VIDEOPHILE REVIEWS • ชานนท์ จุทัยรัศม์
SCAN & READ IT ON MOBILE PHONE
KLIPSCH
REFERENCE PREMIERE DOLBY ATMOS 5.1.2
ชุดล�ำโพง Atmos ระดับอ้ำงอิง!!
ดังที่ทราบกันว่า มาตรฐานโฮมเธียเตอร์ก�าลังก้าวผ่านสู่ยุคถัดไป... นอกจาก ระบบภาพความละเอียดสูงระดับ 4K/Ultra HD และเทคโนโลยี HDR แล้ว ด้านเสียง ก็ ได้รับการพัฒนาสู่ยุคของ Immersive Audio ระบบเสียงรอบทิศทางแบบ 3 มิติ ซึ่งควบรวมเสียงโอบล้อม โดยเพิ่มเติมมิติด้านสูงเข้ามาด้วย น�าร่องโดยเจ้าแห่งระบบ เสียงภาพยนตร์ที่คุ้นเคยกันดี คือ “Dolby Atmos” และตามติดมาด้วย “DTS:X”
VIDEOPHILE
31
AUDIOPHILE
VIDEOPHILE REVIEWS
หากต้องการสัมผัสรับฟังมิติใหม่ของระบบเสียง รอบทิศทางข้างต้น ย่อมจ�าเป็นต้องมีการอัพเกรด ระบบล�าโพงเพิ่มเติมกันสักเล็กน้อย และด้วยเหตุนี้ ผู้ผลิตล�าโพงชื่อดังที่คร�่าหวอดในแวดวงระบบเสียงใน โรงภาพยนตร์และโฮมเธียเตอร์สัญชาติอเมริกันอย่าง Klipsch จึงเข้าร่วมวงไพบูลย์น�าเสนอชุดล�าโพงใหม่ ที่พร้อมรองรับระบบเสียง Dolby Atmos และ DTS:X ด้วยซีรี่ส์ล่าสุด Reference Premiere Dolby Atmos! การที่ Klipsch น�าค�าว่า “Reference” มาใช้ กับล�าโพงซีรี่ส์นี้ก็ด้วยความหมายที่ตรงตัว คือ ชุดล�าโพงที่เน้นเป้าหมายถ่ายทอดคุณภาพเสียง ถูกต้องตรงตามมาตรฐานอ้างอิง อันมีที่มาจากการ ผสมผสานนวัตกรรมด้านเสียงอันยอดเยี่ยมระดับ ต�านานที่เริ่มต้นจากชายที่ชื่อว่า Paul W. Klipsch ชุดล�าโพง Reference Series ของ Klipsch นั้น มีมานานแล้ว หลายท่านคงคุ้นเคยกันดีกับล�าโพง ที่ติดตั้งตัวขับเสียงกลาง-ต�่าสีทองแดง ผสานตัวขับ เสียงสูงทรงฮอร์นอันเป็นเอกลักษณ์ของชุดล�าโพงที่มี ประสิทธิภาพ และความคุ้มค่าในระดับสูงนี้ ปัจจุบัน Reference Series ได้รับการพัฒนามาถึงเจเนอเรชั่น ที่ 3 นามว่า Reference Premiere ปัจจุบัน Reference Premiere มีล�าโพงทั้งหมด 13 รุ่น ประกอบไปด้วย... • ล�าโพงตั้งพื้นพร้อม Dolby Atmos Enabled Speakers แบบ “Built-in” 1 รุ่น คือ RP-280FA • ล�าโพงตั้งพื้น 3 รุ่น คือ RP-280F, RP-260F และ RP-250F • ล�าโพงวางขาตั้ง 2 รุ่น คือ RP-160M และ RP-150M • ล�าโพงเซ็นเตอร์ 4 รุ่น คือ RP-450CA, RP-450C, RP-440C และ RP-250C • ล�าโพงเซอร์ราวด์แบบ Bi-pole 2 รุ่น คือ RP-250S และ RP-240S • ล�าโพง Dolby Atmos Enabled Speakers แบบ “Add-on” 1 รุ่น คือ RP-140SA
Height Channel Speakers จุดก�ำเนิดมิติเสียงด้ำนสูง ก่อนจะไปว่ากันต่อเกี่ยวกับรายละเอียดและ จุดเด่นของล�าโพงในซีรี่ส์ Reference Premiere ผมขอทวนความจ�าเกี่ยวกับล�าโพงที่รับหน้าที่สร้าง มิติเสียงด้านสูง (Height Channel) ส�าหรับ Dolby Atmos ❶ กันสักหน่อยว่ามีลักษณะใดบ้าง เพื่อให้ ท่านได้ใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ...
❶ และสามารถใช้งานร่วมกับระบบเสียง DTS:X ได้ด้วย
VIDEOPHILE
32
AUDIOPHILE
ล�าโพงด้านสูงที่ใช้งานร่วมกับระบบเสียง Dolby Atmos แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบใหญ่ๆ ตามลักษณะ การติดตั้ง 1. Top Speakers หรือล�าโพงที่ติดตั้งบน ฝ้าเพดาน ต�าแหน่งของล�าโพงลักษณะนี้จะติดตั้งอยู่ เหนือศีรษะของผู้ฟังจริงๆ แต่ต้องอาศัยการติดตั้ง ที่ยุ่งยากสักหน่อย เพราะต้องมีการเจาะยึดฝ้าเพดาน เพิ่มเติม 2. Dolby Atmos Enabled Speakers ล�าโพงพิเศษที่ใช้หลักการยิงเสียงขึ้นไปสะท้อน กับฝ้าเพดานลงมา แบ่งออกเป็น 2 แบบย่อย คือ “Integrated (Built-in) Speakers” แบบที่ฝังมา กับล�าโพงคู่หน้าและ/หรือล�าโพงเซอร์ราวด์ กับแบบ “Add-on Speakers” ที่เป็นตู้ล�าโพงขนาดเล็ก แยกอิสระ ส�าหรับน�าไปวางบนล�าโพงคู่หน้าและ/หรือ ล�าโพงเซอร์ราวด์ทั่วไป รูปแบบนี้จึงติดตั้งใช้งานได้ ง่าย แต่ลักษณะสภาพแวดล้อมการติดตั้งก็จะส่งผลกับ ศักยภาพของล�าโพงรูปแบบนี้อยู่บ้าง
ทั้ง 2 รูปแบบข้างต้น มีพร้อมให้เลือกใช้งาน จากชุดล�าโพง Klipsch Reference Premiere Dolby Atmos! โดย Dolby Atmos Enabled Speakers “Built-in” มาในรุ่น RP-280FA ซึ่งเป็นล�าโพง ตั้งพื้นรุ่นสูงสุดของซีรี่ส์ รับหน้าที่เป็นทั้งล�าโพงคู่หน้า พร้อมๆ กับเสริมสร้างมิติเสียงด้านสูง โดยอาศัย ตัวขับเสียงอีกชุดหนึ่งฝังอยู่ด้านบนตู้ล�าโพง ส่วน Dolby Atmos Enabled Speakers แบบ “Add-on” มาในรุ่น RP-140SA ลักษณะเป็น ตู้ล�าโพงอิสระขนาดเล็ก จึงสามารถน�าไปเพิ่มเติม ติดตั้งบนล�าโพงตั้งพื้น หรือล�าโพงวางขาตั้งอื่นใด ในซีรี่ส์ Reference Premiere ได้อย่างลงตัว
แต่หากท่านใดต้องการล�าโพงด้านสูงรูปแบบ “Top Speakers” ที่ให้ทิศทางเสียงเหนือศีรษะผู้ฟัง จริงๆ จากล�าโพงที่ติดตั้งบนฝ้าเพดาน ทาง Klipsch ก็มีเช่นกัน โดยใช้งานร่วมกับล�าโพงฝังฝ้าหลากหลาย รุ่น อย่างไรก็ดี ส�าหรับรีวิวในครั้งนี้จะเน้นทดสอบ รายงานผลเฉพาะรูปแบบ Enabled Speakers ครับ
KLIPSCH : REFERENCE PREMIERE DOLBY ATMOS 5.1.2
Klipsch Reference Premiere Dolby Atmos 5.1.2
Reference Premiere ได้รับกำรปรับปรุง เพิ่มเติมจุดใด จึงได้ผลลัพธ์ทำงเสียง วัสดุที่ใช้ผลิตโคนวูฟเฟอร์อันโดดเด่นของ Klipsch ยอดเยี่ยมเหนือกว่ำเจเนอเรชั่นก่อนหน้ำ? คือ Copper Cerametallic ยังถูกน�ามาใช้กับ Reference “ปากฮอร์น” อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งถูกใช้ในล�าโพง ของ Klipsch ทุกรุ่น โดยรูปแบบของ Reference Premiere เป็นโครงสร้างที่เรียกว่า Tractrix Horn ได้ รับการพัฒนาปรับปรุงมาจาก Reference II อีกทีหนึ่ง ความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน คือ ไดเมนชั่น จากเดิมเป็น รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า 60x90 ก็กลายมาเป็นสี่เหลี่ยม จัตุรัส 90x90 เมื่อผสานกับโครงสร้างทรงกลมบริเวณ ใจกลางจะยิ่งส่งเสริมมุมกระจายเสียงของทวีตเตอร์ได้ ครอบคลุมกว้างขวางยิ่งขึ้น ผลลัพธ์ที่ตามมา คือ เวทีเสียงที่โอ่อ่าเปิดกว้าง และการตอบสนองทาง ไดนามิกยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น วัสดุที่ใช้ขึ้นรูป Tractrix Horn นี้ ยังเปลี่ยนมา ใช้ซิลิโคนทดแทน ABS ในเจนฯ ก่อน คุณสมบัติทาง เรโซแนนซ์จึงดีขึ้น ส่งผลถึงการตอบสนองต่อเสียง ความถี่สูงที่ราบเรียบและให้ความนุ่มนวลเป็นธรรมชาติ มากกว่า ซึ่ง Klipsch ยังได้ท�าการปรับปรุงตัวขับเสียงสูงที่ เรียกว่า Titanium Linear Travel Suspended (LTS) Tweeters เพิ่มเติม ด้วยการออกแบบโครงสร้าง Phase Plug ใหม่ เพื่อขยายขีดความสามารถในการถ่ายทอด รายละเอียดเสียงอันซับซ้อนจากทั้งดนตรี และภาพยนตร์
Premiere เช่นเคย ทว่าภายในได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติม โครงสร้าง Titanium Voice Coil เพื่อการขยับตัวได้ อย่างมีเสถียรภาพ เสียงเบสจะสะอาด และตอบสนอง ฉับไวกว่าเดิม โครงสร้างแบบ Tractrix Horn นั้น มิได้ส่งผลดี เฉพาะกับการควบคุมมุมกระจายเสียงของทวีตเตอร์ เท่านั้น ทว่ายังสามารถน�ามาประยุกต์กับท่อเบสได้ด้วย จึงก่อเกิดเป็น Tractrix Port เป็นการไฟน์จูนให้การ ถ่ายเทมวลอากาศจากภายในตู้ล�าโพงเป็นไปอย่างราบรื่น รวดเร็ว และลดทอนเสียงรบกวนจากลมหมุนวนบริเวณ ปลายท่อได้อีกต่างหาก หากสังเกตจะเห็นว่าล�าโพงตั้งพื้นและล�าโพง วางขาตั้งจะติดตั้งฐานมาพร้อมจากโรงงาน ซึ่งฐานนี้ นอกจากเพิ่มความมั่นคงแล้ว ยังท�าหน้าที่ยกหน้าล�าโพง ให้แหงนขึ้นเล็กน้อยเพื่อผลทางเสียงด้วย รายละเอียดปลีกย่อยอย่างการลบมุมบริเวณแผงหน้า ซึ่งวัสดุเป็น MDF ดูผสานกลมกลืนเป็นชิ้นเดียวกับตัวตู้ มากกว่าวัสดุ ABS ที่ใช้ในรุ่น Reference II อีกทั้งเปลี่ยน วัสดุปิดผิวให้ดูพรีเมียมยิ่งขึ้นด้วยวีเนียร์โพลีเมอร์ลายปัด เสี้ยนสีด�า และลวดลายไม้ หน้ากากผ้าก็ใช้การยึดติดด้วย แม่เหล็ก ถอดใส่ได้สะดวกแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้แผงหน้า ล�าโพงดูสวยงามสะอาดสะอ้านดี (ไม่มีรู)
ส�าหรับ Reference Premiere Dolby Atmos ที่จะท�าการทดสอบในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย... ถือเป็นพระเอกของโฮมเธียเตอร์ชุดนี้เลยทีเดียว ส�าหรับ RP-280FA โดยตัวอักษร A ต่อท้าย มีที่มา จาก Atmos นั่นเอง อย่างที่เรียนให้ทราบแล้วว่า รุ่นนี้เป็นรูปแบบ Dolby Atmos Enabled Speakers แบบ “Built-in” ตัวขับเสียงจึงแยกเป็น 2 ชุด ชุดที่ท�าหน้าที่ Front Channel ประกอบไปด้วย Linear Travel Suspension Titanium Tweeter ขนาด 1 นิ้ว ติดตั้งภายในโครงสร้าง Tractrix Horn และวูฟเฟอร์ Spun Copper Cerametallic Cone ขนาด 8 นิ้วคู่ บวกกับขนาดตัวตู้ที่ใหญ่กว่าล�าโพง โฮมเธียเตอร์ตั้งพื้นทั่วไป เบสจึงจุใจมากๆ ทว่าก็ ต้องการพื้นที่จัดวางมากกว่า และห้องหับควรมี ปริมาตรที่มากตามไปด้วยจึงจะได้ผลลัพธ์ลงตัวเป็น ที่สุดโดยเฉพาะการตอบสนองย่านความถี่ต�่าลึก ส่วนชุดของล�าโพง Height Channel ติดตั้ง อยู่ด้านบนตัวตู้เดียวกันนี้ก็ไม่น้อยหน้า เพราะใช้ตัว ขับเสียงขนาดเดียวกับล�าโพงวางขาตั้งรุ่นใหญ่ในซีรี่ส์ เดียวกันอย่าง RP-160M เลยทีเดียว ประกอบไปด้วย Linear Travel Suspension Titanium Tweeter ขนาด 1 นิ้ว ติดตั้งภายในโครงสร้าง Tractrix Horn และวูฟเฟอร์ Spun Copper Cerametallic Cone ขนาด 6.5 นิ้ว ด้วยลักษณะของ Dolby Atmos Enabled Speakers แบบ “Built-in” แน่นอนว่าในตู้ล�าโพง เดียวกันจะต้องเห็นขั้วล�าโพง 2 ชุด โดยชุดล่างส�าหรับ “Front Channel” (ซึ่งรุ่นนี้เป็นรูปแบบไบ-ไวร์) และ ชุดบนส�าหรับ “Height Channel” ถัดมา คือ ล�าโพงเซ็นเตอร์ รับหน้าที่โดย RP-450CA ล�าโพงเซ็นเตอร์รุ่นใหญ่สุดของซ๊รี่ส์ ซึ่งขนาดนั้นใหญ่ จริงๆ จนบางครั้งอาจวางในช่องชั้นทีวีทั่วไปไม่ได้ แต่ทางผู้ผลิตก็ออกแบบโดยให้สามารถใช้ล�าโพงนี้ เป็นฐานเพื่อตั้งวางทีวีไว้ด้านบนตัวตู้เลยก็ได้ เหตุผลที่ล�าโพงเซ็นเตอร์ในชุดนี้ต้องมีตัวตู้ขนาด ใหญ่พิเศษ ก็เพื่อให้การถ่ายทอดดุลเสียงต�่าใกล้เคียง กับล�าโพงคู่หน้าแบบตั้งพื้นขนาดใหญ่อย่าง RP-280FA จนได้ความต่อเนื่องกลมกลืนของสนามเสียงนั่นเอง ผลพลอยได้ คือ น�้าเสียงสนทนาจาก Center Channel รุ่นนี้มีความหนักแน่น ถ่ายทอดไดนามิกได้อย่าง เยี่ยมยอด (รายละเอียดจะกล่าวถึงอีกครั้งช่วงรายงาน คุณภาพเสียง) ซึ่งตัวขับเสียงส�าหรับล�าโพงเซ็นเตอร์รุ่นนี้ ประกอบไปด้วย Linear Travel Suspension Titanium Tweeter ขนาด 1 นิ้ว ติดตั้งภายใน โครงสร้าง Tractrix Horn และขนาบข้างด้วยวูฟเฟอร์ Spun Copper Cerametallic Cone ขนาด 5 นิ้ว จ�านวน 4 ตัว
VIDEOPHILE
33
AUDIOPHILE
VIDEOPHILE REVIEWS
ล�าโพงเซอร์ราวด์รับหน้าที่โดย RP-160M ซึ่งเป็น ล�าโพงวางขาตั้งขนาดใหญ่ที่สุดของซีรี่ส์ ตัวขับเสียง ประกอบไปด้วย Linear Travel Suspension Titanium Tweeter ขนาด 1 นิ้ว ติดตั้งภายใน โครงสร้าง Tractrix Horn และวูฟเฟอร์ Spun Copper Cerametallic Cone ขนาด 6.5 นิ้ว ลักษณะพิเศษต่างๆ ก็เหมือนกับย่อส่วนรุ่นล�าโพง ตั้งพื้นลงให้วางบนขาตั้งได้ ลักษณะพื้นฐานโครงสร้าง ตัวตู้และตัวขับเสียงจึงมีความใกล้เคียงกัน และยังรวม ไปถึงขั้วล�าโพงแบบไบไวร์ด้านหลังด้วย อุปกรณ์ชิ้นส�าคัญ ขาดไม่ได้ส�าหรับระบบ โฮมเธียเตอร์ คือ ล�าโพงแอ็กทีฟซับวูฟเฟอร์ ครั้งนี้รับ
หน้าที่โดย R-112SW ซึ่งอยู่ในตระกูล “Reference” ของ Klipsch เช่นเดียวกัน... หากยังจ�ากันได้ นี่คือรุ่นพี่ของ R-110SW ที่เคย ทดสอบไปก่อนหน้านี้ หน้าตาการออกแบบจึงเหมือน กันเปี๊ยบ โดยเป็นล�าโพงแอ็กทีฟซับวูฟเฟอร์แบบตู้ เปิด จัดวางท่อเปิดแบบ Slot port ไว้ด้านหน้าอันเป็น ทิศทางเดียวกับตัวขับเสียง ซึ่งแตกต่างจาก R-110SW ก็ตรงขนาดตัวตู้ที่ใหญ่ขึ้น สัมพันธ์กับขนาดตัวขับเสียง spun-copper Cerametallic woofer เส้นผ่านศูนย์กลาง 12 นิ้ว และภาคขยายดิจิทัลก�าลังขับ 600 วัตต์ (Dynamic power เพิ่มขึ้นจาก R-110SW ที่ 450 วัตต์) การจัดวางปุ่มควบคุมและจุดเชื่อมต่อสัญญาณ ต่างๆ ทางด้านหลังก็เหมือนกับ R-110SW โดยรับ สัญญาณแบบ Low-level ทาง Stereo/LFE Line Input และช่องต่อที่อยู่ข้างล่าง คือ WA-2 Port ส�าหรับติดตั้งใช้งานร่วมกับตัวรับสัญญาณเสียงแบบ ไร้สาย (เป็นอุปกรณ์เสริมต้องซื้อเพิ่ม)
แนวทำงกำรติดตั้ง เหมือนเช่นล�าโพงโฮมเธียเตอร์ทุกรุ่น ที่ต้อง ท�าการติดตั้งอย่างเหมาะสมจึงจะสามารถรีดศักยภาพ ออกมาอย่างเต็มที่ และ Klipsch Reference Premiere Dolby Atmos นี้ ก็ไม่มีข้อยกเว้น ส�าหรับล�าโพงวางขาตั้ง และล�าโพงเซ็นเตอร์ ให้แผ่นยางส�าหรับติดรองตู้ล�าโพงมาด้วย แนะน�าให้ ติดไว้ครับ ส่วนล�าโพงตั้งพื้นมี 2 ทางเลือก กรณีที่ ตั้งวางบนพรม หรือพื้นที่ไม่เรียบ หรือไม่ได้ระนาบ แนะน�าให้ใช้เดือยแหลม และปรับระดับให้เรียบร้อย แต่หากเป็นพื้นแข็งที่ได้ระนาบมั่นคงอย่างพื้นคอนกรีต พื้นกระเบื้อง แนะน�าให้ใช้แผ่นยางติดแทน
VIDEOPHILE
34
AUDIOPHILE
การติดตั้งใช้งานร่วมกับ Dolby Atmos/DTS:X AV Receiver ต้องก�าหนดลักษณะล�าโพง (Speaker Configuration) ให้ถูกต้องตรงตามการใช้งาน ซึ่งส�าหรับบททดสอบนี้อ้างอิงการใช้งานร่วมกับ Denon AVR-X7200WA (F/W 6880-7971-5211-00) โดยต้องก�าหนดในส่วนของ Amp Assign หัวข้อ Height Speakers เป็น “Using Dolby Speakers” และส�าหรับท่านที่ยังไม่มั่นใจว่าจะปรับตั้งเสียง ของล�าโพงรูปแบบ Dolby Atmos Enabled Speakers อย่างไร เบื้องต้นอาจใช้ระบบ Speakers Auto Calibration ได้ ซึ่งผลลัพธ์จากระบบ Audyssey MultEQ XT32 ของ AVR-X7200WA ท�าได้ลงตัวดี ทีเดียว
คุณภำพเสียง เริ่มต้นท�าการทดสอบแบบ 5.1.2 โดยเปรียบ เทียบระหว่างการใช้งานล�าโพง Front Dolby Atmos Enabled Speakers ที่ติดตั้งมากับ RP-280FA กับ ทดลองไม่ใช้งาน (Off) เพื่อดูว่าล�าโพงพิเศษ Height Channel รูปแบบนี้มีส่วนเติมเต็มมิติเสียงด้านสูงได้ จริงหรือไม่? คอนเทนต์ที่ใช้ในการทดสอบ คือ... แผ่นบลูเรย์ Dolby Atmos Demonstration Disc (Sep 2015 Ver.) แทร็กที่ชื่อว่า Audiosphere สามารถใช้อ้างอิง มิติเสียงโอบล้อมจากล�าโพงรอบทิศทางทั้งบนและล่าง ได้ดีมากๆ แนะน�าเลยครับ ผลลัพธ์ชัดเจนว่า Front Dolby Atmos Enabled Speakers ช่วยเติมเต็มมิติเสียงด้านสูงได้ จริงไม่อิงนิยาย หากไม่มีแล้วล่ะก็บรรยากาศเสียง
KLIPSCH : REFERENCE PREMIERE DOLBY ATMOS 5.1.2
ด้านบนจะหายไป แต่แน่นอนว่าเวทีเสียงด้านสูงที่ได้ จากระบบ 5.1.2 รูปแบบนี้ อาจจะเทหนักไปทางด้าน หน้าตามต�าแหน่งของล�าโพง Height Channel ค�า แนะน�าเพิ่มเติม คือ ไม่ควรตั้งล�าโพงเซอราวด์หลังต�่า เกินไป แต่ให้ยกสูงสักหน่อย (ต้องสูงไม่น้อยกว่า 1.20 - 1.50 เมตรขึ้นไป) เพราะล�าโพงเซอร์ราวด์ในระบบ 5.1.2 จะท�าหน้าที่ควบรวมเสริมสร้างทั้งทิศทางเสียง ด้านหลัง และเติมเต็มบาลานซ์มิติเสียงด้านสูง ถึงแม้ หน้าที่หลังไม่เด่นชัดเท่า Rear Height Channel ใน ระบบ 5.1.4 แต่กรณีนี้ก็ช่วยได้มากเหมือนกันครับ ทดสอบกับภาพยนตร์ดูบ้างกับ Transformers Age of Extinction (Dolby Atmos) สิ่งที่ยืนยัน ได้เลย คือ น�้าหนักเสียงจากชุดล�าโพง Enabled Speakers แบบ “Built-in” ที่ฝังอยู่ด้านบนล�าโพง ตั้งพื้นขนาดใหญ่อย่าง RP-280FA มีความโดดเด่น กว่าล�าโพงลักษณะ “Add-on” หลายๆ รุ่น (ที่มักมา ในแบบตู้ล�าโพงขนาดกะทัดรัดติดตั้งตัวขับเสียงขนาด เล็ก) อย่างเห็นได้ชัด จุดนี้ส่งผลไปถึงบรรยากาศด้าน สูงจาก RP-280FA มีสเกลเสียงที่โอ่อ่ากว่า และที่ ส�าคัญ คือ “ความหนักแน่น” จากเอฟเฟ็กต์ด้านสูง พลังดูดมหาศาลของยานลอยฟ้าขนาดยักษ์จาก แชปเตอร์ 20 เสียงเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ใน แชปเตอร์ 12 - 13 ไปจนถึงเสียงฟ้าค�ารามจากแทร็ก ที่ชื่อว่า Amaze ในแผ่น Dolby Atmos Demonstration Disc ฟังดูมีสเกลยิ่งใหญ่พร้อมพลังเสียงที่ สมจริงกว่ามาก จนลืมล�าโพง Add-on เล็กๆ ไปเลย
อย่างไรก็ดี หากเทียบกับชุดล�าโพง 5.1.2 ที่ใช้ งานล�าโพงรูปแบบ Top (Middle) Speakers ติดตั้ง อยู่บนฝ้าเพดาน ❷ พบว่า การชี้ต�าแหน่งทิศทางเสียง
จาก Transformers แชปเตอร์ 20 มีความชัดเจน สมจริงกว่าบ้าง อ้างอิงได้จากต�าแหน่งยานแม่อยู่ บนศีรษะชัดเจนมากๆ ในขณะที่ผลลัพธ์จาก Front Enabled Speakers อาจจะพอถ่ายทอดบรรยากาศ ด้านสูงได้ก็จริง แต่ต�าแหน่งยังไม่ชัดแจ้งมากเท่า ทั้งนี้ หากต้องการเสริมผลลัพธ์ด้านมิติทิศทางเสียงด้านสูง ส�าหรับ Enabled Speakers ให้เทียบเท่ากับ Top Speakers คงต้องเพิ่ม Enabled Speakers อีกชุด หนึ่งที่ล�าโพงเซอร์ราวด์เพื่อใช้งานแบบ 5.1.4 ครับ เนื่องจากต้องการชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างที่ได้ จากระบบเสียงยุคใหม่ จึงเน้นรายงานเสียงเอฟเฟ็กต์ จาก Height Surround Channel ก่อน อย่างไรก็ดี ต้องขอบอกว่า ความยอดเยี่ยมของซิสเต็มล�าโพง โฮมเธียเตอร์ชุดนี้ ที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะไม่พ้น RP280FA ที่รับหน้าที่ส�าคัญเป็นล�าโพงคู่หน้านี่แหละ ซึ่งมากกว่าครึ่งของความอลังการ เวทีเสียงโอ่อ่ามา จากล�าโพงคู่นี้นี่เอง แรงปะทะและเสียงความถี่ต�่า อันหนักแน่นจากวูฟเฟอร์สีทองแดงคู่ขนาด 8 นิ้ว เป็นอะไรที่น่าประทับใจมาก Klipsch Reference Premiere Dolby Atmos มิใช่ล�าโพงสไตล์เสียงหวานแหวว หากจะให้ยกแนว เพลงที่เข้ากันกับคาแร็กเตอร์ของล�าโพงคู่นี้ ผมนึกถึง Main Title from Star Wars/ The Flag Parade แทร็กหนึ่งในอัลบั้ม Mega Movies (SACD Stereo/ Multi-channel) อ�านวยเพลงโดย Erich Kunzel และวง Cincinnati Pops Orchestra กับอัลบั้มไลฟ คอนเสิร์ตสุดอลังการ Moment of Glory (SACD Stereo/Multi-channel) จากวงร็อกไอ้แมงป่อง ผยองเดช Scorpions ร่วมกับวง Berliner Philharmoniker ที่ฟังผ่านล�าโพงชุดนี้แล้วมันสะใจ จริงๆ กับแนวเสียงเปิดเผยที่มาพร้อมพลังอันดุดัน และความยิ่งใหญ่โอ่โถงของเวทีเสียง ยอมรับว่าทีแรกมองว่าซับวูฟเฟอร์ขนาด 15 นิ้ว รุ่น R-115SW น่าจะดูลงตัวกว่า ในแง่การเติมเต็ม ย่านต�่าลึกให้สมน�้าสมเนื้อกับศักยภาพของล�าโพง คู่หน้า ทว่าเมื่อใช้งานจริง ศักยภาพของ R-112SW ก็ไม่ท�าให้ผิดหวัง การรับชมร่วมกับภาพยนตร์ระบบ เสียง Dolby Atmos หลายๆ ไตเติล รวมไปถึง San
❷ ทดสอบอ้างอิงร่วมกับลําโพง KEF Ci200RR-THX In-ceiling Speakers
Andres อย่างที่ทราบว่าเรื่องนี้บันทึกเสียงย่าน LFE มาอย่างหนักหน่วง ล�าโพงซับวูฟเฟอร์รุ่นนี้ก็ไม่แสดง อาการอ่อนเปลี้ยใดๆ แต่ยังคงเติมเต็มเสียงเอฟเฟ็กต์ ต�่าลึกได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขนาดตัวตู้ที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ จนเกินไปนี้ยังช่วยให้จัดหาที่ทางตั้งวางได้สะดวกกว่า R-115SW ที่มีขนาดใหญ่กว่าด้วย ทั้งขนาดและอัตราตอบสนองความถี่ของ RP450CA ล�าโพงเซ็นเตอร์ในชุดนี้ พูดได้ว่าเป็นล�าโพง ขนาด Large ได้อย่างเต็มปาก ดูเผินๆ ก็ไม่ต่างจาก ล�าโพงตั้งพื้นขนาดย่อมๆ ที่น�ามาวางนอนเท่าไหร่... การถ่ายทอดน�้าหนักและสเกลเสียงจึงไม่ได้ยิ่งหย่อน ไปกว่า RP-280FA เลย แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือ เสียง สนทนามีความหนักแน่น แม้แต่เสียงต�่าๆ จาก นักร้องชายก็มีพลังฟังแล้วสมจริงดีมาก น้อยนัก ที่ล�าโพงเซ็นเตอร์ทั่วไปจะให้ได้ถึงขนาดนี้ ดังที่เรียนไปในตอนต้นว่า ในระบบ 5.1.2 ล�าโพง เซอร์ราวด์จะท�าหน้าที่ 2 อย่าง คือ... ถ่ายทอดมิติ เสียงโอบล้อมด้านหลัง และเติมเต็มบรรยากาศด้านสูง โดยเป็นตัวบาลานซ์เสียงจาก Front Height Speakers มิให้น�้าหนักทิศทางเสียงด้านสูงเทไป ด้านหน้ามากจนเกินไป ซึ่ง RP-160M สามารถท�า หน้าที่ดังกล่าวได้โดยสมบูรณ์ ด้วยมุมกระจายเสียง ที่กว้างขวางจาก LTS Tweeter และ Tractrix Horn จึงส่งผลให้การแจกแจงรายละเอียดทิศทางเสียง โอบล้อมท�าได้จะแจ้งชัดเจนดีด้วย และเสียงความถี่ต�่า จาก Copper Cerametallic Woofer ขนาด 6.5 นิ้ว ก็ให้ได้เกินตัว ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นจุดอ่อนเมื่อเทียบกับ ศักยภาพของล�าโพงคู่หน้าและเซ็นเตอร์ในชุด ในอนาคต หากต้องการบรรยากาศโอบล้อม ด้านสูงที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นก็สามารถเพิ่มเติมล�าโพง Dolby Atmos Enabled Speakers แบบ Add-on ของ Klipsch คือ RP-140SA โดยน�ามาวางบนล�าโพง เซอร์ราวด์คู่นี้ในแบบ 5.1.4 ได้ครับ คงไม่เป็นการเกินเลย หากจะบอกว่านี่เป็นล�าโพง Enabled Speakers รูปแบบล�าโพงตั้งพื้นที่ดีที่สุด ณ เวลานี้! นอกจากคุณภาพเสียง “ระดับอ้างอิง” ตามชื่อแล้ว ขณะเดียวกันลักษณะล�าโพงรูปแบบนี้ ก็เอื้อต่อการติดตั้งใช้งานให้สัมผัสศักยภาพระบบ เสียงใหม่จาก Dolby Atmos และ DTS:X ที่เพิ่มเติม มิติเสียงด้านสูง ผสานพลังเสียงสไตล์อเมริกันของ Klipsch ที่ให้ทั้งความดุดัน เสียงเบสลงได้ลึกและ กระชับ เติมเต็มอรรถรสการรับชมภาพยนตร์และ รับฟังดนตรีออร์เคสตร้าวงใหญ่ได้เป็นอย่างดี. VDP ราคา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม จัดจ�าหน่ายโดย บ.ซาวด์ รีพับลิค จ�ากัด โทร. 0-2448-5489, 0-2448-5465-6
VIDEOPHILE
35
AUDIOPHILE