¨Ô ¹ µ¹Ò¡ÒÃ¶Ö § µÑ Ç ¤Ø ³ àÁ× è Í ¤Ø ³ ÍÒÂØ 60 »‚ µÍ¹¹Ñ é ¹ ¤Ø ³ à¡ÉÕ Â ³ÍÒÂØ á ÅÐäÁ‹ µ Œ Í §·Ó§Ò¹áÅŒ Ç ¤Ø ³ àËç ¹ ÀÒ¾µ¹àͧÍÒÈÑ Â ÍÂÙ ‹ ã ¹ºŒ Ò ¹·Õ è Á Õ Å Ñ ¡ ɳÐÍ‹ Ò §äà ¤Ø ³ ÁÕ ¤ ÇÒÁÊØ ¢ àÁ× è Í ÍÂÙ ‹ ã ¹ºŒ Ò ¹Áҡᤋ ä ˹
1
2
3
4
ในวัยกลางคนหลายคนมีครอบครัวและมีบ้านของตนเองแล้ว บาง คนกําลังวางแผนสร้างบ้านหลังแรก บ้านไม่ว่าจะหลังเล็กหรือใหญ่ หรูหราหรือ เรียบง่ายแค่ไหนไม่สําคัญเท่ากับบ้านหลังนั้นให้ความอบอุ่นและความปลอดภัย แก่สมาชิกทุกคนในครอบครัวได้หรือเปล่า บ้ า นที่ ดี ค วรออกแบบทั้ ง ภายในและบริ เ วณรอบบ้ า นให้ มี ค วาม ปลอดภัย รวมถึงอํานวยความสะดวกให้กับสมาชิกทุกเพศทุกวัย ตามหลักที่ เรียกว่า “การออกแบบเพื่อคนทั้งมวล” (Universal Design Home) เพื่อตอบ โจทย์ความหลากหลายของทุกคนในครอบครัว ซึ่งมีหัวใจสําคัญอยู่ที่ “ความ สะดวก ปลอดภัย เป็นธรรม ทั่วถึง และเท่าเทียม”
5
6
7
ในวัยกลางคนหลายคนมีครอบครัวและมีบ้านของตนเองแล้ว บาง คนกําลังวางแผนสร้างบ้านหลังแรก บ้านไม่ว่าจะหลังเล็กหรือใหญ่ หรูหราหรือ เรียบง่ายแค่ไหนไม่สําคัญเท่ากับบ้านหลังนั้นให้ความอบอุ่นและความปลอดภัย แก่สมาชิกทุกคนในครอบครัวได้หรือเปล่า บ้ า นที่ ดี ค วรออกแบบทั้ ง ภายในและบริ เ วณรอบบ้ า นให้ มี ค วาม ปลอดภัย รวมถึงอํานวยความสะดวกให้กับสมาชิกทุกเพศทุกวัย ตามหลักที่ เรียกว่า “การออกแบบเพื่อคนทั้งมวล” (Universal Design Home) เพื่อตอบ โจทย์ความหลากหลายของทุกคนในครอบครัว ซึ่งมีหัวใจสําคัญอยู่ที่ “ความ สะดวก ปลอดภัย เป็นธรรม ทั่วถึง และ เท่าเทียม”
8
ในวัยกลางคนจนถึงวัยผู้สูงอายุร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงหลาย ด้าน เช่น ส่วนสูง - น้ําหนักลดลง ตามองเห็นไม่ชัดเจน หูได้ยินแย่ลง จมูก ได้กลิ่นลดลง กระดูกเสื่อม กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง ขาดความคล่องตัวในการเดิน การรับรู้ของสมองและระบบประสาทสัมผัสช้าลง เป็นต้น หากบ้านที่คุณอยู่ อาศัยไม่ปลอดภัยหรือจัดสภาพแวดล้อมไม่สอดคล้องกับการดําเนินชีวิต อาจ ทําให้เกิดอุบัติเหตุได้ หลังเกิดอุบัติเหตุทําให้เกิดอาการบาดเจ็บตั้งแต่ระดับเล็กๆ น้อยๆ เช่น มีบาดแผล - ปวดบวม ไปถึงอาการรุนแรงในกรณีหกล้มกระดูกหัก พิการ เป็นอัมพฤกษ์ซึ่งต้องใช้เวลามากในการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจให้กลับมาเหมือน เดิม จากที่กล่าวมาคุณคงเริ่มเห็นความสําคัญของการมีบ้านที่ปลอดภัย สําหรับตัวคุณเองในวัยสูงอายุบ้างแล้ว จินตนาการถึงตัวคุณเมื่อคุณอายุ 60 ปี ตอนนั้นคุณเกษียณอายุและไม่ต้องทํางานแล้ว คุณเห็นภาพตนเองอาศัย อยู่ในบ้านที่มีลักษณะอย่างไร บ้านมีกี่ชั้น ห้อง ห้องโปรดของคุณมีลักษณะ อย่างไร คุณอยู่ในบ้านกับใคร คุณมีความสุขเมื่ออยู่ในบ้านมากแค่ไหน คุณ ทําอะไรในบ้านบ้าง ให้เวลากับความสุขในจินตนาการสักพักจากนั้นบรรยาย ภาพที่คุณเห็นเป็นรูปวาด วาดภาพทุกรายละเอียด ระบายสีให้เหมือนกับที่คุณ จินตนาการไว้หากพื้นที่ไม่เพียงพอ คุณจะวาดลงกระดาษหรือสมุดเล่มใหม่ก็ได้
9
ทุกวันนี้คุณมีที่พักอาศัยในรูปแบบใด มีสมาชิกในบ้านกี่คน แม้ว่าตอนนี้ สมาชิกในบ้านอาจมีแค่ตัวคุณ หรือคุณกับคู่ชีวิต ไม่มีลูก ไม่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย แต่อย่าลืมว่าอีกไม่นานนัก ตัวคุณเองก็จะกลายเป็นผู้สูงอายุ ดังนั้นเมื่อคิดจะสร้าง บ้านสักหลัง ซื้อบ้านหลังใหม่ หรือปรับปรุงบ้านหลังเดิม คุณควรคํานึงถึงความปลอด ภัยเป็นสําคัญ สําหรับผู้ที่ซื้อบ้านของโครงการอาจขอเจรจากับเจ้าของโครงการเพื่อขอ ปรับเปลี่ยน แบบได้แม้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่ในระยะยาวแล้วถือว่าคุ้มค่าดีกว่าการ ปรับปรุงในภายหลัง เนื่องจากการทุบรื้อหรือก่อสร้างเพิ่มเติมอาจต้องปรับเปลี่ยน โครงสร้างบ้านใหม่ และมีค่าใช้จ่ายสูง ส่วนผู้ที่มีบ้านอยู่แล้วและต้องการปรับปรุงบ้าน สามารถวางแผนการ ปรับปรุงเป็นระยะ พิจารณาว่าจุดไหนของบ้านที่เป็นจุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด ให้ เลือกทําจุดนั้นก่อน จุดไหนปรับปรุงแก้ไขไม่ได้เพราะกระทบต่อโครงสร้างอาคาร ให้ ติดอุปกรณ์ป้องกันอันตรายแทน เช่น แถบเรืองแสง แถบเตือนพื้นต่างระดับ ป้ายหรือ สัญลักษณ์เตือน ฯลฯ
10
• ทางเข้าบ้านควรมีระดับเดียวกับพื้นภายนอก - พื้นทางเดินเรียบสม่ําเสมอ ทําจาก วัสดุที่ไม่ลื่นเมื่อเปียก - หากพื้นมีความต่างระดับกันเกิน 2 เซนติเมตร ควรทํา • ทางลาดระหว่างพื้นที่ต่างระดับ • ไม่มีสิ่งกีดขวางตามทางเดิน เช่น กิ่งไม้ กระถางต้นไม้ สายไฟ เป็นต้น • มีแสงสว่างรอบบ้านและตามทางเดินเพียงพอ • ระยะห่างระหว่างภายในบ้านมาที่รั้วบ้าน อยู่ในระยะที่เดินได้ง่าย รั้วบ้านควรโปร่ง มองเห็นภายนอกบ้าน • มีบริเวณบ้านสําหรับทําสวน เลี้ยงสัตว์ และทํากิจกรรมเบาๆ ได้ • ปลูกพืชพันธุ์เป็นไม้ดอกและไม้หอม หลีกเลี่ยงการปลูกต้นไม้ใหญ่ ไม้ผล ไม้มีหนาม ไม้มียาง • ประตูหน้าบ้านกว้าง 90-150 เซนติเมตร • ไม่ติดตั้งอุปกรณ์บังคับประตูเปิด-ปิดเอง (โช็คอัพ) • มีระบบตัดไฟช็อตและไฟฉุกเฉิน 11
•พื้นราบเรียบสม่ําเสมอ •พื้นที่สําหรับจอดรถยาวอย่างน้อย 600 เซนติเมตร กว้างอย่างน้อย 240 เซนติเมตร •จัดให้มีพื้นที่ว่างด้านข้างระหว่างประตูรถยนต์ด้านหลังกับอาคารที่พักอาศ กว้างไม่น้อยกว่า 100 เซนติเมตร เพื่อความสะดวกในการขนย้ายเก้าอี้ ล้อ ประตูรถยนต์ด้านหลังควรอยู่ใกล้กับทางเข้า-ออกอาคารที่พักอาศัย
•มีความกว้างไม่น้อยกว่า 150 เซนติเมตร •มีชานพักทุกระยะในแนวดิ่งไม่เกิน 200 เซนติเมตร •มีราวบันไดทั้งสองข้าง เส้นผ่านศูนย์กลางราวจับ 3-4 เซนติเมตร ติดตั้งสูง จากพื้น 80-90 เซนติเมตร ลูกตั้งสูงไม่เกิน 13 เซนติเมตร ห้ามเปิดเป็นช่อง โล่ง และ ลูกนอนกว้างไม่น้อยกว่า 27 เซนติเมตร ลูกตั้งสูงไม่เกิน 13 เซนติเมตร ลูกนอนกว้าง ไม่น้อยกว่า 27 เซนติเมตร
12
• ไม่มีสิ่งกีดขวางหรือเฟอร์นิเจอร์กีดขวาง 6 มีพื้นที่ทํากิจกรรมต่างๆ กิจกรรม นันทนาการและบันเทิง จัดเฟอร์นิเจอร์ท ส่งเสริมให้มีการปฏิสัมพันธ์กันได้ 6 ระดับหน้าต่างสูงจากพื้น 50 เซนติเมตร มองเห็น ทิวทัศน์ภายนอกได้ • ในห้องนั่งเล่นมีแสงสว่างเพียงพอ มีการระบายอากาศที่ดี • พื้นห้องใช้สีสว่าง นุ่มและบํารุงรักษาง่าย ส่วนใช้สอยต่างกันควรเลือกใช้สี ตัดกันหรือแตกต่างกัน เช่น พื้นทางเดิน พื้นต่างระดับ พื้นห้องน้ำ� เป็นต้น 13
• ระดับหน้าต่างสูงจากพื้น 50 เซนติเมตร และมองเห็นทิวทัศน์ภายนอก • เตียงนอนควรมีความยาวไม่น้อยกว่า 180 เซนติเมตร กว้าง 60 เซนติเมตร ความสูงจากพื้นถึงขอบฟุกด้านบน 40 เซนติเมตร (สูงเท่าระดับพื้นถึงข้อพับเขา ขณะนั่งบนเตียงควรวางเท้าบนพื้นได้เต็มฝ่าเท้า) ตําแหน่งเตียงนอนควรอยู่ไกล ห้องน้ํา ไม่อยู่ในมุมอับ และเดินไปถึงได้สะดวกในความมืด • มีพื้นที่ว่างรอบเตียง 3 ด้าน กว้างอย่างน้อย 90 เซนติเมตร 14
• ติดตั้งราวจับบริเวณหัวเตียง เพื่อช่วยในการพยุงตัว • ที่หัวเตียงควรมีโทรศัพท์ พร้อมหมายเลขโทรศัพท์สําคัญไว้ขอความช่วยเหลือได้ และมีสัญญาณฉุกเฉินสําหรับเรียกขอความช่วยเหลือ • ใช้พื้นที่ว่างใต้เตียง เพื่อเก็บภาชนะบรรจุน้ำ�หรือยาประจําตัว รวมทั้งเก็บอุปกรณ์ ต่างๆ ที่จําเป็น • ในห้องนอนมีแสงสว่างเพียงพอ มีการระบายอากาศที่ดี มีสวิทซ์เปิด-ปิดไฟ ได้สอง ทาง ทั้งจุดก่อนเข้าห้องนอนและสุดมุมของห้องอีกด้าน สวิทซ์ไฟ มีแสงตอนปิด (เรือง แสง) ผู้สูงอายุเอื้อมมือเปิด-ปิดสวิทซ์ไฟได้จากเตียงนอน ได้สะดวกพื้นห้องใช้สีสว่าง นุ่มและบํารุงรักษาง่าย • เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องนอนต้องสะดวกต่อการใช้งาน 15
• โต๊ะกินข้างควรติดแผ่นกันกระแทกหรือเลือกใช้แบบไม่มีเหลี่ยมมุม ระดับสูงจากพื้น 80เซนติเมตร • ความกว้างสําหรับนั่งกินอาหาร 60 เซนติเมตรต่อ 1 คน • เลือกใช้เก้าอี้แบบมีพนักแขนและหลัง สูงจากพื้น 40 เซนติเมตร • ความสูงของเคาน์เตอร์ครัว 80 เซนติเมตร พื้นเรียบสม่ําเสมอตลอดเคาน์เตอร์ ระยะห่างระหว่างเคาน์เตอร์กับสิ่งต่างๆ 1 เมตร • เตา ตู้เย็น และลิ้นชักในครัวไม่ควรอยู่ในมุม • ทิ้งและตู้ต่างๆ อยู่ในระดับความสูง 150-168 เซนติเมตร • เตาแก๊ส หรือเตาไฟฟ้า ควรมีปุ่มเปิด-ปิดทางด้านหน้า มีระบบจุดติดไฟแบบ อัตโนมัติ แทนการจุดด้วยไฟแช็คหรือไม้ขีดไฟ และตรวจสอบอุปกรณ์ที่ใช้ แก๊สทุก ชนิดเพื่อป้องกันการรั่วหรือระเบิด • มีแสงสว่างจากธรรมชาติและไฟส่องสว่างเฉพาะจุด • ปลั้กไฟบริเวณเคาน์เตอร์สูง 90 เซนติเมตรจากพื้น
16
• ภายในบ้านควรติดตั้งระบบตัดไฟฉุกเฉิน และติดตั้งสายดินเพื่อป้องกัน อันตรายจากไฟฟ้ารั่ว ตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดที่ใช้ประจํา เช่น สายไฟ ปลั้กไฟ กระติกน้ําร้อน ไมโครเวฟ ให้อยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งาน • ไม่วางสายไฟบนพื้นบ้าน ถอดปลักกาต้มน้ําทุกครั้งก่อนเติมน้ําหรือรินน้ําไม่ สัมผัสเครื่องใช้ไฟฟ้า สวิทซ์ไฟ และปลั้กไฟขณะมือเปียก ถอดปลั้กไฟทุกครั้งหลัง ใช้งาน • สวิทซ์ไฟเข้าถึงง่าย มีขนาดใหญ่ ใช้งานง่าย มองเห็นได้ในเวลากลางคืน (เรือง แสง) อยู่สูงจากพื้นไม่เกิน 1.20 เมตร ปล็กไฟแบบที่ต่อกับสายดิน มีสวิตซ์ตัดไฟ เมื่อไม่ใช้งาน เข้าถึงง่าย สูงจาก พื้นไม่เกิน 90 เซนติเมตร
17
18
19
เริ่มจากการ“สํารวจความเสียหายของทรัพย์สินทั้งหมด” ไม่ว่า จะเป็น บ้าน รถ เฟอร์นิเจอร์ รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ในบ้านที่เสียหาย เพื่อ ดูว่ามีรายการใดบ้างที่ยังใช้ได้อยู่ รายการใดที่สามารถซ่อมแซมให้กลับมาใช้ การใหม่ได้และรายการใดที่ต้องทําการซื้อใหม่ มาทดแทน
รถยนต์
บ้าน
เฟอร์นิเจอร์
เครื่องใช้ในบ้าน
20
คําถามที่ตามมาก็คือ “แล้วต้องใช้เงินเท่าไหร่” ทรัพย์สินอันเป็น ที่รักทั้งหมดของคุณจึงจะกลับมาใช้การได้เหมือนเดิม ซึ่งก็คงต้องอาศัย “การประเมินความเสียหายและประมาณการค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม” มา ช่วยให้คําตอบ ซึ่งความเสียหายของแต่ละคนไม่เท่ากัน และนั่นก็จะทําให้ “จํานวนเงิน” ที่ต้องใช้เพื่อฟื้นฟูซ่อมแซมไม่เท่ากันตามไปด้วย นอกจากนี้ อ ย่ า ลื ม ที่ จ ะตรวจสอบการทํ า ประกั น ภั ย บ้ า นและ Sถยนต์ว่าได้ทําไว้หรือไม่? ถ้าทําไว้ครอบคลุมความเสียหายไหม? เพื่อจะได้ ทราบว่าคุณต้องจ่ายเงินเพื่อจัดการความเสียหายทั้งหมดเองหรือมีบริษัท ประกันภัยมารับผิดชอบแทนคุณโดยจะได้รับความคุ้มครองจากประกันภัย หลักที่ทําไว้ สําหรับรถยนต์นั้นจะได้รับความคุ้มครองความเสียหายจากน้ํา ท่วมเฉพาะ “ประกันภัยรถยนต์กรมธรรม์ประเภท 1. หรือประกันชั้น 1” ไม่ ว่าจะเป็นประกันชั้น 1 ปกติ หรือประกันชั้น 1 แบบประหยัดที่มีค่ารับผิดส่วน แรกส่วนประกันประเภทอื่นๆ จะไม่ได้รับความคุ้มครอง
21
ก่อนที่จะกลับเข้าบ้านเพื่อประเมินความเสียหายและเริ่มฟื้นฟูบูรณะ บ้านให้กลับคืนดังเดิม คุณควรคํานึงถึงความปลอดภัยของตัวคุณเองโดยการ “สวมอุปกรณ์ป้องกันต่างๆ เช่น รองเท้าบู๊ต ถุงมือยาง ผ้าปิดปาก ฯลฯ เพื่อ ป้องกันอันตรายจากไฟดูด เชื้อโรค รวมไปถึง ป้องกันเศษแก้ว ตะปู และของมี คมต่างๆ ในบ้าน
22
เตรียมปากกา กระดาษ กล้องถ่ายรูป ไฟฉาย และอุกรณ์ช่างต่างๆ เช่น ไขควง ตลับเมตร เพื่อจดบันทึกความเสียหายต่างๆ ภายในบ้านด้วย
กระดาษ กล้องถ่ายรูป
ปากกา ตลับเมตร
ไขควง 23
สํ า หรั บ ท่ า นใดที่ ก่ อ นน้ํ า จะท่ ว มบ้ า นได้ มี ก ารป้ อ งกั น บ้ า นด้ ว ยวิ ธี ต่างๆ รวมถึงยกเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ขึ้นที่สูงไว้เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วย เพราะบ้านของท่านคงจะเสียหายไม่มากนัก แต่ หากเตรียมการใดๆ ไม่ทันเลยล่ะก็เห็นทีงานนี้น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่น้อยเลยที เดียว เพราะน้ําจะสร้างความเสียหายไปทั่วทุกส่วนของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นกําแพง รั้ว สนามหญ้าหน้าบ้าน ประตู พื้น ผนัง หน้าต่าง เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง บ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ หากหนักหน่อยก็อาจจะเสียหายไปถึงโครงสร้าง ของบ้าน ระบบไฟฟ้า และระบบประปา ซึ่งค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้านจะแตก ต่างกันตามประเภทของงาน รวมถึงวัสดุที่เลือกใช้ และฝีมือของผู้รับเหมา
24
น้ําท่วม 0.30-0.50 เมตร 0.50-0.80 เมตร 0.80-1.00 เมตร 1.00-2.00 เมตร
การซ่อมแซม พื้น, สี (ภายในชั้นล่าง), ประตู, สนามหญ้า พื้น, สี (ภายใน-ภายนอก ชั้นล่าง), ประตู, สนามหญ้า, สวิตซ์ไฟ พื้น, สี (ภายใน-ภายนอก ชั้นล่าง), ประตู, หน้าต่าง, สนามหญ้า, สวิตช์ไฟ พื้น, สี (ภายใน-ภายนอก ชั้นล่าง), ประตู, หน้าต่าง, สนามหญ้า, สวิตช์ไฟ
ค่าใช้จ่าย 30,000-110,000 บาท 40,000-130,000 บาท 60,000-140,000 บาท 65,000-145,000 บาท
ตัวอย่างเช่น บ้านที่มีพื้นที่ใช้สอย 50 ตารางเมตร ถูกน้ําท่วมสูงประมาณ 70 เซนติเมตร และโครงสร้างบ้านไม่ได้เกิดความเสียหายจะมีค่าใช้จ่ายใน การ ซ่อมแซมบ้านประมาณ 40,000-130,000 บาท และหากเลือกใช้บริการ ทําความสะอาดบ้านจากมืออาชีพก็จะมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 5,000-10,000 บาท
25
ในการประเมินความเสียหายของรถนั้น คุณอาจไม่สามารถประเมินได้ ด้วยตนเอง ต้องให้ศูนย์บริการของรถยี่ห้อนั้นๆ หรืออู่ซ่อมรถที่มีช่างผู้เชี่ยวชาญ เป็นผู้ประเมินให้ สิ่งที่คุณทําได้คือก่อนที่จะส่งรถสู่มือช่าง คุณควร “ถ่ายรูปรถ” ให้ชัดเจนทุกมุมทั้งตัวถัง ภายในห้องโดยสาร และในห้องเครื่องยนต์ หรือหากไม่ สามารถถ่ายรูปได้ก็ให้ “ทําสัญลักษณ์แสดงระดับน้ํา” ไว้ที่ตัวถังรถ เพื่อให้ช่าง ทราบว่ารถของคุณจมน้ําอยู่ในระดับไหน ที่สําคัญอย่าสตาร์ทเครื่องโดยเด็ดขาด เพราะอาจทําให้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ของรถ เกิดการช็อต หรือลัดวงจรเสีย หายได้
26
หลั ง จากถ่ า ยรู ป หรื อ ทํ า สั ญ ลั ก ษณ์ เ รี ย บร้ อ ยแล้ ว ให้ เ ปิ ด ฝากระ โปรงรถ เพื่อ “ปลดขั้วแบตเตอรี่” ออกโดยจะปลดขั้วใคขั้วหนึ่งหรือปลดทั้ง สองขั้วก็ได้ จากนั้นจึง “ส่งรถสู่มือช่างผู้ชํานาญ” เพื่อรับการซ่อมโดยใช้ บริการรถยก
สําหรับความเสียหายและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมรถจะขึ้นอยู่ กับระดับน้ํา ที่ท่วม รวมถึงยี่ห้อ รุ่น สภาพอายุ และระยะเวลาที่รถจมอยู่ใน น้ํา การสํารวจความเสียหายจึงจําเป็นต้องตรวจเช็กก่อนว่าน้ําท่วมรถสูงถึง ระดับใด เพื่อให้สามารถระบุได้ว่ามีอุปกรณ์ใดบ้างที่จะต้องทําการตรวจสอบ สภาพการใช้งาน
27
ความเสียหายที่เกิดขึ้นครั้งนี้อาจมีหลายส่วนทั้ง บ้าน รถ เฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้อีกมากมาย บางท่านโชคดีมีเงินออมเพียงพอที่จะจัดการกับ ความเสียหายได้หมดทุกอย่าง แต่ถ้างบประมาณของคุณมีจํากัด แล้วล่ะก็การ จัดลําดับความสําคัญในการซ่อมแซมทรัพย์สินดูจะมีความสําคัญไม่น้อยเลยที เดียว
รถยนต์
บ้าน
เฟอร์นิเจอร์
เครื่องใช้ในบ้าน
28
ดังนั้น คุณจึงควร “จัดกลุ่มค่าใช้จ่าย” และรวบรวมค่าใช้จ่ายใน แต่ละกลุ่มก่อนเริ่มต้นจัดการความเสียหาย เพื่อที่คุณจะได้จัดสรรเงินที่มีอยู่ได้ อย่างเหมาะสม หากเงินของคุณมีจํากัดก็จะได้ตัดรายการที่ไม่จําเป็นและไม่เร่ง ด่วนออกไปก่อน มีเงินเมื่อไหร่ค่อยมาว่ากัน โดยคุณอาจแบ่งค่าใช้จ่ายออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ รายการที่จําเป็นและเร่งด่วน เป็นสิ่งที่จะทําให้บ้านของคุณสามารถ กลับเข้ามาอยู่อาศัยได้เหมือนเดิมอย่างปลอดภัย เช่น การทําความสะอาดบ้าน หลังน้ําลด การซ่อมแซมฐานราก โครงสร้าง และตัวบ้าน การตรวจสอบและ ซ่อมแซมระบบไฟฟ้าและประปาให้ปลอดภัยต่อการใช้งาน รายการที่จําเป็นแต่ไม่เร่งด่วน เป็นสิ่งที่จะช่วยอํานวยความสะดวก ใน ชีวิตประจําวันต่างๆ เช่น การซ่อมแซมและซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ การซ่อม รถยนต์ การปลูกและฟื้นฟูต้นไม้และสวนบริเวณบ้าน รวมถึงการปรับปรุงบ้าน เพื่อป้องกัน น้ําท่วม รายการที่ไม่จําเป็นและไม่เร่งด่วน เป็นสิ่งที่ไม่จําเป็นสําหรับการใช้ ชีวิตประจําวัน เช่น ของตกแต่งบ้าน ฯลฯ คุณจึงควรจัดสรรเงินไปใช้จัดการกับ สิ่งที่จําเป็นต่อการใช้ชีวิตประจําวันก่อน
29
ถือเป็นเรื่องใหญ่และต้องใช้เงินไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น ฐานรากและโครงสร้างของบ้าน เช่น การขัดสนิมออกจากเหล็กภายใน โครงสร้างของบ้าน รวมไปถึงการซ่อมแซมองค์ประกอบภายในบ้านอื่นๆ เช่น การปูพื้นใหม่ การขัดลอกและทาสีผนังใหม่ หรือติดวอลล์เปเปอร์ การ ซ่อมแซมประตูและ , หน้าต่างที่ชํารุด
ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้าภายในบ้าน ปลักไฟ สวิทช์ไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น ตู้เย็น โทรทัศน์ เครื่องปั้มน้ํา ฯลฯ นับ เป็นเรื่องสําคัญลําดับต้นๆ ของการซ่อมแซมเลยก็ว่าได้ เพราะหากไม่ตรวจ สอบความพร้อมและซ่อมแซมให้ปลอดภัย ต่อการใช้งานแล้วล่ะก็อาจก่อให้เกิด “ไฟดูค” และ “อัคคีภัย” ตามมาต่อจาก “อุทกภัย” ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นแทนที่คุณ จะได้รับการ ปฐมพยาบาลทางการเงิน ก็อาจจะเข้าขั้น - “พิการซ้ําซ้อน” กัน เลยทีเดียว 30
จัดเป็นสิ่งที่มีความสําคัญรองลงมาจากการซ่อมแซมโครงสร้าง ตัวบ้าน และ ระบบไฟฟ้า เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยอํานวย ความสะดวกในการใช้ชี วิตประจําวันของคุณ เช่น เฟอร์นิเจอร์ Built-in โซฟา ตู้เก็บของ โต๊ะ เก้าอี้ ควรตรวจสอบสภาพว่ายังสามารถ ใช้งานได้หรือไม่ รวมถึงประเมินค่าใช้จ่าย ในการซ่อมแซม เพราะหากค่าใช้จ่ายสูงเกินไป ควรนําไปขายเพื่อให้ได้เงินไปซื้อ ของใหม่น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
กรณีที่คุณไม่ได้ทําประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 และต้องจ่ายเงิน ซ่อมแซมเอง หากน้ําท่วมไม่มากแค่ถึงระดับพรมหรือเบาะนั่ง การซ่อมน่าจะ เป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะค่าเสียหายแค่ประมาณหลักพันถึงหลักหมื่น ต้นๆ แต่ถ้าน้ําท่วมจนถึงระดับคอนโซลหรือมิคหลังคานั้น ค่าซ่อมจะสูงมาก เป็นหลักแสน - ควรพิจารณาขายเพื่อนําเงินมาคาวน์และผ่อนรถยนต์คัน ใหม่ๆ 31
เมื่อน้ําท่วมขังนานๆ อาจทําให้ต้นไม้ที่รัก ของคุณตาย โดยเฉพาะ ต้นไม้ขนาดเล็กและ ต้นหญ้า ซึ่งไม่สามารถฟื้นฟูได้ และคงต้องเริ่ม ปลูกกัน ใหม่ ในขณะที่ต้นไม้ใหญ่ก็อาจอ่อนแอ ใกล้ตาย วิธีแก้ก็คือ คุณต้องรีบจัดกา รน้ําที่ขังอยู่ : บริเวณรากไม้ รวมทั้งหมั่นตรวจสอบและฟื้นฟู สภาพของดิน เพื่อให้ต้นไม้แสนรักกลับมา แข็งแรงดังเดิม
จากบทเรียนครั้งนี้ หลายคนคงคิดถึงวิธีการที่จะต่อเติมเสริมแต่ง ให้บ้านของคุณ แข็งแรงสามารถป้องกันภัยน้ําท่วมที่อาจเกิด ขึ้นอีกในอนาคต ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีถือคติที่ว่า “กันไว้ดีกว่าแก้” แต่ค่าใช้จ่ายส่วนนี้นับว่ามาก พอควร ไม่ว่าจะเป็นการยกพื้นบ้านให้สูงกว่าระดับพื้นถนน การเปลี่ยนรั้ว บ้าน การแยกวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน หรือการปรับเปลี่ยนตําแหน่งปลักไฟให้ สูงขึ้นพ้นน้ํา ซึ่งในช่วงที่น้ําลดใหม่ๆ ราคาวัสดุก่อสร้างจะเพิ่มสูงขึ้น แถมยังหา ผู้รับเหมาที่ชํานาญในเรื่องนั้นจริงๆ ได้ยากในช่วงนี้ หากรอไปอีกหน่อยก็คงไม่ เป็นไร แต่ถ้าคุณใจร้อนและเงินของคุณเหลือพอจะทําทันทีก็คงไม่ว่ากัน 32
33
34
“¤Ø ³ ¤‹ Ò ·Õ è á ·Œ ¨ ÃÔ § ¢Í§ºŒ Ò ¹ ÁÒ¨Ò¡¡Òõͺ⨷ ¡ ÒÃ㪌 ª Õ Ç Ô µ ¢Í§àÃÒã¹·Ø ¡ ´Œ Ò ¹ àËÁÒÐÊÁ·Ñ é § ·Ò§¡ÒÂáÅÐ㨔
ราคา 180 บาท