เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การใช้โปรแกรมตารางทำงาน Microsoft excel 2010 ชั้น ป.6 เล่ม 7

Page 1


คำนำ เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา สนุกกับคอมพิวเตอร์ 3 รหัสวิชา ง16201 กลุ่มสาระการ เรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จัดทาขึ้นเพื่อใช้ ประกอบกิจกรรมการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาและฝึกทักษะการใช้โปรแกรม Microsoft Excel 2010 ให้กับนักเรียน ซึ่งนักเรียนสามารถฝึกปฏิบัติด้วยตนเอง หรือฝึกแบบกลุ่มทั้งในเวลาเรียนและฝึกเพิ่มเติม ในเวลาว่าง ทั้งนี้จะช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ และสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง นวัตกรรม มีทั้งหมด จานวน 8 เล่ม ดังนี้ เล่มที่ 1 หนูจ๋ามารู้จักโปรแกรม Microsoft Excel 2010 กันเถอะ เล่มที่ 2 หนูจ๋ามาเริ่มใช้โปรแกรม Microsoft Excel 2010 กันเลย เล่มที่ 3 หนูจ๋าป้อนข้อมูลและการแก้ไขข้อมูลได้อย่างไร เล่มที่ 4 หนูจ๋าย้ายข้อมูลและคัดลอกข้อมูลได้อย่างไร เล่มที่ 5 แผ่นงานจ๋า เล่มที่ 6 หนูจ๋ามาจัดรูปแบบข้อมูลและการแสดงผลให้สวยงามกันเถอะ เล่มที่ 7 มหัศจรรย์ของการคานวณ เล่มที่ 8 หนูจ๋างานเสร็จแล้วโชว์หน่อยจ้า เอกสารประกอบการเรียนแต่ละเล่ม จะมีสาระการเรียนรู้ที่เน้นให้นักเรียนได้พัฒนาฝึกทักษะ การปฏิบัติด้วยตนเองเป็นอย่างดี โดยจะเพิ่มเทคนิควิธีการ และความยากขึ้นตามลาดับ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารประกอบการเรียน เรื่องการใช้โปรแกรมตารางทางาน Microsoft Excel 2010 จะเป็นประโยชน์ต่อนักเรียน ครูผู้สอน และผู้ที่สนใจได้เป็นอย่างดี อภิศร ทิพเสนา


สำรบัญ หน้า คานา…………………………………………………………………………………………………………….. สารบัญ………………………………………………………………………………………………………….. คาชี้แจง…………………………………………………………………………………………………………. คาแนะนาสาหรับครู………………………………………………………………………………………… คาแนะนาสาหรับนักเรียน………………………………………………………………………………… สาระสาคัญ…………………………………………………………………………………………………….. สาระการเรียนรู้………………………………………………………………………………………………. ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง……………………………………………………………………………………. กรอบเนื้อหา…………………………………………………………………………………………………… ชนิดของสูตรและวิธีการเขียนสูตร..................…………………………..….…….. การอ้างอิงเซลล์หรือช่วงเซลล์ในการคานวณหาสูตร.……………..………..….. การใช้ฟังก์ชั่นในการคานวณ.............................……..…………..…………..….. การทาความเข้าใจและจัดการกับความผิดพลาดในสูตร............................ กรอบกิจกรรม กิจกรรมฝึกทักษะที่ 13………………..........................…………………….…….. กิจกรรมฝึกทักษะที่ 14………………….………………………………………….….. แบบทดสอบหลังเรียน………………………………………………………………………….…….….. บรรณานุกรม…………………………………………………………………………………………….….. ภาคผนวก…………………………...………………………………………………………….…………... เฉลยกิจกรรมฝึกทักษะที่ 13…………….....................…………………….…….. เฉลยกิจกรรมฝึกทักษะที่ 14…………….……………………………………….….. เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน……………………….…………………………………..

ก ข ค ง จ 1 1 2 3 6 6 9 12 19 21 23 26 27 28 30 32


คำชี้แจง เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา สนุกกับคอมพิวเตอร์ 3 เรื่อง การใช้โปรแกรมตารางทางาน Microsoft Excel 2010 เล่มที่ 7 มหัศจรรย์ของการคานวณ ประกอบด้วย 1. คาแนะนาสาหรับครู 2. คาแนะนาสาหรับนักเรียน 3. สาระการเรียนรู้ / จุดประสงค์การเรียนรู้ 4. กรอบเนื้อหา ประกอบด้วย - ชนิดของสูตรและวิธีการเขียนสูตร - การอ้างอิงเซลล์หรือช่วงเซลล์ในการคานวณหาสูตร - การใช้ฟังก์ชั่นในการคานวณ - การทาความเข้าใจและจัดการกับความผิดพลาดในสูตร 5. กรอบกิจกรรม ประกอบด้วย - กิจกรรมฝึกทักษะที่ 13 เรื่อง ชนิดของสูตรและวิธีการเขียนสูตร - กิจกรรมฝึกทักษะที่ 14 เรื่อง การใช้ฟังก์ชั่นในการคานวณในโปรแกรม Microsoft Excel 2010 6. แบบทดสอบหลังเรียน เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา สนุกกับคอมพิวเตอร์ 3 เรื่อง การใช้โปรแกรมตาราง ทางาน Microsoft Excel 2010 เล่มที่ 7 มหัศจรรย์ของการคานวณ ใช้เวลาในการเรียนการสอน จานวน 2 ชั่วโมง

อ่านให้เข้าใจนะ เด็กๆ


คาแนะนาสาหรับครู เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา สนุกกับคอมพิวเตอร์ 3 เรื่อง การใช้โปรแกรมตารางทางาน Microsoft Excel 2010 เล่มที่ 7 มหัศจรรย์ของการคานวณ เป็นสื่อประกอบการเรียนการสอนสาหรับ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 ซึ่งใช้เวลาในการเรียนการสอน จานวน 2 ชั่วโมง ในการดาเนินกิจกรรมการ เรียนการสอน ครูผู้สอนควรปฏิบัติ ดังนี้ 1. ขั้นเตรียมกำรสอน ครูผู้สอนต้องศึกษารายละเอียด ดังนี้ 1.1 ศึกษาโครงสร้าง ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังของแผนการจัดการเรียนรู้ให้เข้าใจอย่าง ละเอียด 1.2 ตรวจสอบเอกสารประกอบการเรียนรายวิชา สนุกกับคอมพิวเตอร์ 3 เรื่อง การใช้ โปรแกรมตารางทางาน Microsoft Excel 2010 สื่อการสอน และคอมพิวเตอร์ให้อยู่ ในสภาพที่ใช้งานได้ดี 1.3 ครูผู้สอนควรเตรียมความรู้ในเนื้อหาอย่างลึกซึ้ง และควรมีพื้นฐานในการใช้งาน โปรแกรม Microsoft Excel 2010 2. ขั้นดำเนินกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน 2.1 ครูผู้สอนสามารถยืดหยุ่นเวลาในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้ตามความ เหมาะสม 2.2 ครูแจกเอกสารประกอบการเรียนรายวิชา สนุกกับคอมพิวเตอร์ 3 เรื่อง การใช้โปรแกรม ตารางทางาน Microsoft Excel 2010 ให้นักเรียนได้ศึกษา 2.3 ครูอธิบาย และสาธิตขั้นตอนการฝึกปฏิบัติ 2.4 ครูให้นักเรียนเปิดเครื่อง และฝึกปฏิบัติกิจกรรมฝึกทักษะที่กาหนดไว้ในกรอบกิจกรรม 2.5 ครูผู้สอนสามารถเพิ่มเติมเนื้อหาบางตอนได้ 3. ขั้นการประเมินผล 3.1 ครูผู้สอนควรแจ้งให้นักเรียนทราบถึงขอบเขตเนื้อหาที่จะประเมิน 3.2 ครูผู้สอนควรประเมินผลทุกครั้งหลังสิ้นสุดกิจกรรมการเรียนการสอน และแจ้งให้นักเรียนทราบถึงผลการประเมิน

การใช้งาน โปรแกรมตารางทางาน ไม่ยากอย่างที่คิดครับ


คำแนะนำสำหรับนักเรียน 1. อ่านคาชี้แจง และคาแนะนาสาหรับนักเรียนให้เข้าใจก่อนลงมือศึกษาเอกสารประกอบ การเรียน 2. ฟังคาอธิบาย และการสาธิตของครู พร้อมทั้งฝึกปฏิบัติหลังจากการสาธิต 3. ศึกษากรอบความรู้ และฝึกปฏิบัติตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในกรอบกิจกรรม 4. ทดสอบการฝึกปฏิบัติกับครูผู้สอน 5. ทาแบบทดสอบหลังเรียนเพื่อดูความก้าวหน้าในการเรียนของนักเรียนหลังจาก ทากิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้กิจกรรมฝึกทักษะ 6. หลังจากทากิจกรรมการเรียนการสอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้นักเรียนปิดเครื่อง คอมพิวเตอร์อย่างถูกวิธี และช่วยกันทาความสะอาดห้องเรียนให้เรียบร้อย 7. ในการทากิจกรรมฝึกทักษะทุกเล่ม ขอให้นักเรียนปฏิบัติด้วยความตั้งใจ มีความซื่อสัตย์ ต่อตนเองให้มากที่สุด และไม่ดูเฉลยก่อนทาแบบทดสอบ 8. หากนักเรียนยังไม่สามารถปฏิบัติได้ตามกรอบกิจกรรมของแต่ละกิจกรรม นักเรียนสามารถ รับเอกสารประกอบการเรียนไปศึกษา และฝึกปฏิบัติเพิ่มเติมนอกเวลาเรียนได้ เพื่อเพิ่มความ ชานาญมากยิ่งขึ้น


1

สำระสำคัญ

โปรแกรม Microsoft Excel 2010 เป็นโปรแกรมที่ใช้สาหรับ การคานวณ โดยมีเครื่องมือให้ใช้มากมาย ทั้งในรูปแบบของสูตรหรือฟังก์ชั่น สามารถใช้ในรูปแบบอัตโนมัติ หรือสามารถกาหนดได้ด้วยตนเอง เช่น การคานวณทางคณิตศาสตร์ ซึ่งประกอบด้วย เครื่องหมายทางคณิตศาสตร์ เครื่องหมายในการเปรียบเทียบเชื่อมข้อความ และอ้างอิง เช่น การบวก ลบ คูณ และหาร เป็นต้น ส่วนฟังก์ชั่นในโปรแกรม Microsoft Excel 2010 เราจะหมายถึง คาสั่งสาเร็จรูปที่ใช้ในการคานวณ เช่น SUM AVERAGE MIN MAX เป็นต้น

สำระกำรเรียนรู้

1. ชนิดของสูตร และวิธีการเขียนสูตร 2. การอ้างอิงเซลล์ หรือช่วงเซลล์ในการคานวณหาสูตร 3. การใช้งานฟังก์ชั่นในการคานวณ


2

จุดประสงค์กำรเรียนรู้

ด้ำนควำมรู้ 1. อธิบายขั้นตอนการสร้างสูตร ชนิดของสูตร และฟังก์ชั่นได้ 2. สามารถใช้งานฟังก์ชั่นในการคานวณได้ถูกต้อง ด้ำนกระบวนกำร - ทักษะการนาความรู้ไปใช้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุ่งมั่นในการทางาน

อ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ให้ดี ๆนะครับเพื่อนๆ


3

กรอบเนื้อหา ชนิดของสูตร และวิธีการเขียนสูตร ชนิดของสูตร โปรแกรม Excel แบ่งชนิดของสูตรออกเป็น 4 ชนิด คือ 1. สูตรในการคานวณทางคณิตศาสตร์ (Arithmetic Formula) เครื่องหมาย + * / % ^

ความหมาย บวก ลบ คูณ หาร เปอร์เซ็นต์ ยกกาลัง

ตัวอย่างสูตร =40+10 จะได้ผลลัพธ์เท่ากับ 50 =40-10 จะได้ผลลัพธ์เท่ากับ 30 =40*2 จะได้ผลลัพธ์เท่ากับ 80 =40/2 จะได้ผลลัพธ์เท่ากับ 20 =40% จะได้ผลลัพธ์เท่ากับ 0.4 =40^10 จะได้ผลลัพธ์เท่ากับ 1600


4

2. สูตรในการเปรียบเทียบ (Comparision Formula) เครื่องหมาย = > < >= <= <>

ความหมาย เท่ากับ มากกว่า น้อยกว่า มากกว่าหรือเท่ากับ น้อยกว่าหรือเท่ากับ ไม่เท่ากับ

ตัวอย่างสูตร =40=30 จะได้ผลลัพธ์เท่ากับ False =40>30 จะได้ผลลัพธ์เท่ากับ True =40<30 จะได้ผลลัพธ์เท่ากับ False =40>=30 จะได้ผลลัพธ์เท่ากับ True =40<=30 จะได้ผลลัพธ์เท่ากับ False =40<>40 จะได้ผลลัพธ์เท่ากับ False

3. เครื่องหมายในการเชื่อมข้อความสองข้อความหรือมากกว่านั้น (Text Formula) เครื่องหมาย &

ความหมาย เชื่อมหรือนาคาสองคา มาต่อกันให้เกิดค่า ข้อความต่อเนื่องที่เป็น ค่าเดียว

ตัวอย่างสูตร =STORY&BOARD จะได้ผลลัพธ์เท่ากับ STORYBOARD

4. สูตรในการอ้างอิง (Text Formula) เครื่องหมาย ความหมาย : (Colon) เว้น บอกช่วงของข้อมูล วรรค (Insection) , กาหนดพืน้ ที่ทับกับ 2 (Comma) ช่วงเอาข้อมูลทั้ง 2 ช่วง มาเชื่อมต่อกัน

ตัวอย่างสูตร =(B1:B5) =SUM(B1:C1 D1:E5) =SUM(C1:C5, D7 : D8)


5

ลาดับข้อมูลในสูตร เครื่องหมาย 1 2 3 4 5 6 7 8

ความหมาย % ^ *,/ +,& =, <, <=, >, >=, <>

ตัวอย่างสูตร แสดงค่าลบ เปอร์เซ็นต์ (ใช้หารด้วยร้อย) ยกกาลัง คูณ และ หาร บวก และ ลบ ตัวเชื่อม เท่ากับ, น้อยกว่า, น้อยกว่าหรือเท่ากับ มากกว่า, มากกว่าหรือเท่ากับ, ไม่เท่ากับ

หมายเหตุ ในกรณีที่สูตรมีเครื่องหมายมากกว่าหนึ่งการคานวณ จะอาศัยการเรียงลาดับในการคานวณ ก่อนหลัง ดังต่อไปนี้ เอ็กซ์โปเนนเชียล การคูณ และการหาร การบวก และการลบ แต่ถ้าต้องการเปลี่ยนลาดับ การคูณให้ใส่วงเล็บครอบส่วนที่ต้องการคานวณก่อน เช่น 2*2+2-2 มีค่าเท่ากับ 2*(2+2)-2 มีค่าเท่ากับ 6 เพราะต้องเอา 2 บวกกับ 2 ก่อน ซึ่งได้ค่าเท่ากับ 4 แล้วจึงนาค่า 4 ไปคูณกับ 2 จะได้ 8 แล้วจึงนา 2 ไปลบ จะได้ค่า 6

วิธีการเขียนสูตรใน Microsoft Excel 2010 เราสามารถคานวณค่าตัวเลข โดยวิธีการสร้างสูตรทาได้โดยการเลือกเซลล์ที่ต้องการให้ผลลัพธ์ปรากฏ ในเซลล์นั้น แล้วป้อนเครื่องหมายเท่ากับ (=) แล้วตามด้วยตัวเลขที่ใช้ในการคานวณ หรือตาแหน่งของเซลล์ที่ เก็บค่าของข้อมูลที่เป็นตัวเลขที่ใช้ในการคานวณ และเครื่องหมายทางคณิตศาสตร์ เช่น สูตร =2*5 =25-5 =10^2 =A5/B5

ผลลัพธ์ คูณ 2 ด้วย 5 ได้ผลลัพธ์ คือ 10 ลบ 5 ออกจาก 25 ได้ผลลัพธ์ คือ 20 หาค่ายกกาลัง 2 ของ 10 ได้ผลลัพธ์ คือ 100 หารค่าของเซลล์ A5 ด้วยค่าของเซลล์ B5


6

การอ้างอิงเซลล์หรือช่วงเซลล์ในการคานวณหาสูตร การคานวณโดยการอ้างอิงเซลล์ หรือช่วงเซลล์ที่กาหนด จะทาให้เกิดความรวดเร็วในการคานวณ เนื่องจากไม่ต้องแก้ไขสูตรทุกครั้ง เมื่อทาการเปลี่ยนแปลงค่าคงที่ที่อยู่ในเซลล์ โปรแกรมจะคานวณให้โดย อัตโนมัติ ชนิดของการอ้างอิง แบ่งการอ้างอิงเซลล์ออกเป็น 3 ชนิด คือ 1. การอ้างอิงแบบสัมพันธ์ (Relative Reference) เป็นการอ้างอิงเซลล์ด้วยการกาหนดทิศทางที่ จะไปให้กับโปรแกรม เช่น ในช่อง D5 มีการใส่สูตร =B2*4 โปรแกรมจะทาการแปลความหมายว่า ให้นาค่าที่ ได้จากการคานวณ ไปใส่ไว้ในช่อง D5 โดยมีทิศทางห่างจากเซลล์ไปทางด้านบน 3 แถว และไปทางด้านซ้าย 2 แถว เมื่อทาการคัดลอกสูตรตาแหน่งของเซลล์ในสูตรจะเปลี่ยนแปลงไปตามตาแหน่งปลายทาง แต่ระยะห่าง ของสูตรจะเหมือนเดิม ตัวอย่างเช่น

2. การอ้างอิงแบบสัมบูรณ์ (Absolute reference) เป็นการอ้างอิงเซลล์โดยระบุตาแหน่งให้ กับเซลล์โดยตรง การอ้างอิงจะทาได้โดยใช้เครื่องหมาย $ นาหน้าแถวและคอลัมน์ เช่น $A$2 หมายถึง การอ้างอิงไปยังคอลัมน์ A และแถวที่ 2 เท่านั้น ตัวอย่างเช่น


7

3. การอ้างอิงแบบผสม (Mixed Reference) เป็นการอ้างอิงแบบสัมบูรณ์ และแบบสัมพันธ์ เข้าด้วยกัน เพื่อทาให้บางส่วนเปลี่ยนแปลงได้ และบางส่วนคงที่ เช่น B$1 จะหมายถึง การกาหนดให้ แนวคอลัมน์ คือ คอลัมน์ B สามารถเปลี่ยนแปลงตามคอลัมน์ใหม่ได้เพราะไม่มีเครื่องหมาย $ กากับหน้า B และกาหนดให้แถวที่ 1 คงที่ เนื่องจากมีเครื่องหมาย $ อยู่ข้างหน้า

การเปลี่ยนชนิดของการอ้างอิง ถ้าหากต้องการเปลี่ยนชนิดของการอ้างอิง สามารถทาได้โดย วิธีที่ 1 1. เลือกเซลล์ที่ต้องการเปลี่ยนการอ้างอิง 2. พิมพ์เปลี่ยนการอ้างอิงที่แถบสูตรของสูตรตามที่ต้องการ 3. กด Enter วิธีที่ 2 1. เลือกเซลล์ที่ต้องการเปลี่ยนการอ้างอิง 2. กดปุ่ม F2 เพื่อแก้ไขสูตร และกดปุ่ม F4 จะปรากฏชนิดของการอ้างอิงแต่ละชนิดตามที่ ต้องการ โดยจะมีรูปแบบของการใส่เครื่องหมาย $ กากับเซลล์ 3. กด Enter


8

ตัวอย่าง

1. ที่เซลล์ F3 ใส่เครื่องหมาย =E3+D3+C3 เมื่อกด Enter จะได้ผลลัพธ์ 20,000.00 2. ทีเ่ ซลล์ G3 ถ้าภาษีเท่ากับ 10 % ของยอดรวม ให้ใส่เครื่องหมาย =F3*10% จะได้ผลลัพธ์เท่ากับ 2,000.0 3. ทาการคัดลอกสูตรโดยการคลุมที่เซลล์ F3 และ G3 พร้อมกัน จากนั้นทาการลาก Fill Handle ลงมาจนถึงแถวที่ 5 4. ที่เซลล์ C6 ทาการหาผลรวมของเดือน มกราคม ให้ใส่เครื่องหมาย =C3+C4+C5 จากนั้น Enter จะได้ผลลัพธ์เท่ากับ 31,000.00 5. ทาการคัดลอกสูตรโดยการคลุมที่เซลล์ C6 จากนั้นทาการลาก Fill Handle จนไปถึงเซลล์ G6 จะได้ผลลัพธ์ดังตารางต่อไปนี้


9

การใช้ฟังก์ชั่นในการคานวณ Function (ฟังก์ชั่น) หมายถึง สูตรที่เขียนไว้ล่วงหน้าเพื่ออานวยความสะดวกแก่ผู้นาไปใช้ และโปรแกรม Microsoft Excel 2010 ได้มีการเตรียมฟังก์ชั่น โดยมีการจัดแบ่งตามลักษณะการใช้งาน ได้ 9 ชนิด ดังนี้ 1. Financial Functions (ฟังก์ชั่นทางด้านการเงิน) เช่น FV, PV, ACCRINT, ACCRINTM เป็นต้น 2. Date and Time Functions (ฟังก์ชนั่ วัน และเวลา) เช่น DATE, TIME เป็นต้น 3. Math and Trig Functions (ฟังก์ชั่นคณิตศาสตร์ และตรีโกณมิติ) เช่น SIN, COS, TAN, POWER เป็นต้น 4. Statistics Functions (ฟังก์ชั่นทางสถิติ) เช่น SUM, MIN, MAX เป็นต้น 5. Lookup and Reference Functions (ฟังก์ชนั่ ทางการค้นหาและการอ้างอิง) เช่น COLUMN, INDEX เป็นต้น 6. Base Functions (ฟังก์ชนั่ ฐานข้อมูล) เช่น DCOUNTA, FIXED เป็นต้น 7. Text Functions (ฟังก์ชั่นข้อความ) เช่น BATHTEXT, CLEAN, CODE เป็นต้น 8. Logical Functions (ฟังก์ชั่นแบบตรรกะ) เช่น TURE, FALSE, AND เป็นต้น 9. Information Functions (ฟังก์ชนั่ ข้อมูล) เช่น ISERR, CELL เป็นต้น โครงสร้างของฟังก์ชั่น ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ 1. ชื่อของฟังก์ชั่น เช่น Max, Min, Average 2. ต้องมีวงเล็บต่อท้ายฟังก์ชัน 3. อาร์กิวเมนต์ เป็นส่วนของข้อมูลที่นาไปใช้ในการประมวลผล หากมีหลายอาร์กิวเมนต์ จะใช้คอมม่า (,) คั่น รูปแบบของฟังก์ชั่น ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 เครื่องหมาย = ส่วนที่ 2 ชื่อของฟังก์ชั่นที่ต้องการใช้ ส่วนที่ 3 ส่วนขยายของฟังก์ชั่น ต้องอยู่ในวงเล็บเสมอ เช่น = ชื่อของฟังก์ชัน (ส่วนขยายของฟังก์ชั่น)


10 การเรียกใช้งานฟังก์ชั่น มีด้วยกัน 2 วิธี คือ การใส่ฟังก์ชั่นด้วยตนเอง หรือการใส่ฟังก์ชั่นวิซาร์ด วิธีที่ 1 การใส่ฟังก์ชั่นด้วยตนเอง 1. คลิกเลือกเซลล์ที่ต้องการหาผลลัพธ์โดยการใช้ฟังก์ชั่น 2. ใส่เครื่องหมาย เท่ากับ (=) ตามด้วยชื่อของฟังก์ชั่น และใส่วงเล็บภายในขอบเขตของช่วงที่ ต้องการหา 3. กด Enter

วิธีที่ 2 การใส่ฟังก์ชั่นวิซาร์ด 1. เลือกแท็บคาสั่งสูตร (Formula) > แทรกฟังก์ชั่น


11 2. จะปรากฏกรอบโต้ตอบ Insert Function (แทรกฟังก์ชัน) คลิกเลือกรูปแบบฟังก์ชั่น ที่ต้องการ

3. ถ้าเราต้องการเลือกฟังก์ชั่น SUM ซึ่งใช้ในการหาผลรวมของข้อมูล จะปรากฏดังภาพ

4. ฟังก์ชั่น SUM จะมีรูปแบบคือ SUM(number 1, number 2,……..30) โดยมีความหมายว่าให้ผู้ใช้ ใส่ค่าตัวเลขที่ต้องการหาลงในช่อง Number แต่ละตัวเพื่อให้ฟังก์ชั่น รวมค่าข้อมูลตัวเลขที่ระบุไว้ หรืออาจใส่ วิธี คลิ กเมาส์ ที่ปุ่ ม ที่อาร์กิวเมนต์ของฟังชั่ น จากนั้นเลื อกข้อมูล ที่ต้องการหาผลรวม และคลิ กที่ปุ่ ม อีกครั้งเพื่อกลับมายังอาร์กิวเมนต์ของฟังก์ชั่นเดิมอีกครั้ง 5. เมื่อทาการกาหนดเรียบร้อยแล้ว คลิกปุ่ม OK (ตกลง)


12 การทาความเข้าใจ และจัดการกับความผิดพลาดในสูตร ในกรณีที่เกิดความผิดพลาด จะปรากฏข้อความผิดพลาดจากการใช้ฟังก์ชั่นในการคานวณดังต่อไปนี้ ความผิดพลาด #DIV/0! #N/A #NAME #NUL! #NUM #REF! #VALUE!

ความหมาย สูตรถูกหารด้วยศูนย์ มีการอ้างอิงเซลล์ที่ไม่มีค่าหรือไม่มีข้อมูลในสูตร สูตรมีการกล่าวถึงชื่อเซลล์ที่ไม่ปรากฏในสูตร สูตรมีการอ้างถึงเซลล์ใดๆ ที่โปรแกรมไม่รู้จัก สูตรมีการใช้ตัวเลขผิดรูปแบบ สูตรมีการอ้างอิงเซลล์ไม่ถูกต้อง สูตรมีการใช้ Argument หรือ Operator ผิดรูปแบบ

การใช้ฟังก์ชั่น MAX MIN AVERAGE ในการหาค่าทางสถิติ เช่น MAX (ค่าสูงสุด) MIN (ค่าต่าสุด) AVERAGE (ค่าเฉลี่ย) โปรแกรม Microsoft Excel 2010 มีฟังก์ชั่นในการหาค่าต่างๆ ดังกล่าวมาให้วิธีการใช้งานทาได้ง่าย และประหยัดเวลา ในการประมวลผลเพื่อให้ได้ข้อมูลทางสถิติที่ถูกต้องและรวดเร็ว วิธีการเรียกใช้งานฟังก์ชั่นสามารถทาได้โดย 1. การพิมพ์คาสั่งในเซลล์ที่ต้องการแสดงการประมวลผล 2. คลิกแถบเมนูสูตร (Formula) โดยให้คลิกที่รูปสัญลักษณ์ วิธีที่ 2 และ 3 จะมีกรอบโต้ตอบ ให้เลือกการใช้งานประเภทของฟังก์ชั่นจะอยู่ด้านซ้าย และ คาสั่งการใช้งานจะอยู่ด้านขวาดังรูป


13 เมื่อเลือกประเภทของฟังก์ชั่น และชื่อของฟังก์ชั่นที่ต้องการใช้งาน และกดปุ่ม OK (ตกลง) จะมีกรอบโต้ตอบให้ใส่ช่วงของเซลล์ที่เป็นตัวเลขทั้งหมดที่ต้องการให้ทาการประมวลผล ซึ่งสามารถกาหนดได้ หลายช่วงดังรูป

3. คลิกเลือกตกลง โปรแกรมจะทาการประมวลผลค่าสูงสุดในช่วงของเซลล์ที่กาหนดไว้


14

ตัวอย่าง การใช้ฟังก์ชั่น MAX MIN AVERAGE 1. ทาการป้อนข้อมูลลงในเซลล์ที่กาหนดไว้ดังรูป 2. พิมพ์สูตรลงในช่องเซลล์ E3 ซึ่งเป็นผลคูณระหว่างเซลล์ C3 กับ D3 3. ทาการคัดลอกสูตรจากเซลล์ E3 ถึง E7

4. หาจานวนสินค้าที่มากที่สุด เลือกเซลล์ C8 พิมพ์คาสั่ง =MAX(C3:C7) กด Enter


15

5. หาราคาต่อหน่วยที่ต่าที่สุด เลือกเซลล์ D9 พิมพ์คาสั่ง =MIN (D3:D7) กด Enter

6. หาราคารวมโดยเฉลี่ย เลือกเซลล์ E10 พิมพ์ =AVERAGE(E3:E7) กด Enter

ผลที่ได้จากการใช้ฟังก์ชั่น MAX MIN AVERAGE


16

การใช้ฟังก์ชั่น IF COUNT COUNTIF ในการคานวณหาหรือเปรียบเทียบค่าของข้อมูล ซึ่งมีความซับซ้อนมากขึ้น จึงจาเป็นต้องเลือกใช้ ฟังก์ชั่นให้ถูกต้องเหมาะสมกับงาน ในที่นี้จะกล่าวถึงฟังก์ชั่นที่มีการใช้งานบ่อย และมีความยืดหยุ่นสามารถ นาไปใช้งานได้หลายประเภท เป็นคาสั่งที่มีเงื่อนไขที่ใช้เปรียบเทียบข้อมูลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ คาสั่ง IF มีรูปแบบคาสั่งดังนี้ =IF(Logical_test,Valua_if_true,Valua_if_false) คาสั่งแสดงการ เปรียบเทียบซึ่งมีความหมายถึงนี้ =IF(เงื่อนไข, กระทาเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง, กระทาเมื่อเงื่อนไขเป็นเท็จ) ยกตัวอย่างเช่น สหกรณ์โรงเรียนมีเงื่อนไขในการจ่ายปันผลให้สมาชิกดังนี้ เงินเรือนหุ้นมากกว่า 10 หุ้น จะได้ ปันผล 100 บาท

จากตัวอย่าง เซลล์ B2 มีค่ามากกว่า 10 ถ้าเป็นจริงจะได้รับปันผล 100 บาท แต่ถ้าเป็นเท็จ จะไม่ได้ปันผล เมื่อกาหนดฟังก์ชันในเซลล์ C3 แล้วให้ทาการคัดลอกไปเซลล์ C4 ผลลัพธ์จะเป็นไปตามเงื่อนไข ดังรูป

คาสั่ง COUNT มีรูปแบบคาสั่งดังนี้ =COUNT(Valua1,Valua2,….) ใช้นับจานวนเซลล์ทมี่ ีตัวเลข คาสั่ง COUNTA มีรูปแบบคาสั่งดังนี้ =COUNTA(Valua1,Valua2,…) ใช้นับจานวนเซลล์ที่เป็นตัวเลข ตัวอักษร แต่ไม่นับเซลล์ว่าง คาสั่ง COUNTIF มีรูปแบบคาสั่งดังนี้ =COUNTIF(Valua1,Valua2,…) ใช้นับจานวนเซลล์ที่เป็น ตัวเลข หรือตัวอักษรตามเงื่อนไขที่กาหนด Valua หมายถึง ค่าคงที่หรือช่วงข้อมูลของเซลล์


17 ตัวอย่าง การใช้ฟังก์ชั่นในการทางาน

การใช้ฟังก์ชั่น IF

การใช้ฟังก์ชั่น COUNT


18 การใช้ฟังก์ชัน COUNT IF

ผลลัพธ์จากการใช้ฟังก์ชัน IF COUNT COUNTIF


19

กรอบกิจกรรม กิจกรรมฝึกทักษะที่ 13 ชนิดของสูตร และวิธีการเขียนสูตร คาชี้แจง ให้นักเรียนเขียนคาตอบที่ถูกต้องลงในช่องว่างที่กาหนดให้ 1. โปรแกรม Microsoft Excel 2010 แบ่งชนิดของสูตรออกเป็นกี่ชนิด อะไรบ้าง ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ 2. จากตารางต่อไปนี้ให้นักเรียนเขียนผลลัพธ์ ที่ได้จากการเขียนสูตรลงในช่องว่าง สูตร =2*5 =25-5 =10^2 =A5/B5

ผลลัพธ์


20

3. จงบอกชนิดฟังก์ชั่นในการคานวณต่อไปนี้ 3.1 ฟังก์ชั่นทางด้านการเงิน...................................................................................................... ............................................................................................................................................................... 3.2 ฟังก์ชั่นทางสถิติ................................................................................................................ ............................................................................................................................................................... 3.3 ฟังก์ชั่นทางการค้นหาและการอ้างอิง............................................................................... ............................................................................................................................................................... 3.4 ฟังก์ชั่นวัน และเวลา........................................................................................................ ............................................................................................................................................................... 3.5 ฟังก์ชั่นฐานข้อมูล............................................................................................................... ............................................................................................................................................................... 3.6 ฟังก์ชั่นข้อความ................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... 3.7 ฟังก์ชั่นแบบตรรกะ........................................................................................................... ............................................................................................................................................................... 3.8 ฟังก์ชั่นข้อมูล.................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... 3.9 ฟังก์ชั่นคณิตศาสตร์ และตรีโกณมิต................................................................................ ............................................................................................................................................................... 4. จากรูปข้างล่าง เราจะเขียนสูตรในการหาค่าเฉลี่ย ได้อย่างไร

................................................................................................................


21

กิจกรรมฝึกทักษะที่ 14 การใช้ฟังก์ชันในการคานวณ 1.

คาสั่ง 1. พิมพ์ข้อมูลตามตัวอย่างที่กาหนดให้ 2. จงหาค่าของผลรวมของ ยอดขาย ,ภาษี ,ต้นทุน , กาไร ลงในเซลล์ C13 - F13 3. จงหาค่าของผลเฉลี่ยของ ยอดขาย ,ภาษี ,ต้นทุน , กาไร ลงในเซลล์ C14 -F14 4. จงหาค่าของผลสูงสุดของ ยอดขาย ,ภาษี ,ต้นทุน , กาไร ลงในเซลล์ C15 - F15 5. จงหาค่าของผลต่าสุดของ ยอดขาย ,ภาษี ,ต้นทุน , กาไร ลงในเซลล์ C16 - F16 6. บันทึกข้อมูล ชื่อ รายงานการขาย 1


22 2. ทาตามโจทย์ที่กาหนดให้ แล้วให้นักเรียนจัดรูปแบบและใช้สูตรในการคานวณ บันทึกลงช่องว่างที่ กาหนดให้ แล้วสรุปผลที่เกิดขึ้น

การกาหนดราคาต่อหน่วยมีเงื่อนไขดังนี้ ยอดขาย 1 – 5,000 หน่วย ราคาหน่วยละ 25 บาท ยอดขาย 5,001 – 8,000 หน่วย ราคาหน่วยละ 22 บาท ยอดขาย 8,001 – 10,000 หน่วย ราคาหน่วยละ 21 บาท ยอดขาย 10,001 ขึ้นไป หน่วย ราคาหน่วยละ 20 บาท หมายเหตุ ยอดขายให้นักเรียนเพิ่มขึ้นเอง , บันทึกข้อมูลชื่อ รายงานการขาย 2

2.1 การใช้ฟังก์ชั่น IF………………………..……………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………...………………………………………….. 2.2 ราคารวม…………………………………………….…………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………...………………………………………….. 2.3 ยอดขายรวม………………………..…………………………………………………………………………………………... ……………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………..


28

เฉลยกิจกรรมฝึกทักษะที่ 13 เรื่อง ชนิดของสูตร และวิธีการเขียนสูตร คาชี้แจง ให้นักเรียนเขียนคาตอบที่ถูกต้องลงในช่องว่างที่กาหนดให้ 1. โปรแกรม Microsoft Excel 2010 แบ่งชนิดของสูตรออกเป็นกี่ชนิด อะไรบ้าง มี 4 ชนิด ได้แก่ 1. 2. 3. 4.

สูตรในการคานวณทางคณิตศาสตร์ (Arithmetic Formula) สูตรในการเปรียบเทียบ (Comparision Formula) เครื่องหมายในการเชื่อมข้อความสองข้อความหรือมากกว่านั้น (Text Formula) สูตรในการอ้างอิง (Text Formula)

2. จากตารางต่อไปนี้ให้นักเรียนเขียนผลลัพธ์ ที่ได้จากการเขียนสูตรลงในช่องว่าง สูตร

ผลลัพธ์

=2*5

คูณ 2 ด้วย 5 ได้ผลลัพธ์ คือ 10

=25-5

ลบ 5 ออกจาก 25 ได้ผลลัพธ์ คือ 20

=10^2

หาค่ายกกาลัง 2 ของ 10 ได้ผลลัพธ์ คือ 100

=A5/B5

หารค่าของเซลล์ A5 ด้วยค่าของเซลล์ B5

3. จงบอกชนิดฟังก์ชั่นในการคานวณต่อไปนี้ 3.1 ฟังก์ชั่นทางด้านการเงิน Financial Functions 3.2 ฟังก์ชั่นทางสถิติ Statistics Functions 3.3 ฟังก์ชั่นทางการค้นหาและการอ้างอิง Lookup and Reference Functions 3.4 ฟังก์ชั่นวัน และเวลา Date and Time Functions


29 3.5 ฟังก์ชั่นฐานข้อมูล Base Functions 3.6 ฟังก์ชั่นข้อความ Text Functions 3.7 ฟังก์ชั่นแบบตรรกะ Logical Functions 3.8 ฟังก์ชั่นข้อมูล Information Functions 3.9 ฟังก์ชั่นคณิตศาสตร์ และตรีโกณมิต Math and Trig Functions 4. จากรูปข้างล่าง เราจะเขียนสูตรในการหาค่าเฉลี่ย ได้อย่างไร


30

เฉลยกิจกรรมฝึกทักษะที่ 14 เรื่อง การใช้ฟังก์ชั่นในการคานวณในโปรแกรม Microsoft Excel 2010 1. คาตอบตามรูปภาพข้างล่างนี้


31

2. ทาตามโจทย์ที่กาหนดให้ แล้วให้นักเรียนจัดรูปแบบ และใช้สูตรในการคานวณ บันทึกลง ช่องว่างที่กาหนดให้ แล้วสรุปผลที่เกิดขึ้น

การกาหนดราคาต่อหน่วยมีเงื่อนไขดังนี้ ยอดขาย ยอดขาย ยอดขาย ยอดขาย หมายเหตุ

1 – 5,00 หน่วย ราคาหน่วยละ 14 บาท 5,001 – 8,000 หน่วย ราคาหน่วยละ 12 บาท 8,001 – 10,000 หน่วย ราคาหน่วยละ 11 บาท 10,001 ขึ้นไป หน่วย ราคาหน่วยละ 10 บาท ยอดขายให้นักเรียนเพิ่มขึ้นเอง ,บันทึกข้อมูล ชื่อ รายงานการขาย 2

คาตอบขึ้นอยู่กับนักเรียนกาหนดยอดขาย โดยให้ครูผู้สอนดูจากเอกสารประกอบการเรียนเล่มที่ 7 เรื่องมหัศจรรย์ของการคานวณ


23

แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การสร้างสูตร และการใช้ฟังก์ชั่นในการคานวณ คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคาตอบที่ถูกที่สุดแล้วทาเครื่องหมาย X ลงในกระดาษคาตอบ 1. การอ้างอิงในเซลล์แบบสัมบูรณ์จะใช้เครื่องหมายใดนาหน้าแถวและคอลัมน์ ก. # ข. @ ค. $ ง. & 2. ถ้าต้องการหาค่าสูงสุดต้องใช้คาสั่งใด ก. Max ข. Min ค. Average ง. Count 3. =Table&Tennis เป็นชนิดของสูตรตามข้อใด ก. สูตรในการคานวณทางคณิตศาสตร์ ข. สูตรในการเปรียบเทียบ ค. สูตรที่ใช้ในการเชื่อมข้อความ ง. สูตรที่ใช้ในการอ้างอิง 4. =20*(2+3)-10 ข้อใดกล่าวถูกต้อง ก. การคานวณต้องเริ่มต้นที่คูณเป็นอันดับแรก ข. ต้องคานวณตัวเลขในวงเล็บเป็นอันดับแรก ค. ต้องคานวณจากด้านหลังก่อน ง. ต้องคานวณจากด้านซ้ายไปขวา


24

5. รูปแบบคาสั่งใดถูกต้อง ก. =Average(D3:D7,2) ข. Count(B3:B7) ค. =IF(B3:B7) ง. =Min(B3:B7) 6. หากต้องการป้อนวันที่ปัจจุบันต้องใช้สูตรฟังก์ชั่นในข้อใด ก. NOW () ข. TODAY () ค. DAY () ง. MONTH () 7. ข้อใดคือฟังก์ชั่นทางการเงิน ก. FV ข. SIN ค. DATE ง. ROUND 8. สูตรที่มีข้อผิดพลาดเนื่องจากถูกหารด้วยศูนย์ จะแสดงความผิดพลาดตามข้อใด ก. #N/A ข. #DIV/0/! ค. #REF! ง. #VALUA!


25

9. ข้อใดคือฟังก์ชั่นทางสถิติ ก. Count ข. Sum ค. Bahttext ง. PV 10. ข้อใดคือฟังก์ชั่นข้อความ ก. Count ข. Sum ค. Bahttext ง. PV

เป็นไงบ้างครับ ! เพื่อนๆ ทาได้กี่ข้อเอ่ย.....


26

บรรณานุกรม ดวงพร เกี๋ยงคา. (2554). คู่มือ Excel 2010 ฉบับสมบูรณ์. บริษัท โปรวิชั่น จากัด, กรุงเทพฯ. (2554). คู่มือ Windows 7 และ Office 2010 ฉบับสมบูรณ์. บริษัท โปรวิชั่น จากัด, กรุงเทพฯ. วีรพล ยุทธสภุภากร.(2554). Office 2010 ง่ายกว่าคุณคิด. My Idea Publishing, กรุงเทพฯ. สุพีชา ถิรจิตตกุล.(2554). คู่มือเรียนรู้และใช้ง่าน Excel 2010 ฉบับสมบูรณ์. บริษัท อินโฟเพส จากัด, กรุงเทพฯ สถาบัน กศน ภาคกลาง. (2556). การใช้ Ms Excel 2010 เบื้องต้น. (ออนไลน์) สืบค้นจาก http://www.crnfe.ac.th/excel2010/index.html. สืบค้นเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2557. อรพิน ประวัติบริสุทธิ์.(2557). คู่มือ Excel 2010. บริษัท โปรวิชั่น จากัด, กรุงเทพฯ.


27

ภาคผนวก


32

เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การสร้างสูตรและการใช้ฟังก์ชันในการคานวณ

แบบทดสอบหลังเรียน ข้อที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10

เฉลย ค ก ค ข ง ข ก ข ข ค

เกณฑ์การตัดสิน ระดับช่วง คะแนน 8 – 10 6- 7 5 ต่ากว่า 5

ระดับคุณภาพ ดี ระดับคุณภาพ พอใช้ ระดับคุณภาพ ผ่าน ระดับคุณภาพ ไม่ผ่าน



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.