หนังสือพระพุทธเจ้าทำนาย

Page 1



พระพุทธเจาทํานาย พิมพ์ถว�ยเป็นพุทธบูช� พิมพ์เผยแผ่เป็นธรรมท�น แด

ก�รให้ธรรมะเป็นท�น ชนะก�รให้ทั้งปวง


2

คำ�บูช�พระรัตนตรัย อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อะภิปูชะยามิ อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อะภิปูชะยามิ บทกร�บพระรัตนตรัย อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ) สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ) สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ) นมัสก�รพระรัตนตรัย นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (สวด ๓ จบ)


3

คำ�ขอขม�พระรัตนตรัย วันทามิ พุทธัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต วันทามิ ธัมมัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต วันทามิ สังฆัง สัพพะเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต ไตรสรณคมน์ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ถว�ยพรพระ (อิติปิโส ฯ) อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ (พุทธคุณ)


4

สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ (อ่านว่าวิญญูฮีติ) (ธรรมคุณ) สุปะฏิปนั โน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชปุ ะฏิปนั โน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะ ปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ (สังฆคุณ) พุทธชัยมงคลค�ถ� (พ�หุง) พ�หุ ง สะหั ส สะมะภิ น ิ ม มิ ต ะส�วุ ธ ั น ตั ง ครี เ มขะลั ง อุทิตะโฆระสะเสนะม�รัง ท�น� ทิธัมมะวิธิน� ชิ ต ะว� มุ น ิ น โท ตั น เตชะส� ภะวะตุ เ ต* ชะยะมังคะล�นิ พระจอมมุนี ทรงเอาชนะพญามารด้วยทานบารมี ม�ร�ติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติงโฆรัมปะน�ฬะวะกะ มักขะมะถัทธะยักขัง ขันตีสุทันตะวิธิน� ชิตะว� มุนินโท ตันเตชะส� ภะวะตุเต* ชะยะมังคะล�นิ พระจอมมุนี ทรงเอาชนะอาฬวกยักษ์ด้วยขันติ


5

น�ฬ�คิรงิ คะชะวะรังอะติมตั ตะภูตงั ท�วัคคิจกั กะมะสะนีวะ สุท�รุณนั ตัง เมตตัมพุเสกะวิธนิ � ชิตะว� มุนนิ โท ตันเตชะส� ภะวะตุเต* ชะยะมังคะล�นิ, พระจอมมุ น ี ทรงเอาชนะพญาช้ า ง นาฬาคีรี ด้วยเมตตา อุกขิตตะขัคคะมะติหตั ถะสุท�รุณนั ตังธ�วันติโยชะนะปะถัง คุลิม�ละวันตัง อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะว� มุนินโท ตันเตชะส� ภะวะตุเต* ชะยะมังคะล�นิ พระจอมมุนี ทรงเอาชนะโจรองคุลีมาลด้วยวิธี บันดาล อิทธิฤทธิ์ทางใจ กั ตตว�นะ กั ฏ ฐะมุ ทะรัง อิวะ คัพ ภินีย � จิญ จ�ยะ ทุ ฏ ฐะวะจะนั ง ชะนะก�ย มั ช เฌ สั น เตนะ โสมะวิ ธ ิ น � ชิตะว� มุนินโท ตันเตชะส� ภะวะตุเต* ชะยะมังคะล�นิ, พระจอมมุ นี ท รงเอาชนะนางจิ ญ จมาณวิ ก า ด้วยวิธีสงบระงับพระหฤทัย สัจจัง วิห�ยะ มะติสัจจะกะว�ทะเกตุงว�ท�ภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง ปัญญ�ปะทีปะชะลิโต ชิตะว� มุนินโท ตันเตชะส� ภะวะตุเต* ชะยะมังคะล�นิ พระจอมมุนีทรงเอาชนะสัจจกนิครนถ์ด้วยปัญญา


6

นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพธุ งั มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะม�ปะยันโต อิทธูปะเทสะ วิธิน� ชิตะว� มุนินโท ตันเตชะส� ภะวะตุเต* ชะยะมังคะล�นิ, พระจอมมุนี ทรงเอาชนะพญานาค โดยให้พระ โมคคัลลานะไปปราบด้วยวิธีแสดงอิทธิฤทธิ์ที่เหนือกว่า ทุคค�หะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมัง** วิสุทธิ ชุตมิ ทิ ธิ พะก�ภิธ�นัง ญ�ณ�คะเทนะวิธนิ � ชิตะว� มุนนิ โท ตันเตชะส� ภะวะตุเต* ชะยะมังคะล�นิ พระจอมมุนี ทรงเอาชนะพรหม (ผกาพรหม) ด้วยวิธี เทศนาญาณ เอต�ปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะค�ถ� โยว� จะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที หิตว� นะ เนกะวิวธิ �นิ จุปทั ทะว�นิ โมกขัง สุขงั อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ ชัยปริตร (มห�ก�ฯ) มะหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะ ปาณินัง ปูเร ตวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะ วัชเชนะ โหตุเต* ชะยะมังคะลัง ฯ ชะยันโตโพธิยา มูเล สักยานัง นันทิ วัฑฒะ โน เอวัง ตะวัง วิชะโย โหหิ*** ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล


7

อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะ วิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะ พุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติฯ สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะ*** จาริสุ ปะทักขิณัง กายะ กัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณิธีเต ปะทักขิณา ปะทักขิณา นิ กัตวานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ ฯ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สั พ พะพุ ท ธานุ ภ าเวนะ สะทาโสตถี ภะวันตุเต* ฯ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทาโสตถี ภะวันตุเต* ฯ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทาโสตถี ภะวันตุเต* ฯ *ถ้ากรณีจะสวดให้ตัวเองเปลี่ยนเต* เป็นเม* *ถ้าสวดให้เจ้ากรรมนายเวร หรือคนอื่น* เป็นเต* *ถ้าสวดให้ตัวเองเปลี่ยนจากคำาว่า ตะวัง วิชะโย โหหิ เป็น อะหัง วิชะโย โหมิ


8

พระค�ถ�ชินบัญชร เพื ่ อให้ เ กิ ด อานุภาพยิ่ง ขึ้น ก่อนเจริญ ภาวนา ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วระลึกถึงและบูชาเจ้าประคุณสมเด็จ ด้วยคำาว่า ปุตตะก�โมละเภปุตตัง ธะนะก�โมละเภธะนัง อัตถิก�เย ก�ยะญ�ยะ เทว�นังปิยะตังสุตตะว� อิติปิโสภะคะว� ยะ มะร�ช�โนท้�วเวสสุวัณโณ มรณังสุขังอะระหัง สุคะโตนะ โมพุทธ�ยะ ๑. ชะยาสะนากะตา พุทธา เชตะวา มารัง สะวา หะนัง จะตุสัจจาสะภัง ระสังเย ปิวิงสุ นะราสะภา ๒. ตัณหังกะราทะโย พุทธา อัฏฐะ วีสะติ นายะกา สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง มัตถะเก เต มุนิสสะรา ๓. สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง อุเร สัพพะคุณากะโร ๔. หะทะเย เม อะนุรุทโธ สารีปุตโต จะ ทักขิเณ โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง โมคคัลลาโน จะวามะเก ๕. ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง อาสุง อานันทะราหุลา กัสสะโป จะ มะหานาโม อุภาสุง วามะโสตะเก ๖. เกสันเต ปิฏฐิภาคัสมิง สุริโยวะ ปะภังกะโร นิสินโน สิริสัมปันโน โสภิโต มุนิปุงคะโว


9

๗. กุมาระกัสสะโป เถโร มะเหสี จิตตะวาทะโก โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง ปะติฏฐาสิ คุณากะโร ๘. ปุณโณ อังคุลิมาโล จะ อุปาลี นันทะสีวลี เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา นะลาเต ติละกา มะมะ ๙. เสสาสีติ มะหาเถรา วิชิตา ชินะ สาวะกา เอตา สีติ มะหะเถรา ชิตะวันโต ชิโนระสา ชะลันตา สีละเตเชนะ อังคะมังเคสุ สัณฐิตา ๑๐. ระตะนัง ปุระโต อาสิ ทักขิเณ เมตตะสุตตะกัง ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ วาเม อังคุลิมาละกัง ๑๑. ขันธะโมระปะริตตัญจะ อาฏานาฏิยะ สุตตะกัง อากาเส ฉะทะนัง อาสิ เสสา ปาการะสันฐิตา ๑๒. ชินาณาวะระสังยุตตา สัตตัปปา การะลังกะตา วาตะปิตตาทิสัญชาตา พาหิรัช ฌัตตุปัททะวา ๑๓. อะเสสา วินะยัง ยันตุ อะนันตะ ชินะเตชะสา วะสะโต เม สะกิจเจนะ สะทา สัมพุทธะปัญชะเร ๑๔. ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ วิหะ รันตัง มะฮีตะเล สะทา ปาเลนตุ มัง สัพ เพ เต มะหาปุริสาสะภา ๑๕. อิจเจวะมันโต สุคุตโต สุรักโข ชินานุภาเวนะ ชิตูปัททะโว ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโฆ สังฆานุภาเวนะ ชิตนั ตะราโย สัทธัมมานุภาวะปาลิโต จะรามิ ชินะปัญชะเรติฯ (ชินะปัญชะระคาถา นิฏฐิตา ๒ ครั้ง) (เฉพาะ)


10

ค�ถ�สวดบูช�พระแม่กวนอิม (นำาโมกวงซิอิม ผ่อสัก) นำาโมไต๋ซอ้ื ไต๋ปยุ กิวโคว่ กิวหลัง่ กวงไต๋ เล่งก้าำ กวงซิอมิ ผูส่ กั (กราบ..สวด ๓ จบ) นำาโมฮู๊ก นำาโมหวบ นำาโมเจ็ง นำาโมกิวโค่ว กิวหลั่ง กวงซิอิมผู่สัก ทั่งจี้โต โอม เกีย ล้อฮวดโต เกียล้อฮวดโต เกีย ออฮวดโต ล้อเกียฮวดโต ล้อเกียฮวดโต ซาผ่อออ เทียงล้อ ซิ้ง ตี่ล้อซิ้ง นั้งลี่หลั่ง หลั่งลี่ซิ้ง เจ๊กเฉียก ใจเอียงห่วยอุ่ยติ๊ง นำาโมม่อออ ปวกเยี่ย ปอล้อ บิ๊ก (กราบ) ถ้ า ขอพรสำ าเร็จ พระแม่โปรดให้มนุษ ย์ถ วาย โดยการกินเจ


11 ๓

โดยยอ...

หนังสือใบลานไดถูกตกมาในวัดแหงหนึ่ง ในจังหวัดอัตตะบือ (ประเทศลาว) ขาพเจาไดรับรู จากพระอาจารย ผู ท รงศี ล องค ห นึ่ ง เผยแผ ใ ห เลยเกิดความศรัทธาเสียสละทรัพยพิมพแจกจาย มายังพี่นองชาวพุทธทั้งหลาย เพื่อเปนกุศล และ เพื่ อ พิ จ ารณาญาณด ว ยตนเองถึ ง เหตุ ก ารณ มหันตภัยของโลกยุคโลกาภิวัฒน ซึ่งจะบังเกิดขึ้น ตาม พุทธทำนาย ไวดงั นี.้ ..


12 ๔

พระอินทร พรหม ยมราช ได สั่ ง ไว ว า ถ า บุ ค คลใดได รู จงรี บ บอกให ค นอื่ น ฟ ง หรื อ พิ ม พ แ จกตามกำลั ง ศรั ท ธาจะเกิ ด มหากุ ศ ล ช ว ยให ท า นได ห ลุ ด พ น มหั น ตภั ย พิ บั ติ ทั้ ง ปวง ถ า บุ ค คลใดจะลงมาเกิ ด พร อ มทั้ ง หนั ง สื อ ใบลาน ฉบับนี้ ถาใครไมมีไวในบานเรือนจะมีภูตผีปศาจ เขามาทำลายอยางแนแท ในป จ อถึ ง ป กุ น เมื่ อ เดื อ นหงายจะมี งู พิ ษ อยูบนศีรษะ ฉกกัดใหถึงตาย และผูคนทั้งหลาย จะเกิดความเดือดรอนหลายประการ


๕ 13

ทุกขยากฮอน ทุกขยากฮอน ทุกขยากฮอน ทุกขยากฮอน ทุกขยากฮอน ทุกขยากฮอน ทุกขยากฮอน ทุกขยากฮอน ทุกขยากฮอน

ยอนศึกสงครามบแลว ยอนน้ำและไฟ ยอนบมไี ผสิเบิงไผ ยอนอึดขาวปลาอาหาร ยอนผัว-เมียบเห็นหนากัน ยอนมีคนตายตามทุงนา ยอนบมผ ี เู ฒา ยอนไปตางประเทศบสะดวก ยอนนอนบหลับ

ในป จ อนี้ ในเมืองจันทรจะมีฤๅษีองคทองคำ สิ ก ขาลาเพศออกมาเป น พ อ ค า ในป จ อขึ้ น ๘ ค่ำ ห า มบ ใ ห ตั ก น้ำ อาบ น้ำ กิ น ตามห ว ยหนองคลองบึ ง หลังพระอาทิตยตกดิน (กอนค่ำ) พญายมราชจะนำเอา ยาพิษมาพนใสโลกมนุษย ในปจอเมืองกรุงเทพฯจะแตกพังทลาย ในตอน เวลาไกขัน พระแกวมรกต หัวเชียงเมี่ยงขาวเม็ดใหญ


14 ๖

จะกลั บ สู เ วี ย งจั น ทร นี่ คื อ พระคาถาขององค อิ น ทร พรหม ยมราช ไดเขียนไวในใบลาน จงเก็บรักษาไว ให ดี จ ะได ห ลุ ด พ น จากภั ย พิ บั ติ ต อนเกิ ด เหตุ ก ารณ มหันตภัย พระคาถาเขียนไววา ปะโต เมตัง ประระชีมนิ งั สุคะโต จุติ จิตตะ เมตตะ นินะมัง สุคะโต จุติ พระคาถาบทนี้เขียนลง ใบลาน แผนทอง หรือแผนผาก็ดี ติดไวที่ประตูบาน ในรถ หรือโพกศีรษะ เมื่อเกิดเหตุจะชวยใหพนจากภัย อันตราย ในกาลเวลานี้ เ ทพเจ า เหล า เทวดาผู รั ก ษา คุ ม ครองโลกได ก ราบทู ล พระอิ น ทร ว า มนุ ษ ย โ ลก ทำบุ ญ เพี ย ง ๓ ส ว น และทำบาปกรรมถึ ง ๗ ส ว น เมื่อเปนเชนนี้ องคอินทรจึงสั่งลงโทษมนุษยผูใจบาป ถึง ๙ ขอ นับตัง้ แต ปจอถึงปกนุ ดังตอไปนี้ ๑. จะเกิดพายุลมแรงแผนดินไหว ๒. จะเกิดอัคคีภัย ๓. จะเกิดอุทกภัย


15 ๗

๔. จะเกิดอาฆาตฆาฟน ๕. จะเกิดฟาผา ๖. จะเกิดรอนเกินไปหนาวเกินไป ๗. จะเกิดสารพิษตางๆ ๘. จะเกิดกาฬโรคตางๆ ๙. จะเกิดขาวยากหมากแพง มหันตภัย ๙ อยางนี้ จะหลุดพนไดโดยเฉพาะ ผูมีบุญคนที่ปฏิบัติตามคำสั่งสอนพระสัมมาสัมพุทธเจา เทานั้น รูแลวจงบอกตอๆ กันไปทำความดีมากๆ ถา เลยปจอปกุนไปแลวทุกคน พรอมทั้งลูกหลานจะไดรับ ความสุขกายสบายใจทุกคน ใหทกุ คนเครงครัดในศีล ๕ นอกจากหนังสืออินตกที่ไดกลาวมาแลว ยังมี พระผู ท รงศี ล อี ก องค ห นึ่ ง ได พ บเห็ น คำสอนที่ จ ารึ ก ในแผ น ศิ ล าที่ พึ่ ง พบในภู เ ขาแห ง หนึ่ ง ที่ พ ระพุ ท ธเจ า ไดเดินธุดงควิปสสนากรรมฐานผานไป พระผูทรงศีล กล า วว า พี่ น อ งทั้ ง หลายถ า ไม เ ชื่ อ ก็ สุ ด แล ว แต ด วงจิ ต เพราะถึงเวลาที่สวรรคจะไมมีความลับถาทานเชื่อก็เปน


16 ๘

กุศล รูเพียงเทานี้จึงขอบอกเลาสูทานฟงตามคำกลาว ของพระผู ท รงศี ล รู ป นี้ ว า ในแผ น ศิ ล าได เ ขี ย นไว โ ดย พระมหากัสสะปะวา ในประกา ปจอ ปกนุ เดือน ๗-๘ จะเกิดเหตุการณรา ยแรงตามถนนหนทาง ในเดือน ๙-๑๐ คนใจบาปจะถู ก ล า งผลาญให ห มดไป มี บ า นแต ไ ม มี คนอยู มีขาวแตไมมีคนกิน มีทางแตไมมีคนเดิน พระผู ทรงศีลกลาวถึงหนังสืออินตก ถาทานผูใดเคารพบูชา หรือบนวาจะบอกแกผูอื่น หรือพิมพแจกจายใหสาธุชน ทั้งหลายไดรับรูแลว ทานปรารถนาสิ่งใดจะไดสมใจนึก จะปราศจากภัยพิบัติทั้งปวงตลอดไปไมเชื่ออยาลบหลู


17 ๙

ออกจากศิลาจารึกในมหาวิหารเจตมาหเชตะวัน ณ สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย โดยคณะทูตไทย ที่ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อป พ.ศ. ๒๔๘๕ ตามคำแปลเปนภาษาไทย วาดังนี้ สาธุ อะระหังตา พระสัมมาสัมพุทธเจาทรง พระเมตตากรุ ณ าสรรพสั ต ว ทั่ ว โลก ที่ เ กิ ด มาแล ว แต ลำบากทั่ ว หน า ทุ ก ชาติ ทุ ก ศาสนา ตามธรรมชาติ เมื่ อ อาตมาเข า นิ พ พานไปแล ว ครบห า พั น ป เ ป น ที่ สุ ด


18 ๑๐

โลกจะหมุนไปใกลถึงจำนวนที่ตถาคตทำนายไวสองพัน หารอยป มนุษยและสัตวจะไดรับภัยพิบัติเสียครั้งหนึ่ง ในระยะ ๓๐ ป สิ่งที่มนุษยไมเคยเห็นจะไดเห็น ไมเคย พบจะได พ บ ยั ก ษ หิ น ที่ ถู ก สาปให ห ลั บ กลั บ ตื่ น ขึ้ น มา อาละวาดยิ่งนักใกลกับ พ.ศ. ๒๕๕๐ ยิ่งทวีกันใหญขึ้น ทุกทิวาราตรี มนุษยนอกศาสนาจะรบราฆาฟนจนถึง เลือดนองเต็มพื้นดินพื้นน้ำ จะลุกลามเผามนุษยไมขาด ระยะ ต า งฝ า ยต า งทำลายเหมื อ นยั ก ษ ก ระหายเลื อ ด แผนดินจะเปนเปลวไฟจะตายไปอยางละครึ่งๆ หนึ่ง จะเลิกลมตางฝายตางหมดกำลังดวยกันตามวิสัยยักษ รายนอกศาสนา ซึง่ ถือกำเนิดจากปา สวนพุทธศาสนิกชน ผู ทำแต บุ ญ เดิ น ตามทางตถาคต สามารถระงั บ ร อ น ไมรุนแรง บานใดไดบูชาพระโพธิสัตวรมกาสาวพัตร ก็รับภัยพิบัติเบาบาง แตหนีภัยธรรมชาติไมพน ไฟจะ ลุกลามมาทางทิศตะวันออก ไหมวัดวาอาราม สมณะ ชี พ ราหมณ จ ะอดอยากยากเข็ ญ ลู ก ไฟจะตกจากฟ า เหล็กกลาจะผุดจากน้ำ สงครามจะเกิดทั่วทิศ พญานาค


19 ๑๑

จะพนไฟ ทหารจะเปนเจา ขาวสารจะขาด ทุกแควนจะ อดอยาก พลูหมากจะหมดเปลือง สีเหลืองจะชนะพระ ยั ง คงอยู คู เ มื อ งต อ ไป สี ข าวจะแพ ภั ย ในที่ สุ ด ครุ ฑ จะบิ น กลั บ ฐาน คนจะกลั บ บำรุ ง พระพุ ท ธเจ า ดั ง นี้ ชา ตะ มะ สะ ละ วา พระพุทธชินลิตนีท้ า นใหเขียนใส กระดาษหรื อ ผ า ขาวติ ดไวหน า บ า นหรื อ หั วนอน ดั งนี้ จะมีอายุยืนยาว จะทันผูมีบุญชื่อ พระยาธรรมิกราชา เมื่อแรกสถิตอยูเขตอยุธยาบัดนี้ทานเสด็จอยูลานชาง (ภาคอีสานในปจจุบัน) พระยาธรรมิกราชา เขามาปกุน เดือน ๑๑ เปนเที่ยงแทนักหนา ทานเสด็จมาในประกา แรม ๕ ค่ำ มหากษั ตริ ย ม าทางทิ ศ ตะวั น ตก สมณะ ชี พ ราหมณ ต ามมาพอประมาณได ๗๖,๔๐๐ รู ป ทั่ ว อาณาจักรสมเด็จพระบรมนักปราชญไดประกาศคาถา วาดังนี้ นะสัจจัง ทะ คะยังมะสำคำปง คอยดูในปมะโรง คนจะเดินโกงโคงคลาน ผูใดอยากพบผูมีบุญชื่อพระยา ธรรมิ ก ราชา ให ภ าวนาให ห มั่ น รั ก ษาศี ล สดั บ รั บ ฟ ง พระธรรมเทศนา คอยดูปมะเส็งตลิ่งจะพัง มหาสุมทร


20 ๑๒

จะชอกช้ำ อยาเทีย่ วไปกลางแจง ทานเขามาปกนุ เดือน ๘ เปนเที่ยงแท ผูใดไมเชื่อจะรับอันตราย คอยดูในปจอ คนจะพนภัย สะโรนะ กาโททายะโม พุทธะตะยะ ภาวนา ทุกเชาค่ำผนู นั้ จะมีอายุยนื จะไดเห็นพระยาธรรมิกราชา (พระโพธิสัตวศรีอริยเมตไตย) ในปกุนทานจะเขามาอีก ถาไมเห็นหนังสือบานใด ผูนั้นจะไดรับอันตรายรูแลว ใหบอกตอกันดวย

- คำเตือน -

โลกมนุ ษ ย กำลั ง จะเข า สู ก าลี ยุ ค จะทำใหเกิดภัยธรรมชาติจาก ดิน-น้ำ-ลม-ไฟ จะเกิดมหาสงครามโลกครั้งที่ ๓ ตามมา มนุษยจะตายไปกวาครึ่ง สำหรับประเทศไทย จะเริ่มเกิดตั้งแตป ๒๕๕๐ คาดวาจะไดรับภัยทางน้ำและไฟโดยเฉพาะจังหวัดที่ติด ชายทะเลและกรุงเทพฯ แผนดินจะยุบตัว คลืน่ น้ำจะพัด


21 ๑๓

เขาถลมความสูง ๒๐๐ เมตร มนุษยจะลมตายมากกวาครึง่ น้ำจะเขาชองแคบสระบุรี และดานตอนลางของโคราช บางส ว น ภั ย พิ บั ติ จ ะเกิ ด ขึ้ น อย า งต อ เนื่ อ งไปเรื่ อ ยๆ สุ ด ท า ยประเทศไทยจะเหลื อ ประชากรประมาณ ๓๐ เปอรเซ็นต ส ว นประเทศอื่ น ทั่ ว โลกจะเหลื อ เพี ย ง ๑๐ เปอรเซ็นตเทานั้น บุคคลที่รอดชีวิตสวนมากก็สูญเสีย สติ สั ม ปชั ญ ญะ ไม ป ลอดภั ย เหมื อ นเมื อ งที่ นั บ ถื อ พระพุทธศาสนา เพราะไมเขาใจบำเพ็ญฌาน ภาวนา ฉะนั้ น อย า หลงใหลในทรั พ ย สิ น ของตนเองให มั น มากนั ก เพราะเมื่ อ เขายุคศิวิไล เงินทองจะไมมีคาเลย เพราะมนุษยยคุ นัน้ วัดกันทีค่ วามดี ศีลธรรม บุญกุศลเทานั้น ปมะโรง พ.ศ. ๒๕๕๕ ปมะเส็ง พ.ศ. ๒๕๕๖ ประกา พ.ศ. ๒๕๖๐ ปจอ พ.ศ. ๒๕๖๑ ปกนุ พ.ศ. ๒๕๖๒


22 ๑๔

รัชกาลที่ ๑ ทายวา มหากาฬ (ทำลายเพือ่ น พีน่ อ ง) รัชกาลที่ ๒ ทายวา ฌานยักษ (ชำนาญเวทมนตร)


23 ๑๕

รัชกาลที่ ๓ ทายวา รักมิตร (มีการคาขายกับตางชาติ มากมาย) รัชกาลที่ ๔ ทายวา สนิทคำ (ออกบวช) รัชกาลที่ ๕ ทายวา จำแขนขาด (คือตองยอมเสีย ดินแดนฝงซายแมน้ำโขงและ เขมรเพื่อปองกันอธิปไตย) รัชกาลที่ ๖ ทายวา ราชโจร (เกิดสงครามโลกครัง้ ที่ ๑ เกิดกลมุ โจรมากมายมีการตัง้ กองเสือปาครั้งแรกของไทย) รัชกาลที่ ๗ ทายวา ชนรองทุกข (เกิดการเดินขบวน เพื่อเรียกรองประชาธิปไตย) รัชกาลที่ ๘ ทายวา ยุคทมิฬ (พระเจาแผนดิน ถูกลอบปลงพระชนม) รัชกาลที่ ๙ ทายวา ถิน่ กาขาว (มีฝรัง่ มากมายนำเงินมา ซือ้ ประเทศไทยเกิดวิกฤติการเงิน) รัชกาลที่ ๑๐ ทายวา ชาวศิวไิ ล (จะมีเหลือเฉพาะ ผูมีบุญเทานั้นที่รอดคอยเปนยุค ของพระศรีอริยเมตไตย)


24 ๑๖

พระสยามิน ทะโร วะโร อัตตัง พุทธสังมิ อิติ อรหัง วะรังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปโยเทวา มนุสานัง ปโย พรหมานะ มุตตะโม ปนัน หริยัง นะมามิหัง


25 ๑๗

ขาพเจาไดพบหนังสือเลมนีเ้ ขาดวยความบังเอิญ เมื่ออานดูแลวเกิดความเลื่อมใสศรัทธา จึงไดพิมพแจก เปนกุศลทาน ซึง่ ในใจความหนังสือมีอยวู า วั น หนึ่ ง ในโบสถ ข องวั ด ศิ ริ ป ระสุ ป ระติ น าถ ไดมีหลวงพอองคหนึ่งไดนั่งสวดมนตอยูในโบสถของวัด ในเวลานัน้ ก็มงี ตู วั หนึง่ ไดเลือ้ ยออกมาจากหนาพระพุทธรูป ในโบสถ หลวงพอเมื่อไดเห็นงูตัวนั้นก็เกิดอาการกลัว หลังจากนั้นงูก็ไดกลายเปนมนุษยในรูปของพราหมณ แลวพูดกับหลวงพอวา "เจาไมตองกลัวและตกใจจงฟง ขาพเจา ขาพเจาคือพญานาคราชและไดจุติ ณ วัด แหงนี้ เพือ่ บำบัดปดเปาความชัว่ รายและคนบาป คนที่ ทำกรรมไว ม ากจะให พิ น าศหายไปจากโลกนี้ แ ละ เจาจงประกาศใหคนไดรทู วั่ วา ผใู ดนำเรือ่ งของขาพเจา ไปเผยแพร่ ผู้นั้นจะมีใบความสุ ไปพิ มพแจก ๑,๐๐๐ ภายในขความเจริ ๑๕-๓๐ ญวัน คิมัดนสิผ่งนู ใดน้ั สมความปรารถนาทุ กประการ สวดมนต์ จะมี โชคลาภ มีความสุ ขความเจริหรื ญอคิเก็ ดสิบ่งไว้ ใดสมความ เพื่อเป็นสิรกิมประการ งคลแก่ตและผ นเองและครอบครั ปรารถนาทุ ใู ดไดรไู ดอา นอยว าคิดวาเปน การหลอกลวงหรื อ ไม เ ชื่ อ และผู ใ ดคิ ด จะพิ ม พ แ จก


26 ๒๐

พวกเราชาวพุทธแตละคนลวนเคยทำบุญใหทาน มาแลวทั้งสิ้นทั้งในชาตินี้และในชาติกอนถาจะนับบุญ ก็คงใหญเทาภูเขาเลากา หรือเทากอนโลก แตไมรูจัก ใชบญ ุ ของตนเองใหเกิดประโยชนในปจจุบนั ชาติ จึงตอง รอตายแลวจึงไปรับบุญในสรวงสวรรค คนทำบุญจึงชอบ


27 ๒๑

บนวา ทำแตบุญไมเห็นไดดีสักที ที่เปนเชนนี้เพราะเขา ไมเคยใหบุญแกเทวดาที่รักษาตัวเอง ไมเคยใหเจากรรม นายเวรทีต่ ามจองกันอยู ไมเคยใหเทวดาและญาติทพิ ยที่ อาศัยอยใู นเขตบานเรือน ไมเคยใหเทวดาทีร่ กั ษาเจานาย ของตัว เทวดาเหลานัน้ บางองคอาจมีบญ ุ นอย มีฤทธิน์ อ ย จึงไมสามารถชวยเหลืออะไรเราไดมาก แตถาเขาไดรับ บุญจากเราบอยๆ เขาจะกลายเปนเทวดาที่มีฤทธิ์อำนาจ สามารถชวยเหลือใหเราประสบความสำเร็จไดดงั่ ใจหมาย บางคนอางวาทำบุญทุกครั้งก็กรวดน้ำใหเทวดา และ เจ า กรรมนายเวรทุ ก ครั้ งก็ ไม เ ห็ น มี อ ะไรเปลี่ ยนแปลง โปรดเขาใจวาทานใหไมเปนเขาจึงไมไดรับ เชนใหไม เจาะจงหรื อ แสงบุ ญ หมดแล ว จึ ง มากรวดน้ำ ให เ ขาจึ ง ไมไดรับ เมื่ อ กำลั ง ให ข องแก ใ ครไม ว า จะถวายของแก พระสงฆ พอ แม พี่ นอง ญาติ มิตร แมใหขา วหมากิน ใหอาหารปลา โปรยเศษอาหารใหมดกิน ยอมเกิดกระแส บุ ญ ขึ้ น เป น แสงเรื อ งรองแผ อ อกจากตั ว ผู ที่ กำลั ง ให


28 ๒๒

เพียงไมกี่เสี้ยววินาทีแสงนี้จะพุงหายขึ้นไปยังเบื้องบน แลวสะสมเปนกองบุญของผูใหอยูบนเทวโลก ดังนั้น ขณะใหของแกใครจึงควรอธิษฐานจิตคิดทันทีวา .... "บุญนี้จงเปนของเทวดาผูรักษาตัวขา" และ "บุญนีจ้ งเปนของเจากรรมนายเวรของขา" หรือ "บุญนี้ จงเปนของเทวดา ภูต ผี ปศาจ เปรต ครุฑ นาค ยักษ ที่อาศัยอยูในเรือกสวนไรนาหรือเคหะสถานบานเรือน ของขา" หรือ "บุ ญ นี้ จ งเป น ของเทวดาผู รั ก ษาบุ ต ร ของขา จงเปนของเทวดาผูรักษาบิดามารดาของขา" เปนตน ขึน้ อยกู บั วาเราตองการแกไขในจุดไหน เชน

บุตรของเราเกเรเหลือเกิน

ชอบสร า งแต ค วามเดื อ ดร อ น สั่ ง สอนไม ฟ ง แบบนี้ตองใหเทวดาผูรักษาตัวเขาเปนผูตักเตือน วิธีที่ เทวดาตักเตือนนั้นทานจะสั่งการไปที่ความรูสึกนึกคิด จิตใจของเขา ถาเทวดาประจำตัวเขาเปนมิจฉาทิฏฐิ เมือ่ ไดรบั บุญบอยๆ เทวดารสู กึ ถึงความเปลีย่ นแปลงในตัวเอง มีชวี ติ สบายขึน้ มีฤทธิอ์ ำนาจขึน้ เขาทราบไดเองวาสิง่ ที่


29 ๒๓

ไดนนั้ มาจากไหน อุทศิ บุญใหทา นก็อธิษฐานวา "เมือ่ เทวดา ไดรบั บุญแลว ขอใหมคี วามสุขมีกนิ มีใชเสือ้ ผาทีอ่ ยอู าศัย และขอใหอบรมตักเตือนลูกของขาใหเปนคนดีดวย" ดังนั้นไมนานหรอกจะเกิดกรณีพิสดารขึ้นกับบุตรเกเร คนนัน้ จนตองเปลีย่ นพฤติกรรมเปนคนดีแนนอน

สามีหรือภรรยา

คู ค รองของตนเป น ที่ น า เอื อ มระอาเหลื อ เกิ น อยากให คู ค รองดี รั ก เรา ละเลิ ก ความประพฤติ ชั่ ว เหลวไหล ก็ใหทำแบบเดียวกันกับทีใ่ หบญ ุ แกเทวดาทีร่ กั ษา บุตร

กิจการคาของทานลมเหลวหรือซบเซา

เมื่อทานทำบุญทุกครั้งควรอุทิศใหเทวดาประจำ ตัวของทาน และเทวดาทีด่ แู ลกิจการการคาพรอมกันแลว อธิษฐานวา "เทวดารับบุญของเราแลวโปรดชวยเหลือ กิ จ การธุ ร กิ จ ของเราให ป ระสบความสำเร็ จ ด ว ยเถิ ด ถาร่ำรวยขึ้นจะทำบุญใหทานยิ่งๆ ขึ้นไปอีก" จะใชคำ เรียกตนเองวาขาวาเราก็ไดทั้งนั้น


30 ๒๔

รานคาขาย

จะเปนรานอะไรก็แลวแต เมื่อทำบุญก็ใหอุทิศ แกเทวดาทีร่ กั ษารานคานัน้ ดวย แลวบอกวา "เทวดาเมือ่ ไดรบั บุญแลวโปรดเรียกลูกคามาอุดหนุนใหมากๆ ดวย" การอุทิศบุญไมตองพูด ไมตองกรวดน้ำ ใหใช การคิด ตองรีบคิดทันที อยาชักชาเพราะแสงบุญที่ เกิดขึ้นจะดำรงอยูไมกี่วินาที แลวจะหายไปอยูสวรรค ถาฝกบอยๆ เราจะชำนาญในการคิดเพราะมีกระแส แรงกวาพูดออกจากปาก เวลาหยอนกอนขาวลงในบาตร ใหคดิ สงบุญทันที และคิดใหชดั เจนอยาลางเลือน ใหของ แกใคร เมือ่ ของหลุดจากมือเราไปก็ใหคดิ ทันทีอยาชา

การรักษาโรคภัยที่เกิดกับตัวเรา

สื บ เนื่ อ งมาจากนายเวรผู เ คี ย ดแค น ชิ ง ชั ง กระทำทัง้ สิน้ พระพุทธเจาตรัสวา ผฆู า สัตวยอ มอายุสนั้ ผู เ บี ย ดเบี ย นสั ต ว ย อ มสุ ข ภาพไม ดี ดั ง นั้ น การรั ก ษา ตองสงบุญไปใหเจากรรมนายเวรทีท่ ำใหเกิดอาการเจ็บปวย นัน้ ๆ และใหเทวดาผรู กั ษาตัวเรา ในขณะเดียวกันโปรด


31 ๒๕

อธิ ษ ฐาน "หมอใดยาใดที่ ส ามารถรั ก ษาอาการนี้ ใ ห หายขาดได ขอใหเทวดาจงนำหมอนั้นมารักษาตัวเรา เจากรรมนายเวรไดรับบุญของเราแลว จงอโหสิกรรม ใหดวยถาเราหายเราจะทำบุญใหแกทานยิ่งๆ ขึ้นไป" การอธิษฐานเบิกบุญเกาอุทศิ ใหเจากรรมนายเวรทีร่ บกวน ควรทำวันละหลายๆ ครัง้ จนเขาพอใจอาการปวยของเรา ก็จะหายเร็วขึ้น

วิธีการใหบุญเจากรรมนายเวร

ควรจะทำดังนีเ้ ปนตัวอยาง เชน คนปวยมะเร็ง จุดไหนเมือ่ สงบุญใหคดิ วา "บุญนีใ้ หแกเจากรรมนายเวร ที่กอใหเกิดการเจ็บปวย...พวกเชื้อมะเร็ง เมื่อไดรับ บุญแลวขอใหมชี วี ติ ทีด่ ขี นึ้ มีภพภูมทิ สี่ งู ขึน้ จงหลุดจาก ภาวะชีวติ ชัน้ ต่ำเดีย๋ วนี้ เมือ่ เราหายแลว เราจะทำใหแก พวกเจา สงชีวติ ใหพวกเจาสูงขึน้ เรือ่ ยๆ พวกเจาจงเลิก จองเวรจองกรรมในเราตั้ ง แต บั ด นี้ เราจะตั้ ง อยู ใ น ศีลธรรมเลิกเบียดเบียนเขนฆาชีวิตสัตวอื่น ขอสงบุญ จากการรักษาศีลแกเจาดวย"


32 ๒๖

ผูมีอาชีพเกี่ยวกับการฆาหรือเบียดเบียนสัตวอื่น คนเหลานี้ไดสรางบาปกรรมทุกวันๆ กอความเคียดแคน ชิงชังใหแกสัตวที่ถูกฆาอยูทุกวี่วัน เขาพยายามจองลาง จองผลาญ แตในขณะทีบ่ ญ ุ เกาของผนู นั้ ยังมีอยู เจากรรม นายเวรก็ทำอะไรไมได แตหากนายเวรมีชองทางเมื่อไร วิญญาณสัตวทเี่ คียดแคนเหลานัน้ (นายเวร) จะตามทวง และใหรายทันที ดังนั้นตองพยายามไถถอนกรรมของตัว ดวยการทำบุญอุทศิ ใหวญ ิ ญาณสัตวทตี่ วั เองฆา ทำบอยๆ สงบอยๆ เอาเนื้อสัตวที่เราขายนั้น ทำอาหารถวายพระ หรือเลีย้ งผอู นื่ อธิษฐานวา "บุญนี้ใหสัตวทั้งหลายที่เราไดฆาหรือผูอื่นฆา เพราะคำสัง่ เรา เหลาสัตวเหลาใดไดรบั บุญแลว ขอให มีแตความสุขความเจริญ มีชวี ติ วิญญาณทีด่ ขี นึ้ จงหลุด พนจากกรรมเวรที่ตนเองสรางไว จงมีภพภูมิที่สูงขึ้น เรื่อยๆ จนกระทั่งเปนเทวบุตรเทวดาในสรวงสวรรค เมื่อไดรับบุญแลวจงอโหสิกรรมใหแกขาพเจาดวย"


33 ๒๗

คาถาบริกรรมและปฏิบัติ

เพื่อปลดหนี้ตอเจากรรมนายเวรตั้งแตอดีตชาติ

เนือ่ งเพราะเราทุกๆ คน เคยมีหนีส้ นิ (หนีก้ รรม) มาตั้งแตอดีต ทั้งโดยเจตนาและไมเจตนา พอมาชาตินี้ ปรากฏวา เกือบทุกคนที่ตองเสียเงินทอง เสียทรัพยสิน โดยมิไดกลับคืนมา เชน มีคนขอยืมเงินไปแลวไมนำ มาคืน โดนลักทรัพย โดนอุบัติเหตุในทรัพยสินทุกชนิด เสียหาย บางคนขายของโดยสินเชื่อแลวยังไมไดเงิน โดนโกงแชร ฯลฯ และเกื อบทุกคนๆ ทำบุญทำทาน ถวายพระมากมายแต ไ ม เ คยคิ ด ที่ จ ะนำเงิ น ที่ มี ม าใช หนี้เกาที่ติดคางมาตั้งแตอดีตชาติ เจากรรมหนี้จึงมา ทวงคืนตามเวลาและจังหวะที่เหมาะสมของเขา จึงเกิด เรื่ อ งขึ้ น ว า ทำไมเราเป น คนถื อ ศี ล ทำทานแล ว ยั ง มี เหตุการณโกงหนีส้ นิ เกิดขึน้ ไมเวนแตละวัน ฉะนั้ น เพื่ อ ปลดหนี้ กรรมและอโหสิ กรรมต อ เจากรรมนายเวรดังกลาวเสียแตบัดนี้ เพื่อความเปน มงคลแกตนเอง ครอบครัว และตระกูล จึงขอใหทาน บริกรรม-ปฏิบตั ิ ดังนี.้ ..


34 ๒๘

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

(๓ จบ) ทานเจากรรมนายเวรทัง้ หลายทีข่ า พเจา (นาย, นาง......................) ไดตดิ หนีท้ า นเทาใด เวลาใด ตัง้ แต อดีตชาติ จนถึงปจจุบันชาติ ทั้งโดยเจตนา และโดย ไมเจตนา ขาพเจาขอปวารณาวา ตัง้ แตวนั นีเ้ ปนตนไป ขาพเจาจะขอทยอยใชหนี้คืนใหทุกบาทสตางค จนกวา จะหมด และขออโหสิกรรมใหแกขา พเจา เพือ่ ความสุข ความเจริญของขาพเจาและครอบครัวดวยเทอญ. นั่ ง บริ ก รรมโดยถื อ เหรี ย ญ ๑ บาทไว ใ นมื อ เสร็จแลวเอาเหรียญหยอนใสกระปุกหรือถวยไวทกุ ๆ วัน จนครบ ๔ เดื อ น แล ว เอาเหรี ย ญทั้ ง หมดไปทำบุ ญ ทำทาน ห า มนำไปใช ซื้ อ ของกลั บ มาใช ให ท า นทำ ตอนเชากอนทีจ่ ะใชเงินตางๆ ในทุกๆ วัน


35 ๒๙

มนุ ษ ย แ ละสั ต ว มิ ไ ด สิ้ น สุ ด ที่ ความตายเพราะการ "ตาย" หมายถึงสภาพ รางกายทีไ่ มสามารถใหบริการแกจติ วิญญาณ ใชงานตอไปไดอีก "วิญญาณ" ยั งคงอยู ถึงแมรางกายจะหมดอายุขัยไปแลว ทั้งนี้ สภาพการตายจะบงบอกใหรูวาจิตวิญญาณ นั้นไปสุคติหรือลงสูนรกภูมิ ๑. ตอนตายใหมๆ ถาหากสีหนาปกติ รางกายออนนิ่มสีหนาเหมือนคนมีชีวิตอยู เนื่ อ งจากได บ รรลุ ธ รรมดวงวิ ญ ญาณ จะไปสูสุคติ ๒. ตอนตายใหมๆ ถาหากหนา ตาซีดเผือดเหมือนคนตกใจ แสดงวาวิญญาณ ไดตกสนู รกแลว


36 ๓๐

๓. ตอนตายใหม ๆ ถ า หากร า งกายแข็ ง ทื่ อ หนาตานากลัว เพราะความตกใจ บางคนกรีดรองเสียง คลายสัตว คนเหลานีจ้ ะไปเกิดเปนสัตว ๔ ชนิด สั ง เกตได จ าก ตา หู จมู ก ปาก ตาจะมี น้ำตาออก หูจะมีขี้หู จมูกจะมีน้ำมูก ปากจะมีน้ำลาย ฟูมปาก เปนทวารทีไ่ มสะอาด ๔ ชองทาง เมือ่ จิตวิญญาณ ออกทางนีจ้ ะเกิดเปนสัตว ๔ ประเภท • ตา ชอบดูสิ่งเหลวไหล ลุมหลงในรูปตางๆ คนเหลานี้เวลาใกลตาย ดวงตาจะเบิกกวาง จะไปเกิด เปนสัตวปก (เกิดออกจากไข) • หู ชอบฟงเรื่องเหลวไหล เรื่องซุบซิบนินทา คนเหลานี้เวลาตายหูจะชันขึ้น จะไปเกิดเปนสัตวที่เกิด จากครรภ เชน ชาง มา วัว ควาย • จมูก ชื่นชมกลิ่นคาวโลกีย เชน เงินทอง สุรานารี การพนัน ชื่อเสียง ลาภยศ และคานิยมที่ผิด ศีลธรรม ฯลฯ จะไปเกิดเปนแมลง มด ยุง แมลงวัน ฯลฯ บาปหนักมาก วิญญาณจึงถูกตีเปนเศษวิญญาณ


37 ๓๑

• ปาก ชอบพูดเรื่องเหลวไหล พูดนินทา พูด วิจารณ พูดกลาวรายปายสี ดาคำหยาบคาย คนเหลานี้ เวลาตาย ปากจะอาคางอยูตลอด จะเกิดเปนสัตวน้ำ ไปอยูกับรสชาติที่โสโครกและสกปรก

แลวเมื่อออกจากราง...

วิญญาณจะไปไหนละ? ดวงวิ ญ ญาณที่ อ อกจากร า งในตอนแรก จะวนเวียนอยูบริเวณนั้น พอไดสติก็จะมีทานมัจจุราช ทำหนาที่มานำเอาวิญญาณของมนุษยหรือสัตวที่ชะตา ถึงฆาต พาไปยังยมโลกเพื่อตรวจสอบบาปบุญความดี ความชั่วในขณะที่มีชีวิตอยู วิญญาณบาปจะถูกนำตัวสงไปนรก ๘ ขุมใหญ แต ล ะขุ ม แบ ง ย อ ยขุ ม ละ ๓๖ แห ง แต ล ะแห ง มี ก าร ลงทัณฑและทรมานอีก ๘๐๐ ดาน แตละดานมีเครื่อง ทรมานนับไมถว น วิญญาณบางดวงอาจตกนรกทัง้ ๘ ขุม เลยก็มี โดยเฉพาะคนที่ทำกรรมชั่วมหันต หรือเรียกวา


38 ๓๒

“อนันตริยกรรม” มีอยู ๕ อยาง คือ ๑. ฆาพอ ๒. ฆาแม ๓. ฆาพระอรหันต ๔. ทำรายพระพุทธเจาถึงหอเลือด ๕. ยุยงพระสงฆใหแตกแยก หลังจากทีค่ นเราตายประมาณ ๑-๒ วัน ปกติแลว เขาจะไมรูวาตัวเองตาย ๗ วันใหหลังเขาจึงรูวาตนเอง ตายแลว วิญญาณจะถูกกักบริเวณไว ๔๙ วัน เพื่อรอ พิจารณาคดี ในระหวางนั้นผูตายก็กำลังรอบุญกุศลจาก ลูกหลานทางโลกทีก่ ำลังงวนอยกู บั งานศพ

ปรากฏการณ ๔๙ วันชีวติ หลังความตาย ขณะที่ วิ ญ ญาณของผู ต ายออกจากร า งชี วิ ต หลังความตายก็เริ่มตน เปดฉากขึ้นในโลกที่ผูตายตอง เขาไปเพียงลำพังเทานัน้ ไมมสี งิ่ ใดเลยทีส่ ามารถเอาติดตัว จากโลกมนุษยได เวนแต บาปกับบุญ เทานัน้


39 ๓๓

• เจ็ดวันรอบแรก

วิ ญ ญาณผู ต ายต อ งเดิ น ผ า นดงหมาป า ซึ่ ง มี ฝูงหมาปาดุรายเหมือนเสือขวางทาง - เมื่ อ วิ ญ ญาณบาปไปถึ ง ก็ เ กิ ด หวาดกลั ว ไมกลาเดินตอไป ฝูงหมาปาเห็นดังนั้นก็กระโจนเขาขย้ำ ขบกัดวิญญาณบาปจนเลือดทวมตัว กรีดรองโหยหวน ดวยความเจ็บปวดทุกขเวทนา - สวนวิญญาณผูประกอบกรรมดี เมื่อมาถึง ดงหมาป า ก็ จ ะมี ห มู เ ทวทู ต คอยพิ ทั ก ษ คุ ม ครอง พวก หมาป า ได แ ต นิ่ งเฉยไม กล า ทำอะไร จึ งผ า นไปได โดย ปลอดภัย

• เจ็ดวันรอบทีส่ อง

เมื่อวิญญาณผูตายมาถึงดานประตูผี เจาหนาที่ ผรู กั ษาดาน... - เมื่อเห็นเปนวิญญาณบาป ก็จะทุบตีอยาง ไมปรานี และยังมีพวกเจากรรมนายเวร พากันมาทวงหนี้ เวลานั้น


40 ๓๔

- สวนวิญญาณผูประกอบกรรมดี เมื่อมาถึง ดานประตูผีจะไดรับการตอนรับและสามารถผานดานนี้ ไปโดยปลอดภัย

• เจ็ดวันรอบทีส่ าม

เมือ่ วิญญาณผตู ายมาถึงยมโลก - ถ า เป น วิ ญ ญาณบาป ก็ จ ะถู ก โซ ต รวนไว และถูกบังคับนำไปอยูตรงหนาหอกระจกสองกรรมยามมี ชีวิต... ทำชั่วอะไรภาพจะปรากฏขึ้นเองอยางอัตโนมัติ เสร็จแลวก็จะถูกคุมตัวไปรับการพิจารณาโทษ ถึงวิญญาณ บาปจะเริ่มสำนึกผิดตอนนี้แตก็สายเสียแลว - สวนวิญญาณผูประกอบกรรมดี เมื่อมาถึง จะได รั บ การต อ นรั บ มี เ จ า หน า ที่ พ าไปท อ งเที่ ยวนรก ขุ ม ต า งๆ และพาไปดู ส ภาพของบรรดาญาติ พี่ น อ งที่ ทำบาป กำลังรอคอยการพิจารณาตัดสินความผิด

• เจ็ดวันรอบทีส่ ี่

เมื่อมาถึงดานภูเขากระดาษเงินกระดาษทอง - การจะขึ้นไปบนภูเขาลูกนี้ยากลำบากมาก


41 ๓๕

กระดาษเหลานี้ไดมาจากลูกหลานญาติพี่นองในเมือง มนุษยหลงงมงายเผาสงไปให ทับถมกันจนเปนภูเขาเลากา ซึ่งตามความเปนจริงแลวแมผูตายจะไดรับก็ไรประโยชน

• เจ็ดวันรอบทีห่ า

วิญญาณผูตายมาถึงหอดูบานเดิม - ไดเห็นลูกหลาน คนในครอบครัวตางไวทุกข ดวยความเศราโศกเสียใจกับการตายของตน - ถึงตอนนี้จึงไดรูวาตนเองตายแลว ไมอาจ กลับบานไดอกี ไดแตเสียใจอาลัยอาวรณ

• เจ็ดวันรอบทีห่ ก

เมื่อวิญญาณผูตายมาถึงดานคุมบัญชี - ยมบาลจะสั่งใหเจาหนาที่ตรวจดูบาปบุญ ทีผ่ ตู ายไดสรางสมตอนมีชวี ติ หลังจากหักลบกันแลว ถาบุญมีมากกวาบาป ก็จะใหไปเกิดยังสุคติภมู ิ ถาบาปมีมากกวาบุญ จะสงไปยังนรกภูมริ บั ทุกข อยางนาเวทนา


42 ๓๖

• เจ็ดวันรอบทีเ่ จ็ด

เมื่อวิญญาณผูตายไปถึงดานตรวจสอบ - ยมบาลก็จะสัง่ เลขาใหตรวจสอบดูวา ผตู าย ตอนยังมีชีวิตอยูไดฆาสัตวตัดชีวิตหรือไม ถาไดถือศีลกินเจ ละเวนจากการฆาสัตวก็จัก ลหุโทษ ถามัวหลงผิดฆาสัตว เพือ่ ความสุขของปากทอง ก็จะเพิม่ โทษเปนเทาตัว.


43 ๓๗

• สะพานนรก คนที่ ก อ กรรมทำบาป และหลังจากการตายแลว ดวง วิญญาณสวนใหญจะตองมาเดิน ผานสะพานแหงนี้ นักการยมบาล จะตีขับใหตกลงไปเปนเหยื่อของ ฝูงงูพิษที่อยูในเหวลึกใตสะพาน • ขุมนรกควักลูกตา นั ก การยมบาลกำลั ง ทรมานคนจำพวกที่ใชสายตา ดูถกู เหยียดหยามผอู นื่ กับพวก ทีช่ อบดูภาพลามก


44 ๓๘

• ขุมนรกหอยหัวลง (สัง ฆาฎมหานรกที่๓) นั ก การยมบาลกำลั ง ลงโทษทรมานดวงวิ ญ ญาณ จากคนที่ ดู ถู ก ให ร า ยผู เ ป น ครูอาจารย กับพวกอกตัญู เนรคุ ณ และพวกที่ ป ระพฤติ ผิ ด ศี ล ธรรมประเพณี ค วาม สัมพันธภายในครอบครัว

• ขุมนรกน้ำรอนลวกมือ (โรรุวมหานรกที่๔)

นั ก การยมบาลกำลั ง ทรมานดวงวิ ญ ญาณจำพวก นั ก ล ว งกระเป า ฉกชิ ง วิ่ ง ราว ลักขโมยและพวกทีห่ ลอกลวง


45 ๓๙

• ขุมนรกผึง้ พิษ

ฝูงผึ้งพิษกำลังรุมตอย ร า งวิ ญ ญาณจากคนจำพวกที่ แอบอางชือ่ สิง่ ศักดิส์ ทิ ธิไ์ ปหลอก ลวงเอาทรัพยสินเงินทองของ ผบู ริสทุ ธิ์ กับพวกทีเ่ บียดบังเอา เงิ น ของศาสนาไปใช ส ว นตั ว และพวกหมอดูที่หลอกรับจาง ทำพิธีสะเดาะเคราะหโดยมิชอบ

• ดานยมโลก

ระหวางเดือนสิงหาคม กั บ เดื อ นกั น ยายนของทุ ก ป ทางการยมโลกจะปลอยพวก ผีวิญญาณที่ตองโทษสถานเบา กั บ พวกที่ จ ะพ น โทษแล ว ให ออกมารั บ แจกทานและส ว น บุญกุศลทีโ่ ลกมนุษย


46 ๔๐

• ขุมนรกตัดเครือ่ งเพศใหห นูกดั แผล

นักยมบาลกำลังตัดเครือ่ งเพศพวกวิญญาณบาป จากคนจำพวกที่มักมากในกามารมณ เชน พวกอลัชชี กับพวกที่ชอบเปนชูดวยสามี-ภรรยาผูอื่น

• ขุมนรกอมลูกกระสุนเหล็ก คนจำพวกที่ ใ ช ก ล อุ บ ายหลอกล อ ให ผู อื่ น ตก หลุมพรางของตนแลวบังคับ ขู เ ข็ ญ เอาสิ่ ง ที่ ต นต อ งการ บางใชเลหลิ้นพูดหวานลอม ให ค นหลงเชื่ อ แล ว กระทำ อนาจารบางโกหกมดเท็จเพื่อ


47 ๔๑

หลอกลวงเอาทรัพยสินผลประโยชนของผูอื่นไป บาง พูดใหรายสอเสียดทำลายผูอื่นโดยมิชอบ และพวกที่ติด ยาเสพติดชนิดตางๆ คนจำพวกนี้หลังจากตายไปแลว รางวิญญาณของพวกเขาตองถูกทางการยมโลกลงโทษ ทรมานดังภาพ

• ขุมนรกสาวไส

นักยมบาลกำลังใชมีดผาอกสาวไสรางวิญญาณ ของพวกคนที่ใชอำนาจหนาที่ในราชการกระทำทุจริต กับพวกที่ปลูกพืชไรใสยาฆาแมลงยังไมทันหมดพิษยา ก็นำออกจำหนาย กับพวกพอเลาแมเลาและพวกลมแชร แลวใหสุนัขกิน


48 ๔๒

• ขุมนรกน้ำมันเดือด

นั ก การยมบาลกำลั งทรมานร า งวิ ญญาณจาก คนจำพวกเปนโจรปลน ตีชิงวิ่งราว ลักขโมย กับพวกที่ ฆ า คนตายด ว ยอาวุ ธ ยาพิษ พวกฉอราษฎร บังหลวง พวกประพฤติ ผิดกามผูเปนสายเลือด พวกอกตัญูตอผูบังเกิดเกลา และพวกที่ใชคาถาอาคม ทำลายคนดวยไสยเวท

• ขุมนรกตัดลิน้ รอยกราม

นั ก บวชที่ ป ระพฤติ ผิ ด ธรรมวิ นั ย ทางปาก เช น กลาวหาใหรา ยศาสนาอืน่ และ เทศนาที่มีความหมายทำนอง สองแง ส ามง า ม กั บ พวกที่ กลาวหาใหรายผูอื่นโดยมิชอบ


49 ๔๓

ตลอดจนใชวาจาแชงดาหยาบคาย หลังจากตายไปแลว รางวิญญาณจะถูกทรมานดังภาพ

• ขุมนรกบดรางวิญญาณ

พวกที่ อ กตั ญ ู พวกฆ า ทำลายชี วิ ต คนและ สัตว กับพวกมักมากในกามารมณ คนจำพวกนี้เมื่อจบ ชีวติ ลงรางวิญญาณของพวกเขา นอกจากตองถูกลงโทษ ทรมานตามผลกรรมอยางหนักแลว สุดทายยังตองถูก นำตั วมาบดอั ด จนร า งแหลกละเอี ยดครั้ งแล วครั้ งเล า เพื่อปรับปรุงความเปนคนเสียใหม กอนที่จะใหไปเกิด และชดใชหนีก้ รรมยังโลกมนุษย


50 ๔๔

• ขุมนรกตัดทอนแขนขา

พวกทีท่ ำมาหาเลีย้ งชีพ ไม สุ จ ริ ต และฉวยโอกาสหวั ง รวยทางลัด พวกลักขโมยฉกชิ่ง วิ่ ง ราวปล น ฆ า และพวกที่ ใ ช กำลั ง ทุ บ ตี พ อ แม ผู มี พ ระคุ ณ คนจำพวกนีห้ ลังจากตายไปแลว ร า งวิ ญ ญาณของพวกเขาต อ ง ถูกลงโทษทรมานอยใู นขุมนรกดังในภาพ

• ขุมนรกน้ำมันกระเด็นใสรา ง

พวกเขียนหนังสือกับถายภาพลามกและพวกที่ ปรุงยาปลุกอารมณทางเพศ พวกโรงพิมพตลอดจนผขู าย


51 ๔๕

คนพวกนีเ้ ปนภัยตอสังคมเปนอยางยิง่ กอความมัวหมอง ทางดานจิตใจใหแกชาวโลกโดยมิชอบ หลังจากตายไปแลว รางวิญญาณของเขาตองถูกลงโทษดังในภาพเปนเวลา อันยาวนาน

• ขุมนรกประหารใจ

เป น ขุ ม นรกประหารใจวิ ญ ญาณบาปจากคน จำพวกใจอิจฉาริษยา ใจอธรรมลำเอียง ใจโหดเหี้ยม อำมหิต ใจทีม่ แี ตเคียดแคนพยาบาท ใจทีเ่ ห็นแกตวั และ จงเกลียดจงชังผูอื่น ใจที่ไมรูจักกตัญูรูคุณ ใจที่วิปริต หมกมนุ แตกามารมณ ใจทรยศคดโกง ฯลฯ


52 ๔๖

• ขุมนรกกรอกยา

นั ก ค า ยาปลอม และสิ่ ง เสพติ ด ในที่ สุ ด ก็จบลงดังภาพนี้

• ขุ ม นรกตั ด ลอกถลก หนังหนา

คนที่ไมมีความละอาย ต อ การกระทำที่ ไ ม ถู ก ต อ ง ทำนองคลองธรรมของตน หลั ง จากตายไปแล ว ดวง วิญญาณจะถูกนักการยมบาล ในนรกลงโทษทรมานดวยการ ตัดลอกถลกหนังหนาออกดังภาพ


53 คำ�ขอขม�โทษ (กรรมชั่ว) กรรมชั่วอันใด ที่ข้าพเจ้าทำาไว้ ด้วยกาย วาจา ใจ ใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ เพราะ ความไม่รู้ เพราะความหลง เพราะความงมงาย เพราะความรู้เท่า ไม่ถึงการณ์ ขอพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และคุณบิดามารดา ครู บ าอาจารย์ จงยกโทษให้ ข ้ า พเจ้ า พ้ น จากความทุ ก ข์ ย าก ลำาบากเข็ญใจ ความทุกข์ขออย่าได้ ความไข้ขออย่าให้มี ขอให้มี ความสุข สวัสดีมีชัย หายทุกข์ หายโศก หายโรค หายภัย หายอุบาทว์ เสนียดจัญไร อันตรายทั้งหลายจงเสื่อมไป สิ้นไป สูญหายไป ข้าพเจ้า จะปรารถนาสิง่ ใด ขอให้ได้ดงั ความปรารถนา นิพพานะ ปัจจโย โหนตุ (ตั้งจิตอธิษฐานตามความปรารถนา) คำ�อธิษฐ�นอโหสิกรรม ข้าพเจ้า.....(บอกชื่อ)...ขออโหสิกรรม กรรมใดที่ทำาแก่ผู้ใด ในชาติใดๆ ก็ตาม ขอให้เจ้ากรรมและนายเวร จงอโหสิกรรมให้กับ ข้าพเจ้า อย่าได้จองเวรจองกรรมต่อไปเลย แม้แต่กรรมที่ใครๆ ได้ทำา กับข้าพเจ้าก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้ทั้งสิ้น และขอยกถวาย พระพุทธเจ้าเป็นอภัยทาน เพื่อจะได้ไม่มีเวรกรรมต่อไป ด้วยอานิสงส์ แห่งอภัยทานนี้ ขอให้ข้าพเจ้าและครอบครัว บุตรหลาน ตลอดจน วงศาคณาญาติ และผู ้ มี อุ ป การคุ ณ ของข้ า พเจ้ า จงมี ค วามสุ ข ความเจริญ ปฏิบัติแต่สิ่งที่ดี และสิ่งที่ชอบด้วยเทอญ.


54 บทสวดแผ่เมตต�ให้ตนเอง อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข นิททุกโข โหมิ ปราศจากความทุกข์ อะเวโร โหมิ ไม่มีเวรไม่มีภัย อัพย�ปัชโฌ โหมิ ไม่มีการเบียดเบียนซึ่งกันและกัน อะนีโฆ โหมิ ไม่มีความทุกข์กายทุกข์ใจ สุขี อัตต�นัง ปะริหะร�มิ มีความสุขกายสุขใจและรักษาตน ให้พน้ จากทุกข์ภยั ทัง้ สิน้ เถิดฯ บทแผ่เมตต� สัพเพ สัตต� สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่เจ็บตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น อะเวร� โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวร แก่กันและกันเลย อัพย�ปัชฌ� โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้พยาบาท เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย อะนีฆ� โหนตุ จงเป็ น สุ ข เป็ น สุ ข เถิ ด อย่ า ได้ มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย สุขี อัตต�นัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกายสุขใจรักษาตนให้ พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ


55 บทอุทิศส่วนกุศล (บทกรวดนำ้�) อิทัง เม ม�ต�ปิตูนัง โหตุ สุขิต� โหนตุ ม�ต�ปิตะโร ขอส่วนบุญนี้จงสำาเร็จ แก่มารดาบิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดา บิดาของข้าพเจ้า จงมีความสุข อิทัง เม ญ�ตีนัง โหตุ สุขิต� โหนตุ ญ�ตะโย ขอส่วนบุญนี้จงสำาเร็จ แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติ ทั้งหลายของข้าพเจ้า จงมีความสุข อิทัง เม คุรูปัชฌ�ย�จะริย�นังโหตุ สุขิต� โหนตุคุรูปัชฌ�ย�จะริย� ขอส่วนบุญนี้จงสำาเร็จ แก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้าจงมีความสุข อิทัง สัพพะ เทวะต�นัง โหตุ สุขิต� โหนตุ สัพเพเทว� ขอส่วนบุญนี้จงสำาเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดา ทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข อิทัง สัพพะ เปต�นัง โหตุ สุขิต� โหนตุ สัพเพเปต� ขอส่วนบุญนี้จงสำาเร็จ แก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรต ทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข อิทัง สัพพะ เวรีนัง โหตุ สุขิต� โหนตุ สัพเพ เวรี ขอส่วนบุญนีจ้ งสำาเร็จ แก่เจ้ากรรมนายเวรทัง้ หลายทัง้ ปวง ขอให้ เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข อิทัง สัพพะ สัตต�นัง โหตุ สุขิต� โหนตุ สัพเพสัตต� ขอส่วนบุญนี้จงสำาเร็จ แก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ ทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข


56 บทกรวดนำ้�ให้เจ้�กรรมน�ยเวร ข้ า พเจ้ า ขออุ ทิ ศ บุ ญ กุ ศ ลจากการเจริ ญ ภาวนานี้ ใ ห้ แ ก่ เจ้ากรรมนายเวรทัง้ หลายของข้าพเจ้า ทีข่ า้ พเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านไว้ ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ท่านจะอยู่ภพใดหรือภูมิใดก็ตาม ขอให้ท่านได้รับผลบุญนี้ แล้วโปรดอโหสิกรรม และอนุโมทนาบุญแก่ ข้าพเจ้าด้วยอำานาจบุญนี้ด้วยเทอญ



หนังสือเลมนี้ พิมพดวยเงินผูมีจิตศรัทธาเพื่อเผยแผ เปนธรรมทาน หากทานไดรับหนังสือเลมนี้ ขอไดโปรดตั้งใจ ศึกษาใหเกิดประโยชนสูงสุด ทั้งแกตนเองและผูอื่นดวยเทอญ ขออนุโมทนาตอทุกทานที่รวมบุญมา ณ โอกาสนี้ พิมพที่ : โรงพิมพนันทพันธ เชียงใหม โทรศัพท 053-804908-9 www.nuntapun.com


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.