ISSUE 02 DECEMBER 2012
News Update ............................................ 6 Hot Pick of Month .................................. 14
14 FRM TEAM
Executive Editor : Editorial : Special Guest : Graphic Design : Photographer :
Nopdon Phaengphet นพดล แผงเพชร Kampol Gaensuwan กัมพล แก่นสุวรรณ์ Komz Giggs Mr. Black
Hayate 125 ออโตเมติกท๊อปคลาสจากซูซูกิ Hot Pick of Month .................................20 คาวาซากิ ER-6n เนกไบค์กล้ามโตตัวแรง Talk About ...............................................26 ฉลองชัย “แชมป์ออลเจแปน” คนแรกของไทย The Journey : 5 Mountains Tour .......30 ภาคต่อของการขี่ตะลุย 5 ขุนเขาในมาเลเซีย Around The World ................................. 35 เที่ยว “มิลานมอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 70 TechKnow ................................................ 40 เจาะลึกเทคโนโลยี YMJET_FI & DiASil Rider's Heaven ....................................... 42 Panda Rider แหล่งช้อปมูลค่ากว่า 20 ล้านของชาว 2 ล้อ Cool Gadgets .......................................... 44 แก็ดเจ็ตแปลกๆ ใหม่ๆ Motosports Report................................ 46 บทสรุปของศึกชิงแชมป์โลก 2012 Bonus Track............................................. 49 เก็บตกบรรยากาศ MotoGP สนามเซปัง Inter News ...............................................50 ข่าวสารจากต่างแดน Upcoming.................................................52 รถรุ่นใหม่ ที่ใกล้จะมาถึง FRM Advice ............................................. 53 เทคนิคเจ๋งๆ จากแชมป์ Bonanza International Speedway ..... 54 ความมันส์สุดเร้าใจ...ท่ามกลางธรรมชาติ
Nicky PH & Franco Angeloni VEDETT /////
Komkrit Sakulvilailerd คมกริช สกุลวิไลเลิศ FRM Team
บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา : นพดล แผงเพชร โรงพิมพ์/เพลท : เอส.ออฟเซ็ทกราฟฟิคดีไซน์ จัดจ�าหน่าย : บริษัท ส�านักพิมพ์ นุชนารถ จ�ากัด ส�านักงาน ฟอร์ไรด์แมกกาซีน : 12/76 ซอยนาคนิวาส 59 ถนนนาคนิวาส แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230 โทร. 0-2932-8716, 08-9499-1927
35
20
Message From EDITOR
นพดล แผงเพชร
บรรณาธิการบริหาร nnaiae@gmail.com
facebook.com/FRMfans
ทั้ง 2 รุ่นนี้อยู่ อีกทั้งยังมีเรื่องราวของงาน EICMA หรือ มิลานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 70 ที่ทีมงาน FRM ใน ต่างแดนได้น�ามาเล่าให้ฟังกันแบบสดๆ ร้อนๆ ส่วน ใครที่ติดใจคอลัมน์ The Journey ซึ่งเป็นเรื่องของการ ขี่มอเตอร์ไซค์ลุย 5 ขุนเขาในมาเลย์ ก็ไม่ควรพลาด ภาคต่อโดยเด็ดขาด และร่วมเฉลิมฉลองไปกับทีม “ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรชซิ่งทีม” ที่สร้างประวัติศาสตร์ คว้า “แชมป์ออลเจแปน 2012” มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวต่างๆ อีกมากมายให้ทุกคน ได้อ่านกันอย่างเพลินเพลิดจนวางไม่ลงกันเลยทีเดียว ครับ...รับรองได้!!
e-mail : forridemagazine@gmail.com
ผ่านไปเร็วจริงๆ ส�าหรับช่วงเวลา 1 เดือนที่ ผ่านมา เพราะเรารู้สึกว่าเหมือนพึ่งจะผ่านพ้นช่วง เวลาของการลุยงานอย่างหนักในการปิดต้นฉบับ ของ FRM ฉบับแรกไปได้ไม่นานนัก แต่ช่วงเวลา เพียงแค่แป๊ปเดียวเราก็กลับมานั่งปิดต้นฉบับอย่าง ขมักเขม่นกันอีกครั้ง เพื่อให้ FRM ฉบับที่ 2 ออก ถึงมือผู้อ่านในช่วงต้นเดือนธันวาคมอย่างตรงเวลา นั่นเอง...แต่ถึงแม้ว่ามันจะหนักหรือว่าเวลาจะมีอยู่ มากน้อยเพียงใด ทีมงาน FRM ก็ตั้งใจอย่างเต็ม ที่ ที่จะเก็บเกี่ยวเรื่องราวต่างๆ มาน�าเสนอให้กับผู้ อ่านทุกคนได้เปิดอ่านกันอย่างคุ้มค่ามากที่สุด ให้ สมกับที่ยอมจ่ายเงินมาให้กับนิตยสารเล่มเล็กๆ ฉบับนี้... โดย FRM ฉบับนี้ เราน�ารถมอเตอร์ไซค์ จาก 2 ค่าย ที่ต่างขั้วต่างสไตล์กันแบบสิ้นเชิง อย่าง Hayate 125 ออโตเมติกตัวท๊อปจากซูซูกิ และคาวาซากิ ER-6n โมเดล 2013 มาขับขี่ทดสอบ เพื่อเฟ้นหาข้อมูลมาตอบสนองผู้ที่ก�าลังสนใจรถ
UPDATE
ยามาฮ่า ผนึกก�าลัง ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุดรธานี จัดอบรมขับขี่ปลอดภัยให้กับเยาวชน จ.อุดร >> บริษทั ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จ�ากัด ร่วมกับ บริษทั อุดรเซ่งหลีไถ่มอเตอร์ จ�ากัด ผนึกก�าลังร่วมกับ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุดรธานี ร่วม จัดโครงการ “ขับขี่ปลอดภัยเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินนี ารถ” จัดขึน้ เนือ่ งในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา เพื่อรณรงค์ให้นักเรียน นักศึกษา และเยาวชน มีความรู้ความ เข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายจราจร เสริมสร้างวินัยในการขับขี่รถจักรยานยนต์ เป็นการป้องกันและช่วยลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นบนท้องถน โดย จัดขึ้นเมื่อ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2555 ณ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุดรธานี งานครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายปกรณ์ สุวรรณพรหมา อธิบดี ผู้พิพากษาภาค 4 เป็นประธานพิธีในการเปิดโครงการฯ โดยครั้งนี้มี นักเรียนนักศึกษาจาก 10 สถาบันการศึกษาในเขต จ.อุดร กว่า 500 คน เข้าร่วมรับการอบรมระเบียบข้อบังคับในการใช้รถใช้ถนน โดยวิทยากรจาก ส�านักงานขนส่งจังหวัดอุดรธานี, การอบรมกฎหมายจราจร โดยวิทยากร จากสถานีตา� รวจภูธรเมืองอุดรธานี และการอบรมภาคปฏิบตั ิ โดยวิทยากร จากสถาบัน YRA บริษทั ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จ�ากัด ซึง่ ผูเ้ ข้ารับการอบรม จะได้รับการปลูกฝังทัศนะคติที่ดีในการใช้รถใช้ถนน และมีใบอนุญาตขับขี่รถ จักรยานยนต์ไปพร้อมกัน นอกจากนีภ้ ายในงานยังมีการปล่อยขบวนรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า จ�านวนกว่า 30 คัน ร่วมขับขี่รณรงค์กิจกรรมครั้งนี้ไปรอบตัวเมืองอุดร และยังมีบริการตรวจเช็คเครื่องยนต์เปลี่ยนถ่ายน�้ามันเครื่องส�าหรับผู้เข้า อบรมที่ใช้รถยามาฮ่าฟรีอีกด้วย 6
For Ride Magazine December 2012
NEWS UPDATE
UPDATE ยามาฮ่า มอบ TTX ให้แฟนคลับทีม ราชบุรีมิตรผล >> นายพงษ์ธรรม ตังคณานุกูลชัย ผู้จัดการส่วนขายภาคกลางตะวันตก บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จ�ากัด (คนที่ 2 จากซ้าย) ให้เกียรติขึ้นมอบรถ จักรยานยนต์ ยามาฮ่า TTX ให้กับผู้โชคดีที่ร่วมสนุกซื้อตั๋วปีเพื่อเข้าชมสโมสร ราชบุรีมิตรผล โดยมี นายธนวัชร์ นิติกาณจนา ผู้จัดการทีมราชบุรีมิตรผล (คนที่ 3 จากซ้าย) นายเกษม สินประสงค์ กรรมการผู้จัดการ หจก.ศรีเมือง มอเตอร์ (คนที่ 2 จากขวา) และ ส.ส. บุญยิ่ง นิติกาญจนา จังหวัดราชบุรี (คนที่ 1 จากขวา) ให้เกียรติขึ้นถ่ายภาพร่วมกัน ณ สนามกีฬากลาง จังหวัด ราชบุรี เมื่อเร็วๆ นี้
มอบยามาฮ่า มีโอ 125 หัวฉีด ให้ผู้โชคดี >> นายวราธร เจนจรัสสกุล ผูจ้ ดั การส่วนสือ่ โฆษณาและประชาสัมพันธ์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จ�ากัด (คนแรกจากขวา) ให้เกียรติขึ้นมอบ รางวัลรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า มีโอ 115 หัวฉีด ให้กับผู้โชคดีในงาน มหกรรมทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่น 2555 “คุ้งบางกะเจ้า เมืองในฝัน ชุมชนน่าอยู่” ณ สวนสุขภาพลัดโพธิ์ อ�าเภอพระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อเร็วๆ นี้
PSY “กังนัม” เยือนไทยในงานลอยกระทง >>
รางวัลนักเจะยอดเยี่ยมปี 2011-2012 >> นางจินตนา อุดมทรัพย์ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จ�ากัด ให้เกียรติขึ้นมอบถ้วยรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม ประจ�าปี ฤดูกาล 2011-2012 ของไทยพรีเมียร์ ลีก ให้กับ ธีรศิลป์ แดงดา ศูนย์หน้าดาวยิงทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด พร้อมเงินรางวัลจ�านวน 20,000 บาท ณ สนามเทพหัสดิน เมื่อเร็วๆ นี้ 8
For Ride Magazine December 2012
นายวราธร เจนจรัสสกุล ผู้จัดการส่วนสื่อและประชาสัมพันธ์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จ�ากัด (คนกลาง) ให้เกียรติร่วมถ่ายภาพในงานแถลงข่าว “Gangnam Style Thailand Extra Live” ปรากฎการณ์ลอยกระทงระดับโลกกับ การปรากฎตัวครั้งแรกในเอเซียของ “PSY” (ไซ) เจ้าของเพลงฮิต “กังนัมสไตล์” ทีม่ าเปิดการแสดงในประเทศไทย โดยมี นายวินจิ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหาร บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จ�ากัด โปรโมเตอร์จัดงานให้เกียรติร่วมถ่ายภาพ ณ พารากอน ฮอลล์ เมื่อเร็วๆ นี้ โดย “Gangnam Style Thailand Extra Live” เป็นการแสดงโชว์ครั้งแรก ในประเทศไทยของศิลปินเกาหลี “PSY” (ไซ) เจ้าของเพลงฮิต “กังนัมสไตล์” ที่เปิด การแสดงในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2555 ณ สนาม SCG Stadium เมืองทองธานี ที่สามารถรองรับผู้ชมได้ถึง 30,000 คน พร้อมการแสดงจากศิลปินรับเชิญ อาทิ จ�าอวดหน้าม่าน น้าโย่ง น้าพวง น้านงค์ จากเวิร์คพอยท์ ดีเจ Sound Cruz และ Eung Joo จากวง 7942 จากประเทศเกาหลีใต้ พร้อมด้วยมหาอ�านาจเพลงแร๊พ ไทยอย่าง โจอีบ้ อย สิงห์เหนือเสือใต้ และดีเจ สไปด้ามังกี้ ทีม่ าสร้างรอยยิม้ และความ สนุกให้กับคนไทยทั้งประเทศในช่วงเทศกาลลอยกระทง โดยมียามาฮ่าเป็นหนึ่งในผู้ สนับสนุนงานครั้งนี้...งานนี้ฟรี ไม่ต้องซื้อบัตร!!
NEWS UPDATE
UPDATE
ZOOMER-X ร่วมงาน Bike Walk สร้างสรรค์แฟชั่นโชว์แนวใหม่ >> Zoomer-X รถจักรยานยนต์หลุดกรอบล่าสุดจากฮอนด้า เจ็บจี๊ดโดนใจคนคิดนอกกรอบเหมือน กันอย่าง Unblocker Club คลับของเหล่าครีเอทีพะนอกกรอบที่รวมตัวกันสร้างสรรค์งานสนุกๆ ใหม่ๆ ไม่ซ�้าใคร โดยที่ Zoomer-X ถูกเลือกให้เป็นพระเอกของงานแฟชั่นแนวใหม่ในกิจกรรม Unblocker Club Project 3 : Bike Walk โดย 10 ศิลปินแหกกฏที่มาครีเอท Zoomer-X ให้ยิ่งโดดเด่นแหกกรอบ อย่างไร้ขีดจ�ากัด ได้แก่ โอ๋ ฟูตอง, จิตสิงห์ สมบุญ, พลอย ชวพร, โอ่ง กงพัฒน์, จีน กษิดิศ, ท็อป พิพัฒน์, วิน-สิงห์ จากวง Sqweez Animal, ศิลปินนักออกแบบ Urface Crew, โจอี้อารยะ และ บีม Lazerface วิชชาติ ตวงทอง
กู๊ด เคพีเอ็น 9 ซิวแชมป์เคพีเอ็น อวอร์ด ครั้งที่ 22 >> นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร (คนที่ 8 จากขวา) และ นางสาวจินตนา อุดมทรัพย์ ผูจ้ ดั การใหญ่ดา้ นการค้า (คนที่ 6 จากขวา) บริษทั ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จ�ากัด ร่วมแสดงความยินดีกับ นายชยพล ปัญหกาญจน์ หรือ “กูด๊ เคพีเอ็น 9” ผูช้ นะเลิศการประกวดนักร้องยอดเยีย่ มแห่งประเทศไทยประจ�า ปี 2555 หรือ เคพีเอ็น อวอร์ด ครั้งที่ 22 โดยมี นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธาน กรรมการบริหาร บริษัท เคพีเอ็น อวอร์ด จ�ากัด (คนที่ 8 จากซ้าย) ให้เกียรติร่วม ถ่ายภาพ ณ แจ้งวัฒนะ ฮอลล์ เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ เมื่อเร็วๆ นี้
YSS ได้รับรางวัลโช้คอัพแห่งปี 2012 >> โช้คอัพ YSS ได้รับการคัดเลือกเป็น “SHOCK ABSORBER OF THE YEAR” ส�าหรับปี 2012 จากนิตยสาร OTOMOTIF ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งได้คัด เลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีเด่นในแต่ละประเภท ซึ่งโช้คอัพ YSS ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้ใน ประเทศอินโดนีเซียว่า เป็นผลิตภัณฑ์ทมี่ คี ณ ุ ภาพและประสิทธิภาพสูงคุม้ ค่ากับราคาทีจ่ า่ ย
ฮอนด้าบิ๊กวิง-เคทีซี จับมือจัดโปรโมชั่นสุดพิเศษ >> ฮอนด้าบิ๊กวิง ผนึก เคทีซี จัดแคมเปญพิเศษ “เคทีซี-ฮอนด้าบิ๊กวิง” เป็นครั้งแรกของวงการบิ๊กไบค์และบัตรเครดิต ที่ได้มอบสิทธิพิเศษในการให้ วงเงินกู้ส�าหรับเช่าซื้อรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ พร้อมผ่อนช�าระแบบลดต้นลด ดอก ให้สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีได้เป็นเจ้าของฮอนด้าบิ๊กไบค์ ทั้ง 5 รุ่นได้สะดวก รวดเร็วกว่าใคร เพียงใช้บัตรเครดิตเคทีซีและบัตรประชาชนในการสมัคร พร้อม รับข้อเสนอด้วยคะแนนสะสม KTC Forever Rewards สูงสุดถึง 100,000 คะแนน และผ่อนช�าระนานสูงสุดถึง 48 เดือน ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2555 10 For Ride Magazine December 2012
NEWS UPDATE
UPDATE Motorcycles Zone เตรียมความพร้อมงาน 2012 Motor Expo >> คุณขวัญชัย ปภัสพงษ์ ประธานจัดงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 หรือ 2012 Motor Expo, คุณ วราทิพย์ เชยศักดิ์ ผูอ้ �านวยการ บริษทั นิตยสารโมโตครอส จ�ากัด ผูป้ ระสานงานพืน้ ที่ Motorcycles Zone ร่วมประชุมและเป็นสักขีพยาน การจับฉลากเพือ่ ก�าหนดวันกิจกรรมของแต่ละค่ายในโซนรถจักรยานยนต์ ภายในงาน 2012 Motor Expo ซึง่ มีคา่ ยรถจักรยานยนต์ถงึ 10 แบรนด์ทรี่ ว่ มจัดแสดงเทคโนโลยียานยนต์ ในงาน ได้แก่ Triumph , Honda , Kawasaki, Keeway, Benelli, GPX Racing, ATV Panther, UDA, Ducati, Suzuki รวมถึงผูผ้ ลิตอุปกรณ์เกีย่ วเนือ่ งอย่าง Racing Boy ส่งตัวแทนเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ส�าหรับ Motorcycle Zone เป็นพื้นที่จัดแสดงของผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ภายในงาน Motor Expo ทีไ่ ด้รบั ความสนใจอย่างมากจากผูร้ ว่ มชมงานและก�าลังได้รบั การตอบรับจากผูผ้ ลิตรถจักรยานยนต์และสินค้า เกีย่ วเนือ่ งแบรนด์ตา่ งๆ เพิม่ ขึน้ อย่างต่อเนือ่ ง โดยจัดขึน้ ระหว่างวันที่ 29 พย.-10 ธค. 2555 ณ อาคาร ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี...ติดตามบรรยากาศของงานได้ใน FRM ฉบับหน้า!!
New Suzuki Shogun Axelo 125 เอาใจ คนรักความแรง!! >> บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จ�ากัด ส่ง New Suzuki Shogun Axelo 125 มาด ใหม่ที่มาพร้อมกับความแรง พรีเมี่ยมดีไซน์ ขับสบายเป็นทีห่ นึง่ เต็มเปีย่ มไปด้วยขุมพลัง 125 ซีซ.ี ให้ความรูส้ กึ ใหม่ในการขับขีท่ กุ เส้น ทาง เหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีหัวฉีด Fi ใหม่ ตอบสนองทุกอัตราเร่งแรงได้ทนั ใจ พร้อม สีใหม่ในสไตล์ทูโทน 3 เฉดความแรงไม่ว่าจะ เป็น สีแดง-ขาว, สีน�้าเงิน-ขาว, สีชมพู-ด�า ในราคาเริ่มต้นเพียง 45,500 บาท...พบ ตัวจริงกับ New Suzuki Shogun Axelo 125 ที่โชว์รูมซูซูกิทั่วประเทศได้แล้วตั้งแต่ วันนี้เป็นต้นไป
ซูซูกิ โหม “เชียร์ไทยสู่แชมป์” ออกเดินสายขอบคุณสื่อมวลชน >> เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จ�ากัด โดย มร.โยชิทะกะ มัทสึบาระ ผู้ช่วยกรรมการผู้ อ�านวยการ และ คุณเลิศศักดิ์ นววิมาน ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด เดินทางไปขอบคุณ สือ่ มวลชนทีช่ ว่ ยประชาสัมพันธ์กจิ กรรม “เชียร์ไทยสูแ่ ชมป์” AFF SUZUKI CUP 2012 ในครัง้ นีไ้ ด้ เดินทางไปพบปะสือ่ มวลชนที่ สถานีโทรทัศน์ โมเดิรน์ ไนน์ ทีว,ี สยามกีฬาทีวี (ทรูวชิ นั่ ส์ 69),ฟุตบอล สยาม ทีวี (ทรูวิชั่นส์ 74), สตาร์ซอคเก้อร์ ทีวี (ทรูวิชั่นส์ 75), นสพ.สยามกีฬารายวัน และ สยาม อินเตอร์มัลติมีเดีย เอสเอ็มเอ็ม ทีวี, เอสเอ็มเอ็ม เรดิโอ พร้อมมอบของที่ระลึกให้กับตัวแทนสื่อ ของแต่ละส�านัก
ฮอนด้าเปิดไลน์ผลิตบิ๊กไบค์ ประเดิม CBR500R รุ่นแรก >> บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จ�ากัด (ไทยฮอนด้า) ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์ เอนกประสงค์ได้จัดพิธีเปิดสายการผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดกลางรุ่น CBR500R และเป็นการเปิด โรงงาน Global Model ใหม่อย่างเป็นทางการหลังจากที่ได้เริ่มการด�าเนินงานมาตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ ผ่านมา แขกผู้มาร่วมเป็นเกียรติในพิธีการนี้ ได้แก่ ผู้แทนจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รวม ทัง้ ตัวแทนจากทางฮอนด้า ได้แก่ นายฮิโรชิ โคบายาชิ กรรมการบริหารฝ่ายปฏิบตั กิ ารประจ�าภูมภิ าคเอเชีย และโอเชียเนีย และ นายทาซึฮิโระ โอยามะ ผู้อ�านวยการฝ่ายปฎิบัติส�าหรับการด�าเนินงานรถจักรยานยนต์ บริษัท ฮอนด้ามอเตอร์ จ�ากัด 12 For Ride Magazine December 2012
NEWS UPDATE
Hot Pick of Month
New
Suzuki
Hayate
125
อัพเกรดความสปอร์ต เท่ตลอดทุกการขับขี่ The Smooth Smith หน้าหาอะไรที่มัน “ฮ็อต” มาสนองความมันส์กับ Hot Pick of Month ซึ่งเดือนนี้ยังคงป้วนเปี้ยนอยู่กับรถ ออโตเมติก...ฉบับส่งท้ายปี 2012 FRM ขออาสาจับรถ New Suzuki Hayate 125 จากค่ายรถเด็กแนวมาลองหวดกันดูบ้าง ว่า สมรรถนะจะจัดจ้านสมค�าร�่าลือที่ว่า “ซูซูกิเครื่องเหนียว ช่วงล่างแน่น” หรือไม่ ที่น่าสนใจก็คือ New Suzuki Hayate 125 อัพเกรดหัวฉีดใหม่พร้อมกระบอกแบบอะลูมิเนียมเคลือบสารเซมิกลิขสิทธิ์เฉพาะของซูซูกิ ใส่เสริมความแรงกันเข้าไปอีก ภายนอก ถูกจับตัดโน่นเฉือนนี่เสริมนั่นให้ดูไฉไลกว่าเก่า พร้อมกราฟฟิกใหม่หมดจดทั้งล�า...มีแต่ของใหม่แบบนี้มันต้องจับทดสอบบนเขาใหญ่!! 14 For Ride Magazine December 2012
For Ride Magazine December 2012 15
Ê SCEM + Fi = Racing Spirit² เราร่นระยะทางการทดสอบโดยการจับ New Suzuki Hayate 125 ขึ้น ใส่ท้ายกระบะ จากนั้นมุ่งหน้าออกจากกรุงเทพฯ เพื่อเริ่มสตาร์ทกันที่ทางขึ้น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่…“แต๊ะ ชึ่ม” เสียงเครื่องยนต์ท�างานทันทีที่ปัดขาตั้ง ขึ้น – ก�าเบรก – กดปุ่มสตาร์ท เป็นธรรมชาติของระบบหัวฉีดที่พร้อมค�านวณ ปริมาณเชื้อเพลิงให้สัมพันธ์กับอุณหภูมิโดยรอบแล้วสั่งการจุดระเบิดภายใน
ครั้งแรกที่กดปุ่ม หลังจากลองคร่อมรถได้ซักพักก็รู้สึกถึงความ กะทัดรัดของตัวรถ แม้จะเป็นรถขนาดเครื่องยนต์ 125 ซีซี ที่มี น�้าหนักตัว 114 กก. แต่ก็รู้สึกได้ถึงความคล่องตัว (นักทดสอบ สูง 189 หนัก 93 กก.) หมดเวลาชมความงามได้เวลา “ซัด” กันจริงๆ ซะที ส�าหรับสมรภูมิเขาใหญ่คงไม่ต้องพูดถึงความชันของถนนบวก กับโค้งที่ออกมาต้อนรับกันให้เพียบ คันเร่งของ New Suzuki Hayate 125 ตอบสนองความ “โหด” ของมือนักทดสอบได้ อย่างรวดเร็ว ระบบหัวฉีดอัจฉริยะตัวใหม่ (Fi) ของ Suzuki นับ ว่าน่าประทับใจ เพราะอากาศรอบๆ ตัวในขณะขับขี่ค่อนข้างเย็น ใน ขณะที่แดดค่อนข้างแรง แต่เครื่องยนต์กลับเดินเรียบไม่แสดงอาการ สะดุด ว่าแล้วก็ลอง “สะบัด” คันเร่งเล่นเป็นระยะก็ยังไม่ออกอาการ รวน...ยอมแพ้ให้ระบบหัวฉีด Fi จริงๆ มีเสียงจากผู้ใช้บางคน กล่าวว่า “Hayate ได้แรงปลาย”….หลังจากผ่านเขามาได้ 4-5 ลูก ส่วนตัวเราก็คิดว่ามันไม่ได้อืดอย่างที่ใครว่ากัน....ทางขึ้นเขา ลาดชันสามารถไต่ท�าความเร็วจาก 0-70 ได้สบายๆ แถมมีแรง บิดส�าหรับเติมคันเร่งในช่วง 60-80 กม./ชม. ช่วยเพิ่มความ ปลอดภัยในจังหวะแซง ความเร็วทางตรงอยู่ที่ราว 90 กม./ชม. ส่วนนักทดสอบหนัก 70 กก. สามารถท�าความเร็วสูงสุดได้ที่ 105-110 กม./ชม. (*ความเร็วสูงสุดขึ้นอยู่กับส่วนสูง/น�้า หนักและลมยางที่แต่ละคนเติม)...หลังจากหวด New Suzuki Hayate 125 ขึ้นลงเขา จนพอใจกับระยะทางกว่า 40 กม. ก็เป็น อันสรุปได้ว่า...New Suzuki Hayate 125 พิชิตเขาใหญ่ได้สบาย โดยเฉพาะก�าลังเครื่องยนต์และแรงบิดเมื่อเจอกับทางลาดชันของ เขาใหญ่ แม้จะไม่ได้จับขึ้นเครื่อง Dyno แต่เราบอกได้ว่าเทคโนโลยี กระบอกสูบ SCEM และหัวฉีด Fi ใหม่ท�างานเข้ากันดีขี่ลื่นไม่มีสะดุด ตลอดการเดินทาง...
16 For Ride Magazine December 2012
SCEM
Ê The Smooth Smith เส้นทางบนเขาใหญ่ไม่ได้มีแค่ถนนวิ่งขึ้น และลง แต่มันยังมีโค้งขึ้นเขา, โค้งลงเขา และที่ แสบที่สุดคือ...“โค้งไม่หมด” หลังจากวอร์ม ยางจนได้ที่กับ New Suzuki Hayate 125 ก็ได้เวลาอัดโค้งกันให้เต็มที่ ก่อนเข้าโค้งต้อง จัดท่านั่งให้ดี (FRM ชอบเข้าโค้งแรงๆ) สังเกต เบาะที่นั่งของ New Suzuki Hayate 125 ถูกปรับปรุงใหม่ให้ใหญ่ขึ้น-สปอร์ตขึ้น โดย เฉพาะบริเวณหัวเบาะ เนื้อเบาะนุ่มก�าลังดีเป็น มิตรกับก้นทุกไซส์ ผิวเบาะไม่ลื่นช่วยเพิ่มความ มั่นใจเมื่อต้องเบรกกะทันหัน การขยับปรับ เปลี่ยนท่านั่งสามารถท�าได้ง่ายสามารถล็อค เข่ากับเบาะส�าหรับสายฮาร์ดคอร์ ในส่วนของ แฮนด์ที่ท�ามุมองศาก�าลังดีไม่เมื่อยเมื่อต้อง ขี่เป็นเวลานานและสามารถปรับเปลี่ยนเป็นท่า หมอบได้โดยไม่รู้สึกฝืน มุมคาสเตอร์ (องศา ในการเลี้ยว) New Suzuki Hayate 125 อยู่ที่ 25 � 45' องศา/ 99 มม. ส่งผลให้รถ มีความคล่องตัวสูง สามารถเลี้ยวได้เร็วปรับ มุมเข้าโค้งได้ไวขึ้น การพลิกรถจากซ้ายไปขวา ในโค้งจึงมีความคล่องตัวและมั่นคงเป็นพิเศษ ก้านเบรกหน้า-หลังให้ฟีลสปอร์ตแต่ อาจต้องท�าความคุ้นเคยกันเล็กน้อยส�าหรับ คนมือใหญ่ ก�าลังแรงเบรกด้านหน้านุ่มก�าลัง ดี เสริมความมั่นใจด้วยเบรกหลังที่พร้อม หยุดรถได้ทันทีที่ต้องการ การแตะเบรกแบบ ฉุกเฉินท�าได้ดีแม้กระทั่งจังหวะเบรกลงเขา (ลิงวิ่งตัดหน้า!) พักเท้าขนาดใหญ่รองรับ ได้แม้กระทั่งรองเท้าเบอร์ 12 พิเศษมีเว้าเล็ก น้อยตรงด้านท้ายของพักเท้าส�าหรับท่ายืน เมื่อจอดติดไฟแดง (แบบเดียวกับรถ Big Scooter ของ Suzuki)...
จากทางขึ้นเขาใหญ่ ถึงทาง ลงเเขาใหญ่ ก็เพียงพอที่จะฟันธงได้ว่า ช่วงล่างของ New Suzuki Hayate 125 “แกร่ง-หนึบ-ดูด” ดีจริงๆ ด้วยความเร็วที่ ใช้เข้าโค้งที่ 80+ กม./ชม. บวกกับน�้าหนัก ของนักทดสอบ...น่าแปลกที่ New Suzuki Hayate 125 ไม่ออกอาการส่ายหรือ “สับ” ของโช้คแต่อย่างใด ไม่ว่าจะโค้งจะโหดแค่ไหน ตัวรถก็ยังคงเกาะถนนและสามารถเติมคันเร่ง ออกจากโค้งได้อย่างมั่นใจ สังเกตโช้คหลังที่ ท�ามุมองศาเอียงเล็กน้อย...นี่แหละเอกลักษณ์ ของ Hayate ที่ท�าให้โช้คท�างานได้เต็มที่ ส่งผลให้ไม่รู้สึกแข็งกระด้าง ส�าหรับใครที่ เคยพา 2 ล้อคู่ใจมาหวดเล่นบนเขาใหญ่คง รู้กันดีว่า เดี๋ยวนี้เค้ามี “เนินพิฆาต” เป็นลูก ระนาดขนาดก�าลังเหมาะเอาไว้ดักสิงห์ 2 ล้อ ขาซิ่งให้ชะลอความเร็วลง...แต่ส�าหรับ New Suzuki Hayate 125 ที่โดนจัดหนักกระแทก ทุกเนินที่มีตลอดเส้นทางบนเขาใหญ่ FRM ขอบอกเลยว่าโช้คหน้าและโช้คหลังคู่ท�างาน ได้ยอดเยี่ยม ดูดซับแรงกระแทกทั้งหมดสม กับเป็นรถออโตเมติกสไตล์สปอร์ต 125 ซีซี ที่ตอบรับสไตล์การขับขี่แบบสปอร์ตของ เรา ความเร็วที่ใช้กระแทกเนินอยู่ที่ 40-60 กม./ชม. ที่ความเร็วต�่าแทบไม่รู้สึกถึงแรงสั่น สะเทือน ส่วนที่ความเร็วสูงก็เหมือนกระโดด ข้ามเนินแต่กลับไม่รู้สึกสะเทือนหรือเมื่อยหลัง ระบบช่วงล่างเจ๋งขนาดนี้ หนึบขนาดนี้...FRM ขอให้สมญานามไว้เลยว่า “The Smooth Smith” ซึ่งแปลว่า “นุ่มแกร่งแรงหนึบ”...นี่ ยังไม่นับล้อแม็กลายสปอร์ตที่นอกจากดูเท่ห์ บาดตาแล้วยังช่วยเพิ่มความมันส์ในการขับขี่ อีกด้วย สรุปแล้วระบบช่วงล่าง-ระบบเบรกการคอนโทรลรถ FRM ให้ผ่านครับ
SCEM หรือ “Suzuki Composite Electrochemical Material” คือกระบอกสูบเคลือบสารพิเศษสูตรเฉพาะ ของซูซูกิ ตัวกระบอกสูบท�าจากอะลูมิเนียมอัลลอย ผสมซิลิกอนเคลือบด้วย SCEM ซึ่งเรียกกันในต่าง ประเทศว่า “Nikasil” (Nickel Phosphorus-SiliconCarbide) เมื่อกระบอกสูบเนื้ออะลูมิเนียมอัลลอยผ่าน กระบวนการเคลือบด้วยเคมี-ไฟฟ้า จึงท�าให้ตัวกระบอก สูบมีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษและลื่นกว่ากระบอกสูบ เหล็กทั่วไป SCEM ได้รับความไว้วางใจถูกใช้ในรถ คลาส 1,000 ซีซี หรือรุ่นใหญ่อย่าง Hayabusa, V-Storm 650 หรือแม้แต่รถแข่งก็มีให้เห็นกัน ล่าสุด เทคโนโลยีนี้ถูกจับมาใส่ใน New Suzuki Hayate 125 ส่งผลให้กระบอกสูบมีน�้าหนักที่เบาขึ้น ระบายความร้อน ได้ดีขึ้น SCEM ช่วยลดแรงเสียดทานเพิ่มความลื่น ของลูกสูบ จึงท�าให้ประหยัดน�้ามันและลดการสึกหรอ ได้ดีกว่ากระบอกสูบเหล็กแบบเก่า...ที่ส�าคัญช่วยยืดอายุ การใช้งานของเครื่องยนต์พาคุณโลดแล่นไปได้ไกลขึ้น และนานขึ้น
For Ride Magazine December 2012 17
Ê SEXY.SPORTY.COMFY สมรรถนะ ที่ยอดเยี่ยมมาพร้อม หน้าตาที่โฉบเฉี่ยวไฉไลกว่าเก่า New Suzuki Hayate 125 ถูกอัพเกรดลุคใหม่ให้ดูดุขึ้น โหดขึ้นสปอร์ตขึ้นอีกขั้นด้วยไฟหน้า 3 ดวง รวมเป็นหนึ่งกับไฟเลี้ยวดึงดูดทุกสายตาให้ ต้องจ้องมองที่ไฟหน้าสุดเฉี่ยวชุดนี้ แฟริ่ง ช่วงหน้าถูกปรับแต่งใหม่ให้ชิดกับบังโคลนหน้า เสริมแอร์โรไดนามิกแถมดูแน่นขึ้นน่าเกรงขาม ขยับขึ้นมาด้านบนกับเรือนไมล์โฉมใหม่จับย้าย เกจ์วัดน�้ามันลงมาอยู่ด้านล่าง (จากด้านข้าง) แบ็คกราวด์หน้าปัดไมล์เปลี่ยนเป็นสีขาวดูเรียบ ง่ายแต่แอบไฮโซแถมมีไฟ Fi ด้านล่างคอยเตือน กรณีเกิดปัญหา สวิตช์แฮนด์ซ้าย-ขวาขนาด ก�าลังดีใช้งานง่าย โดยเฉพาะสวิตช์ไฟสูง-ต�่า อย่างที่บอกไปแล้วว่าเบาะดีไซน์ใหม่เป็นอะไรที่ ถูกใจเรามากโดยเฉพาะความนุ่ม ส่วนบั้นท้าย พร้อมโคมไฟท้ายและไฟเลี้ยวก็ถูกยกเครื่อง ใหม่หมดจด ไฟท้ายดีไซน์เก๋ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนได้อารมณ์เรซซิ่ง ไฟเลี้ยวขยับลงไปด้าน ล่างสังเกตได้ง่ายกว่าโมเดลเก่า รายละเอียด เล็กๆ น้อยๆ อย่างช่องเก็บของด้านหน้าที่ สามารถใส่ขวดน�้าได้สบาย, กุญแจล็อค 2 ชั้น หรือแม้แต่กล่องเก็บของ U-Box ขนาดใหญ่ ล้วนแต่เป็นโบนัสที่ตอบโจทย์ให้คนที่ชอบความ สะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้านหรือหนุ่มออฟ ฟิสที่ต้องการรถออโตเมติกดีไซน์สปอร์ต ส�าหรับเมืองใหญ่... รูปโฉมใหม่ของ New Suzuki Hayate 125 น่าประทับใจและใช้งานได้จริง ที่ เจ๋งที่สุดก็คงจะเป็น “Limited Edition” สี ขาว-น�้าเงิน ซึ่งเป็นสีพิเศษที่ซูซูกิท�าออกมา เอาใจแฟนพันธุ์แท้เท่านั้น...สรุปแล้ว New Suzuki Hayate 125 ที่ถูกพัฒนาทั้ง เครื่องยนต์, หัวฉีด Fi และรูปลักษณ์ภายนอก ใหม่ เป็นอะไรที่น่าลองส�าหรับคนที่ก�าลังมอง หารถออโตเมติก 125 ซีซี อยู่...ต้องลอง ด้วยตัวเองเท่านั้นแล้วจะรู้ว่า New Suzuki Hayate 125 สปอร์ตแค่ไหน!!
18 For Ride Magazine December 2012
FRM : Score Handling Braking Engine
6 / 5 (+1 ความชอบส่วนตัว) 4 / 5 (ก้านเบรกสั้นไปนิดส�าหรับคนมือใหญ่) 5 / 5 (เครื่องยนต์แกร่งแถมมีกรองน�้ามันเครื่อง ด้วย) Technology 4 / 5 (ไฟหน้าติดตลอดเวลาท�าให้เปลือง แบตเตอรี่) Design 5 / 5 (หน้าโฉบเฉี่ยวท้ายดูแปลกตาโดยรวมแน่น ขึ้นทั้งคัน) Price 5 / 5 (ราคาเริ่มต้นที่ 51,000 บาท ถือว่าคุ้มค่า กับสิ่งที่ได้รับ)
Ê Rider’s Comment มว่า New Suzuki Hayate 125 อัพเกรดมาใหม่เจ๋งกว่าเดิม ไม่ว่าจะหน้าตา, เบาะที่ นั่ง หรือเครื่องยนต์และระบบหัวฉีด เครื่องยนต์ 125 ซีซี ให้สมรรถนะที่ค่อนข้างสมตัว เสียง เครื่องยนต์เงียบไม่พบอาการสั่น น่าเสียดายที่ผม เติมลมยางอ่อนไปหน่อยเลยไม่สามารถท�าความ เร็วได้มากนัก แต่นักทดสอบอีกคนที่หนักแค่ 70 กก. สามารถวิ่งได้เร็วถึง 110 กม./ชม. ไฟหน้าที่ ติดตลอดเมื่อเปิดกุญแจเป็นดาบสองคมที่ช่วยให้ สว่างในยามค�่าคืนแต่ก็อาจท�าให้แบตเตอรี่หมดเร็ว ถ้าเผลอบิดกุญแจทิ้งไว้ ก้านเบรกไซส์กะทัดรัดให้
ก�าลังแรงเหนี่ยวเบรกก�าลังดีแต่อาจไม่คล่องตัว เมื่อใส่ถุงมือเรซซิ่ง (ซึ่งคนทั่วไปไม่ใส่กัน) ที่ชอบ ที่สุดของ New Suzuki Hayate 125 คงจะเป็น ช่วงล่างที่นุ่มจนต้องประหลาดใจ ขนาดกระแทก ลูกระนาดยังนุ่มขนาดนี้รับรองว่าไปเจอถนนแย่ กว่านี้ก็สบาย แถมอีกอย่างนึงก็คือการคอนโทรล รถที่ค่อนข้างคล่องตัว เนื่องจากองศาเรคและ ระยะเทรลสั้นท�าให้หน้ารถค่อนข้างไวง่ายต่อการ พลิกซ้าย-ขวาส�าหรับช่วงเข้าหรือต่อโค้ง ทั้งหมด นี้ท�าให้ New Suzuki Hayate 125 เป็นอีกหนึ่ง รถออโตเมติกสไตล์สปอร์ตที่น่าจับตามอง!
For Ride Magazine December 2012 19
Hot Pick of Month
20 For Ride Magazine December 2012
2013
Kawasaki
ER-6n
The Bangkok Street-Fighter จัดรีวิวแบบ Double (คูณสอง) กันไปให้สะใจกับรถปีหน้า 2013 Kawasaki ER-6n รถ Street-Fighter Naked* กล้ามโตที่ถือก�าเนิดมา พร้อมคอนเซ็ปต์ “Fun.Style.Easy” แถมเป็นที่นิยมของหมู่วัยรุ่นอย่าง แพร่หลาย...เจ้า ER-6n ที่ว่านี้ฮ็อตถึงขั้น “มีเงินก็ซื้อไม่ได้” เพราะต้อง ต่อคิวรอซื้อยาวเหยียดเกือบ 3 เดือน กว่าจะได้มาครอบครอง...แต่ FRM ของอนุญาตใช้อภิสิทธ์เหนือใคร “ยืม” รถตัวทดลองขี่ จาก โชว์รูมเด็กแนว Kawasaki Real Motosports ซึ่งตั้งอยู่ที่หน้าปากซอย รามค�าแหง 146 ใหม่ๆ สดๆ ร้อนๆ โมเดลปี 2013…มาดูกันว่ามันจะ Fun* จะมี Style* และจะ Easy* ขนาดไหน?
For Ride Magazine December 2012 21
Ê Born from crazy old day, last long ‘til these days. เนื่องจาก ER-6n พึ่ง มีการยกเครื่องอัพเดทตัวเอง ครั้งใหญ่ไปเมื่อปี 2012 ล่าสุด โมเดล 2013 จึงยังไม่มีการ เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก มีแค่ เปลี่ยนสีสันให้คนที่ยังไม่เคยครอบ ครองเจ้า ER-6n ได้เลือกถอยไป อวดเพื่อนกัน เพราะงั้นใครที่ควบ โมเดล 2012 อยู่ก็ไม่ต้องน้อยใจ ไม่ต้องรีบขายรถทิ้งไปเพื่อซื้อ รถปีใหม่ ก่อนจะพูดถึงเรื่องการ อัพเกรดเรามาย้อนประวัติความ เป็นมาของเจ้า Street-Fighter Naked (สะ-ตรีด–ไฟ–เตอ– เนก–เกต) คันนี้กัน อันที่จริง รถมอเตอรไซค์แบ่งเป็นประเภท ต่างๆ ตามรูปแบบการขับขี่อาทิ เช่น สปอร์ต, สปอร์ตทัวริ่ง, ครูสเซอร์ และแบบมาตรฐานหรือ อีกชื่อนึงคือ “เนกเก็ต” ซึ่งมา จากรูปร่างที่ดูเปลือยไม่มีแฟริ่ง
รอบคันเหมือนตัวสปอร์ต แต่ จุดเปลี่ยนของวงการ 2 ล้อเกิด ขึ้นเมื่อมี “พวกบ้ามือบอน” ไม่ ถูกใจแฟริ่งของรถปอร์ตแต่ยัง คงชื่นชอบความก้าวร้าวของ เครื่องยนต์ในแบบสปอร์ต จึง จับรถสปอร์ตสุดรักมาถอด แฟริ่งออกโยนทิ้งแล้วขี่กับแบบ เปลือยๆ โดยมีไฟหน้าแค่ 2 ดวง, เรือนไมล์, ถังน�้ามันแล้วก็เบาะ...นี่ แหละจุดเริ่มต้นที่กลายเป็นที่นิยม กันในเวลาต่อมา ฉายา “StreetFighter Naked” จึงถูกตั้งขึ้นให้ กับรถที่มีแฟริ่งน้อยชิ้นแต่มีก�าลัง เครื่องยนต์มหาศาล...และในปี 2005 ER-6n คันแรกก็ถือก�าเนิด ขึ้นมาจากโรงงานคาวาซากิออก มาโลดแล่นฟาดฟันกับ StreetFighter* จากค่ายอื่นๆ นี่แหละ ที่มาของเจ้ารถ “เปลือยโหด”
Ê New old frame, New old swing arm + New old Etcs. ย้อนกลับมาดูที่ 2013 Kawasaki ER-6n ของเรากัน ต่อ...มันถูกพัฒนาครั้งใหญ่ในปี 2012 จับเปลี่ยนเฟรมใหม่เป็น เฟรมไฮเทนไซล์แบบคู่ สวิงอาร์มใหม่เป็นเหล็กกลมคู่รูปทรงต่าง จากเดิมโดยสิ้นเชิง ถังน�้ามันใหม่ใหญ่ขึ้นอีก 0.5 ลิตรแต่รูปทรง สั้นกว่าและโหนกกว่าเก่า สวิทช์กุญแจย้ายมาอยู่รวมกับถังน�้ามัน ดูเก๋ไม่น้อย เบาะที่นั่งแบ่งเป็น 2 ชิ้นยกระดับ 2 ชั้นให้อารมณ์ เหมือนขี่ตัวสปอร์ต บาร์จับท้ายส�าหรับคนซ้อนสั้นลง บังโคลน ท้ายพร้อมที่ยึดป้ายทะเบียนดูล�้ายุคขึ้น เอาเป็นว่าช่วงท้ายดูแล้ว เพรียวบางกว่าเก่าอย่างเห็นได้ชัด ปีกหม้อน�้าที่เคยใหญ่เกะกะ และมีไฟเลี้ยวก็ถูกเปลี่ยนใหม่ให้เล็กลงแล้วย้ายไฟเลี้ยวไปอยู่ด้าน บนข้างโคมไฟหน้า พักเท้าเปลี่ยนจากเหล็กเป็นอลูมิเนียมขึ้นรูป ดูหรูหรากว่าเก่า แฮนด์กว้างขึ้นอีก 20 มม. (2 ซม.) โคมไฟ หน้าเปลี่ยนใหม่ให้กะทัดรัดขึ้นดูโฉบเฉี่ยวกว่าเดิมแถมชิ้นการ์ดโช้ค หน้าเพิ่มเข้ามาเติมเต็มช่วงหน้าให้ดูแน่นน่าเกรงขาม เรือนไมล์ ขยับเข้ามาจากเหนือโคมไฟหน้ามาอยู่บนแฮนด์บาร์แถมหน้าจอ ใหญ่ขึ้นไม่ต้องลุ้นไม่ต้องเพ่งให้เกิดอุบัติเหตุแถมสบายตาขึ้นเยอะ ปลายท่อไอเสียดีไซน์ใหม่โหดกว่าเดิมคงถูกใจคนชอบรถเดิมๆ ไม่ น้อย ในส่วนของเครื่องยนต์ถ้าดูจากสเป็คก็ยังคงเหมือนเดิม เปลี่ยนแปลงแค่อัตราส่วนการอัดที่ลดลงจาก 11.3:1 เหลือ 10.8:1 ในด้านแรงม้ายังคงเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ในส่วนของมิติ โดยรวมส่วนสูงเพิ่มขึ้นอีก 10 มม. กว้างอีก 10 มม. แต่ระยะ ห่างจากท้องรถถึงพื้นลดลงไป 10 มม. หมดเวลาส�าหรับเรื่อง ตัวเลขแล้ว...ถึงเวลาหวดกันซะที 22 For Ride Magazine December 2012
Ê Strong but Friendly like little muscle pony. แค่สตาร์ทเครื่องยนต์ก็รู้สึกขนลุกแล้วเพราะสุ้ม เสียงสะท้านทรวงจากปลายท่อที่ให้เสียงทุ้ม นุ่มน่ากระแทกคันเร่งย�้าเข้าไป ระบบหัวฉีดคู่จาก เรือนลิ้นเร่ง Keihin* ขนาด 38 มม. ท�างาน ทันทีที่สตาร์ท เครื่องยนต์ 649 ซีซี. 2 สูบ Twin DOHC 8 วาล์วระบายความร้อนด้วย น�้าพร้อมแล้วที่จะพาคุณพุ่งไปข้างหน้า ลอง บิดคันเร่งที่เกียร์ N เพื่อเช็คเครื่องยนต์พบ ว่าเครื่องยนต์ตอบสนองดีแม้เจอกับลูกเล่น “สะบัดข้อมือ” ที่เกียร์ N ไม่พบอาการสั่นของ เครื่องยนต์คงเป็นเพราะตัว Counter Balance* ในเครื่องยนต์ที่ช่วยไม่ให้เครื่องยนต์สั่น...สับ เข้าเกียร์ 1 ปล่อยคลัทช์ออกตัวอย่างนุ่มนวล ก�าลังแรงบิดในช่วงออกตัวนับว่า “เป็นมิตร” ส�าหรับมือใหม่ ไม่กระชากจนเกินไปแต่ก็ไม่อ่อน โยนจนน่าเบื่อ ค่อยๆ ไล่เกียร์ขึ้นทีละเกียร์อย่าง รวดเร็วก็ยังไม่พบอาการสั่นของเครื่องยนต์...แต่เครื่องยนต์กลับส่งเสียงค�าราม เชิญชวนให้เราเติมคันเร่งเข้าไปอีกจนชน Redline* ที่เกียร์ 1-2 ถ้าคอนโทรลคันเร่ง และคลัทช์ได้ไม่คล่องอาจเจอกับอาการ “ยกหน้า” ของเจ้า ER-6n ที่เกิดจากก�าลัง 72 แรงม้าที่ 8,500 รอบ/นาที ในสเป็คชาร์ตเราเห็นว่าก�าลังแรงบิดเหมือนจะน้อย กว่าโมเดล 2011 แต่เราคิดว่าดีแล้วแหละที่เป็นแบบนั้น เพราะแรงต้นของโมเดล 2011 มันมากเกินไปจนอาจท�าให้มือใหม่หลายคนตกใจ แต่ส�าหรับโมเดล 2013 เราบอกได้ เลยว่ามัน “เป็นมิตร” กับนักบิดทุกรุ่น ความเร็วสูงสุดของ ER-6n ที่โรงงานเคลม ไว้อยู่ที่ 199 กม./ชม. เชื่อว่าถ้าคนขี่หนัก 70 กก.สูง 170 ซม. คงท�าความเร็ว พุ่งทะลุ 200 กม./ชม. แน่ๆ เครื่องยนต์มีแรงเอ็นจิ้นเบรกก�าลังดีไม่มากหรือน้อย เกินไป วัดได้จากการเชนเกียร์ลงเพื่อเข้าโค้งที่เกียร์ 3 และ 4 ซึ่งความเร็วต่างกันแต่ ที่เหมือนกันคือความนุ่มของเครื่องยนต์ที่พาคุณสนุกไปกับการโหนโค้งได้ราวกับเป็น มือโปร จุดที่น่าสังเกตก็คือเฟรมและเครื่องยนต์ซึ่งอยู่ชิดมากจนท�าให้ความร้อนจาก เครื่องยนต์ส่งผ่านมาถึงตัวเฟรม ส�าหรับคนที่ชอบใส่ขาสั้นขี่แบบชิลล์ๆ อาจเจอ ปัญหาเรื่องความร้อนได้ แต่ถ้าเป็นสายฮาร์ดคอร์ก็ขี่เข้าไปเถอะครับได้อารมณ์ไปอีก แบบ เครื่องยนต์ 649 ซีซี. พร้อมแรงบิดกับแรงม้าที่สามารถใช้งานได้ทั้งในเมือง ยิ่งถ้ามีประสบการณ์บวกทักษะการขับขี่ที่ดีจะช่วยให้เดินทางฝ่ารถติดในเมืองได้อย่าง ง่ายดายจนอาจท�าให้ลืมนึกถึงรถยนต์ไปเลยก็เป็นได้ ใครที่รักท่องเที่ยวในช่วงวัน หยุดก็สามารถพึ่งพาความเร็ว 140-150 กม./ชม. ที่ ER-6n สามารถพาคุณเดิน ทางไกลได้อย่างสบาย เรียกว่าลงทุนทีเดียวได้ทั้งเที่ยวได้ทั้งใช้งาน ถ้าจะให้เห็นภาพ... มันก็เหมือนลูกม้าตัวเล็กน่ารักแต่เต็มไปด้วยกล้ามบึกบึน!! For Ride Magazine December 2012 23
Ê Fun to Fight!
Ê Getting better and better. มาสรุปกันกับ 2013 Kawasaki ER-6n ABS…ตัด เรื่องราคาค่าตัวออกไปก่อนแล้วพูดถึงสมรรถนะที่ได้จาก เครื่องยนต์ 650 (649 ซีซี.) กับก�าลังแรงม้า 72 ตัวที่เป็น มิตรกับผู้ขี่ เครื่องยนต์ผลิตก�าลังเน้นในรอบต้น-กลาง ส่วน รอบปลายที่เกียร์ 6 สามารถไหลได้ถึง 140-150 กม./ชม. โดยที่เครื่องยนต์ไม่ล้าจากการเค้นส�าหรับเดินทางไกล ใช้ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดช่วยให้หมดปัญหาเมื่อต้องเติม แก๊สโซฮอลกรณีหาปั๊มไม่เจอในต่างจังหวัดแถมได้เรื่องความ ประหยัดเพิ่มเข้ามาอีก ระบบเกียร์แทบจะหาจุดต�าหนิไม่ได้ ไม่ ว่าจะร้อนหรือเย็นชุดเกียร์ก็พร้อมให้คุณสับเปลี่ยนได้อย่าง นุ่มนวลตลอดเวลา มีจุดสังเกตตรงที่ความร้อนส่งผ่านจาก เครื่องยนต์มาถึงตัวเฟรมและส่งต่อถึงขา (ส�าหรับคนใส่กางเกง ขาสั้น) ระบบเบรกท�างานยอดเยี่ยมและเป็น 1 ใน 2 รุ่นรถที่ ผลิตในประเทศไทยที่มีระบบ ABS ให้ด้วย ด้านการคอนโทรลรถ อาจเป็นที่ถูกใจของมือใหม่เพราะแฮนด์บาร์และท่านั่งที่ให้ความ รู้สึกสบายแต่กระชับดูเท่ห์ใน Street-Fighter ชิ้นส่วนเล็กน้อยที่ ถูกปรับเปลี่ยนใหม่อย่างเรือนไมล์ที่หน้าจอใหญ่ขึ้นดูชัดเจนขึ้น ปลายท่อแม้จะไม่ช่วยให้เครื่องแรงขึ้นแต่ส่งผลทางอารมณ์โดย เฉพาะเมื่อถูก “สาวเหล่” อ้อลืมบอกไปท่อไอเสียเค้าปรับปรุง ข้างในใหม่หมดแถมได้มาตรฐานไอเสียระดับ 6 ยังช่วยเพิ่มแรง บิดและดึงจุด Center Gravity* ลงด้านล่างเพิ่มบาลานซ์ให้ ตัวรถ อีกจุดที่น่าสนใจและเป็นไฮไลท์ก็คือ ER-6n ผลิตใน ประเทศไทยนั่นท�าให้ค่าหัวไม่รุนแรงเหมือนรถน�าเข้าและที่ส�าคัญ 24 For Ride Magazine December 2012
ใช่แล้วครับเขียนไม่ผิดหรอกครับ... มันคือ Fun to Fight แปลว่า “บู๊สนุก” เพราะ ER-6n เป็นรถที่มีความคล่องตัวสูง อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อเทียบกับน�้าหนักตัวราว 200 กก. (เมื่อเติมน�้ามันเต็มถัง) นอกจาก ก�าลังเครื่องยนต์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้แล้วยัง สามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นใจอีกด้วย สาเหตุมาจากแฮนด์ที่ท�ามุมเข้ากับท่านั่งแบบ รถ Naked* แต่ก็สามารถปรับเปลี่ยนให้ เข้ากับทุกสไตล์การขับขี่ ตั้งแต่การเข้าโค้ง แบบสปอร์ตจ๋า จะโหนตัวลงเอาเข่ากระแทก พื้นแบบ Knee Dragging* หรือจะเข้าโค้ง แบบทัวริ่งหย่อนก้นนั่งสบายๆ ก็ได้เหมือน กัน ยางหน้าไซส์ 120/70 ขอบ 17 กับ ยางหลัง 160/60 ขอบ 17 ช่วยให้ เลือกไลน์การขับขี่ได้หลากหลายและพร้อม รองรับความบ้าของนักขับขี่มือระดับเทพ แบบไร้กังวล แม้ยางจะกลมและใหญ่แต่นั่น ไม่ใช่อุปสรรคส�าหรับ ER-6n ด้วยระยะห่าง ฐานล้อที่สั้นเมื่อเทียบกับรถคลาสเดียวกัน จากบางค่ายซึ่งนั่นท�าให้เข้ากันได้กับผู้ขี่ทุก ไซส์ ระยะห่างจากท้องรถถึงพื้นที่เตี้ยลง กว่ารุ่นเก่า องศาท่านั่งและมุมการวางเท้าที่ ลงตัว ทั้งหมดท�าให้ ER-6n พลิกไปมาใน โค้งได้เร็ว ไม่ว่าจะเป็นโค้งต่อเนื่องหรือโค้ง หักศอกที่ต้องใช้ร่างกายช่วยขยับปรับท่า เข้าโค้งก็เป็นเรื่องหมูๆ ส�าหรับเจ้า StreetFighter สีเขียวคันนี้ ส�าหรับรถที่มีก�าลัง แรงม้ามากถึง 72 ตัวซึ่งสวนทางกลับ ความคล่องตัวน่าจะท�าให้ ER-6n เป็นรถ ที่หาตัวจับยาก ส�าหรับแฟนๆ Kawasaki
ประเทศไทยคงต้องบอกว่าโชคดีกว่าบาง ประเทศเพราะ ER-6n มาพร้อมระบบเบรก ABS ติดมากับตัวรถตั้งแต่ออกจากศูนย์ เบรก ABS* นับเป็นของขวัญล�้าค่าที่ผู้ ผลิตมอบให้กับผู้ใช้ซึ่งมันเป็นตัวช่วยชั้นดี ส�าหรับมือใหม่หรือคนที่ไม่ชินกับรถคลาส 650 ซีซี. คันนี้ จากการทดสอบเบรกพบ ว่าเราชอบให้ก้านเบรกไม่ไกลหรือใกล้มือจน เกินไปจึงเลือกปรับไว้ที่ระดับ 2 (ก้านเบรกคลัทช์ปรับได้ 5 ระดับ) แรงเบรกที่ส่งมา จาก Master Cylinder* บนลงไปยังปั๊ม เบรกคู่ Tokico ลูกสูบคู่พร้อมหยุดจาน เบรกลายกลีบดอกไม้ขนาด 300 มม. ได้ แบบอยู่หมัด ใช้เพียง 1 นิ้วก็สามารถหยุด รถที่ความเร็ว 60-80 กม./ชม. ได้อย่าง ปลอดภัย อาจมีคนเคยคอมเมนต์ไว้ว่าแรง เบรกของ ER-6n น้อยเกินไป...เราว่ามัน ก�าลังดีส�าหรับทั้งมือใหม่และมือเก๋าที่ใช้เบรก เป็นเลยทีเดียว เบรกหลังแบบลูกสูบเดี่ยว กับจานเบรกลายกลีบดอกไม้ 220 มม. เมื่อท�างานควบคู่กับระบบ ABS ท�าให้คุณ สามารถ “กระทืบ” เบรกได้โดยที่ล้อหลัง จะไม่มีทาง “ล็อค” อย่างแน่นอน ในกรณี เบรกแบบฉุกเฉินและเมื่อ ABS ท�างานคุณ จะรู้สึก “ยึกๆ” ที่เท้าที่เหยียบเบรก และเมื่อ ใช้งานควบคู่กันระหว่างเบรกหน้าและเบรก หลังรวมถึง ABS ที่ท�างานอยู่ตลอดเวลา ช่วยให้วางใจได้ไม่ว่าใช้งานในเมืองที่ต้อง ลุ้นคนข้ามถนนหรือระหว่างออกเที่ยวต่าง จังหวัดที่ต้องคอยระวังน้องหมาตัดหน้า
การเซอร์วิสรถไม่ยุ่งยากเหมือนเมื่อก่อน ส่วนราคาค่าตัว ER-6n ปีใหม่ล่าสุดอยู่ ที่ 254,000 บาท มีสองสีให้เลือก 2 สี - เขียวสะดุ้ง (Lime Green) กับด�าด้านดุ (Matte Black) ใครที่ก�าลังมองหารถ BigBike อยู่และต้องการรถที่มีความคล่อง ตัวปราดเปรียวและมีก�าลังแรงม้าเพียงพอส�าหรับพาสาวเที่ยวเขาใหญ่ในวันหยุด...ที่ ส�าคัญมาพร้อมระบบความปลอดภัยอย่าง ABS เต็มระบบ...FRM แนะน�าให้ลองใส่ 2013 Kawasaki ER-6n เข้าไปเป็นหนึ่งในตัวเลือกดูครับ :D
Ê Post Test Comment… “ผมว่า 650 คันนี้เพียงพอส�าหรับชีวิต ประจ�าวันแล้วหละ ขี่ซื้อกับข้าวระยะทาง 2 กิโลเมตร คงใช้ไม่เกิน 2 เกียร์ รถมันแรงคนขี่ต้องใจถึง หน่อย แต่ด้วยความเป็นมิตรกับคนขี่ท�าให้ ER6n น่าจะถูกใจใครหลายๆ คน ทุกอย่างที่ติดมา กับรถลงตัวหมดยกเว้นแค่เฟรมที่ไม่มีแผ่นปิดกัน ความร้อนท�าให้รู้สึกร้อนเมื่อใส่ขาสั้นขี่ ส่วนตัวผม ชอบเบรก ABS ที่เหมือนหน่วยพิฆาตความแรงที่ คอยหยุดความเร็วจากเครื่องยนต์ 72 แรงม้าได้ อย่างดี...จะมือใหม่หรือมือเก๋าก็ขี่เข้าไปเหอะ ไม่ต้อง กังวลอะไรทั้งนั้น!”
What's that mean? Street-Fighter Naked : รถลูกผสมที่ไม่มีแฟริ่ง แต่มีก�าลังแรงม้าสูง Street-Fighter : นักสู้ข้างถนน/นักบู๊ตัวจริง/ขาโหด Fun : สนุกสนาน Style : มีเอกลักษณ์ Easy : ง่าย/เรียบง่าย Counter Balance : ตัวถ่วงไม่ให้เครื่องยนต์เสียสมดุล และป้องกันอาการสั่น Red-Line : เส้นแดงที่บอกว่าเครื่องยนต์ถึงขีดจ�ากัดแล้ว Naked : เปลือย/โล่ง ABS : Absolute Braking System ระบบเบรกแบบอัจฉริยะป้องกันล้อล็อค Master Cylinder : ปั๊มเบรกบนหรือปั๊มตัวที่อยู่ใกล้ตัวผู้ใช้ Center Gravity : จุดศูนย์ถ่วงของรถ
FRM : Score Handling – 5 / 5 (คล่องตัว ขี่ได้หลากหลายสไตล์) Braking – 6 / 5 ( +1 ถูกใจ ABS เป็นพิเศษ:D) Engine – 5 / 5 (แกร่งแรงในแบบ 2 สูบ Twin) Technology – 5 / 5 (เซ็นเซอร์ต่างๆ อัดแน่นรอบคัน) Design – 5 / 5 (เปลือย โหด แน่น เพรียว) Price – 5 / 5 (254,000 บาท ราคาสมเหตุผลเมื่อเทียบกับสมรรถนะ) For Ride Magazine December 2012 25
” ี ม ท ่ ิ ง ซ ช ร เ ์ ด น ่ ิ ง ล ่ ี ย กา้ วท า่ ไทยแ ตรข์ อง ส ฮ า า ิ ศ ม า ย “ ชมปป์ ระวตั
. . . t u o b ี ม A ท ง k l อ ่ ข Ta ญ ให
า ์ ช ร ต ด เ ศาส กบั แ
ร ไก
2 1 0 2 น ป แ จ เ ล อ ์ อ ป แชม
ใน และคน การ ง ่ ข แ ัก ็น รือที่น ปน” ซึ่งเป เสียง ห ” p ื่อ แ onshi “ออลเจ 7) และมีช นักแข่ง i p m 6 ง ย a ce Ch งดีในชื่อขอ ่ปี ค.ศ. 19 ับสากล โด aijiro a R d a แต ,D ย่า ระด an Ro หูกันเป็นอ รแข่งขันตั้ง อย่างดีใน ru Ukawa ีการแข่งขัน ขัน p a J l Al เป็น oh กา ะคุ้น ข่ง เวท rbike ไทยรู้จักแล ี่เก่าแก่ (เริ่ม ารยอมรับ Harada, T ชว์ฝีมือใน มป์ในการแ e p u S ก ช ะโ ท ์ต “MFJ อร์สปอร ์ทางเรียบ ทั้งยังได้รับ e, Tetsuya วดลายแล ขันและคว้าแ ต ุ่น อีก ck Ab ยวาดล รแข่ง รมอเต านยน วงกา รถจักรย ระเทศญี่ป อาทิ Nori ama ที่เค ็เคยผ่านกา ัน แข่งข ย่างมากในป ระดับโลก iroshi Aoy แล้ว ต่างก อ เป็น ที่มีชื่อเสียง akano, H otoGP มา ญี่ปุ่น Shinya N กอย่าง M ันทั้งนั้น Kato, เร็วระดับโล าแล้วด้วยก ความ เจแปน” ม “ออล
26 For Ride Magazine December 2012
“ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรชซิ่งทีม” คือ ทีมแข่งของคนไทยที่เข้าร่วมการ แข่งขัน MFJ Superbike All Japan Road Race Championship 2012 โดยมี “เดชา ไกรศาสตร์” และ “เฉลิมพล ผลไม้” เป็น 2 นักบิดไทยที่ไปร่วมดวลฝีมือต่อกรกับบรรดานักแข่งญี่ปุ่นในการแข่งขันรุ่น ST600 ในปีนี้แบบเต็มฤดูกาล ซึ่งมีท�าการเก็บคะแนนสะสมถึง 7 สนามด้วยกัน โดย “ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรชซิ่งทีม” นี้มี “นายกรธัช แก่นจันทร์ดา” เป็นผู้อ�านวย การทีม, นายธีรพงษ์ แสงทอง เป็นผู้จัดการทีม และมี นายสมศักดิ์ พรศิริเชิด หรือ น้าหั่ง โมดิฟาย เป็นหัวหน้าทีมแมคคานิค For Ride Magazine December 2012 27
โดยก่อนที่ทีม “ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรชซิ่งทีม” จะ ก้าวเข้ามาร่วมท�าศึกชิงแชมป์รายการดังของญี่ปุ่นอย่าง MFJ Superbike All Japan Road Race Championship 2012 ในปีนี้นั้น ทีมฯ ได้ผ่านเวทีระดับนานาชาติและเป็น แชมป์มาอย่างต่อเนื่องกับการแข่งขันรายการ “เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ” รุ่น Super Sport 600 ซีซี. ซึ่ง มีนักแข่งหลายประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน อาทิ มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, อินเดีย, ไทย รวมถึงนักแข่งออสเตรเลีย ก็เคยเข้าร่วมการชิงชัยในรายการนี้มาแล้ว และคู่หูนักแข่ง “ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรชซิ่งทีม” ทั้งสองคนต่างก็ผลัดกัน คว้าต�าแหน่งแชมป์มาครองได้ส�าเร็จ โดยในปี 2007 แชมป์ ตกเป็นของ “เดชา ไกรศาสตร์” ก่อนที่เพื่อนร่วมทีม “เฉลิมพล ผลไม้” จะผงาดคว้าแชมป์มาครองได้บ้างในปี 2009 และในปี 2010 “เดชา ไกรศาสตร์” ก็สามารถกลับ มาเป็นแชมป์ในรายการนี้ได้อีกครั้ง และก่อนที่ทีม “ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรชซิ่งทีม” จะเข้า ร่วมการแข่งขัน MFJ Superbike All Japan Road Race Championship 2012 นั้น นักแข่งของทีมฯ ก็มีโอกาสได้ สัมผัสกับบรรยากาศของการเข้าร่วมการชิงชัยในรายการนี้ มาบ้างแล้ว อีกทั้งยังสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนเป็น ที่กล่าวขานในวงการมอเตอร์สปอร์ตญี่ปุ่นอีกด้วย โดยใน ปี 2010 ทีมฯ ได้ส่งนักแข่งลงชิมลางที่สนามซูโก้ ซึ่งถือว่า เป็นโฮมแทร็คของค่ายยามาฮ่า ซึ่ง “เฉลิมพล ผลไม้” ก็โชว์ ฟอร์มคว้าแชมป์เหนือนักแข่งญี่ปุ่นได้อย่างยอดเยี่ยม โดยที่ “เดชา ไกรศาสตร์” เพื่อนร่วมก็ไม่น้อยหน้าโชว์ฝีมือขั้น เทพจนสามารถขึ้นยืนโพเดี้ยมได้ในอันดับ 3 เช่นกัน จากนั้น ในปี 2011 “เฉลิมพล ผลไม้” ก็ประกาศศักดาคว้าแชมป์ที่ สนามเดียวกันนี้ได้ส�าเร็จอีกครั้ง และเป็นนักแข่งไทยคนแรกที่ สามารถคว้าแชมป์ที่สนามซูโก้ได้ 2 ปีติดต่อกันอีกด้วย ส�าหรับการเข้าร่วมการแข่งขันแบบเต็มฤดูกาลครั้ง แรกของทีม “ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรชซิ่งทีม” ในรายการ MFJ Superbike All Japan Road Race Championship 2012 นั้น คู่หูนักบิดจากประเทศไทยก็โชว์ฟอร์มระดับเทพ ขย่มนักแข่งญี่ปุ่นได้อย่างเหนือชั้น โดยการแข่งขันเก็บคะแนน สะสมทั้งหมด 7 สนามในปีนี้นั้น แชมป์ประจ�าสนามตกเป็น
28 For Ride Magazine December 2012
ของนักแข่งจากทีม “ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรชซิ่งทีม” ถึง 5 สนามด้วย กัน โดย “เฉลิมพล ผลไม้” สามารถคว้าแชมป์ที่สนาม Twin Ring Motegi (สนามที่ 1) และ Okayama (สนามที่ 6) และยังสามารถ ยืนโพเดี้ยมได้ในอันดับ 2 ที่สนาม Tsukuba (สนามที่ 2) พร้อม กับจบอันดับ 9 ในการแข่งขันสนามสุดท้ายที่ Suzuka ส่งผลให้ นักแข่งหมายเลข 65 ของทีม “ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรชซิ่งทีม” กลับมาคว้าอันดับ 4 ของการชิงชัยในปีนี้ แม้ว่าจะพลาด การเก็บคะแนนสะสมไปถึง 3 สนามก็ตาม ส่วน “เดชา ไกรศาสตร์” นั้นโชว์ฟอร์มได้ อย่างยอดเยี่ยมจนนักแข่งเจ้าถิ่นถึงกับตะลึง กับ ผลงานระดับเทพด้วยการคว้าแชมป์ 3 สนาม ติดต่อกันคือ สนาม Autopolis ที่ท�าการ แข่งขันเก็บคะแนนเป็นสนามที่ 3 และ 4 จาก นั้นก็ไปคว้าแชมป์ที่สนาม Sugo ได้ส�าเร็จ อีกครั้ง นอกจากนี้ “ตั้น-สลาตัน” ยัง สามารถรั้งต�าแหน่งรองแชมป์ 2 ในสนาม ที่ 1 กับ 6 และคว้าอันดับ 3 ได้ 2 ครั้ง ในสนามที่ 2 แม้ว่าสนามสุดท้ายจะพลาดท่า ล้มก็ตาม แต่ด้วยผลงานระดับมาสเตอร์พีชนี้ ส่งผลให้ “เดชา ไกรศาสตร์” ผงาดขึ้นครอง “แชมป์ออลเจแปน 2012” รุ่น ST600 ได้อย่าง ยิ่งใหญ่ ด้วยคะแนนสะสม 139 แต้ม ทิ้งห่างนัก แข่งเจ้าทิ้งที่ตามมาในอันดับ 2 ถึง 20 แต้มเลย ทีเดียว จากผลงานระดับเทพของนักแข่งทีม “ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรชซิ่งทีม” นี้ ท�าให้ “เดชา ไกรศาสตร์” กลายเป็นนักแข่งคน ไทยและคนเอเชียคนแรกที่สามารถกระชาก ต�าแหน่ง “แชมป์” มาครองเหนือเจ้าถิ่นได้ ส�าเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 46 ปี ของการแข่งขันรายการนี้ และนี้จะกลาย เป็นประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่ของวงการ มอเตอร์สปอร์ตทั้งของไทยและญี่ปุ่น ซึ่งจะ เป็นที่กล่าวขานกันไปอีกนานเลยทีเดียว...
The Journey 5 Mountains Tour
เปิดประตูสู่มาเลเซีย Part2 เตรียม ่มั้ย ตัวกันพร้อมแล้วใช ี่แล้วเราพา ้ฉบับท ครับ?....ถ้ายังจ�าได ไทย-มาเลเซียเป็นที่ ิตรภาพ ทุกท่านข้ามด่านม งานเอกสารเสร็จสรรพ ัดการ เรียบร้อยพร้อมจ ้าด่านฝั่งมาเลเซีย วันนี้แหละครับ ้ที่หน ก่อนทิ้งทุกท่านไว โลดแล่นไปบนถนนลาดยางอย่างดี ง ่าน ที่ FRM จะพาทุกท s ถนนหลักที่พารถทุกคันเข้าสู่เมือ Plu ของถนนสาย E1 ร์ บนเส้นทางกว่า 500 กม.ถนน หลวงกัวลาลัมเปอ ีอะไรน่าตื่นเต้น...แต่กลับเต็มไปด้วย ม ตรงยาวๆ ที่ไม่น่า แต่ออกเดินทางจนถึงเมือง เรื่องน่าตื่นเต้นตั้ง ระโดดขึ้น Versys ไป หลวง ว่าแล้วก็ก พร้อมกันเลย!
แลกเงิน – ซื้อซิม – เติมเงิน – พร้อมลุย ก่อนออกจากด่านมาเลเซียอย่าลืมเช็คอีกเรื่องนึง...เช็คท้องว่าหิวรึเปล่า? ส�าหรับมือใหม่ที่ไม่เคยข้ามมามาเลเซียแนะน�าให้หาอะไรถูกปากกระแทกท้องกันมา ให้เต็มที่ตั้งแต่ฝั่งไทย เพราะถ้าไม่ชินกับอาหารที่นี่ช่วงแรกจะล�าบากหน่อย แต่ เนื่องจากเราซัดซาลาเปา 7-11 พร้อมกาแฟ Aha มาแล้วเรียบร้อยจึงเดินทาง ได้อีกไกล...ก่อนออกเดินทางให้สังเกตระดับน�้ามันก่อนเลยว่ามีเท่าไหร่...ถ้าคาดว่า มีครึ่งถังแนะน�าให้เติมก่อนเลยครับที่ปั๊ม Pitronas ปั๊มแรกที่เจอ ไม่ต้องตกใจถ้า จอดรถอยู่นานแล้วไม่มีใครมาสนใจนะครับ เพราะที่นี่ต้องเติมเอง! 30 For Ride Magazine December 2012
the journey
ขั้นตอนการเติมน�้ามัน 1. จอดรถหน้าหัวจ่ายที่จะเติม เล็งให้ดีว่าเป็นเบนซิน 95 หรือ 97 ก็ได้ แล้วจ�าเลขหัวจ่ายไว้ 2. ดึงกุญแจออกแล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์จ่ายเงินพร้อม พูดเป็นภาษาอังกฤษว่า “นัมเบอร์..ทู-(เลขหัวจ่าย) / นายตี้ไฟว์ (95) หรือนายตี้เซเว่น (97) / เทนริงกิต (10 เหรียญ) หรือ ทเวนตี้ริงกิต (20เหรียญ)” 3. จ่ายเงินรับใบเสร็จแล้วเดินกลับมาที่รถ เปิดฝาถัง น�้ามันแล้วจุดไฟ...ไม่ใช่!! แล้วดึงหัวจ่ายออกมากดเติมได้เลย 4. เมื่อหมดจ�านวนเงินหัวมันจะตัดเอง แต่ถ้าเติมแล้วไม่ หมด...ให้ใส่ถุงกลับบ้าน...ไม่ใช่!! ให้เก็บหัวจ่ายแล้วเดินยิ้มหราไป หาพนักงานพร้อมพูดว่า “ฟินิช” เค้าจะรู้ว่า....อ๋อไอ้หมอนี่มันกะ น�้ามันไม่ถูกมันมาเอาเงินคืนสินะ...แล้วเค้าก็จะคืนเงินให้ 5. เรียบร้อย...และฝึกไว้ให้ชิน เพราะต่อจากนี้ไปต้องเติม เองตลอดการเดินทาง 6. ไหนๆ ก็แวะปั๊มแล้วแนะน�าให้เช็คลมยางและน�้าหม้อน�้า ก่อนออกเดินทางต่อ... ปล. รถ Kawasaki Versys ถ้าเหลือ 1 ขีดบนหน้าจอ เราจะเติม 20 RM. (ริงกิต) ก็พอ ถ้าครึ่งถังก็เติมแค่ 10 RM. ก็อยู่แล้วหละครับ ออกจากปั๊ม Pitronas มาได้นิดเดียวให้เล็งจุดกลับรถ (U-Turn) เล็กอันแรกด้านขวา...มันจะตรงกับทางเข้าที่แลกเงิน (Money Exchange) พอดี....จริงๆ แล้วจุดนี้มันเป็นท่าต่อรถ โดยสาร เรียกง่ายๆ ว่าเป็นจุดพักรถนั่นแหละ ใครที่ไม่ได้แลกเงิน มาเลเซียแนะน�าให้แวะตรงนี้ก่อนครับเพราะอัตราแลกเงินไม่เอา เปรียบเรามากและยังสามารถซื้อซิมการ์ดได้ด้วย FRM ยื่นเงิน ไป 3,000 บาทแต่ได้กลับมาแค่ราว 290 ริงกิต แลกเงินเสร็จ เดินไปห้องข้างขวามือเพื่อซื้อซิมการ์ด...พนักงานที่นี่พูดไทยได้ ครับไม่ต้องห่วง เราแนะน�าให้ซื้อ Maxxis ถ้าไม่มีให้ใช้ TuneTalk ก็ได้ครับ....ค่าซิมการ์ด 20 ริงกิต (200 บาท) ในซิมมีเงินโทรได้ 12 ริงกิตแน่ะ....แต่เพื่อความชัวร์เราเลยขอเติมเงินเพิ่มอีก 20 ริงกิต หลังจากเปลี่ยนซิมเอาของไทยโยนทิ้งไป...ล้อเล่นครับ เก็บไว้เถอะเอาไว้ใช้ตอนขากลับ จากนั้นก็ท�าตามที่พนักงานบอก ก็จะโทรได้...ส�าหรับสมาร์ทโฟนอย่าลืม!! ถามเรื่องการใช้ 3G เพราะมันต้องมีรหัสเปิดใช้ก่อน....รู้สึกว่าจะต้องพิม SMS ว่าจะ พิมว่า “50MB” แล้วส่งไปที 7777 จากนั้นรอการยืนยัน...เท่า นี้ก็จะเปิดใช้อินเตอร์เน็ตได้แล้วครับ ใครที่ติดใช้แผนที่ Google Map ก็เป็นอันรอดตายไป....อ้อค่าบริการ 3G ของซิมนี้อยู่ที่ 8.8 บาท/50MB ประมาณนี้แหละครับ
ß เติมน�้ำมันครั้งแรก For Ride Magazine December 2012 31
the journey ß หน้ำร้ำนขำยของตำมจุดพักรถ
ß ซอสเซจโรล
ลองสัมผัสถนนที่ดีที่สุดในมาเลเซีย E1 Plus ออกจากจุดแวะแลกเงินแนะน�าให้ระวังรถ ทางขวาเพราะที่นี่เค้าขับกันไวมาก...จากนั้นเลี้ยว ซ้ายมุ่งหน้ากลับประเทศไทย (หลอก) ให้เลี้ยวขวา ครับตรงจุดกลับรถนั่นแหละ จริงๆ มันก็ไม่ถูก ต้องนักแต่ถนนเส้นนี้วันธรรมดาไม่ค่อยมีรถวิ่ง ครับ สามารถดูทางขวาดีๆ แล้วเลี้ยวขวาไปได้ เลย ช่วงแรกวิ่งผ่านเมืองลักษณะค่อนข้างคล้าย ชนบทบ้านเรา แต่ที่ไม่เหมือนคือถนน...เพราะถนน ที่ต่อให้ชนบทยังไงก็ไม่มีหลุมบ่อให้ได้ลุ้นกันเหมือน บ้านเรา หลุดจากโซนมินิทาวน์มาก็ได้เวลาขี่กันแบบ “เหงาๆ” เพราะป้ายบอกระยะทางที่เห็นบอกว่า อีก 480 กม. ถึงจะถึง KL (กัวลาลัมเปอร์)...โอ้ วมายก้อดมันช่างไกลอะไรขนาดนี้! เอาหละงั้นเปิด คันเร่งขึ้นอีกนิดขอล็อคความเร็วที่ 120 กม./ ชม. ถนนสาย E1 Plus เป็นถนนที่วิ่งง่ายที่สุดและ ปลอดภัยกว่าไฮเวย์บ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นรถเล็กหรือ รถใหญ่บนถนนที่รู้ตัวว่าวิ่งช้าและมีคนจะแซงเค้า
ß โปสเตอร์งำน MotoGP ที่ปั๊มน�้ำมัน 32 For Ride Magazine December 2012
จะเปิดไฟเลี้ยวแล้วรีบหลบให้ทันที ตลอด ช่วงระยะทางกว่า 100 กม.เราแทบไม่ ได้ยินเสียงบีบแตรใส่กันเลย รถส่วนมาก ที่เราเห็นเป็น Proton ไซส์เล็กกะทัดรัดที่ส่วน มากนิยมเดินทางกันเป็นครอบครัว ใครจะเชื่อว่า เราโดนรถหน้าตาคล้าย Mira ที่มีพ่อแม่ลูกนั่งมา เต็มคันแซงที่ความเร็ว 120 กม./ชม.! ระหว่าง ทางเราสังเกตเห็นสะพานข้ามถนน E1 แต่มีป้าย ประหลาดรูปร่มและรถมอเตอร์ไซค์ เมื่อลอง พิจารณาดูจะพบว่า....มันคือป้ายชี้ที่หลบฝนให้ เหล่ามอเตอร์ไซค์นั่นเอง เรียกว่าไม่ทางการก็ยัง แคร์รถ 2 ล้ออย่างเรา อ้อแล้วถนนสาย E1 Plus เนี่ยเค้ามีด่านเก็บเงินด้วยนะครับ แต่รถ 2 ล้อไม่ เสียค่าผ่านด่านครับ แต่จะมีป้ายบอกให้ 2 ล้อวิ่ง ชิดซ้ายสุดเข้าช่องแล้วอ้อมด่านไปแทนครับ ระวัง อย่าขี่เพลินลืมดูด่านเก็บเงินกันนะครับ! ผ่านมา ได้ราว 200 กม. สังเกตเกจ์น�้ามันหายไปเกือบ
ครึ่งถัง ว่าแต่ปั๊มน�้ามันอยู่ไหน? ค�าถามนี้มีค�า ตอบครับ...ระหว่างทางจะมีป้ายบอกนู่นนี่นั่นเยอะ แยะ แต่ให้สังเกตป่ายที่มีตัว P และป้าย R&R ป้าย P หมายถึงจุดพักรถ ส่วน R&R ย่อมาจาก Rest and Service Area…หมายถึงจุดจอดที่เซอร์วิส รถได้....เพราะงั้นให้เล็ง R&R ไว้ครับ เพราะแต่ละจุด จอดรถไม่เหมือนกัน บางที่มีปั๊มน�้ามันบางที่ไม่มี เราแวะกันอีกครั้งที่ปั๊ม Pitronas เติมน�้ามันเบนซิน 97 อีก 20 ริงกิต แต่ก่อนออกเดินทางก็มีเสียง ที่ไม่คาดคิด... “โคร้กกก” เสียงท้องร้องแน่ๆ ว่า แล้วก็เดินเข้ามินิมาร์ทไปหาอะไรเย็นๆ อร่อยๆ กระแทกปากกันหน่อยดีกว่า (เป็นค�าอุปมานะครับ ไม่ได้กระแทกจริง) ใครหิวใครเหนื่อยแนะน�าให้จัด 100Plus น�้าเกลือแร่อัดลมของดีที่มาเลเซีย ดื่ม แล้วสดชื่นอย่าบอกใคร (ขวดละ 20 บาท) หรือ จะเป็น Nescafe กระป๋องยาวมีให้เลือกหลากรส ใครหิวมากเดินไปมุมอาหารมีพวกไส้กรอก ลูกชิ้น เบอร์เกอร์และที่ต้องลอง “ซอสเซจโรล” ขนมปัง ชุบไข่พันรอบไส้กรอก...รสชาติอร่อยพิลึกแถม ราคาไม่แพง งบประมาณที่ใช้เติมพลังมื้อเที่ยงนี้ อยู่ที่ ประมาณ 60 บาท...เติมให้เต็มท้องเดี๋ยวไป ย่อยกันที่ IPOH
I P O H เตรียมสาดโค้ง ผ่านมาเกินครึ่งทางซะทีกับการมุ่งหน้าพิชิตเมืองหลวง กัวลาลัมเปอร์กับโปรเจ็ค 5 Mountain Tour หลังจากเดิน ทางฝ่าแดดร้อนบ้างเย็นบ้างตั้งท่าเหมือนฝนจะตกบ้าง....แล้วใน ที่สุดก็ตกจนได้ เราแวะจอดรถริมทางลงไปยืนบิดตัวบนหญ้า 2 ทีแล้วหยิบเสื้อกันฝนออกมาใส่สบายใจ เพราะกระเป๋าเราแพ็คมา แบบกันน�้าเรียบร้อย...ลุยต่อได้เลย ขี่ต่อมาได้ซักพักเจอกับป้าย IPOH พร้อมวิวทิวทัศน์ที่เปลี่ยนจากทุ่งนากว้างขวางกลาย เป็นภูเขาน้อยใหญ่ไร่เรียงกันไป...เพื่อนชาว 2 ล้อเอ๋ย เรามา ถึงสถานที่ส�าหรับย่อยมื้อเที่ยงเมื้อซักครู่แล้ว ช่วงแรกกับเขต IPOH เป็นการขี่ขึ้นเขาซึ่งก�าลังเหลือๆ ของ Versys สามารถ พาเราวิ่งขึ้นด้วยความเร็วไม่ต�่ากว่า 100 กม/ชม. จุดนี้ถ้า มั่นใจว่าไม่มีรถเลนขวาสุดจะออกไปสาดโค้งวงในเล่นก็ได้นะครับ เพราะถ้าวิ่งตามรถแม่บ้านอาจง่วงหลับเอาได้ ต่อจากช่วงขึ้น เขาก็เป็นลงเขา ช่วงนี้ถ้ามือใหม่ไม่คุ้นกับถนนให้ระมัดระวังรถ ซิ่งที่จะไล่จี้เราในเลยขวาสุดนิดนึง แต่ถ้าเป็นพวกบ้าสาดโค้งก็ โหนเข้าไปเถอะครับ โค้งลงเขาเป็นโค้งกว้าง มีช่วงต่อเนื่องบ้าง แต่ไม่น่ากลัว ล็อคไลน์ของเราไว้แล้วยิงยาวไปได้เลย...จะมีช่วงที่ น่าสนใจก็คืออุโมงค์ยาวเฟื้อยที่รอเราอยู่ตรงช่วงสุดท้ายของ IPOH…บรรยากาศหลังจากลอดอุโมงค์ IPOH มาก็ยังคง เป็นภูเขาสวยงามอยู่ เล็งที่จอดรถซ้ายมือใน Safe Zone ดีๆ แล้วแอบถ่ายรูปเล่นได้ในครับ (ระวังต�ารวจ) ขี่ต่อมาอีกซักพัก ใหญ่พร้อมหยุดเติมน�้ามันอีก 1 ครั้งก็เห็นป้าย.......KL อีก 90 กม. สู้เข้า FRM
For Ride Magazine December 2012 33
the journey
ในที่สุดก็....หลง...ใน KL ส�าหรับการมาเที่ยวมาเลเซีย สิ่งที่ส�าคัญที่สุด คือแผ่นที่ การจดหรือบันทึกชื่อโรงแรม ชื่อสถานที่ ที่เราจะต้องไป ชื่อเขต ชื่อเมืองหรือแม้แต่เลขที่อยู่และ เบอร์โทรศัพท์ของที่พักนั้นๆ....ที่ส�าคัญใครมี่พลาด ขั้นตอนการซื้อซิมการ์ดและเปิดใช้งาน 3G มาคงต้อง มีจุดจบเหมือนผม (ที่แนะน�าไปเพราะว่า...ไม่ได้ซื้อเลยไม่ อยากให้ผู้อ่านมีจุดจบแบบเดียวกัน) หลังจากฝ่าฟัน ช่วงสุดท้ายมาจนถึงป้ายที่บอกว่าก�าลังจะเข้าสู่ KL… แล้วจากนั้นท่านจะไปไหนต่อก็ดูตามป้ายเอาเอง!! ตาย แล้ว!! แล้วเราจะไปไหนฟะเนี่ย...แวะปั๊มอีกทีเพื่อเช็คมือถือ และแผนที่ หลังจากเดินดูด 100 PLUS สบายใจอย่าง ชะล่าใจได้ซักพักก็งัดมือถือคู่ใจออกมาดู...ลองเช็ครูป Map ที่เซฟมาอีกที...อ๋อเราต้องไป Shah Alam ออก ทางออกแรกก่อนเข้า KL แล้ววนขวาไปแล้วนับทางออก ที่ 3 แล้ววนซ้าย...เอาหละมั่นใจแล้วก็ไปตามนั้นเลย ......ผ่านไป 1 ชม.....เอาแล้วไง! เมื่อกี้ก็เลี้ยว ทางออกที่ 3 Shah Alam แล้วนี่นาท�าไมยังไม่ถึงและ
ß บรรยำกำศโรงแรม ไม่คล้ายว่าจะถึงเลยวะเนี่ย! จอดมันตรง Safe Zone เนี่ยแหละ งัดมือถือขึ้นมาดูอีกรอบ... เฮ่ย!! ไม่มี 3G ไม่มีเน็ตแล้วจะเช็คแผนที่ยังไงล่ะ เนี่ย งั้นลองโทรเบอร์ที่เค้าให้ไว้ติดต่อละกัน... “Sorry you’ve dial a wrong number, please contact service provider” (จด เบอร์มาผิด...ดันไปจดเบอร์ประเทศแล้วจดมาไม่ หมด) ซวยคูณ 2 แล้วไงเรา!! สถานการณ์แบบ นี้ภาษานักเดินทางเค้าเรียกว่า “หลง” ท�าไงดี ท�าไงดี ท�าไงดี...ปิ๊งป่อง ใช้ภาษาอังกฤษให้เกิด ประโยชน์แล้วถามทางสิฟะ เรารีบลงจากรถแล้ว เดินไปโบกมอเตอร์ไซค์ชาวบ้านที่วิ่งผ่านไปในเลน ของมอเตอร์ไซค์...ชาวบ้านกลับยิ้มแล้วโบกมือ ให้!! ผมไม่ได้มาโบกมือเป็นนางสาวไทย ผมหลง ทางคร๊าบบบ!! แล้วก็มีคนใจดี (หรือโชคร้าย ไม่รู้) จอดพูดคุยกับเรา...หลังจากเปิดแผนที่ที่ เป็นรูปถ่ายให้ดูเค้าก็มองหน้าพร้อมคิดในใจ... “หมอนี่ไม่รู้ทางจริงๆ หรือคิดซัมติงกับไอ?” นาทีที่ผู้ชายใจดีคนนั้นท�าหน้างงๆ แล้วชี้บอก ว่าโรงแรมที่เราจะไปมันอยู่ฝั่งตรงข้าม...รู้สึก เหมือนขี่ข้ามประเทศมาไกลเป็นพันกิโล เตรียม
จากประสบการณ์ที่เจอมา FRM แนะน�าว่า 1. จดชื่อหรือบันทึกใส่มากกว่า 1 ที่ส�าหรับชื่อโรงแรม ชื่อเขต ชื่อถนน 2. จดเบอร์โทรศัพท์ที่จะติดต่อมาให้ถูกต้อง ถ้าเราใช้ซิมของ มาเลเซียให้ กดโทรเบอร์มาเลเซียได้เลยโดยไม่ต้องใส่รหัสประเทศ 3. ซื้อซิมตั้งแต่ข้ามด่านมาใหม่ๆ หรือเปิดโรมมิ่งก็ต้องดูให้ชัวร์ว่า ใช้ได้ จริง 4. เปิดบริการ 3G ให้เรียบร้อย เผื่อฉุกเฉินจะได้มีอินเตอร์เน็ต เป็นที่พึ่งสุดท้าย 5. เขียนชื่อสถานที่ ที่เราจะไปเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ให้อ่านง่าย เผื่อ ถามทาง คนอื่นจะได้สะดวกขึ้น 34 For Ride Magazine December 2012
การมาอย่างดีแต่มาตกม้าตายตอนสุดท้าย... ชายใจดีบอกว่าเราจะขี่ตัดเลนข้ามไปเลยเหมือน ที่ไทยไม่ได้ ที่นี่เค้ามีอุโมงค์ลอดข้ามแยก แค่ต้อง รู้วิธีใช้มันเท่านั้นเอง วิธีหนีออกจากถนนหลัก หรือไฮย์เวย์มันจะมีป้ายบอกว่าให้มอเตอร์ไซค์ ชิดซ้ายแล้วออกไปตามทางที่บอก จะสามารถ ออกจากไฮเวย์ได้โดยง่าย...หลังจากลัดไป เลาะมาไม่นานในที่สุดเราก็มาถึงโรงแรม The Saujana Hyatt ที่หมายของเราที่ทาง WTR และ Tourism of Malaysia นัดให้มาเจอกัน ที่นี่.....หลังจากขอบคุณชายใจดีชุดใหญ่ก็ถึง เวลาเช็คอินซะที!! ดูจากภายนอกโรงแรมนี้นับว่า ใหญ่มาก ลองถามพนักงานดูเค้าบอกว่าที่เป็น โรงแรม 5 ดาว หลังจากสอบถามที่รีเซ็ปชั่นพ ร้อมบอกชื่อก็ได้รู้ว่า....คนอื่นเค้ามาถึงกันหมด แล้ว มีแต่เรา FRM จาก Thailand ที่มาถึง สุดท้าย น่าอายจริงๆ...ถึงตรงนี้เราจ�าเป็นต้อง ขอพักเนื้อเรื่องไว้ก่อน (พื้นที่หมด) แต่ฉบับ หน้าสัญญาว่าจะพาทุกท่านสัมผัสไอหนาวของ ภูเขาลูกแลกจาก 5 ลูกซะที!
EICMA
Around The World.... เรื่อง : NICKY PH ภาพ : VEDETT® ///// MOTOTOURS & IMAGINATIVE ENTERPRISES
70th International
Motorcycle Exhibition
Milan, 15-18 November 2012
มอเตอร์โชว์เมืองมิลาน...อิตาลี
EICMA 70th International Motorcycle Exhibition Milan ที่เราเรียกกันว่า “มิลานมอเตอร์โชว์” จัดมาทุกปี เป็นงานใหญ่ระดับโลกเลยทีเดียว ปีนี้เป็นปีที่ 70 ไม่น่าเชื่อว่า ประวัติศาสตร์รถมอเตอร์ไซค์มีมานานถึง 70 ปีแล้ว สถานที่จัดคือ RHO เป็นชื่อเมืองหนึ่งที่ อยู่ในมิลาน อ่านออกเสียงว่า “โรห์” พูดถึงเมืองมิลานที่คนอิตาลีจะเรียกว่า “มิลาโน-Milano” ถ้าขี่มอเตอร์ไซค์ไปจากโรมจะผ่านเส้นเลียบทะเลมีหุบเขา ลัดเลาะสวยสุดลูกหูลูกตาทีเดียว ระยะทาง ประมาณ 700 กม. จากโรมไปมิลาน โดยงานจะมีตอนช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปี โปสเตอร์ งานจัดได้เก๋ เหมือนการเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์บุกไปทุกๆ ที่ และมีเรื่องราวให้เล่าแม้กระทั่งรอบ กองไฟ กลางทะเล ดูเก๋เข้ากับคอนเซปต์ของรถทัวริ่งที่มีเพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อนจริงๆ For Ride Magazine December 2012 35
งานครั้งนี้มีรถมาโชว์มากมายจากทั่วโลกเหมือนเช่นเคย แต่ค่าย จากจีนดูเหมือนจะน้อยลงกว่าปีก่อน บูธต่างๆ บางบูธก็ไม่ได้เปลี่ยน รูปแบบอะไรมากนัก บางค่าย บางแบรนด์ จะเหมือนปีที่แล้ว ซึ่งก็จะง่าย ต่อการจดจ�า และประหยัดวัสดุเหลือใช้อีกต่างหาก การเข้างานสามารถ เดินทางอย่างสะดวก โดยมีรถไฟใต้ดินขึ้นมาหน้างานเลยทีเดียว ส่วน ค่าเข้าชมงาน 18 ยูโรต่อวัน แต่ไม่ต้องตกใจไป เราสามารถลงทะเบียน ออนไลน์ ถ้าเราเป็นสื่อหรือบริษัทที่จะเข้าเยี่ยมชม และน�าไปยื่นจะได้บัตร เข้างานตั้งแต่วันแรกของสื่อจนวันสุดท้ายเลยทีเดียว ซึ่งจะดีส�าหรับ ผู้ที่จะมาเยี่ยมชมและติดต่อประสานงานในเรื่องธุรกิจจริงๆ เพราะ งานนี้บอสใหญ่หรือแม้กระทั้งเจ้าของมักจะมาในงาน โดยเฉพาะสอง วันแรกของงาน
เมื่อเข้าไปในงานจะแบ่งออกเป็นแต่ละโซนได้อย่างลงตัว และพื้นที่ใหญ่มาก ใน การเข้าชมต้องมีคู่มือในการเข้าชม ซึ่งจะรับได้จากหน้างาน หรือในแต่ละพื้นที่จะมี เคาท์เตอร์ส�าหรับข้อมูลต่างๆ งานนี้รถใหญ่แดนซากุระน�ามาโชว์ เช่น Kawasaki, Yamaha, Suzuki, Honda 4 ค่ายดังที่ไม่เคยพลาด ส่วนค่ายท้องถิ่นแดนพิซซ่า ก็อวดโฉม Aprilia, Benelli ซึ่งตอนนี้ Benelli ถูกนักลงทุนใหญ่จากจีนแผ่น ดินใหญ่เป็นเจ้าของ แต่ไสตล์และการผลิตยังเป็นฝีมือของพี่เลี่ยนอยู่ พร้อมทั้ง มีรถในเครือ คือ Keeway ที่หาได้ในเมืองไทย ส่วน Benelli สามารถไปแวะเวียน เยี่ยมชม ขี่ลองของจริงๆ ได้ที่ประเทศมาเลเซีย และก็มี Beta Motor, Bimota, Cagiva, Ducati, Gilera, Husqvarna (ที่ BMW เป็นเจ้าของเเต่โปรดักส์อยู่ ที่อิตาลี), Moto Guzzi, MV Agusta และที่ส�าคัญ Piaggio ที่เรารู้จักกันใน นามของ Vespa เปิดตัว Vespa รุ่นใหม่ดีไซน์เพรียว เห็นเเล้วตกหลุมรักในทันที ส�าหรับคนที่ชื่นชอบ Scooter ส่วนสเปนก็น�ามาอีกครั้งส�าหรับคนชอบรถแบบลุย คือ Gas Gas และ Rieju ส่วนค่ายดังที่ขาดไม่ได้ BMW, Triumph, KTM, HARLEY-DAVIDSON 36 For Ride Magazine December 2012
>> Around The World....
และอีกมากมาย พร้อมทั้งชุดแต่ง อุปกรณ์ ต่างๆ และ ชุด หมวกกันน็อค รองเท้า อุปกรณ์เทคโนโลยีสื่อสาร สารพัดสารพัน ที่ สามารถหาได้จากงานนี้จริงๆ อย่างสิ่งส�าคัญ ที่สุดในการขับขี่ คือ หมวกกันน็อคที่ออกแบบ มาให้เหมาะกับทุกรูปร่างของศีรษะที่สามารถ อัดลมเข้าไปด้านในได้ ให้กระชับไม่หลวมไม่แน่น จนเกินได้ จากนั้นก็เป็นเสื้อแจ๊กเก็ตที่มาแรงใน ด้านเทคโนโลยีของความปลอดภัยเห็นที่จะไม่ พ้น AIRBAG ที่มากับแจ๊กเก็ต สามารถท�างาน ได้ภายใน 8 วินาทีเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย ของกระดูกสันหลังและต้นคอ ที่มีหลากหลาย แบรนด์ แต่เห็นจะเป็นที่เก่าแก่และพัฒนามาอย่าง ต่อเนื่องถึง 30 ปี ต้องยกให้ Clover ที่ได้ มาตราฐาน CE (CE Mark : เครื่องหมาย รับรองความปลอดภัยของ EU) เห็นแล้ว อยากจะลองมาใช้ให้ AIRBAG ท�างาน แต่ราคา ถ้าลองเล่นๆ สูงอยู่ไม่ใช้เล่น แต่เมื่อ AIRBAG ท�างานจะพองออกมาด้านหลังที่ใส่กับเสื้อ และ สามารถปั้มลมออก และอัดลมเข้าไปใหม่ได้
เหมือนเดิมโดยเสียราคาเพิ่มไม่มากนัก ส่วนอุปกรณ์ติดต่อสื่อสารที่ดูเหมือน มีความต้องการสูงในการขับขี่ โดยเฉพาะการ เดินทางกันเป็นกลุ่มๆ หรือแม้กระทั่ง 2 คน หรือคนเดียว คือ อุปกรณ์สื่อสารติดหมวก กันน็อค ที่นอกจากสื่อสารระหว่างการขับขี่ แล้ว ยังสามารถที่จะฟัง GPS บอกทาง ฟังเพลง วิทยุ และรับโทรศัพท์ได้ โดยมีรีโมล คอนโทรลติดกับแฮนด์เดิ้ลบาร์ กันน�้าและสะดวก แก่การพกพา กับแบรนด์ดัง Interphone จากนั้นก็จะเป็นกล้องที่ใช้ถ่ายภาพนิ่งและภาพ เคลื่อนไหว ที่มีส่วนส�าคัญไม่น้อยไม่ว่าจะ เป็นการท่องเที่ยวหรือการใช้แข่งเพื่อบันทึก ภาพที่น่าจดจ�า กันน�้ากันกระเทือนกันกระแทก เพราะสามารถวางได้ทุกส่วนของรถ แม้กระทั้ง บนหมวกกันน็อค เล็กกะทัดรัดขนาดพกพา และสามารถต่อได้กับ Bluetooth และ wifi เพื่อ การเห็นภาพที่แม่นย�าผ่าน Smartphone งาน นี้เรียกว่าไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวจริงๆ นอกจากการจะได้ชมเครื่องยนต์และตัวรถแล้ว
For Ride Magazine December 2012 37
ก็จะเพลิดเพลินไปกับ pretty ที่เหมือนจะเป็นของคู่ กันไปกับงานมอเตอร์โชว์ของทุกชาติ สาวสวยๆ กันทั้งนั้น แต่เห็นแล้วสู้ pretty สาวไทยไม่ได้จริงๆ มาต่อกันที่รถ งานนี้มาที่แบรนด์ CR&S เป็นรถมอเตอร์ไซค์ท�ามือจากฝีมืออิตาเลี่ยน สวยสะดุดทั้งรูปทรงที่แปลกตา ดูแกร่งและบึกบึน แต่ไม่เทอะทะ สนนราคาก็ไม่สูงมาก อยู่ระหว่าง 35,000 – 60,000 ยูโร (1 ยูโร = 40 บาท) ฟังแล้วตกใจว่ารูปทรงแบบนี้ราคาเมื่อเทียบแล้วไม่ แพงเท่าไหร่เลย ต่อมาที่น่าสนใจคงจะเป็น Aprilia Caponord 1200 ที่ออกแบบมาได้อย่างลงตัว ทั้งรูปทรงเห็นแล้วอยากถอยออกมาจากงาน เอคม่าทันที ส่วนอีกแบรนด์ที่ออกแบบมาได้อย่าง แปลกและไม่เหมือนใคร โช้คอัพหน้ามันลงมาอยู่ ตรงส่วนล้อ คือ Bimota ซึ่งจะมีหลากหลายให้
38 For Ride Magazine December 2012
เลือก และ Brammo รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจาก อเมริกา ที่ดีไซน์ออกมาแปลกตาและผ่ากันให้เห็น ถึงไส้แบตเลยทีเดียว ส่วน Suzuki ก็มาพร้อมกับ Suzuki vstrom 1000 cc. และ Kawasaki มี Z800 ที่ เผยโฉมได้ไม่แพ้กัน รถค่ายญี่ปุ่นเราคงได้เห็น ในงานมอเตอร์โชว์ที่บ้านเราเป็นแน่ ส่วนที่น่า จับตามองเห็นจะเป็น Benelli ที่มีอายุยาวนาน ถึง 100 ปี ที่เพิ่งฉลองการครบรอบไปเมื่อปีที่ แล้ว และได้ถูกเสี่ยกระเป๋าหนักซื้อกิจการไปแต่การ ผลิตและการออกแบบยังคงอยู่ในการควบคุม ดูแลของอิตาเลี่ยน ซึ่งไม่นานนี้ได้เปิดตัวที่ เซปัง มาเลเซีย โดยการน�าเข้าไปยังประเทศมาเลเซียให้ ได้ทดลองขี่กันแน่...ถ้าได้แวะไป!! จากรถหลาก หลาย มองกันสามสี่วันยังเดินกันไม่ทั่ว ก็จะเป็น
>> Around The World....
แหล่งรวมเครื่องมือ เครื่องใช้ ชุดและหมวกกันน็อคมากมาย และที่ อิตาลีนิยม คือ กล่องติดรถ จะสะดวกในการเก็บหมวกและของใช้ ต่างๆ ให้เรียบร้อย มีแบรนด์ต่างๆ มากมาย เช่น GIVI, KAPPA, Hepco & Becker, SW-MOTECH และ SHAD
ในงานเดินกันไม่ต้องห่วงว่าจะหิว เพราะมีกาแฟ เครื่องดื่ม และอาหารบริการอยู่ ทั้งในตัวอาคารและด้านนอก ที่ขาดเห็นจะเป็นการนวดเท้า นวดผ่อนคลาย เพราะรับรอง เมื่อยแน่นอน การมางานเอคม่าคราวนี้ ถือว่าคุ้มจริงๆ รถและอุปกรณ์น่าสนใจมากขึ้น พร้อมทั้งเทคโนโลยีที่เข้ามาเกี่ยวข้อง การดูรายละเอียดของรถสามารถเอานิ้วเลื่อนดูได้ จาก iPad ที่มีวางไว้เป็น information ด้านหน้ารถทุกรุ่นเลยทีเดียว และดูเหมือนคนจะเข้า ชมงานมากกว่าปีก่อน ขนาดลานจอดรถและก็จะเห็นรถมอเตอร์ไซค์หลากหลายรุ่นเรียง รายประชันกันแบบแทบจะไม่ต้องเข้าไปดูในงานเลยทีเดียว สิ่งที่ดีคือมางานเอคม่าด้วย มอเตอร์ไซค์จอดรถฟรี ไม่อย่างนั้นค่าจอด ไม่ต่างจากค่าตั๋วเข้างานเลย 16 ยูโร! อ๋อ...ยังมีอีกแบรนด์ที่คนไทยไม่ค่อยได้รู้จักกันเท่าไหร่ ปีนี้มิได้มาเปิดตัวที่งาน เอคม่า แต่ไปเปิดตัวโชว์กับรถ 4 รุ่น ที่บาร์มีชื่อย่านใจกลางเมืองมิลาน เร็วๆ นี้คงอาจ จะมีเซอร์ไพรซ์ให้กับบ้านเรา ตอนนี้ขออุบไว้กับชื่อย่อก่อน M M ที่ไม่ใช่ M&M และ คราวหน้าจะมาสาธยายให้ฟังกันต่อนะคร้าบบบ...
For Ride Magazine December 2012 39
เจาะลึก!!..
YMJETที่สุด_แห่FIงเทคโนโลยี & DiASil จากยามาฮ่า เชื่อว่าตอนนี้ชื่อของ “YMJET_FI” กับ “DiASil” คงจะ เป็นที่คุ้นหูของผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ โดยเฉพาะสาวกยามาฮ่ากันเป็น อย่างมาก เนื่องจากรถรุ่นใหม่ๆ ของค่ายส้อมเสียงต่างได้รับการ พัฒนามาใช้สุดยอดเทคโนโลยี ของยามาฮ่ากันแล้ว แต่อาจจะยัง มีอีกหลายคนที่ยังไม่เข้าใจว่าเจ้า เทคโนโลยีนี้คืออะไรกันแน่...ครั้งนี้ FRM ก็เลยจะขออาสาพาคุณ ผู้อ่านไปท�าความรู้จักกับที่สุดแห่ง เทคโนโลยีจากยามาฮ่านี้กันให้มาก ยิ่งขึ้น....
] ระบบ หัวฉีดอัจฉริยะ YMJET_FI “YMJET_FI” ย่อมาจาก Yamaha Mixture Jet-Fuel Injection คือ ระบบจ่ายน�้ามันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดที่มีคุณสมบัติเด่น ด้วยการเพิ่มช่องทางผ่านอากาศเสริม (ช่องอากาศรอง-บายพาส) ให้แก่ทางผ่านอากาศหลัก เพื่อให้เกิด “อากาศเสริม” ซึ่งจะช่วยให้การ ผสมระหว่างอากาศกับละอองน�้ามันท�าได้ดีขึ้น อีกทั้งหัวฉีดยังได้ รับการออกแบบมาเป็นพิเศษโดยสามารถฉีดน�้ามันได้ละเอียดเหมือน ละอองหมอก จึงท�าให้ง่ายต่อการจุดระเบิด และเกิดการเผาไหม้อย่าง สมบูรณ์ เป็นผลให้ทุกอณุของน�้ามันเชื้อเพลิงถูกใช้งานอย่างคุ้มค่า มากที่สุด นอกจากนี้ระบบ “YMJET_FI” ยังมีความพิเศษกว่าระบบ หัวฉีดทั่วไป ด้วยการติดตั้ง “ลิ้นปีกผีเสื้อ 2 ตัว” ในเรือนลิ้นเร่ง โดยในรอบเดินเบา (ขณะรถจอด) ลิ้นปีกผีเสื้อทั้ง 2 ตัว จะปิดสนิท อากาศจากกรองอากาศจะไหลผ่านทางช่องบายพาสไปผสมกับน�้ามัน เชื้อเพลิงที่ถูกฉีดเป็นละอองหมอก ท�าให้เกิดการคลุกเคล้าส่วนผสม ระหว่างอากาศและน�้ามันเชื้อเพลิงในห้องเผาไหม้ และเกิดการเผาไหม้ได้
ISC ที่ควบคุมการไหลของอากาศในช่องบายพาส
40 For Ride Magazine December 2012
อย่างสมบูรณ์ ซึ่งการท�างานในรอบเดินเบานี้จะถูกควบคุมด้วย ISC (Idle Speed Control) ที่จะสั่งการให้วาล์วที่ควบคุมการไหลของอากาศในช่องบายพาสให้เปิดปิด ได้อย่างเหมาะสม ในรอบความเร็วต�่าจนถึงความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. ลิ้นปีกผีเสื้อ ตัวที่ 1 จะเปิดไม่เกิน 10 องศา ท�าให้อากาศไหลผ่านทางช่องอากาศหลักก่อนที่ จะไหลผ่านช่องบายพาสไปผสมกับน�้ามันเชื้อเพลิงในห้องเผาไหม้ และเมื่อบิดคัน เร่งเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ลิ้นปีกผีเสื้อทั้ง 2 ตัวจะเปิด ส่งผลให้อากาศจะไหลผ่านทาง ช่องอากาศหลักไปผสมกับน�้ามันเชื้อเพลิงที่ถูกฉีดเป็นละอองหมอก ท�าให้เกิดการ เผาไหม้ที่สมบูรณ์ ส่งผลให้เครื่องยนต์ท�างานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการใช้ น�้ามันเชื้อเพลิงได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด
TECHKNOW ทั้งนี้ระบบหัวฉีดอัจฉริยะ “YMJET_FI” นี้ ถูกคุมคุมการท�างานด้วยกล่อง ECU ซึ่งจะส่งผลให้การสั่งการฉีดจ่ายน�้ามันเชื้อเพลิงมีความสัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์ และ ในระบบนี้ยังได้รับการติดตั้ง “ปั๊มน�้ามันเชื้อเพลิง” เพื่อช่วยให้การส่งน�้ามันเชื้อเพลิงไป ยังหัวฉีดมีแรงดันสูง ท�าให้การฉีดน�้ามันของหัวฉีดสามารถฉีดได้เป็นละอองหมอก ซึ่ง ทั้งหมดนี้จึงช่วยให้เครื่องยนต์ที่ใช้ระบบหัวฉีด “YMJET_FI” มีความประหยัดน�้ามันเชื้อ เพลิงและให้การท�างานของเครื่องยนต์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น...
] กระบอกสูบ DiASil กระบอกสูบ DiASil คือ กระบอกสูบที่สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีการหล่อขึ้นรูป แบบพิเศษลิขสิทธิ์เฉพาะของยามาฮ่า ซึ่งผลิตจากอลูมินัมผสมกับซิลิกอนในอัตราส่วน 20% ที่ท�าให้เกิดโครงสร้างทางโลหะ เพื่อให้อนุภาคของซิลิกอนซึ่งเป็นธาตุที่มีความแข็ง กระจายตัวทั่วผิวหน้ากระบอกสูบอย่างสม�่าเสมอ ด้วยเหตุนี้จึงท�าให้ผิวหน้าของกระบอก สูบ DiASil มีระดับความแข็งที่ดีมีความทนทานสามารถใช้งานได้นานยิ่งขึ้น และการกระจาย ตัวของผลึกซิลิกอนที่อยู่ทั่วโครงสร้างของกระบอกสูบที่ถูกฉาบด้วยวัสุดเนื้อละเอียดชนิด พิเศษยังช่วยลดการระเหยของน�้ามันหล่อลื่น เป็นผลให้การใช้น�้ามันหล่อลื่นลดลงตามไป ด้วย โดยกระบอกสูบ DiASil มีคุณสมบัติเด่น คือ กระจายความร้อนได้ดีกว่ากระบอกสูบ แบบเหล็กกล้า (อลูมินัมมีการถ่ายเทความร้อนได้ดีกว่าเหล็กกล้าถึง 3.1 เท่า) มีน�้าหนักเบา มีความต้านทานการเสียดสีสูงช่วยให้ความเสียหายของเครื่องยนต์ซึ่งเกิดจากความร้อน ลดลง และท�าให้เครื่องยนต์ท�างานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และในขณะเดียวกันการท�างาน ของระบบระบายความร้อนที่ดีขึ้น ส่งผลให้ช่วยประหยัดน�้ามันเชื้อเพลิงได้มากขึ้นอีกด้วย
ช่องทางผ่านอากาศเสริม (ช่องอากาศรอง-บายพาส)
ลิ้นปีกผีเสื้อ 2 ตัวในเรือนลิ้นเร่ง (ปิดสนิท)
ลูกสูบ Forged ที่มีขนาดเบาและบาง แต่แข็งแกร่ง
ผิวหน้าสัมผัสของกระบอกสูบ DiASil ลิ้นปีกผีเสื้อตัวที่ 1 เปิด 10 องศา
กระบอกสูบ DiASil และลูกสูบ Forged ท�างานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
ลิ้นปีกผีเสื้อทั้ง 2 ตัว เปิดเต็มที่
นอกจากนี้ยามาฮ่ายังได้น�า “ลูกสูบ Forged” หรือ ลูกสูบอลูมินัมแบบ อัดขึ้นรูป ซึ่งผลิตด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของยามาฮ่า ที่มีการควบคุมแบบ CF (Controlled Forging Piston) โดยผ่านการเคลือบลูกสูบด้วยเทคโนโลยี Triborrocoating เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับลูกสูบ จึงได้ลูกสูบที่มีความแข็งแรงมากกว่า แบบหล่อขึ้นรูป เพื่อรองรับการจุดระเบิดที่มีการเปลี่ยนองศาการจุดระเบิดอยู่ ตลอดเวลา ซึ่งโครงสร้างของลูกสูบ Forged นั้นจะมีความหนาแน่นมากกว่าเดิม โดยลูกสูบ Forged มีคุณสมบัติเด่น คือ มีน�้าหนักเบาและบางแต่มีความ แข็งแรงมากกว่าลูกสูบแบบหล่อขึ้นรูป เนื่องจากวิธีการผลิตที่ช่วยจัดรูปทรงของ ลูกสูบภายใต้แรงดันในการอัดขึ้นรูปโดยไม่ท�าให้อลูมินัมละลาย ลูกสูบ Forged จึง ช่วยลดการสูญเสียก�าลังในขณะลูกสูบเคลื่อนตัวขึ้นลง ส่งผลให้การตอบสนอง ของเครื่องยนต์ดียิ่งขึ้น ลดการสั่นสะเทือน เพื่อให้สามารถสัมผัสกับการขับขี่ที่มี คุณภาพและสบายยิ่งขึ้น For Ride Magazine December 2012 41
Panda
Rider Stati n ร่วมแชร์ความฝัน
ค้ไปกันบหาตั ว ตน สนามเด็กเล่น
ราคา 20 ล้าน
เราเคยเกริ่นเรื่องร้านขายอุปกรณ์ขับขี่มอเตอร์ไซค์หรือไรดิ้ง เกียร์ช็อปส�าหรับสิงห์ 2 ล้อที่รักความปลอดภัย วันนี้เราขอพาทุก ท่านเข้าสู่ “สนามเด็กเล่นในฝัน” พื้นที่เล็กๆ ที่ไม่เล็ก ถือก�าเนิดขึ้นมา จากความฝันของผู้ชายคนนึงนามว่า “สยาม” หลังจากผ่านการ สั่งสมประสบการณ์และวางแผนมานานนับปี ในที่สุดพื้นที่ส�าหรับให้ ชาว 2 ล้อได้มาร่วมแชร์ความฝันกันก็เป็นจริง...ว่าแล้วก็เปิดประตู บานยักษ์เข้าสู่ดินแดนความฝันกันเลยดีกว่า
42 For Ride Magazine December 2012
Rider’s Heaven
• Everybody’s warm welcome @Panda Rider Station ใครที่เป็นแฟนเก่า (ลูกค้าเก่า) ของ ร้านชื่อน่ารัก Panda คงรู้กันดีว่าตอนนี้ ร้าน “Panda Rider” ได้ย้ายที่ท�าการใหม่ มายังซอยประเสิร์ฐมนูญกิจ 17 บนถนน เกษตร-นวมินทร์ ถ้าใครชอบวิ่งขวาก็นับตอม่อ ที่ 78–79 หน้าปากซอยจะสังเกตเห็นศูนย์รถยนต์ Honda ตั้งอยู่...คอนเซ็ปต์ของช็อปใหม่คือ “ท�า ตามความฝัน” เมื่อฝันของพี่ “สยาม” เจ้าของ ร้านอยากท�าร้านที่เป็นเหมือน Complex (ห้าง ศูนย์รวมสินค้า) ที่รวมของทุกอย่างที่ชาว 2 ล้อ อยากได้มาไว้ในที่เดียว เรียกว่าอยากได้หมวกกัน น็อคแต่อาจได้ชุดหนังกลับไปด้วยก็ได้ เริ่มต้นสร้าง ร้านจากการถอนหญ้าต้นแรก ผสมผสานไอเดีย ผสมปูนถุงแรก ปักเสาต้นแรก แถมแอบเรียนรู้จาก หัวหน้าช่างก่อสร้างจนเสร็จสรรพเป็นตึกทรง ทันสมัยโอ่อ่ามูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ภายนอกดู เคร่งขรึมไฮโซ แต่ภายในนั้นเต็มไปด้วย “ไรดิ้งเกียร์ ในฝัน” ของใครหลายๆ คน...ได้เวลามาแชร์ความ ฝันแล้วหละ! เปิดประตูบานใหญ่ยักษ์เข้าสู่ร้าน Panda Rider จะรู้สึกว่า “ตรูจะไปทางไหนก่อนดีฟะ!?” ซ้ายก็มีห้องหมวกกันน็อค ขวาก็มีรองเท้า ชุดขี่ มอเตอร์ไซค์และอะไรก็ไม่รู้แน่นร้านไปหมด พนักงาน รูปหล่อเห็นเราเดินร้านแล้ว....ยืนเฉยๆ (เออดี แฮะ) แต่เมื่อเราเริ่มท�าหน้าสงสัย หนุ่มคนนั้นจะ เดินเข้ามาให้ความช่วยเหลือพร้อมให้ข้อมูลทันที ค�าอธิบายพร้อมความรู้เรื่องเกี่ยวกับสินค้านั้นๆ
จะถูกถ่ายทอดผ่านรอยยิ้มจากหนุ่มๆ ในร้าน พนักงานที่นี่พูดได้ 3 ภาษา...ภาษาไทย ภาษา อังกฤษ และภาษา “คนขี่มอเตอร์ไซค์” ใครที่ไม่ ต้องการค�าแนะน�าให้ขยิบตา 1 พนักงานจะหายตัว ไปทันที...(อันนี้หลอกครับ) สินค้าหลักๆ ในร้านจะหาไม่ได้ในร้านอื่น เพราะ Panda Rider จะโฟกัสที่สินค้าคุณภาพและ เป็นที่นิยมในต่างประเทศ ที่ส�าคัญสินค้าแต่ละชิ้นจะมี ที่มาหรือผ่านการทดสอบมาแล้วทั้งนั้น เรียกได้ว่า มีหลักฐานเรื่องความปลอดภัยในแทบทุกสินค้าที่มี ในร้านก็ว่าได้ แบรนด์ที่เราเห็นก็มี Rev’It ที่มีครบทั้ง ชุดตั้งแต่เสื้อ–ถุงมือ–กางเกง–รองเท้า ชุดกันฝน ก็มี ชุดทัวริ่งก็พร้อมให้เลือก รองเท้า Gearne, Forma, TCX หมวกกันน็อค Airoh, Bell, Vemar, Suomy, Nexx หรือ Schubert ต่างก็เป็นสินค้าที่ Panda เป็นตัวแทนจ�าหน่ายอย่างเป็นทางการทั้ง นั้น เรียกว่าไม่ว่าจะเป็นนักแข่ง นักขี่ นักทัวริ่ง หรือ คนซ้อนก็มีอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยครบครัน นอกจากนี้ยังมีส่วนของอุปกรณ์ดูแล ความสะอาดรถสุดอย่าง Muc-Off ที่มาเป็นเซ็ท พร้อมให้คุณใช้เสริมหล่อให้รถสุดหวงในช่วงวัน หยุด หรือใครที่พร้อมเดินทางแต่ยังไม่มีกระเป๋ากัน น�้าก็สามารถเลือกระหว่าง Kriega หรือ SWMotech ถ้าแถวบ้านโจรชุมก็สามารถเลือกซื้อล็อค XENA ไปใช้ได้เช่นกัน ล่าสุดสินค้าใหม่ส�าหรับคน ที่ไม่อยากพลาดช่วงเวลาส�าคัญ ก็มีกล้องวีดีโอ Midland ที่มีให้เลือกทั้งความคมชัดแบบ 720 และ
1080 ในราคาไม่ถึงหมื่น!! (มาพร้อมอุปกรณ์ ล็อคและเคสกันน�้า) ในส่วนที่ตอกย�้าความเป็น “สนามเด็กเล่นในฝัน” คงจะอยู่ที่ห้อง DIY พื้นที่อิสระที่ถูกจัดไว้ให้คนชอบ “มันส์” เข้า มาตกแต่งดัดแปลงหรือแม้แต่เซอร์วิสรถตัว เองกันอย่างเต็มที่ ที่ส�าคัญไม่มีค่าใช้จ่าย ใดๆ ทั้งสิ้น...เอาเป็นว่าถ้าจะให้พาทัวร์ทุก ตารางนิ้วคงต้องใช้เนื้อที่ประมาณ 10 หน้า FRM แนะน�าให้แวะไปเที่ยวไปนั่งเล่น (เค้ามีน�้า และเครื่องนวดเท้าบริการฟรีด้วยครับ) กัน ได้เลยที่ Panda Rider สนามเด็กเล่นในฝัน ของชาว 2 ล้ออย่างเรา...เพิ่มอีกช่องทาง ส�าหรับชมสินค้าส�าหรับคนอยู่ไกล เข้าไปชม ได้ที่ www.pandarider.com หรือกริ๊ง กร๊างเข้าไปสอบถามกันได้ที่ 02-940-4477, 02-940-4779 หรือ 08-7590-4244 , 08-5943-7555 For Ride Magazine December 2012 43
Cool Gadgets 2012 โลกจะแตกใช่มั้ย? จัด Life Amor ไปคนละลูกเลย หลังจากปีที่แล้วมีคนออกมากรี๊ดกร๊าดกันว่าปีนี้โลกจะถึงกาลอวสาน น�้าจะท่วมโลกอย่าง นั้นอย่างนี้...งั้นไปถอย Life Amor ลูกกลมนิรภัยที่กันกระแทกและรับแรงกดได้ถึง 9.3 ตัน กัน ตกจากที่สูงได้ 25 เมตร (แต่ตกสูงขนาดนั้นคงเละอยู่ข้างใน) ที่ส�าคัญมันยัดคนเข้าไปได้ถึง 4 คน (ใครจะบ้าไปนั่งดมจักกะแร้กันอยู่ 4 คน) แต่ที่แน่ๆ มันมีขายจริงๆ ที่ญี่ปุ่นเพราะที่นี่เจอกับภัย ธรรมชาติเป็นเรื่องชิน มันคงจะดีถ้ามีอะไรไว้ป้องกันเหตุฉุกเฉิน หรืออย่างน้อยช่วยชีวติได้บ้าง... ค่าตัว Life Amor อยู่ที่ $5,000 หรือราว 15x,xxx บาทเท่านั้น
ปำร์ตี้นี้ไม่มีมืดอีกต่อไปด้วย Balloon Lamp จำก Kouichi Okamoto
ปาร์ตี้บ้านเพื่อนบางคนชอบเปิดไฟสลัวๆ น่ากลัวส�าหรับคนรักนวลสงวนตัวอย่าง เราซะจริง! แก้ปัญหาความมืดง่ายๆ แบบมี สไตล์ด้วย Balloon Lamp จาก Kouichi Okamoto นักประดิษฐ์ชาวญี่ปุ่นที่โชว์ไอเดีย สุดเก๋ด้วยการน�าเอาหลอดไฟ LED สีขาว มาใส่ในบอลลูนสีขาวให้คุณเป่าให้พองแล้ว แขวนมันไว้เพื่อประดับห้องนอน หรือจะเป็น งานปาร์ตี้ก็ดูเก๋จนเพื่อนอิจฉา ลูกโป่งจะ สว่างอยู่ได้ราว 100 ชม. เพราะงั้นเราไม่แนะน�าให้เอาไปติดเป็นไฟหลัก ประจ�าบ้าน...ราคา 1 เช็ตมี 2 ลูกอยู่ที่ $77 (2,363 บาท)
USB Typewriter Keyboard เด็กแนวส�ำหรับคออนุรักษ์นิยม ดีไซน์ของคีย์บอร์ดไหนๆ ที่มีในยุคนี้คงไม่สู้ คีย์บอร์ดเด็กแนวสไตล์ย้อนยุคจาก USB Typewriter ใครที่พึ่งย้อนเวลามาจากอดีตแล้วคิดถึงพิมพ์ ดีดสมัยโบราณให้ปาคีย์บอร์ดปี 2012 ลงหน้าต่าง ไปได้เลย แล้วลองสัมผัสความหนักหน่วงของแต่ละ ปุ่มที่พิมพ์ลงไป พิมพ์จริง – ดีดจริง – ขึ้นบรรทัด ใหม่จริงๆ เพียงแต่แทนที่จะใช้กระดาษ สายข้อมูลจะ ส่งสัญญาณไปเป็นตัวหนังสือที่คอมพิวเตอร์ของ เรา มีทั้งส�าหรับ Tablet, PC หรือแม้แต่ Mac ที่ ส�าคัญมันมีขายจริงๆ โดยนาย Jack Zelkyn (แจ็ค เซลกิ้น) เจ้าของร้าน Etsy Shop เค้ามีทั้งตัวแปลง สัญญาณให้เอาไปต่อกับพิมพ์ดีดที่คุณมีอยู่แล้ว ซึ่งขายในราคาแค่ $80 หรือใครขี้เกียจก็สามารถ ซื้อมันทั้งแป้นพิมพ์เลยในราคา $699 เท่านั้น (ราว 2,1452 บาทเอง)
Manticuda ป้องกันตัวแบบมีสไตล์ มีดหน้าตาประหลาดที่เห็นอยู่นี้มันเป็นมีดจริงๆ ครับ เพียงแค่ด้ามจับคล้ายด้าม ปืนส่วนใบมีดก็ดูแปลกตาคล้ายใบไม้มีรูตรงกลาง เท่าที่วิเคราะห์ดูแล้วผู้ผลิตคง ต้องการให้ถือมันแบบ “สนับมือ” ที่มีใบมีด ดูไปดูมามันเหมือนกับอาวุธของ นักลอบสังหารในหนังหรือเกมส์ยอดฮิต แต่เราเชื่อว่ามันเหมาะส�าหรับนัก สะสมและส�าหรับป้องกันตัวเท่านั้น ราคาอยู่ที่ $275 (8,439 บาท)
Das Horn ดื่มอย่ำงวีรบุรุษต้องหักเขำมังกรมำท�ำแก้วเบียร์...แห่! วัฒนธรรมการดื่มมีความแตกต่างกันในแต่ละที่ทั่วโลก แต่ผู้ชายที่ดื่มเบียร์จากแก้ว พลาสติกมันเชยไปแล้ว...ลูกผู้ชายมาดแมนปี 2013 เค้าดื่มกันแบบวีรบุรุษ...มันต้อง Das Horn แก้วส�าหรับผู้พิชิตท�าจากพลาสติก ABS ไร้สารพิษเป็นมิตรกับแอลกอฮอลทุกชนิด จะวางบน แท่นเหล็กหรือจะห้องคอด้วยสายหนังแบบไวกิ้งก็ท�าให้สาวๆ กรี๊ดได้ไม่แพ้กัน แก้วรูปเขาสัตว์ ขนาด 24 ออนซ์นี้มาจากบริษัท Kickstarter พร้อมราคาตัวเบาๆ $35 (1,074 บาท) 44 For Ride Magazine December 2012
ไม่รีบฮะ...ชิลล์ๆ เด็กแนวรอได้ The Oncle Sam จัดให้ ใครที่เคยใช้ชีวิตเร่งรีบวุ่นวายน่าเบื่อและสุดท้ายก็ไม่ประสบความส�าเร็จในอะไรซักอย่าง...ลอง หัดท�าอะไรช้าๆ ดูบ้าง อย่างเช่นผลงานจากนักเรียนจาก ECAL โรงเรียนสอนศิลปะที่มีเด็กรู้ซึ้งซึ่ง สัจธรรมผลิตเครื่องมือประหลาดขึ้นมา...มันคือเครื่องปิ้งป๊อปคอร์นแบบ “ทีละชิ้น” ชื่อของมัน คือ The Oncle Sam เครื่องมือจะท�างานเมื่อเราหมุนที่หมุนลงมา เม็ดข้าวโพดจะกลิ้งลงมาตาม รางเข้าสู่ถ้วยน�้ามันที่ถูกต้มด้วยไฟแบบตะเกียงวิทยาศาสตร์ จากนั้นหมุนที่หมุนขึ้นเพื่อโรยเกลือ... รอคอยอย่างใจเย็นพร้อมก�าหนดลมหายใจเข้า....ออก...จากนั้นก็ ป๊อป!! ข้าวโพดแตกตัวหล่นลง มาในถ้วยที่รองรับเกิดเป็นป๊อปคอร์น 1 เม็ด นี่แหละรางวัลของความใจเย็น....อันที่จริงมันเหมาะจะ เป็นงานศิลปะตั้งโชว์ซะมากกว่า
Ogio No Drag Mach 1 ค�ำตอบของชำว 2 ล้อวัยท�ำงำน ใครที่ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์เป็นประจ�าโดยเฉพาะ รถบิ๊กไบค์ 250 ซีซี. ขึ้นไปคงรู้ดีว่าการขนสัมภาระไป เรียนหรือไปท�างานมันล�าบากแค่ไหน นอกจากเรื่อง ปริมาณและการรักษาของส�าคัญอย่างโน๊ตบุคแถม ต้องคอยห่วงเรื่องฝนตกด้วยแล้ว...เราแนะน�า Ogio No Drag Mach 1 ชื่อก็บอกว่า No Drag เพราะ บอดี้ของกระเป๋าท�าจากพลาสติกอัดขึ้นรูปที่เกือบ จะกันน�้า แต่ที่แน่ๆ มันออกแบบตามหลักอากาศ พลศาสตร์ช่วยลดแรงเสียทาน (Drag) ระหว่าง หมอบท�าความเร็ว กระเป๋าสามารถใส่โน๊ตบุคขนาด 15 นิ้วและแก็ดเจ็ตอื่นๆ ได้สบาย ที่ส�าคัญมีช่องแบ่ง ส�าหรับแยกอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ให้มารวมกันกรณีที่ล้ม ราคาความเท่ใบนี้อยู่ที่ $99 (3,038 บาท)
อำวุธลับของคนมีควำมลับ Shot Flask ในหนังสายลับหรือหนังบู๊ล้างผลาญหลายเรื่อง เราคงเคยเห็นฉากที่พระเอกควักขวดเหล็กแบนๆ ออก มากระดกย้อมใจ...แต่มันคงธรรมดาเกินไปและดูเป็น “ไอ้ขี้เมา” ถ้าเราท�าแบบนั้นในชีวิตจริง ขอแนะน�า The Shot Flask ขวดโลหะแบนส�าหรับใส่อะไรก็แล้วจะคิด แต่ที่แตกต่างก็ คือมันมีแก้วจิ๋วแถมมาให้ด้วย แค่บิดมันออกมา แล้วก็ดึงขึ้นมาให้เป็นแก้ว แค่นี้แหละก็พร้อมส�าหรับแก้เบื่อในช่วงบ่ายแบบมีสไตล์ ราคา 1 แบนอยู่ที่ $25 (767 บาท)
แมงป่องทอดมำเป็นช็อต ให้คนกล้ำจริง! ขนมของว่างบางทีมันก็ไม่จ�าเป็นต้องท�าจากมัน ฝรั่งหรือข้าวโพดเสมอไป...Firebox ผู้ผลิตของกิน แปลกๆ ขอเสนอ Toasted Scorpion (แมงป่องทอด) เป็นแมงป่องพันธุ์ที่ไม่มีพิษและถูกเลี้ยงขึ้นมาในฟาร์ม ผ่านขั้นตอนการปรุงอย่างดี ทอดแล้วโรยเกลือจาก นั้นบรรจุใส่ขวดรูปทรงคล้ายขวดยา ใน 1 ช็อตมี แมงป่องรสดี 5 ตัว นอกจากไม่มีพิษ 100% แล้ว ยังมีโปรตีนสูงไขมันต�่าเหมาะกับการนั่งกินเล่นหรือเอา ไว้แกล้งพวกชอบ “แจม” ขนมคนอื่นในที่ท�างาน 1 ช็อตราคาราว $20 (613 บาท)
ตอด ตอด!! กระเป๋ำลุยหิมะตัวจริงส�ำหรับขำโหด
The North Face Patrol 24 ABS Avalanche Airbag Pack
เดี๋ยวจะหาว่า FRM มีแต่อุปกรณ์ดื่มของมึนเมา...การดื่มชา ตอนเช้าก่อนเริ่มท�างานที่น่าปวดหัวเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมที่สุดส�าหรับ คนท�างานนั่งโต๊ะอย่างเรา และมันคงจะดีถ้าเพื่อนร่วมเงินเดินผ่านมา เห็นเจ้า Robot Infuser จากผู้ผลิต Kikkerland มันคือที่ใส่ชาส�าหรับ ชงชาแบบแช่นี่แหละ แต่มันเจ๋งก็ตรงที่หน้าตาของมันที่เป็นหุ่นกระป๋อง น่ารักงุงิแถมแขนมันก็สามารถปรับให้เข้ากับแก้วแทบทุกไซส์ หุ่นตัวนี้ท�า จากสแตนเลสท�าให้ไม่ต้องห่วงเรื่องสารปนเปื้อน...ห่วงก็แค่เพื่อนหรือ เจ้านายจะมาจิ๊กไปเท่านั้นแหละ ค่าตัวอยู่ที่ $12 (368 บาท)
ใครเคยไปปีนเขาในโซนประเทศที่มีหิมะคงรู้ดีว่าภัย อันตรายที่นักปีนเขากลัวที่สุด นอกเหนือจากการตกเขา คือ “หิมะถล่ม” ตอนนี้มีกระเป๋าเป้รุ่นใหม่ออกมาเพื่อช่วย ชีวิตพวกคุณแล้ว มันคือ The North Face Patrol 24 ABS Avalanche Airbag Pack การท�างานของมันง่าย มาก ก็แค่ดึงเชือกแอร์แบ็คก็จะกางออกมาช่วงให้ตัวคุณ อยู่ด้านบนของหิมะ แทนที่จะโดนกลบลงไปเมื่อหิมะถล่มลง มา...ยังไงซะมันก็คุ้มค่าที่จะซื้อความหวังในการรอดชีวิต จริงมั้ย? (ระวังเพื่อนมาดึงเล่นแล้วกัน) ราคาไม่แรงนะอยู่ ที่ $1,179 (31,683 บาท!!) For Ride Magazine December 2012 45
Motosports Report
ง ปั เซ าม สน ย ชั า ้ เพโดรซ่า...ท่าคว มกลางฝนกระหน�่าสุดโหด MotoGP Round 16 Sepang สนาม Sepang (เซปัง) ประเทศมาเลเซีย นับเป็น อีกสนามที่เอาแน่เอานอนกับสภาพอากาศไม่ได้ บางที ก็แดดแรง บางทีก็ฝนตก แต่วันแข่งขันศึก MotoGP สนามที่ 16 ถูกประกาศให้เป็น Wet Race* ตั้งแต่ เริ่มแข่ง ผู้น�าออกสตาร์ทสนามนี้เป็น ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ ขนาบข้างด้วย ดานี่ เพโดรซ่า ที่ฟอร์มก�าลังมาแรงและ อังเดร โดวิสิโอโซ่ เมื่อสัญญาณไฟดับลง ลอเรนโซ่ ก็พุ่งออกน�าไปก่อน ตามด้วย เพโดรซ่า, วาเลนติโน่ รอสซี่ ที่แม้จะสตาร์ทต�าแหน่งที่ 11 ก็สามารถกระโดด ขึ้นมารั้งที่ 4 ได้ในช่วงรอบแรก ส่วน โดวิสิโอโซ่ ซึ่ง สตาร์ทเป็นที่ 3 แต่กลับออกตัวไม่ดีต�าแหน่งรูดลง ไปอยู่ท้ายแถวต้องใช้ความเก๋าเกมไล่แซงกลับขึ้นมา และสามารถแซง รอสซี่ แย่งที่ 4 มาครองจากนั้นก็ ไล่ตาม เคซี่ สโตเนอร์ เพื่อชิงที่ 3 ต่อไป แม้จะเป็นยางแบบ “เปียก” แต่ก็มีเกรดให้ เลือกอีก อย่าง ลอเรนโซ่ ที่เลือกใช้ Soft Wet ท�าให้ได้เปรียบ เพโดรซ่า ในช่วงแรก แต่ก็เป็น ช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่ เพโดรซ่า จะตามมาหายใจ รดต้นคอ ลอเรนโซ่ ในรอบต่อมา การแข่งขันด�าเนิน ไปแบบตะกุกตะกักเพราะฝนที่ยังคงตกลงมา เหลืออีก 12 รอบ เพโดรซ่า ยังคงไม่ลดละความพยายามไล่
What’ do you think ?
ดานี เพโดรซ่า ทีม Repsol Honda “เป็นชัยชนะครั้งแรกส�าหรับการแข่งท่ามกลางสายฝน ของผม ผมอยากขอบคุณทีมแข่งที่ช่วยให้ผมได้ชัยชนะ ช่วง แรกฟอร์มผมแย่กว่าลอเรนโซ่ แต่ผมก็ยังใจเย็นและค่อยๆ ตาม ลอเรนโซ่ ไปติดๆ ผมว่าผมโชคดีนะที่ชนะสนามนี้ และ ลอเรนโซ่ ก็ โชคดีกว่า เพราะเค้าเกือบล้มอยู่แล้วเชียว ชนะครั้งนี้ให้ทีมไปเลย ครับ”
ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ ทีม Yamaha Factory Racing “ถ้าเราขี่กันแค่ 20 กม./ชม. คงคุมรถง่ายกว่านี้ แล้ว กรรมการก็ท�าถูกแล้วที่ยุติการแข่งขัน ถ้าไม่งั้นผมก็คงไปนอน เล่นบนกรวด ผมเลือกยางผิดไปหน่อยเพราะผมใช้ยางแบบนุ่ม ส่วน เพโดรซ่า กับ สโตเนอร์ ใช้ยางแข็ง ตอนแรกพวกเค้าใช้หน้า ยางตรงกลางน้อยมาก พอช่วงต่อมาเค้าก็เลยเหลือหน้ายางไว้ใช้ กัน”
46 For Ride Magazine December 2012
จี้ ลอเรนโซ่ พร้อมยัดเยียดความกดดันให้อย่างต่อ เนื่อง น่าเสียดาย เบน สปีส์ หลุดสนามต้องออก จากการแข่งขัน โชคดีที่ สปีส์ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ที่หัวไหล่ ขณะเดียวกัน รอสซี่ อันดับตกลงไปอยู่ ที่ 9 ส่วนเพื่อนร่วมทีม เฮย์เด้น พยายามขยับขึ้น เป็นที่ 5 ผู้โชคร้ายสไลด์ออกนอกสนามคนต่อมา คือ โดวิสิโอโซ่ นาทีระทึกเกิดขึ้นเมื่อ เพโดรซ่า อาศัย จังหวะดีกว่าแซงโค้งสุดท้ายขึ้นน�าพร้อมเปิดคันเร่ง ออกน�าทิ้งห่างเล็กน้อย เหลือแค่ 9 รอบการแข่งขัน ครัทช์โลว หนีไม่พ้นความลื่นสไลด์ออกนอกสนาม เช่นเดียวกับ แรนดี้ เดพุนิเย่ ที่ล้มโค้งเดียวกันกับ ครัทช์โลว... แล้วสายฝนก็กระหน�่าซ�้าเติมลงมาอีกครั้ง โชคดีที่กรรมการตีธงแดงก่อน ลอเรนโซ่ ที่เกือบจะ พลาดล้มนิดเดียว เป็นอันว่าจบการแข่งขันโดยยืนพื้น ต�าแหน่งจากต�าแหน่งในสนามวินาทีก่อนตีธงแดง.... สนามหน้าฝนจะยังตามมาอยู่มั้ยนะ? แล้วเจอกันใหม่ที่ ออสเตรเลีย บ้านเกิด เคซี่ สโตเนอร์
เคซี่ สโตเนอร์ ทีม Repsol Honda “นาทีออกสตาร์ทผมคิดในใจว่าได้โพเดี้ยมก็ดีใจ แล้ว เพราะผมไม่อยากเสี่ยงอะไรทั้งนั้น ถ้าล้มอีกผม เจ็บหนักกว่าเดิมแน่ อีกอย่างผมไม่ค่อยได้ขี่กลางฝน แบบนี้บ่อยนัก แต่สุดท้ายแล้วผมก็พอใจกับผลงานวัน นี้ครับ”
เบน สปีส์ ทีม Yamaha Factory Racing
นิกกี้ เฮย์เด้น ทีม Ducati
“เป็นสนามที่สุดจะบรรยาย ดูน�้าบนพื้นสนามดิ! ผมต้องขอโทษ เฮย์เด้น ที่สไลด์ไปโดนเค้า ตอนแรกก็ นึกว่าระยะเบรกมันพอแล้ว โชคดีที่เค้าไม่ล้ม ตอนแรก ออกสตาร์ท โดวิสิโอโซ่ ก็เกือบมาโดนผมทีนึงแล้ว ตอนนี้ผมปวดไหล่มากแต่ก็ยังโชคดีที่ผมไปแข่งต่อที่ ออสเตรเลียได้”
“สภาพอากาศย�่าแย่สุดๆ ตอนแรกผมออกตัวดีนะแต่ โดวิสิโอโซ่ มาปาดหน้าผมท�าให้ผมต้องถอนคันเร่งจากนั้นก็หล่นฮวบไปอยู่ข้าง หลัง หลังจากนั้นก็กลับมาใหม่แล้วก็เสียความมั่นใจอีกเมื่อยางหลัง ออกอาการสไลด์ ช่วงก่อนจะจบการแข่งขันมีน�้าบนพื้นเพียบท�าให้แทบ จะมองอะไรไม่เห็นเลย เกือบจะคว้าโพเดี้ยมให้ทีมได้อยู่แล้วเชียว อย่าง น้อยผมก็ได้เรียนรู้หละ..”
คะแนนชี้ขาด
MotoGP Round 17 Phillip Island
ลอเรนโซ่ ฉลองแชมป์โลก 2012 ล่วงหน้า ที่ ฟิลลิปไอแลนด์
แม้จะไม่ใช่สนามสุดท้าย แต่ต่างก็ ลุ้นกันสุดตัวระหว่าง ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ อดีตแชมป์ปี 2010 ที่มีแต้มน�าอยู่ ส่วน ดานี่ เพโดรซ่า ที่ฟอร์มมาแรงเก็บคะแนนไล่ ตาม ลอเรนโซ่ มาติดๆ น่าเสียดายที่ เคซี่ สโตเนอร์ พลาดล้มได้รับบาดเจ็บท�าให้เหลือ แค่ 2 คนลุ้นแชมป์โลกกัน มาดูที่จุดสตาร์ท ดีกว่า...ผู้ครองต�าแหน่งโพลโพสิชั่นคือ สโตเนอร์ (ก็สนามบ้านเกิดตัวเองนี่นา) ตาม ด้วย ลอเรนโซ่ และ เพโดรซ่า แถวหลังมี ครัทช์โลว, แบรดดอล และ โดวิสิโอโซ่...
How was today ? ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ ทีม Yamaha Factory Racing “ดีใจสุดๆ ครับวันนี้ มันง่ายกว่าที่ผมคิดไว้มาก เพราะ เพโดรซ่า ล้มไปซะก่อน ผมพยายามเกาะ สโตเนอร์ แต่เค้า แกร่งมาก เพราะงั้นที่ผมต้องท�าในวันนี้ก็แค่แข่งให้จบและ เป็นแชมเปี้ยน ขอบคุณทีม ยามาฮ่า ครอบครัว เพื่อนๆ สปอนเซอร์และแฟนๆ ครับ วันนี้เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก เรา อดทนกันมาทั้งปีและนี่แหละรางวัลของเรา แชมเปี้ยน!”
เมื่อสัญญาณไฟดับลงก็เป็น ลอเรนโซ่ ที่พุ่งออกน�าไปก่อนตามด้วย เพโดรซ่า และ สโตเนอร์ ไล่ตามมาติดๆ แต่แล้ว เพโดรซ่า ก็ แซง ลอเรนโซ่ ได้ส�าเร็จ ต่อมาไม่นาน สโตเนอร์ ใช้ความเก๋าเกมส์ในสนามบ้านตัวเองไล่จี้และแซง ลอเรนโซ่ ในช่วงทางตรงของรอบที่ 2 หลัง จากเป็นผู้น�าได้เพียงรอบเดียว เพโดรซ่า ก็เกิด พลาดล้มต้องออกจากการแข่งขันอย่างน่า เสียดายปล่อยให้ ลอเรนโซ่ ไล่ตาม สโตเนอร์ เพียงล�าพัง เป็นอันว่า เพโดรซ่า พลาดคะแนน สนามนี้และหมดสิทธิ์ลุ้นแชมป์อย่างแน่นอน...จาก นี้ไปก็ต้องลุ้นว่า “เดอะร็อคเก็ตบอย” ลอเรนโซ่ จะพลาดล้มตามไปด้วยหรือเปล่า ไฮไลท์สนามนี้อยู่ที่ ครัทช์โลว, แบรดดอล, เบาทิสต้า และ โดวิสิโอโซ่ ที่ไล่บดขยี้บี้แย่งชิงที่ 3 กันอย่างเมามัน ส่วน เอ็ดเวิร์ด ตกรอบไปเพราะ
เครื่องยนต์มีปัญหา ด้านหลัง 3 ดูคาติได้แก่ รอสซี่, อับบราฮัม และ เฮย์เด้น ก็บู๊กันแบบไม่มี ใครยอมใคร ด้านหน้า สโตเนอร์ ยังคงครองที่ 1 และทิ้งห่างออกไปเรื่อยตามด้วย ลอเรนโซ่ ที่ 2 แบบเหงาๆ และที่ 3 ที่ยังคงชุลมุนกันอยู่ ใน ที่สุด สโตเนอร์ ก็ทะยานเข้าเส้นชัยเรียกเสียงกรี๊ด ยินดีให้แฟนๆ บ้านเกิดตัวเองกึกก้องสนาม ตาม มาด้วยที่ 2 ลอเรนโซ่ และที่ 3 ครัทช์โลว เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมส�าหรับ สโตเนอร์ ก่อนแขวนหมวกกันน็อคอ�าลาวงการในปีหน้า ส่วน ลอเรนโซ่ ที่ชนะคะแนนขาดลอยในสนามนี้ ก็ฉลองแชมป์ล่วงหน้าเป็นที่เรียบร้อย แม้จะไม่ เป็นทางการแต่เราก็ได้แชมป์ MotoGP 2012 เป็นที่เรียบร้อย สนามหน้าจะมีอะไรมาโชว์นะ ลอเรนโซ่!?
ดานี เพโดรซ่า ทีม Repsol Honda “ผมรู้สึกเสียใจมากกว่าผิดหวัง ผมขี่ให้โหดที่สุดเท่าที่ จะท�าได้ ผมท�าสิ่งที่ผมต้องท�าและผมไม่เสียใจกับมันหรอก โดยเฉพาะกับฤดูกาลนี้ ผมว่าปีนี้เราโชว์ให้โลกเห็นถึงความ สามารถและพลังของทีม แต่มันก็มีเสียใจกันบ้างเพราะเราอยู่ ใกล้ต�าแหน่งแชมป์แค่เอื้อม ที่ผมล้มก็ไม่น่าแปลกเพราะผมบาน ออกนอกโค้งและพยายามกลับมา ยางเริ่มสไลด์และในที่สุดก็ ล้ม คงเป็นเพราะวอร์มยางมาไม่ร้อนพอ แต่เอาน่ะยังไงมันก็ จบไปแล้ว ขอแสดงความยินดีกับ สโตเนอร์ กับแชมป์สนาม บ้านเกิดครั้งที่ 6 รวมถึง ลอเรนโซ่ ด้วย แน่นอนว่า มาร์ค มาเคส ในรุ่น Moto2 ด้วยเช่นกัน”
เคซี่ สโตเนอร์ ทีม Repsol Honda “ชัยชนะวันนี้ส�าคัญกับผมมากโดยเฉพาะก่อนจบฤดูกาล ปีนี้ ที่ผมกังวลที่สุดคือผมจะกลับมาฟิตอีกครั้งก่อนลงแข่ง วันนี้ได้มั้ย แต่ผมก็ท�าส�าเร็จ ผมว่ามันเป็นการบอกลาทีมที่ ดีด้วยชัยชนะสนามนี้ ในช่วงไม่กี่รอบสุดท้ายผมเหลือบมอง แฟนๆ แล้วทุกคนก็เชียร์ผม นั่นท�าให้ผมรู้สึกภูมิใจในความเป็น ออสเตรเลีย ส่วน ลอเรนโซ่ ก็ยินดีด้วยนะครับ เค้าขี่ได้ยอด เยี่ยมตลอดฤดูกาลจบที่ 1 -2 ตลอดเลย ส่วนตัวผมผิดหวัง เล็กๆ กับการอดลุ้นแชมป์เพราะผมพลาดล้มได้รับบาดเจ็บเอง ส่วน เพโดรซ่า ผมเสียใจกับการล้มและพลาดโอกาสลุ้นแชมป์ ของเค้า ยังไงซะก็ขอบคุณทุกคนที่โดดลงมาร่วมดีใจกับเรา”
คาล ครัทช์โลว “เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม โพเดี้ยม 3 ครั้งรวดหลังจาก เจอกับปัญหาน�้ามันหมดที่ญี่ปุ่นและพลาดล้มที่เซปัง ผมอยาก มีคะแนนเก็บบ้างและนั่นก็คือสิ่งที่ผมได้รับจากสนามนี้ รู้สึกตื่น เต้นที่ได้ขึ้นโพเดี้ยมกับ สโตเนอร์ ขอบคุณแฟนๆ ที่คอยเชียร์ ผมต้องขอแสดงความยินดีกับ ลอเรนโซ่ ด้วยที่ได้เป็นแชมป์ปี นี้ เค้าสมควรได้รับมันครับ”
For Ride Magazine December 2012 47
MotoGP Round 18 Valencia
เพโดรซ่าคว้าแชมป์ สโตเนอร์จูบลา
ในที่สุดการแข่งขัน MotoGP สนาม สุดท้ายก็เดินทางมาจนถึงจุดสิ้นสุด สนาม สุดท้ายกับประเทศที่มีนักแข่งลงแข่งมากที่สุด สเปน! สนาม Valencia อากาศก่อนแข่งยังคง
ย�่าแย่ท�าให้กรรมการสนามประกาศให้เป็น Wet Race (แข่งแบบเปียก ใช้ยางแบบพิเศษ) แม้ฝน จะหยุดตกและเริ่มเห็นส่วนแห้งบนสนามบ้างแล้ว แต่ก็ยังคงเป็น Wet Race นั่นหมายความว่ามี
ต�าแหน่งโพลโพสิชั่นเป็นของ ดานี เพโดรซ่า ข้างๆ กัน คือแชมป์คนล่าสุด ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ และต�าแหน่งสุดท้ายของ แถวแรกเป็นของ เคซี่ สโตเนอร์ แถวต่อมามี คาล ครัทช์โลว, สเตฟาน แบรดดอล, อังเดร โดวิสิโอโซ่ แถวที่ 3 เริ่มด้วย นิกกี้ เฮย์เด้น, อัลวาโร่ เบาทิสต้า และ เฮกเตอร์ บาร์เบร่า ส่วน “เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน่ รอสซี่ ออกสตาร์ทจากอันดับ ที่ 11 หลังจากจบรอบ Sighting Lap (รอบก่อนแข่งขันจริง ส�าหรับเช็คสนามเป็นครั้งสุดท้าย) เพโดรซ่า, ครัทช์โลว และ เบาทิสต้า เปลี่ยนใจกลับเข้าพิทเพื่อเปลี่ยนใช้ยางสลิคแทนท�าให้ ต้องออกสตาร์ทจากพิท เมื่อสัญญาณไฟสตาร์ทดับลง อเล็กซ์ เอสพาร์กาโร่ ออกตัวได้ดีพุ่งขึ้นน�าก่อนในรอบแรก ส่วน ลอเรนโซ่ ที่ค่อยๆ ชินกับความลื่นก็ไล่ตามแซงได้ส�าเร็จในรอบที่ 3 เพโดรซ่า ไล่ ตามแซงขึ้นมาทีละนิดจากด้านหลังขณะที่นักแข่งหลายคนต้อง กลับเข้าพิทเพื่อเปลี่ยนยาง ระหว่างนั้น เฮย์เด้น, อีวาน ซิลว่า และ โรเบิร์ตโต้ โรลโฟ่ เกิดเกี่ยวกันล้มไม่เป็นท่า ด้านหน้ายัง คงเป็น ลอเรนโซ่ ที่น�าอยู่ไล่ตามด้วย เพโดรซ่า พ่วงด้วย แบรดดอล, ครัทช์โลว และนักแข่ง Wild Card (ได้สิทธิ์พิเศษใน การแข่ง) คัทซึยูกิ นากาซูกะ จากญี่ปุ่นไล่ตามในส่วนของกลุ่ม ผู้น�า... แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นเมื่อแชมป์ 2012 ลอเรนโซ่ พยายามแซงน็อครอบแต่เกิดเสียหลักล้มแบบ Highside (ล้ม แบบสะบัดหลุดออกจากตัวรถ) ต้องออกจากการแข่งขันอย่าง น่าเสียดาย ปล่อยให้ เพโดรซ่า ขึ้นมารั้งต�าแหน่งผู้น�าไปจนจบ การแข่งขัน การแข่งขันค่อนข้างไม่ราบรื่นเนื่องจากสนามยัง มีบางจุดที่เปียกอยู่ ท�าให้มีนักแข่งหลายคนต้องออกจากการ แข่งขันไป แต่สุดท้ายแล้วก็เป็น เพโดรซ่า ที่คว้าธงหมากรุกเข้า เส้นชัยเป็นคนแรกตามมาด้วยนักแข่ง Wild Card นากาซูกะ
ยางแบบ Wet ซึ่งมีร่องรีดน�้าให้เลือกใช้ แต่ก็มี นักแข่งบางคนเลือกใช้ยาง Slick (ยางเรียบไม่มี ดอกยาง) ลงแข่งขัน
ลอเรนโซ่ รับต�าแหน่งแชมเปี้ยน
MotoGP 2012
และ สโตเนอร์ ที่ปิดฉากอาชีพนักแข่งด้วย โพเดี้ยมต�าแหน่งสุดท้ายอย่างน่าภูมิใจ... เป็นอันจบการแข่งขัน MotoGP 2012 พร้อมแชมป์โลกรุ่น MotoGP ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ จาก Yamaha Factory Racing ส่วนรุ่น Moto2 มาร์ค มาเคส และรุ่น Moto3 ซานโดร่ คอร์เทส...ปีหน้ากฎใหม่สนามใหม่แล้วจะมี นักแข่งหน้าใหม่ขึ้นมาโค่นแชมป์ได้หรือไม่... โปรดติดตามไปกับ FRM ครับผม!
Let's hear the Champion out!!
ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ แชมเปี้ยน MotoGP 2012 ทีม Yamaha Factory Racing “ผมมีความสุขที่สุดแล้ววันนี้ จริงๆ แล้ววันนี้ผมก็กะ จะชนะแหละตั้งแต่การวางแผนเรื่องยาง แต่ไม่แน่ใจเหมือน กันว่าเป็นเพราะกรรมการสนามไม่ยอมตีธงน�้าเงินหรือ เปล่า ท�าให้ผมติดอยู่กับนักแข่งที่ต้องโดนน็อครอบ ผม อยู่หลัง เอลลิสัน และรอแซงในโค้งต่อไปไม่ได้แล้วจึงต้อง แซงจังหวะนั้น ผมเสียจังหวะและหลุดจากไลน์ท�าให้ล้ม...”
มร.ฮิโรยูกิ ยานางิ ประธาน Yamaha Motor “ผมอยากถ่ายทอดความรู้สึกตื้นตันนี้ให้กับ ลอเรนโซ่ ที่คว้าแชมป์ปีนี้ได้ส�าเร็จ ผมถือโอกาสนี้ขอบคุณ ไปยังแฟนๆ สปอนเซอร์และทุกท่านที่ได้ร่วมต่อสู้ด้วยกัน มาตลอดทั้งปี แชมป์ครั้งนี้เป็นมากกว่าความส�าเร็จส�าหรับ ลอเรนโซ่ ที่ได้แชมป์ MotoGP เป็นครั้งที่ 2 แถมเป็นชัยชนะ จากการแข่งในรุ่น 1,000 ซีซี. ที่มาพร้อมกฎใหม่ ซึ่งเป็น อะไรที่ท้าทายมากส�าหรับทั้งนักแข่งและทีม ผมหวังว่าจะได้ เห็นอะไรแบบนี้อีกในปี 2013”
ลิน จาร์วิซ ผู้จัดการทีม Yamaha Factory Racing “ผมยินดีด้วยกับแชมป์ MotoGP ครั้งที่ 2 ของ ลอเรนโซ่ เค้าขี่ดีมาตลอดทั้งปีได้ที่ 1 ไม่ก็ 2 ทุกสนามนั่น ท�าให้เค้าคู่ควรกับต�าแหน่งแชมป์ปีนี้ แต่ความส�าเร็จครั้ง นี้ ลอเรนโซ่ ต้องฝากชีวิตไว้กับกลุ่มคนจ�านวนมาก ผม อยากขอบคุณทีม Yamaha Factory Racing ทั้งทีม รวม ถึงสปอนเซอร์และคนใกล้ชิดของ ลอเรนโซ่ ทั้งหมดเกิด จากความพยายามและความส�าเร็จของเราเป็นที่น่ายินดี ทั้งจากการฉลองแชมป์ 1 สนามก่อนหน้าปิดการแข่งขัน และชัยชนะในสนามบ้านเกิดของตัวเอง เราจึงสมควรที่จะ ฉลองด้วยกัน”
48 For Ride Magazine December 2012
TO KeeP Cute Collection o Cute
จาก 2012 MotoGP Sepang
ฉบับที่แล้วเราลงเนื้อหาเกี่ยวกับการขี่ Nouvo SX ไปเที่ยวมาเลเซียพร้อมเข้าชมการ แข่งขัน MotoGP ที่สนามเซปัง...ฉบับนี้จึงขอรวมรูปคอลเล็คชั่นสาวๆ สวยๆ จากบูธต่างๆ ภายในงาน MotoGP ที่เราฝ่าฟันแหวกฝูงผู้ชายนับพันเข้าไปเก็บภาพสวยๆ มาฝากให้แฟน FRM ได้ชมกัน ขอเชิญอมยิ้มไปกับรอยยิ้มสุดหวานของสาวๆ เหล่านี้ได้เลยครับ (ห้ามเปิดดู เกินวันละ 2 รอบ เพราะอาจท�าให้แฟนเคือง) For Ride Magazine December 2012 49
INTER NEWS
Ana Ana Carassco Carassco ผูผู้ห้หญิญิงงก็ก็ซซิ่งิ่งได้ได้นนะยะ! ะยะ! ในที่สุดก็มีดาวดวงใหม่เกิดขึ้นในศึก Moto3 ปีหน้า ธรรมดาเราจะเห็น แต่นักแข่งผู้ชาย แต่ล่าสุด แอนนา คาราสโก้ นักแข่งสเปนวัย 15 ย่าง 16 เปิด ตัวเป็นที่เรียบร้อยกับทีมแข่ง JHK T-shirt Laglisse สาวน้อยคนนี้จะแข่งคู่ กับ มาเวอริค วินยาเลส ที่ลดดีกรีลงมาแข่งในรุ่นเล็กแทน รถที่ใช้ปีหน้าจะเป็น KTM…อันที่จริงก็มีนักแข่งสาวในรุ่น Moto2 นะ แต่เธอก�าลังจะถูกเปลี่ยนตัว เป็นนักแข่งอินโดนีเชียในปีหน้า...ต้องคอยเอาใจช่วยกันกับดาวดวงนี้!
Rossi Rossi พบเพื พบเพื่อ่อนรั นรักก M1 M1 ในที่สุดหลังจากลองเสี่ยงโชคกับ Ducati เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งก็ท�าผลงานได้ไม่ดี นัก ท�าให้ปีหน้า “เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน่ รอสซี่ จะกลับร่วมทีม Yamaha Factory Racing คู่กับ ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ ล่าสุดก่อนลงสนามซ้อมกับรถสุดรัก M1 รอสซี่ ได้ถ่ายรูปหน้ารถลงทวิตเตอร์พร้อมบรรยายว่า “เป็นไงมั่งเพื่อน นายดูดีนะ” ซึ่ง เจ้า M1 ก็คงตอบกลับมาว่า “ไงเพื่อน ชั้นก็คิดถึงนายเหมือนกัน” แทบอดใจรอดู MotoGP 2013 ไม่ไหวแล้วเนี่ย!!
Stoner Stoner ได้ได้เข้เข้าาท�ท�าาเนีเนียยบบ MotoGP MotoGP Legend Legend หลังจากเริ่มแข่งขันมาตั้งแต่อายุ 15 ขวบ เคซี่ สโตเนอร์ นักแข่งสังกัดทีม Repsol Honda ที่มีดีกรีเป็นแชมป์โลกถึง 2 สมัยได้โบกมือลาวงการแข่งรถมอเตอร์ไซค์ เมื่อสิ้นสุดการแข่งขันสนามสุดท้าย MotoGP 2012 ที่ Valencia ประเทศสเปน สโตเนอร์ โลดแล่นบนสนามแข่งมานานถึง 12 ปี ปัจจุบันเค้าอายุ 27 ปี เคยชนะมาแล้ว 45 ครั้ง ขึ้นโพเดี้ยม 89 รอบและได้โพลโพสิชั่นมากถึง 43 ครั้ง เพื่อเป็นการให้เกียรติ แก่ สโตเนอร์ ทาง Dorna จึงได้ใส่ชื่อของเค้าเข้าสู่ท�าเนียบ MotoGP Legend เข้าไปเป็น หนึ่งในต�านานนักบิดผู้ยิ่งใหญ่ 20 คนตลอดกาล ปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ส�าหรับแชมป์โลก ปี 2011 ชาวออสเตรเลียคนนี้...ทุกคนจะจ�าชื่อนี้ไว้ตลอดไป “เคซี่ สโตเนอร์” 50 For Ride Magazine December 2012
MV MV Agusta Agusta ถูถูกกโหวตให้ โหวตให้เเป็ป็นนรถโชว์ รถโชว์ยยอดเยี อดเยี่ย่ยมในงาน มในงาน EICMA EICMA งาน EICMA 2012 ปีนี้ได้ผู้ชนะการโหวตจากผู้ชมจากทั่วโลกมาโหวตกันว่า รถคันไหนที่ โชว์อยู่โดนใจที่สุด แล้วเจ้า MV Agusta Rivale 800 ก็ได้รับคะแนนโหวตมากถึง 33.5% จากผู้ชม 15,000 คน ส่วน 2013 Ducati Hypermotard ได้คะแนนไป 22.9% และที่ 3 ตกเป็นของรถที่มียอด ขายดีที่สุด BMW R1200GS
บับัตตรมาสเตอร์ รมาสเตอร์กการ์าร์ดดลิลิมมิเต็ิเต็ดดอิอิดดิชิชั่นั่น Marco Marco Simoncelli Simoncelli เพืเพื่อ่อน้น้ออง!ง! องค์กรการกุศลแด่เพื่อนผู้จากไป มาร์โค่ ซิมงเซลลี่ ก่อตั้งโดยผู้เป็นพ่อมีความตั้งใจสูงสุดที่ จะก่อตั้งบ้านเพื่อเด็กพิการหรือไม่สามารถช่วยเหลือ ตัวเองได้ โดยจะมีทั้งสระว่ายน�้าและสวนอยู่ภายใน งานนี้ต้องใช้งบราว 1 ล้านยูโร แม้จะฟังดูเยอะแต่ ความฝันนี้ก็ก�าลังจะเป็นจริง เพราะบัตรมาสเตอร์ การ์ดได้ร่วมมือกับโครงการนี้จัดท�าบัตรลายมาร์โค่ ขึ้นมา ส�าหรับคนที่ใช้บัตรเป็นประจ�า ส่วนหนึ่งของ ค่าบริการจะถูกหักไปให้องค์กรการกุศลของมาร์ โค่ นอกจากนี้ยังมีเงินอีกส่วนหนึ่งจากนักแข่งที่เข้า ร่วมรายการ Flat Track MotoLive ที่ EICMA กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี โดยยอดบริจาคมากถึง 10,000 ยูโร ส่วนเงินก้อนใหญ่อีกก้อนก็มาจากการ ประมูลรถ Honda SuperSic CBR1000RR โดยผู้ บริหารดอร์น่าประมูลไปเป็นเงิน 58,000 ยูโร....แบบ นี้อีกไม่นานเราคงได้เห็นความฝันดีๆ เพื่อสังคมเกิด ขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่างเป็นแน่
เพโดรซ่ เพโดรซ่าา –– มาร์ มาร์เเคส คส เอาใจแฟนๆ เอาใจแฟนๆ ในใน Honda Honda Racing Racing Thanks Thanks Day Day ดานี เพโดรซ่า และ มาร์ค มาร์เคส ลง ขี่รอบพิเศษในสนาม Motegi ในงาน Honda Racing Thanks Day เพื่อเป็นการขอบคุณ แฟนๆ ที่สนับสนุนทั้งนักแข่งและทีมตลอด ฤดูกาลแข่งขัน นอกจากนี้ยังเป็นการฉลอง ความส�าเร็จส�าหรับรางวัล “ผู้ผลิตยอด เยี่ยม” ในศึก MotoGP ที่ถึงแม้จะไม่ได้แชมป์โลก แต่รถแข่งอันดับต้นๆ ล้วนมาจากฮอนด้าทั้งสิ้น งานนี้นอกจาก 2 นักแข่งที่ว่าแล้วยังมี ฮิโรชิ
อาโอยาม่า, ทากาอากิ นากางามิ, ยูกิ ทาคาฮาชิ และอีกเพียบเข้าร่วมโชว์ตัวในงานนี้ด้วย ในส่วน ของ มาร์เคส นอกจากมายืนยิ้มหล่อในงานแล้ว ยังได้ทดสอบในอุโมงค์ลมอีกด้วย นักบิดคน สุดท้ายที่ได้เข้าอุโมงค์ลมก็คือ มาร์โค่ ซิมงเซลลี่ เพราะรูปร่างที่สูงใหญ่ผิดปกติจนต้องออกแบบ แฟริ่งให้รับกับตัวคนขี่ แต่ส�าหรับ มาร์เคส ไม่น่า มีปัญหา...หรืออาจจะเป็นเพราะว่าฮอนด้าก�าลัง จะท�าให้รถมีขนาดเล็กลงอีกส�าหรับปีหน้า??? For Ride Magazine December 2012 51
ing Upcom
2013 Suzuki DR200E ก้าวข้ามเขตแดนความสนุกไปด้วยกัน เครื่องยนต์ 199 ซีซี. ของเจ้ารถวิบากที่แม้จะ ดูไม่มากมายนัก แต่ 2013 Suzuki DR200E มันก็ เป็นอีกหนึ่งความท้ายทายที่รอให้คุณได้สัมผัส ด้วย น�้าหนักตัว 126 กก. และระยะห่างจากเบาะถึงพื้นแค่ 813 มม. ที่ช่วยส่งเสริมความคล่องตัว โดยเฉพาะ การคอนโทรลรถ มันช่างเหมาะที่จับโยนใส่ท้ายกระบะ แล้วออกขี่ท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดซะจริงๆ พละก�าลัง เครื่องยนต์ที่ครอบคลุมการใช้งานตั้งแต่ขี่ไปปาร์ตี้บ้าน เพื่อนจนถึงขี่ลุยป่าสุดเร้าใจ ไม่ว่าเส้นทางแบบไหนก็เอา อยู่...แค่เลือกปลายทางมาแล้วปล่อยให้ 2013 Suzuki DR200E พาคุณโลดแล่นไปพร้อมกับมัน!!
2013 Yamaha XT250 จะทางฝุน ่ จะทางเรียบ...ก็แล้วแต่ป!ุ๊ ! แม้หน้าตาภายนอกของเจ้า 2013 Yamaha XT250 จะดูเหมือนเดิม แต่ชิ้นส่วน ภายในน่ะถูกเปลี่ยนใหม่มาไม่น้อย เริ่มจาก ระบบหัวฉีดรุ่นใหม่จาก Mikuni ที่เป็นพระเอก ของงานนี้, แคร้งค์ชาฟท์ดีไซน์ใหม่, ลูกสูบ ใหม่ และเครื่องยนต์ 249 ซีซี. ที่พร้อมส่ง ผ่านก�าลังสู่เกียร์ 5 สปีด พาผู้ใช้เอ็นจอยทุก นาทีบนหลังรถคันนี้ ส่วนคอนเซ็ปต์ยังคงเป็น “ทางเรียบ หรือทางฝุ่นก็พร้อมลุย!” ความคล่อง ตัวเป็นอีกจุดเด่นที่ XT250 พร้อมพาคุณ ฝ่าฟันทุกอุปสรรค สนับสนุนความมันส์ ด้วยช่วงเบาะที่ต�่ากว่ารุ่นยางหนามทั่วไป ช่วย ให้คล่องตัวและขี่สนุกกว่าเก่า ไม่ว่าจะใช้ชีวิต อยู่ในเมืองมีเพื่อนรักเป็นรถติดหรือเกิดเป็น หนุ่มชานเมืองที่มีหัวใจรักอิสระ... Yamaha XT250 คันนี้นี่แหละ!! คือค�าตอบที่ใช่และ พร้อมเติมความ “มันส์” ในทุกกิโลเมตรที่ ท่องไป
52 For Ride Magazine December 2012
Upcomin g
FRM Advice ::
แปลงร่างไอ้มดแดง!! … ชงิ๊ เทคนิคดีๆ ส�าหรับหนุม่ แว่นนักบิด คุณเคยประสบปัญหาหน้าตาดีแต่สายตาสั้นต้องใส่แว่นมั้ย? ยิ่งถ้าต้อง ขี่มอเตอร์ไซค์และใช้หมวกกันน็อคแบบเต็มใบด้วยแล้วล่ะก็ คุณคงเคยเจอกับอาการ “แว่นสไลด์” เวลาหันมองซ้ายมองขวาหรือเวลาซิ่งเร็วๆ เป็นแน่...FRM ร่วมมือ กับ “ตั้น สลาตัน” เดชา ไกรศาสตร์ นักแข่งชาวไทยแชมป์ All Japan 2012 รุ่น ST600 ซีซี. ที่นอกจากจะมีลีลาการขับขี่ขั้นเทพแล้ว...เค้ายังเป็นนักแข่งสายตาสั้นที่ต้อง ใส่แว่นตาลงแข่งด้วย! เรามาดูวิธีการจัดการแว่นตัวแสบของเค้ากัน
• ง่ายๆ แค่ใช่หนวดกุ้ง หนวดกุ้ง หรือที่เรียกแบบไฮโซ (ตามภาษาอังกฤษ) ว่า “เคเบิ้ลไทท์” หน้าที่ หลักของเจ้าเส้นพลาสติกนี้ก็คือ เอาไว้รัดสายไฟให้รวมกันเป็นหนึ่งไม่ยุ่งเหยิง ใครที่ ติดตามงานแข่งหรือเคยชมเทปของนักแข่งคนนี้ “เดชา ไกรศาสตร์” คงเคยสังเกต เห็น “หนวดกุ้ง” สีด�าชี้อยู่ตรงหน้าผากของเค้า...เหตุผลหลักก็คือเพื่อ “ล็อค” ให้แว่นไม่ดิ้นหนีไปไหนระหว่างการแข่งขันที่ต้องขับเคี่ยวบนความเร็ว และต้องใช้ สายตากับสมาธิมองทางข้างหน้าตลอดเวลา หลังจากได้กระทบไหล่พี่ตั้นก็ได้รู้ถึง เทคนิคนี้ และน�ามาบอกต่อกันส�าหรับหนุ่มแว่นทั้งหลาย (หรือสาวแว่นด้วยนะ!)
• อุปกรณ์ที่ใช้ - หนวดกุ้ง หรือ Cable Tight สีอะไรก็ได้ตามนิสัย (ขึ้นอยู่กับว่าจะ อยากโดดเด่นแค่ไหน) เลือกไซส์กลางๆ ไม่ใหญ่เกินไปแต่เน้นที่ความยาว ให้ ยาวประมาณ 1 ฟุต - แว่นตาประจ�าตัว หรือจะให้ดีใช้แว่นตาส�ารองส�าหรับขี่มอเตอร์ไซค์ จะสะดวกขึ้น
• ขั้นตอนการท�า - ถอดแว่นออกมาแล้วเช็ดให้สะอาด - ใช้สายหนวดกุ้งรัดตรงกลางของแว่นตาให้ปลายสายชี้ขึ้นด้านบน จับให้หัวล็อคอยู่ด้านนอกเพื่อเวลาสวมแว่นจะได้ไม่เจ็บดั้ง (เดี๋ยวเสียโฉม) - ดึงสายรัดให้แน่นก�าลังดี...ระวังแว่นหัก - เมื่อได้ที่ ก็ท�าการสวมแว่นตา ตอนนี้แหละที่คุณจะดูเหมือน “ไอ้มดแดง” - สวมถุงคลุมหัวส�าหรับขี่มอเตอร์ไซค์ซ�้าอีกชั้น หรือจะไม่ใส่ก็ได้ - จังหวะสวมหมวกกันน็อคใช้มือกดให้สายหนวดกุ้งแนบไปกับหัว จาก นั้นก็สวมหมวกให้เข้าที่ ถ้าแว่นไม่เข้าที่ก็ขยับให้อยู่ในมุมที่ถนัด - ซิ่งได้เลย อาจดูเหมือนไม่มีสาระ...แต่ FRM หวังว่าไอเดียดีๆ จากแชมป์ชาว ไทย “เดชา ไกรศาสตร์” อาจช่วยได้ ส�าหรับนักแข่งรุ่นใหม่ที่มีปัญหาเรื่อง สายตา หรือหนุ่มแว่นออฟฟิสที่ยังคงรักในการขับขี่มอเตอร์ไซค์และไม่อยาก ใช้คอนแท็คเลนส์…ใช้ได้ผลหรือไม่ ได้ผลยังไง!! ส่งจดหมายเข้ามาพูดคุยบอก กล่าว หรือจะเป็น Email หรือจะเป็น Facebook FanPage กันได้ครับ :D For Ride Magazine December 2012 53
Bonanza
y a w d e e p S l a n o ti a n r Inte เรา้ ใจทา่ มกลางธรรมชาต!ิ ! ุ ์ ด ั สส ความมน
โบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล สปีด เวย์ คือ สนามแข่งรถแห่งใหม่ของไทย ซึ่งมีท�าเลที่ตั้ง อยู่ท่ามกลางธรรมชาติและขุนเขา โดยตั้งอยู่ที่ 235 ม. 11 ถ.ธนะรัชต์ ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีระยะห่างจากอุทยานแห่งชาติ เขาใหญ่ประมาณ 40 กม. ภายใต้การบริหาร “สงกรานต์ เตชะณรงค์” ที่ต้องการส่งเสริมกีฬา มอเตอร์สปอร์ตในเมืองไทยให้มีสนามแข่งขันที่ได้ มาตรฐานสากล รวมทั้งยังช่วยส่งเสริมการท่อง เที่ยวและเศรษฐกิจในพื้นที่ใกล้เคียงอีกด้วย
ส
นามโบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล สปีด เวย์ เป็นสนามแข่งที่ปูหน้า ผิวแทร็คด้วยยางแอสฟัลต์ (Asphalt) ที่ได้รับการค�านวนโดยผู้เชี่ยวชาญจากกรม ทางหลวง ซึ่งทางสนามได้แจ้งมาตรฐานไปว่าให้อยู่ในเกรดของผิวแทร็คที่ใช้ส�าหรับการ แข่งขันรถยนต์ทางเรียบโดยเฉพาะ มีระยะทางต่อรอบรวม 2.8 กิโลเมตร (จะด�าเนินการ เพิ่มระยะทางให้เป็น 3.8 กม. ในอนาคต) ทางตรงยาวสุด 822 เมตร ความกว้างของ แทร็คอยู่ที่ 14-18 เมตร และมีโค้งทั้งหมด 11 โค้งด้วยกัน นอกจากนี้ทางสนามยังมีการสร้างพิตถาวรทั้งหมด 40 พิต ติดตั้งระบบไฟส่อง สว่างมาตรฐานฟอร์มูล่าวัน โดยได้รับการก�ากับมาตรฐานจาก ร.ย.ส.ท. ทั้งนี้ฝ่ายดูแล สนามยังมีแผนการสร้างโรงแรมที่พัก เพื่อรองรับจ�านวนของผู้ชมรวมถึงนักแข่งและ ทีมเซอร์วิสอีกด้วย และไม่เพียงแต่จะเป็นสนามแข่งขันเท่านั้น โบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล สปีด เวย์ ยังสามารถรองรับการจัดกิจกรรมและอีเว้นท์ อาทิ การทดสอบผลิตภัณฑ์ ต่างๆ ที่เกี่ยวกับแวดวงยานยนต์, กิจกรรมทางการตลาดและกิจกรรมภายในองค์กร ได้ อีกด้วย 54 For Ride Magazine December 2012
ส�าหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ไม่ว่าจะเป็น 2 ล้อ 4 ล้อ สามารถเข้าไปใช้บริการที่สนาม โบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล สปีด เวย์ ได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 – 18.00 น. โดยมีอัตราค่า บริการคือ รถจักรยานยนต์ขนาดไม่เกิน 250 ซีซี. เสียค่าบริการ เพียง 500 บาท ถ้าขนาด 250 ซีซี. ขึ้นไปจ่ายเพียง 1,000 บาท ขี่ได้ทั้งวัน ส่วนรถยนต์ค่าบริการอยู่ที่ 1,500 บาท และ ใครที่ต้องการดริฟก็มีค่าบริการอยู่ที่ 3,000 บาทต่อวันเท่านั้น โดยสามารถสอบถามคิวและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณเปิ้ล โทร.08-1997-9839 แอดมินประจ�าอยู่ที่สนามแห่งนี้