All-J

Page 1

No. 1 March 2014

all about Japan Idol

7 มุมเดต สุดสวีต

㪌àÇÅÒÇ‹Ò§ ¡ÑºË¹Ø‹Áæ NYC

ตอºป˜ญËÒËÑวใ¨äป¡Ñº 7 Ëนุ‹ม Kis-my-ft2

!y J

a S y!

He ¤Ù‹นีé©Ñน¨Ôéน! เมือ� สายวายและสายยูริ มาจิ�น คู่ไหนจะมาวิน!

P UM

เริ่มนิยาย Sugar Free ตอนแรก!!

เมื่ออายุ 20 คุณจะทําอะไร?

ÊͧÊÒÇ AKB48 ÁÒÂØáÅÐÎÒÃءШРÇҧἹªÕÇÔµã¹ÇѼٌãËÞ‹Âѧ䧺ŒÒ§¹Ð




Content J Trans 5 6 8 9

Yamada Ryosuke Kis-my-ft2 AKB48 NYC

21 22 24 26 30

J Food J Trip J Couple J Fan Fiction J Song

14 J News 16 J Idol Introduce 18 J Movie 20 J Visit


Idol Trans

Yamada Ryosuke ในที่สุดวันที่ 9 เดือน 5 นี้ ก็จะอายุครบยี่สิบปีแล้วสินะ ผมคิดว่าคงจะมีคนที่คิดว่า “ไม่เชื่อหรอก!!” ว่า ผมจะอายุยี่สิบปี เยอะอยู่เหมือนกัน แต่ยังไงก็ต้องเชื่อ ใช่มั้ยล่ะครับ (หัวเราะ) แต่ก็นะ เพราะว่าผมเข้าค่าย จอห์นนี่ตั้งแต่สมัยประถม 5 ถ้าตั้งแต่ตอนนั้นมีคนที่คอย มองดูผมมาโดยตลอดก็คงจะคิดว่า “เอ๊ะ ยี่สิบแล้วเหรอ” สินะ พูดถึงเรื่องนี้แล้ว คาเมนาชิ (คาซึยะ) คุงเองก็ตก ใจกับเรื่องนี้ด้วยเหมือนกันนะ  ผมถูกถามในห้องแต่ง ตัว ตอนที่ไปขึ้นแสดงคอนเสิร์ตเคาท์ดาวน์เมื่อปลายปี ที่แล้วว่า “อายุเท่าไหรแล้วน่ะ?” พอผมตอบไปว่า “ผมจะ อายุยี่สิบ เดือน 5 นี้แล้วครับ” เขาก็พูดว่า “เอ๊!?” ล่ะ คงเพราะว่าความรู้สึกที่ได้เห็นผม  มันท�ำให้รู้สึกว่าตัว ผมไม่ค่อยโตขึ้นเลยสินะครับ  เพราะผมไม่สูงขึ้นเลย เรื่องที่ผมพูดไปเมื่อกี้นี้น่ะ พูดจู้จี้จุกจิกไม่เข้าเรื่องจริงๆ ช่วงไหนที่รู้สึกว่า ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ตาม ตอนนี้ตัวเอง เราเองก็เติบโตขึ้นมาเป็นแบบนี้? ตอนที่ผมได้แสดงเป็นตัวเอกในละครเวที “จอห์นนี่ เวิลด์” ก็เลยมีความรู้สึกรับผิดชอบมากขึ้น แต่ก่อนผม

ยังไม่เคยมีความรู้สึกนึกคิดแบบมืออาชีพ  หรือความ รู้สึกรับผิดชอบเลย เป็นเด็กดื้อมากๆเลยล่ะ อย่างตอน ที่แสดงละครเรื่อง “โรงเรียนนักสืบQ” ตอนอายุ 13 ปีน่ะ ตอนที่ตัวเองยังไม่ได้แสดง ผมก็จะไปถอนขนหน้าแข้ง ของตากล้องที่ก�ำลังถ่ายท�ำละครอยู่เล่นล่ะ(หัวเราะ) ช่วงไหนที่รู้สึกได้ว่าตัวเอง “เป็นผู้ใหญ่ขึ้นนะ” ? ผมคิดว่าคงเป็นตอนที่คิดขึ้นมาทันทีว่า“ไปสอบใบ ขั บ ขี่ ดี มั้ ย นะ”อี ก เรื่ อ งก็ คื อ ตอนที่ ไ ปร้ า นเทปปั ง ยาคิ ผมไปนั่งที่เคาท์เตอร์ แล้วก็นั่งทานอาหารตรงนั้น ทั้งๆ ที่ ต อนที่ ผ มยั ง เด็ ก ๆ  เองก็ ไ ม่ เ คยมี อ ะไรแบบนี้ เ ลย ตรงหน้าผมมีกระทะเหล็กทรงแบนและทางร้านก็ย่าง เนื้อ อาหารทะเล แบบปิ้งย่างให้แล้วผมก็รับประทาน ตอนที่มันก�ำลังร้อนๆ อยู่  รู้สึกว่าเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาเลย ล่ะความคิดที่“คราวหน้าพาครอบครัวมาทานด้วยกันดี กว่ า ”นี่ อ าจจะเป็ น สิ่ ง ที่ แ สดงให้ เห็นว่าเราโตขึ้นแล้วก็ได้นะ พอโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่แล้ว  สิ่งที่ให้ ความส�ำคัญกับมันจะเปลี่ยนไปมั้ย? อืม.. เรื่องนั้นคงจะไม่เปลี่ยน หรอกนะ ตอนนี้ผมเองก็ยังให้ความ ส� ำ คั ญ กั บ ครอบครั ว   ผู ้ ค นที่ ค อย เป็นก�ำลังใจให้ผม  และศิลปะการ แสดงตลอดอยู่เลย ก็ถ้าผมไม่มีคน เหล่านี้  ก็ไม่มีตัวผมในตอนนี้นะ? เพราะมี ผู ้ ค นที่ ใ ห้ ค วามส� ำ คั ญ ใน ตัวผม  มีผู้คนที่คอยผลักดันให้ผม ก้ า วไปข้ า งหน้ า ตอนนี้ ผ มถึ ง ได้ พยายามท� ำ ให้ ดี ที่ สุ ด อยู ่ ยั ง ไงล่ ะ ครั บ   อี ก ทั้ ง เวลาที่ ทุ ก ๆคนรู ้ สึ ก

เรียวสุเกะ

ยิ น ดี   ผมก็ พ ลอยรู ้ สึ ก ดี ใ จไปด้ ว ยถ้ า จะถามถึ ง สาเหตุที่ท�ำให้ผมพยายามอยู่ในตอนนี้ก็คือสิ่งที่ได้พูด มาเมื่อกี้นี้ละ่ ปีนี้นากาจิม่า ยูโตะคุง และ จิเนน ยูริคุงเองก็อายุยี่สิบ ด้วยเหมือนกัน สิ่งที่คิดเกี่ยวกับ Hey!Say!JUMP ว่า จะ เป็นวงที่ผู้ใหญ่ขึ้นคืออะไร? ผมได้เดบิวต์โซโล่เดี่ยวในปีนี้ก็จริง แต่ผมคิดว่า เพราะว่าผมพยายามในเรื่องของ JUMP อย่างเต็มที่ถึง ได้มีจุดนี้  และได้รับโอกาสในการท้าทายท�ำสิ่งใหม่ๆ เพราะฉะนั้นแล้ว สิ่งที่ผมอยากจะให้ความส�ำคัญมากที่ สุดก็คือ การท�ำงานในฐานะ JUMP ความสนิทสนมกัน ของJUMP ก็ไม่แพ้วงอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นวงไหนก็ตาม ผม คิดว่าความสัมพันธ์แบบนี้นั้น  เป็นสิ่งที่จ�ำเป็นส�ำหรับ JUMP หลังจากนี้ไป แต่ผมคิดว่าความโลภมากในการ ก้าวออกไปข้างหน้าให้มากยิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ของพวก เรามันยังไม่มากพอ เพราะฉะนั้นแล้ว ก่อนอื่นเลยผมคิด ว่า ผมอยากจะให้เห็นท่าทีนั้น โดยที่เริ่มจากผมก่อนล่ะ อยากท�ำอะไรเมื่ออายุครบยี่สิบปีแล้ว? สอบเอาใบขับขี่ ผมอยากเอาเซิร์ฟบอร์ดวางไว้ บนหลังคารถแล้วไปทะเลจังเลย มันเป็นความฝันที่เกิน กว่าความเป็นจริงในตอนนี้ใช่มั้ยล่ะ? ก็เพราะว่าพอเรา อายุยสี่ บิ แล้ว ผมก็ไม่ได้ตงั้ ใจทีจ่ ะเปลีย่ นนิสยั หรือวิถกี าร ด�ำเนินชีวิตสักหน่อยนี่นา แค่ใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอย่าโกหก ตัวเองเลย! (หัวเราะ) Translate : All About Hey! Say! JUMP

All-J

5


15 คำถามเรื่องรักกับ 7 หนุม

Kis-my-ft2 คิสมาย ฟุตโตะ ทู

Q1 ตอนเป็นนักเรียน ชอบเด็กผู้หญิงแบบไหน ไทสุเกะ : แก้ผมเป็ดที่นอนแล้วชี้ๆ ยูตะ : เด็กผู้หญิงที่มีรอยยิ้มน่ารักและสดใส ทาคาชิ : เด็กผู้หญิงที่พูดเล่นกับผู้ชายได้ ฮิโรมิตสึ : เด็กผู้หญิงสดใส เก่งกีฬาหลายประเภท แล้ว ก็มีเพื่อนเยอะๆ ไทสุเกะ : เด็กผู้หญิงน่ารัก โทชิยะ : เด็กผู้หญิงใจดี ช่างพูดช่างคุย เคนโตะ : เด็กผู้หญิงที่มีรอยยิ้มน่ารัก วาตารุ : เด็กผู้หญิงผิวขาวและสวย

Q2 กับเด็กคนนั้น เราท�าท่าทางแบบไหน ยูตะ : ไม่ได้พิเศษอะไรครับ ก็คุยกันแบบปกติธรรมชาติ ทาคาชิ : อยากให้หันมาทางนี้ครับ แล้วผมก็ชอบแกล้ง เขาเป็นประจ�า ฮิโรมิตสึ : ท�าเป็นแซวล้อเล่น ตอนประถมทั้งๆที่ชอบเขา แต่ก็พูดว่า “ไม่สวย” ไทสุเกะ : ไปส่งถึงที่บ้าน แล้วก็ไปโรงเรียนด้วยกันครับ ผมเนี่ยใจดีจริงๆเลยนะ โทชิยะ : ไม่เลยครับ ผมไม่เคยไปเริ่มคุยก่อนเลย ถึงเขา มาคุยด้วย ผมก็จะ “โอ๊ะ โอ~~”แล้วก็เหงื่อแตก เคนโตะ : ปกติทั่วไปครับ พูดคุยด้วยกันแค่สองคน คุย กันทั่วไปครับ วาตารุ : ตอนนั้นก�าลังฮิตพุริคุระมาก พอได้จะแบ่งให้ เพื่อนแล้วผมก็ “ขอผมด้วยได้ไหม?” อะไรแบบนี้ครับ

translate : Noyzyt

โทชิยะ : ตอนเป็นนักเรียนถ้าเล่นกีฬาล่ะก็มันก็จะป็อป เพราะงั้น เวลาที่เล่นกีฬาก็จะพูดว่า “ส่งมาที่ฉันสิ!” พูด ให้ดูดีว่า “ฉันเล่นกีฬาได้” แต่ว่าพองานเลี้ยงรุ่นปลายปี เพื่อนชั้นเดียวกันเก่าๆ ก็จะบอกว่า “แกมันเซ้นส์เรื่อง กีฬาแย่มากเลยนะ” สุดท้ายความลับก็แตก (หัวเราะ) เคนโตะ : เรื่องที่ถนัดๆผมก็พยายามมากเลยครับ เมื่อ ก่อนมุ่งมั่นเรื่องการเล่นดอจบอลมากเลยครับ เป็นตัว เกร็งเลยล่ะ! วาตารุ : ท�าเป็นวางท่า คุยอย่างสนุกสนาน

Q4 ถ้าพูดถึงความทรงจ�าวันวาเลนไทน์?

Hiromitsu T

สารภาพรัก ผมก็จะพูดก่อนว่า “เป็นแฟนกันนะ” ให้เขา พูดว่า “ทั้งๆ ที่เมื่อกี้ฉันก�าลังจะพูดเลยแท้ๆ~!!” แบบนี้ น่ะครับ (หัวเราะ) โทชิยะ : ถ้าผมชอบจริงๆ ผมก็จะเป็นคนบอกก่อน เคนโตะ: ผมจะพูดก่อน ถ้าเขาบอกก่อนก็ดีใจเหมือน กัน วาตารุ : ใครก่อนก็ได้ แล้วแต่เวลาและสถานการณ์

Q6 เดทครั้งแรกไปที่ไหน? ยูตะ : ผมจะชวนเองว่า “ไปดูหนังกัน!” แล้วก็จะพาไป โรงหนังด้วย ทาคาชิ: ผมจะโทรไปชวนว่า “ไปกินข้าวกันสองคนไหม?” ฮิโรมิตสึ : ชวนไปกินข้าวครับ ผมจะพูดว่า “ผมเจอร้าน อาหารอร่อยๆ มา” อะไรแบบนี้ ไทสุเกะ : ผมจะถามเขา ถ้าเขารีเควสอะไรมา ไม่ว่าจะ เป็นที่แบบไหนผมก็จะพาไป โทชิยะ : โรงภาพยนต์ เคนโตะ : ไปโยโกฮาม่า แล้วก็ไปดูหนังแอคชั่น แล้วพูด ว่า “สนุกจัง” ด้วยรอยยิ้ม วาตารุ : อย่างแรกก็ไปกินข้าวกันก่อน ถ้ามีเรื่องคุยกันก็ จะคุยกันไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเรื่องคุยไม่มีก็จะกลับบ้าน

ยูตะ : ตอนม.ปลายได้ช็อกโกแล็ต ละลายหมดเลย ก็เลย ลองกินดู แล้วก็ตกใจ..... ทาคาชิ : ตอนม.ต้นได้ช็อกโกแล็ตท�ามือมาครับแต่ว่า ดีใจ มากจนท�าหล่น ฮิโรมิตสึ : มีกล่องเล็กๆอยู่ในโต๊ะ ผมก็คิดว่ามันต้องเป็น ช็อกโกแล็ตแน่ๆ แต่พอเปิดดู ข้างในไม่มีอะไรเลย ไทสุเกะ : ตอนอยู่โรงเรียนก็กระวนกระวาย เพราะว่ามี คนเรียกให้ไปหา ตอนที่ก�าลังจะไปที่นั้นก็มีอีกคนนึงเรียก ระหว่างทาง โทชิยะ : ทุกปีก็จะได้แค่ช็อกแล็ตจากเพื่อน พูดไงดี คือ ถ้าอยู่ในห้องเรียนเดียวกันเดี๋ยวเขาก็เอามาให้ เคนโตะ : ตอนป.4 มีคนให้ช็อกโกแล็ต 35 คน Q7 ตอนเดทจับมือกันหรือเปล่า? วาตารุ : หลายๆปี ม านี ก ้ ไ ็ ด้ ข องน้ อ ยลง จนสุ ด ท้ า ยก็ ม แ ี ค่ Q3 สิ่งที่พยายามท�า เพื่อที่จะเป็นที่ชื่นชอบ? ยูตะ : ถ้าไปดูหนังด้วยกัน ก็ต้องจับมือกันสิครับ แม่ ก บ ั พี ส ่ าวที ใ ่ ห้ ยูตะ : ก็อยากจะป็อปผมก็เลยเข้าชมรมฟุตบอล แต่ก็ไม่ ทาคาชิ : ต่อหน้าคนอื่นอาจจะไม่จับ แต่ถ้าอยู่กันสอง Q5 ตอนสารภาพรั ก จะบอกเองหรื อ ให้ อ ก ี ฝ่ า ยบอก ดังซักเท่าไรอ่ะนะ คนก็จะจับมือไว้ ทาคาชิ : ผมคิดว่าก็เป็นคนสะดุดตา ปกติก็เป็นคนโหวก ยูตะ : ผมพูดเองครับ ถ้าให้อีกฝ่ายพูดจะรู้สึกเหมือนว่าแพ้ ฮิโรมิตสึ : อื้ม จับมือครับ เหวกตลอด ทาคาชิ : พูดเองครับ ถ้าเกิดอีกฝ่ายพูดจะรู้สึกว่าแพ้ ไทสุเกะ : ยื่นมือออกไปไม่พูดอะไร แล้วก็จับมือ ฮิโรมิตสึ : ตอนม.ต้น ชุดนักเรียนก็ใส่กางเกงเอวต�่า เอว ฮิโรมิตสึ : ผมพูดเองดีกว่าครับ จะได้รู้สึกว่าพัฒนาแล้ว โทชิยะ : อยากจับมือแล้วก็แกว่งๆไปด้วยกัน ตรงสะโพกอะไรแบบนี้ ไทสุเกะ : ใครก่อนก็ได้ครับ แต่ถ้ารู้สึกว่าเขาก�าลังจะ เคนโตะ : อื้ม จะจับไว้แน่นๆเลย 6

All-J


Takashi

Yuta

Taisuke

Toshiya

วาตารุ : แล้วแต่สถานที่ ถ้าเกินว่าคนเยอะแล้วจะหลงก็ ก็จะตื่นเต้นนะครับ จะจับมือไว้ ฮิโรมิตสึ: อาทิตย์ละ2 ครัง้ ไม่บอ่ ยหรอกครับ แรกๆก็แบบนี้ Q8 จูบครั้งแรกเมื่อไหร่ แล้วสถานที่ในอุดมคติล่ะ ไทสุเกะ : ถ้ามาเจอกันได้ก็อยากเจอทุกวัน โทชิยะ : อยากเจอกันทุกวันเลยครับ สนุกดี ยูตะ : ทางกลับบ้านในเดทครั้งแรก จะจูบข้างทางครับ เคนโตะ : เจอกันทุกวันก็ได้ แต่ขอเวลาอยู่กับเพื่อนผู้ชาย แต่ว่าอยากลองเดทหลังเลิกเรียนแล้วก็จูบดูบ้าง บ้างนะ ทาคาชิ : ไปเดทกันที่สวนสนุก กลางคืนก็ไปกินข้าวด้วย วาตารุ : อย่างน้อยๆก็เจออาทิตย์ละครั้ง ที่เหลือก็แล้ว กัน แล้วก็ดูวิวตอนกลางคืนด้วยกัน จากนั้น... แต่ถ้าเขาบอกว่าอยากเจอผมก็จะไป ฮิโรมิตสึ : ที่ที่กลางคืนมีวิวสวยๆ ไม่ค่อยมีคน Q11 เวลาแฟนเช็คมือถือ? ไทสุเกะ: ตอนที่บอกลากัน ผมจะบอกว่า “ฝันดี” แล้วก็จุ๊บ โทชิยะ : ตอนที่ให้มาบ้านครั้งแรก ยูตะ : ไม่เอานะ ไม่เช็คของผม ผมก็ไม่เช็คของเขาครับ เคนโตะ : ตอนกลับบ้านในเดทครั้งแรก แล้วก็จูบเลย ทาคาชิ : ไม่เป็นไรครับ ไม่มีเรื่องน่าอายอะไรครับ วาตารุ : ตอนกลับจากโรงเรียน เดินไปส่งเขาที่บ้าน แล้ว ฮิโรมิตสึ : ไม่นะ ถ้าท�าแบบนั้นคิดแล้วหนาวเลย ตรงหน้าบ้าน เดทในชุดนักเรียนเนี่ยผมปลื้มมากเลย ไทสุเกะ : ก็ดีนะครับ แต่ความรู้สึกแบบนั้นไม่เอานะ นะ (ท�าตาไกลๆ) โทชิยะ: ไม่เอาๆๆๆ ท�าไมถึงอยากดู ผมอยากรู้เหตุผลจัง เคนโตะ : ไม่ได้ครับ แบบนั้นไม่ดีครับ Q9 ติดต่อกับแฟนบ่อยไหม? วาตารุ : ไม่เป็นไรครับ ไม่มีเรื่องน่าอายอะไร ยูตะ : อย่างน้อยๆหนึ่งวันจะเมลไปมากกว่าหนึ่งครั้ง Q12 อยากรู้เรื่องในโทรศัพท์มือถือแฟนไหม? ทาคาชิ : ในหนึ่งวันยังไงก็จะโทรไปหาให้ได้ ฮิโรมิตสึ : ผมอยากโทรหาก่อนนอนทุกวัน ยูตะ : ไม่หรอกครับ ไทสุเกะ : ถ้ามีเวลาก็จะอยากจะโทรหาตลอด ทาคาชิ : ไม่สนใจครับ ต้องให้ความส�าคัญกับเพื่อนๆ โทชิยะ : ถ้าเขาส่งมาก็จะตอบกลับตามล�าดับ ผู้ชายเหมือนกันครับ เคนโตะ : ในหนึ่งวันเมลไปมากกว่า 2-3 ครั้ง ฮิโรมิตสึ : ไม่ค่อยเท่าไรครับ วาตารุ : ในหนึ่งวันจะเมลไปหนึ่งครั้งและโทรหาหนึ่งครั้ง ไทสุเกะ : ไม่หรอกครับ โทชิยะ : ไม่อยากรู้ครับ Q10 อยากเจอแฟนบ่อยไหม? ยูตะ : อาทิตย์ละ... 2? ถ้าระยะห่างอยู่ในระดับที่พอดี เคนโตะ : ถ้ามีอะไรน่าสงสัยละก็ ผมก็อยากรู้นะครับ โยโก วาตารุ : ไม่อยากรู้ครับ ความรักมันก็เจริญเติบโต ทาคาชิ : อาทิตย์ละครั้ง ถ้าได้รู้เรื่องบางอย่างที่ไม่รู้ มัน

Q13 อยากให้แฟนเรียกว่าอะไร

Kento

Wataru

ยูตะ : ยูตะครับ ผมอยากให้เรียกชื่อครับ ทาคาชิ : นิกะซังละกัน เพราะว่าที่บ้านเรียกทาคาชิแล้ว ฮิโรมิตสึ : ถ้าเรียกนามสกุลก็ไม่เป็นไร อะไรก็ได้ครับ ไทสุเกะ : ยกเว้นนามสกุลกับ”ไทปี้” (นอกนั้นได้หมด) โทชิยะ : ให้เขาเรียกว่า “มิยาตะซัง” ก็ได้ครับ เคนโตะ : เคนโตะ วาตารุ : อะไรก็ได้หมดครับ ยกเว้นเรียกนามสกุลแล้วใส่ “ซัง” หรือว่า “คุง”

Q14 เรียกแฟนว่าอะไร? ยูตะ : เรียกชื่อเฉยๆ ทาคาชิ : ถ้าเกิดรู้จักกันผมจะเรียกชื่อเฉยๆ ทันทีครับ คิตายาม่า ฮิโรมิตสึ : เรียกชื่อเล่น เรียกแบบห้วนๆ ผม อายนิดๆนะ ไทสุเกะ : เรียกชื่อห้วนๆครับ โทชิยะ : เรียกชื่อแล้วก็มี “จัง” ตามหลังด้วย เคนโตะ : เรียกชื่อห้วนๆครับ โยโก วาตารุ : เรียกชื่อห้วนๆครับ

Q15 เพลงรักที่ชอบ

ยูตะ : “FIRE BEAT” ความรักของผมแข็งแกร่งนะ (หัวเราะ) ทาคาชิ : เพลง 365 วันของ Mr.Childrenซัง ฮิโรมิตสึ : ผมชอบเพลงแนวอกหัก สิ่งที่เก็บซ่อนไว้ในใจ ครับแบบ“Rainy Blue” ของโทคุนากะ ฮิเดอากิซังครับ ฟุจิกายะ ไทสุเกะ : Love Story ของนามิเอะ นามูโระซัง มิยาตะ โทชิยะ : เพลง 7 เดือน 7 วันของมิซุกิ นานะซัง เซนกะ เคนโตะ : Marry You (Marry You~ futari no mirai) ของ Bruno Mars โยโก วาตารุ : เพลง Story ของไอซัง All-J

7


ต่อจากนี้ไปจะรับบทเป็นผู้ใหญ่แบบไหนใน AKB ? มายูยุ : ตอนนี้มาอยู่ในฐานะที่ต้องถ่ายทอดสิ่งส�ำคัญ และสิ่งดีๆของ AKBให้กับน้องใหม่ ก็เลยอยากเป็นแบบ อย่างที่ถูกต้องค่ะ นั่นคือบทบาทของผู้ใหญ่ใน AKB เหรอ? มายูยุ : ตอนนี้รู้สึกถึงวิกฤตที่เมมเบอร์รุ่นพี่จบการศึกษา ไปทีละคนก็เลยตระหนักได้น่ะค่ะ ชิมาซากิซังล่ะ? พารูรุ : ฉันไม่ถนัดการจับมือเลยล่ะค่ะ ไม่ว่าจะพยายาม เท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้นเลยล่ะค่ะ เลยจะปล่อยไว้แบบนั้น มายูยุ : ปล่อยไว้แบบนั้น? (หัวเราะ) พารูรุ : แต่ก็ตั้งใจจะพยายามในส่วนอื่นๆ ค่ะ อย่าง เช่นการถ่ายรูปเดี่ยวลงนิตยสาร ซึ่งฉันว่ามันท�ำให้มีคน รู้จักฉันมากขึ้น  คิดว่าถ้ามันช่วยให้คนที่ไม่สนใจใน waTANABE MAYU x sHIMAzAKI hARUKA AKB เลย หันมาสนใจเพราะฉันบ้างก็ดีนะคะ ไม่ว่าจะ ท�ำอะไรก็ตาม ฉันอยากหาจุดยืนใหม่ๆ ให้พบ พอ 20 แล้วก็ดื่มเหล้าได้แล้วนี่นะ คิดว่าส่วนไหนของตัวเองที่“เป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้วนะ” พารูรุ : แต่เวลาส่วนตัวฉันไม่ทราบหรอกค่ะ! ในวันพัก มายูยุ : ที่บ้านไม่ค่อยมีใครดื่มเหล้าน่ะค่ะ ฉันเองก็ไม่ ค่อยอยากดื่มเหล้าเท่าไหร่ด้วย เนี่ยมายุซังท�ำอะไรบ้างเนี่ยไม่รู้เลย มายูยุ : พักนี้คิดว่าสามารถบอกสิ่งที่คิดอยู่ออกมาเป็น พารูรุ : เคยได้ยินว่า “การดื่มจ�ำเป็นกับการเข้าสังคม” ค�ำพูดของตัวเองได้มากขึ้นแล้วล่ะค่ะ คิดว่านั่นเป็นส่วน ในทางกลับกัน  คิดว่าในตัวเรายังมีความเป็นเด็ก น่ะค่ะ คงจะดื่มแค่นิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นค่ะ แบบไหนเหลืออยู่บ้าง? ที่พัฒนามากขึ้นค่ะ ปีนี้มีเป้าหมายส่วนตัวแบบไหนบ้าง? พารูรุ : ส่วนฉันก็เริ่มรับค�ำติติงได้มากขึ้นแล้วค่ะ เพราะ มายูยุ : เรื่องอาหารการกินน่ะค่ะ ยังมีที่เลือกทานอยู่ ใจกว้างขึ้นล่ะมั้ง อาจจะแข็งแกร่งขึ้นด้วย ตอนนี้ใครว่า เยอะแยะเลย เรื่องทานผักเนี่ยทานไม่ได้มาตั้งแต่เล็กๆ มายูยุ : ยังไงก็อยากจัด Solo live จริงๆจังๆค่ะ ชอบ อะไรก็ไม่เจ็บไม่ปวดแล้วล่ะค่ะ (หัวเราะ) แบบว่าใครจะ แล้ว  เมื่อเป็นผู้ใหญ่ก็ต้องแก้ไขนิสัยการกินให้ถูกต้อง การท�ำงานแบบนี้ แล้วก็อยากจะทดสอบตัวเองด้วยการ คิดอย่างไรก็ช่างเขา พารูรุ : ฉันยังมีส่วนที่เป็นเด็กเหลืออยู่เยอะแยะเลยก็จริง รับงานละครทีวีกับละครเวทีค่ะ วาตานาเบะซังคิดว่าตรงไหนของชิมาซากิซังเป็น แต่ก็ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนน่ะค่ะ พารูรุ : อยากลงนิตยสารที่สาวๆ อ่านให้มากขึ้นอีกค่ะ ผู้ใหญ่แล้ว? อยากเพิ่มจ�ำนวนแฟนเพศหญิงค่ะ ในเรื่องไหนเหรอ? มายูยุ : คิดว่าตรงส่วนที่แต่งตัวได้มีสไตล์น่ะค่ะ พารูรุ : เรื่องการแสดงอารมณ์ในทันทีน่ะค่ะ ไม่ชอบก็ หากพูดถึงการขึ้นโคเอ็นที่เป็นพื้นฐานของพวกเธอ พารูรุ : แต่ชุดวันนี้ดูแย่ไปหน่อยนะคะ (หัวเราะแห้งๆ) จะท�ำหน้าไม่ชอบออกมา  ถ้าเหนื่อยก็จะแสดงความ มายูยุ : พักนี้ได้ขึ้นแสดงสดบนโคเอ็นบ่อยขึ้นค่ะ ตัวฉัน มายูยุ : เสื้อแขนสั้น (หัวเราะ) แต่ว่าไม่ว่าจะมองครั้ง เหนื่อยออกมาแบบนี้น่ะค่ะ (หัวเราะเจื่อนๆ) เองก็คิดว่าได้แสดงออกมากขึ้นด้วยน่ะค่ะ ยิ่งออกแสดง ไหน แฟชั่นก็ดูมีสไตล์ทุกครั้งค่ะ แต่ช่วงนี้ชิมาซากิซังก็ให้ความรู้สึกว่าเป็นผู้ใหญ่ขึ้นนะ ก็ยิ่งรับรู้ถึงความสุขที่ได้ส่งให้ทุกคนค่ะ ฉันว่าฉันรักการ ชิมาซากิซังล่ะคิดว่าตรงไหนที่วาตานาเบะซังเป็น แสดงโคเอ็นมากกว่าที่เคยค่ะ พารู ร ุ : จริ ง เหรอคะ?  คงเพราะฉั น สามารถโต้ ต อบ ผู้ใหญ่แล้ว? พารูรุ : อยากจะรักษาเกียรติภูมิเอาไว้ตลอดเวลา เพราะ พารูรุ : ทั้งหมดล่ะค่ะ ถึงแม้จะในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ ค�ำถามได้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนแล้วล่ะมั้งคะ? (หัวเราะ) การที่ได้เป็นเซ็มบัตสึ  และได้ไปท�ำงานนอกเธียเตอร์ จดจ�ำค�ำศัพท์ได้มากกว่าแต่ก่อนแล้วสินะ? ก็เถอะ  ตั้งใจขนาดที่คิดไม่ถึงว่าอายุเท่ากัน  มายุซัง มั น เป็ น เหมื อ นศั ก ดิ์ ศ รี ที่ ฉั น จะต้ อ งเปล่ ง ประกายใน น่ารักมาก เป็นไอดอลสมบูรณ์แบบเลย พารูรุ : ค�ำศัพท์..? อ่า ใช่ค่ะ! ถ้าจะเป็นผู้ใหญ่ ก็อยาก เธียเตอร์ให้ได้ ไม่ใช่เรื่องเต้นเก่งหรือร้องเพลงเก่ง แค่ มายูยุ : ไม่หรอกๆ (หัวเราะแบบเขินๆ) จะจ�ำค�ำศัพท์ได้มากขึ้นอีกค่ะ (หัวเราะ) แสดงตัวตนของตัวเองออกมาให้ได้ก็พอ Translate : Jagob

AKB48

8

All-J


translate : All About Hey! Say! JUMP

All-J

9


นÒ¡ÒยÒมÐ ยÙมÐ เดือน X วัน ผมมีงานอดิเรกด้วย ผมไปถ่ายรูปวัตถุดิบในการผลิตรูปปั้น หรือภาพเหมือนมาล่ะ ไปคนเดียวมันเหงา ก็เลยชวนเพื่อนหลายๆคนมาด้วยกัน เริ่มออกเดินทางตอนตี 5 ผมไม่ได้คิดถึงจุดมุ่งหมายอะไรในการไปครั้งนี้เป็น พิเศษ คิดว่าบรรยากาศน่าจะ “ดีนะ” เป็นสถานที่ที่รู้สึกสนใจล่ะ แล้วก็ทยอยถ่ายภาพไปเรื่อยๆ กล้องพกพาที่ผมใช้ อยู่นั้น อยู่กับผมมา 3-4 ปีได้แล้วล่ะ มีกล้องที่ใช้งานได้สะดวกสบายมากกว่านี้ออกมาเยอะแยะก็จริงนะครับ แต่มัน มีความผูกพันกันมันอยู่ ก็เลยตั้งใจเอาไว้ว่าจะใช้มันอย่างทนุถนอมจนกว่ามันจะพังล่ะ เข้ากลางวันก็คือราเมง ผม เข้าไปในร้านที่มองแค่ผ่านๆ แต่รสชาติอาหารมันก็อร่อยมากเลยล่ะ ใช้กล้องถ่ายไปรอบๆเวลาที่ทุกคนก�าลังเล่น สนุกกัน เป็นการสร้างความทรงจ�าที่ดีๆ แล้วเราก็กลับบ้านกันก่อนช่วงตอนเย็นล่ะ อากาศยังคงรู้สึกหนาวเย็นที่ผิว นิดหน่อยอยู่ก็จริง แต่ดูบรรยากาศผ่านเลนส์กล้องแล้ว มันรู้สึกได้ถึงช่วงที่ใบไม้ก�าลังผลิบาน ตอนนี้ก็เข้าสู่ช่วงใบ ผลิเรียบร้อยแล้วสินะ เดือน X วัน Nakayama Yuma ผมกลับไปที่โอซาก้าในช่วงเวลาส่วนตัวล่ะ ตื่นนอนตอน 6 โมงครึ่ง ไปถึงที่บ้านก็เลยช่วงกลางวันไป แล้ว ระหว่างที่ก�าลังท�าตัวตามสบายอยู่ในบ้าน ผมก็ออกไปเล่นสนุกกับน้องสาวที่พึ่งกลับมาจากโรงเรียนประถม ล่ะ พอตกกลางคืน ก็ไปที่ร้านอาหารว่างก่อนเสิร์ฟน�้าชาด้วยกันกับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา แต่จู่ๆน้องสาวผมก็พูดขึ้นมาว่า “ยืมสมาร์ทโฟนหน่อยสิ!” พอส่งไปให้ปุป ก็ดาวน์โหลด แอฟ “เกมส์ทายปัญหา” มาล่ะ แล้วการพูดคุยกันเรื่องการเล่นทายปัญหาก็เริ่มขึ้นซะอย่างนั้น(หัวเราะ) น้องสาวผมก็เป็นคนคอยทายปัญหาให้อยู่หรอกนะ แต่ มันก็มีค�าถามที่ต้องใช้สติปัญญา และความรู้รอบตัวเยอะ พอรู้สึกตัวอีกที เราก็ใช้เวลาสนุกกับการเล่นเกมส์ทายปัญหาไปตั้ง 2 ชั่วโมงเลยล่ะ! ได้เห็นรอยยิ้มของทุกๆคน เลย ท�าให้มื้อเย็นกลายเป็นมื้อที่อร่อยขึ้นมาเลยล่ะ วันนั้นผมก็พักอยู่ที่บ้านของผมอยู่หรอกนะ แต่ห้องที่แต่ก่อนเคยเป็นห้องของผม ดันกลายมาเป็นห้องของน้องสาวตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็ไม่รู้ ผมก็เลยได้นอนบนฟุตงที่ปูไว้ให้ข้างๆเตียงแทนล่ะ ทั้งๆที่ก็เป็นบ้านของตัวเองแท้ๆ แต่กลับรู้สึกเหมือนอาศัยอยู่ในบ้านของคนอื่นซะงั้นเลยอ่ะ (หัวเราะ) เดือน X วัน ลุกขึ้นจากเตียงตอน 9 โมงเช้า ผมท�าน�้ากล้วยกินแทนข้าวเช้าล่ะ ใส่แค่กล้วย น�้าผึ้ง แล้วก็น�้าแข็งลงไปในเครื่องปันน�้าผลไม้ แต่มันก็อร่อยดีนะ ช่วงนี้ ผมจะท�า น�้าผลไม้ไม่กล้วยก็สตอเบอร์รี่กินเองทุกเช้าเลยล่ะ แล้วก็นั่งเหม่อกินมันไปสักพักนึง จากนั้นก็ออกจากบ้านตอน 10 โมงครึ่ง ไปยังสถานที่ที่ duet นัดสัมภาษณ์ เรื่องอาหาร ก็ เหมือนกับที่เคยพูดเอาไว้ว่า “กินอาหารเช้า แล้วก็กินแกงกะหรี่แบบแห้งตอน 11 โมง อาหารว่างก็คือแกงกะหรี่ กลางคืนก็ทานหม้อไฟ แล้วช่วงกลางดึกก็กินเนื้อไก่”ที่ตอบไป แล้วท�าให้ทุกคนตกใจกันน่ะแหละครับ ใน 1 วัน ทาน 5 มื้อน่ะ มันไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าตกใจอะไรเลย ปรกติออก ผมเองก็คิดว่าอยากจะอ้วนอีกสักหน่อยด้วย เรื่องมีกล้ามน่ะ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของยามะดะคุงแล้วก็จิเนนคุงเถอะ ก็ผมอยากให้พูดกับผมว่า “ยูมะนี่ หน้าท้องนิ่มไปหมดเลยนะเนี่ย!” นี่นา (หัวเราะ)

ยÒมÐดÐ àÃียวสุà¡Ð

เดือน X วัน ผมไปที่ไทย เพื่อท�างานของ JUMP เราเริ่มออกเดินทางจากญี่ปุ่นในช่วงกลางดึกในช่วงวันที่ก่อนที่จะ เริ่มเดินทาง ไปถึงที่ไทยประมาณ 6 โมงเช้า ไอร้อนของอากาศมันสุดยอดมาก ก็เลยรู้สึกเหนอะหนะตัวขึ้นมานิด หน่อยล่ะนะ มีแฟนๆชาวไทยเข้ามาต้อนรับกันอย่างคลั่งไคล้ตรงล็อบบี้ของสนามบิน ความรู้สึกในครั้งแรกที่มา ถึงที่ไทยนั้นมีเยอะแยะมากมาย อากาศก็ร้อน ในวันนั้นมีงานถ่ายแบบ ได้กลับมาที่โรงแรมอีกทีก็เลย 5 โมงเย็น ไปแล้ว เลยซัดข้าวเย็นกันที่ร้านอาหารของโรงแรมไปซะเต็มที่เลย ผมคิดเผื่อๆเอาไว้ว่า ในกรณีที่ถ้าอาหารไทยไม่ ถูกปากเราขึ้นมา ก็เลยพก “ผงสาหร่ายกับงา โรยข้าว” มาจากญี่ปุ่นล่ะ(หัวเราะ) น่าขอบคุณมากที่เจ้านี่ไม่ได้น�า ออกมาใช้เลย หลังจากทานข้าวเสร็จ ก็รู้สึกง่วงนอนขึ้นมาอย่างรุนแรง เลยกลับไปหลับสนิทที่ห้องพักของตัวเองล่ะ เดือน X วัน อยู่ที่ไทย 3 วัน ไม่มีอาการของโรคแพ้เกสรดอกไม้เลย รู้สึกดีมาก(หัวเราะ) วันนั้นเป็นวันที่ไม่มีงานทั้ง วัน ก็เลยไปช้อปปิ้งมอลล์ข้างๆโรงแรม ได้ท�าอะไรตามสบายที่ไทยซะเต็มที่ไปเลยล่ะ ความรู้สึกที่ประทับใจเลยก็ 10

All-J

Yamada Ryosuke


คือ ไนซ์บาร์ซ่า มันมีตลาดที่ถ้าพระอาทิตย์ยังไม่ตกดินก็จะไม่เปิดร้านด้วย มีแผงลอยขายเต๊ม~มมไปหมดเลยล่ะ ตั้งแต่ไปท�างานที่ต่างประเทศมา ผมไม่เคยออกไปเดินบนถนนยามค�่าคืนเลย เพราะงั้นแล้วมันก็เลยอดรู้สึกตื่น เต้นขึ้นมาสุดๆ ไม่ได้เลยล่ะ ผมซื้อของจิปาถะแนวเอเชี่ยนแบบที่ผมชอบมากกลับมาเต็มไปหมดเลย ผมต่อราคา ไปเรื่อยๆไม่หยุดหย่อนเลยล่ะ~ ผมพูดกับพนักงานขายว่า “ผมอยากซื้ออันนี้ในราคาถูกๆ อย่างแรกเลย คุณช่วย ไปหยิบเครื่องคิดเลขมาหน่อยสิ” ผมพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมดเลยล่ะ สื่อกันรู้เรื่องกว่าที่คิดเอาไว้อีกด้วยต่างหาก นะ ไม่สิ คงจะเป็นความรู้สึกที่ตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวสุดๆของผมมันสื่อไปถึงคนขายมากกว่าสินะ(หัวเราะ) ของที่ อยากได้และซื้อมันมาได้นั้น คือช้างตั้งโชว์ และโคมไฟวางเอาไว้อยู่ในห้องนั่งเล่น แล้วก็ ซื้อขวดแก้วอโรม่ามา ด้วย ไม่รู้ท�าไมมันถึงได้ดูน่ารักมากกว่าของที่วางขายในญี่ปุ่นเสียอีก อยากไปที่ไทยอีกครั้งให้ได้เลย! เดือน X วัน วันนี้เริ่มซ้อมท่าเต้นก่อนแสดงจริงที่สตูดิโอตั้งแต่ช่วง บ่ายโมงเป็นต้นไป มีหมายก�าหนดการท�างาน ถึง 4 โมงเย็น เพราะงั้นแล้ว หลังจากที่ท�างานเสร็จ ก็ไปกินข้าวด้วยกันกับยูมะล่ะ เราเข้าไปในร้านข้าวที่อยู่ ใกล้ๆสตูดิโอ และสั่งชาบูชาบู สั่งปลาที่ยูมะชอบมาเยอะแยะเลย แน่นอนว่าเราพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของ NYC กัน อยู่แล้ว และพูดกันในเรื่องของJUMP งานโซโล่เดี่ยว เราเอาเรื่องของงานเป็นหลัก แล้วก็ค่อยๆพูดเจาะลึกลงใน เรื่องอื่นๆไปอีกทาง ผมรู้สึกว่า ความคิดของยูมะและตัวผมเองนั้นมีจุดที่เหมือนกันอยู่ เพราะอย่างนั้นแล้วก็เลย รู้สึกสบายใจเวลาที่คุยกันหรือเปล่านะ เราแยกย้ายกันกลับบ้านกันตอนสองทุ่ม พูดคุยเรื่องที่ผมไปเจอยูมะมากับ คนในครอบครัว แล้วก็เข้านอนก่อนเที่ยงคืนล่ะ

Chinen Yuri

¨Ôàนçน ยÙÃÔ เดือน X วัน ค่อยๆตื่นในตอนเช้า ไม่ได้ดูเวลาให้แน่ใจอะไร แล้วก็เริ่มใช้ชีวิตแบบเรื่อยๆสบายๆแบบนั้นไป 1 วัน จู่ๆก็บังเอิญฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า “วันนี้เป็นวันที่จะเดินทางไปที่ ไทย เพื่อท�างานของJUMP นี่!” แล้วผมก็เริ่มจัดของใส่กระเปาเดินทางล่ะ มี เสื้อยืด กางเกงขาสั้น เสื้อเชิ๊ตอโลฮ่า(แนวฮาวาย ลวดลายดอกไม้ คล้ายๆกับเสื้อลายดอกไม้ตอน เล่นสงกรานต์ของบ้านเรา) รองเท้าแตะ เป็นของที่ใช้ในช่วงหน้าร้อนซะเสียเป็นส่วนใหญ่ ของที่ต้องการก็ดันอยู่ลึกสุดของห้อง กว่าจะหาเอาออกมาได้ก็ล�าบากพอสมควรเลย ในที่สุดก็จัดของใส่กระเปาเสร็จ โล่งไปเปลาะนึง ออกจากบ้านในช่วงที่เริ่มมืดแล้ว ลากกระเปาเดินทางดังครืดๆ มุ่งไปยังสถานที่นัดหมาย JUMP ทุกคนมารวมตัวกันในเวลา หนึ่งทุ่ม ทานข้าวกันที่สนามบินก่อนเครื่องขึ้น จึงเข้าไปทานร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นข้างในสนามบิน ผมสั่งเนื้อวัวแล้วก็ผลไม้อะโวคาโดทอด ถือน�้าผลไม้ขนแก้วกัน อธิษฐานขอ ให้ปลอดภัยตอนอยู่ที่ไทย! แล้วก็เดินทางไปจากญี่ปุ่น เดือน X วัน ถึงสนามบินที่ไทย! ผมรู้สึกตกใจกับอากาศร้อน ทั้งๆพระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นเลย ยิ่งไปกว่านั้น ยังตกใจที่บรรดาแฟนๆมารวมตัวกันอยู่ที่สนามบินกันเต็มไปหมดทั้งๆ ที่ยังเช้าตรู่อยู่เลย อีกด้วย ดีใจมากๆเลยล่ะ วันนั้นมีงานถ่ายแบบ แต่พี่ๆทีมงานก็เตรียมรถบ้านเคลื่อนที่ไว้ส�าหรับพวกผมด้วย รู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นดาราฮอลลีวูตขึ้น มายังไงก็ไม่รู้ โรงแรมที่พักทุกคนก็แยกนอนกันคนละห้อง วิวสวยมากๆเลย มองเห็นวิวทิวทัศน์ยามกลางคืน และทะเล จากตรงริมระเบียงด้วย สายลมที่พัดมาก็ท�าให้รู้สึก สดชื่นมากเลย ผมไม่ค่อยมีโอกาสที่จะได้รีแลกซ์สบายๆในห้องพักของตัวเอง ก็เลยไม่มั่นใจว่าเช้าวันถัดไปผมจะตื่นเองคนเดียวได้รึเปล่า ก็เลยเข้าไปรบกวนที่ห้องของ ยา บุ(โตตะ)จัง และขอเค้าไว้ว่า “ช่วยปลุกด้วยนะ” แล้วก็ยืมเตียงที่ว่างอยู่นอนล่ะ… เดือน X วัน วันนี้เป็นวันที่ฟรีสไตล์ทั้งวันตอนอยู่ที่ไทยล่ะ! ผมลืมตาตื่นขึ้นตอน 10 โมง ชวนยาบุจังกับ(นากาจิม่า)ยูโตะคุง ไปทานอาหารเช้ากันที่ร้านอาหารริมทะเลของ โรงแรม หลังจากที่ทานกันเสร็จก็ไปช้อปปิ้งมอลล์ที่อยู่ใกล้ๆโรงแรมกัน รู้สึกว่า ทาคาคิ(ยูยะ) (อาริโอกะ)ไดกิ โอคาโมโตะ(เคย์โตะ) และเรียวสุเกะที่พึ่งตื่นมาทีหลัง จะออกไป ทานข้าวกันข้างนอกล่ะ ผมยังไม่เห็นเงาของ(ยาอาโตเมะ)ฮิคารุ และอิโนะโอะ(เคย์)จัง เลย พอแวะไปดูปุป ทั้งสองคนยังสะลืมสะลือมึนงงอยู่เลยล่ะ(หัวเราะ) ช่วงบ่ายก็เป็น ช่วงเวลาที่ผมกับฮิคารุคุงอ่านหนังสือกันที่ริมระเบียง เปิดนิยายที่พกมาจากญี่ปุ่น เราสองคนไม่ยอมพูดคุยอะไรกัน นั่งอ่านอยู่แบบนั้นราวๆ 2 ชั่วโมงได้ การจิตใจที่รู้สึกสงบ รับสายลมที่สดชื่น พร้อมๆกับอ่านหนังสือที่ชอบมากเนี่ย เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยท�าตอนอยู่ที่ญี่ปุ่นเลย เป็นการใช้เวลาไปอย่างฟุ่มเฟือยมากเลยล่ะ All-J

11




J Idol news อาคานิชิ จิน ประกาศยุติสัญญากับ จอห์นนี่ส์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ อย่างเป็นทางการ!

อาคานิชิ จิน (Akanishi Jin) อดีตสมาชิกวง คัตตุน (KAT-TUN) แห่ง จอห์นนี่ส์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ประกาศผ่านทวิตเตอร์ ส่วนตัวว่าเขาได้ออกจาก Johnny’s & Associates ต้นสังกัดที่อยู่มาอย่างยาวนานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเขาได้โพสต์รูปค�ำประกาศ ทั้งแบบภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษเพื่อยืนยันอย่างเป็นทางการ ผม จิน อาคานิชิ ได้ท�ำข้อตกลงร่วมกับ Johnny’s & Associates, Inc. แล้วว่าจะไม่ต่อสัญญาที่สิ้นสุดลงไปเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2014 ผมรู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณอย่างสูงสุดกับทุกคนที่เคยร่วมงาน กัน รวมถึงประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้รับ ถึงแฟนๆ และทุกคนที่คอยสนับสนุนผมมาโดยตลอดระยะเวลาอันยาวนาน ผมขอแสดงความ ขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจครับ  พวกเราตัดสินใจครั้งนี้ร่วมกันเพื่อที่ผมจะได้ไปท�ำตามความฝันในการทุ่มเทพลังให้กับงานในระดับ โลกอย่างเต็มที่เช่นเดียวกันกับที่ท�ำในญี่ปุ่น  ผมจะท�ำทุกอย่างเท่าที่ท�ำได้เพื่อสร้างความทรงจ�ำใหม่ไปพร้อมกับทุกคนที่คอยสนับสนุน ผมหวังว่าจะได้มีโอกาสแบ่งปันความฝันร่วมกันกับพวกคุณทุกคนนะครับ

AKB48 เตรียมเป็นศิลปินหญิงกลุ่มแรกที่ขึ้นแสดงใน NATIONAL OLYMPIC STADIUM!

AKB48 ประกาศจัดไลฟ์คอนเสิร์ตครั้งแรก ณ National Olympic Stadium 2 วันติด กลางงานอีเวน ต์ประจ�ำปีของ AKB48 ณ Tokyo Dome City Hall เมื่อ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา พวกเธอได้ประกาศข่าวเซอร์ไพรส์ ชิ้นใหม่ให้แฟนๆ ได้ทราบว่าพวกเธอก�ำลังจะมีไลฟ์คอนเสิร์ตครั้งแรก ณ สนามกีฬา National Olympic Stadium ในวันที่ 29 และ 30 มีนาคมปี 2014 โดยในวันที่ 29 จะเป็นคอนเสิร์ตของกรุ๊ป AKB48 ส่วนในวันที่ 30 จะเป็นการ แสดงของ AKB48 ทุกกรุ๊ป ซึ่งก�ำหนดการของไลฟ์คอนเสิร์ตในครั้งนี้ ส่งผลให้สาวๆ AKB ก�ำลังจะกลายเป็นศิลปิน หญิงกลุ่มแรกที่ได้ขึ้นแสดง ณ National Olympic Stadium และเป็นศิลปินกลุ่มที่ 5 ต่อจาก Dreams Come True, SMAP, Arashi และL’Arc-en-Ciel ที่ได้ขึ้นแสดงคอนสิร์ตในสถานที่อันทรงเกียรติแห่งนี้

นากาจิม่า ยูโตะ เตรียมรับบทในละครฤดูใบไม้ผลิของ NTV ร่วมกับรุ่นพี่ นิโนะมิยะ จาก ARASHI

สถานีโทรทัศน์ NTV ประกาศรายชื่อนักแสดงที่เหลือส�ำหรับละครแนววัยรุ่นวัยเรียน “Even if we’re weak we can win ~the ambition of Aoshi-sensei and the amateur high school baseball team” (ชื่ออย่างไม่เป็นทางการ) ละครประจ�ำฤดูใบไม้ผลิปี 2014 เรื่องนี้น�ำแสดงโดย นิโนะมิยะ คาซึนาริ (Ninomiya Kazunari) จาก อาราชิ (Arashi) ในบท Tamo Aoshi ผู้กลับมารับหน้าที่อาจารย์ชั่วคราวของโรงเรียนสาธิตมัธยมชั้นน�ำชื่อดังแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นซึ่งเป็นโรงเรียนเก่าที่เขาเคยศึกษา มา ส�ำหรับนักแสดงที่จะมารับบทนักเรียนและลูกทีมเบสบอลของ Tamo Aoshiได้แก่ Fukushi Souta, Nakajima Yuto (Hey!Say!JUMP), Yamazaki Kento, Hongo Kanata, Mamiya Shotaro, Sakurada Dori, Suzuki Katsuhiro, Yanagi Shuntaro และ Hiraoka Takuma นอกจากนี้ Arimura Kasumi จะรับบทเป็นนักเรียนและผู้จัดการทีมเบสบอล จะออกอากาศให้ชมกันทุกคืนวันเสาร์เวลา 21.00 น. (เวลา ประเทศญี่ปุ่น) ทางสถานี NTV เริ่มเดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป

KYARY PAMYU PAMYU ส่งเพลงใหม่ลงประกอบภาพยนตร์การ์ตูน “เครยอน ชินจัง”

“Family Party” คือชื่อซิงเกิลใหม่จากสาวคยารีที่ได้ Nakata Yasutaka แห่ง CAPSULE รับหน้านี้เขียน เพลงนี้ให้เข้ากับภาพรวมของภาพยนตร์และธีม “สัมพันธภาพของครอบครัว” โดยจะเป็นเพลงแนวป็อปเนื้อหาอบอุ่น ให้ความรู้สึกอ่อนไหว ก่อนหน้านี้คยารีเคยส่งเพลง “Kimi ni 100 Percent” เป็นเพลงเปิดให้กับซีรี่ย์การ์ตูน เครยอน ชินจังทางทีวีมาแล้ว แต่ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในอาชีพนักร้องของเธอที่ได้ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ ภาพยนตร์ ‘Eiga Crayon Shin-chan: Gachinko! Gyakushuu no Robo Tou-chan’ มีก�ำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่น วันที่ 19 เมษายน เป็นต้นไป 14

All-J


อายูมิ ฮามาซากิ แต่งงานกับนักเรียนแพทย์จาก UNIVERSITY OF CALIFORNIA วัย 25 ปี!

อายูมิ ฮามาซากิ (Ayumi Hamasaki) วัย 35 ปี เข้าพิธีแต่งงานกับนักเรียนแพทย์จากมหาวิทยาลัย แคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา วัย 25 ปี! อ้างอิงจากต้นสังกัดของ อายูมิ ทั้งคู่ได้เข้าพิธีแต่งงานเป็น ที่เรียบร้อยแล้วในสหรัฐฯ เมื่อช่วงใกล้ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากนั้น อายูมิก็ได้อัพเดทบล็อคส่วน ตัวด้วยข้อความว่า “เพิ่งแต่งงานค่ะ” และ “วันนี้เป็นวันเริ่มต้นชีวิตแต่งงานของฉัน” รายงานข่าวเผยว่าทั้งคู่พบ กันเมื่อเดือนมกราคมปี 2013 ในขณะที่ อายูมิเดินทางไปพักผ่อนวันหยุดใน L.A และได้แลกเปลี่ยนแหวนหมั้นกัน ไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา การแต่งงานครั้งนี้เป็นการแต่งครั้งที่ 2 ของ อายูมิ ฮามาซากิ โดยก่อนหน้านี้เธอ เคยเข้าพิธีแต่งงานกับนักแสดงชายชาวออสเตรียนามว่า Manuel Schwarz ในลาสเวกัส เมื่อวันขึ้นปีใหม่ปี 2011 และตกลงหย่ากันหลังแต่งงานได้เพียง 1 ปี

7 ภาพยนตร์น�ำแสดงโดยศิลปินจอห์นนี่ส์ ท�ำรายได้ทะลุพันล้านเยนในปี 2013 สมาคมผู้ผลิตภาพยนตร์แห่งญี่ปุ่น (Motion Picture Producers Association of Japan) หรือ Eiren ประกาศรายชือ 34 อันดับภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่ท�ำรายได้ทะลุ 1 พันล้านเยน (หรือมากกว่านั้น) ในบ๊อกซ์ออฟฟิศ โดย 7 เรื่องจากนั้นเป็นภาพยนตร์ ที่น�ำแสดงโดยศิลปินจากค่ายบันเทิงยักษ์ใหญ่ จอห์นนี่ส์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ อาทิ เรื่อง “Nazotoki wa Dinner no Ato de” ที่ น�ำแสดงโดย ซากุรากิ โช (Sakurai Sho) แห่ง อาราชิ (Arashi) โดยสามารถท�ำรายได้สูงถึง 3.25 พันล้านเยนและเป็นอันดับที่ 6 ของตาราง เป็นต้น และนี่คือรายชื่อ 7 ภาพยนตร์ญี่ปุ่นน�ำแสดงโดยศิลปินจากจอห์นนี่ส์ที่ท�ำรายได้ทะลุ 1 พันล้านเยนหรือสูงกว่า นั้น เรื่อง platinum data น�ำแสดงโดย คาซึนาริ นิโนะมิยะท�ำรายได้ 2.64 พันล้านเยน เรื่อง The movie Ataru – The first love & The last kill น�ำแสดงโดย นากาอิ มาซาฮิโระ และทามาโมริ ยูตะ ท�ำรายได้ 1.85 พันล้านเยน เรื่อง Hidamori no kanojo น�ำแสดงโดย มัตสึโมโตะ จุน ท�ำรายได้ 1.79 พันล้านเยน เรื่อง Library War น�ำแสดงโดยโอคาดะ จุนอิจิ ท�ำรายได้ 1.72 พัน ล้านเยน เรื่อง Nou Otoko น�ำแสดงโดยอิคุตะ โทมะ ท�ำรายได้ 1.27 พันล้านเยน และเรื่อง Yokai Ningen Bem น�ำแสดงโดยคา เมนาชิ คาซึยะ ท�ำรายได้ 1.17 ล้านเยน

เพลงใหม่จาก SCANDAL ถูกเลือกประกอบหนังดังระดับโลก “Rainy” เพลงใหม่จาก 4 ร็อกเกอร์สาว SCANDAL ถูกเลือกประกอบภาพยนตร์ดังระดับโลก ‘The Mortal Instruments: City of Bones’ ที่ก�ำลังเตรียมเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วญี่ปุ่นเริ่ม 19 เมษายน นี้! ‘The Mortal Instruments’ เป็นภาพยนตร์แนวแอ็คชั่น-ผจญภัย น�ำแสดงโดย Lily Collins สร้างขึ้นจาก นวนิยายขายดีมากถึง 22 ล้านเล่มทั่วโลก โดยนี่เป็นครั้งแรกที่ SCANDAL ส่งเพลงของตัวเองลงประกอบ ภาพยนตร์จากตะวันตก RINA (มือกลอง, ร้องน�ำ) ผู้รับหน้าที่แต่งเนื้อร้องและเรียบเรียง เผยถึงขั้นตอนการ แต่งเพลงว่า “หลังได้รับแรงบันดาลใจจากเนื้อเรื่องของหนัง ฉันก็เขียนเพลงนี้ขึ้นโดยจินตนาการว่ามันจะ ช่วยผลักดันผู้คนที่ผ่านปัญหาและความยุ่งยากต่างๆ มากมายที่ก�ำลังพยายามก้าวต่อไปข้างหน้าค่ะ”

โยชิกิ (X JAPAN) ประกาศโซโล่ทัวร์คอนเสิร์ตเลคแรก 8 ประเทศ

โยชิกิ (Yoshiki) มือกลอง,มือเปียโนและผู้ก่อตั้งร็อกแบนด์ X Japan อันโด่งดัง ประกาศเดินสายโซโล่เวิลด์ทัวร์คอน เสิร์ตเลคแรก 10 รอบ ใน 8 ประเทศทั่วโลก! ข่าวดีนี้ถูกเผยให้ทราบกลางงานเปิดตัวนิทรรศการ YOSHIKI ณ GRAMMY Museum ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โยชิกิ เผยว่า “YOSHIKI CLASSICAL WORLD TOUR 2014” จะเริ่มต้น เลคแรก 25 เมษายนนี้ใน สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, รัสเซีย, จีน, เม็กซิโก และอื่นๆ ด้านสถานที่จัดแสดงก็จะเป็นสถานที่ อันทรงเกียรติที่ทั้ง London Philharmonic Orchestra และ San Francisco Symphony เคยท�ำการแสดงมาแล้ว โยชิกิกล่าวเพิ่ม เติมอีกว่า คอนเสิร์ตในญี่ปุ่นอาจจะรวมอยู่ในทัวร์นี้ด้วยเช่นกัน ส่วนแฟนๆ ของ โยชิกิ ชาวไทยคงต้องรอลุ้นกันให้ดี เพราะโยชิกิ เผยข่าวทางทวิตเตอร์ส่วนตัวว่าเอเจนซี่ของเขาก�ำลังหารือกับผู้จัดในไทยถึงทัวร์คอนเสิร์ตนี้อยู่ด้วย หวังว่าคงได้มีโอกาสเจอกับแฟน เพลงชาวไทยอีกเร็วๆ นี้ All-J

15


J-idol Introduce

Yuzuru Hanyu ไอดอลอินโทรดิวซ์ฉบับนี้ จะพามารู้จักกับนักกีฬาฟิกเกอร์สเก็ตที่ก�าลังเป็นที่สนใจและ ก�าลังโด่งดังในประเทศญี่ปุ่นขณะนี้ ผู้ซึ่งคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว โซชีเกมส์ จากประเทศรัสเซียด้วยวัยเพียง 19 ปี เท่านั้น เด็กหนุ่มผู้นี้เป็นใครมาจากไหน เรามา ท�าความรู้จักกันเลย ฮะนิวเริ่มเล่นสเก็ตตอนอายุ 4 ขวบ ตามพี่สาวที่เล่นมาก่อนหน้านี้ ฮะนิวฝกสเก็ตอยู่ในจังหวัดมิยางิโดย ตลอดจนกระทั่งปี 2011 เกิดแผ่นดินครั้งใหญ่ท�าให้เขาต้องหลบออกจากลานสเก็ตโดยปราศจากรองเท้าสเก็ต และลานสเก็ตก็ถูกท�าลายไปจนหมดบ้านของฮะนิวเองก็ได้รับความเสียหาย ฮะนิวต้องใช้ชีวิตอยู่ในศูนย์อพยพ ถึง 4 วัน ฮะนิวเป็นเด็กผู้ชายที่คลั่งไคล้หมีพูห์มาก ห้องนอนของฮะนิวเต็มไปด้วยคอลเลกชั่นหมีพูห์ ไม่ว่าจะเป็น ตุ๊กตา ผ้าขนหนู หรือเครื่องใช้ต่าง แม้กระทั่งเวลาลงสนามแข่งขัน ฮะนิวก็จะหนีบตุ๊กตาหมีพูห์ไปด้วย ในขณะ ที่รอแข่งก็เล่นกับโค้ชไปเล่นหมีพูห์น้อยไป ฮะนิว ชอบหมีพูห์มากซะจนหอบหมีพูห์ขึ้นไปรับรางวัล ด้วย ครั้งหนึ่งโค้ชของฮะนิวเคยเอาหมีพูห์น้อย มาเกาะขอบลานสเก็ตเพื่อเป็นก�าลังใจให้ฮะนิวคุง ด้วย ล่าสุดที่โซชีเกมส์ที่ประเทศรัสเซีย ฮะนิว ได้ เ ก็ บ เหรี ย ญทองไปฝากชาวญี่ ปุ ่ น ด้ ว ยการ แสดงลี ล าพริ้ ว ไหว ความสวยงามของท่ ว งท่ า บนลานไอซสเก็ ต ฮะนิ ว สถิ ติ ค ะแนนที่ สู ง ที่ สุ ด คือ 101.45 คะแนน นับเป็นสถิติโลกใหม่ที่ท�า ด้วยน�้ามือของเด็กหนุ่มวัยเพียง 19 ปีเท่านั้นพอ กลับถึงบ้านเกิด สนามบินแทบแตก เพราะน้อง ฮะนิวฮอตเสียเหลือเกิน แฟนๆ แห่ต้อนรับเพื่อมา ก�าลังใจเพียบ 16

All-J

ประวัติ เกิด : 7 ธันวาคม 1994 บ้านเกิด : เซนได ส่วนสูง : 171 ซม. น�้าหนัก : 54 กก. งานอดิเรก : ฟังเพลง, เล่นเบสบอล อาชีพ : นักกีฬา, นักศึกษา สังกัดคลับ : ANA Minato Tokyo Japan บุคคลที่ชื่นชอบ : นักกีฬาฟิกเกอร์สเก็ตของ อเมริกาและรัสเซีย Johnny Weir, Evgeni Plushenko อันดับโลก : 1 แชมป์ : Winter Olympic Sochi Games 2014, The 2013-2014 Grand Prix Final, The 2010 World Junior, The 2013-2014 Japanese National สถิติที่ดีที่สุด : 101.45 คะแนน (สถิติโลก)


แนะน�าตัวไอดอลมากันบ่อยแล้ว คราวนี้เราจะมาแนะน�าคาแร็กเตอร์ของ ไอดอลกันค่ะ โดยคาแร็กเตอร์ของจัมปนี้ เกิดมาจากฝีมือการวาดของฮิคารุคุง หนึ่ง ในสมาชิกของจัมปนั่นเอง เพื่อใช้ในการ ทัวร์คอนเสิร์ตในปีที่ผ่านมา แต่ละคนได้ คาแร็กเตอร์น่ารักน่าหยิกกันทั้งนั้นเลยค่ะ

Hey! Say! JUMP เฮย! เซย! จั มป JUMP’s Character in tour 2013

Picture & Caption : mangatoonie

All-J

17


J Movie “เรียกข้าว่า อีกา” เป็นการ์ตูนที่มาอยู่ใน เมืองไทยนานมากแล้ว วัยรุ่นไทยซื้อหาการ์ตูนเรื่อง นี้กันเยอะมากและก็ขายดีเป็นเทน�้ำเทท่าเพราะ พิ ม พ์ อ อกมาทั น ใจคนอ่ า นและติ ด ต่ อ กั น หลาย เล่ม ในญี่ปุ่นเองเรื่องนี้ก็โด่งดังมิใช่น้อย จนต้อง สร้างเป็นภาพยนตร์ซึ่งถ่ายท�ำมาได้สองภาคแล้ว

เรียกเขาว่า “อีกา!!!!”

ภาคที่สองนี้เป็นเรื่องราวภายนอกของโรงเรียน ภาพยนตร์ได้กล่าวถึงต�ำนานความ แค้นของโรงเรียนซุซูรันกับโรงเรียนคู่อริ  สองโรงเรียนนี้บาดหมางกันมานมนานและต่างยก พวกกันราวี โดยให้เหตุผลว่า “เพื่อศักดิ์ศรี” ของโรงเรียนตน ประเทศที่เจริญแล้วอย่างญี่ปุ่น เด็กนักเรียนเขายังวัดศักดิ์ศรีกันด้วยการใช้ก�ำลัง อยู่อีกหรือ  แต่ถ้ามอองโดยภาพรวมแล้วก็อาจจะจริง  ก็เพราะพวกญี่ปุ่นในกลุ่มหนึ่งก็หัว รุนแรงไม่ใช่เล่น ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายท�ำออกมาดี ภาพสวยดูสมจริง โดยเฉพาะฉากต่อสู้ โดย รวมแล้วก็คงดูไม่แปลกนักหากภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นหนังท�ำเงินอีกเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้บอกและฝากขบคิดนั้นมีมากมายเหลือเกิน อยากให้ กระทรวงศึกษาธิการของไทยจับพวกเด็กช่างกล  ไอ้พวกที่ก่อปัญหามาดูพร้อมทั้งเขียนค�ำ บรรยายในแต่ละฉากเพื่อให้มันเข้าสู่สมองของเด็กพวกนั้นเสียบ้าง  ฉากหนึ่งคือฉากที่มีคน แอบใช้มีด มีนักเรียนด้วยกันต่างห้ามปรามและไม่ต้องการให้ใช้มีดเกิดขึ้น ไม่รู้ว่าเพราะกลัว ซวยไปด้วยหรืออย่างไร แต่ฉากหลังมันแสดงให้เห็นชัดว่า หนังเรื่องนี้พยายามสื่อสารว่าการ ใช้มีดในขณะที่มีการวิววาทเป็นเรื่องสกปรก  นักแสดงในเรื่องเล่นให้เราเห็นว่าเขาไม่ยอมรับ การฆ่ากัน ไม่ยอมรับการใช้อาวุธใดๆ และเหมือนเขาจะบอกว่าวัฒนธรรมเด็กญี่ปุ่นวัดความ เป็นลูกผู้ชายกันด้วยหมัดต่อหมัดเท่านั้น แล้วเมืองไทยของเราล่ะ... เราต้องยอมรับว่าการจะไม่ให้เกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกันเลยในระดับเยาวชนเป็น เรื่องที่ยากเย็นเหลือเกิน เด็กมันเลือดร้อนถ้ามันมาเจอกันก็คงต้องต่อยตีกันเสียบ้าง ตรงนี้มัน เป็นเรื่องธรรมดา แต่การที่จะมาไล่ยิงกันนั้นมันเกินไปหรือเปล่า? เรื่องนี้เราสามารถมองเห็นได้ตามหน้าหนังสือพิมพ์  เด็กนักเรียนไทยอาจฆ่ากัน จนติดอันดับโลกแล้วก็ได้ เพราะถ้านั่งนับโศกนาฏกรรมตั้งแต่เด็กพวกนี้ตีกันมา อาจจะหลาย ร้อยหลายพันศพแล้ว ตัวเลขมันน่าตกใจเหมือนว่าเด็กพวกนี้เป็นทหารแล้วต้องไปออกรบ แต่ เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติของประเทศไทยไปแล้วที่พบว่า เด็กช่างกลฆ่ากันตายด้วยการใช้ปืนยิงกัน 18

All-J


จากเรื่อง “อีกา” แค่พวกเขาจะใช้มีดเสียบกันเพื่อนยังห้าม แต่เมืองไทยนี่ถึงขั้นพกปืน ไม่มีคน ห้ามกันเลยหรือ หรือว่าไม่ต้องการห้ามกัน ต้องการห�้ำหั่นอีกฝ่ายให้แดดิ้นไปมากกว่าสินะ เด็กไทยที่มีนิสัยันธพาลโดยสายเลือดแบบนี้มันมีมากมาย อีกทั้งเพื่อนและครูบาอาจารย์ก็ไม่ให้ ความร่วมมือเท่าที่ควร ศึกศักดิ์ศรองเด็กไทยมีหลายคู่ มีหลายอาชีวะที่เกิดมาตั้งมาเพื่อศัตรูกันและจ้องจะ ตามล้างผลาญกันไปทั่ว แต่เขาไม่รู้จักว่าอะไรคือการรักษาศักดิ์ศรีและอะไรคือหน้าที่ของตน เคารพหน้าที่ ตนเองไม่เป็น ไม่เคารพกฎหมาย โทษของเมืองไทยยังเบาบาง พวกนั้นจึงกล้าเกิดเหตุบ่อยๆ และลหาย ครั้งคนที่ตกเป็นเหยื่อก็คือพวกที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วย คนเหล่านี้สร้างความเดือดร้อนกันไปทั่วโดยอ้างเหตุผลว่า “เพื่อรักษาศักด์ศรีของสถาบัน” มัน ถูกต้องแล้วหรือ เลอะเลือนเกินไปไหม แม้ว่ากระทรวงศึกษาธิการจะจับเด็กพวกนั้นมานั่งดูภาพยนตร์เรื่อง นี้ก็คงไม่เกิดอะไร แต่กระทรวงศึกษาธิการมีวิธีอะไรบ้างไหมที่จะควบคุมจิตส�ำนึกของเด็กพวกนั้นให้ดีขึ้น อย่าไปห้ามเขา เพราะคงห้ามไม่ได้อย่างแน่นอน แต่จะท�ำอย่างไรให้พวกเขารู้จักค�ำว่าศักดิ์ศรีและรู้จักวิธี ปกป้องสถาบันแต่พอสมควร ค�ำว่าลูกผู้ชาย มันเป็นค�ำที่ฟังดูโดดเด่นมีพลัง แต่ค�ำว่าลูกผู้ชายนั้นก็มีนิยามที่หลากหลาย เหลือเกิน ค�ำว่าลูกผู้ชาย ไม่มีอะไรผิดไม่มีอะไรถูกในสายตาของคน แต่ว่ามันควรถูกบังคับให้อยู่ภายใต้ กฎหมายด้วย ศักดิ์ศรีของสถาบันมันเป็นสิ่งที่ควรปกป้องก็จริง แต่ไม่ต้องปกป้องแบบภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้ เรามีวิธีปกป้องศักดิ์ศรีมากกมาย ไม่ว่าจะเป็นการตั้งใจเรียน เล่นกีฬาให้เก่ง เวลาไปแข่งขันกับใครก็ท�ำให้ ชื่อโรงเรียนเป็นที่ปรากฏ แต่ถ้ามีคนที่จะคิดปกป้องศักดิ์ศรีสถาบันแบบภาพยนตร์เรื่องนี้ พูดได้เลยมันไม่ เท่เหมือนในภาพยนตร์อย่างแน่นอน และต้องบอกว่าเยาวชนที่คิดท�ำแบบนี้น่าเป็นห่วงจริงๆ

All-J

19


J Visit

Hey! Say! JUMP in Thailand

แฟนคลับเจ-ป็อปหายอัดอั้น! อวดพลังสะเทือนพาร์คพารากอน ‘อาวา ลอน ไลฟ์’ จัดหนักฉลองการมาเยือนอีกครั้งของไอดอลบอยแบนด์ค่าย ‘จอห์นนี่ ส์ฯ’ประเดิมชัยด้วย “Hey!Say!JUMP The First JUMP to Thailand 2013” ต้องบอก ก่อนเลยว่าภาพผู้คนเต็มล้นลานพาร์คพารากอนที่เห็นอยู่นี้ ไม่ใช่ผลพวงจากศิลปิน ไอดอลเกาหลี!! หากแต่เกิดขึ้นเพราะการปรากฏตัวครั้งแรกในประเทศไทยของ หนุ่มๆ ไอดอลบอยแบนด์ชาวญี่ปุ่น รุ่นใหม่มาแรงสุดๆ แห่งวงการ J-POP ที่มีฐาน แฟนคลับในบ้านเราชื่นชอบคลั่งไคล้มากมายทะลุทะลวงความคาดเดาใดๆ อย่าง วง “เฮย์!เซย์!จัมพ์” (Hey!Say!JUMP) สังกัด จอห์นนี่ส์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ (Johnny’s Entertainment หรือ JE) ภายใต้การบริหารงานของบริษัทยักษ์ใหญ่วงการ บันเทิงแดนปลาดิบ จอห์นนี่ แอนด์ แอซโซซิเอทส์ (Johnny & Associates) โดย ความร่วมมือและริเริ่มจัดงานของเจ้าภาพฝังไทยอย่าง บริษัท อาวาลอน ไลฟ์ จ�ากัด และเหล่าผู้สนับสนุนได้แก่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน และ โรงแรมดุสิต ธานี กรุงเทพฯ นับเป็นความโชคดีของแฟนคลับชาวไทยอย่างแท้จริง เพราะต้นสังกัด ของหนุ่มๆ วง “เฮย์!เซย์!จัมพ์” (Hey!Say!JUMP) คือ จอห์นนี่ แอนด์ แอซโซซิ เอทส์ (Johnny & Associates) โดย คุณจอห์นนี่ส์ คิตางาว่า เจ้าของสังกัด, เจ้าของ รางวัลจากกินเนสบุ๊คส์ 3 ครั้งซ้อน จับมือกับมือหนึ่งของวงการคอนเสิร์ตเอเชียน เมืองไทย บริษัท อาวาลอน ไลฟ์ จ�ากัด (Avalon Live Co., Ltd.) โดย คุณกิตติวัฒน์ มโนสุทธิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เนรมิตงาน “เฮย์!เซย์!จัมพ์ เดอะ เฟิร์ส จัมพ์ ทู ไทยแลนด์ 2013” (Hey!Say!JUMP The First JUMP to Thailand 2013) ขึ้นเป็น พิเศษจริงๆ เพื่อให้เป็นการพบกันครั้งแรกที่สุดแสนประทับใจระหว่างหนุ่มๆ “เฮย์! เซย์!จัมพ์” (Hey!Say!JUMP) กับแฟนคลับชาวไทย กลางเวทียักษ์ ณ ลานพาร์ค พารากอน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2556 ซึ่งแน่นอนว่านี่คือปรากฏการณ์ใหม่อีก ครั้งเมื่องานแฟนมีตครั้งนี้เปิดให้แฟนๆ เข้าร่วมงานฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยในปรากฏการณ์สั่นสะเทือนลานพาร์ค พารากอนครั้งนี้ ทั้ง 9 หนุ่ม Hey!Say!JUMP ที่ประกอบด้วย ยาบุ โคตะ (Yabu Kota), ทาคาคิ ยูยะ (Takaki Yuya), อิโนโอะ เคย์ (Inoo Kei), ยาโอโตเมะ ฮิคารุ (Yaotome Hikaru), อาริโอกะ ไดกิ (Arioka Daiki), โอคาโมโตะ เคย์โตะ (Okamoto Keito), ยามาดะ เรียวสุเกะ 20

All-J

(Yamada Ryosuke), นากาจิมะ ยูโตะ (Nakajima Yuto) และ จิเน็น ยูริ (Chinen Yuri) ได้ใช้เวลาของพวกเขาอยู่บนเวที ทั้งโชว์ฟอร์มร้อง-เต้น-เอ็นเตอร์เทน มอบความ สุขสนุกสนานอย่างเต็มอิ่มจุใจให้กับแฟนๆ นานกว่า 1 ชั่วโมงเต็ม เล่นเอาเหล่าแฟน คลับนับหมื่นพากันใจละลาย ฟินและเพ้อในความน่ารักของหนุ่มๆ Hey!Say!JUMP ไปตามๆ กัน รวมถึงผู้คนที่ผ่านทางบริเวณนั้นต่างก็พากันหยุดยืนสังเกตการณ์ว่า หนุ่มน้อย 9 คนนี้คือใครกัน? จากนั้นก็ตกหลุมรักพวกเขาไปในที่สุด จึงเป็นที่คาด หมายว่าความส�าเร็จของงาน “เฮย์!เซย์!จัมพ์ เดอะ เฟิร์ส จัมพ์ ทู ไทยแลนด์ 2013” (Hey!Say!JUMP The First JUMP to Thailand 2013) ครั้งนี้จะเป็นตัวจุดประกายแห่ง การเฟืองฟูอีกครั้งของกระแสเจ-ป็อปในประเทศไทยได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยจริงๆ และก่อนจากกันแฟนคลับยังร้องเพลงโปรเจ็กต์ให้กับหนุ่มด้วยเพลงที่ชื่อว่า “Thank you bokutachi wa kara kimi e” ท�าเอาซึ้งทั้งลานพาร์ค พารากอน แม้ในตอนแรก หนุ่มจะฟังไม่ออกว่าร้องเพลงอะไร แต่เมื่อจับใจความได้ก็จับไมค์ร้องร่วมกับแฟนๆ ไม่ใช่แค่แฟนๆ เท่านั้นที่ร้องไห้ แต่ดูเหมือนหนุ่มๆ ก็น�้าตาซึมเช่นเดียวกัน ในขณะ ที่ร้องเพลงแฟนๆ ก็โชว์แผ่นกระดาษโปรเจ็กต์ที่เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า “ขอบคุณ ที่มานะ จะไม่ลืมวันนี้เลย” หนุ่มๆ อ่านแล้วก็ได้แต่ยิ้มแก้ปริพร้อมบอกว่า “ผมก็จะ ไม่ลืมวันนี้เหมือนกัน” แม้เป็นช่วงเวลาเพียงเล็กน้อยที่ได้ร้องเพลงให้กับศิลปอนใน ดวงใจ แฟนๆ ก็พร้อมใจร้องกันอย่างเต็มที่ และในตอนท้ายก่อนจะจบงานมีตติ้งครั้ง นี้ไป แฟนๆ ก็เรียกร้องให้มีอังกอร์ จนหนุ่มๆ ทนไม่ไหวต้องออกมาร้องเพลง “Dream come true” และออกเดินจับมือแฟนๆ เรียกได้ว่าทั่วถึงสุดๆ ก่อนจะปิดม่านโชว์ไป ด้วยการมอบดอกไม้และกล่าวค�าขอบคุณ เรียกได้ว่าสมกับการรอคอยศิลปินญี่ปุ่นมานานหลายปีเลยทีเดียว


J Food วันนี้เราจะมาแนะน�าเมนูอาหารจานด่วนของชาวญี่ปุ่นกันค่ะ นั่น คือโอยะโกะด้งหรือข้าวหน้าไก่ เป็นเมนูง่ายๆ ที่เด็กกินได้ ผู้ใหญ่ กินดี ก่อนอื่นต้องอธิบายถึงชื่อเมนูเสียก่อน โอยะโกะด้ง (Oyakodon) โอยะ หมายถึง แม่ค่ะ ในชื่อเมนูก็หมายถึงไก่นั่นเอง โกะคือ ลูก ในชื่อเมนูก็คือไข่ไก่ ส่วนค�าว่าด้งมาจากค�าว่า ด้งบุริ (Donburi) หมายถึง ข้าวหน้าต่างๆ ค่ะ บางคนจึงเรียกชื่อเมนูนี้ว่าข้าวแม่ลูก

ส่วนผสม (ส�าหรับ 4 คน)

àÁ¹Ù´‹Ç¹·Ñ¹ã¨...¢ŒÒÇ˹ŒÒä¡‹½‚Á×ͤسáÁ‹ วิธีท�า 1). ล้างเนื้อไก่ให้สะอาด ซับแห้งให้แห้ง หั่นชิ้นขนาดพอค�า 2). โรยพริกไทยและเกลือป่นนิดหน่อย ใส่เหล้าสาเก หรือ ไวน์ขาว 1 ช้อนโต๊ะ คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ 3). ปอกเปลือกหัวหอมใหญ่ ล้างสะอาด ผ่าครึ่งแล้วหั่นตาม ยาวขนาด 3 ม.ม. , เห็ดหอมสด ตัดโคนส่วนรากออก ล้าง สะอาด หั่นเป็นเส้นยาว ถ้าใช้เห็ดหอมแห้งให้แช่น�้าให้พอง ตัวก่อน จึงน�ามาหั่นเป็นเส้น ส่วนน�้าที่แช่เห็ดนั้นให้เก็บไว้ จะ น�ามาใช้เป็นน�้าซุปดะชิจิหรุได้ 5). เตรียมน�้าซุปสต๊อคปลา ดะชิจิหรุ โดยสามารถใช้ผง ซุปสต๊อคปลาส�าเร็จรูป (ฮนดะชิ) วิธีท�า น�าน�้าสะอาด 1 ½ ถ้วยตวง ต้มพอเดือด เทผงฮนดะชิส�าเร็จรูป ประมาณ 4 กรัม ลงไปคนให้ละลาย ถ้าไม่มีผงฮนดะชิสามารถใช้น�้าที่ได้ จากการแช่เห็ดหอมแห้งแทนได้ค่ะ 6). น�าส่วนผสมน�้าซอสทั้งหมด ใส่ลงไปในหม้อที่เตรียมน�้า ซุปสต๊อคปลาไว้แล้ว คนให้เข้ากันชิมรสตามชอบ 7). น�ากระะทะก้นลึก ตั้งไฟ ใส่น�้ามันพืชลงไป พอน�้ามันร้อน ใส่เนื้อไก่ลงไปผัด 8). เมื่อไก่เริ่มสุกใส่หอมใหญ่+เห็ดหอมลงไปผัด 9). เทน�้าซอสปรุงรสที่เตรียมไว้ ใส่ลงไปในกระทะ ปิดฝา ต้ม ให้เนื้อไก่สุก

เนื้ออกไก่ 400 กรัม, หอมหัวใหญ่ 1 ลูกหรือใช้ต้นหอมญี่ปุ่น ½ ต้น, เห็ดหอม 2 ดอก, ไข่ไก่ 5 ฟอง, เกลือ, พริกไทย, น�้ามันพืช ,ข้าวสวย ส�าหรับ 4 คน, ต้นหอมเล็ก,สาหร่ายเส้นฝอย,ซุปสต๊อคปลา 1 ½ ถ้วยตวง, โชยุ, เหล้าสาเกญี่ปุ่นหรือไวน์ขาว, เหล้าหวานมิริน, น�้าตาลทราย

10). หลังจากปรุงรสได้ที่แล้ว ก็ต้มต่อจนเนื้อไก่สุก ถ้ามีฟอง ก็ช้อนฟองออกทิ้งด้วย น�้าซุปจะได้ไม่ขุ่น 11). ตอกไข่ไก่ใส่ภาชนะ ตีไข่ให้ฟู 12). ตักแบ่งเนื้อไก่และน�้าซุป (ที่ท�าเตรียมไว้) เป็น 4 ส่วน เทใส่กระทะใบเล็ก ตั้งไฟพอเดือด น�าไข่ไก่ที่ตีจนขึ้นฟู เท ราดลงไปในกระทะ (ถ้าใช้กระทะใบเล็ก ก็ใช้ไข่ไก่ 1 ฟอง ต่อ 1 ชาม) 13). หลักจากที่เทไข่ราดลงไป ใช้ช้อนคนให้ทั่ว เพื่อไข่จะได้ ไม่จับเป็นก้อน 14). ปิดฝาหม้อ ใช้ไฟกลางต้มต่ออีก 1-2 นาที ต้มแค่ไข่สุก พอเป็นยางมะตูม ก็ปิดไฟเตาทันที 15). ตักข้าวสวยใส่ชามก้นลึกเตรียมไว้ 16). น�าเอาหน้าไก่ที่ท�าเสร็จแล้วในข้อ 18 เทราดลงบนหน้า ข้าวสวย ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

All-J

21


J Trip

8 สุดยอดมุมสวีต ในญี่ปุ่น!

เจทริปฉบับนี้จะพาคุณผู้อ่านไปชมมุมเดตยอดฮิตของญี่ปุ่นมาฝาก กันค่ะ เผื่อใครแอบจัดพลัดจับผลูได้ไปเที่ยวกับแฟน คงต้องอ้อนให้แฟนพา ไปเที่ยวแล้วล่ะค่ะ Fujiya Hotel

ท่ามกลางเมืองหลวงที่วุ่นวาย  จะมีก็แต่เรียวกังที่ชื่อฟูจิยะเท่านั้นแหละที่พอจะหา มุมเงียบสงบสุดโรแมนติกได้ เรียวกังแห่งนี้เป็นที่พักแบบโบราณ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1878 นอกจากจะรายล้อมไปด้วยสวนสวยแล้ว คู่รักยังสามารถลงไปแช่ในบ่อน�้ำร้อนซึ่งเชื่อกันว่าเป็น น�้ำที่มีคุณภาพที่สุด ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยภูเขาหลายลูก รวมทั้งภูเขาไฟฟูจิด้วย

Big O

ชิงช้าสวรรค์ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อความสนุกสนานอย่างเดียว  แต่ยัง เป็นเหมือนแคปซูลแห่งความโรแมนติกของคู่รักอีกด้วย เมื่อชิงช้าสวรรค์หมุนไป ถึงจุดสูงสุด คู่รักก็จะได้พบว่าตัวเองลอยอยู่เหนือกลางเมืองของโตเกียว  ดินแดน แห่งโลกบันเทิง แหล่งช็อปปิ้งและร้านรวงมากมาย

IKSPIARI ห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟไมฮามะ

รายล้อมไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารกว่า 130 ร้าน 9 ธีมโซน รวมทั้งโรงหนังใหญ่ยักษ์ถึง 16 โรงด้วยกัน

22

All-J


Kamogawa Seaworld

แอบเช็กว่าคนรู้ใจอ่อนโยนกับสัตว์โลกหรือไม่ ด้วยการพาไปดูปลาโลมา สิงโตทะเล ปลาวาฬ และสัตว์ทะเลอื่นๆ อีกมากมาย ที่นี่ยังขายบัตรพิเศษส�ำหรับคน ที่อยากแชะภาพแบบใกล้ชิดกับสัตว์ทะเลอารมณ์ดีด้วยนะ

Tokyo Metropolitan Government Building

วิวทิวทัศน์มุมสูงที่ท�ำเนียบรัฐบาลของโตเกียว ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่เดียวที่เปิดให้ คนภายนอกเข้ามาชมโดยไม่คิดเงิน กับความสูงจากพื้นดิน 663 ฟุต ทุกคนจะได้เห็นภาพ ของตึกสูงที่รายล้อมย่านชินจูกุ ซึ่งเป็นย่านที่พลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว

Tsurunoyu Onsen เป็นเรียวกังที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและบ่อน�้ำร้อนที่โอบล้อมด้วย

ภูเขาสวยงามทางตอนเหนือของฮอนชูกลาง  หมู่บ้านอันเงียบสงบซุรุโนยุออนเซ็น เป็นบ่อน�้ำร้อนเก่าแก่ที่เปิดมาตั้งแต่เมื่อ 350 ปีที่แล้ว แถมถ้าเป็นในฤดูหนาวที่นี่ยัง ถูกปกคลุมด้วยหิมะและสามารถเล่นสกีได้ด้วย

Yokohama Landmark Tower

ตั้งอยู่ที่ชั้น 69 ของโยโกฮาม่า แลนด์มาร์ก ทาวเวอร์ อาคารที่สูงที่สุดของโยโกฮาม่า คง ต้องยกให้ที่นี่เป็นพระเอกตัวจริง เพราะเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นเลย ขนาดของมันเหรอ ก็ใหญ่ พอๆ กับคอรท์เทนนิสถึงห้าคอร์ทรวมกันและสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ไปไกลถึง 50 ไมล์ ในมุม 360 องศา มองลงมายังสามารถเห็นการจราจรทางน�้ำของท่าเรือโยโกฮาม่าได้อีกด้วยนะ

All-J

23


Idol Couple ชวงนี้กระแสเลิฟแบบชายหญิงดูจะเบาบางลงเมื่อ เจอกระแสสาววายเขาไป แตวาไมใชแคสาววายเทานั้นนะ ที่จะยึดอำนาจ เพราะก็มีหนุมสาวอีกหลายกลุมชวยยึด ครองพื้นที่ดวยการจิ้นแบบยูริอีกตางหาก เอะ? แลวการจิ้น แบบนี้มันคืออะไรละ

อคาเมะ

สาววาย เรียกแบบญี่ปุ่นได้ว่า ฟุโจชิ หมายถึงผู้หญิงที่ชอบให้ผู้ชายได้กันเองหรือ ยาโอย (Yaoi) ส่วนการจิ้นแบบยูริ (yuri) นั้นคือ การนิยมให้ผู้หญิงกินกันเอง บางครั้งเรา ก็จะเรียกพวกจิ้นเหล่านี้ว่าการชิปหรือพวกชิปเปอร์ การจิ้นนั้นมาจากหลากเรื่องสารพัด แต่ในที่นี้ของยกเพียงตัวอย่างการจิ้นไอดอลญี่ปุ่นก็แล้วกันนะ ว่าแต่จะมีคู่ไหนบ้างที่ แฟนๆ ชื่นชอบมากเสียจนจะจับให้คู่กันอยู่เรื่อย เรามาเริ่มจากไอดอลฝังชายกันดีกว่า ขอเริ่มจากค่ายเจอีก็แล้วกันเพราะคู่จิ้นเยอะมาก (ก.ไก่แทบหมดโลก) แค่ในหนึ่งก็นับได้หลายคู่ แปรผันตามจ�านวนสมาชิก ที่โดดเด่นมากๆ ดูเหมือนจะเป็นคู่อ คาเมะ (อคานิชิ จิน – คาเมนาชิ คาซึยะ) จากวงคัตตุน (KAT-TUN) แฟนๆ จิ้นจนได้เรื่องมีข่าวซุบซิบออกมาว่าทั้งคู่ก�าลังคบหากันจริงๆ! เมื่อหลายปีก่อน แต่ก็เป็นได้แค่ ข่าวลือเท่านั้น เพราะปัจจุบันจินได้แต่งงานและมีลูกมีเมียเรียบร้อยแล้ว แต่ก็มิวายที่คาซึยะจะถูกนักข่าวสัมภาษณ์แต่เหมือนจะเป็นสัมภาษณ์ในฐานะเพื่อนร่วมวงที่จินสนิท ด้วยมากกว่า มาต่อกันที่คู่รุ่นน้องอันโด่งดังอย่างคู่ยูโตะยามะ (นากาจิม่า ยูโตะ – ยามาดะ เรียวสุเกะ) จากเฮย์ เซย์ จัมป์ (Hey! Say! JUMP) คู่นี้เขาสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ ก่อนที่จะเดบิวต์เสียด้วยซ�้า เรียกว่าตัวติดกันตลอด จนถึงช่วงเดบิวต์ใหม่นั่นเองที่ทั้งคู่เริ่มแตกหักจนไม่สนิทกันเหมือเดิม แต่เมื่อสองปีที่ผ่านมาทัง้คู่กลับมาสนิทกันอีกครั้ง และแถมยังโดนชงอีกต่างหาก ด้วยการเป็นตัวเอกในการแสดงละครด้วยกันและแน่อนว่าเพลงประกอบละครต้องตกเป็นของวงเฮย์ เซย์ จัมป์ และทั้งคู่ก็คือเซ็นเตอร์ของเพลง นี้ ในเอ็มวีน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ในการแสดงคอนเสิร์ตเรียกได้ว่านัวเนียสุดๆ เซอร์วิสแฟนให้ฟินกระจาย ไปตามๆ กัน แต่มิใช่ว่าท่าทางเหล่านั้นหนุ่มๆ คิดขึ้นมาเองนะจ๊ะ เพราะก่อนขึ้นคอนเสิร์ตในรอบแรก ซึ่งจะแสดงเพลง Super delicate เป็นครั้งแรกนั้น ครูสอนเต้นได้บอกให้ทั้งคู่เปลี่ยนเป็นท่าหันหน้า เข้าหากัน เอาล่ะสิ! แฟนก็คิดกันไปใหญ่ เฮ้ย! ผู้ใหญ่ชงเว้ย หลายคนที่ไม่ได้ชิปคู่นี้เริ่มชักจะหมั่นไส้ และตราหน้าว่า “นี่มันคู่สคริปต์ ของเรียลจริงเขาไม่ออกสื่อหรอก” ต่างคนก็ต่างความคิดแต่ต้องบอก ว่าแม่ยกยูโตะยามะฟินข้ามปีข้ามชาติเพราะเพลงเดียว มาฝังสาวๆ กันบ้าง ขอยกตัวอย่างสาวๆ ในกรุ๊ปที่มีจ�านวนสมาชิกเยอะที่สุดคือ ไอดอล ตระกูล 48 สมาชิกเยอะคู่จิ้นก็เยอะตาม หลักๆ ที่เห็นก็จะเป็น โคจิยู (โอชิมะ ยูโกะ – โคจิมะ ฮารุ นะ) ดับเบิลมัตสึอิ (มัตสึอิ จูรินะ – มัตสึอิ เรนะ) มายูกิ (วาตานาเบะ มายุ – คาชิวากิ ยูกิ) ซายะ มิลกี้ (ยามาโมโตะ ซายากะ – วาตานาเบะ มิยูกิ) ฯลฯ ที่จะเขียนให้รู้จักกันวันนี้คือคู่ซายะมิลกี้จากวงน้อง NMB48 เอ็นเอ็มบีคือชื่อย่อมาจากตัว เมืองนัมบะ ในจังหวัดโอซาก้าของญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นวงน้องวงที่สองต่อจาก SKE48 (ซาคาเอะ) และยัง มีวงรุ่นน้องต่อจากนัมบะคือ HKT48 (ฮากาตะ) นอกจากนี้ยังมีวงน้องที่ต่างประเทศอีกด้วยคือ SNH48 (เซี่ยงไฮ้) และ JKT48 (จาการ์ต้า) ซายะมิลกี้เรียกได้ว่าเป็นคู่จิ้นเซ็นเตอร์ของนัมบะ เพราะทั้งซายากะและมิยูกินั้นเป็น เซ็นเตอร์คนส�าคัญของวง ซายากะมีชื่อเล่นว่าซายะเน่ควบต�าแหน่งกัปตันของวงด้วย และล่าสุดซายา กะก็ควบทีมเพื่อเป็นสมาชิกเอเคบีอีกด้วย ส่วนมิยูกิชื่อเล่นว่ามิลกี้เป็นสมาชิกนัมบะที่ควบสมาชิกเอ เคบีด้วยเหมือนกัน

ยูโตะยามะ

24

All-J


ความเรียลของพวกเธออยู่ที่ไหน? แรกเริ่มสองคนนี้ก็ถูกชงให้มาคู่กันอยู่แล้ว ซา ยากะเป็นคนที่มีคาแร็กเตอร์ผู้ชายอยู่ในตัว เล่นกีต้าร์เป็น กีฬาก็ได้ และจะสังเกตได้จากงาน โฆษณาที่เข้ามา คนอื่นจะได้ชุดที่ดูเป็นเด็กผู้หญิง ในขณะที่ซายากะได้ใส่เสื้อสูทผูกไทตลอด เวลา (หัวเราะ) ส่วนมิยูกิเองก็มีฉายาว่านักตกปลา (ค�านี้เป็นค�าที่แฟนๆ เรียกเธอ นักตกปลา มาจากพฤติกรรมของเธอที่ชอบตกแฟนๆ ด้วยค�าพูดหวานๆ ไม่ใช่ค�าชมและไม่ใช่ค�าด่าที่ร้าย แรงนัก) เป็นหญิงสาวตัวร้ายที่ต้องโนชงคู่ผู้หญิงขี้อายแต่นิ่งอย่างซายากะ หลายครั้งที่ทั้งคู่มักหยอกล้อกันด้วยการกอด หอม หรือแม้กระทั่งจะจูบ คนที่เป็น ฝ่ายเริ่มเล่นก็เป็นมิยูกิทั้งนั้น ซายากะเบี่ยงหนีอย่างเดียวแต่ก็โดนมิยูกิตกตลอด และตัวมิยูกิ เองนั้นก็รู้ว่าแฟนชอบคู่ตนจึงเล่นด้วยการอัพรูปในจีพลัสส่วนตัวเธอ ที่เธอถ่ายคู่กับซายากะ และแต่งเรื่องราวขึ้นมา จนซายากะไปตอบว่า “เธอท�าอะไรน่ะ ฉันก็อายเป็นนะ” แต่แฟนๆ ฟิ นกันทั่วหน้าจ้ะ ซายากะจา ไว้คอลัมน์หน้าเราจะมาแนะน�าคู่จิ้นสุดฮอตกันอีกนะ

ดับเบิลมัตสึอิ ซายะมิลกี้ มายูกิ

ยุยพารุ

ยาบุฮิกะ โคจิยู

ทาคาจิเนะ

อัตสึมินะ

All-J

25


Fan Fiction

Sugar F ree ÃÑ¡¹ÕéäÁ‹ÁÕ¹íéÒµÒÅ Story By : Demonchocomania ( DMC ) Pairing : Nakajima Yuto - Yamada Ryosuke ( Hey! Say! JUMP ) 26

All-J


-1คุณนาคาจิม่า ยูโตะ ถ้าคุณได้อ่านจดหมายฉบับนี้ของผมแล้วแสดงว่าคุณทราบเรื่องที่ผม เก็บของออกจากบ้านมา ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้บอกกล่าวคุณ เป็นค�าพูด แต่มาในรูปแบบของจดหมายแทน บางทีผมอาจจะไม่กล้าพอที่จะ บอกคุณด้วยตนเอง ระยะเวลานับตั้งแต่เราแต่งงานกัน ผมรู้ว่าคุณไม่ได้รักผม คุณแต่งงานเพราะความจ�าเป็นบังคับและขัดใจผู้ใหญ่ไม่ได้ ผมทราบและเข้าใจ ดีตอนนี้คงจะถึงเวลาแล้ว มันคงดีกว่ามากหากว่าเราจะแยกทางกันเดินเสียที จะ ได้ไม่ต้องมีใครเจ็บปวดอีก สุดท้ายนี้ ขอบคุณส�าหรับทุกอย่างที่คุณเคยดูแลผมมานะครับ ปล. ผมเซ็นใบหย่าไว้ให้คุณแล้วนะครับ หวังว่าจะไม่มีปัญหาอะไร เรียวสึเกะ หนุ่มน้อยร่างเล็ก เจ้าของดวงตากลมโตหวานใส อายุราวๆ ยี่สิบต้นๆ ไม่มากไปกว่านั้นก�าลังใช้สองมือกอบกรวดเม็ดเล็กโรยไปตามพื้นทรายที่อัดแน่น ระหว่างรอยต่อของแผ่นหินสีน�้าตาลรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส เกลี่ยก้อนกรวดเหล่า นั้นให้อยู่ในแนวพอดีไม่ล้นขอบแผ่นหิน ครึ่งชั่วโมงให้หลังสวนหินกรวดแบบที่ เจ้าตัวตั้งใจอยากให้เป็นก็เสร็จบูรณ์เมื่องานเสร็จ ความสนใจที่มีต่องานจึงหมด ตามไปด้วย ร่างเล็กนัง่ นิง่ เหม่อมองไปไกลราวกับว่าเวลาปัจจุบนั ไม่มคี วามหมาย ต่อเขาเลยแม้แต่น้อย แต่แล้วเสียงบีบแตรจากถนนในซอยก็ท�าให้เรียวสึเกะ หลุดสะดุ้งตกใจและความเป็นตัวของตัวเองกลับคืนมาในที่สุด กี่วันแล้วนะ...ไม่สิ กี่สัปดาห์แล้วที่เขาออกมาจากบ้านหลังนั้น? ป่วยการที่จะคิดค�านวณเพราะเขาคงจะไม่ได้กลับไปอีกแล้วล่ะ เรียวสึเกะพยายามไม่ปล่อยให้ตัวเองว่างแม้แต่นาทีเดียวเพราะเมื่อ ไหร่ที่ตัวเองว่างเว้นจากการงานที่ค้นหามาท�าเขาก็จะนึกไปถึงผู้ชายคนนั้นอยู่ ร�่าไป เขาไม่อยากคิดถึง ไม่อยากเพ้อหาเพราะไม่อย่างนั้นเรียวสึเกะเองนั่น แหละจะเป็นคนที่เจ็บปวดเสียเอง ก็ในเมื่อยูโตะไม่ได้รักเขา...ไม่ใช่หรือ? คุณพ่อกับคุณแม่ของยูโตะจัดการให้เรียวสึเกะแต่งงานทันทีที่ยูโตะ กลับมาจากเมืองนอก เรียวสึเกะรู้ดี รู้ยิ่งกว่ารู้ว่ายูโตะไม่พอใจกับการถูกบังคับ กะเกณฑ์โดยที่ไม่มีสิทธิ์คัดค้านแบบนี้ ผู้ชายคนนั้นไม่แตะต้องตัวเรียวสึเกะเลย ตลอดคืนวันส่งตัวเข้าหอราวกับจะประกาศให้เขารู้ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่ได้มา จากความเต็มใจเลยแม้แต่น้อย...ซึ่งถ้าท�าได้ ยูโตะคงอยากหนีไปจากห้องหอ ตั้งแต่คืนวันนั้นแล้ว เขาอยู่ร่วมบ้านกับยูโตะด้วยความปวดร้าวอยู่ลึกๆ สิ่งที่ท�า ให้เรียวสึเกะอดทนอยู่กับผู้ชายที่มองผ่านเขาเป็นอากาศธาตุได้เพียงเพราะคุณ พ่อคุณแม่ของฝ่ายนั้นมีบุญคุณกับครอบครัวของเขามากมายนั่นเองเรียวสึเกะ ตั้งใจว่าจะอยู่ดูแลคุณลุงคุณป้าซึ่งเปรียบเสมือนพ่อแม่ของตัวเองที่เสียชีวิตไปตั้ง แต่เรียวสึเกะยังไม่พ้นมัธยมปลาย ตั้งใจว่าจะอยู่ตอบแทนน�้าใจอันเหลือล้นของ

ท่านทั้งสองที่อุปการะส่งเสียเรียวสึเกะเรียนจนปริญญาอย่างที่พ่อแม่ตั้งความ ปรารถนาเอาไว้ แม้ว่าจะโดนยูโตะพูดจาประชดประชันเสียดสีมากแค่ไหน เขา ไม่เคยตอบโต้มากไปกว่าเม้มปากนิ่งเงียบ เพราะไม่อยากให้คุณลุงคุณป้าเสียใจ จนกระทั่งวันที่ผู้มีพระคุณทั้งสองต้องจากไปก่อนเวลาอันควรจากอุบัติเหตุบน ท้องถนน เป็นครั้งแรกที่เรียวสึเกะได้เห็นหนึ่งหยดน�้าตาจากผู้ชายที่มีแต่ความ เย็นชากระด้าง เป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่เขาได้สัมผัสอ้อมกอดรัดแน่นจากร่างสูง บ้านหลังนั้นเหลือเพียงเรียวสึเกะกับยูโตะแล้วแค่สองคนแล้ว ค�่าคืนนั้นจบลงด้วยการที่ต่างฝ่ายต่างปลอบโยนซึ่งกันและกันผ่าน อ้อมแขนที่กระหวัดรัด ผ่านลมหายใจเจือสะอื้น ยูโตะไม่ได้บังคับเรียวสึเกะ หาก แต่มันเป็นความยินยอมพร้อมใจด้วยส่วนหนึ่ง คนตัวเล็กไม่ได้ห้าม ไม่ได้ต่อต้าน ทั้งยังไม่ได้ขัดขืน ทว่าหลังจากคืนนั้นและพิธีกรรมทางศาสนาจบสิ้น ยูโตะก็ไม่ ได้แตะต้องเรียวสึเกะอีกเลย ชายหนุ่มท�างานทุกวัน อุทิศตัวให้กับงาน ไม่ค่อย กลับบ้าน หรือกลับมาอีกทีก็ตอนที่เรียวสึเกะหลับสนิทไปแล้ว หนุ่มน้อยตัวเล็ก ก็ได้แต่เก็บความเจ็บช�้าเอาไว้ไม่พูด เพราะรู้ว่าค�าพูดของเขา ยูโตะไม่เคยฟัง เรียวสึเกะบอกกับตัวเองว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับยูโตะมันไม่ ได้มีความรักความผูกพันมาตั้งแต่แรกแล้ว เริ่มเดิมทีนั้นมาจากความต้องการ ของผู้ใหญ่ต่างหาก เมื่อท่านทั้งสองไม่อยู่เสียแล้ว ข้อผูกมัดใดๆ ก็ถือว่าเป็นอัน จบไปโดยปริยาย ยูโตะจะได้ไม่อึดอัดเมื่อมีเรียวสึเกะอยู่ร่วมบ้าน ยูโตะจะได้มี อิสระอย่างที่อยากมี ส่วนเรียวสึเกะก็จะได้ไม่ต้องมานั่งร้องไห้คนเดียวอีกต่อไป ตอนเก็บของใส่ลงในกระเปาเดินทางมันยังไม่หนักหนาสาหัสเท่ากับ ตอนที่เขียนจดหมายทิ้งไว้ให้ และยิ่งยากกว่าก็คือตอนที่จรดปลายปากกาเซ็นชื่อ ลงในใบหย่า ใจหวนไปถึงตอนเซ็นชื่อในทะเบียนสมรสพรั่งพร้อมคุณลุงคุณป้าที่ เป็นพยาน ค�าอวยพรและสีหน้าดีใจของท่านทั้งสองเรียวสึเกะยังจดจ�าได้ แล้วนี่เขาจะท�าให้ท่านเสียใจหรือเปล่านะ? คนตัวเล็กติดต่อเพื่อนเพื่อหาบ้านเช่า หางานเล็กๆ น้อยๆ ท�าเพื่อ ปรับจิตปรับใจให้คงที่เสียก่อน และทาคาคิ ยูยะก็ให้ความช่วยเหลือเขาอย่างเต็ม ใจอย่างที่สุดด้วยการขับรถเก่าคร�่าตัวถังแทบหมดสภาพมารับเขาถึงบ้าน หาก แต่จอดเยื้องหน้าประตูรั้วไปหน่อยเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกต ‘โห นี่บ้านหรือคฤหาสน์? สามีนายคงฐานะดีไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย’ ทาคาคิพูดพลางยิ้มมุมปากหน่อยๆ พลางกวาดสายตามองข้ามรั้วเข้าไปภายใน ‘รีบไปกันเถอะ’ เรียวสึเกะตัดบทก่อนจะหอบกระเป่าเดินทางขนาด ย่อมขึ้นท้ายรถยนต์ ‘ไม่อาลัยอาวรณ์สักหน่อยเรอะ’ เสียงถามมาอีกหากแต่คนตัวเล็ก เม้มปากแน่น ไม่พูดอะไรออกมาสักค�า ที่ไม่พูดเป็นเพราะกลัวว่าความเข้มแข็ง ที่มีอยู่จะพังทลายลงไป ทาคาคิคงไม่รู้ว่ากว่าที่เรียวสึเกะจะรวบรวมพลังใจก้าว ออกจากบ้านหลังนั้นมาได้มันยากเย็นแค่ไหน All-J

27


เมื่อเห็นเพื่อนตัวเล็กไม่ตอบ เขาก็แค่ยักไหล่แล้วก้าวขึ้นนั่งเบื้องหลังพวงมาลัยรถ แล้วเปลี่ยนเกียร์ เดินหน้าเคลื่อนจากไปอย่างรวดเร็ว เรียวสึเกะไม่เหลียวกลับไป มองบ้านหลังนั้น ทว่ากลับซบหน้าลงกับฝ่ามือกลั้นสะอื้น ‘ร้องไห้ท�าไม นายตัดสินใจแล้วไม่ใช่หรือ?’ ค�าถามนั้นได้รับค�าตอบ กลับมาเป็นเสียงร้องไห้แผ่วเบา คนเป็นเพื่อนจึงท�าได้แต่แตะลูบศีรษะเบาๆ แทน ค�าปลอบโยน บ้านหลังที่เรียวสึเกะอยู่อาศัยตอนนี้ก็เป็นของทาคาคิ ฝ่ายนั้นให้เขา อยู่อาศัยก่อนแล้วค่อยหาหนทางขยับขยายทีหลัง เนื่องจากเป็นบ้านชายโสดไม่ นิยมความสะอาดและชื่นชอบความเรียบง่ายสบายเข้าว่า แต่จากสภาพที่เป็นอยู่ มันเกินกว่าจะเรียกได้ว่าบ้านพักอาศัย ท�าให้เรียวสึเกะมีงานต้องท�ามากพอที่จะ ไม่มีเวลาให้คิดถึงยูโตะ ยิ่งงานจัดแต่งสวนภายนอกอันเป็นสาขาภูมิสถาปัตย กรรมที่เรียวสึเกะจบมาด้วยแล้วยิ่งท�าให้เขาเพลิดเพลินจนลืมเวลา นี่ถ้าเพื่อน เขากลับมาคงจะงงน่าดูที่ว่าบริเวณสวนนอกบ้านจากเดิมที่มีแต่ต้นหญ้าแห้ง เหี่ยวเฉากับลานดินแข็งจะเปลี่ยนเป็นสวนหินกรวดได้อย่างไร รู้สึกเหนียวตัวเกินกว่าจะกลับเข้าไปนั่งดูข่าวช่วงเย็น คนตัวเล็กจึง เข้าห้องน�้าอาบน�้าช�าระกายจนสะอาดสบาย เนื้อตัวเบาหวิว ค�่าวันนี้พยากรณ์ อากาศบอกว่าอุณหภูมิจะลดต�่าลงเรียวสึเกะเลยหยิบเอาเสื้อยืดและกางเกงผ้า ขายาวมาสวม ปลายผมยังชื้นน�้าจึงคล้องผ้าขนหนูมาเช็ดผมเสียด้วยเลย แต่ยัง ไม่ทันจะได้กดรีโมทเปิดดูข่าว เสียงรถยนต์ที่วิ่งมาอย่างรวดเร็วและแตะเบรค เสียงดังจนสุนัขของเพื่อนบ้านเห่ากันขรมท�าให้คนตัวเล็กต้องแง้มผ้าม่านเปิดดู ว่าเกิดอะไรขึ้น หากภาพที่ปรากฏขึ้นในม่านตาท�าให้เขาตัวแข็ง อาการชาดิกแล่น วาบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ผู้ชายร่างสูงเพรียว แลดูแข็งแรงแบบนักกีฬา เปิดประตูรถออกมา พร้อมกับดูดบุหรี่แดงวาบๆ ตรงนั้น บุคลิกท่าทีเย็นชากับใบหน้าเฉยไร้อารมณ์ ความรู้สึกจะเป็นใครไปไม่ได้ ท�าไมนาคาจิม่า ยูโตะถึงมาที่นี่! ทาคาคิไม่มีวันบอกที่อยู่ให้ยูโตะรู้แน่นอนเพราะฝ่ายนั้นไม่ได้มีรู้จัก สนิทสนมอะไรเลยกับสามีเขา ไม่มีวันเป็นเพื่อนเขาแน่ และยิ่งต้องไม่ใช่จากปาก เรียวสึเกะด้วย! “เปิดประตู เรียวสึเกะ! ฉันรู้ว่านายอยู่ในนั้น!” เสียงห้าวที่คุ้นหูกราด เกรี้ยวอยู่เบื้องนอก แล้วไม่กี่นาทีหลังจากนั้นร่างสูงของสามีก็ตวัดขากระโดด ก้าวข้ามรั้วเข้ามาภายในอาณาบริเวณบ้านอย่างถือวิสาสะ “เปิด!เรียวสึเกะ! นายก็รู้ว่าถ้าไม่ท�าตามที่ฉันสั่ง นายจะต้องเจอกับ อะไร?” ค�าขู่มาพร้อมกับเสียงกราดเกรี้ยว เรียวสึเกะรู้ดีว่าฝ่ายนั้นมีความอดทน ไม่มากนักเสียด้วย ร่างเล็กก�ามือแน่น อาการสั่นเทาน้อยๆ ก�าลังเกิดขึ้น เขาไม่ ได้กลัวยูโตะ แต่แรงอารมณ์ของฝ่ายนั้นเรียวสึเกะก็รับมันไม่ไหวเช่นกัน “คุณมาที่นี่ได้ยังไง?”คนตัวเล็กข่มเสียงกลั้นใจถามออกไปผ่านประตู 28

All-J

ซึ่งยังปิดสนิท “นายคิดว่าฉันเป็นใครกัน?” ยโสโอหังในค�าพูดหากแต่เรียวสึเกะก็รวู้ า่ ค�าพูดนั้นไม่เกินความจริงเลย ด้วยอ�านาจเงินและเส้นสายที่ครอบครัวนาคาจิม่า มี ถ้าจะตามหาใครสักคนไม่ใช่เรื่องยาก แต่คนตัวเล็กคิดว่าเขารอบคอบมากที่ สุดแล้วนะ ไม่มีใครรู้ว่าเรียวสึเกะหนีไปไหน แล้วนี่อะไร “ภรรยาตัวเองหนีออกจากบ้านมาอยู่กับผู้ชายคนอื่น นายคิดว่าฉัน จะอยู่เฉยๆ ให้ชาวบ้านเขานินทาเล่นหรือไง?” เสียงพูดนั้นไม่เบาเลย แถมยังมี เสียงเห่าของสุนัขที่มีต่อคนแปลกหน้าอีก เพื่อนบ้านในละแวกนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะ เยี่ยมหน้ามาสอดรู้ด้วยความสงสัยใคร่รู้ คนตัวเล็กหน้าชาและร้อนวูบสลับกัน “ผมเขียนจดหมายบอกคุณได้ชัดเจนแล้วนะครับ” เรียวสึเกะตอบโต้ กลับไปด้วยยังรู้สึกใจชื้นว่าบานประตูยังขวางกั้นผู้ชายคนนั้นอยู่ ยูโตะจะไม่มีวัน ถึงตัวเขา...มั้งนะ “เราไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว” “ทะเบียนสมรสยังอยู่ที่ฉัน ชื่อของนายก็อยู่ที่นั่น ยังกล้าพูดอีกหรือ ว่าไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว?” เรียวสึเกะเกลียดน�้าเสียงเย้ยหยันแบบนั้นที่สุด หากคน ตัวเล็กก็ยังข่มกลั้นอารมณ์ให้เรียบนิ่งเท่าที่จะท�าได้เพื่อสติยังคงอยู่กับตัวไม่ปลิว หายไปไหน “คุณกลับไปเถอะครับ ผมขอร้อง” “นายกล้าไล่ฉันหรือ?” เสียงห้าวกดต�่า ลึกในล�าคอ และด้วยน�้าเสียง แบบนี้เองที่ท�าให้เรียวสึเกะเกิดความรู้สึกหนาวเยือกขึ้นมาทันที ยูโตะก�าลังจะ ใกล้หมดความอดทนแล้ว “อยากให้คนอื่นรู้นักใช่ไหมว่าตัวเองหนีมาซุกหัวนอนอยู่กับชู้จนสามี ต้องมาตามให้กลับบ้าน?” เหยียดหยามและดูถูกเหลือเกิน ไม่ว่าเมื่อไหร่ยูโตะก็ บริภาษเขาด้วยความเกลียดชังเสมอ เรียวสึเกะสะกดกลั้นทุกความรู้สึกจนกระ บอกตาร้อนผ่าว ทาคาคิไม่สมควรได้รับค�าพูดหยาบคายจากผู้ชายคนนี้เลย เพื่อนเขา ไม่ควรถูกสาดโคลนป้ายสีให้เปรอะเปื้อนด้วยค�าพูดร้ายกาจของยูโตะเลยแม้แต่ น้อยนิด เรียวสึเกะยอมรับว่าโกรธมากและคิดว่าเขาต้องแก้ไขความเข้าใจผิด คน ตัวเล็กเปิดประตูออกอย่างรวดเร็ว ดวงตาหวานซึ้งวาวจ้าด้วยความโกรธเคืองสบ ประสานกับดวงตาด�าวาววับ “นึกว่าจะขี้ขลาด หลบหน้าฉันไปตลอดเสียอีก” ชายหนุ่มกวาดสาย มองร่างเล็กด้วยแววตาเย็นชาปนเยาะหยันอยู่ในที “คุณมีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่ไหมครับ? ถ้าพูดจบแล้วก็กรุณากลับไป ที่ นี่ไม่ต้อนรับคนแปลกหน้า” ถึงคราวที่เรียวสึเกะจ�าต้องกล้าแข็งขึ้นบ้างแล้ว แต่ ไหนแต่ไรมาคนตัวเล็กมีแต่รอยยิ้มประดับใบหน้า ชอบที่จะฟังคนโน้นคนนี้พูด มากกว่าที่จะเป็นฝ่ายพูดจาตอบโต้ ถนอมออมค�าไม่มีหลุดวาจากล่าวร้ายใคร เหมือนที่ยูโตะท�า “นายก�าลังพูดอยู่กับใคร?” ร่างสูงก้าวเพียงก้าวเดียวก็คว้าท่อนแขน


เล็กมาบีบแน่นในอุ้งมือให้ได้เรียวสึเกะครางเจ็บเมื่อมันบีบรัดจนแน่น “เจ็บ...” “มีความรู้สึกกับเขาด้วย? นึกว่าผิวหนังมันหนาด้านไปแล้วเสียอีก” ถ้อยค�าหยามเหยียดดังมาอีก เรียวสึเกะกลั้นน�้าตาจนปวดร้าวไปทั้งหน้า ท�าไม ผู้ชายคนนี้ถึงได้ตามมาท�าร้ายเขาอยู่ได้นะ ไม่รักเขาไม่ใช่หรือยังไง ถ้าเหตุผล เพียงแค่เรียวสึเกะมีชื่อในทะเบียนสมรสเท่านั้นก็ไม่เห็นต้องแคร์เลย ใบหย่าก็เซ็น ให้เรียบร้อยแล้ว ยังจะเอาอะไรจากเขาอีก “แต่ถึงกับกล้าหนีตามชู้มาฉันว่ามันก็หนาพอสมควรแล้วนะ” “ยูโตะ! คุณหยุดพูดจากล่าวหาผมสักทีจะได้มั้ย!” คนตัวเล็กน�้าตา คลอ พยายามจะดึงแขนตัวเองกลับหากสิ่งที่ได้รับคือแรงบีบเค้นมากขึ้นไปอีก “ไปเก็บของ ฉันจะพานายกลับบ้าน” ชายหนุ่มไม่สนใจค�าต่อว่าต่อ ขานนั่นหรอก เพราะจุดมุ่งหมายเพียงอย่างเดียวของเขาก็คือการพาเรียวสึเกะ กลับบ้านเท่านั้น แล้วคิดบัญชีทบต้นทบดอกกันทีหลัง! “ผมไม่กลับและคุณนั่นแหละที่ต้องกลับไป” “นายไม่มีสิทธิ์พูดอย่างนี้กับฉัน” ดวงตาด�าราวกับก้อนถ่านที่บรรจุ เพลิงร้ายเอาไว้ เรียวสึเกะสะดุ้งก้าวถอยหลังด้วยความหวาดหวั่น เป็นการเปิด โอกาสให้ชายหนุ่มก้าวเข้าหาแล้วดันร่างเล็กแนบตรึงไปกับผนังเย็นชืด ศีรษะโขก เข้ากับความแข็งของคอนกรีตไม่เบาเลยทีเดียวเมื่อมือใหญ่จับเค้นกรามเข้าไว้ แน่น ไม่ให้เบือนหนีไปไหน “ไหน...นายลองพูดอีกทีสิว่าสิ่งที่นายควรพูดคืออะไร?” เรียวสึเกะรู้สึกถึงความหนาวยะเยือกจากแผ่นหลังที่แนบชิดกับผนัง ปูน และจากสายตาของผู้ชายตรงหน้า คนตัวเล็กพอจะคุ้นเคยนิสัยของยูโตะมา บ้าง หากแต่เขาก็ไม่กล้าเสี่ยงที่จะให้ธารอารมณ์ปะทุออกมาเหมือนลาวาร้อนที่ กวาดทุกสิ่งทุกอย่างให้พังพินาศได้ “ปล่อยผมก่อน...” ด้วยระยะอันชิดใกล้เพียงลมหายใจกั้น ยูโตะได้ เห็นแววตาสวยใสเหมือนลูกแมวสั่นระริก ได้เห็นเงาภาพของเขาสะท้อนออกมา จากดวงตาซึ่งก�าลังหวาดหวั่น ใจส่วนหนึ่งในที่เร้นลับราวกับจะอ่อนยุบลงเสีย ให้ได้ ใจส่วนที่เขาไม่อยากยอมรับเลยว่าได้อ่อนไหวและไหวหวานไปเสียแล้ว “อย่าคิดว่าจะหนีไปจากฉันได้ถ้าฉันยังไม่อนุญาต” ชายหนุ่มส�าทับ แกมขู่ หากก็ยอมปล่อยมือและก้าวถอยหลังแม้เพียงครึ่งก้าว กระนั้นคนตัวเล็ก ค่อยหายใจหายคอสะดวกโล่งขึ้น “ห้องนายอยู่ไหน เรียวสึเกะ ไปเก็บของ เก็บให้หมดทุกชิ้นนะ ถ้าฉัน รู้ว่านายจงใจทิ้งของไว้ให้ชู้มันดูต่างหน้า ฉันจัดการนายแน่ๆ” เรียวสึเกะเม้มปาก หน้าบึ้ง คิ้วขมวดอย่างไม่พอใจ...คนบ้า ผู้ชาย อะไรก็ไม่รู้ปากคอจัดจ้าน ร้ายกาจ! หากเขาก็ทา� อะไรไม่ได้มากในขณะทีโ่ ดนฝ่ายนัน้ ขูค่ กุ คาม ร่างเล็กรีบ สาวเท้าขึ้นบันไดโดยมีร่างสูงเพรียวตามติดทุกฝีก้าว ดวงตาด�าสนิทแฝงประกาย คมหวานมองไม่คลาดคลาราวกับจะจับสแกนทุกรายละเอียดว่าเรียวสึเกะเก็บ

ของได้หมดจดครบถ้วนดัง่ ทีเ่ ขาได้ประกาศิตไว้หรือเปล่า เมือ่ เรียวสึเกะไม่ได้ออ้ ย อิ่งหรือถ่วงเวลาให้อารมณ์เสียแต่อย่างใด แววตาด�าสนิทจึงค่อยทอประกายสบ อารมณ์ลึกซึ้ง เรียวสึเกะเดินไปที่หัวเตียง แสร้งท�าเป็นหาของโดยใช้แผ่นหลังของ ตนเองปิดบังสายตาของคนที่มองตามเอาไว้มิให้แลเห็นว่าสิ่งที่เขาดึงออกมาจาก ใต้หมอนคือสิ่งใด...มันคือรูปถ่ายของ ‘ใครคนนั้น’ ที่เรียวสึเกะไม่รู้ว่าท�าไมเขา จะต้องน�าติดตัวมาและแนบไว้ใต้หมอนให้ตัวเองนอนฝันร้ายด้วยก็ไม่รู้! “เสร็จหรือยัง?” ชายหนุ่มถามด้วยน�้าเสียงที่อ่อนลงกว่าเดิม กระนั้น มันก็ยังฟังแล้วห้วนกระด้างอยู่ดี “ครับ” เรียวสึเกะพยักหน้ารับค�าพลางปิดสลักกระเปาเดินทาง ยูโตะ พยักหน้าแล้วเป็นฝ่ายเดินออกไปก่อน และราวกับจะรู้ว่าให้อย่างไรเรียวสึเกะก็ ต้องเดินตามเขามา คนตัวเล็กอดไม่ได้ที่จะแลบลิ้นปลิ้นตาใส่แผ่นหลังกว้างอย่าง หมั่นไส้เต็มทน จากนั้นจึงค่อยๆ ลากกระเปาเดินทางใบโตลงบันไดมา อุปาทาน ว่าท�าไมมันหนักกว่าตอนที่ขนขึ้นมาครั้งแรกยังไงก็ไม่รู้ “ท�าไม? อาลัยอาวรณ์นักหรือ?” ชายหนุ่มเข้าใจผิดคิดว่าการที่ร่างเล็ก ชักช้า ท�าอิดออดเหมือนไม่อยากจะเดินลงมาชั้นล่างเป็นการแสดงความอาลัย ไม่อยากจากไปไหน “ผมจะคิดยังไงมันก็ไม่ใช่ธุระอะไรของคุณไม่ใช่หรือ?” เพียงประโยคนั้น ชายหนุ่มมองคนตัวเล็กอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ อารมณ์ดีๆ ที่เพิ่งตีตื้นขึ้นมากลับมลายหายหมด! “ปากดี...” ร่างสูงก้าวยาวๆ เพียงไม่กี่ก้าว ดึงกระชากแขนเล็กอย่าง ไม่มีออมแรง กระเปาเดินทางจึงร่วงไถลลงไปตามขั้นบันได ขณะที่คนตัวเล็ก เกือบจะเซถลา หากจะไม่มีวงแขนแข็งแรงจับยึดเอาไว้ได้ทัน เรียวสึเกะหรี่ตาหวาดเสียวด้วยกลัวว่าตัวเองจะพลัดตกลงบันไดไป เบื้องล่างแบบเดียวกับกระเปา ทว่าร่างสูงก็คว้าร่างเขาเอาไว้ได้เสียก่อน จมูก กระแทกเข้ากับแผ่นอกของอีกฝ่าย รู้สึกเจ็บชาอยู่บ้างหากยังไม่เท่ากับความรู้สึก ร้อนวูบขึ้นมาอย่างทันควันเมื่อส�าเหนียกได้ว่าร่างทั้งร่างอยู่ในอ้อมแขนของใคร ร่างเล็กเกร็งตัวขึ้นนิดหนึ่ง พร้อมๆ กับที่ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงอาการนิ่ง ค้างของเรียวสึเกะ...อารมณ์อยากเอาชนะปะปนไปกับความผิดหวังคับแค้น ท�าให้ยูโตะกระชากคนตัวเล็กออก ใช้น�้าเสียงกราดเกรี้ยวกลบเกลื่อนความหวั่น ไหวของตนเอง “อยากเจ็บตัวนักหรือยังไง สนุกดีล่ะสินะถึงอยากจะกลิ้งลงบันได?” เรียวสึเกะอยากจะค้อน ก็ใครกันเล่าที่กระชากแขนเขาน่ะ อยากถาม ว่าใคร! ทว่าสิ่งที่ท�าได้ก็คือการท�าตามค�าสั่งของฝ่ายนั้นโดยไม่ปริปากโต้ เถียงอะไรออกมาอีก...นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้วในสภาวะที่คนเป็นสามีก�าลังอารมณ์ ร้อนอย่างนี้ โปรดติดตามตอนต่อไป… All-J

29


J Song

Mystery Virgin By... Yamada

koboreichita namida no riyuu ga wakaranakereba kimi wo sukuenai yo muriyari warau kimi ga hazushita shisen nani wo mita? koboreichita JYUUSU no shizuku wa shita de jyouzu ni sukutte nomu kuse ni boku no koboshita koe wa kikoenai furi nomikonda furi shounen no koi mitai ichiichi sono me ni mimi ni nureta kuchibiru ni kanjiru Mystery boku ga yubisaku ikisaki wa yuruginaki jijitsu e mukatteikunda “mirai” no mei ni kake kanarazu hontou no kimi no sugata wo tokiakashite miseru boku wa sono hoka no dare demo nai kimi no namida janai hontou no egao no tame yeh yeh Of truth in the Dark koboreochita namida ni kisuita boku ni ano toki tsugerareta MESSEEJI mune ni sasatta mama no NAIFU wo nuite ageru kara kimi ga nozonda kono sekai wa sou hontou wa konna sekai janai hazu da tsukurou KOTO ni narecha jibun no ibasho nakushiteku dake osanai KISU mitai kowagowa jyojyoni shinsou e chikaduiteiku hisokana Mystery kimi ga seotta unmei ni michibikareta nazo e idondeikunda “hokori” no mei ni kake kanarazu hontou no kimi no sugata wo tokiakashite miseru dakara sono hoka no dare demo nai kimi no namida janai hontou no egao misete nazo wa subete toku sore ga boku no shimei nazo wo nazo no mama kesshite owarasenai yo.... Mystery boku ga yubisaku ikisaki wa yuruginaki jijitsu e mukatteikunda “mirai” no mei ni kake kanarazu hontou no kimi no sugata wo tokiakashite miseru boku wa sono hoka no dare demo nai kimi no namida janai hontou no egao no tame hontou no kimi ga subete wo yurusu hi made yeh yeh Of truth in the Shine 30

All-J

Ryosuke

หากไม่รู้ถึงเหตุผลที่น�้าตาไหลริน ฉันก็ไม่อาจช่วยเหลือเธอได้ สายตาเธอที่มองไปทางอื่นในตอนที่ฝืนยิ้มนั้น เธอมองอะไรอยู่กัน? หยดน�้าผลไม้ไหลหก เป็นเพราะเธอไม่อาจใช้ลิ้นกักไว้ได้อย่างช�านาญ จึงแกล้งท�าเป็นไม่ได้ยินเสียงพึมพ�าของฉันและแกล้งดื่มต่อไป แต่ละสิ่งที่ได้สัมผัส ดังเช่นความรักของเด็กหนุ่ม ดวงตาคู่นั้น ใบหู ริมฝีปากชุ่มชื้น คือปริศนา จุดหมายที่ฉันชี้ไปนั้น มุ่งหน้าไปสู่ความจริงแท้อันมั่นคง ขอเดิมพันด้วยชื่อของ “อนาคต” ว่าฉันนั้น จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเธอให้ได้เห็นอย่างแน่นอน และนั่น ไม่ใช่เพื่อใครอื่น ไม่ใช่เพื่อให้เธอต้องร้องไห้ แต่เพื่อรอยยิ้มที่แท้จริงของเธอ คือความจริงที่ซ่อนอยู่ในความมืด ข้อความที่ได้บอกในตอนนั้นคือให้ฉันได้รับรู้ถึงน�้าตาที่ไหลริน และช่วยถอนมีดที่เสียบคาอยู่ที่หน้าอกออก โลกใบนี้ที่เธอคาดหวังในความเป็นจริงแล้วมันคงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เมื่อคุ้นชินกับการแก้ไข ก็จะสูญเสียจุดยืนของตัวเองไปเท่านั้น ปริศนาซึ่งแอบซ่อนอยู่ เป็นดังเช่นจูบในวัยเยาว์ แม้จะประหม่า แต่ก็ค่อยๆ เคลื่อนเข้าไปใกล้ความจริงทีละน้อย เสี่ยงไปกับปริศนาที่ถูกชี้น�าด้วยโชคชะตาที่เธอแบกรับไว้ ขอเดิมพันด้วยชื่อของ “ความภาคภูมิใจ” ว่าฉันนั้น จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเธอให้ได้เห็นอย่างแน่นอน และนั่น ไม่ใช่เพื่อใครอื่น ไม่ใช่เพื่อให้เธอต้องร้องไห้ แต่เพื่อให้เธอได้แสดงรอยยิ้มอันแท้จริงออกมา จะคลี่คลายปริศนาทั้งหมด นั่นคือภารกิจของฉัน หากปริศนายังคงเป็นปริศนา ฉันก็ไม่มีทางที่จะหยุด... ปริศนา จุดหมายที่ฉันชี้ไปนั้น มุ่งหน้าไปสู่ความจริงแท้อันมั่นคง ขอเดิมพันด้วยชื่อของ “อนาคต” ว่าฉันนั้น จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเธอให้ได้เห็นอย่างแน่นอน และนั่น ไม่ใช่เพื่อใครอื่น ไม่ใช่เพื่อให้เธอต้องร้องไห้ แต่เพื่อรอยยิ้มที่แท้จริง จนกว่าจะถึงวันที่ตัวตนที่แท้จริงของเธอจะอภัยให้ทุกสิ่ง ซึ่งเป็นความจริงในแสงสว่าง Romanji + Translate :: AniaRovana (http://konohana-sakura.blogspot.com)




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.