่ อื่ น�ำมาเผยแพร่ หลังจากที่ลาออก จะต้อง ขนย้ายของออก จากบ้านนายกฯ ซึง่ อดีตนายกผูน้ นั้ ได้ยกของ (ชิน้ ใหญ่) ด้วยตนเอง ท�ำให้คนทีเ่ ห็นภาพรูส้ กึ ชื่นชมในการกระท�ำครั้งนั้น ในบางประเทศ เช่น อิสราเอล ทีเ่ ป็นไม้เบือ่ ไม้เมากับประเทศ อาหรับหรือชาวมุสลิม ทีม่ ปี ญ ั หากระทบกระทัง่ กันอยูบ่ อ่ ยๆ ท�ำให้มที งั้ การสูร้ บ และการเจรจา ท�ำสัญญาหรือข้อตกลง ครั้งแล้วครั้งเล่า ใน การท�ำสัญญาหรือข้อตกลง ซึง่ เมือ่ ท�ำไปแล้ว ต่อมารู้ว่าเกิดความผิดพลาดและประเทศ ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ นายกฯ จะลาออกทันที และให้นายกฯ คนใหม่ ไม่ว่าจะมาจากพรรค ใดเข้าไปแก้ปัญหาต่อไป นี่คือตัวอย่างของ ผูน้ ำ� ทีย่ ดึ ถือประเทศชาติเป็นทีต่ งั้ โดยไม่ยดึ ติดกับต�ำแหน่งและอ�ำนาจ ดังนั้น สิ่งที่ได้จั่วหัวเรื่องไว้ หลักใหญ่ก็คือเรื่องนี้นั่นเอง จึงขอสรุปว่า วิธปี อ้ งกันการปฏิวตั ิ รัฐประหาร ยึดอ�ำนาจ

(แล้วแต่จะเรียก) ของทหารไม่ให้ เกิดขึ้น นักการเมืองที่เข้ามาบริหาร ประเทศ จะต้องท�ำตามขั้นตอนและธรรม เนียมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และตามรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด โดยการ ดูแบบอย่างของประเทศที่เจริญแล้ว น�ำสิ่ง ที่ดีมาใช้ และประเทศเหล่านั้นใช่ว่าจะเป็น ประชาธิไตย ซึ่งหมายถึงประชาชนเป็นใหญ่ แล้วจะท�ำได้ทกุ อย่าง เพราะในบางเรือ่ งรัฐบาล จะเข้มงวดกว่าเมืองไทยเสียอีก ต้องไม่ยึด ติดกับต�ำแหน่ง ต้องยอมรับในการตัดสินใจ หากผิดพลาดต้องกล้าที่จะกล่าวค�ำขอโทษ (ไม่ใช่เสียใจ) ไม่ตอ้ งตีความ (หัวหมอ) รัฐธรรม นูญมากนัก ยุบสภาเมื่อเกิดความขัดแย้งกัน ของนักการเมือง ลาออกเมื่อเกิดข้อครหา (ไม่ว่าจริงหรือเท็จ) ไม่ใช่ว่าจะต้องรอการ พิสจู น์กอ่ น ยึดหลักธรรมาภิบาล มีคณ ุ ธรรม และจริยธรรมในการปกครอง ไม่เล่นพรรค เล่นพวก การแต่งตั้งบุคคลในอ�ำนาจของ ตนเอง ผู้ได้รับการแต่งตั้งจะต้องไม่มีที่มาว่า เป็ น คนของตนทั้ ง ทางตรงและทางอ้ อ ม และอี ก หลายประการที่ เ ห็ น ว่ า เป็ น การ กระท� ำ ที่ ไ ม่ เป็ น ไปตามวิ ถี ท างของระบอบ ประชาธิปไตย

หากท� ำ ได้ อ ย่ า งนี้ ทางฝ่ า ยทหาร ก็ ไม่มีเหตุผลหรือข้ออ้างที่จะท�ำการปฏิวัติ แต่ถ้ายังคิดว่า เมื่อได้อ�ำนาจมาแล้วจะขอ อยู่ต่อไปทั้งที่ไม่มีทางออกทางการเมือง หรื อ คิ ด ว่ า แพ้ ไ ม่ ไ ด้ ห รื อ แพ้ ไ ม่ เ ป็ น แล้ ว เมือ่ ถึงเวลานัน้ จะต้องมีคนเข้ามาช่วยแก้ไข ให้ ก็คงไม่หนีไปจากทหารนั่นเอง

จับเข่าคุย เสธ.จอย เปิด พรบ.ก�ำลังพลส�ำรอง

ไขก๊อก เรียกระดมพลกลางปีนี้ แบไต๋ เตรียมแยกฝึก 2 รูปแบบ เผยถวายงาน ร.9 สุดปราบปลืม้ ปีตใิ จ ระบุภมู ใิ จทีไ่ ด้เป็นทหาร ยืนยัน ความดี คือเกราะก�ำบัง

จากกรณีทพี่ ระราชบัญญัตกิ ำ� ลังพล ส�ำรอง พ.ศ.2558 ได้ประกาศในราชกิจจานุ เบกษาไปแล้วเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2558 และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2558 เป็นต้นมานั้น ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผล งานชิ้นโบว์แดงของกระทรวงกลาโหมเลยก็ ว่าได้ เพราะนับเป็นสิง่ ทีท่ ำ� ให้การเรียกระดม สรรพก�ำลังมีความชัดเจนเป็นรูปธรรมมาก ยิง่ ขึน้ ดังนัน้ ทีมข่าวชัยสมรภูมจิ งึ ขอเกาะติด สถานการณ์ความเคลื่อนไหวในเรื่องราวดีๆ แบบนี้ ม าเล่ า สู ่ กั น ฟั ง แบบอิ น ไซด์ จ ากบท สัมภาษณ์พเิ ศษของ เสธ.จอย - พล.ท.ชมพล

อามระดิษ เจ้ากรมการสรรพก�ำลังกลาโหม ซึ่งได้กล่าวถึงรายละเอียดที่น่าสนใจ เอาไว้ ดังต่อไปนี้

“ทีผ่ า่ นมา กรมการสรรพก�ำลังกลาโหม ในฐานะส�ำนักงานเลขานุการของ คกส. ได้ ด�ำเนินการขับเคลื่อนเพื่อให้พรบ.ฉบับดัง กล่าวมีผลบังคับใช้อย่างเป็นรูปธรรม โดยใน ปัจจุบันนั้น ได้ก�ำหนดให้มีการฝึกการระดม สรรพก�ำลังเพื่อการทหาร ซึ่งเป็นการบูรณา การฝึกร่วมกันกับส�ำนักงานสภาความมั่นคง แห่งชาติ และ ๑๐ หน่วยงานในระดับกระทรวง ที่เป็นหน่วยประสานงานหลักตามแผนผนึก ก�ำลังและทรัพยากรเพือ่ การป้องกันประเทศ ซึ่งมีการฝึกใน ๒ รูปแบบ ได้แก่ การฝึก

ปัญหาที่บังคับการ และการฝึกภาคสนาม

โดยการฝึกดังกล่าว จะเป็นการผนึก ก� ำ ลั ง จากทุ ก ภาคส่ ว นทั้ ง ส่ ว นข้ า ราชการ พลเรือน รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน มาสนับ สนุนการปฏิบตั กิ ารทางทหาร ตามแผนป้องกัน ประเทศ ภายใต้กรอบการฝึกร่วมกองทัพไทย และเป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ของการฝึ ก การบริ ห าร

ชัยสมรภูมิ 69

วิกฤตการณ์ระดับชาติ ประจ�ำปี 2560

ทั้งนี้ ในการฝึกฯ ดังกล่าว หน่วย ประสานงานหลักในระดับกระทรวงและหน่วย ประสานงานในระดับพืน้ ที่ เช่น อ�ำเภอ จังหวัด หรือกลุม่ จังหวัด จะได้มกี ารเตรียมความพร้อม ทัง้ ด้านบุคลากร และเครือ่ งมือต่างๆ ซึง่ เป็น ทรั พ ยากรที่ จ ะน� ำ มาสนั บ สนุ น การปฏิ บั ติ การทางทหาร และการช่วยเหลือประชาชน ท�ำให้มีความพร้อมที่จะเผชิญภัยคุกคามได้ ในทุกรูปแบบ ทั้งการป้องกันประเทศ และ สาธารณภัย สามารถน�ำเจ้าหน้าทีแ่ ละเครือ่ งมือ ต่างๆ มาใช้แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ทัน ท่วงที และมีประสิทธิภาพ เพือ่ ให้การแก้ปญ ั หา ต่างๆ มีความชัดเจนเป็นรูปธรรมต่อไป โดยมี ก�ำหนดห้วงเวลาการฝึกดังนี้

24 - 26 พ.ค.60 เป็นการฝึกปัญหา ที่บังคับการ โดยมีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการใน ทีต่ งั้ ของกระทรวงต่างๆ รวมทัง้ ศูนย์บญ ั ชาการ ทางทหาร และศูนย์การระดมสรรพก�ำลังที่ กรมการสรรพก�ำลังกลาโหม 14-15 มิ.ย.60 เป็นการฝึกภาคสนามที่ จ.ปราจีนบุรี โดยน�ำ ปัญหาฝึกจากปัญหาที่บังคับการบางส่วนมา ใช้ในการฝึกภาคสนาม โดยใช้พื้นที่ฝึก ณ มณฑลทหารบกที่ 12

อย่างไรก็ตาม หากก�ำลังพลส�ำรอง หรือ นายจ้างของผูต้ อ้ งเข้ารับการฝึกมีขอ้ สงสัย สามารถหาข้อมูลเพิม่ เติมได้ที่ dmd.mod.go.th หรือ โทรศัพท์สอบถามที่ 02 501 6790”

70 ชัยสมรภูมิ

เมื่ออ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ก็คิดว่า ท่านผู้อ่านก็คงจะมีความเข้าใจในความ เคลื่อนไหวของ พรบ.ก�ำลังพลส�ำรอง กัน ไปพอสมควรแล้ว แต่ถา้ จะให้จบลงไปง่ายๆ โดยที่ไม่มีโอกาสพูดคุยกับผู้บริหารสูงสุด ขององค์กรแบบเอกซ์คลูซีฟก็คงจะไม่ใช่ทีม กระจิบข่าวชัยสมรภูมิ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็น การเสียเวลา จึงขอเชิญท่านผู้อ่านมาท�ำ ความรูจ้ กั กับ พล.ท.ชมพล อามระดิษ ได้นบั ตั้งแต่สิ้นสุดข้อความนี้เป็นต้นไป

“ส�ำหรับคติประจ�ำใจในการท�ำงาน ของผมนั้น จริงๆ แล้วก็คือ เป็นคนดี ต้อง เป็นคนดีอย่างเดียวโดยจะต้อง พูดดี คิดดี ท�ำดี อย่าไปให้รา้ ยกับใคร หรืออาจจะมองว่า

สิ่งเหล่านี้เป็นการคิดบวกก็ได้ โดยเราต้อง มองว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาล้วนแต่มี เหตุและมีผลด้วยกันทัง้ สิน้ ชีวติ ทีผ่ า่ นมาของ ผมเคยได้พบเจอกับทั้งเรื่องราวที่ดีและไม่ดี มามากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่คิดว่าจะต้องมีอยู่ ตลอดก็คือพูดดี คิดดี ท�ำดี การท�ำงานบาง ครัง้ ก็อาจจะมีกระทบกระทัง่ กันบ้าง บางครัง้ ได้รับค�ำชมก็ยินดีบางครั้งได้รับค�ำต�ำหนิก็ ไม่เคยคิดจะไปอาฆาตใคร เพราะยึดถือว่า ถ้าเราเป็นคนดีกจ็ ะมีความดีเป็นเกราะก�ำบัง ให้กับเราเอง

ส่วนเรือ่ งการบริหารองค์กรก็เช่นกัน คนดีก็ควรชมเชย แต่หากผู้ใต้บังคับบัญชา กระท�ำความผิดก็ต้องว่ากันไปตามเหตุผล

เช่น เมือ่ ครัง้ ยังเป็นผูน้ อ้ ย เราไม่ชอบค�ำพูด บางค�ำพูด แต่เมือ่ เราเป็นผูใ้ หญ่ เป็นผูบ้ ริหาร สูงสุดของกรม กอง เราก็ไม่ควรเอาค�ำเหล่า นั้นไปต�ำหนิลูกน้อง ผมมองว่าคนที่ท�ำความ ผิดนั้น ในฐานะคนที่เป็นผู้บังคับบัญชาก็ ไม่ ได้หมายความว่าจะต้องเอาแต่ลงโทษ อย่างเดียว แต่ต้องถามเหตุผลด้วยว่า คุณ ท�ำผิดเพราะอะไร หรือ อะไรจึงท�ำให้คุณท�ำ ผิด เช่น การมาสาย ก็ตอ้ งดูสาเหตุวา่ เพราะ อะไร มีปญ ั หาทางบ้านหรือไม่ แต่กรณีตา่ งๆ เหล่านี้ ไม่ใช่ว่าจะไม่มีการลงโทษ ซึ่งก็ต้อง พิจารณากันด้วยเหตุผลและความเหมาะสม โดยในเรือ่ งทีเ่ ป็นลักษณะดังกล่าวนัน้ สิง่ ไหน ที่ผมท�ำไม่ได้ ผมก็จะไม่ไปต�ำหนิหรือคาด คั้นใคร เช่น เรื่องการมาตรงเวลาทุกวัน ถ้า ผมท�ำไม่ได้ผมก็จะไม่บังคับใคร แต่ก่อนที่ ผมจะต� ำ หนิ ใ ครก็ จ ะต้ อ งท� ำ ให้ เ กิ ด การ ยอมรับจากทั้งในใจจริงและในการปฏิบัติ ให้ เ ห็ น จริ ง ก่ อ นบางที เ ราก็ ต ้ อ งยอมเสี ย เวลา เพือ่ หาเหตุผลทีแ่ ท้จริงให้ได้ มันคล้ายๆ กับเอาใจเขามาใส่ใจเรา คือ ทุกอย่างล้วนมี เหตุผล

ทหารทุ ก คนมี ค วามภาคภู มิ ใ จใน วิชาชีพ ผมเองก็เช่นกัน เพราะว่าการเป็น ทหารนัน้ ถ้าคนไม่เคยเป็นก็อาจจะไม่รวู้ า่ จะ ต้องเสียสละมากมายทั้งชีวิตส่วนตัวและ เรื่องส่วนรวม อย่างเช่น ถ้ามีงานติดพัน เราก็ต้องเสียสละเวลาจากครอบครัว เราให้ เหตุผลกับครอบครัวได้ แต่เราจะแก้ตัวกับ

งานที่ต ้ องรั บ ผิ ดชอบไม่ ไ ด้ ซึ่ ง สิ่ ง เหล่ า นี้ ท� ำ ให้ ผ มรู ้ สึ ก ภู มิ ใ จและถื อ ว่ า เป็ น งานที่ มีเกียรติ ผมเองได้พูดคุยหรือตั้งค�ำถามกับ รุ่นน้องบ่อยๆ ว่า การท�ำงานต่างๆ ของเรา เป็นการท�ำงานเพือ่ ประเทศชาติจริงๆ หรือไม่ บางอย่างอาจดูขัดแย้ง แต่ถ้าเป็นการท�ำ เพื่อ ประเทศชาติ ถึ ง แม้ จ ะเป็ น เพี ยงเรื่ อ ง เล็กๆ น้อยๆ เราก็ตอ้ งท�ำ แม้ทำ� แล้วไม่มใี คร รู้แต่เราก็ภาคภูมิที่ได้ท�ำเพราะเรารู้อยู่กับใจ ว่าเราท�ำ และแม้จะมีเรื่องที่ผิดหวังมามาก แต่ผมก็สามารถฟันฝ่ามาได้ และก็มกั จะสอน น้องๆ อยู่เสมอว่า คุณท้อเมื่อไหร่ชีวิตคุณ ก็จบ เพราะฉะนัน้ ต้องไม่ทอ้ เพราะไม่นาน นักเรือ่ งราวร้ายๆ มันก็จะผ่านและจบไปเอง แต่ถ้าคุณเป็นคนไม่ดีเมื่อไหร่มันก็จะไป ทางลบโดยที่ไม่มีโอกาสกลับมาทางบวก

หรือ อย่างน้อยเวลาเราก�ำลังแย่มันก็ไม่มี ใครซ�ำ ้ และเมื่อมีโอกาสก็จะมีแต่คนช่วย ไม่มีคนให้ร้ายเรา ขอเพียงแค่ยึดถือแต่ สิ่งที่ดีก็พอ

ส�ำหรับการได้มีโอกาสเป็นเวรราช องครักษ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 นั้น ก็ถือ เป็นความปลาบปลื้มที่สุดที่ได้มีโอกาสถวาย งานรับใช้พระองค์ท่าน ผมมีความซาบซึ้ง ในพระมหากรุณาธิคุณพระองค์ท่านอย่าง หาที่สุดมิได้ โดยเฉพาะในเรื่องของการเสีย สละ ซึ่งเมื่อมองมาที่ตัวเราเองแล้วก็จะเห็น ว่ า เรายั ง ท� ำ อย่ า งพระองค์ ท ่ า นไม่ ไ ด้ เ ลย เพราะต้องยอมรับว่า บางครั้งเราเองยังไม่ สามารถตัดความสุขบางส่วนออกไปได้ แต่ พระองค์สามารถท�ำได้คอื ทรงเสียสละและ ท� ำ ทุ ก สิ่ ง ทุ ก อย่ า งเพื่ อ ประชาชนของ พระองค์ท่านจริงๆ ซึ่งที่ผมได้กล่าวไปนั้น สามารถยื น ยั น ได้ จ ากความรั ก ของ ประชาชนที่มีต่อพระองค์ท่านดังที่เราได้ เห็นกันอยู่ ณ ปัจจุบันทุกวันนี้”

ชัยสมรภูมิ 71

ดวงดาวพยากรณ์ 12 ราศี โดย...ส.ศุภฤกษ์

ทุกคนเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะทำ�ความดีได้

ราศีเมษ หรือเกิดระหว่างวันที่16 เมษายน ถึง 15 พฤษภาคม ระยะมีเกี่ยวกับงานที่เคยติดต่อไว้พอประมาณแล้วน�ำกลับมาปัดฝุ่นใหม่ มีบุคคลหลายท่านจะเข้ามาพบ ท่านทั้งในประเทศและต่างประเทศ บุคคลที่มีชื่อเสียง ทั้งในด้านธุรกิจและสังคม ท่านควรใช้ศักยภาพ ความรู้ความสามารถของมาใช้ มีโอกาสส�ำเร็จสูง ควรปรึกษาหรือขอค�ำแนะน�ำจากผู้รู้ในด้านนั้นๆ ก่อน ที่จะสรุปแต่ละประเด็น และได้รับโอกาสที่ดีบ่อยขึ้น การเงิน อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ใช้จ่ายสูงขึ้น ความรัก ระยะนี้ดูเหมือนห่างเหิน แต่ในใจมีเธอเพียงผู้เดียว สุขภาพ ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ระวังการรับประทานอาหาร อาจเกิดกรดไหลย้อน ราศีพฤษภ หรือเกิดระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม ถึง 15 มิถุนายน ระยะนีม้ กี ารโยกย้ายเลือ่ นขัน้ ได้ทำ� หน้าทีใ่ หม่ และงานทีท่ า้ ทายส�ำหรับตัวท่านเอง อาจเป็นเพราะท่านอาจไม่เคย ศึกษางานด้านนีม้ าก่อน ค่อยๆเรียนรูไ้ ป มีโอกาสส�ำเร็จ เจริญก้าวหน้าสูง บุคลิกของท่านไม่ชอบอยูน่ งิ่ ชอบศึกษา ค้นคว้าหาความรูอ้ ยูต่ ลอด ท่านจึงเป็นบุคคลทีม่ คี นจับจ้องตาอยูต่ ลอด มีบคุ ลิกท่าทางทีด่ ี พูดจาทันคน ถ้ามีโอกาสไป ท�ำบุญเข้าวัด กราบพระขอพรพระประทานองค์ใหญ่ๆ อาจมีการเดินทางบ่อยขึน้ การเงิน อยูใ่ นเกณฑ์ทดี่ ี สุขภาพ นอนไม่หลับ ปวดหัว ปวดตา มายเกรน ความรัก ถ้าโสด หรือเป็นหม้าย อาจได้พบรัก ราศีเมถุน หรือเกิดระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน ถึง 15 กรกฎาคม หน้าที่การงานที่ผ่านเข้าตากรรมการ จะได้รับการชื่นชม ชมเชยที่องค์กรที่ท่านอยู่ แต่บางครั้งก็โดนแย่งซีน คือ ผลงานของเราแต่คนอื่นเอางานหรือ ความคิดของเราไปน�ำเสนอก่อน แต่เพชรก็ย่อมเป็นเพชรจะเป็น กระจกมิได้ ขอให้ท่านท�ำทุกสิ่งด้วยความตั้งใจก็จะประสบความส�ำเร็จ การเงิน การใช้ส่วนตัวไปได้คล่อง แต่ ควรระวังคนน�ำเรือ่ งเดือดร้อนมาให้ หรือ มีคนมายืม ระยะนีไ้ ม่ควรค�ำ้ ประกันให้กบั ใคร หลงลืมของหาย สุขภาพ ระวังของมีคม น�้ำ ร้อน กล้ามเนื้อ ข้อเข่า ความรัก ถ้าโสดจะคนเข้ามาให้พิจารณา ราศีกรกฎ ระหว่างวันที่ 16 กรกฎาคม ถึง 15 สิงหาคม ท่านเป็นคนมีความตัง้ ใจสูงและมีความคาดหวังในงานนัน้ ๆท่านตัง้ ความหวังใจสูง ควรลดอณุภมู ลิ ดลงบ้างจะท�ำให้ ท่านมีความสุข มิฉะนัน้ จะท�ำให้ทา่ นเครียดย�ำ้ คิดย�ำ้ ท�ำ แต่สว่ นใหญ่ๆ งานทีไ่ ด้รบั มอบหมายมา ผลงานชิน้ ใหม่ มี โอกาสส�ำเร็จสูงแต่ตอ้ งใช้เวลาสักระยะ เป็นคนชอบเรียนรู้ ค้นคว้า วิจยั เป็นผูบ้ ริหาร นักวิชาการ อาจารย์ ได้ดี แต่ควรระวังค�ำพูด ค�ำจา พูดถูก อาจผิดได้ เป็นคนเก็บความลับได้ดี มีความรับผิดชอบ เดินทางไกลควรตรวจตรายานพาหนะ การเงิน อยูใ่ นเกณฑ์ทดี่ ี สุขภาพ เตรียมยาให้พร้อม โดยพาะยาประจ�ำตัว ควรระวังเลือด ลม เหนือ่ ยง่าย ความรัก ระวังเดือนอารมณ์ ราศีสิงห์ หรือเกิดระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม ถึง15 กันยายน ท่านมีบุคลิก เป็นผู้น�ำสูง ทั้งทางด้านธุรกิจ-สังคม ในการยอมรับ มีผู้ใหญ่ให้ความช่วยเหลือเป็นที่ปรึกษาได้ พบปะผู้คนมากมาย ทั้งเพื่อนเก่า เพื่อนใหม่ ที่ไม่ได้พบกันมานานจะน�ำเรื่องดีๆเช่น ธุรกิจมาปรึกษา ร่วมลงทุน มีการติดต่อกับบุคคล จ�ำนวนมาก ท่านเป็นคนมีบคุ ลิกดี พูดจาดี จิตใจอ่อนโยน ชอบช่วยเหลือคน ถ้าดีกด็ จี นใจหาย ถ้าร้ายก็ควรที่จะถอย ห่าง พูดจาตรงไปตรงมาขวานผ่าซาก เป็นคนมีศิลธรรม รักอิสระ โอบอ้อมอารี มีสภาวะการเป็นผู้น�ำสูง ปากร้ายแต่ใจดี รายนี้ ต้องควบคุมอารมณ์ การเงิน ใช้จ่ายสูงหลายด้าน สุขภาพ ปวดหัว คอ บ่า ไหล่ ความรัก เป็นห่วงเป็นใยจนลืมนึกถึงตนเอง ราศีกันย์ ระหว่างวันที่ 16 กันยายน ถึง 15 ตุลาคม ท่านเป็นคนไม่ชอบไม่ชอบอยูน่ งิ่ ชอบการเรียนรู้ มีความคิดกับการท�ำงาน ช่างคิดสร้างสรรค์ ชอบท�ำงานทีท่ า้ ทาย หาประสบการณ์ใหม่ๆ มีอดุ มการณ์ มีความคิดเป็นของตนเอง เป็นนักแก้ปญ ั หาให้กบั ผูอ้ นื่ แต่บางครัง้ ปัญหาส่วนตัว ของเราหาทางออกไม่ได้กม็ ี มีรสนิยมเป็นนักประณีประนอม ฟังเหตุผลหรือปัญหาของผูอ้ นื่ จึงท�ำให้ทา่ นมีเสน่หโ์ ดยมิรตู้ วั มีเหตุผล ซือ่ ตรง อ่อนไหว ฉลาดท�ำงานดี เป็นคนชอบเดินทาง การเงิน คล่องตัว จะต้องมีการใช้จา่ ยของบางสิง่ ทีต่ งั้ ใจไว้ สุขภาพ ปวดหัว หลัง เอว เท้า ความรัก ถ้าโสดจะมีคนเข้ามาคบหาดูใจ

72 ชัยสมรภูมิ

ราศีตุลย์ เกิดระหว่างวันที่ 16 ตุลาคม ถึง 15 พฤศจิกายน ปัญหาต่างๆที่ผ่านมาจะเริ่มคลี่คลาย มีอัศวินขี่ม้าขาวเข้ามาช่วย ให้ผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆทั้งตัวท่านเอง หรือผู้ใกล้ชิดที่หาปัญหามาให้ท่านต้องคบคิด ระยะนี้ไม่ควรลงทุนหรือเริ่มงานใหม่ จะท�ำให้เสียหาย ขาดทุนได้ ควรใจเย็นๆอีกสักระยะค่อยเริ่มงานใหม่ ตอนนี้พยายามสะสางงานหรือ ธุรกิจที่คั่งค้างให้คลี่คลาย ไปในทางที่ดี จะมีปัญหากับ ตัวเลข เอกสารต่างๆ การเงิน มีการต้องใช้จา่ ยโดยไม่เป็นเรือ่ ง ควรบริหารการเงินให้ดมี ฉิ ะนัน้ อาจขาดสภาพทางการเงิน มีการเดิน ทางเป็นครั้งคราว สุขภาพ ระวังโรคประจ�ำตัว ก�ำเริบ อย่าลืมทานยา ความรัก ถ้าตึงก็ปล่อยบ้าง เอาใจเขามาใส่ใจเรา ราศีพิจิก เกิดระหว่างวันที่ 16 พฤศจิกายน ถึง 15 ธันวาคม เป็นคนมีความสามารถสูง ท�ำงานหนักเบาเอาสู้ แต่เป็นคนรักอิสระ มีเป้าหมายในชีวติ ชอบศึกษาเรียนรูส้ งิ่ ใหม่ๆ โลกส่วนตัวสูง เก็บความลับได้ดี มีคุณธรรม ท�ำบุญ ท�ำทาน มีความคิดเป็นของตัวเอง ชอบคิดนอกกรอบ ระยะ นี้มีสิ่งแปลกๆเข้ามา เช่น ฝัน หรือ สัมผัส กับสิ่งที่เหนือค�ำอธิบาย จะได้โชคลาภแบบไม่คาดหวัง หรือกับธุรกิจที่เคยติดต่อไว้ นานแล้วแต่เพิ่งมาส่งผลส�ำเร็จ อาจได้รับของขวัญชิ้นงามจากญาตผู้ใหญ่ได้ ถ้าเดินทางไกลควรพักผ่อนให้เพียงพอ การเงิน เพื่อนร่วมงานเริ่มดีขึ้น สุขภาพ ภูมิแพ้ อากาศ คัน ผิวหนัง ความรัก ถ้าโสดก็โสดต่อไป ราศีธนู เกิดระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม ถึง 15 มกราคม ระยะนีม้ กี ารใช้จา่ ยสูง ฟุม่ เฟือยมากอาจจะมีคนมา หยิบยืม หรือน�ำข้าวของมาแลกเปลีย่ น มีการแข่งขันปฏิสมั พันธ์ กับผู้อื่นเข้าสู่สังคมอีกรูปแบบจะได้รับการนิยมชมชอบ มีเสน่ห์ มีบุคคลเข้ามาหามากมาย ท่านมีบุคลิกเป็นตัวของ ตัวเองสูง ชอบกาให้เกียรติ ไม่เสแสร้ง มีการเปลี่ยนแปลงโยกย้าย รักความก้าวหน้า การเดินทางมีบ้าง การเงิน อยู่ในเกณฑ์ที่ดี สุขภาพ ปวดตามข้อกระดูก กล้ามเนื้อ ความรัก ระวังเรื่องค�ำพูด พูดถูกอาจเป็นผิดได้ ท�ำบุญให้กับชีวิตสรรพสัตว์จะดีมาก ราศีมังกร เกิดระหว่างวันที่ 16 มกราคม ถึง 15 กุมภาพันธ์ มีการพบปะผู้คนมากขึ้นกับเพื่อนร่วมงานกับหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ทั้งที่ปกติท่านเป็นคนโลกส่วนตัวสูงก็ตาม มีการเจรจาต่อรองเนื้อหาข้อยุติ เชิงไหวพริบในบางโอกาส มีผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน แต่เสียที่เป็นคนปากแข็ง ใจอ่อนการที่จิตใจอ่อนไหวจะท�ำให้เราเสียเปรียบได้ ไม่ควรน�ำเรื่องในอดีตที่ผ่านมาคบคิดหรือย�้ำคิดย�ำ้ ท�ำ ระยะนี้ขับรถไปไหน มาไหนควรระมัดระวังอย่าประมาท การเงิน อยู่ในเกณฑ์ที่ดี สุขภาพ ควรระวังเรื่อง ภูมิแพ้ หวัด ไอ ความรัก ยังคงชื่นมื่น หงุดหงิดบ้าง ราศีกุมภ์ เกิดระหว่างวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ถึง 15 มีนาคม ระยะนี้อาจมีการโยกย้าย มีการเปลี่ยนแปลงต�ำแหน่งหน้าที่ การงานได้เรียนรู้สิ่งแปลกใหม่ที่จะเข้ามา ท่านจะ สนุกกับงานที่ท้าทาย ท่านเป็นคนที่ชอบเรียนรู้กับสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอไม่ชอบอยู่นิ่ง จิตใจกว้างขวาง ใจถึง ชอบพูด ครึ่งเดียว กล้าได้ กล้าเสีย ข้อเสียคือเจ้าอารมณ์ โกรธง่าย หายเร็ว ไหวพริบดี ระยะนี้ควรระวังเรื่อง วาจา อย่ารับปากใครโดย มิได้ตรึกตรองจะเข้าตัว การเงิน ยังดี ได้มามีอนั ต้องใช้จา่ ย มีการเดินทาง สุขภาพ ปวดท้อง ปวดหัว ตัวร้อน กรด แก๊ส ความรัก ระวังเรื่องค�ำพูด ค�ำจา ราศีมีน เกิดระหว่างวันที่ 16 มีนาคม ถึง 15 เมษายน การงานค่อนข้างเข้ามามากทั้งงานเก่าและใหม่ ต้องมีการแก้ไขปรับปรุง ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในงานใหม่ มา การท�ำสัญญาแต่ควรจะตรวจตราให้ดีก่อนที่จะเซ็นสัญญา อาจท�ำให้เสียเปรียบได้ ท�ำสิ่งใดไม่ควรใจร้อน ค่อย คิด ค่อยท�ำจะดี แต่ท่านดีตรงที่อ่อนน้อมถ่อมตน พูดจาดี จะช่วยท่านได้ ควรระวังเพื่อนร่วมงานอาจท�ำผิดพลาด ท�ำให้ท่านต้อง มาช่วยแก้ไข มีการเดินทางใกล้ ไกล การเงิน อยูใ่ นเกณฑ์ทดี่ ี สุขภาพ ปวดกล้ามเนือ้ คอ หลัง เอว ขา ความรัก ระวังเรือ่ งค�ำพูด ค�ำจา

ชัยสมรภูมิ 73

ว่ากันที่เรื่องของการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ... โดยเฉพาะด้านสือ่ เป็นทีจ่ บั ตาของสือ่ มวลชนรวมถึงสมาคม 30 องค์กรสื่อที่เกี่ยวข้องจนต้องออกโรงมาคัดค้านการตั้งองค์การ วิชาชีพสื่อก�ำกับจรรยาบรรณกันเอง ตามการเสนอร่างพ.ร.บ. คุ้มครองสิทธิเสรีภาพส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพ สื่อมวลชน ที่เสนอโดยคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูป ประเทศด้านสื่อสารมวลชน น�ำโดย พล.อ.คณิต สุวรรณเนตร ประธานกรรมาธิการฯ ซึ่งฟุ้งกันว่าเปิดช่องทางให้รัฐเข้ามา แทรกแซง

แต่ความเป็นจริงแรงกระเพือ่ มสือ่ ไม่รุนแรงอย่างที่ข่าว น�ำเสนเห็นตามหน้าข่าว แนวร่วมก็น้อย เพราะไม่อยากออกตัว แรง เพราะลึกๆทุกวันนี้องค์กร-สมาคมสื่อก็รับเงินจากรัฐ ปีละ 50 ล้าน แบ่งจากภาษีบาปไทยพีบีเอส ใช้ค�ำโก้ๆว่า งบประมาณ ดูแลสวัสดิภาพสื่อ หากมีการบังคับใช้ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสื่อฯ ก็จะได้ภาษีบาปมาใช้ปลี ะ 30 ล้าน ความเป็นจริงไม่มสี อื่ รายไหน อยากได้งบประมาณรัฐหรอก มีแต่องค์กรสื่ออยากได้เงินมาใช้ แบบสถาบันอิศราได้เงิน สสส.

อีกมุมหนึง่ ระดับเฮดแต่ละสือ่ อย่าง ประภา เหตระกูล ศรีนวลนัด บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์เดลินวส์, วรวิทย์ ศรีอนันตรักษา รองบรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์เดลินวส์, สมพงษ์ สระกวี จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมพีชทีวี, ค�ำนูณ สิทธิสมาน บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร Mother&Care ใน เครือผูจ้ ดั การ, สมชาย แสวงการ อดีต นายกสมาคมนักข่าววิทยุ และโทรทัศน์ไทย และ บุญเลิศ คชายุทธเดช อดีตบรรณาธิการ ข่าวหนังสือพิมพ์มติชน ก็ถกู ดึงมารับ job ท�ำงานในรัฐบาลชุดนี้ ทัง้ สภาขับเคลือ่ นการปฏิรปู ประเทศ และสภานิตบิ ญ ั ญัตแิ ห่งชาติ แม้ด้านหนึ่งหวังจะท�ำเพื่อช่วยรัฐเดินหน้าประเทศ แต่ก็ไม่กล้า มีปากมีเสียงกับการช่วยสื่ออกมาเรียกร้องหรือปกป้องสิทธิ เท่าไรนัก

74 ชัยสมรภูมิ

พล.อ.คณิต สุวรรณเนตร

อย่างไรก็ตาม แม้วา่ สปท.จะให้มกี ารชะลอพิจารณาร่าง กฎหมายคุ้มครองสื่อ แต่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการ ร่างรัฐธรรมนูญ ก็ยงั เห็นด้วยว่า ควรให้การพิจารณามีสอื่ เข้าไปมี ส่วนร่วมทั้งหมด และให้สื่อก�ำกับกันเองอย่างแท้จริง “หากให้ คนอืน่ เป็นผูท้ ำ� ก็อดคิดไม่ได้ทจี่ ะมีคนอืน่ มาแทรกแซง ตนเชือ่ ว่า เรื่องนี้สื่อควรคุยกับ สปท.ให้รู้เรื่อง” หรือถ้ายังหาทางออกไม่ ได้ มีนายชัย ก็ยงั แนะน�ำว่า “อาจหาคนกลางมาช่วยหาทางออก ให้เป็นทีพ่ อใจกับทุกฝ่าย ส่วนใครทีเ่ หมาะสมจะเป็นคนกลางนัน้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับทั้งสองฝ่ายไว้วางใจใคร”

ส่วนสือ่ ออนไลน์ ก็หนีไม่พน้ ถูกปฏิรปู ด้วย แม้จะไม่สำ� คัญ เทียบเท่าการออกกฎหมายคุม้ ครองสือ่ แต่กเ็ ป็นเรือ่ งล�ำดับรอง ทีจ่ อ่ เสนอผ่านสปท.เห็นชอบเพือ่ เสนอรัฐบาลหรือคณะรัฐมนตรี ท�ำเป็นแผนวาระแห่งชาติ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติชว่ ง 5 ปีแรก โดยให้มีการตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านสื่อ ออนไลน์ และให้นายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการโดย ต�ำแหน่ง รวมถึงองค์ประกอบมาจากหัวหน้าส่วนราชการทีเ่ กีย่ วข้อง อาทิ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงดิจทิ ลั เพือ่ เศรษฐกิจและสังคม ตามข้อเสนอของ พลต�ำรวจตรี พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ประธาน อนุกรรมาธิการปฏิรูปสื่อออนไลน์

นายมีชัย ฤชุพันธุ์

นางสายทิพย์ เชาวลิตถวิล

นายจเร พันธุ์เปรื่อง

นอกจากปฏิรปู สือ่ แล้ว ยังเตรียมปฏิรปู ระบบงานรัฐสภา รองรับการท�ำงานของ ส.ส. ไม่ให้ซำ�้ รอยนักการเมืองแทรกแซง ฝ่ายข้าราชการ ตั้งแต่เกิดปัญหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือพูด ง่ายๆ สอดไส้รา่ งปลอมผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา หรือแม้แต่ การให้เบิกจ่ายพาพวกกันเองไปดูงานต่างประเทศอาศัยช่อง ทางการประชุมคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ หรือสมาคมมิตรภาพ โดยจะให้แยกบทบาทอ�ำนาจของประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานวุฒสิ ภาออกจากงานบริหารภายในรัฐสภา จากเดิม ที่พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการฝ่ายรัฐสภา พ.ศ.2554 ก�ำหนดให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภามี อ�ำนาจบริหารทั้งด้านบุคคล งบประมาณ การแต่งตั้งโยกย้าย ข้าราชการภายในได้

ขาดไม่ได้เรื่องของความคืบหน้าโครงการก่อสร้าง อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ซึง่ หลังจากหาขนดินหาทีต่ กั ดินกันยกใหญ่ จนกระทัง่ ต้องเปลีย่ นเลขาธิการสภาผูแ้ ทนราษฎรถึง 3 คน จาก นายจเร พันธุ์เปรื่อง มาเป็น นางสายทิพย์ เชาวลิตถวิล และ คนปัจจุบัน นายสรศักดิ์ เพียรเวช “ข้ามห้วย” มาจากต�ำแหน่ง ผอ.ฝ่ายกฎหมาย การโดดเด้งมาท�ำหน้าที่นี้ต้องแลกกับเงื่อนไข ไม่ถูกสื่อโจมตีเรื่องสภาใหม่ และต้องวางแพลนได้ว่า ปีแรกที่

นายสรศักดิ์ เพียรเวช

พลอากาศเอก วีรวิท คงศักดิ์

พลอากาศเอก วีรวิท คงศักดิ์

เข้ามาท�ำหน้าที่ งานก่อสร้างต้องเดินหน้า 30% ซึ่งเท่ากับว่า ลานจอดรถชั้นใต้ดินต้องแล้วเสร็จ พื้นชั้นแรกต้องมี โครงสร้าง ต้องขึ้น

งานนี้เฮียสั่งลุย ถึงขั้นก้มกราบวิงวอนชาวบ้านให้ยอม คืนพื้นที่ และห้ามเลิกต่อรองสิทธิประโยชน์ตามที่รัฐควรจัดสรร ให้ ซึง่ ก็ได้ผลจากการเอาพานพวงมาลัยไปขอคุณยายรายสุดท้าย ให้สามารถคืนพื้นที่ในที่สุด ชัดเจนว่าผลงานเป็นที่ประจักษ์ จน ได้รับการยอมรับจากประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งก็คือ นายพรเพชร วิชิตชลชัย

ส่วนกรณีสินบนโครงการติดตั้งกล้องซีซีทีวี ล่าสุด นายพรเพชร ก็ได้สงั่ ตัง้ คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงสินบน กล้องวงจรปิดรัฐสภา ที่มี พลอากาศเอก วีรวิท คงศักดิ์ เป็น ประธานกรรมการฯ หลังจากกรณีที่ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลการจ่ายสินบนแก่บุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นที่ปรึกษา โครงการติดตั้งกล้องซีซีทีวีในรัฐสภาไทย เมื่อปี 2549 ซึ่งล่าสุด ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งข้อมูลจากวงในต่างก็บอกว่ามีการจัด ซือ้ จัดจ้างตามขัน้ ตอน แต่จะสุจริตจริงหรือไม่กต็ อ้ งรอดูกนั ต่อไป

ไหนๆ รัฐบาลก็อยากให้เกิดการเลือกตั้ง ได้ยินมาว่า เลือกตั้งรอบหน้าอาจมีพรรคการเมืองหน้าใหม่ไฟแรงกะเปิด ตัวใหญ่ แค่พูดชื่อ ชัช เตาปูน หรือที่รู้จัก ชัชวาลย์ คงอุดม ก็ ถึงบางอ้อ จะมาเป็นหัวหอกตัง้ พรรคการเมืองหวังเป็นปากเสียง ตัวแทนคนท้องถิ่น ซึ่งมีแรงหนุนจากสมาคม อบต.ที่มีสมาชิก อยูท่ วั่ ประเทศ งานนีม้ สี โลแกน “เลือกเดินในเส้นทางใหม่ เพือ่ ประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม” ส่วนจะตั้งชื่อพรรคอะไรนั้น ต้องรอ ถามเจ้าตัว หรือจะใช้ชอื่ พรรคพลังพัฒนา เหมือนอย่างทีเ่ คยฝัน ไว้รึเปล่าก็ยังไม่รู้ รู้แต่ว่าขยันท�ำคะแนนลงพื้นที่รัวๆ พรรคอื่น รีบท�ำคะแนนให้ทันนะ เออ...

ชัยสมรภูมิ 75

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน

พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์

พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี

พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสยั สุข

โดย...พิทักษ์ 001

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง.ผบ.ตร. เปิดแถลง ข่าวยุทธการ “ตัดวงจรทางการเงินเครือข่ายยาเสพติด ครัง้ ที่ 4” เครือข่าย นายอุสมาน สแลแมง และ นายไซซะนะ แก้ว พิมพา วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 15.00 น. นายศิริ นทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พล.ต.อ.เฉลิม เกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผูช้ ว่ ย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผบช.ภ.9, พล.ต.ท. สมหมาย กองวิสยั สุข ผบช.ปส., ทหาร และ ปปง. ร่วมแถลงข่าวยุทธการ

“ตัดวงจรการเงินเครือข่ายยาเสพติด ครั้งที่ 4” เครือ ข่าย นายอุสมาน สแลแมง และ นายไซซะนะ แก้วพิมพา ภายใต้ร่วมแถลงข่าวยุทธการ “ตัดวงจรการเงินเครือข่ายยา เสพติด ครัง้ ที่ 4” เครือข่าย นายอุสมาน สแลแมง และ นาย ไซซะนะ แก้วพิมพา ภายหลังจากการขยายผลจับกุมและยึด ทรัพย์ขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่พร้อมของกลางเงินไทยและเงินสกุลมาเลย์ กว่า 52 ล้านบาท และทรัพย์สนิ จ�ำนวนมาก ณ ส�ำนักงาน ป.ป.ส. (ดินแดง)

วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา รอง ผบช.น.ร่วมกันแถลง การจับกุมตัวนายอานนท์ หรือ ต่อ-ลาวเกษม อายุ 24 ปีพร้อม

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา

76 ชัยสมรภูมิ

พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา

ของกลางยาบ้า 2,671,400 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 7 กก. ยาเค 5 กก.และ ยาอี 34,000 เม็ด รถยนต์อิสุสุ ดีแม็กซ์ ทะเบียน ผฉ.3922 อุดรธานี ฮอนด้าซิตี้ ทะเบียน 3กช8868 กทม. จักรยายนต์ ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีขาวไม่ติดแผนป้ายทะเบียน โดยจับกุมได้ภายใน บ้านเลขที่ 61/579 หมู่บ้านฟลอร่าวิลล์ ซอยสุวินทวงศ์ 44 แขวงล�ำผักชี เขตหนองจอก กทม.

พล.ต.อ.จักรทิพย์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นายอานนท์ สารภาพว่าก่อนหน้าทีจ่ ะมาท�ำงานนีต้ นได้ไปหาเพือ่ นสมัยเรียนที่ ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เพื่อนจึงถามว่าอยาก ท�ำงานไหมถ้าอยากให้เอาเบอร์ติดต่อมาตนจึงให้ไปไม่กี่วันก็มี คนโทรมาโดยใช้ค�ำแทนตัวเองว่าเสี่ย โดยเสี่ยให้ตนหาสถานที่ เปิดเป็นโกดังเก็บของตนจึงได้มาเช่าบาทหลังดังกล่าว ในราคา 19,000 บาทต่อเดือน จากนั้นเสี่ยได้ติดต่อกลับมาอีกครั้งให้ตน ไปรับของล็อตแรกที่ อ.เสนานิคม จ.พระนครศรีอยุธยา ตนจึง ขับรถอีซูซุ ดีแม็ก ทะเบียน ผฉ 3922 อุดรธานี ไปรับรอของ โดยจะมี ค นโทรมาถามไปรั บ รอของโดยจะมี ค นโทรมาถาม ทะเบียนรถ จากนั้นได้มีรถหกล้อขับมาเทียบรถตน ทั้งนี้มีคนมา ด้วย3คนจากนั้นได้น�ำยาบ้าใส่กระสอบป่านโยนลงมาให้ตน แล้วน�ำขึ้นรถกลับมาพักที่บ้านหลังดังกล่าว จากนั้นจะมีคนส่ง

ไลน์เข้ามาสั่งยา ว่าต้องการแบบไหน แล้วตนก็จัดยาไปส่งตาม ทีต่ า่ งๆ ในกรุงเทพฯ โดยการน�ำไปโยนทิง้ ไว้กลางทาง ส่วนเรือ่ ง เงินค่ายานั้นจะมีคนจัดการอีกครั้ง เมื่อตนส่งยาบ้าหมดเสี่ยได้ โอนเงินให้เป็นค่าจ้างล๊อตแรกได้ 7 แสนบาท จากนั้นเสี่ยก็โทร มาให้ตนไปรับยาล๊อตที่ 2 ที่ อ.เสนานิคม จ.พระนครศรีอยุธยา โดยใช้วิธีการเหมือนครั้งแรก โดยล็อตที่ 2 นั้น รับยาบ้ามากว่า 2 ล้านเม็ด ยาอี 34,000เม็ด ยาเค 5 กก.ยาไอซ์ 7 กก. ก่อน โดนจับกุม

ส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติ เนือ่ งด้วยในห้วงวันที่ 10-13 ก.พ. 60 เป็นช่วงวันหยุดยาวเนือ่ งในวันมาฆบูชา ซึง่ เป็นวันส�ำคัญ ทางศาสนา และในวันที่ 14 ก.พ. 60 เป็นวันแห่งความรักหรือ วันวาเลนไทน์

ซึ่งในช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่องถึงวันวาเลนไทน์ ปีนี้ จะ มีประชาชนออกเดินทางไปปฏิบัติธรรมตามสถานที่ส�ำคัญทาง ศาสนารวมทั้งการออกมาท่องเที่ยวของคนหนุ่มสาว เด็กและ เยาวชน ในสถานที่ต่างๆ ทั้งสถานบริการ สถานบันเทิงแหล่ง ท่องเที่ยวเวลากลางคืน หรือสวนสาธารณะเป็นจ�ำนวนมาก อัน อาจก่อให้เกิดปัญหาการจราจรและปัญหาการก่ออาชญากรรม โดยเฉพาะอย่ า งยิ่ ง การคุ ก คามและล่ ว งละเมิ ด ต่ อ เด็ ก และ เยาวชน ตลอดจนการกระท�ำผิดกฎหมายในรูปแบบต่างๆ ซึง่ ส่ง ผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวติ และทรัพย์สนิ ของประชาชน นัน้ เพือ่ ให้การป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การอ�ำนวยความ สะดวกด้านการจราจร และการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและ ทรัพย์สินของประชาชน ในห้วงเวลาดังกล่าวเป็นไปด้วยความ เรียบร้อย ส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติ จึงได้กำ� หนดมาตรการป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรม ในวันมาฆบูชา และเทศกาล วัน

วาเลนไทน์ ประจ�ำปี 2560 โดยขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนและ ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการและประชาชน ดังนี้ 1. วัน มาฆบูชา (วันที่ 11 ก.พ. 60) ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนมายังผู้ ประกอบการร้านค้า ร้านสะดวกซื้อห้างสรรพสินค้า ตลอดจน ร้านอาหารที่จ�ำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสถานบริการ ทุกประเภท ให้งดจ�ำหน่ายเครือ่ งดืม่ แอลกอฮอล์ทกุ ชนิด ทัง้ ชนิด ขายส่งและขายปลีกทั่วราชอาณาจักรตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ เวลาหลังเทีย่ งคืน (00.01 น.) ของคืนวันที่ 10 ก.พ. 60 ไปจนถึง เวลาเที่ยงคืน (24.00 น.) ของคืนวันที่ 11 ก.พ. 60 ยกเว้นการ ขายเฉพาะร้ า นค้ า ปลอดอากรภายในอาคารท่ า อากาศยาน นานาชาติ ผู้ฝ่าฝืนมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ต้องระวางโทษจ�ำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจ�ำทั้งปรับ 2. เทศกาลวัน วาเลนไทน์ (ห้วงวันที่ 10-14 ก.พ. 60) ขอความร่วมมือ พ่อแม่ ผูป้ กครองตลอดจนครูอาจารย์ อบรมตักเตือนบุตรหลานให้ระมัด ระวังภัยที่อาจจะเกิดขึ้น ในการออกไปเที่ยวฉลองวันวาเลนไทน์ รวมถึง การให้เด็กและเยาวชนระมัดระวัง ป้องกันตนเองใน เบือ้ งต้น อีกทัง้ ดูแลเด็กและเยาวชนอย่างใกล้ชดิ เพือ่ หลีกเลีย่ ง พฤติกรรมเสี่ยง

ทัง้ นี้ ส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือประชาชน ให้รว่ มกันสอดส่องดูแล หากพบเห็นเด็กและเยาวชนตกเป็นเหยือ่ ถูกล่อลวงหรือมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งหากพบเห็น การกระท�ำที่ผิดกฎหมายของสถานประกอบการ ตลอดจนการ ก่ออาชญากรรมในลักษณะต่างๆ สามารถแจ้งเบาะแสหรือข้อมูล ข่าวสาร ผ่านทางหมายเลขสายด่วน 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง

ชัยสมรภูมิ 77

รอบรั้วกองทัพบก

ผบ.ทบ.เป็นประธานวันคล้ายวันสถาปนา นรด. ปี 69

ย�ำ้ สร้างความเข้มแข็งก�ำลังส�ำรองเสริมก�ำลังหลัก ชืน ่ ชม โครงการ รด.จิตอาสา น�ำชาติสป ู่ ฏิทน ิ เลือกตัง้ ตามโรดแมป ขอร่วมกันปลูกต้นอุดมการณ์ให้คนรุ่นใหม่ซื่อสัตย์สุจริต รักชาติ รักประเทศไทย

พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานในการจัดงาน เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาหน่วยบัญชาการรักษาดินแดนครบรอบปีที่ 69 เพื่อความเป็น สิริมงคลแก่หน่วยและก�ำลังพล โดยมี พล.ท.วีรชัย อินทุโศภน ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการ รักษาดินแดน (ผบ.นรด.) ให้การต้อนรับ และมีผบู้ งั คับบัญชาชัน้ สูงของกองทัพบก อดีต ผบ.นรด. และก�ำลังพลเข้าร่วมพิธสี กั การะพระบรมราชานุสาวรีย์ และรูปหล่อครึง่ องค์ รัชกาลที่ 6 พร้อม ประกอบพิธีสงฆ์ เพื่ออุทิศส่วนบุญกุศลให้แก่อดีตผู้บังคับบัญชา ผู้มีอุปการคุณแก่หน่วยที่ ล่วงลับไปแล้ว การมอบแหนบทองค�ำให้กับผู้บังคับกองผสม และมอบโล่ให้กับผู้บังคับกรม สวนสนาม 4 กรม ซึง่ เป็นผูก้ ำ� กับนักศึกษาวิชาทหารทีไ่ ด้รว่ มในพิธกี ระท�ำสัตย์ปฏิญาณตนและ สวนสนามนักศึกษาวิชาทหารประจ�ำปี 2559

โดย พล.อ.เฉลิมชัย ได้กล่าวแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับโล่รางวัล พร้อมกับขอให้ ทุกคนมีความภาคภูมิใจรักษาเกียรตินี้ไว้และช่วยการสืบสานพระราชปณิธานของพระบาท สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูห่ วั ตลอดไป ขณะเดียวกันก็ขอชืน่ ชม ผบ.นรด. ทีไ่ ด้สร้างโครงการ รด.จิตอาสาขึ้นในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นประโยชน์ต่อสังคมและสนับสนุนการด�ำเนินงานของ รัฐบาลในภาพรวมที่จะท�ำให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าสู่การเลือกตั้งตามแนวทางที่ก�ำหนดไว้

โดยขอให้ นรด.ทุ่มเทท�ำงานสร้างความเข้มแข็งให้กับก�ำลังส�ำรองอย่างดีที่สุด เพื่อ เสริมก�ำลังหลัก คือ กองทัพให้สามารถปฏิบตั งิ านตอบสนองรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพที่ ส�ำคัญคือ จะต้องช่วยกันเสริมสร้างอุดมการณ์ให้เยาวชนรุน่ ใหม่มคี วามซือ่ สัตย์สจุ ริต มีความ รักชาติ รักบ้านเมือง เพราะเป็นจุดส�ำคัญทีจ่ ะพาชาติบา้ นเมืองให้เดินไปข้างหน้าสูค่ วามเจริญ รุ่งเรือง

ด้าน พล.ท.วีรชัย กล่าวว่า นรด. จะมุง่ มัน่ ปลูกฝังอุดมการณ์ให้กบั รด.จิตอาสาต่อไป รวมถึงการด�ำเนินโครงการ รด.จิตสีขาว เพือ่ ให้นกั ศึกษาวิชาทหารได้เรียนรูเ้ รือ่ งศาสนพิธี ได้มี การสวดมนต์นั่งสมาธิ เพื่อเข้าถึงธรรมะ เป็นคนดีของสังคม และถือเป็นการเสริมงาน ปรองดองอีกทางหนึ่งด้วย

78 ชัยสมรภูมิ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

การปฏิรปู ณ วันนีอ้ ยูใ่ นห้วงระยะที่ 2 ทีก่ ำ� ลัง จะไปสูใ่ นระยะที่ 3 ภายหลังจากทีค่ ณะรักษาความ สงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารประเทศ และ มีหลายปัญหาทีต่ อ้ งแก้ไข วันนีป้ ระเทศเตรียมปรับ โหมดไปสู่การเลือกตั้งในปี 61 แต่ยังมีปัญหา ที่ยังค้างคาเช่น เรื่องปรองดองของคนในชาติ ท�ำให้การประชุม “รัฐบาล – คสช.” ไฟเขียว โดย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก รัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ใช้มาตรา 44 ตัง้ คณะ กรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการ ปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้าง ความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ขึ้นมาท�ำหน้าที่ ขับเคลือ่ นงาน 3 ด้าน ดังนี้ 1. ขับเคลือ่ นนโยบาย ตามยุทธศาสตร์ชาติ ต่อเนือ่ งจากคณะท�ำงานขับ เคลือ่ นเดิม 2. กลุม่ งานปฏิรปู ซึง่ จะมีการน�ำแผน ปฏิรปู ของสภาขับเคลือ่ นการปฏิรปู ประเทศ (สปท.) ปรับปรุง ประเด็นไหนที่รัฐบาลท�ำไปแล้ว และ ประเด็นไหนทีร่ ฐั บาลยังไม่ได้ทำ� หรือต้องท�ำเพิม่ เติม เพือ่ น�ำไปสูก่ ารปฏิบตั ิ และ 3. คณะกรรมการ ปรองดองที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ โดยแบ่ง งานให้รองนายกฯ แต่ละฝ่ายดูแล แต่โฟกัสทีส่ งั คม จับตาที่สุดคือ เรื่องปรองดอง ที่มี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เป็นผูด้ แู ล พร้อมจัดโครงสร้าง ดึง เพื่อนเลิฟ ตท.6 “บิ๊กสร้าง” พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีต ผบ.สส. มาร่วมเป็นทีป่ รึกษา พร้อมด้วย นายปณิธาน วัฒนายากร, นายสุจิต บุญบงการ, นายสุทธิพนั ธ์ จิราธิวฒ ั น์, นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นทีป่ รึกษาและกรรมการ พร้อม ดึง “ผบ.เหล่าทัพ” ร่วมเป็นกรรมการ เพื่อใช้ กลไกกองทั พ ในการขับเคลื่อนการปรองดอง ตั้งอนุกรรมการขึ้นมา 4 คณะ ประกอบด้วย 1.คณะอนุ ก รรมการด้ า นรั บ ฟั ง ความคิ ด เห็ น โดยมี “บิก๊ ช้าง” พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัด กระทรวงกลาโหม เป็นประธาน 2.คณะอนุกรรมการ บูรณาการ ข้อคิดเห็นและเสนอแนะ โดยมี “บิ๊ก ปุย” พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผูบ้ ญ ั ชาการทหาร สูงสุด (ผบ.สส.) เป็นประธาน 3.คณะอนุกรรม การจัดท�ำข้อเสนอกระบวนการเพื่อสร้างความ สามัคคีปรองดอง ทีม่ ี “บิก๊ เจีย๊ บ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็น ประธาน “บิ๊กแกละ” พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร รองผบ.ทบ. เป็นรองประธานอนุฯ มี “บิ๊กต้อ” พล.อ.สสิน ทองภักดี เสนาธิการทหารบก เป็น กรรมการ และ เลขานุการ และ 4.อนุกรรมการ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท

ด้านประชาสัมพันธ์ โดยมี “โฆษกต้อง” พล.ต. คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน พร้อมดึงผูช้ ำ� นาญ นักวิชาการมา ร่วมหลายคน โดยเตรียมจะเชิญฝ่ายการเมือง เข้าหารือแลกเปลี่ยนข้อมูล อย่างไรก็ตามต้อง จับตาว่า การปรองดองครั้งนี้จะไปถึงจุดหมายที่ หลายคนตั้งความหวังไว้หรือต้องล้มพังเฉกเช่น หลายครั้งที่ผ่านมา?!? กลายเป็นประเด็นขึ้น มาทั น ที เ มื่ อ “พี่ ใ หญ่ ผู ้ อ าวุ โ ส” ของรั ฐ บาล อย่าง “บิก๊ ป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สวุ รรณ รอง นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ออกมาเปิดเผย ว่ามีคนขูฆ่ า่ ทางโซเชียลมีเดีย ไม่วา่ จะด้วยเหตุผล กลใด ไม่ว่าจะมีเจตนาพูดเพื่อหวังให้คนเห็นใจ ว่าการท�ำงานของตนนั้นมีความเสี่ยง หรือเป็น เรื่ อ งจริ ง ที่ ผ ่ า นการกลั่ น กรองจากฝ่ า ยความ มั่นคงแล้ว แต่งานนี้ท�ำเอาหน่วยงานมั่นคง สื่อ ต่างหาข่าวว่าใครทีจ่ ะขูฆ่ า่ “ท่านรอง” หรือแม้แต่ “บิก๊ ตู”่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ หัวหน้า คสช. แต่เมื่อความไม่ประมาททีม รปภ. ก็เฝ้าระวังเต็มที่ จนในทีส่ ดุ “บิก๊ แอ๊ว” พล.อ. ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่ง ชาติ (สมช.) ระบุ การโพสต์ลงโซเชียลขูฆ่ า่ พล.อ. ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร เป็นผลจากการ ทีท่ างการไทยเร่งรัดทางการสาธารณรัฐประชาธิป ไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ให้ช่วยติดตาม กลุม่ บุคคลทีห่ มิน่ สถาบันผ่านโซเชียลใน สปป.ลาว กลุ่มดังกล่าวจึงกระท�ำการนี้ สรุปคนขู่นั้นอยู่ที่ ลาว...อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้น�ำรัฐบาลระวังด้วย ครับ โครงการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์เพือ่ ทดแทน ของเก่าทีซ่ อื้ มา เช่น รถถัง เอ็ม-41 คณะกรรมการ ก�ำหนดมาตรฐานยุทโธปกรณ์ กองทัพบก (กมย. ทบ.) เมื่อต้นปี 59 กองทัพบกได้ตัดสินใจจัดซื้อ รถถัง VT-4 จากประเทศจีน จ�ำนวน 28 คัน วงเงิน 4.9 พันล้านบาท ระยะเวลา 2559-2561 เพือ่ น�ำไปประจ�ำการทีก่ องพลทหารม้าที่ 3 (พล.ม.

3) จ.ขอนแก่น โดยมี “บิก๊ เจีย๊ บ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ขณะเป็น ผช.ผบ.ทบ.บินไปเซ็นสัญญา ขณะนีป้ ี 60 ได้อนุมตั กิ ารจัดซือ้ ในระยะที่ 2 วงเงินประมาณ 2 พันล้านบาท โดยจะมีทั้งรถ ถัง รถกู้ซ่อม พร้อมเครื่องกระสุน ทั้งนี้ ต้องรอ ชมรถถัง VT-4 หลังส่งมอบล็อตแรกปลายปี 60 ว่ า สมรรถนะจะดี ส มกั บ ที่ ก องทั พ บกการั น ตี หรือไม่... ภายหลัง “กองทัพเรือ” เดินเครือ่ ง โครงการจัดซือ้ “เรือฟริเกต” สมรรถนะสูง ตัง้ แต่ ช่ว งต้น ปี 2555 จนในที่สุด “สนามไชย 1”

พล.อ.พิสทิ ธิ์ สิทธิสาร

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะ รมว.กลาโหม เซ็นผลักดันโครงการดังกล่าว และ ผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมือ่ วันที่ 30 กรกฎาคม 2556 อนุมัติงบประมาณในการจัดซื้อ “เรือฟริ เกต” สัญชาติเกาหลี จ�ำนวน 1 ล�ำ มูลค่า 14,600 ล้านบาท ให้แก่ “กองทัพเรือ” ..เมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา ได้ฤกษ์ปล่อยเรือ “ฟริเกต” หรือ “เรือหลวงท่าจีน” ลงน�ำ้ จากอูต่ อ่ เรือเกาหลี โดยมี “บิก๊ ณะ” พล.ร.อ.ณะ อารีนจิ ผูบ้ ญ ั ชาการ ทหารเรือ เป็นประธานในพิธีฯ พร้อมด้วย นาง ปรานี อารีนจิ ภริยา ผูป้ ระกอบพิธปี ล่อยเรือลงน�ำ้ ส�ำหรับเรือฟริเกตสมรรถนะสูงดังกล่าว ต่อ โดยบริษัท DSME.(DAEWOO Shipbuilding & Marine Engineering CO., LTD.) ประเทศ สาธารณรัฐเกาหลี โดยการสร้างเรือด�ำเนินการ ณ อูต่ อ่ เรือของบริษทั DSME สาธารณรัฐเกาหลี ในระหว่างปี 2556 – 2561 ซึง่ เป็นแบบทีพ่ ฒ ั นา มาจากเรื อ พิ ฆ าตชั้ น Kwanggaeto Class Destroyer (KDX-I) ลักษณะของเรือออกแบบ โดยใช้ Stealth Technology และลดการแพร่ คลื่นแม่เหล็กตัวเรือโดยมีพิธีส่งมอบเรือ “เรือ หลวงท่าจีน” ดังกล่าวในปี 61 และเดินทางกลับ ไทยต่อไป… การแข่งขันฟุตบอลกระชับความ สัมพันธ์ นายทหารกองทัพภาคที่ 1 Vs. สือ่ มวลชน สายทหาร เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดย “บิก๊ แดง” พล.ท.อภิรชั ต์ คงสมพงษ์ มทภ.1 น�ำทีม ขนนายพลร่วมทีม อาทิ “บิก๊ หนุย่ พล.ต.ธรรมนูญ วิถี รอง มทภ.1 “บิก๊ โอ” พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รอง มทภ.1 “บิก๊ ติง่ ” พล.ต.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ รอง มทภ.1 นอกจากนี้ ยังมีนายทหารระดับ ผบ. มณฑล ทหารบกทัว่ พืน้ ที่ กองทัพภาคที่ 1 ผูพ้ ัน มาร่วมฟาด แข่ง งานนี้ “บิก๊ แดง” ไม่ธรรมดา สวมบทนายประตู พุ่งเซฟลูกอันตรายหลายครั้ง โดยสกอร์จบแบบ สมานฉันท์... 5–5 แฮบปีท้ กุ ฝ่าย ใกล้เข้าสูฤ่ ดูการ เกณฑ์ทหารห้วง มี.ค. ทีช่ ายไทย อายุตงั้ แต่ 20 ปี บริบรู ณ์ ต้องเข้ารับการคัดเลือกเข้ากองประจ�ำการ หรือ ขอผ่อนผัน โดยแต่ละปีจะมีชายไทยต้องเข้า ระบบทัว่ ประเทศหลายแสนคน ท�ำให้การจัดระบบ นัน้ ต้องเป๊ะ โดย “เสธ.จอย” พล.ท.ชมพล อามระดิษ เจ้ากรมการสรรพก�ำลังกลาโหม (จก.กกส.กห.) ดูแล ภาพรวมและผลักดันเพือ่ เป็นไปตามนโยบาย พรบ. ก�ำลังส�ำรอง ปี 58 กระทรวงกลาโหม นอกจากนี้ กองทัพเตรียมเรียกก�ำลังพลส�ำรองทีผ่ า่ นการเกณฑ์ ทหารไปแล้ว กลับมาฝึกในระยะสั้น เพื่อเตรียม ความพร้อม... และ ให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น

ชัยสมรภูมิ 79

พลเรือเอก ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ -เป็นประธานเปิดงาน “จากคงคาสู่มหานที ราชนาวีผองประชาร่วมอาลัย” โดยจัดขึ้นเพื่อร่วม แสดงความอาลัย เนื่องในโอกาสบ�ำเพ็ญพระราชกุศลสตมวาร 100 วัน แห่ ง การเสด็ จ สวรรคตของพระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ล อดุลยเดช เพือ่ น้อมร�ำลึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ ทีท่ รงมีตอ่ กองทัพเรือ และ พสกนิกรชาวไทยตลอดรัชสมัย

คืนช้างสูป่ า่ - สมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เป็นองค์ประธานในพิธเี ปิด “โครงการคืนช้างสูป่ า่ เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 12 สิงหาคม2559” โอกาสนี้ นายถวิล เปลีย่ นศรี ประธานกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมภิ าค นายเสริมสกุล คล้ายแก้ว ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พร้อมด้วยคณะเข้าทูลเกล้าฯ ถวายเงิน จ�ำนวน 20 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนโครงการดังกล่าว ณ ศูนย์วิจัยเฝ้า ระวังโรคช้าง อ�ำเภอห้างฉัตร จังหวัดล�ำปาง เมื่อ 26 มกราคม 2560

อวยพรปีใหม่ไทย - พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม รับมอบช่อดอกไม้ จาก กฤตพัฒน์ จุลไสย (ไมค์ ณ ชุมพร) ผู้อำ� นวยการ ส�ำนักข่าว ชัยสมรภูมิ เนื่องในโอกาสร่วมอวยพรปีใหม่ไทย 2560 ตาม ประเพณี โดยมี อนุกลู วงษ์บวั ทอง (ป้าแจ๋ว) ณุภทั รณี ชาตรีนวไพศาล (ป้าแก้ว) ร่วมอวยพรด้วย ใน ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อเร็วๆ นี้

ครบรอบ 28 ปี – พลตรี ยุทธนินทร์ บุญนาค เลขานุการส�ำนักงานปลัด กระทรวงกลาโหม น�ำก�ำลังพลสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในศาลาว่าการ กระทรวงกลาโหม เนือ่ งในวันคล้ายวันสถาปนาส�ำนักงานเลขานุการส�ำนัก งานปลัดกระทรวงกลาโหม ครบรอบ 28 ปี เมื่อเร็วๆ นี้

ส่งมอบโครงการ - พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็ น ประธานมอบทุ น การศึ ก ษาและคอมพิ ว เตอร์ ใ ห้ กั บ เด็ ก นั ก เรี ย น โรงเรียนวัดบ้านทรายแก้ว อ�ำเภอปะทิว และ โรงเรียนวัดชุมแสง ต�ำบล ทุ่งระยะ อ�ำเภอสวี จังหวัดชุมพร โครงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของเด็ก นักเรียนที่ด้อยโอกาส โดยมีคณะครู-นักเรียนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ร่วม ให้การต้อนรับ เมื่อวันก่อน

แสดงความยินดี - กฤตพัฒน์ จุลไสย (ไมค์ ณ ชุมพร) น�ำคณะสือ่ มวลชน ร่วมแสดงความยินดีกับ พลต�ำรวจตรี ธนายุตม์ วุฒิจรัสธ�ำรงค์ โอกาส มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้ดำ� รงต�ำแหน่งรองผูบ้ ญ ั ชาการต�ำรวจ ภูธร ภาค 1 ทีห่ อ้ งรับรอง รองผูบ้ ญ ั ชาการต�ำรวจภูธรภาค 1 ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร โดยมี คุณนภัสนันท์ วุฒิจรัสธ�ำรงค์ ร่วมให้การต้อนรับ เมื่อ เร็วๆ นี้

80 ชัยสมรภูมิ

แสดงความขอบคุณประเทศไทย – พลเอก ประวิตร วงษ์สวุ รรณ รอง นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับ นาย Glyn T. Davies (กลิน ที เดวีส) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจ�ำ ประเทศไทย โดยได้แสดงความขอบคุณประเทศไทย ในฐานะที่เป็นเจ้า ภาพจัดการฝึกคอบบร้าโกลด์ 17 อย่างดีเยีย่ ม ณ ห้องรับรอง ศาลาว่าการ กระทรวงกลาโหม

เยีย่ มคารวะ - พลเอก ธีระฉัตร ค�ำรพวงศ์ ปษ.รมว.กห. ให้การต้อนรับ เรืออากาศโท.วิจกั ษณ์ สองจันทร์, กฤตพัฒน์ จุลไสย ในโอกาสเข้าเยีย่ ม คารวะพร้อมน�ำหนังสือเรียนเชิญเป็นทีป่ รึกษาโครงการบูรณะ “พระธาตุ ท่าอุเทน 105 ปี” จังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พล.อ.อัมรินทร์ สุวรรณพ รอง หน. สนง.รมว.กห.และ พล.อ.อาทร โลหิตกุล รองเลขาธิการคณะ รักษาความสงบแห่งชาติ ได้ร่วมสร้างบุญมหากุศลครั้งยิ่งใหญ่ด้วย ณ ห้องรับรอง ในศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม

ครบรอบวันเกิด - พลเอก ธีรเดช มีเพียร สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่ง ชาติ (สนช.) จัดพิธีท�ำบุญเลี้ยงฉลองครบรอบวันคล้ายวันเกิด ณ ห้อง อาหารศรีฟ้า สมาคมราชกรีฑาสโมสรโปโลคลับลุมพินี เขตปทุมวัน โดย มี พล.อ.กัมพล มีผดุง, พล.อ.ประเสริฐ กาสุวรรณ, พล.อ.นรินทร์ แทบประสิทธิ์ พร้อมบรรดาญาติมติ รทีใ่ ห้ความเคารพนับถือร่วมอวยพร อย่างอบอุ่น

ตรวจเยี่ยม - พลเอก อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง กลาโหม /หัวหน้าผู้แทนพิเศษรัฐบาล พร้อมคณะเดินทางไปตรวจเยี่ยม การปฏิบัติงานในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา โดยมี พล.ต.สมพล ปานบุตร ผบ.ฉก.ยะลา นายพลเดช พัฒนรัฐ ผวจ.ยะลา นายด�ำรงค์ ดิสกุล นาย อ�ำเภอเบตง และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ร่วมให้การต้อนรับ เมื่อเร็วๆ นี้

ธารน�ำ้ ใจ - พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท ผูบ้ ญ ั ชาการทหารบก เป็นประธานรับ มอบทุนทรัพย์และสิง่ ของต่างๆ จากหลายหน่วยงานทีห่ ลัง่ ไหลร่วมบริจาค เพือ่ สมทบช่วยเหลือผูป้ ระสพอุทกภัยภาคใต้ โอกาสนี้ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ปษ.ประธาน บริษัทเอ็น.ที.อาร์.มีเดีย แอนด์ คอลซัลแทนท์ จ�ำกัด ร่วม บริจาคด้วย โดยมี พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร รอง ผบ.ทบ.พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ผช.ผบ.ทบ.ร่วมพิธี ณ กองบัญชาการทหารบก เมื่อเร็วๆ นี้

เปิดฝึกหลักสูตร - พลต�ำรวจตรี กฤตธาพล ยีส่ าคร ผูบ้ งั คับการต�ำรวจ น�้ำ เป็นประธานพิธีเปิดหลักสูตรปฏิบัติการทางเรือประจ�ำปี 2559 ให้แก่ ข้าราชการต�ำรวจชั้นประทวนที่โยกย้ายมารับต�ำแหน่งในสังกัดดอง บังคับการต�ำรวจน�้ำ เพื่อพัฒนาบุคลากรให้มีความและคุณภาพเป็นที่ น่าเชื่อถือของประชาชนตลอดไป ณ กองบัญชาการต�ำรวจน�้ำ จังหวัด สมุทรปราการ เมื่อเร็วๆ นี้

ชัยสมรภูมิ 81

พิธปี ลุกเสก - พลเอก วัฒนชัย ฉายเหมือนวงศ์ ประธานคณะกรรมการ อ�ำนวยการราชตฤณมัยสมาคมฯ พลเอก บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ เลขาธิการ กิตติมศักดิ์ราชตฤณมัยฯ ร่วมในพิธีปลุกเสกพระพุทธชินราช รุ่นสถาปนา 100 ปี ร.ต.ส.ท. (ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์) โดยมี หลวงปูแ่ ผ้ว ปวโร นัง่ อธิฐานจิต พร้อมพระภิกษุ 100 รูป สวดพระพุทธ มนต์ พล.อ.กะสิณ ทองโกมล ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์รองประธานสภานิติ บัญญัติแห่งชาติ (คนที่2) เข้าร่วมพิธี ณ วัดรางหมัน จ.นครปฐม

อวยพรปีใหม่ไทย - พลต�ำรวจตรี ภาณุรตั น์ มีเพียร ทีป่ รึกษาผูว้ า่ ฯ กทม. รับมอบกระเช้าผลไม้จาก กฤตพัฒน์ จุลไสย ที่นำ� คณะ เข้าร่วมอวยพรปี ใหม่ไทย โดยมี ณัฐวดี พิพิชวณิชการ จาก ททบ.5 และ ภูพัชร ภู่ทอง ผอ.รายการ “แอ็ทไทม์” ร่วมด้วย ณ ห้องรับรอง ส�ำนักงานทีป่ รึกษาผูว้ า่ ฯ กทม. ในศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ถนนดินสอ เขตพระนคร กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้

กต.ตร.สัญจร - พลต�ำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. เป็นประธานในกิจกรรม กต.ตร.สัญจรในพื้นที่ บก.น.7 โดยปฐกถาพิเศษ ในเรื่อง “ที่มาและความส�ำคัญของ กต.ตร.” พร้อมทั้งกล่าวให้โอวาทกับ คณะกต.ตร.และที่ปรึกษาใหม่ในสังกัด บก.น.7 ณ ห้องประชุมกรุงเทพ บอลล์รูม โรงแรมโรยัลซิตี้ ถนนบรมราชชนนี เขตบางพลัด กรุงเทพฯ

82 ชัยสมรภูมิ

ให้การต้อนรับ- พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้การต้อนรับ พล.อ.อ.ดาโต๊ะ ซรี อัญญี อัฟเฟนดิ บินบวง ผู้บัญชาการ ทหารอากาศ มาเลเซีย ในโอกาสเข้าเยีย่ มค�ำนับพร้อมแนะน�ำตัวในต�ำแหน่ง ใหม่ ณ ห้องรับรองพิเศษกองบัญชาการกองทัพอากาศ

เฝ้าถวายสักการะ - พลตรี ธรรมนูญ วิถี : รองแม่ทพั ภาคที่ 1 เข้าเฝ้าถวาย สักการะ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆรชาชสกลมหาสังฆ ปรินายกสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 20 โดยมี พ.อ.วรรธ อุบลเดช ประชารักษ์ ผบ.กรม ทพ.14 ร่วมเข้าเฝ้าถวายสักการะ ณ วัดราชบพิธสถิต มหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ เมือ่ เร็วๆ นี้

เปิดช่องทางพิเศษ - พลต�ำรวจโท อ�ำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานในพิธเี ปิดช่องทางพิเศษ 5 จุด เพือ่ ร่วมบูรณาการงานจราจร “ช่วยรถยนต์ไม่แล่นช้า ช่วยรถไฟฟ้าให้เสร็จไว” โดยมี พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น.พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมจิ ติ ร รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันท์ แก้วแสงเอก ผบก.จร.พร้อมหน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้อง เข้าร่วมพิธี ณ บริเวณ 5 แยกลาดพร้าว เขต จตุจักร กรุงเทพฯ

ขอเชิญประกอบพิธีมหากุศลใหญ่ครั้งส�ำคัญ ในรอบ 105 ปี ณ วัดพระธาตุท่าอุเทน จ.นครพนม

ขอเชิญผูม้ ศี รัทธาจิตร่วมกันบวงสรวงสักการะ ท�ำพิธฯี ขอพระพุทธา นุญาติ ธรรมานุญาติ สังฆานุญาติ ครูบาอาจารย์ สิง่ ศักดิส์ ทิ ธิ์ องค์ พญานาค ราชทัง้ 14 วังบาดาล ... เปิดมหาบารมี ... และ อาราธนาอัญเชิญทุกๆ พระองค์ มาร่วมอนุโมทนา ในการบูรณะ “องค์พระธาตุทา่ อุเทน 105 ปี” สิง่ ศักดิส์ ทิ ธิ์ คู่แผ่นดินไทย-ลาว จังหวัดนครพนม ครัง้ ส�ำคัญ

ณ โอกาสอันเป็นมหากุศลนี้ มีผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม รอง อธิบดีกรมศิลปากร ผูแ้ ทนข้าราชการทหาร-ต�ำรวจ-พลเรือน และ ประชาชน จากทัว่ ประเทศเดินทางมาร่วมบุญ รวมถึงยังมีพระเกจิอาจารย์ทสี่ ำ� คัญของ จ.นครพนม อาทิ หลวงปู่คำ� ไหล, หลวงปู่กัณหา, หลวงปู่บุญอุ้ม และพระ เกจิอาจารย์ในประเทศไทยอีกจ�ำนวนมาก ได้ปวารณาทีจ่ ะมาร่วมบูรณะพระ ธาตุในครั้งนี้ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาฯ สืบต่อไป

ส�ำหรับ องค์พระธาตุทา่ อุเทน นัน้ บรรจุพระพุทธสาริรกิ ธาตุ ทีห่ ลวงปู่ สีทัตถ์ ได้อัญเชิญมา และบรรจุของศักดิ์สิทธิ์ในพระพุทธศาสนามากมาย จึงถือเป็นพระธาตุสำ� คัญทีอ่ ยูร่ มิ ฝัง่ โขง ซึง่ มีความส�ำคัญกับพระพุทธศาสนา และ ครูบาอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งไทย-ลาว

โดยในวันพุธที่ 5 เมษายน 2560 นี้ จะมีพิธีสมโภชน์ “พระอุปคุต ปางจกบาตร หยุดตะวัน” พระเถระมหาลาภ-ปราบมาร ซึง่ เป็นรูปหล่อทอง เหลืององค์ใหญ่ หน้าตัก 59 นิ้ว โดยสมเด็จพระวันรัต ท่านเจ้าอาวาสวัด บวรนิเวศวิหาร ได้เมตตาเป็นองค์ประธานสงฆ์นำ� พิธีเททองหล่อ จากนั้น คณะเจ้าภาพจะได้อัญเชิญขึ้นไปประดิษฐาน ณ พระธาตุท่าอุเทนต่อไป

ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมสมทบปัจจัยได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ บัญชี ออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 111-430611-9 ชื่อบัญชี เงินกองทุนสืบสานธรรม

ติดต่อสอบถาม ร.ท.วิจักษณ์ สองจันทร์ ประธานดาเนินงานโครงการฯ และคณะกรรมการกองทุนสืบสานธรรมโทร. 086 982 2915

ข้าพเจ้า ส�ำนักข่าว ชัยสมรภูมิ ขอมหาอานิสงส์แห่งผลบุญนี้ จงส�ำเร็จแด่ทุกท่าน และทุกจิตญาณในอนันตจักรวาลเทอญ