กรณีศึกษาเกี่ยวกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ๒๙ มีีนาคม ๒๕๕๔
ตวงพร เอ็งวงษ์ตระกูล ภานพงศ์ ภานุ พงศ พนกฤษ พินกฤษ สํานักกํากับดูแลความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ สํานักงานปรมาณเพื สานกงานปรมาณู เพอสนต ่อสันติ
เนื้อหาการบรรยาย ... 1. หลักการทํางานของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 2. ผลกระทบทางรังสี 3 อุบัตเหตุ 3. ิ ของโรงไฟฟานวเคลยร โ ไฟฟ้ ิ ี ์ 4. การดําํ เนินิ งานของสําํ นัักงานปรมาณู ป เพืือ่ สันั ติติ ่อ กรณีเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์ที่ประเทศญี่ปุ่น
องค์ประกอบของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์
แกนเครองปฏกรณ แกนเครื ่องปฏิกรณ์ (Core) สารหน่วงนิวตรอน (Moderator) สารระบายความร้อน (Coolant) สารระบายความรอน แท่งควบคุม (Control Rod) ชุชดสะท้ ดสะทอนนวตรอน อนนิวตรอน (Reflector)
Fuel Fissile : U-235,Pu-239,U-233 (วัสดุุซึ่งประกอบด้วยธาตุทุ ี่นิวเคลียสแบ่งแยกได้โดยนิวตรอนทุกุ พลังงาน โดยเฉพาะ thermal neutron) Fertile : UU-238, 238, Th Th-232 232 (วสดุ (วัสดเมื เมอจบนวตรอนแลวจะเปลยนเปนวสดุ อ่ จับนิวตรอนแล้วจะเปลี่ยนเป็นวัสดฟิฟสไซด) สไซด์) Moderator : H2O, D2O, Graphite l : H2O, Coolant O D2O, O CO O2, He, Na, Pb, b Bii Control Rods : made of Boron, Silver, Indium, Cadmium, and/or Hafnium
conttrol rod
Escape (No Fission)
Fi i Fission
Absorption
(No Fission) Fission Moderation
Moderator Fuel
Fuel
เทคโนโลยีความปลอดภัยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
ปรัชญาการออกแบบอาศัยหลักพื้นฐาน 3 ประการ ประการ:: - การควบคุุมปฏิฏกิริยา /การดับเครื่องปฏิฏกรณ์ - การระบายความร้อนจากแกนปฏิกรณ์ - การกักเก็บสารกัมมันตรังสี - การออกแบบเม็ดเชื้อเพลิง - การออกแบบระบบเครื่องปฏิฏกรณ์ - การออกแบบอาคารคลุมเครื่องปฏิกรณ์ โดยรวมคุณลักษณะภายใน และ คุณลักษณะทีไ่ ม่ต้องพึง่ พลังงานในระบบความ ปลอดภัย และระบบสนับสนุนทางวิศวกรรม ระบบความปลอดภัย และระบบตรวจติดตาม เครื่องปฏิกรณ์ ต้องมีระบบสํารอง ซึงึ่ แตกต่า่ งกนั และสามารถทําํ งานได้ ไ โ้ ดยอิสิ ระไม่ ไ ข่ ึน้ แก่ก่ ัน
ปราการป้องกันหลายชั้น
อาศััยหลักั การป้อ้ งกันั หลายขั้ันตอน - การป้องกันเหตุผดิ ปกติ * การออกแบบให้การเดินเครื่องมีความผิดพลาดน้อยที่สุด * การมีกฎระเบียบ และการตรวจสอบการดําเนินการ * การเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ และการควบคุมคุณภาพ * การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ - การควบคุม * การออกแบบระบบให้ รออ แบบร บบใ สามารถตรวจสอบความผิ ม รถ รวจสอบ ว ม ดปปกติได้อย อย่างรวดเร็ รว เรวว * การออกแบบให้ดับเครื่องอัตโนมัติกรณีเหตุฉุกเฉิน รวมทัง้ ECCS * การตรวจสอบระบบอุ การตรวจสอบระบบอปกรณ์ ปกรณและ และ การซ่ การซอมบารุ อมบํารงง ตามระยะเวลา - การดําเนินการแก้ไข (แผนฉุกเฉินกรณีอุบัติเหตุและพิทักษ์ความ ปลอดภัยวัสดนินววเคลยร) ปลอดภยวสดุ เคลียร์)
G Generation i IV Generation III+ Generation III Generation II
Generation I E l Prototypes Early P tt
- Shippingport - Dresden - Magnox 1950
1960
Gen I
Revolutionary Designs
Evolutionary Designs
Advanced LWRs
Commercial Power
- PWRs - BWRs - CANDU - RBMK 1970
1980
Gen II
- CANDU 6 - System 80+ - AP600 - OPR 1000 - VVER
1990
2000
Gen III
- ABWR/APWR - APR 1400 - AP 1000 - EPR 1600 - SMART 2010
2020
Gen III+
- Safe - Sustainable S t i bl - Economical - Proliferation
Resistant and Physically Secure
2030
Gen IV
เครื่องปฏิฏกรณ์นิวเคลียร์แบบความดันสูงู PWR (Pressurized Water Reactor) เช่น AP-1000, APR-1400, EPR-1600, VVER-1000, CNP-1000
เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ําเดือด BWR (Boiling Water Reactor) เช่น ABWR-1400, ESBWR-1600, RBMK-1000, SWR-1000
เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบใช้น้ํามวลหนัก PHWR (Pressurized Heavy Water Reactor) เช่น CANDU, KNUPP, ACR
สัดส่วนการใช้งานเครื่องปฏิกรณ์
Pressurized Water Reactor
Pi Primary : P ≈ 15.5 15 5 MPa MP , T ≈ 320 Cํ Secondary : P ≈ 7.4 MPa , T ≈ 290 ํC
Boiling Water Reactor
P ≈ 7.2 MPa , T ≈ 290 ํC
Pressurized Heavy Water Reactor (CANDU)
P ≈ 10 MPa , T ≈ 310 ํC
ข้อ้ ดีีของโรงไฟฟ้ โ ไฟฟ้านิวิ เคลีียร์์ ๑. ใหกาลงผลตสู ให้กาํ ลังผลิตสงกว่ งกวาเมอเปรยบเทยบกบการผลตไฟฟาจากแหลงพลงงานอน าเมื่อเปรียบเทียบกับการผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานอื่น ๒. เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าที่มเี สถียรภาพ และมั่นคง สามารถเดินเครื่องได้อย่างต่อเนื่อง ๓. ตนทุ ต้นทนการผลิ นการผลตไฟฟาตาและมเสถยรภาพ ตไฟฟ้าต่ําและมีเสถียรภาพ ๔. เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด ไม่ปลดปล่อยเขม่าควัน ก๊าซพิษ และของเสียออกมา สูส่สงแวดลอม ิ่งแวดล้อม ๕. มีอายุการใช้งานยาวนาน ๔๐ ปี หากเป็นโรงไฟฟ้ารุ่นใหม่จะมีอายุการใช้งาน ยาวนานถึง ๖๐ ปปี ๖. ช่วยส่งเสริมในด้านการพัฒนาบุคลากรของชาติ ให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ในเทคโนโลยี นิวเคลียร์และสาขาทีเ่ กี่ยวข้อง นวเคลยรและสาขาทเกยวของ
ปัญหาอุปสรรค ๑. การไม่เป็นทีย่ อมรับของสาธารณชน ๒. การเลือกสถานที่ตั้งโรงไฟฟ้ามีหลักเกณฑ์และมาตรการทีเ่ ข้มงวดรัดกุมมาก ทําให้หา สถานทีก่ ่อสร้างได้ยาก ๓. เงินลงทุนสําหรับการก่อสร้างสูงมาก ทั้งนีเ้ พราะต้องเสริมระบบความปลอดภัยต่างๆ มากมาย ๔. ใช้ระยะเวลาในการเตรียมงานและการดําเนินการยาวนาน ๑๐ ปีขึ้นไป ๕. ต้องการแหล่งน้ําขนาดใหญ่ เพื่อใช้ควบแน่นไอน้ําในระบบผลิตไอน้ํา ๖. ยังไม่มีวิธีการจัดการกากกัมมันตรังสีระดับสูงให้หมดความเป็นสารรังสีได้ในระยะเวลา อันสั้น
หน่วยทีใ่ ช้ในการปฏิบัติงานทางรังสี กัมมันตภาพรังสี: แสดงว่ามีสารกัมมันตรังสีอยู่มากหรือน้อยเพียงใด ปริมาณของสารกัมั มันั ตรังั สีี บอกเป็น็ คูรหี รือื เบคเคอเรล (Ci หรือื Bq) จํานวนคูรหี รือื เบค เคอเรลมากแสดงว่ามีสารกัมมันตรังสีอยู่มาก ซึ่งสามารถดูได้จากป้ายที่ติดแสดงไว้ บางครั้ง วัตั ถุขนาดใหญ่ ใ ่อาจจะมีกี ัมมันั ตภาพรัังสีีน้อยกว่่าวัตั ถุขนาดเล็ก็
หน่วยที่ใช้ในการปฏิบัติงานทางรังสี
กัมมันตภาพ
ปริมาณรังสี ดููดกลืน
ปริมาณรังสี สมมููล
การแผรังสี
หนวยที่ใช โดยทั่วไป (เกา)
curie (Ci)
rad
rem
roentgen (R)
หนวย SI (ใหม)
becquerel (Bq)
gray (Gy)
sievert (Sv)
coulomb/kilogram (C/kg)
ปริมาณรังสีและหน่วยวัด Activity (A)
Exposure Dose (X)
อัตราการสลายตัว (decay rate)
ปริมาณการแตกตัวของอากาศ 1 ลบ.ซม. ที่ STP (T=273.15 K and P=1 atm)
หนวย: Ci คูรี และ Bq เบคเคอเรล 1 Bq = 1 dps 1 Ci = 3.7x1010 dps (A ของ Radium 1 g)
Absorbed Dose (D)
พลังงานรังสี ทตวกลางดู พลงงานรงส ที่ตัวกลางดดกลื ดกลนน หนวย: Gy เกรย (gray) หรือ rad
(1 Gy = 1 J/kg = 100 rad)
หนวย: R เรินตเกน (roentgen) = 1 esu หรือ 2.58x10-4 C/kg
Dose Equivalent (DE) ปปรมาณรงส ิ ั สี ทคานงถง ี่ ํ ึ ึ ผลตอเซลลของสงมชวต ซ สิ่ ีชี ิ DE = D*QF หนวย: Sv ซีเวิรต (sievert) หรือ rem
(1 Sv = 100 rem) QF ขนกบชนดรงส ขึ้นกับชนิดรังสี เชน เชน ใน D เทากนนน เทากันนั้น รงสแอลฟา รังสีแอลฟา จะมี DE ที่สูงกวา รังสีแกมมา
การได้รับรังสีสู่ร่างกาย External Exposure Internal Exposure
ปัจจัยการเกิดผลของรังสีต่อมนุษย์ • ปริมาณรังสีที่ได้รับ • อััตราการได้ ไ ้รับรังั สีี • ชนดและพลงงานของรงสตางชนดกน ชนิดและพลังงานของรังสีต่างชนิดกัน • ชนิดของสารกัมมันตรังสี • ความไวต่อรังสีของอวัยวะต่างๆ •เนื้อที่ของร่างกายที่ได้รับรังสี •ลักษณะของการได้รับรังสี •สุขภาพในขณะที่ได้รับรังสี
ผลของรังสีที่มีต่อมนุษย์ Deterministic Effect - เป็น็ ผลจากร่างกายได้ ไ ้รับรังสีีในปริมาณสูงๆ ใในระยะเวลาอันสั้น - ทารกในครรภ์ ปริมาณรังสี 100 มิลลิซเี วิร์ต ในระยะ 8-15 สัปดาห์แรก จะ มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง
ผลของรังสีที่มตี ่อมนุษย์ - กรณีที่ได้รับรังสีเป็นบางส่วน ขึ้นอยู่กับแต่ละอวัยวะ ทไวตอรงสไมเทากน ี่ไ ่ ั สีไ ่ ่ ั - ไขกระดููก ระบบเลือด จะไวต่อรังสีที่สุด ปริมาณ รังสี 500 มิลลิซเี วิรต์ สามารถทําลายพวกนี้ได้ - อวยวะสบพนธ อวัยวะสืบพันธ์ ปรมาณรงส ปริมาณรังสี 2,000 2 000 – 3,000 3 000 มลล มิลลิ ซีเวิร์ต ทําให้เป็นหมัน - ตา ปริมาณรังสี 2,000 – 5,000 มิลลิซีเวิร์ต ทํา ให้เป็นต้อกระจก
ผลของรังสีที่มีต่อมนุษย์ Stochastic Effect - การถ่ายเทพลังงานเป็นแบบสุ่ม - ปรมาณรงสนอยๆ ปริมาณรังสีน้อยๆ สรุ สรปออกมาได้ ปออกมาไดในรู ในรปของความเสี ปของความเสยง ่ยง Risk Ri k factor f t - เซลล์ตายหรือแบ่งตัวผิดปกติอาจก่อให้เกิดเป็นมะเร็งได้ - สามารถแสดงได้เป็นสามรูปแบบ - แสดงความสมพนธเชงเสนกบปรมาณรงส แสดงความสัมพันธ์เชิงเส้นกับปริมาณรังสี - ประเมินความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง - แสดงความเสียี่ งจากการตายด้ว้ ยโรคมะเร็ โ ็งเมืือ่ ได้ ไ ้รับรัังสีี 1 ซีเี วิร์ต
ผลของรังสีที่มตี อมนุษย แสดงความสัมพันธ์เชิงเส้นกับปริมาณรังสี
ผลของรังสีที่มีต่อมนุษย์
รังสีผ่านเข้าโมเลกุลของเซลล์ร่างกาย (DNA) รังสีก่อให้เกิดความผิดปกติต่อโมเลกุล (DNA) หรือไม่ ความผิดปกติ ต่อโมเลกุล (DNA) สามารถรักษาได้หรือไม่ ความผิดปกติมีผลชัดเจนต่อเซลล์หรือไม่ เซลล์ใหม่ที่ผิดปกติเป็นเซลล์ที่มีอันตราย (เซลล์มะเร็ง) หรือไม่ ระบบภูมิคุ้มกันสามารถทําลายเซลล์มะเร็งหรือไม่ ตราการเเบ่งตัวของเซลล์มะเร็งเร็วหรือไม่ อัอตราการเเบงตวของเซลลมะเรงเรวหรอไม เกิดมะเร็ง
การเกิดิ มะเรง็
ผลของรังสีที่มีต่อมนุษย์ แสดงความเสี่ยงจากการตายด้วยโรคมะเร็งเมือ่ ได้รบั รังสี 1 ซีเวิร์ต
อวัยวะหรือเนือ้ เยื่อ
แฟคเตอรความเสี่ยง
Bladder
0.0030
Bone marrow
0.0050
Bone surface
0.0005
Breast
0.0020
Colon
0.0085
Liver
0.0015
Lung
0.0085
Esophagus
0.0030
Ovary
0.0010
Skin
0.0002
Stomach
0.0110
Thyroid
0.0008
Oth Other
0 0050 0.0050
Total
0.0500
ผลของรังสีที่มีต่อมนุษย์ เเฟกเตอร์ เเฟกเตอรความเสยง ความเสี่ยง - ของมะเร็งเต้านม 0.0020 หลังจากได้รับรังสี 1 Sv - 1 Sv มีความเสี่ยงของมะเร็งเต้านม 0.2 % - คน 1000 คน ได้รับรังสี 1 Sv มีโอกาสเกิดมะเร็งเต้านม 2 คน
ผลของรังสีที่มีต่อมนุษย์ โอกาสหนึ่งในลานที่ทําใหเสียชีวิต 11.55 80 420 2 20 9 6 1 90 0.1
การสูบบุหร่ (มวน) การสบบหรี การขับรถ (กิโลเมตร) การโดยสารเครื โ ือ่ งบินิ (กิโิ ลเมตร) การทํางานในโรงงาน (สัปดาห) กลุมผูมอี ายุ 60 ป (นาที) กลมผูผมอีอายุ กลุ าย 30 ปป (ชวโมง) (ชั่วโมง) การกรรเชียงเรือแคนู (นาที) การถูกฟาผา (ป) การปนเขา (วินาที) การไดรบั รังสีแบบเฉียบพลัน (มิลลิซีเวิรต)
ระดับั รัังสีีพื้นฐานของบุคคลทีไี่ ด้ร้ ับโดยประมาณ โ 3 mSv mSv//ปีี Air
Cosmic - 0.3 mSv
Terrestrial - 0.3 mSv
Radon - 2 mSv
F d - 0.4 Food 0 4 mSv S
ค่าระดับรังสีที่ยอมให้รับได้ (ค่ามาตรฐานสากล) - ผู้ปฏิบัติงานทางรังสี ไม่เกิน 20 มิลลิซีเวิร์ทต่อปี โดย เฉลี่ย 100 มิลลิซีเวิร์ทภายใน 5 ปี แต่สูงสุดในปีนั้นๆ ยอมให้รับได้ไม่เกิน 50 มิลลิซีเวิร์ทต่อปี - บุคคลทั่วไป ไม่เกิน 1 มิลลิซีเวิร์ทต่อปี
อุบัติเหตุทางนิวเคลียร์
ระดับ ผลกระทบภายนอกโรงไฟฟ้า
เกณฑ์กําหนด ผลกระทบภายในโรงไฟฟ้า
1 เหตุผิดปกติ
ไม่มี ไมม
ไม่มี ไมม
อุอปกรณ์ ปกรณทางานผดปกต ทํางานผิดปกติ
2 เหตุขัดข้อง
ไม่มี
ไม่มี
เหตุุขัดข้องทีมีแนวโน้มต่อ ผลกระทบทางด้านความ ปลอดภัย
3 เหตุขัดข้องรุนแรง
มีการปลดปล่อยสารรังสี ปริมาณน้อยมากประชาชน ไ ้รั รั สี ่ํ ่ ปริ ไดรบรงสตากวาปรมาณท ี่ กําหนด
4 มีการปลดปล่อยสารรังสี มการปลดปลอยสารรงส อุบัติเหตุเฉพาะภายในบริเวณ ปริมาณเล็กน้อยประชาชน ได้รับรังสีอยู่ในช่วงปริมาณที่ กําหนด
ความบกพร่องของระบบ ป้องกันเชิงลึก
มีการเปรอะเปื้อนทางรังสี ใกล้ต่อการเกิดอุบัติเหตุสูญเสีย อย่างมากผู้ปฏิบัติงานได้รับ การทํางานของระบบป้องกัน รั สี ิ ่ ปริ รงสเกนกวาปรมาณทกาหนด ี่ ํ เชงลก ชิ ึ แกนปฏกรณไดรบความ แกนปฏิ กรณ์ได้รับความ เสียหายบางส่วน
บกพร่อง บกพรอง
ระดับ
เกณฑ์กําหนด ผลกระทบภายนอกโรงไฟฟ้า
ผลกระทบภายในโรงไฟฟ้า
ความบกพร่องของระบบ ป้องกันเชิงลึก
5 อุบัติเหตุที่เกิดอันตรายถึง ภายนอกบริเวณ
มีีการปลดปล่อ่ ยสารรัังสีี ปริมาณจํากัดและมีการ ปฏิฏบัติการเสริมด้วยแผน ฉุกเฉินทางรังสีบางส่วน
แกนปฏิกิ รณ์์ได้ร้ ับความ เสียหายอย่างรุนแรง
บกพร่อ่ ง
6 อุบัติเหตุรุนแรง
มีมการปลดปลอยสารรงส การปลดปล่อยสารรังสี ปริมาณมากและมีการ ปฏิบัติการเสริมด้วยแผน ฉุกเฉินเต็มอัตรา
รุรนแรง นแรง
บกพร่อง บกพรอง
7 อุบัติเหตุรุนแรงที่สุด
มีการปลดปล่อยสารรังสี ปริมาณมากในบริเวณกว้าง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและ สิ่ง วดล้อม สงแวดลอม
รุนแรงมาก
บกพร่อง
อุบัติเหตุที่ Chernobyl-4 26 เมษายน 1986 RBMK 1000 MW
สสาเหต, เ ุ, ผล, ล, บบทเรี เรยน ยน
อุบัติเหตุที่ Three Mile Island-2 28 มีนี าคม 1979 PWR 900 MW
เหตุการณแผนดนไหวและผลกระทบตอโรงไฟฟานวเคลยรฟู ์ ่ ิ ไ ่ โ ไฟฟ้ ิ ี ์ฟกู ชิมา ประเทศญี ญ่ปุ่น ตามที่ สํานักงานปรมาณููเพื่อสันติ (ปส.) ได้รับแจ้งจากเอกสารแถลงการณ์ จากกระทรวงการเศรษฐกิจ การพานิชย์และอุตสาหกรรม (Ministry of Economy Trade and Industry Economy, Industry, METI) ประเทศญปุ ประเทศญี่ป่น และเอกสารจาก Incident and Emergency Centre ของ IAEA เกี่ยวกับเหตุการณ์ แผนดิ ่ โ ไฟฟ้านิิวเคลียี รฟูฟ์ กูชมิ า ปประเทศญี่ีปุ่น ่ ินไไหวและผลกระทบตอโรงไฟฟ้
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม เวลา 14:46 น. ตามเวลาประเทศญี่ปุ่น (11:46 น. ตามเวลาประเทศไทย) เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาดความแรง 9.0 ริก เตอร์ ส่งผลให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จํานวน 11 แห่งจากทั้งหมด 14 แห่ง ดับลง โดยอัตโนมัติ ยกเว้ โดยอตโนมต ยกเวนเครองปฏกรณโรงไฟฟานวเคลยร นเครื่องปฏิกรณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 3 โรง คอ คือ Fukushima I Unit 4-6 ซึง่ ไม่ได้ มีการเดินเครื่องปฏิกรณ์เนื่องจากอยู่ ระหว่างตรวจสอบซ่อมบําํ รุงประจํําปีี
เกิดเหตุการณแผนดินไหวและเครื่องปฏิกรณนิวเคลียรดับลงโดยอัตโนมัติ
12 มนาคม มีนาคม เวลา 15 15::36 น. ตามเวลาประเทศญปุ ตามเวลาประเทศญี่ปน่ (12:36 น. น ตามเวลาประเทศไทย) y หลังจาก ระบบความปลอดภัยเครื่องปฏิกรณ์ได้ทําการดับเครื่องปฏิกรณ์โดยอัตโนมัติ ระบบ จ่ายน้ําระบายความร้อนซึ่งสูบน้ําจากน้ําทะเลไม่สามารถทํางานได้เนื่องจากซินามิ (เชื่อว่า ซึนึ ามิทําให้ ใ ร้ ะบบจ่ายนํา้ํ เสียี หาย ซึง่ึ ความรุนแรงของซึนึ ามิอยูใ่ นระดัับเกินกว่าทีเ่ี จ้า้ หน้้าทีี่ ได้คาดการณ์ไว้) y ระดับน้ําในถังเครื่องปฏิกรณ์ (pressure vessel) มีปริมาณลดลง ทําให้เกิดปฏิกิริยา ระหว่างโลหะและน้ําเกิดเป็นก๊าซไฮโดรเจน ซึ่งก๊าซไฮโดรเจนที่เกิดขึ้นได้แพร่กระจายออกสูู่ ภายนอกของอาคารคลุมเครื่องปฏิกรณ์ (containment vessel) ส่งผลให้เกิดการระเบิด ของก๊าซไฮโดรเจนภายนอกอาคารคลุมเครื่องปฏิกรณ์ ทําให้หลังคาคอนกรีตชั้นนอกของ อาคารปฏิกรณ์ (Concrete building housing) ซงไดรบแรงระเบดกระเดนออกไป อาคารปฏกรณ ซึ่งได้รบั แรงระเบิดกระเด็นออกไป
เครื่องปฏิกรณ์ยูนิตที่1 ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชมิ า ไดอิชิ
ภาพแสดงโครงสร้างอาคารปฏิกรณ์
ตรวจพบการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสี 2 ชนิด คือ ไอโอดีน (Iodine) และ ซีเซียม(Cesium) ซงเชอวามาจากเชอเพลงนวเคลยรทไดรบความเสยหาย ซเซยม(Cesium) ซึ่งเชื่อว่ามาจากเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ทไี่ ด้รบั ความเสียหาย และตรวจ พบสารกัมมันตรังสีปริมาณเล็กน้อยภายในน้ําระบายความร้อนแกนปฏิกรณ์ อย่างไรก็ ตาม สภาวการณในขณะน สภาวการณ์ในขณะนี้ ยัยงไมเรยกวา งไม่เรียกว่า เครองปฏกรณเกดการหลอมละลาย เครื่องปฏิกรณ์เกิดการหลอมละลาย (Meltdown) ซึ่งจะต้องหมายถึง แกนเครื่องปฏิกรณ์ทงั้ หมดเกิดการหลอมละลาย (ซึ่งสภาวการณ์ในปัจจบับน คืคออ แท่ (ซงสภาวการณในปจจุ แทงเชอเพลงเกดความเสยหายบางสวน) งเชือ้ เพลิงเกิดความเสียหายบางส่วน)
ภาพที่ 4 แสดงหลังคาคอนกรีตชั้นนอกของอาคารปฏิกรณ์ (Concrete building housing)
y Unit 3 เกดการระเบดเนองจากกาซไฮโดรเจนทเพมขนทาใหหลงคาคอนกรตของอาคาร เกิดการระเบิดเนื่องจากก๊าซไฮโดรเจนที่เพิ่มขึ้นทําให้หลังคาคอนกรีตของอาคาร ปฏิกรณ์ (Concrete building housing) ซึ่งได้รับแรงระเบิดกระเด็นออกไป ลักษณะ เหตุุการณ์เหมือนกันกับ Unit 1 ซึ่งอาคารคลุุมเครื่องปฏิฏกรณ์ (Containment Vessel) ไม่ได้รับความเสียหายจากการระเบิดของก๊าซไฮโดรเจนเช่นเดียวกันกับ Unit 1 y
การระเบิดของก๊าซไฮโดรเจนของเครื่องปฏิกรณ์ยูนิตที่ 3 ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกชู ิมา ไดอิชิ เกิดขึ้นในวันที่ 14 มีนาคม เวลา 11:01 น. ตามเวลาประเทศญี่ปุ่น (8:01 น. ตามเวลาประเทศ ไทย) ทั้งนี้ เครื่องปฏิกรณ์ ไม่มี ภาวะเสี่ยงอันตรายจากการระเบิดของก๊าซไฮโดรเจนเนื่องจาก ไม่มกี า๊ ซออกซิเจนอยู่ภายในอาคารคลุมเครื่องปฏิกรณ์ (การจุดระเบิดของก๊าซไฮโดรเจนต้อง อาศัยั ก๊๊าซออกซิิเจนในการทํ ใ ําปฏิ ป กิ ิริยา)) และกัมั มันั ตภาพรัังสีีถูกปลอยโดยตรงออกสู ป่ โ ่ บรรยากาศ อัตราระดับรังสี ณ ที่เกิดเหตุ วัดได้มีคา่ ถึง 400 มิลลิซเี วิร์ตต่อชั่วโมง และได้มกี าร แจ้งให้ทําการอพยพประชาชนเพื่อเป็นการเตรียมการป้องกันอันตราย จึจงทาใหไมมผลกระทบ แจงใหทาการอพยพประชาชนเพอเปนการเตรยมการปองกนอนตราย งทําให้ไม่มีผลกระทบ ทางรังสีต่อสุขภาพของประชาชน
เครื่องปฏิกรณยูนิตที่ 3 ของโรงไฟฟานิวเคลียรฟูกูชิมา ไดอิชิ
ภาพถายทางอากาศของโรงไฟฟานิวเคลียรที่ Fukushima Daiichi
ภาพถายทางอากาศของโรงไฟฟานิวเคลียรที่ Fukushima Daiichi ยูนิตที่ 3
เมื่อเวลา 4.10 น. เวลาประเทศไทย วันที่ 15 มีนาคม 2554 เครื่อง ปฏิฏกรณ์ยูนิตที่ 2 ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชมิ า ไดอิชิ เกิดการระเบิด เนื่องจากก๊าซไฮโดรเจนที่เพิ่มขึ้นทําให้หลังคาคอนกรีตของอาคารปฏิกรณ์ (Concrete building housing) ซงไดรบแรงระเบดกระเดนออกไป ซึ่งได้รับแรงระเบิดกระเด็นออกไป ลักษณะเหตุการณ์เหมือนกันกับ Unit 1 ซึ่งอาคารคลุมเครือ่ งปฏิกรณ์ (C t i (Containment t VVessel)l) ไมไดรบความเสยหายจากการระเบดของกาซ ไม่ได้รับความเสียหายจากการระเบิดของก๊าซ ไฮโดรเจนเช่นเดียวกันกับ Unit 1 ในรายงานระบุ มีความเป็นไปได้ว่า แหล่งเก็บ็ น้้ําสําหรับระบบระบายความร้อนฉุกเฉิน (suppression chamber) อาจได้รับความเสียหายเนื่องจากการระเบิด
เครื่องปฏิกรณยูนิตที่ 2 ของโรงไฟฟานิวเคลียรฟูกูชิมา ไดอิชิ
วันที่ 15 มีนาคม 2554 บ่อเก็บแท่งเชื้อเพลิงใช้แล้วของเครื่อง ป กิ รณ์ย์ ูนิตทีี่ 4 ของโรงไฟฟ้ ปฏิ โ ไฟฟ้านิวิ เคลีียร์์ฟูกูชิมา ไดอิ ไ ชิ ิ เกิดิ ไฟ ไหม้ขึ้น สาเหตุุที่เกิดไฟไหม้ขึ้นอาจเป็นไปได้ว่ามาจากการระเบิด ของไฮโดรเจน ซึง่ ทางญี่ปุ่นสามารถดับไฟได้เมื่อเวลา 9.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
เครื่องปฏิกรณ์ยูนิตที่ 4 ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชมิ า ไดอิชิ
สถานการณ์ในปัจจุุบัน จากการตรวจวัดปริมาณรังสีประจําจุดสถานีที่ตั้ง ระดับปริมาณรังสีในวันที่ 21 มีนาคม เวลา 4:30 น. ตามเวลาประเทศญีปี่ ุ่น (2:30 น. ตามเวลาประเทศไทย) ไ วัดั ไได้้ 3 μSv/h (ทังั้ นีี้ เปรียี บเทีียบปริิมาณ รังสีที่ผู้คนได้รับจากการ X-ray เพื่อตรวจวินจิ ฉัยกระเพาะอาหารในสถานพยาบาล คือ 600 μSv หรือ เปรียบเทียบปริมาณรังสีที่ผค้ นไดรบจากการเดนทางจากประเทศญปุ เปรยบเทยบปรมาณรงสทผู นได้รับจากการเดินทางจากประเทศญี่ปน่ ไปถงชายฝงตะวนออกของ ไปถึงชายฝั่งตะวันออกของ ประเทศสหรัฐอเมริกา คือ 200 μSv) รรัศมมีพนื้ ที่ทําการอพยพ รอ ย คือ 200 กิโลเม โลเมตรจากโรงไฟฟ้ รจ โร ไ านวเ นิวเคลีลยร ยร์ มีการตรวจพบสารกัมมันตรังสี I-131 และ Cs-137 ในน้ําประปาใน 7 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่นรวมถึง โตเกียว แต่ปริมาณกัมมันตภาพรังสียังจัดอยูใู่ นระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุุขภาพ
สถานการณ์ในปัจจุบัน ผลการตรวจวัดปริมาณ I-131 และ Cs-137 บนพื้นดิน ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม – 21 มีนาคม 2554
สถานการณ์ในปัจจุุบัน ปริมาณรังสีที่ยอมให้มีได้บนพื้นผิวต่างๆ ชนิดของพื้นผิว
แอลฟา (Bq/m2)
เบตา - แกมมา (Bq/m2)
มือและเครื่องมือทุกชนิด พื้นผิวตางๆ
3,700
37,000
รางกายทั่วๆไป
1,850
37,000
รองเทาที่ใชในหองปฏิบตั ิการทางรังสี รองเทาทใชในหองปฏบตการทางรงส
37 000 37,000
370 000 370,000
ชุดคลุมปฏิบตั ิการทางรังสี
18,500
370,000
เสื้อผาสวนตัว
3,700
185,000
United Nations Scientific Committee on the Effect of Atomic R di i ให้ Radiation ใ ้ถอื ว่า่ มีกี ารปนเปื ป ปือ้ นทางรงสี ั เี มือ่ื วดค่ ั า่ ปปริิมาณ Cs-137 C 137 บนพืื้นดินิ ไได้้ 37,000 Bq/m2
สถานการณในปจจุ สถานการณในปจจบับน
ผลการตรวจ I-131 และ Cs-137 ในนมและผักโขม พบวามีปริมาณสูงเกินกวามาตรฐานในบางพื้นที่ โดยในขณะนี้มีการจํากัดการขนสงผักกินใบจาก จังหวัดฟุกชุ ิมา อิบารากิ โตชิกิ และกันมะ และ จํากัดการขนสงนมจากจังหวัดฟุกุ ุชิมา
เข็มหมุด-บริเวณที่มีการตรวจวัดปริมาณรังสีในผักโขม (สีเขียวปลอดภัย สี เหลืองสูงกว่าระดับที่อนุญาตสองเท่า สีแดง มากกว่าสามเท่า วงกลม- บริเวณที่มีการตรวจวัดปริมาณรังสีในนม (ความรุนแรงขึ้นอยู่กับ ขนาดของวงกลม))
สถานการณในปจจุ สถานการณในปจจบับน พบการปนเปอนของสารกัมมันตรังสีในน้ําทะเลวัดที่ 100 เมตรทางทิศใตของจุดที่ ปลอยน้ําออกจากโรงไฟฟานิวเคลียร นิวไคลดรังสีหลักๆที่ตรวจพบ (คาครึง่ ชีวิต)
ปริมาณรังสีที่ตรวจพบ (Bq/cm3)
ปริมาณที่อนุญาต (Bq/cm3)
Cobalt-58 (70.8 วัน)
6.0 x 10-2
1.0 x 100
Iodine-131 (8.04 วัน)
5.1 x 100
4.0 x 10-2
Iodine-132 (2.3 (2 3 ชวโมง) ชั่วโมง)
2 1 x 100 2.1
3 0 x 100 3.0
Cesium-134 (2 ป)
1.5 x 100
6.0 x 10-2
Cesium-136 (13.1 วัน)
2.1 x 10-1
3.0 x 10-1
Cesium 137 (30 ป) Cesium-137 ป)
1 5 x 100 1.5
9 0 x 10-2 9.0
การเตรียมความพร้อมกรณีฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีของประเทศไทย นโยบายการเตรียมพร้อมแห่งชาติ
แผนการป้องกันและ บรรเทา สาธารณภัยั แห่่งชาติิ
แผนป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจังหวัด
แผนฉุกเฉนทางนวเคลยร แผนฉกเฉิ นทางนิวเคลียร์ และรังสีแห่งชาติ
แผนปฏิบัติการ การป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัยแบบบูรณาการ ๑๗ ด้า้ น (ระดับั กระทรวง)
แผนป้องกันประเทศ(กห.) แผนผนึกกําลังและทรัพยากร เพื่อการป้องกันประเทศ
แผนบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงกลาโหม
แผนปฏิบัติการของ หน่วยปฏิบัติ
แผน ปพร. ระดับพื้นที่(อําเภอ //กิ่งอําเภอ เทศบาล /เมืองพัทยา / ตําบล
61
การซ้อมแผนฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี
การเฝาระวังการเตือนภัยทางรังสี การเฝาระวงการเตอนภยทางรงส
มากกวา 1 µSv/h S /h
มากกวา 0.2 มากกวา 02 µSv/h
0.05 – 0.2 µSv/h
ประกาศแจงเตือน (มีการฟุุงกระจายของวัสดุุกัมมันตรังสี) ใหประชาชนหลบอยูในที่พักอาศัย ปดประตู หนาตางใหแนนหนา และปดระบบ ระบายอากาศ ไมประกาศแจงเตือน (ไมมกี ารฟุงกระจายของวัสดุกัมมันตรังสี) ยกเวนถาระดับปริมาณรังสีมากกวา 100 µSv/h จะประกาศแจงเตือนให ประชาชนหลบอยููในที่พักอาศัย ปดประตูู หนาตางใหแนนหนา และปดระบบ ระบายอากาศ ระดับปริมาณรังสีที่ตองมีการเฝาระวัง โดยตรวจหาสาเหตุุจากการวิเคราะห ตัวอยางในธรรมชาติไดแก อากาศ ดิน น้ํา หญา
ระดับปริมาณรังสีในระดับธรรมชาติ
การจัดการเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี การฟื้นฟู
•อพยพผู้ประสพภัย ประชาชนอื่นๆออกจากที่เกิดเหตุที่เป็นพื้นที่อันตรายให้หมด •การดํําเนิินการ: • การให้ความช่วยเหลือผูป้ ระสพภัยเบื้องต้นที่จําเป็น(ที่พักอาศัย อาหาร น้ํา การรักษาบําบัดจิต) • ประสานงานติดต่อหน่ายงานรับผิดชอบระดับท้องถิ่น ระดับชาติ นานาชาติในการให้ความ ช่วยเหลือผูป้ ระสพภัย • การชําระล้างการเปรอะเปือ้ นทางรังสีประชาชน สถานที่อยู่อาศัย อุปกรณ์ เครื่องมือ •การสํารวจยืนยันการฟื้นฟููกลับสูู่ภาวะปกติ
การกลับสู่ภาวะปกติ y y
y
การสารวจและประเมนสถานการณสถานทเกดเหตุ การสํ ารวจและประเมินสถานการณ์สถานที่เกิดเหตขัข้นนสุสดท้ ดทาย าย การดําเนินการ: ◦ การชาระลางการเปรอะเปอนทางรงส การชําระล้างการเปรอะเปื้อนทางรังสี และ ◦ เก็บรวบรวมกากกัมมันตรังสีเพื่อการกําจัด ประกาศการสิ้นสดภาวะฉกเฉิ ประกาศการสนสุ ดภาวะฉุกเฉนน
การดําเนินงานของสํานักงานปรมาณูเพื่อสันติต่อกรณีเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์ ที่ประเทศญี่ป่น ทประเทศญปุ 1.การให้บริการตรวจวัดการปนเปือ้ นสารกัมมันตรังสีแก่สิ่งแวดล้อม 1 1 การตรวจวดอากาศ 1.1 การตรวจวัดอากาศ ปส. ปส มสถานเฝาตรวจกมมนตภาพรงสในอากาศ มีสถานีเฝ้าตรวจกัมมันตภาพรังสีในอากาศ 8สถาน 8สถานี กระจายอยู่ในจังหวัดตามภูมิภาคต่างๆ ซึ่ง ปส. จะแสดงข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ของ สํานักงานแบบ real time 1 2 การตรวจวดอาหาร 1.2 การตรวจวัดอาหาร ปส. ปส ทาการตรวจวด ทําการตรวจวัด ระดังรังสีในอาหาร 5 ชนิด คือ สตรอเบอร์รี่ สาหร่ายสด สาหร่ายแห้ง(วากะเมะ) ข้าวสาร ช็อคโกแล็ต จากประเทศญีป่ ุ่นก่อนเกิดเหตุ ฉุกเฉินทางนิวเคลียร์เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูล และมีการประสานงานกับสํานักงานคณะ กรรมอาหารและยา (อย.) เพื่อทําการ ตรวจสอบอาหารที่นําเข้ามาจากประเทศ ตรวจสอบอาหารทนาเขามาจากประเทศ ญีป่ ุ่นหลังจากเกิดเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์ที่ ประเทศญี ญป่ ุ่น
การดําเนินงานของสํานักงานปรมาณูเพื่อสันติต่อกรณีเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์ ที่ประเทศญี่ป่น ทประเทศญปุ 2. การให้บริการตรวจวัดสารกัมมันตรังสีแก่บุคคล 2.1 การตรวจวัดความเปรอะเปื้อนสารกัมมันตรังสีภายนอกร่างกาย แก่ผโู้ ดยสารที่เดินทางมาจาก ประเทศญีป่ ุ่น ทีส่ นามบินสุวรรณภูมิ 2.2 ให้บริการตรวจวัดปริมาณรังสีภายในร่างกายที่สํานักงานปรมาณูเพื่อสันติ
การดําเนินงานของสํานักงานปรมาณูเพื่อสันติต่อกรณีเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์ ที่ประเทศญี่ป่น ทประเทศญปุ 3. ให้ขอ้ มูลความรู้แก่ประชาชน 3.1 มีกี ารให้ ใ แ้ ถลงข่า่ ว ใให้้สมั ภาษณ์ห์ นัังสืือพิมิ พ์์ วิทิ ยุ โโทรทัศั น์์ และ เผยแพร่ข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ 3.2 จัดั ตััง้ ศูนย์ข์ ้อมูลเหตุการณ์ฉ์ ุกเฉิินทางนิวิ เคลีียร์แ์ ละรังั สีี เพืือ่ ให้ ใ ข้ ้อมูล สถานการณ์และความรู้ทางรังสี ผลกระทบจากรังสี ต่อหน่วยงานที่สนใจ และประชาชนทั ป ว่ั ไป
การดําเนินงานของสํานักงานปรมาณูเพื่อสันติต่อกรณีเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์ ที่ประเทศญี่ป่น ทประเทศญปุ 4. การให้ความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น 4.1 ศูศนย์ นยกลางการรบขอมู กลางการรับข้อมลเหตการณ์ ลเหตุการณฉุฉกกเฉิ เฉนทางนวเคลยรและรงส นทางนิวเคลียร์และรังสี จากทบวงการพลงงานปรมาณู จากทบวงการพลังงานปรมาณระหว่ ระหวาง าง ประเทศ โดยที่ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิกของอนุสัญญาว่าด้วยการแจ้งเหตุทางนิวเคลียร์โดยเร็ว (IAEA Early Notification of Nuclear Accident Convention) ในการนี้ IAEA ได้ส่งข้อมูลรายงาน สถานการณ์และปริมาณรังสีในบริเวณต่างๆ ให้กับ ปส. ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์จนถึงปัจจุบันมีแถลงการณ์แล้ว จํานวน 20 ฉบับ ในการนี้ ปส. จะดําเนินการแปลและประชาสัมพันธ์ในเวปไซด์ เพื่อให้ประชาชนสามารถ ติดิ ตามขาวสารได้ ่ ไ อ้ ยางทนเหตุ ่ ั การณ์์จากแหลงขาวที ่ ่ ี่เชืื่อถือื ได้ ไ ้ 4.2 ประสานกองทัพอากาศ เพื่อมอบชุดป้องกันการเปรอะเปื้อนสารกัมมันตรังสี จํานวน 20 ชุด สําหรับ เจ้าหน้าที่ที่จะไปปฏิบัติภารกิจใกล้กับสถานที่ที่เกิดเหต เจาหนาททจะไปปฏบตภารกจใกลกบสถานททเกดเหตุ 4.3 ประสานงานกับสมาคมเวชศาสตร์นิวเคลียร์แห่งประเทศไทย เพื่อการรับดูแลผูไ้ ด้รบั ผลกระทบทางรังสี 4.4 จัดวิทยากรให้ความรู้ด้านรังสีแก่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานอื่นที่จะเดินทางไปให้ความช่วยเหลือในประเทศ ญีป่ ุ่น ได้แก่ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศ
ขอบคณค่ ขอบคุ ณคะะ