SEPTEMBER ISSUE 8
CarVariety • 2013 Lucra LC470 เฒาคะนองศึก • QBEAK EcoMove ขับขี่สไตลสบายอารมณ
Tip�&�Technique • 7 สิ่งที่ตองเช็คหลังหนาฝน • Lithium-Ion วาทีขวัญใจแบตเตอรี่ไฮบริด
LifeStyle • Cubify Cube สัมผัสใหมกับปริ้นเตอร 3 มิติ • หอภาพยนตร เอกลักษณของภาพยนตรไทย
CarVariety 2013 Lucra LC470
เฒ่าคะนองศึก
“อย่าประมาทความเก๋านะครับ เพราะอะไรที่เรา มองจากภายนอกนั้นอาจจะไม่จริงเสมอไป รวมทั้ง Lucra LC470 ค่ายรถอเมริกันที่ทำ�ออกมาได้เก๋า เกมส์ อีกทั้งความแรงยังแรงบาดใจด้วย 0-100 ได้ ภายในไม่ถึง 3 วินาที”
..........
Lucra ซุปเปอร์คาร์มาแรงกับเวอร์ชั่นเรโทร ที่ขอบอกว่าตอนนี้มีค่าตัวสูสีกับ Bugatti Veyron อีกทั้งประสิทธิภาพยังกินกันได้สบายๆ ทั้งๆ ที่จุด ประสงค์ของการสร้าง LC470 ตั้งแต่เริ่มเดิมทีไม่มี อะไรมากกว่าอยากให้มันเป็นรถแข่งที่วิ่งบนถนนได้ อย่างถูกกฏหมาย ภายนอกของมันออกถึงจะดูเป็นสปอร์ต ที่หลุดมาจากหนังยุค 60’ โดยเวอร์ชั่นนี้ LUCRA CARS ได้อัพเดทรูปลักษณ์เพิ่มเติม โดยไม่แตะต้อง กับโครงสร้าง จะเพิ่มเติมก็เพียง ไฟหน้าทรงรีที่ เรียวและคลาสสิคมากขึ้น DRL ได้เพิ่มขึ้นมาเพื่อใช้ งานในเมืองหมอกหนาอย่างแถบตอนเหนือของ แคนาดา ซึ่งภายนอกทั้งหมดนั้นใช้วัสดุ carbon fiber 100% ทำ�ให้น้ำ�หนักโดยรวมของ 2013 LUCRA LC470 นั้นอยู่ที่ 900 กิโลกรัม
ในส่วนของเครื่องยนต์ LC470 SC ใช้เครื่อง ของ GM LS7 V-8 ขนาด 7 ลิตร generate ม้า ได้ที่ 630 horsepower ซึ่งสัดส่วนกำ�ลังพอเหมาะ พอเจาะกับน้ำ�หนักตัว โดยใช้ระบบอัดอากาศแบบ Cold Air intake system เพื่ออัตราเร่งที่ยอดเยี่ยม มากขึ้น นอกจากนั้นยังใช้เฮดเดอร์ขนาด 1.875 นิ้วโดยท่อไอเสียทั้งระบบนั้นเคลือบโดย Ceramic coated โดยใช้เกียร์ธรรมดา 5 speed และมีอัตรา การทดเกียร์ที่ 2.59-1 ทั้งหลายทั้งปวงนี้ทำ�ให้ LC470 สามารถ ทำ�ความเร็วได้สูงสุดราว 180 ไมล์ต่อชั่วโมง พุ่ง ทะยานด้ ว ยความเร็ ว น้ อ ยกว่ า มิ ส ไซส์ เ ล็ ก น้ อ ยที่ 0-100 ได้ภายใน 2.5 วินาที ควอเตอร์ไมล์ทำ�ได้ ภายใน 9.1 วินาที(เร็วกว่า Veyron!!) ซึ่งแน่นอน ว่ า เจ้ า ของทุ ก ท่ า นที่ ซื้ อ ไปก็ ค งไม่ อ ยากซิ่ ง ด้ ว ย ความเร็วขนาดนี้ทั้งที่ยังเปิดประทุนอยู่
“ซึ่งปัจจุบัน LC470 ก็ได้รับรองโดย National Highway Traffic Safety Administration หรือ NHTSA ว่าสามารถ เอามาวิ่งบนถนนได้โดยไม่โดน Highway Police เปิดหวอไล่ ตาม โดยราคาค่าสินสอดของ LUCRA LC470 เฒ่าคะนอง ศึกตัวนี้ไม่แพงมากมายครับ ก็ราวๆ 120,000$ เหรียญ สหรัฐเท่านั้น ซึ่งถ้าจ่ายราคานี้ได้ทางบริษัทก็คงจัดออปชั่น ให้เต็มสูบแบบ euro-spec ไม่ต้องไปแต่งอะไรเพิ่ม มากกว่านี้แล้ว โดยเจอะเจอกันได้ปลายปีนี้แน่นอนครับ”
CarVariety QBEAK EcoMove
ขับขี่สไตล์สบายอารมณ์
“นอกจากเดนมาร์คจะมีซุปเปอร์คาร์ที่ดุดัน อย่าง Zenvo แล้ว วันนี้อีกหนึ่งอย่างที่กำ�ลังจะ เป็นตัวชูโรงให้ประเทศโคนมอย่างเดนมาร์คก็คือ QBeak Ecomove รถ EV ที่เน้นขับขี่สบายๆ จาก แดนโคนมครับ”
..........
QBeak เป็นผลิตผลมาจากบริษัท Eco Move บริษัทผลิตรถเล็ก(แต่ใจใหญ่) ในประเทศ เดนมาร์ก โดยเปิดตัวโปรเจคแรกนี้มีดีที่ดีไซน์ ที่ออกแบบมาให้เล็ก กะทัดรัด แต่พื้นที่ใช้สอย เพียบ เพราะเห็นเล็กๆ แบบนี้สามารถจุผู้โดยสาร ได้ถึง 6 คนแน่ะครับ ซึ่งการออกแบบของมันได้ใช้ความพลิ้ว ไหวผสมกับความเป็นโมเดิร์นในสไตล์ Flexible Design พร้อมของตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ อีกรอบ คันรถ ซึ่งสีที่ให้จากโรงงานก็ดูเหมือนจะเป็นอะไร ที่พอดิบพอดีแล้ว แต่หากไม่พอใจสามารถถอด เปลี่ยน body ภายนอกรถได้ตามใจต้องการ
ด้วยคันขนาดกะทัดรัดสไตล์ city ev car ทำ�ให้ QBEAK มีวิสัยทัศน์ที่ยอด เยี่ยม อีกทั้งขนาดที่เล็กด้วยสัดส่วน 3mx1.75mx1.63m เอื้ออำ�นวยให้สามารถ กลับรถได้อย่างคล่องตัว พร้อมประตูสไลด์ข้างที่มีข้อดีตรงที่หาที่จอดได้ไม่ ลำ�บาก หัวใจหลักของ QBEAK มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ in-wheel ที่ติดอยู่ทั้ง 4 ฝั่งขนาดรวม 70 kWh หรือราว 95 แรงม้า ส่งผลให้ทำ�ความเร็วสูงสุด แบบเงียบเชียบที่ 120 km/h พิสัยการเดินทางก็อึดใช่เล่นเพราะแบต Flexible Energy Module System ทั้ง 6 โมดูลรวม 28 kWh ทำ�ให้มันยิ่งยาวๆที่ 300 km ก่อนจะชาร์จไฟครั้งต่อไป ทั้งนี้ต้องยกนิ้วให้การออกแบบที่ทำ�น้ำ�หนักรวมได้เพียง 425 kg ถึงทำ�ให้ QBEAK วิ่งเร็วจี๋แถมยังอึดทนทายาท
“คล่องตัว ประหยัด สวยงาม ดูดีมีชาติตระกูล แถมยังจุได้ 6 คนและพื้นที่ใช้สอยที่คุ้มสุดคุ้ม นายทีต้องบอกว่า QBEAK กำ�ลังจะเป็นม้ามืดแห่ง EV ไปเลยทีเดียว เพราะทุกอย่างที่ EcoMove ออกแบบมานั้นเรียกได้ว่าตรงจุดความต้องการ ของผู้ใช้รถในยุคนี้จริงๆ ใครสนใจ QBEAK หรือกำ�ลังมอง หา EV แจ่มๆ ซักคันนายทีแนะนำ�ว่าให้ไปคอยอัพเดทการวาง จำ�หน่ายในช่วงปลายปีนี้ได้ที่ en.ecomove.dk”
Tip & Technique 7 สิ่งที่ต้องเช็คหลังหน้าฝน
“วันนี้ นายทีจะพาไปตรวจสุขภาพครับ ตรวจสุขภาพที่ว่านี้ไม่ใช่ตรวจสุขภาพประจำ�ปี นะครับ แต่เป็นการตรวจสภาพรถยนต์ที่ผ่าน ร้อนผ่านฝนมาหมาดๆ กับ 7 สิ่งที่ต้องเช็ค หลังหน้าฝนครับ”
..........
เช็คมอเตอร์สตาร์ท การตรวจไม่ยุ่งยากอะไรเลยครับ แค่การบิดสวิทซ์ สตาร์ทติดเครื่องยนต์ธรรมดาๆ เพียงแค่ให้สังเกตการณ์ ทำ�งานของไดสตาร์ท ถ้าหมุนอืดๆ ช้าๆ ช้ามากก็ใช้ไม่ได้ หรือ อย่างมีเสียงดังแชะๆ ก่อนไดสตาร์ทหมุนเร็วและฉุดให้เครื่อง ติดได้ ลักษณะนี้แสดงว่าโรคจากน้ำ�ได้ฟักตัวและกำ�เริบแล้ว คือทำ�ให้เกิดฉนวนตามหน้าสัมผัสของสะพานไฟในมอเตอร์ สตาร์ท ทำ�ให้กระแสไฟไหลผ่านได้น้อย หรือไหลผ่านไม่ได้ เลย ถ้าปิดสวิตซ์แล้วไม่มีเสียงใดๆ ทั้งสิ้น การแก้ไขกรณีนี้ ก็ให้ถอดไดสตาร์ทออกมาขัดทำ�ความสะอาด ขัดคอนแทรค ของโซฮอยล์ชุดแปลงถ่านและซี่คอมมิวเกเตอร์ด้วยกระดาษ ทรายเบอร์ไม่หยาบไม่ละเอียดจนเกินไป เมื่อสะอาดแล้วกลับใส่ ที่เดิม รับรองครับว่าถ้าแบตเตอรี่ให้ไฟดีมันจะทำ�งานได้ตาม ปกติ ถ้าเพื่อนๆ ทำ�เองได้ล่ะก็บริการรถเพื่อนๆ เองได้เลย
ตรวจลูกปืนคลัตช์ ต่อเนื่องจากข้อที่แล้ว โดยหลังจากสตาร์ทเครื่องแล้ว ก็ ให้ตรวจสภาพของลูกปืนคลัตช์ โดยเหยียบคลัตช์แล้วปล่อย ทำ� หลายๆครั้งแล้วฟังเสียงผิดปกติ ถ้าขณะเหยียบมีเสียง กริ้ดๆ ก็ให้รีบเข้าบริการตรวจเปลี่ยนลูกปืนคลัตช์ มิฉะนั้นจะทำ�ให้ หวีคลัตช์ นิ้วคลัตช์ หรือที่บางครั้งเรียกกันว่า “ตีนผี” สึกหรอ เสียหายได้ อย่าทำ�การซ่อมเองครับ ให้รีบไปที่ศูนย์ Toyota ใกล้ บ้านเพื่อนๆ จะดีที่สุดครับ
เช็คมอเตอร์สตาร์ท เพียงทดลองดึงเบรกมือว่าที่ดึงสูงนั้นผิดปกติมาก หรือเปล่า ที่จริงแค่ 5 แกร๊กก็พอครับ แต่อันนี้เราสามารถ ปรับสายเบรกมือให้ตึงขึ้นก็จะแก้ปัญหานี้ได้ จากนั้นให้ตรวจ สภาพการทำ�งาน คือหลังจากดึงเบรกมือแล้วทดลองออก รถในตำ�แหน่งเกียร์ 1 ถ้ารถเคลื่อนตัวออกได้แสดงว่าเบรก มือใช้ไม่ได้ ต้องรีบนำ�เข้าไปแก้ไข เพราะเบรกช่วยให้ท่านสะดวก ขณะขับรถในสภาพการจราจรติดขัดบนคอสะพาน ซึ่งเบรก มือยังช่วยจอดในที่ลาดชัน และเป็นผู้ช่วยที่ดีในกรณีเบรก แตกได้อีกด้วย อย่านิ่งนอนใจนะครับเพื่อนๆ ถ้าตรวจพบว่า มันใช้งานไม่ได้ ให้รีบเข้าศูนย์อีกเช่นกัน
“เพราะสภาพการชำ�รุดเสียหายของชิ้นส่วนต่างๆ ในรถเป็นเรื่องปกติครับ ยิ่งใช้เยอะก็ต้องดูแล อย่างดี ใครไม่เคยดูแลเลยก็แสดงว่าใช้รถน้อย หรือรถค่อยๆ เก็บอาการเสีย รอวัน “แจ๊คพอต” ในวันที่ท่านต้องเดินทางไกลหรือชั่วโมงเร่งด่วน โดยคราวหน้านายทีจะนำ�เสนอวิธีการตรวจสภาพ อีก 4 อย่างที่เหลือติดตามชมกันนะครับ”
Tip & Technique Lithium-Ion
ว่าที่ขวัญใจแบตเตอรี่ไฮบริด
“กล่าวกันถึงแบตเตอรี่ไฮบริดที่เราเห็นๆ กันอยู่ก็คงจะเป็น Ni-MH แต่วันนี้นายทีจะพา เพื่ อ นๆไปรู้ จั ก กั บ เทคโนโลยี แบตเตอรี่ ไฮบริ ด แบบ Lithium-ion กันบ้างครับ”
..........
เทคโนโลยี ไฮบริ ด และทำ � งานโดยใช้ แบตเตอรี่ Lithium-ion ที่ทำ�ให้แบตเตอรี่ชนิดนี้มีขนาดกะทัดรัด โดยมีน้ำ�หนักเบาเพียงแค่ 75 กก. เท่านั้น อีกทั้งยัง สามารถติดตั้งไว้ยังห้องเครื่องระบบ Hybrid ได้ อย่างแนบเนียน
โดยพลังงานไฟฟ้าที่ได้จากการชาร์จแบตจะถูกเก็บไว้ ในแบตเตอรี่ชนิดนี้ โดยตัวแบตสามารถติดตั้งไว้ในระบบหล่อ เย็นของเครื่องปรับอากาศ ทำ�ให้ทำ�งานภายในอุณหภูมิที่ เหมาะสมมากที่สุดระหว่าง 15-35 องศาเซลเซียสตลอด เวลา และสำ�หรับแบตเตอรี่ขนาด 35 เซลล์ชนิดนี้ส่วนมากจะ ถูกใส่ไว้ในกล่องเหล็กที่มีความแข็งแกร่งสูง โดยเซลล์ ในการพัฒนาแบตเตอรี่ Lithium-ion นี้ Daimler Lithium-ion จะมีความหนาแน่นของพลังงาน 30% และ AG ก็ได้รับรางวัล “นวัตกรรมความเป็นมิตรต่อสิ่ง มีอัตราสัดส่วนเปรียบเทียบความจุพลังต่อน้ำ�หนักดีกว่า แวดล้อม” จากสถาบันยนตกรรม ADAC ของยุโรป แบตเตอรี่แบบรุ่นปัจจุบันถึง 50% ซึ่ ง คุ ณ สมบั ติ สำ � คั ญ ของแบตเตอรี่ ช นิ ด นี้ นั่ นก็ คื อ ขนาดครับ เพราะขนาดของมันนั้นเรียกได้ว่าเท่ากันกับ แบตเตอรี่ในรถปัจจุบัน การติดตั้งในห้องเครื่องนั้น ก็ไม่ต้องถึงกับ “ยัด” แต่อาศัยการจัดวางให้พอดิบ พอดีกับห้องเครื่อง ทำ�ให้ดูสวยงามขึ้นอีกมาก ซึ่ง ตัดการรบกวนพื้นที่ในส่วนของถังน้ำ�มันได้อีกเยอะ
ความปลอดภัยนั้นก็เน้นกันตั้งแต่เปลือกนอกที่เป็นเหล็กกล้า กับตำ�แหน่งติดตั้งที่คำ�นึงถึงความปลอดภัย (รถแต่ละยี่ห้อจะมี ตำ�แหน่งติดตั้งไม่เหมือนกัน) โดยภายในนั้นบรรจุเซลพิเศษเพื่อ ทำ�หน้าที่ดูดซับแรงกระแทกให้กระทบกระเทือนต่อเซลล์น้อยที่สุด นอกจากนี้ยังช่วยระบายความร้อน พร้อมกล่องควบคุมแยก ซึ่งจะทำ�หน้าที่วิเคราะห์และตรวจเช็คปริมาณกระแสไฟฟ้าในระบบ และข้อผิดพลาดต่างๆ ในส่วนของชุดสายไฟที่ใช้แบบ HighVoltage พร้อมชุดสวิทช์ที่ออกแบมาให้ตัดวงจรอัตโนมัติใน กรณีที่เกิดอุบัติเหตุอย่างรุนแรง
Lithium-ion นั้นมีแรงดันไฟฟ้าสูงนั้นเป็นกุญแจสำ�หรับ การรีดประสิทธิภาพที่เยี่ยมยอด นอกจากการให้ พลังงานกับมอเตอร์ไฟฟ้าแล้ว มันยังจำ�เป็นจะต้อง เชื่อมต่อกับชุดจ่ายกระแสไฟฟ้า 12 โวลท์ ที่ติดตั้งอยู่ใน รถ ผ่านหม้อแปลง DC เพื่อป้อนพลังงานไฟฟ้าให้กับ อุปกรณ์มาตรฐานที่ใช้ระบบไฟฟ้า เช่น ไฟหน้า กระจก ซึ่งเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Lithium-ion สามารถพบได้เร็วๆ นี้กับ Toyota Vitz Hybrid ครับ”
Gadget
LifeStyle Cubify Cube
สัมผัสใหม่กับปริ้นเตอร์ 3 มิติ
“เรื่องอะไรที่ดูเป็นไปไม่ได้ที่สุดระหว่างไทม์แมชชีนและปืน เลเซอร์..คำ�ตอบคือทั้งคู่! เพราะนั่นเป็นเพียงจินตนาการเท่านั้น แต่วันนี้ชาวเราจะพาไปรู้จักแมชชีนที่ทำ�ให้ทุกจินตนาการสามารถ สัมผัสได้ “Cubify Cube” หรือเรียกสั้นๆ ว่า Cube เครื่องพิมพ์ 3 มิติที่จะทำ�ให้ไฟล์ภาพกลายเป็นวัตถุที่จับต้องได้จริง”
..........
โปรเจคนี้ถึงแม้ไม่ใช่โปรเจคแรกของโลก แต่มัน ก็พอทำ�ให้ปรินเตอร์ธรรมดาๆ ตามบ้าน (ที่อย่างดี หน่อยก็ปริ้นภาพถ่ายได้ด้วยความไว 10 ภาพต่อ นาที) กลายเป็นอดีตไปซะ เครื่องพิมพ์ 3 มิติขนาดเล็กกะทัดรัด Cubify Cube ถูกสร้างโดย 3 พันธมิตรใหญ่แห่ง โลก Printing 3D ได้แก่ Freedom Of Creation , My Robot Nation , Freshfiber โดยทั้ง 3 ขา ใหญ่นี้ได้ร่วมกันออกแบบเครื่องพิมพ์ 3 มิติขนาด กระทัดรัด ที่สามารถพิมพ์วัตถุสีโทนได้อย่างที่ไฟล์ ระบุไว้ โดยเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์และตัว เครื่องผ่าน wi-fif i จากนั้นหลังจากสั่งพิมพ์ปุ๊ป เครื่องพิมพ์ก็จะพ่นเรซิ่นออกมาจนเป็นรูปเป็นร่าง ได้ภายในไม่ถึงชั่วโมง เครื่องพิมพ์ 3 มิติขนาดเล็กกะทัดรัด Cubify Cube ถูกสร้างโดย 3 พันธมิตรใหญ่แห่งโลก Printing 3D ได้แก่ Freedom Of Creation , My Robot Nation , Freshfiber โดยทั้ง 3 ขาใหญ่นี้ได้ร่วมกันออกแบบเครื่องพิมพ์ 3 มิติขนาดกระทัดรัด ที่สามารถพิมพ์วัตถุสีโทนได้อย่างที่ ไฟล์ระบุไว้ โดยเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์และตัวเครื่อง ผ่าน wi-fif i จากนั้นหลังจากสั่งพิมพ์ปุ๊ป เครื่องพิมพ์ก็จะ พ่นเรซิ่นออกมาจนเป็นรูปเป็นร่างได้ภายในไม่ถึงชั่วโมง
ซึ่งโปรแกรมที่ทาง Cubify ให้มานั้นก็มีตัวไฟล์ปริ้นต้นแบบ มาให้ โดยจะมีทั้งหมด7 หมวดก็คือ Art, Accessories, Fashion, Home, Jewelry, Lighting, Toy and Game Cube กำ�ลัง พัฒนาแอพที่จะช่วยให้คุณแสกนวัตถุได้ด้วยเครื่อง Kinect ทีนี้ ไม่ว่าคุณจะอยากพิมพ์อะไหล่เพื่อซ่อมเฟอร์นิเจอร์โบราณหรือ เคสไอโฟน ก็สามารถทำ�ได้อย่างง่ายดาย แต่ที่แน่ๆแอพที่วาง จำ�หน่ายอยู่ในปัจจุบันก็เพียงพอแล้วที่จะให้คุณสามารถครีเอ ทอะไรเจ๋งๆแล้วพิมพ์มันออกมาไปอวดเพื่อนๆ ของคุณได้ว่ามัน มีเพียงชิ้นเดียวในโลก
อีกอย่างที่เจ๋งคือ Cube สามารถเข้าถึงได้แทบทุกบ้านด้วยราคา ของมันที่ไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อค่าใช้จ่ายรายเดือนมากนัก ซึ่งต่าง กับเครื่องพิมพ์ 3D ในแบรนด์อื่นๆ มากนัก ด้วยผสมผสานกับความ เรียบง่ายในการใช้งานกับจินตนาการที่สามารถปล่อยให้ลูกค้าสามารถ ออกแบบงานพิมพ์ได้เอง เท่านี้งานอดิเรกของคุณก็สามารถ Adapt เป็นอะไรได้อีกหลายอย่าง โดยสนนราคาเครื่องพิมพ์ 3 มิติ Cubify Cube ที่ราคาเปิดตัว เพียง 1,200$ เหรียญสหรัฐ คุณก็จะได้วัตถุที่คล้ายเครื่องชงกาแฟ ในยานสตาร์เทรค เอามาพิมพ์โคมไฟที่ออกแบบเองหรือพิมพ์กัปตัน อเมริกาขนาด 1 ฟุตให้เจ้าตัวเล็กได้เพ้นท์สีเล่นแล้ว
“ซึ่งปัจจุบัน Cube รุ่นใหม่กำ�ลังอยู่ในช่วงพัฒนาให้ สามารถทำ�ให้ทำ�ชิ้นงานที่ละเอียดขึ้นและซับซ้อนมาก ขึ้น โดยใครที่ติดตาม Cube อยู่ก็ทราบแล้วว่าต้อง เข้าไปคลิกชมและสั่งซื้อได้ที่ http://cubify.com”
RoadTrip
LifeStyle หอภาพยนตร์ เอกลักษณ์ของภาพยนตร์ไทย
ถ้าหากว่าหนังหรือภาพยนตร์เป็นหนึ่งในกิจกรรม สุดโปรดของเพื่อนๆ ไม่ว่าจะยามทุกข์ ยามสุขแล้วล่ะก็ อยากจะเชิญเพื่อนๆลัดเลาะไปตามถนนพุทธมณฑลเพื่อ ไปเยี่ยมชม Museum ภาพยนตร์ไทยที่ใหญ่และ cool ที่สุดในตอนนี้ “หอภาพยนตร์”
..........
หอภาพยนตร์เป็นอีกสถานที่ที่ได้เก็บรวบรวมผลงานทางศิลปะ แขนงที่ 7 เอาไว้มากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ก่อตั้งโดยกรม ศิลปากร.. ที่มาที่ไปน่ะหรอคะ เพราะว่าภาพยนตร์ไทยในยุคเฟื่องฟู เรียกได้ว่ามีเยอะมากๆ ปีหนึ่งๆ ออกมาเป็นร้อยๆ เรื่องเลยก็ว่า ได้ โดยในปี 2527 กรมศิลปากรก็ได้ตัดสินใจก่อสร้างสถานที่ที่เก็บ รวบรวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์ในแผ่นฟิล์มและให้ชื่อว่า “หอภาพยนตร์แห่งชาติ” โดยภารกิจในระยะแรกของหอภาพยนตร์ แห่งชาติ คือการแสวงหาภาพยนตร์และสิ่งเกี่ยวเนื่องใดๆ ก็ตามเกี่ยว กับภาพยนตร์ เช่นเอกสารเกี่ยวกับการสร้างภาพยนตร์ ภาพถ่าย เกี่ยวกับภาพยนตร์ สิ่งพิมพ์เกี่ยวกับการโฆษณาเผยแพร่ ภาพยนตร์ วัตถุและอุปกรณ์ครุภัณฑ์เกี่ยวกับการสร้างภาพยนตร์ หนังสือและวารสารเกี่ยวกับภาพยนตร์ ฯลฯ มาเก็บไว้เป็นคลังทาง ความรู้ให้ลูกหลานรุ่นหลังได้ศึกษาต่อ ซึ่งหอภาพยนตร์แห่งชาติได้ย้ายจากที่เดิมที่พิพิธภัณฑ์สถาน แห่งชาติ หอศิลป์ ถนนเจ้าฟ้า ไปยังถนนพุธมณฑลสาย ๕ ตำ�บล ศาลายา อำ�เภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ซึ่งหากที่นี่จะไกลไป นิด แต่เนื้อที่กว้างขวางและก็ทำ�อะไรได้อีกเยอะ
โดยเริ่ ม จากส่ ว นแรกกั บ โรงหนั ง ซึ่ ง เป็ น ไฮท์ ไลท์ ข องที่ นี่ โรงหนัง(กึ่ง)เก่าแก่ที่มีนามว่า ศรีศาลายา เป็นโรงฉายภาพยนตร์ ระบบฟิล์มที่ยังคงมีโปรแกรมฉายหนังตลอดทุกวัน ทุกวันจริงๆ ค่ะเพราะที่นี่ 1 ปีจะมีหนังไทยหนังเทศมากกว่า 300 เรื่องมาแวะ เวียนให้ได้ชมกัน ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละเรื่องไม่ใช่หนังตลาดดาษดื่น ทั่วไป แต่กลับเป็นหนังที่มีคุณค่าทางด้านประวัติศาสตร์หรือไม่ก็ เป็นหนังที่มีความหมายดีมากๆ ส่วนที่ 2 เพื่อนๆจะพบกับโรงถ่ายภาพยนตร์ Black Maria โรงแรกของโลกซึ่งสร้างขึ้นในปี 2436 ที่หอภาพยนตร์ได้จำ�ลอง ขึ้นมา แต่เดี๋ยวก่อน!! ของจำ�ลองก็ใช้งานได้จริงนะคะ โดยปัจจุบัน ทางหอภาพยนตร์ได้กำ�ลังถ่ายทำ�ภาพยนตร์ที่ใช้โรงถ่าย Black Maria โดยใช้ชื่อตอนว่า “คนกินกล้วย” และที่โรงถ่ายนี้เองก็เป็น อีกหนึ่งกิจกรรมเด็ดให้เพื่อนๆ ได้ลองแอคติ้งกัน .3..2..1 ACTION!
ส่วนที่ 3 จะพาเพื่อนๆ ย้อนวันเวลาไปหาอดีตตั้งแต่ยุค ที่ ภ าพยนตร์ เ กิ ด ขึ้ นครั้ ง แรกในประเทศไทยจวบจนปั จ จุ บั นกั บ พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์เสียงศรีกรุง พิพิธภัณฑ์นี้จะเปิดให้ชมเป็น รอบดำ�เนินการเข้าชมโดยมัคคุเทศที่มากประสบการณ์และแน่นใน เรื่องของประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทย ที่นี่ทีเด็ดจริงๆ และใช้เวลา ในการเดินชมพิพิธภัณฑ์ประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ
“หนึ่งวันในหอภาพยนตร์แห่งชาติ ทำ�ให้เราได้สัมผัส ชีวิตของคนทำ�หนังและหัวใจจริงๆของภาพยนตร์ ไทยว่ามันมีที่มาที่ไป อีกทั้งยังเต็มไปด้วยสีสันแห่งวัน วาน แนะนำ�ให้พาครอบครัวมาใช้เวลาร่วมกันได้ที่หอ ภาพยนตร์แห่งชาติที่ตั้งอยู่ที่ 94 หมู่ 3 ถนนพุทธ มณฑลสาย 5 จังหวัดนครปฐม ใกล้กันกับมหาวิทยาลัยมหิดล (ศาลายา) โทรศัพท์ 02 4822013-14 รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.fapot.org” พิกัดหอภาพยนตร์ : 13.806742,100.302034
CarVariety Pininfarina Cambiano
ไว้ลาย EV แห่งยุค Post Modern
“ว่ากันว่าสาวงามและรถสปอร์ตเป็นของคู่กัน แต่จะดีแค่ไหนถ้าหากสองสิ่งนี้มารวมกัน ในรถที่มีชื่อ เพราะที่สุดชื่อหนึ่งกับ Pininfarina ที่ได้รวบรวม ความสวยงามชนิดที่ว่ากินขาด ราวกับว่าได้สอดไส้ ของศิลปะแห่งยุค Post Modern ไว้ในรถคันนี้”
..........
ค่ า ยรถยนต์ นี้ อ าจจะไม่ ไ ด้ มี ป ระวั ติ ย าวนาน เพราะตั้งแต่ Pininfarina เริ่มก่อตั้ง ก็เป็นเพียงมือปืน รับจ้างที่รับออกแบบรถยนต์ให้ค่ายยักใหญ่หลายค่าย เรียกได้ว่าทั้ง Maserati Rolls Royce Cadillac Alfa Romeo Lancia รวมทั้ง Ferrari ก็เคยเป็นลูกค้ามา แล้วทั้งนั้น แต่เสียดายที่ Pininfarina ได้ก้าวมาผลิตรถเต็ม ตัวช้าไปหน่อย ..หรือมองอีกมุมก็เป็นข้อดีก็ได้ที่วัน นี้ Pininfarina มี Knowledge อยู่เต็มกระเป๋า ล่าสุด จึงระเบิดออกมาเป็นรถสปอร์ต EV ที่ทำ�เอาลูกค้าทั้ง หลายตั้งรับการมาของ Cambiano แทบไม่ทัน โดยชื่อ Cambiano ก็ไม่ใช่อะไรทีไหน แต่เป็นชื่อเมืองที่ Pininfarina ได้ตั้งอยู่ตั้งแต่ปี 1930 นั่นเองครับ
สัดส่วนภายนอกจะเห็นว่า Cambiano เป็น สปอร์ตที่มีขนาดใหญ่มากเทียบได้กับซีรีย์ 7 ในปัจจุบัน แต่ในขณะเดียวกันก็รีดน้ำ�หนักได้เหลือเพียงน้อยนิดที่ 1,695 กก. เท่านั้น โดยค่า Cd อยู่ที่ .28 ซึ่งที่เด่นๆ ของสปอร์ตสุดล้ำ�คันนี้ก็คือการออกแบบไฟ LED ด้าน หน้า และกระจังที่ดูล้ำ�ๆ เป็นพิเศษ นอกจากนั้นมูนรูฟ แบบพาโนรามิคขนาดยักษ์ก็เป็นหนึ่งใน feature ที่เพิ่ม ค่าตัวให้มันได้อีกแยะ รวมทั้งภายในที่ออกแบบให้เหนือ จริงจนล่าสุดได้รางวัลออกแบบภายในยอดเยี่ยมแห่ง ปี 2012 ด้วย
Pininfarina Cambiano เป็นรถ EV โดยกำ�เนิด ซึ่งขับ เคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดยักษ์ที่ 600 kW หรือราว 800 แรงม้า ซึ่งลำ�พังสำ�หรับรถ EV แค่ 400 kW ก็ถือว่า เหลือใช้แล้ว ซึ่ง Cambiano สามารถให้อัตราเร่งให้กับทุกคน ที่นั่งหลังพวงมาลัยที่ 0-100 ภายใน 4.2 วินาที และสามารถ เข้าถึงความเร็วสูงสุดที่ 275 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ในโหมดไฟฟ้าอย่างเดียว Cambiano สามารถไปได้ ไกล 205 เมตร แต่ถ้าคุณลองเข้าโหมด Extender Turbine ก็ สามารถแล่นด้วยระยะทางที่ไกลถึงไกลมากๆ ที่ 800 กิโลเมตร งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลาเพราะมันก็ต้องพักชาร์จพลังงาน ไฟถึง 6 ชั่วโมงกว่าจะวิ่งได้อย่างเต็มที่อีกครั้งเช่นกัน แต่ยังดี ที่ Cambiano เป็นรถคอนเซปต์ที่กินขาดในเรื่องนี้เพราะมันมา พร้อมกับระบบ APU (Auxiliary Power Unit) ที่ร่นระยะเวลา ชาร์จพลังงานไปได้อีก 52 นาที
“โดยราคาค่าตัวที่ตั้งไว้เนื่องจาก Super Car ระดับนี้ จึงมีแพลนเพียง 10 คันในโลก แน่นอนว่าราคาก็เฉียดๆ 500,000 $ เหรียญสหรัฐนั่นเองครับ.
CarVariety 2013 Conquest Evade
ขาโหดเวอร์ชั่น 2
“ถ้าจำ�กันได้ เมื่อนานมาแล้วนายทีได้นำ�เสนอรถถัง! เอ๊ยไม่ใช่สิครับ รถ SUV ยี่ห้อหนึ่งที่ได้รับความนิยมจาก เศรษฐีชาวมะกันเป็นอย่างมาก ก็เพราะรูปร่างที่ถูกอกถูกใจ ฝรั่งอย่าง Conquest Knight XV ทำ�ให้ยอดขายติดลมบน จนถึงกับออกจำ�หน่ายเวอร์ชั่น 2 กับ Conquest Evade”
..........
คลื่นลูกใหม่ลูกนี้ก็ได้ทำ�ตัวให้สมฐานะที่รุ่นพี่อย่าง Knight XV โดยถูกรับเชิญให้เป็นดาราภาพยนตร์ชื่อดัง อย่าง Fast Five (รถของ The Rock ไงละครับ) ในบทบาท ของรถหุ้มเกราะให้หน่วย DSS จนเป็นที่สนใจของแฟนๆ หนังว่า นี่มันรถอะไร?!!
ซึ่งการเปิดตัวของ Evade ก็ไม่ได้ทำ�ให้สาวกรถหุ้ม เกราะต้องผิดหวัง เพราะสเป็คที่จัดหนักด้วยโครงสร้าง ชั้นเยี่ยม เครื่องยนต์อันทรงพลัง(ที่ยังไม่บอกเสป็ค) และ เกราะกันกระสุนได้ทุกชนิดบนโลก..ยกเว้นหัวรบมิสไซล์ ดีไซน์ภายนอกของ Evade นี้ทาง Conquest Vehicle ได้ตั้ง Positioning ให้มันเป็น2+2 limousine ที่ ยังคงใช้เหล็กกล้าและอลูมิเนียมเข้ามาเป็นส่วนประกอบ สำ�คัญ แต่ด้วยขนาดและสัดส่วนทำ�ให้น้ำ�หนักของมัน น้อยกว่า KNIGHT XV อยู่มาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางค่าย รับรองได้ว่า Evade ทุกคันประกอบขึ้นจากมือ 100%
ส่วนเรื่องของความแข็งแรงนั้นก็เรียกได้ว่าอึดแน่นอน หากผู้นำ�คน สำ�คัญจะนำ�ไปใช้งานในพื้นที่สุ่มเสี่ยง เพราะ Evade ประกอบด้วยเกราะ 2 ประเภทก็คือ เกราะใสและเกราะทึบ เกราะทึบนั้นจะอยู่ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของตัว พื้นผิวภายนอก ประกอบด้วยวัสดุพิเศษ 5 ได้แก่ เหล็กกล้าคุณภาพสูง, Ballistic Aluminum แบบเดียวที่ใช้กับรถถัง,เส้นใย Composite Material หรือเคฟล่านั่นเอง, ยืดหยุ่นด้วย Aramid ทับด้วยเซรามิกพิเศษอีกที ส่วนเกราะใส ก็คือส่วนของกระจกหน้า,กระจกข้าง หลังซึ่งทำ�มา จาก วัสดุแก้ว Ballistic ควบคุมการผลิตด้วยวิศวกรผลิตชุดเกราะ เพื่อให้ แน่ใจว่าป้องกันจากการโดนซุ่มโจมตีได้จริง เค้าจึง ทดสอบด้วยการยิงจาก กระสุนทุกชนิด ตั้งแต่ 9mm, เจาะเกราะ, M16A1, ยันกระสุนไรเฟิล โดยที่ การออกแบบทั้งส่วนของเกราะใสและเกราะทึบจะทำ�ให้ดูหรูหรากว่า Conquest รุ่นก่อน
“เห็นอย่างนี้ ภายในประกอบด้วยเบาะหนังบุมือ พร้อมด้วยสิ่ง อำ�นวยความสะดวกอีกเพียบ อีกทั้งยังพื้นที่โอ่โถง (จริงๆ แล้วนั่งได้เกิน4คน) โล่งสบาย เหมาะกับการเดินทางระยะ ไกล โดยรวมค่าออกแบบ ค่าตกแต่ง ค่าวัสดุอุปกรณ์รักษา ชีวิตให้ Conquest Evade ทำ�หน้าที่ของมันได้เต็มที่ ค่าใช้จ่ายก็อยู่ที่ราว 579,000 USD เท่านั้นครับ”
Tip & Technique Advanced Parking Guidance System
จอดง่าย จอดสบาย
“จำ�ได้ไหมครับกับการสอบใบขับขี่วันแรกกับ ข้อสอบภาคปฏิบัติ “ถอยเข้าซอง” ที่เป็นเหมือนยา ขมกับมือใหม่ทั้งหลาย แม้แต่กระทั่งผู้ขับขี่หลายๆ คนที่อยู่หลังพวงมาลัยมาเป็นสิบๆ ปีแต่ก็ไม่ถนัดซัก ที วันนี้นายทีมีเทคโนโลยีช่วยจอดหรือ Advanced Parking Guidance System มาฝากกันครับ”
..........
Advanced Parking Guidance System (APGS) เป็นระบบ ช่วยจอดที่มีอยู่ใน Lexus ส่วนชื่อสามัญของมันก็คือ Intelligent Parking Assist System นั่นเอง โดยระบบนี้ล้วนแต่เป็นระบบที่สั่ง งานด้วยหลักการเดียวกันคือ การส่งคลื่นเสียงความถี่ที่สูงกว่าหู มนุษย์จะได้ยินหรือ Ultra Sonic ออกไปกระทบวัตถุแล้วใช้เซนเซอร์ รับเสียงที่สะท้อนกลับมา เพื่อหาระยะระหว่างเซนเซอร์และวัตถุ กีดขวางนั่นเองครับ ซึ่งเทคโนโลยีนี้มีต้นแบบมาจากหูของค้างคาว หรือการจับสัญญาณของปลาโลมานั่นเองครับ ซึ่งปัจจุบัน เทคโนโลยี APGS, IPAS มีอยู่หลายแบบด้วยกัน ได้แก่
เตือนด้วยเสียง (Audio Feedback) เป็นระบบพื้นฐานที่เรียกได้ว่าง่ายที่สุดและมีราคาต้นทุนที่ ถูกที่สุด เพราะมันจะรับเสียงสะท้อนที่ส่งออกไปแล้วแปรเป็นเสียง สัญญาณเตือน “ปี๊ป” เพื่อบอกให้รู้ว่าตัวรถอยู่ใกล้วัตถุมากน้อย แค่ไหน ยิ่งรถเข้าใกล้วัตถุแค่ไหน เสียงก็จะดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อถึง ระยะจะชน เสียงก็จะเปลี่ยนเป็นเสียงยาวเพื่อให้หยุดรถ รถยนต์ที่ ติดตั้งอุปกรณ์แบบนี้ จะมีจุดเซ็นเซอร์กลมๆ 2-4 จุดติดอยู่กันชน ท้าย ซึ่งเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง เซ็นเซอร์จะทำ�งานทันที บางรุ่นก็ เซฟตี้สุดๆเหมือนกันโดยมีติดที่กันชนหน้า แต่ผู้ขับขี่จะต้องกดเปิด การทำ�งานเมื่อจะใช้งานจริงๆ เพราะหากไม่ได้เปิดตลอดเวลา ไม่ว่า จะเป็นคนเดิน หรือมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่าน เสียงก็จะดังรบกวนการขับ รถตลอดเวลาเหมือนกัน
เตือนด้วยไฟและตัวเลข (Visual Feedback) ระบบนี้จะทำ�งานเหมือนกับระบบใช้เสียง แต่จะ แสดงสถานะไฟเข้าไปด้วย ไฟที่ว่านี้อาจจะเป็นไฟ LCD,LED ที่เรียงกันเป็นแนว ใช้แทนระยะจากตัวรถถึงวัตถุ เมื่อระบบ ทำ�งาน ไฟก็จะทำ�งานครบทุกดวงเป็นสีเขียว และเมื่อเข้าใกล้ วัตถุ ไฟที่เป็นสีเขียวก็จะดับเหลือแต่ไฟสีแดงเพื่อเป็นการ เตือน แต่บางรุ่นเซนเซอร์ก็ทำ�งานละเอียดขึ้น จากเป็นไฟจน กลายเป็นตัวเลขบอกระยะไปเลย สามารถระบุได้ว่ามีระยะห่าง อยู่ที่กี่เมตร ทั้งนี้ก็ต้องทำ�งานควบคู่กับเสียงเตือนด้วยเช่น กันครับ ไม่ฉะนั้นจะถอยเพลินจนลืมดูระยะ
“ซึ่งเทคโนโลยีช่วยจอดนี้เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ ถือว่าใหม่มาก แต่อยู่ในช่วงที่กำ�ลังพัฒนาให้ ฉลาดขึ้นเรื่อยๆ ในครั้งหน้านายทีจะมาพูดถึง เทคโนโลยีนี้กันต่อครับ”
Tip & Technique 7 สิ่งที่ต้องเช็คหลังหน้าฝน ตอนที่ 2
ประการที่ 4 ให้เรากลับมาเช็ความอับชื้นกันหน่อยครับ เพราะปัญหาที่ เกิดขึ้นหลังหน้าฝน(ตกหนัก) มักจะมีความชื้นตามมาภายในห้อง โดยสาร ทำ�ให้เกิดกลิ่นอับภายในรถซึ่งถ้าลุกลามแล้วจะแก้ยากมากๆ นอกจากนี้พรมปูพื้นจะผุเปื่อยเร็วกว่าปกติ และปัญหาใหญ่ประการ สำ�คัญที่ตามมาก็คือความชื้นที่เข้ารถได้ฉันใด น้ำ�นั้นก็เข้ารถของท่าน ได้ด้วยฉันนั้น
ทางท่อระบายน้ำ�ของอุปกรณ์เครื่องทำ�ความเย็นภายใน รถ คือท่อน้ำ�จากคอยล์เย็นอุดตัน หรือไม่กระชับแน่น จึงทำ�ให้ น้ำ�ไหลนองพื้นได้อีกกรณีหนึ่งเช่นกัน พื้นรถผุกร่อนจนมีรอยทะลุ ในกรณีนี้มีปัญหาแน่นอน แค่วิ่งลุยฝนล้อก็จะรีดน้ำ�สาดเข้าใต้ท้องรถซึมขึ้นมาเปียกพื้น รถเป็นแน่แท้ การขับลุยน้ำ�ที่ท่วมสูงกว่าครึ่งคัน น้ำ�จึงทะลักเข้า รถจนเปียกหมด ทั้งหมดนี้เป็นที่มาของการทำ�ให้พรมปูพื้นรถ ผุเปื่อย ตรวจสอบโดยใช้มือลูบจับดูความเปียกชื้นของพรมปู พื้น ตรงไหนเปียกท่านจะทราบได้จากการสัมผัส สำ�หรับรถที่ ไม่มีพรมก็ตรวจด้วยสายตาและการสัมผัสได้ด้วยเช่นกัน
คลัตช์ ประการแรก ตรวจคลัตช์ลื่น วิธีการก็ไม่ยากครับ ให้ เพื่อนๆดึงเบรกมือขึ้นให้สุด แล้วสตาร์ทเครื่องเข้าเกียร์ใน ตำ�แหน่งเกียร์สูงสุด ถ้าเป็นแบบ 5 เกียร์ ก็เข้าเกียร์ 5 ถ้า 4 เข้า 4 แล้วออกรถในเกียร์ดังกล่าว โดยเร่งเครื่องปล่อยคลัตช์ เพื่อให้รถวิ่ง ถ้าผลปรากฏว่ารถไม่ขยับแต่เครื่องไม่ดับ ก็แสดง ว่าคลัตช์ลื่นครับ อีกวิธีหนึ่งครับ ให้ออกรถในแบบปกติ จะพบ ว่ารถสั่งเมื่อออกรถทุกครั้งหลังจากลุยน้ำ� ก็แสดงว่าคลัตช์ ลื่นเช่นกันครับ
เบรกซ้าย-ขวา วิธีการตรวจเบรกนอกจากจะดูว่ามันใช้การได้ดีรึปล่าวแล้วเนี่ย ต้องดูด้วยนะครับว่ามันกินซ้ายหรือขวาหรือปล่าว วิธีก็ง่ายๆครับ แค่ หาที่โล่งๆ ในเวลาที่เหมาะสม จากนั้นให้ขับด้วยความเร็วประมาณ 40 กม./ชม. ตั้งพวงมาลัยให้ตรงไปข้างหน้า มือไม่ต้องจับพวงมาลัย แล้วเหยียบเบรกทันที ถ้ารถเป๋ไปข้างใดข้างหนึ่งก็แสดงว่าระบบเบรกมี ปัญหา อาจเกิดจากการติดตายเพราะน้ำ�เข้า หรือเกิดจากการรั่วซึมใน ระบบ กรณีนี้อย่าช้าที่จะนำ�เข้าศูนย์บริการครับ
พวงมาลัย ตรวจระยะฟรีของพวงมาลัย ซึ่งทริคนั้นก็ไม่ยากครับ แค่ ให้เพื่อนๆ จับพวงมาลัยแล้วออกแรงที่มือเบาๆ หมุนพวงมาลัยไป ซ้ายหรือขวาในตำ�แหน่งระยะฟรี ถ้ารัศมีของระยะฟรีมาก เช่น ครึ่ง รอบ ลักษณะเช่นนี้ทำ�ให้บังคับรถยาก เพราะบางครั้งหมุนพวง มาลัยไปครึ่งรอบหน้า รถจึงจะตอบสนอง ซึ่งส่งผลต่อการเลี้ยว ฉับพลันทำ�ให้เกิดอุบัติเหตุได้
“ทั้งหมดทั้งปวงนี้ ล้วนสำ�คัญต่อรถท่านทั้งสิ้นครับ เพราะเราไม่มีฤดูหิมะตก (ซึ่งถ้ามีนายทีก็จะสรรหา เทคนิคมาให้เพื่อนๆ จนได้) ฤดูฝนจึงเป็นฤดูที่ทำ�ให้รถ ไม่อยู่ในสภาพปกติ แน่นอนว่าการหมั่นเอารถเข้าเช็ค ที่ศูนย์บริการบ่อยๆ ไม่ว่าจะ 3 ปี 5 ปี 10 ปี เครื่องก็ยังเฟิร์มอยู่ แถมขายได้ราคาดี และขับด้วยความสบายใจด้วยครับ”
Gadget
LifeStyle ECOXPOWER
เติมไฟให้นักปั่น
“หากคุณเป็นหนึ่งในหมู่นักปั่นที่รักอิสระและต้องการ จะพิทักษ์โลกด้วยการเดินทางด้วยสองล้อแล้วล่ะก็ นี่คงจะ เป็นข่าวดีมากๆถ้าหากมีใครซักคนหนึ่งผลิตอุปกรณ์เอา ไว้ช่วยเหลือคุณยามฉุกเฉินเหมือน Lucius Fox ผลิต Gadget ให้กับ Bruce Wayne!”
..........
กับ ECO X Power อุปกรณ์ชาร์จไฟโดย ใช้พลังงานจากการปั่นจักรยาน เป็นการต่อยอด ความคิดมาจาก EcoXtreme,EcoXpro ของบริษัท ผลิตอุปกรณ์กีฬากลางแจ้งอย่าง GraceDigital ที่เน้นออกแบบอุปกรณ์กีฬากลางแจ้งเจาะกลุ่มผู้ บริโภคขาลุย ที่อยากจะได้อุปกรณ์อำ�นวยความ สะดวกยามไร้ซึ่งไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็น AC/DC ก็ตาม และถึงแม้วา EcoXpower จะดูคล้ายกับ เครื่องตรวจจับวัตถุอะไรซักอย่าง แต่ยังดีหน่อย ที่มันสามารถ Generate ไฟฟ้าให้กับนักปั่นได้ไม่ น้อย โดยสัดส่วนที่ไม่เล็กไม่ใหญ่กับความสูง 5.9 xกว้าง 3”x หนา 3.3” ของมันทำ�ให้คุณไม่ต้อง กังวลว่าจะมีมือดีลักพาตัวมันกลับบ้านไปเพราะ มันสามารถพาพาได้อย่างสะดวก แหล่งกำ�เนิดแสงของมันต้องยกความดีความชอบให้ กับฟันเฟืองด้านใน ทุกครั้งที่คุณประกบมันเข้ากับแกนล้อหน้า ของจักรยานและปั่นด้วยความเพลิดเพลิน เจ้า EcoXpower ก็ จะให้พลังไฟขนาด 1W ที่ 80LUX โดยส่องสว่างผ่านหลอด White LED ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะมันมีไฟท้ายให้คุณได้ ปลอดภัยด้วยการกระพริบให้สัญญาณตลอดว่า เฮ้! ชั้นปั่น อยู่และกำ�ลังจะเลี้ยวซ้ายนะ!
“โดย GraceDigital ได้นำ�เสนออุปกรณ์ ฟังชั่นน้อยแต่มากประสิทธิภาพและเติมเต็มให้ ชีวิตสองล้อปั่นนั้นง่ายและไม่ต้องพักชาร์จ โทรศัพท์คุณในทุกๆ ร้านกาแฟที่แวะ โดยสนนราคาสบายกระเป๋าเพียง 99.99$ หาคุณไม่เชื่อเพราะมันถูกกว่าเคส ของสมาร์ทโฟนคุณ ก็สามารถเช็คไปได้ที่ http://www.ecoxgear.com”
โดย GraceDigital ก็หัวใสโดยการใส่แบตเตอรี่แบบรี ชาร์จเข้าไปพร้อมทั้งทำ� Device สำ�หรับชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งเครื่องเล่นตระกูล i ด้วย ซึ่งการให้แหล่งกำ�เนิดพลังงานไฟฟ้าที่สามารถนำ�มา ชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ ได้นั้นก็มาจากแบตเตอรี่ที่กล่าวไปแล้วว่า สามารถชาร์จพลังงานเก็บไว้ได้และ Lithium-ion ก็ได้รับหน้าที่ ตรงนั้น โดยสามารถเก็บพลังได้ราว 700mAh แน่นอนว่า ทีเด็ดเลยก็คือพลังงานขนาดนี้สามารถต่อตรงเข้ากับ GPS ได้ ทุกรุ่น ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยคุณหาทางออกจากป่ายังไงล่ะ
FoodStuff
LifeStyle แฮงเอาท์เก๋ๆ หลังเลิกงานที่ aLL Six to Twelve
“หากใครที่อยากจะหาร้านอาหารใจกลางเมือง ไว้นั่งพบปะสนุกสนานหลังเลิกงาน หรืออยากจิบดริงค์ เบาๆ พร้อมพบปะสังสรรค์กับก๊วนเก่าที่ไม่เจอนาน ชาว เราแนะนำ�หนึ่งในร้านที่กำ�ลังเป็น talk of the town กับ aLL Six To Twelve”
..........
ที่ aLL Six To Twelve เพื่อนๆจะได้พบกับที่แฮงค์ เอาท์สุดชิก ด้วยคนเซปต์การตกแต่งร้านสไตล์นิวยอร์ค ลอฟท์ (New York Loft) ที่เน้นความโปร่งโล่งสบาย ด้วยเพดานสูงที่ถือเป็นจุดเด่นของการตกแต่งสไตล์นี้ ซึ่งประดับประดาด้วยโครงสร้างเหล็ก ท่อน้ำ�และสายไฟ เปลือยชวนให้ดื่มด่ำ�กับบรรยากาศคนเมืองโดยแท้ ที่มาของชื่อร้านน่ะหรอคะ ก็สืบเนื่องจากเวลา เปิดของร้านคือตั้งแต่ 6.00 เลยหนึ่งรอบไปจนถึง 24.00 นู่นแหน่ะ ซึ่งถือว่าเป็นร้านที่มีเวลาเปิดทำ�การได้ ยาวมากๆ ข้อดีก็คือเพื่อนๆจะได้ทานอาหารหลากหลาย ช่วงเวลำ� ไม่ว่าจะเป็น breakfast ช่วงเช้า พักเบรกช่วง บ่าย หรือจะดินเนอร์มื้อเย็น ที่ aLL Six ก็จัดให้ได้
เริ่มด้วย appetizer เรียกน้ำ�ย่อย (ห้ามกิน อิ่มนะ) ชิพอบกุ้ง อาหารสไตล์เม็กซิกันฟิวชั่น กับชิพ พ์แป้งข้าวโพดทรงสามเหลี่ยมทอดกรอบ เรียกได้ว่า สั่งมาทานเล่นกันมันๆ พลางคุยกันเพลินๆ จานที่ 2 เมนูสุดโรแมนซ์กับ ยำ� salmon in love กับยำ�แซลมอนเนื้อนุ่มหวาน พร้อมน้ำ�ยำ�สุดจี๊ดจ้าด และขาดไม่ได้กับที่มาของคำ�ว่า in love คือผลสตอเบ อรี่สด ลูกโตๆเพิ่มความหวานและโรแมนติคให้เมนูนี้ได้ดี ทีเดียว
ปลาหมึกผัดไข่เค็มจานนี้ดูเข้าท่าดี เพราะรายล้อมไปด้วย เส้นหมี่ขาวจั๊วน่าเจี๊ย ปลาหมึกชิ้นโตที่เคลือบด้วยไข่แดงปรุงรสได้ กลมกล่อม หน้าตาอาหารที่ใช่บวกกับรสชาติที่ชอบ เมนูนี้ไม่ควร พลาดค่ะ แคปหมูพะโล้แห้ง ยอมรับว่าไม่เคยทานแคปหมูอารมณ์ พะโล้มาก่อน ภายหลังเราพบว่าแคปหมูจับคู่กับเครื่องปรุงพะโล้ ได้ดีมากๆไม่ว่าจะทิ้งช่วงไปนานเท่าใด แคปหมูจานนี้ก็กรอบพร้อม หยิบทานอยู่ตลอดเวลา กินไปเม้าท์ไปกลับมากินอีกทียังกรอบ อร่อยอยู่เลยนะเออ
แต้แดนน…จานเด็ดของที่นี่มาแว้ว signature ของที่นี่ เสต็กไก่ สมุนไพร เสต็กไก่เนื้อนุ่ม ถึง นุ่มมากก ต้องปรบมือให้กับเชฟจริงๆ ที่ คิดสูตรและพิถีพิถันให้ไก่ออกมาได้บรรเจิดขนาดนี้ นอกจากนั้นเราจะ เห็นว่าซอสบลูเบอรี่เหมาะที่สุดกับเสต็กจานนี้ เพราะส่งให้รสชาติเสต็ก หอมหวานละมุนละไม ตบท้ายด้วยของหวานอย่างเช่น old school ice cream ไอศกรีมกะทิรสหวานเนี้อนุ่มนวล เสิร์ฟในถ้วยอารมณ์สังกะสี ชวนฝันถึงวันเก่าๆ
“ที่ร้าน aLL Six To Twelve มีอาหารอร่อยหลาย อย่างมากๆ ที่สำ�คัญราคาหลักร้อยนิดๆ ทั้งนั้นเลย หากจะมาในช่วงหัวค่ำ�รับรองว่าถ้าหากไม่จองก็คง ไม่ได้ทานกันจริงๆ เพราะคนแน่นขนัดมาก ชาวเรา แนะนำ�ว่าหากเพื่อนๆจะลองมาชิม ชิลๆ ก็คงต้อง โทรมาที่เบอร์ 02-250-6799 หรือแวะไปไล้กันได้ที่ www.facebook.com/allsixtotwelve ค่ะ”