e-TOYOTACLUB e-Magazine March 2014 issue 26

Page 1

MARCH ISSUE 26

CarVariety • New World Records! สี่ลอที่เร็วที่สุดในโลก Hennessey Venom GT • ดีไซนเพื่อใหคนขับไดหลับสบาย Rinspeed XchangE

Tip�&�Technique • ดูแลรถใหม ใหใหมอยูเสมอ • เติมน้ำมันอยางไร ใหคุมสุดๆ

LifeStyle • Google Project Ara สมารทโฟนถอดประกอบจากกูเกิ้ล • ทาใหลอง ขาวแกงกระหรี่จานยักษที่ Kinniji • สุดแปลก! “พิพิธภัณฑรางกายมนุษย”


CarVariety New World Records! สี่ล้อที่เร็วที่สุดในโลก Hennessey Venom GT

“สถิตโิ ลก มีเอาไว้ทำ� ลาย! และเมือ่ เป็นสถิตสิ ดุ ยอดยานยนต์ทที่ ำ� ความเร็วได้สงู สุดในโลกด้วยแล้ว แชมป์มกั อยูไ่ ด้ไม่นาน และล่าสุด Hennessey Venom GT ก็ได้ท�ำลายสถิติเดิมไปเรียบร้อยแล้วครับ”

..........


ยังจ�ำได้กลายๆ ว่าช่วงปี 2010 นายทีได้เคยจัด อันดับรถที่เร็วที่สุดในโลก และตั้งแต่วันนั้น Bugatti Veyron ก็ยังคงครองแชมป์เรื่อยมา มาถึงวันนี้ Bugatti คงต้องสละ เข็มขัดแชมป์ที่เคยคาดไว้อย่างแน่นเหนียวให้กับ Hennessey Venom GT ซุปเปอร์คาร์สญ ั ชาติอเมริกนั ทีท่ ำ� สถิตคิ วามเร็ว สูงสุดอย่างเป็นทางการ ด้วยความเร็วที่ 435/กิโลเมตร ต่อชั่วโมง Hennessey Venom GT (เฮนเนสซี เวนอม จีที) เป็น รถที่มีต้นก�ำเนิดจากโรงงาน Hennessey Performance Engineering บริษัทเล็กๆที่ถือต้นก�ำเนิดมาช่วงปี 1991 โดย ทางทีมผลิตได้ใช้แชสซีจากซุปเปอร์คาร์ขนาดกลางอย่าง Lotus Exige แต่บริษัทเน้นว่า Hennessey ไม่ได้ร่วมผลิตกับ Lotus แต่อย่างใด


ซึ่ง Hennessey หยิบเพียง “Chassis”เท่านั้น ส่วนประกอบอื่นๆ เช่น roof, doors, side glass, windscreen, dashboard, cockpit ทาง Hennessey เป็นผู้ออกแบบผลิตเองทั้งหมด โดยตัวถังใช้วัสดุคาร์บอน ไฟเบอร์ รวบรวมน�้ำหนักของตัวถังเปล่าก็จะอยู่ที่ 1244 กิโลกรัม ซึ่ง มีน�้ำหนักเบากว่า Veyron ถึง 644 กิโลกรัม เครื่องยนต์บล็อกใหญ่ V8 ท�ำจากอะลูมิเนียมขนาด 7,000 CC (7.0L) Twin-Turbocharged ถ่ายทอดก�ำลังได้สูงสุด 1,244 แรงม้า แรงบิด 1,566 นิวตันเมตร ตัวเครื่องวางกลางขับหลัง ใช้ระบบเกียร์ ธรรมดาจาก Ricardo 6-speed มีอัตราเร่งแรงที่สุดในโลกอย่างไม่เป็น ทางการที่ความเร็ว 0-300 กม./ชม. ภายใน 14.5 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดที่กระชากเข็มขัดแชมป์ได้เมื่อเร็วๆ นี้ ถูก ทดสอบที่ Runway ลงจอดของยานอวกาศทีม่ รี ะยะทางกว่า 9 กิโลเมตร โดยสามารถวัดความเร็วสูงสุดที่ วัดได้คอื 270.49 mph หรือที่ 435.21 Kph ชนะสถิติที่ Veyron ได้อย่างเฉียดฉิวโดยเมื่อปี 2010 Bugatti Veyron ท�ำความเร็วสูงสุดได้ที่ 269.86 mph นั่นเอง

”อย่างไรก็ตามถึง Hennessey จะเคลมเป็น ที่เรียบร้อย แต่ก็ยังไม่ได้รับการบันทึกไว้ใน Guinness Book of World Record เพราะ ยังไม่ได้ท�ำตามครบเงื่อนไขตรงที่ ต้องเป็น รถที่ผลิตจ�ำหน่ายจริงครบ 30 คัน ซึ่ง Venom GT ผลิตได้ตอนนี้เพียง 11 คัน แสดงว่ายังมีเวลาที่ Bugatti สามารถอัพเดท อะไรนิดหน่อยเพื่อทวงคืนเข็มขัดแชมป์โลก เส้นนี้ โดยปัจจุบัน Hennessey Venom GT ทั้ง 11 คันมีผู้จับจองเป็นเจ้าของหมดแล้ว โดยปั จ จุ บั น มี ร าคาเริ่ ม ต้ น ที่ 600,000 เหรียญสหรัฐ เปรียบเทียบเงินไทยแบบไม่มี ภาษีก็ราว 19.5 ล้านบาท”



CarVariety ดีไซน์เพื่อให้คนขับได้หลับสบาย Rinspeed XchangE

“ยานยนต์ไร้คนขับหรือ Driveless ดูเหมือน จะเป็นค�ำตอบส�ำหรับหนุ่มสาวยุคนี้ที่ชอบท�ำอะไร พร้อมๆ กับขณะขับรถ โดย Rinspeed XchangE ออกแบบให้ผู้ขับสามารถแชทมือถือ แต่งหน้า หรือแม้แต่นอน!”

..........


ค่ายนี้เมื่อออกแบบแล้ว จะไม่สุดก็คงไม่ใช่ “Rinspeed” กับคอนเซปต์แห่ง ทศวรรษ Rinspeed XchangE ถือว่าออกแบบมาได้อย่างโฉบเฉี่ยวและหวือหวาสุดๆ เนื่องจากชูจุดเด่นกับระบบ Driveless Control ระบบไร้คนขับ ที่ตอบสนองความ ต้องการของหนุ่มสาว Gen Z ในยุคหน้า ที่ต้องการความอ�ำนวยความสะดวกแบบ 108 แม้ในขณะที่พวกเขาเองขับรถ ถ้าใครนึกไม่ออกว่ายานยนต์ที่ไร้คนขับในอนาคตนั้นจะหน้าตาเป็นอย่างไร ก็ ให้ดูที่ XchangE คันนี้ได้เลยครับ เพราะความสนุกแบบล�้ำยุค นั้นเกิดขึ้นภายในห้อง โดยสารสุดหรูที่พื้นที่ส่วนใหญ่ให้ความส�ำคัญกับการขับขี่น้อยมากๆ ความหรูหรา ของ Lounge ห้องโดยสาร ออกแบบโดย 4erC และ Esoro เป็นบริษัทออกแบบมือ ฉมังจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่สามารถหมุนเบาะกลับหลังได้เหมือนโซฟาที่บ้าน โดยเปิด ตัวครั้งแรกที่งาน 2014 Geneva Motor ภายนอกคือสปอร์ตซีดานที่ได้แพลตฟอร์มมาจาก Tesla Model S ยานยนต์ EV ที่คราวนี้ Rinspeed ได้จับมันแต่งแต้มด้วยสีเขียวใบไม้เพื่อสอดคล้องกับคอน เซปต์ยานยนต์เพื่อโลก ร่างกายภายนอกมีรูปทรงปราดเปรียวในสไตล์ Tesla แต่ XchangE ได้เปลี่ยนกระจังหน้าพร้อมไฟหน้าใหม่ ให้ดูหรูหราสง่างาม และพลิ้วไหว ตามหลักพลศาสตร์ ภายใต้ตัวถังที่ผลิตจากอลูมิเนียมน�้ำหนักเบา ใหญ่สะใจด้วย ล้ออัลลอยของ Borbet ขนาด 20 นิ้ว


หั ว ใจหลั ก ของระบบ Driveless ของรุ ่ น นี้ มี ชื่ อ ว่ า Rinspeed XchangE Autonomous Driving เป็นระบบขับขี่ อัตโนมัติที่เน้นความสะดวกสบายและความปลอดภัยของผู้ โดยสาร ทีผ ่ ขู้ บั ขีใ่ นอนาคตจะไม่ตอ้ งกังวลเกีย่ วกับการจดจ่อ หน้าพวงมาลัยแม้เราอาจจะยังเห็นพวงมาลัยแป้นคันเร่งเป็น ของคุ้น เคย แต่ใน Rinspeed XchangE Autonomous Driving Concept พวงมาลัยสามารถปรับเลื่อนขึ้นได้เพื่อ เพิ่มพื้นที่ในการโดยสารมากขึ้น รวมถึงที่ตรงกลางคอนโซล หน้ายังมีหน้าจอขนาดยาว 1.2 เมตร เบาะภายในห้องโดยสารสามารถปรับเอียงและหมุนไป มาได้กว่า 20 ต�ำแหน่งเลยทีเดียว ไม่เพียงความสะดวกสบาย เท่านั้น แต่ในห้องโดยสารของ XchangeE ยังเพียบพร้อม ด้วยอุปกรณ์อ�ำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งหน้าจอขนาด ใหญ่ถึง 32 นิ้วรองรับการท�ำงานหรือชมภาพยนตร์ได้ พร้อมกับมีระบบเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลาและการสื่อ สาระหว่างรถกับรถอย่าง Car-2-Car และ Car-2-Object สามารถตรวจสอบอุบัติเหตุและสภาพการจราจรได้

“Rinspeed XchangE เป็ น ยานยนต์ คอนเซปต์ อ อกแบบได้ โ ดนใจหนุ ่ ม สาวใน อนาคต โดยนายทีเองคิดว่าคงจะสุขสบาย ไม่นอ้ ย เมือ่ ได้เดินทางด้วยรถยนต์ทนี่ อนขับ ได้แบบนี้”



Tip & Technique ดูแลรถใหม่ ให้ใหม่อยู่เสมอ

“แม้วา่ รถของเพือ่ นๆ เป็นรถมือหนึง่ รถใหม่ ป้ายแดง แต่กใ็ ช่วา่ จะละเลยการดูแลได้นะครับ เพราะ รถทุกคันไม่วา่ จะเก่าหรือใหม่ ก็ยอ่ มต้องได้รบั ดูแล อย่างดีเยี่ยม เริ่มจาก..”

..........


ดูแลระบบพวงมาลัย กันสะเทือน และล้อ • ขณะขับรถลงหลุมหรือขึ้นลูกระนาดให้ชะลอความเร็วลง • ไม่หมุนพวงมาลัยอยูก่ บั ทีโ่ ดยไม่จำ� เป็น เนือ่ งจากท�ำให้ลกู หมากระบบพวงมาลัย เสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร • เช็คลมยางสม�่ำเสมอ เนื่องจากหากลมยางอ่อนจะท�ำร้ายยาง ระบบช่วงล่าง และระบบพวงมาลัย • กรณีจอดรถไม่ควรหักล้อสุดด้านใดด้านหนึ่ง และหลีกเลี่ยงการจอดในพื้นที่ ซึ่งตะแคงด้วย

การดูแลคลัตช์ • ไม่บรรทุกของหนักมากเกินไป เพราะนอกจากจะเปลืองน�้ำมัน ท�ำให้รถอืดแล้ว อาจจะต้องเปลี่ยนคลัตช์ใหม่ด้วย • ไม่ควรใช้คลัตช์แทนเบรก ยกเว้นกรณีฉุกเฉินอย่างตอนลงจากเขา • ไม่ควรเตรียมพร้อมเข้าเกียร์และเหยียบคลัตช์ค้างไว้ขณะติดไฟแดง

การดูแลเกียร์และเฟืองท้าย • ไม่ควรเข้าเกียร์ว่างขณะรถเคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการท�ำลายระบบเกียร์โดยไม่ จ�ำเป็น เพราะน�้ำมันเกียร์จะไม่ถูกสูบฉีดในห้องเกียร์อย่างเต็มที่นั่นเอง • กรณีขับทางไกล ทุกๆ 2 ชั่วโมง ให้หยุดพักรถประมาณ 5-10 นาทีก่อน เพื่อ ระบายความร้อนออกจากห้องเกียร์และเฟืองท้าย ซึ่งช่วยท�ำให้น�้ำมันไม่เสื่อม สภาพเร็วนั่นเอง • ช่วงของการเปลี่ยนเกียร์ จากเกียร์เดินหน้าเป็นเกียร์ถอยหลัง ต้องรอให้รถ หยุดสนิทเสียก่อน ส�ำหรับรถเกียร์อัตโนมัติเวลาเปลี่ยนเกียร์เดินหน้าเป็นเกียร์ ถอยหลัง ให้เหยียบเบรกจนรถหยุดสนิทเสียก่อนประมาณ 2-3 วินาทีค่อย เปลี่ยนเกียร์ เพื่อรอให้ราวเกียร์หยุดหมุนจนสนิท


ดูแลเครื่องยนต์ • ไม่เติมหัวเชื้อใดๆ ลงในเครื่องยนต์ เนื่องจากไม่มีประโยชน์กับเครื่องยนต์ ของคุณเลย • การติดเครือ่ งยนต์ครัง้ แรก อย่าเหยียบคันเร่งหลังจากเครือ่ งยนต์แล้วติด ทันที ควรรอให้นำ�้ มันหล่อลืน่ วิง่ ในเครือ่ งยนต์เสียก่อน นอกจากนีย้ งั ไม่ควร เปิดแอร์ทันทีด้วย ควรรอให้เครื่องยนต์อยู่ในอุณหภูมิท�ำงานก่อน • ในการเดินรถทางไกล หลีกเลี่ยงการใช้รอบเครื่องยนต์ที่คงที่เกิน 5 นาที ต้องให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเสียก่อน และไม่ควรใช้รอบเครื่องเกิน 4,000 รอบต่อนาทีอีกด้วย

“การดู แ ลรถใหม่ อ ย่ า งสม�่ ำ เสมอจะท� ำ ให้ ประสิทธิภาพรถยนต์นนั้ พร้อมใช้งานอยูต่ ลอด เวลา แต่ถ้าหากรถรถยนต์ของเพื่อนๆ ไม่ได้รับ การดูแลอย่างที่ควรจะเป็น รถใหม่ย่อมเป็นรถ เก่าได้ในพริบตาครับ”

...



Tip & Technique เติมน�้ำมันอย่างไร ให้คุ้มสุดๆ

“หัวข้อวันนี้คงจะโดนใจเพื่อนๆ หลายๆ คน ที่เห็น ด้วยว่าราคาน�้ำมันบ้านเรานับวันยิ่งสูงขึ้น (เกินไปแล้ว) เอาเป็นว่าไม่ต้องซีเรียสไปครับ เพราะวันนี้นายทีมีทริค ดีๆเกีย่ วกับการเติมน�ำ้ มันยังไงให้คมุ้ สุดๆ แบบทุกบาททุก สตางค์กันเลย!”

..........


เติมน�้ำมันตอนเช้าตรู่ สาเหตุที่นายทีแนะน�ำอย่างนี้ คือในขณะเวลาเช้า อุณหภูมิที่พื้น ดินมีความชื้นสูง และเมื่อพื้นดินยิ่งเย็น น�้ำมันก็ยิ่งควบแน่น เมื่อ อุณหภูมิเพิ่มขึ้น น�้ำมันก็จะขยายตัวตามไปด้วย ท�ำให้ได้น�้ำมัน มาก แต่เมื่อเติมน�้ำมันตอนบ่ายหรือเย็น ก็จะได้น�้ำมันแบบไม่เต็ม เม็ดเต็มหน่วย แนะน�ำให้เติมน�้ำมันหลัง 4 ทุ่ม หรือก่อน 8 โมง เช้าเป็นประจ�ำ จะท�ำให้ได้ปริมาตรน�้ำมันมากขึ้นกว่าเดิมถึง 3%

ไม่เติมเต็มถัง

ข้อนี้อาจจะขัดความเคยชิดซักนิดนะครับ หากขับระยะทางใกล้ๆ และมีปั้มน�้ำมันเป็นระยะ ไม่จ�ำเป็นต้องเติมเต็มถังครับ เพราะจะ ท�ำให้รถบรรทุกน�ำ้ หนักน�ำ้ มันมากๆ เปลืองน�ำ้ มันเปล่าๆ เติมบ่อย ดีกว่าเติมมากแต่เสียประโยชน์ แนะน�ำให้เติมน�้ำมันแค่หัวจ่ายตัดก็ พอแล้วครับ หากเติมจนล้นปรี่แล้ว ช่วงอุณหภูมิสูงน�้ำมันจะ ขยายตัวระเหยตัวทิ้งที่รูระบายน�้ำมันได้ครับ

ไม่เติมตอนรถถ่ายน�้ำมัน

หากคุณขับรถเข้าปั๊มแล้วเห็นรถบรรทุกก�ำลัง ถ่ายน�้ำมันสู่ถังเก็บใต้ดิน ก็อย่าเพิ่งรีบร้อนเติม น�้ ำ มั น ช่ ว งนั้ น เพราะสิ่ ง แปลกปลอมซึ่ ง ตก ตะกอนใต้ถังจะถูกปั่นจนลอยตัวขึ้นมา หากเติม น�้ำมันช่วงนี้สิ่งแปลกปลอมจะเข้าสู่รถคุณได้

เติมปั๊มประจ�ำ

ตั้งหัวจ่าย

ก่อนเติมน�้ำมันให้บอกเด็กปั๊มว่าอย่า ตั้งหัวจ่ายน�้ำมันในต�ำแหน่งไหลเร็ว ซึ่งกลไกเหนี่ยวจะมี 3 ระดับคือ Low Middle และ High หากตั้งในระดับไหล ช้า จะเกิดไอระเหยของน�ำ้ มันน้อยทีส่ ดุ หากตัง้ ในระดับไหลเร็ว น�ำ้ มันบางส่วน ก็จะกลายเป็นไอระเหย และถูกสูบย้อน กลับไปยังถังใต้ดิน

แนะน�ำให้เติมปัม๊ ประจ�ำทีค่ นุ้ เคยจะดีกว่า เนือ่ งจาก เราจะได้น�้ำมันคุณภาพดีที่เหมาะกับรถ ไม่ใช่ได้ น�้ ำ มั น ราคาถู ก จริ ง แต่ คุ ณ ภาพก็ ถู ก ลง ไปด้วย ซึ่งแน่นอนว่าระยะยาวคงไม่คุ้มกับค่า Maintenance ที่ต้องจ่ายอีกยิบย่อยก็เป็นได้

เติมตามอ็อกเทนที่ก�ำหนด

หมายความว่าถ้ารักจะเป็นคุณนายประหยัดจริงๆ ควรเติมน�้ำมันที่มีค่าอ็อกเทนตาม คู่มือรถระบุไว้ จะช่วยประหยัดเงินได้โข การเติมน�้ำมันที่มีค่าออกเทนสูงกว่าก�ำหนด นั้นอาจจะท�ำให้รถออกตัวดีหรือวิ่งดีกว่าก็จริงอยู่ แต่ก็ไม่ได้ต่างกันมากมายกับค่า อ็อกเทนปกติทคี่ มู่ อื แนะน�ำ แถมเปลืองสตุง้ สตางค์โดยใช่เหตุอกี ด้วย (ขับ 91 เติม 91) อีกทั้งไม่ควรเติมน�้ำมันที่มีออกเทนต�่ำกว่าก�ำหนดด้วย เพราะระยะยาวอาจจะท�ำให้ เครื่องยนต์เสียหายก่อนวัยอันควรอีกด้วยครับ


Gadget

LifeStyle Google Project Ara

สมาร์ทโฟนถอดประกอบจากกูเกิ้ล

“ถ้าของเล่นเด็กคือตัวต่อ Lego ของเล่นหนุม่ สาว วัยท�ำงานอย่างเราก็ตอ้ งเป็นสมาร์ทโฟน และยุคนีจ้ ะต้อง ไม่ใช่สมาร์ทโฟนธรรมดา แต่เป็นสมาร์ทโฟนที่ถอด ประกอบเองได้จาก Google Project Ara”

..........


Project Ara (โปรเจค เอร่า) มือถือล�้ำยุคที่ท�ำ ให้ทกุ ๆ สเป็คความต้องการของผูใ้ ช้นนั้ ก�ำหนดได้ดว้ ย ผู ้ ใ ช้ เ อง เป็ น ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ค อนเซปต์ ชิ้ น ล่ า สุ ด จาก Google ใน Project Ara นับเป็นโครงการที่สนับสนุน ให้ผู้ใช้สามารถเลือกชิ้นส่วนต่างๆ มาประกอบลงบน มือถือได้เอง ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ผู้ใช้ได้มือถือที่มี สเป็คตรงใจ แล้วด้วยการอัพเกรดเฉพาะส่วนต่างๆ ที่ ต้องการ ยังช่วยยืดอายุการใช้งานมือถือให้นานขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดปริมาณขยะ Project Ara เปิดให้ผู้ใช้สามารถเลือกสเป็คและ ความต้ อ งการเองได้ อ ย่ า งอิ ส ระ โดยมี Endo (Endoskeleton แกนหลักของเครื่อง) แกนกลางของ เครื่องเป็น Display 4” และแผงวงจรหลักที่มีความ บางของตัวเครื่องเพียง 9.7 มม. ไฮไลท์ของมันอยู่ ที่ นั ก พั ฒ นาสามารถสร้ า งและจ� ำ หน่ า ยโมดู ล ส่ ว น ประกอบได้เองอย่างเสรี โมดูลเหล่านีอ้ าจเป็นแบตเตอรี่ กล้องดิจิตอล หน้าจอ หรือคีย์บอร์ด

โดย Hardware ที่สามารถเอามาเสียบกับตัว Endo ทาง Google จะเปิดกว้างในการผลิตขนาดไหน จะสงวนเอาไว้ให้แค่พาร์ทเนอร์ผู้ผลิต บางเจ้า หรือว่านักพัฒนาฮาร์ดแวร์จากทั่วโลกก็สามารถท�ำได้เหมือนกัน ซึ่งการตัดสินใจเรื่องนี้จะอาจจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการ มือถือเลย เพราะเราอาจจะได้เห็นบรรดา Start Up รุ่นใหม่ๆ ก้าวเข้าสู่ อุตสาหกรรมนี้ได้มากขึ้นและง่ายขึ้น ที่บอกว่าคล้ายกับ Lego ก็เพราะว่าทุกส่วนของโปรเจคเอร่านั้น สามารถถอดออกจากกันได้หมด โดยส่วนของ Endo จะมีแกนแม่เหล็กคอย ยึดชิ้นส่วนเอาไว้ และเมื่อเพื่อนๆ ไม่ต้องการโมดูลส่วนไหน ก็แค่ถอดออก และสามารถหาโมดูลอืน่ ๆ มาใส่แทนก็ได้ เช่นถ้าหากเราเป็นนักแชททีอ่ ยากได้ มือถือแบตอึดๆ เราก็เอาโมดูลส่วนอืน่ ออกและซือ้ โมดูลแบตมาใส่เพิม่ ได้อกี ถึง 4 ก้อน หรือจะเพิ่ม Ram เพิ่ม CPU กล้อง หรืออะไรก็ได้ตาม Lifestyle ของผู้ใช้เอง


นอกจากนีท้ าง Google ยังพูดถึง “mobile kiosks” สถานีบริการที่ ช่วยให้คุณสร้างมือถือของตัวคุณเองได้ พร้อมกับผู้ช่วยเสมือนจริงมา วิเคราะห์ฟีดบนสื่อสังคมออนไลน์ของคุณเพื่อช่วยแนะน�ำโมดูลที่ต้องการ สมมุตวิ า่ คุณเป็นคนชอบถ่ายภาพแล้วท�ำการโพสต์ลงสือ่ สังคมออนไลน์เป็น ประจ�ำ เจ้าผูช้ ว่ ยนีก้ จ็ ะแนะน�ำโมดูลกล้องให้ แต่ถา้ คุณชอบถ่ายรูปในสภาพทีแ่ สง น้อยมันก็จะระบุเฉพาะเจาะจงเข้าไปอีก แนะน�ำโมดูลกล้องทีเ่ หมาะกับสภาพแสง น้อยๆ ให้เหมาะกับการใช้งานมากขึน้

“ปัจจุบันโครงการ Project Ara จะเปิดให้ผู้ใช้ทั่วโลก ได้ลองสัมผัสกันในช่วงปี 2015 ด้วยราคาเริ่มต้น ประมาณ 50$ หรือประมาณ 1,600 บาท แต่แค่ได้ยิน แบบนี้ก็ตื่นเต้นแล้ว แถมตอนนี้แบรนด์เล็กแบรนด์น้อย หลายๆ เจ้าก�ำลังเตรียมท�ำโมดูลออกมาจ�ำหน่ายกัน ตั้งแต่ยังไม่เปิดตัวเลย รับรองว่าตลาดสมาร์ทโฟนใน ช่วงปีหน้าต้องคึกคักแน่นอน!”



FoodStuff

LifeStyle ท้าให้ลอง ข้าวแกงกระหรี่จานยักษ์ ที่ Kinniji

“แถวนี้มีใครกินจุไหม? ถ้ามี วันนี้ชาวเราขอท้า ให้ลองอาหารญีป่ นุ่ รสเด็ด และข้าวแกงกะหรีจ่ านยักษ์ ที่ Kinniji เพราะทางร้านเขาเสนอมาว่า ถ้ากินหมด ให้ กินฟรี!”

..........


Kinniji ร้านอาหารญี่ปุ่นที่เปิด ตัวพร้อมกับความอลังการงานสร้าง ของข้าวแกงกระหรี่จานยักษ์ ที่ตอบ โจทย์นักทานอาหารญี่ปุ่น(แบบจุใจ)ได้ อย่างดีเยี่ยม ด้วยบรรยากาศร้านนั้น อบอุ่นเป็นกันเอง แถมคุณพีทเจ้าของ ร้ า นนี้ เ ป็ น บล็ อ คเกอร์ ชื่ อ ดั ง นามว่ า “กินกับพีท” ที่มียอดไลค์ในเพจกว่า แสนคน ได้ บ รรจงเลื อ กวั ต ถุ ดิ บ และ ปรุงแต่งเมนูอาหารแต่ละอย่างเพื่อคน รักอาหารญี่ปุ่นได้ทานกันอย่างจุใจ โดยคุณพีทได้เล่าให้ฟังว่า ได้ แรงบั น ดาลใจอยากท� ำ ร้ า นอาหาร ญี่ปุ่นซักร้าน ที่มีความอบอุ่นคล้าย ทานในบ้าน การตกแต่งร้านจึงตกแต่ง ให้ออกมาในโทนสีเหลืองทองอ่อนๆ เน้นความสุขขณะทานอาหาร โดยชื่อ ของร้าน “Kinniji” ก็แปลว่าสายรุ้ง สีทอง สีเดียวกับภายในร้านนั่นเองค่ะ

คุณพีทได้แนะน�ำเมนูจานยักษ์ “ข้าวแกงกระหรี่ภูเขาไฟ” ขนาดจานจริงใหญ่กว่า จินตนาการมาก จานนี้ใหญ่ไม่ใหญ่ก็ดูได้จากน�้ำหนักข้าวที่ให้มากถึง 1 กิโลกรัม ไก่คาราเกะ ทอดกรอบกว่า 25 ชิ้น และราดด้วยน�้ำแกงกะหรี่หมูที่เต็มไปด้วยความหอมหวนของเครือ่ ง เทศ แต่ทีกิจกรรมที่ทางร้านได้ท้าให้ลองก็คือ ข้าวแกงกระหรี่ภูเขาไฟจานยักษ์จานนี้ราคา 599 บาท แต่ถ้าเพื่อนๆทานคนเดียวให้หมดได้ภายในเวลา 12 นาที คุณพีทรับประกันเลย ว่าจานนี้ไม่ต้องจ่าย แถมมีรางวัลติดปลายนวมให้อีก 500 บาท! เอ๊า..ใครคิดว่าทานจุ ใคร ทานเร็ว ต้องมาลองให้ได้!


ต่อมาส�ำหรับคนชอบทานเบาๆกับ “สลัดไข่หวาน” สลัดที่ นี่ใช้ผักไฮโดรฯ ที่ปลูกในน�้ำ รับประกันได้ว่าปลอดสารเคมี 100% แถมผักมีรสชาติหวานกรอบ ท็อปหน้าด้วยไข่หวานกลมกล่อม และราดด้วยน�้ำสลัดญี่ปุ่นผสมงาด�ำ รสชาติเปรี้ยวหวาน โดย สลัดที่นี่ เพื่อนๆยังสามารถเลือก Topping เพิ่มเติมได้อีกด้วยค่ะ ข้าวหน้าหมูชาชู อีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดของที่นี่ ด้วยหมูชาชูที่นี่ ต้องผ่านกรรมวิธีหมัก ต้มน�้ำซุป ครั้งแล้วครั้งเล่า กว่าจะได้เป็น หมูชาชูที่มีรสหวานแทรกทุกอณูเนื้อขนาดนี้ ด้านล่างเป็นข้าว ญีป่ นุ่ เนือ้ นุม่ หอม เมือ่ รวมกันแล้วจึงเป็นข้าวหน้าหมูชาชูรสเด็ดที่ ทานง่าย แถมราคาย่อมเยาอีกด้วยค่ะ

เมนูนี้นี่จะพลาดได้ไงกับ ข้าวแซลมอนรมควัน แซลมอน ที่นี่ใช้แซลมอนจากนอร์เวย์แท้ๆ เรียกได้ว่าสดจากต้น ก�ำเนิดจริงๆ และที่ชูรสชาติของจานนี้ก็คือซอสที่ทาง ร้านคิดค้นสูตรขึ้นเอง เป็นซอสข้นที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว นิดๆ แบบมีสไตล์ ใครชอบสไตล์ Smoke Salmon ต้องจัดซัก 1 จานเป็ น อย่ า งต�่ ำ นอกจากนั้ น เรายั ง สั่ ง แซลมอนแบบซาชิ มิ ม า เพราะอยากทราบว่าของสดเป็นยังไง แซลมอนแท้ๆจากนอร์เวย์ นั้นมีเนื้อละเอียดและหวานจากภายใน ถือว่ามาที่นี่ได้ทานของสด แบบนี้ “ฟิน” แล้ว

“ร้าน Kinniji นอกจากจะมีรสชาติโดดเด่นแล้ว ราคายังเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์อกี ด้วย เพราะ ราคาอาหารเฉลี่ยเริ่มต้นที่จานละ 79 บาทเท่านั้น แถมที่ตั้งก็ยังไปมาสะดวก เพราะ Kinniji อยู่ที่ U-Center ซอยจุฬาลงกรณ์ 42 ร้านจะตั้งอยู่ ทางเดินกลางของยูเซ็นเตอร์ ใครอยากท้าลอง ข้าวแกงกระหรี่จานยักษ์ก็มาได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 สนใจติดต่อ 089-927 6922 หรือ www.facebook.com/kinniji”



RoadTrip

LifeStyle สุดแปลก! “พิพิธภัณฑ์ร่างกายมนุษย์”

“เอาจริงๆ แล้ว พิพธิ ภัณฑ์ทชี่ าว เราเคยพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวมา ก็ยัง แปลกและแตกต่างน้อยไปเลย เมื่อเทียบ กับที่เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวกันวันนี้ที่ พิพิธภัณฑ์ร่างกายมนุษย์”

..........


พิพิธภัณฑ์ร่างกายมนุษย์ (Museum Of Human Body) คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ถือก�ำเนิดขึ้นจาก การบริจาคร่างกายและชิ้นส่วนอวัยวะของมนุษย์ ของ คัทสุมิ คาตามูระ ประธานบริษัทเมดิคัลด็อกเตอร์ซอฟท์ เฮาส์ จ�ำกัด ภายใต้การแนะน�ำของ ศาสตราจารย์ คัชสุ ฮิ โ ร เอะโตะ อดี ต คณบดี ค ณะทั น ตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแพทย์และทันตแพทย์แห่งโตเกียว โดยทาง คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ได้จัดเตรียมสถานที่ ห้อง 909-910 อาคารทันตแพทยศาสตร์เฉลิมนวมราช 80 เป็นพิพิธภัณฑ์ร่างกายมนุษย์ ได้ท�ำการขนส่งร่างกาย และชิ้นส่วนอวัยวะของมนุษย์ จ�ำนวน 131 ชิ้น มูลค่า กว่า 100 ล้านบาท!

พิพิธภัณฑ์ร่างกายมนุษย์ เป็น 1 ใน 11 พิพิธภัณฑ์ของโลก ที่จัดแสดงร่างกายมนุษย์ของจริงด้วยเทคนิค Plastination หรือ พลาสติเนชัน (Plastination) เป็นชื่อเทคนิคที่ใช้ในการเก็บรักษา คง สภาพเนื้อเยื่อสิ่งมีชีวิตไม่ให้เน่าสลาย โดยใช้เทคนิคการซึมซาบของ พลาสติกเข้าสู่เนื้อเยื่อ เทคนิคนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดย Dr. Gunther von Hagens ในปี ค.ศ. 1977


พลาสติกที่น�ำมาใช้ คือ พลาสติกใน กลุม่ ซิลโิ คน (silicone) อีพอกซี (epoxy) และ โพลีเอสเทอร์ (polyester) โดยจะท�ำให้ซึมซาบ เข้าสู่เนื้อเยื่อของสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้วและคง สภาพความยื ด หยุ ่ น คล้ า ยกั บ สภาพของ ผิวหนังของสิง่ มีชวี ติ ทีย่ งั มีชวี ติ อยู่ แห้ง และ ไม่มีกลิ่น เทคนิคนี้ถูกพัฒนามาเพื่อลดกลิ่น ของฟอร์มาลีน (formalin) หรือ ฟอร์ มัลดี ไฮด์ (formaldehyde) ที่ใช้ในการคงสภาพ ร่ า งกายสิ่ ง มี ชี วิ ต เพื่ อ การศึ ก ษาทาง กายวิภาค โดยตั้งแต่เปิดให้ชมเมื่อปี 2554 ก็มี ผูค้ นและนักเรียน นักศึกษาทัว่ ไปให้ความสนใจ เป็นอย่างมาก ด้วยหุน่ ร่างกายมนุษย์แบบเต็ม ร่าง 13 ชิ้น หุ่นร่างกายทารกอีก 7 ชิ้น ชิ้น ส่วนอวัยวะภายในอีก 50 ชิ้น และอื่นๆ อีก มากมาย ท�ำให้เราได้รู้ถึงการให้ความส�ำคัญ กับสุขภาพ ยกตัวอย่างเช่น ปอดที่ผ่านการ สูบบุหรี่มา 10 ปี จนมีสภาพด�ำ ตับที่มีไขมัน พอกมาจากการรับประทานอาหารไม่ดแี ละขาด การออกก�ำลังกาย และอื่นๆ อีกมากมาย

“พิพิธภัณฑ์ร่างกายมนุษย์ เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมโดยไม่เสียค่า ใช้จ่าย ทุกวันพุธและศุกร์ เวลา 12.30-16.30 น. (อัพเดทวัน ที่ 1 เมษายน 2557) ณ ชั้น 9 อาคารทันตแพทยศาสตร์เฉลิม นวมราช 80 โดยจะจอดรถที่คณะทันตแพทย์ก็ได้ หรือจะจอด รถที่ ศู น ย์ ห นั ง สื อ จุ ฬ าและเข้ า ประตู ค ณะทั น ตแพทย์ ก็ สะดวกไปอี ก แบบ สนใจติ ด ต่ อ ขอข้ อ มู ล การเดิ น ทางได้ ที่ คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ โทร. 0-2218-8635” พิกัด พิพิธภัณฑ์ร่างกายมนุษย์ : 13.743709, 100.532975




SPECIAL ISSUE 2

Toyota ECOFUL Town เมืองพลังงานสะอาดแหงอนาคต


Toyota ECOFUL Town เมืองพลังงานสะอาดแห่งอนาคต

“Toyota ECOFUL Town โครงการที่ Toyota เป็นผู้คิดค้น ในการสร้างเมืองจ�ำลองโดยพลังงาน ทดแทน 100%”

..........


และวันนี้เราเดินทางมาด้วย รถบัสจากโรงแรมทีพ ่ กั มาเทีย่ วชม Toyota ECOFUL Town อากาศ วั น นี้ เ ย็ น สดชื่ น ที่ 14 องศา เซลเซียส ก�ำลังสบายๆ เหมาะกับ การมาเที่ยวเมืองแห่งอนาคตแบบ นี้จริงๆ ค่ะ Toyota ECOFUL Town เป็นเมืองต้นแบบแห่งการอนุรักษ์ พลังงานขนาด 11.5 ไร่ มีคอนเซปต์ ทีต่ อ้ งการแสดงให้เห็นถึงความเป็น ไปได้ของการด�ำเนินชีวิตประจ�ำวัน ควบคู่กับการใช้พลังงานสะอาด ที่ น�ำเอาพลังงานจากธรรมชาติมา ผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าเพื่อแจกจ่าย พลังงานในกับส่วนต่างๆ ของบ้าน รวมไปถึ ง ชาร์ จ กระแสไฟให้ รถไฟฟ้าประจ�ำบ้านได้ตลอดทัง้ วัน

....

โดยโครงการ ECOFUL Town นั้นเป็นการร่วมมือระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่น และ Toyota ได้พัฒนาร่วมกัน โดยก�ำหนดเป้าหมายระยะยาวที่จะมีผู้เข้าร่วม โครงการนี้ภายในปี 2050 ถึง 422,787 หลังคาเรือน ซึ่งสามารถลดการใช้ ไฟฟ้าและลดการปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ ในมวลรวมได้ถึง 70%


โดยทางเจ้าหน้าที่ได้อธิบายอย่างเห็นภาพว่า เทคโนโลยีใหม่ ล่าสุดที่น�ำมาใช้กับ Toyota ECOFUL Town นี้เรียกว่า Home Energy Management Systems หรือ HEMS เป็นระบบจัดการพลังงานภายใน ครัวเรือน ระบบจะจัดการปริมาณไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่ได้จากแผง PV หรือโซล่าเซลล์ ไปแจกจ่ายให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านได้อย่างมี ประสิทธิภาพ โดยแสดงรายละเอียดให้เจ้าของบ้านทราบถึงพลังงาน ที่ใช้ไปกับพลังงานที่มีอยู่ เพื่อเตือนให้ผู้อยู่อาศัยในบ้านได้ทราบหาก มีการใช้พลังงานไฟฟ้าเกินความจ�ำเป็น แต่ถา้ หากเป็นช่วงฝนตก พายุ เข้า หรือใช้ไฟจนพลังงานที่ส�ำรองไว้ไม่พอ ระบบนี้ก็สามารถให้ เจ้าของบ้านสัง่ ซือ้ พลังงานเพิม่ ได้ แต่ถา้ หากมีคนอยูน่ อ้ ย การใช้ไฟฟ้า น้อย แต่พลังงานไฟฟ้ามีปริมาณเหลือเฟือ ก็สามารถส่งขายบริษัท ผลิตไฟฟ้าได้ พอเจ้าหน้าทีบ่ รรยายจบ ชาวเราก็ทำ� ตาลุกวาว..ว่าระบบ ไฮเทคเจ๋งๆ แบบนี้ไม่ได้มีแค่ในภาพยนตร์ เห็นแบบแล้วนี้น่าเอามาใช้ที่ บ้านเรามั่งจุงเบยย!

เข้ามาส่วนแรกจะพบกับ Pavilion หลังสีเขียว ภายในเพือ่ นๆ จะได้เรียนรู้ที่มาที่ไปของเทคโนโลยีพลังงานสะอาดต่างๆ ของ Toyota ทีม่ งุ่ เน้นการพัฒนาแบบบูรณาการระหว่างเทคโนโลยีทที่ นั สมัย และการอนุรกั ษ์ธรรมชาติ เพือ่ อนาคตภายหน้าของลูกหลาน และที่ส�ำคัญวัสดุที่ใช้สร้างอาคารแห่งนี้ยังเป็นวัสดุจากธรรมชาติ ล้วนๆ อีกด้วยค่ะ


หน้าบ้านจะมีรถพลังงานไฟฟ้าจิ๋วแจ๋วอย่าง Toyota Auto Body จอดอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่นี่แนะน�ำให้ลองขับกันทุกคน รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ สามารถขับได้ 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง และหลังจากชาวเราผลัดกันขับเล่น จนหน�ำใจแล้ว เจ้าหน้าที่ก็พาเราเข้าสู่ไฮไลท์ของที่นี่ นั่นคือภายในตัวบ้าน Toyota Smart House นั่นเอง ภายในบ้าน Toyota Smart House เจ้าหน้าทีอ่ ธิบายถึงการ ใช้งาน HEMS อย่างละเอียด โดยการสัง่ งานระบบไฟฟ้าทัง้ หมดนัน้ ใช้การ ทัชสกรีนในหน้าจอโทรทัศน์ โดย interface ของระบบ HEMS จะรายงาน อย่างละเอียดว่าผู้ใช้ก�ำลังใช้ไฟฟ้าส่วนไหนของบ้านอย่างสิ้นเปลือง แน่นอนว่าหากมีระบบที่ฉลาดแบบนี้แล้ว ค่าไฟฟ้าตามบ้านในตัวเมืองคง ประหยัดเหลือแค่หลักร้อยกลางๆ แน่ๆ อีกทั้งการใช้เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ เพือ่ การประหยัดพลังงาน เช่น การน�ำมอสและต้นไม้ตา่ งๆ มาท�ำเป็นผนัง รอบๆบ้าน ซึง่ ท�ำให้ลดอุณหภูมคิ วามร้อนจากภายนอกได้แบบธรรมชาติ โดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศ

แหล่งพลังงานหลักที่ Toyota Smart House น�ำมาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า นัน่ ก็คอื แผงโซล่าเซลล์ทตี่ ดิ ตัง้ บริเวณหลังคาบ้าน จะถูกเก็บไว้ในแบตเตอรีข่ นาด 10 kW น�ำมาแจกจ่ายให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ระบบส่องสว่าง ตู้เย็น ทีวี อุปกรณ์หุงต้ม เครื่องท�ำน�้ำอุ่นฯลฯ รวมถึงสามารถแจกจ่ายให้กับการชาร์จไฟฟ้าให้ กับรถยนต์ Hybrid และ EV ที่ลานจอดหน้าบ้าน โดยการชาร์จครั้งหนึ่งใช้เวลา 2 ชั่วโมง สามารถป้อนพลังให้รถยนต์วิ่งได้ราว 30 กิโลเมตร


นอกจากนัน้ ยังมีเทคโนโลยีระบบ การขนส่งอัจฉริยะ ITS (Intelligent Transportation System) ที่สามารถ จั ด การระบบการจราจรที่ น� ำ เอา เทคโนโลยีชั้นสูงเพื่อลดอุบัติเหตุ เพิ่ม ความปลอดภัยในการเดินเท้าของผูค้ น และจัดระเบียบการใช้รถใช้ถนนเพือ่ การ ประหยัดพลังงานสูงสุด โดยระบบ ITS นี้จะถูกจ�ำลองอยู่ในส่วนของทางเข้า Toyota ECOFUL Town แห่งนี้

Toyota ECOFUL Town ตั้งอยู่ในเมือง Toyota City จังหวัดไอชิ ตั้งอยู่เลขที่ 3-11 Moshiro-cho, Toyota City, Aichi Prefecture จะขับรถมาเองก็ได้แต่ที่จอดทางเจ้าหน้าที่ บอกว่าจะหายากมากๆ แนะน�ำเลยคือการนัง่ รถบัสมาลงทีส่ ถานที Toyota-Shi Station จาก นั้นให้นั่งรถประจ�ำทางที่ชื่อ “Toyota Oiden Bus” มาลงที่ป้าย “Toyota ECOFUL Town” ใช้เวลาจากสถานี Toyota-Shi Station มาถึงที่นี่เพียง 5 นาทีเท่านั้นเอง

....

โดยที่นี่เปิดให้บริการวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 9.00-17.00 น. สนใจติดต่อได้ที่เบอร์โทร 0565-77-5669 หรือ www.-toyota-ecofultown.com ค่ะ



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.