เรื่อง : พ่อเรือเกลือ ภาพ : MURKILY
หนังสือภาพสำ�หรับเด็ก ‘นิทานท้องถิ่น’ เล่มละ 1 บาท เป็นภารกิจยกระดับการส่งเสริมการอ่านในชุมชน โดยเนื้อเรื่องเป็นเรื่องเล่าของชุมชนตัวเอง ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมจากผู้เฒ่า ผู้แก่ ปราชญ์ชาวบ้าน โดยเปิดพื้นที่ให้อาสาสมัครเข้ามามีส่วนร่วมในการเขียนและวาดภาพ และผ่านการชี้แนะจากผู้เชี่ยวชาญ ด้านหนังสือภาพสำ�หรับเด็ก ดำ�เนินงานโดยโครงการอ่านสร้างชาติ มูลนิธิกระจกเงา จากงานวิจัยพบว่า เด็กวัยแรกถึงหกขวบนั้น เป็นช่วงเวลาที่สมองจะพัฒนาสูงสุดในทุก ๆ ด้าน หากได้รับ การกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นการอ่านหนังสือภาพชั้นดีให้เด็กฟังอย่างสมำ�่เสมอ จะส่งผลดีเยี่ยมต่อการ พัฒนาการในเด็กของเรา และยิ่งหากป็นเรื่องราวที่ดีมีคุณค่าของชุมชนตัวเอง จะช่วยเพิ่มการกระตุ้นความคิด เชิงมิติสัมพันธ์ต่อวิถีชีวิต
เรื่อง : พ่อเรือเกลือ
ภาพ : MURKILY
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเมืองเมืองหนึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้ ยืนต้น แผ่กิ่งก้านสาขาและใบพฤกษ์เขียวขจีที่ให้เงาร่มเย็น ให้อากาศ
มีสัตว์ป่าน้อยใหญ่นานาชนิดพึ่งพาอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสันติ ในแม่น้ำ�ใสสะอาดมองเห็นฝูงปลาแหวกว่ายไปมาอย่างมีความสุข
บนท้องฟ้ามีฝูงนกโบยบิน มีก้อนเมฆขาวจับตัวเป็นรูปร่างต่าง ๆ นานวันเข้าก็รวมตัวกัน เป็นหมู่เมฆครึ้มดำ�กลั่นเป็นสายฝนโปรยปรายลงสู่เมืองต้นไม้ ทำ�ให้เมืองเย็นสบายตลอดทั้งวัน
กระทั่งวันหนึ่ง มีเกวียนเล่มแรกเดินทางบุกป่าฝ่าดงเข้าสู่เขตภูเขาแห่งเมืองต้นไม้ มีคนออกมาจากเกวียนพร้อมกับขวานในมือ แล้วต้นไม้ต้นแรกก็ถูกโค่นลง และถูกนำ�มาสร้างเป็นบ้านในเวลาต่อมา พวกสัตว์ป่าน้อยใหญ่ ได้แต่มองด้วยความงงงันเฝ้าสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเงียบ ๆ
แล้วไม่นาน เกวียนอีกเล่มก็ปรากฏตัวขึ้น และต้นไม้อีกต้นก็ถูกโค่นลง เพื่อนำ�ไปสร้างเป็นบ้านอีกหลัง พวกสัตว์ทั้งหลายได้แต่จ้องมอง
เพียงเวลาไม่นานต้นไม้ต้นแล้วต้นเล่าก็ถูกโค่นลง และกลายเป็นบ้านเรือนหลังใหม่เพิ่มจำ�นวนขึ้นมาหลังแล้วหลังเล่า... และเพียงเวลาไม่นาน พื้นที่ที่เคยเต็มไปด้วยต้นไม้ต่าง ๆ ก็ถูกถากถางจนกลายเป็นผืนดิน บ้างเตียนโล่ง บ้างก็กลายเป็นนาข้าว เป็นไร่ข้าวโพด บ้างก็กลายเป็นแปลงผักสีเขียวและบ้างก็กลายเป็นคอกสัตว์ พวกสัตว์ทั้งหลายเฝ้ามองการกระทำ�ของผู้คนอย่างเงียบ ๆ และในใจก็เริ่มรู้สึกหวาดระแวง
แล้วระหัดวิดน้ำ�คันแรกก็ถูกสร้างขึ้นมาตรงบริเวณแม่น้ำ�ใสสะอาด เพื่อวิดน้ำ�มาใช้ในผืนไร่ผืนนาของผู้คน ฝูงปลาและสัตว์ต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ร่วมกันในแม่น้ำ�ใสสะอาดนั้นได้แต่เฝ้าดูอยู่เงียบ ๆ กองเกวียนยังเดินทางเข้ามาสู่เมืองต้นไม้อย่างไม่ขาดสาย ต้นไม้ใหญ่ถูกโค่นลง บ้านหลังใหม่เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ ระหัดวิดน้ำ�อีกคัน อีกคัน และอีกคันปรากฏขึ้นในแม่น้ำ� ตรงนี้ ตรงนั้น และตรงโน้น ผู้คนเพิ่มจำ�นวนมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น จากนั้นปลาในแม่น้ำ�ก็ถูกจับไปเป็นอาหารมากขึ้น
ยิ่งมีเกวียนเดินทางเข้ามาในเมืองต้นไม้มากขึ้นเท่าไร บ้านและระหัดวิดน้ำ�ก็เพิ่มจำ�นวนมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ผืนนาผืนไร่ก็ขยายอาณาเขตกว้างไกลออกไป จากเมืองต้นไม้ค่อย ๆ กลายเป็นหมู่บ้านคน และผืนนาผืนไร่ก็ค่อย ๆ ขยับขยาย กว้างไกลออกไป จนสุดสายตา...
เมื่อต้นไม้ถูกทำ�ลาย สัตว์ป่าก็เริ่มหายไป เมื่อแม่น้ำ�ถูกรุกล้ำ� ฝูงปลาและสัตว์น้ำ�ก็เริ่มหายไป ฝูงนกก็เริ่มหายไป หมู่เมฆก็เริ่มหายไป เมื่อผืนป่าสีเขียวหายไป สัตว์ป่าน้อยใหญ่ก็หายไป กระทั่งไม่มีสัตว์ป่าแม้สักตัวเดียว หลงเหลืออยูใ่ นบริเวณที่ครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็น ‘เมืองต้นไม้’ และแล้วเมืองต้นไม้ก็ไม่ได้เป็นเมืองต้นไม้อีกต่อไป
ผู้คน หมู่บ้าน และผืนนาผืนไร่ รุกล้ำ�ผืนป่าใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองต้นไม้จนตอนนี้กลายเป็นภูเขาหัวโล้นอัันร้อนแล้ง สายฝน ที่เคยตกลงมาให้ความชุ่มชื้นฉ่ำ�เย็นหายไป ความอุดมสมบูรณ์หายไป แม่น้ำ�เหือดแห้ง... อากาศเริ่มร้อนขึ้นร้อนขึ้น และร้อนขึ้น ระหัดวิดน้ำ�เริ่มหายไปทีละคัน สองคัน พร้อม ๆ กับเกวียนที่ทยอยอพยพกันออกไป ทีละเล่ม สองเล่ม สามเล่ม สี่เล่ม ห้าเล่ม... จนกระทั่งเกวียนเล่มสุดท้ายหายลับไป...
ทั้งหมดนั้นทิ้งไว้เพียงผืนดินรกร้างว่างเปล่าเป็นเขาหัวโล้นกว้างไกลสุดสายตา
นอกจากแสงแดดอันร้อนแรงเจิดจ้ากับท้องฟ้าอันว่างเปล่าแล้ว ที่นี่ไม่เหลืออะไร
และวัน เดือน ปี ก็ผ่านไป... จนกระทั่งวันหนึ่ง ธรรมชาติได้ให้กำ�เนิดสิ่งมีชีวิตสีเขียวเล็ก ๆ งอกขึ้นบนผืนดินอันโล่งร้างว่างเปล่าที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองต้นไม้ พร้อมกับการกลับมาของหมู่เมฆและสายฝน... สิ่งมีชีวิตสีเขียวนั้นนับวันก็ยิ่งเติบโตขึ้น โตขึ้น และโตขึ้น จนกลายเป็นต้นไม้ต้นหนึ่งที่จะเจริญเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ ในวันข้างหน้า และวันเดือนปีก็ผันผ่านไป...
ต้นไม้หลากชนิดหลายประเภท เริ่มงอกเงยขึ้นมาจากผืนดินเดียวกัน ต้นแล้วต้นเล่า ต้นแล้วต้นเล่า... จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี และจากปีเป็นอีกหลาย ๆ ปีต่อมา
กระทั่งความเขียวขจีได้แผ่ขยายพื้นที่ออกไปจนกว้างไกลสุดสายตา ฝูงนกโบยบินกลับมาพร้อมกับหมู่เมฆครึ้มดำ�ที่กำ�ลังเคลื่อนตัวเดินทางมาจากเส้นขอบฟ้า
แล้วไม่นาน สายฝนก็โปรยปรายลงมาให้ความชุ่มฉ่ำ�ราวกับชุบชีวิตเมืองต้นไม้ ให้ฟื้นคืนขึ้นมาใหม่ บรรดาต้นไม้ใหญ่ต่างเริงร่าชูช่อดอกใบสดสะพรั่ง อาบชโลมและดูดซับสายน้ำ�แห่งชีวิตที่ฟ้าประทานลงมา
สัตว์ป่าน้อยใหญ่รวมถึงกองเกวียนกลับคืนสู่ผืนป่าอีกครั้ง และเพื่อไม่ให้เป็นเหมือนกับอดีตที่ผ่านมา เหล่าสัตว์ป่าและผู้คน ต่างตกลงแบ่งปันพื้นที่ เพื่อแบ่งเขตรับผิดชอบดูแลผืนป่า
เรื่อง : พ่อเรือเกลือ ภาพ : MURKLY พิมพ์ครั้งแรก จำ�นวน 3,000 เล่ม ราคา 1 บาท ที่ปรึกษา สมบัติ บุญงามอนงค์ บรรณาธิการ จรัญ มาลัยกุล กองบรรณาธิการ กิตติพงษ์ ประชุมพล อารดา รีรมย์ ศรัทธา ปลื้มสูงเนิน รัชณี คุ้มกุดหว้า สุนีย์ กรุมรัมย์ พลอยมณี ศรีนอก ฤทัยรัตน์ บุตรวงษ์ วารี ไผ่ป้อง พันธุ์นภา จำ�ปา จัดทำ�รูปเล่ม รณชัย มะหะหมัด & NGOs Cyber ขอขอบคุณ ปราชญ์ชาวบ้าน ตำ�บลขนงพระ อำ�เภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา พิมพ์ที่ โรงพิมพ์ ภาพพิมพ์ 45/14 หมู่ 4 ถ.บางกรวย-จงถนอม ต.บางขนุน อ.บางกรวย นนทบุรี 11130
ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสำ�นักหอสมุดแห่งชาติ พ่อเรือเกลือ เมืองต้นไม้,-- กรุงเทพฯ : มูลนิธิกระจกเงา, 2559, 24 หน้า. 1.นิทาน. l. MURKLY. ผู้วาดภาพประกอบ. ll. สื่อเรื่อง 398.2 ISBN 978-616-97861-6-9
สำ�นักพิมพ์มูลนิธิกระจกเงา เลขที่ 191 ซอยวิภาวดี 62 [แยก 4-7] ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางแขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ 02-973-2236 ถึง 7