ย่อคำพิพากษาคดีศาลโลก

Page 1

วีรพัฒน์ ปริ ยวงศ์ - ย่อคําพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร (พร้อมหมายเหตุทา้ ยคําพิพากษา

หน้าที่ ๑ จาก ๑๔

ย่ อคําพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร พร้ อมหมายเหตุท้ายคําพิพากษา วีรพัฒน์ ปริ ยวงศ์ * * อดีตนักกฎหมายในคดีศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ สํานักกฎหมาย Freshfields Bruckhaus Deringer (กรุ งปารี ส). นิติศาสตรมหาบัณฑิต (รางวัล ทุนฟุลไบรท์และวิทยานิพนธ์เกียรตินิยม) มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด. นิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. บทย่อนี้ประมวลเพียงคําพิพากษาขั้นเนื้อหาส่ วนหลักฉบับภาษาอังกฤษ (ไม่รวมความเห็นเอกเทศและความเห็นแย้งของผูพ้ พิ ากษา) จากรายงาน คําพิพากษา ICJ Reports 1962 (เลขหน้ามุมบน). คําแปลหมายถึงคําแปลคําพิพากษาเผยแพร่ โดยสํานักทําเนียบนายกรัฐมนตรี วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๐๕ คัดจากเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ. วงเล็บในบทย่อเป็ นคําอธิบายประกอบของผูย้ อ่ โปรดดูเพิ่มที่หมายเหตุทา้ ยคําพิพากษา. บทย่อ เป็ นงานส่ วนตัวทางวิชาการอันอาจปรับปรุ งแก้ไขต่อไป เผยแพร่ เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ก่อนครบรอบ ๕๐ ปี คําพิพากษาศาลยุติธรรม ระหว่างประเทศฉบับแรกที่ไทยเป็ นคู่พิพาท. ผูอ้ ่านสามารถคัดลอกเผยแพร่ ได้โดยโปรดระบุที่มา https://sites.google.com/site/verapat/temple. ผูย้ อ่ ขอน้อมรับข้อชี้แนะหรื อคําถามที่ อีเมล verapat@post.harvard.edu หรื อที่กระดานสนทนาบนเว็บไซต์. ใจความคําพิพากษา ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศวินิจฉัยคดีน้ ีแค่เรื่ องเดียว คือ กัมพูชาหรื อไทยเป็ นเจ้าของบริ เวณปราสาทพระวิหาร. ข้ออ้างเรื่ องแผนที่เป็ น แค่เหตุผลประกอบการวินิจฉัยว่าปราสาทฯตั้งอยูใ่ นกัมพูชาหรื อไทย. ศาลสรุ ปว่าคดีน้ ีเกิดจากการตกลงเขตแดนระหว่างไทยและฝรั่งเศส ซึ่ งกัมพูชา สื บสิ ทธิฝรั่งเศสต่อมาภายหลัง ดังนั้นกฎหมายที่ศาลใช้วนิ ิจฉัยก็คือ อนุสญ ั ญาสยาม-ฝรั่งเศสฯ ค.ศ. ๑๙๐๔ ซึ่ งเป็ นข้อตกลงเขตแดนต่างๆซึ่งรวมถึง บริ เวณที่ปราสาทฯตั้งอยู.่ ศาลอธิบายข้อกฎหมายว่า (๑) เมื่ออนุสญ ั ญาฯ มิได้ระบุที่ต้ งั ปราสาทฯไว้ ศาลจึงจําเป็ นต้องตรวจสอบว่าเส้นพรมแดนคือ เส้นใด (๒) แม้อนุสญ ั ญาฯ จะกําหนดให้พรมแดนบริ เวณปราสาทฯเป็ นไปตามเส้นสันปั นนํ้า แต่การกําหนดเส้นพรมแดนให้ชดั เจนนั้นเป็ นหน้าที่ ของคณะกรรมการผสมฝรั่งเศส-ไทย (พหูพจน์) และ (๓) เส้นพรมแดนที่แท้จริ งซึ่ งกําหนดโดยคณะกรรมการผสมฯนั้น สําคัญกว่าเส้นสันปั นนํ้า. ศาลสรุ ปข้อเท็จจริ งว่า คณะกรรมการผสมฯได้กาํ หนดเส้นพรมแดนบริ เวณปราสาทฯเสร็ จแล้ว แต่ไม่ได้บนั ทึกข้อสรุ ปไว้ว่าเส้นนั้นเป็ น อย่างไร. ต่อมาไทยได้ขอให้ฝรั่งเศสทําแผนที่บริ เวณพรมแดนต่างๆ ฝรั่งเศสจึงทําแผนที่ข้ ึนทั้งสิ้ น ๑๑ ฉบับ ซึ่ งหนึ่งในนั้นก็คือแผนที่ภาคผนวก ๑ ต่อท้ายคําฟ้ องกัมพูชา หรื อ Annex I Map (“แผนที่ฯ”) ซึ่ งกัมพูชานํามาอ้างว่าปราสาทฯตั้งอยูใ่ นเขตกัมพูชา . ศาลพิจารณาเกี่ยวกับแผนที่ฯ แบ่งเป็ นสามช่วงเวลา ดังนี้ ๑. ช่วงที่แผนที่ฯถูกทําขึ้น ศาลเห็นว่าแผนที่ฯไม่ผกู พันไทยเพราะฝรั่งเศสทําขึ้นฝ่ ายเดียวและไม่ใช่ผลงานของคณะกรรมการผสมฯ. ๒. ช่วงไทยได้รับแผนที่ฯมาแล้ว (ค.ศ. ๑๙๐๘ – ๑๙๐๙) ศาลเห็นว่า แม้แผนที่ฯจะแสดงชัดว่าปราสาทฯอยูใ่ นเขตกัมพูชา แต่ไทยก็ ยอมรับแผนที่ฯมาโดยไม่สอบถามหรื อทักท้วง. ไทยดูไม่ติดใจว่าฝรั่งเศสทําแผนที่ฯขึ้นฝ่ ายเดียวแต่กลับมีท่าทียอมรับให้แผนที่ฯ เป็ นเสมือนผลงานของคณะกรรมการฯผสม เช่น ไทยได้อธิบายถึงแผนที่ฯว่าเป็ นเรื่ องเกี่ยวกับคณะกรรมการผสมฯ (เอกพจน์) ตามที่กรรมการฝ่ ายไทยขอให้กรรมการฝ่ ายฝรั่งเศสทําขึ้น อีกทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสู งและกรรมการฝ่ ายไทยในคณะกรรมการผสมฯก็ ไม่ทกั ท้วงเกี่ยวกับแผนที่ฯ แม้บนหน้าแผนที่ฯจะมีคาํ ว่า “คณะกรรมการผสม” (เอกพจน์) ปรากฏอยูช่ ดั นอกจากนี้ไทยยังได้ขอให้ ฝรั่งเศสทําสําเนาแผนที่ฯเพิ่มเติมอีก ๑๕ ฉบับเพื่อนําไปแจกจ่ายในประเทศ. ศาลจึงเห็นว่าไทยได้ยอมรับให้แผนที่ฯเป็ นผลจากการ กําหนดเส้นพรมแดนบริ เวณปราสาทฯแล้ว. เมื่อแผนที่ฯลากเส้นชัดเจน ไทยจึงอ้างความเข้าใจผิดไม่ได้. ๓. ช่วงค.ศ. ๑๙๐๙ – ๑๙๕๙ ศาลเห็นว่าเหตุการณ์ตลอด ๕๐ ปี ยืนยันว่าไทยเคยยอมรับแผนที่ฯไปแล้ว เช่น การที่เจ้านายระดับสู งของ ไทยเสด็จเยีย่ มปราสาทฯ และเมื่อฝรั่งเศสต้อนรับโดยชักธงฝรั่งเศสเหนือปราสาทฯ ไทยกลับไม่ทกั ท้วง หรื อ การที่ไทยได้สาํ รวจ ดินแดนบริ เวณปราสาทฯและทําแผนที่ใช้เองใน ค.ศ. ๑๙๓๗ แต่แผนที่ของไทยกลับระบุให้ปราสาทฯอยูใ่ นเขตกัมพูชา. ศาลเห็นว่า ไทยย่อมเสี ยสิ ทธิที่จะปฏิเสธการประพฤติปฏิบตั ิตลอด ๕๐ ปี ซึ่งล้วนยืนยันว่าไทยได้ยอมรับแผนที่ฯ ไปก่อนหน้านั้น . ั ญาฯ เส้นในแผนที่ฯจึงมีสถานะสู งกว่าเส้นสันปั นนํ้า. อีกทั้ง ศาลอธิบายว่า ไทยได้ยอมรับแผนที่ฯให้กลายมาเป็ นส่ วนเดียวกันกับอนุสญ วัตถุประสงค์สาํ คัญของอนุสญ ั ญาฯคือการตกลงให้พรมเแดนแน่นอนและยุติ. สันปั นนํ้าเป็ นเพียงคําสะดวกที่ใช้อธิบายบริ เวณที่ตอ้ งการให้มีการ กําหนดเส้นพรมแดนให้ชดั เจน ซึ่ งในที่สุดไทยและฝรั่งเศสก็ได้ยอมรับนําเส้นตามแผนที่ฯมาเป็ นเส้นพรมแดน. แผนที่ฯจึงไม่ขดั กับอนุสญ ั ญาฯ. ศาลจึงวินิจฉัยว่า ปราสาทฯตั้งอยูใ่ นเขตกัมพูชา ดังนั้นไทยจึงต้องถอนกําลังออกจากปราสาทฯหรื อบริ เวณใกล้เคียงตัวปราสาทฯบนอาณา เขตของกัมพูชา. ศาลยํ้าว่าเรื่ องแผนที่ฯและเส้นพรมแดนนั้นเป็ นเพียงเหตุผลที่นาํ มาสู่ผลวินิจฉัย แต่ไม่ใช่เรื่ องที่ศาลพิพากษาผูพ้ นั ไทย.

หน้าตา “แผนที่เจ้าปัญหา” ประเด็นการเสี ยดินแดน และบทวิเคราะห์น่าสนใจเกี่ยวกับคดี โปรดดูที่ https://sites.google.com/site/verapat/temple


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.