หนังสืออัศจรรย์ธรรมะจากวันขึ้นปีใหม่ วัดพระธาตุแสงแก้วมงคล

Page 1



คํานํา อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหมของอาณาจักร ลานนาไทย ถือวาเปนมรดกภูมิปญญาอันลํ้าเลิศจาก การมองชีวิตมองโลกดวยสายตาวิเศษวิสุทธิ์สุดยอด ที่ ส ามารถสื่ อ ชี้ ใ ห เ ห็ น สั จ ธรรมความจริ ง ของชี วิ ต และโลกไดอยางผสมผสานลงตัวกลมกลืน ถึงกับเปน วั ฒ นธรรมที่ ท  า ทายต อ กาลเวลาได อ ย า งโดดเด น สงางามอลังการสูงสง จนเปนประเพณีนิยมเกาแกแผ กระจายมาอยางทรงคุณคายิ่งตั้งแตครั้งโบราณมาถึง ปจจุบัน อีกทั้งเปนพลังพลานุภาพ จุดประกายความ สวางไสวของโลก ใหมวลมนุษยชาติไดหลุดพนจาก หมอกมานความมืดมนอนธการ ขามพนจากความ ลุมหลงงมงาย สูความมีชีวิตชีวาบริสุทธิ์สดชื่นแจมใส ไดอยางอัศจรรย จึงเปนหนาที่ของเราทานจะตอง รวมกันขยายความคิดเปดเผยความจริงใหปรากฏถึง เอกลัก ษณ ที่เ ปย มดว ยเนื้อ หาสาระความอัศ จรรย วันขึ้นปใหมของดินแดนลานนาไทย (ลานนา: เพราะ เคยใชคาํ นีม้ าโดยตลอด) ทีไ่ ดรงั สรรคออกมาเปนเรือ่ ง อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม


ราวปลูกฝงปญญาไดอยางนาทึ่ง จนเปนวิถีชีวิตได อย า งสนิ ท แนบเนี ย น อี ก ทั้ ง เป น มนต เ สน ห  แ ละมี พิธีกรรมอันละเอียดหลากหลาย ในการเปดโลกทัศน ใหเห็นความอัศจรรยของวันขึ้นปใหม ดวยบรรยากาศ อั น ผสานความเป น หนึ่ ง เดี ย วกั บ ความจริ ง ที่ เ ป น ธรรมชาติงดงามอยางนาภาคภูมิใจ ดังนัน้ สิง่ จําเปนทีส่ ดุ ของผูค นสังคมในยุคนี้ คือการ หวนกลับมามองโลกตามความเปนจริง แลวรวมกัน ทะนุถนอมคุมครองโลกและชีวติ จิตใจ ดวยการสํารวจ ตรวจสอบตนเองดวยดวงตาดวงใจบริสุทธิ์สะอาด จนสามารถมองเห็นประโยชนอานิสงสและเจียระไน วันปใหมใหเห็นเดนชัดถึงความอัศจรรยอลังการสูการ จุดประกายชีวิตใหม ใหสดชื่นแจมใส สูความสุขสงบ รมเย็นเปนเปาหมายสําคัญสุดยอดตามอารยธรรม ของอาณาจักรลานนาไทยอันเรืองรองดวยฉัพพรรณรังสี แหงพุทธธรรมใหแผไพศาล ภิกษุอานันท พุทธธัมโม กระทอมหญาคาบนยอดเขาคิชฌกูฎ พุทธสถานวัดพระธาตุแสงแกวมงคล วันจันทรที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๖ เวลา ๑๑.๔๕ น. ข อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม


อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม วันนีก้ จ็ ะพูดถึงเรือ่ งวันปใหม เพราะวามีความ รูส กึ ถึงความเปนอัตลักษณและเปนมรดกธรรมอัน ลํา้ คายิง่ ทีไ่ มเหมือนใคร ในเรือ่ งวันปใหมแบบลานนา ของเรา ปใหมแบบอื่นๆ ที่เรามีความตื่นตัวตื่นใจ มีความตื่นเตนมีความกระตือรือรน ในเรื่องของ ความสนุกสนาน ความเพลิดเพลินเจริญใจใน วันขึน้ ปใหม ๑ มกราคม หรือ วันตรุษจีน วันคริสตมาส วันขึ้นปใหมของหลายๆ ประเทศ เขาก็จะกําหนด ของเขาเองทีเ่ ราไมอาจจะรูไ ดทวั่ ถึงเพราะในแตละ ภู มิ ภ าคของโลกนี้ มั น กว า งใหญ ไ พศาล แล ว แตวาแตละเชื้อชาติเขาจะกําหนดกันอยางไร แต ปใหมของชาวลานนาเรานี้ ก็อยากจะนํามาเนน เพือ่ เราจะไดรถู งึ ความหมายทีม่ นั ลึกซึง้ ทีส่ ามารถ อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม


สือ่ นําใหเขาถึงแกนแท และผสมผสานกับชีวติ กับ สัจธรรมของพระพุทธศาสนาไดอยางชนิดที่ได ปลูกฝงเขาไปในจิตใจจนเปนขนบธรรมเนียมเปน วิถชี วี ติ ถึงแมวา เราจะไมรคู วามหมายแตทา นก็ได ฝากไวใหเรานําไปขบคิดไดนําไปแกปญหา ขยาย ความรูท โี่ บราณาจารยเจาทานผูกเอาไวดจุ กุญแจ สําคัญของชีวิต วันปใหมที่เริ่มนับตั้งแต วันที่ ๑๓ ที่วา “วัน สังขารลอง” เมือ่ กอนนีเ้ ราก็ตนื่ เตนกับพอแม ปูย า ตายาย เพื่อนบาน วาคืนที่ราศีมีนจะเคลื่อนยาย ไปสูราศีเมษถือวาเปนวันสังขารลอง (จั๋งขารลอง) ก็คอื สังขารมันลวงไปมันเปนอนิจจัง มันไมเทีย่ งแท ไมแนนอนชีวติ สังขารมันจะลวงไป จะมีการตีระฆัง จุดประทัด ยิงสีหนาทปน เปนสัญญาณใหคนทุกรูป ทุ ก นามในถิ่ น ลานนาเรานี้ ห รื อ คนไทยที่ อ ยู  ใ น ส ว นไหนของประเทศ ส ว นไหนของโลกก็ จ ะ พยายามปลุกกันใหตื่นใหไดรูถึงความลวงไปผาน ๒ อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม


ไปของชีวิตสังขาร ใหไดมาดู “ปูจั๋งขาร ยาจั๋งขาร ลอง” อันนี้คือเราจะตองยอมรับถึงภูมิปญญา ความเฉลียวฉลาดของบรรพบุรษุ บูรพาจารยทา น ใหเราไดมองเห็นความจริงวาวันปเกามันลวงไป กาวสูวันปใหมไมใชกาวธรรมดาแตเปนการกาว อยางมีความหมาย กาวอยางมีจดุ หมายปลายทาง กาวยางอยางหนักแนนมัน่ คงดวยสัจธรรม ใหเห็น ความจริงของชีวติ ใหรเู ทาทันความจริงของสังขาร ความจริงของโลกวามันเปนของไมเทีย่ งแทแนนอน มีการเคลือ่ นไปเปลีย่ นไป เหมือนกับทางวิทยาศาสตร เขาก็ยอมรับวาความจริงของสรรพสิง่ มันเคลือ่ นไป ไมคงที่ จึงเกิดการพัฒนาสูว วิ ฒ ั นาการเปนพลังงาน เอามาเปนพลังขับเคลื่อน ถาหากมันเที่ยงมันก็คง ไม ไ ปไหน รถมั น ก็ ไ ม เ คลื่ อ น เครื่ อ งบิ น มั น ก็ ไมสามารถทะยานขึ้นสูอากาศได มันก็จะหยุดอยู กั บ ที่ เพราะมั น ไม เ ที่ ย ง มั น ถึ ง เกิ ด พลั ง การ ขับเคลื่อนเหาะเหินเดินอากาศได เราถึงกาวยาง อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม


ได กาวที่หนึ่ง กาวที่สอง กาวที่สามไปได กาวสู ความเจริญรุงเรือง กาวสูอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นีเ่ ปนพลังงานทุกอณูทมี่ กี ารเกิดดับทีม่ นั เคลือ่ นไป ซึ่งจะตองศึกษาใหรูแจงเห็นจริงมันเปนประโยชน ทั้งทางโลกและทางธรรม เปนสัจธรรมโดยตัวมัน เองตามธรรมชาติ เปนความจริงที่ไมมีในระบบ ไหนที่วันปใหมจะมีความหมายลึกซึ้งถึงปานนี้ พอเห็นวาสังขารชีวติ มันไมเทีย่ งแทแนนอนมัน แปรเปลี่ยนไปเปนธรรมดาก็ลุลวงมาถึงวันที่ ๑๔ เรียกวา “วันเนา” วันเนาไมใชวันเนา คนสมัยใหม มาวาเปนวันเนาความหมายเดิมเลยผิดเปาไปคิด วามันจะเนาจะเสียจริงๆแลวไมใช เนาตัวนีม้ นั เปน ความจริงเปนตัวสัจธรรมเรียกวา “หยุดวิ่งตาม ตัณหา” หยุดทีจ่ ะเพอฝน ทะเยอทะยานดวยความ โลภ ความโกรธ ความหลง ดวยตัณหา ดวยราคะ ดวยโทสะ ดวยโมหะ อยางพระพุทธองคที่ทานได ตรัสรูอ นุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ไดมองเห็นวาชีวติ ๔ อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม


ร า งกายสั ง ขารนี้ เ ป น อนิ จ จั ง ทุ ก ขั ง อนั ต ตา พระองค ก็ ไ ด ห ยุ ด หยุ ด ภพ หยุ ด ชาติ ก อ นที่ พระองคยงั ไมตรัสรูก ว็ งิ่ ตามตัณหาทองเทีย่ วไปใน วัฏสงสารภพแลวภพเลา พอพระองคไดมองเห็น วาชีวิตนี้เปนของไมเที่ยงแทแนนอน ยึดมั่นถือมั่น อะไรไม ไ ด นั่ น หมายถึง ได รู  จั ก หน า ตาอั น น า ขยะแขยงของตัวตัณหา แลวทานก็ไดเปรียบไววา ไดรจู กั กับนายชางผูป ลูกเรือน ผูป รุงแตง ใหฟงุ ซาน ใหลุมหลงใหมัวเมา พระพุทธองคจึงไดรื้อถอน ยอดเรือน ยอดเรือนก็คือการสรางอัตตาตัวตน วาดฝนภาพลวง อนาคตจะใหเปนอยางนั้นจะให เปนอยางนี้ โดยเฉพาะอยางยิ่งในประเทศอินเดีย เขาจะยึ ด ถื อ เรื่ อ งอั ต ตามี ก ารบํ า เพ็ ญ ทรมาน รางกายตัวตนใหไดรับการทรมานไดรับความเจ็บ ปวดเรารอนเพื่อจะไดไปเกิดชั้นปรมาตมันคือตัว ตนทีย่ งิ่ ใหญไปอีก แตพระพุทธองคทรงเห็นวามัน ไมเที่ยงจะไปลุมหลงทําไม! จะไปมัวเมาทําไม! จะ อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม


ไปวิ่งตามทําไม! วิ่งไปตามความอยากความใคร แมทกุ วันนีท้ วี่ า โลกเรามีความเจริญทางเทคโนโลยี มีวทิ ยาการ มีวทิ ยาศาสตร มีสงิ่ ทีเ่ ปนสุดยอดของ วิ ช าในโลกก็ ยั ง เป น ไปเพื่ อ กิ เ ลส เพื่ อ ตั ณ หา เพื่อสงเสริมความโลภ ความโกรธ ความหลง ความตองการของคนในโลก ทีม่ คี วามทะเยอทะยาน อยากไดอํานาจ มีอีโก(Ego) ความอยากเปนใหญ เหนือ ใคร และมี ก ารแย ง ชิ ง ลาภยศแข ง ขั น กั น ทุกระดับชั้น ซึ่งเปนไปเพื่อความมัวเมางมงาย วนเวียนมึนงงเหมือนอยูทามกลางความมืดบอด ทําใหหาเปาหมายที่สุดอันเปนจุดหยุดที่สุดยอด ของความสงบสุขไมได ดังมีตวั อยางทีเ่ ปนขาวในสหรัฐอเมริกา เด็กทีม่ ี ไอคิวสูงมีความเฉลียวฉลาดการศึกษาเกงทุกดาน เจนจบรูจ นกระทัง่ ไอคิวจะลํา้ ตํารับตําราดวยซํา้ ไป ในที่สุดเด็กคนนี้มีความเกงฉลาดมากเกินไปแต ไมมีคุณธรรม ไมมีมโนธรรมเขาไปในสมองทําให ๖ อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม


เกิดความกาวราว ความรุนแรงเอาปนยิงคนทีไ่ มมี ความผิด คนที่ไมรูอิโหนอิเหนกระทบกระทั่งกัน เลยตายกันเปนจํานวนมาก นีแ่ หละแสดงใหเห็นวา วิ ช าการความรู  ค วามเฉลี ย วฉลาดบางที มั น ก็ อันตราย เหมือนกับรถถึงมันจะดี มันจะวิ่งไดไว ขนาดไหน ถามันไมมเี บรกแลวก็อนั ตราย ตัวเบรก เปนตัวจุดหยุดในเมือ่ ความจําเปนทีจ่ ะตองหยุด จะ ตองชะลอจะตองดี ถาไมดีแลวก็จะเกิดอันตราย เสียหาย เพราะฉะนั้นวันเนาก็คือหยุด หยุดเปน ทาสของตัณหา เปนทาสของกิเลสอยางกับเราเลน ซอนหา (ภาษาลานนาเรียกวา เลนลับลี้) อีกฝาย หนึง่ จะพยายามซอนตัวพยายามไมใหอกี ฝายหนึง่ เห็น หลอกลอใหอกี ฝายหนึง่ คนหาตามหา ถาบอก วาเนาแลว ก็คอื ไมหาแลว เบือ่ ทีจ่ ะหาแลว เหนือ่ ย แลวกับการเสาะแสวงหาก็จะออกมาเจอหนาเจอ ตากัน เนาแลวก็คอื เราจะไดมองเห็นประจักษแจง ความจริงอยางที่กลาวมาแลว ที่วาเนาแลวนี้เปน อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม


วันที่ ๑๔ คือวันที่เราไดเผชิญกับความจริง ได สัมผัสสัมพันธกบั ความจริงวาชีวติ มันเปน อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ยึดมั่นถือมั่นอะไรไมได จึงหยุด ปรุงแตงระงับกิเลสตัณหาสูความนิ่ง ความสงบ สํารวม สูอิสระเสรี สูความวาง สูนิพพาน มีชีวติ อยูอยางสมบูรณแบบที่สุด อยางทีพ่ ระพุทธองคทาํ ลายยอดเรือนเพราะรู เทาทันตัณหาเขาถึงนิพพาน คือความดับความเย็น อันนีเ้ ราก็ไดชวี ติ ใหม ไดแสงสวางของชีวติ ไดมอง เห็นวิถที างเดินของชีวติ เรียกวา “วันพญาวัน” (คือ วันยิ่งใหญสําคัญที่สุด) ตรงกับวันที่ ๑๕ เมษายน เปนวันแหงความสวางไสวของชีวติ ธรรมดาคนเรา นี้จะลุมหลง จะมัวเมาหมกมุนอยูกับความใคร ความอยากถึงแมวาจะลืมตา ถึงแมวาจะมีแสง สวางเจิดจาวูบวาบอยูบนเวทีโลกมีการรายรํากัน ออกทาทางกันมากมาย แสดงตัวตนกันอยางสุด เหวี่ยงอยางกับไมใชคนแตก็เปนที่ลุมหลงมัวเมา ๘ อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม


เปนที่ยอมรับของคนทั้งหลายทั้งโลก อยางกับ แมลงเมาบินเขาหากองไฟก็มแี ตอนั ตราย เรียกวา คนอยูในโลกแตไมรูจักโลก ไสเดือนอยูในดินไมรู จักดิน ปลาอยูใ นนํา้ ไมรจู กั นํา้ นกอยูบ นฟาไมรจู กั ฟาไมรูจักอากาศ คนอยูในโลกไมรูจักสัจธรรม คนเกิดเปนคนแตไมรจู กั ธาตุแทของตัวเอง เพราะมี ฝามีสิ่งมาปดบังดวงตาเรียกวา “อวิชชา” เพราะ ฉะนัน้ เราตองทําลายมานทําลายฝาทีป่ ด บังดวงตา หันมาพิจารณาตัวเองใหมองเห็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แลวแสงสวางก็จะเกิดขึ้น ใหไดมองเห็น สังขารชีวติ วาเปนของไมเทีย่ งผูน นั้ ชือ่ วาเห็นทางแหง พระนิพพาน ผูเห็นชีวิตวาเปนทุกข ไมนาลุมหลง ไมนายึดถือ ไมนาเขาไปผูกมัดผูกพัน หลุดพน จากพั น ธนาการใดๆ ผู  นั้ น ชื่ อ ว า เห็ น ทางแห ง พระนิพพาน ผูเห็นวาสิ่งทั้งหลายทั้งปวงไรแกน สารไรตัวตนเปนอนัตตา เปนสุญญตา ผูนั้นชื่อวา เห็นทางแหงพระนิพพาน อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม


ทางแหงพระนิพพานคือเห็นแสงสวางของชีวติ เพราะทําใหชีวิตเราไดพบกับความสุขความสงบ ความรมเย็น เรียกวา “วันพญาวัน” นี้แหละคือ ความหมายทีล่ กึ ซึง้ คือความหมายทีไ่ มอาจจะเอา อะไรมาเปรียบเทียบกับวันปใหมของชาวลานนานี้ เรียกวาวันทีเ่ รามีชวี ติ ใหมกนั จริงๆ สัมผัสของใหม ทีด่ มี คี ณ ุ คา เราไดรเู ห็นชีวติ ตามความเปนจริงแลว เราก็จะไดมสี ติปญ  ญา ประกอบการทําบุญสุนทร ทานรั ก ษาศี ล เจริ ญ จิ ต แผ เ มตตาภาวนา การ ประกอบคุณงามความดีฟงเทศนฟงธรรม มีการ ขนทรายเขาวัด ขนทรายเขาวัดก็มีความหมายวา เราไมประมาทแมวาทรายจะเม็ดเล็กเม็ดนอยถา เรานํามาคนละกอบคนละกํามากองรวมกันในขวง แกวอาราม(ลานวัด)ในกํามือแตละผูคนในแตละ ครอบครัวมันก็จะเปนกองทรายที่กองใหญเปน เจดียท รายขึน้ มาได อันนีก้ แ็ สดงใหเห็นถึงการมอง เห็ น คุ ณ ค า ของสิ่ ง เล็ ก ๆ น อ ยๆ นํ า มาให เ ป น ๑๐ อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม


ประโยชน อยางกับคนที่ฉลาดเอาขี้วัวใบไมแหง นํามาหมักเปนปุย ชีวภาพนํามาใสตน ไม ใสพชื พันธุ ธั ญ ญาหารที่ เ ราปลู ก ฝ ง มั น ก็ จ ะเกิ ด ประโยชน มหาศาล อันนีแ้ หละของเล็กนอยแตเราไมมองขาม คุณงามความดีเมือ่ มีโอกาสเราจะตองขยันทําการ เก็บเกี่ยวถักทอชีวิตของเราใหงดงาม การปกชอปกธงบนเจดียทรายก็แสดงใหเห็น ความโดดเดนของผูที่มีคุณงามความดีมีจิตใจอัน งดงามเปนผูท โี่ ดดเดนในสังคม มีความโดดเดนใน หมูคณะมีความภาคภูมใิ จในชีวติ และจะมีการแห ไมคาํ้ สะหลีในชวงปใหม คํา้ ไมสะหลีคอื คํา้ ตนโพธิ์ หมายความวาเราจะตองชวยกันคํา้ ชูบวรพุทธศาสนา ทั้งภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ตองชวยกัน คํ้าชูบวรพุทธศาสนา เรื่องทํานองเดียวกันนี้ที่ได พบเห็ น ในประเทศจี น เห็ น ถํ้ า แม ชี ขึ้ น ไปสู ง มาก บางคนทีก่ าํ ลังไมพอก็จะตองหามกัน ขึน้ ไปสูงแลว ก็จะมีถํ้า มีนํ้าตก มีบรรยากาศเห็นความงดงาม อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม

๑๑


ของขุนเขาธรรมชาติ บนยอดดอยสูงมีทานํ้าใหญ มีเรือและในถํา้ นัน้ เขาก็จะมีไมคาํ้ เล็กๆ แตละคนที่ ขึ้นไปทั้งเด็กคนหนุม คนเฒาคนแก ก็จะนําไมคํ้า เขาไปสานรวมเปนศิลปะธรรมชาติ อันนี้ก็เปน ปริศนาชีใ้ หเห็นวาเราจะตองอยูด ว ยกันแบบรวมกัน คนละไมคนละมือ ชวยกันคํ้าชูชีวิตของกันและกัน ชวยกันเกื้อกูลสงเคราะหอนุเคราะหกัน ไมอัน เดียวมันจะตัง้ ไมไดมนั จะตองมีหลายๆ อันมาผสม ผสานมากายมาไขวกนั มันถึงจะคํา้ ยันกันได เราอยู คนเดียวในโลกไมไดตองอาศัยซึ่งกันและกัน อยา ไปคิดวาเราดี เราแน เราวิเศษคนเดียวไมได มันจะ ตองอิงอาศัยซึง่ กันและกันนีแ้ หละคือความงดงาม ของชีวิต ความงดงามของวัฒนธรรม ค ว า ม ง ด ง า ม ข อ ง พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า ใ น อารยธรรมของลานนา และในชวงของเทศกาล ปใหมกจ็ ะมีการทํานํา้ ขมิน้ สมปอยขาวตอกดอกไม ธู ป เที ย นมาขอขมาสู ม าคารวะพระพุ ท ธรู ป ๑๒ อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม


ตนศรีมหาโพธิ์ ไปสรงนํา้ พระสงฆองคเจา ไปรดนํา้ ดําหัวพอแมครูบาอาจารยผูเฒาผูแกเพื่อขอขมา ลาโทษ ขอศีล ขอพร อันนี้ก็เปนอารยธรรมอัน สูงสง ไมมีในโลกที่ไหนจะมีปใหมอยางดินแดน ลานนาเรา เพราะวาคนเราอยูรวมกันยอมมีการ กระทบกระทัง่ มีการประมาทพลัง้ พลาดในบางครัง้ บางโอกาสจะดวยเจตนาหรือไมเจตนา ความ กาวราวรุนแรง ทีม่ นั เผลอเกิดความฉุนเฉียวเกรีย้ ว กราด หรือมันเปนดวยเหตุแหงกรรมเวรวิบากหรือ เหตุใดก็แลวแต เราก็มาขอขมากรรมกราบไหว และก็ขอโทษแลวก็ใหอโหสิกรรม ใหอภัยซึ่งกัน และกัน จะตองไมคอยจองจับผิดใคร จะตอง ไมทําลายทําราย ไมกอกรรมจองเวรใครๆ อันนี้ แหละเปนอารยธรรมที่สูงสงเปนมรดกอันลํ้าเลิศ อยางยิง่ ในวันปใหมของทางอาณาจักรลานนาไทย ที่ มี ค วามลึ ก ซึ้ ง มี ค วามหมายสํ า คั ญ มี ค วาม ประทับจิตประทับใจและจะมีการสาดนํา้ รดนํา้ ใหกนั อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม

๑๓


ซึง่ มีความหมายวาการแบงปนนํา้ จิตนํา้ ใจใหความ รมเย็น ใหความชุมฉํ่า ใหความสุขแกกันและกัน ไมถือเนื้อ ไมถือตัวปนปงกัน ทั้งหนุมสาวรูจัก ไมรูจักจะรดนํ้ากัน ไมมีความโกรธ ไมมีความ เกลียด มีแตความสุขอิ่มเอิบเบิกบาน สังคมใน ดินแดนลานนาไทยเรา คนลานนา (จะเรียกตัวเอง เปน ไต) อยูใ นพมาก็ดี อยูใ นจีนก็ดี อยูใ นอินเดียก็ดี อยูใ นสวนไหนของโลกก็จะมีพธิ กี รรม พิธกี ารแบบนี้ ในชวงปใหม ปใหมจริงๆ แลว มันตรงกับวิถวี วิ ฒ ั นาการของ ธรรมชาติที่สุด เพราะในชวงกอนหนานั้นใบไมมัน จะรวงเพราะมันแลง ตนไม ตนหญาที่มันแหงมัน เฉาจะตองสลัดใบ เพราะวาฝนอยูไปมันก็จะตาย เพราะมันรอนมันแหงแลงมันจะสลัดใบเหมือนจะ ตายทั้งปา มีแตกิ่งแตกาน พืชที่มันอยูในดินที่เปน หัว เปนเผือก เปนมันก็จะทิ้งเครือทิ้งเถาฝงตัวอยู ในดิน แมกระทัง่ ปูหอยกบเขียดก็จะฝงตัวอยูใ นดิน ๑๔ อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม


เรียกวาอยูในชวงจําศีลหยุดนิ่งสงบอดทนอดนํ้า และอาหารผสมกลมกลื น กั บ ธรรมชาติ อ ย า ง อั ศ จรรย ยิ่ง พอถึง เวลาช ว งของป ใ หม ฟ า ฝน โปรยปรายลงมาเรียกวา พายุลมฝนปใหม บางป ก็เปนพายุพัดแรงมากถึงกับพัดหลังคาบานเรือน เสียหาย จะมีพายุลกู เห็บตกลงมาเปนภัยธรรมชาติ ทั้งทําลายและทาทาย ทั้งเกิดความรมเย็นในผืน แผนดิน สัตวทจี่ าํ ศีลอยูม นั ก็จะออกจากหลุมออก จากรู มาโลดเตนออกมาหากินสงเสียงรองระงม ดวยความอิ่มเอิบ เบิกบาน ตนไมก็จะผลิดอก ผลิใบงอกงาม คนเราก็มีความแชมชื่นรื่นเริง ดีใจ ที่ ฝ นตกลงมาสู  แ ผ น ดิ น ที่ เ ราจะได เ พาะปลู ก พืชพันธุ ธัญญาหาร จะไดทาํ มาหากินตามวัฏจักร ที่จะตองทําการ ทํางาน เพื่อใหมีปจจัยสี่ และสิ่ง สําคัญอีกคือในปใหม ก็จะมีการ “เทศนาธรรม ปใหม” ในวันที่ ๑๕ ของเดือนเมษายน การเทศนธรรมปใหมนี้ความหมายมันก็ลึกซึ้ง อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม

๑๕


ทานไดผูกเปนปญหาปริศนาธรรมขึ้นมา ตั้งเปน บุคลาธิษฐานเรื่อง “ธรรมะปาละ กับพระพรหม” จะถามตอบปริศนาปญหาธรรมกัน ซึ่งตามหลัก ของศาสนาพราหมณ ก็ถือวาพระพรหมเปนเจา ผูส รางโลก พระพรหมเปนผูล ขิ ติ ชีวติ ลิขติ โลก พอ พระพุทธศาสนาเกิดขึ้นมาพระพุทธองคถือ “จิต” ของเราเปนบอเกิดของทุกสิ่งทุกอยางมาจากจิต เชน จะดีจะชั่ว เปนบุญเปนบาป จะทําดีจะทําชั่ว อยูที่จิต จะลงนรกจะขึ้นสวรรคก็อยูที่จิตใจ อันนี้ ต า งจากของฮิ น ดู ของศาสนาพราหมณ พอ พระพุทธศาสนาเกิดขึน้ ทานจะเปรียบเทียบใหเห็น ถึงวา พระพรหมถามปญหากับธรรมปาละ ธรรม ปาละก็คอื ตัวจิต พระพรหมถามปญหา ๓ ประการ แกธรรมปาละโดยการตกลงกําหนดเวลา ๗ วัน ถาธรรมปาละตอบไดพระพรหมก็จะตองถูกตัด เศียร หัวจะตองขาด แตถาธรรมปาละตอบไมได ธรรมปาละก็จะตองโดนตัดหัว จะตองตายในวัน ๑๖ อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม


นัน้ ซึง่ มันก็เปนปริศนา ใหเราไดรวู าคนเราถารูจกั ชีวิตจิตใจ รูจักการดํารงชีวิตเราก็จะตองเอาตัว รอด ถาเราไมรูจักชีวิต ไมรูจักการดํารงชีวิต เรา ก็คดิ สัน้ คิดฆาตัวตาย มีจติ วิปลาส เปนโรคประสาท เปนโรคจิต เปนโรคภัยไขเจ็บตางๆนานา พระพรหมก็คือตัวปญหาชีวิตที่เปนโจทยบท พิสจู นการทาทายพลังความสามารถทีถ่ กู กําหนด ใหเปนผูถ ามปญหากับธรรมปาละวา ตอนเชาสะหรี (ราศี) อยูที่ไหน? ตอนกลางวันสะหรีอยูที่ไหน? ตอนคํา่ สะหรีอยูท ไี่ หน? ธรรมปาละก็คอื ตัวจิต ตัว ชีวิตของเรานี้ คิดหาทางออกของปญหา ก็ออก เดินทางไปเพื่อเสาะแสวงหาทางออกทางพนทุกข ทีด่ ที สี่ ดุ จนกระทัง่ เจอตนไมใหญตนหนึง่ ตนไมใน ที่นี้สูงยืนตนตระหงานก็หมายถึงรางกายของเรา ทานทั้งหลาย ตัวธรรมปาละก็คือจิตใจ ไปเจอ ตนไมใหญตนนั้น ก็มีนกอินทรี ๒ ตัวเกาะอยูบน ตนไม เห็นธรรมปาละเดินมาแตไกลก็รูแลววา อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม

๑๗


ธรรมปาละเดินแบบคิดหนักถึงเรือ่ งทีจ่ ะแกปญ  หา ชีวิต พอเห็นธรรมปาละเดินมา นกตัวผูก็บอกนก ตัวเมียวา “วันนี้เราไมตองไปหากินอะไรแลว วันนี้ เหยื่อ มาหาเราถึง ที่นี้แ ล ว ถ า ธรรมปาละตอบ ป ญ หาของพระพรหมไม ไ ด ต  อ งตายแน ๆ ละ!” (หมายถึงผูลุมหลงติดเหยื่อของโลก ก็ตกเปนธาตุ เปนเหยื่อของตัณหา ก็เหมือนถูกนกอินทรีจิกกิน เป น อาหารและต อ งตาย) ธรรมปาละเดิ น มา เหนื่อยก็ไปพักใตรมไมใหญ เลยไดยินเสียงนก อินทรี ๒ ตัว คุยกันดวยจิตไดยินไดรูการสนทนา กันวาปญหามันเปนอยางไรทีธ่ รรมปาละกําลังคิด อยางลึกซึ้งนั้น ปญหามี ๓ ประการ ที่พระพรหมถามธรรม ปาละวา ตอนเชาสะหรีอยูที่ไหน? ตอนกลางวัน สะหรีอยูที่ไหน? ตอนกลางคืนสะหรีอยูที่ไหน? แลวความจริงมันอยูที่ไหนแน นกตัวเมียถามนก ตัวผู ก็คุยกันตามประสาของนกอินทรี “อินทรีย” ๑๘ อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม


ตัวนี้ทานก็เปรียบเทียบถึงภายในรางกายตัวเรานี้ มี อินทรีก็คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นี้คือ นกอินทรีตัวผู นกอินทรีตัวเมียคือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ธรรมารมณนั้นเอง ลวนแตมีความ หมายทั้งนั้น ไมใชเปนเพียงนิยายปรัมปรา คนไมรู เทาทัน ไมรูถึงปญหา ไมรูถึงปริศนาก็คิดวาเปน เรื่องไรสาระ ความจริงแลวเปนเรื่องของปญหา ชีวิต เปนเรื่องที่เราจะตองนํามาขบคิดใหได ก็เลย ถามวาตอนเชาสะหรีอยูที่ไหน? สะหรีตอนเชาอยู ทีห่ นา ตอนกลางวันอยูท อี่ ก ตอนกลางคืนอยูท เี่ ทา ธรรมปาละไดยินนกอินทรีคุยกันหมายถึงคิดได ตีปญ  หาแตก ก็เลยโลงใจแจมแจงมองเห็นความจริง ของชีวิต หมายความวาขบคิดจนแกปญหาได ถึง วันทีก่ าํ หนดคือ ๗ วันพอดี พระพรหมก็มาถามวา ตอบไดหรือยัง? ธรรมปาละก็บอกหาคําตอบได แลวไมมีปญหา (No Problem) แลว ตอนเชาอยู ที่ไหน? ตอนเชาอยูที่หนา คือตอนเชาตื่นนอน อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม

๑๙


คนเราจะต อ งล า งหน า ตอนกลางวั น อยู  ที่ อ ก ตอนกลางวันมันรอนก็ตอ งเอานํา้ ลูบอก ตอนกลาง คืนกอนนอนจะตองลางเทา สะหรีอยูที่เทา แตความหมายจริงๆ นั้น หมายความวาที่หนา ก็คอื เราจะตองมีดวงตามีดวงธรรม เราจะตองคิด มองใหเห็นความจริงของชีวิต สะหรีก็คือตองให เกิดสติ เกิดปญญาดวยสัมมาทิฐคิ อื ความเห็นชอบ มองเห็นวิถีทางที่จะกาวเดินไปสูทางสายกลางที่ เรียกวาราศีอยูที่หนาคือการมี “สัมมาทิฐิ” สัมมา ทิฐิก็จะรวมพลอยูที่อริยสัจ ๔ อริยมรรค ๘ อยูใน นั้นหมดเรียกวา มีสัมมาทิฐิแลวก็จะสามารถรูได ทุกสิ่งทุกอยาง ในเมื่อเรารูประจักษแจงเชนนี้จึง เรี ย กว า ได ด วงตาเห็ น ธรรมมั น จะปรั บ ระบบ ประสาทสัมผัสการรับรูวาชีวิตสังขาร รางกาย มันเปนทุกข มันมีสมุทัย เปนตัวกอเกิดเหตุแหง ปญหาความทุกข อีกทั้งทุกสรรพสิ่งจะตองดับสู นิโรธเปนธรรมดา และมีอริยมรรค ทางเดินแหง ๒๐ อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม


ชีวิต มีสัมมาทิฐิมองเห็นความจริงแลวนอมนํามา สูจิตใจ แลวนํามาพินิจพิจารณาเอามาประกอบ กับญาณ กับวิปสสนาญาณมากลั่นกรองดวย จิตใจ ใหถองแทรอบคอบจนประจักษแจงซาบซึ้ง ประทับใจเปนความสวางไสวโชติชวงชัชวาลใน ดวงใจดุจแสงสวางยามกลางวัน จนถึงที่สุดแลว คือจะตองกาวดําเนิน ตอนกลางคืนคือความสุข สงบดําเนินทุกกาวยาง เจริญรอยตามองคแหง อริยมรรค เอาชีวิตรอดไดสูผล สูพระนิพพาน พระพรหมก็เลยตาย หมายความวา พอพระพุทธเจา เกิดขึ้น ศาสนาพราหมณก็หมดรัศมี ไมสามารถ หลอกใครไดตอ ไปอีกวา พระพรหมผูเ ปนเจาสราง โลก พระพรหมผูกําหนดชะตาชีวิต จริงๆ แลวมัน ไมใชมันขึ้นอยูที่การกระทํา อยูที่การประพฤติ ปฏิบัติ อั นนี้คือความหมายของคํ า ว า ปใ หมใน ดินแดนลานนาเรานีม้ นั มีความลึกซึง้ เขาถึงรากเหงา ถึงจิตวิญญาณและเปนอารยธรรมที่สูงสง ไมใช อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม

๒๑


เรื่ อ งธรรมดา ไมใชเรื่องแคเพียงที่จะหาความ สนุกสนานนําพาใหเกิดความลุม หลง ความลวงของ กิเลสตัณหาไมใช ..เราจะตองมีสติ มีปญญาเรา จะตองใชชวี ติ ของเราใหกอ เกิดคุณคา ทําประโยชน ใหเกิดขึ้นกับชีวิต ทําชีวิตของเราใหเกิดความสงบ ความรมเย็น และมีแสงสวางของชีวิต โลกนี้ก็จะ สวางไสว เรียกวา “วันพญาวัน วันปากป วันปาก เดือน” หมายความวาเราจะอยูในระบบสุริยคติ จันทรคติ หรืออะไรก็แลวแตจะอยูใ นอิรยิ าบถไหน ทัง้ กลางวัน กลางคืน ทุกทิวาราตรีทกุ กาวยางของ ชีวิต มันก็จะทําใหเราไดรับแสงสวาง ไปไหนก็ไม หลง แตถาเราไปทีไ่ หนทามกลางความมืดมันก็จะ ตกหลุมตกรองหรือเขาไปในปารกปาพง หลงทิศ หลงทาง แตถามีแสงสวาง มีไฟฟาสองทางเราก็ ไมหลงทาง เหมือนรถยนตที่ไมมีไฟหนาและไฟ หลัง มันก็อันตราย จิตก็เชนกันหากไมมีแสงสวาง แหงปญญานําทางเราก็จะเกิดการกระทบกระทัง่ กัน ๒๒ อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม


ไมรจู กั เรา ไมรจู กั เขา ไมรจู กั บาปบุญคุณโทษ ไมรู จักสิ่งที่เปนประโยชน สิ่งที่ไมเปนประโยชนก็จะ ทําการอันเปนบาป อันเปนอกุศล ก็เพราะวามัน หลงอยูในทางแหงความมืดมนอนธการ ทําผิด กฎหมายทําผิดศีลธรรม เดือดรอนเสียหายแก ตัวเอง เสียเวลา เสียโอกาส เสียชือ่ เสียง เสียความ เปนอิสรภาพ ตองถูกนําไปขึน้ โรงขึน้ ศาลก็มปี ญ  หา เสียเวลํ่าเวลา บางทีก็ติดคุกติดตะรางบางทีตอง โดนตัดสินประหาร หรือเกิดศึกสงครามกลียคุ ตอสู กันเปนสงคราม ไมรวู า ผิดถูก ทัง้ ๆ ทีท่ กุ คนก็รกั ตัว กลัวตาย แตคนเราในเมือ่ ขีผ้ งเขาตามีอวิชชาเขาไป ปดบังดวงตาแลว มันไมรอู ะไรสักอยาง มันจะฆากัน อยางเดียว ไมวาจะรูจักไมรูจักก็ฆากันได ฆากัน ทั้งผูหญิงผูชาย ทั้งเด็กเล็กเด็กนอย ผูเฒาผูแก ลางผลาญลางเผาพันธุ อันนี้แหละทั้งๆ ที่มีแสงสวางของพระอาทิตย มีแสงสวางจากไฟฟา แตมองไมเห็นสัจธรรมความ อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม

๒๓


จริงเรียกวามีอวิชชาเขามาปดบังดวงตา เพราะ ฉะนัน้ วันปใหมนเี้ ราจะตองมีชวี ติ ใหมมคี วามคิดที่ ใหม มีสติปญญาที่สวางไสว รูวาวันสังขารลอง รูวาวันเนา รูวาวันพญาวัน มีการตอบปญหาของ พระพรหม สะหรีก็คือ ความมีราศี ความดีความ วิเศษ อยูในตัวเองมีคุณวิเศษ เมื่อคนเรามีคุณ วิเศษแลวก็จะสามารถรักษาตนใหพนอันตรายได พระพรหมก็ตอ งตาย พระพรหมก็ตอ งหมดอํานาจ หรือมารทีจ่ ะมาผจญมาทํารายทําลาย เราจะหมด โอกาส หมดอํานาจ พบกับแสงสวางทีเ่ กิดขึน้ ในใจ ความมืดมันก็หายไป ผูท มี่ บี ารมี ผูท มี่ กี ารประพฤติ การปฏิบตั ดิ ี ก็จะอยูเ หนืออารมณ เหนือความโลภ ความโกรธ ความหลงก็จะรักษาตนใหสงบเสงี่ยม สํารวมทั้งกาย ทั้งวาจา ทั้งจิตใจ กิริยามารยาท สุขมุ งดงามผองใสนาเคารพเลือ่ มใส มีแตความสุข ความสงบ ความรมเย็นนี่คือประโยชนอานิสงส ของวันปใหม ที่ผสมผสานสัจธรรม กับพระพุทธ ๒๔ อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม


ศาสนาก็จะเกิดคุณคาอันมหาศาลมีชวี ติ ความเปน อยูก็จะดี พระพุทธองคตรัสไววา ผูที่มีจิตฝกฝน อบรมมาดีแลวควรแกการงาน เราจะคิดอะไรก็จะ ดี ทําอะไรออกมาก็จะดี มันจะมีพลังงาน มันจะมี สิ่งบันดลบันดาลเกิดขึ้นอยางชนิดที่เรียกวาเปน ความมหั ศ จรรย ข องชี วิ ต มหั ศ จรรย ข องจิ ต อํ า นาจของจิ ต มั น จะยิ่ ง ใหญ ทํ า ให มี ชี วิ ต ชี ว า ผิวพรรณผองใส ขอใหเราทานทั้งหลาย ใหเขาใจไดรูถึงเรื่อง ความงดงามของพลั ง ชี วิ ต ไม ใ ช เ ป น เรื่อ งของ พิธรี ตี องแบบลมๆ แลงๆ หาสาระไมได จริงๆ แลว มันลวนแตมีความหมายทั้งนั้น เปนเรื่องที่ดีวิเศษ เปนเรือ่ งทีท่ าํ ใหเกิดคุณวิเศษขึน้ ในชีวติ ในสังคมให เราไดอยูร ว มกันอยางรมเย็นเปนสุข ใหเรามีคณ ุ คา มีประโยชนเรียกวา เปนเนื้อนาบุญของชาวโลก จะอยูที่ไหนก็จะเปนที่รมเย็นทั้งตัวเอง ทั้งผูอื่นได มาพึง่ ไดมาพักพิง ไดมาอยูใ กล เหมือนกับไดมาอยู อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม

๒๕


ใตรมไมใหญมันเย็นสบาย ตรงกันขามกับเราอยู ในตัวตึก มันจะรอน รอนจนเหงื่อไหลโชก ความ รอนจากตึกปูนซีเมนตนมี้ นั จะรอน แตพอเราอยูใ ต ตนไมใหญความเย็นความชุมชื่นจากตนไมที่มัน ซึมซับนี่มาจากความชุมฉํ่าของบรรยากาศทําให เราไดรบั ความสุขความสัมผัสจากธรรมชาติอยาง แทจริง อันนี้แหละขอใหเราทานทั้งหลายไดเขาใจ และใหเราไดประพฤติปฏิบตั ติ ามก็ไดพบกับความ จริงพบกั บ สั จ ธรรมมั น เป น หลักธรรมชาติ แม กระทั่งตนไม ปู ปลา กบ เขียด กุง หอย มันก็มี ธรรมชาติของเขาตองถือศีล ตองสลัดใบ (สลัดใบ ก็คอื ตองปลอยวาง) ตองรูจ กั การปลอยวาง ไมถอื มึงถือกู มันก็ไมลําบากเดือดเนื้อรอนใจอันตราย อะไรเกิดขึน้ ถาเราสลัดความถือเนือ้ ถือตัว เมือ่ ไมมี ความสําคัญตัวเราก็อยูสบาย ปลอยวางไมถอื เขา ไมถือเรา เราก็จะอยูรอดปลอดภัยแลวเราก็จะได รับความสุข ความสงบ ความรมเย็น รักษามิตรภาพ ๒๖ อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม


ไมตรีตอกันและกัน รักษาความเปนเพื่อนรวม พรหมจรรย เพือ่ นรวมโลกดวยมีจติ ทีเ่ มตตากรุณา อ อนโยน ถ า เป น คนที่แข็ ง กระด า งเราเรีย กวา “เหมือนกับคนตาย” และคนที่สุภาพนอบนอม ออนโยนเปนสัญลักษณของความมีชวี ติ ชีวา มีการ พูดจาที่สุภาพออนโยนถอมตัวก็เปนลักษณะของ ผูที่มีชีวิตชีวา มีปฏิสัมพันธที่ดีตอกันมีปยวาจาจะ ตองมีกิริยามารยาทที่งดงาม มีจิตใจที่อิ่มเอิบ เบิกบาน มีความสุข รักษาจิตใจมีความสดชืน่ ดวย บรรยากาศบริสทุ ธิ์ สูดแตความสะอาดบริสทุ ธิเ์ ขา ปอดเขาไปในลมหายใจเขาไปในจิตวิญญาณรับ เอาสิง่ ทีด่ ที ลี่ ะเอียดเขาไปในชีวติ จิตใจ ตรงกันขาม กั บ อารมณ ที่ มั น ขุ  น ข อ งอารมณ ที่ มั น เป น บาป อกุศลเรียกวา “จิตใจดํามัวหมองตกตํ่า” จะรับ อารมณที่มันรุนแรงฉุนเฉียวใสไปในลมหายใจ เขาไปในชีวิตมันก็เปนอารมณ เปนความรูสึกที่ หยาบ การกระทํ า ก็ จ ะออกมาหยาบ กิ ริ ย า อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม

๒๗


มารยาทก็จะออกมาหยาบ มันจะไมนา ดู ไมนา เขา ใกลเหมือนกับตนไมที่เปนพิษ เขาไปใกลชิดมันก็ จะเกิดคันเปนอันตราย เขาไปกินมันก็จะทําใหได รับอันตรายถึงตายได เพราะฉะนั้นเราจะตอง ทําตัวเราเองมีสาระมีประโยชนเหมือนกับธรรมะ ปาละ เหมือนกับความหมายของวันปใหม ขอให ทานทั้งหลายไดนําไปพินิจพิจารณาซึมซาบผาน เข า ไปในโสตประสาท ในจิ ต วิ ญ ญาณและให ดําเนินเจริญรอยตามบรรพบุรษุ บูรพาจารยเราจะ ไดรับประโยชนจากวันปใหม ชีวิตเราก็จะเจริญ งอกงามและกาวหนา ความสงบความรมเย็น ความผาสุกทัง้ แกตวั เอง สังคม ชาวโลกโดยถวนทัว่ โดยไมมีประมาณ ขออํานาจแหงคุณพระศรีรัตนตรัย บุญบารมี ของบูรพาจารยเจาที่ไดสรรสรางระบบการของ วันปใหมมาอยางชนิดที่ผสมผสานธรรมชาติกับ สัจธรรม กลมกลืนเปนหนึ่งเดียวกับชีวิตกอเกิด ๒๘ อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม


คุณคาอันมหาศาลเปนสิ่งที่เราทานทั้งหลายจะ ตองไดสืบสานและทําการเผยแพรความรูเรื่องวัน ปใหมแบบอาณาจักรลานนาทีก่ ลาวมาแลว ใหเปน องคความรูท เี่ ปย มดวยอัตลักษณโดดเดนถึงความ ลํ้ า ค า ยิ่ ง สํ า หรั บ ทุ ก ชี วิ ต จะได พ บกุ ญ แจไขสู  ปริศนาธรรมสูสติปญญาอันลึกซึ้ง อันเปนมรดก สุ ด ยอดสู  เ ป า หมาย เป น วั ต รปฏิ บั ติ เ พื่อ อนุ ช น รุนหลังตอไปจะไดรูเห็น ถึงความถูกตองตามกฎ แหงธรรมชาติสูครรลองครองธรรม แลวก็จะ ดําเนินชีวติ ทุกกาวยางอยางมีความรู มีสติปญ  ญา มี ล มหายใจที่ มี แ ต ค วามสุ ข สงบร ม เย็ น อย า ง อั ศ จรรย ยิ่ ง เหลื อ ประมาณด ว ยกั น ถ ว นทั่ ว จง ทุกทานทุกคนเทอญ... แสดงธรรมในวันเสารที่ ๕ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๖ เวลา ๒๑.๓๐ น. ในพระวิหารพุทธบาทแกวดอกบัวขาว วัดพระธาตุแสงแกวมงคล อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม

๒๙


วิธีชําระลางกรรม กรรมใดๆ จะเปนกรรมก็ขึ้นอยูที่เจตนา ถาปราศจากเจตนาก็ไมถือวาเปนกรรม และกรรมเวรจะถูกชําระลางได ดวยการใหอโหสิกรรม อโหสิกรรมจะเกิดขึ้นไดก็ตองอาศัยปจจัยอันมี ความอดทน อดโทษ และความมีนํ้าใจเมตตาปรานี

๓๐ อัศจรรยธรรมะจากวันขึ้นปใหม



พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์ นันทพันธ์พริ้นติ้ง เชียงใหม่ โทรศัพท์ 053-804908-9 โทรสาร 053-804958 www.nuntapun.com


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.