T E S T REPORT
056
GM2000
TEXT : ธนภณ พูลเจริญ PHOTO : นิพันธ์ พิมพ์สวัสดิ์
o ct o b e r 2 0 1 5
Klipsch RP-280 Atmos Home Theater System
At most you’re wanted มีใครไม่รู้จักล�ำโพงฮอร์นบ้ำงครับ อย่ำงน้อยก็ต้องเคยเห็นผ่ำนตำ แต่อำจจะไม่รู้จักชื่อสำมัญของมัน บำงคนก็ ปัญญัติศัพท์เป็นชำวบ้ำน ไปเลยว่ำ “ล�ำโพงปำกแตร” เอำเป็นที่เข้ำใจตรงกันว่ำ เรำเรียกล�ำโพงที่มีอะไรบำนๆ มำครอบด้ำนหน้ำอีกทีนั่นแหละ เป็นล�ำโพงที่ผมก�ำลังจะพูดถึง ผมก�ำลังโยงไปหำล�ำโพงยีห่ อ้ หนึง่ ทีจ่ ะว่ำไปแล้วก็เป็นระดับเจ้ำพ่อล�ำโพงฮอร์นได้เลย เป็นล�ำโพงจำกลุงแซม มีชื่อว่ำ Klipsch ที่ต้องบอกว่ำเป็นเจ้ำพ่อล�ำโพงฮอร์นก็เพรำะว่ำเขำยืนหยัดอยู่กับล�ำโพงประเภทนี้มำนำนมำก ตั้งแต่โลกใบนี้รู้จักล�ำโพงฮอร์นของเขำ ที่ชื่อว่ำ Klipschhorn อ่ำนว่ำ “คริปช-ฮอร์น” มำก็ 70 ปีพอดี และผม ก็เพิ่งรู้เร็วๆ นี้ว่ำแรกๆ ล�ำโพง Klipschhorn ถึงขนำดเป็น bestseller ส�ำหรับล�ำโพงที่ใช้ในโบสถ์กันเลยทีเดียว ท�ำไม? แล้วอะไรถึงท�ำให้เป็นเช่นนั้น? แนวคิดของล�ำโพงยี่ห้อหนึ่งที่อำยุ 70 ปีกับยุค Dolby Atmos มันเกี่ยวกันได้ยังไง ถ้ำอยำกรู้ผมจะอธิบำย ให้ฟังครับ
First Look ก่อนอื่นต้องอธิบำยโครงสร้ำง และสมำชิกของ ล�ำโพงแต่ละรุน่ ในตระกูล RP-280 Atmos Home Theater System ที่ประกอบขึ้นเป็นล�ำโพงชุดนี้ ก่อน ล�ำโพงชุดนีป้ ระกอบไปด้วย ล�ำโพงในตระกูล RP Series (Reference Premiere) ทั้งหมด 12 ตัว หรือเรียกเป็น 11.1 หรือ 7.1.4 แชนเนล ใน แบบ Dolby Atmos 7 แชนเนลแรกเป็นล�ำโพง ในฟอร์แมตของดอลบี้ที่มีเซอร์รำวนด์แบ็ค 2 ตัว จุดหนึ่งก็คือซับวูฟเฟอร์ปกติ ส่วนที่เพิ่มขึ้นมำอีก จุดสี่แชนเนลในชุดนี้เรำเรียกว่ำ Dolby Atmos Enabled Speakers (ขอเรียกง่ำยๆ ว่ำ Dolby Atmos Speakers แล้วกันครับ) ที่มีทั้งแบบ Add On และแบบ Built in (2 ตัว) RP-280FA ล�ำโพงตั้งพื้น ที่มีล�ำโพง Dolby Atmos Speakers แบบ Built in ด้ำนบน (1 ตัว) RP-450CA ล�ำโพงเซ็นเตอร์ที่ Klipsch ท� ำ ขึ้ น มำพิ เ ศษให้ มุ ม กระจำยเสี ย งที่ ก ว้ ำ งขึ้ น ส�ำหรับใช้กับระบบเสียง Dolby Atmos โดย เฉพำะ (2 ตัว) RP-250S ล�ำโพงเซอร์รำวนด์ที่มีมุม กระจำยเสียง 2 ทำง เป็นแบบ Bi- Pole คือมี เฟสตรงกันทั้งสองข้ำง เพื่อเอำมำท�ำเซอร์รำวนด์ ด้ำนข้ำง (2 ตัว) RP-160 ล�ำโพงตั้งขำตั้ง 2 ทำงขนำด วูฟเฟอร์ไดรเวอร์ 6.5 นิว้ เอำมำท�ำเป็นเซอร์รำวนด์ ด้ำนหลังของชุดนี้ (2 ตัว) RP-140SA ถือเป็นล�ำโพง Dolby Atmos Speaker ที่ออกแบบมำตำมสเปคของ Dolby Atmos ใช้วูฟเฟอร์ขนำด 4 นิ้ว ปรับ มุมเอียงประมำณ 30 องศำ วำงอยู่บนล�ำโพง เซอร์ ร ำวนด์ ด ้ ำ นหลั ง ท� ำ ให้ เ หมื อ นท� ำ มุ ม เพื่ อ สะท้อนไปบนเพดำน ที่สำมำรถจะแขวนท�ำเป็น Rear height หรือ Front height ก็ได้ เพรำะมัน มีจุดแขวนล�ำโพงอยู่ด้ำนหลังด้วย (1 ตัว) RP-112SW เป็นล�ำโพงซับวูฟเฟอร์ ขนำดไดรเวอร์ 12 นิว้ ตูเ้ ปิดมีชอ่ งพอร์ตยำวตลอด ด้ำนหน้ำ ด้ำนในมีขมุ พลังเป็นดิจติ อลแอมป์ขนำด 300 วัตต์ ที่พีคได้ถึง 600 วัตต์ ล�ำโพงทัง้ ชุดมำจำกแม่แบบเดียวกัน ทีใ่ ช้เสียง กลำง-แหลม ผ่ำนเทคโนโลยีที่เรียกว่ำ 90x90 Hybrid Tractrix Horn คือขนำดรูปทรงของฮอร์น จะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส แต่ก็มีกรวยเป็นฮอร์นทรง กลมอีกที จึงเป็นที่มำของค�ำว่ำ Hybrid ด้ำนนอก ปำกสี่เหลี่ยมมีวัสดุเหมือนยำงอยู่ด้ำนหน้ำ ไม่ใช้ พลำสติกทั้งหมดเหมือนแต่ก่อน Klipsch เชื่อว่ำ เป็นตัวช่วยเรื่องรำยละเอียดของเสียงที่ดีขึ้น ตัว ทวีตเตอร์เองก็ถำ่ ยทอดเทคโนโลยีมำจำกรุน่ เรือ่ ธง ของเขำเรียกว่ำ LINEAR TRAVEL SUSPENSION
GM2000
057
ภาพตัวอย่างมุมสะท้อนเสียงของล�าโพง Dolby Atmos Speaker ที่อยู่บน RP-280FA
(LTS) TITANIUM TWEETER ส่วนวูฟเฟอร์แน่นอน ต้องเป็นโลหะผสมเซรามิกสีทองแดง ไม่มดี สั แคปส์ นูนๆ อีกต่อไป เห็นที่ไหนก็จ�าได้ รวมๆ งานตู้ของ Klipsch ก็ไม่อายใคร เข้า เหลี่ยม เข้ามุมคมกริบ เห็นเขาว่าเป็นผิวไม้แท้ ลูบไล้ได้อารมณ์ทีเดียว เห็นอย่างนี้ตัว RP-280FA เป็นล�าโพง 2 ทางนะครับ ไดรเวอร์ 8 นิ้ว ทั้งคู่ ท�างานขนานกัน จุดตัดต�่ามากแค่ 1750Hz ซึ่ง สังเกตหลายตัวของ Klipsch จุดตัดต�า่ ๆ ทัง้ นัน้ นัน่ แสดงให้เห็นว่าภาระส่วนใหญ่อยูท่ ลี่ า� โพงพระเอก ของเรา คือกลาง-แหลมที่เป็นฮอร์นชัดเจน ส่วนตัว RP-140SA ก็ทา� มาให้พอดิบพอดีกบั ด้านบนของล�าโพงเซอร์ราวนด์ทเี่ ราใช้ ถ้าล�าโพงที่ มีขนาดด้านอยูท่ ี่ 6x12 นิว้ ก็วางเจ้านีไ่ ด้สบายมาก มีขาเล็กๆ เพือ่ กันการไหลเลือ่ นหรือเป็นรอย จุดขัว้ ต่อล�าโพงไปอยูด่ า้ นหลังเป็นตัวเดียวทีม่ รี ะบบเป็น ตูป้ ดิ เพราะจะได้วางชิดผนังได้แบบไม่มเี อฟเฟ็กต์ ข้อเด่นอีกเรื่องหนึ่งของล�าโพงชุดนี้ก็คือความไว ของล�าโพงครับ ตัวใหญ่มีความไวถึง 98dB เรียก ได้ว่าแอมป์หลอดวัตต์ต�่าๆ ก็ขับได้สบาย ที่จะกล่าวถึงเยอะหน่อยในการทดสอบครั้งนี้ ก็เห็นจะเป็นรุ่นที่ลงท้ายด้วยตัว “A” ซึ่ง Klipsch ตั้งใจท�าขึ้นมาเพื่อรองรับระบบเสียงของดอลบี้ เอตโมสโดยเฉพาะ รายละเอียดเกี่ยวกับ Dolby Atmos ผมจะขอกล่าวเฉพาะที่เกี่ยวกับล�าโพง ที่เราน�ามาทดสอบในครั้งนี้แล้วกันนะครับ ถ้า อยากทราบข้อมูลแบบละเอียดลึกๆ แนะน�าที่ เว็บนี้เลย http://www.dolby.com/us/en/ technologies/home/dolby-atmos.html
Set Up Dolby Atmos เปิดโอกาสให้ยูสเซอร์ใช้ล�าโพง ส�าหรับแชนเนลเพิม่ เติมขึน้ มา ไม่วา่ จะเป็นแบบติด เพดาน/แขวนมุมเพดาน และทีง่ า่ ยสุดก็คอื Dolby Atmos Speakers นี่แหละครับ ทั้งสองรุ่น คือ RP-280FA เป็นล�าโพงที่มีล�าโพง Dolby Atmos Speaker อยู่ด้านบน และ RP-140SA เป็นล�าโพง Dolby Atmos Speaker ที่แยกออกมาอิสระ ใช้ กับแชนเนลไหนก็ได้ขึ้นอยู่กับต�าแหน่งการวาง การเซ็ตอัพเหมือนจะไม่มีอะไรยุ่งยาก แต่ ก็ ต ้ อ งท� า ความเข้ า ใจพอควรครั บ ส� า หรั บ เอวี
058
GM2000
o ct o b e r 2 0 1 5
การเซ็ตอัพในห้องทดสอบของเราใช้ทั้งหมดทุกแชนเนล รวมทั้งหมด 11.1 แชนเนล หรือเขียนแบบดอลบี้เป็น 7.1.4 คือแชนเนลตามรูป
รีซีฟเวอร์ที่เราใช้เป็น Denon AVR-X7200W มี แอมป์ทั้งหมด 9 แชนเนล ก็ต้องต่อออกภาคปรี ไปเข้าเพาเวอร์แอมป์อีก 2 แชนเนล ส�าหรับขยาย แชนเนล Dolby Atmos Speaker ทีใ่ ช้เป็น BDL/ BDR (Back Dolby speaker left/right) ต้องดูที่ กราฟิกการเซ็ตอัพล�าโพงของเอวีฯ ตัวนั้นๆ ครับ เวลาเลือกแชนเนล ผมไม่ขออธิบายละเอียดเพราะ มีความแตกต่างกันระหว่างเอวีรีซีฟเวอร์แต่ละตัว พอสมควร คราวนีผ้ มจะเฉลยว่าเหตุผลทีล่ า� โพงประเภท ฮอร์นอย่าง Klipsch ยืนหยัดมานาน และเป็น ที่ฮอตฮิตกันในโบสถ์มายุคหนึ่งสมัยหนึ่ง เพราะ การที่จะเอาเครื่องขยายเสียงไปใส่ไว้ในสถานที่ๆ มีเสียงก้องมากๆ อย่างในโบสถ์น่ะ เป็นเรื่องไม่ ง่ายเลย ล�าโพงธรรมดาๆ หมดสิทธิ์ เพราะมันจะ สะท้อนไปสะท้อนมาจนฟังไม่รู้เรื่อง Klipsch ใช้ ความเป็นจุดเด่นของฮอร์นคือสามารถก�าหนดให้ ความเข้มของเสียงไปสู่จุดที่ต้องการให้ได้ยินได้ดี กว่า เมือ่ เราได้ยนิ เสียงจริงก่อน และขณะเดียวกัน ที่ล�าโพงไม่เหลือเสียงให้สะท้อนมากนัก เสียงที่ ตามมาทีหลังจึงไม่เหลือมาท�าความร�าคาญ คงพอ นึกภาพออกนะครับ แล้วเกี่ยวอะไรกับ Dolby Atmos ในอีก 70 ปีให้หลัง เห็นไหมล่ะครับว่าเดี๋ยวนี้ Dolby เอา ล�าโพงเข้ามาใส่ในห้องโฮมเธียเตอร์กันกี่แชนเนล สู ง สุ ด ก็ 13 แชนเนล โดยเฉพาะ Dolby Atmos Enabled Speakers ที่ต้องใช้มุมตก กระทบ มุ ม สะท้ อ น ให้ เ สี ย งเดิ น ทางได้ ต าม ต�าแหน่งที่ต้องการ ด้วยวิธีการของ Kiplisch ท�า แบบนี้ขายกันมาได้มากกว่า 70 ปีแล้ว
แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผมหลงใหลเจ้า Klipsch Atmos ชุดนี้ได้ยังไง เอาชัดๆ ไหมครับกับแผ่นทดสอบก็ได้ หยิบ เอาหนังมาพูดก่อนดีกว่า กับพระเอกหูตั้งของเรา อย่าง BATMAN DARK NIGHT อัศวินรัตติกาล ที่ภาคนี้ดูจะเป็นค้างคาวที่โดนหลอกล่อได้ง่าย พอควร ก่อนเริ่มต้น ผมให้คะแนนไว้ในใจล่ะ แต่เชื่อ ไหมมันไม่พอครับ กับฉากปล้นธนาคารที่ไม่รู้ใคร เป็นใคร ผู้ร้ายก็ดันล่อกันเสียเอง เสียงปืนลูกซอง ทีน่ ายแบงก์ของเราซึง่ เล่นโดย William Fichtner ออกมาควงลูกซองอยู่ฉากเดียว แต่ท�าเอาการเปิด หัวของเรือ่ งนีไ้ ด้เครดิตเรือ่ งเทไปทีก่ ารบันทึกเสียง อยู่ไม่น้อย ฉากนี้ผมฟังหลายรอบกับหลายซิสเต็ม เรื่องไดนามิกของเสียงปืนนี่ ถ้าเราๆ ท่านๆ คิดไม่ ออก ลองเอาหูไปแนบใกล้ๆ กับกระบอกปืน ห่าง สักฟุตสองฟุตแล้วเหนียวไก มันจะดังได้ขนาด ไหน ผมแค่เปรียบเทียบนะครับ ใครอย่าไปลอง เข้าทีเดียว บางคนบอกว่า ก็หูอื้อสิครับ ก็ใช่นะสิครับ หู ผมอื้อเหมือนกัน คือถ้าห้องเงียบและไม่ได้เปิด แข่งกับเสียงอย่างอืน่ ผมก็วา่ วอลุม่ ทีเ่ ปิดมันก็ไม่ได้ เร่งขึ้นไปมากมายอะไร (เจ็ดสิบกว่าๆ) แต่พอสาด กระสุนกันเท่านั้นล่ะ ไดนามิกของล�าโพงชุดนี้มัน แสดงพิษสงออกมาแบบไม่ต้องมาประนีประนอม ใครที่เป็นคอหนังแอ็คชั่น หรือประเภทเวลาน้อย เปิดสวิตช์แล้วลุยกันเลยนะ Klipsch RP-280 ชุด นี้มีไดนามิกแบบที่ให้คุณนั่งรอฉากเจ๋งๆ โดยไม่ ลุกไปไหน
จุดตัดความถี่ที่เอวีฯ เลือกให้ สามแชนเนลหน้าไม่แปลกใจที่เป็น Full reange ที่ น่าแปลกตรง Front Dolby ก็เป็น Full ด้วย อย่างนี้มาเต็ม
ถึงตอนนี้เริ่มสงสัยแล้วใช่ไหมครับว่า กับความที่มี Dolby Atmos เพิ่ม เติมขึ้นมันมาท�าอะไรกับซาวนด์แทร็คในหนังบ้าง ส�าหรับหนังเรื่องใหม่ๆ คง ใส่ใจมากขึ้นในเรื่องการใช้ประโยชน์กับล�าโพงที่เพิ่มมา เรื่องของเสียงก้องเสียง สะท้อนทีส่ ร้างบรรยากาศ แต่กบั ภาพยนตร์ทบี่ นั ทึกเสียงมาดีๆ ต่อให้ไม่มลี า� โพง Dolby Atmos ก�าเนิดขึ้นมา ก็ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกแล้วให้ตั้งใจ บันทึกเสียงจนรู้สึกถึงเรื่องของเสียงก้อง เสียงสะท้อน ดีเลย์ไทม์อยู่แล้ว มันเป็น Psychoacoustics หรือกลไกการได้ยนิ ของหูมนุษย์ทคี่ นบันทึกเสียงต้องสอบให้ ผ่าน ส่วนหนึง่ ผมจึงเชือ่ ว่าความส�าเร็จของ Dolby Atmos ถูกหนุนด้วยฝีมอื ของ ซาวนด์เร็คคอร์เดอร์ที่ต้องการโชว์ฝีมืออยู่ดี ดีเท่าที่เราสามารถรับรู้ได้ไหม...คุณคงนึกถามอยู่ในใจ เอาเป็นว่า ถ้าคุณได้ฟงั ภาพยนตร์ทบี่ นั ทึกเสียงไม่วา่ จะเก่าหรือใหม่ ทีเ่ ซ็ตอัพ แบบ Dolby Atmos อย่างถูกต้องสักครัง้ ย�า้ ว่าอย่างถูกต้องนะครับ คุณจะมอง ว่าสิ่งที่ดอลบี้น�าเสนอจะสร้างประสบการณ์ใหม่ให้คุณอย่างที่คุณไม่อยากกลับ ไปฟัง Dolby แบบเก่าอีกเลย แม้แต่เสียงของล�าโพงเซ็นเตอร์ของมันเองจาก RP-450CA ที่ทีแรกอยากจะลงโทษมัน เพราะท�าให้ผมต้องปวดหัวกับการหา ขาตั้งที่ดีพอและมั่นคงส�าหรับมัน ด้วยความลึกของเซ็นเตอร์ตัวนี้เท่ากับความ ยาวของข้อศอกผมพอดี ก็ตอ้ งยกโทษให้เพราะเสียงทีไ่ ด้สมน�า้ สมเนือ้ กับทัง้ สอง แชนเนลด้านหน้า แต่ก็มีขนาดที่เล็กกว่าอยู่ดี เสีงพูดเสียงกระซิบชัดถ้อยชัดค�า หลุดออกจากตัวตู้ไม่ท�าให้กังวล ตัวล�าโพงอย่าง Dolby Atmos Enabled Speakers นีอ่ ย่างน้อยก็ตอ้ งผ่าน สเปคของดอลบี้ที่ออกแบบไว้อย่างเคร่งครัด กลับมาที่แผ่นคอนเสิร์ตกันบ้าง รวบเอาทั้งสองคอนเสิร์ตมาคุยทีเดียวเลย แผ่นแรกเป็นบลูเรย์ Celin dion :A new day ในระบบ Dolby TrueHD 5.1 กับ Listen to Jane Z Live (2012) ผมได้มาเป็นไฟล์เสียง DTS-HD Master Audio เคยได้ยินค�าพูดนี้ไหมครับว่า “เขาว่าล�าโพง Klipsch นี่ดีนะ ดูหนังดีแต่ฟัง เพลงยัง...” อืมมม... ถึงแม้จุดตัดความถี่ที่เอวีฯ เลือกถือว่าเป็น Small ล�าโพง Surround กับ Back Dolby ก็มีจุดตัดความถี่ต่างกันได้ งานนี้ใครจะก๊อบปี้ ไปใช้ก็ ไม่ว่ากัน
ผมสงสัยว่า “เขา” คนนั้นเคยนั่งอยู่ในคอนเสิร์ตบ้างไหม หรือคิดว่าเวลาดู คอนเสิร์ตมันต้องละเอียด ละมุนละไม ฟังไปจินตนาการไปเหมือนฟังจากแผ่น หรือจากไฟล์ที่บันทึกกันในห้องอัดเสียง อรรถรสที่ได้จากการฟังของ Klipsch ชุดนี้ มันไม่ต่างอะไรกับการเข้าไปนั่งอยู่ในคอนเสิร์ตดีๆ บรรยากาศของเสียงโห่ ร้อง เสียงปรบมือ เสียงแซวนักร้อง มีครบ แล้วนี่ไม่ใช่เป็นการฟังเพลงแล้วจะเรียกว่าอะไรดี ความสด ความสะใจ เสียง เครื่องดนตรีทั้งในแบบอะคูสติกหรือที่ผ่านเครื่องขยายเสียง มันไม่พ้นความ สามารถของล�าโพงชุดนี้ ถ่ายทอดออกมาในแบบที่ไม่คิดว่า 2 แชนเนลมันจะให้ ได้เสียงกีตาร์เบส หรือดับเบิล้ เบสทีส่ ร้างจังหวะได้ยนิ ตลอดเป็นแบ็คกราวนด์ ไม่ เบลอๆ ไปกับเสียงกลองชุด หรือเสียงเครื่องดนตรีทั้งวง ความยิ่งใหญ่อลังการ อย่างคอนเสิร์ตใหญ่ๆ บางทีชุดล�าโพงที่ให้ไดนามิกไม่ได้ ต�าแหน่งต่างๆ กับเสียง ต่างๆ ที่เกิดขึ้นพร้อมๆ ถูกลบหายอย่างรวดเร็ว ฟังแล้วไม่รู้สึกตื่นเต้นตาม ผมไม่คิดจะตั้งเป้าโจมตี 2 แชนเนลนะครับ อย่าเข้าใจผิด แต่อยากให้คิดว่า ดนตรีสดกับดนตรีที่ถูกการบันทึกอย่างตั้งใจ มันให้อรรถรสคนละอย่าง แล้วแต่ เราต้องการเสพแบบไหน Dolby Atmos เพิ่มบรรยากาศได้ แต่ต้องเพิ่มแบบ ที่ไม่รู้สึกว่ามีล�าโพงมากขึ้นเป็นสิบตัว อันนี้แหละที่ผมก�าลังจะบอกว่า Klipsch เด่นตรงนี้ครับ มันท�างานประสานกันจนเราไม่ต้องอาศัยตัวช่วยอะไรเพิ่มเลย ไม่ ต้องเปิด EQ ของเอวีฯ ช่วย ซึ่งส�าคัญมากกับการท�าให้ไดนามิกของเสียงลดลง
Conclusion ถ้าตัดสินกันว่าดอลบี้ท�าสิ่งที่โฮมเธียเตอร์ต้องการหรือไม่ ผมบอกได้เลยถ้าจะ เล่นโฮมเธียเตอร์แบบจริงจัง ไม่ต้องลังเล Dolby Atmos คือความรู้ ทฤษฎีและ ประสบการณ์ของคนที่เชี่ยวชาญเรื่องระบบเสียงในโรงภาพยนตร์เอามาหลอม รวมกัน ตลอดเวลาที่ผ่านมา Klipsch คือล�าโพงที่เอาดีเรื่องการกระจายเสียงของ ฮอร์นมาใช้ ท�าให้การท�างานเมื่อมีล�าโพงหลายๆ ตัวมาอยู่รวมกัน จะแบ่งแยก หน้าที่ แบ่งแยกอาณาบริเวณของใครของมันอย่างชัดเจน เพียงคุณต้องใส่ใจใน การวางต�าแหน่งล�าโพงให้ดี ส�าหรับการที่จะเอา Dolby Atmos Speaker บางตัวอย่าง RP-140SA ไป ใช้กับซิสเต็มอื่น ผมแน่ใจว่าเป็นทางเลือกที่ท�าได้ เสียงที่ผ่าน 90x90 Hybrid Tractrix Horn ก็เหมือนการเติมรสเผ็ดเข้าไปในเมนู ให้รู้สึกเลือดพุ่งปรี๊ดปร๊าด ได้เป็นอย่างดี เขียนมาขนาดนี้ผมยังไม่ได้คอมเม้นต์ล�าโพงชุดนี้เลยว่า มันมีสิ่งที่ควรต้อง ค�านึงถึงตรงไหน อ้อ...ผมนึกออกแล้ว ผมไม่ลืมที่จะเชิญชวนให้คุณลงทุนกับ แอมป์ทมี่ าขับมันให้มปี ระสิทธิภาพสูงหน่อย เพราะมันหัวสูง ถ้าเสียงกลางแหลม ออกมาเพี้ยนๆ ก็จะผ่านล�าโพงออกมาแปลกๆ ไปเหมือนกัน กับราคาที่อยู่ในใจ ผม ถ้าไม่เกิน 2 แสนทั้งชุดนี่ แทบไม่ต้องคิดมากเลยครับ แต่ถ้าต�่าลงมากว่านี้ ก็ จะดูใจร้ายกับคนอื่นแล้วนะ ตัวแทนจ�ำหน่ำย บริษทั โฮม ไฮ-ไฟ จ�ำกัด โทร.0-2864-1317,0-2864-3141, 0-2412-7912 รำคำ : สอบถำมตัวแทนจ�ำหน่ำย GM2000
059