คง
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก ชายหนุ่มร่างสูง ตาตี่ แถมยังมีรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์จน ทำ�ให้คนมองรู้สึกอารมณ์ดีและอยากจะยิ้มตามไปด้วย แน่นอน ชายหนุ่มคนนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข หรือ โค้ชแสตมป์แห่งรายการ The Voice นั่นเอง ในระยะเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา เขาได้สร้างสรรค์ ผลงานเพลงออกมามากมายไม่ว่าจะเป็นเพลง นำ�้ตา ของเบิร์ด ธงไชย รักคุณเข้าอีกแล้วของป๊อด โมเดิร์นด๊อก ผู้ชายใจเย็นของโฟร์มด ลืมไปก่อนของบุดดาเบลส รวมไปถึงเพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อดัง เช่น
อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข มีชื่อเล่นว่า แสตมป์ เกิดเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2525 เป็นนักร้อง นักดนตรี และนักแต่งเพลงชาวไทย นอกจากเขาจะมี ความสามารถในด้ า นการร้ อ งเพลงแล้ ว เขายั ง มี ค วาม สามารถในการเล่นคีย์บอร์ดและกีตาร์อีกด้วย แสตมป์จบการศึกษาระดับมัธยมจาก โรงเรียนบางกะปิ และระดับปริญญาตรีจาก คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในระหว่างการเรียนมหาวิทยาลัย แสตมป์ได้มีโอกาส แต่งเพลงประกอบละคอนถาปัดเรื่อง เดชไอด้วน ร่วมกับ เพื่อนๆตั้งเป็นวงดนตรี ซึ่งในปีนั้นเป็นปีที่ละคอนถาปัดมี เพลงไพเราะมากมาย ต่อมาแสตมป์ได้ส่งเพลงที่เขาแต่ง ไปทางสถานีวิทยุ 104.5 (แฟตเรดิโอ) ทำ�ให้ชีวิตของเขา พลิกผันเข้าสู่วงการดนตรีนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แสตมป์ได้ร่วมวงกับ วงกล้วยไทย วงแนว นูเมทัลในตำ�แหน่งมือกีตาร์ ต่อมาเขาได้ย้ายไปอยู่วง 7th Scene สังกัดค่าย LOVEis
เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง ฝัน หวาน อาย จูบ และ ภาพยนตร์เรื่อง 30 กำ�ลังแจ๋ว นอกจากนี้ยังมีเพลงที่เขาแต่ง และร้ อ งเองซึ่ ง เป็ น เพลงฮิ ต ติ ด หู ค นไทยทั้ ง ประเทศเช่ น ความคิด โอมจงเงย นักเลงคีย์บอร์ด ฯลฯ แต่ช่างเป็นเรื่องที่ น่ า เสี ย ดายที่ ไ ม่ ค่ อ ยมี ใ ครรู้ ว่ า เขาเป็ น คนแต่ ง เพลง พวกนี้ แ ละมี น้ อ ยคนที่ รู้ ว่ า นอกจากแสตมป์ จ ะเป็ น นักร้องนักดนตรีแล้ว ยังเป็นนักแต่งเพลงอีกด้วย วันนี้เราจะมาทำ�ความรู้จักชายหนุ่มมากความสามารถ คนนี้กัน
หลังจากแต่งเพลงให้คนอื่นมาเป็นเวลานาน ในที่สุดแสตมป์ก็ได้มีผลงานร่วมกับค่าย LOVEis โดย ร้องเพลงและเล่นกีตาร์ในอัลบั้ม Black Album กับ วงเรียนเชิญผู้มีจิตศรัทธา ซึ่งหลังจากที่เขาได้มีโอกาส เจอกับ บอย โกสิยพงษ์ เขาก็ได้ฝากฝีมือไว้ในอัลบั้ม LOVEis Vol.1 และร่วมงานกันเรื่อยมาจนถึงอัลบั้มที่สร้าง ชื่อเสียงให้แก่แสตมป์คือ Rhythm & Boyd E1Evev1H ในเพลงสมมติและเพลงเธอไม่เคยเปลี่ยน นอกจากนี้แสตมป์ยังได้ร่วมวง The Stranger ร้องร่วมกับ ตู่ ภพธร สุนทรญาณกิจ คัตโตะ อารมณ์ โพธิ์หาญรัตนกุล และ แชมป์ ศุภวัฒน์ พีรานนท์ หลังจากนั้นไม่นานแสตมป์ก็ได้ออกอัลบั้มเดี่ยวเป็นของ ตัวเองโดยใช้ชื่อว่า The Million Ways to Write Part I เป็นเพลงแนว Acoustic-Rock ที่มีเพลงฮิตตลอดกาลอย่าง ความคิด ทำ�ให้แสตมป์แจ้งเกิดในฐานะนักร้องได้อย่าง เต็มภาคภูมิ หลังจากนั้นอัลบั้มเดี่ยวของเขาก็เริ่มมีมากขึ้น เช่น
อัลบั้ม The Million Ways to Write Part I อัลบั้มแรกของเขา
อัลบั้มทุกคำ�ที่เธอเอ่ยคือบทกวี ซึ่งประกอบด้วย 3 เพลงเพราะอย่าง ทันเวลา ข้างชีวิต และสุภาพบุรุษ
และอัลบั้มล่าสุดคือ Sci-Fi แน่นอน แสตมป์ยังคงไม่ทิ้ง ความเกรียนไปโดยปรากฏให้เห็นในเพลง ให้ตายสิพับผ่า และเพลงสะท้อนสังคมที่เรียบเรียงและเล่าออกมาตาม สไตล์ของเขาในเพลง นักเลงคีย์บอร์ด
อัลบั้ม เพลงที่นานมาแล้วไม่ได้ฟัง ในอัลบั้มนี้เขาได้ร้องเพลงร่วมกับ Fucking Hero และ ตู่ภพธร สุนทรญาณกิจในเพลงสองยกกำ�ลังยี่สิบ และ Karma
อัลบั้ม Supermarket ที่มีเพลงสุดเกรียนอย่างเพลง โอมจงเงย และเพลงประกอบภาพยนตร์สุดฮิตเรื่อง 30 กำ�ลังแจ๋วคือเพลง มันคงเป็นความรัก
[
CHILDHOOD แสตมป์เล่าให้ฟังว่า ที่เขาได้ชื่อว่า แสตมป์ มีที่มา เพราะตอนที่คุณแม่กลัวแท้งตอนตั้งท้องเลยตั้งชื่อแก้เคล็ด ว่า แสตมป์ จะได้ติดแน่นเหนียวไม่หลุดไปไหน ในวั ย เด็ ก นั้ น แสตมป์ จ ะถู ก กลุ่ ม วั น รุ่ นไถตั ง ค์ เ ป็ น ประจำ � โดนบ่อยมากจนหลังๆก็ไปแลกเหรียญไว้รอซะเลย ทั้งนี้แสตมป์ยอมรับว่า ในวัยเด็กนั้นเขาไม่มี ความฝันว่าอยากจะเป็นอะไรทั้งนั้น จนกระทั่งวันหนึ่งที่เขา ได้ฟังเพลงที่มีจังหวะหนักหน่วงเพลงหนึ่งซึ่งเป็นเพลงใน วัยที่โตกว่าตัวเอง แสตมป์จึงเริ่มรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่น่าสนใจ และเพลงๆนั้นก็ทำ�ให้เด็กชายธรรมดาๆคนหนึ่งได้รู้สึกว่า โลกนี้พิเศษมากยิ่งขึ้น มีอะไรที่น่าสนใจและเมื่อเขาได้ชม มิวสึกวิดีโอของเพลงดัวกล่าวก็รู้สึกว่ามือกีตาร์นั้นเท่มากๆ แสตมป์จึงขอคุณแม่ให้ซื้อกีตาร์ให้ คุณแม่จึงยื่นข้อเสนอว่า จะซื้อกีตาร์ให้ก็ต่อเมื่อเขาสามารถสอบกลางภาค ได้เกรด 3.00 แม้ว่าในตอนหลังแสตมป์จะทำ�คะแนนไม่ได้ ตามที่คุณแม่ตั้งเงื่อนไขไว้ แต่สุดท้ายคุณแม่ก็ซื้อกีตาร์ให้ เพราะเห็นถึงความตั้งใจของลูกชายตัวแสบนั่นเอง แต่หลายคนก็ยังสงสัยว่าชอบดนตรีแล้วเรียน สถาปัตย์ทำ�ไมล่ะ? แสตมป์จึงเล่าให้ฟังว่า แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ชอบฟังเพลงแต่ก็ไม่ได้เล่นดนตรีเก่ง และวงดนตรีที่เขาชื่อชอบส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เรียนด้านดนตรี แต่เรียนสถาปัตย์ เช่น โมเดิร์นด๊อก สี่เต่าเธอ ซึ่งก่อนหน้า นั้นเขาก็เข้าใจผิดมาตลอดว่า พี่ป๊อด โมเดิร์นด๊อก ไอดอล ของเขาเรียนอยู่สถาปัตย์ฯจุฬาฯ ก็เลยตัดสินใจเลือกเรียน ตามซะเลยเพราะรู้สึกว่า คณะนี้มันต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆ ถึงทำ�ให้วงต่างๆสร้างสรรค์เพลงออกมาได้เฟี้ยว ขนาดนี้ ก่อนจะมารู้ทีหลังว่าพี่ป๊อดไม่ได้เรียนสถาปัตย์ แต่ เรียนครุศาสตร์ (แป่ว!) แต่พี่โป้งกับพี่เมธีเรียนสถาปัตย์ โอเคยังพอได้อยู่ แต่ไหนๆก็สอบเข้ามา ได้ทั้งที ก็ตั้งใจเรียนที่นี่แหละ ซึ่งชีวิตนิสิตนั้นสนุกมาก ทุกคนเข้ามาอย่างมีไฟ อยากทำ�อะไรหลายๆอย่าง
INSPIRATION เมื่ อ ถามถึ ง แรงบั น ดาลใจในการแต่ ง เพลง แต่ละเพลงมีที่มาจากอะไรบ้าง แสตมป์เล่าว่า แรงบันดาลใจ จะมาแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ อาจไหลมาตอนไหนก็ไม่รู้ อย่างเช่น ตอนนั่งคุยกันแล้วมีคนพูดประโยคหนึ่ง เล่าเรื่องอะไรบาง อย่างแล้วมีคำ�คมออกมา ถ้าจำ�ได้เขาก็จะเอามาแต่งเพลง ซึ่ ง เรื่ อ งพวกนี้ เ ป็ น สิ่ ง ที่ ค าดเดาไม่ ไ ด้ เ พราะบางที ก็เอามาจากสิ่งที่อยู่ไกลตัวมาก แต่ก็อยากแต่งเพลงเกี่ยวกับ สิ่งนั้นๆ บางครั้ ง ถ้ า แต่ ง เพลงไม่ อ อกแสตมป์ ก็ จ ะ ปรึกษาพี่บอย โกสิยพงษ์ เขายังกล่าวอีกว่า พี่บอยจะให้ คำ�ปรึกษาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับใจเรา ซึ่งการแต่งเพลง ไม่ออกนั้นจะไม่มาในตอนเร่ง เมื่อไหร่ที่เร่งแล้วจะได้ทันที ทุกอาชีพน่าจะเป็นแล้วเท่าที่วิเคราะห์ ทุกคนมีปัญหานี้หมด ไม่ว่าจะเก่งขนาดไหน จะโด่งดังขนาดไหน ซึ่งน่าจะมาจาก ความกดดั น ตั ว เองแล้ ว ก็ ค วามคาดหวั ง ที่ ค่ อ นข้ า งสู ง ทำ�ให้ไม่กล้าที่จะสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ถ้ากำ�จัดมันออกได้ ทุกอย่างก็จะโอเค เขาเคยท้อขนาดจะเลิกทำ�ดนตรีไปแล้ว เพราะทำ�เพลงแล้วคนไม่โดน อย่างเพลง ความคิด นี่เกือบจะ เขี่ยทิ้งไปแล้ว
7 “ ผมรู้สึกว่าชีวิตนี้สั้นอยู่แล้ว ชีวิตในวงการ ยิ่งสั้นเข้าไปใหญ่ ถ้าเรายิ่งไปทำ�อะไรที่ยังไม่ ถนัด มันก็ยิ่งสั้นลงไปอีก ถ้ามีเวลาให้ผม สัก 10 ปีในการทำ�งานในวงการ ผมขอเล่น ดนตรีอย่างเดียวเพราะเวลาน้อยอยู่แล้ว ไม่อยากบั่นทอนอีก”