Test report Klipsch RF-52 II

Page 1

TEST >

REPORT

story by: tawatchai m.sakulrit

KLIPSCH

RF-52 II Floorstanding Speaker

ขับง าย รายละเอียดดีเยี่ยม

นับ

ตั้งแต Paul Klipsch กอตั้งบริษัท Klipsch & Associates ในป 1946 เปนตนมา โดยมีแรงจูงใจเบือ้ งตน ที่แทบจะไมแตกตางจากตํานานผลิตภัณฑชั้นนํา ของโลกหลายๆ แบรนดดวยกัน โดย Paul Klipsch เปนคนทีช่ ่นื ชอบเสียงเพลง โดยเฉพาะการฟงดนตรี คลาสสิก ยิ่งในสมัยเกือบ 70 ปกอ น วิทยาการตางๆ ทั ้ง การบัน ทึ ก เสี ย ง เครื ่อ งเสี ย ง ลํ า โพง หรื อ สรุปงายๆ คือ ตั้งแตตนนํ้า กลางนํ้า ยันปลายนํ้า หรือลําโพง ลวนแตยังขาดเทคโนโลยีที่ทันสมัย ที่จะผลิตอุปกรณที่ดี และสามารถถายทอดเสียง ออกมาใหไดใกลเคียงกับธรรมชาติ สําหรับ Paul Klipsch กลับมองเห็นจุดที่สามารถแกไขไดดวย กําลังมันสมอง และความสามารถของตัวเอง ก็คือ ลําโพง เขาจึงตั้งเปาหมายหลักของเขา คือเพื่อ ถ า ยทอดประสบการณ ก ารฟ ง วงออร เ คสตร า เหมือนกับการแสดงสดในที่พักอาศัยของเรา สําหรับผลิตภัณฑที่โดงดังนับตั้งแตยุคกอตั้ง บริษัทมาก็คือ ลําโพง Klipschorn ที่จดสิทธิบัตร ไวในป 1945 อันเปนลําโพงที่ียังคงมีการผลิตจนถึง ทุกวันนี้ ในยุคสมัยนั้น ลําโพงสวนใหญออกแบบ เปนลําโพงฮอรน ไมวาจะเปนลําโพงที่ใชในโรง ภาพยนตร หรือโรงละคร แตปญหาก็คือ ตัวฮอรน มักจะมีขนาดใหญเกินกวาที่จะนําไปฟงในบาน เพราะเฉพาะตัวฮอรนก็ยาวไมตํ่ากวา 5 ฟุตแลว Klipschorn จึงไดยอสวน และนํามาใชในบานได โดยคงไว ซึ ่ง ประสิ ท ธิ ภ าพของลํ า โพงฮอร น ที่ มี ความไวสูง ไดนามิกเรนจท่กี วาง ความคลาดเคลื่อน ตํ่า ตอบสนองความถี่ที่ตอเนื่อง และมีพลังเบสสูง และดวยความสําเร็จนี้ เทคโนโลยีการออกแบบ ลําโพงฮอรนจึงถือเปนพลังขับเคลื่อนสําคัญสําหรับ การออกแบบลําโพง Klipsch ในยุคตอๆ มา

042

ave

The w

APRIL 2014


• THE TECHNOLOGY OF LEGEND SOUND ดังที่ไดกลาวนําไวขางตนวา เทคโนโลยีที่ถือเปน พลังขับเคลื่อนของลําโพง Klipsch ก็คือ เทคโนโลยี การออกแบบลําโพงแบบฮอรน ซึ่งถือเปนตํานานดาน เสียง และกลายเปนบุคลิกเฉพาะของลําโพง Klipsch ที่เรียกวา Tractrix® Horn Technology โดยจะติดตั้ง ตัวทวีตเตอรแบบไททาเนียมขนาด 1 นิ้วไวในชอง “ปากฮอรน” ที่ทํามุม 90 องศา (พุงไปขางหนา) กับ 60 องศา (กระจายออกดานขาง) สวนเบสไดรเวอร นั้น ทําจากกรวยอะลูมิเนียมเคลือบสารเซรามิกขนาด 5.25 นิ้วสองตัว การใชวัสดุเคลือบแบบเซรามิกบน อะลูมิเนียมนี้ ทําใหอัตราสวนความแข็งแรงตอมวล (Stiffness-To-Mass Ratio) สูงมาก สวนตัวกรวยเคลือบสีทองแดงตัดกับตัวตูลายไม วีเนียรสีดําจึงดูสวย โดดเดนเมื่อเปดหนากาก ซึ่งเปน ตะแกรงติดดวยแมเหล็ก โดยมีจุดตัด Crossover สําหรับยานความถี่สูงที่ 1.7kHz และวางทองเบส ยิงออกดานหลัง ในตําแหนงคอนไปดานลางของตัวตู เหนือชองไบดิ้งโพสตชุบทองสําหรับตอสายลําโพง แบบไบไวร หรือจะเลือกตอเปนไบแอมปก็ได ตัวตูลําโพงของ Klipsch RF-52 II ออกแบบ หนากวางตัวตูขนาด 6.75 นิ้ว มองดูคอนขางแคบ แตจะใหความลึกถึง 14.25 นิ้ว และสูง 37.6 นิ้ว โดยรวมแลวถือวาไดสัดสวนกําลังเหมาะ ตัวฐานของ ตูน นั้ ดานหนาจะติดตัง้ ยางรองสองมุม สวนดานหลังนัน้ จะใชขาแผนเหล็กเพื่อใหคํ้ายันรองรับนํ้าหนัก และ เพื่อตัวตูมั่นคงมากขึ้น พรอมกันนั้น ยังใหสไปคแหลม มาพรอมกับตัวตู เมื่อประกอบเสร็จแลววางในหอง ฟงเพลงเหมือนกับเฟอรนิเจอรชิ้นงาม ไมวาจะปดหรือ เปดหนากากลําโพง ซึ่งอาจใหความงามไปคนละแบบ 044

ave

The w

APRIL 2014


• PERFORMANCE Klipsch RF-52 II เป น ลํ า โพงตั้ ง พื้ น หนึ่ ง ในห า รุ  น ใน Reference Series นี้ ซึ่งรุนนี้ถือเปนนองเล็กรองสุดทอง โดยทุกรุน จะไดรบั การออกแบบเหมือนกันคือ เปนลําโพงสามทาง และใช วั ส ดุ ก ารทํ า ไดรเวอร แ ละทวี ต เตอร และเทคโนโลยี ในการผลิตเหมือนกัน ตางกันที่กําลังขับและขนาด สําหรับลําโพงที่นํามาทดสอบนี้ ทางผูนําเขากําชับแลว กําชับอีกเปนตัวใหมเอี่ยมที่ยังไมเคยลองที่ไหนมากอน ดังนั้น ภาระจึงตกอยูที่ผมเต็มๆ กลาวคือ นอกจากจะตองดูแลเปน พิเศษแลว ยังตองใชเวลาเบิรนอินอยางเต็มๆ ดวย หลังจากที่ แกะกลองและประกอบเหล็กขาตั้งเรียบรอยแลว โดยไดติดตั้ง สไปค ทั้ ง สี่ จุ ด เสริ ม เข า ไปด ว ย แล ว นํ า วางห า งกั น ประมาณ 1.8 เมตร โดยให โ ทอิ น เข า หาจุ ด สวี ท สปอตแล ว เป ด ฟ ง ไป เรื่อยๆ จนผานไปหลายวัน หากเทียบจํานวนชั่วโมงแลว ก็ยัง ถือวา นาจะยังไมพนระยะเวลาเบิรนอินดีนัก ที่ผานมามักจะใชลําโพง Klipsch ในการดูหนังมากกวา เมื่อนํามาฟงเพลงในระบบสองแชนแนลแลว โดยปกติยอมมี ความแตกตางกันในดานของสนามเสียง ซึ่งเราสามารถสัมผัส จากระบบเสียงแบบมัลติแชนแนลไดงายกวา แตสิ่งที่สัมผัสได จาก Klipsch RF-52 II คื อ เวที เ สี ย งที่ ลึ ก และกว า งมาก และใหอิมเมจที่ชัดเจนดีมาก ในดานลึกนั้น ใหความรูสึกเหมือนเวทีแสดงจริง พรอมกับ ตําแหนงของนักดนตรีในแตละจุดที่ชัดเจน (จากผลงานชุด “Feel Classic” ซึง่ เปนการรวบรวมเพลงรองทีไ่ ดรบั ความนิยม ในอดีต) และบอยครั้งที่นั่งฟงอยูนั้น ผมตองเผลอเหลียวไปมอง กําแพงทางซายหรือขวา เนื่องจากความกวางของเวทีเสียง ที่เครื่องดนตรีบางชิ้นเหมือนเลนอยูในตําแหนงทะลุกําแพง ดานขางออกไป แมวาแผนที่นํามาทดสอบจะเคยฟงมาไมนอย ครั้งก็ตาม แตสิ่งที่สัมผัสไดจาก Klipsch RF-52 II นั้น กลับเปน ประสบการณใหมที่ไมเคยไดรับมากอน จนครั้งแรกๆ ยังนึกวา มีใครทําอะไรขางหองเสียอีก เสียงรองนอกจากมีความอบอุนชัดเจนแลว ปลายเสียงยัง ทอดยาวมีความหวานพลิว้ นาฟงยิง่ ทําให The Power of Love ฟงแลวใหทั้งความรูสึกถึงพลังที่หนักแนน และความหวาน ในขณะเดียวกัน เสียงที่มีความสมูทพุงตรงสูตําแหนงนั่งฟง มี โ ฟกั ส ที่ แ ม น ยํ า ไม ฟุ  ง อั น เป น ผลพวงจากการออกแบบ ปากฮอรนของทวีตเตอร แตทั้งนี้ เราจะตองนั่งอยูในสวีทสปอต เนื่องจากการออกแบบของตัวทวีตเตอรนี้ ทําใหสวีทสปอต ถูกจํากัดมุมใหแคบลง ผมลองขยับตําแหนงนั่งฟงไปทางซาย หรือขวา เสียงที่ไดยินจะเริ่มฟุง เสียงที่มาจากลําโพงทั้งสองขาง มีทิศทางที่ “หลุด” จากจุดโฟกัส 046

ave

The w

APRIL 2014


เมื่อหันมาบรรเลงกับวงออรเคสตราวงใหญ จากแผนที่แจกในงานเครื่องเสียง ที่เซี่ยงไฮครั้งที่ 21 (The 21st Shanghai International High-End Hi-Fi Show) Klipsch RF-52 II ก็ ยั ง คงสามารถควบคุ ม เวที เ สี ย งได ดี เ ยี่ ย ม แม ว  า ชิ้ น ดนตรี จะมากมายก็ตาม แตยังคงสามารถบงบอกถึงตําแหนงไดดีเชนเดิม เสียงเปยโน มีความกังวาน มีชีวิตชีวาเปนธรรมชาติคอนขางดี สวนเสียงกลอง เสียงเบส ก็สามารถ ทําไดดีในระดับที่นาพอใจ แตเนื่องจากการทดสอบนี้ ไดวางลําโพงหางจากผนัง ดานหลังคอนขางมาก ถาหากขยับชิดผนังหนอยก็จะสามารถเพิ่มพลังเบสใหเราใจ กวานี้ แตถึงกระนั้นก็ตาม เสียงเบสที่ไดก็มีความหนักแนน ฉับไว มีพลัง ซึ่งจัดวาโอเค หากคุณไมใชนักฟงประเภทฮารดร็อกตัวยง สําหรับนักฟงประเภท Easy Listening, Vocal หรือ Instrumental แลว โดยสวนตัวถือวา เปนสวนผสมที่กําลังลงตัว อยางพอเหมาะ ทางผูผลิตมักเนนยํ้าถึงเทคโนโลยีการออกแบบที่ใหพลังเสียง และรายละเอียด ที่ดีเยี่ยม แตไมจําเปนตองอาศัยกําลังขับจากแอมปลิไฟเออรที่มีกําลังวัตตสูงๆ ก็ได หลายคนอาจฟงแลวเชื่อครึ่งไมเชื่อครึ่ง หรืออาจจะไมเชื่อเลย ยิ่งมาเจอกับลําโพง ตั้งพื้นดวย ดังนั้นไมมีอะไรดีกวาทดลองกับหูตัวเอง โดยผมขอเปลี่ยนจากแอมป คลาส A กําลังขับ 60 วัตต มาเปนแอมปหลอดจากผีมือ DIY ของนักเลนเครื่องเสียง ฝมือคนไทยเรานี้เอง 048

ave

The w

APRIL 2014

โดยแอมป ตั ว นี้ เ ป น แบบอิ น ทิ เ กรตใช ห ลอดเบอร 6H1N กําลังขับ 6 หรือ 7 วัตตเทานั้น สําหรับหลอด เบอรนี้อาจไมคุนนัก เนื่องจากไมใชหลอดที่เขานิยมเลนกัน แตพักหลังเริ่มมีการถามไถในหมูนักเลนทั้งในและนอก ประเทศกันพอสมควร สิบปากวาไมเทาสองหูฟงเอง เพราะตองยอมรับอยาง ไมมีขอกังขาใดๆ วา ลําโพง Klipsch RF-52 II ขับงาย และไมเกี่ยงแอมปดวย เพราะเพียงแคเปดระดับเสียงไปแค ประมาณ 10 นาฬกาเทานั้น ความดังเสียงก็อบอวลไปทั่ว ทั้งหองขนาด 4x6 ไดอยางลื่นไหล โดยไมมีอาการอั้น หรือปอแปใหเห็นเลย ดวยบุคลิกของหลอด 6H1N นั้น จะใหรายละเอียดที่ระยิบระยับดีมาก ยิ่งมาเจอลําโพง Klipsch RF-52 II ที่มีความไวสูงถึง 96dB ที่ความตานทาน 8 ohms แทบจะเหมือนกับลําโพงฟูลเรนจเลย แตความ แตกตางคือ นอกจากไดรายละเอียดที่ดีเยี่ยมแลว ยังได เสียงเบสที่ลงลึกไดดีกวา ปกติ เ วลาเล น แอมป ห ลอดที่ กํ า ลั ง ขั บ ตํ่ า ๆ ผมจะ พยายามเลี่ยงเพลงประเภทดนตรีคลาสสิก เนื่องดวยกําลัง อันนอยนิดกับลําโพงปกติที่ผมใชอยูนั้น ยอมรับวาฟงแลว เหนื่อย แทนที่จะไดความสุขสําราญ แตสําหรับกรณีนี้ ผมลองกลั บ ไปเล น แผ น ของเซี่ ย งไฮ แ ผ น เดิ ม อี ก ครั้ ง กั บ แอมป ห ลอดจั บ คู  กั บ ลํ า โพง Klipsch RF-52 II นี้ ดวยความไวของมัน ทําใหแอมปสามารถถายทอดเสียง ออกมาไดดีไมแพแอมปกําลังขับสูงกวาไดอยางคูคี่สูสีกัน อยางดูชม เสียแตวา บุคลิกของหลอดเบอรนี้ อาจไมหวาน พลิ้วเหมือนหลอดเบอรอื่น แตในดานรายละเอียดดีเยี่ยม ยิ่งเมื่อมาจับคูกับลําโพง Klipsch RF-52 II นี้ดวยแลว… ไปโลด สุดทายผมลองจัดตําแหนงลําโพงใหม เพื่อทดสอบ กับกรณีที่นําไปใชกับหองที่มีขนาดเล็ก เพราะเรามักจะ แนะนําใหใชลําโพงวางหิ้งแทน โดยผมนําเอาหลักการ การจัดลําโพงของ Ken Ishiwata มาใช โดยจัดวางลําโพง ซายขวาโทอินมากๆ และนั่งฟงในตําแหนงหางจากลําโพง แคเมตรกวาๆ ในขณะที่ลําโพงทั้งสองหางกันแคเมตรครึ่ง โดยประมาณ แนนอนวา การจัดลําโพงเชนนี้จะยิ่งทําให จุ ด สวี ท สปอตแคบและจํ า กั ด มากขึ้ น แต เ พื่ อ แลกกั บ การใช ใ นพื้ น ขนาดเล็ ก และก็ ค งมี ค นนั่ ง ฟ ง พร อ มกั น ไมมากคนแน ก็ตองยอมครับ แตประสิทธิภาพที่ไดทั้ง เวทีเสียง ซาวนดสเตจ ไมแพกับการวางในหองใหญเลย และจะไมเกิดเสียงกอง หรือเสียงตีกันใหเห็นเลย เมื่อจัด ทุกอยางลงตัวแลว


Specifications Frequency Response

36Hz-24KHz ± 3dB

Sensitivity

96dB @ 2.83V / 1m

Power Handling

100W RMS / 400W Peak

Nominal Impedance

8 Ohms compatible

Low Frequency Driver

Dual 5.25” (13.3cm) Cerametallic Cone Woofers

High Frequency Crossover

1700Hz

Enclosure Type

Bass-Reflex Via Rear-Firing Port

Inputs

Dual Binding Posts / Bi-Wire / Bi-Amp

Height

36.9” (93.8 cm.) With Feet

Width

6.8” (17.2 cm.)

Depth

14.4” (36.5 cm.) With Grille

Weight

38.5 lbs (17.5 kg)

Finishes

Black Ash Woodgrain Vinyl

Distributor: Home Hi-Fi Co., Ltd. Tel. 0-2864-3141, 0-2864-1317, 0-2412-7912 Price:

แมวา ทางผูผ ลิตจะแจงวา ดวยเทคโนโลยีการออกแบบ ในลักษณะลําโพงฮอรนนี้ ทําใหเสียงเบสมีความลึกและ ทรงพลัง ซึ่งก็คงตองพิจารณาตามกายภาพของลําโพง ในแตละรุน สําหรับ Klipsch RF-52 II แลว ในฐานะ นองเล็กรองสุดทายก็สามารถทําไดดีในระดับหนึ่ง แตนา จะเหมาะกวาหากนํามาฟงเพลงประเภท Jazz, Vocal, Easy Listening หรือประเภทไมกระแทกกระทั้นอยาง หนักหนวง หากแตตองการความสะอาด และรายละเอียด ของซาวนดสเตจที่ชัดเจน กวางและลึก และที่สําคัญคือ ขับงายไมเกี่ยงแอมปแลวละกอ ยังนึกไมออกวานาจะมี ลําโพงตัวไหนเหมาะเทาตัวนี้… 050

ave

The w

APRIL 2014

35,000 Baht


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.