DECEMBER ISSUE 11
CarVariety • 2013 Lexus ES300h เดินหนาไฮบริดเต็มกำลัง • Toyota Tundra Ultimate Fishing เทคโนโลยีลองหนกับยานยนต
Tip�&�Technique • ทั้งหลอทั้งแรงดวย Intercooler
• การเลือกใชน้ำมันเครื่องในรถแตละประเภท (ตอน 1)
LifeStyle • Nike Fuel Band+ เทรนเนอรสวนตัวสำหรับคนชอบออกกำลังกาย • Flow House Bangkok โตคลื่นสุดมันสใจกลางกรุง
CarVariety 2013 Lexus ES300h
เดินหน้าไฮบริดเต็มกำ�ลัง
“เรียกได้ว่าไม่ยอมทิ้งตำ�แหน่งรถยนต์ระดับพรี เมี่ยมที่ขายดีที่สุดในสหรัฐอเมริกากันเลยทีเดียว กับ Lexus ที่ล่าสุดได้ออกนโยบายใส่ความเป็นไฮบริดให้ กับรุ่นใหญ่ๆอย่าง ES300h ก่อนเปิดตัวอย่างสง่า ผ่าเผยในช่วงเดือนที่ผ่านมา”
..........
เพราะตั้งแต่เปิดตลาดอเมริกาในปี 1989 Lexus ก็ได้ พัฒนายานยนต์ให้เป็นที่สุดมาตลอด จนยุคปัจจุบันเทคโนโลยี ไฮบริดก็เป็นหนึ่งในอาวุธลับที่ไม่ว่าตระกูล HS, CT,RX ,GS ต่างก็มีไว้ทุกรุ่น จนล่าสุดก็ได้ส่ง ES 300h มาร่วมแจมไฮ บริดอีกรุ่น
โดย ES300h ก็ได้ใช้พื้นฐานเครื่องยนต์เดียวกับไฮบริด รุ่นอื่นๆ โดยหน้าตาการออกแบบนั้นก็ใช้ Design Language เดียวกับ Lexus ปีใหม่ๆ อย่างเช่น LF-CC หรือ LF-LC ด้วยทีเด็ด ที่กระจังหน้าเน้นความดุดันมากกว่าความสงบเงียบ ตะแกรงหัก มุมทำ�องศาแบบแรงๆ ที่กินพื้นที่ไปถึงขอบกันชนล่าง รวมไปถึง เส้นสายที่คมชัดยิ่งขึ้น รวมทั้งไฟ LED ที่ฝังตัวอยู่ด้านหน้าและ ไฟตัดหมอกกินพื้นที่ส่วนลึกทำ�ให้รถดูมีมิติมากขึ้น ก่อนจะไปถึงด้านหลังเรามาดูกันก่อนว่า ES300h คันนี้ใช้ ยางอัลลอยขนาด 17 นิ้ว ออกแบบสไตล์ unique พร้อมใช้ยาง พิเศษที่ลดแรงต้านการหมุนในขณะใช้งาน ทำ�ให้ประหยัดน้ำ�มัน เรียกได้ว่าออกแบบมาให้ eco กันสุดๆ
เสียงทุ้มที่สุขุมออกจากปลายท่อแต่กลับแผดกร้าวเมื่อ เหยียบคันเร่งพร้อมปรับสู่โหมด Sport ด้วยเครื่องยนต์อลูมิ เนียมบล็อก Atkinson-Cycle ขนาด 2.5 ลิตร จะพาคุณพุ่ง ทะยานด้วยกำ�ลังขนาด 200 แรงม้า 0-100 ได้ภายใน 8.1 วินาที ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำ�อัตราสิ้นเปลืองได้อย่างยอดเยี่ยมที่ 40mpg
“ยนตรกรรมระดับ World Class นี้ได้วาง จำ�หน่ายแล้วพร้อมกันกับแฝดอย่าง ES350 ที่ทาง Lexus ก็ไม่อยากปล่อยให้ลูกค้ารอนาน เปิดตัวปุ๊ปไม่กี่เดือนก็วางจำ�หน่ายเลย และไม่ถือว่าออกตัวแรงกันเกินไปนัก สำ�หรับตลาด USA ที่ตั้งค่าตัวเพียวๆ ไว้ที่ $38,850 เหรียญสหรัฐครับ”
ด้านบนแน่นอนอยู่แล้วว่าต้องพบกับ Glass Panoramic Moonroof ที่เพิ่มความสว่างให้ห้องโดยสารด้วยแสงธรรมชาติ ปิด ท้ายด้วยไฟท้ายโฉมใหม่ (สไตล์เดียวกับ New Camry) พร้อมกันชน หลังอวบอิ่ม และโลโก้ 300h สีฟ้าไฮบริดที่เป็นอันรู้กันว่าตัว h ด้าน หลังนั่นก็คือ Hybrid นั่นเอง ES300h เพิ่มประสบการณ์ในการขับขี่ที่เงียบขึ้น ด้วยห้อง โดยสารขนาดใหญ่หรูหราทุกรายละเอียด อาทิแผงแดชบอร์ดลายไม้ ตัดสลับหนังแท้เย็บมือ ใส่ความสุขุมด้วยนาฬิกาเข็มเพื่อลดความ เป็นดิจิตอลตามคอนเซปต์ “A Story Behind Every Surface” อีก ทั้งรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ Lexus ใส่ใจมากนั่นคือ เบาะและพวง มาลัยที่ให้ความอบอุ่นด้วย HEATED SEATS, HEATED STEERING WHEEL เป็นต้น
CarVariety Toyota Tundra Ultimate Fishing
ขวัญใจนักตกปลา
“ไม่ได้จะเกิดขึ้นบ่อยๆนะครับ สำ�หรับ Toyota ที่ ได้รับการโมดิฟายโดย TRD ที่หันมาเอาใจลูกค้าในแบบ เฉพาะกลุ่ม นั่นคือนัก Adventure ที่มีไลฟ์สไตล์ชอบ บุกตะลุยป่าเขาลำ�เนาไพร พร้อมทั้งเอาใจหนุ่มๆ ด้วย ยุทโธปกรณ์ด้านการหาปลามาให้แบบ Full option”
..........
เพราะการลุยลัดเลาะไปตามสถานที่ธรรมชาติเพื่อตกปลา เป็นเหมือน กิจกรรมหลักของชาวอเมริกัน แน่นอนว่าหนุ่มๆ ทั่วมุมโลกต่างชื่นชอบ กิจกรรมนี้ แต่การไปตกปลาแต่ละครั้ง ถ้าเอากันจริงๆ ก็มักจะแบกบ้านกัน เลยทีเดียว แต่กระนั้นจะขนอุปกรณ์ไปทั้งหมดก็คงจะใส่กระเป๋าหรือยัดใส่เป้ไม่ ไหว Toyota จึงจับ Tundra รุ่นล่าสุด มาแปลงโฉมให้เป็นรถที่เกิดมาเพื่อนัก ตกปลาโดยเฉพาะ โดยโชว์ตัวครั้งแรกที่งาน 2012 SEMA SHOW โดยโปรเจคนี้ได้ตั้งชื่อคอนเซปต์ไว้ว่า Ultimate Fishing Tundra ซึ่งเป็นการร่วมโปรเจคกับทีมแต่ง Tundra และ Britt Myers แชมป์นักตกปลามืออาชีพนั่นเอง โดยนาย Britt นี้เป็น เจ้าของค่าย CS Motorsport และได้ดัดแปลง Tundra จนคนทั่วไป ต่างขนานนามให้ว่า “Pro Bass ติดล้อ” ด้วยไฟ LED สำ�หรับ ตกปลาและระบบจัดเก็บอุปกรณ์ด้านท้ายที่เต็มเพียบไปด้วยช่อง ใส่เหยื่อชนิดต่างๆ ทั้งเหยื่อปลอมและเหยื่อจริงที่ใส่ในตู้แช่ขนาด ย่อม รวมทั้งระบบรอกไฟฟ้าจาก WARN 16K ที่ติดตั้งอยู่ ด้านหน้าพร้อมทั้งคานเหล็กที่รับน้ำ�หนักได้ร่วมตัน แผนที่ ดาวเทียมจาก Navionics Lake-Mapping จอยักษ์กลางห้อง โดยสารที่ไว้ใช้เพื่อหาปลาโดยเฉพาะ โดยห้องโดยสารหุ้มหนังโทน เหลืองดำ�นั้นก็เป็นอะไรที่ชื่นชอบสำ�หรับหนุ่มๆแนวลุยอยู่แล้ว และ ด้วยทุกการสั่งงานไม่ว่าจะเป็นกล่องใส่อุปกรณ์ หรือ อะไรก็แล้ว แต่ ต่างถูกอัพเกรดให้ใช้ระบบไฟฟ้าทั้งคัน ตัวรถนั้นถูกทำ�สีดำ�ด้านเพื่อพร้อมการลุยที่ไม่ต้องแคร์ สิ่งสกปรกมากนัก ด้วยรูฟแรคขนาดใหญ่ใส่สัมภาระได้เต็มที่ กรอบไฟหน้ารมดำ� ซุ้มล้อเขื่องของ Bushwacker และตัวรถนั้น ปิดท้ายด้วยเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.7 ลิตร บล็อก ถูกยกขึ้นราว 12” และหุ้มด้วยยางMud Grappler ขนาด 38″x อลูมิเนียม i-Force DOHC E85 FLEX FUEL 32-Valve 15.50″x 20” นิ้วของ NITTO มาด้วย พร้อมด้วย Supercharge แรงๆจาก TRD รวบม้าได้ ทั้งหมดกว่า 381 ตัว
“Ultimate Fishing Tundra ตัวนี้ได้รับ ความสนใจจากผู้คนในงานมาก เนื่องจาก สีสันและรูปร่างอันสะดุดตาขาลุย แม้ใน งานจะยังไม่บอกราคา แต่เจ้าของโปรเจ คบอกแล้วว่าขายปี 2013 แน่นอนครับ”
Tip & Technique ทั้งหล่อทั้งแรงด้วย
Intercooler
“การทำ�งานของอินเตอร์คูลเลอร์ที่ใช้ระบาย ความร้อนด้วยอากาศหรือแบบ Air To Air ที่ พบเห็นได้ทั่วไปในรถที่เป็นเครื่องยนต์เทอร์โบเกือบ ทั้งหมด มีหลักการทำ�งานและใช้อุปกรณ์ที่ง่ายและ สะดวกกว่า จึงทำ�ให้ได้รับความนิยมสูงและมากกว่า อินเตอร์แบบที่ระบายความร้อนด้วยน้ำ�”
..........
ประโยชน์ของเจ้าอินเตอร์แบบ Air to Air นี้ก็คือ เมื่อไอดีถูกอัดจากเทอร์โบของอากาศทำ�ให้เกิดความ ร้อน อากาศขยายตัวและมีปริมาณมากขึ้น เมื่อปริมาตร อากาศมีมากขึ้นแล้ว ความหนาแน่นก็จะลดลงตามไป ด้วย ตัวอินเตอร์นั้นก็จะลดความร้อนของไอดีลง เพื่อ ความหนาแน่นของอากาศที่มากขึ้นนั้นเองครับ หลั ก การทำ � งานของมั นจะอาศั ย หลั ก การทาง วิทยาศาสตร์แบบง่าย ๆ ก็คือ การพาความร้อน เมื่อ ไอดีถูกอัดมาจากเทอร์โบจะไหลมาตามท่อและวิ่งเข้าสู่ หลอดระบายความร้ อ นภายในอิ น เตอร์ คู ล เลอร์ ที่ มี ลักษณะคล้ายๆ หม้อน้ำ� กล่าวคือจะมีครีบระบายความ ร้อนด้านข้างเพื่อช่วยในการถ่ายเทความร้อน ภายใน หลอดอินเตอร์จะมีแผ่นอลูมิเนียมบาง ๆ อยู่ เพื่อช่วย เพิ่มเนื้อที่การระบายความร้อน เมื่อรถวิ่งด้วยความ เร็วสูง ลมที่ปะทะตัวอินเตอร์จะเป็นตัวช่วยพาความร้อน ออกไป ทำ�ให้อุณหภูมิของไอดีลดต่ำ�ลงและส่งผลให้ ความหนาแน่นมีมากขึ้นตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ เรื่องสสารที่เมื่อเจอความร้อนจะเกิดการขยายตัวทำ�ให้ ความหนาแน่นต่ำ�ลง แต่เมื่ออุณหภูมิลดลงนั้นก็หมาย เวลาจะเลือกซื้อ ก็ไม่ใช่เอาสวยเอาใหญ่แต่อย่างเดียว ควรเลือกให้เหมาะ ถึงผลในทางตรงกันข้าม ซึ่งจะช่วยให้การเผาไหม้เป็นไป กับขนาดเครื่องยนต์และระดับการโมดิฟายจะดีกว่า อินเตอร์คูลเลอร์เขื่องๆ ที่ อย่างรุนแรงมากขึ้น หลายคนต้องการนั้นมันก็ดีตรงที่การvระบายความร้อนจะดีกว่าขนาดเล็ก แต่ ข้อเสียก็มีเหมือนกัน ตรงที่ขนาดที่ใหญ่เกินเครื่องยนต์ทำ�ให้บูสท์มาช้า เนื่องจาก อากาศจะเข้าไปซุกตัวในอินเตอร์ค่อนข้างมาก ส่งผลให้เกิดอาการ “รอรอบ” ทำ�ให้อัตราการตอบสนองด้อยลงกว่าที่ควรจะเป็น กลายเป็นว่าทำ�ให้อืดซะงั้น… ส่วนเรื่องการเดินท่ออินเตอร์คูลเลอร์สามารถเลือกเดินได้หลายแบบ ตามการโมดิฟายและงบประมาณในกระเป๋า ซึ่งจริงๆแล้วการทำ�ท่อด้วยวัสดุใดๆ จะให้ผลที่ไม่แตกต่างกันถึงขนาดหน้ามือเป็นหลังมือ แต่ที่เห็นได้ง่ายๆ คือการ เดินท่อแบบอลูมิเนียมดัดทรายนั้นจะให้ชิ้นงานที่สวยงามและดูเรียบร้อยมากกว่า แบบเหล็กธรรมดา แน่นอนราคาต้องสูงกว่า
“แค่เลือกให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นวัสดุอลูมิเนียมหรือเหล็ก ผลที่ออกมาก็ไม่ได้ต่างกันมากลิบลับ แต่แบบขัดทรายจะดู เท่กว่าอย่างเห็นได้ชัด คราวนี้จะเลือกแบบไหนก็เลือก จัดกันได้ตามกำ�ลังทรัพย์เลยครับ”
Tip & Technique การเลือกใช้น้ำ�มันเครื่องในรถ แต่ละประเภท (ตอน 1)
“น้ำ�มันเครื่องชนิดใดเหมาะกับรถของคุณ? เพื่อนๆคงจะ ไม่สนใจคำ�ถามนี้ หากเป็นผู้ใช้รถแบบขับอย่างเดียว แต่ถ้าศึกษา จริงๆ ก็จะรู้ว่าเรื่องเครื่องยนต์ก็ไม่ยากและไม่สายที่จะทำ�ความ เข้าใจ นายทีจึงจะมาตอบหลายคำ�ถามให้เพื่อนๆ ฟังว่าน้ำ�มัน เครื่องแบบไหนเหมาะกับรถเราๆ ท่านๆ”
..........
ในขั้นต้น เครื่องยนต์แต่ละชนิดมีเทคโนโลยี และการดีไซน์ของ เครื่องยนต์ต่างกัน ดังนั้น คุณสมบัติของน้ำ�มันเครื่องที่ใช้ จึงต่างกัน อันดับแรกควรเลือกชนิดน้ำ�มันเครื่องให้เหมาะสม กับชนิดของเครื่องยนต์ เครื่องยนต์เบนซินควรเลือกใช้น้ำ�มัน ที่ออกแบบสำ�หรับเบนซินโดยเฉพาะ ได้แก่น้ำ�มันเครื่องตระกูล PERFORMA หากเป็นดีเซล ควรเลือกน้ำ�มันที่ออกแบบมา เฉพาะดีเซลอันได้แก่ตระกูล DYNAMIC ถ้าทราบ
มีตั้งหลายยี่ห้อ แล้วยี่ห้อไหนดีกว่ากัน สามารถดูได้จากมาตรฐานคุณภาพ โดยที่นิยมใช้กัน ทั่วโลกคือมาตรฐาน API (American Petroleum Institute Standard) จากอเมริกา โดยมาตรฐานสำ�หรับเครื่องยนต์ เบนซินจะกำ�กับโดย “S” เช่น API SM, API SL เป็นต้น ส่วน มาตรฐานสำ�หรับเครื่องดีเซลจะกำ�กับด้วย “C” เช่น API CF4 , API CI-4 เป็นต้น ทั้งนี้ระดับมาตรฐานจะแตกต่างกัน จะบอกถึงประสิทธิภาพของน้ำ�มันแต่ละตัวที่ใช้ในการทดสอบ โดยมาตรฐานสูงกว่าสามารถทดแทนตัวต่ำ�กว่าได้ เช่น น้ำ�มัน เครื่องมาตรฐาน API SM เทียบกับ API SL จะให้คุณสมบัติที่ ต่างกันเช่น การป้องกันสึกหรอสูงขึ้น ลดการระเหย ยืดอายุ กรองไอเสีย เป็นต้น
ความหนืด (Viscosity) ก่อนอื่นเรามาดูกันที่ความหนืด คือความข้นใสของ น้ำ�มันหล่อลื่นนั้นๆ ซึ่งความหนืดนี่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างซีเรียส โดยมีรหัสความหนืดที่กำ�หนดไว้โดยองค์กรวิศวกรรมยาน ยนต์ (SAE) จากอเมริกา โดยความหนืดจะระบุเป็นตัวเลขตาม หลังตัวอักษร เช่น SAE 10W-30 หรือ SAE 5W-40 เป็นต้น นอกจากนี้ แล้วของคุณเป็นแบบไหน?? ไม่ยากเลยครับ เพียง แค่เปิดลิ้นชักและหยิบหนังสือเล่มเล็กๆ ที่แถมมากับรถ ขึ้นมา อ่าน (หนังสือคู่มือนั่นเอง)
แสดงว่าความหนืดสูงดีกว่าความหนืดต่ำ�? ไม่จริงเสมอไปครับ ความหนืดไม่ได้เป็นตัววัดคุณภาพ น้ำ�มันเครื่องนั้นๆ มาตรฐาน API หรือ ACEA ต่างหากที่ เป็นตัวบอกคุณภาพของน้ำ�มันเครื่องที่เหมาะสมกับสภาพ เครื่องยนต์ และการใช้งานของท่าน เช่น หากรถของท่านเป็น รถใหม่ ก็ควรเลือกใช้น้ำ�มันเครื่องที่มีเบอร์ความหนืดใส จะ ช่วยในการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น เช่น SAE 10W-30 เป็นต้น แต่หากรถของท่านเป็นรถเก่า มีอาการกินน้ำ�มัน ก็ควร เลือกน้ำ�มันที่มีเบอร์ความหนืดมาขึ้น เช่น SAE 20W-50
Synthetic ดีกว่าแบบปกติหรือไม่? ได้ยนิ ในโฆษณากันบ่อยๆ Synthetic หรือน�ำ้ มันเครือ่ ง สังเคราะห์ จะมีคณ ุ สมบัตเิ หนือกว่าน้�ำ มันเครือ่ งปกติในเรือ่ ง ของความเสถียรที่อุณหภูมิสูงและไหลได้ดีที่อุณหภูมิต่ำ� เป็น ผลทำ � ให้ ช่ว ยสตาร์ทเครื่อ งได้ง่ายลดการสึกหรอจากการ สตาร์ท รวมทัง้ ป้องกันการเกิดคราบตะกอนช่วยให้เครือ่ งยนต์ สะอาดเอีย่ ม ทำ�ให้น�ำ้ มันเครือ่ งสังเคราะห์นอกจากจะมีราคาสูง กว่าน้�ำ มันเครือ่ งปกติแล้ว ประสิทธิภาพยังดีกว่าอีกด้วยครับ
“สำ�หรับเรื่องของน้ำ�มันเครื่องเป็นเรื่อง ที่มรายละเอียดเยอะ และสำ�หรับคนที่ไม่ทราบ กันมาก่อนเลยจริงๆ คงจะมีคำ�ถามอีกมาก นายทีจึงแบ่งเรื่องนี้เป็น 3 ตอนให้เพื่อนๆ ชาว e-toyotaclub ได้หาย สงกะสัยกันแน่ครับ”
Gadget
LifeStyle Nike Fuel Band+
เทรนเนอร์ส่วนตัวสำ�หรับคนชอบออกกำ�ลังกาย
“หนุ่มๆ แถวนี้คงจะชอบ ถ้าได้รู้ว่าการออก กำ�ลังกายโดยไม่ต้องไปฟิตเนส ไม่ต้องวิ่งบนลู่วิ่ง Nike Fuel Band ก็สามารถวัดการใช้พลังงาน และ monitor ระยะทางได้เหมือนกัน อีกทั้งยังเป็น เทรนเนอร์ส่วนตัวให้เราทั้งวันได้อีกด้วย”
..........
Nike Fuel Band สายรัดข้อมือไฮเทค ที่มาพร้อมคอนเซปต์ “Life Is A Sport. Make It Count.” คือนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจาก Nike ที่จะทำ�งานเป็นเหมือนเทรนเนอร์ส่วนตัว ว่าวัน นี้เราได้ใช้พลังงานไปแล้วเท่าไหร่ และยังเหลืออีก เท่าไหร่ที่ “ควร” จะต้องใช้ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ จะจูงใจให้คนไม่ค่อยได้ออกกำ�ลังกายอย่างเรา หันมาออกกำ�ลังกายมากขึ้น (เย้ๆ) Fuel Band ไม่ได้ทำ�งานเฉพาะตอนออก กำ�ลังกายเท่านั้น แต่มันจะติดตามทุกกิจกรรม ของคุณตลอดทั้งวันแบบ 24/7 ทุกการ เคลื่อนไหวของคุณจะถูกบันทึกไว้ในสายรัดข้อ มือเท่ๆ เส้นนี้ (ตราบเท่าที่ยังใส่มันอยู่) โดยผู้ ใช้สามารถกำ�หนดเป้าหมายการใช้พลังงานใน ชีวิตประจำ�วันได้ ทำ�ให้คล้ายกับมีเทรนเนอร์ ส่วนตัวคอยคุมตลอดเวลากันเลยทีเดียว
การแสดงผลก็เลิศสุดๆด้วย LED 20 ดวงที่จะบอกถึง ระยะทาง เวลา ไปถึงพลังงานที่ใช้ไปในแต่ละ Goal ที่เราเซ็ทไว้ โดยมีหน่วยเป็น Calories ไฟของสายรัดจะแสดงพลังงานที่ ใช้ไป เริ่มจากสีแดงหมายความว่าการใช้พลังงานอยู่ระดับต่ำ� เหลืองระดับกลาง และเขียวแสดงว่าคุณได้ใช้พลังงานได้สำ�เร็จ ตาม Goal ที่ได้เซ็ทไว้..วันนั้นเป็นอันปิด Job แต่..หากใกล้หมด วันแล้วระดับการใช้พลังงานยังไม่ถึงเป้าหมายแล้วล่ะก็..หึหึ Fuel Band สามารถกระตุ้นเราให้ไปใช้พลังงานด้วยข้อความ ต่างๆ เช่น Go! เป็นต้น Fuel Band สามารถส่งข้อมูลผ่าน Device ต่างๆเช่น คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน แสดงข้อมูลผ่านแอพลิเคชั่นได้ ในระบบ IOS ทุกเวอร์ชั่น ซึ่งในแอพฯนั้นสามารถดูกราฟสถิติ การใช้พลังงานประจำ�วัน สัปดาห์ เดือนไปจนถึงปีได้ อีกทั้งยัง สามารถแชร์ให้เพื่อนๆ ใน Social ได้ทราบโดยทั่วกันว่าวันนี้เรา ฟิตแค่ไหน
“Nike Fuel Band อยู่ในไลน์ผลิตของ Nike Plus ที่ จำ�หน่าย Gadget สำ�หรับคนชอบออกกำ�ลังกาย โดยเฉพาะ ซึ่ง Fuel Band ก็ได้วางจำ�หน่ายในตลาด สหรัฐอเมริกาแล้วเป็นที่เรียบร้อย พี่ไทยอย่างเราก็ ต้องนั่งรอแป๋วกันต่อไป ถ้ารอไม่ไหวก็สั่งในเว็บไซต์ได้ เลยค่ะ เพราะสนนราคาก็อยู่ที่ $149 เหรียญสหรัฐเท่านั้น สามารถติดตามได้ที่ http://www.nike.com/us/en_us/lp/nikeplusfuelband”
RoadTrip
LifeStyle Flow House Bangkok
โต้คลื่นสุดมันส์ใจกลางกรุง
“อยากเล่น Water Sports หรอ!ก็ต้องออก ไปทะเล อยากโต้คลื่นหรอ?ทะเลใกล้ๆก็ไม่มีคลื่นจะให้ โต้(แถมฝนตกก็อดเล่น) แต่วันนี้ e-toyotaclub จะ พาเพื่อนๆ ไปโต้คลื่นได้ง่ายๆ ในตัวเมืองกรุงเทพ สนุก ปลอดภัย เรียนรู้ได้เร็ว แถมร่างกายแข็งแรง ขึ้นมากๆ ค่ะ”
..........
Wow! เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกในเมืองไทยเลยก็ว่า ได้กับเครื่องเล่น Flowboarding เครื่องสร้างคลื่นขนาด Double rider ที่เปิดตัวอยู่ในใจกลางเมืองอย่าง “Flow House Bangkok” สถานที่ Hang out แห่งใหม่ที่เต็มไปด้วย วัยรุ่นทั้งไทยและต่างชาติ ได้แห่แหนมาโต้คลื่นที่เรียกได้ว่ามี ให้เล่นตลอดทั้งปีไม่เกี่ยงฤดู โดยที่ Flowboarding นี้ เป็น water sport จำ�ลองที่ มีต้นกำ�เนิดมาจากอเมริกา ผสมผสานการเล่นกีฬาประเภท บอร์ดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เซิร์ฟ, เวตบอร์ด, บอดี้บอร์ด, เวคสเก็ต, สเก็ตบอร์ด และสโนว์บอร์ดเข้าด้วยกัน โดยผู้ ที่มาเล่นที่นี่จะเรียกกันเท่ๆ ว่า Flowrider ที่ต้องโชว์ความ สามารถโดยการโต้คลื่นจำ�ลองที่สามารถผลิตคลื่นได้ด้วย ความเร็วราว 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง จากที่ทีมงานเราได้ ลองเล่นแล้ว บอกได้คำ�เดียวว่าเรียกได้ว่าแรงสะใจกันเลยที เดียว
การละเล่น เอ๊ย! การเล่น Flowboarding นี้จะต้องใช้ อุปกรณ์อยู่ 2 แบบด้วยกันคือ 1 Bodyboard บอร์ดสำ�หรับ ผู้เล่นที่ถนัดในท่านอนคว่ำ�กับบอร์ด รวมทั้งสามารถเล่นท่านั่ง ได้อีกเพียบ หรือนักโต้คลื่นตัวจริง ก็จะชอบเล่นกับ Stand up board ที่สนุกและครีเอทท่าได้หลากหลาย (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทักษะ ด้วยนะเออ) มาที่นี่ดีอยู่อย่างคือไม่ต้องว่ายน้ำ�เป็นก็สามารถสนุกกับ การโต้คลื่นได้ แถมหากเป็นพวกมือใหม่ป้ายแดงอย่างชาวเรา พี่ๆ เจ้ า หน้ าที่ก็สามารถเทรนด์ ให้ เราสามารถยื น เล่ นด้ ว ยลำ � แข้ งได้ ภายใน 1 ชั่วโมง (ซึ่งเอาจริงๆ แล้วกว่าจะรู้หลักการยืนได้นิ่งๆ นี่ ตัวแทบระบม)
“อยากลองแล้วใช่มั้ยล่ะ! Flow House Bangkok ตั้ง อยู่ในโครงการ A-Square เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 10.00-22.00 โดยก่อน 18.00 ค่าบริการอยู่ที่ 550 บาท/ชม. หลังจากนั้นจะคิดราคาที่ 650 บาท/ชม. จ่ายครั้งเดียวไม่ต้องเสียค่าเช่าบอร์ดหรืออะไรอีก ชุด ที่ใส่ก็ขาสั้นเสื้อยืดได้ตามสบาย ใครจะลงทุนซื้อชุด สำ�หรับเล่นเซิร์ฟก็จะดูโปรมาก (แต่ฝีมือไม่ฝีมือนี่อีก เรื่องนะคะ ฮ่าๆ) เอาเป็นว่าอ่านเสร็จแล้วช้าอยู่ใย เก็บเสื้อผ้าแล้วไปกันเลย Flow House Bangkok Tel. 02-108-5210”
พิกัด : 13.72025,100.567795