การเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล สรรค์สร้างความสุนทรีย์
ART & MUSIC
What’s happen?
สายใยรักแห่งการดนตรี เทิดไท้พระบารมีคีตราชันต์ เวลาอัันเป็นนิรันดร์ Edinburgh Festival Fringe 2014 เมื่อหนังผีทำ�ลายศิลปะไทย คืนพิเศษ กับ เพลงพิเศษ Rainroom ลมพายุ ดวงตะวัน Hope Way สาระภาพ When you feel Upsyndome Make Up Art Latte’ Instagram
“
After a storm Everything is comes calm. good in itsa season.
ทุกหลั สิ่งย่งอพายุ มเหมาะสม ร้าย ตามฤดู ก็จะมีกาลของมั ลมสงบน
”
CONTENT
19
57
20
09
11
SUMMER 08 สาระภาพ 09 รอยสัก ศิลปะที่จะอยูก่ บั คุณตลอดชีวิต
11
สีสนั ม็อบ รักชาติ
13 B-boy hot boy 17 ศิลปะจากไฟ 18
วิญญาณ อาถรรพ์ นาฏศิลป์ไทย
19 20
Hope well งานศิลปะทุจริ ต
ชิงช้ าสวรรค์ สงครามเพลงลูกทุง่ ชัยชนะนี ้เพื่อใคร
25
ความรู้สกึ กับฤดูร้อน
31
คนบนฟ้า
43
53
45
77
81
WINTER
RAINNY
40 สาระภาพ 41 เมื่อหนังผีท�ำลายศิลปะไทย 43 เลือดขัตติยา 45 ผ่านร้ อน ผ่านฝน กว่าจะเป็ นช่างภาพ 49 Street art 49 Rain room ศิลปะกลางสายฝน 51 4 dinner Bar & restaurant 53 When you feel Up sydome 57 ความรู้สกึ กับฤดูฝน 63 มรสุม
72 Edinburgh festival 73 5 อันดับเพลงรักแห่งเหมันต์ฤดู 75 Latte art จิบกาแฟดื่มมงาน ศิลปะ 77 Make up 81 Silverlake Music festivel 82 สาระภาพ 83 คืนพิเศษ เพลงพิเศษ
85 เทิดไท้ ราชันต์อคั รศิลปิ น ... ครองศาสตร์ ครองศิลป์การดนตรี 89 ความรู้สกึ กับฤดูหนาว 92 เวลาอันเป็ นนิรันดร์
SUMMER
PROFILE ชื่อ-สกุล สินีนาถ เดี่ยวตระกูล ชื่อเล่น แตงโม อายุ 21 ปี การศึกษา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ผลงานเด่น เดินแบบแฟชั่นโชว์ งานเปิดตัวห้างสรรพสินค้าซิตี้ริช เดินแบบแฟชั่นโชว์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ถ่ายแบบทั่วไป ความสามารถพิเศษ เต้น , ร�ำไทย แนวเพลง / เพลง ที่ชอบ ฟังได้ทุกแนว ไม่ชอบแนวไหนเป็นพิเศษ แนวศิลปะที่ชอบ รูปวาด ชอบวาดรูปตั้งแต่เด็กเลย นิยามฤดูร้อน ฤดูร้อน คือฤดูที่มีพลัง ทุกอย่างสดใส ร้อนแรง มีชีวิตชีวา นึกถึงทะเล บิกินี่ โดยส่วนตัวหลงเสน่ห์ฤดูนี้ รอให้มาถึงเร็วๆ
เรื่อง/ภาพ นราธิป คุมพล
สาระภาพ
สาร ะ ภาพ “
ความวุ่นวาย ความยุ่งเหยิง ของสภาพสังคม ที่ทุกคนต่างเร่ง รีบ ไปท�ำหน้าที่ของตนเอง ”
การเป็นคนเมือง ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงของเรา มันช่างเป็นเรื่องที่น่าเหนื่อยใจ ทุกเช้าตื่นมา ก็ต้องมีภาระเร่งรีบออก จากบ้านไปเบียดเสียด กับผู้คนบนรถไฟฟ้า รถเมล์ รถโดยสารต่างๆ นานา หรือรถส่วนตัว ก็ต้องไปเบียดเสียดกันบนท้องถนน ฟังเสียงแตร เสียงเครื่องยนต์อันน่าปวดหัว ความวุ่นวาย ความยุ่งเหยิงของสภาพ สังคม ที่ทุกคนต่างเร่งรีบ ไปท�ำหน้าที่ของตนเอง ต้องทนเหม็นกลิ่น ควันรถท่อไอเสีย กลิ่นตัวคนรอบข้าง ผู้คนเย็นชา ต่างก้มหน้าก้มตา มองกรอบสี่เหลี่ยมของตัวเอง บางคนยืนคู่กัน แต่ก็รับรู้ได้ถึงการไม่มี ตัวตน นี่คือเรื่องจริงของชีวิตคนเมือง อยากหยุดพักอยากออกไปเจอ ความเงียบสงบ อยากตื่นมาพร้อมกับทุ่งสีเขียวของ ต้นข้าวต้นหญ้า กลิ่นไอดินยามเช้า ชีวิตปกติที่ไม่ต้องรีบร้อนแข่งขันกับเวลา แต่ก็ทำ� ไม่ได้ เพราะชินกับชีวิตแบบนี้ไปเสียแล้ว
8
เล่นกับไฟ
เรื่อง : อัญญรัตน์ คหัฏฐา
ในสมัยก่อน การสักไม่ได้ถูกยอมรับ และไม่ได้รับความนิยมเช่นในปัจจุบัน แต่มักจะ ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายที่บ่ง บอกถึงฐานะของเจ้าของรอยสักนั้นๆ โดยแต่ละที่ก็จะมีความหมายแตกต่างกันออกไป การสักมีจุดเริ่มต้นมาจากกรีก โดยใช้การสัก ในการท�ำสัญลักษณ์บนใบหน้าของทาส รวมทั้ง อาชญากร ต่อมาในยุโรปได้ระบุว่าการสักบนใบหน้า เป็นการลบหลู่ต่อพระผู้เป็นเจ้า ส่วนในประเทศไทย การสักได้ถูกน�ำมาใช้ในการขึ้นทะเบียนเป็นไพร่หลวง การสักบริเวณหน้าผากและท้องแขน คือการสักของ นักโทษที่ถูกจ�ำคุก ซึ่งต่อมาได้ถูกยกเลิกไป ในญี่ป่น การสักเรียกว่า Irezmi ซึ่งมีความ หมายว่าการเติมหมึก และจะใช้ในการแบ่งแยก ชนชั้น รวมทั้งเริ่มมีการสักแบบ Horibari ที่มักจะสัก ลวดลายต่างๆทั่วร่างกาย เช่น เทพเจ้า นิทานพื้นบ้าน ศิลปินผู้มีชื่อเสียง ปัจจุบันการสักพัฒนาไปมาก เครื่องมือที่ เป็นที่นิยมที่สุด คือเข็มที่ใช้มอเตอร์ในการท�ำให้ขยับ แทงในผิวหนังลึกระหว่าง 0.6-22 มิลลิเมตร เมื่อแทงลงไปหมึกจะแพร่กระจายไปสู่เนื้อเยื่อ ดูดซึมเก็บสะสมไว้ โอกาสที่จะเปิดปฏิกิริยาที่เป็น เชิงลบจากหมึกที่ใช้สักมีน้อยมาก โดยปกติแล้ว สิ่งแปลกปลอม จะถูกขจัดจากร่างกายโดยใช้กลไก ป้องกันตามธรรมชาติ แต่อนุภาคของหมึกนั้นใหญ่ เกินกว่าที่จะถูกขจัดออกไปด้วยกลไกนี้ได้ ขณะเดียวกันการสัก อาจจะก่อให้เกิดอันตรายจาก การติดเชื้อโรคชนิดต่างๆ เช่น impetigo, staph infection และ cellulitis ตลอดจนปฏิกิริยาจากสี ซึ่งปัจจุบันสารที่นิยมใช้เป็นสีโลหะหนัก เช่น สารปรอท แร่เหล็ก แร่โคบอลด์ สารเหล่านี้ท�ำให้เกิด ปัญหาบางอย่าง โดยเฉพาะสารสีแดง (cinnabar) ของโลหะจะพบได้บ่อยที่สุด
9
“ รอยสัก ” ศิลปะที่อยู่กับ
การสักเป็นศิลปะที่มีความสวยงาม แต่ความ ผู้ที่สนใจและหลงไหลในการสักตัดสินใจได้ง่ายขึ้น สวยงามเหล่านั้น ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด 1. รอยสักจะอยู่กับเราไปตลอด อีกทั้งรอยสักยังอยู่กับเราไปตลอดชีวิต หากใคร ลวดลายลง ก ารสั ก แต่ ต ิ ว อนในชี น น่ แ ่ ใครๆ ก็รู้ว่าไม่มีอะไรที ชื่นชอบหรือต้องการสักส่วนต่างๆ บนร่างกายตนเอง บนผิวหนังจะเป็นเพียงสิ่งเดียวที่จะติดอยู่บนตัวคุณไปตลอด ถ้าคุณไม่ ควรศึกษาเป็นอย่างดี คิดให้รอบคอบก่อนจะสัก และ เปลี่ยนใจไปลบรอยสักออกเสียก่อน ควรท�ำในช่วงเวลาที่เหมาะสม หากรอยสักเกิดขึ้นจาก 2. ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นจากความสูญเสียการควบคุมตัวเอง ความคึกคะนองของช่วงชีวิตวัยรุ่น เราอาจจะต้องมา หลายคนตัดสินใจสักในช่วงที่ตัวเองพยายามลดน�้ำหนัก นั่งเสียใจในภายหลังก็เป็นได้ แต่ไม่ส�ำเร็จ หรือในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ เพราะอาการป่วย หรือ ข้อแนะน�ำดีๆ 6 ข้อ เกี่ยวกับการสัก อาจจะช่วยให้
อกหัก เพราะการอยู่ในช่วงเวลาหดหู่ของชีวิตตอนนั้น มันท�ำให้รู้สึก ว่าเราไม่สามารถควบคุมอะไรได้สักอย่าง แต่การสักจะช่วยให้เราได้ ตระหนักว่า สิ่งที่เราสามารถควบคุมได้ ก็คือร่างกายของเรา
3. บอกความเป็นตัวคุณได้อย่างชัดเจน
ไม่ว่าจะเป็นสไตล์การแต่งตัว เสื้อผ้าหน้าผม หรือแนวเพลง ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่แสดงตัวตนของคุณได้ทั้งนั้น รอยสักเองก็เช่นกัน แต่รอยสักจะได้เปรียบตรงที่สามารถบอกความเป็นตัวคุณได้ชัดเจน และสามารถสังเกตเห็นได้ง่าย
4. ลายสักบ่งบอกความรู้สึก และอารมณ์ผ่านศิลปะ
รูปภาพ หรือค�ำสั้นๆ สื่อความหมายได้มากมาย หรือบางที อาจจะดีกว่าค�ำพูดเป็นไหนๆ ดังนั้นรอยสักรูปภาพ หรือข้อความ ต่างๆ ที่คุณเลือกก็สามารถแสดงออกถึงตัวตน ความรู้สึก และอารมณ์ลึกๆ ที่อยู่ในจิตใจได้ ไม่ว่าจะโกรธ เศร้า เราก็สามารถ ระบายมันออกมาได้ผ่านทางการสัก
5. เท่ห์ และเจ๋งสุดๆ
ไม่กี่คนที่จะใจกล้าสักลวดลายต่างๆ ลงบนร่างกาย ส่วนมาก ถ้าอยากเท่ห์ ก็เพ้นท์ หรืออาจจะติดแทตทูเหมือนเด็ก ๆ ฉะนั้นถ้า คุณเป็นคนที่กล้าแตกต่าง และใจเด็ดพอที่จะสัก คุณก็จะดูเป็นคนรัก อิสระ มีมุมมองในชีวิตที่กว้างขวาง เจ๋งสุดๆ ไปเลย
6. สร้างลุคแฟชั่นนิสต้าตัวแม่
ส�ำหรับคุณผู้หญิงที่สัก มักจะโดนมองว่าเป็นแฟชั่นนิสต้า ตัวแม่ มีอิสระทางความคิด ที่ไม่ได้คิดว่าเรื่องแฟชั่นเป็นแค่เรื่อง เสื้อผ้า รองเท้า ทรงผมหรือการแต่งหน้า แต่คุณมองลึกลงไปถึงศิลปะ กราฟิก ที่สามารถอยู่บนตัวเราได้
เราไปจนวันตาย
photo credit http://www.genie-records.com
On The Floor เรื่อง: อัญญรัตน์ คหัฏฐา ภาพ นราธิป คุมพล
y Boy BB Bo
Boyy T Bo HOT HO แม็ค สิริณัฐ
y
Seasons Change ฉบับนี้ เราจะพาทุกคนมารู้จักกับการเต้นแบบฮอตๆ ที่เรียกว่า B-Boy เราไปท�ำความรู้จักกับการเต้น B-Boy กันดีกว่า…
ค�ำว่า B-Boy มาจาก ค�ำว่า Boioing หมายความว่า กระโดด,โลดเต้น และถูกใช้เรียกรูปแบบการเต้น Breaking ตัว B ในค�ำว่า B-girl หรือ B-Boy นั้นย่อมาจาก Break-Girl หรือ Break-Boy และยังเป็นที่รู้จักในชื่อ Breaking หรือ Break Dance Breaking นั้นเป็นที่ รู้จักกันในชื่อ Rocking มาก่อน เป็นการเต้นที่ ได้รับอิทธิพล จากการเต้นหลากหลายรูปแบบ ทั้งท่วงท่าจากกีฬา ยิมนาสติก รวมถึงจากศิลปะการเคลื่อนไหวของโลกตะวันออก อีกด้วย เป็นที่คาดคิดกันว่า Breaking หรือ Break Dance อาจจะ มาจากค�ำว่า เบรค (Break) เป็นช่วงของจังหวะดนตรีที่ดุดัน และ เร้าใจ ในช่วงจังหวะนี้เหล่านักเต้น จะแสดงอารมณ์ด้วยท่าเต้นที่ ดึงดูดสายตาที่สุดเลยทีเดียวเรียกว่า มีอะไรก็เอามาโชว์ให้หมด การเต้น Rocking หรือ Breaking นั้นก็เริ่มจะแทรกซึมเข้ามาสู่ วัฒนธรรมฮิปฮอป “ปะทะกันด้วยความสร้างสรรค์ไม่ใช่ด้วอาวุธ” และเริ่มมีการพัฒนาท่าเต้นที่เริ่มหลากหลายขึ้น ทั้งการย�ำ่ เท้า การสับขา การลากเท้า ท่วงท่าที่จะใช้ปะทะกัน ส่วนท่าจบของ การเต้น B-Boy จะเรียกว่าท่า Freezes ซึ่งมักจะใช้เป็นท่าล้อเลียน หรือท้าทายฝ่ายตรงข้าม หรือคู่ต่อสู้ ท่าจบจะเป็นท่าพื้นฐานของ หลายๆ ท่า เพราะว่าต้องใช้ความสามารถพอตัว คือ การใช้มือ แขน ข้อศอกในการพยุงตัวในขณะที่เคลื่อนไหวขา และสะโพก ซึ่งกลุ่มนักเต้นนั้นเข้ามารวมตัวกัน ช่วยกันฝึกฝน คิดค้นท่าใหม่ๆ เพื่อเอาชนะกลุ่มอื่นๆ กลุ่มB-Boy ที่เป็นที่รู้จักในช่วงแรกๆ คือ กลุ่ม Nigga Twins และกลุ่มอื่นๆอย่างเช่น TheZulu Kings, The Seven Deadly Sinners เรียกได้ว่าพวกเขาเป็น ผู้บุกเบิกวงการนักเต้น B-Boyยุคแรกๆ ช่วงที่การเต้นแบบนี้เริ่มพัฒนาจนมีเอกลักษณ์ น่าสนใจและสร้างนักเต้นที่เป็นที่รู้จักนั้นก็คือช่วงกลางยุคปี 70 ก็ได้ แก่นักเต้นอย่าง Beaver, Robbie Rob(Zulu Kings), Vinnie, Off (Salsoul)
ถ้าพูดถึงการเต้น B-Boy หลายคนคงนึกถึงท่า Spins หรือท่าหมุน แต่ในขณะนั้น เบรคกิ้ง หรือ เบรคแด๊นซ์ ยังมีแค่ท่า Freezes Footworks and Toprocks แต่ช่วงปลายยุค 70 กลุ่มB-Boyรุ่นใหม่ๆ ก็เริ่มเข้ามา คิดค้นสร้างสรรค์ท่า รูปแบบการเต้นใหม่ๆ ขึ้น เช่น การหมุนทุกๆส่วนของร่างกาย ซึ่งเป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน หลังจากได้ทราบถึงความเป็นมาของการเต้น B-Boy แล้ว เราจะพาไปรู้จักกับนักเต้น B-Boy รูปหล่อ สุดฮอต มากด้วยความ สามารถ “สิริณัฐ มานะวะ” หรือ แม็ค หนุ่มฮ๊อตจากกลุ่มB-Boy แห่งเมืองฉะเชิงเทรา ที่มีชื่อว่า “CarrefourCorner” ไปท�ำ ความรู้จักกับเค้าเลยค่ะ Q : แนะน�ำตัวเอง Mac : สิริณัฐ มานะวะ ครับ. ชื่อเล่น ชื่อแม็ค เรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 คณะพลศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒครับ Q : มารู้จักการเต้น B-Boy ได้ยังไง? Max : เห็นคลิปวีดิโอจากในอินเทอร์เน็ตครับ Q : ช่วยบอกค�ำจ�ำกัดความของ B-Boy ในความคิดของคุณ Max : “คนเหนือมนุษย์” ครับ Q : ใครคือไอดอลในวงการ B-Boy ของคุณ? Max : ชอบ Bboy physic กับ rivers crew ครับ Q : B-Boy ให้อะไรกับคุณบ้าง? Max : ให้การมีสุขภาพที่ดี ท�ำให้เรามีความอดทนไม่ย่อท้อ ได้เพื่อน ใหม่ที่มีอุดมคติเดียวกันจากที่ต่างๆ การมีความเคารพซึ่งกันและกัน การเข้าสังคม รู้จักมีนำ�้ ใจนักกีฬา แล้วก็สร้างความสามัคคีครับ Q : ท่า B-Boy ที่คุณคิดว่าเจ๋งสุดๆแล้ว? Max : ท่า Airflare หรือ Airtrack เพราะว่า ในสมัยก่อนในวงการ B-Boy นั้นถือว่าเป็นท่าที่ยากพอสมควร ต้องใช้พลังแขนค่อนข้าง เยอะครับ
14
Q : ท่า B-Boy ที่คุณคิดว่าเจ๋งสุดๆแล้ว? Max : ท่า Airflare หรือ Airtrack เพราะว่า ในสมัยก่อนใน วงการถือว่าเป็นท่าที่ยากพอสมควร ต้องใช้พลังแขนค่อนข้างเยอะครับ Q : ในหนึ่งสัปดาห์ คุณใช้เวลากับการเต้น B-Boy มากแค่ไหน? Max : เฉลี่ย สัปดาห์ละประมาณ 16-18 ชั่วโมงครับ
Q : ถ้าให้การเต้นB-Boy เป็นอวัยวะ B-boy เปรียบเหมือนกับอวัยวะส่วนไหนในร่างกายของคุณ? Max : ทุกส่วนเลยครับ เพราะ B-Boy ต้องใช้ทุกส่วนในร่างกายจริงเปรียบเหมือนตัวเรานั่นแหละ Q : คิดว่าตัวเองจะเต้น B-Boy จนถึงเมื่อไหร่? Max : ก็จะเต้นจนกว่าจะเต้นไม่ไหวอ่ะครับ (หัวเราะ)
Q : เต้นท่าไหนแล้วเซ็กซี่บาดใจสาวๆ จนสามารถเรียกเสียงกรี๊ดได้? Max : ก็ ยังไงดีละ ส่วนมากคนดูจะกรี๊ดท่าที่จำ� พวก power move เช่น headspins (หมุนหัว) อะไรที่หมุน ๆออกเป็นท่ากายกรรม อ่าครับ มันดูอลังการ Q : อะไรคือเสน่ห์แห่งการเต้นB-Boyที่ทำ� ให้คุณติดใจ? Max : B-boy คือการเต้นที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นท่วงท่าที่สวยงาม การฟังเพลงขณะเต้นที่ ต้องให้เข้ากับจังหวะเพลง ท่าแต่ละท่ามันมีความยากในระดับหนึ่ง การที่เราสามารถ ท�ำท่าหนึ่งได้ ก็จะอยากที่จะท�ำท่าที่มันยากขึ้นๆ ไปอีก การเต้น B-Boy เหมือนเป็น การปลดปล่อยไปตามสไตล์ปล่อยความรู้สึกของตัวเองออกมาโดยการเต้น ไม่มีกฎตายตัว แค่สนุกเมื่อได้ทำ� มัน
Q : อยากบอกอะไรกับคนที่ไม่รู้จักการเต้น b-boy (ให้คนรู้จักมากขึ้น)? Max : B-Boy คือ ศิลปะอย่างหนึ่ง ที่เป็นกิจกรรม ทางการเต้น ตอนนี้ประเทศไทย บ้านเราก็ก�ำลัง เป็นที่นิยมในหมู่ของวัยรุ่นยุคใหม่ เริ่มมีการจัดการ แข่งขัน ตามสถานที่ต่างๆ อาจเป็นการ เต้นที่ดูว่า อันตรายในบางท่า แต่ถ้าได้มาฝึกฝนกับผู้ที่มีความรู้ ความช�ำนาญ ได้รับค�ำชี้แนะ ฝึกฝน อย่างถูกวิธี ก็จะไม่อันตรายเลยจริงๆ เป็นการ ต้นที่มีเสน่ห์ในตัว มันเอง ต้องมาลองฝึกหัดเต้นกันดู คุณจะรู้ว่ามันสนุก แค่ไหน
13 15
Q : คิดว่าการเต้น B-Boy กับฤดูร้อนเหมือนกันตรงไหน? Max : การเต้น B-Boy กับ ฤดูร้อน เหมือนกันตรงที่ตอนเรา เต้นออกท่าทางนั้น ก็เหมือนกับดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงเจิดจ้า แผ่ความร้อน แสดงความ hot ในตัวเอง ให้รู้ว่าตัวเองนั้นมี เอกลักษณ์ของตัวเองยังไง ให้ฝั่งตรงข้ามหรือคนดูได้เห็น เปรียบเสมือนให้รู้ว่าต้นก�ำเนิดแสงแดด ความร้อน ท�ำให้เป็นฤดูร้อนบนโลก มาจากดวงอาทิตย์ Q : อุบัติเหตุที่เคยได้รับจากการเต้นB-Boy? Max : มากสุดๆ ก็เคล็ดขัดยอก นิ้วซ้น เป็นแผลถลอกบ้างเล็ก น้อยเป็นธรรมดา
หลังจากที่ได้รู้จักกับหนุ่มฮ็อตคนนี้ คงจะมีหลายๆ คน ที่สนใจการเต้น B-Boy มากขึ้น หากสนใจก็ลองศึกษาวิธีการ เต้นต่างๆ หรือไม่ก็ลองพูดคุยกับคนที่อยู่ในวงการ B-Boy อาจจะช่วยให้คุณได้ท�ำตามความฝันของตัวเอง แต่อย่าลืมว่า B-Boy เป็นการเต้นที่ต้องใช้เวลาในการฝึกฝนให้เกิดความ ช�ำนาญ เพื่อเป็นการลดการบาดเจ็บ หรือให้เกิดการบาดเจ็บ น้อยที่สุด ยังไงวัยรุ่นทั้งหลายก็อย่าไปลองทั้งที่ยังไม่มีความ ช�ำนาญนะคะ เดี๋ยวบาดเจ็บแล้วจะหาว่า Seasons Change ไม่เตือนนะ
Q : เป้าหมายในการเต้นB-Boyของคุณคืออะไร? Max : เต้นเพื่อให้รู้ว่าเราชอบการที่จะใช้ชีวิตในแบบ B-Boy การพบปะผู้คน การได้ไปท่องเที่ยวในต่างที่ การได้มิตรภาพจาก พวกพ้อง ได้ซ้อมได้ฝึกฝนตนเอง แล้วก็ทำ� มันให้ถึงที่สุดครับ
14 16
เล่นกับไฟ
ศิลปะจากไฟ
เรื่อง : อัญญรัตน์ คหัฏฐา
ไม้ขีดไฟ อุปกรณ์ที่ทุกครัวเรือน ต้องมีติดไว้เพื่อใช้ให้ความร้อน และให้ แสงสว่าง แต่มีบุคคลกลุ่มหนึ่ง ที่มีหัวคิด สร้างสรรค์ น�ำไม้ขีดไฟขณะถูกจุดมาส ร้างเป็นงานศิลปะ เกิดเป็นภาพที่หาชม ได้ยาก และมีความสวยงามเป็นอย่าง มาก ใครจะคิดว่าไม้ขีดไฟธรรมดาๆ จะ สามารถน�ำมาสร้างเป็นงานศิลปะได้อย่าง สวยงาม... คุณรู้หรือไม่
เรื่อง : อัญญรัตน์ คหัฏฐา
HEARTBEAT photo credit: http://board.postju
ng.comhtml
ดนตรีในหัวใจ
ทราบหรือไม่ว่าจังหวะดนตรีจริงๆ แล้วมีผลต่อการ เต้นของหัวใจ และส่งผลไปถึงอารมณ์ของเราด้วย อีกอย่าง ค�ำว่า “Beat” นอกจากจะหมายถึง อัตราการเต้นของ หัวใจในภาษาของดนตรี “Beat” ยังหมายถึงจังหวะของ ดนตรีอีกด้วย จึงเปรียบเสมือนจังหวะดนตรี และจังหวะ หัวใจเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน จังหวะดนตรีของแต่ละเพลงในเวลา 1 นาที ก็มีความแตกต่างกันออกไป เมื่อไหร่ที่เรารู้สึกไม่สบายใจ หรือมีความกังวล การฟังดนตรีก็จะช่วย ให้สามารถคลาย ความเครียดเหล่านั้นลงได้ อย่างที่เราเคยได้ยินว่าดนตรี บ�ำบัด ถึงแม้ความเครียดจะไม่ได้หายไปในทันทีที่เราได้ ฟังดนตรี แต่ต้องใช้เวลาในการบ�ำบัด ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ได้ ทดลองใช้วิธีนี้ก็มีอาการที่ดีขึ้น มีระดับความเครียด หรือความกังวลที่น้อยลง
17
โดยในทางการแพทย์ ดนตรีจะมีส่วนช่วยกระตุ้น การเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต ระบบ และจังหวะ การหายใจ การประสานของกล้ามเนื้อ การตอบสนองของ ม่านตาและผิวหนัง รวมไปถึงความต้านทานโรค ลักษณะ การใช้ดนตรีบำ� บัดมีหลายทาง ทั้งการเปิดให้ฟังเฉยๆ การขับร้อง เต้นร�ำ หรือการแต่งเพลง รวมถึงการร่วม วิจารณ์ดนตรี หากเมื่อไหร่ที่คุณเกิดอาการเครียด ลองหา เพลงโปรดที่มีจังหวะดนตรีไม่หนักเกินไปมาเปิดฟัง จะช่วย ให้คุณคลายความเครียดลงเยอะทีเดียว
photo credit http://www.
l3nr.org/posts/29201
ผู้เรียงเรียง : วชิรวิทย์ เอี่ยมวิลัย
สวัสดีครับคุณผู้อ่านทุกท่าน ฉบับนี้ผมจะขอพาไปพบกับเรื่องราวสยอง ขวัญในสถานที่สุดเลื่องชื่อ “ห้องดนตรีไทย” ซึ่งได้มีอ่านส่งเรื่องเข้ามามากมาย เราก็คัดเรื่องเด็ดๆ ที่เมื่อคุณผู้อ่านได้อ่านแล้วจะต้องขนลุกซู่ๆ เสียวสันหลัง วาบๆ อย่างแน่นอน เชิญร่วมพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองเลยครับ
ว
ญ ิ ญ
าณ
ร ถ อา
สวัสดีค่ะ ดิฉันอ่านเรื่องของคน อื่นมามากแล้ว เลยอยากลองส่งดูเองบ้าง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาขอเข้าเรื่องเลยละกันนะ ค่ะ คือเรือ่ งมันเกิดขึน้ ในห้องดนตรีไทยตัง้ แต่สมัยทีด่ ฉิ นั เรียน ในมหาวิทยาลัย ก็ผา่ นมาประมาณ 3 ปีได้แล้ว ดิฉนั และเพือ่ นๆ มักจะต้องกลับบ้านดึกๆ เพื่อซ้อมร่ายร�ำในวิชานาฏศิลป์ ซึง่ เป็นวิชาเอก วันหนึง่ เพือ่ นของดิฉนั ชือ่ “ฝ้าย” ลืมเอาผ้าถุง มา ด้วยความกลัวรุ่นพี่ที่เป็นคนฝึกซ้อมจะว่า จึงรีบวิ่งไปห้อง เก็บของแล้วเปิดตู้เอาผ้าถุงของใครก็ไม่รู้มาใส่ โดยปกติฝ้าย จะเป็นคนทีร่ ำ� ไม่สวยทีส่ ดุ ในกลุม่ แต่พอเขาใส่ผา้ ถุงแล้วเขาร�ำ ได้สวยมาก สายตาเขาเหม่อลอย จนเวลาผ่านไป หมดเวลาใน การซ้อม พี่ๆ นักศึกษาก็บอกให้กลับบ้านได้ เพราะที่นี่มีอะไร แปลกๆ แอบซ่อนอยู่และน่ากลัวด้วย แต่ฝ้ายก็ไม่ยอมหยุดร�ำ ซะที ตัวเขาเหลืองซีด เหงื่อท่วมตัว เหมือนเหนื่อย แต่ก็ยังไม่ หยุดร�ำ จนเขาหมดแรง และสลบไป เมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็รู้ว่า มานอนอยู่ในห้องของเขาแล้ว ดิฉัน และเพื่อนๆ ก็พยายาม เล่าให้เขาฟังตอนกลางดึกฝ้ายก็ละเมอตื่นขึ้นอีก โดยใส่ผ้าถุง ตัวเดิมแล้วก็รา่ ยร�ำต่อ เพือ่ นๆ รวมทัง้ ดิฉนั ได้ตนื่ ขึน้ มาเพือ่ จะ บอกให้เขานอนหยุดซ้อม เพราะนี่มันดึกแล้ว แต่ฝ้ายกลับไม่ ตอบอะไร
ดย
ย ท ป์ไ
ล ิ ศ ฏ
า น … ์ พ ร เรื่องโ
ฤดูร้อนนั้นฉันตาย
ดย เรื่อุขงโ ส ์ เจริญ
ริญสุข
เจ ทิพย์ า น ธ ุ ณ
:ค
าทิพย
ธน : คุณ
เอาแต่ ร�ำอย่างเดียว ร่างกายเขาดูเหมือนเหนือ่ ยมาก เหงื่ อ ท่ ว มตั ว ดวงตาแข็ ง ถื่ อ ไม่ พู ด อะไรมี แ ต่ ท ่ อ งว่ า 1 2 3 4 ไปเรือ่ ยๆ พร้อมกับร�ำ เพือ่ นทีน่ อนด้วยรูส้ กึ ไม่ดี จึงมา เขย่าตัว แต่เมือ่ เพือ่ นคนนัน้ มองหน้าฝ้าย หน้ากลับเป็นหน้าผี เพือ่ นคนนัน้ จึงวิง่ ไปให้เพือ่ นนักศึกษาชายข้างห้องช่วย พร้อม เล่าเรือ่ งราวทีเ่ กิดขึน้ ทัง้ หมดให้ฟงั ชายคนนัน้ จึงน�ำสร้อยพระ มาคล้องคอฝ้าย ฝ้ายก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดแล้วก็สลบไป พอตอนเช้าได้ไปถามพวกพี่ๆ นักศึกษาจึงได้รู้ว่าผ้าถุงนั้นเป็น ผ้าถุงของนักศึกษานาฏศิลป์รุ่นพี่ ที่เขาซ้อมร�ำตอนดึกๆ แล้ว เดินกลับบ้าน ได้มชี ายแปลกหน้าลากเขาไปข่มขืน แล้วฆ่าตาย อย่างเลือดเย็น ด้วยความชอบร�ำของเขาจึงมาวนเวียนและร�ำ อยู่ที่นี่ แค่เล่าดิฉันยังรู้สึกกลัวไม่หาย ตั้งแต่จบมาก็ยังไม่ได้ กลับไปทีม่ หาวิทยาลัยเลยค่ะ และสาบานกับตัวเองเลยว่าไม่มี ยังไงก็แล้วแต่ดฉิ นั จะไม่ยอมไปตอนกลางคืนเด็ดขาด ดิฉนั ก็มี เรือ่ งมาเล่าครัง้ นีแ้ ค่นนี้ ะคะ ยังมีเรือ่ งราวอีกมากมายเลย แต่ไว้ โอกาสหน้าคะ ระดับความหลอน : ความคิดเห็น : ส�ำหรับเรื่องของคุณธนาทิพย์ ระดับความ หลอนสี่ดาวครับ ใช้ภาษาเล่าเรื่องที่ง่ายๆ แล้วท�ำให้หลอน ตามได้แบบไม่รู้ตัว หวังว่าคุณธนาทิพย์จะเขียนมาอีกตาม สัญญานะครับ
18
บังเอิญ
เรื่อง/ภาพ : นราธิป คุมพล
งานศิลปะทุจริต
“ เราเชื่อในเรื่องของความบังเอิญ ว่าท�ำให้เกิดเรื่องราวหลายๆ อย่าง
ขึ้นมากมายดีบ้าง แย่บ้างสลับกันไป แต่เราเชื่อว่าคงไม่มีใครหรอก ที่จะได้พบได้เจอแต่ เรื่องแย่ๆอยู่เสมอหรอก ”
19
วันนี้ความบังเอิญของเราเกิดจากเรื่องแย่ๆ ของคนที่เป็น ผู้บริหารประเทศ แต่กลับท�ำเรื่องไม่ดี จนเกิดผลเสียต่อประเทศของ เรา หลายๆ ท่านที่นั่งรถผ่านแถวถนนเส้นวิภาวดี – รังสิต ซึ่งจะวิ่ง คู่ขนานไปกับทางรถไฟ ช่วงสถานีบางซื่อ จนถึงสถานีดอนเมือง ก็จะพบเห็นกับเสาปูนขนาดใหญ่ สร้างคร่อมทางรถไฟเป็นระยะๆ สร้างทิ้งร้างมาเกือบ 20 ปี เด็กรุ่นใหม่บ้างทีอาจไม่รู้ว่าเจ้าเสานี้มัน สร้างมาท�ำไม มีวัตถุประสงค์อะไร เสาใหญ่นี้ก็คือโครงการ โฮปเวลล์ เป็นทางรถยกระดับแก้ปัญหาการจราจร โดยเริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2534 ก่อสร้างอยู่นานประสบ ปัญหางบประมาณ ขาดทุน สภาพเศรษฐกิจตกต�ำ่ บ้างเรื่อยมา จนถึงปี 2541 ก็เป็นอันยุติโครงการเป็นเวลาทั้งสิ้น 7 ปี ด้วยความ คืบหน้าของโครงการเพียงแค่ 10 เปอเซนต์ เท่านั้น ตัวเลขนี้ไม่ผิด แน่ๆ เวลา 7 ปี เปลี่ยนรัฐบาลไปมากหน้าหลายตา ทั้งโครงการ ท�ำได้เพียงเท่านี้ ก็เป็นอันล้มเลิกไป เหลือทิ้งไว้แค่โครงเสาตอหม้อ ทิ้งรกร้างมากว่า 20 ปี บางทีก็ล้มลงมาทับรางรถไฟบ้าง อันเนื่อง มาจากการทรุดโทรม สาเหตุหลักที่ยกเลิกโครงการ ก็มาจาก การทุจริตในโครงการ แล้วมันมีเหตุอะไรที่หยิบยกเอามาเล่า มันมีอะไรน่าสนใจหรือเปล่า
เมื่อปลายปี 2556 ที่ผ่านมา มีการติดประกาศของการรถไฟที่เสาเหล่านี้ว่า เปิดโอกาสให้บรรดา Street Artist เข้ามาโชว์ฝีไม้ลายมือ วาดรูปโชว์ไอเดียกันลงบนเสา ก่อนที่เจ้าเสาเหล่านี้จะโดนรื้อถอน ซึ่งก็มีบรรดาศิลปินต่างๆ มาฝากฝีมือ โชว์ผลงาน โชว์ฝีมือกันอย่างมากมาย ตั้งแต่ช่วงสถานีบางซื่อยาวไปจนถึงสถานีดอนเมือง ช่วงที่มีการ ท�ำงานศิลปะเยอะที่สุดก็คือช่วงบริเวณหน้า พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย โดยส่วนใหญ่ของงาน ก็จะเป็นเรื่องของภาพเสียดสีการเมือง การบริหารประเทศ เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยที่เป็นผลมาจากการเมือง ให้เราได้ชมได้คิดตาม ซึ่งถือว่า เป็นการเปิดโอกาสที่ดี ที่ใช้เจ้าเสาพวกนี้ เป็นที่ให้ศิลปินได้โชว์ฝีไม้ ลายมือ ผลงานของ ตนเอง ดีกว่าไปพ่นไปเขียนตามก�ำแพงบ้าน ที่อยู่อาศัยให้เลอะเทอะเปรอะเปื้อนสร้างความ เดือดร้อน ส�ำหรับผู้อ่านคนใดสนใจอยากชม งานศิลปะนี้ก็เชิญกันได้ ตามแนวเส้นทางนี้ แต่มีข้อแนะน�ำว่าไปช่วงเย็นๆ ก�ำลังดี เพราะช่วงกลางวันแดดจะร้อนมาก และอย่าลืมพก กล้องไปถ่ายรูปสวยๆ เท่ห์ๆ มาอวดกันนะ อย่างน้อยความบังเอิญอันเลวร้ายนี้ ก็นำ� มาซึ่ง งานศิลปะได้เช่นกัน แต่ขอเลยว่าอย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกเลย อย่างบังเอิญมันบ่อยนัก ประเทศไทย ...
20
ดวงตะวัน
เรื่อง : วชิรวิทย์ เอี่ยมวิลัย
“ชิงช้าสวรรค์”
สงครามเพลงลูกทุ่ง…ชัยชนะนี้เพื่อใคร?
21
เมื่อพูดถึงรายการแข่งขันวงดนตรีลูกทุ่งในประเทศไทย น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักรายการชื่อดังอย่าง “รายการชิงช้าสวรรค์” รายการวาไรตี้ที่เหมาะกับเยาวชน และครอบครัวโดยมีเนื้อหาที่ให้ ทั้งความสนุก และความบันเทิงที่แฝงไปด้วยความรู้ ที่เน้นการน�ำ เสนอ ศิลปวัฒนธรรมไทยแบบพื้นบ้าน โดยเฉพาะบทเพลงลูกทุ่ง ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชน ได้มาแข่งขันวงดนตรีลูกทุ่ง หรือ เป็นการประกวดร้องเพลง พิธกี รผูด้ ำ� เนินรายการคือ โน้ต เชิญยิม้ ส้มเช้ง สามช่า และ จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา ออกอากาศมาเป็นระยะ เวลายาวนานกว่า 10 ปี ทุกวันเสาร์ เวลา16.30 – 18.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์-ทีวี ผลิตโดย บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จ�ำกัด (มหาชน)
หากพูดถึงช่วงส�ำคัญของรายการที่หลายๆ คนคงรู้จักกัน เป็นอย่างดีคือช่วง “ชิงช้าสวรรค์คอนเทสต์” ซึ่งเป็นการแข่งขันวง ดนตรีลูกทุ่งระดับมัธยมศึกษา ส�ำหรับรูปแบบของการแข่งขันจะ แบ่งออกเป็น 3 ฤดู คือ ฤดูหนาว ฤดูร้อน และฤดูฝน ชิงถ้วยรางวัล ประจ�ำฤดู พร้อมทุนการศึกษา 100,000 บาท เมื่อได้แชมป์ประจ�ำ ฤดูหนาว ฤดูร้อน และฤดูฝน ครบทั้ง 3 ฤดูแล้ว จะน�ำทั้ง 3 แชมป์ ในแต่ละฤดู และรองแชมป์รวมเป็น 6 โรงเรียน แข่งแบบไขว้ เพื่อหา ผู้ชนะเพียง 3 โรงเรียน มาแข่งขันในรอบ“แชมป์ออฟเดอะแชมป์” ประจ�ำปีนั้นๆ และโรงเรียนที่ชนะการแข่งขันจะเป็นผู้ครองถ้วย พระราชทานจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งออกแบบโดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
พร้อมทุนการศึกษา 1,000,000 บาท โดยมีคณะกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่านเข้าร่วมตัดสิน ส�ำหรับการแข่งขันจะท�ำการ ตัดสินโดยพิจารณาความสมบูรณ์ของนักร้อง นักดนตรี ด้านหางเครื่อง และการท�ำโชว์เป็นหลัก รายการชิงช้าสวรรค์สามารถกวาดรางวัลการันตีคุณภาพมา แล้วแทบทุกสถาบันในวงการโทรทัศน์ไทย อาทิ รางวัลโทรทัศน์ทองค�ำ ครั้งที่ 20 ประจ�ำปี 2548 สาขารายการปกิณกะดีเด่น รางวัลเทพทอง ครั้งที่ 8 ประจ�ำปี 2549 สาขาผู้แทนองค์กร และบุคคลดีเด่น ด้านวิทยุ กระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ มอบให้กับผู้ด�ำเนินรายการ นอกจาก รางวัลที่ได้กล่าวข้างต้นแล้ว หากพูดถึงด้านการแข่งขัน ก็ต้องยอมรับ จริงๆ ว่าการแข่งขันหลายต่อหลายครั้ง ก็สามารถสร้างปรากฏการณ์ ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย จนท�ำให้เยาวชนได้หวนมานึกถึงบทเพลงลูกทุ่ง เกิดกระแสลูกทุ่งขาสั้นคอซองฟีเวอร์มาจนถึงปัจจุบัน เท่านั้นยังไม่พอ รายการชิงช้าสวรรค์ ยังสามารถเป็นเวทีที่ท�ำให้วงดนตรีลูกทุ่งหลายๆ โรงเรียนได้เป็นที่รู้จัก รวมถึงท�ำให้นักร้องน�ำวงดนตรีลูกทุ่งได้แจ้งเกิด และได้เป็นนักร้องลูกทุ่งอาชีพสมใจ สิ่งเหล่านี้คงเป็นบทพิสูจน์ชั้นดี ที่ยืนยันถึงคุณภาพคับจอ ของรายการชิงช้าสวรรค์อย่างไร้ข้อกังขา
“
“การประกวดเช่นนี้ มันคุ้มกันแล้วหรือ กับอนาคตของเยาวชนไทย”
คุณเชื่อหรือไม่ ... ไม่มีสิ่งใดบนโลกที่จะดีไป เสียทุกอย่าง แม้แต่รายการชิงช้าสวรรค์ รายการที่ หลายๆ คนอาจมองว่าเบื้องหน้าช่างดูเปี่ยมไปด้วย คุณภาพจนไร้ หลายๆ คนอาจจะพอรู้กันบ้างแล้วว่าวงดนตรีลูกทุ่งแต่ละวงนั้น ที่ติ แท้จริงแล้วเบื้องหลังกลับไม่ได้สวยงาม การที่จะก้าวเข้ามาสู่การแข่งขัน และสามารถคว้ารางวัลกลับ
” เฉกเช่นภาพที่ถูกฉาบไว้เบื้องหน้า ความส�ำเร็จที่ต้องแลก
มาด้วยหยาดน�ำ้ ตาของเด็กๆ หลายต่อหลายครั้ง โรงเรียนที่ พ่ายแพ้ไม่ได้ไปแข่งขันต่อต้องมีเด็กหลายต่อหลายคนต้องเสียน�ำ้ ตา บางครั้งถึงขนาดเป็นลมหามส่งโรงพยาบาลกันกลางรายการก็มี ความกดดันที่เด็กตัวเล็กๆ แบกรับไว้เกินวัย ทั้งที่ความจริงนั้นพวก เขาควรมีหน้าที่ เ พี ย งศึ ก ษาเล่ า เรี ย นเท่ า นั้ น แต่ ก ลั บ ต้ อ งมาอด หลั บ อดนอน ซ้อมหามรุ่งหามค�่ำ สิ่งเหล่านี้จึงมักเกิดเป็นค�ำถามให้ กับสังคมอยู่เสมอว่า
ไปได้นั้น “ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ” เด็กต้องยอมเสียเวลาเรียน เพื่อมา ฝึกฝนอย่างหนัก นักร้อง นักดนตรี และแดนเซอร์ ต้องเก็บตัว เข้าค่ายฝึกซ้อมเป็นแรมเดือน กว่าจะผ่านการแข่งขันไปได้ใน แต่ละรอบซึ่งยิ่งหากโรงเรียนนั้นๆ สามารถผ่านเข้ารอบลึกๆ อย่าง “รอบแชมป์ออฟเดอะแชมป์” ด้วยแล้ว เรียกว่า ต้องเสีย เวลาฝึกซ้อมทั้งปีเลยก็ว่าได้ ความอดทน ความพยายามของเด็กๆ ต้องขอชื่นชมจากใจจริงๆ คุณคือนักรบที่ยิ่งใหญ่ในสงครามครั้งนี้ อย่างแท้จริง เชื่อมั่นเหลือเกินว่า ...
22
สิ่งที่เป็นแรงผลักดันให้เด็กๆ เหล่านี้ยอม เสียสละนั้นมาจาก “หัวใจที่รักในบทเพลงลูกทุ่ง” รวมทั้งอีกสิ่งที่เปรียบเสมือนพันธสัญญา ที่ไร้ซึ่ง ตัวอักษร ท�ำให้นักเรียนทุกคนยอมเอาอนาคตของ ตนเองเป็นเครื่องเดิมพันนั่นก็คือเพื่อ... “ชื่อเสียงของโรงเรียน” บางครั้งความฝันของเด็กก็ใสบริสุทธิ์มาก “การท�ำทุกอย่างเพื่อชื่อเสียงของโรงเรียน” เหตุผล ง่ายๆ ที่เขายอมเสียเวลาการเรียนมาทุ่มเท เพื่อการ แข่งขันอย่างเต็มตัว บางครั้งอนาคตที่พวกเด็กๆ ยอมเสียสละ มันคุ้มค่าแค่ไหนที่มาต้องอุทิศให้กับ ความอยากมีหน้าตาอยากดังของผู้บริหารบางคน ที่เป็นเสมือนผู้โบกธงให้สงครามเริ่มขึ้น โดยมอง ว่า รายการชิงช้าสวรรค์คือ ช่องทางหนึ่งของการ ไต่บันไดดาวในอาชีพราชการ เพราะการศึกษาของ เมืองไทย ใน พ.ศ.นี้ วัดความสามารถของผู้บริหาร ที่ “ผลงาน” ประเภทชนะเลิศโน่น ชนะเลิศนี่ ยิ่งชนะเยอะ ยิ่งเป็นเครื่องการันตีว่าคุณคือ “ผู้บริหารที่เก่งที่สุด” แต่เมื่อมองกลับมาหาเด็กๆ พวกเขาน่าสงสารมาก ต้องกลายเป็น “บันได” ให้ ผู้บริหารโรงเรียนบางคนเหยียบขึ้นไปคว้ามงกุฎดาว มาครอบครองแต่ผู้เดียว แล้วเด็กได้อะไรตอบแทน
23
ส่วนร่วมในการแข่งขัน ล้วนยอมรับสิง่ ทีจ่ ะเกิดขึน้ ทัง้ สิน้ ” ว่าสิง่ ทีไ่ ด้นนั้ ไม่คมุ้ เสียอย่างแน่นอน ทัง้ ในด้านของเงินรางวัลทีร่ ายการมีให้ เพียงรอบละ 20,000 บาท แต่การลงทุนในแต่ละครัง้ เงินเพียง เท่านี้ แม้แต่คา่ รถพานักเรียนมาแข่งขัน ยังไม่เพียง พอเสียด้วยซ�ำ้ ไหนจะต้องตัดชุดใหม่ ไหนจะอุปกรณ์ ท�ำฉาก เงินจ้างครูทำ� โชว์ ครูคมุ วงดนตรีอกี แต่ละ รอบโดยรวมๆ แล้วไม่ตำ�่ กว่าแสนแน่นอน แต่ทที่ กุ โรงเรียนยอมมาแข่งขัน เพราะมองว่ารายการชิงช้า สวรรค์เป็นรายการประกวดแข่งขันวงดนตรี ลูกทุง่ รายการเดียวในประเทศไทย ทีอ่ อกอากาศผ่าน โทรทัศน์ ท�ำให้ชอ่ งทางการกระจายนัน้ เร็ว พูดง่ายๆ คือ “ท�ำให้โรงเรียนเป็นทีร่ จู้ กั ได้เร็ว” เมือ่ โรงเรียน มีชอื่ เสียงก็สามารถท�ำให้เวลาไปรับงานนอกจะได้ ราคาสูง ยิง่ โรงเรียนจ่านกร้อง จ.พิษณุโลก ซึง่ ได้รบั ต�ำแหน่ง “แชมป์ออฟเดอะแชมป์” 3 สมัยซ้อน ด้วยแล้ว ตอนนีแ้ ทบจะกลายเป็นบริษทั ไปแล้ว มีงานแทบทุกวันงานละหลายแสนบาท สิง่ หนึง่ ทีไ่ ม่พดู ถึงไม่ได้คอื “มุมมองด้าน ความบริสทุ ธิย์ ตุ ธิ รรมในผลการตัดสิน” ก็เป็น ข้อครหาอยูเ่ รือ่ ยไป หลายโรงเรียนยืน่ หนังสือเข้า ร้องเรียนทางรายการ เกีย่ วกับการขอความเป็นธรรม ในผลการตัดสิน บางครัง้ ได้ใบผลคะแนนมายืนยัน เด็กที่มาประกวดจะมีสักกี่คน ว่าโรงเรียนของตนนัน้ ต้องชนะ แต่ทางรายการก็ เงียบหายเข้ากลีบเมฆไม่เคยออกมาให้คำ� ตอบ ทาง ที่ได้อ่านหนังสือ? โรงเรียนทีร่ อ้ งเรียนก็ทำ� ไงได้ ก็ทำ� ได้เพียงรอเวลาให้ สักกี่คนที่ได้เข้าเรียนต่อใน รายการออกมาให้คำ� ตอบ และก็เลิกส่งโรงเรียนของ คณะที่อยากเรียน? ตนมาท�ำการแข่งขันอีก สิง่ นีค้ อื จุดอ่อนของรายการ ชิงช้าสวรรค์ รายการมักถูกมองเสมอว่าโรงเรียนที่ เด็กบางคนมัวดีใจกับรางวัล ชนะ “ยัดเงิน” เป็นเพราะความไม่นา่ เชือ่ ถือของผล แต่ยังไม่รู้เลยว่าจะ การตัดสิน หลายต่อหลายครัง้ ทีผ่ ลการตัดสินออกมา เรียนต่อที่ไหน? ค้านสายตากับผูช้ ม ค�ำแสดงความคิดเห็นของคณะ กรรมการบางท่านชอบกลืนน�ำ้ ลายตัวเอง เราลองมามองด้านตัวรายการ “ชิงช้าสวรรค์” จุดบกพร่องจุดเดียวกัน บางโรงเรียนติ บางโรงเรียน จากการรับชมรายการชิงช้าสวรรค์ มาเป็นระยะเวลา ก็ไม่ติ ผูช้ มตาสีตาสาอย่างเราก็ได้แต่กม้ หน้ายอมรับ ยาวนาน จากการทุม่ ตัวเองท�ำงานวิจยั อย่างหนัก ได้แต่โทษตัวเองว่า ตาเราคงไม่ถงึ หรอก คณะ อีกทัง้ ยังมีการได้พดู คุยกับนักเรียนในโรงเรียนทีม่ า กรรมการเค้าคงมองลึกซึง้ ลึกซะจนคนธรรมดาๆ แข่งขัน อาจารย์ผคู้ มุ วงดนตรีอกี หลายท่าน ท�ำให้ อย่างพวกเราดูไม่ออกก็แค่นนั้ ได้รบั ค�ำตอบจากหลากหลายมุมมอง หลากหลาย ทัศนคติจนมัน่ ใจเหลือเกินว่า “หลายๆ คนทีเ่ ข้ามามี
เป้าหมายของการแข่งขัน ทีท่ กุ โรงเรียนทีเ่ ข้าแข่งขัน ต้องการมากทีส่ ดุ นัน่ ก็คอื การได้รบั ต�ำแหน่ง “สุดยอดแชมป์ออฟเดอะแชมป์” หลายโรงเรียน พยายามสร้างสรรค์งานโชว์ การประกวดประชัน การเต้นและเครือ่ งแต่งกายทีต่ อ้ งมีความอลังการ ยอมทุ่มเงินจ�ำนวนมหาศาล เพื่อซื้อตัวคนท�ำโชว์ จากโรงเรียนคู่แข่งที่คิดว่าสามารถท�ำให้โรงเรียน ตนเองชนะได้ ทุกโรงเรียนลงทุนชุด ฉาก แสงสี เสียงอย่างอลังการมากขึ้นทุกปี แม้คณะกรรมการ ด้านหางเครื่อง และการท�ำโชว์คือ ครูชุติเดช ทองอยู่ หรือ “ครูเทียม” จะบอกเสมอว่า “ฉาก” ไม่มีคะแนน แต่ทุกโรงเรียนก็ไม่มีใครยอมใคร ขนมาแบบจัดเต็มจนแน่นเวที บางครั้งรถที่ใช้ขน ฉากมาที่สตูดิโอนั้น มากกว่าพานักเรียนมาแข่งขัน ด้วยซ�้ำ การแข่งขันอย่างดุเดือดโดยที่ไม่มีใครยอม ใคร มันท�ำให้เกิดค่านิยมแบบผิดๆ เหมือนทุก โรงเรียนมาแข่งขันกันสร้างสรรค์โชว์ให้อลังการ มากกว่า มาเพื่อแข่งขันในแบบลูกทุ่งแท้ๆ ของไทย การแข่งขันชิงช้าสวรรค์คอนเทสต์ ได้มี การแข่งขันต่อเนื่องมาแล้วถึง 7 ปี และก�ำลังเข้า สู่ปีที่ 8 แน่นอน! หากเปรียบการแข่งขันบนเวที ชิงช้าสวรรค์กับสงคราม สงครามครั้งนี้คงเป็น สงครามที่ยิ่งใหญ่พอสมควร แต่ที่น่ากลัวคือ เป็นสงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุ ด และนั บ วั น ยิ่ ง ทวี ความรุ น แรงขึ้ น เรื่ อ ยๆ ทุ กโรงเรี ย นล้ ว น ขนสารพัดวิธีมาเพื่อเอาชัยชนะ บางโรงเรียนน�ำ นักร้องที่จบไปแล้ว เรียนมหาวิทยาลัยมาแข่งขันก็ มีมั น แสดงให้ เ ห็ น ว่ า ระบบการตรวจสอบของ รายการหละหลวม และที่หนักไป กว่านั้น การเล่นไม่ซื่อทุกครั้ง ทางรายการไม่เคยตรวจสอบ ต้องได้รับการร้องเรียน รายการจึ ง ท� ำ การ ตรวจสอบ และหักคะแนนโรงเรียนที่โกงในการ แข่งขัน หรือหากได้รับรางวัลไปก็จะท�ำการยึดถ้วย รางวัลคืน นี่คงเป็นส่วนหนึ่งซึ่งยังมีการเล่นไม่ซื่อ สารพัด ไม่ว่าจะเป็นการโกงด้วยการ ซื้อตัวนักเรียน จากโรงเรียนอื่น การใส่ร้ายป้ายสีกันไปมาระหว่าง โรงเรียน แม้แต่กระแสข่าวการเล่นไสยศาสตร์ใส่กัน ก็มี รู้แบบนี้ก็น่าใจหาย เสียดาย
การแข่งขันที่ควรจะเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ของ เด็ก กลับต้องแปรเปลี่ยนเป็นการแข่งขันที่เต็มไป ด้วยกิเลสของผู้ใหญ่ จนแทบจะเต็มตัว เชื่อเหลือ เกินว่า ... “รายการชิงช้าสวรรค์” เป็นรายการที่ ใครหลายๆ คนรัก ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถอยู่ ได้นานขนาดนี้ หาได้ยากส�ำหรับรายการในยุค ปัจจุบัน ที่สามารถสร้างโลกลูกทุ่งเอาไว้ในหน้า จอทีวีในยุค ที่ค่ายเพลงทั้งหลายก�ำลังท�ำลายวีถี ชีวิตลูกทุ่งลงไปแล้ว แทบไม่เหลือกลิ่นอายของลูก ทุ่งอยู่ในเพลงแล้ว ณ เวลานี้คงไม่ขออะไรมากไป กว่า ขอเพียงว่าผู้ใหญ่ที่หวังประโยชน์ส่วนตน จะมี จิตส�ำนึกเสียที เลิกใช้รายการนี้เป็นค�ำตอบส�ำหรับ ผลประโยชน์ของตนเอง หยุดหากินจากความฝัน ของเด็ก สงครามที่คุณใช้เด็กเป็นเครื่องมือนี้ จุดจบของมันคงไม่สวยงาม สิ่งที่พวกเด็กๆ เค้าควร ได้กลับไปคือ “มิตรภาพ” ไม่ใช่ “ความเกลียดชัง” ที่คุณหยิบยื่นให้กับเขา เพราะทุกวันนี้การแข่งขัน ทั้งในเกม และนอกเกมยิ่งดุเดือด ทวีความรุนแรง ขึ้นเรื่อยๆ จนน่ากลัว ในเรื่องการแข่งขันนอกเวที มันมีอะไรที่ล�้ำลึกมากกว่ า นี้ อี ก มากมาย “การท�ำทุกอย่างเพื่อชัยชนะ” มันเป็นแรงผลักดัน ที่ทรงอานุภาพเหลือเกิน และท้ายที่สุด ขอให้ทุก คนอย่าลืมไปว่าคนที่เป็นผู้จุดฉนวนการโกงครั้งนี้ คือ “ผู้ใหญ่ไม่ใช่เด็ก”
photo credit http://www.munjeed.com
24
ฤดูร้อน
คิดถึงฤดูร้อน
คิดถึงอะไร
“ ฤดูร้อนจะคิดถึงทะเล คิดถึงดนตรี แบบจังหวะ Bossa เพราะว่าฟังเพลิน ให้จังหวะสบายๆ แต่ก็ยังคงไว้ในแบบของความสนุกสนาน เหมาะกับฤดูร้อนที่สดใส ถ้าพูดถึงศิลปะ นึกถึงศิลปะแบบปะติมากรรม มันให้ความรู้สึกว่ามีชีวิต เหมาะกับฤดูร้อนที่ต้องการสีสัน ความมีชีวิตชีวา ”
25
วราภรณ์ ช่วยปลัด (ปอนด์) คณะพาณิชยศาสตร์และการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง
พิสิษฐ์ โพธิ์พายุ ชื่อเล่น (บุ๊ค) คณะอุตสาหกรรมเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง “ ถ้าพูดถึงฤดูร้อนจะนึกถึงทะเล และแหล่งท่องเที่ยวที่ท�ำให้เรารู้สึกเย็นสบาย ต่างๆ เราจะรู้สึกหงุดหงิดจากทุกสิ่งรอบๆ กาย ท�ำให้ผู้คนทั่วไปรอบตัวเรา ค่อนข้างมีอารมณ์ที่ร้อนไม่ต่างจากสภาพอากาศ เราจึงต้องสรรหาแหล่งท่อง เที่ยว หรือสถานที่ต่างๆ ที่จะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย สบายตัว”
คิดถึงฤดูร้อน
ธนาทิพย์ เจริญสุข (แนน) “คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สิ่งขาดไปไม่ได้เวลาฤดูร้อนมาถึง คือบทเพลง เพราะๆ เวลาแนนร้อนๆ ชอบฟังเพลงที่ให้ ความรู้สึกเย็น อย่างเพลง “ดาว” ของพี่สิงโต น�ำโชค แนนมองว่าเสียงดนตรีคือเครื่องบ�ำบัด ชั้นดีส�ำหรับการผ่อนคลายในฤดูร้อน”
คิดถึงเพลงแนวไหน
พิสุทธิ์ หน่อแก้ว ชื่อเล่น (นัท) คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง “ คงจะเป็นเพลง นักประดาน�ำ้ terracotta เพราะฤดูร้อนใครๆ ก็คงนึกถึงทะเล ถ้าได้ไป เที่ยวพักผ่อนที่ทะเล ในช่วงฤดูร้อน กับคน พิเศษ คงท�ำให้ฤดูร้อนมีสีสันขึ้นมา ”
เอกสุวัชร์ นาควัฒนเสธ (สมายด์) คณะวิศกรรมศาสตร์ พระจอมเกล้าฯธนบุรี “ผมไม่รู้เรื่องดนตรีมากนัก ไม่รู้ว่าเขาเรียกคนตรี ประเภทไหนกัน แต่หน้าร้อนท�ำให้ผมนึกถึงเพลง ของ Jack Johnson หลายๆเพลง ผมคิดว่าเพลง ของเขาส่วนใหญ่เหมาะกับหน้าร้อน อีกเพลง หนึ่งที่ผมคิดถึงคือ ฤดูร้อน paradox ในความคิด ผมว่ามันเหมาะที่สุดแล้วละส�ำหรับหน้าร้อน”
26
คิดถึงฤดูฝน
คิดถึงศิลปะแบบไหน
ภาพวาดภาพถ่ายที่ดูแล้วสบายตาเพราะช่วยดับความร้อนของอากาศ นิธิกานต์ วันประเสริฐ (พลอย) บริหาร สวนดุสิตฯ
“ ฤดูร้อนนี่นึกถึง ศิลปะการแสดงแบบฆาตกรรม
เปื้อนเลือด ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบภาพยนตร์ ละคร ละครเวที ยิ่งได้ดูแบบฆ่ากันเลือดสาดยิ่งสะใจ ” จักริน อินทสระ (โจ้)คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
“ จริงๆ แล้วเป็นคนไม่ค่อยรู้จักประเภทของศิลปะสักเท่าไหร่ แต่ถ้าจะให้พูดถึงฤดูร้อนกับศิลปะ สิ่งที่คิดได้ก็คือ street art ความสร้างสรรค์ ของวัยรุ่นที่มีทั้งความสดใส แปลกใหม่ บ่งบอกความเป็นตัวเอง ”
27
มนัสนันท์ สระบัว ชื่อเล่น (แพร ) คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
“
Fire prove s gold After a storm adversity men comes a calm. ความร้อนทดส
อบทองค�ำ หลังุกพายุ ร้ายคน ความท ข์ทดสอบ
ก็จะมีลมสงบ
”
0
ปิดเทอมใหญ่
เรื่อง : วชิรวิทย์ จงรักษ์
คนบนฟ้ า คนบนฟ้า แดดบ่ายปลายร้อนเคลื่อนคล้อยมาแล้ว ระยิบระยับโลด เต้นเหนือท้องทะเล ที่ระบายด้วยสีเขียวใส โค้งฟ้าสีครามตัดกับ ผิวน�้ำไกลออกไปลิบ แลดูงดงามสบายตา แฝงความอลังการซ่อนไว้ ลมทะเลโชยพัดหอบไอเค็มบางๆ มาพร้อมกับเกลียวคลื่นขนาดย่อย ที่ม้วนตัวทยอยซัดสู่ฝั่งทักทายทรายขาว อยู่เป็นระลอก ผมชมความงามธรรมชาติอยู่ริมหาด เนื้อตัวพราวด้วย หยดน�้ำทะเล ที่เพิ่งขึ้นจากการว่ายเล่นเมื่อครู่ ผมยืนทอดสายตา ผ่านเลนส์สีเขียวเข้ม ออกไปสุดปลายฟ้า แล้วหันไปส�ำรวจรอบ กายคล้ายก�ำลังดื่มด�ำ่ ผลงานของจินตกวีผู้ยิ่งใหญ่ ที่บรรจงรังสรรค์ ทิวทัศน์เพื่อก�ำนัลแด่ทุกลมหายใจ สูดลมหายใจลึกๆ และอยากจะกักเก็บมันไว้เช่นนั้น เพราะ นานนักแล้วที่ผมไม่ได้รับอากาศบริสุทธิ์อย่างนี้ ความจริงจะว่าไป แล้วที่ผ่านมา ผมเหมือนอะไรสักอย่างที่ถูกพันธนาการไว้ในกล่องใบ ใหญ่ มีละอองควันสีหม่นห่มคลุมตลอดเวลา ทั่วทุกอณูที่ก้าวย่าง ซึ่งใครต่อใครต่างเรียกขานกล่องใบนี้ว่า “เมืองหลวง” การมาเที่ยวทะเลในช่วงปิดเทอมหน้าร้อนของผม ท�ำให้ นึกถึงเพื่อนสนิท ทุกครั้งของการปิดเรียนภาคฤดูร้อน เราจะมา ฉลองกันที่ทะเลแห่งนี้ แต่มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เพื่อนผมคน นั้น เค้าเลือกที่จะหายไป จะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ หวังได้เพียงว่า เพื่อนใหม่ที่โน่นคงจะเป็นเพื่อนที่ดี ผ่านไปก็ปีหน่ึงแล้ว แต่เหมือน เหตุการณ์ทุกอย่างเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง
31
“
ยืนมองท้องฟ้าไม่เป็น เช่นเคย ฤดูร้อนไม่มีเธอ เหมือนเก่า ขาดเธอ ...
”
เขาจะรู้อะไรไหม มันท�ำให้ผมรู้สึกผิดมาก ผิดจนถึง ทุกวันนี้ หากวันนั้นผมเลือกที่จะลงไปเล่นน�ำ้ ทะเล ตามค�ำชวน ของเขา แต่ผมกลับบ่ายเบี่ยง เพราะความขี้เกียจ อยากนอนเล่น ในห้องพักเสียมากกว่า เขาตัดสินใจลงไปเล่นน�ำ้ ทะเลเพียงคนเดียว และเขาก็ ไม่ได้กลับขึ้นมาอีกเลย ผมได้แต่ตามหาเขา อย่างมีความหวัง แม้รู้ว่าเขาจะไม่มีชีวิตแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ประสบความส�ำเร็จ แม้ร่างของเขา ผมยังก็ไม่สามารถพาเพื่อนรักคนนี้กลับบ้าน ของเขาได้ วันนี้ผมเลือกที่จะกลับมาที่นี่ กลับมาหาเพื่อนรักของ ผม กลับมาท�ำตามสัญญาของเรา ว่าเราจะมาเที่ยวทะเลด้วยกัน ทุกๆ ปี ผมรู้เสมอว่าเพื่อนผมคนนี้ อยู่เคียงข้างผมตลอดเวลา ไม่ว่าทุกข์ หรือสุข เค้าไม่เคยทิ้งผมไปไหน มิตรภาพ ความอบอุ่น ความรักที่เรามีให้กัน มันเกินกว่าจะบรรยายได้ แต่มันสัมผัสได้ ด้วยการกระท�ำของเพื่อนผมคนนี้ คนบนฟ้า เค้าแต่งตัวกันยังไงนะ มีแหล่งชอปปิ้งอย่าง สยามที่เราไปกันหลังเลิกเรียนทุกวันไหมนะ จะมีร้านนั่งชิล แถบๆ ย่านทองหล่อที่ชอบไปด้วยกันรึเปล่า แต่เราเชื่อว่า นายต้องไปอยู่ใน ที่ๆ สบายแล้วนะ ที่ๆ ไม่มีการร้องไห้ ไม่ทุกข์ ไม่เศร้าอีก สักวันเราจะไปอยู่กับนายนะ ปิดเทอมใหญ่หน้าร้อน ครั้งหน้า เราจะมาหานายอีก รอเรานะ … นายจะอยู่ในความ ทรงจ�ำของเรา และเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป รักนะเพื่อน . photo credit http://www.llano-wayaren.exteen.com
2132
RAINY
PROFILE
ชื่อ-สกุล : ภณภวัต ศรีบุศยกาญจน์
ชื่อเล่น : ภอช
อายุ : 21 ปี
การศึกษา : วิทยาลัยนานาชาติเพื่อ ศึกษาความยั่งยืน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ผลงาน - ประกวดวงดนตรี Graph of Music รอบคัดเลือก ครั้งที่ 19 และ ครั้งที่ 20 - เดินแบบ THE NEXT EVOLUTION OF NATURE FASHION AND JEWELY 2013 - เดินแบบแฟชั่นโชว์ The Nine Fashion week 2013 ความสามารถพิเศษ : เดินแบบ การ แสดง เล่นกีตาร์ ไวโอลิน แนวเพลง / เพลง ที่ชอบ : เพลงคลาสิก แบบ Canon in D ของ Voices of Music แนวศิลปะที่ชอบ : ชอบศิลปะแบบ จิตรกรรม ภาพวาด ภาพเขียน เหมือนเป็นสิ่งที่ สื่ออารมณ์ออกมาได้ดี มีหลายแง่มุมในการมอง ภาพเพียงภาพเดียว นิยามฤดูฝน : ฤดูฝนเปรียบเสมือนตัว คนของผู้คน เป็นฤดูที่เราจะอยู่กับตัวเองมาก ที่สุด เพราะเมื่อเราอยู่คนเดียว ไม่ว่าเราจะเหงา จะเศร้า หรือ รู้สึกเบื่อ เราก็จะรู้ว่าเราต้องการ อะไร อยากทำ�อะไร สนใจในเรื่องอะไร ทำ�ให้ คิดว่าเป็นฤดูที่ทำ�ให้เรารู้จักตัวเองมากที่สุด
39
เรื่องและภาพ : นราธิป คุมพล
สาร ะ ภาพ
“ เมื่อสายฝนโปรยปราย
ทุกสิ่งมีชีวิต เบิกบานเริงร่า เพราะ ได้รับความชุ่มชื้น จากสายฝน ทุกสิ่งมีชีวิตกำ�ลังกลับมา มีชีวิตอีกครั้ง ”
สาระภาพ
เมื่อสายฝนโปรยปราย ทุกสิ่งมีชีวิตเบิกบาน
เริงร่า เพราะได้รับความชุ่มชื้นจากสายฝน ทุกสิ่งกำ�ลัง กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ไม่เว้นแม้แต่ดอกไม้ริมทาง เล็กๆ ที่ต้องการความชุ่มชื้น เพื่อหล่อเลี้ยงตัวมันเอง ให้เบ่งบานมีชีวิตชีวาอีกครั้ง รอคอยสายฝนนั้นเทลงมา อย่างมีความหวัง ฉันก็เช่นกัน เช่นเดียวกับดอกไม้นี้ที่ กำ�ลังรอความรัก ความรู้สึกดีๆ จากใครคนหนึ่งให้มัน สาดเทลงมาราวกับสายฝนนั้น ให้ใจได้เบ่งบาน ฉันจะ รอเธอต่อไปอย่างมีความหวัง แม้สุดท้ายอาจไม่มีสาย ฝนนั้นตกมาที่ฉันเลย
40
เมื่อ “หนังผี” ทำ�ลาย
“ศิลปะไทย”
“ทุกครั้งที่ลมพายุโหมกระหน่ำ�่ ครั้งใด สิ่งที่เหลือไว้คือซากปรักหักพัง” นี่คงเป็นประโยคเดิมๆ ที่
คุณผู้อ่านที่เป็นแฟนประจำ�ลมพายุ คงฟังกันจนขึ้นใจ ที่ต้องพูดประโยคนี้ซำ�้ๆ ในทุกฉบับ ก็เพราะต้องการยำ�้เตือนให้ได้ ทราบถึงหน้าที่หลักของเรา คือการนำ�เสนอซากปรักหักพังของวงการบันเทิง มากกว่าสิ่งสวยงามเบื้องหน้า ... สำ�หรับ ฉบับนี้จะพาทุกคนไปสัมผัสกับซากปรักหักพัง ที่เกิดขึ้นกับสิ่งที่ผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทย ดูครั้งใดย่อมขนหัวลุกตามนั่น คือ “ภาพยนตร์สยองขวัญ” หรือเรียกง่ายๆ ตามภาษาชาวบ้านก็คือ “หนังผี” หากพูดถึงวงการภาพยนตร์ไทยในช่วงเวลาหลายปีที่ ผ่านมา คงไม่มีใครสามารถปฎิเสธได้ว่า “พี่มากพระโขนง” คือที่สุดแห่งภาพยนตร์ผีของไทย สามารถทำ�ลายสถิติหนังไทย โกยรายได้มหาศาลสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มีผู้เข้าชมภาพยนตร์ ถึง 10 ล้านคน ทำ�รายได้ 1,000 ล้านบาท รวมทั้งยังสามารถ กวาดทั้งกระแสชื่นชม และรางวัลจากหลายสถาบันไปมากมายจน เป็นประวัติการณ์ สิ่งนี้คงเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดการใคร่ครวญขึ้น มาในสังคมไทย เกี่ยวกับภาพยนตร์ผีๆ ของไทยว่าในปัจจุบันนั้นมี การเปลี่ยนแปลงไปเช่นไร และการเปลี่ยนแปลงนั้นกลับนำ�มาซึ่ง ซากปรักหักพังต่อวงการศิลปะของไทยจนน่ากลัวเกินคาดคิด
41
เรื่อง : วชิรวิทย์ เอี่ยมวิลัย
ลมพายุ
เสียงของหมาที่หอนรับกัน ในบรรยากาศของบ้านไม้ ทรงไทยท่ามกลางความมืดที่มีเพียงแสงจากดวงจันทร์ เมื่อ เมฆบดบังแสงนั้นให้บรรยากาศรอบข้าง เหลือแต่ความมืดมิด สร้างความวังเวงให้กับสถานที่แห่งนั้นมากขึ้น มองผ่านเข้าไป ในหน้าต่างของบ้าน มีหญิงสาวทรงชฎาในชุดไทยกำ�ลัง กรีดกราย ในท่วงท่าอ่อนช้อย และน่ากลัวใบหน้านั้นมีสีขาว โพลนตัดกับปากสีแดง มีน�ำ ้ตาไหลออกมาเป็นเลือด ฉากยอด นิยมของหนังผีที่ถูกนำ�เสนอในหนังไทย ในมุมมองที่ซำ�้ซาก มากว่าหลาย 10 ปี การเล่าเรื่องที่มุ่งเน้นเพียงแต่สร้างอารมณ์ และความรู้สึกกลัว จนผู้สร้างลืมคิดไปว่าการสร้างหนังแบบนี้ กำ�ลังเป็นการทำ�ลายศิลปะไทยในทางอ้อม
ความวิจิตรบรรจงของแบบแผนการแต่งหน้านาง ละครรำ� ในสมัยอยุธยาถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้น นิยมให้นาง ละครมีการผัดแป้งให้หน้าขาว ปากแดง คิ้วดำ� สวมเครื่อง อาภรณ์ที่งดงามละม้ายคล้ายกับตุ๊กตาชาววัง ความงดงามดัง กล่าวได้ถูกผูกโยงเข้ากับเรื่องราวอาถรรพ์ วิญญาณ สร้างเป็น ภาพยนตร์หลายเรื่องเกิดเป็นภาพติดตาให้กับคนในยุคสมัยนี้ มองไม่เห็นความงดงามของนาฏศิลป์ไทย แต่มองเห็นเพียง ความน่ากลัวเท่านั้น เสียงดนตรีปี่พาทย์ มหรสพที่เคยใกล้ชิดกับคนไทย จากความรื่นรมย์ของดนตรีไทย ได้แปรเปลี่ยนเป็นสัญญะแห่ง ความตาย งานศพ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ดนตรีไทยใกล้ชิด และอยู่คู่กับคนไทยทุกโอกาส ไม่เฉพาะกับงานศพเท่านั้น แต่ งานมงคลสมรส ขึ้นบ้านใหม่ หรือทำ�บุญเลี้ยงพระ ดนตรีไทย ก็เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมนั้น แต่หนังไทยก็เลือกที่จะเล่า เรื่องของดนตรีไทยในเชิงความตายเสียมากกว่า รวมถึง สถาปัตยกรรมไทย ที่เรือนไม้ไทยได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ ฉากหลังของหนังผีหลายๆ เรื่อง ไม่ต่างอะไรกับศิลปะไทย แขนงอื่นที่ถูกหนังไทย ผูกโยงเข้ากับอาถรรพ์ และความน่ากลัว
การสร้างภาพความสยอง ให้กับศิลปะไทยของ ภาพยนตร์ ได้มีการสร้างขึ้นซำ�้ๆ มากขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นสิ่ง ที่เปลี่ยนแปลง และตอกยำ�้ความคิดให้คนในสังคมอยู่เสมอ มุมมองต่อศิลปะไทย จึงเริ่มเปลี่ยนจากความควรค่าแก่การ อนุรักษ์ กลายเป็นเรื่องของความน่ากลัว ความสยอง และ ความมีอาถรรพ์ ซึ่งสิ่งนี้ได้กลายเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่ทำ�ให้คุณค่า ของศิลปะไทยเสื่อมถอย นาฎศิลป์ไทย ดนตรีไทย ควรจะได้รับการถ่ายทอด เรื่องราวที่เหมาะสม เหมือนอย่างภาพยนตร์ตะวันตกที่นำ�เรื่อง ของ ดนตรี ศิลปะ การแสดง นำ�มาสร้างเป็นหนังอย่างมีคุณค่า และสร้างสรรค์ทำ�ให้ได้รับรางวัลมากมาย นอกจากนี้ยังมีสร้าง แรงบันดาลใจ จิตสำ�นึกให้กับคนดูอีกด้วย หากวงการหนังไทย จะนำ�เรื่องราวของดนตรี และศิลปะไทยมาเล่าเรื่อง ให้มีคุณค่า แบบนั้นบ้าง คงจะเป็นสิ่งที่ดี อาจจะทำ�ให้หนังไทยได้หลุดพ้น จากวงจรการสร้างหนัง ผี ตลก รักใคร่ ไร้สาระโดยไม่ได้ให้ คุณค่าสิ่งใดๆ กับคนดูแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน PHOTO CREDITS : matichon.co.th
42
ร่มสีเทา
เรื่อง : วชิรวิทย์ เอี่ยมวิลัย
จ
ากนวนิยายรักอมตะเรื่องยิ่งใหญ่ของ “ลักษณวดี” ภายใต้สถานการณ์สงครามระหว่างแคว้นที่กำ� ลัง ถ่ายทอดสู่ละครเวทีเหนือ จินตนาการที่ทุกคนรอคอย ด้วยฝีมือการ สร้างความแตกแยกให้กับแผ่นดิน ความรักต้อง ก�ำกับการแสดงเรื่องล่าสุดของ “ถกลเกียรติ วีรวรรณ” ละครเวที ห้ามระหว่างเลือดขัตติยะคือ “เจ้าหญิงทิพยรัตน์ เรื่อง “เลือดขัตติยา” เดอะมิวสิคัล” จัดขึ้น ที่โรงละคร เมืองไทย ดารากุมารี” กับนายทหาร “อโณทัย” ได้บังเกิดขึ้น รัชดาลัยเธียเตอร์ น�ำแสดงโดย แกงส้ม ธนทัต เขาและเธอจ�ำต้องละทิ้งหัวใจแล้วหันกลับมาท�ำ ชัยอรรถ และ หนูนา หนึ่งธิดา โสภณ พร้อมด้วย หน้าที่กู้สถานการณ์ของบ้านเมืองให้ผ่านพ้นวิกฤติ นักแสดงคุณภาพอีกคับคั่ง“เรื่องราวต�ำนานเเห่ง ไปให้ได้ การลุ้นระทึกไปกับความรักดังสวรรค์สาป ความรัก เเละ ความเสียสละ ที่จะตราตรึงไว้ “เจ้าหญิงทิพยรัตน์ดารากุมารี” กับนายทหาร ฟ้ากลั่นแกล้งถูกถ่ายทอดผ่านเพลงประกอบละคร ทุกรุ่งอรุณ” ... สิ่งที่ละครเวทีเรื่องนี้ “อโณทัย” ได้บังเกิดขึ้น เขาและเธอจ�ำต้องละทิ้งหัวเวที ใจ ได้อย่างลงตัว สามารถสะกดใจคนดูให้ขนลุก พยายามน�ำเสนอ การด�ำเนิน แล้วหันกลับมาท�ำหน้าที่กู้สถานการณ์ของบ้านเมืองไปกับความไพเราะที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศซึ้งๆ เรื่องแบบเหนือจินตนาการ ให้ผ่านพ้นวิกฤติไปให้ได้ การลุ้นระทึกไปกับความรักท�ำให้ผู้ชมสามารถหลั่งน�ำ้ ตาอินไปกับความรักของ ทั้งตัวละครสมมุติ เมืองสมมุติ ดังสวรรค์สาป ฟ้ากลั่นแกล้งถูกถ่ายทอดผ่านเพลง คนทั้งคู่ได้ไม่ยากนัก และยุคสมัยสมมุติ ท�ำให้ ละครเวทีเรื่องยิ่งใหญ่นี้เป็นอีกเรื่องที่แฟน ประกอบละครเวทีได้อย่างลงตัว สามารถสะกดใจคนดู ละครเวทีเรื่องนี้สามารถสร้างสรรค์ ละครเวทีทุกคนไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ให้ขนลุกไปกับความไพเราะที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศ ชุดนักแสดง พระราชวัง ซึ้งๆ ท�ำให้ผู้ชมสามารถหลั่งน�ำ้ ตาอินไปกับความรักการได้สัมผัสถึงเรื่องราวความรัก ความเสียสละ รวมทั้งอุปกรณ์ประกอบการแสดงได้ ของพระนางในเรื่องนี้มันยิ่งใหญ่มาก เพราะมัน ของคนทั้งคู่ได้ไม่ยากนัก แบบสวยงามวิจิตรอลังการเกินขอบ ละครเวทีเรื่องยิ่งใหญ่นี้เป็นอีกเรื่องที่แฟน คือ ... “หัวใจเพื่อค�ำ้ จุนเเผ่นดิน” ... ละครเวทีเรื่อง จ�ำกัดตามยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ละครเวทีทุกคนไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง “เลือดขัตติยา เดอะมิวสิคัล” จะสามารถเป็นละคร ส่งผลให้ละครเวทีเรื่องนี้ต่างจาก การได้สัมผัสถึงเรื่องราวความรัก ความเสียสละของเวทีในความทรงจ�ำอีกเรื่องที่สามารถเรียกน�้ำตาให้ ละครเวทีหลายๆ เรื่องที่ผ่านมา ไม่ว่า พระนางในเรื่องนี้มันยิ่งใหญ่มาก เพราะมันคือ ... ซาบซึ้งไปกับความรัก และความเสียสละเพื่อชาติ จะเป็น สี่แผ่นดิน ทวิภพ บัลลังค์เมฆ เพื่อบ้านเมืองได้อย่างไม่รู้ลืม ... “หัวใจเพื่อค�้ำจุนเเผ่นดิน” ... ละครเวทีเรื่อง ล้วนต้องอ้างอิงหลักทางประวัติศาสตร์ “เลือดขัตติยา เดอะมิวสิคัล” จะสามารถเป็นละครเวที มาเป็นกรอบในการ ด�ำเนินเรื่องทั้งสิ้น ในความทรงจ�ำอีกเรื่องที่สามารถเรียกน�ำ้ ตาให้ซาบซึ้ง การด�ำเนินเรื่องราวความรักของ ไปกับความรัก และความเสียสละเพื่อชาติ เพื่อบ้าน ตัวละครหลักด�ำเนินไปอย่างมี เมืองได้อย่างไม่รู้ลืม ... เหตุและผล ทั้งความรักที่ต่างชนชั้น ความรักที่มีต่อชาติบ้านเมือง
43
photo credit :www.thairath.co.th
เรื่อง : จีรวรรณ บัวทอง
ช่
จินตนาการเป็นไปได้แค่ลงมือท�ำ
ช่วงบ่ายของวันอาทิตย์คงจะเป็นวันหยุดของคนหลายๆ คน ที่ใช้เวลาว่างพักผ่อน และฉันก็เช่นกัน เลือกที่จะมาดูหนัง เรื่องThe Secret Life of Walter Mitty มีความรู้สึกว่าอยากดูมากๆ เรื่องหนึ่งของปี ทันทีที่ถึงคิวก็ไม่รอช้า หยิบแบงค์ สีแดง ซื้อตั๋วทันที โชคดีหนังของฉันที่ต้องการดู จะฉายในอีกสิบนาที ฉันจึงเดินเข้าโรงหนัง และนั่งลงตรงเบาะตามหมายเลขในตั๋ว The Secreat Life Of Walter Mitty บอกเล่าเรื่องราวของ ผู้ชายคนหนึ่ง ที่ท�ำงานอยู่ในกองบรรณธิการนิตยสาร Life โดยชีวิตของเขาบางครั้งก็จะหลุดอยู่ไปบ้าง ชอบฝันกลางวัน จินตนาการภาพในหัว บางครั้งก็ ปกติธรรมดาๆ บางครั้งก็แฟนตาซีจนไม่น่าเชื่อ เขาได้ รับมอบหมายให้น�ำฟิล์มหมายเลข 25 มาขึ้นปกของ นิตยสารฉบับสุดท้าย แต่แทนที่ฟิล์มหมายเลข 25 จะมาพร้อมกับฟิล์มอื่นๆ ในตลับกลับกลายเป็น ฟิล์มเดียวที่หายไป วอลเตอร์ไม่รู้จะท�ำยังไง เขาจึงตัดสินใจไปตามหากับเจ้าของ ภาพถ่ายเสียเลย ซึ่งบุคคลที่ถ่ายภาพ ดันไม่ใช้โทรศัพท์และยากนักที ่จะติดต่อเขา วอลเตอร์เลยตัดสินใจที่จะ ออกตามหาเขาในโลก ของความจริงที่จะน�ำพาเขาไป พบกับจุดหมายใหม่ของชีวิต และการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หนังมีความยาวเกือบๆ สองชั่วโมง แต่ก็เป็นสองชั่วโมงที่เพลิดเพลินมาก ได้ดูทุกอย่าง ที่คาดว่าจะได้รับ ภาพสถานที่สวยๆ เพลงประกอบเพราะๆ มันช่าง เข้ากับจังหวะของหนังอย่างลงตัว หนังของเบน สติลเลอร์เรื่องนี้แฝง อะไรไว้มากมาย นอกเจากภาพสวย และ เพลงเพราะ เขายังแฝง เนื้อหาที่จะสร้างแรงบรรดาใจ ความรู้สึกที่อยากเลิกเรียนและ ไม่ท�ำงาน แต่อยากแบกเป้ปีนภูเขา หรือไปท่องเที่ยว สถานที่สวยๆ หลายๆ แห่งบนโลก ความคิดนี้มันผุดขึ้นมาในหัว ความรู้สึกที่ ว่าท�ำไมเราต้องขังตัวเองอยู่แค่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆทั้งๆ ที่ ข้างนอกนั่นมีภูเขาหลายร้อยลูก หรือ อากาศบริสุทธิ์ให้เราสามารถ สูด เอาเข้าไปได้เต็มปอด แทนที่จะเป็น อากาศเย็นๆ ที่ไร้ซึ่งความ สดชื่นจากเครื่องปรับอากาศที่ติดอยู่บนเพดานสีซีด ความคิดที่จะ ออกไปพบโลกกว้างของพังทลายลงไปเมื่อนึก ได้ว่า การที่เราจะ ไปที่ใดสักแห่งเราต้องอาศัยสิ่งๆหนึ่งที่เรียกว่า “เงิน” ขนาดตัววอล เตอร์ในหนังยังประสบกับปัญหาการเงิน
photo credit : dek-d.com
ร่มสีเทา
จากหลายๆ ฉากที่วอลเตอร์คิดค�ำนวณเงินของเขา นับประสา อะไรกับนักศึกษามหาวิทยาลัยลัยธรรมดา ที่ยังไม่มีรายรับมาจาก น�้ำพักน�้ำแรงของตัวเอง หรือหากออกไปท�ำงานแล้ว ก็อาจจะ จบลงที่โต๊ะท�ำงานในออฟฟิศสักแห่งบนโลก กลายเป็น มนุษย์เงินเดือน จนถึงตอนนั้นความฝันที่จะออกไป สูดอากาศบริสุทธิ์มันจะยังคงมีอยู่ไหม แล้วอากาศของ โลกใบนี้ จะยังคงบริสุทธิ์อย่างนั้นอยู่หรือเปล่า ถ้าโชคดีหน่อยอาจจะได้โอกาสแบบวอลเตอร์ ที่ได้ รับโอกาสออกไปพบโลกกว้าง ได้ค้นพบบางส่วนที่ จางหายไปจากตัวตนเช่นเดียวกับวอลเตอร์ ค้นพบตัวเขาเองในวัยเด็ก ค้นพบความ สามารถที่เขาเกือบจะละทิ้งมันไป จะมี โอกาส แบบนั้นไหม หรือก�ำลัง เพ้อฝันเหมือนที่ เขาเป็นในช่วงต้นเรื่อง ฉันรู้สึกว่า หากวอลเตอร์ เป็นคนจริงๆ เขาอาจจะเป็นคนที่มีื ความสุข ที่สุด ในโลกก็ได้ เขายังคงมีอาการ เพ้อฝันอยู่ ซึ่งมันมักจะเป็นสิ่งที่ เด็กชอบท�ำ ชอบเพ้อฝันต่างๆ นานา อยากเป็นอย่างนั้น อยาก ท�ำอย่างนี้ แต่เมื่อเราโตขึ้น ทุกอย่างที่ผ่าน เข้ามาในชีวิตต่างดึงเอาเศษเสี้ยว แห่งจินตนาการไปด้วย เขาจินตนาการ โลกของเขาขึ้นมา แต่แล้วจินตนาการของ เขาก็เริ่มหายไป หลังจาก ช่วงกลางเรื่อง เพราะจินตนาการของเขามันได้กลายเป็นจริง ขึ้นมา เขาได้พบสิ่งที่เขาเพ้อหาขึ้นมา สิ่งนั้นมันเข้ามาแทนที่จินตนาการ ของเขา สิง่ นัน้ มีชอื่ เรียกว่าความทรงจ�ำ ความทรงจ�ำทีเ่ ขาได้ตอ่ สูก้ บั ฉลาม ความทรงจ�ำที่เขาปีนยอดเขา บอกเลยว่า วอลเตอร์เป็นคนโชคดี ทุกอย่างด�ำเนินไปด้วยดี ถึงแม้ในใจจะแอบแย้งนิดๆ ว่าทุกอย่างไม่ได้ ง่ายขนาดนั้นก็จริง แต่ถ้าเรามองมันให้มันง่าย คิดว่าสักวันโชคคงต้อง เข้าข้างเราบ้าง ไฟโรงหนังสว่างขึ้นพร้อมๆ กับชื่อทีมงานเป็นสัญญาณ ว่าหนังจบลงแล้ว ฉันเดินออกมาจากโรงหนัง โดยมีความคิดมากมายวิ่ง วุ่นอยู่ในหัว นึกอยู่นานว่าจะเขียนรีวิวถึงหนังเรื่องนี้ อย่างไรดี ไม่รู้ว่า จะเรียกสิ่งที่คุณก�ำลังอ่านว่าอะไร ถ้ามีคนมาถามว่าหนังเรื่องนี้ดีไหม จะ ตอบไปเลยว่าดี ภาพสวย เพลงเพราะ นักแสดงท�ำให้ตัวละครทุกตัวออก มามีเสน่ห์ แต่ถ้ามีคนถามว่า แล้วหนังมันให้อะไรเราล่ะ คงจะตอบเขาไป ว่า “จินตนาการเป็นไปได้แค่ลงมือท�ำ”
43
44
น ฝ น า ่ ผ น ้ อ ร น ่ า ผ ็น ช่างภาพ กว่าจะเป
“
สวัสดีชาว Seasons change ทุกท่าน เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ คงจะคุ้นเคยกับการถ่ายรูปกันใช่ไหมล่ะ การถ่ายรูปในสมัยนี้ก็ ง่ายแสนง่าย เพียงกดแชะ แชะ แชะ ก็ได้รูปมาซะแล้ว แต่การถ่ายรูปส�ำหรับคนบางคน ไม่ใช่แค่การกด ชัตเตอร์ แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขา 45
”
เรามาท�ำความรู้จักนักถ่ายภาพรุ่นใหม่ ที่ประสบการณ์ น�ำหน้าอายุ ของพวกเขาไปไกล กว่า พวกเขาจะฟันฝ่าอุปสรรค และมรสุมต่างๆ ที่พัดผ่านมา แม้การเดินทางสายนี้ยังต้องเดินทางอีก ไกล แต่พวกเขาก็พร้อมที่จะฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน Q : แนะน�ำตัวกันหน่อย ? นัท : ทวิวัฒน์ แซ่เฮง นัทครับ โมสต์ : ศิรศักดิ์ บัวมี โมสต์ครับ Q : ตอนนี้ก�ำลังศึกษาอยู่ที่ไหน ? นัท : ชั้นปีที่ 3 คณะศึกษาศาสตร์ ภาควิชาเทคโนโลยีสื่อสาร การศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครรินทรวิโรฒ โมสต์ : เหมือนกัน เป็นเพื่อนกันครับ (ยิ้ม) Q : รับงานถ่ายยรูปอะไรกันบ้าง ? โมสต์ : งานที่ผมรับตอนนี้มีแต่งานถ่ายรูปครับเช่นถ่ายภาพพอตเทรตโปรไฟล์ งานรับปริญญา และงานแต่งพรีเวดดิ้ง นัท : ผมก็เหมือนกันครับ เป็นFreelance photographer รับถ่ายรูปทั้งรับปริญญา แล้วก็พวกพอตเทรตต่างๆ ครับ Q : เริ่มสนใจถ่ายภาพตั้งแต่เมื่อไหร่ อะไรเป็น ตัวจุดประกายความฝัน ? โมสต์ : ตอนเรียนปี 1 ครับ ตอนนั้นมีวิชาที่ต้องเรียน ถ่ายรูป ผมอยากถ่ายรูปสวยๆ ไปส่งอาจารย์ จึงเริ่ม เรียนรู้ด้วยตนเอง ทั้งซื้อหนังสือเกี่ยวกับการถ่ายรูป มาอ่าน, ปรึกษาเพื่อน, ปรึกษารุ่นพี่ ลองผิดลองถูก ไปเรื่อยๆ แหละครับ (ยิ้ม) นัท : ส�ำหรับความสนใจถ่ายภาพ ก็เมื่อตอนเข้ามาเรียน ปี 1 และปี 2 ซึ่งปัจุบันผันตัวเองมารับงานถ่ายภาพ เมื่อตอนที่จะเริ่มสนใจ ในตอนนั้นเมื่อ 2 ปีที่เล้ว ได้มีวิชาการถ่ายภาพในเวลาเรียน ท�ำให้ต้องซื้อกล้องมา ต่อมาเมื่อมีกล้องถ่ายรูปแล้ว (คุณแม่ซื้อให้) กล้องเมื่อใช้ถ่ายภาพงานส่งอาจารย์ แล้วก็นำ� เก็บไว้ ไม่ได้น�ำมาใช้อะไร ท�ำให้ความสนใจในที่นี้ คือการน�ำมาใช้ประโยชน์ เพราะกล้องราคา ก็แพง แต่น�ำมาใช้ไม่มีกี่ครั้ง ผมจึงคิดว่าจะน�ำมา ถ่ายภาพเล่นๆ เพื่อจะได้ไม่ว่าง แต่แล้วก็มีรุ่นพี่ ที่รู้จักกัน บอกว่า สามารถน�ำกล้องมาถ่ายภาพหาเงิน ซึ่งถือเป็นโยชน์สูงสุดในการซื้อกล้องมา ตั้งแต่ตอนนั้นมา ท�ำให้ผมเริ่มมีความสนใจที่ว่า จะท�ำยังไงให้เราใช้กล้องเรา ให้ได้เงินมาในที่สุด (หัวเราะ)
โมสต์ ศิรศักดิ์ บัวมี
46
Q : ประสบการณ์ถ่ายรูปเกี่ยวกับฝนที่ไม่มีวันลืม ? โมสต์ : วันนั้น มีรุ่นพี่คนหนึ่งที่รู้จักกัน ให้ผมไปถ่ายงานแทนพี่เขาที่สวน อัมพร ผมก็ไม่อยากไป เพราะเราขาดเรียนวันนั้นไม่ได้แล้วจริงๆ พี่เขา ต้องไปสัมภาษณ์งาน แล้วไม่มีใครว่างแทนเขาได้เลย เราก็เห็นใจเลยไป แทนให้ ผมไปถึงที่นั่นตั้งแต่หกโมงเช้า เพราะเขานัดเจ็ดโมง จึงถ่ายไป ได้สักพัก จนถึงเวลาเข้าหอประชุม ประมาณ สิบเอ็ดโมงเห็นจะได้ และ ผมจะต้องรอถ่ายตอนเขาออกจากหอประชุมอีกทีตอนสี่โมงเย็น เป็นที่ รู้กันอยู่ว่าสวนอัมพร ไม่ค่อยมีต้นไม้ และแดด วันนั้นก็ร้อนมาก จึงไป นั่งรวมกับ ญาติบัญฑิตคนอื่นๆ ที่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง จนถึงเวลา สี่โมงเย็น เขาก็ไม่ออกมา หกโมงเย็นก็ยังไม่ออกมา ซึ่งเวลานั้นเป็นเวลาที่ก�ำหนด เลิกถ่ายรูปแล้ว ผมจึงตัดสินใจโทรหาครอบครัวเขา ครอบครัวของเขา บอกว่าให้รอก่อน ผมจึงรอ พอหนึ่งทุ่มเขาก็ออกมาพร้อมกับฝน ตอนนั้น ฝนก็ตกปรอยๆ เลนส์เปียก กล้องเปียก ทุกอย่างเปียกหมด ที่ผมยอม ถ่าย เพราะกลัวว่าเขาจะไม่มีรูปจึงถ่าย ถึงหนึ่งทุ่มครึ่ง จะหารถกลับก็ ไม่มี และยังต้องรีบกลับมาท�ำงานส่งอาจารย์ ก็เลยยอมนั่งมอเตอร์ไซค-์ วิน จากสวนอัมพร มาพระรามเก้า โดนมอเตอร์ไซค์วินชาร์จค่าวินไปอีก 150 บาท วันนั้นทั้งแดด ทั้งฝน รอเกินเวลาก�ำหนด กลับล�ำบาก แถมยัง ไม่ได้เข้าเรียนวิชาที่ขาดไม่ได้ ขาดทุนมากครับ แต่ก็ต้องท�ำใจยอมรับ นัท : ถ้าบางทีถ้าพูดถึงฝนหลายคนอาจจะนึกถึงแต่เรื่องเศร้าๆ ทุกสิ่ง บนโลกใบนี้ไม่ได้มีด้านเดียวเสมอไปหรอกครับ ฝนส�ำหรับผม ผมนึกถึง ความฉุ่มฉ�่ำ ความมีชีวิตชีวา ผมชอบตอนถ่ายรูปฝนมากเลยครับ เวลาที่เม็ดฝนพร�ำๆ เเสงไม่เเรงไป ครึ้มๆ เมื่อเวลาถ่ายรูปเเล้ว รูปจะดู ไม่น่าเบื่อ ดูเเล้วภาพมันมีอะไรเยอะ เช่นช่วงเวลา เเละสถานที่ หลังจาก ที่ฝนตกก็จะมีรุ้งกินน�ำ้ สวยมากเลยนะครับ ถึงแม้หลายคนอาจจะไม่ชอบ ฝน ลองยืนรอให้ฝนหยุดตก คุณก็จะได้เห็นรุ้งกินน�ำ้ และมันก�ำลังบอก คุณว่า“ เรื่องร้ายๆ ผ่านไปแล้ว ฉันเป็นเรื่องดีๆ ที่จะเข้ามาใน ชีวิตของคุณ” Q : เหตุการณ์มรสุมที่พัดผ่านดั่งฝนห่าใหญ่เข้ามาในชีวิต ? โมสต์ : เหตุการณ์ที่เลวร้ายที่ผมไม่คิดจะลืม และจ�ำไว้เป็นบทเรียนชีวิต เลยก็ว่าได้ เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้น เมื่อวันหนึ่ง ขณะที่ผมถ่ายรูปอยู่ แล้วกลับมาเช็ครูปที่ตัวเองถ่าย ปรากฏว่า โฟกัสหลุดท�ำให้ภาพไม่ชัด ตอนแรกผมก็คิดว่าเลนส์พัง จึงน�ำไปส่งศูนย์ แต่พนักงาน กลับบอกว่า เลนส์ไม่ได้มีปัญหายังใช้งานได้ปกติ และยังบอกอีกด้วยว่า ที่ภาพหลุด โฟกัส อาจจะเป็นเพราะ ตัวผมเองที่มือไม่นิ่ง รู้ไหมครับ? ตอนนั้นผมเครียดมาก ผมก็ถ่ายรูปมาระยะหนึ่งแล้วมือจะไม่นิ่งได้ยังไง จนวันนี้มีโอกาสได้ลองใช้ของรุ่นพี่คนหนึ่ง ที่เขาซื้อกล้องมาใหม่พอผม ถ่ายรูปออกมา ปรากฏว่ารูปของผมชัดทุกรูป และคิดว่าคงไม่ใช่เพราะ มือผมไม่นิ่งแล้ว ผมจึงตัดสินใจน�ำกล้องไปส่งที่ศูนย์ ปรากฏว่ากล้องของ ผมมีปัญหาที่แล็คฟอนท�ำให้ ภาพหลุดโฟกัส ใช้เวลาซ่อม 3 อาทิตย์
47
ท�ำให้ต้องไปยืมกล้องเพื่อนเพื่อมาถ่ายรับงาน ตอนผมมีปัญหาก็เพื่อน นี่แหละที่คอยช่วยผม คนอื่นที่เราคิดว่าจะช่วยผมตอนมีปัญหาได้ กลับ ไม่ช่วย ผมซึ้งใจมาก ผมใช้กล้องเพื่อนไปได้ระยะหนึ่ง จึงตัดสินใจขาย เลนส์ที่มีอยู่ เพื่อที่จะน�ำเงินไปซื้อกล้องใหม่ แล้วจะเอากล้องไปคืน เพื่อน เเละผมก็ใช้เงินเก็บที่สะสมมานานกับขายเลนส์ที่มีอีก 2 ตัวขาย ไป 1 ตัว ช่วงนั้นผมหมุนเงินแบบยากมาก การที่เราล�ำบาก และไม่มี คนที่เราคิดว่าจะช่วยเราได้ มันถือว่าเป็นมรสุมมากเลยครับ นัท : ส�ำหรับเรื่องปัญหาการถ่ายภาพ ที่ผมประสบเจอมาก็ต้องเป็น เรื่อง การมองโลกของช่างภาพด้วยกันซะมากกว่า ด้วยความที่ผมเป็น นิสิตนักศึกษา เรื่องของอุปการณ์ เรื่องของตัวกล้อง เรื่องของคุณภาพ ของช่วงเลนส์ นั้นเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะมีของระดับมืออาชีพที่รับงาน ถ่ายภาพเป็นอาชีพ ส่งผลให้เมื่อเวลาไปถ่ายตามมหาวิทยาลัยต่างๆ เรื่องสายตาการมองตัวผม หรือเรื่องพี่บัณทิตเอง ที่ถามเรื่องคุณภาพ ของอุปกรณ์ เป็นเรื่องที่ผมตอบล�ำบากที่สุด และเป็นเรื่องที่ผมไม่ชอบ มากที่สุด ในการมาดูหมิ่นตัวผม ผมประสบปัญหาเรื่องการถูกดูหมิ่น ศักดิ์ศรีของการเป็นช่างภาพ มันต้องมีอุปกรณ์การถ่ายภาพระดับหลัก แสนเชียวหรือ ผมก็ยังต้องถามตัวเองต่อไป ในช่วงแรกผมท้อ ผมไม่อยากจะเป็นช่างช่างภาพ ผมไม่อยาก จะมาถ่ายรูป เพราะด้วยสายตา และท่าทางของเหล่ามืออาชีพทั้งหลาย ที่มองผม แต่ทุกวันนี้ผมลบเลือนสิ่งแย่ๆ เหล่านั้นหมดแล้วครับ ผมคิด ว่าการถ่ายภาพของผม คือความสุข และการได้ร่วมไปถ่ายภาพ กับเพื่อน กับพี่ ต่างสถานที่ ความช่วยเหลือจากรุ่นพี่ ค�ำแนะน�ำจาก รุ่นพี่ มันท�ำให้ผมลืมปัญหาต่างๆ มันท�ำให้ผมคิดแต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ตัวเองว่า จะท�ำยังไงให้ภาพเหล่านี้กับอุปกรณ์เหล่านี้ ถ่ายให้ภาพสวย ออกมา ให้เท่าที่ท�ำได้มากที่สุดเท่านั้นเอง Q : พอเจอมรสุมอย่างนี้ อยากล้มเลิก หรือเปลี่ยนไปท�ำอย่างอื่นบ้าง ไหม ? โมสต์ : สั้นๆ ง่ายๆ ไม่ครับ เป็นช่างภาพเงินดีแล้วก็หล่อด้วย (หัวเราะ) นัท : ถามว่าปัญหานี้มันเจ็บกายไหม ผมตอบว่าไม่ เป็นการเจ็บใจ มากกว่า กับการที่สังคมเราไม่ยอมรับ ในเรื่องฝีมือการถ่ายภาพ แต่ยอมรับในเรื่องของอุปกรณ์การถ่ายภาพเสียมากกว่า ช่วงแรกผม ท�ำใจไมได้เลยเคยคิดว่าจะเลิกถ่าย เบื่อกับสังคมประเภทนี้ แต่พอนาน วันเข้า เมื่อผมได้เติบโต เมื่อผมได้เรียนรู้ ผมเปลี่ยนแนวคิด และทัศนคติตัวเองใหม่ มันท�ำให้ผมไม่อยากเลิกถ่ายครับ ผมกลับ พัฒนาศักยภาพของตัวเองขึ้นมา เพื่อลบค�ำสบประมาณนั้นๆ ผมขยัน ผมศึกษา ผมออกไปติดตามฝีมือการถ่ายภาพจากรุ่นพี่ ผมติดตามเรื่อง ราวจากโลกอินเตอร์เน็ต ผมพยายามพัฒนาตัวเอง ให้คนมองรูปภาพ มากกว่าการมองที่อุปกรณ์การถ่ายครับ
Q : สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจเวลาเรามีเจอปัญหา ? นัท : เมื่อเวลาผมมีปัญหา ผมปรึกษารุ่นพี่ ผมไปขลุกอยู่กับพวกพี่ๆ ไม่ใช่แค่คนเดียว ผมไปศึกษาจากรุ่นพี่เป็นรายบุคคล หลายๆ ท่านให้แนวคิด ให้กำ� ลังใจ ให้ความรู้ สลับผสมกันไปในหลายรูปแบบ ผมคิดว่าทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่เป็นแรงยึดเหนี่ยว และผลักดันท�ำให้ตัวเองก้าวผ่านอุปสรรค์ ปัญหาเหล่านี้มาได้ครับ โมสต์ : ทุกครั้งที่ผมมีปัญญาจะมีคนอยู่สองคนที่ไม่เคยทอดทิ้งผมไปไหน คือ พ่อกับแม่ครับ ท่านสองคนนี้เป็นคนแรกๆ ที่เลือกที่จะ ปรึกษาก่อนเสมอ พ่อกับแม่ ท่านเข้าใจผมทุกอย่าง หลายเรื่องร้ายๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตผม ก็จะมีพ่อกับแม่เป็นทั้งก�ำลังใจที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวของผมครับ Q : ความตั้งใจในอนาคตเกี่ยวกับอาชีพนี้ ? นัท : ทุกครั้งที่ผู้คนหยิบกล้องขึ้นมากดชัตเตอร์ ไม่ว่าภาพนั้นจะเป็น ภาพของคนที่เรารู้จัก คนที่เรารัก ผู้คนที่เราไม่เคยรู้จัก ทิวทัศน์ สถานที่ ดอกไม้สวยๆ นกหายาก แมลง ขวดเบียร์ รถยนต์ สาวสวย หรือแหล่งเสื่อมโทรม เช่น สลัม คนนั้นมักจะมี จุดมุ่งหมายอยู่เสมอ ไม่ว่าคนๆ นั้นจะเป็นมืออาชีพ มือสมัครเล่น หรือคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็ตาม มิเช่นนั้น เขาคงไม่หยิบกล้อง แบกกล้องไปไหนมากไหน สิ้นเปลืองเวลา พลังงาน และความคิด มันคือความตั้งใจที่จะสื่อสารกับผู้รับชมภาพ ผมเลยคิดเสมอว่าทุกๆ วันนี้ไม่ค่อยคิดหวังถึงอนาคต ขอแค่เพียงท�ำอะไรที่สนุก และมีความหมาย เหมือนทุกๆ วัน ปล่อยให้ตัวเองได้ ก้าวผ่านสิ่งต่างๆ ฝึกฝนประสบการณ์ ให้อนาคตเป็นอนาคต ที่มันเข้ามาพร้อมโอกาสจะดีเอง โมสต์ : เป้าหมายของผมในตอนนี้ มีอย่างเดียวในใจ อยากเป็นช่างภาพเวดดิ้งที่มีชื่อเสียงพอสมควร ค่าตัวงานละ 50,000 (ในอนาคตอีก 5 ปี) ผมคิดว่า ผมน่าจะท�ำให้มันเป็นจริง เอาใจช่วยผมด้วยนะครับ (หัวเราะ) จริงๆ แล้ว ตั้งใจจะถ่ายภาพถึงอายุ 35 ปี เก็บเงินให้ได้สักก้อน แล้วหันไปเปิดธุรกิจส่วนตัว ร้านเหล้ากลางคืน (ยิ้ม) บางทีชีวิตของผมมีแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว Q : มีอะไรฝากถึงฝากถึงผู้อ่านไหม? นัท : ฝากถึงทุกคนที่ชอบถ่ายรูปนะครับว่า “สิ่งที่เราชอบเรามักจะท�ำมันได้ดีที่สุด” เหมือนกับว่าทุกๆ ครั้งที่ตื่นเช้าไปถ่ายรูป ผมคิดว่าผมตื่นเช้ามากกว่าไปเรียน ทุกๆ ครั้งที่นั่งแต่งรูป ผมรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็วเหลือเกิน หลายครั้งแล้ว ที่การถ่ายรูปมันท�ำให้มีอิสระ มีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ ที่สำ� คัญยังมี ความพยายามที่จะท�ำมันให้ดีที่สุดครับ ขอให้ทุกท่านผู้อ่านประสบ ผลส�ำเร็จในเรื่องการถ่ายรูปกันทุกๆ คนนะครับ โมสต์ : ฝากถึงคนที่มีความฝัน ไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่องการถ่ายรูป อย่างเดียวนะครับ ถ้าคุณมีฝันแล้ว อยากให้ฝันนั้นเป็นจริง เริ่มลงมือ ท�ำเลยนะครับ ไม่ค�ำว่าสายหรอกครับ แม้จะมีอุสรรคอะไรเข้ามา ก็ถือว่านั้นเป็นแบบทดสอบที่จะให้คุณแข็งแกร่งขึ้น
นัท ทวิวัฒน์ แซ่เฮง
48
โปรโมท
เรื่อง : อัญญรัตน์ คหัฏฐา
Street Art S
idewalk
D
rawing
ศิลปะแนวใหม่ที่มีความฮอตฮิตเป็นอย่างมาก สำ�หรับภาพวาดสามมิติบนท้องถนน ซึ่งเป็นที่นิยมของผู้ที่ ชื่นชอบการถ่ายภาพที่มีความแหวกแนว ไม่เหมือนใคร โดยมี จุดเริ่มต้นมาจากความสร้างสรรค์ของศิลปินในต่างประเทศ บางกลุ่มได้มีการริเริ่มการวาดภาพสามมิติบนพื้นถนน แต่ละ ภาพมีความสวยงาม และสมจริงเป็นอย่างมาก สำ�หรับ ประเทศไทย ผู้ที่สนใจสามารถไปชมกันได้ที่ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Art In Paradise (Thailand) พัทยา
PHOTO CREDITS: designundersky.com
Do you know?
เพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์
คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำ�ไมก่อนชมภาพยนตร์ ต้องมีการเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี เพื่อให้ผู้เข้าชม ภาพยนตร์ได้ลุกขึ้นยืนตรง แสดงความเคารพต่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี ไม่ได้มี กฎหมายบังคับให้ทางโรงภาพยนตร์จะต้องทำ� แต่ก็ได้ กลายเป็น “จารีต” ที่ผู้ประกอบการล้วนแล้วแต่ทำ� ด้วยความจงรักภักดีกันทั้งสิ้น... ในสมัยก่อน นิยมเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี หลังจากภาพยนตร์ หรือ การแสดงมหรสพต่างๆ จบลง แต่ปัจจุบันโรงภาพยนตร์ได้เปลี่ยนมาเปิดก่อนภาพยนตร์ จะฉาย แต่ในการแสดงมหรสพอื่นๆ เช่น ละครเวทียังคง เปิดหลังจากจบการแสดงเช่นเดิม
49
PHOTO CREDITS : pantown.com
เรื่อง : หทัยรัตน์ เชื้อสอน
Room
เปิดตัว
ain
ห้องศิลปะท่ามกลางสายฝน
สายฝนโปรยปรายท่ามกลางพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ หรือ MOMA แห่งนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา พิพิธภัณฑ์ที่ สร้างสรรค์ห้อง “Rain Room” ให้เหมือนฝนตกโปรยปราย ลงมา ทำ�ให้ผู้เข้าชมงานศิลปะรู้สึกเย็นชุ่มฉํ่า แต่ไม่เปียก!!
ห้องแสดงงานศิลปะ จำ�ลองฝนตก
ผลงานการออกแบบ ที่สร้างสรรค์โดยวิศวกรชาวอังกฤษ ของสตูดิโอ แรนดอม อินเตอร์เนชั่นแนล ภายใต้การสนับสนุน ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ Intel ที่ใช้ระบบกล้อง และวงจร 3 มิติ ตรวจจับความเคลื่อนไหวของคนที่เคลื่อนตัวในสายฝน รับรู้การ ขยับกายของเรา เพื่อจะหลีกทาง ให้เราสัมผัสกับบรรยากาศของ สายนํ้า สายลม และสดับเสียงที่จำ�ลองเสียงจริงของสายฝนที่ จริงจังจนเหลือเชื่อ
“ พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ ที่สร้างสรรค์ โปรยปรายลงมา ให้ผู้ชมงานศิลปะสัมผัส บรรยากาศของสายน้ำ� สายลม...”
ห้องศิลปะ Rain Room จัดแสดงครั้งแรกที่หอศิลป-
วัฒนธรรมบาร์บิแค่น (Barbican Center) หอศิลป์ขนาดยักษ์ ของประเทศอังกฤษ ที่เป็นศูนย์จัดแสดงงานศิลปะทุกแขนง ตั้ง แต่จิตรกรรม ดนตรี ภาพยนตร์ สถาปัตยกรรมร้อยแปด จากนั้น ก็ไปจัดแสดงต่อที่หอศิลป์ MOMA ที่นิวยอร์ก ประสบความ สำ�เร็จอย่างมาก พอใจกันไปทั้งกลุ่มผู้ชมงานศิลปะ และนักถ่าย ภาพที่ระลึก ถึงขนาดมายืนต่อคิวนานหลายชั่วโมง เพื่อเข้าไป พิสูจน์ฝนที่ตกไม่เปียกในห้อง Rain Room.. PHOTO CREDITS: homesthetics.net
50
ชิล ชิล
เรื่อง : จีรวรณ บัวทอง
& r a B r e n n i
4d
ร า ก ง อ ้ ต น ค ง อ ข ล ิ ช ล ิ ช ์ ล ต ไ ส ย า บ ร้านส เสียงเพลง หากคุณก�ำลังมองหาร้านอาหารอร่อย นั่งฟัง เพลงชิค ชิค พร้อมสัมผัสบรรยากาศสุดชิล ในช่วงเวลาหิว หลัง เลิกงาน ในวันที่คุณรู้สึกเบื่อกับอะไรเดิมๆ ในชีวิต ลองมาสัมผัสบรรยากาศใหม่กับร้าน 4 dinner Bar & restaurant 4 Dinner ร้านอาหารบรรยากาศดีบนถนนเลียบ ทางด่วนรามอินทรา-เอกมัย บรรยากาศภายในร้านแบ่ง ออกเป็น 4 บรรยากาศ 4 โซน ด้านล่างมีวงดนตรีเล่นสด ส่วนด้านบนเหมาะส�ำหรับการทานอาหารในบรรยากาศ ส่วนตัว เพียงก้าวแรกที่คุณก้าวเข้าไปในร้านนี้คุณก็จะพบ กับบรรยากาศสุดหรูที่พร้อมเชิญชวนคุณเข้าไปได้ลองลิ้ม ชิมรสชาติอาหารค�่ำ กับเสียงเพลงดนตรีสดที่ผลัดเปลี่ยน หมุนเวียนกันไปซ�้ำในแต่ละวัน
51
t n a r u a t s re
ร้านอาหารบรรยากาศดี ที่ได้ความทันสมัย ให้ความรู้สึก ผ่อนคลาย อบอุ่น ตรงตามความต้องการของลูกค้าทุกเพศทุกวัย มีเมนูอาหารที่หลากหลายรสชาติถูกใจทุกๆ คน และที่ส�ำคัญ แอบแฝงไปด้วยความหรูหราในทุกส่วนของร้านซึ่ง ที่นี่มีมุมให้คุณ เลือกนั่งหลายมุมมีทั้งโซนห้องแอร์ เหมาะส�ำหรับคนที่ต้องการความ เป็นส่วนตัว และหากอยากเลือกนั่งโซฟาสบายๆ จิบเครื่องดื่ม และ ทานอาหารก็ต้องโซนน�ำ้ พุ นับว่าเป็นที่รับลมชมดาวได้เป็นอย่างดีเลย ทีเดียว ส่วนโซนหน้าบาร์จัดไว้ส�ำหรับคนที่ชอบดื่มเบียร์โดยเฉพาะ นอกจากนั้นยังมีเพลงบรรเลงเบาๆ พร้อมด้วยความบันเทิงอีก มากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้องคาราโอเกะ ที่มีให้เลือกหลายห้องหลาย สไตล์ รวมถึงวงดนตรีอะคูสติกชั้นน�ำ เช่น สิงโต น�ำโชค, สินเจริญ เชิญแขก หรือเหล่านักร้องAF ต่างผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนท�ำหน้าร้อง เพลงให้ฟังสบายๆ
ร
ที่จะคอยขับกล่อมเพื่อ ให้คนรู้สึกผ่อนคลายภายใต้บรรยากาศสุด โรแมนติกตลอดทั้งคืน อาหาร และเครื่องดื่มของที่นี่มีมากมายหลาย เมนูเดาไม่ยากเลยว่าร้านสไตล์จะต้องขายอาหารไทย และฟิวชั่น แน่นอน เมนูเด็ดน่าลองที่หากใครไปร้านนี้แล้วต้องสั่ง ถ้าไม่สั่งแสดงว่า ไปไม่ถึงคือ เมนูกุ้งทอดราดซอสครีมสลัด ที่มีกุ้งชุบเกล็ดขนมปังทอด จนเหลืองกรอบตัวโตพอดีคำ� พร้อมซอสครีมสลัดที่ทานแล้วเข้ากันเป็น อย่างดี เมนูแปลกที่หาทานได้ยาก ไม่เหมือนร้านไหน คือเมนู เนื้อนกกระจอกเทศผัดพริกไทยด�ำ ที่ชิมค�ำแรกก็ต้องร้อง ว้าว ! เพราะเนื้อนกกระจอกเทศที่นุ่มลิ้น ที่ผัดกับพริกไทยด�ำ รสเข้ากันได้ อย่างน่าลงตัว ถัดมาปลากะพงทอดลุยสวน อร่อยล�ำ้ อีกจาน ที่ร้านจะ แกะเนื้อปลาออกมาทอดเป็นชิ้นๆให้ ทานง่ายไม่ต้องแย่งตบตีงัดก้าง ปลากับเพื่อนๆ ซอสก็อร่อยดี ออกแนวเหมือนซอสเปรี้ยวหวาน และยังมีเมนูเพื่อสุขภาพส�ำหรับผู้ที่ใส่ใจกับสุขภาพของตนเอง อย่างเมนูย�ำถั่วพู ที่น�ำถั่วพูสดๆ มาหั่นชิ้นพอดีคำ� แล้วคลุกเคล้ากับ น�้ำย�ำรสเด็ดที่ขาดไม่ได้ต้องทานคู่กับไข่ต้ม ผักสดท�ำให้ได้รสชาติ ที่กลมกล่อมนุ่มลิ้น ในแต่ละเทศกาลก็จะมีอาหาร และเครื่องดื่ม แตกต่างกันไป ตามช่วงเวลาความนิยม
การบริการ >> การบริการมีเอกลักษณ์ ให้บริการจากใจจริง ร้านเหมาะส�ำหรับ >> คู่รักที่ไม่เน้นดินเนอร์ใต้แสงเทียน แต่เป็น
อาหารเคล้าดนตรีสด หรือกลุ่มเพื่อนที่หาร้านสวยๆ บรรยากาศดีๆ ทานหลังเลิกงาน จุดเด่นของร้าน >> แต่งสวย ร้านสวย นั่งแล้วเพลิน จุดด้อยของร้าน >> บางครั้งอาหารมาแบบหน้าตาคล้ายๆ กันมาก ราคาต่อหัว >> 250 - 500 บาท เวลาเปิด -ปิด >> จ. - อา.: 17:00 - 1:00
ที่ตั้งร้าน>> 3/21 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม (อยู่เยื้องกับเดอะคริสตัล พาร์ค) กรุงเทพมหานคร ย่าน เกษตรนวมินทร์ - เลียบทางด่วน รามอินทรา เบอร์ติดต่อ 0-2508-0700, 0-2508-0730
52
When you feel
UpSyndome… จากจุดเริ่มต้นของวงดนตรีมัธยมขาสั้น โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย สู่ถนนแห่งงานเพลง งานดนตรี กับหนทางที่ไม่ได้สวยหรูมากนัก กว่าจะ มีซิงเกิ้ลเป็นของตัวเอง กว่าจะมีแฟนคลับ กว่าจะ เป็นที่รู้จักของคนทั่วๆ ไป แน่นอนความสามารถ อย่างเดียวก็คงไม่พอ เพราะกว่าจะถึงวันนี้ พวกเขา ต้องฝ่าฟันความยากลำ�บากมาไม่น้อยเลยทีเดียว ความสำ�เร็จไม่ได้แลกกันมาง่ายๆ หากจะต้องมี ความมุ่งมั่น ความตั้งใจ และความมุมานะ ควบคู่ มาด้วย แต่ก็ยังคงน้อยเกินไป เพราะในความสำ�เร็จ หลายๆ ครั้ง มักมีความใฝ่ฝันควบคู่ เช่นเดียวกับ “Upsyndome” ที่พวกเขาเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ ก็เพราะจิตใจที่ไม่มีคำ�ว่าแพ้นั่นเอง
แนะนำ�ตัวสมาชิกในวง Upsyndome
bier : เบียร์ วศิน เกียรติปริทัศน์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ตำ�แหน่งร้องนำ� /ตั้ม พงษพิสิษฐ์ กลิ่นสุวรรณ มหาวิทยาลัยศิลปากร ตำ�แหน่งกีต้าร์ /เต้ย วรภัทร สุภา พจน์ มหาวิทยาลัยบูรพา ตำ�แหน่งกีต้าร์ /สายป่าน สิรภพ พูลผล มหาวิทยาลัยศิลปากร ตำ�แหน่งเบส /แมน วศิน ประทีปอมรสุข ดุริยางค์ทหารบก กองทัพบก ตำ�แหน่ง กลองชุด
53
จุดเริ่มต้นของวง Upsyndome
bier : คงเป็นด้วยความบังเอิญในช่วงแรกที่เบียร์กับตั้ม ทำ�วงดนตรีสมัยมัธยมที่สวนกุหลาบ คนละวงกันมาเจอกัน มากกว่า แล้วหลังจากนั้นก็กลายมาเป็นเหมือนทุกอย่างค่อยๆ มา ลงล็อคพอดี กับสมาชิกแต่ละคนที่มาเสริม มาแทนที่จนครบอย่างที่ เห็นปัจจุบันนี่แหละครับ
เรื่องและภาพ : วชิรวิทย์ จงรักษ์
ลมพายุ
e…
เพลงอะไรที่ฟังแล้วหัวใจชุ่มชื้นที่สุด วงดนตรีที่เป็น idol bier : วงดนตรีที่พวกเราเดินตามคือ โมเดิร์นด็อก และ บอดี้แสลม ที่เป็นรุ่นพี่สวนกุหลาบ ที่พวกเราได้แรงบันดาลใจทำ�ให้ อยากเล่นดนตรี และเอาแบบอย่างพี่ๆ มาตั้งแต่สมัยมัธยมครับ
bier : เพลงที่ชุ่มชื้นที่สุดของพวกเราน่าจะเป็น “ฤดูที่ฉัน เหงา” ของฟลัว ทั้งเนื้อหา ความรู้สึกทั้งพาร์ทร้อง และพาร์ทดนตรี ครบถ้วน สื่อสารได้อย่างดีที่สุด
54
เรื่องราวผ่านร้อน ผ่านฝนของวง Upsyndome bier : อุปสรรคเป็นเรื่องของระยะทาง เพราะแต่ละคน ค่อนข้างไกลกัน แมนกับเต้ย อยู่ชลบุรี เบียร์อยู่รังสิต ปทุมธานี การเดินทางมาซ้อมกัน จึงทำ�ได้ค่อนข้างลำ�บาก เมื่อมีงานหรือ มีโปรเจ็คจึงสามารถมารวมกันได้ครั้งหนึ่ง แต่ว่าด้วยความรักใน สิ่งเดียวกันทำ�ให้เรายังรวมตัวกันได้ พยายามได้จนถึงทุกวันนี้ เพราะวงดนตรีนี้ไม่ใช่แค่เล่นดนตรี แต่เราเป็นครอบครัวเดียวกัน
สิ่งใดที่ทำ�ให้คุณหายเหนื่อยเมื่อเจอปัญหา bier : หายเหนื่อยที่สุด คงเป็นการที่กลับไปเล่นงานของ โรงเรียนแล้วน้องๆ กลุ่มแฟนคลับร้องเพลงเราได้ มันเป็นความ รู้สึกที่ดีอย่างบอกไม่ถูก แค่เค้าเคยฟังว่ายอดเยี่ยมแล้ว แต่นี่เล่น ที่โรงเรียนที่เราเริ่มมา โดยมีคนร้องตาม แค่ได้ยินก็หายเหนื่อย แล้วครับ แล้วที่เยี่ยมไปกว่านั้น การฟังเพลงวงตัวเองในวิทยุผ่าน คลื่นต่างๆ นี่มันเป็นความรู้สึกที่พิเศษกับพวกเรามากๆ เพราะ ถือว่าสิ่งที่เราทำ�มันเข้าถึงกลุ่มคนที่เขาเข้าใจเพลงของเราด้วย
ความสำ�เร็จที่ได้มาวันนี้ bier : ความสำ�เร็จมันไม่มีอะไรชี้วัด เราเติมไฟ ให้กันอยู่เสมอ เราคิดว่าวงเรายังไม่ดัง เราก็ต้องแลกกับ ความพยายามที่มากขึ้น มีเป้าหมายต่อไปเรื่อยๆ จากตอนแรกแค่อยากทำ�เพลง อยากเล่นดนตรี กลายมา เป็นอยากประกวด จนวันนี้มีเพลงเราในหนังสือเพลง มีคนฟังหลายแสนในยูทูป มีเพลงเราเปิดในคลื่นวิทยุ มีคนรักเรา ร้องเพลงเรา มีงานมีคอนเสิร์ต ได้เล่นดนตรี ได้อยู่กับสิ่งที่เรารัก มีคนสนับสนุนเรา ความฝันมันก็ เดินทางมาไกลมากๆ แล้ว เราเก็บเรื่องราวระหว่างทาง พวกนี้มาเป็นกำ�ลังใจ ให้เราทำ�มันอย่างเต็มที่ต่อไป
55
หากเปรียบความพยายาม ที่ผ่านมา กับ ฝนตก
bier : ความพยายามนี่เป็นเรื่องใหญ่เลยถ้าเป็นฝน คงถล่มลงมา เราจะมีแรงเสียดทานตลอดเวลาทั้งจากภายใน และภายนอก ภายนอกเป็นกระแสต่างๆ ทั้งดีและไม่ดีเราเอา มาผลักให้มันดีขึ้นอยู่เสมอ ส่วนภายในวงแค่ทุกคนที่ไม่ใช่เรา พัฒนาหมด ทุกคนไปข้างหน้า แค่เราอยู่กับที่มันก็เท่ากับถอย หลังแล้ว มันทำ�ให้เรายิ่งต้องพัฒนามากขึ้นครับ
“หลังฝนซาฟ้าย่อมสดใส” bier : ผมคิดว่ามันยังไม่เป็นฟ้าหลังฝนนะสิ เราจะ ค่อยๆ ผ่าน ค่อยๆ เรียนรู้กับทุกๆ เหตุการณ์ที่เข้ามามันไม่มี ครั้งไหนที่เลวร้ายหนักขนาดที่เราจะพูดอย่างนั้นได้ แต่เรา ยังคงทำ�หน้าที่ และทำ�สิ่งที่เรารักต่อไปแบบนี้เรื่อยๆ
ฝากผลงานกับผู้อ่าน Seasons Change
หากเปรียบอุปสรรคที่ผ่านมาเป็นลมพายุ คิดว่าพายุแต่ละครั้งพัดแรงแค่ไหน bier : อุปสรรคเปรียบเป็นพายุ มันก็คงมาเป็น ระลอกๆ แต่มาบ่อยแหละครับ เพราะปัญหาที่เราเจอ มันมาเป็นเรื่องใหม่ตลอด แต่เราเชื่อว่า ไม่ว่าอะไรจะ เกิดขึ้น เราจะแก้ปัญหานั้นด้วยกัน เราเป็นทีมเดียวกัน หลายคนเคยบอกว่าทีมที่เก่งที่สุด ดีที่สุดจะทำ�ให้ ประสบความสำ�เร็จ แต่ส�ำ หรับพวกผมแล้วเราไม่จำ�เป็น ต้องเก่งที่สุด หรือ ดีที่สุด แต่เราเข้าใจ และเป็นทีมเวิร์ค มากที่สุด ไม่ต้องไปแข่งกับใครหรอกครับ เพราะถ้าเรา เชื่อมั่นในทีมเรา ว่าทุกอย่างจะต้องดี แล้วทำ�มันเต็มที่ ผลลัพธ์ย่อมดีแน่นอน ปัญหาที่มีก็ค่อยๆ แก้ครับ ไม่มีอะไรเกินความสามารถเรา
bier : ฝากผลงานของพวกเรา Upsyndome ที่ facebook.com/musicupsyndome หรือ ในยูทูป แชนแนลเสิร์ช Upsyndome เรามีซิงเกิลทั้งหมดสี่ และ เอ็มวีสองเอ็มวี ให้ติดตามกันไปก่อน และเร็วๆ นี้ กับ ผลงานซิงเกิลที่ห้าของเรา พร้อมแขกรับเชิญพิเศษก่อน จะรวมอีพี อัลบั้มเร็วๆ นี้ครับ
ทุกคนมีความฝัน ไม่ต่างจากพวกเขาเหล่านี้ ที่มีความพยายามในการทำ�ตามฝัน งานดนตรีเป็น สิ่งที่พวกเขารัก และคงจะมีความสุขมากๆ ถ้าได้ ทำ�ในสิ่งที่หัวใจต่้องการ นี่คงเป็นเหตุผลง่ายๆ ที่พวกเขาเหล่านี้ ทำ�ความฝันให้เป็นความจริง … แล้วคุณล่ะ มีฝัน มีแรงบันดาลใจ ในการตามล่า ความสำ�เร็จนั้น แล้วหรือยัง !?!
56
ฤดูฝน
คิดถึงฤดูฝน
คิดถึงอะไร?
“รู้สึกถึงความเหงา ความเศร้า จะเป็นหนักเมื่อตอนอยู่คนเดียว พอถึงฤดูนี้หลายคนคงรู้สึกเหมือนกัน” ธนภณ ชัยวงศ์ (บอย)
คณะบริหารธุรกิจนานาชาติ มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต
57
ณัฐพล นาบุญพัฒนา (อาร์ม)
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
“เมื่อนึกถึงฤดูฝน สำ�หรับอาร์มแล้วมันมีสองมุมมอง อย่างแรกช่วงฤดูฝนมันจะอยู่ในช่วง เปิดเทอมใหม่ๆ เลยทำ�ให้นึกถึงการเดินทางไปโรงเรียน หรือไปไหนมาไหน รู้สึกไม่ชอบเลย ฝนตก อีกแล้ว แล้วมันยังทำ�ให้ผมนึกถึงท้องฟ้าที่มันมืดๆ ทั้งที่มันยังไม่ถึงเวลาตอนเย็นเลย ไม่ค่อยสบาย ตา พลอยให้ไม่สบายใจไปด้วย พอฝนหยุดบางทีมีน�ำ ้ท่วมขังอีก อาร์มเลยไม่ค่อยชอบมุมมองด้านนี้ของ ฤดูฝน แต่อีกมุมมองหนึ่งนึกถึงเวลาเราได้นอนอยู่ในบ้านฟังเสียงฝนตก ไม่มีแดดร้อนๆ มารบกวน บางทีมีเสียง อึ่งอ่าง มันมีความเป็นธรรมชาติครับ ในมุมมองนี้อาร์มกลับรู้สึกต่างจากมุมมองแรกมากๆ เลย เพราะว่ารู้สึกมีความสุขถ้าเราได้พักผ่อน อยู่ที่บ้านกับครอบครัว ช่วงฤดูฝนอาร์มว่า คงไม่มีใครออกมาเดินให้เปียกฝน ถึงแม้จะมีร่มก็ตาม คงไม่มีใครออกมาจากบ้าน ถ้าไม่มีความ จำ�เป็นอะไร เพราะฉะนั้น ช่วงเวลาที่ฝนตกจึงเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนจะน้อยมาก หรือแทบจะไม่มีใครเลยด้วยซำ�้ ต่างจากตอนฝนไม่ตก โดยสิ้นเชิง และมันก็แปลก ที่เราได้ยินเสียงเม็ดฝนกระทบกับพื้น หรือหลังคาบ้านดังสนั่น แต่มันกลับรู้สึกเงียบเหงาแบบจับใจเลยก็ว่าได้”
คิดถึงฤดูฝน
พิติ ชินสำ�ราญ (ตูมเม่) คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
“นึกถึงเพลง ความคิด ของ แสตมป์ เพราะเมื่อเราโตขึ้น เราก็จะรู้จัก คนใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ คนที่เราเคยรู้จักเคย สนิท เราก็อาจจะต้องห่างจากเค้า ห่างจน อาจเหลือเพียงแค่ความทรงจำ� คือเหมือน ในจุดๆ หนึ่ง เราต่างคนก็ต่างมีทางเป็นของ ตัวเอง ก็ต้องแยกกัน เหมือนตอนที่อยู่กับ เพื่อน ม.ปลาย ที่ย้อนกลับไปได้เพียงความ คิด เป็นเพลงที่ให้ความหมายเศร้ามาก”
คิดถึงดนตรีแนวไหน?
อรนาฏ เพ็งขำ� (บูล) คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
“นึกถึงดนตรีที่ไม่มีคำ�ร้อง แบบ music box เพราะทั้งเสียงของฝน และ เสียงของดนตรี music box เป็นเสียงที่ เราฟังได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อ ไม่ต้องฟังเพื่อ จับใจความ แต่เมื่อฟังแล้วทำ�ให้รู้สึกผ่อน คลายไปกับมัน บางครั้งรู้สึกสนุกเมื่อได้ฟัง”
ฐานัฐพ์ โล่ห์คุณสมบัติ (ลี) วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
“ดนตรีมันมีเรื่องของความรู้สึก แบบเศร้าๆ เข้ามาผสมผสานอยู่ แบบใน เนื้อเพลงหรืออาจจะทำ�นองเพลงที่สื่อออก มาให้รู้สึก ก็เพลงนี้ไง ฤดูที่ฉันเหงา อย่าง ท่อนเพลงที่ว่า ในคืนที่ฝนโปรยเราอยู่ด้วย กันตรงนี้ ฉันเหงาเธอรู้ไหม ฉันหนาวจน แทบขาดใจ ไม่มีอ้อมกอดจากเธอที่รู้ใจ เฝ้ารอจนฝนซา สุดท้ายก็ว่างเปล่า”
58
คิดถึงฤดูฝน
คิดถึงศิลปะแบบไหน? “รูปปั้น เพราะเวลาฝนตกจะเห็นหยดฝนเกาะอยู่บนรูปปั้นแล้วค่อยๆ หยดลงพื้น ให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง อดทน แต่ก็จะลดลงเรื่อยๆ กลายเป็นความรู้สึก ที่ด้านชาและโดดเดี่ยว เหมือนกับเวลาที่ผ่านไป มันก็ให้ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป” หริรักษ์ ตั้งติรวัฒน์ (ปริ้นซ์) คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
“นึกถึงจิตรกรรม พวกภาพวาดสีนำ�้ เพราะให้ ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ ชุ่มชื้นเหมือนกับสายฝน ” พัณณิตา บุญเคลิ้ม (ขิง) คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
“ศิลปะการแสดงครับ เป็นสิ่งที่ถ่ายทอดความเป็นฤดูฝนได้ชัดเจนที่สุด ภาพยนตร์สักเรื่องที่สามารถทำ�ให้เราอินไปกับความรักของพระเอก และนางเอก ต้องทำ�ให้เสียนำ�้ตาได้ด้วยนี่สุดๆ” คมสันติ มีแสงนิล (คม) คณะพลศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
59
“
After a storm comes a calm. หลังพายุร้าย ก็จะมีลมสงบ
”
ลมฝน
เรื่อง : วชิรวิทย์ จงรักษ์
มรสุม เสียงลมพัดตึงตัง ลู่ยอดตาลสูงตระหง่าน เมฆเทาครึ้ม เลื่อนลอยอย่างเร็วไวตามแรงลม อากาศเริ่มแปรปรวน เม็ดฝน ค่อยๆ ซัดกระเซ็นเข้ามาในบ้านหลังเล็กๆ ปลายนา
ยายชราเอามือกอดอกแน่นห่มตัว ด้วยความกลัว และ อากาศที่เย็นลง แกเดินฝ่าลมฝนไปที่แคร่ยาว ซึ่งตั้งอยู่ใต้ต้น จามจุรีใหญ่ ที่แผ่กิ่งก้านครอบคลุมเป็นบริเวณกว้าง ใกล้ๆ กัน ยังมีสระกว้างเหมือนทะเลสาบ ลมฝนพัดผ่านแผ่นนำ�้ดูเป็นแนว คลื่นลูกใหญ่ นำ�้ในสระเข้มเขียว มีใบบัวอยู่ทั่วไป ฝักบัวชูสลอน อยู่เหนือนำ�้ที่กำ�ลังอ่อนไหวตามแรงลม ริมตลิ่งมีสะพานไม้เก่าๆ ปักเป็นแนวอยู่ริมบ่อ มือที่หยาบกร้านจับงอบเก่าขาดเป็นรูออกจากหัววาง บนแคร่ พร้อมหย่อนตัวลงนั่งอย่างเหนื่อยล้า และท้อแท้ ลมฝน พัดผ่านท้องนา ซึ่งมีแต่ซังข้าวที่ถูกเก็บเกี่ยวไปไม่นาน มากระ ทบ ใบหน้าที่เหี่ยวย่นเพราะความชรา ผมที่ขาวโพลนปลิวไป ตามแรงลม ความเย็นจากลมฝนแทรกผ่านเสื้อผ้าไปกระทบ ผิวหนัง จนร่างกายหนาวสะท้าน เสียงกิ่งไม้ใบไม้ดังกราวเป็น ช่วงๆ ทุกครั้งที่ลมกระแทกไปโดน เสียงดูเหมือนน่ากลัว แต่ ยายชราก็ชินกับสิ่งรอบตัวเหล่านี้ เพราะมันเกิดกับแกมาหลาย สิบปีแล้ว ลมแบบนี้มาทุกปีช่วงฤดูหน้าฝน ตั้งแต่จำ�ความได้ ยายชราผ่านลม ผ่านฝนแบบนี้มาไม่น้อยกว่า 60 ครั้ง มรสุม พวกนี้จะมาหายายไม่เคยขาดแม้เพียงครั้งเดียว แกนั่งเหม่อมอง ออกไปที่ท้องทุ่งนาของตัวเอง ใจหวนนึกไปว่าทุกสิ่งทุกอย่างมัน มักจะวนเวียนกลับมาที่เดิมเสมอ จากพื้นนาที่แห้งผาก เมื่อมีฝน ตกลงมา ก็ไถนา ดำ�นา ปลูกข้าวเต็มผืนนา
63
กบเขียดร้องกันจนทุ่งนาสะเทือน เสียงปลาใหญ่ฮุบเหยื่อใน ตอนกลางคืน ต่อมาข้าวก็เขียวเต็มทุ่ง กลิ่นใบข้าวหอมเย็นอบอวน ชวนให้ชื่นใจ แปรสภาพจากทุ่งนาธรรมดา เป็นทุ่งรวงทอง มองดูเป็น เหมือนพรมสีทองผืนใหญ่
ยายชราทอดสายตามองออกไปไม่มีจุดหมายชีวิตของแก มีแต่ความอ้างว้าง เปล่าเปลี่ยวเงียบเหงา หลังจากคู่ชีวิตได้ตาย จากแกไปเมื่อหลายปีก่อน เวลาไปทำ�บุญที่วัด พระท่านก็สอนเสมอ ว่า การเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องธรรมชาติ แกก็ พยายามคิดว่ามันเป็นอย่างที่พระพูด แต่ในความเป็นจริง การสูญเสีย ก็เป็นเรื่องที่สะเทือนใจอยู่มาก การทำ�ใจก็ต้องใช้เวลา การผูกพัน ระหว่างผัวเมียหรือคนที่เรารักก็เป็นเรื่องธรรมชาติเหมือนกัน
ความคิดของยายล่องลอยไปถึงความตาย การเวียนว่ายตาย เกิดเป็นเรื่องที่ต้องเจอต้องพบทุกคน ไม่มีใครหลีกหนีพ้น ความตาย บางครั้งก็ดูน่ากลัว แต่บางครั้งก็เป็นสิ่งที่ต้องการ ตะวันลับขอบฟ้า เหมือนทุกวัน ความมืดมาเยือน ลมฝนแรงขึ้นพร้อมกับความหนาว เย็นที่เพิ่มขึ้น ยายชราลุกขึ้นมือกอดอกเพื่อสร้างความอบอุ่นให้ตัวเอง ขยับ เดินตัวงอๆ หลบฝนที่เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ กลับเข้าไปในบ้าน
“ วงจรชีวิตที่ผ่านมา พอพระอาทิตย์ขึ้น แสงสว่างก็มา พอพระอาทิตย์ตก ความมืดมาแทนที่ ทุกเมื่อเชื่อวันก็เป็นแบบนี้ ”
บางทีชีวิตในตอนนี้ก็เหมือนมรสุม ที่กำ�ลังก่อตัวขึ้น อีกไม่นานก็ต้องผ่านไป ชีวิตยายก็ต้องดับสูญเช่นกัน แต่ไม่รู้ว่าอีก นานแค่ไหน หรือบางทีอาจเป็นพรุ่งนี้ ใครก็ไม่สามารถรู้ได้ รู้แค่ว่า ชีวิต ต่อให้มีมรสุมสักกี่ลูกก็ตาม พัดถาโถมเข้าใส่ เราต้องผ่านมันไป ให้ได้ ใช้ชีวิตให้เป็น อยู่กับความจริง ทำ�ให้ตัวเองมีความสุขทุกครั้ง แม้เวลาที่หลับตาหรือลืมตา …
64
WINTER
PROFILE ชื่อ-สกุล : สุระการ มานะวิชากิจ ชื่อเล่น : เบียร์ อายุ : 19 ปี การศึกษา : วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ผลงาน - โฆษณา ร้าน Swensen’s (Thailand) ความสามารถพิเศษ : เล่นดนตรี (กีต้าร์) แนวเพลง / เพลง ที่ชอบ : bossanova เมื่อฟัง แล้ว รู้สึกถึงความเหน็บหนาว แนวศิลปะที่ชอบ : สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม ของต่างประเทศ นิยามฤดูหนาว : ฤดูแห่งความสุข ฤดูที่ท�ำ ให้ บรรยากาศรอบตัวดีไปหมด
E
dinburgh
F
เรื่อง : หทัยรัตน์ เชื้อสอน
โปรโมท
ringe
estival
เดอะ ฟริงจ์ เทศกาลศิลปะกลางแจ้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน
โลกที่รวบรวมการแสดงศิลปะกลางแจ้งหลากหลายแขนงเอาไว้ด้วยกัน ทั้งการแสดงละครกลางแจ้ง การแสดงตลก ร้องเพลง ฯลฯ มากมายเท่า ที่คุณจะนึกออก รวมแล้วมีการแสดงทั้งหมดกว่า 40,000 รายการ และ ผลัดเปลี่ยนใช้ผู้แสดงที่มาจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกราว 2,000,000 คน เลยทีเดียว จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 – 27 สิงหาคม ผู้ที่ไปเที่ยวสามารถเดิน ชมการแสดงได้ตามท้องถนน ร่วมแวะไปชมบริตทาเนีย เรือสำ�ราญหลวง ที่เลื่องชื่อได้ที่ เอดินบะระ โอชียน เทอร์มินัล
หนาวอันดับที่ 5
ง
านแสดงศิลปะกลางแจ้งนี้ได้จัดขึ้นทุกปี ซึ่งเป็นที่สนใจของ คนในเมือง และนักท่องเที่ยวต่างเมืองที่แวะเวียนมา กิจกรรมในงานก็จะ มีการแสดงจากนักแสดงมากมายทั่วโลกที่มารวมตัวกันในงานนี้ มีทั้งการ แสดงที่หวาดเสียว การแสดงตลก การเล่นมายากล การเล่นต่างๆ ที่ขน มาให้ชมกันที่งานนี้โดยเฉพาะ PHOTO CREDITS: blogs.ft.com/photo-diary
72
หิมะตก
เรื่อง : วชิรวิทย์ เอี่ยมวิลัย
5 ทุกเวลาที่คุณเหน็บหนาวยามกลางคืน คุณคงอยากซุกตัวเข้าไป ในผ้าห่มหนาๆ พร้อมเปิดเพลงที่แทนความรู้สึกคลอไปด้วยเบาๆ คืนนั้น คงเป็นคืนสุดวิเศษที่คุณคงจดจำ�อย่างไม่รู้ลืม “เสียงเพลงกับความหนาว” มันช่างเป็นอะไรที่เข้ากันอย่างกลมกล่อม ความไพเราะแห่งเสียงดนตรี เคล้าไปกับเนื้อหาดีๆ ของบทเพลง คงยิ่งทำ�ให้หัวใจคุณหนาวขึ้นไปอีก หลายองศา เหมันตฤดู… ฤดูกาลที่หลากหลายความรู้สึก ทั้งความรู้สึกเหงา ความรู้สึกหนาว หรือแม้กระทั่งความรู้สึกโหยหาไออุ่นจากใครสักคน คงเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้สำ�หรับฤดูอันเหน็บหนาวฤดูกาลนี้ เราจะพาทุกคน ไปร่วมเร้นกายหลบลมหนาวไปกับ 5 บทเพลง เมื่อคุณได้ฟังเพลงแล้วจะ หายหนาว หรือจะยิ่งหนาวกว่าเดิมกันแน่มาร่วมพิสูจน์กัน เริ่มกันที่อันดับที่ 5 เพลงนี้คงเป็นอีกเพลงที่เสียบแทงหัวใจ ของคนหนาว ที่ต้องการโหยหาไออุ่นจากใครสักคนได้เป็นอย่างดี
อันดับบทเพลง รัก แห่งเหมันตฤดู
“
73
หนาวอันดับที่ 5
กอดตัวเอง เมื่อลมหนาวมา บอก นำ�้ตาอย่าเพิ่งไหลเลย อย่าเพิ่งยอมแพ้ แค่เธอยังไม่เฉลย ไม่เอาไหนเลย เรื่องทำ�ให้เธอเห็นใจ
“ลมหนาวมาแล้วนะ” flame
”
เนื้อหาบทเพลงที่ออกแนวตัดพ้อปนให้กำ�ลังใจ ด้วยเสียงนักร้องนำ�ที่มีเอกลักษณ์ อีกทั้งดนตรีสุดหนักหน่วง ของวง flame คงทำ�ให้ใครหลายๆ คนฟังไปอาจรู้สึกเบื่อความ หนาว อยากหาไออุ่นจากใครสักคนมาอยู่ข้างๆ เป็นแน่
ก
ลย
“
หนาวอันดับที่ 4 “ฝนฤดูหนาว” พริม เพชรรัตน์
เหมือนฝนตกในฤดู หนาว เพราะทำ�ให้หนาวจน จับใจเหมือนรักที่มันดูเหงามากมาย ความรักที่มันดูเจ็บชํ้า ไม่นานจะ หายแล้วผ่านไป เหมือนฝนตกลง มาแล้วซาลงไป
”
เวลาลมหนาวพัดมา สิ่งที่ต้องมาด้วยทุกครั้งก็คือ “ความ หนาว” แล้วมันจะเหนื่อยแค่ไหน ที่เราจะต้องสู้กับความหนาว เพียงลำ�พัง เพลงนี้ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีสำ�หรับคนโสด ที่ต้อง อยู่หน้าหนาวคนเดียว ไหนๆ ก็ไม่มีใครละหักดิบฟังเพลงแบบนี้ให้ บาดใจไปเลย เอาให้หนาวจนสุดขั้วหัวใจ เพลงสามารถผสมผสาน เสียงดนตรี กับเสียงของนักร้องได้แบบลงตัว
“
เคยคิดเล่นๆ กับตัวเองว่าทำ�ไม “ฤดูหนาว” กับ “ฤดูฝน” สองฤดูที่แตกต่าง แต่แปลกตรงที่กลับให้ความรู้สึกที่คล้ายกัน เมื่อได้ฟัง เพลงนี้ครั้งแรกก็รู้สึกดีใจที่มีคนคิดแบบนี้เหมือนๆ กัน อีกหนึ่งบทเพลง สุดไพเราะ ถ่ายทอดผ่านพริม เพชรรัตน์ ทำ�ให้คนฟังรู้สึกอิ่มเอมไปทั้ง ความรู้สึกเปียกปอนไปด้วยสายฝน และเหน็บหนาวไปได้ในตัว ช่างเป็น ความรู้สึกแบบแปลกๆ แต่ก็ไม่มีใครปฏิเสธมันได้จริงๆ
“
เพราะอากาศมันหนาว คนที่ขี้เหงา ก็เลยต้องทำ�ใจ คอยระวังไม่ให้ เปล่าเปลี่ยวใจที่ กำ�ลังเหงา แต่ก็มีเธอยื่นมือมาให้จับ ความรู้สึกของฉันก็เปลี่ยนไป
”
หนาวอันดับที่ 3
“เพราะอากาศมันหนาว” Basket Band
“
“ลมหนาว” ปราโมทย์
”
“ฤดูหนาวไม่เคยยาวนาน” ศิรินทิพย์ หาญประดิษฐ์
เพลงของวงคุณภาพดี Basket Band แต่อาจไม่ค่อยคุ้นหู ใครหลายๆ คน อีกหนึ่งบทเพลงที่ฟังสบายๆ ให้ความรู้สึกเหงาปนกับ ความหนาวได้แบบลงตัว สิ่งที่ดีที่สุดของเพลงนี้คือ “เสียงของนักร้อง” ทำ�ให้ได้บรรยากาศ “หนาวแบบเหงาๆ” หากคุณได้ฟังเพลงนี้จนจบแล้ว รับรองว่าคุณคงอยากรีบหาใครสักคนมาให้กอดแทบไม่ทัน “เพราะ อากาศมันหนาว”
หนาวอันดับที่ 2
อยู่ใกล้ๆ เธอ มันอุ่นใจ อยู่คนเดียวทำ�ไม มันไม่เหมือนกัน อยู่กับเธอแล้ว ฤดูหนาวไม่เคยยาวนาน
ลมหนาวมาเมื่อใด ใจฉันคงยิ่งเหงา คืนวันที่มัน เหน็บหนาว ไม่รู้จะทนได้นานเท่าไร ลมหนาวมาเมื่อใด กลัวฉันกลัวขาดใจ เพราะหัวใจที่มันอ่อนไหว ไม่เคย ได้รักจากใครเสียที
”
หนาวอันดับที่ 1
นี่แหละ คือ ที่สุดแห่งเพลงประจำ�เหมันตฤดูอย่างแท้จริง เสียงของนุ่มๆ ของ โรส ศิรินทิพย์ ทำ�ให้เพลง “ฤดูหนาวไม่เคย ยาวนาน” อุ่นขึ้นมา และทำ�ให้ฤดูหนาวสั้นลงไปจริงๆ เนื้อหาของ บทเพลงก็ถ่ายทอดได้แบบลงตัว ทำ�ให้คู่รักหลายๆ คู่ คงอยาก จับมือฝ่าความเหน็บหนาวไปด้วยกัน ไม่ยอมแพ้ต่อความหนาว เพลงนี้คงเป็นอีกเพลงหนึ่งที่ใครๆ หลายคนคงประทับใจอย่าง ไม่รู้ลืม
5 อันดับบทเพลงรักแทนความรู้สึก คงมีสักบทเพลงที่ ถูกใจคุณ หากใครยังไม่เคยฟังเพลงไหน ก็อย่าลืมหามาฟังกัน แล้วคุณจะรู้ว่าบางครั้งความหนาวก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด คงทำ�ให้หลายๆ คนที่กลัวความหนาวได้อบอุ่นขึ้นมาบ้างไม่มาก ก็น้อยเป็นแน่ อาจจะมีบทเพลงแห่งเหมันตฤดูซักเพลงที่สามารถ เป็นแรงบันดาลใจที่ดี ทำ�ให้คุณกล้าที่จะต่อสู้กับลมหนาว และ ทำ�อะไรซักอย่างเพื่อคนที่คุณรักเพราะ…
“บทเพลง กับ ความหนาวเราคู่กัน” PHOTO CREDITS: gmember.com education-portal.com www.ktthaistudio.com
74
เอกขนก
5 75
เรื่อง : จีรวรรณ บัวทอง
L
จิ
atte
Art
บกาแฟ ดื่มงานศิลปะ
“
ในวันที่เมฆครึ้ม ลมหนาวลอยผ่านพัดมา คุณคงอยากได้เครื่องดื่มอุ่นๆ สักแก้วเป็นเพื่อน เพื่อคลายความหนาวเย็น ที่คุณกำ�ลังสัมผัสมัน กาแฟเป็นเครื่องดื่ม ที่หลายๆ คนคงหยิบขึ้นมาลิ้ม รสความหอม ของกาแฟในวันที่อากาศไม่เป็นใจแบบ นี้ เหมาะอย่างยิ่งที่จะให้กาแฟแก้วน้อยอยู่เป็นเพื่อนคู่ใจ พร้อมที่จะสามารถทำ�ให้คุณรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และทำ�ให้คุณรู้สึกอบอุ่นในเวลาเดียวกัน
”
หากพูดถึงกาแฟ คนส่วนใหญ่คงนึกถึงกาแฟสีน�้ำตาลเข้ม ละลายกับน�ำ้ ร้อนๆ ที่คุณก�ำลังเทลงไปในถ้วยสีขาวพร้อมกับส่งกลิ่น หอมอบอวล เชิญชวนให้คุณยกมันขึ้นดื่ม ก่อนที่มันจะคลายความ ร้อนและหมดความอร่อย เจ้ากาแฟถ้วยนี้คุณอาจจะเห็นมันทุกวันจน คุ้นเคย แต่ถ้าหากคุณสามารถสร้างลวดลายสวยงามไว้ บนกาแฟถ้วย โปรดของคุณ คงจะสร้างความแปลกใหม่ให้กับคุณได้เช่นกัน คุณเชื่อหรือไม่? ปัจจุบันศิลปะไม่ได้จ�ำกัดอยู่แค่บนแผ่น เฟรมสีขาวเท่านั้น แต่ยังสามารถโลดแล่นไปอยู่ในที่ต่างๆ ได้ แม้แต่ บนถ้วยกาแฟที่มีฟองนมฟูฟ่อง คุณก็จะเห็นเจ้าภาพแมวน้อยตัวอ้วน ดอกเบญจมาศที่กลีบซ้อนกันละเอียดยิบ ใบไม้พลิ้วไหว ปลาสะบัดครีบแหวกว่ายในสายธาร ไปจนถึงหงส์เริงระบ�ำ ภาพศิลป์เหล่านี้ถูก เรียกว่า ‘ลาเต้ อาร์ต’ นอกจากกลิ่นอันหอมกรุ่น และรสชาติเข้มข้น กลมกล่อมที่ยั่วยวนให้ผู้คนหลงใหลใน เสน่ห์ของกาแฟแล้ว ปัจจุบัน การตกแต่งก็กลายเป็นศิลปะ ที่สร้างความสุนทรีย์ในการดื่ม ซึ่งขาด ไม่ได้ ในกาแฟแต่ละถ้วยที่ถูกเสิร์ฟ และล่าสุดมีการสร้างภาพศิลป์บน ฟองนมที่เรียกกันว่า ‘ลาเต้ อาร์ต’ (Latte Art) มาใช้ในการตกแต่ง กาแฟอย่างแพร่หลาย ร้านกาแฟหรูในเมืองไทยหลายต่อหลายร้าน ก็เริ่มน�ำลาเต้ อารต์ มาใช้เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้า ลาเต้อาร์ต หรือการสร้างสรรค์ศิลปะเป็นลวดลายจากโฟมนม ลงบนกาแฟ ที่เคลือบผิวหน้าด้วย‘เครม่า’ หรือโฟมนมของกาแฟ อาจไม่ใช่เรื่อง ใหม่ส�ำหรับบรรดาคอกาแฟในอิตาลี
ประเทศแห่งงานศิลปะที่ผู้คนนิยมดื่มกาแฟกันมากที่สุดแห่งหนึ่ง ของโลก และส�ำหรับคนอิตาเลียนแล้ว กาแฟไม่ใช่แค่เครื่องดื่ม กระตุ้นโสตประสาทเท่านั้น หากแต่คือความสุนทรีย์อย่างหนึ่งของ ชีวิต ดังนั้น กาแฟแต่ละถ้วยที่น�ำมา เสิร์ฟนอกจากจะต้องมีรสเป็น เลิศแล้วสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ คือประดับตกแต่งอย่างสวยงามเพื่อสร้าง ความประทับใจให้แก่ลูกค้า จึงไม่แปลกที่ ‘บาริสต้า’ หรือ คนชงกาแฟในร้านกาแฟต่างๆ ของอิตาลีจะขมักเขม้นกับ การสร้างสรรค์รูปร่าง หน้าตาของกาแฟแต่ละถ้วย ไม่ต่างจาก จิตรกรที่สร้างภาพศิลปะเลยทีเดียว ซึ่งลาเต้ อาร์ต เป็นส่วนหนึ่ง ของการสร้างสรรค์ ลาเต้ อาร์ต นับว่าป็นเสน่ห์ อย่างหนึ่งของ วงการกาแฟ และหลังจากนั้นร้านกาแฟของไทยหลายร้านก็ได้ น�ำ ลาเต้ อาร์ต มาใช้ในการตกแต่งกาแฟลาเต ้และถือเป็นจุดขาย อย่างหนึ่งของทางร้าน ส่งผลให้ศิลปะลาเต้ อาร์ตในไทยแพร่หลาย มากขึ้น ‘ลาเต้ อาร์ต’ หรือกาแฟลาเต้ที่ แต่งหน้าด้วยลวดลาย ศิลปะก็กลายเป็นเครื่องดื่ม ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในขณะนี้ คุณลองเปลี่ยนกาแฟแก้วโปรดของคุณ ให้กลายเป็นกาแฟ ที่แปลก ตาไม่เหมือนใคร เพียงแค่ลองมาสัมผัสการดื่มลาเต้ อาร์ต ศิลปะที่คุณดื่มได้ photo credit : www.me-dzine.com
76
ART & GURU
Make Up
เรื่อง : อัญญรัตน์ คหัฏฐา / ภาพ : นราธิป คุมพล
Make up หรือการแต่งหน้า
คงเป็นสิ่งที่สาวๆ เกือบทุกคนคุ้นเคยกันเป็น อย่างดี และการแต่งหน้าก็ถือเป็นศิลปะอย่าง หนึ่ง ทุกวันนี้การแต่งหน้าเป็นเรื่องธรรมดา มาก สำ��หรั มากสำ หรับบสาวๆ สาวๆส่ส่ววนอุ นอุปปกรณ์ กรณ์แแต่ต่งงหน้ หน้าาและ และเครื เครื ่องสำ�่ออางก็ งสำ�อางก็ มีให้เมลืีใอห้กใช้ เลือมกใช้ ากมายไปหมด มากมายไป หมด อจนเลื จนเลื กไม่ถอูกกไม่ กันถเลยที ูกกันเเลยที ดียว เดียว
ความจริงแล้วการแต่งหน้า มีความ เป็นมาอย่างยาวนาน นอกเหนือไปจากการ แต่งเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว อย่าง เช่น ในสมัยก่อนชาวอียิปต์จะนิยมเขียนขอบ ตาเป็นสีด�ำ โดยใช้อุปกรณ์ที่ใช้เขียนเรียกว่า “Kohl” ระบายลงไป เหตุผลก็เพื่อช่วยป้ ย องกัน ป้องกันดวงตาจากแสงแดด ดวงตาจากแสงแดด และแมลง และแมลง ยังมีเหตุยัผงลมี เหตุผลตามความเชื ตามความเชื ่อว่า ช่ว่อยในการขั ว่า ช่วยในการขั บไล่สิ่งชับ่วไล่ร้าสยิ่ง อีชั่วกร้ด้าวยอี ย ซึก่งด้การเขี วย ซึ่งยการเขี นตานีย้เนตานี ป็นที่น้เิยป็มในอี นที่นิยมใน ิปต์ อียิปต์ไม่มวาก่าผูไม่ มาก ้หญิว่างผูหรื ้หญิองผู้ชหรืายอผูรวย ้ชายหรืรวย อจนหรือ ทุจนกคนก็ ทุกคนก็ จะทาขอบตาเป็ จะทาขอบตาดำ นสี�ด�ำ
ต่อมาก็มีการนำ�ชอล์กขาวมาใช้เป็น ไฮไลท์ และใช้ และใช้ผผลชาดสี ลชาดสีแแดงมาทาแก้ ดงมาทาแก้มมแถมยั แถมง มียังกมีารนำ การนำ �ไข่�ขไข่าวมาทาหน้ ขาวมาทาหน้ า เพื า ่อเพืให้่อมให้ีลมักีลษณะ ักษณะ มันเงา รวมทั้งใช้สีขาวที่ทำ�มาจากตะกั่วขาว ซึขาว ่งเป็ซึน่งพิเป็ษนมาทาหน้ พิษมาทาหน้ า ส่งผลระยะยาวต่ า ส่งผลระยะยาวต่ อ อ สุขภาพทำ�ให้มีผู้หญิงจำ�นวนมากที่ตายจาก ายจากพิษ พิตะกั ษตะกั ่ว ่ว
p
ทุกวันนี้ แนวความคิดสวยจาก ภายใน กับการแต่งหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติ เป็นที่นิยมมาก แต่แนวทางการแต่งหน้าก็ยัง มีหลากหลาย ใครจะแต่งยังไง ทำ�อะไรก็ได้ ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน รวมถึง การเข้ามาของเทคโนโลยีทางการแพทย์ ที่ช่วยเสริมความงาม ลบความบกพร่อง ก็เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ต้องรอดูกันต่อ ไปว่า ในอนาคตเราจะมีการเปลี่ยนแปลง อย่างไรกันอีก
คราวนี้เราจะมาทำ�ความรู้จักกับ “ตูน” ชัยดิษฐ์ สมทรง ช่างแต่งหน้าฝีมือ ยอดเยี่ยม บัณฑิตจากคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ผู้มีฝีมือ ในการแต่งหน้าเป็นอย่างยิ่ง และยังได้เป็น ส่วนหนึ่งในการจัดแฟชั่นโชว์ของ ELLE THAILAND อีกด้วย
จุดเริ่มต้น ในการเข้าสู่วงการเมคอัพ
เริ่มต้นก็คือ ตอนเข้ามหาวิทยาลัย จะรู้จักพี่ที่อยู่คณะศิลปกรรมศาสตร์เยอะ แล้วตอนนั้นจะชอบประกวดนั่นนี่ จะมีพี่ที่ แต่งหน้าให้ แล้วรู้สึกว่าการแต่งหน้า เป็น อะไรที่ไม่หน้าเชื่อ ว่าบางอย่างการแต่งหน้า จะสามารถทำ�ได้ ก็เลยรู้สึกชอบ แต่ก็ไม่เคย คิดว่าเราจะได้มาเป็นช่างแต่งหน้า วันหนึ่งก็เลยไปบอกพี่เค้าว่า ถ้า อยากให้พี่สอนจะได้ไหม เค้าก็บอกว่าได้ ไป หาเครื่องสำ�อางมาแล้วเดี๋ยวพี่จะสอน แต่ ตอนนั้นไม่มีความรู้อะไรเลย ก็ถามพี่เค้าไป ว่าแล้วต้องซื้ออะไร ที่ไหนบ้าง พี่เค้าก็บอกว่า ประตูน�ำ ้ไง ตอนนั้นมีงบอยู่สี่พันบาท ก็เลย ไปซื้อเครื่องสำ�อางที่สามารถทำ�ได้ทุกอย่างใน
งบสี่พันบาท ก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย พี่เค้าก็สอน วิธีการสอนของเค้าก็คือ เค้าจะให้เอาเพื่อนไป หนึ่งคน พี่เค้าก็จะสอนประมาณว่าทาตาทำ� อย่างนี้ พอเราทาตาเพื่อนไปข้างหนึ่ง เค้าก็ จะมาดูว่าแบบนี้ไม่ได้นะ ต้องทำ�แบบนี้ๆ นะ จะไม่สอนทีละขั้นตอนว่าหนึ่งต้องทำ�อย่างนี้ สองต้องทำ�อย่างนี้ แล้วเค้าก็ไม่ได้บอกด้วย ว่าทำ�ไมเราต้องทำ�อย่างนั้น ทำ�อย่างนี้ ทำ�ไม เราต้องขีดเส้นใต้ตา แต่พอเราโตขึ้นมาถึงได้ มาเรียนรู้เองว่า การลากเส้นใต้ตามันคือการ ต่อตา เพื่อทำ�ให้ตาดูยาวขึ้น หรือทำ�ให้ตาโต ขึ้นนะ จะไม่พูดอะไรแบบนี้เลย แต่จะบอก ให้ทำ�ๆ เหมือนสอนแบบพูดให้ฟัง แต่ไม่ได้มา อธิบายว่าทำ�อย่างนี้ๆ เพื่ออะไร
78
ตั้งแต่ตอนนั้น ก็แต่งหน้าเพื่อนมา เรื่อยๆ ยอมรับว่าตอนแรกแต่งทุเรศมาก แต่เพื่อนยังคอยมาเป็นแบบให้ตลอดเลย ต้องขอบคุณเพื่อนมากๆ ต่อมาก็มีเรื่องที่ไม่ คาดฝันเกิดขึ้น เพราะว่าอยู่ดีๆ ก็ไปเข้าเวิร์ค ช็อป กับเครื่องสำ�อาง MAC ก็เอาเพื่อนไป ด้วย เอาไปนั่งเป็นแบบแล้วเราก็แต่งๆ ไป คือทั้งคลาสเป็นผู้หญิงที่มาเรียน แล้วแต่งหน้า ตัวเองหมดเลย เราเป็นผู้ชายคนเดียว แล้วเอา เพื่อนมาแต่งหน้า เค้าก็งงกันหมดว่าเราเป็น ใคร ทำ�ไมเราถึงมาเวิร์คช็อปอย่างนี้ คราว นี้เทรนเนอร์ที่ MAC ก็บอกให้มาลองฝึกงาน กับ MAC ซึ่งอาจจะเห็นจากความตั้งใจของ เรา แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้รู้สึกว่าชอบมาก หรือทำ� เรื่องนี้ได้ดีมาก แต่เหมือนจะอยากหาคำ�ตอบ ว่าการแต่งหน้าต้องทำ�ยังไง คืออะไร
79
ก็ต้องยอมรับว่าเวลาเราเริ่มต้นทำ� อะไร ทุกอย่างไม่ได้ดีไปหมด เราต้องผ่าน เรื่องแย่ๆ ก่อน การได้แต่งหน้ากับ MAC ครั้งนั้นก็เลยถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้ง ยิ่งใหญ่เลย
แล้วทำ�งานยังไง
เพราะว่าก็ต้องเรียนไปด้วย? ตอนนั้นจะเป็นช่วงปิดเทอมพอดี สามเดือนก็ไปฝึกกับเค้า แล้วตอนนั้นโดนใช้ ทำ�ทุกอย่าง คือเป็นพนักงานหน้าร้านเลย ต้องมาจับลูกค้าแต่งหน้า ต้องมาขายของ
ทำ�งานกับ MAC
ได้ค่าตอบแทนไหม?
ช่วงแรกไม่ได้ แต่พอหลังๆ เค้าก็ ให้เราทำ� ขอให้เราไปช่วย ทีนี้เค้าก็เริ่มเห็น ความสามารถ ว่าอย่างนี้เราทำ�ได้อย่างนั้น เราทำ�ได้นะ MAC ก็เลยจ้างมาอยู่หน้าร้าน ต่อ ถ้าคนขาดก็จะเป็นเราแทน ตอนนั้นทำ� ทุกอย่างจริงๆ แต่ว่าก็ไม่ได้ประจำ�เพราะ ว่าเรียนอยู่ แล้วก็ยังไม่จบปริญญาตรี
ยังทำ�งานกับ MAC
อยู่หรือเปล่า?
ยังคงร่วมงานกับ MAC อยู่ แต่เป็นฟรีแลนซ์แล้ว ก็สบายขึ้น
ปัจจุบัน
ทำ�งานอะไรอยู่?
ต้องบอกก่อนว่าพอเราได้มาทำ�กับ MAC เราก็ได้เจอลูกค้ามากขึ้น เจอคนที่ชอบ ในฝีมือเรามากขึ้น จะมีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ MAC จะคอยสอนเราตลอดว่า ต้องทำ�อย่างนี้ๆ ตอนนี้พี่เค้าออกมาจาก MAC แล้ว แต่ก็ยังได้ ทำ�งานด้วยกันอยู่ เหมือนเป็นความโชคดี ที่ได้ ทำ�งานกับคนที่มีชื่อเสียง อยู่แค่ปีหนึ่ง อายุแค่ สิบเจ็ด สิบแปด แต่ได้มาทำ�งานกับ MAC ได้ ลองทำ�ทุกอย่าง ทั้งแต่งหน้า บอดี้เพนท์ ซึ่งยัง เด็กมาก โชคดีที่ได้รับโอกาส
เพราะฉะนั้นเวลาจะทำ�อะไรเราต้อง ค้นหาว่า อะไรคือทางของเราจริงๆ ในอนาคต ถ้าไม่ได้แต่งหน้าแล้ว ก็อาจจะเป็นเพราะว่า ไม่ได้ชอบแต่งหน้าแล้ว แต่วันนี้ยังคงอยู่ตรงนี้ ก็จะทำ�ให้ดีที่สุด อายุไม่ใช่เรื่องสำ�คัญเลย แต่เป็นเรื่องของแรงบันดาลใจ เราต้องรู้ว่า เกิดมาเราจะทำ�อะไร ต้องมีความฝัน ถึงแม้ว่า มันจะพัง แต่เราก็ต้องคิดว่าคนเรายากที่จะ ทำ�อะไร แล้วประสบความสำ�เร็จในครั้งแรก ประสบการณ์จะทำ�ให้เราผ่านไปได้ คราวนี้จะ มีอยู่ช่วงหนึ่งเพื่อนให้ไปแต่งหน้าให้ในงานแต่ง พี่สาว ก็เลยได้ไปเจอกับพี่ป้อม-วินิจ (ป้อมวินิจ บุญชัยศรี เมคอัพอาร์ติสท์ชื่อดัง) จนทุก วันนี้ก็ได้เป็นผู้ช่วยของพี่ป้อม แล้วก็ได้ท�ำ ELLE FASHION WEEK ด้วย
เทรนด์การแต่งหน้า
ในช่วงฤดูหนาว
ฤดูหนาว หน้าแมกกาซีน รันเวย์ แฟชั่นต่างๆ จะแต่งเน้นตาให้ดูคมเข้มและ ฟุ้งกระจาย ด้วยการสโมคกี้อาย โดยเป็น สีสันในเทรนด์วินเทอร์ ตอนนี้ก็จะเป็น สีม่วงประกายชมพูหรือสีม่วงแดง ที่ช่วย ให้ตายังคงดูคมเข้ม แต่ยังดูมีความหวาน อยู่ ในส่วนของใบหน้านั้น จะยังคงเน้น ความเรียบเนียน ด้วยการปกปิดที่บางเบา ดูเป็นธรรมชาติ ยังคงความชุ่มชื้น ไม่ถึงกับ มันวาวจนเกินไปและก็ไม่ใช่ดูเข้ากันจนแห้ง การดัดขนตา และปัดมาสคาร่า ก็ต้องดัด ขนตาให้งอนที่สุด และปัดมาสคาร่าให้เรียง เส้นสวย ไม่จับกันเป็นแพ ส่วนปากก็จะใช้ เป็นลิปสติกสีแดงสด หรือไม่ก็เป็นสีแดงจน เกือบดำ� เพื่อเป็นการสร้างจุดเด่นบนใบหน้า ให้ดูน่ามองมากขึ้น
อยากจะฝากอะไร
ถึงคนที่สนใจทางด้าน “Make Up”
อยากจะฝากบอกว่าถ้ามีโอกาส ผ่านเข้ามาในชีวิต เราก็ควรจะคว้าเอาไว้ ถ้าจะเปรียบ ต้องไม่ท้อ ถ้าทำ�ครั้งแรกแล้วผลที่ได้มัน การแต่งหน้า กับ ฤดูหนาว แย่ ไม่ใช่แค่ในทางของ MAKEUP อย่าง เดียวเท่านั้น แต่รวมถึงการทำ�อย่าง ในฤดูหนาวเราก็ต้องหาเสื้อผ้าหนาๆ อื่นด้วย เพราะฉะนั้นเวลาเจออุปสรรค มาทำ�ให้ร่างกายอบอุ่น ป้องกันไม่ให้ผิวของ อะไรก็อย่าย่อท้อ คิดหาทางแก้ให้ได้ เราแห้งกร้านจากอุณหภูมิที่ลดลง การแต่ง แล้วก็ค้นหาในสิ่งที่ตัวเองรักให้เจอ จาก หน้าก็เหมือนกับเสื้อผ้าด้วยเหมือนกัน แต่ นั้นก็ท�ำ มันให้สุดเท่านั้นเอง เป็นเสื้อผ้าของใบหน้า ที่จะป้องกันใบหน้า หลายคนคงได้ข้อคิดดีๆ จาก จากมลภาวะ หรือสภาพอากาศที่เลวร้าย ตอนนี้พี่ป้อมจะเป็นเหมือนทุกๆ บทสัมภาษณ์ไปเยอะเลย หากใครที่มี ต่างๆ ได้ แล้วก็ยังเป็นการเพิ่มสีสันให้กับ อย่างเลย ตอนที่เราทำ�งานกับ MAC สิ่งที่เราได้ ใบหน้าของเรา เหมือนกับที่เราจะสวมเสื้อ ความชอบในเรื่องการแต่งหน้า หรือใน เรียนรู้มา พอมาอยู่กับพี่ป้อม ก็ได้เห็นว่ามัน กันหนาวหลากหลายสี เพื่อให้ความอบอุ่น ด้านอื่นๆ ก็ลองค้นหาทางของตัวเอง ไม่ใช่เลย ก็คิดว่าที่ได้รู้มามันผิดรึเปล่า เหมือน กับตัวเอง และเพิ่มความสดใสน่ามองให้กับ ให้เจอ เมื่อเจอแล้วคุณอาจจะมีความ ว่าไม่ได้ทำ�แบบนี้เหรอ แบบนั้นเหรอ แล้วพี่ สุขมากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้ เพราะการ ตัวเองได้ ป้อมก็จะบอกหมดเลยว่าต้องทำ�อะไร ยังไง ที่ได้ทำ�งานในด้านที่ตัวเองรัก ความ เหน็ดเหนื่อยจากงานก็จะน้อยลง เราจะ สนุกกับสิ่งที่เราทำ�จนลืมคำ�ว่าน่าเบื่อไป เลยทีเดียว
80
โปรโมท
เรื่อง : หทัยรัตน์ เชื้อสอน / อัญญรัตน์ คหัฏฐา
S
ilverlake Music Festival 2014
เทศกาลดนตรีกลางแจ้งระดับโลก
กลับมาอีกครั้งกับงานเทศกาลดนตรีกลางแจ้ง ที่ท�ำ ให้คุณ อบอุ่นหัวใจ “SILVERLAKE MUSIC FESTIVAL 2014” ที่เต็มไปด้วย ศิลปินร็อคระดับโลก ร่วมทัพด้วยศิลปินชั้นแนวหน้าของเมืองไทย เตรียมพบกับความสนุกอีกครั้ง ด้วยคุณภาพทางดนตรี ระบบแสง สี เสียง เต็มรูปแบบกับเวที Earth Stage, Solar Stage และอีกหนึ่งเวที ที่จะเปิดโอกาสให้ศิลปินน้องใหม่ได้ปล่อยแสงบนเวที Lunar Stage เตรียมตัวคุณให้พร้อมแล้วเจอกัน งานเทศกาลดนตรีคุณภาพหนึ่งวันเต็มที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ ที่ 1 มีนาคม 2557 ตั้งแต่เวลา 12:00 น เป็นต้นไปที่ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค พัทยา กับวงดนตรีต่างประเทศที่คุณจะได้พบกับพวกเค้าเป็นครั้งแรก พร้อมศิลปินชั้นนำ�ของเมืองไทย พบกับเจ้าพ่อวงร็อคอย่าง ไนน์ อินช์ เนล (Nine Inch Nails) ตามด้วยวง เดอะไฮฟ์ (The Hives) กับแนว เพลง Garage rock และวง Indie Rock ยังไม่พอ เรายังขนวงอินดี้จาก ฝั่งอเมริกาอย่าง เดอะ ยูสด์ (The Used) เทคคิ่ง แบค ซันเด (Taking Back Sunday) และ Rebelution บัตรราคา 2,500 บาท บัตรจำ�หน่ายที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา ติดความเคลื่อนไหวได้ที่ Facebook URL : silverlake musicfestival PHOTO CREDITS: silverlakemusicfest.com
Do you know? เด็ก กับ ศิลปะ วัยเด็ก
คือ วัยที่เต็มไปด้วยจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์และความฝัน การขีดเขียนเส้นสาย ต่างๆ ของเด็ก ที่ผู้ใหญ่มองเห็นเพียงแค่ลายเส้นที่ขีด ทับกันไปมา อาจเป็นรูปสัตว์ บุคคล หรือสิ่งต่างๆ ที่ เด็กกำ�ลังจินตนาการถึง การวาดเขียนภาพของเด็ก คือ การแสดงถึงจิตใต้สำ�นึกของเด็ก เพราะวัยเด็กเป็นวัยที่ ไม่มีความคิดที่ซับซ้อน รู้สึกอย่างไรก็แสดงออกมา เด็กแต่ละคนจะมีพัฒนาการและการแสดงออก ทางศิลปะที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม เด็ก ไม่ได้วาดในสิ่งที่เห็น แต่วาดสิ่งต่างๆ ในแบบที่เขารู้จัก การทำ�งานศิลปะจึงเป็นการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ สำ�หรับเด็ก
81
PHOTO CREDITS : pantown.com
เรื่องและภาพ : นราธิป คุมพล
สาระภาพ
สาร ะ ภาพ “ เมื่อลมหนาวพัดผ่าน
ใบไม้บอกลากับกิ่งก้าน ต่างฝ่ายต่างลากันไป แต่เมื่อถึงกำ�หนดเวลา ก็จะกลับมา พบกันใหม่ เป็นประจำ�จนกว่า จะตายจาก ตามกฎของธรรมชาติ ”
เมื่อลมหนาวพัดผ่าน ใบไม้บอกลากับกิ่งก้าน
ต่างฝ่ายต่างลากันไป แต่เมื่อถึงกำ�หนดเวลา ก็จะกลับมา พบกันใหม่ เป็นประจำ�จนกว่าจะตายจากตามกฎของ ธรรมชาติ เช่นเดียวกับฉันและเธอที่เราต่างเลิกรา แยกกัน เมื่อลมหนาวมา แต่เราไม่รู้เลยว่า เราจะมาเจอกันอีกไหม เราจะได้พบกันหรือไม่ จะมีทางเหมือนเดิมได้หรือเปล่า ไม่มีใครตอบได้ แม้แต่กฎของธรรมชาติที่ กำ�หนดทุกสิ่ง ให้เป็นไป สิ่งเดียวที่จะตอบได้ก็คือ เราสองคนเท่านั้น โดยมีตัวแปรคือกาลเวลา ยิ่งเลยนานไปเท่าไหร่ อาจทำ�ให้ เราจากกันไปแบบไม่หวนกลับคืนมา
82
..คืนพิเศษ
กับ เพลงพิเศษ..
JETSET’ER
BURIN
83
เทศกาลงานดนตรีที่อบอวลไปด้วยความรัก เสียงดนตรี
ท่ามกลางหาดทรายขาว และเกลียวคลื่นของหาดเจ้าสำ�ราญ จังหวัด เพชรบุรี “คอนเสิร์ตหลงรักทะเลดาว Art & Music” จัดขึ้นโดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับจังหวัดเพชรบุรี เชิญชวนทุกๆ คน หนีบรรยากาศเมืองกรุงไปสัมผัสกับบรรยากาศริมทะเล พร้อมเสียงเพลง จากศิลปินสุดพิเศษ อาทิ พบกับปาล์มมี่ นักร้องสาวมาดเซอร์ ที่จะพาคุณ ไปทั้งซึ้งทั้งมันส์ ไปกับทะเลดาว ตกอยู่ใน “ชั่วโมงต้องมนต์” กับวง Friday ในคืนอันแสนหวาน ร่วม “ดื่มนำ�้่ผึ้งพระจันทร์” และมันส์ไปกับวงJetset’er สนุกสนานกับ เบน ชลาทิศ ที่จะมาสร้างบรรยากาศโรแมนติกให้ชาวหนีกรุง เคลิบเคลิ้มจนทรายทั้งหาดเจ้าสำ�ราญต้องเปลี่ยนเป็นนำ�้ตาล และบุรินทร์ บุญวิสุทธ์ หรือ บุรินทร์ กรู๊ฟไรเดอร์ ที่มาพร้อมกับวงยอดนิยมอย่าง The Old School All Star นำ�บทเพลงแห่งรักทั้งเก่าใหม่ มาขับร้องบรรเลงอย่าง สนุกไม่มีอั้น และดีเจชื่อดังอีกมากมายมาร่วมสร้างสีสัน
เรื่องและภาพ : หทัยรัตน์ เชื้อสอน
คอนเสิร์ตหลงรักทะเลดาว Art & Music ของหาดเจ้า
เ
มื่อเสียงดนตรีจากวง Jetset’er ดังขึ้น ด้วยเพลง “ไม่ใกล้ ไม่ไกล” ชาวคอนเสิร์ตหนีกรุงก็เริ่มร้องคลอไปกับเพลง
PLAMMY
สำ�ราญ จังหวัดเพชรบุรี อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ขับรถยนต์ส่วนตัว มาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ก็จะได้สัมผัสกับเสียงดนตรีริมทะเล ท่ามกลางหาดทรายสายลมในฤดูหนาว ถึงแม้ว่าฤดูหนาวจะเป็นฤดูที่โหย หาไออุ่นมากที่สุด แต่บรรยากาศเหล่านั้นก็ได้หายไปกับเสียงดนตรีพิเศษ จากศิลปินสุดพิเศษ ทำ�ให้คืนนี้เป็นคืนพิเศษ เหมือนมีใครสักคนมาอยู่ ข้างๆ เวลาที่เราต้องการแค่ใครสักคนหนึ่ง
เพลงพิเศษ
“ เธอไม่ต้องขอบใจ.. กับความห่วงใยที่มีให้เธอ
ไม่ต้องมองว่ามันเลิศเลอก็ดีใจ เพียงในวันอ่อนแอ ให้คนอย่างฉันได้ยื่นมือไป อยากเห็นเธอมีความสุขใจเท่านั้นเอง ”
เ
เ
วลาล่วงเลยไปจนเกือบตี 2 แต่ชาวหนีกรุงก็ยังคงเพลิดเพลิน กับคอนเสิร์ตหลงรักทะเลดาว Art & Music คืนวันศุกร์บรรยากาศ สบายๆ ของชายหาดเจ้าสำ�ราญ ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดจากการ ทำ�งานได้อย่างดีเยี่ยม ถึงแม้ว่าเทศกาลดนตรีชื่อดังนี้จะจัดขึ้นไปแล้ว ในคืนวันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม 2556 แต่ค�่ำ คืนที่อบอวลไปด้วยเสียงดนตรี และเหล่าคนพิเศษนี้ ต่างก็อยู่ในความทรงจำ�สุดพิเศษของใครหลายๆ คน
BEN CHALATID
สียงเพลงอันอบอุ่นดังก้องไปทั่วหาดเจ้าสำ�ราญ ถึงแม้ว่า บรรยากาศริมทะเลจะเริ่มอากาศเย็นแล้ว แต่เสียงเพลงจากศิลปิน สุดพิเศษก็ได้โอบกอดเราเอาไว้ คลายบรรยากาศหนาวจากลมทะเลได้ อย่างดีทีเดียว เสียงเพลงจาก Jetset’er จบลง อีกเสียงเพลงหนึ่งค่อยๆ ดังขึ้น เพลง “ดาว” จากมาเรียม เกรย์ เรียกเสียงจากชาวหนีกรุงได้ อย่างท่วมท้น ด้วยเพลงช้าๆ เนื้อเพลงที่ตรงกับรู้สึกของใครหลายคน และพลังเสียงที่ไพเราะของเธอ ทำ�ให้ชาวหนีกรุงเคลิ้มไปเพลง “ดาว” เสียงเพลงที่ส่งความรู้สึกทั้งความสุขและความเศร้าไปในคราวเดียวกัน ความรู้สึกที่แอบรักใครสักคนหนึ่ง จึงวอนขอดาวให้ช่วยบอกความรู้สึก ของเขาคนนั้นที โดนใจชาวหนีกรุงไปเต็มๆ
84
ยมวิลัย
หนาวจับใจ
ห
ากสรรหาพระมหากษัตริย์ใดในโลกนี้ ที่ทรง เปี่ยมล้นด้วย พระอัจฉริยภาพและพระมหากรุณาธิคุณต่อ พสกนิกร คงหาได้อย่างไม่ยากนัก แต่หากจะสรรหาพระมหา กษัตริย์ที่ทรงพระอัจฉริยภาพ ในการผสมผสานทั้งศาสตร์ และศิลป์ ในการครองราชย์นั้นคงมีเพียงพระองค์เดียวในโลก “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช” พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๙ แห่งราชจักรีวงศ์ ความตราตรึงแห่งการนำ�ท่วงทำ�นองสุดไพเราะแห่ง การดนตรีมาใช้ขับกล่อม เพื่อสานความสัมพันธ์ระหว่าง พสกนิกร ดุจดั่งเสียงดนตรีนั้นคือ นำ�้ ทิพย์จากสรวงสวรรค์ที่ ถูกประทานลงมาเพื่อสร้างไออุ่น ให้บังเกิดแก่ผืนแผ่นดินไทย
85
ผ
ผู้เรียบเรียง : วชิรวิทย์ เอี่ยมวิลัย
ลแห่งพระปรีชาสามารถด้านดนตรีของพระองค์ นั้น หาใช่มีเพียงความไพเราะของทำ�นอง และคำ�ร้องของ บทเพลงเท่านั้น แต่เป็นศิลปะแห่งการผสานความสัมพันธ์ อันแนบแน่น จนสร้างเป็นสายใยแห่งความผูกพันระหว่าง กษัตริย์ กับปวงชนเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ความอบอุ่นที่พระ มหากษัตริย์ทรงมี ช่วยปลอบประโลมความทุกข์ร้อนที่มีในใจ ของปวงประชา พระองค์ทรงเป็นคีตกวี และนักดนตรีที่ชาว โลกยกย่องชื่มชม ความเชี่ยวชาญในศิลปะแขนงต่างๆ หลาย แขนง สมกับที่พสกนิกรชาวไทยน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายพระราชสมัญญาว่า “อัครศิลปิน”
ก้าวแรกแห่งอัครศิลปิน
ทุ
กสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ ล้วนมีจุดกำ�เนิดด้วยกันทั้งสิ้น เฉกเช่นเดียวกับ พระอัจฉริยภาพด้านการดนตรีของพระมหากษัตริย์ พระองค์นี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงเกี่ยวข้องกับการดนตรี มาตั้งแต่สมัยที่ยังทรงเป็น สมเด็จพระอนุชา ในรัชกาลที่ ๘ พระองค์ทรงเริ่มเรียนดนตรี เมื่อพระชนมายุ ๑๓ พรรษา ขณะที่ทรงศึกษาอยู่ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้ทรงฝึกเครื่องดนตรี ที่โปรดปรานมากที่สุดคือ Clarinet และ Saxophone ทั้งนี้ทรงได้รับ การถวายการฝึกสอน ตามแบบฉบับการศึกษาดนตรีอย่างแท้จริง โดย ทรงเรียนดนตรีทั้งในลีลาคลาสสิค และลีลาดนตรีแจ๊ส เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมพรรษา ได้ ๑๘ พรรษา ทรงเริ่มพระราชนิพนธ์เพลง “แสงเทียน” เป็นเพลง พระราชนิพนธ์เพลงแรก และจวบจนถึงปัจจุบัน พระองค์ทรงมีเพลง พระราชนิพนธ์ทั้งสิ้น ๔๘ เพลง ทุกเพลงล้วนมีท�ำ นองไพเราะ ประทับ ใจพสกนิกรทุกหมู่เหล่า เนื้อร้องของบทเพลงล้วน สอดแทรกคตินานัปการ และ เป็นส่วนสำ�คัญส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทย ในยามที่บ้านเมืองไม่สงบสุข พระองค์ก็จะพระราชทานเพลงปลุกใจเพื่อเป็นกำ�ลังใจแก่ ข้าราชการ ทหาร พลเรือน และประชาชนผู้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติ มิให้เกิด ความย่อท้อในการทำ�ความดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ต่อตนเอง และต่อ สังคม ซึ่งเป็นการส่งผ่านความปรารถนาดีผ่านเสียงเพลง สร้างความ อบอุ่นตราตรึงในจิตใจของปวงประชาได้อย่างวิเศษ
น้ำ�พระทัยรินหลั่งสู่คีตศิลป์ไทย
ก
ารดนตรีไทย สมบัติทางวัฒนธรรมของชาติ อันดำ�รงคู่ผืน แผ่นดินไทยมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล จวบจนปัจจุบัน ด้วยคุณค่าอัน มหาศาลแห่งการดนตรีไทยนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้มี พระราชประสงค์ที่จะอนุรักษ์ดนตรีไทย และนาฏยศิลป์ไทยไว้ให้คงอยู่ คู่ชาติไทยตลอดไป โดยนำ�้ พระทัยแห่งพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ท่านได้แผ่ปกคลุมศาสตร ์และศิลป์แห่งดนตรีไทยจนกว้างใหญ่ไพศาล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงมี พระราชกระแสรับสั่ง ให้นักดนตรีไทยได้มีการรวบรวมเพลงไทยเดิมขึ้น แล้วบันทึกโน้ตเพลง ไทยเดิมขึ้นเป็นหลักฐาน เพื่อที่จะได้พิมพ์เผยแพร่วิชาการดนตรีไทย ในหมู่ประชาชน ทรงสนับสนุนให้มีการค้นคว้าวิจัยบันไดเสียง ของ ดนตรีไทย โดยใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ อีกทั้งพระองค์ยังทรง พระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ ให้กรมศิลปากรจัดพิมพ์หนังสือ “โน้ตเพลงไทย” เพื่อรวบรวมและรักษาศิลปะทางดนตรีไทย ไว้ให้เป็น หลักฐาน และมาตรฐานต่อไป พระกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ผู้อุปถัมภก ด้านคีตศิลป์ ไทยยังมิได้สิ้นสุดเพียงเท่านี้ ด้านสถาบันการศึกษา นำ�้ พระทัยของ พระองค์ท่านก็ยังทรงรินหลั่งไปถึงมิได้ขาดสาย ได้ทรงนำ�ทำ�นองเพลง พระราชนิพนธ์ มหาจุฬาลงกรณ์ มาแต่งเป็นแนวไทยเดิม บรรเลงด้วย วงปี่พาทย์ เมื่อนำ�ขึ้นบรรเลง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ได้ทรง พระราชทานชื่อว่า เพลงมหาจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นเพลงประจำ�สถาบัน “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” ซึ่งยังนำ�มาขับร้องจวบจนปัจจุบัน
86
ไออุ่นรักผ่านเสียงดนตรี
ค
วามก้องกังวานแห่งเสียงดนตรีสามารถข้ามภูผา มหาสมุทร พื้นปฐพีได้อย่างไร้พรมแดนฉันใด พระอัจฉริยภาพ และพระปรีชา สามารถของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีอย่างหลากหลายก็ สามารถทลายกำ�แพงแห่งข้อจำ�กัดนานาประการได้ฉันนั้น ภาษาดนตรีสัมพันธ์ไมตรีต่างชาติ พระอัจฉริยภาพของพระองค์มิได้ทรง มีเพียงการดนตรีไทย ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปรารภว่า เท่านั้น ดนตรีสากลก็มิทรงเว้น ด้วยความสนพระราชหฤทัย อุตสาหะ “ดนตรีเป็นภาษาสากลที่สามารถขจัดอุปสรรค์ทางภาษา วัย อย่างสุดกำ�ลัง ส่งผลให้ในที่สุด พระอัจฉริยภาพด้านการดนตรีสากล ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ภาษาดนตรี ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นั้นสามารถมีการพัฒนา และมี ความเชี่ยวชาญได้อย่างไม่แพ้กับนักดนตรีของชาติตะวันตก โดยเฉพาะ สามารถสื่อความหมายให้คนเข้าใจเป็นอย่างเดียวกันได้ ดนตรีจึงเป็น เครื่องเป่า ไม่ว่าจะเป็นแซกโซโฟน ทั้งตระกูลโซปราโน อัลโต เทนเนอร์ สื่อที่ทำ�ให้เกิดความเข้าใจที่ดีต่อกัน แม้ว่าเป็นคนละชาติ คนละภาษา หรือต่างศาสนา” และบาริโทน คลานิเทต ทรัมเป็ต คอร์เน็ต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้ทรงใช้ดนตรีเป็นสื่อใน การเชื่อมความเข้าใจ และความสัมพันธ์ทางความรู้สึก ที่แน่นแฟ้นลึก ซึ้งระหว่างประเทศต่างๆ โดยในปี พ.ศ ๒๕๐๗ สถาบันการดนตรี และ ศิลปะการแสดงแห่งกรุงเวียนนา ได้ทูลเกล้าฯ ถวายประกาศนียบัตร และสมาชิกกิตติมศักดิ์ลำ�ดับที่ ๒๓ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้จารึกพระบรมนามาภิไธย “ภูมิพลอดุลยเดช” ปรากฏอยู่บนแผ่น จำ�หลักหินของสถาบัน ทรงเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ที่มีอายุน้อยที่สุด อีก ทั้งเป็นชาวเอเชียเพียงผู้เดียวที่ได้รับเกียรติอันสูงสุดนี้ การที่เสด็จพระราชดำ�เนินไปเยือนต่างประเทศคราใด หากถามหาเหตุผลว่า เหตุใดเล่าพระองค์ท่านจึงต้องทรง ทุ่มเทความพยายามอันมากมายถึงเพียงนี้ “หัวใจแห่งพระมหากษัตริย์” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ทรงนำ�พระอัจฉริยภาพความเป็น กษัตริย์ “อัครศิลปิน” ของพระองค์ไปแสดงให้ประจักษ ์จนเป็นที่ตรา คงเป็นคำ�ตอบที่ส�ำ คัญ หัวใจของราชา ที่ต้องการเป็นแบบอย่างให้ ตรึงใจของชาวต่างชาติ นานาประเทศเสียทุกครั้งไป ทรงใช้เสียงดนตรี ประชาชนชาวสยามประเทศ ได้เห็นถึงการยอมรับเปลี่ยนแปลงของ วัฒนธรรมตะวันตกที่เราไม่ควรหนี แต่ควรหันหน้ายอมรับ อีกประการ เป็นสื่อกระชับสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ ซึ่งพระอัจฉริยภาพด้าน หนึ่งที่เราทุกคนคงสัมผัสได้คือ ไออุ่นรักจากเสียงดนตรีที่พระองค์ทรง การดนตรีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น เป็นที่ชื่นชมไม่เพียงใน บรรเลงมันช่างซึมซาบถึงจิตใจ ของชาวประชาราษฎรจนสามารถสัมผัส ประเทศไทยเท่านั้น นักดนตรีต่างประเทศ ทั่วโลกก็ชื่นชม และยอมรับ ในพระอัจฉริยภาพนี้อย่างไร้ข้อกังขา ได้ถึงความปรารถนาดี ที่พระองค์ท่านทรงฝากบอกผ่านเสียงเพลง
พ
87
ทอรักจากบทเพลงแห่งแผ่นดิน
ด้
วยพระอัจฉริยภาพด้านการดนตรีที่เปี่ยมล้น จนยากหาใคร เทียบเทียมในผืนแผ่นดินนี้ ทำ�ให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็น คีตราชันย์ ที่ได้รับการชื่นชมยกย่องอย่างกว้างขวาง ทั้งในฐานะนักดนตรี และนักประพันธ์เพลง ที่มีผลงานบทเพลงพระราชนิพนธ์อันไพเราะ เพลงพระราชนิพนธ์ “ลมหนาว” เพลงพระราชนิพนธ์ล�ำ ดับ ที่ 19 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรักเพลงพระราชนิพนธ์บทเพลง นี้เป็นอย่างยิ่ง และทรงต้องการให้ประชาชนได้ฟังโดยทั่วกัน จึงได้ทรง พระราชทานเพลงนี้ออกบรรเลงครั้งแรก ในงานประจำ�ปีของสมาคม นักเรียนเก่า อังกฤษในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศสวนลุมพินี ด้วย ความนุ่มนวลแห่งทวงทำ�นอง ผสมผสานความหมายสุดลงตัวของเนื้อหา ในบทเพลง จึงทำ�ให้บทเพลงนี้สถิตอยู่ในหัวใจของประชาชน อันเป็นสิ่ง ยืนยันสายใยสัมพันธ์ระหว่างพระมหากษัตริย์ที่มีต่อประชาชน ที่ได้ถูก ถักทออย่างแนบแน่น ผ่านตัวโน๊ตในบทเพลงนี้อย่างทรงคุณค่า นับได้ว่า บทเพลงพระราชนิพนธ์ต่างๆ ได้กลายเป็นส่วนสำ�คัญส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทย สะท้อนถึงพระราชประวัติ ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนพระราชกรณียกิจนานัปการที่ได้ทรงปฏิบัติ ตั้งแต่เสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติ เป็นพยานแห่งความ สัมพันธ์อันแนบแน่น ระหว่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และประชาชนชาวไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นเครื่องยืนยันว่าความสุขของ ปวงประชาคือ ความสุขของพระมหากษัตริย์อย่างแท้จริง
ต
ราบทั่วผืนแผ่นพสุธาอันกว้างใหญ่นี้ จะมีพระมหากษัตริย์พระองค์ใด ที่จะยิ่งใหญ่เปี่ยมล้นด้วยพระอัจฉริยภาพเหลือคณานับ พระมหากษัตริย์ที่ทรง เป็นทั้งนักดนตรีที่ยิ่งใหญ่ ทรงเป็นดุริยกวี และเป็นพระมหากษัตริย์ที่ดูแลชาว ประชาไปอย่างพร้อมเพรียงกัน ทั่วโลกหล้านี้ คงจะเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น ้ ยอันเปี่ยมล้นของ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพล ด้วยนำ�พระทั
อดุลยเดชมหาราช” พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นคีตกวีแห่งจักรีวงศ์ เปรียบปานได้ว่า เมื่อใดที่ปวงประชา ทุกข์ร้อนด้วยความทุกข์ระทมอย่างแสนสาหัสคราใด พระองค์ ก็จะทรงยื่นฝ่าพระหัตถ์มาฉุดให้ลุกยืนขึ้นเสียทุกครั้ง เปลี่ยนจากความร้อนผ่าว กลายเป็นความหนาวเย็นขึ้นมาจับใจราวปาฏิหาริย์ ฝ่าพระหัตถ์ที่พระองค์ทรงยื่น มาปลอบประโลมนั้น มิใช่สิ่งใดอื่นใด สิ่งนั้นก็คือสิ่งที่ชาวไทยทุกคนต่างคุ้นเคยกัน เป็นอย่างดี “บทเพลงอันทรงคุณค่า และเสียงดนตรีอันขับกล่อมอย่างตราตรึงใจ” ้ สองสิ่งนี้เป็นดั่งนำ�พระราชหฤทั ย ที่ชโลมจิตใจประชาชนของพระองค์ให้เป็นสุข เปรียบประดุจดั่งสายใยของแผ่นดินที่ถักทอให้เหล่าต้นกล้าใต้ร่มพระบารมี ได้ยืน หยัดอยู่บนผืนแผ่นดินไทย อย่างร่มเย็นเป็นสุขตราบนานเท่านาน ้
88
ฤดูหนาว
คิดถึงฤดูหนาว
คิดถึงอะไร?
“เค้าว่ากันว่าสิ่งที่ช่วยให้หายหนาวได้ดีที่สุดคือ การผิงไฟ เวลานิกหนาวทีไรสิ่งที่นึกถึงได้เป็นอย่างแรกคือ กองไฟ ยิ่งถ้าจุดอยู่บน ยอดดอยอินทนนท์ด้วย จะทำ�ให้รู้สึกอบอุ่นมากเลยแหละครับ ยิ่งถ้าได้ผิงไฟ กับคนรักด้วยแล้ว ชอบครับ” ชวนนท์ ฉุยฉาย (นิก)
89
คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
“ฤดูหนาวก็คงจะนึกถึงเวลาที่ได้ใส่หมวกไหมพรม ในอากาศหนาวๆ เย็นๆ น่าจะเป็นฤดูเดียว ที่สามารถใส่หมวกแบบนี้ได้ โดยที่ไม่รู้สึกร้อน หรือรำ�คานหมวก เพราะว่าเราชอบใส่หมวกไหมพรม รู้สึกว่าน่ารักดี แต่โอกาสได้ใส่น้อยถ้าไม่ใช่ฤดูหนาว ” ภารดี พิทยาวงศ์ฤกษ์ (ภา) คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
“นึกถึงหิมะ เทศกาลส่งความสุข แบบวันคริสต์มาส วันปีใหม่ เป็นเทศกาลที่ให้ความอบอุ่นแก่คนรอบข้างท่ามกลางอากาศหนาว”
ปีย์ สวยดี (ปีย์) คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล
คิดถึงฤดูหนาว คิดถึงดนตรีแนวไหน?
ฐิสชญา รุกขชาติ (นิว) รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
พงศธร คงทน (บอล) คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ชญานิศ อิทธิพงศ์เมธี (มิลค์) คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“คิดถึงเพลงเกี่ยวกับความรัก ในแบบอกหัก ประมาณว่าเหงาๆ อยากมี คนให้กอด เพราะฤดูหนาว คนมีคู่ก็มีคนให้ กอด แต่ถ้าคนโสดๆ ก็ต้องฟังเพลงเหงา”
“คิดถึงเพลง คิดถึงเธอทุกที ที่อยู่คนเดียว เพราะว่า ทั้งดนตรี และ เสียงร้องฟังไปบางทีก็ทำ�ให้ขนลุก เลย ไม่ใช่เพราะหนาวนะ แต่อาจจะ เพราะความพอดีหลายๆ อย่าง ที่ถึงกับ ทำ�ให้สมองหลั่ง endorphine เลย”
“เพลง The Sound of Silence ของ Simon and Garfungel เพราะมีช่วง หนึ่งที่เราชอบเปิดเพลงนี้ฟังตอนเดินไป เรียนช่วงเช้า อากาศเย็นๆ เหมือนกับฤดู หนาว”
90
คิดถึงฤดูหนาว
คิดถึงศิลปะแบบไหน? “นึกถึงดนตรี เป็นศิลปะอีกอย่างหนึ่ง ชอบแบบนั่งสุมกองไฟอุ่นๆ กับ เพื่อนแล้วนั่งร้องเพลงกัน ดีดกีตาร์กันไป มีเบียร์สักกระป๋องนะ จะดีมากๆ มัน เหมือนได้สนุกสนานกับเพื่อนๆ ได้เห็นเพื่อนยิ้ม เพื่อนตัวสั่นเพราะอากาศหนาว และได้เห็นเวลาเพื่อนเล่นเพลงนั้นเพลงนี้ อย่างน้อยๆ ได้สังเกตว่าวันนั้นเค้าเจอ อะไรมา ให้เพลงเป็นภาษาในการถ่ายทอด ให้เพื่อนๆ ได้ฟังว่าตอนนี้เค้ารู้สึก อย่างไร เพราะบางครั้งเค้าไม่กล้าพูดไม่กล้าบอกหรือรอเพื่อนถาม และผมกับ เพื่อนๆ ตอน ม.ปลายมักจะเป็นอารมณ์นั้น” จิรัฏฐ์ เกตุภู่ (มีน) คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
“ศิลปะโกธิค เช่น ปราสาท ดิสนีย์ เพราะทราบมาว่า ปราสาทแบบ นั้นจะเป็นปราสาททึบ และไม่ค่อยมีแสงสว่าง ทำ�ให้ภายในนั้นหนาวเย็นมากๆ ในช่วง ฤดูหนาว ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังให้ความรู้สึกเหงา เหมือนมีมนต์ขลังอะไรบางอย่างซ่อนอยู่” จิตสุภา ธิเขียว (แป้ง) คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
“นึกถึงศิลปะการใส่เสื้อกันหนาวแฟชั่นหลากสี ที่ครอบหู ผ้าพันคอต่างๆ เพราะแต่ละคนก็จะเตรียมอุปกรณ์กันความหนาวต่างๆ ออกมาประชันกับคนอื่น เช่น เสื้อกันหนาวสีเขียว สีฟ้า หรือว่าที่ครอบหูเป็นขนๆ สีต่างๆ เห็นแล้วก็ให้ความ รู้สึกว่านี่เข้าฤดูหนาวแล้ว คิดว่านี่เป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ที่อยู่ในรูปของการแต่งกาย ในฤดูหนาว และเป็นเอกลักษณ์ของฤดูนี้” มุนินทร์ มิ่งทุม (แพลน) คณะสังคมศาสตร์ ภาควิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
91
“
A good winter brings a good summer.
ฤดูหนาวที่สบายย่อมนำ� ฤดูร้อนที่สบายมาด้วย
”
อุ่นไอรัก
เรื่อง : วชิรวิทย์ จงรักษ์
เวลา อันเป็นนิรันดร์ ฉันเป็นต้นไม้ใหญ่ในสวนสาธารณะแห่งนี้ รากของฉัน ได้ฝังลึกลงใต้พื้นดินอันอบอุ่น กิ่งก้านสาขาของฉันกว้างขวาง แผ่ขยายไปในอากาศเพื่อปกคลุม และให้ร่มเงา ท่ามกลางฤดูหนาว มักจะมีคู่รักหลายคู่ สวมใส่เสื้อกันหนาวหลากสีสัน มานั่งต่อบทกวี รักกันบนเก้าอี้ยาวตัวเก่า ใต้ร่มเงาของฉัน ซึ่งทำ�ให้ฉันแอบอิจฉา พวกเขาอยู่บ่อยครั้งในยามเย็น
ฉันเคยแอบหลงใหลนกน้อยตัวหนึ่ง แต่ฉันก็มิอาจทราบ ได้ว่า เป็นนกพันธุ์อะไร และนกตัวนั้นเองก็คงไม่รู้ว่าฉันคือต้นอะไร เพราะตัวฉันเองก็ยังไม่รู้เช่นกันว่า มนุษย์นิยามชื่อฉันไว้ว่าอย่างไร ท่ามกลางสายลมอันธพาลที่พัดพาไปมาอย่างหนาวเหน็บ เหล่า ดอกไม้แปรเปลี่ยน จากสีสันอันสดใสกลายเป็นสีน�ำ ้ตาล บ้างก็ แห้งเหี่ยว แต่ฉันไม่เคยรู้สึกถึงความเหน็บหนาวนั่นหรอก เพราะ ฉันรู้สึกได้แค่เพียงความอ้างว้าง และเดียวดาย ใบไม้สีเขียวสดที่เคยพริ้วไหวบนกิ่งก้านของฉัน ในฤดูฝน กำ�ลังเป็นสีนำ�้ตาล และค่อยๆ ร่วงหล่นลงต่อหน้าต่อตาฉันไปทีละ น้อยๆ ฉันได้แต่มองการจากไปอย่างเดียวดาย โดยทำ�อะไรไม่ได้เลย รังที่เคยเป็นที่อยู่ของนกตัวนั้นในช่วงฤดูฝน สร้างขึ้นจาก เศษใบไม้ที่หล่นลงพื้นจากร่างกายของฉันนั่นแหละ ตั้งอยู่ภายใน โพรงบนร่างกายของฉัน ซึ่งมีกิ่งก้านไม้ปกคลุมหนาสามารถกันลม ฝนได้พอประมาณ นกตัวนั้นมักจะร้องเพลงด้วยเสียงอันสดใสให้ฉัน ฟังในยามเช้าอย่างอารมณ์ดี แต่เช้าวันหนึ่ง ในช่วงที่ฤดูฝนกำ�ลังจะ ผ่านพ้นไป นกตัวนั้นโบยบินจากฉันไป โดยไม่มีเสียงเพลงที่จะอำ�ลา กันแม้แต่น้อย
95
ความอบอุ่นตลอดฤดูฝนของฉัน กำ�ลังล่องลอยไปตาม สายลมหนาวที่กำ�ลังพัดมา ฉันได้แต่มองนกตัวนั้นจากไปจนไกล ลับตา โดยทำ�อะไรไม่ได้เลย
ฉันได้แต่เพียงคิดว่า เมื่อไหร่ฤดูหนาวจะผ่านไปเสียที ใบไม้ของฉันไร้ซึ่งความสดชื่นเสียจริงๆ จนแทบไม่เหลือติดต้น แม้มนุษย์จะชอบอากาศแบบนี้ แต่ฉันเองนั้นไม่ชอบเลย ฉันรู้สึก อ้างว้าง ฉันเหงา ฉันเฉา อยากที่จะยืนทิ้งต้นตายไปให้รู้แล้วรู้รอด เมื่อคิดอีกมุมหนึ่ง ฉันอยู่ที่นี่ เติบโตมาก็นานแล้ว ผ่านห้วงเวลา ฤดูกาลมาก็หลายหน ฉันก็ผ่านมันไปได้ คราวนี้ฉันก็ต้องผ่านมัน ไปให้ได้ ช่างเป็นคืนอันยาวนานเสียเหลือเกิน
“ ฉันรู้สึกอ้างว้าง ฉันเหงา ฉันเฉา อยากจะยืนทิ้งต้น ให้ตายไป ให้รู้แล้วรู้รอด แต่เมื่อคิดอีกมุมหนึ่ง ฉันอยู่ที่นี่ เติบโตมาก็นานแล้ว... ”
ท่ามกลางสายลมหนาว แสงสีทองของดวงอาทิตย์ โผล่ขึ้นจากขอบฟ้า ความมืดมิดที่เคยปกคลุมตัวฉันจางหายไป วันนี้อากาศเริ่มร้อนขึ้น เป็นสัญญาณแห่งฤดูกาลใหม่ที่กำ�ลังจะ ผันเปลี่ยน ฉันมีความสุขมาก ฉันกำ�ลังจะกลับมาสดชื่นอีกครั้ง ฉันขอบคุณคืนหนาว ที่ทำ�ให้ฉันเรียนรู้ที่จะรอ เรียนรู้ที่อยู่ได้ตาม ธรรมชาติของฉัน ฉันรู้แล้วว่า อย่างไรก็ตามยังมีตะวันที่ฉายใน วันต่อไป เมื่อเรามีเช้าวันใหม่ ใจก็หวังว่าจะมีหนทาง ความทุกข์ ในวันวาน ถ้าหากคืนกลับมาหาใจอันอ่อนแอ เหตุที่ใจแพ้เพราะ ฉันเราต่างหากที่แพ้ใจ ความทุกข์จึงเป็นกลางคืนอันยาวนาน สำ�หรับฉัน แต่แล้วมันจะผ่านไป ตราบใดเวลายังหมุนผ่าน ความ ทุกข์จะผ่าน เพราะไม่มีคืนใดเป็นนิรันดร์ วันคืนต้องผ่าน นั่นคือ เวลาอันเป็นนิรันดร์ .
96
พื้นที่ชุมนุม เรื่อง: อัญญรัตน์ คหัฏฐา
ศิลปะ
แนะน�ำ นิทรรศการ Re-ทิ้ง (Re-Think)
97
จากสิ่งไร้ค่าในกองวัสดุ หากแต่เปี่ยมความหมายทาง ด้านจิตใจ ศิลปิน 6 ท่านน�ำมาชุบชีวิตให้ฟื้นคืนคุณค่า ด้วย วิธีที่ต่างกัน ผลงานศิลปะบางชิ้นไม่ได้ถูกชุบชีวิต แต่ท�ำ หน้าที่ชุบชีวิต บรรเทา เยียวยา และฟื้นฟูความรู้สึก ความ เจ็บปวดหรือบาดแผลบางประการในอดีต นภดล วิรุฬห์ชาตะพันธ์ : น�ำเสื้อผ้าเก่าของคนใน ครอบครัวที่ถูกหลงลืมมาสร้างประติมากรรมแบบ collage เหมือนการปะ ติด ต่อ ร้อยเรียงความทรงจ�ำของศิลปิน ณัฏฐพล บุญเผือก : ใช้กระบวนการสร้างงาน ศิลปะเป็นการบ�ำบัดขยะ ปฏิกูล ที่ตกค้างอยู่ภายในใจ และ ใช้ผลงานเพื่อบ�ำบัดสิ่งแวดล้อมในฐานะของหนึ่งในผู้ท�ำลาย ที่ไม่ต้องการอยู่นิ่งเฉยแล้วมองดูความเสื่อมสลายต่อไป ปิติวรรธน์ สมไทย : น�ำกล่องกระดาษใช้แล้วมาส ร้างอัตลักษณ์ใหม่ ในการรับรู้ประวัติศาสตร์ ที่ถูกสร้างจาก ภาพลักษณ์ที่ถูกบิดเบือน ท�ำให้การรับรู้ถูกชี้น�ำ เชื่อมโยง ไปสู่สิ่งที่เป็นมายา และตกอยู่ในวังวนของกระบวนการนี้ไป ตลอดกาล
อัตตาแกลเลอรี่ (ATTA Gallery) แกลเลอรี่เฉพาะทางแห่งเดียวในประเทศไทย
ที่นำ� เสนองานเครื่องประดับศิลป์ร่วมสมัย มีความภูมิใจ น�ำ เสนอนิทรรศการเครื่องประดับศิลป์ร่วมสมัย Feed Me โดย Tabea Reulecke ศิลปินเครื่องประดับระดับแนวหน้าของ ประเทศเนเธอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 21 กุมภาพันธ์ – 30 มีนาคม 2557 และจะมีงานเปิดนิทรรศการพร้อมการพบปะ ศิลปินในวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2556 ระหว่างเวลา 18:30 – 20:30 น. นอกจากนั้น ผลงานของเธอสามารถหาดูได้ในสื่อ สิ่งพิมพ์ ด้านเครื่องประดับศิลป์ร่วมสมัยหลายเล่ม ความช่าง สงสัย ช่างสังเกต และความใส่ใจในเรื่องของการใช้ชีวิตประจ�ำ วัน กระตุ้นให้เธอสร้างงานที่เต็มไปด้วยจินตนาการ ความเพ้อ ฝัน แต่ยังคงความมีเสน่ห์ น่าติดตามได้อย่างลงตัว โดยเธอนั้น ท�ำงาน กับวัสดุหลากหลายชนิด และมีความถนัดในหลากหลาย เทคนิค โดยงานลงยาร้อนนั้นก็เป็นหนึ่งในเทคนิคที่เธอถนัด
Art
Recomment หลังจากการเยี่ยมชม เชียงใหม่ เป็นครั้งแรก ในปี 2003 เขาพัฒนา ความรัก ส�ำหรับทั้ง สถานที่และ ผู้คน เหตุผล หลักส�ำหรับ การถือครอง นิทรรศการ นี้ เป็นแรงบันดาลใจ จากความปรารถนา ของเขา ที่จะน�ำไป ในทาง ที่เชียงใหม่ บางส่วน เป็น ชาวญี่ปุ่นที่ มีความรัก แท้ ของเมือง ดังนั้นเขา จึง มีความคิด ใน แง่ของการพัฒนา ข้อเสนอที่ สะท้อนให้เห็น ถึง ความเข้าใจที่ เต็มรูปแบบของ ต�ำแหน่งที่ มหาวิทยาลัย เชียงใหม่ ใน การบ�ำรุง ศิลปินหนุ่ม เช่นเดียวกับ มุมมอง ของ แกลเลอรี่ในโครงการนี้ นอกจากนี้ เขา ยังได้รับ การอนุมัติ จาก หัวหน้านักบวช ของ วัดดอน จันทน์ ในเชียงใหม่ ที่จะ บริจาค รายได้ทั้งหมด จาก การจัดแสดงนิทรรศการ นี้ ไปวัด นิทรรศการจะ แสดง ไม่เพียง แต่ ในโลกของ งานเขียน คลาส สิก แต่ยัง องค์ประกอบของ การแสดงออก เช่น ความหนา แน่น ตัดกัน เลือดออก และจุด บาง ๆ ของ ซูมิ โดย ภาพวาด หลายเฉด Sumi และการอุทธรณ์ ในการแสดงออก ในทาง ที่ ทันสมัยเขา หวังที่จะ แสดง การท�ำงานร่วมกัน ระหว่าง ศิลปะ วัฒนธรรมญี่ปุ่น และ ไทยและ วัฒนธรรมตะวันตก สถานที่: บ้านตึก ศูนย์ศิลปะ ท่าแพ ถ. เชียงใหม่ ระยะเวลา นิทรรศการ : 30มกราคม-23กุมภาพันธ์ 2557
“The Second” อาจเป็นเช่นนั้น การตีความของศิลปิน ที่พยายามจะเล่าเรื่องราวใน ชีวิตที่เกิดขึ้น ในบริบทของศิลปะ เมื่อครั้งที่หนึ่งเป็นเรื่องราวของ ประสบการณ์ของชีวิตจริงที่เราสามารถประสบพบโดยตรง ที่ไม่ได้ ผ่านการตีค่า หรือพยายามท�ำให้เป็นไปใดใด การน�ำความรู้สึก ห่วง อารมณ์ของความแท้จริงมาแปรสภาพเป็นสิ่งที่จับต้องได้ เห็นเป็น รูปธรรม ในนามของ ‘ศิลปะ’ การเล่าเรื่องจึงถูกท�ำซ�้ำและถูกบอก ผ่านอีกครั้งเป็น ‘ครั้งที่สอง’ อาการเพิ่มเติม ปกปิด อ�ำพรางหรือการกระท�ำที่พยายามท�ำให้ เกิดเป็นสิ่งที่เราจับต้องได้ มองเห็นมัน จึงแฝงไปด้วยนัยยะต่างๆที่ ศิลปินเลือกน�ำเสนอแง่มุมหนึ่งๆ เพื่อแลกเปลี่ยน และเพื่อเลือกให้ คุณค่าเพียงแก่นแกนที่หนึ่งเดียว ในการเล่าต่อเป็น ‘ครั้งที่สอง’ สถานที่: แกลอรี่ บ้านโปร่งน้อย ระยะเวลา นิทรรศการ : 23มกราคม-23กุมภาพันธ์ 2557
98 ทีมา: http://www.portfolios.net/events
2
พื้นพื ที่ช้นุมทีนุ่ชมุมนุมเรื่อง: อัญญรัตน์ คหัฏฐา
คอนเสิร์ต
เร็วๆ นี้ กลับมาอีกครั้งกับเทศกาลดนตรียิ่งใหญ่ที่สุดใน จังหวัดสระบุรี “RIMPHA MUSIC FESTIVAL 3”ในตอนที่มีชื่อว่า “ริมผา...องศาเซลเซียส” เนรมิตเขาไทร็อคให้เป็นฤดูของดนตรี ที่ อัดแน่นความสนุกบนเวทีแบบ 3 ฤดู เวทีฤดูร้อน , เวทีฤดูหนาว และเวทีฤดูฝน พร้อมศิลปินสุดฮอตของเมืองไทย ที่จะมาร่วม สร้างปราฏการณ์ทางดนตรี อาทิ SLOT MACHINE , TATTOO COLOUR , SCRUBB , GREASY CAFE’ , FLURE และศิลปิน อินดี้ ที่เตรียมมาแจ้งเกิดในเทศกาลดนตรีนี้อีกคับคั่ง รวมถึงเหล่า DJ. CMYK ที่จะพาคุณเปิดฟลอร์ขยับไปกับซาวด์ดนตรีปาร์ตี้สุด เหวี่ยงกันยาว ๆ รวมถึงโซนกิจกรรมภายในงานสุดเก๋ ที่มีให้คุณ เลือกร่วมเป็นส่วนหนึ่งได้ตามโหมดอารมณ์กันถึง 3 โซน ในธีม 3 ฤดู อาทิ โซนฤดู ที่อกหัก , โซนฤดูที่ฉันเหงา ,โซนฤดูที่แตกต่าง ร่วมเปิดประสบการณ์ เดินทางมาสัมผัสฤดูแห่งเทศกาลดนตรี “ริมผา...องศาเซลเซียส”
99
ในวันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2557 ตั้งแต่เวลา 16.00 – 06.00 น. บัตรราคา 900 บาท (จ�ำหน่ายหน้างานราคา 1,000 บาท) สามารถซื้อได้ที่ Thaiticket Major ทุกสาขา และ ร้านบ้าน สุรพงษ์ จังหวัดสระบุรี หรือ โทรสอบถามได้ที่ 085-199-1122
เทศกาลดนตรี ใหญ่ที่สุด แรงที่สุดในภาคใต้ ครั้งแรกริมหาดทะเลตรัง “Songkran Party On The Beach” เริ่มปลุกเร้าอุณหภูมิร้อนวันสงกรานต์อย่าง เต็มพิกัดกับ Fun Foam Party ก่อนคูลดาวน์ด้วย บรรยากาศแสนโรแมนติกริมหาดยามเย็น คลอเสียง เพลงฟังสบายสุดสวีทโดย แพรว คณิตกุล และ วัชราว ลี ตามด้วย Beat มันส์ ๆ ของ Musketeers, Room 39, Boom Boom Cash, Bedroom Audio และ Scrubb ก่อนกระชากความพีคสุด ๆ กับ Moderndog งานใหญ่ งานแรงแบบนี้ … พลาดไม่ได้ ! Songkran Party On The Beach จันทร์ที่ 14 เมษายน 2557 ชายหาดราชมงคล ปากเมง จังหวัดตรัง Gate Open : 01.00 pm (13.00 น.) Show time: 05.00 pm. – 02.00 am. บัตรราคา: 1,000 บาท
Concert
Coming soon เทเลอร์ สวิฟต์ ศิลปินสาวเจ้าของรางวัลแกรมมี่ 7 รางวัล ซึ่งเมื่อปีที่แล้วเธอได้ออกแสดง เวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ตใหญ่ ขนาดความจุของสนามกีฬา และอารีน่าต่างๆ ทั่วอเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งบัตรเข้าชมจ�ำหน่ายหมดทุกที่ และ ทัวร์ก็เพิ่งปิดฉากลงอย่างงดงามที่กรุงลอนดอน และกรุงเบอร์ลิน ซึ่งแน่นอนว่าบัตรชมคอนเสิร์ตก็จำ� หน่ายหมดเช่นเดียวกัน แต่ เทเลอร์ได้ประกาศข่าวดีวันนี้ว่า จากเสียงเรียกร้องอย่างล้นหลาม ของแฟนเพลง เธอจะเปิดทัวร์คอนเสิร์ตในภาคพื้นเอเชียตะวัน ออกเฉียงใต้ ช่วงกลางปีนี้ และจะมาแสดงสดที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 9 มิถุนายน 2557 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี โดยบัตรจ�ำหน่ายในราคา 2,000 / 3,000 / 5,500 และ 6,500 บาท และเปิดจ�ำหน่ายบัตรวันที่ 1 มีนาคม 2557 ที่ ไทยทิกเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา หรือที่ www.thaiticketmajor.com
หนึ่งในศิลปินหนุ่มที่ก�ำลังฮอตที่สุดในโลกตอนนี้ บรูโน่ มาร์ส (Bruno Mars) เจ้าของเพลงดังมากมายหลายเพลง ศิลปิน ชายคนแรก ที่มีเพลงติดอันดับ 1 มียอดวิวทะลุหนึ่งพันล้านครั้ง ในเวปไซต์ยูทูป ล่าสุด บรูโน่ มาร์ส ตัดสินใจออกทัวร์คอนเสิร์ตทั่ว โลกเป็นครั้งแรกในชื่อทัวร์ว่า “มูนไชน์ จังเกิ้ล ทัวร์” โอกาสดีเป็นของแฟนเพลงชาวไทย เมื่อ 80 ปี บุญรอด บริวเวอรี่ รีบคว้าคอนเสิร์ตสุดฮอตนี้ มามอบเป็นของขวัญให้ชาว ไทยได้ชมกันในวันที่ 20 มีนาคม 2556 ที่อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี บรูโน่ มาร์ส เริ่มออกทัวร์คอนเสิร์ตครั้ง ประวัติศาสตร์ในชื่อ “มูนไชน์ จังเกิ้ล ทัวร์” ในเดือนมิถุนายน 2013 ซึ่งบัตรคอนเสิร์ตในหลายพื้นที่ทั้งอเมริกาและยุโรปถูก จ�ำหน่ายหมดเพียงไม่กี่นาทีหลังมีการแถลงข่าว ส�ำหรับในประเทศไทยคอนเสิร์ตจะมีขึ้นวันที่ 20 มีนาคม 2 014 ที่อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี บัตรคอนเสิร์ตราคา 2,000 / 3,000 / 4,000 และ 5,000 บาท เปิดจ�ำหน่ายที่จ�ำหน่ายที่ ไทย ทิคเก็ตเมเจอร์ ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2556
100 ทีมา: http://www.portfolios.net/events
หมอพอร์ชทายใจ
เรียบเรียงข้อมูล : วชิรวิทย์ เอี่ยมวิลัย
อะแฮ่มๆ ฮัลโหล เทสต์ … สวัสดีครับ พี่น้องๆ ชาว Season chang ที่น่าฮักทุกคน มาพบกับหมอพอร์ชสุดหล่อ พร้อมกับแบบทดสอบทายนิสัยสุดแม่นอีกเช่นเคย ครั้งนี้จะเป็นเรื่อง ของการบอก “นิสัยที่ซ่อนอยู่ในตัวของเรา” กันนะครับ เค้าว่ากันว่า “ศิลปะสามารถถอดใจมนุษย์ ใจ” เชื่อกันไหมครับคุณผู้อ่าน ครั้งนี้เราจะมาพิสูจน์กัน ซึ่งวิธีการก็ง่ายม๊าก เพียงแค่เลือกภาพที่ แบบโดนใจที่สุด จาก 9 ภาพด้านล่างนี้ แล้วก็ไปฟังค�ำท�ำนายกันเลย 3 4 … Let s’ Go
1
3
2 4
9 น า ่ ผ ่รน ุ ั ย ว จ ใ ย า ท7
์ต ร า อ ุด ส ะ ป ล ิ ศ พ า ภ
5
101
6
9 8 ที่มา : dek-d.com
2
เลือกเสร็จกันแล้วใช่ไหม งั้นมาดู ค�ำเฉลยกันเลย
1
ภาพที่ 1 : แหม คุณช่างเป็นคนละเอียดอ่อนในเรื่องของความ รู้สึก สามารถเข้าใจบุคคลอื่นได้ดีเวอร์ๆ สามารถที่จะปรับตัวให้ เข้ากับสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้ ชอบที่จะอยู่คนเดียว ท�ำให้บางครั้ง ใครๆ ก็คิดว่าคุณเป็นคนพูดน้อย โลกส่วนตัวสู๊งสูง! ส�ำหรับเรื่อง การคบเพื่อน คุณจะมีความจริงใจให้เพื่อนอยู่เสมอ
2
ภาพที่ 2 : โอ๊ว คุณช่างเป็นคนรักอิสระ มีศิลปะอยู่ในหัวใจที่สุด อ่ะ มีงานอดิเรกท�ำเกี่ยวกับศิลปะ แต่เพราะความรักอิสระนี่เอง ที่อาจจะท�ำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่คนอื่นคาดหวังไว้ มีวิธีการ ด�ำเนินชีวิตที่มีสไตล์เป็นตัวของตัวเอง มีความเชื่อมั่นในเรื่อง ความคิดและมั่นใจในตัวเองสูงปี๊ดเชียวแหละ ภาพที่ 3 : คุณเป็นคนชอบเข้าสังคม เจอผู้คนเยอะไม่ได้ต้องรีบ วิ่งเข้าใส่ สามารถพบปะพูดคุยกับคนอื่นได้แบบไฟแลบ มนุษย์ สัมพันธ์ดีเยี่ยมระดับห้าดาว เข้าใจผู้อื่นได้ดี มีความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ จึงไม่แปลกที่จะชอบหากิจกรรม ใหม่ๆ มาให้ตัวเอง รวมทั้งคนรอบข้างๆ ได้วุ่นวาย เอ๊ย ลองท�ำ ตลอดเวลา
3
ภาพที่ 4 : คุณพระ! มนุษย์เดินดินอยู่นี่เอง คุณอ่ะเป็นคนชอบ ท�ำตัวแบบธรรมดาๆ ติดดิน ชอบอะไรที่ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ให้ปวดหัว ทั้งในเรื่องการด�ำเนินชีวิต การแต่งกาย การคบเพื่อน มองโลกในแง่ของความเป็นจริง ไม่ชอบมโนเพ้อพกอะไรทั้งสิ้น ที่สำ� คัญคือคุณเป็นคนค�ำไหนค�ำนั้น ท�ำให้คนรอบข้างประทับใจ ในตัวคุณ ภาพที่ 5 : คุณเป็นคนที่มีหลักในการด�ำเนินชีวิต และยึดมั่นใน หลักการนั้น ไม่ว่าปัญหานั้นจะหนักหนาสักแค่ไหน คุณก็จะมี การวางแผนอย่างเป็นขั้นตอนในการแก้ไขปัญหาอย่างมีเหตุผล และเป็นระเบียบ คุณจะไม่มีทางน�ำอารมณ์มาตัดสินแน่นอน เป็นคนที่เหตุผลมาก่อนจิตใจและความรู้สึกเสมอ คุณช่างเป็น คนเลอค่าซะจริงๆ
6
ภาพที่ 6 : ความเป็นพ่อพระ แม่พระนี่ต้องยกให้คุณ เพราะ จิตใจของคุณช่างเป็นคนรักความสงบสูง สุภาพนุ่มนวล รักที่ สร้างมิตรมากกว่าศัตรู คุณจึงเป็นคนชอบอุทิศตน ให้อภัยคน อื่นเค้าไปทั่วทั้งบาง บางคนจึงชอบที่จะท่องเที่ยวไปยังสถาน ที่ต่างๆ เพื่อเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับชีวิต
7
ภาพที่ 7 : เป็นคนรักความสนุกสนาน สามารถเริงร่าไปที่ไหน ก็ได้ที่ท�ำให้คุณมีความสุข ไม่ชอบเรื่องเศร้าหม่นหมอง รักและ มีความสุขกับทุกวันที่มีชีวิตอยู่ เพราะเชื่อว่าเกิดมาครั้งเดียว ควรจะท�ำอะไรก็ได้ให้ชีวิตมีความสุขเข้าไว้ ต้องรีบกอบโกย ความสุขให้เต็มกระบุง
8
ภาพที่ 8 : โอโห เชื่อหรือไม่? คุณช่างเป็นโลกสวยซะจริงๆ โรแมนติก ช่างฝัน อ่อนไหว รับรู้ความรู้สึกของคนอื่นได้ง่าย และยังกระทบกระเทือนจากการกระท�ำของคนอื่นได้ง่ายเช่น กัน มองโลกในแง่สวยงามเสมอ เมื่อเจอปัญหาคุณก็เลยมักจะ ใช้ความรู้สึกมากกว่าเหตุผลในการแก้ปัญหาเสมอ
ภาพที่ 9 : คุณช่างเป็นคนที่ท�ำอะไรก็ต้องมีหลักเกณฑ์เข้ามา เกี่ยวข้อง รักความเลอค่า อลังการ กรี๊ด! จะหรูหราไปไหน เห็นอะไรก�ำลังฮิตก�ำลังฮอตจะแพงแค่ไหนต้องรีบไปคว้ามา ให้ได้ เรื่องมากในการคบคน เพื่อนของคุณจึงต้องมีรสนิยมใน การแต่งตัวรวมทั้งการด�ำเนินชีวิตแบบติดความหรูหรา คล้ายๆ คุณ
5
9
102
SEASONS CHANGE TEAM Executive Advise Nutteerat Pheeraphan Editor Wachirawit Jongrak Editoraial Department Anyarat Kahadta Jeerawan Buathong Naratip Kumpon Hathairat Cheurson Wachirawit Eiamwilai Photo grapher Naratip Kumpol Grapic Designer Jeerawan Buathong Hathairat Cheurson
ที่ปรึกษา นัทธีรัตน์ พีระพันธ์ บรรณาธิการ วชิรวิทย์ จงรักษ์ กองบรรณาธิการ อัญญรัตน์ คหัฏฐา จีรวรรณ บัวทอง นราธิป คุมพล หทัยรัตน์ เชื้อสอน วชิรวิทย์ เอี่ยมวิลัย ช่างภาพ นราธิป คุมพล ออกแบบศิลป์ จีรวรรณ บัวทอง หทัยรัตน์ เชื้อสอน
Seasons change 95.-