TOYOTA NEW ALTIS CLUB
ผมมีโอกาสได้เป็นผู้ทดลองขับพริอุสตัวท็อป ที่ทาง e-TOYOTACLUB ได้ให้มาลองใช้ งานอยู่หลายวัน จะขอรีวิวการเทสไดรฟ์ให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ลองอ่านดูครับ แต่เนื่องจาก ผมไม่ใช่ช่างหรือเอ็นจิเนียร์ จึงขอเขียนถึงพริอุสในแบบเล่าให้ฟังนะครับ ผมเองใช้นิวอัล ติสเหมือนเพื่อนๆ ในคลับ เพื่อให้สามารถเข้าใจบางอย่างได้เร็วขึ้น ในการเล่าให้ฟังนี้ จึงขอ อนุญาตเปรียบเทียบกับนิวอัลติสของเราในบางจุดนะครับ
ข้อมูลทั่วไป
พริอุสเป็นรถไฮบริดที่ใช้พลังงานจากน้ำ�มันกับไฟฟ้าในการขับเคลื่อนรถครับ โดย เครื่องยนต์จะใช้น้ำ�มันและมอเตอร์จะใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ซ่อนไว้ที่เบาะหลังของ รถ ส่วนที่วิศวกรให้ความสำ�คัญอีกอย่างนึงคือการทำ�งานที่ประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน ระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ทั้งสองส่วนจะดูแลซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี เพื่อให้ ระดับพลังงานที่ใช้ขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า มีใช้ได้ตลอดเวลาที่เราต้องการ นับเป็นอีกผล งานที่น่าภูมิใจของผู้คิดค้นออกแบบครับ จากข้อมูลที่มีอยู่ โตโยต้าได้พัฒนาเครื่องยนต์ไฮ บริดมานานถึง 40 ปี สำ�หรับผมแล้วพริอุสจึงไม่ใช่เป็นนวตกรรมครับ แต่มันคือเทคโนโลยี ที่ใช้งานได้ดีแล้วในปัจจุบัน เท่าที่ทราบระบบไฮบริดของพริอุสจะแตกต่างจากของคัมรี่เรื่องการบริหารจัดการ แบตเตอรี่ครับ เพราะพริอุสจะมีระบบรักษาพลังงานให้พร้อมใช้ทันทีโดยไม่ต้องวิ่งรถไป ก่อน หมายถึงเข้ารถได้ ออกตัวด้วยไฟฟ้าก่อนได้เลย เครื่องยนต์อาจจะทำ�งานตามหลัง และจะใช้ไปชาร์จไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องรอหรือวิ่งรถไปเพื่อชาร์จให้ได้ระดับก่อนถึงเริ่มระบบ ครับ ในห้องเครื่องมีการเพิ่มวัสดุเก็บเสียงที่ด้านข้างด้วย ทำ�ให้เวลาวิ่งด้วยมอเตอร์อย่างเดียว เมื่ออยู่นอกรถเราจะไม่ได้ยินเสียงอะไรจากห้องเครื่องเลย พริอุสจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร (99 แรงม้า/5,200 รอบ :: แรง บิด 142 นิวตัน/เมตร) และมอเตอร์ไฟฟ้า (กำ�ลังสูงสุด 82 แรงม้า :: แรงบิด 207 นิว ตัน/เมตร) เมื่อทดลองขับทำ�ให้รู้สึกได้ทันทีว่า “ขนาดเครื่องกำ�ลังพอดี” สำ�หรับการใช้ใน เมืองครับ (พูดถึงเครื่องไฮบริด) โดยรูปลักษณ์ของรถนั้น ยังคงสืบทอดต่อจากตัวก่อน
เคยกับระดับการเร่งของพริอุสแล้ว การขับขี่ก็เทียบเท่ากับรถน้ำ�มันครับ สามารถเร่งแซงเบรก-ใช้ความเร็วได้อย่างไม่มีปัญหาเหมือนตอนแรกแล้ว ตอนนี้ผมมีระดับความพอใจกับพริอุสมากทีเดียวครับ ทั้งภายในที่กว้างขวาง ความ นุ่นนวลของการขับขี่ระดับยอดเยี่ยมครับ หากเทียบกับนิวอัลติสของเราแล้ว บอกได้ ครับว่าคนละอารมณ์กัน เหมือนนิวอัลติสจะเซ็ตช่วงล่างมาสปอร์ตกว่า คือค่อนข้าง แข็ง-กระชับ ส่วนของพริอุสจะเน้นความนุ่มนวลเป็นพิเศษ เหมาะสำ�หรับรถครอบครัวเป็น อย่างยิ่งครับ เรียกว่าใครมีอาม่าที่ต้องป้อนน้ำ�ซุปในรถเนี้ย ไม่ต้องกลัวหกเลย และเมื่อใช้ ความเร็วสูง ผมว่าเกาะถนนกว่านิวอัลติสของเราอยู่พอควรครับ (รถผมช่วงล่างเดิมๆ ครับ จึงกล่าวเทียบกันได้) แต่อย่างไรก็ตามพริอุสยังใหม่มาก ยังไม่แน่ใจว่านานๆ ไปจะ เป็นอย่างไร เพราะแรกๆ รถผมก็ได้อารมณ์นี้ แต่ผ่าน 50,000 โลไป เริ่มไม่หนึบแล้วครับ ฉะนั้นด้วยความใหม่ ช่วงล่างก็แน่นกว่าเป็นธรรมดา เปรียบเทียบกันไม่ได้เต็มปากครับ ผ่าน มา 3 วันเรียกว่าผมเริ่มมีความคิดว่าอยากจะเปลี่ยนรถจริงๆ จังๆ ซ๊ะแล้วครับ เครื่องยนต์ไฮบริดรุ่นล่าสุดที่ใช้เครื่องยนต์น้ำ�มันขนาด 1.8 ลิตร 99 แรงม้าและ หน้านี้คือเป็นสไลต์ลิฟแบ็ค 5 ประตู หลังสั้น มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 82 แรงม้า เรียกว่าเปิดฝากระโปรงมาที ดูมันแน่นไปหมดครับ แทบไม่มี ช่องให้มองเข้าไปเลย ตัวที่จำ�หน่ายในประเทศไทยนี้ บรรจุเทคโนโลยีล่าสุดของโตโยต้าไว้มากมาย โดยภาพรวม และในส่วนต่อไป คือ CONVERTOR จะเป็นอุปกรณ์แปลงแรงดันไฟฟ้าครับ สำ�หรับ ของรุ่นนี้ คาดว่าโตโยต้าจะเจาะตลาดผู้ที่ใช้รถในเมืองและต้องการใช้พลังงานทางเลือก ชาร์จแบตและจ่ายไฟให้มอเตอร์ไฟฟ้าที่อยู่ด้านล่างของเจ้าอุปกรณ์นี้ครับ จะเห็นว่ามีป้าย อื่น พริอุสจึงเป็นรถอีกรุ่นนึงของโตโยต้าที่น่าสนใจและหากผมมีโอกาส (มีเงินด้วย) ผม เตือนกันเยอะแยะไปหมดครับ นอกจากนั้นเราจะเห็นถังพักน้ำ�หล่อเย็นของอุปกรณ์แปลงไฟ คงไม่พลาดที่จะเลือกพริอุสมาเป็นรถคู่ใจเช่นกัน พริอุสมีให้เลือก 2 รุ่น ครับ ตัวท็อป และมอเตอร์แยกต่างหาก (ถังใส น้ำ�สีบานเย็น) ทำ�ให้พริอุสมีถังพักน้ำ�หล่อเย็น 2 ถังแยก 1,260,000 บาท และตัวธรรมดา 1,190,000 บาทครับ กันครับ (อีกถังอยู่ด้านซ้ายของเครื่องยนต์ ไม่เห็นในภาพถ่าย) ความรู้สึกแรกที่เห็นตัวรถแบบระยะใกล้ รู้สึกว่าสวยทีเดียวครับ ไฟหน้า ไฟท้าย พริอุสจะมาพร้อมกับ SMART ENTRY รุ่นใหม่ล่าสุดของโตโยต้าครับ คือเราไม่ต้อง สวยงามมาก เมื่อเข้าไปในรถ รู้สึกได้เลยว่าห้องโดยสารมีขนาดใหญ่กว่านิวอัลติสอยู่ กดปุ่มเพื่อเปิดประตูอีกต่อไปครับ (รุ่นเดิม ปุ่มจะอยู่ที่ลูกศรชี้ครับ) เราสามารถดึงมือเปิด พอควร จริงๆ ผมว่าน่าจะใกล้เคียงกับคัมรี่ แต่คงไม่เท่าวิชกับอินโนว่าครับ คนตัวใหญ่ เพื่อเข้ารถได้ทันที โดยเซ็นเซอร์จะซ่อนอยู่ด้านหลังมือจับแทน เมื่อเราสัมผัสกับที่เปิด รถ อย่างผม ปกติผมขับนิวอัลติสต้องปรับเบาะถอยสุดถึงจะขับได้ ทำ�ให้ตำ�แหน่งคนนั่งหลัง จะปลดกันขโมยและปลดล็อคประตูให้ทันทีครับ สะดวกมาก เท่ห์มากครับ (น่าจะคิดได้ตั้งนาน ของรถผม แม้แต่คนตัวเล็กๆ ยังอึดอัดครับ แต่สำ�หรับพริอุส ผมปรับเบาะสุดแล้ว ด้าน แล้ว) หลังยังเหลืออีกมากๆ เลยครับ (มากจนแปลกใจ แต่รู้สึกดี) สำ�หรับเรื่องอัตราเร่งนั้น ผมว่าผู้ขับขี่ต้องฝึกฝนให้คุ้นเคยกับระดับการกดคันเร่ง สำ�หรับการขับขี่ในครั้งแรกนี้ ผมรู้สึกได้ทันทีว่าอัตราเร่งของพริอุสสู้รถผมไม่ได้อย่าง เท่านั้นครับ โดยพริอุสจะมีโหมดสำ�หรับการขับขี่อยู่ด้วยกัน 3 โหมดครับ มากครับ (เครื่อง 1.8 เหมือนกัน) แม้ว่าจะปรับเป็น POWER MODE แล้วก็ตาม ทั้งนี้ - POWER MODE ให้พลังขับเคลื่อนเต็มที่ อัตราเร่งดีที่สุด คงเป็นเพราะการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าและเกียร์ CVT เมื่อทำ�งานร่วมกันแล้ว ก็บอกได้ครับว่า - ECO MODE เน้นความประหยัดเป็นหลัก “อืด”อย่างที่รู้สึกได้ทันที หลายท่านบอกว่าปัญหานี้มาจากคันเร่งไฟฟ้า นิวอัลติสก็คันเร่ง - EV MODE ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียว (เท่าที่ลองไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ ต้องให้แบต ค่อนข้างเต็ม พอเร่งมากหน่อย ก็จะยกเลิก เพราะไฟเริ่มไม่พอ) จากที่ผมทดสอบ ส่วนมากจะเลือกที่ POWER MODE ครับ เพราะขับขี่ได้เหมือนรถ น้ำ�มันนั่นเอง
ไฟฟ้าแต่อาการไม่ถงึ ขนาดนีค้ รับ จึงเข้าใจว่าน่าจะมาจากมอเตอร์และเกียร์ทก่ี ล่าวไว้ขา้ งต้นครับ คันเกียร์ที่ดูว่าเป็นเหมือนจอยสติกนั้นก็ไม่ได้ใช้งานยากแต่อย่างใด หากเราเคยชินกับ เกียร์ออโต้อยู่แล้วและมีคนอธิบายให้เราฟังถึงการเข้าเกียร์ของพริอุส ผมว่าน่าจะใช้เวลา เพียง 2-3 นาที ที่จะทำ�ความเข้าใจทั้งในแง่การใช้งานและการดูตำ�แหน่งเกียร์ที่จอแสดงผล ครับ วัสดุภายในนั้น มีหลายกระแสโจมตีว่าไม่ดี คงเป็นเพราะทั้งหมดเป็นโทนสีเทา เลยดูไม่ ค่อยแจ่มนัก แต่สำ�หรับผมบอกได้เลยครับว่าวัสดุภายในพริอุสนั้นหรูสมราคา พริอุสใช้ เท็กเจอร์เป็นเส้นๆ ริ้วๆ ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบครับ จะติที่ว่าไม่มีลายไม้ซักชิ้น จึงรู้สึกว่า แตกต่างจากคอนเซ็ปรถหรูของโตโยต้าไปพอควรครับ เมื่อใช้รถมาได้ 3 วัน ผมเริ่มคุ้นเคยกับรถมากขึ้นครับ ตอนนี้ผมพบว่าเมื่อเราคุ้น
ระบบเกียร์ของพริอุสเป็นไฟฟ้าเต็มตัวครับ รวมไปถึงปุ่ม P ซึ่งหมายถึงการจอด แบบ PARK นั่นเอง ตัวอักษรที่เห็นนั้น เราคงพอเข้าใจได้ครับ ที่เพิ่มเติมมาคือ อักษรตัว “B” ซึ่งหมายถึง BRAKE ครับ เนื่องจากรถไฮบริดมีมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดใหญ่อยู่แล้ว จึงสามารถควบคุมมอเตอร์นี้ให้ทำ�หน้าที่ในการชลอความเร็วรถ เหมือนกับ ENGINE BRAKE ที่รถเกียร์แมนนวลทำ�ได้นั่นเองครับ มอเตอร์เบรกหรือเบรกแม่เหล็กไฟฟ้านั้น เป็น เบรกมีประสิทธิภาพสูงมากครับ ตัวอย่างที่เห็นได้คือรถไฟฟ้าหรือชินคันเซ็น ถ้าไม่ได้เบรก ชนิดนี้ คงไม่ยอมหยุดง่ายๆ ครับ (ซึ่งขณะนี้หลายยี่ห้อกำ�ลังแอบพัฒนา เบรกแม่เหล็ก ไฟฟ้า สำ�หรับใช้กับรถยนต์ ซึ่งมันจะมีประสิทธิภาพสูงและค่าบำ�รุงรักษาต่ำ�มากครับ) จุดที่น่าสนใจของพริอุสอีกอันนึงคือปุ่ม “P” ครับ เมื่อต้องการจอดรถ ก็กดปุ่ม P นี้เท่านั้น ตำ�แหน่งเกียร์จะเปลี่ยนเป็น P ทันที ไม่ว่าจะกำ�ลังอยู่ตำ�แหน่งเกียร์ใดก็ตาม โดยรถ ต้องหยุดนิ่งแล้วเท่านั้น ชีวิตจะดูไฮโซขึ้นมาทันทีครับ ในคู่มือบอกไว้ว่าพริอุสจะไม่สามารถ จอดซ้อนคันได้ เพราะจะไม่มีปุ่ม SHIFT LOCK ที่จะทำ�ให้เราปลดเกียร์จาก P -> N ได้ แต่ เท่าที่ทราบ เราสามารถเพิ่มอ๊อฟชั่นนี้เข้าไปได้ ไม่งั้นเราจะปลดเกียร์เป็นเกียร์ว่างไม่ได้ครับ (จริงๆ ในต่างประเทศไม่มีปัญหาอะไรครับ เพราะส่วนใหญ่เค้ามีกฎหมายห้ามจอดซ้อนคัน อยู่แล้ว แต่สำ�หรับเมืองไทยเรายังไม่มี เลยต้องเอาใจผู้บริโภคซ๊ะหน่อย) พริอุสจะมีระบบแสดงความเร็วและความประหยัดแบบสะท้อนกับกระจกบังลมหน้าด้วย ครับ ปรับสูงต่ำ�-ความสว่างด้วยระบบไฟฟ้า ทำ�ให้ไม่ต้องละสายตาจากถนน ซึ่งก็เป็นอีก จุดนึงที่ผมชอบมากครับ จอแสดงผลที่อยู่กลางคอนโซลนั้นก็ไฮโซมากครับ มีข้อมูลต่างๆ ครบครัน แสดง ผลเป็นกราฟฟิคสวยงามมากครับ สามารถปรับเป็นหน้าจอที่ใช้แสดงให้ดูว่าระบบใดกำ�ลัง ทำ�หน้าที่อะไรอยู่ เพราะบางครั้งจะพบว่าเครื่องยนต์น้ำ�มัน สตาร์ทตัวเองขึ้นมา (ไม่มีเสียง ครับ มาแบบเงียบๆ เลย) เพื่อชาร์จแบตอย่างเดียวครับ ไม่ได้ช่วยขับเคลื่อนรถ หรือบาง ครั้งทั้งสองระบบกำ�ลังช่วยกันขับเคลื่อนรถอยู่เป็นต้น ความปลอดภัย เรื่องระบบความปลอดภัยของพริอุสนั้นไม่ต้องพูดถึงครับ มากันเต็มระบบโตโยต้าเลย ทีเดียว ด้วยโครงสร้างนิรภัย GOA, ระบบควบคุมการทรงตัว VSC, ระบบกระจายแรง เบรก EBD, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC, ระบบเบรก ABS, AIRBAG 7 จุด รับประกัน ได้ว่า หากการขับขี่ของเราอยู่ในภาวะปกติแล้วหล่ะก็ ระบบความปลอดภัยต่างๆ ของพริอุส จะให้ระดับความปลอดภัยกับผู้ขับขี่สูงสุดเลยทีเดียวครับ สรุป จากการใช้จริงเป็นเวลา 6 วัน ระยะทางกว่า 400 กม อัตราสิ้นเปลืองใช้ในเมืองอยู่ ที่ประมาณ 20-22 กม/ลิตรครับ ถ้านอกเมือง-วิ่งทางไกล อาจไม่ถึง เพราะในเมืองที่รถ ติดๆ ก็จะใช้มอเตอร์เป็นส่วนมากครับ จึงทำ�ให้ประหยัดได้มากนั่นเอง โดยรวมๆ แล้ว พริ อุสเป็นรถยนต์สำ�หรับครอบครัวที่น่าใช้มากครับ ย้ำ�อีกครั้งครับว่าถ้าผมมีความสามารถ นั้น ผมจะหามาเป็นเจ้าของทันทีครับ ขอแสดงความเห็นส่วนตัวดังนี้ครับ จุดที่เทใจให้พริอุส - อัตราสิ้นเปลือง (สุดยอดจริงๆ ครับ) - ระบบเสริมความปลอดภัย ครบถ้วนสมบูรณ์ - เบาะนั่งที่กระชับ นั่งสบาย - กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ (ซีน่อนช่างมาน) - ระบบแสดงความเร็วและความประหยัดบนกระจกบังลมหน้า (ไฮโซสุดๆ) - มอเตอร์เบรก (เทพมาก หาไม่ได้ในรถธรรมดา) - ไฟหน้าชนิด LED PROJECTOR ปรับสูงต่ำ�อัตโนมัติ (อันนี้ก็เทพครับ สว่างมากแสงสีขาว เท่าซีน่อน) - หน้าต่างไฟฟ้าอัตโนมัติทั้ง 4 ด้าน - กระจกข้างคู่หน้าเป็นแบบป้องกันหยดน้ำ�เกาะ (HYDROPHILIC) - แม็กซ์แนวคิดใหม่ (อันนี้โดนใจเรื่องคอนเซ็ปครับ)
- ปุ่มควบคุมเครื่องเสียง-แอร์-BLUETOOTH ที่พวงมาลัยกับระบบแสดงผลบน จอภาพ (ตื่นเต้นมาก) จุดที่รู้สึกว่าซื้อแล้วคาดหวังได้ - ความพิถีพิถันในการประกอบรถ, วัสดุรอบคันดีมากครับ, วัสดุในห้องเครื่องยนต์ ได้มาตรฐานทีเดียว - วัสดุในห้องโดยสารโดยรวมดี การประกอบดี (ไม่กอ๊ ปแก๊ปเหมือนนิวอัลติส จริงๆ นะ) - เบาะหนังดูดีมาก รู้สึกว่าหนังจะเกรดสูงกว่าของนิวอัลติสเล็กน้อย - มี BLUETOOTH ในตัว ควบคุมจากพวงมาลัยได้โดยตรง จุดที่น่าจะต้องปรับปรุง - อาการ “วืด” ที่พวงมาลัยจากบริเวณพลาสติกสีเงิน ที่ทอดยาวจนถึงวงพวง มาลัย จะลื่นได้ขณะกำ�ลังเลี้ยว - เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ครับ (ต้องปรับปรุงอย่างแรง) - ขนาดยางที่ให้มาเล็กไปหน่อย (อาจเน้นประหยัด เลยดูไม่เท่ห์) - เสียงมอเตอร์ไฟฟ้า ในห้องโดยสาร (ซักพักคงจะชิน) - ระบบเปิดไฟหน้าอัตโนมัติ (เปิดเร็วไป แถมเปิดแล้วไม่ยอมปิด, ของนิวอัลติสกำ�ลังดี) เห็นเค้าว่าปรับตั้งได้ แต่ยังไม่มีใครได้ปรับ เพราะยังไม่มีซอฟต์แวร์ (ตามระเบียบศูนย์บริการ) - วิทยุดูเรียบเกินไป (ไม่มีโครมเมี่ยมวิ๊งๆ เลย) - ดูไม่หรูเพราะขาดลายไม้ (อยากได้ลายไม้กะเค้ามั่ง) - ระบบอุ่นเบาะคู่หน้า (ไม่จำ�เป็น น่าจะเอางบไปเพิ่มที่จุดอื่น) - ระบบฉีดน้ำ�ล้างไฟหน้า (ไม่จำ�เป็น น่าจะเอางบไปเพิ่มที่จุดอื่น) - เสา A ที่ใช้เป็นกำ�มะหยี่หุ้มพลาสติก เน่าแน่ๆ (เจอเด็กคาร์แคร์ไม่รู้เรื่อง เช็ดทีเดียว เน่าชัวร์) จุดที่หลายคนคิดแต่ผมเฉยๆ - กระจกมองข้างพับเกบ็ ด้วยมือ (ถ้าไมเ่ อาระบบฉีดน้�ำ ล้างไฟหน้า มาเปน็ พับไฟฟ้า น่าจะดกี ว่า) - เบรกมือ เปลี่ยนเป็นเบรกเท้าแทน (ใช้ยาก แต่ก็คงจะชินในไม่ช้า)