Review: Klipsch The Three

Page 1

TEST REPORT TEXT : : อชิร รวีวงศ์ PHOTO : ฐานทอง กาญจน์ภูดิส

038

GM 2000

april 2017


klipsch

Klipsch heritage the three ใน Heritage series จะมีลำ� โพงแบบแอคทีฟอยู่ 3 รุ่นครับ คือ The One, The Three และ The Sixes โดย The Sixes จะมีเป็นเดียวที่เป็นล�ำโพงแอคทีฟ 2 แชนแนล ส่วน The One, The Three จะเป็นล�ำโพง แบบตู้เดียวครับ ซึ่ง The Three ถือเป็นพี่ใหญ่ที่ครบ เครื่องกว่ำ The One ในทุกด้ำนครับ Fist looK “คลำสสิก” คือค�ำแรกทีผ่ มมอบให้ลำ� โพงรุน่ นี้ใน แรกเห็นเลยครับ มันสวยงำมในแบบวินเทจแท้ๆ สม กับเป็นกำรออกแบบจำกแบรนด์ลำ� โพงทีอ่ ยู่ในวงกำร เครื่องเสียงมำกว่ำ 70 ปี ตัวตู้ท�ำจำกไม้แท้ ตัวที่ผม ได้มำทดสอบเป็นไม้ Ebony แลคเกอร์ด้ำนสีเข้ม สวยมำกครับ ด้ำนหน้ำไปจนถึงด้ำนข้ำงทั้งสองข้ำง จะหุ้มด้วยผ้ำสีด�ำ มุมขวำบนมีโลโก้แบรนด์ Klipsch เห็นแล้วให้อำรมณ์แบบวินเทจอเมริกันแท้ๆ เลยที เดียว ด้ำนบนจะมีสวิตช์เปิดปิดซึ่งเป็นแบบ Toggle

ตลาดเครื่องเสียงในตอนนี้จะมีสินค้าสองแบบที่ดูจะมีกระแส ตอบรั บ ดี ม ากๆ คื อ “วิ น เทจ” และ “Wireless” ผมว่ า Klipsch ก็คงเล็งเห็นจุดนี้เลยจับทั้งสองอย่างมารวมร่างเป็น Klipsch Heritage series ซะเลย! switch ซะด้วยนะครับ เรียกว่ำมำแนววินเทจปีลกึ กัน เลย ส่วนสวิตช์ควบคุมวอลลุ่มและเลือกอินพุตนั้นจะ เป็นแบบหมุนครับ ส่วนอินพุตต่ำงๆ จะอยู่ด้ำนหลัง ของล�ำโพงทั้งหมดครับ โดยรวมแล้วเรื่องดีไซน์นี่ผม ให้ผ่ำนแบบสิบคะแนนเต็มไปเลยครับ คือจะดีไซน์ แบบวินเทจก็มำแบบสุดทำงจริงๆ ใส่ใจในทุกๆ รำย ละเอียด ดูไม่ใช่วินเทจปลอมๆ ที่มีให้เห็นเยอะแยะ ในช่วงนี้ครับ

ดีไซน์คลาสสิกที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล�้า! เขียนถึงเรื่องหน้ำตำดีไซน์กันไปแล้วก็ต้องเขียน ถึงสเปคกันบ้ำง Klipsch Heritage The Three เป็น ล�ำโพงแบบตู้เดียวแต่ให้เสียงแบบสเตอริโอ ใช้ Driver Full Range ขนำด 57.15mm สองตัว และใช้วูฟเฟอร์ ขนำด 133.4mm 1 ดอกพร้อม Passive radiators ขนำด 133.4mm อีก 2 ช่อง เรียกว่ำงำนนี้คงหำยห่วง เรื่องเสียงย่ำนทุ้มแน่นอนครับฮำๆ

039


เวลาใช้งานกับเทิร์นอย่าลืมมาเปลี่ยนตรงนี้ด้วยนะครับ

การเซ็ตอัพ Wi-Fi ครั้งแรกให้กดปุ่ม Wi-Fi Setup ค้างจนไฟกระพริบ

ตอบสนองย่านความถี่ได้ตั้งแต่ 45Hz ~20kHz ส่วนก�าลังขับนั้นจะอยู่ที่ 60W และสามารถพีคขึ้นไป ได้ถึง 80W ครับ อีกสิ่งที่ต้องบอกว่าจัดเต็มไม่แพ้การดีไซน์คือ เทคโนโลยีที่ใส่เข้ามาใน Klipsch Heritage The Three ตัวนี้ครับ เพราะให้มาแบบครบจบในตัว เป็นล�าโพง แบบวันสต๊อปเซอร์วิสกันเลยทีเดียวเชียว เริ่มจากอินพุตที่มีให้เลือกหลากหลายก่อนเลย ครับ Klipsch Heritage The Three รับได้ทั้งอนาล็อค และดิจติ อล ทัง้ แบบมีสายและไร้สาย! เป็นไงครับบอก 040

GM 2000

april 2017

แล้วว่าจัดเต็ม เริ่มจากอินพุตดิจิตอลนั้นอินพุตจะ เป็น USB ครับ ซึ่งภาค DAC ในตัวรองรับไฟล์เพลง คุณภาพสูงสุดได้ถึง 24/192kHz ครับ ส่วนอินพุตอ นาล็อคนั้นมีสองแบบคือ RCA และแบบ Aux ครับ แค่นั้นยังไม่พอ Klipsch Heritage The Three ตัวนี้ มี Phono ในตัวด้วยคือสามารถรับอินพุตจากเครื่อง เล่นแผ่นเสียงได้เลยโดยตรงครับ ตรงนี้หลายๆ คน อาจบอกว่าล�าโพงหลายๆ ตัวตอนนีก้ ม็ ีให้มาครบแบบ นี้แหละไม่เห็นน่าตื่นเต้นเลย

ต้องบอกว่าเดี๋ยวครับเดี๋ยว! ผมยังไม่ได้พูดถึง การเชื่อมต่อแบบไร้สายของล�าโพงรุ่นนี้เลย เพราะ นอกจะจะรองรับ Bluetooth ที่ีรองรับ aptX codec แล้วยังรองรับการสตรีมมิ่งไร้สายผ่าน DTS Play-Fi อีกด้วย นั่นหมายความว่า Klipsch Heritage The Three สามารถสตริมเพลงจากแอปพิลเคชันต่างๆ อย่างเช่น Tidal ได้โดยตรงไม่ต้องอาศัยการเล่นผ่าน มือถือแล้วส่งสัญญาณบลูทูธไปให้คุณภาพเสียเลย ละครับ และที่ส�าคัญของการมี DTS Play-Fi คือเรา สามารถเล่นไฟล์เพลงระดับไฮเรส 24/192kHz ผ่าน ระบบไร้สายได้ด้วย! เซ็ตอัพและการใช้งาน Klipsch Heritage The Three เป็นล�าโพงที่ใช้ งานง่ายและใช้งานได้หลากหลายมากๆ ครับ การ เลือกอินพุตต่างๆ เพียงหมุนสวิตช์ให้ไฟสว่างไปตรง อินพุตที่ต้องการก็เรียบร้อย ในส่วนของ บลูทูธ นั้นก็ไม่มีอะไรต้องอธิบาย เยอะครับหมุนสวิตช์ไปทีบ่ ลูทธู ปุป๊ Klipsch Heritage The Three ก็จะเข้าสูแ่ พริง่ โหมดให้เลย เราก็แค่หยิบ สมาร์ทโฟนขึน้ มาเชือ่ มต่อแล้วก็ฟงั เพลงได้เลยง่ายๆ แค่นี้แหละครับ ส่วน USB ก็งา่ ยเข้าไปอีกเสียบสาย USB เข้าไป ที่ Klipsch Heritage The Three หมุนอินพุตไปที่ USB แค่นี้ก็ฟังเพลงได้แล้วครับ แถม DAC ในตัวยัง เล่นไฟล์ไฮเรสได้สูงถึง 24/192 เลยนะครับ ส�าหรับ AUX อินพุตนีจ้ ะรวมทัง้ การเชือ่ มต่อผ่าน สาย mini-mini และสาย RCA นะครับ คือถ้าเชือ่ มต่อ สายสองแบบนี้เข้ามาให้หมุนอินพุตไปที่ AUX ครับ และอย่าลืมไปเลื่อนสวิตช์ด้านหลังให้เป็น LINE ด้วย นะครับเดี๋ยวเสียงจะไม่ออก ถ้าหากใช้งานกับเครื่องเล่นแผ่นเสียงหรือเทิร์น เทเบิ้ลให้ไปเลื่อนสวิตช์ด้านหลังให้เป็น Phono แล้ว หมุนสวิตช์ด้านบนไปที่ Phono ครับ ซึ่งการเชื่อมต่อ แบบนีจ้ ะเป็นการใช้งานกับเทิรน์ เทเบิล้ ที่ไม่มี Phono ในตัวนะครับ ถ้าใครเล่นเทิรน์ ทีม่ ี Phono ในตัวอยูแ่ ล้ว ให้เลื่อนสวิตช์ไปที่ LINE แทนครับเพื่อใช้ตัว Phono ในเทิร์นแทนครับ สุดท้ายทีผ่ มยกให้เป็นทีเด็ดของล�าโพงรุน่ นีก้ ค็ อื การเชื่อมต่อแบบ Wi-Fi ครับ เพราะสะดวกและให้ คุณภาพเสียงดีมากๆ สามารถเล่นไฟล์เพลง 24/192 จากเซิฟเวอร์ ได้เลยโดยผ่านการควบคุมจากแอป Play-Fi ครับ และข้อดีของ Play-Fi คือมีแอปสตรีม มิง่ ให้เลือกเล่นหลากหลายด้วย อย่างผมใช้งาน Tidal นี่เรียกว่าดีงามมากๆ เลยละครับ เพราะเราสามารถ สั่งให้ Klipsch Heritage The Three สตรีมเพลงมา เล่นได้ด้วยตัวเองเลย และการที่ Klipsch Heritage The Three รองรับ Play-Fi ก็ทา� ให้เราสามารถใช้งานแบบมัลติรมู ได้ดว้ ย ครับ อย่างเช่นเราซื้อ Klipsch Heritage The Three มาใช้หลายตัว ไว้ในหลายห้อง เราสามารถควบคุม ทุกตัวได้ผ่านทางแอป Play-Fi เลยอยู่ห้องไหนถ้า สัญญาณ Wi-Fi ถึงก็สามารถควบคุมได้หมด และถ้าคุณมี Klipsch Heritage The Three สอง ตัวPlay-Fi ยังสามาถสัง่ งานให้ ล�าโพงสองตัวท�างาน เป็นล�าโพงสองแชนแนลได้อกี ด้วยครับ เรียกว่าใช้งาน


ได้หลากหลายครบทุกรูปแบบไม่ต้องมีสายให้วุ่นวาย แถมคุณภาพเสียงยังดีมากๆ อีกด้วยละครับ เห็น มั้ยครับถึงหน้าตาจะดูวินเทจแต่เทคโนโลยีที่ใส่มาให้ เนี่ยอย่างล�้าเลยละครับ เสียง จะหน้าตาวินเทจ จะเทคโนโลยีล�้ายังไงสุดท้าย สิ่ ง ส� า คั ญ ที่ สุ ด ก็ ค งหนี ไ ม่ พ ้ น เรื่ อ งเสี ย งครั บ ซึ่ ง Klipsch Heritage The Three มันสอบผ่านข้อนีอ้ ย่าง ไม่ต้องสงสัยเลยละครับ! ขอสารภาพก่อนเลยว่าผมพยายามหาหน้าตา ภายในล� า โพงดู ว ่ า เค้ า จั ดวางล� า โพงมาแบบไหน เพราะเสียงมันให้ความเป็นสเตอริโอมากๆ ทั้งที่ดอก ล�าโพงมันอยู่ ในตู้เล็กๆ ตู้เดียว และที่ส�าคัญเสียง ย่านทุ้มมันอลังการมากๆ มาแบบเต็มๆ แน่นๆ คง เพราะวู ฟ เฟอร์ ข นาด 133.4mm 1 ดอกพร้ อ ม Passive radiators ขนาด 133.4mm อีก 2 ช่องแน่ๆ บอกตามตรงว่าฟังเสียงแล้วอยากจะแกะผ้าที่หุ้มอยู่ ออกมาซะเลย เพราะอยากเห็นว่าเค้าดีไซน์การวาง ไดร์เวอร์ยังไงให้เสียงออกมาได้แบบนี้ครับ ในส่วนของคุณภาพเสียงของแต่ละรูปแบบการ เล่นก็จะได้คุณภาพเสียงที่แตกต่างกันไปนะครับ ใน การทดสอบผมยกให้การเชื่อมต่อผ่านสาย USB ให้ คุณภาพเสียงที่ดีที่สุดครับ รองลงมาจะเป็นการสตรี มเพลงผ่านระบบ Play-Fi ที่ให้เสียงออกมาได้แทบ จะไม่ต่างจากการต่อแบบ USB เลยครับ ส่วนอิน พุตอนาล็อคนัน้ ผมลองแล้วคุณภาพเสียงนัน้ ขึน้ อยูก่ บั ต้นทางพอสมควรเลยครับ เพราะไม่ได้ใช้ภาค DAC ในตัวล�าโพงแถมถ้าต่อกับเครื่องเล่นที่ไม่มี Line Out ก็จะเป็นการไปขยายซ�้าซ้อนเข้าไปอีก ส่วนถ้าจะเล่นกับเครื่องเล่นแผ่นเสียงถ้าเทิร์น ของคุณไม่มี Phono ในตัวก็ใช้ Phono ใน Klipsch

Heritage The Three ได้เลยครับเสียงอยู่ในระดับที่ รับได้อาจจะไม่ได้ดีมากนะครับ ส�าหรับภาค Phono ในตัว แต่จากที่ผมลองต่อกับเทิร์นของ Sony รุ่น PS-HX500 แล้วใช้ภาค Phono ในตัวของ Sony พบว่าเสียงเปิดกว้างกว่าใช้ Phono ใน Klipsch Heritage The Three ครับ คือแมทชิ่งกันดีมากให้ เสียงแบบไม่ใช่แค่รับได้แต่ต้องบอกว่าเสียงดีเลย ทั้ง รายละเอียดมิติเสียง โดยเฉพาะเสียงย่านทุ้มที่มีพลัง มากขึ้นและดูไม่เบลอๆ เหมือนตอนใช้ Phono ในตัว Klipsch Heritage The Three ครับ

หลังจากเซ็ตอัพ Wi-Fi เสร็จไฟจะอินพุตจะหยุดกระพริบและแสดงค้างอยู่ที่ Wi-Fi ครับ

ก็ขอสรุปว่าในส่วนของภาค Phono ในล�าโพง รุ่นนี้ถือว่ารับได้ครับไม่ได้ขี้เหร่อะไร แต่ถ้าจะเน้น เอาคุณภาพอาจจะต้องหาเทิร์นที่มีภาค Phono ดีๆ อย่าง Sony รุ่น PS-HX500 มาเล่นด้วยจะดีกว่าครับ การเชื่อมต่อแบบบลูทูธ อันนี้ ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะถึงแม้จะให้คุณภาพเสียงสู้การเชื่อมต่อแบบ Wi-Fi ไม่ได้ แต่เสียงที่ได้จากบลูทธู ถ้าเทียบกับล�าโพง ในรุน่ ราคาใกล้เคียงกัน Klipsch Heritage The Three ก็ถือว่าให้คุณภาพเสียงอยู่ในเบอร์ต้นๆ ครับ คือราย ละเอียดเสียงดนตรี ความเป็นสเตอริโอยังคงมีมาครบ เสียงย่านทุ้มนั้นก็มาแบบแน่นๆ แล้วการใช้งานก็ สะดวกดีครับ แต่ผมอยากแนะน�าว่าถ้าทีบ่ า้ นคุณเปิด Wi-Fi ไว้ตลอดอยู่แล้วการใช้งานผ่าน Play-Fi นี่ง่าย กว่าบลูทูธอีกครับแถมเสียงดีกว่ามากด้วยอยากจะ แนะน�าให้ลองใช้งานดูจริงๆ ครับรับรองว่าจะติดใจ จนไม่อยากกลับไปใช้บลูทูธอีกเลยก็เป็นได้ สรุป Klipsch Heritage The Three นี่ต้องบอกว่าแค่ ซือ้ มาวางไว้เฉยๆ บ้านก็ดมู สี ไตล์ขนึ้ มาแล้วครับ เป็น ของตกแต่งบ้านได้เลยทีเดียว ส่วนเรื่องเสียงก็ต้อง บอกว่าให้คุณภาพเสียงและการใช้งานที่หลากหลาย มันเกินขนาดตัวและราคาไปมากทีเดียวครับ ใคร ก�าลังมองหาล�าโพงไร้สายไปไว้ที่บ้านสักตัวก็อย่าลืม หาโอกาสไปลอง Klipsch Heritage The Three ให้ ได้นะครับผมแนะน�าเลย! น�ำเข้ำและจัดจ�ำหน่ำยโดย บริษทั ซาวด์ รีพบั ลิค จ�ากัด โทร.02 448 5489 ราคา : 18,900 บาท

041


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.