GRACE เกรซ ฉบับ เดือนตุลาคม 2556
october 2013
FASHION SPECIAL
SPRING
2014
ที่สุดแห่งแฟชั่นเทรนด์ เริ่มต้นฤดูกาล
MARC
ลาออกจาก หลุยส์ วิตตอง JENIFER LAWRENCE
เทรนด์ฉลุลาย สุดเก๋
www,dior.com-(02) 664 8363-4
GRACE เกรซ ฉบับ เดือนตุลาคม 2556
FASHION
REVIEW
GRACE
SPECIAL
GRACE
MAKE -UP
october 2013
6 8 10
TRENDIES
12 FASH SHOOT GRACE THIS MONTH GRACE COVER (ABOUT) 16 GRACE
14
Contacts Digital EditorDnunai Polsril_k@grace.co.th Digital Beauty WriterDnunai Polsri_ngrace.co.thDigital Graphic Designer Dnunai Polsridnunai_d@grace.co.thGroup Sales and Marketing DirectorDnunai Polsri_s@dnunaico.thAdvertising Sales ManagDnunai Polsri_c@dnunaico.th GRACE THAILAND DNUNAI MEDIA CO., LTD. 333/6 Ratchadapisek ChatujakBangkok 10900, Thailand Tel. 0-1234-5678 Fax. 0-2468-0000
JENIFER LAWRENCE
www,lanvincom-(02) 222-986-9
FASHION REVIEW Spring/Summer 2014 : Marni Milan : ถ้าใครคิดว่าเสื้อผ้าและเครื่อง ประดับในโชว์ของ”Prada”ที่เพิ่งผ่าน ไปเหมือนยังดูน้อยไปและไม่ครบชิ้น หรือยังไม่เต็มพอ ดิฉันขอแนะนำ�”Visors”อุปกรณ์เสริมจาก”Marni” เพราะอุดมและหนาแน่นไปด้วยลูกปัด และ”Swarovski”แบบพอฟัดพอเหวี่ยง กันกับของ”Prada”
REPORT Spring/Summer 2014 : Prada Milan : เมื่อวานนี้คงไม่มีโชว์ไหนเป็นที่พูดถึงไป มากกว่าโชว์ของ..”Prada” ซึ่งโดยปกติแล้วโชว์ เสื้อผ้าผู้หญิงของ”Prada”มักจะไปคนละทิศคนละ ทางกับโชว์ของเสื้อผ้าผู้ชายเหมือนหนังที่ตอนจบมี แอนตี้ไคลแมกซ์ แต่คราวนี้ถึงแม้ไม่เหมือนกันเลย ทีเดียว..แต่ก็จัดอยู่ในลักษณะที่ไม่เกินความคาด เดาในหลายอย่างๆ ทั้งการใช้คู่สีที่ทำ�ให้รู้สึกถึง เมืองในเขตร้อนรวมไปถึงลูกเล่นที่ดัดแปลงมาจาก งานแบบ”Sportswear” โดยในคราวนี้”Prada”มี ศิลปินมาร่วมงานทั้งที่เป็นลายพิมพ์ในคอเลคชั่น และงานเขียน(พิมพ์?)บน”Backdrop”ของ”Runway”ด้วยกันถึง 6 คนอย่าง”El Mac”,”Mesa”,”Gabriel Specter”,”Stinkfish”,”Jeanne Detallante”และ”Pierre Mornet”
6
GRACE
Spring/Summer 2014 : Iceberg Milan : “Iceberg”แบรนด์เก่าแก่อีกแบรนด์ของอิตาลีที่เป ลี่ยนดีไซน์เนอร์บ่อย..ถี่..รัว..ยิ่งกว่าแบรนด์ใดๆในอิตาลีหรือ ในโลก บ่อยจนถึงขนาดที่ดิฉันจำ�ไม่ได้ว่ามีใครเคยมาทำ�บ้าง.. 5..5..5 มาถึงตอนนี้..ฤดูกาลนี้..คนที่ได้ตำ�แหน่ง”Creative Director”คนใหม่ล่าสุดก็คือ”Alexis Martial” ที่เคยเป็นถึง ผู้ช่วยของ”Riccardo Tisci”ที่”Givenchy”มาก่อนหน้านี้ถึง 5 ปี มานำ�เสนอคอเลคชั่นใหม่ของ”Iceberg”ที่ให้ชื่อคอน เซปยาวเหยียดว่า..”It’s a Boy Scout on a dreamed visit to Tokyo” ที่ให้ความรู้สึกแบบอวกาศด้วยวัสดุ.. ที่แน่นอนว่าต้องมีทั้งวัสดุที่ให้ผลต่อสายตาแบบ”Hologram”และวัสดุสะท้อนแสงแบบ”Reflective”รวมไปถึง โครงสร้างและสี..ที่แน่นอนว่าบางคู่สีทำ�ให้อดนึกถึงคอเล คชั่น”Spring/Summer 2014”ของ”Givenchy”ไม่ได้
Spring/Summer 2014 : The Blonds New York : “The Blonds”คงเป็นแบรนด์เดี ยวของนิวยอร์ค(หรือของโลก..5..5..5)ในยุคนี้ที่ ดูไม่ค่อยสนใจมากนักกับเรื่องยอดขายรวมไป ถึงขายใคร?..หรือขายได้หรือไม่?..5..5..5 โชว์ใน ครั้งนี้ของ”The Blonds”อุดมไปด้วย”Bustier” ที่ทำ�จากวัสดุสะท้อนแสงหลากหลายทั้ง”Swaro vski”,”Reflective”และ”Glow-in-the-dark” เสื้อผ้าของ”The Blonds”ในฤดูกาลนี้ค งทำ�ให้หลายๆคนนึกถึงโชว์ของ”Thierry Mugler”,”Issey Miyake”และ”Kansai Yamamoto” รวมไปถึงหนังอวกาศอย่าง”Barbarella”,”Flash Gordon”หรือแม้แต่”Mars Attacks!”
GRACE
7
Marc Jacobs เกิดที่นิวยอร์กในปี 1963 ด้วยความที่พ่อเสียตั้งแต่เด็ก Marc จึงใช้ชีวิตกับการย้ายตามแม่และพ่อ เลี้ยงทั้ง 3 คน เมื่อย่างเข้าวัยรุ่น Marc ตัดสินใจมาอยู่กับคุณยาย ซึ่งเขายกให้เป็นแรงบันดาลใจและบุคคลที่สำ�คัญที่สุดในชีวิตเขา Marc เคยให้สัมภาษณ์กับ New York Magazine ว่า “ถ้ามีใครถามว่าผมโตมากับใครผมก็จะตอบว่า โตมากับคุณยาย เขาเป็นคน ที่ผมไว้ใจและคอยผลักดันผมอยู่เสมอ” หลังจบการศึกษาจาก High School of Art and Design ในปี 1981 Marc ตัดสินใจศึกษาต่อที่ Parson The New School of Design ที่ในปีสุดท้ายเขาได้รับรางวัล Design Student of the Year, The Perry Ellis Gold Thimble Award และ The Chester Weinberg Gold Thimble Award เบื้องหลังความสำ�เร็จทั้งหมดยกให้เสื้อสเวตเตอร์ดีไซน์ Op-Art ที่ถักโดย คุณยายของเขา ที่ฮอตสุดๆ จนต้องตา Barbara Weiser เจ้าของ New York Charivari’s Boutique ที่สั่งเสื้อของเขาไปขายและ ตัดสินใจเปิดแบรนด์รวมกันในชื่อ Marc Jacobs for Marc and Brabara คอลเล็กชั่นดังกล่าวยังทำ�ให้เขาได้พบกับ Robert Duffy หุ้นส่วนทางธุรกิจของเขา ผู้ซึ่งชวนเขาไปร่วมงานกับแบรนด์ Sketch Book ที่ Marc ได้ออกแบบ 2 คอลเล็กชั่นด้วยกัน ก่อนที่บริษัทจะต้องปิดตัวไป ส่งผลให้ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดแบรนด์ Marc Jacobs ในปี 1986
8
GRACE
Jacobs Grand Finale
story by :vogueman
ในปี 1987 Marc กลายเป็นดีไซเนอร์อายุน้อยที่สุดที่ได้รับ รางวัล CFDA’s Perry Ellis Award for New Fashion Talent สองปีหลังจากนั้น Robert Duffy ก็ได้มาดูแลแบรนด์ Perry Ellis ในฐานะ President ก่อนที่จะดึงตัว Marc มาร่วม งานกับแบรนด์ที่ทั้งสองได้นำ�เสนอคอลเล็กชั่น Grunge สุดเลื่อง ชื่อสำ�หรับ Spring/Summer 1993 แม้จะได้คำ�ชื่นชมจากสื่อและ นักวิจารณ์ ยอดขายของคอลเลกชั่นดังกล่าวกลับไม่ถึงเป้า ส่ง ผลให้ทั้งคู่ต้องออกจากแบรนด์ ถัดมาในปีเดียวกัน ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดบริษัท ของตัวเองในชื่อ Marc Jacobs International ก่อนที่จะคัมแบ็คในเดือนเมษายน 1994 ที่เขา ได้นางแบบระดับท็อปอย่าง Linda Evangelista และ Naomi Campbell มาเดินให้แบบฟรีๆ โมเมนต์สำ�คัญยกให้ปี 1997 ที่ Marc ได้รับ เลือกให้เป็น Creative Director ของ Louis Vuitton และการตัดสินใจซื้อแบรนด์ Marc Jacobs ของ LVMH ที่ทำ�ให้เขามีอิสระในการ ทำ�ธุรกิจมากขึ้น และในปี 2001 เขาก็เปิดแบรนด์ ลูกอย่าง Marc by Marc Jacobs ออกมาเอา ใจแฟนๆ ของเขา ในปี 2011 Marc ก็ได้รับรางวัลที่สำ�คัญที่สุด ของชีวิตอย่าง Geoffrey Beene Lifetime Achievement จาก CFDA ที่ก่อนหน้าเขาเคยได้ รับรางวัล Womenswear Designer of the Year มาแล้ว 3 ครั้ง Accessory Designer of the Year 4 ครั้ง และ Menswear De-
และเมื่อปีที่ผ่านมาก็ได้มีการจัดนิทรรศการรวบรวมผลงาน ของเขา จัดแสดงที่ Les Arts Decoratifs กรุงปารีส ระหว่าง เดือนมีนาคม ถึง กันยายน ปี 2012 Marc ให้คำ�จำ�กัดความ ของนิทรรศการนี้ว่า สะเทือนอารมณ์ “ มันทำ�ให้ผมนึกถึงอะไร เก่าๆ เหตุการณ์และเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิต จนกว่าจะมาถึงจุดนี้” เขาให้สัมภาษณ์กับ International Herald Tribune และหลังจากร่วมงานกับ Louis Vuitton มา นานถึง 16 ปี Marc ก็ตัดสินใจลาออกจากแบรนด์ พร้อมจัดโชว์อย่างยิ่งใหญ่ส่งท้าย มอบแก่หญิง สาวผู้เป็นแรงบันดาลใจของเขาอย่าง โคโค่ ชาแนล, แชร์, จูดี้ การ์แลนด์, ไลซ่า มิเนลลี่, เกรซ คอด ดิงตั้ง และเรย์ คาวาคุโบะ โดยฉากของโชว์เป็นการ ยำ�รวมฉากในโชว์ของเขาที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นน้ำ�พุ จาก autumn/winter 2010 ไปจนถึงม้าหมุนจาก spring/summer 2012
นอกจากเรื่องของเทรนด์เสื้อผ้าที่เราจะเห็นได้ใน Fashion Week แล้ว อีกสิ่งที่เราจะเห็นได้ และปอเอง ก็คิดว่ามันน่าสนใจและสมควรจะให้ความสำ�คัญนั่นก็คือ “เทรนด์การแต่งหน้า” มันไม่ใช่แค่การเดินอวดโฉม เสื้อผ้าที่ออกแบบจากดีไซเนอร์ดังๆ เท่านั้น แต่เมคอัพที่เข้ามาเสริมลุคให้ดูสมบูรณ์ก็สำ�คัญ เทรนด์เมคอัพ และทรงผมที่เกิดขึ้นแฟชั่นโชว์ก็เป็นอีกสิ่งที่จะบอกทิศทางของเมคอัพเช่นกัน ซึ่งปอก็จะพยายามรวบรวมลุค การแต่งหน้าจากรันเวย์ต่างๆ มาไว้ด้วย
Balmain Backstage Makeup เป็นลุคที่เป็นธรรมชาติมากๆ จะ ใช้คอนซีลเลอร์ปกปิดเฉพาะบางจุดที่ ต้องการปกปิดเท่านั้น ดัดขนตา และ ปัดแป้งฝุ่นตลอดแนวของหน้าผาเพื่อ ลดความเป็นเงา ลุคนี้จะเน้นที่เรื่อง ของสกินแคร์และการโชว์ผิวมากกว่า
10
Christian Dior Backstage Makeup เปิดตัวออกมาโดดเด่นมาก คือคิ้วที่ใช้กลิตเตอร์เนื้อละเอียดสี ทองเมทัลลิกลง ส่วนตาจะมีสอง แบบคือนางแบบบางส่วนจะมีการลง อายแชโดว์สีทองเนื้อครีมทั้งด้านบน และด้านล่าง และกรีดตาด้วยไลเนอ ร์สีเขียวมิ้นต์และสีส้มนีออน ส่วน นางแบบที่เหลือตาจะดูเหมือนไม่แต่ง อะไรเลย ซึ่งถือว่าเลิศมาก และแฟชั่น โชว์ของดิออร์ก็มักมีการแต่งหน้าเก๋ๆ ออกมาเสมอ
GRACE
BACKSTAGE BEAUTY SPRING SUMMER COLLECTION By SUires Dolce & Gabbana Backstage Makeup นางแบบออกมาด้วยลุคผิวสุขภาพดี และสว่างแบบโกว์ลๆ รูป หน้าที่ดูหวาน และเหมือนเพิ่งอาบแดดมามันสมบูรณ์แบบมากสำ�หรับ ฤดูใบไม้ผลินี้ด้วยการใช้ Dolce & Gabbana Perfect Luminous Liquid Foundation และ Concealer เพื่อลงให้ผิวดูเรียบ เนียน ส่วนแก้มเป็นการปัดผสม 3 สีจากบลัชออนของแบรนด์นั่น คือ Luminous Cheek Colour ในสี Rosebud, สี Apricot และ สี Peach โดยการปัดแบบวนหมุนหัวแปรง ดวงตามีการแต้มสีเมทัล ลิกแบบชิมเมอร์ริงของพาเลท Dolce & Gabbana Eye Colour Quad ในสี Gold และสี Desert ที่หัวตา และใช้ Dolce & Gabbana Intense Liquid Eyeliner สี Baroque Bronze ลงไปชิด โคนขนตาบนอย่างซอฟต์ๆ ส่วนคิ้วก็ใช้ จากทางแบรนด์คือ Shaping Eyebrow Pencil เขียนรูปคิ้วให้มีลักษณะโค้ง จบท้ายด้วยการ ผสมสีลิปสติกรุ่น Classic Cream Lipstick สี Bellissima เข้า กับสี Traviata ก็เป็นอันจบลุคแสนหวานนี้
Prada Backstage Makeup นอกจากชุดจะมาเป็นสีสันแล้ว เมคอัพที่ ปรากฏยังเป็นสีสันอีกต่างหาก โดยการลงสี กากี สีส้ม สีม่วงและสีเขียวเปลือกมะนาวตั้งแต่ บริเวณหัวตาถึงหางตา คิ้วของนางแบบเหมือน จะย้อมให้อ่อนมากๆ ส่วนใบหน้าส่วนอื่นๆ ก็ดู เป็นธรรมชาติ เหมือนไร้การแต่งแต้มใดๆ แต่ ปอแอบเห็นมีการปัดบรอนเซอร์เบาๆ ให้ดูหน้า ตอบๆ ลงด้วยนิดหน่อย
GRACE TREND By : MUra
กระโปรงทรงดินสอ หรือที่เรียกกันจนติด ปากว่า ‘กระโปรงทรง
สอบ’ ยังคงได้รับความ นิยมต่อเนื่องมาจากซีซั่นที่แล้ว เพราะช่วย ทำ�ให้รูปร่างของสาวๆ ดูเพรียวขึ้น ยิ่งถ้าใครที่รู้จักเลือกมิกซ์แอนด์ แมตช์ดีๆ กระโปรงทรงสอบ ตัวเดียวกันสร้างลุคหลากหลายได้อย่าง น่าทึ่ง เช่น กระโปรงทรงสอบจับคู่กับเสื้อ blouse แบบเรียบๆ ก็เป็น ลุคออฟฟิศเกิร์ล, กระโปรง ทรงสอบจับคู่กับเสื้อเอวลอยหรือบราท็อ ปก็พร้อมลุยงานปาร์ตี้สนุกสุดเหวี่ยง, สุดมั่น หรือกระโปรงทรงสอบ จับคู่กับเสื้อยืดตัว
12
GRACE
NDIES รองเท้า และ กระเป๋า ลายฉลุ
ช่วงต้นซีซั่นงัดลูกเล่นแพรวพราวมา ใช้จนเกือบหมด สาวๆหลายคนจึง อาจรู้สึก อยากปรับลุคส์แนวเรียบคูล เราจะแต่งอย่างไร ไม่ให้ดูจืด แอลอังกฤษเลยส่งเทรนด์ฮอต ล่าสุดเป็นกระเป๋าและรองเท้าที่โดดเด่นด้วย ดีไซน์เก๋ ทั้ง การฉลุลาย การเจาะเพื่อสร้าง ลวดลาย สร้างมิติใหม่ที่แสนสะดุดตา เรานำ� มาอัพเดทจ้า
สูทผ้าวูลสีไอวอรี่แบล็ค ตาข่ายสีดำ� และ ผ้าพันคอ จาก Dior นางแบบ: Jennifer Lawrence แต่งหน้า ทำ�ผม: Dior Make up team ช่างภาพ: Louise
GRACE this Month
GRACE cover by: ananda
ต้้องบอกว่าปีนี้ดาราสาวกับแฟชั่น เฮ้าส์ยี่ห้อดัง “คริสเตียน ดิออร์” ช่วยกัน สร้างเรื่องเด็ดลงสื่ออยู่เป็นประจำ� เริ่มตั้งแต่ สาวเจ้าทำ�ชุดดิออร์ขาดแควก! กลางงาน ประกาศผลรางวัล SAG Awards ตาม มาด้วยกรณีสะดุดบันไดในชุดกูตูร์สีขาว แบรนด์เดียวกัน ระหว่างขึ้นเวทีรับรางวัลนัก แสดงหญิงยอดเยี่ยมจากออสการ์ปีล่าสุด จนกลายเป็นข่าวฮือฮาอยู่หลายวัน
และถึงแม้ว่าเธอจะประสบความสำ�เร็จมากแค่ไหน เจนนิเฟอร์ยังคงเป็นนักแสดงสาวผู้ถ่อมตนอยู่เสมอ ล่าสุดกับภาพโฆษณาของดิออร์ ฝีมือการถ่ายภาพของ Willy Vandepere ซึ่งเธอดูสวยสง่าสุดๆ แต่ดารา สาววัย 22 ปีกลับเอ่ยว่า “นั่นดูไม่เหมือนฉันเลย ฉันรักโฟโต้ช็อปมากที่สุดในโลก!” ในคลิปวิดีโอเบื้องหลังการถ่ายภาพโฆษณาคอลเลกชั่นกระเป๋า Miss Dior เจนนิเฟอร์พูดว่า “ดิออร์ แสดงถึงความงามและความแข็งแกร่งของผู้หญิง นี่แหละคือสิ่งที่ฉันรู้สึกเวลาที่ใส่เสื้อผ้าของดิออร์ มันทำ�ให้ ฉันรู้สึกมั่นใจมาก” เราเชื่อแล้วว่าดิออร์ทำ�ให้เธอมั่นใจมาก เพราะทั้งเดรสขาด ทั้งสะดุุดล้มเธอก็ผ่านมาหมดแล้ว เริ่ด
16
GRACE
@CENTRAL WORLD SIAM PARAGON GAYSORN CENTRAL CHIDLOM