Eat Am Are Magazine by Fai Jeeranan

EAT AM ARE octo b

อี ส แอม อาร

The cuisine magazine of Thailand

2012 er

Firs t t ime of Sweet EAT AM ARE Magzine

Editor Talk

อีกไม่กี่เดือนก็จะถึงช่วงเทศกาลวันสำ�คัญๆ แล้ว เตรียมตัวรอรับของขวัญจาก เพื่อนๆและญาติของคุณได้เลย เพราะ EAT AM ARE ฉบับนี้มีของขวัญมามอบให้คุณผู้อ่านมากมายเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเค้ก และเครื่องดื่มหวานๆ ติดตามได้ทุกคอลัมน์นะค่ะ มีท ั้งเกร็ดความรู้ที่เกี่ยวกับอาหาร ภาพเบเกอร์รี่แสนอร่อย รับรองได้ว่าเด็ดทุกร้านเลยที่ เดียวนอกจากจะมีแต่เรื่องราวของอาหารการกินแล้ว เรายังนำ�คุณผู้อ่านตามติดคุณยิมส์พาชิมลองทายกันสิว่า ฉบับนี้ นางจะพาไปชิมเบเกอร์รี่ ย่านไหนในกรุงเทพมหานคร เมืองอันกว้างใหญ่ไร้ผู้หลับนอน อย่างไรก็ตามขออวยพรให้คุณผู้ อ่านทุกท่านมีความสุข พบเจอกับสิ่งที่ด ีงาม สำ�เร็จ สมหวัง ดั่งใจคิดสำ�หรับ เทศกาลวันสำ�คัญดีๆ ที่จะมาถึงนะค่ะ แล้วอย่าลืมแวะเวียนไปทานเค้กจากร้านที่แนะนำ�ล่ะพบกันใหม่ฉบับหน้า ทีมบรรณาธิการ

Contents Editor Talk . . . . . . . . 3

พ่อค้า...น่าแซ่บ .

จานนี้ต้องลอง . CHU

FreeTimes . . . . . . . . . 21

. . . . . . . . .5

103+ FACTORY PAST RY-P

. . . . . . . . 19

SWEET HOUND

ร้านนี้น่านั่ง .

. . . . . . . . . . 9 Hidden St uff Pat isserie Mori Osaka Chocolab

Secret Recipes . . . . . . 24

Around T he World . . . 12

Food Healt hy . . . . . . 28

T hailand Only!! . . . . .

Healt hy Tricks . . . . . 29

Faes ta FooD . . . . . . .

Member . . . . . . . . . 30

ผู้หญิงกับของหวานยังไงก็ตัดขาดกันไม่ ได้…ถูกต้องมั้ยคะ ? หากคุณเป็นคนหนึ่งที่คิด เหมือนกันล่ะก็ บอกเลยว่าต้องถูกอกถูกใจและกด Like ร้านที่ We Recommend จะพาไปรู้จ ักในวัน นี้อย่างแน่นอน... จะเจอกับ Chu (ชู) คาเฟ่ขนมหวาน และช็อกโกแลตน้องใหม่ล่าสุดในย่านใจกลางเมือง กรุง กำ�ลังรอการทักทายและคอยต้อนรับ เหล่า คนรักของหวาน ได้มาลิ้มลองเหล่ากองทัพขนม อร่อยสูตรพิเศษไม่เหมือนใคร ด้วยคอนเซ็ปต์ ร้านที่เน้นให้ความอร่อยของ Churros, Chocolate & Coffee เมื่อก้าวผ่านเข้ามาภายในเป็น ต้องเซอร์ ไพรส์กับ Open Kitchen ตั้งอยู่ด้าน หน้า แล้วจัดการเลือกทำ�เลที่นั่งตรงมุมกระจก ใส ที่มีอาหารตาเป็นวิวท้องถนนสุขุมวิท ภาย ใต้บรรยากาศอันแสนสบายเน้นใช้ โทนสีเข้มขรึม กลิ่ นหอมของเบเกอรี่อบใหม่เคล้ากับช็อกโกแลต และกาแฟ หอมฟุ้งไปทั่วร้าน อีกทั้งตู้เค้กยังอวด โฉมเหล่า เพื่อนพ้องเบเกอรี่หน้าตาช่างเรียกร้อง เชิญชวนเสียเหลือเกิน หมายมั่นปั้นมือเอาไว้ว่าจะลองของเด็ด

อย่าง Churros (70 บาท) อันเป็นที่มาของชื่อร้าน คือโดนัทสัญชาติสเปน อารมณ์คล้ายปาท่องโก๋จ ิ้ม นมข้นบ้านเรา แต่ ใช้แป้งสูตรเฉพาะผิวนอกกรอบ กำ�ลังดีเนื้อในเบานุ่มกว่า โรยน้ำ�ตาลไอซิ่ง แนะนำ� ให้สั่ง Dip มาอร่อยด้วย ทั้ง Chocolate และ Dulce de Leche (คาราเมล) (อย่างละ 15 บาท) ถ้าเลิฟช็อกโกแลตต้องสั่ง Chocolate Lava (150 บาท) ตักซอสช็อกฯเยิ้มๆ ทานกับ ไอศกรีมวานิลลาและวิปครีม ก่อนต่อด้วย White Chocolate Panna Cotta (90 บาท) พานนา คอตต้าไวท์ช็อกฯเนื้อเนียน ราดซอสราสป์เบอร์รี่ เปรี้ยวๆ ให้รสเข้ากันอย่างลงตัว อีกเมนูสุดครีเอท Brownie Affogato (90 บาท) บราวนี่เนื้อหนุบลิ้นบดเป็นชิ้นเล็กชิ้น น้อย ท้อปปิ้งไอศกรีมวานิลลา ก่อนทานราดเอส เพรสโซ่ช็อตเข้มข้น เอาไปเลยเต็มสิบคะแนน หาก ยังมีพื้นที่ว่างในกระเพาะเหลือ Chu Chocolate Truffle Cake (120 บาท) เค้กช็อกโกแลต ทรัฟเฟิลสไตล์ Chu กับ Triple Chocolate Cheese Cake (130 บาท) ช็อกโกแลตชีสเค้ก 3 ชั้นที่อร่อยไม่แพ้ ใคร ยังรอคุณอยู่นะคะ

นอกจากนี้ยังมีขนมปังสำ�หรับคนหิวบ่อย (อย่าง เรา) ทั้ง French Toast (90 บาท) หอมกรุ่นมา แต่ไกล ทาเนยอบร้อนพอกรอบ ผิวนอกประกบ ไส้บลูเบอร์รี่ ท้อปด้วยวิปครีมอีกที, Breakfast Panini (120 บาท) ขนมปังอิตาเลียนอบกรอบ ไส้ไข่ เบคอน และ เชดดาร์ชีส เมนูสำ�หรับมื้อเช้าที่ สามารถเสิร์ฟได้ท ั้งวัน ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มช็อกโกแลตซึ่งทาง ร้านใช้ French Chocolate 100% ทั้ง Dark, White และ Milk มาทำ�ให้เลือกตามชอบ ไม่ว่า จะแบบร้อน เย็น หรือปั่น อย่างแก้วที่สั่งมาลอง Hot Dark Chocolate (90 บาท) ค่อยๆ จิบ ช็อกโกแลตหอมหวลรสเข้มข้นติดลิ้น หรือถ้าเป็น คอกาแฟแนะนำ� Ice Cremebrulee (90 บาท) กาแฟเย็นรสชาติถูกใจ ยิ่งถ้าเป็นช่วงบ่ายช่วยให้ หายง่วงดีนักแล เอาเป็นว่าสาวๆ ทั้งหลายที่ โปรดปราน ของของหวานเป็นชีว ิตจิตใจ หรือแม้แต่หนุ่มๆ ที่เรารู้ว่าคุณก็ชอบเหมือนกัน (ไม่ต้องเขินนะคะ เวลาที่เดินเข้าร้านเบเกอรี่) เชิญมาทักทายความ อร่อยของ Chu กันได้ค่ะ

offee

y & Having M

...Have

บ่ายแก่ ๆ ในฤดูฝนที่ท้องฟ้าอึมครึมมีสีหม่นมักจะชวนให้เรา รู้สึกเบื่อหน่ายและอยากงีบ หนุ่มสาวออฟฟิศอย่างเราคงต้องมี Tea Break พักจิบชากาแฟแล้วเติมน้ำ�ตาลให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่ากัน เสียหน่อย วันนี้ We Recommend จึงขอชวนคุณไปผ่อนคลายกันที่ คาเฟ่เล็ก ๆ ในซอยอารีย์ ที่ร้าน 103+ Factory ค่ะ เข้ามาในซอยอารีย์ 4 (ฝั่งเหนือ) เราก็พบที่หมายเด่นสะดุดตา ตัวร้านทาสีดำ�เท่ ๆ กรุกระจกใสบานใหญ่ทำ�ให้ภายในร้านโปร่งสบาย มีโซฟาเบดสำ�หรับ เอนหลังให้ความเป็นกันเองเหมือนอยู่บ้าน พร้อมชุด ครัวเปิดส่งกลิ่นหอมจากขนมโฮมเมดที่อบเสร็จใหม่ ๆ ทุกวัน หลังจาก เลือกมุมนั่งได้แล้วก็สั่ง Twinings Pure Peppermint (80 บาท) ชา ร้อนหอมกลิ่นมินท์เหมาะกับ เวลาบ่ายครึ้มฟ้าครึ้มฝนอย่างนี้ ยิ่งมี Macarons (ชิ้นละ 45 บาท) สีสดสวยหลากหลายรสชาติ ให้เลือกยิ่งเพิ่ม ความรื่นรมย์ ในการจิบชาได้มากขึ้น

Pla

ce...

D ri nki ng M

ery

C H O C O L A T E • L A V A

103+ Factory Ba k

จานนี้ต้องลอง CHU

ที่ตั้ง: Exchange Tower ชั้น 2 ยูนิต 204 (ติดทางเชื่อมไป BTS อโศก) ถนนสุขุมวิท คลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110 โทร:02-663-4554 เวลาเปิดบริการ: วันจันทร์-ศุกร์ 07.30-21.30น. วันเสาร์-อาทิตย์ 11.00-21.00น. ราคาต่อท่านโดยประมาณ : 101-300 บาทต่อคน

y a Good Day at M

นอกจากชาแล้วเครื่องดื่มร้อนอื่น ๆ ก็มีเสิร์ฟเช่น Hot Chocolate เพิ่ม Marshmallow นุ่มหนึบ (70 บาท), Hot Latte (60 บาท) กาแฟร้อนพร้อมฟองนมหนานุ่ม ทานคู่กับ Banana Roll (35 บาท) แยมโรล กล้วยเนื้อละมุน สำ�หรับช็อกโกแลตเลิฟเวอร์ ต้องไม่พลาด Choc Lava Set (130 บาท) ช็อกโกแลตพุด ดิ้งอบร้อน ๆ ซ่อนลาวาช็อกรสเข้มข้น ทานคู่ไอศกรีมวา นิลลาและวิปปิ้งครีม, Double Chocolate Crape Cake (120 บาท) เครปเนียนนุ่มราดซอสช็อกโกแลตเต็มรสช็อกโกแลตแบบยกกำ�ลังสอง หรือจะลองชิม Jelly (30 บาท) เจลลี่นุ่มหนึบ เปรี้ยวอมหวานท็อปหน้า ด้วยวิปครีมเนื้อเนียน ยังมีเมนูจานหลักไว้สำ�หรับคลายหิว เช่น สปาเกตตี้เบคอนผัด แห้ง+ไข่กุ้ง (180 บาท) สปาเกตตี้รสจัดจ้านโรยไข่กุ้งกรอบกรุบ, 103+ Secret Recipe Salad (80 บาท) สลัดผักสดพร้อมน้ำ�สลัดโฮมเมด สูตรเฉพาะที่ร้าน, ปอเปี๊ยะห่อชีสราดซอสไข่กุ้ง (120 บาท) เมนูทาน เล่นเพลิน ๆ มีทีเด็ดอยู่ที่ซอสไข่กุ้ง และ เฟรนช์ฟรายเนยกระเทียม (90 บาท) พร้อมดิปสองรสสองสไตล์ พักเติมพลังกันเรียบร้อยเราก็พร้อมกลับมาลุยงานกันต่อ หวัง ว่าทุกคนคงมีความคิดแล่นฉิวและสะสางงานวันนี้ ให้เสร็จทันเวลากันนะ คะ ที่ตั้ง: 24/4 ซอยพหลโยธิน 7 (อารีย์ซอย 4 ฝั่งเหนือ) ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน พญาไท กรุงเทพมหานคร 10400 โทร: 081-495-1555 เวลาเปิดบริการ: ทุกวันเวลา 11.00-23.00 น. ราคาต่อท่านโดยประมาณ: 101-300 บาทต่อคน

PASTRY-P

แม้ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ฝนตกหนักแทบทุกวัน แต่ We Recommend ก็ยังไม่ลืมสรรหาร้านอร่อยมาฝากทุกคนเช่นเดิมค่ะ แล้วอากาศ เย็น ๆ เพราะสายฝนแบบนี้ จะมีอะไรดีไปกว่าการนั่งจิบชาอุ่น ๆ ใน คาเฟ่น่ารัก ๆ วันนี้ We Recommend เลยพาคุณมาที่ร้าน Pastry-P ในซอยสุขุมวิท 49 รีบหลบฝนตามเข้ามาด้านในเลยค่ะ “จากการที่ทำ�เบเกอรี่ส่งให้กับร้านอาหารหลาย ๆ ร้าน ก็เกิด เป็นไอเดียให้ตัดสินใจเปิดคาเฟ่น่ารัก ๆ เพื่อแบ่งปันความอร่อยในนาม ของ Pastry-P เองบ้าง ด้วยบรรยากาศที่ดัดแปลงจากบ้านให้กลาย เป็นคาเฟ่บนชั้นลอย แต่ยังคงความอบอุ่นแบบบ้านเอาไว้อย่างครบถ้วน เพื่อให้ลูกค้าที่แวะเวียนมาลิ้มลองความหอมหวาน สามารถใช้เวลาสบาย ๆ ด้วยกันได้”

เมื่อฝ่าฝนมาถึงร้าน Pastry-P แล้ว We Recommend ขอ จิบ Twinings Hot Tea (55 บาท) อุ่น ๆ สักแก้วก่อน แล้วจากนั้นค่อย ชิม Tres Leche (90 บาท) เนื้อมิลค์เค้กนุ่ม ๆ แช่มาในนมรสหวานมัน สลับชั้นด้วยชิ้นส้มหวานอมเปรี้ยว เป็นของหวานเรียกความสดชื่นได้ด ีที เดียว และถ้าใครเป็น Coffee Lovers อย่าพลาด Hot Cappuccino (95 บาท) ของ Pastry-P เชียวนะคะ เพราะเข้มข้นถึงใจคอกาแฟมาก ลองชิมเค้กอีกสักชิ้นจากเค้กนานาชนิดของ Pastry-P

ที่เรียงรายรอให้เลือกชิม ตัดสินใจเลือก Lime Curd Crepe Cake (100 บาท) เครปเค้กหอมกลิ่นมะนาว ซึ่งเสิร์ฟมาคู่กับสตรอว์เบอร์รี่ สดและซอสบลูเบอร์รี่ ทานแล้วยังติดใจรสชาติของเบอร์รี่อยู่ Pastry-P เลยเสิร์ฟเครื่องดื่มเย็น Mixed Berry Smoothies (85 บาท) มาให้ อีกแก้ว เป็นเครื่องดื่มที่ด ีต่อสุขภาพมากเลยค่ะ เพราะได้ประโยชน์จาก วิตามินในเบอรร์รี่นานาชนิด แล้วยังอร่อยหอมจากกลิ่นเบอร์รี่อีกด้วย ค่ะ ระหว่างนั่งเพลิน ๆ รอฝนหยุดเลยอดใจไม่ไหวขอชิมคุกกี้สูตรพิเศษที่ ขายดีมากกับ Double Black Chocolate Chip Cookies และ Brown Sugar Chocolate Chip Cookies (ชิ้นละ 35 บาท) ขอบอกเลยค่ะว่า ใครที่ชอบทานคุกกี้แบบนิ่มและชอบทานช็อกโกแลต จะต้องถูกอกถูกใจ อย่างแน่นอนค่ะ อยากชิมความหอมอร่อยแบบนี้บ้าง ให้ตรงมาที่ร้าน Pastry-P อยู่ต้นซอยสุขุมวิท 49 ได้เลยค่ะ

ที่ตั้ง: 1/8 ซอยสุขุมวิท 49 แขวงคลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 โทร: 02-259-5663 เวลาเปิดบริการ: ทุกวันเวลา 10.00-20.00 น. ราคาต่อท่านโดยประมาณ: 101-300 บาทต่อคน

Sweet Hound

...“Sweet Hound

เกิดจากความตั้งใจที่อยากจะให้ร้านขนมกลายเป็นที่ Hang Out ที่สามารถนั่งชิลล์สบาย ๆ แต่ก็ยังคงไม่ทิ้งความเท่ และความร่วมสมัยตามแบบฉบับของ Greyhound Cafe ด้วยการปรุงแต่งบรรยากาศให้ออกมามีกลิ่นอายของ Homemade Patisseries สไตล์ ฝรั่งเศส ตัวร้านใช้วัสดุเป็นไม้ เหล็กและปูนเปลือย แต่เพิ่มลูกเล่นเป็นความหวานปนสนุก ด้วยการตกแต่งทั้งลายจุดบนกำ�แพง หมอน ไปจนถึงผ้า กันเปื้อนของพนักงาน จนออกมาเป็น Dessrt Bar ซึ่งพร้อมต้อนรับด้วยขนมอร่อยนานาชนิด” ช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศร้อนจัด We Recommend จึงอยากพา ความอร่อยแปลกใหม่ของเนื้อเค้กช็อกโกแลตนุ่ม ๆ เคลือบหน้าด้วย คุณหลบไอร้อนและเปลี่ยนบรรยากาศจากร้าน Sweet Lover สไตล์ ช็อกโกแลตฟัดจ์ ตัดกับรสเค็มนิดๆ ของเกลือ แล้วลองเปลี่ยนจาก หวาน ๆ มายังร้าน Sweet Hound ร้านที่นิยามตัวเองว่า รสชาติเข้มข้นมาทานความหวานเบา ๆ กับ Creme Brulee เป็น Dessert Bar โดยรวมเอาความอร่อยของเค้ก เนื้อนุ่มเนียนเพิ่มรสชาติด้วยสตรอเบอรี่ จากนั้นสั่ง วาฟเฟิล พาร์เฟ่ต์ ไปจนถึงขนมไทยเอาไว้ ในที่ เมนูขึ้นชื่อ Walnut Blondie เสิร์ฟร้อนพร้อม เดียว ตาม We Recommend มุ่งหน้า ไอศกรีมวานิลลา ราดบัทเทอร์สก็อตช์รส ไปยัง J Avenue ในซอยสุขุมวิท 55 หวานหอม โรยหน้าด้วย Walut กรุบ (ทองหล่อ) กันเลยค่ะ กรอบ ปิดท้ายด้วยพาร์เฟ่ต์ดับ ด้วยเมนูขนมอร่อย ๆ ที่ ร้อน ชุ่มฉ่ำ� ซึ่งรวมเอาไอศกรีม มี ให้เลือกมากถึง 48 รายการ กับรสชาติสดฉ่ำ�ของผลไม้นานา อาจจะทำ � ให้ ตั ด สิ น ใจยาก ชนิดเอาไว้ด้วยกัน สักหน่อย แต่ที่ต้องแนะนำ� ทั้งขนมอร่อย ๆ นานาชนิด คื อ พระเอกของร้ า นนั่ น คื อ จากวัตถุดิบคุณภาพ แถมยัง “วาฟเฟิล” ที่ถูกสร้างสรรค์ ใส่ใจในการตกแต่งแต่ละจาน ขึ้นด้วยไอเดีย “High Fashให้ อ อกมาเก๋ แ ละมี เ อกลั ก ษณ์ ion Waffle with the Best มาก ๆ เรียกได้ว่า Sweet Dressing in Town” จนออกมา Hound เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่า เป็นเมนูวาฟเฟิลที่หลากหลาย เพิ่ม สนใจสำ�หรับ แฟน ๆ Sweet Lovความสนุกด้วยเครื่องเคียงแบบ Mix er เลยล่ะค่ะ & Match ใครที่ท ั้งชอบวาฟเฟิลและรัก ที่ตั้ง:J-Avenueชั้น1 ซอยทองหล่อ15 ถนนสุขุมวิท ช็อกโกแลต ลองสั่ง Choc Shock Waffle แขวงคลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพมหานคร มาเป็นจานแรก ความเข้มข้นของรสชาติชอคโกแลตใน 10110 เนื้อวาฟเฟิลนุ่ม ๆ เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมช็อกโกแลต และถ้ายังไม่จุ ใจ โทร: 02-712-6547-8 กับช็อกโกแลต ลองสั่งเค้ก Sea Salt Caramel Chocolate Cake เวลาเปิดบริการ: ทุกวันเวลา 11.00-23.00 น. ราคาต่อท่านโดยประมาณ: 101-300 บาทต่อคน

ร้านนี้น่านั่ง

Pat i s ser ie

a k a s O i r Mo

Hidden St uff We Recommend ยังคงเอาใจหนุ่มสาวผู้รักปาร์ตี้และการ Hang Out นอกบ้านเช่นเคย ร้านเก๋ฮิพที่ช ื่อว่า Hidden Stuff ท่ามกลางความจอแจในย่านเอกมัย ใครจะนึกว่าภายในซอยเอกมัย 22 จะมีมุมสงบชวนให้ผ ่อนคลายซ่อนตัวอยู่สมกับชื่อ ตัวร้านเป็นบ้าน 2 ชั้น ตกแต่งด้วยกลิ่นอายเรโทรในธีมห้องต่างๆ ให้ความรู้สึกเหมือนแวะมา เยี่ยมบ้านของเพื่อนสาวสุดเลิฟ อีกทั้งยังเป็น Fashion House ให้เรา ได้เลือกช็อปเสื้อผ้าและ Accessories เก๋ๆ ยิ่งในช่วงเย็นได้มานั่งปล่อย อารมณ์สุดชิลล์บน Bean Bag ใบใหญ่ตรงสนามหญ้า ชมฟ้าชมดาว ท่ามกลางลมเย็นๆ ขอบอกว่าสบายสุดๆ เลย บรรยากาศดีต้องคู่กับอาหารอร่อย งั้นมาดูเมนูแนะนำ�กันเลย เริ่มด้วยของทานเล่นอย่าง Pitta Nam Prik Ong (102 บาท) แป้ง พิตต้าแผ่นบางทอดกรอบ จิ้มทานกับน้ำ�พริกอ่องแบบไทยๆ ต่อด้วย Penne Shoo-Shi Seafood (202 บาท) เพนเน่ผัดคลุกคลิกในเครื่อง พริกแกงฉู่ฉี่ พร้อมซีฟู้ดสดๆ หวานกรอบ, พอร์คชอปแกงเขียวหวาน (272 บาท) พอร์คชอปในเครื่องแกงเขียวหวาน รสเข้มข้นจัดจ้าน, ราด หน้าเนื้อตุ๋น (252 บาท) เส้นใหญ่ในน้ำ�ราดหน้ารสกลมกล่อมกับ เนื้อตุ๋น เปื่อยนุ่ม และ ก๋วยจั๊บญวณต้มโคล้งซี่ โครงหมูอ่อน (142 บาท) ทีเด็ด อยู่ตรงน้ำ�ซุปรสแซ่บ เข้ากับ เนื้อซี่ โครงตุ๋นนุ่มๆ

ตบท้ายด้วยของหวานซักหน่อย พลาดไม่ได้กับ Apple Crumble & Ice-cream (132 บาท) แป้งครัมเบิ้ลและชิ้นแอปเปิ้ลรสเปรี้ยว หวาน อบร้อนๆ เสิร์ฟกับไอศครีมวานิลลา, Chocolate Pudding & Ice-cream (132 บาท) เค้กพุด ดิ้งช็อกโกแลตรสเข้ม ไส้บลูเบอร์รี่เชื่อม รสเปรี้ยวหวานฉ่ำ�ลิ้น, Drunken Brownie (192 บาท) บราวนี่รสเข้ม ข้นเสิร์ฟเข้ากับไอศครีมวานิลลา ส่วนเครื่องดื่ม แนะนำ� Peach Soda (72 บาท) หอมหวานซาบซ่าด้วยน้ำ�พีชนำ�เข้าจากญี่ปุ่นผสมโซดาและใบ มินท์ ยังมีค็อกเทลหลากรสชาติ ให้เลือกจิบ ลอง Vanilla Ice Cocktail (192 บาท) ชื่อหวานๆ แต่ด ีกรีแอลกอฮอล์แรงเอาเรื่อง หลังจากได้แนะนำ�ให้ทุกคนรู้จ ักกับ HIDDEN STUFF แล้ว เชื่อ ว่าร้านนี้คงจะกลายเป็นร้านโปรดของคุณได้ ไม่ยาก หากไม่เชื่อลองหยิบ โทรศัพท์นัดคนพิเศษหรือเพื่อนสนิทไปเจอกันเย็นนี้เลยสิคะ

เชื่อว่าใครหลายคนเคยฝันอยากไปเยือนญี่ปุ่นสักครั้งหนึ่ง ซึ่ง เหตุผลก็คงไม่ใช่เพียงเพราะแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามเรียบง่ายเท่านั้น แต่ญี่ปุ่นยังถือเป็นสวรรค์ของคนรักขนมหวานโดยเฉพาะ และแน่นอน ว่าวันนี้ We Recommend ก็มีร้านขนมแห่งใหม่มาแนะนำ�ให้รู้จ ักอีกเช่น เคย เป็นร้านขนมเค้กสไตล์ญี่ปุ่นอิมพอร์ตจากโอซาก้า รับรองว่าอร่อย เหมือนทานที่ญี่ปุ่นแน่นอน ที่ร้าน “Patisserie Mori Osaka” ค่ะ

...Japanese Fusion Style ภายในร้าน Patisserie Mori Osaka ให้ความโปร่งสบาย ตกแต่งแบบคาเฟ่ญี่ปุ่นด้วยไม้ เน้นโทนสีน้ำ�ตาลครีมเพิ่มความหวาน ด้วยเฟอร์นิเจอร์สีพาสเทล มีชั้นลอยสำ�หรับลูกค้าที่ต้องการความเป็น ส่วนตัวมาจัดประชุมย่อยหรือคุยงานเป็นกลุ่ม แบบไหนก็ โทรจองทาง ร้านได้ล่วงหน้าเลยค่ะ หลังจากเลือกมุมผ่อนคลายได้ ก็เดินมาเมียงมอง ที่ตู้เค้กใสซึ่งบรรจุกองทัพขนมที่คุณโมริทำ�สดใหม่ทุกวัน เห็นแล้วถึงกับ เกิดอาการรักพี่เสียดายน้อง เพราะเค้กที่เรียงรายหลายชนิดนั้นทำ�เอา เลือกไม่ถูกเลยทีเดียว

ที่ตั้ง: 72 ซอยเอกมัย 22 ถนนสุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 โทร: 02-713-2162, 087-028-3456 เวลาเปิดบริการ: วันจันทร์-อาทิตย์ 16.30-00.00 น. ราคาต่อท่านโดยประมาณ: 101-300 บาทต่อคน

ที่ตั้ง: RCA บ ล็อค C ถนน พระรา บางกะปิ ห้วยขว าง กรุงเทพมหาน มเก้า แขวง คร 10310 โทร: 02-6415770-1 เวลาเปิดบร ิการ : ทุกวันเวลา 11 .00-2 ราคาต่อท่านโด ยประมาณ: 101- 2.00 น. 300 บาทต่อคน

เค้กทุกชนิดเน้นวัตถุดิบคุณภาพปลอดสารเคมี ที่สำ�คัญคือ เนื้อเค้กที่ตจี นเบานุ่มโดยไม่ใช้ผงฟู สำ�หรับนางเอกของร้านขอยกให้ Strawberry Short Cake (110 บาท) รสวานิลลานุ่มเบาสลับชั้นครีม สดพร้อมผลสตรอว์เบอร์รีชิ้นโต, Marron Crepe Cake (120 บาท) เครปเค้กสลับชิฟฟอนเนื้อนุ่มไส้เกาลัดเชื่อม ถ้าชอบกลิ่นอายญี่ปุ่นลอง Green Tea Mousse (90 บาท) มูสมัทชะรสไม่หวานเลี่ยนท็อปหน้าถั่ว แดงและครีมสด, Banana Chocolate Cake (95 บาท) เค้กนุ่มสลับ ชั้นครีมกล้วยหอม ช็อกโกแลต คัสตาร์ดและครีมสด พร้อมอัลมอนด์อบ กรุบกรอบ, Chocolate Bavaroise (110 บาท) ครีมช็อกโกแลตบาวา เรียนเนียนนุ่มลิ้น, Gateau Chocolate (100 บาท) เค้กช็อกโกแลต หอมกลิ่นจาง ๆ จากเหล้าชั้นดี ให้รสหวานกลมกล่อม เติมความสดชื่นขึ้นอีกนิด ด้วย Lemon Mousse (120 บาท) มูสหวานนุ่มตัดรสเปรี้ยวนิด ๆ จากเจลลี่เลมอนเนื้อฉ่ำ� อีกหนึ่งเมนูที่ แนะนำ�ให้ลองคือ Pudding (60-65 บาท) ของโปรดของใครหลายคน มี ให้เลือกหลากรสทั้ง Plain หวานนุ่มแบบดั้งเดิม, คาราเมล หอมกลิ่น น้ำ�ตาลเคี่ยวรสเข้ม, ฟักทอง หวานมันนุ่มลิ้น และชาเขียว รสเข้มข้นเป็น เอกลักษณ์ ร้าน Patisserie Mori Osaka ตั้งอยู่ใน RCA บล็อก C ใกล้ ๆ กับสตูดิโอวู้ด ดี้ เวิลด์ เปิดต้อนรับคนรักขนมให้มาลิ้มลองความอร่อย สไตล์ญี่ปุ่นแท้ ได้ทุกวัน ตั้งแต่ 11.00 - 22.00 น. ค่ะ

Caffè Palazzo

Chocolab

ที่ตั้ง: โรงแ รม Sof ite l S 1 ถ.สาทร เหนือ บาง o Bangkok ชั้น ร ัก กรุงเทพ 10500 มหานคร เวลาเปิดบร ิการ: ทุกวันเวลา 07 ราคาต่อท่า .30-19.30 น. นโดยประม าณ: 301-5 00 บาท

Let It Melt Slowly...

แค่เพียงเดินเข้าไปในร้านก็สะดุดตากับห้องกระจก ที่เปิด โอกาสให้เราได้เห็นขั้นตอนแสนพิถีพิถันในการทำ�ช็อกโกแลต เพดานดี ไซน์เป็นชอคโกแลตกำ�ลังละลายเป็นหยดลงมาอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ Signature Drink แก้วแรกเลือกเป็นเครื่องดื่มร้อนอย่าง West Indies Hot Chocolate with Almonds ความเข้มข้นของช็อกโกแลตเพิ่มความ พิเศษด้วยฟองนมนุ่ม ๆ และอัลมอนด์ และอย่างที่บอกไปแล้วนะคะว่า วันนี้เอาใจ Chocolate Lovers เราจึงเลือกชิมช็อกโกแลตแสนอร่อยของ Chocolab มีช ื่อว่า The Five Elements ชอคโกแลต 5 สี สอดไส้ 5 รสชาติ Earth – รส Ginger, Water – รส Salty Butter Caramel, Wood – รส Cinnamon, Fire - รส Crème Brûlée และ Metal – รส Rum Raisin Mousse ซึ่งแต่ละชิ้นเป็นตัวแทนของธาตุท ั้ง 5 คือ ดิน น้ำ� ไม้ ไฟ และโลหะ ซึ่งเป็นธีมของการดีไซน์ โรงแรม Sofitel So Bangkok ถือได้ว่าเป็นความอร่อยที่เก๋มาก ๆ เลยค่ะ

“จากอาคารโบราณที่ยูเนสโกประจำ�ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้ประกาศยกย่องรางวัลเพื่อการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม ถูกส่งผ่านจากร้าน ก๋วยเตี๋ยวของคนรุ่นพ่อ มาถึงมือคนรุ่นลูกที่ ได้ดัดแปลงให้กลายเป็นร้านกาแฟ ซึ่งคงเอาความงดงามของสถาปัตยกรรมแบบเก่าเอาไว้ทั้งหมด ทั้งขื่อ คาน เพดานสูง ประตูบานเฟี้ยม แต่ได้เพิ่มลูกเล่นของการตกแต่งให้ Caffe Palazzo กลายเป็นร้านกาแฟอันอบอุ่น โดยหวังจะทำ�ให้ ลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่แวะเวียนผ่านมา เกิดความประทับใจทั้งในรสชาติของกาแฟและบรรยากาศจนนำ�ไปบอกต่อ ๆ กัน” ...ได้ มี โ อกาส มาเดิ น เล่ น ช ม ความงดงามของสถาปัตยกรรม แบบไทยอั นทรงคุ ณ ค่ า ในย่ า น พระนคร แล้วก็เกิดสะดุดตา เข้ากับร้านกาแฟเล็ก ๆ ร้าน หนึ่งที่ช ื่อว่า Caffè Palazzo ตั้งอยู่ในหมู่อาคารโบราณ บน ถนนหน้าพระลาน ใกล้กับ มหาวิทยาลัยศิลปากร ด้วยการ ตกแต่ ง ผสมผสานความคลาส สิกของอาคารเก่าแบบไทย กับ กลิ่ น อายอิ ตาเลี ย นจากชื่ อ ร้ า น อันหมายถึง “กาแฟพระราชวัง” บวกกับกลิ่นกาแฟหอม ๆ ทำ�ให้ We Recommend ต้องหยุด แวะเพื่ อ เก็ บ เอารสชาติ แ ละ บรรยากาศมาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ

A Cup of Coffee is Happiness... ราวกับ เวลายามบ่ายเดินช้าลงทันที เมื่อได้ทิ้งตัวลงนั่ง บนสตูลหนังสไตล์ว ินเทจตรงบาร์กาแฟ สัมผัสรสชาติ เข้มข้นของ Hot Cappuccino แก้วแรก พร้อมกับรอง ท้องเบา ๆ ด้วย Ham & Cheese Croissant ร้อน ๆ สักหนึ่งชิ้น ใครจะอดใจไหวล่ะคะ ถ้ามีครัวซองต์ หอมนุ่มกับ แฮมและเชดดาร์ช ีสเยิ้ม ๆ มาอยู่ตรงหน้า นอกจากนั้น Caffè Palazzo ยังมี Twinings Earl Grey สำ�หรับคนที่รักการจิบชารสละมุนละไม จับคู่เข้า กันกับ Brownie โฮมเมดหวานนุ่ม เข้มข้นด้วยรสชาติ ช็อกโกแลตเต็ม ๆ คำ� แต่หากใครอยากได้เครื่องดื่ม ที่ช่วยคลายร้อน เลือกเครื่องดื่มเย็นชื่นใจอย่าง Iced Matcha Latte หรือเติมความหวาน หอม เย็นด้วย Iced Caramel Macchiato นอกจากนั้น Signature Dish อร่อย ๆ ที่ We Recommend ไม่อยากให้พลาด คือ Matoom Cake การผสมผสานผลไม้แบบไทย จน ได้ออกมาเป็นเค้กมะตูมเนื้อฟูนุ่ม รับประกันว่าอร่อย จนต้องซื้อกลับบ้านเลยค่ะ หาก Weekend นี้ ไม่รีบร้อนไปไหน พกกล้องตัวเก่ง ไปเดินเล่นเย็นใจ เก็บภาพความสวยงามย่านพระนคร

แล้วแวะจิบกาแฟที่ Caffè Palazzo กันนะคะ แอบ กระซิบว่าที่นั่งบริเวณชั้นสองของร้านนั้น มีว ิวด้านนอก หน้าต่างเป็นความงดงามของพระบรมมหาราชวังด้วย ทั้งกาแฟเข้มข้น ขนมอร่อย แถมบรรยากาศไม่ซ้ำ�ใคร แบบนี้ ถูกใจแฟน ๆ We Recommend ใช่ไหมล่ะคะ?

...The Sweet Smell of Chocolate “คำ�ว่า Chocolab มาจาก Chocolate Factory กับ Laboratory การผนวกกลิ่นอายของโรงงานทำ�ช็อกโกแลต เข้ากับบรรยากาศ ของห้องแล็บทดลองที่เป็นกระจกโปร่งใส สื่อให้เห็นความปราณีตในการ ทำ�ช็อกโกแลตในทุกขั้นตอน ชอคโกแลตที่เลือกใช้คือ French Bonnat ซึ่งถือว่าเป็นช็อกโกแลตชั้นเลิศจากฝรั่งเศส โดยการรังสรรค์ช็อกโกแลต แสนอร่อย อยู่ภายใต้การดูแลของเชฟเจอโรม ลาซาลโมนี เชฟหนุ่มผู้ เชี่ยวชาญในด้านขนมหวานและช็อกโกแลตจากฝรั่งเศส ผู้เปี่ยมไปด้วย ประสบการณ์ถึง 11 ปี ในด้านของหวานและการจัดการครัวมาแล้วทั่ว โลก” ใครชอบทาน ช็ อ กโกแลตคงจะถู ก อกถู ก ใจ กับร้านที่ We Recommend จะพาไปในวันนี้ค่ะ เพราะร้ า นที่ เรากำ � ลั ง พู ด ถึ ง นี้ มีช ื่อว่า Chocolab ซึ่งพอจะ อธิบายได้ว่าวันนี้เราจะได้เต็ม อิ่ ม กั บ ความหวานอร่ อ ยของ ช็อกโกแลตนานาชนิด เพื่อไม่ให้ เป็นการเสียเวลาเราไปกันที่ชั้น 1 โรงแรม Sofitel So Bangkok ถนนสาทรกันเลยค่ะ

ขนมอี ก ชนิ ด ที่ ถื อ ว่ า ฮอตฮิ ต สำ�หรับชาว Sweet Lover ก็คือ Macaron และที่ Chocolab ก็เสิร์ฟ Macaron ได้พิเศษและแสนจะ มี เ อกลั ก ษณ์ ด้ ว ยการจั บ คู่ เข้ากับช็อกโกแลต นอกจาก นั้ น ยั ง มี การผสมผสานเรื่ อง ราวของความเป็ น ไทยลง ไปในแต่ละชิ้น Chili Mac Thai กลิ่นพริก, Cashew Mac Thai กลิ่นเม็ด มะม่วงหิมพานต์, Mango Mac Thai กลิ่นมะม่วง, Jasmine Mac Thai กลิ่น มะลิ, Coconut Mac Thai กลิ่นมะพร้าว นอกจากนั้นยัง มีกลิ่นยอดนิยมอย่างชาเขียว Matcha Mac Tea ถือเป็น Macaron ที่ ไม่มีที่ ไหนเหมือน อร่อยจนต้องทานอีกชิ้นและอีกชิ้น ปิดท้ายความหวาน แบบเต็มอิ่มในวันนี้ด้วย Traditional Cold Chocolate สักแก้ว ใคร อยากรู้ว่าแก้วนี้พิเศษอย่างไรขอแนะนำ�ให้ ไปชิมด้วยตัวเองค่ะ Chocolab มีช็อกโกแลตหลากหลายชนิดให้เลือกชิม แล้วยังมีเมนู สร้างสรรค์อื่น ๆ เช่น ช็อกโกแลตที่ออกแบบเป็นตัวการ์ตูนต่าง ๆ ให้ สามารถเลือกซื้อกลับบ้านไปเป็นของฝากน่ารัก ๆ ได้อีกด้วย ดังนั้นรีบไป เติมความหวานและรอยยิ้มด้วยช็อกโกแลต ที่ Chocolab กันดีกว่าค่ะ

Around the world

MAGAROON

ความละมุนที่ปลายลิ้น ขนมของชาวฝรั่งเศสออกแบบมาให้เป็นขนม เค้กชนิดหนึ่ง ไม่ ใช่คุกกี้ที่เน้นความกรอบและรสชาติที่ หวานจัด พบคำ�ตอบลักษณะแท้จริงของมาการองต้นตำ�รับ ขนมหวานหน้าใหม่จากตะวันตกที่ดูเหมือนความนิยมกำ�ลัง หายใจรดต้นคอ ‘คัพเค้ก’ ซึ่งครองอาณาจักรร้านเบเกอรี่ มานานแสนนาน คือขนมหวานของฝรั่งเศสที่มีชื่อ “มาการ อง (Macaroon)” ขนมรูปวงกลม ชิ้นเล็กๆ สีสันสดใสน่า รัก สองชิ้นประกบกัน สอดไส้ตรงกลาง ดูเรียบง่ายแต่ หรูหรามีสไตล์

“Macaroon ไม่มีต้นตอทราบชัดว่า มาจากที่ ใด แต่คำ�ว่า Macaroon มาจาก ภาษาอิตาลี Macarone รากศัพท์เดียวกับ Macaroni Macaron มีส่วนผสมเพียงสาม อย่างคืออัลมอนด์บด น้ำ�ตาล ไข่ขาว ตราบ ใดที่ มี ส่ ว นผสมสามอย่ า งนั้ น ต้ อ งถื อ เป็ น Macaroon ของแท้และดั้งเดิมจะมีหน้าแตก ใช้ช้อ นตัก พอคำ�วางบนถาดก่อ นเข้าเตาอบ Macaron หน้าเรียบ ตักส่วนผสมลงกรวย บีบเป็นก้อนกลมลงบนถาด เมื่อเต็มถาดยก ถาดขึ้นกระแทกเบาๆให้ส่วนผสมแบนลงมา หลังอบนำ�สองแผ่นประกบกันตรงกลางเป็น ไส้ตามแต่จะปรุง มีรสช๊อกโกแลต กาแฟ วนิลลา พิสตาชิโอ ถั่วแดง ผลไม้ต่างๆ เช่น มะนาว ส้ม มักทำ�ตัว Macaroon ให้มีสีตาม ธรรมชาติของไส้ด้วย Macaroon ไส้เค็มเช่น โอลีฟ เห็ดทรุฟ Truffle หรือ Foie gras เป็นต้น ความพิเศษของ Macaron คือ กรอบนอกนุมใน และละลายในลิ้น”

“H

istory of Macaroon”

ปัจจุบันเราอาจจะพบเห็น มากาครองที่มีหลายรสชาติมากขึ้น ซึ่งต่าง ไปจากแบบดั้งเดิม เนื่องจากปรับเปลี่ยน ไปตามยุคสมัย และแม้ว่าส่วนใหญ่แล้ว ขนมฝรั่งเศสจะมีการถกเถียงกันมากเกี่ยว กับต้นกำ�เนิดของมัน แต่จากหนังสือเรื่อง Larousse Gastronomique ซึ่งเป็นหนังสือ ที่เกี่ยวกับอาหารฝรั่งเศส ได้อ้างอิงไว้ว่า.. เจ้าขนมมากาครอง กำ�เนิดขึ้นเมื่อปี 1791 ใน Convent ใกล้กับ Cormery บางคนถึงกับสืบเสาะหาต้นกำ�เนิด ของเจ้ามากาครอง ถึงพ่อครัวขนมอิตา เลี่ยนที่มากับ Catherine de’ Medici

วิ

ธีทำ�มาการองแบบเร็วและง่ายที่สุด

ภรรยาของเฮนรี่ที่สองของฝรั่งเศส ในยุค 1830 มากาครองจะถูกเสิร์ฟมาพร้อมกับ แยม และเครื่องเทศ ในปัจจุบันนี้มากาครองถูกเรียก ว่า “Gerbet” หรือ “Paris macaron” มากาครองปารีสและถูกสร้างขึ้นเมื่อต้น ศตวรรษที่ 20 โดย Pierre Desfontaines แบรนด์ขนม Ladure แห่งฝรั่งเศส ปัจ จุบัน มาการูน ไม่ไ ด้มีแต่งเพียงรูปร่า ง กลม ๆ แบบเดิมเท่านั้น แต่ได้รับการ ตกแต่งปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์และรสชาติ ใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบสนองความ ต้องการทางการตลาดที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น รูปหัวใจ หรือปักไม้ ให้เหมือนอมยิ้ม รวม ถึงการเล่นสีสันสดใสสะดุดตาไปจนถึงสี พาสเทลหวาน ๆ จนดูสวยน่ารัก ไม่ต่าง จากเครื่องประดับชิ้นเล็ก ๆ อย่างไรก็ตาม เพราะมาการูนนั้นเป็น ขนมที่ มี ห น้ า ตาสวยเด่ น เป็ น เอกลั ก ษณ์ ขนาดกำ�ลังดี พร้อมทั้งยังมีลูกเล่นให้ปรับ เปลี่ยนทั้งสีและการผสมผสานรสชาติ ใหม่ ๆ ไม่รู้จบนั่นเอง.

----- ส่วนประกอบในการทำ� macaron shells ----1. ไข่ขาว 65 กรัม 2. น้ำ�ตาลไอซิ่ง 150 กรัม 3. อัลมอนด์มีล 50 กรัม 4. แป้งมันฝรั่ง (หรือ แป้งข้าวโพด) 3/4 ช้อนชา

ารทำ�

ขั้นตอนก

1. ตีไข่ขาวด้วยความเร็วสูงให้พอตั้งยอดค่ะ จากนั้นใส่น้ำ�ตาล ไอซิ่งลงไป แล้วใช้พายยางคนให้เข้ากัน ขั้นตอนนี้ต้องพยายาม ให้ส่วนผสมเข้ากันดีแต่ให้น้อยครั้งที่สุดนะคะ เพราะส่วนผสมจะกลายเป็นเหลวเกินไปค่ะ 2. ผสมอัลมอนด์มีลกับ แป้งมันฝรั่ง คนๆๆให้เข้ากันค่ะ

3. จากนั้นใส่ลงไปในชามที่ผสมไข่ขาวและน้ำ�ตาลไอซิ่งเอาไว้ ใช้พายยางตะล่อมให้เข้ากันดี อันนี้ก็อย่ามากครั้งอีกเช่นกันค่ะ แบทเทอร์จะได้ออกหนืดๆเหมือนสูตรเดิมเลยค่ะ

4. ใส่กรวยแล้วบีบค่ะ จากนั้นทิ้งไว้แค่เพียง 15 นาทีที่อุณหภูมิปกติ 5. อบที่อุณหภูมิ 150 ํC นานประมาณ 13-15 นาที 6.เอาออกมาวางไว้ ให้เย็นตัวลงก่อนค่อยแกะออกนะคะ

7.เมื่อเย็นแล้วก็นำ�มาบีบไส้และเอามาประกบกันแค่นี้ก็เรียบร้อยเรา ก็จะได้มาการองฝีมือตัวเองมาทานแล้วค่ะ

T hailand Only!!

ป

“จ่ามงกุฎ” ขนมมงคลไทยแท้ดั้งเดิม ระวัติและความสำ�คัญของขนมไทย

สมัยสุโขทัยขนมไทยมีที่มาคู่กับชนชาติ ไทย จากประวัติศาสตร์ที่ติดต่อค้าขายกับต่าง ประเทศ คือ จีนและอินเดียในสมัยสุโขทัย มีส่วน ช่วยส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ด้านอาหารการ กินร่วมไปด้วย สมัยอยุธยา เริ่มมีการเจริญสัมพันธ์ไมตรีกับต่าง ประเทศทั้งชาติตะวันออกและตะวันตก ไทยเรายิ่งรับ เอาวัฒนธรรมด้านอาหารของชาติต่างๆ มาดัดแปลง ให้เหมาะสมกับสภาพความเป็นอยู่ เครื่องมือเครื่อง ใช้ วัตถุดิบที่หาได้ ตลอดจนนิสัยการบริโภคของคน ไทยเอง จนบางทีคนรุ่นหลังแทบจะแยกไม่ออกเลย ว่า อะไรคือขนมไทยแท้ๆ อะไรที่เรายืมเค้ามา เช่น ทองหยิบ ทองหยอดและฝอยทอง หลายท่านอาจ คิดว่าเป็นของไทยแท้ๆ แต่ความจริงแล้วมีต้นกำ�เนิด จากประเทศโปรตุเกส โดย "มารี กีมาร์" หรือ "ท้าว ทองกีบม้า" "ท้าวทองกีบม้า"หรือ "มารี กีมาร์" เกิด เมื่อ พ.ศ. 2201 หรือ พ.ศ. 2202 แต่บางแห่งก็ ว่า พ.ศ. 2209 โดยยึดหลักจากการแต่งงานของเธอ ที่มีขึ้นในปี พ.ศ. 2225 และขณะนั้น มารี กีมาร์ มีอายุเพียง 16 ปี บิดาชื่อ "ฟานิก (Phanick)" เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นผสมแขกเบงกอล ผู้เคร่งศาสนา ส่วน มารดาชื่อ "อุรสุลา ยามาดา (Ursula Yamada)" ซึ่งมีเชื่อสายญี่ปุ่นผสมโปรตุเกส ที่อพยพมาตั้งถิ่นฐาน ในอยุธยา ภายหลังจากพวกซามูไรชุดแรกจะเข้ามาเป็น ทหารอาสา ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนเรศวร มหาราชไม่นานนัก ชีวิตช่วงหนึ่งของ "ท้าวทองกีบม้า" ได้เข้าไปรับราชการในพระราชวังตำ�แหน่ง "หัวหน้า ห้องเครื่องต้น" ดูแลเครื่องเงินเครื่องทองของหลวง เป็นหัวหน้าเก็บพระภูษาฉลองพระองค์ และเก็บผล ไม้ของเสวย มีพนักงานอยู่ใต้บังคับบัญชาเป็นหญิง ล้วน จำ�นวน 2,000 คน ซึ่งเธอก็ทำ�งานด้วยความ ซื่อสัตย์สุจริต เป็นที่ชื่นชม ยกย่อง มีเงินคืนทอง

พระคลังปีละมากๆ ระหว่างที่รับราชการนี่เอง มารี กี มาร์ ได้สอนการทำ�ขนมหวานจำ�พวก ทองหยอด ทอง หยิบ ฝอยทอง ทองพลุ ทองโปร่ง ขนมผิงและอื่นๆ ให้แก่ผู้ทำ�งานอยู่กับเธอและสาวๆ เหล่านั้น ได้นำ� มาถ่ายทอดต่อมายังแต่ละครอบครัวกระจายไปในหมู่ คนไทยมาจนปัจจุบันนี้ ถึงแม้ว่า "มารี กีมาร์" หรือ "ท้าวทองกีบม้า" จะมีชาติกำ�เนิดเป็นชาวต่างชาติ แต่ เธอก็เกิด เติบโต มีชีวิตอยูในเมืองไทยจวบจนหมดสิ้น อายุขัย นอกจากนั้น ยังได้ทิ้งสิ่งที่เธอค้นคิดให้เป็น มรดกตกทอดมาสู่คนรุ่นหลัง ได้กล่าวขวัญถึงด้วยความ ภาคภูมิ "ท้าวทองกีบม้า เจ้าตำ�รับอาหารไทย"

ความหมายของขนมไทยที่สำ�นักงานคณะ กรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติให้ไว้อย่างน่าสนใจ ขนม หวานของไทยนั้ น มี ทั้ ง รสชาติ ห วานและกลิ่ น หอมที่ ได้จากเทียนอบ มีรูปลักษณ์อันงดงาม อันเกิดจาก การประณีตบรรจง ประดิษฐ์ ให้อาหารทั้งสวยน่า รับประทาน ในการมอบของขวัญที่ทำ�จากขนมไทยใน เทศกาลต่างๆ กัน ล้วนแต่มีความหมายแฝงทั้งสิ้น ทั้งนี้ เพื่อให้ทั้งผู้ให้และผู้รับได้รับความเป็นศิริมงคล โดยทั่วกัน โดยมีความหมายที่ดีดังนี้ การเลื่อนตำ�แหน่ง ขนมจ่ามงกุฎ การยกย่องกันที่สุดเห็นจะ ได้แก่การมอบขนมจ่ามงกุฎให้เนื่องจากคำ�ว่า “จ่า” แปลว่าหัวหน้า ส่วนคำ�ว่า “มงกุฎ” สื่อถึงพระราชา หรือผู้เป็นใหญ่ ดังนั้น จ่ามงกุฎจึงหมายถึง หัวหน้า ผู้เป็นใหญ่ ความหมายสูงส่งอย่างนี้ เมื่อบวกกับการทำ� ที่แสนยาก อีกทั้งยังต้องใช้ศิลปะในการทำ�ค่อนข้างสูง จ่ามงกุฎจึงถูกมอบ ให้เฉพาะบุคคลที่ได้รับการยกย่อง อย่างสูงจริง ๆ เท่านั้น

ำ�

ขั้นตอนการท

ส่วนผสม 1. เม็ดแตงโมแกะแล้ว 1/2 ถ้วย 2. น้ำ�ตาลทราย 1/2 ถ้วย 3. น้ำ�ดอกมะลิ 1 ถ้วย 4. ทองคำ�เปลวแท้ 2 แผ่น 5. แป้งสาลี 1 ถ้วย 6. ไข่แดงของไข่ไก่ 3 ฟอง วิธีทำ� 1. เชื่อมน้ำ�ตาล โดยใช้น้ำ�ตาลกับน้ำ�ดอกมะลิตั้งไฟให้ เดือด กรองด้วยผ้าขาวบาง แล้วตั้งไฟต่ออีก 5 นาที 2. ล้างขัดกะทะทองเหลืองให้สะอาดเป็นเงา ตะแคง ข้างหนึ่ง คั่วเม็ดแตงโมโดยใช้มือจุ่มลง ในน้ำ�เชื่อม แล้วกวาดไปมา จนน้ำ�ตาลแห้งแล้ว ใช้มื่อจุ่ม น้ำ�เชื่อม ทำ�เช่นนี้ต่อไป จนน้ำ�ตาลเกาะเป็น หนามติดเม็ดแตงโมพองาม เก็บใส่ภาชนะอย่า ให้อากาศเข้า 3. ระหว่างที่กวาดเม็ดแตงโมอยู่นั้น ต้องตะแคง กะทะและใช้ ผ้าขาวบางเช็ดกะทะ ให้สะอาดอยู่เสมอ 4. นวดแป้งกับไข่แดงจนนิ่มมือ ถ้ายังแห้งอยู่ จึงเติมน้ำ� แล้ว คลึงแป้งเป็นแผ่นบาง ๆ กด ให้กลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เซนติเมตร นำ�แผ่นแป้งที่ตัดแล้ว ใส่ในถ้วยตะไลใช้มือ

กดเบา ๆ ให้เป็นรูปก้นถ้วยตะไล ใช้ส้อม จิ้มให้ทั่วจึงเอาไป อบพอสุกกลายเป็นแป้ง รองขนม 5. การทำ�มงกุฏ ให้เอาน้ำ�ตาลทราย ใส่หม้อเล็ก ๆ ใส่น้ำ�นิด หน่อย ตั้งไฟ อ่อน ๆ พอน้ำ�ตาลละลายเอาเม็ดแตงโม ที่ กวาดไว้แล้วลงจุ่มให้น้ำ�ตาลติดกับแป้งที่ อบไว้รอบ ๆ 6. ปั้นทองเอกกลม ๆ วางตรงกลาง ใช้มีดปลายแหลม ผ่าเป็น 6 พู เหมือนผลมะยม แล้วปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ เท่าเม็ดถั่วเขียววางบนยอดขนมที่ผ่าไว้ ใช้ทองคำ� เปลวตัดเป็น สี่เหลี่ยมชิ้นเล็ก ๆ แตะตรงยอดมองเห็น เหมือนมงกุฎ ดูจากส่วนผสม 6 อย่างน่าจะหาได้ไม่ยาก แต่พอมาดูวิธีทำ�แล้ว ก็ถึงบางอ้อในทันทีว่าทำ�ไมถึงหา ขนมจ่ามงกุฎที่อร่อยทานยากนัก เพราะทำ�ยากอย่าง นี้นี่เอง ทราบมาว่าแถวเกาะเกร็ดขึ้นชื่อว่าทำ�ขนมจ่า มงกุฎได้อร่อย เห็นทีจะไปหาซื้อที่เกาะเกร็ด เป็นการ กระจายรายได้ สมกับ เที่ยวไทยคึกคัก เศรษฐกิจคึก ครื้น คงจะดีกว่า (ทำ�ทานเอง) ค่ะ

กลเม็ดเคล็ดลับ ** 1. การทำ�แป้งรองขนมจ่ามงกุฏนั้นบางครั้งก็ต้อง เติมน้ำ�และบาง ครั้ง ก็ไม่ต้องเติม ทั้งนี้แล้วแต่ น้ำ�ในไข่ที่ใช้นั่นเอง 2. ทองคำ�เปลว ต้องแน่ใจว่าเป็นของแท้ เพราะ ถ้าเป็นของปลอม จะเป็นอันตรายมาก เนื่องจาก สารตะกั่ว

d o o F a Faest แต่ถ้าไม่มีไก่งวงอบหล่ะจะทำ�อย่างไร ? เรื่องนี้ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะนอกจาเมนูดังกล่าวข้างต้นแล้ว ในบางประเทศยังมีเมนูอื่น ๆ เพิ่มขึ้นมาหรือใช้เสิร์ฟแทนเมนูไก่งวงอบได้อีกด้วย ในยุโรป ส่วนมากจะเสิร์ฟ สเต๊กเทนเดอร์ลอยน์ ลอร์ดเวลลิงตัน (Tenderloin of Beef Lord Wellington มากพอ ๆ กับไก่งวงอบ ในขณะที่บางแห่งจะมีการเสิร์ฟอาหาร อย่างอื่นขึ้นโต๊ะด้วยเช่น

“เทศกาลคริสต์มาส” ถือเป็นเทศกาลสำ�คัญของชาวคริสต์ทั่วโลก เพราะถือเป็นวันประสูติของพระเยซู ซึ่งถือเป็นศาสดาของศาสนาคริสต์ ชาวคริสต์จึงถือ เอาวันนี้เป็นวันเฉลิมฉลองเทศกาลสำ�คัญ อีกทั้งยังเป็นวันที่ครอบครัวญาติพี่น้องจะได้มาเจอกัน ในบ้านจะตกแต่งด้วยต้นคริสต์มาสประดับไฟไว้อย่างงดงาม มีการแลกของ ขวัญกันอย่างสนุกสนาน นอกจากนั้นแล้วก็ยังจะได้กินอาหารมื้อใหญ่กันพร้อมหน้าพร้อมตาอีกด้วย อาหารที่มักจะกินกันในเทศกาลคริสต์มาสนั้นจะเป็นอาหารพิเศษที่ไม่ได้ กินกันเป็นปกติทุกวัน โดยปกติแล้วมักจะมี “ไก่งวง” เป็นพระเอกในโต๊ะอาหาร สำ�หรับที่ประเทศอังกฤษนั้นมักจะกินไก่งวงคริสต์มาส ซึ่งเป็นไก่งวงตัวโตอบแล้วราดด้วย ซอสเกรวี่ และมีของหวานเป็นพุดดิ้งคริสต์มาส มีลักษณะคล้ายเค้กก้อนกลมๆ สีน้ำ�ตาล มีส่วนผสมของผลไม้แห้งจำ�พวกลูกเกด แอปเปิ้ล และราดด้วยบรั่นดี ส่วนชาว เยอรมันก็มักจะมีจานเด็ดวันคริสต์มาสเป็นห่านย่างกรอบแบบโบราณ ยัดไส้ด้วยผลไม้และผัก เช่น ลูกเกด เก๋าลัด และมีมันฝรั่งบด หัวผักกาดแดง รวมทั้งแอปเปิ้ลเป็น เครื่องเคียง ชาวอิตาลีนอกจากจะกินไก่งวงแล้วก็ยังนิยมกินปลาในวันคริสต์มาสกันด้วย และชาวอเมริกัน ก็จะมีเครื่องดื่มแก้หนาวในช่วงคริสต์มาสอย่าง เอ๊กน็อก (EggNog) ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่เป็นครีม มีน้ำ�ตาล นมสด และไข่ไก่ นำ�มาปั่นด้วยเครื่องปั่น จนทั่วและเหยาะด้วยเหล้ารัม หรือจะเป็นวิสกี้ หรือบรั่นดีก็ได้ตามใจชอบ

อาหารมื้อค่ำ�ในเทศกาลคริสต์มาสจะประกอบไปด้วย ไก่งวงอบ

เมนูหลักของค่ำ�คืนวันคริสต์มาส โดยชาวตะวันตกจะมีธรรมเนียมให้ชายผู้อาสุโสที่สุดของบ้าน เป็นคนตัดแบ่งไก่งวงให้แก่สมาชิกภายในบ้าน แต่ก็จะมีบางบ้านที่อาจจะไม่ทำ�ไก่งวงอบแต่จะทำ�ไก่ งวงย่าง (Roast Tom Turkey King David) คริสต์มาสพุดดิ้ง หรือก็คือเค้กผลไม้ แต่พิเศษตรงที่ใช้วิธีนึ่งแทนการอบแบบปกติ เมื่อถึงเวลายกเสิร์ฟจะมีการราด บรั่นดีเล็กน้อย แล้วจุดไฟเพื่อเพิ่มความหอมให้กับพุดดิ้ง คริสต์มาสไวน์ ถือเป็นเครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมในเทศกาลวันคริสต์มาสเช่นนี้มาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ในวัน คริสต์มาสของทุกปีนั้นอยู่ในช่วงหน้าหนาว ชาวตะวันตกจึงนิยมดื่มไวน์ เพราะถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่ ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ในขณะที่อังกฤษเองนอกจากดื่มไวน์แล้ว ยังมีวาสเซลซึ่งเป็นเครื่องดื่มร้อน ที่ผสมแอลกอฮอล์และเครื่องเทศ ไว้สำ�หรับดื่มในเทศกาลวันต์มาสนี้เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย

เยอรมนี มีการเสิร์ฟห่านย่างจนกรอบแบบโบราณ (Old-Fashioned Roast Goose) เพิ่มขึ้นมาเพื่อเอาใจคนชอบทานตับห่าน เพราะนอกจากตับห่านที่นำ�ไป ย่างจนกรอบแล้วข้างในยังมีการยัดไส้ยผลไม้และผักเข้าไปด้วย ทำ�ให้ได้รสชาติที่อร่อยกลมกล่อม และตบท้ายด้วยคริสต์มาสพุดดิ้ง กับสโตลลันเค้ก ที่ทำ�จากแป้งขนมปัง ใส่พวกผลไม้แห้งอย่าง ลูกเกด ลูกพรุน ลูกพลับ นัท อัลมอนด์นำ�มาหมักจนได้ที่ก่อนจะนำ�ไปอบจนสุก เมื่อทานเสร็จแล้วเหลือยังสามารถเก็บไว้ทานต่อได้อีกนานเป็น เดือน ๆ ด้วย อิตาลี มีการเสิร์ฟเมนูปลาเพิ่มขึ้นมาในวันที่ 24 ธันวาคมด้วยค่ะ และตามธรรมเนียมเมื่อถึงเที่ยงคืนชาวอิตาลีส่วนใหญ่จะไปฟังสวดมิสซารับพรที่โบสถ์กันค่ะ สหรัฐอเมริกา นอกจากเมนูหลัก ๆ ข้างต้นแล้วที่นี่เขายังมีเครื่องดื่มแก้หนาวสูตรพิเศษที่เรียกว่า เอ้กน็อค (Egg-Nog) เพิ่มขึ้นมาด้วย ซึ่งเจ้าเอ้กน็อคที่ว่านี้ทำ�มาจาก ครีม น้ำ�ตาล นมสด และไข่ไก่ ก่อนจะนำ�ไปปั่นรวมกันก่อนจะเติมเหล้ารัมตบท้าย (บางสูตรอาจจะเติมวิสกี้ หรือบรั่นดีก็ได้ตามความชอบนะคะ) แต่เครื่องดื่มแก้หนาว ที่ว่านี้ค่อนข้างน่ากลัวสำ�หรับคนคอไม่แข็ง เพราะอาจจะน็อคตามชื่อได้ง่าย ๆ หากคุณดื่มมากเกินไปค่ะ ออสเตรีย ที่ออสเตรียเองก็มีเครื่องดื่มแก้หนาวที่นิยมดื่มในช่วงเทศกาลคริสต์มาสด้วยเช่นกัน ซึ่งนั่นก็คือ กลูไวน์ หรือ ฮ็อตไวน์ ทำ�จากไวน์แดงนำ�มาอุ่นให้ร้อน ๆ ก่อนจะโรยผงเครื่องเทศลงไปด้วย สำ�หรับบ้านเราใครที่เป็นคริสต์เตียนนอกจากจะทำ�คริสต์มาส ดินเนอร์ทานเองแล้ว คุณอาจจะไปเดินเลือกซื้อเลือกหาอาหารเทศกาลคริสต์มาสที่ปรุงเสร็จ แล้วตามซูปเปอร์มาเก็ตชั้นนำ�ก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ

บ ่ ซ แ า ่ น . . .

า ้ ค พ่อ

) า ช ย า น ( a

e t . r ้ราน M

@ ตลาดนัดสวนรถไฟ

ขอแนะนำ�ร้าน Mr.tea (นายชา) @ ตลาดนัดสวนรถไฟ ร้านกาแฟ ชาและวาลเฟิลแสนอร่อย ..... เจ้าของได้นำ�เอาโบกี้รถไฟจริงๆ มาสร้างเป็น ร้าน ภายในร้านตกแต่งด้วยบรรยากาศสบายๆ ราคาเป็นกันเอง เหมาะสำ�หรับ นั่งชิวๆ หรือนั่งพักหลังจากช็อปปิ้งเหนื่อยๆ ที่ตลาดนัดรถไฟ

เครื่องดื่ม ขนมและบรรยากาศภายในร้าน

เจ้าของร้านนี้น่ารักมากเลย ค่ะ เราก็เลยถือโอกาสเก็บภาพคุณ กี้เจ้าของร้านสุดหล่อมาด้วยซะเลย ส่วนถ้าใครอยากเห็นหน้าว่าหล่อ ขนาดไหนก็ ไปชมตัวจริงกันที่ร้าน Mr.tea (นายชา) @ ตลาดนัดสวน รถไฟนะคะ

เปิดให้บริการวันศุกร์- อาทิตย์ เวลา 16.30 - 22.30 น. หรือสามารถ เข้ า ไปดู รู ป ภาพบรรยากาศของร้ า น ได้ ที่ h ttp://www.facebook.com/ mrtearodfai?bookmark_t=page

FreeTimes

5. เมื่อเรียนจบแล้วคิดว่าวิชาความรู้นี้สามารถนำ�ไปประกอบอาชีพ ได้หรือเปล่า? “คิดว่าได้เพราะว่าตั้งใจอยู่แล้วที่จะเปิดร้านเป็นของตัวเอง มีพ ี่สาวที่ชอบอะไรคล้ายๆ เรา… ตอนนี้พ ี่สาวเริ่มพัฒนาอยากจะ เปิดร้าน เริ่มมีการทำ�ขาย ถ้าเราไปเรียนเพิ่มเติมก็สามารถกลับไป พัฒนาร้านตัวเองให้ด ีขึ้น” 6. สิ่งที่ ได้จากการเรียนทำ�ขนม? “คิิดว่าทำ�ให้เราฝึกสมาธิมากขึ้น เพราะว่าทำ�ขนมต้องตั้งใจ มีสมาธิ เหมือนกับการทำ�อาหาร เพราะเราจับมีดตลอดเวลา ถ้าเรา พลาดก็จะผิดไปเลย เหมือนกับการทำ�ขนม ส่วนผสมมันต้องเป๊ะ! เพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่มีสมาธิก็จะพลาดได้ ปกติก็เป็นคนซุ่มซ่าม มาก แล้วพอทำ�ขนมมันก็จะละเอียดมากขึ้น เหมือนกับว่าอยู่ตรง นั้นเราก็ต้องตั้งใจ อย่าทำ�ให้มันเละ(หัวเราะ) 7. แล้วอยากมีร้านขนมเป็นของตัวเองหรือเปล่า แล้วอยากมีร้าน ขนมสไตล์ ไหน? ใช่.. อยากมีสไตล์แบบไหนหรอ?... ชอบสไตล์แบบไม้ๆ น่า รักๆ นั่งสบายๆ เพราะไปเรียนเกาหลี 3 เดือน รู้สึกว่าเกาหลีมีร้าน

กาแฟเยอะมาก เราเห็นว่าส่วนใหญ่ร้านจะเป็นธรรมชาติ จะเป็นไม้ ซะส่วนใหญ่ แล้วเรารู้สึกว่านั่งแล้วดูเป็นธรรมชาติ” 8. หัวใจหลักของการทำ�ขนมคืออะไร? “หัวใจหลักเราว่าก็ต้องรักในการทำ�ขนม บางคนคิดว่าทำ� ขนมทำ�อาหารเหมือนจะง่าย ใครก็ทำ�ได้ คือมันต้องใช้ความตั้งใจ มากๆ เหมือนกับงานทุกอย่างต้องอาศัยความตั้งใจ ถ้าไม่มีความ ตั้งใจก็จะทำ�ออกมาไม่ด ี ถ้าไม่รักมันจริงๆ ก็จะอยู่กับมันไม่ได้ เพราะว่าตอนปิดเทอมพี่สาวตั้งใจจะขายขนม คือไปช่วยทำ�และมัน หนักมาก ไม่มี ใครช่วยเลย เราทำ�กับพี่เราสองคน ทำ�ขายและต้อง ทำ�เยอะทั้งวัน ต้องยืนตลอด ต้องใช้ความอดทน ถ้าไม่จริงๆ ก็จะ เบื่อได้ง่าย” 9.ได้ข่าวว่ามีการแชร์ภาพลง Facebook กับ instagram ด้วย “เป็นการตลาด เป็นธุรกิจ... Social network คนเล่นกัน มากขึ้น คนเริ่มแชร์ภาพกันมากขึ้น มันสามารถใช้เป็นการตลาด เป็น อีกทางหนึ่งที่ทำ�ให้คนอื่นรู้ว่าเราทำ�อะไรอยู่และสมมติว่าจะเปิดร้าน เราอัพรูปลง เราทำ�เอง ขนมเค้กน่ารักๆ เป็นการโปรโมตไปในตัวว่า มาจากร้านเราอยู่ตรงไหน ถ้าเค้าสนใจก็จะติดตามเรามากขึ้น”

10. นอกจากการทำ�ขนมแล้วสนใจอยากทำ�อาหารอย่างอื่นอีกไหม? “สนใจ! ตอนนี้ยังลังเลที่จะเรียนต่อทำ�ขนมอย่างจริงจัง หรือเรียนทำ�อาหาร ....ก็คงเรียนทำ�ขนมนั่นแหละ (ยิ้ม) เพราะ ชอบมากกว่า แต่ทำ�อาหารไ่ม่ใช่ว่าไม่อยากทำ�นะเพราะว่าปกติเป็น คนชอบทำ�อาหารอยู่แล้ว พยายามทำ�อาหารเอง ถ้าว่างมีเวลาก็จะ ลองทำ�อาหารเอง หาสูตรทำ�เอง แต่ไม่ได้ตั้งใจว่าจะเรียน เพราะว่า อาหารก็สำ�คัญ เหมือนเปิดร้าน จะขายแค่ขนม ขายน้ำ� มันอาจจะ ขายยากหน่อย แต่ถ้ามีอาหารควบคู่ไปด้วยจะขายง่ายกว่า” 11. สามารถแชร์ประสบการณ์หรือสูตรทำ�ขนมให้เพื่อนๆ อย่างไรได้้ บ้าง? “แชร์หรอ? .....ถ้าเป็นเพื่อนกันหรือสนใจเหมือนกันก็มา ทำ�ด้วยกันดีกว่า ถ้าให้สูตรไป เขาอาจจะไม่รู้ว่าทำ�อย่างไร ถ้าอยาก เรียนรู้มาทำ�ด้วยกัน...คือเป็นครูสอนไปด้วย ฝึกฝนไปด้วย ตัวเรา ก็ ได้สนุกสนานและได้ฝึกไปพร้อมๆ กับ เพื่อน”

12. อยากทราบว่าการทำ�อาหารคืออะไร? “การทำ�อาหารมันเป็นอีกแบบนึง ถามว่ามันต่างกับการ ทำ�ขนมไหม มันก็ต่างเพราะวิธีการทำ�มันต่างกัน มันยากคนละแบบ เราว่าการทำ�อาหาร ถ้าทำ�เป็นอ่ะมันดีที่สุดแล้ว เพราะถ้ามองใน แง่ธุรกิจ คือยังไงอาหารก็ขายได้ ถามว่าขนมขายได้ ไหม มันก็ขาย ได้ แต่คนเรากินข้าวกันทุกวัน ไม่ใช่กินขนมทุกวัน ถ้าทำ�เป็นทั้งสอง อย่างก็จะดีกับธุรกิจ ถ้าแบบจะเปิดร้านอะไรอย่างนี้” 13. อุปสรรคราคาของแพงขึ้น ทำ�ให้เลือกวัตถุดิบได้ยากขึ้นไหม? “ยาก คือเหมือนกับว่าเวลาเราขายขนมต้องคำ�นึงถึงคนกิน ด้วย ต้องดูว่าเราจะขายให้ ใคร สมมติว่าขายให้เด็กนักเรียน เราก็ ต้องลดราคาของวัตถุดิบ สมมติว่าเราจะขายนักศึกษา เราก็จะเพิ่ม เกรดของวัตถุดิบ เราสามารถเลือกสิ่งที่ด ีกว่าได้ ไม่เหมือนกับ เรา ขายให้เด็ก เราไม่สามารถขายแพงได้ อย่างเช่น เราขาย cupcake 10 บาท 15 บาท แต่ไม่ใช่ว่าเลือกวัตถุดิบ แย่ๆ หรือวัตถุดิบที่

ขนม คือ ความตั้งใจ... 1. แนะนำ�ตัวเองคร่าวๆ กับนิตยสาร Eat Am Are “ชื่อ ชุตินธร อัคสินธวังกูร ชื่อ เล่น พริม กำ�ลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย ศิลปากร วิทยาเขตทับ แก้ว เรียนคณะ อักษรศาสตร์ เอกเอเชียศึกษา เรียนโท ภาษาเกาหลี” 2. เริ่มสนใจทำ�ขนมตั้งแต่เมื่อไหร่? “ จ ริ ง ๆ แ ล้ ว ต อ น ปี 3 มหาวิทยาลัยอื่นต้องฝึกงานใช่ป่ะ.. เราอ่ะ ตอนแรกไม่รู้จะฝึกที่ ไหน พี่สาวสนใจทำ� ขนมอยู่แล้ว แต่เขาอ่ะทำ�งาน ไม่มีเวลา ว่าง เลย Take Course ให้เราไปเรียน ดูเผื่อเราชอบ แล้วพอช่วงปิดเทอมก็เรียน สักเดือนนึง ก็รู้สึกแบบสนุกดี เพราะว่า ตอนนั้นจะถามว่ารู้จ ักตัวเองหรือยัง ใน อนาคตต้องการจะทำ�อะไร ก็ยังไม่มีแพลน ตรงนั้น ก็เลยคิดว่าไปเรียนทำ�ขนมได้เปิด

มุมอะไรใหม่ๆ พอไปเรียนจริงๆ ก็ชอบ” 3. สาเหตุที่ทำ�ให้อยากทำ�ขนมคืออะไร? “สาเหตุ … .ก็ น่ า จะเป็ น เพราะ พี่สาว เราคิดว่ามันเป็นการเปิด ประสบการณ์อะไรใหม่ๆ นอกจากการ เรียนหนังสือ เพราะไม่ได้มีแพลนจะ ฝึกงาน ก็เลยหาอะไรเป็นงานอดิเรกทำ�ที่ มันน่าสนใจดีกว่า”

4. แล้วขนมประเภทไหนที่ชอบทำ�เป็นพิเศษ? “จริงๆ แล้วก็ทำ�ได้ทุกอย่าง แต่ว่า ส่วนใหญ่ที่ทำ�ใหบ่อยๆ จะเป็นคัพเค้ก, บัต เตอร์เค้ก คือยังไม่ได้มีแบบพลิกแพลงอะไร เยอะแยะ เพราะว่าไม่ได้มีอุปกรณ์ทำ�ที่นี่ เพราะยังเรียนอยู่ที่กรุงเทพฯ คืออุปกรณ์อยู่ ที่ภูเก็ต เลยไม่ค่อยได้มโี อกาสทำ�สักเท่าไหร่”

ทำ�ลายสุขภาพของลูกค้า” 14. นอกจากเรื่องอุปสรรคแล้ว อยากถามว่าขนมที่ทำ� ให้เป็นจุด เด่นดึงดูดลูกค้าคืออะไร? Crape Cake เพราะอาทิตย์ที่แล้วมีคนติดต่อมาว่า Crape Cake อร่อยมาก อยากให้ทำ�อีก ก็ด ี ใจ ... พี่สาวก็ด ี ใจ เหมือนเราได้ข้ามขั้นไปอีกระดับนึง มีคนสั่งมากขึ้น 15. ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการทำ�ขนม? ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นก็มีท ั้งเรื่องดีและไม่ด ี ... อย่างเช่น เรื่องดีก็ทำ�ขนมออกมาแล้วขายได้ อารมณ์แบบว่าทำ�ออกมาแล้วมีี คนชมว่าอร่อยมากๆ อยากให้ทำ�ให้กินอีก ส่วนเรื่องแย่ๆ ก็อาจจะมี บ้าง ก็ช่วงแรกๆ ในการทำ�ขนมก็เปิดสูตรตามหนังสือดูเอาและทำ� ตาม แต่ทำ�ออกมาแล้วไม่เหมือน ก็เลยเฟลไปนิดนึง

16. สุดท้ายนี้อยากให้ฝากอะไรกับเพื่อนๆ นิตยสาร Eat Am Are การทำ�ขนมจริงๆ ก็ ไม่ยาก ต้องอาศัยความรักในการทำ� ขนมและความตั้งใจ อย่างที่พูดว่า งานทุกอย่างถ้าเกิดเราไม่รัก มัน เราก็จะทำ�ออกมาได้ ไม่ด ี แต่ถ้าเรารักมัน เราตั้งใจที่จะทำ� เรา Happy กับมัน ทุกอย่างก็จะออกมา Perfect ....การทำ�ขนม สามารถทำ�ให้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ เพราะปัญหาทำ�ให้เราเรียนรู้ และแก้ ไขและทำ�ให้เรากลายเป็นคนเข้มแข็งสามารถจัดการตัวเอง ได้ด ี ....ก็ถ้ามี ใครสนใจเรียนทำ�ขนมก็แนะนำ�ให้เรียน คนเดี๋ยวนี้หัน มาสนใจทำ�ขนมกันมากขึ้น อาจจะไม่ต้องเปิดร้านขนมหรูหราก็ ได้ เพียงแต่คิดซะว่าการทำ�ขนมเป็นงานอดิเรก ทำ�เวลาว่างก็ ได้

Secret Recipes

Sweet Me a daY ขอเสนอของหวาน3สไตด์ ซึ่งสาวๆที่ชอบของหวานไม่ควรพลาด ไวท์ฟอเรสต์ โรลสไตล์ญี่ปุ่น เป็นโรลนุ่มๆ และครีมที่มีกลิ่นรัมนิดๆ หอมเบอรี่จากแยม และมีเชอรี่คำ�โตอยู่ข้างบน อันนี้เป็นอีกไอเดียที่ลองดัดแปลงจากแบล็คฟอเรสต์ วานิลลาชีส พุด ดิ้ง ด้วยกลิ่นหอมหวล (ชวนน้ำ�ลายหก) จากฝักวานิลลาแท้ๆ พร้อมทั้งความหวานมัน จากครีมชีสและเมเปิลไซรัป น่าทานขนาดนี้ ใครจะอดใจไหว Chocolate Mousse คอช็อค โกแลตไม่ควรพลาดขนมที่นำ�เสนอครั้งนี้ ไม่มีเตาอบ ไม่มีเครื่องดีก็ ไม่เป็นไรค่ะ แค่ตะกร้อ มือและพายยางก็อร่อยได้แล้วค่ะ... 26

Vanilla Cheese Purin

ส่วนผสมสำ�หรับ 2 ที่

มาเติมความหวานให้ชวี ติ กันอีกนิด ด้วยเมนูของหวานแสนอร่อยอย่าง “วานิลลา ชีสพุดดิง้ ” ทีม่ าประเดิมเมนูแรกด้วยกลิน่ หอม หวล (ชวนน้ำ�ลายหก) จากฝักวานิลลาแท้ๆ พร้อมทั้งความหวานมันจากครีมชีสและเม เปิลไซรัป น่าทานขนาดนี้ ใครจะอด ใจไหวใช่ มัย้ ล่ะ ถ้างัน้ มาลองทำ�กันเลยค่ะ

ครีมชีส นมสด ครีมสด(วิปปิ้งครีม) น้ำ�ตาลทราย ไข่แดง เจลาตินชนิดแผ่น ฝักวนิลา เมเปิลไซรัป หรือตามใจชอบ

50 กรัม 20 กรัม 45 กรัม 20 กรัม 1 ฟอง 1 แผ่น 1/4 ฝัก ประมาณ1ช้อนโต๊ะต่อถ้วย

Step 1 :เริ่มจากนำ�ครีมชีสใส่อ่างผสมแล้วใส่ไข่แดงลง

ไป หากครีมชีสแข็งไปก่อนนำ�มาใช้ ให้ใช้ wrap แล้วนำ�ไป เข้าไมโครเวฟ ใช้ไฟต่ำ�สุด ประมาณ 1 นาทีค่ะ ใช้ที่ตีมือถือ หรือตะกร้อมือตีผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน พักไว้ก่อน

Step 2 :ใช้มีดค่อยๆ กรีดฝักวานิลาผ่าครึ่ง

ออก (ต้องระวังนิดนึงนะคะ ให้ ใช้มือข้างหนึ่งจับ ปลายฝักไว้เวลากรีด) ทำ�ครั้งแรกๆ ต้องระวัง ค่ะ จากนั้นใช้ปลายมีดขูดเอาเม็ดวานิลาออกมาใส่ ลงในหม้อนมค่ะ ขูดออกให้ ได้มากที่สุด (มันแพง น่ะค่ะ อิอิ) แล้วใส่ฝักลงไปด้วย เพราะเดี๋ยวเรา จะช้อนออกทีหลังนะคะ ถ้าไม่มีฝักวานิลลาให้ ใส่ กลิ่นวานิลลาแทน ใช้ประมาณ 1ช้อนชาค่ะ

Step 3:นำ� นมสด ครีมสด และ

น้ำ�ตาลทรายใส่หม้อ นำ�หม้อไปตั้ง ไฟปานกลาง ใช้พายไม้คนให้น้ำ�ตาล ละลาย แล้วตั้งไฟสักครู่ พอส่วนผสม เริ่มร้อน ให้ยกลงก่อนที่จะเดือดค่ะ ใช้ ช้อนตักฝักวานิลลาออกด้วยค่ะ

Step 4 :นำ�เจลาตินที่แช่น้ำ�นิ่มแล้ว บีบ เอา น้ำ�ออกให้หมดแล้ว ใส่ลงในหม้อนมคนให้ เจลาตินละลายดีค่ะ

Step 5 : ค่อยๆ รินส่วนผสมนี้ลงในอ่างผสมครีมชีสที่ทำ� พักไว้ ใช้ตะกร้อมือคนเร็วๆ ค่ะ แล้วเทส่วนผสมกลับลงไปที่ หม้อ นำ�ไปตั้งไฟอ่อนอีกครั้ง ใช้ตะกร้อมือคนไว้ตลอดค่ะ (ถ้า ไม่คนเดี๋ยวกลายเป็นไข่ตุ๋นนะ) หากมีที่วัดอุณหภูมิ วัดให้ได้ ประมาณ 65 องศาเซลเซียสค่ะ แล้วยกลง หากไม่มีลองสังเกต ว่าระหว่างที่คนส่วนผสมจะเริ่มฟูเล็กน้อย ให้ยกลง เทส่วน ผสมนี้ผ ่านกระชอนกรองลงภาชนะที่เราต้องการใส่ค่ะ ใช้เป็น ถ้วยกระเบื้องหรือถ้วยแก้วก็ ได้ค่ะหากใช้ถ้วยพลาสติกแบบใน รูป ควรพักส่วนผสมให้คลายร้อนสักหน่อยแล้วค่อยกรองใส่นะ คะ จากนั้น wrap ปิดด้านบน แล้วนำ�เข้าตู้เย็นประมาณ 2-4 ชั่วโมงค่ะ หรือทิ้งไว้ข้ามคืนก็ ได้ค่ะ ก่อนทานเติมเมเปิลไซรัปลง ไปด้านบนตามชอบนะคะ จัดเสิร์ฟก็ ใช้ผ้ารองสักนิดก็ ได้ค่ะ

White Forest Roll ส่วนผสม

ไข่ ......................................... 1 ฟอง ไข่แดง ................................. 3 ฟอง ไข่ขาว .................................. 3 ฟอง น้ำ�ตาลทรายป่น ................ 85 กรัม แป้งเค้ก (ร่อน 2 ครั้ง)...... 60 กรัม นมสด .................................. 60 กรัม วานิลาเอ็กซ์แทรก .............. 1 ช้อนชา

ขั้นตอนการทำ�โรลสปองก์ ผสมไข่กับไข่แดงในชามใบเล็ก เติมวานิลา แล้ ว ตี เบาๆให้ เข้ า กั น พั ก ไว้ นำ � เนยใส่ ห ม้ อ ขนาด เล็ก นำ�ไปละลายบนไฟอ่อน เมื่อละลายแล้ว ยกลงจากเตา ให้เติมแป้งที่ร่อนแล้วลงไปทั้งหมด คนให้แป้งและเนยเข้ากันดี แล้วเทส่วนผสมลงอ่าง ใบเล็ก ค่อยๆเติมไข่ลงไปทีละน้อยใช้ไม้พายคนให้ เข้ากันแล้วจึงเติมครั้งต่อไปจากนั้นเติมนมลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้ง กรองผ่านกระชอนแล้วพักไว้ นำ�ไข่ขาวใส่โถตี ตีด้วยความเร็วสูงจนเป็นฟองแล้ว เติมน้ำ�ตาลลงไปครึ่งหนึ่ง เมื่อได้เนื้อที่ละเอียด เติมน้ำ�ตาลส่วนที่เหลือลงไป ตีจนตั้งยอดและเนื้อ เนียนละเอียด ตักไข่ขาว 1/3 ผสมลงในส่วนผสมไข่ แดงคนให้เข้ากันอย่างเบามือ เมื่อเข้ากันดีแล้วตัก ส่วนที่เหลือลงไปคนให้เข้ากัน เทส่วนผสมลงถาด ที่เตรียมไว้ เกลี่ยหน้าให้เสมอกันแล้วนำ�เข้าอบ ประมาณ 18-20 นาทีแล้วแต่เตาอบ เมื่อนำ�ออก จากเตาอบให้วางพักบนตะแกรงค่ะเมื่อคลายร้อน ลงให้เราค่อยๆ ม้วนสปองก์พ ักไว้ เวลาม้วนจริงจะ ได้ม้วนง่ายๆ ค่ะ

ขั้นตอนการทำ�เบอรี่ครีม วิปปิ้งครีม ..................... 120 กรัม น้ำ�ตาลทราย .................. 20 กรัม สีแดง .............................. 2 หยด รัมขาว ............................. 1/2 ช้อนชา แยมเบอรี่รสที่ชอบ ........ 3 ช้อนโต๊ะ นำ�วิปปิ้งครีม สี ใส่โถตี เติมน้ำ�ตาล แล้วตี ให้ข้น จากนั้นใส่รัมขาวลงไปตี ให้ตั้ง ยอดอ่อน จากนั้นใส่แยมลงไปตีต่ออีกนิด เดียวแล้วตักทาลงบนสปองก์ ให้เสมอๆ กัน ม้วนสปองก์ ค่อยๆ ทำ�ค่ะ จากนั้นนำ�แช่เย็น 1/2 ชั่วโมง

ส่วนผสม วิปปิ้งครีม .......... 100 กรัม น้ำ�ตาล .............. 1 ช้อนโต๊ะ ขั้นตอนการทำ�วิปปิ้งครีม นำ�วิปปิ้งครีมใส่โถตี เติมน้ำ�ตาลแล้วตี ให้ตั้ง ยอดอ่อน นำ�มาปาดโดยรอบของโรล แล้วพัก ในตู้เย็นอีก 1 ชั่วโมงก่อนเสิร์ฟตกแต่งด้วยเชอรี่ สดด้านบนค่ะ รับรองโรลอร่อยนุ่ม ทานเพลิน ไปเลยค่ะ

Chocolate Mousse คอช็อคโกแลตไม่ควรพลาดขนมที่ก้อยนำ�เสนอครั้ง นี้นะคะ ไม่มีเตาอบ ไม่มีเครื่องดีก็ ไม่เป็นไรค่ะ แค่ตะกร้อมือ และพายยางก็อร่อยได้แล้วค่ะ เลือกใช้ช็อคโกแลตขมค่ะ แต่ ถ้าเพื่อนๆ ไม่ชอบทานขมก็สามารถผสมมิลค์ช็อคโกแลตลง ไปครึ่งนึงก็ ได้นะคะ หรือจะใช้มิลค์ช็อคโกแลตแทนทั้งหมด เลยก็ ได้ค่ะ ทำ�ทานเองต้องตามใจปากเรานะคะ

ส่วนผสม

Whipping Cream (ชนิดทำ�จากนมสด) ....................... 1 ถ้วยตวง White Chocolate with Passion fruit filling ......... 1/4 ถ้วยตวง Dark Chocolate ............................................................. 100 กรัม เหล้าหวานรสส้ม (Grand Manier) .............................. 2 ช้อนโต๊ะ *แยมมิกซ์เบอรี่หรือผลไม้สด ปริมาณตามชอบ*

วิธีทำ�

1. แบ่งครีมเป็น 2 ส่วนเท่าๆ กัน ส่วนแรกนำ�ไปแช่ช่องแข็งให้เย็นจัดๆ ไม่ควรแช่เกิน 10 นาที เพราะถ้าแข็งแล้วจะใช้ ไม่ได้ 2. อุ่นครีมที่เหลืออีก 1/2 ถ้วยตวง ในไมโครเวฟ ประมาณ 1 นาที 20 วินาที โดยตั้งเวลาทีละ 30 วินาที แล้วนำ�ออกมาคน เพื่อให้ครีมร้อน ทั่วกัน 3. เทครีมลงในชามผสมที่ ใส่ Dark Chocolate ไว้ แล้วพักไว้ประมาณ 2-3 นาที แล้วคนให้เข้ากันจนเนียนดี ใส่เหล้าส้มลงไปแล้วคนให้เข้ากัน พักให้คลายร้อน 4. สับ White Chocolate ให้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำ�ไปแช่ช่องแข็งไว้ 5. ตีครีมส่วนที่แยกไว้ส่วนแรกให้ข้นขึ้น พอที่จะยกตะกร้อขึ้นแล้ววน เป็นเลข 8 ได้ 6. แบ่งครีมที่ตีได้ครึ่งส่วนผสมลงไปในครีมช็อคโกแลตในข้อ 3 แล้ว ผสมให้เข้ากัน จากนั้นเทผสมกลับลงไปในชามครีม โดยแบ่งผสม 2 รอบ เมื่อเข้ากันดีแล้ว ก็เทไวท์ช็อกที่แช่เย็นไว้ลงไป คนให้เข้ากัน ผิด ด้วยพลาสติกแล้วนำ�ไปแช่เย็นในช่องธรรมดาไว้ประมาณ 30 นาที 7. เทมูสช็อคโกแลตที่ ได้ลงในถุงบีบ ที่ ใส่หัวบีบไว้ ตักแยมใส่ลงใน ภาชนะที่เตรียมไว้ บีบมูสลงไป นำ�เข้าแช่เย็นจนกว่าจะพร้อมรับประทาน เก็บได้ ไม่เกิน 2 วันค่ะ เพราะไม่มีเจลาติน

Sweet Tips

ตามปกติแล้วเราจะเก็บช็อคโกแลตไว้ ในตู้เย็น แต่เมื่อต้องการ นำ�มาใช้ ควรทิ้งให้คลายเย็นจัดเสียก่อน เพราะไม่อย่างนั้นครีมที่อุ่นร้อน แล้ว จะไม่สามารถทำ�ให้ช็อกโกแลตละลายได้หมด และทำ�ให้เราต้องนำ� ไปอุ่นเพิ่ม ซึ่งอาจจะทำ�ให้ครีมแตกมันมากขึ้นได้ แต่ถ้าจำ�เป็นจริงๆ เราสามารถนำ�ไปวางบนชามที่ ใส่น้ำ�ร้อนแล้วทิ้งไว้ ให้ช็อคโกแลตและ ครีมค่อยๆ ละลายเข้ากันจนหมดค่ะ

Food Healthy

้ ร ค ไ ะ ต � ำ ย

ใครชอบกิ น ตะไคร้ จ น เ รี ย ก ว่ า เ ป็ น ค อ เดียวกันยกมือขึ้น ถ้าเป็น คอตะไคร้จริงๆ ละก็ เชื่อ ว่ า คุ ณ คงเคยกิ น มาหมด แล้วใช่ไหมคะ ไม่ว่าจะเป็น ชาสมุนไพรตะไคร้ หรือ ซดน้ำ�ต้มยำ�ร้อนๆ ที่มี ชิ้นส่วนตะไคร้ลอยฟูฟ่อง อยู่ในชามใบเป้ง ตามวิสัย คนไม่ชอบกินอะไรจำ�เจ ก็ คิ ด ว่ าจะทำ � อย่ างไรถึ ง จะ ได้กินตะไคร้ท ั้งต้น “ยำ� ตะไคร้” นี่เลยค่ะโดนใจ ที่สุด ถ้าจะให้แซ่บ ต้อง กินเป็นของว่างค่ะ หรือถ้า ใครอยากจะกินแบบเมี่ยง ก็ ได้ แค่ไปเด็ดใบชะพลู ใน สวนครัวหลังบ้านมา แค่ นี้ยำ�ตะไคร้ก็จะกลายร่าง เป็นเมี่ยงตะไคร้จานเด็ด ทันที เห็นไหมคะว่าได้ เมนูทูอินวันโดยไม่ต้องยุ่ง ยากเตรี ย มอุ ป กรณ์ ใหม่ หวังว่า ครัวชีวจิตฉบับนี้ คงถูกใจคอตะไคร้ คอยำ� และคอเมี่ยงไปพร้อมกัน นะคะ

Healthy Tricks

สมัครสมาชิกนิตยสารสำ�หรับคนรักอาหารและเบเกอร์รี่ ข้อมูลสมาชิก / Member Information สมัครสมาชิกใหม่

ดื่มน�้ำเต้าหู้แกล้มโฮลวืตช่วยนอนหลับ ได้เวลาโยนยานอนหลับทิ้งถังขยะแล้ว เพราะเรามีอาหารอร่อยๆ แถมช่วยนอนหลับมาแนะน�ำ อาหารที่ว่าคือ นมถั่วเหลืองอุ่น 1 แก้ว และ ขนมปังโล 1 แผ่น แนะน�ำให้ดื่มนมถั่วเหลืองอุ่นแกล้มโฮลวีต 1-2 ชั่วโมงก่อนนอนจะช่วยให้นอนหลับสบาย เนื่องจากในนมถึ่ว เหลืองและขนมปังโฮตวีตมีทริ ปโตแฟนเป็นกรดแอมีโนธรรมชาติ เมื่อสมองได้รับทริปโตแฟนจะเปลี่ยนให้เป็นฮอร์ โมนซีโรโทนิน ซึ่ง ช่วยควบคุมการนอนหลับ ท�ำให้นอนหลับได้ดี ขึ้น สตรอเบอร์รี่ ช่วยขจัดคราบฟันได้ โดยเฉพาะใครที่ชอบดื่มชา กาแฟ หรือไวน์เป็นประจ�ำ สิ่งเหล่านี้ อาจจะเคลือบฟันของคุณจนเป็นคราบไม่น่ามอง ทางแก้ไขง่ายๆ ก็คือ ใช้ยาสีฟันที่มีคุณสมบัติขจั ดคราบ แต่ถ้าเกิด หาซื้อไม่ได้ แนะน�ำให้ลองคั้นเนื้อสตรอเบอร์รี่แล้วน�ำมาผสมกับ เบ กกิ้งโซดา จากนั้นก็น�ำไปแปรงฟัน ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีก่อนแปรง ออก คราบสกปรกก็จะหลุดออกไป แต่เตือนไว้สักนิดว่าอย่าใช้วิ ธี นีเ้ กินสัปดาห์ละครั้ง เพราะสารจากผลไม้รสเปรี้ยวอาจจะท�ำลาย สุขภาพฟันของคุณจะดี กว่า

กลิ่นมะลิ-ส้ม-การบูร ช่วยสมองตื่นตัว Alan Hirsch ผู้เชี่ ยวชาญด้านกลิ่นและรสชาติ ได้ท�ำการทดลอง กับกลิ่นประเภทต่างๆ โดยการวัดคลื่นสมองหลังจากการดมกลิ่น เหล่านี้ ในช่วงเวลาเพิ่งตื่นนอน เขาพบว่ากลิ่นจากดอกมะลิ ช่วยให้คลื่นสมองเบต้าตื่นตัวดี ขึ้น ส่วน กลิ่นผลส้มและการบูร ช่วยให้เส้นประสาท trigeminal (เส้น ประสาทที่ตื่นตัวจากการดมยาดม) ฟื้นตัวไวขึ้น ดังนั้นการรับ ประทานอาหารเช้าที่เป็นส้มสดๆ จะช่วยให้ท่านสดชื่ นขึ้นได้โดยไม่รู้ ตัว รวมไปถึงกลิ่นการบูรอ่อนๆ รอบๆ ตัว เช่น ภายในห้องนอน หรือห้องน�้ำก็ช่วยให้ท่านสดชื่ นในยามเช้าได้

ต้องการสมัครสมาชิก

6 เดือน (6 ฉบับ) 1 ปี (12 ฉบับ)

ชื่อ ............................................................... นามสกุล ...................................................... อายุ ................ ปี อาชีพ ..................................................

สถานที่จัดส่ง

เลขที่ ................ อาคาร ............................ ชั้น .............. ห้อง ................ หมู่ที่/หมู่บ้าน ....................... ตรอก/ซอย ............................................ ถนน ............................ แขวง/ตำ�บล ................................... เขต/อำ�เภอ ................................. จังหวัด ...................... รหัสไปรษณีย์ ................. โทรศัพท์มือถือ .......................................... โทรศัพท์ .............................................. E-Mail ...................................................................................... ชำ�ระเงินโดย

ตั๋วแลกเงินธนาณัติ

โอนเงินฝากผ่านบัญชี ชื่อบัญชี น.ส.ณัฐธิชา บุญส่ง ธนาคารกรุงเทพ สาขาสีลม บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 118-476555-5 พร้อมแฟกซ์เอกสารการโอนเงินมาที่ 0-2135-5555

ธนาณัติ สั่งจ่ายในนาม น.ส.ณัฐธิชา บุญส่ง ตู้ปณ. 1088 ปทฝ.สีลม กรุงเทพฯ 10504 (ไม่รับธนาณัติออนไลน์)