e-TOYOTACLUB e-Magazine January issue12 2013

Page 1

JANUARY ISSUE 12

CarVariety • เปดตัวแลว Toyota IQ ในแบบฉบับ EV • Rinspeed Dock+GO ตอนเดียวหัวหาย สองตอนเพื่อนตาย

Tip�&�Technique • พัดลมหมอน้ำ ดูแลดีๆ กอนเดินทาง • การเลือกใชน้ำมันเครื่องในรถยนตแตละประเภท (ตอน 3)

LifeStyle • AutoGrapher กลองแนวใหม ที่ไมตองกดชัตเตอรเอง • สัมผัสตำนานเหมืองปลอก ที่กาญจนบุรี (ตอน 1)


CarVariety เปิดตัวแล้ว Toyota IQ ในแบบฉบับ EV

“ตามกันมาติดๆ นะครับสำ�หรับการดัดแปลง พันธุกรรมจากเครื่องยนต์มาเป็นระบบไฟฟ้า100% สำ�หรับ Toyota IQ ev ที่เปิดตัวอย่างสง่างามใน งานแสดงยานยนต์ Geneva Motorshow 2012”

..........


นอกจาก REV4 ev แล้วพระเอกในงานที่โดดเด่นเป็นสง่า ก็คือเจ้าตัวเล็ก Toyota IQ ev คันจิ๋วจาก Toyota ที่แฝงไป ด้วยความเป็น Zero Emission และรูปร่างที่กะทัดรัดเร้าใจกว่า เดิม โดยออกแบบมาให้เข้ากับการใช้งานในเมือง ได้เปรียบในพิสัย การขับไม่ไกลมากและชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็ว โดยรวมแล้วการออกแบบภายนอกนั้นยังไม่ถือว่าเป็น All New ใหม่ทั้งหมด เพราะแพลตฟอร์มเดิมของ IQ ก็ยังเอามาใช้ เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพียงแต่เสริมความยาวตัวถังให้มากกว่า เดิม 5 นิ้ว กันชนหน้าก็ได้ปรับให้โค้งมนและกระทัดขึ้นเล็กน้อย พร้อมเสริมตระแกรงในส่วนของไฟหน้าให้ดูทันสมัยและโลโก้ EV ส่วนกันชนหลังขยายกว้างบ่งบอกถึงความแข็งแรง สองสีที่ ออกตอนนี้คือ Silver & Super Red ที่เพิ่มความประทับใจด้วย ทูโทนตัดดำ�


ภายในโดดเดน่ ด้วยแผงกรอบช่องแอร์และวิทยุสามเหลี่ยม หัวกลับสีบรอนซ์ตัดกับโทนดำ�แทบจะทั้งหมด หุ้มพวงมาลัย ด้วยหนังแท้เย็บมือ พร้อมหัวเกียร์และไฟบริเวณแดชบอร์ด สี Bluish-Grey บอกถึงรสนิยมของคน Gen Y ได้อย่างดี ระบบนำ�ทางได้ใส่ของ HDD Navigation System มา ให้เสร็จสรรพ ด้วยหน้าจอขนาด 7 นิ้ว เพื่อความสะดวกมา ขึ้น IQ EV ปรับให้การแสดงผลระหว่างต่างๆ ในตัวรถกับ ระบบนำ�ทางนั้นแยกส่วนกันอย่างสิ้นเชิง ระบบนำ�ทางได้ใส่ของ HDD Navigation System มา ให้เสร็จสรรพ ด้วยหน้าจอขนาด 7 นิ้ว เพื่อความสะดวกมา ขึ้น IQ EV ปรับให้การแสดงผลระหว่างต่างๆ ในตัวรถกับ ระบบนำ�ทางนั้นแยกส่วนกันอย่างสิ้นเชิง เอาเครื่องออกแต่ก็ใช่ว่าจะเบาขึ้น เพราะน้ำ�หนักของมอเตอร์ และระบบไฟฟ้าก็เอาเรื่องอยู่ Toyota จึงใช้วัสดุน้ำ�หนักเบาในส่วนของ บอดี้เพื่อการกินพลังงานให้น้อยที่สุด เก็บและจ่ายไฟโดยแบตเตอรี่ ลิเธียมไอออนแบบใหม่ ส่งตรงไปสู่มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 47 kW (63แรงม้า) แรงบิดที่ 120 lbs-ft ทำ�ให้เจ้าจิ๋วคันนี้เร่งจาก 0-100 โดยใช้เวลา 13.4 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 124 km/hr ที่เจ๋ง คือ IQ ev รุ่นนี้มาพร้อม Star Safety System ที่มากันครบองค์ ประชุมไม่ว่าจะเป็น VSC, TRAC, ABS, EBD และBA พร้อมการันตี ระบบความปลอดภัยขั้นสูงสุด 5 ดาวจาก EURO NCAP โดยโตโยต้าทำ�การลดขนาดของแบตเตอรี่ลง จึงสามารถ ชาร์จไฟให้เต็ม 100% ได้ในเวลาเพียง 3 ชั่วโมง และหากเข้าสู่โหมด Quick Charger สามารถเติมกำ�ลังไฟจาก 0-80% ได้ภายใน 15 นาทีเท่านั้น เนื่องจากเป็นการใช้งานในเมือง แบตเตอรี่ก้อนเล็กจึง สามารถตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความฉับไวในชั่วโมงเร่ง ด่วนได้อย่างดี

“แน่นอนว่าความชัวร์ระดับนี้ Toyota ได้ลงสายพาน สู่โปรดักชั่นแล้วเป็นที่เรียบร้อย ณ โรงงาน Toyota Takaoka Plant ใน Toyota City หากไม่มีอะไร เปลี่ยนแปลง ปีหน้าจะได้เห็นตัวเป็นๆ ในโชว์รูมประเทศ สหรัฐอเมริกาเป็นแห่งแรกแน่นอนครับ”



CarVariety Rinspeed Dock+GO

ตอนเดียวหัวหาย สองตอนเพื่อนตาย

“อะไรจะวาไรตี้ขนาดนี้! Rinspeed รถไซส์เล็กหัวครีเอทีฟที่เปิดตัวแต่ละรุ่น ได้เด็ดดวง แถมมาคราวนี้ Dock+Go เล่นเอานายทีงง..ก็มันเป็นรถที่รวมร่าง และแยกร่างได้นี่ครับ!”

..........


Rinspeed ค่ายรถเล็กจากสวิต จำ�ต้องมีอะไรเซอ ไพรซ์เสมอ เมื่อถึง Geneva Motor Show ทีไรก็สร้างสีสัน ได้ทุกครั้ง โดยเฉพาะการซุ่มเปิดตัว Rinspeed Dock+Go รถยนต์ที่สามารถแยกร่างได้เป็น 2 ตอน โดยหันมาเอาใจใส่ เรื่องของการบรรทุกสัมภาระที่มากขึ้น แต่หัวใจหลักนั้นยัง เป็นเครื่องยนต์ไฟฟ้าเหมือนเดิม โดยเบสรถนั้นใช้ของ Smart For Two รุ่นยอดฮิต ติดตลาดที่ขายดีเป็นเทน้ำ�เทท่าในยุโรป ซึ่งขนาดกะทัดรัดนี้ส่ง ผลให้การต่อเติมท้ายนั้นไม่ยากลำ�บากไปนัก โดยเฉพาะการ แก้จุดด้อยเรื่องการแบกสัมภาระที Smart For Two ทำ�ไม่ได้ ออกไป ชุดพ่วงที่เสริมออกมาเรียกกันว่า Pack ทำ�หน้าที่ เป็นเพลาที่ 3 ของตัวรถตัว โดยตัว Pack นี้สามารถ เชื่อมต่อโดยตรงกับเข้าตัวรถ หรือจะเป็นรถพ่วงก็ได้ ซึ่ง สามารถเสียบประกบกับด้านท้ายรถได้ตลอดเวลา แล้วแต่ ความต้องการของผู้ขับขี่ ซึ่งตัว Pack จะถูกออกแบบให้มี ลักษณะคล้ายกับกระบะท้าย เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้กับตัว รถ สามารถปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นขนสัมภาระก็ได้หรือจะไว้ ใช้เปิดร้านพิซซ่าเล็กๆ ก็ยังไหว


ส่วนของตัวรถนั้นขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ขนาด 25 กิโลวัตต์ที่ฝังอยู่บริเวณล้อหลัง แรงบิดอยู่ที่ 20.4 กก.-ม. โดย ซึ่งขนาดตัวรถปกติจะมีความยาว 2.7 เมตร ส่วนตัว Pack จะมีความยาว 0.63 เมตรโดยความพิเศษ ของต้นแบบรุ่นนี้คือตัว Pack จะมีให้เลือก 2 Type คือ Energy-Pack และ Space-Pack Pack ทั้งสองยังแตกต่างกันอีกครับ โดยแบบ Space-Pack เป็นแบบปกติที่ใช้ขนสัมภาระ แต่เจ้า EnergyPack นอกจากจะขนสัมภาระได้แล้ว ยังทำ�หน้าที่เปรียบดั่ง แหล่งพลังงานสำ�รองในยามที่ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่หมด ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร ก็ยังทำ�หน้าที่ให้พลังงาน ขนาด 71 แรงม้าไว้วิ่งต่อก๊อก 2 ได้อีก แจ่มมั๊ยละครับ

“สำ�หรับการขับเคลื่อนในรูปแบบปกติ ตัวรถไฟฟ้าสามารถแล่นทำ�ระยะทางต่อการ ชาร์จเต็มที่ได้ 100 กิโลเมตร มีความเร็ว สูงสุด 95 กิโลเมตร/ชั่วโมง อัตราเร่งค่อน ข้างสวยที่ 0-50 ใน 6 วินาที แต่เมื่อติดตั้ง ชุด Energy-Pack เข้าไปแล้ว เจ้ารถ 6 ล้อ จิ๋วจะอาละวาดทำ� Top Speed ได้ถึง 145 กม./ชม.เลยทีเดียว โดยล่าสุด Rinspeed Dock+Go กล่าวว่าจะลงไลน์การผลิต และวางจำ�หน่ายในช่วงกลางปี 2013 ครับ”



Tip & Technique พัดลมหม้อน้ำ� ดูแลดีๆ ก่อนเดินทาง

“อุปกรณ์ในระบบหล่อเย็นที่สำ�คัญ จะขาด เสียไม่ได้ก็คือ พัดลมหม้อน้ำ� เพราะอุปกรณ์นี้ ช่วยในการถ่ายเทความร้อนระหว่างรังผึ้งหม้อ น้ำ � กั บ อากาศให้ ส มดุ ล กั บ ปริ ม าณความร้ อ นที่ เกิดขึ้น”

..........


ปัจจุบันพัดลมหม้อน้ำ�กับอากาศให้สมดุลกับปริมาณ ความร้อนที่เกิดขึ้น ซึ่งพัดลมหม้อน้ำ�ในรถยนต์ส่วนใหญ่จะ เป็นชนิดที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เพราะการควบคุม การทำ�งานได้ง่ายกว่าชนิดขับด้วยสายพาน แต่ข้อจำ�กัดที่ไม่ สามารถทำ�ขนาดให้ใหญ่มากๆ ได้ เหตุผลคือกระแสไฟฟ้าใน รถที่มีจำ�กัด รถที่ต้องการอัตราการไหลของอากาศมากๆ เนื่องจากอุณหภูมิ การทำ�งานของเครื่องยนต์สูง เช่น รถ ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลจึงยังจำ�เป็นต้องใช้พัดลมที่ขับด้วยสา พาน โดยใช้กำ�ลังจากเครื่องยนต์อยู่ โดยหม้อน้ำ�จะไม่ต้องการบำ�รุงรักษาใดๆ ครับ เพราะ หากชำ�รุดก็เปลี่ยนใหม่ แต่อย่างไรควรตรวจสอบเป็นระยะ โดยการตรวจสภาพและการทำ�งานของพัดลมหม้อน้ำ� ซึ่ง ควรทำ�ทุกครั้งที่ตรวจระดับหล่อเย็นต่อจากนั้นตรวจดูใบ ของพัดลมว่าไม่แตกหัก เสียหายหรือเปลี่ยนรูปไปตรวจดู ยึดและกรอบบังลม ว่าตรึงแน่นอยู่ในตำ�แหน่งอย่างถูกต้อง และไม่มีร่องรอยการเสียดสีสายไฟ ไม่ขาดไม่หลุดลุ่ย


โดยหม้อน้ำ�จะไม่ต้องการบำ�รุงรักษาใดๆ ครับ เพราะหาก ชำ�รุดก็เปลี่ยนใหม่ แต่อย่างไรควรตรวจสอบเป็นระยะ โดยการ ตรวจสภาพและการทำ�งานของพัดลมหม้อน้ำ� ซึ่งควรทำ�ทุก ครั้งที่ตรวจระดับหล่อเย็นต่อจากนั้นตรวจดูใบของพัดลมว่าไม่ แตกหัก เสียหายหรือเปลี่ยนรูปไปตรวจดูยึดและกรอบบังลม ว่า ตรึงแน่นอยู่ในตำ�แหน่งอย่างถูกต้องและไม่มีร่องรอยการเสียดสี สายไฟ ไม่ขาดไม่หลุดลุ่ย จากนั้นตรวจทำ�งานของพัดลมหม้อน้ำ�และวงจรควบคุม โดยสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วสังเกตการทำ�งานของพัดลมหม้อน้ำ� ในสภาวะปกติ ระหว่างที่ติดเครื่องยนต์ใหม่ๆ พัดลมหม้อน้ำ�จะ ยังไม่ทำ�งาน พัดลมจะหมุนเมื่ออุณภูมิของเครื่องยนต์สูงกว่า อุณภูมิทำ�งานปกติที่ 80-90 องศาเซลเซียส และจะหยุดหมุนต่ำ� ลงและสลับไปมาอย่างนี้ตลอดการเดินทาง ดังนั้นถ้าพบว่าพัดลมหม้อน้ำ�ทำ�งานอยู่ตลอด แสดงว่า มีบางสิ่งเกิดขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นในระบบหล่อเย็น หรืออุปกรณ์ ควบคุมการทำ�งานของพัดลม ลองใช้น้ำ�ฉีดที่หม้อน้ำ� ถ้าฉีดแล้ว พัดลมหยุดทำ�งานก็แสดงว่า การระบายความร้อนของหม้อน้ำ� ไม่มีประสิทธิภาพ เช่น ปริมาณของสารหล่อเย็นมีไม่พอเพียง เกิดการอุดตันที่ครีบระบายความร้อน มีสนิมในหม้อน้ำ� อุปกรณ์ ในระบบหล่อเย็นบกพร่อง แต่ถ้าฉีดน้ำ�จนแน่ใจว่าอุณหภูมิของ เครื่องยนต์ลดลงจนต่ำ�กว่าอุณภูมิทำ�งานแล้ว พัดลมก็ยังไม่ หยุ ด ทำ � งานแสดงว่ า อุ ป กรณ์ ค วบคุ ม การทำ � งานของพั ด ลม บกพร่อง

อาการบกพร่องประการสุดท้ายคือ พัดลมไม่หมุน ลองตรวจ ดูฟิวส์เสียก่อนเป็นอันดับแรก (ตำ�แหน่งของฟิวส์ได้จากคู่มือผู้ใช้ รถแต่ละรุ่น) ถัดจากนั้นก็เป็นสายไฟและขั้วเสียบ ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติ แสดงว่าตัวพัดลมหรือไม่ก็วงจรควบคุมบกพร่อง สำ�หรับการแก้ไข ในกรณีนี้คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของช่างที่มีความชำ�นาญเป็นที่สุด ไม่แนะนำ�ให้แก้ไขเองครับ ประเดี๋ยวจะได้ไม่คุ้มเสีย เพราะวงจรควบคุม พัดลมหม้อน้ำ�ในรถบางรุ่นเชื่อมต่อท่ออยู่กับกล่องคอมพิวเตอร์ ควบคุมทำ�งานของเครื่องยนต์ ถ้าหากพลั้งเผลอไปทำ�กล่องที่ว่านั้น เสียจะเป็นเรื่องใหญ่นะครับ

“เอาล่ะครับ..การดูแลพัดลมหม้อน้ำ�แบบง่ายๆ ก็มีเท่านี้ ขอให้ใช้รถไปเที่ยวปีใหม่กันอย่างสุข กายสบายใจนะครับ สวัสดีครับ”



Tip & Technique การเลือกใช้น้ำ�มันเครื่องใน รถยนต์แต่ละประเภท ตอน 3

“วันนี้นายทีเอาคำ�ถามคาใจกับ การใช้น้ำ�มันเครื่องมาฝากเป็นตอน สุดท้ายแล้วนะครับ ไม่พูดพร่ำ�ทำ� เพลง ไปชมกันดีกว่าครับ”

..........


น้ำ�มันเครื่องคนละชนิดใช้ได้ไหม ในสถานการณ์ปกติไม่แนะนำ�นะครับ เนื่องจากน้ำ�มันเครื่องแต่ละ ชนิดก็มีวัตถุประสงค์กัน เช่นน้ำ�มันเครื่องรถยนต์ น้ำ�มันเครื่องจักร น้ำ�มันเครื่องมอเตอร์ไซค์ เพราะตั้งแต่กระบวนการการผลิตก็ต่างกัน แล้ว การดีไซน์ของเครื่องยนต์ก็ยังต่างกันด้วย เช่น จะเอาของดีเซล ไปใส่เบนซินก็ไม่เวิร์ค เพราะน้ำ�มันเครื่องดีเซลจะมีคุณสมบัติค่าความ เป็นด่าง (Total Base Number) สูงกว่าน้ำ�มันเครื่องเบนซิน หรือ นำ�เอาน้ำ�มันเครื่องเบนซินไปใส่ในจักรยานยนต์ก็ไม่ถูกต้อง ยกเว้นแต่ กรณีฉุกเฉินเร่งด่วนจึงอนุโลมให้ใช้ได้ชั่วคราวครับ

ใช้ของรถยนต์กับของเครื่องจักรปนกันได้ไหม ไม่สามารถใช้ปนกันได้ครับ เนื่องจาก additive ที่เป็นองค์ ประกอบนั้นจะมีลักษณะที่ไม่เข้ากัน ถ้าใช้ผสมกันจะทำ�ให้น้ำ�มัน หล่อลื่นนั้นเสื่อมคุณภาพ ส่งผลกับระบบเกียร์ที่อาจจะพังได้ ดัง นั้นควรเลือกให้ถูกชนิดเช่นเดียวกับหัวข้อแรกครับ

น้ำ�มันเครื่องที่ซื้อมาแล้วเก็บได้กี่ปี ปกติจะระบุวันเดือนปีผลิตไว้ในแกลลอนทุกแกลอน โดยทั่วไป หากยังไม่ได้เปิดฝาและเก็บในอุณหภูมิเหมาะสม จะเก็บไว้ได้ประมาณ 3 ปีนับจากวันผลิต แต่ถ้าหากเปิดฝาใช้แล้ว และเก็บไว้ในที่ไม่อับชื้นไม่ โดนน้ำ� ก็อยู่ได้ราวๆ 1 ปี แต่ก่อนนำ�มาใช้ให้ดูเรื่องผงฝุ่นละอองด้วย ครับ ถ้ามีปนอยู่เยอะก็ซื้อใหม่ได้เลย


รถวิ่งน้อยๆ ต้องเปลี่ยนไหม สำ�หรับรถวิ่งน้อยๆ เช่น ไม่เกิน 5,000 กิโลต่อปี ขอบอก ว่ายิ่งจำ�เป็นครับ เพราะการวิ่งน้อยจอดนานเป็นการเปิดโอกาสให้ น้ำ�มันเครื่องเกิดการปนเปื้อนได้ ส่งผลให้น้ำ�มันเสื่อมเร็วขึ้น ดังนั้น ควรพิจรณาระยะทางขับขี่ควบคู่ไปกับระยะเวลาเปลี่ยนถ่ายด้วย วิ่ง น้อยจอดนานก็ควรเปลี่ยนน้ำ�มันเครื่องที่ปีละ 1 ครั้งครับ

รถเก่า 10 ปีขึ้นไปต้องใช้แบบไหน บางท่านอาจจะไม่ทราบนะครับว่า ไม่ว่าจะเป็นรถเก่าขนาดไหน ก็ สามารถใช้น้ำ�มันเครื่องได้ทุกชนิด ไม่ว่าสังเคราะห์หรือธรรมดา แต่ถ้า เลือกสังเคราะห์จะช่วยปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีขึ้น ยืดอายุขัยเครื่อง ได้นานขึ้น เบอร์ที่แนะนำ�ก็คือ SAE 15W-40 สำ�หรับแก้อาการสภาพ เครื่องไม่ดีและรถเก่าที่กินน้ำ�มันครับ

รถเติมแก๊สโซลฮอลล์ ต้องใช้น้ำ�มันหล่อลื่นพิเศษหรือไม่ เครื่องยนต์แก๊สโซลฮอลล์กับรถยนต์ที่ใช้น้ำ�มันเบนซินเป็นเชื้อ เพลิง การทำ�งานของน้ำ�มันหล่อลื่นไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก จึงใช้ น้ำ�มันหล่อลื่นทั่วๆ ไปได้ครับ แต่อย่างไรก็ตามน้ำ�มันหล่อลื่นสำ�หรับ รถยนต์ที่ใช้แก๊สโซลฮอลล์ก็มีออกมาจำ�หน่ายกันบ้างแล้ว เช่น เพอร์ ฟอร์มา แก๊สโซลฮอล มาตรฐาน API SM จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็น แบบกึ่งสังเคราะห์ มีความหนืดที่ SAE 10W-30 , SAE 10W-40 เลือกกันใช้งานตามความเหมาะสมครับ

“เรียกได้ว่าคำ�ถามคำ�ตอบตลอดทั้ง 3 ตอนนี้คงจะแก้ ปัญหาคาใจของเพื่อนๆ ได้ไม่มากก็น้อยนะครับสำ�หรับ น้ำ�มันเครื่องที่ใช้กับรถยนต์ในแต่ละประเภท อย่าขับ อย่างเดียว หมั่นเรียนรู้การบำ�รุงรักษาควบคู่ไปด้วย เพราะเทคโนโลยียานยนต์นั้นเกิดขึ้นใหม่ทุกวัน เรื่องรถ นั้นจึงเป็นศาสตร์ที่มีอะไรให้เราศึกษาอีกแยะครับ”



Gadget

LifeStyle AutoGrapher

กล้องแนวใหม่ ที่ไม่ต้องกดชัตเตอร์เอง

“หลายคนอาจจะสนุกกับการถ่ายรูปในชีวิต ประจำ�วันซึ่งบอกถึง life style ของเราและส่งต่อ ให้คนทั่วโลกได้รู้ แต่จะดีแค่ไหนหากวันนี้มีอุปกรณ์ บันทึกภาพการใช้ชีวิตแบบ where when why นาม ว่า AutoGrahper มาเป็นตากล้องส่วนตัวที่จะบัน ทึกภาพให้คุณได้ทุกที่ทุกเวลา!”

..........


AutoGrapher เกิดขึ้นท่ามกลางคลื่นแห่งโซลเชียลเน็ต เวิร์คที่กำ�ลังถาโถมประชากรบนโลกกว่า 500 ล้านคนและกว่า 900 ล้านแอคเคาท์ ให้กลายเป็นคนที่มีลักษณะนิสัยคล้ายคลึง กันอย่างหนึ่งคือการ “แชร์” โดยเฉพาะการแชร์รูปภาพในชีวิต ประจำ�วันไม่ว่าจะถ่ายรูปอาหารจานโปรดหรือที่เที่ยวสุดฮิปซึ่งดู เหมือนจะเป็นกิจกรรมที่ขาดไม่ได้

บริษัท OMG หรือ Oxford Metrics Group จึงได้ ออกแบบกล้องถ่ายรูปที่สามารถใช้ได้ทุกวัน ไม่จำ�เป็นว่าจะ ต้องยกกล้องขึ้นมาถ่าย หรือพูดง่ายๆ ก็คือมันหมีความ สามารถจับภาพได้อย่างอัตโนมัติโดยไม่ต้องกระดิกนิ้ว ซึ่งนับ ว่าเป็นโอกาสอันดีสำ�หรับผู้ที่ชอบบันทึกภาพประทับใจ หรือ ภาพเหตุการณ์น่าตื่นเต้นต่างๆ ที่เกิดขึ้น แต่เขาเหล่านั้นมักจะ ลืมที่จะยกกล้องมากดชัตเตอร์อยู่เสมอ โดย AutoGrapher เรียกได้ว่าเป็นกล้องอัจฉริยะสำ�หรับพกพาตัวแรกของโลก


ด้วยน้ำ�หนักเพียง 58 กรัมทำ�ให้มันเหมาะสำ�หรับพก พา และถ่ายรูปให้คุณแบบอัตโนมัติผ่านเลนส์ขนาด 136 องศา คุณก็จะได้เห็นภาพมุมกว้างแบบ Fish-eye แบบแนวๆ อีกทั้งไม่ต้องกังวลเรื่องมุมภาพ เพราะมันจะถูกบันทึกด้วย เซ็นเซอร์ขนาด 5 Megapixel จำ�นวน 5 ตัว ซึ่งมุมมอง ที่สวยงามและภาพที่ ส ดใสก็ จะถู กเก็ บไว้ โดยเราไม่ต้องกด ชัตเตอร์เลยซักครั้ง นอกจากนั้นยัง Built-in GPS สำ�หรับ บันทึกพิกัดที่ถ่ายภาพนั้นๆ ไว้ แล้วเราจะดูภาพได้อย่างไร? ไม่ยากเลยค่ะ เพราะ จำ�นวนภาพเฉลี่ยกว่า 2,000 ภาพในแต่ละวัน (ที่สามารถ ตั้งโหมดได้ว่าจะถ่ายน้อยกว่านี้หรือมากกว่านี้) สามารถส่ง Blue-Tooth จากกล้องเข้าสู่สมาร์ทโฟนและดูผ่าน App ได้ ทันที ทำ�ให้ความสนุกในการแต่งรูปและแชร์เริ่มต้นขึ้นแล้ว OMG ยังได้กล่าวประโยคเจ๋งๆ ถึงเสน่ห์ของ AutoGrapher ว่า “คุณไม่ต้องหยุดที่จะถ่ายรูปนั้นๆ เพียง แต่ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ และปล่อยให้ AutoGrapher ทำ�หน้าที่ เล่าเรื่องผ่านภาพในแต่ละวันเท่านั้นพอ”

“แค่คล้องคอไว้แล้วออกไปลุยโลกกว้าง เท่านี้คุณก็จะ ได้ภาพเก๋ๆไว้แชร์กับเพื่อนๆแล้ว สนใจสั่งซื้อได้เลยค่ะ เพราะ AutoGrapher วางจำ�หน่ายอยู่ที่ 650 เหรียญ หรือราว 20,000 บาท คลิกเพิ่มเติมที่ http://www.autographer.com”



RoadTrip

LifeStyle สัมผัสตำ�นานเหมืองปิล๊อก ที่กาญจนบุรี (ตอน 1)

“ได้ยินมานาน กับตำ�นานเหมืองปิล็อก ที่ ว่ากันว่าขาลุยขา off road ชอบดีนักแล เพราะ ว่าสภาพเส้นทางนั้นไม่ง่าย!..แต่ก็ไม่ยาก อีกทั้ง ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอุดมสมบูรณ์นั้นรอให้ เราไปเก็บภาพถ่ายสวยๆ กัน”

..........


เหมืองปิล๊อกตั้งอยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี ดินแดน แห่งประวัติศาสตร์ ที่ครั้งหนึ่งเหล่านักแสวงโชคได้เดินบุก ป่ า ฝ่ า ดงกั น เข้ า มาทำ � เหมื อ งแร่ ดี บุ ก และแร่ วุ ล เฟรมกั นจน รุ่งเรือง แต่กระนั้นก็ดีทุกอย่างต้องมีวัฏจักร เมื่อปี 2529 เหมืองแร่ต่างๆก็ต้องปิดตัวลง(กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว) เหลือเพียงแต่ตำ�นานของความรุ่งโรจน์ ร่ำ�รวย และความ กันดารของเมืองในหุบเขาแห่งนี้ เหมืองปิล๊อกก็เป็นหนึ่งในตำ�นานนั้น โดยการเดินทาง ไปเหมืองปิล๊อคหรือเหมืองสมศักดิ์นี้ จำ�เป็นอย่างมากที่จะ ต้องใช้รถ Off Road ขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือกระบะยกสูง เท่านั้น ย้ำ�นะคะว่าเท่านั้น แต่ถ้าหากไม่สะดวกจริงๆ ก็นำ�รถ เก๋งไปจอดไว้ที่สถานีตำ�รวจภูธรปิล๊อกและจ้างรถกระบะชาว บ้านเข้าไปได้ ส่วนการเดินทางมานั้น จากตัวเมืองกาญจนบุรี ให้ตรงไปทางถนนแสงชูโต เลี้ยวขวาที่แยกแก่งเสี้ยน ตรง ไปตามป้ายมุ่งสู่อำ�เภอทองผาภูมิ ผ่านอุทยานแห่งชาติ ทองผาภูมิ จะแวะหรือไม่ก็แล้วแต่อัธยาศัย แต่ชาวเราขอมุ่ง ตรงขึ้นเขาเข้าสู่หมู่เหมืองสมศักดิ์ก่อน เพราะว่ากันว่าทาง เข้าโหดมาก..อยากถึงที่พักก่อนมืด ครึ่งทางของการขึ้นเขานั้น ให้เพื่อนๆ หยุดพักชม ความงามพร้อมพักผ่อนท้องไส้กันซักนิด ที่จุดชมวิวที่ กม. 12 เพื่อรับโอโซนในบรรยากาศสุดขอบฟ้ากับขุนเขาแห่ง ทองผาภูมิ แถมที่นี่เป็นที่เดียวนี้ที่มีห้องน้ำ�ด้วย


เมื่อมาถึงบ้านอีต่องแล้ว ใครเอารุ่นเล็กอย่าง VIOS, ALTIS PRIUS มาก็สามารถฝากรถไว้ได้ที่สถานีตำ�รวจภูธรปิล๊อกได้ ซึ่ง บริเวณหน้าสถานีตำ�รวจจะมีรถรับจ้างขนทั้งคนทั้งสัมภาระเข้าไปสู่ เหมืองสมศักดิ์อยู่ตลอด โดยถ้าหากใครเป็นเจ้าของรถลุยๆอย่าง VIGO หรือ Fortuner ก็สามารถลุยเข้าไปได้เลยไม่มีปัญหา เพียง แต่ต้องใช้ทักษะการหลบหลุมเพียงเล็กน้อย เพราะทางเข้าตลอด 5 กิโลนั้นเราจะพบกับหลุมและรอยแตกของดินที่มีความลึกกว่า 1 ฟุต แถมบางช่วงบางตอนก็พบกับเนินขนาดสูงกว่าครึ่งเมตร ที่เรียกได้ ว่ารถไม่สูงและสมรรถนะไม่ถึงจริงๆ คงต้องขอบายก่อนแน่ๆ ดีนะ ว่ารถของชาวบ้านทีนี่ก็ใช้ Hilux เหมือนกัน ซึ่งมาถึงตรงนี้ชาว Off Road ก็ปั่นกันสนุกเลยล่ะ! กว่าจะถึงที่หมายได้ เรียกได้ว่าระบมบั้นท้ายกันเป็นแถว แต่พอ มาถึงที่พักที่เหมืองสมศักดิ์ก็แทบคลั่ง เมื่อรู้ว่า “ป้าเกลน” บุคคลใน ตำ�นานผู้มีอัธยาศัยดีมากๆคนนี้ ได้ทำ�เค้กแสนอร่อยมารองรับพวก เรา ป้าบอกว่า “แขกไปใครมาก็ต้องต้อนรับเขาอย่างดี” เค้กป้าเกลน ถึงได้เลื่องชื่อลือชาพอๆ กับตำ�นานของเหมืองสมศักดิ์แห่งนี้ ป้าเกลนภรรยาของคุณสมศักดิ์ เจ้าของเหมืองสมศักดิ์ ตำ�นานเหมืองแห่งปิล๊อกนั่นเอง เรียกได้ว่าใครมาเหมืองปิล๊อกแล้ว ไม่ได้มาทักทายป้าเกลนถือว่ามาไม่ถึง.. ภายหลังที่เหมืองปิดตัวและ คุณสมศักดิ์ได้ล่วงลับเป็นเวลาไม่นาน ป้าเกลนและลูกชายก็ได้ทำ�ที่พัก ที่เหมืองแห่งนี้ เป็นรีสอร์ทที่มีเรื่องราว เรียกได้ว่านั่งคุยกับป้าเกลน ทั้งวันทั้งคืน แกก็มีเรื่องเล่าพร้อมรอยยิ้มและเสียงหัวเราะมาให้เราได้ อมยิ้มเสมอ

“ฮ้าวว…ถึงเวลานอนแล้วนะคะ เพราะวันนี้ตะลุยมา ทั้งวัน เหนื่อยมากๆ แม้ไม่ได้ขับรถเอง แถมร่างกาย ที่เหนื่อยล้าเรียกร้องให้ชาร์จพลังงานด้วยหนังตา ที่ใกล้จะปิดโดยอัตโนมัติ พรุ่งนี้ชาวเราวางแผนกัน ตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง เพื่อจะตะลุยเที่ยวพื้นที่รอบๆ ให้หมดภายในคอลัมน์หน้า แล้วติดตามกันนะคะ”

พิกัดปิล๊อก : 14.68025,98.370776



CarVariety Lexus TS TMG Sport 650

สไตล์ดิบกับแรงม้า 600+

“นานๆ จะเห็น TMG หยิบรถสปอร์ตซีดาน ขึ้นมาพัฒนาบ้าง โดยล่าสุดได้เปิดตัว Lexus TS TMG Sport 650 สปอร์ตที่ทำ�เอาหัวใจหนุ่มๆ หลายคนละลาย”

..........


TMG หรือ Toyota Motorsport GmbH แห่งยุโรป ผู้ที่เคยฝากผลงานรถสูตร 1 ของ Toyota ในสนามเลอมัง 24 ได้เปิดตัวพร้อม บรรยายถึ ง สรรพคุ ณของสปอร์ ต ซี ด านที่ ส่งเสียงคำ�รามอยู่ใต้ผ้าคลุม ในงาน ESSEN MOTOR SHOW 2013 ที่ประเทศเยอรมนี ถ้ า หากจะลองดู กั น แบบจริ ง จั ง แล้ ว ถื อว่ า Lexus TS TMG Sport 650 หรื อ New TS 650 ตั วนี ้ ส ร้ างความแตกต่ างให้ กับราชารถหรูในอเมริกาเป็นอย่างมาก เพราะ ทาง TMG ได้ใช้แพลตฟอร์มของ LS 460 มา แต่งองค์ทรงเครื่องชนิดที่ว่าหน้ามือเป็นหลัง มือเลยทีเดียว และที่สำ�คัญได้ผลิตแบบจำ�นวน จำ�กัด อาจเป็นเพราะของมัน Limited จริงๆ


เหตุใด TMG จึงเลือก LS460 แทนที่จะเป็น IS F หรือ Toyota GT86 นั่นหรอครับ ก็เพราะว่า Lexus อยากจะ พัฒนาสปอร์ตซีดานที่ให้พละกำ�ลังมหาศาล แต่เพียบพร้อม ไปกั บความโอ ่ โถง ความสะดวกสบายในการขับ ขี่ตามสไตล์ Lexus นั่นเองครับ ทางทีมงานวิศวกรรมของ TMG เมื่อได้รับ LS460 เข้ามาจอดในแล็ป ก็จัดการรื้อ โละ เครื่องยนต์และระบบต่างๆ ออกหมด ให้เหลือแต่เพียงโครงสร้างรถล้วนๆ จากนั้นได้ยก เครื่องยนต์บล็อคโตของ LS 600hl ความจุที่ 5,000 cc V8 พร้อม Twin Turbocharger พร้อมปรับจูนตามเทคโนโลยี วิศวกรรมจาก TMG ทำ�ให้รีดม้าตามเป้าได้ที่ 650 hp นั่น คือที่มาของตัวเลขนั่นเอง พละกำ�ลังกับแรงม้าหกร้อยกว่าตัว เรียก ได้ ว่ า มหาศาลขนาดนี้ ม าดู แ รงบิ ด กั น บ้ า งครั บ TS 650 มีแรงบิดที่ 765 นิวตันเมตรที่ 5,460 รอบ/นาที รอบสูงสุดที่ 7,450 รอบ/นาที เร่ง จาก 0-100 ได้ที่ 3.9 วินาที และอัด Top Speed ได้ที่ 320 กิโลเมตร/ชั่วโมง wow!

ภายนอกนั้นจะเห็นได้ว่า TMG ได้แปลงโฉมใหม่หมดตั้งแต่สีที่ เน้นความมาดเท่ห์เอาใจชายหนุ่ม ด้วยรูปโฉมภายนอกที่ได้ปรับแต่ง พร้อมทดสอบในอุโมงค์ลมของ TMG เพื่อให้แน่ใจว่าความสวยงาม และประสิทธิภาพจะทำ�งานร่วมกันได้ 100% ไม่ว่าจะเป็นฝากระโปรง องค์ประกอบของกระจังหน้าที่ดีไซน์ได้เฉียบขาดสไตล์ญี่ปุ่น พร้อม ไฟตัดหมอกที่ดูดีเอามากๆ นอกจากนั้นเส้นสายด้านข้างและสปอยด์ เลอร์ด้านหลัง TMG ก็คอนเฟิร์มแล้วว่าถูกต้องตามหลัก Aero Dynamic แน่นอน TS 650 ลงแม็กดำ�ขนาด 20” จาก BBS Alloy Wheels หุ้มด้วยยางประสิทธิภาพจาก Michelin Pilot sport และมั่นใจด้วย เบรก carbon-ceramic จากแบรนด์ระดับโลก Brembo ส่วนงาน ออกแบบด้านหลังไม่ต้องพูดถึงครับ เรียกได้ว่าท้ายนั้นน้องๆ LFA เลยทีเดียว

“สำ�หรับยานยนต์ที่เต็มไปด้วยสมรรถนะ พละกำ�ลัง และความงามของสปอร์ตซีดานสุดหรูคันนี้ ทำ�มาเอาใจหนุ่มๆทุกวัย ซึ่งก็ต้องรอประกาศ จากทาง TMG นะครับว่าจะขายเท่าไหร่เมื่อใด สำ�หรับ Lexus TS TMG Sport 650 คันนี้ครับ”



CarVariety เปิดตัว Toyota Qi ระบบชาร์จไฟไร้สายครั้งแรกในโลก

“Toyota เปิดตัวเทคโนโลยีครั้งแรก ของโลก กับระบบชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์ใน รถยนต์ ที่จะสร้างมูลค่าให้กับรถยนต์และเพิ่ม ความสะดวกในการเดินทาง ทำ�ให้รถเข้าใกล้ บ้านหลังที่สองมากขึ้น”

..........


เทคโนโลยีชาร์จไฟสุดล้ำ�ของ Toyota ถูกตั้งชื่อให้ว่า QI เป็น ระบบชาร์จไฟที่ติดตั้งในรถยนต์เจ้าแรกของโลก ได้ติดตั้งครั้งแรกใน Toyota Avalon 2013 ทั้งรุ่นเบนซินและไฮบริด ที่กำ�ลังจะจำ�หน่าย ในต้นปีหน้า โดย Randy Stephens หัวหน้าวิศวกรผู้พัฒนาระบบ นี้กล่าวว่า “การบุกเบิกเทคโนโลยี Wireless Charger นี้เป็นการ ยกระดับประสบการณ์ของการขับขี่ และนับว่าเป็นนวัตกรรมที่ใช้ งานง่ายเพียงแค่วางอุปกรณ์ในคอนโซลก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ ได้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของโตโยต้า ที่จะสร้าง ความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าสูงสุด” โดยเทคโนโลยีนี้ติดตั้งอยู่ในบริเวณคอนโซลกลาง ทำ�ให้สะดวก ต่อการหยิบจับใช้งาน โดยยังอาศัยอุปกรณ์ที่มีชื่อว่า “ebin” (ที่ ดูคล้ายๆ แผ่นรองเมาส์) Pad ที่ใช้สำ�หรับวางสมาร์ทโฟนได้หลาก หลายประเภท จากนั้นแค่เปิดสวิทซ์ก็สามารถชาร์จโทรศัพท์จนเต็มได้ ตลอดระยะการเดินทาง QI นี้เป็นผลงานการร่วมออกแบบกันระหว่าง Toyota และ Convenien Power and Phillips Lite-on Digital Solution และร่วม แจมโดย Denso ที่ได้เข้ามาพัฒนาพื้นผิวของ ebin โดยวัสดุที่ใช้ สามารถสร้างแรงเสียดทานให้กับสมาร์ทโฟนทุกพื้นผิว QI Wireless Charging ขณะนี้สามารถใช้ได้กับสมาร์ทโฟน 34 รุ่น ได้แก่ iPhone, LG, Google Nexus, Nokia Lumia 920 810 822, HTC Windows Phone 8X รวมทั้งกำ�ลังขยายเข้าสู่ อุปกรณ์อิเล็ททรอนิกส์อื่นๆ ได้มากขึ้น

“อย่างไรก็ตาม Toyota Avalon , Avalon Hybrid ที่มาพร้อม QI System นี้เป็นรุ่น Limited ที่ติด ตั้งไม่กี่คันเท่านั้น ซึ่งถ้าหากสนใจติดตั้งก็ต้องเป็น ออปชั่นเสริม ซึ่งถือเป็นฟีทเจอร์ที่โดดเด่นมากๆ สำ�หรับ Toyota Avalon โฉม 2013 นี้”


Tip & Technique ลงลึกระบบไฮบริด

“หลังจากที่ Toyota ได้นำ�เทคโนโลยี Hybrid เข้าสู่ประเทศไทย หลายคนได้ลองใช้ ได้รู้จัก ระบบนี้กันมาบ้างแล้วว่าระบบไฮบริดนั้นทำ�งาน กันอย่างไร แต่ครั้งนี้นายทีจะพาไปเจาะลึกครับ ว่าจริงๆแล้วเทคโนโลยีไฮบริดนั้นแต่ดั้งเดิมนั้น มี มากมายหลายประเภท ไปชมกันเลยครับ”

..........


ระบบไฮบริดแบบอนุกรม (Series Hybrid) แบบอนุกรมนี้จะอาศัยเครื่องยนต์เป็นตัวหมุนกำ�เนิด ไฟฟ้า หรือเรียกกันว่า Generator ปั่นเพื่อผลิตไฟฟ้า จาก นั้นพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดที่ปั่นได้จะถูกแปรผันอีกครั้งด้วย Inverter (แต่ไม่ใช่แอร์นะครับ) เพื่อที่จะไปควบคุมแรงดัน และ ความถี่ สำ � หรั บ ควบคุ ม การทำ � งานมอเตอร์ ที่ ทำ � หน้ า ที่ ส่ ง กำ�ลังไปขับเคลื่อนการหมุนของล้อ เพื่อให้ตอบสนองอัตรา เร่ง ความเร็ว และแรงบิดได้ตามใจต้องการ จุดเด่นของ Series คือสามารถทำ�ให้เครื่องยนต์ กำ�ลังต่ำ�ทำ�งานอย่างเต็ม Performance และทำ�งานต่อเนื่อง โดยให้ กำ � เนิ ด พลั ง งานไฟฟ้ า และจ่ า ยไฟฟ้ า ไปยั ง มอเตอร์ ไฟฟ้า อีกทั้งยังช่วยชาร์จ ไฟแบตเตอรี่ไปในตัวอีกด้วยครับ

ระบบแบบคู่ขนาน (Parallel Hybrid) การทำ�งานก็คือเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะหมุน ทำ�งานไปพร้อมๆ กัน หรือเรียกอีกอย่างว่าทำ�งานขนาน กัน โดยกำ�ลังขับจากแหล่งพลังทั้ง 2 ชนิดถูกนำ�มาใช้ใน สถานการณ์ต่างๆ เท่าที่รถต้องการในเวลานั้นๆ มอเตอร์ จะใช้กำ�ลังไฟจากแบตเตอรี่ ซึ่งการชาร์จไฟนั้นจะมาจากการ เปลี่ยนโหมดมอเตอร์ไฟฟ้าให้ทำ�งานเป็น Generator ในขณะ ที่ทำ�การเบรกรถ ระบบแบบคู ่ ข นานนี ้ เป็ น ระบบที ่ ไม่ ซ ั บ ซ้ อ น เรี ย ก พลังงานได้เยอะ แต่จุดอ่อนคือ ไม่สามารถส่งกำ�ลังไปขับ เคลื่อนล้อได้ ขณะที่ทำ�การชาร์จไฟในคราวเดียวกัน เพราะ ว่าระบบนี้มีมอเตอร์ตัวเดียวในการทำ�งาน 2 หน้าที่


ระบบแบบอนุกรม/คู่ขนาน (Series/Parallel Hybrid) ระบบนี้รวมเอาข้อดีของทั้ง 2 รวบมาไว้ด้วยกัน เพื่ออรรถประโยชน์ ที่เต็มที่ ซึ่ง Toyota ของเราได้บุกเบิกระบบนี้ โดยเรียกว่า THS (Toyota Hybrid System) ซึ่งปัจจุบันรถของ Toyota ทุกรุ่นล้วนแล้วแต่ใช้ระบบนี้ ทั้ง Toyota Prius และ Toyota Camry Hybrid ครับ แต่ตัว THS เป็นระบบ บุกเบิกที่ใช้ใน Prius 2003 ซึ่งปัจจุบัน THS ได้มีการพัฒนาให้เป็น THS II หรือชื่อที่เราคุ้นเคย Hybrid Synergy Drive (HSD) นั่นเองครับ การทำ � งานของระบบนี้ จ ะขึ้ น อยู่ กั บ สภาวะการขั บ ขี่ ว่ า ต้ อ งการใช้ กำ�ลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว (จุดเด่นของอนุกรม) หรือ ต้องการใช้กำ�ลังขับเคลื่อนทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ (จุดเด่นของ คู่ขนาน) นอกจากนั้น ระบบนี้ยังสามารถส่งกำ�ลังขับเคลื่อนไปยังล้อ ต่างๆ ได้ แม้ในขณะที่ Generator สร้างกระแสไฟฟ้า

“ซึ่งข้อดีของระบบไฮบริดในสไตล์ Toyota ก็ คือการประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงที่ได้มาก กว่าระบบไฮบริดประเภทอื่น ทั้งลดปริมาณ ของเสียที่ปล่อยมา ลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ (ต้องลองถึงรู้) รวมถึงอัตราเร่งที่ราบรื่น ไม่ติดขัดจากการผสมผสานการทำ�งานของ เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้านั่นเองครับ”



Tip & Technique RUN-FLAT

วิ่งได้แม้ภัยมา

“ยางรถยนต์ ไม่ มี ล มแล้ ว มั นจะวิ่ ง ได้ ยั ง ไงล่ ะ ครับ บางคนคิดว่าถึงวิ่งก็วิ่งแบบขอบครูดพื้น! แต่ นั่นไม่ใช่ลักษณะของยาง RUN-FLAT แน่นอน เพราะ มันยังวิ่งได้ แม้ไม่มีลมยาง!!”

..........


เกิดเหตุยางรั่ว ยางแตก ยังวิ่งได้ ยาง RUN-FLAT หรือ รันแฟลตนั้นเกิดมาเพื่อทดแทน ข้อจำ�กัดของยางเรเดียลธรรมดา ความแตกต่างก็คือ เมื่อยาง เรเดียลทั่วไปเกิดอุบัติเหตุ จนรั่ว แตก ระเบิด ไม่ว่าจะถูกตะปูหรือ อะไรก็ตาม ยางเรเดียลจะรีดลมยางออกตามรอยรั่วจนหมด เพียงไม่กี่วินาที ทำ�ให้สถานภาพยางดังกล่าวไม่สามารถขับต่อไป ได้ (เพราะขอบล้อมันจะครูดจนอาจจะพังได้) เหตุการณ์ดังกล่าวก็ต้องพึ่งยางอะไหล่ แต่บางครั้ง ข้อจำ�กัดของการเปลี่ยนยางนั้น ไม่ได้อยู่ที่เครื่องมือเสมอ ไป เพราะอันตรายอื่นๆ ของการเปลี่ยนยางข้างทางก็มีอยู่ มาก ริมทางหลวงที่มีไหล่ทางแคบ บนไฮเวย์ที่รถยนต์คันอื่น ใช้ความเร็วสูง หรือเส้นทางเปลี่ยวในเวลากลางคืนหรือฝน ตกหนัก ล้วนแต่จะเสี่ยงต่อความเสียหายต่อทรัพย์สินมาก ขึ้น ด้วยเหตุฉะนี้ยาง RUN-FLAT จึงเกิดมาเพื่อทดแทนข้อ จำ�กัดนั่นเองครับ

คุณสมบัติที่แตกต่าง เมื่อยางรันแฟลตแบน มันสามารถวิ ่ งได้ ท ี ่ ค วามเร็ ว สูงสุดถึง 80 กม./ชม. ถือว่าเป็นความเร็วเฉลี่ยที่ใช้วิ่งกัน ทั่วไป และสามารถวิ่งได้ไกลถึง 80 กิโลเมตรไปยังสถานที่ ปลอดภัยได้ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะแก้มยางออกแบบมาเป็นพิเศษ ให้มีความหนาและแข็งแรงมากขึ้น เรียกได้ว่าแม้ลมยางจะไม่มี แต่ด้วยขอบยางที่แข็งแรงมากๆก็สามารถรับน้ำ�หนักกดทับ ¼ ของรถได้สบายๆ

ไปซื้อใส่ได้เลยไหม อ้ะอ้ะ รอก่อนครับ เพราะยางรันแฟลตจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อ ยานยนต์คันนั้นมีร ะบบ TPMS (Tire-pressure monitoring system) เท่านั้น และการทำ�งานของระบบยางรันแฟลตจะทำ�งานก็ ต่อเมื่อ ระบบเริ่มทำ�งานพร้อมแสดงสัญญาณเตือนขึ้นเมื่อความ ดันลมยางลดลงจากค่าความดันลมยางที่ตั้งค่าไว้แล้วในขณะ ขับขี่ เนื่องจากถูกของมีคมตำ�ทะลุหรือจากสาเหตุอื่นไม่ว่าความ ดัน ลมยางนั้นจะมีเหลืออยู่ในยางรถยนต์หรือไม่ก็ตาม ซึ่งยาง รันแฟลตนี้จะพบได้ในรถยนต์สมรรถนะสูง

“ไม่รู้จริงไหมว่าเรื่องของความนุ่มนวลที่ให้ มากกว่ายางเรเดียลทั่วไป รถใครที่ใช้ยางรัน แฟลตอยู่ก็บอกนายทีด้วยละกันนะครับว่านุ่ม กว่าจริงไหม เพราะตามหลักแล้วรถที่ใช้ยาง ประเภทนี้ก็ต้องปรับช่วงล่างให้สมดุลย์กับ ยางด้วย ซึ่งปัจจุบันผู้ผลิตยางรายใหญ่ก็ นำ�เจ้ายาง RUN-FLAT มาจำ�หน่ายกันตาม ศูนย์ยางทั่วไปแล้วครับ”


Gadget

LifeStyle TECHPET

น้องหมายุคดิจิตอล

“ปีใหม่นี้ขอต้อนรับกับเพื่อนใหม่แสนรู้ TECHPET สุนัขยุคดิจิตอลพร้อมที่จะติดตาม เราไปได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมแอพไอโฟนเจ๋งๆ ที่จะทำ�ให้เราไม่เหงาอีกต่อไป!”

..........


น้องหมาในเวอร์ชั่นแอพลิเคชั่นนี้ เป็นนวัตกรรมใหม่ จาก BANDAI บริษัทของเล่นชั้นนำ�ของโลก ที่เคยสร้าง ตำ�นานของเล่นอย่าง Tamagotchi ให้เด็กน้อยเด็กใหญ่ติด กันงอมแงมมาแล้วทั่วโลก ในปีนี้แม้ว่ากระแสของเล่นจะไม่ บูมเท่ากระแสอุปกรณ์สื่อสาร แต่ BANDAI ก็ได้คว้าโอกาส ที่จะแจ้งเกิดอีกครั้งด้วย อุปกรณ์เสริมหรือเรียกเก๋ๆ ว่า iDevice พ่วงของเล่นเข้ากับสมาร์ทโฟนอย่าง iPhone ได้ อย่างลงตัว นั่นคือจุดกำ�เนิดของ TECHPET น้องหมา ดิจิตอลตัวนี้ TECHPET เป็นเหมือน Gen ที่สองของ Tamagotchi (1996) ซึ่ง BANDAI ได้สร้างมันมาจากต้นแบบเพื่อนที่ดี ที่สุดของมนุษย์ “สุนัข” ให้อยู่รูปแบบของเล่นแบบ Interactive ซึ่ง TECHPET เป็นของเล่นที่ใช้งานง่าย และคาดว่า เด็กๆ ทุกบ้านก็น่าจะใช้ได้เหมือนกัน (เพราะเด็กๆสมัยนี้พก ไอโฟนกันแล้ว) มันตอบสนองการรับรู้ได้ผ่านทางหน้าจอ iPhone


ซึ่งสามารถควบคุมได้ทั้งสัมผัส เสียง และทีเด็ดก็คือการตอบสนอง ความเคลื่อนไหวผ่าน FaceTime ทำ�ให้มันสามารถแสดงสีหน้าต่างๆ ขยับท่าทางได้อย่างน่ารักน่าชัง นอกจากนั้น ระดับการให้อาหารของมันยังสามารถอัพเกรดได้ เรื่อยๆ เพราะเจ้า TECHPET นี้ มันจะโตไปตามการให้อาหาร (คล้ายกับ เงื่อนไขของ Tamagotchi) เพราะหลังจากใส่ถ่านแล้วจะพบว่าลูกสุนัข ของเราได้แต่ทำ�ตาปริบๆ นั่นหมายความว่าสุนัขเพิ่งเกิดและยังทำ�อะไรไม่ เป็น แต่เมื่อพ้นเลเวล 2-3 ขึ้นไปลูกสุนัขจะเห่าเรียก (ผ่านลำ�โพง) และเริ่ม เล่นกับเราได้ โดย TECHPET นี้จะมาพร้อมชุดคำ�สั่งตอบโต้กับระหว่าง ลูกสุนัขและเจ้าของได้มากกว่า 100 แบบ และยิ่งเลเวลเยอะๆ ก็จะมีอาหารแปลกๆออกมาอีกเพียบ และ นอกจากหมวดอาหารแล้ว ยังมีหมวดของเล่น หมวดยารักษาโรค เช่น ท้องร่วง, เห็บหมัด (ห๊ะ!เห็บขึ้นด้วยหรือนี่) เป็นต้น และหมวดเครื่อง ประดับที่จะสามารถแต่งตัวให้น้องหมาของคุณได้อย่างไม่ซ้ำ�แบบ พร้อม มินิเกมส์อีก 2 เกมส์เอาไว้เล่นช่วงที่สุนัขอารมณ์ดี

“นอกจากนั้นยังมีรายละเอียดที่น่ารักๆ อย่าง กดปุ่มปรบมือเมื่อเวลามันทำ�ตามคำ�สั่ง (และระดับ ความสัมพันธ์ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย) ทำ�ให้รู้ว่าเทคโนโลยี ของเล่นเดี๋ยวนี้ไปไกลกว่าที่เราคิด ที่สำ�คัญ TECHPET เป็นสัตว์เลี้ยง Interactive ที่มีราคา ไม่แพง เพราะ BANDAI เค้าจำ�หน่าย TECHPET พร้อม APP ไว้ที่ 59.99$ เหรียญสหรัฐเท่านั้นค่ะ”



FoodStuff

LifeStyle KURODA

ทานจุใจ อร่อยลืมโลก

“มาด่วนๆ เลย ของดีและอร่อยไม่ได้มีบ่อยๆ เพราะที่คุโรดะ (KURODA) บุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นที่กำ�ลังเป็น ที่นิยมอยู่ในขณะนี้ ได้ปรับปรุงใหม่ให้มีพื้นที่มากกว่า เดิม นั่นก็หมายความว่าเราจะได้ทานอาหารญี่ปุ่น บุฟเฟต์ได้ทันใจมากขึ้น โดยไม่ต้องต่อคิวน้านนาน..”

..........


คุโรดะ ร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีมีความโดดเด่นใน เรื่องของความสดของอาหาร รสชาติการปรุง และ ราคาที่เป็นมิตรกับมนุษย์เงินเดือนเป็นอย่างยิ่ง ทำ�ให้ ลูกค้าในช่วงเย็นเยอะมาก ชนิดที่ว่าถ้าหากมาทานที่นี่ ต้ องจองคิวกันเป็นวันๆ และยิ่ง ถ้าช่ว งต้นเดือน นะ เพื่อนๆ เอ๋ย ไม่ต้องพูดถึง.. แต่ข่าวดีก็คือ คุโรดะ สาขาแรกเอกมัยได้ขยายร้านใหม่ให้ใหญ่กว่าเดิม เรียก ได้ว่าไม่ต้องรอคิวนานนานแล้ว

โดยร้านใหม่ที่ว่านี้ก็ไม่ได้ไปไหนไกลหรอกค่ะ อยู่ หลังร้านเก่านั่นเอง แต่จะบอกให้ว่าแม้อะไรๆ จะเปลี่ยน ไป แต่เมนูสุดยอดอย่างยำ�ปลาแซลมอนยังเหมือน เดิม ซึ่งหากเพื่อนๆ ที่ไม่เคยทานก็จงสั่งซะอย่างแรก เพราะเนื้อปลาแซลมอนสดๆ หวานๆ เรียงกันเป็นตับ มาแบบไม่มีหวงของ จะถูกราดด้วยน้ำ�ยำ�สูตรพิเศษ ถูกปากคนไทย เปรี้ยวนิด เผ็ดหน่อย ทานพร้อมกับ ผักเครื่องเคียง ทานแล้วจะต้องร้องว่า แซบสุโค่ย!! ชุดปลาดิบรวม ชุดนี้คุ้มมากไม่สั่งถือว่าพลาด เพราะปลาดิบจานนี้จัดหนักมากไม่ว่าจะเป็นแซลมอน เจ้าเก่า ปลาโอ ฮามาจิ โทโร และปูอัด แต่ละอย่างไม่ ต้องบอกถึงความสด เพราะครัวแบบ open หน้าร้าน นั้นบอกทุกอย่างอยู่แล้ว แถมไม่จุใจสามารถสั่งได้อีก แบบไม่ต้องเกรงใจพ่อครัว


สาวหวานน่าจะ Like กับเมนูนี้ ปูอัดคลุกไข่ กุ้ง เมนูสุดครีเอทโดยเชฟมือทองของที่นี่ ปูอัด ที่ทุนเดิมก็สดอยู่แล้ว ผสมกับไข่กุ้งและครีมซอส ทำ�เอาหัวใจละ.. ละ..ละลายกันเลยทีเดียว เป็นอีก หนึ่งเมนูแนะนำ�ค่ะ กลัวอ้วนไหม?? ถ้าไม่สะทกสะท้านเราก็ ขอจัดให้หนึ่งเซ็ทกับ ขาหมูดำ� ขาหมูแสนอร่อยที่ KURODA ที่เดียว (ที่อื่นอาจจะมีนะแต่ไม่เคยเห็น จริงๆ) กับขาหมูพร้อมเนื้อหนังสุดนิ่ม และน้ำ�ขา หมูที่เหนียวข้น หวานมัน หอมเครื่องเทศ เป็นอีก เมนูไม่คิดว่าคืออาหารญี่ปุ่น แต่มันอร่อยโดนใจ จนต้องสั่งซ้ำ�! เอาเป็ น ว่ า รี วิ ว กั น พอหอมปากหอมคอ เพราะถ้ า จะร่ า ยยาวที่ ท านทั้ ง หมดก็ ค งจะไม่ ไหว เพราะเยอะมากๆ เมนูอาหารที่นี่มีเป็นร้อยๆ เมนู เลยค่ะ โดย KURODA เป็นร้านอาหารที่เพื่อนๆ สามารถเลือกรูปแบบการทานได้ ว่าเลือกทานเป็น จานๆ(ในกรณีที่ทานน้อย) เริ่มต้น 50-300 และ แบบบุฟเฟ่ต์คนละ 450 ก็สามารถสั่งอาหารได้ แบบไม่อั้น แต่ทริคก็คือลองคำ�นวณดูค่ะ ว่าถ้าหากเราอยากจะทาน มากกว่าคนละ 4 จานขึ้นไปและชอบกินปลาดิบด้วย ก็แนะนำ�ว่า เป็ น บุ ฟเฟต์ จ ะคุ ้ มกว่า เพราะอย่างชุด ปลาดิ บรวมถ้ า สั ่ งแบบ จานๆ ก็จานละ 300 บาทเข้าไปแล้ว โดยคุโรดะมีอยู่ 6 สาขา โดยสาขาเอกมัยคือสาขาที่น่า จะสะดวกโยธินกับทุกคนมากที่สุด เพราะเดินเพียง 5 นาทีก็ถึง ร้านแล้ว ติดต่อคุโรดะสาขาเอกมัยได้ที่เบอร์ 02-392-4933

“โดยคุโรดะมีอยู่ 6 สาขา โดยสาขาเอกมัยคือ สาขาที่น่าจะสะดวกโยธินกับทุกคนมากที่สุด เพราะ เดินเพียง 5 นาทีก็ถึงร้านแล้ว ติดต่อคุโรดะสาขา เอกมัยได้ที่เบอร์ 02-392-4933” พิกัดคุโรดะสาขาเอกมัย : 13.720596,100.584227



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.