ช่วยลูกพัฒนาความเชื่อในพระเจ้า

Page 1

www.christianthai.net

่ ช่วยลูกพัฒนาความเชือในพระเจ ้า How to help your child develop faith in God ผูแ้ ต่ง ไคลด ์ เอ็ม. แนรามอร ์

Clyde M Narramore ผู ้แปล บุษบา พัฒนวิโรจน์

พิมพ ์โดย คริสเตียนศึกษาแบบติสต ์

1 สร ้างสัมพันธ ์ที่ดีกบ ั ลูก 2 จงบอกลูกเกี่ยวกับประสบการณ์ของคุณกับพระเจ ้า 3 คุยกับลูกตามลําพังถึงความสัมพันธ ์ของเขากับพระคริสต ์ ้ั วารศึกษาและคริสตจักรที่เชือในพระคั ่ 4. แน่ ใจว่าลูกเข ้าเรียนในชนรวี มภีร ์ 5. สอนพระคัมภีร ์แก่ลก ู ของคุณ 6. อธิบายและตีความเหตุการณ์ประจําวันตามความหมายของพระคัมภีร ์ 7. เป็ นแบบอย่างต่อลูกในเรื่องพระเจ ้า 8. เติมความคิดและจิตใจของลูก ด ้วยวรรณกรรมคริสเตียน 9. ใช ้ประโยชน์จากดนตรีเพื่อสร ้างอิทธิพลต่อลูก 10. ช่วยลูกพัฒนามิตรภาพคริสเตียน 11. อย่ามองข ้ามอิทธิพลของโรงเรียนคริสเตียน 12. ค่ายคริสเตียนสามารถช่วยลูกได ้ ่ บผู ้อืน ่ 13. แสดงให ้ลูกเห็นถึงวิธแี บ่งปันความเชือกั


www.christianthai.net

1 สร ้างสัมพันธ ์ที่ดีกบ ั ลูก ่ นวันที่สวยงามและทําให ้หัวใจเบิกบานอากาศแจ่มใสสด เช ้าวันอาทิตย ์ ซึงเป็ ่ ้ ชืน โลกทังโลกก็ ดูเหมือนจะเป็ นเช่นนั้น ด ้วยในวันนั้นแต่ในบ ้านของ ครอบครัวสมิธบรรยากาศกลับสวนทางกับวันที่แจ่มใส่ พ่อกําลังช ักชวนลูก ชายวัยรุน ่ ให ้เตรียมตัวไปเรียนรวี แต่ทอมไม่อยากไป “ทอม” พ่อยืนกราน “ทําไมลูกไม่อยากไป” “เพราะว่า…” “เพราะ...ว่าอะไร” “เพราะว่าผมไม่ต ้องการจะไป” ้ ดขึนซํ ้ าๆ ้ ภาพเช่นนี เกิ ในทุกอาทิตย ์ในหลายๆครอบครัว เด็กมักต่อต ้าน ่ ่ ในเรื่องที่เกี่ยวกับคริสตจักร พระคัมภีร ์ หรือชีวิตคริสเตียน นั่นเป็ นเรืองที เราคุ ้นเคยมาก นี่ เป็ นเรื่องน่ าเศร ้าเพราะว่าเรื่องที่พวกเขาต่อต ้านเป็ นสิ่ง ่ วี ิตที่ผาสุก เดียวเท่านั้น ที่จะช่วยวิญญาณของเขา และนํ าพวกเขาไปสูช ตลอดไป พ่อแม่สามารถร่วมมือกับลูก ในรูปแบบที่เขาสามารถรักพระเจ ้า และพัฒนาชีวิตของ ตนได ้เป็ นอย่างดี เมื่อไม่นานมานี ้ เด็กชายคนหนึ่ ง ได ้เขียนบทความ เกี่ยวกับพระเจ ้าใน ่ ่ลูก ความคิดของเขาลงในนิ ตยสาร ฉบับหนึ่ ง เมื่อคุณแม่ของเขาเห็นสิงที ชายเขียน เธออุทานว่า “โอ … นั่นคือคุณปู่ ของเขานี่ ” “คุณหมายความว่าอะไร” ครูถาม “เขารู ้จักคุณปู่ หรือ” “ใช่คะ่ ” แม่ตอบ “ คุณรู ้ไหม ดิฉันทํางานทุกวันจึงไม่ได ้พบลูกชายตลอด วัน และสามีของฉันก็ไม่ได ้พบเขาด ้วย และเขาใช ้เวลาด ้วยกันมากกับคุณ ่ ห ปู่ ซึงอยู ่ ่างออกไปหนึ่ งช่วงตึก เขารักปู่ ของเขามาก” จริงๆแล ้วเราไม่ควรประหลาดใจเพราะว่าเด็กๆ มักคิดถึงพระเจ ้าในแบบ เดียวกับที่เขาคิดถึงพ่อแม่หรือผู ้ใหญ่ที่ใกล ้ชิด เป็ นสิ่งสําคัญมากที่พ่อแม่จะ สร ้างความสัมพันธ ์ที่ดีกบ ั ลูกชายหรือลูกสาว เพราะว่าเด็กมักคิดถึงพระเจ ้า ในลักษณะที่เขาคิดถึงพ่อและแม่ ถ ้าเขามีพ่อแม่ที่แสดงความรัก เขาจะคิด


www.christianthai.net

ว่าพระเจ ้า เป็ นพระเจ ้าแห่งความรัก แต่ถ ้าการกระทําของพ่อแม่สร ้างความ กลัว เขาจะรู ้สึกในลักษณะเดียวกันต่อพระเจ ้า ภาพพจน์ของพ่อเป็ นสิ่ง สําคัญมาก เมื่อพ่อไม่ให ้เวลากับลูก พวกเขาจะรู ้สึกว่าพระเจ ้ายุง่ เกินไป ่ ระคริสต ์และช่วยเขาพัฒนาความ และไม่เอาใจใส่พวกเขา การนํ าลูกมาสูพ ่ เชือในพระเจ ้าเป็ นการกระทําที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่คุณสามารถกระทําได ้ เริ่มจากการสร ้างความสัมพันธ ์ที่ดีในบ ้าน นักปราชญ ์ผู ้หนึ่ งเคยกล่าวไว ้ว่า ี ี่จะเสียสละเพื่อได ้รับประโยชน์” “การฝึ กฝนลูกเป็ นอาชีพที่เราต ้องเรียนรู ้วิธท เป็ นการยากที่จะนํ าลูกมาถึงพระคริสต ์ถ ้าคุณไม่เต็มใจเล่นกับเขา การสอน ถึงพระเยซู จะมีความหมายน้อยมากต่อลูกถ ้าคุณไม่ใช ้เวลากับเขา ลูกชาย หรือลูกสาว มองดูพ่อแม่อย่างใกล ้ชิด และในไม่ช ้าเขาจะสังเกตเห็นความไม่ ่ กับพระเจ ้า แต่ปฏิบต สมํ่าเสมอเมื่อพ่อแม่กล่าวสิ่งหนึ่ งเกียว ั ิในทางตรงข ้าม ่ ่งที่พ่อแม่พูด กัน เด็กจะไม่เชือสิ การปฏิบต ั ิตอ ่ บุคคลอย่างเอาใจใส่เป็ นการจูงใจให ้เขาทําในสื่งที่คุณต ้องการ ่ อบทุกๆ สิ่งที่คุณพูด เมื่อคุณปฏิบต ั ิตอ ่ ลูกด ้วยความเอาใจใส่ เขาจะเชือเกื คนที่มองย ้อนกลับ ไปในวัยเด็ก และจําได ้ถึงประสบการณ์ ที่ยอดเยี่ยม ทัศนคติที่เอาใจใส่และละเอียดรอบคอบของคุณจะช่วยสร ้างบรรยากาศที่จะ ทําให ้ ชีวิตในวัยเด็กมีความสุข และเป็ นการจัดเตรียม ความทรงจําที่ดี ตลอดชีวิตของลูก ่ พ่อ แม่มก ั จะพลาดในการใส่ใจเหตุผลที่แท ้จริงซึงพระคั มภีร ์ไม่เคยละเลยสิง่ นี ้ ถ ้าพ่อแม่ตระหนักถึงสาเหตุที่ทําให ้ความสัมพันธ ์ในบ ้านไม่ดี พวกเขาจะ กระทําทุกสิ่งเพื่อแก่ปัญหาเหล่านี ้ ถ ้าพวกเขาสําแดงความรักและความเอา ่ ้ ้วย ใจใส่มากขึน้ ลูกๆ ก็จะมีความเชือในพระเจ ้ามากขึนด อีกวีธห ี นึ่ งที่จะ พัฒนาความสัมพันธ ์ที่ดีกบ ั ลูก ก็คือการหนุ นใจให ้เขาพูด เมื่อลูกรู ้สึกอิสระที่จะพูดกับคุณทุกเรื่อง เขาก็จะรู ้สึกอิสระที่จะพูดกับคุณถึง เรื่องของพระเจ ้าด ้วย เด็กมีคาํ ถามมากมาย เกี่ยวกับพระเจ ้า จักรวาล ความสัมพันธ ์กับพระคริสต ์


www.christianthai.net

้ คืนหนึ่ งเด็กเล็กมองขึนไปบนท ้องฟ้ า และเห็นพระจันทร ์ เขาพูดว่า “พ่อ ใครสร ้างพระจันทร ์” พ่อตอบอย่างชาญฉลาดว่า “พระเจ ้าก็สร ้างพระจันทร ์น่ ะสิ” ้ ่เขามองดูใบหน้าของพ่ออย่างไว ้วางใจและพูดว่า “พระองค ์ หนู นอ้ ยยิมขณะที ช่างดีจริงๆ นะครับพ่อ” เด็กๆ อยู่ในโลกแห่งความจริง พวกเขาเห็นสิ่งต่างๆ รอบตัวและต ้องการรู ้ว่า มันมาจากไหน และทําไมจึงมีอยู่ แท ้จริงคนมักพูดกันว่า เด็กสามารถถาม คําถามที่นักปราชญ ์ไม่สามารถตอบได ้ เป็ นสิ่งที่สําคัญที่คุณต ้องตอบเด็ก อย่างดีที่สุดเท่าที่สามารถทําได ้ เรารู ้ว่าหนทางแรก ที่คนแสดงออกคือ ้ ธท คําพูด เมื่อคุณไม่ใช ้เวลาฟังลูก คุณจะละทิงวิ ี ี่ดีที่สุดที่ลูกจะสําแดงตัว ต่อผูอ้ น ื่ โดย ปกติแล ้วคุณควรจะใช ้เวลากับลูก เด็กตีความสิ่งนี ว่้ าเป็ น ความรัก ผมจําได ้เมื่อผมกําลังทํางานกับเด็กเล็กคนหนึ่ ง เขามองดูผมและ พูดว่า “คุณรู ้อะไรบางอย่างไหมครับ” “อะไรล่ะ” “พ่อของผมรักผมครับ” “แล ้วหนู รู ้ได ้อย่างไรล่ะ” แล ้วเด็กชายก็มองดูผมแล ้วพูดว่า “เพราะว่าเขาชอบเล่นกับผมครับ” เด็กส่วนมากเหมือนวัยรุน ่ คือ รู ้สึกว่าถ ้าพ่อแม่ใช ้เวลา และทําสิ่งที่เขาชอบ ้ คเก็ตของ ร่วมกับเขาแสดงว่าพ่อแม่รก ั เขาจริงๆจอนนี่ ยืนกลัดกระดุมเสือแจ๊ ้ ุ ฮัลโยน บ๊อบลูกชายวัยห ้าขวบขึนไปบนบ่ า เขาอย่างประหม่า เมื่อมองดูคณ ชูขนสู ึ ้ ง หัวเราะคิกคักแล ้วโยนลงตํ่าพร ้อมกับกอดและหอมแก ้มลูกชายตัว น้อย “ไปก่อนนะลูกแล ้วพบกันหลังเลิกงานนะ เราจะมาเล่นสนุ กกันอีกดูแล แม่ดีนะ ตอนพ่อไม่อยู่” ขณะที่บ๊อบกอดรอบคอคุณพ่อและหอมกลับคืน จอนนี่ คิดถึงตัวเอง พ่อของ ้ ้างจริงๆ เขาไม่เคยเล่นกับเขาอย่างนี ้ เขาอยากได ้รับการปฏิบต ั ิอย่างนี บ


www.christianthai.net

้ ่หลังเลิกงานแล ้ว พ่อของบ๊อบให ้เวลาเล่นกับลูกชาย เขาเป็ นคริส บ่อยครังที ้ เตียนที่ทุม ่ เทและต ้องการให ้บ๊อบโตขึนโดยมี ความทรงจําของชีวิต ครอบครัว ที่มีความสุข เด็กๆ สามารถแสดงตัวว่าพระบิดาบนสวรรค ์เป็ นพระเจ ้าแห่ง ้ อแม่ที่เขายกย่อง การ ความรักได ้อย่างง่ายดาย ถ ้าเขาได ้เรียนรู ้สิ่งนี จากพ่ สอนให ้เด็กรักพระเจ ้า เป็ นเรื่องของอารมณ์ด ้วยเหมือนกัน ถ ้าจะทําให ้ สําเร็จ พ่อแม่ต ้องรับผิดชอบในการตระเตรียมภาวะทางอารมณ์ที่อบอุน ่ แก่ เด็กๆ มีคนกล่าวว่า “คุณสามารถทําให ้เด็กเป็ นอะไรก็ได ้อย่างที่ต ้องการถ ้า คุณเล่นกับเขา” คุณโจนส ์พบว่าเป็ นสิ่งยากที่จะสําแดงความรักต่อลูกของตน พ่อแม่ไม่เคย แสดงความรักต่อเขา แม้แต่การแสดงความรักกับผู ้ใหญ่ก็เป็ นเรื่องยาก พ่อ ู ิหลังทําให ้ไม่สามารถ แม่มากมายมีสภาพเช่นนี ้ พวกเขาชอบเด็ก แต่ภม แสดงหรือบอกความรู ้สึกจริงๆ ของตนได ้ ผลกคือเป็ นเรื่องยากสําหรับเขาที่ จะแสดงความรัก ถ ้าพ่อแม่รู ้ว่าตนเองเป็ นเช่นนั้น เขาสามารถจะพูดอย่าง ่ หมดเปลือกกับคูส ่ มรสของตนได ้ การพูดสามารถช่วยคนให ้เปลียน และพ่อ แม่สามารถทําได ้มากกว่านั้นอีก เขาสามารถมองความรู ้สึกให ้กับพระเจ ้า และในเวลาที่เขาเฝ้ าเดี่ยวกับพระเจ ้าทุกๆ วัน ความสามารถใหม่ในการ แสดงความรักจะปรากฏมาเอง พ่อแม่บางคนใช ้พระคําของพระเจ ้าเป็ นอาวุธ ยกตัวอย่าง พ่อแม่จะบอกลูก ว่า “ถ ้าลูกไม่ทาํ ตัวให ้ดีพระเจ ้าจะไม่รก ั ลูก” หรือถ ้าลูกทําตัวเหลวไหล พ่อแม่ จะอ ้างข ้อพระคัมภีร ์เข ้าข ้างตัวเอง แม้แต่เมื่อพ่อแม่ทาํ ผิด พวกเขายังคงใช ้ พระคัมภีร ์ เพื่อแสดงว่าเขาถูกต ้อง พวกวัยรุน ่ รู ้ทันในสิ่งเหล่านี ้ และไม่ชอบ ่ ายพระวิญญาณ เพราะว่าการสอนพระ แน่ ละเขาจะปฏิเสธทุกๆ สิงทางฝ่ คัมภีร ์ดูเหมือนไม่ไปด ้วยกันกับชีวิตที่มีความสุข ในแต่ละปี เราทํางานกับคนมากมาย ที่ศูนย ์ให ้คําปรึกษา 3 แห่ง ของ ่ ้า เนื่ องจากในวัย มูลนิ ธเิ นรามอร ์ เราพบว่ามีผู ้ใหญ่ที่ปฏิเสธที่จะเชือพระเจ เด็กเขามีสม ั พันธ ์ที่ไม่ดีกบ ั พ่อแม่ กระนั้นพ่อแม่พวกนั้นยังคงเทศนาให ้ลูก ฟังเกี่ยวกับพระเยซูคริสต ์และพระคัมภีร ์ ผูใ้ ห ้คําปรึกษาของเราได ้ยินเรื่องนี ้ ซํา้ ๆ ซาก ๆ เป็ นเรื่องน่ าเศร ้าที่ผู ้ใหญ่ปฏิเสธพระเจ ้าและสิ่งที่เป็ นพระองค ์


www.christianthai.net

้ เพราะว่าเขาพิสจ ู น์สิ่งเหล่านี จากพ่ อแม่ไม่ได ้ เป็ นเรื่องที่สําคัญมากที่พ่อแม่ สร ้างความสัมพันธ ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะทําได ้ กับลูก ๆ โดยตระหนักว่านี่ เป็ น หนทางที่ดีที่สุดทางหนึ่ งที่จะนํ าลูกในการต ้อนรับพระ คริสต ์. ่ 2 จงบอกลู กเกียวกั บประสบการณ์ของคุณกับพระเจ้า เด็ก ๆ ชอบฟังประสบการณ์ วัยเด็กของพ่อแม่ สําหรับ เด็กโตหลายคน ้ เหตุการณ์เหล่านี กลายเป็ นเรื่องโปรดก่อนนอน “พ่อทําไรครับเมื่อเป็ นเด็ก” ้ าถามการเล่าเรื่องเมื่อสมัยคุณเป็ นเด็กช่วยให ้ลูกๆใกล ้ชิดพ่อ พวกเขาตังคํ ้ ้ ่ งคุณก็เคยเป็ นเด็ก แม่มากขึนและยั งช่วยให ้พวกเขาตระหนักด ้วยว่าครังหนึ มาก่อนแล ้ว เมื่อเขามีประสบการณ์ ของตนเอง เขาจะนํ าประสบการณ์ ของเขา มาเปรียบเทียบกับ ประสบการณ์ของพ่อแม่ และนั่นทําให ้ชีวิตมี ความหมายมากยิ่งขึน้ ่ กจะ เมื่อผมมองย ้อนกลับไป สูว่ ยั เด็กผมคิดถึงสิ่งดีดีมากมาย สิ่งหนึ่ งซึงมั ประทับใจผมเสมอ คือการที่คุณแม่ของผมได ้เล่าประสบการณ์ที่ท่านมีกบ ั พระเจ ้า เมื่อเป็ นเด็กผม มีความรู ้สึกที่ดีและมั่นคง เพราะรู ้ว่าแม่ของผมรู ้จัก พระคริสต ์องค ์พระผู ้ช่วยให ้รอด ้ ่อลูกๆตระหนักว่าพ่อแม่ของเขา ชีวิตคริสเตียนจะดูเป็ นเรื่องปกติมากขึนเมื ได ้รับความรอดแล ้ว และไว ้วางใจพระเจ ้าด ้วย ประสบการณ์ที่คุณได ้แบ่งปัน กับลูก ควรรวมถึงเหตุการณ์ที่พระเจ ้าตอบคําอธิษฐาน ลูกสนใจที่จะเรียนรู ้ ว่าคุณอธิษฐานขออย่างไรพระเจ ้าตอบอย่างไรปัญหาได ้รับการแก ้ไขอย่างไร เมื่อลูกของเรายังเล็กรูธ(ภรรยาของผม)ได ้แบ่งปันประสบการณ์ที่เธอได ้รับ ่ าให ้ลูก ๆ ทึ่งมากตอนนั้น เธออายุประมาณ6ขวบ อาศัยอยู่ ในวัยเด็กซึงทํ ในเมืองนิ วยอร ์คหลังจากเดินทางกลับจากประเทศจีน พร ้อมกับพ่อแม่ของ ่ นมิชชนนารี ่ั เธอซึงเป็ ปี นั้นต ้นคริสตมาสค่อนข ้างหาได ้ยาก และแม้ เมื่อ วันที่ 24 ธันวาคมมาถึงพวกเขาก็ยงั ไม่มีต ้นคริสตมาสและไม่สามารถหาได ้ เป็ นเรื่องน่ าเศร ้า สําหรับเด็กวัย 6 ขวบ และรูธก็เศร ้าใจมาก ในตอนเช ้า ก่อนวันคริสตมาสเมื่อครอบครัวพร ้อมที่จะรับประทานอาหาร พ่อของรูธ ขอให ้เธออธิษฐาน ขอบคุณพระเจ ้า ในคําอธิษฐาน หลังจากขอบพระคุณ


www.christianthai.net

พระเจ ้าสําหรับอาหาร เธอขอให ้พระองค ์ มอบต ้นคริสตมาส ให ้เธอสักต ้น ก่อนหน้าที่เธอจะกล่าว“อาเมน” กระดิ่งหน้าบ ้านดังขึน้ และที่นั่นมีชายคน หนึ่ งถือต ้นคริสตมาสมายืนอยู่ “เราไม่มีเด็กในบ ้านของเรา ”เขากล่าว“ เรามีต ้นคริสตมาสต ้นหนึ่ งอยู่แล ้ว และ มีคนให ้เรามาอีกต ้น เราคิดว่าคุณอยากจะได ้ไว ้” ขณะที่ภรรยาของ ้ บลูกๆ พวกเด็กๆได ้รับพระพรเมื่อตระหนักว่า ผมกล่าวถึงประสบการณ์นีกั พระเจ ้าตอบคําอธิษฐานอย่างไร คุณก็สามารถเป็ นแรงบันดาลใจ ต่อลูกได ้เช่นกันเมื่อคุณแบ่งปัน เรื่องการ ทํางานของพระเจ ้า ในชีวิตของคุณกับพวกเขา พวกเขาจะมั่นใจในการ จัดเตรียมของพระเจ ้า และมองเห็นชีวิตคริสเตียนว่า เป็ นประสบการณ์ที่ อัศจรรย ์และท ้าทาย เมื่อลูกสาวและลูกชายของเราเป็ นเด็ก พวกเขามักร่วมชุมนุ มนมัสการในที่ ที่ผมเทศนา หลังจากนั้นเขาจะพูดว่า “พ่อครับผมชอบเรื่องที่พ่อเล่า”พูด อีกอย่างหนึ่ งก็คือพวกเขาเพลิดเพลิน กับตัวอย่างที่ผมเล่าในคําเทศนาสิ่งที่ เด่นช ัดที่สุดคือประสบการณ์ของผม กับพระเยซูคริสต ์ และเด็กทุกคนก็ เหมือนกันคือ เขาชอบฟัง ประสบการณ์ของพ่อแม่ และเมื่อเขาได ้ฟัง ้ ประสบการณ์เหล่านี ้ ชีวิตคริสเตียนก็จะกลายเป็ นจริงมากขึนในชี วิตเขา ประสบการณ์เหล่านี ้ ไม่จาํ เป็ นต ้องเป็ นไปในทางบวกเสมอไป ขณะที่เด็กโต ้ ขึนพวกเขามี คาํ ถาม และมีความสงสัยอย่างมากมาย ความสงสัยเช่นนี ้ ้ ณก็ ค่อนข ้างจะปกติ เด็กๆจําเป็ นต ้องได ้รับคําตอบ ถ ้าเขารู ้ว่าบางครังคุ มีคาํ ถามและความสงสัยและพระเจ ้าตอบในชีวิตของคุณลูกของคุณจะได ้รับ กําลังและการหนุ นใจ ้ นของเจ ้ ่ “บุตรทังสิ ้านั้นพระเจ ้าจะทรงสังสอนและบุ ตรของเจ ้าจะมีความสุข สมบูรณ์อย่างยิ่ง” (อสย. 54:13)


www.christianthai.net

3 คุยกับลู กตามลําพังถึงความสัมพันธ ์ของเขากับพระคริสต ์ ตลอดเวลาหลายปี ผมได ้คุยกับผูใ้ หญ่หลายคนถึงความสัมพันธ ์ของเขากับ ่ พระคริสต ์ พวกเขามักจะบอกผมว่า แม้วา่ เขาเคยยกมือว่าเชือพระเยซู ไปนมัสการ รับพิธบ ี พ ั ติสมา แต่จริงๆ แล ้วพวกเขายังไม่ได ้ความรอด ่ จนกระทังในเวลาต่ อมา ดังนั้นคุณจําเป็ นต ้องแน่ ใจว่า ลูกของคุณรู ้จักพระ ้ ้อยูก คริสต ์เป็ นการส่วนตัว คุณไม่ควรจะปล่อย เรื่องราวสําคัญเช่นนี ให ่ บ ั ้ั ฯ หรือเพื่อนคริสเตียน คุณผู ้เป็ นพ่อแม่มีสิทธิ คริสตจักรของคุณ ชนรวี พิเศษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก นั่นคือนํ าลูกของคุณเองมารู ้จักพระคริสต ์ พ่อแม่บางคนปล่อยปละละเลยลูก โดยหวังว่าเขาอาจจะ มารู ้จักพระเจ ้าใน ฐานะพระผูช ้ ว่ ยให ้รอด โดยที่เขาอาจได ้ยินข่าวประเสริฐ ในคริสตจักร ชน้ั รวีฯ หรือเพราะว่าลูกอยูใ่ นครอบครัวคริสเตียน แต่ความรอดไม่ได ้เกิด ้ ้ ่ วัยรุน ขึนมาเอง หลายครังที ่ พวกนี ้ เติบโตขึน้ และผู ้คนมัก สรุปว่าเขา เป็ นคริสเตียน แต่เมื่อพวกเขาเผชิญกับแรงกดดันของสังคมภายนอกเขา ้ ดขึน้ เพราะว่าเด็ก ก็ล ้มลง ทุกๆคนตกใจ แต่จริงๆโศกนาฏกรรมเช่นนี เกิ ้ เคยกลับใจบังเกิดใหม่เป็ นสิงสํ ่ าคัญมากที่คุณจะใช ้เวลาตามลําพัง เหล่านี ไม่ ่ กับลูก เมื่อคุณทบทวนเรืองความหมายของความรอด และถามคําถามกับ ลูกว่า“ลูกเคยต ้อนรับพระเยซู เป็ นพระผู ้ช่วยให ้รอดหรือไม่” “ลูกจะทําสิ่งนี ้ ้ ในเวลานี ไหม” แม้วา่ หลังจากที่คุณคิดว่า ลูกได ้รับพระคริสต ์แล ้ว อาจมี บางเวลา ที่ลูกไม่แน่ ใจ เกี่ยวกับความรอด เขาอาจได ้รับ ความรอด แต่ ้ กครังจนกระทั ้ ่ กของ งลู เขาอาจจะไม่ได ้รับ ลองกล่าวทบทวนในสิ่งเหล่านี อี คุณรู ้เรื่องความรอดขอพระคริสต ์ ้ ่ศิษยาภิ ผมจําผูห้ ญิงคนหนึ่ งที่เล่าเรื่องลูกชายตัวน้อยของเธอได ้ ทุกๆครังที ่ บาลเรียกรับเชือในคริ สตจักร เด็กน้อยจะยกมือและแสดงว่าต ้องการความ รอดพี่สาวไม่คอ ่ ยพอใจและกล่าวว่า “แม่คะ ทําไม ไม่บอกให ้จิมมี่หยุดสักที ้ ่ศิษยาภิบาลถามว่าใครต ้องการได ้รับความรอด เขาจะยกมือเขา ทุกๆครังที ต ้องการรับความรอดทุกอาทิตย ์”“ไม่เป็ นไร” แม่ตอบ “ปล่อยให ้เขายกมือ เถอะเมื่อเขาแน่ ใจว่าเขารอดแล ้ว ก็จะหยุดไปเอง เขาจะรู ้เมื่อเขามีพระเจ ้า


www.christianthai.net

ในหัวใจแล ้ว” หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หยุดยกมือเขารู ้แล ้วว่าเขารอด เรื่อง ก็ยต ุ ิ ลง ้ ผมคิดถึงลูกๆของเรา เราได ้พูดกับ เมโลดีลู้ กสาวของเราหลายครังและถาม เธอถึงการต ้อนรับพระคริสต ์เข ้ามาในชีวิต เธอบอกว่า เธอได ้ต ้อนรับพระ คริสต ์ในงานประกาศแล ้ว เรานั่งถัดไปจากเธอ เห็นได ้ช ัดว่าเธอเคลื่อนไหว ้ ญและยกมือขึน้ แม้จะไม่ได ้ก ้าวออกมาก็ตาม ในฐานะ ตอบสนองคําเชือเชิ พ่อแม่ ผมไม่รู ้ว่านั่นเป็ นเวลา ของความรอดของเธอจริงๆหรือไม่ แต่เธอ บอกว่าใช่ ดังนั้น ผมแน่ ใจว่ามันคงใช่ ส่วนเดวิสลูกชายของเราแตกต่าง ออกไป แม้กาํ ลังคุยกับเขาเมื่อเขากําลังจะเข ้านอนคืนหนึ่ ง เรามักจะคุยถึง ้ สิ่งที่เกี่ยวกับพระเจ ้า เมื่อเราอธิษฐานกับเขา และในคืนนี เธอถามถึ งการ ตัดสินใจของเขาเขากําลังรู ้สึกผิดกับบางสิ่งบางอย่างที่ได ้กระทําไป ขณะที่ พวกเขากําลังสนทนากัน เธอบอกเขาว่าพระเจ ้าสามารถยกโทษบาปได ้ ้ ้ จ ่ ้ และเขาก็ขอให ้พระเจ ้าเข ้ามาในใจ ทังหมด ดังนั้นทังคู ่ ึงอธิษฐานในเรืองนี ่ มันง่ายมากแต่นี่เป็ นความจริง ถ ้าคุณไม่เคยนํ าใครมาเชือพระคริ สต ์ คุณ ้ ่อคุณกระทําเช่นนี ้ ผม ่ อาจจะไม่รู ้ถึงความชืนชมยิ นดีที่เกิดขึนมากมายเมื ้ ขอแนะนํ าว่าคุณจะต ้องทําหลายขัน ้ั 1.ชีให ้ ้เขาเห็นความจริงว่าเราจําเป็ นต ้องบังเกิดใหม่ เพราะว่า เราเป็ น ขนที คนบาปคุณสามารถเปิ ดพระธรรมโรม3:23ให ้เขาดู“เพราะว่าทุกคนทําบาป และเสื่อมจาก พระสิ ริของพระเจ ้า” ้ั ่2. ชีว่้ า“ค่าจ ้างของความบาปคือความตาย” ขนที แก่เขาคุณอาจจะอยากใช ้ โรม 5:12 ด ้วย

อธิบายโรม

6:23

้ั ่3.ขอให ้อธิบายความจริงว่า พระเจ ้าส่งพระบุตร ของพระองค ์ คือพระ ขนที เยซูคริสต ์ลงมาตายแทนเราให ้พูดคุยข ้อพระคัมภีร ์ในยอห ์น3:16“เพราะว่า พระเจ ้าทรงรักโลก จนได ้ทรงประทาน พระบุตรองค ์เดียว ของพระองค ์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศแต่มีชวี ิตนิ รน ั ดร ์”คุณอาจจะ ต ้องการใช ้ข ้อพระคัมภีร ์ ในตอนอื่น เช่น มธ. 1:21 และ รม. 5:8


www.christianthai.net

้ั ่ 4 คุณอาจจะต ้องอธิบายว่าไม่มีทางอืนใดที ่ ่จะรอด ขนที อ่านกิจการ ่ ่ งให ่ ้แก่เราทังหลายรอด ้ 4:12 “ในผู ้อืนความรอดไม่ มีเลย ด ้วยว่านามอืนซึ ่ ้ฟ้ า” ใช ้ ยอห ์น 14:6 ด ้วย ได ้ไม่ ทรงโปรดให ้มีทา่ มกลาง ในมนุ ษย ์ทัวใต ้ั ่ 5 อธิบายกับเขา ถึงวิธก ขนที ี าร ที่เขาจะขอให ้พระเจ ้า ทําให ้เขารอด แบ่งปันพระรรมโรม 10:13 กับเขา “เพราะว่าผู ้ที่ร ้องออกพระนามขององค ์ พระผู ้เป็ นเจ ้าจะรอด” คุณอาจใช ้วิวรณ์ 3:20 ด ้วย “นี่ แน่ ะ เรายืนเคาะ อยูท ่ ี่ประตู ถ ้าผู ้ใดได ้ยินเสียงของเราและเปิ ดประตู เราจะเข ้าไปหาผูน้ ้ัน และจะรับประทานอาการร่วมกับเขา” ้ กไม่อยากให ้ พระเยซุเข ้ามาในใจ แล ้วคุณจะสามารถถามลูกว่า “ตอนนี ลู ้ ค หรอกหรือ” ในเวลานี ้ คุณทังคู ่ วรจะ อธิษฐานง่ายๆขอใหเพระเจ ้าเข ้ามาสู่ จิตใจของเขาหลังจากวันนั้นจงช่วยให ้ลูกเรียนรู ้ข ้อพระคัมภีร ์ดีๆ หลายๆข ้อ อาจจะรวมถึงข ้อที่คุณใช ้ในการนํ าเขามารู ้จักพระคริสต ์หรือยอห ์น 10:28 “เราให ้ชีวิตนิ รน ั ดร ์แก่แกะนั้น แกะนั้นจะไม่พินาศเลยและจะไม่มีผู ้ใดแย่งชิง แกะเหล่านั้นไปจากมือของเราได ้” บางคนถามว่า “เป็ นไปไม่ได ้หรอก หรือ ที่เด็ก ๆ จะเติบโต และ ซึมซาบในสิง่ นี ้ เขาจะสามารถต ้อนรับพระคริสต ์ เข ้ามาในชีวิตโดยไม่รู ้จริงว่า ต ้อนรับ เมื่อไรได ้หรือไม่” ย่อมเป็ นไปได ้ ผมรู ้จักคนที่พูดว่า “ผมจําไม่ได ้แน่ วา่ ผมต ้อนรับพระเยซูคริสต ์เป็ นพระผูช ้ ว่ ยให ้รอดเมื่อไร แต่ผมรู ้ว่า ผมรอด แล ้ว ”อย่างไรก็ตาม นี่ ทําให ้เกิดปัญหาได ้ เมื่อไม่รู ้อย่างแน่ นอนว่าต ้อนรับ ่ อ พระเยซูเมื่อไรเด็กๆอาจจะดําเนิ นชีวิตต่อไปโดยไม่แน่ ใจว่าตัวเองรับเชือหรื ยัง ดังนั้นจงช่วยเขา ให ้แน่ ใจ ลูกของคุณอาจจะ จําวันแน่ นอนไม่ได ้ แต่เขาจะต ้อง แน่ ใจ ในความสัมพันธ ์ที่เขามีกบ ั พระคริสต ์ ่ ้ั วารศึกษาและคริสตจักรที่เชือใน 4.แน่ ใจว่าลู กเข้าเรียนในชนรวี พระคม ั ภีร ์ ในแต่ละวันผมได ้รับจดหมายจํานวนมากมายจากผู ้ฟังรายการวิทยุของเรา ้ าวว่าไม่มีแม้แต่คริสตจักรเดียวในชุมชนของเขาที่ หลายคนในจํานวนนี กล่


www.christianthai.net

้ บ ตังอยู ่ นหลักคําสอนของพระคัมภีร ์ คริสตจักรที่ครอบครัวของคุณเข ้าเป็ น สมาชิกนั้นเป็ นสิ่งสําคัญ เพราะว่าลูกๆ ของคุณกําลังพัฒนาการศึกษาและ ่ นไปตลอดชีวิต ท่าทีฝ่ายวิญญาณที่จะยังยื สําหรับเด็กๆ คริสตจักรเป็ นสัญญลักษณ์ และมาตรฐานของคริสตศาสนา คริสตจักรที่เขา เข ้าร่วมสร ้างแนวคิดของ คริสตศาสนา ให ้กับเขาถ ้า มาตรฐานนั้น ไม่ได ้วางบนรากฐานของ พระคําของพระเจ ้า เขาจะมี ้ จุดเริ่มต ้น ที่ไม่ดีตอ ่ ชีวิตทังหมด แน่ ละ่ ไม่มีคริสตจักรใดดียอดเยี่ยม แต่ ่ บางคริสตจักรก็ดีมากกว่าคริสตจักรอืน เพราะเขาเน้นเรื่องความรอดและ การเติบโตของคริสเตียนตามพระคําของพระเจ ้า ไม่เป็ นการดีเลยที่เด็กๆ จําตําหนิ ติเตียนศิษยาภิบาล กระนั้นก็ยงั มีหลาย ครอบครัวที่ดูเหมือนจะใช ้วันอาทิตย ์ตอนกลางวันสนทนาเรื่องคุณลักษณะ ่ ่น ที่ไม่ดีของศิษยาภิบาลของเขา ในเวลานั้น เด็กๆ จะสูญเสียความเชือมั ในคริสตจักรและศิษยาภิบาล จะไม่ดีกว่านั้นหรือถ ้าคุณจะพาพวกเขาไป เป็ นสมาชิกในคริสตจักร ที่จะช่วยให ้เขาเกิดความมั่นใจ ในรายการของ ้ กๆ จะเรียนรู ้ที่จะรักและเคารพ ี ี เด็ คริสตจักร และ ในตัวศิษยาภิบาลด ้วยวิธน คริสตจักรของตน ้ เนื่ องจากลูกวัยรุน ่ ทังสอง ไม่มีความสนใจในคริสตจักร นายและนางฮาร ์วีย ์ จึงได ้ย ้ายจาก คริสตจักรที่เขาเป็ นสมาชิกอยู่ แม้คริสตจักรเดิม จะเป็ นพวก ่ ที่นั่น ไม่เข ้มแข็งและกระตือรือร ้นพอ ที่เน้นพระคัมภีร ์ แต่กิจกรรมของวัยรุน ที่จะทําให ้เด็กๆสนใจ เพราฉะนั้น พวกเขาพิจารณา ถึงความจําเป็ นของ ลูกมากกว่า ความสนุ กสนานและความสะดวกสบายของตนเอง และย ้าย ในไม่ช ้าพวกเขาก็ ไปยังคริสตจักรที่ลูกจะมีสามัคคีธรรมและกิจกรรมได ้ ้ าให ้เกิด เรียนรู ้ว่า นี่ เป็ นสิ่งที่ดีที่สุดสําหรับครอบครัว การเปลี่ยนแปลงนี ทํ ความสนใจใหม่ในกิจกรรมของคริสตจักรและการอุทิศตนต่อพระคริสต ์มาก ้ ยิ่งขึนในชี วิตของลูกๆ เมื่อครอบครัวไม่มีความสุข ในคริสตจักรพวกเขา จะสูญเสียความเคารพ คริสตจักร เด็ก ๆ จะซึมซ ับได ้มากกว่าที่เราคิดพวกเขาได ้ยินทุกๆสิ่งที่พวก


www.christianthai.net

่ ่ เราพูดเกียวกั บผู ้อืนพวกเขาอาจจะไม่ สนทนา ถึงสิ่งไม่ดีที่เราพูด เกี่ยวกับ คริสตจักรหรือเข ้าร่วมในการวิพากษ ์วิจารณ์ แต่พวกเขากําลังเรียนรู ้ และ สร ้างความคิดเห็นเพื่อจะวางรูปแบบท่าทีของตนต่อพระนิ เวศของพระเจ ้า ้ั วารศึกษาบางแห่ง ใช ้บทเรียนที่ไม่ได ้เน้นพระคัมภีร ์ เด็กๆอาจจะได ้ ชนรวี เรียนรู ้น้อยมากในเรื่องของพระคริสต ์ ดังนั้นพวกเขาจึงพลาดสิ่งสําคัญมาก ที่จะช่วยเขาให ้ ได ้รับความรอด และเติบโตขึน้ คุณสามารถบอกได ้ว่า ่ มภีร ์หรือไม่ โดยดูที่การ คริสตจักรของคุณเป็ นคริสตจักรที่เชือในพระคั เน้นถึงความสําคัญของความรอดชีวิตที่แยกออกจากโลกและเป็ นเหมือนกับ ่ พระเจ ้าพร ้อมกับความห่วงใยต่อความรอดของผู ้อืน คริสตจักรที่ไม่เน้นพระกิตติคณ ุ สามารถก่อให ้เกิด ความสับสนในความคิด ของเด็ก ยกตัวอย่างเช่น ลูกอาจจะชอบครูหรือผูน้ ํ าในคริสตจักร แม้ว่า ผูน้ ํ าอาจจะเป็ นคนดี แต่เขาไม่อาจมีความลึกซึง้ ฝ่ ายวิญญาณหรือไม่ สามารถใช ้อิทธิพล ทางวิญญาณที่เฉพาะเจาะจงต่อเด็กได ้ เมื่อเด็กมองไป ที่บุคคลนั้นที่เขายกย่องในคริสตจักรเขาก็จะสับสนเขาคิดว่า“นี่ คือคนใน ่ คริสตจักรที่ไม่เห็นด ้วยกับสิ่งที่พ่อแม่ของฉันพูดและเชือ” สรุปแม้ว่าบุคคล จะศึกษาศาสนศาสตร ์ภายหลัง ที่เขาเติบโตเป็ นผู ้ใหญ่ แล ้วแต่สว่ นใหญ่เราจะเรียนเกี่ยวกับพระคัมภีร ์ในช่วง 20 ปี แรกของชีวิต เป็ นสิ่งสําคัญในช่วงนั้นถ ้าคุณจะให ้ลูกอยูใ่ นคริสตจักรที่เทศนาพระคําของ พระเจ ้า และเน้นชีวิตที่เหมือนกับพระเจ ้า เด็กๆ อยากทําสิ่งต่างๆ อย่าง ทุม ่ เท และพวกเขาจะทําดีที่สุดในคริสตจักรที่เขาเป็ นสมาชิก แต่ถ ้าคุณไม่ สามารถเข ้าร่วมเพราะว่าคุณไม่เห็นด ้วยกับลักษณะในคริสตจักรและความ ่ เชือของคริ สตจักร เด็กๆ ก็จะพลาดสิ่งดีมากมาย

5. สอนพระคม ั ภีร ์แก่ลูกของคุณ


www.christianthai.net

มีคนหนึ่ งเคยกล่าวไว ้ “การศึกษาพระคัมภีร ์เป็ นสิ่งสําคัญและ มีคณ ุ ค่า อย่างมาก และ ยิ่งสําคัญ มากกว่าเดิมหลายเท่า โดยเฉพาะ ในยุคปัจจุบน ั ที่มีความไม่แน่ นอน และ ในยุคที่ เรียกร ้องเอา ความสะดวกสบาย ไม่มีอะไรที่สําคัญไปกว่า การเรียนรู ้ แทนหลักการของพระเจ ้าแน่ นอน ่ กลงไปได ้เมื่อเราศึกษาพระวจนะของ ความคิดของพระเจ ้า และ เราจะหยังลึ ่ พระองค ์เท่านั้น มีหลายสิงหลายอย่ าง ที่พ่อแม่ต ้องการสอนลูกๆ ผมคาด ว่าในส่วนลึกของพ่อแม่ เขาอยากรู ้สึกว่าแม้เมื่อพวกเขาไม่อยูแ่ ล ้ว ลูกๆ ่ จะเชือและยั งคงทําตามคําสอนที่ได ้เรียนจากพ่อแม่ ในบรรดาหลายๆ สิ่งที่เราสอนลูก สิ่งสําคัญที่สุดคือ พระวจนะของพระเจ ้า ครอบครัวจําเป็ นต ้องมีเวลานั่งลงและศึกษาพระคําอย่างละเอียดเพื่อสอนลูก ได ้อย่างเกิดผล พระเจ ้าเป็ นผู ้สร ้างทุกสิ่ง ถ ้าพระเจ ้าไม่เป็ นศูนย ์กลางแล ้ว ้ การเรียนของเรา ทังหมดก็ ไม่ถก ู ต ้อง ไม่วา่ หัวข ้อใดก็ตาม ที่เรานึ กถึงใน ครอบครัว การอภิปรายควรมีพระเจ ้าเป็ นศูนย ์กลาง การฟังครูสอนรวีฯหรือ ั ดร ์ ของพระเจ ้า ฟังคําเทศนาเท่านั้นไม่พอ เราจําเป็ นต ้องรู ้ถึง พระคํานิ รน โดยตรง พระคัมภีร ์ กล่าวถึง พระคัมภีร ์เองว่า“โอ.พระเจ ้า พระคําของพระองค ์ จารึก ้ ได ้รับการตัดสินจากกรรมการ อยูใ่ นสวรรค ์ตลอดกาล”ผมดีใจที่พระคํานี ไม่ ชาวโลก สรรเสริญพระเจ ้า พระคําของพระองค ์ได ้รับการตัดสินจากสวรรค ์ ่ นสิ่งที่เราเชือได ่ ้ เมื่อเราอ่านพระคัมภีร ์เรารับความจริงถี่ถ ้วนซึงเป็ ้ เด็กๆ จะได ้ยินเรื่องที่ทําให ้ เกิดความสับสน ทังจากโรงเรี ยน โทรทัศน์ วิทยุ ่ ่ ้ ออะไร และไปกันได ้กับความ พวกเจาเริ่มสงสัยว่าสิงเหล่ านี คื และที่อืนๆ ่ สเตียนอย่างไรลูกชายหรือลูกสาวอาจจะสับสนถึงสิ่งที่จะเชือเกี ่ ่ยวกับ เชือคริ ่ ้ ชีววิทยา วิทยาศาสตร ์ และวิชาอืนๆ แต่เมื่อเขามีพืนฐานบนพระคํ าของ พระเจ ้า เขาก็รู ้ว่าสิ่งใดที่ยอมรับได ้และสิ่งใดที่ต ้องปฏิเสธ “ผมไม่เคยลืมเวลา ที่เควินลูกชายของเรา ผู ้มีอายุได ้ 8 ขวบ และเรียนอยู่ ป. 3 เช ้าวันหนึ่ งเขามาหาผมและพูดว่า


www.christianthai.net

้ ่โรงเรียนเมื่อวานนี ”้ “พ่อครับ มีบางอย่างเกิดขึนที “อะไรล่ะลูก” ผมถาม “เรากําลังเรียนเรื่องดวงดาวครับ” “อย่างนั้นหรือ” “ใช่.. เกี่ยวกับว่าดาวพระเคราะห ์หมุนยังไงแล ้วก็ทก ุ ๆเรื่อง” “ดีนะ” “เช ้าเมื่อวานนี ้ ครูถามว่า ใครวางดาวไว ้บนฟ้ าครับ” เด็กๆได ้ฟังคําถามแต่ไม่มีใครรู ้ ดังนั้นครูพูดว่า “เอาล่ะ ครูจะบอกพวก ้ เธอ นักวิทยาศาสตร ์ได ้ศึกษาเรื่องนี มาเป็ นเวลาหลายปี แล ้ว แต่ยงั ไม่พบว่า ใครวางดาวไว ้บนฟ้ า”แล ้วเควินก็มองมาที่ผมและพูดว่า “พ่อครับผมไม่ได ้ พูดเสียงดัง แต่ผมพูดกับตัวเอง ผมรู ้ใครสร ้างดาวไว ้บนฟ้ า พระเจ ้าไงครับ” ้ ยอีก พระ ผมคิดว่านี่ คือเด็กแปดขวบ ที่รู ้มากกว่าครูของเขา ที่สอนวิชานี เสี ้ั าคําพยาน คัมภีร ์กล่าวว่า “ข ้าพเจ ้ามีความเข ้าใจมากกว่าครูทงหมดเพราะว่ ของพระองค ์เป็ นคํารําพึงของข ้าพระองค ์” หรือพูดอีกนัยอย่างหนึ่ ง คือผู ้เชือ่ ่ ่ อนอยูจ สามารถรู ้หลายสิงหลายอย่ างซึงซ่ ่ ากคนที่ฉลาดและมีความรู ้ เพราะว่าเราศึกษาพระคัมภีร ์ ุ ทรัพย ์แห่งปัญญาและ พระคัมภีร ์กล่าวว่าในพระเจ ้าและในพระคริสต ์มีขม ความรู ้ซ่อนอยู่ นี่ หมายความว่าสิ่งที่มีคา่ ที่สุดและสิ่งสําคัญที่สุดซ่อนอยู่ ในพระคําของพระเจ ้า และได ้รับการเปิ ดเผยผ่านทางพระเจ ้าและพระเยซู ่ นพระคําของพระองค ์ คริสต ์พระบุตรของพระองค ์ และทางพระคัมภีร ์ซึงเป็ ้ ้ตลอดไป เราก็ไม่สามารถรู ้จักทุกๆสิ่งที่ ถ ้าเราสามารถมีชวี ิตอยูบ ่ นโลกนี ได เราควรจะรู ้ เช่น ทะเล แร่ธาตุ จิตวิทยา หรือเรื่องยา แต่สิ่งที่เรา ่ ้ได ้เพราะว่า มัน จําเป็ นต ้องรู ้คือ ขุมทรัพย ์แห่งสติปัญญาซึงเราสามารถรู ่ นพระคํา ซ่อนอยูใ่ นพระเยซูคริสต ์ และได ้รับการเปิ ดเผยทางพระคัมภีร ์ซึงเป็ ้ ใ่ นใจท่าน ของพระองค ์“และจงให ้ถ ้อยคําที่ข ้าพเจ ้าบัญชาพวกท่านในวันนี อยู ้ บุตรหลานของท่าน เมื่อท่าน และพวกท่านจงอุตส่าห ์สอนถ ้อยคําเหล่านี แก่ ้ นั่งอยูใ่ นเรือน เดินอยูต ่ ามทาง และนอนลงหรือลุกขึนจงพู ดถึงถ ้อยคํานั้น” (ฉธบ. 6:6,7)


www.christianthai.net

6. อธิบายและตีความเหตุการณ์ประจําวันตามความหมายของ พระคม ั ภีร ์ พระเจ ้ามีแผนการ ที่ยิ่งใหญ่สาํ หรับจักรวาลนี ้ แม้วา่ เราอาจจะไม่ได ้ ่ั ตระหนัก พระองค ์กําลังทําตามแผนการของพระองค ์ ในทุกๆชวอายุ คน พระเจ ้ากําลังทําให ้จุดประสงค ์ของพระองค ์สําเร็จเพื่อคนของพระองค ์ขณะที่ เราดูโทรทัศน์ ฟังวิทยุ อ่านหนังสือพิมพ ์ และฟังคนพูด เราอาจจะลืมว่า พระเจ ้ามีแผนการแต่พระองค ์มีแผนการจริงๆเราในฐานะคริสเตียน สามารถ ตีความ เหตุการณ์ของโลก ตามความหมาย ของพระคําของพระเจ ้าได ้ ้ ค “แต่จงเข ้าใจข ้อนี ้ ยกตัวอย่าง เรารู ้ว่าพระเจ ้า ได ้ตรัสถึง การสินยุ ้ คนั้น จะเกิดเหตุการณ์ กลียค คือว่าในสมัยจะสินยุ ุ เพราะมนุ ษย ์จะเห็นแก่ตวั ่ งคําบิดามารดา อกตัญญู เห็นแก่เงิน เย่อหยิ่ง ยะโสชอบด่าว่า ไม่เชือฟั ้ งใจ ่ั ั ยังช ดุ ไร ้ศีลธรรม ไร ้มนุ ษยธรรม ไม่อภัยให ้กัน ใส่ร ้ายกัน ไม่ยบ ร ้าย เกลียดช ังความดี ทรยศ มุทะลุ หัวสูง รักความสนุ กยิ่งกว่ารัก พระเจ ้า ถือศาสนาแต่เปลือกนอก ส่วนแก่นแท ้ของศานา เขาไม่ยอมรับ ้ ดขึน้ เราตระหนัก ้ านอย่าคบ” (2 ทธ. 3:1-5) เมื่อสิ่งเหล่านี เกิ คนเช่นนี ท่ ได ้ว่าเราอยูใ่ นยุคสุดท ้าย เป็ นสิ่งสําคัญที่คุณจะพูดกับลูกๆ ถึงเหตุกาณ์ ของโลก จะช่วยให ้ลูกเข ้าใจว่า เหตุกาณ์เช่นนั้น เป็ นส่วนประกอบของ แผนการที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ ้า เด็กๆ (และผู ้ใหญ่) ผูไ้ ม่รู ้พระคําพระเจ ้าไม่สามารถเข ้าใจช่วงระยะเวลานั้น ่ นๆ ่ สงคราม จราจล การละเมิด การพักรบ ความไร ้ศีลธรรม และสิงอื ้ ใ่ นแผนการ ก่อให ้เกิดความสงสัยเมื่อพวกเขาไม่เข ้าใจว่า ปัญหาเหล่านี อยู ของพระเจ ้าได ้อย่างไร พวกเขาจึงเต็มไปด ้วยความสับสน เมื่อเด็กได ้รับ ้ การเลียงดูในบ ้าน ที่พ่อแม่ตีความเหตุการณ์ของโลก ตามความหมายของ พระคํานิ รน ั ดร ์ ของพระเจ ้า เด็กก็จะมีความสุขมากขึน้ และมีความมั่นใจใน ้ ้วย พระเจ ้ามากขึนด แม้แต่ ในสิ่งเล็ก ๆ น้อยๆ เด็ก ๆ สามารถเรียนรู ้ ที่จะไว ้วางใจ พระเจ ้าได ้ ้ าลังเศร ้าโศรกเพราะสุนัขของ ยกตัวอย่างในบ ้านของครอบครัวสมิธแจ๊คกีกํ ้ อปลอบ เขาที่ตายอย่างกระทันหัน“แจ๊คกี”พ่


www.christianthai.net

“พ่อรู ้ว่าลูกรู ้สึกอย่างไร แต่จาํ ไว ้ว่าพระบิดาบนสวรรค ์รู ้และสนใจ พระ คัมภีร ์กล่าวว่า นกสองตัวเขาขายนิ ดเดียวมิใช่หรือ และไม่มีแม้แต่นกตัว เดียวที่ตกลงมา โดยพระเจ ้าไม่รู ้ ดังนั้นเรารู ้ว่าพระองค ์รู ้เรื่อง พีโด ้ (หมา) ด ้วย…แจ๊คกี ้ พระเจ ้าไม่เคยเอาสิ่งใดไป จากเราโดยปราศจาก จุดประสงค ์ ้ และบ่อยครังพระองค ์ ให ้บางสิ่งที่ดีกว่าทดแทน” ่ หลังจากแจ๊คกี ้ ได ้รับบทเรียน เรื่องความเชือไปได ้สองวัน เพื่อนของเขาได ้ ้ ้สุนัขพันธุ ์ดอลลี่มานาน นํ าลูกสุนัขพันธุ ์ดอลลี่ตัวเล็กๆ มาให ้แจ๊คกีอยากได ้ ้ตอนนี เขาแน่ ้ แล ้วแต่พ่อไม่มีเงินซือให ใจว่า พระเจ ้าได ้ส่งมันมาให ้เขาเหมือน อย่าง ทีพ่อได ้พยายามอธิบายให ้เขาฟัง แต่ละวันเต็มไปด ้วยโอกาสที่จะอธิบายถึงสิ่งมากมายตามความหมายในพระ คําของพระเจ ้า การตาย การเกิด การแต่งงาน ความผิดหวังและการเฉลิม ฉลองทุกอย่างให ้โอกาสที่เราจะเข ้าใจความยิ่งใหญ่ของพระเจ ้าและความ ห่วงใยของพระองค ์ “เรารู ้ว่าพระเจ ้าทรงช่วยคนที่รักพระองค ์ให ้เกิดผลอันดี ้ ่พระองค ์ได ้ทรงเรียกตามพระประสงค ์ของพระองค ์” ในทุกสิ่งคือคนทังปวงที (รม. 8:28) 7. เป็ นแบบอย่างต่อลู กในเรื่องพระเจ้า ผมแน่ ใจว่าพ่อทุกๆคน มีประสบการณ์เหมือนกันกับที่ผมมีเมื่อลูกของผม ยังเด็กและกําลังเรียนรู ้การ เล่นฟุตบอล เราจะไปหลังบ ้านและโยนลูกบอล ไปข ้างหน้าและข ้างหลัง ในไม่ช ้าผมสังเกตเห็นว่าเขากําลังพยายามที่จะโยน ลูกบอลเหมือนอย่างที่ผมทํา ไม่วา่ ผมโยนไปข ้างล่างหรือข ้างบน เขาจะทํา ตาม ถ ้าผมตบลูกบอลเขาก็จะทําเช่นนั้น เด็กเป็ นผู ้ลอกเลียนแบบแท ้จริง เมื่อ ลูกอยูร่ อบๆเรา เขาพร ้อมจะสังเกตสิ่งที่เรากําลังทําและเริ่มทําตาม นี่ เป็ นความรับผิดชอบที่สําคัญ ของพ่อหรือแม่ ปราชญ ์คนหนึ่ ง กล่าวว่า ่ “ของขวัญที่ยิ่งใหญ่สิ่งแรกที่เราสามารถให ้คนอืนได ้คือตัวอย่างที่ดี”เรากําลัง สร ้างแบบอย่างมากมาย สําหรับลูก ๆ ของเราทุก ๆ วัน แต่ไม่ต ้องสงสัยว่าสิ่ง สําคัญที่สุดคือ ความเหมือนกับพระเจ ้า เมื่อลูกเห็นพ่อแม่ มีลษ ั ณะที่เหมือน พระเจ ้า พวกเขาจะเรียนรู ้ที่จะทําเหมือนกัน แน่ ละคําสอนของพระคัมภีร ์ต ้อง


www.christianthai.net

เปลี่ยนเป็ นการกระทํา ยกตัวอย่าง เมื่อคนๆ หนึ่ งไว ้วางใจพระคริสต ์ว่าเป็ น ่ ตย ์ เมื่อลูกสังเกต ผูช ้ ว่ ยให ้รอด และเติบโตในพระคํา เขากลายเป็ นคนซือสั ่ ตย ์ด ้วย เมื่อ เห็นความจริง ในชีวิตของพ่อหรือแม่เขา จะกลายเป็ นคนซือสั เขาเห็นพ่อแม่ไม่ซอสั ื่ ตย ์ เขาก็มีแนวโน้มที่จะไม่ซอสั ื่ ตย ์หรืออย่างน้อยเขาก็ อาจจะไม่สนใจเมื่อ พ่อหรือแม่พูดเรื่องพระเจ ้ากับเขา ้ าลังสอนเรืองคํ ่ าวิจารณ์ในชนเรี ้ั ยนและอ่านคําพูดที่ วันหนึ่ ง ครูของเบ็ตตีกํ น่ าประทับใจมากอันหนึ่ ง “คําเย ้ยหยันและคําวิจารณ์เป็ นอาวุธของผูอ้ อ ่ นแอ ่ กจะอยูใ่ นมือของเรา และมีพิษที่ด ้าม เป็ นเหมือนกับ อาวุธของ ผีร ้ายซึงมั มากกว่าที่ปลาย” เบ็ตตีรู้ ้สึกถึงความผิดพลาดในชีวิตของเธอ แต่เธอได ้ ้ เรียนรู ้ศิลปะนี มาจากแม่ ของเธอสิ่ง ที่ดีที่สุดสิ่งหนึ่ งเพื่อช่วยลูกพัฒนาความ ่ เชือในพระเจ ้าคือ การสําแดงชีวิตเหมือนพระเจ ้า ผู ้เป็ นพ่อแม่ควรสํารวจ ่ั เพื่อแน่ ใจว่าคุณอยูใ่ กล ้ชิดกับ ตัวเองทุกวัน จริง ๆ แล ้วควรเป็ นทุกชวโมง ่ งในแต่ละวันหรือไม่ และชีวิตของเขา พระเจ ้า คุณกําลังอ่านพระคําและเชือฟั เองจะได ้รับการปั้นแต่งตามแบบของพ่อแม่ พ่อแม่ต ้องมีชวี ิตสมํ่าเสมอ ต่อหน้าลูกๆ ถ ้าพวกเขาปรารถนา ให ้ลูกเลียน แบบ ยกตัวอย่างพ่อแม่ของแมรี่รักพระเจ ้าและมีชวี ิตที่สมํ่าเสมอต่อหน้าลูกๆ ่ พวกเขารู ้สึกว่าชีวิตในบ ้านทดสอบความแข็งแกร่งของความเชือของเขา ผลออกมาช ัดเจน ในชีวิตของแมรี่ เมื่อเธอเป็ นพยาน ในการประกาศกับ อนุ ชน “ดิฉันได ้อยูใ่ นครอบครัวคริสเตียนที่ยอดเยี่ยมมากกว่าใครๆ ที่นั่น เต็มไปด ้วยความรักของพระเจ ้า และดิฉันหวังว่า วันหนึ่ งดิฉันจะมีบ ้านอย่าง ที่พ่อแม่ให ้กับดิฉัน” ้ ผ่านการ ผมมักจะได ้ยินผูใ้ หญ่พูดว่า พวกเขาเรียนรู ้จัก พระเจ ้าครังแรก กระทําของพ่อแม่ พูดอีกอย่างหนึ่ งก็คือ สิ่งที่พ่อแม่สอนอาจไม่สาํ คัญกับลูก เท่ากับสิ่งที่ลูกเห็นจากชีวิตของพ่อแม่ ชีวิตคริสเตียนเป็ นจริงต่อลูกเพราะว่า มันแสดงออกเป็ นอารมณ์ที่ควบคุมได ้ เป็ นความมีมิตรภาพและเป็ นลักษณะ ่ อย่างอืนๆ เหมือนพระเจ ้า “ท่านจงประพฤติคนให ้เป็ นแบบอย่างในการดีทก ุ สิ่งและในการสอนจงสุจริต และมีใจสูง” (ทต. 2:7)


www.christianthai.net

8. เติมความคิดและจิตใจของลู ก ด้วยวรรณกรรมคริสเตียน เมื่อ ผู ้ใหญ่เติบโตขึน้ เขาตระหนักว่ามีประสบการณ์มากมายที่ไม่สามารถ ่ เข ้าไปเกียวพั นได ้โดยตรง เป็ นไปไม่ได ้ที่เขาจะไปทุกที่ในทันทีหรือเข ้าร่วม ในกิจกรรมต่างๆ รอบโลก แต่เขาสามารถทําบางอย่างได ้เป็ นการทดแทน คือการอ่านหนังสือ เราอาจจะไม่สามารถไปที่ชายแดนประเทศธิเบต แต่เรา สามารถอ่านเกี่ยวกับคนไปที่นั่นได ้ เราอาจจะไม่สามารถเดินป่ าในอเมริกา ใต ้ แต่เราสามารถอ่านถึงประสบการณ์ของผู ้ที่ไปมาแล ้วได ้จริง ๆ แล ้วสิ่งที่ หนังสือ เรารู ้ในชีวิตอย่างมากมายเป็ นประสบการณ์ที่ได ้มาจากการอ่าน เด็ก ๆ ทุกคนอยากมีประสบการณ์กบ ั สิ่งที่อยูน ่ อกบ ้านและนอกชุมชนของ ้ ้เมื่อเขาอ่านหนังสือ ก่อนหน้าที่ลูก เขา และเขาสามารถมีประสบการณ์นีได สามารถอ่านหนังสือได ้ เขาเพลิดเพลินกับการที่พ่อแม่อา่ นหนังสือให ้ฟัง เขาปรารถนาที่จะ เรียนรู ้วิธี ที่คนทําสิ่งต่าง ๆ แล ้วเพลิดเพลิน กับความ ่ ตื่นเต ้นที่คนอืนประสบมาแทนการออกไปเผชิ ญด ้วยตนเอง ความประทับใจ ในชีวิตมากมายก่อร่างในความคิดของลูก เมื่อพ่อแม่อา่ นหนังสือให ้เขาฟัง อะไรคือประโยชน์ที่เด็กได ้ จากหนังสือ การอ่านจะช่วยเตรียมตัวเด็กให ้รับรู ้ ่ ่องต่าง ๆ โดยผ่านทางหนังสือ เด็ก ๆ อาจจะได ้รับการดลใจ คําสังสอนในเรื ให ้กระทําสิ่งที่กล ้าหาญ เพื่อพระเจ ้า ชีวิตจะงดงามขึน้ เมื่อเขาได ้สํารวจ ่ ่ น ลูก ๆ สามารถค ้นพบว่าคนในประเทศอืนเป็ ภูมิศาสตร ์ของประเทศอืนๆ อย่างไร เช่น อาหารที่เขารับประทาน วิธก ี ารแต่งงาน ลักษณะบ ้านเรือน และประเพณี ที่มาจากวัฒนธรรมนั้นๆคุณ สามารถ ช่วยลูกให ้ใช ้ชีวิตได ้ กว ้างไกลกว่าที่เขาเป็ นอยู่ เมื่อคุณใช ้เวลาอ่านหนังสือให ้ลูกฟัง หรือซือ้ หนังสือดีๆ มาให ้เขาอ่าน เขาจะได ้ยินถึงความคิดต่างๆ ที่เขาอาจประยุกต ์ มาใช ้ได ้ ยกตัวอย่างทิมได ้อ่านนิ ยายคริสเตียนที่น่ าตื่นเต ้นเกี่ยวกับชีวิตในอ ลาสก ้า เมื่อเขาได ้อ่านไปเรื่อยๆ ก็พบว่าการมีชวี ิตอยูใ่ นหมู่บ ้านเล็กๆ ที่ โดดเดี่ยวในทะเลแบริ่งเป็ นอย่างไร เขาประสบกับความรู ้สึกอย่างเดียวกับที่ เด็กชายชาวเอสกิโมได ้รับเมื่อพ่อออก ไปล่าสัตว ์นาน ๆ ่ ้า และกลางวันในฤดูร ้อนที่ ทิมเรียนรู ้เกี่ยวกับกลางคืนในฤดูหนาวที่ เชืองช ่ั ยาวนาน เขาเรียนรู ้ว่ามิชชนนารี อยูอ ่ ย่างไรและความยากลําบากที่ประสบใน


www.christianthai.net

การนํ าข่าว ประเสริฐไปยังคนในอลาสก ้า ถ ้าคุณได ้คุยกับทิมเมื่อเขาอ่าน หนังสือจบ คุณอาจจะคิดว่าเขาใช ้เวลาหลายปี อยูใ่ นอลาสก ้าคุณสามารถ สร ้าง อิทธิพลของพระคริสต ์ในชีวิตของลูกได ้อย่างน่ าทึ่ง โดยการเติม ความคิดและจิตใจของเขาด ้วยวรรณกรรมคริสเตียน ที่ร ้านขายหนังสือคริส ้ั ยได ้ มีเรื่องน่ าสนใจ เตียนคุณสามารถหาหนังสือดี ๆ ที่ดึงดูดคนทุกชนวั สําหรับเด็กก่อนวัยเรียน เรื่องตื่นเต ้นมากกว่า สําหรับเด็กประถมและหนังสือ ่ หนุ่ มสาวชอบอ่าน เกี่ยวกับกลุม ่ แก๊ง และคลับ สําหรับพวกมัธยม วัยรุน ่ั เกี่ยวกับการผจญภัย ที่น่ าตื่นเต ้น เช่น ชีวประวัติ ของมิชชนนารี ผูใ้ หญ่ หลายคนตระหนักว่าพวกเขา ได ้รับการดลใจและได ้รับข ้อคิดดีๆจากหนังสือ เมื่อเป็ นเด็ก พ่อแม่อาจรู ้สึกว่าเขาไม่มีเวลาที่จะอ่านหนังสือให ้ลูกฟังหรือหา หนังสือให ้ ลูกอ่าน แต่นี่เป็ นวิธท ี ี่สําคัญ วิธห ี นึ่ งที่ทําให ้เรา สร ้างอิทธิพลที่ ่ นกับลูกได ้ ยังยื 9. ใช้ประโยชน์จากดนตรีเพื่อสร้างอิทธิพลต่อลู ก บางคนกล่าวว่าดนตรีมีเสน่ ห ์ แน่ ละ่ นั่นเป็ นความจริง แต่มน ั เป็ นมากกว่า นั้น ดนตรีมีพลัง ดนตรีมก ั จะมีอิทธิพลกับคนเนื่ องจากความไพเราะ ความ กลมกลืน จังหวะ และคําร ้อง บริษท ั มากมายใช ้เงินจํานวนหลายล ้านบาท ทุกๆ ปี เพื่อโฆษณาผลิตภัณฑ ์โดยใช ้เสียงเพลงเป็ นสื่อ ทําไมหรือ เพราะว่า ดูเหมือนเสียงเพลงจะซึมซบั .เข ้าไป ในความคิดของเรา ดังนั้นแทนที่เขาจะ ้ บอกว่าเราน่ าจะซือสบู ่ชนิ ดหนึ่ ง เขากลับร ้องเพลงให ้เราฟัง และทําให ้เรา ้ ร ้องเพลงเกี่ยวกับสบู่นีไปด ้วย ้ คุณสังเกตว่า บางครังความไพเราะบางอย่ างติดอยู่ในสมองของคุณได ้หลาย ่ั ชวโมง และหลายวัน นั่นสําแดงให ้เห็นถึงอํานาจดนตรี มีการสอนความจริง ที่ยิ่งใหญ่บางอย่างผ่านทางดนตรี แม้แต่เด็กเล็กๆก็สามารถเรียนรู ้เพลง และ เขาสามารถเรียนรู ้ความจริงที่ยิ่งใหญ่เกี่ยวกับพระเจ ้าได ้โดยผ่านเสียง เพลง ้ กสามารถเรียนรู ้ขอ ้พระคัมภีร ์ป่ านทางการร ้องเพลง มันน่ าจะง่าย บางครังเด็ กว่ามาก เมื่อมีความไพเราะและจังหวะกลมกลืนไปกับคํา โดยเฉพาะอย่าง ่ เรียนรู ้จักเพลงหนึ่ ง ยิ่ง ถ ้าคําเหล่านั้นยากสําหรับเด็กที่จะเข ้าใจ เมื่อวัยรุน แม้เขายังไม่เข ้าใจคํา ในไม่ช ้าเขาจะถามว่า"นั่นแปลว่าอะไร" นี่ เปิ ดโอกาส


www.christianthai.net

อันดีให ้คุณอธิบายหรือถ ้าเขาพูดว่า"รู ้"คุณสามารถถามว่า"รู ้อะไร"เขา ้ อาจจะไม่รู ้เลยแล ้วในทันทีน้ันเขาอาจจะถามคุณขึนมาก็ ได ้ แม้วา่ ในบ ้านที่พ่อแม่ไม่นิยมดนตรี เรายังคงสามารถมีอิทธิพลต่อเด็กผ่าน ทางดนตรีได ้ มันเป็ นประสบการณ์ที่ดี สําหรับเด็ก ที่จะเรียนรู ้บทเพลง ่ ่ยวกับ ความเชือ่ มีความจริงที่เป็ นคําสอนอยูใ่ นเพลงนั้น และ นมัสการซึงเกี ้ ดอยูก สิ่งที่เด็กได ้รับมากมายในเพลงนี จะติ ่ บ ั เด็กๆ ตลอดชีวิต แม้ว่าคุณจะ ้ ไม่ใช่นักดนตรี แต่คณ ุ สามารถซือเทป ให ้ลูกฟังได ้ เด็กสามารถ เรียนรู ้ มากมายเกี่ยวกับพระคําของพระเจ ้า ชีวิตคริสเตียนและการแสดงออกผ่าน ทางเสียงเพลง และถ ้าครอบครัวสามารถร ้องเพลงด ้วยกันโดยใช ้เครื่องดนตรี ได ้นั้นก็ยิ่งดี กล่าวกันว่า "ดนตรีเป็ นเครื่องมือ ที่ทรงพลังที่สุด ในการพักผ่อน ปลุกเร ้า ครอบครองจิตใจ และวิญญาณของมนุ ษย ์ "พ่อแม่คริสเตียนมีความรับผิด ชอบที่จะช่วยลูกแยกดนตรี ที่เหมาะสมออกมาจาก ดนตรีที่ไม่เหมาะสมถ ้า คุณเป็ นคริสเตียน ที่ติดสนิ ทกับพระเจ ้าคุณต ้องไม่ยอมให ้ดนตรีที่ไม่เหมาะ สมมาครอบงําบ ้านของคุณโดยผ่านทางวิทยุ โทรทัศน์ หรือเทปเพลง มัน ้ ้ ้ลูกเห็นช ัดว่า ดนตรีปัจจุบน ขึนอยู ท ่ ี่คุณจะชีให ั จํานวนมากไม่ ได ้ถวาย ่ ที่ฟัง เพลงคริสเตียนและได ้รับ เกียรติพระเจ ้า ประสบการณ์ ยืนยันว่าวัยรุน การหนุ นใจให ้เดิน ใกล ้ชิดพระเจ ้าจะชอบดนตรีคริสเตียนมากกว่า เปี ยโนหรือออแกนเป็ นสมบัติที่แท ้จริงในบ ้าน มันจะทําให ้บ ้านของคุณเป็ นที่ ประชุมพบปะของหนุ่ มสาวเปิ ดบ ้านให ้เป็ นที่ขับกล่อมหลังเลิกคริสตจักร เป็ น ้ เศษ นี่ เป็ นสิ่งที่เด็ก ๆ จะจดจําเกี่ยวกับบ ้านของตน ที่พบปะหรืองานปาร ์ตีพิ สภาพบ ้านอาจจะเลือนหายจากความทรงจํา แต่สิ่งที่เขารู ้สึกคือความอบอุน ่ ่ นสิ่งที่เขาจําได ้อยูเ่ สมอ ความรัก และการอยูด ่ ้วยกัน ซึงเป็ วัยรุน ่ ไม่จาํ เป็ นต ้องมีความสามารถพิเศษมากมายเพื่อรับประโยชน์มหาศาล จากดนตรี คนส่วนใหญ่ชอบดนตรี แม้ว่าเขาจะเล่นเครื่องดนตรีไม่ได ้สัก ชิน้ ก็ไม่มีเหตุผลใดว่าทําไมวัยรุน ่ จะไม่ได ้รับประโยชน์มหาศาลจากดนตรี ในเมื่อมี เทปเพลงคริสเตียนดี ๆ รายการวิทยุคริเตียนหลายรายการ ผู ้รับ


www.christianthai.net

้ ่ งว่าเขาไปเยี่ยม และคุยกับนักโทษ ใน ใช ้พระเจ ้าคนหนึ่ ง เล่าให ้ฟัง ครังหนึ เรือนจํา เขาบอกถึง ความประทับใจบ่อยครัง้ เมื่อเขาพบว่าผู ้ที่ถูกจับตอบ สนองพระกิตติคณ ุ เพราะว่าอิทธิพลของเพลงคริสเตียนที่เขาฟังสมัยที่ยังเป็ น เด็ก เขาได ้เรียนรู ้เพลงนมัสการที่ยิ่งใหญ่เก่าแก่เรื่องความเชือ่ และแม้ว่าเขา ่ ่องนี แต่ ้ มน จะไม่เชือในเรื ั ยังคงติดอยู่ในหัวใจของเขาดังนั้นเมื่อได ้ยินพระกิตติ ้ เด็กจะติดอยู่ในใจ เขาชว่ ั คุณเขาจึงตอบสนอง แน่ ละเพลงที่เขาเรียนรู ้ ตังแต่ ชีวิต. 10. ช่วยลู กพัฒนามิตรภาพคริสเตียน การศึกษาทางวิทยาศาสตร ์ เปิ ดเผยว่าในปี แรกๆลูกได ้รับคําแนะนํ าจากพ่อ ้ ้ ่ ชีให ้ ้เห็นถึงบทบาทสําคัญ แม่แต่เมื่อเขาเติบโตขึนเขาก็ จะฟังเพื่อนมากขึนนี ่ ่อนเร็ว ที่เด็กๆ มีในการสร ้างชีวิตของผูม้ ีวยั ไล่เลี่ยกันกับตนเด็กอาจจะเชือเพื ่ อแม่ไม่ใช่เพียง มิตรภาพของเด็กอืนๆ ่ กว่า เชือพ่ เท่านั้นที่มีอิทธิพลต่อลูก ่ ก็มีอิทธิพลด ้วย ชายหรือลูกสาว แต่พ่อแม่ และชีวิตในบ ้านของเด็กคนอืน พวกเขาไปที่บ ้านของเด็กอีกคนเห็นความเป็ นอยูแ่ ละสิ่งที่ครอบครัวให ้ความ สําคัญ ถ ้าบ ้านนั้นเป็ นบ ้านของคริสเตียนจะไม่มีข ้อขัดแย ้ง แต่ในบ ้านของผู ้ ไม่ใช่คริสเตียน อาจจะทําให ้เด็ก เริ่มสงสัย เช่น "จอห ์นนี่ เป็ นเพื่อนของ ฉัน ฉันชอบเขา เขาเป็ นเด็กดี เราเข ้ากันได ้ดี แต่ครอบครัวของเราทัง้ สอง มีการมองสิ่งต่างๆ แตกต่างกัน" แน่ ละเราต ้องเผชิญหน้าและทําความ ้ ใช่โดยการละเว ้น เข ้าใจ อย่างไรก็ตามเราส่วนใหญ่เติบโตและเข ้มแข็งขึนมิ แต่โดยการเข ้ามีสว่ นร่วมต่างหาก ่ ่ ดังนั้นในโลกของเด็ก มิตรภาพซึงเขาได ้ให ้ กับผู ้อืนจะช่ วยเขาพัฒนาบุคลิก ้ ภาพของตนเองเรา ทังหลายจํ าเป็ นต ้องมีเพื่อน นี่ เป็ นสิ่งที่เป็ นจริงโดยเฉพาะ ี ะปรับตัวเข ้ากับสังคม พวกเขา อย่างยิ่งกับเด็กๆขณะที่เด็กๆ กําลังเรียนรู ้วิธจ จําเป็ นต ้องมีการติดต่อทางสังคมและต ้องการการยอมรับ เพื่อนคริสเตียนจะ สามารถให ้ความรู ้สึกมั่นคงที่พวกเขาต ้องการ "นี่ คือผูท้ ี่ยอมรับฉันและเรามี ้ กได ้รับการเลียงดูในชนบทหรื ้ ่ บางอย่างที่เหมือนกัน"บาง ครังเด็ อบางที่ซึงมี ้ อแม่จาํ เป็ นต ้องออกไป เพื่อนคริสเตียนอาศัยอยู่ เป็ นจํานวนน้อยในกรณี นีพ่ ้ ญเด็กคนอืนๆ ่ เข ้ามาในบ ้าน คุณสามารถจะนํ าเด็กอืนนั ่ ่ งรถไป และเชือเชิ


www.christianthai.net

ด ้วยพร ้อมกับลูกของคุณ พ่อแม่สามารถนั่งอยูด ่ ้วยและพูดว่า "พ่อแม่หวังว่า ้ สิ่งที่พ่อแม่ต ้องกระทําคือต ้องหาโอกาสให ้ลูกใช ้ จิมมี่จะมีเพื่อนเพิ่มมากขึน" เวลากับเด็กที่รักพระเจ ้าอย่างจริงจัง ่ บ่อยครังที ้ ่ลูกกลับบ ้านแล ้ว เป็ น เรื่องธรรมดาที่เด็ก ๆ ทําตามแบบเด็กอืนๆ ้ บวัยรุน พูดคําบางคํา ที่คุณไม่เคยได ้ยินมาก่อน ถ ้าเกิดขึนกั ่ ที่มาจากสภาพ ุ าพ เราจําเป็ นต ้อง แวดล ้อม ไม่ใช่คริสเตียน เขาอาจจะใช ้คําพูด ที่ไม่สภ ตระหนักอย่างมากถึงมิตรภาพที่จะช่วยเสริมสร ้างลูก ขณะที่พวกเขากําลัง สร ้างรูปแบบพฤติกรรมตลอดวัยเด็กและวัยรุน ่ พวกเขากําลังได ้รับคําแนะนํ า จากผู ้ที่เกี่ยวข ้องกับเขา 11. อย่ามองข้ามอิทธิพลของโรงเรียนคริสเตียน ้ เด็กๆ จําเป็ นต ้องได ้รับอิทธิพลนอกบ ้าน บางครังเขาอาจจะคิ ดว่า นี่ คือวิธท ี ี่ ่ อ แต่ไม่มีใครอืนเห็ ่ นเช่นนั้น ดังนั้น เราใช ้ในบ ้าน นี่ คือสิ่งที่พ่อและแม่เชือถื ่ อิทธิพล ของ เป็ นการดีสาํ หรับพวกเขา ที่จะเรียนโรงเรียนคริสเตียน ที่ซึงมี พระเจ ้าครอบคลุมอยู่ เด็กๆมักจะยกย่องครู ครูพูดถูกไปหมดและนี่ เป็ นธรรม ชาติ แม่และพ่อมีความสําคัญรองลงมา ครูเป็ นผูม้ ีความสําคัญกว่าในจุดนี ้ ครูเป็ นสัญลักษณ์ ของสิทธิอาํ นาจสัญลักษณ์แห่งการศึกษาและการฝึ กฝน จุดประสงค ์ของครูคือการสอนเด็กในสิ่งที่เขาไม่รู ้ ดังนั้นเด็กจึงเคารพและยก ย่องครู ครูที่เป็ นคริสเตียน สามารถเสริมสิง่ ที่สอนในครอบครัว อยูแ่ ล ้ว บ่อยครัง้ เหลือเกิน ที่ครูที่ยังไม่เป็ นคริสเตียน จะหัวเราะเยาะและทําลายการ ฝึ กฝน แบบคริสเตียนที่เด็กได ้รับจากครอบครัว พูดอีกอย่างหนึ่ งก็คือเป็ นสิ่งที่น่ า หนุ นใจที่เด็กจะมีครูที่เป็ นคริสเตียน มีผู ้หญิงคนหนึ่ งเล่าให ้ผมฟังถึงนักเรียน คนหนึ่ งของเธอ เมื่อเอสังเกตเห็นความวิตกของเขาและถามว่าเกิดอะไรขึน้ ปี เตอร ์เล่าถึงปัญหาของเขา ดังนั้นเธอจึงแนะนํ าให ้เขามาโรงเรียนแต่เช ้าขึน้ ้ ่ ้ เมื่อเขาอธิษฐาน เล็กน้อยทุกวันเพื่อทังสอง จะสามารถคุยกับพระเจ ้าเรืองนี ้ เพียงแต่สนใจและแบ่งปัน ร่วมกันปัญหาก็ได ้รับการแก ้ไข ครูคริสเตียนผู ้นี ไม่ ความวิตก เธอสามารถนํ าเขาไปสูพ ่ ระคริสต ์ผู ้ยินดีที่จะแก ้ปัญหาของเขา ด ้วย เด็กผู ้อยูใ่ นโรงเรียนคริสเตียน ไม่เพียงแต่มีโอกาส ที่จะมีครูคริสเตียน


www.christianthai.net

เท่านั้น เขายังมีเพื่อนเล่นที่เป็ นคริสเตียนด ้วย เพื่อนที่มีความคิดคล ้ายกัน มีความสนใจคล ้ายกัน และสนุ กสนานในการร่วมกิจกรรมที่มีพระคริสต ์เป็ น ้ ่เพื่อนนักเรียนแบบนั้นกลายเป็ นเพื่อนสนิ ทกันในเวลา ศูนย ์กลาง บ่อยครังที ต่อมา ่ คําสังสอนในโรงเรี ยน ก็เป็ นสิ่งสําคัญด ้วย ผมรู ้จักชายคนหนึ่ งที่ประกาศใน ้ั ยนว่า "ผมไม่เชือพระคั ่ ่ ชนเรี มภีร ์ และคนที่มีความคิด ก็ไม่เชือพระคั มภีร ์ หรอก" แล ้ว เขาก็พูดต่อต ้านพระคัมภีร ์เสียยืดยาว แต่ในทางตรงกันข ้าม ่ ยนอยูใ่ นโรงเรียนคริสเตียนได ้แสดงความ รู ้สึกเกี่ยวกับการสร ้าง อาเธอร ์ซึงเรี ่ าพระเจ ้าสร ้างมนุ ษย ์เหมือนอย่างที่พระคัมภีร ์กล่าวไว ้" ครู มนุ ษย ์ว่า"ผมเชือว่ เห็นด ้วยและกล่าวว่าเนื่ องจากไม่มีหลักฐานที่จะสนับสนุ นข ้อโต ้แย ้ง ความ ่ ้ เชือของอาเธอร ์ได ้รับการเสริมให ้เข ้มแข็งขึนมากกว่ าถูกทําลาย สิ่งเหล่านี ้ ้ มักเกิดขึนในโรงเรี ยนคริสเตียนมีการเน้นหลายสิ่งในโรงเรียนคริสเตียนที่คุณ จะไม่พบในโรงเรียนที่ไม่ใช่ คริสเตียน ผมจําได ้ว่าวันหนึ่ งเมื่อลูกสาวของเรา เป็ นเด็กนักเรียน ในโรงเรียนคริสเตียน เธอถูกบังคับให ้ท่องจําเพลงนมัสการ ้ั ยนภาษาอังกฤษทุกเดือน นี่ เป็ นส่วนเล็กน้อยของ หนึ่ งหรือสองบท ในชนเรี หลักสูตร แต่แน่ ละมันเป็ นสิ่งสําคัญ ในโรงเรียนคริสเตียนเด็ก ๆ มีโอกาส ที่จะเข ้าร่วมนมัสการ ผู ้เทศนาจะเล่าถึงการที่พระเจ ้าจัดการกับชีวิตของเขา ในสภาพแวดล ้อมเช่นนั้น ความคิดของนักเรียนจะขยายออก และเขาจะมี ความยินดีในการได ้ยินผูอ้ ื่นที่รักพระเจ ้าพูดใน โรงเรียนคริสเตียนนักเรียน จะได ้เรียนพระคัมภีร ์ และอภิปรายถึงความเกี่ยวพัน ของพระคัมภีร ์ ต่อ ชีวิตประจําวันพระวจนะที่ติดอยูใ่ นดวงใจของเด็กๆ จะเป็ นแหล่งของกําลังทุก ่ ั วิตของเขา วันตลอดชวชี 12. ค่ายคริสเตียนสามารถช่วยลู กได้ ค่าย คริสเตียนให ้โอกาสเด็กเพื่อก ้าวสูโ่ ลกใหม่ที่มหัศจรรย ์ พวกเขาอาจจะ วิ่งออกกําลังไปรอบๆหมู่บ ้าน ไปคริสตจักร ไปเรียนรวีฯ และกลุม ่ อนุ ชน แต่ เมื่อเขาเข ้าค่าย ทุกสิ่งแตกต่างออกไป บรรยากาศแสนวิเศษ ข ้างนอกแทรก


www.christianthai.net

ซึมลงไปในตัวเด็กๆ การออกไปเที่ยว มิตรภาพ ความสนุ กสนาน ดึงดูด หัวใจของเด็ก ๆ รายการของค่ายอาจจะประกอบ ด ้วยการศึกษาพระคัมภีร ์ การสันทนาการ หัตถกรรม กีฬา เวลาสนุ กสนาน การเล่นรอบกองไฟ และการประชุม ่ พิเศษอืนๆ ในทุกๆ นาทีพระคริสต ์แทรกซึมอยู่ เด็กเรียนรู ้ความหมายของ การอยูเ่ พื่อพระคริสต ์และมีพระคริสต ์ในชีวิต ที่ค่ายเด็กเปิ ดใจต่อคําแนะนํ า ่ ่ทํางานกับพวกเขา ของผู ้ให ้คําปรึกษาและผู ้อืนที นั่นไม่ใช่สถานการณ์ที่ ้ั ฯ หรือที่คริสตจักร ที่นี่ เป็ นเวลาสนุ กสนานและ พวกเขามีที่บ ้าน ที่ชนรวี กระนั้นชาวค่ายก็พบว่าพระกิตติคณ ุ มีสว่ นเกี่ยวพัน กับชีวิตอย่างมากด ้วย ้ ่ งผมจําได ้ ถึงผูอ้ าํ นวยการ คริสเตียนศึกษาท่านหนึ่ ง (หลังจากที่นํ า ครังหนึ กลุม ่ อนุ ชนไปเข ้าค่าย เป็ นเวลา 2 สัปดาห ์) กล่าวว่าเด็กๆดูเหมือนจะเติบโต ้ ฝ่ ายจิตวิญญาณในสองอาทิตย ์นี มากกว่ าที่เขาเติบโตตลอดปี ที่ บ ้านเสียอีก ้ าคัญ ในชีวิต ที่ค่ายเด็กๆ นี่ อาจจะไม่จริง แต่วยั รุน ่ มากมาย ตัดสินใจครังสํ ่ และวัยรุน ่ ผู ้เติบโต ในครอบครัวคริสเตียนและไปโบสถ ์ประจําอาจเชืองช ้าใน ่ ่ การยืนหยัดเพื่อพระคริสต ์จนกระทังเขาไปเข ้าค่ายบางคนที่รับเชือแล ้วอาจ ่ จะสําแดงให ้เห็นว่าเขาเติบโตเพียงเล็กน้อยจนกระทังเขาได ้ไปเข ้าค่าย ผูใ้ ห ้ ่ ได ้รับความรอดและตัดสินใจในการอุทิศ คําปรึกษามีความคาดหวังให ้วัยรุน และแยกตัวออกจากโลกดังนั้นไม่เพียงแต่อยูใ่ นสภาพที่ใหม่เท่านั้น แต่เด็กๆ ่ จด จะทําตามรายการของค่าย ที่ได ้จัดเตรียมไว ้ ซึงมี ุ ประสงค ์ เพื่อนํ าเด็กให ้ ต ้อนรับพระเยซู ้ งจาก พระ อิทธิพลของชาวค่าย ให ้บรรยากาศ ฝ่ ายวิญญาณ ที่ลึกซึงหลั อาทิตย ์ตก ความมืดเข ้าครอบคลุมค่าย คนหนุ่ มสาว เข ้าล ้อมรอบกองไฟ เพื่อร ้องเพลงสรรเสริญ และแบ่งปัน ประสบการณ์คริสเตียน คําพยานง่ายๆ เหล่านี ้ มักมีผลต่อชาวค่ายมากมายเกินกว่าการพูดคุยกันหรือคําเทศนา ใดๆ พ่อ แม่ที่ฉลาดจะใช ้ความพยายามทุกๆ ทางเพื่อส่งลูกไปเข ้าค่ายคริส ่ เตียนไม่วา่ จะเป็ นค่ายฤดูร ้อน หรือค่ายอืนๆ ที่เหมาะสม เช่นค่ายเด็กรุน ่ กลางของคริสเตียนศึกษาแบ๊บติสต ์ ค่ายของ นคท. YFC. ฯลฯ


www.christianthai.net

้ ่ ผมจําได ้ว่าหญิงคนหนึ่ งกล่าวว่า “เราเกือบจะส่งบ๊อบไปเข ้าค่ายฤดูร ้อนนี อยู แล ้ว แต่นี่เป็ นโอกาสที่เขาจะหาเงิน” สองสามปี ให ้หลังผมพบเด็กหนุ่ มคนนี ้ เขาไม่ได ้อยูเ่ พื่อพระเจ ้าอีกต่อไปแล ้ว ผมรําพึงในใจว่า “ใช่ เขามีรถยนต ์ มี งานทํา และสิ่งที่เป็ นวัตถุอน ื่ ๆ แต่สิ่งที่เขาจําเป็ นต ้องมีมากที่สุด ไม่ใช่ ้ ยวกั ่ รถยนต ์แต่เป็ นการเรียนรู ้มากขึนเกี บพระเยซูและอยูเ่ พื่อพระองค ์ เขา ไม่มีโอกาสนั้นเพราะว่า พ่อแม่ไม่ได ้ตระหนักถึงความสําคัญของการส่งเขา ไปเข ้าค่ายคริสเตียน” มัน คุ ้มค่าที่จะส่งลูกไปเข ้าค่ายคริสเตียนแม้วา่ คุณ ต ้องเสียสละบ ้าง พระพรและความจริงที่ได ้รับ ที่ค่ายจะเพิ่มเติม การอุทิศตน ้ นผลให ้เป็ นระยะ เพื่อครอบครัวแม้จริงแล ้วอิทธิพลของเวลาที่ใช ้ในทางนี จะปั ้ เวลายาวนาน ไม่ใช่เพื่อชาวค่ายเท่านั้น แต่เพื่อครอบครัวทังครอบครั วด ้วย ่ ชีวิตของเขาอาจจะได ้รับการบันดาลใจมากจนกระทังพระเจ ้าสามารถใช ้เขา ่ ไปประกาศ กับคนอืนๆ ได ้ ่ ่ บผู อ ้ ืน 13.แสดงให้ลูกเห็นถึงวิธีแบ่งปั นความเชือกั โอกาส ที่ยิ่งใหญ่อน ั หนึ่ งของชีวิตคือการได ้แบ่งปันพระกิตติคณ ุ กับผู ้อื่น ไม่ ต ้องสงสัยว่าไม่มีประสบการณ์อน ั ใดจะเทียบเท่าประสบการณ์ของการที่พระ ่ ่ ้ามกับที่บาง เจ ้า ใช ้ให ้เรานํ าคนอืนมาถึ งความรอดในพระคริสต ์ได ้ ซึงตรงข คนคิด การนํ าคนมาถึงความรอด ไม่ได ้จํากัดอยูเ่ ฉพาะผู ้ใหญ่เท่านั้น เด็ก ้ ้วย และวิธท อาจมีประสบ.การณ์ นี ด ี ี่ดีที่สุดวิธห ี นึ่ งที่จะช่วยเด็กให ้เติบโตใน ่ ่ ่ อการกระทํา ให ้เห็นว่าจะนํ าคนอืนมาเชื อพระเยซูได ้อย่างไร ความเชือคื ตัวอย่างของคุณเอง จะมีความหมาย ต่อลูกอย่างมาก เมื่อลูกเห็นว่าคุณมี ส่วนร่วม ในการนํ าวิญญาณ เขาจะพบว่า นั่นเป็ นธรรมชาติ ที่จะพูดคุยกับ ่ ้วย ถ ้าลูกรู ้ว่ามีบางคนรับพระเจ ้าขณะที่มีบางคนปฏิเสธ พวกเขาจะ ผู ้อืนด ไม่รู ้สึกท ้อแท ้มากเมื่อมีการปฏิเสธเกิดขึน้ เป็ นสิ่งสําคัญสําหรับคุณที่จะคุย ่ กับลูกเกียวกั บการเป็ นพยานเมื่อเขาพูดกับใครบางคนเกี่ยวกับพระเจ ้าคุณ สามารถพูดว่า “พ่อดีใจที่ลูกทําเช่นนั้นพ่อรู ้ว่าพระเจ ้าพอพระทัย และนี่ คือ สิ่งที่พระเจ ้าต ้องการให ้ลูกทํา”


www.christianthai.net

คุณอาจจะอธิบาย ต่อลูกว่าทําไมคุณจึงไม่พูดจาดูหมิ่นและเป็ นพยานใน ่ ้สึกและรู ้ถึงวิธท เวลาเดียวกัน ถ ้าเขาเข ้าใจ สิ่งที่คนอืนรู ี ี่เขาจะโต ้ตอบนั่นจะ มีสว่ นช่วยลูกด ้วย สิ่ง แรกในการเป็ นพยาน คือ เด็กต ้องมีความสัมพันธ ์ ส่วนตัวกับพระเยซูคริสต ์ก่อน ประการที่สองเขาต ้องมีความคุ ้นเคยกับพระ คําของพระเจ ้าผ่านทางการใช ้และการจดจําตอนพิเศษในพระคัมภีร ์อยู่เสมอ ประการที่สาม เขาต ้องรู ้สึกถึง ความเร่งด่วนในการแนะนํ า ให ้เพื่อนและผู ้ คุ ้นเคยรู ้จักพระ เจ ้า ้ าให ้จิตวิญญาณของลูกเติบโตขึน้ พ่อแม่ ผู ้เป็ นพยานที่ดีและผู ้ สิ่งเหล่านี ทํ ่ ่ดีในลูกการได ้ ที่สอนให ้ลูกกระทําอย่างเดียวกันจะสร ้างรากฐานความ เชือที ่ จะช่วยให ้ความเชือของเรา ่ เห็นพระกิตติคณ ุ ที่กําลังเกิดผลในชีวิตของผูอ้ ืน ้ างเป็ นโอกาสที่ยิ่งใหญ่อะไรเช่นนั้นในการนํ าคนมาหาพระคริสต ์ เห็น ลึกซึงช่ เขารับความรอด แล ้วเห็นเขาเติบโตในพระเจ ้า ตลอด เวลาหลายปี ผมได ้ สังเกตว่าคริสเตียนผูย้ งั คงจริงจังกับพระเจ ้า คือผู ้ที่ยังคงเป็ นพยาน พูดอีก อย่างหนึ่ ง คือ ศิษยาภิบาล นักประกาศ ผูส้ อนพระคัมภีร ์ และคริสเตียน ่ ่ ทัวไป ผู ้สูญเสียความเชือและตกอยู ใ่ นความบาปที่น่ าละอายมักจะเป็ นผู ้ที่ไม่ ่ ค่อย เป็ นพยานกับผู ้อืน ผู ้ใหญ่หลายคนมารู ้จักพระคริสต ์เพราะคําพยานของเด็กๆและแน่ ละ เด็กๆ ่ ดังนั้นถ ้าคุณต ้องการให ้ลูก มากมายมารู ้จักพระเจ ้าโดยผ่านทางเด็กคนอืนๆ เติบโตในพระเจ ้า จงช่วยเขาให ้เข ้าใจการเป็ นพยาน จงให ้โอกาสกับเขาและ ่ เป็ นพยายร่วมกับเขา เพื่อว่าเขาจะมีสว่ นในการนํ าผู ้อืนมาสู พ ่ ระคริสต ์ นั่น แหล่ะ คือการุทิศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุ ษย ์สามารถจะทําได ้ “และบรรดาคนที่ฉลาดจะส่องแสงเหมือนแสงฟ้ า และบรรดาผูท้ ี่ได ้ให ้คนเป็ น อันมากมาสูค ่ วามชอบธรรมจะส่องแสงเหมือนอย่างดาว เป็ นนิ ตย ์นิ รน ั ดร ์” (ดาเนี ยล 12:3)


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.