Review: Klipsch PowerGate by GM2000

Page 1

TEST REPORT TEXT : ธานี โหมดสง่า PHOTO : ฐานทอง กาญจน์ภูดิส

klipsch powergate

Integrated amp + WIreless musIc streamIng & multI-room audIo system “Multi-Room Audio Streaming” คื อ การแพร่ กระจายสั ญ ญาณเสี ย ง เพลงระหว่ า งอุ ป กรณ์ เ ครื่ อ งเสี ย ง จ�านวนสองตัวหรือมากกว่าโดยอาศัย เทคโนโลยี Wi-Fi ซึ่งเมื่อหลายปีก่อน บริษัท Apple ได้น�าเสนอเทคโนโลยี ที่ ใ ช้ ส ตรี ม สั ญ ญาณเสี ย งเพลงผ่ า น Wi-Fi ออกมาเป็นเจ้าแรก โดยให้ ชื่อว่า “AirPlay” แต่หลังจากเสียหัว เรือคนต้นคิดอย่างสตีฟ จ๊อปไปแล้ว โปรเจคต่อยอดที่สตีฟ จ๊อปได้คิดไว้ รวมถึงโปรเจคที่คุยอยู่กับนีล ยังก็มี อันเป็นหมันไป

036

GM 2000

june 2017

พ้นเลยจาก AirPlay มาแล้วก็แทบจะไม่เห็นความเคลื่อนไหวใดๆ ออกมาอีกเลยเกี่ยวกับการสตรีม เพลงผ่าน Wi-Fi ที่ผ่านมาหลายๆ เจ้ามัวแต่ไปมะรุมมะตุ้มอยู่กับการสตรีมเพลงผ่าน Bluetooth ซึ่งอาจ เป็นเพราะ Bluetooth เป็นเทคโนโลยีที่เกาะไปกับอุปกรณ์พกพาซึ่งเป็นสินค้าที่ก�าลังได้รับความนิยมสูง อยู่ในช่วงนั้นก็เป็นได้ แต่เนื่องจาก Bluetooth เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการสตรีมเพลง (หรือเสียงอื่นๆ) ที่ มีระยะหวังผลค่อนข้างสั้น เหมาะที่จะใช้กับอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ชิดติดตัวเราอย่างพวกสมาร์ทโฟนและสปีค เกอร์โฟนไร้สาย แม้วา่ ในช่วงหลังจะได้มกี ารพัฒนา Bluetooth ขึน้ มาใช้กบั ล�าโพงไร้สายกันมากขึน้ จนได้ รับความนิยมสูงมากในกลุม่ ของคนชอบฟังเพลงทีต่ อ้ งการหอบหิว้ ล�าโพงติดตัวไปในทีต่ า่ งๆ แต่อย่างไรก็ ดี นอกจากข้อจ�ากัดทางด้านคุณภาพเสียงแล้ว เทคโนโลยี Bluetooth ยังมีข้อจ�ากัดกับการใช้งานในเชิง “เชื่อมโยง” การท�างานของอุปกรณ์หลายๆ ตัวในรูปแบบของเครือข่ายอีกด้วย DTS Play-Fi เทคโนโลยีเพื่อการ “เชื่อมโยง” อย่างมีประสิทธิภาพ.! ต้องยอมรับว่า เทรนด์ของการฟังเพลงผ่าน ระบบที่มีการเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายในบ้านแบบ ที่เรียกว่าระบบ Multi-Zone/Multi-Room ก�าลัง เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเมื่อเทียบกับใน อดีตแล้ว รูปแบบการเล่น/ฟังเพลงแบบใหม่นี้มี ข้อดีมากกว่าแบบดั้งเดิมครบทั้ง 3 สถาน นั่นคือ สะดวก, ประหยัด และ เสียงดี ประเด็นของ “ความสะดวก” ก็คือสามารถควบคุมการเล่นเพลงได้ด้วยอุปกรณ์ ไร้สายประเภทสมา ร์ทโฟนและแท็ปเล็ตต่างๆ ที่เราพกติดตัวตลอดเวลาอยู่แล้ว และอีกอย่างคือ คุณสามารถน�าเพลงที่ ต้องการฟังไปเปิดฟังได้ทุกจุดในบ้านโดยไม่ต้องเสียเวลาหิ้วแผ่นเพลงไปๆ มาๆ และสามารถเพิ่มจุดที่ ต้องการฟังได้แทบจะไม่จ�ากัด ส่วนประเด็นในเรื่องของ “ประหยัด” นั้นมองกันที่ค่าใช้จ่ายของระบบที่ใช้


เล่นเพลงเป็นหลัก อย่างในยุคดั้งเดิม ถ้าคุณต้องการ จุดที่ใช้ฟงั เพลงภายในบ้านจ�านวนมากกว่าหนึง่ จุดขึน้ ไป ค่าใช้จ่ายในการซื้อชุดเครื่องเสียงก็จะเพิ่มสูงขึ้น มาก เพราะแต่ละจุดต้องมีอุปกรณ์ที่ท�าหน้าที่เป็น เครื่องเล่น + แอมปลิฟาย + ล�าโพง ครบทั้งสามส่วน แต่ระบบการฟังเพลงด้วยเทคโนโลยี Multi-Zone/ Multi-Room แบบใหม่นจี้ ะช่วยลดจ�านวนของอุปกรณ์ ในระบบลงไปได้มาก ซึ่งก็ถือว่าเป็นการลดค่าใช้จ่าย ทางอ้อมนั่นเอง สมมุตวิ า่ คุณต้องการให้มจี ดุ ที่ใช้ฟงั เพลงภายใน บ้านสัก 4 จุด คือ ในห้องรับแขก, ในห้องนอน, ใน ห้องครัว และที่ระเบียงหน้าบ้าน ซึ่งแต่ละจุดอาจจะ หวังผลของการฟังที่แตกต่างกัน อย่างเช่นในห้อง รับแขกอยากได้แบบเน้นคุณภาพ คุณก็อาจจะใช้ ล�าโพงตัวใหญ่แบบตั้งพื้นที่อาศัยก�าลังขับจากแอมป ลิฟายตัวใหญ่หน่อยเพื่อความกระหึ่มสมจริง แต่อีก สามจุดทีเ่ หลือ คือในห้องนอน, ห้องครัว และระเบียง หน้าบ้าน คุณอาจจะต้องการแค่ให้มีเสียงดนตรีคลอ ไปกับการท�ากิจกรรมต่างๆ เท่านั้น ไม่ได้ซีเรียสฟัง จริงๆ จังๆ ลักษณะนี้คุณก็สามารถใช้ล�าโพงแอ๊คทีฟ แบบทีม่ ภี าค DAC ในตัวและสามารถรองรับสัญญาณ เสียงดิจติ ลั จากเน็ทเวิรค์ ได้มาใช้ แค่นกี้ ส็ ามารถตอบ สนองความต้องการของคุณได้อย่างครบถ้วนแล้ว ซึง่ รับประกันได้ว่า ระบบแบบหลังนี้จะใช้เงินทุนต�่ากว่า การซื้อซิสเต็มเครื่องเสียงจ�านวน 4 ชุดมากทีเดียว ทีผ่ มกล่าวมาข้างต้นนัน้ คือภาพรวมของอุปกรณ์ หรือ “ฮาร์ดแวร์” ทีต่ อ้ งใช้ส�าหรับรูปแบบการเล่น/ฟัง เพลงด้วยเทคโนโลยี Multi-Zone/Multi-Room แต่ การที่จะท�าให้อุปกรณ์เหล่านั้นสามารถท�างานตอบ สนองความต้องการของคุณได้ต้องอาศัยส่วนของ “ซอฟท์แวร์” เข้ามาช่วยจัดการ ซึ่ง DTS Play-Fi นี่ แหละคือหนึง่ ในระบบซอฟท์แวร์ทจี่ ะเข้ามาท�าหน้าที่ จัดการและประสานอุปกรณ์เครื่องเสียงแต่ละตัวใน แต่ละจุดสามารถให้ท�างานตอบสนองคุณได้อย่าง แนบเนียน ลื่นไหล KliPSch : PowerGaTe ผลิตภัณฑ์นี้คือนวัตกรรมใหม่ส�าหรับวงการ เครือ่ งเสียงในปัจจุบนั เป็นการเอา “อินติเกรตแอมป์” กับระบบเน็ทเวิร์ค สตรีมมิ่งเข้ามารวมไว้ในเครื่อง เดี ย วกั น นั่ น คื อ นอกจาก PowerGate ตัว นี้จ ะมี อินพุตส�าหรับแหล่งสัญญาณอะนาลอกอย่างเครื่อง เล่นแผ่นเสียงกับภาคไลน์อนิ รวมถึงอินพุตส�าหรับแห ล่งสัญญาณดิจิตัลมาให้ครบทุกรูปแบบแล้ว มันยังได้ เพิ่มเติมอินพุตจาก Wi-Fi network เข้ามาให้ด้วย ทีมออกแบบผลิตภัณฑ์ของ Klipsch ได้รังสรร บอดี้ของตัว PowerGate ออกมาในรูปทรงสี่เหลี่ยม ทีด่ กู ระทัดรัดขนาดน่ารักน่าชัง หน้าปัดกว้างแค่สบิ นิว้ สูงสองนิว้ และลึกเพียงแค่ 6 นิว้ เท่านัน้ ตัวถังท�าด้วย พีวซี ี แผงหน้าเรียบง่ายมาก มีแค่ปมุ่ กดเล็กๆ สองปุม่ ปุ่มหมุนหนึ่งปุ่ม กับรูเสียบหูฟังอีกหนึ่งรูเท่านั้นเอง ขั้วต่อสัญญาณต่างๆ อยู่ที่แผงหลังทั้งหมด ถึงจะตัวเล็กกระทัดรัด แต่ให้ก�าลังขับมามาก ถึงข้างละ 100 วัตต์เลยทีเดียว ตัวเล็กขนาดนี้ท�าได้ ยั ง ไง.? ก็ เ พราะเพราะว่ า ทางที ม เอนจิ เ นี ย ร์ ข อง Klipsch เค้าใช้เทคโนโลยี digital amp class D ในการ

ออกแบบวงจรขยาย จึงสามารถบรรจุก�าลังขับระดับ นัน้ เข้าไปในตัวถังเล็กๆ แบบนี้ได้ นอกจากภาคแอมป ลิฟายส�าหรับขับล�าโพงภายนอกและภาคแอมปลิฟาย ส�าหรับขับหูฟงั แล้ว ในตัว PowerGate ตัวนีย้ งั มีภาค DAC ติดตัง้ มาให้ดว้ ย สามารถรองรับสัญญาณดิจติ ลั PCM ได้สูงถึงระดับ 24bit/192kHz อินพุต & เอ๊าต์พุต เห็นตัวเล็กๆ แค่นี้ แต่ถ้าขยับมาดูอินพุตของ มันแล้วคุณจะต้องทึ่ง เพราะแอมป์ตัวเล็กๆ ที่ชื่อ

A : ปุ่มกดเปิด/ปิดเครื่อง B : ปุ่มกดเลือกแหล่งอินพุต C : ไฟแสดงแหล่งอินพุตที่ก�าลังเล่น D : ปุ่มวอลลุ่ม ใช้ควบคุมความดังของเอ๊าต์พุตที่ ส่งไปที่ล�าโพง Left / Right และควบคุมความแรง ของสัญญาณไลน์เอ๊าต์พุตที่ส่งไปให้แอ๊คทีฟซับวูฟ เฟอร์ด้วย E : ไฟแสดงสถานะของระดับวอลลุ่มที่ใช้ F : รูเสียบหูฟังมินิแจ๊คขนาด 3.5mm

037


ว่า PowerGate ตัวนี้มีความสามารถในการรองรับ สัญญาณอินพุตได้กว้างขวางมากๆ เรียกได้ว่าครบ ถ้วนจริงๆ ทัง้ จากแหล่งอินพุตทีส่ ง่ ออกสัญญาณอะนา ลอกและแหล่งอินพุตทีส่ ง่ ออกสัญญาณดิจติ ลั แต่ทนี่ า่ สนใจมากๆ ก็คอื ความสามารถในการรองรับสัญญาณ เสียงจากแหล่งอินพุตที่ฝังตัวอยู่ในระบบเน็ทเวิร์คนี่ แหละ.. จากจ�านวนเทอร์มินัลอินพุต/เอ๊าต์พุตทั้งหมด ที่เห็นข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นอินพุต/เอ๊าต์พุตรูปแบบ คุ้นๆ ตาที่มีมาให้ใช้งานกับแหล่งต้นทางสัญญาณ อะนาลอก/ดิจิตัลรูปแบบเดิมๆ อย่างพวกเพลเยอร์ ที่ใช้เล่นแผ่นบันทึกเสียงทั้งหลายแล้ว ผมว่าช่องต่อ Ethernet บน PowerGate ตัวนี้นี่แหละที่ดูสะดุดตา มากที่สุด และในฐานะที่ผมได้มีโอกาสทดลองใช้งาน มันมาแล้ว ผมอยากจะบอกว่า ช่องต่อ Ethernet ช่อง นี้ถือว่าเป็น High-Light ของอินติเกรตแอมป์ตัวจ้อย ที่มีชื่อว่า PowerGate ตัวนี้.! ไม่เชื่อผมก็ลองพิจารณาจากภาพประกอบด้าน ล่างนี้ดูซิ.. เป็นภาพแผนผังที่แสดงการเชื่อมต่อ ระหว่าง PowerGate กับแอพลิเคชั่น DTS Play-Fi บนอุปกรณ์พกพา (ในภาพคือ iPad) เพื่อออกไปดึง เพลงจากอินเตอร์เน็ต และดึงไฟล์เพลงที่เก็บอยู่บน NAS เข้ามาเล่นบนตัว PowerGate ผ่านทางช่อง Ethernet ทีว่ า่ นี้ ถ้าได้ลองเล่นลองฟังเพลงจากแหล่ง ออนไลน์เหล่านี้ดูคุณจะพบว่ามันเป็นประสบการณ์ ที่น่าหลงไหลอย่างมาก มันให้ทั้งความสะดวกและ เสรีภาพในการฟังเพลงอย่างสุดลิ่ม เพราะมัน, คุณ จะพบว่าบนอินเตอร์เน็ตนัน้ มีเพลงรอให้คณ ุ เข้าไปฟัง อยู่เป็นจ�านวนมากมายมหาศาล มีทั้งแบบของฟรีที่ มีความละเอียดต�า่ ไปจนถึงของดีความละเอียดสูงที่ ต้องจ่ายค่าสมัครสมาชิกเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งแน่นอนว่า นับรวมแหล่งสตรีมมิ่ง TIDAL ที่นักเล่นเครื่องเสียง ยอมรับในคุณภาพเสียงอยู่ด้วย PowerGaTe + DTS Play-Fi Klipsch เลื อ กใช้ เ ทคโนโลยี ใ นการรั บ -ส่ ง สัญญาณเพลงผ่านเน็ทเวิร์คไร้สายของ DTS ที่ชื่อว่า “DTS Play-Fi” ซึ่งหลังจากเชื่อมต่อตัว PowerGate และอุปกรณ์พกพาของคุณเข้ากับ Wi-Fi network วง เดียวกันได้แล้ว คุณก็สามารถเข้าใช้งาน DTS Play-Fi ได้ทั้งทางคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์พกพา โดยอาศัย application เป็นประตูผ่านเข้าไป ซึ่งแอพลิเคชั่นที่ ใช้ได้มอี ยู่ 2 ตัวคือ DTS Play-Fi กับ Klipsch Stream รองรับกับระบบปฏิบัติการณ์ทุกประเภท ทั้ง iOS, Android, Kindle Fires และ Windows computer คุณ สามารถดาวน์โหลดแอพฯ ทัง้ สองตัวนี้ได้จาก iTunes app store, google play store และจากเว็บไซต์ของ DTS เอง หน้าตาของแอพฯ DTS Play-Fi (ในกรอบตัว ซ้าย) กับแอพฯ Klipsch Stream (ในกรอบตัวขวา) ซึ่งทั้งสองตัวนี้เนื้อในเป็นตัวเดียวกัน คือตัว Klipsch Stream นัน้ มีแค่หน้ากากครอบเนือ้ ในทีเ่ ป็นเอนจิน้ ข อง Play-Fi อยู่ด้านใน.. 038

GM 2000

june 2017

A : ช่องเสียบสายไฟเอซี B : ขั้วต่อสายล�าโพง C : ปุ่มกด+ไฟแอลอีดีที่ใช้เชื่อมต่อกับ Wi-Fi แบบไร้สาย D : ช่องอินพุตดิจิตัลแบบ optical และ coaxial E : ช่อง USB ส�าหรับการตรวจเช็คด้วยคอมพิวเตอร์ F : ช่องต่อ Ethernet พร้อมสวิทชิ่ง โดยเอาช่องขวาต่อเชื่อมกับ router แล้วเอาช่องซ้ายต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์หรือ NAS ที่เก็บไฟล์เพลง G : กลุ่มนี้เป็นช่อง analog output ซึ่งมีมาให้ 3 ช่อง สามารถเลือกใช้งานเอ๊าต์พุตแบบ stereo 2 Ch (Left + Right) หรือแบบ stereo 2.1 (Left + Right + Subwoofer) ก็ได้ H : กลุ่มนี้เป็นช่อง analog input ซึ่งมีมาให้เลือกใช้ 2 ช่องคืออินพุต AUX ใช้ขั้วต่อมินิแจ๊ค 3.5mm กับอินพุต Phono/Line โดยใช้ขั้วต่อ RCA พร้อมสวิทช์โยกที่สามารถเลือกตั้งให้รับสัญญาณที่มีเกนต่างกันสองระดับ คือเกนแรง ระดับ line level กับสัญญาณที่มีเกนต่�าระดับมิลลิโวลต์จากหัวเข็ม


อยู่ในห้องรับแขก (ซึ่งผมตั้งชื่อไว้ว่า Living Room) ก็จิ้มคลิ๊กเฉพาะตัวได้ PowerGaTe + DTS Play-Fi + TiDal ความสะดวกของแอพฯ DTS Play-Fi มีอยู่ หลายอย่าง ที่เด่นมากคือมันฝังแอพฯ ของผู้ให้ บริการเช่าเพลงหลายๆ เจ้าอยู่ในตัวแอพฯ โดยตรง ท�าให้ไม่ต้องเสียเวลา และมั่นใจได้ว่า ฟังท์ชั่นต่างๆ ของแอพฯ ผู้ให้บริการจะสามารถท�างานได้อย่างมี ประสิทธิภาพบนแอพฯ Play-Fi ด้วย

นี่เป็นหน้าเปิดของแอพ DTS Play-Fi

หลังจากจิม้ เลือกอุปกรณ์ PowerGate ตัวทีต่ งั้ ใจ จะเล่นเพลงได้แล้ว หน้าเมนูของแอพฯ จะเปลี่ยนมา อยู่ที่หน้ารวมของแหล่งต้นทางต่างๆ ที่คุณสามารถ เลือกฟังได้ ซึ่งมีทั้งสถานีวิทยุบนอินเตอร์เน็ต, ผู้ให้ บริการสตรีมมิง่ , เพลย์ลสิ ทีท่ า� ไว้บนโปรแกรม iTunes และคอนเท็นต์ที่อยู่บนเซิร์ฟเวอร์ ทดลองเลือกฟัง เพลงจากผู้ให้บริการ TIDAL ก็แค่จิ้มลงไปที่โลโก้ TIDAL ซึ่งฝังอยู่ในแอพฯ Play-Fi แล้ว ไม่ต้องเปิด แอพฯ ของ TIDAL

นี่คือหน้าเปิดของแอพฯ Klipsch Stream หลัง จากคลิ๊กเข้าไปครั้งแรก ซึ่งหลังจากสแกนเจอตัว PowerGate แล้ว หน้าตาของแอพฯ ก็จะเข้าไปใช้ หน้า้มนูของ Play-Fi

นี่คือหน้าแรกของ TIDAL บน Play-Fi ลองจิ้ม ไปที่หมวดเพลง What’s New? เพื่อดูว่ามีเพลงอะไร เข้ามาใหม่ๆ บ้าง..

นี่คือหน้าเมนูเริ่มต้นของทั้งสองแอพฯ ซึ่งจะ ปรากฏขึน้ มาหลังจากสแกนพบ PowerGate แล้ว ใน ภาพจะเห็นว่าในวงเน็ทเวิร์คนี้มีอุปกรณ์ PowerGate อยู่มากกว่าหนึ่งตัว ซึ่งถูกตั้งเป็นกรุ๊ปรวมกันไว้ด้วย เผื่อไว้ส�าหรับการเล่นในโหมดปาร์ตี้ ซึ่งอุปกรณ์ PowerGate ทุกตัวที่ต่อเชื่อมในวงเน็ทเวิร์คเดียวกัน จะเล่นเพลงเดียวกัน แต่ถ้าต้องการเล่นเฉพาะตัวที่

จะเห็นว่ายังไม่มีแคตาล็อก MASTERS ขึ้นมา ให้เลือกฟังเหมือนในแอพฯ ของ TIDAL ที่เปิดบน คอมพิวเตอร์..

ลองเลือกมาฟังสักสองอัลบั้ม เมื่อเพลงเริ่มเล่น หน้าจอของแอพฯ Play-Fi ก็จะมาอยู่ลักษณะนี้.. อาจจะน่าเสียดายอยู่นิดๆ ส�าหรับคนที่ต้องการ อะไรที่สุดลิ่ม เนื่องจากตัว PowerGate ยังไม่รองรับ การถอดรหัสของสัญญาณไฮเรซฯ MQA ที่มากับแค ตาล็อก MASTERS ของ TIDAL ถ้าคุณเลือกสตรี มเพลงจาก TIDAL ลงมาที่ตัว PowerGate ด้วย แอพลิเคชั่น TIDAL ที่ฝังอยู่ในแอพฯ DTS Play-Fi ส�าหรับเวอร์ชั่นปัจจุบัน คุณจะยังมองไม่เห็นแคตา ล็อก MASTERS ของไทดัล ดังนั้น ความละเอียด สูงสุดของไฟล์เพลงทีส่ ตรีมลงมาเล่นได้กค็ อื 16/44.1 แต่ถ้าคุณใช้วิธีสตรีมผ่านแอพฯ ของ TIDAL บน คอมพิวเตอร์ เพื่อให้ซอฟท์แวร์บนตัวเพลเยอร์ของ TIDAL ท�าการถอดรหัส MQA ให้แล้วส่งสัญญาณ PCM มาให้ Power Gate ผ่านเข้าทางช่องอินพุต USB ด้วยวิธนี ี้ แอพฯ TIDAL บนคอมพิวเตอร์จะมอง เห็นแคตาล็อก MASTERS แต่สญั ญาณทีเ่ ล่นออกมา ได้ก็จะอยู่แค่ระดับ 44.1kHz หรือ 48kHz เนื่องจาก ในตัว PowerGate ยังไม่ได้ติดตั้งฮาร์ดแวร์ดีโค๊ดเด อร์ส�าหรับฟอร์แม็ต MQA นั่นเอง แต่ถ้าไม่สนใจ MQA จากที่ผมได้ทดลองฟังแค่ ระดับ Hi-Fi 16/44.1 เสียงที่ออกมาก็นับว่าดีมาก แล้ว เชื่อว่าถ้าเป็นนักนิยมฟังเพลงที่เรียกว่ากลุ่ม music lover น่าจะแฮ๊ปปี้กับคุณภาพเสียงในระดับนี้ ได้ไม่ยาก อีกอย่าง เพลงระดับ Hi-Fi 16/44.1 ในแค ตาล็อกของ TIDAL มีอยู่มากมายมหาศาล แถมยัง มีอัลบั้มใหม่ๆ คอยป้อนเสิร์ฟออกมาให้ฟังอยู่เรื่อยๆ ถือ iPad แค่เครื่องเดียว ใช้นิ้วจิ้มๆ เลือกเพลงจาก แคตาล็อกของ TIDAL ผ่านแอพฯ DTS Play-Fi ฟัง กันได้ทั้งวัน ทั้งสะดวก ทั้งเสียงดี อย่างนี้ไม่เรียก ว่า more than happy ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วล่ะครับ..! 039


PowerGaTe + DTS Play-Fi + NaS NAS มาจากค� า ว่ า “Network Attached Storage” ซึ่งก็คือฮาร์ดดิสเก็บข้อมูลประเภทหนึ่ง ที่สามารถเชื่อมต่อตัวมันเองเข้ากับเน็ทเวิร์คได้ ซึ่ง ลักษณะจะเป็นกล่องทีม่ อี นิ เทอร์นลั ฮาร์ดดิสบรรจุอยู่ ในนั้น จ�านวนความจุมาก-น้อยขึ้นอยู่กับรุ่น คนที่มี คอมพิวเตอร์อยูแ่ ล้วก็สามารถน�าคอมพิวเตอร์นนั้ มา ท�าเป็น NAS ได้เหมือนกัน ด้วยการลงโปรแกรมมีเดีย เซิร์ฟเวอร์ลงไป อาทิ โปรแกรม Minim Server หรือ Twonky Media Server แล้วเอา USB external HD ที่มีไฟล์เพลงเสียบเข้าที่ช่อง USB ของคอมพิวเตอร์ เมือ่ เปิดโปรแกรมมีเดียเซิรฟ์ เวอร์ขนึ้ มาก็จะสามารถ ปรับตั้งให้แอพฯ DTS Play-Fi มองเห็นไฟล์เพลง เหล่านั้นแล้วสั่งดึงขึ้นมาฟังผ่านตัว PowerGate ได้ เลย ผมทดลองใช้คอมพิวเตอร์ Mac mini ท�าหน้าที่ เป็น NAS โดยการลงโปรแกรมมีเดียเซิร์ฟเวอร์ที่ชื่อ ว่า Twonky Media Server แล้วเอา USB ext.HD ที่ มีไฟล์เพลงเสียบเข้าที่ช่อง USB ของ Mac mini จาก นั้นก็ท�าการเชื่อมโยง Wi-Fi ไร้สายของตัว Mac mini เข้ากับวงเน็ทเวิร์ค Wi-Fi ของตัว router ในขณะที่ ช่อง Ethernet In บนตัว PowerGate ถูกเชื่อมต่อ อยู่กับ router ที่เชื่อมต่อโมเด็มออกสู่อินเตอร์เน็ตได้ ด้วยวิธีเชื่อมต่อข้างต้นนั้น ท�าให้ผมสามารถดึง ไฟล์เพลงจาก USB ext.HD ที่เสียบอยู่กับ Mac mini ขึ้นมาฟังผ่านภาค DAC ในตัว PowerGate ได้อย่าง ลืน่ ไหล ไม่มสี ะดุด และคุณภาพเสียงทีอ่ อกมาก็อยู่ใน เกณฑ์ที่น่าพอใจมาก ทั้งแอพฯ เล่นไฟล์เพลง DTS Play-Fi และภาค DAC ในตัว PowerGate สามารถ รองรับความละเอียดของไฟล์เพลง PCM ได้สูงถึง ระดับ 24/192 สุดขีดของมาตรฐานไฮเรซฯ ในปัจจุบนั

ฟังท์ชั่น search ของตัวแอพฯ Play-Fi จะเริ่ม สแกนหา Media Server ทั้งหมดที่อยู่ในวงเน็ทเวิร์ค เดียวกัน เมื่อเส้นบางๆ สีฟ้าขยับเลื่อนไปจนถึงสุด ทางขวามือของเส้นสีเทาจะเป็นการสิน้ สุดการสแกน..

เมื่ อ สแกนเสร็ จ แล้ ว ตั ว แอพฯ จะแสดงราย ละเอียดของ “ตัวเลือก” ลักษณะคอนเท็นต์ที่อยู่ใน มีเดีย เซิร์ฟเวอร์ที่ค้นพบขึ้นมาบนจอตามที่เห็นข้าง ต้น ถ้าต้องการให้โชว์ขึ้นมาเป็น “อัลบั้ม” ก็จิ้มเลือก ไปที่ “album”

ตัวแอพฯ จะแสดงอัลบั้มเพลงที่อยู่ในเซิร์ฟเวอร์ ของเราขึน้ มาทัง้ หมด โดยมีภาพปกอัลบัม้ อยูท่ างซ้าย แล้วตามด้วยชื่ออัลบั้ม (แสดงออกมาตามที่เราใส่ไว้ ในโฟลเดอร์) ถ้ามีมากกว่า 15 อัลบั้ม ให้ใช้นิ้วแตะ บนจอแล้วสไลด์เลื่อนขึ้นไปเรื่อยๆ เมื่อต้องการฟัง อัลบั้มไหนก็จิ้มแตะไปที่อัลบั้มนั้น..

ถ้าต้องการเลือกฟังเพลงจากไฟล์เพลงที่เราเก็บ ไว้บนฮาร์ดดิส ให้จิ้มที่ Media Server

ตัวแอพฯ จะแสดงรายชื่อเพลงทั้งหมดในอัลบั้ม นั้นขึ้นมา แต่ละเพลงจะแสดงรายละเอียดขึ้นมา 2 บรรทัด บรรทัดบนเป็นชื่อเพลง ส่วนบรรทัดล่างเป็น ชื่อศิลปิน.. ถ้าต้องการฟังเพลงไหนก็จิ้มแตะลงไปที่ แทรคเพลงนั้น 040

GM 2000

june 2017

จากนั้ น เพลงที่ จิ้ ม เลื อ กจะเริ่ ม เล่ น บนจอจะ เปลีย่ นมาแสดงรายละเอียดของแทรคเพลงนัน้ พร้อม ฟังท์ชั่นที่ใช้ควบคุมการเล่นเพลงคือ pause, scrip forward, scrip backward, random และ repeat ถ้า ต้องการย้อนกลับไปเลือกอัลบัม้ ใหม่ ให้จมิ้ แตะที่โลโก้ แอพฯ Play-Fi ที่มุมขวาล่าง PowerGaTe + lP PowerGate ให้ขั้วต่ออินพุตส�าหรับสัญญาณ analog input มาหนึ่งชุด พร้อมสวิทช์โยกเพื่อเลือก สลับให้ช่องอินพุตนี้รองรับระหว่างสัญญาณจากภาค ไลน์ (Line) กับสัญญาณจากเครื่องเล่นแผ่นเสียง (Phono) ถ้าต้องการเชือ่ มต่อเพือ่ เล่นเพลงจากเครือ่ ง เล่นแผ่นเสียง อย่าลืมโยกสวิทช์ไปทีต่ า� แหน่ง Phono ด้วย

ผมทดลองใช้เครื่องเล่นแผ่นเสียง Thorens รุ่น TD203 ติดหัวเข็ม Soundsmith รุ่น Carmen 2 ที่ มีเกนขยายอยู่ที่ 2.12mV กับภาคอินพุตโฟโนของ PowerGate ปรากฏว่าได้เสียงออกมาดีพอสมควร แนวเสียงเปิดกระจ่าง ดุลเสียงกลาง-แหลมมากกว่า ทุ้มนิดนึง แต่เท่าที่สังเกตพบว่าต้องเร่งวอลลุ่มที่ PowerGate ค่อนข้างเยอะ คิดว่าถ้าได้หวั เข็มทีม่ เี กน สูงกว่านี้อีกนิด อยู่ราวๆ 2.5mV ขึ้นไปน่าจะได้ gainmatching ที่ดีกว่านี้ คุณภาพเสียงทางด้านไดนามิก กับน�้าหนักเสียงน่าจะออกมาดีขึ้นอีก.. PowerGaTe + SubwooFer นอกจากช่อง analog output แล้ว ทางผูผ้ ลิตยัง ได้ติดตั้งช่อง Subwoofer output มาให้ด้วย ส�าหรับ คนที่ต้องการใช้ภาคขยายในตัว PowerGate ขับ ล�าโพงคู่หลังขนาดเล็กแล้วอยากเพิ่มเติมเสียงทุ้มก็ สามารถหาซับวูฟเฟอร์แบบแอีคทีฟที่มีแอมป์ในตัว มาพ่วงกับช่อง sub-out ของ PowerGate ได้ ซึ่งตัว PowerGate จะเปิดโอกาสให้คุณปรับตั้งระดับความ


เป็นตัวเลือกเล่นเพลงและเลือกส่งสัญญาณเสียงไป ที่ตัว Power Gate กับตัว The Three ทั้งลองสลับ กันเล่นและเล่นพร้อมกัน มันก็ไปกันได้อย่างราบลื่น ไม่มีติดขัดใดๆ สรุป จบการทดสอบแล้วผมต้องขอสรุปสั้นๆ ว่า รู้สึกทึ่งและประทับใจเจ้าแอมป์จิ๋วของ Klipsch ตัวนี้ มาก.!! มันมีความสามารถทีเ่ หลือเชือ่ จริงๆ มันท�าทุก อย่างได้ครบถ้วนตามที่โฆษณาไว้ และที่ผมประทับ ก็คือว่า ทุกฟังท์ชั่นที่ลองเล่น โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้อ งกับเน็ทเวิร์ค ผลปรากฏว่ามันสามารถท�างานได้ อย่างราบลืน่ ไม่มอี าการเอ๋อ ซึง่ ท�าให้ผมรูส้ กึ ประทับ ใจระคนแปลกใจทีบ่ ริษทั ผูผ้ ลิตล�าโพงสามารถท�าอุปก รณ์อิเล็กทรอนิค “สมัยใหม่” ออกมาได้ดีขนาดนี้.. ต้องขอปรบมือให้ด้วยความเต็มใจ.. และต้องขอแนะน�าให้คุณหาโอกาสไปทดลอง ประสิทธิภาพของ PowerGate ตัวนี้ให้ได้ เพราะผม เชื่อว่าถ้าได้ลองแล้ว คุณจะพบว่า มันเป็นผลิตภัณฑ์ ทีช่ ว่ ยเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กบั การฟังเพลงอย่าง มีอิสระและเปิดกว้างอย่างที่ไม่เคยมีอุปกรณ์ชิ้นไหน ท�าได้มาก่อน และด้วยราคาแค่นี้.. ผมคงต้องย�้าอีก ครั้งว่า น่าสนใจจริงๆ ครับ.!! / แรงของสัญญาณ sub-out เพื่อปรับจูนเสียงให้กลืน กับล�าโพงหลักได้ แต่ไม่มีให้เลือกจุดตัดนะ คุณต้อง ไปปรับจูนที่ตัวซับวุฟเฟอร์เข้ามาช่วย วิธีปรับระดับความแรงของสัญญาณ sub-out ก็ ท�าไม่ยาก แค่กดลงไปที่ปุ่มวอลลุ่มบนหน้าปัดของ PowerGate ค้างไว้แป๊บนึง รอจนไฟแสดงระดับ ความดังเปลี่ยนจากปกติสีขาว (A) เปลี่ยนเป็นสี แดง (C) และสัญลักษณ์รุปล�าโพงเปล่งเสียงสีขาว (B) กลายเป็นค�าว่า Sub สีแดง (D) ให้คุณรีบหมุน ปุ่มวอลลุ่มเพื่อปรับความแรงตามต้องการ ซึ่งหาก ไม่รีบปรับ ถ้าไฟสีแดงกลับไปเป็นสีขาวแสดงว่าฟัง ท์ชั่นปรับเสียงที่ซับฯ ปิดการท�างานไปแล้ว ต้องกด เปิดการท�างานใหม่ PowerGaTe + blueTooTh อินพุต Bluetooth ของ PowerGate ตัวนี้ สามารถรองรับสัญญาณเสียงฟอร์แม็ต AptX ได้ จาก การทดลองฟังกับเครื่องเล่นไฟล์เพลงของ Sony รุ่น ZX100 และจาก iPhone 7 แล้ว ผมบอกได้เลยว่า คุณภาพเสียงทางช่อง Bluetooth ของ PowerGate จะขึ้นอยู่กับคุณภาพของสมาร์ทโฟนหรือแท๊ปเล็ตอ ย่างมาก เสียงที่ได้จากเครื่องเล่นไฟล์เพลง ZX100 ของโซนี่ออกมาดีมากน่าพอใจกว่าเสียงที่ ได้จาก iPhone 7 พอสมควร ในแง่ที่มีเนื้อมีหนังกว่า และ นุ่มนวลหูมากกว่า.. PowerGaTe + DTS Play-Fi + MulTi-ZoNe/MulTi-rooM ผมได้ทดลองเอาล�าโพงไร้สายรุ่น The Three ของ Klipsch มาทดลองเล่นแบบมัลติโซนฯ ร่วมกับ ตัว PowerGate โดยวางตัว The Three ไว้ในอีกมุม ของห้อง แล้วอาศัยแอพฯ Play-Fi บนสมาร์ทโฟน

ราคา 27,900 บาท / ตัว :: น�าเข้าโดย :: บริษทั Sound Republic โทร. 02-448-5489, 02-448-5465-6 :: จัด จ�าหน่ายโดย ร้านค้าตัวแทนจ�าหน่ายทัว่ ประเทศ 041


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.