คู่มือศิษยาภิบาล ฉบับแก้ไขใหม่ 2/3

Page 1

คู่มือศิษยาภิบาล (ฉบับแก้ไขใหม่) กนกบรรณสาร (OMF Publishers) 86/122-4 ซ.ท่าข้าม 28/1 ถ.พระราม 2 เขตบางขุนเทียน กทม. 10150 โทร. 0 2417 2511-3 แฟกซ์ 0 2417 2510 www.kanokbannasan.org E-mail: orders@kanokbannasan.org หน้า 51 - 98

สถานศึกษาพระคริสตธรรมแล้วออกไปเป็นศิษยาภิบาล

ย่อมได้รับพระพรอย่างเหลือล้น

คำ�านำ�า
ศึกษาพระคริสตธรรม
การถวายตัวของสมาชิก เช่น ผู้สมัครไปเรียนที่สถาน
หรือผู้สมัครออกไปท�างานของพระเจ้า ยังต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ หรือผู้ ส�า เร็จการศึกษาจาก
คริสตจักรใดที่มีสมาชิกเป็นผู้รับใช้พระเจ้ามาก
คริสตจักรนั้น
เมื่อมีคนสมัคร ท�า งานของ พระเจ้าเต็มเวลา เราจึงควรท�าพิธีพิเศษ พิธีนี้ควรท�าอย่างเรียบๆ
ควรเป็น พิธีสั้นๆ และหลีกเลี่ยงการโอ้อวดใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้อาจแทรก ในระหว่างพิธีนมัสการตอนเช้าวันอาทิตย์ก็ได้ พิธีถวายตัวเพื่อรับใช้ งานของพระเจ้า
และเน้นความส�าคัญเกี่ยวกับด้านจิตใจมากกว่าอย่างอื่น

ทั้งนี้เพื่อเป็นการย�้าและยืนยันการตัดสินใจของเขาอีกครั้งหนึ่ง

ค�าเทศนาก็ต้องเน้นให้ผู้ฟังทราบถึงความรอดใน

หามศพจะช่วยกันเคลื่อนศพขึ้นรถหรือเดินขบวนไปสุสาน ศิษยาภิบาลจะน�าหน้าขบวนศพ

พิธีศพ 51 แล้ว
ด้วยหรือไม่
พระเจ้าเสมอ คำ�า อธิษฐานเปิดการประชุม อธิษฐานสั้นๆ ขอให้ผู้ที่ เศร้าโศกได้อ่านพระวจนะของพระเจ้า เพื่อจิตใจของเขาจะได้ รับความชูใจและมีก�าลังส�าหรับด�าเนินชีวิตต่อไปภายหน้า หมายเหตุ ถ้ามีผู้ปรารถนาจะดูศพเป็นครั้งสุดท้าย ก็ เปิดโลงให้ดูได้ตามความต้องการ แต่ตามปกติมักไม่นิยม เปิดโลงดูศพ เว้นแต่ญาติสนิทที่อยู่ห่างไกลที่เพิ่งมาถึงและ
เมื่อปิดโลงศพแล้ว
ผู้เทศนาอาจสงวนจังหวะไว้พูดกับคนเหล่านี้เป็นการ ส่วนตัวหลังจากการประชุมครั้งนี้จบลงเท่าที่โอกาสจะอ�านวยให้
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าการเทศนาจะมีการเชิญให้คนรับเชื่อพระเยซู
อยากเห็นหน้าเป็นครั้งสุดท้าย
ผู้มีหน้าที่
ส่วนญาติพี่น้องและมิตรสหาย ให้ไปตามหลังศพ พิธีฝังศพที่สุสานำ หลังจากที่เคลื่อนศพไปถึงสุสานเรียบร้อยแล้ว ศิษยาภิบาล จะ น�า ขบวนศพไปยังหลุมฝังศพช้าๆ และศิษยาภิบาลจะยืน อยู่ข้างหลุม ณ ที่หนึ่งที่ใดที่เหมาะสม รอจนทุกคนมายืน

เราไม่ได้มองดูสถานที่นี้ด้วยความเศร้าโศกและหมดหวัง

52 คู่มือศิษยาภิบาล ล้อมรอบหลุมฝังศพเรียบร้อยแล้ว จึงอ่านข้อพระคัมภีร์หรือ ร้องเพลงที่เหมาะกับงานศพสักหนึ่งบท แล้วจึงท�า พิธีฝังศพ โดยศิษยาภิบาลวางดอกไม้และดินเป็นคนแรกพร้อมกับพูดว่า “ซึ่งเป็นดินจะกลับเป็นดิน ซึ่งเป็นเถ้าจะกลับเป็นเถ้า ซึ่งเป็น ธุลีจะกลับเป็นธุลี” แล้วแขกผู้มาร่วมพิธีและญาติมิตรจะวาง ดอกไม้และดิน เมื่อหมดทุกคนแล้วให้ศิษยาภิบาลขอพระพร ปิดพิธี บางแห่งนิยมวางดอกไม้และดินเวลาฝังศพ โดยจะปั้น ดินเป็นก้อนกลมๆ ห่อด้วยกระดาษสีด�าหรือสีขาวก็ได้ ทั้งนี้ ย่อมแล้วแต่ความนิยมและความสะดวกของเจ้าภาพที่จะจัดท�า คำ�าเตือนำสติผู้มาร่วมพิธี ณ หลุมศพ ก.ในกรณีที่ผู้ตายเป็นคำริสเตียน อ่าน 1 เธสะโลนิกา 4:13-18 หรือ 1 โครินธ์ 15:51-58 “พี่น้องและมิตรสหายที่เคารพ เราได้มาชุมนุมกันในที่ นี้ เพื่อน�าร่างกายญาติมิตรของเรามาไว้ ณ ที่นี้ ส่วนวิญญาณ ของเขาได้ไปอยู่กับพระเจ้าแล้ว ณ ที่หลุมฝังศพนี้ เราได้ น�า เอาร่างกายของเขามาฝากไว้กับดินแห่งโลก
ระลึก
เหมือนกับคนที่ไม่มีพระเจ้า เราเชื่อว่าการจากไปของบุคคลผู้นี้ เป็นการไปเฝ้าอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า ฉะนั้นการตายจึง ดีกว่า ดังนั้น เราจึงมอบร่างกายของผู้นี้ไว้กับดิน เราก�าลังคอย
เพื่อเป็นที่

“ ‘อย่าให้ใจของท่านวิตกและอย่ากลัวเลย’

เราระลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระเจ้าอยู่เสมอเป็นนิจนิรันดร์ จงให้ชีวิตของท่าน ด�า รงอยู่ด้วยความเชื่อซึ่งมั่นคงยิ่งกว่า ความตาย จงเล้าโลมซึ่งกันและกันด้วยความหวังแห่งชีวิตซึ่ง

พิธีศพ 53 ด้วยความหวังถึงการเสด็จกลับมาของพระเยซูคริสต์ เราเชื่อว่า ผู้ที่ตายแล้วในพระคริสต์จะฟื้นคืนชีพอีก และเราซึ่งเป็นคนของ พระเยซูคริสต์ซึ่งยังเป็นอยู่และ ก�า ลังคอยอยู่ จะถูกรับขึ้นไป ในเมฆพร้อมกับคนเหล่านั้น และจะได้พบองค์พระผู้เป็นเจ้า ในท้องฟ้า อย่างนั้นแหละ เราจึงจะอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นนิตย์ เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงเล้าโลมซึ่งกันและกันด้วย ข้อความเหล่านี้เถิด” หรือ... “ขอเชิญท่านทั้งหลายสดับฟังพระโอวาทของพระเจ้า ดังนี้ ‘พระเจ้าประทาน และพระเจ้าทรงเอาไปเสีย สาธุการ แด่พระนามพระเจ้า’
“ท่านที่เคารพ เราได้มาชุมนุมกัน ณ ที่นี้ เพื่อ น�า ร่างกายของบุคคลอันเป็นที่รักของเราผู้นี้มาฝากไว้กับดิน
ให้
ของผู้เป็นที่รักของเราไว้กับดิน เมื่อเราทั้งหลายมีลักษณะ สมกับดินมาแล้ว เราก็จะมีลักษณะสมกับสวรรค์เหมือนกัน”
ไม่รู้จักสูญสิ้นต่อไปอีกเป็นนิตย์ เราจึงมอบร่างกายคือเรือนดิน
หรือ...

กับพี่น้องในพระคริสต์ของเราที่ล่วงหลับไปแล้วนี้มาเป็นเวลา แรมปี เราคงจ�าเรื่องราวต่างๆ

ความเจริญในพระเจ้าตลอดระยะเวลาเหล่านั้นได้

และชีวิตที่พลีอุทิศเพื่อพระเจ้าของเราได้เป็นพยานแก่พวกเรา ทุกคนทั้งที่อยู่ในคริสตจักรและในท้องถิ่นนี้

ของเขาได้ไปอยู่กับพระเจ้าในพระนิเวศของพระองค์แล้ว และ ในพิธีนี้เราจึงมอบจิตวิญญาณของเขาด้วยความไว้วางใจและ ความหวังอันแน่วแน่ถึงการฟื้นคืนชีพ

54 คู่มือศิษยาภิบาล “พระเจ้าทรงเป็นความสว่างและความรอดของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะกลัวผู้ใดเล่า พระเจ้าทรงเป็นที่ก�าบังเข้มแข็งแห่ง ชีวิตข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะต้องเกรงใคร... ข้าพเจ้าทูลขอสิ่งหนึ่ง จากพระเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าจะเสาะแสวงหาเสมอ คือที่ข้าพเจ้า จะได้อยู่ในพระนิเวศของพระเจ้าตลอดวันเวลาชั่วชีวิตของ ข้าพเจ้า เพื่อจะดูความงามของพระเจ้า และเพื่อจะพินิจ พิจารณาอยู่ในพระวิหารของพระองค์ “มีมิตรสหายของเราบางคนได้มีส่วนร่วมทุกข์ร่วมสุข
ที่เป็นพระพรแห่งความสุขและ
และจะถนอม ความรู้สึกที่ดีๆ เหล่านี้ไว้เสมอ ความซื่อสัตย์สุจริต มิตรภาพ
เราขอมอบร่างกาย ของเขาให้พักอยู่ ณ ที่นี้ และเรารู้แน่นอนว่า จิตวิญญาณ
ด้วยความมั่นใจในการ มีชีวิตนิรันดร์กับองค์พระเยซูตลอดสืบๆ ไป” หรือ... “ด้วยว่าพระเจ้าทรงฤทธานุภาพและทรงกอปรด้วย พระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวง ได้ทรงรับเอาดวงวิญญาณ

ทรงอ้าอ้อมพระหัตถ์ออกต้อนรับเด็กๆ

พิธีศพ 55 ของนาย... (หรือนาง... หรือนางสาว... หรือคุณ...) ไปจาก เราแล้ว เหตุฉะนั้นเราจึงมอบร่างกายของเขาฝากไว้กับดิน สิ่งซึ่งเป็นดินจะกลับเป็นดิน สิ่งซึ่งเป็นเถ้าจะกลับเป็นเถ้า ซึ่ง เป็นธุลีจะกลับเป็นธุลี แต่เราเชื่อและแน่ใจในการฟื้นคืนชีพ ด้วยร่างกายใหม่ในอนาคต เพื่อเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ร่วมกับ องค์พระเยซูคริสต์ผู้ซึ่งจะเปลี่ยนร่างกายที่เปื่อยเน่าของเรานี้ ให้เป็นร่างกายที่ไม่รู้จักเปื่อยเน่า เป็นกายที่มีสง่าราศีเช่นเดียว กับพระกายของพระองค์ ทั้งนี้พระองค์จะดลบันดาลให้ทุกๆ สิ่ง เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์ทุกประการ อาเมน” ข.ในกรณีที่ผู้ตายเป็นเด็ก อ่าน อิสยาห์ 40:11 หรือ มาระโก 10:13-16 “พระเยซูทรงอุ้มเด็กเล็กๆ เหล่านั้น วางพระหัตถ์บน เขา แล้วทรงอวยพรให้ ขณะที่พระเยซูทรงด�ารงพระชนม์ชีพ อยู่ในโลก พระองค์ทรงรักเด็กๆ
ในวาระที่พวกเขาตาย จากโลกนี้ไป พระองค์ก็ทรงเมตตารักใคร่เขาฉันนั้น
ฉันใด
พระองค์
โอบเขาไว้แนบกับ พระทรวงของพระองค์ด้วยความรักความเมตตาอันหาที่สุดมิได้
การจากไปของเด็กที่เรารักยิ่งนี้
ให้เข้ามาใกล้จิตใจของเรามากขึ้น
พระองค์ได้สั่งเราว่า จงยอมให้เด็กๆ มาหาพระองค์ อย่าห้าม เขาเลย
ก็เป็นการน�าสวรรค์
เพราะเด็กผู้นี้ได้ไปอยู่กับ พระเยซูแล้ว”
56 คู่มือศิษยาภิบาล หรือ... “อาณาจักรสวรรค์เป็นเหมือนอาณาจักรของเด็กๆ ทุกวันนี้เรารู้สึกว่าสวรรค์เป็นของจริง ส�า หรับเรามากขึ้น ยิ่งกว่าแต่ก่อน เวลาที่เราอุ้มเด็กเล็กๆ ไว้ในอ้อมแขนของ เรา เรารู้สึกว่า ก�า ลังโอบอุ้มชีวิตนิรันดร์ไว้ ขอให้เราฟัง และประพฤติตามพระโอวาทของพระเยซู ขอให้เรามีจิตใจ อ่อนโยนว่าง่ายดุจเด็กเล็กๆ เพื่อว่าเราจะได้เข้าไปในอาณาจักร ของพระเจ้าได้ เราทุกคนที่ได้รับความรอดพ้นบาปแล้วมีความ แน่ใจว่าจะได้เข้าสวรรค์เช่นเดียวกับเด็กผู้นี้ เนื่องจากเราได้รับ การเล้าโลมใจจากความจริงข้อนี้ เราจึงฝากร่างกายของเด็ก
เข้ามาหาเรา อย่าห้ามเขาเลย
พระเจ้าผู้ ด�า รงเป็นนิตย์เป็นที่อาศัยของท่าน และพระกร นิรันดร์รับรองท่านอยู่’ เพราะพระบิดาเจ้าผู้ทรงสถิตอยู่ในสวรรค์ ทรงพอพระทัยเช่นนี้ และพระองค์ทรงเป็น ‘ผู้เลี้ยง’ ของบรรดา ลูกแกะทั้งหลาย พระองค์จึงทรงรับจิตวิญญาณของเด็กผู้นี้ เข้าไว้ในคอกแกะแห่งเมืองสวรรค์ ดังนั้น เราจึงมอบร่างกาย
ผู้นี้ไว้กับดิน
เพื่อเป็นที่พักผ่อนของเขา
เหตุฉะนั้นให้เราตั้งใจ อย่างแน่วแน่ว่า จะด�าเนินชีวิตเพื่อให้สมกับชีวิตนิรันดร์ที่ได้รับ จากพระเยซูคริสตเจ้า” หรือ... “ ‘จงยอมให้เด็กเล็กๆ
เพราะว่าแผ่นดินของพระเจ้าเป็นของคนเช่นเด็กอย่างนั้น...

มาโดยผู้หญิงก็อยู่แต่น้อยวัน และเต็มไปด้วยความยุ่งยากใจ’ ‘เพราะว่าเราไม่ได้เอาอะไรเข้ามาในโลกฉันใด เราก็จะเอาอะไร

ออกไปจากโลกไม่ได้ฉันนั้น’

ท่ามกลางความตาย เราจะไปขอความช่วยเหลือจากใครได้ นอกจากพระเจ้าผู้ซึ่งรักเราแต่ทรงรังเกียจความผิดบาป

พิธีศพ 57 ของเด็กคนนี้ไว้กับดิน พระเจ้าแห่งพลโยธาตรัสว่า ‘ในวันนี้เรา จะประกอบกิจและเราจะไว้ชีวิตคนเหล่านี้’ “แต่นี้ต่อไป ‘เขาจะไม่หิวกระหายอีกเลย แสงแดดและ ความร้อนจะไม่ส่องต้องเขาอีกต่อไป เพราะว่าพระเมษโปดก ผู้ทรงอยู่กลางพระที่นั่งนั้นจะคุ้มครองดูแลเขา และจะทรงน�า เขาไปให้ถึงน�้าพุแห่งชีวิต และพระเจ้าจะทรงเช็ดน�้าตาทุกหยด จากตาของเขาเหล่านั้น...’ ” คำ. ในกรณีที่ผู้ตายมิใช่คำริสเตียน เลือกอ่าน สดุดี 46; 90; 91; 103; ยอห์น 14 หรือ 11:25-36 “ณ ที่นี้เราขอแสดงความคารวะแก่ผู้ตาย
‘มนุษย์ที่เกิด
ของเรา นี่แหละปลายทางของการมีชีวิต ในหลุมฝังศพซึ่งเรา
ไม่มีการงานใดๆ และไม่มีความรู้หรือ สติปัญญาใดๆ ที่จะ ท�า ให้เราบ่ายเบี่ยงเลี่ยงได้ เราทราบว่า ‘มีข้อ ก�า หนด ส�า หรับมนุษย์ไว้แล้วว่าจะตายครั้งเดียว และ หลังจากนั้นก็จะมีการพิพากษา’ ดังนั้น ขอให้เราแสวงหา
การมีชีวิตอยู่ในโลกก็เหมือนอยู่
ทุกคนจักต้องไปสู่นั้น

“พระเยซูตรัสว่า

ถ้าผู้ใดฟังค�าของเราและวางใจในพระองค์ผู้ทรงใช้เรามา

ก็มีชีวิตนิรันดร์และไม่ถูกพิพากษา แต่ได้ผ่านพ้นความตาย

58 คู่มือศิษยาภิบาล พระเจ้าด้วยสิ้นสุดจิตใจ และรับเอาความรอดพ้นบาป ซึ่งพระองค์ทรงยื่นให้แก่เราด้วยพระคุณของพระองค์ พระคริสตธรรมคัมภีร์ได้สอนเราว่า ‘พระกรุณาคุณของพระเจ้า นั้นมุ่งที่จะชักน�าท่านให้กลับใจใหม่’ การกลับใจใหม่จะน�าเรา มาถึงของประทานยิ่งใหญ่ของพระเจ้า คือการได้รับชีวิตนิรันดร์ โดยพระคุณของพระเยซูคริสตเจ้า ขอให้พระมหากรุณาธิคุณ ของพระเจ้าเป็นเครื่องเตือนให้เราระลึกถึงความรักของพระองค์ ซึ่งมีต่อเราในองค์พระคริสต์ บัดนี้เราได้มอบร่างกายของผู้ที่ เรารักนี้ฝากไว้ในที่พัก และเรามอบจิตวิญญาณของเขาไว้กับ พระเจ้า เพราะเรารู้ว่า พระเจ้าผู้พิพากษาโลกจะท�าแต่สิ่งที่ ถูกต้องและยุติธรรมเสมอ” หรือ...
ผู้นั้น
‘เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า
เวลาที่บรรดาผู้ที่อยู่ในอุโมงค์ฝังศพจะได้ยินพระสุรเสียงของ พระองค์และจะได้ออกมา บรรดาผู้ที่ประพฤติดีก็ฟื้นสู่ชีวิต บรรดาผู้ที่ได้ประพฤติชั่วก็จะฟื้นขึ้นสู่การพิพากษา’ ดังนั้น เรา จึงฝากร่างกายของผู้นี้ไว้กับดิน เพื่อจะคอยการฟื้นขึ้นมาจาก ความตาย ดังที่พระเยซูได้ตรัสไว้แล้ว”
ไปสู่ชีวิตแล้ว... อย่าประหลาดใจในข้อนี้เลย เพราะใกล้จะถึง

วันข้างหน้า ข้อพระคัมภีร์ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบางส่วนที่ ศิษยาภิบาลอาจคัดเลือกมาใช้ตามความเหมาะสม “ขอพระเจ้าทรงอ�านวยพระพรแก่ท่านและพิทักษ์รักษา

พระองค์เหนือท่านและประทานสวัสดิภาพแก่ท่าน”

(กันดารวิถี 6:24-26) “แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจ จะคุ้มครอง

จิตใจและความคิดของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์”

“ขอให้องค์พระเยซูคริสตเจ้าของเรา

พิธีศพ 59 ขอพระพรปิดการประชุม หลังจาก ท�า พิธีฝังศพแล้ว ควรมีการอธิษฐานอีกครั้ง พร้อมกับขอพระพรปิดการประชุม การอธิษฐานครั้งหลังนี้ เป็นการทูลขอให้พระเจ้าปลอบประโลมผู้ที่ก�าลังประสบความทุกข์ และอธิษฐานเผื่อผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อให้เขาเตรียมตัวส�าหรับ
ท่าน ขอพระเจ้าทรงให้พระพักตร์ของพระองค์ทอแสงแก่ท่าน
และทรงพระกรุณาท่าน ขอพระเจ้าทรงเงยพระพักตร์ของ
(ฟีลิปปี 4:7)
และพระบิดาเจ้า ของเรา ผู้ทรงรักเราและประทานให้เรามีความชูใจนิรันดร์ และความหวังอันดีโดยพระคุณ ทรงชูใจและตั้งใจของท่านไว้ให้ มั่นคง ในการกระท�าและในวาจาอันดีทุกอย่าง” (2 เธสะโลนิกา 2:16, 17)

ต้องถูกฝังอยู่ในดินแต่ผู้เดียวและจะไม่ได้เห็นหน้ากันอีกเลย ฉะนั้นศิษยาภิบาลจึงควรเข้าไปพูดจาปลอบโยนทันทีที่ท�าพิธี

โดยอาจเดินเข้าไปใกล้ๆ

60 คู่มือศิษยาภิบาล “ขอพระเจ้าแห่งสันติสุข ผู้ทรงบันดาลให้พระเยซูเจ้า ของเราเป็นขึ้นมาจากความตาย คือผู้ทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะ ที่ดีเลิศ โดยโลหิตแห่งพันธสัญญานิรันดร์นั้น ทรงกระท�าให้ ท่านทั้งหลายมีทุกสิ่งที่ดี เพื่อจะได้ปฏิบัติตามพระทัยพระองค์ และทรงท�างานในท่านทั้งหลายให้เกิดผลเป็นที่ชอบใน สายพระเนตรของพระองค์โดยพระเยซูคริสต์ ขอพระสิริจงมีแด่ พระองค์สืบๆ ไปเป็นนิตย์ อาเมน” (ฮีบรู 13:20-21) หมายเหตุ ในการท�าพิธีฝังศพมักปรากฏเสมอว่า ญาติ พี่น้องของผู้ตายจะโศกเศร้าและเป็นทุกข์มาก
เพราะบางที เขาอาจรู้สึกว้าเหว่และอ้างว้าง ด้วยคิดว่าผู้เป็นที่รักของตน
เสร็จ
และให้ค�าปลอบโยนหนุนใจ เขาเป็นพิเศษเป็นการส่วนตัว ศิษยาภิบาลควรอยู่สนทนากับ เขานานพอสมควรแก่เวลา และถ้ามีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่อาจเป็น
ทั้งนี้เพื่อระงับความโศกเศร้าที่ครอบง�าอยู่ในขณะนั้น และในโอกาสเช่นนี้แหละที่นับว่าเหมาะสมที่สุดที่จะพูดกับเขา เกี่ยวกับชีวิตทางด้านจิตวิญญาณ
คุณประโยชน์แก่เขาหรืออาจจะช่วยเหลือเขาได้ก็ควรลงมือท�า ทันที

เนื่องจากเห็นคนอื่นรับแล้ว ตัวเองก็เลยอยากท�าตามบ้าง หรือ กระท�าไปโดยที่ตนยังมิได้กลับใจใหม่จริงๆ

พิธีบัพติศมา คำ�านำ�า พระเยซูตรัสสั่งให้คริสเตียนปฏิบัติพิธีสองอย่างเท่านั้น คือพิธีบัพติศมาและพิธีมหาสนิท คริสเตียนทั่วโลกพากันยืนยัน ด้วยความมั่นใจว่า การรับบัพติศมานั้นเป็นประสบการณ์แห่ง วิญญาณจิตที่ส�าคัญอย่างหนึ่งในชีวิตคริสเตียน เพราะฉะนั้น ผู้รับใช้พระเจ้าจึงควรด�าเนินการให้เป็นไปตามจุดประสงค์ของ พิธีบัพติศมาดังที่บัญญัติไว้ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ และควร สนับสนุนให้ผู้ที่เชื่อพระเจ้าปฏิบัติตามด้วย ในพิธีนี้มีข้อปลีกย่อยอยู่สองสามข้อ ซึ่งศิษยาภิบาลควร ปฏิบัติเพื่อให้ทุกสิ่งด�าเนินไปอย่างเรียบร้อย ก. ศิษยาภิบาลจะต้องแน่ใจว่า คนที่มาขอรับบัพติศมา นั้นได้บังเกิดใหม่แล้วจริงๆ มีบ่อยครั้งที่คนมาขอรับบัพติศมา
ข. จงอธิบายให้ทุกคนเข้าใจความหมายของพิธีบัพติศมา อย่างแจ่มแจ้ง แต่ไม่จ�าเป็นต้องพูดกันยืดยาวนัก
62 คู่มือศิษยาภิบาล ค. จงอบรมเกี่ยวกับการแต่งกายให้เหมาะสมเมื่อเข้า รับบัพติศมา และแนะ น�า ให้เอาเสื้อผ้าอีกชุดหนึ่งมาเปลี่ยน แทนชุดที่เปียกเพื่อช่วยไม่ให้เขารู้สึกกระดากอายหรืออึดอัด เวลาเข้าพิธีจริงๆ ควรรักษาพิธีให้สง่า น่าเลื่อมใส และอธิบายให้ผู้รับ บัพติศมาทราบว่า เวลาลงไปใน น�้าแล้วให้หันหน้าไปทาง ที่ประชุม เมื่อจะประกอบพิธี ศิษยาภิบาลจะเอาผ้าเช็ดหน้า สะอาดปิดปากและจมูกของผู้รับบัพติศมา แล้วใช้มือข้างหนึ่ง ช้อนประคองไหล่ของผู้นั้นไว้ เพื่อช่วยให้การกดลงในน�้าและ การพยุงขึ้นมาท�าได้สะดวก
กระทั่งผู้รับบัพติศมาทุกคนได้รับแล้วครบถ้วน การให้บัพติศมา ผู้ท�า พิธีบัพติศมาควรไตร่ตรองและตระเตรียมการไว้ เป็นอย่างดี ไม่ว่าพิธีบัพติศมานั้นจะ ท�า ร่วมกับพิธีนมัสการ ตามปกติหรือแยกท�าต่างหาก ขอแนะน�าให้ใช้ระเบียบวาระดังนี้ 1.เลือกร้องเพลงให้เหมาะสมกับพิธี 2. เลือกอ่านหรือท่อง จ�า จากข้อพระคัมภีร์ต่อไปนี้ (หรือข้ออื่นๆ ที่เห็นควร) มัทธิว 3:13-17; กิจการ 8:35-39; มัทธิว 28:16-20; โรม 6:1-5; มาระโก 16:14-18; โคโลสี 2:12-14
เมื่อเสร็จแล้วให้เขายืนสงบ รอจน

พระเยซูคริสต์และได้ส�าแดงความประสงค์ที่จะติดตามพระองค์ โดยยอมตายต่อชีวิตเก่าและเดินตามพระเยซูคริสต์ในชีวิตใหม่ ข้าพเจ้าจึงให้ท่านรับบัพติศมาในนามของพระบิดา

พิธีบัพติศมา 63 3.อธิบายความหมายของพิธีบัพติศมาเพียงสั้นๆ 4.ศิษยาภิบาลและผู้รับบัพติศมาลงไปในน�้า ศิษยาภิบาลจะถามผู้รับบัพติศมาทีละคนดังนี้ “ท่านแน่ใจหรือว่า ท่านเป็นบุตรของพระเจ้าแล้วโดย ความเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์ ท่านมั่นใจว่า พระองค์ทรง ช�าระบาปของท่านแล้ว ท่านแน่ใจในข้อนี้จริงๆ หรือ” ผู้รับบัพติศมาจะตอบว่า “ข้าพเจ้าแน่ใจแล้ว” “ท่านมีความจริงใจที่จะละทิ้งชีวิตเก่า เพื่อติดตาม พระเยซูคริสต์และเดินไปในชีวิตใหม่กับพระองค์เช่นนั้นหรือ” ผู้รับบัพติศมาจะตอบว่า “ข้าพเจ้ามีความจริงใจเช่นนั้น” หมายเหตุ หลังจากได้ไต่ถามแต่ละคนแล้ว อาจเปิด โอกาสให้ผู้รับบัพติศมาเป็นพยานแก่ผู้ที่ร่วมในพิธีก็ได้ ก่อนการให้รับบัพติศมา ผู้ ท�า พิธีจะประกาศยืนยันถึง ความสมัครใจของผู้รับบัพติศมา และกล่าวน�าในการท�าพิธีดังนี้ “นาย (นาง หรือ นางสาว)... ท่านได้รับด้วยปากของ ท่านเองว่า ท่านมีความเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์ ในฐานะ ที่พระองค์ทรงเป็นพระผู้ไถ่บาปของท่าน ท่านยอมเชื่อฟัง
พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ อาเมน” (ณ ที่นี้ผู้ประกอบพิธีจะให้ ผู้รับบัพติศมาลงไปในน�้าดังที่ได้อธิบายมาแล้ว)
64 คู่มือศิษยาภิบาล 5. อาจจะร้องเพลงสักข้อหนึ่งหรือร้องรับในระหว่างที่ ท�าพิธีให้ผู้รับบัพติศมาแต่ละคนก็ได้ หากมีการมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้รับบัพติศมาไว้ เป็นหลักฐานด้วยก็จะเป็นการดีไม่น้อย

จิตวิญญาณได้รับประสบการณ์อันสูงสุด

นมัสการอื่นใดที่มีค่าเท่ากับพิธีมหาสนิท

หลายคนได้ ท�า ให้พิธีอันสูงส่งนี้กลายเป็นพิธีที่ไร้ความหมาย ศิษยาภิบาลจะต้องเข้าใจจุดประสงค์แห่งความจริงข้อนี้เพื่อ สามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง การเตรียมเครื่องถือพิธีมหาสนิทนั้นเป็นหน้าที่ที่

ถ้าศิษยาภิบาลไม่เตรียมเอง

พิธีมหาสนิท คำ�านำ�า พิธีมหาสนิทหรือศีลระลึกนั้นเป็นการผูกพันอันศักดิ์สิทธิ์ ระหว่างผู้เชื่อกับพระคริสตเจ้าผู้ทรงคืนพระชนม์ และเป็นการ ผูกพันคริสเตียนให้มีสามัคคีธรรมซึ่งกันและกันเพื่อรับ พระพรจากพระเจ้าร่วมกัน พิธีมหาสนิทนี้จัดขึ้นเพื่อระลึก
ท�าเพื่อ มนุษยชาติ การร่วมโต๊ะเสวยกับพระเยซูคริสต์เป็นภาวะที่
ไม่มีการประชุม
ถึงพระเยซูคริสต์และพระราชกิจที่พระองค์ได้ทรงกระ
แต่น่าเสียดายที่
ศิษยาภิบาลจะต้องเอาใจใส่
ก็ จงมอบให้ผู้อื่นรับผิดชอบแทน ผ้าปูโต๊ะควรสะอาดจริงๆ ถ้วย น�้าองุ่นและภาชนะใส่ขนมปังก็ควรสะอาดเป็นพิเศษ และ

การถือพิธีมหาสนิทพร้อมกันเป็นแบบที่นิยมกระท�ากัน ทั่วโลก

และให้ถือขนมปังไว้ก่อนจนกว่าจะให้สัญญาณรับประทาน

66 คู่มือศิษยาภิบาล เจ้าหน้าที่ที่ ท�า หน้าที่ส่ง น�้าองุ่นกับขนมปังควรแต่งกายให้ เรียบร้อย ผู้ที่มีส่วนช่วยในพิธีจะต้องรับการบอกกล่าวล่วงหน้า ว่าแต่ละคนมีหน้าที่อย่างไร และพิธีจะด�าเนินไปอย่างไร เมื่อท�า พิธีมหาสนิท ขอให้ระลึกไว้ว่าเป็นพิธีพิเศษที่ เพิ่มเติมจากการนมัสการพระเจ้าตามปกติ ข้อความที่ใช้เทศนา ในการนมัสการควรเป็นข้อความที่เตรียมจิตใจเพื่อเข้าสู่พิธี มหาสนิท อนึ่ง การท�าพิธีมหาสนิทนี้ไม่ควรท�าอย่างเร่งรีบ แต่ จงให้ทุกๆ อย่างในการนมัสการเล็งถึงพิธีมหาสนิทอันศักดิ์สิทธิ์ ศิษยาภิบาลควรเชื้อเชิญคริสเตียนทุกคนที่ได้มาร่วม การนมัสการให้เข้าร่วมพิธีมหาสนิท ถึงแม้ว่าคริสเตียนผู้นั้น มาจากคณะอื่น โดยเฉพาะผู้ที่รู้ว่าตนเองได้บังเกิดใหม่แล้ว และมีความประสงค์ที่จะด�าเนินชีวิตคริสเตียน ศิษยาภิบาลไม่ควรห้ามผู้ใด แต่ควรเชื้อเชิญเขาโดย กล่าวว่า “จงให้ทุกคนพินิจดูใจของตนเสียก่อน” แบบที่หนำึ่ง การถือพิธีมหาสนำิทพร้อมกันำ
กล่าวคือ จะแจกขนมปังให้แก่คริสตสมาชิกผู้เข้าร่วมพิธี ทุกคน
พร้อมๆ กัน ส�าหรับถ้วยน�้าองุ่นก็ให้ท�าอย่างเดียวกัน

ศิษยาภิบาลรับถาดขนมปังแล้วก็จะส่งขนมปังให้แก่ผู้ปกครอง ศิษยาภิบาลจะอ่านข้อพระคัมภีร์หรือพูดปากเปล่าก็ตามแต่

พิธีมหาสนิท 67 คณะผู้ปกครองของคริสตจักรจะเข้าประจ�าโต๊ะมหาสนิท อย่างมีระเบียบและเป็นสง่าน่าเคารพ (ค่อยๆ เปิดผ้าคลุม ขนมปังและถ้วยน�้าองุ่น) ศิษยาภิบาลจะอ่านข้อพระคัมภีร์
ข้าพเจ้าได้รับ จากองค์พระผู้เป็นเจ้า คือในคืนที่เขาอายัดพระเยซูเจ้านั้น พระองค์ทรงหยิบขนมปัง ครั้นขอบพระคุณแล้วจึงทรงหักแล้ว ตรัสว่า ‘นี่เป็นกายของเราซึ่งให้แก่ท่านทั้งหลาย จงกระ ท�า อย่างนี้ให้เป็นที่ระลึกถึงเรา’ ” (1 โครินธ์ 11:23-24) แล้วอธิษฐานขอบพระคุณ ส�า หรับขนมปัง (หากให้ ผู้ปกครองของคริสตจักรคนหนึ่งอธิษฐานแทน ก็จะเป็นการดี)
แล้วจึงส่งถาดขนมปัง ให้แก่บรรดาผู้ปกครองไปแจกแก่มวลสมาชิก และศิษยาภิบาล
ขณะที่แจกขนมปัง ดนตรีจะบรรเลงเพลงเบาๆ หรือ อาจให้ที่ประชุมร้องเพลง หรือให้ทุกคนอธิษฐานเงียบๆ เป็นการส่วนตัวขณะรับขนมปัง เมื่อผู้ปกครองแจกขนมปังเสร็จและ น�า
ที่ซึ่งส�ารองไว้โดยเฉพาะ
(หรือกล่าวว่า) “เพราะ ว่าเรื่องซึ่งข้าพเจ้าได้มอบไว้กับท่านแล้วนั้น
ศิษยาภิบาลจะแจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าให้ถือขนมปัง ไว้ก่อนจนกว่าจะแจกทั่วถึงกันทุกคน
จะนั่งลงขณะที่ผู้ปกครองแจกขนมปัง
ถาดมาส่งให้ ศิษยาภิบาลแล้ว ก็ไปนั่ง ณ
เมื่อ
68 คู่มือศิษยาภิบาล จะเห็นสมควร แต่ถ้อย ค�า ของศิษยาภิบาลควรมุ่งตรงไปที่ พระเยซูคริสต์ด้วยความเคารพ หมายเหตุ เพื่อเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ ศิษยาภิบาล อาจจะอธิษฐานขอบพระคุณเมื่อได้ส่งขนมปังให้ทั่วทุกคน แล้วก็ได้ พออธิษฐานจบ ก็ให้รับประทานพร้อมกัน เมื่อรับประทานขนมปังเสร็จแล้ว ให้ทุกคนสงบใจ อธิษฐานเงียบๆ สักครู่หนึ่ง จากนั้นศิษยาภิบาลจะอ้างข้อ พระคัมภีร์ที่ว่า “เมื่อรับประทานแล้วพระองค์จึงทรงหยิบถ้วย” (ผู้ปกครองยืนขึ้น แล้วศิษยาภิบาลหรือผู้ปกครองคนหนึ่งจะ อธิษฐานขอบพระคุณส�าหรับน�้าองุ่น) ศิษยาภิบาลจะกล่าวต่อ ไปว่า “พระองค์จึงทรงหยิบถ้วยด้วยอาการอย่างเดียวกัน ตรัส ว่า ‘ถ้วยนี้คือพันธสัญญาใหม่โดยโลหิตของเรา เมื่อท่านดื่ม จากถ้วยนี้เวลาใด จงดื่มเป็นที่ระลึกถึงเรา’ เพราะว่าเมื่อท่าน ทั้งหลายกินขนมปังนี้ และดื่มจากถ้วยนี้เวลาใด ท่านก็ประกาศ การวายพระชนม์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า จนกว่าพระองค์จะ เสด็จมา” ศิษยาภิบาลจะแจ้งให้ที่ประชุมถือถ้วย น�้าองุ่นไว้ จนกว่าทุกคนจะได้รับทั่วกัน จากนั้นจึงส่งถาด น�้าองุ่นให้แก่ ผู้ปกครองเพื่อน�าไปแจกแก่ที่ประชุม และศิษยาภิบาลจะกลับ ไปนั่งที่เดิม (ในตอนนี้ดนตรีจะบรรเลงเพลงเบาๆ หรืออาจ ให้ที่ประชุมร้องเพลง หรือเชิญชวนให้ทุกคนสงบใจอธิษฐาน ขณะที่รับถ้วยน�้าองุ่น)
พิธีมหาสนิท 69 เมื่อผู้ปกครองแจกทั่วกันแล้ว ศิษยาภิบาลจะรับถาด น�้าองุ่นคืน ส่วนผู้ปกครองจะไปนั่งในที่ซึ่งส�ารองไว้ ศิษยาภิบาล จะส่งถ้วยน�้าองุ่นให้ผู้ปกครองทีละคน หลังจากนั้นก็ให้หยิบถ้วย น�้าองุ่นแล้วอธิษฐาน หรือจะอ่านข้อพระคัมภีร์ตอนหนึ่งตอนใด ที่เหมาะสมกับพิธีนี้ หรือจะพูดปากเปล่าก็ได้ หลังจากนั้นให้ที่ประชุมดื่มน�้าองุ่นพร้อมกัน แล้วสงบใจ อธิษฐาน ศิษยาภิบาลจะอธิษฐานอีกครั้งหนึ่ง (ถ้าไม่มีที่ส�าหรับ วางถ้วยเปล่า ศิษยาภิบาลจะส่งถาดให้ผู้ปกครองเพื่อเก็บถ้วย เหล่านั้น)
ค�าบอกกล่าวล่วงหน้าเพื่อเตรียมทุกอย่างให้พร้อม) ถวายเพลงบทสุดท้าย ขอพระพรปิดการประชุม แบบที่สอง การถือพิธีมหาสนำิทโดยรับประทานำขนำมปัง และนำ�้ำาองุ่นำติดต่อกันำไป ถ้ามีคนมากและมีผู้ปกครองหลายคนช่วยกัน ผู้ปกครอง กลุ่มหนึ่งจะแจกขนมปัง และอีกกลุ่มหนึ่งจะแจกน�้าองุ่น โดย จะแจกขนมปังและน�้าองุ่นติดต่อกันไปเลย แต่ทั้งนี้ต้องระวัง
การถวายทรัพย์เพื่อการกุศลใดๆ (ถ้าเป็นธรรมเนียม ของคริสตจักรที่จะมีการถวายพิเศษ เจ้าหน้าที่ก็ควรได้รับ
70 คู่มือศิษยาภิบาล ให้การแจกเป็นระเบียบเรียบร้อยและเป็นที่น่านับถือ ส่วนการ รับประทานขนมปังและน�้าองุ่นนั้น ก็ให้ทุกคนกระท�าติดต่อไป พร้อมกันเลยเมื่อศิษยาภิบาลกล่าวเชิญ แบบที่สาม การถือพิธีมหาสนำิทโดยให้สมาชิกผลัดเปลี่ยนำ ให้บริการแก่กันำ การถือพิธีมหาสนิทอีกวิธีหนึ่งอาจให้มวลสมาชิกส่งต่อ ขนมปังและน�้าองุ่นกันเอง
เพื่อก่อให้เกิดความสนิทสนมและ
ในแถวรับไว้ ครั้นแล้วสมาชิกผู้นั้นก็จะยื่นให้คนที่หนึ่งหยิบ ขนมปัง แล้วคนที่สองส่งถาดให้คนที่สามรับไว้ คนที่สามส่งต่อ ไปยังคนที่สี่ และท�าดังนี้เรื่อยไปจนถึงคนสุดท้าย คนสุดท้ายจะ ส่งให้ผู้ปกครอง ผู้ปกครองจะยื่นถาดให้คนสุดท้ายหยิบ การส่ง น�้าองุ่นก็ให้ท�าเช่นเดียวกันนี้
เป็นกันเองมากขึ้นระหว่างสมาชิกด้วยกัน ณ โต๊ะเสวยของ พระเยซูคริสต์ ผู้ปกครองจะส่งถาดขนมปังให้สมาชิกคนที่สอง
พิธีมหาสนิท 71 แบบที่สี่ การถือพิธีมหาสนำิทพร้อมกับการนำมัสการ การประกอบพิธีมหาสนิทอาจกระท�าได้โดยตรงที่ โต๊ะระลึกถึงพระเยซูคริสต์ โดยไม่มีการเทศนา แต่ต้องเตรียม ทุกอย่างให้พร้อมเพรียง มิฉะนั้นแล้วพิธีมหาสนิทจะขาด ความส�าคัญ ถ้ามีคนป่วยหรือคนชราซึ่งไม่สามารถไปร่วมพิธีมหาสนิท ที่คริสตจักรได้ ศิษยาภิบาลควรน�าขนมปังและน�้าองุ่นไปให้ ผู้นั้นรับที่บ้าน

พระคริสตธรรมคัมภีร์อย่างเฉพาะเจาะจง แต่จากพระคัมภีร์ นั่นเองที่มีผู้ ท�า เป็นแบบอย่างมาแล้ว

เรื่องราวเหล่านี้ได้กลายเป็นแบบอย่างที่สืบเนื่องกันมา ในการถวายบุตรแด่พระเจ้านี้

คริสเตียนทั้งคู่ก็ย่อมเป็นการดี แต่ถ้าบิดามิใช่คริสเตียนและ มารดาปรารถนาจะน�าบุตรมาถวายพระเจ้าก็ย่อมท�าได้ กล่าวอีก นัยหนึ่งคือถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเป็นคริสเตียนก็ย่อมท�าได้ทั้งสิ้น

พิธีถวายบุตร คำ�านำ�า พิธีถวายบุตรแด่พระเจ้าเป็นพิธีที่มิได้มีบัญญัติไว้ใน
พระเจ้าตรัสด้วยสิทธิอ�านาจว่า บุตรชายหัวปีของชนชาติอิสราเอลเป็นสมบัติของ พระองค์ จึงได้มีการถวายบุตรแด่พระองค์
เช่น นางฮันนาห์ ถวายซามูเอลเมื่อยังเด็ก โยเซฟและนางมารีย์ได้น�าพระกุมาร เยซูมาถวายพระเจ้าที่โบสถ์เมื่อยังทรงเป็นทารก เป็นต้น
ถ้าบิดามารดาเป็น
เมื่อศิษยาภิบาลทราบว่า บิดามารดาของเด็กมีความ ประสงค์จะ ท�า พิธีถวายบุตรของตน ศิษยาภิบาลควรไปเยี่ยม
บิดามารดาของเด็กที่บ้าน
และสนทนาเกี่ยวกับการ ท�าพิธี
74 คู่มือศิษยาภิบาล ถวายบุตร โดยอธิบายให้ทราบถึงความ ส�า คัญของพิธีนี้ว่ามี อะไรบ้าง บิดามารดาไม่ควรถวายบุตรด้วยความเข้าใจผิดว่า เป็นธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติ ศิษยาภิบาลควรอธิบายถึงสาระ และองค์ประกอบของพิธีว่าเป็นอย่างไร และจะต้องท�าพิธีกัน ในเวลาไหน ศิษยาภิบาลต้องรู้จักชื่อ-นามสกุล โดยสามารถ สะกดได้อย่างถูกต้อง ทั้งชื่อของเด็กและบิดามารดาของเด็ก ด้วย นอกจากนั้นวันเดือนปีเกิดของเด็กต้องตรงกับในสูจิบัตร เพราะรายการต่างๆ เหล่านี้จะต้อง น�า ไปลงในทะเบียนของ คริสตจักรต่อไป และเป็นการสมควรที่จะมอบประกาศนียบัตร ให้ไว้เป็นหลักฐาน การมอบประกาศนียบัตรแก่บิดามารดา ของเด็กควรกระท�าภายในวันเดียวกันนั้นหลังจากประกอบพิธี เสร็จแล้ว การท�าพิธีถวายบุตร ที่ประชุมร้องเพลง ที่เหมาะสมกับเด็ก เช่น “ดุจเพชร พลอยในมงกุฎ” โดยให้บิดามารดาหรือผู้ใหญ่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ของเด็กยืนอยู่ตรงหน้าศิษยาภิบาล ถ้าเด็กยังเล็กมากให้อุ้มไว้ ศิษยาภิบาลเลือกอ่านข้อพระคำัมภีร์สักหนึ่งหรือสองตอน เช่น “โอ คนอิสราเอล จงฟังเถิด พระเยโฮวาห์พระเจ้าของ เราทั้งหลายเป็นพระเจ้าเดียว พวกท่านจงรักพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจและสิ้นสุดก�าลังของท่าน และ

จงให้ถ้อยค�าที่ข้าพเจ้าบัญชาพวกท่านในวันนี้อยู่ในใจของท่าน และพวกท่านจงอุตส่าห์สอนถ้อยค�าเหล่านั้นแก่บุตรหลานของ

เด็กเล็กเช่นนี้คนหนึ่งในนามของเรา ผู้นั้นก็รับเราด้วย แต่ผู้ใด

และนอนลงหรือ ลุกขึ้น จงพูดถึงถ้อยค�านั้น” (เฉลยธรรมบัญญัติ 6:4-7) หรือ... “แต่ความรักมั่นคงของพระเจ้านั้น ด�า รงอยู่ตั้งแต่ นิรันดร์กาลถึงนิรันดร์กาลต่อผู้ที่ ย�า เกรงพระองค์ และความ ชอบธรรมของพระองค์ต่อหลานเหลน ต่อบรรดาผู้ที่รักษา พันธสัญญาของพระองค์ และระลึกอยู่ที่จะกระท�าตามข้อบังคับ ของพระองค์” (สดุดี 103:17, 18) หรือ... “พระเยซูจึงทรงเรียกเด็กเล็กๆ คนหนึ่งมาให้ยืน ท่ามกลางเขา แล้วตรัสว่า ‘เรากล่าวความจริงแก่ท่านทั้งหลาย ว่า ถ้าพวกท่านไม่กลับใจเป็นเหมือนเด็กเล็กๆ ท่านจะเข้าใน แผ่นดินสวรรค์ไม่ได้เลย เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดถ่อมจิตใจลงเหมือน เด็กเล็กคนนี้ ผู้นั้นจะเป็นใหญ่ในแผ่นดินสวรรค์ ถ้าผู้ใดจะรับ
จะท�าผู้เล็กน้อยเหล่านี้คนหนึ่งที่วางใจในเราให้หลงผิด ถ้าเอา หินโม่ก้อนใหญ่ผูกคอผู้นั้นถ่วงเสียที่ทะเลลึกก็ดีกว่า’ ” (มัทธิว 18:2-6)
พิธีถวายบุตร 75
ท่าน เมื่อท่านนั่งอยู่ในเรือน เดินอยู่ตามทาง

พระเจ้าและท่านจะต้องรับผิดชอบต่อชีวิตของเขา

ประสงค์จะถวายเด็กนี้แด่พระเจ้าเพื่อให้เขาปรนนิบัติพระองค์ และจะอธิษฐานเผื่อเขาทั้งสัญญาว่าจะสั่งสอนเขาให้รู้ถึง พระโอวาทของพระคริสต์ สอนให้รู้จักการอ่านพระคัมภีร์

76 คู่มือศิษยาภิบาล ต่อจากนั้นศิษยาภิบาลจะอธิษฐานขอบพระคุณพระเจ้า ที่บิดามารดาของเด็กนั้นเป็นคริสเตียนและเต็มใจถวายบุตร ของตนแด่พระเจ้า และขอให้พระเจ้าอวยพระพรแก่บิดามารดา และตัวเด็กเอง คำ�า ปราศรัยแก่บิดามารดา “ท่านผู้เป็นบิดามารดา ใน การที่ท่านน�าบุตรของท่านมาถวายพระเจ้าในวันนี้ นับว่าท่าน ได้สร้างสัมพันธภาพอันศักดิ์สิทธิ์ระหว่างตัวท่านกับพระเจ้า ผู้ทรงรักษาค�าสัญญาของพระองค์มาตลอดพันชั่วอายุคน นับ เป็นเวลาหลายยุคหลายสมัยมาแล้วที่บิดามารดาผู้ซึ่งนับถือ เกรงกลัวพระเจ้าจะน�าบุตรของตนมาถวายพระองค์ ทั้งนี้นับว่า ท่านได้กระท�าสิ่งที่น่าสรรเสริญสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ
“เพราะท่านเชื่อว่าเด็กคนนี้เป็นของพระราชทานมาจาก
ท่านมีความ
สอน ให้อธิษฐานส่วนตัว เพื่อน�าไปสู่ชีวิตบริสุทธิ์ และจะพาไปนมัสการ พระเจ้าที่โบสถ์อย่างส ม�่าเสมอ และจะพยายามทุกวิถีทาง ในการน�าให้เขารู้จักว่า พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด และเป็นพระเจ้าของเขา ท่านสัญญาดังนี้หรือ” บิดามารดาของเด็กจะรับค�าว่า “ข้าพเจ้าขอสัญญาดังนี้”

ทรงเรียกท่านเข้ามามีส่วนอยู่ในแผ่นดินของพระองค์โดยเร็ว เพื่อท่านจะได้ปรนนิบัติพระเจ้าตลอดชีวิตของท่าน

ปกป้องพิทักษ์รักษาให้พ้นจากการจูงใจให้ท�าชั่ว

ให้เด็กที่น�ามาถวายนี้จะต้อนรับพระเยซูเป็นพระเจ้าและพระผู้ช่วย ให้รอดของเขาเร็วขึ้น และให้เขาเติบโตขึ้นมีอาชีพการงานตาม

แผนการของพระองค์”

ศิษยาภิบาลส่งเด็กให้แก่บิดามารดา แล้วให้บิดามารดา

พิธีถวายบุตร 77 การถวายบุตร ศิษยาภิบาลรับเด็กมาอุ้มไว้และวางมือ ลงบนศีรษะของเด็ก พร้อมกับพูดด้วยเสียงดังและชัดเจน ว่า “... (ชื่อเด็ก) บัดนี้ข้าพเจ้าขอถวายตัวท่านต่อพระเจ้า ในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ขอให้ชีวิตอันเยาว์วัยของท่านได้รับการชุบเลี้ยงให้เจริญเติบโต ขึ้นมาภายใต้ร่มพระคุณของพระวิญญาณบริสุทธิ์
ขอให้พระเจ้า
เพื่อถวาย
พระเกียรติแด่พระองค์และเป็นการเร่งให้พระเยซูเสด็จกลับมา โดยเร็ว”
ศิษยาภิบาลอธิษฐานขอพระพร “ขอพระเจ้าทรงโปรด
ขอทรงโปรด
กลับไปนั่งที่เดิม

เป็นสมาชิกมีส่วนช่วยยกระดับมาตรฐานทางจิตใจของเรา ให้สูงขึ้น หลัก ส�า คัญซึ่งเราจะต้องยึดถือในการเป็นสมาชิก

การรับสมาชิกคริสตจักร คำ�านำ�า ศิษยาภิบาลควรอธิบายให้ผู้ขอเข้าเป็นสมาชิกเข้าใจถึง ความส�าคัญของการเป็นสมาชิก กล่าวคือ บางคนอาจเข้าใจผิด ว่าการเป็นสมาชิกของคริสตจักรเป็นของ จ�า เป็น ส�า หรับการ รอดพ้นบาป ถ้าไม่เป็นสมาชิกแล้วจะตกนรก หรือมิฉะนั้นก็ กลับตรงกันข้าม คือบางคนเพิกเฉยต่อความ ส�า คัญของการ เป็นสมาชิก ไม่มีการร่วมแรงร่วมใจกัน การเป็นสมาชิกจึง กลายเป็นเพียงพิธีการอย่างหนึ่งเท่านั้น แต่อย่างไรก็ดี การ
คริสตจักรก็คือ จะต้องเป็นคริสเตียนที่เชื่อฟัง ค�า สั่งของ พระเยซูคริสต์ และปฏิบัติตามค�าสอนในพระคริสตธรรมคัมภีร์ เท่านั้น
80 คู่มือศิษยาภิบาล ระเบียบการรับสมาชิกคำวรมีลักษณะดัง ต่อไปนำี้ำ ประการที่หนึ่ง คริสตจักรควรตั้งมาตรฐานให้เหมาะสม โดยก�าหนดให้หลักฐานการบังเกิดใหม่ของสมาชิกผู้นั้นต้องตรง กับหลักความเชื่อของคริสตจักร และถูกต้องตามกฎข้อบังคับ ของคริสตจักรด้วย ประการที่สอง จะต้องมีกรรมการ ท�า หน้าที่ตรวจรับ พิจารณาใบสมัคร ประการที่สาม ผู้สมัครเป็นสมาชิกจะต้องผ่านการ ไต่สวนชีวประวัติและความประพฤติจากคณะกรรมการ เพื่อ
คริสตจักร อย่างไรก็ดี การสอบสวนเช่นนี้ควรท�าในลักษณะ ที่เป็นกันเอง การท�าพิธีรับคำริสตสมาชิก การ ท�า พิธีรับเป็นสมาชิกของคริสตจักรอาจ ท�า ในเวลา ที่มีการนมัสการตามปกติ หรือท�าในเวลาที่มีพิธีมหาสนิทก็ได้ ศิษยาภิบาลจะประกาศรับสมาชิกใหม่โดยขานชื่อและ อ้างหลักฐานของผู้นั้นตามที่คณะกรรมการได้ตกลงรับไว้แล้ว 1. เป็นคนที่รับเชื่อใหม่ หรือ 2. คนที่โอนมาจากคริสตจักรอื่น หรือ 3. ผู้ที่หลงจากความเชื่อและได้กลับใจใหม่
ให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ของการสมัครเข้าเป็นสมาชิกของ

ราคะตัณหาของเนื้อหนังซึ่งเป็นปฏิปักษ์กับวิญญาณจิต และ

การรับสมาชิกคริสตจักร 81 ในการต้อนรับสมาชิกใหม่ คณะผู้ปกครองของคริสตจักร จะยืนเป็นสักขีพยานอยู่ข้างๆ ศิษยาภิบาล ในระหว่างพิธีต้อนรับสมาชิกใหม่ ควรอ่านข้อพระคัมภีร์ ต่อไปนี้ “ข้าพเจ้าจะเอาอะไรตอบแทนพระเจ้าได้ เนื่องจาก บรรดาพระราชกิจอันมีพระคุณต่อข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะแก้บน ของข้าพเจ้าแด่พระเจ้า ต่อหน้าประชาชนทั้งปวงของพระองค์” (สดุดี 116:12, 14) “ด้วยว่า ความเชื่อด้วยใจก็น�าไปสู่ความชอบธรรม และ การยอมรับสัจจะของพระเจ้าด้วยปากก็น�าไปสู่ความรอด” (โรม 10:10) “เหตุดังนั้นทุกคนที่จะรับเราต่อหน้ามนุษย์ เราจะรับ ผู้นั้นต่อพระพักตร์พระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์” (มัทธิว 10:32) หรือจะอ่าน กิจการ 19:1-6; 1 ทิโมธี 4:14-16; ฮีบรู 6:1, 2 หรือ 1 เปโตร 1:1-12 แทนก็ได้ ครั้นแล้วศิษยาภิบาลจะอ่านค�าสัญญาดังนี้ “เราซึ่งเป็นสมาชิกคริสตจักรได้ ท�า สัญญากับพระเจ้า และท�าสัญญาต่อกันว่า เราจะละเว้นจากการปฏิบัติใดอันเป็น
ความโกรธ
เว้นการพูดเอะอะโวยวาย ไม่พูด
เราจะแสดงความเอื้ออารีต่อกันและกันโดยสลัดทิ้งความขมขื่น
ความเคียดแค้น

“เราจะระลึกถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของบ้านเมือง

ร่วมมือร่วมใจกับเขาเหล่านั้นเท่าที่โอกาสจะอ�านวยโดยไม่ผิด หลักพระคริสตธรรมคัมภีร์

“ขอพระเจ้าทรงเป็นผู้ช่วยให้เราสามารถท�าตามสัญญา

82 คู่มือศิษยาภิบาล หยาบคาย และมีใจอ่อนสุภาพ และอภัยโทษให้กันและกัน เหมือนกับพระคริสต์ทรงอภัยโทษให้แก่เรา “เราซึ่งเป็นหัวหน้าของครอบครัวจะจัดให้มีการนมัสการ พระเจ้าประจ�าวันในครอบครัวของเราเอง และจะพยายามน�า ให้บุตรหลานของเราและคนอื่นๆ ในครอบครัวมารู้จักพระคุณ และความรักของพระเยซูคริสตเจ้า เราจะหมั่นไปนมัสการ พระเจ้าที่คริสตจักรในวันของพระองค์เสมอ ตลอดจนเข้าร่วม การประชุมต่างๆ ซึ่งคริสตจักรได้ ก�า หนดไว้ เราจะหมั่นไป
ทรงอวยพระพรให้แก่เรา เราจะ ท�านุบ�า รุงคริสตจักรของ พระเยซูให้รุ่งเรืองขึ้นตามที่พระองค์ทรงประทานให้แก่เรา และ
แก่มนุษย์ทั่วโลก
ร่วมพิธีมหาสนิทและจะช่วยเหลือซึ่งกันและกันตามที่พระเจ้า
จะช่วยในการประกาศเผยแพร่พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์
และเราจะ
ทุกคนและจะอธิษฐานเผื่อเจ้าหน้าที่เหล่านั้น
นี้”
หรืออาจใช้ข้อความต่อไปนี้แทนก็ได้...
“เพื่อนคริสเตียนทั้งหลาย เรารู้สึกชื่นชมยินดีเป็น อย่างยิ่งในการที่ท่านมีความประสงค์จะร่วมสังคมกับเราใน

แล้ว การเข้าร่วมเป็นสมาชิกท�าให้ท่านได้รับสิทธิอันศักดิ์สิทธิ์

อย่าได้กระท�า การใดๆ ที่ไม่ดีงามอันเป็นการสร้างความผิดหวัง

การรับสมาชิกคริสตจักร 83 คริสตจักรแห่งนี้ เพราะท่านได้เป็นพยานยืนยันความเชื่อ อย่างดีของท่าน ท่านเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับบรรดาผู้ที่เชื่อ พระเจ้า ซึ่งได้รับความรอดพ้นจากบาปมาตลอดหลายชั่วอายุ
และหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบต่อคริสตจักร เป็นหน้าที่ของ ท่านที่จะเป็นพยานให้คนอื่นๆ รู้จักพระคริสต์ จงอธิษฐานเพื่อ ให้สัมฤทธิ์ผลสมประสงค์ จงช่วยกันท�านุบ�ารุงคริสตจักรตาม ก�าลังความสามารถที่พระเจ้าประทานให้ จงไปร่วมประชุมและ หนุนใจการงานของคริสตจักร จงสนับสนุนด้วยความรัก ด้วย แรงกาย และรับใช้ด้วยการเสียสละ จงหนุนใจผู้เป็นหัวหน้า ให้มีก�าลังใจ ซึ่งในเวลาเดียวกันจะเพิ่มพูนความอุดมสมบูรณ์ ให้แก่จิตใจของท่านเองด้วย จงด�าเนินชีวิตให้สมกับพระนาม ของพระคริสต์ และให้สมกับชื่อของคริสตจักร สิ่งใดๆ ที่ชั่ว ก็จงเว้นเสีย จงรักพี่น้องและให้ความเคารพนับถือต่อผู้รับใช้ พระเจ้า” และให้ที่ประชุมยืนขึ้นต้อนรับสมาชิกใหม่ “ในโอกาสที่เราทั้งหลายได้เข้าร่วมในพิธีอันส�าคัญ คือ พิธีต้อนรับพี่น้องคริสเตียนเหล่านี้ให้เข้าร่วมสามัคคีธรรมใน คริสตจักรของเรา จึงขอเตือนท่านทั้งหลายว่า
และก่อให้ เกิดความท้อถอยแก่สมาชิกใหม่ของเราเป็นอันขาด ขอให้เขารู้ ว่า พระวิหารของพระเจ้าแห่งนี้เป็นที่บ�ารุงจิตใจให้เจริญขึ้นใน

ที่จะต้อนรับสมาชิกใหม่เหล่านี้เพื่อเป็นพี่น้องกันในพระคริสต์ จงแบกภาระของเขาด้วยความรักในพระคริสต์

ย้ายการเป็นสมาชิกคริสตจักรมายังคริสตจักรของเรา โดยมาก สมาชิกที่มาสมัครใหม่มักจะไม่เข้าใจว่าจะต้องขอย้ายอย่างไร

84 คู่มือศิษยาภิบาล
เราผู้เป็นสมาชิกเก่าควรพร้อม
จงแบ่งทุกข์ปัน สุขซึ่งกันและกัน พระวจนะของพระเจ้าสอนเราอย่างไร เรา ก็ควรจะปฏิบัติตามอย่างนั้นโดยพระคุณของพระเจ้าและการ ร่วมสามัคคีกัน เราจงให้ค�ามั่นสัญญาแก่คนเหล่านี้เหมือนกับ ที่เขาได้ให้ค�ามั่นสัญญาแก่เรา เพื่อจะก่อให้เกิดชีวิตที่บริสุทธิ์ อยู่เสมอ จงให้ความสนิทสนมของเราเป็นที่ชื่นชมยินดี” ต่อจากนั้นให้อธิษฐานขอพระพรสั้นๆ แล้วให้ศิษยาภิบาล และผู้ปกครองเข้าไปแสดงความยินดีต่อสมาชิกใหม่ ในการรับสมาชิกใหม่อาจร้องเพลง “ความรักพระเยซูเจ้า” ด้วยก็ได้ หมายเหตุ ศิษยาภิบาลควร ส�า รวจดูการ ท�า บันทึก ชีวประวัติและรายการต่างๆ ของสมาชิกใหม่ในทะเบียนของ คริสตจักรให้เป็นที่เรียบร้อย การรับโอนำสมาชิก ถ้าหากว่าผู้ที่มาสมัครสมาชิกเคยเป็นสมาชิกของ คริสตจักรอื่นอยู่แล้ว ก็เป็นการสมควรที่จะขอร้องให้ผู้นั้นโอน
อักษรดังนี้
พระคริสต์และเป็นสถานที่ลี้ภัย
ศิษยาภิบาลจึงควรชี้แจงให้ทราบและด�าเนินการเป็นลายลักษณ์

ใบโอนของ..........................มาให้ข้าพเจ้าด้วย

ข้าพเจ้าหวังว่าคงได้รับความร่วมมือจากท่านในการครั้งนี้

.....................................................

ศิษยาภิบาลคริสตจักร..........................

การรับสมาชิกคริสตจักร 85 ตัวอย่างจดหมายขอย้ายการเปนำสมาชิก วันที่................................... เรียนศิษยาภิบาลคริสตจักร.................. ด้วยนาย นาง หรือ นางสาว... (ถ้ามีหลายคนให้ใช้ค�าว่า “ด้วยผู้มีนามดังต่อไปนี้...”
แทน) ได้ขอร้องให้ข้าพเจ้าแจ้ง มายังท่าน เพื่อขอย้ายออกจากคริสตจักรของท่าน มาเข้าเป็น สมาชิกในคริสตจักรของข้าพเจ้า จึงเรียนมาเพื่อขอให้ท่านส่ง
ข้าพเจ้าขอขอบคุณล่วงหน้าในความเอื้อเฟื้อของท่าน ขอแสดงความนับถือ
86 คู่มือศิษยาภิบาล ตัวอย่างใบย้ายการเปนำสมาชิก วันที่................................... เรียนศิษยาภิบาลคริสตจักร.......................... หนังสือส�าคัญฉบับนี้แสดงว่า นาย นาง หรือนางสาว... (ถ้ามีหลายคนให้ใช้ค�าว่า “ผู้มีนามดังต่อไปนี้...” แทน) ผู้ซึ่ง เป็นสมาชิกในคริสตจักรของเราได้สิ้นสุดความเป็นสมาชิกของ คริสตจักรของเราตั้งแต่วันนี้ โดยการขอย้ายเข้าเป็นสมาชิกใน คริสตจักรของท่าน หวังว่าบุคคลผู้นี้ (เหล่านี้) จะเป็นสมาชิก ที่ดีในคริสตจักรของท่านต่อไป และเชื่อว่าท่านคงจะรักและ คุ้มครองดูแลเขาด้วยความรักของพระคริสต์ ขอแสดงความนับถือ ..................................................... ศิษยาภิบาลคริสตจักร..........................

ควรมีการวางแผนไว้ให้เรียบร้อยและให้เป็นพิธี

ซึ่งจะท�าให้ผู้น�าของคริสตจักรรู้สึกเป็นเกียรติที่จะ ได้ท�างานร่วมกับพระคริสต์ หากว่าศิษยาภิบาลจะเลือกเทศนา หัวข้อที่เกี่ยวกับหน้าที่และต�าแหน่งของคริสตจักร

คำ�านำ�า งานทุกอย่างที่ ท�า ในพระนามพระเยซูและท�า เพื่อถวาย
ส�า คัญทั้งสิ้น บางคน อาจมีความคิดเห็นว่า “งานของคริสตจักรนั้นเป็นภารกิจที่ ศิษยาภิบาลจะต้องรับผิดชอบ” แต่ประเด็น
พิธีแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คริสตจักร
พระเกียรติแด่พระองค์ย่อมเป็นงาน
ส�า คัญที่เด่นที่สุด ของงานคริสตจักรนั้นคือ เราทั้งหลายเป็น “ผู้ร่วม ท�า
การ
ด้วยกันกับพระเจ้า” ฉะนั้นการ ท�า พิธีแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ ทุกแผนก
ก็จะเป็นการ เหมาะสมมาก การท�าพิธีแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ของคริสตจักรอาจท�า
ศิษยาภิบาล ควรอธิบายระเบียบวาระให้ผู้รับการแต่งตั้งทราบอย่างละเอียด ว่าจะต้องท�าประการใดบ้าง เพื่อจะได้ ด�าเนินตามระเบียบวาระ
ที่น่านับถือ
ก่อนพิธีมหาสนิทก็ได้ หรือเมื่อมีเวลาที่เหมาะสม

หน้าที่ของข้าพเจ้าที่จะต้องเน้นให้ท่านทราบถึงความใหญ่หลวง

จ�า วันของท่านให้เป็นแบบอย่างอันดีแก่สมาชิกทั้งหลาย

88 คู่มือศิษยาภิบาล โดยไม่ผิดพลาด และควรจัดให้เจ้าหน้าที่ใหม่นั่งแถวหน้าของ ที่ประชุม ระเบียบวาระการตังเจ้าหนำ้าที่คำริสตจักร เพลง ขอแนะน�าให้เลือกร้องเพลงบทใดบทหนึ่ง เช่น “เร่ง ท�า งานเพราะจวน ค�่าคืน” “พระเยซูทรงเรียก” “อยู่เพื่อ พระเยซู” “ข้าขอถวายชีวิตบูชา” ข้อพระคำัมภีร์ที่แนะน�าให้อ่านในพิธีนี้คือ กิจการ 6:1-6; 1 ทิโมธี 3:1-7; 1 ทิโมธี 3:8-17; 1 ทิโมธี 5:1, 2, 17-22; ทิตัส 1:5-9 หรือ 1 เปโตร 5:2-4 ศิษยาภิบาลเชิญผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งยืนขึ้นต่อหน้าแล้ว กล่าวดังนี้ “เพื่อนที่รักและนับถือ ท่านได้รับเลือกให้เข้าประจ�า ในหน้าที่นี้โดยมติของสมาชิกในคริสตจักร ดังนั้น จึงเป็น
ความศักดิ์สิทธิ์ และความส�าคัญของงานนี้ว่า
เลือกให้รับหน้าที่นี้
จงเอาใจใส่ดูแลฝูงแกะของพระเจ้า
มอบหมายหน้าที่การงานให้ท่านเป็นผู้ดูแล จงหมั่นท�างานนี้ เพื่อเห็นแก่พระเยซูคริสต์ในทุกกรณี และการรับหน้าที่นี้ย่อม หมายความว่า ท่านได้ยอมอุทิศชีวิตเพื่อท�ากิจการที่พระเจ้า ทรงมอบหมายให้ด้วยความจงรักภักดีต่อพระองค์ ฉะนั้นจง
เหตุไรท่านจึงถูก
ท่านจะต้องระมัดระวังการประพฤติในชีวิต ประ
ซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรง
พิธีแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คริสตจักร 89 ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ของท่าน ซึ่งพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้นที่ท่าน จะต้องรายงานกิจการทุกสิ่งทุกอย่างต่อพระองค์ “บัดนี้ท่านที่รัก ท่านจะยอมรับหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์และ ส�า คัญ ซึ่งพระเจ้าทรงมอบหมายให้ท่าน ท�า ในนามขององค์ พระเยซูคริสต์ และสัญญาต่อพระเจ้าและต่อคริสตจักรนี้ว่า ท่านยินดีและเต็มใจที่จะรับหน้าที่นี้ด้วยสุดความสามารถของ ท่านหรือ” เจ้าหน้าที่ซึ่งจะรับการแต่งตั้งยอมรับด้วยปากว่า “ข้าพเจ้า สัญญาว่าจะท�าเช่นนั้น” ศิษยาภิบาล “ท่านจะประพฤติตนเป็นตัวอย่างอันดีแก่ สมาชิกของคริสตจักรนี้ และสัญญาว่าจะยึดมั่นในความเชื่อ ด้วยมโนธรรมที่สุจริตเช่นนั้นหรือ” เจ้าหน้าที่ “ข้าพเจ้าสัญญาอย่างนั้น” ศิษยาภิบาล (พูดกับสมาชิก) “ท่านสมาชิกทั้งหลาย ท่านจะยอมรับเจ้าหน้าที่เหล่านี้ และร่วมใจในค�าสัญญาของเขา ต่อพระเจ้าและต่อคริสตจักรนี้ ท่านสัญญาว่าจะให้เกียรติแก่ เจ้าหน้าที่เหล่านี้ จะหนุนใจเขา จะร่วมมือกับเขา และจะ อธิษฐานเผื่อเขา โดยเดินตามหลักพระธรรมของพระเจ้าและ กฎของคริสตจักรนี้หรือ... ขอให้ที่ประชุมยืนขึ้นเพื่อแสดงว่า ท่านจะยืนหยัดร่วมกับเจ้าหน้าที่เหล่านี้ เพื่อเห็นแก่พระราชกิจ ของพระเจ้าด้วยความรักและความเพียรจนถึงที่สุด” ที่ประชุมยืนขึ้น

การ ท�าพิธีนี้นิยมท�า ตอนนมัสการในเช้าวันอาทิตย์

ได้รับเลือกให้เข้ามาร่วมงานกับพระเจ้าในแผนกรวีวารศึกษา

90 คู่มือศิษยาภิบาล ศิษยาภิบาล “ให้เราร่วมใจกันอธิษฐานเผื่อผู้รับใช้ พระเจ้าเหล่านี้ ขอให้แต่ละคนอธิษฐานเพื่อผู้น�าของท่านเหล่านี้ จะได้ถวายตัวแด่พระเจ้า และจงถวายตัวของท่านเองต่อ พระองค์ใหม่อีกครั้งหนึ่ง ให้เราสนิทสนมกันเพื่อความเจริญ ของคริสตจักร และเพื่อรับพระพรของพระเยซูคริสต์ผู้เป็น ประมุขของคริสตจักร” ครั้นแล้วศิษยาภิบาลจะกล่าวน�าในการอธิษฐานถวายตัว แล้ว ด�า เนินตามระเบียบการนมัสการปกติโดยถวายเพลงสัก หนึ่งบทก่อน ระเบียบวาระการตังเจ้าหนำ้าที่รวีวารศึกษา
ต้นเดือนของปีการศึกษาใหม่ เพลง ขอแนะน�าเพลงใดเพลงหนึ่งต่อไปนี้ “โปรดบัญชา ใช้ข้าเถิด” “พระเยซูทรงเรียก” “ข้าขอถวายชีวิตบูชา” ศิษยาภิบาล “เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นประชาชน ก็ทรงสงสารเขา ด้วยเขาถูกรังควานและไร้ที่พึ่งดุจฝูงแกะไม่มี ผู้เลี้ยง แล้วพระองค์ตรัสกับพวกสาวกของพระองค์ว่า ข้าวที่ ต้องเกี่ยวนั้นมีมากนักหนา แต่คนงานยังน้อยอยู่ ในปีนี้ท่าน
ของเรา
เช่นนั้นขอเชิญท่านยืนขึ้น”
วันนี้ท่านเต็มใจอุทิศถวายตัวแด่พระองค์หรือ ถ้าเป็น

“ท่านยินดีและเต็มใจรับหน้าที่ซึ่งพระเจ้าทรงเรียกและ มอบหมายให้ท่านท�า โดยจะซื่อสัตย์ต่อหน้าที่

“ข้าพเจ้ามีความมั่นใจในการทรงเรียกของพระเจ้า และ

ตระหนักถึงความรับผิดชอบที่จะต้องท�าหน้าที่น�าดวงวิญญาณ

ข้าพเจ้าจะด�ารงชีวิตตามแบบอย่างอันดีงามของคริสเตียน

พิธีแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คริสตจักร 91 ผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับรวีวารศึกษาจะ ยืนขึ้นข้างหน้าที่ประชุม ศิษยาภิบาล “ท่านซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้น�าในกิจการแผนก รวีวารศึกษา คือผู้ที่ได้รับหน้าที่ใหญ่และส�าคัญเท่าเทียมกับ งานแขนงอื่นๆ ของคริสตจักร พระเยซูผู้เป็นอาจารย์ยิ่งใหญ่ ของเราตรัสว่า ‘ท่านทั้งหลายไม่ได้เลือกเรา แต่เราได้เลือก ท่านทั้งหลาย และได้แต่งตั้งท่านทั้งหลายไว้ให้ท่านไปเกิดผล และเพื่อให้ผลของท่านคงอยู่’
‘จงอุตส่าห์ส�าแดงตนว่าได้ทรง พิสูจน์แล้ว เป็นคนงานที่ไม่ต้องอาย ใช้พระวจนะแห่งความจริง อย่างถูกต้อง’
ต่อค�าสั่งสอน
และต่อกฎของคริสตจักรนี้หรือ”
ผู้รับหน้าที่
ทุกคนจะพูดพร้อมกันดังนี้
(ศิษยาภิบาลจะ กล่าวน�า และทุกคนว่าตาม)
ของนักเรียนทั้งหลายให้ถึงซึ่งความสุขอันนิรันดร์
ข้าพเจ้าขอน้อมรับ ขอพึ่งพาอาศัยพระเจ้าเพื่อจะท�าหน้าที่นี้ด้วยสุดความสามารถ
และ จะพยายามจนสุดก�าลังที่จะน�าคนให้รับเชื่อพระเจ้า โดยเฉพาะ
ข้าพเจ้าขอ สัญญาว่า จะถวายชีวิตเพื่อรับใช้พระองค์
92 คู่มือศิษยาภิบาล คนที่อยู่ในความรับผิดชอบของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอยอมอุทิศ ถวายตัวทั้งหมดแด่พระเจ้า จะจงรักภักดีต่อพระวจนะของ พระองค์ และด�าเนินตามกฎระเบียบของคริสตจักรนี้ ข้าพเจ้า ขอสัญญาดังนี้” ศิษยาภิบาล “เหตุฉะนั้นพี่น้องที่รักของข้าพเจ้า ท่านจง ตั้งมั่นอยู่ อย่าหวั่นไหว จงปฏิบัติงานขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้ บริบูรณ์ทุกเวลา ท่านทั้งหลายพึงรู้ว่า โดยองค์พระผู้เป็นเจ้า การของท่านจะไร้ประโยชน์ก็หามิได้” (1 โครินธ์ 15:58) “ของประทานของพระองค์ก็คือ ให้บางคนเป็นอัครทูต บางคนเป็นผู้เผยพระวจนะ บางคนเป็นผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐ บางคนเป็นศิษยาภิบาลและอาจารย์ เพื่อเตรียมธรรมิกชน ให้เป็นคนที่จะรับใช้ เพื่อเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์ ให้จ�าเริญขึ้น” (เอเฟซัส 4:11, 12) เพลง “แล้วแต่พระองค์เจ้า” หรือเพลงบทอื่นที่เหมาะสม ศิษยาภิบาล (กล่าวแก่ที่ประชุม) “ขอให้สมาชิกทุกคน ของคริสตจักรนี้ยอมรับความจริงแห่งพระวจนะของพระเจ้า โดยร่วมใจกันศึกษาตลอดปีนี้ ซึ่งพระคัมภีร์กล่าวว่า
ของพระองค์เป็นความชื่นบานแก่ข้าพระองค์’
บัดนี้ใกล้เวลาที่พระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับมาแล้ว
‘เมื่อ พบพระวจนะของพระองค์แล้ว ข้าพระองค์ก็กินเสีย พระวจนะ
จงสังเกตว่า
ทุ่งนาก�าลัง
พิธีแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คริสตจักร 93 เหลืองอร่ามด้วยธัญผล ท่านทั้งหลายจะไม่ร่วมใจกันเก็บเกี่ยว หรือ ‘พี่น้องทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้โดยเห็นแก่ความเมตตากรุณา ของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงวิงวอนท่านทั้งหลายให้ถวายตัวของ ท่านแด่พระองค์ เพื่อเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิตอันบริสุทธิ์และเป็น ที่พอพระทัยพระเจ้า ซึ่งเป็นการนมัสการโดยวิญญาณจิตของ ท่านทั้งหลาย’ ‘เราจะถวาย... แด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา โดยที่เราไม่เสียค่าอะไรเลยนั้นไม่ได้’ ” ศิษยาภิบาล “ขอให้เราร่วมใจอธิษฐาน ขอเชิญ ให้ที่ประชุมยืนขึ้น” แล้วอธิษฐานมอบบรรดาผู้ที่รับหน้าที่ รวีวารศึกษาไว้กับพระเจ้า เพลง “พระวิญญาณขอเติมให้เต็มในใจข้า”
“ขอให้พระเกียรติจงมีแด่
ตามฤทธิ์เดชที่ประกอบกิจอยู่ภายในตัวเรา ขอให้ พระเกียรติจงมีแด่พระองค์ในคริสตจักร และในพระเยซูคริสต์ ตลอดทุกชั่วอายุคนเป็นนิตย์ อาเมน” (เอเฟซัส 3:20, 21)
ขอพระพรปิดการประชุม
พระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ กระท�าสารพัดมากยิ่งกว่าที่เราจะทูลขอ หรือคิดได้
พิธีสถาปนาศิษยาภิบาล คำ�านำ�า ส่วนมากแล้วพิธี ส�า คัญนี้จะมอบให้ประธานสภาหรือ ประธานภาคเป็นผู้ ด�า เนินการโดยได้รับความร่วมมือจาก สมาชิกของคริสตจักร
ถ้าเป็นไปได้ควรเชิญศิษยาภิบาลใน คริสตจักรอื่นๆ มาร่วมในพิธีด้วย โดยจะต้องเตรียม ระเบียบวาระไว้ล่วงหน้าว่าจะให้ศิษยาภิบาลของคริสตจักรใด
และขอให้ประธานสภาติดต่อ กับบุคคลเหล่านั้นล่วงหน้า พิธีสถาปนาเข้ารับ ต�า แหน่งศิษยาภิบาลประ จ�า คริสตจักรควรจัด ท�า โดยเร็วหลังจากที่ศิษยาภิบาลคนนั้น ตอบรับแล้ว ก�าหนดเวลาท�าพิธีสถาปนาอาจจะใช้เวลาระหว่าง การประชุมนมัสการพระเจ้าในเช้าวันอาทิตย์ หรือเวลาบ่าย หรือวันหนึ่งวันใดในระหว่างสัปดาห์ที่ทุกคนสะดวกก็ได้
มีส่วนช่วยในพิธีนี้อย่างไรบ้าง

การท�าพิธีสถาปนำาศิษยาภิบาล อันดับต่อไปนี้เป็นระเบียบวาระที่ขอเสนอให้จัดท�าในพิธี สถาปนาศิษยาภิบาล

1.เพลง

2.อธิษฐานเปิดการประชุม

3.อ่านพระคริสตธรรมคัมภีร์

4.เพลงพิเศษ

5.ผู้ปกครองอาวุโสกล่าวต้อนรับแขกผู้รับเชิญ

6.เชิญแขกผู้มาในพิธีกล่าวแสดงความยินดี

96 คู่มือศิษยาภิบาล
(ควรมีถ้าสามารถจัดเตรียมได้)
แสดง ความหวังใจในศิษยาภิบาลที่จะร่วมใจกันกับคริสตจักรเพื่อ ผลอันไพบูลย์ในพระคริสต์
อธิษฐานเผื่อ และท�างานด้วยกันกับศิษยาภิบาลเสมอ
และสัญญาว่าสมาชิกจะเชื่อฟัง
7. พิธีกล่าว ก�า ชับศิษยาภิบาลใหม่โดยประธานสภา หรือศิษยาภิบาลอาวุโส 8.เพลงพิเศษ (ถ้ามี) 9. ประธานภาคหรือศิษยาภิบาลอาวุโส ก�า ชับหน้าที่ ของมวลสมาชิกที่พึงมีต่อศิษยาภิบาล 10. ศิษยาภิบาลหรือศาสนาจารย์ อธิษฐานเผื่อ ศิษยาภิบาลใหม่ (ศิษยาภิบาลใหม่คุกเข่าลง และศิษยาภิบาล ที่มาร่วมในพิธีจะวางมือบนศิษยาภิบาลใหม่ขณะอธิษฐาน) 11.ศิษยาภิบาลใหม่กล่าวตอบสั้นๆ
พิธีสถาปนาศิษยาภิบาล 97 12. เพลงปิดการประชุม 13. ศิษยาภิบาลใหม่ขอพระพรปิดการประชุม เมื่อเสร็จการประชุมแล้ว อาจจะจัดให้มีการเลี้ยงต้อนรับ ด้วยก็ได้

Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.