CarVariety รถไฟฟ้าระดับไฮเอ็น
Mercedes SLS-AMG Electric Drive
“ในที่สุดก็เผยตัวออกมาจนได้กับ ซุปเปอร์คาร์ แห่งค่ายดาวสามแฉก Mercedes Benz SLS-AMG Electric Drive กับพลังงานสะอาดไร้มลพิษที่จะมา เปลี่ยนไปตลอดกาล”
..........
Mercedes-Benz AMG ได้เปิดตัวซุปเปอร์คาร์อย่าง SLS AMG ที่เปลี่ยนความโหดและดุดันของตัวเครื่องให้ขับเคลื่อน ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ด้วยพลังแห่งขับหน้า แต่กระนั้นก็ ดี ทางค่ายได้ทำ�การปรับแต่งช่วงล่างให้สมบูรณ์แบบเหมาะสมกับ พลังงานไฟฟ้าที่จะมามีส่วนร่วมให้ AMG Electric Drive คันนี้เข้า ท้าชิงรถไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลก
มิติใหม่ของ SLS AMG คันนี้เปิดตัวด้วยสไตล์ที่บ่งบอก ถึงความหรูหรา เสริมประสบการณ์การขับขี่ให้กับรถเครื่องยนต์ ไฟฟ้าด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัวที่ประจำ�การในทุกล้อเพื่อผลิต กำ�ลังขนาด 552 กิโลวัตต์หรือราว 740 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด กว่า 1,000 นิวตันเมตร มอเตอร์แต่ละตัวรอบสูงสุดที่ 13,000 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.9 วินาที ทะลุ เพดานความเร็ว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพิ่มความโหดด้วยระบบ KERS ที่ใช้ใน F1 และ Ferrari โดย ความร่วมมือระหว่าง Mercedes-AMG และ Mercedes AMG High Performance Powertrains Ltd. โดยใช้แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน อวดศักยภาพที่ 600 โวลท์ ระบายความร้อนด้วยของเหลว สเป็ค ใกล้เคียงกับเวอร์ชั่นทดลองที่ใช้ใน E-Cell เพียงแต่เพิ่มความจุจาก 48 เป็น 60 กิโลวัตต์-ชั่วโมง น้ำ�หนักทั้งแพค 5.48 กิโลกรัม ประกอบไปด้วยเซลล์ลิเธียม-ไอออน 864 เซลล์ ซึ่งทางค่ายอ้าง ว่าเป็นแบตเตอรี่ไฟฟ้าที่ดีที่สุดในยุคนี้
ความยาวรถที่ 4,638 มม. สูง 1,262 มม. กว้าง 1,938 มม. ระยะฐานล้อ 2,679 มม. ช่วงล่างหน้าเป็นแบบปีกนก 2 ชั้น Push-rod Strut หรือแบบมีแกนเชื่อมปีกนกและสตรัทในแบบที่ใช้ใน รถสูตร 1
“มาถึงตอนนี้ก็เฉลยให้ว่า Mercedes Benz SLS-AMG Electric Drive รุ่นนี้มีราคาค่าตัวที่ 416,500 เหรียญ สหรัฐ โดยรุ่น V8 มีราคาอยู่ที่ 190,000 ปลายๆ แน่นอนว่าบรรดามหาเศรษฐีต้องควักเงินอีกหลายแสน เหรียญ (หลายสิบล้าน) เพื่อซื้อเทคโนโลยีไฮเอนจาก Mercedes Benz SLS-AMG Electric Drive คันนี้ครับ”
CarVariety Toyota Altis TRD Sportivo
สวยเฉียบ เพียง 3,200 คันเท่านั้น
“ถึงเวลาแต่งหล่อแล้ว หลังสิ้นสุดการรอ คอยกับ Toyota Altis 2013 ที่ Toyota ได้ มาแต่งองค์ทรงเครื่องเพิ่มความซิ่งด้วยชุด แต่งแท้จาก TRD Sportivo ให้แฟนๆ โตโยต้าได้ ตาลุกวาวกัน”
..........
ในวันที่ 28 ก.พ นี้ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำ�กัด ได้เปิดตัว Toyota TRD Sportivo เอาใจขาซิ่งด้วยชุดแต่งแท้ จาก TRD ซึ่งได้ใช้โตโยต้า Corolla Altis 1.8E มาจัดเต็มให้ ดูหรูหรา โฉบเฉี่ยว ได้ใจวัยหนุ่มสาว โดย TRD Sportivo นี้ได้ ปรับแต่งหมดทั้งภายในภายนอก ที่สำ�คัญจำ�กัดอยู่ที่ 3,200 คันเท่านั้นครับ โดยส่ ว นของภายนอกนั้ นตกแต่ ง ให้ ดู ใหม่ ห มดจรด ด้วยชุดแต่งที่ดูสปอร์ตมากกว่าเดิม อย่าง ชุดสเกิร์ตสไตล์ สปอร์ตดีไซน์ใหม่รอบคันพร้อมโลโก้ TRD Sportivo ไฟตัด หมอกดวงโตเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางยามค่ำ�คืน ชุดไฟหน้าที่โตโยต้ารู้ใจลูกค้าด้วยใช้ฮาโลเจนรมดำ�เพิ่มความ ดุ พร้อมไฟท้าย LED ที่ขอรมดำ�เช่นกัน
ยังไม่หมดแค่นั้นครับ เพราะด้านหลังประกอบด้วยไฟเบรก ดวงที่สาม ที่นอกจากจะสวยไม่เหมือนใครแล้วยังยกระดับความ ปลอดภัยในขณะเบรคอีกด้วย เสริมหล่อด้วยปลายท่อสแตนเลสแท้ เงางาม และจุดที่น่าสนใจที่หลายๆ คนถามหานั่นคือใน TRD Sportivo นี้ได้ใช้ล้ออัลลอย 16” ลายสปอร์ต พร้อมยางขนาด 205/55 R16 ให้หล่อกันตั้งแต่ออกจากโชว์รูม ภายในเปลี่ ย นใหม่ ย กเซ็ ท ด้ ว ยจุ ด หลั ก คื อ เบาะหนั ง สลั บ ผ้าแบบสปอร์ต เทา-ดำ� พร้อมพรมปูพื้น TRD ถัดมาเป็นพวง มาลัยซิ่ง 3 ก้านสไตล์สปอร์ตพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ไล่ มาจนถึงแผงคอนโซลและแผงข้างประตูสีเมทัลลิคและเปียโนแบล็ค เครื่องเล่น DVD/CD/MP3/WMA พร้อมหน้าจอระบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว รองรับระบบ Bluetooth ช่องเสียบ USB และรองรับ บริการพิเศษจาก smart G-BOOK ภายในเปลี่ ย นใหม่ ย กเซ็ ท ด้ ว ยจุ ด หลั ก คื อ เบาะหนั ง สลั บ ผ้ า แบบสปอร์ต เทา-ดำ� พร้อมพรมปูพื้น TRD ถัดมาเป็นพวงมาลัย ซิ่ง 3 ก้านสไตล์สปอร์ตพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ไล่มาจนถึง แผงคอนโซลและแผงข้างประตูสีเมทัลลิคและเปียโนแบล็ค เครื่องเล่น DVD/CD/MP3/WMA พร้อมหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับระบบ Bluetooth ช่องเสียบ USB และรองรับบริการพิเศษ จาก smart G-BOOK
“ซึ่งนายทีขอบอกว่าราคาไม่แรงเลยสำ�หรับชุดแต่ง แบบจัดเต็มขนาดนี้เพียง 889,000 อีกทั้งยังเป็นที่ ต้องการด้วยจำ�นวนจำ�กัดเพียง 3,200 คันเท่านั้น สัมผัส Toyota Corolla Altis TRD Sportivo ใหม่ได้แล้วก่อนใคร ที่โชว์รูมผู้แทน จำ�หน่ายโตโยต้า 364 แห่งทั่วประเทศครับ”
Tip & Technique หน้าร้อนนี้ดูแลหม้อน้ำ�กันยังไง ตอน 2
“มาต่อกันเลยนะครับสำ�หรับการดูแล หม้อน้ำ�หรือระบบหล่อเย็นในช่วงฤดูร้อนนี้ ไปชมกันเลยครับ”
..........
วิธีการเปลี่ยนน้ำ� น้ำ�ในระบบหล่อเย็นหรือในหม้อน้ำ�ของรถยนต์ควรได้รับการเปลี่ยน ถ่ายประมาณ 2-3 ครั้งต่อปี ยกเว้นในกรณีที่เป็นสนิมก็ควรเปลี่ยนถ่ายเมื่อ ตรวจพบ โดยการเปิดก๊อกหม้อน้ำ�หรือท่อยางที่ก๊อกหม้อน้ำ�ออก และควร เปิดฝาก๊อกหม้อน้ำ�ออกเพื่อน้ำ�จะถ่ายได้เร็วขึ้น หลังจากปิดก๊อกให้เติมน้ำ� สะอาดในอัตราส่วนที่บอกไว้ เทคนิคเล็กน้อยคือควรเติมน้ำ�ยากันสนิมลงไป เพื่อรักษาหม้อน้ำ�ด้วยครับ หากพบว่าท่อยางของท่อน้ำ�ชำ�รุดควรเปลี่ยนพร้อมกันไปด้วย เมื่อ เสร็จแล้วต้องลองติดเครื่องเพื่อเช็คการไหลเวียนของน้ำ�ว่าเป็นไปตามปกติ หรือไม่ ถ้าพบรอยรั่วหรือซึมควรให้ช่างทำ�การแก้ไข
พัดลมและสายพาน สายพานของพัดลมจะทำ�หน้าที่เป็นหมุนปั๊มน้ำ�และเป่าลมไปยังหม้อน้ำ� เพื่อระบายความร้อน หากสายพานขาดจะทำ�ให้พัดลมไม่หมุนและน้ำ�มีความร้อน สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ฉะนั้นจึงควรตรวจสอบสายพานอยู่เสมอ และหากพบว่า เก่าหรือชำ�รุดให้ทำ�การเปลี่ยนทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้เพราะอาจจะไปขาดกลาง ทางขณะใช้งานอยู่ก็ได้ครับ ซึ่งสายพานสำ�รองก็เป็นตัวเลือกที่ดีในการมีติดรถ ไว้ซักเส้นครับ
เทอร์โมสตัทระบบหล่อเย็น เทอร์ โ มสตั ท ทำ � หน้ า ที่ ค วบคุ ม อุ ณ หภู มิ ก ารทำ � งานของ เครื่องยนต์เป็นวาล์วหรือสวิตช์ ที่ทำ�หน้าที่เปิด-ปิดน้ำ�ไปหล่อลื่น เครื่องยนต์เมื่อมีความร้อน ถ้าเทอร์โมสตัทชำ�รุดหรือค้าง ความ ร้อนของเครื่องยนต์จะพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าความร้อนของ เครื่องยนต์อุ่นขึ้นหลังจากติดเครื่องทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมง แสดง ว่าเทอร์โมสตัทเป็นปกติ แต่ถ้าร้อนขึ้นอย่างช้าๆ แสดงว่าวาล์วเปิด ค้าง หรือไม่ตัดตามปกติ ซึ่งวงจรเทอร์โมสตัทในระบบหล่อเย็นนั้น เป็นวงจรที่ซับซ้อน ต้องนำ�รถเข้าอู่หรือศูนย์เท่านั้นครับ
ข้อควรระวังเกี่ยวกับระบบหล่อเย็น ถ้าเกจวัดความชื้นถึงขีด H หรือร้อนอย่างรวดเร็ว ต้อง รีบขับรถเข้าจอดข้างทาง อย่าฝืนขับต่อไป เพราะอาการอาจจะ หนักกว่าเก่าได้ และอย่าเปิดหม้อน้ำ�ในขณะที่เครื่องร้อน อย่าใช้น้ำ� สกปรกเติมหม้อน้ำ�เพราะอาจก่อให้เกิดอาการอุดตัน ถ้าพบว่าน้ำ� ในหม้อน้ำ�แห้งเร็วผิดปกติ ก็ควรตรวจหารอยรั่วหรืออาการรั่ว และให้ช่างรีบแก้ไขโดยด่วน และในขณะขับขี่ ให้หมั่นสังเกตเกจวัด ความร้อนอยู่เสมอขณะขับขี่ ต้องตรวจหารอยรั่วหรืออาการรั่ว และซ่อมโดยด่วนครับ
“เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ในการดูแลระบบหล่อ เย็นในช่วงฤดูทีอากาศเป็นใจให้ชำ�รุดง่าย เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานแต่ละวัน “รถของเรา”ยังไงก็ต้องดูแลกันต่อไปครับ”
Tip & Technique เรื่องเคลมรถ ที่คนขับต้องรู้
“เรื่องของอุบัติเหตุ คงไม่มีใครอยากให้ เกิดจริงๆ ยิ่งการเคลมรถยิ่งไม่มีใครอยากให้ เกิดขึ้นจริงไหมครับ แต่ไม่ต้องมีประสบการณ์ ตรง ก็สามารถรับมือเรื่องของการเคลมรถได้ จากคอลัมน์วันนี้ครับ”
..........
ก่อนอื่นนายทีขออธิบายก่อนว่า ในวงการ การเคลม มักจะมีศัพท์ที่ใช้เรียกกันง่ายๆ คือ 1. เคลมแห้ง คือการเคลมรถที่เคยเกิดเหตุมานาน แล้วแต่เจ้าของเพิ่งมาแจ้งเหตุ (สาเหตุที่เรียกกัน แบบนี้ก็เพราะว่าคงจะทิ้งไว้นานจนแผลแห้ง) เสีย หายมากเสียหายน้อยแล้วแต่เคส 2. เคลมสด คือ การเคลมรถที่เพิ่งเกิดอุบัติเหตุ สดๆ ซึ่งผู้เสียหายและคู่กรณีรออยู่ในขณะนั้น แต่ จะเสียหายมากเสียหายน้อยก็แล้วแต่เคสเช่นกัน ซึ่งในวงการธุรกิจประกันภัย มีหลายบริษัท ที่เป็นคู่แข่งมาก หลายบริษัทจึงเข้าฮุบแบรนด์รถ ดีๆ หรือดีลเลอร์ที่มียอดจำ�หน่ายสูง ซึ่งผู้บริโภค อย่างเราไม่อาจจะเลือกโดยเสรีได้เลย เพราะส่วน มากไฟแนนซ์เป็นผู้จัดสรรให้ตามโปรโมชั่นการขาย ซะส่วนมาก (กรณีนี้ไม่รวมซื้อสดนะครับ) เราจึงไม่ สามารถรู้ได้เลยว่าบริษัทประกันภัยที่เลือกให้เรานั้น ได้มาตรฐานหรือเปล่า
โดยหน้าที่ของพนักงานเคลมนั้นมีหน้าที่ตรวจสอบอุบัติเหตุ โดยเร็วที่สุด และจดบันทึกรายงานถ่ายภาพที่เกิดเหตุ ผู้เสียหาย และ คู่กรณี รวบรวมพยานหลักฐานให้มากที่สุด เพื่อเข้าแฟ้มรายงาน อุบัติเหตุ ซึ่งนั่นคือหน้าที่ในกรณีการเคลมสดแต่โดยทั่วไปแล้วปัญหา หลักๆที่มักจะเกิดกับเจ้าของรถมากที่สุดก็คือ เคลมแห้ง เพราะใน สัญญาประกันภัยได้ระบุไว้ว่า หากไม่มีคู่กรณี เพื่อนๆจะถูกเก็บค่า เงื่อนไขในกรณีไม่ทราบคู่กรณีครับ ฉะนั้นเวลารถของเพื่อนๆ เสียหายไม่ว่าจะมากหรือน้อย ก็ตาม จะต้องโทรศัพท์ไปแจ้งเหตุที่บริษัทประกันในทันที และต้องขอ หมายเลขรับแจ้งและชื่อสกุลของพนักงานรับแจ้งไว้เป็นหลักฐาน ด้วย เพราะพนักงานรับแจ้งจะช่วยแนะนำ�ท่านในสิ่งที่ต้องทำ�ต่อไป เช่นถูกชนแล้วหลบหนีไปจะต้องทำ�อย่างไรฯลฯไ สิ่งที่สำ�คัญหากขับรถชนคู่กรณีที่ไม่มีประกันภัย และรถ เราเป็นฝ่ายถูก ควรตรวจสอบกลับไปที่บริษัทประกันภัยของเรา ว่า ตามรายงานอุบัติเหตุเราเป็นฝ่ายถูกจริงหรือ เพราะถ้าเป็น ฝ่ายถูกเราควรได้รับส่วนลดประวัติดีในปีต่อไปที่ต่อประกันครับ
“ซึ่งนี้ก็เป็นหลักการปฏิบัติง่ายๆในเวลาเคลม รถครับ จริงๆแล้วการเคลมรถไม่ใช่เรื่องยาก เพราะพนักงานเคลมแทบจะจัดการให้หมดทุก อย่างรวมทั้งแนะนำ�เรื่องทีเราไม่ทราบอีกได้ แต่แน่นอนว่าไม่ต้องรอให้มีประสบการณ์ตรง ก็ควรศึกษาไว้ก่อนเป็นอันดีครับ”
Gadget
LifeStyle Google Glass
ของเล่นชิ้นเอกจากกูเกิล
“สิ้นสุดการรอคอยจริงๆ และดูเหมือนว่าจะ สยบขาเมาท์ข่าวลือ ข่าวโคมลอยต่างๆ ได้เสียทีกับ แว่นตาอัจฉริยะแห่งยุค Google Glass เปิดตัวโดย Google”
..........
Google มหาอำ�นาจแห่งวงการ Search Engine ที่แยบๆ คร่าวๆ ว่าจะเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะที่ทำ�ให้แฟนๆ Gadget ทั้ง หลายกลับไปนั่งฝันนอนฝันอยู่หลายปี ในที่สุดในงาน Google I/O ที่ผ่านมา ซึ่งไฮไลท์ของงานก็ไม่พ้น Google Glass แว่นตา อัจฉริยะที่หลายๆ คนรอคอย
ซึ่ ง นวั ต กรรมนี้ อ าจจะเป็ นก้ า วแรกในอุ ป กรณ์ สื่ อ สารที่ อยู่ในรูปแบบของแว่นตา โดยในงาน Google ได้โชว์วีดีโอความ สามารถของ Google Glass ว่ามันสามารถทำ�อะไรได้บ้าง โดย อัดวีดีโอโชว์ขณะเล่นกายกรรม ตัดไปอีกภาพขณะที่บังคับเครื่อง บินส่วนตัว อีกทั้งเล่นจักรยานวิบาก ซึ่งทำ�ให้สามารถถ่ายวีดีโอ และถ่ายภาพระหว่างปั่นจักรยานโดยที่ไม่ทำ�ให้รำ�คาญหรือลำ�บาก ในการปั่นจักรยาน, และมีการแสดงซึ่งกลุ่มพนักงานที่ทำ�งานใน Google ไปเล่น skydrive และถ่ายวีดีโอในระหว่างกระโดดร่มจาก พื้นที่สูง และกิจกรรมเจ๋งๆ อีกมายมายทั่วมุมโลก รวมทั้งฉาก เด็ดที่ฝรั่งนั่งทานผัดไทยบนเรือและพูดคำ�ว่า “อร่อย”
โดยในงานนั้น Google จะแสดงให้เห็นว่า คุณไม่จำ�เป็นต้อง เป็นคนที่มี Activities ผาดโผน ก็สามารถใช้ Google Glass ใน ชีวิตประจำ�วันได้ เช่น การถ่ายวีดีโอในวันเกิดครั้งแรกของลูกสาว ขณะเดียวกันก็เปิด Stream online ผ่าน Google+ เพื่ออวดเจ้า ตัวน้อยให้กับเพื่อนๆ การอัดเทปให้สัมภาษณ์ขณะสัมภาษณ์ พนักงานใหม่ และอื่นๆ อีกมากมายซึ่ง Google ได้เล่นในประเด็น ของการเก็บภาพความทรงจำ�ในชีวิตประจำ�วัน ผ่านแว่นตา อัจฉริยะนี้ ที่ให้ความสะดวกสบายสุดๆ นอกจากนั้ น มั น ยั ง สามารถถ่ า ยภาพนิ่ ง ได้ ม ากเท่ า ที่ ต้องการ, ระบบ Navigator นำ�ทาง, เช็คไฟลท์เครื่องบิน, สามารถ แปลภาษาได้ อีกทั้งสามารถรับคำ�สั่งได้ด้วยเสียง (ซึ่งแน่นอนว่า ต้องภาษาอังกฤษ) ซึ่งเทคโนโลยีทั้งหมดนี้ อัดแน่นรวมกันอยู่ ในเจ้าแว่นตาอัจฉริยะขนาดกระทัดรัดที่ Google ได้เปิดตัววางจะ หน่ายที่ราคา $ 1,500 แต่มีข้อกำ�หนดนิดนึงนะ คือ ผู้ที่มีสิทธิ์ ในการซื้อ จะต้องอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ เท่านั้น และจะต้องอยู่ภายใต้ เงื่อนไขการจองแว่นนี้ ตามข้อกำ�หนดของกูเกิล หลังจากนั้นใน ช่วงปี 2014 ก็จะวางจำ�หน่ายทั่วโลกแน่นอน ของการเก็บภาพ ความทรงจำ�ในชีวิตประจำ�วัน ผ่านแว่นตาอัจฉริยะนี้ ที่ให้ความ สะดวกสบายสุดๆ
FoodStuff
LifeStyle BEKKU
ฝีมือทงคัตสึจากชาวไซย่า
“ถ้าพูดถึงทงคัตสึ ทุกคนคงจะนึกถึงหมูชุด แป้งทอดสไตล์ญี่ปุ่น แต่วันนี้ชาวเราจะพาเพื่อนๆ ไปทานทงคัตสึที่ไม่เหมือนใครในโลก นั่นก็คือที่ Bekku หมูทอดทงคัตสึจากชาวไซย่าในตำ�นาน นั่นเอง”
..........
เพราะตำ�นานร้าน BEKKU เป็นที่เลื่องลือตั้งแต่อยู่ ทองหล่อ มาวันนี้ (01-3-2556) ร้านเบคคุได้ย้ายฐานทัพ มาประจำ�การที่ท้ายซอยสุขุมวิท 22 (สายน้ำ�ผึ้ง) และที่ บอกว่าเป็นหมูทอดฝีมือชาวไซย่าเพราะอะไรน่ะหรอคะ ก็ เพราะว่าเจ้าของร้านหรือคุณ BEKKU เป็นผู้สะสมหรือ เรียกว่าโอตาคุการ์ตูนเรื่อง Dragon Ball Z ชนิดว่าเข้า เส้น ซึ่งล่าสุดก็ได้ยกโมเดลโงกุนขนาดเท่าของจริงมาตั้ง ไว้หน้าร้าน ใครผ่านไปผ่านมาเป็นต้องเรียกร้านทงคัตสึ ดรากอนบอล ภายในร้านตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นแต่ทีเด็ดคือชั้น 3 ของ ร้าน นั้นเต็มไปด้วยโมเดลและฟิกเกอร์ของ Dragon Ball Z มากกว่าหนึ่งพันชิ้น นอกจากนั้นยังมีของสะสมจาก การ์ตูนเรื่อง One Piece และ อีกา อีกด้วยเรียกได้ว่าเป็น อีกแรงดึงดูดที่ทำ�ให้ร้านมีคนเข้ามาทานได้มากมายทีเดียว แต่กระนั้นก็ดีถ้าหากของไม่ดีจริง แล้ว BEKKU คง ไม่มีชื่อเสียงและอยู่มานานขนาดนี้หรอกนะคะ เพราะว่าหมู ทอดทงคัตสึที่นี่นอกจากราคาไม่แพงแล้ว(200-280) ยัง มีรสชาติที่สุโค่ยมากๆ เรียกได้ว่าคุณภาพของหมูแต่ละชิ้น ที่เสิร์ฟมานั้นไม่เคยตกมาตรฐานเลยทีเดียว
เริ่มที่ทงคัตสึทีเด็ด ที่มีทั้งสันนอก-สันใน..ต่างกันยังไงน่ะ หรอ ต่างกันตรงที่สันนอกจะเป็นเนื้อติดมัน สำ�หรับคนชอบลิ้ม รสความมันติดปลายแต่ละชิ้นจะชอบ ส่วนสันในจะถูกใจสาวๆ เพราะความนุ่มและทานง่าย ไม่ต้องใช้กรามด้านในเคี้ยวที่หนุ่มๆ ถนัด ทำ�ให้สันในครองใจสาวๆ หลายๆ คน เพราะไม่มีมัน (จะได้ไม่ อ้วนไง)
อีกจานเลยคือกุ้งทอด กุ้งตัวเบ้อเริ่มที่ชุบแป้งทอดบางๆ รับรองว่าที่ตัวใหญ่ขนาดนี้ไม่ได้เป็นเพราะแป้งแน่นอน ที่สำ�คัญ เมื่อได้บีบเลมอนและราดด้วยน้ำ�ทงคัตสึรสชาติเยี่ยมยอด แล้ว ตามด้วยข้าวสวยญี่ปุ่นร้อนๆ ไม่มีอะไรในนาทีนั้นมาเทียบได้จริงๆ ไฮไลท์มาแล้วเจ้าค่ะ ทงคัตสึราดไข่ หน้าตาชวนฝันมาก กับ ทงคัตสึรวมมิตรทั้งสันนอกสันใน ราดหน้าด้วยน้ำ�คัตสึนิและไข่ ลวกสุกขณะอยู่บนหมูทอดร้อนๆ เนื้อนุ่มตัดออกง่ายมากเพราะ ความนิ่มนวลชวนฝันของเนื้อหมูแบบนี้หาทานที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
“ถ้าอยากลิ้มรสหมูทอดทงคัตสึต้นตำ�รับพร้อม น้ำ�จิ้มทงคัตสึที่ทานแล้วจี้ดใจว่าของจริงเป็น อย่างไร ต้องมาที่นี่ที่เดียวเท่านั้น BEKKU ปัจจุบัน ทางร้านได้ย้ายจากทองหล่อมาที่สุขุมวิท 22 แล้วนะคะ (อย่าเผลอขับไปทองหล่อหล่ะเดี๋ยวจะเสีย เวลาแถมโมโหหิวอีก) เข้าปากซอยสุขุมวิท 22 มาถึงท้ายซอย มองไปด้านขวาจะเป็นโงกุนยืน จังก้าอยู่ นั่นแหล่ะใช่เลย.. ติดต่อที่ร้านได้ที่เบอร์ 02 663 0318”
พิกัด BEKKU : 13.721891,100.564642
CarVariety Toyota i-Road
เปิดตัวต้นแบบสามล้อไฟฟ้าจากโตโยต้า
“ได้ฤกษ์งามยามดีที่ได้เปิดตัว Toyota i-Road รถไฟฟ้าขับ เคลื่อนสามล้อจากโตโยต้า เรียกเสียงฮือฮาในความคล่องตัวที่ไม่ เหมือนใคร ครั้งแรกในงาน 2013 Geneva Motor Show”
..........
Toyota ได้เปิดตัว Toyota i-Road ยานยนตร์ อัจฉริยะที่จะมาเอาใจคนเมือง ด้วยคอนเซปต์ “Active Lean” 3 ล้อสุดคล่องตัวที่พร้อมโฉบเฉี่ยวไปทุกซอกซอย เน้นการลดมลพิษในอากาศ พร้อมความสะดวกสบาย เรื่องที่จอด ไม่ต้องใช้น้ำ�มัน อีกทั้งทางค่ายกล่าวว่ามีราคา ไม่แพงจนเกินไปอีกด้วย ซึ่งคอนเซปต์นี้ไม่ได้มาแบบโดดๆ นะครับ เพราะเบสที่ ใช้พัฒนา i-Road ก็มาจากรุ่นก่อนๆที่โตโยต้าเคยทำ�อย่าง i-Unit(2006), i-Real (2007) ซึ่งความยากง่ายของการ ออกแบบก็แตกต่างกันตามคอนเซปต์ โดย i-Road มาใน มาดของความโฉบเฉี่ยวกับการขับเคลื่อน 3 ล้อไม่ต่างจาก มอเตอร์ไซค์ ออกแบบมาเพื่อใช้ในเมืองโดยเฉพาะ รองรับ ผู้โดยสารได้แบบ 1+1
ภายนอกนั้นใช้สีทูโทนน้ำ�เงินตัดขาวเพื่อความทันสมัย ไฟ LED ด้านหน้าออกแบบใหม่ไม่ให้ดูแปลกตามากขึ้น ประทับ ด้ วยโลโก้ ส ามห่ วงของโตโยต้า ที่ดูเด่น สัดส่วนตัวถังยาว 2,350 มม. สูง 1,445 หน้ากว้าง 850 มม.และมีฐานล้อ อยู่ที่ 1,700 มม. โดยน้ำ�หนักสุทธิของ i-Road อยู่ที่ 300 กิโลกรัมเท่านั้น ยางที่ใช้มีขนาด 80/80 R16 และล้อหลัง 130/170 R10
ส่วนของคอนเซปต์ Active Lean ก็คือเทคโนโลยีการปรับ มุมเลี้ยวของรถที่ไม่ต้องบิดล้อไปทางซ้ายขวาเหมือนในรถยนต์ ปกติ แต่เทคโนโลยีนี้ผู้ขับขี่เพียงหมุนพวงมาลัยไป ซ้าย-ขวา Gyro-Sensor ก็จะสั่งงานไปยังระบบ Suspension ให้ยกตำ�แหน่ง ล้อขึ้น-ลงเพื่อทำ�องศาการเลี้ยวรถได้อย่างเหมาะสม ซึ่ง Active Lean เป็นอีกหนึ่งในไฮไลท์ของ i-Road ที่ทำ�ให้ประหยัดเนื้อที่ใน การขับขี่และคล่องตัวสุดๆ ไปเลยครับเรา” Zero Emission และ All Electric ยังเป็นหัวใจหลักของ i-Road โดยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 2 kW ประจำ�การอยู่ที่ด้านล้อ หน้า ทำ�ความเร็วได้สูงสุด 45 km/hr ชาร์จไฟฟ้าขนาด 220v ได้เต็มภายใน 3 ชั่วโมง และวิ่งได้ภายในระยะ 48 กิโลเมตรก่อนที่จะ ต้องทำ�การชาร์จครั้งต่อไป
“โดย Toyota i-Road ถูกจัดอยู่ในโหมดรถ PMV หรือ Personal Mobility Vehicle คันนี้ยังไม่บอก วันวางจำ�หน่ายหรือราคาแต่อย่างใด ซึ่งราคาก็ ต้องลุ้นกันครับเพราะทางค่ายกล่าวไว้ว่าราคา เป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์แน่นอน”
CarVariety Volar-e
สุดโหดในโหมด EV
“หากใครจะหายานยนต์ซักคันที่ให้ประสบการณ์การพุ่ง ทะยานด้วยความเร็ว แต่ต้องไม่ทำ�ลายสิ่งแวดล้อมแล้วล่ะก็ นายทีขอแนะนำ�ยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตตัวนี้ Volar-e ที่จะ พาคุณพุ่งไปด้วยความเร็ว 0-100 ได้ภายใน 3 วินาที เรียกได้ ว่าเป็นตัวโหดที่มาในแบบสุขุมนุ่มลึกสไตล์ Electronic-Vehicle”
..........
EV ตัวโหดนี้ ถูกเฉลยเมื่อ Appplus IDIADA สถาบันวิจัยยาน ยนต์จากโครเอเชีย ได้เปิดตัว Volar-e ผลงานชิ้นโบว์แดงที่อวดโฉมให้ หลายค่ายต้องตาค้าง เพราะความคาดไม่ถึงที่ว่าสำ�นักวิจัยเล็กๆจะผลิต รถยนต์ EV ที่มีสมรรถนะสูงแบบนี้ได การดีไซน์นี้ทำ�เพื่อมวลมนุษย์ชาติรุ่นใหม่ที่เสพติดความเร็ว แต่ ขณะเดียวกันก็ไม่อยากทำ�ลายสิ่งแวดล้อมไปมากกว่านี้ Volar-e จึง ได้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีเอกลักษณ์ภายนอกที่ปราดเปรียว ตัวถัง ผลิตจาก Carbon Fibre แชสซีแข็งแกร่งแบบ Tubular Chromoly ด้าน หน้าและฝากระโปรงบ่งบอกถึงความภาคภูมิใจของ Appplus IDIADA พร้อมด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์กินพลังงานต่ำ�แต่ให้ความสว่างสูง แถม ความเท่ห์ไม่เป็นรองใครด้วยการออกแบบด้านหน้าให้ดูดุดัน ด้วยช่อง ดักอากาศด้านข้างที่เพิ่มเสน่ห์ให้กับรถได้อย่างแยบยล
Volar-e มากับโหมด Super Quick Charger กับแบตเตอรี่ พลังงานสูงที่ว่ากันว่ามันสามารถชาร์จให้พร้อมทำ�งานได้ 100% ได้ ภายใน 15 นาทีเท่านั้น (เร็วกว่าเปลี่ยนยางอีก) พร้อมโหมดขับแบบ Eco , Dynamic , Racing และ Wet พร้อมกับระบบ Active Chassis Control System ที่รักษาเสถียรภาพการทรงและ Torque Vectoring System ระบบควบคุมแรงบิดในขณะเข้าโค้ง ซึ่งจุดเด่นเหล่านี้เองที่มา สร้างความแตกต่างให้กับ Volar-e ได้เป็นอย่างด มหาโหดกับพลังการขับเคลื่อนที่ไม่เป็นรองใคร Volar-e ขับ เคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าพลังแรงสูงที่ 800kW หรือมากกว่า 1,000 แรงม้า สามารถกระชากใครก็ตามที่ใจถึงพอไปด้วยความเร็ว 0-100 กิโลเมตร/ต่อชั่วโมง ภายใน 3.4 วินาทีเท่านั้น ควบคุมด้วย เบรกคาร์บอนเซรามิก
“เชื่อไหมครับว่ารถไฟฟ้าที่ทั้งสวย ทั้งแรงคันนี้ใช้ เวลาผลิตตั้งแต่ต้นยันจบแค่ 16 สัปดาห์เท่านั้น ก็ ถูกที่ว่า Volar-e อาจจะยังไม่ถึงเวลาที่จะออก จำ�หน่ายอย่างเป็นจริงเป็นจัง เพราะทางค่ายอยาก จะแก้ไขอีกเล็กๆน้อยๆ ก่อนจะวางจำ�หน่ายเพื่อใช้ งานในประเทศเป็นที่แรกครับ”
Tip & Technique แท้จริงแล้วเติมลมไนโตรเจน มีข้อดีข้อเสียอย่างไร
“ถ้าหากเพื่อนๆ เป็นคนหนึ่งที่ได้พอทราบ เกี ่ ย วกั บ การเติ ม ลมไนโตรเจนอยู ่ บ ้ า ง แต่ ไม่ ร ู ้ จริงๆแล้วว่ามันมีลักษณะเป็นอย่างไร วันนี้นาย ทีจะมาแถลงไขข้อสงสัยทั้งหมดเกี่ยวกับข้อดีข้อ เสียของการเติมลมไนโตรเจนครับ”
..........
3. ปกป้องกระทะล้อและยาง เพราะในการเติ มลม ไนโตรเจนทำ�ให้ในยางมีปริมาณออกซิเจนอยู่น้อย จึงทำ�ให้ โอกาสการเกิด Oxidation ที่เป็นตัวการก่อให้เกิดสนิม โดย เฉพาะในกระทะล้อนั้นน้อยลง 4. ไม่ต้องเติมลมยางบ่อยๆ เพราะอะตอมของไนโตรเจน มีขนาดโตกว่าออกซิเจนครับ ไนโตรเจนจึงไม่สามารถซึมออก จากเนื้อยางได้ง่ายเหมือนออกซิเจน จากที่เคยวัดมาคือใน 3 เดือนลมยางที่เติมไนโตรเจนจะลดลงเพียง 1 Psi ซึ่งถือว่าน้อย มากๆ ครับ
อย่างที่นายทีเคยนำ�เสนอไปแล้วเกี่ยวกับการเติมลม ไนโตรเจน แต้ข้อดีข้อเสียนั้นบางท่านยังไม่ทราบแน่ชัด นาย ทีเริ่มจากข้อดีก่อนนะครับ 1. ลดความเสี่ยงยางระเบิดครับ อย่าคิดไปเองว่า ไนโตรเจนเป็นอันตรายอาจจะทำ�ให้ยางระเบิดได้ง่าย (เพราะ ฟังจากชื่อของมัน) แต่ตรงกันข้ามเลยครับ เพราะไนโตรเจน เป็นก๊าชเฉื่อย การยึดติดกันของโมเลกุลคล้ายวุ้น ทำ�ให้ การขยับตัวเคลื่อนที่ช้า โมเลกุลเสียดสีกันน้อย ทำ�ให้ลม ภายในยางเกิดความร้อนสะสมน้อย แรงดันลมในยางจึง เปลี่ยนแปลงไม่มาก ทำ�ให้ยางมีโอกาสระเบิดน้อยกว่าลมแบบ ปกติ ล้อที่เติมไนโตรเจนแล้วยังมีความร้อนอยู่บ้าง เป็น ปกติครับ เนื่องจากยางเสียดสีกับพื้นถนน 2. นุ่มนวลกว่าเดิม เพราะก๊าชไนโตรเจนมีการยึด ติดของโมเลกุลคล้ายวุ้น ทำ�ให้เคลื่อนที่ช้า เมื่อยางกระทบ กับพื้นถนน ยางจะเคลื่อนตัวและมีความหยุ่นของตัวยาง มากขึ้น ทำ�ให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้น ลดเสียงดังของยาง ไปมาก โดยเฉพาะยางที่ร่องดอกยางห่างๆ จะเห็นผลได้ อย่างดีครับ
ข้อเสียล่ะ!
1. การเติมลมยางไนโตรเจนมีค่าใช้จ่ายสูงมาก สิบเท่าของการ เติมลมยางธรรมดา เรียกได้ว่าหลายร้อยบาทเลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับ ร้านครับ ถ้าร้านที่ใช้เครื่องมือดีๆ ราคาก็ยิ่งสูง 2. หาที่เติมยาก ถ้าเรียกได้ว่าไม่ใกล้บ้าน ก็ถือว่าลำ�บากเลยครับ เพราะจุดเติมลมไนโตรเจนถือว่าน้อยอยู่ เรียกได้ว่าน้อยกว่าปั้ม LPG ว่างั้นเถอะ 3. ร้านที่เติมอาจไม่ได้มาตรฐาน เครื่องที่ใช้ไม่สามารถแยก ออกซิเจนออกจากไนโตรเจนได้ทั้งหมด ทำ�ให้เกิดการปะปนเข้าไปในยาง ประสิทธิภาพของการเติมลมไนโตรเจนไม่ได้รับแบบเต็มอัตรา ในขณะที่ เสียค่าบริการแบบเต็มอัตราครับ
Tip & Technique ขายรถตัวเอง เริ่มต้นอย่างไร
“การขายรถยนต์คันเก่า ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ผู้ขายก็ยังจะอยากได้ราคาดี แต่ขณะเดียวกันคนซื้อหรือ เต็นท์ก็อยากได้ราคาถูก การขายรถตัวเองจะมีวิธีอย่างไร นั้น ไปกันเลยครับ”
..........
ลักษณะนิสัยคนไทยมักจะใช้รถกันเกือบเลขสองหลักถึงจะ ขาย บางคนเก็บไว้เหมือนว่าจะสะสม แต่เวลาผ่านไปสิบกว่าปีกลับ เปลี่ยนใจเอาออกมาขาย ราคาก็เลยเหลือแค่เลข 5 หลัก เรียกได้ ว่าถ้าหากตัดสินใจขายตั้งนานก็คงได้ราคาดีกว่านี้ ในขณะที่ต่าง ประเทศส่วนใหญ่ใช้รถเพื่อเป็นยานพาหนะจริงๆ แค่ 4-5 ปีก็นำ�ไป ขายต่อเผื่อซื้อคันใหม่แล้ว วิธีขายรถของนายทีก็มีอยู่ 2 อย่างครับ เหนื่อยน้อย กับเหนื่อยมาก แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็คุ้มครับ เริ่มจากเหนื่อยน้อยนั่น ก็คือขายให้เต็นท์ครับ การขายให้เต็นท์เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่ง่ายและ ประหยัดเวลาที่สุด เพราะเริ่มด้วยการเอารถไปตีราคาที่เต็นท์ เก็บ รวบรวมข้อมูลจากหลายๆ เต็นท์ จากนั้นเต็นท์ใดให้ราคาสูงสุด ก็ขายที่นั่นเลย แต่ข้อเสียก็คือเนื่องจากเต็นท์ไม่ได้เป็นผู้ใช้เอง จึง โดนกดราคาจากปกติไม่ต่ำ�กว่า 30% แน่นอน ซึ่งบางครั้งการ กลับไปขายให้เต็นท์แรกที่เสนอราคาไปก็อาจจะโดนกดราคากว่าวัน แรกที่เข้าไปให้ตีราคาด้วยซ้ำ�ครับ วิธีนี้สามารถใช้ได้ดีในกรณีร้อน เงิน เพราะสามารถขายได้วันนี้พรุ่งนี้เลยครับ
ส่วนวิธีเหนื่อยหน่อย ก็คือประกาศขายเองครับ ไม่ว่าจะทาง หนังสือพิมพ์รถ นิตยสารรถ และประกาศขายทางอินเตอร์เน็ต โดยสามารถลงได้ทั้งรูปและข้อมูลรายละเอียดรถ แต่ข้อเสียก็มีครับ เพราะกว่าจะขายได้ราคาดีๆ ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ไหนจะเจอ การผิดนัดครั้งแล้วครั้งเล่า วิธีนี้ถึงจะเสียเวลามากที่สุด แต่ก็ได้ ราคาคุ้มค่าเหนื่อยครับ การเตรียมรถไม่ว่าขายเองหรือขายเต็นท์ ก็ต้องทำ�ให้ได้ สภาพดีที่สุด นายทีไม่สนับสนุนให้ย้อมแมวนะครับ แต่ควรทำ�สภาพ ให้ดีที่สุดเท่าที่ทำ�ได้ ทำ�ความสะอาดภายในภายนอกให้เนี้ยบที่สุด สภาพสีควรส่งเข้าอู่เพี่อจัดการทำ�สีให้ใหม่ที่สุด ซึ่งคนซื้อน่าจะแฮ็ป ปี้กว่าเมื่อได้เห็นรถสภาพสวยๆ ถ้า First Impression ดี หลังจาก นั้นก็คุยกันง่ายขึ้นครับ
การเตรียมเอกสารใบโอน ใบมอบอำ�นาจ สำ�เนาบัตรประชาชน สำ�เนาทะเบียนบ้าน สมุดจดทะเบียนรถ โดยถ่ายเอกสารหน้าในของ สมุดจดทะเบียนรถมาติดรถไว้ เพื่อให้ผู้ทีสนใจซื้อดูรายละเอียดจด ทะเบียน เลขตัวถัง เลขเครื่องยนต์ ฯลฯ ว่าตรงตามจริงหรือไม่ สวนเอกสารตัวจริงทั้งหมดข้างต้นเก็บไว้ก่อน ถ้ามีการตกลงเมื่อ ไหร่ค่อยให้ผู้ซื้อรับไปครับ “เห็นไหมครับว่าหลักการขายรถต่อนั้นไม่ใช่เรื่องวุ่นวาย เลยครับ เพื่อนๆ สามารถเลือกตามความสะดวกได้ว่าอยาก เหนื่อยมากเหนื่อยน้อย หลังจากนั้นก็เตรียมเอกสารที่นายที บอกให้ครบ ที่เหลือก็ขอให้โชคดีและขายได้ราคาดีๆ นะครับ”
Gadget
LifeStyle GEN H-4
เฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว บินได้ไม่ง้อรถติด
“ใครคิ ด ว่ า รถในกรุ ง เทพติ ด ฟั ง ทางนี้ ค่ ะ เพราะนวัตกรรมดีๆ ที่จะช่วยให้หลีกหนีรถติดได้ ดั่งใจนึกมาถึงแล้ว นั่นคือเฮลิคอปเตอร์ขนาดจิ๋ว GEN H-4 นั่นเอง”
..........
คอนเซปต์ดีๆ นี้เกิดในประเทศญี่ปุ่น ที่ซึ่งมีอัตรา ประชากรคับแคบ ซึ่งเรื่องที่จอดรถในเมืองแทบไม่ต้อง ห่วงเลย หายากแน่นอน ซึ่งความจำ�กัดนี้เองทำ�ให้ Mr. Gennai Yanagisawa ชาวญี่ปุ่นได้คิดเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเล็กขึ้นมาเพื่อใช้งานเอง จนเป็นที่โด่งดังในขณะนี้ จนได้รับทาบทามจาก Guinness World Record ว่า เป็นเฮลิคอปเตอร์แบบ Co-Axial ที่เล็กที่สุดในโลก ซึ่ง สะดวกในการพกพาติดรถไว้อย่างมาก เพราะเฮลิคอปเตอร์ของนาย Gennai ทำ�ให้ นึกถึงเฮลิคอปเตอร์ไม้ไผ่ของโดเรม่อนอย่างไงอย่าง นั้น เพราะว่าขนาดที่เล็ก พกพากะทัดรัด แถมน้ำ� หนักรวมของเจ้าเฮลิคอปเตอร์นี้มีน้ำ�หนักรวมที่ 75 กิโลกรัมเท่านั้น ด้วยความเบาระดับนี้เพราะว่าวัสดุทำ� จาก Aluminium Pipe ออกแบบให้มีขนาดเล็กที่สุด จึงทำ�การตัดส่วนหางของเครื่องเฮลิคอปเตอร์ออก ไป ทำ�ให้การควบคุมทิศทางเป็นไปอย่างยากลำ�บาก กระนั้นก็ดี GEN H-4 แก้ไขปัญหานี้ด้วยการออกแบบ ใบพัดคู่ 2 ชั้นความยาว 3.9 เมตรที่ทำ�งานสวนทาง กันนั่นเองค่ะ
เครื่องยนต์ของมันเครื่องบล็อคอลูมิเนียม Four Twin Cylinder ส่งกำ�ลังให้ใบพัดอย่างละเครื่อง รวม ทั้งหมด 125 CC รีดกำ�ลังพาขึ้นสู่ท้องฟ้าที่ 40 แรงม้า ทำ�ความเร็วได้ที่ 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้ระบบ Engine Push Start เหมือนในรถยนต์ทั่วไป โดยเห็นบอบบางอย่างนี้ GEN H-4 สามารถรับน้ำ�หนักคนขับได้ถึง 150 กิโลกรัมเชียวนะ ระบบความปลอดภัยก็สำ�คัญไม่เป็นรองใคร เพราะ สามารถควบคุมความสูงจากพื้นดินได้ นั่นหมายความว่า สามารถบินในระดับ 3-5 เมตรได้สบาย พร้อมถุงลมนิรภัย และโครงสร้างแบบพับได้ที่ซับการกระแทกหากเกิดการเสีย การควบคุม
“โดย GEN H-4 นี้ได้เปิดจำ�หน่าย 100 ตัวแรก ซึ่งก็จำ�กัดการจำ�หน่ายในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น และถึงว่าจะซื้อก็ไม่สามารถหิ้วออกนอกประเทศได้ ซึ่งแน่นอนว่าทางบริษัทเป็นกังวลเรื่องการละเมิด ลิขสิทธิ์อย่างมาก ใครอยากจะลองบินระยะสั้นๆ ไม่สูงมากก็คงต้องไปลองขับกันถึงประเทศญี่ปุ่น โดย GEN H-4 สนนราคาค่านวัตกรรม อยู่ไม่มากไม่มายที่ 59,500$ เท่านั้นเองค่ะ”
RoadTrip
LifeStyle พิพิธภัณฑ์ Super Hero แห่งเดียวในไทย BATCAT
“ซูเปอร์แมน..แบทแมน..ฮีแมน..วันเดอร์วูแมน..จะทำ� ยังไงละ..จะมีใครละ..จะดูแลเธอ เปิดตัวกันด้วยเพลงบอก อายุของแร็พเตอร์กันแบบนี้ ไม่ต้องงงนะคะ เพราะว่า วันนี้จะพาเพื่อนๆไปลำ�ลึกความหลังกับสถานที่รวบรวม โมเดลซุปเปอร์ฮีโร่ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย BATCAT”
..........
BATCAT Museum & Toys Thailand แหล่งท่อง เที่ยวที่ใหม่ ที่จะพาแฟนๆ ผู้คลั่งไคล้ซุปเปอร์ฮีโร่ ได้ชม โมเดลและฟิกเกอร์ แบทแมนและผองเพื่อนจากภาพยนตร์ หลายเรื่องที่ทุกคนรู้จักกันดี รวมเบ็ดเสร็จแล้วก็มากกว่า 50,000 ชิ้น ว้าววว!!! โปรเจคย้อนเวลามหาอลังการนี้ เป็นผลงานการ สะสมของคุณ สมชาย นิติมงคลขัย ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักสะสม ของเล่นแบทแมนอันดับ 1 ในเอเชีย ชนิดที่ว่าพี่ยุ่นยังต้อง ชิดซ้าย ซึ่งบอกตรงๆ เลยว่าไม่ใช่ว่ามีเงินก็จะเหมาซื้อได้ หมดนะคะ เพราะกว่าจะสะสมได้ขนาดนี้ คุณสมชายต้องใช้ เวลานานกว่า 10 ปีในการสะสมของเล่นแบทแมนและผอง เพื่อนครบทุกคอลเลคชั่น จากทุกประเทศทั่วทุกมุมโลก BATCAT Museum & Toys Thailand ได้ฝ่าวิกฤติ น้ำ�ท่วมเปิดตัวในเดือนมกราคม 2012 พิกัดที่ตั้งเรียกได้ ว่าเอาใจคุณหนูๆ สุดๆ เพราะอยู่ที่บริเวณแยกลำ�สาลี ใกล้ เดอะมอลบางกะปิ ทำ�ให้การเดินทางมาที่ BATCAT ไม่ใช่ เรื่องยากจนเกินไป แถมที่จอดรถเพียบ ซึ่งทางพิพิธภัณฑ์ ก็ยังเสริมจุดเด่นให้ที่จอดรถด้วยกราฟฟิตี้ลายแบทแมน และซุปเปอร์ฮีโร่ต่างๆ ทำ�ให้ชาวเราประทับใจตั้งแต่ยังไม่ เข้าเลย
ด้านในเป็นส่วนต้อนรับและจำ�หน่ายบัตร พร้อม ฉายภาพยนตร์การ์ตูนจาก DC & MARVEL สลับกันไป ทั้งวัน ซึ่งค่าเข้าชมที่นี่ก็แสนถูก ผู้ใหญ่ 100 เด็กน้อย 60 บาท หลังจากซื้อบัตรแล้วเราก็จะเข้าไปสู่ตัวพิพิธภัณฑ์ที่ ด้านใน ซึ่งด้านในจะแบ่งออกเป็น 10 โซนตั้งแต่ A-J ซึ่งด้านในตั้งแต่จุดแรกทีเข้าชมก็จะพบกับโมเดล จากการ์ตูนดังจากทั่วมุมโลก ไม่ว่าจะเป็น มดแดง อุล ตราแมน ดรากอนบอล ซุปเปอร์แมน แบทแมน ฮีแมน ฯ ฟิกเกอร์จากหนังดังหลายเรื่องเช่น คนเหล็ก เฮลล์ บอย เรียกได้ว่ามาทุกสัดส่วนตั้งแต่ 1:4 จนถึงสัดส่วน ใหญ่เบิ้มแบบ 1:1 เดินกันเพลินๆ แล้วจะพาไปชมไฮไลท์ที่นี่นั่นคือ “โซนถ้ำ�ค้างคาว” ที่ นอกจากจะมีโมเดลฟิกเกอร์ของแบทแมนแล้ว ของสะสมเช่นหนังสือ ชุดหนังแท้ จากแบทแมนทุกภาค และอื่นๆ อีกเพียบรอให้เพื่อนๆ มาสัมผัสของสะสมเก่าเก็บ ที่หาดูได้ยาก ซึ่งบางชิ้นก็มีอายุมากกว่าเราๆ ท่านๆ เสียอีก
“ที่พิพิธภัณฑ์ BATCAT เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดใหม่ แต่เก๋า เรื่องของสะสมและประวัติศาสตร์ของเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ สนใจพาน้องๆ หนูๆ แวะไปชมได้ทุกวัน (ปิดวันจันทร์) เวลา 09.00-18.00 สามารถติดต่อ สอบถามได้ที่ 02-375-9006” พิกัด BATCAT : 13.762833,100.645452