นิตยสารฟันเฉาะ ฉบับที่ 3 'ล้ำเส้น'

Page 1




“Life begins at the end of your comfort zone” - Neale Donald Walsch คนเราจะมีพื ้นที่เว้ นไว้ เป็ นระยะระหว่างตัวเรากับผู้อื่นอยูร่ ะยะหนึง่ เรี ยกว่า comfort zone ซึง่ แต่ละคนจะมีความกว้ างของพื ้นที่นี ้ไม่เท่ากัน บางคนชอบอยูใ่ กล้ ผ้ อู ื่น บางคนไม่ชอบ พื ้นที่สว่ นตัวนี ้ถ้ า ถูกผู้อื่นรุ กล� ้ำเข้ ามา เจ้ าตัวอาจจะรู้ สกึ ไม่สบายใจได้ เนื่องจากมีใครมาล� ้ำเส้ นที่ขีดไว้ เป็ นพื ้นที่สว่ นตัว เกินไปแล้ วนะ ถ้ าถอยก็ได้ ถอย ถ้ าไม่ได้ ก็ต้องทนอยู่ด้วยความไม่สบายใจ แต่ความไม่สบายใจที่มา พร้ อมกับความใกล้ ชิดผู้อื่นนี ้กลับท�ำให้ เราได้ เรี ยนรู้ ได้ ใกล้ ชิดกับสิง่ ใหม่ได้ มากขึ ้น ข้ าพเจ้ าไม่ได้ บอกให้ คณ ุ ต้ องไปท�ำตัวสนิทแนบชิดกับใคร แต่เพียงอยากให้ คณ ุ สังเกตเส้ น ล่องหนที่คณ ุ เคยขีดเอาไว้ รอบตัว อย่าไปมองว่ามันเป็ นก�ำแพงที่ขวางกันคุ ้ ณกับภูมิทศั น์ใหม่ เส้ นสมมติ นี ้คอยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ ้นได้ จากสิง่ ที่ไม่ค้ นุ เคย โดยค�ำว่า “คุ้นเคย” ต่างหากที่เป็ นสิง่ อันตราย ต่อคุณ อาจจะใช่ที่ “คุ้นเคย” จะคงความปลอดภัยเอาไว้ ได้ แต่ “คุ้นเคย” จะไม่ยอมปล่อยให้ ค�ำว่า “ใหม่” เข้ ามาในชีวิต จนบางคนอาจเปลี่ยนจากคุ้นเคยเป็ น “จ�ำเจ” หรื อถ้ าให้ หนักกว่านันคื ้ อ “อยูก่ บั ที่” อันนี ้ยากเกินไป อันนันมี ้ ความเสี่ยงสูง อันนู้นก็ไม่นา่ ดีเท่าไหร่ คิดจนปวดหัวแล้ วขอนอนพักก่อนแล้ วกัน ก�ำแพงล่องหนที่ถกู สร้ างขึ ้นมาจากความสบายใจของตัวเองกลับท�ำให้ เลยเถิดเป็ นการปิ ดกันตั ้ วเองไป เสียแล้ ว

ฟั นเฉาะ | 02


ส�ำหรับการออกฟั นเฉาะเล่มนี ้ยังคงคอนเซปตามธีมเหมือนกับ เล่มก่อนนะคะ จาก หลง (ไปไหนก็ไม่ร้ ู) กลายมาเป็ น ล� ้ำเส้ น (เดทไลน์) ด้ วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง ข้ าพเจ้ าขออภัยผู้ตดิ ตามเอาไว้ ณ ที่นี ้ด้ วย แต่ถงึ แม้ จะมาช้ า ก็ยงั ดีกว่าไม่มา ฟั นเฉาะเล่มนี ้ได้ รวบรวมความภูมิใจของผู้เขียน ผู้วาด และทีมงานทุกคนเอาไว้ มือทุกคู่ ช่วยกัน ‘ปั่ น’ แต่งหนังสือเล่มนี ้ด้ วยความตังใจ ้ หากผู้อา่ นท่านใดได้ อา่ นหนังสือเล่มนี ้แล้ วชื่นขอบหรื ออยากให้ ปรับปรุงที่สว่ นไหน สามารถ ติดต่อมาได้ ที่เพจ Denttu Wannasilpa หรื อจะเขียนใส่กระดาษแล้ วน�ำมาแปะไว้ หน้ าห้ องชมรม วรรณศิลป์ ณ สโมสรนักศึกษา ตึกราชสุดาชัน้ 1 ได้ เลยค่ะ

ข้ างนอกนัน่ มีอะไรอีกเยอะแยะให้ สมั ผัส

ฟั นเฉาะ | 03

บรรณาธิการ


ฟั นเฉาะ | 04


ฟั นเฉาะ | 05


ฟั นเฉาะ | 06


ฟั นเฉาะ | 07


ฟั นเฉาะ | 08


ฟั นเฉาะ | 09


กิจกรรมต่อมา กิจกรรม Freshy dent

ฟั นเฉาะ | 010


ฟั นเฉาะ | 011


ฟั นเฉาะ | 012


ฟั นเฉาะ | 013


ฟั นเฉาะ | 014


ฟั นเฉาะ | 015


ฟั นเฉาะ | 016


ฟั นเฉาะ | 017


ฟั นเฉาะ | 018


ฟั นเฉาะ | 019


ฟั นเฉาะ | 020


ฟั นเฉาะ | 021


ฟั นเฉาะ | 022


ฟั นเฉาะ | 023


ฟั นเฉาะ | 024


ฟั นเฉาะ | 025


ฟั นเฉาะ | 026


ฟั นเฉาะ | 027


ค�ำนี ้มันเป็ นค�ำทีแ่ ค่มไี ว้ แต่ไม่ต้องจ�ำกัดว่าค�ำนิยามของมันคืออะไร แค่เป็ นความหลากหลายอะไรบางอย่างที่มีการเปลี่ยนแปลงไป ตามกาลเวลา เหตุผลที่วา่ ท�ำไมจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ ยงั มีอยู ่ เป็ น เหมื อ นคุณ มาอยู่ใ นสภาวะที่ เป็ นสังคมที่ เป็ นแกนอะไรสัก อย่าง เราอยู่ในประเทศธรรมศาสตร์ ที่ต้องมีความส�ำนึกร่ วมกัน เช่น คุณอาจจะไม่ต้องท�ำเพื่อประชาชน รักประชาชน ตามที่แบบ เขาบอกไว้ แต่ว่าอย่างน้ อยคุณควรจะยอมรับความแตกต่าง หลากหลายเวลาที่คณ ุ เข้ ามาอยูใ่ นสังคม ตอนที่รับสมัครอาจารย์ คณะใหม่เห็นมีเขียนชัดเจนเลยว่า คุณต้ องยอมรับในความแตกต่าง หลากหลายและต้ องท�ำงานร่ วมกับผู้อื่นที่มีความคิดเห็นแตกต่าง ได้ นี่คือคุณสมบัตใิ นการรับสมัครอาจารย์ ท�ำให้ เรารู้สกึ ว่านี่เป็ น สิ่งหนึ่งที่ เป็ นคุณค่าร่ วมกันของคนที่ เข้ ามาอยู่ในมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ คุณควรจะยอมรับตรงส่วนนี ้ได้ สรุปก็คือความเป็ น ธรรมศาสตร์ คือความหลากหลายและความสามารถในการ ยอมรับความหลากหลายได้ Q : สมมุตวิ ่ าธรรมศาสตร์ มีอุปสรรคเป็ นเส้ น ๆ หนึ่งคิดว่ า ธรรมศาสตร์ จะสามารถก้ าวผ่ านเส้ นนีไ้ ปได้ อย่ างไร A : ตังแต่ ้ เราท�ำเพจมาท�ำให้ เรารู้อะไรเยอะขึ ้น รู้วา่ ปั ญหามันไม่ ได้ มีแค่เล็ก ๆ แค่เรื่ องการจราจร เรื่ องลูกระนาดหรื อวินมอเตอร์ ไซค์ ซึง่ มันมีมากเหลือเกิน เราคิดว่า เส้ นนันคื ้ อการเลือกตังอธิ ้ การ หรื อมันอาจจะไม่ใช่แค่การเลือกตังอธิ ้ การ แต่คือระบบ ระบบการ บริ หาร ระบบการจัดการทังหลาย ้ ตังแต่ ้ ระบบสภามหาวิทยาลัย ในช่วง 2 - 3 ปี ก่อนจะเกิดรัฐประหาร จะมี พรบ. ธรรมศาสตร์ ออก นอกระบบขึ ้นมา กรรมการบริ หารมหาวิทยาลัยคุยกันเองโดยที่ นักศึกษาไม่ได้ รับรู้อะไร ทัง้ ๆ ที่เราก็เป็ นส่วนหนึง่ ในมหาวิทยาลัย ที่ท�ำให้ มหาวิทยาลัยขับเคลื่อนไปได้ เราจ่ายค่าเทอมเพื่อให้ มหาวิทยาลัยเอาเงินนี ้ไปจัดสรรในการพัฒนาด้ านต่าง ๆ แต่ มหาวิทยาลัยกลับไม่ยอมรับฟั ง ไม่มีเสียงของนักศึกษาเข้ าไปใน ส่วนนัน จึ ้ งมีการผลักดันให้ มนี กั ศึกษาเข้ าไปมีสว่ นร่วมในกรรมการ บริ หารมหาวิทยาลัย (ได้ แก่นายกอมธ. และประธานสภานศ.) กรรมการมหาวิทยาลัยมีองคมนตรี คนกลุม่ นันมี ้ สว่ นได้ สว่ นเสีย อาจจะน้ อยกว่าพวกเราซึง่ เป็ นนักศึกษาด้ วยซ� ้ำ แต่เรากลับไม่มี สิทธิ์มีเสียง หลังเกิดรัฐประหาร ร่ างพรบ. ที่เราจะได้ มีส่วนร่ วมก็ ตกไป เพราะไม่มีการเปิ ดสภา และเอาร่างพรบ. เข้ ามาใน 60 วัน สุดท้ ายมหาวิทยาลัยก็ส่งร่ างใหม่ที่มีนักศึกษาไม่มีส่วนรู้ เห็นไป แทน เส้ นนันอาจจะเป็ ้ นนักศึกษาเองที่ไม่ได้ ตื่นตัวทางการเมือง เท่าที่ควรหรื อควรจะเป็ น ซึง่ มันสามารถก้ าวข้ ามไปได้ อีกถ้ าพลัง นักศึกษามีพอ แต่เราก็ไม่สามารถโทษนักศึกษาได้ ทงหมด ั้ เพราะ เขาก็ มี สิ ท ธิ เ สรี ภ าพในการที่ เ ขาจะมาหาความรู้ ของเขาใน ธรรมศาสตร์ เขาไม่ได้ อยากจะมาต่อสู้เพื่อใคร เขาไม่ได้ อยากเอา ตัวมาเสี่ยงกับใคร นี่ก็เป็ นปั ญหาอย่างหนึง่ เหมือนกัน ที่เป็ นสิทธิ ที่เขาควรจะได้ ในการเป็ นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งนี ้ แต่ใน ขณะเดียวกันมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้ ยอมปล่อยนักศึกษาให้ ก้าวข้ าม

ความเป็นธรรมศาสตร์ คือความหลากหลาย และความสามารถ ในการยอมรับความหลากหลายได้

เส้ นนันมาได้ ้ หรื อระบบการเมืองในประเทศก็เหมือนกัน เพราะ สุดท้ ายแล้ วคุณก็ต้องออกไปสูโ่ ลกทุนนิยม ที่คณ ุ ต้ องไปท�ำอาชีพ ต้ องไปท�ำมาหากิน ไม่สามารถมีเวลามาต่อสู้เรื่ องการเมืองได้ ทกุ วัน ระบบการเมืองเองก็ไม่ได้ ปล่อยให้ คณ ุ ไปท�ำแบบนัน้ แต่มนั ก็ เป็ น อุด มคติ ที่ ว่า ถ้ า นัก ศึก ษาสามารถก้ า วข้ า มผ่า นเส้ น นี ไ้ ปได้ นักศึกษาจ�ำนวนมากก้ าวออกมาพูดกับระบบ อย่างตอนที่เราล่า รายชื่อมหาวิทยาลัยออกนอกระบบก็ได้ รายชื่อเพียงแค่ 2000 คน จากรายชื่อทังหมดท� ้ ำให้ เขาไม่ได้ ฟังเรา หมายถึงระบบปกครอง เขาก็ไม่ได้ เปิ ดช่องให้ เรา และนักศึกษาก็ไม่ได้ พยายามจะเรียกร้ อง มากพอ หรื อนักศึกษาก็ไม่ได้ รับรู้ด้วยซ� ้ำว่ามหาวิทยาลัยออกนอก ระบบคืออะไร นักศึกษาไม่ได้ พยายามที่จะก้ าวไปไกลกว่านี ้ ซึง่ ตอนนี ้อาจารย์หลาย ๆ คนก็พดู ว่า จุฬาฯเขาก็แซงเราไปแล้ ว เขา ไม่ได้ สนใจเราแล้ ว เขาไปสนใจมหิดลแล้ ว หรื อว่า บางคนก็พดู ว่า ระบบปกครองธรรมศาสตร์ มนั เน่าเฟะ มหาวิทยาลัยตกต�ำ่ ลงทุกวัน ซึง่ นักศึกษาก็ไม่ได้ รับรู้และสนใจเรื่ องนี ้เท่าที่ควร มันเป็ นเส้ นใหญ่ เส้ นส�ำคัญทีส่ ามารถก้ าวไปได้ คือพูดแค่ถงึ เส้ นนะไม่ได้ หมายความ ว่าเราจะต้ องข้ ามไปให้ ได้ อย่างหนึง่ เราก็ต้องเคารพว่า เขาก็มีเส้ น ทางของเขา เขาอาจจะไม่ได้ อยากจะข้ ามเส้ นตรงนี ้ เขาอาจจะ ข้ ามเส้ นอย่างอื่นมากกว่า

Q : สุดท้ าย ขอประโยคหล่ อๆ ให้ เพจ ธรรมศาสตร์ ไหมละมึง หน่ อย A : ไม่อยากฝาก แค่นี ้คนก็เยอะแล้ วน่าจะกดไลค์กนั เกือบหมด มานัง่ ดูทกุ วันว่าวันนี ้เขาจะถอนไลค์เราไหม (หัวเราะ) อะ งันขอ ้ ฝากค�ำว่า “ไอ้ สสั กูข�ำ” ล่ะกัน ขอขอบคุณแอดมินเพจธรรมศาสตร์ ไหมละมึงที่สละเวลาให้ พวกเราได้ แนวคิด ได้ มมุ มองใหม่ ๆ ส�ำหรับฉบับหน้ านันที ้ มงาน ฟั นเฉาะจะพาคุณไปพบกับใครต้ องคอยติดตามกันนะคะ

ฟั นเฉาะ | 028


ฟั นเฉาะ | 029


ฟั นเฉาะ | 030


ฟั นเฉาะ | 031


ชมรมกีฬา

ฟั นเฉาะ | 032


ชมรมดนตรี ไทย | เรื่ องโดย: Y

...กาลครัง้ หนึง่ นานมาแล้ ว..... มีหมูบ่ ้ านตังอยู ้ ห่ า่ งไกลจากตัวเมืองนามว่า “หมูบ่ ้ านดนตรี ไทย” หมูบ่ ้ านดนตรี ไทย เป็ นหมูบ่ ้ านที่ถกู กล่าวขานว่า ทุกคนที่อาศัยในหมูบ่ ้ านนี ้จะสามารถเล่นดนตรี ไทยได้ ไพเราะทุกคน ค�ำกล่าวขานนันเป็ ้ นจริ งเสมอ จนกระทัง่ มีเด็กน้ อยคนหนึง่ เกิดขึ ้นในหมูบ่ ้ าน

เด็กน้ อยคนนันมี ้ นามว่า “เอก”

เอกเป็ นเด็กชายตัวเล็ก ผมสีด�ำเข้ มเช่นเดียวกับดวงตาที่กลมโตดูบริ สทุ ธิ์ เอกมีนิสยั สดใสร่าเริ งเหมือนเด็กธรรมดาทัว่ ไป แต่มีสงิ่ หนึง่ ที่เอกไม่เหมือนใคร คือ... “เอกไม่สามารถมองเห็นได้ ” เอกไม่สามารถมองเห็นผู้คน ไม่สามารถมองเห็นธรรมชาติ ไม่สามารถมองเห็นเครื่ องดนตรี ไทย แม้ เอกจะชื่นชอบในดนตรี ไทย และใฝ่ ฝันว่าอยากเป็ นนักดนตรี มากเพียงใด แต่ก็ไม่มีใครสอนเอกให้ เล่นดนตรี ไทยเลย ทุกคนตัดสินว่าเอกต้ องไม่สามารถเล่นดนตรี ได้ เป็ นแน่ เอกรู้สกึ เสียใจ และขาดความมัน่ ใจ คิดว่า “ตัวเองท�ำไม่ ได้ แน่ ๆ” เอกไม่เคยลองเล่นดนตรี ไทยสักครัง้ ได้ แต่ “กลัว” ...จนกระทัง่ วันหนึง่ เอกสะดุดเข้ ากับเครื่ องดนตรี ชิ ้นหนึง่ ที่วางอยูบ่ นพื ้นห้ อง มันคือระนาดที่มี “ผืน” ท�ำมาจากไม้ ไผ่เนื ้อนุม่ มี “ราง” ท�ำมาจากไม้ สกั ทาน� ้ำมันขัดเงาอย่างสวยงาม บนผืนลูกระนาดมีไม้ ตีระนาดจัดวางอยูอ่ ย่างเป็ นระเบียบ เอกค่อย ๆ สัมผัสระนาดอย่างแผ่วเบา เมื่อจับไม้ ได้ จงึ ลองตี “ต็อก ๆๆ” เอกตื่นเต้ นที่ได้ ลองเล่นระนาดเป็ นครัง้ แรก ความรู้สกึ วูบวาบเกิดขึ ้นกลางใจเหมือนหัวใจพองโต ...มันไม่นา่ กลัวอย่างที่คิด... ความกลัวของเอกสลายไป เมื่อเอกได้ “เริ่มท�ำ” เอกฟั งเสียงระนาด และลองเล่นไปเรื่ อย ๆ ลองตีผิดตีถกู เลียนแบบเสียงเพลงที่ตวั เองเคยได้ ยินเป็ นประจ�ำ ปรับเปลี่ยนแก้ ไขข้ อบกพร่อง จนในที่สดุ เอกก็สามารถเล่นระนาดได้ ด้วยความพยายามของตัวเอง เริ่ มแรกมันอาจใช้ เวลา และความเพียรพยายาม แต่ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถถ้ าตังใจ... ้ ...เมื่อชาวบ้ านได้ ฟังเอกเล่นระนาดก็ตกใจเป็ นอย่างมาก ทุกคนต่างรู้สกึ ผิดที่ตดั สิน และดูถกู เอกต่าง ๆ นานา เอกได้ พิสจู น์ตวั เองให้ ทกุ คนได้ เห็นว่าใครก็สามารถเล่นดนตรี ไทยได้ เอกได้ เข้ าร่วมวงดนตรี ไทยของหมูบ่ ้ านด้ วยต�ำแหน่งระนาดมือหนึง่ เรื่ องราวของเอกได้ รับการกล่าวขานเป็ นต�ำนาน เป็ นที่มาของชื่อเครื่ องดนตรี ชิ ้นส�ำคัญของวงดนตรี ไทย เครื่ องดนตรี ชิ ้นที่ต้องมีความมัน่ ใจปราศจาก ความกลัว ในการเล่น เพราะเป็ นเครื่ องดนตรี ที่เป็ นผู้น�ำ และเป็ นหัวใจของวง…

...“ระนาดเอก”... Ps. ความกลัวของเอกหายไปแล้ว แล้วผูอ้ ่านทุกท่านกลัวทีจ่ ะเล่นดนตรี ไทยไม่ได้เหมื อนเอกหรื อไม่ ถ้าใช่ เริ่ มสิ ! อย่ากลัวในสิ่ งทีย่ งั ไม่เกิ ดขึ้นเลย ;) ฟั นเฉาะ | 033


ฟั นเฉาะ | 034


ฟั นเฉาะ | 035


ฟั นเฉาะ | 036


ฟั นเฉาะ | 037


Mainstream เรื่องและภาพ : ฟั นเฉาะทีม

s s o r C the li

ne

ฟั นเฉาะ | 038


เหตุใดเราจึงขาดไร้ อิสระ

ในมุมมองหนึง่ สังคม ชีวิตถูกตีกรอบด้ วยบรรทัดฐาน กฎหมาย จรรยาบรรณ ฯลฯ ท�ำให้ เราไม่ได้ รับอิสระเท่าที่ควร หากไร้ เส้ นจ�ำกัดเลือนรางที่ว่า เราจะท�ำอะไรได้ มากกว่านี ้ ไหม เพราะหากจินตนาการคือสิง่ ไร้ ขีดจ�ำกัดที่ไม่ควรกันขวาง ้ แล้ วเพราะอะไร เราจึงไม่ฉีกทึ ้ง ดึงรัง้ ทุกกฎเกณฑ์ออกเสียแล้ วย�่ำเท้ าสูโ่ ลกกว้ าง อีกมุมมองหนึง่ หากขาดไร้ ควบคุม ปราศจากการดูแล ขาดแคลนมาตรฐาน คุณภาพ ก็คงไม่เกิดขึ ้นจึงต้ องมีอะไรสักอย่างมาก�ำหนดเรื่ องต่าง ๆ เอาไว้ เพื่อป้องกันความผิดพลาด การเอาเปรี ยบ และอันตรายที่อาจเกิดขึ ้นได้ ถ้าไม่ปฏิบตั ติ ามกฎ หรื อเพราะเหตุนี ้ เราจึงเลือกที่ จะปกป้องตัวเองจากความไม่แน่นอน จะอยูข่ ้ างซ้ ายหรื อขวา แต่ละคนคงมีค�ำตอบอยูใ่ นใจอยูแ่ ล้ ว แต่อย่าลืมว่ามือเราก็มี ทังข้ ้ างซ้ ายและขวา สมองเราก็มีทงั ้ 2 ด้ าน ต่อให้ ถนัดฝั่งใดฝั่งหนึง่ มากกว่าอีกฝั่งก็ยงั ท�ำงาน

ไม่ถกู เสมอไป หากจะลองคิดแหวกกรอบหนาหนักออกไปข้ างนอก

แต่ก็ไม่ผิดเช่นกัน

ฟั นเฉาะ | 039


ฟั นเฉาะ | 040


ฟั นเฉาะ | 041


ฟั นเฉาะ | 042


ฟั นเฉาะ | 043


ฟั นเฉาะ | 044


ฟั นเฉาะ | 045


ฟั นเฉาะ | 046


ขอบคุณข้ อมูลจาก: https://www.scientificamerican.com/ ฟั นเฉาะ | 047


ฟั นเฉาะ | 048


ฟั นเฉาะ | 049


ฟั นเฉาะ | 050


การถูกจ�ำกัดไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ าย ในเมื่อมันมาพร้ อมกับความปลอดภัย และสบายใจ แต่ไม่วา่ ด้ านความคิด สิง่ ประดิษฐ์ วัฒธรรม ศิลปะ วิชาการ หรื อ ร่ างกาย ทุกอย่างล้ วนมี เส้ น ขีดจ�ำกัดที่รอวันให้ เราก้ าวข้ ามเพื่อพัฒนาไปข้ าง หน้ า เพื่อพบสิง่ ใหม่ ๆ เพื่อเรี ยนรู้ ได้ ทงนั ั ้ น้

จริ งหรื อ ?

เส้ น พวกนี ้ไม่ใช่ค�ำจ�ำกัดความที่มนุษย์สร้ างขึ ้นมาเองหรอกเหรอ หรื อ เราไม่เคยได้ ขีดแต่มนั มีของมันอยูแ่ ล้ ว

ถ้ าคุณไม่ขีดค�ำว่า เส้ น ขึ ้นมามันจะมีความสามารถในการ แบ่ง หรื อ กัน้ สิง่ ใดได้ ?

ฟั นเฉาะ | 051


ฟั นเฉาะ | 052


ฟั นเฉาะ | 053


ฟั นเฉาะ | 054


ฟั นเฉาะ | 055


ฟั นเฉาะ | 056


จิบภาพ เรื่ อง: พริ ม้

2696

“Hakodate marathon 2017 l 7.2 l SUN”

ก่อนจะเดินเข้ าลิฟท์ เพื่อขึน้ ไปยังหอคอย โกเรี ยวคะคุ (Goryokaku Tower) ด้ านข้ างมีพื ้นที่ ประชาสัมพันธ์ ป้ายขนาดใหญ่หลายป้ายถูกแปะไว้ บนผนังอย่างเป็ นระเบียบ บอกเล่าเรื่ องราวต่าง ๆ ตังแต่ ้ ภาพแผนที่ประเทศที่บอกว่าหอคอยทังหมดใน ้ ญี่ปนุ่ มีจ�ำนวนเท่าไหร่และอยูท่ ี่ไหนบ้ าง ภาพรูปปั น้ อะไรสักอย่าง กับป้ายอีกจ�ำนวนหนึง่ ซึง่ ทังป้ ้ ายเต็ม ไปด้ วยตัวอักษรภาษาญี่ปนุ่ มีหนึ่งรู ปในนันเป็ ้ นภาพถ่ายวิวทังเมื ้ องฮา โกดาเตะในตอนกลางวัน มักจะเห็นคนไปถ่ายรูปวิว นี ้ตอนกลางคืนบนเขาฮาโกดาเตะ ซึง่ ว่ากันว่าติด 1 ใน 3 วิวยามค�่ำคืนที่สวยที่สดุ ในโลก และบริ เวณ ท้ องฟ้าในรูปนัน้ มีค�ำ ๆ นึงที่สร้ างแรงบันดาลใจใหม่ ให้ กบั ชีวิตของผม ที่ชว่ งนี ้มันถูกแช่แข็งอยูก่ บั ที่มา ช่วงเวลาหนึง่ แล้ ว

เมื่อไม่นานมานี ้ผมได้ มีโอกาสเข้ าร่วมวิ่งในงานบางกอก มิดไนท์มาราธอน โดยจัดบริ เวณสะพานพระราม 8 ระยะที่ลง สมัครไว้ คือ ฮาล์ฟมาราธอน ซึง่ เป็ นการลงวิ่งครัง้ แรกในระยะนี ้ ก่อนหน้ านี ้วิ่งเพียงระยะมินิมาราธอนมาเพียงสองสนาม และครัง้ นี ซ้ ้ อมไม่ทันเนื่ องจากเจ็บขาจากเล่นสกี ก่อนหน้ านัน้ ประมาณ หนึง่ เดือน ความไม่พร้ อมท�ำเอาคืนก่อนวันงานตื่นเต้ นจนนอนไม่ ค่อยจะหลับ ได้ นอนจริ งตอนสี่ทมุ่ และรี บลุกขึ ้นมาช่วงตีหนึง่ เพื่อ นัง่ รถและวอร์ มร่างกายรอ ทังหมดเพื ้ ่อให้ ทนั ปล่อยตัวในช่วงเวลา ตีสาม ณ เวลา 2.30 น. ก่อนจะขึ ้นไปยังจุดปล่อยตัวนักวิ่งบนสะพาน เสียงเชียร์ ดังกึกก้ องจากบริ เวณเส้ นชัย นักวิ่งคนแรกจากระยะฟูลมาราธอ นมาถึงแล้ ว (ระยะฟูลปล่อยตัวตังแต่ ้ เที่ยงคืน) โดยคนแรกที่เข้ า เส้ นชัยคือ Silas muturi เป็ นชาวเคนย่าใช้ เวลาเพียง 2 ชัว่ โมงครึ่ง ไม่กนี่ าทีตอ่ มานักวิง่ คนทีส่ องก็มาถึง ช่วงระยะหนึง่ ร้ อยเมตรสุดท้ าย ก่อนเข้ าถึงจุดเส้ นชัยแววตาของพวกเขาดูมงุ่ มัน่ ไม่มีความเหนื่อย ล้ า ความท้ อแท้ อยูภ่ ายในดวงตาของพวกเขาเลยแม้ แต่นิดเดียว

ฟั นเฉาะ | 057

“ประกาศ ประกาศ ส�ำหรับนักวิ่งฮาล์ฟ ...”


เสี ย งเรี ย กห้ า นาที สุด ท้ า ยก่ อ นการปล่ อ ยตัว จากเจ้ า หน้ าที่ดงั ขึ ้น ท�ำให้ ผมต้ องรี บวิ่งขึ ้นไปยังจุดสตาร์ ทบนสะพาน ภาพที่ปรากฏคือ คนจ�ำนวนมากนับพันคนที่รอสัญญาณปล่อยตัว อยูก่ ่อนหน้ าแล้ ว ผมจึงได้ ไปอยูเ่ กือบแถวหลังสุดก็วอร์ มร่างกาย พลางยืนดูนกั วิ่งฟูลซึง่ วิ่งสวนกันบนสะพานรอ ไม่นานได้ ยินเสียง แว่วจากพิธีกรอวยพรขอให้ โชคดีในการวิ่ง ชาวนักวิ่งแถวหลังจึงเริ่ มก้ าวแรกของตัวเอง โดยที่ไม่ทนั ได้ ตงั ้ ตัวนัก (อยูแ่ ถวหลังสุดไม่ร้ ูเรื่ องอะไรเล้ ย)

สุดท้ ายหนึง่ ร้ อยเมตรก่อนเข้ าเส้ นชัยผมวิ่งสปริ นต์เต็มที่ ลืมขาที่เคยปวดไปเลย ถ้ าให้ เทียบปริ มาณความสุขคงมากกว่า เหงื่อที่ออกในตอนนัน้ เพราะไม่เคยวิ่งได้ ไกลขนาดนี ้มาก่อน ตอน ซ้ อมวิ่งจริ งได้ เพียงสิบแปดกิโลเมตรเท่านัน้ เป็ นหนึ่งวันที่ได้ ทะลุ ก�ำแพงของตัวเองสักที สิง่ ที่ผมสังเกตเห็นได้ ตลอดการวิ่ง คือ ทุกคนต่างมียา่ ง ก้ าวของตัวเอง บางคนวิ่งสปริ นต์ตงแต่ ั ้ วินาทีแรก บางคนวิง่ ช้ า ๆ เรื่อย ๆ ใส่หฟู ั งเปิ ดเพลงไปตลอดเส้ นทาง บางคนมากับเพื่อนหรื อแฟนก็วิ่งไปคุยกันไป บางคนคอยเอามือมาผลักดันเพื่อนให้ วิ่งต่อไปข้ างหน้ า เราทุกคนต่างวิ่งกันด้ วยหลากหลายเหตุผล

ช่วง 7 กิโลเมตรแรกเราวิ่งกันอยูบ่ นสะพาน จะเรี ยกว่าวิ่ง ก็ไม่ถกู นักเพราะช้ ามากจากปริ มาณคนนับร้ อยที่อยูต่ รงหน้ า จะ แซงทีต้องวิ่งซิกแซกหลบผู้คนที่แน่นสะพาน อากาศร้ อนอบอ้ าว สถานที่ที่รื่นรมย์มากที่สดุ ส�ำหรับผมจึงเป็ นริ มขอบสะพาน ได้ สดู ออกซิเจนบ้ าง ดูวิวรอบ ๆ ไปด้ วยก็เพลินดี มีปา้ ยบอกระยะทางทุก และการแข่งขันนี ้เราทุกคนไม่ได้ แข่งกับใครเลยนอกจาก กิโลเมตร ตัวเราเอง สร้ างวิถีของเราเองขึ ้นมา ให้ ก�ำลังใจเพื่อนร่ วมทางที่ ก�ำลังจะหมดแรง ยินดีกบั เพื่อนที่ประสบความส�ำเร็ จ

1… 2… 3… 4… 5… 6… อยากจะขอบคุณคนสองคนที่ได้ ผลักดันผมให้ เริ่ มวิ่งจน วิ่ ง ได้ ไม่ น านก็ ล งจากสะพานและเข้ าสู่ บ ริ เ วณลาน มาถึงทุกวันนี ้ พระบรมรูปทรงม้ าที่กิโลเมตรที่สบิ เอ็ด ซึง่ ผมไม่เคยได้ เห็นที่นี่ชว่ ง คนแรกคือ อาจารย์ตมุ๋ นายแพทย์อภิชยั ทองดอนบม กลางดึก (เกือบเช้ า) อย่างนี ้มาก่อน ไฟจากสปอร์ ตไลท์ฉายให้ พระบรมรูปดูเด่นสง่ามากขึ ้น ในใจยังคิดว่า ถ้ าพกมือถือมาถ่าย ประธานชมรมวิ่งประจ�ำโรงพยาบาล ที่ชวนผมให้ วิ่งครัง้ แรกที่ ้ ยงรองเท้ าวิ่งของอาจารย์จงึ กลาย รูปด้ วยคงจะดื จากนันเลี ้ ้ยวเข้ าไปยังถนนอูท่ องใน ซึง่ เป็ นถนน บ้ านเชียง ทุก ๆ เช้ าช่วงนันเสี ้ ค�ำ เลียบพระที่นงั่ อนันตสมาคม ช่วงนี ้ผมมองไม่เห็นป้ายบอกระยะ เป็ นนาฬิกาปลุกผมให้ ลกุ จากเตียงออกมาวิ่งด้ วย ทังคอยให้ ทางเลย ไม่แน่ใจตัวเองว่า ดูวิวจนเพลินหรื อว่าสมองเริ่ มเบลอแล้ ว แนะน�ำ เทคนิคต่าง ๆ อีกด้ วย กันแน่ เหงื่อเปี ยกไปทัว่ ทังเสื ้ ้อและกางเกงราวกับไปเล่นสงกรานต์ “ ขอให้ ได้ ไปฟูลไว ๆ ” กลางถนนข้ าวสารมาเลยทีเดียว นี่คือค�ำพูดที่ยงั คงวนเวียนอยู่ในหัวของผมตลอดเวลา กิโลเมตรที่สบิ แปดผ่านไป ทางวนกลับมาขึ ้นสะพานอีก จากการที่ได้ คยุ กับ พี่ป๊อก อิทธิพล สมุทรทอง เจ้ าของกรุ๊ ป ครั ง้ ต้ นขาผมเริ่ มปวดจนต้ องขอเจ้ าหน้ าที่ชโลมด้ วยน� ำ้ มันมวย “42.195 K club เราจะไปมาราธอนด้ วยกัน” นักวิ่งข้ างกายพี่ตนู บอดี ้สแลมตลอดระยะทางสี่ร้อยกิโลเมตรเพื่อหาทุนบริ จาคให้ กบั และสเปรย์ทกุ จุดที่มีบริ การ แต่ก็อดทนเดินบ้ างวิ่งบ้ างจนถึง กิโลเมตรสุดท้ าย ตลอดเส้ นทางเราจะได้ พบเจอกับนักวิ่งระยะฟูล โรงพยาบาลบางสะพาน ซึง่ พี่ป๊อกเป็ นคนแรกในโลกที่เชื่อว่า คน อยู่บ้าง ผมนึกภาพไม่ออกเลยว่า คนที่วิ่งมาแล้ วห้ าชัว่ โมงกว่า ๆ ร่ างกายอ่อนแอที่เคยวิ่งรอบสนามรอบเดียวก็หอบแล้ วอย่างผม จะสามารถจบระยะฟูลมาราธอนได้ (ตัวผมเองคือคนที่สองที่เชื่อ ขาของพวกเขาจะล้ าขนาดไหน อย่างนัน) ้

ฟั นเฉาะ | 058


หนึ่งร้ อยเมตรสุดท้ ายก่อนเข้ าเส้ นชัยคล้ าย ๆ ช่วงเวลา การเรี ยนคาบสุดท้ ายในโรงเรี ยน หรื อช่วงพรี เซนท์เคสสุดท้ ายก่อน เรียนจบในมหาลัย ฯ เป็ นจุดทีเ่ ราก�ำลังจะได้ ก้าวข้ ามผ่านไป พร้ อม กับความสุข ความภาคภูมิใจ แต่จริ ง ๆ แล้ ว ระยะหนึง่ ร้ อยเมตรจะเกิดความสุขขึ ้นไม่ ได้ เลย ถ้ าไม่มียี่สิบเอ็ดกิโลเมตรก่อนหน้ านัน้ รวมถึงนับร้ อย ๆ กิโลเมตรที่ได้ ซ้อมผ่านมา บันไดก้ าวเล็ก ๆ นี ้จึงค่อย ๆ สะสมเป็ น ความส�ำเร็ จที่ยิ่งใหญ่ตอ่ ไปในวันหน้ า

ผมจะยังวิง่ ต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะจบระยะฟูลมาราธอน

และมั น คงจะดี ม ากถ้ าสั ก วั น นึ ง ได้ ไปวิ่ ง ใต้ ท้ องฟ้ า ประเทศญี่ปนุ่

-----------------------------------------------------------*ระยะฮาล์ฟมาราธอน คือ 21.1 km *ระยะฟูลมาราธอน คือ 42.195 km

ฟั นเฉาะ | 059


ฟั นเฉาะ | 060


ฟั นเฉาะ | 061


ฟั นเฉาะ | 062


ฟั นเฉาะ | 063


ฟั นเฉาะ | 064


ฟั นเฉาะ | 065


ฟั นเฉาะ | 066


ฟั นเฉาะ | 067


ฟั นเฉาะ | 068


ฟั นเฉาะ | 069


ฟั นเฉาะ | 070


ฟั นเฉาะ | 071


ฟั นเฉาะ | 072


ฟั นเฉาะ | 073


ฟั นเฉาะ | 074


ฟั นเฉาะ | 075


บางปก

เรื่องและภาพ : ฟั นเฉาะทีม เส้ นบางเส้ นก็ถกู ขีดไว้ เพื่อกัน้ เส้ นบางเส้ นก็ถกู ขีดไว้ เพื่อถูกข้ าม เพราะว่าการมองแค่เส้ นอย่างเดียวไม่ได้ ท�ำให้ ร้ ูเลยว่า ควรข้ ามหรื อเปล่า “ต้ องมองให้ ทวั่ ” ทางม้ าลายเป็ นเส้ นที่บอกให้ ข้าม แต่ไม่ได้ แปลว่าจะข้ ามได้ ตลอดเวลา เกิดเดินสุม่ สี่สมุ่ ห้ าไปก็โดนรถชนกันพอดี ขับรถอยูจ่ ู่ ๆ ก็มีมอเตอร์ ไซค์ขบั สวนเลนมาทางซ้ าย แต่เส้ นถนนข้ างขวาเป็ นเส้ นทึบห้ ามข้ ามไม่ใช่หรื อ? ก็เลือกเอาแล้ วกันระหว่างล� ้ำเส้ นถนนกับล� ้ำเส้ นชีวิต แรงบันดาลใจภาพนี ้คืออะไร? สื่อด้ วยถนนเพราะถนนมีเส้ นหลายแบบ Photography : Nattchil Concept : ทีมบรรณาธิการฟั นเฉาะ Model : ณัฐพล ค�ำบาล Assistant : ภาณุ สุวรรณเพชร เรื่อง : Zeroseven Celsius เรามองเส้ นชัยไร้ รูปร่างท่ามกลางช่วงเวลาแหว่งวิ่น ทางอารมณ์ มองเห็นจุดมุง่ หมายไกลออกไปเป็ นรูปทรง ร้ างไร้ ความหมาย ต่อสู้กบั ตัวเองนับล้ านครัง้ ผลลัพธ์ ออกมาน่าชิงชังเหมือนเศษเสี ้ยวความฝั นที่หนาหนักแต่ บางเบาทางการจับต้ อง ตังแต่ ้ เมื่อไหร่ไม่อาจรู้ เรามีชิ ้นส่วนของกรอบรอบตัว อยู่เสมอ รู ปร่ างหน้ าตาเดียวกันกับก�ำแพงเส้ นหนาที่ ล้ อมรอบปราการนับร้ อยปี ที่ผ้ สู ร้ างจะเป็ นใครไปได้ ถ้ า ไม่ใช่คนเดียวกันกับที่ถือกรรไกรที่เพียงฉับเดียวก็ ล้ม ทลายก�ำแพงที่ปรารถนาก้ าวข้ ามมาเสมอ เราต่างถือทังกรอบทั ้ งกรรไกรด้ ้ วยมือข้ างเดียวกันมา แสนนานแล้ ว

แล้ วท�ำไมต้ องเป็ นซากปรักหักพัง? เพราะในชีวิตจริ ง เส้ นไม่ได้ เป็ นระเบียบตลอด แถมปั จจัยที่ท�ำให้ ต้องล� ้ำหรื อไม่ล� ้ำเส้ นก็มีเยอะเหลือเกิน แล้ วจะท�ำอย่างไรต่อดี? “มองให้ ทวั่ ” แล้ วค่อย ๆ ตัดสินใจแล้ วกัน Illustrator & Concept : Twilitz / W. Wiangsukphaiboon

ชนะและพ่ายแพ้ มิตรและศัตรูอยูค่ นละฝั่งของ กระจกซึง่ ต่างก็คือตัวเราเอง

......... ฟั นเฉาะ | 076



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.