CONTENTS วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
07
22 14 56 07 President Talk
มั่นใจกรอบการเคลื่อนไหวราคาทอง ไม่หลุดจากที่คาดการณ์ไว้
14 Gold AEC
เจาะลึกตลาดค้าทอง “อินโดนีเซีย” อลังการทั้งภาคผลิตและภาคการค้าขาย
18 Gold Interview จับตาก้าวส�ำคัญของ Prima Gold เตรียมยกระดับสู่ World Brand
22 Global Gold
ตลาดทองค�ำทั่วโลก ในไตรมาส 2 หดตัว 12 %
38 คิดเงินเป็นทอง
ดูแลลูกน้องอย่างไรได้ทั้งใจได้ทั้งเงิน
56 Gold Health
อะโวคาโด หนึ่งในวัตถุดิบหลักของคนรักสุขภาพ
62 Gold Trips
“ฮิโระชิมะ” อีกหนึ่งความทรงจ�ำของญี่ปุ่น ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด
62
JULY - AUGUST 2015
วารสารทองค�ำ
ชัว่ โมงนีเ้ ชือ่ ว่านักลงทุนส่วนใหญ่คงจะเกิดอาการขวัญผวากันอย่างขนานหนัก เพราะสถานการณ์ ทางด้านเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ของโลก ดูแล้วไม่ธรรมดาจริงๆ บอกได้คำ�เดียวว่าจะต้อง เกาะติดความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด และใช้การไตร่ตรองอย่างหนักในการจะเข้าซื้อหรือจะเทขาย หลายคนที่เคยถูกยกให้เป็นกูรู ณ นาทีนี้ เชื่อว่าอาจจะต้องเปลี่ยนมาเป็นกูไม่รู้ น่าจะดีที่สุด... คงไม่ต้องลำ�ดับความกันมากว่าเกิดอะไรขึ้นกับตลาดทองคำ�บ้าง และจะต้องจับตาอะไรต่อไป เพราะผู้ที่เกี่ยวข้องได้ออกมาอธิบายความกันมากแล้ว แต่สิ่งที่ต้องจับตาต่อไปว่าผลกระทบที่จะ เกิดขึ้นมันจะมีมากน้อยเพียงไรเท่านั้น เพราะหลายสถานการณ์มันก็แลดูแปลกๆ เรามาว่ากันเรื่องของเนื้อหาภายในเล่มนี้กันดีกว่า ในช่วงนี้มีหลายเรื่องที่ทำ�ให้เราต้องจับตามอง แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ และหลายคนต่างเฝ้าดูว่าจะส่งผลอย่างไรต่อตลาดทองคำ�บ้างนั้น ก็คง หนีไม่พ้นเรื่องของการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน หรือ เออีซี แม้ว่าธุรกิจการค้าทองอาจจะไม่ถูกพูด ถึงมากนัก แต่มันก็มีทั้งโอกาสและความเสี่ยงอยู่ ทีผ่ า่ นมาเราได้พาท่านผูอ้ า่ นไปรูจ้ กั กับตลาดทองคำ�มาอย่างต่อเนือ่ ง ในฉบับนี้ ถึงคิวของประเทศ อินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นพี่ใหญ่ของกลุ่มอาเซียน และถือเป็นประเทศที่ตลาดค้าทองคำ�ใหญ่โตมาก เนือ่ งมาจากอินโดนีเซียมีประชากรมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ทีผ่ า่ นมาก็มผี คู้ า้ ทองคำ�ในประเทศไทย เข้าเปิดตลาดบ้างแล้ว ส่วนคอลัมน์สัมภาษณ์พิเศษก็น่าสนใจ เพราะประธานกรรมการของ แพรนด้า จิวเวอรี่ และพรีม่า โกลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จะมาฉายภาพการก้าวย่างของ Prima Gold ที่จะยกระดับสู่การเป็นแบรนด์ ระดับโลก พร้อมลุยตลาดยุโรปแบบเต็มตัว และเนื้อหาในคอลัมน์อื่นๆ ก็ยังคงอัดแน่นเช่นเดิม ติดตามอ่านกันได้เลย... กองบรรณาธิการวารสารทองคำ�
วารสารทองคำ� • เจ้าของ : สมาคมค้าทองคำ� เลขที่ 43 อาคาร ไทย ซี ซี ทาวเวอร์ ชั้น 20 ห้อง 200 ถ.สาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์ 0-2675-8000 โทรสาร 0-2675-8488 • E-mail : contact@goldtraders.or.th • Website : www.goldtraders.or.th • Facebook : www.facebook.com/ goldtraders • Twiiter : @Goldprice_GTA • ที่ปรึกษา : คุณจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี (นายกสมาคมค้าทองคำ�) คุณจักษ์ อัศวานันท์ (ประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาวารสาร และเว็บไซต์สมาคมค้าทองคำ�) คุณธีรเดช สินธพเรืองชัย (อนุกรรมการฯ) คุณเดชนรินทร์ ภัคอธิคม (อนุกรรมการฯ) คุณสมบูรณ์ ภุชงค์โสภาพันธุ์ (อนุกรรมการฯ) คุ ณ สั น ติ เอื้ อ อำ � นวยพร (อนุ ก รรมการฯ) ดร.พิ บู ล ย์ ฤ ทธิ์ วิ ริ ย ะผล (อนุ ก รรมการและเลขานุ ก าร) • กองบรรณาธิ ก าร : คุ ณ ปานะพงษ์ สุ ท ธี ว งศ์ เลขที่ 43 อาคารไทย ซี ซี ทาวเวอร์ ชั้น 20 ห้อง 200 ถ.สาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์ 0-2675-8000 ต่อ 55 โทรสาร. 0-2675-8488 • E-mail: panapong@goldtraders.or.th • ส่งข่าวประชาสัมพันธ์ที่ : คุณพลวัตร สารวิทย์ • E-mail: pollawat@goldtraders.or.th • โทรศัพท์ 0-2675-8000 ต่อ 41 • ฝ่ายสมาชิกและฝ่ายโฆษณา : คุณพลวัตร สารวิทย์ • E-mail: pollawat@goldtraders.or.th โทรศัพท์ 0-2675-8000 ต่อ 41 • พิมพ์ที่ : บริษัท สยามศิลป์ การพิมพ์ จำ�กัด
วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
กองบรรณาธิการ : เรื่อง
มั่นใจกรอบการเคลื่อนไหวราคาทอง ไม่หลุดจากที่คาดการณ์ไว้ หลังจากที่เกิดข่าวลือขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจ่ายหนี้ประเทศกรีซ สภาวะเศรษฐกิจของจีน รวมถึงการ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกอบกับการเข้าเก็งกำ�ไรของนักลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ทำ�ให้ราคาทองได้แกว่งตัวอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมีการออกมาคาดการณ์ถึงราคาทองคำ�ว่าอาจจะต่ำ�กว่า 1,000 ดอลลาร์ สหรัฐฯต่อออนซ์ บางรายระบุว่าอาจหลุด 800 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ทำ�ให้ราคาทองในตลาดโลกร่วงไปอยู่ที่ 1,080 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ซึ่งในต่างประเทศถือว่าต่ำ�สุดในรอบ 5 ปี แต่ของไทยก็ถือว่าต่ำ�สุดในรอบ 4 เดือน เพราะมีเรื่อง ของค่าเงินบาทเข้ามาช่วยพยุง จากสภาพการณ์ในลักษณะนี้มองว่าเป็นเรื่องของเทคนิค การเก็งกำ�ไรของกลุ่มนักลงทุนในต่างชาติ ซึ่งจะคล้ายกับตอนที่ ราคาทองพุ่งขึ้นต่อเนื่อง ไปแตะที่บาทละ 27,000 บาท หรือ ราคาจาก 1,900 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ โดยกลุม่ นักวิเคราะห์ ต่างประเทศออกมาให้ขา่ วว่าราคาทองคำ�อาจจะขึน้ ไปถึง 2,500 ดอลลาร์ ส หรั ฐ ฯต่ อ ออนซ์ ซึ่ ง มั น ก็ คื อ เทคนิ ค การเก็ ง กำ�ไร โดยการให้ผู้มีชื่อเสียงในวงการออกมาพูดสนับสนุน
แต่หากจะให้ประเมินสถานการณ์ที่อาจจะเข้ามาเกี่ยวข้อง กับราคาทองคำ� ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด สถานการณ์ ใ นจี น หรื อ สถานการณ์ ใ นกลุ่ ม ยุ โรปยั ง มั่ น ใจว่ า ราคาทองปีนี้จะอยู่ที่ 1,050-1,350 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ซึ่งในช่วงต้นปีเราได้เห็น 1,300 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ไปแล้ว และราคาทองคำ�ทีป่ รับลงต่ำ�กว่า 1,100 ดอลลาร์ฯสหรัฐต่อออนซ์ ก็ได้เกิดขึ้นแล้วเช่นกัน 7
วารสารทองค�ำ
ถ้าถามว่าจะมีโอกาสลงมากกว่านี้อีกหรือไม่ ซึ่งอาจจะเป็น ไปได้ แต่จริงๆ แล้วมันไม่มีเหตุผลสนับสนุน ราคาทองคำ�ไม่น่า จะต่ำ�กว่า 1,100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์มากนัก เพราะต้นทุน เหมืองทองประมาณ 40% ที่ผลิตทองออกมาในราคาต้นทุน 1,200 กว่าดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ถูกปิดไปตัง้ นานแล้ว เพราะ ผลิตออกมาแล้วขาดทุน ที่เหลืออยู่ 60% ผลิตทองออกมา ในราคาต้นทุน 1,100 กว่าดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ซึ่งในกลุ่มนี้ น่าสนใจว่าจะดำ�เนินการอย่างไรต่อไปเพราะขาดทุน และตอนนี้ เศรษฐกิจโลกตกต่ำ� กำ�ลังในการซื้อลดลง ประเด็นที่ต้องจับตาในช่วงจากนี้ไป ก็ยังคงเป็นเรื่องเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจากเศรษฐกิจในประเทศจีน ปัญหาในยุโรป และการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ซึ่ง 2 ปัจจัยแรกจะส่งผลดี ต่อราคาทอง แต่เรื่องของการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด จะทำ�ให้ราคา ทองดิ่ ง ลง แต่ เรื่ อ งนี้ ถูกพูดถึง มาระยะหนึ่ง แล้ว แต่ก็ ยังไม่ มี การปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งในขณะที่มีข่าวนี้ออกมา ราคาทองมักจะ ปรับลดลงทุกครัง้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปีนี้ เฟดจะต้องปรับขึน้ ดอกเบี้ยแต่คงจะไม่มาก ขณะที่ค่าเงินบาทก็ยังคงอ่อนค่า ซึ่งจะ ช่วยพยุงราคาทองไม่ให้ลดไปมากกว่านี้ โดยค่าเงิน 10 สตางค์ จะส่งผลต่อราคาทองคำ�ประมาณ 60-65 บาท 8
JULY - AUGUST 2015
“เรือ่ ง Fed ทีจ่ ะปรับดอกเบีย้ อาจจะอยูใ่ นช่วงเดือนกันยายน ฉะนั้น พอถึงเวลานั้นก็ต้องระมัดระวัง อยากแนะนำ�นักลงทุนว่า ควรซื้อทองระยะสั้นอย่าเก็บยาว มีโอกาสทำ�กำ�ไรให้ขายแล้ว รอจังหวะเก็บใหม่เพราะมันยังขึ้นๆ ลงๆ อยู่ แต่เชื่อว่าไม่น่าจะ ลงต่ำ�กว่าที่ผ่านมาคือ 1,080 เหรียญ หรืออาจจะลดต่ำ�กว่านี้ เล็กน้อย ซึ่งจะต้องดูว่าเงินบาทจะเป็นอย่างไร ถ้าอ่อนลงมาก็ ไม่มีประโยชน์อะไรเพราะมันจะช่วยบาลานซ์กันไป” ส่วนแผนการดำ�เนินงานของสมาคมในช่วงปลายปี จะมี การจัดสัมมนาเกี่ยวกับทองปลอมขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ได้ ทิ้งช่วงไประยะหนึ่ง ทำ�ให้กลุ่มมิจฉาชีพเริ่มกลับมาลงมือปฎิบัติ การในหลายพื้ น ที่ ซึ่ ง ในการจั ด งานครั้ ง นี้ เนื้ อ หาจะเข้ ม ข้ น มากกว่าเดิม โดยมีการสัญจรออกไปยังต่างจังหวัด 2 จุด นอกจากนั้นก็จะมีเรื่องของการตรวจสอบมาตรฐานทองคำ� ทีท่ างสมาคมฯ ได้ดำ�เนินการร่วมกับทางสำ�นักงานคณะกรรมการ คุ้มครองผู้บริโภค โดยจะตรวจตั้งแต่แหล่งผลิตไปจนถึงร้านค้า ปลีก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกันว่าจะดำ�เนินการ อย่างไรต่อไป และจะเริ่มได้เมื่อไร ทั้งนี้ทางสมาคมฯ จำ�เป็นต้อง เร่งดำ�เนินการเนื่องจาก โครงการดังกล่าวเป็นการสร้างความ เชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคเกี่ยวกับมาตรฐานทองคำ�ของไทย
JULY - AUGUST 2015
วารสารทองค�ำ กองบรรณาธิการ : เรื่อง/ภาพ
ประชุมฯพัฒนามาตรฐานอาชีพ กลุ่มอาชีพอัญมณีและเครื่องประดับ
กาญจนาภิเษกวิทยาลัยช่างทองหลวง จัดทำ� “โครงการประชุมเชิงปฏิบตั กิ ารการพัฒนามาตรฐานอาชีพกลุม่ อาชีพอัญมณีและเครือ่ งประดับ ตามกรอบแนวการพัฒนากำ�ลังคนรายกลุ่มอาชีพ การจัดทำ�มาตรฐานอาชีพ และการทดสอบ มาตรฐานวิชาชีพ” โดยมีนายสมศักดิ์ ตัณฑชน กรรมการสมาคมค้าทองคำ� และดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล อนุกรรมการ และเลขานุการในคณะอนุกรรมการส่งเสริมวิชาชีพช่างทำ�ทองรูปพรรณ สมาคมค้าทองคำ� เข้าร่วมงานด้วย
9
วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
ประชุมร่วมหอการค้าไทย-จีน
สมาคมค้าทองคำ� และหอการค้าไทย-จีน, สมาคมการค้าท่องเที่ยวไทย-จีน, สมาคมโรง เลื่อยจักร, สมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้ สำ�นักงานไทย ร่วมเป็นเจ้าภาพการประชุม สมาพันธ์หอการค้าไทย-จีน และสมาคมธุรกิจ ต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางด้าน ธุรกิจ และสังสรรค์ร่วมกัน
งานเลี้ยงสังสรรค์ ชมรมร้านค้าทองคำ�สกลนคร ในโอกาสครบรอบ 8 ปี
ชมรมร้านค้าทองคำ�จังหวัดสกลนคร นำ�โดยคุณโอฬาร เศรษฐวัฒนกุล ประธานชมรมฯ จัดกิจกรรม “ราตรีร้านทอง สัมพันธ์ ก้าวสู่ปีที่ 9 ด้วยรักและผูกพัน” เนื่องในโอกาส ครบ รอบ 8 ปี และก้าวสู่ปีที่ 9 โดยมีประธานที่ปรึกษา, ที่ปรึกษา กรรมการ, สมาชิกชมรมและแขกผู้มีเกียรติมาร่วมงาน ภาย ในงานได้มีพิธีมอบเงินให้แก่องค์กรการกุศล และมอบทุน การศึกษาให้เด็กนักเรียน รวมไปถึงการร่วมเล่นเกมส์ แจกของ รางวัลเพื่อขอบคุณแขกฯ และสมาชิกฯ ที่มาร่วมงาน
10
วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
ร่วมระวังภัยกลุ่มมิจฉาชีพนำ�ทองปลอมมาขาย,ขายฝากให้กับร้านทอง
นายธีรเดช สินธพเรืองชัย รองเลขาธิการสมาคมค้าทองคำ� ให้เกียรติเป็นวิทยากรใน รายการ ตู้ปณ.24 ทางTV24 เพื่อเผยแพร่ข้อมูล เกี่ยวกับการตรวจสอบทองปลอมด้วยวิธีต่างๆ เพื่อป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพที่นำ�ทองปลอมมาขาย, ขายฝากให้กับร้านทอง
สมาคมค้าทองคำ� ร่วมงานครบรอบ 95 ปี กระทรวงพาณิชย์
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ� ร่วมแสดงความยินดีเนื่องในโอกาส ครบรอบ 95 ปี วันคล้ายวันสถาปนากระทรวงพาณิชย์ ปี 2558 ณ อาคารสำ�นักงานปลัด กระทรวงพาณิชย์ พร้อมทั้งร่วมบริจาคสมทบทุนมูลนิธิวิสสุกรรม เพื่อเป็นทุนการศึกษา แก่บตุ รธิดาของข้าราชการในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ โดยภายในงานมีการจัดนิทรรศการ ส่งเสริมตลาดสินค้าชุมชน เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการและลดค่า ครองชีพให้กับประชาชน
11
Gold AEC
วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
กองบรรณาธิการ : เรื่อง
เจาะลึกตลาดค้าทอง “อินโดนีเซีย” อลังการทั้งภาคผลิตและภาคการค้าขาย หากจะดูจากพื้นที่บนบกกว่า 2 ล้านตารางกิโลเมตร ในทะเลอีกหลายล้านตารางกิโลเมตร และจำ�นวนประชากร กว่ า 240 ล้า นคนแล้ว ก็ถือได้ว่าสาธารณรัฐอินโดนีเซีย หรือประเทศอินโดนีเซีย น่าจะเป็นพี่ใหญ่ของประชาคม อาเซียน อินโดนีเซียมีการทำ�เหมืองทองคำ�มากมายจนติดอยู่ใน 10 อันดับแรกของประเทศที่มีการผลิตทองคำ�ให้ตลาดโลก โดยมี การผลิตทองคำ�เฉลี่ยกว่า 100 ตันต่อปี ซึ่งบางปีมีการผลิตสูงสุด เกือบ 200 ตัน และต่ำ�สุดมีเพียงประมาณ 7 ตัน ส่ ว นการถื อ ครองทองคำ�ในประเทศอย่ า งเป็ น ทางการมี เพียง 78.1 ตัน ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 40 ของโลกตามรายงานของ World Gold Council ในเดือนพฤษภาคม 2558 ซึ่งน้อยกว่า ประเทศไทยกว่าเท่าตัว (ประเทศไทยถือครองทองคำ� 152.4 ตัน อยู่ในอันดับที่ 26 ของโลก) การผลิตทองคำ�จากเหมืองในอินโดนีเซียมีสว่ นแบ่งประมาณ 4% ของการผลิ ต ทองคำ�ในตลาดโลก ซึ่ ง ส่ ว นมากก็ ม าจาก เหมืองใหญ่อันดับหนึ่งของโลก คือ Grasberg mine ในจังหวัด ปาปัว (Papua) ทางตะวันออกของประเทศ นอกจากนีย้ งั มีบริษทั ยั ก ษ์ ใ หญ่ จากต่ า งประเทศที่ ไ ปลงทุ น ทำ�เหมื อ งทองคำ�ใน 14
อินโดนีเซีย เช่น Freeport McMoran (เจ้าของ Grasberg mine), Newcrest Mining (เป็นหุ้นส่วนของเหมือง Kencana mine) และ Newmont Mining Corp. (เป็นหุน้ ส่วนของเหมือง Batu Hijau mine) เป็นต้น ส่วนบริษัทที่รัฐบาลอินโดนีเซียเป็นเจ้าของเอง (ถือหุ้นอยู่ ประมาณ 65%) คือ PT Aneka Tambang (Antam) ทีเ่ ปรียบเสมือน รัฐวิสาหกิจของประเทศ เนื่องจากรัฐบาลถือหุ้นเป็นส่วนใหญ่นี้ เองจึงทำ�ให้มกี ระบวนการทีค่ รบวงจร ตัง้ แต่ธรุ กิจเหมือง การถลุง
JULY - AUGUST 2015
การสกัด เพื่อให้ได้ทองคำ�บริสุทธิ์ ไปจนถึงกระบวนการผลิต ทองคำ�ที่ใช้ในอุตสาหกรรมทองคำ�แท่ง (cast bars, minted bars, dinar coins รวมถึงชิ้นส่วนในทางอุตสาหกรรม) และ ทองรูปพรรณ ความต้องการทองคำ�ของผู้บริโภค (consumer demand in gold) ในอินโดนีเซีย จะนับได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งในเอเชีย ตะวั น ออกเฉี ย งใต้ ในเรื่ อ งของทองรู ป พรรณ และจิ ว เวลรี่ เพราะจากข้อมูล World Gold Council ในไตรมาสที่ 4 ของ ปี 2557 มีปริมาณ 8.5 ตัน (ลดจากไตรมาสที่ 4 ของปี 2556 ปริมาณ 9.4 ตัน) เมื่อเทียบกับของประเทศไทยในไตรมาสที่ 4 ของปี 2557 ปริมาณ 0.6 ตัน และเวียดนาม ปริมาณ 2.3 ตัน แต่ปรากฏว่าข้อมูลเกีย่ วกับความต้องการทองคำ�แท่งของผูบ้ ริโภค
วารสารทองค�ำ
ในประเทศนัน้ มีนอ้ ยกว่าประเทศไทยและเวียดนามค่อนข้างมาก คือ 2.4 ตัน ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2557 (ของประเทศไทย ประมาณ 17.5 ตัน และเวียดนาม ประมาณ 13.3 ตัน) เนื่องจากอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีชาวมุสลิมมากที่สุด ในโลก ดังนั้น ทองคำ�จึงเป็นสิ่งที่นิยมมาก ทั้งทองคำ�แท่ง และ ทองรูปพรรณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทองรูปพรรณ ซึ่งมีหลากหลาย ตั้งแต่ 14 carats ถึง 24 carats แต่ ที่ นิ ย มกั น มากในกลุ่ ม ชนชั้ น กลางถึ ง ชั้ น สู ง ของชาว อินโดนีเซียส่วนใหญ่จะเป็น 18 carats (ทอง 75%) และ 22 carats (ทอง 91.6%) ส่วนกลุ่มชนชั้นล่างลงมาจะนิยมแบบ 24 carats (ทอง 99.99%) เพราะสามารถนำ�กลับไปขายได้ในราคาที่สูง ทัง้ นี้ การผลิตทองคำ�แท่งและทองรูปพรรณมาจากแหล่งผลิต ที่หลากหลาย เช่น จากบริษัท LOGAM MULIA ซึ่งเป็นหนึ่งใน หน่วยธุรกิจของ PT Antam นอกจากนีย้ งั มีบริษทั คูค่ า้ กับต่างชาติ ทีเ่ ปิดบริการขายทองคำ�แท่งมาตรฐาน เช่น PAMP (สวิสเซอร์แลนด์) โดยบริษัท PT Straits Bullion เป็นต้น ตลาดทองรูปพรรณในประเทศอินโดนีเซียในช่วงหลัง มีอตั รา การเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีบริษทั จากต่างประเทศเข้าไปลงทุน เปิดสาขา ขายทองรูปพรรณในรูปแบบจิวเวลรี่ เช่น Tiffany, Carolyn Tyler รวมถึง Gold Master และ Pranda Jewelry จากประเทศไทย เป็นต้น ซึ่งก็จะเน้นแนวทางการออกแบบ สร้างสรรค์ในลักษณะเชิงวัฒนธรรมของประเทศ แหล่งซื้อขาย ทองรูปพรรณหรือทองคำ�แท่งในอินโดนีเซียมีมากมาย และ 15
วารสารทองค�ำ
กระจายไปตามเกาะใหญ่ๆ ของประเทศ เช่น 1. เกาะสุมาตรา (Sumatera Island) จะมีแหล่งใหญ่ อยู่ที่บันดาอาเจะห์ (Bandar Aceh) ในบริเวณที่เรียกว่า Jalan Tgk Chik Pante Kulu 2. เกาะชวา (Java Island) จะมีร้านของ Logam Mulia ในเขต Surabaya และ Jogjakarta และร้ า นที่ น่ า เชื่ อ ถื อ เช่น Toko Aneka Logam, Jakarta Utara และบริเวณเขต Pasar Baru, Bandung แหล่งชอปปิ้งของคนอินโดนีเซีย และ นักท่องเที่ยวอยู่ในเมืองหลวงจาการ์ตาบนเกาะชวาที่มีชื่อว่า Cikini Gold Center และ Melawei Plaza 3. เกาะบอร์เนียว (Kalimantan or Borneo Island) จะมี
JULY - AUGUST 2015
ร้านค้าทองรูปพรรณในบริเวณ Pelangkaray ที่เขตส่วนกลาง และส่วนใต้ของเกาะ และเมือง Bontang ในแถบตะวันออกของ เกาะบอร์เนียว เป็นต้น จะเห็นได้ว่าแม้แต่มหาอำ�นาจตะวันตกยังเห็นศักยภาพของ แผ่นดินอินโดจีนซึง่ เป็นส่วนหนึง่ ของประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียน และอินโดนีเซียก็เป็นพี่ใหญ่ที่มีความได้เปรียบในด้านวัตถุดิบ ต้ น ทุ น แรงงาน จำ�นวนประชากร และขนาดของเศรษฐกิ จ โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง ระบบธนาคารในประเทศ ที่ปัจจุบันค่อนข้าง แข็ ง แกร่ ง และมี ค วามน่ า เชื่ อ ถื อ ในระดั บ นานาชาติ ดั ง นั้ น ผู้ประกอบการไทยจึงไม่ควรจะละเลยโอกาสที่จะใช้ประโยชน์ให้ เต็มที่ จากการเปิดเออีซี
จากสถิติล่าสุดอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจาก จีน อินเดีย และสหรัฐอเมริกา และเป็นประเทศทีม่ ปี ระชากรมุสลิมมากทีส่ ดุ ในโลก และยังเป็นประเทศหมูเ่ กาะทีใ่ หญ่ทสี่ ดุ ในโลก ทีป่ ระกอบด้วยเกาะต่างๆ กว่า 17,000 เกาะ แต่ที่ใหญ่และสำ�คัญมีอยู่ 5 เกาะคือ เกาะสุมาตรา เกาะชวา เกาะกาลิมันตัน เกาะสุลาเวสี และเกาะ ปาปัว มีชาวพื้นเมืองกว่า 500 เผ่า และภาษาพื้นเมืองกว่า 550 ภาษา โดยมีภาษาราชการที่ใช้ คือ ภาษาอินโดนีเซีย (Bahasa Indonesia) ประเทศอินโดนีเซียอยู่ภายใต้อิทธิพลของต่างชาติ เป็นเวลากว่าหลายร้อยปี เริ่มตั้งแต่ประเทศสเปน ฮอลแลนด์ หรือเนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส อังกฤษ และญี่ปุ่น โดยอินโดนีเซีย อยู่ภายใต้การปกครองของเนเธอร์แลนด์ มานานที่สุดคือ กว่า 300 ปี สาเหตุที่ประเทศนี้เป็นที่หมายปองของชาวต่างชาติ ก็เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติในประเทศ ที่หลากหลาย เช่น ปาล์มน้ำ�มัน ยางพารา กาแฟ เครื่องเทศ น้ำ�มัน ก๊าซธรรมชาติ ดีบุก ถ่านหิน ทอง เงิน เหล็ก ฯลฯ ประเทศอินโดนีเซียมีเอกราชเป็นของตัวเองหลังจากปี พ.ศ. 2488 และเริ่มการปกครองในระบอบประชาธิปไตย แบบสาธารณรัฐ โดยมี ประธานาธิบดีเป็นประมุขที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง และใช้สกุลเงิน เป็ น รู เ ปี ย ห์ (Rupiah) ปั จ จุ บั น มี อั ต ราแลกเปลี่ ย น โดยประมาณ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 13,325 รูเปียห์ หรือ 1 บาท = 396 รูเปียห์ (ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2558)
16
Gold Interview วารสารทองค�ำ มนุษย์ทองค�ำ : เรื่อง
18
JULY - AUGUST 2015
วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
จับตาก้าวสำ�คัญของ Prima Gold เตรียมยกระดับสู่ World Brand หลังจากที่เครื่องประดับทองคำ� 99.99 ของ Prima Gold ประสบความสำ�เร็จการทำ�ตลาดในประเทศ ก่อนที่จะขยาย ตลาดออกไปยังหลายประเทศในภาคพื้นเอเซีย และล่าสุด Prima Gold เตรียมก้าวไปอีกขั้น ด้วยการขยายตลาดสู่กลุ่ม ประเทศยุโรป พร้อมยกระดับแบรนด์ Prima Gold ให้ขึ้นเป็นแบรนด์ระดับโลก ซึ่งคอลัมน์ “สัมภาษณ์พิเศษ” ได้มีโอกาส ได้พูดคุยกับ คุณปรีดา เตียสุวรรณ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แพรนด้า จิวเวอรี่ จำ�กัด (มหาชน) และบริษัท พรีม่า โกลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำ�กัด ถึงแผนงานในครั้งนี้ รวมถึงสภาพการแข่งขันของตลาดเครื่องประดับทองคำ� 99.99 ปัจจุบันการแข่งขันในตลาดทอง 99.99 เป็นอย่างไรบ้าง ถ้ า มองในระดั บ โลกคงต้ อ งแข่ ง กั บ ประเทศจี น เป็ น หลั ก เพราะจีนและฮ่องกงใช้ทอง 99.99 แต่จะมีแค่ลวดลายแบบง่ายๆ ขายให้กับลูกค้าในประเทศ โดย 70 เปอร์เซ็นต์เน้นซื้อไว้เพื่อ การลงทุน และ 30 เปอร์เซ็นต์ ใช้เป็นเครื่องประดับ แต่สำ�หรับ ผลิตภัณฑ์ของ Prima Gold จะเน้นที่ความสวยงามและฝีมือ ด้านการออกแบบและผลิต ซึง่ จะเป็นทีช่ นื่ ชอบของลูกค้า ซึง่ ขณะ นี้ได้ส่งไปขายใน 11 ประเทศ ได้แก่ คูเวต ดูไบ บาห์เรน โอมาน อียิปต์ ฟิลิปปินส์ อินเดีย เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ซึ่งตลาดใหญ่ที่สุดจะอยู่ที่ดูไบ ถ้าจะมาดูถึงการเติบโตตลาดเครื่องประดับทองคำ� 99.99 มีมากน้อยแค่ไหน ในช่วงแรกๆ มีการขยายตัวมาก แต่พอนานๆ ไปการขยาย ตัวก็เริ่มลดลง จนปัจจุบันเหลือประมาณ 10% ก็ถือว่าเป็นที่ น่าพอใจ โดยสถิติการขยายตัวจะมาจากตลาดใหม่มากกว่า เช่น ที่ดูไบจะหวือหวาที่สุดในบรรดาตลาดประเทศตะวันออกกลาง เพราะเพิ่งไปเปิดตลาดได้ไม่นาน เช่นเดียวกับ ที่อินโดนีเซียก็ เพิ่งเริ่มเช่นกัน ซึ่งในกลุ่มนี้จะขยายตัวประมาณ 20-30% ต่อปี ส่วนที่เวียดนามก็เพิ่งเริ่มเปิดไปไม่นาน ถ้าย้อนมาดูตลาดในประเทศไทย ตลาดมีการแข่งขันมากน้อย เพียงไร หลังจากที่เราได้ทำ�ตลาดมานาน คนไทยรู้จัก Prima Gold เป็นอย่างดี ขณะนี้ ก็จะเป็นเรื่องของการ reminding มากกว่า และปัจจุบันเราก็มีแพลนจะรณรงค์ผลักดันทอง 99.99 ของไทย ให้เป็นแบรนด์ระดับโลก เพราะคิดว่าผลิตภัณฑ์ของเรานัน้ งดงาม
ที่สุดในโลก แต่ก่อนเราเคยคิดว่าเราจะขายแต่ในประเทศ ที่นิยม ใช้ทองทัง้ หลาย อย่างเช่นเอเชียและตะวันออกกลาง แต่ปจั จุบนั เราอยากจะขยายตลาดสู่ประเทศอื่นๆ ที่เขาไม่เคยใช้ทอง 24k บ้าง โดยจะสื่อไปยังลูกค้ากลุ่มนี้ว่า หากต้องการทองควรใช้ทอง 24k เพราะบริสุทธิ์คู่ควรกับงานหัตถศิลป์ที่งดงาม ซึ่งคาดว่าจะ เริ่มได้ในต้นปีหน้า โดยเป้าหมาย คือ จะไปเปิดตลาด ในกลุ่ม ประเทศยุโรป คิดว่าตลาดโลกจะรับผลิตภัณฑ์ทองคำ�ฝีมือไทยได้มากน้อย แคไหน ก่อนอื่นๆ ต้องพูดว่าลูกค้ารับทอง 24k ได้แค่ไหนดีกว่า โดยการสือ่ สารทีจ่ ะนำ�เสนอออกไปคือ เมือ่ อยากได้เครือ่ งประดับ ที่เป็นงานหัตถศิลป์ทำ�ไมถึงจะไปซื้อแค่ทอง 14k 18k การใช้ ทอง 24k น่าจะคู่ควรมากกว่า ฉะนั้น เราจะเปิดตลาดทอง 24k ให้ทั่วโลกยอมรับและถามหา พร้อมทั้งอยากจะเชิญกลุ่มผู้ผลิต ทอง 24k ออกไปร่วมกันทำ�ตลาดในระดับโลก 19
วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
ตลาดที่มีศักยภาพสูง เพราะนิยมทองกันมาก ในช่วงแรกเน้น สร้าง market awareness รอให้มีการเปิดห้างสรรพสินค้าระดับ worldclass ให้มากขึ้น เพราะในเมืองมุมไบมีแค่ 3 จุด และกำ�ลัง จะไปเปิดที่เมืองนิวเดลี ซึ่งการเปิดร้านขายเน้นไปเปิดตามห้าง worldclass ต่างๆ แบ่งสัดส่วนยอดขายของตลาดแต่ละที่แล้วเป็นอย่างไรบ้าง ของ Prima Gold ในกลุม่ AEC ประมาณ 60% ตะวันออกกลาง กับอินเดีย 40% ซึ่งในกลุ่ม AEC ก็เป็นไทยประมาณ 40% เพราะที่เหลือใน AEC เพิ่งเริ่มไปเปิดตลาด อย่างอินโดนีเซีย มีแค่ 2 เคาน์เตอร์เท่านั้นเอง ซึ่งจะเหมือนกับที่อินเดีย คือ รอห้างใหญ่ๆ ไปเปิด อย่าง central ก็จะไปเปิดเป็น firstclass mall ที่นั่นคาดว่าจะเสร็จปีหน้า เราก็วางแผนว่า จะไปที่นั่นด้วย ที่ไหนเปิดเราก็พร้อมจะเข้าไปลุย
ตลาดทองคำ�ที่เป็นหัตถศิลป์กับที่เป็นแฟชั่น ตลาดแบบไหน จะกว้างกว่า โอกาสของตลาดในส่วนไหนน่าสนใจบ้างทัง้ ทีท่ �ำ อยูแ่ ล้วและ มั น คงเอามารวมกั น แต่ สำ�หรั บ ทองที่ มี คุ ณ ค่ า เต็ ม ร้ อ ย ที่คาดว่าอยากจะไปทำ� แบบนี้ ก็จะมองเรื่องหัตถศิลป์ เป็นหลักมากกว่า แต่ก็ต้องมอง เอเชียและตะวันออกกลางก็เป็นตลาดหลักของเราเสมอ เรื่องแฟชั่นควบคู่ไปด้วย แล้วก็อย่างทีบ่ อกว่าปีหน้าจะไปยุโรป และแน่นอนว่าท้ายทีส่ ดุ เรา ก็จะไปอเมริกา แต่อยากไปยุโรปก่อน เพราะเรามีสถิติชัดเจนว่า คาดหวังกับโปรเจคนี้มากน้อยแค่ไหน คนยุ โรปซื้ อ สิ น ค้ า ของเรา โดยจะเน้ น ไปในตลาดที่ มี ส ถิ ติ ก็ตื่นเต้นกับมันนะ เพราะคิดว่าทอง 24k มันควรจะอยู่ การซื้อสินค้าที่ชัดเจนก่อน อย่างเช่นที่รัสเซีย ในเอเชียมาตลอด 20 ปี พอมาถึงจุดนี้ ก็เริ่มปรับความคิดของ ตัวเองเพราะคนสมัยนี้ก็หวนหาสิ่งที่แตกต่าง ในแถบยุโรปหาก เรื่องการผลิตเน้นพัฒนาจุดไหนและอะไรบ้าง ใครอยากได้ทอง 18k ก็ต้องนึกถึงทองของชาวอิตาเลียน แล้ว เน้นเรื่องความเป็นไทย เป็นไทยแบบกลางๆ เช่น ไม่เป็น ทำ�ไมเราไม่เสนอสิ่งที่แตกต่าง เสนอทองที่ดีที่สุดพร้อมด้วย กนกศิลป์ไปเลยเสียทีเดียว อาจจะเป็น fusion แล้วก็เคลมว่า ฝีมือหัตถศิลป์ที่มีคุณค่าให้เขา เป็นทองของไทย ลวดลายก็จะเป็นพวกดอกไม้ต่างๆ ของไทย ตลาด AEC เลิกพูดไปได้เลยหรือเปล่า ในเอเชียเราก็ไปเรือ่ ยๆ ซึง่ ในตลาดอินโดนีเซียยังขยายตัวได้ อีกมาก เพราะมีประชากร 240 ล้านคน ซึ่งรูปแบบการทำ�ตลาด ในกลุ่ ม นี้ มี ทั้ ง ที่ ไ ปเปิ ด ตลาดด้ ว ยตั ว เองกั บ การหาผู้ ร่ ว มทุ น ในประเทศนั้นๆ อย่างเช่น ในอินโดนีเซีย เราเข้าไปร่วมทุน ส่ ว นในมาเลเซี ย เราส่ งสิน ค้าไปให้ สำ�หรับ เวียดนามก็ เข้ า ไป ทำ�ตลาดเอง ขณะทีป่ ระเทศในตะวันออกกลางก็ใช้วธิ กี ารแต่งตั้ง ผู้แทนจำ�หน่าย และในอินเดียก็เป็นลักษณะของหุ้นส่วน ซึ่งยอด ขายจากอินเดียยังไม่มาก เพราะเพิ่งเริ่มเข้าไปทำ�ตลาด แต่เป็น
20
มาตรฐานการผลิตและออกแบบในปัจจุบนั น่าพอใจมากน้อย แค่ไหน คืองานหัตถศิลป์ยงิ่ นานมันยิง่ เชีย่ ว เราทำ�มานานถึงกล้าพูด ได้วา่ หัตถศิลป์ไทย เหมาะกับทอง 24k ทีส่ ดุ ในโลกแล้ว และขณะ นี้ก็มีนักออกแบบสายเลือดใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี คนที่มาทำ�งาน ในองค์กรของเราต้องผ่านการฝึกฝนมาตั้งแต่ อายุ 15-16 ปี เป็นเวลา 3 ปี ถึงจะเข้ามาเป็นพนักงานได้ แต่จะเริ่มทำ�งาน 8k 9k 14k 18k ไป จนอายุประมาณ 30 ปี ถึงจะมาทำ� Prima Gold ซึ่งจะทำ�ให้มีฝีมือ มีประสบการณ์
JULY - AUGUST 2015
วารสารทองค�ำ
แต่ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าคนทำ�งานหัตถศิลป์นับวันก็ยิ่งจะน้อยลง เป็นไปได้เพราะเราอยู่ในตลาดนี้มา 20 กว่าปี ก็ถึงเวลาที่เรา การจะดึงคนรุ่นใหม่เข้ามา ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ฉะนั้น ต้องพยายาม จะต้องยกระดับขึ้น ไป สร้ า งความภาคภู มิ ใจให้ เขารู้ สึ ก ว่ า เป็ น อาชี พ มั่ น คง หาเงิ น เลี้ยงชีพได้ ซึ่งเป็นเรื่องท้าทายมาก ใน World Brand มีคู่แข่งบ้างไหม ตอนนี้มี local ทำ�อยู่ อย่าง Gold Master ก็ไป 2-3 ประเทศ ตลาด 99.99 มันอิ่มตัวหรือยัง หรือเติบโตได้อีก แต่สำ�หรับยุโรป เราจะเป็นบริษัทแรกที่เริ่ม และยังไม่มีคู่แข่ง สำ�หรับตลาดหัตถศิลป์ถ้ามีไอเดียใหม่ๆ ก็ทำ�ออกมาได้ เพราะไม่ มี ใ ครที่ จ ะมาสู้ เ ราเรื่ อ ง 24k ได้ แต่ ต ลาดที่ จี น เรือ่ ยๆ เราเชือ่ ว่าคนทีม่ าซือ้ ของ Prima เขาชอบหัตถศิลป์ของเรา น่าสนใจ ที่ผ่านมาเคยตั้งโรงงานเพื่อรองรับตลาดในจีน โดยทำ� เป็นหลัก ซึ่งตอนนี้ลูกค้าของเรา มีทั้งกลุ่มเดิมและกลุ่มใหม่ๆ เป็นอีกแบรนด์ แต่ต้องปิดตัวไป เพราะคุณภาพเรื่องการผลิต ที่เข้ามา ซึ่งในแผนงานจะพยายามเอาคนอายุน้อยๆ เข้ามา ศั ก ยภาพของเด็ ก จี น ยั ง ไม่ ถึ ง คนรุ่ น ใหม่ มี วิ ถี ชี วิ ต เปลี่ ย นไป เพื่อสร้างอะไรที่มันเด็กลงมาบ้าง โดยจะรณรงค์ให้เด็กหันมา ไม่สนใจวัฒนธรรมเก่าๆ และไม่มีความภูมิใจในการทำ�งาน สนใจมากขึน้ ขณะเดียวกันจะทำ�สินค้าให้ชนิ้ เล็กลงเพือ่ ให้คนเข้า ตรงนี้ ไม่เหมือนเด็กไทยโตมาก็เห็นวัฒนธรรมแบบนี้ เห็นวัดวา ถึงได้มากขึ้น ให้ตรงกับรสนิยม คนอายุน้อย มีความคุ้นเคยกว่า แต่ในอนาคตจะกลับไปแน่นอน เพราะจีน เป็นตลาดหลักของ 99.99 และตลาดเปิดกว้าง ขึ้นอยู่ว่าจะไป วางเป้าหมาย Prima Gold ในช่วง 5 ปีข้างหน้าไว้อย่างไรบ้าง เมื่อใด แต่ ณ จุดนี้ คงจะมองไปที่เรื่องการยกระดับสู่ World อีก 5 ปี จะโปรโมทเป็น World Brand จากแต่ก่อนเรา Brand มากกว่า เพราะถ้าไปจุดนั้นได้ การไปบุกตลาดในจุดไหน มองว่าเป็น Asian Brand หรือ Midle East Brand ซึ่งคิดว่า ก็คงไม่ยาก
21
Global Gold วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
กองบรรณาธิการ : เรื่อง
ตลาดทองคำ�ทั่วโลก ในไตรมาส 2 หดตัว 12% สภาทองคำ�โลกออกรายงานเกี่ยวกับความต้องการทองคำ�ในตลาดโลกไตรมาสที่ 2 ปี 2015 พบว่า ทั่วโลกต้องการ ทองคำ�รวม 915 ตัน ลดลง 12% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักมาจากการลดลงของ ความต้องการจากผู้บริโภคในอินเดียและจีน แต่ความต้องการในยุโรปและสหรัฐอเมริกาได้ขยายตัวจากแรงความต้องการ ในกลุ่มเครื่องประดับและเหรียญทองคำ� อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสถัดไปคาดว่าความต้องการจะเพิ่มมากขึ้น เพราะกำ�ลัง ย่างเข้าสู่ช่วงที่มีประเพณีสำ�คัญทั้งในอินเดียและจีน อย่างไรก็ตาม เมื่อมาจำ�แนกความต้องการทองคำ�ในแต่ละ กลุ่มอุตสาหกรรม พบว่าความต้องการในกลุ่มเครื่องประดับ โดยรวมลดลง 14% เหลือ 513 ตัน จาก 595 ตัน ในปี 2014 เนื่ อ งจากการใช้ จ่ า ยของผู้บ ริโภคในเอเชียลดลง โดยเฉพาะ การชะลอตัวทางด้านเศรษฐกิจในประเทศจีน ทำ�ให้ความต้องการ สินค้าในกลุ่มนี้ลดลง 5% ขณะที่ ใ นประเทศอิ น เดี ย ต้ อ งเผชิ ญ กั บ ปั ญ หาทางด้ า น ภัยธรรมชาติอย่างหนัก ทั้งฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในไตรมาส ที่ 1 ขณะที่ไตรมาสที่ 2 ต้องเผชิญกับปัญหาภัยแล้งอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อรายได้ของผู้คนในชนบท จึงทำ�ให้ความต้องการ ในทองคำ�ลดลง โดยภาพรวมความต้ อ งการทองคำ�ในกลุ่ ม เครื่องประดับ ในช่วงครึ่งแรกของประเทศอินเดีย ลดลง 3% เหลือเพียง 268.8 ตัน จากช่วงไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา ความต้องการอยู่ในระดับ 276.1 ตัน ส่วนความต้องการในตลาดสหรัฐฯยังคงทรงตัว โดยในภาพ รวมขยายตัว 2% เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นไตรมาสที่หก โดยมีความ ต้องการทั้งสิ้น 26 ตัน ขณะที่ความต้องการในยุโรปก็ยังเพิ่มขึ้น โดยที่ประเทศเยอรมนีเพิ่มขึ้น 7% และสหราชอาณาจักร และ สเปน เพิ่มขึ้น 6%
22
มาดูความต้องการในภาคการลงทุน ในภาพรวมทัว่ โลกลดลง 11% เหลือเพียง 179 ตัน จากที่ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 200 ตัน โดยเฉพาะในประเทศอินเดีย ร่วงลง 30% เหลือ เพียง 37 ตัน เนื่องจากราคาทองคำ�ในตลาดโลกมีการแกว่งตัว ต่อเนื่อง แต่ตลาดในยุโรป หลังจากที่ประเทศกรีซมีปัญหาจน เกือบจะต้องออกจากยูโรโซน ทำ�ให้มีการเข้าซื้อทองคำ�จาก นักลงทุนมากถึง 47 ตัน เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับการลงทุนในสหรัฐฯที่ยังขยายตัวเพิ่มขึ้น 7% เมือ่ มาดูกลุม่ ผูซ้ อ้ื ทองคำ�ในภาคการลงทุนพบว่า ธนาคารกลาง ยังคงเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ รวม 137 ตัน โดยรัสเซียและคาซัคสถาน คือผู้ซื้อที่ใหญ่ที่สุด โดยซื้อเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับไตรมาส แรกของปีนี้ และเป็นไตรมาสที่ 18 ติดต่อกันทีธ่ นาคารกลาง เป็น ผู้ซื้อสุทธิทอง มาดูในภาคการผลิต พบว่าในภาพรวมลดลง 5% เหลือ 1,033 ตัน โดยการผลิตของเหมืองในไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 787 ตัน แต่ได้รับการชดเชยจากการรีไซเคิล 251 ตัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การผลิตของเหมืองจะชะลอตัว โดยทางเหมืองจะหันไปจัดการ ค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการดำ�เนินงานเพื่อการเผชิญกับ ความท้าทายของตลาด
วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
ดัชนีความเชื่อมั่นเดือนสิงหาคมลดลง จับตา FED ขึ้นดอกเบี้ย กดราคาทองร่วง ศูนย์วิจัยทองคำ�รายงานดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ� (Gold Price Sentiment Index) ในเดือนสิงหาคม 2558 พบว่าอยู่ในระดับ 43.87 จุด ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 3.65 จุด หรือลดลง 7.68 โดยค่าดัชนีเคลื่อนไหวต่ำ�กว่าระดับ 50 จุดเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันสะท้อนทัศนคติในเชิงลบต่อราคา ทองคำ�ในประเทศ โดยเฉพาะผลกระทบจากการส่งสัญญาณ ขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ทำ�ให้ราคาทองคำ� ในตลาดโลกอ่อนตัวลงในเดือนที่ผ่านมา ส่วนปัจจัยที่กลุ่ม ตัวอย่างเชื่อว่าจะหนุนราคาทองคำ�ในประเทศระยะสั้น คือ การอ่อนตัวของค่าเงินบาท ด้านดัชนีความเชือ่ มัน่ ราคาทองคำ�ในระยะสามเดือนปรับตัว ลดลงเล็กน้อย 2.31 จุด อยู่ที่ระดับ 49.28 จุด อ่อนตัวลงต่ำ�กว่า ระดับ 50 จุด สะท้อนมุมมองเชิงลบต่อราคาทองคำ�ในระยะกลาง จากความเสีย่ งการขึน้ ดอกเบีย้ ของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการ แข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯเป็นสำ�คัญ มาดูความต้องการของกลุม่ ตัวอย่างต่อความต้องการทีจ่ ะซือ้ ทองคำ�ในช่วงหนึ่งเดือนข้างหน้า พบว่า 36.13% คิดว่าจะซื้อ ขณะที่ 45.12% คาดว่าจะไม่ซื้อ และ 18.75% ไม่แน่ใจว่าจะซื้อ ทองคำ�หรือไม่ จะเห็นได้ว่าในเดือนสิงหาคมมีสัดส่วนของกลุ่ม ตัวอย่างที่คาดว่าจะซื้อทองคำ�ในช่วงหนึ่งเดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้น อย่างมาก ซึ่งเป็นผลมาจากราคาทองคำ�ในช่วงเดือนมิถุนายน ที่ ผ่ า นมาอ่ อ นตั ว ลงอย่ า งมาก และมี ก ารเข้ า ซื้ อ ไปบ้ า งแล้ ว ประกอบกับความเชื่อว่าผลตอบแทนในทองคำ�อาจจะยังไม่สูง ในช่วงระยะสั้นจากความเสี่ยงตลาดขาลง
ส่วนการเคลื่อนไหวราคาทองคำ�ในตลาดโลก (Gold Spot) ในเดือนสิงหาคม 2558 โดยกลุม่ ตัวอย่างทีเ่ ป็นผูป้ ระกอบกิจการ ค้าทองคำ�รายใหญ่ และผูป้ ระกอบกิจการนายหน้าซือ้ ขายสัญญา ซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ� 9 ตัวอย่าง มองว่าราคาทองคำ�ในตลาดโลกกรอบสูงสุดที่กลุ่มตัวอย่าง คาดไว้อยู่ระหว่าง 1,120-1,200 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ แต่มี ความถี่หนาแน่นบริเวณ 1,120-1,160 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ กรอบการเคลื่อนไหวต่ำ�สุดให้น้ำ�หนักระหว่าง 1,040-1,060 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ โดยมีค่าความถี่หนาแน่นอยู่บริเวณ 1,040-1,060 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ส่ ว นความเคลื่ อนไหวราคาทองคำ�แท่ งในประเทศความ บริสุทธิ์ 96.5% กลุ่มตัวอย่างให้นำ�้ หนักราคาสูงสุดระหว่าง 18,500-20,500 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ� และมีค่าความถี่หนา แน่นในช่วง 19,000-19,500 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ� ขณะที่ กรอบการเคลื่ อ นไหวต่ำ� สุ ด กลุ่ ม ตั ว อย่ า งให้ นำ�้ หนั ก ระหว่ า ง 17,000-18,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ� โดยมีค่าความถี่หนา แน่นในช่วง 17,000-18,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ� โดยมี ปัจจัยเรื่องความเสี่ยงในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลาง สหรัฐฯ การแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯและแรงขายทำ�กำ�ไร เป็นปัจจัยลบสำ�คัญ ขณะปัจจัยบวก มองการอ่อนตัวเงินบาท และอุปสงค์เป็นปัจจัยสำ�คัญ นอกจากนั้นศูนย์วิจัยทองคำ�ยังได้จัดทำ�แบบสำ�รวจกรอบ ราคาทองคำ�ในช่วงครึง่ ปีจากผูป้ ระกอบการรายใหญ่ และตัวแทน ซื้อขายอนุพันธุ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับทองคำ� 5 รายพบว่า ราคา ทองคำ�ในตลาดโลกเฉลี่ยครึ่งหลัง ประมาณ 1,114 ดอลลาร์ สหรัฐฯต่อออนซ์ ค่าเฉลีย่ สูงสุด 1,250 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ค่าเฉลี่ยต่ำ�สุด 974 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ขณะทีก่ รอบค่าเงินบาท ค่าเฉลีย่ ครึง่ ปีหลังอยูท่ รี ะดับ 34.82 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ค่าเฉลี่ยสูงสุด 35.94 บาทต่อดอลลาร์ สหรัฐฯ ค่าเฉลี่ยต่ำ�สุด 33.78 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วน ราคาทองคำ�ในประเทศค่าเฉลี่ยราคาครึ่งหลังปี 2558 เท่ากับ 18,378 บาทต่อบาททองคำ�ค่าเฉลี่ยสูงสุด 20,652 บาทต่อบาท ทองคำ� ค่าเฉลี่ยต่ำ�สุด 16,218 บาทต่อบาททองคำ� 23
AEC Focus วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
Anpower3 (@anpower3) : เรื่อง
ฟิลิปปินส์ ศูนย์กลางคอลเซ็นเตอร์โลก ถ้าจะพูดถึงเรื่องของฟิลิปปินส์...ไม่แน่ใจว่าคุณผู้อ่านจะนึกถึงภาพของอะไร? “ภาพของเมืองที่มีการเมืองในประเทศ ที่เข้มข้น” “ภาพของเมืองที่โดดเด่นเรื่องการศึกษา (หลายคนอยากไปเรียนภาษาในราคาประหยัด ;)” “ภาพของเมืองที่มี นักมวยชื่อดัง มีนักร้องเสียงคุณภาพ” ฯลฯ แต่วันนี้ที่อยากจะเล่าให้คุณผู้อ่านได้เห็นอีกมุมหนึ่งของฟิลิปปินส์นั่นก็คือ การเป็นประเทศศูนย์กลางคอลเซ็นเตอร์ของโลก ธุรกิจคอลเซ็นเตอร์ในฟิลิปปินส์ เรียกได้ว่าบูมอย่างมาก ในปัจจุบนั นี้ เพราะจากประสบการณ์ทเี่ คยไปคุยกับคนฟิลปิ ปินส์ มาเยอะพอสมควร โดยเฉพาะกลุม่ คนรุน่ ใหม่ ถ้าถามว่าอยากทำ� อาชีพอะไรมากที่สุด มากกว่าร้อยละ 50 จะตอบว่าอยากทำ�งาน คอลเซ็นเตอร์ ด้ ว ยความสงสั ย ก็ เ ลยถามกลั บ ไปว่ า อาชี พ นี้ ดี อ ย่ า งไร ทำ�ไมถึงอยากทำ�งานนี้ พวกเขาตอบง่าย ๆ ว่า “งานสบาย ได้เงินเยอะ” ทีบ่ อกว่า “งานสบาย ได้เงินเยอะ” ก็เพราะรัฐบาล ของฟิลิปปินส์ได้ให้การสนับสนุนธุรกิจนี้อย่างจริงจัง หลังจาก ที่ ม องเห็ น โอกาสในการที่ จ ะผลั ก ดั น ให้ ป ระเทศที่ มี พื้ น ฐาน ด้านภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษากลางของธุรกิจโลกดีอยู่แล้ว 24
อย่างฟิลิปปินส์ ได้ก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำ�ธุรกิจอะไรสักอย่างใน ระดับโลก คำ�ตอบก็คือ ธุรกิจคอลเซ็นเตอร์ นั่นเอง ฟังดูแล้ว ธุรกิจคอลเซ็นเตอร์ หลายคนอาจคิดว่าเป็นงานง่ายๆ แต่จริงๆ แล้วผู้ที่ทำ�งานนี้ต้องมีทักษะหลายๆ อย่างประกอบกันไป ฟิ ลิ ป ปิ น ส์ ไ ด้ ใ ห้ ค วามสำ�คั ญ กั บ ธุ ร กิ จ นี้ จ นถึ ง ขั้ น มี ก ารตั้ ง สถาบันฝึกทักษะให้กบั ผูท้ จี่ ะทำ�งานคอลเซ็นเตอร์ขนึ้ มาหลายพัน แห่งทั่วประเทศ ที่เรียกกันว่า “Call Center Academy” สถาบัน ฝึกทักษะแบบนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นของเอกชน และรัฐบาลให้ การสนับสนุน โดยให้ทุนสำ�หรับผู้ที่สนใจจะฝึกทักษะมาเรียนฟรี แต่ก็ต้องผ่านการคัดเลือกตามขั้นตอนการขอทุน สิ่งที่พวกเขา ต้องเรียนและฝึกฝนทักษะ
JULY - AUGUST 2015
วารสารทองค�ำ
อันดับแรกก็คือ ภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง ทั้งหลักไวยากรณ์ และสำ�เนียงการพูดจา ที่สำ�คัญต้องฝึกฝนทักษะการตอบคำ�ถาม การควบคุมอารมณ์ และต้องเรียนรู้เรื่องการตลาดของภาคธุรกิจ ด้วย เพื่อให้เวลาทำ�งานจริง จะสามารถตอบคำ�ถามลูกค้าได้ อย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อเรียนจบได้ใบประกาศนียบัตร รั บ รองผลการฝึ ก ทั ก ษะ ก็ จ ะมี บ ริ ษั ท เอกชนที่ ใ ห้ บ ริ ก ารด้ า น คอลเซ็นเตอร์นี้มารับตัวเข้าไปทำ�งานทันที สำ�หรับแรงงานฟิลิปปินส์ได้ชื่อว่าเป็นแรงงานราคาถูกที่มี ความสามารถ ทำ�ให้เป็นที่ต้องการของบริษัทจากประเทศสหรัฐ อเมริกาให้มาทำ�งานคอลเซ็นเตอร์ ที่ต้องรับโทรศัพท์ระบาย อารมณ์จากลูกค้ากว่า 100 สาย แลกกับค่าตอบแทนเดือนละ 700 ดอลลาร์ หรือเกือบ 22,000 บาท ซึง่ สูงกว่ารายได้ของแพทย์ ในฟิลิปปินส์เสียอีก และแน่นอนว่าต้องสูงกว่าอาชีพอื่นๆ เป็น เท่าตัว และจากการสำ�รวจพบว่าปัจจุบนั มีชาวฟิลปิ ปินส์มากกว่า 1 ล้ า นคนที่ ทำ�งานด้ า นคอลเซ็ น เตอร์ แ ละธุ ร กิ จ เอาท์ ซ อร์ ท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของสหรัฐอเมริกา งานดี รายได้ ง าม แบบนี้ เ ป็ น แรงจู ง ใจให้ อุ ต สาหกรรม คอลเซ็นเตอร์ และเอาท์ซอร์ทในฟิลิปปินส์เติบโตอย่างรวดเร็ว จนแซงหน้าอินเดีย ก้าวขึน้ สูต่ ำ�แหน่ง “เมืองหลวง คอลเซ็นเตอร์ ของโลก” เพราะหนุ่มสาวชาวฟิลิปปินส์ที่จบการศึกษาระดับ อุดมศึกษา กำ�ลังกระจายกำ�ลังเข้าควบคุมกิจการเกือบทุกประเภท ในภาคธุรกิจรับจ้างบริหารระบบธุรกิจ หรือ BPO มีการคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจนี้ประเมินว่าใน ปีหน้า อุตสาหกรรม BPO ของฟิลปิ ปินส์ จะทำ�รายได้เข้าประเทศ 25,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 10% ของเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ และมากพอๆ กับจำ�นวนเงินที่คาดว่าชาวฟิลิปปินส์ ที่ทำ�งาน ในต่างแดนในสาขาอาชีพต่างๆ เช่น พยาบาล กะลาสี นักดนตรี และแรงงานอืน่ ๆ ส่งกลับบ้านรวมกันราว 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เลยทีเดียว... เห็นข้อมูลของงานดี รายได้งามของฟิลิปปินส์แบบนี้แล้ว คงจะหันกลับมามองถึงความสำ�คัญของการฝึกทักษะทางภาษา กันแล้ว ว่าเพียงแค่มีความสามารถภาษาอังกฤษที่ดี ก็มีโอกาส ในการประกอบอาชีพดีๆ รายได้งามๆ แบบนี้ ไม่จำ�เป็นเฉพาะ ธุรกิจคอลเซ็นเตอร์ แต่ภาษาอังกฤษยังจะถูกใช้เป็นภาษากลาง ในการติดต่อสื่อสารกันระหว่างกลุ่มอาเซียน และภาษากลาง ในธุรกิจโลกต่อไป 25
Gold Knowledge วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
จูเก๋อเลี่ยง : เรื่อง
การเมืองโลกเปราะบาง เตรียมล้างกระดานการเงิน สวั ส ดี ค ร๊ า บบบท่ า นสมาชิ ก ทุ ก ท่ า น กลั บ มาพบกั บ “จูเก๋อเลีย่ ง” เป็นประจำ�ทุกฉบับนะครับ เผลอเดีย๋ วเดียวผ่าน ครึ่งปีแรกไปสะแล้ว ครึ่งปีแรกที่ผ่านมาในสายตาผมมองว่า มีเสียวอยู่หลายเรื่อง เสียวว่าเศรษฐกิจโลกจะพังพาบเพราะ ลูกหนีห้ วั หมออย่างกรีซ และอีกหนึง่ เสียวทีอ่ ยากจะหยิบยก ขึ้นมาพูดคุยในวันนี้คือเสียวว่านุก (ระเบิดนิวเคลียร์) จะลั่น เนื่องจากขั้วอำ�นาจตะวันออก-ตะวันตก ดูว่าจะเริ่มกลับมา ฮึ่มๆ กันอีกแล้ว บรรยากาศแบบนี้หายไปตั้งแต่หลังสงครามเย็น ที่อำ�นาจ ฝั่งตะวันออกต้องซุ่มแอบไปเลียแผล เนื่องจากไม่สามารถสู้ อำ�นาจพีก่ นั ได้ แม้พกี่ นั จะแพ้สงครามในหลายพืน้ ทีอ่ ย่างสงคราม เกาหลี สงครามเวียดนาม แต่ก็ต้องยอมรับว่าในด้านเศรษฐกิจ พี่กันเอาอยู่ ขยายอำ�นาจดอลลาร์ที่เปรียบเสมือนไวรัส คอมพิวเตอร์ไปสู่ธนาคารกลาง ทั่วโลก และในโลกยุค ใหม่ อ าวุ ธ ทาง เศรษฐกิ จ ก็ ใ ห้ ผ ล ดี
30
กว่ า อาวุ ธ ชนิ ด อื่ น และด้ ว ยความได้ เ ปรี ย บด้ า นเศรษฐกิ จ การเมือง ทำ�ให้เอาชนะสหภาพโซเวียตเดิมไปได้ แต่หลังจาก มหาอำ�นาจตะวันออกเลียแผลอยู่นานก็เริ่มที่จะกลับมาตีโต้ ทั้งในด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ประกอบกับพี่กันเองก็สะดุด ขาตัวเองจากวิกฤตปี 2008 ทำ�ให้เสียท่าไปเยอะ แต่แน่นอนว่า การจะให้อำ�นาจตะวันออกก้าวขึ้นมาค้ำ�คอง่ายๆ คงไม่ใช่วิสัย พี่กันเป็นแน่แท้ ต้องมีขัดแข้งขัดขากันบ้าง และการขัดแข้งขัดขา นี่เองทำ�ให้เสี่ยงที่จะเกิดเป็นเรื่องใหญ่โตหลายครั้ง จี น ถื อ เป็ น ประเทศที่ เ ติ บ โตแบบ ก้ า วกระโดด โดยเฉพาะ ในด้ า นเศรษฐกิ จ ด้ ว ย ศักยภาพด้านทรัพยากร ที่ มี อ ย่ า ง ม า ก ม า ย ไม่ ต้ อ งพู ด ถึ ง จำ�นวน ประชากรที่ถือเป็นกำ�ลัง ขับเคลือ่ นสำ�คัญ เรียกได้วา่ จีน ขยั บ ไปทางไหนที่ นั่ น ต้ อ งสะเทื อ น ใครก็อยากทีจ่ ะทำ�การค้าด้วย เนือ่ งจากเป็นตลาด ทีใ่ หญ่โตมโหระทึก เศรษฐกิจจีนเติบโตเป็นเลข สองหลั ก มาหลายปี ติ ด กั น ท่ า มกลางความ ไม่ ส บายใจของมหาอำ�นาจเดิ ม จนต้ อ งมี การกีดกันทางการค้าอยูห่ ลายครัง้ เพราะจีน เกินดุลการค้าเขาไปทั่ว โดยเฉพาะพี่กันเอง ก็ เ สี ย ดุ ล จี น อย่ า งมาก นอกจากนี้ จี น ยั ง ค่อยเดินยุทธศาสตร์ในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำ� ทางเศรษฐกิ จ ผ่ า นการสร้ า งพั น ธมิ ต ร การสร้ า งระบบทางการเงิ น เพื่ อ ไม่ ใ ห้ ร ะบบเดิ ม ที่ ช าติ ต ะวั น ตก สร้ า งไว้ ผู ก ขาดทางเศรษฐกิ จ ตัวอย่างเช่น ธนาคาร AIIB หรือ ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้าง พื้ น ฐานเอเชี ย โดยมี ช าติ ที่
วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
เข้าร่วมมากกว่า 50 ชาติ แม้แต่ชาติในยุโรปก็เอาด้วย นอกจาก นี้ จีนยังสามารถผลักดันค่าเงินหยวนให้เข้ามาอยู่ในหน่วย SDR ของ IMF ได้เป็นผลสำ�เร็จ ซึ่งเดิมทีผมคิดว่าจะต้องใช้เวลานาน กว่านี้ นอกจากจีนจะสยายปีกทางเศรษฐกิจที่เปรียบเสมือน สายบุ๋น ในด้านการทหารที่เป็นสายบู๊ จีนก็เดินหน้าไปอย่าง รวดเร็วจนน่าตกใจเรียกได้ว่าชั่วโมงนี้แทบไม่ต้องเกรงใจใคร ทั้งในด้านของกองกำ�ลังอาวุธยุทโธปกรณ์ พอจะรับมือพี่กันได้ สบายๆ แต่การขยายอำ�นาจทางการทหารก็ทำ�ให้ภูมิภาคเอเชีย ดู จ ะร้ อ นๆ ขึ้ น มา เพราะมี ข้ อ พิ พ าทในทะเลจี น ใต้ ที่ ส ร้ า ง ความบาดหมางใจกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างญี่ปุ่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ พี่กันก็ถือเอาเรื่องนี้มา “ลองของ” แต่ดูว่าจีนจะไม่ได้ กลัวพี่กันและยังเดินหน้าตามยุทธศาสตร์เดิมต่อ ส่วนพี่กันเอง ก็ เ ดิ น หน้ า เสริ มกำ�ลัง ให้พัน ธมิต ร อย่างญี่ปุ่น ก็ไ ด้ไฟเขี ย วใน การสร้างกองกำ�ลังของตนเอง ซึง่ แต่เดิมถูกคุมพฤติกรรมมาตัง้ แต่ ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง พื้นที่ในทะเลจีนใต้จึงกลายเป็น พื้นที่สีแดงที่เสี่ยงจะปะทุได้ทุกเมื่อ ด้านรัสเซียเองก็ถูกนาโต้ล้อมกรอบเข้ามาทุกที ยุทธศาสตร์
ในการรุกคืบและปิดล้อมรัสเซียดำ�เนินการมานานด้วยความ พยายามที่จะดึงชาติที่เคยอยู่ใต้รักแร้ของหมีขาวมาเข้าพวกกับ ขัว้ อำ�นาจตะวันตก ทีช่ ดั เจนทีส่ ดุ ก็คงเป็นกรณียเู ครนทีเ่ พิง่ เกิดขึน้ ไปเมือ่ ไม่นานมานี้ แต่รสั เซียก็ยงั คงเป็นรัสเซีย ทีเ่ ดินเกมส์โต้กลับ แบบตรงไปตรงมา ทำ�ให้ยุโรปตะวันออกกลายเป็นพื้นที่สีแดง ไปอีกแห่ง นาโต้ได้เพิม่ กำ�ลังทหารเข้าไปดูแลพืน้ ทีย่ โุ รปตะวันออก ยิ่งเป็นการทำ�ให้หมีขาวหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก ขู่จะเพิ่มปริมาณ “นุก” อีก 40 หัว เรียกได้ว่ามหาอำ�นาจตะวันตกก็มีเสียว จะเห็น ได้ว่าการเมืองโลกทุกวันนี้ร้อนไม่แพ้อากาศ แหม...เขี ย นมาถึ ง ตรงนี้ จ ะไม่ พู ด ถึ ง ทองหน่ อ ยก็ ดู จ ะผิ ด คอนเซ็ป จะเห็นว่าจากความเสียว เอ้ยย!! ความเสี่ยงทางการ เมืองที่กล่าวถึงทองคำ�ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยและถือเป็น เครื่องชี้ความมั่นคงทางเศรษฐกิจในฐานะทุนสำ�รองที่สำ�คัญก็ คงจะเป็นสินทรัพย์ที่มี “โอกาส” ในระยะยาวกันละครับ ดังนั้น คนที่ถือทองกันไว้ก็นอนอุ่นใจกันได้ว่าวันหนึ่ง (ไม่รู้เมื่อไหร่) ทองคำ�จะกลับกลายมาเป็นสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนงามๆ อีกครั้ง วันนี้ลากันไปก่อนครับ พบกันใหม่ฉบับหน้า สวัสดีครับ
ขอขอบคุณรูปจาก : HTTPS://C2.STATICFLICKR.COM/4/3220/2616525295_0155348254_B.JPG
31
Gold Research วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณี และเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) : เรื่อง
ข้ามวิกฤติ คว้าโอกาสเครือ่ งประดับทองไทยในตลาดเวียดนาม
ประเทศไทยและอีก 9 ประเทศสมาชิกอาเซียนกำ�ลังจะก้าวสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างสมบูรณ์ใน ปลายปี 2558 นี้แล้ว ซึ่งอุปสรรคทางการค้าและการลงทุนระหว่างกันกำ�ลังจะหมดไป เชื่อว่าผู้ประกอบการต่างกำ�ลังเตรียม ใช้โอกาสนี้ ในการรุกเข้าสู่ตลาดประเทศสมาชิกอาเซียน โดยมีเวียดนามเป็นตัวเลือกในอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน เนื่องจาก เป็นตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ ที่มีประชากรกว่า 94 ล้านคน ประชาชนมีรายได้และกำ�ลังซื้อสูงตามการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งขยายตัวอย่างโดดเด่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ในส่วนสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับซึ่งถือเป็นสินค้าไทย ที่มีศักยภาพและเป็นสินค้าส่งออกสูงสุดติดหนึ่งในห้าอันดับแรก ของประเทศมาเกือบสิบปีนนั้ มีโอกาสมากพอสมควรในเวียดนาม เนื่องจากปัจจุบันเวียดนาม เริ่มเป็นตลาดผู้บริโภคเครื่องประดับ ขนาดใหญ่ โดยเฉพาะเครือ่ งประดับทองถือเป็นส่วนตลาดทีใ่ หญ่ ที่สุดในบรรดาเครื่องประดับทุกประเภท ผู้เชี่ยวชาญในตลาดเครื่องประดับเวียดนามประมาณการไว้ ว่าชาวเวียดนามใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อเครื่องประดับทองในแต่ละปี ราว 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ และตลาดยังมีแนวโน้มขยายตัว สูงขึ้นได้อีก จากการเพิ่มจำ�นวนของชนชั้นกลาง ซึ่งจะส่งผล ให้ความต้องการบริโภคเครื่องประดับทอง เพื่อสะท้อนฐานะ ทางสังคมและเพื่อสะสมเป็นสินทรัพย์เพิ่มขึ้นตามไปด้วย เครื่องประดับทอง สินค้ายอดนิยมในเวียดนาม ชาวเวียดนามนิยมบริโภคเครื่องประดับทองเป็นอย่างมาก เฉกเช่นเดียวกับชาวอาเซียนอืน่ ๆ โดย ปกติแล้วเมือ่ คนเวียดนาม มีรายได้มา ก็มกั จะรวบรวมไว้เพือ่ ซือ้ ทองคำ� หรือเครือ่ งประดับทอง โดยเฉพาะเครือ่ งประดับทอง 24 กะรัตเป็นสินค้าทีช่ าวเวียดนาม 32
ซื้ อ เก็ บ เพื่ อ สะสมความมั่ ง คั่ ง แทนการออมเงิ น เนื่ อ งจาก ความไม่มั่นใจในเสถียรภาพของค่าเงินด่อง ตลอดจนสวมใส่ แสดงฐานะทางสังคม ทั้งนี้ เครื่องประดับทอง 24 กะรัตที่จำ�หน่ายในเวียดนาม มี ค่ า ความบริ สุ ท ธิ์ ข องทองคำ� 99.99% ซึ่ ง เป็ น มาตรฐานที่ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเวียดนามกำ�หนดไว้ ส่วน ลวดลายเครื่ อ งประดั บ ทองที่ ข ายดี ที่ สุ ด ในเวี ย ดนามมั ก เป็ น ลายธรรมชาติ โดยเฉพาะลายดอกไม้ชนิดต่างๆ รวมถึงลายใบไม้ และผลไม้ ซึ่งชาวเวียดนามเห็นว่าเป็นลวดลายที่สามารถใส่เข้า กับชุดประจำ�ชาติ หรืออ๋าวหญ่าย ได้เหมาะสมที่สุด ส่วนการเลือกซื้อเครื่องประดับทองของชาวเวียดนามนั้น จะแตกต่างกันตามแต่ละวัยและระดับรายได้ สำ�หรับผูท้ คี่ อ่ นข้าง มีอายุและกลุม่ ผูม้ รี ายได้สงู มักนิยมซือ้ เครือ่ งประดับทองสีเหลือง 24 กะรัต แบบครบชุดซึ่งประกอบด้วยสร้อยคอ กำ�ไล และต่างหู ส่ ว นคนรุ่ น ใหม่ นิ ย มซื้ อ เครื่ อ งประดั บ ทองแบบชิ้ น เดี่ ย วและ สวมใส่ครั้งละหนึ่งชิ้น นอกจากนี้ ยังนิยมเครื่องประดับทองคำ� สีเหลืองและทองขาว 18 และ 14 กะรัต ลวดลายทันสมัย ทั้ ง ตกแต่ ง และไม่ ต กแต่ ง อั ญ มณี อี ก ด้ ว ย โดยส่ ว นใหญ่ ช าว
JULY - AUGUST 2015
เวียดนามแต่ละคนมักจะต้องมีเครื่องประดับทองสีเหลือง 24 กะรัตแบบครบชุด เก็บไว้เพื่อนำ�ออกมาสวมใส่ เวลาออกงาน สำ�คัญต่างๆ สำ�หรับราคาเครื่องประดับทองจะขึ้นลงตามราคาทองคำ� ในตลาดโลก เช่นในช่วงต้นเดือนมิ.ย. 58 เครื่องประดับทอง 24 กะรัต ราคาเฉลี่ยกรัมละ 36-40 เหรียญสหรัฐฯ เครื่องประดับ ทอง 18 กะรัต จะมีราคากรัมละ 25-29 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนเครือ่ ง ประดั บ ทองขาวหรื อ ทองสี เ หลื อ งตกแต่ ง อั ญ มณี จะมี ร าคา แตกต่างกัน ขึน้ อยูก่ บั แบรนด์และชนิดของอัญมณีทนี่ ำ�มาตกแต่ง เช่น แบรนด์ DOJI จำ�หน่าย แหวนทอง 18 กะรัต ตกแต่งด้วย ทับทิมสตาร์ขนาด 20-30 สตางค์ ราคาอยูท่ ี่ 3,463 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนแบรนด์ Celin สร้อยคอทองขาว 18 กะรัตลายดอกไม้ ตกแต่งด้วย เพชร แซปไฟร์สีชมพู และสีเขียวราคา 96,000 เหรียญสหรัฐฯ เป็นต้น ทัง้ นี้ เนือ่ งด้วยเวียดนามมีผบู้ ริโภคเครือ่ งประดับทองจำ�นวน มาก ส่งผลให้มีบริษัทผู้ผลิตและค้าเครื่องประดับทองคำ�แย่งชิง ส่วนแบ่งตลาดจากเค้กก้อนใหญ่ชิ้นนี้ถึง 12,000 ราย หากแต่ ส่วนใหญ่มักเป็นกิจการขนาดกลางและขนาดเล็ก ขณะที่มีผู้เล่น รายใหญ่อยูไ่ ม่กรี่ ายทีส่ ามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้อย่างชัดเจน เนือ่ งด้วยมีแบรนด์ทเี่ ข้มแข็งและมีชอ่ งทางกระจายสินค้าจำ�นวน มากเป็นของตนเอง โดยมีบริษัทที่ครองตลาดเครื่องประดับ ทองในสั ด ส่ ว นสู ง เป็น บริษัทท้อ งถิ่น อาทิ Saigon Jewelry Company ผู้ ผ ลิ ต และจำ�หน่ า ยแบรนด์ SJC, Phu Nhuan Jewelry Joint Stock ผู้ผลิตและจำ�หน่ายแบรนด์ PNJ และ DOJI Gold & Gems Group ผู้ผลิต และจำ�หน่ายแบรนด์ DOJI เป็นต้น
วารสารทองค�ำ
ความท้าทายในการส่งออกเครื่องประดับทองไทยไปยัง เวียดนาม ผู้ประกอบการไทยอาจสงสัยว่าตลาดเครื่องประดับทอง เวียดนาม มีผเู้ ล่นรายใหญ่เป็นกิจการท้องถิน่ อยูแ่ ล้ว จะมีโอกาส แทรกตัวเข้าไปได้อย่างไร หากท่านเป็นผู้แสวงหาโอกาส ท่านจะ ไม่สามารถพลาดตลาดผูบ้ ริโภคขนาดใหญ่และมีกำ�ลังซือ้ ทีส่ งู ขึน้ ต่อเนื่องอย่างเวียดนามไปได้ แบรนด์ต่างชาติหลายรายต่างมอง เห็นโอกาสนีแ้ ละไม่รอช้าทีจ่ ะเข้าไปทำ�ตลาดในเวียดนามบ้างแล้ว อาทิ Celin (อิตาลี) และ Tomei (มาเลเซีย) เป็นต้น ส่วนแบรนด์ของไทยทีค่ ว้าโอกาสนีไ้ ว้และประสบความสำ�เร็จ อย่ า งเห็ น ได้ ชั ด ในตลาดเวี ย ดนามก็ คือ Prima Gold สินค้า ภายใต้บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำ�กัด (มหาชน) กับยอดขาย ที่ทะลุเป้าจนต้องขยายร้านค้าจำ�หน่ายเป็น 11 แห่งในโฮจิมินห์ และฮานอยภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี โอกาสนั้ น ย่ อมมี อยู่ คู่กั บความท้ า ทาย โดยทั่ วไปเครื่อ ง ประดับทองที่จำ�หน่ายในเวียดนามเป็นทอง 99.99% ซึ่งสำ�หรับ ประเทศไทยแล้วมีการผลิตไม่มาก เนื่องจากไม่เป็นที่นิยมใน ประเทศ โดยส่วนใหญ่ทองทีจ่ ำ�หน่ายในไทยเป็นเครือ่ งประดับทอง ที่มีค่าความบริสุทธิ์ 96.5% หรือที่เรียกกันว่า “ทองเยาวราช” ทั้งนี้ ผู้ผลิตส่วนมากเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือนร่วมกับผู้ผลิต รายใหญ่ทมี่ โี รงงานของตัวเอง หรืออาศัยการจ่ายงานให้กบั ผูผ้ ลิต รายย่อยเหล่านัน้ และยังไม่ได้พฒ ั นาให้เป็นอุตสาหกรรมส่งออก อย่างชัดเจน จึงทำ�ให้ลกั ษณะการผลิตเครือ่ งประดับทองของไทย เกือบทั้งหมด จะเป็นงานทำ�มือ อาศัยฝีมือช่างเป็นหลัก ทำ�ให้ ลวดลายทีไ่ ด้ มีความละเอียดอ่อน ประณีต สวยงาม และมีความ หลากหลาย ซึ่งลวดลายการผลิตก็มีลวดลายธรรมชาติอย่าง ดอกไม้ชนิดต่างๆ คล้ายกับเครื่องประดับในเวียดนามอยู่แล้ว อนึ่ง ผู้ผลิตไทยบางรายที่ผลิตเครื่องประดับทอง 96.5% ก็ผลิตเครื่องประดับทอง 99.99% จำ�หน่ายได้ เนื่องจากขั้นตอน และวิธีการผลิตเหมือนกันทุกอย่าง เพียงแต่เปอร์เซ็นต์ทองที่ สูงขึน้ จะทำ�ลวดลายได้ยากขึน้ และจะต้องใช้ความพิถพี ถิ นั ความ ละเอียดอ่อนเป็นพิเศษ ด้วยทักษะฝีมือแรงงานของไทยที่อยู่ ในระดับสูง ทำ�ให้ไทยสามารถพัฒนาการผลิตเครื่องประดับทอง เป็น 99.99% และออกแบบลายได้ตรงกับความต้องการของผูซ้ อื้ ชาวเวียดนามได้ไม่ยาก แต่ เ นื่ อ งจากปั จ จุ บั น อุ ต สาหกรรมเครื่ อ งประดั บ ทอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกิจการขนาดกลางและเล็กกำ�ลังเผชิญกับปัญหา การขาดแคลนช่างฝีมือ ทำ�ให้ปริมาณการผลิตในประเทศไม่ เพียงพอ จึงยากที่จะผลิตสินค้าเครื่องประดับทองเพี่อส่งออกได้ 33
วารสารทองค�ำ
ประเด็นแรงงานจึงนับเป็นอุปสรรคสำ�คัญในการพัฒนาการผลิต เครื่องประดับของไทย เพื่อขยายโอกาสการส่งออกไปในตลาด ใหม่อย่างเวียดนาม การจะเข้าไปขยายธุรกิจเครือ่ งประดับทองในตลาดเวียดนาม ในความเห็นของ คุณจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ� มองว่ามีโอกาสแต่ก็มีอุปสรรคด้านแรงงานเป็นปัจจัยสำ�คัญ เนื่องจากการผลิตเครื่องประดับทองของเวียดนามยังไม่ได้รับ การพัฒนามากนัก ฝีมือการผลิตจึงสู้ไทยไม่ได้ ดังนั้น ไทยจึงได้ เปรียบในเรือ่ งของฝีมอื ทีป่ ระณีต อ่อนช้อย รวมถึงความสามารถ ของช่างไทยในการออกแบบและทำ�ลวดลายต่างๆ ได้อย่างสมจริง และสวยงาม ด้านการผลิตของไทยที่จะพัฒนาเป็นเครื่องประดับทอง 99.99% ให้สอดคล้องกับความนิยมในเวียดนามนั้น สามารถ ทำ�ได้อยู่แล้ว เนื่องด้วยปัจจุบันหลายบริษัทก็มีการผลิตเครื่อง ประดับทอง 99.99% จำ�หน่ายในประเทศ หากแต่ยังมีสัดส่วน น้อย เพราะคนไทยไม่นิยม ส่วนใหญ่จะนิยมทอง 96.5% สำ�หรับอุปสรรคสำ�คัญของไทยในการเข้าสู่ตลาดเวียดนาม เป็นเรื่องความไม่พร้อมของผู้ประกอบการไทย และปัญหาการ ขาดแคลนแรงงานทีก่ ำ�ลังส่งผลกระทบต่อการผลิตภายในประเทศ อยู่ในขณะนี้ การขาดแคลนช่างฝีมือทำ�ให้ไม่มีกำ�ลังการผลิต มากพอที่จะเพิ่มปริมาณการผลิตเพื่อส่งออกไปยังเวียดนาม หรื อ ประเทศอื่ น ได้ ซึ่ ง เรื่ อ งนี้ ค งต้ อ งช่ ว ยกั น แก้ ปั ญ หาเป็ น การเร่งด่วน ขณะที่ คุณสมศักดิ์ ตัณฑชน เจ้าของบริษัท ชายน์นิ่ง โกลด์ จำ�กัด ให้ความเห็นว่า ผู้ประกอบการไทย ที่ผลิตทอง 96.5% ใน ปัจจุบนั ก็ทำ�ทอง 99.99% ด้วยอยูแ่ ล้ว เพราะว่าขัน้ ตอนการผลิต 34
JULY - AUGUST 2015
ต่างๆ เหมือนกันหมด แต่ถา้ จะขยายโอกาสการส่งออก ด้วยการ พัฒนาผู้ผลิตทอง 75% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ส่งออกอยู่แล้วนั้น ให้มาผลิตทอง 99.99% ได้ด้วยนั้น ค่อนข้างยาก เนื่องจาก ทอง 99.99% นิ่มและทำ�ลวดลายยากกว่าการทำ�ทอง 75% หากไม่มีฝีมือการผลิตหรือความชำ�นาญมากพอก็จะทำ�ได้ยาก ส่วนตลาดเวียดนามนั้นก็น่าสนใจเข้าไปทำ�ตลาด รวมถึง กัมพูชา ลาว และเมียนมาร์ ประเทศเหล่านี้ก็นิยมทอง 99.99% และนิยมเครื่องประดับทองของไทยเป็นทุนเดิม ซึ่งในส่วนของ บริษัทนั้น มีความสามารถและศักยภาพเพียงพอที่จะผลิต เพื่อ จำ�หน่ายในประเทศเหล่านี้อยู่แล้ว นอกจากนี้ ภาพศิลปะซึ่งผลิตจากทองคำ� 99.99% ก็เป็น อีกหนึ่งสินค้าที่ได้รับความนิยมพอสมควรในตลาดเวียดนาม โดยภาพหัตถศิลป์ทองคำ�มีวางจำ�หน่ายทัว่ ไปตามห้างสรรพสินค้า ในเมืองใหญ่อย่างโฮจิมนิ ห์ และฮานอย ซึง่ สะท้อนให้เห็นถึงความ ชื่นชอบการสะสมสินค้าที่เกี่ยวกับทองคำ� โดยผู้ซื้อส่วนใหญ่ จะเป็นผูม้ ฐี านะดี ทีม่ กั จะซือ้ ภาพศิลปะทองคำ�ไว้ตกแต่งบ้าน และ มอบเป็ น ของขวั ญ หรื อ ของกำ�นั ล ในเทศกาลสำ�คั ญ ต่ า งๆ ปัจจุบันมีผู้ผลิต 2 รายที่จำ�หน่ายภาพศิลปะทองคำ� คือ Celin และ Prima Gold ฉะนั้น จึงมีที่ว่างสำ�หรับผู้ผลิตไทยที่มีความ พร้อมมากพอที่จะใช้โอกาสนี้ ในการรุกตลาดภาพศิลปะทองคำ� ในเวียดนาม กล่าวโดยสรุป สินค้าเครื่องประดับทองของไทยมีจุดแข็ง หลายประการ ทั้ ง ความงดงามอ่ อ นช้ อ ย จากฝี มื อ การผลิ ต และการออกแบบ ตลอดจนคุณภาพการผลิต ที่ได้มาตรฐานเป็น ที่ยอมรับระดับสากล รวมถึงชาวเวียดนามเองก็นิยมสินค้าไทย อยูไ่ ม่นอ้ ย ซึง่ ทัง้ หมดนีถ้ อื เป็นข้อได้เปรียบสำ�หรับผูป้ ระกอบการ ไทยในการกรุยทางเข้าสู่ตลาดเวียดนามได้ ขณะเดียวกันภาคอุตสาหกรรมไทยกลับยังต้องเผชิญปัญหา ภายในอย่างการขาดแคลนแรงงานฝีมือ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำ�คัญ ในการพั ฒ นาการผลิ ต สิ น ค้ า เพื่ อ ขยายโอกาสในการส่ ง ออก ดังนั้น ผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจไปยังตลาดเวียดนาม หรื อ ประเทศอื่ น จะต้ อ งเตรี ย มพร้ อ มปรั บ กลยุ ท ธ์ เร่ ง หา หนทางในการเพิ่มจำ�นวนแรงงานฝีมือ หรือเร่งพัฒนาปรับปรุง กระบวนการผลิต โดยนำ�เทคโนโลยีทที่ นั สมัยมาใช้ผลิตสินค้า เพือ่ เพิ่ ม ประสิ ท ธิ ภ าพการผลิ ต ให้ ม ากขึ้ น ก็ น่ า จะทำ�ให้ ก้ า วข้ า ม อุปสรรค คว้าโอกาสที่มีอยู่ได้ไม่ยากนัก ขอขอบคุณรูปจาก http://www.bullionstreet.com/uploads/news/2011/11/1320126697.jpg http://toancanhbaochi.vn/pictures/picfullsizes/2015/02/10/pqz1423524086.jpg http://www.kingofgoldbuyers.com/wp-content/uploads/2012/04/IMG_6745.jpg
วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
Ausiris Futures : เรื่อง
แนะจับตาการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ�ในไตรมาส 3 ใกล้ชิด ภาพรวมไตรมาสแรกด้านอุปสงค์และอุปทานของทองคำ� นัน้ ยังคงทรงตัว หลังธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ทัว่ โลก เริ่มปรับพอร์ตเข้าสะสมทองคำ� แม้การบริโภคทองคำ�ใน รูปแบบเครื่องประดับจากจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในโลก จะอ่ อ นตั ว ลงมาบ้ า ง แต่ มุ ม มองของนั ก ลงทุ น ในกองทุ น ทองคำ� (ETF) เริ่มกลับเข้ามาซื้อเมื่อเทียบกับสองปีก่อน หน้านี้ ในขณะเหมืองทองคำ�นั้นมีการผลิตที่เพิ่มขึ้นถึง 2% ทำ�ให้ภาพรวมของอุปสงค์และอุปทานไตรมาสแรกของปีนี้ ค่อนข้างทรงตัว ด้านสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจโลกนั้นกลับเป็น ปั จ จั ย บวกต่ อ ราคาทองคำ�พอสมควรหลั ง จากประเทศกรี ซ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศยูโร (Euro Zone) ประสบปัญหาไม่มี เงินชำ�ระหนี้ต่อเจ้าหนี้ (IMF, ECB,เยอรมัน,ฝรั่งเศส) หลังมี การประชุมหาทางออกกับบรรดาเจ้าหนี้กินระยะเวลาร่วมสอง ไตรมาสแรกของปีนี้ แต่ล่าสุดก็ยังไม่มีบทสรุปที่ชัดเจนออกมา อย่างไรก็ตาม ทั้งที่ประเด็นดังกล่าวมีโอกาสที่จะส่งผลบวก ต่ อ ราคาทองคำ� ในฐานะที่ เ ป็ น สิ น ทรั พ ย์ ป ลอดภั ย กลั บ ไม่ สะท้อนออกมามากนัก เนื่องจากมีปัจจัยลบเข้ามากดดันหลัง ธนาคารกลางสหรัฐฯ ออกมา ประกาศว่ามีโอกาสที่สหรัฐฯจะ ปรับขึ้นดอกเบี้ยในปลายปีนี้ ส่งผลให้เงินทุนกลับไหลเข้าไปใน พันธบัตรสหรัฐฯ แทนที่จะเป็นทองคำ� ซึ่งสะท้อนให้เห็นใน รู ป แบบของค่ า เงิ น ดอลล่ า ห์ ส หรั ฐ ฯที่ แข็ ง ค่ า ขึ้ น มาโดยตลอด ในปีนี้ (การแข็งค่าของดอลล่าห์สหรัฐฯ และการลดดอกเบี้ยของ ธนาคารแห่งประเทศไทยเดือนพ.ค. ปีนี้ ส่งผลให้คา่ เงินบาทปรับ ตัวอ่อนไปตามกลไกของค่าเงินเช่นกัน) ทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ�ในไตรมาส 3/2558
การเคลื่อนไหวของราคาทองคำ�ในปีนี้ค่อนข้างผันผวนใน ไตรมาส 1/2558 ที่ผ่านมา ต้นปีเดือน ม.ค. ราคาปรับตัวขึ้นไปที่ 1300 $/Oz ก่อนเจอแรงเทขายทำ�กำ�ไรตลอดเดือน ก.พ. และมี.ค. จนราคาปรับตัวลงมา ทำ�จุดต่ำ�สุดของปีที่ 1150 $/Oz แต่หลัง จากนัน้ ในไตรมาส 2/2558 ราคาทองคำ�กลับเคลือ่ นไหวในกรอบ 1150-1230 $/Oz โดยอ่อนตัวลงอีกครั้งในช่วงต้นของไตรมาส 3/2558 ซึ่งมีจุดต่ำ�สุดของราคาใกล้เคียงกับของไตรมาส 2/2558 และไม่ไกลจากจุดที่ราคาต่ำ�ที่สุดหลังจากปี 2011 เป็นต้นมา ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 3/2558-4/2558 เป็นช่วงที่ต้องจับตา มากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีปัจจัยสำ�คัญให้ติดตามพอสมควร โดยเริ่มแรกคือตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวลงมากกว่า 40% หลังเจอ แรงเทขายนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. ที่ผ่านมาซึ่งอาจทำ�ให้มีเงินทุน ไหลเข้ามาพักที่ทองคำ�บ้าง แต่ปัจจัยที่ต้องติดตามต่อไปคือ การประกาศขึน้ อัตราดอกเบีย้ ของธนาคารกลางสหรัฐฯ เบือ้ งต้น มีความเป็นไปได้ทจี่ ะประกาศขึน้ ดอกเบีย้ ในเดือน ก.ย. และ ธ.ค. ปีนี้ ซึง่ หากเกิดเหตุการดังกล่าว จะส่งผลให้ราคาทองคำ�อาจปรับ ตั ว ขึ้ น ไปได้ น้ อ ย เพราะเงิ น ทุ น จะไหลเข้ า ไปลงทุ น ในตลาด พันธบัตรสหรัฐฯมากกว่าลงทุนในทองคำ� อย่างไรก็ตาม ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น ผลสรุปเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยยังคงไม่ชี้ชัดลง ไป เนื่องจากคณะกรรมการส่วนใหญ่ ยังคงคิดว่าต้องติดตาม ดูตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯต่อไปอีกก่อนประชุมครั้งถัดไป ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นปัจจัยบวกกับราคาทองคำ�พอ สมควร (ราคาทองคำ�เริม่ มีการปรับตัวขึน้ จากจุดต่ำ�สุดขึน้ มาบ้าง) ทั้งนี้ คาดว่าราคาทองคำ�ในไตรมาส 3/2558 นั้นยังคง เคลื่อนไหวในกรอบกว้างๆ ต่อไป (ประเมินไว้อยู่ที่ 1140-1230 $/Oz) ซึง่ การทยอย ณ จุดทีร่ าคาต่ำ�ๆ เพือ่ ลงทุนระยะกลาง หรือ การทยอยซือ้ ทุกเดือนๆ ละเท่าๆ กันจะเป็นการลงทุนทีเ่ หมาะสม สำ�หรับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ�ที่ยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน ในช่วงนี้
โดย บริษทั ออสสิรสิ ฟิวเจอร์ส จ�ำกัด www.ausiris.co.th โทร. 0-2633-5299
36
วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
YLG Group : เรื่อง
จับชีพจรการลงทุนในตลาดทองคำ�โลก ในช่วงหลายปีมานี้จะเห็นได้ว่าราคาทองคำ�อยู่ในช่วง แนวโน้ ม ขาลง หลั ง จากที่ ร าคาปรั บ ตั ว ขึ้ น ทำ � จุ ด สู ง สุ ด ที่ บริเวณ 1,920 ดอลลาร์ตอ่ ออนซ์ ในปี 2011 โดยในช่วงกลาง ปี 2012-2013 ราคาทองคำ�ได้ปรับตัวลงอย่างมากและเริ่ม ซึมลงในช่วงปี 2014 จนถึงปัจจุบัน ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจาก เศรษฐกิจสหรัฐฯที่เริ่มฟื้นตัวและมาตรการทางการเงินของ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เริ่มหดตัวมากขึ้น สะท้อนความ เชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯได้ค่อนข้างมาก จากแนวโน้ ม การฟื้ น ตั ว ที่ เ กิ ด ขึ้ น ส่ ง ผลทำ�ให้ ท องคำ�ใน ฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยถูกลดทอนความสำ�คัญลง โดยจะเห็น ได้ชัดเจนจากการลงทุนในทองคำ� ซึ่งทางสภาทองคำ�โลกได้ เปิดเผยออกมา โดยจากแผนภูมิด้านล่างจะเห็นได้ว่ากองทุน
SPDR(GLD) นั้ น ได้ มี แ นวโน้ ม ลดการถื อ ครองทองคำ�ลงจน ในปี 2013 เป็นต้นมาได้มีสถานะขายสุทธิต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ซึง่ ไม่แตกต่างจากสินทรัพย์อนื่ (ยกเว้นกองทุน SPDR) ทีม่ ที องคำ� เป็นสินทรัพย์อ้างอิง ดังนั้น การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ�นั้น อาจจะค่อน ข้างยากในช่วงเวลานี้ เพราะต้องยอมรับว่าแรงซื้อจากบรรดา นั ก ลงทุ น ในส่ ว นนี้ แ ม้ จ ะเป็ น สั ด ส่ ว นที่ ไ ม่ ม ากเท่ า การลงทุ น ในทองคำ�แท่ ง หรื อ เหรี ย ญทองคำ�โดยตรง แต่ ดู เ หมื อ นว่ า จะสามารถสร้ า งจิ ต วิ ท ยาต่ อตลาดทองคำ�ได้ ซึ่ งหากยัง ไม่มี ประเด็นอะไรที่เพิ่มเติมจนทำ�ให้การลงทุนในส่วนนี้ปรับตัวเพิ่ม ขึ้น ย่อมขัดขวางการเปลี่ยนแนวโน้มของราคาทองคำ�ให้ปรับตัว ขึ้นไปได้
การเปลี่ยนแปลงการถือทองคำ�ของสินทรัพย์ที่อ้างอิงด้วยทองคำ�
ที่มา WGC หมายเหตุ : GLD คือกองทุน SPDR GOLD SHARES ETPs ex GLD คือ สินทรัพย์ที่มีทองคำ�เป็นสินค้าอ้างอิงยกเว้น GLD โดย บริษทั วายแอลจี บูลเลีย่ น แอนด์ ฟิวเจอร์ส จ�ำกัด www.ylgbullion.com 0-2577-5520 0-2287-1155
37
คิดเป็นเงินเป็นทอง วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
สัตกร วงศ์สงคราม
ดูแลลูกน้องอย่างไรได้ทั้งใจได้ทั้งเงิน ในขณะทีน่ กั ศึกษาจบใหม่บน่ ว่าหางานทำ�ไม่ได้ นายจ้าง ก็ บ่ น ว่ า หาลู ก จ้ า งไม่ ไ ด้ เช่ น กั น ไม่ ส มดุ ล กั น เอาเสี ย เลย ยิ่ ง งานบางชนิ ด น้ อ งๆ ที่ จ บปริ ญ ญาตรี บ างคนต่ า งร้ อ งอี๊ ปฏิเสธเสียงแข็ง อย่างเช่นงานขายหน้าร้าน ไม่ก็งานเสิร์ฟ อาหาร แคชเชียร์ เจ้าของธุรกิจจึงต้องพึ่งแรงงานต่างด้าว ซึง่ บางครัง้ ก็ประสบปัญหาด้านการสือ่ สาร กว่าจะคุยกันรูเ้ รือ่ ง ลูกค้าก็โกยแนบไปแล้ว บางทีนายจ้างก็ได้ลกู จ้างไม่ถกู ใจ ทำ�อะไรไม่เป็น แม้จะสอน แล้วก็ทำ�ผิดๆ ถูกๆ บางที ลูกจ้างเก่งๆ ก็อยู่ประเดี๋ยวประด๋าว ก็ลาไปซบอกที่ใหม่ เป็นอย่างนี้เรื่อยไป จนหลายคนเกิดคำ�ถาม ในใจว่า ทำ�อย่างไรจะหาลูกจ้างดีๆ มาทำ�งาน แล้วต้อง ทนทาน อยู่ไปนานแสนนาน ไม่ต้องหาใหม่ หรือสอนงานใหม่ อยู่ร่ำ�ไป เปิดประเด็นกันสัก 2 ประเด็นก็แล้วกันนะครับ แล้วท่าน ผู้อ่านลองถกกับผมในใจไปทีละประเด็น เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ประหนึ่งว่าผมกำ�ลังนั่งคุยกับท่านอยู่นะครับ • ประเด็ น แรก “ความคาดหวั ง ของเจ้ า นายที่ มี ต่ อ ลูกน้อง” หรือทีบ่ างคนบอกว่า “ลูกน้องในฝันแบบนีน้ ะ่ มีมยั้ ” จริงหรือไม่ที่.... เจ้านายอยากได้ลูกน้องเก่ง เอาขั้นเทพไปเลยยิ่งดี ยิ่งถ้า เป็นฝ่ายขาย ก็ต้องขายเก่งมาก วางเป้าหมายให้เท่าไหร่ ก็ทำ�จน ทะลุเป้า เป้าทะลุเป็นรูพรุนไปเลย เคยได้ยินมั้ยครับว่า ลูกค้าซื้อ เพราะพนักงานขายคนนีเ้ ป็นคนขาย ถ้าไม่ใช่คนนีไ้ ม่ซอื้ ลูกค้าติด ลูกน้องเรา การโปรยเสน่ห์ในการบริการ ช่างจำ�นรรจา เจรจาต่อ รองเก่ง พูดจาดี เพราะพริ้งน่าฟัง นอบน้อมถ่อมตน อัธยาศัยดี เชื่อมั้ยครับ ลูกน้องเก่งๆ มักจะดึงดูดลูกค้าเข้าร้าน เรียกว่า เป็นแม็กเนทชั้นเยี่ยมเลยล่ะครับ ยิ่งลูกน้องที่มีหัวใจการบริการ สูงๆ ทำ�งานถวายชีวิตชนิดลูกค้าอยากกินก็ป้อน อยากนอน ก็กล่อมเลยล่ะครับ เราแทบจะไม่เคยเห็นลูกน้องแบบนี้หน้าหงิก หรือชักสีหน้าไม่พอใจลูกค้าเลย แม้จะอยู่ในสถานะไม่พร้อมที่ จะทำ�งานในขณะนั้น เช่น เจ็บไข้ได้ป่วยบ้าง สภาพปัญหาทาง บ้าน เศรษฐกิจส่วนตัวบ้าง แต่เขาจะรู้ว่า ขณะนี้เวลาทำ�งาน เขาจะทำ�ให้ ดี ที่ สุ ด เข้าทำ�นอง “The show must go on” การแสดงต้องดำ�เนินต่อไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม 38
BOSS
เจ้านายอยากได้ลูกน้องที่มีความจงรักภักดีต่อองค์กร รัก องค์กรเหมือนบ้านตัวเอง ดูแลเอาใจใส่ทรัพย์สินขององค์กร ประหนึ่งเป็นของตัวเอง ลองให้เขาใช้รถของบริษัทดู เขาจะดูแล เอาใจใส่เป็นอย่างดี รับรองรถไม่สกปรก ถ้าใครตามคิดได้แบบนี้ เขาจะปฏิบัติต่อทรัพย์สินอย่างดีเยี่ยม คนที่มีความจงรักภักดี ต่อองค์กรสูงจะมีลักษณะ 5 ประการ ดังนี้ 1) รักในรูปแบบธุรกิจ และรักในงานทีท่ ำ� คือไม่ได้ทำ�ไปวันๆ ทำ�แก้ขัดเพราะไม่มีอะไรจะทำ� กลัวตกงานเลยทำ� แต่ทำ�เพราะ เป็นงานที่รัก งานที่ชอบ 2) รักในองค์กรของตน คือปกป้ององค์กรสุดชีวิต ใครว่า เป็นไม่ได้ต้องออกรับแทน แก้ต่างให้ทันที 3) รั ก ในผลิ ต ภั ณ ฑ์ ข องตน เคยเห็ น ดาราบางคนเป็ น presenter ให้รถยนต์ยี่ห้อหนึ่ง แต่ไปขับรถอีกยี่ห้อหนึ่ง บางคน ถ่ายโฆษณาเครื่องสำ�อางยี่ห้อนี้แต่แอบใช้อีกยี่ห้อหนึ่ง อย่างนี้ ไม่ได้รกั จริง คือคนทีร่ กั จริงเขาจะสะกดจิตตัวเองไปเลยว่า “สินค้า ของฉันดีที่สุดแล้ว” 4) รั ก และรู้ สึ ก ดี ต่ อ กฎระเบี ย บขององค์ ก ร กฎระเบี ย บ มีไว้บังคับให้ลูกจ้างอยู่ในกรอบ หรือป้องกันคนมิให้ทำ�ความผิด พอทำ�ผิดก็ลงโทษไปตามความผิดนั้น พนักงานที่คิดได้แบบนี้
วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
จะไม่ รู้ สึ ก อึ ด อั ด ใจต่ อ กฎเกณฑ์ เ หล่ า นี้ เ ลย เพราะเขาจะไม่ ทำ�ความผิด เขาจึงไม่กลัวกฎระเบียบ และ 5) มีทศั นคติทดี่ ตี อ่ ตัวคน นัน่ คือมีทศั นคติทดี่ ตี อ่ ตนเอง ต่อเพื่อนร่วมงาน ต่อนาย ต่อลูกน้อง เข้าใจถึงความแตกต่าง ระหว่างบุคคล และปรับตัวให้เข้ากับคนรอบข้างได้ • ประเด็นที่ 2 ความคาดหวังของลูกน้องที่มีต่อเจ้านาย ทุกคนทีท่ �ำ งานย่อมต้องมีความคาดหวังว่าองค์กรทีต่ นอยูน่ นั้ จะทำ�ให้ชีวิตตนดีขึ้น อยู่แล้วสบายอกสบายใจ ยกตัวอย่าง เช่น รายได้ที่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ กินอิ่ม หลับสบาย มี รายได้ ที่ ต อบสนองต่ อ เศรษฐกิ จ ปั จ จุ บั น ได้ อ ย่ า งไม่ ขั ด สน บางองค์กรมีทงั้ เงินเดือน ค่าล่วงเวลา โบนัสประจำ�ปี คอมมิชชัน่ อาจไม่มากถึงขั้นทำ�งานที่นี่แล้วรวยเป็นเศรษฐี แต่คนทำ�งาน เขาหวังแค่ว่ามีเงินใช้รายเดือนโดยไม่ขัดสน เหลือเก็บบ้าง ยิ่ง เศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน หวังพึ่งรถเมล์ฟรีอย่างเดียวก็คงไม่ได้ ตื่นขึ้นมาทุกเช้า ออกจากบ้านทีก็ต้องมีค่าใช้จ่าย บวกลบแล้ว พอกินพอใช้กับตนเอง ให้คนที่ตนเองรัก เขาหวังเรื่องนี้เป็น เรื่องแรก เพราะมันคือเรื่องปากเรื่องท้อง ความมั่นคงยั่งยืน อยู่ไปได้ยาวนาน ไม่เดือดร้อน พอพ้น เรื่องปากเรื่องท้องมาแล้ว เขาก็จะมองหาสวัสดิการ ค่ารักษา พยาบาล วันหยุดพักผ่อน ทัง้ วันหยุดประจำ�สัปดาห์ และวันหยุด ประจำ�ปี ขยับไปจนถึงกองทุนหลังเกษียณ สุดท้ายก็คอื การได้รบั การยอมรับ ยกย่อง ตำ�แหน่ง และรางวัลที่เป็นผลงานดีเด่น เพราะสิ่งเหล่านี้คือคุณค่าทางจิตใจ พนักงานอยากได้นายจ้างแบบ “พ่อพระ แม่พระ” หาก ระยะห่ า งระหว่ า งเจ้านายกับ ลูกน้อ งมีมากเกิน ไป ความเข้ า ถึ ง ความรู้ สึ ก ไม่ เ กิ ด เขาก็ จ ะทำ�งานแบบเก้ อ เขิ น ไม่ ก ล้ า คิ ด ไม่กล้าทำ� เพราะกลัวจะขัดต่อความรู้สึกของหัวหน้า แต่ลอง
LEADER
ขยั บ เข้ า มาอี ก หน่ อ ยให้ ชิ ด กั น มากขึ้ น เหมื อ นพี่ เ หมื อ นน้ อ ง ความรู้สึกภายในที่ถูกกดทับจะค่อยๆ ปล่อยออกมา เข้าทำ�นอง “เข้าอกเข้าใจกัน” ทำ�ให้การทำ�งานมีความสุข สนุกกับงาน คุยได้ เกือบทุกเรื่อง บางทีหัวหน้า บอกกับใครๆ ว่า เขาคือ “น้องๆ” การเรียกลูกน้องว่า “น้องๆ” ย่อมให้ความรู้สึกที่ผูกพัน มากกว่า คำ�ว่า “ลูกน้อง” หรือ “ลูกจ้าง” เป็นไหนๆ เช่นหากหัวหน้า จะกล่าวคำ�อวยพรในเก๋ๆ วันสำ�คัญต่างๆ อย่างวันขึ้นปีใหม่ ก็อาจกล่าวได้ว่า “ผมรับรู้ความรู้สึกนี้ได้ว่า ส่วนหนึ่งในความ สำ�เร็จขององค์กรเรา มาจากพวกน้องๆ ช่วยกันทำ�” เป็นต้น มีเหตุผลบางอย่างทีก่ ระทบต่อความสำ�เร็จขององค์กรตลอด กาลดังต่อไปนี้ • ลูกน้องควรได้รับการดูแลเอาใจใส่ที่ดีเสียก่อน ก่อนที่ พวกเขาจะไปสัมผัสกับลูกค้า เพราะเมื่อพื้นฐานดี จะส่งผลต่อ การปฏิบัติที่ดีต่อลูกค้า • การเงินคือปัจจัยพื้นฐาน หรือปัจจัยแรกที่ลูกน้องมอง เมื่อเขาพอใจ เขาจะมองหาอย่างอื่นตามมา • ลูกน้องกับลูกค้ามีความสำ�คัญพอๆ กัน เพราะลูกน้อง คือคนที่เรียกลูกค้าเข้าร้าน • การที่จะหาคนเก่ง คนดีมีความสามารถ บางครั้งต้อง ลงทุน มิใช่ใครก็ได้ เอาราคาถูกไว้ก่อน • การลงมือทำ�เองของผู้ประกอบการ เป็นตัวอย่างท่ีดี ให้กบั ลูกน้อง ลูกน้องจะเข้าใจทันทีวา่ “นีข่ นาดเจ้าของต้องลงมา ทำ�เองเลยเหรอ งั้นฉันจะอยู่นิ่งได้อย่างไร” • การฝึกอบรม ให้ความรูบ้ คุ ลากรอยูเ่ ป็นประจำ� คือความ จำ�เป็นอย่างยิ่ง เพราะเมื่อคนได้รับการพัฒนา ก็จะส่งผลให้ องค์กรได้รับการพัฒนาด้วย ประเด็นทั้งสองข้างต้นที่ผมอธิบายมาไม่ใช่เรื่องใหม่ หาก บางทีเป็นเรือ่ งทีเ่ รามองข้ามกันไป แม้ผปู้ ระกอบการหรือหัวหน้า จะกระทำ�ตามปัจจัยที่ 2 จนครบถ้วนแล้ว ลูกน้องก็ยังลาออกไป อยู่ที่อื่นอยู่ดี ก็ให้นึกเสียว่า “เรามีบุญร่วมกันแค่นี้” เราทำ�ดีที่สุด แล้วเขายังจากเราไป นั่นแปลว่าอาจมีปัจจัยอื่นๆ ร่วมอยู่ด้วย หรือลูกน้องขี้เกียจจริงๆ ความอดทนต่ำ� ไม่รักงานที่ทำ� หรือ ทำ�งานนั้นๆ ไปก่อน พอได้ที่ใจต้องการก็ออกไป หากเป็นเช่นนี้ ก็ปล่อยไปเถอะครับ การดูแลใจกัน ต้องเกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย นั่นคือเจ้านายดูแล ลูกน้อง ลูกน้องก็ดูแลเจ้านาย อยากได้ใจต้องใช้ใจซื้อ ทรัพยากร มนุษย์เป็นสิง่ ทีม่ คี า่ ทีส่ ดุ ในโลก มีคา่ ยิง่ กว่าทรัพย์อนื่ ใดในโลกครับ ท่านที่รัก 39
วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
Hua Seng Heng Gold Futures : เรื่อง
ทองครึ่งปีหลังยังน่าลงทุน
ราคาทองคำ�ในช่วงครึง่ แรกของปี 2015 ยังคงให้ผลตอบ แทนติดลบ หากพิจารณาเปรียบเทียบกับระดับราคาปิดใน ช่วงสิ้นปี 2014 ที่ 1,183 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ และ ณ วันสิ้นเดือนมิถุนายนราคาทองปิดตลาดที่ 1,172 ดอลลาร์ สหรัฐฯต่อออนซ์ โดยราคาทองทำ�จุดสูงสุดไว้ท่ี 1,307 ดอลลาร์ สหรัฐฯต่อออนซ์ในเดือนมกราคม และอ่อนตัวลงทำ�จุดต่�ำ สุด บริเวณ 1,142 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ในเดือนมีนาคม ปัจจัยลบต่อราคาทองในปีนี้ ยังเป็นเรือ่ งการปรับขึน้ ดอกเบีย้ ของธนาคารกลางสหรัฐฯที่คาดว่าจะเริ่มมีการปรับขึ้นอย่างเร็ว ที่สุดราวปลายไตรมาส 3 ถึงต้นไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งประเด็น ดังกล่าวส่งผลให้ราคาทองไม่ค่อยได้รับความสนใจจากนักลงทุน แม้ ใ นขณะที่ มี ร ายงานข่ า วเกี่ ย วกั บ ปั ญ หาเศรษฐกิ จ ของกรี ซ นักลงทุนต่างเลือกนำ�เงินเข้าไปพักในตลาดพันธบัตรรัฐบาล โดยเฉพาะของสหรัฐฯในช่วงทีม่ ขี า่ วด้านลบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ แต่หากพิจารณาจากเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคาร กลางสหรัฐฯว่าจะเป็นปัจจัยลบต่อการเคลื่อนไหวของราคาทอง เนื่องด้วยระดับผลตอบแทนของตราสารที่มีความปลอดภัยสูง จะเริ่มปรับตัวขึ้น จนทำ�ให้ความน่าสนใจของทองคำ�ลดน้อยลง แล้วในอีกด้านหนึ่งกลับเป็นปัจจัยบวกต่อการเคลื่อนไหวของ ราคาทอง ทั้งจากการขึ้นดอกเบี้ยที่มักมาพร้อมกับการปรับขึ้น ของระดับเงินเฟ้อ เป็ น ที่ ท ราบกั น ดี ว่ า เงิ น เฟ้ อ กั บ ราคาทองจะเคลื่ อ นไหว ในทิ ศ ทางเดี ย วกั น และหากพิ จ ารณาในลั ก ษณะของวั ฎ จั ก ร การลงทุนแล้ว การฟื้นตัวของเศรษฐกิจตราสาร ที่จะได้รับความ สนใจจากนักลงทุนเป็นลำ�ดับแรกคงหนีไม่พ้นตลาดหุ้น หาก พิจารณาตั้งแต่ปี 2012 ซึ่ง ณ ขณะนั้นราคาทองเคลื่อนไหวอยู่ ที่ 1,675 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และปรับตัวลงมาแล้วราว 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 30% เมื่ อ เที ย บกั บ ดั ช นี ต ลาดหุ้ น สหรั ฐ ฯในกรณี ที่ ใ ช้ ดั ช นี อุตสาหกรรมดาวโจนส์เป็นตัวแทน จะพบว่า ปรับตัวขึ้นมา ในปริ ม าณใกล้ เ คี ย งกั น คื อ ราว 28% ส่ ว นดั ช นี เ งิ น ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากปีเดียวกันราว 21% ในขณะที่ราคาน้ำ�มันปรับตัว ลงราว 50% จากปี 2012 ซึ่งน่าจะเป็นตัวสะท้อนได้อย่างหนึ่งว่า ในช่วงที่ราคาทองปรับตัวลง เงินทุนได้ไหลเข้าไปลงทุนในตลาด 42
หุ้นสหรัฐฯและประเทศอื่นๆ และเมื่อตลาดหุ้นที่พิจารณาได้ว่า เป็นดัชนีชี้นำ�เศรษฐกิจได้ฟื้นตัวขึ้นมาแล้วในระยะหนึ่ง และ เมื่อเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวขึ้นตามที่นักลงทุนประเมิน การฟื้นตัว ของตลาดหุ้นแม้จะยังคงมีโอกาสเกิดขึ้นต่อ แต่แรงซื้อก็จะเริ่ม ชะลอตัวลง และราคาทองคำ�ที่จะปรับตัวขึ้นตามภาวะเงินเฟ้อ ก็จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นตาม ดังนั้น การที่ราคาทองในครึ่งแรกของปี 2015 ยังให้ผลตอบแทนไม่น่าพอใจนัก ก็น่าจะเป็นโอกาสในการ กลับเข้ามาลงทุนในทองคำ� เพื่อเก็งกำ�ไรจากเรื่องการฟื้นตัวของ เงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปี อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบจากกรณีของยุโรปโดยเฉพาะกรณี ของกรีซทีแ่ ม้ในขณะนีย้ งั มีคำ�ยืนยันว่าจะไม่ลกุ ลามไปยังประเทศ อื่นๆ ในยูโรโซน แต่ก็เป็นที่น่าสนใจว่า หากกรีซ สามารถเรียก ร้องให้กลุ่มเจ้าหนี้ยอมผ่อนปรนการดำ�เนินนโยบายที่เข้มงวดลง ประเทศอื่นๆ ในยูโรโซนที่เป็นลูกหนี้ จะเรียกร้องให้ใช้นโยบาย ในลักษณะเดียวกันกับชาติของตนหรือไม่ หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจริงเงินยูโรก็จะอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับดอลลาร์ และเป็นปัจจัยลบกดดันราคาทอง ซึ่งคาด ว่าหากปัญหาลุกลามไปยังประเทศอืน่ ๆ แล้ว ความเป็นสินทรัพย์ ปลอดภัยของทองคำ� น่าจะมีผลเพียงพอทีจ่ ะดึงดูดเงินทุนให้กลับ เข้ามาพักในทองคำ�ได้มากขึ้นกว่าในปัจจุบัน
โดย บริษทั ฮัว่ เซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จ�ำกัด www.hshfutures.com โทร. 0-2223-2288
วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
GT Wealth Management : เรื่อง
เหลียวหลัง แลหน้า Euro Zone Crisis สำ�หรับประเด็นสำ�คัญที่ผู้ซื้อทองคำ�ทุกท่านต้องลุ้นกัน ตัวโก่ง นอกจากจะเป็นเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องทุกครั้งที่มีการประชุม FOMC ว่าจะ มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อไหร่ ขึ้นแล้วราคาทองคำ�จะลง เยอะหรือไม่ แล้วอีกประเด็นที่ไม่อาจมองข้ามไปได้เลยก็คือ สถานการณ์ในยุโรปนัน่ เองครับ ซึง่ เป็นเรือ่ งขึน้ มาอีกครัง้ หลัง จากที่กรีซไม่สามารถชำ�ระหนี้ให้แก่ IMF ได้ในวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา ในบทความฉบับนี้ลองมาย้อนรอยดูต้นเหตุของ วิกฤตดังกล่าวและมองไปข้างหน้าพร้อมคาดการณ์ถึงผล กระทบของวิกฤตดังกล่าวกันดีกว่าครับ ย้อนรอยวิกฤต ต้นตอของปัญหาอาจเกิดขึ้นนับตั้งแต่การประกาศรวมกลุ่ม เกิดเป็นกลุ่มยูโรที่ประกอบด้วยสมาชิกจากประเทศในยุโรปกว่า 28 ประเทศและมีการใช้เงินสกุลยูโรเหมือนๆ กัน ผลทีต่ ามมาคือ ต้นทุนการระดมทุนทีล่ ดลง โดยการรวมตัวกันครัง้ นีม้ หี ลายประเทศ ทีม่ พี นื้ ฐานทางเศรษฐกิจทีไ่ ม่เท่ากัน ซึง่ บางประเทศอาจมีอนั ดับ เครดิตทีไ่ ม่สงู มากนัก เช่น กรีซ ไซปรัส ไอร์แลนด์ เป็นต้น แต่เมือ่ รวมกลุม่ แล้วส่งผลให้อนั ดับเครดิตดีขนึ้ จนทำ�ให้ประเทศดังกล่าว ระดมเงินทุนกันเป็นการใหญ่เพื่อนำ�เงินที่ได้มาใช้จ่ายกันอย่าง สุรุ่ยสุร่าย ทั้งการใช้เพื่อดำ�เนินนโยบายประชานิยม และละเลย การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน จนทำ�ให้หนี้สาธารณะพอกพูนขึ้น มาเรื่อยๆ จนหนี้สาธารณะของบางประเทศต่อสัดส่วน GDP เกินกว่าที่ทางยูโรกำ�หนดไว้ว่าห้ามเกิน 60% ต่อ GDP เมื่อ เรื่ อ งแดงออกไปส่ ง ผลให้ ป ระเทศที่ มี พั น ธบั ต รของกลุ่ ม ยู โร ต่ า งพากั น เทขายกั น อย่ า งหนั ก ส่ ง ผลให้ อั ต ราผลตอบแทน พันธบัตรพุ่งสูงขึ้น ทำ�ให้ประเทศเหล่านั้นไม่สามารถระดมทุน บวกกับพันธบัตรที่ออกไปก่อนหน้าใกล้จะถึงกำ�หนดชำ�ระแล้ว การระดมทุน ไม่ได้ทำ�ให้ขาดเงินสดไปไถ่ถอนพันธบัตรเหล่านั้น เพิ่มความเสี่ยงที่ประเทศเหล่านั้นจะผิดนัดชำ�ระหนี้ เรือ่ งดังกล่าวส่งผลลบอย่างหนักต่อความเชือ่ มัน่ ต่อกลุม่ ยูโร ของประเทศต่างๆ ทัว่ โลก เพราะไม่สามารถควบคุมดูแลประเทศ สมาชิกให้ปฏิบัติตามข้อกำ�หนดได้ จนหลายฝ่ายคาดว่าประเทศ เหล่านั้นซึ่งรวมถึงกรีซจะต้องออกจากยูโรโซน ประเทศเหล่านั้น ถึงต้องไปขอความช่วยเหลือจากกลุม่ TROIKA ทีป่ ระกอบไปด้วย กลุ่มยูโร IMF และ ECB ซึ่งทาง TROIKA ได้ให้ความช่วยเหลือ แลกกับเงือ่ นไขทีป่ ระเทศเหล่านัน้ ต้องดำ�เนินมาตรการรัดเข็มขัด โดยการลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ (เพิ่มภาษี)
ปัจจุบัน กรีซเป็น 1 ในประเทศที่ต้องดำ�เนินการตามเงื่อนไขของกรีซ ได้มีการจัดการเลือกตั้งในช่วงต้นปี และผู้ที่ชนะการเลือกตั้ง ในครั้งนี้คือนาย Alexis Tsipras ที่ชูนโยบายไม่รับมาตรการ รัดเข็มขัดจาก TROIKA ได้จัดตั้งรัฐบาลพร้อมปฏิเสธที่จะทำ� ตามเงื่อนไขของ TROIKA แต่การที่กรีซยังคงต้องชำ�ระหนี้ที่มี อยู่อย่างมหาศาล ทำ�ให้กรีซต้องเจรจากับกลุ่มเจ้าหนี้เพื่อขอ มาตรการช่วยเหลือ โดยแลกกับกรีซจะต้องร่างและปฏิบัติตาม แผนปฏิรูป การเจรจาดำ�เนินมาจนถึงกลางปีแต่ยังไม่สามารถหา ข้อตกลงได้ ซึ่งในที่สุด กรีซก็ต้องผิดนัดชำ�ระหนี้แก่ IMF ในวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา และได้มีการลงประชามติเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ ผ่านมาว่าจะไม่ยอมรับเงื่อนไขของเจ้าหนี้อีกต่อไป ทิศทางวิกฤตในอนาคต จากการไม่ยอมรับเงือ่ นไขของเจ้าหนีเ้ ป็นผลทำ�ให้สถานการณ์ ของยุโรปมีความวุ่นวายมากขึ้น และส่งผลลบต่อความเชื่อมั่น ต่อกลุ่มยูโร ที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เริ่มจากการ เรียกร้องที่มากขึ้นของกรีซหลังจากที่ยูโรมีท่าทีอ่อนลง จนทำ�ให้ กลุ่มยูโรเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ผลที่ตามมาอาจเป็นกรณีตัวอย่างที่ ประเทศอี ก หลายประเทศที่ กำ�ลั ง ประสบปั ญ หาอยู่ ย กขึ้ น มา เพื่อที่จะไม่ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับที่ทำ�ให้เศรษฐกิจเติบโตได้ ไม่เต็มที่ (การลดรายจ่ายภาครัฐฯและการขึ้นภาษี) จนทำ�ให้การ จัดการปัญหามีความลำ�บากมากขึ้น ความยุ่งยากประการถัดมาที่อาจจะเกิดขึ้นก็คือ อาจเป็น ช่ อ งทำ�ให้ ป ระเทศนอกสมาชิ ก เข้ า มามี บ ทบาท ซึ่ ง อาจเป็ น ประเทศที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์อันดีนักกับยุโรปหรือเป็นคู่แข่ง ทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่ม BRICS (Brazil Russia India China และ South Africa) ที่อาจอาศัยจังหวะดังกล่าวเข้ามา มี บ ทบาทกั บ ประเทศที่ มี ปั ญ หาโดยเฉพาะกรี ซ เมื่ อ บวกกั บ ความยุ่งยากอย่างแรก อาจทำ�ให้สถานการณ์ชุลมุนกันมากขึ้น ไปอีก ผลที่ตามมาคือการอ่อนค่าลงอย่างหนักของเงินยูโรและ หนุนค่าเงินดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นในเชิงเปรียบเทียบ กดดันราคา ทองคำ�อีกครั้ง
โดย บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จ�ำกัด www.gtwm.co.th โทร. 0-2673-9911 ต่อ 250
43
Laws of Gold วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
กองบรรณาธิการ : เรื่อง
ป้องกันไว้..ดีกว่ามาตามแก้ในภายหลัง ปัญหาเรือ่ งกลุม่ มิจฉาชีพนำ�เช็คแบบเคลียร์รงิ่ เช็คมาชำ�ระราคาทองคำ� แต่เมือ่ เจ้าของร้านจะไปถอนเงินกลับไม่สามารถ เรียกเก็บเงินตามเช็คได้ หรือแม้กระทัง่ การนำ�แคชเชียร์เช็คปลอมมาหลอกซือ้ ถือเป็นอีกปัญหาสำ�คัญทีเ่ กิดขึน้ กับผูค้ า้ ทองคำ� แม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดจะไม่บ่อยครั้งนัก แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อหนึ่งครั้ง จะมากกว่าการนำ�ทองปลอมมาหลอกขาย หรือขายฝากมาก เพราะการที่นำ�เช็คมาซื้อทองมูลค่าย่อมเป็นหลักหลายแสนบาทหรือจะเป็นหลักล้านบาท หากจะมองถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ผู้ที่นำ�เช็ค ทั้งสองรูปแบบมาซื้อทอง จะมีความผิดทั้งทางแพ่งและอาญา ในส่ ว นของคดี แ พ่ ง ผู้ เ สี ย หายสามารถฟ้ อ งร้ อ งเรี ย กค่ า เสียหาย ค่าสินไหมทดแทน ได้ตามจำ�นวนทีก่ ลุม่ มิจฉาชีพสัง่ จ่าย เงินตามเช็ค รวมถึงดอกเบี้ย นับตั้งแต่วันที่สั่งจ่ายตามเช็คและ ธนาคารได้ปฎิเสธการจ่ายเงิน พร้อมกันนั้นยังสามารถเรียก ดอกเบี้ยได้ 0.75 % ต่อปีอีกด้วย ขณะนี้ ค ดี อ าญาผู้ ที่ นำ�เช็ ค ปลอมหรื อ เช็ ค เด้ ง มาซื้ อ ทอง จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดจากการใช้เช็ค โดยมี โทษจำ�คุกไม่เกิน 1 ปี ต่อ 1 ฉบับ ต่อหนึ่งการกระทำ�ความผิด 44
อย่างไรก็ตาม การกระทำ�ความผิดจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อการ ซือ้ ขายไปแล้ว นัน่ ก็คอื มีการสัง่ ซือ้ ด้วยเช็ค และร้านค้าได้สง่ มอบ ของไปแล้ว แต่ถ้าร้านค้ายังไม่ได้ส่งมอบของ ถือว่าความผิดยัง ไม่ได้เกิด แต่หากผู้ที่มาซื้อมีเจตนาที่จะกระทำ�ความผิด แม้ทาง ร้านจะยังไม่ได้จ่ายทองไปให้ก็มีความผิดในฐานพยายามจะ ทำ�ความผิด ต้องรับโทษหนึ่งในสามของความผิด มาดูเรื่องของกระบวนการดำ�เนินคดี จะไม่ต่างจากการนำ� ทองปลอมมาหลอกขาย โดยผูเ้ สียหายจะต้องไปแจ้งความดำ�เนิน คดีกบั พนักงานสอบสวนในพืน้ ทีท่ คี่ นร้ายนำ�เช็คมาจ่าย หรือมอบ อำ�นาจให้ทนายความไปยื่นฟ้องต่อศาล
JULY - AUGUST 2015
วารสารทองค�ำ
ทั้งนี้ ขั้นตอนในการดำ�เนินคดีและระยะเวลาก็จะไม่ต่างกับ คดีฉ้อโกง โดยจะขึ้นอยู่กับการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งวัตถุ พยานและประจักษ์พยานของพนักงานสอบสวนว่าจะมีความ ครบถ้วนมากน้อยเพียงไร ส่วนการยื่นฟ้องคดีอาญาจะต้องมีตัวผู้ต้องหาไปศาลด้วย ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำ�รวจจำ�เป็นต้องติดตามตัวคนร้ายมายื่นฟ้อง ให้ได้ หากว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอที่รู้ว่าใครเป็นคนร้าย ตำ�รวจก็จะต้องขออนุมัติหมายจับต่อศาล เพื่อที่จะตามจับตัว มาส่งฟ้อง แต่หากยังไม่ได้ตัวก็ยังไม่สามารถดำ�เนินการได้ ส่ ว นเรื่ อ งการทำ�แคชเชี ย ร์ เช็ ค ปลอมเพื่ อ นำ�มาซื้ อ ทอง ผูต้ อ้ งหาจะมีความผิดเพิม่ อีกหนึง่ กระทงก็คอื การทำ�เอกสารปลอม โดยมีโทษจำ�คุกไม่เกินสามปี กรณีทคี่ นร้ายนำ�ทองปลอมมาหลอกขาย หรือการนำ�เช็คเด้ง หรือเช็คปลอมมาหลอกซือ้ ทองคำ� ถือเป็นปัญหาทีผ่ ปู้ ระกอบการ ต้องช่วยกันแก้ปญ ั หา แม้วา่ การดำ�เนินคีดจะต้องเสียเวลาไปบ้าง แต่ ห ากไม่ ร่ ว มกั น ขจั ด ปั ญ หาหรื อ ขจั ด คนกลุ่ ม นี้ ใ ห้ ห มดไป
กลุ่มคนเหล่านี้ก็จะไปสร้างปัญหาในพื้นที่อื่นต่อ ซึ่งหากพบ ปัญหา สามารถมอบหมายให้ทนายความไปดำ�เนินคดีแทนหรือ ปรึกษามายังสมาคมค้าทองคำ� เพื่อหาทางออกร่วมกัน อย่างไรก็ตาม การป้องกันในเบื้องต้น ถือเป็นส่วนสำ�คัญ เพียงแค่ผู้ประกอบการเพิ่มความระมัดระวังหรือยอมเสียเวลา ในการตรวจสอบ ก็เชื่อว่าปัญหาเหล่านี้จะลดน้อยลง โดยเฉพาะ เรื่องของเช็ค ผู้ประกอบการควรนำ�เช็คไปให้ธนาคารตรวจสอบ หรือสอบถามรายการเดินบัญชีวา่ มีประวัตหิ รือไม่ หรือหมายเลข เช็คมีเงินในบัญชีหรือไม่ โดยเฉพาะแคชเชียร์เช็คก็ควรจะนำ�เช็ค ฉบับนั้นไปให้ธนาคารตรวจสอบว่าเป็นเช็คปลอมหรือไม่ เพราะ เคยมีเหตุการณ์การปลอมแคชเชียร์เช็คเกิดขึ้นมาแล้ว ซึ่งทาง ธนาคารจะมีวิธีการตรวจสอบว่าเช็คฉบับดังกล่าวเป็นของจริง หรือของปลอม เรายอมเสียเวลากับวิธีการเหล่านี้ ดีกว่าต้องมาเสียเวลากับ การดำ�เนินคดี หรือมานั่งเสียใจกับทรัพย์สินที่เสียไป...ถือว่า “กันไว้” ดีกว่ามาตาม “แก้” ครับ... 45
Gold Talk วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
กองบรรณาธิการ : เรื่อง
เตือนเพื่อนผู้ค้าทองเพิ่มความระมัดระวัง หลังมิจฉาชีพนำ�เช็คเด้งมาซื้อทองมากขึ้น ในช่วง 1-2 เดือนทีผ่ า่ นมา หนึง่ ในประเด็นทีถ่ กู หยิบยกขึน้ มาพูดถึงกันมากในวงการค้าทองคำ� ก็คอื เรือ่ งทีก่ ลุม่ มิจฉาชีพ นั่นก็คือกลุ่มมิจฉาชีพ ใช้วิธีการสั่งจ่ายเช็คแบบเคลียริ่งเช็ค ชำ�ระราคาทองคำ�ที่ตกลงซื้อกัน เมื่อนำ�สมุดธนาคารไปตรวจ สอบยอดเงินพบว่ามียอดเข้ามา แต่สุดท้ายเมื่อจะไปถอนเงินกลับไม่สามารถเรียกเก็บเงินตามเช็คได้ ทำ�ให้เกิดความ เสียหายให้กับผู้ประกอบการอย่างมาก ซึ่งปัญหาดังกล่าวได้เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และมูลค่าความเสียหายสูงมาก คอลัมน์ โกลด์ ทอล์ค ฉบับนี้จะลองไปฟังเสียงจากประธาน ชมรมร้ า นทองในพื้ น ที่ ต่ า งๆ ถึ ง ปั ญ หาข้ า งต้ น รวมถึ ง วิ ธี การป้ อ งกั น และแก้ ไขปั ญ หาดั ง กล่ า ว โดยคุ ณ เชิ ด เกี ย รติ์ อนุสนธิพ์ ฒ ั น์ ประธานชมรมร้านทอง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ที่ผ่านมาผูค้ า้ ทีเ่ ป็นสมาชิกได้ประสบกับปัญหาเช่นนีบ้ า้ ง โดยผู้กระทำ�ความผิดบางรายใช้วิธีการกระจายพื้นที่ ในการนำ� เช็ ค ปลอมมาหลอกซื้ อ ทองคำ�เพื่ อ ไม่ ใ ห้ ร้ า นทองในบริ เวณ เดียวกันนั้นเกิดข้อสงสัยและไหวตัวทัน แต่จากการวางระบบของทางชมรมที่ให้สมาชิกได้มีการ ติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนความรู้เเละประสบการณ์กันอยู่เสมอ โดยได้ปรับใช้การสือ่ สารสมัยใหม่ ในการร่วมมือกัน อย่างรวดเร็ว เเละทันที โดยการใช้ social network อย่าง Line หรือ Facebook ในการกระจายข่าวอัพเดทต่างๆ ความเคลื่อนไหวของตลาด ไม่ ว่ า จะเป็ น ข้ อ มู ล เกี่ยวกับ กลุ่มมิจฉาชีพ ที่มีการหลอกลวง ในวิธีต่างๆ อีกด้วย ทำ�ให้ร้านค้าที่โดนกลุ่มมิจฉาชีพหลอก สามารถเตือนกลุ่มร้านทองในสมาชิกได้ทันท่วงที นอกจากนี้ ทางชมรมร้านทองในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังมีคลื่นวิทยุ ที่ใช้ในการสื่อสาร ที่สามารถอัพเดทข่าวสารระหว่างกันได้ตลอด ทั้งวันอีกด้วย
สำ�หรับแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าว ควรจะทำ�ทั้งการ ป้องกันและแก้ไขควบคู่กันไป โดยการป้องกันควรให้ความรู้ ความเข้าใจกับกลุ่มสมาชิก ด้วยการยก case ตัวอย่างหลายๆ สถานการณ์ จ ากร้ า นทองที่ เ คยประสบปั ญ หา เพื่ อ ให้ ก ลุ่ ม สมาชิ ก รู้ วิ ธี ก ารทำ�งาน หรื อ กระบวนการหลอกของกลุ่ ม มิจฉาชีพ อาจมีการเรียนเชิญร้านทองทีเ่ คยตกเป็นเหยือ่ มาช่วย เล่าประสบการณ์ เเละควรมีการประกาศเเจ้งเตือนกลุ่มสมาชิก ร้านทอง เมื่อมีการหลอกลวง แพร่ระบาด โพสรูปถ่ายกลุ่ม มิจฉาชีพ (หากมี) เพื่อให้สมาชิกระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น ส่วนการแก้ไขต้องเพิ่มมาตรการลงโทษกับกลุ่มมิจฉาชีพ อาจมีการร่วมมือกับตำ�รวจท้องที่หรือธนาคาร ในการเเก้ไข ปัญหา หรืออาจมีก ารเพิ่มมาตรการ/กฏกติกาในการรับเช็ค เช่น จะต้องมีหลักฐานการประกันจำ�นวนเงินจากทางธนาคาร หรือจะต้องพิสจู น์วา่ มาจากบัญชีทไี่ ม่สามารถถอนเงินได้ เป็นต้น ด้านคุณประทีป นารถติกร ประธานชมรมร้านทอง จังหวัด ราชบุรี กล่าวว่า เท่าที่ทราบ ร้านค้าทองในพื้นที่จังหวัดราชบุรี ประสบปัญหานี้ 2 ราย คือ ร้านในอำ�เภอโพธาราม และร้าน ในอำ�เภอเมือง โดยรูปแบบที่กลุ่มมิจฉาชีพลงมือจะคล้ายกันคือ คนร้ายถือเช็คเพื่อมาขอซื้อทอง หลังจากนั้นทางร้านนำ�เช็ค
คุณเชิดเกียรติ์ อนุสนธิ์พัฒน์
49
วารสารทองค�ำ
คุณยงค์ บวรโพธิธรรม
ไปเข้าธนาคารและเช็คไม่มีความผิดปกติ มียอดเงินเข้าในบัญชี ธนาคาร และมีข้อความจากทางธนาคารว่าเงินเข้าเต็มจำ�นวน จึงทำ�ให้ทางร้านทองมั่นใจว่า เงินเข้าบัญชีเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร้านทองในอำ�เภอเมือง ได้แจ้งเพิ่มเติม ว่าเช็คเป็นของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้นำ�เช็คเข้าผ่านธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขาราชบุรี หลังจากร้านทองคิดว่า เงินเข้าเรียบร้อย จึ ง ได้ ส่ ง มอบทองให้ กั บ มอเตอร์ ไซค์ ที่ ถู ก ว่ า จ้ า งโดยคนร้ า ย วันต่อมาจึงทราบว่าเช็คมีปัญหา ทำ�ให้สูญเสียทรัพย์สินเป็นทอง 120 บาท ต่อมาแม้จะมีหลักฐานจากวงจรปิด และหลักฐานที่ มอเตอร์ไซค์รับจ้างชี้ตัวคนร้ายได้ แต่ผลการตัดสินของศาลคือ ยกฟ้อง โดยให้เหตุผลว่าหลักฐานไม่เพียงพอ คุณประทีปฯ กล่าวเพิ่มเติมว่าปัญหาดังกล่าวถือว่ารุนแรง ไม่ แ พ้ ปั ญ หาทองปลอม ซึ่ ง ทางชมรมฯ ได้ มี ก ารประชุ ม และกระจายข่าวเพื่อเป็นคดีตัวอย่าง พร้อมช่วยประสานงาน กับผู้เสียหายเท่าที่จะช่วยได้ ขณะเดียวกันต้องขอความร่วมมือ จากธนาคารให้แจ้งอธิบายกับลูกค้าเรื่องเงินที่เข้าบัญชี ว่าเป็น เงินที่รอเรียกเก็บ ซึ่งทางธนาคารควรต้องมีระบบการตรวจรับ เช็คที่ดี ขณะที่ คุณยงค์ บวรโพธิธรรม ประธานชมรมร้านทอง จั ง หวั ด สมุ ท รปราการ กล่ า วว่ า พื้ น ที่ จั ง หวั ด สมุ ท รปราการ เป็นพื้นที่ใหญ่ มีผู้ประกอบการค้าทองจำ�นวนมาก ในประเด็น ทีก่ ลุม่ มิจฉาชีพ ใช้เช็คมาหลอกซือ้ ทองนัน้ พืน้ ทีเ่ ขตเมืองไม่ได้รบั ผลกระทบ เพราะแต่ละร้านมีประสบการณ์การค้าทองมายาวนาน และได้รับข่าวสารจากเจ้าหน้าที่ และทางสมาคมฯ มาโดยตลอด จะมีเฉพาะพื้นที่รอบนอกเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ ทัง้ นี้ ปัญหาการใช้เช็คซือ้ ขายทองนัน้ ปกติรา้ นค้าจะมีความ ระมัดระวังมาก โดยไม่รบั เช็คจากลูกค้าทีไ่ ม่รจู้ กั หรือมีพฤติกรรม 50
JULY - AUGUST 2015
คุณประกิต เตคุณาทร
ที่น่าสงสัย และจะเป็นประโยชน์มาก หากเจ้าหน้าที่ธนาคาร มีการให้ความรู้เพิ่มเติมในกรณีการนำ�เช็คมาเข้าบัญชี โดยมิได้ มีการโอนเงินสด ซึ่งจะทำ�ให้ผู้ประกอบการไม่โดนหลอกลวงว่า ได้รับเงินแล้ว ทำ�ให้ไม่เกิดความเสียหายขึ้นภายหลัง ประธานชมรมร้านทองจังหวัดสมุทรปราการกล่าวเพิ่มเติม ว่า ที่ผ่านมาในพื้นที่ สภ.เมือง ได้มีการให้ความรู้ จัดอบรม รวมทัง้ มีการประชุม ในพืน้ ที่ ทุกๆ ปี เกีย่ วกับเรือ่ งความปลอดภัย และมีการใช้ Line ในการติดต่อสื่อสารในชื่อ “ร้านทองเมือง สมุทร 92” ไปดูที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งเกิดปัญหานี้หลายกรณีด้วยกัน โดย คุณประกิต เตคุณาทร ประธานชมรมร้านทอง จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ทีผ่ า่ นมามีการหลอกซือ้ ทองแท่งด้วยวิธกี ารจ่ายเช็คเด้ง
JULY - AUGUST 2015
วารสารทองค�ำ
คุณชัยชนะ ประพฤทธิพงษ์
มากพอควร โดยที่บางร้านโดนมิจฉาชีพโกงแต่ด้วยความอาย จึงไม่กล้ามาแจ้งความ แต่ก็มีบางร้านที่ขายทองแท่งแล้วลูกค้า เอาสลิปเงินเข้าบัญชีจากธนาคารมายืนยันว่าโอนเงินให้แล้ว โดยที่ ไ ม่ ไ ด้ ดู ร ายละเอี ย ดว่ า ที่ ฝ ากเข้ า บั ญ ชี เ ป็ น เช็ ค เรี ย กเก็ บ เมื่อไปปรับสมุดคู่ฝาก แล้วก็มีตัวเลขเงินเข้าบัญชี แต่ไมได้ดูรหัส ที่ธนาคารพิมพ์มาว่าเป็นเช็คที่เรียกเก็บ จึงได้ตกเป็นเหยื่อของ กลุ่มมิจฉาชีพ อย่างไรก็ตาม แต่เมื่อเกิดเหตุแล้ว ทางชมรมฯ ได้มีการ กระจายข่าวแจ้งให้สมาชิกได้รับทราบ และให้ระวังตัว โดยขอให้ ผูป้ ระกอบการได้ดรู ายละเอียดของสมุดธนาคารด้วย พร้อมทัง้ ให้ แจ้งความดำ�เนินคดีกับตำ�รวจ หากมีเหตุเกิดขึ้นกับร้านใดก็ตาม คุณประกิตฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้น จึงขอให้ ผู้ประกอบการทุกร้าน ได้ศึกษารายละเอียด ของสมุดธนาคารว่า เป็นเช็คเรียกเก็บหรือเช็คเงินสด และควรจะเปิดเอสเอ็มเอส กับธนาคารทีเ่ ดินบัญชี เพือ่ แจ้งให้ได้รบั ทราบทันทีเมือ่ มียอดเงิน โอนเข้ามา และตรวจเช็คได้ว่าจะถอนได้เมื่อไร โดยเฉพาะร้านที่ มีลกู จ้างน้อย เพราะปัจจุบนั ลูกค้านิยมโอนเงินผ่านทางโทรศัพท์ เป็นจำ�นวนมาก จึงมีความจำ�เป็นมากที่ผู้ประกอบการร้านทอง ต้องศึกษาให้ทันกับโลกออนไลน์ ทั้งนี้ ถ้าเป็นไปได้อยากให้ทางสมาคมฯ ช่วยประสานงาน ธนาคารแต่ละจังหวัด ช่วยจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับร้านทอง ในแต่ละจังหวัดซึ่งจะเป็นผลดีกับทั้งธนาคารและร้านทองใน จังหวัดนั้นๆ เพื่อลดช่องว่างของมิจฉาชีพ มาปิ ด ท้ าย ที่ จั ง ห วั ดน ค รรา ช สี ม า ซึ่ ง คุ ณชั ย ช น ะ ประพฤทธิพงษ์ ประธานบริหารชมรมร้านทอง จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ชมรมร้านทองในโคราชได้รวมตัวกันมากว่า 50 ปีแล้ว โดยมีผู้ประกอบการทั้งในเขตตัวเมืองและต่างอำ�เภอ ซึ่งตลอด
ระยะเวลาในการทำ�ธุรกิจค้าทอง มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย แต่ในระยะนี้นอกจากจะมีการจี้ปล้นร้านทองแล้ว ยังมีคนร้าย หลอกซื้อทองด้วยวิธีการจ่ายเช็คเด้งกับร้านค้าอย่างแพร่หลาย โดยกลุ่ ม มิ จ ฉาชี พ จะจ่ า ยเช็ ค เข้ า สมุ ด บั ญ ชี เจ้ า ของร้ า นและ ระบบของธนาคาร ก็จะพิมพ์ตัวเลขเงินเข้าไปในสมุดบัญชี ทั้งที่ เงินยังไม่ได้เข้าบัญชีจริง เพราะต้องรอเรียกเก็บเงินอยู่ แต่เจ้าของ บั ญ ชี บ างท่ า นก็ เ สี ย ท่ า คนร้ า ยส่ ง มอบทองให้ ไ ป และเมื่ อ ไป เบิกเงิน ทางธนาคารไม่อนุมัติโดยระบุว่าเป็นเช็คเด้ง เพราะเป็น เช็ครอเรียกเก็บ ท่านไม่อ่านรหัสในสมุดเอง ประธานชมรมร้านทอง จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ทุก ธนาคารควรให้ความสำ�คัญและหาทางแก้ไขเรื่องนี้ โดยไม่พิมพ์ ตัวเลขเงินลงไปในสมุดบัญชี หากยังรอเรียกเก็บเงิน หรือกรณี อื่นๆ ที่เงินยังไม่เข้าบัญชีจริง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้กลุ่ม มิจฉาชีพใช้ช่องว่างดังกล่าวกับลูกค้าของธนาคารได้ ซึ่งไม่ใช่ เฉพาะกับร้านค้าทองเท่านั้น “สำ�หรับผมเองในส่วนที่เป็นลูกค้าประจำ�จะไม่ค่อยวิตก หรือหนักใจเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นลูกค้าใหม่ หรือคนแปลกหน้า จะขอรับเฉพาะเงินสด หรือหากลูกค้าจะจ่ายเป็นเช็คจะต้อง นั่ ง รอ เพื่ อ ให้ ค นไปเบิ ก สดมาเท่ า นั้ น จึ ง จะส่ ง มอบทองให้ ” คุณชัยชนะฯ กล่าวต่อว่า สำ�หรับชมรมร้านทอง จังหวัดนครราชสีมา มีพนั ธกิจร่วมกัน โดยในแต่ ละเดื อนจะมี ก ารพบปะสั งสรรค์ กั น 1 ครั้ง แต่ถ้า มีเหตุเร่งด่วนสำ�คัญก็จะเชิญสมาชิกเปิดประชุมทันที นอกจากนัน้ ยังตั้งกลุ่มไลน์เป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกไว้สำ�หรับแจ้งราคาทอง ห้ามไลน์คุยกัน กลุ่มที่สองไว้สำ�หรับแจ้งเหตุและเรื่องสำ�คัญ ห้ า มไลน์ คุ ย กั น และกลุ่ ม สุ ด ท้ า ยไว้ ใ ห้ ส มาชิ ก ได้ ไ ลน์ คุ ย กั น ตามอัธยาศัย 51
วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
โกลด์เด้นบอย : เรื่อง
ตลาดค้าทองเมืองแม่กลองสดใส ได้ท่องเที่ยวหนุนทำ�เงินสะพัด โกลด์คลับ ในฉบับนี้ ได้มาพูดคุยกับประธานชมรมร้าน ทองจังหวัดสมุทรสงคราม ซึง่ ถือเป็นอีกหนึง่ จังหวัดทีน่ า่ สนใจ เพราะแม้ จ ะมี พื้ น ที่ ไ ม่ ม าก แต่ ส ภาพเศรษฐกิ จ โดยรวม ก็มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง คุ ณ เฉลิ ม ชั ย อาชาเพ็ ช ร จากร้ า นห้ า งทองแม่ ก ลอง 1 (ฮวดหลี) ในฐานะประธานชมรมร้านทองจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า ชมรมฯ ก่อตั้งมาประมาณ 14 ปี ตอนนี้มี 21 ร้านที่ เข้ า ร่ ว มเป็ น สมาชิ ก โดยการรวมตั ว กั น ของผู้ ป ระกอบการก็ เพื่ อ ช่ ว ยกั น เจรจากั บ หน่ ว ยงานภาครั ฐ รวมถึ ง ป้ อ งกั น และ แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการทำ�การค้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการ คิดดอกเบี้ยการขายฝาก ระยะเวลาในการเปิดทำ�การของร้านค้า ทอง ทั้งนี้ เพื่อให้การดูแลเรื่องของความปลอดภัยทำ�ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ 52
“ต้องยอมรับว่าในการทำ�การค้าอาจจะมีปัญหาระหว่างกัน บ้าง แต่สิ่งที่เราได้ตั้งเป็นข้อกำ�หนด 3 ข้อ คือ 1.ไม่กล่าวว่าร้าย ร้านอื่น 2.เวลาเจอทองปลอมต้องช่วยกันบอกต่อ 3.ต้องให้ ความร่วมมือเวลาทางราชการเขาขอความช่วยเหลือมา ทำ�ใน นามของชมรมฯไม่ใช่ส่วนตัว ส่วนรายละเอียดปลีกย่อย ทาง สมาชิกก็จะมีการเจรจาเพิ่มเติม” คุณเฉลิมชัยฯกล่าว ประธานชมรมร้ า นทองสมุ ท รสงครามกล่ า วเพิ่ ม เติ ม ว่ า จากนโยบายของชมรมฯทำ�ให้สมาชิกต่างทำ�การค้า โดยไม่มี ปัญหา โดยจะให้ลูกค้าเป็นคนเลือกว่าจะใช้บริการของร้านใด ขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือ การให้บริการ และการตั้งราคาของ แต่ละร้าน ส่วนสภาพการค้าทองคำ�ในพื้นที่ ขึ้นอยู่กับธุรกิจเรือประมง การทำ�นาเกลือ การทำ�สวน และการท่องเที่ยว ซึ่งแม้ว่าจังหวัด
JULY - AUGUST 2015
วารสารทองค�ำ
สมุทรสงครามจะมีแค่ 3 อำ�เภอ แต่กเ็ ป็นอำ�เภอทีม่ คี วามแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในเรื่องของท่องเที่ยว ถือว่าเป็นธุรกิจที่มีการขยายตัว มาก โดยมีการทำ�โฮมสเตย์กันเป็นจำ�นวนมาก ทำ�ให้มีเม็ดเงิน กระจายในพื้นที่มากขึ้น ส่วนธุรกิจอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นประมง นาเกลือ สวนผลไม้ ราคาจะขึ้นอยู่กับผลผลิตที่ออกมา รวมถึง ราคาของตลาด ซึง่ จะมีความผันผวนของธุรกิจนัน้ ๆ แต่ขอ้ ดีกค็ อื ธุรกิจเหล่านี้จะสลับกันเจริญเติบโตและหดตัว จึงให้เศรษฐกิจ มีการหมุนเวียนตลอดเวลา “ปัจจุบันราคาที่ดินในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม มีราคาเพิ่มขึ้น ต่อเนื่อง โดยแนวโน้มการขยายตัวทางธุรกิจ จะไปทางท่องเที่ยว มากกว่า เพราะพื้นที่ริมน้ำ�จะถูกซื้อไปเพื่อไปสร้างโฮมสเตย์กัน หมดแล้ว ซึ่งในช่วงสุดสัปดาห์จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา พักผ่อนและใช้จา่ ยเงินเป็นจำ�นวนมาก ส่งผลให้เศรษฐกิจในพืน้ ที่ มีการหมุนเวียนและขยายตัวเป็นอย่างดี ซึ่งส่งผลดีต่อการทำ� การค้าของร้านค้าทองไปด้วย” คุณเฉลิมชัยฯกล่าว ส่วนเรือ่ งของปัญหาการจีป้ ล้นถือว่ามีนอ้ ยมาก เพราะทีผ่ า่ น มาร้านค้าต่างๆ ได้มีการป้องกันตัวเองในเบื้องต้น ไม่ว่าจะ เป็นเรื่องของระบบกล้องวงจรปิด บางร้านก็จะมีการติดลูกกรง ขณะเดียวกันทางชมรมได้ประสานกับตำ�รวจในพื้นที่ โดยจัด สายตรวจมาคอยดูแลร้านค้าทอง ซึ่งจะออกมาตรวจตราอย่าง ส่ ว นเรื่ อ งของกลุ่ ม มิ จ ฉาชี พ ที่ นำ�ทองปลอม หรื อ ทอง ต่อเนื่อง เปอร์เซ็นต์ตำ�่ มาหลอกขายให้รา้ นค้าก็มอี ยูบ่ า้ ง แต่เมือ่ ตรวจสอบ ก็จะมีการแจ้งให้กับร้านค้าที่เป็นสมาชิกให้รับทราบว่า รูปแบบ ที่กลุ่มมิจฉาชีพนำ�มาหลอกขายเป็นแบบใด และวิธีการเป็น แบบใด พร้อมวอนให้สมาชิกได้แจ้งข้อมูลหากตรวจพบ เพราะ ไม่ใช่เรือ่ งทีจ่ ะต้องปิดบัง และหากจับกุมตัวได้ จะส่งให้ทนายความ ไปดำ�เนินการเอาผิดทันที เพื่อขจัดมิจฉาชีพให้หมดไป และไม่ เปิดโอกาสให้กลุ่มมิจฉาชีพกลับมาลงมือปฎิบัติการอีก ซึ่งหลัง จากดำ�เนินการอย่างจริงจัง ทำ�ให้ปัญหาลดน้อยลง “รูปแบบที่กลุม่ มิจฉาชีพทำ� มีหลากหลายทั้งทองเปอร์เซ็นต์ ต่ำ� การตัดต่อหัวท้าย ต้องยอมรับว่าฝีมือดีมาก และมักจะเลือก เวลาในช่วงที่ร้านกำ�ลังมีลูกค้าเป็นจำ�นวนมาก แม้ว่าที่ผ่านมา ผู้ประกอบการจะระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่ก็จะมีบางช่วงที่เผลอ ก็จะเสียท่าให้กลุ่มมิจฉาชีพ โดยเวลาที่พวกนี้ปฎิบัติการจะลง พร้อมๆ กันหลายร้าน ทำ�ให้เราต้องเร่งกระจายข่าว ไปร้านอื่นๆ โดยจะบอกรูปลักษณ์ต่างๆ ให้สังเกตและระวัง เพื่อให้เกิดความ เสี ย หายน้ อ ยที่ สุ ด ” ประธานชมรมร้ า นทอง สมุ ท รสงคราม กล่าวทิ้งท้าย 53
Gold Infographic JULY - AUGUST 2015
วารสารทองค�ำ SCT GOLD : เรื่อง / ภาพ
55
Gold Health วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
นวพร เพชรแก้ว : เรื่อง
อะโวคาโด
หนึ่งในวัตถุดิบหลักของคนรักสุขภาพ อะโวคาโด (Avocado) เป็นไม้ผลที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ และสารอาหารที่จำ�เป็นสำ�หรับร่างกายหลายชนิดด้วยกัน จึงเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่เหมาะสำ�หรับผู้ที่รักสุขภาพ แต่ที่ผ่าน มาผลไม้ชนิดนี้อาจจะไม่คุ้นเคยกับคนไทยมากนัก เนื่องจาก มีราคาสูงและหาซื้อค่อนข้างยาก แต่ปัจจุบันมีการนำ�สาย พันธุม์ าปลูกในหลายพืน้ ทีข่ องประเทศไทย จึงทำ�ให้อะโวคาโด เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น ต้องยอมรับว่ารสชาติของ “อะโวคาโด” อาจจะไม่ถูกปาก กั บ คนไทยมากนั ก แต่ เ มื่ อ มาดู ถึ ง ประโยชน์ ที่ จ ะได้ รั บ แล้ ว อาจจะต้ อ งทนกล้ำ� กลื น ฝื น ใจรั บ ประทานเข้ า ไป เพราะมี สารอาหารที่จำ�เป็นต่อร่างกายจำ�นวนมาก และมีประโยชน์ ต่อสุขภาพหลายด้าน ทั้งการดูแลหัวใจให้แข็งแรง ลดระดับ คอเลสเตอรอล ควบคุ ม ความดั น โลหิ ต ส่ ง ผลดี ต่ อ ดวงตา รักษาระดับน้ำ�ตาลในเลือด ป้องกันโรคมะเร็ง ดูแลผิวพรรณ ป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ฯลฯ เมื่อได้เห็นประโยชน์ที่แทบจะเรียกว่าครอบจักรวาลแล้ว คำ�ถามที่ตามมาก็คือ จะรับประทานอย่างไรให้ได้ประโยชน์ และอร่อย ต้องยอมรับว่ารสสัมผัสของอะโวคาโด คงไม่ถูกปาก หลายคนอย่างแน่นอน แต่หากได้ปรุงแต่งในแนวทางที่แต่ละคน ชืน่ ชอบแล้ว เชือ่ ได้วา่ อาจจะทำ�ให้หลายคนหันกลับมาเป็นสาวก ได้เลยทีเดียว การรับประทานอะโวคาโด แนะให้ทานครั้งละไม่เกินครึ่งผล หรืออย่างมากสุด ไม่เกิน 1 ผลต่อวัน เนื่องจากเป็นผลไม้ที่ให้ พลังงานสูง ซึ่งวิธีการรับประทานส่วนใหญ่จะนิยมตักทานสดๆ หรือนำ�มาใส่สลัด หรือจะโรยเกลือเล็กน้อยซึ่งจะช่วยให้รสชาติ คล้ายๆ กับเนยเลยทีเดียว แต่ถ้าอยากจะทำ�ให้ดูเลิศหรูกว่านั้น ลองนำ�อะโวคาโดมาทำ�อาหาร 56
“โกลด์เฮลธ์” ฉบับนี้ มีเมนูมาแนะนำ� 2-3 เมนู เผื่อใครสนใจ จะลองไปทำ�รับประทานดู เมนูแรกเริม่ จากนำ�อะโวคาโดมาผ่าครึง่ แล้วเอาเมล็ดออก จากนัน้ ขูดเนือ้ ตรงกลางบางส่วนออกพอทีจ่ ะ ใส่ไข่ลงไปได้ 1 ฟอง นำ�น้ำ�มะนาวมาทาก่อนตอกไข่ใส่ลงไป ปรุง รสด้วยเกลือและพริกไทยเล็กน้อย หรือหากใครนิยมความหอม ของใบเครื่องเทศต่างๆ ก็สามารถใส่ลงไปได้ ก่อนนำ�ไปเข้าตู้อบ อุณหภูมิ 320 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 12-15 นาที ก็จะได้ อะโวคาโดอบที่มีกลิ่นหอมและรสชาติอร่อย หากได้ขนมปังมา รับประทานคู่ก็จะเพิ่มความอร่อยได้อีกมาก
JULY - AUGUST 2015
เมนูต่อมาค่อนข้างจะเริ่ดหรูขึ้นมาอีกนิด เริ่มจากเตรียม เนื้ออะโวคาโดใส่ไว้ในจาน ซึ่งแล้วแต่ความชอบว่าจะเตรียมใน ลักษณะใด อาจจะหั่นเป็นชิ้น ใช้ช้อนตักเป็นคำ� จากนั้นนำ�เนื้อปู มาคลุกเคล้ากับน้ำ�มันมะกอก ผิวเลมอนขูดเล็กน้อย และบีบน้ำ� เลมอนตามลงไป เพื่อเพิ่มความหอมและเปรี้ยว เติมเกลือ และ พริกไทยเล็กน้อย ก่อนจะคลุกเคล้ากัน ก่อนนำ�มาวางบนเนื้อ อะโวคาโดที่เราเตรียมไว้ ที่สำ�คัญหากมีไข่ปลาแซลมอนมาโรย หน้าอีกนิด จะช่วยให้จานนี้มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น จานต่ อ มานอกจากจะได้ ป ระโยชน์ แ ล้ ว สี สั น ยั ง งดงาม อีกด้วย เริม่ จากเตรียมอะโวคาโด มะเขือเทศ และมอสซาเรลล่าชีส หั่นเป็นชิ้นบางเตรียมไว้ เด็ดใบโหระพาเตรียมไว้เช่นกัน จากนั้น นำ�อะโวคาโด มะเขือเทศ มอสซาเรลล่าชีส ใบโหะพา มาจัดเรียง วางสลับกันไป จากนั้นนำ�น้ำ�สายชูบัลซามิก และน้ำ�มันมะกอก มาราดลงไปเล็กน้อย ตามด้วยพริกไทยป่นอีกนิด แต่แรกเห็น จานนี้ ก็ ไ ด้ ค วามสวยงามมาเป็ น อาหารตา และยั ง ได้ ร สชาติ ของส่วนผสมในจานนี้ ซึ่งจะได้ทั้งความมัน ความเปรี้ยว และ ความเหนียวนุ่มของชีส แค่นี้ก็สมบูรณ์แบบอีกหนึ่งจาน
วารสารทองค�ำ
ประโยชน์ของอะโวคาโด นอกจากจะนำ�มาทำ�อาหารแล้ว ยังสามารถนำ�มาทำ�เป็นเครือ่ งบำ�รุงผิวอีกด้วย โดยนำ�อะโวคาโด ครึ่งลูก น้ำ�ผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ และโยเกิร์ตครึ่งถ้วย นำ�มาผสมกัน ก่อนนำ�มาพอกหน้าไว้ จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้า หรือหากนำ�มาหมักผมก็จะทำ�ให้ผมดูเงางามขึ้นด้วย หรือจะนำ�อะโวคาโดครึ่งลูก น้ำ�มะนาว 1 ช้อนโต๊ะ และไข่ 1 ฟอง เอาเฉพาะ ไข่ขาว นำ�ส่วนผสมทั้ง 3 อย่างมารวมกัน ก่อนนำ�มาพอกหน้าทิ้งไว้ น้ำ�มะนาว และไข่ขาว จะช่วยลด ความมันบนใบหน้า หากนำ�ไปหมักผมจะทำ�ให้เส้นผมแข็งแรง และเงางาม รายละเอียดเกี่ยวกับอะโวคาโดมีมากมาย และยังสามารถ นำ�ไปประยุ ก ต์ ใช้ ทำ�อาหารและเครื่ อ งดื่ ม ได้ อี ก หลากหลาย ข้ อ มู ล ที่ นำ�มาเสนอใน “โกลด์ เ ฮลธ์ ” นี้ เ ป็ น เพี ย งส่ ว นหนึ่ ง เท่ า นั้ น หากใครสนใจสามารถไปหารายละเอี ย ดเพิ่ม เติม ได้ ลองไปทำ�ความรู้ จั ก และทดลองรั บ ประทานผลไม้ ช นิ ด นี้ รับรองไม่ผิดหวัง 57
Hi Life
วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
กองบรรณาธิการ : เรื่อง
เลือกช้อปแว่นหรูด้วยเงินแสนเงินล้าน ในยุคนี้ “แว่นตา” กลายเป็นเครื่องประดับชิ้นเก๋ของ หนุ่มสาวยุคใหม่ที่ขาดไม่ได้ไปเสียแล้ว หลายคนยอมเท กระเป๋าซื้อ เมื่อพบแว่นตาที่ถูกใจ สวมใส่แล้วเข้ากับใบหน้า ของตัวเอง ยิง่ ถ้าใส่แล้วเพิม่ ให้บคุ ลิกดูดขี นึ้ ด้วยแล้ว เรียกว่า เท่าไหร่ก็ยอม คอลัมน์ “Hi Life” ในฉบับนี้จะพาไปชมความงดงาม และ หรู ห ราของแว่ น ตาที่ ประดับ ด้วยเพชรและทอง ที่ทางบริ ษัท วอชิงตัน พารากอน จำ�กัด หรือ WALTZ Vision ได้รับการยอมรับ จากเจ้าของแบรนด์ให้นำ�สินค้าของเขาเข้ามาเปิดตลาดในไทยได้ อย่ า งแบรนด์ แรก คื อ Lotos แว่ น หรู ค ลาสสิ ก นำ�เข้ า จากประเทศเยอรมัน ความคลาสสิกอยู่ที่รูปทรงดีไซน์ และ เรื่องราว ซึ่งต้นตระกูลผู้สร้างแบรนด์ Lotos ที่เป็นช่างทอง ทำ�เครื่ องประดับให้กับกษัตริย์ยุโรป และทำ�มาเป็น 100 ปี ปัจจุบันซีอีโอคนที่ 5 ดีไซน์กรอบแว่น และนำ�เพชรฝังไปที่กรอบ แว่นทีละเม็ดๆ ด้วยตัวเอง 58
แบรนด์ต่อมา ก็คือ LINDBERG จากประเทศเดนมาร์ก ผลิตด้วยทองคำ�แท้ ซึ่งทาง LINDBERG เรียกสินค้าในกลุ่มนี้ ว่า Precious Collection ได้แก่ แว่นทองคำ�แท้ ทองคำ�ฝังเพชร ซึ่งได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้ใช้ชาวไทยและทั่วโลกเป็นอย่างดี รวมถึงราชวงศ์ก็นำ�แว่นตานี้มาสวมใส่ จุดเด่นนอกจากเรื่อง ความหรูหรา ก็คือมีน้ำ�หนักเบา สวมใส่สบาย และเข้ากับรูปหน้า มากที่สุด
JULY - AUGUST 2015
LINDBERG เป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวที่ผลิตกรอบแว่นหรู จากโลหะที่ มี ค่ า เช่ น ทองคำ�ขนาด 18 กะรั ต ทองคำ�ขาว และแพลทตินัมอย่างดี สามารถเลือกประดับด้วย ดีไซน์เพชร ชุ ด พิ เ ศษ หรื อ ไม่ ก็ไ ด้ อย่างเช่น คอลเลคชั่น ที่ห รูห รา อย่ า ง PRECIOUS UNICA ได้ประดับด้วยเพชรสีชมพู (Pink Diamond) มีความแปลกและสะดุดตา เมื่อนำ�มาดีไซน์ตกแต่งบนขาแว่น ราคาของแว่นตา LINDBERG เริม่ กันตัง้ แต่หลักแสน จนไปถึงหลัก ล้าน หากสนใจก็ไปเลือกหามาสวมใส่กันได้เลย แว่นตาหรูอีกแบรนด์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นแว่นกันแดดที่แพงที่สุด ในโลก ด้วยราคาไม่มากไม่มาย แค่ 40,849 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทย ประมาณ ล้านกว่าบาท ก็คือ Chopard ที่สร้างขึ้นโดย De Rigo Vision ตั ว ก ร อ บ แ ว่ น ต า ป ร ะ ดั บ ด้วยเพชร 51 เม็ด หนัก 4 กะรัต ทอง 60 กรัม เพชรที่ใช้ประกอบ ต้องใช้เทคนิคพิเศษ ประกอบ เข้ า ด้ ว ยกั น กั บ ขาแว่ น ตาเป็ น รู ป โลโก้ ตั ว C ของแบรนด์ Chopard ซึ่งเป็นที่ถูกใจและนิยม ของพวกเศรษฐี ไฮโซ และดาราชื่อดัง มาดูแว่นตาหรู ราคาเบาๆ หลักแสน อีกซัก 2-3 แบรนด์ ที่น่าสนใจ อาทิ Chrome Heart แว่นตาสัญชาติอเมริกัน โดยจะ ขอแนะนำ�คอลเลคชั่ น Chrome Hearts Daimond Frame เป็นรุ่นคลาสสิกสนนราคาก็อยู่ที่ 165,000 บาท สาเหตุที่มี ราคาสู ง ขนาดนี้ ก็ เ พราะเป็ น กรอบ แว่ น ตาที่ ผ ลิ ต จากโลหะ Beryllium ที่ พ บในสะเก็ ด ดาว และอุ ก าบาต หุ้ ม ก้านด้วยหนังชั้นดีจากอิตาลี ผลิต
วารสารทองค�ำ
แบบแฮนด์เมด ตกแต่งด้วยสัญลักษณ์ยอดนิยมของโครมฮาร์ท ทำ�จากเงินบริสทุ ธ์แท้ และตกแต่งด้วยเพชร คุณภาพกว่า 36 เม็ด และทับทิม 2 เม็ด น้ำ�หนักรวมทั้งหมด 0.65 กะรัต อีกหนึ่งแว่นตาหรูของแบรนด์ Cartier จากฝรั่งเศสที่คนไทย รู้จักมีชื่อเสียงมานานกับแว่นตารุ่น Georges memmi กรอบ แว่ น ตาของเขาทำ�จากทองคำ�แท้ 18k แกะสลั ก สวยงาม เป็นลายเกลียวเชือก ตัวเลนส์กระจก Progressive สนนราคา อยู่ที่ 182,000 บาท ฝรั่งเศสยังมีอีกหนึ่งแบรนด์ดัง คือ Gold & Wood กับ แว่ น ตารุ่ น Solid Gold Frame ตั ว กรอบและสกรู ทำ�จาก ทองคำ�แท้ 18K ประดับเพชร 22 เม็ด ที่ ด้ า นข้ า งขาแว่ น ตา และแป้นรองจมูก มู ล ค่ า รวม 0.5 กะรัต ราคาอยู่ที่ 345,000 บาท ตามมาด้วย Bvlgari แบรนด์ ดังจากอิตาลี ทีม่ สี ไตล์เรียบหรู กับคอลเลคชัน่ Bvlgari Le Gemme ประดับด้วยเพชรและพลอย ความเก๋ไก๋โดดเด่นอยู่ที่ดอกไม้ ทีป่ ระดับอยูท่ กี่ า้ นขาแว่นเพิม่ มูลค่าด้วยพลอยสีมว่ ง และพลอย ซิ ท ริ น สี เหลื อ งและ ทองคำ� แถม ยั ง แต่ ง เติ ม ด้ ว ย เพชรทรงลู ก แพร์ สนนราคา 330,100 บาท เท่านั้นเอง ปิ ด ท้ า ยด้ ว ยแว่ น กั น แดดสุ ด หรู จ ากอั ง กฤษ ที่ ไ ฮโซ และดาราดังหลายๆ คนให้ความสนใจ นั่นคือแบรนด์ Linda Farrow รุ่น Linda Farrow Luxe Shiny Rose Gold แว่นตา สุดคลาสสิกรุ่นเอ็กซ์ คลูซีฟที่ต้องสั่งผลิต ขาแว่นประดับด้วย เพชร กรอบแว่นและ ตั ว เลนซ์ ฉ าบด้ ว ยทอง ชมพู ราคาราว 850,000 บาท แว่นตาหรูๆ เก๋ ประดับด้วยอัญมณีและทองคำ� ยังมีอีก หลายรุ่น ไว้มีโอกาสจะนำ�มาเสนอกันต่อไป 59
เรือ่ งเล่าโลกออนไลน์ วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
กองบรรณาธิการ : เรื่อง
คนชอบโพสต์ - ชอบแชร์ในโลกโซเชียล ระวัง… กม.ลิขสิทธิ์ฉบับใหม่มีผลบังคับใช้แล้ว
ในปัจจุบันในโลกออนไลน์ มีการส่งต่อข้อมูลข่าวสารมากมาย และในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งมีทั้งการเล่าสู่กันฟัง แนวความคิดของนักคิดนักปฎิบัติ สูตรเด็ด เคล็ดลับ ข้อมูลทางวิชาการ ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้เชื่อว่าหลายคนสามารถนำ�ไปใช้ ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น หลายคนนำ�ไปใช้ในการดำ�เนินชีวิต หรือบางเรื่องราวก็เป็นเรื่องโกหกหลอกลวง บางคนบริโภค ข้อมูลไปแล้วถึงกับเกิดอาการจิตตกหดหู่กันไป ซึ่งการรับข้อมูลจากโลกออนไลน์จำ�เป็นต้องใช้วิจารญาณในการรับและ การส่งต่ออย่างหนัก เพราะข้อมูลบางอย่างอาจจะทำ�ให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปได้ ในทางกลับกันข้อมูลดีๆ ในโลก สังคมออนไลน์ที่ดีและมีประโยชน์ก็มีอยู่มากเช่นกัน “เรือ่ งเล่าจากโลกออนไลน์” เป็นอีกช่องทางทีจ่ ะนำ�เรือ่ งราว ภาพวีดีโอนั้น พร้อมกับทำ�ลิงค์ไปยังวีดีโอเจ้าของคลิป อันนี้ ดี ๆ เรื่ อ งราวที่ น่ า สนใจ หรื อ เรื่ อ งราวที่ ค วรรู้ ม าแบ่ ง ปั น กั น สามารถทำ�ได้ไม่ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ หรือไม่หากต้องการนำ� ซึ่งหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่าน โดยเรื่องแรกที่จะนำ�มา ภาพวีดิโอดังกล่าวไปใช้ ต้องเผยชื่อ user youtube เจ้าของ แบ่งปันกัน ถือเป็นเรือ่ งสำ�คัญและเป็นเรือ่ งทีน่ กั ท่องโลกออนไลน์ คลิปนั้น เพื่ออ้างอิงและคลิปที่ใช้ได้ต้องเผยแพร่แบบสาธารณะ ควรจะรับทราบ นั่นก็คือเรื่องของกฎหมายลิขสิทธิ์ฉบับใหม่ที่มี ถ้าเป็นคลิป youtube แบบ Private หรือแชร์ลงิ ค์ทไี่ ม่ใช่สาธารณะ ผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม ที่ผ่านมา เพราะปัจจุบันการ นำ�มาใช้ถือว่าผิดลิขสิทธิ์ ส่วนประเด็นที่แฟนเพจ facebook ได้แชร์ภาพของ fanpage ส่งต่อข่าวสารในรูปแบบต่างๆ ทั้งที่เป็นข้อความ ภาพ กราฟฟิค แอนนิเมชั่น วีดิโอฯลฯ ในโลกสังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Line อื่น เพื่อเรียกเรตติ้ง ก็มีความเสี่ยงถูกฟ้องร้อง เพราะแสวงหา facebook, youtube ฯลฯ ล้วนแต่มีลิขสิทธิ์ เพราะฉะนั้น หากเรา ผลกำ�ไร ดั งนั้ น หากไม่ อยากโดนฟ้ องเรื่ องลิ ข สิ ท ธิ์ ภาพถ่า ย ส่งต่อข้อมูลโดยไม่รู้กฎหมายลิขสิทธิ์ ก็อาจจะถูกเจ้าของลิขสิทธิ์ ควรถ่ายเอง วาดเอง หรือขอจากเจ้าของรูป ก็จะเป็นอีกทางออก คุณไพบูลย์ฯ ได้กล่าวถึงการนำ�เนื้อหาจากเว็ปต่างประเทศ ดังกล่าว ฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ คุณไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ที่ปรึกษาสมาคมผู้ดูแลเว็บ มาแปล แต่อา้ งอิงชือ่ ผูเ้ ขียนจะมีความผิดหรือไม่วา่ ถ้าเป็นเนือ้ หา ไทย ในงานสัมมนา “งานจิบกาแฟคนทำ�เว็บ (Webpresso)” ว่า ข่าวไม่ผิดลิขสิทธิ์ แต่ถ้าเป็นบทความอาจผิดลิขสิทธิ์ได้ หากใช้ หากรูปที่ถูกส่งต่อในโลกสังคมออนไลน์ แล้วถูกคัดลอกไปใช้ ในเรือ่ งแสวงหาผลกำ�ไรหรือใช้ในเชิงพาณิชย์ ทัง้ นี้ การนำ�เนือ้ หา ในทางเชิงพาณิชย์ในทางกฎหมาย เจ้าของลิขสิทธิ์สามารถฟ้อง มารีไรท์เรียบเรียงใหม่ ถือว่าไม่ผิด แต่ถ้าใช้วิธี copy แล้ว paste ร้องเอาผิดได้ ซึ่งรูปที่จะเป็นปัญหาส่วนใหญ่จะเป็นศิลปินดารา แบบแปล คำ�ต่อคำ� ถือว่าผิดลิขสิทธิ์ สำ�หรับตัวอย่างเนื้อหาข่าวที่ไม่ผิดลิขสิทธิ์ เช่น เนื้อหาข่าว ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะลบลายน้ำ�ในรูป หรือทำ� การตัดครอปรูป โดยรูปนั้นไม่นำ�ชื่อเจ้าของภาพแล้วนำ�ไปใช้ ทีบ่ อกว่า ว่าเกิดอะไรขึน้ หรือเป็นข้อมูลทัว่ ไป ราคาหุน้ พยากรณ์ ในเว็บตัวเอง หรือแชร์ทางโลกสังคมออนไลน์ โดยไม่อ้างอิง อากาศ ราคาน้ำ�มัน ผลการแข่งขันฟุตบอล ข้อมูลในลักษณะนี้ เจ้าของ มีโทษจำ�คุก 6 เดือนปรับ 2 แสนบาท ดังนัน้ การคัดลอก ไม่เป็นลิขสิทธิ์ สามารถส่งต่อหรือนำ�ไปใช้ได้ แต่ถ้าเป็นพวก รูปภาพบนโลกสังคมออนไลน์ หรือจากเว็บอื่น ต้องให้เครดิตใส่ ภาพข่ า ว บทสั ม ภาษณ์ ข่ า ว คอลั ม น์ ข่ า ว ถื อ ว่ า เป็ น ลิ ข สิ ท ธิ์ ชื่อเจ้าของรูปไว้ด้วย ซึ่งกฎหมายลิขสิทธิ์ฉบับใหม่มีเจตนารมณ์ หากนำ�ไปใช้โดยไม่ขออนุญาตเจ้าของภาพ หรือเจ้าของคอลัมน์ คือ เวลาจะเอาผลงานของใครมา ต้องเอาชื่อคนนั้นมาใส่ด้วย อาจเสี่ยงถูกฟ้องในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ได้ นี่ เ ป็ น เพี ย งแค่ ข้ อ มู ล กว้ า งๆ ที่ เ กี่ ย วกั บ ปั ญ หาเรื่ อ งของ ต่อข้อถามที่ว่าหากเป็นการคัดลอกเนื้อหาบนหน้าเว็บมา โพสต์ในโลกสังคมออนไลน์ หรือเว็บผิดลิขสิทธิห์ รือไม่ คุณไพบูลย์ฯ ลิขสิทธิ์ที่อาจเกิดขึ้นได้หลังจากที่กฎหมายลิขสิทธิ์ฉบับใหม่มี กล่าวว่าถ้าเป็น facebook ใช้ส่วนตัว และไม่ได้แสวงหาผลกำ�ไร ผลบังคับใช้ไปแล้ว ซึ่งหากมองในภาพรวม ถ้าเป็นการนำ�ไปใช้ โดยที่ ไ ม่ แ สวงหาผลกำ�ไร เป็ น การนำ�เสนอข้ อ มู ล เพื่ อ เป็ น สามารถใช้ได้ ทั้งนี้ ต้องอ้างอิงแหล่งที่มาถึงจะไม่ผิดลิขสิทธิ์ แต่ถ้าในกรณีนิติบุคคลถือว่าไม่ได้ ถ้าเว็บไซต์มีแบนเนอร์ ประโยชน์ ต่อส่วนรวม หรือไม่ทำ�ให้เจ้าของลิขสิทธิ์เสียหาย ก็อาจจะไม่มีปัญหามากนัก แต่ทางที่ดีควรจะหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือ facebook มีกิจกรรมชิงโชคถือว่าผิดลิขสิทธิ์ สิ่งต้องระวังมากก็คือการนำ� embed วีดีโอจาก youtube หรือเพิม่ ความระมัดระวังในการคัดลอก หรือส่งต่อข้อมูล รูปภาพ แปะใส่ในหน้าเว็บไซต์ หรือ blog ของเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตราย กราฟฟิคหรือวีดิโอของคนอื่นๆ ก็จะทำ�ให้เราปลอดภัยจาก เพราะภาพเหล่านัน้ มีลขิ สิทธิอ์ ยู่ วิธแี ก้คอื ใส่ภาพนิง่ เป็นตัวอย่าง เรื่องของปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์มากยิ่งขึ้น 60
Gold Trips วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
กองบรรณาธิการ : เรื่อง
“ฮิโระชิมะ” อีกหนึ่งความทรงจำ�ของญี่ปุ่น ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด นับจากวันทีค่ นไทยสามารถเดินทางเข้าญีป่ นุ่ ได้ โดยไม่ตอ้ งขอวีซา่ (ระยะเวลาพักอาศัยไม่เกิน 15 วัน) นักท่องเทีย่ วชาวไทย ก็หลั่งไหลสู่แดนซากุระกันเป็นว่าเล่น และแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตที่ชาวไทยไปมักจะเป็นเมืองเดิมๆ แหล่งท่องเที่ยวเดิมๆ แต่ “โกลด์ ทริป” ในฉบับนี้ จะขอพาไปเที่ยว “ฮิโระชิมะ” เมืองที่ทุกคนคุ้นหู เพราะเมืองแห่งนี้คือจุดแรกของโลกที่ถูก โจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ความที่ ฮิโระชิมะเป็นเมืองประวัติศาสตร์ แถมยังเป็นเมืองที่สงบ จึงถือ เป็นเมืองที่ยังเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่น่าสนใจสำ�หรับนักท่องเที่ยว “ฮิโระชิมะ” เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในภูมิภาคชูโงะกุ อยู่ทาง ตะวันตกของเกาะฮอนชู แหล่ ง ท่ อ งเที่ ย วที่ น่ า สนใจ มี ทั้ ง แหล่ ง อารยธรรมซาก ของสงครามที่หลงเหลืออยู่ ขณะที่เรื่องของอาหารการกิน และ สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ก็อร่อยและสวยงามไม่แพ้เมืองอื่นๆ เรียกว่าครบทุกรสชาติกันเลยทีเดียว
62
เราจะไปเริ่มกันที่การเยี่ยมชมร่องรอยซากสงครามกันก่อน ไม่ ว่ า จะเป็ น ซากอาคารสไตล์ ยุ โรปหลั ง หนึ่ ง ที่ เรี ย กกั น ว่ า “Atomic Bomb Dome” ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ�โมโตยะสึ (Motoyasu-gawa) เป็นสัญลักษณ์แห่งการเรียกร้องสันติภาพ ของเมื อ งฮิ โรชิ ม า ที่ ปั จ จุ บั น กลายเป็ น สถานที่ ท่ อ งเที่ ย วที่ ได้รับการขึ้นทะเบียน เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก ตั้งแต่ ปี 1996 เมื่ อ เดิ น ลั ด เลาะจาก “Atomic Bomb Dome” ไป เรื่ อ ยๆ ก่ อ นขึ้ น สะพาน จะเห็ น “Memorial Tower to the Mobilized Students” เป็นอนุสาวรีย์ที่ระลึกถึงนักเรียน นักศึกษาราว 6,300 คน ที่ถูกระดมกำ�ลังให้มาทำ�งานในโรงงาน
JULY - AUGUST 2015
ผลิตอาวุธในวันที่ระเบิดลง และเสียชีวิตทั้งหมด อนุสาวรีย์มี 5 ชั้น แต่ละชั้นก็จะมีนกพิราบ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ เกาะอยู่ ฝัง่ ตรงข้ามมีสวนอนุสาวรียส์ นั ติภาพ (Peace Memorial Park) บริเวณรอบๆ สวน ยังมีระฆังสันติภาพ (Bell of Peace) บนระฆัง มีรูปจารึกของแผนที่โลก และยังมีอนุสาวรีย์เด็กหญิงซาดาโกะ หนูนอ้ ยคนหนึง่ ทีเ่ ป็นเหยือ่ ระเบิดปรมาณู และเธอคือคนทีท่ ำ�ให้ เกิดประเพณีการพับนกกระเรียนกระดาษพันตัว เพื่อภาวนาให้ เธอหายป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บ และนีแ่ หละคือตำ�นานทีท่ ำ�ให้เกิด การพับนกกระเรียนกระดาษ ที่คนไทยรู้จักกันมานาน ด้านล่าง อนุ ส าวรี ย์ มี คำ�จารึ ก เป็ น ภาษาญี่ ปุ่ น ด้ ว ยว่ า “นี้ คื อ น้ำ� ตา ของพวกเรา นี่คือคำ�อ้อนวอนของพวกเรา สำ�หรับการสร้าง สันติภาพ ขึ้นบนโลก”
วารสารทองค�ำ
ซากสงครามยังมีอนุสาวรีย์เหยื่อระเบิดปรมาณู (Cenotaph for the A-Bomb Victims) ที่มีลักษระเป็นรูปตัวยู (U) กลับหัว ตั้งอยู่กลางสวนอนุสาวรีย์สันติภาพ เป็นสถานที่บรรจุรายชื่อ เหยือ่ ทีเ่ สียชีวติ จากการทิง้ ระเบิด พิพธิ ภัณฑ์อนุสาวรีย์ สันติภาพ (Hiroshima Peace Memorial Museum) ส่วนอาคารยาวที่ตั้งอยู่ ในบริเวณสวนอนุสาวรีย์สันติภาพเช่นกัน ภายในอาคารจัดแสดง ภาพระเบิด ซากของความสูญเสียและความทุกข์ทรมานของ ผู้คนที่เป็นเหยื่อของสงคราม การพาเที่ยวในเมืองฮิโระชิมะ ในฉบับนี้คงจะพาไปเที่ยวชม แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ แต่เชื่อว่าหลายคนอยากจะ เห็ น ความงดงามของสถานที่ ท่ อ งเที่ ย วทางธรรมชาติ และ ประเพณีท้องถิ่นที่งดงามของเมืองฮิโระชิมะ แต่คงต้องติดตาม ในโอกาสถัดไป
• https://maryloudriedger2.wordpress.com/tag/peace-memorial-museum/ • https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/6/67/Memorial_Tower_to_the_Mobilized_Students_(13889668418).jpg/1280px-Memorial_Tower_to_the_Mobilized_ Students_(13889668418).jpg • http://wikitravel.org/upload/shared/a/af/Cenotaph_for_A-Bomb_Victims.JPG • http://japantraveladvice.com/wp-content/uploads/2012/12/Hiroshima-Peace-Memorial-Museum-1024x768.jpg
63
Gold Design วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
“สัตตบงกช” อีกหนึ่งความภาคภูมิใจแห่งช่างทองเมืองเพชร “เขาวังคู่บ้าน ขนมหวานเมืองพระ เลิศล้ำ �ศิลปะ แดนธรรมะ ทะเลงาม” เป็นคำ�ขวัญประจำ�จังหวัดเพชรบุรี คำ�ว่า “เลิศล้ำ�ศิลปะ” นั้น มีที่มาจากการที่ในสมัยรัชกาลที่ 4 มีช่างสิบหมู่หลายสาขาจากเมืองหลวง ได้มาอาศัยอยู่ที่เมืองเพชรบุรี เพื่อก่อสร้างพระราชวังเป็นเวลานาน ดังนั้นเมืองเพชรบุรีจึงเป็นแหล่งรวมศิลปวิทยาการ รวมทั้งงานช่างสาขาต่างๆ ทั้งงานเขียน งานปั้น งานแกะสลัก รวมถึงงานช่างทอง งานทองของเมืองเพชรนั้นเป็นศิลปหัตถกรรมล้ำ�ค่าที่มีเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตัว ที่ผสมผสานความงดงามของธรรมชาติ และประโยชน์ใช้สอยของทองไว้อย่างกลมกลืน สมบูรณ์แบบ จึงมีความงดงามอันทรงคุณค่า จนทำ�ให้เครื่องทองเมืองเพชรบุรี กลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำ�ค่าของชาติ วารสารทองคำ�ฉบับนี้ ได้นำ�คอลเลคชั่น “สัตตบงกช” มาให้ได้รู้จักและชื่นชมความงดงามอันถ่ายทอดมาจากงานฝีมือ ช่างเมืองเพชร ทองลายบัวสัตตบงกชมีชื่อเรียกในหมู่ช่างทองเมืองเพชรบุรีว่า “กระดุม” เนื่องจากลวดลายนี้มีลักษณะคล้ายกระดุมสำ�หรับ ติดเสื้อ ทรวดทรงกระดุมจะกลมป้อมคล้ายบัวสัตตบงกช (ดอกบัวหลวงสีชมพูชนิดกลีบซ้อน) โดยรายละเอียดในกระดุมแต่ละเม็ด นั้น มีการรีดทองคำ�เป็นเส้นลวดเล็กๆ มาดัดทำ�เป็นวงๆ 4 ขนาดซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไป บนยอดเป่าทองเป็นเม็ดกลมมาติด เป็นยอด ที่วงชั้นล่างสุดประดับรายล้อมด้วยรูปดอกพิกุลเล็กๆ ทั้งนี้ ดอกพิกุลแต่ละดอกก็จะมีเทคนิคการทำ�แบบเดียวกันคือ ใช้ทองที่รีดเป็นเส้นมาดัดเป็นวงจับล้อม ทำ�เป็นกลีบดอก ส่วนเกสรใช้เทคนิคเป่าทองเป็นเม็ดมาติดด้านบนกลีบดอก ในบางชิ้นจะมีการทำ�ฐานที่ขึ้นโครงเป็นรูปกลีบดอกบัวมารองรับ เม็ดกระดุมอีกชั้นหนึ่ง ความละเอียด สลับซับซ้อนของทองลายกระดุมหรือสัตตบงกชจึงสะท้อนความมีฝีมือ ความละเอียด ละเมียดละไมของ ช่างทองเมืองเพชรได้อย่างดียิ่ง
ขอขอบคุณชุดเครื่องทองจาก “บ้านช่างทองกรุ๊ป”
64
Gold Update วารสารทองค�ำ
JULY - AUGUST 2015
ปานะพงษ์ สุทธีวงศ์ : เรื่อง
สวัสดีครับท่านสมาชิกฯ หลายท่านอาจเคยมีคำ�ถามที่ว่า “เจอทองปลอมแล้วต้องทำ�อย่างไร?” ดังนั้น วารสารฉบับนี้ ผมจึงขอนำ�เสนอขั้นตอนการเตรียมตัวในการแจ้งความดำ�เนินคดีทองปลอม เพื่อเป็นประโยชน์ กับท่านสมาชิกฯ โดยมีขั้นตอนดังนี้ครับ 1. การเตรียมเอกสารประกอบการแจ้งความ 1.1 หนังสือหรือหลักฐานในการยืนยันว่าเป็นผูเ้ สียหายตามกฎหมาย ในกรณีบคุ คลธรรมดา คือ บัตรประจำ�ตัวประชาชน หากเป็นกรณีนติ บิ คุ คลทีไ่ ด้จดทะเบียนไว้แล้ว ไม่วา่ จะเป็น ในรูปแบบ บริษัทจำ�กัด หรือ ห้างหุ้นส่วนจำ�กัด ฯลฯ จะต้องมีหนังสือรับรองฯ ซึ่งออก โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 1.2 ใบค้าของเก่า ซึง่ ร้านค้าทองคำ�ทีม่ วี ตั ถุประสงค์ในการรับซือ้ ทองต้องมีใบค้าของเก่าด้วย 1.3 หนังสือมอบอำ�นาจ กรณีท่ีผู้เสียหาย (เจ้าของร้าน) ไม่สะดวกหรือไม่มีเวลาที่จะไป ดำ�เนินการแจ้งความร้องทุกข์ด้วยตนเองต่อพนักงานสอบสวน ผู้เสียหายสามารถ มอบอำ�นาจให้บุคคลอื่นไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนได้ แต่ผู้ที่จะเป็น ผู้รับมอบอำ�นาจควรที่จะเป็นบุคคลที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เช่น ลูกจ้างคนที่รับซื้อทองจาก ผู้เสียหาย เนื่องจากผู้รับมอบอำ�นาจในการดำ�เนินคดีแจ้งความแทนผู้เสียหายนั้นต้อง เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ และจะต้องให้การเกี่ยวกับลำ�ดับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นใน การกระทำ�ความผิดของผู้ต้องหา ส่วนเอกสารประกอบในการมอบอำ�นาจ คือ สำ�เนา บัตรประจำ�ตัวประชาชนและทะเบียนบ้าน หากเป็นนิติบุคคลก็จะเป็นสำ�เนาบัตร ประจำ�ตัวประชาชน และทะเบียนบ้านของกรรมการหรือหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้มีอำ�นาจ กระทำ�การแทนนิติบุคคล โดยเอกสารทั้งหมดให้รับรองสำ�เนาถูกต้องด้วย (หนังสือ มอบอำ�นาจต้องปิดอากรแสตมป์ 30 บาท ด้วยโดยซื้อได้ที่สรรพากร) 1.4 เอกสารหลักฐานแสดงการกระทำ�ความผิดของผูต้ อ้ งหา เช่น ใบรับขายฝาก, ใบรับจำ�นำ�, ทองปลอมทีน่ ำ�มาหลอกขาย (สามารถขอคืนได้หลังจากส่งพิสจู น์หลักฐานแล้ว), สำ�เนา บัตรประชาชนผู้ต้องหา กล้องวงจรปิด (ถ้ามี) ทุกอย่างต้องนำ�ฉบับจริงไปมอบให้แก่ พนักงานสอบสวน 2. การแจ้งข้อมูลหรือข้อเท็จจริงที่จะต้องแจ้งกับพนักงานสอบสวน 2.1 ในเบื้ อ งต้ น พนั ก งานฯ จะสอบถามเกี่ ย วกั บ ประวั ติ เช่ น ชื่ อ อาชี พ อายุ ที่ อ ยู่ ชื่อพ่อ แม่ เบอร์โทรศัพท์ รายได้ต่อเดือน 2.2 หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนจะเริ่มสอบถามถึงความเกี่ยวข้องหรือเกี่ยวพันในคดี เช่น ผูแ้ จ้งมีความเกีย่ วข้องในคดีโดยเป็นผูร้ บั มอบอำ�นาจ เพือ่ ให้ดำ�เนินคดีกบั ผูต้ อ้ งหา จนกว่าคดีจะถึงที่สุด และพฤติการณ์ในคดี ซึ่งอาจแยกเป็นสองส่วน ดังนี้
66
JULY - AUGUST 2015
วารสารทองค�ำ
ส่วนแรก พนักงานสอบสวนจะสอบถามเกีย่ วกับประวัติ รวมถึงวัตถุประสงค์ หรือวิธกี ารในการประกอบ กิจการของผู้เสียหาย เช่น นายหรือบริษัท....................ประกอบกิจการค้าขายทองคำ� รวมถึงการรับซื้อ หรือขายฝากทองคำ�ทั้งทองคำ�แท่งและทองรูปพรรณ มาเป็นเวลา ......ปี ส่วนทีส่ อง จะถามถึงเกิดเหตุการณ์ทเี่ กิดขึน้ คือ วัน เดือน ปี และเวลาทีเ่ กิดเหตุ เช่น วันที่ 1 กรกฎาคม 2558 เวลา............นาฬิกา นาย...........................................ได้นำ�สร้อยคอ ลาย..................ยี่ห้อหรือ ตราของร้าน..................... น้ำ�หนัก..................กรัม จำ�นวน.....เส้น มาขายฝาก ในราคา...............บาท โดยยืนยันว่าเป็นสร้อยคอทองคำ�แท้ ซึ่งทางร้าน (ผู้เสียหาย) โดย นาย......................................พนักงาน ของร้านได้ตรวจสอบเบื้องต้นด้วยวิธี......................ซึ่งเชื่อได้ว่าเป็นทองคำ�แท้ ประกอบกับบริเวณตะขอ ของสร้อยคอดังกล่าว มีการประทับตราหรือยีห่ อ้ ของร้าน (ขายส่ง).......................ซึง่ เป็นตรายีห่ อ้ ทีน่ า่ เชือ่ ถือ ถึงแหล่งผลิตทองคำ�ในวงการซื้อขายทองคำ� ทำ�ให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นทองคำ�แท้ ผู้เสียหายจึงได้ มอบเงินให้แก่ผู้ต้องหาไปเป็นเงินจำ�นวน.....................บาท ต่อมาหลังจากนั้น ทางร้านโดย.................... ...........ได้ทำ�การตรวจสอบสร้อยคอเส้นดังกล่าวโดยวิธี.................................ซึ่งจากการตรวจสอบ ผลปรากฏว่าสร้อยคอเส้นดังกล่าวเป็นทองคำ�ปลอม การกระทำ�ดังกล่าวจึงทำ�ให้นาย............................. ได้ รั บ ความเสี ย หาย จึ ง มาแจ้ ง ความร้ อ งทุ ก ข์ ม อบคดี ใ ห้ แ ก่ พ นั ก งานสอบสวนเพื่ อ ให้ ดำ�เนิ น คดี กั บ นาย........................จนกว่าคดีจะถึงที่สุด ในกรณีผตู้ อ้ งหายังไม่ถกู จับกุม พนักงานสอบสวนจะถามถึงตำ�หนิรปู พรรณของผูต้ อ้ งหา เช่น สูงเท่าใด ผิวสีอะไร ผมทรงแบบไหน มีตำ�หนิจุดใดบ้าง เช่น ปาก จมูก หู ตา คิ้ว เป็นอย่างไร เพื่อใช้เป็นข้อมูล ในการออกหมายเรียกหรือหมายจับของพนักงานสอบสวนต่อไป แต่หากมีสำ�เนาบัตรประชาชนผูเ้ สียหาย ก็สามารถยืนยันตามบัตรประชาชนได้ เลย ทั้งนี้ การแจ้งความร้องทุกข์ต้องดำ�เนินการภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่รู้เรื่องและรู้ตัวผู้กระทำ�ผิด หากเลยเวลาดังกล่าวคดีจะขาดอายุความ หวังว่าข้อมูลดังกล่าวข้างต้นจะเป็นประโยชน์ตอ่ ท่านสมาชิกฯ ไม่มากก็นอ้ ย สำ�หรับฉบับนี้ ต้องขอลา กันไปก่อน พบกันใหม่ฉบับหน้า สวัสดีครับ
67