HAMBURGER MAGAZINE ISSUE 106

Page 1

106

OC T 18-24, 2017

Grief


HAM EDITOR’S TALK ปีที่ 2 ฉบับที่ 106 วันที่ 18-24 ต.ค. 2560

Wake Me Up When October Ends ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา เราชาวไทยทุกคน รู้ดีว่า ถึงอย่างไรก็ตาม เดือนนี้จะต้องมาถึง เดือนตุลาคม 2560 กับงานพระราชพิธีถวาย พระเพลิงพระบรมศพฯ แต่ในใจลึกๆ เราอยาก จะยึดยื้อ...ไม่ให้เดือนนี้เดินทางมาถึง ในฐานะสื่อมวลชน แน่นอนว่าเราต้อง เตรียมการท�ำอะไรสักอย่าง แต่ที่ผ่านมาผมก็ ยังคิดไม่ออก เพราะในช่วงเวลาเดียวกันเมื่อ ปีที่แล้ว การรวบรวมพระบรมฉายาลักษณ์ พระบรมสาทิสลักษณ์ พระราชประวัติ พระราช กรณียกิจ และพระอัจฉริยภาพในด้านต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เราต่างท�ำกันสุดก�ำลัง เพื่อน้อมร�ำลึกและแสดงความอาลัยแด่ พระองค์ จนเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผมมี โอกาสได้ชมแฟชั่นโชว์เสื้อผ้าแบรนด์ Hook’s ของ พี่ผักกาด-ประภากาศ อังศุสิงห์ ในงาน Elle Fashion Week F/W 2017 ซึ่งผู้ที่ได้ชม โชว์ ‘Ayara in ๙’ ในวันนั้นหรือได้เห็นวิดีโอ การแสดงโชว์ คงทราบกันดีแล้วว่า Hook’s ท�ำโชว์ครั้งนี้เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 โดยได้แรงบันดาลใจมาจากพระองค์ท่าน ผ่านการตีความจากเรื่องราวต่างๆ ในรัชสมัย เรียงร้อยถ่ายทอดออกมาเป็นเสื้อผ้าอาภรณ์ และรูปแบบโชว์ในครั้งนี้ สิ่งหนึ่งที่สะกิดใจผมก็คือ ข้อความที่ขึ้นในโชว์ว่า “นี่คืออาชีพที่ลูกรักและสามารถท�ำได้ ดีที่สุด...ลูกขอท�ำหน้าที่เล่าเรื่องของพ่อ...รวบรวมภาพต่างๆ ที่ยังอยู่ในใจเราทุกคน” และ โชว์ดังกล่าวก็คือการแสดงความอาลัยในรูปแบบและความถนัดของผู้ที่เป็นดีไซเนอร์

ที่ตัวเองถนัด และเป็นตัวของตัวเอง

ในวันโชว์ Hook’s by Prapakas ที่งาน Elle Fashion Week F/W2017 ผมนั่งอยู่ ด้านหลังพี่ผักกาด หลังจากโชว์จบ พี่ผักกาด ยืนขึ้นยกมือไหว้ไปโดยรอบ เพื่อขอบคุณ ทุกคน ในดวงตาของเขารื้นหยาดน�้ำ และคง ระคนไปด้วยความรู้สึกทั้งดีใจ ภูมิใจ และ โศกอาลัย ไม่เพียงแค่ความงดงามของเสื้อผ้า หรือ ความยิ่งใหญ่ในการสร้างสรรค์รูปแบบโชว์ แต่ สิ่งที่เขาท�ำยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและ กล้าหาญในการแสดงออกเพื่อแสดงความ อาลัยถวายแด่ ‘ในหลวงของเรา’ ในรูปแบบ

และนั่นก็กลายมาเป็นแรงบันดาลใจที่ส่งต่อมายังพวกเราทุกคน ดังปรากฏใน HAMBURGER ฉบับนี้

• บรรยากาศ ความรู้สึก และ ทุกรายละเอียดที่เกิดในโชว์ Ayara in ๙ ของ Hook’s by Prapakas ในงาน Elle Fashion Week F/W 2017 P14

บรรณาธิการบริหาร

website

E-MAIL

issuu.com/hamburgermagazine

hamburgermagazine

โชว์ที่อยู่ในใจของเราทุกคน ไม่ว่าคุณ จะเรียกตัวเองว่าคนแฟชั่นหรือไม่ก็ตาม

THE MAKING OF

สันติชัย อาภรณ์ศรี

Facebook

ผมโทรหาพี่ผักกาด เพื่อขอยืมชุดจาก คอลเล็กชั่นดังกล่าวมาถ่ายทอดในรูปแบบ ภาพถ่ายแฟชั่น พร้อมบอกเล่าถึงสิ่งที่อยากจะ ‘ท�ำถวาย’ ทั้งหมดในเดือนตุลาคมนี้ ในฐานะ คนท�ำสื่อและนิตยสาร พี่ผักกาดยินดีทั้งการ ให้ยืมเสื้อผ้ามาถ่ายแฟชั่น และให้สัมภาษณ์ ถึงตัวตน ความคิด การท�ำงานที่ผ่านมา อัน ก่อรูปก่อร่างจนเกิดเป็น Hook’s by Prapakas แบรนด์ที่สร้างสรรค์โชว์ซึ่งเป็นที่พูดถึงในทุกๆ ซีซั่นจนมาถึงโชว์ล่าสุดนี้

hamburgermag@gmail.com

InstaGram hamburgermagazine

t wit ter hamburger_mag

• เบื้องหลังและแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานศิลปะ ในโปรเจ็กต์พิเศษเพื่อแสดงความอาลัยแด่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ของ ยุรี เกนสาคู P 31

ที่ปรึกษา สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย, ปิยะ ปิยะสมบัติกุล, พรรณภิลาศ พลธนะวสิทธิ์ บรรณาธิการผู้พิมพ์โฆษณา สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย บรรณาธิการที่ปรึกษา นิภา เผ่าศรีเจริญ บรรณาธิการบริหาร สันติชัย อาภรณ์ศรี ผู้ช่วยบรรณาธิการแฟชั่น ชนิตตนัณท์ ณรงค์ฤทธิ์ธ�ำรง บรรณาธิการความงาม นิอร สุขวัจน์ กองบรรณาธิการ ภูมิ ชื่นบุญ, เสาวภัคย์ อัยสานนท์ พิสูจน์อักษร ดวงใจ ตั้งสายัณห์ บรรณาธิการภาพ คเชนทร์ วงศ์แหลมทอง ช่างภาพ ณัฐพล วุฒิเพ็ชร์, สรรพัชญ์ วัฒนสิงห์ บรรณาธิการศิลปกรรม ญาณ์สินี เนื่องจ�ำนงค์ ช่างภาพวิดีโอและตัดต่อ ฐิติ กลิ่นสมร ธุรการ ณัฐรดา ตระกูลสม ผู้จัดการฝ่ายโฆษณา ภักดิ์คนางค์ บุญสม คาชิโนกิ ผูช ้ ว ่ ยผูจ ้ ด ั การฝ่ายโฆษณา ณัฐชัญญาภัค เนือ่ งจ�ำนงค์, ธัญญ์ฐต ิ า ปุณยศิรอนันต์ ฝ่ายโฆษณาอาวุโส นรัชพร แสงสุวรรณ, สุภาวดี ศิวานนท์ ผูจ ้ ด ั การฝ่ายผลิต สุกญ ั ญา ทศวงศ์ชาย ผูจ ้ ด ั การฝ่ายประชาสัมพันธ์ สาวิตรี เหล่ารอด ผูจ ้ ด ั การฝ่ายดิจท ิ ล ั มีเดีย ธนาคาร จันทิมา ผู้ประสานงานฝ่ายดิจิทัลมีเดีย สิรินารถ อินทะพันธ์ ผู้ช�ำนาญการฝ่ายดิจิทัลมีเดีย กะรัตเพชร บุญลักษณ์ศิริ เจ้ า ของ บริ ษั ท เดย์ โพเอทส์ จ� ำ กั ด เลขที่ 33 ซอยศู น ย์ วิ จั ย 4 แขวงบางกะปิ เขตห้ ว ยขวาง กทม. 10310 โทร. 0-2716-6900-4 แฟกซ์ 0-2716-6900-4 ต่ อ 506 เว็ บ ไซต์ www.hamburger-magazine.com แยกสี บริ ษั ท คลาสิ ค สแกน จ� ำ กั ด โทร. 0-2291-7575 พิ ม พ์ คอมฟอร์ ม โทร. 0-2368-2942-7 สงวนลิขสิทธิ์ การน�ำส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของนิตยสารไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรถือว่ามีความผิดทางกฎหมาย Owner Day poets Co.,Ltd 33 Soonvijai 4, Bangkapi, Huai Kwang, Bangkok, 10310 Tel. 0-2716-6900-4 Fax 0-2716-6900-4 ext.506 More Information www.daypoets.com Color Separating Classic Scan Co.,Ltd. Tel. 0-2291-7575 Printing Comform Tel. 0-2368-2942-7 All rights reseved. Reproduction in whole or in part without written permission is strictly prohibited. ติดต่อโฆษณา ภักดิ์คนางค์ บุญสม คาชิโนกิ 08-6626-1462 • ณัฐชัญญาภัค เนื่องจ�ำนงค์ 09-3542-4626 • ธัญญ์ฐิตา ปุณยศิรอนันต์ 08-8895-6414 • นรัชพร แสงสุวรรณ 08-4928-3445 • สุภาวดี ศิวานนท์ 08-8176-0798 ติดต่อกองบรรณาธิการ 0-2716-6900-4 ต่อ 506


INSPIRATION

หนึ่งในต้นแบบที่ โทบี ฮูเปอร์ ใช้เป็น แรงบันดาลใจในการสร้างฆาตกร ต่อเนื่องใน The Texas Chainsaw Massacre คือ เอ็ด กีน ฆาตกรโรคจิต ตัวจริงในยุค 60 ของสหรัฐอเมริกา

WHAT’S GO I N G ON

HAM HARD DISK

THE ORIGINAL TITLE

ก่อนจะใช้ชื่อ The Texas Chainsaw Massacre คิม เฮนเคล และโทบี ฮูเปอร์ ตั้งชื่อภาพยนตร์ของพวกเขา ว่า Head Cheese จากนั้นก็ เปลี่ยนเป็น Leatherface และ สุดท้ายถึงมาลงตัวกับชื่อ The Texas Chainsaw Massacre

THE BEST D I SA B L E D C H A R AC T E R

ในบรรดาคาแร็กเตอร์ ผู้ทุพพลภาพบนโลกภาพยนตร์ คงไม่มีใครโดดเด่นไปกว่า 4 คนนี้อีกแล้ว

เจค ซัลลี - Avatar (เจมส์ คาเมรอน, 2009): อดีตนาวิกโยธินที่เป็น อัมพาตครึ่งตัว ถูกเรียกเข้าร่วม โปรแกรม Avatar และได้ร่างใหม่ เป็นมนุษย์ดาวนาวี

THE NARRATOR

จอห์น ลาร์โรเก็ตต์ รับบทเป็น คนเล่าเรื่องใน The Texas Chainsaw Massacre ภาคแรก ก่อนจะได้กลับมา ท�ำหน้าที่เดิมอีกครั้งในเวอร์ชั่น รีบู๊ตปี 2003 และ The Texas Chainsaw Massacre: The Beginning ในปี 2006

7 LEATHERFACES

ภาพยนตร์ในตระกูล The Texas Chainsaw Massacre มีทั้งหมด 8 เรื่อง ซึ่งที่ผ่านมามีนักแสดงรับบท Leatherface ไปแล้ว 6 คนคือ กันนาร์ ฮันเซน, บิล จอห์นสัน, อาร์เอ มิไฮลอฟฟ์, โรเบิร์ต แจ็คส์, แอนดรูว์ ไบรเนียร์สกี้ และแดน เยเกอร์ ส่วน Leatherface (อเล็กซานเดอร์ บัสติลโญ่, 2017) ยังไม่เปิดเผยว่า ใครคือ Leatherface

VIDEO GAME

The Texas Chainsaw Massacre เคยถูกดัดแปลงเป็นวิดีโอเกมมาแล้ว 1 ครั้งในปี 1982 โดยบริษัท Wizard Video เพื่อเล่นกับเครื่องเล่นเกม Atari 2600 แต่ยอดขายไม่ค่อยดี เพราะ เป็นเกมรุนแรงชนิดที่ร้านเกมไม่กล้า เอามาสต็อก ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็น ของหายากของนักสะสมไปแล้ว

The Texas Chainsaw Massacre จุดเริ่มต้นของตำ�นานหน้ากากหนังมนุษย์เกิดขึ้น เมื่อ 43 ปีก่อน เมื่อ โทบี ฮูเปอร์ สร้างภาพยนตร์ สยองขวัญเลือดสาดอย่าง The Texas Chainsaw Massacre ขึ้นมาในปี 1974 พร้อมกวาดรายได้ ไป 30.9 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้าง เพียงแค่ 3 แสนเหรียญฯ เท่านั้น

QU OTE OF TH E W EE K “ส่วนตัวแล้วไม่ชอบซอกแซก เรือ ่ งส่วนตัวใคร ถ้าเขาอยาก บอกอะไร เราเหมาะสมกับ เรือ ่ งอะไร เดีย ๋ วเขาก็บอกเอง อย่าไปอยากรูม ้ ากเลย” คัตโตะ

WORLDWIDE BOX OFFICE

แฟรนไชส์ทั้ง 7 ภาคของ The Texas Chainsaw Massacre ท�ำเงินได้มากกว่า 250 ล้านปอนด์ โดยมี The Texas Chainsaw Massacre (มาร์คัส นิสเปล, 2003) ท�ำเงิน สูงสุดที่ 107 ล้านเหรียญฯ (ทุนสร้าง 9.5 ล้านเหรียญฯ) ส่วนภาคที่ท�ำเงินน้อยสุดคือ Texas Chainsaw Massacre: The Next Generation (คิม เฮนเคล, 1997) ท�ำเงิน ไป 185,898 เหรียญฯ (ทุนสร้าง 6 แสนเหรียญฯ)

ชาร์ล เซเวียร์ - X-Men Franchise (2000-2017): มนุษย์กลายพันธุ์ ที่มีความสามารถด้านพลังจิต แต่โชคร้ายได้รับบาดเจ็บจากการ ช่วยโลก ท�ำให้เขาพิการและต้อง นั่งอยู่บนรถเข็นตลอดชีวิต

ผู้พันแดน เทย์เลอร์ - Forrest Gump (โรเบิร์ต เซเมกคิส, 1994): ผู้พันแดนรอดตายจากสงคราม เวียดนาม เพราะได้ ฟอร์เรสต์ กัมป์ ช่วยชีวิต แต่ก็ต้องกลายเป็น ทหารผ่านศึกพิการอยู่บนรถเข็น

สตีเฟน ฮอว์กิง - The Theory of Everything (เจมส์ มาร์ช, 2014): อัจฉริยะทางฟิสก ิ ส์และจักรวาลวิทยา ผู้มีตัวตนอยู่จริง ซึ่งมีอาการ ผิดปกติของระบบประสาทสั่งการ กล้ามเนื้อ ท�ำให้เขาเป็นอัมพาต เกือบทั้งตัว

Reach for the Sky Reach for the Sky ในที่นี้ไม่ได้หมายถึง Reach for the Sky ภาพยนตร์ขึ้นหิ้งของ เลวิส กิลเบิร์ต ในปี 1956 ที่น�ำแสดงโดย เคนเน็ธ มัวร์ แต่ หมายถึงภาพยนตร์สารคดีที่เล่าเรื่องราวการศึกษา ของประเทศเกาหลีใต้ ที่ปลูกฝังให้เด็กทุกคน ต้องพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อเข้า มหาวิทยาลัยดีๆ ซึ่งก็หมายถึง 3 มหาวิทยาลัย ชั้นน�ำแดนโสมขาวอย่าง มหาวิทยาลัยแห่งชาติ โซล สถาบันพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แห่งเกาหลี (KAIST) และมหาวิทยาลัย วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโพฮัง


Grief








AYARA IN ๙ BY HOOK’S นางแบบ: นาตาลี นัฐลี ดูเชียง ช่างภาพ: ณัฐพล วุฒิเพ็ชร์ สไตลิสต์: ชนิตตนัณท์ ณรงค์ฤทธิ์ธำ�รง แต่งหน้า: อลงกรณ์ สุนทรพจน์​์ ทำ�ผม: นิคม น้อยคำ� ผู้ช่วยช่างภาพ: ชิษณุพงศ์ ปั้นทรัพย์, พีรดนย์ วงษ์นิล ผู้ช่วยสไตลิสต์: ฐิตารีย์ ตรีสิริธันยกร


เรื่อง: สันติชัย อาภรณ์ศรี ภาพ: Elle Fashion Week F/W2017 ภาพแบ็กสเตจ: วิทยา สำ�ราญกลาง

และแล้วไฟในเต็นท์ก็ดับลงอีกครั้ง... แสงจากโปรเจ็กเตอร์ส่องสว่างไปยังฉากหลังของรันเวย์ ร้อยเรียงเป็นตัวอักษรบอกเล่าถึงทีม่ าของคอลเล็กชัน่ นี้ ‘Ayara in ๙’ คอลเล็กชั่นที่ ประภากาศ อังศุสิงห์ ดีไซเนอร์ นำ�เอา แรงบันดาลใจจากการสูญเสียครัง้ ยิง่ ใหญ่ของปวงชนชาวไทย ทุกคน มาตีความนำ�เสนอเป็นเสื้อผ้าในคอลเล็กชั่นนี้ เพื่อ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ดังข้อความที่ปรากฏบนฉากหลังว่า

Ayara in ๙

“นี่คืออาชีพที่ลูกรักและสามารถทำ�ได้ดีที่สุด...ลูกขอ ทำ�หน้าที่เล่าเรื่องของพ่อ...รวบรวมภาพต่างๆ ที่ยังอยู่ในใจ เราทุกคน”

บนบัตรเข้าชมโชว์ ‘Hook’s by Prapakas’ ในงาน Elle Fashion Week F/W 2017 ที่ผ่านมา เขียนกำ�กับในส่วนของ การแต่งกายไว้ว่า ขอให้ผู้มาร่วมงานแต่งกายในโทนสีดำ� ซึ่ง นับว่าแปลกพอสมควรที่แฟชั่นโชว์มีการกำ�หนดเดรสโค้ดของ ผู้เข้าชมโชว์ด้วย นั่นแปลว่าต้องมีอะไรสักอย่าง แต่ตอนนั้น ผมยังไม่ได้คิดอะไร จนเมื่อมีโอกาสเข้าไปในเต็นท์ระหว่างที่ มีการซ้อมเดินประกอบเสียงเพลงและไฟครั้งสุดท้าย ถึงได้ รู้ว่าทำ�ไมดีไซเนอร์ ‘ประภากาศ อังศุสิงห์’ จึงระบุไว้บนบัตร เช่นนั้น “ไฟโชว์นี้ไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่นะ ต้องขอโทษด้วย อาจ จะถ่ายรูปยากหน่อย แต่มันต้องเป็นอย่างนี้จริงๆ” ณัฐ ประกอบสันติสุข ช่างภาพมือหนึ่งของเมืองไทย ซึ่งเป็นผู้ ออกแบบไลท์ติ้งในโชว์ครั้งนี้ บอกช่างภาพให้เตรียมตัวกับ สิ่งที่จะเกิดขึ้น นางแบบส่วนหนึ่งในชุดพร้อมเดิน ออกมาซ้อมเดินเป็น ครั้งสุดท้าย ไฟ เสียงเพลง สโม้กประกอบบรรยากาศ ทุกอย่าง เหมือนจริง บรรดาทีมงานและคนที่เข้ามาชมการซ้อมต่าง เงียบกริบ...นางแบบเองก็กลั้นนำ�้ ตาไว้แทบไม่อยู่...หลังจาก การซ้อมโชว์จบลง ไฟในเต็นท์สว่างขึ้น เรามองเห็นหน้ากันชัด มากขึ้น ทุกคนต่างพยายามหลบตากันเพื่อหลบเร้นความรู้สึก ที่ตื้นตันและกำ�ลังท่วมท้นจนกลายเป็นหยดนำ�้ รื้นที่ขอบตา หากเรายังสบตา มองหน้ากันไปมากกว่านี้ ไม่ใครก็ใครคงต้อง ปล่อยโฮก่อนโชว์จริงจะเริ่มเป็นแน่ และแล้วก็ถึงเวลาเปิดประตูให้ผู้คนที่มาดูโชว์เดินเข้าสู่ เต็นท์ตามที่นั่งในบัตร โชว์ของ Hook’s by Prapakas ยังคง ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามเช่นเคย ที่นั่งแต่ละแถวค่อยๆ เบียดเสียดจนเต็มแน่น จนผู้อยู่บนแถวบนสุดของอัฒจันทร์ ต้องยืนดูโชว์ ทั้งบริเวณทางออกทั้งสองด้านอัดแน่นไปด้วย ผูค้ นทีไ่ ม่มที น่ี ง่ั แต่ทกุ คนก็พร้อมจะยืนดูโชว์ของ Hook’s ถึงแม้ จะยังไม่รู้ว่าโชว์นี้จะเป็นรูปแบบใด แต่ด้วยชื่อเสียงที่ผ่านมา ของแบรนด์นี้ ได้ดึงดูดให้ทุกคนอยากเป็นส่วนหนึ่งในโชว์

ไฟดับลงอีกครั้ง พร้อมภาพพระบรมฉายาลักษณ์และ เสียงปี่พาทย์โศกสลด ตามมาด้วยเสียงซอและเสียงขลุ่ยคลอ ไปกับเสียงเปียโนในเพลง ‘ราตรีประดับดาว (เถา)’ กับเสือ้ ผ้า ชุดแรกทีไ่ ด้แรงบันดาลใจมาจากธนบัตรไทยในอดีต เกิดเป็น ลายผ้าพิมพ์ที่มีเอกลักษณ์ นำ�มาตัดเป็นชุดไทยประยุกต์ ผสมผสานระหว่างความเป็นไทยอย่างโจงกระเบนและวอลุ่ม เสื้อผ้าในแบบฝรั่งยุควิกตอเรียน ตามมาด้วยชุดอันงดงาม หรูหรา และอ่อนหวาน ที่ได้ แรงบันดาลใจจากฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ์ิ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งทรงเปรียบดัง ‘รอยยิ้มของพ่อ’ จากนั้น คือชุดที่ได้แรงบันดาลใจจากเครื่องแบบทหารรักษาพระองค์ ซึ่งเราคุ้นตากันดีจากงานพระราชพิธีที่มีการสวนสนาม โดย เฉพาะหมวกยอดมีพู่ที่มีความโดดเด่นสะดุดตา เรียกเสียง ปรบมือดังสนั่นเต็นท์ เสียงขลุย่ ครวญด้วยความเศร้าอาลัยแว่วกลับมาอีกครัง้ ตามมาด้วยเสียงดนตรีเริงรื่นจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ และเสื้อผ้าอันได้แรงบันดาลใจจากภาพวาดฝีพระหัตถ์ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ตัวนางแบบในเซ็ตนีต้ า่ งเพนต์หน้าตามเฉดสีตา่ งๆ ของภาพนัน้ ๆ


MIX&MATCH

ไฟดับลงอีกครั้ง ภาพแสงอาทิตย์สีแดงส้มฉาบฉายไปทั่ว รันเวย์ พร้อมเหล่านางแบบในชุดที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก ชาวเขา ซึ่งเราล้วนรับรู้กันดีว่า ตลอดรัชสมัย พระองค์ท่าน ได้เสด็จฯ ไปยังทั่วทุกถิ่นทุรกันดารของแผ่นดินนี้ เพื่อสร้าง ขวัญกำ�ลังใจ และมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของ ประชาชนในดินแดนอันห่างไกลความเจริญ โดยไม่ทรงย่อท้อ หรือคำ�นึงถึงความเหน็ดเหนื่อยพระวรกายแต่อย่างใดเลย ในองก์ต่อมาของโชว์ นางแบบสวมชุดกระโปรงสุ่มสีดำ� และผ้าโปร่งคลุมหน้าสีดำ� ใบหน้าแต่งแต้มไปด้วยกลิตเตอร์ สีเงินยวงราวกับคราบหยดนำ�้ ตา นางแบบค่อยๆ เดินออกมา ทีละคน หนึ่งในนั้นคือ เข็ม-ลภัสรดา ช่วยเกื้อ (เข็ม รุจิรา) ที่ เดินออกมาด้วยอาการสะอื้นไห้เกินกว่าจะกลั้นอยู่ และนำ�้ ตา ที่ไหลรินปะปนไปกับเมกอัพ จนทำ�ให้ใครหลายคนอดไม่ได้ ที่จะนำ�้ ตาร่วง...ผมซึ่งนั่งอยู่ด้านหลังดีไซเนอร์ ประภากาศ อังศุสิงห์ เห็นแผ่นหลังและช่วงไหล่ที่สั่นไหวของเขา ก็พอจะ เดาออกถึงความรู้สึกที่ท่วมท้น ตื้นตันที่เกิดขึ้นในนาทีนั้น โชว์นี้เป็นโชว์ที่ไร้เสียงพูดคุย เราต่างนั่งอยู่ในความมืด อันสงัดงัน...ดิ่งจมไปกับความรู้สึกและอารมณ์ส่วนตัวที่ ไม่อาจบรรยายได้ จวบจนองก์สุดท้าย กับนางแบบในชุดสีขาวและเครื่องหัว สีทอง อันได้แรงบันดาลใจมาจากช้างเผือก หนึ่งในสัญลักษณ์ คู่พระบารมีของพระมหากษัตริย์ไทย ที่ค่อยๆ เยื้องกราย ท่ามกลางหมอกควันและเสียงเพลงปี่พาทย์บาดหัวใจ ก่อน จะเดินกลับเข้าสู่หลังเวทีในความมืดมิด ...แสงไฟในเต็นท์ค่อยๆ ส่องสว่างขึ้นอีกครั้ง แต่ทุกคนยัง นั่งนิ่ง ไม่ลุกไปไหน เหมือนเราตกอยู่ในห้วงภวังค์แห่งความ รู้สึกร่วมกัน อันเป็นความรู้สึกเดียวกันที่เกิดขึ้นกับประชาชน ชาวไทยทั้งประเทศ ‘ณ เวลานั้น’ และในยามนี้...ก่อนที่ทุกคน จะลุกขึ้นยืน ตามมาด้วยเสียงปรบมือดังกึกก้องเต็นท์ เพื่อเป็น เกียรติให้กับดีไซเนอร์ ประภากาศ อังศุสิงห์ ผู้ทำ�หน้าที่เล่า ‘เรื่องของพ่อ’ ในแบบที่เขาถนัดและทำ�ได้ดีที่สุด ผมเชื่อว่าทุกคนที่มีโอกาสร่วมในโชว์นั้นต่างก็เห็นว่า ประภากาศทำ�ได้ดีที่สุด และเป็นโชว์ที่ดีที่สุด...ที่ได้ส่งผ่าน แรงบันดาลใจของเขา...แทนรอยอาลัยในใจของเรา

21


HAM INTERVIEW

BE ON THE

โมงยามนี้ ไม่มีดีไซเนอร์ไทยคนไหนจะถูกกล่าวขานถึงมากเท่าคนที่ชื่อ ‘ผักกาด’ อีกแล้ว โดยเฉพาะ เมื่อพูดถึงผลงานแฟชั่นโชว์เวที ‘แอล แฟชั่นวีก’ ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ที่เผยให้เห็นถึงไอเดียการ ออกแบบเสื้อผ้าและงานโชว์ที่อลังการ สร้างความแตกต่างในทุกมิติ และแน่นอน-ยังคงความงดงาม ของผลงานสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายผู้หญิงไว้อย่างครบถ้วน

HOO เรื่อง: บุญโชค พานิชศิลป์ ภาพ: สรรพัชญ์ วัฒนสิงห์ ภาพแบ็กสเตจ: วิทยา ส�ำราญกลาง

ประภากาศ อังศุสิงห์ ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ Hook’s by Prapakas ในปัจจุบัน ผ่านประสบการณ์การทำ�แฟชั่นเสื้อผ้า มากว่า 2 ทศวรรษ ฝึกฝนฝีมือการทำ�งานในฐานะผู้ช่วยดีไซเนอร์อยู่หลายปี กระทั่งมาเป็นหุ้นส่วนร้านเสื้อ และสุดท้ายได้ก่อร่าง สร้างแบรนด์เป็นของตนเอง ผักกาด ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตและการทำ�งานของเขาให้กับ HAMBURGER ฉบับนี้ ไม่เพียงเฉพาะเรื่องเล่าย้อนอดีต หากเขา ยังบอกถึงสิ่งซึ่งคิดอยากทำ�ในอนาคต แบบที่ยากจะหาอ่านได้จากที่ไหน งานแรกของผักกาดคืออะไร

งานแรกเลยคือ ทำ�กราฟิกดีไซน์ให้กับบริษัทสถาปนิกแห่งหนึ่ง ตอนนั้นเราต้องหาเงินเอง เพราะเรียนไม่จบ 4 ปีเหมือนคนอื่น เราเรียน 5 ปีครึ่ง ช่วงนั้นเกรงใจที่บ้าน ไม่กล้าบอกเขา เลยต้องหางานทำ�เอง เราเรียนจบ Visual Computer จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ก่อนเรียนจบเราติดเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่ มหาวิทยาลัย และเขาเป็นหลานของพี่เจี๊ยบ พิจิตรา (บุณยรัตพันธุ์) แต่ตอนนั้นไม่เคยมีความคิดว่าจะทำ�แฟชั่นอยู่ในหัวเลย เพราะรู้สึกว่ามันไม่น่าจะเป็นอาชีพได้ แต่ตัวเองเป็นคนชอบแต่งตัวมาตั้งแต่เด็ก แต่งตัวมาตลอด แต่ไม่คิดว่าจะยึดเป็นอาชีพ เพราะใจคิดว่าคงจะทำ�โฆษณา ประจวบกับว่าพอได้ไปหาพี่เจี๊ยบ ได้คุย แล้วพี่เจี๊ยบให้ทำ�ออกแบบดิสเพลย์ เราทำ�ให้อยู่ 2 ดิสเพลย์ ก็เป็นช่วงที่พี่เจี๊ยบกำ�ลังหา ผู้ช่วยอยู่พอดี เห็นเป็นโอกาสก็เลยลองขอเข้าไปสัมภาษณ์ดู ตอนนั้นถามว่าเป็นคนรู้เรื่องแฟชั่นมั้ย ก็ไม่ขนาดนั้น เราแค่เป็นคนชอบแต่งตัว แต่ไม่เคยเก็ตอะไรเป็นเรื่องเป็นราว วันที่ ไปสัมภาษณ์ พี่เจี๊ยบให้สเกตช์ตรงนั้นเลย ให้ออกแบบชุดไปเที่ยวหัวหินกับครอบครัวพี่เจี๊ยบ บอกว่าลองออกแบบให้พี่หน่อยนะ เราเหงื่อแตกเลย โห...หนึ่งชั่วโมง ทำ�ไม่ได้ มือไม้แข็งไปหมด ไม่ใช่ทางเราเลย ก็คิดว่าคงไม่ได้แล้วล่ะ แต่ปรากฏว่าพี่เจี๊ยบเรียก เข้าไปคุย บอกว่าตกลงพีร่ บั เราก็ตกใจนะ เขาบอกว่าเพราะหนูเริม่ จากศูนย์ มันสดดี และเคยเห็นงานดิสเพลย์ทเ่ี คยทำ�ให้ ก็เห็นแวว ว่าน่าจะเป็นผู้ช่วยพี่เจี๊ยบได้ เราไปทำ�งานกับพี่เจี๊ยบประมาณ 3 ปีครึ่ง ช่วงที่ทำ�งานนั้นเป็นการเริ่มต้นใหม่หมดเลยนะ เริ่มใส่ข้อมูลเกี่ยวกับแฟชั่นทั้งหมด ได้ท�ำ งานเยอะมากตัง้ แต่อาทิตย์แรก เพราะเป็นช่วงทีพ่ เ่ี จีย๊ บมีงานทีพ่ คี มาก มีงานหลากหลาย ทัง้ เสือ้ ผ้าฉลองพระองค์ แฟชัน่ โชว์


OK

MIX&MATCH


HAM INTERVIEW ผ้าไหม งานใหญ่ๆ ทัง้ นัน้ เลย แล้วได้เจอคนในวงการเยอะมาก แต่ชว่ งนัน้ เรายังเฉยๆ นะ ยังไม่คดิ ว่าตัวเองจะเข้ามาอยู่ในวงการนี้นาน แต่พอทำ�ไปนานๆ ก็รู้สึกว่าสนุกดี ทำ�ไปทำ�มาปรากฏว่า อยู่ได้ 3 ปีครึ่ง ช่วงนั้นก็มีงานละครเวทีเข้ามาด้วย งานจัดดิสเพลย์ก็ยังทำ�อยู่ ทำ�ทุกอย่าง แต่ก็ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำ�ให้เรามีโลกทัศน์จนถึงทุกวันนี้ ทำ�ให้ผักกาดเข้าใจแฟชั่นมากขึ้น

ใช่ครับ แล้วเรามีโอกาสได้เรียนกับครูแพตเทิรน์ หรือช่างไดเร็กติง้ จากห้องเสือ้ ระพี ทีต่ อนนัน้ ถือว่าคลาสสิกและเก่งที่สุดในประเทศไทยแล้ว หลังจากนั้นเราก็ออกมา เพราะรู้สึกเบื่อ เริ่มไม่สนุกที่จะทำ�ต่อแล้ว มันเป็นอะไรซำ�้ ๆ เพราะ จะมีงานแพตช์เวิร์กบ่อยๆ อย่างเอาผ้าไหมมาปักกับผ้าธรรมดาเหมือนที่เราทำ�อยู่ทุกวันนี้ ปีหนึ่ง ทำ� 200 กว่าตัว เบือ่ มาก ก็เลยขอพีเ่ จีย๊ บไปเรียนต่อ ซึง่ ก็ไม่ได้ไปเรียนต่อหรอก (หัวเราะ) ออกมา ทำ�เสื้อกับเพื่อน-คุณจิรัฏฐ์ ทรัพย์พิศาลกุล หรือคุณสัญชัย สัญชัย แบรนด์ Sunshine ใช่ไหม

สมัยนัน้ เราทำ�กับคุณสัญชัยใช้ชอ่ื แบรนด์ EST ครับ ทำ�เสือ้ ผ้าวัยรุน่ มีความเป็นญีป่ นุ่ มีความ เป็นกราฟิกเสียเยอะ และทำ�ร่วมกับพีแ่ อท (รัตนพล ธรรมชาติ) แบรนด์ Act-Cloth และทำ�เสือ้ ผ้า ให้กบั ศิลปินซูเปอร์สตาร์อย่างพีเ่ บิรด์ (ธงไชย แมคอินไตย์) กับพีโ่ หน่ง-ปริญญา มุสกิ มาศ ก็ถอื ว่า ขายดีนะ แต่ตอนนั้นยังเด็กๆ กัน ก็เละ ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน จนพี่แอทอยากได้ผู้ช่วยดีไซเนอร์ เราก็ เข้าไปอยู่กับพี่แอท พอไปทำ�กับพี่แอท เราได้ประสบการณ์เยอะมาก ได้เจอคนที่เราไม่คาดคิดว่าจะได้เจอ ได้ ใกล้ชิดพี่เบิร์ดที่เราเคยชอบตอนเด็กๆ โจทย์การทำ�เสื้อผ้าให้ศิลปินตอนนั้นเป็นอย่างไร

พแ่ี อทจะเป็นคนคิดธีมหลักให้กอ่ น แต่รวมๆ แล้วยุคนัน้ เป็นยุคสร้างศิลปิน สร้างคาแร็กเตอร์ เป็นยุคซูเปอร์สตาร์นะ่ ครับ มันก็จะมีทง้ั การสร้างจากฐานคาแร็กเตอร์ และการสร้างจากตัวตนเขา จริงๆ ซึ่งเป็นอะไรที่สนุกสนาน เพราะเป็นโจทย์ที่ค่อนข้างยาก รู้สึกว่าทำ�อะไรไปแล้วผลตอบรับ มันชัดเจนกว่ายุคนี้ ยคุ นัน้ เป็นยุคทีค่ นไทยดูศลิ ปินไทยกันเอง มันจะมีแบบ...โปรโมตวันแรก วันรุง่ ขึน้ เด็กคนหนึง่ กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ เหมือน ทาทา ยัง มันจะมีความตื่นเต้นประมาณนั้น เราจะรู้ฟีดแบ็ก ความสำ�เร็จของคนได้ภายในเวลาข้ามคืน ระหว่างที่ทำ�เสื้อผ้าให้ศิลปิน เสื้อผ้าที่ร้าน Act-Cloth ก็ยังต้องทำ�ด้วย เสื้อกูตูร์ ชุดเดรส ชุด ราตรีกย็ งั ทำ� และทำ�โชว์ดว้ ย ช่วงนัน้ แฟชัน่ โชว์กจ็ ะมีพต่ี อื (สมบัษร ถิระสาโรจน์) เป็นออร์แกไนเซอร์ จัดงานโชว์อยู่ และยังมีพี่กุ๊กกี้ (ทินกร อัศวรักษ์-เสียชีวิตแล้ว) เป็นบุคคลที่ให้ความรู้ด้านการจัด อีเวนต์หรือเอนเตอร์เทนเมนต์ให้เราทุกอย่าง รวมทั้งแนวคิดในการทำ�เสื้อโชว์กับเสื้อคอนเสิร์ต ที่ต่างกัน ซึ่งแม้จะคล้ายกัน แต่วิธีคิดจะต่างออกไป คือตอบโจทย์คนดูคนละแบบกัน พอทำ�กับ Act-Cloth ครบ 3 ปีครึ่ง เราก็เบื่ออีกแล้ว (หัวเราะ) มันเหมือนกับอิ่มตัว ทำ�แล้ว เริ่มรู้สึกอึดอัด เริ่มตัน เริ่มเซ็ง แล้วจะเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่ละ ต้องไปหาอะไรใหม่แล้ว แล้วไปทำ�อะไรต่อ

หลังจากนั้นก็มาทำ�ร้าน Medium Rare ที่สยามสแควร์ ทำ�เสื้อวัยรุ่น พังก์ๆ หน่อย ค่อนข้าง ขายดีนะ แต่ก็เละอีก เพราะเที่ยวหนัก ปาร์ตี้ตลอด ขายเสื้อเสร็จก็ปาร์ตี้ต่อในร้าน จนร้านเละ ไปหมด ก็ไม่ประสบความสำ�เร็จ เพราะว่าเราเอาเงินไปปาร์ตี้หมด พอดีช่วงนั้นเริ่มมีงานอื่นเข้ามา เป็นงานโฆษณาบ้าง คอนเสิร์ตบ้าง งานสไตลิสต์บ้าง เรา รับเอง ก็พอมีรายได้เข้ามาซัพพอร์ตตัวเอง ไม่ต้องพึ่งทางบ้าน เพราะครอบครัวที่บ้าน พ่อรับ ราชการทหาร เหมือนเขาก็ไม่รู้สึกว่าอาชีพที่เราทำ�ตอนนั้นมันสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ ซึ่งเราก็ ไม่เคยไปรบกวนเขาเลย แต่ทางบ้านก็โอเคกับเราใช่ไหม

เขาก็โอเคนะครับ เขาเป็นห่วงเรามาตลอด แต่กไ็ ม่เคยคุยกันเลย เพราะเราจะปิด ไม่ชอบคุย ไม่ชอบเล่าเรื่องของเราให้เขาฟัง จนกระทั่งมาเริ่มเปิด Hook’s เราก็เริ่มอยากให้เขารับรู้ เหมือน เราภูมิใจว่าเราก็มีร้านของตัวเอง ช่วงเปิด Hook’s ก็ต่อจากที่ทำ� Medium Rare เราเริ่มรู้สึกว่า จะทำ�เสื้อยืดขายตัวละ 800 มันไม่ไหวแล้ว อายุตอนนั้นก็เริ่มเยอะ 30 กว่าแล้ว คิดว่าในเมื่อเรา ทำ�ชุดราตรีเป็น ทำ�ไมเราไม่ทำ�ร้านให้มันดีๆ ไปเลย ก็เลยทำ� Hook’s by Prapakas ขึ้นมา มีช็อปเป็นของตัวเองด้วย

กม็ ชี อ็ ปทีส่ ขุ มุ วิท 28 เริม่ รับลูกค้าเอง รับออร์เดอร์เอง สเกตช์งานต่อหน้าลูกค้าเอง ความจริง ก็ท�ำ มาตัง้ นานแล้วล่ะ แต่วา่ ก็กลับมาแบบ...ลดตัวเองให้ออ่ นลงน่ะ ตอนแรกเราเป็นคนบ้าๆ บอๆ ถ้าลูกค้าคนไหนไม่แฮปปี้เราก็จะไม่ทำ�ให้ เลือกที่จะทำ� ไม่อยากทำ�งานที่ไม่ใช่ตัวเอง ตอนเปิด Hook’s เป็นช่วงที่ลดความแรงของตัวเองลง แรกๆ ที่ทำ�ก็รู้สึกแปลกๆ สุดท้ายมันก็ไม่ใช่อยู่ดีว่ะ จะให้เอาลูกไม้ทองๆ ลูกไม้เชยๆ มาทำ� ไม่ได้วา่ เขารสนิยมไม่ดี แต่รสู้ กึ ว่าเราทำ�แล้วไม่มคี วามสุข ทำ�เสื้อแล้วติดแท็ก เอาแบรนด์เราไปติดบนเสื้อที่เราไม่ชอบ มองไปแล้ว...มันไม่ใช่เสื้อฉันนี่หว่า ตอนนั้นผักกาดมีสไตล์ของตัวเองชัดเจนหรือยัง

ตอนเปิดปีแรกยังมีความกำ�้ กึ่งนะครับ มีความรู้สึกว่าอยากขายได้มากกว่าที่จะเป็นตัวตน อยากทำ�อะไรก็ได้ที่ขายแล้วได้เงิน เลยไม่ชัดเจนเหมือนทุกวันนี้ มาเริ่มปีที่ 2-3 จนถึงแอล แฟชั่นวีก ถึงจะเริ่มชัดเจนขึ้น และมันพัฒนาไปตามลำ�ดับ เสื้อผ้าที่ทำ�โชว์ ผักกาดเอาไปวางขายที่ร้านด้วยไหม

ขายด้วยครับ ซึ่งก็น่าแปลกใจที่มีกลุ่มลูกค้าที่มาหาเรา ทุกวันนี้ก็ยังสั่งตัดกันอยู่ คือทำ�อะไร

ออกมาลูกค้าก็จะไว้ใจ ความจริงลูกค้าประจำ�ของเรามีอยู่ไม่ถึง 10 คนหรอก แต่ว่าลูกค้า กลุ่มนี้จะซื้อตลอด ซื้อแบบเกือบครึ่งคอลเล็กชั่น แล้วแบ่งๆ กัน แล้วเราก็โชคดีที่มีงานอื่น ซัพพอร์ตด้วย อย่างงานสไตลิ่ง งานอีเวนต์ งานละคร คือเราไม่ได้ระบุตัวเองว่าทำ�อะไร อย่างเดียว อันนี้ชัดเจนมาตั้งแต่แรกแล้วว่า อยากทำ�อะไรก็ทำ� ถ้าเกิดคุยกันรู้เรื่องก็ทำ� แฟชั่นโชว์มีผลอะไรกับการขายเสื้อผ้าของเราไหม

แฟชั่นโชว์เป็นเหมือนลุคแรกที่เราได้เห็นคอลเล็กชั่นต่างๆ คนจะคอยดูว่าคอลเล็กชั่น ของแต่ละแบรนด์เป็นอย่างไร แต่จริงๆ แล้วทุกวันนี้มันก็เปลี่ยนไป บทบาทของดีไซเนอร์ กลายเป็นว่าไม่ใช่แค่คนออกแบบเสื้อผ้า แต่คาแร็กเตอร์ของดีไซเนอร์ที่ทำ�แบรนด์แต่ละ แบรนด์ต้องเป็นพีอาร์ของตัวเองได้ด้วย ต้องมีเรื่องราวที่คนซึ่งเป็นลูกค้าเห็นแล้วอยาก ติดตาม เป็นคนที่มีเรื่องราวชีวิตที่น่าสนใจ คือเป็นไอคอนให้ใครๆ แต่งตัวตามได้ ซึ่งผิดกับสมัยก่อน ที่ดีไซเนอร์คือดีไซเนอร์ มันจะถูกเล่าเรื่องโดยเสื้อผ้า แต่การตลาด ของทุกวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ถามว่ามันยากขึ้นไหม มันก็ยากนะครับ มันเป็นการแข่งขันที่ สูงขึ้นมาก ยิ่งมีการก๊อบปี้กันอีก เขาขายดีในไอจี แต่เราทำ�เหนื่อยแทบตาย เราขายเสื้อ แพงกว่าเขา ดีเทลเยอะกว่าเขาด้วย เขาก๊อบปี้ทีเดียวปั้ง เขาขายได้มากกว่าเราสิบกว่าเท่า จะไปโกรธหรือโทษเขา เราก็มีสิทธิ์นะ แต่มองไปแล้วก็เสียเปล่า น่าเห็นใจคนทำ�การ์เมนต์ ทำ�เสื้อแบบเต็มรูปแบบที่เขามีปัญหานะ เงินก้อนที่มาทำ� คอลเล็กชั่นเป็นเงินจำ�นวนมาก ซึ่งเราเองอาจจะไม่เคยเจอลักษณะนั้น เพราะเราไม่เคยทำ� สต็อกเลย เคยนั่งคุยกันกับเพื่อนว่าสงสารคนทำ�แฟชั่นยุคนี้ แต่ก็นั่นแหละ โลกมันเปลี่ยน ไปแล้ว ไม่ใช่แค่เรือ่ งแฟชัน่ อย่างเดียว ทุกอย่างรอบตัวเราก็เปลีย่ นไปหมดแล้ว แม้กระทัง่ คน ไม่วา่ ผูช้ ายหรือผูห้ ญิง มุมมองในเรือ่ งเพศก็เปลีย่ นไปแล้ว เศรษฐกิจเปลีย่ น การเมืองเปลีย่ น เราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคให้ได้ ผักกาดไม่มีสต็อกหมายความว่าอย่างไร

คือเราไม่ได้ทำ�เสื้อขายครับ เราทำ� made-to-order

ทำ�ธุรกิจร้านเสื้อยากไหม ในสภาพเศรษฐกิจแบบที่เป็นอยู่นี้

เอ่อ...เราอาจจะไม่เหมือนคนอื่น เพราะเราไม่ได้ทำ�เสื้อผ้าแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ เรา ไม่ได้เลี้ยงชีพด้วยการทำ�เสื้อขายอย่างเดียว รายได้หลักของเรายังได้จากอาชีพอื่นมา ซัพพอร์ต ถ้าจะเหนื่อยก็จะเหนื่อยกับอย่างอื่นมากกว่า เพราะเราทำ�งานหลากหลาย มัน มีผลตามมา เช่น เราเจอคนจำ�นวนมากกว่าคนอื่นเขา มันจะเหนื่อยกับเรื่องอื่นมากกว่า เรื่องลูกค้าโฆษณาหรือเรื่องอะไรก็ตามแต่ที่เราไม่เก็ต หรือไม่ถูกจริตเรา แต่เราต้อง พยายามทำ� ทุกวันนี้ก็พยายามบอกตัวเองว่า ต้องอ่อนลง ต้องหัดยอมบ้าง เหมือนต้อง สะกดจิตตัวเองน่ะครับ ถ้าเราไปเถรตรงมากว่าเราจะไม่นู่นไม่นี่ เราก็จะอยู่ไม่ได้



“เด็กรุ่นใหม่ที่เข้ามาก็เยอะขึ้น และเด็กสมัยนี้ก็เก่งขึ้น เขามีไบเบิลเหมือนกัน เขามีสื่อ มีโซเชียลฯ ได้เห็นโลกกว้างกว่าเราเสียอีก เขาก็มีสิทธิ์ที่จะเจริญเติบโตเร็วกว่าเราด้วยซ้ำ� สิ่งที่เราต้องทำ�ก็คือ ต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับเด็กรุ่นใหม่ให้ได้เหมือนกัน”

HAM INTERVIEW


สภาพโดยรวมของธุรกิจแฟชั่นแบรนด์ไทยตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

ดไี ซเนอร์ไทยเหนือ่ ยนะครับ เคยคุยกับเพือ่ นทีท่ �ำ เสือ้ ด้วยกัน ทุกแบรนด์เหนือ่ ยหมด ความจริง การทำ�ธุรกิจมันก็เหนื่อยอยู่แล้ว แต่มันยังเหนื่อยที่ต้องวิ่งตามโลกให้ทันน่ะ ต้องทำ�พีอาร์ให้ได้ ดีที่สุด ต้องพยายามคิดให้มันเกิดความน่าประทับใจให้กับลูกค้า ต้องแข่งกับแบรนด์อื่น โดยที่ กลุ่มลูกค้าจริงๆ มันคือกลุ่มเดิม คนไทยไม่ได้หลากหลาย ตลาดเราไม่ได้กว้างขนาดนั้น ตอนนี้ลูกค้าที่ซื้อเสื้อดีไซเนอร์ไทยจริงๆ มีอยู่แค่ไม่กี่กลุ่ม ไม่กี่สไตล์ ถ้าวันนี้เขาชอบเสื้อ แบรนด์นี้ เขาก็จะซื้อแต่แบรนด์นี้ ถ้าวันหนึ่งเขาเบื่ออยากเปลี่ยน เขาก็ไปซื้อแบรนด์อื่น จะมี การเฮโลกันไปเรื่อยๆ หรือถ้ามีดาราที่เขาชอบใช้แบรนด์ไหน เขาก็จะแห่ไปซื้อแบรนด์นั้น รวม ทั้งแบรนด์เองด้วย จะแห่ไปใช้ดารามาโปรโมต ฉะนั้นการคิดกิมมิกหรือจุดขายแต่ละอย่างมันก็ เหนื่อย แข่งขันกันสูง แทบจะพักไม่ได้เลย ทุกคนต้องคิดต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จะหยุดไม่ได้ ถ้าหยุด ก็ตกไปเลย แล้วการจะกู้ขึ้นมาจะยาก เพราะมันมีตัวเลือกเยอะมาก โดยตัวของแบรนด์ Hook’s by Prapakas เองจะอยู่รอดไหมถ้าผักกาดไม่รับงานอื่น ข้างนอก

ไม่รอดครับ ทุกวันนี้ที่ทำ� ระบบการเงินก็ไม่เหมือนบริษัทปกติทั่วไป แต่มันสามารถเลี้ยง ตัวมันเองไปได้เรื่อยๆ ซึ่งหมายความว่าจะหยุดไม่ได้เลย เราต้องทำ�ต่อเนื่อง ถ้าเราจะหันมาทำ� เสื้อผ้าอย่างเดียวเลย โดยไม่ทำ�งานอย่างอื่นควบคู่ไป ก็คงต้องล้างไพ่ใหม่หมดเลย และต้องทำ� เสื้อผ้าอย่างเดียว อันนั้นน่าจะอยู่รอด แต่ถ้าทำ�เหมือนกับเหยียบเรือสองแคม ก็ต้องทำ�กันไป เรื่อยๆ แต่เรามองว่าถ้าคิดจะทำ�อะไรอย่างเดียว เราคงเปลี่ยนไปทำ�อย่างอื่นเลย ไปทางอื่นเลย รู้สึกว่าทำ�เสื้อผ้าจนอิ่มแล้ว ทำ�อะไรซำ�้ ๆ น่าเบื่อ (หัวเราะ) ผักกาดมีบทเรียนอะไรจากดีไซเนอร์ไทยที่ทุกวันนี้หายไปจากวงการแล้วบ้างไหม

มีหลายคนที่เรารู้สึกเสียดายนะครับ คือการที่อยู่กับชื่อเสียง อยู่กับความสามารถ แล้วอยู่ ไม่ได้ การควบคุมอารมณ์ การใช้สิ่งเสพติด หรืออะไรต่างๆ ที่เราเห็นจากสังคมที่ผ่านมา ซึ่ง แต่ก่อนมันเป็นยุค 80-90 เนาะ มันก็มีความบ้าบิ่น บางคนที่ใช้ชีวิตเป็นเขาก็จะหลุดไปจาก วงโคจร ซึ่งหลายคนเรารู้สึกเสียดายโอกาสที่เขาเคยได้รับ ทุกวันนี้เราก็เก็บมาเป็นบทเรียน มองอนาคตว่าบั้นปลายชีวิตเราจะอยู่อย่างไร เราเองก็ต้อง เก็บตังค์ ใช้ชีวิตแบบเซฟที่สุดน่ะ ผักกาดมีต้นแบบสำ�หรับงานแฟชั่นบ้างไหม

เราชอบ อเล็กซานเดอร์ แมคควีน และดีไซเนอร์เมืองนอกหลายคน ของไทยก็ชอบพี่เจี๊ยบ พิจติ รา ซึง่ เป็นบุคคลหนึง่ ทีเ่ ราได้มมุ มองการทำ�เสือ้ แบบคลาสสิก ถ้าเป็นรุน่ ใหม่ๆ ก็ชอบคุณใหม่พลัฏฐ์ พลาฎิ เจ้าของแบรนด์ Realistic Situation เป็นคนหนึ่งที่เรามองเขาอยู่ตลอดเวลา และ ชอบคนนี้ที่ทำ�เสื้อแบบนี้ เขาเป็นคนที่ตั้งใจ มีความเป็น artist สูง การทำ�โชว์แต่ละครั้งมันคุ้มค่ากับการลงทุนไหม

ไม่คุ้มครับ สนองตัณหาล้วนๆ (หัวเราะ) ถ้าเรามีเงินหรืองบมากกว่านี้ คิดว่าเราคงทำ�ฉาก หรืออะไรเยอะกว่านี้ มีคนถามเหมือนกันว่าทำ�ไมฉากของเราเป็นสีดำ�ๆ ตลอด คำ�ตอบง่ายๆ ก็คือ เราไม่ได้คิดว่าเสื้อเราเยอะแล้ว รูปแบบหรือโชว์จะต้องเรียบๆ มันไม่เกี่ยว เราลงทุนกับ เสื้อผ้าไปแล้ว ก็เลยไม่อยากลงทุนกับฉากมาก แต่มันก็ช่วงแรกอะนะ ที่คิดว่าเราจะไม่ลงทุน เรื่องฉาก ในขณะเดียวกันเราก็อยากจะมีอะไรที่แปลกใหม่มากกว่าฉากสีดำ� ฉะนั้นเราต้องคิด กิมมิกของแต่ละโชว์ ซึ่งมันต้องแลกกับการใช้หัวมากกว่าคนอื่นเขา เพราะเราอยากให้รูปแบบ ของโชว์แตกต่างออกไป ถ้าเกิดมีงบจริงๆ เราก็คงจะตำ�นำ�้ พริกละลายแม่นำ�้ กว่านี้ (หัวเราะ) ก็เยอะอยู่ แต่ละครั้ง แต่ละโชว์ ผักกาดต้องการสื่อถึงผลงานแฟชั่นที่กำ�ลังทำ�อยู่ หรืออะไร

เป็นเรือ่ งเล่าของตัวเองเกือบทุกโชว์นะครับ ดูตง้ั แต่โชว์แรกก็จะรูว้ า่ พัฒนาการของผักกาด หรือวิธคี ดิ ตอนนัน้ ของผักกาดเป็นอย่างไร มันจะชัดเจนมาก ตอนทำ�เสือ้ ก็คดิ ว่าจะทำ�ให้คนอืน่ ใส่ หรือคนไหนเป็น muse ของโชว์นี้ มันก็จะมี แต่จริงๆ แล้วเราคิดจากสิ่งที่เราอยากนำ�เสนอ มากกว่า เราจะนึกถึงหน้าลูกค้าที่ตัดเสื้อกันเป็นประจำ� ว่าลูกค้าจะใส่ได้ไหม เหมาะไหม ก็จะ คิดเป็นพาร์ตๆ เลย ส่วนนางแบบที่โชว์ เป็นนางแบบที่เราชอบทุกคน อยากบอกว่า เราไม่ค่อยใช้นางแบบที่เป็น ต่างชาติสกั เท่าไหร่ เพราะเราคิดว่าเสือ้ ผ้าของผักกาดเหมาะกับคาแร็กเตอร์นางแบบไทยมากกว่า มันมีอินเนอร์ และน้องๆ พี่ๆ กลุ่มนางแบบก็รู้ว่าเวลาใส่เสื้อผ้าของเรา เราต้องการอะไร และเขา ก็สื่อสารออกมาได้ดี

ผู้หญิงประเภทไหนเป็นกลุ่มเป้าหมายของผักกาด

ผู้หญิงที่ชอบศิลปะครับ ผู้หญิงที่ไม่ชอบความจำ�เจ และไม่ชอบเหมือนใคร ลูกค้าทุกคน มักจะบอกว่า อยากจะได้เสื้อที่ไม่เหมือนใครเลย อยากได้เสื้อที่เป็นมาสเตอร์พีซ เขาคงไม่อยาก ได้เสื้อที่มีคนก๊อบปี้ จริงๆ แล้ว ขนาดทำ�เสื้อให้ลูกค้าเรายังไม่เคยทำ�ให้ซำ�้ กันเลยนะ ไม่เคยทำ� จำ�นวนเบิล ประเภทแบบเดียวกันแล้วเปลี่ยนผ้าไม่เคยทำ� ที่เห็นบ่อยๆ ในงานของผักกาดคือแพตช์เวิร์กใช่มั้ย

แพตช์เวิร์กนี่เราชอบมากเลยครับ แต่ก่อนตอนยังเด็ก เราใส่แพตช์เวิร์กไปเดินสวนจตุจักร ประมาณ 20 หรือ 25 ปีทแ่ี ล้ว ช่วงทีท่ �ำ ร้าน Medium Rare ทุกคนจะเห็นเราแต่งตัวเวอร์ ผมทอง ไม่ใช่คอสเพลย์ แต่เป็นพังก์ เป็นสตรีทแฟชั่นแบบญี่ปุ่น เราคิดว่าเสื้อแพตช์เวิร์กมีความเป็น ญี่ปุ่น มีความเป็นจังก์ คือเหมือนเอาถุงขยะมารวมกับแฟชั่น เราทำ�งานแพตช์เวิร์กมาตั้งแต่เด็กน่ะ ทำ�งานกับพี่เจี๊ยบ พิจิตรา ก็ใช้แพตช์เวิร์กให้ลูกค้า และทุกวันนี้เราก็ยังชอบแพตช์เวิร์ก คงเพราะมันสนุกในการทำ�ผ้ามั้งครับ ผลลัพธ์ที่ออกมา มันแตกต่างจากผ้าหนึ่งผืน มันคือผ้าหลายผืนมาต่อกันเป็นรูป ขอถามเรื่องที่บ้านหน่อย ผักกาดเป็นลูกคนที่เท่าไหร่ของครอบครัว

เป็นลูกชายคนสุดท้องครับ มีพี่สาวอีก 2 คน

โตมาอย่างไร

โตมาแบบ ฮืมม์...แตกต่างกับตอนนี้เลย เราโตมาจากครอบครัวทหาร พ่อคาดหวังอยากให้ เราเป็นทหารอากาศตัง้ แต่เด็ก ตอนนัน้ เราก็อยากเป็นทหารอากาศ เพราะถูกกรอกหูอยูต่ ลอดเวลา ทุกอย่างต้องเป็นระเบียบ เพราะพ่อเป็นคนดุ ตอนเด็กๆ เราอยู่ในกรอบนะ เรียบร้อยมาก เชื่อฟัง ทุกอย่าง พอขึน้ มัธยมฯ ก็เริม่ มีเพือ่ น เริม่ ซน เริม่ เฮีย้ ว แต่กซ็ นก็เฮีย้ วแบบไม่ลา้ งผลาญอะไรมาก (ยิม้ ) เราแค่เป็นหัวหน้าแก๊ง ทำ�อะไรซนๆ หลังจากนัน้ พอไปสอบเข้าโรงเรียนทหาร ซึง่ เป็นช่วงทีพ่ คี มาก เพราะตอนนั้นเราเริ่มรู้แล้วไงว่าเราต้องการอะไร และรู้สึกว่าเราจะไม่อิสระแล้ว มันก็เป็นปม เหมือนกันนะ ทุกวันนีถ้ า้ เราไม่ได้จดุ นัน้ เราคงไม่ได้ท�ำ อะไรทีด่ นู อกกรอบขนาดนีห้ รอก อดีตมันก็คือการบ่งบอกอนาคตนะครับ ว่าคนคนหนึ่งจะเป็นอย่างไร ทุกวันนี้ที่ทำ�ก็คือ เอาชนะทุกอย่าง เอาชนะอุดมการณ์ เราเหมือนมีโจทย์ให้พุ่งชนตลอด เราทำ�ทุกอย่างเพื่อที่จะ ไม่ต้องเป็นทหาร พ่อจะลากเราไปเป็นทหาร เราก็อาละวาดเสียจนบ้านแตก จนพ่อเห็นแล้ว... แต่พ่อไม่เข้าใจหรอกว่าทำ�ไมเราไม่อยากเป็นทหาร เขาเพิ่งเข้าใจเมื่อไม่ถึง 5 ปีที่ผ่านมานี้เอง ถึงตอนนั้นพ่อบอกว่า อ๋อ...พ่อรู้แล้วล่ะว่า ทำ�ไมโอ๋ถึงไม่อยากเป็นทหาร จริงๆ ที่บ้านเรา ชื่อโอ๋นะ โอ๋คงเห็นพ่อมาตั้งแต่เด็กๆ พ่อคงคิดว่าเราเห็นไลฟ์สไตล์ของเขาแล้วเราไม่ชอบ แต่ จริงๆ แล้วมันมีมากกว่านั้น (หัวเราะ) เราไม่ชอบใช้ชีวิตแบบมีระเบียบ แล้วมันก็ส่งผลว่า ทุกวันนี้ทุกคนที่ทำ�งานกับผักกาดต้องมีระเบียบ ช่างต้องเย็บงานเนี้ยบ เลขาฯ ต้องทำ�งานเก่ง มีระเบียบ แม้กระทั่งแม่บ้านพม่าก็ต้องทำ�งานสะอาดมีระเบียบ แต่ตัวเอง เป็นคนเดียวที่ไม่มีระเบียบเลย เพราะเราต้องการคนรอบข้างเหล่านี้ทำ�ให้เรามีระเบียบ (ยิ้ม) แต่เราไม่เคยโทษใครหรืออะไรเลยนะ ที่เราเคยเมาสุดๆ เคยผ่านช่วงพีค เละเทะ มีวีรกรรม กับเพื่อนมากมาย และเละจนถึงขนาดขึ้นโรงพัก เราก็ไม่เคยเก็บมาเป็นเรื่องแบบ bad trip เลย เพราะรูส้ กึ ว่าทุกสิง่ เหล่านีท้ �ำ ให้เรามีโลกทีเ่ ราเป็นอยูท่ กุ วันนีค้ อื เราก็ตอ้ งมีความบ้าๆ บอๆ (หัวเราะ) แล้วผักกาดผ่านช่วงนั้นมาได้อย่างไร

เราก็จะมีผู้ใหญ่คอยซัพพอร์ตตลอดครับ ไม่ว่าอยู่ในช่วงชีวิตไหนก็จะมีคนดีๆ คอยดูแลตลอด อย่างช่วงเด็กๆ เวลาเซ็งๆ โดดเรียนกวดวิชา เราก็ใช้วิธีการเดินจากบ้านที่ลาดพร้าวไปเกษตร ไป กลับ 3 รอบเพื่อให้หมดเวลา หรือไม่ก็ไปอยู่กับพ่อแม่เพื่อน เขาก็คอยเลี้ยงดูเรา เขามีวิธีสอนที่ ไม่ทำ�ให้เราเบื่อ พออยู่ในช่วงทำ�งานก็มีพี่แอท หรือพี่ๆ ในวงการคอยให้คำ�ปรึกษา และช่วยเหลือทุกเรื่อง แต่ไม่เคยกลับไปปรึกษาที่บ้านเลย เพราะคิดว่าเขาคงไม่เข้าใจเราหรอก ทุกวันนี้แม้ว่าเขาจะ ไม่รู้ว่าลูกเป็นอย่างไร แต่ก็ดีครับ เรากลับไปหาเขา และใช้ชีวิตปกติ เพราะที่สุดเขาก็คือพ่อแม่ สุดท้ายทุกอย่างก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม ผิดกับเมื่อก่อนที่เราพูดจากับเขาไม่รู้เรื่องเลยนะ เวลาไปบ้าน กินข้าวกับเขา เราจะนั่งเฉยๆ เหมือนแอนตี้ทุกอย่าง ทุกวันนี้ก็...ทุบมันออกให้หมด แล้วก็ปกติ กับพี่สาวของเราล่ะ

โอ้โห...พีส่ าวทำ�ให้กดดันมาก เพราะพีส่ าวทัง้ สองคนเรียนเก่งมาก ตัง้ ใจเรียนมาก เข้าจุฬาฯ ได้ทั้งคู่ โคตรเก่งอะ ตอนที่เรายังไม่มี Hook’s เขาทำ�ให้เรารู้สึกว่าอาชีพเราดูต๊อกต๋อย มันก็สม

21


HAM INTERVIEW

แล้วล่ะที่เขาจะรู้สึกว่าเราไม่มั่นคงในเรื่องอาชีพ แต่สุดท้ายแล้ววันหนึ่ง เขาก็ภูมิใจในตัวเรา ตอนที่พาพ่อแม่ไปดูแฟชั่นโชว์ครั้งที่ 2 ของ Hook’s ในงานแอล แฟชั่นวีก เมื่อ 5 ปีที่แล้ว พ่อแม่ ก็ปลาบปลื้ม แล้วก็งงว่า ลูกทำ�เสื้อผ้าได้อย่างไรเยอะขนาดนี้ เขามองแค่วา่ โอ๋เก่งจัง ทำ�เสือ้ ผ้าตัง้ 30 กว่าชุด เขาก็แค่น้ี ไม่ได้เข้าใจว่าเรากำ�ลังทำ�อะไรอยู่ เขาแค่ภูมิใจว่ามีคนมาดูเยอะ ดีใจด้วย 3 ปีกับแฟชั่นโชว์ในงานแอล แฟชั่นวีก สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงของผักกาดไหม

เปลีย่ นแปลงครับ นับจากนีก้ จ็ ะเปลีย่ นไปแล้ว โชว์ครัง้ ล่าสุดทำ�ให้เรามองภาพตัวเองเปลีย่ น ไปเลย แต่กอ่ นเคยทำ�ทุกอย่างแบบบ้าระหำ่ � ทำ�อะไรก็ได้ทส่ี ะใจตัวเองทีส่ ดุ เป็นหุน่ ยนต์ บ้า พังก์ ทำ�อะไรทีน่ า่ กลัว เพียงแต่สง่ิ นัน้ เวลานัน้ มันตอบโจทย์ตวั เองนะ และจะมีสตอรีข่ องตัวเองว่าทำ�ไม เราทำ�อย่างนั้นตลอด คือไม่ได้ทำ�อะไรแบบเลื่อนลอย แต่โชว์เมือ่ ต้นเดือนกันยาฯ ทีผ่ า่ นมา มันทำ�ให้เรารูส้ กึ ว่า ต่อไปนีช้ วี ติ เราจะไม่ท�ำ อะไรไร้สาระ กับความฝันบ้าๆ ของตัวเองอีกต่อไปแล้ว แต่จะทำ�อะไรที่มีความหมายสำ�หรับคนอื่นด้วย และ รู้สึกเลยว่าในหลวง (พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช) เป็นคนนำ�พาสิ่งที่ดี และท่านเป็น artist เป็นต้นแบบทีด่ ใี นทุกๆ เรือ่ ง คือพอเราได้ใกล้ชดิ ได้ท�ำ สตอรีน่ ข้ี น้ึ มา มันทำ�ให้ เรารู้ว่า ชีวิตที่ผ่านมาเราโคตรไม่สนใจใครเลย เรื่องการทำ�บุญหรือดูแลคนอื่นยังโอเคอยู่นะ แต่ ว่าด้วยศักยภาพของเรา เราน่าจะทำ�อะไรเพื่อสังคมได้มากกว่านั้น หลังโชว์เสร็จจนวันรุ่งขึ้น ผักกาดนี่อึนไป 2-3 วัน ทุกวันนี้ก็ยังคุยกับเพื่อนเลยว่า ต่อไปนี้เรา จะไม่ทำ�แบบเดิมอีกแล้ว เราโตขึ้นแล้ว ถ้าจะต้องใช้เงินทำ�โชว์เราจะต้องมีแมสเสจให้คนอื่น คือต้องมีคุณค่ามากขึ้น และต้องมีสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ เห็นภาพตัวเองในอนาคตยังอยู่ในวงการแฟชั่นหรือเปล่า

ไม่น่าจะทำ�ตลอดนะ (ยิ้ม) แค่รู้สึกว่าตอนนี้อยากเปลี่ยนรูปแบบเป็นอย่างอื่น แต่ทำ�เสื้อ คงต้องทำ�เพื่อเลี้ยงดูบุคลากรที่ร้านต่อไป แต่ด้วยรูปแบบใหญ่ๆ ก็อยากเปลี่ยน เราเป็นคนที่ ไม่ยึดติดกับอาชีพ เราทำ�ได้หลายอย่าง บางทีก็อยากทำ�ร้านเฟอร์นิเจอร์ หรือถ้ามีเวลาว่างก็ อยากทำ�งานศิลปะที่เป็นศิลปะเลย อยากทำ�ภาพเขียน อยากทำ�งานปั้น อยากทำ�เซรามิก อยาก ทำ�ร้านอาหาร อูย...เยอะไปหมดครับ ต่อไปเราคงค่อยๆ เหนื่อยน้อยลง แล้วคงหาวิธีทำ�ให้ตัวเองมีความสุขมากขึ้น ถ้าแก่ตัวลง อายุประมาณ 60-70 ปีไปแล้วสามารถผ่อนตัวเองได้ ไม่ตอ้ งวิง่ แข่งกับใครมาก ก็คงทำ�งานศิลปะ ยังเลี้ยงชีวิตได้ ถ้าเดินไม่ได้ หรือเดินยาก ก้มตัวยาก มีพู่กันอันเดียวกับรูปก็โอเค เพราะเราเคย เรียนศิลปะมาก่อน ผักกาดเบื่ออะไรตรงไหนที่สุดของกระบวนการทำ�เสื้อผ้า

ก็เบื่อไปหมดล่ะครับ เคยคุยกับเพื่อนๆ เหมือนกัน ทุกคนพูดเหมือนกันหมดเลยว่าขี้เกียจ ทำ�เสื้อผ้าแล้ว ไปทำ�อย่างอื่นได้ไหม คงเพราะทำ�กันมานาน 20 กว่าปีแล้ว ทุกคนมองหน้ากัน แล้วก็บอกว่า เออเนาะ ก็ยงั ทำ�เสือ้ ผ้ากันอยู่ ใช้ความอึดน่ะ มันไม่ได้ท�ำ ให้เรารวยล้นฟ้ามหาศาล แต่ว่ามันก็เลี้ยงชีพไปเรื่อย แล้วก็สนุกดีเท่านั้นเอง ข้อดีของการทำ�อะไรหลายอย่างก็คือ มันทำ�ให้เราลืมไปบ้างว่าเราทำ�เสื้อ (หัวเราะ) ทุกวันนี้ เรายังเบื่อจะเข้าร้านเลย เข้าไป 11 โมงทุกวัน บ่ายก็ออกมาแล้ว คราวนี้ขอถามเรื่องความรักบ้าง ความรักของผักกาดเป็นอย่างไร

ความรักมีมาเรื่อยๆ ครับ เรื่อยๆ คือมีเข้ามาบ้าง หลังๆ พออายุเยอะขึ้นก็อยากแค่เจอคนที่

คุยกันรู้เรื่อง เข้าใจว่าเราเป็นคนแปลกๆ การมีความรักทำ�ให้เราสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง ทำ�ให้เรารู้สึกว่าเราเป็นคนละคน หลังๆ ก็รู้สึกว่า กูชอบผักกาดแบบนี้มากกว่า ที่เป็นได้ทุกวันนี้ เพราะว่าเราโฟกัสมากๆ เราตั้งใจมากๆ แต่พอเรามีใครที่รักที่ชอบสักคน มันก็คงจะดึงความสนใจเหล่านี้ไปบ้าง ซึ่งทำ�ให้เราไม่สนใจขนาดนี้ แต่ทุกวันนี้ก็มีครับ แล้ว พยายามให้เขาเข้าใจว่าเราเป็นอย่างไร คาดหวังไหมว่าจะมีใครสักคนอยู่กับเราไปจนแก่เฒ่า

อ๋อ...ไม่ครับ พรุ่งนี้มั่นใจว่าอยู่คนเดียวแล้วจะไม่เหงาเลย

คิดว่าตอนแก่ตัวเองจะเป็นอย่างไร

ตอนแก่อยากอยู่กับเพื่อน หรืออยู่กับใครก็ได้ที่สนิทกัน อาจจะเช่าห้องหรือตึก มีพยาบาล คนละคน แล้วคอยโทรถามกันว่า เออ...มึงเป็นไง เดินไหวไหม ปวดขี้หรือยัง (หัวเราะ) คิดว่า อนาคตคงไม่อยากเป็นภาระให้หลาน ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงที่เข้าโรงพยาบาลบ่อยมาก เข้า เพราะพ่อกับแม่นะ มันทำ�ให้มุมมองเราเปลี่ยน จากเดิมที่ไม่เคยมองอนาคตว่า เวลาแก่เราจะ ใช้ชีวิตแบบไหน จนเริ่มเข้าใจว่า ช่วงอายุขึ้น 70-80 จะเป็นช่วงที่ชีวิตเป็นผักเป็นปลา ทำ�อะไร ก็ไม่ได้ แล้วยังต้องนอนอยู่อีก 10 ปี ช่วงนั้นคงเป็นช่วงที่แบบ...เราก็เริ่มกลัวเนาะ เคยทำ�อะไร ได้หลายอย่าง อยากไปไหนกับเพื่อนก็ไป ถ้าวันหนึ่งต้องนอนอยู่เฉยๆ เราว่ามันน่ากลัวนะ ต้อง มีคนคอยพลิกตัว ไปเยี่ยวในห้องนำ�้ ก็...(หัวเราะ) มันน่ากลัว เรื่องของเรื่องคือว่าต้องหาเงิน แล้วซื้อบ้านอยู่กับเพื่อน อยู่เรียงกันเป็นแถว



HAM STYLE SHOPPING เรื่อง: ไพลิน มุ่งสันติ

แว่นตากันแดด จาก ZARA (890 บาท)

ที่คาดผมตกแต่งคริสตัล จาก MIU MIU (สอบถามราคาได้ที่ร้าน) ZIMMERMANN

เสื้อคอเต่าปักเลื่อมสีเงิน จาก MSGM (สอบถาม ราคาได้ที่ร้าน)

แฟชัน ่ สีเงิน กลิตเตอร์ และเม็ดเลือ ่ ม มาประชันกัน ให้เต็มรันเวย์ไปหมดในซีซั่นนี้ เพราะหน้าหนาว ทั้งที ก็ต้องไม่ลืมหยิบความแวววาวมาใส่ เลือก ชิ้นที่โมเดิร์นเพราะจะได้อยู่เป็นไอเท็มคลาสสิก ไปอีกนานแสนนาน

ต่างหูคริสตัล จาก ISABEL MARANT (สอบถามราคา ได้ที่ร้าน)

เสื้อไหล่เดี่ยวปักเลื่อม สีเงิน จาก MAJE (สอบถามราคาได้ที่ร้าน)

กางเกงเข้ารูปสีดำ� ตกแต่งหมุด จาก ZARA (1,990 บาท)

SAINT LAURENT

รองเท้าบู๊ตหนังตกแต่ง หัวโลหะสีเงิน จาก PROENZA SCHOULER (สอบถาม ราคาได้ที่ร้าน)

รองเท้าบู๊ตหนังสีขาว จาก GIANVITO ROSSI (สอบถาม ราคาได้ที่ร้าน) กระโปรงทรงสอบ สีเงินเมทัลลิก จาก IRO (สอบถาม ราคาได้ที่ร้าน)

เดรสแขนยาวปักเลื่อมสีดำ� จาก TOM FORD (สอบถามราคาได้ที่ร้าน) CHANEL

รองเท้าบู๊ตยาวเท่าเข่า ปักเลื่อมสีเทา จาก TOPSHOP (5,790 บาท)

สร้อยคอกำ�มะหยีต ่ กแต่งคริสตัล จาก SAINT LAURENT (สอบถามราคาได้ที่ร้าน)

กระเป๋าคลัตช์ผ้าชินสีดำ� ตกแต่งคริสตัล จาก ALEXANDER MCQUEEN (สอบถามราคาได้ที่ร้าน)


HAM STYLE INSIDER

เรื่อง: ไพลิน มุ่งสันติ

Lameka Fox

สาวบ้านนา อายุ 15 ปี ผมนำ�้ ตาล ตาสีฟ้า จาก Alabama ทีไ่ ม่เขียนถึงคงไม่ได้เลย บางคนใช้เวลาในการเติบโตในระดับ ปี แต่ Cara Taylor ใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนเพื่อก้าวขึ้นมา เดินคอลเล็กชั่นระดับโอต์กูตูร์ให้ทั้ง Valentino และ Dior ย้อนไปเมื่อตอนแปดขวบ เธอเคยถูกโมเดลลิ่งติดต่อ แต่ ไม่ผ่านการคัดเลือก แต่ดวงคนมันจะดังใครก็ฉุดไม่อยู่ 7 ปี ต่อมา เธอกลายเป็นนางแบบงานชุก เป็นขวัญใจของช่างภาพ มือโปรทั้ง Steven Meisel และ Patrick Demarchelier

ขอบคุณโลกโซเชียลฯ ที่ทำ�ให้นางแบบ หลายๆ คนได้แจ้งเกิด Lameka Fox สาวอเมริกันหุ่นดีหน้าตาคม สังกัด IMG ก็เป็นหนึ่งในนั้น แม้จะเข้าวงการ มาได้เพียง 2 ปี ก็สามารถพาตัวเอง ไปเดินรันเวย์ใหญ่ในปารีส นิวยอร์ก ลอนดอน ไม่ว่าจะเป็น Valentino, Burberry, Kenzo และเดินโชว์เปิดให้ แบรนด์ Yeezy ถ่ายแคมเปญ Tommy Hilfiger คู่กับ Gigi Hadid ไม่เพียงแต่ รันเวย์เท่านั้น เพราะบนพื้นที่สื่ออย่าง Vogue หรือ Harper’s Bazaar เธอก็ไป ปรากฏตัวเป็นแบบให้เป็นที่เรียบร้อย

Rising Models to Watch

Cara Taylor เก่าไปใหม่มา เป็นวัฏจักร ของวงการ นี่คือนางแบบ หน้าใหม่ที่เตรียมขึ้นแท่น รอเป็นท็อปโมเดลในไม่ช้า

Dilone

อีกคนที่เติบโตในวงการอย่างรวดเร็ว Mary Janice Dilone นางแบบวัย 22 ปี สไตล์ Androgyny จากลองไอส์แลนด์ ตั้งแต่เดินแบบครั้งแรกให้กับแบรนด์ Bottega Veneta ในปี 2016 เธอก็ กลายเป็นขวัญใจดีไซเนอร์ และมีงาน เดินแบบทำ�สถิติ 40 โชว์ในหนึง่ ซีซน่ั ตัง้ แต่ Dolce & Gabbana, Balmain, Balenciaga จนถึง Versace ล่าสุดเป็นนางแบบผิวสี เพียงไม่กี่คนที่มีโอกาสเดินแบบ ในเวทีใหญ่อย่าง Victoria’s Secret

Halima Aden ในที่สุดเราก็ก้าวข้ามความแตกต่างด้าน เชื้อชาติและศาสนา เพราะวงการแฟชั่น เปิดใจรับให้กับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ Halima Aden เป็นนางแบบมุสลิมคน แรกๆ มีตารางการเดินแบบแน่นสุดคนหนึ่ง Fall/Winter ที่ผ่านมา เธอเดินให้กับโชว์ ของ Yeezy, Max Mara, Alberta Ferretti เป็นนางแบบปกนิตยสาร Vogue Arabia ทำ�งานคู่กับช่างภาพ Mario Sorrenti

นางแบบเฟรชเฟซทีแ่ รงดีเหลือเกิน เพราะเพิ่งจะก้าวเข้ามาในวงการ ไม่นาน ก็ได้เดบิวต์ครั้งแรกที่โชว์ ของ Saint Laurent และได้รับ การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจาก ดีไซเนอร์ Anthony Vaccarello ให้ถ่ายแคมเปญประจำ�ซีซั่น สาวหน้าคมวัย 20 ปี จากโดมินกิ นั ถูกจัดอันดับโดยนิตยสาร V Magazine ให้เป็นนางแบบ IT Girl ประจำ�ปี 2017 นี้

Hiandra Martinez


M.A.C

CLASSIC BROWN

Rollerwheel Brown (สอบถามราคาที่เคาน์เตอร์) อายไลเนอร์สีน้ำ�ตาล ดีไซน์ล้ำ�ๆ ช่วยให้การเขียนขอบตาสวยเป๊ะ คมชัดแบบง่ายๆ ที่ปลายปากกา มาในรูปแบบวงล้อ Spinning Disk Applicator การหมุนหัวแปรง ทรงกลมเหมือนแผ่นดิสก์ลงบน เปลือกตา ง่าย รวดเร็ว และ ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำ�หนักมือ

เมกอัพโทนสีน้ำ�ตาล เป็นอีกสี ที่สามารถแต่งได้ทุกซีซั่น คือ ตัวแทนของความอบอุ่นตามแบบ ฉบับของหญิงสาวเรียบง่าย มีความเป็นธรรมชาติที่คนรอบข้าง อยู่ด้วยแล้วสบายใจตามลุคของ เธอ และยังเป็นลุคที่ช่วยให้คุณ ดูเรียบหรูขึ้นทันตา

DON’T MISS เมื่อสีน้ำ�ตาลที่มี ไม่พอดีกับใจเรา HAMBURGER แนะนำ�ว่าเดิน ตรงเข้าร้าน INNISFREE แล้วสาวๆ จะเพลิดเพลินลืมเวลา ไปกับ ‘My Style, My Palette’ พาเลตต์ที่เป็นของคุณคนเดียว เท่านั้น เพราะคุณสามารถ เลือกสรรเมกอัพทุกชิ้น และ ทุกเฉดสีที่ชื่นชอบมากที่สุด ด้วย 3 สเต็ปการเป็นเจ้าของ ง่ายๆ (ที่งานนี้อาจได้สีอื่นๆ ติดไม้ติดมือกลับมาแน่นอน)

Step 1

BECCA

Sunlit Bronzer (1,650 บาท) งานไฮไลต์ต้องยกให้ BECCA เป็นที่สุดในดวงใจไปเลย โดย เฉพาะสาวๆ ที่ชอบแต่งหน้า สายฝอยิ่งแล้ว จะรู้ว่า ประกายวิ้งวับและความโกลว์ เปล่งประกายของบรอนเซอร์ จาก BECCA สวยแค่ไหน พบ 5 เฉดสีโทนน้ำ�ตาล ที่ได้ รับแรงบันดาลใจจาก ผืนทรายบนชายหาดยาม สะท้อนแสงแดด พร้อมเนรมิต พวงแก้ม และเพิ่มมิติบนหน้า ของคุณให้สวยมีออร่า

: p i T

NARS

SHISEIDO

Rouge Rouge (1,150 บาท) ลิปสติกให้สัมผัสเนียนนุ่ม สูตรใหม่ True+Fit Formula Matte เนื้อสัมผัส ครีมเข้มข้น แต่แห้งแบบแมตต์ ให้สีคมชัด ยึดเกาะริมฝีปากได้อย่างยาวนาน แม้จะ แมตต์ แต่กลับมอบความชุ่มชื้นตลอดวัน ด้วยส่วนผสม Super Hydro Wrap Vitalizing DE EX

เลือกเมกอัพโทนสีน้ำ�ตาลให้เข้ากับสีผิวอย่างเป็นธรรมชาติ โดยแบ่งเป็น 3 ระดับสีผิวง่ายๆ

สาวผิวซีด-ขาว ควรเลือกใช้เมกอัพสีน้ำ�ตาล อมชมพู หรือน้ำ�ตาลอมส้ม ช่วยขับให้ผิวเปล่งปลั่ง สุขภาพดีอย่างกลมกลืน

สาวผิวสองสี/ ผิวเหลือง/ผิวน้ำ�ผึ้ง เพื่อผิวสวยเป๊ะ และดูเรียบ หรูมากขึ้น ด้วยสีน้ำ�ตาล อมทอง และแซบขึ้นอีก ระดับหากเป็นน้ำ�ตาลแดง

สาวผิวเข้ม/สาวผิวคล้ำ� สาวผิวเข้มเหมาะอย่างยิ่งกับ เมกอัพสีน้ำ�ตาล โดยเฉพาะ น้ำ�ตาลอมแดง น้ำ�ตาลอมทอง รวมทั้งน้ำ�ตาลอมม่วง ก็ชนะเลิศไปหมด

Powermatte Lip Pigment Lock Lips (1,090 บาท) ลิปสติกเนื้อแมตต์รูปแบบลิปจิ้มจุ่ม ที่สาวๆ คุ้นเคย กับผลลัพธ์ความแมตต์ และเนื้อสีเข้มคมชัดที่สุดในใจเรา สูตรใหม่ล่าสุดจาก NARS ที่คิดค้น และพัฒนาจนได้เม็ดสีพิเศษ เนื้อสี ที่คลี่ตัวบางเบาบนริมฝีปากอย่าง ง่ายดายและสม่ำ�เสมอ ทำ�ให้สีสัน ยืดหยุ่น และติดทนนานบนเรียวปาก ไม่ลอก ไม่แห้งแตก มีให้เลือกถึง 20 เฉดสี แต่เราแนะนำ� Slow Ride ชมพูน้ำ�ตาลอ่อน Get It On สีน้ำ�ตาล กุหลาบ และ Done It Again สีน้ำ�ตาล ช็อกโกแลต

MAYBELLINE NEW YORK The Tone on Tine Nudes (349 บาท) มือใหม่หัดแต่งก็เนรมิต เปลือกตาสวยได้ในพริบตา ด้วยอายแชโดว์เนื้อครีม เนียนนุ่มที่มี 2 สีในแท่งเดียว เนื้อสีอัดแน่นคมชัด และมี ส่วนผสมของชิมเมอร์ ช่วย เพิ่มประกายให้ดูมีมิติ แต่งง่าย สวยเร็ว โดยเฉพาะ Love on Taupes คู่สีโทนน้ำ�ตาล สำ�หรับลุคที่ใช้ได้ทุกวัน หรือ Bonnie on Clyde คู่สีทองเรืองรองแสนหรู

เลือกพาเลตต์ 3 ขนาด S, M, L (4, 8, 18 ช่อง)

Step 2

เลือกเมกอัพไอเท็มและสีที่ถูกใจ ที่มีถึง 7 ประเภท ได้แก่ Eye Shadow หลากหลายเนื้อสัมผัสกว่า 100 เฉดสี, Eye Brow 5 เฉดสี, Brush On เนื้อครีม และเนื้อ ฝุ่น 22 เฉดสี, Contouring 4 เฉดสี, Color Corrector 3 เฉดสี และ Concealer 3 เฉดสี

Step 3

จัดเรียงให้สวยในเคสตามสไตล์ของคุณ ซึ่งมันง่ายมาก! เพราะพาเลตต์ทำ�จาก แม่เหล็กที่เปลี่ยนเลื่อนไปมาได้ไม่รู้เบื่อ


HAM BEAUTY REVIEW เรื่อง: นิอร สุขวัจน์

ริมฝีปากคือส่วนที่บอบบางที่สุดไม่แพ้ผิวหนังรอบดวงตา การถนอมดูแล อย่างสม่ำ�เสมอจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย HAMBURGER เลือกไอเท็ม ฟื้นบำ�รุงผิวริมฝีปากให้นุ่มเนียน บอกลาปัญหาปากแห้ง แตกเป็นขุย ทาลิปอะไรก็ไม่สวยไปได้เลย

ONE STOP SERVICE ดูแลครบในหนึ่งเดียว

CLINIQUE

Best Ingredient: Beat Sugar Granules

เม็ดบีดส์ขนาดเล็กจากธรรมชาติ ช่วยผลัดเซลล์ผิว ริมฝีปากพร้อมบำ�รุงให้ริมฝีปากเรียบลื่น Sweet Pots-Sugar Scrub & Lip Balm (850 บาท) งานบำ�รุงริมฝีปากแพ็กเกจจิง ้ น่ารักๆ ทีไ่ ด้แรงบันดาลใจ มาจากขนมมาการอง ด้านหนึ่งเป็นสครับรสหวาน เพื่อผลัดเซลล์ผิว อุดมด้วยส่วนผสมของน้ำ�มันจาก ธรรมชาตินานาชนิด เพิ่มความชุ่มชื้น และปรับสมดุล และอีกด้านคือลิปบาล์มจากส่วนผสมของเชียร์บัตเตอร์ น้ำ�มันมะพร้าว และสารสกัดว่านหางจระเข้ ฟื้นบำ�รุง พร้อมเติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก

TI

P:

SUPER SUGAR

มหัศจรรย์จากส่วนผสมของน้ำ�ตาล

นวดสครับวนบน ริมฝีปากอย่างแผ่วเบา ซับออกด้วยกระดาษทิชชู่ ตามมาด้วยลิปบาล์ม บำ�รุง แล้วจึงทาทับด้วย ลิปสติกสีโปรดของคุณ

FRESH

Best Ingredient: น้ำ�ตาล คือส่วนผสมหลักของลิปทรีตเมนต์ ทั้ง 3 สูตรต่อไปนี้ ซึ่งเป็นส่วนผสมที่อุดมด้วยสารให้ความชุ่มชื้น ตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติเก็บกัก และป้องกันการสูญเสีย ความชุ่มชื้นอย่างได้ผล

BALM ALL TIME

บาล์มบำ�รุงยิ่งทายิ่งเนียนนุ่ม L’OCCITANE

Best Ingredient: เชียร์บัตเตอร์ ส่วนผสมเพื่อการบำ�รุง และปกป้องทั้งผิวหนัง เส้นผม พร้อมประสิทธิภาพในการ ช่วยป้องกันแสงแดดตามธรรมชาติ

Shea Ultra Rich Lip Balm (450 บาท) ลิปบาล์มที่รวบรวมส่วนผสมเพื่อการฟื้นบำ�รุงริมฝีปาก จากธรรมชาติ โดดเด่นด้วยส่วนผสมของเชียร์บต ั เตอร์ 100% ที่อยากให้สาวๆ ติดตัวไว้ทาได้ตลอดเวลา เพื่อริมฝีปาก อวบอิ่มสุขภาพดี

SWEET NIGHT

เพื่อริมฝีปากนุ่มนวลทุกเช้า LANEIGE

Best Ingredient: Berry Mix ComplexTM

สารสกัดเบอร์รี่ที่อุดมด้วยวิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระ จัดการปัญหาริมฝีปากแห้งเป็นขุย หลุดลอก อย่างอ่อนโยน Lip Sleeping Mask (700 บาท) มาสก์ริมฝีปากสำ�หรับกลางคืน เพื่อฟื้นบำ�รุง และคืนความชุ่มชื้น ตลอดค่ำ�คืนด้วยเทคโนโลยี Moisture-WrapTM สร้างปราการ ความชุ่มชื้นให้เรียวปากอิ่มน้ำ� นุ่มนวล ให้สาวๆ หลับใหล อย่างรื่นรมย์ไปพร้อมกลิ่นหอมหวานให้เลือก 4 กลิ่น

Sugar Lip Caramel Hydrating Balm (740 บาท) ลิปบาล์มเนื้อคุชชั่น สัมผัสนุ่มนวลบางเบาซึมซับเร็ว และความหอมหวานของคาราเมล ที่นอกจากจะมี ส่วนผสมของน้ำ�ตาลช่วยบำ�รุงริมฝีปากชุ่มชื่นยาวนาน 24 ชั่วโมง ยังเปี่ยมไปด้วยคุณค่าปลอบประโลม และ คืนความอ่อนนุ่มให้ริมฝีปากจากน้ำ�มันสกัดตาม ธรรมชาติผสานกันไว้เป็นหนึ่งเดียว ทั้งน้ำ�มันสกัด แอพริคอต เมล็ดแบล็กเคอเรนต์ และเมล็ดองุ่น ทำ�ให้ได้ สุดยอดสารอาหารเพื่อริมฝีปากเรียบเนียน อวบอิ่ม

Sugar Candy Tinted Lip Treatment Sunscreen SPF 15 (980 บาท) ไอเท็มบำ�รุงริมฝีปากช่วงกลางวันที่เราแนะนำ�! เพราะมีส่วนผสมของ SPF 15 ปกป้องริมฝีปาก ไม่ให้ถูกทำ�ร้ายจากรังสียูวี พร้อมแต้มสีสันชมพู ระเรื่อ สดใสเป็นธรรมชาติ หรือใช้เพื่อบำ�รุง ริมฝีปากก่อนทาทับด้วยลิปสติกสีอื่นๆ ก็เป็น การฟื้นฟูริมฝีปากให้ชุ่มชื้น ด้วยส่วนผสมหลัก จากน้ำ�ตาล ผสานน้ำ�มันบำ�รุงนานาชนิดจาก ธรรมชาติที่อุดมด้วยวิตามินซีและอี ที่มีสาร ต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องผิว พร้อม คาร์นัวบาแว็กซ์ และบีแว็กซ์ ที่มีคุณสมบัติ เก็บกักความชุ่มชื้น และช่วยให้ริมฝีปากอ่อนนุ่ม


HAM IN REVIEW

Exhibitions

“ดิน น�ำ้ ป่า ฟ้า” แรงบันดาลใจจากพ่อ

Book

ดินแดนแสนดอกไม้

หนังสือเล่มนี้ ทรงกลด บางยี่ขัน คัดสรร บางเรื่องราวจากหนังสือ 3 เล่มของตัวเอง อย่าง ต้นไม้ใต้โลก ดอกไม้ใต้โลก และต้นไม้ ใต้ดวงอาทิตย์ มาผสมเข้ากับเรื่องราว อีกจ�ำนวนหนึ่งที่ยังไม่เคยได้รับการตีพิมพ์ ที่ไหนมาก่อน เพื่อน�ำเสนอเรื่องราวเล็กๆ ง่ายๆ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาดี ต่อโลกและเพื่อนมนุษย์ เราเชื่อว่าถ้าได้อ่าน หนังสือเล่มนี้จนจบ จะรู้สึกว่าจริงๆ แล้ว โลกก็ไม่ได้เลวร้ายสักเท่าไหร่นัก

แม้จะสิ้นพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช แต่พระราชปณิธาน ของพระองค์ยังคงอยู่ จึงเป็นที่มาของ นิทรรศการ “ดิน น�้ำ ป่า ฟ้า” แรงบันดาลใจ จากพ่อ ที่หยิบเอาพระราชกรณียกิจ และ พระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9 หลากหลายด้าน มาตีความเป็นงานศิลปะ หลายรูปแบบ เพือ่ ส่งความดีงามของพระองค์ และสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นหลัง วันแสดง: วันนี้-12 พฤศจิกายน 2017 สถานที่: ชั้น 7 หอศิลปวัฒนธรรม แห่งกรุงเทพมหานคร

ผู้เขียน: ทรงกลด บางยี่ขัน ส�ำนักพิมพ์: a book

ENTERTA INMENT Music / Movie / Show / Book Series

ละอองดาว

เรื่องราวดราม่าทั้งหมดในละคร ละอองดาว เกิดจากการที่พ่อของพระเอกเขียนพินัยกรรม แบบคลุมถุงชน ด้วยการให้ลูกชายของตัวเอง แต่งงานกับลูกเลี้ยงของเขา ถ้าไม่แต่งก็ต้อง ชวดมรดกมูลค่านับแสนล้านบาทไปแบบฟรีๆ ท�ำให้ลูกชายเจ้ากรรมที่มีแฟนอยู่แล้ว จึง ต้องยอมแต่งงานอย่างเสียไม่ได้ แน่นอนว่า เรื่องราวยังมีให้ไปติดตามกันต่ออีกมากมาย ช่อง: 7

movie TOKYO GHOUL

คอมังงะคงรู้อยู่แล้วว่า Tokyo Ghoul เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากมังงะชื่อเดียวกันของ ซุย อิชิดะ เล่าเรื่องราว กูล หรือเรียกให้เข้าใจง่ายๆ ว่า ผีปอบญี่ปุ่น ที่แน่นอนว่ากินมนุษย์เป็นอาหาร แต่ เพื่อให้สามารถอยู่รอดในสังคมปัจจุบัน จึงต้องพยายามท�ำตัวให้กลมกลืนกับมนุษย์มากที่สุด แต่บังเอิญ เคน คาเนกิ (มาซาทากะ ชิมิซุ) นักเรียนมัธยมธรรมดา ดันโดนผีปอบญี่ปุ่นโจมตี จนกลายเป็นผีปอบไปซะเอง ท�ำให้เขาต้องพยายามปรับตัวกับชีวติ รูปแบบใหม่ทไี่ ม่เคยรูจ้ กั มาก่อน

นักแสดง: อ๋อม อรรคพันธ์, นาว ทิสานาฏ, แม็กกี้ อาภา, เคลลี่ ธนะพัฒน์ เวลา: 20.30 น. (ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี)

SOMETHING TO TELL YOU

ส�ำหรับเดือนแห่งความอาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ช่างชุ่ย และคณะดุรยิ างคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จึงได้จบั มือกันจัดกิจกรรมทางดนตรีครัง้ พิเศษ ขึ้นมา โดยการเปิดโอกาสให้ผู้มีความสามารถในการเล่นกีตาร์อะคูสติก หรือกีตาร์คลาสสิก มาร่วมบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ล�ำดับที่ 3 ‘สายฝน’ พร้อมกัน เพื่อให้เสียงเพลงนี้เป็น เหมือนสะพานเชื่อมหัวใจของคนไทยไปยังพระเจ้าแผ่นดินอันเป็นที่รักยิ่ง

4 ปีหลังจาก 3 สาววง Haim แจ้งเกิดเต็มตัว จากอัลบั้ม Days Are Gone (2013) พวกเธอ ก็ได้กลับมาอีกครั้งกับอัลบั้ม Something to Tell You ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่าง ซอฟต์ร็อกและโซลได้อย่างลงตัว ถ้าเราบอก ว่าอัลบั้มแรกของพวกเธอเต็มไปด้วยความ สดใสทีซ่ กุ ซ่อนความดุเดือดจากเสียงเบสและ กลอง การฟังอัลบั้ม Something to Tell You ของพวกเธอ ก็ไม่ตา่ งไปจากการทิง้ ตัวลงนอน บนหมอนนุ่มๆ สักใบ เพราะดนตรี เนื้อร้อง และการออกแบบท่วงท�ำนอง ให้ความรู้สึก นุ่มนวลและเพลิดเพลินมาก แม้ก�ำลังฟัง เพลงเศร้าๆ อย่าง Kept Me Crying อยูก่ ต็ าม

วันแสดง: 14 ตุลาคม 2017 (ซ้อมเวลา 16.00 น.) และ 15 ตุลาคม 2017 (แสดงเวลา 16.00 น.) สถานที่: ช่างชุ่ย

อัลบั้ม: Something to Tell You ศิลปิน: Haim สังกัด: Polydor

ก�ำกับ: เคนชิโระ ฮากิวาระ นักแสดง: มาซาทากะ คุโบตะ, ฟุมิกะ ชิมิซุ, ยู อาโออิ เข้าฉาย: 12 ตุลาคม 2017

event

music

GUITAR PHENOMENON FOR DAD


X-FILMS

ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร หนัง 3 เรื่องที่ต่อได้เรียนรู้ จากการแสดง

Exclusive Interview

End of the World The Danish Girl (ทอม ฮูเปอร์, 2015)

“ถ้าวันหนึ่งผมมีโอกาสได้เล่นบทบาท แบบนั้นบ้าง วันนี้คุณเชื่อว่าผมเป็น ออทิสติก วันนั้นคุณจะเชื่อไหมว่าผมเป็น ผู้หญิง บทนี้ท้าทายมาก แล้วเราเคยมี ความคิดทีอ่ ยากจะเล่นบทสลับเพศแบบนี้ จริงๆ ด้วยครับ ซึง่ เรือ่ งนีเ้ ป็นหนังทีเ่ ราไม่ได้ รู้สึกว่า ตัวละครเขาเล่นเป็นคนแปลงเพศ นะ แต่ก�ำลังเล่นเป็นผู้หญิงคนหนึ่งจริงๆ”

Mommy

(ซาเวียร์ โดลอง, 2014)

“เป็นเรื่องของเด็กที่ป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ ที่อาศัยอยู่กับแม่ เป็นหนังอารมณ์ดีด เพี้ยนๆ ที่พาคนดูอารมณ์แกว่งไปมา”

ชื่อของ Sekai no Owari วงอินดี้ป๊อปสัญชาติญี่ปุ่น ที่มีชื่อภาษา อังกฤษส�ำหรับเล่นเพลงสากลว่า End of the World อาจไม่ค่อยคุ้นหู นักฟังเพลงชาวไทยทัว่ ไปสักเท่าไหร่นกั แต่สำ� หรับประเทศบ้านเกิดของ พวกเขาและสาวก J-Rock พันธุ์แท้ Sekai no Owari นับเป็นสุดยอด วงดนตรีรนุ่ ใหม่ทนี่ า่ จับตามอง ด้วยแนวดนตรีทมี่ ลี ายเซ็นชัดเจน เนือ้ หา ลุม่ ลึกเสียดสีสงั คม รวมทัง้ การแสดงสดทีจ่ ดั จ้าน HAMBURGER จึง อยากท�ำความรู้จักพวกเขาให้มากขึ้นอีกนิด ด้วยการชวนพวกเขามา นัง่ คุยกันสบายๆ แต่นา่ เสียดายทีว่ นั นัน้ ซาโอริ (เปียโน) สมาชิกสาวสวย เพียงหนึ่งเดียวของวงป่วย ท�ำให้วงสนทนาครั้งนี้มีแค่ ฟุกาเซะ (ร้องน�ำ) นากาจิน (กีตาร์) และดีเจ เลิฟ เพียง 3 คนเท่านั้น ท�ำไมถึงใช้ชื่อวงว่า Sekai no Owari และ End of the World

ฟุกาเซะ “ชื่อ Sekai no Owari ถ้าแปลตรงตัวจะหมายความถึง

จุดสิ้นสุดของโลก จะบอกว่าฟังดูมืดมนก็คงไม่ผิดนักหรอกครับ เพราะ ชื่อนี้ตั้งขึ้นมาจากช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตของผมที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า จ�ำได้ว่าเคยเป็นหนักถึงขั้นไม่อยากท�ำอะไรเลย นั่งซึมอยู่คนเดียวทั้งวัน จนผมรูส้ กึ ว่าต้องไปหาหมอแล้ว เพือ่ ให้หมอช่วยรักษาและให้ยามาทาน รักษาอาการ แล้ววันหนึ่งขณะรักษาอาการซึมเศร้า อยู่ๆ ความทรงจ�ำ ของผมก็หายไป ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโรคซึมเศร้าหรือฤทธิ์ของยา แต่การ จ�ำไม่ได้เลยท�ำให้ผมนึกถึงวันสุดท้ายของชีวิต ระหว่างนั้นสมองผม ก็คิดไปคิดมาหลายอย่าง จนสุดท้ายก็คิดได้ว่าถ้าสมมติวันหนึ่งความ ทรงจ�ำของผมหายไปจริงๆ สิ่งที่น่าจะยังคงอยู่คงเป็นเสียงเพลง จึงเริ่ม หันมาจริงจังกับการท�ำเพลงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และชื่อ Sekai no Owari ก็ต้องการสื่อความหมายไปช่วงเวลานั้นครับ” รูส ้ ก ึ ว่าชือ ่ Sekai no Owari ออกจะมืดมนไปหรือเปล่า

นากาจิน “จริงๆ ไม่ได้มืดมนขนาดนั้นหรอกครับ แต่เรื่องนี้ให้ ฃฟุกาเซะเป็นคนเล่าดีกว่า” ฟุกาเซะ “ถ้ามองแบบปกติกอ ็ าจจะมืดมนครับ เพราะชือ่ นีต้ งั้ ขึน้ มา ในวันทีแ่ ย่มากจริงๆ แต่ผมอยากให้มองลึกลงไปยิง่ กว่านัน้ ว่า จุดสิ้นสุด ของโลก หรือจุดสิ้นสุดของชีวิตที่ผมรู้สึกได้ในวันนั้น ได้กลับกลายมา เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่ๆ ในชีวิตได้อีกครั้ง เหมือนกับวงดนตรีของ พวกเราวงนี้ ผมคิดว่าในจุดสิ้นสุดจะมีทางให้ไปต่อได้เสมอครับ” ฟุกาเซะผ่านช่วงเวลาทีป ่ ว ่ ยเป็นโรคซึมเศร้ามาได้ยง ั ไง ฟุกาเซะ “ผมต้องบอกก่อนว่าการเป็นโรคซึมเศร้า บางทีก็ไม่มี เหตุผลอะไรมารองรับว่าเป็นจากสาเหตุอะไร แต่เมื่อเราป่วยแล้วก็ จ�ำเป็นต้องไปหาหมอครับ เขาจะมีค�ำแนะน�ำดีๆ ให้ทั้งด้านการใช้ชีวิต และการทานยา แต่นอกจากการหาหมอแล้วก็คงเป็นเสียงเพลงและ เพื่อนรอบตัวครับ พวกเขาทั้ง 3 คนเป็นเพื่อนที่ดีมากๆ คอยให้ก�ำลังใจ คอยสนับสนุนผมอยู่เสมอ ถ้าวันนัน้ ไม่มเี พือ่ นฝูงทีด่ แี บบนี้ ผมก็คงไม่รู้ ว่าจะมีชวี ติ อยูต่ อ่ ไปท�ำไมเหมือนกัน” (นากาจิน และดีเจ เลิฟ ที่นั่ง ขนาบข้างฟุกาเซะ ตบบ่านักร้องน�ำของวงพร้อมกัน)

Your Name

(มะโกะโตะ ชิงไก, 2016)

“ผมชอบเรื่องนี้มาก ชอบพล็อตเรื่อง ตัง้ แต่อา่ นในหนังสือ หนังดึงเรือ่ งของมิติ เวลาและการบิดเบือนของเวลามาใช้ ยิ่งพอตอนจบของเรื่องทุกอย่างถูกเฉลย เราน�ำ้ ตาตกเลยนะ ขยีค้ วามรูส้ กึ มากครับ”

ถ้าอย่างนั้นมีเพลงไหนบ้างที่แต่งขึ้นมาในช่วงเวลา แย่ๆ ของชีวิต

ฟุกาเซะ “มีหลายเพลงมากเลยครับ แต่เพลงที่แต่งขึ้นมาใน ช่วงเวลาดาวน์สุดๆ คือ Ginga gai no Akumu” นากาจิน “ฟุกาเซะเป็นคนที่มีความคิดค่อนข้างเร็วครับ เหมือน ในหัวเขาจะคิดเรือ่ งเพลงอยูต่ ลอดเวลา ดังนัน้ ไม่วา่ จะอยูใ่ นช่วงอารมณ์ ไหน เขาก็สามารถคิดเพลงออกมาได้ตลอด ท�ำให้หลักๆ เนื้อเพลงจะ ออกมาจากเขาแทบทั้งหมด” ฟุกาเซะ “จริงๆ ผมก็ไม่ได้อยากคิดตลอดเวลาหรอกนะ แต่ผมรู้สึก ว่าถ้าผมหยุดคิดเมื่อไหร่ จะเริ่มมีความเครียดจากไหนก็ไม่รู้เข้ามา ครอบง�ำตัวเอง ผมจึงเลือกที่จะคิดเรื่องเพลงตลอดเวลาดีกว่า ไม่ว่าจะ ไปกินข้าว ดูหนัง ออกก�ำลังกาย หรือแม้แต่ออกเดต ผมก็ยังคิดแต่เรื่อง เพลงอยู่เรื่อยๆ” ดีเจ เลิฟ “จ�ำได้วา่ เพลง Dragon Night ฟุกาเซะก็คดิ ออกมาระหว่าง ไปว่ายน�้ำไม่ใช่เหรอ” ฟุกาเซะ “ใช่ๆ แต่วา่ ตอนนีผ้ มก�ำลังพยายามหากิจกรรมท�ำให้สมอง โล่งๆ แบบไม่ต้องคิดอะไรเลย และไม่ท�ำให้ตัวเองเครียดอยู่ มีคนแนะน�ำ มาว่าโยคะน่าจะช่วยได้ คงต้องลองดูสักครั้งแล้ว” ปกติเวลาอยู่กันครบ 4 คนคุยแต่เรื่องเพลงหรือเปล่า

นากาจิน “ไม่เลยครับ เราคุยกันหลายเรื่องมาก อย่างช่วงที่มา ประเทศไทยก็จะเป็นเรื่องอาหารครับ เพราะเราโดนดีเจ เลิฟ สะกดจิต ตั้งแต่ก่อนมาถึงแล้วว่าต้องมากินข้าวซอยให้ได้ พูดแบบนี้เป็นร้อยครั้ง ได้แล้วมั้งครับ จนพอเราได้มากินข้าวซอยจริงๆ ก็รู้สึกว่าอาหารจาน ยิ่งใหญ่ระดับต�ำนานมาก จากการโดนดีเจ เลิฟ บิวต์อยู่ทุกวัน” ถือเป็นอาหารจานโปรดเลยไหมครับ

ดีเจ เลิฟ “แค่ช่วงนี้ครับ เพราะความชอบของผมจะเปลี่ยนไป เรือ่ ยๆ อย่างเมือ่ ก่อนถ้าเป็นอาหารไทยผมจะชอบแกงเขียวหวาน ตอนนี้ ก็เปลีย่ นมาเป็นข้าวซอย แต่ลา่ สุดก�ำลังติดใจรสชาติของมัสมัน่ แล้วครับ”

อยากรู้ว่ากว่าจะเป็นวงดังในญี่ปุ่น Sekai no Owari ต้องผ่านอะไรมาบ้าง

ฟุกาเซะ “ก็ยงั ไม่ดงั มากเท่าไหร่หรอกครับ (หัวเราะ) เรายังอยากดัง มากกว่านี้อีก” นากาจิน “เราผ่านเรื่องราวกันมาเยอะครับกว่าจะมาถึงจุดนี้ และ ปัญหาต่างๆ ก็ทำ� ให้เราทัง้ 4 คนสนิทกันมาก เพราะในส่วนของวงเราก็คยุ กันตลอด ผมคิดว่ายิ่งเราคุยกัน แลกเปลี่ยนกัน ก็จะยิ่งเข้าใจกันมากขึ้น ส่วนในพาร์ตของวงการก็ใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองอยู่พอสมควรเลย เห็นได้ จากวงดนตรีที่เริ่มตั้งมาพร้อมๆ กัน เล่นในไลฟ์เฮาส์เดียวกันหลายๆ วง ตอนนี้ก็เหลือแค่วงเราวงเดียวแล้ว” ฟุกาเซะ “การท�ำเพลงให้ไปต่อได้ในญี่ปุ่น จริงๆ ก็อาจจะรวมถึง ทั่วโลกเลยก็ได้นะ ทางที่ดีที่สุดคือต้องเข้าถึงคนได้ทุกเพศทุกวัย และ ยังต้องรักษาเอกลักษณ์ของตัวเองเอาไว้ด้วย ซึ่งเป็นเรื่องยากมาก แต่ เราก็ต้องพยายามท�ำต่อไป”


HAM CAMERA ROLL เรื่อง: ยุรี เกนสาคู

GARUDA OFFERS CONDOLENCES ครุฑอาลัย

ไทยเราได้รับเอาแนวคิดของลัทธิเทวราชจากอินเดีย ที่ถือว่าพระมหากษัตริย์คืออวตาร ของพระนารายณ์ ดังนั้นครุฑซึ่งเป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์มากและเป็นพาหนะของพระนารายณ์ จึงเป็น สัญลักษณ์แทนพระมหากษัตริย์ ดังที่ปรากฏอยู่ในดวงตรา หรือพระราชลัญจกรประจ�ำพระองค์ ประจ�ำแผ่นดิน ประจ�ำราชวงศ์ และประจ�ำรัชกาล ด้วยเหตุผลนี้ ยุรีจึงเลือกวาด ‘พญาแห่งนก’ ทีม่ คี วามใกล้ชดิ กับสถาบันพระมหากษัตริยข์ องเรามาโดยตลอด โดยวาดเป็นครุฑทีม่ ปี กี สีทองค�ำ ก�ำลังท�ำความเคารพและถวายความอาลัยพระองค์ท่าน ตลอดช่วงชีวติ ทีผ่ า่ นมาของการเป็นศิลปินอิสระ การสร้างผลงานส่วนใหญ่จะไม่คอ่ ยมีโจทย์ ให้ท�ำตาม ส่วนมากเป็นงานที่เกิดจากเราเอง ตัวเราก�ำหนดคอนเซ็ปต์ วางเรื่องราว ไปตามใจ ของเรา มีบา้ งทีไ่ ด้รบั โจทย์ให้ทำ� ตาม แต่สว่ นใหญ่กม็ าจากสไตล์ของเรา ผ่านการตกผลึกในจิตใจ ผ่านสายตาในการมองสิ่งต่างๆ รอบตัว แต่ละครั้งที่มีการจัดนิทรรศการของเราเอง แต่ละภาพ ล้วนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับเรา เพียงแต่ว่าใกล้ตัวหรือไกลตัวมากกว่า แต่เอกลักษณ์ในงานของ ‘ยุรี’ อย่างหนึ่ง คือเรื่องของคาแร็กเตอร์และสีสันที่วาดออกมา เล่าเรื่องนั้น จะเป็นภาพน่ารัก และสีสันสดใส ช่วยลดทอนความเศร้า ความหม่นหมองได้เป็น อย่างดี เลยท�ำให้ถ้ามองงานของเราอย่างผิวเผินจึงดูเหมือนเป็นผลงานของโลกสดใสน่ารัก แต่ ถ้ามองอีกครั้งอย่างละเอียดจะพบว่ามีเรื่องเศร้าซ่อนอยู่ในสีสันลูกกวาดเต็มไปหมด ซึ่งน่าจะ เป็นสิ่งที่ไม่แตกต่างกันเท่าไรกับศิลปินคนอื่น ที่มักจะใส่ตัวตนของตัวเองลงไปในผลงาน เราเป็น คนหนึ่งที่มองเรื่องทั่วไปแบบข้ามสเต็ปอยู่แล้ว เป็นสเต็ปที่มองแบบเศร้า มองโลกตามความ เป็นจริงว่า มันห้อมล้อมด้วยความโหดร้าย มีความเจ็บปวดมากมาย ในทางกลับกันเรายังเป็น คนหนึ่งที่ชอบความสวยงาม ชอบอะไรน่ารักๆ จึงท�ำให้ 2 สิ่งนี้บรรจบกัน ระหว่างความเศร้า กับ คาแร็กเตอร์และสีสนั สดใส รวมทัง้ วัสดุทนี่ ำ� มาประกอบสร้าง เช่น กลิตเตอร์ หรือวัสดุตา่ งๆ ก็ชว่ ย ท�ำให้ภาพซอฟต์ลง ความโกรธเกรี้ยวดุดันเบาบางลง เช่นเดียวกับงาน ‘ครุฑอาลัย’ นี้ เป็นภาพวาดก�ำแพงหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) ซึง่ เป็นการรวมตัวเฉพาะกิจของศิลปินอิสระทีม่ าสร้างผลงานกราฟฟิตที้ งั้ 5 ภาพ บนผนัง ของอาคารฝัง่ สีแ่ ยกปทุมวัน แสดงท่าทางถวายความอาลัยแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยคาแร็กเตอร์ ที่แตกต่างกันไปของศิลปินแต่ละคน เมื่อได้รับเลือกเป็นหนึ่งในศิลปิน (หญิงคนเดียว) ที่ได้มา สร้างสรรค์ผลงานนี้ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก เป็นอีกครั้งที่การตีโจทย์ไม่ง่ายเลย แต่ก็เป็นครั้งที่ ยิ่งใหญ่และส�ำคัญที่สุดในชีวิตของเรา เราใช้เวลาร่วม 2 สัปดาห์เพื่อเลือกคาแร็กเตอร์ส�ำหรับ งานนี้ มีตวั เลือกมากมาย มาสรุปที่ ‘ครุฑ’ อมนุษย์กงึ่ สัตว์กงึ่ เทพตามความเชือ่ ของศาสนาพราหมณ์ ทีม่ คี วามใกล้ชดิ กับสถาบันกษัตริยข์ องเราทีส่ ดุ แล้ว จากนัน้ เราก็ศกึ ษาต่อ เพือ่ เลือกว่าครุฑของเรา

ควรจะมีสีอย่างไร เพราะยิ่งอ่านก็ยิ่งพบว่าจริงๆ แล้วครุฑมีหลากหลายมาก กระทั่งเราได้ครุฑ สีเงินและปีกสีทอง ที่ท�ำให้มีคุณค่าสูงยิ่งขึ้นอีก ในมือของ ‘ครุฑ’ มีดอกไม้ อันเป็นการแสดงออกถึงความไว้อาลัย ตัวแทนของพวกเรา ทุกคน เราว่าความรูส้ กึ ของคนไทยก็คงไม่แตกต่างกัน นีค่ อื การสูญเสียครัง้ ยิง่ ใหญ่ แม้วา่ เรือ่ งของ ความตายจะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครหนีได้ แต่ที่ผ่านมาเรามองพระองค์เสมือนสมมติเทพ ความรู้สึก คือเราจะยังได้อยู่ในแผ่นดินของท่านตราบนานเท่านาน แต่แล้วความสูญเสียก็มาถึงอย่าง หลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวเราเองรู้สึกสะเทือนใจและเศร้ามากเช่นเดียวกับคนไทยทุกคน เรียกได้ว่างานนี้ต้องอาศัยอะไรหลายๆ อย่างร่วมกัน นับตั้งแต่คอนเซ็ปต์ คาแร็กเตอร์ ท่าทาง สีสนั และทีมเวิรก์ เพราะงานขนาดใหญ่สงู เท่าตึกหลายชัน้ ไม่ใช่เรือ่ งง่าย เราต้องขึน้ บันได รถดับเพลิง ทัง้ สูง ทัง้ ต้องคอยสือ่ สารกับคนขับรถให้เลือ่ นเราไปตามต�ำแหน่งทีต่ อ้ งการ ทีมของเรา มีกัน 3 คน สลับมือกันตั้งแต่เที่ยงวันจนเที่ยงคืนดึกดื่น ฝ่าแดด ฝ่าลม ฝ่าฝน และสู้ความสูงไป ด้วยกัน เป็นเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ที่พวกเราท�ำงานนี้ไปด้วยกันอย่างตั้งใจ แม้จะเหนื่อยล้า แต่ สิ่งที่ได้มากกว่าประสบการณ์ชีวิตคือ ความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในงานชุดนี้

ยุรี เกนสาคู ศิลปิน

ท่ามกลางกลุ่มศิลปิน และนักวาดภาพ ประกอบในเมืองไทย ‘YUREE’ หรือ ยุรี คือ ศิลปินหญิงที่มีผลงานโดดเด่นด้วย เรื่องราวเข้มข้น สีสัน และคาแร็กเตอร์ ที่จัดจ้านสะท้อนในผลงานของเธออยู่เสมอ HAMBURGER ฉบับนี้พาทุกคนไปชม ผลงาน ‘ครุฑอาลัย’ ภาพเขียนขนาดใหญ่ บนก�ำแพงหอศิลปวัฒนธรรมแห่ง กรุงเทพมหานคร ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นการ ถวายความอาลัยแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ศิลปินทุกคนสร้างสรรค์อย่างตั้งใจ แม้ว่าภายในใจจะเต็มไปด้วย ความโศกเศร้าแค่ไหนก็ตาม


HAM FLASH!

CAN ITT

คานิทต้อนรับลมหนาวกับคอลเล็กชั่นรีไวดริ่ง (Rewildling) ด้วยดีไซน์โก้หรูเหนือกาลเวลา แรงบันดาลใจจากศิลปินดังแห่งสองยุค อันโตนิโอ คอร์ราดีนี และแคส เบิร์ด พบกับ คอลเล็กชัน่ ใหม่พร้อมกันได้แล้ววันนีท้ ร่ี า้ นคานิท ศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น 1, ศูนย์การค้า เซ็นทรัลชิดลม โซนไทยไทย ชั้น 2 และโชว์รูม คานิท พาร์คเลน เอกมัย ชั้น 2

จันทร์ Shock โลก Party ครางชื่อโอ๊ตอาร์ต

เสียงตอบรับดีเกินคาด สำ�หรับช่วง ‘จันทร์ Shock โลก The Return’ ทางคลื่นอีเอฟเอ็ม 104.5 ต่อยอดรายการบนหน้าปัดวิทยุ ที่ประสบความสำ�เร็จ มียอดผู้ชมขณะ ออกอากาศสดผ่านช่องทางออนไลน์สงู ถึง 3 หมืน่ คน สูง่ านมีตติง้ อย่าง จันทร์ Shock โลก Party ครางชือ่ โอ๊ตอาร์ต กับคูห่ ู ดีเจ โอ๊ตปราโมทย์ ปาทาน และดีเจ อาร์ต-มารุต ชื่นชมบูรณ์ ติดตามกันได้ที่คลื่นอีเอฟเอ็ม 104.5 ทุกช่วงดีเจ หรือ www.efm.fm

MAMON DE

มามอนด์ จัดงาน “Light as petals, yet flawless coverage” ต่อยอดความสำ�เร็จ และความเป็นผูน้ �ำ ในการพัฒนาคุชชัน่ พร้อม เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Mamonde Brightening Cover Cushion โดยมีแขกรับเชิญอย่าง แพรว-จรัสพิมพ์ อิทธิธนากร มาร่วมสาธิต การแต่งหน้าสไตล์เกาหลี เพื่อผิวสวย สมบูรณ์แบบและเปล่งประกายเจิดจรัส

BONCHON CH ICK CHALLENGE 2017

บอนชอน ชิคเก้น เอาใจสาวกชิคเก้น เลิฟเวอร์ จัดงานเปิดตัวแคมเปญใหญ่ประจำ�ปีอย่าง เป็นทางการ กับ “บอนชอน ชิค แชลเลนจ์ 2017” (BonChon Chick Challenge 2017) ช็อตนี้...ต้องมีชิค! นำ�ทีมโดยพิมฐา-ฐานิดา มานะเลิศเรืองกุล และครูลูกกอล์ฟ-คณาธิป สุนทรรักษ์ มาร่วมสร้างสีสัน ติดตาม รายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง http://www. bonchonthailand.com

ITEM Appl e Wa t c h He rm e s Se ri e s 3 คอลเล็กชั่น แอปเปิ้ล วอตช์ แอร์เมส ซีรีส์ 3 เปิดตัวใหม่ครั้งแรก พร้อมอวดโฉม มาในสไตล์สุดโดดเด่นจากแอร์เมส ตัดเย็บด้วยหนังลูกวัว Gala ซึ่งได้รับ แรงบันดาลใจจากถุงมือขับรถสุดคลาสสิก ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://applewatchhermes.hermes.com


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.