พฤษภาคม 2564 ปีที่ 12 I ฉบับที่ 8
Creative Place
Malmö, Sweden
Creative Business
PumpCharge.com The Creative
ดร. บัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ (กกพ.)
Goes Online! Dates Extended for You to Visit the Festival
E RE C SU RG EN
OF POSSIBILITIES
8 May 31 July
ตอ ่ ไปสูค ่ ว า ม เ ป น ็ ไ ป ไ ดใ้ หม ่
กา้ ว
ปรับสู่ออนไลน์ และขยายเวลาจัดงานในพื้นที่
ONE OF THE FASTEST WAYS TO BUILD THE CLEAN ENERGY ECONOMY IS TO ALLOW MORE PEOPLE TO BENEFIT FROM IT วิธีที่จะสร้างเศรษฐกิจจากพลังงานสะอาดได้เร็วที่สุดก็คือ ให้คนจำ�นวนมากขึ้นได้รับประโยชน์จากมัน Billy Parish
Photo by Aaron Weiss on Unsplash
นักรณรงค์และผู้ประกอบการ ด้านสิ่งแวดล้อมชาวอเมริกัน
Contents : สารบัญ
Creative Update _ มนต์รักษ์สมาร์ตมิเตอร์ : มิเตอร์ที่จะทำ�ให้คุณรักบิลค่าไฟมากขึ้น / แบตเตอรีมนุษย์ : พลังงานจากร่างกายคน / ส่องสว่างด้วยน้ำ�เค็ม
Creative Resource _ Featured Book / Article / Film MDIC _ โซลาร์เซลล์ทางเลือกเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน Creative District _ โอบอ้อม “อารีย์” กับ AriAround...แพลตฟอร์มเพื่อสังคมสำ�หรับชาวอารีย์-ประดิพัทธ์ Cover Story _ Clean Enery for Life Fact and Fig ure _ เมื่อวันที่ชีวิต (และพลังงาน) เดินเข้ามาถึงจุดเปลี่ยน Creative Business _ PumpCharge.com แพลตฟอร์มเพื่อยานยนต์ไฟฟ้า ที่เติมพลังงานสะอาดให้โลก How To _ Waste to Energy ทางเลือกใหม่ของพลังงานจากขยะ Creative Place _ Malmö, Sweden สะดุด ลุกขึ้น และยั่งยืนไปให้สุด The Creative _ ดร. บัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ คุยเรื่องปัจจุบันของพลังงานแห่งอนาคต Creative Solution _ Wonder Waste! เปลี่ยนขยะให้เป็นพลังงานไฟฟ้าสุดคูล
บรรณาธิการทีป่ รึกษา l อภิสทิ ธิ์ ไล่สตั รูไกล บรรณาธิการอำ�นวยการ l มนฑิณี ยงวิกลุ ทีป่ รึกษา l เลอชาติ ธรรมธีรเสถียร บรรณาธิการบริหาร l พัชรินทร์ พัฒนาบุญไพบูลย์ กองบรรณาธิการ l อำ�ภา น้อยศรี ธารณ์ธันยา วรพันธ์ภัทร ญาณิศา ประดิษฐ์บุญ และ สรศักดิ์ ปันชำ�นาญค้า เลขากองบรรณาธิการ l ณัฐชา ตะวันนาโชติ ศิลปกรรม l ชิดชน นินนาทนนท์ ประสานงานกองบรรณาธิการ l วนบุษป์ ยุพเกษตร เว็บไซต์ l นพกร คนไว นักศึกษาฝึกงาน l ธัญญลักษณ์ ช่วยทัพพระยา จัดทำ�โดย l สํานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) (CEA) 1160 อาคารไปรษณีย์กลาง ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทร. 02 105 7400 แฟกซ์. 02 105 7450 ติดต่อลงโฆษณา : Commu.Dept@tcdc.or.th จัดทำ�ภายใต้โครงการ “Creative Thailand สร้างเศรษฐกิจไทยด้วยความคิดสร้างสรรค์” โดยสํานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) (CEA) ซึง่ มีเป้าหมายในการเผยแพร่ความรูเ้ กี่ยวกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) และผลักดันการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการขับเคลือ่ นเศรษฐกิจไทย
อนุญาตใหใชไดตามสัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส แสดงที่มา-ไมใชเพื่อการคา-อนุญาตแบบเดียวกัน 3.0 ประเทศไทย
Editor’s Note : บทบรรณาธิการ
Orsted เคยเป็นบริษทั ผลิตพลังงานจากเชือ้ เพลิงทีใ่ หญ่ทส่ี ดุ ของเดนมาร์ก ในชือ่ DONG (Danish Oil and Natural Gas) ทีต่ ดั สินใจเปลีย่ นโมเดล ธุรกิจจากสีด�ำ ให้กลายเป็นสีเขียว โดยใช้เวลาเพียง 10 ปีเพื่อก้าวขึ้นเป็น ผู้ผลิตพลังงานลมที่ครองส่วนแบ่งถึงหนึ่งในสามของโลก แต่ความสำ�เร็จ ของ Orsted ไม่ได้เกิดเพราะความพยายามของบริษทั อย่างเดียว แต่เครดิต ส่วนหนึ่งมาจากรัฐบาลเดนมาร์กทีต่ อ้ งย้อนกลับไปตัง้ แต่ปี 1970 ทีม่ องหา แหล่งพลังงานทดแทนในกรณีที่โลกเกิดวิกฤตการณ์น้ำ�มันที่ทั้งราคาแพง และมีแนวโน้มขาดแคลน ท่ามกลางกระแสต่อต้านพลังงานนิวเคลียร์ของ เหล่านักเคลื่อนไหว ผลลัพธ์จึงออกมาที่พลังงานลม ที่พร้อมไปด้วย นโยบายในการสนับสนุน ทัง้ เงินอุดหนุน งานวิจยั ของภาครัฐ การเก็บภาษี มลพิษและคาร์บอน การสือ่ สารด้วยฉลากสินค้า และการใช้มาตรการทาง ภาษีเพื่อสนับสนุนกลุ่มผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียน รวมถึงการลงมาร่วมด้วย ช่วยกันของเทศบาลและชุมชน ซึง่ ประกอบกันเป็นสภาพแวดล้อมที่ทำ�ให้ พลังงานลมนั้นเกิดเป็นอุตสาหกรรมที่เจิดจรัสของเดนมาร์กด้วยรายได้ ราว 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (มากกว่า 3 แสนล้านบาท) ทัง้ ยังช่วยดันให้เป้าหมาย ในการลดก๊าซเรือนกระจกของเดนมาร์กลดลงถึงร้อยละ 70 จากปี 1990 ทำ�ให้เดนมาร์กเป็นประเทศทีม่ กั ถูกหยิบยกมาเป็นตัวอย่างของความสำ�เร็จใน การใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลก ถ้าหากไม่ได้เริ่มต้นมายาวนานอย่างเดนมาร์ก เส้นทางในการปรับ โครงสร้างจากการใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ใช้กันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 อาจดูชา่ งยาวไกลเมือ่ ความสำ�เร็จนัน้ ถูกฝากไว้กบั ปัจจัยมากมายทีเ่ ป็น เหมือนการพลิกโฉมระบบนิเวศทางธุรกิจ จนเมื่อผลกระทบที่เกิดขึ้นจาก สภาพภูมอิ ากาศแปรปรวนได้ส�ำ แดงผลอย่างเด่นชัด พร้อมกับการแพร่ระบาด ของโควิด-19 ทีเ่ กิดขึน้ ทัว่ โลก ทำ�ให้กลายเป็นแรงกดดันให้นานาประเทศ ต้องหันมาจริงจังกับคำ�มั่นสัญญาในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยวิธีคิดแบบรวบยอดทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
แผนกรีน นิว ดีล (Green New Deal) ของรัฐบาลเกาหลีใต้คือ ส่วนหนึง่ ของแผนฟืน้ ฟูเศรษฐกิจภายหลังโควิด-19 ภายใต้งบประมาณ 73.4 ล้านล้านวอน (ประมาณ 2 ล้านล้านบาท) โดยมีเป้าหมายในการจ้างงาน 659,000 ตำ�แหน่งจากการปรับปรุงอาคารสาธารณะด้วยวัสดุรกั ษ์โลกและ นำ�ระบบพลังงานหมุนเวียนมาใช้ เพือ่ สนับสนุนการใช้ระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ รถยนต์และเรือที่ใช้พลังงานสะอาด ตลอดจนเพิม่ แรงจูงใจให้มกี ารลงทุน ในนวัตกรรมสีเขียวมากขึน้ ส่วนประเทศจีนนัน้ ค่อนข้างชัดเจนในการออก นโยบายที่รวมการพัฒนาอุตสาหกรรม ความมั่นคงทางพลังงานและ สิ่งแวดล้อมให้อยู่ภายใต้กลยุทธ์เดียวกันมาโดยตลอด ขณะที่ “กลยุทธ์ การเติบโตสีเขียว” ภายใต้การนำ�ของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โยชิฮิเดะ ซุกะ (Yoshihide Suga) ก็มเี ป้าหมายในการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกสุทธิ จนเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 และอาจจะต้องเตรียมแพ็กเกจพิเศษ เพื่อสนับสนุนให้ผ้ผู ลิตรถยนต์และเหล็กรายใหญ่ของประเทศหันมาใช้ พลั ง งานสะอาดในการผลิ ต ที่ ต้ อ งมี ก ารลงทุ น ด้ า นเทคโนโลยี แ ละ นวัตกรรมมหาศาล พร้อมกับการวางกฎระเบียบเพื่อรองรับโครงสร้าง สาธารณูปโภคใหม่ที่กำ�ลังจะเกิดขึ้น จากเกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น จนมาถึงคำ�กล่าวของประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกาคนล่าสุด โจ ไบเดน ในการประชุมออนไลน์สุดยอดผู้นำ� ด้านสภาพอากาศแปรปรวน (Climate Change Summit) เมือ่ เดือนเมษายน 2021 ที่กล่าวว่า “วันนี้เราไม่ได้มาพูดถึงภัยคุกคามจากสภาพอากาศ แปรปรวน แต่เป็นเรือ่ งของการสร้างโอกาสใหม่ในการจ้างงานที่ให้ค่าแรงดี ๆ นับล้านให้เกิดขึน้ ทัว่ โลก” ก็อาจทำ�ให้เราพอจะมองเห็นเส้นทางสูพ่ ลังงาน สะอาดเพือ่ การรักษาโลกใบนีท้ ก่ี ระชับขึน้ เพราะประเด็นเหล่านีไ้ ม่ได้วา่ ยวน อยู่กับในกลุ่มนักวิทยาศาสตร์หรือกลุ่มคนรักษ์โลกเท่านั้น แต่กำ�ลังถูก ถักทอให้เป็นส่วนหนึง่ ของการฟืน้ ฟูเศรษฐกิจ และการเป็นตลาดแรงงานใหม่ ที่กำ�ลังมาแรงในอนาคต มนฑิณี ยงวิกุล บรรณาธิการอำ�นวยการ
CREATIVE THAILAND I 5
Creative Update : คิดทันโลก
เรื่อง : วนบุษป์ ยุพเกษตร
smartenergygb.org
บิลค่าไฟฟ้าเดือนนี้ของคุณเป็นยังไงบ้าง...ตอนนี้ค่าไฟพุ่งอาจกลายเป็น ปัญหาระดับชาติที่ทำ�ให้หลายบ้านช็อกไปตาม ๆ กัน ยิ่งช่วงหน้าร้อนที่ กระหน่ำ�เปิดเครื่องปรับอากาศจนดันมิเตอร์สูง หรือประเทศเมืองหนาวที่ ค่าไฟจะสูงเพราะฮีตเตอร์ในช่วงปลายปีล่ะก็ไม่ต้องพูดถึงเลย แต่เดี๋ยวนี้ทั่วโลกพยายามพัฒนา สมาร์ตมิเตอร์ (Smart Meter) หรือ มิเตอร์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่จะคอยบอกการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์ พร้อม คำ�นวณค่าไฟขณะใช้ให้เสร็จสรรพ รวมถึงประเทศไทยที่เริ่มทดลองใช้แล้ว กับเมืองพัทยา โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นที่แรกด้วย และก็ใช่ ทีส่ หราชอาณาจักรถือว่าสมาร์ตมิเตอร์เป็นแคมเปญระดับชาติ ที่จะช่วยให้ประเทศบรรลุเป้าหมายลดคาร์บอนให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050 เพราะการใช้ ส มาร์ ต มิ เ ตอร์ ส ามารถบอกภาพรวมการใช้ ไ ฟฟ้ า ของทั้ ง ประเทศได้ จึงทำ�ให้สามารถจัดการใช้พลังงานทดแทนหรือพลังงานสะอาด อย่างพลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานลมได้เหมาะสมกับการใช้งานและ ความต้องการของแต่ละพื้นที่ เจ้าสมาร์ตมิเตอร์จะคอยรายงานการใช้ไฟฟ้าแบบวันต่อวัน และจัดเก็บ ข้อมูลโดยอัตโนมัติ ผู้ใช้งานสามารถเห็นตัวเลขนี้ได้เองบนหน้าจอที่ติดตั้ง ในบ้าน (In-home Display) ผ่านคลื่นความถี่คล้ายกับความถี่โทรศัพท์ โดยไม่ตอ้ งใช้อนิ เทอร์เน็ต จึงช่วยให้ผใู้ ช้งานประหยัดเงิน พร้อมทัง้ มีสว่ นช่วย ลดคาร์บอนไปในตัว “แต่กอ่ นฉันไม่เคยรูเ้ ลยว่าเราใช้พลังงานไปมากเท่าไร แล้วสิน้ เดือนจะ ต้องจ่ายค่าไฟเท่าไร แต่พอมีสมาร์ตมิเตอร์ ก็คำ�นวณบิลค่าไฟได้ แถมยัง ช่วยประหยัดค่าไฟได้มากกว่า 10 ปอนด์ (ประมาณ 430 บาท) ต่อเดือน” อีฟ ผู้ใช้งานจากเขตน็อตติงแฮมเชอร์กล่าว
โดยรัฐบาลคาดการณ์ว่าในหนึ่งปีแต่ละบ้านจะประหยัดค่าไฟไปกว่า 250 ปอนด์ (ประมาณ 10,760 บาท) ทีเดียว นอกจากนั้นสมาร์ตมิเตอร์ ยังสามารถเปลี่ยนเข้าสู่โหมด สมาร์ตทารีฟ (Smart Tariff) หรือ โหมดคิดเงิน ตามช่วงเวลาการใช้งานได้งา่ ยขึน้ ซึง่ เครือ่ งจะส่งสัญญาณเตือนเมือ่ เข้าสูช่ ว่ ง ออฟพีก (Off Peak) หรือช่วงเวลาทีม่ คี วามต้องการใช้พลังงานต่�ำ ทีส่ ามารถ ใช้ไฟฟ้าในอัตราต่อหน่วยที่ถูกลง เพื่อให้เราได้เลือกใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลา ทีป่ ระหยัดเงินในกระเป๋ามากขึน้ เช่น การชาร์จรถไฟฟ้าทิง้ ไว้ในช่วงกลางคืน หรือตั้งเวลาเครื่องล้างจานให้ทำ�งานตามเวลาที่ค่าไฟถูก สมาร์ตทารีฟจะทำ�งานเหมือนมิเตอร์ TOU1 (Time of Uses) ที่จะระบุ ช่วงเวลาการใช้คา่ ไฟฟ้าทีต่ า่ งกัน คือ ช่วงเวลาทีม่ คี วามต้องการใช้พลังงานมาก (On Peak) และช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้พลังงานต่ำ� (Off Peak) เช่น วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00-22.00 น. ค่าไฟฟ้าหน่วยละ 5 บาท และนอกจาก วันเวลาที่กำ�หนด ค่าไฟฟ้าหน่วยละ 2 บาท เป็นต้น สิน้ เดือนพนักงานจดเลขมิเตอร์กอ็ าจจะไม่จ�ำ เป็นต้องคอยมาตรวจสอบ และลดความเสี่ยงจากการออกบิลค่าไฟพลาด ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เราได้ ปรับการใช้พลังงานอย่างเหมาะสมเต็มประสิทธิภาพ ใช้ไฟได้คุ้มค่า รักษา เงินในกระเป๋าแล้ว สมาร์ตมิเตอร์ก็ยังช่วยรักษาโลกให้รอดพ้นจากคาร์บอน ที่มากเกินไปอีกด้วย ที่มา : smartenergygb.org / บทความ “อัตราค่าไฟฟ้าที่แตกต่างกันตามช่วงเวลา (TOU) ลดวิกฤตช่วงพีคได้” (10 กรกฎาคม 2016) จาก tcijthai.com
แบตเตอรีมนุษย์ พลังงานไฟฟ้า จากร่างกายคน
เรื่อง : วนบุษป์ ยุพเกษตร เมือ่ นึกถึงพลังงานสะอาด คนทัว่ ไปคง นึกถึงพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ หรือพลังงานน้ำ� แต่ใครจะไปคิดว่า ร่ า งกายเรานี่ แ หละก็ ส ามารถผลิ ต พลังงานสะอาดได้เหมือนกัน (พลังงาน ความร้อนจากร่างกายมนุษย์โดยเฉลีย่ เที ย บเท่ า กั บ หลอดไฟ 100 วั ต ต์ เชียวนะ) มองดูสมาร์ตวอตช์ทข่ี อ้ มือ ทุกครัง้ ทีใ่ ช้จนแบตเตอรีหมด เราต้องนำ�ไป ชาร์จเพือ่ ให้ใช้งานได้ตอ่ ไป แต่ถา้ เราไม่ตอ้ งเสียเวลาไปชาร์จล่ะ ทัง้ ประหยัด เวลาและประหยัดไฟด้วย จะดีแค่ไหน สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งเกาหลี (KIST) นำ�ทีมโดยคิม จินซาง (Kim Jin Sang) ผูอ้ �ำ นวยการสถาบันวัสดุคอมโพสิตขัน้ สูงชอนบุก ได้พฒั นา อุปกรณ์เทอร์โมอิเล็กทริกแบบยืดหยุน่ ประสิทธิภาพสูง ทีส่ ามารถสร้างไฟฟ้าได้เอง อัตโนมัตจิ ากอุณหภูมใิ นร่างกายของผูส้ วมใส่อปุ กรณ์ เช่น สมาร์ตวอตช์ หรือ นาฬิกาวัดอัตราการเต้นของหัวใจ โดยไม่จ�ำ เป็นต้องพึง่ พาการชาร์จไฟอีกต่อไป
1 หากบ้านไหนหรือธุรกิจใดประเมินการใช้ไฟฟ้าแล้วว่าเหมาะกับการใช้งานแบบคิดอัตราค่าไฟฟ้าตามช่วงเวลาที่ใช้
สามารถติดต่อการไฟฟ้าเพื่อเปลี่ยนมิเตอร์เป็นแบบ TOU ได้ โดยมี ค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 3,740 - 19,000 บาท (ปรับลดใหม่เมื่อ 1 มกราคม 2563) และสามารถตรวจสอบอัตราค่าไฟฟ้าจริงทางสำ�นักงานการไฟฟ้าใกล้บา้ น ทีม่ า : การไฟฟ้าส่วนภูมภิ าค (กฟภ.) CREATIVE THAILAND I 6
facebook.com/MithrasTech
มนต์รักษ์สมาร์ตมิเตอร์ มิเตอร์ที่จะทำ�ให้คุณรักบิลค่าไฟมากกว่าเดิม
ที่มา : บทความ “Wearable Devices Without Charging Possible? New Technology May Use Body Heat for Power” (6 เมษายน 2021) โดย Mark Bustos จาก sciencetimes.com / บทความ “Source Technology for the Use of Wearable Devices Without Recharging” (8 เมษายน 2564) จาก printedelectronicsworld.com / mithras.tech / บทความ “When the human body becomes a powerhouse” (26 เมษายน 2564) จาก expatica.com
ส่องสว่างด้วยน้ำ�เค็ม เรื่อง : นพกร คนไว
พืน้ ทีข่ องคาบสมุทรกัวจิรา (Guajira Peninsula) ทางตอนเหนือระหว่างประเทศ เวเนซุเอลาและโคลอมเบีย เป็นทีอ่ ยูอ่ าศัยของของชนพืน้ เมืองเผ่าวายู (Wayúu) ด้วยสภาพแวดล้อมแบบทะเลทรายทีม่ ที ะเลแคริบเบียนล้อมรอบ ทำ�ให้เผ่าวายู เป็นกลุม่ ประชากรทีอ่ ยูห่ า่ งไกลจากความเจริญ แต่ความคิดสร้างสรรค์ทเี่ ป็น มรดกตกทอดจากรุน่ สูร่ นุ่ ทำ�ให้การถักลวดลายทีเ่ รียกว่า Kanasü ซึง่ หลายคน รู้จักในชื่อของ “กระเป๋าวายู” กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แรงบันดาลใจจากชนพื้นเมืองวายูทำ�ให้สตาร์ตอัพสัญชาติโคลอมเบีย อย่าง E-Dina ร่วมมือกับ Wunderman Thompson บริษัทเอเจนซีชื่อดัง ร่วมออกแบบนวัตกรรมโคมไฟที่ใช้พลังงานจากน้ำ�เค็มหรือ WaterLight ซึ่ง
dezeen.com
มีการทำ�งานคล้ายกับโคมไฟโซลาร์เซลล์ เพือ่ ช่วยให้ชนพืน้ เมืองได้เข้าถึงแสงสว่าง ซึง่ เป็นสิง่ จำ�เป็นยามค่�ำ คืน โคมไฟที่วา่ นี้ ต้องการน้ำ�ทะเลเพียง 500 มิลลิลิตร ก็สามารถให้ก�ำ เนิดแสงสว่างได้นานถึง 45 วัน นอกจากนีม้ นั ยังมีชอ่ งยูเอสบีท่ี สามารถใช้ชาร์จแบตเตอรีโทรศัพท์หรือ อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์อน่ื ๆ ได้อกี ด้วย “WaterLight สามารถสร้างแสงไฟได้มีประสิทธิภาพมากกว่าโคมไฟ โซลาร์เซลล์ เพราะมันผลิตแสงได้โดยทันที” ปิเป รุอิส ปิเนดา (Pipe Ruiz Pineda) ผู้บริหารด้านความคิดสร้างสรรค์ของ Wunderman Thompson สาขาโคลอมเบียกล่าว นั่นเป็นเพราะภายในกระบอกของโคมไฟมีพื้นผิวที่ ทำ�ด้วยแมกนีเซียมและทองแดง ซึ่งสามารถสร้างกระบวนการไอออไนเซชัน (Ionization) ผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อให้ความสว่างได้ทันที “E-Dina เป็นบริษทั ของชาวโคลอมเบีย เราจึงอยากเริม่ ต้นด้วยการแก้ไข ปัญหาของคนท้องถิน่ ในการเข้าถึงทรัพยากรไฟฟ้า” ปิเนดากล่าว พร้อมชีช้ ดั ถึงปัญหาสำ�คัญของชาววายูทไี่ ม่ได้รบั การเหลียวแลจากรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ชาววายูยังจำ�เป็นต้องประกอบอาชีพและมีปัจจัยพื้นฐานในการดำ�รงชีวิต ประจำ�วัน การมีแสงสว่างจะช่วยให้ช่างฝีมือสามารถถักกระเป๋า หรือช่วย แบ่งเบาค่าไฟให้แก่ชาวประมงที่ต้องออกเรือในยามค่ำ�คืนได้ และด้วย ความตั้งใจที่จะอุทิศสิ่งประดิษฐ์นี้ให้แก่ชนพื้นเมืองชาววายู ทีมออกแบบ จึงได้ผสานเอกลักษณ์ของงานฝีมอื ท้องถิน่ เช่น ลวดลายและสัญลักษณ์ในแบบ Kanasü ลงบนตัวกระบอกโคมไฟและสายสะพาย ซึง่ ถักโดยช่างฝีมอื ชาววายู มืออาชีพอีกด้วย จุดประสงค์ของการทำ�โคมไฟพลังงานน้ำ�เค็มคือการผลิตอุปกรณ์ จำ�นวนมากให้เพียงพอต่อประชากรที่ขาดแคลนไฟฟ้าทั่วโลก โดยเฉพาะ ประเทศอย่างซีเรีย สาธารณรัฐเซียร์ราลีโอน และโซมาเลีย ที่ยังมีการเข้าถึง ไฟฟ้าไม่เพียงพอแต่มีพื้นที่ติดแนวชายฝั่งทะเล นอกจาก WaterLight ที่เป็นนวัตกรรมการใช้พลังงานน้ำ�เค็มเพื่อผลิต ไฟฟ้าแล้ว ก็ยังมีเฮนรี โกวกัว (Henry Glogau) ดีไซเนอร์ชาวนิวซีแลนด์ที่ ประยุกต์การใช้พลังงานแสงอาทิตย์มาสร้างเป็นพลังงานไฟฟ้า และเปลี่ยน น้�ำ ทะเลให้เป็นน้�ำ ทีส่ ะอาดพร้อมใช้งาน อันล้วนเป็นตัวอย่างของความพยายาม นำ�เอาน้�ำ ทะเลมาใช้ประโยชน์ได้มากกว่าทีค่ ดิ ซึง่ หากมองว่าทรัพยากรน้�ำ ทะเล สามารถใช้เป็นพลังงานหมุนเวียนได้ ก็คงจะดีไม่นอ้ ยสำ�หรับวิถชี วี ติ ของผูค้ น ที่อยู่ใกล้กับท้องทะเล ทีม่ า : บทความ “WaterLight is a portable lantern that can be charged with salt water or urine” โดย Jennifer Hahn จาก dezeen.com / บทความ “Henry Glogau’s Solar Desalination Skylight provides free lighting and drinking water” โดย Pranjal Mehar จาก inceptivemind.com
CREATIVE THAILAND I 7
dezeen.com
แค่ 1 องศาที่ต่างกันก็สร้างพลังงานได้แล้ว นี่คือหลักการง่าย ๆ ของ การผลิตพลังงานไฟฟ้าด้วยอุปกรณ์เทอร์โมอิเล็กทริก (Thermoelectric Device) ที่ต้องอาศัยความแตกต่างระหว่างอุณภูมิเพื่อสร้างไฟฟ้า โดยใช้ ความต่างของความร้อนจากร่างกาย (ที่ประมาณ 32 องศาเซลเซียสขึ้นไป) และอุณหภูมิจากอากาศรอบ ๆ ตัว ปกติแล้วการสร้างไฟฟ้าจากเทอร์โมอิเล็กทริกให้ได้ดจี ะต้องผ่านพืน้ ผิวแข็ง แต่เทคโนโลยีจากเกาหลีนี้สามารถเปลี่ยนซิลิโคนชนิด PDMS ให้เป็นฉนวน กันความร้อน ทีจ่ ะช่วยเพิม่ ประสิทธิภาพในการทำ�งานและสร้างไฟฟ้าได้ดว้ ย การปรับโครงสร้างให้เหมือนฟองน้ำ� อันดับแรก ทีมวิจยั จะเทสารละลายซิลโิ คนเข้ากับก้อนน้�ำ ตาลแล้วปล่อย ให้แข็งตัว จากนั้นก็เอาก้อนน้ำ�ตาลไปละลายในน้ำ� และในขณะที่น้ำ�ตาล กำ�ลังละลายนัน้ ก้อนน้�ำ ตาลก็จะค่อย ๆ ถูกเปลีย่ นเป็นฟองอากาศขนาดเล็ก ด้วยวิธีการนี้ ฉนวนกันความร้อนแบบยืดหยุ่นจึงสามารถป้องกันและถ่ายเท ความร้อนได้ดีกว่าวัสดุอื่น ๆ ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ที่สำ�คัญคือ สามารถผลิต พลังงานได้ด้วยตนเองเพียงแค่สวมอุปกรณ์ที่ข้อมือ “หากเราใช้อุปกรณ์เทอร์โมอิเล็กทริกในจำ�นวนที่เพียงพอ ก็น่าจะผลิต สมาร์ตแบนด์ที่ทำ�งานโดยใช้ความร้อนในร่างกายเพียงอย่างเดียวได้” คิม จินซางกล่าว อี ก ฟากโลกหนึ่ ง Mithras สตาร์ ต อั พ สั ญ ชาติ ส วิ ส ที่ ตั้ ง ใจพั ฒ นา เทคโนโลยีเทอร์โมอิเล็กทริกโดยเฉพาะก็ได้ออกแบบกำ�ไลข้อมือที่สามารถ สร้างพลังงานได้ตลอดทัง้ วันหรือตลอดเวลาทีเ่ ราสวมใส่ กำ�ไลนีย้ งั ใช้เชือ่ มต่อ กับสมาร์ตโฟนได้โดยตรงเพือ่ ทำ�การชาร์จแบตเตอรีได้อกี ด้วย สิง่ เดียวทีต่ อ้ ง แน่ใจคือ อุปกรณ์ต้องสัมผัสกับผิวของเราอยู่เสมอ ดีไม่ดีเทคโนโลยีนี้อาจจะรักษ์โลกมากกว่าการที่แบรนด์สมาร์ตโฟน ชื่อดังเริ่มไม่แถมหัวชาร์จมาให้อีกแล้ว เพราะต่อไปเราไม่จำ�เป็นต้องใช้ สายชาร์จ ไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริม แถมไม่ต้องเสียค่าไฟ...แค่ใช้แบตเตอรี จากร่างกายเราเท่านั้น
Creative Resource : วัตถุดิบทางความคิด เรื่อง : อำ�ภา น้อยศรี ธารณ์ธันยา วรพันธ์ภัทร ญาณิศา ประดิษฐ์บุญ และ สรศักดิ์ ปันชำ�นาญค้า
F EAT U RED BOOK The Rare Metals War: The Dark Side of Clean Energy and Digital Technologies โดย Guillaume Pitron วิกฤตคาร์บอนที่เกิดจากการดำ�เนินชีวิตและกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงานทางการเกษตร การขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม การขนส่ง รวมถึงการทำ�ลายสิง่ แวดล้อมในรูปแบบต่าง ๆ ล้วนเป็นสาเหตุส�ำ คัญของการเกิดภาวะโลกร้อน ทำ�ให้ปจั จุบนั มนุษย์ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว มากขึ้น ทั้งการใส่ใจในเรื่องคาร์บอนฟุตพรินต์ในภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือน การรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งการร่วมกันหาทางออกเรื่องแหล่ง พลังงานที่ไม่สร้างมลภาวะกลับสูส่ ง่ิ แวดล้อมเช่นเดิม ซึง่ ดูเหมือนว่า “พลังงานสะอาด” จะเป็นหนึง่ ในตัวเลือกสำ�คัญที่เราจะนำ�มาใช้แก้ปญั หาดังกล่าวได้ โลกสีฟา้ ใบนีม้ แี หล่งพลังงานสะอาดจากธรรมชาติและตอบโจทย์ดา้ นสิง่ แวดล้อมมากมาย ทัง้ แสงแดดทีเ่ ป็นแหล่งพลังงานขนาดใหญ่ซงึ่ ไม่มวี นั หมดสิน้ พลังงานจากน้ำ� ลม และอากาศ ที่มนุษย์สามารถพึ่งพาการหมุนเวียนของธรรมชาติมาเปลี่ยนเป็นพลังงาน และสามารถพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสร้างเครื่องมือ จัดเก็บพลังเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม เรายังไม่สามารถนำ�พลังงานสะอาดเหล่านี้มาผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง แต่ยังต้องพึ่งพา อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์เพือ่ แปลงพลังงานธรรมชาติและเก็บรักษาในอุปกรณ์ให้พร้อมสำ�หรับใช้งาน นโยบายภาครัฐในหลายประเทศจึงเริม่ ส่งเสริมให้ทกุ ครัวเรือนมี อุปกรณ์อย่างโซลาร์เซลล์เพือ่ ใช้แปลงพลังงานแสงแดดไว้ใช้งาน แต่ตวั กลางสำ�คัญทีจ่ ะแปลงพลังงานธรรมชาติให้เป็นไฟฟ้านัน้ จำ�เป็นต้องใช้แร่หายาก (Rare Earth) เช่น ธาตุในอนุกรมแลนทาไนด์ (Lanthanide Series) อย่างแลนทาลัม ซีเรียม นีโอไดเมียม ซึง่ เป็นส่วนประกอบสำ�คัญในวงจรไฟฟ้า ขณะทีแ่ บตเตอรี และเส้นใยแก้วนำ�แสงก็เป็นทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไปเหมือนกับเชื้อเพลิงฟอสซิล ทำ�ให้ต้นทุนพลังงานและเทคโนโลยีที่จะสกัดธาตุที่จำ�เป็นเหล่านี้มาใช้งาน ยังสูงอยู่มาก และการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นนี้ก็มีแนวโน้มว่าจะผลิตได้ไม่พอเพียงต่อการใช้งานในอนาคต ซึ่งอาจหมายถึงการเปิดปัญหา การกักตุนธาตุ การผูกขาดทางการค้า หรือการกลายเป็นอาวุธทางเศรษฐกิจของเหล่าประเทศมหาอำ�นาจที่อาจบานปลายกลายเป็นข้อพิพาทเพื่อแย่งชิงธาตุ ในอนาคตได้ ดังนัน้ เราจึงอาจต้องกลับมาคิดทบทวนกันอย่างหนักกันอีกครัง้ ว่า แนวทางของเทคโนโลยีสะอาดทีจ่ ะเปลีย่ นพลังงานอันเหลือเฟือในธรรมชาติมาใช้นนั้ จะช่วยลดการทำ�ลายหรือเป็นตัวเร่งการกอบโกยจากทรัพยากรธรรมชาติกันแน่ CREATIVE THAILAND I 8
ARTICLE Fujisawa Sustainable Smart Town (Fujisawa SST) โดย บริษัท พานาโซนิค ประเทศญี่ปุ่น (ผู้พัฒนาโครงการ) เมืองอัจฉริยะแห่งอนาคต ในเขตคานากาว่า ประเทศญีป่ นุ่ ซึง่ อยูไ่ ม่ไกลจากกรุงโตเกียว ถูกสร้างขึน้ ด้วยเทคโนโลยี สมัยใหม่ บนพื้นที่กว่า 19 เฮกเตอร์ รองรับจำ�นวนประชากรกว่า 1,000 หลังคาเรือน เมืองแห่งนีเ้ ป็นต้นแบบการนำ� ร่องการใช้พลังงานสะอาดเพือ่ ก้าวไปสูก่ ารพัฒนาอย่างยัง่ ยืนด้านสิง่ แวดล้อม และช่วยยกระดับคุณภาพชีวติ ประชากร บนพื้นฐานของสุขภาพ ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย การใช้พลังงานที่มีคุณภาพ และการสื่อสารที่ดี การสร้างเมือง “ฟุจซิ าวะ” (Fujisawa) มีเป้าหมายหลักคือการอยูร่ ว่ มกับสิง่ แวดล้อมอย่างเป็นมิตรและสร้างสรรค์ ด้วย 3 แนวทางปฏิบัติสำ�คัญที่ต้องดำ�เนินควบคู่กันไป คือ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 70% ด้วยการ ติดตัง้ แผงโซลาร์เซลล์ให้กบั บ้านทุกหลังเพือ่ ผลิตไฟฟ้าไว้ใช้เอง ลดการใช้ทรัพยากรน้�ำ 30% ด้วยการกักเก็บน้�ำ ฝนไว้ใช้ ทำ�ความสะอาดพืน้ ทีส่ ว่ นต่าง ๆ และการสร้างสังคมอนุรักษ์พลังงานให้เกิดขึ้นได้จริง ด้วยการใช้พลังงานทดแทน คาดการณ์กันว่า เมืองพลังงานสะอาดแห่งนี้จะอยู่ได้ยาวนานถึง 100 ปี และเป็นต้นแบบเมืองแห่ง ความสุขที่ยั่งยืนซึ่งสอนให้ผู้คนรู้จักคุณค่าของลมหายใจ อันเป็นผลพลอยได้มาจากการเอาใจใส่และดูแลรักษา สิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัว 5 นวัตกรรมบ้านเย็น Cooliving Designed Home โดย Sansiri สถานการณ์โลกร้อนในปัจจุบันทำ�ให้มนุษย์ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ส่งผลต่อค่าไฟและยังเพิ่มอุณหภูมิให้แก่โลก แสนสิริจึงได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ เพื่อช่วยลดการสะสมความร้อน ทำ�ให้บ้านระบายความร้อนได้ดีขึ้น จึงทั้งช่วยประหยัดไฟ ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ และเป็นการนำ�พลังงานสะอาดเข้ามาใช้ได้ อย่างเกิดประโยชน์ผ่าน 5 นวัตกรรมบ้านเย็น ดังนี้ 1) Solar Attic ระบบพัดลมและช่องระบายอากาศใต้หลังคา ทำ�งานร่วมกับแผงโซลาร์เซลล์โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ช่วยให้ภายในตัวบ้านเย็นลง ลดความชื้นและลดการสะสมของเชื้อโรค 2) Breeze Panel ช่องระบายอากาศที่ถูกติดตั้งบริเวณประตูและหน้าต่าง มีสวิตซ์ปิดเปิดได้ตามต้องการ ช่วยให้อากาศถ่ายเทสะดวก ปลอดโปร่ง และไม่รู้สึกอึดอัด 3) Shading Screen ระแนงกันแดดที่ออกแบบมาเพื่อบดบังแสงแดดสาดส่องเข้ามาในตัวบ้าน สามารถเคลื่อนระแนงไปตามทิศทางที่ต้องการได้จึง ช่วยลดความร้อนภายในตัวบ้านได้ดี 4) Texture Wall ผนังบ้านที่ดีไซน์พิเศษแบบผิวไม่เรียบ ทำ�ให้เกิดการหักเหของแสง จึงช่วยลดความร้อนสะสมของผนังบ้านได้เป็นอย่างดี 5) UV Shield สีทาภายนอกชนิดพิเศษทีม่ สี ารเคลือบช่วยสะท้อนความร้อนจากแสงแดดภายนอกตัวบ้าน ลดการสะสมความร้อน และช่วยให้ภายในบ้าน มีอากาศเย็นขึ้น นอกจากนีย้ งั มี Roof Shade หลังคาหรือฝ้าชายคาทีอ่ อกแบบให้ยน่ื ออกมาพิเศษช่วยป้องกันแสงแดด และ Heat - Absorbing Green Glass กระจกเขียว ตัดแสง ช่วยลดความร้อนจากแสงแดดที่สาดส่องเข้ามาภายในตัวบ้านเพิ่มเติม
FI LM The Boy Who Harnessed the Wind ชัยชนะของไอ้หนู “กังหันลม” กำ�กับโดย Chiwetel Ejiofor เรื่องราวของวิลเลียม คัมแควมบา เด็กชายวัย 13 ที่เติบโตในครอบครัวเกษตรกรในหมู่บ้านยากจนแห่งหนึ่งในประเทศมาลาวี ซึง่ ไม่มไี ฟฟ้าใช้ เมือ่ โตขึน้ วิลเลียมมีโอกาสได้เรียนหนังสือแต่กเ็ กิดภัยภิบตั อิ ย่างรุนแรงจนไม่มแี ม้แต่น�ำ้ ในการดำ�รงชีวติ เขาจึง พยายามศึกษาหาความรูจ้ ากหนังสือในห้องสมุดอย่างหนัก จนได้พบกับหนังสือเกีย่ วกับการใช้พลังงาน และเกิดไอเดียในการสร้าง กังหันลมเพื่อปั๊มน้ำ�จากบ่อบาดาลขึ้นมาใช้ วิลเลียมใช้ความอดทนอย่างมากในการหาวัสดุจากกองขยะเพื่อมาประดิษฐ์กังหัน ลมท่ามกลางการถูกมองว่าบ้าและสิน้ คิดจากคนรอบข้าง ทว่าเขาก็คงมุง่ มัน่ ทดลองประดิษฐ์จนประสบความสำ�เร็จ และยังพัฒนา กังหันลมให้ผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าได้อีกด้วย เรื่องราวของวิลเลียมถูกพูดถึงอย่างแพร่หลาย กระทั่งในปี 2013 นิตยสาร Time ได้ยกย่องให้เด็กชายวิลเลียมเป็นหนึ่งในบุคคลที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ที่เปลี่ยนแปลงโลก พบกับวัตถุดิบทางความคิดเหล่านี้ได้ที่ TCDC Resource Center CREATIVE THAILAND I 9
MDIC : นวัตกรรมและวัสดุ
โซลาร์เซลล์ทางเลือก เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
เรื่อง : มนต์นภา พานิชเกรียงไกร จากรายงานสถิติของทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency: IEA) พบว่า ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปล่อยสู่ ชัน้ บรรยากาศโลกในปี 2564 นีม้ ีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น โดยมีการเตือนว่าภายใน 10 ปีนี้ ทั่วโลกต้องร่วมกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ประมาณ 45% เพื่อจำ�กัดไม่ให้โลกร้อนเกิน 1.5 องศาเซลเซียส (เทียบกับอุณหภูมิยุคก่อน อุตสาหกรรม) ซึ่งตอนนี้อุณหภูมิโลกร้อนขึ้นแล้ว 1.1 องศาเซลเซียส หมายความว่าทั่วโลกจะต้องเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพื่อลดไม่ให้ก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศเพิ่มสูงขึ้นมากเกินไปเพื่อหลีกเลี่ยง ระดับความร้อนที่เป็นอันตราย หลายประเทศจึงได้เริ่มนโยบายในการบริหารจัดการทรัพยากรให้เกิด ประโยชน์สงู สุดด้วยแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน นักวิจยั ได้มงุ่ เน้นการพัฒนา เทคโนโลยีและนวัตกรรมพลังงานทดแทนจากแหล่งเชื้อเพลิงที่ไม่ก่อให้เกิด มลพิษและยัง่ ยืนกว่าในการผลิต “พลังงานแสงอาทิตย์” ก็เป็นหนึง่ ในพลังงาน หมุนเวียนที่ได้รับความนิยม แต่ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีแนวโน้มการใช้งาน เซลล์พลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์เซลล์เพิ่มมากขึ้นในการผลิตพลังงาน ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของวัสดุทางเลือก เช่น ฟิล์มสำ�หรับติดบน กระจกใส เซลล์เพอรอฟสไกต์ หรือความเค็มจากเกลือ เป็นต้น แต่สว่ นใหญ่ ยังพบข้อจำ�กัดตรงที่ว่า เป็นการใช้งานทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไป หรือต้อง ใช้ระยะเวลาในการทดแทนขึ้นใหม่ บางครั้งอาจพบว่ากลายเป็นขยะ อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งยากต่อการนำ�ไปย่อยสลาย ไม่นานมานี้ คาร์วีย์ เอห์เรน ไมก์ (Carvey Ehren Maigue) นักศึกษา วิ ศ วกรรมศาสตร์ ช าวฟิ ลิ ป ปิ น ส์ ไ ด้ รั บ รางวั ล ชนะเลิ ศ James Dyson Awards สาขาการสร้างความยั่งยืน จากการออกแบบผลงาน “AuREUS” แผงโซลาร์เซลล์จากเศษผักเหลือทิ้งทางการเกษตร วัสดุโปร่งแสงที่สามารถ ดูดคลืน่ พลังงานจากรังสียวู ี เพือ่ เปลีย่ นเป็นพลังงานไฟฟ้าแม้ไม่ได้เผชิญกับ แสงแดดโดยตรง จึงส่งผลให้ผลิตไฟฟ้าในแต่ละวันได้มากกว่าโซลาร์เซลล์
ทั่วไป โดยคาร์วีย์ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก “แสงเหนือ หรือ ออโรร่า บอเรลลีส (Aurora Borealis)” อนุภาคเรืองแสงบนชั้นบรรยากาศที่ ดูดซับอนุภาคพลังงานสูง เช่นรังสียวู หี รือรังสีแกมมาก่อนสลายตัวเป็นแสงสว่าง ในยามค่ำ�คืน ผนวกเข้ากับแนวความคิดที่ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้ รับผลกระทบจากวิกฤตสภาพอากาศที่รุนแรง ทำ�ให้สูญเสียผลผลิตไปโดย เปล่าประโยชน์ จึงได้เริ่มศึกษาและทดสอบพืชในท้องถิ่นกว่า 80 ชนิด และ พบว่า มีพชื 9 ชนิดทีม่ ศี กั ยภาพสูงสำ�หรับการใช้งานในระยะยาว จึงนำ�มาสกัด เป็นอนุภาคเรืองแสงและผสมเข้ากับเรซิน ก่อนขึ้นรูปได้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มี ความทนทาน โปร่งแสง สามารถนำ�ไปเป็นทั้งวัสดุตกแต่งอาคารเนื่องจาก ขึน้ รูปได้หลายรูปร่างรวมถึงสีสนั และทำ�หน้าทีก่ รองรังสียวู ที จี่ ะเข้าตัวอาคาร ได้ในเวลาเดียวกัน ส่วนอีกหนึ่งนวัตกรรมพลังงานทางเลือกที่ได้รับการจดสิทธิบัตรแล้ว เป็นของ อาดัน รามิเรซ ซันเชซ (Adán Ramirez Sánchez) นักเทคโนโลยี ชีวภาพชาวเม็กซิกนั ทีเ่ พิง่ ได้รบั รางวัลนวัตกรผูส้ ร้างนวัตกรรมละตินอเมริกา อายุต่ำ�กว่า 35 ปี ประจำ�ปี 2019 โดยสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) สำ�หรับการสร้างสรรค์แผงโซลาร์เซลล์ชวี ภาพ (Biopanels) จากสาหร่ายขนาด เล็กและนาโนเทคโนโลยี ที่ทำ�หน้าที่ฟอกอากาศและผลิตกระแสไฟฟ้าได้ใน เวลาด้วยกัน โดยใช้หลักการเดียวกับกระบวนการทางธรรมชาติทคี่ นุ้ เคยอย่าง “การสังเคราะห์แสง” ภายใต้รปู ทรงเรขาคณิต สามเหลีย่ มด้านเท่า สีเขียว กึ่งโปร่งใส จึงเหมาะจะนำ�ไปตกแต่งภายในอาคารที่ได้รับแสงแดดโดยตรง เพราะนอกจากจะสวยงามและใช้งานได้จริงแล้ว อุปกรณ์ทงั้ หมดยังสามารถ ย่อยสลายทางชีวภาพ และนำ�กลับมาใช้ใหม่ได้ด้วย นี่ เ ป็ น เพี ย งนวั ต กรรมตั ว อย่ า งสำ � หรั บพลั ง งานแสงอาทิ ตย์เท่านั้น ที่สะท้อนให้เห็นการเพิ่มขึ้นของขีดจำ�กัดด้านเทคโนโลยีในการสร้างสรรค์ สิง่ ใหม่ให้มปี ระสิทธิภาพ และยิง่ ไปกว่านัน้ หากเราร่วมมือช่วยกันใส่ใจดูแล รักษาสิง่ แวดล้อมให้มากขึน้ แล้ว อนาคตทีย่ งั่ ยืนจะไม่เป็นเพียงแค่ความหวัง อีกต่อไป ที่มา : บทความ “Carbon emissions to soar in 2021 by second highest rate in history” จาก theguardian.com บทความ “Solar panels made from food waste win inaugural James Dyson Sustainability Award” โดย Jennifer Hahn จาก dezeen.com และบทความ “‘Innovator of the Year’ Creates Biodegradable Algae Solar Panels That Clean The Air” โดย Andrea D. Steffen จาก intelligentliving.co
สามารถสืบค้นและพบกับตัวอย่างนวัตกรรมวัสดุระดับโลกเพิม่ เติมได้ทช่ี น้ั 2 ห้อง Material & Design Innovation Center (MDIC), TCDC กรุงเทพฯ CREATIVE THAILAND I 10
Creative District : ย่านความคิด
โอบอ้อม “อารีย์” กับ AriAround แพลตฟอร์มเพื่อสังคม สำ�หรับชาวอารีย์-ประดิพัทธ์ เรื่อง : รัชดาภรณ์ เหมจินดา และทีมงาน AriAround
จากจุดเริม่ ต้นของกลุม่ เพือ่ นฝูงสายงานสร้างสรรค์ ที่มองเห็นความเปลี่ยนแปลงของพื้นที่อยู่อาศัย รอบตัวผ่านการเดินและการปัน่ จักรยานทีใ่ ช้เดินทาง เชื่อมต่อภายในย่านอยู่เป็นประจำ� รวมทั้งการ มองเห็นศักยภาพของสือ่ ออนไลน์ทส่ี ามารถรวมกลุม่ ผู้อยู่อาศัยในย่านอารีย์-ประดิพัทธ์เข้าด้วยกัน อย่างได้ผล จึงเกิดเป็นแนวความคิดในการสร้าง พื้นที่ส่วนกลางเสมือนบนโลกออนไลน์ ที่ดึงเอา กลิน่ อาย “ความเอือ้ อารี” แบบ “เพือ่ นบ้าน” ของ ชุมชนแบบเดิมกลับมาเพือ่ สร้าง “อารีย”์ ทีน่ า่ อยู่ ยิง่ ขึน้ ซึง่ จากผลจากการสังเกตลักษณะเฉพาะตัว ของย่านอารีย์ พวกเขาพบว่า หนึ่ ง อารี ย์ เ ป็ น ย่ า นที่ กำ � ลั ง อยู่ ใ นช่ ว ง การเปลีย่ นผ่าน ทัง้ รูปร่าง รูปลักษณ์ และฟังก์ชนั จากเดิมทีเ่ ป็นหมูบ่ า้ นคหบดีและนายทหารยุคเก่า สู่ ค อมมู นิ ตี ข องบรรดาคาเฟ่ แ ละร้ า นค้ า ที่ มี ความเป็นกันเอง จนเป็นเสน่หด์ งึ ดูดให้ผคู้ นเดินทาง มา hopping ความอบอุ่นในย่านที่เดินถึงกันได้ ทั้งหมด รวมทั้งไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเพื่อนฝูงที่อยู่ ในย่านนีท้ ยี่ งั คงมีการแลกเปลีย่ นข้าวของ พบปะ พูดคุย หรือการจัดกิจกรรมเล็กๆ ร่วมกัน นี่เป็น ความสัมพันธ์แบบอารีย์ที่ยังเห็นกันอยู่เป็นปกติ แม้จะอยู่ในเมืองใหญ่ก็ตาม
สอง การเติ บ โตของเมื อ งที่ ฟ ากหนึ่ ง ใน ซอยอารี ย์ เ ป็ น บ้ า นพั ก ส่ ว นอี ก ฟากฝั่ ง ถนน เราจะเห็ น การคงอยู่ ข องออฟฟิ ศ ขนาดใหญ่ ทั้งธนาคารกสิกรไทย สำ�นักงานใหญ่ ตึก AIS ตึก IBM และธนาคารออมสิน สำ�นักงานใหญ่ ทำ�ให้เกิดภาพความผูกพันระหว่างผู้คนที่เป็น กลุ่ ม พนั ก งานออฟฟิ ศ ซึ่ ง ใช้ ชี วิ ต อยู่ ใ นย่ า นนี้ เสมือนเป็นอีกส่วนหนึง่ ของชีวติ กับร้านค้าประจำ� ทีค่ ยุ กันด้วยความสนิทสนม เกิดเป็นพลวัตทีด่ ใี ห้ กับเมือง สาม ผลจากการใช้ชวี ติ ของผูค้ น อารียก์ เ็ ป็น เหมือนย่านอื่น ๆ ที่มีขยะที่เกิดจากการบริโภค จำ�นวนมาก ทั้งจากอาคารบ้านเรือน สำ�นักงาน และผู้ประกอบการมากมาย หากอยากเห็นอารีย์ ที่เป็นอยู่อย่างยั่งยืน จึงต้องมีการจัดการขยะที่มี ประสิทธิภาพเพียงพอ ดังนั้นตัวแปรสำ�คัญในการขับเคลื่อนย่าน อารียต์ อ่ ไปให้ยงั่ ยืนและเป็นมิตรกับทุกคนจึงต้อง ประกอบด้วยการร่วมมือกันของชุมชน ความคิด สร้างสรรค์และเทคโนโลยี จากการระดมสมอง วิเคราะห์ขอ้ ดีขอ้ ด้อย ปัญหาทีต่ อ้ งการแก้ไข จนนำ� มาสู่การเริ่มต้นทำ� “AriAround” แพลตฟอร์ม เชือ่ มโยงผูค้ นและกิจกรรมในชุมชน เพือ่ สนับสนุน CREATIVE THAILAND I 11
กระตุ้ น ให้ พ ลั ง ของชุ ม ชนแข็ ง แรง และสร้า ง สภาพแวดล้อมชุมชนให้น่าอยู่และยั่งยืน เป้าหมายหลักของ AriAround นัน้ ไม่ใช่เรือ่ ง ไกลตัว ทั้งยังสามารถเริ่มต้นลงมือทำ�ได้จากคน กลุ่มเล็ก ๆ นั่นคือ การทำ�ให้ขยะเป็นศูนย์ (Zero Waste) ด้วยการใช้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และการเชื่อมต่อภายใน ชุมชน (Community Connection) โดยมี “เหรียญอารี” หรือ AriCoin (ARI) เป็นสื่อกลาง ในการแลกเปลีย่ นความเอือ้ อารีภายในย่าน ซึง่ ทีม ทำ�งานได้ให้คำ�จำ�กัดความการใช้งาน ARI ไว้ว่า “อะไรที่เงินซื้อไม่ได้ แต่สามารถใช้ ARI ได้” เช่น การคัดแยกขยะแล้วนำ�ขยะรีไซเคิลได้มาขาย การแลกหนังสือหรือข้าวของเครือ่ งใช้ในบ้าน หรือ การสอนทักษะบางอย่างระหว่างกัน โดยอัตรา การแลกเปลี่ยน ARI ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของ ผูใ้ ห้และผูร้ บั และในอนาคตทีมงานยังหวังให้ ARI เป็นสื่อกลางที่คอยเชื่อมโยงผู้คนบางกลุ่มที่อาจ ไม่เคยพบเจอกัน ให้ได้มาพบกันผ่านกิจกรรม และความต้องการที่สอดคล้องกันพอดี อี ก ไม่ น านเราจะได้ เ ห็ น การเกิ ดขึ้ น ของ AriAround ในขัน้ แรก ทีม่ กี ารปล่อยแอพพลิเคชัน AriAround ในรูปแบบเบต้ามาแล้วเพื่อทดสอบ การใช้งาน ซึง่ ผูใ้ ช้งานจะได้รว่ มใช้ ARI ด้วยตัวเอง ครัง้ แรกในเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2564 (Bangkok Design Week 2021) โดยได้รบั ความร่วมมือ จากร้านค้าภายในย่านและองค์กรพันธมิตรร่วมเป็น ผู้ให้และผู้รับ ARI จากผู้ใช้งาน นอกจากนั้นแล้ว AriAround ยังมีช่องทางการสื่อสารผ่านทาง AriTimes ที่ทำ�หน้าที่เหมือนเป็นหนังสือพิมพ์ รายงานทัง้ เรือ่ งราวประวัตศิ าสตร์ภายในย่าน พาไป รูจ้ กั ผูค้ นและความคิดเห็น รวมทัง้ กิจกรรมและสิง่ ที่ กำ�ลังเกิดขึ้นในย่าน บนพื้นที่แฟนเพจเฟซบุ๊ก และเว็บไซด์ AriAround.com อีกด้วย ในอนาคตข้างหน้า AriAround อาจเป็น ตัวแทนแห่งย่านอารียย์ คุ ใหม่ ทีจ่ ะสร้างพลวัตทีด่ ี ให้กับสังคมอารีย์ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มคนทั้ง รุ่นใหม่และเก่าแก่อาศัยอยู่ร่วมกัน ผ่านการริเริ่ม สร้างสรรค์กจิ กรรมใหม่ ๆ บนพืน้ ทีอ่ อนไลน์และ ออฟไลน์ เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนที่มี หัวใจอยู่บนความเอื้ออารี และสร้างคุณภาพชีวิต ทีด่ ใี ห้กบั ผูค้ นบนพืน้ ฐานของความรับผิดชอบต่อ สังคมและสิ่งแวดล้อมต่อไป
Cover Story : เรื่องจากปก
เรื่อง : ลุงซาเล้งกับขยะที่หายไป
CREATIVE THAILAND I 12
หากถามว่าอะไรเป็นสิ่งสำ�คัญที่สุดของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายบนโลก เราจะนึกถึง “น้ำ�” เพราะน้ำ�ถือเป็น ต้นกำ�เนิดของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด มนุษย์เราจึงตื่นเต้นทุกครั้งที่พบเจอน้ำ� หรือแม้แต่ร่องรอยการมีอยู่ ของมันบนดาวเคราะห์อื่น แต่ถ้าถามว่าอะไรคือสิ่งสำ�คัญที่สุดที่ทำ�ให้ สรรพสิ่ง ซึ่งรวมทั้งสิ่งมีชีวิต และไม่มีชีวิตดำ�รงอยู่ได้ สิ่งนั้นก็ควรจะเป็น “พลังงาน” 13,000 ล้านปีก่อน เอกภพอันแสนกว้างใหญ่จนเกินจินตนาการ กำ�เนิดขึ้นจากการระเบิด ครัง้ ใหญ่ของจุดทีเ่ ล็กกว่าอะตอมหรือทีเ่ รียกว่า “บิกแบง” เมือ่ นัน้ พลังงานทุกอย่างควบรวมเปลีย่ นเป็น อะตอม ก่อร่างเป็นสสาร รวมกันเป็นดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ น้อยใหญ่ กระจายตัวไปทัว่ จักรวาล พลังงาน ทั้งหมดถูกซุกซ่อนอยู่ในทุกตารางนิ้วของเอกภพ
ดาวเคราะห์ ที่ ชื่ อ ว่ า โลกก็ เ ริ่ ม ก่ อ ร่ า งขึ้ น มาใน ตอนนั้น จากดาวเคราะห์หินร้อน ๆ ที่ได้รับ พลังงานจากดวงอาทิตย์ ซึ่งยังคงปล่อยพลังงาน ต่อเนื่องจากปฏิกิริยาฟิวชัน และด้วยระยะห่างที่ เหมาะสมของดาวทัง้ สองดวง โลกค่อย ๆ เย็นตัวลง จนมี อุ ณ หภู มิ พ อเหมาะที่ จ ะก่ อ เกิ ด สิ่ ง มี ชี วิ ต น้ำ� และชั้นบรรยากาศ สิง่ มีชวี ติ เซลล์เดียวในยุคแรกสามารถเปลีย่ น พลังงานแสงอาทิตย์ให้กลายเป็นพลังงานของ ตัวเอง ขยายเซลล์ด้วยการจับเอาคาร์บอนใน อากาศมาเป็นองค์ประกอบในตัว ดำ�รงชีวิตและ ตายลงตามกาลเวลา ซึง่ ความสามารถนีถ้ กู ส่งต่อ มายังสิ่งมีชีวิตยุคหลัง
จากพลังงานแสงอาทิตย์ สู่ความเป็นไปได้ไม่สิ้นสุดของมนุษย์ กว่า 4,500 ล้านปีของอายุขัยโลก สิ่งมีชีวิต ชนิดแล้วชนิดเล่าต่างวิวัฒนาการ เปลี่ยนแปลง ผ่านการขับเคลือ่ นด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ คงไว้ แต่ซากของพวกมันทีเ่ ก็บกักไว้ซง่ึ คาร์บอนมหาศาล ทับถมอยู่ในชั้นดินของเปลือกโลก จนกระทั่งการเกิดขึ้นของสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ โฮโมเซเปียน ที่รู้จกั การนำ�พลังงานทีอ่ ยูใ่ นธรรมชาติ มาใช้อย่างเป็นรูปธรรม สิ่งมีชีวิตชนิดอื่นอาจใช้ เพียงพลังงานจากแสงอาทิตย์หรือจากอาหารที่กิน เข้าไปเพื่อเคลื่อนไหวอวัยวะของตน แต่มนุษย์ สามารถนำ�สิง่ รอบตัวมาเปลีย่ นเป็นพลังงานเพือ่ ใช้ อย่างหลากหลาย ตั้งแต่การนำ�กิ่งไม้มาเผาฟืน เป็นพลังงานความร้อนหุงอาหาร การทำ�กังหันน้�ำ เพือ่ แปลงพลังงานน้�ำ มาใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น โรงเลือ่ ยไม้ โรงสี หรือโรงตีเหล็ก ไปจนถึงเรือสำ�เภา การค้าที่แล่นไปทั่วโลกด้วยพลังงานของลม ในช่วงศตวรรษที่ 18 อุตสาหกรรมการล่าวาฬ กลายเป็นอุตสาหกรรมที่สำ�คัญของโลก เพราะ น้�ำ มันของพวกมันสามารถนำ�มาจุดตะเกียงส่องสว่าง ได้ยาวนานและไม่มคี วัน ไขมันบริเวณหัวของวาฬ สเปิร์มที่เรียกว่า Spermaceti กลายเป็นแหล่ง พลังงานของตะเกียงส่องสว่างทั่วโลก จวบจน การมาถึงของยุคตื่นน้ำ�มันกลางศตวรรษที่ 18 ทองคำ�สีดำ� จากมูลค่าสู่ภาระของโลก การค้นพบของเหลวสีดำ�นี้กลายเป็นจุดเปลี่ยน สำ�คัญของพลังงาน น้�ำ มันดิบทีม่ อี งค์ประกอบซับซ้อน ของไฮโดรคาร์บอนเกิดจากการทับถมของซากพืช ซากสัตว์นับล้านปี แน่นอนว่าความบริสุทธิ์ของ มันไม่สามารถสู้กับไขมันวาฬได้ แต่เมื่อมนุษย์ รู้จักการกลั่นน้ำ�มัน ทำ�ให้ปิโตรเลียมสามารถใช้ CREATIVE THAILAND I 13
ทดแทนพลังงานทุกอย่างที่กล่าวมาข้างตนได้ อย่างหมดจด ตัวเลขการขุดเจาะน้ำ�มันจาก 2 พันบาเรล ต่อวันในปี 1859 กลายเป็น 100 ล้านบาเรล ต่อวันในปี 2019 ปริมาณการบริโภคที่เพิ่มขึ้น หลายล้ า นเท่ า ตั ว นี้ ม าพร้ อ มกั บ ความเจริ ญ ที่ ก้าวกระโดดของมนุษยชาติ น้ำ�มันดิบนำ�มาซึ่ง ความร้อน ความเย็น แสงสว่าง ไฟฟ้า เครือ่ งจักร ไอน้ำ� การเดินทาง ยานอวกาศ และทุกอย่างที่ มนุษย์สามารถจินตนาการถึง หากในอดีตเรามีสติเพียงพอ พวกเราคง ตั้งคำ�ถามตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่า น้ำ�มันหลายล้าน บาเรลต่อวันเหล่านั้น เมื่อเผาไหม้เป็นพลังงาน แล้วจะทิ้งอะไรเอาไว้ แล้วสิ่งนั้นจะส่งผลกระทบ อะไรตามมา น่าเสียดาย ทีก่ ว่าเราจะเริม่ ตัง้ คำ�ถาม ผลกระทบก็มาอยู่ตรงหน้าเราแล้ว เช้าวันหนึง่ ในปี 1943 ทีเ่ มืองลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา หมอกควันจำ�นวนมาก ปกคลุมทั่วท้องฟ้าของเมือง ยอดตึกไม่สามารถ ถูกมองเห็น เมือ่ ยังอยูใ่ นช่วงสงครามโลกครัง้ ทีส่ อง ประชาชนจึงต่างคิดว่าเป็นฝีมือของทหารญี่ปุ่น ที่โจมตีด้วยก๊า ซพิษ แต่หารู้ไม่ว่าหมอกควัน เหล่านั้นเป็นฝีมือพวกเขาเอง รถยนต์ที่เพิ่มขึ้น หลายเท่าตัวประกอบกับภูมปิ ระเทศ ทำ�ให้แอลเอ กลายเป็นเมืองของหมอกควันมาอีกหลายทศวรรษ ไม่ต่างอะไรกับภาคเหนือของประเทศไทยใน ปัจจุบัน หลั ง สงครามโลกครั้ ง ที่ 2 การพั ฒ นา เศรษฐกิจของสหรัฐฯ เป็นไปอย่างก้าวกระโดด ซึ่ ง ตามมาด้ ว ยปั ญ หามลพิ ษ ที่ ห นั ก ข้ อ ขึ้ น เกิ ด การรณรงค์ ป ระท้ ว งเพื่ อ เรี ย กร้ อ งอากาศ สะอาดทัว่ ประเทศ จนกระทัง่ ในปี 1963 กฎหมาย Clean Air Act ซึ่ ง เป็ น กฎหมายเกี่ ย วกั บ สิ่งแวดล้อมด้านอากาศฉบับแรกของโลกจึงถูก
ประกาศใช้ แรงกระเพื่อมด้านสิ่งแวดล้อมยังคง ส่งผลต่อเนื่อง และตามมาด้วยการประกาศให้ วันที่ 22 เมษายน ของทุกปีเป็นวันคุ้มครองโลก (Earth Day) มาตั้งแต่ปี 1970 แม้วา่ การขับเคลือ่ นด้านสิง่ แวดล้อมจะได้ผล มีการค้นพบอันตรายและทำ�การแบนสารเคมี อันตรายหลายชนิดที่ทำ�ร้ายสิ่งแวดล้อม เช่น สาร CFCs ในเครือ่ งทำ�ความเย็น สารตะกัว่ ในน้�ำ มัน เชื้อเพลิง สาร DDT และ PCBs ในอุตสาหกรรม เคมี แต่ก็ยังมีโมเลกุลพื้นฐานเล็ก ๆ ที่ดูเหมือน จะไม่มคี วามอันตรายอะไร พวกมันเกิดขึน้ ทุกครัง้ ที่มีการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลเพื่อให้พลังงาน สิ่งนั่นก็คือ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) การเพิม่ ขึน้ ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นนั้ แปรผั น ตรงกั บ ปริ ม าณการผลิ ต ปิ โ ตรเลี ย ม ความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปี 1800 อยูท่ ่ี 290 ส่วนในล้านส่วน (ppm) ในขณะที่ ในปี 1970 อยู่ที่ 325 ppm และในปี 2021 นี้อยู่ที่ 416 ppm ตัวเลขเหล่านีด้ หู มือนจะไม่ต่างกันมาก แต่หากเราลองพล็อตกราฟค่าคาร์บอนไดออกไซด์ ในอากาศจะพบว่ า ค่ า สู ง สุ ด ตลอด 8 แสนปี ที่ผ่านมา อยู่ที่ 300 ppm เท่านั้นเอง ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เข้มข้นมากขึ้น ทำ�หน้าที่เหมือนเรือนกระจกเก็บกักความร้อน จากดวงอาทิตย์ทค่ี วรจะถูกสะท้อนออกไปนอกโลก ให้ยังอยู่ในพื้นผิวโลก ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหา โลกร้อน (Global Warming) และตามมาด้วย โลกรวน (Climate Change) แม้ปัญหาก๊าซ เรือนกระจกที่เพิ่มสูงขึ้นจะมีส่วนหนึ่งที่มาจาก การทำ�ลายธรรมชาติทั้งบนบกและในทะเล หรือ การปศุสตั ว์ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ตัวแปรสำ�คัญ ที่จะต้องหยุดให้ได้เช่นกันคือ การใช้พลังงาน ฟอสซิ ล ของมนุ ษ ย์ และนั่ น จึ ง เป็ น ที่ ม าของ พลังงานสะอาด
นึ ก ถึ ง หากพู ด ถึ ง พลั ง งานสะอาด และเป็ น ทรัพยากรธรรมชาติเพียงชนิดเดียวของโลกใบนีท้ ี่ ไม่มวี นั หมด เหมือนกับคำ�พูดทีเ่ รามักให้ก�ำ ลังใจ กันว่า ไม่วา่ อย่างไร พรุง่ นีพ้ ระอาทิตย์กย็ งั ขึน้ ทาง ทิศตะวันออกเสมอ เพราะนอกจากความสม่ำ�เสมอตรงต่อเวลา ของดวงอาทิตย์แล้ว พลังงานที่ดวงอาทิตย์สง่ มา ยังโลกในแต่ละวันยังมีปริมาณมากจนไม่อาจใช้ ได้หมด ในแต่ละชั่วโมงแสงอาทิตย์ที่ตกมาถึง ผิวโลกมีค่าเท่ากับ 173,000 เทระวัตต์ตอ่ ชัว่ โมง (TWh) ในขณะที่มนุษย์ทั้งโลกบริโภคพลังงาน ตลอดทั้งปีประมาณ 160,000 TWh พูดง่าย ๆ คือ พลังงานแสงอาทิตย์แค่ชั่วโมงเดียว เพียงพอ ให้มนุษย์ใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตลอดทั้งปีและ ยังมีเหลือ ๆ อีกด้วย แต่ ต้ อ งไม่ ลื ม ว่ า ความท้ า ทายไม่ ไ ด้ อ ยู่ ที่ ปริมาณของพลังงาน แต่อยู่ที่การจะเก็บเกี่ยวมา ใช้วา่ จะได้มากน้อยแค่ไหนต่างหาก เพราะตลอด เวลา 130 ปีของเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ การเปลี่ยนพลังงานแสงแดดเป็นพลังงานไฟฟ้า หรือทีเ่ รารูจ้ กั กันในรูปของ “แผงโซลาร์เซลล์” นัน้ ปัจจุบันมีความสามารถในการแปลงพลังงาน แสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าได้สูงสุดเพียง 20 กว่าเปอร์เซ็นต์เท่านั้น ขณะที่นวัตกรรมของแผง โซลาร์เซลล์สว่ นใหญ่ถกู พัฒนาไปในเชิงของรูปแบบ ทั้งการเปลี่ยนเป็นแผ่นกระเบื้องหลังคาที่เป็น โซลาร์เซลล์ไปในตัวของ Tesla ซึง่ มองแทบไม่ออก
Photo by Andreas Gücklhorn on Unsplash
พลังงานสะอาดเพื่อชีวิต พลังงานสะอาด (Clean Energy) พลังงาน หมุนเวียน (Renewable Energy) หรือพลังงาน ทดแทน อาจมีคำ�นิยามที่ใกล้เคียงกัน แต่โดย หลักการแล้ว คือพลังงานที่ไม่มวี นั หมด และเมือ่ เรา นำ�มาใช้แล้วไม่กอ่ ให้เกิดผลกระทบใด ๆ เพิม่ ขึน้ ให้กับโลกอีก ซึ่งจะเป็นแบบนั้นได้ ก็ต้องเป็น พลังงานทีม่ อี ยูแ่ ล้วโดยเราไม่ตอ้ งขวนขวายใด ๆ แสงอาทิตย์เป็นพลังงานชนิดแรกที่เราทุกคนจะ
ว่าคือแผงโซลาร์เซลล์ หรือการพัฒนาโซลาร์เซลล์ ให้เหลือเพียงแผ่นกระดาษบาง ๆ เพื่อให้ติดตั้ง ได้ทุกที่อันเป็นนวัตกรรมของ Google ปัจจุบนั ความคุม้ ค่าของการผลิตไฟฟ้าจาก แผงโซลาร์เซลล์ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปแล้ว เพราะ ราคาต่อวัตต์ลดลงจาก 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อวัตต์ ในปี 1975 เหลือเพียง 1.25 เหรียญสหรัฐฯ ต่อวัตต์ ในปี 2020 แต่การหาพื้นที่ติดตั้งต่างหากที่เป็น อุปสรรค พื้นที่หนึ่งที่เหมาะกับการการวางแผง โซลาร์เซลล์และแทบจะไม่ส่งผลกระทบอะไร กั บ สิ่ ง แวดล้ อ มก็ คื อ บริ เ วณผิ ว น้ำ � นิ่ ง ซึ่ ง ใน ประเทศไทยเอง โปรเจ็กต์โซลาร์เซลล์ลอยน้ำ�ที่ เขื่ อ นสิ ริ น ธรก็ ใ กล้ จ ะใช้ ง านได้ แ ล้ ว ในเดื อ น มิถุนายนปี 2021 นี้ หากแต่ในบางพื้นที่ แสงอาทิตย์ไม่ใช่สิ่งที่ จะพบเห็นได้ทุกวัน ที่อังกฤษ ประเทศที่ขึ้นชื่อ เรื่องอากาศแปรปรวน วันที่คนอังกฤษได้เห็น แสงอาทิตย์จึงพิเศษกว่าวันอื่น ๆ ทางเลือก พลังงานแสงอาทิตย์จึงไม่ค่อยสมเหตุสมผลนัก แต่คือพลังงานลม (Wind Power) ต่างหากที่มี อย่างเหลือเฟือ อังกฤษจึงมีกังหันลมมากกว่า โซลาร์ เ ซลล์ และผลิ ต ไฟฟ้ า ได้ ใ กล้ เ คี ย งกั บ พลังงานไฟฟ้าจากถ่านหิน คาดว่าพลังงานลม จะแซงหน้าพลังงานฟอสซิลในเวลาไม่ถึง 10 ปี ต่อจากนี้ ส่วนหลายประเทศในทวีปยุโรปก็มี ลักษณะใกล้เคียงกัน
CREATIVE THAILAND I 14
facebook.com/vortexbladeless
Photo by Chris Barbalis on Unsplash cadalyst.com
ปั ญ หาหลั ก ของกั ง หั น ลมผลิ ต ไฟฟ้ า คื อ การใช้พนื้ ที่ ซึง่ กังหันลมขนาด 2 เมกะวัตต์ 1 ต้น จะต้องใช้พื้นที่ประมาณ 3.75 ไร่ ทำ�ให้กังหันลม ส่วนใหญ่ต้องตั้งอยู่ในบริเวณห่างไกล ใกล้เขต ป่าไม้ หรือตัง้ กลางมหาสมุทร Vortex Blandeless สตาร์ตอัพจากสเปน จึงมีแนวคิดว่ากังหันลม ไม่จำ�เป็นจะต้องมีใบพัดเสมอไป จึงได้ออกแบบ กั ง หั น ลมไร้ ใ บพั ด ขึ้ น ซึ่ง หลั ก การทำ � งานคื อ เมื่อลมกระทบกังหัน จะเกิดการสั่นสะเทือนให้ แท่งกังหันโยกไปมา แล้วทำ�การหมุนแม่เหล็กผ่าน แกนขดลวดเพือ่ ผลิตกระแสไฟฟ้า โดยขดลวดจะ วางแนวตัง้ ต่างจากกังหันลมทัว่ ไปทีว่ างแนวนอน กังหันลมแนวตั้งนี้ นอกจากจะช่วยประหยัด พื้นที่แล้ว ต้นทุนการดูแลรักษายังต่ำ�กว่า เพราะ มีสว่ นทีเ่ คลือ่ นไหวหรือต้องการน้�ำ มันหล่อลืน่ น้อย และยังอ่อนไหวต่อลมเพียงเล็กน้อยอีกด้วย
อีกไอเดียของกังหันลมที่คล้าย ๆ กันอยู่ที่ ประเทศตุรกี เมื่อสามนักประดิษฐ์หนุ่มมองเห็น พลังงานลมที่เกิดจากการสัญจรไปมาของรถ พวกเขาจึงคิดกังหันลมแนวตั้งที่ชื่อว่า Enril เพื่อ จับเอาลมที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนที่ของรถยนต์ โดยเฉพาะถนนไฮเวย์ซง่ึ รถวิง่ เร็วและมีกระแสลมแรง โดยกังหันนีส้ ามารถนำ�ไปติดกับเสาไฟกลางถนน ได้ด้วย นอกจากพลังงานลมแล้ว พลังงานจากน้ำ� (Hydropower) ก็มตี น้ กำ�เนิดจากการเปลีย่ นแปลง ของสภาพอากาศเช่นเดียวกัน ลมเกิดขึ้นเมื่อ อุณหภูมิของสองพื้นที่ไม่เท่ากัน คลื่นก็เกิดจาก การพัดพาของลมและกระแสน้�ำ ทีอ่ ณุ หภูมติ า่ งกัน ในขณะที่ ฤ ดู ก าลก่ อ เป็ น เมฆฝนตกลงมาบน พืน้ แผ่นดิน ไหลจากทีส่ งู ลงทีต่ �่ำ เกิดเป็นพลังงาน จากการไหลของน้ำ� ข้อได้เปรียบของพลังงาน CREATIVE THAILAND I 15
จากน้�ำ คือมีความสม่�ำ เสมอกว่าแสงอาทิตย์และ ลมมาก ทำ�ให้สัดส่วนของพลังงานจากการไหล ของน้ำ� หรือการสร้างเขื่อนเพื่อผลิตพลังงาน มีสัดส่วนสูงที่สุดในบรรดาพลังงานสะอาดที่ใช้ ผลิตไฟฟ้า การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำ� ไม่จำ�เป็น จะต้องสร้างเขื่อนเสมอไป แม้เราอาจจะคุ้นเคย กับโรงไฟฟ้าพลังงานน้�ำ ทีม่ าจากเขือ่ นขนาดใหญ่ เช่น เขือ่ นภูมพิ ลฯ ซึง่ เป็นเขือ่ นอเนกประสงค์แห่งแรก ของไทยและภูมเิ อเชียอาคเนย์ โดยการผลิตไฟฟ้า รูปแบบนี้จะต้องทำ�การเก็บกักน้ำ�ไว้จำ�นวนมาก แต่ ยั ง มี ก ารผลิ ต ไฟฟ้ า พลั ง งานน้ำ � โดยที่ เ รา ไม่จ�ำ เป็นจะต้องสร้างอ่างเก็บน้�ำ เรียกว่า “โรงไฟฟ้า พลังงานน้ำ�แบบไหลผ่านตลอดปี” คือมีการติด เครื่องกำ�เนิดไฟฟ้าบริเวณใต้แม่น้ำ�ที่มีการไหล อยู่ตลอด เช่น เขื่อนปากมูล จ. อุบลราชธานี
พลังงานชีวมวล พลังงานจากชีวิตและการใช้ชีวิต แม้ดูเหมือนว่า พลังงานชีวมวลจะใช้เทคโนโลยี โบราณ ไม่ใช้นวัตกรรมใด ๆ แต่เทคโนโลยี
ชี ว ภาพหลายอย่ า งก็ พั ฒ นาขึ้ น มาได้ อ ย่ า งน่ า สนใจ และ “สาหร่ายสีเขียว” อาจจะเป็นพระเอก ในเรื่องนี้ เพราะความสามารถในการสังเคราะห์ แสงที่เร็วกว่าพืชทั่วไป ทำ�ให้สามารถนำ�มาทำ� ไบโอดีเซลได้เร็วกว่า รวมถึงสามารถบังคับให้ สาหร่ายพวกนีผ้ ลิตก๊าซไฮโดรเจนสำ�หรับเชือ้ เพลิง ไฮโดรเจนได้อีกด้วย แต่ก็ยังเป็นเพียงขั้นต้นของ การพัฒนาเท่านั้น แล้วพลังงานจาก “ขยะ” ทีม่ อี ยูม่ ากจากการ ใช้ชวี ติ ประจำ�วันล่ะ จะเป็นพลังงานสะอาดหรือไม่ ถ้าอธิบายตามคำ�นิยามของพลังงานสะอาด พลังจากขยะจะไม่ใช่พลังงานสะอาดแน่นอน เพราะมาจากแหล่งที่ใช้แล้วหมดไป อีกทั้งยังก่อ คาร์บอนไดออกไซด์สว่ นเพิม่ ให้กบั ชัน้ บรรยากาศ เพราะขยะทีว่ า่ ไม่ได้มแี ต่ขยะอินทรียห์ รือกระดาษ ที่ ม าจากธรรมชาติ แต่ ยั ง รวมถึ ง พลาสติ ก ที่ มาจากปิโตรเลียมอีกด้วย แต่ใช่ว่าการเปลี่ยนขยะเป็นพลังงานเป็นสิ่ง ที่ไม่ควรทำ� เพราะขึ้นชื่อว่าขยะ ถ้าไม่สามารถ นำ�มารีไซเคิลได้ ปลายทางก็คือบ่อฝังกลบซึ่งก็ ไม่ต่างอะไรกับการฝังระเบิดไว้ใต้ดิน รอวันที่จะ กลายเป็นปัญหา ซึ่งการเปลี่ยนให้ขยะกลายเป็น พลั ง งาน อย่ า งน้ อ ยก็ ส ามารถนำ � มาทดแทน พลังงานที่ไม่ยั่งยืนชนิดอื่นได้ไม่มากก็น้อย หลายปีที่ผ่านมา พลังงานสะอาดจึงกลาย เป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกมุ่งไป ตัวเลขการเติบโตของ พลังงานทดแทนทุกชนิดอยูท่ ี่ 4.5% ต่อปีเป็นเวลา CREATIVE THAILAND I 16
egat.co.th
egat.co.th
รวมถึงยังมีโรงไฟฟ้าแบบพลังงานน้�ำ สูบกลับ ทีใ่ ช้ หลักการเดียวกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำ�จากอ่างเก็บน้ำ� แต่ ใช้ การสู บ น้ำ � เพื่ อ ให้ ไ หลผ่ า นเครื่ อ งกำ � เนิ ด ไฟฟ้าแทน เช่น โรงไฟฟ้าลำ�ตะคองชลภาวัฒนา จ. นครราชสีมา เป็นต้น ในบรรดาพลังงานสะอาดทั้งหมด พลังงาน ชีวมวล (Biomass Energy) ดูจะเป็นพลังงานทีถ่ กู ตั้งคำ�ถามมากที่สุด อาจเป็นเพราะของเสียที่ เกิดขึน้ หลังกระบวนการ ทีไ่ ม่ตา่ งอะไรกับการเอา เชื้อเพลิงฟอสซิลมาเผา กล่าวคือ มีทั้ง CO2 ขี้เถ้า รวมถึง PM2.5 (หากไม่มีเทคโนโลยีในการ จัดการทีด่ พี อ) แต่สงิ่ ทีต่ า่ งออกไปคือ ผลผลิตจาก การเกษตรเหล่านี้ อาทิ เศษไม้ ฟางข้าว ชานอ้อย มูลสัตว์ หรือแม้กระทั่งน้ำ�มันปาล์ม ล้วนเป็น สิ่ ง ที่ เ พิ่ ง เกิ ด ขึ้ น เมื่ อ ไม่ น าน เป็ น ผลิ ต ผลของ การกักเก็บพลังงานแสงอาทิตย์และคาร์บอน เข้าไปในเซลล์ที่เคยมีชีวิต ในระยะเวลาสั้น ๆ เมื่อเผาเพื่อปลดปล่อยพลังงานความร้อนออกมา ก๊ า ซคาร์ บ อนไดออกไซด์ ที่ เ กิ ด ขึ้ น ก็ เ ป็ น เพี ย ง คาร์บอนที่เพิ่งกักเก็บเข้าไปเท่านั้น จึงถือว่าก๊าซ เรือนกระจกที่เกิดเพิ่มขึ้นเป็นศูนย์หรือที่เรียกว่า Carbon Neutral นั่นเอง
ไม่ต่ำ�กว่า 10 ปี สูงกว่าพลังงานฟอสซิลที่เพิ่มขึ้น เพียง 1.5% แต่หากเทียบสัดส่วนการใช้ทั้งหมด พลังงานสะอาดก็ยงั มีสดั ส่วนเพียง 10.6% เท่านัน้ อีกทัง้ ใช่วา่ การใช้พลังงานสะอาดจะไม่สง่ ผลกระทบ อะไรเลย ขยะจากพลั ง งานสะอาดก็ ยั ง เป็ น สิ่ ง ที่ น่ า กั ง วลไม่ ต่ า งกั บ ปั ญ หาขยะพลาสติ ก แผงโซลาร์เซลล์ที่เสื่อมสภาพ ใบพัดกังหันลมที่ ใช้งานไม่ได้ แบตเตอรีลเิ ธียมทีเ่ สียแล้ว และอืน่ ๆ อีกมาก รวมถึงข้อกังขาในเรื่องผลกระทบต่อ ธรรมชาติ การถางป่าเพื่อวางแผงโซลาร์เซลล์ กังหันลมที่คร่าชีวิตนกทะเล เขื่อนที่ทำ�ให้เกิด การเปลี่ ย นแปลงโครงสร้ า งชี ว ภาพของป่ า บริเวณนั้น เป็นต้น เหล่านี้เป็นประเด็นซึ่งเราก็ ควรเร่งให้ความสนใจ เพื่อให้ประวัติศาสตร์ ไม่ซ�ำ้ รอยเหมือนกับทีเ่ ราเคยละเลยการใช้พลังงาน ฟอสซิล จนกระทั่งกระทบไปถึงการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศของโลกในวันนี้
CREATIVE THAILAND I 17
Photo by Andreas Gücklhorn on Unsplash
สัตยาบันของโลกเพื่อสิ่งแวดล้อมพลังงานสะอาด แทบจะเป็นเรื่องเดียวที่เป็นเป้าหมายร่วมกันของทุกประเทศและทุกภาคส่วน ตั้งแต่องค์การ สหประชาชาติ ประเทศมหาอำ�นาจ ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มประเทศผู้ค้าน้ำ�มันอย่าง OPEC หรือ แม้กระทั่งผู้ผลิตรถยนต์สันดาปภายในแทบทุกบริษัท โดยปี 2050 คือปีที่เป็นจุดหมายร่วม ของโลกว่าการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศจะต้องเป็นศูนย์ IPCC (The Intergovernmental Panel on Climate Change) หรือคณะกรรมการ ระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลีย่ นแปลงสภาพภูมอิ ากาศ ซึง่ มีคณะทำ�งานเป็นนักวิทยาศาสตร์ จากทั่วโลก ได้ออกรายงานสำ�คัญฉบับหนึ่งที่น่าจะเป็นเอกสารซึ่งก่อให้เกิดความตื่นตัว ทางด้านสิ่งแวดล้อมมากที่สุดฉบับหนึ่งในรอบทศวรรษ ข้อความในวันที่ 8 ตุลาคม 2018 ส่งสารถึงผู้คนทั่วโลกว่า ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกัน “อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน” เพื่อจำ�กัด การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส แทนที่จะเป็นเป้าหมาย 2 องศา เซลเซียสตามเดิมที่ทุกรัฐบาลยอมรับ การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นจากมนุษย์ จำ�เป็นจะต้องลดลงให้ได้ 45% ภายในปี 2030 และกลายเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ไม่เช่นนั้นแล้ว อุณหภูมิของโลก มีโอกาสจะสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับยุคก่อนอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นจุดที่ ไม่อาจหวนคืนได้อีก กล่าวคือธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะเข้าสู่ยุคที่เสื่อมลงจนสิ่งมีชีวิต ยุคปัจจุบันอาศัยอยู่ไม่ได้อีกต่อไป ประชากรกว่า 420 ล้านคนจะเผชิญกับคลื่นความร้อน ปะการังจะถูกทำ�ลายถึง 9 ใน10 ของทั้งหมด น้ำ�แข็งขั้วโลกเหนือจะละลายหมดภายใน 10 ปี รวมถึงการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ที่พืชและสัตว์จะสูญพันธุ์กว่า 80% และแน่นอนว่า มนุษย์ ก็คือหนึ่งในนั้น นี่คือความท้าทายยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติ ที่เดิมพันด้วยความอยู่รอดของ สิ่งมีชีวิตนับล้าน ๆ รวมถึงเผ่าพันธุ์มนุษย์ เราตระหนักดีแล้วว่า พลังงานที่สะสมมาตั้งแต่ ยุคดึกดำ�บรรพ์ ถึงแม้จะดูเหมือนว่าทรัพยากรเหล่านั้นเป็นของฟรี แต่เราก็รู้ว่าของฟรีไม่มี ในโลก ผลกระทบจากการใช้ทรัพยากรที่สะสมไว้ตามอำ�เภอใจ ยากเกินกว่าจะจินตนาการ ได้ถูก จะดีกว่าไหมหากเรารู้จักใช้พลังงานจากปัจจุบัน แทนที่พลังงานจากอดีต เพื่ออนาคต ที่ยั่งยืนกว่า
Fact & Figure : พื้นฐานความคิด
เมื่อวันที่ชีวิต (และพลังงาน) เดินเข้ามาถึงจุดเปลี่ยน เรื่อง : ณัฐชา ตะวันนาโชติ
“ทุกคนต้องสามารถเข้าถึงพลังงานสะอาดได้ภายในปี 2030”1 “สหภาพยุโรปตั้งเป้าประหยัดพลังงานให้ได้อย่างน้อย 30% ภายในปี 2030 เพื่อต่อสู้กับภาวะโลกร้อน” “ประเทศสวีเดนจะเลิกใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากฟอสซิลภายในปี 2040” “โดยเฉลี่ยในทุก ๆ ชั่วโมง ประเทศจีนจะสร้างกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าถึง 2 ต้น” “มากกว่า 95% ของไฟฟ้าในคอสตาริกาเกิดจากแหล่งพลังงานทดแทน” ผู้คนทั่วโลกพึ่งพาพลังงานจากฟอสซิล เช่น ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ หรือปิโตรเลียมมานานนับศตวรรษ ซึ่งพลังงานเหล่านั้นเกิดจากแหล่งพลังงาน ที่สร้างมลพิษ ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงและชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำ�ให้จากเดิม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ� พลังงานชีวมวล หรือพลังงานอื่น ๆ ที่ต่างก็เคยเป็นเพียงพลังงานทางเลือก กำ�ลังก้าวเข้ามารับบทบาทสำ�คัญในการเป็นแหล่งพลังงานหลัก แห่งอนาคต
พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานจากแสงอาทิตย์ทส่ี ง่ มายังพืน้ โลกใน 1 ชัว่ โมงนัน้ มีปริมาณมากกว่า ความต้องการใช้พลังงานของคนทัง้ โลกใน 1 ปีเสียอีก แม้จะมีขอ้ จำ�กัดด้าน ความแตกต่างด้านความเข้มข้นของแสงอาทิตย์ในแต่ละพืน้ ที่ แต่แสงอาทิตย์ก็ นับเป็นแหล่งพลังงานทีม่ ปี ริมาณมหาศาลและใช้ได้ไม่มวี นั หมด ยิง่ ในปัจจุบนั ทีผ่ คู้ นสามารถเข้าถึงได้งา่ ยขึน้ เนือ่ งจากโซลาร์เซลล์ หรืออุปกรณ์ทท่ี �ำ หน้าที่ เปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้านั้น ถูกออกแบบให้มีความ หลากหลายเพือ่ ตอบโจทย์ผใู้ ช้งานได้มากขึน้ สำ�นักงานพลังงานสากล (International Energy Agency: IEA) จึงคาดการณ์วา่ พลังงานแสงอาทิตย์จะเป็น หนึง่ ในตัวเลือกพลังงานทีจ่ ะเติบโตมากทีส่ ดุ ในหมูพ่ ลังงานทางเลือกทัง้ หมด TWh 5,000 4,000 3,000 2,000 1,000 0 -1,000
ถ่านหิน
ก๊าซ
พลังงานนา้ํ พลังงานลม
2000 - 2019 2019 - 2040 (ตามกรอบนโยบายปัจจุบัน)
พลังงาน แสงอาทิตย์
พลังงาน ชีวภาพ
นิวเคลียร์
แผงโซลาร์เซลล์มีอายุการใช้งานนานถึง 20-25 ปี ไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ชว่ ยประหยัดค่าไฟได้หน่วยละ 4.50 บาท และ ถ้าใช้ไม่หมดเราสามารถขายคืนให้การไฟฟ้าได้หน่วยละ 1.68 บาท ในที่อยู่อาศัย การติดโซลาร์เซลล์ขนาด 2 ตารางเมตร จำ�นวน 10 แผง สามารถผลิตไฟได้สูงสุด 3.2 กิโลวัตต์2 ในประเทศไทย กฎหมายกำ�หนดให้ติดตั้งโซลาร์เซลล์ได้ไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ ต่อ 1 หลังคาเรือน
พลังงานลม ลมเป็นแหล่งพลังงานทีม่ นุษย์ใช้มานานมากกว่า 7,000 ปีแล้ว ไม่วา่ จะเป็นการ ล่องเรือ บดสีเมล็ดพืช หรือการสูบน้�ำ เพือ่ การเพาะปลูก แม้ประเทศไทยจะใช้ ประโยชน์จากพลังงานลมได้นอ้ ย เนือ่ งจากภูมปิ ระเทศทำ�ให้ความเร็วเฉลีย่ ของ ลมค่อนข้างต่�ำ แต่ในปัจจุบนั กังหันลมกำ�ลังได้รบั ความนิยมในการนำ�มาใช้ผลิต ไฟฟ้าทัว่ โลก โดยจากปี 2001-2017 ปริมาณไฟฟ้าทีผ่ ลิตจากพลังงานลมเพียง อย่างเดียวนัน้ เติบโตขึน้ กว่า 22 เท่า และคาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนือ่ ง กังหันลม 1 ต้นสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าทีเ่ พียงพอสำ�หรับอย่างน้อย 1,500 ครัวเรือนตลอด 1 ปี ปัจจุบนั กังหันลมทัว่ โลกสามารถผลิตไฟฟ้าได้มากถึง 742 กิกะวัตต์ ซึง่ ช่วย ให้โลกลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปได้มากถึง 1.1 พันล้านตัน (เทียบได้กบั ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาใน 1 ปีจากทวีป อเมริกาใต้) 1 Sustainable Development Goals (SDGs) แผนพัฒนาโลกเพื่อความยั่งยืนข้อที่ 7 : Affordable and Clean Energy พลังงานสะอาดที่ทุกคนเข้าถึงได้ 2 ไฟฟ้า 1 กิโลวัตต์ (1,000 วัตต์) สามารถชาร์จโทรศัพท์มอื ถือจาก 0% ไปถึง 100% ได้ราว 50 รอบ (กรณีใช้หัวชาร์จ 5 วัตต์)
CREATIVE THAILAND I 18
1. ช่างเทคนิคด้านโซลาร์เซลล์ (Solar Cell Technicians) การผลิต
ประเทศอื่น ๆ
13.37%
ออสเตรเลีย 1.18% อินเดีย 1.20% ตุรกี 1.32% ฝรั่งเศส 1.42% สเปน 1.51% เยอรมนี 1.79% นอร์เวย์ 1.65%
พลังงานลมที่ติดตั้งใหม่ ในปี 2020
บราซิล 2.47%
จีน
55.91%
รวมทั้งหมด 93 กิกะวัตต์ (GW) สหรัฐอเมริกา
18.19%
กังหันลมนอกชายฝั่ง 4.75%
รวมทั้งหมด 742,689 เมกะวัตต์ (MW)
กังหันลมบนบก
95.25%
จํานวนพลังงานลมสะสม ภายในปี 2020
อาชีพสะอาดแห่งอนาคต พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมเป็นเพียงสองตัวอย่างของพลังงานสะอาด ทีน่ อกจากจะมาช่วยทำ�ให้โลกสะอาดขึน้ แล้ว ยังจะมีสว่ นสำ�คัญในการกระตุน้ เศรษฐกิจและสร้างอาชีพใหม่ ๆ ให้เกิดขึน้ ทัว่ โลก โดยในปี 2019 มีต�ำ แหน่ง งานทีเ่ กิดขึน้ จากอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 11.5 ล้านตำ�แหน่ง และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 42 ล้านตำ�แหน่งภายในปี 2050 ลองมาดูตัวอย่าง ของ 10 อาชีพรักษ์โลกที่กำ�ลังเติบโตเร็วที่สุดในปัจจุบันกัน ล้านตําแหน่ง 10
7.28
8.55
9.50
10.04
10.13
2.77
3.09
2.99
2.88
2.74
2.04
2.16
2.06
8 2.49
6
10.53
10.98
11.46 รวมสุทธิ
3.68
3.75
3.05
3.18
3.58
1.99
2.05
1.96
3.37
2.27 1.36
4
2.40
2.50
2
1.66
2.21
1.16 1.16 1.17 1.08 1.15 1.03 0.75 0.83 0.89 0.23 0.50 0.19 0.76 0.20 0.94 0.24 0.83 0.16 0.81 0.18 0.80 0.18 0.82 0.22 0 2012 2013 2014 2015 2016 2017 2018 2019 พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานนํา้ ระบบทําความร้อน-เย็นด้วยแสงอาทิตย์ พลังงานชีวภาพ พลังงานลม อืน่ ๆ
โซลาร์เซลล์มอี ตั ราเติบโตขึน้ อย่างก้าวกระโดด ควบคูไ่ ปกับความต้องการ ในตำ�แหน่งงานเกีย่ วกับการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์นี้ โดยเฉพาะ ในประเทศจีน ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา 2. นักปลูกแห่งเมืองใหญ่ (Urban Growers) การเพาะปลูกพืชผักผลไม้ ในเมืองเป็นอีกหนึ่งหนทางที่จะช่วยลดการใช้พลังงาน และช่วย ย่นระยะการเดินทางของผลผลิต ทำ�ให้อาหารยังคงความสดใหม่ เมื่อถูกส่งไปถึงมือผู้บริโภค 3. นักตรวจคุณภาพน้ำ� (Water Quality Technicians) น้ำ�เป็น แหล่งพลังงานและมีความสำ�คัญต่อวิถชี วี ติ ของผูค้ นทัว่ โลก ปัจจุบนั ปัญหามลพิษในแหล่งน้�ำ เริม่ มีความรุนแรงเพิม่ ขึน้ หลายพืน้ ที่จึงต้องการ คนดูแลและตรวจสอบคุณภาพน้�ำ เพือ่ ความปลอดภัยในการบริโภค 4. วิศวกรรถยนต์สะอาด (Clean Car Engineers) หนึ่งวิธีเพื่อลด การปล่อยมลภาวะที่ทุกคนมีส่วนร่วมได้ก็คือเรื่องการเดินทาง อุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานสะอาดจึงเป็นเรื่องที่ ใ กล้ตัวมากขึ้น พร้อม ๆ กับความต้องการแรงงานในสายงานที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน 5. นักรีไซเคิล (Recyclers) การแยกขยะเพื่อนำ�กลับมาใช้ใหม่นั้น มีส่วนสำ�คัญในการรักษาสิง่ แวดล้อมและประหยัดพลังงาน แม้อาจ จะดูเป็นเรือ่ งที่ซับซ้อนสำ�หรับใครหลายคน แต่การรีไซเคิลอย่าง ถูกวิธีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับโลกได้อย่างมหาศาล 6. นักผลิตพลังงานลม (Wind Energy Workers) เช่นเดียวกับ พลังงานทางเลือกอื่น ๆ ที่กำ�ลังอยู่ในช่วงขาขึ้น พลังงานลมก็เป็น อีกหนึง่ ทางเลือกที่เป็นที่นิยม และคาดว่าจะมีตำ�แหน่งงานเพิ่มขึ้น ถึง 2.4 ล้านตำ�แหน่งในปี 2024 7. นักวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ (Natural Scientists) การต่อสู้กับ ปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วยการเดินหน้าสู่ความยั่งยืนนั้นจำ�เป็นต้อง อาศัยผู้เชี่ยวชาญในการสังเกต สำ�รวจความเปลี่ยนแปลง และ หาทางออกให้กับปัญหาที่เกิดขึ้น 8. นักก่อสร้างสายเขียว (Green Builders) เทคนิคการก่อสร้างด้วย วัสดุเหลือใช้ทเี่ ป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อมกำ�ลังได้รบั ความนิยมมากขึน้ เพราะนอกจากจะไม่ท�ำ ร้ายโลกแล้ว ยังเป็นการสร้างคุณค่าให้กบั ขยะ อย่างยัง่ ยืนอีกด้วย 9. นักออกแบบสายเขียว (Green Design Professionals) ในปัจจุบนั งานออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั้น ไม่ได้จำ�กัดอยู่แค่ใน การออกแบบอาคารเท่านั้น แต่ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ก็ต้องรักษ์โลก ด้วยเช่นกัน 10. นั ก ผลิ ต พลั ง งานชี ว ภาพ (Biofuel Jobs) ทุ ก วั น นี้ อั ต รา การจ้ า งงานที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ พลั ง งานชี ว ภาพกำ � ลั ง เติ บ โตเป็ น อันดับสามในหมู่พลังงานทางเลือก รองจากพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลมตามลำ�ดับ
ที่มา : รายงาน “Global Wind Report 2021” จาก Global Wind Energy Council (GWEC) รายงาน “Renewable Energy and Jobs Annual Review 2020” จาก International Renewable Energy Agency (IRENA) / รายงาน “World Energy Outlook 2020” จาก International Energy Agency (IEA) / บทความ “11 of the Fastest Growing Green Jobs” จาก nationalgeographic.com / บทความ “China embarked on wind power frenzy, says IEA” โดย Roger Harrabin จาก bbc.com / บทความ “11 Countries Leading the Charge on Renewable Energy” จาก climatecouncil.org / ec.europa.eu / powerofwe.world
CREATIVE THAILAND I 19
Creative Business : ธุรกิจสร้างสรรค์
แพลตฟอร์มเพื่อยานยนต์ ไฟฟ้าที่เติมพลังงานสะอาดให้โลก เรื่อง : วนบุษป์ ยุพเกษตร
เชื่อว่าจนถึงวันนี้คงไม่มีใครกังขาในความดีงามของยานยนต์ ไฟฟ้าแล้ว เพราะนอกจากข้อได้เปรียบเรื่องประสิทธิภาพ การใช้งาน ก็ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้ “พลังงานสะอาด” โดยตรง ถึงอย่างนั้นพาหนะไฟฟ้าก็ยังมีข้อจำ�กัดอีกหลายอย่าง เช่นเรื่องราคาที่ยังสูงกว่าเมื่อเทียบกับรถน้ำ�มัน ยังไม่รวมถึง ความกังวลของผู้ใช้งานและผู้ที่ (คิด) จะใช้งานในเรื่องการหาที่เติมพลังงานอีกด้วย ข้อกังวลที่ว่านี้เหมือนจะค่อย ๆ คลี่คลาย เมื่อ “ปั๊มชาร์จ (PumpCharge.com)” แพลตฟอร์มที่ให้บริการครบทุกการ ใช้งานของรถไฟฟ้าเกิดขึ้น จากผู้อยู่ในวงการมาเกือบ 10 ปีอย่าง เดฟ - ฉันทกร เดวิชญ์ กริดวิชยญาการ ซีอีโอลูกผสม สายเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และพลังงานไฟฟ้า ประจำ�บริษทั กริดวิซ (ประเทศไทย) จำ�กัด เขาคือคนเบือ้ งหลังการทำ�งานของ แพลตฟอร์มปั๊มชาร์จ ที่จะมาปลดล็อคความกังวลใจของผู้ใช้งานยานยนต์ ไฟฟ้า CREATIVE THAILAND I 20
ปั๊ม – ไฟฟ้า สถานีเติมพลังงานแห่งอนาคต ยานยนต์ไฟฟ้า หรือ Electric Vehicle (EV) ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% จึงจำ�เป็นต้องมีจุดชาร์จเพื่อเติมพลังงาน ไม่ต่างอะไรกับที่เราต้อง ชาร์จสมาร์ตโฟนเพื่อให้เครื่องใช้งานต่อไปได้ “ปั๊มชาร์จ” จึงเกิดขึ้นมาเพื่อ เป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมจุดบริการชาร์จไฟฟ้าและให้บริการแก่ผู้ขับขี่ ยานยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ โดยทำ�งานเป็นส่วนหนึง่ ของเทคโนโลยีระบบไฟฟ้า อัจฉริยะ หรือที่เรียกกันว่า สมาร์ตกริด (Smart Grid) สำ�หรับคนที่ไม่รู้เรื่องไฟฟ้าเลย นี่คือคำ�นิยามของระบบกริดที่ง่ายที่สุด “1 กริดในเชิงไฟฟ้า ประกอบไปด้วย การผลิตพลังงาน การส่งพลังงาน และ การรับพลังงาน เท่ากับครบถ้วนระบบไฟฟ้า” เดฟอธิบายง่าย ๆ พร้อมยกตัวอย่าง ข้อดีของระบบไฟฟ้าขนาดเล็ก เมื่อเปรียบเทียบกับโรงผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่ ที่จะสูญเสียพลังงานจำ�นวนมากระหว่างการส่งพลังงานไปยังบ้านเรือน “ถ้าเราสามารถผลิตตรงไหนใช้ตรงนัน้ ความสูญเสียในขัน้ ของการขนส่ง พลังงานก็จะน้อยลง บวกกับต้นทุนการผลิตที่ถูกมาก จึงทำ�ให้ถึงจุดคุ้มทุน ได้เร็ว” เขาพยายามบรรยายให้เห็นภาพการทำ�งานของปั๊มชาร์จที่ใช้ระบบ กริดนี้ และเพิม่ ศักยภาพเข้าไปด้วยระบบการจัดการหลังบ้านเพือ่ ให้กลายเป็น ระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ เดฟชี้แจงต่อว่า “แพลตฟอร์มปั๊มชาร์จประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ ซอฟต์แวร์ในรูปแพลตฟอร์มทีป่ ระกอบไปด้วยหลายแพลตฟอร์มย่อย ๆ ไม่ใช่ แค่ส่วนแอพพลิเคชันอย่างเดียว อีกส่วนหนึ่งคือ ฮาร์ดแวร์ที่อยู่ในรูปแบบ เครือ่ งชาร์จไฟฟ้า ซึง่ ทำ�งานร่วมกันกับแพลตฟอร์ม” โดยทีบ่ ริษทั ก็ให้บริการ ครบถ้วนทั้งสองส่วน
ครบเครื่องเรื่อง (รถ) ไฟฟ้า เปิดหลังบ้านการทำ�งานของแพลตฟอร์มปั๊มชาร์จ 1. แอพพลิ เ คชั น PumpCharge สำ � หรั บ ผู้ ขั บ ขี่ ห รื อ เจ้ า ของ ยานพาหนะไฟฟ้า เพือ่ ค้นหาสถานีชาร์จ และวางแผนการเดินทาง 2. แพลตฟอร์มสำ�หรับผู้ดูแลสถานี เพื่อมอนิเตอร์และดูแลระบบ การทำ�งานของสถานีแบบระยะไกล รวมถึงสามารถตรวจสอบ สถานะของเครือ่ งชาร์จด้วย ใครทีม่ พี น้ื ทีว่ า่ งอยูแ่ ละสนใจอยากเปิด สถานีก็สามารถติดต่อทีมงานปั๊มชาร์จเพื่อช่วยดำ�เนินการได้ 3. แพลตฟอร์ ม สำ � หรั บ ระบบชำ � ระเงิ น ที่ ทำ � งานร่ ว มกั บ ตั ว แอพพลิเคชันของผูใ้ ช้งาน โดยปัจจุบนั มีการชำ�ระเงินอยู่ 3 ช่องทาง คือ เงินสด บัตรเครดิต และบัตรสมาชิกอื่น ๆ ที่จะเชื่อมกับระบบ ขายหน้าร้าน 4. การวิเคราะห์ขอ้ มูล เพื่อนำ�มาพัฒนาและปรับปรุงระบบ เช่น ข้อมูล ปริมาณผู้ใช้งาน กำ�ลังไฟที่ใช้ แต่ข้อมูลส่วนบุคคลจะไม่ถูกนำ�มา วิเคราะห์ด้วย
ปั๊มชาร์จ โลกของผู้ใช้รถไฟฟ้า และผู้ให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้า จากประสบการณ์ในวงการพลังงานไฟฟ้าเกือบ 10 ปีของเดฟ เขาคิดถึง ภาพรวมของระบบทั้งหมด ไม่เพียงแค่ส่วนของผู้ใช้งาน แต่ยังรวมไปถึง ส่วนของผู้ให้บริการ และระบบนิเวศขั้นพื้นฐานของปั๊มไฟฟ้าด้วย “โครงสร้างพืน้ ฐานก็ตอ้ งมาจากรถก่อน พอมันมีระบบไฟฟ้า มีแบตเตอรี ก็ต้องมีการเติมพลังงานที่มาจากเครื่องชาร์จ ซึ่งหลักการทำ�งานคือ จากรถ มาที่เครื่องชาร์จ จากเครื่องชาร์จมาที่ระบบบริหารจัดการ และจากระบบ ไปที่ผู้ใช้ เราจึงออกแบบการบริการให้ครบทั้งระบบนิเวศนี้เลย” ส่วนทีจ่ บั ต้องได้จริง ๆ คือส่วนของผูใ้ ช้งานทีอ่ ยูใ่ นรูปแบบแอพพลิเคชัน ซึ่งทางทีมงานก็หวังว่าแอพฯ นี้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำ�วันของ คนใช้รถไฟฟ้า หรือวันที่บ้านเรามีการใช้รถอีวีกันมากขึ้นจนเป็นเรื่องปกติ “ฟังก์ชันหลักคือการค้นหาสถานีชาร์จไฟฟ้า เราทำ�ระบบจับคู่ระหว่าง รถและจุดชาร์จไฟฟ้า เพื่อหาสถานีที่เหมาะสมกับความต้องการของรถที่ใช้ และยังสามารถกรองสถานีทกี่ �ำ ลังใช้งานหรือไม่วา่ งให้บริการออกไปได้ดว้ ย” เดฟเสริมต่อว่า “สมมติเราตั้งโปรไฟล์ระบุว่าใช้รถรุ่นไหนอยู่ เราก็จะรู้ สเปกว่ารถมีความต้องการแบบไหน ตัวแอพฯ ก็จะสามารถดึงข้อมูลตรงนี้ มาใช้ได้ทันที”
CREATIVE THAILAND I 21
ปั๊ ม ชาร์ จ เป็ น แอพฯ ที่ พั ฒ นาเพื่ อ กลุ่มคนใช้รถไฟฟ้าโดยเฉพาะ เราไม่ใช่ แค่ บ อกตำ � แหน่ ง สถานี เ ฉย ๆ แต่ มี ข้อมูลที่คนใช้รถยนต์ไฟฟ้าต้องการ เช่น เวลาปิด - เปิด สิ่งอำ�นวยความสะดวก บริเวณสถานี รายละเอียดของเครื่อง ชาร์จและหัวชาร์จ
ไม่ใช่แค่ระบุตำ�แหน่ง แต่บอกความเคลื่อนไหว หากคุณเคยผ่านหูผา่ นตาฟีเจอร์จากกูเกิลแม็ปส์ทสี่ ามารถค้นหาสถานีชาร์จ รถไฟฟ้า (EV Charger Station) ได้นนั้ แล้วจะบอกว่าไม่จ�ำ เป็นต้องใช้แอพฯ ปั๊มชาร์จเลย คือคุณกำ�ลังคิดผิดถนัด พืน้ ฐานของการค้นหาอะไรสักอย่างรวมถึงสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าต้อง ตั้งอยู่บนหลักการของแผนที่อยู่แล้ว แต่รายละเอียดเชิงลึกนี่แหละที่จะเป็น ตัวตัดสินและบอกเองว่า คุณจะลองใช้แอพฯ นี้ดูสักหน่อยก็ไม่เลวนะ “ปัม๊ ชาร์จเป็นแอพฯ ทีพ่ ฒั นาเพือ่ กลุม่ คนใช้รถไฟฟ้าโดยเฉพาะ เราไม่ใช่แค่ บอกตำ�แหน่งสถานีเฉย ๆ แต่มีข้อมูลที่คนใช้รถยนต์ไฟฟ้าต้องการ เช่น เวลาปิด - เปิด สิ่งอำ�นวยความสะดวกบริเวณสถานี รายละเอียดของเครื่อง ชาร์จและหัวชาร์จ” เขาอธิบาย อีกข้อมูลที่สำ�คัญคือข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงและอัพเดตอยู่ตลอดเวลา “เราจะมีข้อมูลเชิงไดนามิกส์ที่เรียกว่าเป็นข้อแตกต่างจากแอพฯ อื่น ๆ เช่น จุดชาร์จว่างหรือไม่ หรือจุดนีม้ คี นจองไว้แล้ว เราคงไม่อยากขับรถไปถึงเพือ่ พบว่า อ้าว! มีคนใช้งานอยู่” การที่ระบุตำ�แหน่งเฉย ๆ ว่ามีจุดให้บริการอยู่ ตรงไหนเพียงอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอต่อความต้องการของผูใ้ ช้งานรถไฟฟ้า เพราะการชาร์จไฟฟ้าหนึ่งครั้งใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง ไม่เหมือนกับ รถน้ำ�มันที่วิ่งเข้าปั๊มแค่ 3 - 5 นาทีก็เสร็จ “เวลาที่เราเข้าไปชาร์จที่สถานี เราจะรู้ได้เลยว่าหัวชาร์จที่เราใช้มีไฟเข้ามาประมาณเท่าไร มีอัตราไฟฟ้า เท่าไร หรือใช้พลังงานไปเท่าไรแล้ว ซึ่งสามารถเรียกดูข้อมูลเหล่านี้ใน แอพพลิเคชันได้เลย” ซีอีโอลงรายละเอียด
คอมมูนิตี้คนไฟฟ้า เนื่ อ งจากสถานี ช าร์ จ ไม่ มี ค น ฉะนั้ น จะไม่ มี ใ ครคอยช่ ว ยเหลื อ เหมือนที่ปั๊มน้ำ�มัน ทีมงานปั๊มชาร์จจึงอยากสร้างคอมมูนิตีรถอีวี ในประเทศไทย เพื่อให้ทุกคนมาแบ่งปันกัน เช่น มีผู้ใช้แจ้งปัญหา หัวชาร์จ หรือ แนะนำ�จุดนั่งรอระหว่างชาร์จ “เราก็อยากจะสร้าง กลุ่มที่ยังมีจำ�นวนน้อยอยู่ให้มีบรรยากาศของสังคมการแบ่งปันข้อมูล เพือ่ ช่วยเหลือซึง่ กันและกัน ให้บรรยากาศของการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า ดีขึ้น” เดฟกล่าว
Trip Planner ฟีเจอร์ที่เกิดมาเพื่อ “ฆ่าความกังวล” แน่นอนว่าความกังวลใจของผู้ใช้งานรถไฟฟ้าและผู้ที่กำ�ลังจะตัดสินใจซื้อ รถไฟฟ้าคงหนีไม่พ้นเรื่องการกลัวแบตเตอรีจะหมดระหว่างทาง ไม่ใช่เรื่อง เชิงเทคนิคของรถแต่อย่างใด และยิง่ ต้องการเดินทางไกลเท่าไร ความกังวลนี้ ก็จะเห็นได้ชัดขึ้น เพราะคนใช้รถไฟฟ้าจะมีความกังวลที่เรียกว่า Range Anxiety หรือ ระยะที่กังวลว่าพลังงานจะหมดระหว่างการเดินทาง ซึ่งผู้ผลิตก็พยายาม แก้ปัญหานี้อยู่เรื่อย ๆ ด้วยการเพิ่มความจุของแบตเตอรีเพื่อให้รถวิ่งได้ไกล มากขึน้ แต่สงิ่ ทีจ่ ะช่วยแก้ปญั หานีไ้ ด้อย่างตรงจุดก็คอื จำ�นวนสถานีทมี่ ากขึน้ พร้อมทัง้ ต้องมีตวั ช่วยทีด่ ดี ว้ ย ทีจ่ ะทำ�ให้ผใู้ ช้ไม่ตอ้ งมานัง่ วางแผนเส้นทางเอง และการจะตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้าก็จะเป็นเรื่องง่ายขึ้นกว่าเดิม ทีมงานปั๊มชาร์จเองก็เล็งเห็นข้อกังวลใจนี้ จึงคิดค้น “ฟีเจอร์ไม้ตาย (Killer Feature)” เพื่อรองรับคนใช้รถอีวีสำ�หรับเดินทางไกล ฟีเจอร์ที่ว่านี้ก็ คือ Trip Planner ที่จะช่วยคำ�นวณเส้นทางและรายละเอียดการเดินทางให้ เบ็ดเสร็จ สามารถให้รายละเอียดตั้งแต่สถานะของแบตเตอรีปัจจุบันของรถ เพือ่ คำ�นวณหาสถานีทร่ี ถต้องไปจอดชาร์จในแต่ละจุดและทำ�การจองล่วงหน้า รวมถึงจะบอกค่าพลังงานทีจ่ ะได้ระหว่างการชาร์จ และเวลาทีต่ อ้ งใช้ทง้ั หมด ไปจนถึงจุดหมายปลายทาง ซึง่ เส้นทางทีเ่ ราเคยใช้ทวั่ ไปจากการดูแผนทีใ่ นแอพพลิเคชันนำ�ทางอาจ แนะนำ�เส้นทางจากจุดเริ่มต้นสู่จุดหมายปลายทาง แต่ในด้านผู้ใช้งาน รถไฟฟ้า พวกเขาจะเดินทางตามจุดที่มีสถานีชาร์จไฟฟ้าแทน ทำ�ให้ไม่ต้อง กังวลเรือ่ งแบตเตอรีรถจะหมดระหว่างการเดินทาง หรือพะวงหาสถานีชาร์จ ที่ใกล้ที่สุด ฉะนัน้ การจะออกแบบระบบการใช้งานให้ได้ดแี ละมีประสิทธิภาพ ก็ตอ้ ง อาศัยประสบการณ์บวกกับความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อให้มีจุดแข็งและ กลายเป็นข้อได้เปรียบทางธุรกิจ ซึ่งผู้ที่จะได้รับประโยชน์ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือผู้ใช้บริการนั่นเอง เพราะเป็นไฟฟ้า จึงอยู่ที่ไหนก็ได้ หลายคนอาจติ ด ภาพปั๊ ม น้ำ � มั น เป็ น พื้ น ที่ ก ว้ า งและต้ อ งปลอดภั ย แต่ สำ � หรั บ ปั๊ ม ไฟฟ้ า แค่ มี เ ครื่ อ งชาร์ จ เพี ย งเครื่ อ งเดี ย วก็ เ รี ย กว่ า สถานีแล้ว ไม่จำ�เป็นต้องมีทำ�เลที่ดี มีจุดที่เป็นหลักแหล่ง หรือมีพื้นที่ ขนาดใหญ่ ทำ�ให้สถานีชาร์จไฟฟ้าหรือปั๊มชาร์จจะอยู่ที่ไหนก็ได้ เช่น ร้านกาแฟ ร้านนวด สนามกอล์ฟ แม้แต่ลานจอดรถที่ทำ�งาน หรือ ห้างสรรพสินค้า แค่มีที่จอดรถอย่างเดียวก็เพียงพอ แถมมีโอกาส กระจายตัวได้เยอะและเร็วกว่าปั๊มน้ำ�มันอีกหลายเท่า
ข้อมูลเพิ่มเติม : facebook.com/PumpChargePlatform และ facebook.com/GridWhiz หมายเหตุ : สัมภาษณ์เมื่อ 24 เมษายน 2564 ทางวิดีโอคอล
CREATIVE THAILAND I 22
How To : ถอดวิธคี ดิ
WASTE TO ENERGY ทางเลือกใหม่ ของพลังงานจากขยะ
กระบวนการ Waste to Energy กระบวนการเผาไหม้
เรื่อง : นพกร คนไว
รายงานจากธนาคารโลกคาดการณ์ ตัวเลขการผลิตขยะของประชากรทัว่ โลก ไว้ ว่ า จะมี ม ากถึ ง 3.4 พั น ล้ า นตั น ภายในปี 2050 นอกจากนี้ ในแต่ละวัน มีเพียงร้อยละ 13.5 ของขยะทั้งหมดที่ ถูกนำ�ไปรีไซเคิล อีกร้อยละ 5.5% ถูก นำ�ไปหมักเป็นปุย๋ และอีกกว่าร้อยละ 40 จะถูกนำ�ไปฝังกลบ ขณะที่กระบวนการ เผาขยะเพื่อเป็นพลังงาน (Waste to Energy: WTE) นั้นคิดเป็นร้อยละ 11 เท่านั้น เมือ่ ดูในรายละเอียดจะพบว่า การจัดการขยะด้วย การฝั ง กลบที่ มี เ ปอร์ เ ซ็ น ต์ ม ากที่ สุ ด นั้ น สร้ า ง ผลกระทบอย่ า งใหญ่ ห ลวงต่ อ สิ่ ง แวดล้ อ ม ทัง้ การปล่อยสารพิษอันตรายทีเ่ ป็นต้นเหตุของก๊าซ เรือนกระจก อีกทัง้ ยังเป็นแหล่งของน้�ำ ชะมูลฝอย ซึง่ เป็นศูนย์รวมของเชือ้ โรคและสารพิษอีกมากมาย การจัดการขยะด้วยกระบวนการ Waste to Energy นี้ จึ ง สามารถช่ ว ยลดปริ ม าณขยะที่ ถู ก ฝั ง กลบ ช่วยรักษาสภาพแวดล้อมของชุมชน และยังได้ ประโยชน์เป็นพลังงานสะอาดมาทดแทน รู้จักกระบวนการ Waste to Energy เผาขยะเพื่อสร้างพลังงาน ในอดีตโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะมักถูกวิจารณ์ ว่าเป็นทางออกสำ�หรับประเทศที่ร่ำ�รวย ในด้าน การลงทุน การศึกษาเพื่อสร้างโรงงาน อีกทั้ง การฝึกฝนเจ้าหน้าที่ และการบำ�รุงรักษาทีต่ อ้ งการ งบประมาณจำ�นวนมาก แต่หลายปีมานี้หลาย ประเทศได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ของพลังงานขยะ และหันมาลงทุนกันมากขึน้ เพือ่ สร้างสิง่ แวดล้อม และการเป็นอยูท่ ดี่ ขี องทุกคน โดยมีการออกแบบ กระบวนการเปลีย่ นขยะให้เป็นพลังงานทีม่ ปี ระสิทธิภาพ และไม่ก่อให้เกิดผลประทบต่อสิง่ แวดล้อม นับเป็น การเปลีย่ นโฉมหน้าของโรงงานเผาขยะทีเ่ คยสร้าง มลภาวะ สูโ่ รงงานเผาขยะยุคใหม่ทปี่ ล่อยสารพิษ ต่อดิน น้ำ� และอากาศเป็นศูนย์ ทั้งยังสามารถ สร้างพลังงานไว้ใช้ได้อย่างยั่งยืน
ขยะ
เก็บรวบรวม
เข้าโรงงาน
กระบวนการสร้างพลังงาน และบําบัดอากาศ ครัวเรือน
พลังงานไฟฟ้า
โดยกระบวนการนั้นเริ่มจากการคัดแยก ตรวจสอบ และตัดเพื่อทำ�ให้ขนาดเล็กลงก่อนนำ� เข้าสูเ่ ตาเผา แต่ในบางพืน้ ทีก่ ใ็ ช้วธิ กี ารเผาไหม้มวล (Mass Burn System) คือการเผาขยะมูลฝอยใน สภาพทีไ่ ด้รบั เข้ามาโดยไม่มกี ารจัดการเบือ้ งต้นก็มี เมื่อแยกขยะแล้ว รถขยะจะนำ�ขยะเทลงใน บ่อขนาดใหญ่เพื่อพักขยะเป็นเวลา 7 วัน ก่อนที่ ขยะจะถูกนำ�มาบีบและชะน้ำ�ขยะออกเพื่อลด ความชืน้ โดยเครือ่ งหนีบ (Grab Crane) ทีจ่ ะช่วย ทั้งผสมขยะใหม่และเก่าเข้าด้วยกันและบีบน้ำ� ขยะออกมาให้ได้มากที่สุด โดยน้ำ�ขยะจะส่งไปสู่ กระบวนการบำ�บัดน้ำ�เสียต่อไป จากนัน้ ขยะจะถูกคีบเพือ่ ป้อนลงไปสูเ่ ตาเผา โดยทัว่ ไป โรงเผาขยะจะใช้เตาเผาประเภทตะกรับ เคลื่อนที่ (Moving Grate) ช่วยเคลื่อนย้ายขยะ เข้าสูเ่ ตาเผา ความร้อนในเตาจะทำ�ให้ขยะเปียกนัน้ แห้งก่อนที่จะเผาเพื่อให้เกิดการเผาไหม้ที่ดีขึ้น การเคลือ่ นทีข่ องตะกรับจะทำ�ให้ความร้อนแทรก เข้าสู่ขยะได้อย่างทั่วถึง และเผาไหม้ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ เมื่อขยะถูกเผา ขี้เถ้าและเศษขยะ ทีไ่ ม่สามารถเผาไหม้ได้จะหลุดออกจากตระกรับ ผ่านหลุมถ่ายขีเ้ ถ้า ซึง่ ขีเ้ ถ้าเหล่านีจ้ ะถูกรวมอัดเป็น อิฐบล็อกเพือ่ นำ�ไปใช้ในงานก่อสร้างหรือทำ�ถนนได้ ความร้อนของเตาเผาขยะต้องมีการเผาไหม้ ให้ ถึ ง อุ ณ หภู มิ อ ย่ า งต่ำ � 850 องศาเซลเซี ย ส ตามข้ อ บั ง คั บ เกี่ ย วกั บ การเผาขยะ (Waste Incineration Directive) ของสหภาพยุโรป เพือ่ รับประกันการเผาไหม้ของขยะทีม่ สี ว่ นประกอบ CREATIVE THAILAND I 23
ของสารพิษอันตราย ความร้อนจากการเผาไหม้ จะถูกส่งขึ้นไปตามปล่องควัน และจะทำ�หน้าที่ ต้มน้�ำ เพือ่ สร้างไอน้�ำ ความดันสูงเข้าสูเ่ ครือ่ งปัน่ ไฟ สำ�หรับการสร้างกระแสไฟฟ้าส่งกลับไปยังบ้านเรือน ในต่างประเทศความร้อนจากการเผาไหม้จะถูก ส่งผ่านท่อไปตามบ้านเรือนเพือ่ ให้ความอบอุน่ ใน ฤดูหนาว ส่วนในประเทศไทยโรงไฟฟ้าขยะชุมชน (VSPP-MSW) จังหวัดขอนแก่น สามารถเผาขยะ ได้ถงึ 400 ตันต่อวัน และผลิตไฟฟ้าได้ 5.5 เมกะวัตต์ ซึ่งจะถูกส่งไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคต่อไป สำ�หรับการบำ�บัดอากาศ ควันไฟที่มาจาก การเผาไหม้จะเข้าสูก่ ระบวนการฟอกอากาศด้วย การใช้แอมโมเนีย ปูนขาว ถ่านกัมมันต์ ยิงรวมกับ ฝอยน้ำ�จากน้ำ�ชะขยะที่ถูกบำ�บัดแล้ว เพื่อดักจับ สารพิษ เช่น ไนโตรเจนออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และไดออกซิน โดยวิ่งผ่านถุงกรอง ก่อนปล่อยสู่ บรรยากาศภายนอก เช่นที่โรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่ ขอนแก่นจะมีกระบวนการตรวจสอบสภาพอากาศ ก่อนปล่อยสูภ่ ายนอก และมีกรมโรงงานอุตสาหกรรม คอยสังเกตการณ์ตลอด 24 ชม. ที่มา : บทความ “ถอดแนวคิด WASTE TO ENERGY ต้นแบบ โรงไฟฟ้าขยะชุมชนไร้มลพิษ แห่งแรกในไทย” โดย Lapatrada จาก techsauce.co / บทความ “Waste-to-energy” จาก wikipedia.org / บทความ “การแปรรูปขยะมูลฝอย ไปเป็นพลังงานความร้อนโดยใช้เตาเผา (Incineration)” จาก กระทรวงพลังงาน / บทความ “World Bank: Global waste generation could increase 70% by 2050” โดย Cody Ellis จาก wastedive.com / บทความ “What are some of the latest waste-to-energy technologies available?” โดย Anu Antony จาก prescouter.co
Creative Place : พื้นที่สร้างสรรค์
Malmö, Sweden
wikimedia.org
สะดุด ลุกขึ้น และยั่งยืนไปให้สุด
เรื่อง : วรรณเพ็ญ บุญเพ็ญ เมืองจริงจังกับความยัง่ ยืนแค่ไหน อาจดูได้จากแผนการพัฒนาเมืองทีใ่ ห้ล�ำ ดับความสำ�คัญของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและ พึ่งพาพลังงานหมุนเวียนมากเท่าไร ในขณะที่หลายเมืองค่อย ๆ ขับเคลื่อนประเด็นความยั่งยืนให้เกิดขึ้นเพื่อบรรลุตามเป้าหมายการ พัฒนาที่ยั่งยืนขององค์กรสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) ภายในปี 2030 แต่สำ�หรับมัลโม (Malmö) เมืองใหญ่ทางตอนใต้ของสวีเดน ได้ตัดสินใจคว้าเป้าหมายที่ทะเยอทะยานมากกว่านั้น จากบทเรียนราคาแพงที่ชี้ทางว่า ความยั่งยืน เท่านั้นคือคำ�ตอบที่ดีที่สุด และทำ�ให้เมืองเดินไปข้างหน้าได้อีกครั้ง และวันนี้มัลโมน่าจะเรียกได้ว่าเป็นเมืองยั่งยืนแห่งอนาคตที่เกิดขึ้น จริงแล้ว เพราะที่นี่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์และพึ่งพาแต่พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ CREATIVE THAILAND I 24
Bo01 อนาคตอยู่ที่นี่
จากวิกฤตน้ำ�มันปี 1973 (Oil Crisis) ที่สร้าง ความเสี ย หายด้ า นเศรษฐกิ จ ให้ ค นทั่ ว โลกจน หลายประเทศเริ่มตระหนักถึงการพึ่งพาพลังงาน ทางเลือกอืน่ ทีเ่ มืองติดทะเลของสวีเดนอย่างมัลโม ซึ่งเคยรุ่งโรจน์และเป็นที่รู้จักในฐานะของเมือง อุตสาหกรรมการต่อเรือ ก็ถึงคราวต้องปิดตัวลง ในช่วงต้นปี 1980 จากวิกฤตน้�ำ มันในครัง้ นีเ้ ช่นกัน เมื่ อ อุ ต สาหกรรมหลั ก ของเมื อ งมาถึ ง ทางตั น ประชาชนกว่า 6,000 คนจึงว่างงาน ผู้คนเริ่ม อพยพออกจากมัลโมเพือ่ หาโอกาสในที่ใหม่ เมืองที่ กำ�ลังจะร้างเหลือเพียงความสิน้ หวังและคราบน้�ำ มัน ที่ปนเปื้อนก็จำ�เป็นต้องถึงคราวเปลี่ยนแปลง เมือ่ ความผันผวนของน้�ำ มันทำ�ให้เมืองแห่งนี้ แทบล่มสลาย แผนใหม่ของการพัฒนามัลโมจึง มุง่ ไปทีก่ ารไม่หวังพึง่ พาพลังงานฟอสซิลใด ๆ เลย ในอนาคต และวิกฤตในครั้งนี้อาจเรียกได้ว่า เป็นการยกเครือ่ งเมืองใหม่ครัง้ ใหญ่ เพราะมัลโม กำ�ลังจะเปลีย่ นภาพจำ�จากการเป็นเมืองอุตสาหกรรม หนักเป็นต้นแบบเมืองยัง่ ยืนแห่งใหม่ทใี่ ช้พลังงาน หมุนเวียนแบบเต็มร้อย จากการพัฒนาเขตเวสเทิรน์ ฮาร์เบอร์ (Western Harbour) ในพื้นที่ที่ตอนนี้ รู้จักกันในชื่อ “City of Tomorrow หรือ Bo01” (Bo ในภาษาสวีดชิ แปลว่าทีอ่ ยูอ่ าศัย ส่วน 01 คือ เลขปีทก่ี อ่ ตัง้ โครงการ ค.ศ. 2001) และโปรเจ็กต์น้ี ยั ง เป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ของนิ ท รรศการ European Housing Exposition อีกด้วย มาสเตอร์ แ พลนพั ฒ นาเมื อ งครั้ ง นี้ ไ ด้ งบประมาณหลักมาจากรัฐบาลสวีเดนผ่านโครงการ ลงทุนท้องถิ่น Sweden’s Local Investment Program (LIP) และส่วนหนึ่งได้รับการสนับสนุน จากสหภาพยุโรป ซึง่ งบประมาณส่วนมากถูกใช้ไป เพื่อสร้างแหล่งพลังงานหมุนเวียนให้เกิดขึ้นใน ท้องถิ่นแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ระบบพลังงาน ภายในย่าน Bo01 หลัก ๆ ประกอบไปด้วย
พลังงานงานลม พลังงานน้�ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานความร้อนใต้พิภพ และพลังงานชีวภาพ โดยทุกอาคารจะมีแผงโซลาร์เซลล์เพื่อเป็นแหล่ง ไฟฟ้าหลักสำ�หรับพืน้ ทีอ่ ยูอ่ าศัย ซึง่ ใช้ระบบซอฟต์แวร์ เฉพาะสำ�หรับการตรวจสอบแผงโซลาร์เซลล์เพื่อ ประสิทธิภาพการใช้งานทีด่ ที ส่ี ดุ และด้วยความที่ เป็นประเทศเมืองหนาว ระบบการทำ�ความร้อน ในอาคารจึ ง เป็ น พลั ง งานที่ ถู ก ใช้ ม ากที่ สุ ด พลังงานหลักจึงมาจากสองแหล่งอย่างระบบ การเก็บความร้อนจากแสงอาทิตย์ และเทคโนโลยี การใช้ความร้อนจากใต้พภิ พ นอกเหนือจากนีแ้ ล้ว แหล่งพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนอื่น ๆ ยังถูกดึง มาใช้จากฟาร์มกังหันลมในเมืองมัลโมอีกด้วย
ยัง่ ยืนและงดงาม
กลุ่มสถาปนิกและนักออกแบบเมืองจากทั่วโลก 16 ชีวติ คือมันสมองและกำ�ลังสำ�คัญของการดีไซน์ เขตเมืองยัง่ ยืน Bo01 ด้วยหลักการทำ�งานทีใ่ ห้ทกุ คน ถือมาตรฐานและแนวทางสำ�หรับการออกแบบอัน เดียวกัน ซึง่ มีความพิเศษอยูท่ ว่ี า่ แต่ละคนสามารถ โชว์พลังความคิดสร้างสรรค์และสามารถออกแบบ พื้นที่ที่ตัวเองรับผิดชอบได้อย่างอิสระภายใต้ หลักการเดียวกันนั่นคือ “ความยั่งยืน” “การเปลีย่ นแปลงไปสูค่ วามยัง่ ยืนจะเกิดขึน้ ได้ ก็ต่อเมื่อ เราคิดว่าความยั่งยืนไม่ใช่ทางเลือกที่ ฉลาดที่สุดแต่ยังเป็นทางเลือกที่ดึงดูดใจที่สุด การประหยัดพลังงานเป็นเรือ่ งจำ�เป็นก็จริง แต่มนั
ดีกว่าหากสามารถออกแบบความยัง่ ยืนให้ตอบรับ กับสุนทรียศาสตร์ของมนุษย์ด้วย” คลาส ทาม (Klas Tham) สถาปนิกและหัวหน้านักออกแบบเมือง ของ Bo01 กล่าว ด้วยแนวคิดดังกล่าว ทามจึงออกแบบ Bo01 ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและน่าอยู่มากที่สุด สังเกตได้จากเส้นทางเดินภายในย่านที่ได้รับ แรงบันดาลใจจากถนนในเมืองสมัยยุคกลางและ ศิลปะแบบบาโรก ซึง่ ทามได้ออกแบบเส้นทางต่าง ๆ ให้มลี กั ษณะลัดเลาะไม่เป็นเส้นตรง ส่วนหนึง่ เพือ่ ช่วยลดแรงปะทะของลมทะเลทีอ่ าจส่งผลกระทบ รุนแรงต่อตัวอาคารและผู้อยู่อาศัย และถนน หนทางที่ออกแบบก็คิดมาเพื่อสนับสนุนให้ผู้คน เดินเท้าหรือปัน่ จักรยานได้อย่างสะดวกสบายมาก ที่สุด เพื่อช่วยลดการใช้รถยนต์ในเมืองนั่นเอง นอกจากนี้ เส้นทางรอบเมืองยังมีจดุ เชือ่ มต่อไปยัง ธรรมชาติในรูปแบบต่าง ๆ เช่น พื้นที่ริมน้ำ� สวนสาธารณะขนาดย่อม ไปจนถึงไฮไลต์จดุ ชมวิว สะพานเออเรซุนด์ (Öresund Bridge) หรือสะพาน ที่ยาวที่สุดในยุโรปซึ่งเชื่อมสวีเดนไปยังเดนมาร์ก และนอกจากจะมีพื้นที่สีเขียวบนทางเท้าแล้ว บนหลังคาสำ�นักงานและอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ ยังปกคลุมไปด้วยพืชพรรณนานาหรือที่เรียกว่า Green Roofs ทีช่ ว่ ยดูดซับน้�ำ ฝน สร้างออกซิเจน ให้ชน้ั บรรยากาศ เป็นฉนวนป้องกันคลืน่ ความร้อน และยังเป็นบ้านพักให้กับนกอพยพที่มายังพื้นที่ แห่งนี้อีกด้วย
ระบบการใช้พลังงานหมุนเวียนท้องถิ่น 100% ในย่าน Bo01 โซลาร์เซลล์ แผงรับรังสีแสงอาทิตย์ พลังงานลม
ปั๊มความร้อน ระบบทําความเย็น ในย่าน นํ้าทะเล บ่อนํ้าอุ่น
บ่อนํ้าเย็น
ไฟฟ้า
การทําความร้อนของย่าน ที่มา : urbangreenbluegrids.com
CREATIVE THAILAND I 25
Photo by Susan Q Yin on Unsplash
ในด้านของระบบขนส่งมวลชน อาคารแต่ละ แห่งในเขต Bo01 จะอยู่ใกล้ป้ายรถเมล์ประมาณ 500 เมตร ประชาชนจะใช้เวลารอรถไม่เกิน 7 นาที และที่นี่จะให้บริการรถโดยสารสาธารณะที่ ใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ระบบไฮโดรเจนหรือระบบ ไฟฟ้าเท่านั้น สำ�หรับรถโดยสารส่วนตัวก็นิยมใช้ ระบบไฟฟ้าเช่นกัน และประชาชนสามารถมอง หาสถานีชาร์จรถยนต์ได้ทวั่ เมือง ในส่วนทีจ่ อดรถ จะสงวนให้สำ�หรับรถยนต์ที่ใช้พลังงานสะอาด ก่อน เพือ่ สนับสนุนให้ประชาชนทีม่ คี วามต้องการ ใช้รถยนต์เลือกรถทีเ่ ป็นมิตรกับเมืองมากทีส่ ดุ แต่ ถ้าว่ากันตามจริงแล้ว ผูค้ นเมืองนีน้ ยิ มใช้จกั รยาน หรือการเดินเท้ามากกว่า เพราะการวางผังเมือง ทีใ่ ห้ความสำ�คัญกับทางเท้าและทางจักรยานมาก ที่สุดนั่นเอง
Augustenborg จมไม่ลง
โดดเด่นแต่กลมกลืน
wikimedia.org
ในพื้นที่ Västra Hamnen ที่เคยเป็นเขตอุตสาหกรรมการต่อเรือและเป็นหนึ่งในท่าเรือที่ใหญ่ที่สุด ในโลก แต่เมือ่ โรงงานแห่งสุดท้ายปิดตัวลงและเกือบปล่อยให้พน้ื ทีแ่ ห่งนีท้ ง้ิ ร้าง แผนการฟืน้ ฟูมลั โม ทำ�ให้ย่านแห่งนี้ได้รับการพัฒนาและเปลี่ยนโฉมใหม่เช่นกัน โดยหนึ่งในอาคารที่ต้ังเด่นสะดุดตา มากที่สุดในย่านมีชื่อว่า “Turning Torso” หรือตึกที่บิดเป็นเกลียวหุ้มด้วยโครงเหล็ก โดยอาคาร แห่งนีถ้ อื ได้วา่ เป็นตึกทีส่ งู ทีส่ ดุ ในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ออกแบบโดยซานเตียโก กาลาตราบา (Santiago Calatrava) สถาปนิกชื่อดังชาวสเปน ในส่วนชั้นล่างของอาคารเป็นพื้นที่สำ�นักงาน ส่วนด้านบนจะเป็นพืน้ ทีข่ องอพาร์ตเมนต์ระดับลักซัวรี และแม้ภายนอกของอาคารจะดูหรูหราและ แตกต่าง แต่ระบบการจัดการพลังงานภายในยังคงคอนเซ็ปต์ความยั่งยืนไว้เช่นเดียวกัน พลังงาน ทัง้ หมดทีใ่ ช้ในอาคารล้วนสามารถหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% ซึง่ มาจากพลังงานน้�ำ พลังงาน แสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานความร้อนใต้พภิ พ นอกจากนี้ ผูอ้ ยูอ่ าศัยในอาคารยังสามารถ ติดตามและควบคุมการใช้ไฟฟ้าแต่ละยูนิตได้อย่างชาญฉลาด รวมทั้งยังมีระบบการจัดการ ขยะอินทรีย์ที่ถูกทิ้งในอาคารให้นำ�มาแปลงเป็นพลังงานชีวภาพได้ต่อไป
CREATIVE THAILAND I 26
หากย่าน Bo01 ได้รบั ฉายาว่าเป็นเมืองของวันพรุง่ นี้ (City of Tomorrow) อีกพืน้ ทีใ่ นมัลโมทีด่ ดู มี อี นาคต ไม่แพ้กนั ก็คอื ย่านออกัสเตนเบิรก์ (Augustenborg) ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองแห่งนิเวศ (EcoCity) เพราะไม่เพียงย่านแห่งนี้จะเป็นมิตรต่อ สิง่ แวดล้อมแล้ว ก็ยงั สามารถแก้ปญั หาด้านอุทกภัย ด้วยการพึง่ พาธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย ในอดีต เมื่อไรก็ตามที่ฝนตกหนัก ย่าน ออกัสเตนเบิร์กจะต้องประสบกับปัญหาน้ำ�ท่วม อยู่เป็นประจำ� ซึ่งส่งผลต่อการอยู่อาศัยรวมทั้ง ปัญหาการจัดการขยะทีต่ ามมา เทศบาลเมืองมัลโม ภาคเอกชน และประชาชนในย่าน จึงได้รว่ มมือกัน ปรับปรุงพื้นที่แห่งนี้ให้สามารถรับมือกับปัญหา น้ำ�ท่วมได้อย่างยั่งยืน การปรับโฉมย่านจึงเน้น ไปที่ระบบการจัดการน้ำ� โดยการใช้พื้นที่สีเขียว เพือ่ เป็นประการด่านแรกในการช่วยรองรับน้�ำ ฝน โดยหากมองย่านนี้ในมุมสูงจะเห็นหลังคาสีเขียว (Green Roofs) ที่ปกคลุมด้วยพืชพรรณนานา ชนิ ด อยู่ ทั่ ว อาคาร ซึ่ ง คิ ด เป็ น พื้ น ที่ ร วมกั น ถึ ง ประมาณ 10,000 ตารางเมตร หลังคาสีเขียวนีเ้ อง ที่ช่วยดูดซับและชะลอพายุฝน ต่อมาเมื่อน้ำ�ไหล ลงสู่ที่ต่ำ�จะเจอกับลำ�คลองและสระน้ำ�ที่มีพืชน้ำ� ช่วยบำ�บัดให้น้ำ�สะอาดขึ้น ก่อนที่น้ำ�เหล่านี้จะ ไหลลงสูท่ ะเลต่อไป โดยน้�ำ ทีเ่ หลือซึง่ เป็นส่วนน้อย แล้วจะถูกระบายออกลงสู่ท่อน้ำ�ใต้ดิน ความสำ�เร็จจากการจัดการน้�ำ อย่างยัง่ ยืนด้วย วิธพี ง่ึ พาธรรมชาติได้พสิ จู น์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ
eon.com
เรือนกระจกอยู่ได้
ยอดเยี่ยม เพราะเมื่อย้อนกลับไปในปี 2014 ที่ เมืองมัลโมถูกน้�ำ ท่วมครัง้ ใหญ่ ทีย่ า่ นออกัสเตนเบิรก์ กลับไม่ได้รับความเสียหายจากปัญหาอุทกภัย เหมือนในอดีตที่ผ่านมาเลย
Hyllie ฉลาดใช้ตามฟ้าฝน
อีกหนึ่งย่านพัฒนาล่าสุดในมัลโมที่น่าตื่นเต้น ไม่แพ้กันก็คือฮิลเลีย (Hyllie) ย่านที่ใหญ่ที่สุด ในเมืองซึ่งได้จับมือร่วมกับบริษัทจัดการขยะ VA Syd และบริษัทพัฒนาเมือง E.ON ในการ ปรั บ ปรุ ง ย่ า นแห่ ง นี้ ใ ห้ เ ป็ น เขตพื้ น ที่ ที่ เ รี ย กว่ า “Climate-Smart Districts” นอกจากจะใช้พลังงานหมุนเวียนเหมือนกับ ย่านอื่น ๆ ในมัลโมแล้ว ความพิเศษของฮิลเลีย คือการบุกเบิกโครงการนำ�ร่องสร้างระบบการจ่าย ความร้อนและความเย็น รวมทั้งระบบโครงข่าย ไฟฟ้ า อั จ ฉริ ย ะหรื อ ที่ เ รี ย กกั น ว่ า สมาร์ ต กริ ด (Smart Grid) ขนาดใหญ่ซงึ่ ผูอ้ ยูอ่ าศัยภายในย่าน จะสามารถควบคุมการใช้พลังงานหมุนเวียนที่ หลัก ๆ ได้มาจากพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานน้ำ� ผ่านระบบแอพพลิเคชันได้อย่าง สะดวกสบาย โดยอิงจากการพยากรณ์อากาศ แต่ ล ะวั น ว่ า สามารถผลิ ต พลั ง งานได้ เ ท่ า ไร ควรปรั บ ลดการใช้ พ ลั ง งานให้ เ หมาะสมกั บ การผลิตหรือไม่อย่างไร อีกทั้ง VA Syd ยังคิดค้น กลยุทธ์ที่กระตุ้นให้ผู้คนอยากจะรีไซเคิลขยะ มากขึ้น อย่างการออกแบบถังขยะหน้าบ้านให้มี ลักษณะโปร่งใส เพื่อเตือนใจนักทิ้งทั้งหลายว่า
บ้านไหนกำ�จัดขยะอย่างไร ไปจนถึงการส่งรถรับ ขยะรีไซเคิลแบบเคลือ่ นทีเ่ พือ่ อำ�นวยความสะดวก ให้ประชาชน หากมาดูทรี่ ะบบขนส่งมวลชนทีน่ อกจากจะ ใช้พลังงานไฟฟ้าและก๊าซชีวภาพเป็นหลักแล้ว ที่ฮิลเลียยังสนับสนุนให้ประชาชนเดินทางโดย การปั่นจักรยานเป็นหลัก ด้วยการสร้างสถานี Bike & Ride ที่จอดรถจักรยานฟรี 1,000 คัน รวมทั้ ง การให้ บ ริ ก ารสิ่ ง อำ � นวยความสะดวก สำ�หรับนักปั่นแบบครบครัน อาทิ ล็อกเกอร์เก็บ หมวกกันน็อกและของใช้สว่ นตัว ห้องน้�ำ ห้องอาบน้�ำ บริการซ่อมจักรยาน และจุดเติมลม สุ ด ท้ า ยแล้ ว เบื้ อ งหลั ง การพั ฒ นาเมื อ งที่ สามารถใช้พลังงานหมุนเวียนในท้องถิ่นได้แบบ เต็มร้อยนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากขาดความร่วมมือ จากทุกภาคส่วน แผนการที่แน่วแน่ และที่สำ�คัญ คือการลงทุนที่จริงจัง โดยการพัฒนาเมืองยั่งยืน มัลโมได้ลงทุนไปแล้วกว่า 27 ล้านยูโร เพื่อวาง รากฐานการสร้างแหล่งพลังงานหมุนเวียนในเมือง แต่หากนับเวลาในช่วง 15 ปีทผ่ี า่ นมา ทีภ่ าคเอกชน เข้าร่วมการลงทุนด้านการสร้างความยั่งยืนใน มัลโมด้วยแล้ว ก็สามารถประเมินค่าได้สูงกว่า 100 ล้านยูโรเลยทีเดียว
ภายใต้คอนเซ็ปต์ของการอยู่ในเมืองอย่าง ใกล้ชิดธรรมชาติ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ MKBs ได้สร้างสรรค์อพาร์ตเมนต์ที่ทันสมัย แต่กลมกลืนไปกับเมืองนิเวศในย่านออกัส เตนเบิรก์ ได้อย่างลงตัว โดยอาคารนีม้ ชี อื่ ว่า Greenhouse Augustenborg ที่ผู้อยู่อาศัย ทัง้ 56 ห้องพักจะได้รว่ มกันเป็นเจ้าของเรือน กระจกเพาะพั น ธุ์ พื ช บนชั้ น หลั ง คาตึ ก ระเบียงขนาดใหญ่ที่ถูกออกแบบมาพิเศษ เพื่อใช้สำ�หรับการเป็นพื้นที่เพาะปลูกใน อาคาร และมีสังคมเพื่อนบ้านที่ขับเคลื่อน ด้วยบทสนทนาของการแบ่งปันวิธีการปลูก พืชพรรณให้ออกดอกผลงดงาม นอกจากนี้ แล้ว พลังงานที่ใช้ในอาคารยังเป็นพลังงาน สะอาดและมีระบบปฏิบตั ทิ สี่ อดคล้องกับวิถี ชีวิตแบบยั่งยืน อาทิ ระบบโซลาร์เซลล์บนดาดฟ้า แหล่ง พลังงานไฟฟ้าหลักสำ�หรับผู้อยู่อาศัย ระบบการเปิ ด ใช้ ง านอุ ป กรณ์ ไ ฟฟ้ า อัจฉริยะทีค่ วบคุมการใช้พลังงานให้อยู่ ในระดับต่ำ�ที่สุด ปลั๊ ก แยกให้ เ ฉพาะหากต้ อ งการใช้ ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนใน อพาร์ตเมนต์ ลูกบ้านสามารถรู้ข้อมูล การใช้พลังงานและการจัดการขยะ ของเพื่อนบ้านได้ เพื่อช่วยกันกระตุ้น การใช้พลังงานให้น้อยที่สุด ลู ก บ้ า นสามารถปิ ด อุ ป กรณ์ ไ ฟฟ้ า ทั้งหมดที่ไม่จำ�เป็นเมื่อออกนอกบ้าน ด้ ว ยการกดปุ่ ม เพี ย งครั้ ง เดี ย วใน ห้องโถงทางเข้า เพื่อรณรงค์ให้ลูกบ้านใช้จักรยานใน การสัญจรไปมา อพาร์ตเมนต์จึงมี โรงจอดจักรยานพร้อมอุปกรณ์ซอ่ มแซม ให้ลูกบ้านหยิบยืมได้ฟรี
ที่มา : บทความ “Augustenborg -Turning a Troubled District into an Attractive, Resilient Eco-City” จาก smartcitysweden.com / บทความ “Ekostaden Augustenborg and Bo01 - City of Tomorrow” จาก use.metropolis.org / บทความ “Example projects: Bo01, Malmö, Sweden” จาก urbangreenbluegrids.com / Wikipedia.org / บทความ “Malmo, the Swedish city that is neutralising its climate impact by betting on renewable energies” (มกราคม 2020) จาก smartcitylab.com / บทความ “How Malmö, Sweden is leading way on sustainability” (กันยายน 2014) จาก reneweconomy.com.au CREATIVE THAILAND I 27
The Creative : มุมมองของนักคิด
ดร. บัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ คุยเรื่องปัจจุบันของพลังงานแห่งอนาคต เรื่อง : พัชรินทร์ พัฒนาบุญไพบูลย์ I ภาพ : สุรเชษฐ์ โสภารัตนดิลก
ทุกวันนี้เรากำ�ลังใช้พลังงานกันจนเป็นความเคยชิน ขณะที่อ่านบทความนี้ เราก็กำ�ลังใช้ทั้งพลังงานไฟฟ้าที่ให้แสงสว่างและ พลังงานจากแบตเตอรีสำ�หรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การที่พลังงานเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น อาจทำ�ให้หลายครั้งเรามองข้าม ความสำ�คัญของมันไป แท้จริงแล้ว เราควรกังวลมากแค่ไหนกับเรื่องของ “พลังงาน” “ผมคิดว่ามีอย่างน้อยสองเหตุผลที่เราต้องให้ความสำ�คัญกับสิ่งนี้ แรกสุดคือพลังงานแบบเดิมที่เรียกกันว่าพลังงานฟอสซิลกำ�ลังลดน้อยลงไปและก็จะ หมดไปในระยะเวลาไม่ไกลจากนี้เพียงหลักไม่กี่สิบปี เหตุผลที่สองคือเรากำ�ลังเจอกับวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอย่าง รุนแรง ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่มากและเป็นปัญหาร่วมกันของมนุษยชาติ ที่เกิดจากการใช้พลังงานฟอสซิลแล้วปล่อยก๊าซเรือนกระจกจนโลกร้อนซึ่งแน่นอนว่า มันกระทบต่อการดำ�รงอยูข่ องทุกชีวติ ไม่เว้นมนุษย์” ดร.บัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ กรรมการกำ�กับกิจการพลังงาน สำ�นักงานคณะกรรมการกำ�กับกิจการพลังงาน (กกพ.) ฉายภาพปัญหาและความสำ�คัญของคำ�ถามด้วยเหตุผลเพียงสองอย่าง แต่ปญั หาทัง้ สองทีว่ า่ นีน้ บั เป็นปัญหาทีอ่ าจเรียกได้วา่ แก้ไขได้ยากทีส่ ดุ และทางออกเพียงไม่กท่ี างทีเ่ ราต้องพูดกันแล้วในวันนีต้ อนนีก้ ค็ อื การเปลีย่ นมาใช้ “พลังงานหมุนเวียน” ที่เมื่อใช้แล้วปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยหรือแทบจะไม่ปล่อยเลย CREATIVE THAILAND I 28
เพราะเหตุผลที่ว่ามานี้จึงเป็นที่มาของการจัดตั้งสำ�นักงาน คณะกรรมการกำ�กับกิจการพลังงาน (กกพ.) ขึน้ ในประเทศไทย การที่สำ�นักงานคณะกรรมการกำ�กับกิจการพลังงาน (กกพ.) จัดตั้งขึ้นก็เป็น เพราะเหตุผลนี้ด้วย ซึ่งก็เป็นความยุ่งยากซับซ้อนในเชิงนโยบายที่จะต้อง พิจารณาหลายปัจจัยไปพร้อมกัน เพราะเรื่องความมั่นคงทางพลังงานยังคง เป็นปัจจัยในการกำ�หนดนโยบายการวางแผนด้านพลังงาน ในขณะเดียวกัน ก็ต้องนำ�เอาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ปัจจัยเรื่องต้นทุน ปัจจัยเรื่องผลกระทบ ต่อสุขภาพของประชาชน เข้ามาอยู่ในสมการการกำ�หนดนโยบายด้วย อันที่จริงตั้งแต่ตอนที่มีพระราชบัญญัติประกอบกิจการพลังงานตั้งแต่ ปีพ.ศ. 2550 หน้าที่ที่กกพ. ถูกกำ�หนดเลยก็คือ การส่งเสริมพลังงานทดแทน พลังงานหมุนเวียน และส่งเสริมเพิ่มความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพลังงาน ทดแทน แต่ ต อนนั้ น ปั จ จั ย เรื่ อ งวิ ก ฤตด้ า นสิ่ ง แวดล้ อ มอาจจะไม่ ไ ด้ มี ความเข้มข้นสูงเหมือนตอนนี้ ปัจจุบันเลยกลายเป็นว่าจำ�เป็นอย่างยิ่งที่จะ ต้องเอาเรื่องของสิ่งแวดล้อมเข้ามาอยู่ในการตัดสินใจเรื่องพลังงานด้วย ในระดับที่เรียกว่าทัดเทียมกับเรื่องของความมั่นคงทางพลังงาน ถ้าเทียบกับนานาประเทศแล้ว เราก้าวช้าหรือเร็วกว่าประเทศอืน่ ๆ อย่างไรหรือไม่ในเรือ่ งของการจัดการพลังงาน จริง ๆ แล้ว ไทยเรามีการส่งเสริมเรื่องของพลังงานทดแทนมาก่อนที่จะมี ตัวกฎหมาย เริ่มตั้งแต่ที่มีการจัดประชุมสุดยอดโลก (Earth Summit)1 ขึ้น เมื่อปีพ.ศ. 2535 ที่กรุงรีโอเดจาเนโรของบราซิล ซึ่งตอนนั้นก็มีอนุสัญญาว่า ด้วยการเปลีย่ นแปลงสภาพภูมอิ ากาศเกิดขึน้ มา และไทยก็ได้ไปเข้าร่วมเป็น ภาคีสมาชิกแนวนโยบายแผนด้านสิง่ แวดล้อมและพลังงาน ก่อนทีเ่ ราจะปรับตัว ไปสูท่ ศิ ทางของเรือ่ งพลังงานทดแทน อย่างไรก็ตาม เนือ่ งจากตัวอนุสญั ญานัน้ ไม่ ไ ด้ มี พั น ธกรณี ใ ห้ ป ระเทศไทยและประเทศกำ � ลั ง พั ฒ นาที่ จ ะต้ อ งลด การปล่อยก๊าซเรือนกระจก เรียกว่ากติกาโลกก็ยังไม่ได้เข้มข้นนักในเรื่องนี้ แต่พอมาถึงความตกลงปารีส (Paris Agreement) ปี 2558 ก็มี การเปลี่ยนการกำ�หนดพันธกรณีจากประเทศพัฒนาแล้วฝ่ายเดียวมาสู่ ทุกประเทศที่ต้องรับผิดชอบร่วมกันและปรับมาสู่ทิศทางการใช้พลังงาน ทดแทน วันนี้เราจึงเริ่มเห็นความชัดเจนของการกำ�หนดนโยบายอย่าง การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์หรือ Zero Carbon และ Zero Greenhouse Gas เพราะคาร์บอนก็คอื หนึง่ ในกรีนเฮาส์กา๊ ซ และกรีนเฮาส์กา๊ ซทีถ่ กู กำ�หนดโดย พันธกรณีจริง ๆ มีถึง 7 ตัว เพื่อควบคุมอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้เพิ่มขึ้น เกิน 2 องศาเซลเซียสจากระดับอุณหภูมิช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรม ทิศทางก็เริ่มชัดขึ้น และแน่นอนว่าประเทศไทยก็อยู่ในกระแสของ ประชาคมโลกเช่นกัน จากยุคแรกที่เราไม่มีพันธกรณี เราก็กำ�หนดแผนใน ลักษณะแบบไม่เข้มข้นมากนัก วันนีเ้ ราเข้าสูก่ ารเป็นสมาชิกของความตกลง ปารีส เราก็เริม่ ไปสูท่ ศิ ทางทีเ่ ข้มข้นขึน้ ตัง้ แต่นโยบายการจัดการภาวะโลกร้อน หรือแผนพลังงานของประเทศ สำ�หรับ กกพ. ในฐานะหน่วยงานผู้กําหนด นโยบายก็ต้องใช้กฎหมายเพื่อนำ�ไปสู่ทิศทางที่เข้มข้นมากขึน้ มีการส่งเสริม การใช้พลังงานทดแทนที่ถ้าดูเป็นกราฟ ก็เป็นกราฟที่ชันมากขึ้น
นอกจากเรื่องของนวัตกรรมด้าน กฎระเบียบเพื่อที่จะเปลี่ยนตลาด ให้เกิดผู้เล่นใหม่ ๆ และเปลี่ ยน โครงสร้ า งของระบบการผลิ ต พลังงานที่ยั่งยืนขึ้นแล้ว เราก็มี ส่วนของกองทุนพัฒนาไฟฟ้ าที่ เริ่มให้ทุนกันจริง ๆ จัง ๆ ก็เมื่อ ปีพ.ศ. 2561 จนถึงปัจจุบัน ที่ผ่านมาเรามีการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในลักษณะ ไหนแล้วบ้าง หลักๆ อย่างน้อยเรามีการส่งเสริม 3 รูปแบบ แบบแรกคือส่งเสริมผ่าน การใช้มาตรการทางเศรษฐศาสตร์ คือกลไกเรื่องราคาการรับซื้อไฟที่ผลิต จากเชื้อเพลิงที่เป็นพลังงานทดแทน รัฐบาลจะกำ�หนดให้ในอัตราพิเศษ สูงกว่าการรับซื้อไฟจากพลังงานฟอสซิลโดยเปรียบเทียบชัดเจน สองคือ การส่งเสริมผ่านกองทุนด้านการวิจยั และพัฒนา เรามีกองทุนให้การส่งเสริม งานวิจัยเพื่อที่จะได้มีองค์ความรู้ใหม่ ๆ เกี่ยวกับเรื่องของพลังงานทดแทน และส่วนที่สามคือกองทุนด้านการศึกษาด้านพลังงานที่เป็นการให้ความรู้ สร้างความตระหนัก และการมีส่วนร่วมของคนทั่วไปในการใช้พลังงาน ทดแทนรูปแบบต่าง ๆ แต่ตัวหลักที่มีผลมากที่สุดน่าจะเป็นเรื่องของกลไก ราคาอัตรารับซื้อ ซึ่งรัฐบาลเริ่มจากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และ พลังงานจากชีวมวล เป็น 3 พลังงานหลักที่ให้อัตรารับซื้อในราคาที่ดีกว่า พลังงานฟอสซิล ในส่วนของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าของกกพ. มีวิธีการกำ�หนด รู ป แบบการให้ ทุ น อย่ า งไรให้ เ กิ ด ประโยชน์ ต่ อ การพั ฒ นา ด้านพลังงานบ้าง นอกจากเรื่องของนวัตกรรมด้านกฎระเบียบเพื่อที่จะเปลี่ยนตลาดให้เกิด ผู้เล่นใหม่ ๆ และเปลี่ยนโครงสร้างของระบบการผลิตพลังงานที่ยั่งยืนขึ้น แล้ว เราก็มีส่วนของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าที่เริ่มให้ทุนกันจริง ๆ จัง ๆ ก็เมื่อ ปีพ.ศ. 2561 จนถึงปัจจุบัน เรียกว่าก็ยังอยู่ในช่วงของการตั้งต้นกองทุนใหม่ ซึ่งเราก็พยายามกำ�หนดความชัดเจนเรื่องของการสนับสนุนโดยจะแบ่งเป็น เชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Grant) กับเปิดรับทัว่ ไป (Open Grant) อย่างวันนี้ เราเห็นแล้วว่าทิศทางเรือ่ งพลังงานควรจะเป็นไปอย่างไร เราก็เอาโจทย์เรือ่ ง ของพลังงานมากำ�หนดในเรือ่ งของการให้ทนุ แบบกลยุทธ์เพือ่ ให้เกิดการสือ่ สาร
1 มีชื่อทางการว่า การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา (United Nations Conference on Environment and Development - UNCED) จัดขึ้นที่กรุงรีโอเดจาเนโร
สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล ระหว่างวันที่ 3-14 มิถุนายน 1992 (พ.ศ. 2535) เป็นการประชุมที่มีผู้แทนระดับผู้นำ�ประเทศ ประมุขของรัฐ หัวหน้าคณะรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ระดับสูงจาก 172 ประเทศเข้าร่วม โดยมีจดุ มุง่ หมายในการกำ�หนดยุทธศาสตร์วา่ ด้วยสิง่ แวดล้อมและการพัฒนาเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติสำ�หรับประชาคมโลก เอกสารสำ�คัญที่ได้มีการรับรองในที่ประชุม ครั้งนี้ ได้แก่ ปฏิญญารีโอว่าด้วยสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา และแผนปฏิบัติการ 21 ซึ่งเป็นแผนแม่บทเพื่อทำ�ให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม CREATIVE THAILAND I 29
ด้านพลังงานกับภาคประชาชน ส่วนการให้ทุนแบบเปิดนั้น เรามีไว้เพือ่ เปิดว่าอาจจะมีแง่มุมด้านพลังงานอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เป็นไอเดียใหม่ ๆ จาก กลุม่ คนทีอ่ าจเป็นสตาร์ตอัพด้านพลังงานได้เข้ามานำ�เสนอข้อเสนอทีน่ า่ สนใจ ทั้งนี้ ก็ต้องอยู่บนหลักของความโปร่งใส มีธรรมาภิบาลที่ชัดเจน คือกำ�หนด โจทย์ชัด กำ�หนดรูปแบบ กำ�หนดวงเงินงบประมาณ แล้วให้ผู้เสนอโครงการ มาประกวดราคากันโดยมีคณะกรรมการจากภายนอกร่วมคัดเลือกด้วย เข้าใจว่าถึงจะมีกลไกราคาเป็นแรงจูงใจให้หลาย ๆ คนเข้ามา ลงทุ น เรื่ อ งของพลั ง งานทดแทนมากขึ้ น แต่ ก็ ยั ง มี เ สี ย ง เรี ย กร้ อ งในเรื่ อ งของกฎระเบี ย บที่ ดูเ หมื อ นจะผู ก ขาดกั บ เจ้าใหญ่เท่านั้น ส่วนนี้ก็ต้องพิจารณาถึงเหตุผลครับ หนึ่งคือผู้ที่จะประกอบกิจการพลังงาน จะถูกกำ�หนดไว้ชัดเจนว่าต้องมีมาตรฐานเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ ปลอดภัย ต้องมีผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลมาตรฐานด้านวิศวกรรมและสิ่งแวดล้อมชัดเจน ฉะนั้นบริษัทผู้ประกอบการที่จะเข้ามาในธุรกิจนี้ก็ต้องมีครบตามเงื่อนไข จึงเป็นไปได้ว่าไม่ใช่ผู้ประกอบการทุกรายที่เข้ามาได้ สองคือภายใต้เงื่อนไข การดูแลทีไ่ ด้กล่าวถึง ไม่วา่ จะเป็นเรือ่ งมาตรฐานด้านวิศวกรรม ความปลอดภัย หรือสิง่ แวดล้อม ก็ตอ้ งมีกฎเกณฑ์และกฎระเบียบในการตรวจสอบทีอ่ าจต้อง ใช้เวลานานในการคัดกรอง มุมหนึง่ ก็เลยถูกมองว่าเป็นการจำ�กัดหรือกีดกัน แต่เหตุผลที่ก็อย่างที่อธิบายว่าการมีมาตรฐานก็แลกมากับความปลอดภัย เรื่องสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยในมิติต่าง ๆ ของผู้ใช้งานเอง อีกส่วนหนึ่งก็อาจเป็นเพราะข้อจำ�กัดในเรื่องของจำ�นวนผู้ที่จะเข้ามา ผลิตพลังงาน ที่มีการกำ�หนดไว้ก่อนเพื่อรักษาระดับของราคาค่าไฟไม่ให้สูง เกินไป อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่ารัฐบาลใช้กลไกราคาเพื่อสนับสนุนให้ผู้ ประกอบการเข้ามาลงทุนในพลังงานสะอาดด้วยการให้ราคาทีด่ กี ว่า แต่เมือ่ ราคาที่ดีกว่าไปส่งผลกระทบต่อราคาค่าไฟ ฉะนั้นก็เลยจะกำ�หนดสัดส่วน ของการรับซื้อพลังงานทดแทนในจำ�นวนที่พอเหมาะ ไม่ให้กระทบกับค่าไฟ โดยรวม ดังนั้นถ้ารับซื้อเข้ามามาก แม้จะเป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อม แต่ราคา ค่าไฟก็จะสูงขึน้ เลยเป็นเหตุผลว่าทำ�ไมถึงมีการกำ�หนดปริมาณของพลังงาน ทดแทนที่จะเข้ามาในระบบไม่ให้สูงเกินไป และก็จะส่งผลต่อจำ�นวนผู้ ประกอบการที่เข้ามาว่าจะมีไม่มากรายเกินไปเช่นกัน นั่นแปลว่าผู้ประกอบการรายย่อยจะหมดสิทธิ์ในการเข้ามา ร่วมผลิตพลังงานทดแทนหรือเปล่า ในอีกด้านเราก็มีการกำ�หนดกฎระเบียบว่าผู้ประกอบการที่จะเข้ามาผลิต ไฟฟ้าในปัจจุบันไม่จำ�เป็นต้องเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่นะครับ เช่น โรงไฟฟ้า จะเป็นโรงขนาดกลาง ขนาดเล็กก็ได้ ตัวอย่างรูปธรรมที่กำ�ลัง เกิดขึ้นก็คือการรับซื้อไฟจากโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเศรษฐกิจฐานรากที่ ผลิตจากพลังงานชีวมวลและก๊าซชีวภาพ ซึ่งเป็นโรงขนาดเล็ก มีกำ�ลังผลิต เพียง 3-5 เมกะวัตต์ ดังนั้นจึงเป็นการเปิดให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและ ขนาดเล็กเข้ามาแข่งขันในระบบได้โดยการใช้กลไกการกำ�หนดลักษณะของ ผู้ประกอบการจากระเบียบการรับซื้อไฟเลย เพื่อเปิดตลาดให้กว้างขึ้นและ ไม่ได้จำ�กัดว่าจะต้องเป็นรายใหญ่เท่านั้น
Uniform Tariff นีค่ อื ระบบพืน้ ฐาน ของประเทศไทย ซึ่งมีทั้งข้อดีและ ข้อเสีย ข้อดีก็คือเกิดการกระจาย ความเจริญ กระจายการใช้ไฟไปได้ ทั่วถึง แต่ก็มีข้อจำ�กัดของระบบ เหมือนกัน อย่างเรื่องที่เรารับซื้อ พลังงานทดแทนเข้ามาในระบบซึ่ง มีราคาแพงกว่าพลังงานแบบเดิม และต้องเฉลี่ยการจ่ายเงินให้กับ คนทั้งประเทศ ในด้านผู้ ใช้ ไฟ เราทุกคนมีการเข้าถึงพลังงานเท่าเทียมกัน มากน้อยแค่ไหน เบือ้ งต้นต้องทำ�ความเข้าใจคำ�ว่าค่าไฟของประเทศไทยก่อนครับ บ้านเราจะ คิดค่าไฟแบบที่เรียกว่า Uniform Tariff คือค่าไฟราคาเดียวทั่วประเทศ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในประเทศก็ราคานี้ ซึ่งข้อดีก็คือเราจะสามารถเฉลี่ย การลงทุนด้านโครงสร้างพืน้ ฐานของการผลิตไฟฟ้าเข้ามาสูถ่ งั กลางแล้วหาร เท่ากันทุกจังหวัด ข้อดีก็คือ สมมติจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีประชากรไม่มาก การกระจายตัวสูง ในอำ�เภอหนึ่งอาจจะมีประชากรอยู่ในระดับหลักพันคน พื้นที่เป็นภูเขาที่ต้องอาศัยการลงทุนในเรื่องของสายส่งเพื่อนำ�ไฟเข้าไปสู่ หมูบ่ า้ นทีค่ อ่ นข้างสูง ถ้าหารเฉลีย่ กับประชากรในหลักพัน ค่าไฟทีน่ น่ั จะสูงมาก แต่หลักการ Uniform Tariff เราจะเอาการลงทุนนั้นมาใส่ตะกร้ากลางแล้ว หารเฉลี่ย หมายความว่าคนกรุงเทพฯ ก็ร่วมรับภาระที่จะลงทุนโครงสร้าง
CREATIVE THAILAND I 30
พื้นฐานเพื่อให้คนแม่ฮ่องสอนได้มีไฟฟ้าใช้ เรียกว่าเป็นการเฉลี่ยทุกข์ เฉลี่ยสุขกัน ก็ทำ�ให้คนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลสามารถมีไฟใช้ในราคาที่ไม่สูง เกินไป ในอีกภาพหนึ่งถ้าเรานึกถึงคนกรุงเทพฯ เราอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมือง การลงทุนในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานหรือต้นทุนต่อหน่วยอาจจะต่ำ� เราก็ เอาเม็ดเงินลงทุนไปเฉลี่ยให้กับคนในพื้นที่ห่างไกล เพื่อกระจายความเจริญ เข้าไปสู่ภูมิภาคได้ หรือกลับกัน ตอนนี้เราเริ่มเห็นพื้นที่ในเมืองที่มีการปรับ ทัศนียภาพด้วยการนำ�สายไฟฟ้าลงใต้ดิน ที่มีค่าลงทุนสูงกว่าปกติเกือบ สามเท่า ค่าใช้จ่ายตรงนี้ คนที่แม่ฮ่องสอนก็ร่วมจ่ายให้เราด้วย เพราะเป็น Uniform Tariff นี่คือระบบพื้นฐานของประเทศไทย ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีก็คือเกิดการกระจายความเจริญ กระจายการใช้ไฟไปได้ทั่วถึง แต่ก็มี ข้อจำ�กัดของระบบเหมือนกัน อย่างเรื่องที่เรารับซื้อพลังงานทดแทนเข้ามา ในระบบซึง่ มีราคาแพงกว่าพลังงานแบบเดิมและต้องเฉลีย่ การจ่ายเงินให้กบั คนทั้งประเทศ นั่นกลายเป็นเหตุให้เราต้องกำ�หนดค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่า FT) ขึ้นมา ต้องย้อนกลับไปก่อนว่าค่า FT หรือค่าไฟฟ้าผันแปรคิดมาจากอะไร ที่เรา พูดถึงก่อนหน้านี้คือค่าไฟพื้นฐาน แต่ค่า FT จะมีตัวแปรมาจาก 3 ตัว คือ หนึง่ ค่าซือ้ ไฟ เวลาเราซือ้ ไฟจากพลังงานทดแทนที่ให้อตั ราสูงกว่า ค่าไฟตรงนี้ จะมาอยูใ่ นค่า FT สอง ค่าเชือ้ เพลิง เป็นราคาซือ้ เชือ้ เพลิงจากน้�ำ มัน จากถ่านหิน ซึง่ ราคาจะผันแปรตามราคาโลก และสาม อัตราแลกเปลีย่ น เช่นเราซือ้ พลังงาน จากต่างประเทศก็จะมีความผันแปรกับอัตราค่าเงิน ซึ่งเรากำ�หนดว่าจะ คิดเฉลี่ยค่า FT ทุก 4 เดือน ส่วนคำ�ถามว่าทำ�ไมเราเอาค่า FT มาใช้ซึ่ง ผูกโยงกับการซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ถ้าซื้อมากและให้อัตรารับซื้อ ไฟสูง ก็จะมีผลกับค่า FT และจะเป็นภาระต่อคนทั้งประเทศ เพราะค่าไฟ คิดในอัตราเดียวกัน ก็ต้องบอกว่าจริง ๆ แล้วรัฐบาลก็พยายามดูแลไม่ให้ เกิดผลกระทบจากความผันผวนโดยการใช้มาตรการตรึงราคา เช่น เราจะ ได้ยินว่าทุก 4 เดือนก็จะมีการประกาศตรึงราคาค่า FT โดยการบริหารเงิน ที่มาจากส่วนต่าง ๆ เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน หากสังเกตในช่วง 2 ปีมานี้ ตั้งแต่เราถูกกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจไม่ขยายตัว ค่า FT ก็ถูก ตรึงมาตลอดและบางช่วงก็ลดลงไปด้วยซ้ำ� ก็ถือเป็นเครื่องมือหนึ่งที่รัฐบาล ช่วยดูแลค่าไฟของประชาชนผ่านค่า FT สถานการณ์ ด้า นพลั ง งานของประเทศเรา ต้ อ งซื้ อ จาก ต่างประเทศในสัดส่วนประมาณเท่าไร อัตราส่วนพลังงานที่มาจากต่างประเทศตอนนี้ไม่เกิน 10% และที่เราจะต้อง ใช้ไฟจากต่างประเทศก็มีเหตุผล ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าต้นทุนการผลิต ไฟฟ้ า จากพลั ง งานน้ำ � ที่ ม าจากต่ า งประเทศอย่ า งลาวค่ อ นข้ า งถู ก มาก สามารถใช้มาหารเฉลี่ยค่าเชื้อเพลิงทั้งหมดได้คุ้มค่า ส่วนที่สองคือเรื่องของ ความมั่นคงในระบบ การที่เรามีแหล่งพลังงานหรือแหล่งเชื้อเพลิงที่มาผลิต ไฟฟ้าหลาย ๆ แหล่ง เช่น มาจากถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ น้ำ� พลังงาน ทดแทน ฯลฯ ก็จะทำ�ให้มีความมั่นคงในระบบมากขึ้น หากวันหนึ่งพลังงาน รูปแบบใดขาดแคลนหรือเกิดวิกฤตจนมีราคาสูง ก็สามารถนำ�เอาพลังงาน
จากแหล่งอื่นมาทดแทนได้ แม้หากดูจากความสามารถการผลิตพลังงาน ภายในประเทศเราจะเพียงพอ แต่ถา้ มีเสริมจากต่างประเทศบ้าง โดยเฉพาะ เหตุผลเรื่องราคา ก็ถือว่าเป็นการดำ�เนินการเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและ ความมั่นคงต่อเนื่องด้านพลังงานมากที่สุดนั่นเอง แล้วเรามีการผลิตพลังงานเพื่อส่งออกบ้างหรือไม่ มีบางส่วนครับ และเราอยากจะทำ�มากขึน้ โดยเฉพาะในกรณีทเี่ รามีพลังงาน สำ�รองสูง อย่างเวลานี้ภูมิภาคอาเซียนก็มีข้อวางแผนร่วมกันที่เรียกว่า ASEAN Power Grid (APG) ที่จะเชื่อมโยงแหล่งพลังงานในอาเซียน โดยเฉพาะประเทศที่มีอาณาเขตติดต่อกัน หากมองในด้านภูมิศาสตร์ ประเทศไทยค่อนข้างอยู่ในทำ�เลที่ดีและสามารถเป็นศูนย์กลางเพื่อเชื่อม ระบบโครงสร้างพืน้ ฐานด้านพลังงานไปสูป่ ระเทศเพือ่ นบ้าน และแลกเปลีย่ นกัน ด้วยความมั่นคงได้ บางส่วนบางประเทศขาด บางประเทศเกิน เราก็ แลกเปลี่ยนกันเพื่อเสริมความมั่นคงด้านพลังงานในฐานะของประชาคม อาเซียนด้วยกัน เรียกได้ว่าก็มีแผนที่จะเดินไปสู่ทิศทางของความมั่นคง ด้านพลังงานในกลุ่มประเทศนี้อยู่ ประเทศไทยมีขอ้ ได้เปรียบในการผลิตพลังงานทดแทนประเภทใด เป็นพิเศษหรือไม่ ผมมองว่าน่าจะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีข้อศึกษาแล้วว่าในแต่ละฤดูกาล แต่ละภูมิภาค มีความเข้มของแสงที่ผลิตเป็นพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้ ในปริมาณเท่าใด จริง ๆ พลังงานลมเราก็ใช้ได้ แต่ไม่ใช่ทกุ ภูมภิ าค เนือ่ งจาก การผลิตพลังงานต้องอาศัยปัจจัยเรื่องความต่อเนื่องเป็นสำ�คัญ และอีก แหล่งหนึ่งที่เรามีข้อได้เปรียบก็คือพลังงานชีวมวล เพราะประเทศไทยเป็น ประเทศเกษตรกรรม เรามีความสามารถในการผลิตไม้โตเร็วได้ดี และมี ส่วนเหลือจากผลผลิตทางการเกษตรอยู่มาก เช่น ซากข้าวโพด อ้อย มันสำ�ปะหลัง ตรงนีก้ จ็ ะเป็นจุดแข็งในเรือ่ งพลังงานชีวมวลของประเทศไทย ที่จะเป็นเชื้อเพลิงสำ�หรับโรงไฟฟ้าในชุมชน เป็นผลดีทั้งต่อเกษตรกรและ ชุมชนให้มีรายได้จากการขายเชื้อเพลิง อุปสรรคสำ�คัญในการผลิตพลังงานทดแทน เป็นเรื่องของ เทคโนโลยีหรือการที่เรายังไม่ได้ตระหนักกันมากพอ ผมว่าหลัก ๆ ในตอนนีเ้ ป็นเรือ่ งของต้นทุน โดยเปรียบเทียบกับพลังงานแบบ เดิมเช่นพลังงานถ่านหินหรือก๊าซธรรมชาติ ต้นทุนพลังงานทดแทนยังคง สูงกว่า แต่อย่างไรก็ตามถ้าพิจารณาถึงผลประโยชน์อย่างรอบด้านที่เกิดขึ้น จากพลังงานทดแทนก็จะเริ่มสูสี เช่นประโยชน์จากการลดการปล่อยก๊าซ เรือนกระจก ประโยชน์จากการลดผลกระทบด้านสุขภาพต่อชุมชนรอบข้าง โรงไฟฟ้า ถ้าเอาต้นทุนเหล่านีม้ าคิดด้วยก็ถอื ว่าสูสกี นั ยิง่ เทคโนโลยีพฒั นาขึน้ ต้นทุนการผลิตพลังงานทดแทนก็ยิ่งถูก อย่างพลังงานแสงอาทิตย์ 10 ปี ผ่านไป ต้นทุนลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง ส่วนที่สองผมคิดว่าเป็นปัญหาในเชิงโครงสร้าง คือเวลาเราวางแผน เรื่องพลังงาน เราจำ�เป็นต้องวางแผนระยะยาว เพราะการจะก่อสร้าง โรงไฟฟ้าครั้งหนึ่งต้องใช้เวลา 5 ปี 8 ปี ดังนั้นจนถึงวันนี้ การวางแผน
CREATIVE THAILAND I 31
ในอดีตที่พึ่งพาพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลก็ยังตกค้างอยู่ในระบบ เพราะ มันดำ�เนินมาก่อน แล้วมันมีตน้ ทุนทีย่ งั คงค้าง ถ้าเอาพลังงานทดแทนเข้ามา ในระบบเลยตอนนี้ ก็จะทำ�ให้ตน้ ทุนยิง่ เพิม่ และยิง่ ส่งผลต่อค่าไฟของพวกเรา เพราะฉะนั้นตอนนี้จึงเป็นเหมือนช่วงของการเปลี่ยนผ่าน ที่ต้องทยอยปลด ของในระบบเก่าออกไปก่อน และทำ�ให้พลังงานทดแทนทีเ่ ข้ามาในระบบใหม่ มีต้นทุนลดลง ต้องใช้เวลามากน้อยเท่าไรในการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงาน ทดแทนทั้งหมด เดิมที่เราคิดว่าคงอยู่ในระยะประมาณ 10 ปี แต่ตอนนี้ผมคิดว่ามันจะเร็วขึ้น อีกโดยทิศทางของเพื่อนบ้านและทิศทางของโลก เช่น การที่เริ่มมีทิศทาง เรื่องยานพาหนะไฟฟ้า (EV) ที่เป็นรูปธรรมชัดเจนขึ้น เช่นการประกาศว่า ในปีค.ศ. 2030 จะเลิกผลิตรถน้ำ�มัน ก็จะเป็นตัวเร่งให้ระยะเวลาการเปลี่ยน ตรงนี้มันหดแคบเข้า ที่ยกตัวอย่างเรื่องยานยนต์ไฟฟ้าก็เพราะมีผลสำ�คัญ ต่อการลดการปล่อยกรีนเฮ้าส์ก๊าซ เฉพาะภาคขนส่งในประเทศไทยเป็น ตัวปล่อยก๊าซเรือนกระจกเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นถ้าลดพลังงานในภาค ขนส่งได้ เราจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศไทยได้เกือบ 1 ใน 3 การใช้ชีวิตแบบ New Normal หรือการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จะส่งผลกระทบต่อการใช้พลังงานอย่างไร และเราจะรับมือกับ ความเปลี่ยนแปลงนี้ด้วยวิธีใด เราเห็นตัวเลขชัดเจนว่ามีการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นสูงในภาคครัวเรือนจาก การที่คนเปลี่ยนรูปแบบการทำ�งานมาเป็น Work From Home มากขึ้น เช่น เดียวกับสังคมสูงวัยทีเ่ ป็นอีกปัจจัยหนึง่ ทีจ่ ะทำ�ให้การใช้พลังงานในส่วนทีอ่ ยู่ อาศัยเพิ่มขึ้น ซึ่งในขณะเดียวกันการผลิตพลังงานใช้เองจากภาคที่อยู่อาศัย นั บ จากนี้ ก็ น่ า จะมี ม ากขึ้ น ด้ ว ย โดยเฉพาะพลั ง งานแสงอาทิ ต ย์ แ ละ จากรถยนต์ไฟฟ้า คือคนที่ติดไฟจากโซลาร์เซลล์แล้วเอาไฟนั้นมาชาร์จ รถยนต์ด้วย ตอนนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) ยังมี การพัฒนาแท่นชาร์จ 2 ทาง (Bidirectional EV Charger) คือเอาไฟจาก ระบบไฟบ้านชาร์จเข้ารถยนต์ไฟฟ้า ขณะเดียวกันก็ใช้ชาร์จเจอร์ตัวนี้เอาไฟ ที่เหลือจากแบตเตอรีไฟฟ้าของรถยนต์จ่ายคืนเข้าระบบได้ด้วย นอกจากนี้ หลักการจากที่ประชุม World Economic forum เมื่อปี 2019 ก็มีข้อเสนอเกี่ยวกับภาคพลังงานที่เรียกว่า 3D คือ Digitalization Decentralization และ Decarbonization คือการนำ�เอานวัตกรรมดิจิทัล เข้ามาใช้งานบนหลักการผลิตพลังงานที่เป็นแบบไม่รวมศูนย์ เน้นให้คน ทุกคนมีส่วนร่วมได้ อาจจะผลิตพลังงานบนหลังคาบ้าน หรือโรงไฟฟ้า เศรษฐกิจฐานราก และลดปริมาณคาร์บอนให้ได้จริง อย่างทุกวันนี้เราจะ เห็นว่ามีบริษัทต่างชาติต้องการเข้ามาลงทุนในไทยค่อนข้างมาก แต่เงื่อนไข ที่เขาขอในการลงทุนอาจไม่ใช่เรื่องข้อได้เปรียบทางด้านภาษีอีกแล้ว แต่เขา ขอเรื่องพลังงานไฟฟ้าที่มาจากพลังงานหมุนเวียนตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อ ลดปริมาณรอยเท้าคาร์บอน ซึ่งเมื่อกระแสทั้งโลกเป็นไปแบบนี้ ก็เป็น การบังคับให้เราต้องวิง่ หาพลังงานหมุนเวียน 100% เพือ่ ป้อนความต้องการใหม่ ให้เร็วขึ้นอีก เพราะมันตอบทั้งโจทย์ธุรกิจและโจทย์ใหญ่ของโลก
แหล่งพลังงานที่เชื่อมั่นมากที่สุด ผมเชื่อมั่นในพลังงานแสงอาทิตย์ เพราะเป็นพลังงานที่ไม่มีวันหมด ใกล้ตัว และเป็นประชาธิปไตย เพราะทุกคนเข้าถึงพลังงานนี้ได้เท่าเทียมกัน ถ้าคุณ ไม่ตื่นสายเกินไปนะ (ยิ้ม) เริม่ เปลีย่ นตัวเองอย่างไรบ้างในการหันมาใช้พลังงานทดแทน ผมเริ่มจากการใช้จักรยานในการเดินทางในชีวิตประจำ�วัน ขี่ไปกลับจาก ที่ทำ�งานและขี่ออกกำ�ลังกาย ตอนหลังพอมีรถยนต์ EV ผมก็เลือกใช้มาได้ ปีกว่า ๆ เพือ่ การเดินทางทีต่ อบโจทย์มากขึน้ ทุกวันนีจ้ กั รยานผมก็อยูท่ า้ ยรถ EV ครับ แหล่งข้อมูลในการทำ�งานด้านพลังงาน เดี๋ยวนี้มีเทคโนโลยีการสื่อสารเยอะมากครับ แค่เข้าไปในกลุ่มเฟซบุ๊กที่มี คนสนใจเรื่องพลังงานทดแทน ก็ทำ�ให้เราได้แชร์ประสบการณ์ ได้รู้เทคนิค ไอเดียใหม่ ๆ ในทุกวันแล้ว
CREATIVE THAILAND I 32
ORGANIZED BY
#ISANCF2021 #ISANCREATIVEFESTIVAL
TOP SUPPORTERS
ISAN CROSSING เทศกาลอี ส านสร า งสรรค
9-18 JULY 2021 มหกรรมแสดงศักยภาพ ดานความคิดสรางสรรค ของภาคอีสาน ณ ยานศร�จันทร และยานกังสดาล จังหวัดขอนแกน
อีเวนต
Event
โปรโมชั่น
ดนตร�
ตลาด
การจัดแสดงผลงาน นิทรรศการ
การเสวนา
ทัวร
เว�ร กชอป
งานเป ดบ าน
D-Kak Market
Promotion Showcase & Exhibition
Creative Tour Workshop TCDC Khon Kaen
ISAN CREATIVE FESTIVAL
Music Program Talk
Open House
cea.or.th
Creative Solution : คิดทางออก
PRESENCE
เปลีย่ นขยะให้เป็นพลังงานไฟฟ้าสุดคูล เรื่อง : ณัฐชา ตะวันนาโชติ
“จะดีแค่ไหนถ้าชุมชนทีเ่ ราอาศัยปราศจากขยะ และจะยิง่ ดีขนึ้ ไปอีก ถ้าขยะเหล่านั้นสามารถกลายร่างเปลี่ยนเป็นพลังงาน ให้ทุกคนได้ใช้กัน” “ขยะ” คือสิ่งที่หลายคนมักมองว่าไร้ค่าและสกปรก ยิ่งผู้คนในสังคมขาด ความเข้าใจเกีย่ วกับแนวทางการจัดการขยะทีเ่ พียงพอแล้ว ปัญหาขยะก็ยง่ิ สร้าง ผลกระทบต่อทัง้ ชุมชนและสิง่ แวดล้อมในหลายพืน้ ที่ ทัง้ ทีจ่ ริงแล้ว หากเรา จัดการขยะกันอย่างถูกวิธี สิง่ ไร้คา่ ของใครหลายคน ก็สามารถถูกนำ�ไปต่อยอด และสร้างคุณค่าให้กบั ผูค้ นได้อย่างน่าอัศจรรย์ ดังนัน้ การสร้างความรูค้ วามเข้าใจ เกีย่ วกับการจัดขยะ จึงเป็นจุดเริม่ ต้นที่สำ�คัญเพือ่ การแก้ไขปัญหาในระยะยาว โครงการ Wonder Waste! หรือโครงการสร้างนวัตกรรมการผลิตไฟฟ้า จากพลังงานหมุนเวียน ที่ดำ�เนินงานโดย สำ�นักงานส่งเสริมเศรษฐกิจ สร้างสรรค์ (CEA) โดยได้รบั การสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมให้สังคมและประชาชนมีความรู้ ความตระหนัก และมีส่วนร่วม ทางด้านไฟฟ้ามากขึ้น เป็นอีกหนึ่งโครงการที่มองเห็นถึงความเป็นไปได้นี้ ด้วยการวางแผนสร้างเส้นทางการจัดการขยะเพือ่ การผลิตไฟฟ้า โดยเริม่ ตัง้ แต่ การระดมความคิดผ่านการเวิรก์ ช้อปด้วยกระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) เพือ่ สร้างองค์ความรูแ้ ละนวัตกรรมเรือ่ งการคัดแยกขยะจากชุมชน และเปลี่ยนขยะที่ไม่มีใครต้องการให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบัน กำ�ลังดำ�เนินการใน 4 พื้นที่นำ�ร่อง ได้แก่ ย่านเจริญกรุง ย่านหนองแขม ย่านเมืองเก่า จ. ภูเก็ต และย่านศรีจนั ทร์ จ. ขอนแก่น ทำ�ให้เราได้เห็นไอเดียล้�ำ ๆ ซึ่งไม่แน่ว่าหลายไอเดียอาจจะได้ใช้กันจริงในอนาคตอันใกล้นี้
POWER PICK
POWER PICK (ย่านเจริญกรุง) ไอเดียจากกระปุกออมสินทีเ่ ปลีย่ น มาอยู่บนดิจิทัลแพลตฟอร์มและ แอพพลิเคชัน ซึ่งอาศัยแนวคิด การออมพลังงานไฟฟ้าเพื่อเป็น ตัวช่วยในการรีไซเคิล เริ่มจาก การนำ�ขยะประเภท RDF ที่เผาไหม้ได้แต่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ด้วยตัวเองที่ บ้านมาส่ง ณ จุดรับฝากต่าง ๆ เพื่อแลกเป็นคะแนนพลังงาน (Waste to Energy Point) ซึ่งสามารถนำ�ไปใช้ซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นส่วนลด ในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า รวมถึงใช้แลกสิทธิล์ นุ้ รางวัลต่าง ๆ ได้ ส่วนขยะ ทีน่ �ำ มาแลกคะแนนไปก็จะถูกนำ�ส่งไปยังโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพือ่ ผลิต เป็นพลังงานไฟฟ้าสำ�หรับชุมชนต่อไป
PRESENCE (ย่ า นหนองแขม) ระบบการจัดการขยะในคอนเซ็ปต์ “เด็กเดินขยะ Bike & Bin” ที่จะ มีน้อง ๆ ปั่นจักรยานไปเก็บขยะ ถึงหน้าบ้านและร้านค้าในชุมชน โดยจักรยานที่ปั่นไปรับขยะจะ เป็นจักรยาน 3 ล้อ ที่มีช่องเก็บขยะแยกเป็น 4 ประเภทก่อนจะนำ�ไปจัดเก็บ ทีจ่ ดุ พักเพือ่ รอส่งต่อให้กบั โรงเผาขยะ โรงงานรีไซเคิล หรือนำ�ไปทำ�ปุย๋ ต่อไป ซึ่งคนในชุมชนที่เข้าร่วมกับระบบการเก็บขยะนี้ จะได้มีส่วนในการรับ ผลตอบแทนจากขยะของตนเองด้วย เช่น ได้รับปุ๋ยจากขยะอินทรีย์ หรือ ถุงแยกขยะ เป็นต้น
BABA BIN
BABA BIN (ย่านเมืองเก่า จ. ภูเก็ต) ไอเดียถังกรองขยะลดความชื้น จากเกาะภูเก็ต อย่างที่รู้กันว่า ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว ดังนั้น ขยะทีเ่ กิดขึน้ ส่วนใหญ่จงึ เป็นขยะ อินทรีย์ (อาหาร) และบรรจุภณั ฑ์ท่ี ปนเปือ้ น นำ�มาสูท่ ม่ี าของแนวคิดการจัดการกับเศษอาหารและการลดความชืน้ จากขยะก่อนที่จะนำ�เข้าโรงเผา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้า โดยรูปแบบของบ่าบ๋า บิน จะเป็นถังกรองขยะลดความชื้นที่เหมาะสำ�หรับ ใช้ในร้านอาหารหรือคาเฟ่ ภายในถังจะมีการแยกส่วนสำ�หรับใส่บรรจุภัณฑ์ และเศษอาหารออกจากกัน ส่วนที่ใส่เศษอาหารสามารถลดความชื้นได้ด้วย ถังปั่นที่อยู่ภายใน สามารถบดอัดบรรจุภัณฑ์เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บขยะ และมี ตัวกรองสำ�หรับแยกของเหลวตกค้างเพื่อลดความชื้นด้วย
บุญบุญ
บุญบุญ (ย่านศรีจนั ทร์ จ. ขอนแก่น) หุ่นยนต์สร้างเครือข่ายเก็บขยะที่ ตั้งใจทำ�ให้ผู้คนเข้าถึงถังขยะได้ ง่ายขึน้ และยังเป็นหุน่ ยนต์หน้าตา คล้ า ยแมวที่ ค อยทำ � หน้ า ที่ เ ป็ น ผูช้ ว่ ยในการให้ขอ้ มูลสร้างความรู้ ความเข้าใจในเรื่องการแยกขยะอย่างถูกวิธี โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ หุ่นยนต์สำ�หรับใช้ภายในร้านค้าที่จะสร้างความตระหนักรู้เรื่องขยะ ให้แก่ผู้มาใช้บริการ และหุ่นยนต์สำ�หรับใช้ภายนอกที่มีขนาดใหญ่กว่าและ จะคอยรับขยะจากร้านค้าที่ทำ�การแยกไว้แล้วตั้งแต่ต้นทาง เพื่อสร้าง ความมั่ น ใจว่ า ขยะที่ รั บ จากการแยกนั้ น จะถู ก นำ � ไปจั ด การต่ อ อย่ า งมี ประสิทธิภาพ
ที่มา : โครงการสร้างนวัตกรรมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (Wonder Waste!) CREATIVE THAILAND I 34
แคมเปญปลอ ยขอ ง
พบกับ 18 แบรนด สุดสร างสรรค จากผู ประกอบการ CREATIVE SHOPHOUSE เราช วยคุณขาย คือแคมเปญที่รวบรวม ผลงานจากผู ประกอบการ SMEs ที่ผ านการพัฒนาและบ มเพาะ จากสำนักพัฒนาธุรกิจและนวัตกรรมในแพลตฟอร ม CONNECT by CEA ภายใต สำนักงานส งเสร�มเศรษฐกิจสร างสรรค สนับสนุนโดย พันธมิตรด านประชาสัมพันธ และ E-commerce ทั้งในและต างประเทศ ซึ่งเป นโครงการที่จัดข�้นเพ�่อกระตุ นเศรษฐกิจสร างสรรค ให ขับเคลื่อน ต อไปได และเป น Online Community ที่รวบรวมหลากหลายแบรนด ให คุณได ช อปป �งสินค าได โดยตรงจากแบรนด ต าง ๆ และชมผลงานเพ�่อ จ างงานนักสร างสรรค ที่อัพเดตไว อย างต อเนื่องพ�เศษ! สามารถสอบถาม โปรโมชั่นพ�เศษจากทางแบรนด ได โดยตรง เพ�ยงบอกกับทางแบรนด ว า รู จักผ าน CONNECT by CEA และพบกับสินค าจากผู ประกอบการ สุดสร างสรรค เพ��มเติมได ที่ connect.cea.or.th/creator
ผูประกอบการสามารถเขารวมโครงการไดที่ https://connect.cea.or.th/register หร�อสอบถามเพ�่มเติมที่ connect@cea.or.th
ุ ขา ย คณ ย ว ช เรา
#CreativeShophouse #CONNECTbyCEA