DECEMBER ISSUE 23
CarVariety • EVA e-Taxi งอไฟ ไมงอแกส • แจงเกิดแลว MEA EV Charging Station สถานีชารจไฟฟาแหงแรกในประเทศไทย
Tip�&�Technique
• อาการอยางนี้รูเลย “หัวฉีดมีปญหา” • กวาจะมาเปน “น้ำมันรถยนต” ตอน 1
LifeStyle • Knightscope หุนยนตรักษาความปลอดภัย • Checkmate ที่แฮงคเอาทแหงใหมยานเจริญกรุง • ลานความสุขที่ พิพิธภัณฑลานของเลน
CarVariety EVA e-Taxi
ง้อไฟ ไม่ง้อแก๊ส
“ข่าวดีของชาวเมืองที่โบกแท็กซี่บ่อยๆ ก็ เพราะว่ า ที่ ป ระเทศสิ ง คโปร์ ไ ด้ เ ปิ ด ตั ว แท็ ก ซี่ พลังงานไฟฟ้า ที่จะปฏิวัติวงการรถแท็กซี่ที่ไม่ ต้องพึ่งแก๊สอีกต่อไป ด้วย EVA Taxi”
..........
TUM CREATE ทีมงานวิจัยและพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ สิ ง คโปร์ ได้ ร ่ ว มทุ น ระหว่ า งมหาวิ ท ยาลั ย เทคโนโลยี น านยาง พัฒนารถแท็กซี่ไฟฟ้าต้นแบบของโครงการ และตั้งชื่อเก๋ๆ ว่า EVA โดยมีจุดมุ่งหมายให้เป็นรถแท็กซี่พลังงานไฟฟ้าคันแรกของ โลกหรือเรียกเล่นๆ ว่า e-Taxi
โปรเจคนีไ้ ด้ทมี สนับสนุนจากวิศวกร 120 คนและนักออกแบบ จาก 20 ประเทศทัว่ โลก EVA เป็นรถยนต์ไฟฟ้าทีอ่ อกแบบมาส�ำหรับ ประเทศเขตร้อน โดยพัฒนาเซลล์แบตเตอรี่ชนิดใหม่ การสร้างแบบ จ�ำลองคอมพิวเตอร์ การจ�ำลองสถานการณ์ในการใช้งานและความ ปลอดภัย ตลอดจนการออกแบบระบบการขนส่งและสถานีชาร์จใหม่ ให้ชาร์จได้เร็วขึ้น ด้วยรูปลักษณ์ดา้ นนอกไม่ได้ทำ� ให้หวือหวามากนัก เน้นบรรจุ ผู้โดยสารได้ 4 คน วัสดุตัวถังท�ำจากโพลิเมอร์คาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) มีนำ�้ หนักเบากว่ารถแท็กซีท่ วั่ ไปถึง 150 กิโลกรัมโดยไม่กระทบ กับความแข็งแรง พร้อมระบบระบายความร้อนในห้องโดยสาร ส�ำหรับประเทศเขตร้อน พร้อม Cooling Seat เบาะนั่งที่ออกแบบมา เพื่อดูดความร้อนจากร่างกาย เพื่อให้ลดการใช้ที่ไฟฟ้าเครื่องปรับ อากาศได้อีก 20% พร้อม Car Seat ส�ำหรับเด็ก 9 เดือน อีก 1 ที่
โดยทีมนักวิจัยของ TUM กล่าวว่า “มหานครส่วนใหญ่ พยายามปรับเปลี่ยนรถยนต์ส่วนบุคคลเป็นรถแท็กซี่ เพื่อบรรเทา ปัญหาการจราจรแออัด แต่การรณรงค์ใช้รถยนต์ไฟฟ้ายังท�ำได้ ยาก เนื่องจากระยะทางวิ่งจ�ำกัดและใช้เวลาชาร์จนานอาจถึง 8 ชั่วโมง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในทางธุรกิจ” TUM จึงพัฒนาจนให้ EVA เป็นต้นแบบของรถไฟฟ้าทีช่ าร์จ ได้เร็วทีส่ ดุ ในโลก โดยคุณสมบัตนิ นั้ ก็คอื แบตเตอรีล่ เิ ธียมโพลิเมอร์ 216 เซลล์ 450 โวลต์ 63 แอมป์ ทีใ่ ช้เซลล์พเิ ศษเมือ่ ยิง่ ได้รบั ความ ร้อนจะยิ่งชาร์จไฟเข้าได้อย่างรวดเร็วขึ้น โดยเทคโนโลยีการชาร์จ แบบเร่งด่วนแบบนี้ออกแบบมาเพื่อรถสาธารณะโดยเฉพาะ EVA สามารถชาร์จไฟจาก 0-100% และพร้อมใช้เดินทางได้อีก 200 กิโลเมตร ภายในเวลา 15 นาทีเท่านัน้ ในขณะทีค่ วามเร็วสูงสุดท�ำได้ 111 กิโลเมตร/ชั่วโมง
“ซึ่งปัจจุบัน EVA ก�ำลังอยู่ในช่วงพัฒนาและอุด รอยรั่วในระบบต่างๆ โดยจะลงไลน์การผลิตจริง ในช่วงปลายปี 2014 นี้”
CarVariety แจ้งเกิดแล้ว MEA EV Charging Station สถานีชาร์จไฟฟ้าแห่งแรกในประเทศไทย
“ครั้งแรกในประเทศไทยกับสถานีชาร์จ พลังงานไฟฟ้า MEA ของการไฟฟ้าแห่ง ประเทศไทยที่เปิดตัวในงาน Thailand Motor Expo 2013 ที่ผ่านมา”
..........
เป็ น ที่ ส นใจเป็ น อย่ า งมาก เพราะคนในวงการ ยานยนต์อย่างนายทีเฝ้าฝันถึงสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้า ของรถ EV ว่าบริษัทเอกชนรายไหนจะเปิดตัวเป็นครั้งแรก แต่เมื่อมีการเปิดตัวที่งาน Thailand Motor Expo 2013 ที่ผ่านมา ท�ำให้ร้องอ๋อและเล็งเห็นถึงศักยภาพของการเปิด สถานีแบบชิมลางครั้งนี้ว่าไปได้สวยแน่นอน ก็เพราะว่าเจ้าแรกที่ลุกขึ้นมาท�ำสถานีชาร์จพลังงาน ไฟฟ้ า นั่ น ก็ คื อ เจ้ า ใหญ่ อ ย่ า ง “การไฟฟ้ า นครหลวง” นั่นเอง โดยการ กฟน. ได้ใช้ชื่อเทคโนโลยีนี้ว่า Vehicle To Grid (V2G) นอกจากรถไฟฟ้าจะชาร์จไฟจากระบบไฟฟ้า แล้ว ยังสามารถ ‘จ่ายไฟคืนสู่ระบบ’ ของ กฟน. ได้ ซึ่ง ไอเดียนี้จะท�ำให้รถไฟฟ้ากลายเป็นแหล่งพลังงานส�ำรองใน ยามฉุกเฉินได้ เช่น ไฟดับหรือไฟตก โดยแนวคิดนี้ไม่ใช่ของ ใหม่ แต่เป็นกลวิธีการใช้งานแบบ 2 ทางที่ยอดเยี่ยมมาก
โดยภายในงาน นายรัตนโรจน์ ทวีสิน ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง เปิดเผย ว่ า “การไฟฟ้ า นครหลวงในฐานะผู ้ ด� ำ เนิ น ธุ ร กิ จ เกี่ ย วกั บ พลั ง งานไฟฟ้ า โดยให้ ค วาม ส�ำคัญในการพัฒนาระบบจ�ำหน่ายกระแสไฟฟ้า ให้มีความมั่นคง ตลอดจนส่งเสริมเทคโนโลยี ที่ช่วยในการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลักดันให้เกิดการใช้ งานรถยนต์ ไ ฟฟ้ า ซึ่ ง เป็ น พลั ง งานสะอาด ทั้งนี้การไฟฟ้านครหลวงได้มีการศึกษาเกี่ยว กับเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 ตราบจนปัจจุบัน ได้มีการเปิดให้บริการ สถานี ช าร์ จ รถยนต์ ไ ฟฟ้ า แล้ ว ที่ ก ารไฟฟ้ า นครหลวงส�ำนักงานใหญ่ เพลินจิต พร้อม การจัดหารถยนต์มาใช้ในกิจการรวม 20 คัน และก่ อ สร้ า งสถานี ช าร์ จ ไฟส� ำ หรั บ รถยนต์ ไฟฟ้าเพิ่มเติมอีก 10 แห่ง ตามการไฟฟ้า นครหลวงเขต ต่างๆ”
สถานี MEA นี้ใช้การรีชาร์จแบบเร็ว หรือ Quick Charge Mode ใช้ไฟแรงดัน ระดับโรงงาน 3 เฟส 400 โวลท์ กระแสไม่เกิน 100 แอมป์ จาก กฟน. มาแปลงเป็น ไฟฟ้ากระแสตรง ส่งเข้าไปเก็บยังชุดแบตเตอรี่แพคในรถยนต์ ส่วนมากใช้ระยะเวลาใน การชาร์จประมาณ 30 นาที ทว่าจะไม่นับเป็นจ�ำนวนเต็มความจุ และไม่นับเป็นการชาร์จ 1 ครั้ง เนื่องจากโหมดควิกชาร์จจะชาร์จประจุไฟฟ้าเข้าไปในแบตเตอรี่เพียง 80% จาก จ�ำนวนเต็ม ดังนั้นจ�ำนวนรอบ (หรือ Cycle) ในการชาร์จจะนับเป็น 1 ครั้งเมื่ออีก 20% ถูกเติมในการชาร์จครั้งต่อไป
“โดยสถานีแห่งแรกที่ กฟน. ได้เชิญให้รถ ev ทุกคันได้ใช้บริการฟรี นั่นก็ คือสถานี กฟน. ส�ำนักงานใหญ่เพลินจิต และมีแผนที่จะขยายเครือข่ายอีก 10 แห่งตามเขตต่างๆ ของ กฟน. ครับ”
Tip & Technique อาการอย่างนี้รู้เลย “หัวฉีดมีปัญหา”
“ปกติหัวฉีดมักไม่ค่อยสร้างปัญหาหรอกครับ แต่ก็มีโอกาสได้เหมือนกัน เมื่อพบว่าการท�ำงานของ เครื่ อ งยนต์ มี อ าการผิ ด ไปจากที่ เ คยเป็ น อาจจะ เป็นการเตือนให้รู้ว่าหัวฉีดเริ่มมีปัญหาแล้ว”
..........
หัวฉีดควรเปลี่ยนกันประมาณ 40,000 กม. หรือทุกๆ 2 ปีจะช่วยให้ เครือ่ งยนต์มสี มรรถนะเต็มที่ ลดอัตราการสิน้ เปลืองเชือ้ เพลิง และยังเป็นการ ช่วยยืดอายุการใช้งานเหล่าบรรดาชิ้นส่วนส�ำคัญๆ อย่าง Oxygen Sensor, Lamda Sensor, Catalytic Converter ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้หากเสียหายที กระเป๋าตังแฟ่บแน่นอน วันนี้เรามาดูกันครับว่าอาการอะไรบ้างที่บ่งบอกถึง การเสื่อมสภาพของหัวฉีด
ควันด�ำ ถ้าหากพบว่ามีควันด�ำออกมาทางปลายท่อ ไม่ว่าจะเป็นช่วง เดินเบาหรือเร่งก็ตาม แสดงว่าการปล่อยน�้ำมันเข้าห้องเผาไหม้มีปัญหา ส�ำหรับเครื่องเบนซินอาจอยู่ที่การท�ำงานของชุดจุดระเบิด แต่หากเป็นเครื่อง ดีเซลที่ไม่มีชุดจุดระเบิด ก็หมายความว่าตัวการอยู่ที่ระบบจ่ายน�้ำมันเชื้อเพลิง สตาร์ทติดยาก อาการสตาร์ทติดยากแม้ตัวการจะมีอยู่หลายอย่าง แต่หนึ่งในนั้นก็มีเรื่องของหัวฉีดอยู่ด้วย ถ้าหาสาเหตุในส่วนอื่นๆแล้วไม่พบ ความผิดปกติ ให้สันนิฐานมาที่หัวฉีดได้เลยครับ
เครื่องสั่น กรณีที่เครื่องยนต์มีอาการสั่น รอบตก ขณะ เครื่องยนต์อยู่ในรอบเดินเบา หากเป็นเครื่องเบ็นซินมักเล็งไปที่ตัว ISC (Idle Speed Control) หรือพวก Airflow Sensor แต่ก็อย่า ลืมนึกถึงเรื่องของหัวฉีดด้วย เครื่องยนต์ไม่มีก�ำลัง การที่หัวฉีดมีปัญหาท�ำให้การฉีดจ่าย น�้ำมันไม่ดี ไม่ถูกต้องจะท�ำให้เครื่องยนต์ไม่มีก�ำลัง และบางครั้งอาจ เดินสะดุด ซึ่งอาการสะดุดจะเป็นแบบเครื่องยนต์แรงตกในบาง จังหวะ ไม่ใช่กระตุกเพราะเครื่องยนต์ (เบนซิน) ไม่จุดระเบิด ซึ่งแบบ หลังนี้บางทีจะมีเสียงเครื่องยนต์สะดุดเป็นช่วงๆ ด้วย กินน�้ำมันมากผิดปกติ เมื่อเครื่องยนต์มีการท�ำงานด้อยลง จากการฉีดจ่ายน�้ำมันไม่ถูกต้อง ผู้ขับก็จะต้องใช้รอบเครื่องยนต์ มากขึ้น ลักษณะเช่นนี้ย่อมท�ำให้เครื่องยนต์กินน�้ำมันมากกว่าปกติ หรือหัวฉีดท�ำการฉีดปล่อยน�้ำมันมาก อัตราส่วนผสมหนาก็ใช้ น�้ำมันเปลืองเช่นกัน
“สัญญาณเตือนขึ้นบนแผงหน้าปัดก็อาจจะมาจาก ส่วนของหัวฉีดบกพร่อง เช่น แลมด้าเซ็นเซอร์มีการ ตอบสนองช้าหรือตัวแคตตาไลติคเสือ่ มสภาพ เมือ่ เป็น ดังนี้ไฟเตือนรูปเครื่องยนต์ก็จะเตือนขึ้นมา เพื่อให้ เจ้าของรถรีบน�ำรถเข้าไปรับการแก้ไขและโดยมากปัญหา “ส่วนใหญ่” ของหัวฉีดจะเป็นเรื่องความสกปรกและ การอุดตันแค่นั้นเองครับ”
Tip & Technique กว่าจะมาเป็น “น�้ำมันรถยนต์” ตอน 1
“เพือ่ นๆ รูไ้ หมครับว่า น�ำ้ มันไม่วา่ จะเป็นน�ำ้ มัน เชื้อเพลิงหรือน�้ำมันหล่อลื่นนั้นล้วนแต่มีที่มาที่ เดียวกัน นั่นก็คือน�้ำมันดิบ แต่กระบวนการนั้นจะ ต้องผ่านอะไรมาบ้างกว่าจะเป็นน�ำ้ มันทีเ่ ราๆ ท่านๆ ใช้กันทุกวันนี้ ไปดูกันครับ”
..........
อย่างที่กล่าวครับ น�้ำมันดิบ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ปิโตเลียมใช้ ส�ำหรับผลิตเชื้อเพลิงและเป็นสารหล่อลื่นเครื่องจักร แหล่งก�ำเนิด ก็คือสารประกอบของไฮโดรคาร์บอนเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ จากซากพืชซากสัตว์ที่ตายและถูกทับถมด้วยดินโคลนนานหลาย ร้อยล้านปี ไฮโดรคาร์บอนหนักนั้นจะมีสภาพเป็นของเหลวที่เรียก ว่า “น�้ำมันดิบ” น�้ำมันดิบเป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บ อน แต่ ละชนิ ดจะมี คุณสมบัติแตกต่างกันออกไป ท�ำให้ไปใช้ประโยชน์โดยตรงไม่ได้ จึง ต้องกลั่นเพื่อแยกสารต่างๆ ที่ปนอยู่ในน�้ำมันดิบออกจากกัน โดย อาศัยหลักการทีว่ า่ สารทีป่ นกันอยูใ่ นน�ำ้ มันดิบจะมีจดุ เดือดแตกต่าง กันตั้งแต่อุณหภูมิติดลบมากๆ ไปจนถึงอุณหภูมิสูงๆ หลายร้อย องศาเซลเซียส แสดงว่าสารแต่ละชนิดจะมีความสามารถในการกลาย เป็นไอได้เร็ว/ช้า แตกต่างกัน สารที่มีมวลโมเลกุลต�่ำสามารถกลาย เป็นไอได้ง่ายกว่าสารที่มีมวลโมเลกุลสูง ในการกลั่นล�ำดับส่วนนี้ น�้ำมันดิบจะถูกส่งเข้าไปในท่อเหล็ก ที่เรียงเป็นแถว และขดตัวอยู่ในเตาเผาให้ความร้อนที่อุณหภูมิสูง ประมาณ 200-450 องศาเซลเซียส ความร้อนที่จะท�ำให้สารเกือบ ทั้งหมดระเหยกลายเป็นไอพร้อมๆ กัน ไอที่ร้อนจะลอยขึ้นไปใน หอกลั่นหลังจากได้รับความเย็น จะเกิดการกลั่นตัวเป็นของเหลว บนถาดต่างๆ หลายสิบชั้นที่เรียงตัวอยู่ในหอกลั่น (Fractionating tower) การกลั่นตัวของของเหลวจะขึ้นอยู่กับช่วงจุดเดือดของ น�้ำมันแต่ละชนิด
ชัน้ บนสุดของหอกลัน่ ซึง่ มีอณ ุ หภูมติ ำ�่ สุด จะมีแก๊สปิโตรเลียม ได้แก่ แก๊สมีเทน (CH4) ที่ใช้ในโรงงานและก๊าชหุงต้ม LPG แยกตัว ออกมาชั้นล่างๆ ลงมาจะมีการควบแน่นกลายเป็นของเหลวต่างๆ จากจุดเดือดต�่ำไปหาจุดเดือดสูง และขณะทีเ่ คลือ่ นตัวขึน้ ไปนัน้ ไอน�ำ้ มันจะเย็นตัวลง และควบแน่น ไปเรื่อยๆ แต่ละส่วนของไอ น�้ำมันจะกลั่นตัวเป็นของเหลวที่ระดับ ต่างๆ ในหอกลัน่ ทัง้ นีข้ นึ้ อยูก่ บั อุณหภูมขิ องการควบแน่นทีแ่ ตกต่าง กันออกไปน�้ำมันส่วนที่เบากว่า (Lighter fractions) เช่น น�้ำมันเบนซิน (Petrol) และ พาราฟิน (Parafin) ซึ่งมีค่าอุณหภูมิของการควบแน่น ต�่ำจะกลายเป็นของเหลว ที่ห้องชั้นบนสุดของหอกลั่นและค้างตัว อยู่บนแผ่นกั้นห้องชั้นบนสุดน�้ำมันส่วนกลาง (Medium fractions) เช่น ดีเซล (Diesel) น�้ำมันแก๊ส (Gas oils) และ น�้ำมันเตา (Fuel oils) บางส่ ว นจะควบแน่ น และกลั่ น ตั ว ที่ ร ะดั บ ต่ า งๆ ตอนกลางของ หอกลั่นส่วนน�้ำมันหนัก (Heavy fractions) เช่น น�้ำมันเตา และสาร ตกค้างพวกแอสฟัลต์ จะกลั่นตัวที่ส่วนล่างสุดของหอกลั่นซึ่งมี อุณหภูมิสูงและจะถูกระบายออกไป
“กว่าจะมาเป็นน�ำ้ มันให้เราๆ ท่านๆ ได้ใช้กนั นัน้ มีขนั้ ตอนทีซ่ บั ซ้อนใช่นอ้ ย โดยหลักๆ น�ำ้ มันทีก่ ลัน่ เพือ่ น�ำมาใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ก็คือ น�้ำมัน เบนซิน น�ำ้ มันดีเซล และน�ำ้ มันเครือ่ ง โดยครัง้ หน้า นายทีจะเจาะลึกรายละเอียดที่มาที่ไปของน�้ำมันทั้ง 3 ชนิดนี้ให้เข้าใจแจ่มแจ้งกันครับผม”
Gadget
LifeStyle Knightscope
หุ่นยนต์รักษาความปลอดภัย
“nightscope ได้เปิดตัวหุ่นยนต์รักษาความ ปลอดภัย K5 กับเทคโนโลยีแห่งอนาคตทีส่ ามารถ ท�ำนายการก่ออาชญากรรมล่วงหน้าได้”
..........
หุ่นยนต์ตัวนี้มีหน้าตาคล้ายกับหุ่น R2D2 ในเรื่อง Star wars มีหน้าที่สอดส่องและเก็บข้อมูลสภาพแวดล้อม ในสถานที่สาธารณะ พร้อมส่งกลับประมวลผลผ่านทาง เซ็ น เซอร์ พร้ อ มนวั ต กรรมการประมวลผลที่ ส ามารถ คาดการณ์และป้องกันอาชญากรรม อดีตผู้บริหารฟอร์ด William Santana Li และอดีตนายต�ำรวจ Stacey Dean ร่วมมือกันก่อตั้งบริษัท Knightscope ในซิลิคอนวัลเลย์ แคลิฟอร์เนีย ได้ท�ำการเปิดตัว Knightscope K-5 หุ่นยนต์ รักษาความปลอดภัยและสอดส่องเพื่อป้องกันการเกิดเหตุ อาชญากรรมได้ เรี ย กได้ ว ่ า ไม่ มี อ ะไรเล็ ด ลอดไปจากสายตาของ Knightscope ไปได้แน่นอน เพราะระบบเซ็นเซอร์ตดิ ตัง้ กล้อง วิดโี อความละเอียดสูง สามารถจับภาพได้ 360 องศาทีบ่ นั ทึก ภาพได้รอบทิศทาง อีกทั้งกล้องที่สามารถถ่ายภาพความ ร้อนที่วัดความแตกต่างของอุณหภูมิได้วินาทีต่อวินาที โดย K-5 จะสามารถเดินตรวจตราโรงเรียน หรือบริเวณประตู ทางเข้ า โรงเรี ย น เพื่ อ สอดส่ อ งและป้ อ งกั น การก่ อ เหตุ อาชญากรรมในโรงเรียนที่เกิดขึ้นในสหรัฐเกือบทุกปี
อีกทั้งยังติดตั้งไมโครโฟนที่มีคุณภาพสูงคอยจับคลื่น เสียงอันเป็นพิรุจก่อนเกิดเหตุได้ รวมทั้งเซ็นเซอร์อินฟราเรด เรดาร์ ระบบการวัดระยะ LIDAR ที่ประมวลผลออกมาเป็นภาพ 3D, เซ็นเซอร์วัดความเร็วและระยะทาง เซ็นเซอร์คุณภาพอากาศ และเทคโนโลยีรู้จักอักษรด้วยแสง เพื่อใช้ในการสแกนสิ่งต่างๆ ที่ ต้องการ เช่น ทะเบียนรถ เป็นต้น เมื่อพบสิ่งผิดปกติแล้ว Knightscope K-5 เก็บข้อมูลและ ป้อนเข้าศูนย์ขอ้ มูลส่วนกลางเพือ่ ให้เข้าถึงข้อมูลประชากรได้แบบ Realtime ท�ำให้สามารถประเมินสถานการณ์ก่อนเกิดเหตุการณ์ และแจ้งเตือนล่วงหน้าได้อย่างทันท่วงที ในอนาคตบริษทั ยังมีแผนทีจ่ ะพัฒนาระบบจดจ�ำใบหน้า โดย สามารถระบุได้ว่าใครเป็นใคร และเคยท�ำผิดทางอาญาหรือไม่ ซึ่ง ทางบริษทั ได้กล่าวทิง้ ท้ายไว้วา่ “โปรเจคนีถ้ อื ว่าเป็นโปรเจคทีภ่ าค รัฐและเอกชนต้องช่วยกันพัฒนา เพื่อคุณภาพชีวิตและความ ปลอดภัยของประชากรทุกคนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา”
“โดย Knightscope K-5 หุ่นยนต์รักษาความ ปลอดภัยจุดเจ๋งตัวนี้ บริษทั ยังอุบรายละเอียด และ Spec เทคโนโลยีภายในไว้อกี มาก ซึง่ ในการ วางจ�ำหน่ายจริงๆ คงต้องให้ตัวเวอร์ชั่นเต็ม พัฒนาให้สมบูรณ์จึงจะเปิดให้จองในช่วงฤดู หนาวปี 2014 ค่ะ”
FoodStuff
LifeStyle Checkmate
ย่านเจริญกรุง
ที่แฮงค์เอ้าท์แห่งใหม่
“ทุกศุกร์แห่งชาติ หนุม่ สาวออฟฟิศจะมุง่ สูพ ่ นื้ ที่ แห่งความพักผ่อนหย่อนใจ และอีกหนึ่งที่เราจะแนะน�ำ ในวันนี้ คือ ร้า นอาหารฟิว ชั่นที่เหมาะกับการแฮงค์ เอ้าท์ในช่วงเย็นย�่ำที่ “Checkmate Bar & Bistro”
..........
Checkmate เป็นร้านอาหารสไตล์ Bar & Bistro ที่ ก� ำ ลั ง มาแรงในขณะนี้ ต� ำ แหน่ ง ที่ ตั้ ง ก็ เ หมาะที่ จ ะมาพบปะ สังสรรค์ตามประสาเพื่อนฝูง เพราะที่ Asiatique เป็นโลเคชั่น ที่เหมาะจะมาพักผ่อนหย่อนใจหลังเลิกงานเป็นอย่างมาก ชื่อร้านนั้นมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจมาก เพราะ เมื่ อ ก่ อ นที่ เ อเชี ย ที ค นี้ จ ะเป็ น ท่ า เรื อ ขนาดใหญ่ เวลาที่ ผู ้ โดยสารรอเรือเป็นเวลานานๆ มักจะมีกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ มักจะเล่นกันนั่นก็คือ “หมากรุก” และค�ำว่า Checkmate นั้น ก็แปลว่ารุกฆาต สัญลักษณ์เก๋ๆ อย่างม้าหมากรุกจึงได้มา เป็น Icon ของที่นี่ ภายในร้านดีไซน์ด้วยคอนเซปต์เรียบหรูดูดี ด้วยโทนสี ด�ำเท่ห์ๆ เติมแต้มแสงนวลตาจากโคมไฟระย้าเล็กน้อย เวที นักดนตรีตกแต่งด้วยธีมกระดานหมากรุกอันโดดเด่นและไม่ เหมือนใคร ภายในร้านมีอีกมุมนั่งสบายๆ นั่นคือบริเวณ เคาน์เตอร์บาร์ โซน Out door เหมาะมานั่งจิบไวน์เคล้า บรรยากาศสีสันของ Asiatique ยามค�่ำคืน
เริ่มด้วยเมนูแรกกับซาซิมิแซลมอนสลัด เมนูนี้ได้อานิสงส์ จากแซลมอนสดๆ (ชิ้นใหญ่มาก) แถมรสชาติหวานเนื้อแซลมอน จริงๆ แซลมอนนั้นถูกวางเรียงเหนือสลัดผักที่ใช้ผักออแกนิค น�้ำสลัดนี่ทีเด็ดจริงค่ะเพราะเป็นน�้ำสลัดผสมน�้ำจิ้มซีฟู้ดสุดแซ่บ อาหารที่นี่เป็นสไตล์ไทย-ฟิวชั่น ที่มีรสชาติโดดเด่นจริงๆ รวมทัง้ “สปาเก็ตตีแ้ ซลมอนไข่กงุ้ ” สปาเก็ตตีร้ สชาติไทยๆ สไตล์ ขีเ้ มา Mix ด้วยไข่กงุ้ ให้รสสัมผัสกรุบกริบ พร้อมด้วยแซลมอนอัง ไฟเนือ้ หอมหวาน เมนูฟวิ ชัน่ ไทย-อิตาลี-ญีป่ นุ่ เมนูนไี้ ม่ควรพลาด
สเต็กไก่ซอสมัสมัน่ +มันฝรัง่ มูด้ ชือ่ ก็อลังการแล้ว รสชาติ นี่อลังการกว่าค่ะ เพราะกระบวนการปรุงเสต็กไก่ชิ้นนี้ท�ำได้อย่าง แยบยลชนิดที่ว่า ซอสมัสมั่นนั้นหวานเข้าไปในเนื้อไก่ที่หมักจนนิ่ม แถมมันฝรั่งมู้ดด้านล่างก็พร้อมจะเติมเต็มรสชาติให้อาหารจานนี้ อร่อยสุดๆ ไปเลย
“ที่ Checkmate นี้ก็ขึ้นชื่อเรื่องไวน์อีกด้วย แถม เครื่องดื่มอย่างเบียร์นานาชาติก็มีไม่ขาด สนใจมา แฮงค์เอ้าท์ที่ Checkmate แนะน�ำมาช่วงเย็น เพราะ ร้านเปิดให้บริการเวลา 17.00-24.00 ติดต่อได้ที่ 02-108-4704, 081-866-0455” พิกัด Checkmate : 13.704365,100.503441
RoadTrip
LifeStyle ล้านความสุขที่ พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น
“พิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่เกิดจากแรงบันดาลใจ และความรักในการสะสมอย่างใดอย่างหนึ่ง และที่ นี่ก็เป็นแหล่งรวบรวมความหลงใหลในของเล่น เด็ก “พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น””
..........
พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น (Million Toy Museum) เป็น บ้านหลังเล็กที่มีต้นก�ำเนิดจาก รศ.เกริก ยุ้นพันธ์ ท่านคือ อาจารย์ ป ระจ� ำ สาขาวิ ช าวรรณกรรมส� ำ หรั บ เด็ ก ที่ มหาวิ ท ยาลั ย ศรี น คริ น ทรวิ โ รฒ และยั ง เป็ น นั ก วาดภาพ ประกอบ และคนท�ำหนังสือส�ำหรับเด็ก มีผลงานหนังสือภาพ จ�ำนวนมากมาย และเคยได้รับรางวัลนอมา(NOMA) จาก ประเทศญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. 2525 และแรงบันดาลใจจากการไป รับรางวัลในวันนั้นเอง ท�ำให้อาจารย์เกริกได้เริ่มเก็บสะสมของ เล่นตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ที่นี่เป็นแหล่งน้องๆ หนูๆ ได้มาแล้วอาจจะไม่อยากกลับ บ้าน เพราะที่นี่สะสมและรวบรวมของเล่นดีๆ ระดับโลกไว้ มากมาย ทั้งของเล่นที่มีอายุนับร้อยๆ ปี ไปจนถึงของเล่นยุค ปัจจุบัน ของเล่นไทยและของเล่นจากต่างประเทศ รวมถึงของ เล่นสังกะสีจ�ำนวนมาก ซึ่งยุค 50s-60s ถือเป็นยุคทองของ ของเล่นสังกะสี และของเล่นสังกะสียังเป็นของเล่นอมตะที่ไม่ว่า เด็กในยุคไหนๆ หากได้สัมผัสแล้ว รับรองว่าเล่นวางไม่ลง แน่นอน
การได้มาเยี่ยมชมที่นี่ท�ำให้เราย้อนวัยไป 20 ปี! ก็เพราะว่า เมื่อเห็นของเล่นต่างๆ แล้ว ท�ำให้เราย้อนนึกถึงวัยกระเตาะที่โลก สดใส ไม่เครียดกับเรื่องจิปาถะ เพราะของเล่นเหล่านี้ล้วนท�ำหน้าที่ ของมันได้อย่างดีเยีย่ ม นัน่ ก็คอื “มอบความสุข” แม้บางตัวมีอายุ เก่าแก่กว่าสิบปี แต่เมื่อได้หยิบได้จับดูก็มีความสุขแล้ว อย่างตุ๊กตา อันปังแมน น้องๆ หลายๆ คนอาจจะโตไม่ทนั ช่วงนัน้ แต่ภาพลางๆ ของอันปังแมนและผองเพื่อนยังอยู่ในใจเราเสมอ ภายในจะแบ่งเป็น 2 ชัน้ ชัน้ แรกเราจะได้พบกับของเล่นนานา ชนิด มีตั้งแต่ของเล่นสังกะสีจากอเมริกาไปจนถึงของเล่นฮีโร่ใน โซนญี่ปุ่น รวมทั้งจัดแสดงของเล่นไทยยุคเก่าในสมัยสุโขทัย อยุธยา และสมัยรัตนโกสินทร์ มีทั้งตุ๊กตาดินเผา กระปุก ออมสิน ดินเผา ฯลฯ และมีพวกข้าวของเครื่องใช้คนไทยยุคโบราณ ตั้งแต่ 100 ปีย้อนลงมาถึง 30 ปีที่แล้ว มีของโชว์มากมาย และมีการ จัดแสดงใส่ตู้โชว์อย่างเป็นระเบียบสวยงาม ของโบราณที่ชวนชม มีมากมาย อาทิ เครื่องเงิน ภาพพิมพ์โบราณ โปสการ์ด เป็นต้น ชั้นที่ 2 จะพบกับโมเดลซุปเปอร์ฮีโร่ขนาด 1:1 ไม่ว่าจะเป็น อุลตร้าแมน ซุปเปอร์แมน สไปเดอร์แมน พร้อมเหล่าของเล่น มากมายที่เก็บสะสมไว้ในตู้กระจก รวมทั้งของเล่นสังกะสีที่มีกลไก อันน่าทึ่งมากจนละลานตา กว่าจะใช้เวลาชมในชั้นนี้ก็เกือบร่วม ชั่วโมง เพราะเพลิดเพลินกับของเล่นต่างๆ รวมทั้งอากาศเย็นๆ ของตัวอาคารที่โปร่งโล่งสบายท�ำให้รู้สึกไม่อยากจากชั้นนี้ไปเลย “นอกจากนั้นด้านนอกยังมีสวนร่มรื่นให้ได้พักผ่อน พร้อมเอนหลังสบายๆอ่านหนังสือที่ทางพิพิธภัณฑ์มี จ�ำหน่ายได้ที่ม้าโยกด้านในสวน ส่วนการเดินทางมาที่ พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น นั้นมาไม่ยากเลยค่ะ เมื่อมาถึง เกาะเมืองอยุธยา วิ่งรอบคูเมืองไปตามถนนอู่ทองจาก นั้นวิ่งตรงไปเรื่อยผ่านแยกประตูชัย พิพิธภัณฑ์ล้าน ของเล่นเกริกยุน้ พันธ์ จะโดดเด่นอยูบ่ ริเวณสามแยก อยู่ ตรงมุมถนนเลยค่ะ“ โดยทีน่ เี่ ปิดให้บริการวัน อังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 ติดต่อได้ที่ 035-328-949-50 พิกัด พิพิธภัณฑ์ : 14.359994,100.553033