ศีลล้างบาป พื้นฐานชีวิตของคริสตชนนั้น เริ่มต้นด้วยศีลศักดิ์สิทธิ์ ล้างบาปมี ความหมายว่า “การจุ่ม” ลงไปในน้ำ ผู้ทรี่ ับศีลล้างบาปคือผู้ที่ถูกจุ่มลงไปในการ สิ้นพระชนม์ของพระคริสตเจ้าและการกลับคืนชีพพร้อมกับพระองค์กลายเป็น “สิ่งสร้างใหม่” ผู้ที่รบั ศีลล้างบาปแล้วก็กลายเป็น “บุตรแห่งความสว่าง” ในพันธ สัญญาเดิมเราพบรูปแบบล่วงหน้าของศีลล้างบาปหลายอย่าง รูปแบบเหล่านี้ สมบูรณ์ในองค์พระเยซูเจ้าตั้งแต่พระองค์ทรงเริ่มชีวิตสาธารณะหลังจากรับพิธี ล้างจากนักบุญยอห์น บนกางเขนจากสีข้างที่ถูกแทง หมายถึงศีลล้างบาปและศีล มหาสนิทและทรงมอบภารกิจนี้แด่อัครสาวก ตั้งแต่วันที่พระจิตเจ้าเสด็จมา พระศาสนจักรก็โปรดศีลล้างบาปแก่ผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสตเจ้า เนื่องจากเขาเกิดมาในบาปกำเนิดจึงจำเป็นต้องโปรดศีลล้างบาปให้แก่ ทารกเพื่อรับการปลดปล่อยจากอำนาจปีศาจ และนำเข้าสู่พระอาณาจั กรแห่ง เสรีภาพ ผู้รับศีลล้างบาปถูกเรียกร้องให้ยืนยันความเชื่อ ถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็แสดงด้วย ตนเอง ถ้าเป็นทารกก็โดยบิดามารดาและพระศาสนจักร ศาสนบริกรจะเป็นผู้ ล้างให้ในพระตรีเอกภาพ ศีลล้างบาปมีความจำเป็นสำหรับการเอาตัวรอดไป สวรรค์ พระคริสตเจ้าได้สิ้นพระชนม์เพื่อมนุษ ย์ทุกคนจะได้รอด ดังนั้น ผู้ที่ตาย เพราะความเชื่อ แม้ไม่ได้รับศีลล้างบาปก็รอดพ้น ศีลล้างบาปยกบาปส่วนตน บาปกำเนิ ด รวมทั ้ ง โทษที ่ ม าจากบาปนั ้ น ๆ ด้ ว ย การรั บ เอาชื ่ อ นั ก บุ ญ มี ความสำคัญเพราะว่าพระเป็นเจ้าทรงรู้จักเราแต่ละคนโดยชื่อ สร้างความมั่นใจว่า ท่านจะเสนอวิงวอนเพื่อเราและยึดท่านเป็นแบบอย่าง
ศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มชีวิตคริสตชน
ศีลกำลัง ในพันธสัญญาเดิม บรรดาประกาศกได้ประกาศว่าพระจิตของ องค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่กับพระเมสสิยาห์เท่านั้น แต่พระเยซูเจ้าทรง ถ่ายทอดไปยังบรรดาอัครสาวกในวันสมโภชพระจิต หลังจากนั้นพวกท่าน ก็ได้มอบพระจิตเจ้าองค์เดียวกันนี้แก่ผู้ที่ได้รับศีลล้างบาปใหม่ด้วยการปก มือ ที่เรียกศีลนี้ว่าศีลเจิมน้ำมันเพราะเป็นจารีตที่ขาดมิได้ ผลของศีลกำลัง คือการรับพระจิตอย่างพิเศษ การรับนี้ประทับตราในวิญญาณไม่สามารถ ลบล้างได้ และนำไปสู่การเพิ่มพระหรรษทานแห่งศีลล้างบาป ทำให้ วิญญาณเข้มแข็งขึ้นในพระพรต่างๆ ของพระจิตเจ้า ผู้รับศีลล้างบาปแล้ว ต้องรับศีลกำลังทุกคน ซึ่งรับได้เพียงครั้งเดียวในชีวิต ศาสนบริกรปกติคือ พระสังฆราช เพื่อเป็นการแสดงถึงสายสัมพันธ์ระหว่างผู้รับศีลกับพระศา สนจักร
ศีลมหาสนิท คือ การถวายบูชาพระกายและพระโลหิตของพระเยซูเจ้า ซึ่งได้ทรงตั้งขึ้นเพื่อให้การถวายบูชาบนไม้กางเขนคงอยู่ตลอดกาล จนกว่าพระองค์จะเสด็จมา เป็นการระลึกถึงการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนมชีพ ศีลมหาสนิททำให้การเริ่มต้นชีวิตคริ สตชนสมบูรณ์ พระองค์ได้ทรงตั้งศีลมหาสนิทขึ้นในคืนที่ทรงถูกทรยศ ในขณะที่ทรงร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้าย ศีลมหา สนิทคือบ่อเกิดและสุดยอดของชีวิตคริสตชนทั้งมวล เป็นการกระทำสูงสุดที่พระเจ้าทรงทำให้เราศักดิ์สิทธิ์ บรรลุความดีงามฝ่าย จิตทั้งครบของพระศาสนจักร ในพันธสัญญาเดิม ศีลมหาสนิทถูกประกาศไว้ล่วงหน้าในงานเลี้ยงปัสกาประจำปีของชาวยิว ด้วยขนมปังไร้เชื้อ เพื่อเป็นการ ระลึกถึงการออกจากอียิปต์ และการปลดปล่อยให้เป็นอิสระ และพระองค์ได้ทรงตั้งขึ้นในอาหารค่ำมื้อสุดท้ายพร้อมกับบรรดา อัครสาวก โดยกล่าวว่า “จงทำการนี้เพื่อระลึกถึงเรา” (1คร 11:24) ในพิธีมิสซาบูชาประกอบด้วยสองภาคใหญ่ๆ คือ ภาควจน พิธีกรรมและภาคบูชาขอบพระคุณ
พระสงฆ์ที่ได้รับการบวชอย่างถูกต้องเท่านั้น จึงสามารถเป็นประธานในพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ เครื่องหมายคือ ปังที่ทำจาก เมล็ดข้าวและเหล้าองุ่น พระเยซูคริสตเจ้าประทับในศีลมหาสนิทในรูปแบบจำเพาะและไม่อาจเปรียบเทียบได้ เป็นการประทับอยู่ใน ลักษณะที่แท้จริง การบิปังมิได้เป็นการแบ่งพระคริสตเจ้าออก พระองค์ประทับอยู่ทั้งหมดและครบครันในแต่ละปังตามส่วนของศีล มิสซาเป็นงานเลี้ยงปัสกาเนื่องจากการที่พระคริสตเจ้าทรงกระทำให้ปัสกาของพระองค์เป็นจริง พระแท่นเป็นสัญลักษณ์ของพระ คริสตเจ้าเอง พระศาสนจักรกำหนดให้ร่วมถวายพิธีบูชามิสซาทุกวันอาทิตย์และวันฉลองบังคับ และให้เตรียมตัวรับศีลอย่าง เหมาะสม ทำให้ความสัมพันธ์ของเรากับพระศาสนจักรเพิ่มพูนขึ้น ศีลมหาสนิทเป็น “มัดจำแห่งสิริรุ่งโรจน์ในอนาคต” เพราะทำให้ เราได้รับพระหรรษทานอย่างเต็มเปี่ยม และพระพรทุกประการจากสวรรค์