FEBRUARYI SSUE13
CarVariety Toyota Furia Concept
เปิดตัวยิ่งใหญ่ที่ดีทรอยท์
“โตโยต้าเผยโฉมคอนเซปต์สุดอลังการ Toyota Corolla Furia อีกหนึ่งรุ่นที่จะมา ทำ�ให้บรรดาเหล่ารถซีดานขนาดกลางหนาวๆ ร้อนๆ กัน”
..........
Toyota Motor ได้เปิดตัวคอนเซปต์สุดอลังการ Corolla Furia (ที่ว่ากันว่ามันเป็น Corolla ที่สวยที่สุด ที่เคยมีมา) ในงาน Detroit Auto Show 2013 โดยมี สื่อมวลชนให้ความสนใจมากมาย รวมทั้งเว็บไซต์ดังๆ อย่างเช่น Topspeed, Autoblog ก็ดูจะตื่นเต้นกับโมเดล ใหม่นี้ไม่น้อย
เพราะคอนเซปต์นี้แสดงให้เห็นถึงภาษาการออกแบบในมิติ ใหม่ Iconic Dynamism ที่ถือว่าเป็นการพัฒนารูปแบบใหม่ของตัว Corolla รูปทรงภายนอกที่อวดโฉมความงามได้อย่างเต็มที่ ด้วย ความเป็นซีดาน 4 ประตูที่จะทำ�ตลาดที่อเมริกาเหนือเป็นที่แรก ก่อน จะส่งต่อให้แถบยุโรปและเอเชีย โดยองค์ประกอบที่งดงามและลงตัวของ Furia ทำ�ให้โตโยต้า มั่นใจอย่างแน่วแน่ว่าจะดึงดูดลูกค้า Gen Y รุ่นใหม่ได้อย่างเหนียว แน่น โดย Bill Fay รองประธานและผูจ้ ดั การทัว่ ไปของ Toyota Division เรียกได้ว่าทั้งเส้นสายที่เน้นความคมเข้ม ชัดเจนและทันสมัย กล่าวว่า “Furia ได้ผสมผสานแนวคิดริเริ่มในการออกแบบอันน่า ทึ่ง พร้อมด้วยองค์ประกอบที่ทันสมัยของเทคโนโลยีชั้นสูงจะทำ� ขึ้น โดยเส้นสายนี้เองทำ�ให้รถมีมิติและทำ�ให้รถดูมีความเคลื่อนไหว อยูต่ ลอดเวลาแม้ขณะที่จอดสนิท ประกอบด้วยกรอบไฟที่เรียวเล็ก สร้างความตื่นตาให้กับลูกค้าหลายๆ คน” ดีไซน์ใหม่ด้วย LED หลากหลายรูปทรงประกบทั้งไฟหน้าและไฟท้าย กระจังหน้าลายรังผึ้งสุดเฉี่ยวที่รับด้วยคิ้วด้านหน้าทำ�จากโครเมี่ยม มันวาว สปอยเลอร์ใช้สีดำ�ให้ตัดกับสีหลักของตัวรถ พร้อมกันชน ท้ายที่เว้าลึกได้ใจ ดึงความหรูหราของงานออกแบบให้โดดเด่นมาก ยิ่งขึ้น
“ซึ่งในงานยังไม่บ่งบอกรายละเอียดใดๆ นอก จาก ความยาว 4,620 มม. กว้างที่ 1,805 มม. สูง 1,425 ฐานล้อที่ 2,700 มม. และล้ออัลลอยด์ 7 ก้านขนาด 19 นิ้ว เรียกได้ว่าแม็กซ์ลายนี้หลายๆ คน คงลุ้นเชียขาดใจให้ไม่ได้อยู่ในแค่เวอร์ชั่นคอนเซปต์ ซึ่ง ถ้าหากมีความเคลื่อนไหวของ Toyota Corolla Furia เมื่อไหร่ นายทีจะรีบมารายงานเพื่อนๆ แน่ครับผม”
CarVariety เยอะไปมั้ย VIA MOTOR กับกระบะไฟฟ้า 800 แรงม้า
“หากอยากจะหารถสมรรถนะดี หน้าแข็ง ล่างแกร่ง ต้องรถกระบะ แต่ถ้าคิดว่ารถจำ�พวก นี้มันซดน้ำ�มันล่ะก็ ลองพบกับ VIA MOTOR ดูครับ เพราะมันคือรถกระบะไม่ง้อน้ำ�มันที่มา พร้อมพละกำ�ลังขนาด 800 แรงม้า”
..........
พอฟังตัวเลขแบบนี้ก็ดีใจอยู่ไม่น้อย ที่จะมีกระบะพลัง แรงสูง พร้อม Zero Emission เอาไว้ใช้งานเชิงพาณิชย์กัน เสียที โดย VIA MOTOR ตั้งชื่อให้มันว่า V-TRUX ซึ่งเปิดตัว เป็นครั้งแรกเมื่อต้นมกราที่ผ่านมา ซึ่ง VIA MOTOR ก็ไม่ใช่ค่ายหน้าใหม่เท่าไหร่นัก เพราะหัวเรือใหญ่นั่นก็คือ Bob Lutz อดีตซีอีโอของ GM ผู้ ที่ได้ชื่อว่าเป็น James Bond แห่งวงการยานยนต์ โดย VIA ได้ก่อตั้งในปี 2010 โดยร่วมสมทบกับทุนใหญ่อย่าง Carl Berg และหลังจากพัฒนาอยู่ 2 ปี ในที่สุดก็ได้เปิดตัวกระบะ พลังแรงสูงมาให้ชาวอเมริกันขนลุกซู่ซ่ากันเล่นๆ
ทีเด็ดที่ทำ�ให้กระบะ VIA MOTOR ต่างจากของ GM ก็คือ เทคโนโลยีการขับเคลื่อนชั้นสูงที่ GM ไม่มี โดยเทคโนโลยีนี้ก็คือ Extended Range Electric Vehicle เป็นการผสมผสานการทำ�งานระหว่างเครื่องยนต์ สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าไว้ด้วยกัน แต่เครื่องยนต์ จะไม่ได้ส่งกำ�ลังขับเคลื่อนใดๆ ในรถ แต่มีหน้าที่เพียงปั่น กระแสไฟป้อนให้กับแบตเตอรี่เพื่อจ่ายไฟไปยังมอเตอร์ ไฟฟ้าเท่านั้น
ตัวเทคโนโลยีนี้สามารถทำ�ให้ V-TRUX สามารถทำ�ระยะ ทางการวิ่งที่ไกลมากๆ โดยเครื่องยนต์ที่ใช้เป็น V6 ความจุ 3.4 ลิตร ทำ�หน้าที่ปั่นกำ�ลังไฟฟ้าป้อนเข้าแบตและส่งไปยังมอเตอร์ไฟฟ้า ขนาดยักษ์ VIA Dual Drive ขนาด 300 kW ทั้งสองข้างรวมกัน 600 kW นั้นสามารถผลิตกำ�ลังม้าได้ราว 815 hp! ลำ�พังการวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนด้วยมอเตอร์กำ�ลังขนาดนี้ เป็น ธรรมดาที่ย่อมกินไฟ ซึ่ง V-TRUX สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนที่ 64 กิโลเมตร แต่ถ้าหากหมดก๊อกนี้ระบบ E-REV ก็จะเริ่มทำ�งานทันที โดยสามารถผลักให้ V-TRUX วิ่งไปได้ไกลราว 643 กิโลเมตร เรียก ได้ว่าเป็นแต้มต่อให้กับ V-TRUX ได้อย่างดี ซึ่งปัจจุบัน Bob Lutz ได้ กล่าวผ่านรายการทีวีว่า V-TRUX คือรถกระบะคันแรกในโลกที่ใช้ ระบบ E-REV นี้
“โดยซีรีย์ของ VIA MOTOR แบ่งเป็น 3 ไลน์ด้วย กันคือ TRUCK, SUV,และ VAN เวอร์ชั่นล่าสุดที่จะ เปิดตัวในดีทรอยท์เดือนหน้า ทั้งนี้ VIA ให้ข้อมูลว่า ถ้า V-TRUX ได้ขึ้นสายผลิตในเชิงพาณิชย์แบบเน้น จำ�นวนขายได้จริงๆ ราคากระบะพลัง 800 แรงม้า คันนี้อาจจะอยู่ที่ 79,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2.4 ล้านบาทเท่านั้น”
Tip & Technique ดอกยางแบบไหน ใช้งานอย่างไร ตอน 2
“ต่อจากคราวที่แล้วนะครับ เพื่อนๆ คงได้ ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับดอกยางไปไม่มากก็น้อย คราวนี้นายทีจะมาเติมเต็มความรู้ให้แน่นขึ้นอีกนิด ครับ เริ่มด้วย”
..........
ดอกยางแบบทิศทางเดียว (Symmetric Directional) ดอกยางแบบนี้จะมีประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนดี เหมาะกับขาซิ่ง ลวดลายออกแนวไปทางสปอร์ท โดยมีลูกศรบอกทิศทางการหมุนอยู่ที่แก้ม ยางทั้ง 2 ด้าน ดังนั้นการสลับยางจะสลับได้เพียงด้านเดียวเท่านั้น เช่น สลับ ด้านขวาหน้ากับขวาหลัง หรือซ้ายหน้ากับซ้ายหลัง เว้นแต่จะถอดตัวยางออก จากกระทะล้อเดิมไปสับกับกระทะล้อฝั่งตรงข้าม จุดเด่นของดอกยางแบบ ทิศทางเดียว คือ สามารถไล่น้ำ�ออกจากหน้ายางได้รวดเร็ว ป้องกันอาการเหิน น้ำ� (Hydroplaning) ที่เป็นสาเหตุทำ�ให้ควบคุมบังคับรถได้ลำ�บากและเกิดการลื่น ไถลในขณะขับลุยน้ำ�นั่นเอง
ดอกยางแบบสวนทาง (Symmetric Non-Directional) ยางแบบสวนทางจุดเด่นของมันก็คอื ความนุม่ สบายในแบบที่ Directional ให้ไม่ได้ มีเสียงค่อนข้างเงียบในขณะที่หน้ายางสัมผัสพื้นถนน แต่กระนั้นก็ดียาง แบบนี้ไม่เหมาะจะเอาไปซิ่งซักเท่าไหร่ครับ เพราะสไตล์นิ่มๆแบบผู้บริหารของ ยางชนิดนี้เมื่อใช้ย่านความเร็วสูงจะพบอาการโยนตัวของรถตามมาด้วย ดอก ยางแบบนี้ค่อนข้างเป็นดอกยางละเอียด การสลับยางทุก 10,000 กิโลเมตร จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะยางแบบสวนทางสามารถสลับได้กับทุกตำ�แหน่งครับ
ยางไม่สมมาตร (Asymmetric Directional) ดอกยางแบบนี้เป็นดอกยางที่ด้านในและด้านนอกไม่เท่ากัน ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ขับขี่ที่ต้องเผชิญหน้ากับทางโค้งมากกว่า ทางตรง จุดเด่นของยางประเภทนี้คือให้การยึดเกาะที่ดี รักษา สมดุลของรถในการเข้าโค้งได้เยี่ยม สามารถลดอาการดื้อโค้ง เป็นที่มาของการหลุดโค้งได้ดีกว่ายาง 2 ประเภทที่ผ่านมาครับ ลายดอกยางบนด้านในของยาง Asymmetric โดยทั่วไปมีร่อง ให้จับมากกว่าชนิดอื่น ยางชนิดนี้สามารถนำ�ไปใช้ในตำ�แหน่งใดๆ บนยานพาหนะก็ได้ อย่างไรก็ตาม ควรที่จะปฏิบัติตามคำ�แนะนำ� ในการใส่ยาง เช่น’ภายใน’ และ ‘ภายนอก’ เพื่อให้แน่ใจว่ายางจะ ติดตั้ง’ในทิศทางที่ถูกต้อง เพราะการใส่ยางที่ไม่ถูกต้องสามารถ ทำ�ให้เสียประสิทธิภาพการขับขี่อย่างมาก
“ปัจจุบันลวดลายของยางจะแตกแขนงไป อีกเยอะมาก แต่เพื่อนๆ จะเห็นได้ว่ายาง แต่ละแบบล้วนมีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกัน ไป ซึ่งความจริงแล้วไม่มียางแบบไหนที่ดี ที่สุด มีแต่ยางที่เหมาะสมกับลักษณะรถและ ลักษณะสไตล์ การขับขี่ของเราเท่านั้นครับ”
Tip & Technique รถหาย!
ฝันร้ายของคนเมือง
“สถิติรถหายนั้นส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่ตัวเมือง เพราะ อาจจะเป็นแหล่งรวมรถใหม่หลากหลายยี่ห้อ อีกทั้งการ จอดตามสถานที่ต่างๆ ยังสุ่มเสี่ยงต่อการโจรกรรม ดัง นั้นจึงควรศึกษาวิธีป้องกันการโจรกรรมและระมัดระวัง กันตั้งแต่เนิ่นๆ นะครับ”
..........
อันดับหนึ่งคือรถใหม่ หากว่าเพื่อนๆ ถอยรถใหม่ป้ายแดง ไม่ว่าจะเป็นรถคันแรกหรือ คันที่สอง สิ่งแรกเลยคือควรติดตั้งอุปกรณ์กันขโมยให้แน่นหนาที่สุด ครับ เช่น ล็อคเกียร์ ล็อคพวงมาลัย สัญญาณกันขโมยนี่ขาดไม่ได้ เพราะว่ารถใหม่ป้ายแดง มักจะขายได้ราคาดี และอุปกรณ์ที่น่าสนใจ อีกอย่างหนึ่งก็คือ GPS Tracking ที่สามารถติดตามหลังรถถูก โจรกรรมได้อย่างเห็นผล จับได้คาหนังคาเขามานักต่อนักแล้ว ลงทุน ไม่กี่พัน แต่ได้รถกลับคืนมา คุ้มแสนคุ้มครับ
รถมือสอง อ้าว รถมือสองก็โดนด้วยหรอ! หลายคนอาจจะคิดว่ารถ มือสองไม่น่าจะมีการโจรกรรมเกิดขึ้น แต่ความจริงแล้วรถมือสอง นั้นก็มีความเสี่ยงอยู่เหมือนกัน เช่น อาจจะเป็นรถขโมยมาอีกที เมื่อ ได้มาแล้วควรจัดการเปลี่ยนกุญแจ ติดกันขโมยเช่นเดียวกับรถใหม่ ให้ระลึกเสมอว่าคนร้ายอาจจะรอเวลาขโมยรถของคุณอยู่
ตามลานจอด อีกหนึ่งจุดที่รถหายบ่อยๆนั้นก็คือในห้างครับ เพราะเป็นเหตุสถาน ที่ที่มีคนพลุกพล่าน และไม่ค่อยมีใครสนใจใครเท่าไหร่ แนะนำ�ถ้าเป็น ไปได้ควรจอดไว้ที่โล่งแจ้ง ใกล้ยามรักษาความปลอดภัย อย่าทิ้ง ทรัพย์สินมีค่าไว้ในรถหรือแม้กระทั่งกระเป๋าสัมภาระ เพราะบางทีรถ ไม่หายแต่ของหาย ก็ใช่เรื่องอยู่
การนำ�รถไปซ่อมตามอู่ อู่บางอู่ เน้นนะครับว่าบางอู่ ก็สมคบคิดกับโจร ลักลอบให้ บริการทำ�กุญแจผีจากรถของลูกค้า แล้วติดตามโจรกรรมรถแบบ Delivery ถึงหน้าบ้านท่าน เรียกได้ว่าถ้าหากจำ�เป็นต้องไปอู่ทุกครั้ง ไม่ว่าจะอู่ใหม่หรือสนิทชิดเชื้อ ก็ควรจะติดตามดูแลรถตลอดการ ซ่อมจนเสร็จครับ ถึงจะลากเช้ายันเย็น ยังไงก็ต้องอยู่ดู เพื่อความ ปลอดภัยครับ
ฝาถังน้ำ�มันหาย ต้องระวัง มีรถบางรุ่นใช้กุญแจดอกเดียวกัน สำ�หรับเปิดประตู ติด เครื่อง เปิดลิ้นชัก และฝาปิดถังน้ำ�มัน อย่างไรก็หากฝาปิดถังน้ำ�มัน รถหายให้สังหรณ์ใจไว้ว่า ถูกก๊อบปี้ลูกกุญแจรถ เนื่องจากฝาปิดถัง น้ำ�มัน จะใช้กุญแจเดียวกับกุญแจสตาร์ทรถ เมื่อมิจฉาชีพได้ฝาปิดถัง น้ำ�มันไป ก็สามารถก๊อบปี้กุญแจรถได้ ดังนั้นเจ้าของรถ ต้องสำ�รวจ กุญแจบริเวณตัวถังรถก่อนทุกครั้งที่ขึ้นรถ เพราะอาจมีร่องรอย ขูดขีดให้สังเกตเห็นการก๊อบปี้กุญแจของคนร้าย ส่วนกรณีฝาถัง น้ำ�มันหายต้องรีบเปลี่ยนกุญแจรถทั้งคันทันทีครับ ซึ่งการสูญหาย ปัจจัยหลักสำ�คัญคือคนที่คุ้นเคยกันดีกลายเป็นมิจฉาชีพซะเอง ซึ่งผู้ ใช้รถต้องระวังอย่างมากนะครับในสภาวะปัจจุบัน
Gadget
LifeStyle ถ่ายหนังสั้นด้วย Lomokino กล้องถ่ายหนังสุดแนว
“3..2..1 Action! ขอให้ลืมการถ่ายหนังด้วย มื อ ถื อ หรื อ อะไรก็ ต ามที่ บั นทึ ก ด้ ว ยเมโมรี่ ไปก่ อ น เพราะนั่นมันเอาท์แล้ว ด้วย Lomokino กล้องถ่าย หนัง 35 มม. ที่ปลุกการถ่ายหนังแบบอนาล็อกให้มี ชีวิตอีกครั้ง”
..........
เป็ น ปรากฏการณ์ ข องวงการภาพยนตร์ เ ลยก็ ว่ า ได้ เพราะ Lomokino ไม่ใช่นวัตกรรมไฮเทคแต่อย่างใด แต่ เป็นการย้อนกลับไปสู่การถ่ายภาพยนตร์ด้วยฟิล์ม เฉกเช่น เมื่อ 50 ปีที่แล้ว ด้วยกล้องถ่ายภาพยนตร์ขนาด 35 มม. ที่ จะมาเปลี่ยนมุมมองของการถ่ายภาพยนตร์ไปตลอดกาล ซึ่ง Lomokino เป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นโบว์แดงของค่า ยกล้องเรโทรอย่าง Lomography ซึ่งสาวกของกล้อง ประเภทนี้ก็เหนียวแน่นอยู่แล้ว ยิ่ง Lomokino ออกมาอาจ ทำ�ให้กระแสของ Lomography ดียิ่งขึ้นไปอีก Lomokino ออกแบบได้อย่างมีเสน่ห์ ด้วยทรวดทรง ไร้ความโค้งมนของกล้อง ที่คงรูปทรงสี่เหลี่ยม พื้นผิว ของตัวกล้องใส่ความ Vintage ด้วยผิวหยาบที่แฝงไป ด้วยความขลังของกล้องถ่ายหนังเมื่อยุค 50’s ไม่ว่าจะเป็น ตระกูล 8 มม. 9.5 มม., 16 มม. และ 70 มม. ก็ตามที ยุค นั้นถ้าบ้านไหนมีกล้องถ่ายวีดีโอถึงจะเป็นแบบ Home Use ก็ ถือว่ามีฐานะเอามากๆ
เทคโนโลยีเลขฐานสองอย่าง 0,1 นั้นถูกยกออกไปครบ เซ็ทรวมทั้ง ช่องมองภาพหรือ View Finder ที่มีส่วนทำ�ให้การ ถ่ายหนังสั้นด้วยกล้องตัวนี้มีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น ด้วยช่องมองภา พอลูมิเนียม Inverse-Galileo สี่เหลี่ยมแบบพับได้ ที่ทำ�ให้เราต้อง กะเกณฑ์องศาของภาพคล้ายกับกล้องถ่ายภาพยนตร์ในยุคแรก อย่างไงอย่างนั้น Lomokino มันเจ๋งยังไงหรอ ก็ตรงที่มันใช้ฟิล์ม 35 มม. หรือฟิล์มที่เราใช้ถ่ายภาพทั่วไป แถมหาได้ง่ายตามร้านถ่ายรูป ซึ่ง ทำ�ให้มันสามารถใช้ได้ทั้งฟิล์ม Negative หรือฟิล์มสไลด์และขาว ดำ�ได้อย่างไม่มีข้อจำ�กัด แต่ถ้าหากหยิบฟิล์มเก่าเก็บมาใช้ ก็สร้าง ความบรรเจิดให้หนังสั้นได้ไม่น้อย ความกว้างของเลนส์ที่ติดมากับกล้องนั้นอยู่ที่ 25 มม. ค่ารูรับแสงอัตโนมัติอยู่ที่ 5.6,8,11 สปีดชัตเตอร์ 1/100 ซึ่งไม่ ต้องปรับอะไรกับมันทั้งนั้น แต่ให้จดจ่อความสนุกอยู่ที่การเลื่อน ฟิล์มในแบบแมนนวล โดยหมุนขาเลื่อนไปด้านหน้า 1 แกร็กคือการ เลื่อนเฟรม 1 เฟรม ซึ่งหากอยากจะถ่ายหนังสั้นซัก 1 นาที ก็เชื่อ ได้เลยว่าต้องฟิล์มติดกระเป๋าอย่างน้อย 3-4 ม้วน
“ข่าวดีคือ Gadget ชิ้นนี้มีวางจำ�หน่ายในไทยแล้ว ซึ่งพรีเซ็นเตอร์ใหญ่ไม่ใช่ใคร คุณเจ้ย อภิชาติพงศ์ ผู้กำ�กับหนังสั้นระดับโลกของเรานั่นเอง ซึ่งราคา ที่จำ�หน่ายก็เป็นมิตรกับกระเป๋าสะตางค์กับตาก ล้องมือสมัครเล่นทุกคน ที่ 3,000-4,000 บาท สนใจเข้าไปชมตัวอย่างหนังเจ๋งๆ ได้ที่ http://thailand.shop.lomography.com”
FoodStuff
LifeStyle Alahcus
ไอศครีมโฮมเมดชวนฝัน
“จะมีซักกี่ร้านที่ผลิตไอศกรีมโฮมเมดให้มี ความชุ่มฉ่ำ�และชวนฝันทุกคำ�ที่ตักเข้าปาก นั่นคือ ที่มาของร้าน Alahcus ที่ที่เราจะพาเพื่อนๆ ไป ทานวันนี้ รับรองทั้งอาหารและไอศกรีมโฮมเมด เหมือนใครแน่นอนค่ะ”
..........
Alahcus ร้านไอศกรีมโฮมเมดที่มีจุดเด่นของรสชาติ ไอศกรีมโฮมเมดก้อนโตๆ ที่โดดเด่นเรื่องรสชาติ อีกทั้ง คอนเซปต์ ร้ า นและการตกแต่ ง ร้ า นสี สั น สดใสพร้ อ มมาส คอสประจำ�ร้านที่ใครได้แวะเวียนต่างก็อดใจที่จะชักภาพไม่ ได้ เรียกได้ว่าบรรยากาศในร้านทำ�ให้การทานไอศกรีมที่นี่ อร่อยขึ้น 100% ‘คุณโอ๋’ เจ้าของร้าน ที่แต่เริ่มเดิมทีได้ทำ�ไอศกรีม โฮมเมดส่งตามร้า นต่า งๆ ทั่ว กรุ งเทพ เรี ย กได้ ว ่ าด้ ว ย ประสบการณ์และสไตล์ของไอศกรีมทำ�ให้ได้รับเสียงตอบรับ ดีมาก จนได้เปิดร้านเป็นของตนเองเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งที่เจ๋ง สุดๆก็คือหากเขียน Alahcus กลับหลังก็จะได้ชื่อจริงของ คุณโอ๋นั่นคือ Suchala นั่นเอง
เมนูแรกที่จะมาชิมกันเรียกได้ว่าอาจจะคุ้นลิ้นกันอยู่แล้ว กับ Spaghetti Alfredo สปาเกตตี้ที่ใส่ซอสครีมหอมหวาน รสสัมผัส ละเมียดละไม พร้อมเห็ดแชมปิยองและเส้นสปาเกตตี้สุกกำ�ลังพอดี เชฟแนะนำ�มาว่าให้ทานควบคู่กับขนมปังกระเทียม ย้ายสัญชาติมากันบ้างกับแกงกระหรี่คัตสึ ข้าวญี่ปุ่นเม็ด เล็กรู้กันว่าความเหนียวนุ่มนั้นเป็นเอกลักษณ์ของข้าวประเภท นี้ วางเคียงด้วยหมูสันในทอดสไตล์ญี่ปุ่นเนื้อนุ่มแน่นเต็มคำ� ราด ด้วยน้ำ�แกงกระหรี่ทำ�เองที่ออกรสชาติหวานมันได้อย่างลงตัวที เดียวค่ะ มาถึงไฮไลท์ของเรากับ Funnel Cake หรือเค้กทอด อาหารเช้ายอดนิยมอย่างหนึ่งของชาวอเมริกัน ที่ใช้แป้งเค้ก Funnel เสิร์ฟด้วยไอศกรีมโฮมเมดหลากรสของ Alahcus เรียกได้ว่า เป็นเมนูไฮไลท์ที่มัดใจนักชิมเลยทีเดียว อีกเมนูส�ำ หรับสาวทีห่ ลงใหลในแพนเค้กกับ Original Maple Pancake ด้วยแพนเค้ก 3 ชั้นหนานุ่ม ที่รสชาติของเนื้อแป้งนั้นทำ�ได้ ออกมาลงตัวกับน้ำ� Maple Syrup ที่มีรสชาติชวนฝันสไตล์ไซรัป เสิร์ฟพร้อมด้วยไอศกรีมมิ้นหวานหอม เย็นชื่นใจ
“โดยร้าน Alahcus มีอยู่ 2 สาขาด้วยกันคือสาขา แรกโยธินพัฒนา 3 และอีกสาขาที่พาเพื่อนๆ มากันก็ คือสาขาโครงการ Festival Walk เปิดให้บริการทุก วัน 10.00-23.00 โทร. 02-907-0634 www.alahcus.com”
CarVariety มังกรเฉิดฉาย
GAC E-JET
รถไฟฟ้าต้นแบบจากจีน
“GAC GROUP หรือ Guangzhou Automobile Group Co Ltd บริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่จากจีน ดึงดูดความ สนใจของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโลกด้วยการเปิดตัว GAC E-JET ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า 100%”
..........
GAC E-JET รุ่นดังกล่าวได้เปิด ตัวครั้งแรกต่อสายตาสาธารณชนในงาน Detroit Auto Show 2013 ที่ผ่านมา ทำ�ให้หลายคนถึงกับตะลึงในความตระการ ตาของมัน ด้วยการออกแบบเฉียบขาด ลบล้างคำ�ครหาว่าจีนเป็น copy cat ตัว พ่อ ด้วยรูปทรงที่ออกแบบมาจากมัน สมองวิศวกรชาวจีนที่ทำ�ได้ยอดเยี่ยมและ ไม่เหมือนรถยนต์ค่ายไหนๆ เลย
ซึ่ง GAC ได้ส่งลูกรักของตนเองเข้าอวดโฉม 3 รุ่นด้วยกันคือ Trumpchi, Trumpchi GS5 กับแนว SUV และหนุ่มฮอทอย่าง E-JET ก็ได้อวดโฉมในรอบ สื่อมวลชนเป็นครั้งแรก โดยรูปลักษณ์อันสะดุดตา ให้ ความเป็นซุปเปอร์คาร์อารมณ์ยุโรปได้อย่างเต็มที่
ด้ ว ยพื้ น ผิ ว โค้ ง มนสยบพร้ อ มเส้ น สายรอบคั นที่ ค ม บาดตา ฝากระโปรงด้านหน้ามีขนาดใหญ่พิเศษเน้นความดุดัน ให้กับรถ ต้องมนต์ด้วยลวดลาย Grille ด้านหน้าสไตล์จีน ที่ออกแบบได้อย่างน่าดึงดูด พร้อมโลโก้ G ขนาดยักษ์เพื่อ ประกาศศักดาบนท้องถนน พร้อมไฟหน้า LED ดีไซน์ล้ำ� เพิ่ม ความพิศวงให้กับ E-JET มากขึ้น เรื่องของพละกำ�ลังหลักนั้น E-JET ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่ รีด output ได้ที่ 127 hp (95kW) และทำ�แรงบิดได้ที่ 168 ปอนด์-ฟุต ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่แจ้งให้ทราบ แต่ที่ ชัดเจนแล้วก็คือทาง GAC ได้เพิ่มพิสัยการเดินทางให้ E-JET ได้ไกลขึ้นด้วยระบบโรตารี่ Range Extender ด้วยเครื่องยนต์ เบนซินขนาด 1 ลิตรที่จะมาปั่นพลังงานเป็นประจุไฟฟ้าเก็บไว้ใน แบตเตอรี่เพื่อวิ่งต่อก๊อก 2 ได้สบายๆ อีกหลายร้อยกิโลเมตร
GAC Group ถือว่าเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการยานยนต์ในจีน ปัจจุบัน GAC ได้จับมือกับ Fiat-Chrysler เพื่อผลิตและจัดจำ�หน่าย FIAT 500 พิมพ์นิยม รวมถึงการเปิดตัว E-JET ทำ�ให้ยกระดับ GAC ให้เข้าสู่ Global Brand มากขึ้น โดย Zeng Qinghong ผู้จัดการทั่วไปของ GAC Group กล่าวว่า “หลังจากความสำ�เร็จของการเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นแรกของเรา อย่าง JV หรือ FIAT Viaggio เมื่อปีที่แล้ว การผูกมิตรกับ Fiat-Chrysler ครั้งใหม่ล่าสุดนี้ก็จะเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์ให้แก่บริษัทเรา”
“โดยล่าสุด E-JET ถึงแม้จะไม่ได้ระบุวันวางจำ�หน่าย แต่กระแสความแรงนั้นก็ยังไม่มีทีท่าที่จะหยุดโดยหลัง จบงาน E-JET ก็ติดโผ Top 10 green cars at the Detroit auto show ไปแล้วนั่นเอง”
CarVariety เปิดตัว VeLV สามล้อพลังงานไฟฟ้า Peugeot
“จั่วหัวว่าสามล้อ แต่ไม่ใช่สามล้อตุ๊กๆ เครื่องบ้านเรานะครับ..แต่ไฮโซกว่านั้นเยอะ เพราะ Peugoet ได้เปิดตัว VeLV รถสามล้อไฟฟ้าตัวจี้ด เอาใจคนเมืองครับ”
..........
หลังจากคอนเซปต์นี้ลุ่มๆ ดอนๆ มาสองสามปี ในที่สุดเมื่อ ต้นมกรา Peugeot ก็ได้เปิดตัวยานยนต์คอนเซปต์ที่เอาใจคนเมือง รุ่นใหม่ ไว้ใช้สอยในระยะสั้นๆ แม้กระทั่งขับไปทำ�งานจากที่พักอาศัย สู่ออฟฟิศในระยะไม่กี่กิโลเมตร ด้วยรูปร่างกะทัดรัดตามสมัยนิยม พร้อมตั้งชื่อว่า VeLV โดยถึงจะมี 4 ล้อแต่แท้จริงแล้วล้อคู่หลังที่ ติดกันนั้นใช้เพลาขับตัวเดียวกันทาง Peugeot จึงได้วางตำ�แหน่งมัน ไว้ให้เป็นไฟฟ้า 3 ล้อรุ่นแรกของแบรนด์นั่นเอง VeLV ย่อมาจาก Véhicule électrique Léger de Ville หรือแปล จากฝรั่งเศสเป็นไทยก็จะได้ตรงตัวว่า “รถไฟฟ้าน้ำ�หนักเบา” นั่นเอง คอนเซปต์นี้เป็นการร่วมทุนและไอเดียกับหน่วยงานของรัฐ French Environment and Energy Management Agency Ademe ที่ ในเวลาการจำ�หน่ายจริง ภาครัฐก็น่าจะสนับสนุนโปรเจคนี้ไม่น้อย (เมืองไทยน่าจะเอาอย่างบ้าง)
รถยนต์ต้นแบบคันนี้มีความยาวเพียง 2.8 เมตร และสามารถ โดยสารได้มากที่สุด 3 คน พร้อมกับน้ำ�หนักตัวรถที่เบาหวิวเพียง 700 กก. ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำ�ลัง 40 แรงม้า พร้อมเก็บ ประจุไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ขนาดกำ�ลัง 8.5 kWh และแล่นได้ความเร็ว สูงสุด 110 กม./ชม. พร้อมระยะทางสูงสุด 100 กม. ต่อการชาร์จ แบตเต็ม 1 ครั้ง งานดีไซน์ของ Peugeot แน่นอนว่าเฉียบขาดอยู่แล้ว ด้วยวง ล้ออยู่ที่ 7.2 เมตร ตัวบอดี้เป็นแบบ Uni-Body ชิ้นเดียวทำ�จากไฟ เบอร์กลาส ด้านหน้าใช้ไฟ Led ล้วนๆ ถึงบางคนจะบอกว่าดูตุ่นๆ แต่ แท้จริงแล้วจุดเด่นของ VeLV อยู่ที่ประตูและกระจกทั้ง 2 ฝั่ง เพราะ นอกจากจะเปิดประตูได้แล้ว บานกระจกยังสามารถเปิดได้อย่างอิสระ สไตล์ Gull-Wing เรียกได้ว่าสร้างแรงดึงดูดให้ VeLV เป็นอย่างดี
“การที่จะทำ�ให้รถไฟฟ้าซักคันติดตลาดไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งในช่วงสองสามปีมานี้รถไฟฟ้าที่ออกมาค่อนข้าง เยอะมาก Peugeot จึงได้ขยันทำ�การบ้านจนคลอด VeLV ออกมาสู่สายตาสาธารณะชน ซึ่งคาดว่าจะได้วางในโชว์รูมช่วงกลางปีครับ”
Tip & Technique เกียร์ออโต้ก็ล้างได้
“รถยนต์ปัจจุบันที่วิ่งอยู่บนท้องถนนนั้น มี มากมาย ทั้งเก่าและใหม่ อายุการใช้งานก็แตกต่าง กันไปแล้วแต่สภาพของคันรถนั้นๆ การดูแลรักษา นั้นก็แล้วแต่ละคนว่าจะดูแลรถยนต์อย่างไร ต้อง หมั่นตรวจสอบทำ�ความสะอาดในทุกๆ ส่วนรวม ไปถึง เกียร์ออโต้ ที่นายทีนำ�เสนอในวันนี้ครับ”
..........
เกียร์เป็นส่วนที่ถูกใช้งานมากที่สุด เพราะไม่ว่าจะเกียร์ ธรรมดา หรือเกียร์ออโต้ การสึกหรอก็ย่อมมีมากตามอายุ การใช้งาน จะถามว่าทำ�ไมต้องล้างเกียร์ ก็คือเพราะในเกียร์ จะมีแผ่นคลัตช์จำ�นวนมาก ที่เป็นคาร์บอนไดออกไซด์ที่เมื่อ ใช้งานแล้วทำ�ให้เกิดแผ่นสีดำ�เป็นผง เจ้าสิ่งนี้เองทำ�ให้เกียร์ เสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว ถ้าปริมาณคาร์บอนเยอะเกาะหนา เกินไป การดูแลขั้นต้นก็ได้แก่การถ่ายน้ำ�มันเกียร์ ต้องดูจาก กระปุกน้ำ�มันเกียร์บริเวณห้องเครื่องตรงฝากระโปรงหน้า รถ ว่าสีของน้ำ�มันเกียร์เปลี่ยนไปจากเดิมหรือเปล่า หรือ มีการบกพร่องของน้ำ�มันเกียร์หรือไม่ และอีกอย่างก็คือ ต้องล้างไส้กรองภายในห้องเกียร์ ถ้าจะถามว่าขั้นตอนและ วิธีการของการล้างเกียร์นั้นมีอะไรบ้าง ก็คือถ้าเป็นรถทั่วไป จะมีกรองเกียร์อยู่ใต้แท็งก์ เราก็ต้องรื้อออกมาทำ�ความ สะอาดไส้กรอง หรือถ้าดีไม่ดีถึงขั้นเปลี่ยนเลยก็เป็นได้ครับ
ส่ วนขั้ นตอนการล้ างเกี ย ร์ นั้ นก็ ต้ อ งเข้ าไปดู ใต้ ท้ อ ง รถจะมีน็อตสำ�หรับถ่ายน้ำ�มันออกให้ถอดน็อตรอบแท็งก์ และถอดไส้กรองออกมา แล้วดูว่าถ้าน้ำ�มันดำ�ก็ต้องดูที่ ช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ดูดน้ำ�มันว่ามีสิ่งสกปรกเข้าไปอุดหรือ เปล่า เพราะถ้ามีสิ่งสกปรกอยู่ เวลาดูดน้ำ�มันเข้าไปก็จะติดสิ่ง สกปรกเข้าไปด้วยทำ�ให้ระบบเกียร์มีปัญหา เรื่องของอาการ ที่จะบ่งบอกว่าเกียร์สกปรก สมควรแก่การทำ�ความสะอาดก็ คือการเปลี่ยนเกียร์จะกระตุก กระชากไม่นิ่มนวลนั่นเองครับ
การล้างเกียร์กับการถ่ายน้ำ�มันเกียร์จะไม่แตกต่างกันนัก เพียง แต่ว่าการล้างนั้นจะต้องถอดแท็งก์ออกมาเพื่อดูกรองน้ำ�มันด้วย แต่ ถ้าถ่ายน้ำ�มันเกียร์ธรรมดาก็ไขน็อตด้านล่างและทำ�ได้เลย การสังเกต อาการว่าสมควรล้างหรือยังก็มีหลักการเดียกันกับน้ำ�มันเครื่องครับ ถ้าได้ลองเปลี่ยนถ่ายน้ำ�มันแล้วให้ดูว่าน้ำ�มันดำ�เกินไปหรือไม่ ถ้าสีดำ�ข้น-เหนียว-และมีเศษผงติดมาล่ะก็สมควรล้างทันทีครับ ซึ่งข่าวดีก็คือ รถยนต์ Toyota ทุกรุ่นสามารถล้างเกียร์ได้ง่าย เพราะการออกแบบมา ให้เป็นมิตรกับผู้ใช้งานจริงๆ
“ก็ได้ทราบกันไปแล้วนะครับสำ�หรับการล้างเกียร์ ออโต้เมติก ว่าเราสามารถจัดการได้อย่างไรด้วยตัว เอง การล้างเกียร์บางคนมองข้ามไปโดยที่ไม่ทราบ ว่าต้องล้างด้วยหรือเปล่า ส่วนมากเน้นไปที่ การถ่ายน้ำ�มันเครื่องอย่างเดียว แต่ถ้าเราได้ลอง ดูแลรักษาทุกส่วนด้วยตัวเอง ก็จะได้ชื่อว่าเป็นคนรักรถตัวจริงครับ”
Tip & Technique หน้าร้อนนี้ดูแลหม้อน้ำ�กันยังไง ตอน 1
“จริงๆ การดูแลรักษาหม้อน้ำ�ก็ต้องดูกันตลอดการ ใช้งานแหล่ะครับ แต่เผอิญ…หน้าร้อนบ้านเรามันไม่ปกติเสีย ด้วย บางวันพุ่งถึง 38 องศา ( จากเฉลี่ย 31 ) ทำ�ให้นาย ทีต้องยกเรื่องหม้อน้ำ�ในหน้าร้อนขึ้นมาเพื่อเตือนใจเพื่อนๆ เป็นพิเศษครับ”
..........
หม้อน้ำ�เป็นตัวระบายความร้อนในการทำ�งานรถยนต์ การ ระบายความร้อนรถยนต์โดยทั่วไปจะใช้น้ำ�เป็นตัวระบายความร้อน จึงต้องมีการดูแลระดับน้ำ�ให้เหมาะสม ถ้าละเลยแล้วเครื่องยนต์ จะเกิดความร้อนสะสม ส่งผลให้รถดับๆ ติดๆ กลางถนน ไอน้ำ� พวยพุ่ง จนถึงขั้นก่อให้เกิดความเสียหายกับเครื่องยนต์ได้ครับ ถ้าหากรถขาดระดับน้ำ�ที่เหมาะสม จะมีสัญญาณเตือน บริเวณหน้าปัดของรถ ตรงใกล้ไมล์บอกความเร็ว โดยใช้ สัญลักษณ์ C = Cool และ H = Hot ระดับความร้อนของ เครื่องยนต์ต้องได้รับการเติมน้ำ�ที่เหมาะสม เข็มวัดจะอยู่ระหว่าง กลางระหว่าง C กับ H ครับ แต่เมื่อขาดการดูแล ตัวเข็มจะวิ่งสูง ไปถึง H ซึ่งนั่นคือจุดเสี่ยงแล้วครับ รีบหาน้ำ�เติมโดยเร็ว
โดยน้ำ�ที่ใช้เติมในหม้อน้ำ� นายทีย้ำ�นะครับว่าสามารถใช้น้ำ� สะอาดอย่างน้ำ�ประปาได้ แต่ต้องดูให้ดีว่าไม่มีตะกอนจริงๆ และอีก ครั้งที่ต้องเตือนเลยคือห้ามเปิดฝาหม้อน้ำ�ในขณะที่เครื่องยนต์ ร้อนจัด ถ้าไม่อยากเสียโฉมนะครับ
Engine Cooling and Vechicle Heating System
ขั้นตอนการเติมหม้อน้ำ�ในรถ แบ่งออกตามลักษณะของหม้อน้ำ�ได้ดังนี้
1. หม้อน้ำ�ไม่มีหม้อพักสำ�รอง กรณีนี้จะเป็นรถรุ่นเก่า จะไม่มี หม้อพักน้ำ�สำ�รอง ให้เราดูระดับน้ำ�ก็ต้องเปิดฝาหม้อน้ำ�โดยตรง และดูว่าระดับน้ำ�ในหม้อน้ำ�นั้นลดลงหรือไม่ ถ้าลดลงก็เติมหม้อ น้ำ�ให้เต็มพร้อมปิดฝาหม้อน้ำ�ได้ อย่าให้น้ำ�ล้นออกมาก หม้อแบบ นี้ต้องเปิดดูระดับน้ำ�ทุกวัน เพราะไม่มีหม้อพักสำ�รองให้ครับ
2. หม้อน้ำ�ที่มีหม้อพักสำ�รองแต่ยังมีฝาปิดหม้อน้ำ�ให้เติมอยู่ ระบบนี้ เป็นระบบใช้กับรถรุ่นใหม่ คือในส่วนของหม้อน้ำ�จะมีที่เก็บสำ�รองเป็น พลาสติกอยู่ข้างหม้อน้ำ�และมีสายต่อโยงถึงกัน ในระบบนี้ถ้าจะเติมน้ำ� ก็ต้องเติมให้หม้อน้ำ�เต็มตามระดับที่ระบุไว้ ก่อนจึงไปเติมน้ำ�ในหม้อสำ�รองได้ การเติมน้ำ�ในหม้อพักน้ำ�สำ�รองต้อง เติมตามจำ�นวนที่เหมาะสม ห้ามเกินขีดที่กำ�หนดไว้ โดยจะกำ�หนดเอาไว้ คือ Max = เติมได้เท่านี้ ห้ามเติมน้ำ�เกินระดับนี้โดยเด็ดขาด Min = จำ�นวนน้ำ�มีน้อยต้องเติมให้อยู่ในระดับ Max หม้อน้ำ�ที่มีห้องพักน้ำ�สำ�รองจะมีส่วนดี คือ น้ำ�ที่เติม ลงไปจะสูญเสียน้อย คือเมื่อได้รับความร้อนกลายเป็นไอ ก็จะ ถูกดันให้มารวมตัวเป็นหยดน้ำ�ที่หม้อพักน้ำ� และเมื่ออุณหภูมิ เครื่องเย็นลงก็จะทำ�การระบายความร้อนออกไป ถ้ารถมีหม้อ น้ำ�สำ�รองก็จะสามารถช่วยประหยัดเวลาในการดูและระดับน้ำ�ใน หม้อน้ำ�ได้ การตรวจเช็คระดับน้ำ�ไม่จำ�เป็นต้องดูแลประจำ� อาจ ตรวจเช็คได้ประมาณ 15-30 วันต่อครั้ง เมื่อระดับน้ำ�ลดลงก็ ต้องเติมน้ำ�ไปให้เหมาะสม ซึ่งคราวต่อไปนายทีจะมาต่อกันเรื่อง ของหม้อน้ำ�อีกประเภท และวิธีการถ่ายเปลี่ยนน้ำ�และเกร็ดความ เกี่ยวกับการดูแลหม้อน้ำ�ในหน้าร้อนอีกเพียบครับ
Gadget
LifeStyle Little Printer
ปริ้นเตอร์จิ๋วด้วยระบบ Cloud
“หากจะหาอุปกรณ์ Output ไว้ใช้พิมพ์งาน ซักตัวหนึ่ง ก็ไม่ต้องไปลากออกมาจากออฟฟิศ สโตร์ทั้งหลายแหล่ เพราะนั่นกำ�ลังจะหมดยุคด้วย ปริ้นเตอร์ขนาดพกพาที่สั่งงานด้วยระบบคลาวด์ Little Printer”
..........
ปริ้นเตอร์ฉบับจิ๋วตัวนี้ เป็นผลงานจาก BERG CLOUD ในประเทศอังกฤษ ที่เปิดตัวปริ้นเตอร์ขนาดจิ๋ว ที่ออกแบบใน สไตล์เรทโทร ไม่ใหม่ไม่เก่า แฝงความโมเดิร์นด้วยการส่งคำ�สั่ง ผ่านระบบ Cloud Computing ทำ�ให้สามารถพกพาเจ้าปริ้นท์ จิ๋วตัวนี้ไว้ใช้งานได้ตลอดเวลา อีกทั้งความสามารถของมันก็ใช่ย่อยนะคะ เพราะเจ้า ปริ้นเตอร์ตัวนี้สามารถพิมพ์งานขนาดกระดาษที่เล็กกว่า a4 ซึ่งสามารถพิมพ์ข่าวประจำ�วันได้อย่างสะดวก จนได้ชื่อว่า เป็น Mini Newspaper นอกจากนั้นยังพิมพ์ภาพ, ข้อความ, โน้ต และอื่นๆอีกมากมาย ออกมาในรูปแบบของกระดาษขนาด เล็ก(เท่าใบเสร็จรับเงิน) สามารถพกพาหรือเก็บใส่กระเป๋าตังได้ สบายๆเลย และแน่นอนว่าเจ้า Little Printer นั้นสามารถเชื่อม ต่อกับสมาร์ทโฟนได้แบบไร้สาย ไม่ต้องต่อสายปริ้นรุ่นปัจจุบัน อย่าง AMBM ให้วุ่นวาย
ด้วยความร่วมมือของพันธมิตรอย่าง Arup, Foursquare, Google, TheGuardian, Nike ที่เข้า มาพัฒนาแอพต่างๆ ที่ซึ่งการนอกจากจะติดตามข่าว ฟุตบอล ข่าวอากาศ รถติดฯลฯ ได้แล้ว เจ้าปริ้นเตอร์นี้ ยังสามารถใช้ความสามารถของ TheGuardian ในการ ปริ้นเกมส์โซดุคุมาเล่นได้ระหว่างรอประชุม นอกจากนั้นยังพิมพ์ To Do List ว่าวันนี้มีนัดเดท ที่ไหนบ้างเป็นการอำ�นวยความสะดวกจาก Google Task ติดตามการเช็คอินของเพื่อนๆ จาก Foursquare พิมพ์ รายละเอียดของสถาปัตยกรรมดังๆ ทั่วโลกจาก ARUP ที่ทำ�บริษัทเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งก่อสร้าง และทิ้งท้าย ด้วยความเก๋ที่สามารถสรุปการใช้พลังงานในแต่ละวันได้ จาก Nike “อ่านปุ๊ปก็เรียกได้ว่าชักคันไม้คันมืออยากจะสอย เจ้า Little Printer มาตั้งบนโต๊ะทำ�งานซักตัวแล้วสิ ด้วยความกะทัดรัดและน่ารักบวกประโยชน์ใช้สอยอีก เพียบ ทำ�ให้ BERG Cloud รีบออกจำ�หน่ายทันที หลังเปิดตัว ด้วยราคา 169£ หรือราว แปดพันกว่าบาท สั่งตรงจากอังกฤษได้ที่ http://uk-shop.bergcloud.com”
RoadTrip
LifeStyle ล่องวังเวียง ณ สปป. ลาว ตอนที่ 1
“หลังจากครั้งที่แล้วชาวเราได้บอกถึงการ เตรียมตัวในการท่องเที่ยวลาวด้วยรถส่วนตัวไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมคนและเตรียมรถ มาในครั้งนี้ คิดว่าเพื่อนๆคงจะพร้อมแล้วกับการตะลุยท่องเที่ยว สปป.ลาว ทะลุยันวังเวียงกันเลยโย่ว!”
..........
ขอย้อนกลับไปพูดถึงการเดินทางสักนิดนะคะ คือเมื่อเรา ผ่านเวียงจันทร์มาได้สัก 40 นาที ก็จะเป็นเส้นทางขึ้นเขาและโค้ง ตลอด 3 ชม.ครึ่ง จนถึงวังเวียงซึ่งเป็นเมืองที่เปรียบเสมือนที่พัก ระหว่างทางที่มีมีเสน่ห์ในแบบที่ไม่เหมือนใคร ถึงกับมีคนบอกว่าเป็น กุ้ยหลินของเมืองลาวเลยก็ว่าได้ เพราะมีหุบเขาทรงตะปูเรียงราย ซ้อนกันอยู่อย่างสวยงาม โอบล้อมด้วยแม่น้ำ�ซองคดเคี้ยวไปตาม ไหล่เขามองแล้วสวยงาม ยิ่งมาช่วงปีใหม่อากาศหนาวเย็นมันรู้สึก โรแมนติคมว้ากกค่ะ เราตื่นแต่เช้าเพื่อมาเก็บภาพ ทานอาหารเช้าและมีโปรแกรมที่ จะขับรถท่องเที่ยวในเขตวังเวียง เรามีโปรแกรมที่จะท่องเที่ยวแบบ ผจญภัยสักหน่อยก็เลยวางแผนที่จะไปถ้ำ�เจียงและบลูลากูน เหตุที่ เราเลือกที่จะไปชมวิวจากสองแห่งนี้ก็เพราะจะได้ชมวิวของเมืองวัง เวียงจากมุมสูงและได้ผจญภัยไปในตัวด้วย (เพราะทั้งสองแห่งจะ ต้องขึ้นบันไดและปีนเขาด้วย) การเดินทางไปถ้ำ�เจียงจะออกมาจาก วังเวียงประมาณ 5 นาทีเท่านั้น ใช้การเดินขึ้นบันไดประมาณ 80 กว่าขั้นก็จะพบถ้ำ�เจียงด้านบน ส่วนด้านในถ้ำ�เจียงจะมีทางออกไป จุดชมวิวซึ่งจะสามารถมองเห็นวังเวียงได้ทั้งเมืองจากจุดนี้ค่ะ
เราลงจากถ้ำ�เจียงมาก็เดินทางต่อไปบลูลากูน โดย ขับรถข้ามแม่น้ำ�ซองตรงสะพานเหล็กสีแดงเพื่อเดินทาง ไปบลูลากูนอีกประมาณ 7 กิโลเมตรเป็นทางลูกรังตลอด เส้นทาง ริมทางจะมีงานผ้าทอมือจากชาวบ้านนั่งขาย อยู่ราคาไม่แพงแต่ก็ไม่ถูกเว่อร์นะคะ แต่ได้งานทอมือแท้ๆ ซื้อเป็นของฝากก็ได้ มาถึงบลูลากูนก็จะพบ ลำ�คลอง เล็กๆ สีมรกตสมชื่อบลูลากูนจริงๆ บางครั้งก็จะเจอ ชาวต่างชาติลงเล่นน้ำ�กันอย่างสนุกสนาน เดินเข้ามาด้าน ในบลูลากูนเราจะพบทางขึ้นถ้ำ� แม้ทางขึ้นจะไม่เหมือนถ้ำ� เจียงแถมค่อนข้างจะลำ�บากกว่าเพราะไม่มีบันได ต้องใช้ การปีนแถมยังชันอยู่เหมือนกัน ในบางช่วงอาจจะต้อง ระมัดระวังสักนิดแต่ก็ไม่ยากเกินไป
วันที่สองของที่นี่และเป็นวันสุดท้ายของเราด้วยเช่นกันเพราะรุ่งขึ้นเรา ต้องเดินทางกลับเมืองไทยแต่เช้ามืด วันนี้เราจัดโปรแกรมในช่วงเช้าว่าจะหาขอ งอร่อยๆ กินพร้อมกับเดินดูของฝากไปด้วย ในครึ่งวันเช้าและเราก็ได้พบกับ บอลลูนที่ลอยผ่านเราในระยะใกล้มาก เป็นสิ่งที่แปลกตามากที่มีบอลลูนบินลอย ไปมาอยู่หลายลูกในระยะใกล้ ราคาค่าขึ้นบอลลูนก็ 2,000 บาท/คน/ชม. ถือว่า ราคาค่อนข้างสูงเราจึงขอนั่งชิลอยู่ที่หน้าห้องพักก็แล้วกัน ส่วนช่วงบ่ายนั้น เป็นไฮไลท์สำ�หรับผู้ที่มาวังเวียงเลยเลยก็ว่าได้ การล่องแม่น้ำ�ซองเป็นที่นิยมมาก ที่นี่และมีให้เลือกหลายวิธีด้วยกันไม่ว่าจะเป็นพายเรือคายัค นั่งเรือยนต์หรือนั่ง ห่วงยาง ส่วนพวกเรานั้นเลือกนั่งห่วงยางเพราะราคาไม่แพง และใช้เวลาในการ ล่องประมาณ 3-4 ชม. แล้วแต่ว่าเราไปช่วงที่น้ำ�มากหรือน้อย แนะนำ�ว่าควรจะไป ล่องเวลาประมาณบ่าย2-3โมงเพราะจะกลับมาถึงวังเวียงประมาณ 6 โมงเย็นซึ่ง แดดไม่ร้อนมาก หลังจากล่องเรือเสร็จก็อาบน้ำ�เพื่อออกไปดินเนอร์มื้อสุดท้าย ที่วังเวียงเพราะในตอนเช้าเราจะออกจากวังเวียงตั้งแต่ 7 โมง เพื่อถึงกรุงเทพ แบบไม่มืดมากค่ะ
“ชาวเราหวังว่าผู้อ่านคงจะจุใจและประทับใจจากการไปวัง เวียงพร้อมกับชาว e-Toyotaclub ไม่ยากเกินไปใช่ไหมคะ สำ�หรับผู้ที่รักในการท่องเที่ยว และต้องเอารถคันรักคันโปรด ไปเที่ยวด้วย หวังว่าวังเวียงจะมีโอกาสที่จะเป็นทริปต่อไปของ ผู้อ่านนะคะ แล้วครั้งหน้าถ้ามีทริปท่องเที่ยวด้วยรถส่วนตัว ชาวเราจะนำ�มาฝากเพื่อนๆ อีกแน่นอน!”