โยคะสารัตถะ พฤษภาคม 2554

Page 1

จดหมายข่าว

www.thaiyogainstitute.com คุยกันก่อน ปฏิทนิ กิจกรรม กิจกรรมของเครือข่าย แลกๆ เล่าๆ คุณถาม เราตอบ คุณถาม เราตอบ (2) จดหมายจากศิษย์ แนะนาหนังสือ ตาราโยคะดัง้ เดิม เกร็ดความรูโ้ ยคะ เล้งเล่าเรือ่ ง ประชาสัมพันธ์

2 โยคะเข้าใจความจริงชีวติ , โยคะธรรมะหรรษา 2 ั สติปฎฐาน 4, 100 ปีหมอเสม, ปลูกป่า อุทยั ฯ 3 จอดก่อนเปิด ปิดก่อนออก 4 ปวดเหลัง 8 สอนโยคะสมาธิให้ฝรัง่ 8 โยคะเด็ก 9 ั จะเล่าให้คุณฟง 10 กริยาโยคะ (ขึน้ บทที่ 2 ของโยคะสูตร) 11 การหายใจมีผลอย่างไรกับท่าฝึกโยคะ (2) 13 โยคะปรับคลืน่ สมอง 14 อบรมครูโยคะ หลักสูตร 250 ชัวโมง ่ ปี 2554 15

วิถชี วี ติ เพือ่ สุขภาวะ

ฉบับเดือน พฤษภาคม 2554

วันแรงงานแห่งชาติ

จดหมายข่าว โยคะสารัตถะ วิถชี วี ติ เพือ่ สุขภาวะ ที่ปรึกษา แก้ว วิฑรู ย์เธียร ธีรเดช อุทยั วิทยารัตน์ นพ.ยงยุทธ วงศ์ภริ มย์ศานติ ์ นพ.สมศักดิ ์ ชุณหรัศมิ ์ กองบรรณาธิ การ กวี คงภักดีพงษ์, จิรวรรณ ตัง้ จิตเมธี, จีระพร ประโยชน์วบิ ลู ย์, ชนาพร เหลืองระฆัง, ณัตฐิยา ปิยมหันต์, ณัฏฐ์วรดี ศิรกิ ุลภัทรศรี, ธนวัชร์ เกตน์วมิ ตุ , ธัญยธรณ์ อรัณย์ชลาลัย, ธีรนิ ทร์ อุชชิน, พรจันทร์ จันทนไพรวัน, รัฐธนันท์ พิรยิ ะกุลชัย, วรรณวิภา มาลัยนวล, วัลลภา ณะนวล, วิสาขา ไผ่งาม, วีระพงษ์ ไกรวิทย์, ศันสนีย์ นิรามิษ, สมดุลย์ หมันเพี ่ ยรการ, สุจติ ฏา วิเชียร

สถาบันโยคะวิชาการ มูลนิธหิ มอชาวบ้าน 201 ซอยรามคาแหง 36/1 บางกะปิ กทม.10240 โทรศัพท์ 02 732 2016-7, 081 401 7744 โทรสาร 02 732 2811 อีเมล์ yogasaratta@yahoo.co.th เว็บไซท์ www.thaiyogainstitute.com

สิ่ งตีพิมพ์

news 1105 1


วันทีป่ ิ ดต้นฉบับนี้ ไม่มขี า่ วแผ่นดินไหว ไม่มขี า่ ว หายใจ) ขณะเดียวกันก็ค่อนข้างร้อนด้วย รูส้ กึ ดีใจครับ ที่ การรัวไหลของกั ่ มมันตรังสีจากญี่ปนุ่ ...เฮ้อ... (เสียงถอนลม อากาศร้อนในหน้าร้อน ____________________________________________________________ โยคะอาสนะขัน้ พืน้ ฐานเพือ่ ความสุข สาหรับผูเ้ ริม่ ต้น ทีช่ นั ้ 6 ห้อง 262 คณะมนุษยศาสตร์ มศว ประสานมิตร เดือนพฤษภาคม จัดวันอาทิตย์ท่ี 22 เวลา 9.00 – 15.00 น. ค่าลงทะเบียน 650 บาท ---------------------------------------------------------โยคะในสวนธรรม ณ หอจดหมายเหตุพุทธทาส สวนวชิร เสาร์ท่ี 28 พ.ค. เวลา 10.00 – 12.00 น. โยคะในสวนธรรม โดย ภรหทัย ศุภวิรชั บัญชา ครู เบญทิศ ถ.วิภาวดีรงั สิต (หลังตึก ปตท. ห้าแยกลาดพร้าว) แอน ไม่เสียค่าใช้จ่าย พุธที่ 18 พ.ค. เวลา 17.00 – 18.30 น. โยคะสลายเครียด โดย ครูรฐั ธนันท์ – ครูกฤษณ์ ---------------------------------------------------------จิตสิกขาเดือนนี้ เรา ร่วมกับ ชีวติ สิกขา: เครือข่ายเพื่อการ ไม่มคี ่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมกิจกรรม โดยขอเชิญ เรียนรูแ้ ละเข้าใจชีวติ จัดกิจกรรมนอกสถานที่ ดังนี้ ทาบุญตามกาลังศรัทธา เพื่อนารายได้ทงั ้ หมดสมทบทุนใน วันที่ 21 พ.ค. 9.00-17.00 โยคะภาวนากับความเข้าใจ การสร้างกุฏผิ ปู้ ฏิบตั ธิ รรมและพระศานติตารามหาสถูป ณ ศูนย์ขทิรวัน มูลนิธพิ นั ดารา หัวหิน จ.ประจวบคีรขี นั ธ์ ความจริงของชีวิต ณ หอจดหมายเหตุพุทธทาส กรุงเทพฯ ลงทะเบียน ครูแดง โทร 089 – 983 - 4064 Email: กาหนดการ jivitasikkha@gmail.com 9.00-10.00 โยคะกับความเข้าใจความจริงของชีวติ 1. ทางเครือข่ายชีวติ สิกขาจะจัดเตรียมอาหารกลางวัน กรุณา โดย กวี คงภักดีพงษ์ นากระบอกหรือขวดน้าดืม่ ส่วนตัวมาเพื่อช่วยกันรักษา 10.00-12.00 ฝึกโยคะภาวนา โดย ครูธนวัชร์ เกตน์วมิ ตุ สิง่ แวดล้อม 12.00-13.00 พักทานอาหารมังสวิรตั ริ ว่ มกัน 2. ผูส้ นใจกรุณาสวมใส่ชุดทีท่ าให้เคลื่อนไหวได้อย่างสบายๆ 13.00-15.00 กระบวนการเดินทางหาสาระสาคัญของชีวติ 15.00-17.00 ฝึกโยคะภาวนา ด้วยการละความพยายาม และนาเบาะฝึกโยคะหรือผ้าปูรองฝึกมาเอง (ทางสวนโมกข์มี อาสนะสาหรับนังไว้ ่ เรียงต่อกันสาหรับผูท้ ไ่ี ม่ได้นามา) ละทัง้ หมด ได้ทงั ้ หมด โดย ครูดล ธนวัชร์ เกตน์วมิ ตุ ........................................................................... ค่าใช้จ่าย: สมทบค่าใช้จ่ายในการจัดงาน และถวาย โยคะธรรมะหรรษา ครัง้ พิเศษเจ็ด วันอาทิตย์ท่ี 5 มิ.ย. ณ ปจั จัยพระอาจารย์ตามกาลังศรัทธา เงินบริจาคถ้าเหลือหลัง สถาบันกัลยาราชนครินทร์ พุทธมณฑลสายสี่ จ. นครปฐม สถาบันโยคะวิชาการ ร่วมกับ กลุ่มส่งเสริม หักค่าใช้จ่ายแล้ว จะบริจาคเข้ามูลนิธริ .พ. ศิรริ าชเพื่อผูป้ ว่ ย สุขภาพจิตชุมชน และศูนย์สขุ ภาพจิตเขต 4 สถาบันกัลยา อนาถา มูลนิธริ .พ. รามาฯเพื่อสร้างอาคารสมเด็จพระเทพฯ ราชนครินทร์ ขอเชิญผูท้ ส่ี นใจในโยคะ และ/หรือธรรมะ เข้า และสถาบันโยคะวิชาการ ติดต่อครูโจ๋ 081-420-4111 chacha_l@yahoo.com ร่วมอบรมคอร์ส “โยคะธรรมะหรรษา ฮา..ฮา..ฮา” ท่ามกลาง บรรยากาศสบาย ๆ และสนุกสนานเป็ นกันเอง ในแบบวิถี หรือที่ http://yogadhammahunsa.multiply.com/ (กรุณาให้ ่ ามาได้ก่อนลงชื่อ เพราะมีผสู้ นใจเข้าร่วมมาก ถ้าไป ธรรมชาติ มาร่วมกันเก็บเกีย่ วความรูท้ ส่ี ามารถนากลับไป มันใจว่ ฝึกฝนทีบ่ า้ นด้วยตนเองแบบง่าย ๆ โดยทีมวิทยากรโยคะจาก ไม่ได้จริงๆให้โทรแจ้งด้วย) การเดินทาง: สถาบันกัลยาฯ อยู่ตรงข้ามกับพุทธ สถาบันโยคะวิชาการ นาทีมโดย ครูกม๊ิ บรรยายและนา ปฎิบตั ธิ รรมโดย พระอาจารย์ครรชิต อกิณจโณ วัดปา่ สันติ มณฑล ขับรถมาเองมีทจ่ี อดรถสะดวกในสถาบันฯ รถเมล์สาย ทีผ่ ่าน สาย 84, 539, ปอ. 170 ธรรม พระอาจารย์วทิ ยากรในแนวทางหลวงพ่อเทียน news 1105 2


........................................................................... วันที่ 6 7 8 พ.ค. นี้ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ อบรมเชิ งปฏิ บตั ิ การ ทัง้ ยังมีทกั ษะและเห็นทางเลือก ทีจ่ ะพาตนเองให้หลุดพ้นจาก และ “เพื่อนตัวป่ วน” ~ Freedom Here and Now! ณ หอ สภาพไม่พงึ ประสงค์ดงั กล่าวได้อย่างเหมาะสม ั สร้างสรรค์ จดหมายเหตุพุทธทาส อินทปญโญ หรือ สวนโมกข์ กทม ั อบรมวันละรอบ รอบละ 2 ชม 3 วัน 3 สไตล์ ให้ workshop แนวจิตตปญญาศึ กษา ภายใต้งานมห เลือกเข้าอันใดอันหนึ่ง หรือ จะมาครบทุกงานเลยก็ได้ เพราะ กรรมพลังเยาวชนพลังสังคม Thailand Youth Festival 2nd ออกแบบเฉพาะสาหรับคนรุ่นใหม่ (18-30 ปี ) ในวัย จะเทรนคนละแบบ คนละอารมณ์ แต่พกความเข้าใจกับชีวติ ั กลับไปอย่างเต็มเปี่ ยมแน่นอน แสวงหาความหมายของชีวติ ทีก่ าลังเผชิญกับปญหาทาง งานนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ และภายในงานก็จะมี อารมณ์ อยากรูจ้ กั ตนเอง ต้องการหลุดพ้นจากอารมณ์ทบ่ี นั ่ ทอนจิตใจ ได้สบื ค้นและรูจ้ กั สภาวะอารมณ์พน้ื ฐานของมนุษย์ นิทรรศการเจ๋งๆ และงานเสวนาคุยกับไอดอลของคนรุ่นใหม่ หรือ “เพื่อนตัวปว่ น” เช่น ความอยาก ความโกรธ ความเหงา มากมาย เกีย่ วกับเจ้าพวกตัวปว่ นเหล่านี้ สนใจติดต่อ ครูเจ กรนัท whizbang24@gmail.com ท้อแท้ ขีเ้ กียจ ความฟุ้งซ่าน ความวุ่นวายใจ และความลังเล สงสัย … และเชื่อมโยงให้เกิดความรูจ้ กั และเข้าใจชีวติ ตนเอง ............................................................................ วันศุกร์ท่ี 13 – วันพุธที่ 18 พ.ค. ฝึกเจริญสติ ปัฏฐาน 4 ประโยชน์การพัฒนาทัง้ ด้านกายภาพและจิตวิญญาณ “ฝึกให้ บาเพ็ญบุญบารมี สะสมอริยทรัพย์เนื่องในวันวิสาขะบูชา ที่ มีสติ เหมือนกับมีสตางค์ในกระเป๋าทีจ่ ะใช้เมื่อไรก็ได้” คุณจะได้อะไร อยุธยา ตัง้ แต่ตน้ ปีมภี ยั พิบตั ทิ ไ่ี ม่คาดคิดเกิดขึน้ มากมาย สิง่ เรียนรูธ้ รรมะและฝึกการเจริญสติง่ายๆ จากพระอาจารย์ เหล่านี้ไม่มใี ครทานายได้ว่าจะเกิดเมื่อไร แต่ทเ่ี ราทาได้คอื แบบสบาย ๆ ไม่เครียด การเตรียมตัว เตรียมใจ ฝึกสติ เพื่อรับมือกับการเปลีย่ นแปลง การฝึกโยคะอาสนะพืน้ ฐาน ทีส่ ามารถไปฝึกต่อได้ดว้ ย ทีไ่ ม่อาจคาดเดาได้ ตนเอง นาโดยครูจากสถาบันโยคะวิชาการ ชมรมวิถพี อเพียง เชิญชวนท่านให้เวลาอันมีค่ากับ เติมกระปุกบุญ “กลับสูบ่ า้ นทีแ่ ท้ในตน” มีภาวะจิตแจ่มใส ตนเองในช่วงวันหยุด 6 วัน มาฟื้นฟูดแู ลสุขภาพกาย-ใจ โดย ร่างกายสดชื่น การเจริญสติภาวนา ซึง่ ถือว่าเป็ นบุญอันสูงสุด เพื่อสะสม เรียนรู้ อยูใ่ กล้ชดิ ธรรมชาติ รับสายลมจากท้องทุ่ง นอน อริยทรัพย์ไว้ใช้ในภพชาติต่อไป บ้านเรือนไทยไม้กระดาน ั การเจริญสติปฏฐาน 4 นาโดยพระอธิการครรชิต สถานที่: บ้านเรือนไทย ส. รวยเจริญ กม. 39 ถนนสายเอเชีย อกิญจโน เจ้าอาวาสวัดปา่ สันติธรรม ในรูปแบบการฝึก อ. บางปะหัน อยุธยา ห้องมุง้ ลวดแบบนอนรวม พืน้ กระดาน เคลื่อนไหวมือ 14 จังหวะ ตามแนวทางของหลวงพ่อเทียน มีทน่ี อน หมอน ผ้าห่ม เตรียมไว้ให้ ไม่มเี ตียง ความต่อเนื่องและกัลยาณมิตรมีความสาคัญอย่างยิง่ การเดิ นทาง: ขึน้ รถตูไ้ ปอ่างทองทีห่ น้าแฟชันมอลล์ ่ (โรบิน ในการฝึก ช่วยให้เราได้พฒ ั นากายและจิต หากตัง้ ใจจริง สันเดิม) อนุสาวรียช์ ยั รถออกตัง้ แต่ 05.00-20.00 น. ขับรถ ท่านจะสามารถเห็นความเปลีย่ นแปลงในตนเองได้ เพียงชัว่ ไป สอบถามเส้นทางทีค่ ุณเรียม 081 8127965 คุณหมู 081 เวลาไม่กว่ี นั ความเพียรฝึกสติจะช่วยให้สามารถรักษาจิตให้ 8491563 หากต้องการให้จดั รถตูใ้ ห้ โปรดบอกเมื่อสมัครเข้า มันคงพร้ ่ อมทีจ่ ะรับมือกับปญั หาสารพัน ไม่ตกเข้าไปอยู่ ร่วมการฝึก ท่ามกลางกระแส ตลอดจนการยอมรับการสูญเสีย พลัดพราก อาหาร: 2 มือ้ (เช้า กลางวัน) งดเนื้อสัตว์ บ่ายมีเครื่องดืม่ และทีส่ าคัญทีส่ ดุ ของชีวติ คือการเปลีย่ นผ่านไปสูส่ ภาวะใหม่ รับสมัคร: ผูส้ นใจ 40 ท่าน ทีย่ นิ ดีเข้าร่วมตลอดโครงการ การฝึกโยคะ ให้มสี ติรสู้ กึ ตัวขณะเคลื่อนไหวพร้อม การเตรียมตัว: สวมเสือ้ ผ้าสีสุภาพ หลวมสบาย กางเกง รับรูก้ ารทางานของกล้ามเนื้อทีส่ มั พันธ์กนั สอดคล้องกับ ผ้าซิน่ ทีเ่ หมาะแก่การ นังพื ่ น้ และฝึกโยคะ เบาะ /ผ้ารองนอน แนวทางพัฒนาจิตวิถพี ุทธแบบหลวงพ่อเทียน ซึง่ เอือ้ สาหรับฝึกโยค ยาทาตัวกันยุง ไฟฉาย ของใช้สว่ นตัวทีจ่ าเป็ น ค่าใช้จ่าย: รับบริจาคตามกาลังศรัทธา news 1105 3


สมัครที่: พีเ่ งาะ 084-668 3780 thanawal@gmail.com, พี่ พ.ค. โต้ง 081-689 9075 somsric@hotmail.com ภายในวันที่ 8 .........................................................................

วันเสาร์ท่ี ๒๑ พค. ๐๘.๓๐–๑๗.๐๐ น. อบรม ธรรมะและ การเตรียมตัว เตรียมเสือ่ หรือผ้าปูรองนอนเพื่อฝึกโยคะ โยคะเพือ่ ผูป้ ่ วย ครัง้ ที่ ๑๗ โดย ชีวติ สิกขา เครือข่ายเพื่อการ (เครือข่ายฯ มีเสือ่ เตรียมไว้จานวนหนึ่ง) การแต่งกาย สวมใส่เสือ้ ผ้าสบายและสะดวกเพื่อการฝึกโยคะ เรียนรูแ้ ละเข้าใจชีวติ ณ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ร่วมกุศลสะสมบุญด้วยการ ฝึกโยคะกับการภาวนา ไม่จาเป็ นต้องใส่ชุดขาว และกระบวนการเรียนรู้ เข้าใจความจริงของชีวติ ฝึกเจริญสติ ทางเจ้าภาพจัดเตรียมอาหารกลางวัน (มีมงั สวิรตั )ิ ่ ภาวนา และรับธรรมะในการวางใจเพื่อเยียวยาความเจ็บปวย เครื่องดื่ม และของว่างตลอดการอบรม ไม่มคี ่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมอบรม สามารถเข้าร่วม ส่งใบลงทะเบียนได้ท่ี jivitasikkha@gmail.com ได้ทงั ้ ผูป้ ว่ ย ผูด้ แู ลผูป้ ว่ ย และผูส้ นใจทัวไป ่ สอบถามรายละเอียดเพิม่ เติมได้ทค่ี รูอ๊อด โทร 084-643-9245 ........................................................................... ั ญัติ ของ ศ.นพ. เสม” วันอังคารที่ 31 พ.ค. งาน ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์นายแพทย์ “งานด้านบริหารจัดการและนิตบิ ญ ปาฐกถาโดย ศ.นพ. ประเวศ วะสี เสม พริ้งพวงแก้ว ณ หอประชุมใหญ่ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย “งานด้านสาธารณสุขและสังคม ของ ศ.นพ. เสม” กาหนดการ 15.00-15.20 น. การแสดงดนตรีของวงคีตาญชลี 11.30-13.00 น. ชมนิทรรศการ รอบหอประชุมใหญ่ 13.00-13.30 น. การแสดงดนตรีพน้ื บ้าน ละครหุน่ มือ โดย 15.20-16.30 น. การเสวนาเรื่อง “๑๐๐ ปีชวี ติ พ่อเสม ให้อะไรกับสังคมไทยบ้าง” โดย เด็กนักเรียนในโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์ของมูลนิธหิ มอเสม นายพิภพ ธงไชย, นพ.ดร. โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ 13.30-13.40 น. การแสดงวีดทิ ศั น์ประวัติ ศ.นพ. เสม น.ส. รสนา โตสิตระกูล, นพ. ศุภชัย ครบตระกูลชัย 13.40-14.00 น. การอ่านบทกวี โดย 16.30-16.50 น. ดนตรีสดุดี จาก นายสุรชัย จันทิมาธร อ. เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์, อ. อังคาร กัลยาณพงศ์ 16.50-17.00 น. กล่าวปิ ดงาน โดย อ. สุลกั ษณ์ ศิวรักษ์ 14.00-15.00 น. ปาฐกถา โดย อานันท์ ปนั ยารชุน ........................................................................ เสาร์ 18 มิ.ย. มูลนิธหิ มอชาวบ้าน เชิญชวนองค์กรเครือข่าย ตาบลบ้านไร่ อาเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทยั ธานี 220 กิโลเมตร ทัง้ หลายไปร่วมปลูกปา่ (ต้นยางนา) ณ ทีด่ นิ ของมูลนิธฯิ ที่ จากกรุงเทพฯ ใกล้กบั ห้วยปา่ ปกรีสอร์ท ........................................................................... 31 ส.ค. – 4 ก.ย. มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครัง้ ที่ 8 ปี น้ี เรื่องโยคะ โดยจะแบ่งเป็ น 3 หลักสูตร โยคะเพื่อสมาธิ โยคะ สถาบันโยคะฯ ยังคงได้รบั เกียรติให้เข้าร่วมจัดอบรมระยะสัน้ ประยุกต์ในแง่มุมต่างๆ และ โยคะอาสนะ ..........................................................................................

จอดก่อนเปิ ด ปิ ดก่อนออก พีน่ ้องครับ ทีจ่ ริงแล้ว เมลนี้ควรจะถูกส่งถึงพีน่ ้องก่อนหน้านี้ หลายสัปดาห์แล้ว แต่กน็ นแหละ ั่ ประสาเด็กแนวอย่างผมจนแล้วจน รอดเมลนี้กย็ งั ไม่ถูกส่งถึงพีน่ ้อง เพราะอะไรหรือ? ก็เพราะผมยังเขียนไม่เสร็จนะสิครับ(ฮา) news 1105 4

โดย ธีรเดช อุทยั วิทยารัตน์ อย่างทีเ่ รียนในสามบรรทัดก่อนว่า ประสาเด็กแนว อย่างผม แนวอืดอาดไง หุ หุ ว่าทีจ่ ริงอีกเหมือนกัน ผมกะว่าจะคิดดังๆ พร้อมกับ พรมนิ้วบนคียบ์ อร์ดไปด้วยจนจบประเด็นทีเ่ ค้นไว้คร่าวๆ ใน หัวแล้วส่งถึงพีน่ ้องก่อนเทศกาลสงกรานต์ แต่หลังจากคิดกับตัวเองเงียบๆ ว่า ปี น้มี กี ารรณรงค์ เรื่องเมาไม่ขบั ในระหว่างเทศกาลสงกรานต์อย่างจริงจัง ด้วย ความห่วงใยว่าพีน่ ้องบางท่านอาจต้องขับรถ หรือขีม่ า้ ลาล่อ หรือต่อมอเตอร์ไซค์กลับบ้านหรือไปฉลองสงกรานต์ไปแถวๆ


ถนนข้าวสาร ข้าวหลาม ข้าวหมก ข้าวปนั ้ ข้าวเหนียวเปียก และถนนข้าวอะไรต่ออะไรสารพัดหลังจากอ่านเมลผม (จบ หรือไม่จบก็ตามแต่) ซึง่ มีแนวโน้มสูงถึงสูงมากว่าท่านน่าจะ เมาไม่แพ้ด่มื เครื่องดื่มทีม่ แี อลกอฮอล์หรือเผลอๆ อาจ มากกว่า อันจะเป็ นเหตุให้ขบั ขีย่ านพาหนะในขณะมึนเมา ซึง่ จะไม่เป็ นผลดีทงั ้ ต่อตัวเอง ครอบครัว สังคม และสิง่ แวดล้อม ถึงแม้ว่าหลังจากตารวจเรียกให้หยุดรถเพราะเห็นลักษณะการ ขับขีท่ แ่ี ส่สา่ ยไปมาบนถนน แต่หลังจากตรวจระดับ แอลกอฮอล์ในเลือดแล้วพบว่าไม่มเี ปอร์เซนต์ของแอลกอฮอล์ แต่อย่างใด คิดเห็นเช่นนี้แล้ว ผมจึงคิดว่าไม่จาเป็ นต้องเร่งคิด และเคาะเมลจนเสร็จในช่วงสงกรานต์ แต่กอ็ กี นันแหละ ่ วันนี้ดนั (ตัวเอง) มานังหน้ ่ าจอ คอมพ์ แล้วก็คดิ ว่าถึงแม้จะมีความเป็ นไปได้สงู ถึงสูงมากทีพ่ ่ี น้องจะเกิดอาการเมา(เพราะอ่าน)เมลของผม ทว่าน่าจะเป็ น ลักษณะของเมาแล้วหลับ(ฮา) มากกว่าเมาแล้วนึกอยากจะไป ขับรถ อย่าว่าแต่เมื่อถึงวันนี้แล้วหลายท่านคงเดินทางกลับถึง บ้านเรียบร้อยโรงเรียนไทยแล้ว อีกทัง้ หลายท่านกว่าจะได้ อ่านเมลนี้กค็ งเป็ นหลังเทศกาลสงกรานต์แล้ว โอกาสทีจ่ ะเมา แล้วขับคงนับว่าน้อยอย่างยิง่ คิดเห็นเช่นประการหลังแล้ว ผมจึงจะลองไล่ เรียงความคิดทีเ่ คยเค้นๆ ไว้ในประเด็นทีเ่ กริน่ ไว้ในซับเจคท์ ว่า "จอดก่อนเปิ ด ปิ ดก่อนออก" ซึง่ น่าจะทาให้หลายท่าน เริม่ กรึม่ ๆ ตัง้ แต่เห็นข้อความทีว่ า่ นี้แล้ว...ใช่หรือไม่? เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า บ่ายของวันนัน้ - วันไหนก็ช่างเถอะ (อิ อิ) เพราะไม่ ติดใจผมเท่ากับว่ามันเป็ นบ่ายทีร่ อ้ นมาก ร้อนชนิดทีแ่ ค่ยนื รอ รถเมล์เฉยๆ นับหนึ่งยังไม่ถงึ ร้อย แผ่นหลังผมก็ชุ่มและโชก ไปด้วยเหงื่อ ไม่นบั ทีไ่ หลย้อยมาตามหน้าผากและไรผม(ซึง่ สัน้ มาก) หลังจากยืนรอรถเมล์จนเริม่ รูส้ กึ คลับคล้ายคลับคลา ว่าตัวเองกาลังยืนอยู่ในทะเลทรายแถบถิน่ ดูไบทีเ่ คยไปมาเมื่อ สามปี ก่อน รถเมล์สายทีผ่ มหรีต่ ายืนคอย(ทีต่ อ้ งหรีต่ ามเพราะ แดดจ้าน่ะครับ)ก็จอดตรงป้ายรถเมล์ แต่ห่างจากฟุตบาทไป สองเมตรกับอีกราวๆ สิบห้าเซนติเมตร เป็ นรถร่วมขสมก.ซึง่ วิง่ รับส่งผูโ้ ดยสารบริเวณชายขอบของกรุงเทพฯ หลังจากหย่อนก้นลงนังบนเก้ ่ าอีย้ วบๆ ผมก็ปล่อย ให้สายตาเหลือบแลไปข้างหน้า เห็นป้ายทีต่ ดิ อยูต่ รงผนังรถ (เอ๊ะ ควรใช้คาว่ากระไรหว่า)เหนือคนขับพิมพ์ขอ้ ความทีเ่ ห็น เด่นชัดว่า "จอดก่อนเปิ ด ปิ ดก่อนออก" news 1105 5

ด้วยความทีม่ ี royalty ต่อการนังรถเมล์ ่ มาตัง้ แต่ สะบัดก้นพ้นจากเปลทีพ่ ่อแม่เห่กล่อม ทาให้ไม่ตอ้ งปล่อยให้ ประโยคทีเ่ ห็นชาแรกแทรกไปในร่องสมองทีม่ อี ยู่น้อยนิด ผมก็ พอจะรูว้ ่าป้ายนี้มไี ว้เพื่อเตือนคนขับว่า "ให้จอดรถก่อนแล้ว ค่อยเปิ ดประตู(ลม) จากนัน้ ก่อนจะออกรถต้องปิ ดประตูก่อน" แต่กอ็ กี นันแหละ ่ แทนทีจ่ ะปล่อยให้ถอ้ ยคาทีเ่ หลือบ เห็นทาหน้าทีก่ ากับการขับรถของพีโ่ ชเฟอร์ ผมกลับยินยอม ให้วลีทผ่ี ่านตา กระตุกขาอาชาความคิดซึง่ พร้อมจะติดสปี ด ระดับน้องๆ รถแข่ง ทะยานผ่านก้อนขีเ้ ลื่อยทีอ่ ดั แน่นอยู่ใน สมองก้อนน้อยๆ อย่างไม่อาจควบคุมได้ หรือจะพูดให้ถูก ผม ก็ไม่คดิ ควบคุมมันมากกว่า เจ้าอาชาความคิดพาตัวเองเตลิดพุ่งย้อนกลับไปยัง อดีตโดยติดคาว่า "จอดก่อนเปิ ด ปิ ดก่อนออก" ไปด้วย ความ ซวยก็เลยตกเป็ นของพีน่ ้อง ทีจ่ ะต้องมามึนและเมาอีกตาม เคย(ฮา) ส่วนผมนะ "มันส์" เหมือนเคยแหละครับ หุ หุ ครับ แทนทีจ่ ะปล่อยให้คาว่า "จอดก่อนเปิ ด ปิ ดก่อน ออก" ทาหน้าทีก่ ากับการขับรถของโชเฟอร์ตามเจตนาของ ใครก็ตามทีต่ ดิ ป้ายนี้ ผมดันเอาวลีน้นี ึกย้อนไปผูกโยงกับการ ฝึกอาสนะ(อีกแล้ว) ตามแนวทางทีค่ รูเคยอบรมบ่มเพาะมา สมัยทีผ่ มยังเป็ นละอ่อน หมายถึงละอ่อนในทางการฝึกอาสนะ ครับ ส่วนขวบวัยในช่วงนัน้ ยังเป็ นแค่ทารก - เรียกว่า "ตา" ครับ (อันนี้ไม่น่าจะฮานะผมว่า) แต่พดู ก็พดู เถอะ ตอนทีค่ รู ไม่ได้สงแต่ ั ่ สอนให้อย่างใจดีและมากด้วยเมตตานัน้ ครูคงนึก ไม่ถงึ ว่า ลูกศิษย์ทพ่ี กพาปริศนาเกีย่ วกับการฝึกอาสนะซ่อน แทรกอยูแ่ ทบจะในทุกรูขมุ ขนอย่างผม จะจดจาคาครูมา กระหวัดรัดพันกับอะไรต่ออะไรทีม่ นั ไม่น่าจะเกีย่ วข้องกับสิง่ ที่ ครูถ่ายทอดให้ ข้อความ "จอดก่อนเปิ ด ปิ ดก่อนออก" ทีเ่ ห็น ทาให้ ผมนึกถึง หลักการประสานการหายใจในขณะเคลื่อนไหวไปสู่ และออกจากท่วงท่าครับพีน่ ้อง ใครทีเ่ คยหลงผิดไปเข้าคอร์สวินยาสะ อาสนะกับผม คงจา(บางคนดูเหมือนว่าตัง้ อกตัง้ ใจจดไปด้วย แต่ไม่รวู้ ่าไอ้ท่ี จดๆ ไปนัน้ รูเ้ รื่องหรือเปล่า - ฮา)ทีผ่ มเคยเล่าและแลกให้ฟงั ว่า การฝึกอาสนะ ตามแนวทางของท่านกฤษณมาจาร ยาหรือทีเ่ รียกกันในช่วงหลังว่า "วินิโยคะ"นัน้ ค่อนข้างให้ ความสาคัญ กับการฝึกอาสนะให้สอดคล้องบรรสานกับการ หายใจ พูดง่ายๆ (แต่อาจเข้าใจยากว่ะ - ฮา)ว่า ทาอย่างไร ให้การหายใจกับการเคลื่อนไหวของร่างกายหรืออาสนะ เป็ น หนึ่งเดียวกัน (น่าจะเข้าใจยากจริงๆ ด้วยแฮะ - ฮา)


ซึง่ ก็อย่างทีผ่ มเคยแลกกับพีน่ ้องว่า การทาให้การ หายใจ(หรือลมหายใจ)กับการเคลื่อนไหวของร่างกายเป็ นหนึ่ง เดียวกันหรือพูดในทางปฏิบตั วิ ่าสอดคล้องกันนัน้ น่าจะมีอยู่ ๒ ลักษณะ ลักษณะแรกคือ ทิศทางการเคลื่อนไหวและ ทิศทางของการหายใจควรจะสอดรับกัน กับอีกลักษณะหนึ่ง คือระยะเวลาในการเคลื่อนไหวและช่วงเวลาของการหายใจ พูดให้เห็นภาพ(ทีอ่ าจเบลอๆ เพราะความเมา - ฮา) ก็คอื อย่างแรกนัน้ หากการเคลื่อนไหวของร่างกายเป็ นการ เคลื่อนไหวทีท่ าให้ร่างกายด้านหน้าขยายออก ก็ควรทา ในขณะหายใจเข้า แต่หากการเคลื่อนไหวนัน้ ทาให้ร่างกาย ด้านหน้าหดหรือถูกกระชับพืน้ ที่ ก็ควรทาในขณะหายใจออก พูดง่ายๆ (อันนี้น่าจะง่ายจริง)ว่า เวลาก้มตัวไปข้างหน้าหรือ บิดตัวไปด้านข้าง ควรทาในขณะหายใจออก เพราะปอด กระ บังลม และทรวงอกถูกกระชับพืน้ ที่ ในทางตรงกันข้ามเวลา แอ่นตัวไปข้างหลัง หรือเหยียดยืดไปด้านข้างในลักษณะที่ ทรวงอกและกระบังลมขยายออก ควรทาในขณะหายใจเข้า ส่วนกรณีหลัง ทีบ่ อกว่าระยะเวลาในการเคลื่อนไหว และช่วงเวลาของการหายใจให้สอดคล้องกันนัน้ หมายถึงว่า เราเริม่ ต้นหายใจและเริม่ เคลื่อนไหวหรือขยับร่างกายเพื่อไปสู่ ท่วงท่าหรืออาสนะทีจ่ ะทา เมื่อเคลื่อนไหวไปจนสุดทางหรือถึง จุดทีร่ ่างกายสามารถเหยียดยืดไปได้แล้ว ลมหายใจ(ไม่ว่าเข้า หรือออก)ก็สน้ิ สุดพอดี การสอดรับหรือบรรจบพบกันพอดี ระหว่างการ เคลื่อนไหวของร่างกายกับลมหายใจในสองลักษณะทีก่ ล่าวมา นี้ น่าจะถือเป็ นอีกแง่มมุ หนึ่งของ "โยคะ" ก็ว่าได้ แม้ว่าลม หายใจกับร่างกาย จะไม่ได้หลอมรวมกันในความหมายตาม ตัวอักษรก็ตาม อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบตั นิ นั ้ การฝึกอาสนะใน แนวทางของท่านกฤษณมาจารยา - อย่างน้อยตามทีผ่ มได้รบั การอบรมบ่มเพาะมา ครูหลายท่านมักแนะนาให้เริม่ ต้น หายใจ(เข้าหรือออก)จากนัน้ จึงเริม่ เคลื่อนไหว และเมื่อ เคลื่อนไหวจนสุดแล้ว ลมหายใจจึงสิน้ สุดตาม พูดง่ายๆ ว่า ระยะเวลาของการหายใจ จะยาวกว่าช่วงเวลาของการ เคลื่อนไหว(ไปสูแ่ ละออกจากท่วงท่า)อยู่ - อาจจะราวๆ หนึ่ง หรือสองเสีย้ ววินาที จะบอกว่าใช้ลมหายใจเป็ นเครื่องกากับ และควบคุม การเคลื่อนไหวของร่างกายก็คงไม่ผดิ นัก วันนัน้ พลันทีส่ ายตาเหลือบเห็นข้อความว่า "จอด ก่อนเปิ ด ปิ ดก่อนออก" ผมไพล่นึกถึงความสัมพันธ์ระหว่าง การหายใจกับการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างทีเ่ ล่ามายาวๆ news 1105 6

ผมถามตัวเองโดยไม่เกรงว่าใครจะได้ยนิ (ก็ถามใน ใจนี่หว่า - ฮา)ว่า หากการ "จอด(รถ)ก่อน(แล้วค่อย)เปิ ด(ประตู)" จากนัน้ ให้ "ปิ ด(ประตู)ก่อน(แล้วจึง)ออกรถ" เป็ นข้อพึงปฏิบตั ิ เพื่อความปลอดภัยของผูโ้ ดยสาร เช่นนัน้ แล้ว "หายใจก่อนเคลื่อน(ไหวร่างกาย)" และ "สุด(การเคลื่อนไหว)ก่อนสิน้ (สุดการหายใจ)" ก็เป็ นวิธปี ฏิบตั ิ ทีอ่ าจมีสว่ นช่วยต่อความจดใจของผูฝ้ ึก จดใจในความหมาย ว่าทาให้จติ ใจจดจ่อกับการฝึก เพราะต้องผสานให้การ เคลื่อนไหวของร่างกาย ให้สอดรับแทบจะเป็ นหนึ่งเดียวกับ การหายใจ (ผม)ถาม(ตัวเอง)ว่า หากต้องการให้การเคลื่อนไหว กับการหายใจเป็ นหนึ่งเดียวกัน เพระเหตุใดจึงไม่ให้เริม่ ต้น และสิน้ สุดพร้อมกันไปเลยเล่า คาตอบเท่าทีผ่ มนึกออกก็คอื การจัดระยะห่าง ระหว่างการหายใจกับการเคลื่อนไหวร่างกาย ทัง้ ช่วงเริม่ ต้น และสิน้ สุด น่าจะเรียกร้องหรือต้องการความจดจ่อมากยิง่ กว่า การเริม่ ต้นและสิน้ สุดการเคลื่อนไหวร่างกายและลมหายใจ ให้ พร้อมกัน อีกคาถามหนึ่งทีแ่ วบขึน้ มาก็คอื แล้วถ้าจะสลับ สับเปลีย่ นวินยาสะ ระหว่างการหายใจกับการเคลื่อนไหวล่ะ คือเริม่ เคลื่อนไหวก่อนแล้วจึงเริม่ หายใจ และหลังจากหายใจ สุดแล้วจึงสิน้ สุดการเคลื่อนไหว พลันทีส่ น้ิ สุดคาถามข้างบน ความคิดทีผ่ ุดวาบ ตามมาก็คอื หรือว่าทีใ่ ห้เริม่ ต้นหายใจแล้วเริม่ เคลื่อนไหวนัน้ เพราะต้องการให้การเคลื่อนไหวมาจากปราณ ทีม่ ากับลม หายใจของเรา แต่หลังจากตรองต่ออีกเล็กน้อย ผมก็ถอนและ ถอยความคิดนี้ออกไป เพราะคิดว่าพลังในการเคลื่อนไหวของ ร่างกาย ไม่น่าจะมาจากลมหายใจทีเ่ ราสูดเข้าหรือออกในรอบ นัน้ แต่น่าจะมาจากปราณทีไ่ หลเวียนอยู่ตวั เรามากกว่า กระนัน้ ก็ตาม ผมลองขยับไปคิดบนพืน้ ฐานของ "ปญั จโกศะ" หรือเปลือกหุม้ (ตัวตน)ห้าชัน้ หากเทียบระหว่าง ช่วงชัน้ ของจิตใจ(มโนมยโกศะ) และจิตวิญญาน(วิชญามย โกศะ) กับช่วงชัน้ แห่งปราณ(ปราณมยโกศะ)ซึง่ เกีย่ วข้องกับ ลมหายใจอยู่ดว้ ย และช่วงชัน้ ของจิตใจ(มโนมยโกศะ)และจิต วิญญาน(วิชญามยโกศะ) กับช่วงชัน้ แห่งกาย(อันนมยโกศะ) ช่วงชัน้ แห่งจิตใจและจิตวิญญาน อยู่ใกล้กบั ช่วงชัน้ แห่งปราณ มากกว่าช่วงชัน้ แห่งกาย เพราะฉะนัน้ อาจเป็ นไปได้วา่ การ กากับหรือควบคุมการเคลื่อนไหวของปราณ (ซึง่ มีสว่ น เกีย่ วข้องกับลมหายใจ)จะง่าย(หรือใกล้)กว่าการกากับควบคุม การเคลื่อนไหวของร่างกาย ซึง่ เป็ นช่วงชัน้ ทีอ่ ยูห่ ่างออกมา


หรืออาจพูดอีกอย่างว่า ช่วงชัน้ แห่งจิตวิญญาน - เริม่ เคลื่อนไหวก่อนแล้วจึงเริม่ หายใจ หายใจสุด ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย ผ่านการเคลื่อนไหวของ แล้วจึงหยุดเคลื่อนไหว และ ปราณ เริม่ หายใจพร้อมกับเริม่ หายใจ สิน้ สุดการ แต่กห็ าได้หมายความว่า คนทีฝ่ ึกอาสนะจะเริม่ เคลื่อนไหวพร้อมกับหยุดหายใจ เคลื่อนไหวร่างกายก่อนและจึงเริม่ หายใจ และสิน้ สุดการ แต่สาหรับการขับรถเมล์ "จอดก่อนเปิ ด ปิ ดก่อน หายใจแล้วตามด้วยการหยุดเคลือ่ นไหวไม่ได้ ออก" น่าจะเป็ นข้อพึงปฏิบตั ทิ เ่ี หมาะสมกว่าวิธปี ฏิบตั ใิ นทาง ้ ทัง้ นี้เนื่องจาก ในแง่หนึ่งเปาหมายอย่างหนึ่งของ กลับกัน พีน่ ้องเห็นด้วยไหมครับ การฝึกอาสนะ (ซึง่ เกีย่ วข้องกับทัง้ การเคลื่อนไหวร่างกายและ บ่ายวันนัน้ หลังจากลงจากรถเมล์คนั นัน้ ผมอด การหายใจ)หาได้อยู่ทอ่ี ะไรก่อนอะไรหลัง หากอยูท่ ใ่ี ห้ทงั ้ สอง ไม่ได้ทจ่ี ะเหลียวมองรถเมล์ทเ่ี ริม่ เคลื่อนตัวออกไป หลังจากที่ การกระทานี้สอดคล้องประสานกันอย่างกลมกลืน ซึง่ อาจ พีโ่ ชเฟอร์ปิดประตูรถแล้ว เป็ นไปได้ทงั ้ สามกรณีคอื เอวังก็มดี ว้ ยประการฉะนี้แล - เริม่ หายใจก่อนแล้วจึงเริม่ เคลื่อนไหว เคลื่อนไหว ขอให้เมา(สุราอักษร)แบบมันๆ กันนะครับ สุดแล้วจึงหยุดหายใจ หรือ เละ ………………………………………………………………….. พี่น้องครับ หายเมาเรื่อง "จอดก่อนเปิ ด ปิดก่อนออก" กันหรือ ยังครับ แต่อย่างทีเ่ กร่นิ่ ในซับเจคท์แหละว่าไม่เมาไม่เลิก หรือ ต่อให้เมาแล้วผมก็ไม่เลิกอยู่ดี (แล้วจะถามว่าหายเมาหรือยัง ไปทาไมฟะ - นันนะดิ ่ ) หากใครทนอ่านและอ่านทนจนถึงตอนท้ายๆ ในเมล ฉบับก่อน ทีผ่ มคิดดังๆ ให้พน่ี ้องได้อ่านว่า การจัด ความสัมพันธ์ระหว่างการเคลื่อนไหวร่างกาย (ไปสูห่ รือออก จากอาสนะ)กับการหายใจนัน้ อาจเป็ นไปได้ ๓ แบบ คือ ๑. เริม่ หายใจก่อนจากนัน้ จึงเริม่ เคลื่อนไหว เคลื่อนไหวสุด แล้วจึงหยุดหายใจ(ชัวคราวครั ่ บ) ๒. หายใจพร้อมไปกับเคลื่อนไหว และ ๓. เริม่ เคลื่อนไหวก่อนแล้วจึงเริม่ หายใจ หายใจสุดแล้วจึง หยุดเคลื่อนไหว ซึง่ สาหรับตัวผมเองนัน้ ส่วนใหญ่แล้วมักเป็ นแบบ แรก คือเริม่ หายใจแล้วจึงเคลื่อนไหว เคลื่อนไหวสุดแล้วตาม ด้วยหยุดหายใจ อาจมีบา้ งบางครัง้ ทีท่ าแบบทีส่ ามคือเริม่ และส้นิ สุดการเคลื่อนไหวพร้อมไปกับการหายใจ แต่กอ็ ย่างทีบ่ อกในเมลฉบับก่อนว่า โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าเราจะไปสูอ่ าสนะด้วยการเริม่ จากการหายใจหรือการ เคลื่อนไหวก่อน หาใช่เทคนิคหรือขัน้ ตอนทีเ่ บ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่อย่างใด พูดอีกแบบว่าเราอาจสลับวินยาสะระหว่าง (ใน ความหมายของการเรียงลาดับระหว่าง) การเคลื่อนไหวร่าง กายกับการหายใจได้ ตราบใดทีจ่ ติ ของเราเชื่อมร้อยผูกโยง

โดย ธีรเดช อุทยั วิทยารัตน์ กับการหายใจและการเคลื่อนไหว จนเราสามารถผสานการ เคลื่อนไหวร่างกายกับการหายใจให้กลมกลืนอย่างลงตัว อย่างไรก็ตาม อาจเป็ นวาสนา(หมายถึงความคุน้ ชิน) ทีม่ กั จะเอาเรื่องทีต่ ริตรึกเรื่องนึกคิดติดพันอยู่ มาดูๆ คิดๆ ใน ระหว่างฝึกอาสนะ วันก่อนผมก็เลยลองฝึกอาสนะด้วยการ เคลื่อนไหวร่างกายก่อนแล้วจึงเร่มิ หายใจ จากนัน้ หายใจสุด แล้วจึงหยุดเคลื่อนไหว ความแตกต่างทีส่ งั เกตและรูส้ กึ ได้กค็ อื ในบางอาสนะทีล่ กั ษณะการเหยียดยืดร่างกายทาให้ลมหายใจ ถูกจากัด โดยทีเ่ รา(ยังคง)เคลื่อนไหวร่างกายอย่างช้าๆ (เช่น ท่าเหยียดยืดร่างกายด้านข้าง) จะทาให้จงั หวะทีเ่ ราหยุดหรือ สิน้ สุดการหายใจนานขึน้ กว่าปกติ หรือพูดอีกอย่างคือเกิดการ กลัน้ หายใจ ทาให้ผมคิดว่าในกรณีของคนทีไ่ ม่ชนิ กับการกลัน้ หายใจ การใช้วนิ ยาสะระหว่างการหายใจกับการเคลื่อนไหว แบบนี้ (คือเริม่ เคลื่อนไหวแล้วจึงตามด้วยหายใจ) อาจทาให้ เหนื่อยได้ เพราะฉะนัน้ มองในแง่หนึ่ง เราจะทาอาสนะโดยใช้ วินยาสะระหว่างการหายใจกับการเคลื่อนไหวร่างกาย แบบใด แบบหนึ่งในสามแบบทีก่ ล่าวมาข้างต้นก็น่าจะได้ แต่ในอีกแง่ หนึ่ง วินยาสะแต่ละแบบอาจเหมาะหรือไม่เหมาะกับเงื่อนไข ของคนทีแ่ ตกต่างกัน ดังข้อสังเกตจากการทดลองทีเ่ ล่ามาใน ย่อหน้าก่อน จึงเล่ามาเพื่อมาแลก หากใครจะแตกประเด็นเข็ญ ความคิดไปไหนต่อไหนไกลกว่านี้ ก็จะเป็ นการดียงิ่ เละ

………………………………………………………………..

news 1105 7


โดย กอง บ.ก. ถัดไป ดูเรื่องการฝึกท่าอาสนะของเรา ก็ยงั สามารถ ปวดหลัง หนูเคยอบรมครูโยคะรุ่นทีแ่ ล้ว ขณะนี้เจ็บทีห่ ลังหมอ ดาเนินต่อไป ด้วยความระมัดระวัง ให้เวลากับการผ่อนคลาย เอ็กซเรย์พบว่าข้อกระดูกหลังเสือ่ ม จะทาโยคะท่าไหนไม่ได้ มากขึน้ ท่าอาสนะไหนทีไ่ ม่มผี ลกับหลัง ก็ทาไปได้ตามปกติ ๊ คันไถตรึง่ ตัว บ้าง และจะปฏิบตั ติ วั ในการฝึกโยคะอย่างไรคะ กรุณาตอบ อาสนะไหนทีเ่ กีย่ วกับหลัง เช่น ท่างู ตักแตน ท่าคีม ท่าบิดสันหลัง เราต้องระวัดระวังเป็ นพิเศษ ด้วยค่ะ ขอบคุณมากมายเลย ในแต่ละท่า ค่อยๆ ทา ทาน้อยๆ หากทาน้อยแล้วยัง ตอบ เราค่อยๆ พิจารณาเป็ นลาดับๆ ไปเนาะ ข้อกระดูก รูส้ กึ ไม่ดี ก็หยุด ทาแล้วรูส้ กึ ดี ก็ทาต่อได้ ทัง้ หมดให้เป็ นไป หลังเสือ่ ม ข้อไหนเอ่ย? ช่วงล่าง (เอว) หรือ ช่วงกลาง (ทรวง ด้วยความระมัดระวัง ทีส่ าคัญคือ รูว้ ่าเรากาลังทาไปเพื่ออะไร อก) เราต้องรูน้ ะว่าข้อบริเวณไหน ลาดับต่อไป อาการเสือ่ มที่ ไม่ได้ทาเอาท่า แต่ทาเพื่อ ให้เรามีความสมดุล ของกล้ามเนื้อ หมอว่านัน้ เสือ่ มขนาดไหน เพิง่ เริม่ ต้น หรือเสือ่ มไป กระดูก เส้นประสาท ของทัง้ ร่างกาย รวมไปถึงบริเวณหลังที่ พอสมควร การรูว้ ่าเสือ่ มในลักษณะใด ก็ช่วยให้เราดูแลตนเอง กาลังปวดด้วย เครื่องมือสาคัญทีส่ ดุ ในการทาท่าอาสนะก็คอื สติ สติ ได้ดขี น้ึ จากนัน้ เราก็มาพิจารณา ว่าเราจะดูแลตัวเอง ทีจ่ ะเรียนรูต้ นเอง ผ่านความรูส้ กึ ทีเ่ กิดขึน้ จากอิรยิ าบถในท่า อย่างไร ในเบือ้ งต้น หมอคงแนะนาว่าเราต้องระวังการใช้งาน ต่างๆ ทีเ่ ราค่อยๆ ทาไปด้วยความพอเหมาะพอดี ลองดูนะครับ ค่อยๆ ว่าไป มีอะไร ถามไปได้เลย ทีห่ ลังของเราเป็ นพิเศษ ไม่ยกของหนัก ฯลฯ อีกสิง่ หนึ่งทีช่ ่วย ได้คอื การมีอริ ยิ าบถทีเ่ หมาะสม จะหยิบของ จะก้มหลัง เราก็ โทรคุยก็ได้นะครับ ด้วยความยินดี และขออวยพรให้เราดูแล ใช้ความระมัดระวังเพิม่ ขึน้ ซึง่ การฝึกโยคะ ช่วยให้เรามีสติดี สุขภาพตนเองได้ดว้ ย สติ ครับ ขึน้ ให้เรามีอริ ยิ าบถทีไ่ ม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อหลัง ..............................................................................................................

สอนโยคะแนวสมาธิให้ฝรัง่ ครูคะ มีเรื่องอีกแล้วค่ะ คือว่าตอนนี้หนูได้ตดิ ต่อกับ เกสท์เฮาส์แนวสุขภาพเล็กๆ เวลาทีม่ ตี ่างชาติมาพัก เขาก็จะ มีกจิ กรรมต่าง ๆ เสนอให้ รวมทัง้ โยคะ ซึง่ ครูโยคะแต่ละคนที่ แวะเวียนกันมาสอนก็ลว้ นเป็ นต่างชาติ ซึง่ เขาให้หนูนาเสนอ ตัวเองห้าวัน วันละ 1 ชัวโมง ่ ในการทีจ่ ะสอนโยคะให้กบั ต่างชาติในรูปแบบของตัวเอง งานเข้าเลย ไม่เหมือนบ้านเอ เอฟตอนอยู่ในค่าย อันนี้ของจริง ฮา หนูเลือกโยคะแห่งสติ Yoga mindfulness ซึง่ ใน ความเป็ นจริง โยคะทุกแขนงถือเป็ นโยคะแห่งสติอยู่แล้วใช่มยั ้ ค่ะครู ? ในความเข้าใจของหนูคอื หนูจะสอนโดยเน้นไปที่ จิตใจ โดยฝึกสมาธิ ปราณายามะ มากกว่าเน้นไปทางอาสนะ ขอรบกวนครูให้ขอ้ เสนอแนะ ให้ยาว ๆ หน่อยได้มยั ้ ค่ะ ? ทีส่ าคัญ เหตุทห่ี นูเลือกโยคะแห่งสติเพราะครูสอน เอาไว้น่ะค่ะ แต่ก่อนหนูฝึกอาสนะ พักในท่าศพก็หลับ ฮา อะไรก็ไม่ได้ฝึกต่อ ทัง้ ปราณทัง้ สมาธิ แต่ตอนนี้ตดิ ค่ะครู ติด ในปราณ ในสมาธิ สิง่ ทีด่ อี ย่างนี้ทุ่มสุด ๆ news 1105 8

โดย กอง บก คือหนูนงได้ ั่ 1.30 ชม ต่อครัง้ แล้วมันจะมีแว๊บ ประมาณ 5-6 วินาที นวล ๆ เบา ๆ เหมือนไม่มตี วั แต่รสู้ กึ บางครัง้ ถ้าตอนเย็นไม่เหนื่อยมาก ก็ฝึกสมาธิก่อนนอน อีก 20- 30 นาที น่ะค่ะ หนูอยูแ่ บบสดชื่น จิตใจแจ่มใส ลื่นไหลได้ ทัง้ วันเลยค่ะ ก็เลยเป็ นแรงกระตุน้ ให้เลือกโยคะแห่งสติไว้ แบ่งปนั สิง่ ดี ๆ กับผูค้ น ฮุ นางเอกอีกแระ ขอบพระคุณครู ล่วงหน้าค่ะ ตอบ ผมลองตอบเป็ นประเด็นๆ นะ Q ซึง่ ในความเป็ นจริงโยคะทุกแขนงถือเป็ นโยคะแห่งสติอยู่ แล้วใช่มยั ้ ค่ะครู ? A ถูกต้องเลยครับ Q หนูเลือกโยคะแห่งสติ Yoga mindfulness A ผมชอบนะ คือผมมองว่า สติ คือลักษณะเด่นของ สังคมไทย ฝรังจะหาเรี ่ ยน ท่าอาสนะแบบบู๊ๆ ทีไ่ หนก็ได้ แต่ถา้ จะศึกษา โยคะแห่งสติ โยคะเพื่อสมาธิ ครูไทยจะ สอนได้ลกึ ซึง้ กว่า


Q คือ หนูนงได้ ั ่ 1.30 ชม ต่อครัง้ แล้วมันจะมีแว๊บ ประมาณ 5-6 วินาที นวล ๆ เบา ๆ เหมือนไม่มตี วั แต่รสู้ กึ บางครัง้ ก็ฝึกสมาธิก่อนนอน อีก 20- 30 นาที น่ะค่ะ หนูอยู่แบบ สดชื่น จิตใจแจ่มใส ลื่นไหลได้ทงั ้ วันเลยค่ะ ก็เลยเป็ นแรง กระตุน้ ให้เลือกโยคะแห่งสติไว้แบ่งปนั สิง่ ดี ๆ กับผูค้ น A ตรงนี้คอื "หัวใจ" เลยแหละ ผมมองว่า การเป็ นครูโยคะ นัน้ ขึน้ อยู่กบั หัวใจ ซึง่ เกิด จากการทีเ่ ราเข้าใจมัน มีประสบการณ์โดยตรงในสิง่ ทีส่ อน รวมทัง้ เกิดจากการทีเ่ รามีใจทีอ่ ยากจะให้ อยากจะแบ่งปนั สิง่ ดี ไปยังผูเ้ รียน การสอนโยคะของพวกเรา ใช้ "ใจ" นา ครับ เงินทอง ชื่อเสียง เป็ นเพียง เรื่องรอง

จึงค่อยชวนคุยประเด็นสมาธิ ทาไปเนียนๆ ไปตาม ธรรมชาติของจิตทีค่ ่อยๆ ละเอียดลงๆ ทีส่ าคัญคือ ทิศทางการนาฝึกของเรานันเอง ่ ใน ตอนต้น ตลอดเวลาทีเ่ รานาเขาฝึกอาสนะ ถ้าเราเอาแต่ เชียร์ให้เขาออกกาลังกาย เน้นท่าแปลกๆ จิตใจของคน เรียน ก็จะเกิดการรับรูว้ ่าอาสนะเป็ นการออกกาลังกาย ต้องแข่งขัน เน้นปริมาณ แต่ถา้ เราสอนอาสนะเขา โดย ค่อยๆ สอดแทรก กล่อมเกลา ชีช้ วนให้เขา "เดินทางสู่ ภายในตนเอง" เขาก็เริม่ รูจ้ กั โยคะว่า มันเป็ นเรื่อง "จิต" เมื่อผ่านไปสักระยะ พอมาชวนเขาฝึกปราณ ฝึกสมาธิ เขา ก็จะตอบรับเราได้ง่าย เพราะเราปูพน้ื ไว้ให้เขาก่อนแล้ว นันเอง ่ ข) นอกจากนัน้ มันยังขึน้ กับความแม่นยาของเรา ในสิง่ ที่ Q ในความเข้าใจของหนูคอื หนูจะสอนโดยเน้นไปทีจ่ ติ ใจ เราสอน จะสอนโยคะแห่งสติ คนสอนก็ตอ้ ง มีสติ เนาะ โดยฝึกสมาธิ ปราณายามะมากกว่าเน้นไปทางอาสนะ ขอ ตรงนี้ ผมถึงชวนพวกเราว่า นอกจากชานาญในอาสนะ รบกวนครูชแ้ี นะหน่อยได้มยั ้ ค่ะ ? ลองฝึกปราณให้มากขึน้ ๆ จนมีทกั ษะ มีความคุน้ เคย ลอง A เทคนิคโยคะ ต่างๆ ทีเ่ ราจะสอนนักเรียนนัน้ ขึน้ อยู่กบั ฝึกสมาธิมากขึน้ ๆ ให้มที กั ษะ มีความคุน้ เคย มีความ ปจั จัยหลายๆ ประการ เนาะ เข้าใจเพียงพอทีจ่ ะอธิบายให้เขาฟงั ให้นกั เรียนมีความ เข้าใจได้ ก) ขึน้ กับความคาดหวังของนักเรียน เขาอาจอยากฝึกท่า โดยตรงนี้ ทีเ่ ล่ามา เธอเองก็มฐี านเรื่องสมาธิอยู่บา้ ง แม้เรารูว้ ่า สุดท้ายของโยคะคือสมาธิ แต่ถา้ ไปสอนเฉพาะ แล้ว (ซึง่ เป็ นสิง่ ทีด่ มี าก) ฝากให้ทาต่อไปเรื่อยๆ สะสม ปราณ สมาธิ (ซึง่ มันไม่ต่นื เต้น) คนเรียน อาจปฏิเสธเรา เป็ นทุนไว้ใช้สอนในอนาคตนันเอง ่ แต่ตน้ ฝากพิจารณานะครับ และจะคอยเอาใจช่วย จึงน่าจะค่อยเป็ นค่อยไป เริม่ จาก อาสนะ นี่แหละ ด้วยความนับถือ ผ่านไปสักระยะ จึงค่อยเติมปราณลงไป ผ่านไปสักระยะ ........................................................................................... โยคะเด็ก ครูค่ะ พอดีหนูได้รบั เชิญจากโรงเรียน อนุบาลแห่ง หนึ่ง ให้ไปสอนโยคะกับเด็กของโรงเรียนแห่งนี้ หลังจากได้ พูดคุยกันคร่าวๆ ทางครูใหญ่กอ็ ยากให้ลองสอนให้ดปู ระจวบ กับเป็ นช่วงภาคฤดูรอ้ น จึงมีเด็กๆระดับอนุบาล 3 ประมาณ 25 คน ก่อนทดลองสอน หนูเริม่ หาข้อมูลของสถาบัน โชคดี มากค่ะเว็บของสถาบันมีไฟล์ของโยคะเด็ก จึงได้นาเอา หลายๆเทคนิคไปปรับใช้กบั เด็กๆ ในช่วงเวลาประมาณ 50 นาที ผ่านพ้นไปด้วยดีค่ะ สาหรับหนูแล้ว เป็ นช่วง 50 นาที ที่ ทาให้ได้เรียนรูจ้ ากเด็กๆ นาไปสูก่ ารพัฒนาโดยเฉพาะการ สอนในครัง้ ต่อไป เช่น การมีกติกา ก่อนจะทากิจกรรมร่วมกัน กติกานัน้ จะใช้ได้ในช่วงแรกๆ เท่านัน้ หลังจากนัน้ ต้องหา เทคนิคใหม่ทจ่ี ะค่อยๆ ดึงความสนใจของเด็กๆ กลับมาอีก news 1105 9

ครัง้ ซึง่ บางครัง้ ต้องอาศัยการแก้ไขปญั หาเฉพาะหน้า จนทา ให้เราต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ครูใหญ่ค่อนข้างพอใจกับการทดลองสอนค่ะ จึง อยากให้เข้าไปสอนเด็กๆ ระดับอนุบาล 1 - 3 ซึง่ มีทงั ้ หมด 8 ห้องค่ะ สอนทัง้ หมดสองวัน วันละ 4 ห้อง และจะเริม่ สอนตอน เปิ ดเทอม เดือนพฤษภาคมค่ะ เอกสารโยคะเด็กมีประโยชน์มากค่ะ เลยต้องขอ อนุญาตทาเป็ นรูปเล่มประกอบการสอนนะค่ะ ครูค่ะจริงๆ ถ้า มีกลุ่มครูโยคะทีท่ างานเกีย่ วกับเด็กได้มโี อกาสแลกเปลีย่ นกัน บ้างก็ดนี ะค่ะ นอกจากจะเป็ นการพัฒนาตัวเราแล้ว สิง่ ที่ สาคัญทีส่ ดุ คือเด็กๆ จะพลอยได้รบั สิง่ ดีๆ ไปด้วย ด้วยความนับถือ ศิษย์


...................................................................................................... โดย กองบรรณาธิการ

จะเล่าให้คณ ุ ฟัง ฆอร์เฆ่ บูกาย ในวัยเด็กเราอาจเคยได้ฟงั นิทาน.. นิทานทีฟ่ งั สนุกสนานได้ยนิ ทีไรหัวเราะชอบใจ แล้วพอโตมา เราเคยได้ ฟงั หรืออ่านนิทานอีกบ้างไหม.. นิทานแบบผูใ้ หญ่ทอ่ี ่านแล้ว รูส้ กึ เหมือนโดนตีแสกหน้าเข้าอย่างจัง ขณะทีต่ วั อักษร เหล่านัน้ ค่อยๆซึมผ่านความรูส้ กึ เราไปทีละน้อยๆ แล้วค่อยๆ เปลีย่ นวิธคี ดิ .. เพื่อเปลีย่ นชีวติ เราไปตลอดกาล คุณเคยเจอนิทานแบบนี้บา้ งไหม ? “จะเล่าให้คณ ุ ฟัง” โดยสานักพิมพ์ผเี สือ้ หนังสือเล่มขนาด เหมาะมือ สีชมพูหวาน “หนังสือทีเ่ ปลีย่ นแปลงชีวติ ผูฅ้ น มักดูขงึ ขังจริงจัง ด้วยเนื้อหาและท่วงทานองการเสนอเรื่องราวของผูเ้ ขียน แต่หนังสือเล่มนี้ ซึง่ นัยว่าได้เปลีย่ นแปลงชีวติ ผูฅ้ น และช่วยเหลือจิตใจอันตกอยูใ่ นสภาวะไม่ปกติให้กลับฟื้นคืน สภาพดังเดิมมามากต่อมากแล้ว กลับเป็ นหนังสืออ่านสนุก ไม่ เครียด จนบางทีดเู หมือนผูเ้ ขียนพยายามละทิง้ กฎเกณฑ์ ต่างๆ ทีเ่ คร่งครัดและเคยยึดถือไปเสียสิน้ ั ความยุง่ ยากในการอธิบายเรื่องเกีย่ วกับปญหาทาง จิตทีด่ เู หมือนว่าต้องใช้เวลาสนทนากันนาน และต้องเหน็ด เหนื่อยทัง้ กายและใจ กลายเป็ นเรื่องง่ายสาหรับใครก็ตามทีไ่ ด้ อ่านหนังสือของนักเขียนผูน้ ้ี ฆอร๎เฆ่ บูกาย เป็ นนักจิตวิทยา นักจิตบาบัดผูม้ ี ชื่อเสียงและมีความสามารถเป็ นทีย่ อมรับในวงการจิตเวช หลายประเทศทัวยุ ่ โรป แต่เหนือกว่านัน้ ก็คอื เขาเป็ นนักเขียน ทีม่ อี ารมณ์ขนั อย่างลึก จึงไม่น่าแปลกใจทีผ่ ลงานทุกเรื่องทุก เล่มของจิตแพทย์นกั เขียนผูน้ ้จี ะขายดีในยุโรป โดยเฉพาะ กลุ่มประเทศละตินอเมริกา อีกทัง้ มีผแู้ ปลเป็ นภาษาต่างๆ หลายภาษา “ คาโปรยบนปกหลังเขากล่าวไว้แบบนัน้ .. ซึง่ ไม่ได้ ถือเป็ นเรื่องทีเ่ กินความจริงเลย เพราะแม้เพียงเปิ ดนิทาน เรื่องแรก ในบรรดา 50 เรื่องทัง้ หมด เราก็อาจรูส้ กึ แบบ เข้าข้างตัวเองว่า หนังสือเล่มนี้เขียนขึน้ มาเพื่อเราหรือเปล่า ? news 1105 10

และทาให้เรารับรูไ้ ด้ว่าบางความรูส้ กึ มืดดาทีเ่ ราแอบซ่อนไว้ ทัง้ ชิวติ ถูกเปิ ดเปลือยด้วยตัวอักษรจากนิทานเรื่องแล้วเรื่อง เล่า ความรูส้ กึ แล้วความรูส้ กึ เล่าถูกดึงออกมา ทัง้ ความกลัว ต่อความทรงจาเกีย่ วกับความผิดพลาดของตัวเราเอง จนทา ให้ไม่กล้าทีจ่ ะทาสิง่ ต่างๆในวันนี้ ความท้อแท้จนยอมแพ้กบั โชคชะตาทัง้ ๆ ทีค่ วามพ่ายแพ้ยงั เดินทางมาไม่ถงึ .. และอาจ ไม่สามารถมาถึงได้หากเราปิ ดประตูทางเข้านัน้ ไว้ดว้ ยใจที่ มุ่งมัน่ ความไม่เพียงพอของการใช้ชวี ติ อยู่ในวงกลมเก้าสิบ เก้า การไขว่คว้าในสิง่ ทีเ่ รามี.. จากผูอ้ ่นื การพูดความจริง ของผูอ้ ่นื ทีห่ ลายต่อหลายครัง้ สาหรับเราคือการโกหก และ อีกหลายเรื่องราวในโลกใบนี้ ในทุกผูค้ นทีม่ หี วั ใจและไม่ว่า หัวใจดวงนัน้ จะเป็ นสีอะไร.. ไม่ว่าจะเป็ นสีอะไร ฆอร๎เฆ่ไม่เพียงนาเสนอผ่านนิทานได้อย่างแยบยล เท่านัน้ แต่เขายังมีตอนจบของนิทานแบบไร้จุดฟูลสต๊อป.. ที่ หากการดาเนินเรื่องนิทานเของเขาเหมือนถนนสายหนึ่งที่ ทอดยาว.. ท้ายทีส่ ดุ แล้วในจุดทีเ่ หมือนจะเป็ นปลายทางกลับ มีทางแยกอีกหลายต่อหลายสายไม่รจู้ บ เหมือนคาถาม ปลายเปิ ด ไม่มถี ูก - ไม่มผี ดิ แต่ทง้ิ คาถามนัน้ ไว้ในใจคนอ่าน ให้เลือกเดินต่อไป เช่นในบทส่งท้ายของนิทานทีเ่ ขาเขียนไว้ ถึงหลุมๆ หนึ่งซึง่ มีเพชรเม็ดงามซ่อนอยู่ขา้ งใน โดยทีม่ กี อ้ น หินวางไว้ขา้ งบนว่า “นิ ทานแต่ละเรือ่ งที่คณ ุ เพิ่ งอ่านจบ เป็ นเพียง ก้อนหินทีว่ างไว้บนปากหลุม จะสีเขียว สีเหลือง หรือสีแดงก็ ตาม นิทานเหล่านี้ เขียนขึน้ เพื่อบอกตาแหน่งหรือนาทาง เท่านัน้ การค้นหาลงไปในความลึกซึง้ ของนิทานแต่ละเรื่อง เพื่อให้พบเพชรซึง่ ถูกซ่อนไว้—ถือเป็ นหน้าทีข่ องฅนแต่ละฅ นเอง” ในโลกเราทุกวันนี้ทว่ี ุ่นวายสับสน.. จนบางครัง้ บาง หนทีห่ ากมองลึกลงไปในจิตใจก็จะพบว่าว้าวุ่นไม่แพ้กนั หลายคนทีร่ ตู้ วั แล้วว่ากาลังหลงทาง และหาทาง “พาใจกลับ บ้าน” แต่ดว้ ยว่าหนทางของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และสิง่ ที่ นาทางก็อาจต่างกันออกไป หนังสือเล่มนี้จงึ อาจนับได้ว่าเป็ น หนึ่งในแผนทีน่ าทางนัน้ ทีแ่ ม้จะไม่ได้นาทางสู่ “บ้าน” เลย เสียทีเดียวนัก.. แต่เชื่อเถอะว่าอย่างน้อยทีส่ ดุ แล้วมัคคุเทศก์ นักเล่านิทานอักษรนี้จะสามารถนาพา “ใจ” ไม่ให้ออกนอก เส้นทางไปไกล “บ้าน” มากเกินไป 


---------------------

โดย วีระพงษ์ ไกรวิทย์ และจิรวรรณ ตัง้ จิตเมธี

แปลและเรียบเรียง เฉพาะไปทีเ่ ทพเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งนัน้ จะทาให้เทพเจ้าปรากฏ กริยาโยคะ ตัวขึน้ และพบกับผูป้ ฏิบตั ทิ ม่ี ศี รัทธาได้อย่างไร? ในเรื่องนี้จงึ (ขึน้ บททีส่ องของโยคสูตรว่าด้วยภาคปฏิบตั )ิ ประโยคแรกในบทซึง่ กล่าวถึงเรื่องการปฏิบตั นิ ้ปี ตัญ เน้นย้ากันอีกครัง้ หนึ่งว่า สวาธยายะควรจะหมายถึงการอ่าน ชลีได้กล่าวเป็ นภาษาสันสกฤตว่า “ตปะห์ สวาธยาเยศวร หรือการสวดบทสวดทีไ่ ด้เลือกไว้ในคัมภีร์ ซึง่ โดยธรรมชาติ ประณิ ธานานิ กริยาโยคะห์” (๒:๑) แปลว่า ความอดทน ของบทสวดนัน้ บ่งบอกเป็ นนัยว่าเทพเจ้าทีต่ นเคารพศรัทธา เว้นเสียแต่ว่าสวาธยายะ เคร่งครัด การอ่านตาราในบททีเ่ ลือกไว้ และการบูชาต่ออิศวร อาจรูส้ กึ พึงพอใจต่อผูป้ ฏิบตั นิ นั ้ ไม่ได้สร้างผลดังทีก่ ล่าวไว้ในประโยค ๒:๔๔ หรือไม่ได้ทาให้ผู้ (เทพเจ้า) ทัง้ 3 สิง่ นี้ประกอบกันเรียกว่า กริยาโยคะ ความอดทนเคร่งครัด(หรือตปสั ) นี้มวี ธิ กี ารฝึกที่ ปฏิบตั ไิ ด้พบกับเทพเจ้าทีต่ นปรารถนา มีคนจานวนมากทีอ่ ่านบทต่างๆ ของคัมภีรท์ าง หลากหลายนับไม่ถว้ น ทัง้ ทีไ่ ด้อธิบายไว้ในพิธกี รรมของ ศาสนาฮินดูและทีม่ อี ยู่ในศาสนาอื่นทัง้ หมดด้วย ผูป้ ฏิบตั ิ ศาสนาหลายเล่มหรืออ่านคัมภีรท์ างศาสนาเล่มเดียวกัน เช่น สามารถเลือกวิธใี ดวิธหี นึ่งหรือหลายวิธที เ่ี หมาะกับตัวเองและ ภควัทคีตา เป็ นประจาทุกวันในฐานะทีเ่ ป็ นการฝึกสวาธยายะ เป็ นวิธที ช่ี ่นื ชอบแล้วนาไปปฏิบตั อิ ย่างสม่าเสมอ มีการกล่าว (และนาพาให้ผปู้ ฏิบตั ปิ ระสบผลสาเร็จ) แต่ทาไมการอ่านบท กันว่าปราณายามะเป็ นตปสั ขัน้ สูงสุด (ปราณายามะห์ ปรัม แรกของคีตา ซึง่ เป็ นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องราวทัง้ หมดและ ตปะห์) ดังนัน้ ผูฝ้ ึกโยคะสามารถเลือกฝึกปราณายามะเป็ น ไม่ได้มเี นื้อหาทางจิตวิญญาณมากนัก จึงทาให้ผปู้ ฏิบตั ไิ ด้ รูปแบบหนึ่งของตปสั ได้ โดยความจริงแล้วการฝึกโยคะของ เข้าถึงสัมประโยคะหรือพบกับเทพเจ้าทีต่ นนับถือได้? หากผู้ สานักต่างๆ มักจะรวมการปฏิบตั ปิ ราณายามะไว้เกือบจะเป็ น ปฏิบตั มิ ศี รัทธาต่อเทพสตรี ดังนัน้ อิศฏะเทวตาของเขาก็คอื เทวี และหากผูป้ ฏิบตั มิ ศี รัทธาต่อพระกฤษณะทาไมบทแรก กิจกรรมภาคบังคับเลยก็ว่าได้ ส่วนความหมายของสวาธยายะ ทีอ่ รรถกถาจารย์ หรือบทที่ ๑๕ ของปุรโุ ษตตมะโยคะซึง่ คนจานวนมากเห็นว่า ส่วนใหญ่ได้อธิบายไว้มกั จะกล่าวว่า สิง่ ทีเ่ ลือกใช้ในการฝึก เป็ นบททีส่ าคัญทีส่ ดุ ของคีตา จึงทาให้พระกฤษณะปรากฏขึน้ สวาธยายะควรจะเป็ นตาราหรือคัมภีรศ์ กั ดิสิ์ ทธิ ์ แต่คาอธิบาย ต่อหน้าผูป้ ฏิบตั ิ และเผยถึงความสง่างามของท่านให้ผปู้ ฏิบตั ิ ส่วนมุมมองของอรรถกถาจารย์คนปจั จุบนั (ที่ นี้กย็ งั ไม่เพียงพอ คาอุปสรรค1 “สวะ” มีนยั ของความเป็ น ได้ยล เจ้าของ ผูป้ ฏิบตั คิ วรจะมีความรูส้ กึ ของความเป็ นเจ้าของต่อ อรรถาธิบายโยคสูตรเล่มนี้)เห็นว่า บทที่ ๑๑ ของภควัทคีตา สิง่ ทีอ่ ่าน สิง่ ทีอ่ ่านอันนามาซึง่ การพัฒนาทางจิตวิญญาณนี้ และโดยเฉพาะบทประพันธ์หลายบท ทีผ่ สู้ วดเข้าใจว่าเมื่อสวด จะต้องเป็ นสิง่ เดียวกันในทุกครัง้ ทุกวันทีท่ า นี่เป็ นวิธสี ร้าง แล้วจะทาให้เทพเจ้าพึงพอใจ และนาพาให้ผปู้ ฏิบตั เิ กิดผล 3 ความรูส้ กึ ของความเป็ นเจ้าของให้เกิดขึน้ ในจิตใจของผูฝ้ ึก คา สาเร็จเช่นนี้ได้ ส่วนทีส่ ามของกริยาโยคะคือ อิศวรประณิธานะ โดย ว่า “อธยายะ” ซึง่ หมายถึง บทหรือส่วนทีถ่ ูกเลือกไว้ จึงมี คาแนะนาว่า สิง่ ทีอ่ ่านนัน้ ควรจะเป็ นบทหรือส่วนทีก่ าหนดไว้ ปกติแล้วจะใช้ในความหมายว่า “ยอมจานนต่อพระเจ้าหรือ ให้อ่านเป็ นประจา อีกประเด็นหนึ่งทีอ่ รรถกถาจารย์รุ่นเก่า อิศวร” แต่คาอธิบายนี้กไ็ ม่เพียงพออีกเช่นกัน อิศวรประณิธา ทัง้ หลายได้มองข้ามไปก็คอื ผลอันสมบูรณ์ของการทาสวาธ นะในประโยค ๒:๑ นี้เป็ นส่วนประกอบหนึ่งของกริยาโยคะ คา หรือการ ยายะทีป่ ตัญชลีได้กล่าวไว้ในประโยค ๒:๔๔ ว่า “สวาธยายาต ว่ากริยาปกติใช้สาหรับการกระทาทางกายภาพ บางครัง้ คานี้กใ็ ช้สาหรับการ อิศฏะ เทวตา สัมประโยคะห์” หมายถึงการได้พบหรือ กระทาทีถ่ ูกทาด้วยร่างกาย เข้าถึงอิศฏะเทวตา2 ดังนัน้ สิง่ ทีใ่ ช้ทาสวาธยายะต้องเป็ นบท สวดทีม่ ุ่งกล่าวถึงเทพเจ้าทีต่ นนับถือศรัทธาสูงสุด การอ่าน คัมภีรท์ างศาสนาทีแ่ ตกต่างกันไปวันแล้ววันเล่า และไม่ได้ช้ี 3 ในเรื่ องนี้ผแู้ ปลเห็นว่า ผูป้ ฏิบตั ิสวาธยายะแต่ละคนนั้นไม่จาเป็ นต้องมีเทพ 1

คาอุปสรรค (prefix) คือ คาที่เติมเข้าไปข้างหน้าคาอื่น (ผูแ้ ปล)

2

อิศฏะ เทวตา (Ista devata) หมายถึง เทพเจ้าที่ผปู้ ฏิบตั ินบั ถือศรัทธาสูงสุ ด (เคยอธิบายไว้ในประโยค ๑:๔๓)

news 1105 11

เจ้าที่ตนนับถือศรัทธาองค์เดียวกันและไม่จาเป็ นต้องใช้บทสวดสาหรับทา สวาธยายะบทเดียวกัน ดังนั้นศรัทธาที่ผปู ้ ฏิบตั ิมีต่อเทพเจ้าที่ตนนับถือเป็ นสิ่ ง ที่สาคัญอย่างยิง่ ที่จะทาให้เกิดผลสาเร็ จ ส่ วนบทสวดในคัมภีร์ที่ผปู้ ฏิบตั ิเลือก มาใช้น้ นั อาจจะเป็ นบทใดก็ได้ที่ผสู ้ วดเห็นว่าเหมาะกับตนเองและใช้สวดบูชา ให้กบั เทพเจ้าที่ตนนับถือ


กระทาทางจิตใจด้วย แต่โดยปกติแล้วจะมีคาว่า มานสิกะ4 เป็ นคาคุณศัพท์ขยายเพื่อให้เหมาะสม และแนวคิดเบือ้ งหลัง ของมันก็คอื จิตเป็ นส่วนหนึ่งของร่างกาย คราวนี้การยอม จานนต่อพระเจ้านัน้ เป็ นทัศนะคติ กล่าวคือ เป็ นสภาวะของ จิตไม่ใช่การกระทาของร่างกาย อิศวรประณิธานะซึง่ เป็ นส่วน หนึ่งของกริยาโยคะควรจะเป็ นกิจกรรมทีท่ าด้วยร่างกาย การ ทีอ่ รรถกถาจารย์รุ่นเก่าบางท่านแปลความคานี้ว่าเป็ นอิศวร ปู ชนาทิ (การบูชาเทพเจ้าในบางรูปแบบ) เป็ นสิง่ ทีถ่ ูกต้อง มากกว่า ในกริยาโยคะผูป้ ฏิบตั ติ อ้ งทากิจกรรมทางกายภาพ ด้วยร่างกาย อาทิ ยชนะหรือการบวงสรวงหรือบูชายัญด้วย สิง่ ของ ปูชนะหรือการสักการะบูชา หรือ หวนะหรือการบูชา ไฟหรือการสวดอ้อนวอน5 เป็ นต้น การทาให้กจิ กรรมเหล่านี้ ละเอียดประณีตเพียงใด ขึน้ อยู่กบั สภาพแวดล้อมและความ ชอบของผูป้ ฏิบตั ิ แต่ความประณีตบรรจงทีม่ ากเกินไปนาไปสู่ งานทีซ่ ้าซากเป็ นกลไกโดยปราศจากทัศนะแห่งศรัทธา และ ยอมจานนทางจิตใจจึงไม่เป็ นทีต่ อ้ งการอย่างแน่นอน ถึง กระนัน้ ก็ดี การย่นย่อทีม่ ากเกินไปก็เป็ นสิง่ ทีไ่ ม่เกิดประโยชน์ เช่นกัน รูปแบบของพิธกี รรมและเวลาทีใ่ ช้ทากิจกรรมนัน้ ควร จะมีเพียงพอ เพื่อพัฒนาสภาวะจิตใจอันมีศรัทธานี้ไปสูภ่ าวะ ยอมจานนต่อพระเจ้า พิธกี รรมทีเ่ รียกว่า สันธยา-วันทนะ6 ทีแ่ นะนาให้ ปฏิบตั วิ นั ละ ๓ ครัง้ คือ เวลาพระอาทิตย์ขน้ึ เทีย่ งวัน และ พระอาทิตย์ตก หรืออย่างน้อยทีส่ ดุ ๒ ครัง้ คือ พระอาทิตย์ขน้ึ และพระอาทิตย์ตกนัน้ เป็ นการฝึกปฏิบตั ทิ ก่ี ระชับของกริยา โยคะซึง่ ได้รวมองค์ประกอบทัง้ สามไว้อย่างสวยงาม (คือ ตปสั ด้วยการฝึกปราณายามะ สวาธยายะด้วยการทาประณวะ จา ปะหรือการสวดโอม และอุปสถานะหรือการเข้าไปบูชาสถานที่ อันศักดิสิ์ ทธิ ์ ส่วนคายตริ-จาปะหรือการสวดบทสวดอัน ศักดิสิ์ ทธิ ์ และอรรฆยประทานะหรือการถวายสิง่ มีค่าให้เทพ เจ้าด้วยความเคารพเป็ นการทาอิศวรประณิธานะ7) โดยมีการ กาหนดเวลาขัน้ ต่า และอุปกรณ์ทต่ี อ้ งใช้ในการปฏิบตั ไิ ว้อย่าง 4

มานสิ กะ คือ เกี่ยวกับจิตใจหรื อจิตวิญญาณ ที่มา The Student’s SanskritEnglish Dictionary p. 435 5

ที่มา The Student’s Sanskrit-English Dictionary p.451, 344, 637

6

สันธยา คือ พิธีกรรมทางศาสนาของนักบวชพราหมณ์ที่กาหนดให้ปฏิบตั ิ ทุกวันหลังจากอาบน้ าแล้วในตอนเช้า ตอนเที่ยง และตอนเย็น พิธีกรรมหลัก ประกอบด้วยการสวดมันตราบูชาพระอาทิตย์นิยมเรี ยกมันตรานี้วา่ คายตรี มัน ตรา และเรี ยกพิธีน้ ีวา่ คายตรี หากสวดในตอนเช้า เรี ยกว่า สาวิตรี หากสวด ตอนกลางวัน และเรี ยกว่า สรัสวตี หากทาในเวลาเย็น (Yoga Kosa, p.295) 7

ที่มา The Student’s Sanskrit-English Dictionary p.115, 186, 51, 363

news 1105 12

เหมาะสม การลดทอนหรือย่นย่อจนเกินไปเป็ นเรื่องทีไ่ ม่พงึ ปรารถนา เพราะผลทีต่ อ้ งการทีจ่ ะให้เกิดขึน้ นัน้ จะมีน้อยมาก การใส่ใจอันประณีตอย่างพอเหมาะ โดยไม่ได้ทาอย่างเป็ น กลไก หรือทาอย่างสนุกสนานจะเกิดประโยชน์และเป็ นทีพ่ งึ ปรารถนา โดยเฉพาะถ้าผูป้ ฏิบตั มิ เี วลาและอุปกรณ์อานวย ความสะดวกทีเ่ อือ้ ต่อการปฏิบตั อิ ย่างเพียงพอ อรรถกถาจารย์บางท่านเข้าใจคาว่า กริยา ใน ความหมายเดียวกับคาว่า กรรมะ และได้ให้ความหมายของ อิศวรประณิธานะในกริยาโยคะว่า เป็ นการกระทาด้วยการสละ หรืออุทศิ ผลทีไ่ ด้รบั นัน้ แด่พระเจ้า นันคื ่ อท่านเหล่านัน้ ได้มอง กริยาโยคะว่าเป็ นกรรมโยคะ คาว่า กริยา และ กรรมะ ทัง้ สอง นี้มาจากรากศัพท์คากริยาว่า กฤ แปลว่า ทา หรือ ปฏิบตั ิ และ ในการใช้ภาษาทัวไปนั ่ น้ ทัง้ สองคาสามารถใช้แทนกันใน ความหมายนี้ได้ แต่ในคาสนธิคอื กริยาโยคะ และ กรรมโยคะ นัน้ ทัง้ คู่เป็ นคาศัพท์เฉพาะทาง โดยคาหนึ่งไม่สามารถมี ความหมายเท่ากับหรือแทนอีกคาหนึ่งได้ เนื่องจากมีความ แตกต่างอย่างชัดเจนในความหมายทีถ่ ูกต้องของคาทัง้ สอง ปตัญชลีเริม่ ต้นบททีส่ อง ซึง่ เกีย่ วข้องกับวิธกี าร ปฏิบตั (ิ สาธนะ) ด้วยกริยาโยคะ ส่วนประกอบทัง้ สามของ กริยาโยคะทีพ่ ดู ถึงข้างต้นนี้กร็ วมอยู่ในนิยมะด้วย คาถามจึง เกิดขึน้ ว่าทาไมจึงต้องมีวธิ ปี ฏิบตั ทิ ซ่ี ้าซ้อนกันเช่นนี้ และอะไร คือความแตกต่างของส่วนประกอบทัง้ สาม ทีอ่ ยู่ในเทคนิค ปฏิบตั ทิ งั ้ สองอย่างนี้(กริยาโยคะกับนิยมะ) เนื่องจากโดยปกติ แล้วในการเขียนประโยคต่างๆ ในคัมภีรน์ นั ้ การกล่าวซ้าอย่าง ชัดเจนเยีย่ งนี้เป็ นสิง่ ทีม่ กั จะหลีกเลีย่ ง ยิง่ กว่านัน้ ทาไม ส่วนประกอบทัง้ สามถึงเรียกว่ากริยาโยคะ และได้วางไว้ใน ส่วนเริม่ ต้นของบททีว่ ่าด้วยการปฏิบตั ิ และยังได้กล่าวถึงอีกที ในนิยมะในประโยค ๒:๓๒ ซึง่ สิง่ เหล่านี้ยงั ไม่ได้อธิบายอย่าง ชัดเจน ณ ตอนนี้ ปตัญชลีนิยามโยคะอย่างกว้างๆ ว่า วิถ(ี การปฏิบตั )ิ ในประโยคะ ๑:๒ (โยคะคือการยับยัง้ หรือดับจิตตวฤตติ) แต่ แน่นอน ท่านย่อมต้องตระหนักดีว่าการเข้าถึงสิง่ นี้ไม่ใช่เรื่อง ง่าย วิธกี ารปฏิบตั เิ พื่อเข้าถึงเป้าหมายนี้ได้อธิบายไว้ในบทที่ สองนี้ และโดยทัวไปแล้ ่ วก็หมายถึง การปฏิบตั อิ ษั ฏางค์(หรือ มรรควิถที งั ้ แปดของโยคะ) การปฏิบตั มิ รรควิถที งั ้ ๘ ของ โยคะนี้ จะนาไปสูก่ ารดับการปรุงแต่งของจิตได้อย่างไรนัน้ ป ตัญชลีหรือแม้แต่อรรถกถาจารย์คนอื่นๆ ไม่ได้อธิบายไว้อย่าง ชัดแจ้ง มรรควิถแี รกของทัง้ แปดคือ ยมะ ซึง่ ประกอบด้วย อหิงสา สัตยะ อัสเตยะ พรหมจรรยะ และอปริคระห์ ตามทีไ่ ด้ เคยกล่าวแล้วว่าไม่มลี าดับการฝึกทีแ่ น่นอนตายตัวในมรรควิถี โยคะทัง้ แปดโดยเฉพาะในสามข้อแรก การฝึกมรรควิถใี นข้อ


หลังๆ จะมีประสิทธิภาพยิง่ ขึน้ หากผูฝ้ ึกมีความเชีย่ วชาญ เพียงพอต่อการฝึกในข้อก่อนหน้านัน้ ด้วยแนวคิดทีเ่ ชื่อกัน ทัวไปว่ ่ าผูป้ ฏิบตั ทิ ต่ี อ้ งการฝึกตนผ่านเส้นทางของมรรควิถที งั ้ แปดต้องเริม่ ต้นด้วยการฝึกยมะ แต่การฝึกยมะในชีวติ จริงนัน้ เป็ นเรื่องทีย่ ากมาก และเป็ นเรื่องทีร่ กู้ นั อย่างชัดเจนแม้จาก การสนทนากับนักบวชผูท้ เ่ี น้นการฝึกยมะเป็ นพืน้ ฐานขัน้ ต้นที่ สาคัญของโยคะ พวกเขากล่าวกันว่าการถือปฏิบตั ยิ มะ โดยเฉพาะในข้อสัตยะ(ความจริง) อหิงสา(การไม่ทาร้าย ไม่ใช้ ความรุนแรง) และอปริคระหะ(การไม่รบั ไม่สะสมกักตุนวัตถุ สิง่ ของต่างๆ) เป็ นสิง่ ทีย่ ากทีส่ ดุ และเกือบจะทาไม่ได้เลยใน โลกปจั จุบนั นี้ ดังนัน้ เพียงการเริม่ ต้นขัน้ แรกของการยับยัง้ จิตตวฤตติกด็ เู หมือนจะยากมากและเกือบจะเป็ นไปไม่ได้ทจ่ี ะ ฝึกและประสบผลสาเร็จแล้ว ด้วยการตระหนักในเรื่องนี้ปตัญ ั ชลีผมู้ ปี ญญามาก จึงเริม่ ต้นบอกถึงเส้นทางการปฏิบตั โิ ยคะ ด้วยสิง่ ทีง่ ่ายและเปิ ดกว้างต่อผูค้ นทัวไปด้ ่ วยการฝึกทีใ่ ห้ช่อื ว่า กริยาโยคะ จะเป็ นใครก็ได้แม้เขาจะไม่สามารถฝึกบางเรื่อง ของตปสั ไม่สามารถฝึกบางเรื่องของสวาธยายะ และ/หรือไม่ สามารถฝึกบางอย่างของอิศวรประณิธานะ หากเขามีความ จริงใจต่อการฝึกโยคะเขาก็สามารถทาได้ ในช่วงแรกการฝึก ส่วนใหญ่จะเป็ นเรื่องเกีย่ วกับกลไกทางกายภาพ หรือร่างกาย ซึง่ ไม่ควรจะมีความยากแต่หากผูฝ้ ึกมีการตระหนักรูแ้ ละความ มุ่งมันอย่ ่ างจริงใจทีจ่ ะพัฒนาสภาวะด้านในของจิต และปฏิบตั ิ องค์ประกอบทัง้ สามของกริยาโยคะอย่างสม่าเสมอ ทุกวันแล้ว สภาวะด้านในของผูฝ้ ึกก็จะค่อยๆ พัฒนาขึน้ เอง จากจุดนี้ถอื เป็ นความก้าวหน้าบนเส้นทางแห่งโยคะ และเกิดความเป็ นไป ได้หรือความพร้อมทีจ่ ะฝึกยมะอย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะ อย่างยิง่ หากผูฝ้ ึกไม่ได้เกิดมาเพียบพร้อมด้วยบุญบารมีจาก

กรรมทีส่ งสมมาในอดี ั่ ต (ปูรวะ-กรรมะ-สัมสการะ) เรื่องนี้ได้มี การอธิบายไว้ในประโยคถัดไป (๒.๒) ด้วย ดังนัน้ ทัง้ ตปสั สวาธยายะ และอิศวรประณิธานะ ใน กริยาโยคะจึงเน้นไปทีก่ จิ กรรมทางร่างกาย ตปสั และสวาธยา ยะทีเ่ กีย่ วข้องกับกิจกรรมทางร่างกาย เป็ นเรื่องทีค่ ่อนข้าง มองเห็นได้ชดั เจน แต่สาหรับอิศวรประณิธานะทีเ่ ดิมเป็ นสิง่ ที่ ทาด้วยร่างกายนัน้ คนส่วนใหญ่กลับมองกันไม่ออกเพราะการ แปลความกันอย่างชัดเจนว่าเป็น “การยอมจานนต่อพระเจ้า” (ซึง่ เป็ นการยอมจานนทางจิตใจ) กิจกรรมทีท่ าด้วยร่างกายทัง้ สามอย่างนี้ทุกคนจึงสามารถปฏิบตั ไิ ด้โดยง่าย ดังนัน้ วิถกี าร ปฏิบตั โิ ยคะของปตัญชลีน้เี ริม่ จากขัน้ ง่ายๆ ทีเ่ ป็ นสากลโดย ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ทัง้ สามองค์ประกอบซึง่ เป็ นส่วนหนึ่ง ของนิยมะนี้ แม้จะเน้นไปทีก่ ารปฏิบตั ทิ างร่างกายแต่กม็ คี าสัง่ เพิม่ เติมต่อไปด้วยว่า ให้ปฏิบตั ทิ งั ้ สามอย่างนี้เป็ นประจา สม่าเสมอทุกวัน เอกสารอ้างอิ ง : ๑) Apte, V. S. (2005). The Student’s Sanskrit-English Dictionary. Delhi : Motilal Banarsidass Publishers. ๒) Karambelkar, P. V. (1986). PATANJALA YOGA SUTRAS Sanskrta Sutras with Transliteration, Translation & Commentary. Lonavla : Kaivalyadhama, p.169-175. ๓) Philosophico Literary Research Department, (1991). Yoga Kosa. Lonavla : Kaivalyadhama

..........................................................

ณัฏฐ์วรดี ศิ ริกลุ ภัทรศรี, สันสนี ย์ นิ รามิ ษ แปลและเรียบเรียง การหายใจมีผลอย่างไรกับท่าฝึ กโยคะ (2) ท่าการยกจากกะบังลมส่วนหลัง ลองทาท่าการยกกะบังลมส่วนหลัง เริม่ จากนอนคว่า วางคาง ไว้บนพืน้ วางฝา่ มือไว้ขา้ งอก ให้ขอ้ ศอกแนบลาตัว วาง หน้าอกติดกับพืน้ ให้สนิท ผ่อนคลายกล้ามเนื้อตัง้ แต่ชว่ งเอว ลงไป รวมทัง้ สะโพกด้วย หายใจลมหายใจละ 1 วินาที ประมาณ 10 - 15 ลมหายใจ ขณะทีห่ น้าขาและสะโพกผ่อนคลาย ฐานของซีโ่ ครง คงทีอ่ ยู่กบั พืน้ เมื่อหายใจเข้ากะบังลมจะขยับตัวเพียงด้าน เดียวคือด้านกระดูกสันหลังทีต่ ดิ กับ crus และเพราะว่า news 1105 13

กล้ามเนื้อส่วนลึกของหลังผ่อนคลายอยู่ เมื่อหายใจเข้าแต่ละ ครัง้ จะเกิดการยกหลังส่วนล่างและสะโพก ขณะทีห่ ายใจออก แต่ละครัง้ ทัง้ หลังส่วนล่างและสะโพกจะค่อยๆวางลงกับพืน้ (ตามรูป 2.11) ให้แน่ใจว่าคุณเคลื่อนไหวทัง้ หมดด้วยกะบังลม ไม่ใช่ดว้ ยกล้ามเนื้อหลังและกล้ามเนื้อสะโพก เนื่องจากท่านี้ เมื่อหายใจเข้าจะทาให้หลังส่วนเอวโค้งขึน้ ดังนัน้ จึงไม่เหมาะ สาหรับผูท้ ม่ี อี าการเจ็บหลัง ถ้าคุณลองหายใจเข้าแบบถีๆ่ คุณจะรูส้ กึ ถึงการ ทางานของกะบังลมในท่านี้ได้ง่ายขึน้ จะรับรูไ้ ด้ชดั เจน ทัง้ ตอนหายใจเข้าทีส่ ะโพกยกขึน้ จากพืน้ และตอนหายใจออกที่


สะโพกวางลง แต่ถา้ คุณหายใจอย่างช้าและราบเรียบ คุณจะ สังเกตเห็นว่าในทุกๆ ขณะของการหายใจเข้าจะเพิม่ แรงดึง และความตึงทีส่ ะโพกและหลังช่วงล่างทีละน้อย แม้ว่ามันจะไม่ เกิดการเคลื่อนขยับสักเท่าไหร่ เมื่อหายใจออกความตึงก็จะ ลดลงทีละน้อยเช่นกัน หากคุณหายใจได้ชา้ พอ คุณจะรูส้ กึ ได้ ถึงเส้นใยกล้ามเนื้อของกะบังลม ทีห่ ดตัวสัน้ ลงเมื่อหายใจเข้า และขยายตัวยาวขึน้ เมื่อหายใจออก ขณะทีม่ นั กาลังต้านแรง โน้มถ่วงทีก่ าลังดึงสะโพกให้วางลงสูพ่ น้ื ถ้าเทียบกับท่างู จุดเกาะต้นและจุดเกาะปลายของ กะบังลมจะทางานสวนทางกับท่าการยกด้วยกะบังลมส่วน หลัง นี่เป็ นการสร้างผลกระทบไปทัวทั ่ ง้ ร่างกาย ในท่างู เราจะ วางสะโพกและต้นขาแนบกับพืน้ ให้นิ่ง ให้กะบังลมทีต่ ดิ กับ ซีโ่ ครง (costal) ยกซีโ่ ครงและร่างกายครึง่ บนทีเ่ หนือจาก ซีโ่ ครงขึน้ ส่วนในท่ายกกะบังลมส่วนหลังนี้จะตรงข้ามกัน เรา วางซีโ่ ครงให้นิ่ง ผ่อนคลายสะโพกและหน้าขา ปล่อยให้กะบัง ลมด้านกระดุกสันหลัง (crural) ยกเอวและสะโพกขึน้

ท่าทัง้ สองนี้แสดงให้เราเห็นว่ากะบังลมทีม่ ลี กั ษณะ เว้าเข้าไปอย่างลึกทีเ่ กือบจะล้อมหุม้ กระดูกสันหลังทัง้ หมดนัน้ มีความสาคัญอย่างไร ลักษณะเช่นนี้ของกะบังลมช่วยให้มนั ทางานได้ทงั ้ 2 ทาง จากด้านบน หรือจากด้านหลัง ความโค้ง ของกะบังลมบริเวณเอว เมื่อหายใจเข้าจะช่วยยกร่างกายช่วง บนขึน้ ในท่างู และยกกระดูกกระเบนเหน็บและสะโพกขึน้ ใน ท่าทีย่ กด้วยกะลังลมส่วนหลัง

รูป 2.11 ท่าการยกจากกะบังลมส่วนหลัง ขณะทีซ่ โ่ี ครงยึดติด อยู่กบั พืน้ ขอบด้านล่างของกะบังลมทาหน้าทีเ่ ปรียบเสมือน จุดเกาะต้นของกะบังลมมากกว่าเป็ นจุดเกาะปลาย (ตรงข้าม กันกับท่างูในบทความทีแ่ ล้ว) ถ้าบริเวณก้นและปลายขาผ่อน คลาย กะบังลมส่วนทีต่ ดิ กระดูกสันหลัง (crural) จะทาหน้าที่ ยกสะโพกขึน้ เมื่อเราหายใจเข้า และลดวางสะโพกลงขณะที่ หายใจออก ......................................................................................................

โยคะ ปรับคลื่นสมอง ถาม ไม่รจู้ ะสอนอะไรดี ตอบ สอนจากสิง่ ทีม่ ี ั ก็ไม่รวู้ ่า คนอื่น เค้าจะมีปญหาแบบเดี ยวกับเล้งไหม เวลามีใครมาชวนไปสอนโยคะ เล้งมักจะคิดไม่ออก และบ่น ออกมาดังๆ ว่า “ไม่รจู้ ะสอนอะไรดีน้า” ทัง้ ๆ ที่ กระดื๊บ กระดื๊บ สอนมา ตัง้ 6 ปี แล้ว ปญั หาก็มอี ยู่ว่า เล้งมีความรูใ้ ส่กระเป๋าโดเรมอนอยู่ 1 ใบ แต่ไม่ค่อยได้จดั กระเป๋า เวลาต้องล้วงออกมา เลยไม่รวู้ ่า จะเอาอะไรออกมาดี จนได้อ่านบทสัมภาษณ์ของ อลงกรณ์ หล่อวัฒนา จิตกรวาดภาพพุทธศิลป์ผเู้ คยไปเรียน และทางาน ในอินเดีย (สกุลไทย 26 เมษายน 2554) เล่าว่า “ทีเ่ มืองไทยสะดวกสบายมากอยากได้อะไรก็ออกไป ซือ้ ทีอ่ นิ เดียถ้าอยากได้สที ต่ี อ้ งใช้ทางาน อาจต้องรอนานถึง 3 เดือนกว่าจะได้มา ดังนัน้ ถ้ามีแค่สดี าสีเดียวก็ใช้สดี าสีเดียว นี่แหละ แล้วทางานออกมาให้ดที ส่ี ดุ จงทาให้ดีที่สุดจากสิ่ งที่ เรามี นักศึกษาศิลปะชาวอินเดียส่วนใหญ่ยากจน อาจารย์เขา ไม่ดหู รอกว่านักศึกษาทางานชิน้ เล็กหรือชิน้ ใหญ่ หรือใช้วสั ดุ อะไรทา แต่อาจารย์จะดูว่า ลูกศิษย์จริงใจกับงานทีท่ าไหม” news 1105 14

โดย ล.เล้ง เสียงกระดิง่ หยก (ไม่ใช่มงั กรบิน) จากทีเ่ ล้งคิดวนเวียนอยู่ในเขาวงกตอยู่เป็ นเดือนว่า จะเอาอะไรไปสอนทีโ่ รงพยาบาลแถวบ้านตัง้ 3 เดือน ก็พบ ป้ายบอกทางเข้าพอดี ก็สอนจากความรูท้ เ่ี รามีนนแหละ ั่ แม้ ว่าทางเลือกมันจะดูเยอะแยะมากๆ ทัง้ โยคะสาหรับคนทางาน โยคะหน้าเด็ก ลดความอ้วน ชุดท่าต่อเนื่อง ฯลฯ ทีค่ นสอน สนุกสนาน แต่คนเรียนสะบักสบอมหน้ามืดมึนงง เพราะ ร่างกายไม่พร้อม อ้วน กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง แถมเป็ นโรค ความดันอีกต่างหาก หรือว่าจะเอา 14 ท่าพืน้ ฐานของสถาบัน ก็ดที งั ้ นัน้ สอนให้ดที ส่ี ดุ จากสิง่ ทีม่ นี นแหละดี ั่ ทส่ี ดุ แล้ว แม้ว่า มันจะยังดูไม่ดี ไม่เป็ นรูปแบบมาตราฐานเดียวกันทัง้ 3 เดือน เพราะคนสอนเปลีย่ นใจและเปลีย่ นแผนทุกวัน เพื่อนทีเ่ ป็ น หมอเค้าก็ให้กาลังใจว่า .แล้วก็คอ่ ยรวบรวมเขียนสรุปแผนการ สอน 3 เดือนหลังจากทีส่ อนไปแล้วก็แล้วกัน อืม ม... มีเพื่อน ช่วยกันเชียร์น่มี นั ดีจงั เลยเนอะ ถาม ไม่ชอบทาโยคะ 14 ท่าแบบช้า ๆ เลย...ทาไงดี ตอบ โยคะช้าๆ ช่วยปรับคลื่นสมองให้ชา้ ลง และช่วยฝึกการ จดจ่อและผ่อนคลาย ทาให้มคี วามสุข ปญั หาใหญ่ของเล้งอีกข้อก็คอื เวลาฝึกอาสนะเล้ง ชอบทาแบบเคลื่อนไหวเป็ นชุดท่าต่อเนื่องกัน ต้องท้าทายนิด


หน่อย ถ้าให้สอน/ฝึกอาสนะ 14 ท่าสถาบันฯ เล้งจะเกิด สมองของคนทีป่ ระสบความสาเร็จ จะมีคลื่นสมองทัง้ อาการ ไม่ไป-ไม่มาหรือไปไม่ออกหรือไม่รจู้ ะไปทางไหนทันที 4 ชนิด เบต้า อัลฟ่า เธต้า เดลต้า ความเร็วไล่มาจากสูงสุด เพราะว่ามันง่ายและช้ามาก ไม่ทา้ ทายเลย เสียทีทเ่ี ป็ นลูก 40-0.5 Hz คลื่นสมองอัลฟ่าสร้างได้ดว้ ยการผ่อนคลายและ ศิษย์สถาบันฯ มากถึงมากทีส่ ดุ จินตนาการ คลื่นสมองเธต้าพบในคนทีน่ งสมาธิ ั่ ระดับลึก แล้ววันหนึ่ง ก็มคี นโยนป้ายบอกทางมาให้อกี แล้ว เข้าฌาณขัน้ สูง คลื่นสมองเดลต้าเป็ นคลื่นสมองทีช่ า้ ทีส่ ดุ ป้ายบอกทางนี้อยู่ในหนังสือ อยู่เย็น เอ็นจอยไลฟ์ ของ นพ. ปรากฎในเวลาหลับ หรือเข้าสมาธิขนั ้ สูง วิธาน ฐานะวุฑฒ์ สนพ. More of Life ขอสรุปดังนี้ 3. เมื่อเราจดจ่ออยู่กบั งานและผ่อนคลายเราจะมี 1. สมอง 3 ชัน้ ของมนุษย์ โดย พอล แมคลีน และ โจเซฟ ความสุขมากขึน้ เมื่อมีความสุขร่างกายจะหลังสารสุ ่ ข ชิลตัน เพียซ The Biology of Transcendence อธิบายเรื่อง เอนดอร์ฟินและ DHEA ทาให้เราแก่ชา้ ลง การเรียนรูส้ มองชัน้ ต้นของมนุษย์ คล้ายสมองของสัตว์เลือ้ ย 4. (แถมให้) โกรธ 1 ครัง้ ภูมคิ มุ้ กันในน้าลายลดลง ่ อาจเป็ นหวัด ถ้าเป็ นเอดส์ ไวรัสจะโตขึน้ คลาน กิง้ ก่า ตุ๊กแก ทางานเป็น 2 ลักษณะ ก ลักษณะปกติ 6 ชัวโมง เขียนมาตัง้ ยืดยาว เล้งขอสรุปให้ตวั เองจาง่ายไว้ว่า สร้างแรงบันดาลใจเวลาเจออาหาร จะกระโดดใส่ทนั ทีดว้ ยแรง เราฝึกโยคะช้าๆ เพื่อปรับคลื่นสมองให้ชา้ ลง จะได้มี บันดาลใจ ข ลักษณะป้องกันตัว เวลาเจอภัยคุกคามจะวิง่ หนี ทันที เวลาเครียด มีอนั ตรายจะต่อสูป้ ้ องกันตัว ถ้าเกิดแหย จะ คลื่นสมองเหมือนคนทีป่ ระสบความสาเร็จในชีวติ เหมือนครู สมาธิขนั ้ สูง ถอยหนี เราฝึกโยคะซ้าๆ ด้วยรูปแบบทีช่ ดั เจนเพื่อปรับ ความเครียดทาให้สมองชัน้ ต้น ปรับกลไกเป็ นป้องกัน ตนเอง ความกลัวทาลายแรงบันดาลใจ การฝึกโยคะ ออก สมองให้เป็ นกลไกปกติมแี รงบันดาลใจ ไม่เครียด ไม่กลัว เราฝึกโยคะแบบจดจ่อและผ่อนคลาย เพื่อให้มคี วาม กาลังกายสม่าเสมอ ทาซ้าๆ ด้วยรูปแบบทีช่ ดั เจน ทาให้สมอง สุข ให้เอนดอร์ฟินและฮอร์โมน DHEA หลังออกมาจะได้ ่ แก่ชา้ กลับมาเป็ นลักษณะปกติได้ 2. คลื่นสมองของผูท้ ป่ี ระสบความสาเร็จ โดยนักจิตวิทยา ลง เราจะไม่โกรธเพราะจะแก่เร็ว ภูมคิ มุ้ กันโรคตกและ ชาวอเมริกนั แอนนา ไวซ์ ใช้เครื่องมือ Bio feedback วัดคลื่น สมองของมนุษย์ พบว่ากลุม่ คนทีป่ ระสบความสาเร็จในชีวติ ปว่ ยง่าย ในทีส่ ดุ เล้งก็ยอมฝึกโยคะแบบช้าๆ และตัง้ ใจจดจ่อ เช่น นักธุรกิจ นักกีฬา กูรดู า้ นสมาธิวปิ สั สนา จะมีรปู แบบของ คลื่นสมองต่างจากคนอเมริกนั ทัวไป ่ คนทัวไปจะมี ่ แต่คลื่น เสียทีหลังจากเดินอ้อมโลกมานานมากมาก... จบข่าว ล.เล้ง เสียงกระดิง่ หยก รายงาน เบต้า (ความเร็วสูง 13 - 40 Hz) เพราะใช้ชวี ติ อยู่กบั ความ รวดเร็วและความเร่งรีบอยู่เสมอ คลื่นสมองก็เลยวิง่ เร็วตามไป ด้วย ............................................................................. เดือน เมษายน 2554 มีผบู้ ริจาคสนับสนุนการทางานของสถาบันฯ ดังนี้ ภาวิณี นิ่มสุวรรณสิน (ครูฟู) 5,000.- บาท อัสมาพร สัตยาบรรณ (ครูหนู) 2,000.- บาท ผูไ้ ม่ประสงค์ออกนาม 1,000.- บาท สรุปยอดบริจาคประจาเดือนเมษายน 2554 ทัง้ สิน้ 8,000.- บาท สถาบันฯ ร่วมกับ ภาควิชาปรัชญาและศาสนา คณะมนุษยศาสตร์ มศว จัด หลักสูตรครูโยคะ 250 ชัวโมง ่ ปี 2554 (รุ่นที่ 11) ทาความเข้าใจวิชาการโยคะ ตาราดัง้ เดิมว่าไว้อย่างไร ท่าอาสนะทีเ่ ราฝึกมาจากไหน อาสนะในมุมมองของสรีรวิทยากายวิภาค ปฏิบตั วิ ถิ โี ยคะ โยคะบนเสือ่ และ โยคะนอกเสือ่ เพื่อเข้าถึงหัวใจแห่งโยคะคือ การพัฒนาจิต ให้เป็ นสมาธิ ศึกษาทาความเข้าใจโยคะ ผ่านหัวข้อ คาถามวิจยั ของตนเอง ผ่านการฝึกสอน การถ่ายทอด การเผยแพร่โยคะ ฯลฯ พุธ 29 มิ.ย.17.30 – 20.00 น. ปฐมนิเทศ ที่ มศว คณะมนุษยศาสตร์ ชัน้ 6 ห้อง 262 ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ 1 – 3 ก.ค. เข้าค่ายวิถแี ห่งโยคะ ทีส่ วนสันติธรรม ลาลูกกา คลอง 11 news 1105 15


ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ 16 - 18 ก.ย. เข้าค่ายกริยาโยคะ ทีส่ วนสันติธรรม จันทร์ พุธ พฤหัส เสาร์ 4 ก.ค. – 29 ต.ค. ฝึกปฏิบตั ิ เรียนทฤษฎี ที่ มศว วันธรรมดา 17.30 – 20.00 เสาร์ 800-1300 น. รับผูเ้ รียนไม่เกิ น 30 คน ค่าลงทะเบียน 29,000 บาท (รวมค่าค่ายทัง้ 2 ครัง้ และ ตาราเรียน)

news 1105 16


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.